Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

1

Published by Pakkanai Chumchana, 2022-05-29 16:21:14

Description: 1

Search

Read the Text Version

94 1.4 กิจกรรมการเรียนรู้ที่ดีควรให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมทางอารมณ์ (emotional participation) คือ เป็นกิจกรรมที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้การเรียนรู้ น้ันเกดิ ความหมายต่อตวั เอง กจิ กรรมทส่ี ่งผลตอ่ ความรู้สึกของผเู้ รยี นน้ัน มักจะเปน็ กิจกรรมท่ีเกย่ี วข้อง กับชวี ิต ประสบการณแ์ ละความเปน็ จรงิ ของผูเ้ รียน จะต้องเปน็ สิ่งทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับผู้เรียนโดยตรงหรือใกล้ ตวั ผูเ้ รยี น 2. ยึดกลุ่มเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญ โดยให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กันในกลุ่มได้พูดคุย ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วย ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของตนเองและผู้อื่น และจะปรับตัวให้สามารถอยู่ในสังคม ร่วมกับผอู้ ืน่ ได้ 3. ฝึกการค้นพบด้วยตนเองเป็นวิธีการสำคัญ โดยครูผู้สอนพยายามจัดการเรียน การสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ทั้งนี้ เพราะการค้นพบความจริงใด ๆ ด้วยตนเองน้ัน ผู้เรียนมักจะจดจำไดด้ ีและมคี วามหมายโดยตรงตอ่ ผ้เู รียน รวมทงั้ เกดิ ความคงทนของความรู้ 4. เป็นกระบวนการ (Process) ควบคู่ไปกับผลงาน (Product) โดยการส่งเสริมให้ผู้เรียน คิดวิเคราะห์ถึงกระบวนการต่าง ๆ ทำให้เกิดผลงานมิใช่มุ่งจะพิจารณาถึงผลงานแต่เพียงอย่างเดียว ทง้ั น้ีเพราะประสิทธภิ าพของผลงานข้นึ อยู่กับประสทิ ธิผลของกระบวนการ 5. เนน้ การนำความรูไ้ ปประยกุ ต์ใชห้ รือใช้ในชวี ติ ประจำวนั โดยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสคดิ หาแนวทาง ท่ีจะนำความรู้ความเขา้ ใจไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน พยายามส่งเสริมให้เกดิ การปฏบิ ัติจรงิ และพยายามติดตาม ผลการปฏบิ ตั ิของผูเ้ รยี น

95 การจดั กิจกรรมการเรยี นรูค้ รตู ้องคำนึงถึงประเดน็ ต่าง ๆ ดงั นี้ 1. ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของผ้เู รยี น 2. การเน้นความตอ้ งการของผูเ้ รยี นเป็นหลัก 3. การพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของผเู้ รียน 4. การจดั กจิ กรรมให้นา่ สนใจไมท่ ำให้ผู้เรยี นร้สู ึกเบื่อหนา่ ย 5. ความมีเมตตากรุณาต่อผเู้ รยี น 6. การท้าทายใหผ้ ูเ้ รียนอยากรู้ 7. การตระหนกั ถงึ เวลาทเ่ี หมาะสมท่ผี เู้ รยี นจะเกดิ การเรียนรู้ 8. การสร้างบรรยากาศหรือสถานการณใ์ หผ้ เู้ รียนได้เรยี นรโู้ ดยการปฏบิ ตั ิจริง 9. การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ 10. การมจี ุดมุ่งหมายของการสอน 11. ความเขา้ ใจผเู้ รยี น 12. ภมู หิ ลังของผ้เู รยี น 13. การไม่ยึดวิธกี ารใดวิธกี ารหนึ่งเทา่ น้ัน 14. การเรียนการสอนที่ดีเป็นพลวัตร (Dynamic) กล่าวคือมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลาทั้งในด้านการจัดกิจกรรม การสร้างบรรยากาศ รูปแบบเนื้อหาสาระ เทคนิค วิธกี าร 15. การสอนสงิ่ ทีไ่ มไ่ กลตัวผู้เรียนมากเกนิ ไป 16. การวางแผนการเรยี นการสอนอยา่ งเปน็ ระบบ

96 ขน้ั ตอนการจดั การเรยี นรู้ทเี่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ขนั้ นำ สรา้ ง/กระตนุ้ ความสนใจ/รวบรวมประสบการณเ์ ดมิ ขนั้ ปฏบิ ตั ิ การจดั กจิ กรรม • นักเรยี นสรา้ งความรู้ดว้ ยตนเอง (Construct) • นกั เรยี นมปี ฏิสมั พันธ์ชว่ ยกนั เรียนรู้ (Interaction) • นักเรียนมีบทบาทและมสี ่วนชว่ ยสร้างความร้ดู ว้ ยตนเอง (Process Participation) • เรียนร้กู ระบวนการทำงานควบคไู่ ปกบั ผลงาน (Process Learning/Product) • นักเรียนนำความรู้ไปใช้ (Application) ขนั้ วเิ คราะห์ อภปิ รายผลจากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม • นักเรยี นอภปิ รายผลงาน/ความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการจัดกจิ กรรม • นกั เรยี นวเิ คราะหอ์ ภปิ รายกระบวนการเรียนรู้ ขนั้ สรุปและ นกั เรยี นสรปุ และประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ าม ประเมนิ ผล วตั ถปุ ระสงค์

97 สรุป การจัดกระบวนการเรียนรทู้ ผ่ี ู้เรยี นสำคญั ท่สี ุดเป็นการจัดกระบวนการเรียนรทู้ ี่  มงุ่ ประโยชนส์ งู สดุ แกผ่ เู้ รียน  ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ  ผเู้ รยี นมีทักษะในการแสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย  ผเู้ รียนสามารถนำวธิ กี ารเรยี นร้ไู ปใช้ในชวี ติ จรงิ ได้  ทุกฝ่ายมสี ่วนรว่ มในทุกข้ันตอนเพ่ือพัฒนาผเู้ รยี น การจดั การเรยี นรูท้ เี่ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั

98 กจิ กรรม 1. ทา่ นคดิ วา่ ผเู้ รียนที่พึงประสงค์ เกง่ ดี มีสขุ ควรมลี ักษณะอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ในการจดั การเรียนร้ทู ี่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรมลี ักษณะอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

99 แนวทางการพจิ ารณารปู แบบในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ สิ่งที่ครูจะต้องนำมาพิจารณาเพื่อใช้ประกอบการเลือกเทคนิควิธีสอนในการจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ดีจะบอกถึงสิ่งท่ีคาดหวังจะให้ผู้เรยี นได้รับแต่หากครูไม่เชื่อมโยง จุดประสงคก์ บั เทคนคิ วิธีการสอนทเ่ี หมาะสม ครจู ะไมส่ ามารถจัดการเรียนรูบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ ควรเป็นข้อมูลที่สามารถแนะครูให้สามารถเลือกเทคนิควิธีการสอน ที่เหมาะสมที่สุด จุดประสงค์ควรบอกครูได้ว่าจะนำเทคนิคใดมาใช้จึงจะเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการอภิปราย การเรียนแบบร่วมมือ การเรียนรายบุคคล หรือเทคนิควิธอี ่ืน ๆ ดังนั้นจงึ จำเป็นอย่างยิ่งทีค่ รูต้องพัฒนา เทคนิควธิ ีการสอนหลาย ๆ รูปแบบอย่างหลากหลาย เพ่อื ใชใ้ นห้องเรยี น 2. ผเู้ รยี น ข้อมูลสำคัญที่ครูผู้สอนต้องศึกษาทำความเข้าใจ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียน เพื่อเป็น พน้ื ฐานนำไปสกู่ ารกำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ีเน้นผูเ้ รียนเปน็ สำคัญ อยา่ งเหมาะสม ซงึ่ ประกอบด้วย 2.1 ความสามารถทางสติปัญญา ในการเลือกกิจกรรมครูควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ความสามารถของกลุ่มผู้เรียนที่จะสอน โดยอาจจะศึกษาจากระเบียนสะสม หรือผลการเรียนที่ผ่านมา เพอื่ กำหนดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ม่ี ีประสิทธิผล 2.2 วิธีการเรียน ผู้เรียนแต่ละคนมีความต้องการในการเรียนที่แตกต่างกัน เช่น ชอบเรียนคนเดียว เรียนเปน็ กลุ่ม เรียนด้วยวิธีแกป้ ัญหา ฯลฯ ครูจึงต้องใช้เทคนิควิธีการสอนทีแ่ ตกตา่ ง กนั ดว้ ย ยง่ิ ครูเข้าใจวธิ ีการเรียนรขู้ องผ้เู รียนมากเทา่ ใดก็ย่งิ สามารถวางแผนการจดั การเรียนรู้ด้วยวิธีการ ท่ีหลากหลาย 2.3 ประสบการณ์เดิม เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีและรวดเร็วข้ึน หากผู้เรยี นมีความรู้พื้นฐานดีก็จะเรียนไดร้ วดเร็ว เนื่องจากเหน็ ความสมั พันธ์ของความรู้เดิมกับความรู้ ใหม่ ซ่ึงครผู ู้สอนสามารถทราบขอ้ มูลความรู้พน้ื ฐานเดมิ ของผ้เู รียนได้จากผลการเรียนในช่ัวโมงก่อน ๆ หรอื จากการทำการทดสอบกอ่ นสอน

100 3. เทคนคิ วธิ กี ารสอน ครูผู้สอนจะตอ้ งใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการสอนหลาย ๆ วิธปี ระกอบกนั มกี าร ยกย่องชมเชย เพื่อสนองความต้องการและวิธีการเรียนของผู้เรยี น นอกจากนี้ การใช้คำถามและสืบค้น โดยครสู ามารถใชพ้ ฤติกรรมด้านพทุ ธพิ สิ ัยระดบั ตา่ ง ๆ มาช่วยกำหนดขอ้ คำถามให้ผูเ้ รยี นสืบค้นคำตอบ กส็ ามารถส่งเสรมิ ความรู้ ความเขา้ ใจของผเู้ รยี นไดอ้ ีกทางหนงึ่ 4. เทคนคิ วธิ กี ารสอน ครูผูส้ อนจะต้องใช้เทคนิควธิ กี ารสอนหลาย ๆ วิธปี ระกอบกนั มกี าร ยกย่องชมเชย เพื่อสนองความต้องการและวิธีการเรียนของผูเ้ รียน นอกจากนี้ การใช้คำถามและสืบค้น โดยครูสามารถใชพ้ ฤตกิ รรมดา้ นพุทธพิ สิ ัยระดบั ต่าง ๆ มาชว่ ยกำหนดข้อคำถามให้ผเู้ รียนสบื ค้นคำตอบ ก็สามารถสง่ เสริมความรู้ ความเขา้ ใจของผู้เรียนไดอ้ ีกทางหนึง่ 5. ปรับและเรียบเรียงเทคนิค ครูต้องมีความสามารถในการนำเทคนิควิธีการสอนหลาย ๆ วิธีมาใช้ใหเ้ หมาะสมกับจดุ มงุ่ หมาย กระบวนการเรยี นการสอน และผลทจ่ี ะเกดิ กบั ผเู้ รยี น

101 แนวทางการพจิ ารณาเลอื กเทคนคิ วธิ กี ารสอน ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 วิเคราะห์จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขน้ั ที่ 2 ข้ันที่ 3 ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนเกิดพฤตกิ รรมในระดบั ใด วเิ คราะห์ผู้เรยี น มคี วามสามารถ ความสนใจและวธิ ีเรียนอย่างไรบ้าง เลือกเทคนิควธิ กี ารสอน หลากหลายสนองผ้เู รียน โดยพจิ ารณาจาก - จดุ เด่นในการสร้างเสริมทักษะ ข้อความรู้ และ พฤตกิ รรม - ประสทิ ธิผลในการสร้างทักษะ ข้อความรู้ ประสบการณ์ - โอกาสในการแสดงบทบาทการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ขั้นท่ี 4 ปรับและเรียบเรยี งเทคนคิ ให้เหมาะสมกับจดุ มุง่ หมาย กระบวนการเรียนการสอน และผลท่ีจะเกดิ ขึ้นกบั ผู้เรียน

102 กจิ กรรม 1. การเลอื กเทคนิค วธิ ีสอน ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรคู้ วรพจิ ารณาถึงสิ่งใดบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. กระบวนการเรยี นรูท้ ีด่ คี รคู วรต้องเปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รียนมบี ทบาทอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

103 แบบทดสอบหลงั ศกึ ษาชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง คำชแ้ี จง โปรดทำเครือ่ งหมาย  ทับหน้าขอ้ ความทีถ่ ูกทส่ี ุดเพียงคำตอบเดียว 1. ทำไมจงึ ตอ้ งมีการวเิ คราะห์หลักสตู ร ก. เพ่ือให้การจัดการเรียนรบู้ รรลวุ ตั ถุประสงค์ ข. เพ่ือใหก้ ารจัดการเรียนรเู้ ปน็ ไปตามหลักสูตร ค. เพื่อให้การจัดการเรียนรู้สัมพันธส์ อดคลอ้ งกบั หลักสูตร ง. เพอ่ื ใหก้ ารจดั การเรียนรู้สมั พนั ธส์ อดคลอ้ งกับหลักการ และจุดหมายในหลักสตู ร 2. ขอ้ ใดเรียงลำดบั ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. จดั ทำหนว่ ยการเรยี นรู้ กำหนดเวลาเรียน จดั ทำคำอธบิ ายรายวิชา ข. จัดทำหนว่ ยการเรยี นรู้ จัดทำคำอธิบายรายวชิ า กำหนดเวลาเรียน ค. จัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า จัดทำแบบการจดั การเรยี นรู้ จดั ทำหนว่ ยการเรยี นรู้ ง. จัดทำคำอธบิ ายรายวชิ า จัดทำหนว่ ยการเรียนรู้ จัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ 3. ขอ้ ใดเป็นส่วนประกอบของคำอธบิ ายรายวิชา ก. เนื้อหา กจิ กรรม จดุ ประสงค์ ข. เนอื้ หา กจิ กรรม จดุ ประสงค์ปลายทาง ค. เนื้อหา กจิ กรรม จดุ ประสงค์นำทาง ง. เน้ือหา จดุ ประสงค์ กจิ กรรม การวดั และประเมินผล 4. มาตรฐาน ว 2.1 หมายถึงขอ้ ใด ก. วทิ ยาศาสตร์มาตรฐานการเรยี นรู้ชว่ งชั้นสาระท่ี 1 และมาตรฐานการเรยี นรู้รายการที่ 2 ข. วิทยาศาสตร์มาตรฐานการเรียนรูช้ ว่ งชั้นสาระที่ 2 และมาตรฐานการเรียนรูร้ ายการที่ 1 ค. วิทยาศาสตรม์ าตรฐานการเรยี นรู้รายการท่ี 1 และมาตรฐานการเรยี นรู้ชว่ งช้นั สาระที่ 2 ง. วทิ ยาศาสตร์มาตรฐานการเรียนรู้รายการที่ 2 และมาตรฐานการเรียนรชู้ ่วงช้นั สาระที่ 1

104 5. ขอ้ ใดคอื เปา้ หมายสำคญั ในการจัดการเรยี นการสอนการคดิ วเิ คราะห์ในสถานศกึ ษา ก. มคี วามยืดหย่นุ หลากหลาย ข. เชื่อมโยงเนอ้ื หา แนวคิดหลกั และกระบวนการท่ีเปน็ สากล ค. พัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการตามความสามารถในการแกป้ ัญหา และการจดั การทักษะ ในการสือ่ สาร และความสามารถในการตดั สนิ ใจ ง. ใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการแก้ปญั หา ในการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรด์ ว้ ยการลง มอื ปฏิบัตจิ รงิ 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลกั ษณะของแผนการจดั การเรียนร้ทู ดี่ ี ก. สามารถนำไปสอนไดจ้ ริง ข. ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ และมีคุณสมบตั ิต่าง ๆ ตามท่ีหลกั สูตรตอ้ งการ ค. การบนั ทกึ ผลหลังการใช้แผนควรมีการคำนึงถงึ ความเหมาะสมกบั สภาพแวดล้อม หรือชีวติ จริง เพอ่ื ให้มคี วามหมายต่อผู้เรียน ง. เน้อื หาสอดคล้องกบั สาระสำคญั จุดประสงค์ กิจกรรมสอดคล้องกับจุดประสงค์ เหมาะสมกบั เนือ้ หา การวดั ประเมินผลสอดคล้องกบั กจิ กรรม 7. ขอ้ ใดแสดงว่านกั เรยี นมเี จตคตติ อ่ วทิ ยาศาสตร์ ก. ทำงานร่วมกับผอู้ นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ข. เหน็ คณุ ค่าและประโยชน์ของวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ค. มีความสนใจใฝ่รู้ หรอื ความอยากรู้ อยากเหน็ ง. ร่วมแสดงความคิดเห็นและรบั ฟังความคิดเหน็ ของผอู้ นื่ 8. การจดั การเรยี นรูใ้ ห้บรรลวุ ตั ถุประสงคค์ วรคำนึงถึงสง่ิ ใด ก. เป้าหมาย วิสยั ทัศน์ ของหลกั สตู ร และการวดั ผลประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้ ข. ควรมุง่ เนน้ ความรู้ดา้ นวิทยาศาสตรเ์ พยี งอยา่ งเดยี วเพื่อใหเ้ กดิ ความแม่นยำในเน้ือหา ค. นักเรียนเป็นผู้ลงมือทำกิจกรรมโดยครเู ปน็ ผแู้ นะนำ ควบคุม และจดั การใหเ้ ป็นไปตาม วตั ถุประสงค์ ง. วัสดุ อปุ กรณท์ ใี่ ช้ควรมีราคาแพง เพื่อใหก้ ารทดลองไมเ่ กดิ ความคลาดเคลอื่ น และเกดิ ประสิทธภิ าพสูงสุด

105 9. องคป์ ระกอบท่ีสำคญั ในการจัดการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรค์ อื ข้อใด ก. หลักสตู ร กระบวนการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ข. วิธกี ารในการจดั การเรียนรู้ และการลงมอื ปฏิบตั ิจริงในการเรยี นรู้ ค. สภาพแวดล้อม ทักษะกระบวนการเรยี นรู้ บรรยากาศทเ่ี อ้อื ตอ่ การเรียนรู้ ง. การมุง่ เน้นใหผ้ เู้ รยี นไดป้ ฏิบัตจิ ริง เนน้ นักเรยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง และพัฒนาเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ วทิ ยาศาสตร์ 10. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ ง ก. กิจกรรมการเรยี นรู้ เปน็ กิจกรรมหรือกระบวนการขั้นตอน ข. สาระสำคัญ เป็นความคดิ รวบยอดของเรอ่ื งทต่ี ้องการใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ ค. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เปน็ เสมอื นเขม็ ทิศที่จะชบ้ี อกวา่ ครสู อนอะไร นกั เรียนเกิดการเรียนรู้ อยา่ งไร ระดับใด ง. การวดั และประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้ เปน็ การตคี า่ สรุปผล จากการจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ว่านกั เรยี นเกดิ การเรียนรหู้ รอื ไม่ระดบั ใด ซึง่ ควรเนน้ การประเมินด้านความรู้ ความจำ และการลงมอื ปฏบิ ัตใิ นการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เฉลย 1. ข 2. ง 3. ก 4. ข 5. ค 6. ค 7. ข 8. ค 9. ก 10. ง

106 บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด, 2553. กนกวรรณ แปงใจ. การพัฒนาแนวคิดและความสามารถในการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการจัดโครงงานวิทยาศาสตร์.วิทยานิพนธ์ปริญญา ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต: มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์, 2555. กณุ ตรี เพช็ รทวีพรเดช และคณะ. สดุ ยอดวิธสี อนวทิ ยาศาสตร์นำไปสู่การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจริญทัศน์, 2550. ครรชิต มนูญผล และคณะ. Active Learning สร้างคนดีแก่แผ่นดินวิชาวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั อีเก้ลิ เปเปอรจ์ ำกดั , 2559. ชัยวัฒน์ บํารุงญาติ. ครูไทยในอนาคตและครูในศตวรรษที่ 21. [Video file]. สืบค้นจาก https://www.youtube.com/watch?v=4vUkYfnir4s. 5 มนี าคม, 2562. นรินทร์ วงค์คำจันทร์. การศึกษาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิทยาศาสตรข์ องนกั เรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ดว้ ยการจัดการเรยี นร้เู ชิงรุก. วิทยานิพนธ์ ศกึ ษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2558. ทิศนา แขมมณี. รูปแบบการเรียนการสอนทางเลือกที่หลากหลาย. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพมหานคร: สำนกั พิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, 2552.

107 คณะทำงาน กรรมการทีป่ รึกษา 1. นายประทปี ทองดว้ ง ผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสรุ าษฎรธ์ านี เขต 2 2. นางสาวปวิชญา สนิ นอ้ ย รองผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 2 3. นางมณีรัตน์ อนิ ทรค์ ง ศึกษานเิ ทศก์ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ผ้อู ำนวยการกลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา 4. นายกฤษนันท์ ทองจีน ศกึ ษานิเทศก์ วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี เขต 2 5. นางสาวศภุ รตั น์ อินทรสุวรรณ ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 6. นางสาวบุบผา พรมหลง ศกึ ษานเิ ทศก์ วิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 2 7. นายสุรินทร์ เกษรส์ ุวรรณ์ ผ้อู ำนวยการ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบา้ นพรยุ ายชี 8. นางสาวกลุ ณฐั ธดิ า ห้าวหาญ ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรยี นวดั สันติครี ีรมย์ ผเู้ ขียน นางสาวภัคนัย ชุม่ ชะนะ ศึกษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook