พระราชอานาจของพระมหากษตั รยิ ์ - การใหพ้ ้นจากตาแหน่งของผูพ้ พิ ากษาและตลุ าการ - การแตง่ ตั้งประธานศาลรฐั ธรรมนญู และตุลาการศาลรัฐธรรมนญู - เกีย่ วกับความมัน่ คงของประเทศ
อทิ ธพิ ลของระบอบการเมอื งการปกครองที่มผี ลต่อการดาเนนิ ชวี ติ 1. ทาใหป้ ระชาชนเหน็ ความสาคัญของการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย ตระหนกั ในสิทธแิ ละหน้าท่ขี องตนเองตอ่ การปกครอง 2. ทาใหป้ ระชาชนต่นื ตวั ทางการเมือง มีส่วนรว่ มสนับสนนุ กิจกรรม ทางการเมือง 3. ทาให้เกดิ การสง่ เสริมการแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตุผล ทง้ั ท่ี เหน็ ดว้ ยและไม่เหน็ ด้วย 4. ทาให้เกิดการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ กลุ่มผลประโยชน์ สรา้ ง เครอื ข่ายสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ ับกล่มุ อาชพี 5. ทาใหค้ นในทอ้ งถิ่นรว่ มมอื กันปกปอ้ งผลประโยชนข์ องทอ้ งถ่ินตน
สถานการณก์ ารเมืองการปกครองของสงั คมไทย ปัจจัยสาคัญที่ทาให้สถานการณก์ ารเมอื งการปกครองมคี วามขดั แยง้ ระหวา่ งรฐั บาลกับ ประชาชนนอ้ ยกวา่ บา้ งประเทศ มดี ังนี้ 1. ประเทศไทยสามารถปรบั สถานการณ์ตา่ ง ๆ ของประเทศให้สอดคลอ้ งกับ กระแสโลกาภวิ ัตนท์ งั้ ดา้ นการเมอื งเศรษฐกิจและสังคม รวมทง้ั พยายามพึ่งพา ตนเองด้วยการนอ้ มนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ รมาใชใ้ นการพฒั นา
สถานการณก์ ารเมอื งการปกครองของสังคมไทย 2. ประเทศไทยไม่มีความขดั แย้งระหว่างกลุ่มต่างเชือ้ ชาติหรอื กลมุ่ ต่างศาสนา 3. ประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรยิ ท์ ่เี ป็นเอกลักษณ์ของชาตแิ ละศูนย์รวม ความสามคั คขี องคนในชาติ 4. ประเทศไทยไดท้ าการปฏิรูปการเมืองไทยท้ังระบบใหเ้ ปน็ การเมืองของพลเมอื ง เพ่ือใหก้ ารเมืองมคี วามโปรง่ ใสตรวจสอบได้ นักการเมืองมีคณุ ธรรมจริยธรรมลดปัญหา การทจุ ริตการแสวงหาผลประโยชน์
ปัญหาการเมอื งการปกครองของสงั คมไทย 1. ความคดิ เหน็ ทางการเมืองของคนไทยแตกต่างกัน
ปญั หาการเมอื งการปกครองของสงั คมไทย 2. ความออ่ นแอของฝ่ายบรหิ าร
ปญั หาการเมืองการปกครองของสงั คมไทย 3. ระบบพรรคการเมือง พรรคการเมอื งมีจานวนมากและมกี ารแบง่ ข้วั กนั อย่างชดั เจน
ปญั หาการเมอื งการปกครองของสังคมไทย 4. จริยธรรมนักการเมอื ง
การดาเนินนโยบาย ดา้ นความสัมพันธร์ ะหว่างประเทศ
การดาเนนิ นโยบายด้านความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประเทศ ประเทศตา่ ง ๆ ท่ัวโลกใหค้ วามสาคญั กับการสร้างสนั ตภิ าพและความม่นั คงทาง เศรษฐกิจ มีการตดิ ต่อชว่ ยเหลือกนั รูปแบบการสร้างความสมั พนั ธม์ ีความหลากหลายทง้ั ดา้ น การทูต การคา้ การแลกเปลี่ยนทางวฒั นธรรม การศกึ ษา การกีฬา และเทคโนโลยี ประเทศไทยมกี ารดาเนนิ นโยบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งประเทศ คอื 1. การเข้าร่วมเป็นสมาชิกองคก์ ารความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ 2. การแลกเปล่ียนเพือ่ ชว่ ยเหลอื และสง่ เสรมิ ดา้ นเศรษฐกจิ การศกึ ษา สังคมและ วฒั นธรรม
การเข้าร่วมเป็ นสมาชกิ องคก์ รความร่วมมือระหว่างประเทศ Thank you for watching welcome to download!
องค์การสหประชาชาติ (UN) วัตถปุ ระสงคใ์ นการกอ่ ตง้ั - รกั ษาสันตภิ าพ ความมั่นคงระหว่างประเทศ - พฒั นาความสมั พันธร์ ะหวา่ งประเทศ โดยอยบู่ นพ้นื ฐานของหลักสิทธิ มนษุ ยชนและความเทา่ เทยี มกนั ของมนษุ ย์ - สง่ เสริมประชาธปิ ไตย สิทธิ เสรภี าพ ความเสมอภาค บนพืน้ ฐานของ หลกั ความยตุ ธิ รรมและกฎหมายระหวา่ งประเทศ - อนรุ ักษ์และบรู ณะสถานท่สี าคญั ทางประวตั ิศาสตร์ วัฒนธรรม และ สถาปตั ยกรรม
องค์การสหประชาชาติ (UN) ประเทศไทยไดเ้ ข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาตเิ ปน็ อนั ดบั ท่ี 55 เมอื่ วนั ที่ 16 ธันวาคมพ.ศ 2489 โดยประเทศไทยใหค้ วามร่วมมือกับสหประชาชาตใิ นดา้ นต่างๆ ดงั น้ี 1. สง่ เสริมสนั ตภิ าพและรักษาความสงบระหวา่ งประเทศ เช่น การสง่ ทหารเข้า รว่ มปฏบิ ัติการกบั สหประชาชาติในตมิ อร์ตะวันออกเมื่อเดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2542 2. ความรว่ มมอื ทางสงั คม เชน่ รว่ มมอื แกป้ ัญหาความยากจน การค้ามนษุ ย์ สิ่งเสพตดิ การฟอกเงิน การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ เปน็ ต้น 3. ความร่วมมือทางด้านสงิ่ แวดล้อม เชน่ การเพ่ิมพนื้ ท่ปี ่า การยกเลกิ การใช้ สารเคมีทาลายช้นั บรรยากาศของโลก ส่งเสรมิ การใชพ้ ลงั งานที่สะอาด เปน็ ต้น
องคก์ ารสหประชาชาติ (UN)
สมาคมประชาชาตแิ ห่งเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ASEAN) วัตถุประสงคใ์ นการก่อตั้ง - ส่งเสรมิ เสถียรภาพ สนั ติภาพ และความม่นั คงภายในภูมภิ าค - เสริมสร้างความสัมพนั ธอ์ นั ดกี ับประเทศนอกภูมิภาค - เพ่อื เร่งรดั ความเติบโตทางเศรษฐกิจ ความกา้ วหนา้ ทางสังคมและ วัฒนธรรมของภมู ิภาค - ส่งเสริมความรว่ มมอื ในทางวิชาการ ทั้งการฝึกอบรม การแลกเปลย่ี น เรยี นรู้ และการวิจยั
สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (ASEAN) สมาคมประชาชาตแิ ห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กอ่ ตง้ั เมื่อปี พ.ศ 2510 มีสมาชิก เริม่ แรก 5 ประเทศคอื ไทย อนิ โดนเี ซยี มาเลเซยี ฟลิ ิปปนิ ส์และสิงคโปร์ ปัจจบุ นั มี สมาชิก 10 ประเทศ โดยมีสมาชิกเพิ่มเตมิ ได้แก่ บรไู น เวียดนาม ลาว เมยี นมารแ์ ละ กมั พชู า มีสานกั งานใหญต่ ั้งอยทู่ ่กี รุงจาการต์ า ประเทศอนิ โดนเี ซยี พ.ศ. 2558 สมาคมประชาชาติแหง่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไดพ้ ัฒนาความสมั พันธ์ รวมตวั ข้ึนสกู่ ารเป็นประชาคมอาเซยี น โดยประกอบด้วย 3 เสาหลกั ท่สี าคญั ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมน่ั คงอาเซยี น ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น และประชาคม สังคมและวฒั นธรรมอาเซยี น เพ่ือส่งเสรมิ ความเข้าใจอนั ดรี ะหว่างประเทศในภมู ภิ าคดารง ไว้ซ่ึงสันติภาพความม่ันคงทางการเมืองท่ีสรา้ งความเจรญิ ทางเศรษฐกิจและพฒั นาสงั คม และวฒั นธรรมในภมู ภิ าคเพื่อใหป้ ระชาชนมีคุณภาพชีวติ ทีด่ ขี ้นึ
เขตการคา้ เสรอี าเซยี น (AFTA) วตั ถุประสงคใ์ นการกอ่ ตง้ั - ส่งเสรมิ การค้าในอาเซยี นใหข้ ยายตวั เพ่มิ ข้ึน - ลดภาษแี ละอปุ สรรคขอ้ กดี ขวางทางการค้า เพอ่ื ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ - เพ่ิมขีดความสามารถในการต่อรองทางการคา้ โลก - เปน็ เปน็ เวทีแสดงความคดิ เห็นหากถกู เอารดั เอาเปรียบทางการคา้ จากประเทศ อื่น ผลส่งตอ่ เศรษฐกจิ ของไทย ทาให้ประเทศไทยมตี ลาดการค้าเพ่ิมขน้ั
ความร่วมมอื ทางเศรษฐกิจในภมู ิภาค เอเชีย-แปซฟิ ิก (APEC) วตั ถปุ ระสงคใ์ นการก่อตั้ง - สง่ เสรมิ และพัฒนาระบบการค้า เพ่ือการขยายตวั ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค และของโลก - เป็นเวทีสาหรับใหส้ มาชิกปรกึ ษาหารือ แลกเปล่ยี นขอ้ คิดเห็นกนั ทาง ด้านเศรษฐกิจ - ส่งเสรมิ ใหก้ ารค้าและการลงทนุ เป็นไปอย่างเสรี - ลดอุปสรรคและอานวยความสะดวกทางการคา้ และบริการระหว่างประเทศ สมาชกิ การเป็นสมาชกิ เอเปก สง่ ผลใหไ้ ทยมีโอกาสขยายการคา้ และลงทุนในกลมุ่ ประเทศ สมาชิกซึ่งเป็นตลาดท่ีมขี นาดใหญ่มาก
องค์การการคา้ โลก (WTO) วตั ถปุ ระสงค์ในการกอ่ ต้ัง - ส่งเสรมิ ให้การค้าระหว่างประเทศเป็นไปโดยเสรมี ากข้ึน - ส่งเสรมิ การแขง่ ขันทางการค้าทเ่ี ปน็ ธรรมไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ - กากับดูแลการดาเนินงานของประเทศสมาชกิ ให้เป็นไปตามข้อตกลงขององค์การ การค้าโลก - ยุติขอ้ พิพาทท่อี าจมขี ้ึนระหวา่ งประเทศสมาชกิ - เป็นเวทเี จรจาการคา้ ของประเทศสมาชิก - ติดตามและตรวจสอบนโยบายทางการคา้ ของประเทศสมาชกิ อยา่ งสม่าเสมอ
องคก์ ารการคา้ โลก (WTO) องคก์ ารค้าโลกเป็นองค์กรระหว่างประเทศท่ีจดั ตง้ั ขน้ึ ตามข้อตกลงท่ัวไปว่าด้วยภาษี ศลุ กากรและการค้าหรอื แกตต์ (GATT) ก่อต้ังเปน็ การถาวรเมื่อวนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ 2538 การเข้าเปน็ สมาชิกของประเทศไทยส่งผลดี คอื ทาใหส้ นิ คา้ สาคัญของไทยโดยเฉพาะ สินคา้ ทางการเกษตร อาหารแปรรปู สิ่งทอและเสอ้ื ผา้ ถูกกดี กนั การทางการคา้ นอ้ ยลง การคดิ อัตราภาษนี าเข้าในแต่ละประเทศเปน็ ระบบเดียวกัน และในขณะเดยี วกนั ไทยตอ้ ง เปดิ เสรีให้ประเทศอ่นื ๆ ไดส้ ่งสินคา้ เขา้ มาในประเทศเช่นกนั รวมท้งั ไทยต้องปรับปรุง มาตรฐานการผลิตสินคา้ และบริการให้เปน็ ไปตามหลักสากลมากขนึ้ เชน่ สินค้าตอ้ งไม่ ทาลายสิง่ แวดลอ้ ม ไมม่ สี ารเคมเี จอื ปน ไม่ละเมดิ ทรัพย์สนิ ทางปญั ญา เปน็ ตน้
การแลกเปล่ยี นเพอ่ื ชว่ ยเหลอื และส่งเสริมดา้ นเศรษฐกจิ การศึกษา สังคมและวัฒนธรรม Thank you for watching welcome to download!
ด้านเศรษฐกจิ ประเทศไทยได้ร่วมมอื ทางเศรษฐกจิ กบั ประเทศต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอก ประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพ่ือนบ้าน ได้แก่ 1. ความรว่ มมอื ระหว่างไทย–ลาว เช่น การสรา้ งเสน้ ทางคมนาคมเชอื่ มตอ่ กัน เช่น สะพานมิตรภาพไทย- ลาว แหง่ ท่ี 1 (หนองคาย-เวยี งจันทน)์ สะพานมติ รภาพไทย-ลาว แหง่ ท่ี 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เพ่อื ความสะดวกในการเดนิ ทางและชว่ ยเหลือเกื้อกลู กัน ทางเศรษฐกจิ
ด้านเศรษฐกิจ 2. ความรว่ มมือระหวา่ งไทย-ลาว-เวยี ดนาม-จนี ในการสรา้ งเส้นทางคมนาคม เช่ือมตอ่ กนั เพอ่ื ความสะดวกในการติดตอ่ ค้าขายระหว่างกัน
ด้านเศรษฐกิจ 3. ความร่วมมือระหวา่ งไทย-เมียนมาร์-ลาว-กัมพชู า-เวยี ดนาม ตามโครงการความ รว่ มมอื ทางเศรษฐกิจอริ วดี-เจ้าพระยา-แมโ่ ขง เพอ่ื สรา้ งความเจริญก้าวหนา้ ทางดา้ น เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง วัฒนธรรมและการทอ่ งเทย่ี ว
ด้านเศรษฐกิจ 4. ความร่วมมือระหวา่ งไทย-ลาว-กมั พชู า-เวียดนาม ในโครงการพฒั นาทรัพยากรนา้ ในลุ่มแม่น้าโขงตอนล่างเพื่อการใช้ประโยชน์จากแมน่ า้ โขงร่วมกนั
ด้านการศกึ ษา การศกึ ษาเปน็ ปจั จยั พ้ืนฐานในการพัฒนาประเทศ และในปจั จบุ นั การศกึ ษาได้ ก้าวหนา้ อยา่ งมาก ประเทศไทยจงึ มคี วามจาเป็นต้องพึ่งพาและแลกเปลีย่ นความรู้กบั ประเทศตา่ ง ๆ โดยเฉพาะประเทศทพี่ ัฒนาแลว้ เพ่ือนามาพัฒนาการศึกษาของไทยให้ ทัดเทยี มกับนานาประเทศ
ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม ประเทศไทยมีความสมั พนั ธท์ างสังคมและวฒั นธรรมกับประเทศต่าง ๆ เชน่ ความร่วมมอื ในการเผยแพร่และเปล่ยี นวฒั นธรรมกบั ประเทศในกลุ่มอาเซียน การจดั นิทรรศการดา้ นศิลปวฒั นธรรม การประกวดวรรณกรรมรางวลั ซีไรต์ การแข่งขันกฬี า การจัดนิทรรศการ ศิลปะเป็นต้น
ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม
สรุป ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์เปน็ ประมุข เพราะเหน็ ว่ามคี วามเหมาะสมกบั บริบทของสังคมไทยและเช่อื ม่นั ว่าจะชว่ ยทาใหป้ ระเทศ ไทยพฒั นาเจริญกา้ วหนา้ ได้ดีทีส่ ดุ แตป่ ระเทศไทยยังมีปญั หาทางการเมืองที่ตอ้ งแก้ไขโดยเฉพาะปญั หาที่เกดิ จาก ความคิดทางการเมืองแตกต่างกนั นาไปสคู่ วามขัดแยง้ ทางสงั คมต้องอาศัยความรว่ มมือ ของคนไทยทุกคนในการแก้ปญั หาร่วมกนั นอกจากนปี้ ระเทศไทยยงั เข้ารว่ มเปน็ สมาชกิ องค์กรระหว่างประเทศท่มี สี ่วนชว่ ยในการพัฒนาเศรษฐกิจ สงั คม และการศกึ ษาของ ประเทศให้ขยายตวั เจริญก้าวหน้า ส่งผลให้ประเทศไทยมีภาพพจนท์ ี่ดใี นสายตานานา ประเทศอย่างตอ่ เน่อื ง
ข้อสอบ o – net ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ ทรงเปน็ ประมขุ ใครมอี านาจสูงสดุ ของประเทศ 1. พระมหากษตั รยิ ์ 2. ประชาชน 3. รฐั สภา 4. รฐั บาล
ขอ้ สอบ o – net พระมหากษัตริย์ไทยทางใชอ้ านาจนิติบัญญตั โิ ดยผ่าน ทางสถาบนั ทางการเมืองใด 1. ศาล 2. รฐั สภา 3. คณะรัฐมนตรี 4. คณะองคมนตรี
ขอ้ สอบ o – net ข้อใดไมใ่ ช่พระราชอานาจสว่ นพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย 1. การแตง่ ตั้งองคมนตรี 2. การแต่งต้งั ขา้ ราชการในพระองค์ 3. การพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ 4. การแตง่ ตง้ั บุคคลดารงตาแหน่งนายกรฐั มนตรี 5. การแกไ้ ขกฎมณเฑยี รบาลวา่ ดว้ ยการสบื ราชสันตตวิ งศ์
คาบหนา้ สอบนะจะ๊
Search