Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ นิราศหนองคาย

✍️ นิราศหนองคาย

Description: ✍️ นิราศหนองคาย

Search

Read the Text Version

ข้าก็ไปสืบความพร้อมสามคน เข้าไปจนคา่ ยวัดจนั ไมพ่ รน่ั พรึง ใหท้ ดิ ลุนขนึ้ บนตน้ นอ้ ยแหน่ เหน็ พวกฮอ่ ซอ้ แซบ้ า้ งนอนขงึ บ้างสบู ฝิ่นเล่นไพ่ใสก่ นั องึ ขา้ เจ้าจึ่งแอบดเู หล่าผคู้ น พวกอา้ ยฮ่อไมร่ ักษาอยู่หน้าท่ี ล้วนแต่ขเี้ ซาหลบั อยสู่ ับสน ไม่เป็นเยี่ยงอยา่ งทพั กํากบั พล ดูชอบกลผิดในพิชยั สงคราม อา้ ยพวกฮอ่ ปองปองทองพระพุทธ พระเจดยี ์มันกข็ ุดทาํ หยาบหยาม ข้าพเจา้ ลอบดคู รนั้ รคู้ วาม กลับมาตามฝั่งน้ําคืนค่ํามัว เห็นเรอื ฮอ่ ทงิ้ ทอดจอดอยู่ท่า ไมม่ ีผู้รักษาท้งั ท้ายหัว จอดอยู่ชิดชดิ กันไม่พนั พัว แลดูทั่วเรยี งรายหลายสบิ ลํา ขา้ พเจา้ จ่งึ แฝงเฝือตดั เรอื ปลอ่ ย เรือกล็ อยตามละลอกแลออกลาํ ดว้ ยคา่ ยไทยคบั คัง่ ต้ังประจาํ อยู่ใตน้ ้าํ ตัดเรือปลอ่ ยลอยลงไป คร้ันสบื การเสร็จสรรพขา้ กลับมา พระยาประทุมเทวาก็ถามไถ่ ขา้ ให้การทกุ ส่ิงตามจริงใจ ตามที่ได้ยนิ แก่หูร้แู กต่ า ฯ ๏ ครั้นกองทัพหวั เมอื งถงึ พรอ้ มหมด จ่งึ กําหนดการศกึ คดิ ปรึกษา จะใครต่ คี ่ายฮ่อต่อศกั ดา ทั้งดา้ นหนา้ ดา้ นในจัดไพร่พล กองพระพรหมยกกระบัตรเมอื งโคราช นั้นองอาจกําลังหนุม่ คมุ พหล ไปตีคา่ ยส่ีสถานริมชานชล จดั แจงคนฉกุ เฉนิ ไมเ่ น่ินนาน สมทบกองทพั ลาวและทา้ วเพย้ี มไิ ดเ้ ปลย้ี ใจพลนั่ คิดหยนั หย่อน แตล่ ว้ นคนชํานาญเคยราญรอน เหลา่ นิกรโยธีเคยมชี ัย ตัวพระยามหาอาํ มาตยเ์ ป็นแม่ทพั นนั้ กร็ ับด้านหน้าท่านํ้าไหล จะตีทพั เรอื กระทบรบเข้าไป จัดแจงไว้เสรจ็ ตามโดยความควร ฯ ๏ ครน้ั เดือนสิบเอ็ดขน้ึ ค่าํ นดั กําหนด พร้อมทงั้ หมดเตรยี มกนั ไม่ผันผวน ตวั พระพรหมยกกระบัตรจัดกระบวน ยกทัพสวนเขา้ ไปล้อมรบพร้อมกนั เขา้ ตีค่ายสีส่ ถานทหารแยก รบฮ่อแตกท่งิ ค่ายหนีผายผัน อา้ ยฮ่อหนเี ข้าในค่ายวัดจัน ทัพไทยไล่กระชนั้ ตดิ ตามมา ซงึ่ พระยาโคราชไมห่ วาดไหว ตีค่ายใหญ่สส่ี ถานหาญหนักหนา อา้ ยพอ่ ฮ่อย่อยยับจงึ่ กลบั มา ต่างหนีพากนั ไปคา่ ยวัดจัน กองพระยาโคราชก็อาจหาญ เขา้ ล้อมดา่ ยใตร้ บดูขบขัน กองพระพรหมยกกระบัตรก็จดั กัน ลอ้ มต้ังมัน่ ด่านเหนอื เห็นเหลอื ดี

พระยายกกระบัตรจดั คนเข้าปลน้ ค่าย พงั ทลายฮอ่ แหกแตกวิ่งหนี เขา้ ในโบสถว์ ดั จนั ด้วยทันที ประตมู มี ันก็ปิดคดิ อุบาย รือ้ กระเบ้อื งขน้ึ บนฝ้าหลังคาโบสถ์ มันยงิ ปืนลกู โดดพิฆาตหมาย มาถูกกองทัพไทยขาดใจตาย ตอ้ งทาํ ค่ายระเนียดต้ังบังลูกปนื กองทัพไทยพร่ังพรอ้ มล้อมอา้ ยฮ่อ ไม่ยน่ ยอ่ ตั้งหนา้ เข้าฝ่าฝืน เหลา่ พวกพลโห่โหมเสียงโครมครนื ลว้ นแตพ่ น้ื พลรอบขอบกําแพง ทง้ั ทัพไทยลาวเข้าล้อมอยู่พรอ้ มเพรียง อยจู่ นเท่ียงสุริยาสอ่ งจ้าแสง เห็นเรอื แหยบหลังกนั ยาหุ้มผ้าแดง ข้ามพายแซงจอดยงั ฝง่ั ชลา สักคร่หู น่ึงกลับเรือเมื้อสํานกั ไม่ประจกั ษว์ า่ ผ้ใู ดใจกังขา ข้าจ่ึงถามพลไพร่เรอื ใครมา เหน็ หลังคาแดงฉาดประหลาดใจ เขาบอกว่าเรอื พระยามหาอํามาตย์ ข้าหลวงราชพศิ วงไม่สงสยั ครั้นว่าคาํ่ สุรโิ ยอโณทยั ฝนตกใหญ่พรมพราํ ในค่ําคืน พวกอา้ ยฮอ่ เปดิ โบสถ์กระโดดหนี แผลงฤทธีแกล้วกล้าฟนั ฝา่ ฝืน กองทัพไทยไลว่ ิง่ บ้างยงิ ปนื อ้ายฮ่อต่ืนหนีไดท้ งั้ ไพร่นาย พระยายกกระบตั รจัดไพร่ตามไปจับ ได้รบรบั ฮ่อแหกวงิ่ แตกหาย บ้างจับได้ตวั เปน็ ที่เดนตาย ทัง้ หญิงชายกองทพั จบั มาตาม ทัง้ ทองลม่ิ เงินตราเครือ่ งอาวุธ ทงั้ ปืนชดุ หอกดาบเก็บหาบหาม ทั้งมา้ เมียมา้ ผู้ดงู ามงาม ทําสงครามมีชัยจบั ไดม้ า ต่างมอบใฎห้พระยามหาอํามาตย์ ของประหลาดมากจรงิ หลายส่ิงสา เสมียนทําบัญชีมบี รรดา ทง้ั เงินตราขา้ วของทองตระการ พวกนายทัพตอ้ งรับสาบานบอก วา่ มิไดย้ ยั อกพสั ถาน ต่างคนกระทําสตั ยป์ ฏญิ าณ กส็ ้ินคําให้การความสตั ย์จริง ฯ ๏ เจ้าพระยาจอมทัพสดบั ชัด ให้เสมยี นเขยี นคัดสั่งนายสิ่ง ระดมเสมยี นมาอย่าประวิง เขียนอย่าทงิ้ ตกซ้ําคําให้การ ครั้นสาํ เรจ็ เสร็จสง่ ลงบางกอก กบั ใบบอกเมืองลาวแจง้ ข่าวสาร ซงึ่ ในเมืองหนองคายทราบรายงาน ซุ่งภยั พาลมไิ ดม้ ีไพรีรอน ส่งไปกราบทูลพระกรุณา ตามเลขาลายจําหลกั คําอักษร กรมการรบั หมดบทจร จากนครราชสีมาเรง่ คลาไคล ฯ ๏ ครัน้ เดอื นยแ่ี รมแปดค่าํ มกี าํ หนด ได้จาํ จดม่นั คงไม่สงสยั

พอท้องตรามาถึงอีกน่ึงใบ พลไพร่บันเทงิ เริงสําราญ หมายใจว่าทอ้ งตราให้หากลบั คนกองทพั ปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ ด้วยหนองคายวายศึกนึกประมาณ ไม่มีการคงหาทัพกลับนคร เหลา่ ไพรพ่ ลกองทพั มาคับค่งั อยากจะฟงั ท้องตราหน้าสลอน เหมือนสัตว์นรกหมกไหม้ในไฟฟอน ทรี่ นร้อนเหลอื กาํ ลงั ประทังตน เหมอื นเหน็ พระมาลัยเสร็จเสด็จมา ปรารถนาจะใหโ้ ปรดประโยชน์ผล สตั ว์นรกว่งิ แซม่ าแจจน เหมอื นไพร่พลกองทพั ท่ีคับใจ ครัน้ ฉีกผนึกออกอา่ นซ่งึ สารตรา บงั คับมาความแจง้ แถลงไข ว่าเมอื งหนองคายน้ีไม่มอี ะไร สน้ิ จากภัยอ้ายฮ่อมาก่อกวน แต่วา่ ทางเมอื งเหนอื ยังเหลอื หลอ ยังมฮี อ่ แวน่ แคว้นแดนเสฉวน มาตงั้ ค่ายรายเนอื่ งอยูเ่ มอื งพวน เขตแดนญวนมากมายหลายตาํ บล แล้วให้เจา้ พระยามหินทรเ์ คาน์ซลิ ลอร์ ใหพ้ ักรอทัพตัง้ ฟงั นุสนธ์ิ ให้รวบรวมพรอ้ มไว้เหล่าไพร่พล จงปรอื ปรนต้งั ใจระไวระวัง แม้นทัพเจา้ พระยาภจู ะจ่โู จม เข้าหักโหมชงิ ชยั เหมือนใจหวงั มีหนงั สือมาขอตอ่ กาํ ลัง อย่ารอรั้งรีบยกทัพบกไป อย่าคอยฟงั ท้องตราจะช้าเนน่ิ การฉุกเฉนิ อยา่ พะวงคิดสงสยั จงรีบยกขนึ้ ไปช่วยด้วยไวไว เปน็ อย่าใหเ้ สียขาดราชการ ฯ ๏ อา่ นทอ้ งตราสาํ เร็จจบเสร็จสรรพ พวกกองทพั ท่ีมาฟงั นง่ั ขนาน ต่างคนต่างรู้จะอยูน่ าน ต้องทรมานทรมาคิดอาวรณ์ ตา่ งคนโศกเศรา้ บ้างเหงาหงอย ล้วนหน้าจอ๋ ยเสียใจฤทัยทอน ซึ่งตัวฉนั แจ้งใจดังไฟฟอน ตามลมร้อนอย่ใู นใจราํ คาญ ฯ ๏ เดอื นยี่แรมสิบเอ็ดคํ่าจะรํ่าเร่ือง บ้านเจ้าเมอื งเหลอื สนกุ โกนจกุ หลาน พนี่ ีจ้ ะดเู ขาทําน่ารําคาญ เสมือนการมหรสพครบลําเนา ปลูกเขาไกรลาสใหญ่ทีใ่ นสระ มที ่พี ระสวดมนตร์บนภูเขา ส่สี ิบองค์สวดสําเนยี งเสยี งไมเ่ บา ที่บนเหย้าบนเรอื นสวดเหมอื นกัน มขี ารําสําเหนียกเรียกกะแจะ ตบมือแปะทะลึง่ โลดกระโดดขนั เจา้ ผูช้ ายรําลอ่ ดงู องนั พณิ พาทยน์ ัน้ โทนกับปต่ี ีกันอึง ท่านเจ้าเมอื งคดิ เห็นให้เป็นสขุ เชญิ เจ้าคุณตัดจกุ คาํ นับถึง เป็นมงคลนับถือไมด่ ื้อดงึ เจ้าคณุ จึ่งไปเหย้าตามเขาเชญิ

เอาละครกองทัพไปเลน่ ช่วย พวกละครมไิ ดข้ วยสะเทนิ เขนิ เลน่ ในการโกนจกุ สนกุ เกนิ คนดเู พลนิ กระไรเลยไม่เคยดู การละเลน่ อ่นื อน่ื มดี ่ืนบ้าน ทง้ั เพลงการแอ่วลาวลนั่ สนั่นหู เวลาคํ่าสนธยาหน้าประตู ดอกไม้รุ่งมีอยเู่ ขาจุดไฟ ดอกไมก้ ระถางรายต้ังจดุ ปังโปง จดุ พลุโพลงตงึ ล่นั เสียงหว่ันไหว ดอกไมเ้ ทยี นพุ่งจดุ สะดุดใจ แสงสกุ ใสสว่างกลางนภา ไฟพะเนยี งเสยี งล่นั สนนั่ คึก คะโครมครกึ อึงหดู งั ซ่ซู ่า ท้งั ดอกไม้ชา้ งร้องชอ่ งสทา ดอกไมม้ ้าวง่ิ ถนนคนกระจาย ท้ังอา้ ยต้ือและตะไลโคมลอยลวิ่ ลมพัดปลวิ เทียมฟา้ ดูหนา้ หงาย คร้ันดอกไมไ้ ฟจุดพอหยดุ งาย ครน้ั รุ่งสายสุรยิ าทวิ าการ คนโกนจุกเดนิ ไปเขาไกรลาส ตีพิณพาทย์บรรเลงวงั เวงหวาน ยิงปนื ตน้ สับสนอลมาน เสยี งสะท้านสะเทอ้ื นสะเทือนกาย ครั้นเมื่อจะตดั จกุ เขาคุกคาม คนร้องห้ามปากเสยี งสาํ เนียงหาย ห้ามพิณพาทยม์ ิให้ตีมีระคาย ครนั้ โกนแลว้ ผันผายเบญจาพลัน เหล่าพระสงฆ์ทกุ องค์ตกั นํ้าสาด คนเกล่อื นกลาดล้วนมอื จับถอื ขนั ต่างคนตกั นํ้าสาดพัลวัน เขา้ ชว่ ยกนั รดนาํ้ ทําชอบกล คนโกนจกุ เสร็จมาผลัดผ้าสี กลบั นงุ่ ผา้ ขาวนน้ี ่าฉงน ต้องน่งุ ขาวสามวนั มันเตม็ ทน แจ้งยบุ ลนา่ หวั รอ่ ใหง้ องัน หรือทาํ ตามเพศลาวชาวบ้านนอก ผิดบางกอกจรงิ จรงิ ทกุ สิ่งสรรพ์ ซง่ึ ประดิษฐ์คดิ คํากลา่ วรําพัน จริงทงั้ นน้ั มไิ ด้แกลง้ มาแต่งการ ฯ ๏ ฝา่ ยวา่ พณะหวั จอมพหล เหน็ ไพร่พลไม่มสี ขุ สนุกสนาน ล้วนงว่ งเหงามิได้มีที่สําราญ จงึ่ คดิ อา่ นแกไ้ ขในปัญญา จดั ละครเล่นสนุกแกท้ ุกข์ทน เห็นไพรพ่ ลพร้อมกันดว้ ยหรรษา ต่างคนต่างแกท้ ุกข์สนุกตา บา้ งเฮฮาเอิกเกริกเบกิ สบาย พวกชาวเมอื งต่างดูมากรกู ราว ทัง้ แกส่ าวพร่ังพรูมาดหู ลาย ท้งั เดก็ เดินเด็กวงิ่ พร้อมหญิงชาย ตะเกยี กตะกายชกั พากันมาอึง พวกละครตวั ดีมฝี มี ือ ไดฝ้ ึกปรือซ้อมประสมเล่นคมขงึ พวกสาวชาวโคราชหวาดคะนึง เสียงกลองตงึ เป็นตอ้ งมาตงั้ ตาดู ลางอนงค์จงภักด์ริ กั ละคร มาหลับนอนตามยศไมอ่ ดสู

พวกละครไม่อดอยากซ่งึ หมากพลู ลว้ นจบั คไู่ ดเ้ มยี เสยี ทุกคน พวกละครน้อยตัวไม่ทัว่ สาว ต่อยดื ยาวทงั้ กองทัพดสู ับสน ลว้ นมีชคู้ ู่ทัว่ ทกุ ตวั ตน ผูห้ ญิงยลรกั งามตดิ ตามมา ทผ่ี ู้ดีหาท่ีรกั ตามศักดส์ิ งู ทเี่ หล่าฝงู หญงิ โคราชทาสทาสา ก็รกั พวกนกิ ายฝ่ายโยธา ตดิ ตามมาอยกู่ นั ออกพันพวั หญงิ โคราชแสนสวาทพวกกองทพั อยากขยบั จะใคร่ไดเ้ ปน็ ผวั ทม่ี ลี ูกสาวแซฝ่ า่ ยแมก่ ลัว ตอ้ งคมุ ตวั ซอ่ นเรน้ เป็นโกลา ทบ่ี างคนมีบ่าวเป็นสาวแส้ ลน่ั กุญแจโซ่ใหญ่ตอ้ งใส่ขา กลัวกองทพั นั้นจกั ไปลักพา ต้องรักษาบา่ วไพรไ่ มส่ บาย ขา้ งเจา้ เมืองโคราชให้หวาดไหว กลัวบา่ วไพรล่ กู เมียจะเสียหาย จะตามพวกกองทัพไปลับกาย เกณฑผ์ ู้ชายน่งั ยามตามประตู ตั้งระวงั ยิ่งยวดเปน็ กวดขัน ด้วยพวกกองทพั นั้นมาเท่ียวอยู่ จะลอบรกั เมยี นอ้ ยคอยเล่นชู้ มใิ หห้ มูก่ องทพั ลอบลบั มา ฯ ๏ วันหน่ึงค้นได้เสอื้ หมวกพวกกองทัพ ในห้องหบั หมอ่ มตวั โปรดโกรธหนกั หนา ท่านพระยากําแหงแผลงศักดา ชําระหาแมส่ ่ือคอื ผใู้ ด ซ่ึงไดผ้ า้ กบั หมวกพวกกองทพั สองสํารับน้ีหวามาแตไ่ หน ถามหมอ่ มปลั่งตัวรกั ซกั วา่ ใคร เอามาให้กบั มึงจนถึงมอื หม่อมอดึ อัดซัดปา้ ยนายทหาร ได้ว่าวานอพี ุ่มรู้เปน็ ผ้ถู ือ ทา่ นพระยาโคราชตวาดอือ หมวกผา้ หือเอามาไว้ทําไมกนั หม่อมเรยี นตามจรงิ จิตจะคิดหนี แปลงอนิ ทรยี ์เปน็ ผ้ชู ายลอบผายผัน พระยาโคราชเตะตบเขน่ ขบฟนั สัง่ ผูกพนั อพี ่มุ เฆีย่ นเจียนชีวัน อีพมุ่ ให้การชดั แล้วซัดใส่ หลวงอะไรท่านมาหาดฉี นั ให้เอาเสือ้ หมวกดําเป็นสาํ คัญ นําผายผันมาใหห้ ม่อมของพร้อมเพรียง ท่านพระยาโคราชตวาดอึง ร้องเหม่นอ้ ยหรอื มงึ จนสดุ เสยี ง เตะอพี ุ่มกลมุ้ กลมลุกลม้ เอียง อพี ุ่มเพียงบรรลยั ขาดใจตาย แล้วใสต่ รวนขานกยางลกู ยางโต ซ้ําสวมโซก่ ลวั จะลีห้ ลบหนหี าย ส่งั คนคมุ อพี ุม่ อย่เู รียงราย ทั้งหญิงชายพิทักษ์พรอ้ มพรกั กัน

เจ้าเมืองนําเสอ้ื หมวกพวกกองทัพ มาร้องกับพระยาราชเสนาน่นั พระยาราชเสนารับมาฉบั พลนั แลว้ กล่าวกลั่นจดหมายตามรายความ มากราบเรียนพณฯ หัวจอมพหล ตามเหตผุ ลชสู้ าวท่ีกล่าวถาม ในเร่อื งราวมีหมดปรากฏนาม ให้เจ้าเมอื งติดตามมากราบเรียน เจ้าพระยาแม่ทัพรบั หนงั สือ กรายกรถอื อา่ นความตามเกษียน สดบั เรือ่ งเบอ้ื งตน้ ดวู นเวยี น เห็นผดิ เพย้ี นเหลอื คดิ ในจิตแคลน ด้วยหญิงหน่ึงมาดหมายผู้ชายสอง เหมือนวันทองคร้งั เบื้องเรื่องขนุ แผน ซ่ึงเรานนั้ ต้องพนั วสาแทน ก็สุดแสนทถี่ วิลตัดสินความ จ่ึงบญั ชาถามนายฝ่ายทหาร จงใหก้ ารโดยจรงิ ส่งิ ท่ีถาม ดว้ ยเรือ่ งราวกลา่ วฉลรุ ะบุนาม จงแจง้ ตามจรงิ ใจหมวกใครมี นายทหารคาํ นับรับบัญชา กราบเรียนวา่ เสือ้ หมวกพวกทน่ี ี่ ของเก่ากระนั้นไซร้มไิ ด้มี ไมเ่ หมือนอพี ุม่ ซดั ความสตั ยจ์ ริง เจ้าพระยาแม่ทัพกลับประภาษ ถามพระยาโคราชไปทุกสิ่ง ซง่ึ จะใหช้ าํ ระความตามประวิง ตอ้ งขอตวั ผู้หญิงมายนื ยัน แม้นจะใหส้ าํ เร็จแลว้ เดด็ ขาด ให้เจ้าเมืองโคราชคิดผอ่ นผัน สง่ ตัวคนกลางมาได้วา่ กัน โดยเทยี่ งธรรม์ยุตธิ รรมคําหารือ น่ีซดั เขาเขาไมร่ บั จับไม่ได้ เปน็ จนใจชาํ ระความตามหนังสอื หรือใครจับเสอ้ื ผ้าได้คามือ จะผกู ถืออยา่ งไรการไมค่ วร แม้นจะใหส้ ําเรจ็ ความเท็จจรงิ ส่งตวั หญงิ มาจ่งึ ชิบให้สอบสวน พระยาโคราชได้ฟงั นงั่ เรรวน ทําหน้าม้วนเหมอื นอย่างงูนางอาย หนังสือพระยาราชเสนากลา่ วหาฟอ้ ง ความข้อสองปรากฏในจดหมาย พวกกองทัพหมกม่นุ ทําวนุ่ วาย เทย่ี วลักนายพาบ่าวของเขาไป ลว้ นหญงิ ทาสชาวนคิ มกรมการ บา่ วชาวบา้ นเชยชิดพิศมัย พวกกองทพั ลักพามารํ่าไป อยู่ทใี่ นเขือ่ นคา่ ยมากหลายคน เจา้ พระยาแม่ทพั สดับเร่ือง วา่ ชาวเมอื งตามกองทพั มาสับสน เปน็ สดุ จะหา้ มใจของไพร่พล ลว้ นเต็มทนพลัดพรากมาจากเมีย หญิงสมคั รรักชายเร่ืองรายน้ี เปน็ สุดทป่ี ราบปรามหา้ มเขาเสีย หญิงก็อยากชายก็ย่ัวจึง่ ปวั เปยี ตา่ งคลอเคลยี รักใคร่ใจของมนั ถึงว่าตวั เรานห้ี ากมีศกั ด์ิ เป็นสุดจดั ยอกยอ้ นคิดผอ่ นผัน

หาไมก่ ็เทีย่ วไปพามาเหมือนกัน เขาเตม็ กลนั้ จะหา้ มปรามอย่างไร ดว้ ยหญิงมนั สมัครรกั ผูช้ าย จงึ หนีหายพยายามตามวสิ ัย แม้นกองทัพลักพาบา่ วขา้ ใคร ใจต่อใจมันพรอ้ มยินยอมกัน ใหเ้ จา้ เงนิ มาร้องฟ้องเถดิ นะ จะชาํ ระให้จรงิ ทกุ สิง่ สรรพ์ ทาสชาวบา้ นท่มี ีสารกรมธรรม์ ทั้งสองนน้ั รกั ใครไ่ ม่เรรวน จะคิดเงินคา่ ตัวใหย้ อมใช้ทุน มิให้ข่นุ เคืองจิตทําผิดผวน ทง้ั นอกกรมในกรมให้สมควร เรง่ ชักชวนกนั มารอ้ งฟอ้ งต่อเรา ล้วนนายทพั นายกองมานองเนอื ง คอยชาํ ระความเรือ่ งบ่าวทาสเขา ใครเร่งมาร้องความตามสําเนา ลว้ นว่างเปล่าคอ่ ยจะชาํ ระความ ตกพนกั งานของฝา่ ยกองทัพ จะคอยรับชําระใหอ้ ย่าได้ขาม แม้นบุตรสาวของผใู้ ดพอใจงาม วง่ิ แรต่ ามกองทัพมาหลับนอน ก็สุดแมพ่ ่อจะยอยก การจะตกลงกันจัดผันผอ่ น ต้องชาํ ระเปา่ ปัดคิดตดั รอน มใิ ห้ราษฎรเคอื งราํ คาญ ถ้าแมน้ ชายพวกมากลากไปฉุด ซง่ึ บ่าวบตุ รขา้ ทาสทําอาจหาญ คงจะตดั สินความให้ตามการ ซงึ่ ชายพาลอย่างนไ้ี ม่มใี คร ทา่ นเจ้าคณุ จงหวังส่งั เสมยี น ให้มาเขยี นตามบญั ชาท่ีปราศรัย ตอบพระยาราชเสนาจะว่าไร คนถอื หนังสอื ไปใหแ้ กดู พระยาโคราชบาดหมางระคางเขนิ ใจสะเทน้ิ แสนระทดจติ อดสู ดว้ ยหาเขานั้นผดิ ตดิ ประตู หมองน่งิ อยฟู่ งั ถามความทั้งปวง เพราะหาโทษเขานน้ั ไม่มั่นคง คร้ันจะสง่ เมยี มาแกข่ ้าหลวง พจิ ารณาวา่ ความตามกระทรวง ก็หงึ หวงสดุ ปัญญาเลยลาไป ครนั้ รุ่งขนึ้ ระบือลอื กันกลมุ้ ว่าอพี ุ่มหนีไมร่ ้ไู ปอยไู่ หน บา้ งวา่ เขาฆ่าตายมนั หายไป ต่างสงสยั หนักหนาพูดจากัน เรอ่ื งหนีนั้นขัดขวางไปทางไหน คนระวงั ระไวตรวจเป็นกวดขัน นายประตนู ัง่ ยามก็ครามครนั เป็นหลายชั้นตามช่องด้อมมองมี ตรวนกโ็ ตโซก่ ็ใหญม่ ิใชห่ ยอก จะตัดออกเหน็ ไม่ไหวมนั ไมห่ นี เจา้ เมืองฆา่ มนั ตายวายชีวี คร้นั เป็นผีสน้ิ ชวี ิตแลว้ ปิดบัง คนในจวนพูดชมุ วา่ อพี ่มุ หนี ข้างคนนอกวา่ เอาผไี ปซอ่ นฝัง ต่างคนตา่ งลือระบอื ดัง การกย็ งั ไม่แทแ้ น่ขา้ งใคร

ความก็เรียบคอ่ ยเงียบสงบหาย ไมแ่ พรง่ พรายตา่ งพินจิ คิดสงสัย ไมม่ ีผรู้ แู้ ทห้ นง่ึ แนใ่ จ ก็เงยี บไปวายคนสนทนา ฯ ๏ คร้นั วนั หน่ึงทราบความตามกระแส ซึ่งทอ้ งตรามาแท้ไม่กังขา ขอ้ ประกาศแกพ่ ระยาราชเสนา ใหม้ ีตราประกาศหมายเมืองรายทาง ห้ามมิใหซ้ ้อื ขา้ วให้ทา้ วเพ้ีย หยุดซื้อเสียเหลือจงเขา้ คงฉาง พวกเรารูแ้ จ้งใจไมร่ ะคาง ด้วยไวว้ างจติ แท้เปน็ แน่ใจ มใิ ห้ซือ้ ขา้ วกลอ้ งจา่ ยกองทพั คงได้กลับมนั่ คงไมส่ งสยั คนท้งั หลายหมายแน่เซ็งแซ่ไป ด้วยจะไดก้ ลบั บา้ นถิน่ ฐานตน ตา่ งกเ็ ตรียมขา้ วของทั้งกองทพั คิดวา่ กลบั แนใ่ จไม่ฉงน คอยรอฟงั ทอ้ งตราถว้ นหน้าคน เป็นกังวลสบื สาวถามขา่ วไป บางคนก็ไปเท่ียวเก้ียวผหู้ ญิง ทาํ สงุ สงิ พากันมาหวั่นไหว ไมว่ า่ เหลา่ บา่ วทาสบังอาจใจ แมน้ รกั ใครลกั พากันมาอึง ข้างชาวเมืองตามร้องฟ้องกันวุ่น จนเจา้ คุณทราบตอ่ หไู ด้รู้ถึง เขามาร้องตรองตรกึ นกึ คาํ นึง คดิ ราํ พงึ ผ่อนผนั เปน็ ฉนั ใด ท่านเจ้าพระยาจอมพหลกังวลหนกั ด้วยเรื่องลักพากันมาหวัน่ ไหว บญั ชาสง่ั ตามกระทรวงหลวงพิชัย ประกาศไปปดิ ประตูร้ อบบุรี แม้นหญงิ ทาสชายพามากองทัพ ใหบ้ อกกบั พระชยั บรู ณ์และขุนศรี กะดานพลโดยตามความคดี ว่าหญงิ หหนตี ามมาสจั จาจรงิ กาํ หนดสามวนั รู้ให้ผู้ชาย จงห่อเงนิ ไปถ่ายคา่ ตวั หญงิ แม้นไม่มเี งนิ ตราอย่าประวิง ส่งตัวหญงิ คืนไปให้กับนาย อย่าให้ป่วยการงานหนว่ งนานวนั ถา้ ดือ้ ดันจะทําโทษตามกฎหมาย ท้ังกองทัพรแู้ จง้ ไม่แพร่งพราย ต่างยักยา้ ยผอ่ นผนั ด้วยปัญญา ขืนลักพาขา้ เขาเข้ามาไว้ ลว้ นเงนิ ไปตดิ ตัวชว่ั หนักหนา ส่งตัวหญงิ คนื ไปไมน่ าํ พา เจ้าเงนิ เลา่ เขาด่าทําโทษทัณฑ์ ซ่ึงอยา่ งนม้ี ีชุมเกล่อื นกลมุ้ หนัก หญิงเฝา้ รักผชู้ ายตาผายผัน นายเขาเฆยี่ นกไ็ มข่ ามอยากตามกัน ดูมนั ขนั ยงิ่ ชมุ มารมุ ไป ท่านเจ้าคณุ แมท่ ัพบังคบั สั่ง ประกาศทง้ั กองทัพบังคับไข ว่าทีหลงั ใครอย่าพาซ่ึงขา้ ไท หา้ มมใิ ห้ลักพาซึง่ นารี ถา้ ผกู รักใคร่กนั จงผันผ่อน วางเงนิ เขาเสียกอ่ นอยา่ ชวนหนี

แมน้ ขนื จักลกั พาฝืนวาที จะต้องมีโทษทณั ฑ์ตามบญั ชา ฯ ๏ ถงึ เดอื นสามแรมแปดค่ําไดจ้ าํ คนื พอ่ จมน่ื ตํารวจใหญช่ ัยภูษา เสร็จจงึ ถงึ นครราชสมี า เชญิ ท้องตราราชสหี ม์ ีสําคัญ กบั ดอกไมไ้ ฟสาํ หรบั รบทัพเจ๊ก และกรวดเล็กเรยี่ วแรงฤทธิแ์ ข็งขนั อีกดินปืนที่ยดั ปศั ตนั หลายร้อยพันสําหรับกองทัพมา ลว้ นของหลวงทรงประทานทา่ นเจ้าคณุ ดนิ กระสุนของอน่ื เคร่ืองปืนผา ถงึ ท่ีทําเนยี บคา่ ยบ่ายเวลา เจ้าพระยาแม่ทพั ออกรบั รอง พรกั พร้อมด้วยเจ้าเมอื งกรมการ แน่นขนานคอยน่ังอยู่ทงั้ ผอง พรอ้ มสรรพนายทัพและนายกอง จ่ึงฉกี ท้องตราอ่านสารโองการ ว่าซงึ่ กองทพั ฮอ่ ทก่ี ่อกวน อยเู่ มอื งพวนนกั หนาลว้ นกล้าหาญ และเมอื งสุยเชียงขวางทางกันดาร ฮ่อประมาณหกรอ้ ยคอยประจญ ใหเ้ จา้ พระยารีบยกทัพบกไป ไดช้ ิงชัยตอ่ ตีใหป้ ี้ปน่ ให้มชี อื่ เสียงไว้ในสกล- ล โลกลน้ ลือนามด้วยความดี ในขอ้ สองว่าด้วยกองเสบียงนน้ั เมืองเวียงจันทไ์ ปเชียงขวางทางวิถี ตอ้ งเดนิ ตามขา้ มเขินเนนิ คีรี เหน็ สดุ ทส่ี ง่ ลําเลยี งเสบียงคน ซง่ึ จะให้พระยามหาอาํ มาตย์ เหลอื ขนาดสง่ เสบียงเลีย้ งพหล ด้วยวา่ ทางเดนิ ยากลาํ บากพล ที่จะขนโคตา่ งทางกันดาร บัดนเี้ ลา่ ได้สง่ั เจ้าพระยาภู จัดแจงดสู ง่ เสบยี งเลย้ี งทหาร ไดม้ ีตราไปกาํ ชบั บงั คับการ ใหค้ ดิ อ่านสง่ เสบียงให้เพียงพอ ฯ ๏ ครั้นสําเร็จเสร็จอ่านซ่งึ สารศรี ความอนื่ มมี ากมายอีกหลายขอ้ ท่านเจ้าคุณได้ฟงั ไม่ร้งั รอ แต่งตอบต่อบังคมลาฝา่ ยุคล บัญชาสัง่ ตามกระทรวงหลวงภักดี ผวู้ ่าที่ยกกระบัตรจดั พหล ให้ถว้ นตามริว้ ทพั กําชบั พล ประจวบจนวนั ดไี ด้ลลี า สัง่ ขนุ โลกนัยนาให้หาฤกษ์ โหรก็เลกิ สมดุ ต้นเท่ียวคน้ หา แลว้ ลงเลขคูณหารอา่ นตํารา แล้วเขียนว่าแม่นมน่ั ซ่ึงวนั ดี ในเดือนสามฤกษเ์ ลิศมงคล รอไปจนคลาดเคล่ือนถงึ เดือนสี่ ข้ึนเจ็ดคาํ่ เมฆเบกิ นั้นฤกษ์ดี รออีกทสี ิบสองค่ําฤกษ์นาํ พล พวกกองทัพทกุ หมตู่ ่างรตู้ วั เตรยี มกนั ท่วั กองทัพดูสับสน ทหม้าหาบหามแตง่ พอแรงตน ทั่วทุกคนแต่งเสรจ็ สาํ เร็จการ

เจ้าพระยาจอมพหลกงั วลนัก ด้วยว่าจักยกพหลพลทหาร ทางโคกหลวงน้ํานน้ั แสนกันดาร จะราํ คาญเคืองใจแกไ่ พรพ่ ล ด้วยพระมหาเทพนัน้ คลาดคลาย มาแต่เมืองหนองคายแจง้ เหตผุ ล กนั ดารน้าํ ลําหนองและคลองชล ทกุ ตาํ บลแหง้ ขอดตลอดทาง เจ้าพระยาพาทมี ีบญั ชา ใหข้ ุนราชเมธาไปสืบสาง ทด่ี ว้ ยเรอ่ื งน้าํ แห้งแหนงระคาง ตามระหว่างท่ีพกั พํานักพล พรอ้ มกรมการทหารหน้า ไปสืบซึง่ กจิ จาเอาเหตุผล กับขนุ หม่นื ริ้วตัง้ ในวงั บน ทง้ั ส่คี นสืบการอย่านานวัน ท้ังสีน่ านคํานบั รบั บญั ชา ต่างคลาดคลาเคลือ่ นคลา้ ยรบี ผายผนั ไปสบื รเู้ สรจ็ สรรพแล้วกลับพลนั ถึงพร้อมกนั หมอบราบก้มกราบเรียน ทางโคกหลวงเหลอื แล้วนาํ้ แห้งขอด ทั่วตลอดจดกะระยะเขียน เป็นหนทางกลางทงุ่ เวิง้ วุ้งเตียน สุดแวะเวียนร่มพักสาํ นักคน ครนั้ เจ้าคุณไดฟ้ ังไมก่ งั ขา จึงปรกึ ษาขอ้ ความตามนสุ นธิ์ ด้วยหนทางที่จะไปพรอ้ มไพร่พล จะปี้ปน่ ทารกรรมน้ําไม่มี จะยกเยือ้ งทางเมอื งพิมายหนอ นํ้าทา่ พอทัว่ ระหว่างทางวิถี พรอ้ มนายทัพนายกองร้องวา่ ดี จะเปน็ ท่ีอาศยั แกไ่ พร่พล หลวงภกั ดียกกระบัตรคนจดั เจน จงึ กะเกณฑห์ มายไปไมฉ่ งน แลว้ เรง่ เกณฑเ์ กวียนชา้ งโคตา่ งคน หวั เมอื งบนสมทบทัพให้ฉับพลนั กรมการเรง่ รัดจัดมาส่ง ไม่ไหลหลงรีบรวดการกวดขนั ตอ้ งรีบรดั จดั หามาให้ทนั บ้างผ่อนผนั หากนิ จติ ยนิ ดี ราษฎรท่มี ีช้างโคตา่ งเกวยี น บา้ งถกู เฆี่ยนดว้ ยนําช้างโคต่างหนี ราษฎรยับเยนิ บา้ งเงินมี เสยี ให้ทกี่ รมการทา่ นผู้เกณฑ์ กรมการได้ทีดีใจหาย ผจู้ ัดจา่ ยหน้าแดงเป็นแสงเสน ได้เงนิ ทองของตระการซา่ นกระเซ็น ดว้ ยจัดเจนเคยฉ้อพอสบาย ทีเ่ กวียนดมี นั่ คงไมส่ ง่ ให้ ยกั ยอกไวซ้ ่อนเรน้ ไม่เหน็ หาย ใหแ้ ต่เกวยี นจวนจกั หักทลาย โคเกอื บตายผอมเตม็ ทีม่ ีแต่โครง จงึ จดั จา่ ยให้กบั กองทัพมา พวกเราวา่ เหลือทนบน่ โขมง กรมการเต็มแค้นช่างแสนโกง ทีป่ ากโป้งด่าว่านินทาดัง ฯ ๏ กองทัพไดเ้ กวียนตา่ งชา้ งสาํ เรจ็ ถงึ ข้ึนเจด็ ค่าํ มสี ีเ่ ดอื นหวงั

กําหนดฤกษ์บริสุทธว์ิ ันพุทธัง พรักพร้อมพรงั่ จัดกระบวนทวนทุกกอง เวลาบ่ายไดฤ้ กษ์เลกิ พหล ดสู ับสนประดาดังคนทั้งผอง เจ้าคุณเสร็จข้นึ น่ังยังจาํ ลอง กล็ ่ันฆ้องโหเ่ ดนิ ดําเนนิ พล ซง่ึ ชา้ งทรงองค์พระปฏมิ า กลบั ผนั หน้าเป็นนมิ ิตคิดฉงน เฝ้าถอยหลงั เดนิ กลับขยับตน หมอไสจนระอาใจไม่ยกั เดิน ผ้คู นร้องวปิ ริตนิมติ ดี ไปครงั้ น้ีคงเป็นสขุ ไมฉ่ กุ เฉนิ นิมติ มงคลดีมีจําเรญิ ไม่นานเน่นิ กองทพั คงกลบั คืน คนเนอื งนองกองทัพดูสบั สน ฝงู ไร่พลเฮฮาตา่ งหนา้ ช่ืน ล้วนใจคอเห้ียมฮึกเสียงครึกครืน้ บา้ งชา้ งตืน่ หันเหียนวิ่งเวียนวน ยกนิกรจากนครราชสีมา มุง่ มรรคาเข้าในพฤกษ์ไพรสณฑ์ ระยะบ้านเรยี งรายหลายตําบล ไมช่ อบกลป่วยการคดิ ราญรอน ข้ามลํานํ้าบริบูรณ์พนู สวสั ด์ิ เร่งรีบรัดจรจรัลไม่ผนั ผ่อน พอถงึ สระธรรมขนั ธต์ ะวันจร หยดุ พกั ร้อมแรมพกั สาํ นกั พล พอขนุ นราฤทธิไกรไปหนองคาย กลับผันผายคํานบั น้อมจอมพหล ทําหนังสือถือตรามาแตบ่ น ขอ้ นสุ นธิ์เจา้ พระยาภูธราภัย ท่านเจ้าคุณแม่ทัพรับหนงั สอื ประจงถืออา่ นแจง้ แถลงไข พรอ้ มนายทพั นายกองเนืองนองไป อ่านแจ้งใจประจกั ษ์ความตามยบุ ล วา่ เมืองหลวงพระบางทางกันดาร ซงึ่ อาหารและเสบียงเลย้ี งพหล เหลือลําบากยากใจแก่ไพร่พล ยอ่ มขัดสนอดอยากลําบากใจ แตซ่ ่ึงอ้ายพวกฮ่อทรลกั ษณ์ ไม่หาญหกั รบราอชั ฌาสัย มาชักชวนหย่าทัพยกกลับไป ต้ังอยู่ในเมืองพวนเห็นรวนเร ได้จดั พระสรุ ิยภักดไี ป ซ้าํ เตมิ ใสเ่ สียใหม้ นั แตกหันเห ในกาํ หนดเดือนสามตามคะเน ใหซ้ วนเซสําทับใหย้ บั เยนิ ในขอ้ สองวา่ กองครัวเมอื งพรวน อา้ ยฮ่อกวนเกิดยุคยามฉุกเฉิน หนมี าสโู่ พธิสมภารประมาณเกิน แยกทางเดินไปเบ้ืองเมอื งหนองคาย ซ่ึงตาแสงแขวงกํานนั พนั ท้ายบ้าน แลพกองก่านกกั ขังครวั ทั้งหลาย ไดม้ ตี ราไปบังคบั กาํ ชับนาย ปลอ่ ยโดยง่ายมิได้ต้งั กักขงั นาน แมน้ เจ้าพระยามหินทร์รูส้ ้ินสรรพ จะมตี ราไปบงั คบั ไปวา่ ขาน ถงึ พระยามหาอํามาตยร์ าชการ ใหน้ ายบ้านปลอบครัวไมพ่ ัวพัน

เหน็ จะดีไม่เสยี ขาดราชการ ครั้นวา่ อา่ นความจบเสร็จสบสรรพ์ เจ้าคณุ แต่งเรือ่ งตามเน้อื ความพลัน หนังสอื น้นั เสรจ็ ส่งให้ลงไป ให้พระยาราชเสนารอู้ าการ ในข่าวสารแจ่มแจ้งแถลงไข ให้คนนาํ หนงั สือถอื ครรไล แต่โดยในวันนัน้ ไมผ่ นั แปร คร้ันจวนแจ้งแสงเสรจ็ สิบเอ็ดทุ่ม ผู้คนกลุม้ อยู่ระเบ็งเสียงเซ็งแซ่ พวกทหารนั้นเล่าก็เป่าแตร คนอดั แอผกู ช้างโคตา่ งพลนั คนพรอ้ มพรงั่ ทงั้ หลายกบ็ ่ายบาก ยกออกจากสระนา้ํ ธรรมขันธ์ เดินกระบวนมาในทางกลางอรัญ สรุ ยิ นั เยี่ยมฟ้าเวลางาย ประจวบถึงพ่งึ เกราเขา้ สํานกั หยุดผอ่ นพกั โยธาเวลาสาย ตา่ งคนเสพอาหารสําราญกาย แตพ่ อบ่ายสุริยาทอ้ งฟ้ามัว พอลมตกยกขยับกองทพั เดนิ ร่มจําเริญแดดแฝงแสงสลัว เหน็ ฝนใหญต่ ้งั ร่ามาน่ากลัว ตลอดทวั่ โดยรอบขอบมณฑล ฯ ๏ คร้ันถึงหนองสะแกแลสะอาด ท่บี นโคกจอมปราสาทกลางไพรสณฑ์ เสรจ็ ปลงช้างหยุดพักสาํ นักพล แรมตาํ บลน้ันคนื รนื่ สําราญ วลาหกตกอยู่เสียงซูซ่ ่า พวกโยธาคบั ค่ังนง่ั ขนาน ไม่มีทบี่ งั ร่มเปียกซมซาน เอาใบตาลบดิ บงั นัง่ ยองยอง บางคนหักได้กิ่งไม้คลุม มาปกสมุ มดิ ชิดบงั ปดิ ของ บรรดาเหล่าชาวพลเปียกฝนนอง ฟา้ ก็ร้องเปรย้ี งครืนดงั่ ปืนยิง พอฝนหายหนาวงันส่นั เหมือนไข้ ต้องก่อไปข้ึนนง่ั พออังผงิ พวกไพร่พลหนาวงันสน่ั เหมือนลงิ มันหนาวจริงจับใจผงิ ไฟลน ฯ ๏ ครัน้ เชา้ มืดตสี บิ เอ็ดพร้อมเสร็จสรรพ คลาเคล่อื นทพั ออกดาํ เนินเดินพหล รงุ่ แสงทองท้องฟ้านภาดล ประจบจนแม่นํา้ ลาํ เชียงไกร นา้ํ ก็เค็มเต็มเหลือเหมอื นเกลือแช่ ลํากระแสนา้ํ แสงสแี ดงใส ก็เสรจ็ ข้ามโยธารีบคลาไคล กเ็ ขา้ ในเขตตําแหน่งแขวงพมิ าย เดินในท่งุ สมั ฤทธพิ์ ินจิ แล ดทู ิวไม้ไกลแท้น่าใจหาย แลเว้งิ วงุ้ ทงุ่ เล่ยี นเตียนสบาย ดูสดุ สายนัยนาพฤกษาทิว

เห็นแนวไมส้ ุดคาดมาตรคะเน ดังทะเลบกชัดลมพัดฉิว ละอองฝนุ่ กลางทงุ่ ขน้ึ ฟงุ้ ปลิว แลละลิ่วเหมอื นอยา่ งกลางทะเล ผู้นาํ ร่องเจนจัดนาํ ตัดทงุ่ เคยหมายมุ่งแมน่ ใจไมไ่ ขว้เขว ชาํ นาญทางหมายมาตรคาดคะเน ไม่โย้เยเ้ ดินมงุ่ ตัดทงุ่ เตยี น พอถงึ หนองโรงเรือชา่ งเหลือรอ้ น จะพกั ผอ่ นยากจติ สถติ เสถียร พอพระพิมายหมอบราบมากราบเรยี น นอ้ มจําเนียรโดยความกลา่ วตามการ เชญิ เจา้ คุณประเทียบทาํ เนยี บร้อน หยดุ พักผอ่ นโดยระยะสระสนาน ทาํ เนียบปลูกไว้ท่าโอฬาฬาร ทรี่ ิมธารโดยระยะขอบสระโต เจ้าคณุ ดีท่ีสดุ วา่ หยุดอยู่ ซึ่งเหลา่ หมทู่ วยหาณประมาณโข พกั กลางแจ้งรอ้ นแสงสรุ โิ ย แดดออกโร่ทําเนยี บหนอไม่พอกัน จะอาศยั ได้แต่เราเข้าไปอยู่ สงสารหมู่เหลา่ ทหารพลขันธ์ ด้วยคนมิใช่ร้อยหลายร้อยพนั จะหยุดน้นั ไม่มีทีก่ ําบงั พระพิมายเลยนําทางตดั ขวางท่งุ เขมน้ ม่งุ ทวิ ไม้ด้วยใจหวัง เขา้ หยุดร่มพฤกษาเปน็ ป่ารงั อยู่ริมฝั่งขอบลําแม่นํ้ามูล เห็นนํา้ ใจใหญ่โตดโู สภา ฝงู มัจฉากุมภิลไมส่ ิ้นสูญ จระเขก้ ม็ ีบรบิ รู ณ์ ดเู พม่ิ พูปรีดาผักปลาชุม บา้ งมีอวนมีแหลงแซเ่ สียง ไดป้ ลาเงีย่ งปลางาหากนั กลมุ้ บางคนต้งั กบั ชอ้ นตอ้ นเข้ามมุ บา้ งกส็ มุ่ ทีต่ นื้ ลว้ นพ้นื ทราย ดูสนกุ น่าสนานในชานชล เหล่าผู้คนเซง็ แซ่กระแสสาย มุจฉาชุมไพรพ่ ลกระวนกระวาย ครน้ั วา่ บ่ายลมตกเสรจ็ ยกพล เดนิ มาในกลางท่งุ มุง่ เขม้น เหลือบแลเห็นฟ้าสลัวมดื มัวฝน พระสุริยศ์ รรี ังสรรคอ์ ันธกล ฟา้ มืดมนธ์ถงึ เบ้อื งเมืองพิมาย กห็ ยดุ พกั พวกพหลพลทหาร ยัง้ ทท่ี ่าสงกรานต์กระแสสาย อยทู่ ่รี มิ ฝั่งน้ํามูลเนนิ พูนทราย พลนกิ สยล้าหลงั ยังไมม่ า บา้ งท้าบวมจะเดินเหินไมไ่ หว บ้างเปน็ ไขต้ อ้ งรอหมอรกั ษา ฝา่ ยว่าเจา้ คุณท่านมบี ญั ชา หยดุ รอท่าพลพองามกว่าสามวัน คร้ันรงุ่ แสงสรุ ิยาฟา้ ระยบั เจา้ พระยาแม่ทัพเสรจ็ ผายผัน ประสาทศิลาพรอ้ มหน้ากัน ซึง่ ตัวฉันพยายามติดตามไป ฯ

๏ คร้นั ถงึ ปราสาทหินเห็นภิญโญ สูงเติบโตน่ใี ครสร้างแต่ปางไหน มหี นา้ บนั มขุ เดน่ เหน็ วไิ ล น่าปลื้มใจมือช่างสร้างบรรจง ช้นั นอกรอบหินขอบกําแพงชิด มีปรางคม์ ขุ สีท่ ศิ แลระหง เสามุขใหญ่หินยันดมู ั่นคง บษุ บงหนิ รบั สลับลาย ลอกลวดลายมะหวดกลงึ งามขึงขํา สง่างาํ้ แลเลิศดูเฉดิ ฉาย ปราสาทขา้ งปราสาทเคียงดเู รียงราย เหน็ แยบคายตอ่ ตดิ สนิทแนว พร้อมร้ัววังคลังหินลว้ นศลิ า ทําหลังคาหินเคียงเรยี งเป็นแกว้ รอบนอกทิมดาบรายงามพรายแพรว แลลว้ นแล้วศลิ านา่ จะดู ในพระราชวงั หลายหลังเรือน ทําเหมอื นเหมอื นรายเรยี งเคียงกันอยู่ เอาศลิ ามาแตไ่ หนกไ็ ม่รู้ ไม่มภี เู ขาใหญอ่ ยูใ่ กลเ้ คียง ไปเก็บหินฉุดลากมาจากไหน แท่งใหญ่ใหญ่ก่อสรา้ งวางเฉลียง อุตสาหะแตง่ ตง้ั เปน็ วังเวียง พิศดูเพยี งเทวฤทธ์นิ ิมติ ทํา มกี ําแพงปราการชั้นดา้ นนอก มขี า้ งทศิ ตะวนั ออกดขู งึ ขาํ เชงิ เทินดนิ ศลิ าน่าประจาํ สงา่ ง้าํ แข็งขนั เหน็ มน่ั คง มีถนนหินทางเดินดําเนนิ ออก จากมขุ ด้านตะวะนออกโดยประสงค์ ไปนครหลวงนครวดั ทางตัดตรง ข้ามฝ่าดงไปในปา่ พนาลี ลว้ นหินมลู กอ่ เหน็ เป็นถนน นา่ ฉงนชมทางหว่างวถิ ี เขาว่าไปแต่พมิ ายหลายราตรี จึงถึงที่นครวัดโดยสัจจงั เมืองน้ีเดมิ พารามหากษัตริย์ พรหมทตั ทราบเร่อื งในเบอ้ื งหลงั สดุ จะรํา่ พรรณนาว่าใหฟ้ งั ขอยบั ย้งั เรื่องนิยายพมิ ายเมอื ง แมน้ อยากรจู้ งดูเรอ่ื งปาจติ ร์ ท่านบัณฑิตกล่าวแกลง้ แสดงเรื่อง ครนั้ จะร่ํากล่าวจะช้าเวลาเปลือง จึงยกั เย้ืองหลีกลดั ตัดนิยาย เจา้ พระยาแม่ทัพบงั คับหวัง บัญชาสง่ั นมิ นตส์ งฆอ์ งคท์ ั้งหลาย มาหมดส้ินตลอดเบอ้ื งเมืองพมิ าย แลว้ ถวายปจั จัยไทยทาน เชิญพระทนตพ์ ระจอมเกล้าพระเจ้าราช ข้นึ เหนอื อาสนป์ รางคห์ ินในถน่ิ ฐาน สดบั ปกรณ์เสรจ็ สําเรจ็ การ แสนสาํ ราญร่ืนเรงิ บันเทงิ ใจ แลว้ เลยเท่ยี วไปกระทง่ั ถงึ ยังถิน่ เรยี งวงั หนิ มลี าํ แม่นํา้ ใหญ่ เห็นชาวบ้านทอดแหเซ็งแซไ่ ป อยู่ท่ใี นชลธาร์แน่นสาชล พวกชาวบ้านนําปลามาคาํ นับ ใหเ้ จา้ คุณแมท่ ัพอยูส่ บั สน

ทา่ นก็แจกเงินท่ัวทุกตวั คน สง่ ให้ขนเอาปลาน้ันมาพลัน มาแจกจ่ายนายทพั กบั นายกอง จิตปรองดองมใิ ห้เคยี ดขงึ้ เดียดฉันท์ คนละหลายหลายตัวแจกทั่วกัน แจกจนชน้ั ไพรพ่ ลคนละตวั ครนั้ ร่งุ แสงสรุ ิยาเวลากาล พวกชาวบ้านชักพามากนั ทั่ว แต่งสาํ รับคบั ขันมาพันพวั คาํ นับพณหวั จอมโยธา เจา้ คณุ เรียกเงินไปแจกใหก้ บั พวกเจา้ ของสํารับทวั่ ถว้ นหน้า สมควรกับของเขาทีเ่ อามา แล้วบัญชาสัง่ ใหพ้ วกไพรพ่ ล ยกสํารบั แบง่ ปันสู่กนั กิน คนไดย้ นิ ยกสาํ รบั มาสับสน แบง่ ปนั กันตามประสาเวลาจน เหล่าผคู้ นได้สมอารมณ์ปอง กองทัพแรมเมอื งพมิ ายหลายราตรี เหล่าโยธีพร้อมพรัง่ สน้ิ ท้ังผอง หายล้าเล่อื ยเมือ่ ยปวดทกุ หมวดกอง จงึ สาํ รองการเดินดาํ เนินพล คร้นั รงุ่ สรุ ิย์ศรีตีสบิ เอ็ด เตรียมพร้อมเสร็จยกเขยื้อนเคลอ่ื นพหล ออกจากเมืองพมิ ายหมายตาํ บล เข้าไพรสณฑ์ออกจากทุ่งมุ่งหนทาง ดูเวง้ิ วุ้งทงุ่ ทวิ แลล่วิ ลับ เดินกองทัพตัดไปทวิ ไม้กวา้ ง ถึงท่าโพหยดุ รอ้ นพักผ่อนพลาง แลว้ ปลงชา้ งหยดุ พักสาํ นักพลนั อยทู่ ่รี มิ ฝ่งั ลําแม่นา้ํ มลู ตา่ งเพม่ิ พนู ปรีดิเ์ ปรมเกษมสนั ต์ ชวนกันลงส่ทู า่ หาปลากัน พอตะวนั บ่านเดินดาํ เนินพล ถึงบ้านศาลาหักหยดุ พักแรม พระจันทร์แจม่ สอ่ งสว่างกลางเวหน แรมสาํ นกั พักอย่พู รอ้ มผคู้ น ริมฝง่ั ชลแมน่ ํา้ มลู เพิ่มพูนใจ ฯ ๏ ครนั้ จวนรงุ่ ตสี ิบเอ็ดพร้อมเสร็จสรรพ ยกกองทัพจรจรัลเสียงหว่ันไหว เดินตดั ท้องท่งุ กว้างหนทางไกล ลึกเขา้ ในป่าละเมาะลดั เลาะจร รีบรัดไม่ร่ังรอมาบหึง บรรลถุ ึงที่พักสํานกั ผ่อน ด้วยสายแสงสุริย์ศรรี ะววี ร หยุดหนองบัวสุกรเวลาการ ครัน้ ร้อนออ่ นแสงสุริยน เหลา่ ไพร่พลปรดี ิเ์ ปรมเกษมศานต์ เสรจ็ คลาเคลอื่ นโยธาไมช่ า้ นาน จากสถานทพ่ี กั สํานกั พลัน ฯ ๏ มาถึงบ้านนางออรอสาํ นกั เขา้ หยุดพักซึง่ พหลพลขันธ์ บา้ นนางออมีผู้เฒา่ เขาเล่ากนั แต่ก่อนน้ันเรอื่ งนทิ านนานเตม็ ที คอื วา่ นางอรภิมน่มิ อนงค์ ไดเ้ ปน็ องคเ์ อกเอ้มเหสี กษตั ริยเ์ มอื งพิมายนยิ ายมี ถ่นิ ทน่ี ้ีเปน็ บา้ นสถานนาง

กห่ี ูกปรากฎต้งั ยังไม่สิน้ คลา้ ยเปน็ หนิ ชัดชดั ไมข่ ดั ขวาง ปรากฎต้งั ประจาํ เหน็ สาํ อาง ชาํ รดุ ร้างพงั หักประจักษ์ตา ด้วยว่าของน้นี น้ั หลายพันปี เรื่องราวน้ฉี ันไม่แสร้งแกล้งมสุ า เป็นเรอ่ื งราวโบราณนมนานมา คอื เรอื่ งปาจติ รน์ น้ั จงอ่านดู ตรงนเี้ ดมิ สร้างเมืองแต่เบื้องหลงั แตค่ ราวครัง้ พรหมทตั กษตั รยิ ์สู่ มีเชงิ เทนิ เดินรอบเป็นขอบคู ปรากฏอยตู่ าคนจนทกุ วัน ฝา่ ยกองทพั รอรงั้ ตง้ั สงบ จวนจะพลบพร้อมพหลพลขันธ์ พวกไพร่พลตงั้ ลอ้ มอยพู่ รอ้ มกัน เปน็ ชัน้ ชน้ั รมิ ลําแมน่ ํ้ามลู นํา้ มูลเอ๋ยดักหนา้ เฝ่สมาคอย พบบ่อยบ่อยอาบกินไมส่ ิ้นสูญ ฉนั คิดคิดข้ึนมายงิ่ อาดรู ไม่เพ่ิมพนู โหยหาแสนอาลัย แต่มิ่งมิตรของพีต่ ้องนริ าศ ชา่ งหายขาดมไิ ด้เห็นเป็นไฉน เฝา้ พบแต่แมน่ าํ้ มูลรํ่าไป แม่ขวัญใจอนจิ จาไม่มาเยือน ต้ังแต่พ่เี ริศร้างห่างสวาท ช่างหายขาดดงั คนขดี เอามีดเฉอื น แตพ่ ลดั พรากจากมาห้าหกเดอื น ไม่พบเพ่อื นพิศมยั อาลัยลาน เวลาคํ่ายาํ่ ฆ้องมตี ีสบิ เอด็ พรกั พรอ้ มเสรจ็ พหลพลทหาร ยกจากบา้ นนางออไมร่ อนาน เสยี งสะท้านสะเทอื้ นพระธรณิน ด้วยฝีเท้าคนเดนิ ดําเนนิ ดงั มาคบั คง่ั ในป่าพฤกษาสิน ลมระบายชายชวยมารวยริน รุ่งแสงทนิ กรอัมพรแดง ฯ ๏ ครัน้ ถึงหนองหว้ ยหมสู สู่ ํานกั เข้าหยดุ พกั พลนิกายพอสายแสง สู่ทาํ เนยี บที่สร้างไวก้ ลางแปลง มาจดั แจงเรียบร้อยคอยเจ้าคณุ ตา่ งจดั แจงปลงช้างโคต่างหยดุ บา้ งก็มุดเข้าอาศยั อย่ใู ต้ถุน บา้ งขนของเอะอะชลุ มนุ บางคนวนุ่ เวยี นหววิ หิวไม่พัน พอบ่ายแสงสุริยาฟ้าพายัพ ยกกองทพั พร้อมนกิ ายจะผายผัน ข้ามทอ้ งทงุ่ เขา้ ทางกลางอรญั มงุ่ หมายมน่ั เดนิ ผา่ ปา่ สะแก กเ็ สรจ็ ขา้ มแม่นํา้ ลาํ สะแทก เปน็ ลําแยกจากมลู ศูนยก์ ระแส สิน้ เขตแดนพมิ ายเมอื งชําเลอื งแล เข้าแขวงแควเมอื งลาวชาวอรญั ฯ ๏ ครั้นถึงหนองช้างนํ้ามีทําเนยี บ หยุดประเทยี บพกั พหลพลขนั ธ์ ถึงขอบหนองดูตามนามสําคัญ ชา้ งนาํ้ น้นั อยู่ไหนจงึ ไม่ยล หรือตัง้ ชือ่ ย้อนยอกแกล้งหลอกพลาง เหน็ แตช่ า้ งกองทัพอยู่สับสน

ลงสูใ่ นวารินดื่มกนิ ชล ออกเกลื่อนกลน่ หนองน้าํ คละคลํ่าไป กร็ อร้ังต้ังทัพอยู่ยับยง้ั คนกต็ ้งั แวดล้อมพรอ้ มไสว ทงั้ ด่านนอกหอกทหารอยู่ดา้ นใน พลไพรพ่ รกั พรอ้ มต้งั ล้อมวง กรมการพรอ้ มพรง่ั มาคงั่ คับ ท่านเจ้าคุณออกรับดังประสงค์ เขานํามา้ สีดาํ มุ่งจาํ นง ตง้ั ใจจงน้อมเกลา้ ให้เจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณแมท่ พั ไมร่ บั ไว้ ทา่ นคนื ให้เขาพลนั ไม่หนั หุน ด้วยกริ่งเกรงหัวเมอื งจะเปลืองทนุ กลวั บญุ คุณเขาจะติดไม่คิดปอง ฯ ๏ ครั้นพลยคาํ่ ยํ่าแสงสุริยง คนล้อมวงพร้อมพร่ังส้ินทั้งผอง ท้ังด้านนอกด้านในสมุ ไฟกอง บา้ งตเี กราะเคาะฆ้องกระแตตี พอกรมการมาพรอ้ มนอ้ มจํานง ว่าเมอื งพุทไธสงนา่ บดั สี มีอ้ายผรู้ ้ายมารบราวี ชาวบรุ ีจวนจะแตกวง่ิ แหวกทาง อ้ายผ้รู ้ายพูดสาํ เนียงเสียงประหลาด เหมอื นโคราชไดฟ้ ังชดั ไม่ขดั ขวาง ขอบารมีชว่ ยดบั ความอับปาง เหมอื นกอ่ สรา้ งพุทไธสงให้คงเวยี ง ท่านเจ้าคณุ ฟังแจง้ แถลงไข เป็นการใหญฟ่ งั ศัพท์สดบั เสียง จงึ เอนโอษฐป์ ราศรยั แลว้ ไล่เลียง เห็นแท้เที่ยงขอ้ ความตามคดี บญั ชาเยอ้ื งสั่งเจ้าเมืองบุรีรัมย์ ซ่ึงมานําหนทางกลางไพรศรี ไปจับผรู้ า้ ยมาในราตรี กับขนุ สัจจวาทอี กี หน่งึ นาย หลวงพชิ ยั เสนาอาสารบั จะไปจบั พวกปลน้ คนทั้งหลาย ท่านเจ้าคุณอนุญาตต่างคลาดคลาย พรอ้ มสามนายรีบไปในราตรี ซึ่งกองทัพอยูท่ างยงั ห่างเมือง คอยฟังเรอ่ื งผู้รา้ ยจะหน่ายหนี หรือจะจับได้มันในทนั ที จนฆ้องตีสบิ ท่มุ คนกลมุ้ กนั เสรจ็ เดนิ กระบวนทัพไมย่ ับย้ัง พรอ้ มสะพรงั่ ไพร่นายเตรียมผายผัน สวา่ งแจ้งแสงสีระวีวรรณ ก็พร้อมกนั จรมาไม่ชา้ นาน เข้าในเขตเมอื งใหญ่พทุ ไธสง คนเรยี กคงนามส้นิ ทกุ ถ่ินฐาน มีชือ่ มาแตป่ ฐมกาลนมนาน จะประมาณหมายม่ันหลายพันปี พิศดเู มอื งใหญ่พทุ ไธสง เห็นม่นั คงคกึ คกั เป็นศักดิ์ศรี เชงิ เทินดนิ ล้อมรอบขอบบุรี หนองนาํ้ มรี อบเมืองตดิ เน่ืองกนั ถึงทาํ เนียบข้างประเทียบประทบั พัก หยุดพร้อมพักพหลพลขนั ธ์ ขนของส่งลงวางปลงช้างพลนั บ้างหมายมนั่ ร่มไมด้ ้วยใจจง

ฝ่ายหลวงพชิ ัยเสนาพาอ้ายคน พวกทีป่ ลน้ เขา้ ในพุทไธสง เข้ากราบเรียนพรง่ั พร้อมน้อมจํานง โดยม่นั คงเรยี นแยกแตแ่ รกมา เม่อื มาถึงเหน็ เหลา่ พวกชาวเมอื ง จดั แจงเครือ่ งหาบวิง่ ท้งิ เคหา จวนจะแยกแตกหนีหลกี ลลี า มาดแม้นชา้ แล้วแตกแยกกนั ไป หากมาทันปราบปรามห้ามว่าชา้ เราจะฆา่ อ้ายคนร้ายหายไปไหน ซ่งึ พวกลาวชาวบรุ ีต่างดใี จ มากราบไหว้ร้องใหช้ ่วยด้วยขอรับ ท้งั เจ้าเมืองกรมการคลานเข้าหา แล้วบอกวา่ มคี นปลน้ ไล่ขับ เด๋ียวนี้อย่โู รงเหล้าแยง่ เอาทรพั ย์ ช้าขยับมันจะไปไมไ่ ดม้ ัน แลว้ เกลา้ ผมตรงไปพอได้พบ มันล้หี ลบแอบนง่ิ วิ่งถลัน เอามา้ ล้อมควบไลเ่ กือบไม่ทนั จงึ บอกมันขืนวงิ่ กูยิงตาย ต้องยอมให้จบั ตวั มนั กลัวปืน นิง่ หยุดยนื กับท่ไี มห่ นีหาย คอื พวกในกองทพั น่าอบั อาย มาทาํ รา้ ยปล้นสดมภก์ รมการ พวกโคราชคนหน่ึงก็ถงึ จติ มันคบคิดกนั มาจึงกล้าหาญ กับดว้ ยพวกกองทัพมารบั งาน ซงึ่ ชาวบ้านตงั้ บญั ชีตีราคา รวมเงินตามอยู่ในสามตาํ ลึงเศษ เรียนตามเหตุทีล่ าวเขากล่าวหา เจ้าคณุ ไดท้ ราบพลนั มีบัญชา เอาตัวมาชําระดใู ห้รูค้ วาม อ้ายผูร้ ้ายเป็นสจั แล้วซัดเพอ่ื น ไม่แชเชอื นเรยี นรับบังคับถาม เจา้ คุณทราบระบลิ ตดั สินความ ใชเ้ งินตามของท่ีตรี าคา ใหม้ ุลนายออกเงินใช้ให้เจา้ ของ แล้วรับรองตวั พทิ กั ษ์ดรู ักษา แม้นวันได้ชาํ ระจะเอามา ตะโหงกคาใส่ประจําทาํ ประจาน ฯ ๏ เวลาคํ่ายํ่าฆ้องตสี องทุ่ม ผู้คนกลมุ้ ม่ีฉาวแจง้ ข่าวสาร เห็นพระพิมายหมอบราบมากราบกราน เชิญซ่งึ พานทอ้ งตรามาแตก่ รุง คนกองทัพรขู้ ่าวว่ิงกราวกรู อยากจะรวู้ ิง่ โลดกระโดดผลุง ต่างคนมาคอยฟงั นง่ั กนั มุง ใจเฟ่อื งฟุง้ ชักพากนั มาฟงั ฝา่ ยเจ้าพระยาแม่ทพั รับท้องตรา พรอ้ มบรรดานายทัพมาคับคง่ั ฉีกผนกึ อา่ นเสียงสาํ เนยี งดัง ในขอ้ บังคบั คาํ ลํ้าวิไล ใหก้ องทพั ยับยั้งต้ังนี่กอ่ น อยนู่ ครราชสีมาอย่าไปไหน พวกกองทพั โยธตี า่ งดีใจ ไดก้ ลบั ไปโคราชสมมาดปอง ต่างเปรมปรีด์ิดีใจจะได้กลบั นอนไมห่ ลับยินดีไมม่ ีสอง

ตา่ งคนเหมิ ใจฮกึ นึกคะนอง บา้ งโห่รอ้ งสกั รวาเสภาองึ ทเ่ี หล่าคนเจ็บไขไ้ ปไม่รอด ครางออดออดครา้ นเกียจนอนเหยยี ดขึง ยินขา่ วกลับโคราชหวาดคะนงึ ลกุ ทะล่งึ หายไข้ไดท้ นั ที เจ้าคุณแจง้ ทํานองในท้องตรา จงึ ปรกึ ษาปล้มื เปรมเกษมศรี ว่าจะทําฉนั ใดไฉนดี ท้องตรามบี ังคบั ใหก้ ลับไป ซ่ึงนายทพั นายกองสนองตอบ ตา่ งเหน็ ชอบพร้อมกนั เสยี งหวนั่ ไหว ด้วยต่างคนเปรมปรดี ิค์ ิดดีใจ อยากจะใคร่กลับโคราชไม่ขาดคน ครั้นตีสบิ เอด็ ทมุ่ คนกลมุ้ เกลือ่ น ยกเขยอ้ื นกองทพั กลับพหล หยดุ พักระยะน้าํ หลายตาํ บล ประจวบจนถงึ โคราชมงุ่ มาดมา ส่ทู ําเนยี บเกยพกั สํานักก่อน สโมสรเกษมสันตห์ รรษา ตา่ งคนเปน็ สุโขท้งั โยธา พรอ้ มถว้ นหนา้ ชุม่ ชื่นต่างคืนคง เมื่อวันหน่ึงจึงเจา้ คณุ ชําระเร่อื ง อ้ายหกคนปลน้ เมืองพุทไธสง ผกู เฆยี่ นหา้ สบิ ทีตมี ันลง แล้วกส็ ง่ จําคุกให้ทุกข์ทน มิให้เปน็ เยี่ยงอย่างไปขา้ งหน้า พวกพาราเกะกะอกศุ ล เฆีย่ นเป็นตัวอย่างไว้แก่ไพร่พล จะได้ยลเกรงระยอ่ ไมก่ อ่ การ ฯ ๏ ครั้นถึงวันสน้ิ ปีเดือนสี่สุด เป็นวันตรุษปรดี ิเ์ ปรมเกษมศานต์ โอเ้ ราเอ๋ยจากมากช็ ้านาน จะประมาณหกเดือนไม่เคล่ือนคลาย พวกชาวเมอื งว้าวุ่นทําบุญทาน เกษมศานต์พรอ้ มพรัง่ สน้ิ ท้ังหลาย ลว้ นแตง่ ตวั สวยฟ้อกอ่ พระทราย ท้งั หญงิ ชายพร้อมไปไพรผ่ ู้ดี กองทพั ฝ่ายเรากก็ ่อพระทราย ทง้ั ไพร่นายปรดี ์เิ ปรมเกษมศรี ตา่ งจัดคนมาท่วั ว่งิ ววั ดี เล่นกนั ทห่ี น้าทําเนยี บเปรียบกันดู เลน่ กันถึงเงินทองตอ่ รองกัน วงิ่ กนั วนั มากมายหลายหลายคู่ เหลา่ ฝูงคนคับคงั่ มาพร่ังพรู ออกเกรยี วกรูไม่เคยเหน็ เล่นพนนั พวกเมืองโคราชมาวิ่งนา่ ชม ชอ่ื วา่ อา้ ยเทียมลมตวั ขยัน มาวิ่งกับกองทพั รบั พนัน วิง่ เดิมพนั ชั่งหนง่ึ เสียงองึ อล ชาวโคราชทําปอ๋ ร้องตอ่ ม่ี หกเอาสพ่ี วกเรารบั ร้องสบั สน

โคราชหมายมชี ัยไมจ่ าํ นน มนั ต่อล้นสองเอาหน่งึ เล่นถงึ ใจ พอตัดเชอื กปลอ่ ยหางต่างวางว่งิ มันเร็วจรงิ ฉุยฉิวดหู วิวไหว ววั กองทัพวง่ิ ดีก็มีชัย พอฉวยไดธ้ งแดงแกวง่ ให้ดู ววั โคราชวิง่ แต่แพก้ องทัพ ตา่ งคนอัปยศแสนอดสู พวกเราเฮฮาดังว่ิงพรงั่ พรู บางคนรเู้ ตน้ รําทําประจาน บา้ งหวั เราะเยาะเย้าพวกชาวเมือง นกึ โกรธเคอื งเมนิ หนา้ ไมว่ ่าขาน ชาวเมืองเสียเงนิ ยับอัประมาณ สนกุ สนานที่สดุ เม่ือตรุษไทย ฯ ๏ ถงึ เดอื นสี่หกคา่ํ จําไว้ส้ิน พระราชรินถึงพลันเสียงหว่ันไหว เชญิ ทอ้ งตราเสร็จถึงอกี หน่ึงใบ กองทพั ไดแ้ จง้ ข้อวิ่งสอฟงั เจา้ พระยาแม่ทพั รบั ทอ้ งตรา พรอ้ มบรรดานายทัพอยู่คับคั่ง กรมการพรอ้ มหน้าประดาดัง ไม่รอรง้ั ฉกี สารออกอ่านพลัน ในสารตรามมี าถงึ แม่ทพั ใหย้ กกลับคนื ไปไอศวรรย์ ใหเ้ ร่งรดั จดั แจงดแู บง่ ปัน ปัศตนั กระสุนปนื คนื นคร แต่ส่วนหนึ่งให้พระยามหาอํามาตย์ ตามพระราชดําริสั่งดงั อกั ษร กรมเขนทองขวาซ้ายนายนิกร พระราชวงั บวรนัน้ ขึ้นไป สมทบทพั กับพระยามหาอํามาตย์ อย่าใหข้ าดรวิ้ ทพั บงั คับไข จดั ทํานาหาเสบียงพร้อมเพรยี งไว้ อยทู่ ีใ่ นหนองคายจงหลายพัน แล้งปีชวดอัฐศกได้ยกทัพ เขา้ ประจญรบรับใหค้ บั ขัน อยา่ ใหต้ งั้ มัว่ สุมชุมนมุ กนั ในเขตขัณฑเ์ มืองพวนให้ควรการ กรมทหารอีกกองไปหนองคาย ทง้ั ไพรน่ ายสําหรับจัดหัดทหาร ใหพ้ วกลาวไวว่องคล่องชํานาญ ประจัญบานรบฮ่อตอ่ ศกั ดา แต่กรมพระสัสดีมใิ หข้ าด พระพบิ ลู ยพ์ ระชาติปีกซา้ ยขวา กรมเรอื กันท้ังสองตามทอ้ งตรา บงั คับมาเสร็จสรรพใหก้ ลับไป แต่กรมพลพรรคน์ น้ั มีแจง้ กรมแสงเสรจ็ สรรพบังคับไข จงยกกลับพร้อมเพรยี งคนื เวียงชัย ตา่ งดีใจไดส้ มอารมณป์ อง นา่ สงสารพวกท่ีต้องไปหนองคาย ทง้ั ไพร่นายง่วงเหงาจิตเศร้าหมอง ทกุ หมวดกองเหงาหงอยโศกสร้อย อนจิ จานา่ สังเวชนํา้ เนตรนอง ครวญ ขา้ งพวกเราน้นั ไซร้จะไดก้ ลับ ทั้งกองทัพฮาลัน่ เสียงสนั ตส์ รวล

เอกิ เกริกเริงร่านา่ สาํ รวล แต่แลว้ ลว้ นกลบั คืนหนา้ ชืน่ บาน แตเ่ จ้าคุณแมท่ พั จะกลับถ่ิน จติ ถวลิ ใจพะวงคิดสงสาร จะพลัดพรากจากไปอาลัยลาน เหล่าทหารท่จี ะตอ้ งไปหนองคาย เคยร่วมสขุ ทกุ ข์ยากจะจากกัน จะนบั วันว่างเว้นําม่เหน็ หาย สงสารดว้ ยพหลพลนิกาย จะแพร่งพรายพลัดไปไกลกันดาร แลว้ ท่านจัดพร้อมเพรยี งเสบยี งกรงั ขนมปังกนิ ยดื ทง้ั จืดหวาน ปลาซาดนิ อนิ ทผาลําท้งั น้าํ ตาล ท่านเจอื จานแจกจา่ ยทกุ นายพล ทงั้ พรกิ เกลอื เยื่อเคยนมเนยนอก แลว้ สั่งบอกไพรม่ ารบั อย่สู ับสน ซงึ่ ขา้ วของกองคละอยปู่ ะปน ผู้คนขนคนละกองของดดี ี ฯ ๏ คร้ันเดือนห้าล่วงเข้าขึ้นเก้าค่าํ เปน็ วนั กาํ หนดทพั กลบั กรุงศรี ทั้งนายไพรส่ ขุ เกษมจติ เปรมปรดี ์ิ เสยี งองึ มพี่ ร้อมพรกั คึกคกั คน พวกจะไปหนองคายผนั ผายมา เขา้ อาํ ลาคํานับน้อมจอมพหล ตา่ งตรมตรองหมองมัวทุกตัวคน เนตรนองชลธาราให้อาวรณ์ ท่านเจ้าคณุ ออกรบั สดับคํา ท่านกร็ ่ําวาจังกล่าวส่ังสอน แล้วเลยร่ําคาํ ประภาษประสาทพร กล่าวสุนทรโดยตามความอาลัย เดมิ ท่านอย่พู รอ้ มหน้าข้าพเจ้า บัดนีเ้ ล่ามีกรรมทาํ ไฉน ต่างคนเราต่างจะหา่ งไป โดยแต่ในวนั นล้ี ับลกี้ นั พวกทา่ นไปได้ลําบากความยากเย็น จงให้เป็นสามัคคดี ีขยัน อย่าถอื เปรียบตง้ั ปงึ่ ทําขงึ้ กัน จงหมายม่ันราชการอย่าคร้านใจ ต่างคนทําอําลาหน้าสลด ต่างกําสรดหมน่ หมองไม่ผ่องใส แสนโศกเศร้าโศกาด้วยอาลัย ตา่ งกไ็ ปเตรยี มตวั ทว่ั ทุกนาย ท่านเจ้าคณุ แมท่ ัพขยับยา่ ง มาข้นึ ชา้ งพร้อมพหลพลท้ังหลาย เหลยี วหลงั ดผู ู้ทีต่ อ้ งไปหนองคาย ทา่ นไม่วายอาวรณ์ถอนฤทัย คร้ันได้ฤกษแ์ ล้วใหเ้ บิกกระบวนทัพ ยกพลกลบั พร้อมกันเสียงหวัน่ ไหว พวกกองทพั โยธตี า่ งดีใจ ด้วยจะได้กลบั บา้ นสาํ ราญมา พวกชาวเมอื งเนอื งหน้าออกมาดู ยืนเป็นหมูเ่ รียงรายทั้งซ้ายขวา บ้างตามสง่ กองทพั จนลบั ตา ด้วยคบหารกั ใคร่พอใจกัน เดนิ กองทัพมาทางโพกลางตรง พระสรุ ยิ งแสงสายรีบผายผัน พน้ บา้ นยา่ นยาวราวอรญั มงุ่ หมายมั่นที่พักสํานกั พล

ครนั้ ถึงท่ีเขาลาดอาวาสใหญ่ หนุดอาศยั สาํ นักพกั พหล บา้ งปลดมา้ ปลงชา้ งแล้วต่างคน อาศยั ต้นรม่ ไมใ้ บกําบงั ท่านเจ้าคุณอาศยั ในศาลา อยู่ยงั อารามใหญ่ดว้ ยใจหวัง พร้อมพหลโยธาประดาดงั เข้ายบั ยั้งอยหู่ นา้ พระอาราม ท่านเจ้าคุณมศี รัทธาปัญญายง นิมนตส์ งฆห์ วงั ผลกุศลสาม ท้งั สีว่ ดั ให้มาทง้ั อาราม ด้วยมีความเจตนาศรัทธาทํา เชิญพระบรมทนต์สูบ่ นพาน เคร่อื งสการแลสลอนวางซ้อนสาํ พระสงฆม์ าติกาครบพอจบคาํ สมภารนําพระขยบั สดบั ปกรณ์ เจ้าคณุ ถวายปัจจยั ใหพ้ ระสงฆ์ ถว้ นทุกองคน์ ่ังรบั สลับสลอน แล้วแจกเงนิ ศิษยว์ ดั จัดเป็นตอน ที่ฝึกสอนคดิ เขยี นร่ําเรียนมา ครนั้ เสรจ็ สรรพสดับปกรณ์แลว้ ก็คลาดแคล้วเขา้ ในไพรพฤกษา ออกทงุ่ เขา้ ทางกลางวนา พระสรุ ยิ าเยน็ ย่าํ ลงราํ ไร ถงึ หนองตะแบกหยดุ พักสาํ นกั แรม พระจนั ทร์แจ่มกระจา่ งสว่างไสว เอาเสอื่ ปูพรมลาดคาดผ้าใบ ทอ่ี าศัยแห่งเจ้าคุณและมุลนาย พวกกองทัพยับยั้งอย่ทู ั้งส้ิน หงุ ตม้ กินกนั เป็นทวิ หวิ ใจหาย คร้นั เสรจ็ สรรพหลับนอนผ่อนสบาย พอจวนงายแสงสว่างกลางอมั พร ก็เดินกองทัพมาคบั คั่ง ไมร่ อร้งั รีบรุดไมห่ ยดุ หย่อน ถึงสองเนินเดินทงุ่ หมายมุ่งจร หยดุ พกั รอ้ นริมฝ่ังนํา้ ลําตะคลอง พวกชาวบา้ นมาพรอ้ มพรง่ั มาค่งั คับ หาสาํ รับจัดเอาซงึ่ ข้าวของ ข้าวเหนียวปั้นปลารา้ ผักต้มฟักทอง คนละสองสามชามตามกาํ ลัง เป็นมากมายเหลือเลห่ ์คะเนนับ เคยได้รบั เงินเฟื้องแตเ่ บอื้ งหลงั จึงชักชวนกนั มาประดาดงั มากกวา่ ครง้ั คราก่อนเมอื่ จรมา ทา่ นเจ้าคุณแมท่ ัพนับเงินให้ พวกลาวได้สมมาดปรารถนา คนกองทัพยกสํารับท้งั ข้าวปลา ดว้ ยเวลาแสบท้องหาของกิน เมอื่ หยุดทพั โยธาพลากร ตะวันรอนอ่อนแสงพระสุรยี ส์ นิ้ ฝนชะอ่มุ กลุม้ ฟา้ เมฆาฆนิ ผกู พร้อมหมดคชสนิ ทร์กญุ ชรชาญ เคลื่อนโยธีจากทสี่ ํานักพัก ดพู ร้อมพรักดว้ ยพหบพลทหาร ตา่ งคนเริงร่นื ช่ืนสําราญ เดนิ ไม่นานขา้ มนา้ํ ลําตะคลอง ถงึ ทางแยกมรคาพระยาไฟ แยกหน่ึงไปพระยากลางเป็นทางสอง

ท่านเจ้าคุณการณุ ไพร่ด้วยใจปอง ได้ตรึกตรองไว้แตเ่ ดิมเมื่อเร่มิ มา เพราะเหน็ วา่ วลาหกตกไม่หา่ ง จะไปทางพระยาไฟเกรงไข้ปา่ ดว้ ยทางดงพระยาเยน็ เปน็ ระอา กลัวโยธาเดินทางจะวางวาย เมอื่ ข้ึนมาพหลมาป่นป้ี ถกู ไขผ้ ีป่าก้ินเสยี สิ้นหลาย เมื่อขากลับจะต้องกันอนั ตราย เดินอยกย้ายมรคาหามงคล จงึ ไดย้ กพลไพร่ไปโดยทาง พระยากลางถึงว่าจะตอ้ งห่าฝน กไ็ ม่เกิดความไข้แกไ่ พรพ่ ล ทางไม่ย่นตดิ จะยาวถงึ เกา้ วัน เดนิ ทางมาในกลางพนาวาส ถงึ ยังเมืองโคราชดคู ับขนั เป็นเมืองแก่แต่บรุ าณมานานครนั เดยี๋ วนนี้ ้ันกลายเปน็ ชาวนาคร เชงิ เทนิ ดินสงู เดน่ เช่นผู้เฒา่ เป็นเมอื งเกา่ แรกสร้างแตป่ างกอ่ น แขง็ แรงกําแพงรอบขอบนคร ดถู าวรแต่งตั้งแต่คร้งั ใด เดนิ ทัพเขา้ ทางผ่านกลางเมือง แลชําเลอื งพฤกษาปา่ ไสว ถามกรมการว่ากว้างทางเทา่ ไร พวกวดั ได้หา้ สิบเส้นนบั เป็นวา เดนิ ทางมาไม่นานประมาณครู่ ออกประตตู ะวันตกรกพฤกษา เจา้ คุณหยุดชา้ งอยู่ทาํ บชู า ซ่งึ เทวาอารกั ษโ์ ดยภกั ดี สงิ สถติ ทเ่ี รืองในเมอื งเก่า จงช่วยเป่าปดั ร้ายในไพรศรี อย่าใหโ้ ทษพารามายายี ใหโ้ ยธีกองทพั ไดอ้ ับจน ครน้ั เสร็จทําบูชาศลี าเลือ่ น รบี คลาเคลื่อนกองทัพมาสับสน แสวงที่หยุดพักสํานักพล พระสุรยิ นเยน็ ย่ําลงรําไร ครน้ั ถงึ หนองบวั บานบา้ นแกน่ ท้าว มีหนองยาวเว้ิงว้างทงั้ กว้างใหญ่ ก็พกั หยุดกองทพั โดยฉับไว เป็นสมัยมดื ค่ําฝนพราํ พรม พวกชาวบ้านชกั พากันมาวุ่น หาเจ้าคุณพดู สาํ เนียงยิ่งเสียงขรม วา่ อยากเหน็ เจ้าคณุ บญุ อดุ ม ขอเชยชมบญุ ญาบารมี ทา่ นเจ้าคุณแมท่ พั ออกรบั หน้า เอาเงนิ ตราแจกลาวชาววิถี แลว้ พดู จาถามทักโดยภักดี พวกลาวลลี ากลบั ไปฉบั พลัน ครน้ั รงุ่ แสงสุริยาฟา้ พะยบั ยกกองทัพเดินทางกลางไพรสัณฑ์ ไมห่ ยดุ ยง้ั แรมราราวอารัญ พระสรุ ิยนั สายแสงแจ้งอัมพร ฯ ๏ ถึงบา้ นหนองบัวมีท่ีทําเนยี บ หยุดประเทียบช้างสํานกั เข้าพกั ผ่อน หุงข้าวปลาหากนิ ทินกร จะเรง่ ร้อนรบี เดนิ ดาํ เนินพล

เพราะดว้ ยนํา้ เบอื้ งหน้านั้นหายาก จะลําบากแกส่ ัตว์เพราะขัดสน ซึ่งโคตา่ งชา้ งมาบรรดาคน จะอับจนดว้ ยนํา้ จาํ ครรไล คร้ันเสรจ็ เสพโภชนาเวลาสาย ทงั้ ไพรน่ ายพรอ้ มกันเสียงหวน่ั ไหว กเ็ รง่ ผูกชา้ งม้ารีบคลาไคล ยกเข้าในป่ารงั ไมร่ ั้งรอ ก็รบี เดินกองทัพมาฉับเฉียว ไมล่ ดเลย้ี วมุ่งมาดมาปราดปร๋อ นํา้ ไม่มตี ดิ กระบอกจะกรอกคอ คนเดนิ ท้อถอยหลงั ประทังตน ทินกรรอ้ นนกั บ่ายสักโมง ถงึ วังโล่งหยุดสํานกั พกั พหล มแี อง่ นํ้าพอได้อาศัยคน แต่เตม็ ทนกลา้ํ กลืนเหมน็ ข่ืนคาว มอี ีกแหง่ หนงึ่ ลกึ ถงึ วา กวา้ งสกั หา้ หกศอกนํ้าออกขาว มนี ้าํ พออาศัยไม่ใหญย่ าว ปะเม่อื คราวมกี ารกนั ดารเดิน เจ้าคณุ บัญชาสงั่ ทง้ั กองทพั ทา่ นกําชับดว้ ยทางยังหา่ งเหิน นาํ้ ขา้ งหนา้ หายากลําบากเกนิ ใครอยา่ เลนิ เล่อจิตชีวิตวาย ตกั นํ้าใส่กระบอกไปจงให้ทวั่ สําหรับตวั จะได้กินสน้ิ ท้งั หลาย ดว้ ยยามแลง้ แห้งหมดจะอดตาย เรง่ ขวนขวายนํ้ากรอกกระบอกไป พวกกองทัพรับบัญชาหากระบอก บา้ งตัดไมไ่ ผ่ปอกอยขู่ วักไขว่ เสียงเปาะเปกโปกปากถากไวไว คนละใบสองกระบอกเสียงออกองึ ตา่ งหานาํ้ เตรียมตัวทว่ั ทกุ หมู่ หยุดพกั อยวู่ งั โล่งสกั โมงคร่ึง สาํ เร็จกจิ ทงั้ หลายวายคะนงึ เสร็จแลว้ จึงออกเดนิ ดาํ เนินพล เจ้าคุณมาบนช้างทางคะนึง รา่ํ บ่นถึงเทวดาขอฟ้าฝน ด้วยมาทแี่ คบคับจวนอับจน ดว้ ยขัดสนด้วยน้าํ คดิ รําพึง แล้วคิดถึงคณุ ทูลกระหม่อมพระจอมเกลา้ ระลกึ เอาเป็นต้นเฝา้ บ่นถงึ ด้วยเปน็ ที่นับถือไมด่ ือ้ ดึง โปรดนาํ ซึง่ วลาหกมาตกลง ได้อาศยั นํา้ ฝนคนและสตั ว์ ไมข่ ้องขดั สมตามความประสงค์ จะได้ดับคับแค้นในแดนดง ขอฝนจงตกใหท้ ันในวนั เดยี ว กเ็ รง่ เดนิ รีบรุดไม่หยดุ หย่อน ถึงบ้านใหม่แกงรอ้ นโดยฉบั เฉยี ว พอเกดิ ลมบ้าหมมู ากรูเกรียว พอฝนเขยี วลมปลิวละล่วิ ลอย ฯ ๏ ถงึ ทําเนียบชา้ งประเทียบประทบั พกั หยุดสาํ นักที่ทําเนียบรอพอสักหน่อย พริ ุณร่วงรุดโรยลงโปรยปรอย ฝงู คนคอยม่งุ มองที่รองราย พอสักครซู่ ู่ซ่าลงมาใหญ่ ตา่ งรองได้น้ําฝนคนละหลาย

คนและสตั ว์นอ้ ยใหญ่ไดส้ บาย ครน้ั ฝนหายเหือดพลนั ในทันใด ท่ที ้องห้วยลําธารในย่านหนทาง ท่วมท้องช้างลงพงั พาบอาบอาศัย ทัง้ ชา้ งโคกลํา้ กลืนได้ช่ืนใจ มแี รงไปภายหน้าไดว้ ารนิ ฯ ๏ พอเช้ามดื ตีสิบเอด็ พร้อมเสร็จสรรพ ยกกองทัพเดินไปในไพรสิน รีบเรง่ เดินลดั หลีกดงั ปกี บิน ตั้งพักกินข้าวปลาข้างหนา้ ทาง คร้นั อรณุ รุ่งฟา้ เวลาเช้า เกือบจะเข้าปากดงตรงสว่าง ก็เดินดงตรงผา่ พระยากลาง ในหนทางรกหนาลดาวัลย์ ในดงทึบดูทวั่ คลมุ้ มัวมดื เปน็ พงพืดซ้อนซับทางคบั ขนั เรง่ รีบเดนิ เพลินมาในอารัญ รบี ผายผันโดยยากออกปากดง สักสามโมงเศษสงั เกตไว้ กพ็ น้ พงดงใหญไ่ พรระหง เดนิ เลยี บเนินเขาใหญไ่ ถลลง หนทางตรงรีบเดนิ ดาํ เนินพล ขา้ มเขาเหวตาบัวน่ากลัวโข ดใู หญ่โตสงู เย่ียมเทียมเวหน มีเขาใหญ่สงู ชันอยู่ชนั้ บน แลเหลือบยลแหงนฟา้ ดตู าลาย จาํ เพาะมีมรคาสองวาศอก แลเป็นหมอกมืดมิดใจจติ หาย ข้างขวามอื เขาชนั กีดกน้ั ราย ข้างเบอื้ งซ้ายเหวลึกคดิ นกึ กลัว จะลึกสักเทา่ ไรเรา่ ไม่รู้ ไม่อาจดูขนพองสยองหัว แมน้ ตกลงคงเหลวเหวตาบัว ระวงั ตวั พลัดตกหกคะมาํ หนทางเดินลกึ ไกลไถลตรง กลวั ชา้ งลงเดินเลยี บเหยียบถลํา ชา้ งเดินลากขาหลงั มนั ช่างทํา กบู เอยี งคว่ําขา้ งหน้าเมอื่ ขาลง ถงึ ท่ีต่ําขา้ มลาํ พระยากลาง เข้าเดินทางทิวไมไ้ พรระหง เข้าแขวงเมืองบัวชุมเห็นพุ่มพง ตัดทางตรงมาทําเนยี บประเทยี บพกั อยู่เชิงเขาบังเหยลมเชยฉา่ํ รมิ ฝง่ั นา้ํ พระยากลางต่างประจักษ์ คนหิวจริงวิงเวยี นเจียนจะชกั ถงึ บ่ายสกั สามโมงท้องโลง่ มา ด้วยอดขา้ วเชา้ หวิ ใจหวิววุ่น จิตฉิวฉุนโมโหเกดิ โทสา บา้ งทงิ้ หาบผลุงหุงขา้ วแล้วเผาปลา พวกโยธาพกั ผ่อนอ่อนกาํ ลัง เลยพักแรมอยนู่ ้ันไม่ผนั ผาย ด้วยวัวควายช้างมา้ เดินล้าหลงั ไม่รบี รุดหยดุ หย่อนผ่อนประทัง กย็ บั ยง้ั ที่นัน่ ไม่ผันแปร ครั้นพลบค่าํ สนธยายํ่าราตรี น่งั ชมสีแสงสว่างกระจา่ งแข คอ่ ยสา่ งโศกโรคราํ คาญฤดานแด อากาศทน่ี ีด่ แี ทห้ อมร่นื รวน

ลมพระพายชายเชยรําเพยผิว เย็นฉิวฉิวนํ้าคา้ งพรมเมือ่ ลมหวน หอมระเร่อื ยเฉอ่ื ยฉ่าํ กลิน่ ลําดวน เมื่อจะจวนรุ่งแจง้ แสงหริ ัญ พอสวา่ งสุริยาส่องอากาศ เสร็จคลาคลาดกองทพั โดยคบั ขัน เดินทางมรคาพนาวัน พระสรุ ยิ ันแรงรอ้ นอ่อนกําลัง ข้ามลาํ พระยากลางเรยี กว่าท่ามะกอก แล้วเดินออกทุ่งใหญด่ ว้ ยใจหวัง พนิ ิจชมพฤกษาล้วนปา่ รัง แลสะพร่งั ดเู พลนิ จําเรญิ ใจ ข้ามลาํ พระยากลางช่อื ว่าทา่ มะกอ ก็หยุดรอพักรอ้ นผ่อนอาศัย ครนั้ อ่อนแสงสรุ ยิ ากค็ ลาไคล ยกครรไลออกทางชมยางยูง ข้ามลาํ นํ้าสันนทีต้องปริปาก ช้างเดนิ ยากจริงจรงิ ตลิง่ สูง ลางคนเดนิ จดจอ้ งบ้างตอ้ งจงู ทเี่ หล่าฝงู คนเดินเกินระอา ฯ ๏ ถึงท่าปนู แรมสํานักพักอยู่ทีน่ น่ั คร้ันสุรยิ นั สว่างกลางเวหา ก็ออกเดนิ กองทพั คับค่งั มา กํานันพานําทางไม่คลางแคลง เข้าป่ารังบังรม่ พระสรุ ยิ น เสรจ็ เดนิ พลขา้ มลาํ แม่น้ําแห้ง เรยี กลาํ สันนทีใหญ่ไม่ระแวง บ้านประแดงจองกอพอกลางวัน ฯ ๏ ถงึ ท่าฉางลาํ สกั หยุดพกั รอ้ น สโมสรปรีด์เิ ปรมเกษมสนั ต์ เหลา่ กรมการเมืองบัวชุมมากลมุ้ กัน ของกาํ นลั มาคาํ นับรบั เจ้าคณุ เจา้ พระยาแม่ทัพออกรับรอง ซ่งึ ข้าวของกํานลั ไม่หนั หนุ ท่านนับเงินตราใหช้ ่วยใช้ทุน มใิ ห้บญึ คณุ ตดิ ดว้ ยคิดอาย ซ่ึงขา้ วสารราคาต้งั ใหถ้ ังหนึ่ง สองสลึงราคาชาวนาขาย ซาํ้ แจกเงนิ ใหเ้ ขาฎท้งบา่ วนาย ท้งั หญิงชายตามประดามาด้วยกนั อีกเสือ้ ผ้าแจกใหข้ อบใจเขา คิดจะเอาบญุ คณุ ไม่หนุ หัน กรมการดใี จไดร้ างวลั แลว้ ผายผนั เสร็จกลับคํานับลา คร้ันวา่ บ่ายลมตกยกขยับ เดินกองทพั เขา้ ในไพรพฤกษา เห็นเขาใหญข่ วางกั้นอรญั ญา ช่ือเขาตากลิ้งขวางหนทางจร เห็นคิรดี ีแทแ้ ลคลา้ ยคลา้ ย นกึ ไมว่ ายหายกร่ิงรปู สงิ ขร แลแตไ่ กลชอบกลเหมือนคนนอน มีกายกรไหล่หวั ตัวและมอื เขาว่าสงั กรณตี รีชวา บนยอดผาตากริ่งมจี ริงหรือ เป็นแต่คาํ คนเขามาเลา่ ลือ หาตวั คอื ใครไดก้ ็ไม่มี ฯ

๏ ถึงท่าสาํ โรงสําลกั จวนจักค่าํ ต่างขา้ มนา้ํ ปลมื้ เปรมเกษมศรี ข้ามตรงตื้นพนื้ ทรายสบายดี ดวู ารีใสสะอาดมหี าดทราย เขาว่ามีจระเข้เดรจั ฉาน ตวั ประมาณโตใหญด่ ใุ จหาย ถํา้ มันเนาอยู่ในเขาตากับยาย ด้วยเชงิ ชายเขายั้งกระทง่ั ธาร เสร็จข้ามนํ้าลําสักหยุดพกั เนา รมิ เชงิ เขาตากับยายชายละหาน เขา้ เขตแขวงเมืองไทยไชยบาดาล กรมการมาคํานับคอยรับรอง พักแรมทัพอยทู่ ี่นนั่ ไม่ผนั ผาย คร้ันจวนงายพรอ้ มพรงั่ พลทง้ั ผอง จวนอรณุ รุ่งแจง้ เร่ือแสงทอง ออกเดินกองทัพใหญค่ รรไลจร ถงึ ท่หี ว้ ยเดนิ ขา้ มถึงสามแห่ง สรุ ยิ แ์ สงสอ่ งฟา้ ระอาอ่อน ก่ึงทา่ ลาวลาํ สักพักนกิ ร สํานกั ผอ่ นพอประทงั กําลังตน เหลา่ พวกชาวนคิ มกรมการ ในเมอื งไชยบาดาลมาสับสน พร้อมทงั้ บ่าวทงั้ นายมาหลายคน ด้วยกังวนคอยรบั กองทัพมา เจ้าคุณแจกเงนิ ให้ไม่เสยี ดาย ทง้ั บ่าวนายสมมาดปรารถนา บ่ายลมตกเดินไดก้ ไ็ คลคลา ยกโยธากองทัพเลยลับไป ถึงบ้านโคกถลงุ เป็นท่งุ กว้าง คนมาสรา้ งเคหาอยู่อาศัย มีเรอื นหลายสิบหลงั ช่งั กระไร มาอยใู่ นกลางปา่ ทาํ นากนิ เจ้าคณุ เลอื กเงินขาวขาวแจกชาวบา้ น กระทาํ ทานสดุ จะนับเสียทรพั ยส์ นิ ชาวบา้ นไดเ้ งินตราไมร่ าคิน ต่างคนยินดไี ด้ดงั ใจจง ฯ ๏ ครนั้ กองทัพลว่ งพ้นตาํ บลบา้ น เขา้ เชงิ ชานเขาใหญไ่ พรระหง เปน็ เหลี่ยมคูลดหล่ันสงู ชนั ตรง ชือ่ เขาพระยาเดนิ ธงอยรู่ มิ ทาง เข้าประเทศเขตเบ้อื งเมืองพระบาท รีบคลาคลาดพน้ เขาลาํ เนาขวาง ล้วนปา่ ไมใ้ หญ่สงู ต้นยงู ยาง ตน้ แคคางเคยี่ มมะค่าพญารัง ครนั้ ถึงหนองกระดีท่ ส่ี ํานกั กแ็ รมพักหยดุ ทัพคนคับคัง่ ล้วนออ่ นพับหลับนอนออ่ นประทัง ครั้นรุ่งรังสสี วา่ งกระจา่ งพราว เสร็จคลาเคลอื่ นเขยื้อนยกขยบั เดนิ กองทัพโยธเี สียงมีฉ่ าว เหล่าคนเดินพร่ังพรูมากรูกราว เสยี งฝีเทา้ คนสะเท้อื นเมอ่ื เคล่อื นคลา เขา้ ปากดงวงั ส้มร่มชอ่มุ ด้วยยางพุม่ ไสวใบพฤกษา บังแฝงแสงสสี รุ ยิ า ทใ่ี นปา่ ดงคลุม้ ชอุ่มมัว ศลิ าหลายอยา่ งต่างตา่ งสี อยู่ในพื้นปฐพีตลอดทั่ว

มาตง้ั ทาํ หินได้แลว้ ไม่กลัว คงเอาตัวรอดไดเ้ หน็ ไม่จน ไมต่ อ้ งใช้หนิ ฝร่งั แล้วคร้งั น้ี เมอื งไทยมีมากถนัดไม่ขัดสน ถา้ ทําวังทาํ วัดแลว้ จัดคน ข้นึ มาขนสง่ ไปเห็นได้การ ด้วยหินอ่อนลายสะอาดประหลาดเหลือ งามท้งั เนื้อละเอียดดีสสี ัณฐาน มมี ากมายหลายลน้ พน้ ประมาณ จะทาํ บ้านปูวดั ไมข่ ัดเลย เจ้าคุณใหค้ นสาํ รวจตรวจดูทวั่ เก็บเอาตัวอย่างมาไม่ชาเฉย ใหพ้ วกชา่ งหนิ ดูท่ผี ู้เคย ก็ชมเชยเนอื้ ศลิ าไมร่ าคิน ฯ ๏ มาถงึ ดงบ่อทองมองเขม้น ไมแ่ ลเหน็ ทองจติ คิดถวลิ เขาว่ามีอยใู่ นใตแ้ ผน่ ดิน แต่ลว้ นหินคนจะขดุ ก็สดุ แรง แตก่ ่อนมาคนปองขดุ ทองคํา ครั้นทําทําขุดพบกระทบแขง็ ท้ังโตทง้ั หนาศิลาแดง เอาชะแลงเข้าขุดสดุ กาํ ลงั สิน้ มานะจึงไดล้ ะไมล่ งขดุ เพราะส้ินสดุ ความคดิ ที่จิตหวัง คนเราทกุ วันนไ้ี มอ่ นิ ัง ทองอยทู่ ั้งดงใหญ่ไมน่ ําพา ฯ ๏ ครน้ั ถึงท่ีโป่งตะแบกไมแ่ ยกย้าย เดินเลียบชายเขาไศลใหญ่หนักหนา อย่กู ลางแจง้ บงั แสงพระสุริยา สงู เย่ียมฟ้าแลเปน็ ควันยอดบรรพต ครัน้ ออกจากชายดงเดนิ ตรงมา ถึงทีโ่ คกตากฟา้ ร้อนปรากฏ เดินกองทพั ฉบั เฉียวไมเ่ ล้ยี วลด รบี ขบั คชสารเปน็ การไว ครน้ั ถงึ พุกําจานมีธารนา้ํ เข้าหยุดสาํ นักร้อนผ่อนอาศยั พอออ่ นแสงสรุ ิยาก็คลาไคล เรง่ ครรไลรีบรน้ มาลนลาน มาถงึ ท่พี ุทธบาทสมมาดหมาย ทั้งไพรน่ ายปรดี ิเ์ ปรมเกษมศานต์ ต่างคนเอิกเกรกิ ใจเบกิ บาน และเขา้ นมัสการพระบาทา พวกชาวบา้ นพร้อมพรง่ั มานั่งราย หวงั จะขายเทียนธูปและบุปผา ฝ่ายเจ้าเมืองกรมการลนลานมา คลานเข้าหาเจ้าคุณอยู่วุ่นวาย จับปลาแห้งแตงกวามาคํานับ เจ้าคุณรับขอบใจเขาไม่หาย หยิบผ้าเส้อื แจกให้ไมเ่ สียดาย ทัง้ บ่าวนายแจกเงินให้ดังใจจง พกั แรมหยุดอย่ทู ี่พทุ ธบาทน้นั หวงั จะวนั ทาตามความประสงค์ ด้วยทา่ นเจา้ คุณคดิ มจี ติ จง หวงั จาํ นงในมนสั นมัสการ ครนั้ พรอ้ มดวงพระหลวงทั้งปวงแล้ว กค็ ลาดแคล้วขึ้นไปในสถาน เข้าในโบสถบ์ วรรัตนช์ ัชวาลย์ หัตถป์ ระสานโดยสุภาพกราบวันทา

แลว้ อาราธนาพระสงฆ์มาองค์หนึ่ง สําแดงซ่ึงธรรมวิเศษเทศนา ครั้นเคารพจบคําพระธรรมา ถวายผ้ากับปัจจัยไทยทาน แลว้ นิมนต์สงฆม์ าทัง้ อาวาส วัดพระบาทด้วยศรัทธาทา่ นกลา้ หาญ เชญิ พระทนต์ขึน้ เสร็จเสดจ็ พาน แล้วกราบกรานบังคมบรมทนต์ นิมนต์สงฆ์ทรงสดบั ปกรณ์ แลสลอนพระอันดบั นงั่ สับสน ถวายปจั จยั พระไม่ปะปน แล้วแจกคนผู้รักษาพระบาโท เสร็จสรรพกลับมาสู่สาํ นัก ทแี่ รมพกั ผอ่ นทุกข์เย็นสโุ ข คร้ันจวนแจง้ แสงสสี ุรโิ ย จวนอโณทัยแลว้ คลาดแคลว้ จร ออกทางหลวงล่วงพ้นไม่วนวก ถึงศาลเจา้ เขาตกเชงิ สงิ ขร เจ้าคุณเสรจ็ ผันผายถวายพร แลว้ รีบรอ้ นเร่งเดินดําเนินพล ฯ ๏ มาถงึ บางโขมดเหน็ โบสถ์วดั เจา้ คณุ ศรทั ธาใครไ่ ดก้ ุศล ดํารพิ ลางบญั ชาใชส้ ่งั ใหค้ น ไปนิมนต์สงฆม์ าขา้ งอาราม ถวายเงินแก่พระสงฆอ์ งคล์ ะบาท ไม่หว่นั หวาดตระหนจ่ี ิตจะคดิ ขาม เด็กศิษยว์ ัดแจกให้เปลอื งเงนิ เฟอื้ งงาม ด้วยมีความศรัทธาปญั ญาชาญ ฯ ๏ ครน้ั มาถึงทา่ เรอื เหลอื วิเศษ สวา่ งเนตรเหมอื นถึงซงึ่ สถาน ประดจุ ดังไดส้ บพอ้ งพบพาน ซ่ึงบตุ รหลานภรรยาทีร่ าแรม ต่างคนตา่ งดใี จดว้ ยไกลบา้ น เกษมศานต์สกุ ใสหัวใจแจ่ม บ้างพบปะพวกพ้องร้องอะ๊ แฮม บ้างยิ้มแย้มทายทกั รจู้ ักกัน ชาวท่าเรือที่พวกพอ้ งตอ้ งไปทัพ ยนื คอยรับลกู ผวั ตวั กระสัน ไดป้ ะพบกันใหมใ่ หม่ชื่นใจครัน บางคนนัน้ คอยเปล่ายืนเศรา้ ใจ พอเขาบอกว่าผัวของตัวตาย ลงทอดกายกล้ิงซบสลบไสล บา้ งโหยหวนครวญครํ่าแล้วร่ําไร ด้วยผัวไปกองทัพไม่กลับมา บา้ งมชี ู้รูว้ ่าเจ้าผวั ตาย ทําฟมู ฟายราํ่ ไรร้องไหห้ า ทําตรอมตรมซมซานดว้ ยมารยา กลวั แต่วา่ ผวั หายไม่ตายจริง แตท่ ี่แทน้ ยิ มอยากชมชู้ ถ้าผัวอยู่กลวั จะน่งุ เกิดยงุ่ ย่ิง เขาบอกว่าผวั ตายวายประวงิ นึกกร่งิ กริ่งร้องไห้กลัวไม่ตาย ฯ ๏ คร้นั มาถงึ ศาลาท่าสมเดจ็ เจา้ คณุ เสร็จจรจรัลรีบผนั ผาย ต่างคนลงปลงชา้ งของวางราย ม่งุ มาดหมายอาศัยในศาลา ดว้ ยไมม่ ีนาวาขึน้ มารบั ตอ้ งแรมทัพรอคอยละหอ้ ยหา

คอยดูเรอื มารับยิ่งลบั ตา จนเวลาเทศกาลสงกรานตไ์ ทย ตอ้ งอยู่ทีศ่ าลาใหญห่ าเรือ รําคาญเหลือหมน่ หมองไม่ผ่องใส ยามสงกรานต์ไม่เปน็ สขุ สนกุ ใจ สักเม่อื ไรเรอื จะมาคอยทา่ นาน ณวนั หนึง่ เรอื ถึงมาทอดท่า ล้วนนาวาจอดเรยี งเคียงขนาน เรอื ข้นึ มาสอสอเกนิ พอการ ดว้ ยพวกบ้านหมายใจจะไมพ่ อ เรือโตโตข้นึ มาเป็นวา่ เล่น เจ้าคณุ เหน็ ตกใจน่ใี ครหนอ จดั เรอื แพมาชัง่ ไม่รั้งรอ เหมือนเงนิ บ๋อกระเปา๋ อู๋ไม่รูก้ าร มหิ มายใจว่าเราไดข้ องกาํ นัล คงสําคัญใจจติ คดิ วิตถาร จะมอี ะไรดว้ ยไปราชการ คําโบราณขาว่าตํารามี ไม่เห็นน้าํ รีบรดั ตัดกระบอก จะต้องออกแรงแบกแหวกวิถี กระเปา๋ อ๋เู งินบ๋อก็พอดี สมกับที่จัดเรือมาเหลอื พาย ครัน้ เรอื แพนาวาพร้อมมาเสร็จ วนั แรมเจด็ คํา่ เดือนหา้ เวลาสาย ท่านเจ้าคณุ จดั แจงตบแต่งกาย เสร็จผนั ผายสู่ทา่ นาวาพลัน เจ้าคณุ ลงแลว้ บอกใหอ้ อกแจว ต่างคลาดแคลว้ ปรีด์เิ ปรมเกษมสันต์ เรือมาคว้างคว้างพอกลางวนั ถึงวงั จนั ทเกษมตา่ งเปรมปรีด์ิ แลเห็นเรอื กลไฟพระภัยรัตน์ ท่านได้จดั ข้นึ มารบั ประทับท่า ฝ่ายวา่ เจา้ คุณท่านมีบญั ชา เข้าจอดหน้าวงั จันท์ดว้ ยทันที แลว้ ให้หากรมการเจ้าบ้านเมือง มาแจง้ เรื่องกองทัพกลบั กรุงศรี ตามแบบอยา่ งราชการบุราณมี ดว้ ยบัดนีก้ องทพั จะกลับไป ด้วยวา่ มีท้องตราให้หากลับ บอกคํานบั ช้ีแจงแถลงไข แล้วเสร็จออกนาวาลว่ งคลาไคล เรือกลไฟจูงมาในสาคร ถึงวดั เชงิ จอดประทบั เขา้ กับทา่ แวะนาวาจอดเรยี งเคียงสลอน เจ้าคณุ ขน้ึ จอ้ งจดบทจร ชลุ ีกรพระใหญด่ ้วยใจจง แลว้ เชญิ พระบรมทนต์ข้ึนบนวัด ด้วยจติ ศรทั ธาปลืม้ ไม่ลมื หลง แจกเงนิ ให้ผู้เฝ้าเหล่าเฮยี กง นมิ นต์สงฆห์ มดมาท้งั อาราม สดบั ปกรณพ์ ระทนต์ยุคลบาท พระจอมปราชญ์ซงึ่ บาํ รุงกรงุ สยาม ถวายแผ่อุทิศผลกศุ ลตาม เพราะด้วยความกตัญญรู พู้ ระคณุ คร้นั สาํ เรจ็ เสร็จตรงลงนาวา เรอื ไฟพาอีกพักใบจักรหมุน ผลกั เรือออกกลางนา้ํ ถ่อค้าํ จนุ ควนั ไฟกรนุ่ กลุ้มมาในสาคร

เรอื ละลิ่วลว่ิ มาเวลาสาย แสนสบายสโุ ขสโมสร ไม่แวะเวียนแหง่ ใดครรไลจร เรง่ รีบรอ้ นเรือเร่ือยแล่นเฉื่อยมา เรือเลยพ้นออกจากคลองปากเกรด็ เจา้ คุณเข็ดคนจะครหา เพราะดว้ ยการทา่ นไปทางไกลมา ไมเ่ หน็ ว่ามสี ิ่งใดไปใหป้ ัน บัญชาให้เรอื ฉดุ รอหยดุ จักร เข้าจอดพักด้วยอายไม่ผายผัน จะรีบรดั ขัดขวางเปน็ กลางวนั ดว้ ยกระช้ันถึงบา้ นราํ คาญใจ เข้าจอดรอใหย้ ํ่าคํา่ สักหน่อย จงึ จะคอ่ ยไปให้ถงึ จึงจะได้ คร้ันจอดอยชู่ ้านานรําคาญใจ แลว้ เลยไปท่าอฐิ คดิ บรรเทา ด้วยมะปรางท่าอิฐติดจะลือ จะต้องซอ้ื ไปใหม้ ากไดฝ้ ากเขา แมน้ ใครทวงออกปากของฝากเรา จะต้องเอามะปรางให้เห็นไดก้ าร เท่ียวถามซ้ือมะปรางใหญ่กไ็ ม่พบ แจวจนจบทั่วสนิ้ พน้ ถิ่นบ้าน ดว้ ยจวนวายคลายผลไม่ทนทาน มะปรางหวานหน้านีไ้ ม่มีโต ครั้นจวนเย็นแลว้ กก็ ลบั มาฉบั พลัน ด้วยตะวนั จวนจักบ่ายอักโข สั่งเรอื ไฟให้ลอยปล่อยบุโล ออกแล่นโร่รบี มาเวลากาล ฯ ๏ ถึงกรุงเทพทวาราเวลาเยน็ พอแลเห็นปรดี ิ์เปรมเกษมศานต์ ดว้ ยไปทพั กลับมานน้ั ช้านาน จะประมาณเจ็ดเดิอนไม่เคลอ่ื นคลาย ถึงเดือนหา้ แรมแปดคา่ํ ถว้ นคาํ รบ พอดีครบเจ็ดเดอื นเหมอื นยงั หมาย จติ เอิบอ่มิ มาในเรอื เหลือสบาย คอ่ ยวางวายทุกขใ์ จอาลัยวรณ์ ฯ ๏ จบฉบบั ทัพเรอื่ งเมืองหนองคาย สิน้ จดหมายแกมนิราศคลาดสมร ซง่ึ ตัวข้าผแู้ ต่งแสดงกลอน ขออวยพรแต่งไว้เร่ืองไปทัพ ล้วนความจริงไมแ่ กล้งมาแต่งปด ได้จําจดผกู พันจนวันกลบั ถึงความร้ายการดีท่ีล้ีลับ ไดส้ ดับเรือ่ งหมดจาํ จดมา ซง่ึ บางพวกไม่ไดข้ ้นึ ไปทัพ บางคนกลับผูกจติ ริษยา แล้วกลา่ วโทษตฉิ นิ แกล้งนนิ ทา ขอดคอ่ นว่ากองทัพเสียยับเยนิ ทเ่ี หล่าพวกหปู ่าตากะสอื ฟงั เขาลือเชอื่ ใจมิได้เขิน พูดเสรมิ สง่ เลยลน้ ไปจนเกิน อย่าด่วนเพลินเผลอพร่ําพูดลาํ พัง คอยผกู ใจผกู จิตคอยอจิ ฉา แอบนินทากองทัพอยลู่ บั หลงั ถ้าใครอยากรสู้ ง่ิ ท่ีจริงจัง จงวานฟงั ข้อคําที่ราํ พนั ทําอย่างน้นั ผดิ อย่างนี้ทีต่ รงไหน ตัดสนิ ให้เทยี่ งแทอ้ ย่าแปรผัน

ช่วยตรึกตรองตง้ั ใจให้เปน็ ธรรม์ อยา่ ชวนกนั นินทามุสาตาม จงไล่เลียงสบื สวนให้ถว้ นถ่ี กย็ อ่ มมีผคู้ นไปลน้ หลาม อยา่ กล่าวโทษโฉดเขลาวา่ เบาความ พูดซุ่มซา่ มโดยเดาเปล่าเปลา่ เอย ฯ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook