Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ละครสร้างนักอ่าน

ละครสร้างนักอ่าน

Description: ละครสร้างนักอ่าน

Search

Read the Text Version

อาสาสมัคร ชว่ ยนักอ่านเหล่านข้ี ีดเสน้ ใต้บทของพวกเขา และฝึกซอ้ มบทนัน้ ๆ กับนักอ่านแตล่ ะคน • อ่านเร่อื งอีกครง้ั โดยนกั อ่านทัง้ หมดรว่ มกันอ่าน • กระตุ้นให้นักอ่านนึกภาพท่ีมาจากเนื้อหาของเรื่อง และให้พวกเขาเก็บสำเนา เรอื่ งทีแ่ จกเขา้ ไวใ้ นแฟ้มสีของตัวเอง สำเนาเหล่านอ้ี าจนำกลับบา้ นเพือ่ ไปอ่าน ซ้ำกับพ่ีนอ้ งหรอื ผู้ปกครอง (หรือให้ผู้ปกครองอ่านใหฟ้ ัง) บทของตัวละครอาจมีการสับเปล่ียนบทกันตลอดช่วงการฝึกซ้อม และเรื่องก็ จะถูกอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้นำเรื่องท่ีคุณชอบและฝึกซ้อมบ่อยที่สุด นำมาแสดงในวันพ่อ วันแม่ หรอื วันครอบครัว ก็จะสร้างความประทบั ใจได้ไม่นอ้ ย หมายเหตุ: กรณีที่เป็นเด็กปฐมวัย อาจต้องเพิ่มอุปกรณ์ เช่น หุ่นแบบต่างๆ มาประกอบด้วย แต่ต้องมีหนังสือหรือเร่ืองท่ีจะอ่านแจกให้เด็กคนละชุด แม้จะอ่าน ยงั ไม่ได ้ แต่ใหเ้ ด็กรู้วา่ คำท่พี ูดหรอื อ่านซำ้ ๆ น้นั อยูใ่ นสว่ นไหนของเรื่อง เด็กๆ จะจำได้ Readers Theatre 101

การอา่ นáบบรอบวง (Circle Reading) การอา่ นแบบรอบวงนน้ั เปน็ การใหเ้ ดก็ ๆ ไดอ้ า่ นบทของตวั ละครทตี่ า่ งกนั ทง้ั หมดใน เรื่อง เป็นการทดลองกับเสียง และท้ายสุดก็เลือกบทท่ีตัวเองชอบท่ีสุด วิธีน้ีจะช่วยให้ นกั อา่ นสรา้ งความมน่ั ใจได ้ เพราะไมใ่ ชก่ ารบงั คบั ไมม่ กี ารแขง่ ขนั และใหโ้ อกาสแกน่ กั อา่ น ทุกคนทีจ่ ะได้อ่านเนื้อหาทงั้ หมด ขน้ั ตอนดำเนนิ การ • ทำสำเนาเนอื้ หาของเร่อื งแจกใหก้ บั นกั อ่านทุกคน • ให้นักอา่ นของคุณอา่ นตลอดทั้งเร่อื งในใจ • หลังจากนักอ่านท้ังหมดอ่านในใจแล้ว ก็ให้มาล้อมวงกันเป็นวงกลมวงใหญ่ ซงึ่ รวมถึงตวั คณุ ดว้ ยถ้าเปน็ ไปได้ • ต่อไปก็เร่ิมให้นักอ่านคนท่ีอยู่ซ้ายมือคุณอ่านส่วนของผู้อ่านคนแรก คนต่อมา อ่านส่วนที่สอง และคนต่อๆ ไปก็เช่นกัน ไม่มีการมอบหมายให้อ่านแบบ บทเดยี วคนเดียวในตอนน้ ี ผอู้ ่านแต่ละคนจะผลัดกนั อ่านรอบเป็นวงกลม คณุ ก็ เข้าร่วมการอ่านน้ดี ว้ ย • เม่ือรอบวงจบเร่ืองแล้ว ใช้เวลาพูดคุยถึงเรื่องท่ีอ่านว่าตัวละครแต่ละตัวมี ลกั ษณะอยา่ งไร? บคุ ลกิ ของเขาควรเปน็ แบบใด? เสยี งของเขาควรเปน็ อยา่ งไร? ตัวละครควรจะนั่งหรอื ยนื ? ตวั ละครน่าจะแตง่ ตวั อย่างไร? • พดู ถงึ ความสำคญั ของผบู้ รรยายแตล่ ะคน ตรวจสอบดวู า่ ผบู้ รรยายนา่ จะแนะนำ เร่ืองอย่างไร ให้รายละเอียดของการบรรยาย จัดอารมณ์ให้เหมาะสมกับการ กระทำในเรอ่ื ง และชว่ ยนกั อา่ นทเ่ี ปน็ ตวั ละครวางทา่ ใหเ้ หมาะสมในขณะทอ่ี า่ น • ทบทวนความหมายและการออกเสยี งของคำทยี่ าก • ตอนน้ีขออาสาสมัครจากนักอ่านของคุณเพ่ืออ่านบท ให้อาสาสมัครแต่ละคน 102 ละครสร้างนักอา่ น

ขีดเส้นใต้บรรทัดท่ีเขาจะต้องอ่าน จากนั้นก็อ่านแบบออกเสียงอีกครั้ง ผลัด เปลี่ยนบทของตัวละครไปรอบๆ วงและอ่านซ้ำอีกคร้ัง จนกระทั่งความสนใจ ลดลงหรือหมดเวลา การอ่านáบบพร้อมãชã้ นวนั เ´ียว (Instant Reading) การอ่านแบบพร้อมใช้ในวันเดียวเป็นกิจกรรมท่ีใช้เวลาเพียงช่วงสั้นๆ ในหน่ึงวัน หรอื แทรกเขา้ ไปโดยใช้เวลาเพียงไมก่ ่นี าทใี นช่วงใดชว่ งหนง่ึ ของวนั เชน่ ในโรงเรยี นอาจ ใช้ตอนเวลาเลิกเรียนก่อนกลับบ้าน หรือห้องสมุดใช้เป็นช่วงหน่ึงของการจัดกิจกรรม เร่ืองหน่ึงเร่ืองอาจจะอ่าน 1 หรือ 2 ครั้งแล้วเก็บไว้ จากน้ันก็นำมาใช้ซ้ำอีกในการจัด กิจกรรมคร้ังต่อไป ข้ันตอนที่จะกล่าวต่อไปน้ี คุณสามารถรวบรวมนักอ่านในกิจกรรม การอา่ นทมี่ ีความหมายน้ีไดท้ ันทที ่ีพร้อม ขัน้ ตอนดำเนินการ • ทำสำเนาเน้ือหาของเรอ่ื งจำนวนเทา่ ทจ่ี ำเป็นเทา่ น้ัน • แจกสำเนาดงั กล่าวให้กบั เดก็ ๆ หรอื ขอให้ร่วมกนั ใชเ้ ปน็ คู่ • ใหน้ ักอ่านอ่านเน้อื หาตลอดทัง้ เรอื่ งในใจ เด็กเลก็ อาจตอ้ งใหค้ ุณอา่ นเร่ืองให้ฟัง • มอบหมายบทของตัวละครให้กับนักอ่าน ให้พวกเขาใช้เวลาไม่กี่นาทีขีดเส้นใต้ บทของตัวเองท่ีได้รับมอบหมาย จากน้ันให้นักอ่านเขียนช่ือตัวละครและ หมายเลขผู้อ่านไว้ทห่ี นา้ แรกของสำเนา • ตอนนี้นักอ่านท่ีได้รับมอบหมายจะอ่านเร่ืองแบบออกเสียงจากท่ีนั่งของตัวเอง แกก้ ารออกเสียงให้ถูกต้อง อธบิ ายความหมายและขอใหน้ ักอา่ นบนั ทึกลงไปถ้า Readers Theatre 103

จำเป็น อย่างไรก็ตาม พยายามให้การอ่านดำเนินต่อไป • ต่อไปขอให้นักอ่านชุดเดียวกับที่ได้รับมอบหมายมารวมตัวกันหน้าห้องสำหรับ การอา่ นรอบท่ีสอง • เมอื่ การอา่ นจบแลว้ พดู อภปิ ราย (เนอ้ื เรอื่ ง การอา่ น หรอื ทงั้ คกู่ ำหนดตวั นกั อา่ น ในแต่ละบท (ตวั ละคร) ใหมอ่ ีกครั้ง สับเปล่ียนบท แล้วจึงเรม่ิ อ่านอกี คร้ัง • ดำเนินต่อไปจนกระทั่งความสนใจลดลง คุณอาจต้องให้มีรูปแบบการอ่านแบบ นี้ในห้องสมดุ เวลาจดั กิจกรรม การอา่ นáบบรว่ มกนั ค´ิ (Cooperative Reading) ถ้าคุณวางแผนท่ีจะรวมเด็กๆ ให้เป็นกลุ่ม การอ่านแบบร่วมกันคิดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงทำสำเนาเนื้อหาของเร่ืองตามจำนวนท่ีเหมาะสมของผู้ร่วมกิจกรรม (ส่วนมาก จะใชผ้ ้อู า่ น 5-8 คนตอ่ 1 เร่ือง ถา้ จำนวนผรู้ ว่ มกิจกรรมม ี 25 คนและตอ้ งการใช้ 5 เรื่อง ก็จะใช้ผู้อา่ นเร่อื งละ 5 คน เป็นต้น สว่ นบทของตัวละครมากกวา่ หรือน้อยกวา่ จำนวนคน กลุ่มของผู้รว่ มกิจกรรมเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร) ขน้ั ตอนดำเนนิ การ • ใหผ้ ้รู ว่ มกิจกรรมรวมตัวกันเป็นกลุม่ แต่ละกลุ่ม แลว้ แจกสำเนาเรือ่ งทีจ่ ะอ่าน • ให้ทุกคนอ่านเน้ือหาทั้งเรื่องในใจ จากน้ันก็กำหนดพ้ืนที่สำหรับการฝึกให้แต่ ละกล่มุ ตอนน้ีกลุ่มอาจจะแยกยา้ ยไปฝกึ กันเองในพื้นทข่ี องตน • ใชเ้ ทคนคิ แบบระดมสมอง (หรือจะใชเ้ ทคนิคแบบใดกไ็ ด้ท่คี ณุ เหน็ วา่ เหมาะสม) แต่ละกลุ่มมอบหมายบทกันเองและฝึกซ้อมจากเน้ือเรื่องท่ีได้รับข้อเสนอแนะ 104 ละครสรา้ งนักอา่ น

เพือ่ การปรบั ปรงุ การเพมิ่ หรอื เปล่ยี นแปลงใดๆ จะต้องมาจากกล่มุ คณุ อาจจะ เดินไปมาจากกลมุ่ หนงึ่ ไปอีกกล่มุ เพ่อื กระตนุ้ นักอา่ น • ใหน้ กั อา่ นนำสำเนาเนอ้ื เรอื่ งทไี่ ดร้ บั กลบั บา้ น เพอ่ื วา่ อาจมกี ารฝกึ ซอ้ มเองทบ่ี า้ น แนะนำใหม้ ีการอ่านด้วยการอา่ นออกเสียงใหส้ มาชกิ ในครอบครวั ฟงั ใหแ้ ต่ละกลุ่มมกี ารฝกึ ซอ้ ม 2 หรอื 3 ครงั้ หรือจนกระทัง่ พวกเขาร้สู กึ ว่าพร้อม แลว้ สำหรับผู้ชม • จดั ตารางใหม้ กี ารแสดงของแตล่ ะกลมุ่ คณุ อาจกำหนดใหม้ กี ารแสดง 1 กลมุ่ ตอ่ 1 วันในแต่ละสัปดาห์ หรือจัด “เทศกาลวันศุกร์หรรษา” แล้วจัดให้ท้ังหมด แสดงในตอนบา่ ยวันศุกร์ของสัปดาหต์ อ่ ไป หมายเหตุ: คุณไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการแสดงการอ่านแบบร่วมกันคิดนี้ และ กลุม่ ท่ีถกู คดั เลือกอาจจะต้องฝกึ ซ้อมการอา่ นเพอื่ การแสดงในวันสำคญั ตา่ งๆ Readers Theatre 105

106 ละครสร้างนักอา่ น

¹Ñ¡ÍÒ‹ ¹º¹àÇ·Õ

“รีดเดอร์ส เธียเตอร์เป็นกิจกรรมการอ่านท่ีสามารถเล่าเร่ืองราวในรูปแบบที่ เพลิดเพลินได้มากที่สุดวิธีหนึ่ง เป็นการแสดงการอ่านและนักแสดงก็ไม่ถูกขอให้ จำบทของพวกเขาด้วย แตพ่ วกเขาจะถูกกระตุน้ ให้ ‘เลน่ อารมณ์ออกมา’ และใช้ ท่วงทำนองของเสียงและท่าทางที่เหมาะสมต่อตัวละครและคำพูดของตัวละคร... เด็กๆ ชอบมาก และผมก็ชอบมากด้วยเช่นกัน พวกเขาจะต่ืนเต้นมากท่ีได้พบ ความสามารถใหมข่ องตวั เอง… ผมขอสนบั สนนุ ใหค้ ณุ ใชร้ ดี เดอรส์ เธยี เตอรก์ บั เดก็ ๆ... คุณและเดก็ ๆ จะตอ้ งชอบรดี เดอร์ส เธียเตอร์มากอย่างแนน่ อน” (Aaron Shepard) 108 ละครสร้างนักอ่าน

สำหรบั นักการละครแล้ว การอ่านบนเวทีเปน็ การแสดงทีต่ ้องผ่าน การฝกึ ซอ้ ม มกี ารขดั เกลาและมกี ารนำเสนอทม่ี ากแบบหลากหลายสไตล์ นักอ่านจะถูกจัดตำแหน่งให้อยู่บน “เวที” ในจุดที่กำหนดซ่ึงได้รับการ ออกแบบไว้ การเข้าและออกจากเวทีก็ต้องมีการวางแผนและฝึกซ้อม และที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ น้ำเสียง ท่าทางการแสดงออก ทางสีหน้า และลักษณะทางการแสดงอนื่ ๆ ตามเน้อื หาของเรื่องท่เี ลอื ก ในการแสดงการอา่ นบนเวที (Staged Reading) ท่สี มบรู ณ์แบบ หนังสือหรือเร่ืองท่ีจะนำมาอ่านควรดัดแปลงเป็น “สคริปต์” หรือบท สำหรับการอ่านบนเวที (ลักษณะเดียวกับบทละคร) คุณอาจตัดและ เปล่ียนแปลงบทในเร่ืองได้ตามสะดวก ถ้าจะทำให้เร่ืองของคุณดูมี ชวี ติ ชวี ามากขน้ึ เข้าใจไดง้ า่ ยขึน้ หรือแสดงไดง้ า่ ยข้นึ แตต่ อ้ งมัน่ ใจว่าได ้ อ่านเน้อื เรอื่ งตน้ ฉบบั โดยตลอด และตรวจดแู ลว้ วา่ ทุกอยา่ งในเรอื่ งยังคง สมเหตุสมผลและคงแกน่ หรือสาระของเร่อื งไวเ้ ช่นเดมิ ผเู้ ช่ยี วชาญบางคนคดั ค้าน แมก้ ระทั่งการเปล่ยี นจุดเลก็ จดุ น้อยใน งานของผเู้ ขยี น แตผ่ เู้ ขยี นมไิ ดเ้ ขยี นขนึ้ มาเพอ่ื การแสดง ถา้ คณุ ละเวน้ การ เปลย่ี นแปลงใหเ้ หมาะสมแลว้ งานของผเู้ ขยี นอาจสอ่ื สารใหเ้ ขา้ ใจไดย้ าก Readers Theatre 109

ตัวอย่างง่ายๆ สำหรับการแปลงเน้ือหาจากหนังสือเพื่อเป็นบทสำหรับการแสดง (สครปิ ต์) เพอื่ เพิ่มความเขา้ ใจความหมายของคำวา่ รีดเดอร์ส เธยี เตอร์ ดังน้ี ผู้อ่าน 3 คนเดินเรียงแถวไปยืนหน้าห้อง หันหน้ามาทางผู้ชม มือถือแฟ้ม บททีจ่ ะอ่าน ทงั้ 3 คนเปดิ แฟม้ พรอ้ มกนั แล้วเริ่มอ่าน ผอู้ า่ นทง้ั 3 คน (พรอ้ มกนั ) : รดี เดอรส์ เธยี เตอร์ รดี เดอรส์ เธยี เตอร์ รดี เดอรส์ เธยี เตอร์ ผู้อา่ น 1 : ละครของคนอา่ นหนังสอื ละครของนกั อา่ น ผอู้ ่าน 2 : คืออะไรละ่ ? ผู้อ่าน 1 : มันคอื การอา่ น ผอู้ า่ น 3 : การอ่านบท... ผ้อู า่ น 2 : การอา่ นในฐานะตวั ละคร… ผู้อา่ น 1 : การอา่ นในฐานะคนเลา่ เรือ่ ง ผู้อ่าน 3 : มันคือละคร... ผู้อ่าน 2 : แต่ไม่ตอ้ งทอ่ งจำบท ผู้อา่ น 1 : และเราสามารถอ่านไดห้ ลายๆ ตอน หลายๆ บท ผอู้ า่ น 2 (เสียงคนแก่) : ด้วยการเปล่ียนเสยี ง... ผอู้ ่าน 3 (เสยี งเด็ก) : ด้วยการเปล่ยี นเสยี ง... ผู้อ่าน 1 (ทำทา่ เศรา้ -เสียงเศรา้ ) : ด้วยการเปลี่ยนอารมณ.์ .. ผู้อา่ น 2 (ทำทา่ ร่าเริง-เสยี งร่นื เรงิ ) : ดว้ ยการเปลี่ยนอารมณ.์ .. ผอู้ า่ นท้งั 3 คน (พรอ้ มกัน) : ด้วยการอา่ น นกั อ่านทุกคนโค้งคำนับ ทกุ คนยิ้ม แล้วเดินกลับทีน่ ง่ั 110 ละครสร้างนักอ่าน

ต่อไปน้ีจะใช้คำว่า “สคริปต์” แทนความหมายของเนื้อหาจากหนังสือท่ีได้รับการ แปลงเป็นบทสำหรับการแสดงแล้ว เลน่ กับสครปิ ต์ สคริปตจ์ ะต้องถูกใช้ และเห็นได้บนเวที เพราะน่ีคือการแสดง “การอ่าน” แม้ว่า นักอ่านจะจำบทสำหรับการแสดงได้แล้วก็ตาม นักแสดงจะปรากฏตัวเพื่ออ่านสคริปต์ ของพวกเขา ปกตสิ ครปิ ตอ์ าจถกู วางไวบ้ นทวี่ างโนต้ ดนตรหี รอื นกั อา่ นถอื ไวใ้ นมอื เมอื่ เลอื ก ใชก้ ารถือสครปิ ต์ด้วยมือกค็ วรจดั การให้ดใี นการพลิกหนา้ กระดาษ และเม่อื ใชท้ า่ ทางของ ร่างกายก็ต้องไม่ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัด แฟ้มท่ีเป็นปกแข็งจะมีประโยชน์ต่อการถือสคริปต์ ได้ดี วิธเี ลน่ กบั สครปิ ต ์ คอื เพอื่ ทจี่ ะจดั การใหส้ ามารถหาสง่ิ ท่จี ะอ่านได้ง่าย แต่ไม่ไดห้ ยุด การเคลอ่ื นไหวมากจนเกนิ ไปหรอื ทำใหค้ นดเู สยี อารมณ ์ นกั อา่ นจะถอื สครปิ ตด์ ว้ ยมอื เดยี ว และปล่อยให้มืออีกข้างว่างสำหรับการแสดง เพ่ือการจับแฟ้มแบบสบายๆ สันของแฟ้ม จะวางบนฝ่ามอื ถ้านักอา่ นจะต้องเคล่ือนท่ไี ปรอบๆ หลายๆ คร้ัง พวกเขากอ็ าจจบั ที่ขอบ บนของแฟม้ แทน และส่วนหน่ึงของตัวแฟม้ วางพงิ อยบู่ นท่อนแขนท่ีหงายขึน้ ผถู้ นดั มอื ขวาถอื สครปิ ตด์ ว้ ยมอื ซา้ ย และผถู้ นดั ซา้ ยถอื ดว้ ยมอื ขวา แตบ่ างครงั้ นกั อา่ น อาจต้องสลบั มือ ถา้ มอื ทเ่ี จาะจงจำเป็นตอ้ งใช้สำหรับการแสดง นักอ่านจะเงยหน้าจากสคริปตอ์ ยูบ่ ่อยๆ ถงึ แม้วา่ ไมจ่ ำเป็นต้องทอ่ งจำบท แต่พวก เขากค็ วรจะรู้ขอ้ ความและบทที่ตอ้ งแสดงของตนดีพอ เพอื่ ท่วี ่าพวกเขาสามารถจะค้นหา ข้อความจากสคริปต์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อมองลงไปท่ีสคริปต์ก็จะใช้เพียงสายตา เท่าน้ัน โดยยงั คงรักษาศีรษะให้ตง้ั ตรง Readers Theatre 111

นกั อ่านจะต้องปรับตวั เกี่ยวกับการจดั การกับสคริปต์ ตวั ละครทีต่ ้องมองขึ้นขา้ งบน ในหลายๆ ฉากอาจต้องจำบางส่วนของสคริปต ์ ผบู้ รรยายท่มี คี ำพูดยาวๆ อาจต้องใช้มือ ข้างที่ว่างมาช่วยจับขอบแฟ้มเพ่ือรักษาให้คงที่ นักอ่านท่ีมือจะไม่ว่างพลิกหน้ากระดาษ เพราะต้องใชแ้ สดง ก็สามารถใสห่ น้านนั้ ในแฟม้ แบบกลบั ดา้ นเพ่ือใหไ้ ด ้ 2 หน้าชนกนั ถ้าเป็นไปได้ ให้จัดเก็บสคริปต์ท่ีจะแสดงเข้าไว้ในแฟ้มท่ีมีสีสัน แฟ้มท่ีเป็นสันห่วง จะช่วยให้การเปิดพลิกหน้าได้สะดวกและหาง่าย ถ้าไม่มีแฟ้มแบบสันห่วงก็อาจจะใช้วิธี เย็บสคริปต์เข้าไว้กับกระดาษแข็ง ให้รีดรอยพับท่ีประมาณน้ิวจากด้านซ้ายมือจากนั้นจึง ใช้ลวดเยบ็ ซ่ึงจะชว่ ยใหก้ ารเปิดหน้าสะดวกขน้ึ เตือนนักอ่านให้ถือแฟ้มให้ต่ำและห่างจากตัวพอประมาณ นักอ่านจะต้องทดลอง หาตำแหนง่ ทสี่ บายและเหมาะสม เพราะการแสดงออกทางสหี นา้ นนั้ ผชู้ มจะตอ้ งสามารถ เห็นได ้ และคำพดู ทอ่ี า่ นออกมาจะตอ้ งไมถ่ กู ปดิ หรอื บังโดยแฟม้ เมื่ออยู่บนเวที แฟ้มอาจจะกลายเป็นอุปกรณ์การแสดงไปด้วย เช่น แทนหนังสือ สมดุ โน้ต หรือผวิ หน้าโต๊ะ เปน็ ตน้ การจั´เวที นกั อา่ นมกั จะถกู จดั ใหน้ ง่ั อยบู่ นเกา้ อเ้ี ปน็ แถวเรยี งหนา้ กระดาน หรอื ยนื อยหู่ ลงั แทน่ ที่วางโน้ตดนตรีกลางเวที และผู้บรรยายมักจะอยู่ด้านข้างเวทีด้านใดด้านหนึ่ง โดยทั่วไป นักอ่านจะแต่งกายด้วยชดุ สีเดียวกันเพือ่ ทำให้ดูเป็นทีม นอกจากน้ ี ยงั ทำให้ดูเป็นกลางไป ด้วย ดังนน้ั นักอ่านจงึ สามารถเปลย่ี นตัวละครที่อย่ใู นใจของผ้ชู มไดง้ า่ ยขึน้ สำหรบั ฉากของการแสดง คณุ ไมต่ อ้ งสรา้ งฉากสำหรบั RT คำบรรยายของผบู้ รรยาย จะทำให้มีชีวิตชีวาข้ึนมาได้โดยการเคลื่อนไหวและการแสดงท่าทางของผู้อ่าน ถ้าผู้อ่าน เปดิ ประตเู ราก็เห็นมนั ถา้ ผู้อา่ นแขวนเคร่อื งประดับบนผนัง เราก็เหน็ ไดว้ า่ มันอยูท่ ไ่ี หน 112 ละครสรา้ งนักอา่ น

เก้าอี้ไม้เป็นเครื่องช่วยท่ีสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการเป็นฉาก และยังเป็นอุปกรณ์ การแสดงท่ใี ช้ไดส้ ะดวก เกา้ อไี้ ม้ 3 ตวั วางในรปู ครึ่งวงกลม สามารถเป็นหอ้ งอาหาร เกา้ อ้ี ไม้ 2 ตัววางชิดกัน อาจเป็นม้าน่ังในสวนสาธารณะหรือสันบนหลังคาของบ้าน เกา้ อไ้ี มท้ รงสงู เดย่ี ว 1 ตวั สามารถเปน็ บลั ลงั กใ์ นราชสำนกั เกา้ อส้ี งู ทม่ี เี กา้ อเ้ี ตย้ี วางตดิ กนั กอ็ าจเปน็ ต้นไม้เพอ่ื ใหไ้ ตข่ นึ้ หรอื เป็นภเู ขา พน้ื ท่ที ี่ไมม่ เี ก้าอ้สี ามารถเปน็ อะไรก็ได้ทั้งนัน้ ก็เหมือนกับในโรงละครทค่ี ุณเร่มิ ออกแบบ “ฉาก” ของคณุ โดยการคดิ วา่ ทำเลแบบ ไหนทเี่ นอื้ เรอื่ งของคณุ ตอ้ งการ จากนนั้ คณุ กจ็ ดั ตำแหนง่ ใหก้ บั ทตี่ ง้ั เหลา่ นน้ั บนเวทขี องคณุ ดว้ ยการจดั แบบใดกไ็ ดท้ ่เี ห็นวา่ เหมาะสมและดูดีที่สดุ โดยตอ้ งคำนงึ ถึงความสบายในการ เคล่ือนไหวของนักอา่ น ความสมดลุ ของเวท ี และให้คนดูเห็นไดช้ ัด การเปลี่ยน©าก นักอ่านอาจย้ายไปยังพ้ืนท่ีต่างกันบนเวทีสำหรับฉากท่ีแตกต่าง หรือพวกเขาอาจ อยู่ในพ้ืนที่เดิมและทำการ “เปล่ียนฉาก” หรือให้ฉากย้ายมาที่พวกเขา ตัวอย่างเช่น ผู้อ่านอาจจะย้ายจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่งภายในบ้าน โดยการเดินอยู่ในท่ีเดิม ข้ึนบนั ไดและเปดิ ประตหู ้อง ทง้ั หมดนี้ไม่ต้องย้ายฉากสักนดิ เลย การ “ออกจากฉาก” (offstage) น้นั นกั อ่านไมจ่ ำเป็นตอ้ งออกไปจรงิ ๆ จากเวท ี แต่ใช้การ “ถอยออกจากคนด”ู (back to audience/BTA) แทน เปน็ การแสดงใหค้ นดู เห็นว่าผู้อ่านได้ออกจากภาพไปแล้ว ถ้าผู้อ่านกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ก็อาจเพียงแค่หมุนตัว กลับหลัง ถ้ายืนอยู่ผู้อ่านก็อาจจะออกจากภาพนั้นได้โดยการย้ายไปที่ส่วนหลังของเวที ผู้บรรยายแทบไมต่ อ้ งไปท่ ี BTA เลยแมว้ า่ เขาจะไมไ่ ดอ้ ่านอยู่ชว่ งหนง่ึ ก็ตาม ในละครทั่วไป ม่านหรือแสงไฟปรากฏข้ึนแสดงว่าเป็นการ “เปลี่ยนฉาก” คอื กระโดดข้ามเวลาและ/หรือสถานทอี่ ย่างรวดเร็ว ใน RT การเปลี่ยนนแี้ สดงให้เหน็ ได้ โดยการหยุดการเคล่ือนไหว ตัวอย่างเช่น นักอ่านท้ังหมดอาจจะ “ทำตัวน่ิง” (freeze) Readers Theatre 113

อยู่กับท่เี หมือนรปู ปั้น หรอื พวกเขาอาจจะถอยไปท่ี BTA แลว้ ทำตัวน่ิงจากนนั้ จงึ กลับเข้า มาอกี ครง้ั หรอื อาจทำตวั นง่ิ จากนน้ั กข็ า้ มไปอกี ดา้ นหนง่ึ ของเวทสี ำหรบั ฉากตอ่ ไป ถา้ ฉาก ใดในเรื่องสามารถลนื่ ไหลเขา้ ไปในฉากต่อไปได้อยา่ งราบรืน่ ก็ไมจ่ ำเปน็ ต้องหยุดอะไรเลย การมองของนักáส´ง จุดโฟกัส หมายถึง ที่ท่ีนักอ่านกำลังมองอยู่หรือพูดด้วย รูปแบบของการโฟกัส ม ี 3 แบบ คือ 1. การโฟกสั ในเวที (onstage focus) เป็นรปู แบบทล่ี ะครทั่วไปใช ้ คอื นักแสดงใช้ เมือ่ พวกเขาต้องโต้ตอบกันเองบนเวที 2. การโฟกสั ท่ีคนดู (audience focus) รูปแบบนใี้ ชส้ ำหรบั การบรรยาย ผูบ้ รรยาย ในฐานะผู้เล่าเร่ืองจะพูดโดยตรงกับผู้ชม ซ่ึงเป็นการเช่ือมระหว่างนักแสดงกับ คนดู 3. การโฟกัสนอกเวที (offstage focus) รปู แบบน้ีเปน็ แบบท่ีใช้ใน RT นักแสดงจะ จินตนาการว่ามีตัวละครอน่ื ๆ อยู่ด้านหนา้ นอกเวที (out front) ในกลุม่ ของคนดู และเพ่อื ท่ีจะให้ได้ผลด ี ให้จนิ ตนาการว่ามกี ระจกทผี่ นงั ดา้ นตรงขา้ มกับเวท ี ที่ที่ ผอู้ ่านเห็นกนั และกันในกระจก นน่ั คือจดุ ที่จะโฟกสั RT มลี กั ษณะพเิ ศษในการปรงุ แตง่ อรรถรสของถอ้ ยคำใสเ่ ขา้ ไปในความคดิ ของผชู้ ม ที่เรียกว่าการโฟกัสนอกเวที (offstage focus) การโฟกัสนอกเวทีเป็นเทคนิคท่ีนักแสดง จินตนาการภาพของตัวละครในเรื่อง มากกว่าการมองโดยตรงไปที่เพ่ือนนักแสดงบนเวที เมื่อใช้การโฟกัสนอกเวทีได้อย่างเหมาะสม คนดูก็จะไม่รู้สึกขัดบางครั้งผู้แสดงอาจรู้สึก แปลกๆ ทีใ่ ช้ในตอนแรก แต่แนวคดิ และเทคนิคของมันนัน้ เรยี นรไู้ ดง้ า่ ย 114 ละครสรา้ งนักอ่าน

จุดที่นกั แสดงจะโฟกัสหรอื มองไปนัน้ สว่ นใหญ่แลว้ กง็ า่ ยๆ กลา่ วคือ ผูบ้ รรยายใช ้ การโฟกัสท่ีคนดู (audience focus) คือจะมองตรงไปที่กลุ่มคนดู ตัวละครจะใช้ การโฟกัสนอกเวที (offstage focus) คือนกั อ่านจนิ ตนาการภาพของอีกคนท่ีกำลังพูดดว้ ย อยูเ่ บ้อื งหน้ามุมใดมุมหน่ึงของกลุ่มคนดู แทนที่จะพดู โต้ตอบกันเองโดยตรงพวกเขาจะพูด กับภาพจินตนาการแทน (บางทีการมองไปท่ีเหนือศีรษะของกลุ่มคนดูเล็กน้อยก็เป็น ประโยชน์ต่อนกั แสดง) แต่อาจมีบางเวลาเป็นกรณีพิเศษท่ีคุณจะทำลายกฎน้ี แล้วให้ตัวละครบนเวทีมอง กนั เอง โตต้ อบกนั เอง ที่เรียกว่า การโฟกสั ในเวที (onstage focus) คอื นักอ่านจะมองไป ท่ีตัวละครที่เขากำลังพูดด้วย ซึ่งก็เหมือนกับในละครทั่วไปหรือในชีวิตจริง (กรณีของ แชมเบอร์ รดี เดอร์ส ตัวละครมักจะใชก้ ารโฟกัสในเวทเี ป็นสว่ นใหญ่) เพอ่ื ใหม้ น่ั ใจวา่ มกี ารโฟกสั นอกเวทไี ดถ้ กู ตอ้ ง ผกู้ ำกบั ควรจะไปอยทู่ า่ มกลางกลมุ่ ของ คนดู และยนื หนั หนา้ เขา้ หาผอู้ า่ นแตล่ ะคนโดยตรง ซง่ึ จะทำใหผ้ แู้ สดงทก่ี ำลงั มบี ทในขณะ นั้นได้ “เห็น” ตัวผู้แสดงคนอ่ืน หรือผู้กำกับอาจจะเขียนช่ือของตัวละครลงบนกระดาษ และตดิ ไว้ในที่ท่เี หน็ วา่ เหมาะสมบนผนงั ด้านหน้าของผู้อา่ น Readers Theatre 115

ทีส่ ำคัญทส่ี ดุ ของการใชก้ ารโฟกสั นอกเวที (offstage focus) คอื ชว่ ยสรา้ งภาพของ ความไกลหรือความสูง ตัวละครสองตัวบนเวทีเดียวกันแต่ใช้การโฟกัสนอกเวทีสามารถ ตะโกนและโบกมอื ใหก้ นั และกนั ราวกบั อยหู่ า่ งกนั เปน็ ไมล ์ ถา้ คนหนงึ่ มองขนึ้ ขา้ งบนอกี คน มองลงดา้ นลา่ ง คณุ มคี นแคระกำลงั พดู กบั ยกั ษห์ รอื ผหู้ ญงิ ทหี่ นา้ ตา่ งกำลงั พดู กบั ผชู้ ายบน ถนน ตัวละครสามารถใช้โฟกัสที่คนดูได้ในบางคร้ัง โดยการกล่าวข้อคิดเห็นโดยตรงต่อ คนด ู พวกเขาอาจจะใช้โฟกสั น้ีถ้าคนดูถูกดึงเข้ามาในเรอ่ื ง ซึง่ อาจจะเกิดขน้ึ ได้ยกตวั อยา่ ง เช่น ถา้ ทันทีทก่ี ล่มุ คนดกู ลายเป็นเนนิ เขาทเ่ี ตม็ ไปด้วยแมว เป็นต้น การเป´áละป´การáส´ง สครปิ ตข์ อง RT อาจจะรวมถงึ การแนะนำการเขา้ สเู่ วทสี ำหรบั นกั แสดงการอา่ นทง้ั หมด โดยทว่ั ไปแลว้ คำแนะนำวา่ นกั แสดงจะเขา้ เวทอี ยา่ งไรไมใ่ ชส่ าระสำคญั เพราะผอู้ า่ น อาจจะเขา้ มาจากพน้ื ทท่ี างใดกไ็ ดจ้ ากนอกเวท ี (offstage) ไมต่ อ้ งกงั วลถา้ ไมม่ พี น้ื ทน่ี อกเวที สำหรับนักแสดงของคุณ อาจจะให้นักอ่านเดินมาจากด้านหลังของห้องโดยเดินผ่านหรือ เดินออ้ มกลุ่มคนดูก็ได้ แนน่ อนวา่ การเขา้ สเู่ วทอี ยา่ งเปน็ ทางการนน้ั ไมจ่ ำเปน็ แตจ่ ะตอ้ งมที ที่ จ่ี ะพกั ตวั กอ่ น เข้าสู่การแสดงการอ่านบนเวที ถ้าทำได้อย่างถูกต้องแล้ว การเข้าสู่เวทีก็จะช่วยให้ผู้ชม ระบุได้ชัดเจนถึงตัวละครท่ีสำคัญนี้ได้ เพื่อที่จะปรับอารมณ์ให้เข้ากับการอ่านทั้งหมด นอกจากน้ี ยังใหภ้ าพในทางบวกตอ่ กลมุ่ นกั แสดงด้วย ต่อไปนีเ้ ปน็ การเข้าสูเ่ วทอี ย่างงา่ ยๆ ซ่ึงจะใชก้ บั การอา่ นสคริปต์ต่างๆ ได้ • จัดนักอ่านด้านนอกเวทีให้เป็นลำดับตามรายช่ือตามที่ปรากฏบนหน้าสคริปต์ 116 ละครสรา้ งนักอา่ น

นักแสดงแต่ละคนจะถือสคริปต์ด้วยมือข้างท่หี ่างจากกล่มุ คนดูเดินเข้าไปท่สี ่วน หลงั ของเวที • เมอ่ื ใหส้ ัญญาณ นกั แสดงทั้งหมดเดนิ เข้าไปในพ้นื ท่สี ่วนทีจ่ ะแสดง เรยี งกันเปน็ แถวหรือครึ่งวงกลมและหันหน้าเข้าหาผู้ชม และเมื่อได้รับสัญญาณอีกครั้ง นักอ่านก็จะยกแฟ้มขึน้ มาสงู ระดบั อก แล้วเปิดสคริปตไ์ ปที่หนา้ แรก • ณ จดุ นี้ ควรมีนักอา่ นคนหน่งึ แนะนำเรือ่ ง อย่างนอ้ ยทสี่ ุดก็ช่อื เร่ืองและผแู้ ต่ง นอกจากน้ี อาจพดู บางอยา่ งเกยี่ วกบั เรอื่ ง เกย่ี วกบั ผแู้ ตง่ หรอื เกย่ี วกบั การแสดง แตอ่ ย่าเผยพล็อตเรอ่ื ง • คุณอาจต้องการให้ผูอ้ า่ นแตล่ ะคนแนะนำตัวเอง ผอู้ ่านจะกา้ วขาขน้ึ มาข้างหน้า ทลี ะคน “ผมช่อื สมชาย... ผมจะอ่านบทของพ่อมดครับ!” แล้วนักอ่านก็จะก้าว ถอยหลังกลับเข้าไปในแถวเมื่อพูดจบ หลังจากการแนะนำตัวของคนสุดท้าย เสร็จสิ้น นักอ่านรอจนกระท่ังพวกเขาทั้งหมดเข้าประจำที่แล้วนิ่ง (freeze) และคนดเู งียบ จากนนั้ การอา่ นก็เร่มิ ต้นขนึ้ ตอนปิดการแสดง คำพูดช่วงสุดทา้ ยจะพูดอยา่ งชา้ ๆ และเป็นจังหวะเพอื่ ให้คนดูรู้ ว่าเรอ่ื งจบแล้ว ทกุ คนจะรบั รไู้ ด้ด้วยการจบทว่ี ่า “อย่าง...เป็นสุข - จาก...น้นั - ตลอด.. กาล” และผลลัพธ์เดียวกันก็สามารถประสบผลได้ด้วยคำพูดใดๆ ก็ตามที่อ่านแบบ “ช้าๆ 3 จงั หวะ” เมื่อเรือ่ งจบแล้วผูอ้ า่ นจะนิ่งสักครู่ (freeze) เพอื่ ยตุ กิ ารแสดงจากน้นั พวกเขาก็จะ ปิดสคริปต์ หันหน้ามาทางคนดูและโค้งพร้อมกันทั้งหมด คุณอาจต้องการมอบหมายให้ ผอู้ ่านคนหนงึ่ นำพธิ ีการปิดนี้ก็ได้ การเปิดและปิดการแสดงควรซ้อมไปพร้อมๆ กับการซ้อมเรื่อง เพื่อท่ีจะดูราบรื่น กลมกลืนกนั เมอ่ื เดก็ ๆ มคี วามเหน็ วา่ ควรทำอยา่ งไรจงึ จะเหมาะสม พวกเขากส็ ามารถแสดงออก มาได้เพราะเวทีนี้เป็นของพวกเขา จริงๆ แล้วพวกเขาจะเล่นเทคนิคละครใบ้ได้ดีกว่า ผใู้ หญ่ กลา่ วอกี นยั หน่ึง โลกสมมตุ ิเปน็ ส่วนหนึ่งของความชำนาญของเดก็ Readers Theatre 117

ปรบั นิด-ปรบั หน่อย บทของตวั ละครในเรอ่ื ง ประการแรก ต้องศึกษาเร่ืองที่คุณเลือกเพ่ือระบุบทของตัวละคร มีแบบ พน้ื ฐานอยู่ 2 แบบ คอื ผบู้ รรยาย เลา่ เรอ่ื ง และ ตวั ละคร ในเรอ่ื ง (ในสว่ นแรกหรอื ผู้บรรยายก็คือตัวละครตัวหน่ึงเช่นกัน) เพ่ือช่วยให้ผู้อ่านของคุณเข้าใจ คุณอาจ อธบิ ายว่าบทของตัวละครที่ปรากฏในเรื่องนั้นอยู่ภายในเครอ่ื งหมายคำพูด (“_”) ขณะที่บทของผู้บรรยายน้นั จะปรากฏอยู่ภายนอก ถ้ากลุ่มท่ีคุณกำลังทำงานด้วยเป็นกลุ่มเล็กๆ และเรื่องอาจจะมีบทของ ตัวละครมากกวา่ ผู้อา่ นทีค่ ณุ มี ในกรณเี ช่นนี้ เรื่องอาจจะนำไปปฏิบตั ิได้ไมง่ า่ ยนกั สำหรับคณุ แต่ก็มีวิธีปรับให้เหมาะสมไดเ้ สมอ • กำหนดใหผ้ ู้อ่านแตล่ ะคนมีบทมากกว่า 1 บท แต่ตอ้ งมัน่ ใจวา่ ผอู้ า่ นไม่ได้่ อยูบ่ นเวทีดว้ ยบททม่ี ากกวา่ 1 บทในเวลาเดยี วกนั • “ตดั ” ตัวละครออก หรอื รวบตวั ละครนนั้ กบั ตัวละครอื่น บทพูดของตวั ละครตวั ใดตัวหนงึ่ กส็ ามารถเพม่ิ เขา้ ไปใหก้ บั ตัวละครตวั อ่ืนได้ • ใชก้ ารบรรยายดว้ ยตวั ละครเองแทนทจ่ี ะมผี บู้ รรยายแบบแยกออกไปเปน็ อกี คนหนง่ึ วธิ นี ต้ี วั ละครจะอา่ นบทในสว่ นของผบู้ รรยายทอ่ี า้ งถงึ พวกเขา หรอื สะทอ้ นความคดิ ของตวั ละครดว้ ยตวั พวกเขาเอง แบบนต้ี อ้ งใชค้ วาม คนุ้ เคยสักหนอ่ ยถงึ แมว้ า่ จะรู้สกึ ขดั และไมเ่ ป็นธรรมชาตนิ ักกต็ าม แทนทจี่ ะมผี อู้ า่ นนอ้ ยเกนิ ไป แตค่ ณุ อาจมผี อู้ า่ นมากกวา่ ทค่ี ณุ ตอ้ งการ นเี่ ปน็ วธิ ีการบางอยา่ งที่จะรวมจำนวนผอู้ า่ นทมี่ ากเกนิ ไปนน้ั • ใช้ผู้บรรยาย 2 คนหรือมากกว่า อย่างน้ีมักจะเหมาะกับผู้อ่านที่เป็น เดก็ เลก็ • แบง่ ตวั ละครออกเปน็ 2 ตวั หรอื มากกวา่ บางครง้ั ตวั ละครตวั หนง่ึ อาจแปลง 118 ละครสร้างนักอ่าน

เป็นกลุ่มของตัวละคร (a set of characters) ท่ีมีบทพูดแบ่งกันในกลุ่ม ของพวกเขา • มอบหมายให้มีตัวละครเงียบ (silent characters) เรื่องต่างๆ มักจะมี ตัวละครรองที่ไม่มีบทพูด คุณก็อาจมอบหมายบทเหล่านี้ให้ผู้อ่านท่ีเหลือ คุณอาจเพิ่มบทพูดให้พวกเขาด้วย ฉากที่มีคนมากๆ สามารถใช้ผู้อ่าน เพม่ิ เตมิ ไดเ้ สมอ ตอ่ ไปน้เี ป็นบางอย่างท่ีคณุ อาจต้อง “ตดั ” • ข้อความส่วนท้ายประโยค (Tag lines) คือส่วนของประโยคที่บอกเราว่า “เขาพูด” หรือ “เธอพูด” ในการแสดง คำพวกน้ีแทบจะไม่ช่วยทำอะไร นอกจากหยุดการล่ืนไหลของเรื่องและทำให้ผู้อ่านสะดุด แต่ให้คงไว้ในส่วน ทใี่ หข้ ้อมลู เพิม่ เติมท่คี นดจู ะต้องร้เู ทา่ นั้น • การบรรยายที่ยาวๆ เร่อื งจำนวนมากประกอบดว้ ยส่วนท่บี รรยายยาวๆ และ การกระทำดำเนินไปอย่างเชื่องช้า พวกนี้อาจทำให้สั้นลงหรือแม้แต่ตัดท้ิง เลยก็ได้ • ตัวละครรองหรือฉาก การตัดพวกน้ีสามารถทำให้การแสดงบนเวทีง่ายข้ึน และ/หรือปรับให้เข้ากับจำนวนผู้อ่านท่ีมีจำนวนน้อยคน แต่บทสนทนาหรือ ขอ้ มลู ที่สำคญั มกั จะถูกยกไปให้กบั ตัวละครอืน่ หรอื ฉากอนื่ ต่อไปน้เี ป็นส่วนอน่ื ๆ ทีค่ ุณอาจทำการเปลย่ี นแปลงได้ • การแบ่งหรือรวบตัวละคร ดังกล่าวมาแล้วในตอนต้น คุณสามารถรวบ ตวั ละครทเี่ หมอื นๆ กนั 2 ตวั หรอื มากกวา่ ใหเ้ ปน็ ตวั เดยี วได้ หรอื แบง่ ตวั ละคร ตวั หนง่ึ ออกเปน็ 2 คนหรือมากกว่าก็ได้ • การเพ่ิมบทพูด บางเรื่องตัวละครอาจไม่มีบทพูด หรืออาจจะอยู่บนเวทีเป็น เวลานานก่อนท่ีพวกเขาจะได้พูด ในกรณีนี้ คุณอาจต้องสร้างบทพูดส้ันๆ Readers Theatre 119

ให้พวกเขา และเชน่ เดียวกนั ถ้าบทบรรยายบอกเกย่ี วกับสิ่งทต่ี ัวละคร พูด คุณก็อาจจะเปลย่ี นคำบรรยายน้ใี ห้เปน็ คำพูดของตัวละครได้ • บทกำกับเวที (stage directions) คณุ สามารถทำให้สคริปต์ดรู าบรน่ื มากขึ้นได้โดยเปลี่ยนบทบรรยายให้เป็นบทกำกับเวทีสำหรับตัวละคร (ระบุตำแหน่งและการเคลือ่ นไหว) • ภาษาที่ยากหรือไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ถึงแม้ว่าผู้อ่านควรจะได้รับการ สง่ เสริมให้อ่านในระดับท่ี “สงู ขึน้ ” จากระดับของพวกเขา แต่สำหรับ คำบางคำหากแทนที่ด้วยคำที่ง่ายขึ้นหรือแบ่งประโยคออกเป็น 2 ประโยค ก็จะทำใหท้ ง้ั ผูอ้ ่านและคนดูเขา้ ใจได้งา่ ยขึน้ สำหรับเรือ่ งของ ตา่ งประเทศคณุ อาจตอ้ ง “แปล” คำที่ไม่รู้จกั • ภาษาท่ีหยาบคาย พวกน้ีควรจะเปลี่ยนอย่างแนบเนียน ถ้าไม่เปลี่ยน แลว้ เร่อื งก็อาจจะไมเ่ หมาะสมกับเด็กๆ การบรรยาย ในบทหรือสคริปต์สำหรับนักอ่านรุ่นเยาว์นั้นจะดีมากหากมีผู้บรรยาย 2 คนหรอื มากกวา่ นอกจากเป็นการสร้างบทเพมิ่ เตมิ แลว้ มันยงั ชว่ ยกระจายความ รบั ผดิ ชอบสำหรบั หนา้ ทท่ี ส่ี ำคญั มากนด้ี ว้ ย การแบง่ กนั บรรยายยงั ชว่ ยรกั ษาความ สนใจของคนดูไว้ในช่วงทมี่ บี ทบรรยายยาวๆ ดว้ ย การแบ่งกนั บรรยายสามารถทำได้ทัง้ อย่างตรงไปตรงมาหรืออยา่ งมีกลวิธี ตามแต่ท่ีคุณต้องการ วิธีท่ีถือว่าดีที่สุดข้ึนอยู่กับว่าเร่ืองน้ันเป็นอย่างไร ต่อไปนี้ เป็นข้อเสนอแนะสำหรับการประยกุ ต์ใช้ • แบบมีผู้บรรยาย 2 คน มอบหมายให้พวกเขาผลัดกันคนละย่อหน้า และ/หรือครง่ึ ย่อหนา้ จะดมี ากถา้ ปรับแบง่ ย่อหน้าเพอ่ื ใหผ้ ู้บรรยายคน ท่ี 1 เร่ิมฉากใหม่ในแต่ละครั้ง การกำหนดขอบเขตของงานท่ีได้รับ 120 ละครสรา้ งนักอา่ น

มอบหมายใหมน่ จ้ี ะกลายเปน็ สง่ิ ทจ่ี ำเปน็ เมอื่ สครปิ ตม์ กี ารเปลยี่ นแปลง ในภายหลงั เช่น การเพม่ิ หรือลดบทพดู ของผู้บรรยายคนใดคนหนึ่ง • เปล่ยี นเป็นผ้บู รรยายคนใหมเ่ ม่อื เรม่ิ ฉากใหมท่ ุกคร้งั • แบบผูบ้ รรยาย 2 คน ใชก้ าร “คอรัส” สลับกลบั ไปกลับมาระหวา่ งกัน ในแบบทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ โครงสรา้ งทมี่ พี ลงั จงั หวะของผเู้ ขยี น หมายถงึ การแลกกนั คนละประโยคหรือแมก้ ระทง่ั คนละวลี • ใชบ้ ทพดู แบบ “แซนด์วชิ ” คอื ผูบ้ รรยายคนหนึง่ พดู ท้งั ก่อนและหลัง ช่วงท่ีเป็นบทพูดของตัวละคร จากนั้นผู้บรรยายคนต่อมาก็ทำใน ลักษณะเดยี วกนั • มอบหมายให้ผู้บรรยายเป็นตัวละครแต่ละตัว ผู้บรรยายแต่ละคน อ่านบทท้ังหมดที่เก่ียวกับตัวละครท่ีได้รับมอบหมายหรือที่สะท้อน ความคิดเห็นของตวั ละครของพวกเขา ให้เดก็ ๆ ทำสครปิ ตเ์ ป็นทีม การใหเ้ ดก็ ๆ สรา้ งสครปิ ตข์ น้ึ มาเองกเ็ ปน็ อกี ทางเลอื กหนงึ่ ทนี่ า่ สนใจ เดก็ ๆ ท่ีทำงานร่วมกันเป็นทีมนั้นจะสามารถทำสคริปต์จากเร่ืองสั้นๆ ง่ายๆ ได้ ต่อไปน้ีเป็นแนวทางวธิ ีหน่ึง เริ่มแรก ให้อธิบายอย่างสั้นๆ เกี่ยวกับการระบุแบบของบท การปรับให้ เหมาะสมกบั จำนวนผอู้ า่ นทม่ี ากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ และการ “ตดั ” ทอ่ี าจเปน็ ไปได้ จากนนั้ แบง่ ผอู้ ่านเป็น 2 ทีม ทีมละประมาณ 4 คน มอบหมายเรื่องทีม่ ี 1 หนา้ กระดาษให้แต่ละทีม ซ่ึงทุกคนในทีมจะได้รับสำเนาคนละ 1 ชุด (นิทาน จะเหมาะทส่ี ดุ ) สมาชกิ ทกุ คนในทมี อา่ นเรอ่ื งของพวกเขาโดยละเอยี ด ระบบุ ทของตวั ละคร และแบง่ บทระหวา่ งพวกเขากนั เอง จากนน้ั พวกเขาจะตดั สนิ ใจวา่ ใครจะอา่ นอะไร Readers Theatre 121

ผู้อ่านแต่ละคนจะขีดเส้นใต้บทพูดของตัวเองด้วยดินสอ เพื่อที่จะแก้ไขได้ พรอ้ มกับขีดฆ่าอะไรกต็ ามที่ท้ังทีมเห็นพอ้ งกนั ว่าจะตดั โดยทว่ั ไปแลว้ นกั อา่ นรนุ่ เยาวจ์ ะมเี รอื่ ง 1 หนา้ กระดาษทพ่ี รอ้ มจะทดสอบ การแสดง (try-out) ได้ภายใน 15 นาทโี ดยไมม่ ผี ใู้ หญ่ชว่ ยเลย 122 ละครสรา้ งนักอา่ น

คำáนะนำสำหรับ¼กÙ้ ำกับ กอ่ นทคี่ ณุ จะใหส้ ครปิ ตแ์ กน่ กั อา่ นของคณุ คณุ อาจชว่ ยพวกเขาโดยการอา่ นสครปิ ต์ หรืออ่านเรื่องด้ังเดมิ ใหพ้ วกเขาฟัง ตวั แบบที่มีประสทิ ธภิ าพจะทำใหพ้ วกเขาเรม่ิ ตน้ ได้โดย ไม่ลำบาก คุณอาจจะต้องพูดคุยถึงความแตกต่างระหว่างตัวละครและผู้บรรยายด้วย (บทของตวั ละครอยใู่ นเครอ่ื งหมายคำพดู และบทของผบู้ รรยายอยนู่ อกเครอ่ื งหมายคำพดู ) เพอื่ ชว่ ยใหน้ กั อา่ นของคณุ มพี ลงั เสยี งอยา่ งเตม็ ท ี่ ควรใหพ้ วกเขาตรวจสอบการหายใจ ของตัวเองโดยการวางมือบนหน้าทอ้ งและสดู ลมหายใจเข้า ถ้าพวกเขาหายใจอยา่ งเตม็ ท่ี แล้วมือของพวกเขาจะถูกผลักออก (กล้ามเน้ือกระบังลมผลักท่ีหน้าท้องเพื่อให้ปอด สว่ นล่างขยายตัว) ถา้ มือของพวกเขาถูกผลกั เข้า นนั่ หมายความว่า เขากำลังหายใจดว้ ย ปอดส่วนบนเท่านน้ั เพ่ือช่วยให้นักอ่านของคุณยืดตัวตรง ก็ขอให้พวกเขาจินตนาการว่ามีเชือกรัดเขา อยทู่ ห่ี นา้ อกและกำลงั ถกู ดงึ การฝกึ รัวลนิ้ (tongue twisters) และการฝึกเปลง่ เสียงอืน่ ๆ สามารถช่วยให้พวกเขาพูดได้ชัดมากขึ้น อันที่จริงคุณอาจจะต้องเตรียมตัว (warm up) ให้นักอ่านของคุณด้วยการฝึกเปล่งเสียงและยืดเสียง (stretches) ก่อนการฝึกซ้อม และการแสดงจริง การทดสอบคัดเลอื กนักแสดง (try-out) • จัดให้มีสคริปต์เพียงพอและพร้อมสำหรับนักอ่านที่สนใจเข้าร่วมในการอ่านบน เวท ี อาจจะให้นำสคริปตก์ ลบั บ้านเพือ่ การฝึกซ้อมกอ่ นวนั ทดสอบการแสดงก็ได้ • ในวนั ทดสอบการแสดง จดั ใหผ้ อู้ า่ นอยเู่ ปน็ วงกลมตามทอ่ี ธบิ ายไวใ้ นสว่ นของการ อ่านแบบรอบวง (Circle Reading) ในข้อแนะนำชุดนี ้ ทำการอุ่นเครื่องใหก้ บั นกั อา่ นของคณุ โดยจดั ใหท้ กุ คนอา่ นสครปิ ตใ์ น “แบบรอบวง” และเปน็ กนั เองงา่ ยๆ สนุกสนาน ไม่มีการบงั คับ • เมอื่ กลมุ่ อนุ่ เครอื่ งเสรจ็ แลว้ กำหนดบทของตวั ละครและเจาะจงตวั ผอู้ า่ น จากนนั้ Readers Theatre 123

ก็ให้อ่านตลอดทั้งเรื่องอีกคร้ัง กระตุ้นนักอ่านท้ังหมดให้สมัครใจเลือกบทท่ีเขา ชอบมากท่ีสุด ให้ความสนใจต่อนักอ่านที่ข้ีอายหรือไม่ค่อยกล้าแสดงออก อ่าน สคริปตโ์ ดยตลอดทั้งเร่อื งซำ้ แลว้ ซ้ำอกี จนกระทั่งนกั อ่านทัง้ หมดพงึ พอใจ • ถ้าเป็นไปได้ให้คัดเลือกนักอ่านเพ่ือไปอ่านบนเวทีในตอนท่ีคุณน่ังอยู่ในวงกลม ขอให้นักอ่านช่วยคุณคัดเลือกนักแสดง ถ้าจุดประสงค์ของคุณเพ่ือความสนุก ทำไมคณุ ไมใ่ หน้ ักอา่ นแตล่ ะคนเลือกบทท่เี ขาชอบล่ะ? ถา้ วธิ ีนเ้ี ปน็ ไปไมไ่ ด้ คุณก็ อาจจะต้องตัดสินใจประกาศการคัดเลือกและติดรายชื่อผู้ถูกเลือกไว้ ณ ท่ีใด ทห่ี นง่ึ ในหอ้ ง • คณุ ควรจะตดิ ตารางวนั ฝกึ ซอ้ มไวด้ ว้ ย เพอ่ื ใหก้ ลมุ่ นกั แสดงทค่ี ณุ เลอื กรวู้ า่ เมอ่ื ไหร ่ และทีไ่ หนท่จี ะมกี ารฝกึ ซอ้ ม จำเป็นตอ้ งใชเ้ วลาเทา่ ไหร่ และรวมถงึ วนั ท่ี เวลา และสถานท่ีท่จี ะมีการแสดงจริงดว้ ย การฝกึ ซ้อมการแสดง • ในการฝกึ ซอ้ มครั้งแรกตอ้ งแนใ่ จวา่ นกั อา่ นแตล่ ะคนมสี ครปิ ตแ์ ล้ว ขอใหน้ กั อา่ น ของคุณเขียนช่ือตัวละครของพวกเขาและช่ือจริงไว้บนหน้าแรกของสคริปต์ จากน้ันก็ให้ผู้ที่จะแสดงไฮไลต์หรือขีดเส้นใต้บทของพวกเขา จัดเตรียมไฮไลต์สี ปากกา ดินสอ หรือสแี บบตา่ งๆ ไวเ้ พอ่ื การน้ดี ้วย • เม่ือไฮไลต์เสร็จแล้ว ให้นักอ่านน่ังล้อมเป็นวงกลมและให้พวกเขาอ่านบทของ ตัวเองแบบออกเสียง ส่วนที่ระบุให้เป็นการอ่านแบบ “พร้อมกัน” คือนักอ่าน ทกุ คนจะตอ้ งอา่ นขึ้นมาพรอ้ มๆ กัน (ดว้ ยวิธกี ารอ่านแบบประสานเสียง) และ ตอ้ งใหค้ วามสนใจกบั การฝกึ ซอ้ มนกั อา่ น จนกระทง่ั พวกเขาพฒั นาความรสู้ กึ เปน็ จงั หวะได้อยา่ งเหมาะสม และใช้คำหรือวลไี ปไดอ้ ย่างล่ืนไหล • แนะนำนักอ่านตั้งแต่ข้ันเริ่มต้นเก่ียวกับการฉายภาพตัวเองออกมา การวางท่า วิธีการออกเสียง ท่วงทำนองของเสียง การแสดงสีหน้าและอ่ืนๆ โดยอ้างถึง ตวั ละคร มใิ ชต่ วั จรงิ ของผอู้ า่ น และใชก้ ารวจิ ารณท์ นี่ มุ่ นวล เชน่ พยายามพดู วา่ “นี่แม่มด! ใช้เสียงที่ดังท่ีสุดและน่ากลัวที่สุดของเธอตรงบรรทัดนั้น” 124 ละครสรา้ งนักอา่ น

มากกวา่ ท่ีจะพูดวา่ “พจมาน ครไู มไ่ ดย้ ินวา่ เธอพูดอะไรเลย!” • ขณะทก่ี ารฝกึ ซอ้ มดำเนนิ ไป พยายามทจ่ี ะฝกึ ในหอ้ งทคี่ ณุ จะใหม้ กี ารแสดงจรงิ ๆ ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ให้ทำเครื่องหมายบนพ้ืนซึ่งเหมือนกับพื้นท่ีเวทีหรือพื้นท่ีการ แสดงท่ีจะใช้ในวันแสดงจริง จัดสถานท่ีให้ผู้อ่านน่ัง ยืน หรือมีทั้งนั่งและยืน และจากนัน้ กม็ าดูเร่อื งการแสดง • เมอ่ื กำกบั ใหใ้ ชบ้ ทกำกบั เวที (stage directions) ทเี่ หมาะสม เวทขี วาและเวทซี า้ ย (stage right-stage left) คอื ขา้ งขวาและข้างซา้ ยของนักอา่ น ไมใ่ ชข่ องคุณท่ี ยืนหันหน้าเข้าหานักอ่าน ส่วนหลังเวที (upstage) คือด้านหลังของนักอ่าน ดา้ นหนา้ เวที (downstage) คอื ดา้ นหนา้ ของนกั อา่ นซง่ึ กค็ อื ดา้ นหนา้ ของคนดดู ว้ ย สว่ นหลงั เวที (upstage) เวทขี วา (stage right) นักอา่ น เวทซี า้ ย (stage left) ด้านหน้าเวที (downstage) +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ คนดู • ฝกึ ซอ้ มการเขา้ -ออก และการเคลอ่ื นไหวตา่ งๆ บนเวที จนกระทงั่ พวกเขาดำเนนิ ไปไดอ้ ย่างราบร่ืนและนักอ่านต้องรู้สกึ สบายด้วย • บางทคี ณุ อาจจะพบวา่ การขาดการแสดงอารมณข์ องเสยี งทเ่ี ปลง่ ออกมา (vocal projection) เปน็ ปญั หาทใ่ี หญท่ สี่ ดุ ในการฝกึ ซอ้ ม กระตนุ้ ใหผ้ อู้ า่ นแสดงออกดว้ ย เสียงท่ีดังฟังชัด ถ้านักอ่านของคุณพูดเร็วหรือช้าจนเกินไปก็เตือนพวกเขาให้ไป ฝกึ ท่ีบ้าน ใหค้ วามสนใจมาที่การฝึกซ้อมในจุดน้ี โดยหมน่ั มาดูใหพ้ วกเขาฝึกซำ้ ใหบ้ อ่ ยจนคนุ้ เคย รปู แบบของการสรา้ งความคนุ้ เคยนใ้ี นทส่ี ดุ กจ็ ะทำใหก้ ารแสดง ดำเนนิ ไปไดด้ ้วยดี • ให้ถามความคิดเห็นของผู้แสดงเกี่ยวกับกระบวนการฝึกซ้อมท้ังหมด ให้เปิดรับ ข้อเสนอแนะเพ่ือสร้างสรรค์เกี่ยวกับการฝึกและการแสดงทดลองการแสดง Readers Theatre 125

แบบใหม่ๆ และขอความเห็นนักแสดงให้ช่วยตัดสินใจว่าอะไรเหมาะสมหรือ ไม่เหมาะสม • ถา้ ตอ้ งมเี ครอ่ื งแตง่ กาย อปุ กรณก์ ารแสดง เสยี งประกอบ หรอื อปุ กรณพ์ เิ ศษใดๆ จะต้องเพ่ิมเข้าไปในการแสดงก็ต้องเตรียมให้พร้อม อย่างน้อยก็ในการฝึกซ้อม ครง้ั สดุ ทา้ ยกอ่ นทจ่ี ะมกี ารแสดงจรงิ จดั แจงแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในขณะฝกึ ซอ้ ม จากส่ิงทเี่ พิม่ เตมิ เหลา่ น้ใี ห้เรยี บร้อยตลอดในชว่ งของการฝกึ ซอ้ ม • เนน้ การใชเ้ สียงในการให้ความหมาย ฝกึ ซ้อมจนกระท่งั เหน็ วา่ สว่ นนด้ี ำเนินไป ไดร้ าบร่นื แตอ่ ยา่ ให้ผอู้ ่านจำบท เพราะนยี่ ังคงเป็นการแสดงของนกั อ่าน • ถ้าเป็นไปได้ จัดการฝึกซ้อมท่ีแต่งตัวแต่งเวทีเหมือนวันแสดงจริงและให้แสดง ตอ่ หนา้ คนดูอยา่ งนอ้ ย 1 คร้ัง ถา้ อย่ใู นโรงเรยี น บางทีชนั้ เรียนอ่นื อาจจะแสดง เปน็ ผชู้ ม หรอื อาจเปน็ ครใู หญห่ รอื เจา้ หนา้ ทอ่ี น่ื ๆ รว่ มชมการฝกึ ซอ้ มดว้ ย จะเปน็ การดที ่ไี ด้แสดงต่อหนา้ ผชู้ มจรงิ ๆ อย่างนอ้ ย 1 คร้งั ก่อนการแสดงจริง ตลอดชว่ งการฝกึ ซอ้ ม ผกู้ ำกบั ควรจะกระตนุ้ ใหน้ กั อา่ นสำรวจตวั ละครแตล่ ะตวั อยา่ ง ลกึ ซึ้ง การใช้สายตา การใช้คำ พฒั นาการของตวั ละคร การเคลือ่ นไหวของรา่ งกายหรอื เทคนคิ ละครใบ้ รวมถงึ เทคนคิ การแสดงตา่ งๆ จะชว่ ยใหก้ ารแสดงหรอื การฝกึ ซอ้ มประสบ ความสำเร็จด้วยดี ช่วยนักอ่านตรวจสอบความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวว่าตัวละครรู้สึกอย่างไรใน ตอนตน้ ของเรื่อง? ทำไมความรสู้ ึกเหลา่ นนั้ จงึ เปลยี่ นไปเมอ่ื เรอื่ งดำเนินไป และเปลีย่ นไป อย่างไร? แบบไหนที่ผู้อ่านแต่ละคนน่าจะสื่อความรู้สึกเหล่าน้ีให้กับผู้ฟังได้? กระตุ้นให้ ใชก้ ารเปลย่ี นนำ้ เสยี ง ความดงั ของเสยี ง การแสดงออกทางสหี นา้ ทา่ ทาง และรปู แบบของ จงั หวะการพูดท่หี ลากหลาย สง่ เสรมิ ใหน้ กั อา่ นใชจ้ นิ ตนาการของพวกเขา โดยเพมิ่ องคป์ ระกอบในการแสดงการ อา่ นใหม้ ากขนึ้ (ถา้ ตอ้ งการ) เชน่ หมวกชนดิ พเิ ศษหรอื เครอื่ งแตง่ กายเลก็ ๆ นอ้ ยๆ หนา้ กาก อุปกรณ์การแสดงหรือเครื่องหมายต่างๆ ก็สามารถช่วยให้นักอ่านบอกเล่าเร่ืองราวใน รูปแบบทท่ี ำใหเ้ ปน็ การละครมากข้นึ ทำสว่ นเพ่มิ เตมิ เหล่าน้อี ย่างง่ายๆ และตอ้ งจำไว้วา่ 126 ละครสรา้ งนักอา่ น

นกั อา่ นบางคนจะตอ้ งถอื แฟม้ สครปิ ตไ์ วด้ ว้ ยมอื ขา้ งหนงึ่ ในขณะทจี่ ะตอ้ งจดั การกบั อปุ กรณ์ ประกอบเหล่านี้ด้วยมืออกี ข้างหนึง่ ทา้ ยสดุ ขอ้ เตือนใจเล็กๆ นอ้ ยๆ สำหรบั ผกู้ ำกบั น่นั คอื ทำให้สนุกสนานและบอก กบั นักอา่ นของคุณวา่ ส่งิ ทีพ่ วกเขากำลังทำนนั้ ดีแลว้ ! คำáนะนำสำหรับนกั áส´ง ตอ่ ไปนเ้ี ป็นคำแนะนำสำหรับนักอา่ น (นักแสดง) สามารถทำตามได้เพ่อื ท่ีจะเตรียม ความพรอ้ มและสรา้ งความค้นุ เคยกบั บทของตัวเองในสคริปต์ • ใช้ปากกาเน้นข้อความไฮไลต์ที่บทพูดของคุณในสคริปต์ ทำเครื่องหมายเฉพาะ คำพดู ทค่ี ณุ จะอา่ น ไมใ่ ชข่ อ้ ความเสรมิ ทา้ ย (role tags) หรอื บทกำกบั เวท ี (stage direction) • ขดี เสน้ ใตค้ ำทบี่ อกวา่ คณุ จะตอ้ งแสดงทา่ ทางออกมา ทงั้ คำในบทกำกบั เวท ี (stage direction) และในคำพูดของผูอ้ ่านคนอ่ืนๆ ถา้ คณุ ไดร้ บั บทกำกบั เวทเี พิม่ เตมิ อกี ในภายหลงั ให้เขยี นข้อความนน้ั ลงในขอบกระดาษส่วนทีว่ า่ งด้วยดินสอ • อ่านบทของคุณโดยตลอดด้วยการอ่านในใจ ถ้ามีคำที่คุณไม่แน่ใจให้เปิด พจนานกุ รมหา ถ้ามคี ำพดู ท่คี ณุ ตอ้ งจำวา่ ตอ้ งเน้นเสียง (stress) ก็ให้ขดี เสน้ ใต้ หรือถ้ามที ่ที คี่ ุณจะตอ้ งหยดุ (pause) ก็ทำเคร่ืองหมายตรงน้ันดว้ ยสแลชค ู่ (//) (ตัวอย่างเช่น คุณจะต้องหยุดเพ่ือให้ผู้ฟังรู้ว่ามีการเปล่ียนฉากหรือเปลี่ยนเวลา ในเรอ่ื ง) • อา่ นบทของคณุ โดยตลอดดว้ ยการอา่ นออกเสยี ง ถา้ คณุ เปน็ ตวั ละครกล็ องคดิ วา่ ตัวละครจะมีเสียงอย่างไร ควรจะลองใช้เสียงตลกไหม? ตัวละครรู้สึกอย่างไร กบั สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในเรอ่ื ง? คณุ สามารถพดู ไดร้ าวกบั วา่ คณุ กร็ สู้ กึ เชน่ นน้ั หรอื เปลา่ ? Readers Theatre 127

• ลุกข้ึนยืนและอ่านสคริปต์ของคุณโดยตลอดอีกคร้ัง ทดสอบแสดงสีหน้าและ การกระทำ คณุ ยนื หรอื เคลอ่ื นไหวไปไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามลกั ษณะของตวั ละคร หรือไม่? คุณสามารถทำอย่างน้ันได้ไหม? ถ้าเป็นไปได้ลองทำท้ังหมดน้ีที่หน้า กระจกดู ต่อไปน้ีเป็นข้อแนะนำทน่ี ักอา่ นควรจะจำท้ังในการฝกึ ซอ้ มและในการแสดง • ถือสคริปต์ท่ีระดับความสูงอย่างคงที่สม่ำเสมอ แต่ต้องมั่นใจว่ามันไม่บังหน้า ของคุณ ถ้าคุณไม่สามารถมองเห็นคนดูได้ น่ันแสดงว่าสคริปต์ของคุณน้ันสูง เกนิ ไป • ในขณะทค่ี ณุ พดู ตอ้ งพยายามเงยหนา้ ขนึ้ มองบอ่ ยๆ ไมใ่ ชม่ องแคส่ ครปิ ตข์ องคณุ และเมอื่ คณุ มองไปทส่ี ครปิ ตก์ ใ็ หเ้ คลอ่ื นไหวเพยี งแคส่ ายตาของคณุ และพยายาม ให้ศีรษะตั้งข้นึ • พูดช้าๆ พูดแต่ละพยางค์อยา่ งชัดเจน • พูดด้วยเสียงอันดัง คณุ จะต้องพูดให้คนแก่หูเริม่ หนวกทอ่ี ยู่แถวหลงั สดุ ได้ยนิ ! • พูดดว้ ยอารมณค์ วามรสู้ ึก คนดชู อบนักแสดงอารมณ์! • ยืนและนง่ั ตัวตรง ให้มือและเท้าอยู่น่งิ ๆ ถา้ ไมไ่ ด้ทำอะไรท่ีเปน็ ประโยชน์! • ถ้าคุณกำลังเคลื่อนที่ไปรอบๆ ให้หันหน้าไปทางคนดูให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนฝกึ ซ้อมใหน้ ึกอยเู่ สมอว่าคนดจู ะอยทู่ ีไ่ หน • สำหรบั ตวั ละคร ใหร้ ะลกึ อยเู่ สมอวา่ คณุ คอื ตวั ละครนน้ั แมข้ ณะทไ่ี มไ่ ดพ้ ดู อยกู่ ต็ าม • สำหรับผู้บรรยาย ต้องแน่ใจว่าคุณได้ให้เวลาแก่ตัวละครเพียงพอสำหรับการ แสดงของพวกเขา กอ่ นการแสดงจริงจะเริ่ม ใหล้ องนึกวา่ “ถ้า-เกดิ อะไรข้นึ ” แลว้ ควรทำอย่างไร • ถ้าคนดหู วั เราะ ให้หยุดพดู จนกว่าพวกเขาจะเรม่ิ ฟงั คณุ อกี ครัง้ 128 ละครสร้างนักอา่ น

• ถา้ ใครสักคนในกลุ่มคนดพู ูด อยา่ ไปสนใจ • ถ้ามีคนเดินเข้ามาในห้อง อยา่ ไปมอง • ถ้าคณุ ทำอะไรผิดพลาด ก็แสรง้ ทำว่ามนั ถูก • ถ้าคุณทำของตก พยายามท้ิงมันไว้อย่างน้ัน อย่างน้อยก็จนกระท่ังคนดูมองไป ทางอนื่ • ถ้าคนที่ต้องอ่านลืมอ่าน ดูว่าถ้าคุณสามารถอ่านบทของเขาแทนได้ก็ทำไปเลย หรืออาจจะขา้ มมนั ไปเลย แต่หา้ มกระซิบบอกผูอ้ า่ น! • ถ้าผอู้ า่ นหกล้ม ก็แสร้งทำเป็นวา่ ไม่มีอะไรเกิดขน้ึ ในวันแสดงจริง ให้คดิ ในแง่ดีไว ้ RT เป็นเรอื่ งสนุก ถ้านักแสดงสนุกแลว้ ผชู้ มกจ็ ะ สนกุ ไปดว้ ย รบั รองได้! การประเมนิ ¼ล เมอ่ื ใดกต็ ามทค่ี ณุ เลอื กใชร้ ดี เดอรส์ เธยี เตอร ์ (RT) นกั อา่ นของคณุ จะไดป้ ระสบการณ์ การเรยี นรเู้ พมิ่ ขนึ้ จากเนอื้ หาทอี่ า่ น ถา้ พวกเขากระตอื รอื รน้ ทจ่ี ะ “ฝกึ ซอ้ ม” โดยการอา่ นซำ้ ๆ คำหรอื วลที อ่ี าจจะอยเู่ หนอื ระดบั การอา่ นของพวกเขากจ็ ะคอ่ ยๆ ซมึ เขา้ ไปไดด้ ว้ ยการอา่ นซำ้ และพวกเขาจะนำคำเหล่าน้ันไปใช้งานได้ง่ายขน้ึ ถอ้ ยคำจะถกู ดูดซมึ โดยผา่ นการฝึกซำ้ ๆ น ้ี ซงึ่ ไมใ่ ชเ่ ปน็ แบบการทอ่ งศพั ท์ตามรายการคำ แทนท่จี ะเปน็ “แบบฝึกหดั ” ก็กลายเปน็ “การฝกึ ซอ้ ม” สำหรบั การเลา่ เรอื่ ง การเลน่ กบั ถอ้ ยคำภาษา เปน็ ประสบการณท์ างการละคร และสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดนสิ ยั รกั การอ่านได้ มกี จิ กรรมบางอย่างท่ีควรพจิ ารณาหลงั การแสดง RT ดงั นี้ • ให้นักแสดงพูดอภิปรายหรือเขียนเกี่ยวกับการแสดงของพวกเขาด้วยความเห็น ส่วนตัวหรือประสบการณ์ทีไ่ ด้รับ • ใหเ้ วลาสำหรบั กลมุ่ ยอ่ ยโดยใหน้ กั แสดงอภปิ รายถงึ ผลสะทอ้ นจากการอา่ นสครปิ ต์ Readers Theatre 129

• ประเมนิ ผลนกั แสดงเกย่ี วกบั การอา่ น (เชน่ ความดงั และระดบั เสยี ง การออกเสยี ง การตระหนักถึงพัฒนาการของตัวละคร การใช้ท่าทางและการแสดงสีหน้า การหยดุ พักการพดู ท่เี หมาะสม (pause) ความตง้ั ใจ เปน็ ต้น) การประเมนิ อาจวดั จากลกั ษณะของความคลอ่ ง เชน่ ความดงั ของเสยี ง ระดบั เสยี ง อตั ราเรว็ ของเสยี ง และจงั หวะการออกเสยี งตลอดการแสดง หรอื อาจจะเนน้ ทกี่ ารทำงาน ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นอย่างไร การประเมินก็ยังอาจจะวัดจากทักษะหรือแนวคิดต่างๆ ทเ่ี ปน็ ลกั ษณะพเิ ศษของสครปิ ต์ เชน่ การทำตวั แสดงใหเ้ หมอื นจรงิ และองคป์ ระกอบตา่ งๆ ของเร่ือง การประเมินสามารถเป็นการประเมินโดยตรงด้วยตัวเอง โดยทำข้อมูลแบบ สำรวจให้นักแสดงหรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมสะท้อนกลับว่าพวกเขาได้เรียนรู้อะไรและพวก เขาต้องปรบั ปรงุ อะไร นอกจากนี้ ยงั รวมถึงการใช้การบันทกึ เสยี งหรอื บนั ทึกวดี โิ อเทปใน กจิ กรรม RT หรอื การแสดงรอบสดุ ทา้ ย และเทปเหลา่ นก้ี อ็ าจนำมาเปดิ ซำ้ ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรม สะท้อนความคิดเหน็ เกีย่ วกับการแสดงของตนเอง ตัวอย่างแบบประเมินผลรีดเดอรส์ เธยี เตอร์ ชือ่ __________________วนั ที_่ ______ ให้ประเมินการทำงานของผู้ร่วมกิจกรรมในการฝึกซ้อมและการแสดงจริงของโครงการ รดี เดอร์ส เธยี เตอร์ ตามหัวข้อขา้ งลา่ ง โดยมีเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั นี้ P = ตอ้ งปรับปรุง (poor) A = ปานกลาง (average) G = ดี (good) และ E = ดีมาก (excellent) ประเด็น PAGE ทัศนคตใิ นการทำงาน ใหค้ วามร่วมมือกับผ้กู ำกบั ให้ความร่วมมอื กับกลุ่ม ทำงานกบั บทของตัวเองอยา่ งจริงจงั 130 ละครสร้างนักอา่ น

ประเดน็ PAGE ยอมรับฟงั ความคิดเห็น เตรียมขอ้ มูลมาพร้อมอยา่ งสม่ำเสมอ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื กับสมาชกิ ทัง้ หมด เสยี ง ปรับเสยี งได้เขา้ กบั บทบาท ใช้ความดังของเสยี งเพยี งพอ พูดด้วยความเรว็ /ช้าเหมาะสม ออกเสยี งได้ชดั เจน ออกเสียงไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ทา่ ทาง แสดงสีหน้าเข้ากับบทบาท แสดงทา่ ทางไดส้ มบทบาท รกั ษาระดบั การมองได้อยา่ งเหมาะสม ควบคุมการถือสคริปตไ์ ดด้ ี การแสดงใหเ้ หน็ อปุ นิสยั ของตวั ละคร เข้าถงึ บทบาทไดด้ เี ยย่ี มน่าเช่ือถือ คงความเป็นตวั ละครน้ันไดต้ ลอดการแสดง ใช้การเคลื่อนไหวแสดงให้เหน็ เจตนาของตวั ละคร ถา่ ยทอดอารมณ์ได้ดี ดแู ล้วเป็นธรรมชาติ ความเหน็ เพิ่มเติม: Readers Theatre 131

132 ละครสร้างนักอา่ น

àÃÍ×è §àÅÒ‹ ¢Í§ ¤ÃÙ¤¹Ë¹Öè§ “รีดเดอร์ส เธียเตอร์ (RT) ได้กลายมาเป็นท่ีนิยมกันจริงๆ ในช่วงไม่ก่ีป‚มาน้ีเอง เพราะเป็นวิธี½ƒกท่ีทำให้นักเรียนมีทักษะในการพูดและ การอ่านคล่องขึ้นได้อย่างแท้จริง การนำ RT ไปใช้ ในช้ันเรียนมีหลายวิธี ©นั เคยไดย้ ินวา่ ครูบางคนใช้ RT ในกลุ่มเล็กๆ ในชว่ งที่แนะนำเรื่องการอ่าน นกั เรยี นจะทำการ½กƒ ตลอดชว่ั โมง และจากนน้ั กแ็ สดงใหน้ กั เรยี นทง้ั ชน้ั ไดช้ มใน ตอนทา้ ยของช่ัวโมงการอ่าน หรอื มีการบนั ทึกเทปของพวกเขาไว้… ©ันให้นักเรียนประดิษ°์สายรัดศีรษะสำหรับบทตัวละครของพวกเขา นักเรียนจะเขียนช่ือของตัวละครลงบนสายรัดน้ัน จากน้ันพวกเขาก็จะแนบ ภาพหรือส่ิงของท่ีแสดงถึงตัวละครตัวน้ันผูกติดไว้กับตัวด้วย และ©ันรู้สึก ประหลาดใจมากจริงๆ ว่าความคิดบางอย่างที่พวกเขาทำขึ้นมานั้นเป็นภาพ ท่ี ‘ตรง’ กับความคดิ ของ©นั เลยทีเดียว” (Mandy Gregory)

แมนดี เกรกอรี ครโู รงเรยี นประถมศกึ ษา เลา่ ประสบการณก์ ารนำรดี เดอรส์ เธยี เตอร์ (RT) ไปใช้ในช้ันเรยี นของเธอ เธออยากจะบอกคุณวา่ เธอทำอยา่ งไร เม่ือไมก่ ป่ี กี ่อน เราเคยได้ยนิ RT ในฐานะวิชาพิเศษ (เหมือนพลศึกษา วาดเขียน) ทตี่ อ้ งใชผ้ เู้ ชย่ี วชาญดา้ นการอา่ น บรรยากาศดนู า่ เกรงขาม แตเ่ ดก็ ๆ กช็ อบมาก ตอ่ ไปนค้ี อื สิ่งที่ครูท่เี ราเชิญมา จดั เวลาไว้ใน 1 สปั ดาห์ และฉันกน็ ำแบบกจิ กรรมของเธอมาใช้ดว้ ย ปกติฉันมักจะจัด RT เป็นกลุ่มย่อย เพราะว่าขนาดของช้ันเรียนเรามีอยู่ 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสคริปต์ทีต่ ่างกนั และโดยท่วั ไปแล้ว ฉนั จะเริ่ม RT ในวนั จนั ทรแ์ ละพวกเราก็ จะแสดงในวนั ศกุ ร์ ฉนั เหน็ วา่ 1 สปั ดาหน์ น้ั กเ็ ปน็ เวลาทเี่ พยี งพอแลว้ และนกั เรยี นกจ็ ะไมร่ สู้ กึ เบอ่ื ด้วย วันศกุ รม์ ักจะเป็นวนั ที่เหมาะสำหรบั ชัน้ เรยี นอ่ืนๆ ทีจ่ ะมาดูการแสดง และต้งั แต ่ น้ันมาฉนั กย็ ินดีกบั การจัดและจดั แบบน้มี าโดยตลอด • วันแรก : ฉนั แนะนำสคริปต์ ฉันชอบใชส้ ครปิ ตท์ ่มี าจากหนังสือภาพ (เชน่ เรื่อง “ฟลัฟฟ่ี เจ้าเม่นน้อย”) ช่วงแรกฉันจะอ่านจากหนังสือภาพและพูดคุยกันถึง เน้ือเรื่อง แล้วสลับไปท่ีภาพที่น่าสนใจ จากน้ันก็จะอ่านสคริปต์โดยออกเสียง เป็นแบบให้เด็กๆ และเพื่อให้พวกเขารู้ว่าควรจะอ่านออกเสียงอย่างไร ถา้ มีเวลาเหลอื เด็กๆ แตล่ ะคนก็จะไดร้ ับสคริปต์และอ่านทง้ั เรอ่ื งดว้ ยตัวเอง ฉันมักจะบอกเด็กๆ ว่า นักแสดงฝึกบทของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อให้ ถูกต้อง พวกเขาจะพยายามพูดด้วยวิธีการท่ีแตกต่างกันเพื่อดูว่าเสียงควรจะ เปน็ อยา่ งไร พวกเราไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งทอ่ งจำสครปิ ตเ์ หลา่ นนั้ แตเ่ สยี งทแ่ี สดงออกจะ ต้องเหมาะสมและถูกตอ้ ง • วันที่ 2 : เด็กๆ น่งั กันเป็นวงกลมวงเล็กๆ (5 คนหรอื อาจมากกว่านั้น) และอา่ น สครปิ ต์ ไมม่ กี ารมอบหมายบท พวกเขาเพยี งแตอ่ า่ นอะไรกต็ ามทบ่ี ทจะเวยี นมา ถึงคนต่อไป มันค่อนข้างจะเป็นรูปแบบวนเป็นวงกลมแบบไม่ให้เด็กแต่ละคน ตั้งตัว โดยปกติฉันจะไม่ทำวิธีแบบนี้ แต่เพ่ือกิจกรรมนี้แล้วฉันคิดว่ามัน เหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 134 ละครสร้างนักอา่ น

ฉันตงั้ ใจไมม่ อบหมายบทในตอนนี้ เพราะตอ้ งการให้เด็กๆ ได้ฝึกอ่านทงั้ หมดก่อนเป็นอันดับแรก จากน้ันตอนท้ายช่ัวโมง ฉันจะพยายามให้เด็กๆ เลอื กบททพ่ี วกเขาตอ้ งการ บางครงั้ เดก็ 2 หรอื 3 คนอาจจะตอ้ งการบทเดยี วกนั แล้วฉนั ก็จะใหพ้ วกเขาเลือกหมายเลขระหวา่ ง 1-10 ถ้าเด็กคนใดได้หมายเลข ใกลเ้ คียงทส่ี ดุ กบั ตัวเลขท่ีฉันตัง้ ไว้แล้ว เขากจ็ ะไดร้ ับบทนัน้ • วันท่ี 3 และ 4 : ฝกึ ฝกึ แลว้ กฝ็ ึก! เราฝึกการแนะนำตวั แบบละคร (ฉนั มกั จะ ให้นักเรียนมีบทแนะนำตัวให้ส้ันที่สุด) ให้แนะนำตัวเองและบทของพวกเขา (ฉันชือ่ ...ฉันจะแสดงบทของหมาปา่ เจ้าเลห่ )์ พรอ้ มลุกข้ึนยนื แล้วนง่ั ลงบนเก้าอี้ ฉนั ชอบจดั เกา้ อเ้ี ปน็ แถวตรง และเมอ่ื นกั เรยี นพดู บทของเขา เขากจ็ ะยนื ขน้ึ เราฝกึ การยนื ข้ึนกอ่ นแล้วจงึ พูดบทของพวกเรา เพราะวา่ ฉนั มนี กั เรยี นอยู่ 2 กลมุ่ ในเวลาเดยี วกนั ฉนั จะทำงานกบั กลมุ่ หนง่ึ ในขณะทีอ่ ีกกลุ่มหนงึ่ ฝกึ อา่ น แล้วจากน้นั ฉันก็จะสลับกลับไป กิจกรรมที่อาจจะทำใน 2 วันนี้ก็คือ การอัดวีดิโอเทปการแสดงของแต ่ ละกลมุ่ (แตต่ อ้ งแนใ่ จวา่ ไดร้ บั อนญุ าตใหอ้ ดั วดี โิ อเทปจากเดก็ ๆ แตล่ ะคนเสยี กอ่ น) จากนั้นท้ังช้ันก็มาดูวีดิโอกัน ใช้เวลาเพ่ือท่ีจะ “ชม” กันและกัน และพูดถึง สิ่งที่พวกเราชอบ จากนั้นก็ให้เวลานักเรียนใช้วิธีระดมสมอง เพ่ือที่จะ ทำให้การแสดงนนั้ ดีขน้ึ • วันท่ี 5 : วันแสดง! เราพยายามที่จะแสดงให้เด็กชั้นท่ีเล็กกว่าเป็นผู้ชม เช่น เด็กอนบุ าลหรอื นักเรียนช้นั ประถม 1 เมอ่ื เทอมทแ่ี ลว้ ฉนั อา่ นบทความเกย่ี วกบั การทำใหน้ กั เรยี นเกดิ ความคลอ่ งในการอา่ น และฉนั กเ็ คยไดย้ นิ บอ่ ยๆ ถงึ การใช้ RT แตก่ ย็ งั รสู้ กึ สบั สนกบั การใชเ้ ทคนคิ ใหมน่ อี้ ยู่ ครมู กั จะใหส้ ครปิ ตแ์ กน่ กั เรยี นในวนั จนั ทร์ แตล่ ะสครปิ ตจ์ ะมบี ทอยู่ 1 บททท่ี ำไฮไลตไ์ ว้ นกั เรยี น จะตอ้ งนำสคริปต์กลับบ้าน และทำการฝกึ ในแต่ละคืนกับพ่อแม่หรอื ผ้ปู กครอง Readers Theatre 135

ผู้ปกครองจะต้องลงชื่อว่าเด็กได้ฝึกแล้ว นี่เป็นการยืนยันว่าเด็กได้ฝึกแล้ว จริงๆ จากน้ันในวันศุกร์ นักเรียนก็จะมีเวลาในช่วงสั้นๆ ร่วมกันคิด (10-15 นาที หลังจากรวมตัวกันแล้ว) แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นเวลาที่จะแสดง นักเรียนจะแสดง RT ให้กนั และกนั ดู เดก็ ๆ ดทู า่ วา่ จะสนกุ สนานกบั สง่ิ นี้ เพราะพวกเขาชอบทจ่ี ะแสดง และมนั กต็ น่ื เตน้ ดว้ ย อย่างไรก็ตาม ครูท่ีเราเคยเชิญมาก็ยังมีโครงการ “นักเรียนเพื่อนร่วมอ่าน” (Students Buddy Read) และตอ้ งอา่ นข้อความใหเ้ สร็จในเวลาท่ีกำหนด ทง้ั หมดนี้ชใี้ ห้เห็นว่า RT สง่ ผลให้นักเรยี นเกดิ ความคล่องและความเขา้ ใจในการอา่ นได้จรงิ ๆ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าท่ีจริงฉันก็สามารถทำได้ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการ นำไปปฏิบัติ ฉันจะส่งสคริปต์ให้เด็กๆ ในวันจันทร์ในช่วงท่ีพวกเรามารวมกันในชั้นเรียน และใหเ้ วลาพวกเขาพูดคุยกนั เกี่ยวกับบทและฝึก (ให้เวลามากกวา่ 10 นาที – เพราะเรา จะมีงานพิเศษในไม่ช้าน้ี) จากน้ันสคริปต์ก็จะเป็นการบ้านในแต่ละคืน ฉันไม่ต้องการ ให้ใครได้สำเนาบทมากกว่าความจำเป็น (เพราะสคริปต์จะถูกเย็บรวมเข้าไว้กับ “สมดุ จดการบา้ น” ของนกั เรยี น) ดงั นนั้ ฉนั จงึ ขอใหผ้ ปู้ กครองเซน็ ชอื่ ใน “สมดุ จดการบา้ น” ในแต่ละคืนที่เขาอ่านด้วย ถ้าเขาไม่อ่านหรือฝึกและไม่มีลายเซ็นก็จะถูกหักคะแนน (น่ีเป็นระเบยี บในการให้เกรด ไม่ทำการบา้ น=ถกู หกั คะแนน) การจดั การแบบน้ี ฉนั จะ… • ทำสำเนาสครปิ ตใ์ หก้ บั เดก็ ๆ แตล่ ะคน คนละชดุ ฉนั จะไฮไลตบ์ ท 1 บท (ตวั ละคร) ต่อ 1 สครปิ ต์ ฉนั จะพยายามเลอื กสครปิ ต์ทม่ี ีจำนวนบทหรือตัวละครน้อยเพอื่ ทฉี่ ันจะไดแ้ บง่ กล่มุ ได้ 2-3 กล่มุ • ส่งสคริปต์ให้พวกเขาในวันจันทร์ นักเรียนจะเย็บสคริปต์เข้ากับมุมซ้ายบนของ “สมุดจดการบ้าน” (ฉันแน่ใจว่ามันช่วยได้) ไม่ให้ดึงสคริปต์ออกจากสมุดจด การบา้ นเพื่อไม่ให้หายไป • ในวนั องั คาร-ศกุ ร์ ฉนั จะตรวจวา่ มลี ายเซน็ ของผปู้ กครองในสมุดจดการบ้านหรือไม่ ถ้าไม่มีลายเซ็นก็จะมีการให้ฝึกในช่วงพัก เขาจะต้องฝึกขณะที่เด็กคนอื่นๆ ไปพกั • ในวนั ศกุ รน์ กั เรยี นจะพบกนั ในกลมุ่ ประมาณ 15 นาที กอ่ นทจ่ี ะรวมกนั เปน็ กลมุ่ ใหญ่ 136 ละครสรา้ งนักอา่ น

(อย่างไรก็ตาม ฉันให้เวลาพวกเขาเพิ่มอีกเล็กน้อย ดว้ ยการเดนิ ไปมาระหว่างกล่มุ ) • แล้วนกั เรยี นกพ็ รอ้ มที่จะแสดงให้กันและกันดู เพราะวา่ ฉนั สอนศลิ ปะการใชภ้ าษาอย ู่ 2 ชน้ั เรยี น เราจะ สลับกันในแต่ละสัปดาห์ เพ่ือลดการทำสำเนาสคริปต์ฉันจะ ชวนครคู นอน่ื ๆ ทส่ี อนในระดบั เดยี วกบั ฉนั มารว่ มทำกจิ กรรมน้ี ด้วย ดงั น้ันเราจึงสามารถแบง่ สำเนาสครปิ ตก์ ันได ้ (ท้งั จำนวน เร่อื งและจำนวนการทำสำเนา) สครปิ ต ์ RT สว่ นใหญจ่ ะเปน็ การดดั แปลงมาจากหนงั สอื ภาพ (เพราะมีความเหมาะสมและพร้อมมากท่ีสุด) ฉันคิดว่ามันคงจะดีถ้าได้ส่งต้นฉบับ หนังสือภาพไปท่ีบ้านให้นักเรียนในเย็นวันใดวันหนึ่ง และจากน้ันก็ให้นักเรียนนำมาผลัด เวียนให้ทกุ คนไดอ้ า่ นก่อนการแสดง Readers Theatre 137

โครงการ RT อาจใช้เวลาหลายวัน ข้ึนอยกู่ ับความยาวของสครปิ ตแ์ ละ จำนวนเวลาตอ่ วนั ที่แบ่งใหก้ บั การอา่ น โดยเฉล่ียเวลาทใ่ี ชต้ อ่ สครปิ ต์ 1 เรอ่ื ง ในระดับประถมต้นนั้นประมาณ 5-10 วัน ตอ่ ไปนี้เปน็ โครงร่างวันตอ่ วนั ของ โครงการ 5 วัน พร้อมคำอธบิ ายประกอบอย่างสัน้ ๆ วนั ที่ 1 • แจกสำเนาสคริปต์ใหน้ ักเรียนทุกคน • อ่านชอื่ เร่อื งและชื่อผแู้ ต่งพรอ้ มกนั กับนักเรยี น • ชักจูงใหน้ ักเรยี นเดาเกยี่ วกบั เนือ้ เร่อื ง ตัวละคร ฯลฯ • อา่ นสคริปตแ์ บบออกเสยี งให้นกั เรียนฟงั ตาม • ถามความคิดเห็นต่อเน้ือเร่ือง เช่น พวกเธอชอบเรื่องนี้ตรงไหน เร่ืองน้ีทำให้พวกเธอนึกถึงเร่ืองอื่นๆ ไหม การเดาของพวกเราเป็น อย่างไรบ้าง ถกู ไหม • ให้ข้อมูลกับนักเรียน เช่น จัดทำรายการคำศัพท์จากสคริปต์ เขียน คำลงบนกระดานหรอื กระดาษแผน่ ใหญๆ่ และเกบ็ รายการคำศพั ทน์ ้ี ไวใ้ ชต้ ลอดโครงการ ตอ้ งอา้ งถงึ รายการคำศพั ทท์ กุ วนั โดยเนน้ ทก่ี าร ออกเสียงและความหมายของคำ วันท่ี 2 • จดั แบง่ นกั เรยี นเปน็ คๆู่ มอบหมายจำนวนหนา้ ใหอ้ า่ น (สครปิ ตย์ าวๆ อาจแบ่งไดเ้ ปน็ หลายๆ ตอน) และกำหนดเวลาสำหรบั การอ่านของ ท้งั คู่ นกั เรียนอาจผลดั กนั อา่ นให้ครบทกุ บททม่ี ีอยู่ในสครปิ ต์ ซ่งึ ตรง นต้ี อ้ งมน่ั ใจวา่ พวกเขาไดจ้ ำนวนขอ้ มลู ทอี่ า่ นเหมอื นกนั ทงั้ คอู่ าจอา่ น ซ้ำอีกครงั้ ถา้ อา่ นเสร็จก่อนเวลาท่กี ำหนด • ขณะทีน่ กั เรียนกำลังอา่ นสคริปต์ ใหเ้ ดนิ เวียนไปรอบๆ พวกเขาเพอ่ื ช่วยในการออกเสียงของคำให้ถูกต้อง ให้อ่านด้วยความรู้สึกและ 138 ละครสรา้ งนักอ่าน

อารมณ ์ และอา่ นดว้ ยความดงั และระดับเสยี งทเี่ หมาะสม • ปิดประชุมโดยให้ท้ังกลุ่มอ่านสคริปต์เวียนกันไปรอบๆ ทุกคน หรือ โดยการมอบหมายบทและมนี กั เรียนแสดงบางตอนของสครปิ ต์ วันที่ 3 และวนั ท่ี 4 • ดำเนินการอ่านคู่ต่อ และเดินเวียนไปรอบๆ และทำเป็นแบบให้ดู จนกระท่ังนักเรียนอ่านสครปิ ต์ทงั้ หมดจบ • เมอ่ื นกั เรยี นคนุ้ กบั สครปิ ต ์ พวกเขากส็ ามารถเรม่ิ ทำงานเปน็ กลมุ่ 3-4 คน โดยสมาชิกในแต่ละกลุม่ อา่ นตามบททีไ่ ด้รบั มอบหมาย วันท่ี 5 • ทางเลือกที่ 1 มอบหมายให้นักเรียนบางส่วนแสดงอย่างไม่เป็น ทางการในชั้นเรียนของตัวเองหรือให้ชั้นเรียนอ่ืนดู นักเรียนคนหนึ่ง สามารถอา่ นไดม้ ากกว่า 1 ตวั ละคร โดยเฉพาะถ้ามีบทน้อย ทุกคน ควรได้รับโอกาสในการอ่านจากเน้ือหาของสคริปต์ให้มากพอๆ กัน เทา่ ทเ่ี ปน็ ไปได้ มฉิ ะนน้ั นักเรียนที่มีบทน้อยอาจจะเหน็ ว่าตัวเองอา่ น แยก่ ว่าหรืออาจจะไมส่ นใจและไม่กระตือรอื ร้น • ทางเลือกท่ี 2 ในสถานการณ์เดียวกัน หากนักเรียนสามารถที่จะ รับผิดชอบในการแสดงจริงได้ก็สามารถจัดได้โดยการมอบหมายบท เปล่ียนห้องเรียนให้เป็นโรงละคร และเชิญนักเรียนชั้นอ่ืนๆ หรือ ผู้ปกครองมาดูการแสดงพิเศษน้ี การจัดให้เป็นละครน้ีอาจแบ่งเป็น 2 หรอื 3 กลุ่ม โดยให้แตล่ ะกลุ่มอา่ นเรื่องท่ีตา่ งกัน Readers Theatre 139

º·¡ÒÃáÊ´§“ÅФúÃÃàŧ º·à¾Å§Ë¹Ñ§Ê×Í” 140 ละครสรา้ งนักอ่าน

แนะนำหนังสือทมี่ าของการแสดง จากหนงั สอื รวม 6 เรอื่ ง นกั แสดง กระต่าย ลงิ ประจำตำแหนง่ ต่างๆ บนเวทกี อ่ นเปดิ ไฟ ไฟเปิดขนึ้ เวทีเป็นสวนสาธารณะอันร่มรืน่ ดนตรเี พลงโลกกวา้ งข้นึ (กอ่ นท่ีเดก็ ชายจะออกมา) กระต่ายกับลงิ ร้องเพลงตามบทร้อยกรองโลกกว้างพร้อมกัน โลกน้ี กวา้ งใหญ่ ไพศาล อายุ เนนิ่ นาน แคไ่ หน มากกว่า ป่ยู า่ เท่าใด เด็กชายเดินออกมาร้องต่อ ฉันนี้ เยาว์วยั ใคร่รู้ ใครสร้างดวงอาทิตยไ์ ว้ สรา้ งดวงจนั ทรใ์ ห้เข้าคู่ สร้างดวงดาราน่าดู สรา้ งเมฆทอี่ ยูเ่ บอื้ งบน กระต่ายกับลิง ใครสรา้ ง พชื พันธ์ุ พฤกษา สร้างสัตว์ นานา นา่ ฉงน สัตว์น้ำ แหวกว่าย สายชล สตั ว์บก อยู่บน ดินดอน ร้องพร้อมกัน สตั วป์ กี บนิ ใน อากาศ แมลง เกล่อื นกลาด สลอน ปวงสตั ว์ เล้อื ยคลาน ผา่ นจร มนษุ ย์ เรร่ ่อน ทัว่ ไป ครูออกมาร้องต่อ อยตู่ าม แดนดนิ ถิน่ ฐาน (หว้ิ ตะกร้าใส่หนังสอื มา) ภาษา ส่อื สาร ไฉน แตง่ ตวั แตกตา่ ง อยา่ งไร Readers Theatre 141

เด็กชาย คดิ แลว้ สงสยั สารพดั ไม่มี ใครชอบ ตอบฉัน ทกุ วัน ครุ่นคิด ตดิ ขดั ฉนั อยาก เป็นผู้ รูช้ ดั จึงหดั อา่ นเขียน เรียนเอย... ครสู ง่ หนงั สอื ในตะกรา้ ใหเ้ ดก็ ชาย และมอบใหต้ วั ละครอน่ื ๆ ซง่ึ ตา่ งมคี วามยนิ ดที ่ีไดห้ นงั สอื ถูกใจ เด็กชายมีความสุขที่ได้อ่านหนังสือ พูดเปน็ ร้อยกรอง ระหว่างที่พูด สัตว์ต่างๆ และต้นไม้ สอดแทรก เอออวย หรือแย้งได้ เพ่ือความสนุก หนงั สอื คอื ของรกั ฉันประจักษใ์ นคณุ คา่ อา่ นเขียนเพียรศกึ ษา คอ่ ยเขา้ ใจในสิ่งสรรพ แปลกแทส้ ิง่ แม่สอน วา่ เปน็ กลอนไพเราะครัน วนั หนงึ่ คำกลอนนั้น ฉนั อา่ นไดใ้ นหนงั สอื นทิ านแม่เคยเลา่ ยามฉันเข้านอนตาปรอื เหน็ ครูชูในมอื เรื่องเดียวกันฉันอา่ นเพลนิ เติบใหญ่ไดเ้ รยี นรู้ สิ่งท่คี รชู ที้ างเดนิ หนังสอื สอื่ ชวนเชญิ ใหอ้ า่ นเพลนิ เสริมปัญญา 142 ละครสร้างนักอ่าน

ทุกคนเต้นระบำหนังสอื พร้อมร้อง (แสงเป็นแบล็กไลต)์ ใครช่างสร้างหนงั สือ เปน็ เคร่ืองมอื ดหี นักหนา ความคิดจิตปรีชา ตา่ งสมัยได้สื่อสาร หนังสอื สื่อวิเศษ พาขา้ มเขตแดนกันดาร ทอ่ งเที่ยวโลกไพศาล ปลอบจติ ใจให้รนื่ รมย์ (ซ้ำ) ไฟดับหรอื เปลีย่ นสเี พอื่ เปลีย่ นอารมณ์ ครนู ัง่ บนมา้ นงั่ มตี วั ละครตา่ งๆ รายลอ้ ม ครูกำลงั พลิกหนังสือเพื่อเล่านทิ านจากหนังสือ กระต่ายตัวหน่ึงวิ่งผ่านมา บิดขี้เกียจ เข้าไปนอนอีกมมุ หนึ่ง กระต่ายหลับดีกว่า กว่าเต่าจะมาถึงคงอีกนาน เราก็หลับได้หลายตื่น ลิง (ตืน่ เต้น) อา้ ว น่ีกระตา่ ยจากนิทานอีสป เรือ่ งเตา่ กบั กระตา่ ยน ี่ ทำไมมานอนตรงน้ีละ่ เด็กชาย ครคู รบั กระตา่ ยเขารไู้ หมวา่ ตอนจบของนทิ านนะ่ กระตา่ ยแพ้ ลิง (ตะโกนใหก้ ระต่ายได้ยิน) ก็ควรจะแพ้อยู่รอ้ กกกกกกกก กระต่ายกระโดดขึ้นด้วยความไม่พอใจ กระต่าย ใคร ใคร ใครวา่ ฉันแพ้ Readers Theatre 143

ลงิ ฉันน่ีแหละ ก็ในนิทานเร่ืองกระต่ายกับเต่า เธอน่ะคิดว่ายังไง เตา่ กไ็ มม่ ที างวงิ่ ตามเธอทนั เธอกเ็ ลยนอนพกั เผลอหลบั ครอก จนเตา่ ไปถึงเสน้ ชยั ก่อน เธอกเ็ ลยแพ้ จรงิ ไหมครับครู ครู อย่าไปว่ากระต่ายเลยจะ้ เดก็ ชาย ใช่ๆ บางทีเขาอาจจะไม่ได้มาจากเร่ืองกระต่ายกับเต่าที่เรา รู้จกั ก็ได้ จริงไหมกระต่าย กระต่าย (รเี่ ขา้ ไปทำทา่ คารวะเดก็ ชาย) อยา่ งนสี้ เิ ขาเรยี กวา่ เฉลยี วฉลาด ฉนั นะ่ ไปเจอเต่าตัวหนึง่ ฉนั ก็เลยท้าเขาวิ่งแข่งกันแต่วา่ เขาไม่ สนทำไมรไู้ หม เพราะวา่ (เนน้ มาก) เขาจะบนิ นะ่ สิ ครู เด็กชาย และลงิ ร้องพร้อมกัน เต่าจะบิน! กระต่าย ฮอ่ื มันเป็นเรอ่ื งของเตา่ ไมเ่ จยี มสงั ขาร ลิง ไมจ่ ริง เธอกลา่ วหาเต่า เดก็ ชาย มีนทิ านเร่อื งนด้ี ้วยหรอื ครบั ครู ครู มีจะ้ พวกเราอยากฟังไหม ครูจะเลา่ ใหฟ้ ัง... ลงิ (กระแอมทำทา่ อยากเลา่ เอง) กาลครง้ั หนง่ึ นานมาแลว้ ...อมื มม (สัตว์ทุกตัวคอยฟัง แต่ลิงเล่าต่อไม่ได้) มีครูสาวสวยใจดีจะ เล่านทิ านใหพ้ วกเราฟงั กระต่ายและเดก็ ชายทำหน้าระอา กระต่าย ขโี้ ม้ (หัวเราะ) ฮา่ ๆๆๆ ลิงหน้าจอ๋ ย ครู นิทานเรื่องนี้เป็นเร่ืองของเต่าจิ๋ว ลูกเต่านาอาศัยอยู่ในพงอ้อ ริมบึงแห่งหน่ึง เต่าตัวอ่ืนๆ พากันคลานต้วมเต้ียมเพ่ือไปหา อาหาร แตเ่ ตา่ จว๋ิ ไมค่ อ่ ยพอใจ อยากจะไปใหเ้ รว็ กวา่ เตา่ ตวั อน่ื ๆ 144 ละครสร้างนักอ่าน

เต่าจิ๋วออกมากลางเวที เต่าจ๋ิว ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษของเราว่ิงแข่งชนะกระต่ายมาแล้ว (กระต่ายมีสีหน้าไม่พอใจ) พอมาถึงรุ่นของเราจะให้เสียชื่อไม่ ได้เป็นอันขาด เรื่องวิ่งแข่งน่ะธรรมดาไปเสียแล้ว เต่ารุ่นเรามันต้องบิน ฉันจะบิน...ฉันจะบิน...ฉันจะบินบินไป ไกลแสนไกลไมห่ วน่ั … I believe I can ffl llf y… ฉนั ไปหากบผเู้ ฒา่ เพอื่ ปรึกษาดกี ว่า เต่าคลานไปที่เด็กชาย เด็กชายแสดงเป็นกบผู้เฒ่า กบผู้เฒ่า เฮ่อๆๆ อยากจะบนิ เรอะ กไ็ ปยืมปีกของแมลงปอสิ เด็กชายส่งปีกแมลงปอให้กระต่ายเล่นแทน (แมลงปอออกโบยบิน เต่าคลานไปหา) เต่าจ๋ิว แมลงปอจ๋า ฉันน่ะเน้ือยเหนื่อยกับการคลานอย่างเชื่องช้า มาแสนนาน คราวนีฉ้ ันอยากจะบนิ กับเขาบา้ ง ฉันจึงอยากจะ ขอยมื ปกี ใสๆ ของเธอหนอ่ ยนะ ฉันจะไดบ้ ินไปบนทอ้ งฟ้า แมลงปอ เสียใจจะ้ เต่าจ๋วิ ปกี อันบางใสของฉันไม่ไดม้ ีไวใ้ หใ้ ครยืม แมลงปอบินถลาออกไป ครูโบยบินออกมาเปน็ ผีเสอ้ื กระต่ายขอเปน็ ผู้เล่าต่อ Readers Theatre 145

เตา่ จว๋ิ จึงไปหาผีเสอื้ แล้วพดู ว่า “แม่ผเี ส้ือจะ๊ ขอยมื ปีกอันสวย งามใหฉ้ ันสกั คเู่ ถอะ ฉันอยากจะบนิ เหมือนแมผ่ ีเส้ือน่ะจ้ะ” ผเี ส้ือละจากเกสรดอกไม้ แล้วหันมาพดู วา่ “เธอนะ่ หรอื จะบนิ แค่พยายามคลานให้เร็วกวา่ น้ีกพ็ อแลว้ ล่ะ มั้ง” ลิงเล่าเสริมต่อ เต่าจิ๋วอ้อนวอนผเี สื้อต่อวา่ “น่านะแม่ผีเส้ือ ในอดตี เต่ายังเคย ชนะกระตา่ ยได้เลย แล้วทำไมเต่าอย่างฉนั จะบินกับเขาบ้างไม่ ได”้ กระต่ายรีบเล่าต่อ ผีเสื้อตอบว่า “ท่ีเต่าชนะได้น่ะ เพราะกระต่ายประมาท หรอกนะจะ๊ จรงิ ๆ แลว้ ไมม่ ที างหรอกจะ้ (ตวั อน่ื ๆ ทำทา่ จะขดั ) แต่เอาเถอะ เธอลองไปหานกกระยางดูสิ ปีกของเขาใหญ่ และแข็งแรงกวา่ ฉันอีก” ครูเปลี่ยนร่างกลายเป็นนกกระยาง พูดกับเต่าจิ๋วอย่างเมตตา น่ีแน่ะเจ้าเต่าน้อย เป็นเต่าน่ะสามารถเดินในโคลนตมและ พงไพรได้อยา่ งทรหด อยา่ ไดอ้ ยากบนิ ไปเลย เต่าจ๋ิว แต่ฉันเป็นเต่าพัฒนานะ เต่าสมัยใหม่ต้องคิดอะไรไม่ธรรมดา ใหส้ มกบั ทเี่ ปน็ เตา่ แนว ดนตรีประเภทฮิปฮอปดังขึน้ เต่าเต้น สัตว์อ่ืนๆ ก็เต้นอย่างคึกคะนอง รวมทัง้ เด็กชายซ่ึง มีว่าวสองอันอยู่ในมือด้วย กำลังเต้นกันอยู่มันส์ๆ เสียงนกหวีดของครูก็ดังขึ้น ดนตรีก็ หยุดลง ทุกคนกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมของตัว เหลือแต่ว่าวสองอันอยู่บนเวที เต่าหันไปเห็น รีบเข้าไปนำเอาว่าวใส่หลังให้กลายเป็นปีก แล้วคลานข้ึนภูเขาสูง (ลิงกับ กระต่ายแปลงเปน็ ภูเขาให้เต่าจ๋ิวปนี ) 146 ละครสรา้ งนักอ่าน

เต่าจ๋ิว ทส่ี ดุ ฉนั กม็ ปี กี ฉนั จะตอ้ งบนิ ใหไ้ ดค้ ราวนแี้ หละ ฉนั จะปนี ขนึ้ ไป บนภูเขาสูง แล้วคราวนี้แหละ สมใจนึกแล้วล่ะ (ร้องเพลง) ลิงสรุป ฉันจะบิน...บินไป ไกลแสนไกลไม่หวั่น ภูเขาจะสูง หรือทาง กระต่าย จะชนั ไมห่ วาดไม่หวั่นไม่ไหว ฉนั จะบนิ I believe I can ffl flly… ลิง (เตา่ จว๋ิ ทำทา่ บนิ แลว้ กห็ ลน่ ตบุ ลงดว้ ยความเจบ็ ปวด) โอย๊ ยยย..... กระต่าย โอย โอย โอย โชคดีนะที่ตกลงมาในโคลน ก็เลยไม่...ตาย ลงิ ยิ่งไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกซะด้วย (เต่าจ๋ิวคลานในโคลน กระต่าย อยา่ งชำนาญ) ทางนน้ั มนี ำ้ ดว้ ย ฉนั วา่ ยนำ้ เกง่ จะตาย คลานใน ครู โคลนกใ็ ชย่ ่อยซะเมอ่ื ไหร่ ไมเ่ หน็ จะตอ้ งอยากบินเลย้ นิทานเร่ืองน้ีสอนให้รู้ว่า กระต่ายไม่สามารถคลานในโคลนได้ วา่ ยนำ้ กไ็ ม่ถนัด เอะ๊ เร่ืองอะไร นิทานเร่ืองนไ้ี มเ่ ห็นเกย่ี วอะไรกับฉัน กใ็ ครว่าเกี่ยว อ้าว แล้วเธอมาสรุปว่าฉันมีความสามารถน้อยกว่าเต่าได้ ยงั ไง กเ็ ธอคลานในโคลนไดไ้ หมละ่ เธอก็คลานไม่ไดเ้ หมือนกัน อย่าทะเลาะกันเลย ทุกคนมีดีไปคนละแบบ ข้อสำคัญต้องใช้ Readers Theatre 147

เด็กชาย สง่ิ ทเ่ี รามใี ห้เกดิ ประโยชน์ ครูย้ิมและพยักหน้า ครคู รบั ผมขออนญุ าตเลา่ นทิ านบ้างได้ไหมครับ เดก็ ชาย (หยบิ กตี าร์มาเตรยี ม) ครง้ั หนงึ่ นานมา สองชายชรา (ตัวละคร ครูเล่าต่อให้ ร้องตอ่ ตาอินกะตานา) ใช่ครบั ตานาตาอิน (เด็กชายทำท่าให้ กระตา่ ยกบั ลงิ รวู้ า่ ทงั้ สองตอ้ งเลน่ เปน็ ตาอนิ กบั ตานา นกั แสดง ท้ังสองคนเคล่ือนตัวออกเป็นการแสดงด้วยเทคนิคตาโบล วีวอง) เปน็ เพอ่ื นคหู่ ู อาศยั รว่ มถน่ิ ทำมาหากนิ ดว้ ยกนั มานาน เด็กชาย รว่ มสามคั คี ยามยากยามมี เออ้ื เฟอื้ เจอื จาน หนกั นดิ เบาหนอ่ ย กค็ ่อยกลา่ วขาน ไม่มุ่งประจาน ให้เสยี น้ำใจ วันหนง่ึ ตาอนิ กบั ตานาพบหนองนำ้ แหง่ ใหม่ สองเกลอรบี รุด มุ่งไปสจู่ ุด ไมร่ อใหส้ าย ตานาวา่ น่ี คือทีม่ งุ่ หมาย ทอดแหเถดิ นาย คงไมผ่ ิดหวัง ตาอินมน่ั ใจ เหว่ียงแหทันใด ดว้ ยใจจรงิ จงั นำ้ แตกกระจาย สองชายขงึ ขัง ดงึ แหขึ้นฝงั่ สมหวังได้ปลา 148 ละครสร้างนักอา่ น

นักแสดงทั้งหมดร่วมกันร้องเพลงตาอินกับตานา ประกอบลีลาจนจบ โดยเด็กชายแสดง ทำท่าส่งสัญญาณให้เต่าจิ๋วแสดงเป็นตาอยู่ และเดินเข้ามาขโมยปลาไปกิน เต่าจิ๋ว (หัวเราะ) ฮา่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เดก็ ชาย ลงิ คราวน้รี ู้หรือยงั ละ่ ว่าอย่าทะเลาะกนั กระต่าย ลิง ครา้ บ..... สนกุ จงั เลยเนอะกระตา่ ย นทิ านแตล่ ะเรอื่ งกต็ ่างกัน เดก็ ชาย ครู แต่ฟังแลว้ ก็มีความสขุ เหมือนกัน อา้ ว แล้วใครว่าไม่ใช่ล่ะ เด็กชาย สมานฉันท์ สมานฉนั ท์กนั เถอะนะ เต่าจิ๋ว กระต่าย อยา่ แปลกใจไปเลยผองพวกเรา เรือ่ งปลุกเร้าวา่ เรานีเ้ ปน็ ลงิ พ่ีนอ้ ง ยึดความดสี ง่ิ งดงามตามครรลอง กระต่าย/ลิง เต่าจิ๋ว เหมือนด่งั ผองนิทานเก่าทีเ่ ล่ากนั เดก็ ชาย ถึงแมต้ ่างธรรมเนียมประเพณี แต่เราถือความดีนี้ต้ังมั่น ถงึ จะแยก ครู แปลกห่าง ตา่ งเผ่าพนั ธ์ุ แต่เธอฉันมีรากเหงา้ ท่ีเลา่ ลอื เพียงเราเหน็ คา่ อนันตก์ ันทง้ั สิน้ ไม่ดหู มนิ่ เหยียดหยาม ประณามช่อื เพียงเราเหน็ สงิ่ ดที ีร่ ำ่ ลอื นนั่ แหละคือการเห็นคา่ ราคากนั จัดบล็อกก้ิงใหม่ให้ทุกคนมีความสุขใจ และร่วมเริงรำพร้อมร้องเพลงเป็นการอำลาผู้ชม และอำลากันและกัน ทุกคนเปลี่ยนลีลาเป็นนก และร่วมร้องเพลง Readers Theatre 149

ฉันจะเปน็ นกสีขาวพราวเวหา ยอ้ นกลับมาแดนดนิ ถิ่นสวรรค์ รอเวลาถงึ คราได้พบกัน ไม่มใี ครมาขดี ค่นั พรมแดนใจ จะคะนึงถึงตำนานนิทานดี ชนื่ ชีวีรอเวลาวันฟ้าใหม่ จะมาพบเพอื่ นรกั สลกั ใจ ใชอ่ ่นื ไกลเราทง้ั ผองพน่ี อ้ งกนั สร้างสรรค์บทการแสดงในงานโดย ถริ นนั ท์ อนวชั ศิริวงศ์ ลดทอนบทเพอื่ การสัมมนาฯ โดย กุสุมา เทพรกั ษ์ • บทการแสดงนี้แต่งข้ึนจากการเช่ือมร้อยหนังสือรวม 6 เรื่องคือ ร้อยกรอง ของหนนู อ้ ย เลม่ 1 และเลม่ 2 (2546) โดย ฐะปะนยี ์ นาครทรรพ และ กติ ยิ วด ี บญุ ซอื่ เตา่ จะบนิ (2544) โดย ส.พุ่มสุวรรณ ตาอินกะตานา (2541) โดย สมบูรณ์ ศิงฆมานันท์ จัดพิมพ์โดย องคก์ ารค้าของครุ ุสภา และ นทิ านอีสป นทิ านบทกว ี ระบำสายธาร ตำนานมอแกน (2550) จัดพมิ พ์โดย สาขาสอื่ สารการแสดง คณะนเิ ทศศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย 150 ละครสรา้ งนักอ่าน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook