Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ภูมิปัญการคัดเลือกควายไทย

✍️ภูมิปัญการคัดเลือกควายไทย

Description: ✍️ภูมิปัญการคัดเลือกควายไทย

Search

Read the Text Version

‡ªµ¥šค ¤¸É ว2¸Áา….2ยµ ท„„ม่ีµµ¦Šเี2 22ข2‡..Á.22า.¦2—´2.ก ¥¸.1.Á 2า22ก3¨„®ง..าº°­Á22š…รœ„..เ¸ µn21คµ…ร‡oµš® ียัดœ˜ ªหµสก¨เµµŠลนเีª¥¨ข„ข®อื้า¤Áา³µนกต¡ª´ ˜ห¦®แคา«¥ล´ªÁœลว…œºÁ‹วหาะ¤´Šµม³วัยห¥¸„ÂÅÄตเน­µ®พ¤¤เัว¦ขงัµÎจnÂศo¨n¡Áา®ะ—˜เไ¼„´œมมใ¦·œ„แ™ห›ียแ่´ ˜มɸล้š»rสÁÅตš¨่พµnกู¤ำกɗ¸ŠµÎ¥Ê¸ันถหตÂn„‹¸¡Š่ีธรา่˜³´¨เœ´ทุ์บังล®„¼„‡ี่ดก›ทีย้ ˜œ—ªบัีจง»rำnµµ¸ะµoลคพŠ¥¥หกูว„นั˜µดนา´ธªµย ีา้ ์ุ¤‡ต®ย°ªาาœ—»µมวŠ´¥¤อ®˜หดุ‡µนœม˜¤ังoµค· °หต—»นµิ ¤Š้าบ‡‡า˜°ง·Á¨คȄอเÂล¨็ก³­แลªn ะœสÄ่ว®นใหnÁ®ญœÈ ่เหªน็nµ วา่ ‹Á‹œª­ž³„³š2¨¨·­­´Á릵®Á.­žµ(ɸ…¼2„¦…´¥®2¤³Á¤­¥¼แ 6ลจแซคทคเนปสท Š.}œªœÁ.„oÁµ™ร4¨o2œµ­¸šูววำมึ่ตักลัี่ีดิสงลน¤šÅื่อ·œµ…Âɸ.¸Ê¥¼¦ามาก นะว˜´พ่ห5ี¤ัยจะ«—ทÎɨยޏÁµo¤°ŠÁยย–ั์เ°ีเดน­กะ่ª่ต„าานั„ )ีๆ¨žn¨…หÁล¹ÉÃททo—Š‹ž»žาใใงÁrจา­ัวnธªŠr‡Áµแ¼ีย้„¨¼„น็µªห่ขีœ่ีมน¸³¦Äรคะ¦์ุข¦(œœจœ¦งล¤·¸Ê¥—„ว——นเœÈ้นทªีโ— (เnมÁมนµµะอลŠค·­เ„Š่าะรµ„¸·œ¸า„š่ัว°ม¼­„ว‹‹มาาน่ื­ยี้°ค¦่ื£รอเ·—´ด¥¨ปª®ลด´ท³2œจห¦ีวง³ªง´ว¦ºÉœ„¼งป¤‡Âµnµูรก5ลใ™เ222ีสง–Âาเ็าน¥oµ¤šอr£ช¨หŠา‡ª·สžะร5...ดกูกµnÁ¨ย¨ŠรŠ222วนาน่¸¸¼¼oญ¤µµµ„อª¥วเ3ด้า¨ี{Åสกš³µÂ...่³าหท¤Áกnœ‹บ543šง·นµ)žี¦ร¤Îµ่¤ูง°าแ¸É¨ส¤แÅล‹ศาจÂใ¥ มµ˜กักɺ°°าร{nĵห˜­ นุมา³ลร¸ะ¤¡โทอš®)„³ักแาภล´ª¦ท¥®—µปญคงµห่ถ»ัขœะทÁุปรn่าใšมºÊɸูœ„กู¤Ä¤oŠ„มÇี่®รŤหรร่าเวท่ีย­ม่น´…Âจ้ไ่®Ê·ปิµาµž¸ปŠÃ–เšµยาÈง้ลิœท°ม‹าาถขีnะสิลnªÁ¨ไ¦ง¨็‡นั¦ญทชo­ÅสÁ®ูกɸ‹¨มงย»rบใ่³ื—อา้ด…ªัœัยกก‡oЇ¼ส¦ห„¤šอญขรกΨn¼µม¼า่ทÈว¤œญูสn„²¤µoµาษ´—ÄŠªัด้ดญาน„าnÄ­กแɸ„¼่าา¤้ิÂง¦์กว¸ภªย®ª‡­—ณาµÁงรสไ®เ´ใาร—ลลżnŠย่¨µา¤ŠูµมมปÂnปµ¥กกย¸ล˜ด¦มบžไูÁ—ÄะกะÄoง¦ร®¨Šº°Âีิn¨สล็นคปš„ามืนำoเ·µ่ำ„าาœอใeนnÁo°เ¨„´ล„ร¤้ลลู่n³„ขั®วŠ·µญตส่œเห¸Éมงก¤¨าิสสÁกก็คกู˜กู¬ŠÁÄ้อµา³n¡ทูง‡ัวิ้¦หตȜดรŸ®¨o¨ญ ัมาั®ยดไ‹„เมด¥nÄ่–ºÉาม˜°ªา่ž´œา คกดª´¼แ„„รȜอกเีµา®µนส¤มสงณµ´Šินเnµว ้ªลม›³¬¦ิ„เนใªดจÂ¥อม่¸oว°¨‡หาืn‹นไอก่»rœš(์‡Áแnµ˜าิน–เ™ุดŤปรนžบµ¼คม„็š³นจ็กกª‡กลªÉ¸ก—·­ะ´šมº°®ª n„ูใวร}œะÄแร³®ค่É´วงไªµµะต ª¸บห´ค¥ªาÈมณ¥®ณเµ¥่หาว¤จµจnัวµขุวยญตnµ¦่แ,¥ลกะoา้ะŠ์งีทเ6้า่าแิตร่ิยัเในกใแไเค่ีมแมหหห็วลกวไษหลวีพตพ่็ท้ลนล้ลต่ขกณ้างญ่ใื้นูกันูกวา่ายววหยฯทงมดดิะถ้ธ่่,าาา ้ กีี่ี่ีุ์ บั ควายตามอุดมคต ิ ¤œ¸ µ‡¤ 2553) ¨³ª·š¥µ„¦µŠšnµœ ¦³ª» µn ‡ªµ¥Â¤¡n ´œ›…»r œµ— Ä2°„Á®.Ž¥2·Ã¼n…œ.6¨(คแใ œnส˜ห¤มว„…อµ·Áญ´„¤่พา—ดœ¦Ä่ม˜ัน„ค´®µ¤ค¦สธ¨ล—ืo¨อ(ุ์ทูง้อµÂ­ Âร„¼่ีใŠปง¨หะ°…¨Çกร³ห้—ลันœ³ะœ™วูก2‡ทµม¤่¹าŠÊε.ด¨—2ุก®ง…า¸ีจ‡°o.ภÁ6ณ¨œœะŠาª3„Èอµ„ค´„5ขµ—ยœ´)10น ¤ู่ขć-2šา®น5ª­0ด„» 0าµ¼-แŠ£ด0¥1nลžµÂก‡4ะ‡กล¤º°¦0น)ิโาn¡¦ล³้ำง³´œเกหๆ¤®ซร›นµนัมª»rถšัก–nµตึง¸ÉĊแิขเค®มล3น1วo¨5ตะ2าา¼„0ม0ดยร-—-ี 51¸‹04³00 ภูมปิ ญั ญา 44 การคัดเลอื กควายไทย 44

2.2.7 ท้อง ช่วงท้องใหญ่ ลำตัวยาว มีความกว้าง เม่ือมองด้านหลัง ท้องไม่หย่อนมาก ควายให้ลูกดี ต้องท้องสำเภา หมายถึงท้องมี ลักษณะคล้ายท้องเรือสำเภา หรือคล้ายพุงปลากด ก็พอใช้ได้ (ล้วน, 2553) 2.2.8 ก้น แม่พันธุ์ท่ีให้ลูกดีต้องท้าย ลาดพอดี (สะโพกลาดเอียง) กระดกู เชิงกรานกว้าง ส่วนควายท้ายเต่า (ก้นโค้งเข้าไม่ลาดลง) บวกกับ การทม่ี ีเชิงกรานแคบ จะใหล้ ูกยาก และควายที่เหงา้ หาง ไม่เตม็ เบ้า เรยี กควายดากโบก (กลุ่มอสี าน) เวลาคลอด ลกู แลว้ จะผอม 2.2.9 ขา และเล็บ (กีบ) แม่พนั ธุด์ ี จะขา เล็ก หนังบางข้อขาไม่โต แตกต่างจากควายพ่อพันธุ์ ส่วนกีบจะเหมอื นควายงามตามอดุ มคติ 2.2.10 หาง เหง้าหางใหญ่ หางยาวเลย นอ่ ง ฟอยหาง (ขนหาง) งอเข้าข้างใน จะเล้ยี งลกู ดี ถ้า งอออกจากตัว จะไม่ชอบอยู่กับฝูง เวลาเลี้ยงตาม แนวป่าจะชอบหาย ทำให้เจ้าของหรือผู้เล้ียงต้องเสีย เวลาตามหาบ่อย (จำปา, 2553) และขนหางต้องไมเ่ ป็น สีขาว ใบจาน 2.2.11 อวัยวะเพศเมีย สัณฐานอวัยวะเพศ เหมือนกับควายงาม และมีข้อสังเกตจากภูมิปัญญาในภาค ตา่ งๆ ดงั น ้ี ก. ถา้ มีสณั ฐานใหญ่มาก เหมอื นใบจาน (ตน้ จาน) ถึงแม้จะผสมติดง่าย แต่เม่ือคลอดลูกแล้วมักจะ มดลูกทะลัก รักษาแผลยาก(กลุ่มภูมิปญั ญาภาคอีสาน) ภมู ปิ ัญญา 45 การคัดเลอื กควายไทย

ปลกี ล้วย บวั หลวง ข. สัณฐานเหมือนกาบปลีกล้วย (ดอกกล้วย) หรือกาบดอกบัวหลวง หรือบางท่านเรียกว่าเหมือนกีบม้า จะคลอดลูกง่าย เลย้ี งลกู ดี ฃ. สณั ฐานเหมือนใบพลู จะใหล้ กู ด ี ค. สณั ฐานเหมือนใบโพธิ์ เรียก แบบสามชัน้ (สรุ ชัย, บุญยิ่ง, 2553) จะมีรอยย่นเป็นช้ัน เหมือนรอยหยัก ของใบโพธ์ิ แสดงว่ามีความยืดหยุ่นมาก เวลาคลอดลูก อวัยวะเพศจะไม่มีปัญหาการฉีกขาด ฅ. ถ้ามีสัณฐานเหมือนกระจุกดอกจาน หรือ เหมือนขุยปู(คือดินท่ีปูขุดรูแล้วนำมากองปิดปากรูไว้) เวลา คลอดลูกอวยั วะเพศมกั จะฉีกขาด มีหนอนเจาะ (คำอธิบาย เพิ่มเติม: คอื สณั ฐานไม่เปน็ รปู สามเหล่ียม ทำให้มกี ารขยาย ตัวได้นอ้ ย คลอดลกู ลำบาก) ใบโพธิ์ ใบพลู ใบพลู ฆ. อวัยวะเพศ ท่ีมีสัณฐานเล็ก บวั หลวง, กบี ม้า จกั จั่น แต่มีส่วนนูนเด่นออกมา ส่วนปลายงอน ขึ้นเล็กน้อย เรียกภาษาชาวบ้านว่างอย ลักษณะท่ีดี ฝ่ัง(น่ังฝั่ง) หางจะปิดอวัยวะเพศไม่มิด ลกั ษณะที่ไม่ดี: งอยฝัง่ ประกอบกับมีหวั นมส้ัน ปลายอวยั วะเพศมี สีแดง เป็นควายที่เล้ียงลูกไม่ดี ลูกมักจะ ตาย และเมอื่ ให้ลกู แล้ว 1-2 ตัว ก็จะเป็น หมัน หรือผสมไม่ติด (จำปา,คำ,บัวโลม, 2553) แต่ถ้ามีสัณฐานเหมือนก้นแมลง จักจั่น คืออวัยวะเพศเล็ก แต่ปลายไม่งอ ขึ้น หางปิดสนิท ลักษณะนี้กลับจะคลอด ลูกดี ไม่มีปัญหาการฉีกขาดของอวัยวะ เพศ และไม่ตอ้ งรกั ษาแผล (คำ, 2553) ภมู ิปัญญา 46 การคดั เลอื กควายไทย

ง. ควายทีเ่ ป็นหมนั มักจะหวงไม่ให้คนดูอวยั วะเพศ (จำปา, 2553) จ. ควายที่มีขนหางลามไปถึงอวัยวะเพศ หรือมีขนงอกในอวัยวะเพศจะเลี้ยงลูกดี มาก(คำ, 2553) 2.2.12 เต้านมและหัวนม เหมือนควายงามตามอุดมคติ โดยเน้นคัดเลือกควายแม่พันธุ์ที่ ฐานนมกวา้ ง เอน็ นมหรอื ราวนมใหญ(่ คือเส้นเลือดทเี่ ข้าสเู่ ต้านม) มองเห็นชดั เจน ย่ิงยาวจะดีมาก แสดง วา่ มีนำ้ นมมาก เลยี้ งลูกดี สว่ น หวั นมต้องไม่ขาด ไมเ่ กนิ และไม่เป็นหวั นมบอด ขนาดเทา่ กันทงั้ สเี่ ตา้ ขนาดไมใ่ หญ่และเลก็ เกนิ ไป และมีข้อสังเกตเพ่ิมเตมิ จากภูมิปัญญาจากภาคตา่ ง ได้แก่ เสน้ ราวนม ก. ควายแม่พันธ์ุดี ต้องมีนมแบบ “นมหนูซิง”(ล้วน, 2553) คือ หนูตัวเล็กอาศัย ตามคันนา และชายปา่ จะมีลกั ษณะหวั นมยาว ข. ควายท่นี มเต้าใหญ่ แตห่ วั นมเลก็ ยาวและปลายแหลม จะให้นำ้ นมดี นำ้ นมรส หวาน(สุรชัย,2553) ลูกแข็งแรง และโตเรว็ ฃ. หัวนมแดง ไมด่ ี เลี้ยงลูกไมด่ ี ลูกมกั ตาย(กลมุ่ สกลนคร) ค. หวั นมเล็ก จะไม่คอ่ ยมนี ้ำนมเลยี้ งลูก(กลมุ่ สกลนคร) ฅ. หัวนมท่ีมีสีตกกระ เช่ือว่าน้ำนมดี เล้ียงลูกดีให้ลูกถ่ี(ปกติถ้าควายอายุมาก เตา้ นมและหัวนมมกั จะตกกระ) ฆ. หวั นมยาวด(ี สอดคลอ้ งทุกภาค) ง. ถ้าหวั นมเลก็ ไมพ่ ฒั นาตามอายุ มโี อกาสทีจ่ ะเป็นหมนั 2.2.13 ภมู ิปญั ญาเพิม่ เติมในการคดั เลือกควายแม่พนั ธ์อุ นื่ ๆ (1) ควายใหล้ กู ถ่ี จะไม่สงู มาก ตอ้ งมผี ิวสเี ทาดำ ท้องขาว ทอ้ งเรอื สำเภา ในขณะที่ ควายสูงใหญ่จะให้ลกู ห่าง (กลุม่ สกลนคร) สอดคล้องกนั เปน็ สว่ นใหญใ่ นทุกภาค (2) ลักษณะที่โบราณเรียก “หางนอ้ ยสรอ้ ยส้นั ” จะให้ลูกดี ในขณะทคี่ วายแม่พนั ธท์ุ ่ี มรี ูปรา่ งเหมือนตัวผู้จะใหล้ ูกไม่ดี ลกู ห่าง ไม่เล้ียงลูก ออกลูกๆจะตายบ่อย (ออ๊ ด, 2553) แสดงวา่ ควาย ให้ลูกดี ใหล้ กู ถี่ ไม่จำเปน็ ต้องเป็นควายงามตามอุดมคต ิ (3) ลักษณะเล้ียงลูกดี ให้ลูกดก มีความเชื่อว่าสามารถถ่ายทอดจากแม่ไปสู่ลูก (สอดคล้องกนั ของปราชญท์ ุกภาค) ภมู ิปญั ญา 47 การคัดเลอื กควายไทย

(4) ควายท้องอุ้มบาตร เขากว้างหลวมตัว จะให้ลูกงาม สมบูรณ์ เล้ียงง่าย และ ควรคัดเลือกควายท่ีรักษาสภาพร่างกายดี มีลักษณะนิสัยกินเก่ง กินเร่ือยๆ มีวงรอบการเป็นสัด สม่ำเสมอ จะใหล้ ูกดี ปีละตัวได้ (เวทีเสวนาฯ ,6 มีนาคม 2553) 2.2.14 ขวัญ ควายแม่พันธุ์นอกจากจะมีลักษณะอื่นๆ สมบูรณ์พร้อม การท่ีมีขวัญใน ตำแหนง่ ท่ีดี หรอื ขวัญมงคล และไมม่ ลี ักษณะกาลกิณี ก็จะส่งผลดีต่อผูเ้ ลี้ยงเช่นกนั และขวัญบางจดุ ยัง บ่งบอกถึงลักษณะการเลี้ยงลูกดีด้วย (รายละเอียดในหัวข้อ การคัดเลือกควายโดยการดูขวัญ และ ลกั ษณะกาลกณิ ี) ภมู ปิ ญั ญา 48 การคดั เลอื กควายไทย

3. การคดั เลือกควายงาน การคัดเลอื กควายเพื่อใชง้ าน ปราชญภ์ มู ปิ ัญญามหี ลักการ ดงั น้ี 3.1 หนา้ ตา หัว หู เขา คอ ควายใชง้ านดหี น้าคอ่ นขา้ งยาว หน้าบาง ไม่หนา้ สั้น มหี ูเลก็ และต้งั ถา้ หตู กจะแสดงถึงความขเ้ี กยี จ (ประสบ, 2527) ลักษณะเขา แม้ไมเ่ กี่ยวกบั การใช้งานโดยตรงแต่เกย่ี ว กับคนเล้ียง ดงั นน้ั ควายงานกต็ ้องมีเขางามเหมอื นควายงามตามอุดมคติ ยกเว้นหาไมไ่ ด้กจ็ ำเป็นท่จี ะใช้ ควายที่มีเขาแบบอ่ืนๆ ขอให้ใช้งานได้ ลักษณะคอ ต้องเป็นคอปลาหมอหรือคองูสิงห์ คือคอเป็นรูป สามเหลี่ยม ไม่หนาไม่ยาวมาก เวลาใส่แอกแล้วจะไม่หลุดง่ายภูมิปัญญาอื่นของปราชญ์ ในการคัดเลือก ควายงาน คอื หน้ายาว 1) ควายท่ตี าแหลว (ตาเหยีย่ ว) คือตาเป็นวงรียาว จะสอนงา่ ย 2) ควายทมี่ หี น้าค่อนข้างยาว เช่ือวา่ เปน็ ควายที่ใชง้ านคลอ่ งและวา่ นอนสอนงา่ ย ตรงข้าม กับควายใบหน้าสนั้ (จรัญ, 2527) 3.2 อุปนิสัย อารมณ์ นับว่ามีความจำเป็นมากสำหรับควายงาน ควายที่จะมาฝึกใช้งานจะได้ รับการเอาใจใส่ดูแลและสังเกตพฤติกรรมตั้งแต่เล็ก ควายที่มีนิสัยเช่ือง ท่าทางฉลาดและเป็นมิตรกับ เจ้าของ จึงจะถูกเลือกนำมาฝกึ เพื่อใชง้ าน 3.3 ขวัญ ควายใชง้ านกบั ลักษณะขวัญ มีความสำคญั ตอ่ เจา้ ของมาก จงึ ตอ้ งได้รับการตรวจสอบ ขวัญและตำแหน่งขวัญต่างๆ เกษตรกรบางรายอาจดูลักษณะขวัญไม่เป็น ก็ต้องไหว้วานให้ปราชญ์หรือ ผู้รู้ประจำหมู่บ้านมาตรวจสอบให้ ควายท่ีมีขวัญดีตามตำราเท่าน้ัน จึงจะถูกเลือกมาฝึกใช้งาน (รายละเอยี ดใน การคดั เลือกควายโดยการดขู วัญ) 3.4 โครงสร้างลำตัว ลำตัวยาว หน้าอก กว้างเต็ม ไหล่ใหญ่ หลัง แบนและกว้าง (คำภู, 2553) ส่วนใหญ่เห็นว่าควายทำงานดี ไม่ใช่ควาย อ้วน เพราะนอกจากอุ้ยอ้ายแล้ว เวลาทำงานก็จะ ร้อนเร็ว ทำงานไม่ทน โดยมีภูมิปัญญาเพิ่มเติม ดังนี ้ ลำตวั ยาว ภมู ปิ ญั ญา 49 การคดั เลือกควายไทย

1) ควายท่ีลำตัวยาว เรียกควาย 2 ลกั ษณะควายหลาบเสอื ช่วง (ประเทือง, 2553)จะเดินดี ทำงานเร็ว(ก้าว แต่ละกา้ วจะไถไดร้ ะยะทางมากกวา่ ควายตวั สัน้ ) 2) ควายหลาบเสือ คือลักษณะตัว บางเหมือนเสือ ซี่โครงจะจับต่ำไม่กางออก ควาย ประเภทนี้จะไม่อ้วนอุ้ยอ้าย ทำงานคล่องกว่าควาย ที่อ้วน นอกจากหลาบเสือแล้ว หลังต้องเป็นหลัง กระแตหยุด(ล้วน, 2553) คือ หลังมีลักษณะ โกง(โค้ง)เล็กน้อย เหมือนจังหวะที่กระแต(สัตว์ เล้ียงลูกด้วยนม คล้ายหนู)หยุดว่ิงหรือหยุดเดินบน กิ่งไม ้ เรียกได้ว่าเป็นควายที่หลังโค้งนิดหน่อย และ ประสบ(2527) กลา่ ววา่ ควายท่หี ลังโกง ทอ้ ง ปอ่ ง เรียก “หลังกุ้ง พงุ ปลากด” ถอื วา่ เป็นควายช้ัน สอง ไมใ่ ช่ควายสวยงาม ควายชน้ั นจ้ี งึ น่าจะใชเ้ ปน็ ควายงาน 3.4 ขนาดและน้ำหนัก ควายงาน นิยม ควายที่ไม่สูงมาก จะแข็งแรง ทนงานหนักดีกว่า ควายสูง และน้ำหนักไม่มากเกินไป(สอดคล้องกัน ทุกภาค) ขนาดควายงานส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้ เพราะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไถ และคราด รวมถึง กำลังของผ้บู งั คับและใชง้ าน เชน่ ถา้ เป็นสตรี กม็ ัก นิยมใช้ควายเพศเมีย ท่ีตัวเล็กกว่าเหมาะกับกำลัง ของผู้หญงิ ดว้ ย เปน็ ตน้ 3.5 ท่าทางการยืน การยืนอาจไม่สง่า เหมือนควายงามตามอุดมคติ แต่ควายงานจะเน้น ลักษณะการเดินเป็นสำคัญ โดยจะเนน้ การคัดเลือก ควายท่ีเดินเร็ว เดินคล่องแคล่ว และช่วงก้าวเดิน รอยเท้าหลัง ต้องก้าวเลยรอยเท้าหน้า (ทุกภาค) ซ่ึงจะเป็นควายงานที่เดินเร็ว ทำงานได้มาก นอกจากนีย้ งั มีภูมปิ ัญญาในการคดั เลือก ดงั น้ี ภูมปิ ัญญา 50 การคัดเลอื กควายไทย

ลักษณะควายทำงานท่ีดี 1) ควายงานตอ้ งเดนิ ยก เดินด ี 2) ท่าทางแคล่วคล่อง เวลายืน หัวยก เวลาเดินขาไมเ่ ก 3) ควายที่จะเดินดี ใช้งานดี เวลาเล้ียงจะไม่ชอบอยู่หลังเพื่อน (อ๊อด, 2553) 4) ไม่เดินสับสิ่ว เวลาก้าวเดิน รอยเทา้ หลงั ไม่ย่ำลงตรงรอยเท้าหนา้ (สบั สิ่ว คือสับท่ีเดิม) ทำให้ได้ระยะไม่ไกลใน เวลาท่เี ทา่ กนั 5) ขายาว ก้าวยาว เดินตรง เ ว ล า เ ดิ น ข า ไ ม่ เ บี ย ด ห รื อ เ สี ย ด สี กั น (สอดคล้องทกุ ภาค) 3.6 สี/ลักษณะขน/ลักษณะหนัง ลักษณะท่ัวไปถ้าเลือกได้ก็จะเลือกเหมือนควายงาม โดยมีภูมิ ปัญญาเพมิ่ เติม คือ 1) บางแห่งเช่ือว่าสีเลา ใช้งานดี ไม่พยศ ซึ่งอาจเก่ียวข้องกับการทนร้อน เพราะโดย ลกั ษณะสีของหนังหรือขนทจ่ี างกว่า ทำใหด้ ูดกลนื รังสคี วามรอ้ นไดน้ ้อยกว่าสีดำเขม้ จึงทำใหร้ อ้ นชา้ กวา่ จึงไม่แสดงอาการด้ือพยศในการใช้งานให้เห็น แต่ ทองใบ และ สมบัติ (2553) กล่าวว่าควายสีดำจะ แขง็ แรงกวา่ ควายสีอนื่ ๆ 2) หนงั หนา พงุ ปลากด ใช้งานไม่ดี (ลกั ษณะควายตัวสัน้ ) 3) ควายขนสั้น ใชง้ านดกี วา่ ขนยาว ถ้าเปน็ ควายขนคา่ ง (ลงิ ค่าง บา่ ง ชะนี) คอื มขี นท่ี ยาว เสน้ ขนออ่ น จะเปน็ ควายทีไ่ มท่ นแดด ร้อนง่ายไมอ่ ดทน (กลมุ่ ภูมิปญั ญาภาคอีสาน) 4) ขนเรยี บ เส้นใหญ่พอด ี 5) ควายทผ่ี วิ หนงั บางและออ่ นนุ่ม ส่อลักษณะวา่ นอนสอนง่าย (จรญั , 2527) 3.7 จมูก ปราชญ์ชาวบ้านทุกภาคให้ข้อมูลภูมิปัญญา รจู มูกแบน ตรงกัน คือ ควายใช้งานดี ไม่ใช่ควายท่ีรูจมูกใหญ่ แต่ควายที่ ทำงานดี อดทน และไม่หอบง่าย คือ รูจมูกจะต้องไม่ใหญ่เกิน ไป รูจมูกมีลักษณะแบน (เป: คือแบน,อีสาน) เหมือนรูแมลง เงา(แมลงปอ่ งยกั ษ์สีดำ จะทำรูอยใู่ นดนิ กินได)้ ในขณะทร่ี จู มูก กลมใหญ่(เหมอื นรูบงึ้ :แมลงมุมยกั ษ์ มสี ีดำ จะขดุ รูอยใู่ นดนิ เช่น กัน คนอีสานชอบนำไข่ รวมท้ังตัวบ้ึงมากินได้) จะไม่ทนแดด และหอบเร็ว ซ่ึงถ้าวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริง รูแมลงเงา ท่ีมี ลักษณะแบน ย่อมมีพ้ืนที่หน้าตัดที่มากกว่า จึงย่อมมีการแลก ภมู ปิ ัญญา 51 การคดั เลอื กควายไทย

รจู มกู กลม เปลยี่ นอากาศไดด้ ีกว่า ซง่ึ ประสบ(2527) กล่าววา่ รูจมูกใหญ่ แสดงถึงความสามารถในการทำงาน เพราะมีการเอาก๊าซ ออกซิเจนไปใชไ้ ด้มาก และทำให้ถา่ ยเทกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ บางแห่งเชื่อว่ารูจมูกใหญ่ จะเป็นควายดือ้ แต่เปน็ ควายกนิ อาหารเก่ง อ้วนเรว็ 3.8 ขา ขาใหญ่ ดกู ระดกู แขง็ แรงท้งั ขาหนา้ และขาหลัง ขาไม่ส้ันเกนิ ไป ขาหน้าตรง ขาหลังงอเลก็ นอ้ ย (เรยี กว่าขาขอ) ควายงานขาหลังจะไม่งาม ก้าวจะยาว เดินเร็ว ได้งานมาก ส่วนขากะน่องลิง หรือกะน่องแมว (อธิบายมาแล้วในควาย งาม) เวลาเดินขาหลังจะกระทบ เสียดสีกัน ไม่ดี และไม่มีใคร นิยมใช้ควายท่ีขากระตุก หรือควายขาทกมาฝึกใช้งาน (สอดคล้องทุกภาค) 3.9 เล็บเทา้ (กีบ) เลบ็ เทา้ หนา้ กลมโต ยืนกีบตง้ั ตรง เรยี ก เลบ็ ย่องหรอื เลบ็ หยัง่ (ตั้ง) ขอ้ เทา้ ดู แขง็ แรง เล็บหลงั ไม่เก องุ้ กบี ตอ้ งใหญ่ เวลาไถนาขาจะไมจ่ มโคลน (แตเ่ วลาเดินบนพื้นดนิ เรียบ จะเดนิ ช้ากว่าควายกบี เล็ก) กีบไม่มรี อยแตก ถ้าเลบ็ ยาว แบะเหมือนตีนเปด็ หรือกา้ มปู จะชอบเจบ็ เท้า เดนิ ไม่ ดี ไม่เกาะดนิ 3.10 หาง นยิ มควายหางเต็มเบา้ หางยาวและฟอยหางยาว ซงึ่ จะใชไ้ ล่แมลงไดด้ ี โดยเฉพาะ การทำงานในช่วงเช้าและเย็น ควายจะถูกรบกวนด้วยเหลือบ ริ้น ตลอดเวลา นอกจากเจ้าของช่วยไล่ แมลงด้วยการวิดน้ำใส่แล้ว หางยาวๆ ของควายก็จะช่วยตวัดไล่แมลงไปด้วยทำงานไปด้วยตลอดเวลา และไม่ค่อยพบเกษตรกรใชค้ วายที่ขนหางสขี าวมาฝึกหัดใชเ้ ปน็ ควายงาน 3.11 อวยั วะเพศผู้/เมีย ควายงานเพศเมีย คัดเลอื กตามลักษณะควายแมพ่ นั ธุ์ สว่ นควายเพศผู้ ก็จะดูลักษณะต้องห้ามหรือลักษณะท่ีเป็นกาลกิณี ทเี่ กย่ี วข้อง เช่น ควายลกู อณั ฑะบดิ หรือ มีปลาย ลงึ คด์ ำ กไ็ มน่ ยิ มนำมาฝกึ ใช้งาน เนื่องจากจะเปน็ ควายดื้อ พยศ และถ้าเป็นควายตัวผู้ท่ีตอนไม่ ลง(ภาษาอีสานเรยี กตอนฮาม) คือเดิมวิธกี ารตอน จะทุบไข่ให้แตก และหมอตอนบางคนจะเหลือไข่ ไว้นิดหน่อย เช่ือว่าจะทำให้ควายงานแข็งแรง กว่า ซ่ึงอาจจะมาจากที่ยังสามารถสร้างฮอร์โมน เพศได้ เวลาไถนาไป ถ้าได้กลน่ิ ควายตวั เมียทเ่ี ปน็ สัด ก็จะพาไถว่งิ ไมย่ อมทำงาน สรา้ งปญั หาใหก้ บั เจ้าของได้ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งท่ีควายงานเพศผู้ สว่ นใหญจ่ ะตอ้ งได้รบั การตอน ภูมิปญั ญา 52 การคัดเลือกควายไทย

อนงึ่ ควายถา้ ไถนาเปน็ แล้ว จะมา ใช้เทียมเกวียนได้เลย โดยการฝึกเพิ่มอีกนิดหน่อย ส่วนควายที่ใช้ไถคู่อยู่แล้ว ในภาคกลางและภาค ใต้ แทบจะไม่จำเป็นต้องฝึกอีก ส่วนควายเผือก เรอื งศักด์ิ (2549) กล่าวว่า สามารถใช้แรงงานได้ เหมือนกับควายดำ มีการใช้แรงงานในการไถ คราด หรือบางครั้งพบใช้เทียมเกวียนลากส่ิงของ ด้วย แต่ถ้าใช้ไถนาจะมีข้อเสียคือร้อนง่าย ไม่ทน ร้อนเท่ากับควายดำ มักจะหยุดรอและนอนน้ำ บ่อย ทั้งน้ี น่าจะเกิดจากท่ีผิวหนังไม่มีเม็ดสีดำท่ี จะดูดซับความร้อนเอาไว้ ทำให้แสงแดดทะลวง เขา้ ถึงผวิ หนังช้นั ใน หรอื กระทบเสน้ ประสาทชน้ั ใต้ผิวหนังได้งา่ ย 4. การคดั เลอื กควายโดยการดขู วัญ ภูมิปญั ญาน้ี คอ่ นขา้ งจะเปน็ ความลบั มีปราชญภ์ ูมิปญั ญา ส่วนน้อยเท่าน้ัน ท่ีถ่ายทอดองค์ความรู้ได้ และมีความหลากหลายแตกต่างกันไป โดยเฉพาะช่ือเรียก ตำแหน่งขวญั ตา่ งๆ ขวัญ เป็นลักษณะของขนบนร่างกายที่ขดเป็นวง อาจ ขวัญเวียนขวา เวียนซ้ายหรือเวียนขวา ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของควายไทย ขวญั เวียนซ้าย ปราชญ์บางท่านระบุว่าขวัญดีจะเวียนขวา(ประทักษิณ) โดย ควายจะมีขวัญตามร่างกายต้ังแต่ 1-9 แห่ง อยู่ในตำแหน่งท่ี แตกต่างกัน จึงใช้ขวัญเป็นเครื่องหมายของควายแต่ละตัวได้ ซ่ึงเดิมมีการใช้ขวัญเป็นเครื่องหมายกำหนดรูปพรรณประจำตัว ตัวควาย (จรัญ, 2527) ซ่ึงจากการสืบค้นภูมิปัญญาการคัดเลือกควาย ได้ ทำการสำรวจขวัญควายไมต่ ำ่ กวา่ 200 ตวั พบวา่ ตำแหน่งขวัญ จะพบมากบริเวณใบหน้าตรงบริเวณหน้าผาก และบริเวณไหล่ หน้า เกษตรกรภูมิปัญญาท่ัวทุกภาคมีภูมิปัญญาเกี่ยวกับขวัญ มากน้อยแตกต่างกัน แต่ขวัญที่เป็นลักษณะดี และขวัญท่ีเป็น ลักษณะกาลกิณี ส่วนใหญ่จะระบุตรงกัน โดยช่ือขวัญและ ตำแหน่งขวัญ อาจตรงหรือคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย โดยการดู ขวัญได้จำแนกขวัญออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ขวัญดีและขวัญไม่ดี หรือขวญั ทเี่ ป็นลักษณะกาลกณิ ี โดยมรี ายละเอียด ดงั นี้ ภมู ปิ ญั ญา 53 การคดั เลือกควายไทย

4.1 ขวัญดี เป็นความเช่ือว่าเป็นลักษณะมงคล มีรายละเอียดแยกตามช่ือ ตำแหน่งขวัญและ ความเชือ่ ชดุ ขวญั ดี 1 1 47 11 3 5 10 2 6 9 89 12 10 11 14 13 ตารางที่ 1 แสดงช่อื ตำแหนง่ ขวัญดแี ละคตคิ วามเช่อื ตำแหน่งขวัญท/ี่ ชือ่ ตำแหน่งขวญั คต:ิ ความเช่อื 1. บรเิ วณกลางหัว ระหว่างเขาสองขา้ ง (1) เสมอื นข้าวปลา อาหาร ที่อดุ ม (1) ขวัญก้อนเกลือ(กลุ่ม เป็นปุ่ม เห็นชัดเจน ซึ่งจะเป็น สมบูรณ์ ภาคกลาง,เหนือ,ใต้) จุดรวมประสาท สมัยก่อนเวลา (2) ค้ำคูณ เจ้าของอยู่เย็นเป็นสุข (2) กาสับหน้าผาก (กลุ่ม เพชฌฆาตจะฆ่าวัวฆ่าควายจะใช้ ควายตัวน้ีจะไม่ถูกฆ่า (คือไม่ อีสาน) ค้อนทุบจุดนี้ให้สลบ นิยมเรียกว่า ตายโหง) จะถูกเล้ียงจนแก่ตาย (3) ขวัญทูนข้าวเปลือก “ก้อนเกลือ” และเมื่อตายแล้วจะเอาซากไป (กลุม่ ภาคกลาง) ท้ิง จนอีกาได้สับกินเน้ือตาม (4) ขวัญ”ทนู ปลกู ” (สงบ, กระดกู (วิลัย, 2553) 2553) (3) ควายที่มีขวัญทูนข้าวเปลือก จะใช้แรกนาขวัญ และ เวลา เริ่มไถนาจะใช้ไถก่อน โดยมี ทูนข้าวเปลือก ความเชื่อว่าข้าวกล้าจะอุดม สมบรู ณ์(อ๊อด, 2553) ภูมปิ ัญญา 54 การคัดเลอื กควายไทย

ตารางท่ี 1 แสดงช่ือ ตำแหนง่ ขวญั ดแี ละคตคิ วามเชื่อ (ต่อ) ตำแหน่งขวญั ท่ี/ชอ่ื ตำแหนง่ ขวัญ คติ:ความเชอื่ 1. (ตอ่ ) (4) ขวัญ “ทูนปลูก” คือทูนข้าว ปลูก(พันธ์ุข้าวเปลือกนำมาแช่ น้ำก่อนปลูก) เชื่อว่าควายที่มี ขวัญนี้ จะฝึกง่าย เชือ่ งเรว็ 2. ขวัญหน่ึงอยู่บนหน้าผาก สองขวัญ เป็นขวัญดี หมายถึงความอุดม (1) ขวัญก้อนซางแก้ว อยู่สองดา้ นของดั้งจมูก สมบูรณ์ การมีแก้วแหวน เงินทอง (จรญั , 2527) มีความม่ันคงในการประกอบอาชีพ (2) ขวัญสามเส้า ของเจ้าของ (คำปนั ,2553) 3. กลางหน้าระหว่างตาสองข้าง(อาจ (1) เจ้าของจะประสบความสำเร็จ (1) ทา้ วนงั่ จา (ภาคกลาง, เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง) จำนวน 1 ในการเจรจาความ อสี าน, เหนือ) ขวญั (2) ทำอะไรมักจะชนะหรือเป็นที่ (2) ขวญั เลขหนึ่ง หนง่ึ เสมอ (คำ, 2553) (3) หน้าตรง ทา้ วนั่งจา 4. บรเิ วณกกหูด้านใดดา้ นหนง่ึ (1) เสมือนการทัดดอกไม้ สวยงาม (1) ทัดดอก เป็นมงคล (2) กอ้ นหางคำ (3) ขวญั ขนาบหู (2) เสมือนมีทองคำ ร่ำรวยมีเงิน (สงบ, 2553) ทอง (3) เป็นควายท่ีฝึกง่าย เช่ือฟังคำสั่ง ไดเ้ ร็ว ทดั ดอก ภมู ปิ ัญญา 55 การคดั เลอื กควายไทย

ตารางท่ี 1 แสดงช่ือ ตำแหน่งขวัญดแี ละคตคิ วามเช่อื (ต่อ) ตำแหนง่ ขวญั ท/่ี ชื่อ ตำแหน่งขวัญ คต:ิ ความเช่อื 5. บริเวณสวาบ อาจอยู่ซ้ายหรือขวา เจ้าของจะมีความโชคดี ถ้าปลูกข้าว (1) ยุง้ ขา้ วแตก (ทุกภาค) ก็ได้ บางที่ระบุว่าต้องอยู่ด้านซ้ายจึง ทำนา ก็จะได้ข้าวมาก จนยุ้งฉางท่ี (2) เล้าข้าวแตก (กลุ่ม จะเรียกยงุ้ ขา้ วแตก สร้างไว้ไม่พอเก็บ เรียกว่าได้ข้าว อีสาน) มากเหลือเฟือ ถ้าพยามยามใส่เข้าไป อีกก็จะทำให้ยุ้งข้าว หรือเล้าข้าว ยงุ้ ข้าวแตก แตกได้ 6. แม่ฮ่างเปิดซิ่น (บัว ขวญั ท่ขี าพับหลัง ใครเห็นใครชอบเป็นเสน่ห์ขายออก โลม, 2553) ในแง่มมุ ได้ง่าย ทีด่ ี ขวัญดี น่าจะหมายถึงการได้รับอุ้มชู ช่วยเหลือ 7. บริเวณกลางหลงั (1) ขวัญก้ังห่ม (ทุกภาค กระทาบหน้า/คบู หน้า ถ้าเป็นคู่ อย่างน้อย 2 คู่ จะเป็น ยกเว้นภาคใต้) ควายที่ฝึกหัดง่าย(สวาท,2553) ซึ่ง (2) ขวญั ประจำใจ เหมาะสำหรับนำมาฝึกหัดใช้งาน (สงบ, 2553) และฝึกการแสดงได้ (3) ตั้งต่าง(ที่นั่งบนหลัง ชา้ ง) (จันทร์, 2553) 8. (1) กระทาบหน้า (2) ตะพาบหน้าหรือคูบ หนา้ (สมจติ ร, 2553) 9. ขวัญคำ้ หนา้ คูณหลงั คือมีขวัญเลขหนึ่ง พร้อมกับมีขวัญคู่ เป็นขวัญดี ค้ำคูณกับเจ้าของ (คำ, 2553) บริเวณร่องสะโพกใต้หางลงมาอีก 1 เจ้าของได้รับความร่มเย็น ม่ังมี คู่ ศรสี ุข (หายาก) 10. ขวญั คำ้ หน้า คณู หลัง ขวัญ 4 คู่ คือคู่แรกจะอยู่ที่ไหล่ 2 ความหมายเช่นเดียวกัน คือ ทำให้ (ปรชี า, 2553) ข้าง เรียกกระทาบหน้า และคู่ที่ 2 เจา้ ของมีโชคลาภ(คำ้ คณู กับเจา้ ของ) จะอยู่ช่วงเอวสูงกว่าบริเวณสวาบ เรยี กกระทาบหลงั ภมู ปิ ัญญา 56 การคัดเลอื กควายไทย

ตารางท่ี 1 แสดงชื่อ ตำแหน่งขวญั ดีและคตคิ วามเชือ่ (ต่อ) ตำแหนง่ ขวญั ที่/ช่ือ ตำแหนง่ ขวญั คต:ิ ความเชอ่ื 11. หาบเงิน-หาบทอง ขวัญคู่ต่อกนั เหมือนไมค้ าน เป็นศิริมงคล ใครมีควายขวัญ (ปรีชา, 2553) บรเิ วณดา้ นบนของสวาบ ลักษณะนี้ จะมคี วามเจรญิ รงุ่ เรืองใน การประกอบอาชีพ ทำนาได้ขา้ วมาก ค้าขายดี มโี ชคลาภ ร่ำรวย ถงึ ขนาด มเี งนิ ทอง จนไดห้ าบไดห้ าม 1 ขวัญ และไหล่หนา้ 1ขวญั หาบเงิน-หาบทอง ถ้ามดี ้านเดยี ว เรียกหาบเงิน หาบทอง ถ้ามที ง้ั สองดา้ น เรยี ก หาบเงินหาบทองคู่ 12. ขวัญรบั แอก เป็นควายที่ไถนาดี ค้ำคูณเจ้าของ (กลุ่มอสี าน) ทำนาได้ข้าวมาก (วัง,ล้วน, 2553) ส่วนคำภ(ู 2553) และ จรัญ(2527) เรียกขวัญที่อยู่ด้านบนของคอว่า “อกแตก” ซ่ึงเป็นตำแหน่งที่ใกล้ รบั แอก เคยี งกับขวญั รบั แอก ตรงคอที่รบั แอกเวลาเข้าไถ 13. ขวญั ฮดั ไถ้(ไถ้ คอื ถงุ อยตู่ รงช่วงเอว 2 ดา้ น เจ้าของจะมีเงินทอง ทำมาค้าขาย เก็บเงินสมัยโบราณ รำ่ รวย เยบ็ ดว้ ยผ้า) 14. บริเวณสะโพก ด้านใดด้านหนึ่ง เปน็ ขวญั ด ี (1) แวน่ พญา สว่ นใหญจ่ ะเย้ืองมาทางสวาบ (2) ขมวดสาหร่าย (พิจติ ร) หมายเหตุ ขวัญตำแหน่งท่ี 10 และ 11 มีความใกล้เคียงกันมาก แต่ลักษณะขวัญหาบเงินหาบทอง การขมวดของขนจะต้องเชื่อมต่อกันจากจุดด้านไหล่หน้า ไปหาจุดด้านบนของสวาบ เป็นลักษณะของ ไม้คาน สำหรับหาบสง่ิ ของในสมยั กอ่ น (คำ, 2553) ภูมิปัญญา 57 การคดั เลอื กควายไทย

16 16 ชุดขวัญดี (2) 19 21 22 25 18 24 17 23 20 15 ตารางที่ 1 แสดงช่ือ ตำแหน่งขวัญดีและคตคิ วามเชื่อ (ต่อ) ตำแหน่งขวัญที/่ ชื่อ ตำแหน่งขวญั คติ:ความเชอ่ื 15. ขวัญท่ใี ต้ท้อง หากมที ้ังสองขา้ งจะด ี ใหล้ ูกมาก ลกู ถ่ี และเลย้ี งลูกดี (1) สะเภา (สำเภา) (เพศเมยี ) อ้มุ ทอง (2) ตะเภาลอ่ ง (พร, 2553) (3) ตามอคำ้ ยงุ้ (ประเทือง, 2553) 16. สามกอ้ นเสา้ ทอง หลงั หู 2 และหวั 1 ขวญั ดี(ไม่มคี ำอธบิ าย) (ทว,ี 2553) 17. ห้อยหง่ิ (คำภู, 2553) อยู่ตรงกลางด้านล่างของคอ ตรงที่ ขวัญดี (ไม่มีคำอธิบาย) แขวนกระดิง่ พอด ี ภมู ิปัญญา 58 การคัดเลือกควายไทย

ตารางท่ี 1 แสดงชอื่ ตำแหน่งขวัญดีและคตคิ วามเชอื่ (ต่อ) ตำแหน่งขวัญท่ี/ชอ่ื ตำแหนง่ ขวญั คต:ิ ความเชือ่ 18. บริเวณตรงโหนกหน้า หรือตรง (1) งำเงา ตะโหนก ถอื เปน็ ขวัญมงคลไดเ้ ป็นรม่ (กลุม่ ภาคเหนอื ) เงา (2) พญากลางจ้อง (กล่มุ ภาคกลาง) (3) กางหบหรือกางหม (คำภู, 2553) 19. กวาดกองหรอื ปดั กอง ก ล างหลงั ตรงปลายหางปดั ถงึ พอด ี ร่ำรวย กวาดข้าว ของ เงนิ ทอง (ล้วน, 2553) 20. ขวัญนำ้ ย้อย บริเวณแนวของปลายซโ่ี ครง (ซ่โี ครง ขวัญดีถึงปานกลาง (ลว้ น,พร, 2553) สุด:อสี าน) 21. บริเวณเหงา้ หาง(กกหาง) ขวัญดี(ไม่มคี ำอธิบาย) (1) กอ้ นหางคำ (2) กกหางทบั (พร, 2553) 22. สอ่ งทาง (พร, 2553) สันจมกู ทตี่ รงกับตา 2 ขา้ ง เหมือนส่องนำทางความเจริญ โชค ลาภ 23. บนั ไดแก้ว เหนือข้อขาหน้า ตรงที่คนใช้เหยียบ เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ ทำการงาน (พร, 2553) เวลาข้นึ ขี่ อาชีพประสบผลสำเร็จ 24. รกั ยมิ้ (พร, 2553) ข้างแก้มด้านใดด้านหนึ่ง หรือท้ัง ขวญั ดี รบั แขก ซื้อขายง่าย สองขา้ ง 25. นางกวัก ปลายหขู ้างใดขา้ งหนึ่ง เงนิ ทอง อุดมสมบรู ณ ์ 26. ขวัญดาวเรือง คอื ควายท่ีมขี วญั รวมกันท้งั หมด 12 จุด ทั้งทอี่ ยใู่ นตำแหนง่ ทด่ี ีและไม่ดี จะถอื ว่าเปน็ ควายทด่ี ีทีส่ ุด หรือพญาควายก็ว่าได้ แต่หายากมาก (พร, 2553) ภูมิปญั ญา 59 การคดั เลือกควายไทย

ชดุ ขวญั ไม่ดี 15 13 56 8 1 9 2 7 12 4 10 11 3 14 16 4.2 ขวญั ไม่ดี มคี วามเชอื่ วา่ ไม่เป็นมงคลกบั ผู้เลีย้ ง หรือมไี วค้ รอบครอง ดังน้ี ตารางที่ 2 แสดงชอ่ื ตำแหน่งขวัญไมด่ ี และคตคิ วามเชอ่ื ตำแหนง่ ขวัญท/่ี ชอ่ื ตำแหน่งขวัญ คต:ิ ความเช่ือ 1. บริเวณกลางหน้าผาก บางแห่งกล่าว ขวัญกบาลหัวแตก ควายตัวน้ันจะ กระบานหัวแตก ว่ามี 1 ขวัญ บางแห่งระบุว่ามี 2 ตายโหง เช่น โดนฆ่า ฟา้ ผา่ ตกเหว (สอดคล้องทกุ ภาค) ขวัญจึงเรียกกบาลหัวแตก ตกเขา หรือตกบ่อน้ำตาย(บุญโลม, 2553) 2. บริเวณใตต้ าท่ีน้ำตาไหลลงมา (1) เจ้าของจะประสบความทุกข์ (1) สดี าน่ังไห้ หรือ ความโศก แพภ้ ยั ตัวเอง สีดารอ้ งไห้ (ทุกภาค) (2) ไม่เป็นท่ีต้องการของผู้พบเห็น (2) ขวัญน้ำตา (สงบ, 2553) ภมู ปิ ญั ญา 60 การคัดเลือกควายไทย

ตารางท่ี 2 แสดงชื่อ ตำแหนง่ ขวัญไม่ดี และคติความเช่อื (ตอ่ ) ตำแหน่งขวัญที/่ ชอ่ื ตำแหนง่ ขวัญ คติ:ความเชอ่ื 3. (1) แทงโลง ขวัญกลางตัวท้ังสองข้าง เยื้องมา เป็นอปั มงคล ดอื้ ร้นั ไมเ่ ชอ่ื ง เลยี้ งไม่ (2) ขวญั แทงพงุ ด้านหน้าใกล้ตำแหน่งหัวใจ ที่ โต (ล้วน, 2553) (3) ฮับหอก (หมายถงึ เพชฌฆาตใช้มีดแทง(หรือใช้หอก รับหอก) แทง ในสมยั โบราณ) 4. ขวัญบรเิ วณหนา้ อกตรงลกู มะพรา้ ว นำความทุกข์ยาก เดือดร้อน มาสู่ (1) ธรณีอกแตก เจ้าของ (2) ปัน่ พนื้ 5. บริเวณกลางหลังจุดที่คนขน้ึ ขี่พอดี (1) เชื่อว่าถ้าของหายจะไม่ได้คืน (1) นัง่ ทบั (ออ๊ ด, 2553) (ฉลอง, 2553) (2) ทน่ี ่งั โจร (2) ของรกั หายแล้วจะไมไ่ ดค้ ืน (ออ๊ ด, 2553) 6. ขวัญท่ีตะโหนกหลัง ตรงกระดูก ไม่ดี ทำมาคา้ ไม่ขึ้น เหมือนหางท่จี ะ (1) ปัดตลอด ก้นกบ กวาด(ปัด)ออกไปตลอด (ล้วน, (2) วปี ัด 2553) 7. ขวัญดีดข้ ี บริเวณใตเ้ ล็บน้อย จะดือ้ ชอบเตะถบี เจา้ ของ  (พร, 2553) (ล้วน และคำ, 2553) ให้ความเห็น ว่า ขวญั ดีดขี้ นา่ จะมเี ฉพาะในววั ) 8. บริเวณปุ่มสะโพก ข้างใดข้างหนึ่ง (1) เจ้าของมักเจบ็ ปว่ ยบ่อย (1) กาเซ็ดสบ (อสี าน) (เม่ือกาบินมาจับท่ีกระดูกก้นกบของ (2) ถ้าเป็นคน หมายถึงคนท่ีพูด คือ กาเชด็ จะงอยปาก ควาย ก็จะใช้จะงอยปากเช็ด เร่ือยเป่ือย ไม่น่าเชื่อถือ(พูด (2) นกเอ้ียงสับ ทำความสะอาดกบั ปมุ่ สะโพก) มาก ไม่ได้สาระ) (ทองสัน, (กลุ่มภาคกลาง) 2553) ภมู ปิ ญั ญา 61 การคดั เลอื กควายไทย

ตารางที่ 2 แสดงชอ่ื ตำแหน่งขวัญไม่ดี และคติความเช่ือ (ต่อ) ตำแหน่งขวัญท่/ี ชือ่ ตำแหน่งขวัญ คติ:ความเช่อื ถ้าคนเลี้ยงมีครอบครัวแล้วไม่ดี มัก 9. ขอ้ พับด้านในขาหลงั มีชู้ และถ้าควายเพศเมียมีขวัญน้ี (1) เปดิ ซ่ิน(ซิน่ :ผ้าถงุ ) เวลาเป็นสัด จะพาฝูงวิ่งหนีเตลิด (2) แมฮ่ ่าง (แมห่ มา้ ย) เปิดเปิง บางทีต้องค้นหาตามป่า เปดิ ซ่นิ : ใน ตามเขา (บัวโลม, 2553) ความหมายที่ไมด่ ี เปดิ ซน่ิ (ผา้ ถงุ ) 10. ผา่ แมบ (ล้วน, 2553) ซอกขาหนา้ ดา้ นใน(รกั แร ้ ไม่ดี ซอื้ ขายขาดทนุ 11. ใตท้ อ้ งบรเิ วณดา้ นหน้าสะดอื ไมด่ ี ชอบหนีจากฝูง (1) ขวัญปน่ั พนื้ ธรณ ี หรือพาฝูงหนี(จำปา, 2553) (2) ขวัญป่นั พน้ื ภรรยาคนเลี้ยงมกั จะมีชู ้ (วิลยั , 2553) (3) เรือรั่ว 12. กระทาบหน้า ขา้ งลำตวั ส่วนไหลห่ น้า หนึ่งขา้ งหรอื มีขวัญเดยี วไม่ดี (จรญั , 2527) สองข้าง 13. อย่ดู ้านข้างเหนือสวาบ มีขวัญเดียวไมด่ ี กระทาบหลงั (จรัญ, 2527) 14. ด้านหน้าของอวยั วะเพศผู้ ไม่ดี (ไม่มีคำอธิบาย แต่น่าจะเป็น (1) ลึงคจ์ ำ้ (ล้วน, 2553) ควายดื้อ บังคับยาก ไม่เหมาะ (2) ลึงค์ฟัง (จรัญ, 2527) สำหรับใช้เปน็ พอ่ พนั ธ)์ุ ลึงคจ์ ้ำ 15. อกแตก (พร, 2553) ดา้ นบนของลำคอ ไม่ดี (ไมม่ ีคำอธบิ าย) 16. ขนาบคา (พร, 2553) บรเิ วณชายโครง ตรงกนั 2 ขา้ ง ไมด่ ี เหมอื นถูกขนาบข้าง ทำอะไรไม่ เจรญิ ไมข่ ยายผล ภูมิปัญญา 62 การคดั เลอื กควายไทย

5. การคัดเลือกโดยดูลักษณะกาลกิณี หรือลักษณะอัปมงคลท่ีไม่พึงประสงค์ ถือเป็น ลักษณะท่ีไม่เป็นมงคล จะส่งผลไม่ดีต่อผู้เล้ียงอย่างรุนแรง บางอย่างก็จะเป็นลักษณะท่ีไม่สมบูรณ์ของ อวัยวะ ทำใหด้ ูไม่สวยงาม หรือไม่เหมาะกับการใช้งาน และมักจะถกู ปฏิเสธการเลี้ยง และห้ามการซอื้ - ขาย หรือเมื่อมีการซื้อขาย ก็จะไม่ได้ราคา และมักจะถูกฆ่าเพ่ือเป็นอาหารมากกว่าท่ีจะถูกเลี้ยงไว้ขยาย พันธุ์ คนทม่ี ีอาชพี ซื้อขายควายงาม หรอื ซ้ือขายควายงาน ในสมยั กอ่ น ถา้ เผลอไผล หรือถูกหลอกใหซ้ อ้ื ควายที่มลี กั ษณะตอ้ งห้าม จะถือวา่ เปน็ การเสียเหล่ยี มนกั เลงควายเลยทีเดียว ตารางที่ 3 แสดงลักษณะกาลกณิ แี ละคตคิ วามเชือ่ ลกั ษณะ/คำอธบิ าย คติ:ความเช่ือ 5.1 พญาควาย ลักษณะเป็นสีเผือก(ดา่ ง) 4 แหง่ (1) พญาควาย ปัจจุบันหาดูได้ยาก เช่ือว่าเป็น ได้แก่ ตรงหน้าผาก เท้า หาง และปาก ตามคำ ควายเจ้า ควายตัวอื่นจะยำเกรง ยกใหเ้ ป็นจ่า กลา่ ว “หน้าแดน่ ตนี ซาง หางดอก ปากคาบแก้ว” ฝูง จะไมใ่ ช้ทำพอ่ พนั ธ(์ุ เอกลักษณ์, 2553) (2) ถ้ามีแลว้ “ไม่ใหข้ าย ไมใ่ ห้ฆ่า” และถา้ ยังไม่มี “ไมใ่ ห้ซอ้ื ไมใ่ หห้ ามาเลย้ี ง” (บัวโลม, 2553) (3) พญาควาย ใช้ไถนาในผืนนาท่ีผีดุ จะข่มผี ได้(จำปา, 2553) ตนี ซาง (ตรงจดุ นีป้ กติ จะเปน็ สดี ำ) หน้าแดน่ หางดอกหรอื หางขาว 5.2 ขวยตูม หรือ ฮ้องตูม คือลักษณะ การเกิด เช่ือว่าใครมีในครอบครอง จะนำภัยมาสู่ตัวเอง หลุมรูปกรวยบริเวณระหว่างซ่ีโครงใดซี่โครงหนึ่ง และครอบครัว เหมือนนิทานชาวนาเลี้ยงงูเห่า เวลาปกติจะมองไมเ่ หน็ เม่อื ควายรอ้ ง (ฮอ้ ง: รอ้ ง อาจถึงกับฆ่าเจ้าของหรือคนเล้ียงได้ ค้าขายก็จะ อีสาน) จึงจะนูน(ตูม:นูน,อีสาน) ออกมาให้ เก็บเงินไม่อยู่ ต้องได้ใช้จ่ายเงินออกไปตลอด(ล้วน, เหน็ (กลุ่มอสี าน) 2553) ภมู ปิ ัญญา 63 การคดั เลอื กควายไทย

ตารางที่ 3 แสดงลักษณะกาลกณิ แี ละคติความเชื่อ (ตอ่ ) ลกั ษณะ/คำอธบิ าย คติ:ความเชอื่ 5.3 ขุมผี: หรือหลุมผี คือสวาบใหญ่และลึก กิน ลกั ษณะไมเ่ ปน็ หญ้าไม่เต็มง่าย กนิ ทงั้ วนั กไ็ ม่เต็ม ดูไมอ่ ว้ น เปรียบ มงคลเหมือน กับหลุมฝังศพคนตายในสมัยก่อน เมื่อเวลาผ่านไป กบั ขวยตมู เกดิ การเนา่ เปือ่ ย ดินบริเวณหลุมกจ็ ะยบุ ตัวลงเปน็ หลุม (วิลยั , 2553) ขมุ ผี หรือ หลมุ ผี 5.4 กระดูกหลอด กระดูกข้างสุด กระดูกซ่ีโครงซ่ี (1) ทำมาค้าขายไม่ขึ้น คือสุด(หรือหมด) เจ้าของ สุดท้ายเจริญไม่เต็มที่ และไปรวมกับซ่ีอ่ืน เดือดร้อน (จรัญ,2527) ทำให้เห็นสวาบด้านน้ันดูกว้างไม่ (2) มีความหมายว่าจม ไมเ่ ฟ่อื งฟู ทำมาค้าขายทนุ สวยงาม (สอดคล้องทกุ ภาค) หาย กำไรหด (3) มักเป็นควายดื้อ ฝึกยาก เวลาไถนาถ้าร้อน อยากลงนอนน้ำก็จะนอนทันที ไม่สนใจ เจา้ ของ กระดูกหลอด 5.5 ฟ้าแลบ หรอื แมบ คอื การด่างในท่ลี ับ บริเวณ (1) เป็นลักษณะไม่ดี แต่จะซื้อ-ขายต่อมือกันไป ซอกขาหน้า เวลาหยุดอยู่กับท่ีจะมองไม่เห็น เวลา เร่ือยๆ (เป็นลักษณะปราบเซียน เสียเหล่ียม เดินจึงจะสังเกตเห็น (คำ,จำปา,วิลัย,ล้วน,วัง, จึงทำให้ต้องรีบขายออก แม้จะขายเท่าทุน 2553) หรอื ขาดทนุ กย็ อม (วัง, 2553) (2) เช่ือว่าทำให้เจ้าของซ้ือขายขาดทุน ถ้าขายจะ ต้องถอนขนหางไว้ เป็นเคล็ดว่ายังไม่ได้ ขาย(จำปา, 2553) ภมู ิปัญญา 64 การคดั เลือกควายไทย

ตารางที่ 3 แสดงลักษณะกาลกณิ แี ละคติความเชื่อ (ตอ่ ) ลักษณะ/คำอธบิ าย คต:ิ ความเชือ่ 5.6 อมถ่าน(ลิ้นดำ) อาจเป็นท้ังข้างบนและข้าง ไม่เป็นมงคลกบั เจ้าของผเู้ ลย้ี ง ลา่ ง ล้ินจะมจี ดุ สดี ำ ส่วนใหญ่จะอยใู่ ต้ลน้ิ สังเกต ยาก ถา้ ไม่อา้ ปากและใช้มือล้วงดู(คำ, 2553) 5.7 ขาทก ขาถอน ขากระตุก สว่ นใหญ่จะกระตุก เดนิ ไม่งาม ทรงตวั ไมด่ ี ไม่เหมาะท่จี ะใชง้ าน ใครท่ี ตอนเช้ามืด และถ้าเดินไปสักพักบางตัวอาการจะ ซื้อควายขาทก ก็จะถือว่าเป็นการเสียเหล่ียมมาก หายไป สังเกตไมเ่ ห็น(สอดคล้องทกุ ภาค) สำหรับพอ่ คา้ ควาย 5.8 นอนกรน/นอนคราง เป็นลักษณะไมเ่ ปน็ มงคล เจ้าของจะเดือดรอ้ น โดย ถ้ากรนในจังหวะหายใจออกไมด่ ี แตถ่ ้าเป็นจังหวะ หายใจเข้าถอื วา่ ไมเ่ ปน็ ไร (บัวโลม, 2553) 5.9 ทามทานแลบล้ิน(งูสามเหลี่ยมแลบลิ้น) ไม่เป็นมงคล เลี้ยงไม่อ้วน ซ่ึงเป็นไปได้ว่าอาจเป็น อจุ จาระตดิ ก้นเปน็ วงสีขาว (คำ,ประเทือง, 2553) พยาธไิ สเ้ ดอื น ทำใหเ้ ป็นขป้ี นู (ผู้เขียน) 5.10) บั้งลึงค์ก่าน(ก่าน: คาดขาว) และถุงหุ้มลูก เป็นควายดื้อชนลูกควาย และชนคน มักเล้ียง อันฑะก่าน คอื มสี ีขาวคาดทีล่ ึงค์หรืออณั ฑะ ไมเ่ ช่ือง 5.11 ทอ้ งแร่ คอื หนงั ทอ้ งมีสีดำ ไมเ่ ป็นมงคล เลีย้ งไมอ่ ้วน จะผอมลงเรอ่ื ยๆ (จรัญ, 2527) สอดคล้องกับปราชญ์กลุ่มจังหวัด สกลนคร 5.12 ลูกอัณฑะบิด /ขอบหูดำ/ปลายลึงค์ดำ และ นิสัยด้ือ ชอบชน ถ้าเป็นควายชน จะชนเก่ง มี ตาปลาดกุ (กลมุ่ ภมู ิปัญญาอสี าน,กลาง,ใต)้ ความอดทน และจะเป็นควายท่ีไว้ใจไม่ได้ และ ทำร้ายเจ้าของหรอื ผูเ้ ลยี้ งได้ 5.13 แทงบ้อง รวมกับอมลึงค์ คือควายท่ีแทง ถือว่าเป็นควายกาลี จะนำความลำบากมาให้ ลึงค์(แทงบ้อง)ออกมา แล้วก้มไปใช้ปากอมลึงค์ เจ้าของตลอดเวลา(วิลยั ,ล้วน, 2553) ของตนเอง 5.14 ฟันหนา้ หา่ งเปน็ รู เรยี ก ประตูผี เลยี้ งแลว้ มกั จะถกู ขโมย(ล้วน, 2553) 5.15 คุยแซก หรือตะกุยแทรก กระดูกท่ีโผล่ข้ึน เลี้ยงไม่อ้วน ลักษณะน้ีจะเกิดตั้งแต่ที่เป็นลูกควาย มาข้างกระดูกกน้ กบ 2 ข้าง ไมใ่ ชผ่ อมแล้วเกิด (ล้วน, บวั โลม, 2553) ภูมปิ ัญญา 65 การคัดเลือกควายไทย

ตารางที่ 3 แสดงลักษณะกาลกิณีและคติความเช่อื (ต่อ) ลักษณะ/คำอธิบาย คต:ิ ความเชอ่ื 5.16 หนังปลาเค้า คือหนังบาง มักแห้งเป็นขุย ไม่คอ่ ยโต เลย้ี งยาก ไมอ่ ดทนในการทำงาน เหมือนหนังปลาเคา้ (ปลานำ้ จืดชนิดหนงึ่ ) 5.17 ตาแหวน คือขอบตากลม ขอบตาจะเป็นขนสี มกั จะตื่นตกใจง่าย ขาวโดยรอบ 5.18 กนิ นมฟา้ คอื ยนื ดดู น้ำลาย ลกั ษณะนำ้ ลาย ไมเ่ ลี้ยง ถ้าเล้ยี งไว้ไม่เป็นสริ ิมงคล ฟมู ปาก (ฉลอง, 2553) 5.19 ตาหนู ตาสวด ตาคอน(ตาหมุนๆ) และ นิสยั ดุรา้ ย เป็นอันตรายกบั ผเู้ ลีย้ ง ตาแดง (ตาไซ: คอื ตาชอนไชหาเรื่อง) 5.20 กนิ หาง คอื กดั ขนหางตวั เอง (วลิ ัย, 2553) ไมเ่ ป็นศิรมิ งคล 5.21 นอนกดั ฟนั ไม่เป็นศิริมงคล มักเป็นโรคระบาดง่ายกว่าควาย ทัว่ ไป (บัวโลม, 2553) 5.22 อวัยวะเพศผู้ “ส”ู้ อย่เู สมอ ไมเ่ ล้ยี ง เลย้ี งไมเ่ ปน็ สริ ิมงคล และ วัง (2553) เรียกลักษณะที่ชอบแทงลึงค์เข้าออก ว่า “ทามทานแลบล้ิน” (ทามทาน คือ งู สามเหลย่ี ม) 5.23 ขาสอ่ ง น่องฮ ี ขาหลังเดินกระทบกัน เดินไม่สวย ลักษณะคล้าย นอ่ งแมว หรือน่องลงิ (วลิ ัย, 2553) 5.24 หางขาว(สอดคลอ้ งทกุ ภาค) เชื่อว่าไม่สวย จะเป็นมงคลกับเจ้าของที่เล้ียง แต่ เมื่อเจา้ ของขายไป กลบั ทำให้เกดิ อปั มงคลได้ จงึ ไม่ ให้ซื้อใหข้ าย (สมบตั ,ิ ทองใบ, 2553) 5.25 อวัยวะเพศเมียเล็ก ส้ันงอน ผิดลักษณะ ไม่ควรซ้ือมาเลี้ยง เพราะให้ลูกยาก คลอดยาก (อธิบายไว้ในการคัดเลือกควายแมพ่ ันธุ)์ และเลยี้ งลูกไม่ด ี 5.26 หวั นมขาดหรอื เกิน 4 เต้า (อธิบายไว้ในการ เป็นลักษณะไม่ดี คัดเลือกควายแม่พันธ์)ุ ภมู ปิ ญั ญา 66 การคดั เลอื กควายไทย

6. การคัดเลือกความตามคำสอนโบราณ (โสก หรือโฉลกควาย) คำวา่ โสก เปน็ ลกั ษณะคำพดู สอน หรือเตอื นใจ มคี วามหมายเดียวกับคำวา่ โฉลก คอื ถูกตอ้ ง ดีงาม หรือเหมาะสม(ประจักษ์, 2544) สำหรับโสกควาย จึงหมายถึง คำสอนท่ีบอกกล่าวถึงลักษณะ ควาย มที ้งั การกลา่ วถงึ ลักษณะทีด่ ี ทำใหเ้ กดิ สิรมิ งคล บันดาลความสขุ ความเจริญ (คำ้ คณู : อสี าน) ให้ กับเจ้าของหรือผู้เลี้ยง และบางโสกก็เป็นลักษณะการห้ามไม่ให้ปฏิบัติ เนื่องจากถือเป็นอัปมงคล ในการ สบื คน้ ภมู ิปัญญาครั้งน้ี พบโสก หรอื โฉลกทเี่ ก่ยี วกบั ควาย เฉพาะในเกษตรกรภาคอีสาน ดังน้ี 6.1 โสกควายงาม หรือ โฉลกควายงาม (1) โสกควายงาม 1 “สามออ้ ง ป้องขาดำ ตาจอมไข่ เลาปลาคอ” (ลว้ น, 2553) สามอ้อง: ขนสีขาวรูปตัววี (V) ตรง บริเวณใต้คอตรงตำแหน่งเชือกรัดคอ 1 แห่งและตรง หน้าอกเหนือลูกมะพร้าวบริเวณท่ีใกล้สายรัดแอกใหญ่ที่จะ แยกเป็น 2 แถบชิดกันอยู่ รวมเปน็ 3 บ้งั ป้องขาดำ: มีขนสีดำตรงข้อกีบ (ภาษาอีสานเรยี กวา่ ปอ้ ง เชน่ คำว่า ปอ้ งอ้อย คือ ข้ออ้อย เป็นตน้ ) ตาจอมไข่: ตาโต กลมมน ปลาย แหลมพอดี คล้ายไข่ไก่หรือไข่เป็ดต้มสุกตัดขวาง ไม่ใช่ตา เลก็ ตาหยี เหมือนตาปลาดกุ ซงึ่ จะเปน็ ควายทด่ี อื้ ชอบชน และบางตวั จะชนคน รวมถึงผเู้ ลีย้ งหรอื เจา้ ของควายด้วย เลาปลาคอ: คือช่วงลำตัวยาว เน้ือ เต็มเสมอตั้งแต่ช่วงหน้าถึงช่วงหลัง เหมือนลำตัวของปลา ช่อน (เลา หมายถงึ โครงสรา้ ง และปลาคอ คือ ปลาชอ่ น) ภูมปิ ญั ญา 67 การคดั เลือกควายไทย

(2) โสกควายงาม 2 “ตาแต้ม แก้มจ้ำ สันปลาบู่ ท้องหนู หูใบตองซาด”: (จำปา,2553) ตาแต้ม: คือมีจุดขนสีขาวท่ีหัว ค้วิ (มมุ ตา) แกม้ จ้ำ: คอื จุดขนสีขาวทแ่ี ก้ม สันปลาบู่: คือสันหลังแตกเป็นร่อง ยาว ขงั น้ำได้ เหมอื นหลังของปลาบ ู่ ทอ้ งหนู: ท้องต้องมขี นสขี าว ถา้ ขน ทอ้ งเปน็ สีดำหรอื สอี ืน่ ไม่ใช่ควายงาม หูใบตองซาด: เหง้าหูกำ หูเลก็ และ ยาว มสี ณั ฐานคล้ายใบชาด (ซาด:ตน้ ชาด) (3) โสกควายงาม 3 “สเี ลา เขาออกงาม หำ (อันฑะ) เสมอ”: (วิลัย, 2553) สเี ลา: ควายท่มี หี นงั และขนสเี ทา เขาออกงาม: เขาตกคันซ้อน หรอื คันซิง หำเสมอ: ลูกอัณฑะเสมอ ไม่บิดเบยี้ ว 6.2 โสกควาย หรือ โฉลกควาย ทลี่ ักษณะไมด่ ี “ขวัญใตท้ อ้ ง ขาสอ่ ง น่องฮี อวยั วะเพศเลก็ ”: (วิลยั , 2553) ขวญั ใตท้ ้อง: ขวัญปัน่ พน้ื หรอื ปั่นพืน้ ธรณี ไมด่ ี ไม่เปน็ มงคล ขาส่อง: ขาหลงั งอ ไม่ตรง นอ่ งฮี: นอ่ งขาหลงั งอเขา้ ขา้ งในหากนั สองขา้ ง เวลาเดนิ จะกระทบเสยี ดสกี นั อวัยวะเพศเลก็ : อวยั วะเพศเมยี มสี ณั ฐานเลก็ สั้น แต่นูนออกมา หางปิดไม่มิด ชว่ งปลาย จะแหลมงอนข้นึ เล็กนอ้ ย สอดคล้องกับ คำ (2553) เรยี กลักษณะนวี้ า่ งอยฝั่ง หรอื นงั่ ฝงั่ จะเล้ียงลกู ไมด่ ี ภูมิปญั ญา 68 การคัดเลือกควายไทย

6.3 คำคม หรือคำกล่าวอืน่ ๆ เก่ยี วกับการคดั เลือก ควาย (1) “ควายตู้มักซน คนจนมักเว่า”: (บุญโลม, 2553) (มัก: ชอบ, ซน: ชน, เวา่ หรอื เวา้ : พดู ) ควายตู้ คอื ควายเขาทยุ สว่ นใหญเ่ ขาจะสน้ั ช้ี ออกดา้ นข้าง โคง้ ลงดนิ หรือมว้ นเขา้ หาตวั ปลายทีแ่ หลมจงึ ไม่สามารถใช้เป็นอาวุธไปขวิดหรือชนควายตัวอ่ืนให้บาดเจ็บ ได้ แต่มีนิสัยชอบหาเรื่องชนกับควายตัวอื่นๆ หรือชนควาย เล็ก รวมท้ังชอบขวิดดิน ขวิดต้นไม้ นัยว่าเป็นการอวดตัว เองหรือหลงตวั เอง เพือ่ ข่มควายตวั อน่ื ๆ เหมอื นคนมปี มดอ้ ย ทีม่ ักชอบพดู จาอวดตัวเอง(ความจริงไมม่ อี ะไรทจ่ี ะอวด) ข้อสังเกต มีความสอดคล้องกันของปราชญ์ ชาวบ้านหลายแหล่ง ที่ระบุว่าควายเขาตู้หรือเขาทุย มักจะ อ้วนเป็นพิเศษ แม้ในหน้าแล้งท่ีควายทั่วไปจะผอม ซึ่งเป็น ประเดน็ ท่ีควรศึกษาวจิ ัยเพ่ิมเติม(ผู้เขยี น) ควายเขางอบลงหุ้มคางถอื เปน็ ลักษณะ ดีเรยี ก กอดเงิน กอดทอง (ทองใบ, 2533) (2) “ดคู วายให้ดหู าง ดนู างใหด้ ูหน้า (ดแู ม)่ ”: (คำ, 2553) ดคู วายใหด้ ูหาง: ควายทเี่ หงา้ หางใหญ่ หางยาวสมบรู ณ์ จะเปน็ ควายท่จี ะมกี ารเจรญิ เตบิ โต ดี และถ้าจะให้แน่ใจก็ตอ้ งดไู ปถึงแม่ คอื ตอ้ งสืบประวตั ิ เชน่ การใหล้ กู และลักษณะนิสัย (เรือ่ งหางควาย ปราชญ์ทุกพ้ืนที่ มีความเห็นท่ีสอดคล้องตรงกัน ว่าขนาดหางมีความสัมพันธ์กับอัตราการเจริญเติบโต ของควายโดยตรง) ภูมปิ ญั ญา 69 การคดั เลอื กควายไทย

(3) “ไปคา้ สามปี บอทอ(ห)สามบ่อ”: (วลิ ยั , ลว้ น, 2553) บอทอ คือ ไมเ่ ทา่ และ (ห)สามบอ่ หมายถงึ อวัยวะเพศของควายตวั เมยี เป็นการเปรียบ เทียบว่าถ้าเล้ียงควายเพศเมีย 3 ตัว (บ่อ: หมายถึง บ่อน้ำ เป็นคำพูดเปรียบเทียบกับควายที่คลอดลูก ออกมาทางอวัยวะเพศ เหมอื นน้ำท่ไี หลออกมาในบ่อ) ซึง่ ถา้ เลี้ยงถงึ 3 ปี จะต้องได้ลูกแนน่ อน ลูกควาย ท่ีเกิดมาก็เหมือนดอกเบี้ย ส่วนแม่ควายก็คือเงินต้น ถือว่ามีทรัพย์สินประกันความมั่นคงของครอบครัว ในขณะที่การไปค้าขายต่างถ่ิน ในอดีตส่วนใหญ่จะเป็นการไปทำมากิน ไม่ค่อยได้เก็บเงินเป็นกอบเป็นกำ คนอีสานใช้คำว่าไป “เที่ยว” (ประจักษ์, 2544) เป็นการไปเพ่ือหาประสบการณ์ชีวิตต่างถิ่นมากกว่า การตงั้ ใจไปประกอบอาชีพหรือตงั้ หลักแหล่ง เร่อื งการเลี้ยงควายนี้ มีปรากฏในโคลงโลกนติ บิ ทท่วี ่า “กระบือหนึ่งหา้ มอยา่ ควรครอง เมยี มง่ิ อยา่ มสี อง สีไ่ ด้ โคสามอย่าควรปอง เป็นเหตุ เรอื นอยสู่ ห่ี อ้ งให้ เดือดรอ้ นรำคาญ” ซ่ึงความหมายท่หี า้ มเลย้ี งควายเพยี ง 1 ตัวน้นั อาจเป็นการให้ขอ้ คิดวา่ จะไมค่ ุ้มกบั เวลา เพราะควายถ้า เป็นเพศเมียจะค่อนข้างให้ลูกช้า และควายถือเป็นสัตว์สังคม ถ้าอยู่ตัวเดียวจะเปรียวดูแลยาก อีกอย่าง ถ้าเล้ียงเปน็ ค่อู ย่างนอ้ ย 2 ตวั ข้ึนไป ก็สามารถช่วยสบั เปลีย่ นแรงในการไถนา หรอื สามารถใชล้ ากเกวียน ได้ ซ่ึงจำเป็นต้องอาศัยควายเป็นคู่ (ผู้เขียน) และจากการสอบถามภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้ความเห็นว่า ควายทเ่ี ลีย้ ง 1 ตวั ในสมยั กอ่ นคือควายท่ีเล้ยี งไวใ้ ช้งานซึ่งจะเป็นควายตวั ผู้ จงึ ได้แตแ่ รงงาน ไมส่ ามารถ ให้ลกู ได้ คนโบราณจึงตอ้ งการใหเ้ ล้ยี งควายตัวเมียไว้ด้วย ได้ท้ังลกู และได้ใช้แรงงาน (วลิ ยั , ลว้ น, 2553) ส่วน เรอื งศกั ด์ิ (2553) กลา่ ววา่ ควายเป็นสัตว์สงั คม ไมช่ อบอยู่ตามลำพัง อย่างนอ้ ยต้องมคี หู่ รอื มฝี งู ถา้ อยตู่ ัวเดยี วจะเปรียว ไม่คอ่ ยเชอ่ื ฟังเจา้ ของ เวลานำไปไร่ไปนา จะบังคบั ควบคมุ ลำบาก ผิดกับควายที่ อยรู่ วมกนั หลายตัว ภูมิปัญญา 70 การคัดเลอื กควายไทย

7. การคดั เลือกซ้ือควายตามภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ความรู้และภูมิปัญญาในการคัดเลือกซื้อควาย ซ่ึงได้จากการสืบค้นภูมิปัญญา และจากเวที เสวนาการคัดเลือกควายพันธ์ุดีโดยภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นองค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดสืบต่อกันมา ถือเปน็ การคัดเลือกพันธค์ุ วายอีกรูปแบบหนงึ่ ท่ีผู้คดั เลอื กไมไ่ ดเ้ ลย้ี งควายพอ่ แมพ่ ันธเุ์ อง แตอ่ าศยั ความรู้ ภูมิปัญญาท่มี ี สามารถคดั เลือกซือ้ ควายท่มี ลี ักษณะดีมาเล้ยี งได้ ดงั น้ ี 7.1 ลักษณะควายที่ควรซื้อมาเลี้ยง และวธิ กี ารคดั เลือกซื้อ ตำราท่ี 1: การเลือกซ้ือควายเพื่อมา เล้ียงทำพันธุ์ ถ้าเป็นควายที่อายุยังน้อย ให้ดู ลักษณะกระดูก ควายทีอ่ ายุยังน้อย ซงึ่ จะเจรญิ เติบโตไปข้างหน้าได้อีกมาก จะต้องมีลักษณะ กระดูกแข้ง-ขา ขนาดใหญ่ หรือ แข้งขามุก (มกุ : ใหญ่ สมบูรณ)์ องค์ความร้นู ีส้ อดคลอ้ งกบั ปราชญ์ทกุ พ้ืนท่ ี ตำราท่ี 2: เลือกซือ้ ควายท่กี ระดูกใหญ่ ขอ้ ขาใหญ่ แข้ง (ป้องขา: อีสาน) ยาว บ้ันท้ายเตม็ หนัง หลวม หนังหนา สีเทาดำหรอื เทาแดง ขนสั้นเป็นมัน ขนจับถ่ี กินหญา้ เก่ง เนอื้ สน (กลา้ มเนอื้ เป็นมัดเหน็ ชดั เจน)(คำ, 2553) ตำราท่ี 3: ดจู ากส่วนสูง ควายที่มองดูส่วนหนา้ ต่ำกวา่ สว่ นท้ายชดั เจน แสดงวา่ ยงั เปน็ ควายท่ี อายุนอ้ ย แต่ถา้ สว่ นหนา้ ดเู สมอหรอื สูงกวา่ ส่วนท้าย(คล้ายครกกระเด่อื งตำข้าว)แสดงวา่ ควายตวั นนั้ อายุ มากแลว้ (บัวโลม, 2553) ภมู ิปญั ญา 71 การคดั เลือกควายไทย

ตำราที่ 4: การวัดความสูง ใช้เชือกหรือไม้วัดความสูง ของขาหน้า โดยวัดจากพื้นถึงซอกขาหน้า ถือเป็นความ ยาวขา เสร็จแล้วนำความยาวขาที่ได้ วัดต่อข้ึนไปจาก ซอกขาถึงหลัง(เป็นความสูง) ถ้าความยาวส่วนขายาว กว่า คือเลยแนวหลังขึ้นไป แสดงว่าควายตัวนี้จะโตได้ อกี แตถ่ ้าความยาวพอๆ กนั หรือสัน้ กว่า แสดงว่าควาย ตัวน้ีจะไม่โต หรืออาจโตได้อีกเล็กน้อย จึงไม่ควรซ้ือมา เล้ยี ง (บวั โลม, เพม่ิ สุข, 2553) (จากภาพ:เส้นสีแดงและสีเหลือง จะมีความยาวเท่ากัน ซึ่งความยาวของเส้นสีเหลืองท่ีพ้นระดับหลังข้ึนไป คือ การเจริญเติบโตท่ีเหลือและจุดสูงสุดคือประมาณการ ความสงู ของควายตัวน้ีเมื่อโตเต็มที)่ ตำราท่ี 5 เลือกซื้อควายหนังหนา หน ังจันทน์ ขนน้อย (คือขนห่าง) ผิวหนังเรียบเป็นมัน จะ เลย้ี งง่าย โตเรว็ (วิลยั , 2553) ตำราท่ี 6 เลือกซ้ือควายท่ีมีก้อนเน้ือย้อยตรงบริเวณสะโพกใต้ขาหลังลงมา ซ่ึงจะสังเกตเห็น เป็นคู่ ซึง่ จะแสดงว่าเปน็ ควายทมี่ คี วามสมบูรณ์ ย่ิงถ้ายงั เป็นควายที่อายนุ อ้ ย แสดงวา่ จะเจรญิ เตบิ โตไป ได้อกี มาก (เทพชาย, 2553) 2. ลกั ษณะควายทไ่ี มค่ วรซ้อื มาเล้ยี ง 2.1 ควายท่ีเล้ียงไม่อ้วน ถ้าถอนขนเส้นยาวที่แผงคอมาดูรากขน ถ้ามีลักษณะเป็นขีดขวาง 3 จุดหรือ 3 ขีด ไมค่ วรซ้ือมาเลีย้ ง (จำปา, 2553) 2.2 ควรซ้ือควายที่ซ่ีโครงจับสูง พร้อมกับสวาบแคบ จะดูอ้วนอยู่ตลอดเวลา เล้ียงแล้วจะขาย งา่ ย ไดก้ ำไร สว่ นควายทซ่ี ่ีโครงจบั ตำ่ เรยี กควายหลาบเสอื (ตัวบางเหมือนตวั เสอื ) จะเป็นควายทเี่ ลีย้ ง ไม่อ้วน แต่จะเหมาะสำหรบั ซื้อมาใชเ้ ป็นควายงาน (ลว้ น, 2553) 2.3 ควายทมี่ คี ยุ แซก หรอื ตะกยุ แทรก ซงึ่ มกั เปน็ ควายทีเ่ ลยี้ งไมอ่ ว้ น (บุญโลม, ลว้ น, 2553) สอดคล้องกับ คำ (2553) ท่ีกล่าวว่าควายที่มีตะกุยแทรก ร่วมกับมีขนที่ห่างมาก และสวาบกว้างใหญ่ จะเป็นควายเลย้ี งไม่โต เล้ียงยาก 2.4 ควายทลี่ ักษณะตาหนู (ตาเลก็ ) ร่วมกับลักษณะปากเลก็ จมกู คล้ายจมกู มา้ จะเป็นควายที่ กินหญ้าไม่เก่ง เล้ียงยาก (คำ, 2553) ส่วน สมบัติ(2553) กล่าวว่าควายตาหนู จะค่อนข้างขี้กลัว แต่ ไถนาดี ภูมปิ ญั ญา 72 การคัดเลอื กควายไทย

2.5 ควายขนค่าง เส้นเล็กและยาว หางเข้าขี้ คือเหง้าหางไม่เต็ม หางส้ัน หางหนูคือหางเล็ก กลม จะเล้ียงยากเลย้ี งไม่โต (วิลัย, 2553) 2.6 การซ้ือควายท่มี ลี ักษณะเปน็ พญาควาย รวมประเภทนอนกรน นอนคราง นอนกัดฟัน และ ควายท่ีมีลักษณะกาลกิณีต่างๆ นอกจากอาจจะเป็นภัยกับตัวเองแล้ว เม่ือซื้อมาเลี้ยงแล้วอาจต้อง ขายขาดทุนในภายหลัง เพราะพอ่ คา้ ทเ่ี หลีย่ มจดั มักจะนำเอามาเปน็ ข้ออ้างในการกดราคารบั ซื้อได ้ ภูมปิ ัญญา 73 การคัดเลือกควายไทย

บทที่ 4 วิเคราะห์ภูมปิ ัญญาท้องถิ่นการคัดเลือกควาย ผลจากการสืบค้นภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับการคัดเลือกควาย จะเห็นว่าหลายภูมิปัญญาเป็นองค์ ความรู้การคัดเลือกที่เป็นลักษณะเชิงคุณภาพล้วน มีลักษณะเป็นนามธรรม แต่บางองค์ความรู้จะมี ลักษณะเชิงปริมาณแฝงอยู่ และมีบางองค์ความรู้สามารถจัดเป็นท้ังลักษณะคุณภาพและปริมาณ ซ่ึงทั้ง สองลักษณะสามารถวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบในเชิงหลักการปรบั ปรงุ พันธสุ์ ตั ว์ และนำมาใช้ประโยชนใ์ นแง่ การปรับปรุงพันธค์ุ วายในประเทศได้ ดงั น้ี 1. การจัดกลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่นตามวัตถุประสงค์ของเกษตรกร จากผลการสืบค้นภูมิ ปัญญาการคัดเลือกควาย เห็นว่าสามารถจำแนกเป็นวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกโดยเกษตรกรได้เป็น 2 ลกั ษณะ ตารางที่ 4 ดังนี้ 1.1 วัตถุประสงค์การปรับปรุงพันธ์ุเชิงอนุรักษ์ (Conservative) องค์ความรู้ปลีกย่อยของ ลักษณะควายงามตามอุดมคติบางประการ และ การคัดเลือกโดยการดูตำแหน่งขวัญ และลักษณะ กาลกณิ ี ส่วนใหญเ่ ป็นลกั ษณะเชงิ คุณภาพ ไมส่ ามารถทำการชง่ั ตวง หรอื วดั ในเชงิ ปรมิ าณได้ เป็นการ บ่งบอกได้เพียงว่าใหญ่ สวย สง่า ขาว เทา ดำ เช่น รูปร่าง หน้าตา ลักษณะรูปทรงของเขา สีขน เป็นต้น โดยองค์ความรู้เหล่านี้ถูกอนุรักษ์ถ่ายทอดสืบต่อกันมา เป็นการอนุรักษ์พันธุกรรมประจำถ่ิน (in situ conservation) จากความเชอื่ และคา่ นยิ มท่แี ตกตา่ งกันไปบ้างของคนแตล่ ะถิ่นท่ี ย่ิงส่งผลดตี ่อ ความหลากหลายของพันธกุ รรมควายไทยท่ถี ูกคัดเลอื กโดยธรรมชาติเรอื่ ยมา ซึ่งองค์ความรูเ้ ชิงอนุรักษ์น้ี ส่วนใหญ่จะอยู่กับกลุ่มผู้ที่เลี้ยงควายเข้าประกวดโดยตรง และเกษตรกรรุ่นเก่า ท่ีมีอดีตเป็นพ่อค้า ควาย(นายฮ้อย) ที่เคยรวบรวมควายไปขายแถบภาคกลางในสมัยก่อน ซึ่งภูมิปัญญาหลายอย่างสามารถ พัฒนาในเชิงเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับควายได้ เช่น ควายงามที่เข้าประกวด ที่มีลักษณะ สวยงามตามอุดมคติ แม้ไม่ได้มีตัวเลขการผ่านทดสอบอัตราการเจริญเติบโตยืนยัน หรือไม่มีพันธ์ุประวัติ ที่ชัดเจน ก็อาจขายได้ราคาเป็นแสนบาทข้ึนไป และควายท่ีเข้าประกวดในงานควายและโคเน้ือแห่งชาติ ท่ีผ่านมาน้ัน มีค่าเฉลี่ยความสูง ความยาวและน้ำหนักตัวมากกว่าควายตามศูนย์และสถานีวิจัยทดสอบ พนั ธ์สุ ตั ว์ ของกรมปศุสัตว์ (จนิ ตนา, 2548) ภูมปิ ัญญาเหล่านีจ้ งึ เป็นเรอื่ งที่นา่ สนใจนำมาศึกษาวิเคราะห์ อย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจ มากกว่าที่จะให้เป็นภูมิปัญญาเชิงอนุรักษ์ตามท่ีเป็น อยใู่ นปัจจุบัน โดยอาจนำมาเป็นข้อสงั เกตร่วมกบั การกำหนดวัตถปุ ระสงค์ในการปรบั ปรงุ พนั ธ์ุในเบ้ืองตน้ ซึ่งอาจมีส่วนทำให้การคัดเลือกลักษณะเชิงปริมาณมีความก้าวหน้ารวดเร็วและตรงตามความต้องการ ของเกษตรกรผู้เล้ียงควายมากยิ่งขึ้น ยกตวั อยา่ งเชน่ ควายท่ีไดร้ บั การปรับปรุงพันธุใ์ ห้มอี ตั ราการเจริญ เตบิ โตดี นำ้ หนกั หยา่ นมสงู อาจไมถ่ กู ใจเกษตรกรผเู้ ลยี้ งกไ็ ด้ เนอื่ งจากหนา้ ตาไมส่ วย เขาไมส่ วย หางสนั้ ภมู ิปญั ญา 74 การคดั เลอื กควายไทย

เกินไป หรือพ่อพันธ์ุที่ผ่านการทดสอบสมรรถนะ แต่อาจมีลูกอัณฑะบิดเล็กน้อย เม่ือนำไปเป็นพ่อพันธุ์ ประจำกล่มุ ดว้ ยความเชอื่ ตารางที่ 4 แสดงผลการวเิ คราะหก์ ารจดั กลุ่มภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ตามวัตถุประสงค์ของเกษตรกร ภูมิปญั ญาการคัดเลือกควาย ลกั ษณะของภมู ิปญั ญา ประเภทวัตถปุ ระสงค์ ตามวัตถปุ ระสงค์ตา่ งๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง ของการคดั เลอื ก ปรมิ าณ คณุ ภาพ อนรุ ักษ์ ปรบั ปรงุ พนั ธุ์ 1. คัดเลอื กควายงามตามอุดมคติ (ideal type) / // / 2.คดั เลอื กควายพ่อพันธุ์ / // / 3.คัดเลือกควายแมพ่ นั ธ์ุ / // / 4.คัดเลือกควายงาน / // - 5.คดั เลอื กโดยการดขู วญั ควาย - // - 6.คัดเลือกโดยการดลู กั ษณะกาลกิณี - // - ตามภูมิปัญญาที่ว่าควายอัณฑะบิดจะถ่ายทอดลักษณะลูกอันฑะบิดและนิสัยด้ือให้กับลูกได้ เกษตรกรจึง อาจไม่นิยมนำแม่พันธ์ุมาผสมก็ได้ เป็นต้น อน่ึง การใช้เทคโนโลยีชีวภาพ(Biotechnology) เพ่ือค้นหา เคร่ืองหมายพันธุกรรม ท่ีควบคุมลักษณะตามอุดมคติบางประการที่ถูกควบคุมด้วยยีนน้อยคู่ (จินตนา, 2548) เชน่ การแสดงออกของสขี าวบัง้ คอ ท่เี ป็น 3 แถบ การมจี ดุ ขาวทีบ่ รเิ วณหนา้ นา่ จะช่วยใหก้ าร คัดเลอื กมีความแม่นยำและทำได้รวดเร็วกวา่ การใชว้ ิธีการปรับปรุงพันธต์ุ ามปกติ ซง่ึ จะเปน็ แนวทางหนึ่ง ในการบูรณาการเพ่ือช่วยในการอนุรักษ์ลักษณะตามอุดมทัศนีย์ และอาจพัฒนาเพ่ือใช้ประโยชน์ในด้าน ตา่ งๆ ตอ่ ไปในอนาคต 1.2 วัตถุประสงค์การปรบั ปรงุ พนั ธเ์ุ ชิงเศรษฐกิจ (Economic) ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ การคดั เลอื ก ควาย หลายองค์ความรู้ปลีกย่อยของการคัดเลือกควายงามตามอุดมคติ การคัดเลือกควายพ่อ-แม่พันธ์ุ และการคัดเลือกควายใช้งาน จะอยู่ในเกษตรกรภูมิปัญญาทั่วไป รวมถึงกลุ่มท่ีเล้ียงควายงาม เพราะ ควายท่ีข้ึนช่ือว่าสวยงามแล้วก็เหมาะที่จะใช้ทำเป็นพ่อ-แม่พันธ์ุด้วย องค์ความรู้หลายอย่างสามารถจัด เปน็ ลักษณะ เชิงปริมาณ ทสี่ ามารถ ชง่ั ตวง วัดได้ เชน่ ความใหญข่ องกระดูก ความยาวของหาง เส้น รอบวงของหาง ความสูงและความยาวลำตัว เป็นต้น ซ่ึงภูมิปัญญาเหล่าน้ี บางอย่างเกษตรกรอาจใช้ เครื่องมือวัดอย่างง่าย เช่น ใช้ไม้หรือเชือกวัดความสูง ความยาว ความใหญ่ของกระดูกขา เหง้าหาง หรือบางอย่างอาจอาศัยเพียงประสบการณ์ ร่วมกับการกะประมาณด้วยสายตา โดยปราศจากเครื่องมือ วดั แตก่ ม็ ีความแม่นยำ ท่คี ่อนข้างสูง เช่น การประมาณน้ำหนกั ควายด้วยสายตา เป็นตน้ ซ่ึงองคค์ วามรู้ ภูมปิ ัญญา 75 การคดั เลือกควายไทย

เหล่าน้ีเกษตรกรอาจไม่มีความเข้าใจว่ามันคือหลักการปรับปรุงพันธ์ุสัตว์ แต่ก็ส่งผลให้เกิดการพัฒนา ปรับปรุงพันธ์ุควายมาอย่างต่อเน่ือง เกษตรกรสามารถเล้ียงควายให้ขยายพันธ์ุดี เจริญเติบโตเร็ว และ ขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งองค์ความรู้เชิงปริมาณน้ีสามารถนำมากำหนดเป็น วัตถุประสงค์ในการปรับปรุงพันธุ์ ด้วยวิธีการผสมพันธุ์และคัดเลือกลักษณะให้ตรงตามวัตถุประสงค์ท่ี กำหนดไว้ และองค์ความรู้เด่นบางอย่างก็สามารถใช้การคัดเลือกโดยอาศัยการศึกษาด้านเครื่องหมาย พนั ธกุ รรมมาชว่ ยได ้ 2. การจัดกลุ่มภูมิปัญญาตามหลักการปรับปรุงพันธ์ุสัตว์ ตามภูมิปัญญาการคัดเลือกควาย 7 ด้าน สามารถนำมาสังเคราะหแ์ ละจัดกลุ่ม เพ่ือนำไปสู่การหาแนวทางในการปรบั ปรุงพนั ธส์ุ ัตว์ ได้เปน็ 4 กลุ่ม ตารางที่ 5 ไดแ้ ก่ 2.1 ภมู ิปญั ญาเกีย่ วกบั ลักษณะทางพนั ธกุ รรม (genetic resource) ถือเป็นแหล่งพนั ธุกรรม ควายงามตามอุดมทัศนีย์ที่ลักษณะบางอย่างจัดเป็นด้านคุณภาพ เช่น จุดสีขาวบนใบหน้า ท่ีตา ที่แก้ม และกราม ขนสีขาวท่ีใตค้ อ (บ้งั คอ) เป็นต้น และลกั ษณะตำแหนง่ ขวญั ท่ดี ี ลักษณะทเ่ี ป็นมงคล (คอื ไม่มี ลักษณะกาลกิณี) หลายองค์ความรู้มีความสัมพันธ์กับการให้ผลผลิต ซ่ึงมีเร่ืองของพันธุกรรม (gene) เข้ามาเกี่ยวข้อง และถือเป็นความหลากหลายทางพันธุกรรมของควายไทย ซึ่งอาจจะต้องมีการศึกษาใน เชิงลึกเพ่ือหาตำแหน่งยีนที่ควบคุมแต่ละลักษณะ เป็นการใช้วิธีการคัดเลือกโดยอาศัยเคร่ืองหมาย พันธุกรรมมาช่วย ซ่ึงจะสามารถอนุรักษ์ลักษณะอุดมทัศนีย์ควายไทยไว้ และถ้ายีนที่ควบคุมลักษณะ ปรากฏ มีความสัมพันธ์กับลักษณะการเจริญเติบโต การให้ผลผลิตในเชิงบวก ก็สามารถพัฒนาเป็นเชิง เศรษฐกิจได้ดว้ ย ซ่งึ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมนีถ้ ือว่ามีอยูใ่ นควายทกุ ประเภท 2.2 ภมู ิปัญญาท่เี กี่ยวกบั ลกั ษณะการผสมพนั ธุ์ (breeding herd) เปน็ ฝงู พอ่ แมพ่ นั ธ์เุ พอื่ ผลิต ลูก ลักษณะควายงามตามอุดมทัศนีย์บางประการ และลักษณะควายพ่อ-แม่พันธุ์ รวมท้ังควายงานเพศ เมยี ซึง่ มีองคป์ ระกอบย่อยของลักษณะต่างๆ เป็นขอ้ มลู เชิงปริมาณ ซง่ึ สามารถทดสอบ ผสมพันธ์แุ ละ คัดเลอื กได้ โดยตอ้ งใชฝ้ งู ผสมพนั ธใ์ุ นการกระจายพันธุกรรมที่ดตี ่อไป 2.3 ภมู ิปัญญาท่ีเกีย่ วกบั ลักษณะการใหผ้ ลผลิต (productivity herd) เปน็ ฝงู ผลิตเนน้ การให้ ผลผลิตทางเศรษฐกิจ ลักษณะเชิงปริมาณที่มีอิทธิพลต่อการให้ผลผลิต เช่น กระดูกขาใหญ่ควายจะโต เร็ว ขนาดแม่พันธุ์ท่ีทำให้ผสมติดง่ายและให้ลูกถ่ี เหง้าหางมีขนาดใหญ่และยาว จะเจริญเติบโตเร็ว ซ่ึงลักษณะต่างๆ เหล่าน้ี มีอยู่ในทั้งควายงามตามอุดมคติ และควายพ่อ-แม่พันธุ์ และควายงานท่ีเป็น เพศเมยี ซงึ่ ถา้ พฒั นาแลว้ จะมผี ลในการเพ่มิ ผลผลิตและเพ่มิ มูลคา่ ในเชงิ เศรษฐกิจได้โดยตรง 2.4 ภูมิปัญญาทีเ่ ก่ยี วกับลกั ษณะการใหแ้ รงงาน (draft power) เปน็ กล่มุ ควายงาน ทอี่ าจมี ความสำคัญในอนาคตในฐานะแรงงานทดแทน หลายองค์ความร้มู ีความนา่ สนใจ เชน่ รปู รา่ งและขนาด ควายงานท่ีเหมาะสม สีหนังและขนที่ทนร้อน ลักษณะและขนาดพ้ืนท่ีรูจมูกต่อการทนร้อน เป็นต้น ซ่ึงควายทกุ ประเภทสามารถจดั เปน็ กลุม่ ควายใช้แรงงานได้ดว้ ย ภูมิปัญญา 76 การคัดเลอื กควายไทย

ตารางที่ 5 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์การจัดกลุ่มภูมิปัญญาท้องถ่ินตามวัตถุประสงค์การปรับปรุง พันธุ์สัตว์ การจัดกลุ่มตามหลกั การปรบั ปรุงพนั ธ์ุ วตั ถปุ ระสงค์การคดั เลอื ก แหลง่ ฝูงพ่อแม่พันธุ์ ฝงู ผลิตเนน้ การให้ผล ใช้แรงงาน ตามภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน พนั ธกุ รรม เพ่ือผลติ ลกู ผลิตทางเศรษฐกิจ (draft (genetic (breeding power) resource) (production herd) herd) 1. ควายงามตามอดุ มคติ // // (ideal type) 2.ควายพ่อพนั ธุ์ // // 3.ควายแมพ่ ันธุ์ // // 4.ควายงาน // -/ 5.ลักษณะขวญั ด-ี ไม่ดี /- -- 6.ลกั ษณะมงคล-กาลกิณี /- -- 3. วิธีการและแนวทางการปรับปรุงพันธ์ุควายตามภูมิปัญญาท้องถิ่น จากภูมิปัญญาการ คัดเลือกควายตามวตั ถปุ ระสงคต์ า่ งๆ จะพบวา่ องคค์ วามรปู้ ลกี ยอ่ ยบางอยา่ งเปน็ องคค์ วามรขู้ องปราชญ์ บางกลมุ่ หรอื บางคน แตภ่ มู ปิ ญั ญาหลายอยา่ งมคี วามสอดคลอ้ งตรงกนั ถอื วา่ เปน็ องคค์ วามรเู้ ดน่ มคี วาม นา่ สนใจ และนา่ จะนำไปสกู่ ารศกึ ษาวจิ ยั และหลายอยา่ งนา่ จะนำไปกำหนดวตั ถปุ ระสงคใ์ นการปรบั ปรงุ พนั ธ์ุ ควาย ดว้ ยการบรู ณาการภมู ปิ ญั ญากบั หลกั การปรบั ปรงุ พนั ธส์ุ ตั ว์ ซงึ่ อาจแบง่ วธิ กี ารปรบั ปรงุ พนั ธไุ์ ด้ 2 วธิ กี าร จากกลมุ่ ภมู ปิ ญั ญา 4 ดา้ น ตารางที่ 6 ดงั น ี้ 3.1 การปรับปรงุ พนั ธ์ุด้วยวธิ ีปกติ คือการผสมพันธ์ุ และการคัดเลือกพันธุ์ท่วั ไป ซึง่ ภมู ิปญั ญา เด่น ทีเ่ กีย่ วข้องกับลกั ษณะทัง้ 4 ดา้ น คือพันธกุ รรม การผสมพันธ์ุ การให้ผลผลติ และการให้แรงงาน เฉพาะท่ีเป็นเชิงปริมาณท้ังหมด สามารถทำการผสมพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์ตามปกติได้ แต่อาจต้องใช้ เวลานานพอสมควรกว่าจะเห็นผลสำเร็จของการปรับปรุงพันธ์ุในแต่ละลักษณะท่ีต้องการ ซ่ึงวิธีการ ปรับปรุงพันธุ์นี้ ส่วนใหญ่ดำเนินการอยู่ในหน่วยงานกรมปศุสัตว์เป็นหลัก และส่วนหนึ่งได้ขยายไปสู่ ฟาร์มเกษตรกรเครือข่าย รวมถึงภาคเอกชนท่ีให้ความสนใจและต้องการเข้ามาสนับสนุนการพัฒนา ปรบั ปรุงพันธ์คุ วายไทย เช่น บรษิ ทั เจรญิ โภคภัณฑ์ เปน็ ตน้ ซึง่ ท่ีผา่ นมาน้นั การปรบั ปรงุ พนั ธ์คุ วายของ กรมปศุสัตว์ มีความก้าวหน้าโดยวัดจากดัชนีการปรับปรุงพันธุ์ที่เพ่ิมข้ึนตามลำดับ (จินตนา, 2548) โดยท่ีผ่านมาส่วนใหญ่ใช้ค่าดัชนีเชิงปริมาณมาต้ังเป็นวัตถุประสงค์ของการปรับปรุงพันธุ์ มีการนำภูมิ ปัญญาท้องถิ่นเข้ามาบูรณาการน้อยมาก ซ่ึงในอนาคต มีความจำเป็นท่ีจะต้องนำองค์ความรู้ที่เป็น ภูมปิ ัญญา 77 การคัดเลือกควายไทย

ภูมิปัญญาชาวบ้านซึง่ มีความเหมาะสมและเปน็ ไปได้ เขา้ มาพิจารณาร่วมด้วยในโอกาสตอ่ ไป 3.2 การปรบั ปรงุ พนั ธโุ์ ดยการใชเ้ ครอ่ื งหมายพนั ธกุ รรม ลกั ษณะทภ่ี มู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ทเี่ ปน็ ลกั ษณะ เชงิ คณุ ภาพ เชน่ สขี น จดุ ขาวในตำแหนง่ ทด่ี ี ลกั ษณะรปู ทรงเขา ตำแหนง่ ขวญั ทเ่ี ปน็ มงคล เปน็ ตน้ หากใช้ วธิ กี ารผสมพนั ธแ์ุ ละคดั เลอื กตามปกติ จะหาความแมน่ ยำและบรรลเุ ปา้ หมายไดย้ าก จงึ อาจตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยี ทส่ี งู ขน้ึ คอื การคน้ หาเครอื่ งหมายพนั ธกุ รรม ทคี่ วบคมุ ลกั ษณะการแสดงออกนนั้ ซงึ่ จะมคี วามแมน่ ยำมาก กว่า แต่ต้องใช้เทคโนโลยีและงบประมาณท่ีค่อนข้างสูง ส่วนหนึ่งจึงอาจใช้วิธีการส่งเสริมและสนับสนุน เกษตรกรภมู ปิ ญั ญาใหเ้ ปน็ ผอู้ นรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมทด่ี นี ตี้ อ่ ไป และดา้ นหนง่ึ อาจใชศ้ นู ยห์ รอื สถานขี องทางราชการ เปน็ แหลง่ รวบรวมและปรบั ปรงุ พนั ธค์ุ วาย ใหม้ ลี กั ษณะตามอดุ มทศั นยี ค์ วายไทยตอ่ ไปในอนาคต ตารางท่ี 6 แสดงวิธีการและแนวทางปรบั ปรุงพนั ธุ์ควายตามภมู ิปญั ญาท้องถิน่ ทนี่ า่ สนใจ คณุ ลักษณะ วิธีการปรับปรงุ พนั ธ์ุ ผดู้ ำเนนิ การ ภมู ิปัญญาการคดั เลือกควาย ปริมาณ คุณภาพ วิธปี กติ คดั เลอื ก ภาค เกษตรกร ท่ีตรงกนั เปน็ ส่วนใหญ่ของ (ผสมพนั ธ+์ุ ด้วยเคร่อื ง ราชการ เกษตรกรภูมปิ ัญญาทุกภาค คัดเลอื ก) หมาย พนั ธุกรรม 1. ภมู ิปัญญาเกย่ี วกบั ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม(genetics) 1) การมีออ้ งคอ หรอื บ้ังคอ // /// (V-chevron) สขี าวใตค้ อชดั เจน 2 ถงึ 3 บัง้ 2) มจี ดุ ขนสีขาวบนใบหนา้ 7 จุด / / /// 3) เท้าท้ัง 4 ขา้ ง / / /// เหนือขอ้ เล็บถึงเขา่ มสี ีขาว เหมือนใสร่ องเท้าขาว 4) เหนือไรกบี ข้นึ ไปมีขนสดี ำคาด / / -// ชดั เจนทั้ง 4 ขา 5) เขาสวยงามรับใบหน้า / / -// 6) อณั ฑะใหญ่เสมอ ไมบ่ ิด // / -/ / 7) ปลายลึงค์ไม่หย่อนยาน / / / - / / 8) สขี นมสี เี ทาแดง(สเี ปลอื กเมลด็ // /// มะขาม) หรือเทาดำ ภูมปิ ญั ญา 78 การคดั เลือกควายไทย

ตารางท่ี 6 แสดงวธิ ีการและแนวทางปรบั ปรุงพันธค์ุ วายตามภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ทน่ี า่ สนใจ (ตอ่ ) คุณลกั ษณะ วธิ ีการปรับปรงุ พนั ธ์ุ ผู้ดำเนินการ ภมู ปิ ัญญาการคดั เลือกควาย ปรมิ าณ คณุ ภาพ วธิ ปี กติ คัดเลอื ก ภาค เกษตรกร ท่ีตรงกันเปน็ ส่วนใหญข่ อง (ผสมพันธ+์ุ ด้วยเครื่อง ราชการ เกษตรกรภมู ิปัญญาทกุ ภาค คัดเลอื ก) หมาย พนั ธุกรรม 9) หนังหนาเป็นมัน // / - / / 10) ตางาม / / -// 11) ใบหตู ง้ั เหง้าหรู ัด // / / / / 12) หางใหญ่ ยาว เหง้าหางเตม็ / / / -/ / 13) มตี ำแหน่งขวญั ท่ีเป็นมงคล / // 14) การไม่มลี ักษณะกาลกิณี / // 2. ภมู ิปญั ญาทเี่ กีย่ วกบั ลกั ษณะการผสมพนั ธุ์ (breeding) 1) ขนาดน้ำหนกั ควายพ่อพนั ธ์ุ / / // คุมฝูง ไม่ควรเกนิ 700 กก. 2) ขนาดและน้ำหนกั แมพ่ นั ธุท์ ใ่ี ห้ / / // ลกู ถี่ ผสมตดิ ง่าย ไมค่ วรเกนิ 500 กก. 3) ขนาดอณั ฑะทีใ่ หญ่ และเสมอ / / // กนั แสดงถงึ ความสมบูรณข์ อง พอ่ พันธุไ์ ด้ 4) สณั ฐานอวัยวะเพศเมยี // / / ทีใ่ หล้ ูกดี ไม่มปี ัญหา คลอดลกู ยาก 5) ความกว้างกระดูกเชงิ กราน / / // มาก ทำใหค้ ลอดลูกงา่ ย 6) ควายแมพ่ ันธุน์ ิสัยกนิ หญ้าเก่ง // -/ / จะอ้วนเร็ว ผสมพันธใุ์ ห้ลกู เรว็ 7) นสิ ยั การเลีย้ งลูกสามารถถา่ ย // // / ทอดจากแมส่ ู่ลูกได้ ภูมปิ ัญญา 79 การคัดเลือกควายไทย

ตารางท่ี 6 แสดงวธิ กี ารและแนวทางปรบั ปรงุ พนั ธ์คุ วายตามภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ทน่ี า่ สนใจ (ตอ่ ) คณุ ลักษณะ วธิ กี ารปรบั ปรงุ พันธ์ุ ผดู้ ำเนนิ การ ภมู ิปญั ญาการคดั เลอื กควาย ปรมิ าณ คุณภาพ วธิ ีปกติ คดั เลือก ภาค เกษตรกร ทต่ี รงกันเปน็ สว่ นใหญข่ อง (ผสมพันธ+ุ์ ด้วยเครื่อง ราชการ เกษตรกรภูมปิ ัญญาทุกภาค คดั เลือก) หมาย พันธกุ รรม 8) ลักษณะหวั นมยาวท่ีเลี้ยงลูกดี / /- / 9) หวั นม ไมข่ าดไม่เกิน 4 เต้า / /- / 10) ควายเพศเมยี ทม่ี หี นา้ เหมอื น / -/ / ตวั ผใู้ หล้ กู ไมด่ แี ละอาจเปน็ หมนั 3. ภูมิปญั ญาท่ีเกี่ยวกบั การใหผ้ ลผลิต (productivity) 1) โครงสรา้ งลำตัวดี / / -// ต้องกว้าง ยาว และลึก ท้ังเพศผแู้ ละเพศเมีย 2) ควายกระดกู ใหญ่ เติบโตเรว็ / / -// 3) ควายหางใหญ่ / / -// ยาว เหงา้ หางเต็ม จะเจริญเติบโตดกี วา่ 4) ควายท่ีหนงั หนา / / -// เจริญเตบิ โตดีกวา่ หนังบาง 5) ควายเตีย้ ใหล้ ูกดกี วา่ ควายสงู / / -// 6) ควายเขาทุย หรอื เขาตู(้ ท่)ู / / /// จะอว้ นสมบูรณ์กว่าควาย ปกตทิ ว่ั ไป แมใ้ นฤดูแลง้ 4. ภูมปิ ัญญาทเ่ี กยี่ วกบั การใชแ้ รงงาน (draft power) 1) ควายขนาดปานกลาง / / / ทำงานคลอ่ งแคล่วกว่า 2) ควายท่ีรูจมกู เล็กแบน // // / ทำงานจะทนรอ้ นกวา่ รูจมูกกลมใหญ่ ภูมิปัญญา 80 การคัดเลอื กควายไทย

ตารางท่ี 6 แสดงวิธกี ารและแนวทางปรบั ปรุงพนั ธุ์ควายตามภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ทนี่ า่ สนใจ (ตอ่ ) คณุ ลักษณะ วิธกี ารปรับปรงุ พันธ์ุ ผู้ดำเนินการ ภูมปิ ัญญาการคัดเลอื กควาย ปริมาณ คุณภาพ วิธีปกติ คดั เลือก ภาค เกษตรกร ท่ีตรงกนั เป็นส่วนใหญ่ของ (ผสมพันธุ์+ ดว้ ยเคร่ือง ราชการ เกษตรกรภมู ิปญั ญาทกุ ภาค คัดเลือก) หมาย พนั ธกุ รรม 3) ควายสเี ทา // /// ทนร้อนกวา่ สีดำเข้ม 4) ควายที่ขนอ่อนและยาว // -/ / จะไมท่ นรอ้ น 5) ควายงานต้องลำตวั ยาว / / // 2 ทอ่ น 6) นสิ ยั ดี ฉลาด เชือ่ ฟังคำสั่ง / // / ภูมปิ ัญญา 81 การคดั เลอื กควายไทย

บทที่ 5 บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ การศกึ ษาสบื ค้น รวบรวมและบนั ทึกภมู ิปัญญาท้องถิ่นเกย่ี วกบั การคัดเลอื กควาย ไดเ้ ลือกใชว้ ธิ ี การศึกษาเชิงคุณภาพ โดยเครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์เชิงโครงสร้าง ที่ออกแบบไว้แล้ว ทำการ สืบค้นข้อมูลจากเกษตรกร ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้และนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับควายไทยพยายามให้ ครอบคลุมเกษตรกรภูมิปัญญาในทุกภาคของประเทศ และส่วนหนึ่งเป็นการศึกษา รวบรวมจากเอกสาร ต่างๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง พบวา่ ภมู ปิ ัญญาการคดั เลือกควายจะมอี ยูใ่ นพนื้ ที่ทวั่ ทุกภาคของประเทศ ซ่ึงถ่ายทอด สืบต่อกันมา บางองค์คามรู้ก็มีความสอดคล้องคล้ายคลึงกันมาก แต่บางองค์ความรู้อาจแตกต่างกันไป ตามภาษาพูดของแต่ละท้องถ่ิน เช่น ช่ือของขวัญควาย ตามตำแหน่งต่างๆ เป็นต้น โดยมีข้อสังเกตว่า ภูมิปัญญาด้านการคัดเลือกควายงาม และภูมิปัญญาการคัดเลือกควายโดยการดูตำแหน่งขวัญและ ลกั ษณะกาลกิณีตา่ งๆ เป็นองค์ความรู้ที่อย่ใู นวงแคบและไมค่ อ่ ยจะมีการเปิดเผยมากนัก ส่วนองคค์ วามรู้ ท่ีเก่ียวกับด้านการผลิต คือการคัดเลือกควายพ่อ-แม่พันธุ์ และควายใช้งาน นับเป็นองค์ความรู้ท่ีมีอยู่ ทั่วไปในเกษตรกรทีเ่ ล้ยี งควาย ซงึ่ อาจสรุปเปน็ ภมู ปิ ญั ญาในการคัดเลอื กควายได้เปน็ 2 ดา้ น ดงั น้ี 1. ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายเชิงอนุรักษ์ (Conservative) หลายองค์ความรู้ ของการคัดเลือกควาย ได้แก่ การดูลักษณะควายงามตามอุดมคติ การคัดเลือกโดยการดูตำแหน่งขวัญ และลกั ษณะกาลกณิ ี ส่วนใหญเ่ ปน็ ลักษณะเชงิ คุณภาพ มคี วามเป็นนามธรรมสงู เช่น ขาว ดำ ยาว สงู แคบฯ ซ่ึงเปน็ องคค์ วามรทู้ ่ีไม่สามารถทำการช่ังตวง หรอื วดั ในเชงิ ปรมิ าณได้ จงึ ยากที่นำมากำหนดเป็น วัตถุประสงค์เพื่อการปรับปรุงพันธ์ุ แต่ต้องยอมรับว่าภูมิปัญญาเหล่าน้ีได้ผ่านการทดสอบ กลั่นกรองมา เป็นเวลานาน หลายอย่างแม้จะไม่มีการพิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ก็มีหลักฐานเชิงประจักษ์ให้เห็นได้ ยกตัวอย่างเชน่ ควายที่สง่ เขา้ ประกวดในงานประกวดระดบั ชาติ ที่จะจดั วา่ เป็นควายงาม ล้วนแตต่ อ้ งมี ลกั ษณะตามอุดมทศั นยี ์ มตี ำแหนง่ ขวัญที่ดี และไม่มตี ำหนหิ รือลักษณะกาลกณิ ี ซง่ึ ทไ่ี ด้ผา่ นการคัดเลอื ก ด้วยภูมิปญั ญาของเกษตรกรเจ้าของท่สี ง่ เข้าประกวดท้ังสน้ิ โดยภมู ปิ ัญญาเชงิ อนุรักษ์น้อี าจจัดได้ 2 กลมุ่ ได้แก่ 1.1 องค์ความรู้การคัดเลือกควายงามตามอุดมคติหรืออุดมทัศนีย์ องค์ความรู้หรือภูมิ ปัญญาการคัดเลือกควายงามมีท้ังลักษณะปริมาณ และเชิงคุณภาพ องค์ความรู้นี้ยังอยู่ในวงจำกัด มกั เปน็ ความรเู้ ฉพาะตวั สว่ นใหญจ่ ะถา่ ยทอดอยใู่ นวงศต์ ระกลู หรอื คนใกลช้ ดิ และผทู้ สี่ บื ทอดภมู ปิ ญั ญานี้ ส่วนใหญ่ท่ีเหลืออยู่ในปัจจุบันก็คือกลุ่มเกษตรกรที่มีการเล้ียงและส่งควายเข้าประกวดในงานประกวด ควายท่ีสำคัญๆ โดยลักษณะอุดมทัศนีย์ของควายไทย ท่ีสำคัญจะต้องมี คือ บ้ังคอสีขาว(V-Chevron) ภูมิปญั ญา 82 การคดั เลือกควายไทย

อยา่ งน้อยตอ้ งมี 2 เสน้ (บ้ัง) จดุ แตม้ บนใบหน้าและคางทม่ี สี ีขาวชดั เจน รวม 7 จุด ข้อเทา้ จากเล็บข้ึนมา ถึงใกล้หวั เขา่ ตอ้ งเปน็ สีขาวชัดเจน ต้องมสี ดี ำแดง(สเี ปลอื กเมล็ดมะขาม) หรอื เทาดำ ลำตวั ตอ้ งกวา้ ง ลกึ และยาว เขาสวยตามตำรารับกับใบหน้า หางต้องใหญ่เต็มเบ้า และยาวเลยข้อเท้าหลังฯ ซึ่งลักษณะ เหล่าน้ีได้รับการยอมรับ และมีความเห็นสอดคล้องกันในทุกภูมิภาค ลักษณะเด่นเหล่านี้นอกจากใช้ใน การคัดเลือกควายงามแล้ว ยังพบว่า เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ก็ใช้กับการคัดเลือกควายตามวัตถุประสงค์ อื่นด้วย เช่น การคัดเลือกควายพ่อ-แม่พันธ์ุ รวมถึงการคัดเลือกควายงานด้วย ซึ่งลักษณะเหล่าน้ีเป็น ทศั นคติและความเชอื่ ซงึ่ มีข้อดคี อื ถา้ ควายของเกษตรกรมีลกั ษณะดี หน้าตา เขาสวย หางยาวงาม ก็จะ ทำให้เกษตรกรรกั ควาย สง่ เสรมิ กำลังใจใหม้ คี วามเอาใจใสเ่ ลีย้ งดคู วายอย่างใกล้ชดิ เป็นพเิ ศษมากขนึ้ ทั้ง หญ้าที่ดีและอาหารเสริมต่างๆ ซ่ึงคือเหตุผลหน่ึงท่ีสามารถอธิบายได้ว่าทำไมควายงามที่เกษตรกรส่งเข้า ประกวด มีขนาดและน้ำหนักสูงกว่าค่าเฉลี่ยของควายที่เกษตรกรเล้ียงทั่วไป หรือแม้แต่ควายของหน่วย งานราชการ ส่วนมากควายที่มีลักษณะงามตามอุดมทัศนีย์ จึงค่อนข้างมีราคาสูงและขายได้ราคาดีกว่า ควายทั่วไปมาก บางตัวอาจจำหน่ายเพื่อเป็นพ่อพันธุ์ได้ถึง 1 แสนบาทหรือมากกว่า ดังน้ัน ลักษณะที่ เป็นอดุ มทศั นยี ์น้ี จงึ ควรกำหนดเป็นวตั ถุประสงคเ์ พือ่ การอนุรักษ์ โดยอาจใชว้ ธิ ีการจับคผู่ สมพนั ธุแ์ ละคัด เลอื กลกั ษณะตามทตี่ อ้ งการ ซ่งึ อาจตอ้ งใช้เวลานาน อนงึ่ ในอนาคตถา้ ลักษณะตามอดุ มทศั นยี น์ ม้ี ีความ ต้องการมากข้ึน ก็อาจพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจ โดยเลือกใช้เทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology) มาใช ้ เพื่อสร้างควายไทยสายพนั ธุแ์ ทท้ ม่ี ีลกั ษณะตรงตามอุดมทศั นีย์ทุกประการก็ได้ 1.2 องค์ความรู้การคัดเลือกโดยการดูขวัญ และดูลักษณะกาลกิณี เป็นองค์ความรู้ที่จัด เป็นเชิงคุณภาพเป็นส่วนใหญ่ มีเชิงปริมาณบ้าง แต่ไม่มาก เช่น ลักษณะกระดูกซี่โครงไม่ครบ เป็นต้น องค์ความรู้นี้พบว่าอยู่ในวงแคบกว่าองค์ความรู้การคัดเลือกควายตามอุดมทัศนีย์ ส่วนมากจะไม่ค่อยมี การเปิดเผย จะอยู่ในกลุ่มพ่อค้าควายในสมัยก่อน ท่ีเรียก “นายฮ้อย” เป็นส่วนใหญ่ โดยปัจจุบันจาก การสืบค้นข้อมูล พบว่าความเชื่อและทัศนคติต่อควายลักษณะดีโดยการดูตำแหน่งขวัญ และการ คัดเลือกควายที่ไม่มีลักษณะกาลกิณี ยังมีความเช่ือและใช้ประโยชน์อยู่มากในกลุ่มเกษตรกรท่ีเล้ียง ควายงาม และควายใช้งาน เพราะมีความเช่ือว่าสามารถส่งผลดีหรือเป็นมงคลแก่เจ้าของได้จริง แต่ แทบจะไม่มีความสำคญั ในเกษตรกรกล่มุ ทีเ่ ล้ยี งควายเพ่ือผลิตลูกท่วั ไป ซง่ึ องคค์ วามรู้นี้ แม้จะยังไม่มกี าร พสิ จู นว์ า่ ลกั ษณะตา่ งๆ ทกี่ ลา่ วถงึ มผี ลตอ่ ผลผลติ ของควายโดยตรงหรอื ไม่ แตก่ ม็ สี ว่ นในการสรา้ งขวญั และ กำลงั ใจใหก้ บั เกษตรกรผเู้ ลยี้ งควายในทางออ้ ม ทำใหเ้ กดิ ความเอาใจใสใ่ นการเลย้ี งดคู วายมากขน้ึ จงึ ถอื วา่ เปน็ ภมู ปิ ญั ญาทส่ี ำคญั อกี ดา้ นหนง่ึ และตอ้ งมกี ารอนรุ กั ษต์ อ่ ไป 2. ภมู ิปัญญาการคดั เลอื กควายเชิงเศรษฐกิจ (Economic) จากภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น การคัดเลือกควาย จะเห็นว่าองค์ความรู้บางอย่างเป็นลักษณะเชิงปริมาณ หรือคุณภาพ และบางอย่าง อาจจัดได้ท้งั 2 ลักษณะ ซ่งึ เกย่ี วขอ้ งกับองคค์ วามรกู้ ารคัดเลือกควายงาม การคดั เลือกควายพอ่ -แม่พันธ์ุ และการคัดเลือกควายใช้งาน ซึ่งบางประเด็นสามารถกำหนดเป็นวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกปรับปรุง พันธ์ุควาย เพื่อพฒั นาในเชิงเศรษฐกิจได้ ดังน้ี ภูมิปัญญา 83 การคดั เลือกควายไทย

2.1 ภูมิปัญญาเก่ียวกับลักษณะทางพันธุกรรม (genetics) ซึ่งเป็นองค์ความรู้เกี่ยวข้องท้ัง ควายงามตามอดุ มคติ ท่เี ป็นลกั ษณะเชิงปริมาณหลายลักษณะ เช่น ความใหญข่ องลกู อัณฑะ ความหนา ของหนัง เส้นรอบวงของเหง้าหาง หรือความยาวของหางฯ น่าจะมีการศึกษาเพื่อหาความสัมพันธ์กับ ลักษณะการให้ผลผลิต ซึ่งอาจพบว่าขนาดของลูกอัณฑะ มีความสัมพันธ์กับอายุการเป็นหนุ่มสาวของ ควายเรว็ หรอื ช้า หรือขนาดเสน้ รอบวงของเหงา้ หาง อาจมีความสัมพันธก์ บั อตั ราการเจริญเตบิ โตกเ็ ปน็ ได้ ซ่ึงสามารถพัฒนาในเชงิ เศรษฐกจิ ต่อไปได้ นอกจากนี้ ลักษณะที่ถือเปน็ กาลกณิ ี หรอื ลักษณะสคี วาย ที่ไม่เป็นท่ีนิยมเล้ียงในอดีต เช่น ลักษณะพญาควาย หรือควายสีเผือก ซึ่งนับวันจะมีจำนวนลดลง แต่ อาจมีความต้องการมากข้ึนในยุคปัจจุบันหรือในอนาคต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การใช้ เทคโนโลยีช้ันสูงเพอื่ หาตำแหน่งยีนทค่ี วบคมุ ลกั ษณะ กจ็ ะชว่ ยใหก้ ารปรบั ปรุงพนั ธุ์เพ่อื ใหไ้ ดล้ ักษณะ ที่ ตอ้ งการเป็นไปไดอ้ ย่างรวดเร็ว และทันต่อความตอ้ งการ 2.2 ภูมิปัญญาท่ีเก่ียวกับลักษณะการผสมพันธ์ุ (breeding) เป็นองค์ความรู้การคัดเลือก ควายพ่อ-แม่พันธุ์ เพื่อผลิตลูกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจรวมถึงควายงามตามอุดมคติ และควายงานท่ีเป็น เพศเมียดว้ ย โดยมีประเด็นทน่ี า่ สนใจ คือ ขนาดของควายพอ่ พนั ธ์ุสำหรับคุมฝูง ท่ีภูมปิ ญั ญาส่วนใหญ่ ระบุว่าไม่ควรโตมากเกินไป ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการบังคับควบคุมของเจ้าของควาย ซึ่งอาจต้องนำมา ประกอบการพิจารณาในการผลิตควายพ่อพันธ์ุท่ีต้องการกระจายออกไปคุมฝูงให้กับเกษตรกร และท่ีน่า สนใจสำหรับควายแม่พันธุ์ก็คือ ควายแม่พันธุ์ที่ให้ลูกดี ให้ลูกถี่ จากประสบการณ์และภูมิปัญญาของ เกษตรกร คือเป็นควายขนาดปานกลาง ไม่โตมาก ซึ่งน่าจะทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในประเด็นนี้ เน่ืองจากในอนาคต สิง่ ท่เี ปน็ ปัญหาในการเลยี้ งควายทเ่ี ห็นชดั เจนคือ พน้ื ท่เี ล้ยี งค่อนข้างจะจำกัดมากขึน้ การลดขนาดควายลง ให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารสตั ว์ หรอื พ้นื ที่เลยี้ ง อาจมีความจำเป็นมากขึ้น ใน ขณะทผ่ี ลผลติ เมื่อเทียบกบั หน่วยพื้นที่ยงั เทา่ เดมิ หรือมากกว่าเดมิ เนอื่ งจากชว่ งหา่ งของการให้ลกู สน้ั ลง 2.3 ภูมิปัญญาที่เกี่ยวกับการให้ผลผลิต (productivity) เป็นองค์ความรู้การคัดเลือก ควายเพ่ือสรา้ งผลผลติ ในเชิงเศรษฐกิจโดยตรง เชน่ การใหเ้ น้อื การให้นม(คนไทยยังไม่นยิ มบริโภคน้ำนม ควาย) ประเด็นท่ีนา่ สนใจ คือ โครงสรา้ งลำตวั ท่ปี ราชญม์ คี วามเห็นตรงกันว่า ตอ้ งมลี กั ษณะกวา้ ง ใหญ่ ยาวและลำตัวลึก ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลผลิตเน้ือโดยตรง ซึ่งตรงกับเป้าหมายการปรับปรุงพันธ์ุของ กรมปศุสัตว์อยู่แล้ว นอกจากน้ัน ความสัมพันธ์ของขนาดกระดูกกับการเจริญเติบโตท่ีเร็ว(หมายถึง สามารถจำหน่ายได้เร็วด้วย) ก็สามารถทำการศึกษาวิจัยได้ ประเด็นที่น่าสนใจประการหน่ึง คือ การที่ พบว่าควายเขาทุยหรอื เขาสนั้ ที่มักจะมีร่างกายสมบรู ณ์แม้ในหนา้ แล้ง ซึ่งอาจมียีนเด่นที่ควบคมุ ลักษณะ การใหเ้ น้ืออยู่ จึงสามารถทีจ่ ะใช้เทคนิคการคัดเลอื กด้วยเครอ่ื งหมายพนั ธุกรรมมาช่วยได้ ซึง่ ถ้าเปน็ จรงิ ก็ นับเปน็ สงิ่ ทีด่ แี ละอาจพฒั นาในเชิงเศรษฐกิจ โดยเป้าหมายคอื การผลิตเนอ้ื ควายคณุ ภาพ ไขมนั ต่ำ หรือ เนื้ออนิ ทรยี ์ โดยใชอ้ าหารหยาบอยา่ งเดยี ว ซงึ่ นบั วันผู้บริโภคจะมีความตอ้ งการมากขนึ้ 2.4 ภูมิปญั ญาที่เก่ียวกบั การใช้แรงงาน (draft power) ควายทีท่ ำงานดี ไม่จำเป็นตอ้ งมี ลักษณะสวยงาม ตามอุดมทัศนีย์ แตจ่ ะเน้นควายท่ีมีความคลอ่ งแคลว่ จึงไม่จำเป็นตอ้ งมโี ครงสรา้ งและ ลำตัวใหญ่มาก แต่ลักษณะนิสัยต้องเช่ืองและเชื่อฟังคำส่ัง ถึงแม้ความจำเป็นในปัจจุบัน แรงงานควาย อาจมีความจำเป็นลดลง แตก่ ารท่จี ะส่งเสริมใหเ้ กษตรกรไทยมคี วามเข้มแข็ง และพ่งึ พาตนเองได้ การใช้ ภมู ปิ ญั ญา 84 การคัดเลือกควายไทย

แรงงานควายก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ควรให้ความสนใจ ซึ่งในอนาคตก็ไม่แน่ว่าควายงาน อาจกลายเป็น สินค้ามูลค่าเพ่ิมได้ โดยถ้าฝึกไถนาได้แล้วจะมีราคาสูงข้ึนกว่าเดิมประมาณ 3,000-5,000 บาท(ล้วน, 2553) และอาจพัฒนาเปน็ สินค้าเพ่ือการส่งออกไปในหลายประเทศได้ การศกึ ษาถึงลักษณะทภี่ มู ิปัญญา ทนี่ า่ สนใจ เช่น เช่น สณั ฐานของรูจมกู (รจู มูกแบน จะทำงานทนรอ้ นกวา่ รจู มกู กลม) สขี น (ขนสเี ทา ทน ร้อนกว่า ขนสีดำ) ในอนาคตอาจต้องมีการศึกษาอย่างจริงจัง โดยอาจต้องใช้การคัดเลือกด้วย เครอ่ื งหมายพนั ธุกรรมมาช่วยเช่นเดียวกัน นอกจากภูมิปัญญาทั้ง 4 ด้านแล้ว ยังพบว่าเกษตรกรส่วนหน่ึงได้ใช้หลักการคัดเลือกและ ปรับปรุงพนั ธุ์ควายมาโดยตลอด จะร้ตู ัวร้ไู ม่กต็ าม เหน็ ได้จาก คำกล่าวทีว่ ่า “ดวู วั ใหด้ หู าง ดนู างให้ดแู ม่” ซึง่ เกษตรกรผ้เู ลี้ยงควายเกือบทง้ั หมดทราบและเขา้ ใจหลกั การน้ี และได้ใชภ้ มู ปิ ญั ญานี้ในการคัดเลอื กซ้อื ควายมาทำพันธุ์อยู่แล้ว โดยเกษตรกรจะเลือกซื้อควายจากคอกที่แม่พันธ์ุมีประวัติให้ลูกดี เลี้ยงลูกเก่ง และให้ลูกที่ดีกว่าแม่ (เรียกว่า แม่ส่ง) เป็นต้น และท่ีน่าสนใจประการหนึ่งก็คือ ในพื้นที่ภาคอีสาน (ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ) จะมีคำสอน ท่เี รยี กวา่ โสก หรือโฉลกควาย ซึง่ มีความเฉพาะถ่นิ สูง บางคำ อาจเขา้ ใจยากหรือไม่เขา้ ใจเลยของคนในภาคอ่ืนๆ แตส่ ำหรบั คนอสี าน นับวา่ เป็นภูมิปัญญาที่ชาญฉลาด ในการสร้างสรรค์คำสอนที่คล้องจอง ช่วยให้สามารถจดจำได้ง่าย และใช้ประโยชน์ได้จริง ในสังคม ชนบท โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ซ่ึงควรมีการสบื ค้น รวบรวมและอนรุ กั ษ์ไว้ต่อไป ภมู ิปญั ญา 85 การคดั เลอื กควายไทย

3. ข้อเสนอแนะ 3.1 ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายบางประการเป็นลักษณะนามธรรม (เชิงคุณภาพ) ซ่ึง สำหรับลักษณะควายงามตามอุดมทัศนีย์ นับเป็นลักษณะเฉพาะของควายไทยที่ดีเด่น สมควรมีแนวทาง การอนุรักษ์และพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม การสนับสนุนให้มีการประกวดควายงามตามอุดมทัศนีย์ นับ เป็นหนึ่งแนวทางท่ีสามารถทำได้ และจะเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้ภูมิปัญญาด้านนี้ รวมท้ังการดู ลักษณะขวัญ และการดูลักษณะกาลกิณี จะไดร้ ับการอนุรกั ษใ์ ห้คงอยตู่ ่อไปด้วย 3.2 ภมู ิปัญญาท่ีเปน็ องค์ความรู้ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับลกั ษณะทางด้านการผสมพันธ์แุ ละการให้ ผลผลิตหลายประการ สามารถทำการศึกษาวิจัยต่อยอด รวมท้ังควรให้ความสำคัญต่อการนำมาบูรณา การร่วมกับวัตถุประสงค์การปรับปรุงพันธ์ุควายของกรมปศุสัตว์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการผลิตควาย พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ที่มีเป้าหมายในการกระจายพันธุ์สู่เกษตรกร เพ่ือให้ตรงกับความต้องการของ เกษตรกรมากท่สี ดุ 3.3 ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายใช้งาน เป็นภูมิปัญญาที่อาจมีความความสำคัญมากขึ้น ในอนาคต แต่การสรา้ งพันธุค์ วายเพอ่ื ใช้แรงงานโดยตรงนบั ว่ายงั ไมม่ คี วามจำเป็น การเผยแพรแ่ ละแลก เปล่ียนภูมิปัญญาการคัดเลือกควายงานท่ีถูกต้อง ในกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้แรงงานควายหรือผู้สนใจ ก็ สามารถทจ่ี ะช่วยทำให้การคัดเลือกควายทั่วๆ ไปที่มีอยูแ่ ล้ว เพือ่ มาฝกึ สอนเป็นควายงานไดถ้ กู ต้องและมี ประสทิ ธิภาพโดยไม่ยากนกั 3.4 การพัฒนาพันธ์ุควายในอนาคต มีความจำเป็นท่ีจะต้องพิจารณาในด้านการจัดการ อาหารสัตว์ร่วมด้วย เพราะนับวันพื้นท่ียิ่งจะมีจำกัด รวมถึงผลกระทบจากกลไกการผลิตอาหาร คน(Food) อาหารสัตว์(Feed) และพลังงาน(Fuel) ซ่ึงมีความเก่ียวข้องสัมพันธ์กัน วัตถุดิบหลายตัวมี การใชร้ ่วมกัน รวมถงึ สภาพดินฟา้ อากาศที่มีความแปรปรวนสงู เกิดสภาวะโลกร้อนข้นึ การวิจยั รปู แบบ การจัดการให้อาหาร และพันธุ์พืชอาหารสัตว์ท่ีเหมาะสม หรือการปรับปรุงพันธุ์ควายให้มีขนาดรูปร่าง และความสามารถในการปรับตัวเขา้ กับสภาพข้อจำกัดต่างๆ ดังกล่าวข้างตน้ ถือวา่ มีความสำคญั และจะ ต้องนำมาพิจารณารว่ มดว้ ยสำหรบั แผนการปรับปรงุ พันธุค์ วายของประเทศในระยะยาว 3.5 กรมปศุสัตว์ ควรมีศูนย์หรือสถานีท่ีรวบรวมและพัฒนาพันธุ์ควายไทยตามอุดม ทัศนยี ์ และควายท่ีมีลกั ษณะเฉพาะ เช่น ควายเผอื ก หรอื พญาควายฯ อยา่ งนอ้ ย 1 แหง่ และขยายให้ ครบทุกภาคในอนาคต ซึ่งศูนย์ฯ นี้จะเป็นแหล่งอนุรักษ์และพัฒนาพันธุกรรมควายไทยช้ันเลิศของ ประเทศ และกระจายพันธ์ุดี ส่ชู ุมชน รวมถึงพัฒนาเปน็ แหลง่ ท่องเทยี่ วเชิงอนรุ กั ษไ์ ด้ด้วย 3.6 ควรส่งเสริมให้มีการศึกษารวบรวมองค์ความรู้ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายให้กว้าง ขวางมากย่งิ ขน้ึ ให้ครอบคลมุ ในประเดน็ ท่ยี ังขาดอกี หลายด้าน เช่น การคัดเลอื กควายในพ้นื ท่ีสงู ของชน เผา่ ต่างๆ การคดั เลอื กควายของชาวไทยมสุ ลมิ เป็นต้น ภมู ิปญั ญา 86 การคดั เลอื กควายไทย

4. กิตตกิ รรมประกาศ ขอขอบคุณเกษตรกรเจ้าของภูมิปัญญาทุกๆ ท่าน ท้ังท่ีปรากฏนามในบรรณานุกรม และท่ี ตกหล่นไม่ได้กล่าวถึง ผู้ซ่ึงได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การคัดเลือกควายในประเด็นต่างๆ เพ่ือประโยชน์ของ สาธารณชน และคนรุ่นหลัง ท่ีจะได้ศึกษา สืบทอดและส่งต่อคนรุ่นต่อไป ขอขอบคุณปศุสัตว์จังหวัด ชัยนาท สพุ รรณบุรี พิจิตร นครนายก หนองคาย นครพนม และนกั วิชาการสัตวบาลในจงั หวัดดังกล่าว ท่ชี ว่ ยสืบค้นขอ้ มลู คณุ อรอนงค์ พมิ พค์ ำไหล ศนู ย์วิจยั และถ่ายทอดเทคโนโลยี เชียงราย คุณสมหมาย คล้ายบ้านใหม่ หัวหน้าสถานีวิจัยทดสอบพันธ์ุสัตว์นครศรีธรรมราชและคณะ ที่สนับสนุนการสืบค้น ข้อมูลภูมิปัญญาในภาคเหนือและภาคใต้ ขอบคุณ คุณเรืองศักดิ์ ละทัยนิล อดีตปศุสัตว์จังหวัดหลาย จังหวัด ท่คี อยเปน็ กำลงั ใจ สนบั สนุนเอกสารในการสบื คน้ และอ่านแกไ้ ขต้นฉบบั ให้ คุณสพุ จน์ ศรีสรอ้ ย สำนักพัฒนาการปศุสัตวแ์ ละถา่ ยทอดเทคโนโลยี กรมปศุสตั ว์ คุณนอ้ งนุช จงู วงษ์สุข สำนกั งานอยั การ สูงสุด และ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธ์ุสัตว์สุรินทร์ ท่ีเอื้อเฟื้อภาพถ่ายควายไทยและควายพม่า ผู้ เช่ียวชาญ จินตนา อินทรมงคล ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและขยายพันธ์ุสัตว์ กรมปศุสัตว์ และ รศ.ดร.มนตช์ ยั ดวงจินดา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ท่ีใหข้ อ้ เสนอแนะ และคำแนะนำ ในการเขียน ขอบคุณศูนย์ปศุสัตว์อินทรีย์ ท่ีจัดเสวนา “การคัดเลือกควายพันธ์ุดีโดยภูมิปัญญาท้องถิ่น” เมื่อวันท่ี 6 มีนาคม 2553 ณ เวทคี วายไทยลดโลกร้อน ในงานกระบอื และโคเน้อื แหง่ ชาติ ครั้งท่ี 16 ที่ สถานีวจิ ัยทดสอบพันธส์ุ ตั ว์นครราชสมี า อำเภอปากชอ่ ง จงั หวัดนครราชสมี า ซ่งึ ไดข้ ้อมลู ภูมปิ ัญญาการ คัดเลือกควายจากวิทยากรรวมทั้งเกษตรกรผู้ร่วมฟังการเสวนาเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นประโยชน์อย่าง ย่ิง และสุดท้าย ต้องขอขอบคุณ กรมปศุสัตว์ โดยศูนย์ปศุสัตว์อินทรีย์ กองบำรุงพันธ์ุสัตว์ ที่ได้ให้การ สนับสนุนงบประมาณการจัดพิมพ์เอกสารเล่มน้ีจนเสร็จสมบูรณ์ จึงใคร่ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ดว้ ย ภูมิปัญญา 87 การคดั เลอื กควายไทย

บรรณานุกรม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. จำนวนประชากรประจำปี 2552. (9 พฤษภาคม 2553). แหล่งสืบค้นข้อมลู : http://www.dopa.go.th/. กรมปศุสัตว์. 2549. ธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ (ธคก.) กรมปศุสัตว์. สำนกั พฒั นาการปศุสัตว์และถา่ ยทอดเทคโนโลยี กรมปศสุ ัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. กรมปศุสัตว์. 2550. สืบทอดพระปณิธาน ฟ้ืนฟูวัว-ควายไทย: สู่ความพอเพียง. จัดพิมพ์เนื่องในการ จัดงานกระบอื และโคเน้อื แห่งชาติ ปี 2550. กรมปศสุ ตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ กรมปศุสตั ว์. 2550. การฝกึ คนและฝกึ ควายไถนา: ชุดภูมิปัญญาไทยเกีย่ วกับควาย. จดั พมิ พเ์ น่ืองในการ จดั งานกระบือและโคเนื้อแหง่ ชาติ ปี 2550 กรมปศสุ ตั ว์ และโครงการมลู นธิ ิเจริญโภคภณั ฑ์ รว่ มไถช่ วี ติ โคกระบอื ถวายเปน็ พระราชกุศล. กรมปศุสัตว์. 2552. แผนยุทธศาสตร์ควายไทย ปี 2554-2557(ฉบับแก้ไข 9 กันยายน 2552). สำนกั พัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ กรมปศุสัตว์. 2552. โรงเรียนกาสรกสิวิทย์. จัดพิมพ์เน่ืองในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสดจ็ เปดิ ป้ายโรงเรยี น 10 มีนาคม 2552. กรมปศุสตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. กรมปศสุ ัตว.์ 2553. ขอ้ มลู จำนวนปศสุ ัตวใ์ นประเทศไทย ประจำปี 2552. กล่มุ สารสนเทศและข้อมูลสถติ ิ ศนู ย์สารสนเทศ กรมปศุสตั ว์. กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ กรมวิชาการเกษตร. 2536. เกษตรกรรมเชงิ ระบบ เกษตรกับส่งิ แวดล้อม. กรมวชิ าการเกษตร กระทรวง เกษตรและสหกรณ์. กลุ่มเกษตรกรตามโครงการพลิกฟ้ืนธนาคารควายไถนา. ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). เกษตรกรสมาชิกโครงการพลิกฟ้ืนธนาคารควายไถนา ตำบลนาม่อง อำเภอกุดบาก จังหวัด สกลนคร. 6 มีนาคม 2553. กลุม่ เกษตรกรโรงเรยี นปศุสตั ว์สอนคนสอนควาย. ภูมปิ ญั ญาการคดั เลือกควายไทย(สัมภาษณ)์ . เกษตรกร สมาชิกกลุ่มโรงเรียนปศุสัตว์สอนคนสอนควาย. ตำบลท่าไห อำเภอเขื่องใน จังหวัด อุบลราชธานี. 6 มนี าคม 2553. กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์กุดดินจ่ี(กลุ่มควาย). ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). เกษตรกร สมาชกิ กลุ่มผู้เล้ยี งสัตวก์ ุดดนิ จี่ อำเภอนากลาง จงั หวดั หนองบัวลำภ;ู 5 มีนาคม 2553. กลุ่มเกษตรกรเล้ียงสัตว์เชียงราย(กลุ่มควาย). ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). เกษตรกร สมาชกิ กลมุ่ ผู้เลี้ยงควายจงั หวัดเชียงราย ; 5 มนี าคม 2553. กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์นาหว้า(กลุ่มควาย). ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). เกษตรกร สมาชิกกล่มุ ผูเ้ ล้ยี งสตั วน์ าหว้า อำเภอภูเวยี ง จงั หวัดขอนแก่น; 6 มีนาคม 2553. กลุ่มเกษตรกรเลีย้ งสตั วบ์ ะฮี(กล่มุ ควาย). ภมู ิปัญญาการคดั เลอื กควายไทย(สมั ภาษณ์). เกษตรกรสมาชกิ กลุ่มผเู้ ลี้ยงสตั วบ์ ะฮี อำเภอพรรณนานิคม จังหวดั สกลนคร; 18 กมุ ภาพนั ธ์ 2553. ภมู ปิ ัญญา 88 การคดั เลอื กควายไทย

กล่มุ เกษตรกรเลยี้ งสตั วล์ าดตะเคียน(กล่มุ ควาย). ภมู ปิ ัญญาการคัดเลอื กควายไทย(สมั ภาษณ์). เกษตรกร สมาชกิ กลุม่ ผูเ้ ลย้ี งสัตว์ลาดตะเคยี น อำเภอกบนิ ทร์บุรี จังหวัดปาจีนบุรี; 5 มนี าคม 2553. กลุ่มธนาคารโคกระบือเพ่ือเกษตรกร ตามพระราชดำริ.ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). เกษตรกรสมาชิกกลุ่มธนาคารโคกระบือเพ่ือเกษตรกร ตามพระราชดำริ ตำบลนาซอ อำเภอ วานรนิวาส จังหวัดสกลนคร; 19 กุมภาพันธ์ 2553. กลุ่มธนาคารโคกระบือเพ่ือเกษตรกร ตามพระราชดำริ.ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). เกษตรกรสมาชิกกลุ่มธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ตำบลเชิงชุม อำเภอ พรรณานคิ ม จงั หวัดสกลนคร; 19 กมุ ภาพันธ์ 2553. กิตติ กุบแก้ว สุเทพ เหลาทอง และ กมั ปพ์ ล แกว้ มีศร.ี 2547. การศกึ ษาปญั หา อปุ สรรคและความ ต้องการความรู้ในการพัฒนาการผลิตกระบือของเกษตรกร ในจังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชา การปศสุ ัตว์เขต 4; 8(18): 37-65. กติ ติ กุบแกว้ . 2552. ค. ควาย ช่วยลดโลกรอ้ น. วารสารขา่ วปศุสัตว;์ 31(270): 4-9. คณะวิทยากร. ภมู ิ ปัญญาท้องถิ่นการคัดเลือกควายพันธ์ุดี(อภิปรายคณะ). วิทยากรภูมิปัญญาด้านควายไทย; 6 มนี าคม 2553. จรัญ จนั ทลกั ขณา.2526. การพัฒนาปศสุ ตั ว์เพ่อื ชนบท. สำนกั พมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. กรงุ เทพฯ. จรัญ จนั ทลักขณา.2527. ควายในระบบไรน่ าไทย. ไทยวฒั นาพานิช. กรุงเทพฯ. จรญั จันทลักขณา.2544. แสนเสยี ดาย กระบอื ไทย ไปไหนหมด.ในฝา่ วิกฤตกระบือไทย 23 พฤศจกิ ายน 2544 เน่ืองในโอกาสครบรอบ 20 ปี ศูนย์สนเทศทางกระบือนานาชาติ สำนักหอสมุด มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ (เอกสารเยบ็ เล่ม) หนา้ 4-8. จรัญ จนั ทลักขณา. 2551. รางวลั ชวี ติ ชวนคิด ชวนขัน. สมาคมสตั วบาลแห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ. จารุวรรณ ธรรมวตั ร.ม.ป.ป. คติชาวบา้ นอีสาน. อักษรวัฒนา. กรงุ เทพฯ. จนิ ตนา อนิ ทรมงคล(บรรณาธกิ าร). ม.ป.ป. ภมู ิปัญญาไทยเก่ียวกบั ควาย. กรมปศสุ ตั ว์ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์. จินตนา อินทรมงคล.2548. กระบอื ไทย เพอื่ การพฒั นาอย่างยงั่ ยนื . โครงการพฒั นานวัตกรรมภมู ปิ ญั ญา ไทยด้านปศุสัตว์ กลุ่มวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพด้านปศุสัตว์ กองบำรุงพันธ์ุสัตว์ กรมปศสุ ตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. จนิ ตนา อินทรมงคล. 2552. ภูมปิ ัญญาไทยการจัดการเล้ยี งกระบอื ปลัก. กรมปศสุ ัตว์ กระทรวงเกษตร และสหกรณ.์ โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. กรุงเทพฯ. ทศพร ศรีศกั ด.์ิ 2549. รายงานการศึกษาส่วนบคุ คล เรอื่ ง ควายไทย: สตั วเ์ ศรษฐกิจชมุ ชนเพอ่ื การพึ่ง ตนเองอย่างย่งั ยืน. วทิ ยาลยั นกั บริหาร สถาบนั พัฒนาข้าราชการพลเรือน สำนกั งาน ก.พ. . ทศพร ศรีศักดิ์ และ กิตติ กุบแก้ว. 2551. โครงการรวมใจภักด์ิอนุรักษ์ควายไทย กลยุทธ์ขับเคล่ือน ค...ควายเข้านา. วารสารขา่ วปศสุ ตั ว์; 31(269): 4-8. ภูมิปัญญา 89 การคดั เลือกควายไทย

นิกร สางห้วยไพรและคณะ. 2552. ลักษณะทั่วไปของควายไทยกับการตัดสินการประกวด. กองบำรุง พันธ์สุ ัตว์ กรมปศุสตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. บันทกึ สยาม. 2544. โคลงโลกนิติ ฉบบั ถอดความร้อยแกว้ . ไพลนิ บุ๊คเนต็ จำกดั . กรุงเทพฯ. ประจักษ์ วงศ์อารีย์. 2544. ธรรมชาติกับวิถีชีวิตชุมชนอีสาน. สำนักศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏ อบุ ลราชธานี. ประภัสสร เตชะประเสริฐวิทยา ประสิทธิ์ รัตนชวานนท์ กิตต ิ กุบแก้ว และอนงค์นุช เทียนทอง. 2544. ความต้องการรับบริการส่งเสริมของเกษตรกร กลุ่มสาธิตการเลี้ยงกระบือในพื้นท่ี ปศุสตั วเ์ ขต 4. ภาควิชาส่งเสรมิ การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . ประสบ บรู ณมานสั . 2527. กระบือและการรักษา. ไทยวัฒนาพานิช จำกัด. กรงุ เทพฯ. ประวัติศาสตรช์ าติไทย. ศึกบางระจัน วีรชนผู้รกั ชาต.ิ (9 พฤษภาคม 2553).แหลง่ สืบคน้ ข้อมูล : http:// www.bandhit.com/History/History.html. ราชบัณฑิตยสถาน. 2538. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525(พิมพ์ครั้งท่ี 5). อักษรเจริญ ทศั น์ อจท. จำกัด. กรุงเทพฯ. เรืองศักดิ์ ละทัยนิล.2546. เครือข่ายคนรักษ์กระบือ. ในเอกสารการประชุมสัมมนาผู้นำกลุ่มผู้เล้ียง กระบือและผู้รับผิดชอบโครงการระดับจังหวัด “การอนุรักษ์และพัฒนาการเล้ียงกระบืออย่าง ยัง่ ยืน” วันท่ี 5-8 สงิ หาคม 2546 สำนกั สุขศาสตรส์ ัตวแ์ ละสขุ อนามัยท่ี 4 (เอกสารเย็บเล่ม). หน้า 18-23. เรืองศักด์ิ ละทัยนิล.2549. ควายกับฅน. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด กรงุ เทพฯ. เรืองศักด์ิ ละทัยนิล. ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย(สัมภาษณ์). ข้าราชการบำนาญ อดีต ปศุสัตว์ จังหวดั ยโสธร บรุ ีรมั ย์ และ จังหวดั มหาสารคาม อดตี ท่ปี รกึ ษาคณะกรรมาธกิ ารเกษตรและ สหกรณแ์ หง่ วฒุ สิ ภา; 23 มถิ นุ ายน 2553. ลินด์ซีย์ ฟาลวีย์. 2548. การเกษตรไทย อู่ข้าวอู่น้ำข้ามสหัสวรรษ. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร.์ กรุงเทพฯ. ยอดชาย ทองไทยนันท์. 2552. การปรับปรุงพันธุ์สัตว์เชิงปฏิบัติการ. กลุ่มพัฒนาวิชาการปศุสัตว์ และ กองบำรงุ พนั ธสุ์ ัตว์ กรมปศุสตั ว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย. 2539. การพัฒนาปศุสัตว์ไทย จากกึ่งพุทธกาลถึงยุคโลกาภิวัตน์. สมาคมสตั วบาลแหง่ ประเทศไทย. กรงุ เทพฯ. สำนักสุขศาสตร์สัตว์และสุขอนามัยท่ี 4. 2546. การอนุรักษ์และพัฒนาการเล้ียงกระบืออย่างยั่งยืน. ส่วนศกึ ษาและพัฒนาการปศสุ ตั ว์ สำนักสุขศาสตร์สตั วแ์ ละสขุ อนามัยท่ี 4 (เอกสารเย็บเลม่ ). สำนักหอสมุด. 2544. ฝ่าวิกฤติควายไทย. เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ศูนย์สนเทศทางกระบือ นานาชาติ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์(เอกสารเย็บเล่ม). ภูมิปัญญา 90 การคดั เลอื กควายไทย

สุนทร น่าชม. เล้ียงกระบือ ทำนา. เอกสารประกอบการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี โรงเรียนบ้านน้ำเที่ยงลานเตหนองเม็ก ตำบลอุ่มจาน อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวดั อุดรธานี. สภุ างค์ จันทวานชิ . 2533. วธิ ีวจิ ยั เชิงคุณภาพ. สำนักพมิ พจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. กรุงเทพฯ. สรุ ชยั ชาครยี รัตน.์ 2527. การผลติ โค-กระบือ. สำนกั พมิ พไ์ ทยวัฒนาพานิช. กรงุ เทพฯ. ภูมิปญั ญา 91 การคัดเลอื กควายไทย

ช่ือและท่ีอยู่ของวิทยากรและเกษตรกร. ภูมิปัญญาการคัดเลือกควายไทย (สัมภาษณ์). วิทยากรและ เกษตรกรที่มีองค์ความรู้และภูมิปัญญาการเล้ียงควาย; 18 กุมภาพันธ์- 9 มิถุนายน 2553. ตามลำดับ ดังน้ ี ท่ี ชื่อ-สกลุ ทอ่ี ย่ ู อำเภอ จังหวัด 1 นายคำ ปรวี ิลยั 66 หมู่ที่ 7 บา้ นใหมพ่ ัฒนา ภูพาน สกลนคร 2 นายเกษม มะแอ ต.สรา้ งคอ้ 3 นายเสมยี น หมายชัย 4 พ.ต.ท.เอนก เตาสภุ าพ 45 หม่ทู ี่ 5 แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กรงุ เทพฯ. 5 นายเทพชาย บุญล้อม 39 หมูท่ ี่ 6 ต.บา้ นโปรง่ ศรธี าต ุ อดุ รธานี 6 นายสุพรชยั ฟา้ ร ี 45/392 หมู่บ้านศรนี ครพัฒนา เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ. 7 นายลว้ น กลุ แกว้ ซอยนวมินทร์ 24 แขวงบงึ กุม่ 8 นายจำปา ผายเมอื งฮุง 9 นายเสอื สภุ ตู ัง 27 ถนนราชมนตรี ต.พบิ ลู พบิ ูลมงั สาหาร อุบลราชธานี 10 นายหลอย ถึงคำภ ู 11 นายบุญนำ อาญาสนู ย ์ ศนู ย์วจิ ยั และบำรุงพนั ธสุ์ ตั ว์ เมอื ง สรุ ินทร์ 12 นายอทุ ัย สมควร สุรนิ ทร ์ 13 นายณรงค์ เก้ือทาน 14 นายทองจันทร์ เกื้อทาน 122 หม่ทู ี่ 10 ต.ดงยาง นาดูน มหาสารคาม 15 นายอ่อนสา เก้ือทาน 16 นายแสน เก้อื ทาน 72 หมทู่ ่ี 5 ต.บะฮี พรรณนานิคม สกลนคร 17 นายเจรญิ อบเชย 18 นายรัช เกตงุ าม 44/2 หมูท่ ี่ 2 ต.นาม่อง กุดบาก สกลนคร 19 นายบง โทหกั 20 นายเตยี ง อุษาพรม 103 หมู่ที่ 1 ต.นาม่อง กุดบาก สกลนคร 21 นายประยงค์ อุษาพรม 17 หมูท่ ่ี 1 ต.นาม่อง กดุ บาก สกลนคร 6 หมู่ที่ 10 ต.บะฮ ี พรรณนานคิ ม สกลนคร 2 หมทู่ ่ี 8 ต.บะฮ ี พรรณนานคิ ม สกลนคร 90 หม่ทู ี่ 8 ต.บะฮ ี พรรณนานิคม สกลนคร 58 หม่ทู ่ี 8 ต.บะฮี พรรณนานคิ ม สกลนคร 89 หมูท่ ่ี 8 ต.บะฮ ี พรรณนานคิ ม สกลนคร 160 หมู่ท่ี 5 ต.บะฮ ี พรรณนานิคม สกลนคร 28 หม่ทู ี่ 10 ต.บะฮี พรรณนานคิ ม สกลนคร 50 หมู่ที่ 3 ต.บะฮ ี พรรณนานคิ ม สกลนคร 20 หม่ทู ี่ 6 ต.เชิงชุม พรรณนานคิ ม สกลนคร 34 หมทู่ ี่ 6 ต.เชงิ ชุม พรรณนานคิ ม สกลนคร ภมู ปิ ญั ญา 92 การคดั เลือกควายไทย

ท ี่ ชือ่ -สกลุ ทอี่ ยู่ อำเภอ จังหวดั 22 นายวิชยั ศรลี าราช 23 นายฉลอง บุรุษภาพ 24 หมู่ท่ี 6 ต.เชิงชุม พรรณนานิคม สกลนคร 24 นายฉตั ร โพธิว์ งษศ์ ร ี 25 นายสงั เวียน เตชะบญั 48 หม่ทู ่ี 10 ต.ลาดตะเคยี น กบินทรบ์ ุร ี ปราจีนบรุ ี 26 นายอ้าย สายมงคล 27 นายปัญญา กองพีระ 20 หม่ทู ี่ 10 ต.ลาดตะเคียน กบนิ ทร์บรุ ี ปราจนี บรุ ี 28 นายวรรณ คำเรือง 29 นายอินทรเ์ หรียญ มงุ้ ส่าง 32/2 หม่ทู ่ี 10 ต.ลาดตะเคยี น กบนิ ทรบ์ ุรี ปราจีนบุร ี 30 นายพณา ดอนลาว 31 นายยา้ ย อุตมะ 97 หมู่ที่ 12 ต.หว้ ยซอ้ เชยี งของ เชียงราย 32 นายสมิงศักดิ์ แดงฟ ู 33 นายบญุ เลื่อน กนั ธมิ ลู 8/2 หมทู่ ่ี 21 ต.ห้วยซอ้ เชียงของ เชียงราย 34 นายศรลี ว้ น หัตถะผาส ุ 35 นายทวี ดอนแสนเทพ 46 หมทู่ ี่ 21 ต.หว้ ยซ้อ เชยี งของ เชียงราย 36 นายสมเดช ปินตาเครอื 37 นายวิไล พูนเพิม่ 101 หมูท่ ่ี 21 ต.หว้ ยซอ้ เชยี งของ เชียงราย 38 นายสมาน พนั ธศุ์ ริ ิ 39 นายคำไหม่ หบี แก้ว 218 หมู่ที่ 15 ต.แมข่ ้าวตม้ เมือง เชยี งราย 40 นายโอภาส หีบแก้ว 41 นายสมพงษ์ สขุ พนั ธ์ 83 หมทู่ ่ี 15 ต.แม่ข้าวต้ม เมือง เชียงราย 42 นายโท ประเสรฐิ ศรี 43 นายวัง สองศร ี 281 หมทู่ ่ี 15 ต.แมข่ ้าวตม้ เมอื ง เชยี งราย 44 นายทองสนั ต์ คุณาพนั ธ ์ุ 45 นายพู ธญั ญารกั ษ์ 38 หมู่ที่ 15 ต.แมข่ ้าวตม้ เมอื ง เชยี งราย 46 นายสงิ ห์ กมลคร 47 นายบญุ ชู นาสวุ รรณ 76 หมทู่ ี่ 9 ต.บ้านด ู่ เมือง เชียงราย 57 หมู่ที1่ 7 ต.ดอนศลิ า เวยี งชยั เชยี งราย 76/1 หมทู่ ่ี 3 ต.โยนก เชียงแสน เชยี งราย 18 หมู่ท่ี 5 ต.ท่าไห เขอ่ื งใน อุบลราชธาน ี 76 หมูท่ ี่ 5 ต.ทา่ ไห เขอ่ื งใน อุบลราชธาน ี 13 หมทู่ ่ี 5 ต.ทา่ ไห เขอื่ งใน อบุ ลราชธานี 12 หมู่ท่ี 5 ต.ท่าไห เขอ่ื งใน อบุ ลราชธาน ี 109 หมู่ท่ี 5 เขอื่ งใน อบุ ลราชธานี 161 หมทู่ ่ี 10 ต.ท่าไห เขอ่ื งใน อุบลราชธาน ี 10/4 หมู่ที่ 1 ต.คอ้ ทอง เขื่องใน อบุ ลราชธานี 64/1 หมทู่ ่ี 9 ต.คอ้ ทอง เขื่องใน อุบลราชธานี 265/1 หมูท่ ี่ 2 ต.ท่าล่ี ทา่ ลี่ เลย 96 หมู่ท่ี 10 ต.นาหวา้ ภเู วียง ขอนแก่น 18/1 หมู่ที่ 10 ต.นาหว้า ภเู วียง ขอนแก่น ภูมิปญั ญา 93 การคดั เลือกควายไทย