Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฤดูกาลใต้เเสงจันทร์

ฤดูกาลใต้เเสงจันทร์

Description: ฤดูกาลใต้เเสงจันทร์

Search

Read the Text Version

น?งฅาน การทำงานใหญ่ทุกชิ้นมักมีแรงต้าน เพราะคนมักแบ่งออกเป็นสามกลุ่มเสมอ กลุ่มแรก เห็นด้วย กลุ่มที่สอง ไม่เห็นด้วย กลุ่มที่สาม ไม่มีดวามคิดเห็น งานยิ่งมีผลกระทบต่อสังคมมากเท่าไหร่ ยิ่งจำเป็นต้องอธิบายให้สังคมรับรู้และเข้าไจมากเท่านั้น หากคนอื่นขาดความเข้าใจ คิดตามเราไม่ทัน ถึงจะทุ่มเททำดีเพื่อส่วนรวมแค่ไหน ก็ไม่พ้นแรงต้านอยู่ดี งานใหญ่พัง เพราะคนส่วนใหญ่หวาดระแวง III 1 I Iและคิดตาม เม่ทันมามากแสัว กา?เไฅนสงiนฬ7 <£๑ แรงด้าน www.kalyanamitra.org

คนฉฝิา.ด คนโง่กับคนฉลาดมีความแตกต่างกัน ๕ ประการ หนึ่ง คนโง่ไม่อดทน คนฉลาดอดทนเหนือ อดทน สอง คนโง่ใช้อารมณ์ คนฉลาดใช้ปัญญา สาม คนโง่ชอบเพิ่มปัญหา คนฉลาดชอบลดปัญหา สี คนโง่ชอบบั่นทอนตัวเอง คนฉลาดชอบสร้างกำลงใจ ห้า คนโง่ชอบสร้างบาป คนฉลาดชอบสร้างบุญ ดังนั้น เมื่อเผชิญวิกฤตการณ์ จึงอยู่ที่เราเลือกเองว่าจะเป็นคนโง่หรือคนฉลาด คนฉลาด ๔๒ qqทใฟิ1ตันฝึงๆนทร์ www.kalyanamitra.org

นฬ!เขน อดีต คือ บทเรียนสำคัญสำหร้บปัจจุบันและอนาคต คนฉลาดเรียนรู้จากเรื่องเก่าในโลกนี้ ด้วยเหตุผลสองข้อ หนึ่ง คือ เพื่อลดความเสียง หลีกเลี่ยงความเสียง กระจายความเสี่ยง โยกย้ายความเลี่ยง ควบคุมความเลี่ยง สอง คือ เพื่อให้งานเดินหน้าได้เร็วที่สุด ได้คุณภาพดีที่สุด ประหยัดงบประมาณมากที่สุด และเกิดปัญหาน้อยที่สุด คนที่ไม่เรียนรู้บทเรียนจากอดีต ย่อมพบความเจ็บปวดไนที่สุด ฤธุทาฝืไตัน?เงจันหร์ c£cn บทเรียน www.kalyanamitra.org

ทา?ฟิกคน ต้นทุนชีวิตของคนเรานั้น มีไม่เท่ากัน ความก้าวไกลในชีวิตจึงไม่เท่ากัน ใครก้าวไกลได้แค่ไหน ก็ต้องหาทางส่งเสรมให้ก้าวไกล จนสุดความสามารถของเขามากเท่านั้น แต่สิงที่ต้องระมัดระวังในการฝึกคน ก็คือ การมองต้นทุนดั้งเดิมให้ออกตั้งแต่แรก ทั้งความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมที่ติดตัวมาก่อนหน้า เพราะถ้าเขามีต้นทุนสูงอยู่แล้ว แต่เราไปทำให้เขาตกตํ่าลง ก็จะกลายเป็นผู้ทำลายคนดีให้กลายเป็นคนเลว เปรียบดั้งช่างเจียระไนฝึมีอไม่ถึง กลับทำลายเพชรลํ้าค่า จนเสียราคา ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การสืกตน ร:ร: ฤตทาสไตันรงจันหร์ www.kalyanamitra.org

ปัญหา ปัญหาในโลกนี้มีหลายแบบ ปัญหาที่เราสร้างเอง ปัญหาที่ผู้อื่นสร้างไว้ ปัญหาที่ไม่ร้ว่าของใคร แต่เราต้องมานั่งรับผิดชอบ บางครั้ง ขาของเราก็พาตัวเราไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่น โดยไม่รู้ตัว และต้องเดือดร้อน เพราะชอบยุ่งเกี่ยวเรื่องผู้อื่นเซ่นกัน แต่เมื่อพบเห็นผู้เดือดร้อนกว่า เรากลับไม่มีนํ้าใจซ่วยเหลือ เมื่อปัญหามาถึงเราบ้าง จะได้มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุขจากที่ใด ฤถูทาฝืไตนรง^นทร์ ๙๕ ปัญหา www.kalyanamitra.org

31|?1?7ค คนเรานั้น หากหนีลุปสรรคอยู่รํ่าไป แล้วเมื่อไหร่จะชนะปัญหา คนที่หนีปัญหา ย่อมวิ่งหนีความจริง ไม่มีวันพบกับความสุข ความลำบากนั้น ไม่เคยฆ่าใคร ขอเพียงมีเป้าหมายถูกต้อง มีหลักการถูกต้อง มีจิตใจดีงาม เพียรพยายามไม่ย่อท้อ ลักวันต้องพบความสำเร็จ อุปสรรค ๙ร) ฤ^ทา;)ใฅน;!งๆนฬ? www.kalyanamitra.org

11จ1สิยง ชื่อเสียงในอดีต มิอาจรับประกันอนาคต ความสำเร็จร้อยครั้ง มิอาจประกันความสำเร็จครั้งต่อไป จงภูมิใจกับอดีต แต่อย่าหลงติดอยู่กับอดีต จงติดตามสถานการณ์ปัจจุบัน และเตรียมพร้อมการร้บมือกับอนาคต ไม้ขีดก้านเดียวเผาเมืองได้ ความประมาทครั้งเดียวเผาอาณาจักรได้ ฤ(ฐกาฝืใฅันสงจันทร์ '£๗ ชื่อเสียง www.kalyanamitra.org

อำนาจ อำ นาจเกิดจากความศรัทธา ความศรัทธาเกิดจากความเร่อ ความเร่อเกิดจากความหวัง ตราบใดที่ผู้มีอำนาจ ไม่ท่าให้ประชาชนผิดหวัง ย่อมไม่มีวันสูญเสิยอำนาจ ปัญหาก็คีอ ประชาชนหวังสิงใด ผู้มีอำ นาจfเ^รีอไม่ อานาจ «« ฤ^ทาสาฅันสงจัtitif www.kalyanamitra.org

กา?ป?ะIHนนฝิ คนที่ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนอยู่เสมอ ย่อมไม่กลัวการถูกประเมินผล คนที่กลัวการถูกประเมินผล มีเพียงคนชนิดเดียว นั่นคือ คนที่ไม่มีดวามรู้ ความสามารถ และความดีนั้นอยู่จริง คนที่หวาดกลัวความจริง ย่อมปกปีดความจริง บิดเบือนความจริง และวิ่งหนความจริง แต่สุดท้าย ก็ไม่อาจพ้นความจริง ฦดูทารใตันสงจันทร์ ctsf การ!เระเมินผล www.kalyanamitra.org

1มมฝน ท้องฟ้ามิอาจแจ่มใสตลอดเวลา ดวงตะวันมิอาจเจิดจ้าตลอดเวลา มีบางเวลาที่เมฆทะมึนรวมตัว ชีวิตต้องอดทนฝ่าลมฝน จึงผ่านพ้นอุปสรรคได้ เมฆฝน ๕อ ฤชุทาะqใต้'นสงๆพหร์ www.kalyanamitra.org

ทนทาง หนทางอันยาวไกล ชีวิตต้องเรียนรู้ที่จะยีนหยัดพึ่งตนเอง ไม่ว่าสมหวังหรือผิดหวัง ชีวิตยังต้องก้าวเดินต่อไป หนทางพิสจน์ม้า วันเวลาพิสจน์ดน ฤชุการไตันสงๆนพf ๕® หนทาง www.kalyanamitra.org

ไทฝิIกนไป ทุกเรื่องราว เมื่อเรามาไกลเกินไป มักจะมีคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และตามไม่ทันเสมอ สิงแรกที่ต้องทำก็คือ ห้ามบอกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลย แต้จงรูไว้ว่า ถ้าเขายังไม่ยอมรับเรา ก็จะไม่ให้โอกาสอธิบาย เราจะทำอะไรได้ นอกจากก้มหน้าก้มตา ทำ งานต้อไป ด้งนั้น ไม่ว่าจะเดินมาไกลแค่ไหน สิงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือ ทำ ให้ดู สู้ให้เห็น และพิสูจน1ห้ยอมร้บ ไกลเกินไป ๕๒ ฤรูทาฟิไคันสง^นฬ? www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

วัยชุเฒ่า ชีวิตของคนๆ หนึ่ง เมื่อล้มลงไปแล้ว จะมีแรงลุกขึ้นใหม่ได้สักกี่ครั้ง โดยไม่บอบซํ้ามากนัก ชีวิตของคนๆ หนึ่ง เมื่อลุกขึ้นมาได้แล้ว จะมีสิทธล้มลงใหม่ได้กี่ครั้ง โดยที่ยังมีคนไหโอกาสอยู่ ชีวิตของคนๆ หนึ่ง เมื่อผิดพลาดไปแล้ว จะมีโอกาสสักกี่ครั้ง ที่แกี่!ขกลับคืนมาได้ใหม่ โดยไม่ตายไปก่อน qi^nาฟิา.ตันสงวนท/ ๕๕ ว้ยญ้เฒ่า www.kalyanamitra.org

ดังนั้น ก่อนจะก้าวเดินต่อไป จงศึกษาให้มากและวางแผนชีวิตให้ดี เพราะชีวิตของคนๆ หนึ่ง เมื่อรอดตายมาไดัแล้ว ครั้งต่อไปจะรอดตายอีกหรือ!ฝ ยังไม่แน่ สิงสำคัญก็คือ เมื่อรอดมาได้แล้ว ต้องแจกจ่ายอุทาหรณ์ การเจ็บตัวจะไดั!ม่สูญเปล่า แม้จะถูกมองว่าโง่งมก็ตาม แต่ปัญหาก็คือ ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่ยอมเอาบาดแผลในชีวิต มาสอนคนรุ่นหสัง โดยไม่ปิดบัง วัยผู้เฒ่า ๕๖ ฤ^ทาทไฅันสงจันท? www.kalyanamitra.org

ต้องขอบคุณนํ้าใจของผู้เฒ่าเจนโลกในกาลก่อนยิ่งนัก ที่อุทิศรอยเท้าเป็นถนนให้คนรุ่นหลังเดินตามมา โดยไม่คิดค่าผ่านทาง เราจึงได้เว่า จุดหมายปลายทางที่จะไปถึงนั้น มีอยู่จริง และคุ้มค่าเพียงใดที่จะนำชีวิตมุ่งมั่นไป ให้ถึง ณ ปลายฝืนนั้น ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอุปสรรค มากมายเพียงใดก็ตาม ขอขอบคุณ รอยเท้าจากท่านผู้เฒ่าอีกครั้ง ฤตูทาลไคน?(งจันทร์ ๕๗ ลวามมั่งมี www.kalyanamitra.org

ศวามมั่งN ความมั่งผี คือ ความรํ่ารวยที่เป็นผลมาจาก \"ความขยันในการแสวงหาทร๊พย์มาแยงชีพเป็น\" \"บ่อเกิดแห่งความมั่งผี\" ภาษาพระเรียกว่า \"อฏฐานสัมปทา\" แปลว่า \"ถึงพร้อมด้วยความขยัน\" หรือก็คือ \"หาทร้พย์เป็น\" ซึ่งหมายถึง ความขยันหมั่นเพียรในการสร้างตัวสT1งฐาาเะ ด้วยนํ้าฟ้กนํ้าแรงของตัวเองอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ในช่วงวัยหนุ่มวัยสาว จนประสบความมั่งรในบั้นปลายชีวิต วัยผ้ฒ่า ๕๙ qqmslflนสืงร'นMT www.kalyanamitra.org

การแสวงหาทร้พย์ของคนเรา แบ่งเป็นสองประ๓ทใหญ่ ประ๓ทที่หนึ่ง คือ ทำ มากิน หามากิน รวมเรียกว่า ทำ มาหากิน ประเภทที่สอง คือ ทำ มาขาย หามาขาย รวมเรียกว่า ทำ มาค้าขาย เหตุใดคนเราต้องแสวงหาทรัพย์มาเลี้ยงชีวิต ? เพราะร่างกายมีความหิว เหตุใดร่างกายจึงมีความหิว ? เพราะร่างกายมีการเกิดดับของเชลล์อยู่ตลอดเวลา เหตุใดร่างกายจึงมีเกิดมีดับของเซลล์อยู่ตลอดเวลา ? เพราะคนเรายังตกอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์ นั่นคือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวของเรา ชึ่งมีอยู่แล้วในธรรมชาติ ฤคูทาสไฟ้นสงาโพหร์ ๕®' ความมั่งมี www.kalyanamitra.org

เหตุใดร่างกายจึงตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ ? เพราะเชลล์ในร่างกายของเรายังไม่บริสุทธิ้ จึงมีการแตกดับอยู่ตลอดเวลา เมื่อเชลล์เก่าตายไป ก็ต้องสร้างเชลล์ใหม่ขึ้นทดแทน แต่การสร้างเชลล์ใหม่ ร่างกายต้องมีวัตธุดิบในการสร้างเชลล์ นั่นคือ ธาตุ ๔(ธาตุดิน ธาตุนํ้า ธาตุลม ธาตุไฟ) ที่ได้จากการบริ^คใช้สอยปัจจัย ๔ ร่างกายจึงแสดงออกด้วยความหิว เพื่อบีบบังคับให้มนุษย์แสวงหาปัจจัย ๔ มาเติมธาตุ ๔ให้กับร่างกาย ดวามมั่งมี ๖๐ ฤดูทาสไฟ้นสงจันหร์ www.kalyanamitra.org

เมื่อธาตุ ๔ ถูกเติมเข้าไป กระบวนการสร้างเชลล์ใหม่จึงไม่ขาดตอน ชีวิตจึงได้อยู่รอด ร่างกายจึงได้แข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียน การดำเนินชีวิตเป็นปกติสุข ดังนั้น ความต้องการธาตุ ๔ของร่างกาย ที่แสดงออกด้วยความหิว จึงบีบบังคับให้เราต้องแสวงหาทรัพย์มาเลี้ยงชีพ คนหาเป็นก็ \"อิ่มท้อง\" คนหาไม่เป็นก็ \"อดตาย\" ต้นทุนสำคัญในการแสวงหาทรัพย์ ก็คึอ ความ!ความร่อสัตย์ ความขยัน ฤฅูทาสไตนrเงจัพทร์ ๖® ความมังมี www.kalyanamitra.org

ความ!ทำ ให้รู้จักการเลือกสัมมาอาชีพ และรู้จักวิธีผลิตผลงานที่มีคุณภาพ ความร่อสัตย์ ทำ ให้ทำงานสำเร็จ และได้ร้บความไว้วางใจให้ทำงานชิ้นต่อไป ความขยัน ทำ ให้ความเชี่ยวชาญเพิ่มพูน จึงสามารถผลิตผลงานออกมาได้สมํ่าเสมอและรวดเร็ว ฝืมือย่อมพัฒนา กิจการย่อมก้าวหน้า ชี่อเลืยงย่อมแพร่หลาย เงินทองย่อมไหลมาเทมา ทั้งสามอย่างนี้ ต้องปมเพาะเป็นพื้นฐานนิสัยตั้งแต่เยาว์วัย จึงจะมีต้นทุนมากพอในการสร้างตัวสร้างฐานะในวัย หญ่ และพบความมั่งมีในบั้นปลาย ความมั่งมี ๖๒ ฤดูเทสใตันสงจันห www.kalyanamitra.org

ฅวามมั่ง(ไง ความมั่งคั่ง ดือ ความรำรวยจนล้นเหลือทเป็นผลมาจาก \"การรู้จักเก็บรักษาทรัพย์ที่หามาได้*' \"บ่อเกิดแห่งความมั่งคั่ง\" ภาษาพระเรียกว่า \"อารักฃสัมบ่ทา\" แปลว่า \"ถึงพรัอมด้วยการเก็บรักษา\" หรีอก็คึอ \"เก็บรักษาเป็น\" 4งหมายถึง การรู้จักบริหารทรัพย์สินที่หามาได้ อย่างเป็นระบบ มาตั้งแต่ในช่วงที่กำลังสร้างตัวสร้างฐานะในวัยหนุ่มวัยสาว จนประสบความมั่งคั่งในบั้นปลายชีวิต ฤ(ฐทาทา.สันสงจันห? ๖๓ ความมั่งมี www.kalyanamitra.org

คนจะรักษาทร้พย์ไวได้ ต้องบริหารทรัพย์สิน ด้วยการทำงานสีงานอย่างสมํ่าเสมอ หนืง อุดรูรัว สอง บริหารกองทุน สาม ตรวจตราการงาน สี ฝังขุมทรัพย์ในที่ปลอดภัย คนเก็บรักษาทรัพย์เป็นก็ \"มั่งคั่ง\" คนเก็บรักษาทรัพย์ไม่เป็นก็ \"ล่มจม\" ความมังดัง ๖๔ ฤดูทารไตันฝ็งจันทร์ www.kalyanamitra.org

๑. การอุดรูรั่ว รูรั่วของทร้พย์สิน คือ อบายมุข คนที่เก็บทรัพย์ไม่อยู่ ก็เพราะเข้าใจผิดว่า การซื้ออบายมุขคือการชื้อความสุขให้ตัวเอง แต่แท้จริงคือการซื้อความล่มจมให้ตัวเอง การดื่มเหล้า คือการเสียเงินซื้อความพิกลพิการให้ตัวเอง การเที่ยวกลางคืน คือการเสียเงินเพี่อซื้อความอันตรายให้ครอบครัว การเที่ยวสถานเริงรมย์ คือการเสียเงินเพี่อซื้อโรคร้ายแรงทางเพศ การเล่นการพนัน คือการเสียเงินเพี่อซื้อความสินเนื้อประดาตัว ตัวอย่างที่ยกมาแสดงเพิยงเล็กน้อยเหล่านื้ ปงบอกให้รู้ว่า อบายมุข คือ ความล่มจมของชีวิตและทรัพย์สินอย่างแท้จริง ฤดูทาสใตัน?เงจันหร์ ๖๕ ความมั่งดัง www.kalyanamitra.org

๒. การบริหารทรัพย์สิน การบริหารทร้พย์สิน คือ การแบ่งทร้พย์เป็นสิกองทุน กองทุนแรก คือ ค่าใช้จ่ายเพี่อเลี้ยงชีวิตบ่ระจำวัน กองทุนสอง คือ ค่าใช้จ่ายไนการทำงาน กองทุนสาม คือ ค่าใช้จ่ายเพี่อการคืกษา กองทุนสี คือ ค่าสวัสดิการในยามฉุกเฉิน กองทุนที่หนึ่งกับสอง มีไว้เพี่อการสร้างตัวสร้างฐานะในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง คนไม่อิ่มท้องก็ไม่มีแรงทำงาน อีกทั้งกิจการก็ต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพี่อใช้พัฒนาการผลิต พัฒนาการสีอสาร พัฒนาการขนส่ง และพัฒนาการรักษาความบ่ลอดภัย ความมั่งคั่ง ๖๖ ฤดูทาสไฅัแสงๆพหร์ www.kalyanamitra.org

กองทุนที่สามกับสื มีไว้เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ ไม่พึงประสงค์ในอนาคต ทั้งด้านการสืกษาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี และการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งนี้เพราะโลกก้าวหน้าขึ้นทุกวัน แต่สังขารร่วงโรยไปตามวัย การรู้เท่าทันวิทยาการต่างๆ เพื่อวางแผนอนาคตของงาน และรักษาสุขภาพให้ห่างโรคภัยไข้เจ็บ จึงเป็นสิงที่ต้องไปคู'กัน ข้อเสียของคนบ้างาน คือการไม่รักษาสุขภาพ หรือดูแลสุขภาพไม่เป็น ฤตูทาฝืไ,ตัน?(งจันหร์ ๖๗ ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

คนบ้างาน มักไม่ระวังเรื่องการกิน การนอน การขับถ่าย การออกกำลังกาย คนบ้างานจึงมักถูกโรครุมเกาะหลายโรค อาทิเช่นโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดสมองตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคเบาหวานโรคกระเพาะ โรคไต โรคตับ โรคไมเกรนโรคความดันโลหิตสูง โรคเหล่านี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นปุบปับในร่างกาย แต่เกิดจากการสะสมความผิดปกติอยู่ในอวัยวะต่างๆ เป็นเวลานานต่อเนื่องหลายสิบปี แส้วแสดงผลออกมาอย่างรุนแรงในคราวเดียว จนถึงขั้นเสียชีวิต ความมั่งดัง ๖๘ ฤคูทาสไตันสงๆพท? www.kalyanamitra.org

โรคเหล่านี้ ร่างกายได้เคยแสดงอาการผิดปกติ ออกมาเตือนภัยล่วงหน้าเป็นระยะๆ แล้ว แต่เจ้าของร่างกายไม่ได้!ล่ใจกับสัญญาณเตือนภัยเท่าใดนัก และมักแก้ปัญหาแบบปลายเหตุ ด้วยการซื้อยามากินบรรเทาเป็นครั้งๆ ไป แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ เพื่อเยียวยารักษาถึงสาเหตุแห่งโรค ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตให้พ้นซีดอันตราย ถึงจะมีโอกาสหายได้ หรือไม่ทำลายสุขภาพให้ทรุดโทรมลงไปกว่าเดิม อันเป็นเหตุให้อายุสั้น ต้องตายก่อนวัยอันควร โรคประ๓ทนี้ แต่ละคนมีอาการเจ็บปวยไม่เหมีอนก้น ใช้วิธีรักษาพยาบาลก้เม่เหมีอนกัน ค่ารักษาพยาบาลย่อมไม่เท่ากัน ฤถูทาฝืใฟินฟึงๆนหร์ ๖๙ ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

ใครที่ปล่อยปละละเลยจนเป็นหนักแล้ว มักลงท้ายด้วยหนี้สินท่วมหัว เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก บางครั้งเทกระเป๋าจ่ายแล้ว ก็ยังไม่พอค่ารักษาพยาบาล บางครอบครัวถึงกับเจอภาวะวิกฤต ๓บเงิ'นมาทั้งช้วิด แต่ไม่พอจ่ายค่ารักษาพยาบาลในวันเดียว ดังนั้น คนที่รักจะทำงานใหญ่ ต้องใสใจการดูแลสุขภาพในแต่ละวัน และต้องเตรียมกองทุนไว้สีกองทุน เพื่อการหล่อเลี้ยงงานในปัจจุบัน และร้บมีอกับเหตุกเฉินในอนาคต ชีวิตจึงจะมีโอกาสไต้พบกับความมั่งคั่งอย่างไม่ไกลเกินจริง ความมั่งคั่ง ๗๐ ฤธุทาลไตันสงจันทร์ www.kalyanamitra.org

ฅ. การตรวจตราการงาน การปลูกจิตสำนึกให้คนรักษาสมบัติส่วนรวม หนึไม่พ้นต้องลงตรวจตราการงานด้วยตัวเอง อย่าเอาแต่นั่งวาดวิมานอยู่บนหอคอยงาช้าง โดยไม่รับรู้สภาพปัญหาที่อยู่หน้างานตามความเป็นจริง โบราณใช้คำว่า \"เงาทบงาน\" ถ้าเงาไม่ทับงาน ก็จะไม่เห็นปัญหา ไม่รู้ว่ามีช้อบกพร่อง ไม่รู้ว่ามีจุดรั่วไหล ไม่รู้ว่าถูกโกง โบราณใช้คำว่า \"ไวใจลูกตาบอดหนึ่งข้าง ไวใจลูกน้องตาบอดสองข้าง\" แต่การตรวจตราต้องทำให้เป็น มิฉะนั้น จะกลายเป็น \"การจับผิด\" จนเกิด \"การกินแหนงแคลงใจ\" ลงทัายด้วยการกลั่นแกล้ง ทะเลาะวิวาท และแตกความสามัคคี ฤดูทาลา,ตัน?เงร'นห? ๗® ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

พระพุทธองค์ทรงสอนให้ตรวจตรางานด้วยหลักการสีฃ้อ ข้อแรก ของหายต้องรีบหา ข้อสอง ของเสียต้องรีบซ่อม ข้อสาม ใช้ของต้องรู้จักประมาณการ ข้อสี ไม่ตั้งคนพาลเป็นหัวหน้า หลักการตรวจงานทั้งสี่ช้อนี้ ละเลยไม่ได้แม้แต่วันเดียว เพราะทิ้งไปนาน คนก็จะประมาท งานจะถูกละเลย สมบัติก็จะถูกทิ้งขว้าง ซ่องทางคดโกงย่อมเกิดขึ้น อบายมุขย่อมระบาดในที่ทำงาน สมบัติย่อมถูกล้างผลาญโดยไม่รู้ตัว นี่คือโทษฐานของการไม่ตรวจงาน และมักนำไปสู่การถูกโกงหรีอเสียรู้ จนเป็นเหตุให้ต้องตกเป็นแพะรับบาป โดนฟ้องล้มละลาย กลายเป็นปีศาจตายแทน ความมั่งดัง ๗๒ ฤลูทา?«า.ตันสงจันทร์ www.kalyanamitra.org

๔. การฝืงชุมทรัพย์ไ^นที่ปลอดภัย สมบัติในโลกนี้ มีอยู่สองประ๓ท ประ๓ทที่ ๑ สมบัตินอกกาย ประเภทที่ ๒ สมบัติติดตัว ๔.๑ การฝืงสมบัตินอกกาย สมบัตินอกกายเป็นเหมือนของกลางของโลก ใครมีบุญวาสนา ก็ได้ครอบครอง แต่พอตายไปแล้ว ก็ไม่มีใครนำติดตัวไปได้ ได้แต่ทิ้งไว!ห้คนรุ่นหลังเป็นผู้ครอบครองต่อไป เป็นเหมือนสมบัติผลัดกันชม การฝังสมบัตินอกกายมีหลายวิธี แต่ก็มีความเสียงต่อภัยอันตรายด้วยเช่นกัน ฤ(เทารใสันสงจันพร์ ๗๓ ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

สมัยโบราณนำสมบัติไปฝังไว้ใต้ดิน บางครั้งก็ถูกนํ้าพัด ดินถล่ม ลืมที่ฝัง หรือบางรายเก็บไว้ในบ้าน ก็ถูกไฟไหม้ โจรปล้นชิง ราชการริบทร้พย์ เจ้าของต้องสูญเลืยทร้ฟย์ไปเป็นอันมาก โดยไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อะไรเลย ดังสุภาษิดโบทณที่ว่า \"ทองคำที่ฝืงไว้ไม่ต่างอันใดกับก้อนอิฐที่ฝังดิน\" สมัยปัจจุบันมีการฝังสมบัติหลายวิธี บางคนนำไปฝากในธนาคารของรัฐ แต่เมื่อค่าเงินลด สมบัติก็ลดฮวบตามไปดัวย ความมังคัง ๗(ร: ฤดูทาสใฅันงจันทf www.kalyanamitra.org

บางคนนำไปเข้าตลาดหุ้น แต่พอหุ้นตกก็สิ้นเนื้อประดาตัว บางคนนำไปชื้อบ้านชื้อที่ดินแบบเงินผ่อน ก็ถูกนายทุนโกงไป นอกจากไม่ได้บ้านพร้อมที่ดินแล้ว ยังตกเป็นลูกหนื้ธนาคารอีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเลือกฝึงสมบัติด้วยวิธีใด ก็ต้องรู้จักความเสี่ยงของมัน และควรหมั่นตรวจตราให้ดี อย่าประมาทหรือหรือยอมเสี่ยงเพราะความโลภเห็นแก่ได้ การฝังสมบัติภายนอก จึงควรเก็บไวิในเฉพาะวงเงินที่จำเป็นเท่านั้น ฤถูทาลไตันสงจัพทf ๗๕ ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

โดยต้องประมาณการว่า เมื่อถึงคราวเดือดร้อนฉุกเฉินจำเป็น หรือเจ็บไขได้ปวยกะทันหัน สามารถแก้ปัญหาไต้โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ซึ่งวงเงินของแต่ละคน ย่อมมีความจำเป็นไม่เหมือนก้น ไม่เท่าก้น ขืนอยู่กับอาชีพ สุขภาพ สถานการณ์ และจำนวนสมาชิกในบ้าน แต่ที่ต้องระวังก็คือ การเก็บไว้มากเกินไป โดยหวังใหัเป็นมรดกของลูกหลาน ซึ่งมักจะลงเอยด้วยเป็นชนวนเหตุ ใหัเกิดการพิฆาตฆ่าฟันก้นในหมู่ญาติพี่น้อง ทั้งนี้เพราะเจ้าของสมบัติได้หัดให้ลูกหลาน เป็นแต่แบมือขอ หรือนั่งคอยมรดก ไม่รู้จักสร้างตัวสร้างฐานะต้วยนํ้าพักนํ้าแรงของตัวเอง ความมังคั่ง ๗๖ ทาสโสันสงๆนฬ? www.kalyanamitra.org

การปล่อยปละลูกหลานให้รู้จักแต่เกาะพ่อแม่กิน ไม่ยอมให้เผชิญความลำบาก จนกระทั่งยืนหยัดได้ด้วยตัวเองเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ย่อมเป็นเหตุให้เจ้าของมรดกอายุสั้น เพราะลูกหลานย่อมหาทางเร่งวันเร่งคืน เพื่อจะครอบครองมรดก และมักลงท้ายด้วยพินัยกรรมเลือดที่มีอยู่ทุกสมัยในโลก ด้งนั้น การเก็บสมบัติไว้มากเกินไป แต่ไม่รู้จักฝ็กหัดลูกหลานให้เลิกแบมือขอ เหมือนเด็กไม่รู้จักโต จนกระทั่งกลายเป็นคนไม่มืความรู้ ไม่มืความสามารถ ไม่มืความรับผิดชอบ ไม่มืความสำเร็จใดๆ จากการสร้างตัวสร้างฐานะด้วยนํ้าพักนํ้าแรงของตัวเอง นั่นคือ การเตรียมปัญหามรดกเลือด ไวให้ลูกหลานเข่นฆ่ากันเองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฤดูทาฝื!ต้'นสงจัพท/ ๗๗ ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

ตระกูลใหญ่ๆ ต้องล่มสลาย ถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาด ไม่เผาผี ไม่นับญาติ ตัดขาดจากสายโลหิต เพราะการแย่งชิงสมบัติบนฃี้เถ้ากองกระดูก ของบรรพบุรุษมามากต่อมากแล้ว ๔.๒ การฝืงสมบัติติดตัว สมบัติที่คนเรานำติดตัวไปได้มีอยู่สามอย่าง หนึ่ง คือ ความรู้ สอง คือ คืสธรรม สาม คือ บุญกุศล ความมั่งคั่ง ๗๘ ฤ^ทาฟิา.ตน?เงจันทร์ www.kalyanamitra.org

ขอเพียงมีสมบัติสามอย่างนี้ติดตัวไป แม้มีแต่ตัวเปล่าๆ เพียงเสีอผีนหมอนใบ ไม่นานนัก ก็จะสามารถสร้างตัวสร้างฐาน,ะ ทำ ให้มีสมบัติงอกเงยและงอกงามขึ้นมาได้ และไม่ต้องกลัวว่าจะสูญหายไปไหน เพราะใครๆ ก็พรากจากเราไปไม่ได้ ความ!!ด้จากความเคารพคนดีเรนครู สิลธรรมได้จากความประพฤติดีงามอย่างมีวินัย บุญกุศลได้จากความอดทนเพี่อทำความดีให้สำเร็จ ด้งนั้น การเก็บสมบัติติดตัว ก็คือ การไม่ละทิ้งความเคารพต่อคนดี การไม่ละเลยระเบียบวินัย และการไม่ล้มเลิกความอดทนในการทำความดี ฤดูทาฝืไตัน?(งๆพท/ ๗®' ความมั่งคั่ง www.kalyanamitra.org

คนที่ประพฤติปฏิบัติได้เช่นนี้ ความรู้ ความดี และบุญกุศล ย่อมไม่มีวันหมดไปจากชีวิต แม้ตายไปแล้ว ชื่อเสียงก็ยังอย่ ลูกหลานกพลอยภาคภูม เจ บุญกุศลย่อมหนุนนำไปส่สุคติโลกสวรรค์ นี่คือการฝ็งขมทรัพย์ไว้ในที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง สรุปแล้ว ในเรื่องการเก็บรักษาทรัพย์ บุคคลที่แสวงหาทร้พย์มาได้ และปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ทุกวัน อย่างสมํ่าเสมอ คือ อุดรูรั่ว บริหารกองทุน ตรวจตราการงาน ฝืงชุมทรัพย์ในที่ปลอดภัย ย่อมมีสมบัติภายนอกและสมบัติภายในอย่างล้นเหลือ ย่อมเข้าถึงความมั่งคั่งไพบูลย์ในยามบั้นปลายชีวิต ความมั่งคั่ง ๘๐ ฤqทาสใตันสงจันทร์ www.kalyanamitra.org

(ไวามมั่นดง ครามมั่นคง คือ ความปลอดภัยต์อชีวิต ครอบครัว การงาน และทรัพย์สิน ที่เป็นผลมาจาก \"การสร้างเครือข่ายคนดีไว้รอบตัว\" \"บ่อเกิดแห่งความมั่นคง\" ภาษาพระเรียกว่า \"กัลยาณมิตตตา\" แปลว่า \"การคบคนดีเป็นมิตร\" หรือก็คือ \"การสร้างเครือข่ายคนดีเป็น\" ซึ่งหมายถึง การแปงปัน การให้กำลังใจ การสนับสนุน การช่วยเหลือคนดีด้วยความเต็มใจ ฤรเทาฟิ!ตันฝึงวันท? ๙® ดวามมังคง www.kalyanamitra.org

โดยไม่เกี่ยงว่าคนๆ นั้นจะมีฐานะดีกว่าเรา เท่ากับเรา หรือแย่กว่าเรา เพื่อให้เขาสามารถสร้างตัวสฑ้งฐานะดีวยความชื่อสัตย์สุจริต จนกระทั่งยืนหยัดอยู่ในโลกนั้1ด้สำเร็จด้วยสัมมาอาชีพ คนดีจึงกลายมาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราไปตลอดชีวิต ท่าให้เกิดเครือข่ายคนดีฃึ้นรอบตัวเรา แม้จำต้องเผชิญภาวะวิกฤตไม่ว่าเป็นหรือตายก็ไม่ทิ้งกัน ผู้ที่จะสร้างเครือข่ายคนดีได้นั้น จะต้องมี \"จิตใจของ^ห้\" นั่นคือ เมื่อเห็นคนดีตกทุกข์ได้ยาก ก็ไม่ยอมนิ่งดูดายโดยั1ม่เหลียวแล แต่จะรืบแปงปันสิงที่พอช่วยเหลีอเกื้อกูลกันได้ ประคับประคองชีวิตให้ผ่านภาวะวิกฤตช่วงนั้นๆไปก่อน เพื่อให้มีช่วงเวลาที่ลีมตาอ้าปากสร้างชีวิตขึ้นมาได้!หม่ ความมั่งคง ๘๒ qqทาสา.สัน?(งจันฬ? www.kalyanamitra.org

คนที่จะมีจิตใจเป็นผู้ให้นั้น ต้องมี \"กองทุนแห่งการให้\" นั่นคือ นอกจากหาทรัพย์เป็น และเก็บทรัพย์เป็นแล้ว ยังต้องแบ่งป้นทรัพย์เพี่อช่วยเหลือคนดีเป็นด้วย โดยแบ่งปันเพี่อเป็นกองทุนให้คนดี ใช!นการสร้างตัวสร้างฐานะขึ้นมาได้จริงๆ มิใช่การแจกจ่ายแบบตำนํ้าพริกละลายแม่นํ้า ซึ่งนอกจากลืนเปลืองทรัพย์แล้ว ยังมิได้ช่วยให้พ้นจากความยากจนอีกด้วย ดั่งคำโบราณว่า \"แจกอาหารช่วยให้อิ่มท้องหนึ่งวัน สอนปลูกข้าวช่วยให้อิ่มท้องตลอดรวิต\" ฤธุทๆลใตันสงๆพท^ ๘๓ ความมังคง www.kalyanamitra.org

การแบ่งป้นที่จะทำให้ผู้อี่นสร้างตัวสร้างฐานะได้นั้น จะต้องมี \"สังคหวัตถุ ๔\"ซึ่งประกอบด้วย \"๔ให้\" นั่นคือ ทาน - ให้ทุนทรัพย์ ปียวาจา - ให้กำล้งใจ อัตถจริยา - ให้ความรู้ความสามารถ สมานัตดตา - ให้ความปลอดภัย การช่วยเหลือคนดีให้สร้างตัวสร้างฐานะเป็นนั้น เราจะให้แต่ทุนทรัพย์อย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องรู้จักทำหน้าที่เป็น ''พี่เลี้ยง\" คอยตะล่อมให้เขามีกำลังใจฮึดสู้กับอุปสรรคปัญหา และความยากล่าบากต่างๆ นานาด้วยตัวเอง ความมังคง ๘๕ ฤฅูทาฟิา.ตัน?เงร'นท/ www.kalyanamitra.org

นอกจากนั้นยังต้องสอนให้มีความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบในการทำงานต่างๆ ด้วยตัวเอง จนกระทั่งพึ่งตนเองไต้ โดยมุ่งเน้นที่การผลิตผลงานให้มีคุณภาพ ใช้เวลาน้อย และประหยัดงบประมาณ ยิ่งกว่านั้นจะต้องให้ความอุ่นใจและความปลอดภัยด้วยว่า หากมีอุปสรรคปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ก็จะหาทางช่วยเหลือแก!ฃให้ผ่านไปได้โดยไม่ทิ้งกัน จนกว่าจะสามารถยืนหยัดขึ้นไต้ด้วยตัวเอง และมีกำลังที่จะสร้างตัวสร้างฐานะต่อไปไต้สำเร็จ ด้วยตัวของตัวเอง ฤตทาสไฟ้นสงจันหf ๘๕ ความมั่งคง www.kalyanamitra.org

ดั่งคำโบราณว่า อย่าคิดแต่จะรํ่ารวยคนเดียว ต้องคิดช่วยเหลือให้คนอื่นรํ่ารวยด้วย คนรวยมีเยอะแล้ว แต่คนดีมีนํ้าใจบริสุทธมีน้อย รํ่ารวยเพื่อช่วยเหลือคนมิใช่รํ่ารวยเพี่อเบียดเบียนคน โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนดีให้สร้างตัวสร้างฐานะได้ ถือเรนสิงที่ควรกระทำ ด้งนั้น เมื่อเราทำความดีกับคนดี ผลแห่งความดีย่อมตอบแทน นั้นคือ เราย่อมได้มิตรดีมาเป็นเครือข่ายคนดีอยู่รอบตัว และเมื่อมีเครือข่ายคนดีอยู่อย่างกว้างขวาง ทั่วทุกแห่งหนตำบล ย่อมกลายเป็นกำแพงแห่งความมั่นคงต่อชีวิตและทรัพย์สิใ ของทุกๆ คนไปตลอดชีวิต ความมั่นคง ๙๖ ฤ^ทาฝืา.ตันสงจันฬ? www.kalyanamitra.org

ความatนไๆ ความมั่นใจ คือ ความเชื่อมั่นว่า ทำ เย่อมได้ดี ทำ ชั่วย่อมได้ชั่ว ซึ่งเป็นผลมาจาก \"การสร้างตัวสร้างฐานะได้สำเร็จด้วยความชั่อสัตย์สุจริต\" \"บ่อเกิดแห่งความมั่นใจ\" ภาษาพระเรียกว่า \"สม?วิตา\" แปลว่า \"การใสัทรัพย์เลี้ยง?วิตอย่างเหมาะสม\" หรือก็คือ \"การใสัทรัพย์เป็น\" ซึ่งหมายถึง การบริหารค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้อย่างเหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่ของตัวเอง ไม่ฟุมเพืเอยสุรุ่ยสุร่าย หรือขี้เหนียวจนอัตคัดขาดแคลน แต่รู้จักประมาณการใช้จ่ายให้พอดี ฤดูทาลา.คันสืงจันหร์ «๗ ความมั่นใจ www.kalyanamitra.org

ซึ่งย่อมส่งผลให้เหลือทรัพย์ ไปใฟ้.นการสร้างตัวสร้างฐานะมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งก่อร่างสร้างตัวได้สำเร็จ ทำ ให้เกิดความมั่นใจว่า \"ทำดีต้องดีได้ดี ทำ ชั่วต้องได้ชั่ว\" อย่างหมดสินสงสัยไปตลอดชีวิต คนที่รู้จักประมาณการให้จ่าย คือ คนที่รู้จักความจำเป็นและเหมาะสม \"จำเป็น\" คือ ขาดไม่ได้ ขาดแล้วลำบาก ขาดแล้วเป็นอันตราย ความมั่นใจ ๘๘ ฤฝิทาสา.สันสงจันท? www.kalyanamitra.org

\"เหมาะสม\" คือ เหมาะแก่วัย เหมาะแก่เพศภาวะ เหมาะแก่ฐานะ เหมาะแก่เวลา เหมาะแก่สถานที่ คนที่รู้จักความจำเป็นและเหมาะสม คือคนที่ใช้จ่ายโดยพิจารณาจาก \"หลัก ๔ ดี\" หนึ่ง ดีต่อสุขภาพ สอง ดีต่อการงาน สาม ดีต่อความปลอดภัยในชีวิตและทร้พย์สิน สิ ดีต่อการสร้างเครือข่ายคนดี ห้า ดีต่อการสร้างบุญกุคล เพราะทั้ง ๕ ดีนี้ f าารใช้จ่ายออกไป เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต โดยใม่สูญเปล่าอย่างแท้จริง ฤดูทาสไตันสืงจันทร์ ๘®' ความมั่นใจ www.kalyanamitra.org

คนที่ใช้จ่ายโดยพิจารณาจากหลัก ๕ ดีนี้ จะพบว่า \"ความขยันหาทรัพย์ ความประหยัดอดออม ความสิอสิตย์ด่อเพื่อนมนุษย์ ความอดทนต่ออุปสิรรค\" คือ คุณธรรมที่นำไปส่ความรํ่ารวย เพราะได้ประสบผลกับตนเองแล้วว่า \"บุคคลหว่านพืชเสินใด ย่อมได้ผลเสินนั้น ผู้ทำ ความดีด้องได้ผลดี ผู้ทำ ความชั่วต่อได้ผลชั่ว\" จึงกลายเป็นความมั่นใจในการทำความดีไปตลอดชีวิต และมีความมั่นใจว่า \"นรก-สวรรค์มีอยู่จริง\" ความมั่นใจ «'๐ ฤดูทาสใฅันสงifttหร์ www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook