Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 5. พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562

5. พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562

Description: 5. พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562

Search

Read the Text Version

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๕๘ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา พระราชบญั ญตั ิ การเลือกตง้ั สมาชกิ สภาท้องถน่ิ หรือผู้บริหารทอ้ งถิน่ พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปที ่ี ๔ ในรชั กาลปัจจบุ ัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศว่า โดยท่เี ปน็ การสมควรปรบั ปรงุ กฎหมายวา่ ดว้ ยการเลือกตง้ั สมาชกิ สภาท้องถ่นิ หรือผู้บรหิ ารท้องถน่ิ พระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๗ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๗ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย บญั ญัตใิ ห้กระทาได้โดยอาศยั อานาจตามบทบัญญตั ิแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรภี าพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพ่ือให้ การได้มาซ่ึงสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และเป็นการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ซ่ึงการตราพระราชบัญญัติน้ีสอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานิติบญั ญัตแิ หง่ ชาติทาหน้าทีร่ ฐั สภา ดังตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผบู้ ริหารทอ้ งถ่นิ พ.ศ. ๒๕๖๒”

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๕๙ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เปน็ ต้นไป มาตรา ๓ ใหย้ กเลกิ (๑) พระราชบัญญตั กิ ารเลอื กต้งั สมาชิกสภาทอ้ งถนิ่ หรือผ้บู รหิ ารท้องถนิ่ พ.ศ. ๒๕๔๕ (๒) พระราชบัญญตั ิการเลือกตง้ั สมาชิกสภาทอ้ งถน่ิ หรอื ผบู้ ริหารท้องถน่ิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๖ (๓) พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญัติน้ี “องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ” หมายความวา่ องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั เทศบาล องคก์ าร บรหิ ารส่วนตาบล กรุงเทพมหานคร เมอื งพทั ยา และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ อน่ื ท่มี ีกฎหมายจดั ตง้ั “สภาทอ้ งถ่นิ ” หมายความวา่ สภาองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัด สภาเทศบาล สภาองคก์ ารบริหาร สว่ นตาบล สภากรุงเทพมหานคร สภาเมอื งพัทยา และสภาองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินอ่นื ทีม่ ีกฎหมายจดั ต้งั “ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตาบล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา และผู้บริหารท้องถนิ่ หรือคณะผ้บู รหิ ารองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นอ่นื ที่มกี ฎหมายจัดต้ัง “หัวหน้าพนกั งานส่วนทอ้ งถน่ิ ” หมายความวา่ ปลดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด ปลดั เทศบาล ปลัดองค์การบริหารส่วนตาบล ปลัดกรุงเทพมหานคร ปลัดเมืองพัทยา และหัวหน้าพนักงานหรือ หวั หน้าขา้ ราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอนื่ ท่มี กี ฎหมายจดั ตั้ง “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หมายความว่า คณะกรรมการการเลือกต้ังตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยคณะกรรมการการเลือกตัง้ “ผู้ตรวจการเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้ตรวจการเลือกต้ังตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ วา่ ดว้ ยคณะกรรมการการเลือกตง้ั “ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัด” หมายความว่า ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวดั ตามกฎหมายประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยคณะกรรมการการเลือกต้งั

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๐ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา “นายอาเภอ” หมายความรวมถึงผู้อานวยการเขตและปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้าประจา กิ่งอาเภอดว้ ย “เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยประจาท่ีเลือกต้ัง” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับแต่งตั้ง ใหป้ ฏิบัตหิ นา้ ทีร่ กั ษาความปลอดภัยประจาทเี่ ลือกตั้งตามพระราชบัญญตั นิ ้ี “ผูม้ ีสิทธิเลอื กตั้ง” หมายความว่า ผูม้ ีสทิ ธเิ ลอื กต้งั สมาชิกสภาทอ้ งถ่นิ หรอื ผู้บรหิ ารทอ้ งถ่นิ “ผสู้ มคั ร” หมายความวา่ ผูส้ มคั รรับเลอื กตง้ั เป็นสมาชกิ สภาท้องถ่ินหรือผบู้ รหิ ารท้องถ่นิ “ผู้ได้รบั เลือกตั้ง” หมายความวา่ ผู้ไดร้ ับเลือกตง้ั เป็นสมาชิกสภาทอ้ งถิน่ หรอื ผบู้ ริหารทอ้ งถน่ิ “การเลือกตัง้ ” หมายความวา่ การเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาท้องถ่นิ หรือผ้บู ริหารทอ้ งถน่ิ “วันเลือกตั้ง” หมายความว่า วันที่กาหนดให้เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บรหิ ารท้องถิ่น “เขตเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องที่ที่กาหนดเป็นเขตเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผบู้ ริหารทอ้ งถน่ิ “หน่วยเลือกตั้ง” หมายความว่า ท้องทที่ ี่กาหนดใหผ้ ู้มสี ทิ ธิเลอื กต้ังทาการออกเสียงลงคะแนน ณ ที่เลอื กตั้งใดทเี่ ลือกตง้ั หนง่ึ “ท่ีเลือกต้ัง” หมายความว่า สถานที่ท่ีกาหนดให้ทาการออกเสียงลงคะแนน และให้หมายความ รวมถงึ บรเิ วณทีก่ าหนดขึน้ โดยรอบทีเ่ ลอื กตง้ั ดว้ ย “จังหวัด” หมายความรวมถงึ กรงุ เทพมหานครดว้ ย “อาเภอ” หมายความรวมถึงเขต และก่ิงอาเภอด้วย “ตาบล” หมายความรวมถงึ แขวงด้วย “ศาลากลางจังหวดั ” หมายความรวมถงึ ศาลาวา่ การกรุงเทพมหานครด้วย “ทีว่ ่าการอาเภอ” หมายความรวมถึงสานักงานเขต และทว่ี ่าการกิ่งอาเภอดว้ ย มาตรา ๕ ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เป็นผรู้ ับผิดชอบการจัดการเลอื กตงั้ การจดั การเลือกตงั้ ใหด้ าเนินการตามพระราชบญั ญตั ินี้ ในกรณีท่ีคณะกรรมการการเลือกต้ังจัดการเลือกตั้งเอง หรือมอบหมายให้หน่วยงานอื่นของรัฐ ซ่ึงมิใชอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินจัดการเลอื กตง้ั แทน การจดั การเลอื กตัง้ ใหด้ าเนนิ การตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา เว้นแต่ในส่วนที่เกี่ยวกบั หน้าท่แี ละอานาจขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ข้าราชการหรือพนักงานส่วนทอ้ งถน่ิ และลูกจ้างขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ให้เปน็ หนา้ ที่และอานาจของคณะกรรมการการเลือกต้งั หรือ หน่วยงานอื่นของรฐั หรอื เจ้าหน้าทีข่ องสานักงานคณะกรรมการการเลือกตัง้ หรือของหน่วยงานอนื่ ของรัฐนั้น หรือบุคคลอนื่ ใด แล้วแต่กรณี ท้งั นี้ ตามทคี่ ณะกรรมการการเลอื กต้งั กาหนด ในการดาเนินการตามวรรคสอง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือและอานวย ความสะดวกในการจัดการเลือกตัง้ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรอื หนว่ ยงานอน่ื ของรัฐที่จัดการเลือกตั้ง รอ้ งขอ มาตรา ๖ ในกรณีที่พระราชบัญญัตินม้ี ิได้บัญญตั ิไว้เป็นประการอื่น การใดที่กาหนดใหแ้ จ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลใดเป็นการเฉพาะ ถ้าได้แจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสาร ให้บุคคลน้นั ณ ภมู ิลาเนาหรอื ทีอ่ ยู่ทีป่ รากฏตามหลักฐานทางทะเบียนตามกฎหมายวา่ ด้วยการทะเบียน ราษฎร ให้ถือวา่ ไดแ้ จ้ง ย่ืน หรือส่งโดยชอบด้วยพระราชบญั ญตั นิ แี้ ล้ว และในกรณีท่พี ระราชบัญญัตนิ ี้ บัญญัติให้ประกาศหรือเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ให้ถือว่าการประกาศหรือเผยแพร่ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใดท่ีประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก เป็นการดาเนนิ การโดยชอบด้วยพระราชบญั ญัตนิ ีแ้ ล้ว ในกรณีทพ่ี ระราชบัญญัตนิ บ้ี ญั ญัติใหค้ ณะกรรมการการเลือกตั้งมีอานาจกาหนดหรือมีคาส่งั เร่ืองใด ถ้ามิได้บัญญัติวิธกี ารไว้เป็นการเฉพาะ ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังกาหนดโดยทาเป็นระเบียบ ประกาศ หรือคาสั่ง แล้วแตก่ รณี และถ้าระเบยี บ ประกาศ หรือคาสั่งน้นั ใชบ้ ังคับแก่บุคคลท่ัวไป เมื่อประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ และให้เผยแพร่ให้ประชาชนทราบเปน็ การท่ัวไปตามวรรคหนง่ึ ด้วย ทั้งนี้ ถ้าระเบียบ ประกาศ หรือคาส่ังใดมีการกาหนดขน้ั ตอนการดาเนินงานไว้ คณะกรรมการการเลือกต้ัง ต้องกาหนดระยะเวลาการดาเนินงานในแตล่ ะขั้นตอนให้ชดั เจนด้วย มาตรา ๗ กรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวดั หรือเจ้าพนักงานผู้ดาเนินการเลือกต้ัง รวมทั้งพนักงานเจา้ หนา้ ที่ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคาส่ังของคณะกรรมการ การเลือกตงั้ หรือปฏิบัติตามคาส่ังของศาลอนั เก่ียวกับการเลือกต้งั ตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ หากได้กระทา โดยสุจริต ยอ่ มไดร้ ับความค้มุ ครอง ไม่ต้องรับผดิ ทัง้ ทางแพ่ง ทางอาญา หรอื ทางปกครอง

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๖๒ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๘ การพิจารณาและมีคาวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ให้เป็นไปตามระเบียบของทปี่ ระชุมใหญศ่ าลฎกี าโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ซ่ึงต้องกาหนดให้การพิจารณาเป็นไปโดยรวดเร็วและเท่ียงธรรม ในการนี้ อาจกาหนดให้ศาลชั้นต้น ทม่ี ีเขตอานาจในเขตเลอื กตงั้ นัน้ เป็นผรู้ ับคาร้องแทนเพือ่ จดั ส่งใหศ้ าลอุทธรณห์ รือศาลอุทธรณ์ภาควินจิ ฉัย หรืออาจให้ศาลช้ันต้นดังกล่าวเป็นผู้ไต่สวนพยานหลักฐานหรือดาเนินการอ่ืนท่ีจาเป็นแทนศาลอุทธรณ์ หรอื ศาลอทุ ธรณภ์ าคก็ได้ การปฏิบัติหน้าที่ของศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาคเกี่ยวกับการเลือกต้ังตามพระราชบัญญัติน้ี องค์คณะผู้พิพากษา ตลอดจนบุคคลซึ่งองค์คณะผู้พิพากษามอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ี มีสิทธิได้รับ เบี้ยประชุมหรือค่าตอบแทน แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยระเบยี บบรหิ ารราชการศาลยตุ ิธรรมกาหนด มาตรา ๙ ให้ประธานกรรมการการเลือกตัง้ รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอานาจ ออกระเบียบ ประกาศ หรือคาสง่ั ของคณะกรรมการการเลอื กตัง้ เพือ่ ปฏิบตั ิการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี หมวด ๑ บททว่ั ไป มาตรา ๑๐ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกต้ังผู้สมัครได้ไม่เกินจานวน สมาชกิ สภาทอ้ งถิน่ หรือผ้บู รหิ ารท้องถ่ินทจ่ี ะพงึ มใี นเขตเลือกตัง้ การเลอื กตง้ั ใหใ้ ช้วธิ อี อกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ มาตรา ๑๑ ให้จัดการเลอื กต้ังภายในสี่สิบหา้ วนั นับแตว่ ันที่สมาชกิ สภาทอ้ งถิ่นหรือผูบ้ รหิ าร ท้องถิ่นดารงตาแหน่งครบวาระ หรือภายในหกสิบวันนบั แต่วนั ท่ีสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บรหิ ารทอ้ งถน่ิ พ้นจากตาแหน่งเพราะเหตุอื่นใดนอกจากครบวาระ เว้นแต่ในกรณีของสมาชิกสภาท้องถิ่นถ้าวาระ การดารงตาแหนง่ เหลืออยู่ไม่ถงึ หนง่ึ ร้อยแปดสิบวนั จะไม่จัดการเลือกต้ังก็ได้ ในกรณีเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถิ่นแทนตาแหน่งที่ว่าง ให้สมาชิกภาพของผู้ได้รับเลือกตั้ง เร่ิมนับแต่วันเลือกต้ัง และให้ผู้น้ันอยู่ในตาแหน่งได้เพียงเท่าอายุของสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ที่เหลอื อยู่

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๖๓ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจมีคาสั่งให้ย่นหรือขยายระยะเวลาให้มีการจัดการเลือกตั้ง ตามวรรคหนง่ึ ไดต้ ามความจาเปน็ เม่ือมีพฤติการณพ์ เิ ศษ โดยตอ้ งระบุเหตุผลการมีคาส่งั ดังกล่าวด้วย มาตรา ๑๒ เมอื่ มีกรณที ่ีตอ้ งมกี ารเลือกตงั้ ให้ผอู้ านวยการการเลอื กต้ังประจาองคก์ รปกครอง ส่วนท้องถนิ่ ตามมาตรา ๒๕ โดยความเหน็ ชอบของผ้อู านวยการการเลือกตง้ั ประจาจงั หวดั ประกาศให้มี การเลือกต้งั ซง่ึ อย่างน้อยต้องมกี ารกาหนดเร่อื ง ดังตอ่ ไปนี้ (๑) วันเลอื กต้ัง (๒) วันรับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้มีการเร่ิมรับสมัครไม่เกินสิบวันนับแต่วันประกาศให้มี การเลือกตั้ง และต้องกาหนดวันรบั สมัครไม่น้อยกว่าหา้ วัน (๓) สถานที่รบั สมัครเลือกตงั้ (๔) จานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะมีการเลือกต้ังในแต่ละเขตเลือกต้ังหรือผู้บริหารท้องถ่ิน ในเขตเลือกตัง้ (๕) จานวนเขตเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีรายละเอียดเก่ียวกับอาเภอหรือตาบลหรือเขตท้องที่ท่ีอยู่ ภายในเขตเลือกตงั้ (๖) หลกั ฐานการสมัครรบั เลือกตงั้ การกาหนดตามวรรคหนึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ การเลอื กตง้ั กาหนด ประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ปิดไว้ ณ ท่ีทาการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนน้ั และสถานทีอ่ ืน่ ตามที่ผู้อานวยการการเลอื กตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ เหน็ สมควร มาตรา ๑๓ ให้ผู้อานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าดว้ ยการทะเบยี นราษฎรมีหน้าท่ีจดั ทา บัญชีรายช่ือผู้มีสิทธิเลือกต้ังของแต่ละหน่วยเลือกตั้งจากทะเบีย นรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎ หมาย ประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ด้วยคณะกรรมการการเลือกตง้ั ให้ถูกตอ้ งตามความจรงิ มาตรา ๑๔ ภายใต้บังคบั มาตรา ๗๕ ใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นรบั ผิดชอบในค่าใช้จา่ ย ในการเลือกต้ังทั้งหมด เว้นแต่ค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้อานวยการการเลือกต้ังประจา จงั หวดั

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๔ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีรายได้ไม่เพียงพอสาหรับค่าใช้จ่ายในการเลือกต้ัง ตามวรรคหนึง่ ให้คณะรัฐมนตรพี จิ ารณาจัดสรรเงนิ อดุ หนุนให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ นน้ั ตามความจาเปน็ มาตรา ๑๕ เพื่อให้การดาเนินการเลือกต้ังตามพระราชบัญญัตินี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม นอกจากหน้าที่และอานาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งตามท่ีบัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกต้ัง ให้คณะกรรมการ การเลือกต้ังมีอานาจออกระเบียบเกี่ยวกับวิธีการและระยะเวลาในการดาเนินการในเรื่องใด ๆ ได้เท่าที่ ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้ี ท้ังนี้ ระเบียบดังกล่าวต้องไม่มผี ลเป็นการตัดสิทธิหรือลงโทษบุคคลใด และเมอ่ื ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใชบ้ งั คบั ได้ มาตรา ๑๖ ในกรณีท่ีคณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้มีการเลือกตง้ั ใหม่ ให้คณะกรรมการ การเลอื กตง้ั มีอานาจออกประกาศให้ยน่ หรือขยายระยะเวลา หรืองดเวน้ การดาเนินการท่เี กย่ี วกับการเลือกตั้ง ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติน้ีเฉพาะในการเลือกต้ังนั้นเพ่ือให้เหมาะสมแก่การดาเนินการเลือกตั้งใหม่ ให้เปน็ ไปโดยรวดเรว็ สุจริต และเท่ียงธรรมได้ มาตรา ๑๗ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ินขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นใดตามพระราชบัญญัตนิ ี้ เม่ือคณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบเบอื้ งตน้ แล้วมเี หตุอนั ควร เช่ือว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเท่ียงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกต้ังน้ันภายในสามสิบวัน นับแต่วนั เลือกตัง้ ในกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ว่าจะมี ผู้ร้องเรียนกล่าวโทษหรือไม่ ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังดาเนินการสืบสวนหรือไต่สวนให้แล้วเสร็จ และประกาศผลการเลือกต้ัง หรือจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือดาเนินการอื่นที่จาเป็น แล้วแต่กรณี โดยเรว็ แต่ตอ้ งไม่ชา้ กว่าหกสบิ วันนบั แตว่ ันเลือกต้ัง ในกรณีตามวรรคสอง ถ้าเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น เม่ือมีการประกาศผลการเลือกต้ัง และมีสมาชิกสภาท้องถ่ินได้รับเลือกเกินกึ่งหนึ่งแต่ต้องไม่น้อยกว่าห้าคนแล้ว หากมีความจาเป็นต้อง เรียกประชุมสภาท้องถ่ินนั้น ให้เรียกประชุมและปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยในระหว่างน้ันให้ถือว่าสมาชิก สภาทอ้ งถนิ่ นน้ั ประกอบด้วยสมาชกิ เทา่ ท่มี อี ยู่

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๕ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา การประกาศผลการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ไม่เป็นการตัดหน้าท่ีและอานาจ ของคณะกรรมการการเลือกต้ังที่จะดาเนินการสืบสวน ไต่สวน หรือวินิจฉัย เม่ือมีเหตุอันควรสงสัยว่า การเลอื กตงั้ มไิ ด้เปน็ ไปโดยสุจริตหรือเท่ียงธรรม มาตรา ๑๘ ในกรณีท่ีมีการส่ังหรือคาวินิจฉัยให้ผู้บริหารท้องถิ่น ประธานหรือรองประธาน สภาท้องถ่ิน หรือสมาชิกสภาท้องถ่ินพ้นจากตาแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด เมื่อคณะกรรมการการเลือกต้ัง ได้ดาเนินการให้มีการเลือกต้ังใหมห่ รือเลอื กตั้งแทนตาแหน่งท่ีว่างแล้ว แม้ภายหลังศาลจะมีคาพิพากษา หรือคาสงั่ ว่าคาสง่ั หรอื คาวินจิ ฉยั ให้พ้นจากตาแหน่งเป็นไปโดยไมช่ อบ คาพพิ ากษาหรือคาสงั่ ของศาลดงั กล่าว ไม่มีผลกระทบตอ่ การเลือกต้ังทค่ี ณะกรรมการการเลอื กต้งั ไดด้ าเนนิ การไปแลว้ หมวด ๒ เขตเลอื กต้ัง หน่วยเลอื กต้งั และที่เลือกตง้ั มาตรา ๑๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๐ การกาหนดเขตเลือกต้ังสาหรับการเลือกตั้งสมาชิก สภาทอ้ งถิน่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (๑) การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ให้ถือเขตเป็นเขตเลือกต้ัง ถ้าเขตใดมีจานวน ราษฎรตามหลักฐานการทะเบยี นราษฎรที่ประกาศในปีสดุ ทา้ ยก่อนปีทมี่ กี ารเลือกตัง้ เกินหน่งึ แสนหา้ หมื่นคน ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังแบ่งเขตน้ันออกเป็นเขตเลือกต้ังตามจานวนสมาชิกสภากรุงเทพมห านคร ที่จะพึงมี โดยแตล่ ะเขตเลอื กตั้งต้องมีจานวนราษฎรใกล้เคียงกัน (๒) การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้ถือเขตอาเภอเป็นเขตเลือกต้ัง ในกรณีที่อาเภอใดมีสมาชิกได้เกินกว่าหนึ่งคนให้แบ่งเขตอาเภอเป็นเขตเลือกตั้ง เท่ากับจานวนสมาชิก ทีจ่ ะพึงมีในอาเภอนั้น (๓) การเลือกตั้งสมาชกิ สภาเทศบาลตาบล ให้แบ่งเขตเทศบาลเป็นสองเขตเลือกต้งั การเลือกตง้ั สมาชิกสภาเทศบาลเมอื ง ให้แบ่งเขตเทศบาลเปน็ สามเขตเลอื กต้ัง การเลือกตงั้ สมาชิกสภาเทศบาลนคร หรือการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา ให้แบ่งเขตเทศบาลหรือเขตเมอื งพัทยาเป็นส่ีเขตเลือกต้ัง และ ต้องมจี านวนสมาชกิ สภาเทศบาลเท่ากันทุกเขตเลอื กตัง้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๖๖ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๔) การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบล ให้ถือเขตหมู่บ้านเป็นเขตเลือกต้ัง เวน้ แต่กฎหมายว่าด้วยสภาตาบลและองค์การบรหิ ารส่วนตาบลจะกาหนดไว้เป็นอย่างอ่นื (๕) การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้ถือเขตขององค์กรปกครอง สว่ นท้องถ่นิ นนั้ เป็นเขตเลือกต้งั เว้นแต่กฎหมายวา่ ด้วยการจัดต้งั องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ นนั้ จะกาหนดไว้ เปน็ อย่างอ่ืน มาตรา ๒๐ ในการแบ่งเขตเลือกตง้ั ใหจ้ ดั ให้มจี านวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตงั้ ใกล้เคียงกัน มากที่สุด และพื้นที่ของแต่ละเขตเลือกต้ังต้องติดต่อกัน เว้นแต่ตามสภาพพื้นที่ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นทาให้ไม่อาจแบ่งเขตเลือกต้ังให้มีพ้ืนท่ีติดต่อกันได้ จะกาหนดให้เขตเลือกตั้งมีพ้ืนที่ไม่ติดต่อกัน เทา่ ท่จี าเป็นก็ได้ ในการกาหนดเขตเลือกต้ัง จะใช้แนวถนน ตรอก ซอย หรอื แยก คลอง หรอื แมน่ า้ เป็นแนวเขต ของเขตเลือกตง้ั ก็ได้ การแบ่งเขตเลือกตั้งตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรมการการเลือกต้ังกาหนด มาตรา ๒๑ เพื่อประโยชน์ในการแบ่งเขตเลอื กตงั้ ตามมาตรา ๒๐ ให้ผูอ้ านวยการทะเบยี นกลาง ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร มีหน้าที่แจ้งรายละเอียดของจานวนราษฎรเป็นรายจังหวัด รายอาเภอ รายตาบล รายหมู่บ้าน รายเทศบาล รายองค์การบริหารส่วนตาบล และรายองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิน่ อ่นื ให้คณะกรรมการการเลือกตัง้ ทราบภายในย่สี ิบวนั นับแตว่ ันท่ีผ้อู านวยการทะเบยี นกลาง ประกาศจานวนราษฎรทงั้ ประเทศ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด เขตอาเภอ เขตตาบล เขตหมู่บ้าน เขตเทศบาล เขตองค์การบริหารส่วนตาบล หรือเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหนา้ ท่ี แจง้ การเปลีย่ นแปลงใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตงั้ ทราบภายในเจ็ดวันนบั แต่วันท่มี กี ารเปลยี่ นแปลง มาตรา ๒๒ การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถ่ิน ให้ใช้เขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้ัน เปน็ เขตเลือกต้ัง

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๗ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๒๓ ให้ผู้อานวยการการเลือกต้งั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกาหนดหน่วยเลือกต้ัง และท่เี ลือกตัง้ ท่ีจะพึงมใี นแตล่ ะเขตเลือกต้ัง การกาหนดหน่วยเลือกต้ังและท่ีเลือกต้ังตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ย่ีสิบห้าวัน โดยให้ทาเป็นประกาศปิดไว้ ณ ที่ทาการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น และสถานท่ีอื่น ทเ่ี ห็นสมควร รวมทัง้ ใหจ้ ัดทาแผนทส่ี งั เขปแสดงเขตของหน่วยเลอื กตง้ั และท่เี ลอื กตั้งไว้ดว้ ย การเปลย่ี นแปลงเขตของหนว่ ยเลอื กต้ังหรอื ท่เี ลอื กต้ัง ใหก้ ระทาได้โดยประกาศก่อนวันเลือกตงั้ ไม่น้อยกว่าสิบวัน เว้นแต่ในกรณีเกิดจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจาเป็นอย่างอ่ืน จะประกาศเปลี่ยนแปลงก่อนวนั เลือกตง้ั น้อยกว่าสิบวนั ก็ได้ และให้นาความในวรรคสองมาใชบ้ ังคบั ดว้ ย โดยอนุโลม มาตรา ๒๔ การกาหนดหน่วยเลือกตั้งตามมาตรา ๒๓ ใหค้ านงึ ถึงความสะดวกในการเดินทาง มาใช้สทิ ธเิ ลอื กตั้งของราษฎร ตามหลกั เกณฑ์ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ให้ใช้เขตหมู่บ้านเป็นเขตของหน่วยเลือกตั้ง ในกรณีที่หมู่บ้านใดมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จานวนนอ้ ยจะให้รวมหม่บู ้านตง้ั แต่สองหมบู่ ้านข้นึ ไปเป็นหนว่ ยเลอื กตัง้ เดียวกนั กไ็ ด้ สาหรับในเขตเทศบาล เขตเมืองพัทยา เขตกรุงเทพมหานคร หรือเขตชุมชนหนาแน่น อาจกาหนดใหใ้ ชแ้ นวถนน ตรอก ซอย หรอื แยก คลอง หรอื แม่นา้ เป็นแนวเขตของหนว่ ยเลอื กต้งั ก็ได้ (๒) ให้ถือเกณฑ์จานวนผู้มีสิทธิเลอื กต้ังหนว่ ยเลือกตง้ั ละหนึ่งพันคนเป็นประมาณ แต่ถ้าเห็นว่า ไม่เป็นการสะดวกหรือไม่ปลอดภัยในการไปลงคะแนนเลือกต้ังของผู้มสี ิทธิเลือกต้ัง จะกาหนดหน่วยเลือกตง้ั เพิม่ ขึ้นโดยใหม้ ีจานวนผมู้ ีสิทธเิ ลอื กต้ังนอ้ ยกวา่ จานวนดังกลา่ วกไ็ ด้ ท่ีเลือกตั้งตามมาตรา ๒๓ ต้องเป็นสถานท่ีที่ประชาชนเข้าออกได้สะดวกและมีป้ายหรือ เคร่ืองหมายอ่ืนใดเพื่อแสดงขอบเขตบริเวณของท่ีเลือกต้ังตามลักษณะของท้องที่และภูมิประเทศไว้ ด้วย และเพื่อประโยชน์ในการอานวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกต้ังหรือเพื่อความปลอดภัยของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผูอ้ านวยการการเลอื กตงั้ ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ จะกาหนดทเ่ี ลือกตงั้ นอกเขตของหน่วยเลอื กตง้ั กไ็ ด้ แต่ต้องอย่ใู นบรเิ วณใกลเ้ คยี งกบั หน่วยเลือกตงั้ น้ัน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๘ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๓ การดาเนนิ การเลือกตงั้ มาตรา ๒๕ เม่ือมีกรณีท่ีต้องมีการเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใด ให้หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถ่ินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนั้น เปน็ ผู้อานวยการการเลอื กตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน โดยมหี นา้ ท่ีและอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) รบั สมคั รเลือกตั้ง (๒) กาหนดหนว่ ยเลอื กตง้ั และที่เลือกต้ัง (๓) แต่งตง้ั และจัดอบรมเจา้ พนักงานผ้ดู าเนนิ การเลือกต้ัง (๔) ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผูม้ สี ทิ ธเิ ลือกตงั้ และดาเนนิ การเพมิ่ ชื่อหรอื ถอนชอื่ ผู้มสี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ (๕) ดาเนินการเก่ียวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง การนับคะแนนเลือกตั้ง และการประกาศผล การนบั คะแนนเลอื กตงั้ (๖) ดาเนนิ การอ่นื อนั จาเป็นเก่ียวกับการเลอื กต้ัง การดาเนินการตาม (๒) (๓) และ (๔) ใหเ้ ปน็ ไปโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจาองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น ในกรณที ่ีปรากฏวา่ หัวหน้าพนกั งานส่วนท้องถิน่ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ใดเป็นผู้มีสว่ นไดเ้ สยี กับผู้สมัครรับเลือกต้ัง หรือมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าอาจก่อให้เกิดความไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรมใน การเลือกตั้ง หรือมีเหตุจาเป็นอื่นใด คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจแต่งตั้งปลัดจังหวัด นายอาเภอ หรอื ปลัดอาเภอ เป็นผู้อานวยการการเลือกตงั้ ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ น้ันแทนก็ได้ เพ่อื ประโยชน์ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทตี่ ามวรรคหนงึ่ หรือวรรคสาม ผอู้ านวยการการเลอื กต้งั ประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคลเป็นผู้ช่วยเหลือใน การปฏิบตั หิ นา้ ท่ีได้ การดาเนินการตามวรรคหน่ึงและวรรคส่ี ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีคณะกรรมการการเลือกตั้ง กาหนด

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๖๙ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา ใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นทดี่ าเนินการเลือกตั้งมีหนา้ ทจี่ ดั หาวสั ดอุ ุปกรณ์เก่ียวกับการเลือกตั้ง และสนับสนุนการจัดการเลอื กตง้ั ของคณะกรรมการการเลือกตัง้ ประจาองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน และ ผู้อานวยการการเลือกต้งั ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ตามที่บญั ญตั ิไวใ้ นพระราชบัญญัตนิ ้ี มาตรา ๒๖ ในการเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งต้ังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นจากข้าราชการและเจ้าหน้าท่ีอ่ืนของรัฐที่ปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ในจังหวัดที่เป็นเขตเลือกตั้ง หรือ ในเขตอาเภอท้องท่ีทีอ่ งค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ น้ันตั้งอยู่ โดยจะแตง่ ตั้งผูม้ ีสิทธเิ ลือกตง้ั ทม่ี ีภูมลิ าเนาอยู่ ในเขตจังหวัดหรืออาเภอนั้น แล้วแต่กรณี ซ่ึงมิได้เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐจานวนไม่เกนิ สองคนดว้ ยกไ็ ด้ แตม่ ใิ หแ้ ตง่ ต้ังจากข้าราชการหรือพนกั งานส่วนท้องถิน่ หรอื ลกู จา้ งขององคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถ่ิน เวน้ แต่เปน็ การแตง่ ต้ังเพอ่ื ทาหนา้ ท่ีเลขานุการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารของคณะกรรมการดงั กลา่ ว หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง และจานวนของคณะกรรมการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครอง สว่ นท้องถิ่นตามวรรคหน่งึ ให้เปน็ ไปตามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการการเลอื กตง้ั กาหนด การแตง่ ตั้งตามวรรคหนง่ึ คณะกรรมการการเลือกตง้ั จะมอบหมายให้ผู้อานวยการการเลอื กต้งั ประจาจงั หวดั เป็นผู้ลงนามในคาสั่งแต่งต้งั น้ันแทนก็ได้ มาตรา ๒๗ คณะกรรมการการเลอื กตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหนา้ ท่แี ละอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอแนะและให้ความเห็นชอบการกาหนดหน่วยเลือกตั้ง ท่ีเลือกตั้ง และการแต่งตั้ง เจ้าพนักงานผดู้ าเนินการเลือกตัง้ ของผ้อู านวยการการเลือกต้งั ประจาองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ (๒) ตรวจสอบและใหค้ วามเห็นชอบบญั ชีรายช่ือผู้มสี ิทธิเลือกต้งั และการเพ่ิมชื่อหรอื ถอนช่อื ผมู้ สี ิทธิเลือกต้งั (๓) กากับดูแลและอานวยการการเลือกตั้ง การลงคะแนนเลือกต้ัง การนับคะแนนเลือกตั้ง และการประกาศผลการนบั คะแนนเลอื กตั้ง (๔) กาหนดสถานท่ีรวบรวมผลคะแนน และรวบรวมผลคะแนนของทุกหน่วยเลือกต้ัง และ รายงานผลการเลือกต้ังตอ่ ผอู้ านวยการการเลอื กตงั้ ประจาจังหวดั (๕) ปฏิบัตกิ ารใดตามท่บี ัญญตั ิไว้ในพระราชบญั ญตั ินหี้ รือกฎหมายอื่น หรือตามท่คี ณะกรรมการ การเลอื กต้งั มอบหมาย

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๗๐ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา เพอ่ื ประโยชน์ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ตี ามวรรคหนง่ึ ให้ผอู้ านวยการการเลือกต้งั ประจาจังหวัดมอี านาจ แตง่ ตง้ั หรอื มอบหมายใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตงั้ ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินแตง่ ตงั้ คณะอนุกรรมการ หรอื บุคคลหรอื คณะบคุ คลเปน็ ผชู้ ่วยเหลอื ในการปฏบิ ตั ิงานในการเลอื กต้งั ได้ตามสมควร มาตรา ๒๘ ก่อนวันเลือกต้ังไม่น้อยกว่าย่ีสิบวัน ให้ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กร ปกครองส่วนท้องถนิ่ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตัง้ ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน แตง่ ตง้ั ผมู้ ีสทิ ธิเลอื กตง้ั เปน็ เจา้ พนกั งานผ้ดู าเนินการเลอื กตัง้ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) คณะกรรมการประจาหนว่ ยเลือกตง้ั ไม่น้อยกวา่ ห้าคน มีหนา้ ทีเ่ ก่ียวกบั การออกเสยี งลงคะแนน ในทเ่ี ลือกต้ังและนับคะแนนของหน่วยเลอื กตัง้ แตล่ ะแหง่ (๒) เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยประจาที่เลือกต้ังอย่างน้อยสองคน เพื่อทาหน้าท่ีรักษา ความปลอดภยั และสนบั สนุนการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องคณะกรรมการประจาหนว่ ยเลือกตง้ั หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้ง การฝึกอบรม และการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงานผู้ดาเนินการ เลือกตงั้ ตามวรรคหน่งึ ใหเ้ ป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลอื กตั้งกาหนด ในกรณีทก่ี รรมการการเลอื กต้งั ประจาองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ หรือผูต้ รวจการเลือกตงั้ พบเห็นว่า กรรมการประจาหนว่ ยเลือกต้งั หรอื เจ้าหน้าที่รกั ษาความปลอดภัยประจาที่เลือกตั้งผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ หรือกระทาการใดที่จะเป็นเหตุทาให้การเลือกต้ังมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้แจ้งผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาเปล่ียนกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจาที่เลือกต้ังได้ ตามทเี่ หน็ สมควร มาตรา ๒๙ กอ่ นวนั เลือกตั้ง หากมกี รรมการประจาหนว่ ยเลอื กตัง้ ไมค่ รบจานวน ให้ผอู้ านวยการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแต่งตั้งบุคคลตามมาตรา ๒๘ เป็นกรรมการประจา หนว่ ยเลอื กต้ังใหไ้ ดค้ รบจานวน ในวันเลือกตั้ง ถ้าถึงเวลาเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งแล้วมีกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้ง มาปฏิบัติหน้าท่ีไม่ครบจานวนแต่มาไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของคณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังที่ได้รับ การแตง่ ต้ัง ให้กรรมการประจาหนว่ ยเลือกตงั้ ท่ีมาปฏิบัติหน้าทด่ี ังกลา่ วปฏบิ ัตหิ น้าที่ได้ และใหก้ รรมการ ประจาหน่วยเลือกต้ังที่มาปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ในขณะนั้นรายงานให้ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจา

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๗๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินเพื่อแตง่ ตัง้ บคุ คลตามมาตรา ๒๘ เป็นกรรมการประจาหน่วยเลือกตง้ั เพ่ิมเติม ให้ครบจานวนก่อนการนับคะแนนเลือกต้งั ในกรณีตามวรรคสอง หากไม่มกี รรมการประจาหนว่ ยเลอื กตง้ั มาปฏบิ ตั ิหนา้ ท่เี ลยหรอื มาแตน่ อ้ ยกวา่ ก่ึงหนึ่ง ให้ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่งตั้งบุคคลตามมาตรา ๒๘ เปน็ กรรมการประจาหนว่ ยเลอื กตั้งเพอ่ื ปฏบิ ตั หิ น้าท่ใี นหน่วยเลือกต้ังน้นั หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเง่อื นไขในการแตง่ ตง้ั กรรมการประจาหนว่ ยเลือกต้ังตามวรรคสองและ วรรคสาม ให้เปน็ ไปตามทค่ี ณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด มาตรา ๓๐ เม่ือมีการเลือกต้ังในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินน้ันจัดให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถ่ินหรือลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชว่ ยเหลือและอานวยความสะดวกในการปฏิบัตหิ นา้ ทีข่ องผูอ้ านวยการการเลือกตง้ั ประจาองคก์ รปกครอง ส่วนท้องถิ่นและคณะกรรมการการเลือกต้งั ประจาองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ในกรณีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใดมีข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถ่ินหรือลูกจ้างของ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ไมเ่ พียงพอในการปฏบิ ตั ิงานเกย่ี วกบั การเลือกต้ังตามวรรคหนึ่ง ผูอ้ านวยการ การเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินอาจร้องขอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อมีคาส่ังให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถ่ินซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจังหวัดนั้น ให้ชว่ ยเหลือในการปฏบิ ัติงานเกยี่ วกบั การเลือกตง้ั ได้ ให้ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างซึ่งได้รับคาส่ังตามวรรคสองมีหน้าท่ีปฏิบัติตามท่ีผอู้ านวยการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือคณะกรรมการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่นิ มอบหมาย มาตรา ๓๑ นอกจากหน้าท่ีตามท่ีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะกรรมการ การเลือกต้ังมอบหมายหรือส่ังการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอาเภอ และพนักงานฝ่ายปกครองหรือ ตารวจตามประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญามีหนา้ ท่ีรกั ษาความสงบเรยี บร้อยและความปลอดภัย ในการเลอื กตง้ั

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๗๒ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา ให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอาเภอ จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษา ความสงบเรียบรอ้ ยในการเลอื กตั้งตามทผ่ี ้อู านวยการการเลอื กตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินรอ้ งขอ มาตรา ๓๒ ในกรณีท่ีมีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ให้ผู้พบการกระทาความผิด แจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจ หรือเจ้าหน้าท่ีรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกต้ัง หรือ เจา้ หน้าท่ีรักษาความปลอดภยั ประจาที่เลอื กต้ัง ถา้ ผู้พบการกระทาความผดิ ตามวรรคหน่งึ เปน็ เจา้ พนกั งานผูด้ าเนนิ การเลอื กตง้ั ตามมาตรา ๒๘ หรอื เจ้าหนา้ ที่รกั ษาความสงบเรียบรอ้ ยในการเลือกตง้ั ใหด้ าเนนิ การกล่าวโทษหรือดาเนินการตามหนา้ ท่ี และอานาจ ในกรณีท่ีเจ้าหน้าท่ีรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภยั ประจาท่ีเลือกตั้ง พบการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ีในวันเลือกต้ัง หรือได้รับแจ้งโดยมี พยานหลักฐานอันน่าเช่ือถือ และผู้กระทาความผิดยังปรากฏตัวอยู่ในบริเวณท่ีเลือกตั้ง ให้เจ้าหน้าที่รักษา ความสงบเรียบร้อยหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจาท่ีเลือกตั้ง มีอานาจจับกุมและควบคุมตัว ผู้กระทาความผดิ ส่งพนักงานสอบสวนดาเนนิ การตอ่ ไป โดยใหถ้ ือวา่ เปน็ กรณพี บการกระทาความผิดซง่ึ หน้า มาตรา ๓๓ ในกรณีท่ีคณะกรรมการการเลือกต้ัง ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวัด ผู้สมัคร ผมู้ สี ทิ ธิเลือกตงั้ เจา้ หน้าทีร่ ักษาความปลอดภยั ประจาทีเ่ ลือกต้ัง หรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ เรียบร้อยในการเลือกตั้ง แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่ามีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือ ในกรณีท่ีพนักงานสอบสวนทราบถึงการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี ให้พนักงานสอบสวน ดาเนินการสอบสวนทนั ทโี ดยไม่ตอ้ งมีผู้มาร้องทุกขห์ รือกลา่ วโทษ มาตรา ๓๔ ในกรณีปรากฏข้อเท็จจริงว่า ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถ่ินหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐกระทาการใด ๆ โดยมิชอบ ด้วยหน้าที่และอานาจอันเป็นการกล่ันแกล้งผู้สมัครใด หรือดาเนินการใด ๆ ท่ีเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ ผู้สมคั รใด ให้คณะกรรมการการเลอื กตง้ั หรอื กรรมการการเลอื กตงั้ หรอื ผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจา จังหวัด หรือคณะกรรมการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่คณะกรรมการการเลือกต้ัง มอบหมาย มีอานาจสัง่ ใหย้ ตุ หิ รือระงบั การกระทานั้นได้

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๗๓ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา ให้กรรมการการเลือกตัง้ ท่ีพบเหน็ การกระทาตามวรรคหนงึ่ มีอานาจสั่งให้ระงับการกระทาน้ันได้ แล้วรายงานใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตง้ั ทราบ มาตรา ๓๕ ในการปฏิบตั หิ น้าทตี่ ามพระราชบญั ญตั ินี้ ใหผ้ ู้ตรวจการเลือกตง้ั ผู้อานวยการ การเลือกต้ังประจาจังหวัด ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ประธานกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง กรรมการประจา หน่วยเลือกต้ัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจาท่ีเลือกตั้ง และผู้ซ่ึงได้รับแต่งต้ังให้ปฏิบัติหน้าท่ี ตามพระราชบญั ญัติน้ี เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ ค่าตอบแทนของกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผอู้ านวยการการเลอื กตงั้ ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ นายอาเภอ กรรมการประจาหนว่ ยเลือกตั้ง เจ้าหน้าท่ีรกั ษาความปลอดภัยประจาทเ่ี ลือกต้งั และผซู้ ่ึงได้รับแตง่ ต้ังให้ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินกาหนดตามบัญชีค่าตอบแทนหรือมาตรฐานกลางในการจ่าย ค่าตอบแทนซง่ึ คณะกรรมการการเลือกตัง้ กาหนดไว้ โดยคานึงถงึ หน้าท่แี ละอานาจความรบั ผิดชอบและ ความแตกต่างของปริมาณงานในการดาเนินการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแตล่ ะประเภทหรือ แตล่ ะแห่ง มาตรา ๓๗ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้รับผิดชอบการจัดพิมพ์ ควบคุมการพิมพ์ และกาหนดวิธีการจัดส่งบัตรเลือกต้ัง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใน การจดั พิมพแ์ ละการจดั ส่งบัตรเลือกต้งั ทง้ั น้ี ตามระเบียบทคี่ ณะกรรมการการเลอื กตงั้ กาหนด หมวด ๔ ผมู้ ีสิทธิเลอื กตงั้ และบญั ชีรายชอ่ื ผมู้ สี ิทธเิ ลอื กต้ัง มาตรา ๓๘ บุคคลผู้มีคณุ สมบตั ิดังต่อไปน้ี เปน็ ผู้มีสิทธเิ ลือกต้ัง (๑) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสญั ชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาตไิ ทยมาแล้ว ไมน่ ้อยกว่าหา้ ปี (๒) มีอายไุ ม่ตา่ กว่าสบิ แปดปีในวันเลอื กตั้ง

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๗๔ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหน่ึงปีนับถึง วนั เลอื กต้งั และ (๔) คณุ สมบตั อิ ืน่ ตามทีก่ ฎหมายว่าด้วยการจดั ตัง้ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ กาหนด ในกรณีที่มีการย้ายทะเบียนบ้านออกจากเขตเลือกต้ังหนึ่งไปยังอีกเขตเลือกต้ังหน่ึงภายในองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินเดียวกัน อันทาให้บุคคลมีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกัน น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวนั เลอื กต้ัง ให้บุคคลนั้นมสี ิทธิออกเสยี งลงคะแนนเลือกตง้ั ในเขตเลือกต้งั ที่ตนมีช่ืออยู่ ในทะเบียนบ้านครงั้ สุดท้ายเปน็ เวลาติดตอ่ กนั ไม่น้อยกว่าหนงึ่ ปี มาตรา ๓๙ บุคคลผมู้ ลี กั ษณะดังต่อไปน้ใี นวนั เลือกตัง้ เป็นบุคคลต้องห้ามมใิ ห้ใช้สิทธเิ ลือกตัง้ (๑) เปน็ ภิกษุ สามเณร นกั พรตหรอื นักบวช (๒) อย่ใู นระหวา่ งถูกเพิกถอนสทิ ธเิ ลอื กต้ังไมว่ า่ คดีนัน้ จะถึงท่สี ุดแลว้ หรือไม่ (๓) ตอ้ งคุมขงั อยโู่ ดยหมายของศาลหรอื โดยคาส่งั ทีช่ อบด้วยกฎหมาย (๔) วกิ ลจริตหรอื จิตฟ่ันเฟอื นไม่สมประกอบ (๕) มลี กั ษณะอ่ืนตามทก่ี ฎหมายว่าด้วยการจัดตง้ั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ กาหนด มาตรา ๔๐ ในการเลือกต้ังคร้ังใด ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้เนื่องจาก มีเหตุอันสมควร ให้แจ้งเหตุท่ีไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลซ่ึงคณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด ภายในเจ็ดวนั ก่อนวนั เลือกต้งั หรอื ภายในเจ็ดวันนับแตว่ ันเลอื กตัง้ แตถ่ า้ มีเหตจุ าเป็นไม่อาจแจ้งได้ภายใน เจ็ดวันก่อนวันเลือกตั้ง ให้ดาเนินการแจ้งตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด ท้ังนี้ การแจ้งเหตุ ดังกล่าวไมเ่ ปน็ การตัดสทิ ธิทผี่ ู้นน้ั จะไปใชส้ ิทธิเลอื กตงั้ ในการแจง้ เหตุตามวรรคหนึง่ ให้ผู้มีสิทธิเลอื กตัง้ ทาเป็นหนงั สอื หรือโดยวิธกี ารอ่ืนเพ่อื ช้ีแจงเหตุ ดังกล่าว โดยอาจมอบหมายให้บุคคลใดไปย่ืนต่อบุคคลซ่ึงคณะกรรมการการเลือกต้ังแต่งต้ังแทน หรือ จัดสง่ หนังสอื ชแี้ จงเหตนุ ั้นทางไปรษณยี ์ลงทะเบยี น หรือแจ้งโดยวธิ ีการทางอิเล็กทรอนิกส์กไ็ ด้ ในกรณีท่ีบุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลอื กตง้ั กาหนดตามวรรคหนึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า เหตทุ ่ี ผู้มีสิทธิเลือกตัง้ แจ้งนนั้ มิใชเ่ หตุอันสมควร ให้แจ้งให้ผู้มีสิทธเิ ลือกตง้ั ทราบภายในสามวันนับแตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั แจง้ เหตุ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๗๕ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับแจ้งตามวรรคสาม มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อผู้อานวยการการเลือกตั้ง ประจาจงั หวดั ภายในสามสบิ วนั นับแตว่ ันเลอื กตั้ง การแจ้งเหตุ วิธีการแจ้งเหตุทางอิเล็กทรอนิกส์ บุคคลท่ีจะรับแจ้งเหตุ สถานที่รับแจ้งเหตุ การพิจารณาการแจ้งเหตุ และการอุทธรณ์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการ การเลือกต้ังกาหนด โดยในการกาหนดดังกล่าวให้คานึงถึงการอานวยความสะดวกแก่ประชาชนด้วย ในการน้ี ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนดรายละเอียดของเหตุที่ทาให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังไม่อาจไปใช้ สทิ ธเิ ลอื กตัง้ ไว้ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาของบุคคลซึง่ คณะกรรมการการเลอื กตั้งแตง่ ต้ังด้วย มาตรา ๔๑ เมอื่ ครบกาหนดหกสิบวนั นบั แต่วันเลือกตัง้ ให้บุคคลซง่ึ คณะกรรมการการเลอื กตั้ง แต่งตั้งตามมาตรา ๔๐ วรรคหน่ึง ประกาศรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธเิ ลือกตั้งและมิไดแ้ จ้งเหตุตามมาตรา ๔๐ หรือแจง้ เหตไุ ว้แลว้ แต่เหตุน้นั มใิ ชเ่ หตอุ นั สมควร ในกรณีท่ีประกาศรายชื่อตามวรรคหน่ึงมีความผิดพลาดคลาดเคล่ือนจากข้อเท็จจริง ให้ผู้มี ส่วนได้เสียยื่นคาร้องต่อผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัดหรือบุคคลซ่ึงคณะกรรมการการเลือกต้ัง แตง่ ต้งั ตามมาตรา ๔๐ เพือ่ ดาเนินการแก้ไข ท้ังน้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารทค่ี ณะกรรมการการเลือกต้ัง กาหนด มาตรา ๔๒ ผูม้ สี ทิ ธเิ ลือกต้ังผใู้ ดไม่ไปใช้สทิ ธิเลอื กตัง้ และมิได้แจง้ เหตุท่ีไม่อาจไปใชส้ ิทธเิ ลือกตง้ั หรอื แจ้งเหตทุ ่ีไมอ่ าจไปใช้สทิ ธิเลอื กตงั้ แล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตอุ นั สมควร ผนู้ ้ันถูกจากดั สทิ ธิ ดงั ต่อไปน้ี (๑) สมัครรบั เลอื กตัง้ เปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาทอ้ งถ่ินและผู้บรหิ ารทอ้ งถ่ิน หรอื สมคั รรับเลือกเปน็ สมาชิกวุฒิสภา (๒) สมคั รรบั เลือกเปน็ กานันและผู้ใหญบ่ า้ นตามกฎหมายว่าดว้ ยลักษณะปกครองทอ้ งที่ (๓) เข้าช่ือร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ินตามกฎหมายว่าด้วย การลงคะแนนเสยี งเพ่ือถอดถอนสมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผูบ้ รหิ ารทอ้ งถิน่ (๔) ดารงตาแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และ ข้าราชการรฐั สภาฝา่ ยการเมอื งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบขา้ ราชการรัฐสภา

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๗๖ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๕) ดารงตาแหน่งรองผู้บริหารท้องถ่ิน เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหาร ท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารทอ้ งถ่ิน ท่ีปรึกษาผู้บริหารท้องถนิ่ หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั ตั้งองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ (๖) ดารงตาแหนง่ เลขานกุ ารประธานสภาทอ้ งถิน่ ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาทอ้ งถ่นิ และ เลขานกุ ารรองประธานสภาทอ้ งถน่ิ ตามกฎหมายวา่ ด้วยการจดั ต้ังองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ การจากัดสิทธติ ามวรรคหน่งึ ให้มีกาหนดเวลาคร้ังละสองปีนับแตว่ ันเลือกต้ังครั้งที่ผู้มีสทิ ธเิ ลอื กตั้ง ไมไ่ ปใชส้ ิทธิเลือกต้งั หากในการเลือกตัง้ ครั้งตอ่ ไปผู้น้ันไมไ่ ปใช้สทิ ธิเลือกตง้ั อกี ให้นบั เวลาการจากัดสทิ ธิ ครั้งหลังนี้โดยนับจากวันท่ีมิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคร้ังใหม่ และหากกาหนดเวลาการจากัดสิทธิคร้ังก่อน ยงั เหลอื อยเู่ ทา่ ใดใหก้ าหนดเวลาการจากดั สทิ ธินั้นส้นิ สุดลง มาตรา ๔๓ เม่ือได้มีประกาศให้มกี ารเลือกตงั้ แล้ว ให้ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของแต่ละหน่วยเลือกต้ังจากบัญชีรายช่ือ ผู้มีสิทธิเลือกต้ังตามมาตรา ๑๓ ให้ถูกต้องตามความจริง และประกาศบัญชีรายช่ือผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้ โดยเปิดเผย ณ ศาลากลางจังหวัดหรือท่ีว่าการอาเภอที่ต้ังอยู่ในเขตเลือกต้ังนั้น ที่ทาการองค์กรปกครอง ส่วนท้องถน่ิ นน้ั ท่เี ลอื กตงั้ หรือบรเิ วณใกล้เคยี งกบั ทเ่ี ลอื กตัง้ และสถานท่ีอืน่ ท่ีเหน็ สมควรก่อนวนั เลอื กตงั้ ไม่นอ้ ยกว่ายีส่ บิ หา้ วัน และแจ้งรายชื่อผ้มู ีสทิ ธเิ ลอื กต้ังให้เจา้ บา้ นทราบกอ่ นวนั เลือกตัง้ ไมน่ ้อยกว่าสบิ ห้าวัน ในกรณีท่ีผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจาองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินพบวา่ การจัดทาบัญชีรายช่อื ผู้มีสิทธิเลือกต้ังมีความผิดพลาด หรือมีเหตุอันควรเช่ือได้ว่ามีการย้ายบุคคลใดเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพ่ือประโยชน์ในการเลือกต้ังโดยมิชอบ ไม่ว่าจะพบเหตุดังกล่าวก่อนหรือหลังการประกาศบัญชีรายชื่อ ผู้มสี ิทธเิ ลอื กตัง้ ให้ผ้อู านวยการการเลอื กตง้ั ประจาองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ รายงานตอ่ คณะกรรมการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินโดยเร็ว ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นความจริง ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีคาสั่งให้แก้ไขหรอื ถอนชอื่ บคุ คลนั้นออกจากบัญชีรายช่ือผู้มสี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ ได้

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๗๗ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา บัญชีรายช่ือผู้มีสิทธิเลือกตั้งท่ีประกาศโดยเปิดเผยตามวรรคหนึ่ง มิให้ระบุเลขประจาตัวประชาชน ของผู้มีสิทธิเลือกต้ัง สาหรับบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งท่ีจัดทาข้ึนเพ่ือประโยชน์ของเจ้าหน้าท่ีใน การตรวจสอบผมู้ าใช้สทิ ธิเลอื กตงั้ ให้ระบุเลขประจาตวั ประชาชนของผู้มสี ิทธิเลือกตัง้ ด้วย มาตรา ๔๔ ผู้มีสิทธิเลือกต้ังหรอื เจ้าบ้านผู้ใดเหน็ วา่ ตนหรอื ผู้มชี ่ืออยู่ในทะเบียนบ้านของตน ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ก่อนวนั เลือกตัง้ ไม่น้อยกว่าสิบวัน เมื่อผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินไดร้ บั หนงั สือตามวรรคหน่งึ แล้ว ให้รีบตรวจสอบหลักฐาน ถ้าเห็นว่าผู้แจง้ หรือผู้มีชือ่ อยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้มีสิทธเิ ลือกตงั้ ให้ผู้อานวยการ การเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกต้ังประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินดาเนินการเพ่ิมช่ือผู้น้ันลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือก ตั้งโดยเร็วและแจ้งให้ ผู้แจ้งและเจ้าบ้านทราบ แต่ถ้าเห็นว่าผู้แจ้งหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกต้ัง ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมท้ังแจ้งให้ผู้แจ้งและเจ้าบ้านทราบภายในสามวันนับแต่วันท่ี ได้รับหนังสือ ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นว่าผู้แจ้งหรือ ผู้มีช่ืออยู่ในทะเบียนบา้ นเปน็ ผมู้ ีสิทธเิ ลือกต้ัง ใหม้ ีคาส่ังเพ่ิมชอ่ื ผนู้ ัน้ ลงในบญั ชีรายช่อื ผมู้ สี ิทธเิ ลอื กตง้ั และ ใหแ้ จ้งไปยังผ้อู านวยการการเลอื กตงั้ ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเร็ว ในการนี้ ใหผ้ ู้อานวยการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติตามคาสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ และแจ้งให้ผแู้ จ้งหรือเจา้ บ้านทราบโดยเร็ว มาตรา ๔๕ ผู้มีสิทธิเลอื กตง้ั ผู้ใดเหน็ วา่ ผูม้ ีชอ่ื อยู่ในบญั ชรี ายชอื่ ผมู้ ีสิทธิเลือกตง้ั ท่ีได้ประกาศ ตามมาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง เป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ให้มีสิทธิยื่นคาร้องต่อผู้อานวยการการเลือกตั้งประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสิบวัน เพื่อให้ถอนช่ือผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น ออกจากบัญชีรายชอ่ื ผู้มีสทิ ธิเลอื กตงั้ เม่ือผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาแล้วเหน็ ว่า ผู้มีช่ืออยู่ ในบัญชีรายชือ่ ผู้มสี ิทธิเลือกตง้ั เป็นผ้ไู ม่มีสทิ ธเิ ลือกตงั้ ให้ผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจาองค์กรปกครอง สว่ นท้องถน่ิ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการการเลอื กต้งั ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ มีคาสงั่ ถอนชอ่ื

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๗๘ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกต้ังและแจ้งให้ผู้ยื่นคาร้องทราบ ถ้าผู้อานวยการการเลือกต้ังประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเห็นว่าผู้มีช่ืออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกต้ังเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ พรอ้ มท้ังแจง้ ใหผ้ ู้ยื่นคารอ้ งทราบ ภายในสามวนั นบั แตว่ นั ไดร้ ับคารอ้ ง ในกรณที ี่คณะกรรมการการเลอื กตงั้ ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น เห็นว่าผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายช่ือผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกต้ัง ให้มีคาสั่งถอนช่ือผู้น้ันออกจาก บัญชีรายชื่อผูม้ สี ิทธิเลอื กตงั้ และใหน้ าความในมาตรา ๔๔ วรรคสอง มาใช้บงั คับด้วยโดยอนุโลม ถา้ เจ้าบา้ นผู้ใดเหน็ ว่าบัญชรี ายชื่อผ้มู สี ิทธเิ ลอื กต้งั ปรากฏช่อื บคุ คลอื่นซ่ึงมไิ ดม้ ชี ่อื อยใู่ นทะเบยี นบา้ น ของตน เมื่อเจ้าบ้านหรือผู้ซ่งึ เจ้าบา้ นมอบหมายนาหลักฐานทะเบยี นบ้านมาแสดงให้เห็นวา่ ไมม่ ีช่ือบุคคลนน้ั อยู่ในทะเบียนบ้าน ให้ผู้อานวยการการเลือกต้งั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือคณะกรรมการประจา หน่วยเลือกตั้ง แลว้ แตก่ รณี มคี าสง่ั ถอนชือ่ บุคคลนัน้ ออกจากบัญชีรายช่ือผูม้ ีสิทธเิ ลือกตงั้ และแจ้งใหเ้ จา้ บา้ น หรือผู้ซง่ึ เจา้ บา้ นมอบหมายทราบโดยเรว็ กรณีตามวรรคสองหรือวรรคสาม ถ้าผู้ท่ีถูกถอนชื่อออกจากบญั ชีรายช่ือผ้มู สี ิทธเิ ลือกต้งั มีหลักฐาน แสดงว่าเป็นผู้มีสิทธิเลือกต้ัง และยื่นคาร้องคัดค้านการถูกถอนช่ือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ให้คณะกรรมการการเลือกตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตรวจสอบ ข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยโดยเร็ว คาวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ให้เปน็ ที่สุดสาหรับการเลือกต้ังครั้งน้นั มาตรา ๔๖ ในกรณีที่ศาลมีคาพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของบุคคลใด และ คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบคาพิพากษาน้ันแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังแจ้งผู้อานวยการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเพ่ือให้บันทึกไว้ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกต้ัง และ เมื่อคดีถึงท่ีสุดแล้วให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ่ ดาเนนิ การบนั ทึกหรือปรบั ปรงุ การบนั ทึกเดิมให้สอดคล้องกบั คาพพิ ากษาทถ่ี งึ ท่ีสดุ นั้น มาตรา ๔๗ ในกรณีที่มีการถอนชื่อบุคคลใดออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง หรือมาตรา ๔๕ วรรคสองหรือวรรคสาม หรือเพ่ิมช่ือบุคคลใดลงใน บญั ชรี ายชอ่ื ผ้มู สี ทิ ธิเลือกตงั้ ตามมาตรา ๔๔ วรรคสอง หรอื ในกรณที ี่ศาลมีคาพิพากษาถึงท่ีสุดใหเ้ พิกถอน สทิ ธเิ ลือกตั้งของบคุ คลใดตามมาตรา ๔๖ ใหผ้ อู้ านวยการการเลือกตัง้ ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๗๙ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา แจ้งต่อผู้อานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเพื่อแก้ไขบัญชีรายชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกต้ังตามมาตรา ๑๓ ให้ถูกต้องด้วย มาตรา ๔๘ ห้ามมิให้ผู้ใดดาเนินการย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านเพ่ือประโยชน์ใน การเลอื กตง้ั โดยมชิ อบ กรณีดังต่อไปนี้ให้สันนิษฐานว่าเป็นการย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ใน การเลือกต้ังโดยมิชอบดว้ ย เว้นแต่คณะกรรมการการเลือกตง้ั พิจารณาแลว้ เหน็ วา่ เปน็ การย้ายโดยมีเหตผุ ล อนั สมควร (๑) การย้ายบุคคลต้ังแต่ห้าคนข้ึนไปซึ่งไม่มีช่ือสกุลเดียวกับเจ้าบ้านเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพือ่ ใหบ้ คุ คลดังกลา่ วมสี ิทธิเลอื กต้งั ท่ีจะมีขึน้ ภายในสองปนี ับแต่วนั ท่ยี ้ายเขา้ มาในทะเบียนบ้าน (๒) การยา้ ยบุคคลเขา้ มาในทะเบียนบ้านโดยบุคคลนั้นมไิ ด้อยู่อาศัยจริง (๓) การยา้ ยบุคคลเขา้ มาในทะเบยี นบา้ นโดยมไิ ดร้ บั ความยนิ ยอมจากเจา้ บ้าน ความในวรรคสอง (๑) มิใหใ้ ชบ้ ังคบั แก่หนว่ ยงานของรัฐ สถานศึกษา หรือสถานประกอบการ หรอื สถานที่อื่นใดท่คี ณะกรรมการการเลอื กตงั้ ประกาศกาหนด ท่ีย้ายเจ้าหนา้ ท่ี นกั ศกึ ษา หรือพนักงาน ของตน หรือบุคคลท่ีคณะกรรมการการเลือกต้ังประกาศกาหนด เข้ามาในทะเบียนบ้านของตน ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขที่คณะกรรมการการเลือกต้ังกาหนด หมวด ๕ ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ มาตรา ๔๙ บคุ คลผู้มคี ุณสมบัติดังตอ่ ไปนเ้ี ป็นผ้มู ีสทิ ธิสมัครรับเลือกต้งั (๑) มีสัญชาตไิ ทยโดยการเกดิ (๒) ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาท้องถ่ินต้องมีอายุไม่ต่ากว่าย่ีสิบห้าปีนับถึง วันเลอื กต้ัง สาหรบั ผู้มสี ทิ ธสิ มัครรับเลอื กต้ังเปน็ ผบู้ ริหารท้องถิน่ ใหม้ อี ายุตามทีก่ ฎหมายวา่ ดว้ ยการจัดตั้ง องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ กาหนด (๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีสมัครรับเลือกตั้งในวันสมัคร รบั เลอื กต้งั เปน็ เวลาตดิ ตอ่ กันไม่น้อยกว่าหน่งึ ปีนบั ถงึ วันสมัครรบั เลือกตง้ั

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๘๐ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๔) คุณสมบัตอิ ื่นตามทกี่ ฎหมายว่าด้วยการจดั ตั้งองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ กาหนด มาตรา ๕๐ บคุ คลผมู้ ีลักษณะดังตอ่ ไปน้ีเป็นบคุ คลตอ้ งหา้ มมิใหใ้ ชส้ ิทธิสมคั รรบั เลือกต้ัง (๑) ตดิ ยาเสพติดใหโ้ ทษ (๒) เป็นบุคคลล้มละลายหรอื เคยเป็นบคุ คลล้มละลายทุจริต (๓) เป็นเจา้ ของหรือผ้ถู ือหุน้ ในกิจการหนงั สือพมิ พ์หรือสือ่ มวลชนใด ๆ (๔) เปน็ บคุ คลผูม้ ีลักษณะตอ้ งหา้ มมใิ หใ้ ชส้ ทิ ธเิ ลือกตัง้ ตามมาตรา ๓๙ (๑) (๒) หรอื (๔) (๕) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิ สมัครรบั เลอื กต้งั (๖) ตอ้ งคาพพิ ากษาใหจ้ าคุกและถกู คุมขังอยโู่ ดยหมายของศาล (๗) เคยได้รับโทษจาคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิด อันไดก้ ระทาโดยประมาทหรอื ความผิดลหุโทษ (๘) เคยถูกสงั่ ให้พน้ จากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรฐั วิสาหกิจเพราะทุจริตตอ่ หนา้ ทห่ี รอื ถอื วา่ กระทาการทจุ ริตหรือประพฤตมิ ชิ อบในวงราชการ (๙) เคยต้องคาพิพากษาหรอื คาสงั่ ของศาลอนั ถึงที่สดุ ใหท้ รัพย์สนิ ตกเป็นของแผน่ ดนิ เพราะรา่ รวย ผิดปกติ หรือเคยต้องคาพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจาคุกเพราะกระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วย การปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริต (๑๐) เคยต้องคาพิพากษาอันถึงท่ีสุดว่ากระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตาแหน่ง หน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือ หน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเก่ียวกับทรพั ย์ท่ีกระทาโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐาน เป็นผู้ผลิต นาเข้า ส่งออก หรือผคู้ ้า กฎหมายวา่ ด้วยการพนันในความผดิ ฐานเป็นเจ้ามอื หรอื เจา้ สานกั กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงนิ (๑๑) เคยต้องคาพพิ ากษาอนั ถงึ ท่ีสุดวา่ กระทาการอนั เป็นการทุจรติ ในการเลอื กตง้ั (๑๒) เปน็ ขา้ ราชการซง่ึ มีตาแหนง่ หรือเงินเดอื นประจา

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๘๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา (๑๓) เปน็ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร สมาชกิ วุฒิสภา สมาชิกสภาทอ้ งถนิ่ หรอื ผ้บู รหิ ารท้องถนิ่ (๑๔) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการ ส่วนทอ้ งถนิ่ หรอื เป็นเจ้าหน้าท่ีอ่ืนของรฐั (๑๕) เปน็ ตลุ าการศาลรฐั ธรรมนญู หรือผดู้ ารงตาแหน่งในองคก์ รอสิ ระ (๑๖) อยใู่ นระหวา่ งต้องหา้ มมใิ หด้ ารงตาแหนง่ ทางการเมอื ง (๑๗) เคยพ้นจากตาแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดารงตาแหน่ง ทางการเมืองมีคาพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ารวยผิดปกติ หรือกระทาความผิดฐานทุจริตต่อหนา้ ที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัตติ ามมาตรฐานทางจรยิ ธรรมอยา่ งร้ายแรง (๑๘) ต้องคาพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พน้ โทษหรือตอ้ งคาพิพากษามายังไมถ่ งึ หา้ ปีนบั ถึงวันเลือกตัง้ แลว้ แต่กรณี (๑๙) เคยถูกถอดถอนออกจากตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิก สภาทอ้ งถ่นิ หรือผบู้ รหิ ารทอ้ งถิ่น ตามบทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย หรอื กฎหมาย ว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ิน แล้วแต่กรณี มายัง ไมถ่ ึงห้าปนี ับถงึ วนั เลอื กตั้ง (๒๐) อยู่ในระหว่างถูกจากัดสิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา ๔๒ หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (๒๑) เคยถกู เพกิ ถอนสทิ ธเิ ลือกตั้งและยังไม่พ้นห้าปีนบั แตว่ ันทพ่ี ้นจากการถกู เพกิ ถอนสิทธิเลือกต้ัง จนถงึ วนั เลือกต้งั (๒๒) เป็นผู้สมคั รรับเลือกต้ังเปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรหรอื รับเลือกเป็นสมาชิกวฒุ สิ ภา หรือ เป็นผู้สมัครรับเลอื กตัง้ เป็นสมาชกิ สภาท้องถน่ิ หรือผู้บริหารท้องถ่นิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นเดยี วกนั หรอื องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ อนื่ (๒๓) เคยพ้นจากตาแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมีส่วนได้เสียไม่ว่า โดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทาหรือจะกระทากับหรือให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทากับหรือ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๘๒ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา จะกระทากับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ อ่ืน โดยมพี ฤติการณ์แสดงให้เหน็ ว่าเปน็ การต่างตอบแทน หรือเอ้อื ประโยชนส์ ่วนตนระหว่างกนั และยงั ไมพ่ ้นห้าปีนบั แต่วนั ที่พน้ จากตาแหนง่ จนถงึ วันเลือกต้ัง (๒๔) เคยถูกส่ังให้พ้นจากตาแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเพราะจงใจไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ อย่างร้ายแรง และยังไมพ่ น้ หา้ ปีนบั แตว่ ันที่พน้ จากตาแหน่งจนถงึ วนั เลือกต้งั (๒๕) เคยถูกสั่งให้พ้นจากตาแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเพราะทอดทิ้งหรือ ละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าท่ีและอานาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่และอานาจ หรือประพฤติตน ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนามา ซึ่งความเส่ือมเสียแก่ศักดิ์ตาแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น ห้าปีนบั แต่วนั ทพี่ ้นจากตาแหนง่ จนถงึ วันเลือกต้ัง (๒๖) ลกั ษณะอ่ืนตามท่ีกฎหมายว่าดว้ ยการจัดตั้งองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นกาหนด มาตรา ๕๑ ในการสมคั รรบั เลือกต้ัง ใหผ้ สู้ มัครยน่ื ใบสมัครตอ่ ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พร้อมท้ังหลักฐานการสมัครและค่าธรรมเนียมการสมัครตามท่ีคณะกรรมการ การเลอื กต้ังกาหนด หลักฐานการสมัครตามวรรคหน่ึง ผู้สมัครต้องย่ืนหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกต้ังของผู้สมัคร เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ใหท้ าหนังสอื ยนื ยันการไมไ่ ดเ้ สียภาษพี ร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไมไ่ ดเ้ สยี ภาษี ค่าธรรมเนียมการสมัครตามวรรคหน่ึงในองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใด ให้ตกเป็นรายได้ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินน้ัน และไม่ว่าในกรณีใดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนั้น ไม่มีหน้าท่ีต้องคืน คา่ ธรรมเนยี มดงั กลา่ วให้แกผ่ ใู้ ด มาตรา ๕๒ เมอื่ ผู้อานวยการการเลอื กตัง้ ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินได้รบั ใบสมัครแลว้ ให้ตรวจสอบใบสมัคร เอกสาร หลักฐาน และค่าธรรมเนียมว่าครบถ้วนหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่ครบถ้วน ให้คืนเอกสาร หลกั ฐาน และคา่ ธรรมเนียมท้ังหมดให้ผูส้ มคั รนัน้ ในทันที

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๘๓ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา ในกรณีทผ่ี ้อู านวยการการเลือกต้งั ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏวา่ ผูส้ มคั รได้สง่ ใบสมัคร เอกสาร หลักฐาน และคา่ ธรรมเนียมครบถ้วนแลว้ ให้ออกหลกั ฐานการรับสมัคร รบั เลอื กต้ังใหแ้ กผ่ สู้ มัครนน้ั เรยี งตามลาดับการยื่นสมัคร และใหท้ าสาเนาคฉู่ บับไวเ้ ป็นหลกั ฐาน ให้ผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ตรวจสอบความถูกต้องของการสมัคร ของผู้สมัครตามวรรคสอง และตรวจสอบว่าผู้น้ันมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องและ ผู้นั้นมีสิทธสิ มคั รรบั เลือกต้ัง ให้ประกาศรายชื่อผู้สมคั รภายในเจ็ดวนั นับแต่วนั ปดิ รับสมคั รไว้โดยเปดิ เผย ณ ท่ีเลอื กตงั้ หรือบรเิ วณใกลเ้ คียงกบั ที่เลอื กตงั้ หรือสถานที่อน่ื ท่ีเห็นสมควร ประกาศรายชื่อผู้สมัครตามวรรคสาม ให้มีชื่อตัว ชื่อสกุล รูปถ่าย และหมายเลขประจาตัว ของผู้สมัครท่ีจะใช้ในการลงคะแนนเลือกตั้ง ตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด ท้ังนี้ ให้ปิดประกาศคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ไว้ ณ ที่ปิดประกาศ ดังกลา่ วด้วย การประกาศรายช่ือผู้สมัครตามวรรคสาม ไม่เป็นการตัดอานาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทีจ่ ะดาเนนิ การตามมาตรา ๕๖ มาตรา ๕๓ เมือ่ ผอู้ านวยการการเลือกต้งั ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ไดอ้ อกหลักฐาน การรับสมัครรับเลอื กตงั้ ใหแ้ ก่ผู้สมัครตามมาตรา ๕๒ วรรคสองแลว้ ผสู้ มัครจะถอนการสมัครมิได้ มาตรา ๕๔ ห้ามมิให้ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด อนั อาจคานวณเปน็ เงนิ ไดส้ าหรับตนเองหรือผู้อนื่ เพอ่ื ใหต้ นสมคั รรับเลือกต้ัง ห้ามมใิ หผ้ ู้ใดให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรพั ย์สิน หรือผลประโยชนอ์ ื่นใด อนั อาจคานวณเปน็ เงินไดแ้ กผ่ ูใ้ ดเพ่ือให้ผนู้ ้ันหรือผู้อืน่ สมคั รรบั เลอื กตั้ง มาตรา ๕๕ ผูส้ มัครผู้ใดไมม่ ชี อ่ื ในประกาศตามมาตรา ๕๒ ใหม้ ีสิทธิย่นื คารอ้ งตอ่ คณะกรรมการ การเลือกตั้งภายในสามวันนับแต่วันที่ประกาศรายช่ือผู้สมัคร ในการนี้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีคาวินิจฉัยโดยเรว็ และให้ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น องคก์ รปกครอง ส่วนทอ้ งถิน่ และหน่วยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งดาเนินการตามคาวินิจฉัยนนั้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๘๔ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา เพื่อประโยชน์และความสะดวกรวดเร็วในการรับคาร้องและวินิจฉัยกรณีตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้งอาจมอบอานาจให้คณะบุคคลพิจารณาและวินิจฉั ยเบื้องต้นเพื่อเสนอต่อ คณะกรรมการการเลอื กต้งั ตามระเบยี บที่คณะกรรมการการเลือกต้ังกาหนดก็ได้ มาตรา ๕๖ เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้อานวยการการเลือกต้ัง ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือได้รับแจ้งจากบุคคลใดว่า ผู้สมัครผู้ใดไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยโดยเร็ว ถ้าความปรากฏหรือได้รับแจ้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ย่สี ิบวัน ให้คณะกรรมการการเลอื กตง้ั วนิ จิ ฉยั ใหแ้ ลว้ เสร็จกอ่ นวนั เลือกตั้งไมน่ อ้ ยกวา่ สิบวนั และถ้ามีหลกั ฐาน ตามสมควรวา่ ผู้สมคั รผนู้ ้ันไม่มีสิทธสิ มคั รรบั เลอื กตง้ั ใหส้ งั่ ถอนชอ่ื ผูน้ ้ันออกจากบญั ชีรายชอ่ื ผู้สมคั ร ใหน้ าความในมาตรา ๕๕ วรรคสองมาใชบ้ ังคับกบั การดาเนนิ การตามวรรคหนึ่งดว้ ยโดยอนุโลม การอุทธรณ์คาวินิจฉยั ของคณะกรรมการการเลือกตง้ั ตามวรรคหนง่ึ ให้อุทธรณ์ตอ่ ศาลอุทธรณ์ หรอื ศาลอุทธรณ์ภาคที่มเี ขตอานาจ คาวนิ ิจฉัยของศาลอุทธรณห์ รอื ศาลอุทธรณ์ภาคใหเ้ ปน็ ท่ีสุด การอุทธรณ์ ดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้ระงับหรือชะลอการเลือกตั้ง และให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคพิจารณาวินิจฉัย ให้แล้วเสร็จกอ่ นวันเลอื กตัง้ มาตรา ๕๗ ให้กาหนดหมายเลขประจาตัวผู้สมคั รเรยี งตามลาดับก่อนหลงั ในการมายื่นใบสมัคร ถา้ มผี ้สู มคั รมาพรอ้ มกนั หลายคนและไม่อาจตกลงกันไดใ้ ห้ใชว้ ิธจี บั สลากระหว่างผู้สมัครที่มาพรอ้ มกัน เม่ือได้กาหนดหมายเลขประจาตวั ผู้สมคั รตามวรรคหนึ่งแลว้ จะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจาตวั ผู้สมัครไมไ่ ด้ไม่วา่ ด้วยประการใด ๆ การกาหนดหมายเลขประจาตัวผู้สมัครและการจับสลากให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ทคี่ ณะกรรมการการเลอื กต้ังกาหนด มาตรา ๕๘ ผู้สมัครผู้ใดประสงค์จะส่งตัวแทนไปประจาอยู่ ณ ท่ีเลือกต้ัง ให้ยื่นหนังสือ แต่งตั้งตัวแทนของตนต่อผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันเลือกต้ัง ไม่นอ้ ยกว่าเจด็ วัน โดยให้แต่งต้ังไดแ้ ห่งละหน่งึ คน มาตรา ๕๙ ตัวแทนผู้สมัครต้องอยู่ในที่ซึ่งจัดไว้ ณ ที่เลือกตั้งซ่ึงสามารถมองเห็น การปฏิบัติงานได้ และห้ามมใิ หป้ ฏิบตั ิหน้าที่เป็นกรรมการประจาหน่วยเลอื กต้ังหรือจับตอ้ งบัตรเลือกตง้ั

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๘๕ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา หรือกล่าวโต้ตอบกับกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งหรือระหว่างกันเองโดยประการที่จะเป็นอุปสรรคแก่ การเลือกตง้ั ตัวแทนผ้สู มคั รอาจร้องทักท้วงไดเ้ มอ่ื เห็นว่ากรรมการประจาหน่วยเลือกตงั้ ปฏิบัตกิ ารไม่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ในกรณเี ชน่ นใ้ี หก้ รรมการประจาหน่วยเลือกต้งั จดบันทึกคาทกั ท้วงนนั้ ไว้ ถ้าตัวแทนผู้สมัครกระทาการอันจะเปน็ อุปสรรคแก่การเลือกต้ัง และกรรมการประจาหน่วยเลอื กต้งั ได้ตักเตือนแล้วแต่ยังขัดขืน คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังมีอานาจส่ังให้ตัวแทนผู้สมัครออกไป จากทเี่ ลือกต้ัง หมวด ๖ ค่าใช้จ่ายในการเลือกต้ังและวธิ ีการหาเสยี งเลอื กตง้ั ของผู้สมคั รรบั เลอื กตง้ั มาตรา ๖๐ ให้ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัดประกาศกาหนดจานวนเงินค่าใช้จ่าย ในการเลอื กตง้ั ของผสู้ มคั ร ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และระยะเวลาที่คณะกรรมการการเลอื กตง้ั กาหนด ค่าใช้จ่ายท่ีกาหนดตามวรรคหน่ึงให้มีผลใช้ไดต้ ลอดไปจนกว่าจะมีการกาหนดใหม่ และในกรณี ท่คี ณะกรรมการการเลือกต้ังเห็นว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่เหมาะสม คณะกรรมการการเลือกตง้ั มีอานาจสั่งให้ ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัดประกาศกาหนดใหม่ให้เหมาะสมต่อไป ค่าใช้จ่ายท่ีกาหนดใหม่ มิให้ใช้บังคับกับการเลือกตั้งท่ีอยู่ในระหว่างดาเนินการหรือท่ีจะมีข้ึนภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่ วนั ประกาศกาหนดค่าใช้จ่ายใหม่ ห้ามมิให้ผู้สมัครใช้จ่ายในการเลือกต้ังเกินจานวนเงินค่าใช้จ่ายท่ีกาหนดตามวรรคหน่ึงหรือ วรรคสอง แล้วแต่กรณี จานวนเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้รวมถึงบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้จ่ายหรือรับว่า จะจา่ ยแทน และทรัพย์สนิ ท่บี คุ คลอน่ื ไดน้ ามาใหใ้ ช้หรอื ยกให้โดยไมค่ ดิ คา่ ตอบแทน ทง้ั น้ี เพ่อื ประโยชน์ ในการหาเสียงเลือกตงั้ ของผู้สมัครโดยผู้สมัครรบั รู้หรอื ยินยอม ในกรณที ่นี าทรัพย์สนิ มาให้ใช้ ใหค้ านวณ ตามอตั ราค่าเชา่ หรือคา่ ตอบแทนตามปกติในท้องท่นี ั้น บรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้ใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกต้ังให้ผู้สมัครและผู้สมัครได้รับ ทราบถึงการกระทาดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าเป็นจานวนเงินค่าใช้จ่ายท่ีผู้สมัครรับรู้หรือยินยอมตามวรรคสาม เว้นแต่ผู้สมัครจะได้แจ้งต่อผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัดว่าไม่ยินยอมให้มีการกระทาเช่นวา่ นัน้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๘๖ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา ภายในสามวนั นบั แตว่ นั ท่ีได้รบั ทราบถึงการกระทาดงั กลา่ ว ในการน้ี ให้ผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจา จังหวัดดาเนนิ การตามทเ่ี ห็นสมควรเพอ่ื มิให้มีการโฆษณาหาเสียงเลอื กตง้ั โดยบุคคลดังกลา่ วอีกต่อไป มาตรา ๖๑ ในการคานวณค่าใช้จ่ายของผู้สมัครสาหรับการเลือกต้ังแต่ละครั้ง ให้คานวณ ตามคา่ ใช้จ่ายทีใ่ ช้จ่ายจริงในการเลือกต้ังในระหวา่ งระยะเวลา ดงั ต่อไปน้ี (๑) ในกรณีที่เป็นการเลือกตั้งอันเน่ืองมาจากการครบวาระ ให้คานวณค่าใช้จ่ายท่ีใช้จ่ายไป ตั้งแต่หน่งึ รอ้ ยแปดสบิ วนั ก่อนวนั ทค่ี รบวาระจนถึงวนั เลือกตั้ง (๒) ในกรณีท่ีเป็นการเลือกตั้งแทนตาแหน่งที่ว่าง ให้คานวณค่าใช้จ่ายท่ีใช้จ่ายไปต้ังแต่วันที่ ตาแหนง่ วา่ งลงจนถึงวนั เลอื กต้ัง ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรเพื่อประโยชน์ในการดาเนินการหรือการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไป โดยสุจรติ และเทย่ี งธรรม คณะกรรมการการเลือกตัง้ จะขยายระยะเวลาตามวรรคหนงึ่ ออกไปกไ็ ด้ ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังประกาศประเภทของค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไว้เป็นตัวอย่าง ให้ผูส้ มคั ร และประชาชนทราบเป็นการท่วั ไป ประกาศดังกล่าวใหม้ ีการปรับปรงุ ให้เป็นปจั จบุ ัน มาตรา ๖๒ ภายในเก้าสิบวันนับจากวันเลือกต้ังผู้สมัครต้องย่ืนบัญชีรายรับและรายจ่ายใน การเลือกตั้ง พร้อมท้ังหลักฐานท่ีเก่ียวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความจริงต่อผู้อานวยการการเลือกต้ัง ประจาจงั หวัด ให้ผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจาจังหวดั ปิดประกาศบญั ชีรายรับและรายจา่ ยตามวรรคหน่งึ ไว้ ณ สานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจาจังหวัด ท่ีทาการองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินน้ัน และ สถานทีอ่ ่ืนท่ีเห็นสมควร รายละเอียดและวิธีการจัดทาบัญชีรายรับและรายจ่ายตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการทคี่ ณะกรรมการการเลอื กตัง้ กาหนด โดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๖๓ ผู้สมัครผู้ใดยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งโดยไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือเม่ือผู้อานวยการการเลือกตง้ั ประจาจังหวัดมเี หตอุ ันควรสงสัยหรอื ได้รับแจ้งโดยมหี ลักฐานอันสมควรวา่ ผู้สมัครผู้ใดใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจานวนเงินค่าใช้จ่ายท่ีผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัด ประกาศกาหนด ให้ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัดทาการสอบหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ ภายในหน่ึงร้อยยี่สิบวันนับแต่วันท่ีครบกาหนดยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง หรือภายใน

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๘๗ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา หนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันท่ีมีเหตุอันควรสงสัยหรือได้รับแจ้ง แล้วแต่กรณี ถ้าผู้อานวยการการเลือกต้ัง ประจาจังหวัดเหน็ วา่ ผู้สมคั รผู้นั้นมกี ารกระทาดงั กลา่ ว ให้แจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดาเนนิ คดตี ามกฎหมาย ตอ่ ไปโดยเรว็ ให้ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวัดรายงานการดาเนินการตามวรรคหนึ่งต่อคณะกรรมการ การเลือกตงั้ ภายในเจ็ดวนั นบั แต่วันที่รผู้ ลการสอบหาข้อเทจ็ จริง ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ถ้าเป็นกรณีท่ีผู้สมัครผู้นั้นเป็นผู้ได้รับเลือกต้ัง ถ้าคณะกรรมการ การเลอื กตั้งเหน็ วา่ ผูน้ ้ันกระทาการตามที่ถูกกล่าวหา ให้คณะกรรมการการเลือกตัง้ ยื่นคาร้องตอ่ ศาลอุทธรณ์ หรอื ศาลอุทธรณ์ภาคเพอื่ ให้มีคาส่งั เพกิ ถอนสิทธิเลอื กตง้ั ของผนู้ ้ันและสงั่ ให้มีการเลอื กต้ังใหมแ่ ทนสาหรับ ตาแหน่งที่ว่าง แต่ทั้งน้ี ไม่กระทบกับกิจการท่ีผู้นั้นได้กระทาไปในหน้าท่ีก่อนวันที่ศาลอุทธรณ์หรือ ศาลอุทธรณ์ภาคมีคาส่ัง ในการน้ีให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคพิจารณาและมีคาสั่งภายใน หนง่ึ รอ้ ยแปดสิบวันนบั แตว่ นั ท่ีได้รบั คารอ้ ง คาสงั่ ของศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณภ์ าคให้เปน็ ที่สดุ กรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอาเภอมีเหตุอันควรสงสัยและมีหลักฐานท่ีน่าเช่ือได้ว่า ผู้สมัครผู้ใดใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจานวนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวัด ประกาศกาหนด ให้แจ้งผู้อานวยการการเลือกต้งั ประจาจังหวัดเพ่ือดาเนนิ การตามวรรคหน่งึ ต่อไป มาตรา ๖๔ เพ่ือประโยชน์แห่งความเที่ยงธรรมและความเป็นระเบียบเรยี บร้อย ให้ผู้สมัคร หาเสียงเลือกต้งั ไดภ้ ายในกาหนดเวลา ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ในกรณีท่ีเป็นการเลือกต้ังอันเนื่องมาจากครบวาระหรือครบอายุ ให้กระทาได้ต้ังแต่ หนงึ่ ร้อยแปดสบิ วนั ก่อนวันครบวาระหรือครบอายุจนถึงเวลา ๑๘.๐๐ นาฬกิ าของวันก่อนวันเลอื กตัง้ (๒) ในกรณีที่เป็นการเลือกตง้ั อันเนื่องมาจากมีการยุบสภาหรือถือว่ามีการยบุ สภา ให้กระทาได้ ตั้งแต่วนั ยุบสภาหรือวันทถี่ ือว่ามีการยบุ สภาจนถึงเวลา ๑๘.๐๐ นาฬกิ าของวนั ก่อนวนั เลือกตง้ั (๓) ในกรณีท่ีเป็นการเลือกตั้งอันเน่ืองมาจากตาแหน่งว่างอันมิใช่เพราะเหตุครบวาระหรือ ครบอายุ ให้กระทาได้ตั้งแตว่ นั ท่ตี าแหนง่ วา่ งลงจนถึงเวลา ๑๘.๐๐ นาฬกิ าของวนั ก่อนวนั เลอื กต้งั (๔) ในกรณีมีการสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ให้กระทาได้ตั้งแตว่ ันที่มีคาสั่งให้มีการเลือกตัง้ ใหม่ จนถงึ เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกาของวันก่อนวนั เลอื กต้งั

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๘๘ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๕) ในกรณีมีการสั่งให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ ผู้ใดจะหาเสียงเลือกต้ังมิได้ เว้นแต่ คณะกรรมการการเลือกตง้ั จะมีมติเป็นอยา่ งอ่นื โดยคานงึ ถงึ ความสุจรติ และเที่ยงธรรม มาตรา ๖๕ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทาการอย่างหน่ึงอย่างใดเพ่ือจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ัง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไป ลงคะแนนไมเ่ ลือกผู้ใดเป็นสมาชกิ สภาท้องถ่ินหรอื ผบู้ รหิ ารท้องถิน่ ดว้ ยวธิ ีการ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) จัดทา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพ่ือจะให้ ทรัพย์สิน หรือ ผลประโยชน์อ่นื ใดอนั อาจคานวณเป็นเงนิ ไดแ้ ก่ผ้ใู ด (๒) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อ่ืนใดไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอ่ืน สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือ สถาบนั อื่นใด (๓) ทาการโฆษณาหาเสียงดว้ ยการจดั ให้มีมหรสพหรอื การรื่นเรงิ ต่าง ๆ (๔) เล้ยี งหรอื รับจะจดั เลีย้ งผใู้ ด (๕) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคกุ คาม ใส่ร้ายดว้ ยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผดิ ในคะแนนนยิ มของผ้สู มัครใด ห้ามมิให้สมาชิกสภาท้องถ่ินและผู้บริหารท้องถิ่นผู้ใดกระทาการตามวรรคหน่ึง เว้นแต่ เป็นการกระทาตามหน้าท่ีและอานาจท่ีมีกฎหมายบัญญัติไว้ ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถ่ิน หรือปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน อนุมัติโครงการหรือกิจกรรมใหม่ที่มีลักษณะ ตามวรรคหนึง่ ภายในเก้าสิบวนั กอ่ นวันครบวาระการดารงตาแหน่งหรือก่อนการลาออกจากตาแหนง่ ของ ผู้บริหารท้องถ่ิน แล้วแต่กรณี ให้ถือว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือปลัดองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินน้ันกระทาการอนั เปน็ การฝ่าฝนื ข้อห้ามตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่โครงการหรือกิจกรรม ดังกล่าวมลี ักษณะเป็นการบรรเทาทุกข์จากภัยธรรมชาติ หรือภัยพิบัตสิ าธารณะ หรือเป็นโครงการหรือ กจิ กรรมต่อเนื่องท่ีกระทาเป็นปกตอิ ยู่แลว้ หรอื เป็นโครงการทีด่ าเนินการตามมติคณะรฐั มนตรี การประกาศนโยบายหรือการดาเนนิ การตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาตามหน้าที่และอานาจ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินด้วยวิธีการใช้จ่ายจากเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๘๙ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มิให้ถือว่าเป็นกรณีตาม (๑) หรือ (๒) เว้นแต่เป็นการโฆษณาหาเสียงเกี่ยวกับนโยบายท่ีไม่สอดคล้องกับ หน้าท่ีและอานาจขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ในกรณีท่ีคณะกรรมการการเลือกตั้งมีเหตุอันควรสงสัยว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใด ดาเนนิ การใดอันมีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ใหค้ ณะกรรมการการเลอื กตง้ั พิจารณาและ วินิจฉัย เมื่อคณะกรรมการการเลือกต้ังวินิจฉัยว่าการดาเนินการนั้นมีลักษณะเป็นการต้องห้ามดังกล่าว ให้คณะกรรมการการเลอื กตงั้ ส่ังใหอ้ งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ น้ันดาเนินการตามควรแกก่ รณีตอ่ ไป ความผิดตาม (๑) หรอื (๒) ใหถ้ อื ว่าเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการปอ้ งกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอานาจส่งเร่ืองให้สานักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงินดาเนินการตามหน้าท่แี ละอานาจได้ มาตรา ๖๖ เพื่อให้การหาเสียงเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม คณะกรรมการการเลือกตง้ั จะกาหนดลกั ษณะต้องหา้ มในการหาเสยี งเลือกตงั้ ของผู้สมัครก็ได้ เม่ือคณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนดลักษณะต้องห้ามตามวรรคหน่ึงแล้ว ห้ามผู้สมัครดาเนินการ หรอื ยินยอมใหม้ กี ารดาเนินการหาเสยี งเลือกต้งั ท่ีมลี ักษณะดังกลา่ ว ผู้สมัครผู้ใดมีผู้ช่วยหาเสียงจานวนเท่าใด ให้แจ้งสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจา จังหวัดทราบรายละเอียดเก่ียวกับผู้ช่วยหาเสียง หน้าที่ และค่าตอบแทนผู้ช่วยหาเสียง ทั้งนี้ ตามวิธีการ ทค่ี ณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด คา่ ตอบแทนตามวรรคสามตอ้ งนาไปรวมเป็นค่าใชจ้ ่ายในการเลอื กตัง้ ดว้ ย มาตรา ๖๗ ห้ามมิให้ผู้สมัครจัดยานพาหนะนาผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังท่ีเลือกต้ังเพื่อการเลือกต้ัง หรือนากลับจากที่เลือกต้ัง หรือจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับเพ่ือการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้อง เสยี คา่ โดยสารหรือค่าจ้างซึ่งต้องเสียตามปกติ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทาการตามวรรคหนึ่ง เพ่ือจูงใจหรือควบคุมให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังไปลงคะแนน เลือกหรอื ลงคะแนนไม่เลือกผู้สมคั รผูใ้ ด บทบัญญัติในมาตรานี้มิให้ใช้บังคับแก่การที่หน่วยงานของรัฐจัดยานพาหนะเพื่ออานวย ความสะดวกแกผ่ ้มู สี ทิ ธิเลอื กตง้ั ท้ังนี้ ตามทค่ี ณะกรรมการการเลอื กตง้ั กาหนด

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๙๐ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๖๘ ห้ามมิให้ผู้ใดซ่ึงมิได้มีสัญชาติไทยเข้ามีส่วนช่วยเหลือในการเลือกต้ัง หรือ กระทาการใด ๆ เพื่อประโยชน์แก่การเลือกตั้งโดยประการที่อาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ท้ังน้ี เวน้ แตก่ ารกระทานน้ั เป็นการช่วยราชการตามท่ีทางราชการร้องขอ หรอื เปน็ การประกอบอาชพี ตามปกติ โดยสุจริตของผูน้ ้ัน มาตรา ๖๙ ห้ามมิให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐใช้ตาแหน่งหน้าที่กระทาการใด ๆ อันเป็นคุณหรือ เป็นโทษแกผ่ ูส้ มัคร เวน้ แต่เป็นการกระทาตามหนา้ ทแี่ ละอานาจ ในกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหน่ึง ให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งมีอานาจสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐยุติ ระงับ หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขการกระทาดังกล่าว ในกรณีจาเป็นให้คณะกรรมการการเลือกต้ังแจ้งให้ผู้บงั คบั บัญชาสัง่ ใหเ้ จ้าหน้าทข่ี องรฐั ผูน้ นั้ พ้นจากหน้าที่ เป็นการชว่ั คราว หรอื สงั่ ให้ประจากระทรวง ทบวง กรม ศาลากลางจังหวดั หรือที่วา่ การอาเภอ หรอื ห้ามเข้าเขตเลอื กตั้งจนกว่าจะมกี ารประกาศผลการนับคะแนนได้ มาตรา ๗๐ ห้ามมิให้ผู้ใดทาการโฆษณาหาเสียงเลือกต้ังโดยวิธีการใด ๆ อันเป็นคุณหรือ เป็นโทษแก่ผสู้ มคั ร นับตง้ั แต่เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกาของวันกอ่ นวันเลือกต้ังหนึ่งวนั จนสนิ้ สุดวันเลอื กต้งั มาตรา ๗๑ การปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกต้ังจะกระทาได้ เฉพาะในสถานท่ี รวมทั้งมีขนาดและจานวนไม่เกินที่คณะกรรมการการเลือกต้ังหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการ การเลอื กตัง้ มอบหมายกาหนด มาตรา ๗๒ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าท่ีส่งเสริม สนับสนุนและเผยแพร่ให้ประชาชน ผู้มสี ิทธิเลอื กต้ังทราบขอ้ มลู เกย่ี วกับการเลือกตง้ั และมาใชส้ ิทธเิ ลือกตง้ั อยา่ งกว้างขวาง มาตรา ๗๓ ในกรณีท่ีมกี ารหาเสยี งเลือกตงั้ โดยวธิ ีการทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และความปรากฏ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ว่าโดยทางใดว่า การหาเสียงเลือกตั้งนั้นฝ่าฝืนหรือไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือคาส่ัง ระเบียบ หรือข้อบังคับของคณะกรรมการการเลือกต้ัง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าท่ีแจ้งข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปโดยพลัน และ มีอานาจสงั่ ให้ผ้ทู ่ีเกย่ี วขอ้ งดาเนนิ การแก้ไข เปลีย่ นแปลง หรอื ลบขอ้ มลู โดยทนั ที มาตรา ๗๔ เม่ือได้มีประกาศกาหนดที่เลือกตั้งตามมาตรา ๒๓ แล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดนา สิ่งพิมพ์ แผ่นประกาศ หรือส่ิงอื่นใด มาปิดหรือแสดงไว้ภายในที่เลือกต้ัง เว้นแต่เป็นการดาเนินการ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๙๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ตามคาสั่งของผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ในการอานวย ความสะดวกแกผ่ ู้ใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตัง้ ตามระเบียบทค่ี ณะกรรมการการเลอื กต้ังกาหนด ในกรณีท่ีมีสิ่งพิมพ์ แผ่นประกาศ หรือสิ่งอื่นใด ปิดหรือแสดงไว้ภายในที่เลือกต้ังอยู่ก่อนหรือ ในวันเลือกตั้งอันเป็นการฝ่าฝืนวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังทาลาย ปกปิด หรือ นาออกไปไวน้ อกทีเ่ ลือกตง้ั หมวด ๗ การออกเสยี งลงคะแนน มาตรา ๗๕ ในกรณีทค่ี ณะกรรมการการเลือกตงั้ กาหนดให้มีการออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีอื่น ที่มิใช่การใช้บัตรเลือกตั้งสาหรบั การเลือกต้งั ค่าใช้จ่ายในการจัดหาหรอื จัดให้มีอุปกรณ์หรอื เคร่ืองมือใน การออกเสียงลงคะแนนดังกลา่ วให้อยู่ในความรบั ผิดชอบของคณะกรรมการการเลอื กต้ัง โดยคณะกรรมการ การเลือกตั้งจะกาหนดค่าใช้อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือดังกล่าวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีนาไปใช้ใน การเลอื กตง้ั ตามอัตราที่กาหนดด้วยก็ได้ การออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีอ่ืนตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรมการการเลือกตงั้ กาหนด มาตรา ๗๖ การออกเสยี งลงคะแนน ให้กระทาไดโ้ ดยวธิ กี าร ดังตอ่ ไปนี้ (๑) การลงคะแนนโดยใช้บตั รเลอื กตั้ง (๒) การลงคะแนนโดยวิธีอนื่ ท่มี ใิ ช่การใช้บัตรเลือกต้ัง การออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีตาม (๒) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่คณะกรรมการการเลอื กตงั้ กาหนด โดยวิธีนนั้ สามารถป้องกันการทุจรติ ในการเลือกตง้ั ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ และสะดวกกว่าการออกเสียงลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งและมีค่าใช้จ่ายท่ีคุ้มค่า และต้องเป็นวิธีการ ที่ประชาชนเข้าถึงไดโ้ ดยสะดวก ในกรณที ่คี ณะกรรมการการเลอื กตัง้ กาหนดให้มีการออกเสียงลงคะแนนตาม (๒) มิให้นาความใน มาตรา ๘๑ มาตรา ๘๓ มาตรา ๘๕ มาตรา ๘๖ มาตรา ๘๘ และมาตรา ๘๙ มาใชบ้ ังคับ

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๙๒ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๗๗ หีบบัตรเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้ง ให้มีลักษณะตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กาหนด ในการกาหนดลักษณะของหีบบตั รเลือกตง้ั ให้คณะกรรมการการเลอื กตั้งคานึงถงึ หบี บตั รเลือกตง้ั ทีอ่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินมีอย่แู ล้วเพอื่ ใหส้ ามารถใช้หีบบัตรเลือกตง้ั ดงั กล่าวได้ต่อไป มาตรา ๗๘ ในวันเลือกตั้งให้เปิดการออกเสียงลงคะแนนตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๗.๐๐ นาฬิกา แต่ในกรณีท่ีเห็นสมควรเพื่อประโยชน์ในการจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย คณะกรรมการการเลือกต้งั จะกาหนดเวลาการออกเสียงลงคะแนนสาหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด เปน็ อย่างอน่ื กไ็ ด้ แตต่ ้องมีเวลาการออกเสยี งลงคะแนนไมน่ ้อยกว่าเจด็ ช่วั โมง มาตรา ๗๙ ก่อนเร่ิมเปิดให้มีการออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้ง นับจานวนบัตรเลือกตั้งท้ังหมดของหน่วยเลือกตั้งน้ัน และปิดประกาศจานวนบัตรเลื อกต้ังไว้ใน ท่ีเปิดเผย และเมื่อถึงเวลาเปิดการออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง เปิดหีบบัตรเลือกต้ังในที่เปิดเผย แสดงให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังซึ่งอยู่ ณ ที่เลือกต้ังนั้นเห็นว่าหีบบัตรเลือกตั้ง เป็นหีบบัตรเลือกตั้งเปล่า และให้ปิดหีบบัตรเลือกตั้งตามวิธีการท่ีคณะกรรมการการเลือกต้ังกาหนด แล้วให้ทาการบันทึกการดาเนินการดังกล่าว โดยให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังไม่น้อยกว่าสองคนซ่ึงอยู่ในท่ีเลือกต้ัง ในขณะนนั้ ลงลายมือชอื่ ในบันทึกน้ันดว้ ย เว้นแตไ่ ม่มผี มู้ ีสิทธเิ ลอื กตง้ั ณ ท่ีเลอื กตั้ง มาตรา ๘๐ ในระหว่างเวลาเปิดการออกเสียงลงคะแนน ให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังซ่ึงประสงค์ จะออกเสียงลงคะแนนนาบัตรประจาตัวประชาชน หรือบัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือ หน่วยงานของรัฐท่ีมีรูปถ่ายและมีเลขประจาตัวประชาชนของผู้ถือบัตรไปแสดงตนต่อกรรมการประจา หน่วยเลือกต้ัง แล้วให้กรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งมอบบัตรเลือกตั้งให้แก่ผู้นั้นเพื่อไปออกเสียง ลงคะแนน บัตรประจาตัวประชาชน แมจ้ ะหมดอายุแลว้ ก็ให้สามารถใช้ในการแสดงตนตามวรรคหน่ึงได้ ขน้ั ตอนและวธิ ีการตรวจสอบการแสดงตนให้เป็นไปตามทค่ี ณะกรรมการการเลอื กตง้ั กาหนด มาตรา ๘๑ การออกเสียงลงคะแนน ให้ทาเคร่ืองหมายกากบาทลงในช่องทาเครื่องหมายของ หมายเลขประจาตัวผู้สมัครในบัตรเลือกต้ัง และในกรณีท่ีผู้มีสิทธิเลือกต้ังประสงค์จะลงคะแนนไม่เลือก ผ้สู มคั รผู้ใด ให้ผู้มสี ทิ ธิเลือกตัง้ ทาเครื่องหมายกากบาทในชอ่ งทาเครื่องหมาย “ไม่เลือกผสู้ มัครผู้ใด”

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๙๓ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๘๒ เพื่ออานวยความสะดวกแกค่ นพิการหรือทุพพลภาพ หรือผ้สู ูงอายุ ในการออกเสียง ลงคะแนน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซ่ึงคณะกรรมการการเลือกต้ังมอบหมายจัดให้มีการอานวย ความสะดวกสาหรับการออกเสียงลงคะแนนของบุคคลดังกล่าวไว้เป็นพิเศษ หรือจัดให้มีการช่วยเหลือ ในการออกเสียงลงคะแนนภายใต้การกากับดูแลของคณะกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้ง ในการให้ ความช่วยเหลือดังกล่าวต้องให้บุคคลนั้นได้ออกเสียงลงคะแนนด้วยตนเองตามเจตนาของบุคคลนั้น เว้นแต่ลักษณะทางกายภาพทาให้คนพิการหรือทพุ พลภาพ หรือผู้สูงอายุไมส่ ามารถทาเครื่องหมายลงใน บัตรเลอื กตัง้ ได้ ใหบ้ คุ คลอ่นื หรือกรรมการประจาหนว่ ยเลือกต้ังเป็นผู้กระทาการแทน โดยความยนิ ยอม และเป็นไปตามเจตนาของคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุนั้น ทั้งนี้ ให้ถือเป็นการออกเสียง ลงคะแนนโดยตรงและลบั ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นสมควร อาจกาหนดให้มีการจัดที่เลือกต้ังสาหรับ คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ เป็นกรณีพิเศษ โดยจัดให้บุคคลนั้นได้ลงทะเบียนเพื่อขอใช้ สิทธิเลือกต้ัง ณ สถานที่ดังกล่าว และเมื่อได้ลงทะเบียนแล้ว ให้หมดสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกต้ัง ท่ตี นมชี ่อื อย่ใู นทะเบยี นบ้าน การอานวยความสะดวกตามวรรคหน่ึง การจัดท่ีเลือกตั้งและการลงทะเบียนเพ่ือขอใช้สิทธิ ตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการทค่ี ณะกรรมการการเลอื กต้ังกาหนด การลงทะเบยี น ดังกล่าวให้เป็นไปตามวิธีการท่ีคณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด ซึ่งต้องคานึงถึงความสะดวกของ ผ้ขู อลงทะเบยี นดว้ ย มาตรา ๘๓ เม่ือผู้มีสิทธิเลือกตั้งทาเคร่ืองหมายกากบาทลงในบัตรเลือกตั้งแล้ว ให้พับ บัตรเลือกตั้งเพื่อมใิ ห้ผู้อ่ืนทราบว่าลงคะแนนเลือกผู้สมคั รผู้ใดหรอื ลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วให้ นาบัตรเลือกต้ังใส่ลงในหีบบัตรเลือกต้ังด้วยตนเองต่อหน้ากรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง หรือในกรณี ตามมาตรา ๘๒ กรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังจะช่วยใส่ลงในหีบบัตรเลือกต้ังแทนก็ได้ แต่ต้อง ทาตอ่ หนา้ ผ้มู ีสิทธิเลือกตงั้ น้ัน มาตรา ๘๔ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งพยายามออกเสียงลงคะแนน หรอื ออกเสียงลงคะแนน

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๙๔ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๘๕ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังผู้ใดใช้บัตรอ่ืนที่มิใช่บัตรเลือกต้ังท่ีได้รับจากกรรมการ ประจาหน่วยเลือกต้ังเพอ่ื การออกเสยี งลงคะแนน ห้ามมใิ หผ้ ใู้ ดนาบัตรเลอื กตง้ั ออกไปจากที่เลอื กต้ัง เว้นแต่เปน็ การกระทาตามหน้าทีแ่ ละอานาจ มาตรา ๘๖ ห้ามมิใหผ้ ้ใู ดจงใจทาเครอ่ื งหมายโดยวธิ ใี ดไวท้ บี่ ัตรเลอื กตงั้ นอกจากเคร่ืองหมาย ทลี่ งคะแนน มาตรา ๘๗ ในระหว่างการออกเสียงลงคะแนน ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ใด ถา่ ยภาพบตั รเลือกตงั้ เพื่อให้เห็นเครอ่ื งหมายลงคะแนนในคหู าเลือกตง้ั มาตรา ๘๘ ห้ามมิให้ผู้ใดนาบัตรเลือกต้ังใส่ในหีบบัตรเลือกตั้ง โดยไม่มีอานาจโดยชอบ ด้วยกฎหมาย หรือกระทาการใดในบัญชีรายช่ือผู้มสี ิทธิเลือกตง้ั เพื่อแสดงวา่ มผี ู้มาแสดงตนเพ่ือออกเสียง ลงคะแนนโดยผิดไปจากความจริง หรอื กระทาการใดอันเปน็ เหตุให้มีบัตรเลอื กต้ังเพิม่ ข้ึนจากความจริง มาตรา ๘๙ หา้ มมิให้ผูม้ สี ทิ ธิเลอื กตง้ั นาบัตรเลือกตง้ั ทีอ่ อกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อ่ืน เพอื่ ใหผ้ อู้ น่ื ทราบว่าตนไดล้ งคะแนนเลอื กหรือลงคะแนนไม่เลือกผ้สู มัครผใู้ ด มาตรา ๙๐ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทาการใดโดยไม่มีอานาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เพ่ือมิให้ ผู้มีสิทธิเลือกต้ังสามารถใช้สิทธิได้ หรือขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังไป ณ ที่เลือกตั้ง หรอื มใิ ห้ไปถงึ ณ ทีด่ ังกลา่ วภายในกาหนดเวลาทีจ่ ะออกเสียงลงคะแนนได้ มาตรา ๙๑ ห้ามมิให้ผู้ใดจ่าย แจก หรือให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ ผู้มีสิทธิเลือกต้ังเพื่อจูงใจมิให้ไปออกเสียงลงคะแนน หรือกระทาการใด ๆ เพ่ือมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปออกเสยี งลงคะแนน ผ้ใู ดมบี ตั รประจาตวั ประชาชนของผู้มีสทิ ธิเลือกตัง้ ผ้อู น่ื ตั้งแตส่ องคนขึน้ ไปไว้ในความครอบครอง โดยไม่มีเหตุอันสมควรในระหว่างวันประกาศให้มีการเลือกต้ังถึงวันถัดจากวันเลือกต้ัง ให้ถือว่า ผู้น้นั กระทาการตามวรรคหนึ่ง มาตรา ๙๒ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกต้ังผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อ่ืนใดสาหรับตนเองหรือผู้อ่ืน เพื่อลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือ งดเวน้ ไมล่ งคะแนนใหแ้ ก่ผูส้ มัครผใู้ ด

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๙๕ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๙๓ ในกรณีท่ีการออกเสียงลงคะแนนในหน่วยเลือกต้ังแห่งใดไม่สามารถกระทาได้ เน่ืองจากเกิดจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจาเป็นอย่างอ่ืน ถ้าเหตุดังกล่าวเกิดข้ึน ก่อนวันเลือกต้ัง ให้ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินกาหนดท่ีเลือกตั้งใหม่ ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปลงคะแนนเลือกตั้งได้โดยสะดวก แต่ถ้าไม่อาจกาหนดท่ีเลือกตั้งใหม่ได้ ให้ประกาศงดการลงคะแนนเลือกต้ังในหน่วยเลือกตั้งน้ัน แล้วรายงานต่อผู้อานวยการการเลือกต้ัง ประจาจังหวัดและคณะกรรมการการเลือกต้งั โดยเรว็ ในกรณีท่ีเหตุตามวรรคหนึ่งเกิดข้ึนในวันเลือกต้ัง ไม่ว่าจะมีการเริ่มลงคะแนนแล้วหรือไม่ ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังประกาศงดการลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกต้ังน้ัน แล้วรายงานต่อ ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัด และ คณะกรรมการการเลอื กต้งั โดยเรว็ เม่ือได้มีประกาศงดการลงคะแนนเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้ว ให้ผู้อานวยการ การเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินโดยความเห็นชอบของผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวดั จัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่สาหรับหน่วยเลือกตั้งนั้นภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีสามารถจัดให้มี การลงคะแนนเลือกตั้งได้ ในการน้ี ให้ประกาศวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามวัน และรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยเร็ว ถ้าจาเป็นจะจัดให้มีการเลือกตั้ง ณ ท่ีเลือกต้ัง ท่ีอยนู่ อกหน่วยเลอื กตั้งนน้ั ก็ได้ ในการดาเนินการตามวรรคสาม ถ้าคณะกรรมการการเลือกต้ังเห็นว่าจะไม่สามารถดาเนิน การเลือกต้ังให้แล้วเสร็จภายในเวลาท่ีกาหนดในมาตรา ๑๑ คณะกรรมการการเลือกต้ังจะขยาย ระยะเวลาออกไปตามที่สมควรกไ็ ด้ การดาเนินการตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการ การเลือกตง้ั กาหนด มาตรา ๙๔ ในกรณีที่มีเหตุจาเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดการเลือกตง้ั ตามวันท่ีผอู้ านวยการการเลอื กต้ังประจาจงั หวัดกาหนด คณะกรรมการการเลอื กตงั้ จะกาหนดวันเลอื กตั้งใหม่ ก็ได้ แตต่ ้องไม่เกนิ สามสิบวนั นบั แตว่ ันทเ่ี หตดุ ังกล่าวส้ินสุดลง

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๙๖ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๙๕ เมือ่ ถงึ เวลาปิดการออกเสียงลงคะแนนแล้ว ใหค้ ณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง ประกาศปดิ การออกเสยี งลงคะแนน ปดิ ชอ่ งใส่บตั รเลือกต้ังของหบี บตั รเลือกตัง้ และงดจา่ ยบัตรเลอื กตงั้ แล้วให้ทาเคร่ืองหมายในบัตรเลือกต้ังท่ีเหลืออยู่ให้เป็นบัตรเลือกตั้งท่ีใช้ลงคะแนนไม่ได้ และจัดทารายการ เกยี่ วกับจานวนบตั รเลือกตง้ั ท้งั หมด จานวนผูม้ าแสดงตนและรบั บัตรเลือกตงั้ และจานวนบตั รเลือกต้งั ทเ่ี หลอื แลว้ ประกาศให้ประชาชนทีอ่ ยู่ ณ ท่ีเลือกตงั้ ได้ทราบ ในกรณีที่ถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนนแล้วยังมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งซ่ึงประสงค์จะออกเสียง ลงคะแนนได้มาแสดงตัวอยู่ในที่เลือกต้ังเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วก่อนเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนน แต่ยังไมไ่ ดแ้ สดงตนหรือรับบัตรเลือกตัง้ ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลอื กตง้ั อนญุ าตใหบ้ ุคคลเหล่านั้น แสดงตนและมอบบัตรเลือกตง้ั เพื่อใชส้ ทิ ธิเลือกตั้งได้ และเมื่อผู้มีสทิ ธิเลอื กต้งั ออกเสียงลงคะแนนเสร็จสน้ิ แลว้ จึงดาเนินการตามวรรคหนงึ่ ต่อไป การดาเนินการตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการ การเลอื กต้งั กาหนด มาตรา ๙๖ ตง้ั แตเ่ วลาท่เี ปิดการออกเสยี งลงคะแนน จนถงึ เวลาปิดการออกเสยี งลงคะแนน ห้ามมิให้ผู้ใดเปิด ทาลาย ทาให้เสียหาย ทาให้เปล่ียนสภาพ หรือทาให้ไร้ประโยชน์ หรือนาไป ซึง่ หีบบตั รเลอื กตง้ั โดยไมม่ ีอานาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ความในวรรคหนง่ึ ให้ใช้บังคบั กับหบี บัตรเลือกต้ังทีเ่ ก็บบตั รเลือกตัง้ ภายหลังจากการนับคะแนนแล้ว รวมตลอดท้ังบัตรเลือกต้ัง เอกสาร และหลักฐานที่เก่ียวข้องกับการเลือกตั้งที่คณะกรรมการประจา หน่วยเลือกต้ังได้จัดทาข้ึนด้วยโดยอนุโลม เว้นแต่เป็นการกระทาตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กาหนด หมวด ๘ การนบั คะแนนเลอื กตงั้ และการประกาศผลการเลือกตงั้ มาตรา ๙๗ เม่ือเสร็จส้ินการออกเสียงลงคะแนนแล้ว ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง ดาเนินการนบั คะแนนเลือกต้ังของแต่ละหน่วยเลือกต้งั โดยใหก้ ระทา ณ ท่ีเลอื กตงั้ ของแต่ละหน่วยเลือกต้ัง และให้กระทาโดยเปดิ เผยและหา้ มมใิ ห้เล่ือนหรือประวงิ เวลาการนับคะแนนเลือกตั้ง

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๙๗ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา ในการนับคะแนนเลือกต้งั ตามวรรคหนึง่ ใหน้ ับคะแนนสาหรับบัตรเลือกต้งั ทล่ี งคะแนนไมเ่ ลือก ผู้สมัครผใู้ ดด้วย มาตรา ๙๘ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งออกระเบียบเก่ียวกับหลักเกณฑ์ และวิธีการใน การนับคะแนนเลือกต้งั ของคณะกรรมการประจาหนว่ ยเลือกตง้ั มาตรา ๙๙ ห้ามมใิ ห้ผู้ใดกระทาการใด ๆ เพือ่ ใหบ้ ตั รเลอื กตง้ั ที่อยใู่ นสถานท่ีนับคะแนนเลอื กตง้ั มีจานวนผิดจากความจริง มาตรา ๑๐๐ ในการนบั คะแนนเลอื กตงั้ หากคณะกรรมการประจาหน่วยเลือกตง้ั วินจิ ฉยั ดว้ ย เสียงข้างมากว่าบัตรเลือกตั้งใดเป็นบัตรเสีย ให้แยกบัตรเสียออกไว้ต่างหาก และห้ามมิให้นับบัตรเสีย เป็นคะแนนเลือกตงั้ ไมว่ ่ากรณีใด บตั รเลือกตงั้ ตอ่ ไปนีใ้ หถ้ อื ว่าเปน็ บตั รเสีย (๑) บตั รปลอม (๒) บัตรท่ีมีการทาเครื่องหมายเพื่อเป็นท่ีสังเกตหรือเขียนข้อความใด ๆ ลงในบัตรเลือกตั้ง นอกจากเครื่องหมายในการลงคะแนน เว้นแต่เป็นการกระทาโดยชอบด้วยกฎหมายของคณะกรรมการ ประจาหนว่ ยเลอื กตง้ั (๓) บัตรทีม่ ไิ ดท้ าเคร่ืองหมายลงคะแนน (๔) บัตรที่ทาเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเกินจานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผบู้ ริหารท้องถิน่ ทพ่ี ึงมใี นเขตเลือกตั้งนนั้ (๕) บัตรท่ีไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครใด เว้นแต่เป็นการลงคะแนน “ไม่เลือก ผ้สู มคั รผ้ใู ด” (๖) บัตรท่ีได้ทาเคร่ืองหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร แล้วทาเคร่ืองหมายในช่องทาเคร่ืองหมาย “ไมเ่ ลอื กผ้สู มคั รผ้ใู ด” (๗) บัตรท่ีมลี ักษณะตามท่ีคณะกรรมการการเลือกต้ังกาหนดวา่ เป็นบัตรเสีย ให้กรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังสลักหลังในบัตรเสียว่า “เสีย” และให้กรรมการประจา หนว่ ยเลือกตัง้ ลงลายมอื ชื่อกากับไว้ไมน่ อ้ ยกวา่ สามคน

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๒๙๘ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๑๐๑ ห้ามมิให้กรรมการประจาหน่วยเลือกตงั้ จงใจนับบตั รเลือกต้ัง อ่านบัตรเลอื กตง้ั นับคะแนนเลือกต้ังหรอื รวมคะแนนเลือกตั้งให้ผิดจากความจริง หรือกระทาการใดให้บัตรเลือกตั้งชารุด เสยี หายหรอื ใหเ้ ป็นบตั รเสีย หรือกระทาการใดแก่บตั รเสียเพอ่ื ให้เปน็ บตั รเลือกตง้ั ท่ีใชไ้ ด้ หรอื ทารายงาน การเลอื กต้ังผิดจากความจริง มาตรา ๑๐๒ เมื่อมีการรวมผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ณ ท่ีเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ให้คณะกรรมการประจาหนว่ ยเลือกต้ังประกาศผลการนับคะแนนเลือกตัง้ ของหน่วยเลือกตั้งนั้น จานวน บัตรเลือกต้ังทีม่ ีอยู่ท้ังหมด จานวนบัตรเลือกตั้งท่ีใช้ และจานวนบัตรเลือกตง้ั ท่ีเหลือจากการลงคะแนน เลือกตั้ง ท้ังน้ี ให้กระทาโดยเปดิ เผยและรายงานผลการนับคะแนนเลอื กตงั้ ต่อคณะกรรมการการเลอื กตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยทันที เพื่อรวบรวมผลการนับคะแนนของทุกหน่วยเลือกต้ัง ในเขตเลือกตั้งน้ัน แล้วให้คณะกรรมการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศผล การนับคะแนนเลือกต้ังของเขตเลือกต้ังและรายงานแสดงผลการนับคะแนนเลือกตั้งต่อผู้อานวยการ การเลือกตง้ั ประจาจังหวัดโดยเรว็ การประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้ง การรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง วิธีการและ ระยะเวลาการเก็บรักษาและทาลายบัตรเลือกต้ังและเอกสารหลักฐานเก่ียวกับการเลือกต้ัง ให้เป็นไป ตามระเบยี บทคี่ ณะกรรมการการเลอื กตง้ั กาหนด มาตรา ๑๐๓ ถา้ การนับคะแนนเลอื กตง้ั ณ หน่วยเลือกตงั้ ใดไม่สามารถกระทาได้ เนอื่ งจาก เกดิ จลาจล อุทกภยั อคั คีภัย เหตสุ ดุ วิสยั หรือเหตจุ าเป็นอยา่ งอนื่ ให้คณะกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ัง ประกาศงดการนับคะแนนเลือกตั้งสาหรับหน่วยเลือกต้ังนั้น แล้วรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกต้ัง ประจาองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ผู้อานวยการการเลือกตงั้ ประจาจังหวดั และคณะกรรมการการเลอื กต้ัง โดยเร็ว เพื่อให้ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวัดกาหนดวันและสถานท่ีนับคะแนนเลือกตั้งต่อไป โดยต้องไม่เกินสามวันนับแต่เหตุดังกล่าวส้ินสุดลง แต่ในกรณีท่ีบัตรเลือกต้ังชารุดหรือสูญหาย หรือ การนับคะแนนเลือกตัง้ ตอ่ ไปจะก่อให้เกดิ ความไมส่ ุจริตหรือเที่ยงธรรม คณะกรรมการการเลือกตง้ั จะส่ังให้ ดาเนินการออกเสียงลงคะแนนใหม่สาหรับหน่วยเลือกตง้ั นนั้ ตามควรแก่กรณีกไ็ ด้

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๙๙ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๑๐๔ ในกรณีท่ีบัตรเสียตามมาตรา ๑๐๐ เป็นบัตรปลอม ให้คณะกรรมการประจา หน่วยเลือกตั้งแยกบัตรปลอมออกไว้ต่างหาก และรายงานต่อผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน และผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาจังหวัดเพื่อเสนอเร่ืองให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งพิจารณาดาเนนิ การ เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรายงานตามวรรคหนึ่งแล้วให้มีหน้าท่ีดาเนินการไต่สวน ตรวจสอบโดยพลัน ถ้ามิได้มีหลักฐานอันแสดงได้ว่าบัตรปลอมท่ีพบน้ันมิใช่เป็นวิธีการในการทุจริต การเลือกต้ังหรอื ทาให้การเลอื กตงั้ ไม่สจุ ริตหรือไม่เท่ียงธรรม ใหส้ ง่ั ยกเลกิ การเลือกตงั้ ของหนว่ ยเลอื กต้ังน้ัน และสั่งให้ดาเนินการลงคะแนนใหม่ ในกรณีท่ีเห็นสมควรให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบ บัตรเลือกต้ังของหน่วยเลือกตั้งอื่นทุกหน่วยหรือบางหน่วยตามท่ีเห็นสมควรด้วย ในกรณีเช่นนั้น ให้คณะกรรมการการเลือกต้ัง หรือกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง สั่งให้เปิดหีบบัตรเลือกต้ังเพื่อตรวจสอบได้ แต่ต้องแจ้งให้ผู้สมัครทราบวันเวลาและสถานที่ท่ีจะเปิด หีบบัตรเลือกตั้ง โดยแจ้งให้ทราบด้วยว่าผู้สมัครมีสิทธิเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยตนเองหรือจะส่งผู้แทน มาแทนตนก็ได้ ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วคณะกรรมการการเลือกตัง้ รับรองว่าไมม่ ีการทุจรติ หรือไมม่ ีกรณี ไม่เทยี่ งธรรม ใหด้ าเนนิ การประกาศผลการนบั คะแนนเลอื กตง้ั ต่อไป มาตรา ๑๐๕ ในกรณีที่ผลการนับคะแนนเลือกตง้ั ปรากฏว่าจานวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตง้ั ไม่ตรงกับ จานวนบตั รเลือกตง้ั ทใี่ ชอ้ อกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจาหนว่ ยเลอื กตัง้ ดาเนนิ การตรวจสอบ ความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีกให้รายงานพร้อมเหตุผลตอ่ คณะกรรมการการเลือกตัง้ เพื่อพิจารณาสงั่ ให้มีการนับคะแนนเลือกต้ังใหม่หรือสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งน้ัน พร้อมท้ังแจ้งให้ ผู้อานวยการการเลอื กตงั้ ประจาองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทราบ และนาส่งหบี บัตรเลอื กต้ัง พรอ้ มวัสดุ อุปกรณ์การเลือกตั้งแก่คณะกรรมการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือผู้ซ่ึงคณะกรรมการ การเลอื กตัง้ ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ มอบหมาย ในกรณีท่ีคณะกรรมการการเลือกต้งั สงั่ ใหม้ กี ารนบั คะแนนเลือกตั้งใหมต่ ามวรรคหนึ่ง หากปรากฏวา่ จานวนผู้มาใช้สิทธิเลือกต้ังไม่ตรงกับจานวนบัตรเลือกตั้งท่ีใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้สันนิษฐาน วา่ การเลือกตัง้ ในหนว่ ยเลอื กตั้งน้นั มิได้เปน็ ไปโดยสุจริตหรือเทย่ี งธรรม และให้คณะกรรมการการเลอื กตง้ั

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๓๐๐ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ตรวจสอบบัตรเลือกต้ังของหน่วยเลือกตั้งอื่นทุกหน่วยหรือบางหน่วยตามที่เห็นสมควรด้วย ทั้งนี้ ให้นาความในมาตรา ๑๐๔ วรรคสอง มาใชบ้ ังคบั แกก่ ารตรวจสอบบัตรเลือกต้ังดังกล่าวดว้ ยโดยอนโุ ลม ในกรณที ีป่ รากฏภายหลังประกาศผลการเลอื กตงั้ ว่า การนบั คะแนนเลือกตัง้ ในหน่วยเลือกตง้ั ใด หรือในเขตเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเท่ียงธรรม ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังมีอานาจส่ัง ใหเ้ ปดิ หบี บตั รเลือกต้งั และนับคะแนนเลอื กตง้ั ใหม่ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารทคี่ ณะกรรมการการเลือกต้งั กาหนด แตท่ ้งั นี้ตอ้ งกระทาภายในเกา้ สบิ วันนับแต่วันทปี่ ระกาศผลการเลอื กตั้ง ในกรณีท่ีผลการนับคะแนนเลือกต้ังใหม่ตามวรรคสามเปล่ียนแปลงผู้ได้รับเลือกตั้ง ให้ผู้ได้รับ เลือกต้ังเดิมพ้นจากตาแหน่งนับแต่วันท่ีคณะกรรมการการเลือกต้ังประกาศผลการเลือกตั้งจากการนับ คะแนนเลอื กต้ังใหม่ และให้ผู้ได้รบั เลอื กต้ังใหมด่ ารงตาแหน่งเท่าวาระทเี่ หลอื อย่ขู องผไู้ ด้รับเลือกต้งั เดมิ มาตรา ๑๐๖ เมอื่ ผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาจังหวดั ได้รับรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ตามมาตรา ๑๐๒ แล้วเห็นว่าการเลือกต้ังและการนับคะแนนเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเท่ียงธรรม ใหร้ ายงานต่อคณะกรรมการการเลอื กต้ังเพือ่ ประกาศผลการเลือกต้ัง ในกรณีท่ีมีผู้ร้องเรียนโดยมีหลักฐานตามสมควรว่าการนับคะแนนเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจรติ หรือเทย่ี งธรรม ให้ผู้อานวยการการเลอื กตงั้ ประจาจงั หวัดรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นด้วยกับรายงานดังกล่าว ให้มีคาสั่งให้นับคะแนนเลือกตง้ั ใหม่ การนับ คะแนนใหม่ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่คี ณะกรรมการการเลอื กตงั้ กาหนด ในกรณีท่ีผู้อานวยการการเลอื กต้งั ประจาจังหวัด มีเหตอุ ันควรสงสัยโดยมีหลักฐานอันควรเชอื่ ได้ว่า มีการฝา่ ฝนื มาตรา ๖๕ หรอื มีกรณีอืน่ ทท่ี าให้การเลอื กตั้งมไิ ด้เป็นไปโดยสจุ รติ หรือเท่ยี งธรรม ให้รายงานตอ่ คณะกรรมการการเลือกตัง้ โดยพลนั เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรายงานตามวรรคสาม หรือเมื่อมีกรณีท่ีคณะกรรมการ การเลือกต้ังมีเหตุอันควรสงสัยโดยมีหลักฐานตามสมควรว่ามีการฝ่าฝืนมาตรา ๖๕ หรือมีกรณีอ่ืนที่ทาให้ การเลือกต้งั มิไดเ้ ปน็ ไปโดยสุจริตหรอื เทีย่ งธรรม ให้คณะกรรมการการเลอื กตงั้ ดาเนนิ การไต่สวนโดยพลนั ถ้าผลการไตส่ วนปรากฏว่ามีมูล ใหค้ ณะกรรมการการเลอื กต้งั มีคาสงั่ ให้มกี ารเลอื กตัง้ ใหม่ เว้นแต่การฝา่ ฝนื หรือความไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรมดังกล่าวมิได้เกี่ยวข้องกับผู้ได้คะแนนในลาดั บที่จะได้รับเลือกต้ัง ในกรณีเช่นน้ีใหด้ าเนินการเพ่อื ใหม้ กี ารลงโทษผู้กระทาความผดิ ต่อไปโดยเรว็

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๓๐๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา เพื่อประโยชน์ในการหาความจริง ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังมีหน้าที่และอานาจไต่สวน ครอบคลุมถึงการเลอื กตัง้ ในหน่วยเลือกตั้งทมี่ ิได้มเี หตสุ งสยั ดังกลา่ วตามที่เห็นสมควรด้วย มาตรา ๑๐๗ กอ่ นประกาศผลการเลือกตัง้ ถา้ คณะกรรมการการเลือกตั้งสบื สวนหรอื ไต่สวนแล้ว เห็นว่า มีหลักฐานอันควรเช่ือได้ว่าผู้สมัครผู้ใดกระทาการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไป โดยสุจริตหรือเทย่ี งธรรม หรือมีหลกั ฐานอนั ควรเชอื่ ไดว้ า่ ผู้สมคั รผู้ใดก่อให้ผูอ้ ื่นกระทา สนับสนุน หรือ รู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอ่ืนกระทาการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทาดังกล่าวแล้วไม่ดาเนินการเพ่ือระงับ การกระทาน้ัน ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังส่ังระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครที่กระทาการ เชน่ นั้นทุกรายไวเ้ ปน็ การช่ัวคราวเป็นระยะเวลาไมเ่ กินหน่ึงปนี ับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกต้งั มคี าสงั่ คาสงั่ ของคณะกรรมการการเลอื กต้ังตามวรรคหนึ่ง ให้เปน็ ที่สุด ในกรณีท่ีปรากฏต่อคณะกรรมการการเลือกต้ังว่ามีการกระทาอันเป็นการฝ่าฝืนความใน วรรคหน่ึง ไม่ว่าเป็นการกระทาของผู้ใด ถ้าเห็นว่าผู้สมัครผู้ใดจะได้รับประโยชน์จากการกระทานั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอานาจส่ังให้ผู้สมัครผู้นั้นระงับหรือดาเนินการใดเพ่ือแก้ไขความไม่สุจริต หรือความไม่เท่ียงธรรมน้ันภายในเวลาที่กาหนด ในกรณีท่ีผู้สมัครผู้นั้นไม่ดาเนินการตามคาส่ังของ คณะกรรมการการเลอื กตงั้ โดยไม่มเี หตุอันสมควร ใหส้ ันนษิ ฐานว่าผู้สมัครผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทาน้ัน เว้นแต่ผู้สมัครน้นั จะพิสูจนไ์ ดว้ า่ ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทาดังกล่าว ในกรณีที่มีคาส่ังระงับสิทธิสมัครรับเลือกต้ังตามมาตรานี้ภายหลังวัน ออกเสียงลงคะแนน แต่ก่อนวันประกาศผลการเลือกตั้ง และผู้สมัครท่ีถูกระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งที่ได้คะแนนเลือกต้ัง ในลาดับที่ได้รบั เลือกต้ังในเขตเลือกตง้ั นน้ั ให้คณะกรรมการการเลอื กต้งั ส่ังใหม้ กี ารเลือกต้ังใหม่ มาตรา ๑๐๘ เมื่อมีการดาเนินการตามมาตรา ๑๐๗ แล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกต้ัง ยื่นคาร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคท่ีมีเขตอานาจเพื่อพิจารณา ในกรณีท่ีศาลพิพากษาว่า ผู้นั้นกระทาผิดตามมาตรา ๑๐๗ ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกต้ังหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้น้ันเป็นเวลาสิบปี เมื่อประกาศผลการเลือกต้ังแล้วปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผลการเลือกต้ังเกิดจาก การเลอื กต้งั ทีม่ ิได้เป็นไปโดยสุจรติ หรอื เท่ยี งธรรม ใหค้ ณะกรรมการการเลือกตง้ั ยน่ื คาร้องตอ่ ศาลอทุ ธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาคเพ่ือพิจารณา ในกรณีที่ศาลวินิจฉัยว่า ผลการเลือกต้ังเกิดจากการเลือกต้ังท่ีมิได้

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๓๐๒ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา เป็นไปโดยสุจริตหรือเท่ียงธรรม ให้ศาลสั่งให้มีการเลือกต้ังใหม่สาหรับการเลือกตง้ั นนั้ และส่ังเพิกถอน สิทธิสมัครรบั เลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกต้ังของผู้ที่กระทาการอันเป็นเหตุให้การเลือกตง้ั มิไดเ้ ป็นไป โดยสจุ รติ หรือเท่ยี งธรรมเปน็ เวลาสบิ ปี การพิจารณาของศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคตามวรรคหน่ึงและวรรคสองให้นาสานวน การสืบสวนหรือไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหลักในการพิจารณา และเพ่ือประโยชน์ แห่งความยุติธรรม ใหศ้ าลมีอานาจส่งั ไต่สวนข้อเท็จจรงิ และพยานหลกั ฐานเพมิ่ เติมได้ เมื่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคมีคาส่ังรับคาร้องตามวรรคสองไว้พิจารณาแล้ว ให้ผู้บริหาร ท้องถ่ิน หรือสมาชิกสภาท้องถ่ิน แล้วแต่กรณี หยุดปฏิบัติหน้าท่ีจนกว่าศาลจะพิพากษาว่าผู้น้ันมิได้ กระทาผิด ในกรณีท่ผี บู้ รหิ ารทอ้ งถิน่ ต้องหยุดปฏบิ ัติหน้าที่ตามวรรคสี่ ใหร้ องผู้บรหิ ารทอ้ งถ่นิ เลขานุการ ผบู้ ริหารทอ้ งถิ่น ท่ีปรึกษาผู้บริหารทอ้ งถนิ่ นนั้ หยดุ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีด้วย คาวินจิ ฉยั ของศาลอทุ ธรณ์หรอื ศาลอุทธรณภ์ าคให้เปน็ ท่สี ดุ มาตรา ๑๐๙ ในกรณที ่ีศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณภ์ าคมีคาสัง่ ใหเ้ พกิ ถอนสทิ ธิสมัครรบั เลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธเิ ลือกต้ังผู้สมัครรับเลอื กต้งั หรือสมาชิกสภาท้องถ่นิ หรือผู้บริหารท้องถ่ินผู้ใด และเป็นเหตุ ให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าจะมีคาร้องขอหรือไม่ให้ศาลส่ังให้ผู้น้ันต้องรับผิดในค่าใช้จ่ายสาหรับ การเลือกตงั้ ครงั้ ที่เปน็ เหตใุ หศ้ าลมคี าสัง่ เชน่ ว่านัน้ จานวนคา่ ใช้จ่ายดงั กลา่ วใหศ้ าลพจิ ารณาจากหลกั ฐาน การใช้จ่ายทคี่ ณะกรรมการการเลอื กตง้ั เสนอต่อศาล ค่าใช้จ่ายที่ได้รับตามวรรคหน่ึง เมื่อหักค่าใช้จ่ายของสานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังแลว้ ทเี่ หลอื จากนั้นใหส้ านกั งานคณะกรรมการการเลือกต้ังโอนใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นท่ีเป็นผ้ดู าเนินการ จดั การเลือกต้ัง มาตรา ๑๑๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๑๑ การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถ่ิน ให้ผู้สมัครซึ่งได้รับ คะแนนเสียงเลือกต้ังมากที่สุดและมากกว่าคะแนนเสียงท่ีไม่เลือกผู้ใด เป็นผู้ได้รับเลือกต้ัง สาหรับ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถ่ินในเขตเลือกต้ังที่มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถิ่นได้หนึ่งคน ให้ผู้สมัคร ซึ่งได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมากท่ีสุดและมากกว่าคะแนนเสียงท่ีไม่เลือกผู้ใดเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง แต่ในเขตเลือกตั้งที่มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถ่ินได้มากกวา่ หนึ่งคน ให้ผู้สมัครซึ่งได้คะแนนเลือกตง้ั

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๓๐๓ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา มากที่สุดเรียงตามลาดับลงมาในเขตเลือกตั้งนั้นและได้รับคะแนนมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด เป็นผไู้ ดร้ ับเลือกตงั้ ตามจานวนสมาชิกสภาทอ้ งถ่ินที่จะพงึ มีในเขตเลือกตง้ั นน้ั ในกรณีตามวรรคหนึ่ง หากมีผู้สมัครได้คะแนนเลือกต้ังเท่ากันอันเป็นเหตุให้ไม่สามารถเรียงลาดับ ผู้ได้รับเลือกตั้งได้ตามวรรคหน่ึง ให้ผู้สมัครที่ได้คะแนนเลือกตั้งเท่ากันจับสลากเพื่อให้ได้ผู้ได้รับเลือกตง้ั ครบจานวนท่ีจะพึงมีในเขตเลือกต้ังน้ัน ซ่ึงต้องกระทาต่อหน้าผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ินนนั้ ตามวธิ ีการทีค่ ณะกรรมการการเลือกตงั้ ประกาศกาหนด ในกรณีตามวรรคหนึ่ง หากไม่มีผู้สมัครผู้ใดได้รับเลือกต้ังเพราะเหตุท่ีไม่ได้คะแนนมากกว่า คะแนนเสียงที่ไม่เลือกผูใ้ ด ใหผ้ อู้ านวยการการเลือกต้งั ประจาจังหวัดประกาศใหม้ กี ารเลือกตั้งใหม่ และ ดาเนินการให้มีการรับสมัครผู้สมคั รรับเลือกตง้ั ใหม่ โดยผู้สมัครรบั เลือกตง้ั รายเดิมทุกรายไมม่ ีสิทธสิ มัคร รบั เลือกต้ังในการเลอื กตัง้ ทจ่ี ะจัดขึ้นใหม่ มาตรา ๑๑๑ ในกรณีที่มีผู้สมัครรับเลือกต้ังเป็นผู้บริหารท้องถิ่นเท่ากับจานวนผู้บริหารท้องถิ่น ทีจ่ ะพงึ มีในเขตเลอื กตัง้ น้ัน หรอื ในกรณที ีม่ ผี ู้สมัครรบั เลือกตงั้ เปน็ สมาชิกสภาท้องถน่ิ เท่ากบั หรอื น้อยกวา่ จานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะพึงมีในเขตเลือกต้ังน้ัน ผู้สมัครรับเลือกต้ังจะได้รับเลือกตั้งต่อเมื่อได้รับ คะแนนเสียงเลือกต้ังไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจานวนผู้มีสิทธิเลือกต้ังในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่า คะแนนเสยี งทไ่ี มเ่ ลือกผู้ใด ในกรณีท่ีไม่มีผู้ไดร้ ับเลอื กต้ังตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้อานวยการการเลือกต้งั ประจาจังหวัดประกาศ ให้มีการเลือกต้ังใหม่ และดาเนินการให้มีการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกต้ังใหม่ โดยผู้สมัครรับเลือกตั้ง รายเดิมทุกรายซ่ึงไม่ได้คะแนนมากกว่าคะแนนเสียงท่ีไม่เลือกผู้ใด ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกต้ังใน การเลือกต้งั ที่จะจดั ข้ึนใหม่ มาตรา ๑๑๒ ในการดาเนนิ การจัดใหม้ ีการเลือกตั้งใหม่ตามมาตรา ๑๑๐ หรือมาตรา ๑๑๑ สาหรบั ผูบ้ รหิ ารทอ้ งถิ่น ให้ดาเนนิ การจนกว่าจะมผี ู้ได้รับเลอื กตงั้ ในการดาเนินการจัดให้มีการเลือกต้ังใหม่ตามมาตรา ๑๑๐ หรือมาตรา ๑๑๑ สาหรับ สมาชิกสภาท้องถิน่ หากไดจ้ ดั ใหม้ กี ารเลือกตงั้ ใหมอ่ ีกครงั้ หนง่ึ แลว้ ยังไมม่ ผี ู้ได้รับเลือกต้งั ให้งดการจดั ให้มีการเลือกตง้ั ตอ่ ไป และใหถ้ อื วา่ สภาท้องถิน่ นั้นมสี มาชกิ เทา่ ที่มีอยจู่ นกว่าสภาท้องถ่นิ นนั้ จะครบวาระ

เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๓๐๔ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา เว้นแต่กฎหมายว่าด้วยการจัดต้ังองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจะกาหนดจานวนสมาชิกสภาท้องถิ่นไว้ เปน็ อย่างอน่ื หมวด ๙ การดาเนนิ การตรวจสอบการเลือกตัง้ มาตรา ๑๑๓ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้สมัคร มีสิทธิย่ืนคัดค้านต่อคณะกรรมการการเลือกต้ัง ว่าการเลือกต้ังในเขตเลือกต้ังที่ตนมีสิทธิเลือกต้ัง หรือท่ีตนสมัครรับเลือกต้ังแล้วแต่กรณี มิได้เป็นไป โดยสจุ ริตหรอื เที่ยงธรรม หรือไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย ผู้มีสิทธิยื่นคัดค้านการเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งอาจย่ืนคัดค้านได้ต้ังแต่วันท่ีประกาศให้มีการเลือกต้ัง จนถึงสามสิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกต้ัง เว้นแต่ (๑) การคัดค้านเพราะเหตุตามมาตรา ๖๐ หรือมาตรา ๖๒ ให้ยื่นได้ต้ังแต่วันเลือกต้ัง จนถึงหนึง่ ร้อยแปดสิบวันนับแตว่ ันประกาศผลการเลือกตง้ั (๒) การคัดค้านเก่ียวกับการนับคะแนนให้คัดค้านในระหว่างเวลาท่ียังนับคะแนนไม่แล้วเสรจ็ หรอื ในกรณคี ดั ค้านการรวมคะแนน ให้คดั ค้านก่อนประกาศผลการนบั คะแนนทีห่ นว่ ยเลือกต้งั เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับคาคัดค้านการเลือกตั้งให้ดาเนินการสืบสวนหรือไต่สวน เพอ่ื หาข้อเท็จจริงโดยพลัน และพิจารณาดาเนินการตามหมวดนี้ แล้วแต่กรณตี อ่ ไป ทง้ั นี้ การยนื่ คาคัดค้าน การเลอื กตงั้ และการพิจารณาใหเ้ ปน็ ไปตามวธิ ีการท่ีคณะกรรมการการเลือกต้งั กาหนด มาตรา ๑๑๔ ในกรณีท่ผี ้อู านวยการการเลือกตั้งประจาจงั หวัดเหน็ ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือผู้อานวยการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทาการไปในทางทอ่ี าจเกิดความเสยี หายแก่การจดั การเลอื กตั้ง หรอื อาจทาใหก้ ารเลอื กตง้ั มิได้เป็นไป โดยสจุ รติ หรอื เที่ยงธรรม หรือไมป่ ฏบิ ัติตามคาแนะนาตกั เตอื น ให้รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตงั้ หรือกรรมการการเลือกตัง้ และคณะกรรมการการเลือกตัง้ หรือกรรมการการเลอื กตัง้ อาจมคี าสงั่ ให้ระงบั ยับยง้ั แกไ้ ขเปลี่ยนแปลง หรอื สง่ั ใหก้ ระทาการอย่างใดอยา่ งหนึ่งไดต้ ามที่เห็นสมควร เมื่อคณะกรรมการการเลือกต้ังมีคาส่ังตามวรรคหน่ึงแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอานาจ สั่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือผู้อานวยการการเลือกต้ังประจา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินผู้น้ันพ้นจากหนา้ ที่ความรับผิดชอบและแต่งตงั้ บุคคลอื่นให้ปฏิบัติหน้าทแี่ ทน

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๓๐๕ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจาองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินหรือผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ พ้นจากหน้าท่ี ส่งมอบเอกสารหลักฐานเก่ียวกับการเลือกตั้งและอานวยความสะดวกแก่คณะกรรมการการเลือกต้ัง ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินหรอื ผอู้ านวยการการเลอื กตั้งประจาองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ บุคคล ซึง่ ไดร้ บั แตง่ ตงั้ ขึ้นใหม่ มาตรา ๑๑๕ ในกรณีทค่ี ณะกรรมการการเลือกตั้งมีคาส่งั ให้คณะกรรมการการเลือกต้ังประจา องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ หรอื ผอู้ านวยการการเลือกตงั้ ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ พน้ จากหนา้ ที่ ความรับผิดชอบตามมาตรา ๑๑๔ วรรคสอง ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นสมควรให้มีการดาเนินการ ทางวินัยด้วย ให้แจ้งต่อผู้บังคับบญั ชาของคณะกรรมการการเลือกตง้ั ประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ หรือผอู้ านวยการการเลอื กตง้ั ประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้ันเพ่อื ดาเนินการทางวนิ ยั ต่อไป หมวด ๑๐ บทกาหนดโทษ มาตรา ๑๑๖ ผู้ซ่ึงกระทาความผิดตามมาตรา ๑๒๖ วรรคหน่ึง ให้ถือว่ากระทาการอันเปน็ การทจุ รติ ในการเลอื กตั้ง แตไ่ ม่รวมถงึ กรณีที่ได้รบั ยกเว้นโทษตามมาตรา ๑๒๖ วรรคสาม มาตรา ๑๑๗ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างผู้ใดขัดขวาง หน่วงเหน่ียว หรือไม่ให้ความสะดวก โดยไมม่ ีเหตอุ นั สมควรในการไปใชส้ ิทธิเลือกตัง้ ของผู้ใตบ้ งั คับบัญชาหรือลูกจ้าง แลว้ แต่กรณี ตอ้ งระวางโทษ จาคกุ ไม่เกนิ สองปี หรือปรบั ไม่เกินสห่ี มื่นบาท หรอื ทัง้ จาทง้ั ปรับ มาตรา ๑๑๘ ผ้ใู ดกระทาการอันเปน็ เท็จ เพือ่ ให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจผดิ วา่ ผ้สู มคั รผู้ใดกระทาการฝ่าฝนื หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ี ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หม่ืนบาท และ ให้ศาลสัง่ เพิกถอนสิทธิเลอื กต้งั ของผู้นน้ั มีกาหนดหา้ ปี ถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่งเป็นการเพ่ือจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือ สิทธสิ มคั รรับเลือกต้ัง หรอื เพอ่ื ไมใ่ หม้ กี ารประกาศผลการเลือกต้ัง ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่ห้าปถี งึ สบิ ปี และปรับต้งั แต่หน่งึ แสนบาทถงึ สองแสนบาท และให้ศาลส่ังเพิกถอนสทิ ธเิ ลอื กตง้ั ของผนู้ ้ันมีกาหนดยี่สิบปี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๓๐๖ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา ถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่งเป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคาต่อคณะกรรมการการเลือกต้ังหรือ ผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมาย ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ หน่ึงแสนส่หี มืน่ บาทถงึ สองแสนบาท และให้ศาลสงั่ เพกิ ถอนสทิ ธเิ ลอื กต้งั ของผ้นู ั้นมกี าหนดยสี่ ิบปี ถ้าการกระทาตามวรรคสองหรือวรรคสาม เป็นการกระทาหรือก่อให้ผู้อ่ืนกระทา สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจของหัวหน้าพรรคการเมือง ให้ถือว่าพรรคการเมืองน้ันกระทาการอันอาจเป็นภัยต่อ ความมั่นคงของรัฐตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าดว้ ยพรรคการเมือง มาตรา ๑๑๙ กรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อานวยการ การเลือกตงั้ ประจาจังหวัด ผู้ตรวจการเลอื กตัง้ กรรมการการเลือกต้ังประจาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ผู้อานวยการการเลือกต้ังประจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือผู้ซ่ึงได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมาย ให้ดาเนนิ การเกี่ยวกบั การเลือกต้ังตามพระราชบัญญัติน้ี จงใจไม่ปฏิบัติตามหนา้ ทหี่ รือกระทาการอันมิชอบ ด้วยหน้าท่ีเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หรือกระทาการหรือละเว้นกระทาการโดยทุจริตหรือ ประพฤติมชิ อบในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ ต้องระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ ามปถี งึ ย่สี ิบปี และปรับต้งั แต่สองหม่นื บาท ถึงสองแสนบาท และใหศ้ าลสงั่ เพกิ ถอนสทิ ธสิ มัครรับเลอื กต้ัง มาตรา ๑๒๐ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกต้ังโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะ ต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตัง้ ต้องระวางโทษจาคกุ ตง้ั แต่หน่ึงปถี งึ สิบปี และปรับต้ังแตส่ องหม่นื บาท ถึงสองแสนบาท และให้ศาลสง่ั เพกิ ถอนสทิ ธิเลือกตงั้ ของผู้นน้ั มีกาหนดยส่ี บิ ปี มาตรา ๑๒๑ ผใู้ ดจงใจกระทาด้วยประการใด ๆ ใหบ้ ัตรเลอื กต้งั ท่ีตนไดร้ ับมอบจากกรรมการ ประจาหน่วยเลือกต้ัง ชารุดหรือเสียหาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท และมิให้ถือว่า เปน็ ความผดิ ฐานทาใหเ้ สยี ทรพั ย์ ผู้ใดจงใจกระทาด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกต้ังชารุดหรือเสียหายหรือให้เป็นบัตรเสีย อันมิใช่เป็นการกระทาตามวรรคหน่ึง และเป็นการกระทาโดยมีเจตนาเพื่อให้การเลือกตั้งไม่เป็นไป โดยสุจริตหรอื เทย่ี งธรรม หรอื กระทาดว้ ยประการใด ๆ แกบ่ ัตรเสยี เพือ่ ให้เป็นบัตรเลือกต้ังที่ใชไ้ ด้ หรอื ทา หรือใช้บัตรปลอมเพ่ือใช้ในการออกเสียงลงคะแนน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกิน หน่ึงแสนบาท และใหศ้ าลสงั่ เพกิ ถอนสทิ ธิเลือกต้งั ของผู้นัน้ มกี าหนดสิบปี

เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๓๐๗ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ถ้าผู้กระทาความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองเป็นเจ้าพนักงานผู้ดาเนินการเลือกต้ัง ต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่หน่ึงปีถึงสิบปี และปรับต้ังแต่สองหม่ืนบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลส่ัง เพกิ ถอนสิทธเิ ลอื กต้งั ของผูน้ ัน้ มีกาหนดยี่สบิ ปี มาตรา ๑๒๒ ในระหว่างเวลาเปิดการออกเสียงลงคะแนนจนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนน ถ้ากรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งเปิดเผยให้แก่ผู้ใดทราบว่า ผู้มีสิทธิเลือกต้ังผู้ใดมาลงคะแนนหรือ ยงั ไมม่ าลงคะแนนเพอื่ เปน็ คุณหรอื เปน็ โทษแกผ่ ้สู มัคร ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ หน่งึ ปี หรอื ปรับไม่เกนิ สองหมืน่ บาท หรือทั้งจาทัง้ ปรบั มาตรา ๑๒๓ ผู้ใดขาย จาหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเล้ียงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้ง ในระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกาของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนถึงเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกาของ วันเลอื กต้ัง ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหกเดอื น หรอื ปรับไมเ่ กนิ หน่ึงหม่นื บาท หรือทัง้ จาทง้ั ปรบั มาตรา ๑๒๔ ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เก่ียวกับผลของการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แตห่ นงึ่ ปีถึงหา้ ปี หรอื ปรับตง้ั แตส่ องหม่นื บาทถึงหน่ึงแสนบาท หรอื ท้งั จาทงั้ ปรบั และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตงั้ ของผู้เล่นมีกาหนดสิบปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรบั เลือกต้ังของผู้จดั ให้มีการเลน่ ถ้าการกระทาตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทาของผู้สมัคร ต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่หน่ึงปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหม่ืนบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจาท้ังปรับ และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิสมัคร รบั เลือกตงั้ ของผ้สู มคั รผ้นู ั้น มาตรา ๑๒๕ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๘ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สห่ี มื่นบาท หรอื ทั้งจาทั้งปรบั และให้ศาลสงั่ เพกิ ถอนสิทธเิ ลือกตั้งของผู้นน้ั มีกาหนดห้าปี มาตรา ๑๒๖ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๔ มาตรา ๖๕ (๑) หรือ (๒) มาตรา ๖๗ วรรคหน่ึง มาตรา ๘๔ มาตรา ๘๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๘๘ มาตรา ๙๒ มาตรา ๙๙ หรือมาตรา ๑๐๑ ต้องระวางโทษจาคุกตง้ั แตห่ นง่ึ ปถี งึ สบิ ปี หรอื ปรับตั้งแตส่ องหมน่ื บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั และใหศ้ าลสง่ั เพกิ ถอนสทิ ธิเลือกตงั้ ของผนู้ น้ั มีกาหนดยีส่ ิบปี