Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผ่นดินรองรับร่างกาย ธรรมะรองรับจิตใจ

แผ่นดินรองรับร่างกาย ธรรมะรองรับจิตใจ

Description: แผ่นดินรองรับร่างกาย ธรรมะรองรับจิตใจ

Search

Read the Text Version

ร่วมเป็นเจ้าภาพ พมิ พ์ธรรมะเล่มนอ้ ยได้ท่ี หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปญั โญ โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๒๘๐๐

รายชื่อหนังสอื ธรรมะเลม่ นอ้ ย ๑๒ เลม่ สำ� หรบั ปี ๒๕๕๕ ประกอบด้วย ๑. การมีอายุครบรอบปี...เป็นเช่นน้ันเอง ๒. สิ่งท่ีเป็นคู่ชีวิต ๓. มาฆบูชา วันน้ีเป็นการกระท�ำเพ่ือบูชาพระอรหันต์ ๔. ความถกู ต้องของการศึกษา ๕. ความหมายและคุณค่าของ ค�ำว่า “ล้ออายุ” ๖. การท�ำงานน้ันคือการปฏิบัติธรรม ๗. เศรษฐศาสตร์ของชาวพุทธ ๘. พระธรรมในทุกแง่ทุกมุม ๙. มอื ขวาทำ� บญุ อยา่ ใหม้ อื ซา้ ยรู้ ๑๐. ปวารณา คอื เครอ่ื งหมาย แหง่ คนดี ๑๑. ประโยชนข์ องความกตญั ญู ๑๒. ภมู ติ า่ งๆ และ แนวครองชวี ิต ๑๒ เล่ม ส�ำหรับปี ๒๕๕๖ ประกอบดว้ ย ๑. ธรรมะเผดจ็ การ ๒. ความเป็นไปของจิต ๓. ความเขา้ ใจถกู เก่ียวกับศาสนา ๔. พุทธบริษัทไม่ต้องใช้ยาระงับประสาท ๕. ธรรมท่ีลูกของพระพุทธเจ้าควรปฏิบัติ ๖. การบวช คือการบังคับตัวเอง ๗. โทษท่ีเกิดเพราะไม่มีวินัย ๘. อย่าง นั้นเอง ๙. มะพร้าวนาฬิเกร์ ๑๐. ชีวิตโวหาร ๑๑. สติ ๑๒. สันทิฏฐโิ ก ๑๒ เลม่ สำ� หรบั ปี ๒๕๕๗ ประกอบด้วย ๑. ธรรมะทำ� ไมกนั ๒. แผน่ ดนิ รองรบั รา่ งกาย ธรรมะรองรบั จติ ใจ ๓. สง่ิ ทเี่ รยี กวา่ กเิ ลส ๔. ธรรมคอื สง่ิ จำ� เปน็ แกม่ นษุ ยส์ ำ� หรบั ปอ้ งกนั และแกไ้ ข ๕. สงิ่ ซง่ึ เปน็ อปุ กรณแ์ กก่ ารเลกิ อายุ ๖. ทกุ สง่ิ อยเู่ หนอื ปญั หา ๗. รจู้ กั ธรรมะใหถ้ งึ ทส่ี ดุ ๘. เขา้ ใจพทุ ธศาสนาใหถ้ กู ตอ้ ง ๙. หลักธรรมท่ีทุกคนควรทราบ ๑๐. ธรรมที่เป็นเคร่ืองมือ การเดินทาง ๑๑. ผลพลอยได้ที่เน่ืองถึงกันและกันในโลก ๑๒. ธรรมะคือหน้าท่ี

แผน่ ดนิ รองรบั รา่ งกาย ธรรมะรองรบั จติ ใจ โดย พทุ ธทาสภิกขุ ล�ำดับที่ ๒ ประจ�ำปี ๒๕๕๗ www.bia.or.th

อบรมพระนวกะ วัดชลประทานรงั สฤษฎ์ ปพี .ศ. ๒๕๒๖ ลานหนิ โค้ง สวนโมกขพลาราม วนั ที่ ๒๔ ตลุ าคม ๒๕๒๖ ผ้ถู อดค�ำบรรยาย คณุ ศริ พิ ร อัศวช�ำนาญกิจ ผตู้ รวจทาน คณุ สุพีร์ ดีเด่นกจิ การ

แผน่ ดนิ รองรบั รา่ งกาย ธรรมะรองรบั จติ ใจ ต่อไปน้ีก็เป็นการบรรยายอย่างท่ีต้ังใจไว้ ส�ำหรับภกิ ษุ ขอทำ� ความเข้าใจในเบอ้ื งต้นเรือ่ ง น่ังกลาง ดนิ เดยี๋ วนเี้ รามาประชมุ กนั เพอ่ื จะศกึ ษาธรรมะ ขอให้รู้ไว้ทุกคนว่า ธรรมะนั่นมีก�ำเนิดกลางดิน ธรรมะมีก�ำเนิดกลางดิน นับตั้งแต่ว่า พระพทุ ธเจา้ ท่านประสูติกลางดนิ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั รกู้ เ็ หมอื นนง่ั กลางดนิ พระพทุ ธเจา้ ทา่ น สอนก็เมื่อน่ังกันอยู่กลางดิน ตรงไหนก็ได้ เดิน ๑

ทางอยกู่ ไ็ ด้ แมจ้ ะสอนทว่ี ดั ไอโ้ รงธรรมมนั กพ็ นื้ ดนิ น่จี งึ มีสอนกลางดนิ เรยี กว่าธรรมะมกี ำ� เนดิ กลางดนิ พระพทุ ธเจา้ ประทับอยู่กฏุ พิ ื้นดิน ใน ทสี่ ุดท่านก็นิพพานท่เี รยี กกนั วา่ ตาย กก็ ลางดิน โคนตน้ ไม้ พระพุทธเจ้ามีชีวิตกลางดินตลอดเวลา ทา่ นแสดงธรรมะกเ็ มอื่ ทา่ นนงั่ กลางดนิ อยกู่ ลาง ดนิ เราจะถือว่าธรรมะน้มี นั มีการก�ำเนิดท่ีกลาง ดิน จึงกล่าวได้ว่าพระไตรปิฎกน่ี พระธรรมท้ัง หมดน่ะล้วนแต่มีก�ำเนิดกลางดิน ยกเว้นแต่ อภิธรรมปิฎกที่เกิดข้ึนครั้งหลังเขาว่าแสดงใน เทวโลก น่ีมันก็ไม่มีหลักฐานในบาลี เขาเขียน กันเองในครั้งอรรถกถาว่าไปเทวโลกไปอะไร ต่างๆ แม้ตวั บาลเี องก็ไม่มี แต่เท่าทมี่ กี ่สี ตู รๆ กี่ พนั สตู ร ลว้ นแตน่ งั่ กลางดนิ สอนกลางดนิ เพราะ ๒

วา่ กฏุ มิ นั พนื้ ดนิ แลว้ มนั กส็ อนนอกวดั นอกอะไร อกี มาก ลว้ นแตเ่ มอ่ื นงั่ ยนื อยบู่ นดนิ หรอื กลางดนิ เราจงึ จดั ใหม้ าพดู ธรรมะกนั กลางดนิ ในลกั ษณะ อยา่ งน้ี ลองเอามือคล�ำแผ่นดิน เพื่อท่ีจะเป็นวัตถุ ศักดิ์สิทธิ์ส�ำหรับเรา ว่าพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ สอน และนิพพานกลางดิน ธรรมะจึง ก�ำเนิดกลางดิน เราก็มาน่ังกันกลางดินศึกษา ธรรมะ มนั กต็ รงเรอื่ งราว กวา่ ทจ่ี ะเรยี นกนั ในตกึ เรียนราคาแสนราคาล้าน เตลิดเปิดเปิงไปไหน แล้วกไ็ มร่ ู้ ไอเ้ รอ่ื งทีส่ อนกไ็ มค่ ุ้มค่า ไมค่ มุ้ ค่าตึก เรยี นราคาลา้ น อยา่ งนยี้ มบาลเขกกบาลตายเลย เพราะมันใช้เงินไม่คุ้มค่า มาน่ังกลางดินอย่างน้ี มันปลอดภัยดแี ลว้ วา่ ธรรมะมกี �ำเนดิ กลางดิน ๓

โดยพระพุทธเจ้าผู้มีชีวิตเป็นอยู่กลางดิน เรา จะไม่ลืมว่าพระศาสดาของเรามีชีวิตกลางดิน อยา่ งท่กี ลา่ วมาแลว้ นั้น พูดเป็นภาษาชาวบ้านเต็มท่ีว่าท่านเกิด กลางดิน ท่านตรัสรู้กลางดิน ท่านอยู่กลางดิน ท่านสอนกลางดิน ท่านตายกลางดิน น่ี พระพุทธเจ้ามีชีวิตแบบกลางดินอย่างนี้ เราก็ ควรจะภาคภมู ิใจทไ่ี ด้มานั่งกลางดินอย่างน้ี เอา มอื ลบู ดนิ ดู รสู้ กึ วา่ เปน็ ทศี่ กั ดส์ิ ทิ ธส์ิ งู สดุ เกย่ี วกบั พระพุทธเจ้า ขอท�ำใจใหเ้ ขา้ รปู กันกับที่ว่า สอน อยู่กลางดิน ค�ำว่าแผ่นดินมีความหมายส่วนวัตถุทาง วัตถุอีกอย่างหน่ึงคือว่า เป็นที่รองรับสิ่งท้ังปวง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายนับตั้งแต่ต้นไม้ขึ้นมาถึงสัตว์ เดรจั ฉาน ถึงคน ถงึ อะไรกต็ าม มันตง้ั อย่บู นพนื้ ๔

ดนิ มนั อาศยั อยบู่ นพน้ื ดนิ เรามองใหเ้ หน็ วา่ แผน่ ดินเปน็ ที่ตงั้ อาศยั แห่งส่งิ ทั้งปวง ทา่ นจึงเปรยี บ กันกับธรรมะ ธรรมะน่ีเป็นที่ตั้งท่ีอาศัยแห่งสิ่ง ทั้งปวงในดา้ นจติ ใจ แผน่ ดนิ เป็นท่ีตั้งอาศยั แหง่ สัตว์ท้ังปวงในด้านรา่ งกาย คนเราด้านรา่ งกาย อาศัยอยู่บนแผ่นดิน ด้านจิตใจอาศัยอยู่บน ธรรมะ ดังนนั้ แผน่ ดินกบั ธรรมะมีความหมาย อย่างเดียวกัน เม่ือแตะเข้าที่ดินก็ให้นึกถึง ธรรมะ เม่ือศึกษาธรรมะรู้ธรรมะก็ให้นึกถึง แผ่นดิน ว่าจะได้เป็นที่ต้ังท่ีอาศัยแห่งชีวิต ให้ เป็นอยู่เป็นปกติ แล้วก็มีความเจริญงอกงามไป ตามแบบนัน้ คอื เป็นที่ตง้ั ทีอ่ าศัยได้จรงิ นขี่ อใหท้ กุ ทา่ นรจู้ กั ธรรมะเทยี บกบั แผน่ ดนิ ในลักษณะเช่นนี้ อย่ามาน่ังกลางดินเฉยๆ โดย ไม่รู้ความหมายอะไรเลย เหมือนสุนัขและแมว ๕

มนั กอ็ าศยั อยกู่ ลางดนิ มนั กไ็ มร่ คู้ วามหมาย เดย๋ี ว น้ีเราเป็นมนุษย์มาน่ังกลางดินรู้ความหมายว่า ดนิ นมี้ นั เปน็ ทเี่ กดิ ของธรรมะ เปน็ ทอี่ ยทู่ อี่ าศยั ที่ นั่ ง ท่ี น อ น ท่ี ท� ำ ห น ้ า ท่ี ก า ร ง า น ข อ ง พระพุทธเจา้ ก็จะไดช้ อบแผน่ ดินกนั มากข้ึน ก็ จะชอบน่งั นอนยนื เดนิ บนแผน่ ดินมากขึ้นกวา่ ท่ี จะไปอยู่ในวิมานบนสวรรค์ซ่ึงได้แต่ความหลง มันได้แต่ความหลง ถ้าอยู่บนดินอย่างน้ีก็ได้สติ ปญั ญา ให้รวู้ า่ อะไรเป็นอะไร เพราะว่าจิตใจมัน ไม่หลงในสง่ิ ใดๆ ขอใหใ้ ชป้ ระโยชนจ์ ากการนง่ั บนดนิ อยา่ งน้ี และกต็ ิด… ติดไปในความร้สู กึ กลบั ไปทอ่ี ยู่ของ ตนๆ แลว้ กใ็ หร้ ะลกึ นกึ ไดอ้ ยา่ งนี้ และเมอื่ หยอ่ น กน้ ลงบนแผ่นดนิ ท่ไี หนเมอ่ื ไรก็ได้ ก็ขอให้นึกถงึ เรื่องนี้ว่า แผ่นดินนี้เป็นท่ีต้ังอาศัยของสัตว์ผู้มี ๖

ชวี ติ ทางด้านร่างกาย เปน็ ทีร่ องรบั พระพทุ ธเจา้ ผู้ประสูติกลางดิน ตรัสรู้กลางดิน อยู่กลางดิน สอนกลางดิน นิพพานกลางดิน จนตลอดชีวิต แหละเราจะรู้สึกตอ่ แผน่ ดนิ ในลักษณะอยา่ งน้ี เอา้ ทนี ก้ี ถ็ อื เอาประโยชน์จากความหมาย นว้ี า่ แผน่ ดนิ เปน็ ทรี่ องรบั สตั วท์ ง้ั หลายในดา้ น ร่างกายอย่างไร ธรรมะก็เป็นท่ีรองรับสัตว์ท้ัง หลายในดา้ นจติ ใจอยา่ งนน้ั ธรรมะรองรบั จติ ใจ อยา่ งไร นเ่ี ปน็ สงิ่ ทเ่ี ราจะพดู กนั ถา้ พดู รวบรดั กนั ทีก่อนก็ว่า ถ้าไม่มีธรรมะจิตใจมันก็ลงอเวจีไป เลย ถ้าไม่มธี รรมะรองรับไวแ้ ลว้ จติ ใจมันก็ดิ่งลง อเวจไี ปเลย คำ� นกี้ ไ็ มต่ อ้ งอธบิ ายนกั กไ็ ดว้ า่ อเวจี มนั หมายถงึ ชอื่ ของนรก นรกชนดิ ทรี่ อ้ นแรงทสี่ ดุ อเวจี แปลวา่ ไฟทีไ่ มม่ เี ปลว ไฟถา่ นท่ีแดงแล้วก็ ไมม่ ีเปลว มนั รอ้ นมาก อเวจี หมายความอยา่ ง ๗

นน้ั ถ้าไม่มีธรรมะรองรับ จิตใจน้ีมันก็เป็นไป ตามอำ� นาจของอวชิ ชา ซง่ึ มอี ยทู่ ว่ั ไปในทที่ กุ หน ทกุ แหง่ เมอ่ื ไมม่ คี วามรนู้ นั่ แหละคอื มอี วชิ ชา ไอ้ สภาพท่ีไมม่ ีวชิ ชาน่นั แหละคอื อวิชชา เมอื่ ไรจติ นไ้ี มม่ คี วามรมู้ นั กม็ สี ภาพอยใู่ นอวชิ ชา อวชิ ชาก็ เปน็ เหตใุ หโ้ ง่ ใหท้ ำ� ผดิ ใหห้ ลงรกั ทนี่ า่ รกั ใหห้ ลง โกรธท่นี า่ โกรธ หลงกลวั ทีน่ า่ กลวั หลงเกลยี ดท่ี น่าเกลียด มันเป็นคนโง่ถึงขนาดน้ี มันก็เลยได้ แต่มวั หลงรกั หลงโกรธ เกลยี ด กลวั วติ กกังวล อาลยั อาวรณ์ อิจฉาริษยา หึงหวง เปน็ ต้น รอ้ น ท้ังนั้นเลย นี่เพราะไม่มีธรรมะมันจึงมาหลงอยู่ ในสิง่ เหล่าน้ี จนเกดิ อารมณร์ ้ายเหลา่ นี้ ท่ีเรยี ก ว่ากิเลสและความทุกข์ ความคิดท่ีผิดที่เลวร้าย ก็เรยี กวา่ กเิ ลส ได้รู้สึกผลของกิเลสก็คอื ความ ๘

ทุกข์ คนธรรมดาจึงมีแต่กิเลสและความทุกข์ อย่างน้ี เพราะไม่มีธรรมะรองรับ น่ันแหละคือ มันจมลงในนรก ร้อนท่ีสุดก็เรียกว่าอเวจี นรก มีช่ือมากมายหลายอย่างแหละ แต่รวมความ แลว้ เปน็ ความทกุ ขเ์ พราะความรอ้ นทง้ั นนั้ แหละ รอ้ นกนั หลายๆ อยา่ ง ทีน้ีจะมีธรรมะเป็นเคร่ืองรองรับจิตใจ เหมือนแผ่นดินเป็นเครื่องรองรับร่างกายน่ะได้ อย่างไร มันกต็ อ้ งรเู้ รอื่ งธรรมะ นบั ตงั้ แต่ร้คู วาม หมายของคำ� คำ� น้ี รตู้ วั จรงิ ของคำ� คำ� น้ี รจู้ กั ใชส้ ง่ิ สิ่งน้ีให้เป็นประโยชน์ โดยช่ือโดยความหมาย ของชอ่ื ธรรมะกแ็ ปลวา่ สง่ิ ทม่ี นั ทรงตวั เองอยไู่ ด้ ธรรมะ ตวั หนงั สอื แปลวา่ สง่ิ ทที่ รงตวั เองอยไู่ ด้ ถ้ามันเปน็ ประเภทท่เี ป็นสังขตะหรอื สงั ขาร มนั ก็ทรงตัวเองอยู่ได้ด้วยการหมุนเวียน มัน ๙

หมุนเวียน ทรงตัวเองอยู่ได้ด้วยการหมุนเวียน เหมอื นของทหี่ มนุ ตวิ๋ มนั กท็ รงตวั เองอยไู่ ด้ และ ก็… มนั ก็สามารถทรงส่ิงอนื่ ไวไ้ ดด้ ้วย เชน่ เดยี ว กับแผน่ ดนิ ทรงรา่ งกาย ธรรมะทรงจิตใจ เมื่อมี ธรรมะเป็นเครื่องทรงแล้วมันก็ไม่ตกต่�ำ มันก็ ทรงตวั อยไู่ ด้ แตถ่ า้ เราดใู หม้ นั มากกวา่ นนั้ ทเ่ี ปน็ วิทยาศาสตร์ให้มากกว่านั้นไม่ใช่ตัวหนังสือ ธรรมะคอื ธรรมชาติ ธรรมะคอื ทกุ เรอ่ื งทกุ สงิ่ ที่ เกย่ี วกบั ธรรมชาติ จงึ พบวา่ ธรรมะคอื ธรรมชาติ ทั้งหลาย ธรรมะคือกฎของธรรมชาติท่ีมีอยู่ใน ธรรมชาตนิ ัน้ ๆ ธรรมะคอื หน้าท่ที ีช่ วี ิตน้ีจะตอ้ ง ปฏบิ ตั ติ ามกฎของธรรมชาตนิ นั้ ๆ แลว้ ธรรมะคอื ผลทีจ่ ะออกมาจากหนา้ ท่ี เลยไดค้ วามหมายต้ัง สี่ความหมาย ถ้ารู้จักธรรมะในลักษณะอย่างน้ีเรียกว่ารู้ ๑๐

โดยความหมาย จะเห็นได้ว่ามันหมายถึงทุกส่ิง ไม่ยกเว้นอะไรเลย ธรรมชาติท้ังหลายในสากล จักรวาล ไมว่ า่ เปน็ รูปธรรมก็ดี เปน็ นามธรรมก็ ดี พูดสมัยใหม่หน่อยก็ว่าเป็นฟิสิกส์ก็ดี เป็น เมตาฟิสิกส์ก็ดี มันล้วนแตเ่ ป็นธรรมชาติ เป็น ธรรมชาติ สกั วา่ เปน็ ธรรมชาติ มนั กเ็ รยี กวา่ ธรรม ในความหมายทว่ี า่ สง่ิ ทรงตวั มนั เองอยไู่ ด้ ธรรมะ คือตัวธรรมชาติ อยู่นอก นอกตัวคนนีโ่ ลกนอก ตัวคน ถ้าอยใู่ นตวั คนกท็ กุ อย่างท่ปี ระกอบเป็น ตัวคนนี่ก็เป็นธรรมชาติ ท้ังกาย ทั้งใจ ท้ังส่ิงที่ รู้สึกแก่จิตใจ ท้ังปฏิกิริยาเคล่ือนไหวของกาย ของใจ กเ็ รียกวา่ ธรรมชาติ ทีนี้มันมีกฎของธรรมชาติบังคับอยู่ใน ธรรมชาติน้ัน ธรรมชาติท้ังหลายจึงเป็นไปตาม กฎ ธรรมชาติเป็นรูปธรรมข้างนอกนี่ก็เป็นไป ๑๑

ตามกฎของรปู ธรรม ธรรมชาตทิ เ่ี ป็นจติ ใจท่ีอยู่ ภายในกเ็ ปน็ ไปตามกฎฝา่ ยจติ ใจ ดกู นั งา่ ยๆ กท็ ่ี ตัวบคุ คลนนั่ เอง เรามรี า่ งกาย ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ท่ีเรียกว่าอาการสามสิบสอง หรือเท่าไร กต็ าม นเี่ ปน็ ฝา่ ยรา่ งกาย มนั กม็ กี ฎของธรรมชาติ บังคับอยู่ ผมขนเล็บฟันหนังเหล่านั้นจึงเป็นไป ตามกฎของธรรมชาติ เช่นความชรา หรือความ เปลย่ี นแปลงใหเ้ กดิ ปฏกิ ริ ยิ าใดๆ ขนึ้ มา ตรงตาม กฎของธรรมชาติ นี่เรียกว่ามันมีกฎของ ธรรมชาติควบคุมอยู่ ทางจิตใจมันก็มีกฎ ธรรมชาติควบคุมอยู่ ว่าถ้าคิดอย่างนั้นก็จะมี ปฏิกิริยาอย่างนั้น คิดต่อไปอีกอย่างไรจะมี ปฏกิ ิริยาต่อไปอย่างไร น่ีการปรุงแต่งในทางจิตใจทั้งหมดทั้งสิ้นก็ เปน็ ไปตามกฎของธรรมชาติ มนั กเ็ ลยเกดิ มหี นา้ ๑๒

ทวี่ า่ ไอช้ วี ติ นน้ั จะตอ้ งปรบั ปรงุ ตวั ใหถ้ กู ตอ้ งตาม กฎของธรรมชาติ นค้ี อื หนา้ ที่ ถา้ ไมท่ ำ� หนา้ ทตี่ าม กฎของธรรมชาติ ชีวิตนีก้ ต็ ายแตกสลาย ไม่ถูก ต้องตามกฎของธรรมชาติในเร่ืองกินอาหาร ใน เรื่องการต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บ ในเร่ืองการบริหาร กาย หรืออะไรต่างๆ เมื่อมันไม่ถูกต้องตามกฎ ของธรรมชาตแิ ลว้ ไอช้ วี ติ นนั้ ตอ้ งแตกสลาย คน ก็เป็นอย่างนั้น สัตว์เดรัจฉานก็เป็นอย่างนั้น ต้นไม้ต้นไล่ก็เป็นอย่างน้ัน มันต้องเป็นไปอย่าง ถูกต้องตามกฎของธรรมชาติ มันจึงเกิดเป็น หน้าท่ีของสิ่งท่ีมีชีวิตทุกชนิด ว่าเขาจะต้อง กระทำ� ทกุ อยา่ งใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎของธรรมชาติ แล้วก็จะได้มีชีวิตอยู่ เรียกว่าหน้าที่ท่ีส่ิงมีชีวิต จะตอ้ งปฏิบตั ิให้ถูกตามกฎของธรรมชาติ ธรรมะในความหมายน้ีส�ำคัญท่ีสุด คือ ๑๓

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ท่านทรงส่ัง สอนเรื่องหน้าท่ี เด็กๆ ได้รับค�ำส่ังสอนใน โรงเรียน ธรรมะแปลว่าค�ำส่ังสอนของ พระพุทธเจ้า แต่ไม่ได้บอกว่าสอนอย่างไร เด็ก มันกย็ งั ไม่รจู้ ักธรรมะนั่นแหละ ถ้าสอนเดก็ ๆ รู้ ว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องหน้าท่ี ว่าจะต้อง ประพฤติกระท�ำให้ถูกต้องเพ่ือรอดชีวิตอยู่เป็น ข้อแรก คร้ันรอดชีวิตอยู่ก็มีหน้าท่ีที่จะต้อง ปฏิบัติให้ดีให้สูงย่ิงๆ ขึ้นไป จนบรรลุมรรคผล นิพพาน เป็นอันกล่าวได้ว่าการท�ำให้บรรลุนิพพาน นั่นเปน็ หนา้ ท่ีของมนษุ ย์ ซ่ึงมนษุ ยจ์ ะตอ้ งไปถงึ ใหไ้ ด้ ถา้ มนษุ ยไ์ ปถงึ ไมไ่ ดก้ ว็ า่ ไมไ่ ดร้ บั สง่ิ ทดี่ ที สี่ ดุ ที่มนุษย์ควรจะได้รับ นี่ขอให้พิจารณาข้อน้ีกัน ใหม้ ากสกั หนอ่ ย วา่ เกดิ เปน็ มนษุ ยท์ งั้ ที มนั ไมไ่ ด้ ๑๔

รบั สงิ่ ทีด่ ีทสี่ ุดทมี่ นษุ ย์ควรจะไดร้ บั ไม่มใี ครตอ้ ง ด่าหรอก มันก็รสู้ กึ ดว้ ยตวั เองวา่ เสียชาตเิ กิด ไอ้ มนุษย์ที่มันเกิดมาไม่ได้รับสิ่งที่ดีท่ีสุดท่ีมนุษย์ ควรจะได้รบั มันเสียชาตเิ กิด ไม่ต้องมีใครมาดา่ หรอกมันเห็นอยู่ในตัว ทุกคนจะมองเห็นอยู่ใน ตวั วา่ มนั ไมไ่ ดร้ บั สง่ิ ทดี่ ที ส่ี ดุ ทม่ี นษุ ยค์ วรจะไดร้ บั ถ้าในเร่ืองทางวัตถุมันก็เจริญในทางฝ่าย วัตถุ มกี นิ มีใชผ้ าสกุ สบายไป น่ีมันเรื่องวตั ถุคร่งึ เดียว ในเรื่องจิตใจมันจะต้องให้ดีที่สุดท่ีมนุษย์ ควรจะไดร้ บั คอื วา่ มจี ติ ใจสงู อยเู่ หนอื ความทกุ ข์ เหนอื ปญั หา เหนอื อะไรทกุ อยา่ งทมี่ นั เปน็ ความ ทุกข์ นั่นแหละได้รับส่ิงท่ีดีท่ีสุดที่มนุษย์ควรจะ ได้รบั ถา้ แต่ละวันๆ ยังมีความทกุ ข์ หายใจขัด อยดู่ ว้ ยความทุกข์ ความขัดใจ แค้นใจไม่มีความ โปรง่ สบาย สงบเย็น สะอาด สว่าง สงบ ไมม่ เี ลย ๑๕

น่ีมันไม่ได้รับผลในทางจิตใจ มันก็เรียกว่าไม่ได้ รับส่งิ ทมี่ นษุ ยค์ วรจะไดร้ ับ ทีน้ีขอให้รู้ไว้ด้วยว่าธรรมชาติมันจัดมาให้ พอแล้ว ธรรมชาติแท้ๆ มันจัดมาให้พอแล้ว ส�ำหรับมนุษย์จะได้รับส่ิงท่ีดีท่ีสุดท่ีมนุษย์ควร จะได้รับ ธรรมชาตมิ นั ให้วตั ถุ ส่งิ ของ รา่ งกาย จติ ใจ สมรรถนะของรา่ งกายและจิตใจ สำ� หรบั จะใชใ้ หไ้ ดร้ บั สง่ิ ทด่ี ที สี่ ดุ ทม่ี นษุ ยค์ วรจะไดร้ บั แต่ แล้วไอ้มนุษย์มันเหลวไหลเอง มันไม่ใช้สิ่งนี้ให้ เป็นประโยชน์ ให้ได้รับส่ิงที่ดีท่ีสุดท่ีมนุษย์ควร จะได้รับ แล้วมันยังโง่ต่อธรรมชาติ มันเอาสิ่ง เหลา่ นไ้ี ปใช้เพอ่ื กิเลสตณั หาเสยี หมด ธรรมชาติ มันจดั ส่งิ นี้ใหม้ า เพื่อใหม้ นุษยเ์ อาไปใชใ้ นทางท่ี จะไดร้ ับประโยชนท์ ีด่ ที สี่ ดุ ทมี่ นุษยค์ วรจะได้รบั คอื มรรคผลนิพพานน่ันแหละ พดู กันตรงๆ ๑๖

ทีน้ีมนุษย์เอาร่างกายและจิตใจไปใช้ผิดๆ ไปใชเ้ ปน็ ทาสของกเิ ลสตณั หา เปน็ บา่ ว เปน็ ทาส ของกิเลสตัณหา แสวงหากามารมณ์ เอาตาหู จมกู ลนิ้ กายใจไปแสวงหากามารมณ์ ไมไ่ ดเ้ อาตา หูจมูกล้ินกายใจไปศึกษาธรรมะเพ่ือมรรคผล นิพพาน ก็เรียกว่ามนุษย์น้ันมันกบฏแล้ว มัน ทรยศต่อความมุ่งหมายของธรรมชาติแล้ว ว่า ธรรมชาตอิ นั แทจ้ รงิ บรสิ ทุ ธิ์ มนั ไมต่ อ้ งการใหค้ น เอาชวี ติ นไ้ี ปใชเ้ พอื่ กามารมณ์ ตอ้ งการใหค้ นเอา ชวี ติ น้ีไปใชเ้ พ่อื มรรคผลนิพพาน แต่คนทำ� ไมไ่ ด้ เพราะไม่รู้ ก็ปลอ่ ยไปตามยถากรรม มันก็ไปใช้ เพ่ือกิเลสเพ่ือกามารมณ์เพราะอวิชชา เต็มไป หมดในจติ ในใจของคนเหลา่ นี้ ไมไ่ ดศ้ กึ ษาธรรมะ ไมร่ ูธ้ รรมะ ไมร่ ู้ว่าหนา้ ทน่ี นั่ คอื อย่างไร อย่าว่าแต่ว่าจะปฏิบัติอย่างไร มันไม่รู้ว่า ๑๗

หน้าที่นั่นคืออย่างไร หน้าท่ีจะต้องท�ำอะไร หนา้ ท่ีที่จะต้องถอนตนข้ึนออกจากความทกุ ข์น้ี มนั กไ็ มร่ ู้ มนั กเ็ ลยไมร่ วู้ า่ จะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรจงึ จะถอนตนออกมาเสียจากความทุกข์ได้ ดังน้ัน ขอใหเ้ ราทงั้ หลายยอมรู้ รบั รวู้ า่ ธรรมชาตเิ ขาจดั มาเพอื่ ใหด้ ี เพอ่ื ใหพ้ น้ จากความทกุ ข์ อยา่ เอามา ถลงุ เสยี ดว้ ยการเปน็ ทาสของกามารมณเ์ ลย นน่ั กค็ อื รจู้ กั ธรรมะวา่ ทำ� อยา่ งไรจติ ใจมนั จะสงู ขน้ึ สูงข้ึนไปในทางจิตใจ ชนะอารมณ์ท่ีเป็นที่ต้ัง ของกิเลสได้ ในโลกมนั เตม็ ไปด้วยอารมณ์ อัน เป็นท่ีต้ังของกิเลสคือกามารมณ์ เต็มไปหมด แหละ มีทงั้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลนิ้ ทาง กาย และทางใจเอง เมื่อมนุษย์ไม่รู้ตัวไม่รู้จัก หนา้ ทมี่ ันก็ใชไ้ ปในทางกามารมณห์ มด ยังอุตส่าห์เรียนรับปริญญาน้ีเพ่ือว่าจะ ๑๘

ท�ำงานได้เงินมาก แล้วไปซ้ือหาเหย่ือของ กามารมณ์ พวกเรยี นปรญิ ญาน่ี ปรญิ ญาชน้ั ไหน กต็ ามในโลกนม้ี นั เรยี นเพอื่ มรี ายไดม้ าก แลว้ เอา เงินไปซ้ือหาเหยื่อของกามารมณ์เพื่อให้ตัวเอง เปน็ ทาสของกามารมณ์ มนั กม้ หวั เขา้ ไปเปน็ ทาส ของกามารมณ์ มันยื่นคอเข้าไปในบ่วงของ กามารมณ์ มันก็เลยเป็นมนุษย์ท่ีถูกต้องไม่ได้ เพราะการศกึ ษามนั สอนผดิ คอื วา่ ไมส่ มบรู ณ์ จะ วา่ ผดิ ทีเดียวก็ไมไ่ ด้ มันถกู ชนิดทไ่ี มส่ มบูรณ์ การศึกษาในโลกตั้งแต่อนุบาลขึ้นถึง มหาวิทยาลัยสูงสุด มันสอนกันแต่เรื่องหนังสือ กับวิชาชีพเท่านั้น อักษรศาสตร์มันก็เพื่อให้ ฉลาดได้เพียงให้สะดวกได้ วิชาชีพก็เป็น เทคโนโลยีหาประโยชน์ทั้งนั้นแหละ ก็เรียกว่า วิชาชีพ สอนกันแต่หนงั สือกับวิชาชพี สองเรอ่ื ง ๑๙

เทา่ นัน้ นะ่ อกี เรอ่ื งไมไ่ ด้สอน คือเรอ่ื งวา่ จะเป็น มนษุ ยอ์ ย่างไรใหถ้ กู ต้อง น้ันไมไ่ ด้สอน ประเทศ ใหญ่ๆ ท่ีมันน�ำโลก มันก็สอนกันเพียงเท่าน้ัน แหละ สอนเพยี งสองอยา่ ง ประเทศไทยประเทศ เล็กๆ ก็ไปตามก้นเขา ก็เรียนอย่างท่ีประเทศ ใหญ่ๆ มนั มีอยู่อย่างไร นีไ้ ปรับปริญญามามนั ก็ สอนกนั ไดแ้ คน่ นั้ มนั เลยเปน็ การศกึ ษาหมาหาง ดว้ นกนั ทัง้ โลกเลย การศึกษามีลักษณะเป็นหมาหางด้วน เพราะไม่มีส่วนที่สามท่ีว่า รู้จนกระท่ังว่าเป็น มนุษย์กันอย่างไร มันรู้แต่หนังสือและรู้แต่ วชิ าชพี ไมร่ วู้ า่ จะเปน็ มนษุ ยก์ นั อยา่ งไร นจ่ี งึ เรยี ก ว่ามันดว้ น เหมอื นกบั หมาหางดว้ น ไมน่ ่าดู ไม่ สมบรู ณ์ หรอื พระเจดยี ย์ อดดว้ น มนั กไ็ มน่ า่ ดู มนั ไมส่ มบรู ณ์ ฉะนน้ั เรามาแสวงหาสว่ นทย่ี งั ขาดกนั ๒๐

อยนู่ ่ี มาเตมิ กนั ใหส้ มบรู ณ์ ทเ่ี ปน็ พระนก่ี ด็ ี ทเ่ี ปน็ ฆราวาสน้ันก็ดี เพ่ือมาหาความรู้ทางธรรมะไป เติมส่วนท่ีมนั ยังขาดอยนู่ ่ันแหละให้สมบูรณ์ ถา้ พดู ตรงๆ ก็วา่ การท่ีมาแสวงหาธรรมะ น้ี มนั กค็ อื การตอ่ หางหมาทมี่ นั ยงั หางดว้ นอยใู่ ห้ สมบรู ณ์ คณุ มาหาธรรมะไปใสใ่ หเ้ ตม็ ใหเ้ ปน็ การ ศกึ ษาทไ่ี มด่ ว้ นไมข่ าด นก่ี น็ บั วา่ โชคดี โชคดมี าก ไอ้คนท่ีเรียนเพียงสองอย่างแล้วไม่สนใจท่ีเรียน ธรรมะ มนั กเ็ ปน็ หมาหางดว้ นตามการศกึ ษาหาง ด้วนไปจนตายนัน่ แหละ นถี่ า้ ว่ามันตนื่ มันรู้ มนั มาหาธรรมะ มาตอ่ ใหก้ ารศกึ ษาสมบรู ณม์ นั กจ็ ะ พน้ ความด้วน มันจะกลายเป็นมนุษย์ทีส่ มบูรณ์ ท�ำให้ได้รับประโยชน์เต็มท่ีท้ังทางวัตถุและทาง จิตใจ อยา่ ลมื เสยี วา่ เรามที งั้ รา่ ยกายและจติ ใจ ถา้ ๒๑

เราสมบรู ณแ์ ตท่ างรา่ งกายกเ็ ปน็ มนษุ ยค์ รง่ึ เดยี ว เท่านั้นแหละ ต่อเมื่อสมบูรณ์ทางจิตใจด้วยจึง จะเป็นมนุษย์ครบท้ังสองส่วน เป็นการดีแล้ว ทม่ี าแสวงหาสว่ นทมี่ นั ยงั ขาดอยนู่ ี้ ใสใ่ หส้ มบรู ณ์ อาตมาก็ขออนโุ มทนาในการทำ� นี้ ยนิ ดีต้อนรับ ท่านทั้งหลายท่ีอุตส่าห์มาเพ่ือแสวงหาส่วนที่ยัง ขาดน้ี อาตมาก็พยายามท่ีจะช่วยเหลือ สนอง ความประสงค์อันน้ีสุดความสามารถที่จะท�ำได้ ดังน้ันจึงขอให้มันพบกันอย่างถูกต้อง คือได้รับ ประโยชน์ทางธรรมะนี้กลับไปจริงๆ อย่าสักว่า มาเทยี่ วทศั นาจร ทศั นาจรนั่นมหี ลายอยา่ งนะ ขอโอกาสพูด กันเสียตอนนี้เลยว่ามีหลายอย่างทัศนาจร ทศั นาจรบ้าๆ บอๆ หาความเพลดิ เพลินก็ไม่ได้ มีอะไรดีขึ้น ไมไ่ ดม้ อี ะไรดีขนึ้ ทัศนาจรหาความ ๒๒

เพลิดเพลนิ น่กี ็อยา่ งหนงึ่ ทศั นาจรอีกอย่างหนง่ึ ก็หาบุญของคนบ้าบุญ ท่ีจริงบุญไม่ต้องไปหา ทไ่ี หนหรอก มนั สรา้ งกนั ไดจ้ ากรา่ งกายนน่ั แหละ แต่น้ีคนมันบ้าบุญ มันไปเที่ยวๆ ให้เปลืองให้ เหนื่อยให้ยุ่งยากล�ำบากแล้วก็ไม่ได้บุญอะไร มากมายคุ้มค่า นี่แหละมันทัศนาจรของคนบ้า บุญ น่ีทัศนาจรอย่างที่สามนี่ อยากจะพูดว่า ทศั นาจรหาธรรมะ หาความรทู้ างธรรมะ คอื ไป ในท่ีท่ีจะให้ได้รับความรู้ทางธรรมะได้ธรรมะ ทัศนาจรหาธรรมะ ทัศนาจรของคนบ้าสนุก อย่างหน่ึง ทัศนาจรของคนบ้าบุญน้ีอย่างหนึ่ง ทัศนาจรของคนหาความรู้ซึ่งบ้าไม่ได้ เพราะ ความรมู้ ันไม่ได้ทำ� ให้บา้ มนั ทำ� ใหฉ้ ลาด มนั บ้า ไมไ่ ด้ นก่ี ารทศั นาจรหาธรรมะนน่ั แหละเหมาะ สมส�ำหรับพุทธบริษัท พุทธบริษัทควรจะ ๒๓

ทัศนาจรเพื่อประโยชนอ์ ย่างนี้ ถ้าท่านทั้งหลายท�ำอย่างน้ี ก็เป็นท่ีน่า อนุโมทนาของเทวดาและมนุษย์ที่มีความรู้ พระพุทธเจ้าก็จะทรงสรรเสริญ แต่ถ้าท�ำอย่าง บ้าบุญ ท�ำอย่างพิธีรีตอง ท�ำอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครสรรเสริญหรอกนอกจากคนชนิด เดียวกัน คือคนบ้าๆ บอๆ เหมือนกันมันจะ สรรเสริญ ถ้ามีสติปัญญา เป็นสัตบุรุษ เป็น บณั ฑติ เปน็ อรยิ บคุ คล จะไมส่ รรเสรญิ ทศั นาจร บ้าๆ บอๆ แบบนน้ั ทนี่ เี่ รากส็ งั เกตเหน็ มาเปน็ เวลา ๒๐–๓๐ ปี แลว้ วดั นีส้ ร้างมา ๔๐ ปี แลว้ มีอะไรทจี่ ะแจก จ่ายเป็นธรรมะน่ีต้ัง ๒๐–๓๐ ปี สังเกตเห็นว่า คนมาเที่ยวนี้ส่วนมากมาเที่ยวเล่นหาความ เพลดิ เพลนิ ไมส่ นใจในธรรมะทจ่ี ะเปน็ ประโยชน์ ๒๔

เขาไมส่ นใจตวั ธรรมะทเี่ ราจะให้ ขอ้ นก้ี น็ า่ เหน็ ใจ แหละที่ว่ามันเอาไม่ได้ มันโง่เกินไปฟังธรรมะ ไมร่ เู้ ร่อื ง ฟงั ธรรมะสกั หน่อยหนงึ่ กล็ กุ ขึน้ สะบดั กน้ ไปแลว้ มันฟงั ไม่ร้เู ร่อื ง มนั มอี ยู่ทั่วๆ ไปน่ี ฟงั ธรรมะไม่ได้ถึงครึ่งมันก็ลุกขึ้นสะบัดก้นไปแล้ว ไอ้คนท่ีมันทนอยู่ได้น่ะหมายความว่าฟังรู้เรื่อง มนั จงึ ทนฟงั อยไู่ ดจ้ นจบ กร็ ธู้ รรมะเตม็ ตามทคี่ วร จะได้รับ แตว่ า่ มีน้อย ปนี ไี้ ด้ยิน… สำ� รวจแล้ววา่ มีคนมาเทย่ี วหกเจด็ หม่นื คน คงจะไดร้ บั ธรรมะ ไปไม่ก่ีร้อยคน ก็เรียกว่าร้อยต่อหน่ึง เลยต้อง เขียนรูปภาพไว้ที่หัวตึกนั่น๑ ว่าคนท่ีไม่ยอมรับ ลูกตา ว่ิงกลับไปหัวขาดเป็นฝูงๆ เลย คนที่ ยอมรบั ลกู ตา เอาลกู ตาไปไดม้ สี องสามคน นมี่ นั เป็นเสียอยา่ งน้ี ๑ โรงมหรสพทางวิญญาณ ๒๕

ไอธ้ รรมะทจี่ ะเปน็ ประโยชนส์ งู สดุ ยงิ่ กวา่ สงิ่ ใดนก่ี ลบั ไมส่ นใจ สนใจแตค่ วามสนกุ สนานเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ของตน เปน็ ความเพลดิ เพลนิ แลว้ กช็ นดิ ท่ีหลอกว่าเป็นบุญ ได้เพลิดเพลินได้สนุกสนาน ไดพ้ อใจ แลว้ กเ็ รยี กกนั วา่ บญุ บุญอยา่ งนีม้ นั จะ ทำ� ให้เมา จนกลายเปน็ คนเมาบญุ บ้าบญุ มนั จะ ยง่ิ กว่าเก่านะ คอื มนั ไมป่ กติ ขอใหส้ นใจค�ำวา่ ธรรมะ ดีกวา่ ค�ำวา่ บุญ ค�ำว่าบญุ เมาได้ ค�ำวา่ ธรรมะ เมาไม่ได้ ไป คดิ ดเู ถอะ ไปสนใจใหจ้ รงิ ๆ เถอะ ธรรมะยง่ิ สนใจ จะย่งิ หายเมา ยิ่งสนใจย่งิ หายเมา ค�ำว่าบุญ ยิง่ สนใจจะย่ิงเมา เมาบุญ เมาสวรรค์ เมาอะไรคือ ไปในทางเมาทั้งน้ันแหละ สรุปแล้วมันก็เมา กามารมณ์นั่นแหละ ไอ้ท�ำบุญไปสวรรค์น่ัน แหละมนั เตม็ ไปดว้ ยความเมากามารมณ์ สวรรค์ ๒๖

ควรจะถูกใช้เปน็ เหมอื นกับวา่ เคร่ืองมอื สำ� หรบั จะเบอ่ื กามารมณ์ และกม็ ุง่ ไปนพิ พาน อย่างนัน้ ถูกแหละ สวรรค์นั้นก็เป็นความเพลิดเพลิน มี กามารมณ์เป็นความมุ่งหมาย ถา้ เมือ่ ไดเ้ สวยถึง ขนาดน้ีแล้วก็ขอให้รู้ว่าไอ้นี่มันหลอกทั้งน้ันเว้ย ไมเ่ อากบั มนั อกี แลว้ มจี ติ ใจนอ้ มไปเพอื่ นพิ พาน เหนืออ�ำนาจของกามารมณ์ และความโง่ความ หลงอย่างอน่ื โดยประการทัง้ ปวง น่ีธรรมะท�ำให้จิตใจหลุดพ้นไปจากส่ิง ล่อลวงผูกมัดท้ังหลาย เราต้องถึงให้ได้อย่าให้ เสียชาตเิ กดิ วา่ ธรรมชาติสร้างเรามาส�ำหรับให้ ได้ส่ิงที่ดีท่ีสุดที่มนุษย์ควรจะได้ แล้วเรามา เหลวไหลเสยี เอง มาโงเ่ สยี เอง มาทำ� ผดิ เสยี เอง มันไม่ได้แล้วจะไปโทษใคร จะไปหวังพึ่งการ ศึกษาก็ยังเป็นหมาหางด้วนอย่างนี้อยู่เรื่อยไป ๒๗

คุณต้องหาเติมเอาเองในส่วนที่ด้วนน่ะ อย่าให้ มันด้วนอยู่ให้มันเต็มเสีย น่ีศึกษาหาธรรมะให้ เพียงพอ จะคอ่ ยๆ รธู้ รรมะ คอ่ ยๆ มีธรรมะ ใช้ ธรรมะให้เป็นประโยชน์ รู้จักด�ำรงจิตใจไว้ใน สภาวะทถี่ กู ต้องทงั้ วนั ท้งั คืนไม่เกิดความทุกข์ เอา้ กม็ าถงึ วา่ จติ ใจนต้ี อ้ งการความถกู ตอ้ ง ของธรรมะ มาช่วยหล่อเลี้ยงไว้เป็นจิตใจท่ีไม่มี ความทกุ ขท์ งั้ กลางวนั และกลางคนื ดงั นน้ั เราจงึ นิยามความหมายของค�ำว่าธรรมะ ว่าความถูก ต้องของมนุษย์ ธรรมะคือข้อปฏิบัติเพ่ือความ ถกู ตอ้ งของมนุษย์ เพ่อื จะไม่เปน็ ทกุ ขท์ งั้ กลาง วนั และกลางคืน และก็เจรญิ ยง่ิ ๆ ขึ้นไปจนกว่า จะบรรลมุ รรคผลนพิ พาน อยูเ่ ป็นสุขดว้ ยกนั ทุก คนที่มีธรรมะในโลกนี้ เหมือนกับว่ามันตั้ง สหกรณก์ ไ็ ด้ รว่ มกนั อยใู่ นโลกน้ี รว่ มกนั ประพฤติ ๒๘

กระท�ำส่ิงส่ิงหน่ึงซ่ึงจะได้รับผลร่วมกัน คือมี ความสุขทั้งกลางวันและกลางคืน เรียกว่า สหกรณ์ธรรมะตามพระพุทธประสงค์ การท�ำ อย่างน้เี ปน็ การท�ำตามพระพทุ ธประสงค์ ขอใหท้ กุ คนรจู้ กั พระพทุ ธเจา้ ใหย้ ตุ ธิ รรมสกั หนอ่ ย อยา่ เอาไวเ้ ปน็ เครอ่ื งออ้ นวอนขอร้องใน สิ่งที่ต้องการ ทางกิเลสตัณหา ให้รู้จัก พระพทุ ธเจา้ วา่ เปน็ ผทู้ ปี่ ระสงคจ์ ะใหท้ กุ คนทกุ ชวี ิตรอดจากความทกุ ข์ ท่านจึงตรัสวา่ ธรรม- วินัยคือศาสนานี้มีอยู่เพื่อประโยชน์สุขแก่ มหาชน ทั้งเทวดาและมนุษย์ น่ีความประสงค์ ของท่าน ให้ธรรมวินัยหรือศาสนานี้มันมีอยู่ใน โลกนี้เพ่ือประโยชน์ความสุขทั้งแก่เทวดาและ มนษุ ย์ คอื ทงั้ แกค่ นทสี่ บายดแี ลว้ ในทางวตั ถุ คอื พวกเทวดา และคนที่ยังไม่สบายทางวัตถุ คือ ๒๙

พวกมนษุ ย์ คอื คนยากจนยงั ตอ้ งอาบเหงอื่ กร็ วม ถงึ สตั วใ์ นนรกดว้ ย สตั วใ์ นนรกยงั ทนทรมานมาก รบั ผลของความผดิ พลาดทนทรมานมาก มนษุ ย์ นกี้ ท็ นทรมานอยตู่ ามสมควร ยงั เรยี กวา่ ตอ้ งอาบ เหง่ือ แต่ถ้าประสบความส�ำเร็จในการงานเป็น เทวดาแลว้ กไ็ มร่ จู้ กั เหงอื่ ทา่ นกลา่ วไวอ้ ยา่ งนวี้ า่ เทวดาไมร่ จู้ กั เหงอ่ื ถา้ เหงอ่ื มนั ออกมาปรากฏแก่ เทวดาตัวไหน เทวดาตัวน้ันจะต้องตาย คือจุติ น่ีเป็นขอ้ ความทเ่ี ขียนไวใ้ นบาลี เหตุให้จุติของเทวดามีหลายอย่าง อย่าง หน่ึงระบุว่า พอมีเหงื่อ เพราะมีเหงื่อ ก็ หมายความว่าท�ำผิดแล้ว ท�ำผิดแล้ว มันจึงมี เหง่ือออกมาได้ แสดงว่าไม่ท�ำความถูกต้องใน การมีชีวิต อย่างคนร่�ำรวยมั่งมีเป็นนายทุนใน บัดนี้ เขาเรียกว่าเป็นพวกไม่รู้จักเหงื่อ ลองท�ำ ๓๐

ผดิ เหงอ่ื ออกมาคอื ความลม้ ละลาย คอื มนั ทำ� ผดิ ในเรอื่ งน้ัน ท่านตรสั วา่ ใหเ้ ป็นประโยชนท์ งั้ แก่ เทวดาและมนุษย์ ก็หมายความว่าแก่คนทุก พวกในโลกในจักรวาลน้ีไม่ยกเว้นพวกไหน มัน กำ� ลงั รจู้ กั เหงอื่ กต็ าม มนั กำ� ลงั ไมร่ จู้ กั เหงอื่ กต็ าม ทกุ คนก็ได้รับประโยชน์จากธรรมะนี้ และยงั ทรงตรสั ในทำ� นองขอรอ้ งวา่ เธอทงั้ หลายจงสืบอายุธรรมวินัยน้ีไว้ในโลกน้ี เพ่ือ ประโยชนแ์ ก่มหาชนท้ังเทวดาและมนุษย์ ข้อนี้ แสดงว่าธรรมะนั้นก็เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ เทวดาและมนษุ ย์ แตว่ า่ ตอ้ งชว่ ยกนั สบื ไว้ ช่วย กนั สบื ไว้ใหบ้ ริษัทท้งั หลายทั้งสี่ ทง้ั ภกิ ษภุ ิกษุณี อบุ าสกอบุ าสกิ านี้ ชว่ ยกนั สบื อายธุ รรมวนิ ยั นไี้ ว้ ในโลกน้ี เพอ่ื ประโยชนแ์ กม่ หาชนทงั้ เทวดาและ มนุษย์ ก็ต้องเป็นหน้าท่ีของเราทุกคน แม้ท่าน ๓๑

ทัง้ หลายผนู้ ั่งฟงั ก็รูไ้ ว้เถอะวา่ พระพุทธเจา้ ทรง พระประสงค์ วา่ ใหช้ ่วยกันสบื อายขุ องธรรมะ หรือศาสนาน้ีไว้เพื่อประโยชน์แก่คนทั้งหมด ฉะนั้นอย่ามาคิดว่าเรามาศึกษาธรรมะน้ีเพื่อ ประโยชนแ์ กเ่ ราคนเดยี ว อยา่ งนมี้ นั ไมถ่ กู หรอก และก็ไม่ถูกตามพระพุทธประสงค์ด้วย เรามี ประโยชนค์ นเดยี วอยคู่ นเดยี วในโลกมนั อยไู่ มไ่ ด้ หรอก ปว่ ยการ ขอใหม้ คี วามถกู ตอ้ งแกท่ กุ คนใน โลก และทุกคนคนในโลกมีธรรมะ แล้วอยู่กัน เปน็ ผาสุกทงั้ โลก โลกนม้ี นั เจรญิ ดว้ ยวตั ถผุ ดิ กบั สมยั พทุ ธกาล สมัยพุทธกาลเจริญด้วยจิตใจ เจริญด้วยธรรมะ กจ็ รงิ แต่ความสะดวกสบายทางวัตถุมนั ไม่มี นี่ พระพทุ ธเจา้ ทรงอบุ ตั ขิ นึ้ มาในสมยั ทค่ี วามเจรญิ ทางวตั ถยุ งั ไม่คอ่ ยจะมี เรียกวา่ ทา่ นไม่มรี ถยนต์ ๓๒

ทา่ นไมม่ เี รอื บนิ ท่านไมม่ ีอะไรชนดิ ทจี่ ะอำ� นวย ความสะดวก และก็ไม่สนใจกับเร่ืองทางวัตถุ พระพุทธเจา้ ไม่มีรองเท้า ไมม่ ีมุ้ง ไม่มชี ้อนส้อม ไม่มีอะไรเหล่าน้ี ท่านไม่สนใจกับเรื่องทางวัตถุ เลย ครั้งพุทธกาลแม้จะรู้จักทำ� ส้วมซึมใช้ก็ไม่มี มีแต่ส้วมธรรมชาติธรรมดาท่ีเหม็นอู้ไปหมด เพราะมนั ไมเ่ จรญิ กา้ วหนา้ ในทางวตั ถุ เดย๋ี วนใี้ น โลกน้ีมันเจริญก้าวหน้าทางวัตถุ คุณก็ดูเอาเอง การกนิ การอยู่ การอาบ การถ่าย การแตง่ ตัว การรักษาโรค อะไรมันวิเศษเจริญ การบ�ำรุง บำ� เรอกม็ ี เครอ่ื งบนั เทงิ เคร่ืองประเลา้ ประโลม ใจเหลือประมาณ เรื่องยานพาหนะก็เหลือ ประมาณ อยา่ วา่ จะไปกนั แตใ่ นโลกเลย นอกโลก นู้นก็ไปได้ ยังจะไปโลกอ่ืนกันอยู่แล้ว เขาออก จากเชียงใหม่ตอนเช้ามาฉันเพลท่ีน่ี การ ๓๓

คมนาคมเป็นอย่างน้ี เรียกว่าทางวัตถุมันเจริญ เหลอื ประมาณ แตท่ างจติ ใจเสอื่ มลงๆ ไมเ่ หมอื น ครงั้ พุทธกาล คร้ังพุทธกาลก็พูดสรุปความว่าเจริญด้วย อารยธรรมทางจติ ใจ อารยธรรมทางจติ ใจ หรอื วฒั นธรรมทางจติ ใจ มี civilization มี culture มีอะไรทางจิตใจ เป็นยุคเจริญทางจิตใจ พอมา ถึงยุคน้ีไม่มีทางจิตใจแต่มีในทางวัตถุ มี อารยธรรมทางวัตถุ ทีน้ีมันก็ไม่มีความรู้ที่จะ ควบคุมไอ้สิ่งเหล่าน้ี สิ่งเหล่านี้มันก็หลอกก็ หลอนให้คนในโลกมัวเมาในรสอร่อยทางวัตถุ มันก็เกดิ ความเหน็ แกต่ ัว แลว้ มนั กอ็ ิจฉาริษยาผู้ อื่นขึน้ มาทันที ระวังให้ดี ไอค้ วามอรอ่ ยในอะไร มนั จะทำ� ใหอ้ จิ ฉารษิ ยาผอู้ น่ื ในเรอื่ งนนั้ นะ ฉะนนั้ คุณรู้สึกไว้เถอะว่า อร่อยในสิ่งใดส่ิงน้ันจะเป็น ๓๔

มลู เหตใุ หอ้ จิ ฉารษิ ยาผู้อื่นในเรื่องนั้น เพราะความอิจฉาริษยาเกิดข้ึนแล้วไม่ต้อง สงสยั หรอก คอื ความวนิ าศ ความรษิ ยานะ่ คอื สงิ่ ท่ีท�ำโลกให้วินาศ บาลีก็มีว่า อรติ โลกนาสิกา –ความรษิ ยาทำ� โลกใหฉ้ บิ หาย ซง่ึ เหน็ อยเู่ ดยี๋ วนี้ ท่ีเขาอิจฉาริษยากันไม่ยอมกันเขาก็รบกันไป เร่ือย รบกันไปเรื่อย ไม่เอออวยกันได้เพราะ ความอจิ ฉารษิ ยา ความเหน็ แกต่ วั ยงั ตอ้ งรบกนั ตอ่ ไป และบางทจี ะตอ้ งรบกนั ถงึ ขนาดสงู สดุ วา่ ตายกันทีเดียวครึ่งโลกหรือหมดทั้งโลกก็ไม่แน่ เพราะเขาเตรียมอาวธุ ไว้ในลักษณะที่ว่า กดปมุ่ แกก๊ เดยี วมนั จะสง่ อาวธุ ไปทำ� ลายลา้ งกนั ตง้ั ครง่ึ โลก มันมาถึงขนาดนี้แล้ว นี้ถ้าธรรมะมาช่วย ไม่ทันเวลามันก็จะเป็นอย่างน้ันจริง ถ้าฝ่ายใด ฝ่ายหน่ึงท่ีเขาคอยจ้องกันอยู่อย่างนี้ มันเกิด ๓๕

เผลอตัวขึ้นมาบังคับไม่อยู่ มันปล่อยอาวุธไป กอ่ น อกี ฝ่ายหน่ึงกโ็ ตต้ อบกลบั มา โต้ตอบกลับ ไปโต้ตอบกลับมา คนก็ตายกันไปครึ่งโลกเป็น อย่างน้อย เอาละเป็นอันว่า ถ้าธรรมะมาก็ คุ้มครองโลกไว้ได้ ถ้าธรรมะไม่มาโลกน้ีจะต้อง วินาศเพราะความอิจฉาความริษยา อันเกิดมา จากความเหน็ แก่ตัว ที่เราอิจฉาริษยากันเป็นส่วนบุคคล ความ หึงความหวงส่วนบุคคล มันก็มาจากความหลง ในความเอร็ดอร่อยของสิ่งนั้นจากสิ่งน้ัน ความ หงึ หรอื ความหวง หรอื ความอจิ ฉารษิ ยากนั สว่ น บคุ คลแทๆ้ มนั กม็ าจากรสอรอ่ ยทเ่ี กดิ มาจากสง่ิ นน้ั เพราะคนมนั โงม่ นั หลงตกเปน็ ทาสของความ เอร็ดอร่อยนั้นซึ่งเรียกว่ากามคุณทั้งน้ันเลย จะ อร่อยทางตา อรอ่ ยทางหู อร่อยทางจมกู อรอ่ ย ๓๖

ทางลนิ้ อรอ่ ยทางผวิ หนงั อรอ่ ยทางจติ ใจกเ็ รยี ก ไดว้ า่ กามคุณทงั้ น้ัน เม่อื หลงใหลในสิง่ นัน้ แล้วก็ เหน็ แกต่ วั เห็นแกต่ ัวแล้วกอ็ จิ ฉารษิ ยา ก็ทำ� ไป ตามความอิจฉารษิ ยากเ็ ปน็ ทกุ ขก์ นั หมด แลว้ มนั นา่ สงสารทว่ี า่ ไอค้ นรษิ ยานนั้ แหละ เป็นคนทนทุกข์ก่อน อย่าได้ไปกล้าอิจฉาริษยา ใครนะ พออิจฉารษิ ยาเขาเทา่ นัน้ แหละ คนน้ัน แหละเป็นทุกข์ก่อน คนที่ถูกอิจฉาริษยายังไม่รู้ เร่ืองกม็ ี อย่างทเี่ รยี กวา่ เขาไม่ร้เู ร่อื งอะไรเลยวา่ ใครอิจฉาเขา เขาก็ไม่มีทุกข์อะไร ไอ้คนท่ีคิด อจิ ฉาใครเปน็ ทกุ ขท์ นั ที เมอื่ คดิ อจิ ฉารษิ ยา และ กเ็ ปน็ ทกุ ขต์ ลอดไป จะรษิ ยาสำ� เรจ็ หรอื ไมส่ ำ� เรจ็ ไอค้ นนน้ั กเ็ ปน็ ทกุ ขต์ ลอดไป นที่ ำ� ตวั เองใหว้ นิ าศ ทำ� ตวั เองใหว้ นิ าศ นถี้ า้ มนั รษิ ยาสำ� เรจ็ ไอผ้ อู้ น่ื ก็ วนิ าศ มนั กเ็ ลยวนิ าศทง้ั สองฝา่ ยไมม่ อี ะไรดี ไมม่ ี ๓๗

อะไรเหลือ น่ีอิจฉาท�ำให้โลกฉิบหายกันใน ลักษณะอย่างน้ี โลกภายในกต็ าม โลกภายนอก ก็ตามมันวินาศเพราะความริษยาในลักษณะ อยา่ งนี้ ถ้ามีธรรมะมันควบคุมความเอร็ดอร่อยได้ ไมห่ ลงในความเอรด็ อรอ่ ย ถา้ มธี รรมะไมห่ ลงใน ความเอรด็ อรอ่ ยทกุ ชนดิ ไมว่ า่ ทางหู ทางตา ทาง ลน้ิ ทางจมกู ทางกาย ทางใจ ไมห่ ลง เมอื่ ไมห่ ลง กไ็ มเ่ ห็นแก่ตัว เมือ่ ไม่เหน็ แก่ตวั กไ็ มอ่ จิ ฉารษิ ยา ใคร กอ็ ยกู่ นั ดว้ ยมติ รภาพ ความรกั เพอ่ื นเกดิ แก่ เจ็บตายด้วยกัน แก่กันและกัน ท้ังหมดทงั้ สน้ิ น่ี ธรรมะมนั เปน็ ความถกู ตอ้ ง สำ� หรบั ใหม้ นษุ ยอ์ ยู่ กันอย่างผาสุก สมตามความหมายของค�ำว่า มนุษย์ ซง่ึ แปลวา่ ไอ้สัตวท์ ีม่ ันมีจิตใจสูง สตั ว์ที่ มันมีจิตใจต�่ำไม่ใช่มนุษย์ แต่ว่าในร่างกายของ ๓๘

มนษุ ยม์ สี ตั วจ์ ติ ใจตำ�่ กไ็ ดน้ ะ พดู งา่ ยๆ วา่ รา่ งกาย เปน็ คนแตจ่ ติ ใจเปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉานกม็ อี ยมู่ ากนะ ไม่ได้เอาร่างกายเป็นหลัก อยู่ท่ีว่าจิตใจมันต�่ำ หรอื จติ ใจมนั สงู ดงั นนั้ ขอใหร้ บี มธี รรมะเสยี เรว็ ๆ จิตใจมันจะได้สูง มันจะสมกับที่ว่าเป็นมนุษย์ –สตั วม์ จี ติ ใจสงู สงู คอื เหนอื ความทกุ ข์ เหนอื เหตุ ให้เกิดทกุ ข์ เหนือน้�ำท่วมน่ะ ถ้ามันสูงมันก็เหนือน�้ำ ทว่ ม น้ำ� นม่ี ันคือความทุกข์โดยตรง หรือเหตใุ ห้ เกดิ ความทกุ ข์ คอื กเิ ลสโดยตรง กเิ ลสทว่ มทบั ไม่ ได้ความทุกข์ท่วมทับไม่ได้ จิตใจนั้นเป็นจิตใจ ของมนษุ ยท์ ถ่ี กู ตอ้ ง ทว่ี า่ ธรรมชาตมิ นั ไดส้ รา้ งมา ดีแล้วส�ำหรับให้มนุษย์ได้รับสิ่งท่ีดีท่ีสุดท่ีมนุษย์ ควรจะได้รับ พูดกันง่ายๆ ก็คือเป็นมนุษย์ท่ี สมบรู ณ์ เป็นมนษุ ย์สมบูรณ์ ไม่เปน็ มนษุ ย์ครง่ึ ๆ ๓๙

กลางๆ เป็นมนุษยใ์ ห้สมบรู ณถ์ งึ ท่สี ดุ ของความ เป็นมนุษย์ คือมีจิตใจอยู่เหนือความทุกข์โดย ประการทงั้ ปวง แลว้ กเ็ ปน็ อยา่ งนดี้ ว้ ยกนั ทกุ คน และทุกหมู่บ้าน ทุกประเทศ และกท็ ัง้ โลก เปน็ โลกมนุษย์ท่ีมีจิตใจสูงเหนือปัญหาและความ ทกุ ขโ์ ดยประการท้งั ปวง ขอให้คนแต่ละคนเป็นมนุษย์กันก่อนเถิด ท่านท้ังหลายทุกคนแต่ละคนๆ เป็นมนุษย์กัน ก่อนเถิด แล้วในครอบครัวของท่านก็จะเป็น ครอบครัวมนุษย์ มีจิตใจสะอาด มีจิตใจสวา่ ง มี จิตใจสงบ ครอบครัวน้ันเป็นครอบครัวแห่ง มนุษย์ แล้วหมู่บา้ นนนั้ ทุกครอบครัวเปน็ มนษุ ย์ หมบู่ า้ นนน้ั เปน็ หมบู่ า้ นแหง่ มนษุ ย์ ประเทศชาติ นั้นก็เป็นประเทศมนุษย์ โลกน้ันก็เป็นโลกของ มนษุ ยไ์ มใ่ ชโ่ ลกสตั วน์ รก เราจะชว่ ยกนั ไดม้ ากถงึ ๔๐

อย่างนี้นะโดยอาศัยธรรมะเป็นเคร่ืองมือ ให้ มนุษย์แต่ละคนได้รับประโยชน์ของการท่ีเกิด เป็นมนษุ ย์ ไม่เปน็ หมัน ไม่เกิดมาเป็นหมนั ส่งิ ต่างๆ คุณสมบัติต่างๆ ที่ธรรมชาติมอบให้มา ส�ำหรับจะเป็นมนุษย์สูงสุดน้ันเราได้ใช้กันอย่าง ถูกต้องแล้ว และก็ได้เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ โดยแทจ้ ริง นี่มันขึ้นอยู่กับธรรมะ ถ้ามีธรรมะก็ท�ำได้ อยา่ งนน้ั ถา้ ไมม่ ธี รรมะกท็ ำ� ไมไ่ ด้ ดงั นนั้ จงึ พดู ได้ เลยว่าธรรมะเป็นของคู่กันกับมนุษย์ พอขาด ธรรมะเม่ือใดความเป็นมนุษย์มันก็ไม่มี อย่าง ท่ีเราชอบพูดกันว่าไอ้คู่ชีวิตของมนุษย์น้ันก็คือ ธรรมะ พอไม่มีธรรมะมันก็ไม่เป็นมนุษย์ พอมี ธรรมะมันก็เป็นมนุษย์ ชีวิตน้ันก็เป็นชีวิตที่ ประเสริฐท่ีสุดเพราะว่ามีธรรมะ จงเอาธรรมะ ๔๑

เปน็ คชู่ ีวติ เถดิ แมค้ ชู่ วี ติ ผวั เมยี เป็นตน้ นี้ก็ตอ้ งมี ธรรมะ ถ้าไม่มีธรรมะแล้วคู่ผัวเมียนั้นก็จะเป็น สตั วท์ ก่ี ดั กนั ตลอดเวลา เพราะมนั ไมม่ ธี รรมะ ถา้ มนั มธี รรมะแลว้ กเ็ ปน็ คผู่ วั เมยี ทมี่ ธี รรมะทอ่ี ยกู่ นั อย่างมนุษย์ สร้างสรรค์ความเป็นมนุษย์ และ เป็นเพอ่ื นเดนิ ทางไปนพิ พานด้วยกนั เรว็ ๆ นมี่ นั มีธรรมะเป็นสิ่งที่จ�ำเป็นส�ำหรับชีวิตทุกรูป แบบ ทกุ ขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการ ตัง้ แต่คลอด จากทอ้ งแมเ่ ตบิ โตไปจนกวา่ จะตายเขา้ โลง ตอ้ ง มธี รรมะทุกข้นั ตอนแห่งววิ ัฒนาการ ตอ้ งมธี รรมะทกุ ชนดิ แหง่ การงาน ไมว่ า่ จะ ท�ำการงานชนิดไหน จนพูดได้ว่านับต้ังแต่คน ขอทานไปถึงมหาจักรพรรดิแหละ เป็นขอทาน อยู่ เปน็ กรรมกรอยู่ เปน็ คนเหนด็ เหนอ่ื ยอยู่ เปน็ พ่อค้า เป็นชาวนา เป็นอะไรแม้กระทั่งเป็นผู้ ๔๒

ปกครอง เปน็ นายกรฐั มนตรี เปน็ กษตั รยิ ์ กระทงั่ เป็นมหาจักรพรรดิ ทุกชนิดของการงานต้อง ประกอบไปดว้ ยธรรมะ ตามสมควรแกก่ ารงาน นนั้ ๆ แล้วมันก็เล่ือนช้นั ไปทกุ ทๆี เป็นขอทาน ต้องมีธรรมะของคนขอทาน เป็นกรรมกรกต็ อ้ ง มธี รรมะของกรรมกร ชาวไรช่ าวนามธี รรมะของ กสิกร พ่อค้ามีธรรมะของพ่อค้า ข้าราชการมี ธรรมะของขา้ ราชการ นักปกครองนกั การเมอื ง เป็นตน้ ก็มธี รรมะของนกั ปกครองนักการเมอื ง เป็นเจ้าเป็นนาย เป็นมหาจักรพรรดิ ก็ต้องมี ธรรมะ พอขาดธรรมะนั้นมหาจักรพรรดิก็จะ หลน่ ปักหวั ลงในนรกเหมือนกัน ไม่ตอ้ งสงสัย นี่ขอให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสิ่งท่ี เรียกว่าธรรมะอย่างนี้ก็จะไม่เสียทีที่เป็นพุทธ- บรษิ ัท ทุกเรอ่ื งมนั ไปรวมอยู่ทจี่ ติ ใจ ด�ำรงจติ ใจ ๔๓

ถูกต้อง ควบคุมจิตใจถูกต้อง นั้นแหละก็จะมี ธรรมะได้ตามสัดส่วน หรือตามความสามารถ ของแตล่ ะคนๆ นเ่ี รอ่ื งดำ� รงจติ ใจอยา่ งไรนนั้ เปน็ เรอ่ื งใหญย่ ดื ยาว ไมอ่ าจจะมาพดู ในเวลาทเี่ หลอื อยไู่ มก่ นี่ าทนี แี้ ลว้ เลยไมพ่ ดู เอาไวพ้ ดู คราวหลงั จะบอกให้รู้ก่อนว่าทุกอย่างมันรวมอยู่ที่จิตใจ ความผดิ ความถกู รวมอยทู่ จ่ี ิตใจ ความสุขความ ทุกข์รวมอยู่ท่ีจิตใจ ร่างกายนี้ก็ขึ้นอยู่กับจิตใจ ตวั ชวี ติ กข็ นึ้ อย่กู ับจิตใจทม่ี นั ถกู ต้อง จติ ใจทีม่ นั ถูกต้อง แลว้ มนั กจ็ ะดีหมดแหละ ชีวิต ร่างกาย จติ ใจ ความรสู้ กึ สขุ ทกุ ข์ การเปน็ การอยทู่ กุ อยา่ ง มันก็จะถูกต้อง มีลักษณะแห่งความเป็นมนุษย์ ทเ่ี ป็นมนุษยใ์ นระดับสงู สดุ ขอให้ท่านทั้งหลายมองเห็นธรรมะ และ มุ่งหมายท่ีจะมีธรรมะเป็นเคร่ืองด�ำรงตน ใน ๔๔