Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ ไม่ป่ากินได้ในหุบเขาลำพญา

✍️ ไม่ป่ากินได้ในหุบเขาลำพญา

Description: ✍️ ไม่ป่ากินได้ในหุบเขาลำพญา

Search

Read the Text Version

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 41 ใน บเ ขา ลา

จำปาดะ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Artocarpus integer (Thunb.) Merr. ชื่อพืน้ เมือง ปอื เดาะ (มลายทู อ้ งถิ่น-ยะลา) ชอ่ื วงศ์ MORACEAE ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา ไมย้ นื ต้นขนาดกลางถงึ ใหญ่ ลำต้น สูง 20-30 เมตร เปลือกไม้ คอ่ นขา้ ง ขรขุ ระ สนี ำ้ ตาลอมเทา มียางสีขาวขุ่น ใบ ใบเดี่ยว เรียงแบบเวียนสลับ แผน่ ใบรปู รี หรือรูปรีแกมขอบขนาน ผวิ ใบเรยี บดา้ นบนเป็นมัน ดา้ นล่างค่อนขา้ งสาก ขอบใบเรยี บ ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรยี วและสนั้ ใบกวา้ ง 5-9 เซนตเิ มตร ยาว 10-15 เซนตเิ มตร เสน้ ใบแตกแบบขนนก เสน้ กลางใบดา้ นหลงั มองเหน็ ไมช่ ดั ใบออ่ นสเี ขยี วออ่ น มหี ใู บหมุ้ ยอด มีขนออ่ นสีขาวปกคลมุ ยอดออ่ นและหูใบ ใบแกส่ เี ขยี วเขม้ ก้านใบยาว 1-3 เซนติเมตร ดอก เป็นช่อกระจุกแน่น ดอกแยกเพศ ดอกเพศผู้ออกบริเวณปลายกิ่ง ทรงกระบอก ขนาดเล็ก ส่วนดอกเพศเมียออกตามลำต้นและก่ิงขนาดใหญ่ ผล ผลรวม รูปทรง กระบอกยาว ขนาดใหญ่ เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 15-20 เซนตเิ มตร กา้ นผลยาว 5-12 เซนตเิ มตร บริเวณก้านผลมีน้ำยางสีขาวขุ่น ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีเหลือง เนื้อผลสีเหลืองหรือ เหลอื งอมสม้ กล่นิ หอมฉุน เม่อื ถงึ กา้ นผล ผลย่อย จะติดกับก้านผล มเี มลด็ จำนวนมาก ลกั ษณะแขง็ เปลือกหมุ้ เมล็ดสขี าวใส เน้อื ในสีขาวขนุ่ การกนิ - ผลสกุ รสหวานจดั กินเป็นผลไม ้ - เมลด็ นำมาตม้ หรือคั่ว รสมัน ช่วงการเกบ็ เก่ยี วผลผลติ ตลอดปี 42 ใ นไ หุ ม ้ ป่ า กิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 43 ใน บเ ขา ลา

จำปรู งิ ชอื่ วิทยาศาสตร์ Baccaurea minor Hook. f. ชือ่ พนื้ เมอื ง แจปอรี (มลายูท้องถิน่ -ยะลา) ชอื่ วงศ์ EUPHORBIACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา ไมย้ นื ตน้ ขนาดเลก็ ถงึ ขนาดกลาง ลำตน้ สงู 10-15 เมตร เปลอื กไม้ ไมเ่ รยี บ สีนำ้ ตาลแกมเทา ใบ ใบเดีย่ ว เรยี งตัวเวยี นสลบั แผน่ ใบเรียบรปู รีหรอื รปู ไข่ ผิวใบเรยี บ ทั้งสองด้าน ขอบใบเรียบ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน ใบกว้าง 7-10 เซนติเมตร ยาว 15-18 เซนตเิ มตร เสน้ ใบแตกแบบขนนก เสน้ กลางใบเหน็ ชดั เจน ใบออ่ นสเี ขยี วออ่ น ใบแก่สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร ดอก เป็นช่อกระจะ ขนาดเล็ก ออกบรเิ วณกงิ่ กา้ นขนาดใหญแ่ ละบรเิ วณตอนบน สขี าวเหลอื ง ผล ผลเดยี่ ว เปน็ ชอ่ ยาว รปู ผลกลม ปลายผลมตี งิ่ แหลมสน้ั ๆ เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 1.0-2.0 เซนตเิ มตร ผลออ่ นสเี ขยี ว ผลสกุ สีเหลือง เปลอื กแข็ง เม่ือบีบจะแตกออกกลางพู เยื่อหุม้ เมล็ดสแี ดงสม้ การกนิ เย่ือห้มุ เมล็ดผลสุก รสเปร้ยี วอมหวาน กนิ เปน็ ผลไม ้ ชว่ งการเก็บเกีย่ วผลผลติ เมษายน-กรกฎาคม 44 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 45 ใน บเ ขา ลา

ชะมวงปา่ ช่ือวิทยาศาสตร์ Garcinia bancana Miq. ช่อื พ้นื เมอื ง ชะมวงกา (นราธวิ าส) กานฮิ แู ต (มลายทู อ้ งถนิ่ -ยะลา) ชอ่ื วงศ์ CLUSIACEAE ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา ไม้ยนื ตน้ ขนาดกลาง ลำตน้ สูง 15-20 เมตร เรอื นยอดทรงพ่มุ แตกกง่ิ ก้าน เปลือกไม้คอ่ นขา้ งเรยี บสีน้ำตาลแกมดำ เปลือกชัน้ ในสีชมพอู มมว่ ง มียางสเี หลืองขนุ่ ใบ ใบเดยี่ ว รปู ไขก่ ลบั เรยี งแบบสลบั ตรงขา้ ม แผน่ ใบหนาเหนยี ว ผวิ ใบเรยี บเปน็ มนั ทง้ั สองดา้ น ขอบใบเรยี บ ปลายใบมนกวา้ งเปน็ ตงิ่ แหลมเลก็ นอ้ ย โคนใบแหลม กวา้ ง 5-12 เซนตเิ มตร ยาว 15-20 เซนตเิ มตร เส้นใบโค้งจรดกัน เส้นกลางใบเหน็ ชดั เจน ใบอ่อนสแี ดงสด ใบแกส่ เี ขียวเข้ม ก้านใบยาว 2.5-3.5 เซนตเิ มตร ดอก เปน็ ช่อกระจุกตามข้อก่งิ กระจุกละ 5 ดอก เส้นผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร กลีบดอกสขี าวอมเหลือง มี 4 กลีบ กลีบเล้ียงมีสีเหลืองอ่อน มี 4 กลีบ ก้านดอกยาว 1-1.5 เซนติเมตร ผล คอ่ นขา้ งกลม เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางประมาณ 5 เซนตเิ มตร ผลออ่ นสเี ขยี ว ผลสกุ สเี หลอื ง ฉ่ำน้ำ มียางสีเหลอื ง เมล็ดแบนสีนำ้ ตาล การกนิ ยอดและใบเพสลาด นำมาเป็นผกั เหนาะหรอื ลวก หรือใส่ในแกงส้ม ต้มยำ ช่วงการเกบ็ เก่ยี วผลผลิต เมษายน-กรกฎาคม 46 ใ นไ หุ ม ้ ป ่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 47 ใน บเ ขา ลา

ชา้ พล ู ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Piper sarmentosum Roxb. ช่อื พ้นื เมอื ง ชาพลู (กลาง) นมวา (ใต)้ กาเดาะ (มลายทู อ้ งถน่ิ -ยะลา) ชอ่ื วงศ์ PIPERACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา ไมเ้ นือ้ อ่อน มีความสงู ประมาณ 50 เซนติเมตร ลำต้น สเี ขียว ลำต้นทที่ อด ไปตามพื้นดินจะมีรากงอกตรงข้อ ใบ ใบเด่ียวรูปหัวใจ สีเขียว แผ่นใบหนาเป็นมัน ผวิ ใบเปน็ คลนื่ ขอบใบเปน็ คลนื่ เลก็ นอ้ ย ปลายใบแหลม โคนใบมน ใบกวา้ ง 7-10 เซนตเิ มตร ยาว 9-12 เซนติเมตร ก้านใบยาว 1-3 เซนติเมตร ใบมีกล่ินเฉพาะตัว เส้นใบแตก แบบขนนก เส้นกลางใบนูนข้ึนมาเห็นได้ชัดเจน ดอก ดอกช่ออัดแน่นเป็นแท่ง ออกท่ี ซอกใบหรือปลายก่ิง มีดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว ช่อดอกอ่อนสีขาว เม่ือแก่จะเปลยี่ นเปน็ สเี ขียว การกนิ ใบออ่ นหรือใบเพสลาด นำมาเป็นผกั เหนาะ ใส่ในแกงกะทิ หรอื เป็นผกั เม่ยี งคำ ชว่ งการเกบ็ เก่ยี วผลผลิต ตลอดปี 48 ใ นไ หุ ม ้ ป ่ า กิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 49 ใน บเ ขา ลา

แซะ ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Callerya atropurpurea (Wall.) A.M.Schot ช่ือพื้นเมอื ง กะแซะ ยีนีเก๊ะ (มลายูทอ้ งถน่ิ -ยะลา) ช่ือวงศ์ CAESALPINIACEAE ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา ไมย้ ืนต้นขนาดกลางถงึ ใหญ่ ลำต้น สงู 10-15 เมตร เรอื นยอดเป็นทรงพมุ่ ขนาดใหญ่ เปลือกไม้ เรียบสีเทา ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายค่ี เรียงแบบสลับ ไม่เป็นระเบยี บ แผน่ ใบยอ่ ยหนากรอบ รูปใบหอก ผวิ ใบเรียบเปน็ มนั ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรยี ว ใบกวา้ ง 3-4 เซนตเิ มตร ยาว 10-12 เซนตเิ มตร เสน้ ใบแตก แบบขนนก เสน้ กลางใบเหน็ ชดั เจน ใบออ่ นสมี ว่ งแดง ใบแกส่ เี ขยี วเขม้ ดอก ออกเปน็ ชอ่ ขนาดเลก็ ออกตามยอดหรอื ปลายกงิ่ ดอกสีแดง ผล ออกเป็นชอ่ เป็นฝักเมื่อแก่จะ แตก ทรงกระบอก กวา้ ง 4-5 เซนตเิ มตร ยาว 5-10 เซนติเมตร แต่ละฝักมี 1-3 เมล็ด สนี ำ้ ตาลดำ รปู กลมรี กวา้ งประมาณ 3.5 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 5 เซนตเิ มตร การกิน ยอด ใบอ่อน กินสดเปน็ ผกั เหนาะ ช่วงการเกบ็ เกีย่ วผลผลิต ตลอดป ี 50 ใ นไ หุ ม ้ ป ่ า กิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 51 ใน บเ ขา ลา

ดาหลา ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Etlingera elatior (Jack) R.M. Smith ช่ือพนื้ เมือง กาหลา (ภาคใต้ ภาคเหนอื ) จนิ ตะหรา (กระบ)ี่ กาแต (มลายูทอ้ งถ่ิน-ยะลา) ชอ่ื วงศ์ ZINGIBERACEAE ลักษณะทางสัณฐานวิทยา ไมล้ ม้ ลกุ ลำตน้ เปน็ เหงา้ อยู่ในดนิ มกี า้ นใบอดั แนน่ เหมอื นลำตน้ สงู 2-4 เมตร ใบ ใบเด่ียว เรียงแบบสลับตรงข้าม แผ่นใบหนา รูปใบหอก ผิวใบเรียบแววมัน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลมติง่ โคนใบเบ้ยี วเล็กน้อย ใบกวา้ ง 15-18 เซนตเิ มตร ยาว 40-50 เซนตเิ มตร เสน้ ใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบนนู เหน็ ชัดเจน ใบอ่อนสีเขยี วออ่ น ขอบใบมสี มี ว่ งและมว้ น ใบแกส่ เี ขยี วเขม้ ดอก ออกเปน็ ชอ่ กระจกุ มกี ลบี ประดบั 2 ขนาด คือส่วนโคนประกอบด้วยกลีบประดับขนาดใหญก่ วา้ ง 2-3 เซนตเิ มตร สีแดงขลิบขาว เรียงซ้อนกันอยู่และจะบานออก 25-30 กลีบ มีกลีบประดับขนาดเล็กอยู่ส่วนบน ของช่อดอก กลีบกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ซ่ึงมีสีเดียวกับกลีบประดับขนาดใหญ่ กลีบประดบั เลก็ นจี้ ะหบุ เขา้ เรยี งเปน็ ระดบั มี 300-330 กลบี ภายในกลบี ประดบั ขนาดใหญ่ ทบ่ี านออกจะมดี อกขนาดเลก็ กลบี ดอกสแี ดง ดอกบานเตม็ ทจี่ ะมขี นาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางดอก 14-16 เซนติเมตร ความยาวช่อ 10-15 เซนตเิ มตร มกี ้านช่อดอก แข็งตรง ยาว 80-100 เซนติเมตร ผล ผลกลุ่ม รปู ทรงกลม มีขนปกคลมุ ทว่ั ผล ผวิ เปลอื กค่อนขา้ ง เรียบแตห่ นา มสี ีนำ้ ตาล เน้อื ในฉำ่ นำ้ เมลด็ ขนาดเล็ก สดี ำมีเมอื กหมุ้ ทัว่ เมลด็ การกนิ - หนอ่ กนิ สดหรอื ลวกเปน็ ผกั เหนาะ - กลีบดอก หั่นฝอยใส่ในขา้ วยำ ช่วงการเกบ็ เก่ียวผลผลติ ตลอดปี 52 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 53 ใน บเ ขา ลา

ดปี ลี ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Piper chaba Hunt. ชือ่ พ้นื เมือง ดปี ลีเชือก (ภาคใต้) ลาคอซเี ล๊ะ (มลายทู ้องถิ่น-ยะลา) ชอ่ื วงศ์ PIPERACEAE ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา พืชล้มลุกเลื้อยพันไปตามต้นไม้อ่ืน มีรากฝอยงอกตามข้อใช้เกาะพัน ลำตน้ เปน็ ขอ้ บวมพอง ใบ ใบเดยี่ ว ออกเรยี งสลบั มหี ใู บ แผน่ ใบเรยี บหนา ใบคลา้ ยรปู ไข่ ผวิ ใบดา้ นบนและด้านล่างผิวเรยี บ ขอบใบเปน็ คลน่ื ปลายใบแหลม โคนใบมน ใบออ่ น สีเขียวออ่ น ใบแกผ่ ิวมนั สเี ขียวเขม้ กา้ นใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบนว้ิ มือ เส้นกลางใบเหน็ ชัดเจน กา้ นใบกลมยาว 1.0-1.5 เซนตเิ มตร ดอก เปน็ ช่อแบบช่อเชิงลด มขี นาดเล็ก มจี ำนวนมากอดั กนั แนน่ บนแกนรปู ทรงกระบอก ออกท่ีปลายยอด ง่ามใบ หรือตรงข้ามใบ สีขาวเหลืองและค่อยๆเปลย่ี นเปน็ สแี ดงสม้ ดอกรองรับดว้ ยใบประดับ รูปกลมไม่มีกลีบรวม ผล ผลกลมมีขนาดเล็กฝังตัวแน่นอยู่กับแกนช่อดอกท่ีอวบน้ำ ผลออ่ นสีเขียว ผลสกุ สสี ม้ แดง เมล็ดแขง็ ขนาดเล็ก การกนิ ผลนำมาเป็นส่วนผสมในเครอื่ งปรุงซุป รสเผ็ดร้อน ชว่ งการเก็บเกย่ี วผลผลิต ตลอดปี 54 ใ นไ หุ ม้ ป่ า กิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 55 ใน บเ ขา ลา

ตะขบไทย ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Flacourtia rukam Zoll. & Moritzi ช่ือพ้ืนเมือง ตะขบ คอื คุ (มลายทู อ้ งถ่ิน-ยะลา) ชื่อวงศ์ FLACOURTIACEAE ลักษณะทางสัณฐานวิทยา ไมย้ นื ต้นขนาดกลาง ลำต้น สูง 8-15 เมตร มีหนามแหลมยาวออกตามลำตน้ ยาว 6-8 เซนติเมตร เรอื นยอดเป็นทรงพุม่ สงู ใบ ใบเดีย่ ว เรยี งแบบสลบั ตรงขา้ มหรือ เป็นวงรอบข้อ แผ่นใบเรียบ รูปใบหอก ผิวใบเรียบมัน ขอบใบหยักมนถ่ี ปลายใบ เรียวแหลม โคนใบสอบเรยี ว ใบกว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 9-12 เซนตเิ มตร เสน้ ใบ แตกแบบขนนก เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ดอก ดอกเดี่ยว ขนาดเล็ก ออกตามซอกใบ หรอื ปลายยอด ดอกสีขาว ผล ผลเดี่ยว ทรงกลม ผิวเปลือกเรียบแวว เม่อื ผลสุกเนอื้ ใน มสี นี ำ้ ตาลแดง เมลด็ ขนาดเลก็ จำนวนมาก เมล็ดแขง็ การกนิ ผลสุก รสหวานฝาดเลก็ นอ้ ย ชว่ งการเก็บเก่ยี วผลผลติ กุมภาพนั ธ์-กรกฎาคม 56 ใ นไ หุ ม ้ ป ่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 57 ใน บเ ขา ลา

ตาเป็ดตาไก ่ ช่อื วิทยาศาสตร์ Ardisia crenata Sims ชอื่ พ้ืนเมือง พิลงั กาสา มาตาอาแย (มลายทู อ้ งถ่ิน-ยะลา) ช่อื วงศ์ MYRSINACEAE ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยา ไม้พุม่ ขนาดเลก็ ลำตน้ สงู 2-5 เมตร ตน้ และเรือนยอดตรง เปลอื กไมเ้ รียบ สีเขยี วปนน้ำตาล มนี ้ำยางสขี าว ใบ ใบเด่ียว เรยี งแบบสลบั แผ่นใบหนา รูปหอก ผวิ ใบ เรยี บ ขอบใบหยกั เปน็ ลอนตนื้ ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรยี บ ใบกวา้ ง 3-4 เซนตเิ มตร ยาว 10-12 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนนก เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อน สเี ขยี วเหลอื ง ใบแก่สีเขียวเขม้ กา้ นใบยาว 0.5-1.0 เซนตเิ มตร ดอก เปน็ แบบช่อกระจุก ขนาดเล็ก มี 10-20 ดอก เม่ือดอกบานเต็มท่ีมีกลีบดอก 5 กลีบ สีขาวอมชมพู แฉกคลา้ ยดาวมเี กสรยืน่ เป็นป่มุ อย่ตู รงกลาง ออกบริเวณยอดและข้างกง่ิ ขนาดเลก็ ผล ผลเดยี่ วออกเป็นช่อ 2-3 ผล ผลรปู ครงึ่ วงกลมมนขนาดเลก็ ผิวมนั ก้านผลยาว 1-1.5 เซนติเมตร ผลออ่ นสเี ขียว ผลสกุ มีสแี ดง เมลด็ มีสีดำเป็นร่องตามแนวยาว การกิน ยอดอ่อน ใบสด เปน็ ผักเหนาะ ชว่ งการเกบ็ เก่ยี วผลผลติ ตลอดปี 58 ใ นไ หุ ม ้ ป่ า กิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 59 ใน บเ ขา ลา

ตาลปตั รฤาษี ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Limnocharis flava (L.) Buchen. ช่ือพน้ื เมอื ง นางกวกั (ภาคกลาง) บอนจนี (ปตั ตานี) ช่อื วงศ์ ALISMATACEAE ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา ไมน้ ำ้ ฤดเู ดยี ว มีรากยดึ เกาะติดกบั ผิวน้ำ และชูกา้ นใบขนึ้ เหนอื น้ำ รากสีเขียว และนำ้ ตาลแดง ใบ ใบเดย่ี ว คอ่ นขา้ งกลม ใบกวา้ ง 20-22 เซนตเิ มตร ยาว 28-30 เซนตเิ มตร ผิวใบเรียบท้ังสองด้าน ปลายใบมน ขอบใบเรียบ ฐานโค้งหาก้านใบ เส้นใบแตก แบบขนานโคง้ ไปหาปลายใบ เสน้ กลางใบเหน็ ชดั เจนเปน็ สนั เหลย่ี ม กา้ นใบรปู สามเหลย่ี ม ยาว 30-50 เซนติเมตร สเี ขียวอ่อน ไมเ่ ปยี กนำ้ เน้อื ก้านใบคล้ายฟองน้ำ มียางสขี าวขนุ่ เลก็ นอ้ ย ดอก เปน็ ช่อ ก้านดอกคล้ายก้านใบยืดยาว แตกออกมาจากยอด มี 5-10 ดอก ดอกตมู ทรงกลมคล้ายดอกบวั เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2 เซนติเมตร กลีบสีเหลอื งบาง ผล ทรงกลม เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 1-2 เซนตเิ มตร ภายในแบง่ 2 ซกี มเี มลด็ เรยี งตวั อดั แนน่ การกนิ กา้ นใบออ่ น ยอดออ่ น ดอกอ่อน นำมาเปน็ ผกั เหนาะ ลวก หรอื ผดั ช่วงการเก็บเกยี่ วผลผลติ ตลอดปี 60 ใ นไ หุ ม ้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 61 ใน บเ ขา ลา

ตำลึง ชื่อวิทยาศาสตร์ Coccinia grandis (L.) Voigt ชื่อพื้นเมอื ง ฆามะ (มลายทู อ้ งถน่ิ -ยะลา) ชอ่ื วงศ์ CUCURBITACEAE ลักษณะทางสัณฐานวทิ ยา ไมเ้ ถา ลำตน้ ขนาดเลก็ เกลย้ี ง มอื เกาะไมแ่ ยกแขนง ใบ ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั กนั กว้าง 5-8 เซนติเมตร โคนใบเวา้ เปน็ รปู หวั ใจ ขอบใบหยกั แบบฟนั เลอ่ื ยเลก็ ๆ หักเป็นมมุ 5 มุม หรือเว้าลึกเป็น 5 แฉก ปลายใบติ่งแหลม เส้นใบออกจากจุดเดียวกันที่โคนใบ 5-7 เส้น ก้านใบยาว 3-6 เซนติเมตร ดอก พบท้งั ดอกเดย่ี วและดอกช่อ ออกเปน็ ชอ่ สั้นๆ ตามซอกใบ มี 2-3 ดอก กา้ นดอกยาว 1-5 เซนติเมตร กลบี เลี้ยงรปู ลิ่มแคบหรอื รปู แถบ ยาว 0.2-0.5 เซนตเิ มตร โคง้ ออก กลบี ดอกรปู ระฆงั สขี าว ยาว 3-4.5 เซนตเิ มตร ปลายเปน็ 5 แฉก รปู ไข่ ยาว 1.5-2 เซนตเิ มตร เกสรเพศผู้ 3 อนั เปน็ หมนั ดอกเพศเมยี ยาวประมาณ 1.5 เซนตเิ มตร กา้ นเกสรเพศเมยี ยาวประมาณ 0.3 เซนตเิ มตร ผล รปู ทรง กระบอก หรือขอบขนาน กวา้ งประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 5 เซนตเิ มตร ผลอ่อนคล้ายผลแตงกวาแตเ่ ลก็ กว่า ผลอ่อนสเี ขียว ผลแกจ่ ัดผิวและเนือ้ สีแดง เมล็ด มีจำนวนมาก รูปไข่กลับแกมขอบขนาน เปลือกแข็ง กว้าง 3 มิลลิเมตร ยาว 7 มลิ ลิเมตร การกนิ ยอดอ่อน นำมาเปน็ ผกั สดหรือลวก ชว่ งการเก็บเกี่ยวผลผลติ ตลอดปี 62 ใ นไ หุ ม้ ป ่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 63 ใน บเ ขา ลา

เต่ารา้ งแดง ชอื่ วิทยาศาสตร์ Caryota mitis Lour. ชอ่ื พืน้ เมอื ง มอื เดง็ (มลายทู ้องถนิ่ -ยะลา) ชอื่ วงศ์ ARECACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา ไมย้ ืนตน้ ขนาดกลาง ลำต้น สงู 5-7 เมตร ลำตน้ ตั้งตรงไมแ่ ตกกง่ิ สามารถ แตกหนอ่ บริเวณโคนตน้ มีกาบหมุ้ ลำต้นเปลือกเรียบสเี ขียวออ่ นมีนวลเล็กนอ้ ย มีรกเปน็ เส้นใยสีน้ำตาลดำ ก้านใบยาว 2-3 เมตร ใบ ใบประกอบขนนกสองช้ันเรียงสลับ หนาแน่นท่ีเรือนยอด แผ่นใบย่อยเหนยี วใบยอ่ ยรปู ส่ีเหลย่ี มขนมเปียกปนู ผิวใบด้านบน แววเปน็ มนั ทงั้ สองดา้ น ขอบใบเรยี บ ปลายใบแหลม โคนใบสอบเปน็ รปู ลม่ิ เบย้ี ว ผวิ กาบ ใบด้านนอกมีขนสั้นๆ สีน้ำตาลออกสีขาว ใบย่อยด้านบนสุดมีขนาดใหญ่สุด กว้าง 9-12 เซนตเิ มตร ยาว 25-40 เซนติเมตร ใบย่อยดา้ นลา่ งกวา้ ง 7-10 เซนติเมตร ยาว 35-45 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ก้านใบย่อยยาว 40-50 เซนติเมตร ดอก เปน็ ชอ่ คล้ายดอกของต้นหมาก ออกบรเิ วณซอกกาบใบจำนวน มาก กลบี ดอกสเี ขยี วหรอื สมี ว่ งแกมนำ้ ตาล ชอ่ ดอกยาว 30-35 เซนตเิ มตร ผล ผลเดย่ี ว ออกเป็นช่อแยกแขนง ทรงกลม สีเขียวแกมเหลือง เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง ขนาดเล็กถึงกลาง กว้าง 0.8-1.3 เซนติเมตร ยาว 1-1.2 เซนติเมตร ก้านผลยาว 30-35 เซนตเิ มตร ผวิ ผลเรยี บมเี มล็ดอยู่ในเนอ้ื ผล ผลอ่อนสีเขยี วเหลือง ผลสุกสสี ม้ หรอื แดงเข้ม 1 ผล มี 1 เมล็ด การกิน แกนยอดอ่อนห่ันเป็นแว่นๆ กนิ สด ตม้ เอารสขมออกแลว้ นำมาแกง ช่วงการเก็บเก่ยี วผลผลิต ตลอดปี 64 ใ นไ หุ ม ้ ป ่ า กิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 65 ใน บเ ขา ลา

ทเุ รยี น ช่อื วิทยาศาสตร์ Durio zibethinus Merr. ชื่อพนื้ เมือง เรียน (ภาคใต้) ดรือแย (มลายูทอ้ งถนิ่ -ยะลา) ชอ่ื วงศ์ BOMBACACEAE ลักษณะทางสัณฐานวิทยา ไม้ยนื ต้นสงู ใหญ่ โคนตน้ กว้าง อาจมพี พู อน ลำต้น ขนาดใหญ่ เปลอื กไม้ ขรขุ ระ สนี ำ้ ตาล เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 30-80 เซนตเิ มตร มยี างเมอื ก ใบ ใบเดย่ี ว รปู ขอบขนาน ใบเรยี งแบบสลบั กวา้ ง 5-6.5 เซนตเิ มตร ยาว 20-25 เซนตเิ มตร ผวิ ใบเรยี บ ดา้ นบน เรยี บมนั ดา้ นลา่ งผวิ สากสนี ำ้ ตาล ขอบใบเรยี บ ปลายใบแหลม โคนสอบถงึ มน เสน้ ใบ แตกแบบแขนง ก้านใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร ใบอ่อนมีขนนุ่มรูปดาว ดอก เป็นช่อ หรือเดี่ยว สขี าวอมเหลือง ออกบรเิ วณซอกก่งิ กลีบดอก 5 กลีบแยกกัน ผล รปู ไข่ แบง่ เปน็ พูๆ มีหนามโดยรอบ ผลออ่ นสเี ขยี ว ผลสุกสเี ขียวอมนำ้ ตาลหรืออมเหลอื ง แตกตรงกลางพู เมล็ดมขี นาดใหญ่ สีเหลอื งนวล ผิวเรียบ มีเนือ้ หุ้มเมล็ด ค่อนข้าง หนานุ่มสขี าวนวลถึงสเี หลอื ง รสหวาน การกนิ ผลสุกรสหวานกินเปน็ ผลไม ้ ชว่ งการเก็บเกยี่ วผลผลิต กรกฎาคม-สงิ หาคม 66 ใ นไ หุ ม ้ ป่ า กิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 67 ใน บเ ขา ลา

นมแมว ช่ือวิทยาศาสตร์ Melodorum siamense Scheff. ชอื่ พ้นื เมอื ง ตอื แป (มลายูทอ้ งถนิ่ -ยะลา) ช่อื วงศ์ ANNONACEAE ลกั ษณะทางสณั ฐานวิทยา ไมพ้ ุ่มกึง่ รอเลื้อย ลำต้นเกอื บต้ังตรง ลำตน้ สูง 1.5-2 เมตร เรือนยอดเปน็ พุม่ เลอื้ ย ใบ ใบเดีย่ ว เรยี งแบบสลับ รปู รแี กมรปู หอก ผวิ ใบเนื้อใบค่อนข้างหนาคล้าย แผ่นหนัง เกลี้ยง ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โคนใบมน กว้าง 5-6 เซนติเมตร ยาว 9-12 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนนก เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ก้านใบยาว 0.6-1 เซนติเมตร ดอก ดอกเดี่ยว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร ออกบริเวณซอกใบ มีกล่ินหอมเวลาบ่ายถึงเย็น ปกคลุมด้วยขนนุ่มสั้นสีน้ำตาล ก้านดอกยาวประมาณ 0.4 เซนติเมตร ดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงมีจำนวน 3 กลีบ โคนเชือ่ มกัน ปลายแยกเปน็ 3 แฉก มีรปู รา่ งเปน็ รปู หอกงุ้ม เขา้ ดา้ นใน มีสีเขียวอ่อน แตล่ ะกลบี ยาวประมาณ 1.5 เซนตเิ มตร กลบี ดอกหนาและแขง็ รปู ไขส่ เี หลอื งนวล 6 กลบี โคนกลบี ไมเ่ ชอื่ มกนั มรี ปู รา่ งเชน่ เดยี วกบั กลบี เลย้ี งงมุ้ เขา้ ดา้ นใน แตล่ ะกลบี ยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย มีจำนวนมาก ผล ผลกลุ่มมี 8-12 ผล ทรงกลมหรือรีหัวท้ายแหลม ผลอ่อนมีสีเทาอมเขียว สุกมีสีแดง ภายในผลมี 1 เมล็ด สีดำเป็นมัน ผิวเปลือกค่อนขา้ งเรยี บ เนื้อในฉ่ำนำ้ การกิน ผลสุก มีรสหวาน กินเปน็ ผลไม ้ ชว่ งการเกบ็ เกยี่ วผลผลิต ตลอดป ี 68 ใ นไ หุ ม ้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 69 ใน บเ ขา ลา

เนยี ง ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Abarema jiringa (jack) I.C. Nielsen ชอ่ื พื้นเมอื ง จอื รงิ (มลายทู ้องถ่นิ -ยะลา) ช่ือวงศ์ MIMOSACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา ไม้ยนื ต้นขนาดกลางถงึ ใหญ่ ลำตน้ สงู 10-15 เมตร เปลอื กไม้ เรียบสเี ทา ใบ ใบประกอบแบบขนนก 2 ชน้ั ปลายคู่ มกี า้ นใบยอ่ ย 1 คู่ เรยี งแบบสลบั ใบยอ่ ยรปู ขอบ ขนาน มี 2-3 คู่ ด้านปลายจะใหญส่ ุด ผวิ ใบเรยี บเป็นมันทงั้ สองด้าน ขอบใบเปน็ คล่นื ปลายใบแหลม โคนใบเบ้ียว ใบกว้าง 5-6 เซนติเมตร ยาว 10-18 เซนตเิ มตร เส้นใบ แตกแบบแขนง 7-10 ค ู่ เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบออ่ นสีมว่ งอมแดง ใบแกส่ ีเขยี วเขม้ ซอกใบมตี ่อมบวมคล้ายหนงั สต๊ิก ดอก เปน็ ชอ่ กระจุกแน่น ขนาดเลก็ บรเิ วณกง่ิ และ ปลายกงิ่ สขี าว ผล ฝกั มว้ นขดงอบดิ เปน็ เกลยี ว เปลอื กแขง็ หนาคลา้ ยหนงั สนี ำ้ ตาลคลำ้ คล้ายรูปจานบิน เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร ผลอ่อนสีน้ำตาล ผลแก่น้ำตาลดำ เมลด็ กลมแบน เสน้ ผ่าศูนย์กลาง 2-4 เซนติเมตร สเี หลอื งอ่อน กล่ินฉนุ การกนิ - เมล็ดออ่ น กนิ สดจิม้ นำ้ พริก หรอื เป็นผกั เหนาะ - เมล็ดแก่ นำไปเพาะในกระบะทราย รดน้ำ 3 - 5 วัน สามารถนำมาบริโภคได้ เรยี กวา่ “ลกู เนียงหมาน” - เมล็ดแก่ ต้มกนิ กับมะพรา้ วขูดผสมกบั นำ้ ตาลและเกลือ (ขณะตม้ ตอ้ งใสโ่ ลหะ เชน่ ชอ้ น ตะปู เชอื่ วา่ ลดความเปน็ พษิ ของเมล็ด) ชว่ งการเกบ็ เก่ยี วผลผลติ พฤษภาคม-กนั ยายน 70 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 71 ใน บเ ขา ลา

เนียงนก ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Archidendron bubalinum (jack) I.C. Nielsen ช่ือพ้ืนเมอื ง เนยี งนก กะนวั ะ ยิรงิ บูกง กือดะ๊ (มลายทู ้องถ่นิ -ยะลา) ชอื่ วงศ์ MIMOSACEAE ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา ไมต้ น้ ขนาดกลาง ไมผ่ ลดั ใบ ลำตน้ สงู 10-15 เมตร มกั คดงอ ผวิ ลำตน้ ขรขุ ระ สนี ำ้ ตาลปนเหลอื ง ลอกออกเป็นแผน่ บางคลา้ ยกระดาษ เรอื นยอด เปน็ พุ่มหนากลม หรือแผก่ วา้ ง ใบ ใบเด่ียว เรยี งแบบสลบั แผน่ ใบบาง ใบรูปไขแ่ กมใบหอกหรือรปู ไข่ สลับ ผิวใบดา้ นล่างมีขนประปราย ขอบใบจกั ซฟี่ ัน ปลายใบเปน็ ตง่ิ แหลมสน้ั ๆ โคนใบ สอบหรือมน ใบกวา้ ง 7-12 เซนติเมตร ยาว 15-30 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนนก เสน้ กลางใบเหน็ ชดั เจน ใบออ่ นสเี ขยี วเหลอื ง ใบแกส่ เี ขยี วเขม้ กา้ นใบยาว 4-5 เซนตเิ มตร ดอก ดอกเดีย่ ว ออกตามซอกใบใกลป้ ลายก่ิง ขนาดเลก็ สขี าวมีกล่นิ หอมอ่อนๆ กลบี เลย้ี งสเี ขยี วรปู ชอ้ น 5 กลบี กลบี ดอก 5-6 กลบี บาง รปู ไขก่ ลบั หลดุ งา่ ย ดอกบาน เตม็ ทีก่ วา้ ง 1.4-1.6 เซนตเิ มตร กา้ นดอกมีขนสากยาว 3-5 เซนติเมตร ผล ฝักกลมยาว และอุ้มน้ำมีกาบแข็งหุ้ม ยาว 8-13 เซนติเมตร เย่ือหุ้มสีเหลือง ผิวเปลือกเรียบ เมลด็ ขนาดกลาง เส้นผา่ ศนู ย์กลาง 1.5-2.5 เซนตเิ มตร ทรงกระบอกเรียงซอ้ นกนั แนน่ 6-10 เมล็ด การกนิ ยอด เมล็ดออ่ นหรือแก่ กินเปน็ ผกั เหนาะ ชว่ งการเก็บเกี่ยวผลผลติ สิงหาคม-ตลุ าคม 72 ใ นไ หุ ม้ ป ่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 73 ใน บเ ขา ลา

บอนกระดาด ชือ่ วิทยาศาสตร์ Colocasia gigantea Hook.f. ชอ่ื พ้นื เมอื ง เอาะดิบ ออกดบิ (ภาคใต)้ ออดิบ (ยะลา) ช่ือวงศ์ ARACEAE ลกั ษณะทางสณั ฐานวทิ ยา ไมล้ ม้ ลกุ ลำตน้ เปน็ เหงา้ สขี าวอยู่ใตด้ นิ แทงกา้ นใบออกจากใตด้ นิ ใบ ใบเดยี่ ว เรียงแบบเวยี นสลับเปน็ กระจกุ ท่ลี ำตน้ แผ่นใบหนา ใบรปู หัวใจ ผิวใบเรียบ ขอบใบเรยี บ ปลายใบมน โคนรปู หวั ใจ ใบกวา้ ง 25-35 เซนตเิ มตร ยาว 30-40 เซนตเิ มตร เสน้ ใบแตก แบบขนาน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน มีไขเคลือบสีขาว ก้านใบมีไขเคลือบ มองดู มีสีขาวนวล เนื้อในของกา้ นใบอวบนำ้ และมรี อู ากาศ แทรกอยู่ในเนอื้ ใบ ดอก เปน็ ช่อ ออกตามซอกใบ เป็นแท่งเดี่ยวๆ ดอกแยกเพศอยู่ในช่อเดียวกัน ฉ่ำน้ำ ผล ผลสด สีเขียว การกนิ ยอดอ่อน ก้านใบ นำมาเปน็ ผักลวก ใส่ในแกงสม้ ชว่ งการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ตลอดป ี 74 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 75 ใน บเ ขา ลา

บอนสม้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena sp. ชื่อพื้นเมือง กลาดีมอแยะ (มลายูทอ้ งถ่นิ -ยะลา) ชื่อวงศ์ ARACEAE ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา พืชล้มลุกอวบน้ำ อายุหลายปี ลำต้น เป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน มีน้ำยางสีใส ใบ ใบเดย่ี ว ขนึ้ มาจากลำตน้ ตอนเหนอื ดนิ ขึ้นเปน็ กลมุ่ เรียงตดิ กนั แนน่ ใบขนาดใหญ่ แผน่ ใบหนาอวบนำ้ รูปหวั ใจ ผิวใบเรียบเป็นมนั ท้งั สองดา้ น ขอบใบเป็นคล่ืนเลก็ นอ้ ย ปลายใบแหลมเขม็ โคนใบเวา้ ลกึ รปู หวั ใจ ใบกวา้ ง 25-30 เซนตเิ มตร ยาว 30-40 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนานเกือบตั้งฉากกับเส้นกลางใบ เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อน สีแดงออ่ นหรือสเี ขียวม้วนเขา้ ด้วยกัน ใบแก่สเี ขยี วเขม้ กา้ นใบยาว 80-100 เซนติเมตร ก้านใบมีรูพรุน บริเวณโคนก้านใบด้านบนเป็นร่องน้ำ ด้านท้องใบเป็นสันนูนใหญ่ ดอก ออกเปน็ ช่อ แทง่ กลมยาว ดอกตัวผอู้ ยู่ตอนบน ดอกตัวเมียอย่ตู อนล่างถดั ลงมา มีจำนวนน้อยกว่าดอกตัวผู้ หรืออาจจะมีดอกไม่มีเพศคั่นอยู่ระหว่างกลาง หรืออาจจะ ไม่มีก็ได้ ก้านชอ่ ดอกยาว 25-30 เซนตเิ มตร ดอกออ่ นสีขาว ถา้ ดอกแกจ่ ะเปลีย่ นเปน็ สีเขยี ว มีกาบหมุ้ ช่อดอกยาว 12.5-15 เซนตเิ มตร กาบน้จี ะปอ่ งออกมาบรเิ วณทีเ่ ป็น ดอกเพศเมยี ตรงปลายของมนั จะเปน็ รปู จะงอย สว่ นตรงกลางจะคอด และตอนบนนนั้ แคบ การกิน ช่อดอก ยอดออ่ น กา้ นและใบ นำมาแกงสม้ หรอื นำมา เป็นผกั ลวก ชว่ งการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ตลอดป ี 76 ใ นไ หุ ม้ ป ่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 77 ใน บเ ขา ลา

บอนหนิ ชอื่ วิทยาศาสตร์ Schismatoglottis calyptrate (Roxb.) Zoll. ชอ่ื พ้นื เมอื ง กลาดบี าตู (มลายูท้องถนิ่ -ยะลา) ชอื่ วงศ์ ARACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา พืชลม้ ลกุ อวบนำ้ ลำต้น เปน็ หัวอยู่ใตด้ นิ มนี ำ้ ยางสีใส ใบ ใบเดีย่ ว ข้นึ มาจาก หัวใต้ดินหรือลำต้นตอนเหนือดินข้ึนเป็นกลุ่ม ใบใหญ่ก้านใบยาวเรียงแบบเวียนสลับ แผ่นใบหนาอวบน้ำรูปหัวใจ ผิวใบเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน ขอบใบเป็นคล่ืนเล็กน้อย ปลายใบแหลม โคนใบเวา้ ลกึ รปู หวั ใจ ใบกวา้ ง 10-15 เซนตเิ มตร ยาว 20-24 เซนตเิ มตร เส้นใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ก้านใบยาว 25-35 เซนติเมตร ก้านใบ มีรูพรุน ด้านบนเป็นร่องน้ำด้านท้องใบเป็นสันนูนใหญ่ โคนก้านใบเป็นครีบ ดอก ออกเป็นชอ่ ดอกย่อยขนาดเลก็ กาบประดบั ขนาดใหญ่ กวา้ ง 3-5 เซนติเมตร ออกบริเวณซอกกาบใบ สขี าว ผล ผลสด ทรงกลมรี การกิน ช่อดอก ยอดออ่ น ก้านและใบ นำมาแกงสม้ หรอื นำมาเป็น ผักลวก ช่วงการเกบ็ เก่ยี วผลผลิต ตลอดปี 78 ใ นไ หุ ม้ ป่ า กิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 79 ใน บเ ขา ลา

บุก ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Amorphophallus paeoniifolius Nicolson ชอื่ พ้นื เมือง หัวบุก (กลาง) มันซูรนั (ปตั ตานี) ช่ือวงศ์ ARACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวิทยา พืชลม้ ลกุ เจรญิ ในฤดูฝน ลำต้น เป็นหวั อยู่ใต้ดนิ สนี ำ้ ตาล ใบ ใบเดีย่ วแผ่ออก คล้ายรม่ หยักเวา้ เข้าหาเส้นกลางใบ ผิวใบเรยี บ ขอบใบเรยี บ ปลายแหลม ฐานใบ แหลม ขนาดกว้าง 50-60 เซนติเมตร ยาว 80-150 เซนติเมตร ก้านใบกลมอวบน้ำ เรยี วยาว 80-150 เซนซเิ มตร มลี ายสเี ขยี วและแดง (แตกตา่ งตามสายพนั ธ)ุ์ ดอก ดอกชอ่ แทงจากหัวใต้ดิน ลักษณะเป็นแท่งสีแดงแกมน้ำตาล ก้านช่อดอกส้ัน มีใบประดับ รูปกรวยห้มุ ชอ่ ดอก ขอบหยกั เปน็ คลื่นและบานออก ผล ผลสด เน้อื นุ่มสีแดง การกนิ ก้านใบอ่อน ต้ม ลวก ยา่ งไฟกินหรอื ใส่ในแกงเลยี ง ช่วงการเก็บเกย่ี วผลผลิต มีนาคม-มถิ ุนายน 80 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 81 ใน บเ ขา ลา

บัวบก ชือ่ วิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. ช่อื พน้ื เมือง ผักแวน่ (ภาคใต)้ ผกั หนอก (ยะลา) ชอ่ื วงศ์ APIACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา ไม้ล้มลุก ทอดเลื้อยไปตามดิน มีรากออกตามข้อ ชูใบต้ังตรงข้ึนมา ใบ ใบเดยี่ ว มกี า้ นชใู บยาว ใบรปู ไตหรอื กลม ปลายใบกลม มรี อยเวา้ ลกึ ทฐ่ี านใบ ขอบใบ หยัก ผิวใบด้านบนค่อนข้างเรียบ กว้าง 3.5-4.5 เซนติเมตร ดอก ดอกช่อคล้ายร่ม ออกจากข้อ มี 2-3 ช่อ ช่อละ 3-4 ดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ สีม่วงอมแดง ผล ผลแห้งแตก เส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 3-4 มลิ ลเิ มตร ขนาดเลก็ มากสดี ำ การกิน ตน้ ออ่ นกินสดเปน็ ผักเหนาะ ช่วงการเกบ็ เกี่ยวผลผลติ ตลอดปี 82 ใ นไ หุ ม้ ป่ า กิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 83 ใน บเ ขา ลา

ปุดดนิ ใบใหญ่ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Etlingera punicea (Roxb.) R.M. Sm. ช่อื พ้นื เมอื ง ตอื ปุห์ (มลายูทอ้ งถ่ิน-ยะลา) ชอื่ วงศ์ ZINGIBERACEAE ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา พชื ลม้ ลกุ ลำตน้ เปน็ เหงา้ อยู่ใตด้ นิ มกี ลนิ่ นำ้ มนั หอมระเหยตลอดตน้ มกี าบใบ เรียงตวั กนั แน่นเปน็ ลำตน้ เทยี มเดย่ี วๆ แทงขน้ึ จากหวั ใตด้ ิน สูง 2-3 เมตร ใบ ใบเดี่ยว เรยี งแบบสลบั แผน่ ใบหนาเหนยี ว รปู ดาบ ผวิ ใบเรยี บเปน็ มนั ทงั้ สองดา้ น ขอบใบเปน็ คลน่ื ปลายใบแหลมต่ิง โคนใบสอบเรียว ใบกว้าง 7-10 เซนติเมตร ยาว 50-70 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อนม้วนเข้าหากันสีเขียวอ่อน ด้านโคนใบสีเขียวอมแดง ใบแก่สีเขียว ดอก ดอกเด่ียว ดอกขนาดกลางถึงใหญ่ ออกบริเวณโคนตน้ สีแดงขอบนอกของกลบี สีเหลอื ง การกิน ไส้กลางของลำตน้ เมือ่ ลอกเอากาบชนั้ นอกออกหมดจะพบ เนอ้ื ในลำตน้ อ่อนๆ กลน่ิ หอม กินสดเป็นผกั เหนาะ หรอื เป็น ผกั ลวก ช่วงการเกบ็ เก่ยี วผลผลิต ตลอดป ี 84 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 85 ใน บเ ขา ลา

ผักกระสัง ช่ือวิทยาศาสตร์ Peperomia pellucida (L.) Humb. ชอ่ื พน้ื เมอื ง ชากรดู (ภาคใต)้ ผกั สังเบา (สรุ าษฎรธ์ านี) ช่ือวงศ์ PIPERACEAE ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยา ไม้ล้มลุก ลำต้น มีขนาดเล็ก สูง 10-20 เซนติเมตร สีเขียว เปราะหักง่าย ใบ ใบเดี่ยว สีเขียวใส กว้าง 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร แตกออกจาก ลำต้นในลักษณะตรงข้าม ใบรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โคนใบรูปหัวใจ แผ่นใบด้านบนเป็นมัน ด้านล่างขุ่นและสีอ่อนกว่า เป็นคล่ืนเล็กน้อย เส้นใบแตกออก จากก้านใบไปหาปลายใบ ดอก ดอกช่อ ออกตามปลายยอด ชอ่ ดอกมีสีเขียวอ่อนหรอื สคี รีม ดอกย่อยมหี นามเล็กมาก ผล ผลสด รูปทรงกลม เมล็ดสีดำทรงกลมขนาดเลก็ การกนิ ต้นออ่ น กนิ สดหรอื ลวกเปน็ ผักเหนาะ ชว่ งการเก็บเกย่ี วผลผลติ ตลอดป ี 86 ใ นไ หุ ม ้ ป ่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 87 ใน บเ ขา ลา

ผกั กูด ชื่อวิทยาศาสตร์ Angiopteris evecta Hoffm. ชื่อพ้ืนเมอื ง ปโู จะปากู (มลายทู อ้ งถน่ิ -ยะลา) ชื่อวงศ์ ATHYRIACEAE ลักษณะทางสัณฐานวิทยา เฟินดิน ลำต้น เป็นเหง้าเต้ีย สูง 6-18 เซนติเมตร โคนต้นพองออก มีขน สีน้ำตาลแดงโดยรอบ ก้านใบยาว 70-100 เซนติเมตร ใบ ใบประกอบแบบขนนกสอง ถึงสามช้ัน เรียงแบบสลับ แผ่นใบบาง ใบย่อยรูปขอบขนาน ผิวใบเรียบด้านบนเรียบ ดา้ นล่างมีขนปกคลุมเล็กน้อย ขอบใบเรยี บหรอื หยักเลก็ น้อย ปลายใบแหลม โคนใบมน กว้าง 1-4 เซนตเิ มตร ยาว 10-15 เซนติเมตร อบั สปอร์ เรยี งตามยาวอยู่ใต้ใบ เสน้ ใบ แตกแบบโค้งจรดกัน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อนสีเขียวอ่อนม้วนงอ ใบแก่สีเขียว ก้านใบย่อยยาว 10-25 เซนติเมตร การกิน ยอดหรือใบออ่ น กินสด ตม้ หรือลวก ช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลติ ตลอดป ี 88 ใ นไ หุ ม ้ ป่ า ก ิ า น ไ ด้ บเ ขา ลา พญ

ไ ม ้ ป่ า หุ กิ น ไ พด้ ญ า 89 ใน บเ ขา ลา

ผักบงุ้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Ipomoea aquatical Forssk. ชอื่ พ้ืนเมอื ง ผกั ทอดยอด (กรงุ เทพฯ) ผกั บงุ้ นา (ภาคกลาง) โหนเดาะ กากง (มลายทู ้องถนิ่ -ยะลา) ชือ่ วงศ์ CONVOLVULACEAE ลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา ไมล้ ้มลุกหลายปี ลำตน้ เลือ้ ยทอดไปตามนำ้ หรอื ท่ลี มุ่ ทม่ี ีความชน้ื หรอื ดนิ แฉะ ลำตน้ กลมสเี ขยี ว สเี ขียวอมแดง เรียบ ดา้ นในกลวง มขี ้อปล้องและมรี ากตามขอ้ ส่วน ท่สี ัมผสั กบั ดิน ใบ ใบเดี่ยวออกแบบสลบั รูปไขแ่ กมขอบขนาน รปู หอกหรอื รปู หวั ลูกศร ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลมหรือมน ฐานใบรูปหัวใจ ใบกว้าง 1-9 เซนติเมตร ยาว 3-15 เซนติเมตร ดอก รูประฆัง ออกเป็นช่อที่ซอกใบ มีดอกย่อย 1-5 ดอก กลีบเล้ียงสีเขียว กลีบดอกสีขาวมีสีชมพูท่ีฐาน เกสรเพศผู้มี 5 อัน เกสรเพศเมีย ยอดเกสรมกั มี 2 ลอน ผล รูปไข่หรือกลมสีนำ้ ตาล มีเมลด็ กลมสดี ำ การกิน ตน้ ออ่ น กนิ สดเปน็ ผกั เหนาะ ผดั ใส่ในแกงสม้ ช่วงการเก็บเกยี่ วผลผลิต ตลอดปี 90 ใ นไ หุ ม้ ป่ า ก ิ า น ไ ด ้ บเ ขา ลา พญ