5) กระบวนในการท�ำงาน (Process) ในการติดต่อซื้อขายกับ ลูกคา้ ท่มี ีการบรหิ ารจดั การ ประสบการณ์ของลูกคา้ ใหม้ คี วามประทับใจ เกี่ยวกับตราสินค้าจนเกิดเป็นความทรงจ�ำที่ดีเกี่ยวกับตราสินค้า และ พัฒนาเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของตราสินค้าอยู่ในห้วงคิดค�ำนึงอยู่สม�่ำเสมอ ตามแนวทางการบริหาร ประสบการณ์ลูกคา้ (Customer Experience Management) และหลกั การบรหิ ารความสมั พนั ธก์ บั ลกู คา้ (Customer Relationship Management) การบรหิ ารจดั การตราสินค้า เพ่อื สรา้ งความภกั ดใี หเ้ กดิ ขึน้ ในใจ ผบู้ ริโภคน้ันสามารถทำ� ได้ โดยมี หลักการ ดงั น้ี (1) ปฏิบัติตอ่ ลกู คา้ ทกุ รายอย่างเหมาะสม สร้างความประทบั ใจ ให้กับลูกค้าทุกรายด้วยการ บริหารประสบการณ์ของลูกค้าให้เกิดความ พงึ พอใจในการบรโิ ภคและการใชต้ ราสนิ คา้ (2) ตดิ ตอ่ สอื่ สารกบั ลกู คา้ อยา่ งใกลช้ ดิ ตลอดเวลา เอาใจใสล่ กู คา้ เปน็ อยา่ งดี เพอื่ ทจี่ ะไมเ่ ปดิ ชอ่ งวา่ งใหค้ แู่ ขง่ ไดส้ รา้ งความสมั พนั ธก์ บั ลกู คา้ (3) มกี ารวจิ ยั เพอ่ื ประเมนิ ความพงึ พอใจของลกู คา้ อยา่ งสมำ�่ เสมอ พร้อมพัฒนาอย่างต่อเน่ือง เพื่อให้ตราสินค้าสามารถตอบสนองความ ต้องการของผบู้ ริโภคไดอ้ ยา่ งครบถว้ น (4) สรา้ งฐานขอ้ มลู ของลกู คา้ เพอ่ื วางแนวทางในการทาการตลาด กับลูกค้าแต่ละรายอย่างเหมาะสม บทท่ี 3 แนวคิดเก่ียวกับการส่ือสาร ตราสนิ ค้าเพื่อการเขยี นบทโฆษณา (5) พยายามท�ำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาต้องสูญเสียอะไรมากมายใน การเปลย่ี นไปใชส้ นิ คา้ อนื่ ไม่ วา่ จะเปน็ การเสยี เงนิ เสยี เวลา เสยี พลงั หรอื เสยี ความรสู้ กึ (6) ควรทจ่ี ะมอี ะไรพเิ ศษสำ� หรบั ลกู คา้ ทมี่ คี วามภกั ดใี นตราสนิ คา้ (Brand loyalty) เพ่อื ให้ กลุ่มนี้ไดเ้ ปน็ บคุ คลพิเศษท่มี ีสิทธิอน่ื ๆ มากกว่า กล่มุ อืน่ ทไี่ มใ่ ชล่ ูกคา้ ประจำ� 89
4.4 การพฒั นาตราสินค้าเพ่ือแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วเชงิ สขุ ภาพวถิ ีน้ำ� พุร้อน น�ำเสนอข้อมูลจ�ำแนกตาม กรณีศึกษา คือแหล่งท่องเที่ยว เชงิ สขุ ภาพวถิ นี �ำ้ พุร้อน ณ นำ้� พุร้อนทุ่งเทวี น�ำ้ พรุ ้อนโปง่ พระบาท และ น้�ำพุร้อนป่าตึง โดยมนี ายละเอยี ดดังน้ี 1) น้ำ� พรุ อ้ นทุ่งเทวี น�้ำพุร้อนทุ่งเทวีจากการส�ำรวจสื่อเฟซบุ๊กน�้ำพุร้อนทุ่งเทวีพบว่า ทรัพยากรท่ีส�ำคัญและแตกต่างจากน้�ำพุร้อนแหล่งอื่นๆ ในพ้ืนที่จังหวัด เชยี งรายและไดม้ กี ารจดั กจิ กรรมทเ่ี กยี่ วขอ้ งคอื การพอกดนิ โปง่ หรอื โคลน บ่อน้�ำพุร้อนเพ่ือบ�ำรุงผิวพรรณของน้�ำพุร้อน การพัฒนาตราสินค้าของ นำ้� พรุ อ้ นควรมกี ารเชอ่ื มโยงกบั ดนิ โคลนเพอื่ บำ� รงุ ผวิ พรรณ เพอื่ การบง่ บอก ถึงอารมณ์ ดังน้ัน จึงควรพัฒนาตราสินค้าของน�้ำพุร้อนทุ่งเทวีให้เป็น “น�้ำพรุ ้อนโคลนเสรมิ สุขภาพ” 2) น�้ำพุร้อนโป่งพระบาท การสร้างตราสินค้าน�้ำพุร้อนโป่งพระบาทจากผลการวิจัย เร่ือง การสร้างคณุ ค่าและมลู ค่าร่วมเสน้ ทางการทอ่ งเท่ยี วน้ำ� พุรอ้ น และสนิ คา้ เกยี่ วเนอื่ งเพอื่ สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วนำ�้ พรุ อ้ น (2562) พบวา่ นกั ทอ่ งเทยี่ ว ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ เน่ืองจากที่อยู่ใกล้ เดินทางสะดวกและมีท่ีพัก และมีการจัดเส้นทางที่เชื่อมโยงการท่องเท่ียว กับน�้ำตกโป่งพระบาท ดงั นนั้ การสรา้ งตราสนิ คา้ ควรมกี ารพฒั นา ในรปู แบบของตวั ละครฝาแฝด ทม่ี ที งั้ รอ้ นและเยน็ เพอื่ สง่ เสรมิ ใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วเทย่ี วทงั้ นำ�้ พรุ อ้ นและนำ�้ ตก ในวันเดียวกัน โดยมแี นวคดิ น�ำ้ พรุ อ้ น เชน่ “ออนเซน็ 1 วัน 2 อารมณ์” 3) น�้ำพุร้อนป่าตงึ จุดเด่นของน้�ำพุร้อนบ้านป่าตึง อ�ำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ต้ังอย่ใู นหุบเขาที่มีความสวยงาม มกี ารจัดกจิ กรรมส่งเสริมการ ทอ่ งเทยี่ ว ที่หลากหลาย เช่น การแข่งจักรยานในพ้ืนที่ การจัด งานประจ�ำปี 90
เป็นพนื้ ที่ท่ีมคี วามหลากหลายของชาตพิ ันธ์ุ จงึ น�ำจดุ เดน่ น้ีมาก�ำหนดอัต ลักษณ์ของแหล่งท่องเท่ียวน�้ำพุร้อนของชุมชนนี้ ได้แก่ “น�้ำพุร้อนแห่ง ขุนเขา” 4.5 การพัฒนาส่ือการตลาดออนไลน์เพ่ือการสร้างความสัมพันธ์กับ นกั ท่องเทีย่ ว นอกจากการสร้างตราสินค้า การพัฒนาแพลตฟอร์มส�ำหรับ สอ่ื สาร และทกั ษะการใชส้ อื่ สงั คมออนไลนก์ เ็ ปน็ ปจั จยั ในการเตรยี มความ พรอ้ มเพอื่ สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วหลงั สถานการณ์ โควดิ -19 ขอ้ มลู ผลสำ� รวจ พฤตกิ รรมผ้ใู ช้อนิ เทอรเ์ นต็ ในประเทศไทย ปี 2561 จัดทำ� โดย สานกั งาน พัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (2562) 5 อันดับแรกกิจกรรมการใช้ งานผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตมรี ายละเอียด ตามตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 5 อนั ดบั กจิ กรรมการใชง้ านผ่านอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561 อนั ดบั ท่ี กจิ กรรม 1 การใช้ส่อื สงั คมออนไลน์ 2 การใชง้ านรับหรือสง่ อเี มล 3 การใชง้ านเพือ่ หาขอ้ มูล 4 การใช้งานเพ่ือความบนั เทงิ เช่น ดโู ทรทัศน์หรอื ฟังเพลง 5 การใช้งานเพื่อซอื้ สินค้าออนไลน์ ทีม่ า: รายงานผลการสำ� รวจพฤติกรรมผใู้ ช้อนิ เทอร์เนต็ ในประเทศไทย ปี 2561 สำ� นักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 91
จากสถิติดังกล่าวการส่ือสารการตลาดโดยใช้ส่ือสังคมออนไลน์ จงึ เปน็ ชอ่ งทางสำ� คญั เพอื่ การประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู และสรา้ งความสมั พนั ธ์ กับผทู้ ่ีสนใจ การสง่ เสรมิ การสร้างประสบการณ์ผ่านสือ่ สงั คมออนไลน์จัด วา่ เปน็ หนงึ่ ในทกั ษะทค่ี วรมกี ารสง่ เสรมิ จากการสำ� รวจสอื่ สงั คมออนไลน์ ของ 3 แหลง่ ทอ่ งเที่ยวน้�ำพรุ อ้ นพบวา่ มกี ารใชส้ อื่ สังคมออนไลน์เฟซบกุ๊ เพื่อการประชาสัมพันธ์ จากผลการส�ำรวจการสื่อสังคมออนไลน์โดย ส�ำนกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรยี งตามล�ำดับการใช้งาน 8 อันดบั ตามรายละเอียดในตารางท่ี 3 ตารางท่ี 3 การสอื่ สารการตลาดโดยใช้สอื่ สังคมออนไลนข์ อง 3 แหล่ง ท่องเท่ียวน�ำ้ พรุ อ้ น อันดับท่ี กจิ กรรม 1 ยทู ูป 2 ไลน์ 3 เฟซบ๊กุ 4 ขอ้ ความเฟซบ๊กุ 5 อนิ สตาแกรม 6 เว็บไซด์ พนั ทิป 7 ทวิตเตอร์ 8 วอทแอพ ทม่ี า: รายงานผลการส�ำรวจพฤตกิ รรมผูใ้ ช้อินเทอรเ์ น็ตในประเทศไทย ปี 2561 สำ� นกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 92
โดยส่ือเฟซบ๊กุ สร้างโดยหน่วยงานท้องถิ่น เนอื้ หาส่วนใหญ่ เป็น รูปแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมน้�ำพุร้อน สื่อสังคมออนไลน์ควรมี 4 องค์ ประกอบไดแ้ ก่ 1) สามารถเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายสังคม (Connectivity) สื่อสังคมสามารถขยายเครือข่าย และกลายเป็นชุมชนของสื่อสังคม ออนไลนข์ นาดใหญ่ 2) บทสนทนาบนส่อื สงั คมออนไลน์ (Conversation) หนา้ เพจ สอ่ื สงั คมออนไลนม์ กี ารลงขอ้ มลู เพอื่ ใหผ้ สู้ นใจสามารถตดิ ตามอา่ นหรอื รบั ชมขอ้ มลู นั้นได้ อกี ท้งั สื่อออนไลน์ยงั สามารถให้ผรู้ บั ชมสอื่ สารขอ้ มูลกลบั ด้วยการส่งข้อความแสดงความคิดเห็น 3) เจ้าของเพจสามารถสร้างเน้ือหาลงสื่อสังคมออนไลน์ (content) เนอื้ หาเหล่านีซ้ ง่ึ อาจอยใู่ นรปู แบบ วดิ ีโอ บทความ สามารถ กระตุน้ การตอบสนองจากผูท้ ่ตี ดิ ตามเพจได้ 4) ผู้ท่ีติดตามเพจสามารถสร้างความร่วมมือในการสร้างเน้ือหา และแบ่งปันข้อมูลจากหน้าเพจ ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือ (Collaboration) ในชุมชมุ สังคมออนไลน์ (Ang, 2014) 93
การสร้างส่ือสังคมออนไลน์เพ่ือส่งเสริมการท่องเท่ียว ควรมี 4 องคป์ ระกอบ ชอ่ื เพจควรมคี วามเชอ่ื มโยงกับ ควรกระตุ้นให้เกินการสนทนา เพจอ่ืนๆ เพื่อสร้างเครือข่าย ระหวา่ งผดู้ แู ลเพจและผทู้ เี่ ขา้ มา สงั คมออนไลน์ ทมี่ สี ามารถเหน็ ชมเพจ เชน่ การโพสต์ กระตุ้น ช่ือเพจการท่องเท่ียวชุมชนของ ให้นักท่องเท่ียวใส่ภาพความ ทา่ นในเพจอื่น ประทบั ใจ (Connectivity) (conversation) สร้างเนือ้ หา เชน่ รูปภาพการให้ ควรสรา้ งกจิ กรรมเพอื่ การมสี ว่ น บริการรูปภาพนักท่องเที่ยว ร่วมกับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเพจ บทความท่ีกล่าวถึงประโยชน์ เชน่ กจิ กรรมกดไลค์ กดแชรเ์ พจ ของนำ้� แร่ ควรสรา้ งเนอื้ หาเหลา่ เพ่ือแลกกับของรางวัล หรือ นี้อย่างน้อยสัปดาห์ละคร้ังเพื่อ ส่วนลดเพ่ือให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชม กระต้นุ เพจ เพจช่วยประชาสัมพันธ์เพจเฟส บุ๊คของชมุ ชน (content) (Collaboration) 94
ในปจั จบุ นั นอกเหนอื จากการพฒั นาสอ่ื สงั คมออนไลน์ สอ่ื ทด่ี คี วร สร้างความดึงดูด ให้กับผู้อ่าน สร้างความสัมพันธ์ในการกดติดตามเพ่ือ มาชม รปู ภาพ บทความ คลปิ วิดีโอ โดยองคป์ ระกอบการตลาดออนไลน์ เพอ่ื สร้างแรงดึงดดู น้ีประกอบไปด้วย 4 ข้อ ได้แก่ 1) Experience เจ้าของเพจควรค�ำนงึ ถึงประสบการณ์เมื่อผูช้ ม เพจเข้ามาหาข้อมูล ควรปักหมุดขอ้ มลู ทมี่ ีความสำ� คญั เชน่ เวลาเปิด-ปดิ สินค้า/บริการท่ีได้รับความนิยม การปักหมุดท�ำให้ผู้ท่ีเข้ามาชมเพจหา ข้อมูลได้ง่าย และเกิดประสบการณ์ที่ดีในการหาข้อมูล และยังช่วยบอก เล่าประสบการณน์ ตี้ อ่ ไปยังผอู้ นื่ 2 ) Everyplace ชมุ ชนควรพัฒนาส่ือออนไลน์มากกว่าหน่ึงชอ่ ง ทาง เช่น นอกจากส่ือเฟสบุ๊คแล้วควรประชาสมั พนั ธผ์ ่านเวป็ ไซต์ท้องถ่ิน ไลน์ และควรใช้สือ่ ออฟไลน์ เช่น ปา้ ยบอกทาง ปา้ ยประชาสมั พนั ธ์ เพื่อ สง่ เสรมิ การรับรู้ขอ้ มลู ในทกุ ช่องทาง 3) Exchange การน�ำเสนอข้อมูลท่ีเป็นความรู้ ประโยชน์กับ ผูอ้ ่าน มากกว่าลงเรอ่ื งราคา ควรลงขอ้ มูล เช่น ประโยชนข์ องน้ำ� แรข่ อง ชุมชนที่ส่งผลต่อร่างกายของผู้มาใช้บริการ ความมีเอกลักษณ์ของสินค้า ท้องถิ่น ในกรณีที่ต้องการขายสินค้าควรลงข้อมูลประโยชน์ท่ีผู้ซ้ือจะรับ หรอื แหล่งทีม่ าของวัตถดุ บิ ทีม่ ีคณุ คา่ แตกตา่ งจากแหลง่ อื่น 4) Evengelism ผดู้ แู ลเพจควรลงรปู ภาพพร้อมค�ำบรรยายสัน้ ๆ บทความท่ีมีประโยชน์ หรือคลิปที่เก่ียวกับการท่องเท่ียงเชิงสุขภาพ นำ�้ พรุ อ้ นอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 1 ครง้ั แตท่ ง้ั นสี้ อ่ื เหลา่ นตี้ อ้ ง มีความน่าสนใจเพื่อให้ผเู้ ขา้ ชมมจี งจงรกั ภักดีกับเพจ ยินดีทจี่ ะกดตดิ ตาม หรอื บอกต่อขอ้ มูลท่เี ปน็ ประโยชนจ์ ากเพจของชุมชนไปยงั ผูอ้ ่ืน การสร้างส่ือสังคมออนไลน์เพื่อการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อ่าน ผู้ดูแลเพจควรมีการสังเกตุว่ามีองค์ประกอบทั้ง 4 ด้านครบเพ่ือกระตุ้น 95
การสร้างความสมั พันธก์ ับผอู้ ่านอยา่ งต่อเน่อื ง การท�ำ content marketing เกียรติรัตน์ จินดามณี ผู้ก่อตั้งเว็ปไซต์ สถาบันพัฒนาและ สนับสนนุ ผปู้ ระกอบการ SME (https://taokaemai.com) วตั ถปุ ระสงค์ เบือ้ งต้นดังน้ี ข้อที่ 1 สร้างความตระหนักต่อตราสินค้า โดยการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ หลากหลายช่องทางเพ่ือให้ผชู้ มไดพ้ บเห็นตราสนิ ค้าบ่อยทส่ี ุด ข้อท่ี 2 เน้ือหาที่น�ำเสนอควรเกี่ยวข้องกับปัญหาหรือส่ิงท่ีผู้ชมต้องการ เพอ่ื เขา้ ถึงความสนใจของผู้ชม ข้อที่ 3 นอกจากปัญหาท่ีแล้วควรมีน�ำเสนอเนื้อหาที่สามารถแก้ปัญหา หรอื ตอบสนองในสิง่ ทผี่ ้ชู มต้องการ ขอ้ ท่ี 4 ในการนำ� เสนอสนิ คา้ หรอื บรกิ ารควรเชอ่ื มโยงกบั ปญั หากบั ปญั หา หรือสงิ่ ทผ่ี ้ชู มตอ้ งการแตไ่ ม่ควรเน้นการขายสินค้าหรือบริการมากนัก ข้อที่ 5 ส่ือสังคมออนไลน์ยังเป็นเคร่ืองมือส�ำหรับสานสัมพันธ์กับกลุ่ม เปา้ หมายที่มแี นวโนม้ ในการซ้อื สนิ ค้าหรอื บรกิ ารค่อนขา้ งมาก ดังน้ันเพื่อการรักษาลูกค้าจึงควรมีการส่งข้อมูลท่ีน่าสนใจให้กับกลุ่ม เป้าหมายเพอ่ื ให้คงอย่ใู นระบบส่ือสงั คมออนไลน์ของทางรา้ นคา้ ต่อไป 4.6 การตลาดออนไลน์ทีค่ ุณสามารถทำ� ไดเ้ อง การตลาดออนไลนท์ คี่ ณุ สามารถทำ� ไดเ้ อง (DIY Online Marketing) เปน็ เทคนคิ การตลาดโดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งใชง้ บประมาณเยอะ ตลาดเปดิ กวา้ ง มากขนึ้ ตราสนิ คา้ เลก็ หรอื ธรุ กจิ ใหมๆ่ มโี อกาสเตบิ โตและเขา้ ถงึ ลกู คา้ ได้ มากข้ึนโดยอาศัยกลยุทธ์คือ 1) ค้นหาการเดินทางของลูกค้า 2) เลือก เครื่องมือ/ช่องทางการสื่อสารท่ีเหมาะกับธุรกิจ 3) การส่งเสริมธุรกิจ ออนไลน์ 4) การวัดผลการตลาดออนไลน์ และ 5) การสร้างเนื้อหาใน การสอ่ื สารตลาดออนไลน์ โดยมีรายละเอียดดังน้ี 96
1) ค้นหาการเดนิ ทางของลกู ค้า Customer Journey การเร่ิมต้นวางแผนการตลาด คุณจะต้องรู้จักก่อนว่าลูกค้าของ คุณคือใคร อายุเท่าไร มีความชอบอย่างไร มีข้ันตอนในการตัดสินใจซื้อ สินคา้ อย่างไร เป็นต้น การเกบ็ ขอ้ มลู ลูกคา้ ถอื เป็นส่งิ ท่ีสำ� คัญมากเพือ่ จะ น�ำมาวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดต่อไป เช่น ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูล ประชากร พฤตกิ รรมลูกคา้ ประวัติการซอื้ สนิ ค้า/บรกิ าร เป็นตน้ เพ่ือเป็น ฐานข้อมูลส�ำหรับการวางแผนการตลาด ซ่ึงสามารถเร่ิมต้นจาก การท�ำ เสน้ ทางของผบู้ ริโภค ( Customer Journey ) เพื่อใหเ้ หน็ ภาพรวมของ ธรุ กจิ ทงั้ หมดซง่ึ จะแตกตา่ งกนั ตามลกั ษณะของธรุ กจิ โดยเสน้ ทางการเดนิ ทาง ของผ้บู รโิ ภค ประกอบดว้ ย 5 ข้นั ตอนดงั นี้ 1.1 Awareness การรบั รู้ เร่มิ แรกต้องทำ� ใหล้ กู ค้าค้นพบหรอื รจู้ กั กบั ธรุ กจิ และสนิ คา้ ของเรา หากลกู คา้ ไมร่ บั รู้ เรากจ็ ะไมเ่ ปน็ ทรี่ จู้ กั ดงั นั้นเราจึงต้องวิเคราะห์ช่องทางน�ำเสนอที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ลงโฆษณา หรือ ใช้ Influencer เป็นต้น 1.2 Consideration การพจิ ารณา เม่อื ลกู คา้ รู้จกั สนิ ค้าและ เกดิ ความสนใจ กจ็ ะเรมิ่ คน้ หาขอ้ มลู เพอ่ื เปน็ ตวั ชว่ ยประกอบการตดั สนิ ใจ ไมว่ ่าจะเปน็ การดูรวี วิ ถามเพ่ือนหรอื คนรูจ้ ัก 1.3 Purchase การตัดสินใจซื้อ เม่อื ได้รบั ข้อมูลทเ่ี พียงพอและ พิจารณาแล้วว่าสินค้าท่ีเลือกนั้นคุ้มค่าท่ีสุด ก็จะเกิดการตัดสินใจซ้ือ ซึ่งเราควรออกแบบให้การเข้าถึงสินค้าและบริการเป็นไปโดยง่ายและ สะดวกสำ� หรบั ลูกค้า 1.4 Retention การรกั ษาลูกคา้ เม่อื ไดท้ ดลองใช้สนิ คา้ และ บริการแล้วพบว่าดี ตอบโจทย์ ก็จะเกิดการซ้ือซ้�ำเรื่อยๆ ในส่วนนี้ การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งส�ำคัญในการรักษาลูกค้าให้มีความ จงรกั ภักดีกบั ตราสินคา้ ต่อไป 97
1.5 Advocacy การสนับสนนุ เมอื่ ลูกค้าซอื้ สินค้าหรอื บรกิ าร ซ�้ำและเกิดความประทับใจ จะเกิดเป็นแรงสนับสนุนต่อตราสินค้าน้ันๆ ท�ำให้เกิดการแนะน�ำ บอกตอ่ ทงั้ กับคนใกลต้ ัว และการเขยี นรวี ิวลงบน สอื่ ออนไลน์ 2) เลือกเครอื่ งมือ/ชอ่ งทางการส่อื สารทเ่ี หมาะกบั ธรุ กิจ ปัจจุบันมีช่องทางการสื่อสารออนไลน์มากมายส�ำหรับธุรกิจขนาดเล็กให้ เลอื กทงั้ แบบฟรแี ละเสยี เงนิ โดยสง่ิ ทด่ี ที สี่ ดุ ไมใ่ ชก่ ารเลอื กใชท้ กุ ชอ่ งทางท่ี มีแต่ควรจะเลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสมกับธุรกิจมากกว่าจึงจะมี ประสทิ ธภิ าพ 2.1 Social Media ได้แก่ Facebook, Instagram, Youtube, LINE@ และอ่ืนๆ อีกมากมาย โดย 2 ช่องทางสื่อสารหลักคือ Facebook และ LINE@ ข้อดกี ็คอื สามารถเผยแพร่ Content ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง ข้อความ รูปภาพ วดี โิ อ หรอื การ Live สด ให้เลอื กชอ่ งทางหลกั ก่อน ไม่เกนิ 2 ช่องทาง จากนน้ั คอ่ ยๆ ขยายไปยงั ชอ่ งทางอืน่ ๆ 2.2 Search Engine Marketing / Search Engine Optimi- zation เคร่ืองมือท่ีช่วยให้การหาข้อมูลแสดงผลหรือเนื้อหาท่ีตรงตามท่ี เราต้องการ โดยท�ำให้เราติดอันดับต้น ๆ ในการค้นหา โดย SEM จะ เป็นการลงโฆษณาแบบเสียเงิน ซ่ึงเห็นผลรวดเร็วแต่ก็ต้องแลกมาพร้อม กับคา่ ใช้จา่ ยท่ีสูง 2.3 Blogging การเขียนบล็อกเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการท�ำ Content marketing ทชี่ ว่ ยสง่ เสรมิ ธรุ กจิ ได้ ผา่ นการวเิ คราะหป์ ญั หาและ ความต้องการของลูกค้า เพื่อน�ำมาสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับธุรกิจ และ โดนใจลกู คา้ 2.4 Email Marketing เปน็ ระบบสง่ ขอ้ ความโฆษณาผา่ นอเี มล ไปยงั ลกู คา้ กลมุ่ เปา้ หมาย เปน็ หนงึ่ ในชอ่ งทางการตลาดทไี่ ดผ้ ลลพั ธด์ ี โดย 98
สามารถใชเ้ พอ่ื สง่ เสรมิ กจิ กรรมการตลาดไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง และเขา้ ถงึ ลกู คา้ โดยตรง ไดอ้ ย่างง่ายดาย ในราคาย่อมเยา 2.5 Video Marketing ปจั จบุ นั วดี โี อถอื เปน็ อกี ชอ่ งทางสำ� คญั อนั หนง่ึ ทไ่ี ดร้ บั การตอบรบั จากผบู้ รโิ ภคเปน็ อยา่ งดี ดว้ ยการนำ� เสนอเรอื่ ง ราวความเปน็ มาของตราสนิ คา้ นำ� มาสรรคส์ รา้ งใหเ้ กดิ ความนา่ สนใจ และ ทำ� ใหเ้ กดิ การรบั รมู้ ากขน้ึ เชน่ เดยี วกบั Facebook Live ทเี่ ปน็ ทน่ี ยิ มอยา่ ง มาก โดยสามารถเขา้ ถึงคนได้ภายในเวลาอนั รวดเรว็ 3) การสง่ เสรมิ ธุรกจิ ออนไลน์ การท�ำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย นอกจากจะสร้างเนื้อหา ให้ดีและดึงดูดใจแล้ว การส่งเสริมธุรกิจผ่าน การลงโฆษณาออนไลนก์ ็เปน็ สิ่งจ�ำเป็น ขอ้ ดีคอื สามารถควบคุมค่าใช้จา่ ย ใหอ้ ย่ใู นงบประมาณ และไมจ่ �ำเป็นตอ้ งลงทนุ เปน็ จำ� นวนมาก แต่ขอ้ เสยี คือการเข้าถึงผู้คนจะข้ึนอยู่กับจ�ำนวนเงินและการก�ำหนดกลุ่มเป้าหมาย หากไมโ่ ดนใจ ผบู้ รโิ ภคกม็ สี ทิ ธทิ์ จี่ ะไมส่ นใจและขา้ มโฆษณาเราไปกไ็ ดเ้ ชน่ กัน ชอ่ งทางการส่งเสริม มีดงั นี้ 3.1 Facebook Ads เป็นบริการท่ีสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ โดยตรง มรี ูปแบบการลงโฆษณาทหี่ ลากหลาย เหมาะกับจดุ ประสงค์ทาง ธรุ กจิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั เชน่ ตอ้ งการสรา้ งการรบั รู้ สรา้ งรายชอื่ ผทู้ สี่ นใจสนิ คา้ สรา้ งยอดขาย เปน็ ตน้ โดยเราสามารถก�ำหนดช่วงอายุ เพศ ภาษา ความ สนใจ พฤติกรรม และงบประมาณได้ด้วยตนเอง 3.2 Google Adwords คือการทำ� โฆษณาบนหนา้ แรกของ Google โดยมีรูปแบบการคิดเงินเปน็ PPC (pay-per-click) ท่จี ะเรม่ิ คดิ เงินก็ต่อเมื่อมีผู้คลิกที่โฆษณาของเรา โดยลูกค้าจะสามารถเห็นข้อความ โฆษณาของเรา เมอื่ ทำ� การคน้ หาขอ้ มลู ทตี่ รงตาม Keyword ทเ่ี รากำ� หนดไว้ โดยอนั ดบั ของโฆษณาของเราทจ่ี ะแสดงขน้ึ อยกู่ บั การ Bidding ยงิ่ มคี แู่ ขง่ มากก็ย่ิงแพงมาก 99
3.3 Blogger / Influencer สำ� หรับสินคา้ หลายๆ ประเภท การท่ีมีคนท่ีเป็นศูนย์รวมความคิดเห็น และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ากลุ่ม เป้าหมาย มาเป็นผู้บอกเล่าประสบการณ์หรือถ่ายทอด ข่าวสาร/ข้อมูล ของตราสนิ คา้ ออกไปยงั ลกู คา้ ถอื เปน็ อกี วธิ กี ารหนง่ึ ทไ่ี ดผ้ ลดี โดยสว่ นมาก Blogger เหล่าน้ีจะมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทั้งน้ีขึ้น อยู่กับความน่าสนใจ ของการนำ� เสนอ 4) การวัดผลการตลาดออนไลน์ กาวดั ผลความสำ� เรจ็ ของการตลาดออนไลน์ มคี วามสำ� คญั ตอ่ การ ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดต่อไปในอนาคต โดยใช้เครื่องมือวัดผลเช่น Google Analytics, Facebook Analytics, Facebook Audience Insights เปน็ ต้น โดย ตวั ชว้ี ดั ทใ่ี ช้วัดผลเปน็ หลักมีดงั น:้ี 4.1 Engagement บนเวบ็ ไซต์ ส่งิ ส�ำคัญส�ำหรบั อคี อมเมิร์ซ ควรต้องรู้เกี่ยวกับจ�ำนวนคนที่เข้าเว็บไซต์ ระยะเวลาท่ีอยู่บนเว็บไซต์ มหี นา้ ไหนบา้ งผเู้ ขา้ ชมใหค้ วามสนใจ มอี ตั ราการกลบั มาเยยี่ มชมซำ�้ จำ� นวน เทา่ ไร เปน็ ตน้ ขอ้ มลู เหลา่ นม้ี ปี ระโยชนส์ ำ� หรบั การปรบั ปรงุ เวบ็ ไซตใ์ หต้ อบ สนองความต้องการของลกู ค้าไดม้ ากข้นึ 4.2 Traffic แหล่งท่ีมาของคนท่ีเข้าเว็บไซต์ของเราไม่ว่าจะ โดยตรง (Direct) ผา่ นมาจากเวบ็ ไซต์อ่ืนๆ (Referral) ผา่ นโฆษณา (Paid search) หรือจากแคมเปญท่เี ราท�ำ สามารถน�ำไปวิเคราะห์ไดว้ า่ กจิ กรรม ทางการตลาดอนั ไหนไดผ้ ล และควรโฟกัสกบั ชอ่ งทางไหนมากเปน็ พิเศษ 4.3 Conversion จ�ำนวนผ้ทู ่เี ปล่ยี นสถานะ เช่น สัง่ ซือ้ สนิ ค้า ลงทะเบยี นรบั สว่ นลด โดยปกตแิ ลว้ เราจะตอ้ งกำ� หนด Landing page ซง่ึ กค็ อื หนา้ หนงึ่ ของเวบ็ ไซตท์ เ่ี ราสง่ ใหค้ นเขา้ มา โดยมคี วามหวงั วา่ ผทู้ เี่ ขา้ มา ชมจะเกิดการเปล่ียนสถานะ ย่ิงมีตัวเลขอัตราการเปล่ียนสถานะเยอะ เทา่ ไร กย็ ง่ิ เปน็ ผลดตี อ่ แคมเปญนน้ั ๆ ซง่ึ การตดิ ตามวดั ผล Landing page 100
อย่างสม่�ำเสมอจะทำ� ใหเ้ ราทราบวา่ ควรปรบั เปลี่ยนตรงไหน อยา่ งไร เพอ่ื ให้ Conversion rate เพิม่ ขึน้ 5) การสรา้ งเนอ้ื หาในการสอื่ สารตลาดออนไลน์ (DIY CONTENT) นอกจากกลยุทธ์ทงั้ 4 ท่กี ล่าวมาแล้ว เนอื้ หาสาระ (Content) ท่ี เราสอ่ื สารออกไป หรอื เนือ้ หาสาระ (Content) ท่ีเรารบั เข้ามา คือ สาร (message) ทเ่ี ราจัดวางให้อยใู่ นรูปแบบตา่ งๆ เช่น เพลง กาพย์ กลอน หนงั สอื ต�ำรา คู่มอื งานวิจยั บทเรยี น แบบฝกึ หัด นิยาย นิทาน เร่อื งส้ัน การต์ นู คลปิ วดิ โี อ คลปิ เสยี ง หนงั สอื พมิ พ์ แมกกาซนี จดหมายขา่ ว ใบปลวิ แผน่ พับ ฯลฯ เพ่อื สง่ สารไปยงั ผรู้ ับสาร ดังน้ัน เนอ้ื หาสาระ (Content) ควรสื่อสารออกมาจากความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ ความคิด ประสบการณ์ หรือจินตนาการของตนเองอย่างแท้จริง แล้วผู้รับสารจะ สมั ผสั ไดถ้ งึ ความเชย่ี วชาญในเรอื่ งนนั้ ๆ ในการสรา้ ง คอนเทนต์ (Content) ทป่ี ระสบความสำ� เรจ็ นน้ั นกั การตลาดจะตอ้ งทำ� ความเขา้ ใจและ วเิ คราะห์ วงจรการซ้ือสินค้าของผู้บริโภคอย่างละเอียด รอบคอบในแต่ละประเด็น ดงั น้ี 5.1 ตระหนัก กอ่ นทผ่ี ู้บริโภคจะมีความตระหนักคิด สิ่งแรกท่ี ผบู้ รโิ ภครสู้ กึ คอื ความตอ้ งการ เมอ่ื เขา้ สกู่ ระบวนการตระหนกั ผบู้ รโิ ภคจะ ต้องการขอ้ มูลเก่ยี วกับสง่ิ ทเี่ ขาต้องการมากข้นึ 5.2 วิเคราะห์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการข้อมูลที่พวกเขา สามารถนำ� ไปใชใ้ นการวเิ คราะหส์ นิ คา้ เหลา่ นนั้ เพอื่ เปรยี บเทยี บ ประเมนิ ว่าเขาตอ้ งการสิง่ นีจ้ ริงๆ หรือไม่ 5.3 พจิ ารณา เมอื่ ผูบ้ รโิ ภคมขี อ้ มลู ที่สามารถใช้ในการเปรยี บ เทียบว่าสินค้าชนดิ นีจ้ ะตรงกบั ความตอ้ งการเขาหรอื ไม่ ข้นั ตอนตอ่ มาคอื การพจิ ารณาว่าสินค้า มีความแตกตา่ งจากผู้ขายรายอนื่ ๆ แค่ไหน เพ่ือให้ แน่ใจวา่ ตวั เองจะรบั สนิ ค้าที่มคี ณุ ภาพดใี นราคาท่ยี ตุ ธิ รรม 101
5.4 ตัดสนิ ใจซอื้ เมือ่ ผูบ้ ริโภคผา่ นทุกขนั้ ตอนมาแลว้ สงิ่ ที่เขา จะท�ำตอ่ มาก็คือการตัดสนิ ใจซอ้ื สนิ ค้า ในการท�ำโฆษณาแบบดงั้ เดิมจะสามารถใชไ้ ด้ถึงวงจรการซอ้ื ในขั้นที่สองเท่านั้น แต่ส�ำหรับการใช้การตลาดเนื้อหาจะครอบคลุมสาม ข้ันตอนในวงจรการซื้อสินค้า ซึ่งจะเริ่มต้ังแต่การสร้างความตระหนักใน การแกไ้ ขปญั หา และใหค้ วามรแู้ ก่ผู้บริโภค เกยี่ วกบั ผลติ ภัณฑห์ รอื สนิ คา้ ท่ีผ้บู รโิ ภคไมเ่ คยพิจารณามาก่อน 4.7 เครื่องมอื ดา้ นการตลาด เคร่ืองมือการด�ำเนินการด้านการตลาด ประกอบด้วย 1) แบบ ประเมินการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเท่ียวชุมชน 2) แบบประเมินส่ือ ประชาสมั พนั ธ์ออฟไลน์ 3) แบบประเมนิ สือ่ ประชาสัมพนั ธ์ออนไลน์ และ 4) แบบประเมนิ การมสี ว่ นรว่ มของคนในชมุ ชนในการดำ� เนนิ การตลาดเพอ่ื สง่ เสริมการทอ่ งเท่ยี วของชมุ ชนน้�ำพุรอ้ น 102
1) แบบประเมนิ การตลาดเพอื่ ส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ียวชมุ ชน ท่านสามารถใช้ทดสอบนี้ในกรณีชุมชนของท่านมีตราสินค้าแล้ว โดยให้ ผู้เชี่ยวชาญ/นกั ท่องเทีย่ ว เป็นผู้ท�ำแบบประเมินน้ี แบบประเมนิ ตราสนิ คา้ วธิ :ี กรณุ าทำ� เครื่องหมาย √ ในชอ่ งแสดงความคดิ เห็นในแต่ละประเดน็ ประเดน็ แสดงความคิดเห็น ไม่เห็น เห็นดว้ ย เหน็ ด้วย ชือ่ แหล่งท่องเท่ยี ว/สินคา้ จดจ�ำง่าย ดว้ ย บางสว่ น อย่างยงิ่ โลโก้ของแหลง่ ท่องเทีย่ ว/สินค้า จดจำ� ง่าย โลโก้ของแหลง่ ท่องเท่ียว/สินค้า เปน็ เอกลกั ษณ์ แตกตา่ ง โลโก้ของแหลง่ ทอ่ งเที่ยว/สินค้า สวยงาม สะดุดตา โลโก้ของแหล่งทอ่ งเทีย่ ว/สินค้า สอ่ื ถงึ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว/สินคา้ สขี องโลโก้โดดเดน่ ตวั อกั ษรบนฉลากสนิ ค้า อ่านง่าย ตัวอักษรบนฉลากสนิ คา้ สือ่ ถึงลักษณะสินค้า 103
2) แบบประเมนิ สอ่ื ประชาสมั พันธ์ออฟไลน์ วธิ :ี กรุณาทำ� เครอ่ื งหมาย √ ในช่องแสดงความคิดเหน็ ในแตล่ ะประเด็น ประเด็น แสดงความคิดเห็น ไมเ่ ห็น เหน็ ด้วย เห็นด้วย สอ่ื ประชาสมั พนั ธอ์ า่ นงา่ ย ด้วย บางสว่ น อยา่ งยิ่ง ทา่ นเข้าใจแหลง่ ทอ่ งเที่ยว/สนิ ค้า จากส่ือทีท่ ่านอ่าน สื่อประชาสัมพันธ์นา่ อา่ น สื่อประชาสัมพันธ์สอื่ สารถงึ ลักษณะแหล่งท่องเทย่ี ว/ สนิ คา้ สอ่ื ประชาสมั พนั ธ์จูงใจให้ท่านสนใจมาท่องเท่ียว/ ซือ้ สนิ คา้ ส่อื ประชาสัมพนั ธ์มขี ้องมูลเพยี งพอกับขอ้ มูลทท่ี า่ น ตอ้ งการ 3) แบบประเมินสอ่ื ประชาสัมพันธอ์ อนไลน์ วธิ :ี กรุณาทำ� เครื่องหมาย √ ในช่องแสดงความคดิ เหน็ ในแตล่ ะประเด็น ประเดน็ แสดงความคิดเหน็ ไม่เหน็ เห็นด้วย เหน็ ดว้ ย สอ่ื มกี ารตกแตง่ เพจนา่ อา่ น ด้วย บางสว่ น อยา่ งยงิ่ ส่อื มีบทความท่นี า่ สนใจ สื่อมีข้อมูลเพียงพอ ชมุ ชนใช้สือ่ ออนไลน์และออฟไลน์เพ่ือการประชาสัมพนั ธ์ 104
ประเดน็ แสดงความคดิ เหน็ ไมเ่ ห็น เหน็ ด้วย เหน็ ด้วย สอ่ื ออนไลน์มีเนื้อหาที่สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะ ด้วย บางสว่ น อย่างย่งิ การทอ่ งเท่ยี วของชมุ ชน มีรปู ภาพทนี่ า่ สนใจของแหล่งทอ่ งเทยี่ วในชุมชน มรี ปู ภาพของสินคา้ ชมุ ชน มีรูปภาพสถานทใ่ี ห้บรกิ ารกับนักท่องเทยี่ ว นำ� เสนอคุณคา่ ของสนิ คา้ ชมุ ชนในสื่อออนไลน์ มภี าพถ่ายหรือคลิปวดี โี อทน่ี ักท่องเทีย่ วลงในส่ือเฟสบ๊กุ ของชมุ ชน จดั โปรโมช่ันกระตุ้นนกั ทอ่ งเท่ยี วลงภาพและเช็คอินใน เฟสบุ๊กของชมุ ชน 4) แบบประเมนิ การมสี ว่ นร่วมของคนในชุมชนในการดำ� เนิน การตลาดเพ่อื สง่ เสรมิ การทอ่ งเท่ียวของชมุ ชนำ�้ พุรอ้ น แบบประเมนิ น้ีควรให้คนในชุมชนร่วมประเมนิ วธิ ี: กรณุ าท�ำเคร่ืองหมาย √ ในชอ่ งแสดงความคิดเหน็ ในแต่ละประเด็น ประเดน็ แสดงความคดิ เหน็ ไม่เหน็ เหน็ ด้วย เหน็ ดว้ ย มีผู้เชย่ี วชาญเข้ามาชว่ ยแนะนำ� ในการวางแผนการตลาด ดว้ ย บางสว่ น อยา่ งย่ิง เพื่อการท่องเทย่ี วในชมุ ชน เจ้าหน้าทีภ่ าครัฐทสี่ ่งเสริมการทอ่ งเทย่ี วในชุมชนรว่ ม วางแผนการตลาด 105
ประเดน็ แสดงความคิดเห็น ไม่เห็น เหน็ ดว้ ย เห็นดว้ ย คนในชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการวางแผนการตลาดเพือ่ การ ด้วย บางสว่ น อย่างยง่ิ ท่องเทยี่ วในชุมชน คนในชุมชนมคี วามเขา้ ใจถงึ เปา้ หมายการท่องเท่ยี วของ ชุมชน มกี ารสอบถามความตอ้ งการของชมุ ชนเพอ่ื อบรมความรู้ ดา้ นการตลาดเพือ่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว คนในชุมชนทราบขน้ั ตอนการดำ� เนนิ งาน มกี ารวิเคราะห์ความรูด้ ้านการตลาดของคนในชุมชน การอบรมความรู้ดา้ นการตลาดที่เปน็ ไปตามความ ต้องการของชมุ ชน การอบรมความรู้สอดคลอ้ งกับการท่องเท่ียวชมุ ชน คนในชมุ ชนรว่ มปฏิบตั ใิ นแผนการตลาดเพอื่ ส่งเสริมการ ท่องเท่ยี วชมุ ชน คนในชุมชนร่วมพฒั นาสินคา้ /สอ่ื ประชาสัมพนั ธ์การท่อง เท่ยี วชุมชน มีการจดั ประชมุ เพ่ือสอบถามความคดิ เหน็ ของชมุ ชนใน การด�ำเนินการดา้ นการตลาด คนในชุมชนร่วมสงั เกตุพฤติกรรมนกั ทอ่ งเทย่ี วและนำ� ข้อมูลไปหารอื ทปี่ ระชมุ คนในชุมชนมีส่วนรว่ มในการเสนอแนะส่งิ ที่ควรปรับปรุง ในการท่องเทีย่ วของชุมชน 106
5 การพัฒนาผลติ ภณั ฑเ์ ชอ่ื มโยง การทอ่ งเทย่ี วเชิงสุขภาพวิถีน้ำ� พุร้อน เทวี Tewee นำ�้ พรุ อ้ นทงุ่ เทวี ตำ� บลบา้ นโปง่ อำ� เภอเวยี งปา่ เปา้ จงั หวดั เชยี งราย เลอ ภูแล Le Phulae นำ�้ พรุ อ้ นโปง่ พระบาท ตำ� บลบา้ นดู่ อำ� เภอเมือง จังหวัดเชยี งราย จันธารา CHANTARA น�ำ้ พรุ อ้ นปา่ ตึง ต�ำบลปา่ ตงึ อ�ำเภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชียงราย
การจัดกิจกรรมพัฒนาสินค้าที่เช่ือมโยงการท่องเที่ยวเชิง สง่ เสรมิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พรุ อ้ นใหเ้ กดิ ผลเชงิ พาณชิ ยใ์ น 3 พนื้ ที่ คอื 1) นำ�้ พรุ อ้ น ทงุ่ เทวี ตำ� บลบา้ นโปง่ อำ� เภอเวยี งปา่ เปา้ 2) นำ้� พรุ อ้ น โปง่ พระบาท ตำ� บล บ้านดู่ อ�ำเภอเมือง และ 3) น้�ำพุร้อนป่าตึง ต�ำบลป่าตึง อ�ำเภอแม่จัน ในจังหวัดเชียงราย ด�ำเนินการตามความต้องการของภาคีการท่องเท่ียว ในพ้ืนที่คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนผสมของวัตถุดิบและสมุนไพรที่ มีในท้องถิ่น โดยมีข้ันตอนการพัฒนาสินค้าคือ 1) การสร้างคุณค่าและ มูลค่าเพ่ิมแหล่งท่องเที่ยวน�้ำพุร้อน 2) การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ส�ำหรับ การพฒั นาใหเ้ กดิ ผลเชงิ พาณชิ ย์ และ3) การออกแบบตวั อย่างผลิตภณั ฑ์ ตน้ แบบ 5.1 การสรา้ งคณุ คา่ และมูลคา่ เพิ่มแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วน้�ำพุร้อน การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิมแหล่งท่องเที่ยวน�้ำพุร้อนโดย การพฒั นาสนิ คา้ และบรกิ ารทเ่ี กย่ี วเนอ่ื งในเสน้ ทางการทอ่ งเทยี่ วนำ้� พรุ อ้ น ให้เกิดผลเชงิ พาณชิ ยน์ น้ั ควรเรมิ่ จากการก�ำหนดธีมหรือแนวคิดหลักของ การพัฒนา เพ่ือให้การพัฒนาปัจจัยต่างๆท่ีเก่ียวข้อง ในพื้นท่ีเกิดความ เช่ือมโยงและสัมพันธ์กัน ในหนังสือเล่มน้ียกตัวอย่างกรณีศึกษา จ�ำนวน 3 พื้นท่ี คือน้�ำพุร้อนทุ่งเทวี น้�ำพุร้อนโป่งพระบาทและน�้ำพุร้อนป่าตึง โดยจ�ำแนกธมี หรือแนวคดิ หลักทใ่ี ช้ในแตล่ ะพื้นที่ออกเป็น 3 ธมี คอื 1) ความงามจากนำ�้ แรท่ อ้ งถิ่น ส�ำหรบั น�ำ้ พรุ ้อนท่งุ เทวี 2) การปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ งสขุ วถิ แี หง่ กาย ใจ จติ สำ� หรบั นำ้� พรุ อ้ นโปง่ พระบาท 3) สมุนไพรและอาหารพื้นถ่นิ สำ� หรบั น้ำ� พุร้อนปา่ ตึง 108
1) ความงามจากนำ�้ แร่ท้องถิน่ (Beauty) ภาพลักษณ์ของน�้ำพุร้อนทุ่งเทวีคือการน�ำเสนอ ความงามและสขุ วถิ ภี ายนอกทเี่ ชอื่ มโยงกบั นำ�้ พรุ อ้ น ในพ้นื ท่ี ซงึ่ ต่อยอดจากผลิตภัณฑท์ ี่มชี อ่ื เสียงของ ท้องถ่ินโดยการน�ำวัตถุดิบหลักมาพัฒนาและ ปรับปรุงให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพ่ือใช้ส�ำหรับ การให้บริการสปาในพื้นที่และจ�ำหน่ายให้กับ นกั ทอ่ งเทยี่ วหรอื ผทู้ สี่ นใจทว่ั ไป โดยมรี ายละเอยี ด เกย่ี วกบั การเชอ่ื มโยง ดงั น้ี 1.1 การเชอื่ มโยงชอ่ื กบั ธมี /แนวคดิ หลกั คอื “ความงามจากนำ�้ แร่ ทอ้ งถนิ่ ” กบั “เทว”ี ซง่ึ มคี วามหมายวา่ นางงาม กลุ สตรี นางพญา 1.2 การตอ่ ยอดจากสนิ คา้ ทม่ี ชี อื่ เสยี งของทอ้ งถนิ่ โดยการนำ� มาใช้ เปน็ สว่ น ผสมหนง่ึ ในการผลติ ผลติ ภณั ฑเ์ สรมิ ความงามทใี่ ชใ้ นการใหบ้ รกิ ารสปา 1.3 การดแู ลสขุ วถิ ภี ายนอกตง้ั แตศ่ รี ษะจรดปลายเทา้ และการใหป้ ระสบการณ์ เกยี่ วกบั ความงาม เชน่ การทำ� อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการดแู ลผวิ พรรณ การนวดหนา้ และการลา้ งหนา้ ทถี่ กู วธิ ี เปน็ ตน้ 109
2) การปฏิบตั ิตนเพอ่ื สรา้ งสุขวถิ ีแห่งกาย ใจ จติ (Meditation) ภาพลกั ษณข์ องนำ้� พรุ อ้ นโปง่ พระบาทคอื การนำ� เสนอ กิจกรรมและการปฏิบัติตนท่ีก่อให้เกิดความรู้สึก ผ่อนคลาย เกิดประโยชน์ทางสุขวิถีท้ังภายใน และภายนอกร่างกายโดยมีรายละเอียดเก่ียวกับ การเชื่อมโยง ดงั นี้ 2.1 การต่อยอดจากวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีช่ือเสียงของท้องถ่ิน โดยการน�ำมาใช้เป็นส่วนผสมหนึ่งในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เชื่อมโยง กิจกรรมทางการท่องเท่ียวท�ำให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลายและ ความเพลิดเพลินในจติ ใจ 2.2 การเชอ่ื มโยงสถานทสี่ ำ� คญั หรอื แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วในพน้ื ทเ่ี พอ่ื ทำ� กจิ กรรม การทอ่ งเทยี่ วทส่ี รา้ งสขุ วถิ ี แหง่ กาย ใจ จติ เชน่ การจบิ ชา และการนง่ั สมาธิ เปน็ ต้น 2.3 กิจกรรมท่องเที่ยวท่ีนักท่องเท่ียวสามารถทดลองท�ำเพ่ือให้เกิด องค์ความรู้และมีความเพลิดเพลินและผ่อนคลายได้ เช่น กิจกรรมดูแล สขุ ภาพ อาทิ แชน่ �ำ้ อนุ่ อบสมนุ ไพรแม่ค�ำหล้า เป็นตน้ รวมทั้งกิจกรรม เรียนรู้ อาทิ การเรียนการท�ำผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ การเรียนการนวด ตัวเองเบือ้ งต้น และการเรียนท�ำอาหารและเครอ่ื งดื่มเพ่อื สุขภาพ เป็นต้น 110
3) สมนุ ไพรและอาหารพ้นื ถิ่น (Gastronomy) ภาพลักษณ์ของน้�ำพุร้อนป่าตึงคือการน�ำเสนอ ความโดดเดน่ เกย่ี วกบั สมนุ ไพร และอาหารพน้ื ถน่ิ ทเี่ ชอ่ื มโยงกบั นำ�้ พรุ อ้ นในพน้ื ท่ี โดยนำ� มาเชอ่ื มโยง ใหเ้ ปน็ ผลติ ภณั ฑท์ างการท่องเทย่ี ว และกิจกรรม ท่ีนักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วม ท�ำให้เกิด ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยมีรายละเอียด เก่ียวกบั พฒั นาและการเชอื่ มโยงดงั น้ี 3.1 การสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพม่ิ โดยการใชป้ ระโยชนจ์ ากสมนุ ไพรพน้ื ถนิ่ ไดแ้ ก่ ขมน้ิ ชนั เปลอื กมงั คดุ ทานาคา และรำ� ขา้ ว ซง่ึ เปน็ วตั ถดุ บิ หลกั ของ ผลติ ภณั ฑส์ ำ� หรบั การขดั ผวิ เพอื่ ใชใ้ นกจิ กรรมทางการทอ่ งเทยี่ วและการให้ บรกิ ารสปาในพนื้ ที่ และเปน็ ของฝากของทร่ี ะลกึ เปน็ ตน้ 3.2 การน�ำวัตถุดิบท้องถ่ินมาใช้ในการประกอบอาหารให้เกิดประโยชน์ ในดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว เชน่ หนอ่ ไม้ ไข่ และ สมนุ ไพรตา่ งๆ เปน็ ตน้ 3.3 กจิ กรรมทอ่ งเทยี่ วทน่ี กั ทอ่ งเทย่ี วสามารถมสี ว่ นรว่ มและทดลองทำ� เอง เชน่ การปรงุ อาหารจากสมนุ ไพร หนอ่ ไมน้ ำ�้ แร่ และการตม้ ไขน่ ำ�้ แรใ่ นระดบั ความรอ้ นทแ่ี ตกตา่ งกนั เปน็ ตน้ 3.4 การจัดท�ำแผนการพัฒนาต้นแบบหมู่บ้านน�้ำแร่ในประเทศไทยท่ี ให้บริการที่พักและบริการแช่น�้ำแร่ หรือการท�ำโฮมสเตย์ หรือท่ีพักแบบ เรยี วกงั ในประเทศญป่ี นุ่ ทมี่ กี ารนำ� นำ้� แรเ่ ขา้ ไปใชใ้ นทพ่ี กั เพอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ พกั / นกั ทอ่ งเทยี่ วไดแ้ ชน่ ำ้� รอ้ นในทพี่ กั สว่ นตวั 111
นอกจากนี้ ในการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิมของการท่องเที่ยว น้�ำพุร้อนท้ังในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เส้นทางการท่องเที่ยว และ องค์ประกอบอื่นๆ สามารถด�ำเนินการในมิติทางกายภาพ โดยการปลูก ต้นไม้ยืนต้นที่มีดอกไม้ และสีสันตามฤดูกาล หรือ การก�ำหนดให้ แหล่งท่องเทย่ี วน้�ำพุรอ้ นแต่ละแห่งปลูกตน้ ไม้ท่ีใหส้ สี นั ทแ่ี ตกต่างกัน เชน่ ตน้ ราชพฤกษ์ (ดอกคนู ) ท่ีให้ดอกสีเหลอื ง ต้นกลั ปพฤกษ์ท่ีให้ดอกสชี มพู และตน้ เฟอ่ื งฟา้ ทใ่ี หด้ อกไมห้ ลากสี รวมทง้ั การตกแตง่ ดว้ ยไมก้ ระถางหรอื ดอกไม้ไทยท่ีให้กล่ินหอมเป็นต้น นอกจากน้ีในช่วงฤดูหนาวอาจใช้ต้นไม้ ดอกไม้ประดับกระถางขนาดเล็กตกแต่งเพ่ิมเติมสีสันเพื่อดึงดูดนักท่อง เทีย่ วใหเ้ ขา้ ไปถ่ายรปู และใช้บรกิ ารในแหลง่ ท่องเท่ียวมากข้ึน 112
5.2 การคดั เลือกผลติ ภัณฑส์ ำ� หรบั การพฒั นาใหเ้ กิดผลเชิงพาณชิ ย์ จากการกำ� หนดธมี ขา้ งตน้ ทำ� ใหไ้ ดส้ นิ คา้ ทส่ี อดคลอ้ งกบั การทอ่ งเทย่ี ว เชิงสุขภาพซ่ึงเป็นสินค้าท่ีมีในชุมชน โดยสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าท่ีทาง ชมุ ชน / ภาคกี ารทอ่ งเทย่ี วไดน้ ำ� เสนอเบอ้ื งตน้ เพอ่ื เขา้ สกู่ ระบวนการคดั เลอื ก เพื่อพัฒนาเป็นสินค้าที่เก่ียวข้องกับบริบทการท่องเท่ียวในพื้นที่ โดย จำ� แนกสินคา้ ออกเป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1) สนิ คา้ ท่สี อดคลอ้ งกบั บรบิ ท การท่องเที่ยวเชิงสขุ ภาพนำ�้ พุร้อนทุง่ เทวี 2) สนิ คา้ ทส่ี อดคลอ้ งกบั บริบท การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพนำ�้ พรุ อ้ นโปง่ พระบาท และ 3) สนิ คา้ ทสี่ อดคลอ้ ง กบั บรบิ ทการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพนำ้� พรุ อ้ นปา่ ตงึ ดงั รายละเอยี ดในตาราง 113
ตารางท่ี 4 แสดงสินค้าที่สอดคล้องกับบริบทการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ วิถีนำ้� พรุ อ้ นทุง่ เทวี น้ำ� พรุ อ้ นโป่งพระบาท นำ�้ พรุ ้อนป่าตึง บรบิ ท สนิ ค้าท่ีสอดคล้อง แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พรุ อ้ น น�้ำพุร้อนทุ่งทวี : ธีมความงามจากน้�ำแร่ 1) ผ้าทอทุ่งเทวีหมักโคลน ทอ้ งถน่ิ (Beauty) เปน็ บรบิ ทในการดแู ลสขุ ภาพ (TUNG THEVEE MUD-FER- รา่ งกายจากภายนอกตั้งแตศ่ รี ษะจรดปลายเท้า MENTED WOVEN FABLIC) และ 2) ผลติ ภัณฑบ์ �ำรงุ ผิวมือ ชากาขาว (TEWEE HAND CREAM) เป็นสินค้าท่ีพัฒนา จาก น้�ำแร่ทุ่งเทวี สมุนไพร กาขาว และดินโคลนน้�ำพรุ ้อน ทงุ่ เทวี นำ�้ พรุ อ้ นโปง่ พระบาท : ธมี สขุ วถิ แี หง่ กาย ใจ จติ 1) ชาสับปะรด (PINEAPPLE (Meditation) เป็นการใช้ประโยชน์จาก TEA) และ 2) ผลติ ภัณฑ์บำ� รงุ สับปะรดภูแล น�ำมาท�ำเป็นกิจกรรมอบรมเชิง ผิวมือสับปะรด (PINEAPPLE ปฏิบัติการ ได้แก่ การประกอบอาหารและ HAND CREAM) เป็นสินค้าท่ี เคร่ืองดื่มเพ่ือสุขภาพ ซ่ึงจะท�ำให้ร่างกายและ พัฒนาจากการน�ำสับปะรด จติ ใจ เกดิ ความผ่อนคลายและเพลิดเพลนิ ภูแลมาอบแห้งและสารสกัด จากสบั ปะรด น้�ำพุร้อนป่าตึง : ธีมสมุนไพรและอาหาร 1) สครับขัดผิวหน้า DIY พื้นถิ่น (Gastronomy) เป็นการสร้างคุณค่า (Scrub to Mix) และ เปน็ สนิ คา้ และมูลค่าเพ่ิมแก่ใช้ประโยชน์จากสมุนไพรใน ทพ่ี ฒั นาจากสมนุ ไพรในทอ้ งถนิ่ ท้องถิ่น ได้แก่ ขม้ินชัน เปลือกมังคุด ทานาคา และรำ� ขา้ ว 114
จากสนิ คา้ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ ทไ่ี ดจ้ ากการนำ� เสนอโดยภาคกี ารทอ่ งเทยี่ ว ในพน้ื ทรี่ วมทงั้ การสำ� รวจพน้ื ท่ี นำ� เขา้ สกู่ ระบวนการคดั เลอื กสนิ คา้ สำ� หรบั การพัฒนาให้เกิดผลเชิงพาณิชย์ โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกจ�ำนวน 6 ประเดน็ คือ 1) สนิ ค้าเปน็ ผลิตภัณฑ์ท่มี ีอยู่แล้วในพ้นื ที่ 2) สนิ ค้าได้รับการผลิตจากวตั ถุดบิ /ทรพั ยากรท่มี ีอยใู่ นพนื้ ที่ 3) สินคา้ ปลอดสารพิษ (Organics) 4) สนิ คา้ มคี วามแปลก ใหม่ และแตกต่างจากสินคา้ ในพืน้ ท่ี (Uniqueness) 5) สินค้าสามารถพฒั นาและต่อยอดให้เกดิ ผลเชิงพาณชิ ย์ได ้ 6)ผปู้ ระกอบการในพนื้ ทใ่ี หค้ วามสนใจในการพฒั นาตอ่ ยอดทางธรุ กจิ 7) ความตอ้ งการของชุมชน สินค้าที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เกิดผลเชิงพาณิชย์ซ่ึงเกิดจาก การรวบรวมข้อมูลด้านการวางธีม/แนวคิดหลักและการสร้างคุณค่าและ มูลคา่ ร่วมเสน้ ทางการทอ่ งเทย่ี วนำ้� พรุ ้อน กอปรกบั ผลคะแนนของสนิ คา้ ท่ีคัดเลือกตามเกณฑ์ฯ ท�ำให้เกิดการพัฒนาจนเป็นสินค้าต้นแบบที่เก่ียว เนื่องในเส้นทางการท่องเทย่ี วน้ำ� พรุ อ้ น จำ� นวน 5 ผลิตภัณฑ์ ดังน้ี 1) สครบั สมนุ ไพรขดั ผวิ แบบ DIY (Scrub to Mix) 2) เครื่องดม่ื เพื่อสขุ ภาพท่ีมีสว่ นผสมของสบั ปะรด (PINEAPPLE TEA) 3) ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื สบั ปะรด (PINEAPPLE HAND CREAM) 4) ผา้ ทอโปง่ ทวหี มกั โคลน (TUNG THEVEE MUD-FERMENTED WOVEN FABLIC) 5) ผลติ ภณั ฑบ์ �ำรงุ ผิวมอื ชากาขาว (TEWEE HAND CREAM) 115
5.3 การออกแบบตัวอย่างผลติ ภัณฑต์ น้ แบบ เม่ือได้ ประเภทของผลิตภัณฑ์ส�ำหรับการพัฒนาให้เกิดผล เชงิ พาณิชยแ์ ลว้ ผ้เู ขียนได้นำ� สินคา้ แตล่ ะประเภท มาศึกษา สบื ค้น เพ่ือ เก็บรวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชุมชน วิถีชีวิตและความเชื่อ ที่เกี่ยวข้องมาเรียบเรียงและออกแบบตราสินค้าเพ่ือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ทำ� ให้ไดต้ ราสนิ ค้าสำ� หรับแต่ละแหล่งท่องเทีย่ วนำ�้ พรุ อ้ นดังนี้ 1) ตราสนิ คา้ เทวี เป็นต้นแบบของน�้ำพุร้อนทุ่งเทวี ต�ำบล บ้านโป่ง อ�ำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัด เชียงราย ซ่ึงมีสินค้าที่ได้รับการพัฒนา ต่อยอด 2 ชนิด คือ ผ้าทอทุ่งเทวีหมัก โคลน (TUNG THEVEE MUD-FER- MENTED WOVEN FABLIC) และ ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื ชากาขาว (TEWEE HAND CREAM) 116
2) ตราสินค้า เลอ ภูแล เป็นต้นแบบของน�้ำพุร้อนโป่งพระบาท ตำ� บลบา้ นดู่ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งราย ซึ่งมีสินค้าท่ีได้รับการพัฒนาต่อยอด 2 ชนิด คือ เครื่องด่ืมเพ่ือสุขภาพที่มีส่วน ผสมของสับปะรด (PINEAPPLE TEA) และ ผลิตภัณฑ์บ�ำรุงผิวมือ สับปะรด (PINEAPPLE HAND CREAM) 3) ตราสินคา้ จนั ธารา เป็นต้นแบบของน�้ำพุร้อนป่าตึง ต�ำบล ป่าตึง อ�ำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีสินค้าท่ีได้รับการพัฒนาต่อยอด คือ สครบั สมนุ ไพรขดั ผวิ แบบ DIY (Scrub to Mix) แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่ภาคีการท่องเท่ียวในพื้นท่ี ประกอบด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้เก่ียวกับการผลิตผลิตภัณฑ์ แก่ ตวั แทนจากภาคกี ารทอ่ งเทยี่ วในพน้ื ทโี่ ดยจำ� แนกขอ้ มลู เปน็ 3 สว่ น ไดแ้ ก่ 1) วตั ถุดบิ และอตั ราสว่ นที่เหมาะสมในการผลติ ผลิตภณั ฑ์แตล่ ะประเภท 2) ประโยชน์ของวัตถุดิบและสารท่ีใช้ในการผลิต และ3) ขั้นตอนใน การผลิต 117
เทวี Tewee นำ้� พรุ อ้ นทงุ่ เทวี ตำ� บลบา้ นโปง่ อำ� เภอเวยี งปา่ เปา้ จงั หวดั เชยี งราย ตราสินคา้ (logo) สินค้า เป็นหญิงรูปงามแห่งทุ่งเทว ี สนิ คา้ ทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาภายใต้ ภายใต้แนวคิดที่ต้องการส่ือ ตราสนิ คา้ เทวี มจี ำ� นวน 2 ชนดิ ความหมายถึงหญิงสาวแห่ง คือ 1) ผา้ ทอทงุ่ เทวีหมกั โคลน ทุ่งเทวีที่มีความงดงามและมี (TUNG THEVEE MUD-FER- สุขภาพร่างกายท่ีดีต้ังแต่ศีรษะ MENTED WOVEN FABLIC) จรดปลายเท้า และ 2) ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื ชากาขาว (TEWEE HAND CREAM) 118
ผา้ ทอทงุ่ เทวหี มกั โคลน (TUNG THEVEE MUD-FERMENTED WOVEN FABLIC) ขอ้ มูลฉลากสนิ คา้ ชือ่ ผลิตภณั ฑ์ : ผา้ ทอทงุ่ เทวี ประเภท : ผ้าทอหมกั โคลน ผ้ผู ลิต : กลุ่มผ้าทอบา้ นโปง่ เลขท่ี 197 ต.บา้ นโป่ง อ.เวยี งปา่ เปา้ จ.เชยี งราย โทร/ไลน์ : 06 2294 5602 วัตถดุ ิบ 1) ผ้าทอ 2) นำ้� แร่ 3) ดินโคลน จากดนิ เหนียวน้�ำพุรอ้ นทุ่งเทวี 119
ข้นั ตอนการท�ำผ้าทอทุง่ เทวหี มักโคลน 1. เลือกตักโคลนส่วนบนหรือหน้าโคลน เพราะเป็นแหล่งสะสมของใบไม้ใบหญ้า ท่ีเป็นแหล่งสะสมของธาตุเหล็กและ โปแทสเซียม 2. น�ำดินโคลนผสมกับน้�ำแร่ และน�ำไป กรองโดยใช้ผ้าขาวบางให้ได้เนื้อโคลนท่ี ละเอยี ด 3. น�ำผ้าทอหมักกับดินโคลนในภาชนะ ท้ิงไว้ 1 คืนไม่ควรหมักนานเกินกว่านี้ เพราะจะทำ� ใหเ้ น้อื ผ้าเปอื่ ย 4. นำ� ผา้ ขน้ึ มาซกั ทำ� ความสะอาดแลว้ แช่ น�้ำด่างท้ิงไว้ 30 นาที และน�ำมาซัก ทำ� ความสะอาดอีกคร้งั ตากแดดให้แหง้
ประโยชนข์ องวตั ถดุ ิบและสารที่ใชใ้ นการผลิต หั ว ใ จ ส� ำ คั ญ ข อ ง ก า ร ห มั ก โ ค ล น คื อ การเลอื กโคลนที่เหมาะสม โคลนท่ีนำ� มา หมักผ้าเป็นโคลนจากดินเหนียวท่ีอยู่ใน บรเิ วณน้ำ� พุร้อนท่งุ เทวโี ดยเลอื กเอาสว่ น บนหรอื หนา้ โคลนเพราะเปน็ แหลง่ สะสม ของใบไม้ใบหญ้า ท่ีเป็นแหล่งสะสมของ ธาตเุ หลก็ และโปแทสเซยี ม ทมี่ คี ณุ สมบตั ิ ท�ำให้ผ้านุ่มและมีสีติดทนนาน ทั้งน้ีเป็น ภูมิปัญญาท้องถ่ินท่ีถูกถ่ายทอดจาก บรรพบุรุษ
ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื ชากาขาว (TAWEE HANDCREAM) ข้อมูลฉลากสนิ ค้า สว่ นประกอบ ชื่อเคร่อื งสำ�อาง : เทวแี ฮนด์ครมี Distilled Water 740 g. ประเภท : ครมี สำ�หรบั ทามอื Almond Oil 50 g. วธิ ใี ช้ : บบี ลงฝ่ามอื ลบู ไลค้ รีมใหท้ ั่วฝา่ มอื และหลังมือ AP-Wax 80 40 g. ส่วนประกอบ : Distilled Water, Almond Oil, AP-Wax, Stearic acid 40 g. Stearic acid, IPM, Silicone Dc, Abrus precatorius Leaf IPM 50 g. Extract, Spectrastat BHL, Silicone Dc 344 50 g. Fragrance, color Abrus precatorius 10 g. ปรมิ าณสทุ ธิ : 40 กรมั Leaf Extract คำ�เตือน : หากมีอาการแพใ้ ห้หยดุ ใชท้ นั ทแ่ี ละล้างมอื ดว้ ยสบู่ Spectrastat BHL 10 g. ครง้ั ทผ่ี ลิต 6401 Fragrance 10 g. วันเดือนปีทีผ่ ลติ : 08.01.2564 สี 4-6 หยด วันเดือนปที หี่ มดอายุ : 07.01.2565 ผลิตโดย : บี เอส เซนต์ อนานสั ฟรุต นอร์รชิ ช่งิ แฮนดค์ รมี เลขทใี่ บรบั แจ้ง : 57-1-6300039290 จำ�หน่ายโดย : เลขที่ 250 หมู่ 5 บา้ นโปง่ เทวี ต.บา้ นโปง่ อ.เวยี งปา่ เป้า จ.เชียงราย 57170 โทร : 08 7709 3993 / 08 1890 6753 122
วธิ ที ำ� สารสกดั จากใบสมนุ ไพรกาขาว 1. นำ� ใบสมนุ ไพรกาขาว 100 กรมั , Prolylene Glycol 300 กรมั หมกั ทงิ้ ไว้ 15-30 วนั 2. เขยา่ บอ่ ยๆ ในชว่ ง 7 วนั แรก หลงั จากนนั้ ทง้ิ ไว้ เรมิ่ ใชไ้ ด้ 15 - 30 วนั และควรใชใ้ หห้ มดใน 6 เดอื นนบั จากวนั ทสี่ กดั สามารถกรองออกมาใส่ ขวดไวใ้ ช้ หรอื แชไ่ วจ้ นกวา่ จะใชห้ มด ขนั้ ตอนในการผลติ ผลติ ภณั ฑ์ 1. ชง่ั Almond Oil , E-wax , Beeswax , Cocoa Butter , Mango Butter , Stearic Acid นำ� ไปละลายดว้ ยความรอ้ น ไฟออ่ น แคล่ ะลาย 2. ชงั่ นำ�้ กลน่ั และนำ� ไปตม้ ใหร้ อ้ น จนเหน็ ควนั ขนึ้ แตย่ งั ไมเ่ ดอื ด โดยให้ อณุ หภมู อิ ยรู่ ะหวา่ ง 70 - 80 องศาเซลเซยี ส 3. เทนำ�้ รอ้ นลงในสว่ นของนำ�้ มนั 4. ปน่ั ใหเ้ ปน็ เนอื้ เดยี วกนั 5. ใสน่ ำ้� ผง้ึ แลว้ ปน่ั ตอ่ 6. รอใหอ้ ณุ ภมู ลิ ดลงจนอยใู่ นระดบั ตำ่� กวา่ 50 องศาเซลเซยี ส จงึ ใส่ สารกนั บดู กอ่ นแลว้ จงึ ใสน่ ำ้� หอม 7. บรรจลุ งบรรจภุ ณั ฑ์ ประโยชนข์ องวตั ถดุ บิ ใชใ้ นการผลติ สมนุ ไพรกาขาว อดุ มดว้ ย “ สารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ ” ชว่ ยในการยบั ยงั้ หรอื ลดผลของอนมุ ลู อสิ ระ ซง่ึ อาจนำ� ไปสกู่ ารสญู เสยี คอลลาเจนทที่ ำ� ใหผ้ วิ เกดิ รวิ้ รอย และการ สญู เสยี ความยดื หยนุ่ ของผวิ 123
เลอ ภูแล Le Phulae น้�ำพรุ อ้ นโป่งพระบาท ตำ� บลบา้ นดู่ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั เชียงราย ตราสนิ ค้า (logo) สินคา้ เป็นรูปสตรีผู้สง่างามและทรง สนิ คา้ ทไี่ ดร้ บั การพฒั นาภายใต้ คณุ คา่ ภายใตแ้ นวคดิ ทตี่ อ้ งการ ตราสนิ คา้ เลอ ภูแล มีจ�ำนวน สอื่ ความหมายถงึ สบั ปะรดภแู ล 2ชนดิ คอื 1)เครอื่ งดมื่ เพอื่ สขุ ภาพ ของจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นต้น ท่ีมีส่วนผสมของสับปะรด- ก�ำเนิดและแหลง่ เพราะปลูก มี ชาสบั ปะรด (PINEAPPLE TEA) คุณค่าและประโยน์มากมาย 2)ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื สบั ปะรด รวมถึงสามารถน�ำสับปะรด (PINEAPPLE HAND CREAM) ภูแลมาสรา้ งมลู ค่าเพิ่ม ทั้งการ ผลิตเคร่ืองส�ำอางค์ ขนม อาหาร เครอ่ื งดม่ื และของใชใ้ น การอุปโภคต่างๆ เช่น น�้ำยา ลา้ งจาน นำ�้ หมกั เพอ่ื การเกษตร เปน็ ต้น 124
เครือ่ งดืม่ เพอ่ื สุขภาพที่มสี ่วนผสมของสบั ปะรด-ชาสัปะรด (PINEAPPLE TEA) วตั ถุดบิ ขอ้ มลู ฉลากสนิ คา้ 1) ใบชาอสั สมั ชือ่ ผลิตภัณฑ์ : ชาสบั ปะรด เลอภูแล 2) สบั ปะรดภูแลอบแหง้ ประเภท : เครอื่ งดื่มเพอ่ื สุขภาพ วิธีใช้ : ชงในน้ำ� รอ้ น สว่ นประกอบ : ใบชาอัสสมั สบั ประรดภแู ลอบแหง้ ปริมาณสุทธิ : 10 กรมั /ซอง ครงั้ ท่ผี ลิต : 6401 วนั เดอื นปีทีผ่ ลติ : : 01.07.2564 วนั เดือนปีที่หมดอายุ : 30.06.2265 ผผู้ ลิต : กลุม่ วิสาหกิจชุมชนแปรรปู ผลไมบ้ ้านปา่ ซาง เลขที่ 8 หมู่ 2 ต.บา้ นดู่ อ.เมอื ง จ.เชยี งราย โทร/ไลน์ : 08 4042 0171 125
ขั้นตอนการทำ� ชาสบั ปะรด (PINEAPPLE TEA) 1. ห่ัน - สับสับประรดภูแล เป็นชั้นเล็กๆ แล้วน�ำไปผสมกับใบชาอบแห้ง เช่น ชาเขยี ว ชาอู่หลง หรอื ชาอสั สมั เป็นตน้ 2. หมักและนวดส่วนผสมเขา้ ดว้ ยกัน 3. น�้ำไปอบด้วยเคร่ืองอบลมร้อน ที่ระดับ ความรอ้ นอณุ หภมู ิ 50-60 องศาเซลเซยี ส ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ท้ังนี้ขึ้นอยู่ กบั ความช้นื ในสับปะรด 4. ระหว่างเวลาการอบ ให้หมั่นพลิกใบชา เพ่ือให้ได้รับความร้อนท่ัวกัน ทั้งน ้ี อุณหภูมิท่ีใช้มีผลต่อเวลาท่ีใช้อบและ รสชาติของชา 126
ประโยชนข์ องชาอัสสมั ประโยชนข์ องสบั ปะรด มีคุณสมบัติ ในการเพิ่มพลังงาน คุณสมบัติของสับปะรดภูแล และการเพิม่ ความต่นื ตวั ในจติ ใจ สามารถช่วยเสริมสร้างระบบ จากคาเฟอนี ชาอสั สมั มคี าเฟอนี ภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งสามารถลดอาการง่วงนอน ลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิด และเพิ่มพลังงานในตอนเช้า ชา โรคมะเร็ง บรรเทาและรักษา อัสสัมมีสารท่ีช่วยดูแลสุขภาพ อาการหวัดได้ ช่วยให้เลือดลม ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ไหลเวียนได้ดี ท�ำให้สุขภาพใน ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรค ชอ่ งปากแขง็ แรง ปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ มะเร็ง ป้องกันโรคเบาหวาน โรคเหงือก และช่วยแก้อาการ ป้องกันฟันผุ ป้องกันโรคหัวใจ ท้องผูก ขับถ่ายไมส่ ะดวก และปอ้ งกนั โรคอว้ น ท่ีมา : สถาบันชาและกาแฟ แห่งมหาวิทยาลยั แมฟ่ า้ หลวง 127
ผลติ ภณั ฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื สบั ปะรด (PINEAPPLE HAND CREAM) ข้อมูลฉลากสนิ คา้ สว่ นประกอบ ชือ่ เครอ่ื งสำ� อาง : เลอภูแล แฮนดค์ รมี Distilled Water 600 g. ประเภท : ครมี ส�ำหรับทามอื วธิ ีใช้ : บบี ลงฝา่ มือ ลบู ไล้ครมี ใหท้ ว่ั ฝา่ มอื และหลงั มือ สว่ นประกอบ : Distilled Water, Almond Oil, E-Wax, Almond Oil 140 g. Stearic acid, Beeswax, Honey, Pineapple Extract, AP-Wax 80 60 g. Mango butter, Cocoa butter, Spectra stat BHL, Stearic acid 40 g. Fragrance, color Beeswax 30 g. ปริมาณสทุ ธิ : 40 กรัม Honey 60 g. คำ� เตือน : หากมอี าการแพ้ให้หยดุ ใช้ทนั ทแ่ี ละล้างมือดว้ ยสบู่ ครง้ั ท่ีผลิต 6401 วนั เดอื นปที ี่ผลิต : 15.06.2564 วันเดือนปีทหี่ มดอายุ : 14.06.2565 Pineapple extract 10 g. ผลิตโดย : บี เอส เซนต์ อนานัส ฟรุต นอรร์ ชิ ช่ิง แฮนดค์ รมี Mangobutter 20 g. เลขที่ใบรับแจง้ : 57-1-6300039290 จ�ำหน่ายโดย : กลุม่ วสิ าหกิจชมุ ชนแปรรูปผลไมบ้ า้ นป่าซาง Cocoabutter 20 g. Spectrastat BHL 10 g. เลขที่ 8 ม.2 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชยี งราย 57100 Fragrance 10 g. โทร/ไลน์ : 084 042 0171 สี 2-3 หยด
วธิ ที ำ� สารสะกดั จากสบั ปะรด (Pineapple extract) น�ำสับปะรดอบแห้ง 100 กรัม และ Prolylene Glycol 300 กรัม หมกั ท้งิ ไว้ 15-30 วนั เขยา่ บอ่ ยๆ ในช่วง 7 วนั แรก หลังจากนน้ั ทิง้ ไว้ เริม่ ใชไ้ ด้ 15 - 30 วัน และควร ใช้ใหห้ มดใน 6 เดือนนบั จากวันทีส่ กัด สามารถกรองออกมา ใส่ขวดไว้ใช้ หรือแชไ่ วจ้ นกว่าจะใช้หมดกไ็ ด้ ขนั้ ตอนในการผลิตผลติ ภณั ฑ์ 1. ชงั่ Almond Oil , E-wax , Beeswax , Cocoa Butter , Mango Butter , Stearic Acid น�ำไปละลายดว้ ย ความร้อน ไฟออ่ น แคล่ ะลาย 2. ชั่งน้�ำกล่ันและน�ำไปต้มให้ร้อนจนเห็นควันขึ้นแต่ยัง ไม่เดอื ด ใหอ้ ุณหภูมอิ ย่รู ะหวา่ ง 70-80 องศาเซลเซยี ส 3. เทน�ำ้ ร้อนลงในสว่ นของนำ�้ มัน 4. ปนั่ ใหเ้ ป็นเนือ้ เดยี วกัน 5. ใส่น�้ำผ้งึ แล้วปนั่ ตอ่ 6. รอใหอ้ ณุ ภมู ลิ ดลงจนอยใู่ นระดบั ตำ�่ กวา่ 50 องศาเซลเซยี ส จึงใส่สารกันบูดก่อนแล้วจึงใส่ น้�ำหอม 7. บรรจลุ งบรรจภุ ณั ฑ์ ประโยชนข์ องวตั ถดุ บิ และสารทใ่ี ชใ้ นการผลติ สารสะกดั สบั ปะรด สารสะกัดสับปะรดมีสรรพคุณในการช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่าง อ่อนโยนเพราะมีเอนไซม์ท่ีมีประโยชน์ ได้แก่ เอนไซม์โบรมีเลนและ เอนไซมป์ าเปนที่ ม่ี คี ณุ สมบตั ชิ ว่ ยยอ่ ยโปรตนี เอนไซมท์ งั้ 2 ชนดิ นสี้ ามารถ ช่วยขจดั เซลลผ์ ิวที่เสียใหห้ ลดุ ออกไป 129
จนั ธารา CHANTARA น้�ำพรุ อ้ นปา่ ตึง ต�ำบลป่าตึง อำ� เภอแมจ่ นั จงั หวัดเชยี งราย ตราสินค้า (logo) สนิ ค้า เป็นรูปพระจันทร์และสายน�้ำ มสี นิ คา้ ทพ่ี ฒั นาภายใตต้ ราสนิ คา้ ภายใต้แนวคิดท่ีต้องการสื่อ จนั ธาราคอื สครับสมนุ ไพรขัด ความหมายถงึ สายนำ้� แหง่ ความ ผวิ แบบ DIY (Scrub to Mix) งดงามและทรงคุณค่าของ อ�ำเภอแม่จนั 130
สครบั สมนุ ไพรขดั ผวิ แบบ DIY (Scrub to Mix) มงั คด ขมนิ้ ชนั ทานาคา สว่ นประกอบ ข้อมลู ฉลากสินคา้ ผงเปลอื กมงั คดุ ชอ่ื เครื่องสำ� อาง : DIY SCRUB ผงขมน้ิ ชนั ประเภท : สครบั สำ� หรบั ผวิ หนา้ ผงทานาคา วธิ ีใช้ : เลอื กผสมผงสมนุ ไพรตามต้องการลงบนถ้วยผสม นำ้� มนั มะพรา้ ว เหยาะน�้ำมันมะพรา้ วคน้ ให้เขา้ กนั แล้วนำ� มาขัดผวิ หน้า สว่ นประกอบ : ผงมังคุด, ผงขมน้ิ ชนั , ผงทานาคา, น�้ำมันมะพร้าว ปริมาณสทุ ธิ : 30 กรมั ค�ำเตอื น : หากมอี าการแพใ้ หห้ ยดุ ใชท้ ันท่แี ละรบี ล้างออก ครัง้ ที่ผลิต 6301 วนั เดือนปที ผี่ ลิต : 23.12.2563 วนั เดอื นปีทห่ี มดอายุ : 22.12.2564 ผลิตโดย : บี เอส เซนต์ อนานสั ฟรุต นอร์รชิ ชง่ิ แฮนดค์ รีม เลขทใี่ บรับแจ้ง : 57-1-6300039290 จ�ำหนา่ ยโดย : กล่มุ จนั ธารา บา้ นปา่ ตึง ต.ปา่ ตงึ อ.แมจ่ ัน จ.เชียงราย โทร : 095 439 5947 131
ข้ันตอนในการใชผ้ ลิตภัณฑ์ 1. เลอื กผสมสมุนไพรตามต้องการลงบนภาชนะ 2. นำ� ผงสมนุ ไพรมาผสม กับนำ้� มันมะพร้าว 4. คนส่วนผสมใหเ้ ขา้ กนั เพื่อทำ� เป็นสครบั ส�ำหรับขดั ผิว ประโยชนข์ องวัตถดุ บิ และ สารทใี่ ชใ้ นการผลิต 1. ผงมังคุด : มีสรรพคุณในการปรับผิว หมองคลำ้� ให้ขาวผอ่ ง ลดผดผนื่ อาการคัน แสบ แดง จากการแพ้เครื่องส�ำอางและ ปอ้ งกันแดดใหก้ บั ผิว 2. ผงขม้ินชนั : มีสรรพคณุ ในการชะลอวัย และชะลอการเกิดร้ิวรอย ท�ำให้ผิวขาว ผ่องใส เต่งตึง และช่วยรักษาสิวเส้ียน สิวผด และสวิ อุดตัน 3. ผงทนาคา : มีสรรพคณุ ในการรกั ษาสวิ อักเสบ หรือสิวหวั หนอง และสามารถลบ เลือนรอยแผลเป็นท่ีเกิดจากสิว รอยแดง รอยดำ� 132
ขอ้ มลู สารประกอบในการผลติ สินค้า Distilled Water นำ�้ กลน่ั เปน็ นำ�้ สะอาด เนอื่ งจาก นำ้� กลน่ั มคี า่ สง่ิ เจอื ปน ในนำ้� คอ่ นขา้ งนอ้ ย ไมม่ เี ชอ้ื โรคหรอื แรธ่ าตุ หรอื ไอออน ใดๆ ตดิ มา สามารถ น�ำไปใช้ได้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น น�้ำกล่ันส�ำหรับ หอ้ งแลป็ และอุตสาหกรรม เคร่อื งสำ� อาง เป็นตน้ Almond Oil นำ้� มนั อลั มอนด์ นำ�้ มนั อลั มอนดอ์ ดุ มดว้ ยวติ ามนิ E, A, and B ช่วยคงความชุ่มชืน้ ในผวิ และเพมิ่ การดูดซึม ท�ำให้ผิวไม่อดุ ตัน และผวิ ดู กระจา่ งใส เปลง่ ปลั่ง นุ่มนวล AP-Wax 80 เอพแี วก๊ ซ์ ลกั ษณะเปน็ แวกซ์ เนอ้ื ไมแ่ ขง็ เปน็ อมิ ลั ซไิ ฟเออร์ ที่ดี ทำ� ให้เกดิ ครีมเนอ้ื เนยี นทาแล้วไมเ่ หนอะหนะ บำ� รงุ ผวิ ให้นุ่ม รปู แบบ ของครมี ทไี่ ด้เป็นแบบ oil in water Stearic acid สเตียริก แอซิด เป็นกรดไขมันที่ได้จากสัตว์ ค่อนข้าง ปลอดภยั เป็นผลกึ สีขาวมันเงา มีลกั ษณะเฉพาะคอื มีกลน่ิ หนื ของไขมนั Stearic Acid เปน็ กรดไขมันอิม่ ตวั ใชท้ �ำเบสของครีมลา้ งหนา้ สบู่ แชมพู นอกจากน้ยี งั ใช้ผสมกบั น�ำ้ มันระหุง่ (Castor Oil) เพอื่ ทำ� น�ำ้ ยาปรบั ผ้านมุ่ และใชเ้ พิม่ ความแขง็ ในเทียนในอาหาร และในการขึ้นรปู Isopropyl Myristate ไอโซ โพรพลิ ไมริสเตท (IPM) เป็นของเหลวท่ี มคี วามหนดื ตำ�่ ไมม่ นั มคี ณุ สมบตั ใิ นการเคลอื บผวิ เพอ่ื เกบ็ รกั ษาความชมุ่ ชน่ื ซ่ึงจะทำ� หน้าท่ีท�ำใหโ้ ลช่ันซมึ เขา้ ผิวเรว็ Silicone DC 344 ซิลิโคน ดีซี 344 ช่วยท�ำให้ผิวนุ่ม ท�ำให้เน้ือครีม เกลี่ยง่าย เนือ้ ครีมแหง้ เรว็ ไม่ท้ิงคราบความมันเงาหรือความเหนอะหนะ 133
Beeswax ไขผงึ้ ธรรมชาติ ไขผ้งึ ธรรมชาติ หรอื ไขผึง้ ได้มาจากการสกัด จากรวงผง้ึ ธรรมชาติ มคี ณุ สมบตั ทิ ำ� ใหพ้ นื้ ผวิ ลนื่ ขนึ้ นยิ มใชใ้ นอตุ สาหกรรม เคร่อื งส�ำอางค์ เช่น ครมี โลชัน่ ครมี กนั แดด ลปิ สตกิ อายลายเนอร์ Honey นำ้� ผงึ้ เปน็ เครอื่ งสำ� อางจากธรรมชาตทิ ใี่ หป้ ระโยชนส์ งู ประกอบ ด้วย น้�ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขีผ้ ้ึงอัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไมแ้ ละ ฮอร์โมนเอสโตรเจน น้�ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว นิยมใช้เป็นส่วน ประกอบของเครอ่ื งสำ� อางใชพ้ อกหนา้ ทำ� ใหผ้ วิ หนา้ ชมุ่ ชน้ื เปลง่ ปลง่ั Mango Butter เนยมะม่วง เปน็ สารสกดั จากเปลอื กเมล็ดมะม่วง ช่วย ผลัดเซลผิวให้เนียนสวย บ�ำรุงผิว ช่วยฟื้นฟูผิว บ�ำรุงให้ชุ่มช่ืน นุ่มนวล ซึมซับความช่มุ ชืน้ ลดริว้ รอย แผลเปน็ ผวิ แตก เป็นตน้ Cocoa butter เนยโกโก้ จะช่วยปรับสีผวิ ใหส้ มำ่� เสมอ และชว่ ยกระต้นุ การผลิตคอลลาเจน ท�ำให้ผวิ ยดื หยุน่ ไดม้ ากข้ึน และอุดมดว้ ยวติ ามินอีที่ ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันอนุมูลอิสระเป็นเกราะป้องกันผิวและชะลอ การสูญเสียนำ้� เนอ่ื งจากมกี รดปาลมติ กิ Spectrastat BHL สารกนั เสยี (Preservative) ชนดิ ละลายนำ�้ ทสี่ ามารถ ยับย้ังเชื้อราและเช้ือแบคทีเรียในผลิตภัณฑ์เคร่ืองส�ำอางได้หลากหลาย ชนดิ มคี า่ ่ pH เปน็ กลางเหมาะสำ� หรบั ผลติ ภณั ฑท์ ตี่ อ้ งการความออ่ นโยน และไม่ระคายเคอื งต่อผวิ Fragrance กล่ิน คือกล่ินน�้ำหอมจากธรรมชาติ น�้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) และน�้ำหอมทส่ี กดั จากเคมี (Fragrances) หลากชนิดท่ี ใชส้ ำ� หรับผสมในเครือ่ งส�ำอาง ครีม โลชน่ั แชมพู สบู่ เป็นตน้ สี สผี งจากธรรมชาตจิ ากพชื Indigofera tinctoria L. 100% เปน็ สลี ะลาย น้�ำได้ใช้สำ� หรบั เติมแต่งสใี นเครอื่ งสำ� อาง 134
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม แกแ่ หลง่ ทอ่ งเทย่ี วนำ�้ พรุ อ้ นและบรกิ ารทเ่ี กยี่ วเนอ่ื ง ใหป้ ระสบความสำ� เรจ็ น้ันเกิดจากความร่วมมือและการบูรณาการ การบริหารจัดการของภาคี การทอ่ งเทยี่ ว ทง้ั ภาครฐั ภาคเอกชน ชมุ ชน และสถาบนั การศกึ ษาในพน้ื ที่ รวมทงั้ การใหค้ ณุ คา่ ความสำ� คญั ตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาติ ศลิ ปะวฒั นธรรม และภูมิปัญญาท้องถ่ิน ซึ่งส่งผลต่อการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มในมิติ ทางเศรษกจิ สังคม และส่งิ แวดลอ้ มได้อย่างย่งั ยนื ทง้ั นป้ี ัจจัยส�ำคัญของ การสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพมิ่ สำ� หรบั การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ�้ พรุ อ้ น ประกอบด้วย 1) คุณค่าสนิ คา้ อตั ลกั ษณ์ และภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นเพ่อื สร้าง สนิ คา้ และบรกิ ารทีต่ อบสนองความตอ้ งการของนกั ทอ่ งเที่ยว 2) การนำ� เสนอกิจกรรมการท่องเท่ียวและบริการอย่างสร้างสรรค์ ที่สอดคล้องกับ บริบทภูมิสังคมและทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยว 3) การสื่อสารเพ่ือ การเขา้ ถงึ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว โดยใชช้ อ่ งทางสอื่ สารทง้ั ทางออนไลน์ (On line) และการสอื่ สารแบบออฟไลน์ (Off line) เพ่ือให้บริการการเข้าถงึ ขอ้ มลู ข่าวสารต้ังแต่ก่อนการเดินทาง และระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว 4) การสรา้ งมลู คา่ ดว้ ยราคาท่ีเหมาะสมกับระดับการใหบ้ รกิ ารที่แตกตา่ ง กนั 5) การสรา้ งคณุ ภาพทางกายภาพ และบรรยากาศสง่ิ แวดลอ้ ม วถิ ชี วี ติ และการแต่งกาย เปน็ ตน้ 6) กระบวนการให้บริการ ทีม่ ีความหลากหลาย 135
สำ� หรบั นกั ทอ่ งเทย่ี วทกุ เพศ ทกุ วยั รวมถงึ การออกแบบการบรกิ าร ทต่ี อบ สนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็วแม่นย�ำ และ 7) โครงสรา้ งการทำ� งานดา้ นบคุ ลากร โดยการกำ� หนดโครงสรา้ งการทำ� งาน การจัดท�ำแผนการท�ำงาน การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความรู้ และทักษะด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยวและการให้บริการเก่ียวเนื่อง รวมทั้งการมีทัศนคติที่ดี มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ มีความสามารถใน การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า สามารถตอบสนองความต้องการของ นักท่องเที่ยวได้ เปน็ ตน้ ควบคูก่ ารขบั เคลื่อนการมีสว่ นรว่ มของชุมชน ใน ทุกขั้นตอนของการจัดการแหล่งท่องเท่ียว การบริการและการด�ำเนิน การดา้ นการตลาด เพอ่ื ให้เกดิ ผลเชงิ พาณิชยอ์ ยา่ งเป็นรปู ธรรมและยั่งยืน ในมติ ิ คน ( people) โลก (planet) กระบวนการ (Process) และก�ำไร (profits) 136
บรรณานกุ รม กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2557). คู่มือการ ตรวจประเมนิ มาตรฐานคณุ ภาพแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วเชิงสขุ ภาพ ประเภทน้�ำพุร้อนธรรมชาติ. กรุงเทพฯ: ส�ำนักงานกิจการโรง พิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกใน พระบรมราชูปถัมภ์. กรมการท่องเท่ียว กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา. (2557). คู่มือการ พัฒนาบุคลากร ด้านการท่องเท่ียวตามกรอบการพัฒนา ประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้าน การท่องเท่ียวภายใต้ โครงการการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจดการด้าน การ ท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: กรมการท่องเท่ียว กระทรวงการท่อง เทย่ี วและกีฬา. กรมการท่องเท่ียว. (2558). การส่ือความหมายในแหล่งท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ : วี.ที.เค. พริน้ ทต์ งิ้ . กรมการท่องเที่ยว (2560) คู่มือการบริหารจัดการแหล่งท่องเท่ียวเชิง สรา้ งสรรค.์ กรงุ เทพฯ: กลมุ่ วชิ าการและมาตรฐานแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว กองพัฒนา แหล่งท่องเที่ยว กรมการท่องเท่ียว กระทรวง การท่องเท่ยี วและกีฬา. กรมการท่องเที่ยว. (2556). หนงั สอื ค่มู ือการจดั การแหลง่ ทอ่ งเที่ยว: ส่งิ อ�ำนวยความสะดวกและองค์ประกอบกายภาพ. พิมพ์คร้ังท่ี 1. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . การท่องเที่ยวโดยชุมชนจงั หวดั เชียงราย (ม.ป.ป.) [Brochure] 137
การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย. (2552). การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ. สืบค้นเม่ือ 20 กรกฎาคม 2563, จาก http://that.tour ismthailand.org/สถานท่ีท่องเที่ยวและกจิ กรรม/ประเภท กจิ กรรมทอ่ งเท่ียว/ท่องเทยี่ วเชงิ สุขภาพ การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย. (2563). คู่มือเตรียมความพร้อม. สืบคน้ เมอื่ 20 กรกฎาคม 2563, จาก https://thailandsha. tourismthailand.org/index?strip=2 การท่องเท่ียวโดยชุมชนจังหวัดเชียงราย .(2559). [Brochure] ความหมายของการสื่อสาร.(ม.ป.ป.) ภาพความหมายของการสื่อสาร จากhttps://sites.google.com/site/kamonlakcommuni cation/khwam-hmay-khxng-kar-suxsar สืบค้นเม่ือ 20 ธันวาคม 2563 เชียงรายโฟกัส. (ม.ป.ป.) ภาพบอกเส้นทางน�้ำพุร้อน สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2563จาก http://www.chiangraifocus. net/2012/ เชียงรายโฟกัส. (2563) ภาพหอแห่งแรงบันดาลใจ สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2563 จาก https://www.chiangraifocus.com/ index.php/article/299 เทศบาลต�ำบลบ้านดู่. (ม.ป.ป.). ข้อมูลทั่วไปของแหล่งท่องเที่ยวน้�ำพุ ร้อนโป่งพระบาท. สบื คน้ เม่อื 5 มกราคม 2564, จาก http:// www.bandu.go.th/sourceFiles. php?pageID=5 เทย่ี วเมอื งอาริมะออนเซ็น (2563). ภาพแหลง่ ท่องเท่ียวอารมิ ะ ออนเซ็น สบื คน้ เม่ือ 5 มกราคม 2564 จาก https://www.facebook. com/%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B 8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B 138
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156