Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มิวเซียมเล็กๆ ในโซล

มิวเซียมเล็กๆ ในโซล

Description: มิวเซียมเล็กๆ ในโซล

Search

Read the Text Version

SEOULLITTLE MUSEUM IN ไดช้ าซกั ถ้วยเขาจะรินแลว้ รินอกี เทแลว้ เทอีก ถ้วยชากต็ อ้ งได้อณุ หภมู ิท่เี หมาะ สม น้ำ�ส�ำ หรบั ชงกต็ อ้ งไม่รอ้ นเกนิ ไป อุณหภูมิของชาที่อรอ่ ยทส่ี ดุ จะอยทู่ ่ี ๗๐-๘๕ องศาเซลเซยี ส แลว้ เขาก็จะมีของกินไวแ้ กล้มกบั ชาดว้ ย สว่ นมากกจ็ ะเปน็ ขนมกิน เล่น มเี ค้กข้าว หรอื ตอ๊ ก บา้ งกเ็ ป็นธญั พืชอบแห้ง บา้ งก็เป็นผลไม้อบแหง้ ซ่ึงจัด แต่งมาอย่างสวยงาม กลบั มาทค่ี ุณแดจงั กมึ อกี ที คอื แตล่ ะแผงเน่ียเขาเตรยี มไว้ใหบ้ รรดานกั ท่องเที่ยวทมี่ าชมมาร่วมดม่ื ชาได้ด้วย ผมกเ็ ล็งแผงของคณุ จงั กมึ ไว้ แต่ระหวา่ ง นั้นกเ็ ตรด็ เตร่รอ่ นไปดแู ผงโนน้ แผงนเ้ี รื่อยเปื่อย พอหันกลับมาอกี ทกี โ็ ดนหนมุ่ ใหญ่สองนายชงิ พ้ืนทไี่ ปเสียแลว้ ทีเ่ จบ็ ใจก็คือแผงอืน่ ๆ เขายงั ไมม่ ีใครน่งั เลย แตน่ ่ี พอ่ คุณสองคนเลน่ จองตั้งแต่หวั วนั ใครทเ่ี บ่อื คนแน่นที่พระราชวงั ใหญ่ๆ ลองแวะมาชมพระราชวังอึนเฮยี น กงุ กัน เพราะความที่เป็นวงั ขนาดกะทัดรดั นักท่องเทยี่ วจงึ ไม่ไดม้ ากมายเท่าท่ี อื่นกเ็ ลยค่อนขา้ งสงบ ขน้ึ จากสถานรี ถไฟใต้ดนิ Anguk ทางออกหมายเลข ๔ เดินมาอกี ไม่กกี่ า้ วก็เจอรั้ววงั แล้ว คา่ เขา้ ชมก็ ๗๐๐ วอน (ราว ๗๕-๘๐ บาท) แตล่ ะเดอื นเขาจะมีตารางกจิ กรรมลว่ งหนา้ เอาไว้ ถา้ โชคดีก็จะได้มาชมอะไร สนุกๆ อย่างผม ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ไดค้ รบั ที่ www.unhyeongung.or.kr ถา้ ชมวงั เสรจ็ แล้วกแ็ วะมาชมตอ๊ กมิวเซยี มตอ่ ไดอ้ ีก อยไู่ มไ่ กลกนั นกั หรือจะ แวะเดินย่านตลาดเก่าก็ไดอ้ กี เช่นกัน ๑๓๕

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๓๖

มวิ เซียมกุ๊กไก่ (Chicken Art Museum) ๑๓๗

SEOULLITTLE MUSEUM IN ความช่ืนชอบในบางส่ิงจนกลายเป็นความหลงใหลคลั่งไคล้ของใคร บางคน อาจดูเปน็ เรื่องไรส้ าระของคนอ่ืนๆ แตก่ บั เขาคนนั้นแลว้ มนั คือเร่ือง จรงิ จัง ของท่ีไรค้ า่ ของใครหลายคนอาจเปน็ สมบตั ชิ ้นิ ส�ำ คัญของใครบางคน เร่ืองราวของมิวเซียมเลก็ ๆ อกี แห่งทจี่ ะพาไปเยีย่ มชมในตอนนี้กเ็ ชน่ กัน มนั เป็นพิพิธภัณฑไ์ กค่ รับ ... กม็ นั มีแตไ่ กจ่ รงิ ๆ นคี่ รบั เพราะคนเรากินไก่ ผมคดิ ว่าอย่างนัน้ นะครับ เพราะมันเกิดมาเพือ่ เปน็ อาหารของมนุษย์ (แมว้ า่ มันจะไมเ่ ตม็ ใจก็ตามเถอะ) ผมไมพ่ บคำ�ตอบแน่ชัดว่าคน เราเรม่ิ กินไก่กันตั้งแตเ่ ม่อื ไหร่ แลว้ เรากย็ งั กินไขข่ องมนั อีกด้วย แถมยังมีการเพาะ เล้ียงกนั เป็นฟาร์มใหญโ่ ต นกึ แล้วกใ็ ห้สงสารในชะตาชวี ติ ของพวกมันนะครบั เกดิ มาเพอื่ จะถกู กนิ แทๆ้ เชียว แต่พอมันนอนอยู่ในจานปบุ๊ ความสงสารก็หายไปทนั ที เอาเป็นวา่ เราผกู พันใกลช้ ิดกบั ไกน่ ่นั เป็นเพราะเรากนิ มันนัน่ เอง แต่นอก เหนือจากการเป็นอาหารใหเ้ ราแลว้ ไก่ยังมีคุณประโยชน์อ่ืนๆ อกี มากมาย มัน เปน็ สัตวไ์ มก่ ่ีชนิดจากหลายพนั ชนิดทมี่ นุษย์เราเลีย้ งดู ทัง้ เพ่ือกินและเพอ่ื เกบ็ เก่ยี วประโยชนอ์ ่ืนๆ จากตวั มนั เรยี กวา่ มันเกดิ มาเพอ่ื ใหจ้ ริงๆ ครบั ส่ิงทีม่ ันไดจ้ าก มนษุ ยก์ ็เพยี งการเลี้ยงดูและมดี คมๆ ทีร่ อปาดคอมันตอนโตไดท้ ี่ ไกม่ หี ลากหลายพันธค์ุ รับ ว่ากนั ว่าเดิมทีมนั เป็นไก่ปา่ คอื อาศัยตาม ธรรมชาติ กอ่ นทมี่ นุษย์จะคิดจับมันมาเพาะเลีย้ งจนเกิดเปน็ สายพันธุ์ต่างๆ เพ่ิม ขนึ้ ขณะทีไ่ ก่ป่าตามธรรมชาตนิ ั้นเหลือนอ้ ยเตม็ ที บางคร้งั เราเองยงั นึกไม่ออกว่า ไกม่ ันจะอยู่ในปา่ ได้อยา่ งไรถา้ ไม่มีคนเล้ียง และสงั เกตไหมครับวา่ ไก่ป่าน้ันสวยงาม กวา่ ไกเ่ ลย้ี ง คงเพราะไกเ่ ลี้ยงไม่จ�ำ เป็นต้องสวยงามนักกไ็ ด้ เพราะยงั ไงมันกต็ อ้ ง โดนเชอื ดอยดู่ ี ๑๓๘

SEOULLITTLE MUSEUM IN ขนาดนั้นไม่สำ�คัญเท่ากับความตั้งใจและความทุ่มเทท่ีมีให้กับสิ่งท่ีเรา รัก มวิ เซียมท่ีกรุงโซลหลายแห่งมีขนาดไม่ไดใ้ หญโ่ ตไปกวา่ ห้องแถวบา้ นเราเลย สว่ นหน่ึงต้องยอมรบั เลยว่ามนั เกดิ จากความรักแบบทุม่ สุดตวั ของเจา้ ของ อย่าง Chicken Art Museum แหง่ น้ี ดจู ากภายนอกก็ไม่นกึ ว่าจะเปน็ พิพธิ ภัณฑ์ได้เลย คะเนเอาโดยสายตากไ็ ม่น่าจะเกนิ บ้านแฝดซักหลังหรอื ไม่ก็ห้องแถวสองหอ้ ง อาจ จะมพี ื้นทวี่ า่ งอกี เลก็ นอ้ ยแต่เขากด็ ัดแปลงเปน็ ส่วนจดั แสดงเสยี จนเตม็ บางคน อาจจะแย้งได้วา่ กเ็ จา้ ของเขาคงมีเงินนะ่ สิถึงไดท้ �ำ อะไรแบบน้ีได้ แนน่ อนครับผมก็ คดิ เช่นนนั้ แต่การทใ่ี ครซกั คนจะทุ่มเงินสว่ นตวั มาท�ำ อะไรแบบน้ีมนั กน็ า่ ชืน่ ชมนะ ครบั คิดหรอื ครับว่าเขาจะได้กำ�รีก้ ำ�ไรอะไรมากมายจากการเปิดพพิ ธิ ภัณฑท์ ไี่ มร่ วู้ า่ จะมคี นเข้ามาชมสกั กี่มากน้อย ดูอยา่ งพิพิธภัณฑ์สว่ นบคุ คลของบ้านเราเองก็เถอะ หลายแหง่ ก็แทบจะ อยู่ไมไ่ ด้ คร้ันจะหวังพ่ึงพาแรงสนับสนุนจากฝา่ ยรฐั รอคนใจบุญมาบริจาคใหย้ ัง จะมีหวังมากกวา่ เลยครับ มนั จงึ ไม่แปลกที่เจา้ ของพิพธิ ภัณฑส์ ว่ นหน่ึงถา้ เป็นไป ไดก้ ค็ วรจะมีกำ�ลงั ทรัพยม์ ากพอทีจ่ ะรักษาพิพิธภัณฑใ์ หอ้ ยยู่ ืนยาว สว่ นทที่ ำ�ดว้ ย ใจรกั แท้ๆ แต่ก็มักขาดทนุ ทรพั ย์ ก็สุดแท้แตว่ า่ จะมใี ครเหลยี วมาเห็นความสำ�คัญ บ้างเท่าน้นั เอง อย่าง บา้ นพพิ ิธภณั ฑ์ ของ อาจารย์เอนก นาวกิ มูล ลกู ศษิ ยล์ ูก หาเพื่อนฝูงของทา่ นก็มีพอสมควร ทา่ นก็พอจะยืนอยไู่ หวนะครบั หรือ พิพิธภณั ฑ์ ของเล่น ของ อาจารย์เกรกิ ยุ้นพันธ์ นกี่ ็พอจะยนื อยูไ่ ด้ ผู้คนทีไ่ ปเที่ยวชมนน้ั ส่วนหนึง่ ก็ตามกระแสท่สี ื่อมวลชนเขาโหมโปรโมท ถามจริงๆ เถอะว่าคนไทยที่ จะไปเทย่ี วพิพธิ ภัณฑ์นัน้ มมี ากนอ้ ยเท่าไหร่ สไู้ ปเทย่ี วสถานท่ที ่องเที่ยวเกๆ๋ ดูจะ ส�ำ ราญกว่าเป็นกองใช่ไหม ดงั นั้นพพิ ิธภัณฑ์เลก็ ๆ อกี หลายแหง่ ท่ีไมม่ ีแรงโปรโมท ทไ่ี มม่ ี Connection มากมายนกั กร็ อแต่วนั ปิดตวั โดยเฉพาะพพิ ิธภณั ฑท์ อ้ งถิน่ ๑๓๙

SEOULLITTLE MUSEUM IN หลายแหง่ ในสงั กัดของรัฐกเ็ ปิดข้นึ มาเพื่อรอวันปิดจรงิ ๆ ครบั พิพิธภัณฑท์ ้องถ่นิ ทแี่ ถวลาดพร้าว ใกล้ๆ บ้านผมน่ีกเ็ ปน็ อกี ตวั อยา่ งหน่ึง ลองถามคนในซอยนั้นเขา ยงั ถามผมยอ้ นกลับมาเลยครับว่ามดี ว้ ยเหรอ ... ก็ได้แต่ละเหีย่ ใจ กลบั มาท่มี ิวเซียมก๊กุ ไกอ่ ีกทคี รบั ตัวมิวเซยี มนัน้ ทจี่ รงิ ก็คอื บา้ นพกั อาศยั แต่เขาดัดแปลงให้กลายเปน็ พพิ ธิ ภณั ฑอ์ ย่างงา่ ยๆ ก็คือมีตู้โชว์อย่ตู ิดผนงั บางส่วน กจ็ ดั ไว้กลางบ้าน และบางส่วนก็วางมนั บนโต๊ะธรรมดานีแ่ หละ เป็นพิพธิ ภัณฑ์ที่ เป็นกันเองเหมือนมาเย่ียมชมของสะสมทบี่ า้ นเพ่ือนสนทิ นั่นก็ไมป่ าน พพิ ธิ ภณั ฑ์ แหง่ นต้ี ง้ั อยใู่ นเขตจองโน ใกลๆ้ กับหมู่บ้านโบราณในชุมชนบกุ ชองเลยครับ ถา้ มาจากสถานีรถไฟ Anguk กต็ ้องเดินกันพอเหนื่อยเชยี วล่ะ ท่จี ริงอาจจะมีรถเมล์ ผา่ นกไ็ ด้ แต่ผมเดนิ เอาครบั ผมเดินมาจากฝั่งพระราชวงั ชางดอ็ ก ลดั ถนนยอ่ ยเขา้ จนมาถึงเขตหมบู่ า้ นโบราณ ทีแรกก็เกอื บหลงเพราะเหลยี วดูแล้วชกั ไม่ม่ันใจวา่ มา ถูกหรอื ไม่ จนมาเจอศูนยน์ ักท่องเทีย่ ว เจา้ หนา้ ทที่ ่ีนีแ่ สนจะเอาใจใส่ ยัดแผนทีม่ าใหส้ องแผน่ แถมวงมาใหเ้ สรจ็ สรรพว่ามอี ะไรให้ดบู ้าง ซึง่ นา่ เสยี ดายทเ่ี วลาในโซลของผมมจี ำ�กัดจึงไปได้ไม่ทว่ั ถา้ ท่านใดมีเวลาและสนใจจะเที่ยวสไตลน์ ล้ี ่ะก็ แค่ในชุมชนบุกชองนกี่ ็มที ใ่ี ห้อยู่ เท่ียวได้เป็นอาทิตยเ์ ชียวนะครับ หากมาตามเส้นทางหลกั คอื ออกจากสถานี Anguk ก็เดนิ มาเร่อื ยๆ จน ผ่านอาคารศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลี ก็เดินตรงมาอกี เรือ่ ยๆ ให้แหงนหนา้ ดปู ้าย บอกทางเอานะครบั ท่ีนี่เขาจะมีปา้ ยบอกจดุ ส�ำ คญั ๆ ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วทราบเป็น ๑๔๐

SEOULLITTLE MUSEUM IN ระยะ ถา้ เจอบา้ นเรือนสไตล์โบราณเยอะๆ ล่ะกแ็ สดงวา่ มาถกู แล้วละ่ ครบั ทห่ี นา้ พิพธิ ภณั ฑ์จะมโี ลโก้รปู ไก่เกไ๋ ก๋โชว์อยู่ เปิดประตกู ระจกเขา้ ไปได้เลย คา่ ธรรมเนยี ม เข้าชมของทีน่ อี่ ย่ทู ี่ ๓,๐๐๐ วอน นอกจากความชน่ื ชอบสว่ นตัวของเจา้ ของแลว้ สง่ิ หนงึ่ ทีเ่ ปน็ หัวใจของ การสร้างพิพิธภัณฑ์ไก่น้ีข้ึนมาก็เกี่ยวเนื่องกับความเช่ือของคนเกาหลีเก่ียวกับไก่ (นอกจากไว้กนิ ) คือเป็นสัตวน์ ำ�โชค เป็นสญั ลักษณข์ องความม่งั ค่งั ความโชคดี และยังกลายเป็นส่วนประกอบสำ�คัญของพิธีกรรมเก่ียวกับความตายของคน เกาหลี ซึ่งก็มคี วามเชอ่ื เรอ่ื งชีวติ หลงั ความตายเหมือนกบั อกี หลายประเทศในแถบ เอเชยี พิธเี กี่ยวกับความตายของเกาหลกี ็ซบั ซอ้ นไมต่ ่างกับชาตอิ น่ื ชาวเกาหลี จะสร้างพาหนะสำ�หรบั บรรทกุ โลงศพที่เรยี กวา่ ซางโยว (Sangyeo) ซึ่งมลี กั ษณะ คลา้ ยเก้ยี วครับแตเ่ ขาเอาไว้ใส่โลงศพ มีคานยาวยนื่ ออกมาให้คนหามไดส้ องฝัง่ ใช้คนหาม ๑๒-๒๔ คน ซางโยวของคนธรรมดาสามญั กจ็ ะมีรูปร่างหน้าตาแบบ เรยี บๆ แต่สำ�หรบั ชนชนั้ สงู กจ็ ะสวยงามอลงั การตามฐานะ แล้วซางโยวก็จะถกู ประดับประดาตกแต่งเสียสวยงามจนบางทีอาจลืมไปว่าเขาเอาไว้บรรทุกโลงศพ มีส่งิ ทีเ่ ขาใชป้ ระดบั ท่นี ่าสนใจอยา่ งหนงึ่ ที่เรียกวา่ กอ็ กดู (Kokdu) ก็คือรูปสลัก ประเภทตา่ งๆ ทท่ี �ำ จากไม้ โดยมีความเช่ือว่าจะช่วยพาผู้ตายไปสสู่ ุขคติ ก็อกดูนี้ เปน็ มากกว่าส่ิงประดบั ทีผ่ มรู้สึกวา่ คนเกาหลีเขาใหค้ วามส�ำ คัญมากพอดู มีการต้ัง พพิ ธิ ภณั ฑก์ ็อกดูโดยเฉพาะดว้ ยนะครบั เขาศกึ ษาเจาะลึกกนั ถงึ ความเชื่อในเร่ืองนี้ ๑๔๑

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๔๒

SEOULLITTLE MUSEUM IN รวมถึงศกึ ษาในแงข่ องความเป็นงานศิลปะพื้นบ้าน เจ้าก็อกดูที่ว่าน้ีมักจะทำ�เป็นรูปคนหรือเทพเจ้าแล้วก็มีอยู่มากทีเดียว ทท่ี �ำ เปน็ รูปไก่ เพราะคนเกาหลีเชือ่ ว่าไก่เป็นสัตว์พิเศษทีเ่ ปน็ ส่อื กลางเชอื่ มต่อ ระหว่างโลกมนษุ ยก์ ับสวรรค์ และยังทำ�หนา้ ทเี่ ปน็ ผพู้ ิทักษข์ บั ไล่ภตู ิผีวิญญาณ ร้ายเพอ่ื จะน�ำ วิญญาณผตู้ ายไปสู่โลกหนา้ อยา่ งปกติสุข นอกจากน้ียังท�ำ หนา้ ทป่ี ัด เป่าความทกุ ข์ระทมใหแ้ กญ่ าติของผู้วายชนม์ แตห่ ากจะถามผมว่าแล้วท�ำ ไมตอ้ ง เปน็ ไก่ อนั นผ้ี มก็ไม่ทราบจรงิ ๆ เร่ืองความเชอ่ื ดัง้ เดมิ ของคนเกาหลี แตใ่ นมมุ มอง ของผมคดิ วา่ ก็คงไมต่ ่างกบั ความเชือ่ ในบ้านเราหรอื ประเทศอนื่ ๆ หรอกครบั อยา่ ง เช่นทำ�ไมเราถงึ เชื่อว่าชา้ งเป็นสตั ว์มงคล เพราะช้างส�ำ หรบั บา้ นเราคือสตั ว์ทใี่ ชใ้ น ศกึ สงครามและเปน็ พาหนะของพระอินทรซ์ ่ึงเปน็ เทพทคี่ นไทยเชอ่ื วา่ ศกั ดิส์ ิทธิ์ ดงั นั้นความเชือ่ ว่าไก่เปน็ สัตว์มงคลของชาวเกาหลกี ค็ งไม่ต่างกนั กอ็ กดูสามารถแบง่ ออกไดส้ ามพวกใหญ่ๆ คอื พวกท่มี ีรปู ร่างเป็นมนุษย์ (แต่อาจไมใ่ ชม่ นษุ ย์) มังกร และนก ประเภทที่เป็นรูปมนุษย์นน้ั ยังถกู แบง่ สรร หนา้ ท่ที ่แี ตกตา่ งกนั แบง่ ออกเปน็ สพี่ วก คือ ผูน้ ำ�ทาง (Guiding) เปน็ เหมอื น ไกดพ์ าวิญญาณคนตายไปสโู่ ลกหน้า ช่างท่ีสร้างก็อกดปู ระเภทน้ีจะเนน้ สีสันและ บรรยากาศความขลงั มากเป็นพิเศษ นยั วา่ เพราะเป็นผ้นู �ำ ทางจงึ ตอ้ งพเิ ศษหนอ่ ย ว่างัน้ เถอะ ไกด์เหล่านี้จะสร้างเปน็ เทพ อมนุษย์ และมักจะเคียงคูไ่ ปกบั สตั ว์ใน ต�ำ นานอยา่ งมังกร นกฟีนกิ ซ์ พวกทีส่ องคือ นกั รบหรอื ผพู้ ิทกั ษ์ (Guarding) ท�ำ หน้าที่ปกปอ้ งภยั จากการคกุ คามของปศี าจร้าย สังเกตง่ายๆ ครับ ก็อกดูพวกนจ้ี ะ ดถู มงึ ทึง ถืออาวธุ ครบมอื บางทีกแ็ ต่งกายเหมือนพวกเจา้ หน้าที่บ้านเมอื ง พวกท่ี สามคอื ผู้รับใช้ (Caring) มักทำ�เปน็ รปู ผูห้ ญิง อยดู่ า้ นหลังฝา่ ยผู้พทิ กั ษ์ ทำ�หนา้ ท่ี คอยรบั ใชว้ ญิ ญาณผู้ตาย และพวกสดุ ทา้ ยคือ นักดนตรี (Entertaining) เหมอื น ๑๔๓

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๔๔

SEOULLITTLE MUSEUM IN นกั ดนตรใี นขบวนแห่ท่ขี บั กล่อมวิญญาณผ้ตู าย หรอื สรา้ งบรรยากาศในขบวนแห่ รวมไปถงึ พวกนกั แสดง นกั กายกรรม ทแ่ี สดงไปพรอ้ มกับขบวนแห่ ส่วนก็อกดูท่ีเป็นรูปไก่น้ันก็หมายรวมเข้าเป็นพวกของก็อกดูประเภทนก บางทีก็เป็นนกทีพ่ ิเศษหนอ่ ยอย่าง นกฟนิ ิกซ์ ทมี่ พี ลังอำ�นาจมาก ท่มี วิ เซยี มก๊กุ ไก่แห่งน้ีเขาสะสมกอ็ กดรู ูปไกไ่ วห้ ลายช้นิ ทเี ดียวครับ หากไม่ บอกว่ามันมีไว้ประดับในพิธีศพกค็ งเห็นวา่ มนั สวยดี แต่พอรหู้ นา้ ทีข่ องเจา้ ไกพ่ วก น้ี ความรู้สกึ ตอ่ มนั กเ็ ปลยี่ นเปน็ เสนห่ แ์ บบลึกลบั ชวนขนลุก เสนห่ ข์ องมนั กค็ อื ความเป็นศลิ ปะพืน้ บ้าน บางคนอาจมองวา่ ทำ�ออกมาไมส่ วยเลย เบย้ี วๆ บูดๆ สีสนั กแ็ สบตา ลายเส้นกไ็ มเ่ รยี บรอ้ ย แต่เหล่านีแ้ หละครับคอื เสน่ห์ของศลิ ปะพื้นบา้ นท่ี ตา่ งจากศิลปะชน้ั สูงในราชสำ�นกั เล่ามาเสียตั้งนานอย่าเพ่ิงนึกว่ามิวเซียมแห่งนี้เป็นท่ีรวมของสยองขวัญ นะครับ นเี่ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของความเชอื่ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ไก่ ยังมคี วามเชื่อดา้ นสวา่ ง เหมือนกันนะครบั อย่างเชน่ เทพเจา้ ไก่ (The God of Chicken) แตผ่ มยงั ไมท่ ราบ ขอ้ มูลแน่ชดั จริงๆ ว่าส�ำ หรับคนเกาหลแี ล้ว เทพเจา้ ไกม่ ีความส�ำ คญั อย่างไร มีงาน ศิลปะชนิ้ หนึ่งท่ีเปน็ เหมือนไฮไลต์ของวตั ถพุ ิพิธภัณฑ์ทีน่ ่ี คือภาพท่ีลอกลายมาจาก งานแกะสลักนนู ต�ำ่ จากหลุมศพของนายพลคมิ ยู ชิน (Kim Yoo Shin) ซ่ึงเป็น วรี บุรุษคนส�ำ คัญที่คนเกาหลีรจู้ กั กนั ดี (นายพลคมิ มีเชื้อสายกษตั ริย์ เขาคือนาย พลผมู้ บี ทบาทอยา่ งมากในการรวบรวมแผน่ ดินในสมยั อาณาจกั รซิลลา) ภาพไก่ที่ ว่านมี้ ีรา่ งกายเป็นมนุษย์ แตง่ กายคล้ายเทพเจ้า แตม่ ศี ีรษะเป็นไก่ ดูๆ ไปคล้ายกับ เทพเจ้ารา (Ra) ของอียิปตท์ ่ีมรี ่างเป็นมนษุ ยแ์ ตม่ ศี รี ษะเปน็ เหยยี่ ว ภาพท่ีลอกมา จากหลุ่มศพช้ินน้ไี ม่ใช่เพ่ิงไปลอกมานะครับ เห็นวา่ ลอกมาตั้งร้อยกว่าปเี ข้าไปแลว้ คงเป็นศิลปินซกั คนทไ่ี ปลอกมา แลว้ ก็ตกมาถงึ มิวเซยี มแห่งนี้ในท่ีสดุ ๑๔๕

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๔๖

SEOULLITTLE MUSEUM IN อีกภาพหน่ึงที่ถูกหยิบมาเป็นไฮไลต์เหมือนกันคือภาพเทพแห่งโชคลาภ เป็นภาพเขยี นสี ท่ศี ีรษะของเทพทีว่ า่ นี้สวมเคร่อื งประดับทีเ่ ปน็ รูปไก่ซง่ึ กแ็ ปลกดี แต่ที่แปลกกว่าก็คือรูปของเทพที่ว่านี้ที่ผมรู้สึกว่าดูน่ากลัวมากกว่าจะน่าเคารพนะ เนยี่ ท่ีเล่ามาท้ังหมดคือเร่ืองของงานศิลปะท่ีเก่ียวกับไก่ที่เชื่อมโยงถึงความ เช่อื โบราณทงั้ ในดา้ นทเ่ี ปน็ มงคลและอัปมงคล (แต่มองในมมุ มองของงานศิลป์) ทีม่ วิ เซยี มแห่งน้เี ขากแ็ บ่งสรรพน้ื ทเ่ี ปน็ สองอารมณ์ คือพืน้ ทชี่ ั้นสองจะจัดแสดง ผลงานตามทเ่ี ลา่ มานี่แหละครับ ซ่ึงถ้าไปทน่ี ัน่ กใ็ หเ้ ริม่ ชมจากช้นั สองกอ่ น แล้ว ค่อยเปล่ยี นบรรยากาศมาชมของสวยๆ งามๆ ท่ชี ั้นล่างต่อ แตก่ ่อนที่จะตามผม มาชมของน่ารักๆ สงสัยกันไหมครับวา่ ใครกนั หนอท่ชี า่ งสะสมสิ่งของเกี่ยวกับไก่ไว้ ขนาดนี้ เธอชอื่ คณุ คิมครบั คมิ โช กงั เธอมีดกี รีเป็นศาสตราจารย์ด้านสาธารณสขุ แต่มคี วามช่นื ชอบไก่เป็นชีวิตจิตใจจากขนบความเชื่อเกี่ยวกับไก่และรูปร่างลักษณะท่ีสวยงาม ถูกใจเธอ คุณคมิ จงึ เรม่ิ สะสมข้าวของสิ่งละอันพันละน้อยทีเ่ กี่ยวข้องกบั ไกเ่ รอ่ื ยมา “ฉันไม่ชอบซื้อของหรหู รา ฉนั ไม่ซือ้ เคร่อื งส�ำ อาง แตฉ่ นั ยอมฟุ่มเฟือยไป กับไก่ รายไดข้ องฉนั สว่ นหนง่ึ จะท่มุ เทไปกบั งานศลิ ปะท่เี กี่ยวกบั ไก”่ คุณคิมเล่าไว้ ตอนท่เี ธอใหส้ ัมภาษณก์ บั ลอสแองเจลิส ไทม์ ในปี ๒๐๐๐ รัฐบาลเกาหลีผ่านรา่ งกฎหมายท่อี นุญาตให้เปิดการแสวงหา รายได้จากการเปิดพิพิธภณั ฑส์ ่วนบุคคล จากนน้ั เป็นต้นมาบรรดานกั สะสมใน ๑๔๗

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๔๘

SEOULLITTLE MUSEUM IN เกาหลีโดยเฉพาะในกรุงโซลเมอื งหลวง ซงึ่ เป็นแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วส�ำ คญั ก็เปิด พิพธิ ภณั ฑ์สว่ นบคุ คลกนั ข้นึ มามากมาย ซ่งึ บางครัง้ ก็เปน็ พพิ ธิ ภัณฑท์ ี่มขี องสะสม ทีพ่ บเห็นกันในชีวติ ประจ�ำ วันอย่างเช่นพิพธิ ภณั ฑ์กมิ จิ พิพธิ ภัณฑเ์ กี๊ยว พพิ ธิ ภัณฑ์ งานศลิ ป์ เซ็กซ์มวิ เซียม (อันน้นี ่าไปดมู าก) แต่กม็ ีบ้างทีเ่ ป็นของสะสมทเ่ี ปน็ ความ ชอบแบบสว่ นตัวจริงๆ อย่างพิพธิ ภณั ฑก์ อ้ นหนิ พิพธิ ภัณฑห์ นา้ กาก พพิ ธิ ภัณฑ์ นกฮกู หรอื พิพธิ ภัณฑป์ มเชือก ซ่ึงก็เปน็ กลุ่มเดียวกนั กบั พิพิธภณั ฑ์ไก่ของคุณคิม นี่แหละ คอื รกั ชอบเป็นการสว่ นต๊วั สว่ นตัว แสดงใหเ้ หน็ ว่าคนเกาหลีนี่ก็เปน็ นกั สะสมตวั ยงเหมือนกนั คณุ คิมเล่าวา่ ไกเ่ ป็นสตั วพ์ ิเศษ ไก่มคี วามหมายในเชิงสัญลักษณใ์ นหลาย ประเทศ ไกใ่ นรสั เซยี แสดงถงึ ความทรนง ความภาคภมู ิใจ ไก่เปน็ หน่งึ ในสตั ว์ สญั ลกั ษณข์ องปนี กั ษัตรในประเทศจนี หรือในเกาหลีเองไกก่ เ็ ปน็ ตวั แทนของ ความมัง่ คงั่ บริบรู ณ์และยงั มพี ลงั ในการปดั เป่าวญิ ญาณภตู ผิ อี ีกด้วย เธอสะสม ผลงานเกย่ี วกบั ไก่มานบั สิบปี โดยสิ่งที่ท�ำ ให้เธอประทบั ใจกค็ อื งานศลิ ปพ์ ืน้ บา้ นท่ี เธอไปพบเขา้ ในเขตชนบท ซง่ึ ก็คอื กอ็ กดตู ามทเี่ ล่าไปในตอนต้นนั่นแหละครับ จาก นน้ั เธอก็เริม่ เก็บมาเร่อื ยๆ รวมไปถึงขา้ วของอ่ืนๆ ด้วย “ไกเ่ ป็นสตั วท์ ีส่ ดุ จะเบสิกเลยส�ำ หรบั การท�ำ ปศุสตั ว์ทว่ั โลก เราเล้ยี งไก่ และอยูก่ ับมันมาตั้งแต่โบราณกาล แม้จะตา่ งเชอ้ื ชาตกิ นั แต่เราก็ร้จู กั ไกก่ นั ดี มัน เป็นเหมอื นสัตวส์ ากลทีท่ ุกคนค้นุ เคย” มเี หตุผลอยู่ ๕ ข้อเกย่ี วกบั ไก่ทีค่ ณุ คมิ แกบอกว่าเปน็ ส่งิ ทท่ี ำ�ใหไ้ กพ่ ิเศษ กว่าสตั วป์ ระเภทอ่นื และคงเป็นเหตผุ ลท่ที �ำ ให้แกหลงรกั มันด้วย น่นั คอื สติ ปัญญาหรือความเฉลยี วฉลาด (Intelligence) ในสมยั โบราณนั้นบรรดาเจา้ นาย หรือข้าราชการทไี่ ด้รับการแต่งต้ังให้ด�ำ รงตำ�แหนง่ ในระดบั สูง ซ่ึงแน่นอนวา่ ต้อง ๑๔๙

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๕๐

SEOULLITTLE MUSEUM IN มีความสามารถและเฉลียวฉลาด จะไดร้ ับเครือ่ งสวมศีรษะท่ีประดบั ด้วยขนไก่ นน่ั กค็ อื เป็นสัญลกั ษณ์ของปัญญา ความเข้มแขง็ (Strength) เปรยี บไดก้ บั อาวธุ ประจำ�กายทคี่ มกริบของไก่ นนั่ ก็คือเดือยนน่ั เองครบั ความกล้าหาญ (Courage) เราคงเคยเหน็ เวลาไก่ตอ่ สนู้ ะครับ มันจะสอู้ ย่างถวายหัวโดยไม่เกรงกลัวศัตรู ความ มีใจเผอ่ื แผ่ (Heartedness) วา่ กันเวลาเวลาไกเ่ จออาหารมนั จะร้องเสียงดังเพือ่ ประกาศให้พวกพอ้ งรบั รู้ และสุดท้าย ความซอื่ ตรง (Trust) ไม่วา่ จะอย่ใู นสภาพ ใด เมื่อถงึ เวลาพระอาทติ ยข์ ึน้ เจา้ ไก่กไ็ ม่เคยข้ีเกยี จโก่งคอขนั จรงิ ไหมครับ เหล่าน้ี คอื ๕ ลักษณะพเิ ศษท่ีคณุ คิมแสดงไว้ในมิวเซยี มและภูมิใจนกั หนาทจี่ ะอธบิ ายให้ กบั คนท่มี าเยี่ยมชม นอกจากเร่อื งความเชือ่ เกย่ี วกบั ไก่ทเี่ ลา่ ไปแลว้ ไกม่ นั ยงั มีความงามซ่อน อยจู่ นถูกนำ�มาเป็นแรงบนั ดาลใจสรา้ งผลงานศิลปะสวยๆ ออกมา ซง่ึ ท่มี วิ เซยี ม แห่งนี้ก็น่าจะเป็นแหล่งสะสมของเก่ียวกับไก่มากท่ีสุดแห่งหนึ่งของโลกกระมัง ทา่ นอาจจะแปลกใจว่าไก่วา่ ทีไ่ หนมนั ก็เหมอื นๆ กนั ก็จรงิ นะครบั ไกป่ ระเทศไหน มันกห็ นา้ ตาเหมือนกันท้ังนน้ั แต่ถ้าเป็นมุมมองของคนทีม่ ีตอ่ ไกล่ ่ะครบั ผมว่าไม่ เหมอื นกันแน่นอน เอาอยา่ งเสียงไก่ขันน่ันไงครับ แต่ละประเทศกฟ็ ังไดเ้ สยี งที่ต่างกนั ทั้งท่ี มันกร็ ้องเสียงเดยี วกนั นน่ั แหละครับ คนไทยฟังเปน็ “เอก้ อิ เอ้ก เอก้ ” ฝร่ังฟัง เปน็ “คลอ็ ก คะ ดู เดิล้ ด”ู ญี่ปนุ่ ฟังเปน็ “โคะ เค โคะ โค” นบั ประสาอะไรกับงาน ศิลปะท่มี นุษยส์ ร้างขึน้ เขาก็ผลิตผลงานออกมาหลากหลายสไตล์โดยมีไกเ่ ป็นตน้ ๑๕๑

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๕๒

SEOULLITTLE MUSEUM IN แบบ ความสนุกมันกอ็ ยู่ท่ีวา่ แตล่ ะประเทศ แตล่ ะชนิ้ งานจะถา่ ยทอดไก่ออกมาใน แงม่ มุ ไหน ผลงานท่สี ะสมสว่ นหนึง่ จะเปน็ ตุ๊กตาประเภทเซรามิกเสยี เยอะครบั งาน ไม้ งานโลหะ หรอื งานแก้วก็มีพอสมควร งานเขียนหรือภาพถา่ ยก็มี แตล่ ะช้ิน สร้างความตน่ื ตาตืน่ ใจแนน่ อนครับ ย่ิงถ้าเป็นคณุ ผู้หญิงทีช่ อบของกระจุกกระจิก จะตอ้ งกรีด๊ แตกแน่ๆ เมอื่ เจอครอบครวั ไก่ท่ที ำ�จากเซรามิกน่ารกั ๆ มชี ้นิ หนง่ึ ท่ีอลังการมากอยู่ท่ีทางเข้ามวิ เซียมเลยครับ เปน็ งานไมร้ ูปไก่ ขนาดใหญ่ ใหญ่มากเม่อื เทยี บกับโตะ๊ เขยี นหนังสือขนาดมาตรฐาน บรรดาตุก๊ ตา ไกท่ มี่ ีอยูเ่ ป็นร้อยๆ ตวั นน้ั เขาจะมปี า้ ยบอกวา่ มาจากประเทศอะไร แค่เดาวา่ มาจาก ทไ่ี หนกส็ นุกแล้วครับ ไม่นา่ เชอ่ื วา่ ไก่เหมือนๆ กนั แต่จะสามารถสรา้ งออกมาได้ เป็นรอ้ ยสไตล์ตามแตจ่ ินตนาการของศิลปนิ และนอกจากความงามแล้ว ผลงาน แตล่ ะช้ินยงั สะท้อนภาพชวี ิตของแตล่ ะประเทศดว้ ยนะครบั คอื ไมเ่ พยี งเอาสวยแต่ ก็ยังแฝงเรอื่ งราวจากท่ที ีม่ ันมาไวด้ ว้ ย อยา่ งงานของแอฟรกิ ันกจ็ ะเน้นสีสนั จดั จ้าน งานจากเยอรมนีจะมาพรอ้ มกับเครอื่ งจกั รอย่างนาฬกิ า งานของฝรัง่ เศสจะ ดูหรหู ราไฮโซ วนั ทผ่ี มไปชมน้ันผมไมม่ โี อกาสได้เจอคุณคมิ หรอกนะครับ แต่ผมเจอ มร.ปัง ยอง ซกุ (Pan Yong-Sok) ซึ่งเหมือนแกจะเป็นคนเฝ้าที่น่ี ลองค้นขอ้ มูล ในอินเทอร์เนต็ ก็เจอแต่แกนแ่ี หละที่นำ�ชม ภาษาอังกฤษของแกกฟ็ ังยากนิดหนอ่ ย นะครับ แตแ่ กกระตือรอื ร้นมากๆ ทจ่ี ะน�ำ เสนอ แม้วา่ จะมผี มเพียงคนเดียวแกกเ็ ดิน ๑๕๓

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๕๔

SEOULLITTLE MUSEUM IN เล่าโน่นเล่านี่อย่างไมม่ ีทที ่าเซง็ ผมเดินดจู นท่ัวก็อดสงสัยไมไ่ ด้ เลยถามแกไปวา่ มี ผลงานจากเมอื งไทยบา้ งไหม ยรู ้จู กั ประเทศไอไหมเน่ีย ไทยแลนดๆ์ ... ทีแรกก็ฟงั เปน็ ไตห้ วนั ครบั พอบอกว่า แบงคอก เชียงใหม่ พทั ยา รูจ้ กั ไหมน่ี แกกพ็ ยกั หนา้ หงึกหงกั อ๋อ ไทยแลนดๆ์ ทถี่ ามวา่ มผี ลงานจากบ้านเรารึเปล่าก็เพราะเดนิ ดจู นหมดเหน็ มีงานเกอื บ ท่วั โลก สะดดุ เจองานช้นิ หนึ่งเปน็ งานป้ันดินเผารปู คนน่ังกอดไก่กับเดก็ แกเลา่ วา่ มตี ำ�นานเกีย่ วกับไก่ดว้ ยนะ แล้วกเ็ อ่ยช่ือใครกไ็ ม่ร้ฟู งั ไม่ออก จนผมเรม่ิ สงสัย วา่ จะเป็นตำ�นานชนไก่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชรเึ ปลา่ กเ็ ลยถามแกไป แก กว็ ่าใชๆ่ นั่นแหละ แตผ่ มฟังไม่ออกจริงๆ ว่าแกพูดถึงพระนเรศวร แกบอกวา่ งาน ชนิ้ นี้ได้มาจากพมา่ ท่ีได้อิทธิพลมาจากตำ�นานน้ี ผมกเ็ ลยชักสงสัยละวา่ เปน็ ไปได้ หรือ ตามตำ�นานไกไ่ ทยชนะน่ี แลว้ เขาจะสร้างข้ึนมาตอกย�้ำ ตวั เองท�ำ ไม หรือวา่ เป็นฉากอืน่ ท่ีไม่ใชต่ อนชนไก่เอาบา้ นเอาเมือง เพราะเร่ืองชนไก่น้นั พม่าก็ไมเ่ ป็น รองใครเหมือนกันนา ยิง่ เหน็ ลายประจำ�ยามทหี่ น้าอกตุ๊กตากย็ ิ่งไมแ่ น่ใจวา่ จะของ พมา่ จรงิ แม้ว่าศิลปะพมา่ ก็มีลายประจ�ำ ยามเหมอื นกนั ยิง่ ตุก๊ ตาไว้ผมจกุ ดว้ ยกย็ งิ่ ไม่แน่ใจ แต่เอาเถอะครบั ถ้าเขายนื ยนั วา่ ไดม้ าจากพมา่ ก็วา่ กันไป แต่ก็ยังเจบ็ ใจว่า ท�ำ ไมไมม่ ีของไทยบา้ งนะ เลยคดิ ว่าถา้ มโี อกาสไปเกาหลอี ีกจะหอบไก่ไทยไปฝากให้ แกจดั แสดงซักสีห่ า้ ชดุ นอกเหนือจากเปดิ ให้คนทีส่ นใจเข้าชมแลว้ มิวเซยี มก๊กุ ไกแ่ หง่ นยี้ ังจัด กิจกรรมส�ำ หรับครอบครวั ท่จี ะพาลกู หลานมาเท่ยี ว อันนผ้ี มชอบมากๆ เลย คือ พพิ ิธภัณฑ์หลายแห่งเปิดแบบซงั กะตาย แต่พพิ ธิ ภัณฑท์ น่ี ่ีหลายแห่งเป็นฝา่ ยรกุ เข้าไปหาผ้ชู ม ท่ีงา่ ยทีส่ ุดกค็ อื คนในชมุ ชนนัน้ ๆ น่นั แหละครับ ยิ่งคนเกาหลีถกู ปลูก ฝงั วัฒนธรรมการคิดแบบ Creative Economy ซงึ่ เป็นนโยบายระดับประเทศ ๑๕๕

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๕๖

SEOULLITTLE MUSEUM IN พพิ ธิ ภัณฑ์หลายแห่งจึงจัดกระบวนทัพเดินหน้าอย่างเต็มตวั แถมยงั ได้แรง สนับสนุนจากหนว่ ยงานในท้องถ่นิ หรอื คนในชมุ ชนเอง มันกก็ ลายเป็นจุดดึงดดู สำ�หรบั นักทอ่ งเทีย่ ว กลายเปน็ การชมพิพธิ ภัณฑ์ท่สี นุก มชี ีวติ ชีวา และได้สัมผสั กบั วัฒนธรรมแบบใกลช้ ิด ไม่ใชแ่ คถ่ ่ายรปู กลบั ไปอวดกนั แล้วจบเหมอื นแตก่ ่อน อย่างท่นี ใี่ นช่วงวนั หยดุ หรอื ชว่ งปิดเทอม กจ็ ะจัดพาเดก็ ๆ มาทวั ร์ชมพพิ ธิ ภัณฑ์ เรยี นรู้เรือ่ งราวประวัตศิ าสตร์ของทอ้ งถิ่น ทีม่ วิ เซยี มนกี้ ม็ ีการเลา่ นทิ าน เพ้นท์ ถว้ ยกาแฟ เพน้ ทเ์ ส้ือ และอ่ืนๆ สารพัด ทำ�ใหเ้ ด็กๆ ไม่เบื่อการเที่ยวพพิ ิธภัณฑ์ แถม ยังสง่ เสริมความสมั พันธ์ภายในครอบครัวใหเ้ ข้มแข็งเสียอกี ด้วย ผมใช้เวลาชมมิวเซยี มกุ๊กไกน่ านทเี ดียว บังเอิญวา่ มสี องสาวนักท่องเท่ยี ว มาชมต่อพอดี จงึ ไมไ่ ด้กลา่ วอ�ำ ลา มร.ปัง ตอนท่ียังเถลไถลอยทู่ ช่ี นั้ หน่ึงก็เจอตู้ ขายของท่รี ะลกึ น่ารักมาก แต่เหน็ ราคาแล้วก็คดิ วา่ ปล่อยเอาไวใ้ หค้ นอน่ื เขาซอ้ื ดี กว่าครบั แล้วยังพบคณุ ปา้ คนหนึ่งซึง่ คงเปน็ เจา้ หน้าที่ของมวิ เซียมกำ�ลังนงั่ แพ็ก พวงกุญแจรูปไกก่ องโต แกว่าท�ำ ตามออเดอรท์ ่ีมีคนสง่ั พอมองไปด้านหลงั กเ็ จอ ถุงขนาดใหญ่ใสพ่ วงกญุ แจที่วา่ นก้ี องอยูเ่ ตม็ มถี งุ ใส่เส้อื ยดื อีกกองเบอ้ เรมิ่ เลย นึกในใจวา่ ถา้ ออเดอรม์ ากขนากน้ี คงไมต่ อ้ งช่วยอดุ หนุนสนิ ค้าเขาแลว้ กไ็ ดม้ ง้ั ตง้ั ใจไวว้ า่ ถา้ มโี อกาสมาใหม่จะเอาไก่จากเมืองไทยมาใหจ้ ริงๆ นะเอา้ ๑๕๗

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๕๘

(Koreaพnพิ Kธิ nภoณั t ฑMป์ uมsเeชuือmก) ๑๕๙

SEOULLITTLE MUSEUM IN แถบชุมชนบกุ ชอน (Bukchon) นอกจากข้นึ ชอื่ ในเรือ่ งบ้านเรอื น โบราณแลว้ ยงั มีสถานท่ที น่ี า่ ไปชมส�ำ หรบั คนทีช่ อบศกึ ษาศลิ ปะวฒั นธรรม นน่ั คือ หา้ พิพิธภณั ฑ์แหง่ บุกชอน (เรียกยังกะขบวนการหา้ สี) ทีจ่ รงิ มันก็คือ พพิ ธิ ภัณฑข์ ึน้ ชื่อห้าแห่งทต่ี งั้ อยใู่ นแถบนี้ เป็นอีกแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วท่ใี ครไปเท่ียว ทบี่ กุ ชอนก็ควรจะแวะไปชม ซงึ่ ผมเองกม็ โี อกาสไปเย่ียมชมมาสองในห้าแหง่ ดว้ ยเวลาอันจ�ำ กัด ความจริงแลว้ พพิ ิธภณั ฑใ์ นแถบน้ียงั มีอีกหลายแหง่ แต่ผม กไ็ ม่รูท้ ำ�ไมเขาถึงยกให้ห้าแหง่ นเี้ ป็นตัวชโู รง ซงึ่ ทง้ั หมดก็ไม่ไดใ้ หญโ่ ตอะไรเลย จริงๆ หลงั จากทีเ่ ยี่ยมชมมิวเซยี มกุ๊กไกไ่ ปแล้ว จุดหมายต่อไปของผมคือ มวิ เซยี มปมเชอื กผมสงสยั ตงั้ แตก่ อ่ นไปแลว้ วา่ มนั คอื อะไรแคป่ มเชอื กมนั กท็ �ำ เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑ์กันได้แล้วหรอื เท่าท่ที ำ�การบ้านกอ่ นไปผมกพ็ อเข้าใจไดว้ ่าปมเชือกที่ ว่ามันก็คืองานหัตถกรรมอย่างหนง่ึ ของเกาหลี บ้านเรากม็ ีวางขายกนั เยอะแยะ ครับ เป็นเครอื่ งประดับที่ท�ำ จากเส้นไหมชนดิ ต่างๆ ถกั มดั ผูก ขมวด ด้วยกลวิธี ตา่ งๆ ออกมาสวยงามเป็นพรู่ ะย้า ดูคลา้ ยๆ ทห่ี อ้ ยโทรศพั ท์ประมาณนั้น แตร่ ้สู กึ ว่า ส�ำ หรบั ทเี่ กาหลมี นั น่าจะเป็นอะไรมากกว่านน้ั แน่นอน พอออกจากมิวเซยี มกกุ๊ ไก่แลว้ ผมก็เดินย้อนมาทางเก่า พยายามมองตาม ปา้ ยบอกทางแถวนั้นละ่ ครับ จากทีล่ องสอบถามคุณลงุ ที่มวิ เซยี มกกุ๊ ไกก่ ็ไดค้ วาม ว่าเดนิ ย้อนลงไปไม่เท่าไหร่ก็เจอ แต่ผมกง็ งจนได้ หากสอ่ งตามแผนที่ในมือมนั ดู ไม่ออกนะครับวา่ มันจะมีมิวเซียมอยู่จรงิ หรือ เพราะทางเขา้ มันดเู ปน็ ซอยขนาดไม่ เลก็ ไมใ่ หญ่ ดูจะเปน็ บ้านคนเสยี มากกว่า แตเ่ ปน็ บา้ นสไตลฮ์ ันอก (Hanok) แทบ ทั้งหมด ดขู ลงั ซะไมม่ ี ๑๖๐

SEOULLITTLE MUSEUM IN อย่างท่ีเคยเล่าไปในเรื่องของเขตจองโนนั่นแหละครับว่าพ้ืนที่แถบน้ีมัน เป็นคลืน่ ข้นึ ๆ ลงๆ ทางเขา้ ตรงนี้ก็เชน่ กนั ถ้าใครลองท่องอินเทอร์เน็ตกค็ งจะคุ้น ตากันดี ตรงนี้เปน็ จุดท่องเท่ยี วและจดุ ถ่ายรปู ท่คี นนยิ มมากทส่ี ดุ แหง่ หนึง่ ววิ สวยมาก เปน็ วิวในเขตเมืองนะครับ แต่วา่ บา้ นเรอื นรอบๆ จะเป็นบ้านโบราณซึง่ ได้ อารมณป์ ระมาณยอ้ นยุค เหมอื นไปอมั พวาหรือสามชุกน่ันเลยเชยี ว แต่ที่นีเ่ ขาไมม่ ี เปิดขายของให้เกล่อื นกลาดนะครบั ยงั คงเปน็ บา้ นพกั อาศัยของผูค้ นแถบนก้ี นั อยู่ ดังน้นั จะไปเอะอะมะเทิ่งกไ็ มไ่ ด้ แคเ่ ขาเปิดให้เดนิ ชมก็ดีขนาดไหนแลว้ ถา้ ไมม่ ัวเดินชมบา้ นเรอื นเสียเพลนิ กค็ งจะได้เจอครบั พิพธิ ภัณฑ์ปมเชอื ก ทางเข้าเล็กๆ เหมือนบ้านคน ตวั พิพธิ ภณั ฑเ์ องกเ็ ลก็ เสียจนผมแทบอง้ึ ตวั อาคาร เปน็ บา้ นยกพน้ื ทรงโบราณ คะเนคร่าวๆ ก็ขนาดไมน่ ่าจะเกิน ๕๐ ตารางเมตร ก็ ราวๆ หอ้ งชดุ ในคอนโดนั่นแหละครบั แต่วา่ บรรยากาศดดู เี ชยี วละ่ ในบรรดาพพิ ิธภณั ฑท์ ่ีผมแวะมาชมทง้ั หมดนั้น ท่ีน่ีดจู ะเปน็ พพิ ิธภัณฑท์ ี่ มขี นาดเลก็ ทีส่ ดุ แตข่ นาดไมใ่ ช่เร่ืองส�ำ คญั เลยถา้ เนอ้ื หาสาระนัน้ มีดอี ยใู่ นตัว ทกุ ครง้ั ที่ผมมโี อกาสไปสัมมนาเรอื่ งพพิ ิธภัณฑใ์ นบ้านเรา ไม่วา่ จะจดั โดยสมาคม พิพิธภณั ฑเ์ องหรือว่าหน่วยงานอื่นๆ จดั กต็ าม ผมมักจะได้ยินปญั หาเก่ียวกบั งบ ประมาณกับสถานท่เี สมอๆ เร่อื งงบประมาณนั้นพอเข้าใจละ่ ว่ารัฐบาลประเทศเรา เขาไม่ค่อยเจียดมาให้ แต่เรอ่ื งสถานทนี่ ข่ี ัดใจผมพิกล เพราะทเ่ี ล็กๆ ทมี่ อี ยู่ผมยังไม่ เหน็ ว่าจะมีอะไรเปน็ เน้ือเปน็ หนังสักเทา่ ไหร่ ไอท้ ีร่ อ้ งจะเอาพ้ืนที่กว้างๆ น่ันผมเลย ยังแปลกใจว่าจะเอาไปทำ�อะไรนักหนา ซ่งึ ตรงข้ามกบั พพิ ิธภัณฑ์ทเี่ ปน็ ส่วนบุคคล ๑๖๑

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๖๒

SEOULLITTLE MUSEUM IN คงจะไมน่ ับเอาพพิ ิธภณั ฑ์ของหน่วยงานเอกชนท่พี อจะมีทุนรอนสงู อย่นู ะครบั น่นั ถอื ว่าเปน็ โชคดไี ปท่เี จ้าของเขาพอจะมที นุ ทรัพย์ แตพ่ พิ ธิ ภัณฑส์ ว่ นบุคคลหลาย แหง่ เขาก็ยนิ ดกี บั เน้ือทีเ่ ท่าท่เี ขามอี ยู่ ไมเ่ ห็นตอ้ งเอะอะมะเทงิ่ เรียกรอ้ งอะไร พิพิธภัณฑแ์ ห่งน้เี ขามชี ือ่ เรียกตามภาษาองั กฤษวา่ Dong-Lim Knot Museum ผมไม่ทราบจริงๆ วา่ Dong-Lim มนั หมายถึงอะไร แต่เขาเรียกกนั สน้ั ๆ ว่า Knot Museum ความหมายกต็ รงตัวเลยวา่ ปมเชือก ท่นี ่เี ขารวบรวมงาน หตั ถศิลป์ทีท่ �ำ จากเชือกหรือเสน้ ไหมประเภทตา่ งๆ เอาไว้ ซงึ่ ศิลปะทว่ี ่านก้ี น็ ับอายุ ได้ตงั้ แต่สมยั สามอาณาจกั ร หรือกวา่ ๖๐ ปกี ่อนคริสตศกั ราชโนน่ งานหตั ถศลิ ป์ชนิดน้ผี มว่าคนไทยเรากค็ ้นุ หนา้ คุ้นตากันดี ผมเหน็ วาง ขายกันทว่ั ไปแต่อาจจะไม่วิจติ รพิสดารเท่าของตน้ ต�ำ รับเขา ส่วนใหญ่ก็เป็นช้ิน เลก็ ๆ เอาไว้หอ้ ยโทรศพั ทบ์ ้าง เปน็ เครอ่ื งรางบา้ ง ของตกแตง่ บ้าง รูปแบบจะเปน็ งานทีใ่ ชเ้ สน้ เชอื กสสี นั ต่างๆ มาขมวดเป็นปมจนเป็นรูปรา่ ง ผมเคยเหน็ แผงขาย เครอ่ื งรางบางแห่งขายกันเป็นหลายร้อยบาท ก็ว่าแปลกดี แตพ่ อมาเหน็ ของที่ เกาหลเี ขาท�ำ แล้วมันตา่ งกนั โดยส้นิ เชิง ที่หน้าพิพิธภัณฑ์มีคัตเอาต์ร่ายยาวถึงประวัติของงานประเภทนี้แล้วก็มี รปู เจา้ ป้าคนหนง่ึ ซงึ่ คงเป็นกูรดู า้ นนี้ เธอชือ่ วา่ ชิม ยงั มี (Shim Young Mi) เขา เล่าว่าเจ้าป้าท่านนี้สืบทอดงานศิลปะน้ีมาจากต้นตระกูลตกทอดกันมาหลายรุ่น ซง่ึ ได้รับการถ่ายทอดวชิ าน้ีมาจากในรัว้ ในวงั นั่นเชยี ว รปู แบบของงานศิลปช์ นิดนเี้ ท่าท่ีผมจับสงั เกตได้กม็ ีอย่ปู ระมาณ ๒-๓ รปู แบบ แบบแรกคือแบบที่เป็นเหมอื นพูร่ ะยา้ เอาไวป้ ระดับโนน่ นี่ ท้ังเคร่ืองแตง่ กาย ข้าวของเคร่อื งใช้ ไปจนถึงตกแต่งบา้ น แบบทส่ี องคอื แบบท่ีประดิษฐ์เปน็ รูปตา่ งๆ จ�ำ พวกดอกไม้ แบบนีม้ ักประดษิ ฐ์เปน็ ของตกแตง่ และแบบสุดทา้ ยคือแบบที่เป็น ๑๖๓

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๖๔

SEOULLITTLE MUSEUM IN เหมือนเครื่องรางหรอื เคร่อื งหมายประจำ�ตวั ซงึ่ กจ็ ะมีหน้าตาคลา้ ยๆ กบั ประเภท แรกแต่จะประดับดว้ ยอัญมณีหรอื หินสีชนดิ ตา่ งๆ ซ่ึงแบบแรกกบั แบบท่ีสามนีเ้ หน็ เขาจดั แสดงกันเตม็ เรอื น จะว่าไปต้นตอท่ีมาของงานศิลป์ชิ้นน้ีก็มาจากวัฒนธรรมการแต่งกาย ของสตรชี าวเกาหลคี ือชุด ฮันบก (Hanbok) สาวกเกาหลคี งจะค้นุ เคยกนั ดี กับเครอ่ื งตา่ งกายประจำ�ชาตชิ นิดน้ี ชดุ ฮนั บกน้ันสาวเกาหลีเขาใส่กนั มานมนาน หลายรอ้ ยปี แลว้ กใ็ สก่ นั ทกุ วนั เป็นเคร่ืองแต่งกายที่แสนจะสามญั แต่ในปจั จุบัน จะสวมใส่กนั เฉพาะในโอกาสพเิ ศษเทา่ นัน้ ความจริงชุดฮนั บกกม็ ขี องผ้ชู ายดว้ ย แตเ่ รามกั จะคุน้ เคยกบั ชดุ ฮนั บกของผหู้ ญิงเสียมากกวา่ ทแี รกทผ่ี มร้จู กั ชดุ ฮนั บกผมยงั อดแซวเล่นไม่ไดเ้ ลยว่า ดเู ผนิ ๆ แลว้ เหมือน ชุดคลุมท้องเสยี จริง เพราะมันดูพองๆ ป่องๆ ยังไงพิกล ใครจะไปนกึ วา่ มนั มีที่มา อยเู่ หมือนกัน ด้วยวฒั นธรรมของสาวเกาหลีแตโ่ บร�ำ่ โบราณที่คอ่ นข้างจะระวงั เนอ้ื ระวงั ตวั สกั หนอ่ ย จะแต่งกายเปดิ โน่นเปิดนกี่ ผ็ ดิ จารีต คนโบราณเขาออก แบบชุดฮนั บกทีอ่ อกจะดูรุ่มรา่ มนีม้ านอกจากป้องกนั ความหนาวเย็นแล้ว ยังช่วย ปดิ บังเรอื นร่างของหญิงสาวไม่ใหเ้ ปน็ ที่จบั จอ้ งของบรรดาเพศตรงขา้ ม แลว้ ใน สมัยทญี่ ป่ี ่นุ ยดึ ครองเกาหลีนั้น สาวๆ เกาหลกี ใ็ ส่ชดุ ฮันบกกันแทบทกุ คนเพราะใส่ แลว้ ดูเหมือนคนท้อง จะไดไ้ ม่เปน็ ทสี่ นใจของทหารญ่ีป่นุ บ้างกว็ า่ สามารถซุกซ่อน สงิ่ ของต้องห้ามต่างๆ ให้รอดพ้นสายตาทหารได้ด้วย ร้ายจริงๆ สมัยนช้ี ดุ ฮนั บกก็ยงั เห็นคนเกาหลีใส่กนั ในโอกาสพิเศษ อยา่ งพธิ มี งคล ๑๖๕

SEOULLITTLE MUSEUM IN ภาพนขี้ อยมื มาจากละครเรอ่ื ง ทงอี ๑๖๖ ใหส้ งั เกตความแตกตตา่ งของ โนรเี ก ของพระสนมกับของขา้ ราชส�ำ นักดา้ นหลงั

SEOULLITTLE MUSEUM IN ต่างๆ เดก็ ๆ จะใสใ่ นงานฉลองครอบรอบวันเกิดหนง่ึ ปี ส่วนผใู้ หญก่ ็จะเป็นในงาน ครอบรอบอายุ (คนเกาหลีให้ความส�ำ คญั กบั การครบรอบอายมุ ากๆ ไมร่ ทู้ ำ�ไม) แน่นอนว่าเป็นไปตามสมัยนิยมท่ีคงเป็นไปไม่ได้ท่ีคนเกาหลีจะมาใส่ชุดฮันบกไป ไหนมาไหน ถา้ ไมน่ ับสถานทีท่ อ่ งเทย่ี วทเ่ี ขาใส่กนั เพอื่ ไว้โชวน์ กั ท่องเทีย่ ว จึงกลาย เป็นว่าในปัจจุบันชุดฮันบกกลายเป็นเครื่องแต่งกายท่ีจะใช้สำ�หรับงานพิธีการไป ซง่ึ หากดูดีๆ ชุดฮันบกกม็ คี วามคล้ายคลึงกบั กิโมโนของญี่ปุ่นอยู่บา้ ง ผมรสู้ กึ ว่า ชุดฮันบกน่าจะคล่องตัวมากกว่าแม้ว่าจะดูพองรุ่มร่ามแต่จะไม่กระชับกับร่างกาย เหมอื นกโิ มโนทท่ี �ำ ให้ชว่ งกา้ วแคบ เดนิ เหนิ ล�ำ บาก แต่ท้งั คูก่ ็มากพธิ ีในการสวมใส่ พอกนั ขอ้ ต่างอกี อย่างหนึง่ คอื เรายงั เห็นคนญป่ี นุ่ สวมกโิ มโนออกจากบา้ นไปโน่น ไปน่ีเป็นปกติ แต่กับชดุ ฮนั บกแลว้ คงไมส่ ามารถแนๆ่ ชุดฮนั บกไม่ใชเ่ ปน็ เพียงเครอ่ื งแตง่ กายเท่านั้น แต่มนั ยงั ชว่ ยบง่ บอก สถานะทางสงั คมของผู้สวมใส่ได้ด้วย ถา้ ใครทต่ี ิดตามซรี ส่ี ์เกาหลกี ็พอจะคุ้นเคย กันดวี ่าสาวๆ ในละครแตล่ ะคนจะมชี ุดฮนั บกท่แี ตกตา่ งกนั ไปตามฐานะ อย่าง หญิงสาวชาวบา้ นกจ็ ะดเู รยี บๆ ไมม่ ลี วดลาย สาวในวังก็จะเปน็ อีกแบบหน่ึง ย่งิ ถา้ เป็นผสู้ ูงศักด์หิ รอื บรรดาเจา้ นาย กจ็ ะมีลวดลายและสสี นั ท่ตี ่างกนั อยา่ งเห็นได้ ชดั นอกจากนย้ี ังมีเครื่องตกแตง่ ชดุ ฮนั บกที่บง่ บอกสถานะได้อีกชน้ิ หน่ึงทีเ่ รยี กว่า โนรีเก ซึง่ กค็ ืองานหัตถศลิ ปท์ ่จี ัดแสดงอยใู่ นพพิ ธิ ภัณฑ์ปมเชอื กน่แี หละครับ โนรเี ก มนั กค็ ือเคร่ืองประดบั ทีต่ ดิ กบั เสอ้ื คลุมดา้ นนอก คือไมใ่ ห้มันดโู ล่ง และเพอื่ เพม่ิ เติมสสี นั ให้สวยงาม แต่นอกเหนอื จากนั้นมนั ยังบง่ บอกฐานของผู้ ใชว้ า่ เป็นใคร มสี ถานะใดในสงั คมได้ด้วย ลองสงั เกตในละครสิครับ เราจะเหน็ คน เกาหลีไมใ่ ชเ่ ฉพาะผู้หญิงนะครับ ผ้ชู ายก็จะมีประดบั เหมือนกนั คือนอกจากไว้สวย แลว้ ยังไวเ้ บง่ ไดอ้ กี เหมือนกนั ๑๖๗

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๖๘

SEOULLITTLE MUSEUM IN ในละครยอ้ นยุคเกาหลเี ราเห็นกนั บอ่ ยมากเลยครบั ถ้าเปน็ พวกเจ้าหญิง ท้งั หลายจะใชโ้ นรีเกท่ีท�ำ จากเสน้ ไหมช้ันดแี ล้วกย็ ังมีอัญมณีพวกหยกบ้าง พลอย บ้าง หรอื ไม่ก็ทองคำ� สว่ นขนาดกจ็ ะใหญห่ รอื เลก็ ตามฐานนั ดรเชน่ กนั และถา้ สังเกตอีกที โนรีเกของเช้ือพระวงศช์ ้ันสงู จะมพี ทู่ แ่ี ยกออกมาเปน็ สามพวง แลว้ ก็มคี วามวิจติ รบรรจงเปน็ พิเศษ ลวดลายแตล่ ะลายก็มคี วามพสิ ดารตา่ งกนั ไป บางลายนนั้ ผมมองแลว้ มองอีกแต่ก็ไมย่ ักกะเห็นหวั เหน็ หางวา่ อย่ตู รงไหน คือเขา ขมวดกระหวดั ปมจนมองไม่เหน็ รอยต่อ หน้าทหี่ ลกั ของโนรีเกน้นั นา่ จะเป็นการประดับตกแตง่ ตามสายตาของ ผมทมี่ องดูชุดฮนั บกน้ัน ผมวา่ มันสวยดีนะครบั สีสันทีค่ อ่ นขา้ งจัดจ้านและตัด กนั ระหว่างสว่ นของเสื้อกับกระโปรง ถ้าเป็นชดุ พิธกี ารหรอื ชุดของเจา้ นายจะยิ่ง สวยงามมากด้วยลวดลายทีป่ ระดับ ประกอบรูปทรงท่ีดแู ปลกท�ำ ใหฮ้ นั บกเปน็ ชดุ ท่ดี ูเรียบงา่ ยแตส่ วยงาม แตต่ ามประสาคณุ สุภาพสตรีจะขาดเครอ่ื งประดบั ไปได้ อย่างไรล่ะครบั โนรีเกจึงเข้ามามบี ทบาทเหมือนกับผหู้ ญิงสมยั ใหมท่ สี่ วมชุดราตรี แลว้ จะขาดสรอ้ ยไขม่ กุ หรอื เครอื่ งประดบั คอไม่ได้เลย ไม่ง้นั มันจะดูวา่ งจนเกนิ ไป (ลองสงั เกตชุดราตรีเปิดไหลส่ วยๆ สคิ รบั ตอ้ งมีอะไรประดับสกั ช้นิ ) ทนี ้ีพอใชเ้ ป็น เครอ่ื งประดบั แล้วกเ็ ลยใช้เป็นเครอ่ื งรางไปดว้ ยเสยี เลย ด้วยรูปทรงของโนรเี กท่ี ดัดแปลงเปน็ รูปทรงได้หลากหลาย เขาจึงดดั ให้เปน็ รปู ดอกไม้มงคลต่างๆ หรือ กระทั่งรปู สตั วอ์ ยา่ งผีเสือ้ เตา่ ซง่ึ มคี วามหมายมงคลทง้ั สน้ิ โนรีเกนน้ั นอกจากจะเปน็ เครอ่ื งประดบั ส�ำ หรบั เคร่อื งแตง่ กายแลว้ ยัง ๑๖๙

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๗๐

SEOULLITTLE MUSEUM IN ถูกประยกุ ต์ใช้ประดบั กับขา้ วของเครื่องใช้อนื่ ๆ อยา่ งเชน่ กระเปา๋ พก อยา่ งชดุ ฮัน บกน่จี ะไม่มกี ระเป๋า สาวๆ สมยั ก่อนกจ็ ะพกกระเปา๋ เลก็ ๆ ใส่เงินหรอื ของกระจกุ กระจิก เขาก็ประดบั ดว้ ยโนรีเก นอกจากนกี้ ถ็ กั ทอเป็นถงุ ใสข่ วดน้ำ�หอมนำ้�ปรงุ เปน็ ซองใสม่ ีด เปน็ ถงุ ใส่ยา ฯลฯ สรปุ ว่างานหตั ถศลิ ปป์ ระเภทนีจ้ ะไปปรากฏเปน็ ส่วนประกอบเพ่ือความสวยงามกับข้าวของเคร่ืองใช้ในชีวิตของประจำ�วันของชาว เกาหลไี ดแ้ ทบทกุ อย่าง ที่พพิ ธิ ภณั ฑ์นัน้ นอกจากที่จะจดั แสดงผลงานแล้ว เขายังเปดิ สอนการถัก ปมแบบง่ายๆ ส�ำ หรบั นกั ทอ่ งเทีย่ วที่สนใจ เป็นการเปิดให้ผชู้ มเข้ามามีสว่ นร่วม ไมใ่ ช่แคเ่ ขา้ มาเดินดเู ฉยๆ ซึง่ เปน็ รปู แบบการท�ำ พพิ ธิ ภัณฑใ์ ห้มีชีวิตทใ่ี นบ้านเราก็ น�ำ มาใช้อยู่หลายแห่ง วันที่ผมไปนน้ั บังเอิญวา่ ไปถึงกบ็ า่ ยแกแ่ ลว้ เจอครอบครวั หนง่ึ ก�ำ ลังนง่ั เรยี นทำ�พวงกุญแจกนั อย่างสนุกสนาน คณุ เจา้ หนา้ ทค่ี นสวยก็เลย ไมไ่ ด้ใส่ใจผมสักเท่าไหร่ ผมก็เลยไดเ้ ขา้ ไปชมฟรไี มเ่ สียตังค์ คงเพราะเขากำ�ลงั จะ ปิดแล้วดว้ ยกระมังกเ็ ลยปลอ่ ยผมเลยตามเลย ใครทช่ี ่นื ชอบเครอื่ งประดบั ประเภทถกั ทอแบบนี้นา่ จะถกู ใจ เขามจี ดั แสดงหลากหลายรปู แบบท้งั แบบเลก็ ๆ และแบบใหญ่ทเ่ี อาไปประดบั ฝาบา้ นได้ เลย ผมเพ่งดทู กุ ๆ อันก็ยงั คงเหมือนเดิม คอื ผมมองหาจุดเรม่ิ และปลายเชือกไม่ เจอเลย เขาเกบ็ ปลายได้เนยี นมากๆ แล้วเขาก็นำ�มาประยกุ ตใ์ หเ้ ข้ากบั ยคุ สมยั ท�ำ เป็นสรอ้ ยคอ สร้อยข้อมือ ท่ีห้อยโทรศัพท์ และอ่ืนๆ จิปาถะ วางขายเป็นของท่ี ระลกึ เสียด้วย ทแี รกผมก็วา่ จะชว่ ยซอ้ื เสยี หนอ่ ย แต่พอเห็นราคาแลว้ กค็ ดิ ว่าให้ เขาเก็บไว้ขายคนอื่นจะดกี วา่ ๑๗๑

SEOULLITTLE MUSEUM IN ใครที่ไปเท่ยี วเกาหลีแล้วอยากจะลองแวะมาชมมิวเซยี มเลก็ ๆ แหง่ นีก้ ็ ลองมาเทีย่ วแถวบกุ ชอนกนั นะครบั ถ้าไม่ชอบแสงสีตระการตาละ่ ก็ แถบนีม้ ีท่ี น่าเท่ยี วเยอะ ทงั้ รา้ นคา้ นา่ รักๆ มวิ เซยี ม รา้ นกาแฟสงบๆ พิพธิ ภณั ฑ์ปมเชือก นกี้ อ็ ยู่ใกลๆ้ กับมิวเซียมกกุ๊ ไก่ ใหข้ ้ึนจากสถานี Anguk ท่ที างออกที่ ๒ แลว้ เดิน ตามทางมาเร่ือยๆ จนเจออาคารศาลรัฐธรรมนญู อยู่ทางซา้ ยมอื ให้เดินต่ออีก หน่อยจะเจอสแี่ ยก จะมีศูนยน์ กั ทอ่ งเทย่ี วอยูท่ ่ีหัวมุม เดินเขา้ ไปขอแผนท่ีหรือ สอบถามได้เลย จากศูนย์นักท่องเทย่ี วตรงนเ้ี ดินต่อไปอกี ซัก ๒๐๐ เมตรกเ็ จอ ทางเขา้ หมู่บา้ นแลว้ ครับ ถ้าข้เี กยี จเดิน พอขึน้ จากสถานรี ถไฟกต็ ่อรถบัสได้ ส่วนค่าเข้าชมก็ ๒,๐๐๐ วอน (ราว ๗๕-๘๐ บาท) ๑๗๒

พพิ ิธภัณฑ์ศลิ ปะแอฟริกัน (African Museum of Art) ๑๗๓

SEOULLITTLE MUSEUM IN ถึงผมจะสนอกสนใจและพอจะมีความรู้ในเรื่องราวของศิลปะพอควร แตส่ ำ�หรับศิลปะสญั ชาติแอฟรกิ นั แล้วมันช่างห่างไกลกนั เหลือเกนิ ครบั แอฟ ริกันท่คี นุ้ เคยในสายตาคนไทยกค็ งเป็นชาวต่างชาตผิ วิ เข้มๆ ท่ีเดนิ เทีย่ วอยู่ใน กรงุ เทพ ซึ่งหลายคนกส็ งสยั ว่าทำ�ไมพีเ่ ขามาปักหลกั อยูก่ นั น้านนาน แต่ไม่ เห็นจะทำ�งานทำ�การอะไร ความนึกคิดถึงแอฟรกิ าของคนไทยกย็ งั คงมองวา่ เปน็ ดนิ แดนแห่งป่าดงพงไพร กนั ดาร และรอ้ นบรรลัย ผมนึกไม่ออกว่าทำ�ไมแอฟริกาในสายตาของคนนอกมักจะมองว่าเป็น ดนิ แดนท่แี สนยากเขญ็ และแหง้ แล้ง ทง้ั ท่แี อฟริกาเปน็ ดินแดนทอ่ี ดุ มสมบูรณ์ มากแล้วก็ไมไ่ ด้แห้งผากอย่างที่คิด ถงึ จะมีฤดูแล้งซึ่งแลง้ โคตรๆ แตม่ ันกม็ ีฤดู ฝนที่ชมุ่ ฉ่ำ�เช่นกนั วถิ ชี วี ิตทยี่ งั ลา้ หลงั สทิ ธเิ สรีภาพทจ่ี ำ�กดั จำ�เขยี่ การเมืองทไี่ ร้ เสถยี รภาพอย่างสน้ิ เชงิ เหลา่ นก้ี ระมังครับทที่ �ำ ใหห้ ลายคนมองวา่ แอฟริกาไม่นา่ อภริ มย์ ตอนเตรยี มตัวมารอ่ นที่เกาหลี ผมสนใจจะมาเยยี่ มดู พพิ ธิ ภณั ฑ์ศลิ ปะ แอฟริกนั ทก่ี รงุ โซลให้ไดเ้ ชยี วครบั เห็นทีแรกก็สงสยั วา่ ท�ำ ไมมาตัง้ ท่ีนีไ่ ด้หว่า แถม ยงั อย่ใู กล้พระราชวงั เคยี งบก เลยกะวา่ ตอ้ งแวะไปพิสูจน์เสียหน่อย ศลิ ปะแอฟรกิ นั นนั้ ไม่ได้ใกล้ชดิ กับคนไทยเลยครับ อาจจะมีบ้างประปราย แต่ไมถ่ ึงกับมีอทิ ธพิ ลกบั บ้านเรา มีบางครงั้ เท่าน้นั ละ่ ครับท่ีตามกระแสกนั ไปดว้ ย อทิ ธิพลของสอ่ื จ�ำ สมัยโนน้ ไดไ้ หมครับท่ีคุณนักร้องหมายเลขหน่งึ ของไทยเป็น พรเี ซน็ เตอร์ใหฟ้ ิลม์ ยีห่ ้อหนึ่ง ท�ำ เอาดนตรเี ร็กเก้ แต่งตวั สเี จบ็ ๆ ระบาดไปทัว่ ... เออ่ เกิดไม่ทนั เหรอครบั เอาเปน็ ฟุตบอลกไ็ ด้ คนไทยนค่ี ลง่ั ฟุตบอลมากไม่วา่ จะ เปน็ บอลทเ่ี ล่นบนโตะ๊ หรือเลน่ บนสนาม คนไทยก็เล่นไดห้ มด คนไทยคนุ้ เคยกบั นกั ๑๗๔

SEOULLITTLE MUSEUM IN เตะผวิ สีท่ีดใู นทวี กี ันดี ทัง้ จากสโมสรหรือทีมชาติ ขนาดไทยลีกบ้านเรายังมีนกั เตะ แอฟรกิ นั ยกโขยงมาค้าแขง้ กันเยอะแยะ นีอ่ าจจะเปน็ ส่งิ ท่ที ำ�ให้คนไทยใกลช้ ิดกับ ชาวแอฟริกันมากที่สดุ แลว้ มงั้ ครบั อีกสิ่งหนึ่งท่ีเรานึกถึงแอฟริกานั่นคือสีสันจัดจ้านชนิดแสบเข้าไปถึงทรวง แดงก็แดงสดุ ลิ่ม เขียวก็เขยี วสุดโตง่ หลายคนสงสัยวา่ ทำ�ไมดนิ แดนแถบนน้ั ถงึ ช่นื ชอบสสี นั จัดจา้ นเช่นนี้ สว่ นตัวแลว้ ผมเชอ่ื ว่าเปน็ เพราะสพี วกนี้จะใหค้ วามร้สู ึกกะ ปร้กี ะเปรา่ กอ็ ากาศมันรอ้ นและแหง้ ผคู้ นจงึ ต้องการความกระฉบั กระเฉง จะมา ท�ำ สขี รึมๆ ก็งว่ งตายพอดี อีกอยา่ งนึงก็คือสีสนั ของสภาพภูมปิ ระเทศ ดนิ กแ็ ดง ต้นไมก้ เ็ ขียว ทงุ่ หญ้าก็เหลอื ง ผมคิดวา่ มันจึงมีสว่ นในการถ่ายทอดออกมากบั งานศลิ ปะของชาวแอฟรกิ ัน มาเท่ียวเกาหลีครั้งนี้ผมเพ่ิงจะนึกได้ว่าผมแทบจะไม่เจอนักท่องเท่ียวจาก แอฟริกาหรือพวกอาหรบั เลย ทพี่ บเหน็ ถา้ ไม่ใช่ฝรงั่ ก็บรรดาชาวเอเชียตะวนั ออก นก่ี ็เยอะท่ีสุด ไมใ่ ชว่ ่าไมม่ นี ะครับ แต่มันนอ้ ยเสยี จนผมไมท่ นั สังเกต ส่วนนกั ท่อง เที่ยวชาวไทยน้ันไมต่ ้องสังเกตอะไรมากครับ ไปทางไหนก็เจอคนไทยทั้งน้าน แล้วคนแอฟริกนั เขามาทำ�อะไรท่ีเกาหลีกัน ผมกไ็ ม่รู้จะถามใครดเี หมือน กนั นกั ทอ่ งเทย่ี วก็น่าจะมไี มเ่ ทา่ ไหร่ มาทำ�งานกค็ งจะมีบ้าง แตอ่ กี ส่วนหนงึ่ ทน่ี า่ สนใจคอื เขามาเรียนหนงั สือกันครบั ชาวแอฟรกิ าเร่ิมกันมาศึกษาตอ่ ในเอเชียกัน เยอะ มหาวิทยาลยั ใหญๆ่ ในบา้ นเราหลายแหง่ กม็ ีนักศกึ ษาแอฟริกนั มาเรยี น อาจ เปน็ เพราะบ้านเราค่าครองชีพไม่สงู นัก แลว้ ระบบการศึกษาอาจจะเขา้ กับพวกเขา มากกวา่ กไ็ ด้ แต่อาจจะตดิ ขัดเรือ่ งภาษา ซึง่ ไมน่ ่ามปี ญั หาเพราะคนเอเชียใจดีจะ ตายไปครับ เขาเอาตวั รอดไดส้ บาย ในเกาหลีกน็ า่ จะเช่นเดียวกันกบั บา้ นเรา ๑๗๕

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๗๖

SEOULLITTLE MUSEUM IN มวิ เซยี มแหง่ นอ้ี ยู่ตรงข้ามกับพระราชวังเคียงบกเลยครับ ผมจะอธบิ าย ยงั ไงดีล่ะ กเ็ คียงบกมันกว้างกวา่ สนามหลวงเยอะ ใหอ้ อกทางประตูฝั่งทศิ ตะวัน ออกทตี่ ิดกับถนน Samcheongdong หรอื ตรงประตู Geonchunmun Gate แลว้ เดนิ ย้อนข้ึนมานดิ หนอ่ ย แตต่ วั มวิ เซียมดนั ไมไ่ ดอ้ ยู่ติดถนนใหญ่นะครบั จงึ ตอ้ งสงั เกตกันนิดนึง ไมย่ ากครับ พยายามเงยหนา้ สงู ๆ เข้าไว้ จะมปี ้ายสีด�ำ เขียน วา่ African Museum of Art ขา้ งๆ กนั นัน้ เปน็ รา้ นกาแฟชือ่ เกว๋ า่ Under the Roof อยูใ่ นตกึ เดยี วกนั เลยครับ ทางขนึ้ ตึกท่ีน่จี ะเหมือนกันหมดคอื จะแคบๆ บนั ได ทางขึน้ มวิ เซยี มอยหู่ น้าร้านกาแฟนี่เลย ตอนที่ผมไปน้ันบรรยากาศเงียบเชียบเชยี วครับ มคี นไปเทีย่ วเคียงบกกัน เยอะ แต่ไมย่ กั กะมีใครขา้ มมาเทยี่ วแถวน้ีกนั บา้ ง ร้านกาแฟกร็ า้ งผคู้ น มเี จา้ ของ รา้ นนั่งยิ้มแฉ่งอยูค่ นเดียว พอเหน็ ว่าผมมามิวเซียมไม่ไดม้ ากินกาแฟกห็ ุบยิ้มทันที เดนิ ข้นึ บนั ไดไปชัน้ สองกเ็ จอกบั ประติมากรรมขนาดใหญ่ แตไ่ ม่พบสงิ่ มชี วี ติ อน่ื ใด เลยครบั ขณะท่ลี งั เลอยู่วา่ จะเอาไงดี ก็มีสาวนอ้ ยในชุดสแี ดงว่ิงลงมาจากชัน้ บน ยิ้มหวานลงมาต้อนรับ อะแฮ่ม น่ารกั เชยี วล่ะ จากท่ีลงั เลว่าจะกลบั ดีไหม ผมก็ เปลยี่ นใจอยตู่ อ่ ทันที เธอเป็นเจา้ หนา้ ทีข่ องมวิ เซียมครับ พอแนะน�ำ ตัวเสร็จสรรพ กช็ �ำ ระค่าธรรมเนียม ๓,๐๐๐ วอน จากนน้ั เธอก็เปิดไฟ ใชค่ รับ กอ่ นหนา้ น้ีมิวเซยี ม มืดสนิทเพราะเธอปดิ ไฟปดิ แอร์ สงสยั จะประหยดั ค่าไฟ ตวั เธอสิงอยชู่ ้ันบนแลว้ ดทู ่ี CCTV ถา้ มคี นมาชมกค็ อ่ ยลงมาต้อนรับ จากน้ันกพ็ าผมเดนิ ชมรอบๆ ซงึ่ เธอ ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากหรอกครบั อาจเปน็ เพราะผมมาคนเดยี วก็ได้ เลยปล่อย ให้ผมเดินดเู องตามใจชอบ มาเดนิ ทางถึงโถงกลางเธอก็โบกมอื อายๆ ว่าอย่าไป สนใจหลังคาทร่ี วั่ อยกู่ ลางห้อง คือหลังคามนั บวมน�ำ้ แล้วกย็ บุ ลงมาชดั เจน แลว้ ก็ ๑๗๗

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๗๘

SEOULLITTLE MUSEUM IN มีนำ้�ไหลติง๋ ๆ ลงมาในถงั ใบใหญท่ รี่ องไวด้ า้ นลา่ ง คณุ นอ้ งออกตัววา่ มันเพิ่งรั่วนะ ตวั เอง เคา้ ก�ำ ลงั เตรยี มการซอ่ มแซมอยู่ ซักพกั เธอก็ขอตวั ปล่อยให้ผมซอกแซก ตามใจชอบ แลว้ ก็สง่ ท้ายวา่ ถา้ ดูหมดแล้วก็ใชข้ ึ้นไปดา้ นบน แลว้ เธอกห็ ายตัวไป มวิ เซียมท่ีน่ีไม่ไดใ้ หญโ่ ตอะไรนักครบั พนื้ ที่ก็ไม่นา่ เกนิ ร้อยตารางเมตร เดินดูผา่ นๆ ครง่ึ ช่ัวโมงกห็ มด แตผ่ มเดนิ ดูเกือบชัว่ โมง วตั ถพุ ิพิธภณั ฑท์ จี่ ดั แสดง สว่ นใหญจ่ ะเปน็ ข้าวของเครอ่ื งใชค้ รบั ครึ่งหนึง่ จะเป็นของใชป้ ระจำ�วันอย่าง ภาชนะ อาวธุ เครอื่ งประดับ เครอ่ื งดนตรี และอกี ส่วนหนึ่งจะเป็นประติมากรรม รปู แบบต่างๆ ประติมากรรมเกือบท้ังหมดจะเป็นรูปมนุษย์ท่ีมีสัดส่วนหรือไม่ก็อยู่ใน ท่วงทา่ ท่ีแปลกตา ซึ่งผมกไ็ ม่ทราบแนว่ ่าเขาเอาไวท้ �ำ อะไร จะใช้ในพิธกี รรมรึ ผม วา่ มันก็ไมน่ า่ ใช่ เขามคี ำ�อธบิ ายเขียนไวเ้ หมอื นกนั แหละครบั แต่ดนั เป็นภาษา เกาหลเี สียหมด เลยไมไ่ ด้รคู้ วามกัน สังเกตได้ว่าผลงานส่วนมากจะมีนยั ทางเพศ อย่างชดั เจน ไมไ่ ดห้ มายความทะลงึ่ ตงึ ตังนะครบั แตเ่ พศในทนี่ เี้ ขาสอ่ื ออกมาทัง้ ทางกายภาพและทางสัญลกั ษณ์ อย่างสัดส่วนของหน้าอกสตรีในงานหลายชิ้นก็ใหญ่โตโอฬารเกินจริง ความจริงแล้วด้วยสรีระของสตรชี าวแอฟรกิ นั ก็มักมีสองเตา้ ทีม่ หมึ าอยแู่ ล้ว ผม ว่ามนั มีความหมายเชิงสญั ลักษณ์ถึงความอุดมสมบรู ณ์ของชนชาติ มลี ูกมากก็ คอื ต้องมีนมมาก มลี ูกมากกค็ ือมเี ผ่าพนั ธุ์ทแี่ ข็งแกรง่ เพราะน่ันคอื แรงงานท่ีใชใ้ น การด�ำ รงชีวติ และดำ�รงสถานะของเช้ือชาติ นอกจากสองเตา้ แลว้ ท่ผี มเห็นได้โดย แทบไม่ต้องสังเกตคือผลงานหลายชิ้นมรี ูปทรง (Shape) เป็นทอ่ นลงึ ค์! ลองดูจากภาพประกอบเอากไ็ ดค้ รบั ขนาดเปน็ รูปคนหรือเครือ่ งไม้เครื่อง มอื ทั่วไปเขากย็ ังสรา้ งในทรงของทอ่ นลงึ ค์ ซงึ่ ผมก็เดาเอาตามจนิ ตนาการวา่ มัน ๑๗๙

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๘๐

SEOULLITTLE MUSEUM IN กำ�ลังบ่งบอกถึงพลังอำ�นาจของผู้ชายที่เป็นหัวเร่ียวหัวแรงสำ�คัญของเผ่าพันธ์ุ ความแข็งแกร่งและอาจเป็นสัญลักษณ์ท่ีบ่งบอกสถานะทางสังคมได้เหมือนกัน ซ่งึ ถ้าพิจารณารวมๆ แล้ว ผมว่างานของแอฟรกิ นั ก็มีสดั สว่ นทีส่ มดุลยร์ ะหว่าง ชายกับหญิงทีต่ อ้ งพ่งึ พากันและกนั ทำ�นองหยินหยางของจนี นนั่ ล่ะครับ ผลงานท่ีจัดแสดงมีทั้งที่ท�ำ จากไม้และโลหะ ท่ีเดน่ เป็นสงา่ ทสี่ ดุ ก็เจ้าตวั ท่ี ยืนตอ้ นรบั อยู่ด้านหนา้ ท�ำ จากโลหะผสมขนาดสูงสองเมตรเหน็ จะได้ ดกู ร็ ้วู ่าเป็น รูปสตรี แตม่ ีหน้าตาและทว่ งท่าแปลกๆ หน้าเหมือนมนุษย์ตา่ งดาวนั่นเลยครับ ถ้า เดินมาเจอเอาตอนดกึ ๆ นี่อาจจะชอ็ กได้โดยง่าย นอกจากประติมากรรมแลว้ เขายงั จดั แสดงผลงานภาพเขียนดว้ ย มีทัง้ ภาพ Drawing ภาพลายเสน้ ลงสีน�้ำ เป็นลาย เสน้ ง่ายๆแตไ่ ดใ้ จความ นา่ จะเป็นภาพท่ไี หนซกั แหง่ ในแอฟริกา เขาขายดว้ ยนะ ครบั ถา้ ผมนับเลขศูนย์ไมผ่ ดิ ก็ราคาอยทู่ ่ีสองลา้ นวอน หลังจากซอกแซกจนท่ัวแล้วผมก็เหลียวไปมาหาคุณน้องชุดแดงไม่เจอ นึกไดว้ ่าเธอบอกวา่ ให้ขึ้นไปชัน้ บน ทีแรกกง็ งๆ วา่ จะข้ึนไปดีไหม เพราะพอขึ้นไป ดา้ นบนกเ็ จอประตปู ดิ ไว้อยู่ ก็นกึ เกรงใจว่าจะเปิดเข้าไปดไี หม แตเ่ ธอเชญิ เองนี่ หว่า ก็เลยเข้าไปตามคำ�เชญิ ปรากฏวา่ เป็นพนื้ ที่ดาดฟา้ ทเ่ี ขาจดั เปน็ เพงิ ง่ายๆ มี ผลงานจดั แสดงอีกชดุ ใหญ่ แล้วกก็ นั พ้นื ที่อกี ส่วนหนง่ึ เปน็ ออฟฟิศและที่พกั พอ คุณนอ้ งเหน็ ผมขนึ้ ไปก็ว่งิ ออกมาตอ้ นรับอีก เธอบอกว่ากำ�ลังเร่งเคลยี รง์ านอยู่ จึงไม่ได้ลงไปรบั แล้วกพ็ าเดินชมรอบๆ ซง่ึ ไม่ไดก้ วา้ งซักเทา่ ไหร่เลยครบั เลก็ นดิ เดยี ว แตบ่ รรยากาศกลับนา่ นั่งเล่นมากๆ ลมโกรกเย็นสบายทีเดยี ว ๑๘๑

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๘๒

SEOULLITTLE MUSEUM IN ด้านหน่งึ เขาท�ำ เป็นท่พี กั เหน็ มสี าวอีกคนหน่ึงกำ�ลงั เลยี้ งลกู เลก็ อยู่ ดา้ น หนึง่ เป็นออฟฟศิ เตม็ ไปด้วยหนงั สือและเอกสารมากมาย ตรงนผี้ มไมก่ ลา้ เขา้ ไป หรอกครับ ดูมันเปน็ ท่สี ่วนตวั ของเขา แตอ่ ีกฝั่งนงึ มีผลงานประตมิ ากรรมอีกชุด ใหญ่กองเรยี งรายอยู่ ซ่งึ เป็นพวกเทวรูป เชงิ เทียน เครอ่ื งประดบั คลา้ ยๆ กบั งาน ในมวิ เซยี มเลยครบั ซกั พกั คุณน้องกย็ กกาแฟมาใหท้ าน โฮ่ บริการดจี ริงๆ เธออวดวา่ นเ่ี ปน็ กาแฟมาจากคิลิมันจาโลเชยี วนะ สบายจรงิ ๆ ครับ นัง่ ชมงานศลิ ปะ จิบกาแฟ หอมๆ แลว้ ก็คุยกบั สาวน้อยนา่ รกั คราวนีไ้ ด้คยุ แบบจริงจังเสยี ที เธอชอ่ื Kyung- min Ham เธอเรยี นมาทางดา้ นศลิ ปะแลว้ ก็มาท�ำ งานเป็นผ้ดู แู ลมวิ เซียมท่ีนี่ เธอเล่าวา่ การออกแบบตกแตง่ มิวเซยี มนีเ่ ปน็ ผลงานของเธอ ท่เี หน็ เรียงรายบน ดาดฟ้านี้เธอบอกว่าเพราะว่าพ้ืนท่ีจัดแสดงมีจำ�กัดแล้วก็บางครั้งจะมีการจัดแสดง นอกสถานท่ดี ้วย วตั ถตุ า่ งๆ จงึ ไมค่ อ่ ยเปน็ ระเบียบนัก แต่ผมกลบั คิดวา่ ดาดฟ้า แห่งนี้แหละคือเสนห่ ์ของพิพิธภณั ฑ์แหง่ น้ี หลังจากทก่ี ลบั มาเมอื งไทยผมลอง ค้นหาดูในอนิ เทอรเ์ น็ต พบวา่ นกั ท่องเทยี่ วหลายคนได้รับเชิญข้ึนมาพกั บนดาดฟ้า แหง่ นน้ี ะครบั คงเปน็ ธรรมเนยี มเลยล่ะ แล้วบรรยากาศมนั เยยี่ มจรงิ ๆ ใหด้ ้นิ ตาย ครใู่ หญ่สาวอีกคนก็ออกมาต้อนรบั คนน้เี ธอเปน็ ภัณฑารกั ษข์ องที่น่ี ช่อื Bora Yoon เธอเลา่ ว่าพิพิธภัณฑแ์ ห่งน้ีเปิดข้ึนไดไ้ ม่นาน เป็นความตงั้ ใจของ อาจารย์ท่านหนง่ึ ที่ทำ�งานดา้ นแอฟริกนั ศกึ ษา Dr. J.H. Kwang เลยรวบรวม ผลงานพวกน้ีไว้เปน็ คอลเล็คช่นั จนเปดิ เป็นพิพธิ ภัณฑไ์ ด้ เหน็ มีรูปภาพชาว แอฟรกิ นั มาจับกลุม่ เสวนากันบนดาดฟ้านด้ี ว้ ยนะครับ เข้าใจวา่ คงเป็นพวกนักวชิ า การเพอ่ื นๆ ของอาจารยท์ ่านทีว่ า่ นี้ เธอเปดิ หนังสือภาพให้ผมดูด้วยว่าอาจารย์ Kwang ทา่ นนีม้ ีผลงานเปน็ ทรี่ ู้จกั ในวงการศลิ ปะของเกาหลีดีทีเดยี ว บังเอิญวา่ ๑๘๓

SEOULLITTLE MUSEUM IN ๑๘๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook