Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เก้าพระสูตร แปลโดย พระปริยัติเวที (ผุย) วัดปทุมวนาราม

เก้าพระสูตร แปลโดย พระปริยัติเวที (ผุย) วัดปทุมวนาราม

Description: ✍️☸️✅

Search

Read the Text Version

๘๑ โลกไม่มกสด ๆลๆ สตว์เยื่องหนำแต่ตายแล้ว ย่อ.ม๓ดอกก็หามใต้ ย่อม'ไม่!กดอกก็หามิ'ใด; ข้อท{ราไม่พยากรณ์นน ก็เพราะไม่ปรรกอย ด*วย!]ระโย'ชน ไม่!ยื่น (ข้อปฏิยิต่) ท{ยื่นเยื๊องตนแห่งพรหมริ ไม่!ยื่นไป{พอความหน่าย เพืยิความคลายกำท'นิด {พอความด้ย {พอ ความสงย {พอความรยง {พึยิความตร้สร {{ลมพืธนิพพาน; เหตุนน แล {ราริงไม่พยากรณ์ข้อฆน.,, [บญหาที่ทรงพยากรณ์ ๔ ฆอ คืออริยส้ป็ ๔] แ ดก่อนมาลงกยยุตร ! ก็อะไร{ล่า ท{ยื่นยื่ญหาซงเราพยากรณ์ ฆน คอะ นทุกข์, คือความทนไดยาก นทุก,ขสมุทัย คือเหตุให็ทุกข!กึด นทุกขนิโรธ คือความคบทุกข์, นทุกขนิโรธคามินิปฏิปทา คือข์อปฏิบํฅให้ถงความดบทุกข ข้อท{ราพยากรณ์ ก็{พราะ (อริยส์ริ๔น) ประกอยด้วย ประโยชน์ {ยื่นข้อย่ฏิย้ตทเยน{ยองตณ์แห่งพรหมริรรย {ยื่นไป{พ ความหน่าย .เพอความคลายกำหนด ณ์ยิความด้ย {พอความสงย {พอความรูขง {พอความตริส! {{ละ{พอนิพพาน; เพราะ{หตุนนแล {ราริงพยากรณ์ชอนน, ขอไห{ธอกงหลาย ริงทรง-ริา1ไวด้งนเถิด.,, {มอพระผมพระภาคเริา ทรงแสดงพระสุตรนั้ริยลง{เลว ท่าน พระมาลงกยยุตร มไริ{ยิกยานร้นซมต่อพระพุทธภาษิตมลวแล ๆ ริยริฬมาลง'โ•กุยวาทสุตรท ๓. ๑๑

มํชฌมนิกาย มชฌิมบณณาลก'' เล่ม ๑๓ หนา ๒๓๗-๒๓๙ ปริพพาชกวรรคท ๓ จูฟิวจ'นิโคตตสูตร ที ติ สถานที่ตรํสทระสตรน ไ ข-' ]๒๙า] ริฬล่ริฉโคตตสตรน พร?ผมพรรภาคเล่า ตรสเย้อคราว ปร?ทยอยย'ณ กยุ่^ภาคารศาลาไนยามหาล่น เขตเมอรไพศาล. ค็อคราวนน เย้1นเวลา!'ชา พร?ผมพร?ภาคเล่า รี?เสด็'ริเขา'ไฝยิณฑยาตยงเมอร ไพศาล แต่ทรงดำริว่า การทเราริ?เขาไปยิณฑยาตในเมองไพศาล เวลาน ยํงเข์าใเก เราควรริ?แว?เขำ'ไปหาปริพพา-ชก ซือล่ริฉโคตร ท้วํดื ของปริพผาซก ซ์งมตนม?ม่วงขาวตนหนงก่อนเถิด’, ครินแล้ว ก็เสด็ เขา'ไปหาล่ริฉโคตรฝริพพา'ชกถงสำ'เม้าทอยู่,ของเขา. วริฉโคตรปริพ- พาชก ครนไดํเห็ฆผร?ผูม่ผร?ภาคเล่าเสด็ริมาแต่ไกล ริงกรายทลเซ เสด็ริไหเขาไปปร?ทํยยนอาสน? ( ทสงแล?สมควร ) ซงฝลาดไว*แล้ว, ส่วนตํวเยิงก็นํ่งอยู่ท'อาสน?ตั๋า'ขางตนึ้ง. สาเทตทีตรํสพระสูตรน [๒๔©] เมธล่ริฉโคตรปริพพาชกนํ่งเร็ขยรอย ( แล?ได้โอกาส ๑. อรรถกถา เบน ‘ำฅวิชชวํจฉสูฅร,,

วว แล่ว) รึงทูลถามถงเร้องทตนได้พงมาว่า 4 ขำแต่พระองค!เรึริถ!! เขา'ว่า พระสม'ณไคดม เย?,!ส่พพถุเฌ ผทรงรสาระรึเด มปกติทรงเห็น ธรรมทูกยิย่าง ( ไม่ดีด'ขด ) ทรงปฏิญาณริ!]รองฌูาณทํสสนะ ค์อ ความ!ความเห็น ( ของพระองค์เอง ) ไม่มส่วนทรึะไม่ทรงรเลยว่า ำมยิเราตถาคตเดิน'ไปห็ด็ รึ]ยดอย่ก็ดิ กล1)แลไก็ดิ ต็นอย่ก็ด็ ฌูาณ- ท้ส่สมะ คอความ!ความเห็น ปรากฏแส่มแส่งแก่เร่าตถาคตอย่เย็นนิตย์ ติดต่อ■กนไป ( ไม่ขาดสายทูกอิริยา!]ถ ไ, ดิงน, พระเด้า'ขา ! พวกซน ผูกล่าวดํงทกรายทูลมาแส่วน1น ริะ'ซอว่ากล่าวคลอยตามพระดำริส่ทพระ 'ผมพระภาคเส่าตริส่ไวไเส่วแลรึ)ร้อ 1 ริะไม่ซือว่ากล่าวต่พระผมพระ¬ กาค!ส่า ดิวขคำไม่ริริงรึ)ร้อ ? และชึอว่าเย็น!กล่าวซอยธรรมแล่วหร ยิน็ง การกล่าวตามธรรมทซอยแก่เหตุแม่นธขรึเน้ง ริะไม่ถงเานะท ติไต็ยน รอ ? พระผ้มพระภาค!รำ ตรส'ว่า คู-ก่อนวัจฉะ! พวกซนท ลาว อย่างว่ามานฆ ไม่!ยื่นอโเกล่าวคลอยตามคำทเรากล่าวไวแล่ว แต่ซอว่า กล่าวตเราดิวยคำทไม่ม่ ทงไม่!!!นรึริงดวย. ๒๘๒ ] ว่ริฉโคตร ทูลถามว่า ขาแต่พระองค์!เริริญ! ก็พวก ขาพเส่ารึะพยากรณ์อย่างไร ริงรึะเย็นการกล่าวคล่อขตามพระดำริส พระองค์ตรสไว!เลว และเย็1ฆผซือว่าไม่กล่าวตพระองค์ดิวยคำไม่รึร ทง.เย็นการพยากรณ์ทซอยธรรมแลวดํวข, อน็ง การกล่าวตามธรรมท

(ณ์๔ ซอยแก่!หตุ!!มน่ยิยหน'? ริ•เโม่ถง!าน?ทควรติ!ต็ขนได้ ? พร?!รำข นระผู้มีนระภาคเจา เบนเตวิชชะผู้บรรลุวิชชา ๓ พร?ผู้มพร?ภาค!รำ ตริสว่า แดูท่ยินว้รินิ?! ยคคลผู้พยา พร?สมณ!คดม!ยื่น!ตวิซช?ผูได้ยรรลวิชชา ๓’ ด้าน !ยื่นอโ!กล่าว ถกตองตามคำท่!รากล่าวไว'แลว ไม่ชอว่ากล่าวต่!ราด้วยคำไม่ ทงการกล่าว!ช่นมน ก็ริ?ไม่ถงรู'าน?ทควรติ!ต็ยน!ลย ( !พรา?กล่ แก่!หตุ!!ล่ว )” ขุนเนนิวาสานุสสติญาณ ทรงระลึกชาตหนหลงใ,พ้] ดูก่ยินวิริฉ?! ก็!รา!พ้ขงต'องการ (ไนใริ) !ท่านน ก็ร?ลกถ ชาติก่อน (ของตน) ได้!ยื่นอนมาก คํอ ร?ลกได้ตา!!ต่หนงชาติ สอาชาติ !ยื่นตน่ไป รินถาพ้นชาติ นสนชาติ ตลอดสํงืวิฏืฏก่ฝวิว่ กไเ!ยื่นอินมากว่า ในภพโน่น !ราม้ชืออย่างนน มโคตรอย่างนั้น ม ผิวพรรณอย่างนั้น มอาหารอย่างนน ได้ไสวยสุข-ทก'ข์อย่างนน ๆ นล?ม กำหนดอาย!พยง!ท่านํ้น ๆ ครํนั้!ราริตึริากภพนํ้นแล่ว ได้ไม ภพโน่น, แม้ไนภพโน่น !ราก็ได้ม้ชอ ม้โคตร ม้ผิวพรรณ ฯลฯ แล? อาการ ทงอ!ทศ ดงอธิยายมาฆ!!ล

๘๕ ทินนปีกมุญาณ ทราเหนปีทิและอปบตบอาสตวทาหลาย ] ดูก่อนวิริฉะ! ฑ!ราเพ้ขง'ต้อ์งการ (ในใริ) เท่านน ย่อมริะ เหนหม่สตว์ได้ทงทกำล่งริติ •กำลํงอุปบต ทั้งเลว ประณต มืผิวพรรฌดื และไม่ด็ ทั้งรำรวยและยากริน ด้วยทิพข-ริกมุทยเริสทธ ล่วงเลยริกมุ- สามิถฺ]มนยย ทงได้ร้ข์ด์ซังหม่สัตวทเย็นไปตามยถากรรมว่า สัตว์เหล่าฆ ทำทริริตทางกายวาริาใริ ติเต็ยนพระอริยเริา เย็นมิริฉาทฎ? ขื้ดถอ การกระทำด้วยอำนาริมิริฉาท่ภ? (ความเห็นผิดเย็1นซยิย) เมือต •ฝ็ ย่อมตกถงอยาย ทคติ วิฆิยาต นรก (เย็นท่สด) ส่วนผูทํประพฤติ สุริริตทาง กาย วาริา ใริ ไม่ดีเต็ยนพระอริยเริา เย็นสัมมาทิฏ? ( ผเห็ฆซอย) ย็ดถอการกร?ทำด้วยอำนาริสัมมาทิฏ? ( ความเห็นซอย) เมือตายไป ย่อมเกิดไนสุคติ]ลกสวรรค (เย็นทสุด)” I อาสว*กขขญาณ ทราร้ปีกทำอาสวะ‘ไหหมดสนไป ] แ ดูก่อนวิริฉะ! เราได้ทาใหแริง ( ค็อได้!]รรลุ ) เริโตวิมุตติ ความหลุดพ๎นริากกิเลสทางใริ และยฌูฌูาวิมุตติ ความหลดพนริๅก กิเลสทางขฌูญ'า อโเหาอาสวะ คื้อกิเลสเครองเก็ภ้หมองใริมิได้, เพรา อาสวะทั้งหลายสนไป ด้วยยญญาความ,รย็งเฉพาะตนเอง เขาถงธข่ไน ภพย็ริริยนน (เย็นฒัว่าเราตถาคตได้ทาอาสวะกิเลสเครองเก็ริาหมองใริ ไหหมดสนไฝแลว ริากริตตสันดาน ไม่ตองเกิดแก่เริยตายอก )” แ ดูก่อนวิริฉะ ! ยคคลผูพยากรณ6,ว่า พระสมณโคดม เย็น

เตวิชซ? ผัได้ยรรลุ'วิซ'ชา ๓’ ด้งน เยื่นอำเกล่าวถกตองตามคำทเรา กล่าวไวิไเล่ว ไม่ซอว่ากล่าวต่เราด้วยคำไม่ริริง,ๆลๆ (ด้ แล่วช่างตนนน)” คฤหสลบรรลอร,หิตตผลไม่ม แต่ไปเกิดในสวรรคมมาก [๒๔๓] วิริฉโคตรป?พพาชก ทุลถามต่อไฝว่า ข่า แต่ พร 2- ไคดมผูเริริญ! คฤหำถขางคนทข่งล?สงโยชน์ คอกิเลสเคริองพ้ว ของคฤหํสืถไม,ได้\" เมอ]ขาตายไป •ริ?ทำทสุดทุกข์ (คอยรงลุความ สนกิเลส ไนภพต่อไป ) ม่อยยางตร้อ ? ” พ. ตริสตอยว่า คฤหํสถด้งกล่าวแล่วนน ริ?ทำทสุดทุกข์ได้นน ไม่ม่เลย ” วิ'ริฉ? ทุลถามอกว่า ก็ถัาคฤหำถำยงล?ล่งโยชนของคฤห้สถ์ ไม่ได้\" เซ่นกล่าวแล่ไนน เม่อเขาตายไฝ ริ?ไฝเกิดในโลกสวรรคได้ ม่อยยำงหริอ ? พร?เริาขำ ! พ. ตริสตอยว่า คฤหสถ์ด้งกล่าวแล่วินน์ ได้ไฝเกิดไนสวรรค มิใช่ร้อยเด้ยว มิใช่สองรอย มิใช่สามร้อย มิใช่สร้อย มิใช่หำร้ เท่าฆเแลย, โดยทแท้ม่ริานวนมากทเด้ยว ( ปง?มาณไม่ได้ไลย )” ๑. ทพระผ้ม่พระภาคเจา ตริ'สว่า คฤหัสถ จะทำทสุดทุกชในั้นั้น ไม่มเลข ตังน็ เพราะ คฤท่เสถ์แม่อบรรลุอรหัตตผลหมดกเลส!เลนิ จะอยู่']นเพศคฦหัสถไม่'1ตั ต*องป?นิพพาน ในตันนั้นทเด้ขว เพราะเพศคฤนัสถ1]ม่สามารถจะทรงคณธรรมทสงสุคไตั ตองออกบวช เบนบรรพชิต จงจะมชิ?ฅอขู่ได้, เพราะฉะนั้น พระองคจงตริ'สว่าไม่บ นัยอรรถกถา แห่งสูตรน.

^ (ฑ) [ ผู้ถอลทธิภายนอกสาสนา จะบรรลุอรหตดผลไม่ได ไปเกิดบนสวรรค์กไม่ได’! วริฉเคตร!]?พพา'ชก ทลถามต่อไฝว่า แขำแต่พร?โคดมผู้’!'ริ?ญ! อา'ชากิยางคน เมือ.เขาตายไฝ ริ?ทำกิสุดทุกข์ (คอยรรลความสน กิเลสในภพต่ยิไม่ ) ริ?มือข่ยางหรอ ?” พ. ตริสตอยว่า ำม่มืกิเดขา ว“ริส?!” วริฉ? ทลถามอกว่า อาซากเช่นนน์ ริ?ไป!กิดใฆสารรค์ มยาง ไหม ? พร?เข้าข้า ! พ. ตริสตอยว่า ดูก่อนว่ริฉ?! ตงแต่กิททกิ!]นไป ๔© กิ!] เท่าทเราร?สกได้' เราไม่Vริกอาซากสกคน!ด็ขวเลยกิไฝเกิดในสวรรค นอกริากอาซากคนเดยากิเยื่นกรรมาากิ๒ กิริยาาทเท่านฆ กิไฝเกิดไกิ'” าริฉ? ฑลถามต่อไฝว่า กำเช่นนนแลา สิทธิ'ของพากเดขรถค์ ก็!ยื่นอนสุฌูโดยกิสุดริากคุณ)คร้องไฝส่สวรรคฆ?ซ์ ?” พ. ตริสว่า เยนอนสุญอย่างนนกิเด็ยว (ไม่ต่องสงสํข) น?7รึฉ? ! เมือพร?ผูมืพร?ภาคเข้า ทรงแสดงพร?สูตรนริยลงแสิว วํริฉโคตร- ๑. อาช์วก เบนนักบวชนอกหระพุทธศาสนาพวกหนง มโนคร2''-าทุทธกาล. ๒. กรรมวาท หมายถงผู้แสดงกงเหตุแห่งการทำว่าม่ผล คอดองไดร\"บผลแห่งการกระทำ ไม่!ด!]ฎเสธ!หดุ(แห่งการกระทำ เหม่อนลัทธของครูชอปูรเปกสสปะ, ก?ยวาท หมายกง ผ้แสดงการกระทำว่า เบนอันทำ ผลของบุญและบาปม่ผู้ทำ และไฅ์รบผลแหำการทำนั้น เสมอ เช่นเคยวกนกบกรรมวาท.

ปริพพา'ชก กซนชมขินด้ต่อพร?พุทธภาษิตของพร?ผมพร?ภาค!รา ด้วย ฝร?การฉ?น!!ล. รยริพัว่รกโคตตสูตรทึ ® บินทึกท้ายพระสูตร วํรกโคตรปริพพาซกคนน !มึอได้ยฌูหาทึตนทูลถาม ร์งพร?ผม. พร?ภาค!ราทรง!!ก็รยลง!!ลว ขํงไม่มความ!ซีอความ!ลยิมใส!ลย แล: ก็ไม่กรายทฃลคดคำนว่าก V !ยี่น!!ต่ยอมรํยพึ่ง,ไว่!ท่านํ่น คร2ฆได้พง '0โ๙0'.6 อ้คคิวํรกโคตตสูตรทึ ๒ ต่อรากสูตรนไฝ รื้งได้ยอม!ซ็อ!!ล?!ลอมใส ทงได้ยอมตนมอยกายถวาย'ชวิตต่อพร?ริตนตริย!!เนทึสูด เ!ต่ก็ยํงไม่ได้ ยรรลุธรรมอ?ไร ต่อไปในโอกาสหลํง !มึยิได้พงมหาว้รกโคตตสูตรทึ ๓ ต่อรากสูตรนไปแลว ริงได้ยอมตนออกยวช!ยี่นพทธสาวก !เลวได้ ยรรลอรหํตตผล!ข1นทึสด ขอได้โปรดอ่านพร?สตรส่อไป ก็ร?ทรายได้ด้.

มชผิมนิกาย ม่ชฌิมบ{นเนาสก์ เล่ม ๑๓ ทนา ๒๔๐-๒๔๙. ปริพพาชกวรรคที ๓ อคคิว,จฉใคฅตสูตรหึ ๒ สดานที่ตร'สทระสูตรน [ ๒๔๔ ] อคืคิว่ริฉโคตตสูตรฆ พระผัฆพระภาคเริท่ ตรส!มอ คราวประท้ยอยู่ ณ พระวิหาร]ชตวโ] อาราฆ'ของท่านอนาถยิณฑิก]ศรษเ เขตพระนครสาวโ)ถ. ว่ปี ฉโดตรทูลถามทิฏเ ๑๐ ว่าทรงเหนจริงอย่างห8นมรืฮ? [๒๔๕] คราวนน ฝ?พพาชก ซอว่ริฉโคตร ]ขำ,โป]ผาพระผฆ- พระภาคเริารินถงทีประทีขและได้สนทนาปราศรโเพอสฆควร!เลว เฆอได้ ก็ทรงตอยฝฏิเสธทก ๆ ขอว่า เราไม่ได้เห็นอย่างฆน ๆ โ ด้งฆไริควาฆ ต่อไฝฆว่า “ขาแต่ท่านพระโคดฆณริริฌู ! พระองค์ทรงฆควาฆ]ห็ฆ อย่างนํ้ฆิใช่หรอว่า ๑. 4 โลกเทียง สงนํ้]ท่านํ๋น]ขื่นควาฆริ?ง สงอน]ปล่า ( ไม่ทิ ๒. ‘โลกไฆ']ทียง ส์งนํ้เท่านํ้นเข็1นความทิง สงอน]ปล่า ริ?ง โ ? ๑๒

๔อ ๓. เ โลกมิท่สุด สิ่งน์!ท่าน1น!!!นความรี?ง สงอึฆ!ปส่า ( ไม่ ริ?ง) ? ๘. ‘โลกไม่ม่ทสุด สิ่งน!ท่าฆน!ยนความ'ร?ง สิ่งอึน!ปล่า (ไม่ รี?ง)? ๘. ‘ซ็พก็อึนนํน สร้รรก็อ*นน2น สิ่งน!ท่านน!!)นความรี?! สิ่ง อึน!!]ส่า ( ไม่รี?ง ) ? ๖. ซ็พก็อย่างยิน สรรรก็อย่างอึน สิ่งฆํ้!ท่านฆ!!)1นความร สิงอึน!ฝส่า ( ไม่ รีริง ) ? ๗. ‘สิตว!ยยิง?งนา!!ต่ตาย!!สิว ย่อม!กิดอึก, สิงน!ท่านน!1!น ความรีริง สิงยิน!!]ล่า (ไม'รี?ง) ? ๘. สิต-ว6!ยองตนา!!ต่ตาข!!สิว ย่อมไม่!กิดอึก สิ่งฆ!ท่านฆ!!เน ความรีรง สิ่งอฆ!!]ล่า ( ไม่รี?ง ) ? ๔. สิตว์!ย็องหนา!!ต่ตาย!!สิว ย่อมเกิดอึกก็ม ย่อมไม่?กิดอึก ก็มิ สิ่งนํ้!ท่านน?ยนความรี?ง สิ่งอึน!ฝส่า (ไม่รี ๑0. สิตว่!ขํ้องหนา!!ต่ตาย!!สิว ย่อม!กิดอกก็?ทมิได้\" ย เกิดอึกก็หามิเด\" สิ่งนํ้!ท่านฆ!ยี่นควาสมิงรอีึน!?!]งล่า ( ไม่รี?ง ) ? ” พรรผฺม่พรรภาค!รีา ต?สตอ!]!ย่ฏิ!สธทุก'ข้อว่า เราไม่ได้ อย่าง!ณ ๆ เลย. [เอ๘๖] ว้รีฉโคตร ทลถามว่า 4 ท่านพรรโคดม ทรงเล็งเห็นโทษ

6* 6) อะไรรึงไม่ทรงขื้ดถอทิฏ? ( ทํงั้ ๑0 ) เทล่าน โดยฝระการท้งม่วงเช่ ( คอทรงปฏิเสธไม่ขอมฯ๚รโดยประการทงม่วง โ.,, นิฏฐิ ๑๐ ขอเ!!นความเหนมดมน/ ไม่เบนทางหระนิท'ผาน [ ๒๔๗ ] ท. ตรํสืว่า ย ดก่อนวรึ1ฉ^ะ ]!0ฏ่ ทิภ? ความเหนท้ง ®0 2 ขอน!เ เยนความเห็นทรก'ช่ฏ (คอม่ดมนธ์) ท้กํนดาร เย็นเสยนฅนาม กวํดแกว่ง เบนเครืองผกสิตว์ไกั (ในภพ) มทกข มความลำยาก มความค!]แค้น1ใริ และมความเร่าร่อน ( วยื่นผล ) ทงไม่เย็1ฆไปเทือ ความตน่าย ความคลายกำหนด ความด*บสนิท ความสงบระงํย (แห่ง กิเลส) ความรย็ง ความตรืสร และไม่!!เมไฝเทือพระนิพพาน; เพราะ ฉะฆน เราเล็งเห็นโทบ ดงกล่าวมานํ้แล รึงไม่ขดถอทิฏ? ( ทง ๑0 เหล่Vาฆ (ว่,1าเย็นความเห็นทิถนิูกทิชอย ) . โดยประกาVรทงม่. ว*งเช่นนิ นะท่านว่รึฉะ !.” หระตถาคตทรงคำปีดนิฏฐิและความแอเราดอเขา'ใดหมด วรึฉโคตร ทลถามว่า ท่านพระโคดม ทรงม่ทิภู?ความเห็น ย่ ฝ็ อะไร ๆ อยู่!กังหรือ ใ พ. ตรํสตอบว่า ดูก่อนวํรึฉะ ! เราตถาคตไดักำรึดทิฏ?คอ ความเห็นทว่านฆได,ห่มดแลว, แต่เราตถาคตมความเห็น ( คอพิรึารณๅ ด. สมุปคใฅ แปลว่า ไห่!ชัาถงแลํ,ว, แก่,ในทินตองการภาษาไทยเบนใหญ่ช}1ค*แปล-}1 1ม'ชด00,

6*123 ฌฌูพนชิอย่ดํวิ111) ญญาอย่า งนํ้) ว่า:- รูป เวทนา สญืญา สาขาร และวิญญาณ มมาดํวยอาการอย่างนื, รูป เวทนา ส0ญ^ ญา ส0-ง^ ขาร และวญญาณ เก^ดขXนด?ว-/ ยอาการ อย่างน, รูป เวทนา สิญญ'า สิงขาร และวิญญาณ ด!)ไฝดำขอาการ อย่างน., เพราะฉะน์น เรา'หกล่าว (ปฏิญาณตนเองไดั)ว่า ตถาคต ซอ'ว่าเยินผู้พนวิเศษแลว เพราะความสำคํญ (ด*วยตืถเหามานะทิฎฺ|) ทงฝวง ความตองการทงหมดและอหํงการ มม่งการิ กิ!)'ทํงความถ1อ็ตำ ทะนงตำ ทนอนเนืองอย่ในสินดาน (ของเรา) ท1งหมดสนไปแลว ( เรา ) คลายความกำหนด ดํ!]สนิท สละคน ปล่อยวาง และไม่!เดมน ( สิงอะไร ๆ ทงตมด ) ” ผู้หลดพนจากกิเลสหมดแลว จะว่าเกิดอกกมิโป'ไม่เกิดฮีกก็มิไป่1 '๒๘๘] วำฉโคตร ทลถามว่า ขาแต่ท่านพระโคดมผเหิญ! ก็ภิกยุผู้มสิตพำวิเศยแลำอยำงน ริะเกิด,ในทไหน ? ” พ. ตริสตยิยว่า ดูก่อนวำฉะ ! สะว่าเกิด ก็ไม่ควร.,, ไจฉะ ทลถามอกว่า ถาเช่นฆน สะไม่เกิดขนหรื้อ ? พระ!สาขา!’, ๑. อหังการ ความถอหัวว่า!รา, ความ!ย่อหยงจองหอง, ความทะนงหัว, มหังการ กวามถอว่าของ!รา ว่า!บนของ!รา. อหังการ!บ็นหัวVเฎฐ ความ!หี่นผิด, มมังการเบนหัว ตัณหากวามอยาก, ๒. มานานุสัย!บนหัวมานะ ความเย่อหขง ทะนงหัว ความถอหัว.

(กิ๓ ใ'':. ตรัสตอมว่า แ ริ;ว่าไม่เกิด กไม่ควร. วํริฉ; ทูลถามอกว่า แถ๎าเช่นนนแลว เกิดก็ม ไม่เกิดกมหรอ? พ. ตรัสตอบว่า 44จุ;ว่าเกิดก็ม่ ไม่เกิดก็ม ก็โม่ควรพดอก. วจุฉ; ทูลถามอกว่า 44 ถาเ!!นเช่นนน!เลว เกิดก็มิ,ใช่ ไม่เกิด ก็มิใช่หรือ ?” พ. ตรัสตอยว่า ทาสอาคติทว่านน กิโม่ควรพดอก. ! วิปีฉ่โดตรไค้พงคำตอบแล1ว์ ‘หมดความเลฮมใส ไ [๒๘๙] ว่ริฉโคตร กรายทูลว่า ท่านพร;โคดมผเจุริฌู! ยถ)หาทา ๘ ขอ ท่ขาพ!ริาไดทูลถามถื้รเรืองทภิกษผูม่ริตพนวเศษ!เล ว่า จุ; เกิด,ในทโหนเย!นศน พร;อาคก็ทราตอมปฏิเสธว่า ไม่ควร ๆ ด้าน, ขอททรารํมสํ่าด้านํ้น ท่า'ให้,ขาพ!จุ'าไม่เข'าใจุได้เลข มค หลามดมฆธ'โปหมด (ไม่ทรายว่ามความหมาขอย่าาไร), คราแรก ๆ ขาพเรา'โดมความเลึอม1ใส เพรา;พร;ดำรัสทตรVIกิใฆเยื้อาต่นฃอา พร;อาค บดฆํ้ได้หาย,ไปเสยแล'ว (คอหมดความเลอมไสต่อพร;องค แลว )ชิ^ V ” [ ความเกิดหรอไมเกิดบองพระอรหนต๔ เปรยบเหมือนไฟกิดไเวูบไป ] ๒๕0 ดก่อนวํจุ’ส ๙* !I ควรแลวทท่านจุ;ไม่เชจ่!หาลใงจุ

มดมฆธไม่ 1เพ5า;ว่าธรรมนํ้เข็นสภา!พลุ่มลก ขากทริ;เห็นริ;ตาม!ได เขนของสงยร;งข ประณืต ไม่6]ช่ริ;เดาคาดคมณ!ได้ง่าย ๆ เขี่ ธรรมทล;เอยด ขโนฑิตเท่านนริงริ;!ไดโ ส่วนท่านเข็นผมความเห็น ความพอใริ ความซอย']ริ ความพยายามพากเพืขรไย่คนล;ทาง แล;มส่ทธิอาริารข์ก็ต่างกิน (ไม่เหมอนขาพเริทั) ยากทริ;!ธรรมทพด กินมานนได'ไ เอาเถอ; เราริกขอยอนถามท่านไนขอน ขอไหท่านตอย ชแริงตามทท่านเห็นสมควร (ก็แส่วกิน ริ;ถกผิดอย่างไร ก็ริ;พง!ได้) ขอถามท่านเข็1นขอ ๆ ดงต่อไฝนคอ: ถาไฟลุกโพลงอยู่ต่อหนาท่าน ท่านริ;พึง!ได อย่างไรว่า ไฟนลุกโพลงอยู่ต่อหนำเรา ?’ ว่ริฉ;ทูลว่า ถาไฟลุกโพลงเช่นว่านน ขทัพเริทัก็พึง!ได้ทโเทว่า ไฟลุกโพลงอยู่ต่อหนำเรา., พ. ตรสว่า ส่ามไคร ๆ พึงถามท่านว่า ไฟ่ทลุกโพลงอยู่ ต่อหนำท่านน อาก็โอ;ไรริงลุกเล่า ? ท่านริ;พึงตอย ช'เริงเขาว่าอย่างไร ใ' ว่ริฉ; ทูลว่า เ ถาเขาถามเช่นว่านน รทัพเริาริ;พึงตอขเขาว่า อาก็โหฌูทัแล;ไมัฑเยึ่นแอ ริงลุกอยไดโ, พ. ตรส่ถามอกว่า 'ส่าไฟน2น พึงดํยไม่ต่อหนำท่าน ท่านริ;พ อย่างไรว่า ไฟนั้ดโไม่ต่อหนำเราแส่ว ใ วริก; ทลตอขว่า 'ถทัไฟดโไม่เช่นนํ้น ริกพเริากรได้ท่นทว่า

๔๕ ดโเไฝต่อหนา]รา!]ลิว., พ.ทรงถามขำยิกว่า ถามไคร ๆ พึงถามท่านว่า ไฟทดโ]ไฝ!]ลโนน ไฝขำทิศไหนยาง ไฝทิศยรพา ทิศยรึฉิม ทิศอดร หร้อทิศทิกยิณ, ท่านรึ?พึงตอยซํ้]]รึง!ขาว อย่างไร?, ว่รึฉ ทลตอยว¬ ถา]ขาถาม!ซ่นนน์ ไม่สมควร]ลย พร?!รึโขา! ]พรา?ไฟนน อาศํขหฌูโ!!ล?ไม่ท]ยื่น]ซอ รึงลุกอย ไดโ ]]ต่!พรามซอนนหมดสนไฝ นละ:ไม่ม!ซอ อณพึม!ดีม]]ลิว ไฟนนกไม่ม่!ซ็อ ต่องด!]ไฝ!!ลิว ( รึะ:ว่าไฝทิศไหนก็,ไม่ถก ) พร?!รึโขา ลิ, บระตถาคตทรงละเบญจขํนธ์ได1หมด ๒๕๑ ดูก่อนวิรึฉ? ! ขอทไฟดโ]ไฝนน ก็-ฉนนน!หมอนกิน แล !มอ!]ฌูฌูต-ว่า ]ยื่นสํตืว ( ยคคล ตโตน !รา]ขา ) พึงยญญ่เต !พรา?รูป ]วทนา ลิญญา สำขาร!]ละ:วิญญาณได ๆ รูป ]วทนา สำ!เญา สำขาร !!ละ:วิญญาณน2ฆ ๆ ตถาคตละ:ไดหมด!]ลิว ถอนราก!ง่าได้!!ลิว ทำไก่]ยื่น!หมอนตาลขอดดํวน ถงความมอกไม่ได้ คอไม่!ทิดขนอก ต่อไย่!ยื่นธรรมดา, ตถาคตพนวิ]ศย!]ลิวรึากยญญํตทชาวโลก!ขา โรยกว่า รูป ]วทนา สญญา สำขาร วิญญาณ, 1ยื่นผูมคณอำ!ลิก ไคร ๆ ริะ:ประ:มาณ'ไม่'ไค้’ แล?หยง'รูได้โดยยาก เปรยย!หมอน

6๖ มหาสมทรฉ?นน ไม่ควรริ2พูดว่า เกิด, ว่าไม่เกิด, ว่าเกิดก็ม่ ไม่เ กม, หริยิว่าเกิดก็หามิได้\" ไม่เกิดก็หามิได\" ด้งน (ไม่ควรพุดท่งห ขอ1ให้,ท่าน-ฑํไว่ดํงนแล).’* พระ'พุทธพป็น์เปรยบเหมือนแกนไมสาละ ] ๒๕๒ ] เมิยิพร?ผัมิพร?ภาคเท่าตริสอย่างนแลํว่ วํรีฉโคตร- ปริพพาชก ริรกรายทูล'ชมเชยพร?พุทธพาน',ร่า ขาแต่ท่านพร?ไคดม ผูเริริญ! พร?พุทธผรินของท่านพร?โตดม (ทตริสมาแล้วนนๆ) เย็นพร?ดำริสทปราศรีากกง ใย เปลอก สะเก็ด แล?ก?พ ( คอปราศรีาก คำทไม่เย็นฝร?โยชน์ ) คงเหลออยู่แต่พร?ดำริสทเยคึอ่นแสากร่?น ล้วน ๆ เท่านน เปรยยเหมิยินต้นสาล?ใหญ่ ซ้งมิก็ง ใย เปลอก สะเ 9. I* แล?ก?พิ หลดล่วงกร?เท่า?ไปโดยลำดํย เพรา?เย็นขยิงไม่\\! )ทิยง เหลออยู่แฒ่ก่นลวน ๆ ฉะนน โ วจฉ่โคตรปริพพาชก ประกาสตนเบนอบาสก เ ขาแต่ท่านพร?โคดมผเรีริฌู ! ภาษิตของพร?องค์แท่งแท่ง 4พเรา?ใเก พร?เท่าขา ! เปริยยเหมอนคนหงายชองท้ควํ่า เยดของ ทฃด ยอกทางแก่คนหลงทาง หริอส่องย่ร?ท่ฝในทมิด ให็คนมิตาด้ เห็นรปได้ กินใด ท่านพร?โคดมทรงปร?กาศธรรม โดยอเนกบรรยาย กินน5น, ขาพร?พุทธเท่าฆ ขอถงท่านพร?โคดม กยทงพร?ธรรมแล?

^(ท่) พร?สงฆ์ว่า เยื่นสรณ?ท่พื้ง ขอท่านพร?โคดร]ริงทรงรำขาพร?พทธ!รำ ว่า เยึนอยาสก ณ้ขํ้าถื้งพร?รํตนตรํยรินตลอดชื่วิต ตงั้!เต่านิน ไป พร?เรำ'ขา ! ” ด้งนิ!!ล. ริยอํคคิว่ริฉโคตตสูตร ท ๒. ©๓

ม่ชฌิมนิกาย มชฌิมบณณาสก์ เล่ม ๑๓ หนา ๒๕0-๒๖๒ ป?พพาซกวรรคท ๓ มหาวจฉโคตตสูตรหึ ๓ [สสานที่ตร่สทระสูตรน ] [ ๒๕๓ ] ฆหาวรึฉโคตตสูตรน์ พร2ผู้!ผพร2ภาคเรึา ตรสเมื คราวปร?ท้ยอย่ ณ พระวิหารเวฟัวัน กลํนทกนิวา!เสถาน เขตพระนคร- ราชคฤหวิ [ วํชิฉ่โคตร หลขอใ.หทรงแสดงธรรมโปรดตน ] คราวนฆฝริพพาชก ชอวัรึฉโคตร เข้า'ไปเผาพระผมืพระภาคาเ•ริ ถิงท่ประทํ!] และได้สนทนาปราศรไเพอสมควรแล่วิ เมือได้โอกาส ได้กรา!]ทูลขอไห์ทรงแสดงธรรมแก่ตนว่า ะ- “ขาพเรึาเคยสนทนาก่!]ท่านพระโคดมมาเย็นเวลานานแล่วิ (คอ หลายครงแล่วิยํไ,ไม่เคยรยกวนพระทํข ใหทรงลำขากอะไรเลข ) ขาพเรึวิ'ขอประทานพระวโรกาสเถิด พระเริาชา! ขอท่านพระโคดม รึงทรงแสดงธรรม ทํ้งํ้ทเย็นกุศลและอกุศล แก่ขาพเรึาโดยข่อเถิด พระเรึวิ'ขา เ”

๔๔ พร;ผมพร;ภาค!ริา ตริสว่า ‘ำราริ;พื้งแสดงธรรมแก่ท่าน ทำท!!]แกศล!!ล;ฏกก็ล โดยย่อก็!ด\" โดยพิสดารก็!ด1โ ก็แต่ว่า!ราริก แสดงธรรมแก่ท่าน ทำท!ยื่นกก็ลแล;ยิกคลโดยย่อก่อน, ขอใหริว่านตง- ำพงธรรมน์นใหัดต่อ!ย]!กิด” ครนทรงรนสํ่งด้งน์แล่า ริง!!สดงต่อ! [ อกุสลมูล ๓ กุสลมูล ๓ ] 1 ๒๕๘ ] “ ดูกยินาริฉ;! โลภ; อยาก!ด้\"๑ เทส; คิดฝร;ทุน- ราย!ขา ๑ โมต; ตลง!ม่รริริง ๑ ๓ ขอน!ยื่นอกคล (ชาง!มด). อโลภ; โม่อยาก!ด'\" ๑ อโทส; ไม่คิดปร;ทุนราย!ขา ๑ อโมต; โม่ตลง ๑ ๓ ขอน !ยื่นกคล (ผายขางด็ โ” [ อกุสลกรรมบถ ๑0 “ ดก่ยึฆวํริก;! ( ธรรม ๑0 อย่าง!ตล่าน !ยื่นอกคลกรรมยถ * ค็ยิ ทางแห่งกรรมท!ม่ด็ไม่คารกร;ทำคอ โ ะ- ๑. ปาณาต็บาต ทำช้วิฅสัตวใหตกล่วงไป คอฆ่าสัตว์ ๒. อท้นนาทาน สักขโมยส์งของ ๆ ผู้อนท้เจาของไม่ 1ๅเด2^!‘ๆ,ห^ ๓. กา!มสุ มิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม [ ๓ อย่างน!มนกายกรรม คอทำทางกาย

๑00 ๔. มุสาวาท พูดเทจ ๕. 4บสุฌาวาจา พูดส1ิ-่* อเสิ่ยดยุยง ๖. ผรุสวาจา พูดคำหยาบ ฟ่. สัมสัปปลาปะ พูดเห้อเจอ หาสาระมิได้ [ ๔ อย่างน เบนวจกรรม คอทำทางวาจา ๘. อภิชฌา โลภอยากไห้ของเขา ชิ'. พยาบาท ปองรายเขา ๑0.มิจฉาทิฎเ เห็นผิดจากคลองธรรม.” ~๓ อย่างนเบึ่นมโนกรรม คอทำทางใจ] กุสลกรรมบถ ๑0 “ดูก่อนว้จฉร! (ธรรม ๑0 อย่านหล่าน์ เย1ฆกุศลกรรมบถ คอเข็นทางแห่งกรรมทด ควรกรรทำค็อ) ะ- ๑. ปาณาติปาตา เวรมณ เวนจากทำชวิดสัตว์ให้ตกล่วงไป ๒. อทินนาทานๅ เวรมณ เวนจากสัก1ขโมยส์งของ ๆ ผู้อนทิเจา ของไม่ได้ให้ ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณ เวนจากประพฤติผิดในกาม ๓ อย่างน็ เบน กายกรรม คอทำทางกาย ๔.- มสาวาทา เวรมณ เวนจากพูดเท็จ ๔. พบูสุฒย วาจาย เวรมณ^่ Xเวนจ*ากพ,ูด2ส่อเสยดยุยง

6)06) ๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี เว้น'จากพูดคำหยาบ ฟ่. สัมผัปปลาปา เวรมณี เวนจากพูดเพอเจอ หาสาระมิไ/ [๔ อย่างน เบนวจกรรมคอทำทางวาจา] ๘. อนภิชฌใ ไม่โลภอยากใ/ของเขา ๔. อพยาบาท ไม่พยาบาทปองรายเขา ๑0. สัมมาทิฎเ เห็นชอบตามคลองธรรม” [๘อย่างน เบนมโนกรรม คอทำทางใจ] “ ดูก่ยิฆวัริ-ฉะ ! ติณทา ค็อความทะยานอยาก เขนอํนภิกบ ละได้หมด;เล้ว่ ถอนราก;ง่าได้แล้ว ทำใทํเย1น;ทมอนตาลยอดด้วน ถงความมอึกไม่ไ/ คอไม่เกิดอึกต่อไฝ เยื่นธรรมดา. ภิกขุฆน เยื่นพระอรหฆ์ตขณาสพ ประพฤติพรตมริรรขริยแล้ว มกิริทควรทำ เธอ'ได้ทำ;สร็ริแล้ว ■มภาระ (คอ;ยญฟนธ็,) อํน;ออปลงไ/;ลว่ ตามยรรลประโขซนของตน;เลว ม/,โยซนคอกิเลส;ครองผกส่ตว่ใน ภพสนรอยแลว พนวิ;ศบ;เลว เพราะรโดยรอย.” [ ภิกษุณีผู้บรรลุอรทดตผล มจำนวนมาก \"๒๕๕] วสัฉโคตร ทลถามว่า “ยก;วินท่านพระไคดมเสย ('ไม่/ยอ่งพดถื้ง) ?สย่วนภิกษย ุรุ.Iเหนง ผ้เยื่นสาวกของท่านพ

6) 0เ2) ทำให้แริร ( คอฆรรล ) เริไตวิ!ตติ และ!เฌูญาวิคุตติ ยินหา อาสวะมได้, เพราะอาสวะท1งหลายสินไฝ ด้วยยฌูฌูาควา!รขงเฉพาะ ตนเอ-}'ในภพยริคุบนน (คยึเยื่นพระอรหนต) !อยIภังหร้อ? พระเด้าขา ” โ พ. ตริสตอขว่า “ พวกภิกคุผเยื่นสาวกของเรา ( ฑยรรลุคุณ- ธรร!ซนสงสุด ชัง!ยี่นพระอรทํน์ต์ !อย'ในภพนริคุยโ,เน คอเวลไนํ้ ) !ริานวนนิใช่ร้อยเด็ยว นิใช่สอง-สา!-สิ-ห้วิร้อยเลย แท้!!ากทํเด็ยว. อัจฉะ ทลถา!อกว่า “ยกเวนท่านพระไคด! และพวกภิกคุไว้ เสยท้ ( ไ!ตองพดถื้ง ) สวนภิกคุณแ!รฝหน็ง ผูเยื่นสาวิกาของท พระ[คด! ทํท่าให้แริง (คอยรรล) เริโต'วิ!ตติ และยื่ฌูฌูา- วิคุตติ ( เห!ยินอย่างพวกภกคุดงท้พระองค์ทรงแสดงแลวนน ) !อข ยางทร้อ ? พระเริาขา ! พ. ตริสตอยว่า “พวกภิกคุณผเยื่นสาวิกาของเรา (ทํยรรล คุณธรร!ช่นสุงสุด ชังเยื่นพระอรห์นต์ !ยิย่ในภพยริคุย่นน ค์ฏ ๑. ความ111จฅไนัหลุดพ็นจาก(แลสาส')ะ!กรอง!ศร าหมอง ถ งค วาม!บ เ4ผู้!!5ส11[เ คย สนเชิง เรยกว่า ว่มุฅต. วมุตติทมสมา?!บื่นปนัฏฐาน คอท่านผู้บรรลุ,!ด*0เๅนมาก่ค14 แล่ว ชงเจรญวบั๋สสนาต่อ ช''ด!บน เจโฅว่มุตติ. ว่มุตติท'!นับรรลุควยลำVงงเจ?ญ วบสสนาล่วน ๆ จํดเบนบั๋ญญาว่'มุตติ. อย่างตน ไคแก'วมุตตของพระอรนันตลัไค้ ว่ชชา 0, และอภญญา ๖. อย่างหลังไค้แก่ของพระอรห\",นติสุขวิบสสก.

6) 0 ดา เวลาน ) มิริานวฆมิใช่ริอข!ด็ขว มิใช่ สอง-สาม-ส-หำรํธยเลย โดยทแท้!มมากท!ด็ยว.” อุบาสกผู้บรรลุอนาคามิผล มจำนวนนาก ๒๕๖ ] วํริฉะ: ทลถามต่อไปว่า “ ท่านพระ:โคดมมิด พวก ภิก!เมิด็ พวกภิกยณก็ด็ (ท!!)1นพระ:อรหนต) ริงยกไว่!ส์ยท (ไม่ ต่องพดถื้งอก ) ส่วนอุ!]าสก!!มิคฆหนง ผู้!ยื่นสาวกของท่านพระ;โคดม ผ้ายคฤหโว่ถร์งย่งฆ่งผ้าขาว เยื่นสพรหมริาร้ ( คอ!ยื่นผู้ประ พรหมริรรย่อย่างเคร่งคริด เวนริากกามเด็ดขาด ) เย็นโอปปาติกะ: ( คอ ขรรลุ!ยื่นพระ:อนาคามิ) เพราะ:โอริมภาคิยส่งโยชนเยองต่ .ห อย่างสนไป ริกปรินิพพานในภพทไฝเกิดน2น ไม่ต่องกล!เมาริากโลก นํ๋นเยื่นธรรมดา มิอ!เยางหริอ ? พระ:!-ริ’าขา ” พ. ตริสตอยว่า “อยาสกท่งหลาย ผู้!ยื่นสาวกของ!รา ผ้ายคฤหํลมิซ์งย่งน่งผ้าขาว เยื่นพรหมริาริ ( ทขรรณยื่นพระ:อนา เพราะ:โอริมิภาคิยส่งโยซนเยื่องตํ่าหำอย่างสนไป ด้?กล่ มิริานวนมิใช่รอย!ด็ขว . เดยท!!ท่มิมากท่!ด็ขว. อบาสกผู้บรรลุเบนVIระโสดาบนเบึนตน นจำนวนมาก ว่ริฉร ทุลถามต่อไปอกว่า “ท่านพระ:โคดมมิด็ พวกมิกมมิด็

พวกรากอุณึก็ด ( ฑเชื่นพระอรหินต์ ) แล2!เยาสก ( ท!ยื่นพ^- อนาคาต็ ) ก็ด็ ริงขกไว่!สยท ( ไม่ต่องพดถงอก ) ส่านอยาสก]!น คนฅน็ง ผู้!ยื่นสกวกขยิงท่านพร;โคดม ผายคฤฅ์ส่ถ์ ทยงฆ่งผ้า'ขาว ยิงย,ริ'โภคกามอยู่ ( คอยงมครยิยคม้ว่อยู่ ) นณ่ยื่นผู้'ท่าต ฝร;พฤติตาม!ฉพา;พร;โอวาท (ของพร;องค์,อย่างมฆคงไม่!ยิน!อึยง) ขามความสงสยได!!ล่ว่ ปราศริากความ!คลอย!!คสงไดหมด ถงความ !ยื่นผู้!!กลวกล'า■อาริหาฌ แล;!ยื่นผย้ไม่!ซือต่อผู้ยินในคำสอนของ V สาสดา ( ค์ยิไม่!ซอต่อคำสอนของศาสดาอึน นอกริากคำสอน แห่งศาสดาของตน ท!ยื่นพร;โสดา!โน!ยื่นตน) ม่อยยางตรอ? พร;!ริาข์า ” พ. ตร้ส์ตอยว่า “อยาสกท่งฅลาย ผ!ยื่นสาวกของเรา ผายคฤหํสถํ, ทข้งน่งผาขาว ขงยริโภคกามอยู่ ( ดงกล่าวแล,ว!ย น1ใ! โ ม่ริำนวนมิไซ่รอย!ดยว. โดยท!!ท่ม่มากท!ด็ขว.” I อบาสิกาผ้บรรลุษระอนาคามิผล มจำนวนมาก 7ริฉ; ทลถามต่อไย่อึกว่า “ท่านพร;โคดมกด พวกภิกอุกด พวกภิกยณีก็ด้ (ท!ยื่นพร;อรห่นต์) อุยาสกท1งหลาย ผายคฤฅ์ส่ถ ทย์งน่งผใขาว (ผู้!ยื่นพร;อนาคาม่) กํด็ แล;อุยาสกท่งหลาย ผายคฤห่ส่ถ ทึย์งนุ่งผา'ขาว ยํงยริโภคกามอยู (ท!ยื่นพร;โสดายํน เยื่ฆตน) ก็ด็ ริงยกไว!สยท (ไม่ต่องพดถงอก) ส่วนอุขาสกาแม้

๑0(5! คนหน็ง ผเยื่นสาวิกา'ของท่านพร? เคด,ม ผายคฤหํสถ์ ท่ย์งน่าผา'ขาว เยื่นสพรหมจาริน (คํอเยื่นผู้ประพฤติพรหมจรรย์อย่าง!คร่งครํด 11นิจากกามเด็ด'ขาด) เยื่นโอปปาติกะ (คอยรรณยื่นพระอนาคาม) เพราะ โอรไม่ภาคิยส่งโขชนยื่ยยิงตํ่าหาอย่างสนไฝ จิกปรินิพพานใน ภพทไฝ.เกิดใ!น ไม่ติองกล!]มาจากโลกน๎นเยื่นธรรมดา ม่ยิย่ย่าง ทรอ ? พระเจาขา ” พ. ตรสตยิยว่า “ พวกอุยาสิกาผู้เยินสาวิกาของ!รา ผาย คฤหํสถ์ท่ย์ง์น่งผาขาว เยื่นสพรหมจาริน ( ดํงกล่าวแล้ว!!เนติน นน ) ม'จำนวนมิใช่ร่อยเดขว โดยเทแท้,มมากท่เด็ขว., อุบาสิกาผู้บรรลุเบนพระโสดาบินเบนตน มีจำนวนมาก ' วํจิฉะทลถามต่อไม่อกว่า “ท่านพระโคดมก็ด็ๆ ลฯ พวก อุยาสิกาผู้!ยื่นสาวิกาของท่านพระโคดม ผายคฤห็สืถ์ท่ย่งน่งผาขาว เยื่ฆ สพรหมจารินิ ท่เยื่นโอปปาติกะ (ยรรณยื่นพระอนาคาม) ก็ด จงยกไวั เสิยท ( ไม่ติองพดถงอึก ) ส่วนอุยาสิกาแม่คนหนง ผู้!ยื่นสาวิกาของ ท่านพระโคดม ผายคฤหํสถท่ย่งน่งผาขาว ขํงยริโภคกามอยู่ (คอ ย่งึม่ครอยคริวอยู ) แต่!ยื่นผท่าตามคำสอน ประพฤติตามเฉพาะ พระเอวาท (ของพร?องค์อย่างมนคง ไม่เอนเอยง) ขามความ สงสยไดแลวิ ฝราคจากความ!คลอยแคลงไดหมด ถื้งความ!ยื่ฆผู้ (?) (5เ.

๑๐๖ แกลวกลาอาริหาญ แล?!ยื่นผไม่!ซอต่อผอึนไนคำสอนขยิาศาสดา ( คอไม่!ซอต่อคำสอนขอาศาสดาอฆ นอกริากคำสอน!!ห่าศาสดาขอา ตน ทเย็นพร?โสดายํน่!ยื่นตน) นื้อยู่ยำงหรอ? พร?!'ริาห้ไ!,’ พ. ตริส่ตอยว่า “พวกอุยาสิกาผ!ยื่นสาวิกาขอา!รา ผาย คฤหส่ถทขำน่าผาขาว ยำน?โภคกานอยู (ดากล่าว!!ลิว!ยื่นต่ฆฆน) น^ิร0ิานวนน^ิ6ไ I'ใ2ช-^ ่^รอย!ดยว^ V นิใช่ สอา^-สา^น0-/ สิ-หาร•^ิ.ยิน!ลน ; โดยท!!ห้ ฆนากท!คนว.1 [ บริษท ๔ ได้บาเพ็ญธรรม'ใทบริบรณ พรหมปีรรยํ ก็บริบรณ่เต็มที่ ] ไ เอ๕๗ ไ ส่อไม่น วํริฉโคตรฝ?พพาซก ไดกรายทลพรรณนา ถาควานทพรหนริรรย ( คํอศาสนา ) ทริ?!ยื่นพรหมริรร{เถาควาน ขริยูรณ!ต็น!นยน หรอไม่ถาควานย?ขรณ์ !พรา?นิกน; นิกอุณ อุยาสกหรออขาสิกา ไดยำ!พ็ญธรรม ( คํอ ศล สมาธิ ยญญา ) ให้ ย?ยูรณ์ หร้อไม่ได้ยำ!พ็ญไห้ย?ยูรฒ์ท่านํ่น์ {ยื่นมล!หตุสำคํฌ รวยรวน!อา!!ต่ไริควานแลว นื้ดํงต่อไม่นํ้ค็อ ะ- “ขาแต่ท่านพร?โคดนผ{ริ?ญ! ก็ถาท่านพร?ไคดม ริกไดํท่รา ยำ!พ็ญธรรนนไห้ยริยูรณ์!พขงอาค!ดยว!ท่านํ้น ส่วนพวกนิกน ริ ยำ!พ็ญไหํยํ?ยูรณ!!ลิวไขริโ 1เนื้อ!ยื่น!ช่นใ!น์ พรหนริร

©0๓) ศาสนา) ฆํ้ ก็ท้าไม่ยริขรณ6เต็มทไดเ้พร\"า?ขอท.พ-วก-ภิกษุมิได้1 ยำเพ็ญฆ1ณ!!ฆมูลเหตุ แต่!พรา?ท่านพร?โคดร! แล?พวกภิกษุ'ได้ท เ!ล?ยำ!พ็ญธรรมนให้ยํริยรณ6!!ลำ, พรหร!-1รรย์ ( คอศาสนา ) ฆ รี-•ร!!!นขยึร!)?ยรณไดด้วยเหตุทาสอรอย่ารณน,, “ แต่เพรา?ท่านพร?ไคดร!แล?พวกมิกข ได้ทรงแล?ยำเพ็ญอรรร] นให้!เริขูรณ์แล้วเพ็ขงสองพวก, ส่วนพวกภิกษุณมิใดยำ!พ็ญไ เลข เมือ!ขื่นเช่นนนํ๋ พรหร!สรรย6, ( ค็อศาสนา ) น์ ก็ท้า'ไม่!เริยรณ เต็มทได้\" เพรา;'ขอทพวกภิกษณึมิไดยำ!พ็ฌูนํ้ฆ!ย็1ขมลเหตุ, แต่เพ ท่านพร?ไคดร! แล?พวกภิกย ทงพวกภิกษณ ไดทรงแล?ยำเพ็ญให้ ขริ!เรณ์แล้ว, พรหร!สรรย์ (คอศาสนา) น สื้งเย็นของยริยรณ6เต็ม ทไดํด้ำยเหตุทงสามอย่างนน ” ” ๒๕๘ ] “ ขาแส่ท่านพร?ไคดมผู้!ริริญ ! ก็ล้]ท่านพร?ไคดร! แล? พวกภิกข ทํ้งพวกภิกมูณึ ไดทรงแล?ยำเพ็ญให้!]ริยูรณ!!ลว!พ็ข พวก, ส่วนพวกอเยาสกผายคฤหสถ6, ทขํงนงผาขาว เยื่นสพรหมสาร์ ( คอ ผู้!!ร?พฤติพรหมสรรย่อย่างเคร่งคริด้ เวํนสากกามเด็ดขาด ) ท้าไม่ ได้ยาเพ็ญให้ยริขรณแลำไฃ'ริ,'เมือเขนเซ่นน2ฆ พรหมสรรข ( คอ ศาสนา) นํ้ ก็ท้าเยนของไม่ยริขรณ์เต็มทได้\" เพรา?ขอทพวกอยาสก มิได้ยำเพ็ญฆฆเยื่ฆมลเหตุ, แต่เพรา?ท่านพร?ไคดม แล?พวกภิกษุ ภิษุกณึ ทงพวกยิขาสกผายคฤหสถ Iยิงใ]งล้าขาว เขนพรหมรีาริ

6)0^ ได้ท่รงและบำเพ็ญได้ย?ยูรณแลว, พรหมริรรบํ7 ( คอศาสน จื้งเยื่นของย?ยูรณ,!เต็มทได้ด้วยเตตุทํ้งสยิย่างฆํ๋น.” “ขาแต่ท่านพระโคดมผเริ?ญ! ก็ถาท่านพระโคดม และพวก ภิกษุ ภิกษุณ ทาพวกอ!ภสกผายคฤหส่ถ็ ทยํงืน่าผ้า'ขาว เยื่ฆ สพรหมริาร ริกได้ทรงและยำเพ็ญได้ย?ยูรณแลวเพ็ขงส่พวก1 ส่วน พวกอมาสก ผายคฤหส่ถทบํงฆ่งผ้า'ขาว ทยงย?โภคกามอยู่ ไม่ บำเพ็ญได้ย?ยูรณ์แลวไซรโ เมึอเย!นเช่นมน พรหมริรรข ( คอศาสน นํ้ ก็ริำแยื่นของไม่ยริยูรณเต็มทได้ เพราะขอทอยาสกมิได้ยาเพ็ นฆเย็1นมลเหต, แต่เพราะท่านพระโคดม และพวกภิกษุ ภิกษุ พวกอยาสกเำยื่นสพรหมรึาร้ ท1งอุเยาสกผู้ย?โภคกามอยู่ ได้ทรงและ บำเพ็ญได้ย?ยูรณ์แลว, พรหมริรรย ( คอศาสนา โ นํ้ ริงเยื่นของ ย?ยูรณ์เต็มทไดํด้วยเหตท1ง์ด้าอย่างนฆ.,’ “ ขาแต่ท่านพระโคดมผเริ?ญ ! ก็ส่าท่านพระโคดมด้วย พวก ภิกย•ด้วย พวกภิกษุณืด้วย พวกอยย าสก ผัเยื่นสพรหมริาริด้วย และ ? พวกอยาสก ผย?โภคกามด้วย VI ดชิ-ท' รงและ!ำเพ็ญได้ย?ยูรณแลว เพ็ยงด้าพวก, ส่วนพวกอุยาสิกา ๘! ผเยึนสพรหมิริาริน็ ๆลฯ แล พวกอุยาสิกา ผบํงย?โภคกามอยู่ ไม่ไดยำเพ็ญได้ย?ยูรณแล ๑. พวกอุบ'เสกและอุบาสิกา ผู้เบนสพรหมจารหรอสพรหมจารน้ หมายเอาท่านผู้ บรรลุเบนพระอนาคาม, ๒. พวกอุบาสกและอุบาสิกา ผู้ยังบรโภคกาม หมายเอาท่าน ผู้บรรลุเบนพระโสดาบน.

๑๐๙ เมือเยินเซ่นนํนํ พรหมริรรย็ ( คอศาสนา ) นํ้ ก็ริกเข็นของไม่ย?ยู เต็มทได\" เพราะฃ็อท้พวกอุบาสิกา ผู้!ยนสพรหมริา?น็ แล?พวก อุยาสิกา ผู้นํงย?โภคกาม มิ!ดยา!พฌูนนเยื่นมลเหต1 แต่เพรา? ท่านพร?โคดมดาย พวกภิกษุดาย ภิกษุณีดวข อยาสกผู้เข็น สพรหมริารด๎วย อุยาสกผู้?เงย?โภคกามดวข แล?พวกธยาสิกา ผู้!ย็นสพรหมริารน ตลอดทงพวกอุยาสิกาผู้ยํงย?โภคกาม ไดทรง แล?ยำเพ็ญโหยริยรถ/แลว, พรหมริรรยํ ( คอศาสนา ) น์ ริงเข็น ของย?ยูรณีเต็มทไดดท่เขเหตุท2งหกแล?เริดอย่างนน.” ! บริษํท ๔ ปฏิษิตนอมไปสู่พระนิพพานทํ้โหมด [๒๕๔] วํริฉโคตรย1?พพา'ชก กรายทูล'ชมเชยพุทธย?ษิท่ว่าะ- “ขาแต่พร?โคดมผู้เริ?ญ! ย?ษิทของท่านพร?โคดม พรอม ทํ้ง์คฤหํสถ์แล?ยรรพชิต มแต่-ริ? ( ปร?พฤต็ ) นอมไฝ โอนไฝ เอน'ไฝส่พร?นพพาน แล?ตํ้งริรดพร?นิพพานอยู่ ( ทงหมด ) เปรยบ เหมอนแม่นำคงคา มแต่ริ?หลํ่งไหล โอน เยินไฝสูสมุทรแล?ต็ง์ริรด 1^ สมุทรอยู่ฉ?นน. [ วํจฉ่โคตรทูลชมเชยพระพุทอภาษิต แล้วมอบรรพชาอปสมบท “ ขาแต่ท่านพร?โคดมผู้เริ?ญ ! ภาษิตของพร?องค์ แริ,มแริ

6)๑0 พเรา;นก พร;เข่าข่า!ๆลๆ ข่าพร;พุทธเข่าน์ ขอถืแ ้งท่านพ ก^ยท0-ั้งพระธงรม และพรธะ,เสงฆว่ฒาึ๘่!นสรณะท้พ้ง แล ะขอพ^-รไVIด4.-/้ บรรพซาอุปสบบทอยู่ไนสำนํกของท่านพร;โคดบเถิด พร;เทขำ เ” ผ้ทถือศาลนาอนมาแลว ตองอยู่อบรม ๔ เตือนก่อนจงบวชไต้ พร;ผ้บืพร;ภาคเข่า ทรงรโ)สงว่า “ ดูก่อนว่ข่ฉ;! ผูท้เคย)ยื่น เด็ขรถบ์ คอ ถอลท'ออนมาแลว่ หวงริ;บรรพชาอุปสบบทในธรรบวินยืนํ้ ตํยึงอยู่ปริวาสอบรบครบถง ๔ เด็อนก่อน เบือล่วงไฝ ๘ เด็อนแล พวกภิกอุพอใริ ริงริ;ไล่บรรพชาแล;อุปสบบทเพป้ควาบเยื่นภิกอุ ว่ริ1ผิ; กรายทลว่า “ข่าแต่พร;องค์ผู้เริ?ญ! เบือ!ยื่นเช่นนน แล่ว ข่าพร;พุทธเข่า ริกอยู่ปริวาสอบรบไท่ครบถง ๔ ย พร;เข่าข่า! ต่อเบือล่วงไป ๙เ ยแล่วฺ พวกภิกอุพอใริ ริงใล่ชาพร;พุทธเข่ อุปสบบทเถิด พร;เข่าขา! ไม่ ( พร;ผมพร;ภาค!'ข่า ทรงเล็งเห็นเขาบืศรทธาแรงกล่า หวนไหวเซ่นนนแล่ว ก็ทรงอนญาตใล่บรรพชาอุปสบบทในล่นใดนํ้น์ ตาบควาบฝร;สงค์) ! ท่านข่ปีฉืโดตรภิกษุ ไดบรร๓ลุผเบลนืงองต้น เอ ๖ 0 ก็ท่านว่ริฉโคตร เบืออุปสบบทแล่ว่ไม่นานใเพเกืขง

6)6)6) กิง!ดอน!ท่านน ไดํ!ข้าไป!ผาพร/ผูฆพระภาค!ข้าถงทปรรทํย แล2 ไดกรายทูลถื้งผลท่ง ๓ !ยื่องตน ทตนได้ยรรล!!ลวิ ทํงได้ ขอไห่ทรงแสดงธรรน!!ก่ตน ไท้ยง ๆ ขนไปว่า “ขาแต่พระองค์ผ!ริริฌ! ผ๊ลทง ๓ !ยองตำ ทขคคลพื้งยรรลุ ไดด้วยฌูาณและวิซซาของพระ!สขะ นนทํ้ง์หนด ขาพระองค์ได้!]รรล แลว ขอได้ไปรด)!สดงธรรน!!ก,ข้าพระ องค์ ไท้ยง ๆ ข์นไปอก)ถิด พระ!ราข้า เ” ทรงสอน'ไหเจริญสมถะ และริบัสสนา พ. ทรง!!สดงว่า “ดูก่อนวิริฉะ! ถา!ซ่นน์น ขอไห่ไธอริง !ริริฌูธรรน ๒ อย่าง ค์อ สนถะ และวิ!]สสนา ไท้ยง ๆ ขั้นไป!ลิด !พราะธรรน ๒ อย่างน ครํ้ณธอได้!ริริฌูไท้ยง ๆ ขนไป!!ลิว ริก!ยื่นไฝ !พอ!!ฑงตลอด ( ค็อร ) ธาตได้หลายประการ. ’ [ ทรงแสดงอภิญญา ๖ แก่ท่านว่ป็ฉโคตรภิกษุ ๑. อิทธิริธิ แสดงฤทธได้, ไ ๒๖5) ] พ. ทรง!!สดงต่อไฝว่า “ ดูก่อนวิริฉะ! !ธอ'ริก !พยงหางด้วยควานตงไ'ริ!ท่าน1นว่า ำราริะพื้งยรรลอทธิวิธี (ค์อ แสดงฤทธต่างๆ) ได้หลายอย่างค์อะ คน!ด้ขา ทำ!ยื่นหลายคนก็ได้ . ผลหง ๓ เบองฅํ่า หมายเอาโสดาบฅตผล ๑ สกทาคามิผล ๑ อนาคามิผล ๑.

06)153 หลายคนกล้ยิ!ยื่นคน]ด็ยวกโด\" ทำ,ไหปีรากฏตำก็!ด้\" ทำไหํหายไฝก็ได ทะลุฝากำ!!พงภ!ขาไปได้ไม่ต็ดขํด ดริไฝไนอากาศก็ได้\" ดำดินไ ดำลง'ไนนำก็'ได\" 'เดิน'ไปขนพนนาไม่!!ตกดุริ!ดินไฝยฆทนด้นก็'ได้\" ^ เส คยินัน้อากไฝาศดรินกยินก็ได้I 1 น ๒!1น 613 4 ^5เ (^0VI ชิ^ เอามอลยคลำพระรินท/และพระ-^ 0 0-^ ^ บ แ 1 II I เ' I า/ 14 I 113 14 I I 6 / เ (เบ เ^น เกI II กแกเ I เ๚ ะ) ๙ ^ 1 1 ๘ 4 4 0 า&- เ' \\ ๘ 0- - ย่ 1? ลาทิตย์ ทิมืฤทธานภาพมากก็ได้\" !หาะไฝด้วยกายตลอดพรหมไลก ก็ได้’ ด้าน เมือเหต ( คอความอธีนรู'านตาใริ ) มือย เธอก็ร อาริยรรลุความ!ยนผูสามารถไนอิทธิวิธิ คอ!เสดาฤทธต่าง ๆ นั้น ๆ ได้ ท!ด็ยว.,, ๒. ทิพพโสต หูท-**้พย๘็' '๒๖๒] ดูก่อนว่ริฉะ! เธอริกเพยาหวาด้วยความตาไริ!ท่า นั้นว่า ‘ เรารึะพาพา!สิขาได้\"๒ อย่าา ค็อ เสิขาทิพข และเสิขามนุษ-ข ทามือย่ไนทิไกล!เละทํไกลํ\" ด้วยทิพพโสตอาต (หทิพย์,) อินยริสทอ ล่วาเลยโสต'ขอาสาม่ฌูมนษย์ (เย็นไหนๆ) ด้าน, เมือเหต (คอ ความอธินรู'านตํ้าไริ ) มือยู เธอก็ริกอาริยรรลุความ!ย็นผูสามารถไน ทิพพโสตธาตค็ยิกำหนดพา!สิขาต่าง ๆ ด้วยหูทิพย์น1น ๆ ได้ท!ด็ ๓. เจโตปริยญาณ รู้จกกำหนดใจผู้อิน \" ๒๖๓ ] แ ดูก่อใ!ว่ริฉะ ! เออท้า!พขาหว่าด้วยความตาไริ!ท่ นั้นว่า ‘เราริะพากำหนดรไริ ขอาฒัวอนยุคคลอนได้ด้วยใริของ!รา ( คอ กำหนดเริตทิประกอยด้วยอารมณ์ ทํ้าทิเย็1นส่วนชว่และส่

6) 6) ปีโ) ©๖ อย่าง ) คอ พงกำหนด\"ริด้งน์ว่า ะ- ๑. ริตมภค? ก็พื้งรว่า ริตมราค? ได้แก่ริต!]ร?กอ!]ด้วข โลภมล ๘ ๒. ริตปราศริากราค? ก็พื้งรว่า ริต!]ราก็'ฑกราค? ได้แก่ กก็ลริตแล?อพขากตริตท!ยื่นโลก็ย ๓. ริตมโทส? ก็พึงริว่า ริตมไทส^ ๐' ท ด้แก่'ริตท!]ร?กอยด้วย ๐' โทมนส เอ (ร. ริต!]ราศากกโทส? ก็พึงริว่า ริตปราศทก'โทส? ได*้แก กศลริต!!ล?อณัขากตริตท!!เนโลก็ข ๔. ริตมโมห? ก็พึงรวำ ริตมึโมห? ได้!!ก่ริตมวิริกิริฉาแล? อุเทธ้ริริ?ครอ!!งำ ๖. ริต!]ราศ■ทกโมห? ก็พึง!ว่า ริตปราก็าากโมห? ได้!!ก’ กศลริต!!ล?ฒัยากตริตท!ยื่นโลก็ย์ ๗. ริตหดท่ ก็พึงรว่า ริตหดห่ ได้!!ก่ริตทมึถนมิทธ?ครอยงำ ๘. ริตพงซ่าน ก็พงริว่า ริตพงซ่าน ไดริ!กํริตทมอทธิริจุ? ครอขงา ก็พืงริว่า ริตกว่างขวาง ได้!!ก่ริตท!ยื่น ๔. ริตกว่างขวาง รปาวริร!!ล?อรปาวริร ก่พื้งริ'ว่า ริตไม่กว่างขวไาดง้!!ก่ ๑0. ริตไม่กว่างขวาง

©ด๔ จิตท;ขื่นกามาวริรมกาม;!!นอารมณ์ ไดจิ;ก่จิตท;ขื่นกามาวริรมกาม ๑๑. จิตยง ก็พ้ง!ว่า จิตยง Iขนอารมณ์ ©๒. จิตไม่ยง ก็พง!ว่า จิตไม่ยง ไดจิ;ก่ริตท!!เนรฝาวริร และ;อร!เาวาร ๑๓. จิตตํ้งมน ก็พง!ว่า จิตต2งม4น ได;;ก่จิตท;ขื่นอ!เริาร- สมาธิ!!ลรอ!!!!!ภสมาธิ ๑๘. จิตไม่ตงมน ก็พื้ง!'ว่า จิตไม่ตงมน ได!)ก่จิตท้ฝราก็ริาก สมาธิทํ้ง ๒ นน ๑๘. จิตกล?ดพน้น ก็พ้งร-ว่า๘ /ธึ1®^ *^ จิตหลดพ้น ได;!ก่^จิต2^หลดพ้นดิวข ตท่งควมตดึ!{ละ:วิกร่เมภนวิมตติ ๑๖. จิตไม่หลุดพ้น ก็พื้ง!ว่า จิตไม่หลุดพได้ินกน่จิตท ม่ราก็ริากวมตดึทงํ่ ๒ ฆน., ดิงน, {มือ!หต ( คอ ความอธิขเานตงใริ ไ มืยิข{่ธอก็จิกอาริ ขรรลุ ความ{ยื่นผูสามารถ,ไน;'ริ'โตป?ยญาณ คอ!จิกกำหนดไนริผอึ? ฆ2น ๆ ได้ท!ด็ยว.” ๔. ปุพ;พนิวาสานุสสติ ระลกชาติหนหลงไค้ '๒๖๘] “ดูก่อนจิริผิะ:! {ธอจิก็เพ้ยงหวํงดิวขความต1งใริ {ท่าน1นว่า 4 {ราพื้งระ:ลื้ก'ชาติก่อน (ของตน ) ได;ยนอนมาก คอ /

๑๑๕ ระลื้กได้ตง์แต่หนงชาติ สองชาติเขี่นตินไป ริฆถื้งพนชาติ แสนชา ตลอดสงวํภภูกํป็วิวํภภกํป็เย็1นอํฆมากว่า ‘ในภพโนน เรามซ็อ ภ โคตร ติผิวพรรณ ภอาหาร ได!สวยสุขทก'ข่อข่างนน ๆ และภ กำหนดอาย!พยง!ท่าน์น ๆ ครนริดีริากภพน1ฆ!!ล่ว ได้ไฝ!กิดในภ โนน แม้ในภพโนน เราก็ได้มซ็อ ภโคตร ติผิวพรรณอย่างฆนๆๆลฯ และติกำหนดอายเพยง!ท่าน”น ๆ, ครนริติริากภพนนแล้ว ก็ได้ม้า!กิด ในภพฆ (ค็อชาติน์) เราพงระลื้ก'ชาติถง'ชาติก่อน (ของตน) ได้เย1นอ้นมาก... ด้งกล่าวมาแด้'วน, ด้งนํ้, เติอ!หตุ (คอควา อธินเาฆตงใ-ริ ) ติอข่ เธอก็ริกอาริขรรลุความ!ยนผู้สามารถในขพ!พ นวาสานสสดีญาณ คอรริกํระลกชาติในหนหล่งนน ๆ ได้ท!ด็ขว.,, ๕. ทิพพฆัาขุญาณ รูเห็นความจุติและอุปบฅของสัตว์ทงหลาย ๒๖๕] “ดูก่อนว่ริฉะ! เธอริกํ!พขงหว่งด้วยความตงใริ!ท่ นนว่า ‘ เราริะพง!ห็นหม่สตวทงทกำลงริติ กำลงอุปย้ติ ทง์เลวประณี ติผิวพรรณด็และไม่ด้ ท1งรารวยและขากริน ด้วยทิพยริกม ทิยรสทธ ล่วงเลขริกมสามญมนมขํ, ฑงพื้งเได้ซ้ด้ซื้งหม่สตว์ทิ!ย็ ยถากรรมว่า สํตว์เหล่าน ประพฤติทุริริตทางกาขวาริาใริ ๆลๆ เติอ ตายไป ย่อมตกถงอยาย ทุคติ ธินิขาต นรก ( เขนทึ่สด ) ส่วนผิ' ทิประพฤติสริริตทางกาขวาริาใริๆลฯ เมอตายไป ย่อมเกิดในสคติ

ด®),๖ โลกสวรรค์' ( เย็นทสด )’ ด้งน, นาพื้งเห็นพุ่ส์ตว์ ทํ๋งิ้ท กำล่งือปชํต ฯลๆ ด้วยทิพย'ข้านุ ทฆริสทธล่วงเลขริก&สามํฌูมฆมย ด้งกล่าวแส*วนน ๆ’ ด้งน, เมือเหตุ ( คอ ความอธิทุ'านตงไริ ) ม อยู่ เธอก็ริกอาริยรรลุความ!ยนผู้สามารถไนทิพพริกขญาณ คอร เห็นความ'ริติ!!ลรอ!]ยํตของสํตว์ทงหลาขนน ๆ ได้ท!ด็ยว.” ๖. อาสากขยญาณ รู้จกทำอาสวะใหํ้หมดสินไป [ ๒๖๖ ] “ ดก่อนวํริฉ? ! เออริก!พยงหวงด้วยความตงใ-ริ เท่าน2น'ว่า เ เราริ?พื้งทำไห!เริง ( คอริ?พื้งยรร-ล) เริโต ความหลุดพนริาทกิเลสทางไริ แล?ยญญาวิมตติ ความหลุดพนริาก กิเลสทางยญญา, อนหาอาสว? คอกิเลสเคร้องเศภ้หมองใริมได้ เพรา?อาสว?ทง์หลายสนไป ด้วยยฌูฌูาความ’รู้ยงเฉพา?ตนเอง อยู่ ไนภพยี่ริริยํนนํ้, ด้งน, เมือเหต (คอความอธิย!มืาอนขต่งใ-ริ) เธอก็ริกอาริขรรลุ ความเย็นผสามารถไนอาสวกขยญาณ คอความร ริกท่าอาสว?นน ๆ ไห็หมดสนไปได้ทเด็ยว.” ท่านวํจฉ่โคตร ชำเหญเหยรแสาไดบรรลุเบนหระอรหนค์ \" ๒๖๗ ] คราวนํนแล ท่านวริฉโคตร ซืนชมยินด็ต่อพรร- พทธภามิตแล่ว ลุกริากอาสน? ถวายยงคมแลว ทำปร?ท่กยิณหลก

6)6)0^ ไ!] ครน!เลว ได้ล้กตนออกไม่อย่แต่ผั!ดขว เยนผูไม่ฝระนาท ยำ!พ็ฌูเพืขรส่าตนไม่อข่ ต่อกาลไม่นานนํก ก็ไต่ทำได้!ส่า ยรรลุ) ขงท่สุด!เท่าพร!')นรีรรข์ อิน!ยึ่ฆธรรมยอดเย้ขน ดาย!เถาฌู อินขาเฉพาะตน!อา อย่ในภพ!]ริริยํนนํ้ ซ้ากลยุตรท1งหลายเผออกยวซ เยฆ!]รรพ'ชิตโดย'ซอ!]ต่อนการนก ๆลๆ เย็นอินว่าท่านว่ริฉVโI คตร ด้ ยรรล!ย็นพระอรอินตองคใดองคหนา ในยรรดาพระอรอินต๎ท่าหลาย แลวแล. [ ท่านวปีฉ่โคตร สา'ใหนากภิกษกราบทูลแทนตวเอา 1 [10๖๘] ครนต่อนาสม่ยหนื้า ภ^ิกย0ุ-น^ากร!V]เ]ดต2้พ-/ าวกย0-น^อิน ไฝเผาพระผูนพระภาค!ส่า ท่านว่า'ฉโคตร ได้อินภิกษุเหล่ กำลำเดินไม่แต่ไกล ส่า!ขาไม่หา แล้วไต่ถาน ร้าไต่ทรายว่า ท่านเหล่านํนริะไย่!ผาพระผมพระภาค!ส่า แล้วได้สงฺให้ภิกษุเหล่ กรายทลพระพุทธอาค!แทนตํวท่าน-ว่า “ ขำแต่พระองค์ผูเริริ'ถู) ว่ส่ฉโคตรภิกยุ ขอกรายถวายยำคมพระยาทของพระผูนพระภาค!ส่า ดำย!ศขรเกล้า, และขอใอิกรายทลอย่างนอกว่า ‘ ขำพระองค์'ได้ยำเรอ พระผมพระภาค!ส่าแล้ว ขำพระองค์ได้ยำ!รอพระสุคตแล้ว 1 ดงนํ้, ภ เหล่านน รำ]คำของท่านวำฉโคตรแล้ว ก็!ขำไม่เผาพระผู้นพระภาคเส่ รินถื้าทฝระทำ ครนแล้ว ก็ไต่กรายทลตานคำทท่านว่ริฉโคตรสา ไล้

๑๑๘ 9 ทรงทรายทกย่ระการด้ากล่าวแล่วนม. [ท่านวปีส่โคตร ไท่บรรลุวิชชา ๓ มีฤทธานุภาหมาก พระผมพระภาค]ท่า ตรํสว่า “ดูก่ฒภิกนุทำหลา?]! ]รา กำหฆตรใริขอาวรินิโคตรภิกนุ ด้ายไริขอาเราก่อนแล่าว่า ‘ว่รินิโค ภิกนุ ได้!]รรลุวิชชา ๓ เยนผมฤทธมอานุภาพมาก, แก่!หล่าเทวดา ก็ได้ยอกเนํ้ยิความนแก่!ราแล่วเหมยินก่น., ด้าน. เมยิพระผมพระภาคเท่า ทรา]เสดาพระสตรนํ้รึยลา]เลว ภิกนุ เหล่านํ้นก็ยินด้ชน'ชมต่อพระพุทธภาษิตแท่ว ด้ายประการนิะนแล. ริยมหาารินิโคตรสตรท ๓ ร.พ. มหามกุฎราชวทยาลัย หนาว'ดบวรน้เวสาหาร พระ:นคร นายพน้ขิ อู่สำราญ ผูพมพโฆษณา ๑๔/๕/๒๕0๗



โซ&ซซ!) ช?#^#/7ภร7^โซ)ซ ถ11X7X1ระใแโ#! V!&ๆว้ร?'Vว?นโวสัา?}า1 'ไ/โ??. 23โ// 3 1? 1ร7ซ!แ^ร ซ่^)ร)โซ เซโต®ซซโรโซโซ;.7 ซซ. โโ. 1ว*3โ0 ทเ เ^.^ .'.'ต!ล-.\" จ'''*#* 3*855191*8