Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์มวยไทย

ประวัติศาสตร์มวยไทย

Description: ประวัติศาสตร์มวยไทย

Search

Read the Text Version

HISTORY OF MUAY THAI 100ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย สมัยกรงุ รัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี 5 พ.ศ. 2411-2453 Rattanakosin Period King Rama V, B.E. 2394-2411

HISTORY OF MUAY THAI 101 พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั King Chulalongkorn ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงครองราชย์ พ.ศ. 2411 “พระองคศ์ กึ ษา King Chulalongkorn (King Rama V) came to the throne in B.E. 2411. He learnt ศิลปะมวยไทยมาจากส�ำนักมวยหลวง ซ่งึ มีปรมาจารย์หลวงพลโยธานุโยค” (เสรี อาจสาลี, the art of Muay Thai from the royal boxing school under the supervision of Luang 2520: 131) ครูมวยหลวงเปน็ ผู้ฝกึ สอน ทำ� ใหพ้ ระองคท์ รงโปรดกฬี ามวยไทยมาก Phon Yothanuyoke (Seree Artsalee, 2520 : 131). He was very fond of Muay Thai. นสมัยน้ีการฝึกหัดมวยได้แพร่หลายไปตามหัวเมืองต่างๆ ท้ังภาคเหนือ Muay Thai had been practiced in the Northern, Northeastern and ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ของประเทศ เพราะได้จัดให้มีการ Southern regions of the country. A boxing contest was held at the แขง่ ขนั ชกมวยหนา้ พระทนี่ งั่ ในงานศพของกรมขนุ มรพุ งศริ พิ ฒั น์ ณ ดา้ นใตข้ องทงุ่ พระสเุ มรุ funeral of Krom Khun Maruphong Siriphat on the south of Phra Sumeru Ground (ทอ้ งสนามหลวง) นกั มวยทเี่ จา้ เมอื งนำ� มาแขง่ ขนั ลว้ นแตค่ ดั เลอื กคนทมี่ ฝี มี อื ดี การแขง่ ขนั (Sanam Luang). Many good boxers had been selected for the fight some of whom ครง้ั นไ้ี ดน้ กั มวยทสี่ ามารถชกชนะคตู่ อ่ สหู้ ลายคนและไดร้ บั พระราชทานบรรดาศกั ด์ิ ไดแ้ ก่ were later promoted as follows :

​“หมื่นมอื แมน่ หมดั ” เป็นนักมวยจากลพบุรี “Muen Muman Mud,” a boxer from Lopburi; “Muen Cha-ngud Choengchok,” a boxer from Korat named Nai Dang “หมืน่ ชงดั เชิงชก” เปน็ ชาวโคราช ชอ่ื นายแดง ไทยประเสรฐิ ลกู ศษิ ยค์ ณุ พระเหม Thiprasert, a student of Khunphra Hemsamaharn, Governor of Korat; สมาหาร เจา้ เมอื งโคราช มชี อ่ื ในเรอ่ื งการใช้หมดั เหว่ยี งควาย “Muen Muay Mechu,” a boxer from Chaiya named Plong Chamnongthong, HISTORY OF MUAY THAI “หมน่ื มวยมชี อ่ื ” เปน็ นกั มวยจากไชยา ชอ่ื ปลอ่ ง จ�ำนงทอง ลกู ศษิ ยพ์ ระยาวยั วุฒิ a student of Phraya Waiyawuth Wisetrit (Kham Sriyaphai), Governor of Chaiya; วเิ ศษฤทธ์ิ (ข�ำ ศรียาภยั ) เจา้ เมืองไชยา After this boxing event the Thai people in every province began actively หลงั จากการแขง่ ขนั ชกมวยครง้ั นท้ี ำ� ใหช้ าวไทยทวั่ ทกุ จงั หวดั สนใจฝกึ ซอ้ มมวยไทย practicing Muay Thai. However, there was no more such boxing competition กันอยา่ งจรงิ จงั แต่ไม่ปรากฏวา่ มกี ารแข่งขันชกมวยคร้งั สำ� คัญเช่นน้อี กี เลยตลอดรัชกาล until the end of the king’s reign. ส�ำหรับในพระราชวังทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมมหาดเล็กขึ้นเพ่ือท�ำหน้าที่รักษา Soon after his accession to the throne King Rama V established Department ความปลอดภยั ในพระราชวงั และถวายอารกั ขาแดพ่ ระมหากษตั รยิ ์ กรมมหาดเลก็ เกดิ ขน้ึ of Mahaadlek (Royal Guards) to keep security in the grand palace as well as หลังจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติแล้วไม่นาน guard the king. Later in B.E. 2414 the king ordered selection of children of ต่อมาในปี พ.ศ. 2414 ได้โปรดให้คัดเลือกบุตรหลานผู้ท่ีมีตระกูลสูงมาฝึกหัดจัดเป็น noble families to be trained and serve in the department, and to acquire knowledge กรมทหารมหาดเลก็ รกั ษาพระองค์ และโปรดใหศ้ ึกษาหาความรูใ้ นราชสำ� นัก และสำ� นกั about the royal court and civil service affairs. In B.E. 2423 the king designated 102 ราชการด้วย ปี พ.ศ. 2423 จึงได้โปรดให้พระองค์เจ้าดิศวรกุมารราชองครักษ์ เป็นผู้ Prince Disuan Kumarn the commander of Department of Mahaadlek. The บังคับการกรมทหารมหาดเล็ก แต่ทหารมหาดเล็กรุ่นนั้นมีสกุลเป็นมหาดเล็กเวร และ department was then moved to Suan Kularb Palace in B.E. 2424. In 2425 the ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย สกลุ คหบดชี น้ั พลเรอื นดว้ ย ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2424 ไดย้ า้ ยมาอยทู่ พี่ ระตำ� หนกั สวนกหุ ลาบ king established Mahaadlek School, starting with about 10 students, all coming

และไดโ้ ปรดให้จดั ตั้งโรงเรยี นนายทหารมหาดเลก็ ขึ้นเม่อื พ.ศ. 2425 มีนักเรียนประมาณ from royal families. Those students who wished to serve as royal guards were HISTORY OF MUAY THAI 10 คน เป็นหม่อมเจ้าและหม่อมราชวงศ์ทั้งส้ิน ในปี พ.ศ. 2427 โรงเรียนพระต�ำหนัก to go for military training which included Muay Thai. สวนกุหลาบจึงเปลี่ยนเป็นโรงเรียนพลเรือน ส�ำหรับนักเรียนที่ประสงค์จะเข้ารับราชการ 103 เปน็ นายทหารมหาดเลก็ นนั้ เมอื่ เรยี นวชิ าความรเู้ บอ้ื งตน้ ในโรงเรยี นพระตำ� หนกั สวนกหุ ลาบ As to Krom Thanai Luak the king still kept it based on the following reason: แลว้ ใหแ้ ยกไปฝกึ หดั วิชาการทหาร ซึ่งมวี ิชามวยไทยอยดู่ ้วย “KromThanai Luak is composed of strong and sturdy men with good ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย boxing skill who keep guard of the king in cases where there is no need to ส่วนกรมทนายเลือกท่ีมีมาแต่คร้ังกรุงศรีอยุธยานั้นก็ยังคงไว้ดังพระราชด�ำรัส use weapons, for example seizing a mad man and so on. This department ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแถลงพระบรมราชาธิบาย แก้ไขการ was established because the king was fond of Muay Thai, men of good ปกครองแผน่ ดินความตอนหนงึ่ ดังนี้ boxing skill were selected to accompany him whenever he went somewhere in disguise without carrying any weapons. However, on formal occasions, “​ กรมทนายเลอื กเปน็ กรมทค่ี ดั เลอื กแตค่ นทลี่ ำ�่ สนั มน่ั คงมฝี มี อื ชกมวยดี ใหเ้ ดนิ these men were to carry weapons with them like the police department. แหต่ ามเสดจ็ ในทใ่ี กลๆ้ ไดป้ อ้ งกนั อนั ตรายอนั ไมพ่ อทจ่ี ะตอ้ งถงึ ใชอ้ าวธุ เชน่ จบั คนบา้ เปน็ ตน้ They also needed to keep regular sentry like Krom Polapan. Therefore, ซง่ึ เกดิ กรมทนายเลอื กขน้ึ นี้ ดว้ ยพระเจา้ แผน่ ดนิ โปรดทรงมวย เลอื กหาคนทมี่ ฝี มี อื ดไี ว้ these departments are similar and are the king’s forces ; they are under เป็นเพอ่ื นพระองค์ ส�ำหรับเสดจ็ ปลอมแปลงไปในทีแ่ หง่ ใด ทีไ่ มค่ วรจะใชป้ อ้ งกันด้วย nobody else’s command.” อาวุธ แต่เมอื่ แหเ่ สดจ็ โดยปกตกิ ็ใหถ้ อื หอกเหมอื นกรมพระตำ� รวจ มเี วรประจำ� การ เหมือนกรมพลพัน และไมม่ ีหนา้ ท่ชี ำ� ระความศาลรับสงั่ ทัง้ สองกรม เพราะฉะนน้ั กรม เหลา่ นี้เปน็ กรมทใ่ี กล้เคยี งเปน็ กำ� ลังของพระเจา้ แผน่ ดิน จึงมใิ หผ้ ้ใู ดบังคับบญั ชาได”้

ทหา รรักษาพระองค์ในกรมทนายเลือกยังคงท�ำหน้าที่ตามเสด็จ ฝึกหัดมวยไทย The royal guards in Krom Thanai Luak still kept protecting the king, teaching ให้ กับพระราชโอรส ทหาร และข้าราชการในพระราชวัง รวมทั้งควบคุมการชกมวย Muay Thai to the king’s sons and the soldiers and civil servants in the grand palace. และจดั การชกมวยถวายให้พระมหากษัตริยท์ อดพระเนตร They also controlled boxing and arranged boxing matches to entertain the king. In 2430 the Department of Education was established. Civil education and พ.ศ. 2430 ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ประกาศต้งั กรมศกึ ษาธิการ การจัดระบบ การ ศึกษาไทยจึงเป็นขั้นตอนมากข้ึน โดยการเรียนการสอนของพลเรือนแยกออกจาก military education were then separated from each other. Muay Thai was one การ ทหาร วิชามวยไทยเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตรการศึกษา โดยเฉพาะในโรงเรียน subject in the curricula for both physical education teacher training schools and HISTORY OF MUAY THAI ฝึก หัดครูพลศึกษา และในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซ่ึงทางโรงเรียนนายร้อย the Military Cadet Academy which treated it as a very important subject and the พระจลุ จอมเกลา้ ถอื วา่ วชิ ามวยไทยเปน็ วชิ าทสี่ ำ� คญั มากในหลกั สตู ร ทำ� การฝกึ หดั มวยไทย students thus were required to have two hours’ training a week. สปั ดาหล์ ะ 2 ชว่ั โมง ปี พ.ศ. 2437 ร้อยเอกขุนเจนกระบวนหดั ท�ำหน้าที่เป็นผฝู้ ึกสอน วิชามวยไทยในโรงเรยี นนายร้อยพระจุลจอมเกล้า In 2440 the Ministry of Education organized athletic games at Sanam Luang on January 11. The king attended the event and it was held on an annual basis. นับ ได้ว่าการพลศึกษาได้เริ่มเกิดขึ้นในรัชกาลนี้ และใน พ.ศ. 2440 กระทรวง ธรรมการไดจ้ ดั การแขง่ ขนั กรฑี า ณ ทอ้ งสนามหลวงเมอื่ วนั ที่ 11 มกราคม 2440 พระองค์ In the reign of King Chulalongkorn the Ministry of Finance started taxation 104 เสดจ็ ทรงทอดพระเนตรการแขง่ ขันคร้ังนี้ จึงจัดเป็นงานประจ�ำปเี รื่อยมา on Muay Thai competition as a form of entertainment, 15% of the entrance fee but 10% if organized by the Ministry of Education and tax exemption if organized for public benefits. ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

ประวัตศิ าสตร์ มวยไทย 105 HISTORY OF MUAY THAI

ประวัตศิ าสตร์ มวยไทย 106 HISTORY OF MUAY THAI

ในสมัยนีก้ ระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวง แลว้ มีการปรับปรุงใน พ.ศ. 2499 HISTORY OF MUAY THAI และ พ.ศ. 2502 โดยถือวา่ การแขง่ ขนั ชกมวยเปน็ มหรสพอยา่ งหนึ่งที่ต้องเสยี ภาษอี ากร การแข่งขันชกมวย มวยปล�้ำ หรอื การแสดงกีฬาพืน้ เมอื ง เก็บอากรร้อยละ 15 ของคา่ ดู 107 หากเป็นกฬี าซง่ึ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจดั เก็บอากรรอ้ ยละ 10 ของค่าดู แตจ่ ะไดร้ บั การ ยกเว้นอากรถ้าเป็นการจัดเพือ่ บ�ำรงุ สาธารณประโยชน์ จัดในเขตวัด หรอื ใกลว้ ดั ซง่ึ เป็น ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย เทศกาลประจำ� ปี หรือกีฬาส�ำหรบั สถานศึกษา เปน็ ตน้ การชกมวยในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ มกั จดั ขน้ึ เพอื่ ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ หรือ “ตามกฎหมายว่าจัดเพื่อดูเล่นเป็นผาสุกภาพเหมือนกับสมัยอยุธยา ท้ังยังคงใช้ กฎหมายตราสามดวงซง่ึ เปน็ กฎหมายท่ีรวบรวมมาจากสมยั อยธุ ยา” แมต้ ่อมาในสมยั รชั กาลที่ 5 ไดม้ กี ฎหมายเกยี่ วกบั การจดั เกบ็ ภาษอี ากรตา่ งๆ มากมาย แตก่ ไ็ มป่ รากฏวา่ มี การเกบ็ ภาษอี ากรการจดั การแขง่ ขนั ชกมวย เพราะการแขง่ ขนั ชกมวยในสมยั นนั้ สว่ นมากจะจดั แขง่ ขนั ตามเวทชี ว่ั คราว จดั เปน็ ประเพณี จดั เปน็ การกศุ ล นกั มวยทชี่ กไดเ้ งนิ ไมม่ ากมายนกั จึงยังไม่มใี ครได้เสยี ภาษีอากรเกี่ยวกับการจัดแข่งขนั ชกมวยแต่อย่างใด Boxing in early Rattanakosin period was usually organized for the purpose of entertainment or “,according to the law, it is organized for health’s sake like Ayudhya period and still uses Tra Sam Duang Law compiled from Ayudhya period.” It is noteworthy that despite various taxation laws issued during King Chulalongkorn’s reign there had been no taxation on boxing competition because most boxing events were for charity or traditional purposes and the boxers received small sums of money.

HISTORY OF MUAY THAI 108ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย สมยั กรุงรตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ 6 พ.ศ. 2453-2468 Rattanakosin Period King Rama VI, B.E. 2453-2468

พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยหู่ วั King Phra Mongkut Klao Chaoyuhua HISTORY OF MUAY THAI พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ พ.ศ. 2453 ต่อมาใน King Phra Mongkut Klao Chaoyuhua (King Rama VI) came to the throne in 109 ปี พ.ศ. 2457-2461 ไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งท่ี 1 ท�ำให้บรรดา 2453. During 2457-2461 Siam sent its troops to join in World War I. It was a good ทหารไทยได้มโี อกาสแสดงความสามารถในชนั้ เชงิ มวยไทยให้ทหารและประชาชนชาวยุโรปชม opportunity for them to show their capability of the art of Muay Thai to European ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย สร้างความชื่นชอบและประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ผู้ท่ีจัดการควบคุมทหารไปรบ people and soldiers, leading to their great admiration and impression. The military และแสดงการชกมวยไทยในครั้งน้ันคือ พลโทพระยาเทพหัสดินทร์และท่านผู้นี้ได้สนใจกีฬา force was under the control of Lt.Gen. Phraya Thephatsadin, who was very much มวยไทยมาก เม่อื ตอนหลงั ได้เป็นผสู้ ร้างสนามมวยขึน้ ทีบ่ ริเวณศาลหลักเมือง interested in Muay Thai himself. He later on built boxing ring near the city pillar area. ายหลงั สงครามโลกครงั้ ที่ 1 “ประมาณ พ.ศ. 2463 ไดม้ สี นามมวยถาวร After World War I, “approximately in 2463, Suan Kularb Boxing เกดิ ขน้ึ คอื สนามมวยสวนกหุ ลาบ” จดั ใหม้ กี ารแขง่ ขนั ชกมวยไทยเปน็ Stadium was built as a permanent stadium” for organizing boxing ประจ�ำ สนามมวยสวนกุหลาบเม่ือแรกเริ่มนั้นให้นักมวยชกกันบนพ้ืนดิน ผู้ดูน่ังและยืน matches regularly. At first, the boxers fought on the ground whereas the spectators อยู่รอบบรเิ วณสังเวยี นซงึ่ กว้างกวา่ 20 เมตร มกี ารขดี เส้นกำ� หนดให้คนนั่งห้ามลำ�้ เขา้ ไป sat or stood behind the line around the ring which measured 20 meters in wide ในเขตสังเวียน นักมวยคาดเชือกที่มือด้วยด้ายดิบ สวมมงคล แม้ขณะชกก็ยังสวมอยู่ มี and length. The boxers had their hands bound with raw thread, wore a mongkhon ผา้ ประเจยี ดมดั ไวท้ ต่ี น้ แขนซา้ ยและขวา สวมกางเกงขาสน้ั มผี า้ พาดทบั อยา่ งแนน่ หนาตรง (head band) and prachiat (sacred piece of cloth) around upper arms. The wore บรเิ วณอวยั วะสำ� คญั ปกคลมุ มาจนถงึ ดา้ นบนตรงเอว ไมส่ วมเสอ้ื และปลายเทา้ เปลอื ยเปลา่ shorts with a piece of cloth thickly protecting their genital organs, with bare กรรมการแตง่ กายดว้ ยผา้ มว่ งนุง่ โจงกระเบน สวมถงุ เท้าขาว เสือ้ ราชประแตน upper part of the body and feet. The referee wore a violet piece of cloth call “chong kraben”, white socks and a white shirt called “rajpratan”.

HISTORY OF MUAY THAI“พ.ศ. 2464 ได้มีการจัดการแข่งขันมวยไทยอย่างเป็นทางการ ที่สนามมวย สวนกหุ ลาบ (บรเิ วณโรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั )” นกั มวยคแู่ รกทช่ี กกนั คอื “หมน่ื มอื แมน่ ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทยหมดั ”ซง่ึ เปน็ นกั มวยฝมี อื ดใี นสมยั รชั กาลที่5ขณะขน้ึ ชกมอี ายปุ ระมาณ50ปีชกกบั นกั มวย รนุ่ หนมุ่ “ชอื่ นายผอ่ งปราบสบก”อายปุ ระมาณ22ปีเปน็ นกั มวยมาจากโคราชการชกครง้ั น้ี เปน็ การชกแกแ้ คน้ แทนบดิ าของนายผอ่ ง ซงึ่ เคยชกพา่ ยแพห้ มน่ื มอื แมน่ หมดั เมอ่ื ครง้ั งาน พระเมรกุ รมขนุ มรพุ งศศ์ ริ พิ ฒั น์ นายผอ่ งจงึ ตงั้ ใจชกเพอื่ ลา้ งแคน้ ประกอบกบั หมน่ื แมน่ หมดั มอี ายุมากแลว้ จงึ พ่ายแพใ้ นเวลาไม่เกนิ 2 นาที นายผอ่ งไดร้ บั รางวัลหวั เสอื และสร้อยเงิน จากการท่ีผู้ชมดีใจวิ่งเข้าไปห้อมล้อมนักมวยท้ังสองท�ำให้เกิดความวุ่นวายไม่เป็นระเบียบ คณะกรรมการจดั มวยจงึ ไดส้ รา้ งสนามมวยใหมโ่ ดยจดั ยกพนื้ สนามมวยขนึ้ สงู ประมาณ 4 ฟตุ ปูลาดด้วยเสื่อจันทบูรณ์ มีเชือกกั้นเวทีสองเส้น เสาเชือกทาสีขาวเว้นช่องประตูไว้ ตรงกนั ขา้ มใหน้ กั มวยขน้ึ ลง 2 ชอ่ ง และมบี นั ไดกา้ วขนึ้ ลง กรรมการตดั สนิ ลว้ นแตง่ ตวั เตม็ ยศ แบบเสือปา่ 110 ประชาชนใหค้ วามสนใจกบั การจดั การแขง่ ขนั ชกมวยในครง้ั แรกนมี้ ากและไดเ้ รยี กรอ้ ง ใหม้ กี ารจดั ตอ่ ไป พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ โปรดฯ ใหพ้ ระยานนทเิ สน นเรนทรภกั ดี แมก่ องเสอื ปา่ จดั การแขง่ ขนั ชกมวยขนึ้ ณ สนามหนา้ สามคั ยาจารยส์ มาคม

“In 2464 a formal Muay Thai contest was organized at Suan Kularb HISTORY OF MUAY THAI Boxing Ring (in Suan Kularb School’s compound).” The first match was the fight between Muen Mue Manmud, aged 50 a famous boxer since the reign of 111 King Rama V and “Nai Pong Prabsabot,” aged 22, a boxer from Korat, who wantes to take revenge on Muen Mue Manmud or his father’s defeat by Muen Mue Manmud. Because of his old age, Nai Pong could defeat him in less than two minutes and took his prize. The spectators crowded round the boxers leading to confusion and disorder. The organizing committee decided to build a new boxing ring by having the ring floor raised about four feet high. The ring was enclosed with two ropes, leaving two oppite entrances for the boxers to come in the ring poles were painted white. The referees were all fully dressed in “Suapa” uniform. The people were very interested in this first boxing contest and thus demanded for further contest. King Rama VI had Phraya Nonthisen Narenthornpakdi ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

ในบรเิ วณโรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั มตี กึ เรยี นปลกู เปน็ 2 ชนั้ รอบสนามทำ� ใหส้ ามารถ ขึ้นดูบนตึกเรียนได้ การจัดการแข่งขันชกมวยคร้ังน้ีเป็นการจัดเพื่อเก็บเงินซ้ือปืนให้กอง เสอื ปา่ โดยใหส้ มหุ เทศาภบิ าลและขา้ หลวงจดั หานกั มวยฝมี อื ดจี ากตา่ งจงั หวดั เขา้ มาชกกนั โดยทนี่ ักมวยทกุ คนจะไดเ้ บี้ยเลีย้ งวนั ละ 1 บาท ซ่งึ สมยั น้ันถือว่ามีราคามาก นักมวยฝีมือดีจากต่างจังหวัดได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และพักตามบ้านของ ผอู้ ปุ การะและตามสโมสร บางคนกส็ มคั รใจพกั อยทู่ ห่ี อ้ งของสโมสรเสอื ปา่ บรเิ วณทเ่ี รยี กกนั วา่ สวนดสุ ิตซ่งึ มตี น้ ไม้รม่ รืน่ มาก นักมวยทกุ คนได้รบั ความสะดวกสบายดี มีการเปรียบคูช่ ก และถา่ ยรปู โฆษณาทบ่ี รเิ วณสนามเสอื ปา่ รมิ ลานพระบรมรปู ทรงมา้ ในปี พ.ศ. 2464 นเี้ อง HISTORY OF MUAY THAI ข้าหลวงเมืองโคราชได้คัดเลือกนักมวยมีมือดีเข้ามาท�ำการชก คือ “นายทับ จ�ำเกาะ และนายยงั หาญทะเล ทง้ั สองคนไดพ้ กั อยทู่ วี่ งั เปรมประชากรโดยมกี รมหลวงชมุ พรเขตร อุดมศักดิ์ ซ่ึงเป็นผู้ท่ีมีฝีมือมวยไทยเย่ียมยอดมากคนหน่ึงเป็นผู้ควบคุมการฝึกซ้อม” มีพระชลัมภ์พิสัยเสนีเป็นผู้ช่วย มีการฝึกซ้อมคู่โดยการคาดเชือกและมีปี่กลองบรรเลง 112 คล้ายกบั การชกจริง หลงั ชกและขณะท่ชี กจะแก้ไขข้อบกพร่องของนกั มวยไปดว้ ย มีการ organize next boxing competition on the ground in front of Samakkayacharn ออกกำ� ลงั กายโดยการวา่ ยนำ้� จากสะพานทา่ นำ้� วงั เปรมประชากรไปถงึ คลองสามเสนแลว้ Association, Suan Kularb School, which was surrounded with two-storey buildings ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย จึงคอ่ ยว่ายกลบั where spectators could watch the event from. This contest was held to raise funds for buying guns for Suapa Corps. The boxers were brought from the provinces, each of whom would get one per day as per diem, quite a high amount by that time. Every boxer was warmly welcomed. The governor of Korat selected Nai (Mr.) Tub Chamkoh and Mr.Young Harnthalay. Prince Krom Luang Chumphorn Khet Udomsak, who was also a very good boxer, supervised the training, with Phra Chalum Phisaisenee as his assistant. The training was performed like the real boxing and each boxer’s defects or weak points would be corrected. The boxers would also swim from Premprachakorn Palace Pier to Samsen Canal and swim back as a form of exercise.

นายทบั จ�ำเกาะ และนายยัง หาญทะเล ทัง้ สองคนไดพ้ กั อยทู่ ี่ HISTORY OF MUAY THAI วงั เปรมประชากรโดยมกี รมหลวงชมุ พรเขตรอดุ มศกั ด์ิ ซงึ่ เปน็ ผทู้ มี่ ี ฝมี อื มวยไทยเยย่ี มยอดมากคนหนง่ึ เปน็ ผคู้ วบคมุ การฝกึ ซอ้ ม Nai (Mr.) Tub Chamkoh and Mr.Young Harnthalay. Prince Krom Luang Chumphorn Khet Udomsak, who was also a very good boxer, supervised the training, 113 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

HISTORY OF MUAY THAI นกั มวยทพี่ กั อยใู่ นวงั เปรมประชากรไดร้ บั การฝกึ ซอ้ มอยา่ งแขง็ ขนั การกนิ อยหู่ ลบั นอน สมบรู ณส์ ขุ ภาพทางกายและทางจติ ดี ทำ� ใหน้ กั มวยทกุ คนพรอ้ มทจ่ี ะชกมวยไดต้ ลอดเวลา ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย ดงั นนั้ การเปรยี บมวยในสมยั นน้ั จงึ ไมถ่ อื เอานำ้� หนกั ของนกั มวยเปน็ สงิ่ ทส่ี ำ� คญั การหาคชู่ ก เมอื่ ยนื เทยี บกนั พจิ ารณาเหน็ สมควรและสมคั รใจกนั ทงั้ สองฝา่ ยแลว้ สามารถตกลงกนั ไดเ้ ลย ซง่ึ นายทบั จำ� เกาะ ไดค้ ชู่ กเปน็ นกั มวยฝมี อื ดจี ากมหาสารคามและนายทบั จำ� เกาะ เปน็ ฝา่ ยชนะ ต่อมาสนามมวยสวนกุหลาบได้คัดเลือกนักมวยฝีมือดีอีกคนหน่ึงมาชกกับนายทับ จ�ำเกาะ คอื นายประสทิ ธ์ิ บญุ ยารมณ์ ซึง่ เปน็ ครูพลศกึ ษาเคยซ้อมอยูก่ บั นายทมิ อตเิ ปร มานนท์ หรือคนท่ัวไปเรียก “ครูทมิ ” ซงึ่ เปน็ ครพู ลศึกษาท่มี ฝี ีมอื มวยไทยเป็นเลศิ คนหน่ึง การฝกึ ซอ้ มอยใู่ นความควบคมุ ของพระยาภกั ดนี รเศรษฐ์ พระยาโอวาทวรกจิ และพระยา ฤทธไิ กรเกรยี งหาญ ตอนแรกทางสนามมวยจะจดั ให้นายทบั จำ� เกาะ ชกกับนายบังสะเลบ ศรไขว้ ซง่ึ เปน็ นกั มวยทแี่ ขง็ แรง บกึ บนึ รปู รา่ งใหญโ่ ต อยใู่ นความควบคมุ ของหมอ่ มราชวงศ์ มานพฯ แต่นายทบั จำ� เกาะไม่ยอมชกด้วย จงึ จัดใหช้ กกบั นายประสิทธิ์ บุญยารมณ์แทน 114 “ตอ่ มานายทบั จำ� เกาะ ไดท้ ราบวา่ ตนเองจะไดช้ กกบั นกั มวยฝมี อื ดอี ยา่ งนายประสทิ ธ์ิ บญุ ยารมณ์ กค็ ดิ มากจนลม้ ปว่ ยเพราะมจี ติ ใจไมส่ ู้ เกรงกลวั คตู่ อ่ สจู้ นเสดจ็ กรมหลวงชมุ พร เขตรอดุ มศกั ดิ์ ตอ้ งพาไปทำ� พธิ ปี ลกุ เสกจากพระครวู มิ ลคณุ าการ (หลวงพอ่ สกุ ) วดั มะขามเฒา่ จังหวดั ชยั นาท ซึ่งเป็นพระอาจารยข์ องเสด็จกรมหลวงชมุ พรเขตรอดุ มศักดิ์” มวยคู่นี้เป็นมวยท่ีประชาชนสนใจมากในยุคน้ัน ผู้ชมได้เข้าชมจนแน่นสนามมวย สวนกุหลาบ พระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี แม่กองเสือป่าเป็นผู้เป่าปี่ มีลูกน้องในคณะ ตกี ลองแขกและฉงิ่ ใหจ้ งั หวะ ซงึ่ สามารถกระตนุ้ อารมณไ์ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี การชกกนั เปน็ ไปใน แบบระมดั ระวงั มากเพราะตา่ งกม็ ไี มต้ ายดว้ ยกนั ทง้ั สองฝา่ ย แตน่ ายทบั ใชช้ นั้ เชงิ หลอกตอ่ ยผดิ นายประสทิ ธิ์ จงึ วง่ิ เขา้ ตอ่ ยแตเ่ ปน็ จงั หวะทน่ี ายทบั เตะตามอยา่ งรนุ แรง และนายทบั ไดเ้ ตะ ติดต่อกันหลายคร้งั จนนายประสิทธ์ลิ ม้ ลงดว้ ยความเจ็บปวดและยอมแพไ้ ป การพ่ายแพ้ของนายประสิทธิ์ บุญยารมณ์ นักมวยเมืองกรุงต่อนายทับ จ�ำเกาะ นักมวยโคราชในครั้งน้ันท�ำให้ชาวกรุงเรียกร้องท่ีจะเฟ้นหานักมวยฝีมือดีข้ึนต่อสู้กับ นายทับ จ�ำเกาะ เป็นคนต่อไป เช่น นายสุวรรณ นิวาสะวัด ศิษย์เอกของหลวง

Matching of boxers by that time had nothing to do with weight but it just HISTORY OF MUAY THAI depended on both sides’ content. Mr.Tub Chamkoh was matched against a boxer from Mahasarakham whom he defeated. 115 Mr.Tub was later matched against Mr.Prasit Bunyarom, a physical education ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย teacher who used to have his training with Mr.Tim Atipremmanon, alias “Khru Tim”, an excellent boxer. His training was under the supervision of Phraya Pakdinoraseth, Phraya Qwatworakit and Phraya Ritthikrai Kriangharn. At first Mr.Tub was expected to box with Mr.Bangsaleb Sornkwai, a big, sturdy boxer, but Mr.Tub would not fight him. “So he was to box with Mr.Prasit Bunyawarom whom he was so agraid of that he fell sick. Prince Krom Luang Chumphorn had to bring him to meet Phra Khru Wimol Khunakorn (Luang Phor Sook) of Wat Makhammthao in Chainat to perform a ritual to bring back his spirits.” The people were very interested in this match so Suan Kularb Boxing Stadium was so crowded with spectators. Phraya Nonthisen Surenthornpakdee and his men play musical instruments accompanying the fight. The boxers were very careful. Mr.Tub used his tactics so that Mr.Prasit rushed to punch him, and that was the moment Mr.Tub attacked him with a violent kick. Mr.Prasit was kicked several times until he fell to the floor, badly hurt, and surrendered. The people then called for other boxers to fight with Mr.Tub, including Mr.Suwan Niwasawat, Mr.In Sakdet, Khru Tim Atipremmanon and soon, “ but none of them had a chance because Mr.Tub returned to Korat, his hometown and gave up boxing for good.”

พิพัฒน์พลกาย (กระจ่าง วิโรจน์เพชร) นายอินทร์ ศักด์ิเดช มวยไชยาลูกศิษย์เอกของ “หมนื่ มวยมชี อื่ ” นายพนู ศกั ดา มวยดจี ากโคราช ครทู มิ อตเิ ปรมมานนท์ นายสนิ ดลิ กวลิ าศ (น้าชายของสมาน ดลิ กวิลาศ) ชาวพระนคร “แต่กไ็ มม่ ผี ใู้ ดได้ชกกับนายทับ เพราะนาย ทับได้กลบั ไปโคราชบา้ นเกิดเมอื งนอน และไมย่ อมกลับมาชกมวยอกี เลย” ส่วนนายยัง หาญทะเล นักมวยฝีมือดีที่เดินทางมาจากโคราชพร้อมนายทับ จำ� เกาะ ยงั หาคชู่ กทเี่ หมาะสมไมไ่ ด้ พระยานนทเิ สนสเุ รนทรภกั ดี ซง่ึ เปน็ ผบู้ รหิ ารสนามมวย สวนกุหลาบจึงปรึกษาหารือคณะกรรมการเพ่ือหาคู่ชกให้ในท่ีสุดก็จัดให้ชกกับมวยจีน ชอื่ “จี๊ฉ่าง” ซง่ึ นายเคยี งเหลยี น สีบญุ เรอื ง และนายฮนุ กิมฮวด แห่งสโมสรสามัคคจี นี HISTORY OF MUAY THAI สยามเป็นผูส้ ั่งมาจากฮอ่ งกง แต่บางเสยี งก็วา่ เป็นจนี กวางตุ้ง ซง่ึ เป็นอาจารย์สอนมวยจนี อยยู่ า่ นสำ� เพง็ ทำ� การฝกึ ซอ้ มทคี่ า่ ยมวยแถววดั แกว้ แจม่ ฟา้ (วดั แกว้ ฟา้ ลา่ ง) ถนนสพ่ี ระยา สว่ นนายยงั หาญทะเล กท็ ำ� การฝกึ ซอ้ มอยทู่ ว่ี งั เปรมประชากร โดยการควบคมุ ของเสดจ็ ใน กรมฯ ทำ� “พธิ ี “ชบุ ตวั ” หรอื พธิ ี “อตตมสตู ร” ซง่ึ จะตอ้ งพาไปรดนำ�้ มนต์ และมกี ารลง คาถาอาคมรบั มอบเครอื่ งรางของขลงั ตา่ งๆ ซงึ่ จะทำ� ใหน้ กั มวยมจี ติ ใจกลา้ หาญพรอ้ ม 116 ทจี่ ะตอ่ สกู้ บั ศตั รไู ดเ้ สมอ” หลงั จากทน่ี ายยงั หาญทะเลไดผ้ า่ นพธิ ชี บุ ตวั แลว้ กม็ จี ติ ใจกลา้ หาญ ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย พร้อมทีจ่ ะตอ่ สู้กบั มวยจีน

As to Mr.Young Harnthalay, a boxer who came along with Mr.Tub, still had nobody to fight him. Phraya Nonthisen then consulted the organizing committee and finally agreed to match him with a Chinese boxer named “Ji Shang” from Hong Kong who was teaching Chinese boxing in Sampeng. “Mr.Young himself had undergone a sacred ceremony called “Attamasutra” and was now in high spirits and ready to fight.” HISTORY OF MUAY THAI 117 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

มวยคนู่ ส้ี ามารถดงึ ดดู ความสนใจของประชาชนไดม้ ากเปน็ ประวตั กิ ารณ์ เพราะทง้ั ชาวจีนและชาวไทยต่างพากันเข้าชมจนบัตรหมด ที่นั่งเต็มก่อนการชกหลายช่ัวโมง นายยงั หาญทะเล แตง่ กายตามแบบของมวยไทยในสมยั รชั กาลนน้ั มผี า้ ขนหนสู เี ทาชบุ นำ้� พาดบา่ เคย้ี วหมาก ซงึ่ ถอื วา่ เปน็ เครอ่ื งรางของขลงั อยา่ งหนงึ่ ทไ่ี ดม้ าจากครบู าอาจารยข์ อง นกั มวย ขนาบขา้ งดว้ ยพเี่ ลยี้ งพระชลมั ภพ์ สิ ยั เสนี มวี งปก่ี ลองของหมนื่ สมคั ร เสยี งประจติ บรรเลงอยขู่ า้ งลา่ งของเวที เมอ่ื ถงึ เวลาชกกรรมการไดเ้ รยี กนกั มวยและพเี่ ลยี้ งของนกั มวย ทงั้ สองฝา่ ยมาชแ้ี จงกตกิ าการชก เมอื่ ตกลงกนั แลว้ ผตู้ ดั สนิ กก็ ลา่ วสรปุ ผลมคี วามสำ� คญั วา่ “การแขง่ ขนั เพื่อการแพช้ นะมีกำ� หนด 11 ยก คนทำ� คูต่ ่อส้ลู ม้ ใหไ้ ปคอยอยูท่ มี่ มุ กลอง HISTORY OF MUAY THAI จึงไม่ใช้มุมของฝ่ายใด ต้องแยกกันเม่ือได้ยินเสียงบอกแยก ห้ามซ�้ำ ใช้ลูกติดพันได้ คนใดไม่เช่ือฟังถือว่าผิดประเพณี ใช้เสียงกลองเป็นสัญญาณ” ซ่ึงกติกาเหล่าน้ีเป็น กติกาการแข่งขันชกมวยของสนามมวยสวนกุหลาบปี พ.ศ. 2464 “ผลปรากฏว่านายยัง ชกชนะจี๊ฉา่ ง ซึ่งถูกกรรมการนับ 10 แล้วยังไมส่ ามารถลุกขึน้ ได้เปน็ ฝา่ ยแพไ้ ป” This match attracted a great number of both Thai and Chinese spectators. 118 All the tickets had been sold out hours before the start of the fight. The ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย referee then told the two boxers the rules of boxing that,“ The fight will lasts 11 rounds. When a boxer falls, the other boxer must go back to the neutral corner (drum corner). They must separate when told to do so. Either who disobeys willbe treated s violating the rule. Drumming sound will be used in signalling.” Such rules were used by Suan Kularb Stadium in 2464. “Mr. Young won by K.O. when Ji Shang was counted to ten and still could not rise to his feet.”

ประวัตศิ าสตร์ มวยไทย 119 HISTORY OF MUAY THAI

HISTORY OF MUAY THAI สมยั นเ้ี ปน็ ยคุ หวั เลย้ี วหวั ตอ่ ของกฬี ามวยไทยอกี อยา่ งหนงึ่ กค็ อื มกี ารเปลย่ี นแปลง จากการคาดเชือกมาเป็นแบบสวมนวม สาเหตุเพราะในสมัยสนามมวยหลักเมือง ทา่ ชา้ งนี้ มนี กั มวยชกกนั ตายตอ่ สายตาผชู้ มรอบสนามมวยเปน็ ทนี่ า่ เวทนายง่ิ นกั It was this period that Muay Thai changed from fighting with rope-bound hands (Khad chuak) to fighting with gloved hands owing to the fact that a boxer was punched to death, causing an awful sight to th e spectators. 120 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2466-2472 สนามมวยหลักเมืองท่าช้าง ได้จัดการแข่งขัน During 2466-2472 Lakmuang Tha Chang Boxing Stadium, located at what is HISTORY OF MUAY THAI ชกมวยขึ้นโดยมีพลโทพระยาเทพหัสดินทร์เป็นนายสนาม ท�ำหน้าที่บริหารและจัดการ now the National Theater, organized boxing matches under the management of แขง่ ขนั มวยไทย สนามมวยนตี้ งั้ อยบู่ รเิ วณทเี่ ปน็ โรงละครแหง่ ชาตปิ จั จบุ นั ไดป้ รบั ปรงุ สภาพ Lt. Gen. Phraya Thephassadin. It was more strongly built than Suan Kularb Boxing ของเวทีมวยให้ดีกว่าเดิมคือท�ำเวทีมวยให้แน่นหนาถาวรกว่าสมัยสนามมวยสวนกุหลาบ Stadium, with stronger ropes enclosing round the ring without any entrance มีเชือกก้ันเวทีมวยเส้นใหญ่ข้ึน เสาเชือกแข็งแรงม่ันคงย่ิงขึ้น ทางข้ึนลงของนักมวยไม่มี space to prevent the boxers from falling from the ring. เพราะนักมวยทีข่ น้ึ ชกกันในสมัยสวนกุหลาบมหี ลายครัง้ ท่นี ักมวยตกเวทตี รงชอ่ งขนึ้ ลงนี้ “It was this period that Muay Thai changed from fighting with rope-bound “สมยั นเี้ ปน็ ยคุ หวั เลยี้ วหวั ตอ่ ของกฬี ามวยไทยอกี อยา่ งหนงึ่ กค็ อื มกี ารเปลย่ี นแปลง hands (Khad chuak) to fighting with gloved hands owing to the fact that a จากการคาดเชอื กมาเปน็ แบบสวมนวม สาเหตเุ พราะในสมยั สนามมวยหลกั เมอื งทา่ ชา้ งน้ี boxer was punched to death, causing an awful sight to th e spectators.” It มนี กั มวยชกกนั ตายตอ่ สายตาผชู้ มรอบสนามมวยเปน็ ทน่ี า่ เวทนายง่ิ นกั ” นกั มวยคนนนั้ was Mr.Phae Liangprasert, a boxer from Uttaradit, who punched Mr.Jia Khackkamen ก็คือ นายแพ เล้ียงประเสริฐ นักมวยฝีมือดีจากท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ต่อยนาย to death. So it was agreed organizing committees and the police that Muay เจยี แขกเขมร ดว้ ยหมดั คาดเชอื กจนตาย หลงั จากทเี่ กดิ เหตกุ ารณอ์ นั นา่ สลดใจนที้ างคณะ Thai use gloves in boxing instead of khad chuak from then on. The boxers were กรรมการหลายฝ่ายรวมทั้งทางการต�ำรวจได้ตกลงให้การชกมวยไทยทั่วประเทศมีการ also to wear socks instead of shoes. The first match at Tha Chang Stadium was สวมนวมชก และให้สวมถุงเท้าแทนรองเท้า โดยนักมวยคู่แรกที่สวมนวมชกกันท่ีสนาม 121 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

HISTORY OF MUAY THAIมวยหลักเมอื งท่าชา้ ง คือ นายคำ� เหมย เมอื งยศ นักมวยฝีมือดจี ากลานนาไทย (เขลางค์ นคร) ซงึ่ ครงั้ นนั้ เขา้ มาซอ้ มอยทู่ คี่ า่ ยทวสี ทิ ธขิ์ องครกู มิ เสง็ ชกกบั นายนพ ชมศรเี มฆ นบั วา่ เป็นนักมวยคู่ประวัติศาสตร์ในวงการกีฬามวยไทยคู่หน่ึง แต่การชกปรากฏว่านักมวย ทง้ั สองทสี่ วมถงุ เทา้ ชกมกั จะหกลม้ หรอื ไมก่ เ็ สยี จงั หวะขณะทเี่ ตะจนทำ� ใหก้ ารชกมวยไทย ไมส่ ะดวกเท่าที่ควร นักมวยไม่กลา้ เตะ คนดกู ็ไมพ่ อใจ ต่อมาจึงใหเ้ ลิกสวมถงุ เท้าแตย่ ังคง ใช้นวมแทนหมัดคาดเชอื กอยู่ การฝกึ หดั มวยไทยในสมยั นนั้ มกี ารนำ� เอาวธิ กี ารทางพลศกึ ษามาใชใ้ นการฝกึ หดั ดว้ ย เชน่ การบรหิ ารรา่ งกาย การเพาะกลา้ มเนอื้ ใหแ้ ขง็ แรงมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั การเลอื กรบั ประทานอาหารทม่ี คี ณุ คา่ ทงั้ นกี้ เ็ พราะมคี รมู วยทไี่ ดศ้ กึ ษาวชิ าพลศกึ ษามาทำ� การฝกึ สอน มวยไทยหลายคน “การท่ีการฝึกหัดมวยไทยได้รับอิทธิพลมาจากการพลศึกษานี้เอง จึงท�ำให้การฝึกหัดมวยไทยเป็นระบบมากข้ึน” และเนื่องจากนักการศึกษาได้มีโอกาส ไปศกึ ษาตา่ งประเทศและได้นำ� เอาแนวความคิด วิธกี าร และอปุ กรณก์ ารฝกึ ต่างๆ เข้ามา 122 ใชใ้ นประเทศไทย เชน่ การฝกึ หดั ในโรงยมิ ส์ หรอื คา่ ยซอ้ มทม่ี อี ปุ กรณก์ ารฝกึ ซอ้ มครบครนั ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

the fight between Mr.Khammoei Muangyot from Khelang Nakhon and Mr.Nop HISTORY OF MUAY THAI Chomsrimek. The boxers often slipped and fell because of the socks, especially when try to kick. They then became awkward and thus caused the spectators’ 123 displeasure. Boxers were later banned from wearing socks. Physical education was also applied to the training in those days, e.g. exercising, muscular strengthening and good nutrition. It was the influence of physical education that had turned Muay Thai into a more systematic training. The boxers could do their training in a gymnasium or training camps fully Physical education was also applied to the training in those days, e.g. exercising, muscular strengthening and good nutrition. “It was the influence of physical education that had turned Muay Thai into a more systematic training.” The boxers could do their training in a gymnasium or training camps fully equipped with training facilities. ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

มกี ระสอบทรายสำ� หรบั ฝกึ หดั เตะตอ่ ย มเี ปา้ ลอ่ แบบสนั้ และยาว มนี วมซอ้ มและนวมชกจรงิ “At present, there are definite boxing rules. Each boxer must wear สว่ นการฝกึ สมรรถภาพทางกายกม็ กี ารฝกึ ยกบารเ์ บล ดมั เบล เลน่ บารเ์ ดย่ี ว บารค์ ู่กระโดดเชอื ก gloves, shorts with a thick covering (called “krajub”) to protect his genital ชกลม ฯลฯ organs. Any boxer may wear ankle covering and tie talismans around his upper arms.” The will be one referee on the ring, two judges on the ring side, “สำ� หรบั มวยไทยในปจั จบุ นั นี้ มกี ารกำ� หนดกฎกตกิ าตา่ งๆ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน นกั มวย one timer and one doctor. There are five rounds of boxing each of which lasts ตอ้ งสวมนวม และแตง่ กายแบบนกั กฬี ามวย คอื สวมกางเกงขาสน้ั สวมกระจบั สว่ นผใู้ ด three minutes and two minutes break for each round. The boxing contest is จะสวมปลอกรัดข้อเท้า และจะมีเครื่องรางของขลังผูกไว้ท่ีแขนท่อนบนก็ได้” ในการ classified according to the boxer’s weight similar to international boxing standard. แขง่ ขนั มผี ตู้ ดั สนิ ชขี้ าดบนเวที 1 คน มผี ตู้ ดั สนิ ใหค้ ะแนนอยขู่ า้ งเวที 2 คน มผี จู้ บั เวลา 1 คน HISTORY OF MUAY THAI และมแี พทยป์ ระจ�ำเวที 1 คน จ�ำนวนยกในการแขง่ ขันทง้ั หมดมี 5 ยก ยกละ 3 นาที พัก ระหวา่ งยก 2 นาที การแขง่ ขนั แบง่ เปน็ รนุ่ ตามนำ�้ หนกั ตวั ของนกั มวยเหมอื นกบั หลกั เกณฑ์ ของมวยสากล ผตู้ ดั สนิ มอี ำ� นาจหนา้ ทต่ี ามกตกิ าการแขง่ ขนั อวยั วะทใี่ ชใ้ นการตอ่ สแู้ ขง่ ขนั ไดค้ อื หมัด เทา้ เข่า และศอกเข้าชก เตะ ถบี ทบุ ถอง ตี ฯลฯ ไดท้ กุ ส่วนของร่างกาย โดยไม่จำ� กัดที่ชก 124 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

ก่อนการแข่งขันนักมวยทั้งสองจะท�ำการไหว้ครูและร่ายร�ำ คือ กราบสามครั้ง Before boxing each boxer will pay respect and gratitude to his teacher and HISTORY OF MUAY THAI เพื่อระลึกถึง บิดา มารดา ครูอาจารย์ และสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ ที่เคารพนับถือ ตลอดจนขอ parents as well as the holy spirits (called “Wai Khru”), praying for their protection คุณพระศรีรัตนตรัย หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาช่วยคุ้มครอง และขอให้ได้ชัยชนะด้วยความ and assistance in getting his victory and perform his specific dance accompanied ปลอดภยั ในทส่ี ดุ แลว้ จงึ รา่ ยรำ� ไปรอบ ๆ เวทตี ามแบบฉบบั ของครทู ไี่ ดส้ อนไวใ้ หโ้ ดยตลอด by music played by Thai musical instruments. Mongkhon or the head band นักมวยทกุ คนจะสวม “มงคล” ทีศ่ รี ษะ “มงคลน้ีทำ� ด้วยดา้ ยดบิ หลายเส้นรวมกนั แลว้ พนั will be removed just before the fight started. Then the boxers would “shake หมุ้ ดว้ ยผา้ โตขนาดนว้ิ มอื ทำ� เปน็ รปู บว่ งเพอื่ สวมศรี ษะ การสวมมงคลไวก้ อ่ นแขง่ ขนั นเี้ ปน็ hands” to show their sportsmanship. The referee will inform them of important ขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย ถือว่าเป็นส่ิงศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูอาจารย์ได้ท�ำพิธีปลุกเสก rules. Soon after the fight has started the musical instruments will be played in และใหค้ วามเปน็ สริ มิ งคลไวแ้ กต่ น” ฉะนนั้ นกั มวยจะสวมมงคลไวต้ ลอดเวลาทที่ ำ� การไหว้ a way that motivates the boxers’ spirits and eagerness to fight. The “Wai Khru” ครแู ละรา่ ยรำ� และจะถอดออกจากศรี ษะไดเ้ มอื่ จะเรมิ่ การแขง่ ขนั ในระหวา่ งการไหวค้ รู ceremony and the accompanying music have been observed and regarded as และร่ายร�ำน้ันจะมีดนตรีบรรเลงประกอบตามท�ำนองของดนตรีไทยเป็นจังหวะช้าๆ a good tradition and art. เคร่ืองดนตรเี หลา่ นน้ั ไดแ้ ก่ ปี่ชวา กลองแขก 2 และฉิง่ 1 เม่อื ถอดมงคลแลว้ กรรมการผู้ ช้ีขาดจะให้นักมวยท้ังสองมาจับมือกัน ซึ่งเป็นการแสดงถึงการมีน้�ำใจเป็นนักกีฬาพร้อม 125 กันน้ันก็จะตักเตือนกติกาส�ำคัญๆ อันเก่ียวกับการแข่งขันให้นักมวยทั้งสองได้ทราบ ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

ครั้นเม่ือการต่อสู้ได้เร่ิมข้ึนอย่างจริงจังแล้วดนตรีจะบรรเลงในท�ำนองเร่งเร้าให้นักมวย Nowadays, Muay Thai is treated as a career sport. In Bangkok alone Muay ทั้งสองเกิดความรู้สึกฮึกเหิมและมุ่งเข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด การร่ายร�ำและการต่อสู้ Thai competition is held almost every day, sometimes twice a day. It is under โดยมีดนตรีประกอบนั้น นอกจากจะถือว่าเป็นศิลปะแล้ว ยังเป็นประเพณีอันดีงาม the Ministry of Interior’s regulation. Physical education institutions teach Muay ของชาวไทยมาแต่โบราณกาล จนไมอ่ าจจะท้ิงใหส้ ูญหายไปเสยี ได้ Thai to maintain and conserve this national fighting art. Foreign tourists travelling to Thailand often will not miss an opportunity HISTORY OF MUAY THAI ปัจจบุ ัน การแขง่ ขันมวยไทยเป็นกฬี าอาชพี โดยสน้ิ เชิง เฉพาะในกรงุ เทพฯ มีการ to see Muay Thai contest because of its spectacular style of boxing. Muay Thai แข่งขันเป็นประจ�ำเกือบทุกวัน วันละ 2 รอบก็มี ส�ำหรับการควบคุมการแข่งขันชกมวย boxers used to perform the art of Muay Thai abroad which has made it popular อาชีพขึ้นอยู่กับกฎข้อบังคับของกระทรวงมหาดไทย ท่ีมิใช่อาชีพก็มีเพียงการฝึกสอนใน among those countries. “Various nations’ fighting arts, e.g. judo, karate, สถาบันการพลศึกษาเท่าน้ัน ท้ังน้ีเพื่อไม่ให้ศิลปะมวยไทยสูญหายไปและเพ่ือรักษาไว้ซ่ึง tae-kwon-do, international boxing, wrestling, kick boxing, etc. all have tried ศิลปะการต่อสปู้ ระจ�ำชาติ fighting with Muay Thai, and learnt that Muay Thai is a method of fighting which is full of dangerous attacks from top to toe. So they are very interested in ชาวตา่ งประเทศทมี่ โี อกาสไดม้ าทอ่ งเทย่ี วในประเทศไทย มกั จะไมย่ อมพลาดโอกาส learning Muay Thai.” Thai people with good Muay Thai skill opened Muay Thai ที่จะไปชมการแข่งขันมวยไทย เพราะมวยไทยมีวิธีชกแปลก และยิ่งกว่านั้นนักมวยไทย schools abroad teaching the art of Muay Thai until it has become quite popular ยงั ไดเ้ คยเดนิ ทางไปแสดงในตา่ งประเทศมาแลว้ หลายครง้ั จนเปน็ ทร่ี จู้ กั กนั แพรห่ ลายทวั่ ไป 126 “มศี ลิ ปะการตอ่ สขู้ องชาตติ า่ งๆ ไดข้ อเขา้ มาตอ่ สกู้ บั มวยไทย เชน่ ยโู ด คาราเต้ เทควนั โด among foreigners. There have often been Muay Thai contests in many countries มวยสากล มวยปลำ้� มวย Kick Boxing ฯลฯ ซงึ่ ทำ� ใหช้ าวตา่ งชาตเิ หน็ วา่ การตอ่ สแู้ บบ such as the United Kingdom, the United States, Canada, the Netherlands, Japan ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย มวยไทยเป็นวธิ กี ารต่อสทู้ มี่ พี ิษสงรอบดา้ น จงึ สนใจเรยี นมวยไทยกนั มาก” อกี ทง้ั มคี น and so on. Due to its international popularity, there is an increasing number of ไทยทมี่ คี วามรดู้ า้ นมวยไทยเปน็ อยา่ งด”ี ซงึ่ อาจเปน็ ครสู อนมวยไทยมากอ่ น หรอื บางคนเปน็ skillful foreign Muay Thai boxers. นักมวยท่ีมีฝีมือและมีช่ือเสียงมาก่อนไปอาศัยในต่างประเทศ ได้เปิดสอนมวยไทย ในประเทศที่ตนเองไปอาศัยอยู่ ก็ได้รับการสนใจเป็นอันมากจากชาวต่างชาติ ปัจจุบัน มวยไทยอาชีพได้เผยแพร่จนเป็นที่รู้จักทั่วกัน จนมีการจัดการแข่งขันมวยไทย ในต่างประเทศบอ่ ย ๆ เช่น อังกฤษ อเมริกา แคนาดา เนเธอรแ์ ลนด์ ญ่ีป่นุ ฯลฯ เป็นการ แข่งขันมวยไทยระหว่างนักมวยไทยกับมวยต่างชาติที่นิยมฝึกมวยไทย หรือการแข่งขัน ระหวา่ งนกั มวยไทยดว้ ยกนั เองในต่างแดน จากความสนใจของชาวตา่ งชาตทิ ี่ฝกึ มวยไทย น้เี อง จงึ มนี ักมวยต่างชาตเิ ขา้ ใจและมฝี มี ือในการต่อสแู้ บบมวยไทยเปน็ อย่างดีมากยิ่งข้ึน ในปัจจบุ ัน

มศี ลิ ปะการตอ่ สขู้ องชาตติ า่ งๆ ไดข้ อเขา้ มาตอ่ สกู้ บั มวยไทย HISTORY OF MUAY THAI เชน่ ยโู ด คาราเต้ เทควนั โด มวยสากล มวยปลำ�้ มวย Kick Boxing ฯลฯ ซง่ึ ท�ำใหช้ าวตา่ งชาตเิ หน็ วา่ การตอ่ สแู้ บบมวยไทยเปน็ วธิ กี าร ต่อสูท้ มี่ ีพิษสงรอบด้าน จงึ สนใจเรียนมวยไทยกันมาก Various nations’ fighting arts, e.g. judo, karate, tae-kwon-do, international boxing, wrestling, kick boxing, etc. all have tried fighting with Muay Thai, and learnt that Muay Thai is a method of fighting which is full of dangerous attacks from top to toe. So they are very interested in learning Muay Thai. 127 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

HISTORY OF MUAY THAI 128ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย สมยั กรงุ รตั นโกสินทร์ รชั กาลท่ี 7 พ.ศ. 2468-2477 Rattanakosin Period King Rama VII, B.E. 2468-2477

พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยู่หัว King Rama VII (King Prachathipok), พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (พ.ศ. 2468-2477) King Rama VII (King Prachathipok), B.E. 2468-2477 HISTORY OF MUAY THAI  ะหว่างปี พ.ศ. 2466-2472 พลโทพระยาเทพหัสดินได้สร้าง During B.E. 2466-2472 Lt. Gen. Phraya Thephassadin built “Lakmuang 129 “สนามมวยหลักเมืองท่าช้าง” ข้นึ บริเวณโรงละครแหง่ ชาตปิ จั จุบนั เวที Tha Chang Boxing Stadium” in the area where it is the National มีเชือกกั้นเส้นใหญ่ขึ้น เชือกแต่ละเส้นขึงตึงเป็นเส้นเดียวไม่เปิดช่องตรงมุมส�ำหรับข้ึนลง Theater now. The ring was enclosed with bigger ropes without any opening for ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย เหมอื นกบั ยคุ เกา่ เพอื่ ปอ้ งกันนกั มวยตกเวทีตรงชอ่ งนแี้ ละจดั การแขง่ ขนั เปน็ ประจำ� ทกุ ปี boxers’ entrance to prevent them from falling from the ring. Boxing contests were organized every year. “ปีพ.ศ.2472รฐั บาลมคี ำ� สง่ั ใหก้ ารแขง่ ขนั ชกมวยไทยทวั่ ประเทศสวมนวมชกได้” “In B.E. 2472 the government issued its order that Muay Thai boxers ตัวอย่างการสวมนวมจากนักมวยฟิลิปปินส์ที่เข้ามาชกมวยสากลในประเทศไทย ทั้งนี้ all over the country wear gloves” owing to the fact that Nai Pae Liangprasert, สาเหตเุ น่ืองจาก นายแพ เลย้ี งประเสรฐิ นกั มวยฝีมือดีจากบา้ นทา่ เสา จังหวัดอตุ รดิตถ์ a boxer from Baan Tha Sao, Uttaradit had punched Nai Jia Khaekkhamen ได้ตอ่ ย นายเจีย แขกเขมร ตายด้วยหมดั คาดเชือก to death with his khad chuak fists. On Saturday, November 9, B.E. 2472 Chaokhun Khathathornbodee began ในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 เจ้าคุณคธาธรบดีได้เร่ิมจัดการแข่งขัน Muay Thai boxing contest in Lumpini Park along with other entertainments every ชกมวยไทยขนึ้ ทส่ี วนสนกุ ภายในบรเิ วณสวนลมุ พนิ รี ว่ มกบั มหรสพอน่ื ๆ โดยคดั เอานกั มวย Saturday. The ring was of international standard, enclosed with three ropes, ฝีมือดีชกกันทุกวันเสาร์เน่ืองจากเจ้าคุณเป็นคนทันสมัยจึงเวทีมวยแบบมาตรฐานสากล its floor being covered with canvas. There were red and blue corners, two คอื มเี ชือก 3 เสน้ ใชผ้ ้าใบปพู ืน้ มมี ุมแดง น้�ำเงิน มผี ตู้ ดั สินให้คะแนน 2 คน มีผู้ชขี้ าด judges and one referee. Bell signaling was used for the first time. On Saturday, การแขง่ ขนั บนเวที 1 คน ใหส้ ญั ญาณดว้ ยระฆงั เปน็ ครงั้ แรก และในวนั เสารท์ ่ี 30 ธนั วาคม December 30, 2472 the leading match was the fight between Samarn Dilokwilart พ.ศ. 2472 ในรายการต้อนรบั วนั ปใี หม่ ค่เู อกระหว่างสมาน ดิลกวลิ าศ กับ เดช ภ่ภู ิญโญ and Det Phupinyo, and the other match was the fight between Ae Muangdee มวยประกอบรายการได้แก่ นายแอ ม่วงดี กับสุวรรณ นิวาสะวัตร ซ่ึงนายแอ ม่วงดี and Suwan Niwasawat. Ae Muangdee used steel “krajub” to protect his genital ไดน้ ำ� เอากระจบั เหลก็ มาใชป้ อ้ งกนั อวยั วะสำ� คญั ทำ� ใหน้ กั มวยคนอนื่ ๆ หนั มาใชก้ ระจบั เหลก็ organs. Then the other boxers followed his example from then on ตัง้ แต่นน้ั เป็นต้นมา

HISTORY OF MUAY THAI 130ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย สมยั กรงุ รตั นโกสินทร์ รัชกาลท่ี 8 พ.ศ. 2477-2489 Rattanakosin Period King Rama VIII, B.E.2477-2489

พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอนนั ทมหดิ ล King Rama VIII (King Anandha Mahidol) HISTORY OF MUAY THAI พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหดิ ล (พ.ศ. 2477-2489) King Rama VIII (King Anandha Mahidol), B.E. 2477-2489. 131 ะหวา่ งปี พ.ศ. 2478-2484 คหบดีผ้มู ีชื่อเสียงในสมัยน้ันได้สรา้ งเวทมี วย During B.E. 2478-2484 a new boxing ring was built by a rich and famous ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย ขึ้นบรเิ วณทดี่ ินของเจ้าเชต ชอ่ื “สนามมวยสวนเจา้ เชต” ปัจจุบนั คอื ทต่ี ั้ง man in the area where it is now Territorial Defence Department. It was กรมรักษาดินแดน การด�ำเนินการจัดการแข่งขันเป็นไปด้วยดี เนื่องจากทหารเข้ามา named “Suan Chaochet Boxing Stadium” in honour of the land owner. The ควบคุม เพ่ือน�ำรายไปบำ� รงุ กจิ การทหาร จดั การแขง่ ขนั กนั ตดิ ตอ่ หลายปี จงึ เลกิ ไปเพราะ boxing contest went on smoothly for several years under the military control, เกดิ สงครามโลกครง้ั ที่ 2 กองทัพญ่ีปุ่นบกุ เขา้ ประเทศไทย เม่อื วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 with the earnings being used to support military affairs. The business ended due to the invasion of Thailand by the Japanese army on December 8, 2484 in ระหวา่ งปี พ.ศ. 2485-2487 สงครามโลกครงั้ ที่ 2 กำ� ลงั จะสงบแตย่ งั คงมเี ครอื่ งบนิ World War II. ข้าศึกบินลาดตระเวนอยู่ท้ังกลางวันกลางคืน จ�ำเป็นต้องจัดการแข่งขันชกมวยไทยตาม “During 2485-2487” World War II was almost over but, with enemy planes โรงภาพยนตร์ตา่ งๆ ในเวลากลางวัน เช่น สนามมวยพัฒนาการ สนามมวยท่าพระจันทร์ flying to and fro night and day, boxing contests had to be held at cinema theaters สนามมวยวงเวยี นใหญ่ เน่ืองจากประชนยงั คงให้ความสนใจมวยไทยอยู่ during the day because the people still wanted to watch Muay Thai matches. December 23, 2488 “Rajdamnoen Boxing Stadium” inaugurated its first วนั ท่ี 23 ธนั วาคม พ.ศ. 2488 “สนามมวยเวทรี าชดำ� เนิน” ไดเ้ ปดิ สนามท�ำการ boxing contest. Mr.Pramote Phuengsoonthorn was its first manager, whereas แขง่ ขันครั้งแรก มีนายปราโมทย์ พงึ่ สุนทร เป็นนายสนามมวยคนแรก พระยาจินดารกั ษ์ เปน็ กรรมการบรหิ ารเวที ครชู ติ อมั พลสนิ เปน็ โปรโมเตอร์ จดั ชกเปน็ ประจำ� ในวนั อาทติ ย์

Phraya Chindarak was the managing director and Khru Chit Amphonsin was the promoter. The contest was held regularly on Sunday at 16.00-17.00 hrs., using the rules of the Department of Education B.E. 2480. Each fight consisted of five rounds each of which lasted three minutes with two minutes break for each round. Each boxer would, at first, weigh on “stone” scale; two years later the kilogram scale was used instead. Then, in B.E. 2491 the pound scale was intro- duced to match the international standard. Boxers would be classified according to their weight, e.g. a weight not exceeding 112 pounds (lbs.) would be classified as flyweight; a weight not exceeding 118 lbs. as bantamweight, etc. In B.E. 2497 HISTORY OF MUAY THAI the stadium had its permanent roof. On September 3, B.E. 2496 Pol. Col. Phichai Kullawanich, Rajdomnoen Stadium assistant manager, set it as a regulation that the boxer must wear his trunk matching his corner’s colour and that the boxer’s assistants must be po- 132 litely dressed. On December 8, B.E. 2496 “Lumpini Boxing” Stadium inaugurated its boxing ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย เวลา 16.00-17.00 น. ใช้กตกิ าของกรมพลศึกษา ปี พ.ศ. 2480 ชก 5 ยก ยกละ 3 นาที contest. Mr.Erb Sangrit was its ring master and Mr.Khet Sriyaphai its manager. พกั ระหวา่ งยก 2 นาที ในระยะแรก ชง่ั นำ�้ หนกั ตวั นกั มวยดว้ ยมาตราสว่ นเปน็ สโตนเหมอื น น้�ำหนักม้า อีก 2 ปีตอ่ มา จึงเปล่ยี นเปน็ กิโลกรัม ปี พ.ศ. 2491 เปลยี่ นนำ้� หนกั นักมวยเป็น “In B.E. 2498 Rajdamnoen Boxing Stadium Co., Ltd. published the first ปอนด์ เพ่ือให้เป็นระบบสากลมากข้ึน และเรียกชื่อรุ่นตามน้�ำหนัก เช่น น�้ำหนักไม่เกิน professional Muay Thai boxing rules. It was a manual based on revision of 112 ปอนด์ รุ่นฟลายเวท น้�ำหนักไม่เกิน 118 ปอนด์ รุ่นแบนตัมเวท เป็นต้น และ the Department of Physical Education 2480 edition.” ปี พ.ศ. 2494 สนามมวยเวทรี าชด�ำเนนิ ไดเ้ รม่ิ ก่อสรา้ งหลังคาอยา่ งถาวร วนั ที่ 3 กนั ยายน พ.ศ. 2496 พนั ตำ� รวจเอกพชิ ยั กลุ วณชิ ย์ ผชู้ ว่ ยมวยนายสนามมวย เวทรี าชดำ� เนนิ ไดอ้ อกระเบยี บใหน้ กั มวยสวมกางเกงใหต้ รงมมุ ตนเอง พเ่ี ลย้ี งตอ้ งแตง่ กายสภุ าพ วนั ที่ 8 ธนั วาคม พ.ศ. 2496 “สนามมวยเวทลี มุ พนิ ”ี ไดเ้ ปดิ การแขง่ ขันมวยไทย ขนึ้ เป็นครง้ั แรก มี เสธ เอิบ แสงฤทธ์ิ เปน็ นายสนาม นายเขต ศรยี าภยั เปน็ ผ้จู ัดการ “ปี พ.ศ. 2498 บรษิ ทั เวทรี าชดำ� เนนิ จำ� กดั ไดจ้ ดั ทำ� กตกิ ามวยไทยอาชพี ฉบบั แรกขน้ึ โดยไดป้ รับปรุงจากกติกามวยไทย ฉบับปี พ.ศ. 2480 ของกรมพลศกึ ษา”

HISTORY OF MUAY THAI 133 ปี พ.ศ. 2498 บริษัทเวทีราชด�ำเนิน จ�ำกัด ได้จัดท�ำ ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย กตกิ ามวยไทยอาชพี ฉบบั แรกขน้ึ โดยไดป้ รบั ปรงุ จาก กติกามวยไทย ฉบับปี พ.ศ. 2480 ของกรมพลศกึ ษา In B.E. 2498 Rajdamnoen Boxing Stadium Co., Ltd. published the first professional Muay Thai boxing rules. It was a manual based on revision of the Department of Physical Education 2480 edition.

HISTORY OF MUAY THAI 134 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย พ.ศ. 2502 นายโนกุจิ นักธุรกิจชาวญ่ีปุ่นน�ำนักมวยชาวญ่ีปุ่นมาชก In B.E. 2502 Mr.Nokuji, a Japanese businessman, brought Japanese boxers กับนักมวยไทย ได้ถ่ายภาพยนตร์มวยไทยไว้แล้วน�ำไปศึกษา เปลี่ยนชื่อเป็นคึกบอกซ่ิง to fight with Thai boxers, did the filming of the event, and called it kick boxing. นายไคโต เคนกจุ ิ “ผูน้ ำ� ด้านศลิ ปะการตอ่ สชู้ าวญีป่ นุ่ ได้เข้าชมมวย ณ เวทีราชดำ� เนนิ “Mr.Kaito Kenkuchi, a leader in Japanese fighting art, who also watched the เกดิ ความประทบั ใจ นำ� วชิ ามวยไทยไปฝกึ สอนกนั อยา่ งจรงิ จงั ในโรงเรยี นประถมศกึ ษา boxing at Rajdamnoen Stadium, had been so impressed that he introduced ของญปี่ นุ่ ” Muay Thai to be taught in Japn’s primary schools.” พ.ศ. 2503 บรษิ ทั เวทรี าชดำ� เนนิ จำ� กดั ไดเ้ พม่ิ ขอ้ บงั คบั กตกิ ามวยไทยอาชพี อกี วา่ In B.E. 2503 Rajdamnoen Boxing Stadium Co., Ltd. added its regulation นกั มวยไทยตอ้ งมอี ายุในวนั แขง่ ขันไมต่ ำ�่ กว่า 18 ปี และอายไุ มเ่ กิน 38 ปีบริบรู ณ์ that each boxer must not be under 18 years of age on the day of his fighting and must not be over 38 years of age. พ.ศ. 2504 เวทรี าชดำ� เนนิ ไดจ้ ดั การแขง่ ขนั มวยชงิ ถว้ ยพระราชทานขน้ึ เปน็ ครง้ั แรก มนี ักมวยซ่ึงไดร้ บั ถ้วยพระราชทาน ตามล�ำดบั ดงั น้ี …In B.E. 2504 Rajdamnoen Boxing Stadium organized its first boxing contest to win H.M. the King’s Cup. The boxers who won the cup were as follows:

ผูน้ �ำดา้ นศลิ ปะการต่อสชู้ าวญีป่ นุ่ ไดเ้ ข้าชมมวย ณ เวที HISTORY OF MUAY THAI ราชด�ำเนนิ เกิดความประทับใจ น�ำวิชามวยไทยไปฝึกสอนกัน อย่างจรงิ จงั ในโรงเรียนประถมศึกษาของญี่ปุ่น Mr.Kaito Kenkuchi, a leader in Japanese fighting art, who also watched the boxing at Rajdamnoen Stadium, had been so impressed that he introduced Muay Thai to be taught in Japn’s primary schools. 135 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

HISTORY OF MUAY THAI วนั ท่ี 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 วนั ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 วนั ที่ 25 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2508 คนท่ี 1 นำ� ศกั ด์ิ ยนตรกจิ คนที่ 2 เดชฤทธ์ิ อิทธิอนชุ ิต คนที่ 3 สมพงษ์ เจรญิ เมอื ง February 25, 2508 : November 13, B.E. 2504: May 8, B.E. 2506 : Sompong Charoenmuang Namsak Yontarakit Detrit Ittianuchit 136 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย วนั ที่ 14 ธนั วาคม พ.ศ. 2512 วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2522 วนั ท่ี 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 คนท่ี 4 เฉลิมศกั ด์ิ เพลินจติ คนท่ี 5 ศรนกั รบ เกยี รติวายภุ กั ษ์ คนท่ี 6 เผดจ็ ศกึ พษิ ณุราชนั ย์ December 14, 2512 : Chaloemsak Ploenchit January 17, 2522 : November 6, 2514 : Sornnakrop Kiatwayupak Phadetsuk Witsanurachan

คนที่ 1 ผล พระประแดง คนท่ี 2 สุข ปราสาทหนิ พิมาย คนท่ี 3 ชูชัย พระขรรคช์ ยั คนที่ 4 ประยทุ ธ์ อดุ มศกั ด์ิ คนที่ 5 อดลุ ย์ ศรีโสธร HISTORY OF MUAY THAI 1. Phon Prapadang 2. Suk Prasarthinphimai 3. Choochai Prakhanchai 4. Prayuth Udomsak 5. Adul Srisothorn 137 คนที่ 6 อภเิ ดช ศษิ ย์หิรัญ คนที่ 7 วชิ าญน้อย พรทวี คนที่ 8 พุฒ ลอ้ เหลก็ คนท่ี 9 ผดุ ผาดนอ้ ย วรวฒุ ิ คนที่ 10 ดีเซลน้อย ช.ธนสกุ าญจน์ ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย 6. Aphidet Sithirun 7. Wicharnnoi Phornthawee 8. Put Lorlek 9. Putphardnoi Worawut 10. Dieselnoi Chor Thanasukarn. พ.ศ. 2507 นายเฉลมิ เช่ียวสกุล ประธานบรษิ ทั เวทีราชด�ำเนิน จ�ำกดั ประกาศใช้ In B.E. 2507 Mr. Chaloem Chiaosakul, Chairman of Rajdamnoen Boxing ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการชิงแชมป์เปี้ยน การป้องกันแชมป์เปี้ยน และการจัดอันดับ Stadium Co., Ltd., made an announcement on the Regulation of Rajdamnoen นกั มวยไทยของเวทีราชดำ� เนนิ เปน็ ครง้ั แรก Stadium Championship Contending, Championship Defending and Thai Boxer Ranking for the first time. พ.ศ. 2508 บรษิ ทั เวทรี าชดำ� เนนิ จำ� กดั ไดป้ รบั ปรงุ กตกิ ามวยไทยอาชพี ใหเ้ หมาะสม ย่ิงข้ึน ใหช้ ่อื ว่า “กตกิ ามวยไทยอาชีพของเวทรี าชด�ำเนนิ พ.ศ. 2508” …In B.E. 2508 Rajdamnoen Boxing Stadium Co., Ltd. revised its professional Muay Thai boxing rules and called it “Rajdamnoen Stadium Professional Muay ธนั วาคม พ.ศ. 2527 เวทมี วยราชดำ� เนนิ จดั อนั ดบั 10 ยอดมวยไทยขนึ้ เปน็ ครง้ั แรก Thai Boxing Rules B.E. 2508.” ดังนี้ 1 ผล พระประแดง 2 สขุ ประสาทหนิ พิมาย 3 ชูชยั พระขรรคช์ ยั 4 ประยุทธ์ อุดมศกั ด์ิ 5 อดลุ ย์ ศรโี สธร 6 อภเิ ดช ศิษยห์ ิรัญ 7 วิชาญนอ้ ย พรทวี 8 พุฒ ลอ้ เหลก็ …In December B.E. 2527 Rajdamnoen Stadium ranked its top ten Muay 9 ผดุ ผาดน้อย วรวุฒิ 10 ดีเซลนอ้ ย ช.ธนสกุ าญจน์ Thai boxers for the first time as follows: 1. Phon Prapadang 2. Suk Prasarthin- phimai 3. Choochai Prakhanchai 4. Prayuth Udomsak 5. Adul Srisothorn 6. Aphidet Sithirun 7. Wicharnnoi Phornthawee 8. Put Lorlek 9. Putphardnoi Worawut 10. Dieselnoi Chor Thanasukarn.

HISTORY OF MUAY THAI 138ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย การแบ่งยคุ มวยไทยเวที Periods of MuayThai:

มวยไทยเวที ยุคที่ 1 จ�ำเนียร ราชวฏั HISTORY OF MUAY THAI Periods of Muay Thai: Period 1: Chamnian Ratchawat ชัว้ แก้วคชสาร 139 ผล พระประแดง Chua Kaeokotchasarn Phon Prapadang สุวรรณ เวชสทิ ธ์ิ ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย Suwan Wetchasit และอ่นื ๆ and so on

มวยไทยเวที ยุคท่ี 2 Periods of Muay Thai: Period 2: HISTORY OF MUAY THAI ชูชัย พระขรรค์ชัย สุข ปราสาทหินพมิ าย ประเสริฐ ส.ส. สมาน ดลิ กวลิ าศ สมพงศ์ เวชสทิ ธิ์ Choochai Prakhanchai Suk Prasarthinphimai Prasert Sor Sor Samarn Dilokwilart Somphong Wetchasit 140 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย มวยไทยเวที ยคุ ท่ี 3 Periods of Muay Thai: Period 3: อดลุ ย์ ศรโี สธร อภิเดช ศิษยห์ ริ ญั เดชฤทธ์ิ อิทธิอนุชติ ราวี เดชาชยั วชิ าญ พินจิ ศกั ดิ์ Adul Srisothorn Aphidet Sithirun Detrit Ittianuchit Rawee Dechachai Wicharn Phinitsak

มวยไทยเวที ยุคท่ี 4 Periods of Muay Thai: Period 4: พุฒ ล้อเหล็ก Putผpุดhผaาrdดนnoอ้ iยWวoรวraฒุ wิ ut วชิ าญนอ้ ย พรทวี Sแaสeนnศsกัakด์ิ Mเมuอื aงnสgรุ sินuทriรn์ HISTORY OF MUAY THAI Put Lorlek Wicharnnoi Phornthawee 141 มวยไทยเวที ยุคท่ี 5 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย Periods of Muay Thai: Period 5: Khaopขhาoวผnอ่gงSสitทิthธiชิchชู oัยochai Saแnสgงsศaักkดdาa กKติitตtiเิkกaษseมm Khขuนุ nพpลhนoอ้ nยnoเกiยี Kรiaตtิสsรุuยิ riาya Nนa่าnนfaฟSา้ ihสaีหrรaาtชdเeดcโhชo Raรkกั tแhทae้ เมMือuงaสnรุ gนิ sทuรr์in

มวยไทยเวที ยคุ ที่ 5 Periods of Muay Thai: Period 5: HISTORY OF MUAY THAI สกดั พรทวี ณรงค์นอ้ ย เกยี รติบณั ฑิต หนองคาย ศ.ประภัสสร พฤหัส โล่ห์เงนิ เผด็จศึก พษิ ณุราชนั ย์ Sakat Phornthawee Narongnoi Kiatbundit Nongkhai Sor Praphatsorn Pharuhut Loh-ngoen Phadetsuk Wisanurachun 142 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย มวยไทยเวที ยคุ ที่ 6 Periods of Muay Thai: Period 6: Dieดsีเeซlลnนoอ้i ยSoชr.ธTนhสaกุnาaญsuจkนa์ rn สามารถ พยัคฆอ์ รุณ ส�ำราญศักด์ิ เมืองสุรินทร์ น�ำพล หนองกพ่ี าหุยทุ ธ์ พนมทวนเล็ก 5 พลงั ฉมวกเพชร ห้าพลงั เจรญิ ทอง เกียรติบา้ นช่อง Samart Phayakarun Samransak Muangsurin Namphon Nongkiphahuyut Phanomthuanlek Haphalang Chamuakphet Haphalang Charoenthong Kiatbanchong

มวยไทยเวที ยุคท่ี 7 Periods of Muay Thai: Period 7: สมรกั ษ์ คำ� สิงห์ ชาติชายน้อย ชาวไร่อ้อย ชา้ งนอ้ ย ศรีมงคล บวั ขาว ป.พิสิษฐ์เชษฐ์ Somrak Khamsing Chatchainoi Chaoraioi Changnoi Srimongkhon Buakhao Por Phisitchet มวยไทยเวที ยุคท่ี 8 Periods of Muay Thai: Period 8: HISTORY OF MUAY THAI 143 บุญหลาย ส.ธนิกลุ คฤหาส ส.สุภาวรรณ แสนเมืองน้อย ลูกเจา้ พอ่ มเหศักดิ์ แกน่ ศกั ด์ิ ส.เพลนิ จติ ฉตั รชยั ไผ่สที อง ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย Boonlai Sor Thanikul Kharuhart Sor Supawan Saenmuangnoi Lukchaophormahaysak Kansak Sor Ploenchit Chatchai Phaisithong มวยไทยเวที ยคุ ที่ 9 ยุคปจั จบุ ัน Periods of Muay Thai: Period 9: The present WerวaรีpพhลonสหSพahรaหpมrom Lanหgsลuงั aสnวนPuพnันyธu์ยุ tุทhธaภpูมoิom

ประวัตศิ าสตร์ มวยไทย 144 HISTORY OF MUAY THAI

มวยไทย 4 ภาค 145 HISTORY OF MUAY THAI Four Regional Styles of Muay Thaiประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

ประวัตศิ าสตร์ มวยไทย 146 HISTORY OF MUAY THAI มวยไชยา Muay Chaiya   

มวยไชยา (มวยไทยภาคใต้)  Muay Chaiya : The Southern Style of Thai HISTORY OF MUAY THAI มวยไชยา เป็นมวยไทยโบราณของภูมิปัญญาไทย บรรพบุรุษไทย กษัตริย์ไทยที่ Boxing สืบทอดกันมาจากอดีตสู่ปัจจุบัน เพื่อสืบสานต่อไปในอนาคตที่ยั่งยืน มวยไชยาสามารถ 147 แบ่งออกเป็น 4 ยุค คือ Muay Chaiya or Chaiya Thai Boxing is an ancient martial-art wisdom inherited from Thai ancestors to the present as well as later generations. The story of Muay ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย ยุคเรมิ่ ตน้ กำ� เนดิ ขน้ึ จากพอ่ ทา่ นมา หรอื หลวงพอ่ มา อดตี นายทหารจากพระนคร สมยั รชั กาลที่ 3 ฝกึ มวยใหก้ ับชาวเมอื งไชยา TChiya can be divided into 4 eras. ยุคเฟื่องฟู ในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 5 he advent of Muay Chaiya at the Beginning Period related to Po Than พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช จากน้ันได้พระราชทานบรรดาศักด์ิ Ma, also known as Luang Po Ma, a former army leader in the reign of แก่นักมวยจากเมืองไชยาคือ นายปรง เป็นหมื่นมวยมีช่ือ ต�ำแหน่งกรรมการพิเศษ King Rama III from Bangkok, who had taught boxing techniques to Chaiya people. เมืองไชยา ถอื ศักดินา 300 The Thriving Period of Thai traditional boxing was in the reign King ยุคเปล่ียนแปลง ในช่วงรัชสมัยพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช Chulalongkorn or King Rama V who had rewarded a Chaiya boxer, Nai Plong, รัชกาลท่ี 9 เกดิ ขนึ้ เพราะต้องรื้อเวที และพระครูโสภณเจตสิการาม (เอ่ยี ม) เจา้ อาวาส with a royal title \"Muen Muay Mee Chue\", holding a position of specialized เจ้าอาวาสวัดไชยามรณภาพลง มวยไทยไชยาจึงสิ้นสุดลงด้วยยุคอนุรักษ์ หลังจากส้ินสุด umpire from Chaiya City, with right to the possession of 300 rai farmland. สมยั พระครโู สภณเจตสกิ าราม (เอย่ี ม) มวยไทยไชยาเรมิ่ เลอื นหายไปจากความทรงจำ� ของ The Changing Period in the reign of King Bhumubol Adulyadej or King ชาวไชยา อยา่ งไรกต็ ามยงั มผี ทู้ เ่ี คยเรยี นมวยไทยไชยา แลว้ นำ� มาสบื ทอดตอ่ อกี หลายทา่ น Rama IX was when the ring needed to be dismantled and Phra Khru Sophon เชน่ ปรมาจารยเ์ ขตร ศรยี าภัย นายทองหล่อ ยา และนายอมรกฤต ประมวล นายกฤษดา Jetasikaram (Eiam), the Abbot of Borommathat Chaiya Temple at that time, สดประเสรฐิ นายอเล็กซ์ สุย และพนั เอก อำ� นาจ พุกศรสี ขุ เปน็ ตน้ passed away. Muay Chaiya had deteriorated in the Conservative Period after the demise of Phra Khru Sophon Jetasikaram (Eiam). Its popularity had faded from Chaiya people. Still, some Chaiya boxers has inherited Chaiya boxing techniques to later generations such as Grand Master Khet Sriyabhai, Master Thonglor Yalah, Master Amornkrit Pramuan or Khru Preang, Master Krissada Sodprasert, Master Alex Sui, Master Colonel Amnat Pooksrisuk, etc.

HISTORY OF MUAY THAI “นกั มวยทีม่ ีชอ่ื เปน็ ทีร่ ้จู ักไดแ้ ก่ หมืน่ มวยมชี ือ่ นายปล่อง จ�ำนงทอง ผู้มที า่ เสอื ลากหางเปน็ อาวธุ สำ� คญั การตอ่ สเู้ นน้ วงในใชค้ วามคมของศอก เขา่ ” ประวตั มิ วยไชยา สืบค้นได้ถงึ พระยาจสี ตั ยารักษ์ (ขำ� ศรียาภยั ) เจา้ เมอื งไชยา ในสมัยรชั กาลท่ี 5 ถ่ายทอด มายงั บตุ รชายคอื ปรมาจารยเ์ ขตร ศรยี าภยั ซง่ึ ภายหลงั ยา้ ยมาตงั้ รกรากทกี่ รงุ เทพ ฯ เผยแพร่ มวยไชยาแกศ่ ษิ ยม์ ากมายจนกระทง่ั ถงึ แกก่ รรมในปี พ.ศ.2521 เอกลักษณ์ของมวยไชยา พบว่ามีอยู่ 7 ด้านคือ การต้ังท่ามวยหรือการจดมวย ทา่ ครู หรอื ทา่ ยา่ งสามขมุ การไหวค้ รรู า่ ยรำ� การพนั มอื แบบคาดเชอื ก การแตง่ กาย การฝกึ ซอ้ มมวยไชยาและแม่ไม้มวยไชยา แม่ไม้มวยไทยไชยา 7 ท่า ได้แก่ ปั้นหมัด พันแขน พันหมัด กระโดดตบศอก พันหมัดพลกิ เหลย่ี ม เตน้ แรง้ เตน้ กา ย่างสามขมุ ทา่ ท่สี ำ� คญั คือ ท่าเสือลากหาง เคล็ดมวยไชยาทใ่ี ชป้ อ้ งกนั ไดด้ ีทส่ี ดุ คือ ป้อง ปัด ปิด เปดิ 148 ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย

HISTORY OF MUAY THAI “The top famous boxer who practiced Chaiya boxing styles are Muen Muay Mee Chue or Plong 149 Chumnongthong, who was well-known for his Suea Lak Hang posture - using the strength of elbows and knees for close quarters fighting in particular.” The history of Muay Chaiya can be traced back to the time of Phraya ประ ัว ิตศาสต ์ร มวยไทย Wacheesatyarak (Kham Sriyabhai), the Governor of Chaiya City in the reign of King Rama V, who had taught Muay Chaiya techniques to his son who became Grand Master Khet Sriyabhai. The grand master later moved to settle in Bangkok and handed down Muay Chaiya techniques to a number of followers until he passed away B.E. 2521. The signature of Muay Chaiya has 7 aspects : “Jod Muay” (basic guard position), “Tah Khru” (Master Stance) or “Yang Sam Khum” (3 steps in 3 step paths covering the entire beat’s territory) Wai Khru Dance (to pay homage to the Master of Muay Thai), “Muay Khad Chueak “(binding cloth round the fists), attire, practicing Muay Chaiya styles, and Mae Mai Muay Chaiya stances. Muay Chaiya stances have 5 sets : Pun Mud (Setting up the fists), Phun Khan and Phun Mud (binding cloth round the arms and fists), Kra Dod (Jumping), Top Sok (attacking with elbow), Phun Mud Plick Leam (guarding and then punching to counterattack), Ten Rank Ten Ka, Yang Sam Khum (three-step boxing footwork), Suea Lak Hang - the most important stance of all. Muay Chaiya’s secret trick is the guarding position - Pong, Pat, Pid, Poed (guard, block, ward-off, and open defense)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook