Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้ำพุร้อน : การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้ำพุร้อน : การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม

Published by smileroute, 2021-09-03 01:14:59

Description: หนังสือเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้ำพุร้อน: การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มเล่มนี้จัดทำและเรียบเรียงข้อมูลจากเอกสารและหนังสือต่างๆ ที่ปรากฏในบรรณานุกรมและจากผลงานวิจัยเรื่อง “นวัตกรรมการท่องเที่ยวน้ำพุร้อนในอารยธรรมล้านนา” ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณแผนบูรณาการพัฒนาศักยภาพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ผู้เขียนหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ในการอ่านประกอบการเรียนการสอนวิชาการจัดการการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ในสถาบันการศึกษาทุกระดับ และเป็นประโยชน์ต่อภาคีการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน สามารถนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

Search

Read the Text Version

ตัวอยา่ งการออกแบบขัน้ ตอนการการให้บริการออนเซ็นของประเทศ ญีป่ นุ่ (Customer Journey) 39

กรณศี กึ ษา แหล่งท่องเที่ยวนำ้� พรุ อ้ น อไู หล ออนเซ็น ประเทศไตห้ วัน อไู หล : Wulai เมอื งออนเซน็ ไตห้ วนั เปน็ เมอื ง ท่องเที่ยวตากอากาศชนบทเล็กๆ ห่างจาก ตวั เมอื งไทเป (Taipei) ไปทางตอนใตป้ ระมาณ 20 กิโลเมตร มีช่ือเสียงด้านแหล่งแช่น้�ำแร่ ความรอ้ นของนำ้� อยรู่ ะหวา่ ง 90 องศาเซลเซยี ส เปน็ บอ่ นำ้� พรุ อ้ นฟรที ใี่ หญส่ ดุ ไมม่ สี ี ไม่มกี ลิน่ ท่ีอูไหลน้ันเป็น�้ำพุร้อนโซเดียม ซึ่งดีต่อผิว เหมาะต่อการฟื้นฟูสภาพผิวพรรณท่ีอิดโรย จากหลายๆ ปจั จัย รวมถงึ มีสรรพคุณในการ รักษาและบ�ำบัดโรคกระดกู ทม่ี า จาก https://bestiewanderer.com/ Volando Urai Spring Spa

หอ้ งบริการ แบบส่วนตวั ทVoมี่ lาanจdาoก UhrttapisS:/p/briensgtieSwpaanderer.com/ หอ้ งบรกิ าร แบบรวม ทVoมี่ lาanจdาoก UhrttapisS:/p/briensgtieSwpaanderer.com/ หอ้ งบรกิ าร เปล่ยี นเส้อื ผ้า ทVoมี่ lาanจdาoก UhrttapisS:/p/briensgtieSwpaanderer.com/

ตวั อย่างการออกแบบข้นั ตอนการการให้บริการออนเซ็นของประเทศ ไตห้ วัน (Customer Journey) 42

2.4 แนวทางปฏบิ ตั สิ �ำหรบั สถานบริการดา้ นสขุ ภาพตามฐาน วิถีชวี ติ ใหม่ (New Normal) การออกแบบพื้นท่ีส�ำหรับการให้บริการนวดและสปาไทย โดย เนน้ ปลอดภยั ตามมาตรการของภาครฐั โดย อาจารยธ์ นติ จงึ ดำ� รงกจิ และ ดร.ศรีดารา ติเพียร อาจารย์ประจ�ำหลักสูตรออกแบบภายใน คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ และ RDI มหาวิทยาลยั ธุรกจิ บณั ฑติ ไดเ้ สนอขอ้ ปฏบิ ัติ ออกเป็น 2 ระยะ คอื 1) ระยะส้นั และ 2) ระยะยาว 1) ระยะสนั้ Short Term 1.1 พื้นท่ีต้อนรบั และรอรบั บรกิ าร เปน็ พ้ืนท่ีบรเิ วณส่วนหนา้ ร้าน ประกอบด้วยส่วนต้อนรับ จุดนั่งพักรับบริการ ให้ค�ำปรึกษาคอร์ส บริการ แสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพ่ือจ�ำหน่ายเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รับช�ำระเงิน สามารถปรับปรงุ ได้โดยแยกสดั สว่ นพื้นทีส่ ำ� หรับจุดคดั กรอง พ้ืนที่รอรับบริการ หากไม่มีพื้นท่ีด้านนอกอาคารให้กันพื้นที่ต้อนรับส่วน หนึ่งไว้เป็นจุดคัดกรองและมีฉากก้ันก่อนเข้าสู่พื้นท่ีนั่งพื้นที่รอรับบริการ ควรมีไม่เกนิ 2 ทีน่ ัง่ และจะต้องเว้นระยะห่างต่อท่ีนง่ั 1.50 เมตร และ ควรเป็นท่ีน่ังเด่ียวพ้ืนที่ให้ค�ำปรึกษาเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แคชเชียร์ ใหว้ างตำ� แหนง่ ของผใู้ ชบ้ รกิ ารดา้ นหนา้ เคาทเ์ ตอร์ มรี ะยะหา่ ง 1.50 เมตร พร้อมตดิ ต้งั ฉากกั้นระหวา่ งผใู้ ชบ้ ริการ และผใู้ ห้บริการ 1.2 พ้ืนทีใ่ ห้บริการนวด พื้นท่บี รกิ ารนวด หากเปน็ พ้นื ทร่ี วม ใหเ้ วน้ ระยะหา่ งระหวา่ งเตยี งนวด อยา่ งนอ้ ย 1.50 เมตร และติดต้ังฉาก ก้ันซ่ึงเป็นวัสดุท่ีท�ำความสะอาดง่าย แต่ควรใช้ผ้าเน่ืองจากเป็นวัสดุท่ีจับ ตดิ กับสิ่งสกปรกและสะสมเชื้อโรคได้งา่ ย หอ้ งนวดสปา ควรจดั เปน็ ห้อง เตียงเดี่ยว และมีพื้นที่บริเวณรอบเตียงกว้างพอ เหมาะสมกับ การเคล่อื นไหวของผ้ใู ช้งาน 43

1.3 พื้นที่เก็บอุปกรณ์ พื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ท�ำความสะอาด 1-2 จุด เพ่ือความสะดวกในการหยิบใช้งาน เน่ืองจากเป็นข้อก�ำหนดท่ี สถานบรกิ ารต้องท�ำความสะอาดทุกครั้ง หลังใหบ้ ริการพ้นื ท่เี กบ็ อุปกรณ์ ควรแยกพนื้ ทเ่ี กบ็ อปุ กรณแ์ ละผา้ ทยี่ งั ไมไ่ ดใ้ ชแ้ ละทใ่ี ชแ้ ลว้ หา่ งจากกนั และ มิดชดิ 2) ระยะยาว Long Term 2.1 องคป์ ระกอบที่ 1 การจดั การเชิงพื้นท่ีในสถานบรกิ าร ควรคำ� นงึ ถงึ หลกั การจดั วางพน้ื ทที่ างเดนิ สญั จรภายใน ขนาด ระยะห่างของพื้นที่ท่ีเหมาะสม พ้ืนที่ใช้สอยภายใน ควรแยกกลุ่มการใช้ งานอย่างชัดเจน จ�ำกัดพ้ืนที่ของผู้ใช้บริการแต่ละคน รวมท้ัง การสญั จรภายในร้าน ตอ้ งแยกชดั เจนระหว่างผู้ใหบ้ รกิ ารและผใู้ ชบ้ รกิ าร แบง่ เสน้ ทางในการเก็บสงิ่ ของที่ใช้งานแล้ว เชน่ ผ้าปูท่ีนอน เสอ้ื ผ้า เพ่มิ ขนาดทางเดนิ ขนาดเฟอรน์ เิ จอร์ ทแี่ ยกการใชง้ านเฉพาะบคุ คล เนน้ ความ เป็นสว่ นตัวของผใู้ ชบ้ ริการ ซ่ึงการจัดการเชงิ พืน้ ที่มี 3 ส่วนที่ควรให้ความ สำ� คัญ คือ 1) พน้ื ท่ีให้บรกิ ารนวด พน้ื ทน่ี วดเท้าและนวดไทยหากเปน็ พนื้ ท่ีนวดรวม ใหเ้ วน้ ระยะของเตียงนวด 1.50 เมตรและติดตั้งฉากก้ันระหว่างเตียง สามารถ ปิดเปิดได้ แต่ตอ้ งมสี ่วนของผนงั ยืน่ ออกมา 1.00 เมตร และควรใชเ้ ปน็ ประตูบานเลอื่ นที่เช่ือมพืน้ ทีไ่ ดแ้ ทนผ้ามา่ น พ้นื ท่ีนวดสปา ควรเป็นพนื้ ที่ เตียงเด่ยี ว หากจะออกแบบใหเ้ ปน็ ห้องเตียงคู่ ควรจัดวางต�ำแหน่งใหห้ นั ดา้ นปลายเท้าเขา้ หากนั 44

2) พ้ืนทีต่ ้อนรบั และจดุ รอรับบริการ จดุ คดั กรองดา้ นนอก เพม่ิ จุดล้างมอื ในต�ำแหน่งทีเ่ หมาะสม เพ่ือความปลอดภัยก่อนผู้ใช้บริการจะเข้าสู่พ้ืนท่ีต้อนรับหรือจุดรอรรับ บริการ จุดรอรับบริการ ควรใช้เก้าอ้ีแบบเดียว และมีการเว้นระยะห่าง หรือขน้ั ด้วยโตะ๊ ขา้ ง จดุ ให้ค�ำปรกึ ษา ควรจดั เป็นพื้นท่ีแยกต่างหาก เปน็ ชุดละ 2 ทีน่ ั่ง และแบง่ ขอบเขตพ้นื ท่ชี ัดเจน เคาท์เตอรป์ ระชาสมั พนั ธ์ 3) พนื้ ทสี่ ขุ อนามยั ในสถานบรกิ าร จดั วางพื้นทสี่ ่วนเกบ็ ของท่ยี ังไมไ่ ดใ้ ชง้ านไว้ส่วนกลางของ สถานบรกิ าร และแยกพน้ื ทส่ี ว่ นเกบ็ อปุ กรณท์ ใ่ี ชแ้ ลว้ ไวส้ ว่ นดา้ นหลงั สถาน บรกิ าร จัดการใหเ้ ปน็ พ้นื ที่ปิดมดิ ชดิ 2.2 องคป์ ระกอบที่ 2 การตกแตง่ ดว้ ยวัสดปุ ดิ ผิว การเลือกใช้วัสดุภายนอก ควรเลือกใช้วัสดุลักษณะผิวเรียบ ไม่กักเก็บส่ิงสกปรกและเชื้อโรค เช่นวัสดุที่มีพ้ืนผิวเป็นรูพรุนเพื่อง่ายต่อ การท�ำความสะอาด เช่น การใช้กระเบื้องเซรามิคผิวเรียบท่ีผ่านการอบ ด้วยความรอ้ นสูง หรอื ใช้วสั ดุปูพืน้ ดว้ ยไวนลิ หรอื กระเบ้ืองยางแบบม้วน อาจน�ำมาใช้ส�ำหรับเป็นพื้นห้องนวด เนื่องจากเป็นวัสดุท่ีมีรอยต่อน้อย ลดการกักเก็บความชื้นลดเสียงสะท้อน หลีกเล่ียงการใช้วัสดุจากผ้า เน่ืองจากจับกับส่ิงสกปรกได้ง่าย และกักเก็บเชื้อไวรัสได้นานถึง 8-12 ชวั่ โมง (ขอ้ มลู จากกองระบาดวทิ ยา กรมควบคมุ โรค) ยกเวน้ กรณผี า้ ปเู ตยี ง ส่วนเฟอรน์ เิ จอร์ทบี่ ุด้วยผ้า ควรเปลย่ี นวสั ดุเปน็ เบาะ PVC หรอื หนงั แทน 45

2.3 องค์ประกอบท่ี 3 การระบายอากาศภายใน หากสถานประกอบเอ้ืออ�ำนวยควรจัดระบบระบายอากาศให้ ไหลเวียนได้ดี ด้วยการมีช่องระบายอากาศให้ไหลเวียนได้ดีด้วยช่องเปิด รบั อากาศจากภายนอกสภู่ ายใน ยกเวน้ กรณที ส่ี ภาพภมู อิ ากาศรอบอาคาร ไมเ่ ออ้ื อำ� นวย อาจจำ� เปน็ ตอ้ งใชร้ ะบบปรบั อากาศชว่ ยเพอ่ื ใหเ้ กดิ การไหลเวยี น และต้องกำ� หนดจุดติดต้งั ทีเ่ หมาะสม เชน่ ยดึ ติดฝาผนัง แขวนฝ้าเพดาน หรือวางกับพื้น เพื่อให้อากาศที่สะอาดไหวเวียนไปยังพ้ืนที่ท่ีมีการใช้งาน และตอ้ งมรี ะบบดูดอากาศเพ่ือการไหลเวียนท่ดี ี นอกจากนี้แนวทางปฏิบัติส�ำหรับสถานบริการด้านสุขภาพตาม ฐานวิถชี วี ิตใหม่ โดยท่วั ไปมีหลักเกณฑด์ ังน้ี 1. จดั พนื้ ที่ให้มรี ะยะห่าง 1 เมตร ระหว่างพนักงานและลูกค้า 2. ก�ำหนดทางเข้า-ออก ทางเดียว 3. มีอปุ กรณต์ รวจวดั อุณหภมู ริ ่างกาย 4. จดั เตรียมหน้ากากอนามัย 5. จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ 70% ข้ึนไปไวค้ อยบรกิ ารลกู ค้า 6. ใหข้ อ้ มูล ความรู้ คำ� แนะนำ� หรอื จดั หาส่ือประชาสัมพนั ธ์ 7. ใหพ้ นกั งานทกุ คนสวมอปุ กรณ์ป้องกันตนเองขณะปฏบิ ตั ิงาน 8. รกั ษามาตรฐานดา้ นความสะอาดของสถานท่ี 9. รักษามาตรฐานความปลอดภัยและให้การบริการเป็นไปตาม ที่ได้รับอนุญาต 46

2.5 กรณศี กึ ษา : เสน้ ทางเชอ่ื มโยงการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สง่ เสรมิ สขุ ภาพวถิ ี น�้ำพุร้อน ประกอบด้วยน�้ำพุร้อน 3 แห่งในจังหวัดเชียงราย คือ น�ำ้ พรุ อ้ นทุ่งเทวี อำ� เภอเวยี งปา่ เป้า น้ำ� พรุ อ้ นโปง่ พระบาท อำ� เภอเมือง และนำ้� พรุ อ้ นปา่ ตงึ อำ� เภอแมจ่ นั ดงั นำ� เสนอเสน้ ทางเชอื่ มโยงการทอ่ งเทยี่ ว สามนำ้� พรุ ้อนใน ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 1 แสดง แผนทเ่ี สน้ ทางท่องเที่ยวน�้ำพุร้อน จงั หวัดเชียงราย 47

จากภาพที่ 1 แผนที่แสดงเส้นทางเช่ือมโยงการท่องเที่ยว เชงิ สง่ เสรมิ สขุ ภาพวถิ นี ำ�้ พรุ อ้ น ทงั้ 3 แหลง่ (ทงุ่ เทวี - โปง่ พระบาท - ปา่ ตงึ ) เชอ่ื มโยงกับแหลง่ ทอ่ งเท่ียวอนื่ ๆ ในจังหวัดเชยี งราย หลักการท่ีใช้ในการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิมแก่เส้นทาง การท่องเท่ยี ว คอื การเชื่อมโยงการทอ่ งเทย่ี วนำ้� พุรอ้ นกบั แหล่งทอ่ งเทยี่ ว ใกล้เคียงเพ่ือสร้างคุณค่าด้านการท่องเท่ียวให้เส้นทางน�้ำพุร้อนสามารถ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเอื้อโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถ ออกแบบเส้นทางการเดนิ ทางเองได้ตามความสนใจในแต่ละชว่ งเวลา ดงั นำ� เสนอปฏิทินการทอ่ งเท่ยี วในตารางท่ี 1 ดังน้ี 48

ตารางท่ี 1 น�ำเสนอปฏทิ ินการทอ่ งเที่ยวน�ำ้ พุร้อนและแหลง่ ท่องเท่ียว เชื่อมโยง 49

จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สามารถกำ� หนดตวั อยา่ งเสน้ ทางและกจิ กรรม การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สง่ เสรมิ สขุ ภาพวถิ นี ำ�้ พรุ อ้ นได้ 3 เสน้ ทาง คอื 1) นำ้� พรุ อ้ นทงุ่ เทวี เสน้ ทางการศกึ ษาเรยี นรู้ โปรแกรมทอ่ งเทย่ี ว Hold HUG of Coffee & Tea (เทยี่ วไดท้ ง้ั ป)ี 2) นำ�้ พรุ อ้ นโปง่ พระบาท เสน้ ทางสายตงึ (Body Treatment) บำ� บดั รกั ษา และผอ่ นคลาย โปรแกรมทอ่ งเทยี่ ว Hold HUG of Soul & Art (เทย่ี วไดท้ ง้ั ป)ี 3) นำ้� พรุ อ้ นปา่ ตงึ เสน้ ทางแหง่ การผอ่ นคลาย ปลายทางของนกั ผจญภยั โปรแกรมทอ่ งเทยี่ ว Hold HUG of Fiesta (เหมาะสำ� หรบั เดนิ ทางชว่ ง ธนั วาคม - มกราคม) โดยมรี ายละเอยี ดจำ� แนกตามโปรแกรมการทอ่ งเทยี่ ว ท่ี 1- 3 ดงั นี้ 50

น้ำ� พรุ ้อนทุ่งเทวี บ้านโป่งเทวี หมู่ 5 ต�ำบลบา้ นโปง่ อ�ำเภอเวยี งป่าเป้า จังหวัดเชียงราย โทร 08 4363 8228 เปิดบริการทุกวัน 08.00 -15.00 น. 51

โปรแกรมการทอ่ งเท่ยี วที่ 1 น้�ำพุรอ้ นท่งุ เทวี เส้นทางการศึกษาเรยี นรู้ โปแกรมท่องเทีย่ ว Hold HUG of COFFEE & TAE (เที่ยวได้ทงั้ ป)ี โปรแกรมการเดินทาง 2 วนั 1 คืน วันแรก ดอยชา้ ง - น้�ำพรุ อ้ นท่งุ เทวี 07.00 น. ออกเดินทางจากที่พัก จิบกาแฟรถเหลืองแห่งต�ำนานเมือง เชยี งราย อาหารเชา้ Street Food ข้างหอนาฬิกาอันวจิ ติ รท่ี ออกแบบโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่จะได้สัมผัส บรรยากาศ วิถีชวี ติ และอตั ลกั ษณ์ คนเชยี งราย 07.30 น. เดนิ ทางไปดอยช้าง Bluekoff Plantation เพ่ือเยีย่ มชม ขั้นตอน การรับซ้ือและคัดเลือกกาแฟ ดูขั้นตอนการแปรรูป กาแฟใน Process ต่างๆ ต้งั แต่กระบวนการสเี ปลอื ก การหมัก การอบแห้ง และการตากแหง้ 11.00 น. ชิมกาแฟทผ่ี ่านการ Process แตกต่างกัน 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน และออกเดนิ ทางสู่บ้านทุ่งเทวี 15.00 น. เข้าเชค็ อนิ บา้ นพักโฮมสเตย์ (ท�ำการจองลว่ งหน้า) พักผ่อน เพ่อื ผอ่ นคลายอริ ิยาบท 16.00 น. เดนิ เทย่ี วชมหมบู่ า้ น ชมเตาเผาแบบโบราณ และการปน่ั เครอ่ื ง ปน่ั ดนิ เผา และการทำ� ขนมกาละแม ขนมพนื้ ถน่ิ ของเมอื งเหนอื 17.00 น. แชอ่ อนเซน็ ดว้ ยเพจเก็จ Body and Beauty ผ่อนคลายกล้าม เนือ้ จากนน้ั ทำ� สปาผมบ�ำรงุ เสน้ ผมให้มีสขุ ภาพดี เงางาม 52

18.30 น. รับประทานอาหารพน้ื ถิ่นบ้านโฮมสเตย์ พักผ่อนตามอธั ยาศยั 19.30 น. นวดผอ่ นคลายกลา้ มเนอ้ื ดว้ ยโลชน่ั สมนุ ไพรชากาขาว สมนุ ไพร พ้ืนถ่ินของชาวเวียงป่าเป้า เป็นการผ่อนคลายกล้ามเน้ือก่อน นอนเพอ่ื ใหน้ อนหลบั สบายหอมกลนิ่ อโรมา่ จากโลชน่ั สมนุ ไพร ชากาขาว เพ่ิมความสดชืน่ ใหก้ บั ผวิ วนั ทีส่ อง น้�ำพรุ ้อนทุ่งเทวี - บา้ นแม่จนั ใต้ 07.30 น. รับประทานอาหารเชา้ บา้ นโฮมสเตย์ 08.30 น. ชมการทอผ้าพื้นเมืองจากกลุ่มทอผ้าบ้านทุ่งเทวี ช็อปปิ้งของ ฝากกลุ่มเทวี 09.00 น ออกเดนิ ทางสบู่ า้ นแมจ่ นั ใต้ หมบู่ า้ นทลี่ อ้ มรอบดว้ ยภเู ขา ปา่ ไม้ และธรรมชาตทิ อี่ ดุ มสมบรู ณ์ เปน็ หมบู่ า้ นทปี่ ลกู กาแฟออรแ์ กนคิ ท่ีมีรสชาติดี ที่ขึ้นช่ืออีกแห่งหน่ึงของประเทศไทยในปัจจุบัน และยงั มปี ระเพณวี ฒั นธรรม ชนเผา่ ทมี่ กี ารสบื ทอดมายาวนาน เรียนรกู้ ระบวนการควั่ ชง ชิม ชาอัสสัม และกาแฟ 12.00 น. รบั ประทานอาหารกลางวนั แบบชนเผา่ ชาวอาขา่ 13.00 น. เท่ยี วชมหมูบ่ า้ น ศกึ ษาเรยี นรู้ วัฒนธรรม วถิ ีชีวติ เชน่ บ่อน้ำ� ศักดสิ์ ทิ ธ์ิ โล้ชงิ ชา้ ประตูหมู่บา้ น และภูมปิ ญั ญาชนเผ่า 15.00 น. จบทริปด้วยความสุข ความหรรษาและความรู้ 53

ระยะเวลาที่ เหมาะสม : 2 วนั 1 คืน รปู แบบการเดินทางท่เี หมาะสม : รถสว่ นตัว หรอื รถเช่า คา่ ใช้จ่ายในการเดินทาง : คา่ เชา่ รถ 1,200 บาท/วนั ค่าน้�ำมัน 800 บาท/วัน ค่าที่พกั โฮมสเตย์ พร้อมอาหาร 2 มอ้ื ราคาเริม่ ตน้ 400 บาท ค่าบรกิ ารออนเซ็น ราคาเรม่ิ ตน้ 40 บาท คา่ บริการสปาผม ราคาเริม่ ต้น 150 บาท คา่ บรกิ ารนวด ราคาเรม่ิ ต้น 150 บาท คา่ บรกิ ารทอ่ งเทยี่ วบา้ นแมจ่ นั ใต้ พรอ้ มอาหารเทยี่ ง ราคาเรม่ิ ตน้ 450 บาท เส้นทางเชอื่ มโยงอ่ืน : 1) เสน้ ทางอารยธรรมลา้ นนา เชียงใหม่ - นำ�้ พรุ ้อนทุง่ เทวี – เวียงกาหลง 2) เส้นทางบุญ วดั แสงแกว้ โพธญิ าณ – น�ำ้ พรุ อ้ นทุ่งเทวี - วงั มัจฉาวัดพระ ธาตแุ ม่เจดีย์ 3) เสน้ ทางชาและกาแฟ ดอยวาวี - ดอยช้าง - น�้ำพรุ อ้ นท่งุ เทวี 4) เส้นทางวฒั นธรรมชนเผา่ ห้วยหนิ ลาดใน – น�้ำพรุ อ้ นทงุ่ เทวี – บ้านหว้ ยก๊อ 54

แผนทเี่ ส้นทาง โปแกรมทอ่ งเท่ียว Hold HUG of COFFEE & TAE 55

น้ำ� พรุ อ้ นโปง่ พระบาท บา้ นโปง่ พระบาท หมู่ 6 ต�ำบลบ้านดู่ อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดเชยี งราย โทร 05 3150 676 เปิดบรกิ ารทกุ วนั 09.00 -17.00 น. 56

โปรแกรมการทอ่ งเทีย่ วที่ 2 น้�ำพรุ ้อนโปง่ พระบาท เสน้ ทางสายตึง (Body treatment) บ�ำบัด รกั ษา และผ่อนคลาย โปรแกรมทอ่ งเที่ยว Hold HUG of SOUL & ART (เทีย่ วได้ท้ังป)ี โปรแกรมการเดินทาง 07.00 น. ออกเดินทางจากที่พัก จิบกาแฟรถเหลืองแห่งต�ำนานเมือง เชียงราย อาหารเชา้ Street Food ขา้ งหอนาฬิกาอันวจิ ิตรที่ ออกแบบโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ท่ีจะได้สัมผัส บรรยากาศ วิถชี วี ิตและอัตลักษณ์คนเชียงราย 07.30 ออกเดินทางสู่วัดร่องขุ่น ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์ เฉลมิ ชัย โฆษิตพพิ ัฒน์ ศิลปินแหง่ ชาติ สาขาทศั นศิลป์ ชมผล งานศิลปะท่ีมี ท้ังงาน สถาปัตยกรรม, ประติมากรรมปูนปั้น และงานจติ รกรรมไทย ท่งี ดงาม เปน็ อย่างยงิ่ และแฝงไปด้วย หลกั ธรรมคำ� สอนของพทุ ธศาสนาผา่ นศลิ ปะ สขี าวอนั วจิ ติ รงดงาม 09.30 ออกเดนิ ทาง เพ่ือนมสั การ ท่านเจ้าคณุ พระเมธวี ชโิ รดม หรือ ทา่ น ว วชริ เมธี (อาจจะต้องนัดหมายลว่ งหนา้ ) และเยยี่ มชม ไรเ่ ชญิ ตะวนั ศูนยว์ ิปสั สนาสากลท่ีสามารถเท่ียวชมศลิ ปะและ สถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่ ผสมผสานความเป็นเซนเข้าไป ด้วยบรรยากาศแบบสัปปายะ ที่จะท�ำให้การเที่ยวชมของคุณ นัน้ ไดร้ ับพลงั กาย พลงั ใจ พลงั จิต ไปพร้อมกันกับข้อคดิ และ หลกั ธรรมแนวทางปฏบิ ตั ติ น ใหพ้ น้ ทกุ ข์ ทพี่ บปะและเรยี นรไู้ ด้ ตลอดเสน้ ทางการเดินเท่ียวชม 57

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านสวรรค์บนดิน ล้ิมรสและ ดื่มด�ำ่ ความเป็น Authentic Food ทีจ่ ะท�ำให้คุณได้เขา้ ใจถึงที่ มาทไ่ี ปรากเหงา้ ของอาหารและเครอื่ งดมื่ อยา่ งหลงไหลในเสนห่ ์ แห่งรสชาติ 13.00 น. เท่ียวชมนิทรรศกาลงานศิลปะจากศิลปินท่ีขัวศิลปะ หอศิลป์ สำ� หรบั แสดงงานและสง่ เสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรม หอ้ งแสดงงานจดั แสดงนทิ รรศการหมนุ เวยี น ซงึ่ รวบรวมผลงานศลิ ปนิ ในกองทนุ ศิลปินเชียงราย นิทรรศการศิลปินไทย นิทรรศการศิลปิน เชยี งราย และนิทรรสการของศลิ ปนิ นานาชาติ 14.30 น. ผอ่ นคลายการเดนิ ทางดว้ ยเพจเกจ็ Body Treatment การแช่ ตวั ในบ่อออนเซ็น นำ�้ พรุ ้อนโปง่ พระบาท จากนนั้ เขา้ รับบริการ นวดเพ่ือบ�ำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ เนื่องด้วยน�้ำพุร้อน โป่งพระบาทมีหมอนวดแผนไทยผู้มีความช�ำนาญการบ�ำบัด และรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น แกอ้ าการเคลด็ ขดั ยอก และอาการออฟฟติ ซนิ โดม (ตอ้ งจองควิ ล่วงหน้าก่อนเข้าไปแช่ตัว) หรือจะรับบริการนวดฝ่าเท้าเพื่อ ผอ่ นคลายดว้ ย ครมี โลชน่ั สบั ปะรด และรบั เครอ่ื งดมื่ เพมิ่ ความ สดชน่ื และวติ ามนิ ซี ดว้ ยเมนชู าสบั ปะรดทผี่ ลติ จากสบั ปะรดภู แลและชาอสั สัม 58

16.00 น. เขา้ เยยี่ มชมพพิ ิธภณั ฑ์บา้ นดำ� ทส่ี ร้างโดย อ.ถวลั ย์ ดัชนี ศิลปนิ แหง่ ชาตทิ มี่ ฝี มี อื ทางดา้ นจติ รกรรม ปฏมิ ากรรม ชมศลิ ปะแบบ ลา้ นนา ทุกหลังทาดว้ ยสดี �ำ ซงึ่ เป็นทีม่ าของคำ� ว่า “บ้านด�ำ” ซึ่งเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปราน ในบ้านแต่ละหลังจะประดับ ดว้ ยไม้แกะสลกั ทม่ี ีลวดลายงดงาม และปริศนาธรรม 17.00 น. ออกเดินสู่วัดห้วยปลากั้งเพื่อนมัสการหลวงพ่อพบโชค กราบ สกั การะบูชาสิ่งศักดสิ์ ิทธเิ์ พ่อื ขอพร ขอโชค ขอลาภยศ และชม ความอลงั การของสถาปตั ยกรรม ชมความงามของแสงสดุ ทา้ ย ของวนั จบทรปิ ดว้ ยความสขุ สงบ กาย ใจ จิต

ระยะเวลาท่เี หมาะสม : 1 วัน รปู แบบการเดนิ ทางท่ีเหมาะสม : รถสว่ นตวั หรือ รถเชา่ ค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง : ค่าเชา่ รถ 1,200 บาท ค่านำ้� มัน 800 บาท คา่ บัตรเขา้ ชม พิพิธภัณฑ์บา้ นด�ำ 80 บาท ค่าบตั รเข้าชมตึกเจ้าแมก่ วนอมิ วดั หว้ ยปลาก้งั 40 บาท แชอ่ อนเซ็น ราคาเร่ิมต้น 20 บาท นวดตวั ราคาเรมิ่ ตน้ 150 บาท เสน้ ทางเชื่อมโยงอ่นื : 1) เสน้ ทางวิ่งเทรล ดอยปไู ข่ – นำ้� พุรอ้ นโปง่ พระบาท 2) เสน้ ทางนกั ปนั่ ระยะสั้น น�ำ้ ตกโปง่ พระบาท-ดอยปไู ข่- น้ำ� พรุ ้อนโปง่ พระบาท 3) เสน้ ทางชมเมือง วดั ร่องเสือเตน้ – น�ำ้ พุรอ้ นโป่งพระบาท - ไร่ชาฉุยฟง 4) เสน้ ทางสายคาเฟ่ ทานบรน้ั ช์ (brunch) ร้านชวี ิตธรรมดา – น�ำ้ พรุ ้อนโป่งพระบาท - จิบชายามบา่ ย แฮซซิเอนด้า คอฟฟ่เี ฮา้ ส์ 5) เส้นทางสายเดินทางไกล แช่ผ่อนคลายทนี่ �้ำพุร้อน โป่งพระบาท – สนามบินนานาชาติแมฟ่ า้ หลวงเชยี งราย 60

แผนทเี่ ส้นทาง โปแกรมทอ่ งเท่ียว Hold HUG of SOUL & ART 61

น้ำ� พรุ อ้ นปา่ ตงึ บา้ นปา่ ตงึ หมู่ 11 ตำ� บลป่าตงึ อำ� เภอแมจ่ นั จังหวดั เชยี งราย โทร 08 1998 2539 เปดิ บรกิ ารทุกวัน 06.00 -18.00 น. 62

โปรแกรมการท่องเทย่ี วที่ 3 น้�ำพรุ อ้ นปา่ ตึง เส้นทางแห่งการผ่อนคลาย ปลายทางของนกั ผจญภยั โปรแกรมท่องเท่ยี ว Hold HUG of FIESTA (เหมาะส�ำหรบั เดินทางชว่ ง ธันวาคม - มกราคม) โปรแกรมการเดนิ ทาง 07.00 น. ออกเดนิ ทางจากทพี่ ัก เพื่อเดินทางเข้าชมงานมหกรรมดอกไม้ อาเซยี น เชยี งรายชมความงดงามของดอกไมห้ ลากหลายสายพนั ธ์ุ ทา่ มกลางทุง่ ดอกไม้ จบิ กาแฟกลางสวนดอกไมร้ ิมแมน่ ้ำ� กก 09.00 น. ออกเดินทางเพ่ือรับประทานอาหารเช้าด้วยเมนูแนะน�ำ เกาเหลาสหรส ผักจงิ จูฉา่ ยสาขานางแล เมนูอาหารเช้าเลศิ รส เมอื่ มาถงึ เชียงรายต้องไดล้ ม้ิ ลอง 09.30 น. ออกเดนิ ทางสูด่ อยตุง เส้นทางส่งู านสสี นั ดอยตงุ เทศกาลแหง่ ความสขุ ในลมหนาวชว่ งสง่ ทา้ ยปี เทย่ี วชม กาดชนเผา่ ถนนคน เดนิ สายวฒั นธรรมชนเผา่ ฟนิ ชมิ ชอ็ ปไปกบั สนิ คา้ อาหารชนเผา่ แฟชั่นงานฝีมือชาวไทยภูเขาแบบดั้งเดิม และแบบประยุกต์ เพลินไปกบั โชวก์ ารแสดงและการละเล่นชนเผ่าที่หาดูยาก 12.00 น. รับประทานอาหารเท่ียงท่ีร้าน ครัวพระต�ำหนัก อาหารที่ใช้ วัตถุดบิ ในโครงการหลวง 63

13.00 น. สนุกไปกับสะพานเรือนยอดไม้ดอยตุง Doi Tung Tree Top Walk สงู กวา่ 30 เมตรชมดอกไมเ้ มอื งหนาวนบั รอ้ ยพนั ธท์ุ สี่ วน แม่ฟา้ หลวง เขา้ ชมพระตำ� หนกั สมเด็จย่าท่ไี ด้รับสมาญนามว่า สวติ เซอรแ์ ลนดแ์ หง่ เมอื งไทย รว่ มกจิ กรรมเวริ ก์ ชอ็ ปสรา้ งสรรค์ ของขวัญให้คนทร่ี ัก อาทิ ปั้นเซรามิก การด์ ดอกไม้แหง้ 15.00 น. ออกเดินทางสนู่ ำ้� พรุ อ้ นปา่ ตึง เพื่อผอ่ นคลายการเดินทาง ด้วย เพจเกจ็ All My Body ที่จะเน้นการผอ่ นคลายทั้งเรอื นร่าง จะ เรม่ิ ตน้ ดว้ ยการแชอ่ อนเซน็ นำ้� พรุ อ้ น เพอื่ ผอ่ นคลายความเมอื่ ยลา้ จากการเดนิ ทาง จากนั้น เข้าสบู่ รกิ ารสระผมและสปาเสน้ ผม ก่อนจะเข้าสู่การบ�ำบัดด้วยการนวดเฉพาะจุดที่แสดงอาการ เจบ็ ปวด หรือนวดเพื่อผอ่ นคลายกลา้ มเน้ือ และ มบี รกิ ารสปา สครับ DIY จากสมุนไพร มังคุด ขมิ้นชัน และทนาคา หรือ สครบั รำ� ข้าวเปน็ ตวั เลือกสำ� หรบั การบรกิ าร 16.30 น. จบทริปด้วยความสุข สบาย ผ่อนคลาย กลับสู่ท่ีพักในเมือง เพื่อพบความอร่อยแบบด้ังเดิมของอาหารเมืองเหนือที่ร้าน อาหารมาลองเตอะ 64

ระยะเวลาท่ี เหมาะสม : 1 วนั รูปแบบการเดนิ ทางท่ีเหมาะสม : รถสว่ นตัว หรอื รถเช่า ค่าใช้จา่ ยในการเดินทาง : ค่าเช่ารถ 1,200 บาท ค่าน้�ำมนั 800 บาท คา่ บตั รเขา้ ชม สวนดอกไมแ้ ม่ฟา้ หลวง 90 บาท คา่ บัตรเขา้ ชม พระต�ำหนักดอยตุง 90 บาท Doi Tung Tree Top Walk 150 บาท แชอ่ อนเซ็น ราคาเรมิ่ ตน้ 50 บาท สระผม ราคาเริ่มตน้ 60 บาท นวดตวั ราคาเร่มิ ต้น 200 บาท สครบั ตวั ราคาเรมิ่ ต้น 250 บาท 65

เสน้ ทางเช่อื มโยงอน่ื : 1) เสน้ ทางสายโรแมนติกรมิ น�้ำโขง เชยี งของ - เชียงแสน – แม่สาย – น้�ำพรุ ้อนป่าตงึ 2) เสน้ ทางผจญภัยสายออฟโรด ดอยตงุ - ดอยแม่สลอง – นำ้� พุรอ้ นปา่ ตึง 3) เสน้ ทางชาและกาแฟแห่งยอดเขา ดอยชา้ ง - ดอยวาวี – แมส่ ลัก – น�้ำพรุ อ้ นปา่ ตงึ 4) เสน้ ทางแหง่ อาหารชนเผ่า ดอยผาหมี - ดอยผาฮี้ - ดอยตงุ – น้�ำพรุ อ้ นป่าตงึ 5) เสน้ ทางสานเมอื งสมั พันธ์ เชยี งดาว–ดอยอ่างขา่ ง – ฝาง – แม่อาย -นำ้� พุร้อนปา่ ตงึ 6) เส้นทางชาวแคม้ ป์ ดอยหลวงเชยี งดาว - ดอยผา้ ห่มปก - แม่อาย -น�้ำพุร้อนปา่ ตงึ 66

แผนท่ีเสน้ ทาง โปแกรมทอ่ งเที่ยว Hold HUG of FIESTA 67

ท่มี า จาก https://sites.google.com/site/kamonlakcommunication/khwam-hmay- khxng-kar-suxsar 68

3 การสอ่ื ความหมาย การสอื่ ความหมาย หมายถงึ การถา่ ยโยง ความคิดและถ่ายทอดความรู้ เนื้อหา สาระ ความรสู้ กึ นกึ คดิ ทศั นคติ คา่ นยิ ม ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์ของ บุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง โดยผ่าน ช่องทางต่างๆ ท้ังทางระบบออนไลน์ (Online) และ ออฟไลน์ (Offline) เช่น การพูดคุย กริยา ท่าทาง การแสดง สีหน้า ภาษาเขียน ภาษาภาพ ซึ่ง การสอื่ ความหมายจะเกดิ ขน้ึ ไดน้ น้ั ตอ้ ง มีองค์ประกอบของการส่ือความหมาย ดงั นี้

1. ผ้สู ่งสาร อาจเปน็ เพียง 1 คน หรือกลุม่ คนเปน็ ผนู้ �ำเรอ่ื งราวขา่ วสาร เพอื่ สง่ ไปยงั ผูร้ ับสาร โดยวธิ ี การใดวิธกี ารหนง่ึ เพ่อื ให้ผู้รับสารเข้าใจ 2. สาร ซง่ึ หมายถงึ เนอื้ หา หรอื สาระของเรอื่ งราว ท่ีส่งออกมา ได้แก่เร่ืองราวของแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมการใช้ประโยชน์จากน�้ำพุร้อน ประเพณี วถิ ชี ีวิตของชุมชนในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว เปน็ ต้น 3. สื่อ หรือ ชอ่ งทางในการนำ� สาร ไดแ้ ก่ ตวั กลาง ท่ีช่วยถ่ายทอดเหตุการณ์ บทเรียน ความคิด ทัศนคติ ความรสู กึ ฯลฯ ทผ่ี ูส้ ง่ สารตอ้ งการใหไ้ ป ถงึ ผรู้ บั สาร โดยสอื่ ทใี่ ชอ้ าจเปน็ ภาษาพดู ภาษาเขยี น ภาษามือ และภาษากาย ในแบบทไ่ี ม่ผา่ นตัวกลาง หรือตอ้ งผ่านตัวกลาง เช่น แผน่ พับ ปา้ ย เป็นต้น 4. ผูร้ บั สารหรือกลมุ่ เปา้ หมาย ไดแ้ ก่ ผรู้ บั ขา่ วสาร เรอ่ื งราวต่างๆจากผสู้ ง่ 5. ผล ได้แก่ การรบั รขู้ ่าวสารของผรู้ ับสาร ซึง่ ผูร้ บั สารจะเข้าใจข่าวสารมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสมของประเภทสอื่ ทใี่ ชใ้ นสถานการณ์ นั้น และทศั นคตขิ องผู้รบั สารในขณะน้ัน 6. ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั ไดแ้ ก่ การแสดงกริ ยิ าตอบสนอง ของผู้รบั สารตอ่ ขอ้ มูลข่าวสารใหผ้ ูส้ ่งสารรบั รู้

การสอื่ ความหมายจงึ เปน็ สงิ่ สำ� คญั ในการถา่ ยทอด บริบทและเอกลักษณ์ ของแหล่งท่องเที่ยวเพื่อ ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมให้เกิดการมี สว่ นรว่ ม และการเรยี นรรู้ ว่ มกนั รวมทงั้ สรา้ งคณุ คา่ ใหแ้ หลง่ ทอ่ งเทย่ี ว โดยตวั กลางในการสอ่ื ความหมาย อาจสร้างข้ึนได้จากสิ่งรอบตัว โดยวิธีการกระตุ้น ความรู้สึกให้เข้าใจและรับรู้ความหมาย ทั้งนี้ใน การส่ือความหมายในแหล่งท่องเท่ียวแบ่งองค์ ความรอู้ อกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1) รูปแบบการสอื่ ความหมาย 2) เคร่ืองมือการส่ือความหมาย และ 3) บทบาทของการสอื่ ความหมายทางการทอ่ งเทย่ี ว 3.1 รปู แบบการสอื่ ความหมาย 1) การส่ือความหมาย ทางเดียว หมายถึงการส่ือสารที่มี ผู้ส่ือสารท�ำการสื่อสารแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่รับทราบการตอบสนองของ ผู้รับสารว่าจะเป็นอย่างไร เช่น การติดประกาศ ป้ายข้อมูล คลิป วดิ โี อ เปน็ ตน้ ทม่ี า จาก https://readthecloud. co/inthanon-nature-trail/ 71

2) การส่ือความหมาย ทม่ี า จาก https://engoo.co.th/ สองทาง หมายถึงการส่ือสารที่ app/lessons/at-a-tourist-infor- ผู้ส่ือสารท�ำการส่ือสารแล้วรับทราบ mation-center/tP3kzCwsEee- การตอบสนองต่างๆ ของผู้ท่ีรับสาร 6wEfkOKFHkA เช่น แบบสอบถามความคิดเห็น การเสวนา การสนทนา การอธบิ าย ทม่ี กี ารถาม-ตอบ เจา้ หนา้ ทใี่ หบ้ รกิ าร ข้อมูลนักท่องเที่ยว ท�ำให้ทราบว่า ผู้รับสารมีความคิดเห็นต่อสิ่งท่ีได้รับ อยา่ งไร เข้าใจหรอื ไมเ่ ข้า 3.2 เครื่องมือการสอ่ื ความหมาย ในการสื่อความหมายมีท้ังการใช้อุปกรณ์ ใช้เทคนิคซึ่งต้อง สอดคล้องกับทรัพยากรที่จะใช้สื่อ เครื่องมือสื่อของแต่ละชนิดควรเลือก ใหเ้ หมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ มเี นอื้ หางา่ ยตอ่ การเขา้ ใจ สรา้ งสรรค์ ไมน่ า่ เบอ่ื ซ่งึ การสือ่ ความหมายจำ� แนกเปน็ 2 ประเภท คอื 1) การส่ือความหมาย โดยใชส้ อื่ บคุ คล และ 2) การสอ่ื ความหมายโดยใช้สื่อสิ่งของท่ไี ม่ใชบ้ คุ คล 1) การสื่อความหมายโดยใช้สื่อบุคคล (Personal Attended Services) หรอื แบบวจนภาษา หมายถงึ การสอ่ื ความหมายโดยใชภ้ าษาพดู เป็นการสื่อความหมายโดยใช้คนในการสื่อสารข้อมูลไปยังนักท่องเที่ยว เชน่ มคั คเุ ทศก์ วทิ ยากรบรรยายเพอ่ื ถา่ ยทอดความรู้เนอ้ื หาใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว ผู้ส่ือความหมายจะต้องสามารถตอบค�ำถามนักท่องเท่ียวได้ และ 72

มีการส่ือสารที่ดเี พ่อื กระตุน้ ให้นักทอ่ งเทย่ี วเกิดความสนใจ ความประทับ ใจ และประสบการณ์ท่ีดี การสื่อความหมายโดยใช้บุคคลประกอบด้วย การบรกิ ารขอ้ มลู ขา่ วสาร การนำ� เทย่ี ว การพดู คยุ กบั กลมุ่ การสอื่ ความดา้ น ชวี ติ และวฒั นธรรม เปน็ ต้น 1.1 การบริการข้อมูลข่าวสาร (Information Service) ผู้สื่อ ความหมายอยปู่ ระจำ� ในแตล่ ะสถานท/่ี แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเพอ่ื ใหบ้ รกิ ารขอ้ มลู ข่าวสารแก่นกั ทอ่ งเทย่ี ว 1.2 การน�ำเท่ยี ว (The Conducted Activity) กิจกรรมที่ผู้สือ่ ความหมายรว่ มเดนิ ทางไปกบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว เพอ่ื สอ่ื ความหมายจากสถานที่ เรม่ิ ตน้ จนถงึ สถานที่สุดทา้ ยตามเสน้ ทางการทอ่ งเทย่ี วที่เลอื กไว้ 1.3 การพดู คยุ กบั กลมุ่ (Talk to Group) การนำ� เสนอพดู คยุ และ ตอบคำ� ถามเกย่ี วกบั ขอ้ มลู ความเปน็ มาประวตั ศิ าสตรข์ องแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว ในสถานทีต่ า่ งๆ เช่น ห้องประชุมกลางแจง้ ลานกองไฟ เพอ่ื เปดิ โอกาสให้ นกั ท่องเทีย่ วได้เขา้ ใจ ซาบซึง้ และตระหนักถงึ คณุ ค่าของแหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว 1.4 การสอ่ื ความดา้ นชวี ติ และวฒั นธรรม (Living Interpretation and Cultural Demonstration) ผสู้ ่ือความหมายไดม้ กี ารแนะน�ำ โดย การสาธติ หรอื แสดงละครเกยี่ วกบั มรดกวฒั นธรรมของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วนนั้ ใหแ้ ก่นักท่องเทย่ี วไดช้ ม สื่อบุคคล สามารถเป็นตัวกลางในการสื่อความหมายท่ีดีได้ เน่ืองจากมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนสถานการณ์ให้เป็นไปตาม กระบวนการสื่อความหมายที่เตรียมไว้ได้ ในขณะเดียวกันอาจจะไม่ สามารถเขา้ ถงึ ผูฟ้ ังจ�ำนวนมาก จึงท�ำให้การสอื่ ความหมายนั้นมีข้อจำ� กดั เม่ือมีนักท่องเทย่ี วจำ� นวนมาก 73

2) การส่ือความหมายโดยใช้ส่ือส่ิงของที่ไม่ใช้บุคคล (Non- personal or Unattended Services) หรือ แบบอวจนภาษา หมายถึง การสอื่ ความหมายโดยใชภ้ าษากาย ภาษาเขียน และภาษามอื โดยไม่ใช้ บุคคลคือการสื่อความหมายอย่างผิวเผินและไม่ควรใช้ส่ือประเภทน้ีเพียง อย่างเดียว หรือใช้ทดแทนส่ือบุคคล แต่ควรใช้เป็นเครื่องมือในการสร้าง ความเขา้ ใจใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทย่ี วมากยงิ่ ขนึ้ การสอ่ื ความหมายโดยไมใ่ ชบ้ คุ คล ประกอบด้วยอุปกรณ์โสต (Audio Devices) ตัวอยา่ งเช่น ป้าย (Signs) สิ่งพมิ พ์ (Publications) ที่มา จาก http://www.chiangraifocus.net ที่มา จาก http://www. หมายเหต.ุ จาก การทอ่ งเทย่ี วโดยชุมชนจังหวดั เชียงราย [Brochure] นิทรรศการ (Exhibit indoor) ศนู ยบ์ รกิ ารขอ้ มลู นกั ทอ่ งเทยี่ ว (Visitor Center) ทมี่ า จาก https://www.chiangraifocus.com/article/299 ท่มี า จาก https://www.chiangraiairport.com/chiang-rai-airport-photo-gallery/ 74

3.3 บทบาทของการส่อื ความหมายทางการทอ่ งเท่ยี ว การสือ่ ความหมายมีบทบาทสำ� คญั ตอ่ การท่องเทีย่ วอย่างย่งั ยืน โดยนกั ทอ่ งเทยี่ วทไี่ ดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณก์ ารทอ่ งเทยี่ ว ท่ีดีจะ ส่งผลต่อความยั่งยืนทางด้านส่ิงแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ และชุมชนในแหล่งท่องเท่ียว นอกจากน้ันการสื่อความหมาย ยงั สามารถช่วยลดผลกระทบทเ่ี กดิ จากนกั ท่องเท่ยี ว โดยสามารถควบคมุ นักท่องเท่ียวให้หลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่เปราะบางทางธรรมชาติที่ส่งผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและ วัฒนธรรมในแหล่งท่องเที่ยว ดังน้ันการส่ือ ความหมายในแหล่งท่องเที่ยวจึงเป็น ปัจจัยท่ีส�ำคัญในการสนับสนุน การพัฒนาและการจัดการแหล่งท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน โดยบทบาทของ การส่ือความหมายจ�ำแนกเป็น 3 ประเด็น คือ 1) บทบาทด้านการให้ ความรู้ ความเข้าใจ 2) บทบาทด้านการสร้างความเพลิดเพลิน และ 3) บทบาทดา้ นการอนรุ กั ษแ์ ละการพัฒนาอยา่ งยงั่ ยนื โดยมีรายละเอยี ด ดังต่อไปนี้ 1) บทบาทด้านการใหค้ วามรู้ ความเข้าใจ การสอ่ื ความหมายชว่ ยใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจ ในคุณค่าความส�ำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และ ศิลปวัฒนธรรมในแหล่งท่องเท่ียว ซึ่งอาจอยู่ในลักษณะรูปธรรมหรือ นามธรรมของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดมาเป็นเวลาช้านาน ช่วยให้นัก ท่องเทีย่ วเกดิ ความรสู้ ึกคลอ้ ยตามที่ผูส้ ่งสารนำ� เสนอ เช่น เกดิ ความร้สู ึก ซาบซง้ึ ในเรอ่ื งราวน�ำเสนอหรือความรู้สกึ ตืน่ ตาตนื่ ใจในความงดงาม 2) บทบาทดา้ นการสรา้ งความเพลิดเพลิน การสอ่ื ความหมายมสี ว่ นสำ� คญั ในการเสรมิ สรา้ งความประทบั ใจ และประสบการณก์ ารเดนิ ทางแกน่ กั ทอ่ งเทยี่ วโดยตรง ชว่ ยเพม่ิ โอกาสให้ 75

นกั ทอ่ งเทย่ี วกลบั มาเยยี่ มชมบอ่ ยๆ ครง้ั ดงั นน้ั กจิ กรรมการสอ่ื ความหมาย ควรมคี วาวมสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ สรา้ งความบนั เทิงใจมากกวา่ ใหส้ าระ ความรู้เพียงอย่างเดียว และควรกระตุ้นความสนใจให้นักท่องเที่ยวมี ความรู้สึกเสมือนว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์จริง ท�ำให้นักท่องเที่ยวมี ส่วนร่วมในสร้างความเพลิดเพลินในเหตุการณ์ทก่ี �ำลงั นำ� เสนอ ซงึ่ จะชว่ ย เสรมิ สร้างบรรยากาศใหน้ า่ สนใจ 3) บทบาทด้านการอนรุ ักษแ์ ละการพัฒนาอย่างยั่งยนื การสื่อความหมายมีบทบาทส�ำคัญในการปลูกจิตส�ำนึกให้ นกั ทอ่ งเทยี่ วไดต้ ระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของทรพั ยากรธรรมชาติ ประวตั ศิ าสตร์ และศิลปวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น สนับสนุนการเรียนรู้และสร้าง ความประทับใจ ซึ่งส่งผลให้มีทัศนคติเป็นบวกต่อการให้ความร่วมมือใน การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรการท่องเท่ียวให้เกิดความย่ังยืน โดยมี วัตถุประสงค์มุ่งให้เกิดความตระหนักและน�ำไปสู่การมีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนในระยะยาวทั้งในด้าน เศรษฐกจิ สงั คม และสิง่ แวดล้อม จำ� แนกตามวตั ถุประสงค์ 4 ด้านดังน้ี 3.1 การอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและมรดก วัฒนธรรมการสื่อความหมายเพื่อการอนุรักษ์เชิงนิเวศและเป็นส่วนที่ ส�ำคัญในการส่งเสริมการปลูกจิตส�ำนึกของนักท่องเที่ยว ให้ตระหนักถึง คุณค่าของส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงมรดกวัฒนธรรมท่ี สบื ทอดกนั มาแตช่ า้ นานในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วนนั้ ๆ จนกระทงั่ เกดิ การอนรุ กั ษ์ และการพฒั นาอย่างยั่งยนื ในระยะยาว 3.2 การจดั ระเบยี บนกั ทอ่ งเทยี่ ว การสอ่ื ความหมายเปน็ เครอื่ งมอื ในการให้ความรู้แก่นักท่องเท่ียวเก่ียวกับพฤติกรรมที่เหมาะสมและไม่ เหมาะสมของนกั ทอ่ งเทยี่ ว ในแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว เพอื่ ให้นักท่องเทีย่ วปฏบิ ัติ ตนได้อย่างเหมาะสม ช่วยลดผลกระทบท่ีไม่พึงประสงค์ท่ีอาจเกิดจาก 76

กิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ เช่น แนวทางการปฏิบัติท่ีเหมาะสมต่อ ทรพั ยากรธรรมชาติ โดยใหค้ ำ� แนะนำ� และหลกี เลยี่ งการใชพ้ น้ื ทท่ี เี่ ปราะบาง หรือการใชพ้ ืน้ ท่ีหนง่ึ พ้นื ท่ใี ดมากเกนิ ไป เป็นตน้ 3.3 การพัฒนาเศรษฐกิจ การสื่อความหมายสามารถสร้าง ประสบการณ์ที่ดีให้แก่ นักท่องเที่ยวได้ ท�ำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาใน แหล่งท่องเท่ียวได้ยาวนานขึ้นและมีโอกาสท่ีจะกลับมาใช้บริการอีก ซึ่ง เปน็ โอกาสในการสรา้ งงาน สรา้ งรายไดส้ ง่ เสรมิ การพฒั นาเศรษฐกจิ อยา่ ง ยงั่ ยืนใหก้ บั ชุมชน 3.4 การพัฒนาชุมชน การสื่อความหมายท�ำให้ชุมชนมี ความภาคภมู ใิ จซาบซง้ึ กบั วฒั นธรรม ประเพณแี ละวถิ ชี วี ติ ของคนในชมุ ชน มีทัศนคติที่ดี ท�ำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างคนในชุมชนและ นักท่องเท่ียว ส่งผลให้คนในชุมชนสนับสนุนการท่องเท่ียวและร่วมใจกัน อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพ่ือเป็น สง่ิ ดึงดูดใจซ่งึ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการทอ่ งเทยี่ วตอ่ ไป การสื่อความหมายในแหล่งท่องเท่ียวมีปัจจัยส�ำคัญคือการเลือก ใชว้ ิธีการและเทคนิคในการถา่ ยทอด เร่อื งราว ข้อมลู จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ การสอื่ ความหมายในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทปี่ ระสบ ความส�ำเร็จข้ึนอยู่กับปัจจัยด้าน การเลือกใช้ วิธีการและเทคนิคใน การถ่ายทอดข้อเท็จจริง เร่ืองราวที่เข้าใจง่าย ท�ำให้นักท่องเท่ียวกลุ่ม เปา้ หมายเกิดความสนใจ ได้รบั ความรู้ ความเพลิดเพลิน และชว่ ยกระต้นุ ให้นักท่องเที่ยวเกิดความตระหนักถึงคุณค่าและความส�ำคัญของแหล่ง ทอ่ งเทย่ี วตลอดจนน�ำไปสู่การสร้างทศั นคตทิ ีด่ ตี อ่ การอนุรกั ษ์และพัฒนา ทรพั ยากรการท่องเทีย่ วใหย้ ่ังยนื 77

3.4 กรณีศึกษา การสือ่ ความหมาย ของน�้ำพรุ อ้ นดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ท่ีมา จาก https://www.emagtravel.com/archive/doisaked-hot-spring.html 78

ป้ายแผนที่ แสดงท่ีต้งั จดุ ให้บรกิ าร ตา่ งๆ ในพืน้ ท่นี �้ำพุร้อน ป้ายข้อมูล ภาษาต่างชาติ คำ� แนะนำ� สำ� หรบั วธิ กี ารแช่นำ้� พรุ อ้ น ป้ายให้ข้อมลู นำ� พรุ ้อน ที่มา จาก https://www.emagtravel.com/archive/doisaked-hot-spring.html 79

80

4 การด�ำเนนิ การด้านการตลาด การด�ำเนินการด้านการตลาด หมายถึง การสรา้ งกลยทุ ธเ์ พอ่ื จงู ใจนกั ทอ่ งเทย่ี วให้ มาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเท่ียวเป้าหมาย โดยใช้กลยุทธ์ น�ำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะ ท่โี ดด่ เดน่ แตกตา่ งและ นา่ สนใจ รวมท้งั การใหบ้ รกิ ารทเี่ ชอื่ มโยงกบั จดุ เดน่ ในพนื้ ที่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์หรือตราสินค้าที่ นักท่องเที่ยวเช่ือม่ันในคุณภาพของสินค้า และบริการผ่านการส่ือสารในรูปแบบส่ือ ประชาสัมพันธ์และช่องทางที่ใช้ใน การส่ือสารกับลูกค้า โดยมีรายละเอียด ดังนี้

4.1 การสรา้ งตราสนิ ค้า ตราสนิ คา้ หรอื ยห่ี อ้ (Brand) หมายถงึ รปู แบบของภาพพจนแ์ ละ แนวความคดิ ในรปู อตั ลกั ษณ์ คำ� ขวญั และผลงานออกแบบของสนิ คา้ และ ผลิตภัณฑ์ ท้ังยังเป็นข้อมูลเชิงมโนธรรม ที่แสดงออกทางรูปธรรมด้วย สัญลักษณ์ ที่สื่อถึงบริษัท สินค้า บริการ หรือกลุ่มผู้ขายท่ีแตกต่างจาก คู่แข่งขัน การสร้างตราสินค้าให้เป็นท่ีจดจ�ำของลูกค้า เกิดข้ึนได้จาก การโฆษณา การบอกต่อ การออกแบบท่ีมเี อกลักษณ์โดดเด่น ในปัจจบุ นั การสร้างตราสินค้า เป็นส่วนส�ำคัญของวัฒนธรรม และปรัชญาการ ออกแบบ ตราสินค้าประกอบด้วย ช่ือตราสินค้า (Brand name) หรือ (ชือ่ ) ย่ีห้อ คอื สว่ นทีส่ ามารถอา่ นออกเสยี งได้ และ เครอ่ื งหมายตราสนิ ค้า (Brandmark) คือส่วนทีไ่ มส่ ามารถอ่านออกเสียงได้ แตส่ ามารถจดจำ� ได้ อาทสิ ัญลกั ษณ์ รปู แบบ สีสนั ตวั อักษรประดษิ ฐ์ เสียง หรือรูปทรงท่ีจดจำ� ไดง้ ่ายอย่างรองเทา้ บูตแฟช่ัน เปน็ ตน้ หากเปน็ ภาพสญั ลักษณ์อย่างเดียว สว่ นน้อี าจเรียกวา่ เปน็ ตราเครือ่ งหมาย (logo) 4.2 กลยุทธ์การสรา้ งตราสินคา้ แบบงา่ ย การสรา้ งตราสนิ คา้ หมายถงึ กจิ กรรมการตลาดทธ่ี รุ กจิ ใชเ้ พอ่ื สรา้ ง ภาพลักษณ์ ผ่านการสร้างชื่อ สัญลักษณ์ และสื่อต่างๆ เพ่ือให้ลูกค้า สามารถจดจ�ำธุรกิจได้ การสร้างตราสินค้าคือการท�ำให้บริษัทและ ผลติ ภณั ฑม์ คี วามแตกต่างจากค่แู ขง่ ในสายตาลูกค้า “เอกลกั ษณต์ ราสนิ คา้ ” ทแี่ ขง็ แกรง่ เปน็ สงิ่ สำ� คญั สำ� หรบั ธรุ กจิ ท่ีจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ซ่ึงหากคุณก�ำลังพัฒนาเอกลักษณ์ ตราสินค้าของธุรกิจคุณ สิ่งส�ำคัญที่สุดคือค้นหาจุดยืน ท่ีคุณแตกต่าง จากคนอ่ืนๆ” 82

การสร้างเอกลกั ษณข์ องตราสนิ ค้า ประกอบดว้ ย 5 ขัน้ ตอนคือ 1) ศกึ ษา ผู้ชมคู่แข่ง และจุดแข็งของตราสินค้า 2) ออกแบบโลโก้และเทมเพลต สำ� หรบั ธุรกจิ 3) การส่อื สารทีจ่ ะใช้ เพื่อเชอื่ มต่อกบั ผชู้ มทางโฆษณาและ บนโซเชยี ลมเี ดยี 4) รวู้ า่ ควรหลกี เลยี่ งอะไร และ 5) มกี ารตดิ ตาม ตรวจสอบ โดยมรี ายละเดยี ดดังต่อไปนี้ 1) ศกึ ษาผูช้ ม คแู่ ขง่ และจุดแข็งของตราสนิ คา้ เม่ือเริ่มต้นธุรกจิ ขน้ั ตอนแรกในการสร้างเอกลักษณ์ของตราสนิ คา้ (Brand Identity) คือ การศกึ ษาตลาดซงึ่ ประกอบดว้ ย หา้ องคป์ ระกอบ ดงั นี้ 1.1 Audience (รู้จกั ผชู้ ม) เปน็ เรอื่ งปกตทิ คี่ นแตกตา่ งกัน และ มีความต้องการที่ต่างกัน น่ันท�ำให้ไม่สามารถน�ำเสนอสินค้าและบริการ ส�ำหรับเดก็ ดว้ ยวธิ เี ดียวกนั กับการเสนอสินคา้ ส�ำหรับผู้ใหญ่ได้ การเรยี น รู้ส่ิงท่ีผู้ชมของเราต้องการจากธุรกิจ จึงมีความส�ำคัญมากต่อการสร้าง ตราสนิ คา้ ให้คนจดจ�ำและหลงรัก 1.2 Value Proposition & Competition (รูค้ ณุ ค่าหรอื จดุ แขง็ ของตราสนิ ค้า และรู้จกั คูแ่ ขง่ ) การรคู้ ุณค่าและจุดแข็งของตราสนิ คา้ คอื การรวู้ า่ อะไรทท่ี ำ� ใหธ้ รุ กจิ ของเราโดดเดน่ ในอตุ สาหกรรมเดยี วกบั เราได้ รู้ว่าส่ิงใดที่เราสามารถมอบให้ผู้บริโภคโดยท่ีธุรกิจเจ้าอ่ืนท�ำไม่ได้ อีกท้ัง รู้จักข้อแตกต่างระหว่างเราและคู่แข่ง ซ่ึงมีความส�ำคัญต่อการพัฒนา ตราสินค้าใหป้ ระสบความสำ� เรจ็ การสงั เกตคู่แขง่ และเรยี นรคู้ วามเป็นไป ของพวกเขา จะเปน็ บทเรยี นใหก้ บั เรา เกย่ี วกบั เทคนคิ การสรา้ งตราสนิ คา้ วา่ แบบไหนใช้งานไดด้ ีและแบบไหนทีไ่ มค่ วรทำ� 1.3 Mission (มีพนั ธกจิ และวิสัยทัศนท์ ่ีชดั เจน) หรือพันธกจิ ของ บริษทั ที่ชัดเจน ซง่ึ เกย่ี วโยงกับวสิ ยั ทัศน์และเปา้ หมายของธรุ กิจ จะชว่ ย สร้างบคุ ลิกภาพท่ีชัดเจนใหก้ บั ธรุ กิจได้ 83

1.4 Personality (บุคลิกภาพของตราสนิ ค้า) เป็นการสรา้ ง ภาพลกั ษณ์หรือบคุ ลิกภาพของตราสินคา้ โดยใช้รูปแบบ สี และภาพ เพือ่ แสดงความเป็นตราสินค้าออกมา ซึ่งรูปแบบ สี และภาพเหล่านั้นจะ สมั พันธ์กับโทนหรอื อารมณ์ความรู้สกึ ของตราสินคา้ ดว้ ย เชน่ ตราสินค้า แสดงถึงภาพลกั ษณ์ท่มี น่ั ใจ กระฉบั กระเฉ หรอื แสดงภาพลักษณค์ วามมี ไหวพรบิ เป็นมืออาชพี เป็นต้น 1.5 การวเิ คราะห์ SWOT เป็นประโยชน์ตอ่ การทำ� ความเข้าใจ ตราสินค้า ถึงจุดออ่ น จดุ แข็ง ช่วยใหเ้ ราค้นหาคาแรคเตอร์ทีเ่ ราต้องการ นำ� เสนอในตราสนิ ค้าได้ โดย SWOT มีความหมายดังต่อไปนี้ SStrengths (จุดแขง็ ) WWeaknesses (จุดออ่ น) จุดเด่นหรือจดุ แขง็ จดุ ดอ้ ยหรอื จดุ ออ่ น ของตราสินค้าเองท่ีทำ� ใหไ้ ด้ ของตราสนิ คา้ ทจี่ ะตอ้ งหาวธิ ี เปรยี บเหนอื คแู่ ขง่ เอกลกั ษณ์ ในการแกไ้ ข ท่ีไมม่ คี ูแ่ ขง่ เจ้าใดสามารถ เลยี นแบบได้ OOpportunities (โอกาส) TThreats (อุปสรรค) โอกาสจากสภาพ เป็นข้อจ�ำกัดท่ีเกิด แวดลอ้ มภายนอกของบรษิ ัท จากสภาพแวดล้อมภายนอก เอื้อประโยชน์หรือส่งเสริม ซง่ึ ธรุ กจิ จำ� เปน็ ตอ้ งปรบั กลยทุ ธ์ การดำ� เนินงานขององคก์ ร การตลาดให้สอดคล้องและ พยายามขจัดอุปสรรคต่างๆ ทเ่ี กิดขน้ึ น้ัน 84

2) ออกแบบโลโก้ และเทมเพลตของธุรกิจ Logo (โลโก้) เป็น องคป์ ระกอบส�ำคญั ในกระบวนการสร้างตราสนิ ค้า โลโกม้ ักจะเป็นส่วนท่ี คนจดจ�ำได้ดีที่สุดของตราสินค้า เพราะปรากฎอยู่ในทุกส่วนของการน�ำ เสนอ เชน่ เว็บไซต์ นามบตั ร โฆษณาออนไลน์ของบรษิ ทั ซึ่งโลโก้ท่ปี รากฎ อยู่อยใู่ นแต่ละชนิ้ งานควรมคี วามกลมกลนื ในทิศทางเดยี วกนั 10 กลยทุ ธ์ทำ� ตราสนิ คา้ แบบงา่ ย ประกอบดว้ ยหลกั การส�ำคญั ดงั นี้ 1) ชือ่ ต้องดี จ�ำง่าย 2) โลโก้สอดคลอ้ งกบั ชื่อ 3) สโลแกนสอ่ื ถึงความหมาย และบอกประโยชน์ของสนิ คา้ 4) แพ็คเกจดูด ี 5) มี การจดั กลุ่มลกู คา้ และการวางต�ำแหนง่ สนิ ค้าทช่ี ดั เจน 6) สรา้ ง เอกลักษณข์ องตราสนิ ค้าที่แตกต่างและโดเดน่ 7) มี บุคลิกภาพ ท่ีชัดเจน และแตกตา่ ง 8) หาชอ่ งว่างของตราสินค้า กบั คู่แขง่ ให้เจอ 9) สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของลกู ค้า 10) ท�ำอย่างต่อเน่อื ง 3) การสอื่ สารทเี่ ลอื กใช้ เพอ่ื เชอื่ มตอ่ กบั ผชู้ มผา่ นการโฆษณาและ บนโซเชยี ลมีเดยี คอื การสร้างคอนเทนต์หรอื เรอื่ งราวทีม่ ีคณุ ภาพในทุกๆ ดา้ น คอนเทนตค์ อื ส่งิ ทแี่ ทนตราสนิ คา้ สะท้อนตัวตนของตราสินคา้ และ ท�ำหน้าทีเ่ สมือนพนักงานขาย รา้ นคา้ และ แผนกการตลาด การสอ่ื สารที่ มีประสิทธิภาพ ควรคำ� นงึ ถึงปัจจยั ดงั ต่อไปนี้ 85

3.1 Connection & Emotion (ความสมั พนั ธ์ และอารมณ์) ผู้บริโภคมักจะชอบเร่ืองราวท่ีเข้าถึงอารมณ์ และสามารถท�ำให้พวกเขา เปลยี่ นแปลงบางอยา่ งได้ เอกลกั ษณข์ องตราสนิ คา้ ทแี่ ขง็ แกรง่ จะสามารถ สรา้ งการเชอื่ มโยงทางอารมณก์ บั ผบู้ รโิ ภค ซงึ่ เปน็ รากฐานทม่ี น่ั คงสำ� หรบั การสร้างความสัมพนั ธท์ ีย่ ั่งยืนกับตราสนิ ค้า 3.2 Advertise (การโฆษณา) การโฆษณาท้งั ในรปู แบบดงั้ เดิม และแบบดจิ ทิ ลั มปี ระสทิ ธภิ าพทส่ี ดุ ในการแนะนำ� ตราสนิ คา้ ของผลติ ภณั ฑ์ สู่สายตาโลก และเป็นวิธีการท่ีส่งข้อความ เอกลักษณ์ หรือจุดยืนของ ตราสินค้าไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้รับรู้ได้ผ่านการมองเห็นและ การได้ยิน 3.3 Social Media (โซเชยี ลมีเดยี ) หมายถงึ การเชอ่ื มต่อกบั ผู้บริโภคหรือส่ือสารผ่านโซเชียลมีเดีย มีแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ต มากมายทสี่ ามารถใชเ้ พอ่ื สรา้ งเอกลกั ษณ์ และนำ� เสนอตวั ตนของตราสนิ คา้ โซเชยี ลมเี ดยี มคี วามสำ� คญั โดยตรงตอ่ การสรา้ งความสมั พนั ธข์ องลกู คา้ กบั ตราสินค้า โดยเฉพาะอย่างย่ิงเกี่ยวกับค�ำถามหรือข้อสงสัยจากลูกค้า ซงึ่ การตอบสนองลกู คา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพเปน็ โอกาสสรา้ งชอื่ เสยี งใหก้ บั ตราสินค้า 4) รวู้ า่ ควรหลกี เลย่ี งอะไร ไดแ้ ก่ การไมท่ ำ� ตามหรอื ลอกเลยี นแบบ คู่แขง่ ขัน ทดี่ ำ� เนินกจิ การดา้ นธรุ กจิ อยา่ งเดยี วกัน หรอื ใกลเ้ คียงกัน แต่ สงิ่ ทคี่ วรทำ� คอื พจิ ารณาสง่ิ ทคี่ แู่ ขง่ ขนั ทำ� สำ� เรจ็ แลว้ นำ� มาวเิ คราะหต์ อ่ ยอด เปน็ ความคดิ ใหม่ ทแี่ ตกตา่ งและสรา้ งสรรค์ ซง่ึ จะทำ� ใหเ้ กดิ ผลติ ภณั ฑแ์ ละ บรกิ ารทโ่ี ดดเด่น และแข่งขนั ได้ในอุตสาหกรรม 5) การตดิ ตามตรวจสอบ หมายถึงการประเมิน เอกลักษณแ์ ละ การออกแบบตราสินค้าท่ีน�ำเสนอในตลาดว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ โดย วัดผลด้วยการใช้เคร่ืองมือ Google Analytics, การส�ำรวจ, 86

การสงั เกตการณ์จากความคดิ เหน็ ของผูบ้ ริโภคและ การพูดคยุ โต้ตอบใน โซเชียลมเี ดีย เป็นต้น เพอื่ ตรวจสอบและรับรูว้ ่าผูบ้ ริโภคมปี ฏิสมั พนั ธก์ บั ตราสินค้าอย่างไร เพ่ือใช้เป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาและปรับปรุง เอกลักษณ์ของตราสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ทั้งน้ีการสร้าง ตราสินคา้ ท่นี ่าจดจ�ำ (Brand Identity) จะต้องใช้ท้ังรปู แบบ ตัวอกั ษร สี รูปภาพ และภาษาที่ส่ือถึงธุรกิจได้ชัดเจนและสอดคล้องกัน เพื่อให้ผู้ บรโิ ภครับรู้ไดท้ ันทวี า่ โลโก้หรอื เอกลักษณท์ พ่ี วกเขาพบเห็นคือใคร จะเห็นได้ว่า Identity ของตราสินค้าเป็นมากกว่าค�ำว่าช่ือและ สัญลักษณ์ ทั้งน้ีหมายรวมถึงการมีเอกลักษณ์ท่ีโดดเด่น แตกต่างและ สร้างการจดจำ� ใหเ้ ข้าไปอยู่ในใจของผ้บู รโิ ภค 4.3 กระบวนการพัฒนาตราสินค้าเพื่อการท่องเที่ยว (The Brand Building Process) กระบวนการในการพัฒนาและสรา้ งตราสินคา้ ประกอบดว้ ย 5 ขั้นตอนคอื 1) การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ (Development) 2) การออกแบบ บรรจภุ ณั ฑ์ (Packaging) 3) การสรา้ งอตั ลกั ษณ์ (Identity) 4) การสอ่ื สาร การตลาดเชิงบูรณาการ (Integrated Marketing Communication -IMC) และ 5) กระบวนในการทำ� งาน (Process) ในการติดตอ่ ซ้ือขายกับ ลูกค้าท่ีมีการบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้าให้มีความประทับใจ เก่ียวกับตราสินค้าจนเกิดเป็นความทรงจ�ำที่ดีเก่ียวกับตราสินค้า มรี ายละเอียดดงั นี้ 1) การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ (Development) กำ� หนดคณุ ลักษณะ ของสนิ คา้ ที่จะน�ำไปสกู่ ารกำ� หนด ค�ำม่นั สญั ญาของ Brand ทีจ่ ะบอกกบั ผูบ้ รโิ ภคกลุ่มเปา้ หมายวา่ เขาจะไดอ้ ะไรจากตราสนิ ค้า 87

2) การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ (Packaging) เพ่อื ใหส้ ะทอ้ นบคุ ลิก อนั เปน็ เอกลกั ษณข์ องตราสนิ คา้ ไมว่ า่ จะเปน็ ภาชนะบรรจุ ชอื่ เครอื่ งหมาย การคา้ ฉลากสินค้า 3) การสรา้ งอตั ลกั ษณ์ (Identity) ทจ่ี ะบง่ บอกถงึ ความเปน็ ตราสนิ ค้าท่ีชัดเจนท�ำให้ผู้บริโภคจดจ�ำ ได้ทุกครั้งท่ีได้พบเห็น สะท้อนบุคลิก คณุ ลกั ษณะทเี่ ปน็ เอกลกั ษณข์ องตราสนิ คา้ Brand Identity เปน็ การรวม กันของ ชื่อ เคร่ืองหมาย สัญลักษณ์ การออกแบบ บรรจุภัณฑ์และ คณุ ประโยชนข์ องสนิ คา้ หรอื บรกิ าร ซง่ึ เกยี่ วขอ้ งกบั ภาพลกั ษณท์ ล่ี กู คา้ รบั ร้หู รอื นึกได้ การสร้าง Brand Identity กล่าวไดว้ ่าเป็นการรวมของทุกสิง่ ทลี่ กู คา้ รบั รหู้ รอื พบเหน็ เกยี่ วกบั ตราสนิ คา้ อนั เปน็ ผลมาจาก รปู แบบของ กิจกรรมการสอื่ สารการตลาดแบบผสมผสานทแ่ี ตกต่างกนั ประกอบดว้ ย การโฆษณาทางส่ือต่าง ๆ การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายใน ลักษณะต่างๆ เวบ็ ไซต์บนอนิ เทอรเ์ นต็ 4) การสอ่ื สารการตลาดเชิงบรู ณาการ (Integrated Marketing Communication -IMC) ทจ่ี ะ สรา้ งการรบั รเู้ รอื่ งราวทดี่ ๆี ของตราสนิ คา้ เพ่ือให้เกิดการเช่ือมโยงตราสินค้ากับสิ่งดีๆ ท่ีจะท�ำให้ผู้บริโภค มองเห็น คุณค่าของ Brand และต้องการที่จะเลือกใช้ตราสินค้าโดยการส่ือสาร การตลาดจะตอ้ งมเี ปา้ หมายทชี่ ดั เจน มกี ารสอื่ สารในลกั ษณะทจ่ี ะเปน็ พลงั ส่งเสริมตราสินค้า ในลักษณะของการส่ือสารแบบสองทาง (Two-way Communication) กับลูกค้าอย่างต่อเน่ืองไม่เฉพาะการส่ือสารผ่าน ส่ือมวลชนเท่าน้ัน นอกจากน้ียังต้องมีการพัฒนาการส่ือสารการตลาดท่ี ครบวงจรแบบ 360 องศา ซึ่งประกอบไปด้วย กิจกรรมการส่งเสริม การตลาดรปู แบบตา่ งๆ อาทิ การโฆษณา, การประชาสมั พนั ธ,์ การสง่ เสรมิ การขาย, การตลาดทางตรง และการขายโดยพนกั งานขาย เปน็ ต้น 88