Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ นิราศหนองคาย

✍️ นิราศหนองคาย

Description: ✍️ นิราศหนองคาย

Search

Read the Text Version

นิราศหนองคาย ในแดนเขตเขือ่ นค้งุ กรุงสยาม ทาํ สงครามกับลาวพวกชาวเวียง ผแู้ ต่ง: หลวงพฒั นพงศ์ภกั ดี (ทิม สุขยางค์) ก็แต่งบอกเขียนหนังสอื ลงชื่อเสียง เมืองใกลเ้ คียงบอกบนั่ กระชนั้ มา ๏ จะเริ่มเรอ่ื งเมอื งหนองคายจดหมายเหตุ ประมาณสกั สามพนั ลว้ นกลน่ั กล้า บังเกดิ พวกอ้ายฮ่อมากอ่ ความ ลาวระอามิได้อาจขยาดกลัว ฯ ซ่ึงเจา้ เมืองเขตขัณฑ์ตะวนั ออก ในเขตแดนหนองคายเมอื งรายเรยี ง ซ่ึงปกเกศรม่ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว วา่ ล้วนพวกอ้ายฮ่อทรลักษณ์ ศกึ พันพวั ราษฎรป์ ระเทศในเขตคัน เทีย่ วรบปล้นขนทรัพยจ์ บั ประชา ทรงการญุ ราษฎรคดิ ผอ่ นผัน พรอ้ มดว้ ยพนั ธพุ งศ์พระวงศว์ าน ๏ สมเด็จพระปรมนิ ทร์บดนิ ทร์เดช เป็นเนื้อหน่อพงศ์เผา่ เหลา่ ทหาร สดับเร่ืองเมืองบนกระมลมัว ที่ราํ คาญขนุ่ ขอ้ งเมืองหนองคาย ด้วยไพรบ่ ้านพลเมืองจะเคืองขนุ่ ใหเ้ ปน็ ปกี ซา้ ยขวาทัพหน้าหลาย เชิญสมเด็จเจ้าพระยาปรกึ ษาพลนั ทั้งเลขจ่ายตามกรมระดมกัน เห็นแตเ่ จ้าพระยามหนิ ทร์เคาซิลลอ ดนู งุ นัวนายหมวดเร่งกวดขัน พอจะเป็นแมท่ ัพรับราชการ บา้ งใชป้ ัญญาหลอกบอกอุบาย แลว้ จดั พระยา, พระ, หลวงทง้ั ปวงอีก ขา้ งเจา้ หมู่เกาะตวั จํานาํ ใจหาย ทง้ั เกณฑ์เลขสมฉกรรจ์พนั ทนาย ทาํ วุ่นวายยับเยินเสียเงินทอง เกณฑ์เลขทาสท้ังท่ีมคี ่าตัว ขุนหมืน่ ตัดเกณฑต์ ามเอาสามสอง ผูท้ เี่ ปน็ มลุ นายวุน่ วายครัน เอาขา้ วของเงินตราปญั ญาดี วา่ ตวั ทาสหลบลห้ี นไี มอ่ ยู่ ท่มี ที รัพย์พอจะจ่ายไมห่ น่ายหนี ท่ตี ัวทาสหนจี รงิ วิง่ ตะกาย ทเ่ี งินมีเขาไมอ่ ยากจะจากจร ฯ เกณฑ์ขนุ หมนื่ ขน้ึ ใหม่ในเบี้ยหวัด ทา่ นนายเวรเกณฑก์ วดเต็มหมวดกอง หวานสวาทด้วยจะร้างห่างสมร เหลา่ พวกขุนหมน่ื ไพรต่ อ้ งไปทพั สะท้อนถอนฤทยั อาลัยครวญ สุ้จ้างคนแทนตัวกลัวไพรี พิศพักตรส์ าวน้อยละหอ้ ยหวน ด้วยจาํ ดว่ นจากนางไปห่างเรอื น ๏ ฉันจาํ ร้างห่างมติ รขนิษฐ์นาฏ แสนถวลิ จนิ ดาดว้ ยอาวรณ์ กางกรประคองกอดแม่ยอดรกั นึกกน็ ่าใจหายเสียดายนวล

แสนสงสารแตพ่ ธูจะอยู่เดยี ว นกึ เฉลยี วอาลยั ใครจะเหมือน พึ่งอยกู่ ินดว้ ยพสี่ ักสเ่ี ดือน จะจากเพอ่ื นพศิ วาสแทบขาดใจ คร้ันเหน็ นอ้ งนองเนตรสงั เวชจิต นึกหวนคดิ วา่ จะเบือนเชือนไถล จะบอกปว่ ยเสียใหม้ ากไม่อยากไป กลวั จะไมเ่ ป็นธรรมก์ ตัญญู นายมกี ิจควรคดิ เอาตัวรอด คนจะยอ้ นค่อนขอดไดอ้ ดสู ต้องจําใจจาํ ร้างห่างพธู จงเชิญอยู่ให้เปน็ สุขสนุกดี อยา่ รอ้ งไหจ้ ะเป็นลางจงสร่างโศก อยา่ วโิ ยคนกั น้องจะหมองศรี แมน้ ตัง้ ใจไวท้ ่าไมร่ าคี นั่นแลมคี วามชอบฉันขอบใจ ฯ ๏ ถึงวนั พธุ เดอื นสบิ แรมแปดคาํ่ เป็นวนั อํามฤตโชคโฉลกใหญ่ ณ ปกี นุ สัปตกศกจะยกไป จําครรไลโลมลาสุดาดวง น้ําตาไหลพรากพรากออกจากหอ้ ง เหลยี วดูนอ้ งใจหายไมว่ ายห่วง ค่อยแขง็ ขืนฝืนอารมณท์ ต่ี รมทรวง แล้วเลยลว่ งอําลาแมอ่ าพลัน ทา่ นกร็ ่ําอวยชยั ใหเ้ ป็นสุข อย่ามที กุ ขอ์ นั ตรายทางผายผัน สวัสดมี ีชยี พน้ ภยั ยนั เม่ือกลบั นั้นจงเปน็ สุขส้ินทุกข์ร้อน ลงจากเรอื นเบือนดูแม่คู่ชื่น ถอนสะอืน้ โหยไห้ฤทัยถอน สละรักหกั ใจอาลยั วรณ์ ฝืนใจจรรบี เดนิ เมนิ ไมม่ อง มาครหู่ นงึ่ ถึงสถานบ้านเจ้าคุณ กําลังวุ่นผคู้ นเขาขนของ ฉันฝืนพักตรเ์ ข้าฝานาํ้ ตานอง ใจสยองยง่ิ สลดระทดระทม แสนคะนงึ ภึงมติ รพศิ วาส ใจจะขาดลงด้วยรา้ งห่างคูส่ ม ค่อยแขง็ ขนื กลืนนา้ํ ตาหกั อารมณ์ คร้นั วายตรมแลว้ มาน่ังคอยฟังการ คนพร้อมพร่ังนัง่ รอหน้าหอใหญ่ ทั้งพวกไพรเ่ หล่าพหลพลทหาร บ้างขนเสบยี งลงเรือเกลือนา้ํ ตาล ทงั้ ข้าวสารข้าวตากและหมากพลู ของเจ้าคณุ ขนเนอ่ื งทั้งเคร่ืองใช้ คนขนไม่หยุดหยอ่ นร้องออ่ นหู เกินจะพรรณนาเหลอื ตาดู เครอื่ งควาหวานมอี ยู่กม็ ากครัน เครื่องอาวุธสารพัดทา่ นจัดซื้อ ล้วนเครอ่ื งมอรบทพั ดูขบั ขัน ซื้อเสือ้ หมวกแจกจ่ายเปน็ หลายพนั ลว้ นแพรพรรณสกั หลาดสะอาดตา ลงทุนซือ้ ของมบี ญั ชเี สร็จ สักรอ้ ยเจ็ดสิบช่งั กย็ ังกว่า เครอื่ งหน้าไม้เครอื่ งมือซื้อเอามา ทงั้ มีดพร้าจอบเสยี บก็เตรียมการ และท่านทาํ แวนเพชรสิบเอด็ วง หวงั ใจจงแจกจา่ ยนายทหาร

ทไ่ี ม่คดิ ย่อหย่อนเขา้ รอนราญ ใครทาํ การศกึ สาํ เร็จบาํ เหน็จมอื ทง้ั เสอ้ื ผ้าสารพดั ท่านจัดครบ ถ้าใครรบจริงจรงิ ไม่ว่งิ ต๋อื เขา้ ตีขา้ ศึกแยกใหแ้ ตกฮือ จดเอาชื่อแล้วจะไดใ้ หร้ างวัล ฯ ๏ ครัน้ บ่ายสามโมงถ้วนจวนจะฤกษ์ เอกิ เกรกิ ไพร่นายเตรยี มผายผนั พอสมเด็จเจ้าพระยาท่านมาพลัน เจ้าคุณน้ันออกมารับคํานับกาย พรอ้ มสมณพราหมณาโหราศาสตร์ นง่ั เกล่ือนกลาดเคียงขนานประมาณหลาย พนกั งานตั้งเตียงไวเ้ รียงราย ทีอ่ าบสายชลธาร์เบญจางาม เจา้ คณุ แม่ทพั คํานับนอ้ มสมเด็จ แล้วกเ็ สร็จสเู่ บญจาหนา้ สนาม สรงพทุ ธมนต์ชลอาบปราบสงคราม ข้ึนเหยียบไมข้ ม่ นามศตั รูพาล พระสงฆอ์ งคส์ มมตุ วงศ์พทุ โธ ชยนั โตสาํ เนยี งเสียงประสาน เสียงฆ้องชัยลัน่ ต้องกอ้ งกังวาน โหราจารยพ์ รามหมณ์เคาะบัณเฑาะว์ดงั พระครูโหรอวยชยั ให้เดชะ พระหมณะผ้เู ฒ่ากเ็ ป่าสังข์ พร้อมด้วยเหล่าเจ้าพระยาดาประดัง ขนุ นางน่ังสลอนอวยพรชัย ฯ ๏ ฝา่ ยเจ้าคุณแมท่ พั ครน้ั สรรพเสร็จ นอ้ มสมเด็จเจา้ พระยาอัชฌาสยั ออกมานง่ั คอยฤก์เบกิ บานใจ ผนิ พักตร์ไปฝ่ายบรุ พาทางนาคิน ท่านสมเด็จเจ้าพระยาคอยหาฤกษ์ พอเมฆเลิกดอู ุดมสมถวลิ สุริยงทรงรถหมดมลทิน ทางกสิณบรบิ ูรณเ์ พ่ิมพูนดี สมเดจ็ ท่านขานไขบอกไดฤ้ กษ์ แลว้ ใหเ้ บกิ ฆอ้ งชยั ได้ดถิ ี กโ็ ห่ร้องเอาชยั ปราบไพรี ทา่ นแมท่ พั จรลีลงเรอื พลัน ฝีพายพลโหร่ ้องก้องสะเทือน เสร็จคลาเคลอื่ นกองทัพดูคบั ขัน เรอื กระบวนสวนแซงพายแยง่ กัน เสียงสนั่นเปน็ ระลอกกระฉอกชล ท้ังสองฟากเรือตลอดจอดเป็นหมู่ ล้วนคนดกู องทัพเรือสับสน กลามตลอดจอดแพออกแจจน กญิงชายบนตลงิ่ ดอู ย่สู าํ ราญ ดเู รอื แพแออัดสงดั หาย ไมอ่ าจพายออกมาตดั หนา้ ฉาน กลวั จะกีดกันขวางทางชลธาร หลบหนซี ่านเขา้ จอดตลอดมา ฯ ๏ ครนั้ ถึงตาํ หนกั แพแลไสว พวกข้างในนงั่ อยดู่ หู นักหนา ปางพระจอมจกั รพรรด์ิกษัตรา เสด็จมาคอยรบั กองทัพเอง เหลา่ ขนุ นางแวดล้อมอยพู่ รอ้ มพร่งั ลงท่ีน่งั ปิกนิกก้ันบดเก๋ง ทอดพระเนตรเรือแพทรงแลเลง็ เสียงแซเ่ ซ็งแตรฝรงั่ กอ้ งกงั วาน

เรอื เจ้าคุณจอดเลียบประเทยี บลํา ถวายคํานบั น้อมจอมสถาน แล้วถวายบงั คมราบลงกราบกราน ตามบรู าณประเพณีท่มี มี า กรุงกษตั ริยจ์ ้ิมเจมิ เฉลิมพักตร์ ทรงสังข์ทักษณิ าวัฏตอ่ หตั ถา เปน็ สงั ข์เวียนซ้ายเรียกทกั ษณิ า เปน็ ภาษาไพร่คดิ โดยจติ เดา ดว้ ยฉันมาหนา้ แครท่ า่ นแม่ทัพ ครน้ั ไดร้ บั น้ําสงั ข์ไม่น่ังเหงา เปน็ เหตใุ ห้ทุกข์สรา่ งลงบางเบา แตย่ งั เมาโศกรักหนกั อาวรณ์ ทา่ นเจ้าคณุ แมท่ ัพคํานบั น้อม ฝ่ายพระจอมบพิตรอดศิ ร เสดจ็ ทรงสงั ข์สรรเสริญเจริญพร แล้วกรายกรหยิบนาฬกิ ามาประทาน ทองคําทาํ ตลับระยับย้อย ท้ังสายสร้อยสามกษัตริยจ์ ัดประสาน พระจอมนาถมพี ระราชโองการ ว่าของนานทําไว้จะให้เธอ ฉนั ลงชื่อเขียนไวใ้ นตลับ เจา้ คุณรับได้ของประคองเสนอ ถวายคาํ นบั ซาํ้ ทาํ บําเรอ เสด็จเผยอเรอื ออกบอกฝพี าย ครนั้ เรอื ออกประตูฝ่านาวาคล้อย พระสงฆค์ อยประน้าํ มนต์พลทงั้ หลาย คนในเรือรับพลางตา่ งวางพาย น้อมถวายบงั คมประนมกร ฯ ๏ คร้นั ล่วงพน้ โขลนทวารก็ขานโห่ เสยี งก้องโกลาหลพลสลอน เอกิ เกรกิ เรง่ มาในสาคร เรือกระฉ่อนน้าํ กระฉอกละลอกโครม เหล่าคนดเู รอื จอดตลอดท่วั ล้วนแตง่ ตัวอา่ อวดประกวดโฉม ทีส่ าวแทแ้ ลแต่ไกลน่าใคร่โลม ฉนั หนง่ โนม้ หกั ใจอาลัยวอน พวกคนดถู งึ วา่ ท่ีมสี กุล เหน็ เจา้ คุณไหวค้ าํ นับสลับสลอน บางคนไหวแ้ ล้วช่วยอํานวยพร ประนมกรหยดุ จอดตลอดมา ฯ ๏ ถงึ ตาํ หนักแพวงั หน้านาวาตรง มพี ระสงฆ์ประนาํ้ มนตบ์ น่ คาถา ชยันโตอวยชัยในนาวา จอดอยหู่ นา้ ตําหนกั แพแซส่ ําเนียง พระวงั หนา้ นั้นก็เสรจ็ เสด็จรับ ส่งกองทัพยืนร่าหน้าเฉลียง พนอ้ มเสนาขวาซ้ายยืนรายเรียง บ้างอยู่เคียงพระองคผ์ ูท้ รงนาม ทา่ นเจ้าคุณแม่ทัพคํานับน้อม รองพระจอมจุลจักรหลักสยาม พระกายไทยใจทหารชาญสงคราม พระพกั ตร์งามสงา่ ชูสุรพงศ์ พอกระบวนดว่ นล่วงมาเลยลบั เรอื กองทพั เซง็ แซแ่ ลระหง สังเกตลมพระพายพัดชายธง นิมติ มงคลดีเลศิ ประเสริฐครัน เรอื เขยอ้ื นเตอื นฝีพายท้งั ซ้ายขวา พระสรุ ยิ าเบย่ี งบ่ายลงผายผัน

พอเรอื ไฟพระสุนทราแลน่ มาทัน เหน็ ตวั ท่านยนื โยกแลว้ โบกมือ นกึ สงสัยจะเป็นใครท่ีไหนหนอ แตง่ ตัวป๋อโบกมือผบั บอกนบั ถอื สังเกตได้แต่ท่ีมีสี่น้ิวมือ น้ีคงคอื เจ้าคณุ พระสนุ ทรา เพราะนว้ิ มอื ทา่ นมสี ีน่ ้วิ ถว้ น นวิ้ ชดี้ ว้ นเด็ดชัดขา้ งหตั ถข์ วา คุมเรือไฟไล่แลน่ ตามเขา้ มา ฝพี ายควา้ เชอื กผูกเรือแล่นเหลือใจ โยงเรือแมท่ ัพกบั เรอื บุตร เรอื ไฟฉุดแล่นลว่ิ ใจหวิวไหว เรือนายทัพนายกองเนอื งนองไป เรอื กลไฟจงู มาในสาคร ฯ ๏ ครนั้ ถงึ วัดเขมาภิรตาราม ประทับตามฤกษ์กาํ หนดให้งดก่อน ดว้ ยกลางคืนโหรมใิ ห้ครรไลจร กพ็ อผ่อนแรมกระบวนอยู่ถว้ นกัน พอสมเด็จเจา้ ฟ้าจาตรุ นต์ ลงเรือกลไฟเลก็ เลก็ ท้ังนั้น ขนมาส่งกองทัพดว้ ยฉับพลนั มาถึงทนั รอจักรหยุดพกั คอย เสด็จลงสู่ยงั ทน่ี ั่งเก๋ง ฝพี ายเรง่ ตงึ ขอ้ ไม่ท้อถอย พอจวนถงึ รอรานาวาคอย เรือบ่ายคลอ้ ยหันเรยี งให้เอียงลาํ เจ้าคุณนอ้ มบงั คมกม้ คํานับ สมเด็จรบั ย้ิมนยิ มดูคมขาํ พระทัยดมี ีพระกรณุ ประจํา หยิบเปลปา่ นซองทองคํามาประทาน เจา้ คณุ น้อมคํานบั รบั สิ่งของ สมเดจ็ พร้องอวยชัยทรงไขขาน แลว้ เอ้อื นอรรถตรัสเสร็จสําเรจ็ การ ไมช่ ้านานกลับหลังคืนวังพลัน ฯ ๏ ฝา่ ยข้างพวกกองทพั นนั้ สบั สน บ้างข้นึ บนบกกรายเทยี่ วผายผนั บา้ งหุงขา้ วเผาปลาทกู นิ อยู่กนั บางคนหันเข้าใต้ร่มไมน้ อน เจ้าคุณทา่ นอาศัยในศาลา ฉันรักษาอยใู่ นเรอื องิ เหนอื หมอน คํานึงถงึ ขนษิ ฐาให้อาวรณ์ อรุ ะร้อนรัญจวนหวนคะนึง ป่านฉะนีแ้ กว้ พจ่ี ะโหยหวน จะรัญจวนหรือว่าไมอ่ าลัยถงึ แต่อกพอ่ี าวรณ์ดัง่ ศรตรึง นอนราํ พึงถงึ แม่ดวงพวงพะยอม แสนเสยี ดายสายสวาทอนาถจิต โอา้ มเอ๋ยเคยชิดอนบถนอม คร้ันยิง่ คดิ จิตตรมอารมณต์ รอม ประหนึ่งจอมเขาทับลงกับกาย ซึง่ พม่ี าจากนางแต่รา่ งเปล่า หวั ใจเฝ้าเคยี งประโลมแม่โฉมฉาย คิดหนงั หนว่ งหว่ งสวาทไม่คลาดคลาย โศกไมว่ ายเสอ่ื มเศร้าอกเราอา แสนอาวรณ์นอนเผลอละเมอมอ่ ย พอเดือนคลอ้ ยดาวเคลอ่ื นเลื่อนเวหา จวนแจง้ แสงศรสี รุ ิยา ต่ืนนิทราโหยไห้ฤทัยตรม

เสรจ็ เสพโภชนากระยาหาร ท้ังคาวหวานกลา้ํ กลนื รสข่ืนขม กนิ น้ําใสก็เหมอื นกินน้ําดนิ ตม ด้วยอารมณห์ วงั รักหนกั อุรัง ฯ ๏ คร้ันเชา้ สองโมงคร่ึงก่ึงนิมติ สําเรจ็ กจิ เสร็จสมอารมณห์ วัง ฝพี ายเตรียมนาวาประดาดัง จอดคอยฟังลนั่ ฆอ้ งตามองเมียง ครน้ั เจา้ คุณลงเรือนัง่ เหนือเบาะ ฝีพายเกาะโหข่ านประสานเสยี ง ตฆี ้องหยุ่ หง่ึ พลนั ล่ันสาํ เนยี ง เรือพรอ้ มเพรยี งออกตามหลน่ั หลามมา คระโครมครึกกึกก้องท้องสมทุ ร พายรีบรุดเร็วนกั ด่ังปกั ษา คว้างคว้างมาในกลางชลธาร์ ดูนาวาเร็วรัดเทียมทัดลม ครั้นจะรํ่าระยะทางชมบางบา้ น ก็ข้ีครา้ นหลีกจดั ตัดประสม ดว้ ยนริ าศอ่นื มดี ีอดุ ม ล้วนคารมวิเวกหวานเคยอ่านฟงั ครั้นเรอื มาฉวิ ฉิวแลลิ่วลับ ฝพี ายขับขบเขยี้ วไมเ่ หลยี วหลงั ชลกระฉอกละลอกเสียงเพียงจะพงั กระทบฝั่งกระจายทําลายลง ฯ ๏ ถึงเมืองประทมุ ธานีบรุ ีรัตน์ วายุพัดน้าํ กระเด็นข้นึ เปน็ ผง พระอาทติ ยเ์ ล้ียวลัดอสั ดง เรือตดั ตรงขา้ มฟากพายบากมา รบี รดั มาจอดวัดประทมุ ทอง พินิจมองเหน็ พระสงฆ์ทรงสิกขา ล้วนรามญั ชยนั โตโพธิยา ตามภาษาพระมอญอวยพรชัย ท่านเจ้าคณุ แมท่ พั คํานับน้อม มจี ิตพร้อมศรทั ธาอัชฌาสัย กข็ น้ึ จากเรือเดนิ ดําเนนิ ไป ตรงเขา้ ในศาลาหาสมภาร ถวายเงินแกพ่ ระสงฆ์องค์ละบาท ทงั้ อาวาสด้วยศรัทธาท่านกลา้ หาญ น้อมจิตคิดต้งั ปณธิ าน เจ้าอธกิ ารคํารพจบสพั พี กแ็ รมทพั อยู่ท่นี น่ั พร้อมกนั หมด พระสรุ ยิ งเยือ้ งรถอบั ฉวี ทง้ั นายไพร่สขุ เกษมจติ เปรมปรดี ์ิ เหลา่ โยธกี องทพั บ้างหลับนอน ด้วยวัดนี้ไมม่ ีทอี่ าศยั เดนิ ไปไหนนาํ้ ทา่ เปกี ผา้ ผอ่ น วัดประทุมลุ่มเตม็ ทไี ร้ท่ดี อน คนตอ้ งซอ้ นแซกเสียดยัดเยยี ดกนั เหมือนตะรางสัสดีทแ่ี คบคับ นอนไม่หลับเจยี นชวี าแทบอาสัญ ตาบุนปราบแกขนาบเอาโซพ่ ัน เร่งรางวลั ขา้ ทเุ ลาเอาเงนิ มา โอพ้ ุม่ พวงดวงจติ ชวี ิตพ่ี ปา่ นฉะนีส้ าวนอ้ ยจะคอยหา จะโศกเศรา้ ว้าเหว่อยเู่ อกา อนจิ จาแสนสังเวชน้ําเนตรพราว โออ้ าลยั ใจหายไม่วายโศก บังเกดิ โรคร้างงามเมือ่ ยามหนาว

โอย้ ามรกั หนกั จิตเหมอื นติดกาว ไมม่ ีคราวลืมมิตรยลติดตา ยงิ่ หวนหวนหว่ งไห้ฤทัยโหย อรุ ะโรยร่วงหรบุ ดง่ั บุปผา เมื่อต้องแสงสรุ ิยงสอ่ งลงมา เกสรสาโรชรว่ งเหมอื นทรวงเรา หวนคะนงึ ถึงมิตรพิศวาส ใจจะขาดเสียเพราะทรวงงงงว่ งเหงา กําเรบิ โรคโศกร้างไมบ่ างเบา ยุพเยาว์จะมิได้เหใ็ จเรียม ค่อยแข็งขืนฝนื อารมณ์ท่ีตรมตรกึ ครน้ั นึกนึกแลว้ คอ่ ยวายจติ อายเหนียม คงไดก้ ลับยลโฉมประโลมเลียม ไมท่ นั เตรียมอยา่ เพอ่ ตรอมจะผอมตาย พอหลับผอยมอ่ ยฟน้ื ต่ืนสว่าง ลุกลูบล้างหน้าพลนั ไมท่ ันสาย พออิม่ หนาํ สําเร็จเสรจ็ สบาย เหล่าฝีพายเตรียมตัวพรอ้ มทั่วกัน พอไดฤ้ กษแ์ ลว้ ก็บอกออกนาวา เสยี งเฮฮาปรดี ิเ์ ปรมเกษมสันต์ ไมเ่ หน็ ใครมที กุ ข์สนกุ ครนั จ้วงกระชน้ั ตงึ ขอ้ ไมร่ อรา เรอื ละลิ่วปลิวเฉือ่ ยมาเร่ือยรี่ ชมวิถีชลมารคขา้ งฟากขวา แลว้ ผนั ชมฟากซา้ ยวายนา้ํ ตา ครน้ั นาวาแลน่ ลว่ งครรไลเลย ฯ ๏ มาถงึ เกาะบางปะอินทินกร กาํ ลังรอ้ นแสงแดดนั้นแผดเผย เหน็ รัว้ วงั ข้างขวาสง่าเงย น่าชมเชยตกึ ตั้งเป็นวงั เวียง ทา่ นเจ้าคณุ แมท่ ัพบังคับสั่ง จอดหนา้ วังขน้ึ บชู าหนา้ เฉลยี ง ท่าจุดธูปเทียนถวายอยู่รายเรยี ง นงั่ ประเนียงน้อมประนมบงั คมคัล แลว้ ก็ออกนาวาจากหน้าวัง ดูคับคงั่ ด้วยพหลพลขันธ์ ไมเ่ ล้ียวลัดถงึ วัดชมุ พลพลัน ก็เหหนั เรือประทับกับตะพาน เจ้าคณุ ก็จําเนียรธปู เทียนจุด บูชาพทุ ธรปู ใหญใ่ นวิหาร ดว้ ยวดั ชุมพลนมี้ มี านาน แตก่ อ่ นกาลกรุงเกา่ มเี ค้าความ ดว้ ยเจา้ พระยากลาโหมเล้าโลมไพร่ ชมุ นุมไว้วัดนท้ี ีส่ นาม แล้วยกพลเกรยี วกรูเข้าวู่วาม ทาํ สงครามกบั กษตั รยิ ข์ ตั ตยิ า จบั เจ้าแผน่ ดินไดใ้ ห้ประหาร ครัน้ สมการมงุ่ มาดปรารถนา กไ็ ดซ้ ึ่งสมบตั กิ ษัตรา จึ่งราชาภิเษกเป็นเอกองค์ ทรงนามทา้ วพระเจา้ ปราสาททอง ไดค้ รอบครองร้ัววังดัง่ ประสงค์ มพี ระราชศรัทธาปัญญายง เสดจ็ ทรงสร้างวิหารรมิ ชานชล เสรจ็ พระราชศรทั ธาเปน็ อาราม ประทานนามโดยวิเศษตามเหตผุ ล

เดมิ ทนี่ ี่ไดป้ ระชุมชมุ นุมคน ชอ่ื ชุมพลนกิ ายาราม คร้นั กรุงเก่ายอ่ ยยับอัปรา ซ่ึงวดั วาพังลงเปน็ ดงหนาม โบสถพ์ ังโครมโทรมทรุดชาํ รดุ ตาม ไดแจ้งความเริม่ รแู้ ตบ่ ูราณ ครนั้ แผ่นดินพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว มาสรา้ งร้ัววังนิวาสราชฐาน แล้วเลยทรงสถาปนาการ พระวหิ ารใหค้ งดาํ รงดี แลว้ ปั้นรปู จอมปราชญป์ ราสาททอง ดเู รืองรองงามงดสุกสดศรี ยืนอย่หู นา้ อุโบสถปรากฏมี ทกุ วันนี้คนผ้ยู ังบูชา ครน้ั สาํ เรจ็ เสร็จนบเคารพพระ ก็เลยละผายผนั จิตหรรษา เจ้าคุณใหร้ ้องบออกออกนาวา โหส่ ามลาบอกยาวเสียงกราวเกรียว เหล่าฝูงชนชาวบ้านละลานหนี บ้างหลบลี้ว่งิ แตไ้ ม่แลเหลยี ว เรื่อไมพ่ ายคลายคล่ําสักลําเดียว ปะกเ็ ล้ียวจอดซบหลบแต่ไกล ฝีพายไมร่ อรามาตะบึง บรรลุถงึ หนา้ วดั โปรดสตั วใ์ หญ่ แวะเรอื เรียงเคยี งจอดตลอดไป เจา้ คณุ ให้จอดประทบั กับตะพาน ทา่ นจดุ ธูปเทียนชขู น้ึ บชู า น้อมศิราหน่วงมนสั หัตถ์ประสาน พวกไพร่พลเรงิ ร่ืนชน่ื สําราญ ใจเบิกบานยนิ ดที ี่สบาย วักน้าํ มนต์ใสบ่ นศรี ษะทัว่ บา้ งลูบตัวอาบกนิ ส้ินท้ังหลาย ท่โี กงเขาย่ําแยแ่ ตป่ ีกลาย ใหค้ วามหายลบั ลีอ้ ยา่ ฎกี า รบี รดั มาถงึ วกั พะแนงเชงิ พอร่าเริงคกึ คักเป็นหนกั หนา เจ้าคณุ ขึ้นบกพลันไปวนั ทา พระปฏมิ าองคใ์ หญด่ ว้ ยใจจง จดุ ธปู เทียนบปุ ผาบชู าพระ คารวะขอความตามประสงค์ ขออารกั ษศ์ กั ดิส์ ิทธิ์สถิตทรง สิงในองคพ์ ระปฏิมากร จงพทิ ักษร์ ักษาโยธาทพั ทีค่ ่งั คบั พรอ้ มหน้ามาสลอน ซึ่งโพยภัยขออยา่ เพยี รมาเบียนบอน จงถาวรสวสั ดิ์ท่วั ทุกตวั คน เจ้าคณุ เสรจ็ บูชาลีลากลับ ผคู้ นคับสองข้างหว่างถนน ท่านเจ้าคุณเมตตาประชาชน ท่ยี ากจนผู้ใหญเ่ ดก็ เจก๊ คนโซ แจกเงนิ ใหค้ นละเฟอื้ งน่งั เน่อื งนบั คนทร่ี ับไทยทานประมาณโข บางคนออกวาจาวราโร รตั พโิ ชชนะหมศู่ ตั รูพาล เจ้าคณุ ลงนาวาเสรจ็ คลาเคลอื่ น เรอื เขยอื้ นเปน็ ละลอกกระฉอกฉาน ละลิ่วมาในวนชลธาร บา่ ยประมาณห้าโมงเศษสังเกตจํา ฯ

๏ ถงึ วังจันทรเกษมจิตเปรมปรา แวะนาวาพักผอ่ นจอดชอ้ นสาํ เรือเจ้าคณุ จอดเลียบประเทยี บลํา เวลาคํ่าแรมทพั ตา่ งหลับนอน ฯ ๏ ครั้นรุ่งแสงสุริยาเวลาสาย เหลา่ ตวั นายค่งั คบั สลบั สลอน ล้วนแตง่ ตวั เต็มยศบทจร หมู่นิกรเกล่อื นกล่นต่างคนมา ชุมนุมท่ีศาลาใหญห่ น้าวัง มาพรอ้ มพร่ังนัง่ รายทั้งซา้ ยขวา คอยเจา้ คุณแมท่ ัพรับบัญชา ท่บี รรดาตวั นายน่งั รายเรยี ง เจ้าพระยาแม่ทพั ประดับกาย เสรจ็ ผันผายข้นึ มานงั่ ยังเฉลียง ลูกทัพคาํ นบั นอ้ มอยู่พร้อมเพรยี ง คอยฟังเสยี งทา่ นอยู่ดูชื่นบาน ท่านเจ้าคณุ แม่ทัพขยับโอษฐ์ ภิปรายโปรดทกั ทายนายทหาร แล้วชกั ชวนไปวดั มนสั การ พระวิหารเสนาสน์เยือ้ งยาตรา เข้าในวงั ข้นึ ยังพระมนเทยี ร แลว้ นอ้ มเศียรอภวิ ันท์ด้วยหรรษา จดุ ธปู เทยี นท้ังคู่ขนึ้ บูชา พระมหาท่นี ั่งในวังจันทร์ ออกจากวงั ไปยังพระอาวาส นามเสนาสน์งามเลศิ ดเู ฉดิ ฉัน ท่านเจ้าคณุ คํานับอภิวนั ท์ ธูปเทียนนัน้ จดุ ถวายธบิ ายความ ว่าวัดนี้ของพระยาทปราสาททอง เป็นเจ้าของสรา้ งไว้ในสยาม ครั้งแผน่ ดินกรุงเก่าเป็นเค้าความ แจง้ เหตตุ ามโดยเร่อื งครั้งเมอื งกรงุ เมอื่ เมอื งเสยี แก่พม่าพากนั ขุด เอาไฟจุดลอกทองแล้วถลงุ วดั สลักหักพังออกนงั นุง แต่ครั้งกรงุ รา้ งรามาชา้ นาน ครนั้ แผน่ ดินจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ศรทั ธาท่วั บพติ รประดษิ ฐาน เสดจ็ มาบํารงุ ผดุงการ พระวหิ ารเสนาสน์สะอาดงาม เจ้าคณุ เสร็จบูชาลีลากลับ ขน้ึ ประทบั บนศาลาหน้าสนาม ลกู ทพั นายกองนงั่ คอยฟังความ อยอู่ อกหลามศาลาทีห่ น้าวัง บ้างรอ้ งทุกขข์ อขา้ วต่อเจ้าคณุ ว่าส้ินทุนจวนจะอดข้าวหมดถงั ขอเบิกข้าวสารพอต่อกาํ ลัง เจ้าคุณฟังขอ้ คําคิดราํ คาญ จึงผนิ ผนั หันหน้าปรกึ ษาเร่ือง ดว้ ยวา่ เมอื งนต้ี ้องเลกิ เบกิ ขา้ วสาร เพราะได้แจง้ กจิ จาเวลาวาน กรมการเขาว่าตราไมม่ ี ท่านเจ้าคุณชักทุนซอื้ ข้าวสาร แจกทหารกล้วยไข่ให้อีกหวี ทงั้ ของคาวเน้อื เคม็ กเ็ ต็มดี แจกโยธกี องทัพรบั ทกุ คน ฯ ๏ คร้นั ว่าบา่ ยชายแสงพระสุรเิ ยศ สกั โมงเศษเอะอะเตรยี มพหล

ตา่ งลงเรอื ทกุ ลําประจําพล บ้างเตรยี มตนคอยฟงั ระวังตัว เจา้ คุณลงนาวาทหี่ น้าวงั พรอ้ มสะพรงั่ ฝพี ายซา้ ยขวาทั่ว นายน้อยจบั ตระบองลั่นฆ้องรัว ให้ร้ทู ่วั นดั บอกกันออกเรือ ฆ้องลนั่ เสยี งแซ่ซรอ้ งก้องกังวาน โห่ประสานสามลาสงา่ เหลือ ลกู ทัพนายกองน้ันไม่ฟ่นั เฟือ ลว้ นสวมเสอ้ื เต็มยศหมดทุกนาย ฯ ๏ มาประเดีย๋ วเล้ยี วประทะศีรษะรอ ดปู ราดปร๋อนํ้าไหลเชี่ยวใจหาย ฝพี ายขงึ ตึงขอ้ ไมร่ อพาย บา้ งเสียทา้ ยเรือปะประทะแพ บางฉลาดเลยี้ วพนั กระช้ันแหลม เรือไมแ่ พลมแพรง่ พรายกระสายแส ทีต่ รงศีรษะรอเสียงจอแจ ช่วยกนั แกห้ วั เรือนํ้าเหลอื ทน เรือก็แล่นเฉอ่ื ยฉิวมาล่ิวลับ แดดพยับมดื กลุ้มชอุ่มฝน ไม่แรงร้อนออ่ นสสี ุริยน เหลา่ ไพรพ่ ลค่อยสบายรีบพายพลนั ฯ ๏ พอถึงวัดทองใหญ่อยูใ่ นยา่ น มีนามบ้านพระนอนพกั ผ่อนผนั เรอื กองทัพคับค่งั ประดงั กนั แรมอยนู่ ั้นอกี คืนต่างร่นื เริง ในวัดทองซ่องซ่วมนา้ํ ท่วมหมด นา้ํ ไมล่ ดกําลงั ล้นขึ้นจนเหลิง ไมม่ ที ี่หงุ ขา้ วกอ่ เตาเพลงิ อาศยั เพิงโบสถ์ใหญ่พอไดก้ าร พลนกิ รต้องนอนอยู่ในเรือ คนทเ่ี หลืออาศัยในวหิ าร อกี ศาลาใหญก่ ว้างขา้ งตะพาน เหลา่ ทหารซ้อนซบั ข้นึ หลับนอน แตต่ วั ฉันอยูใ่ นเรือเหลือเทวศ นองนาํ้ เนตรโหยไหฤ้ ทยั ถอน เปน็ ทกุ ข์ถึงขนิษฐายิ่งอาวรณ์ เพราะพี่จรจากเจ้าจะเนานาน ไม่รปู้ เี ดอื นใดจะได้กลบั ด้วยไปทัพจบั ศกึ ที่ฮึกหาญ กว่าจะสน้ิ สรรพเสร็จสําเร็จการ สดุ ประมาณเหลอื เล่ห์คะเนวนั ครวญครวญหวนละห้อยพอผอยหลบั ชกั หงับหงับกลบั ต่นื สดุ กลืนกลั้น กําสรดแสนแหนหวงแม่ดวงจันทร์ โอ้กี่วนั จะไดพ้ บประสบนวล ฯ ๏ คร้นั รุ่งแจง้ แสงทองส่องสวา่ ง ค่อยลูบล้างพกั ตราวิญญาหวน เจา้ คุณส่ังใหบ้ อกออกกระบวน เวลาจวนจะร่งุ ฟงุ้ อัมพร พอนาวาคลาเคลอื่ นเขยอ้ื นโยก ธงก็โบกร้วิ ร้วิ ปลิวสลอน นาวาเร่อื ยเฉื่อยมาในสาคร กร็ ีบร้อนเรว็ มาไม่ราแรม ถงึ น้าํ วนวนปะประทะคงุ้ เรือหนั พงุ่ ข้ามบากไปฟากแหลม ฝพี ายจ้ํานํ้าเปน็ ฟองทง้ั สองแคม ไมพ่ รอมแพรมพรอ้ มพรง่ั พายตัง้ ใจ ฯ

๏ ถึงเมืองสระบุรเี รือรี่เรยี บ เหน็ ทาํ เนยี บรายเรียงเคียงไสว เขาปลูกต้ังหลงั เด่นเห็นแตไ่ กล พลไพรย่ ินดีด้วยปรีดา ต่างมุง่ มาดพอถึงหาดพระยาทศ บ่ายกาํ หนดส่ีโมงโปร่งเวหา พระสรุ ยิ งจวนจะลับพรรพตา แลนาวาจอดเรียบประเทยี บเรยี ง ทศี่ าลาทา่ นํ้าลํากระแส เรือนเป็นแพจอดชมุ นุมบ้างทุ่มเถียง ชวนกันชงิ เรอื นทมี่ รี ะเบยี ง ขอนของเรยี งเข้าไปวางต่างประจํา ตา่ งคนตา่ งกก็ จ็ องปองที่อยู่ ถึงกอ่ นดเู ลือกได้เมอื่ ใกล้คา่ํ พอพกั พงิ องิ กายวายระกาํ ไม่ต้องทําเรอื นร้านปว่ ยการคน ทล่ี างนายผายผนั ไม่ทันเพ่ือน ไมม่ ีเรือนที่พํานกั พักพหล หาไม้ไล่ทาํ หลังคาประสาจน พอบังฝนบงั ฟ้าเป็นท่าลม ทา่ นเจ้าคุณใจดอี ารเี หลอื คิดแผ่เผอื่ ไพรแ่ ท้แตป่ ระถม ทําเนียบปลกู ไวม้ ีไมน่ ยิ ม ดว้ ยอารมณ์เอน็ ดหู มู่นกิ ร ทาํ เนียบปลกู ไว้ท่าสี่ห้าหลัง พร้อมหอน่ังหอเคยี งเรียงสลอน สอู้ ยเู่ รือบดเลยตามเคยนอน ด้วยอาวรณ์เมตตาประชาชน ถา้ แม้นขน้ึ สอู่ ยู่ทาํ เนียบ ตรองการเรียบเรียงเหน็ ไมเ่ ปน็ ผล จะไม่มที ี่อาศัยแก้ไพรพ่ ล ท่านสู้ทนอยู่ในเรอื ใจเหลอื ดี ครนั้ พลบคํ่ายํ่าฆ้องพวกกองทพั บ้างนอนหลบั กรนอยเู่ สียงฝูฝ่ ี่ แตต่ ัวฉันตรกึ ตรมระทมทวี โศกโศกแี สนสวาทไมข่ าดวาย แสนคะนงึ ถงึ นวลหวนเทวศ จนดวงเนตรบวมแดงเปน็ แสงสาย อย่ใู นเรือกัญญาใหญไ่ มส่ บาย คดิ ใจหายใจห่างในทรวงครวญ โอเ้ จา้ ดวงพวงพ่มุ อุทุมพร เมื่อยามนอนแนบถนอมกลิ่นหอมหวน เวลาตรมชมชูเรณนู วล ยามรญั จวนกว็ ายหายกังวล ยงิ่ นกึ ยง่ิ ตรกึ ตรมระทมทกุ ข์ จะตอ้ งบกุ เดนิ ป่าไปหนา้ ฝน จะข้ามดงพงชฎั ระมัดตน เหลา่ ฝูงชนคิดกลัวหนงั หัวพอง ฤดูฝนความไขม้ ิได้หยอก ผ้ใู หญบ่ อกเศร้าจติ คดิ สยอง ทใ่ี นดงลกึ ลํ้าล้วนนํา้ นอง จะยกกองทพั ไปกลวั ไขด้ ง ซงึ่ ปยู่ า่ ตาลงุ ครั้งกรุงเก่า ฟังเขาเล่าจาํ ไว้ไมใ่ หลหลง ฤดูฝนเปน็ ไม่ไปณรงค์ ทาํ การสงครามแต่ก่อนบห่ ่อนเป็น แต่เมอ่ื ใดฝนแลง้ แห้งสนทิ จงึ จะคดิ ยกทพั ไปดับเข็ญ

คิดขึ้นมานํ้าตาตกกระเด็น ไม่วางเวน้ กลัวตายเสียดายตน โอก้ รรมเราเกดิ มาเวลาน้ี พอไพรมี าสฤู่ ดูฝน นึกแคน้ อ้ายพวกฮอ่ ทรชน จะฆา่ คนเสยี ดว้ ยไขใ้ ช้ปัญญา ฯ ๏ ฉันตรองตรึกนกึ พลางพอจา่ งแจ้ง สวา่ งแสงสรุ ิเยเย่ียมเวหา เปน็ วันถือนา้ํ พิพฒั น์สตั ยา เจา้ พระยาแม่ทัพประดับกาย กพ็ ร้อมด้วยนายทพั กับนายกอง ลงเรอื ลอ่ งน้ํามาเวลาสาย ล้วนแตง่ ตัวเต็มยศหมดทุกนาย ตา่ งผันผายลน้ หลามตามเจา้ คณุ รบี รดั มาถึงวัดสมหุ ะ พรอ้ มดว้ ยพระหลวงยืนแลหม่ืนขนุ ท้ังหัวเมอื งเปน็ การวงิ่ ซานซนุ คอยคํานับรับเจา้ คุณอยเู่ รียงราย เรอื เจ้าคุณแมท่ ัพจอดกบั ท่า เย้ืองยาตราพรอ้ มพรั่งคนทงั้ หลาย ล้วนสวมเส้อื กําซาบดาบสะพาย ที่ตวั นายคอยสดบั รบั บัญชา ตา่ งคนเข้าไปในวิหาร ฟังโองการพรอ้ มกันด้วยหรรษา แลว้ รับน้าํ พระพิพฒั นส์ ัตยา ตามตําราบรุ าณสาบานตัว ทา่ นเจ้าพระยาแม่ทัพกลับทําเนียบ เรือประเทียบแก้ท้ายแลว้ บ่ายหวั จอดประทบั กบั ท่าเวลามัว แดดสลวั จวนคา่ํ อย่รู าํ ไร เวลาค่ํายํ่าฆ้องคร้ันสองทมุ่ แตรก็รุมเป่าเสียงสําเนยี งใส พวกทหารนั่งยามตอ้ งตามไฟ เอาฟืนใส่เรียงรายเปน็ หลายกอง ท่านเจ้าคุณแม่ทัพกําชบั ส่ัง ใหป้ ระจุปืนประนงั นั่งจดจ้อง เหล่าทหารหอกหลาวแลง้าวพลอง พวกกองตรวจถือฆอ้ งกระแตตี ด้วยเรายกโยธามาจากถน่ิ ประมาทหมน่ิ แลว้ กเ็ ห็นจะเปน็ ผี เผ่ือพวกฮอ่ ต่อเข้ามาสระบุรี จะเสียทยี ่อยยบั ท้ังทัพชยั ฯ ๏ ครัน้ จวนแจ้งแสงสตี ีสิบเอ็ด ออกอึงเอ็ดเปา่ แตรเสียงแซ่ใส ทหารเปา่ ขลุ่ยนัวรวั กลองชัย ฟังเสยี งไพเราะวงั เวงดว้ ยเพลงแตร คร้ันรงุ่ แสงสรุ ยิ าทอ้ งฟ้าฟื้น เจา้ คุณข้นึ ทาํ เนียบหนา้ ท่ากระแส สําหรบั ขนุ นางใช้ตา่ งแพ อยรู่ ิมแม่น้ําวนชลธาร พวกนายกองนายทพั คํานับนอ้ ม มาพรง่ั พรอ้ มนั่งเรยี งเคียงขนาน คอยสดับตรับฟงั จะสง่ั งาน จะมกี ารเหตผุ ลดว้ ยกลใด เจา้ พระยาแม่ทัพขยับโอษฐ์ ภปิ รายโปรดไตถ่ ามความสงสยั พวกเรามาพรอ้ มพร่งั หรอื อย่างไร ใครป่วยไขท้ ีบ่ รรดามาด้วยกัน

พวกนายทัพนายกองสนองเรยี น น้อมจาํ เนียรแจง้ จริงทุกสิง่ สรรพ์ คนกองทัพวิบัตอิ ศั จรรย์ เกดิ ปจั จุบนั โรคร้ายเป็นหลายคน ท่านเจ้าคณุ แจ้งความตามระบอบ จึงประกอบยาละลายกระสายฝน ตามตําราหมอด้วงแกแ่ กอ้ บั จน ท่านสู้ทนน่ังปรงุ บํารงุ ยา แลว้ กใ็ ห้อนุญาตประกาศส่ัง วา่ ทีหลังใครปว่ ยไขใ้ หม้ าหา เพราะใจท่านอารมี ีเมตตา ต้ังรกั ษาเป็นธุระไมล่ ะเลย ถงึ เทยี่ งนางกลางคืนคนตน่ื หลับ คนกองทพั ป่วยไขม้ ิไดเ้ ฉย สั่งให้ปลุกทุกครั้งเหมือนดังเคย ไมเ่ สบยบอกเราเอาอาการ ดว้ ยลงทุนสํารองยากวา่ สองชง่ั ยาฝรง่ั มากมายหลายขนาน ด้วยจงหวังตงั้ ใจจะให้ทาน คิดเตรยี มการถา้ ใครป่วยไดอ้ วยเออ แล้วส่ังการขุนชํานาญภักดีพกุ เท่ียวตรวจทุกเวลาอย่าไดเ้ ผลอ ใครเปน็ โรครอ้ นหนาวหรือหาวเรือ ให้ดอกเตอรพ์ ุกปรุงบํารงุ ยา ตั้งแตน่ ั้นทา่ นกน็ ่งั คอยฟังทั่ว ใครยงั ชั่วใครจะหนกั ท่รี ักษา นายพุกเทย่ี วทุกหมวดคอยตรวจตรา ตามบญั ชามิได้เว้นเช้าเยน็ ดู คนมากหายตายนอ้ ยนับตัวถว้ น นายพุกสวนสอบตรวจทกุ หมวดหมู่ พวกกองทัพหายฟ้นื ต่างช่ืนชู ล้วนแตร่ จู้ ักบญุ คณุ ทกุ คน เม่ือหยุดพกั อยูท่ ี่ท่าพระยาทศ ต้องรองดช้าอยู่ฤดฝู น ครัน้ จะยกทพั ไปกลวั ไพรพ่ ล จะปี้ปน่ เสียเพราะไข้ทใ่ี นดง เจา้ คณุ สืบสวนกะระยะทาง พระยากลางพระยาไฟไพรระหง ให้รทู้ ี่สําคัญโดยมน่ั คง ดว้ ยจิตจงอยากยกขึน้ บกไป ใหพ้ ระรัตนกาศประภาษถาม ก็แจง้ ความม่ันคงไมส่ งสยั เขาวา่ มรคาพระยาไฟ จะคลาไคลเหลอื ลํา้ ด้วยนํ้านอง ทั้งเป็นโคลนเปน็ หล่มตมตลอด จะมดุ ลอดหลีกลดั กข็ ดั ข้อง ต้องเดินขา้ มแม่นา้ํ ลาํ ธารคลอง ข้ามเปน็ สองสามหนลว้ นชลลกึ ทา่ นเจ้าคณุ แจง้ เหตสุ งั เวชไพร่ ดว้ ยจะไปรบรากับขา้ ศกึ จะมาตายเสียในดงที่พงพฤกษ์ อนาถนึกเศรา้ ใจด้วยไพร่พล จงึ แตง่ บอกกราบทลู ตามมูลเหตุ เป็นไปรเวทเรยี งความตามนุสนธิ์ ขอรอร้งั ต้ังพกั พํานักพล แตพ่ อฝนฟา้ แลง้ ทางแห้งดี หนงั สือเสรจ็ แล้วกส็ ง่ ลงบางกอก ผู้ถอื บอกหมายมุ่งไปกรงุ ศรี

ขา้ งกองทัพยับยง้ั ฟงั คดี พร้อมอยู่ท่ีพระยาทศหมดด้วยกนั เจา้ พระยาแม่ทัพบังคับการ ซอ้ มทหารกระบวนรบใหข้ บขนั ไดฝ้ ึกสอนเช้าเยน็ ไมเ่ วน้ วัน ตั้งแต่นนั้ เป็นคนสุขสนุกจรงิ พวงหนมุ่ หนุ่มกลุ้มเกรียวไปเท่ียวเล่น ล้วนแต่เปน็ เจา้ ชู้เกี้ยวผ้หู ญิง บา้ งโกรธข้ึงหึงหวงเท่ยี วช่วงชิง แล้วคอ้ นติงพูดกระแทกที่แดกดัน ด้วยลกู สาวลาวชุมหนุม่ หนุ่มเก้ียว บา้ งก็เที่ยวหาอวดประกวดประขนั บา้ งสขู่ อเปน็ เมยี ไดเ้ สยี กนั แต่ตัวฉนั ไม่อยากเทยี่ วไปเก้ยี วใคร ด้วยคิดถึงเนือ้ คอู่ ยูท่ ่บี า้ น จงึ ขคี้ รา้ นยาตรย่างไปข้างไหน ถงึ เหน็ สาวสวยสดสอู้ ดใจ เพ่อื นเขาไปตัวเราอยู่เฝ้าเรือ วนั หนึง่ นางแม่คา้ เรือมาขาย เฝ้ามาดหมายรกั ฉนั จติ ฟ่ันเฝอื อตุ ส่าหห์ าเปรยี้ วหวานมาจานเจือ ประหลาดเหลอื แล้วเราเขาเอาจรงิ ฉนั ข้คี ร้านผกู รักคิดจักเบือน เหล่าพวกเพอื่ นเยย้ ยว่ั ว่ากลัวหญิง ควรจะหาทีพ่ ักสํานักพิง คดิ แอบอิงแตพ่ ออุน่ ถุนขีย้ า ฯ ๏ ครัน้ เดอื นสบิ เอ็ดเสร็จความขึน้ สามค่ํา ได้จดจาํ จงหวังไม่กังขา บา่ ยสามโมงสังเกตเศษเวลา เรอื ไฟมาเปดิ หลอดเสียงหวอดดงั เห็นเจา้ พระยาสุรวงศไ์ วยวัฒน์ จาํ ถนดั เรือหา่ งอยู่ข้างฝง่ั ลงเรอื แหวดแจวร่าเขา้ มายัง ถึงกระทง่ั ทา่ ทําเนียบจอดเทียบพลนั ท่านเจ้าคุณแม่ทพั ออกรบั รอง ตา่ งยม้ิ ย่องปรดี ิเ์ ปรมเกษมสันต์ ขนึ้ บนทําเนียบท่าพูดจากัน แตโ่ ดยฉนั ราชการในสารตรา ท่านเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ กห็ ยิบลายราชหตั ถเลขา ท่านเจ้าคุณแมท่ ัพก็รบั มา จติ ปรดี าเบิกบานสําราญใจ ท่านเจ้าคณุ รบั รองของประทาน ทเี่ จา้ คุณทหารนาํ มาให้ ดาบฝร่งั สองรอ้ ยเลม่ ทเี่ ตม็ ใน หบี ใหญใ่ หญร่ บั ขนขน้ึ บนเรอื อกี กบั นาํ้ มันหอมพระจอมเกล้า ทรงเสกเปา่ ไว้เลศิ ประเสริฐเหลอื ดอกไม้รอ้ ยแปดอย่างไมจ่ างเจอื กลัน่ เอาเหงอื่ ทํานํา้ มันดว้ ยบรรจง ไว้บาํ เรอลกู เธอเสดจ็ ทัพ เปน็ ที่นับถือความตามประสงค์ ไดป้ อ้ งกันสรรพภยั ที่ในดง ออกณรงค์ไมต่ อ้ งคิดมีจิตกลวั ด้วยเจ้าคุณมชี ื่อลือทกุ เวยี ง เป็นบตุ รเล้ียงพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว

จึงประทานนํ้ามันมากันตวั คร้ันอา่ นทวั่ ราชหตั ถจ์ ดั จําเนียร ฯ ๏ ลุวนั เดือนสิบเอด็ ข้ึนแปดคาํ่ ไดจ้ ดจาํ แน่จติ ประดิษฐ์เขียน เรีบยเรียงเรือ่ งเบื้องต้นไมว่ นเวียน พระยาเกยี รตนิ์ ้ันจงึ มาถึงพลัน เชิญท้องตราขน้ึ มาหน่ึงฉบบั เจ้าคุณรบั ตามควรไมผ่ วนผนั พระยาเกียรติ์กก็ ลบั ไปฉบั พลัน ยังหาทนั ทจี่ ะถามเนื้อความใด จึงประชุมลูกทพั กบั หลานกอง ฟังอา่ นทอ้ งตราแจ้งแถลงไข มบี ังคบั รบี ให้ยกขึ้นบกไป แจง้ อย่ใู นสารตราทีม่ าวาง ถ้าให้ไปตรวจเสบียงให้เพียงพอ กบั อีกขอ้ หนึง่ ใหป้ รุงปลูกยุ้งฉาง ใหถ้ ้วนทุกจงั หวะระยะทาง กับเร่งสว่ ยด้วยที่ค้างอยูน่ มนาน แมน้ เงินไมม่ สี าํ รองใหก้ องทัพ ที่จะจับจ่ายเสบียงเล้ยี งทหาร เร่งสว่ ยเสียทที่ ้าวเพี้ยกรมการ มาเจอื จานสําหรับกองทัพชยั ท่านเจ้าคุณแม่ทัพสดับตรา บงั คบั มามน่ั คงไมส่ งสัย จงึ โต้ตอบท้องตราปญั ญาไว ซึ่งจะไปเรง่ ส่วยเห็นป่วนการ แลว้ จะให้ปลกู ปรุงซึ่งยุง้ ไว้ กับจัดใหซ้ ้อื เสบียงเลยี้ งทหาร ดว้ ยจะยกนิกรไปรอนราญ จะละลานหน้าหลงั เปน็ กังวล ซ่ึงจะให้ยกทัพไปสรรพเสร็จ แต่ในเดือนสบิ เอ็ดฤดฝู น เปน็ ทล่ี ําบากใจแกไ่ พรพ่ ล นาํ้ ยงั ลน้ ลงไม่ลดของดที ครั้นเสรจ็ สรรพพับผนึกจารกึ หลัง ส่งไปยงั บางกอกบอกวิถี แรมทัพคอยทอ้ งตราหลายราตรี บห่ ่อนมีเภทภยั สง่ิ ใดพาล ท่านเจ้าคณุ แมท่ พั พดู ปรับทุกข์ ซึง่ จะบกุ ไปในปา่ น่าสงสาร กลัวผู้คนทัง้ หลายจะวายปราณ จึงคดิ อ่านหาชอ่ งสู่ทอ้ งตรา ถงึ จะมโี ทษร้ายกฎหมายทัพ จะสรู้ บั เอาผู้เดียวจรงิ เจียวหนา ทข่ี ้อขัดบงั คบั รับอาญา ถึงจะฆ่าถือมัน่ กตญั ญู ขออย่าให้ไพร่พลไปปน่ ป้ี เวลานีข้ ืนจรต้องอ่อนหู จะรบั บาปคนทง้ั เพเหมอื นเยซู มใิ ห้หมู่ไขป้ ่ามนั ฆา่ คน มิใช่จะคร้านคลาดราชการ เพราะสงสารโยธาดว้ ยหน้าฝน จะพากนั ไปตายทาํ ลายชนม์ แล้วเมืองบนกไ็ มม่ ีไพรรี อน แมน้ ขา้ ศกึ นับแสนตแี ดนร่วม ถงึ นา้ํ ท่วมให้ตลอดยอดสงิ ขร จะส้ยู กพหลพลนิกร ถึงไฟรอ้ นตา้ นหน้าจะกลา้ ไป ฯ

๏ เดอื นสบิ เอด็ ขึน้ สามคา่ํ ตามเหตุ บ่ายสกั สามโมงเศษไม่สงสยั พอสมเดจ็ เจ้าพระยาท่านมาใน เรอื กลไฟถงึ ท่าพระยาทศ บังเอิญเทวดาวลาหก ก็เร่งตกลงมาให้ปรากฏ ฝนกไ็ มห่ ายเหือดไมเ่ งอื ดงด ไม่หยาดหยดซซู่ า่ ลงมาพอ ทา่ นเจ้าคณุ ไปคาํ นับรบั สมเดจ็ ฝนสาดไม่ขาดเมด็ ลงสอสอ ตอ้ งกางกนั้ รม่ ไปมิไดร้ อ ลงนั่งย่อเรอื พายม้ารีบคลาไคล ครน้ั ถึงเรือสมเด็จจอดเสร็จสรรพ น้อมคํานบั กราบก้มประนมไหว้ แลว้ เรียนเร่ืองทางบกจะยกไป ในดงใหญน่ ้ํามากลําบากคน ขอรง้ั รอพอให้แห้งแล้งสกั หน่อย จึงจะค่อยยกไปในไพรสณฑ์ ถา้ ขืนยกเวลานี้เห็นรพี้ ล จะปป้ี ่นตายลงในดงดาน ทา่ นเจ้าคุณจําเนยี นกราบเรยี นเสร็จ ฝา่ ยสมเดจ็ เจา้ พระยาฟังว่าขาน จึงมีพระประศาสนป์ ระกาศการ ใหค้ ิดอ่านรบี ยกข้ึนบกไป เจา้ คณุ รบั โอวาทประศาสนส์ ง่ั โดยข้อบงั คบั แจง้ แถลงไข จะให้ยกโยธารบี คลาไคล รอพอได้ทาํ บญุ เสรจ็ สกั เจ็ดวัน ท่านเจ้าคุณแม่ทัพกลับทําเนยี บ ฝนไมเ่ รยี บตกตวดเป็นกวดขนั พอพลบค่ํายํ่าแสงพระสรุ ิยัน มีกําปัน่ ไฟถึงอกี หนง่ึ ลํา ด้วยทา่ นหลวงยทุ ธยานาธิกร ทา่ นดว่ นจรก็เหน็ สมดคู มขาํ เชิญทอ้ งตรามากําลังฝนตกพราํ ขึ้นบนทาํ เนียบท่าชลาธาร ส่งท้องตราให้แกท่ า่ นแมท่ ัพ อีกท้ังกับเงนิ จําแนกแจกทหาร ท้งั เงินห้าสบิ ชงั่ สงั่ ประทาน เปน็ เงินงานเตรียมทัพสําหรบั ไป ท่านเจ้าคณุ แม่ทพั ก็รบั รอง แลว้ อา่ นทอ้ งตราแจง้ แถลงไข มบี งั คบั จะยกขนึ้ บกไป แต่โดยในเดอื นสบิ เอ็ดจงเสร็จพลัน เจา้ พระยาแม่ทัพสดับแจง้ ตอบแถลงตามกระบนไมผ่ วนผนั ด้วยโคต่างชา้ งมามาไม่ทัน การติดตนั เหลอื เขยื้อนเคล่ืนนิกาย แม้โคตา่ งชา้ งมาพรอ้ มมาถึง เป็นแนห่ นงึ่ วันนั้นไดผ้ ันผาย พอไดพ้ าหนะทว่ั เหลา่ ตัวนาย จะถวายบงั คมลาฝ่าละออง ครัย้ เสร็จสรรพพับผนึกจารกึ บอก ส่งบางกอกแจง้ ความตามสนอง หลวงยทุ ธยาคํานบั แล้วรับรอง หนงั สือสองสามฉบบั แลว้ กลับลา ฯ ๏ ครนั้ ข้นึ สิบสค่ี ่ําเดือนสบิ เอ็ด ไดจ้ ําเสร็จโดยหวงั ไมก่ งั ขา

น้ําท่วมถงึ กระทงั่ เลยหลังคา นึกกน็ ่าอศั จรรยข์ ันกระไร เรือต้องขึ้นจอดบกเจียวอกเอ๋ย มิได้เคยพบเหน็ เป็นไฉน นข้ึ ้นึ ถึงขนาดประหลาดใจ แมน้ ผใู้ ดบอกคงจะสงกา นี่ไดเ้ ห็นต่อพกั ตร์แกจ่ กั ขุ เจอแลจุปากทกั นํ้าหนักหนา ข้นึ คืนเดียวเจียวรว่ มท่วมหลังคา เป็นนาํ้ ป่าเช่นผู้เฒ่าเขาเล่ากัน ฯ ๏ เดอื นสิบเอ็ดเสร็จวสั สาสิบหา้ คา่ํ เจ้าคณุ ทาํ บญุ ใหญ่ใจกระสัน ดว้ ยเปน็ วันพระจอมเกลา้ ฯเขา้ สนองคุณบพติ รนจิ นริ ันดร์ นิพพาน นิมนต์สงฆ์พรอ้ มเพรียงประเดยี งฉนั ในวันนัน้ ล้วนเปน็ สุขสนุกสนาน มมี หาชาตใิ หญแ่ ลว้ ให้ทาน มโหฬารสรวลเสเสียงเฮฮา ครนั้ พลบคํา่ ยํ่าแสงสรุ ิย์ใส จดุ ดอกไมส้ ่องสว่างกลางเวหา แสงดอกไม้กระจา่ งสาํ อางตา จับนวลหน้านางลาวขาวเป็นใย คร้นั เทศนค์ รบจบตามสิบสามกณั ฑ์ ต้งั แต่นนั้ นาํ้ ลดคอ่ ยงดหาย ซึ่งกองทัพเปปน็ สขุ สนุกสบาย พอหาดทรายผุดพ้นชลธาร ท่านเจ้าคุณแม่ทัพหยดุ ยบั ย้งั ทา่ นกต็ งั้ ซอ้ มศกึ ฝึกทหาร ลว้ นเข้าใจไววอ่ งคล่องชาํ นาญ ท่านเหน็ การนํา้ ลดเงือดงดลง จงึ แตง่ จัดขุนสจั จวาที สบื วถิ แี นก่ าํ หนดลงจดหมาย เสร็จสรรพกลับสนองท้ังสองนาย กราบเรยี นรายระยะทางในกลางดง ก็พอจะไปไดไ้ ม่ส้ยู าก ทล่ี ําบากนา้ํ เผอ่ื ยงั เหลอื หลง เป็นหล่มลึกตลอดไปในไพรพง ก็น้อยลงกวา่ แต่กอ่ นเป็นดอนไป เจา้ พระยาแม่ทพั สดับแจ้ง วา่ ทางแห้งไมส่ ยู้ ากลําบากไพร่ คดิ จะยกซง่ึ พหลพลไกร แตย่ งั ไม่มีช้างโคต่างจร เจา้ พระยาแม่ทัพเฝ้าปรับทุกข์ ไม่มีสุขเศรา้ ในฤทยั ถอน เที่ยวหาจ้างช้างอํามาตยร์ าษฎร ก็บห่ อ่ นสมคิดจติ ราํ พงึ พอวันหนึง่ มีผ้ถู ือหนงั สอื กระดาษ ของพระยาราชเสนาลงมาถึง ยงั เจ้าคุณแมท่ ัพคาํ นับคํานึง เจา้ คณุ จึงอ่านไดม้ ใี จความ ใบบอกว่าพระยามหาอํามาตย์ กับเจา้ เมืองโคราชเรอื งสนาม เขา้ รบอ้ายฮ่อนั้นวดั จันงาม พอสงครามฮอ่ แหกแตกกระจาย กองทพั ไทยไดท้ ตี ีกระทบ พวกฮ่อรบแหกหนั หนีผันผาย

พวกกองทพั จับได้ทั้งไพรน่ าย ทเี่ หลอื ตายหลบหลีกต้งั ปีกกา ฮอ่ ยกพลขน้ึ บนหลงั คาโบสถ์ ปนื ลกู โดดยิงไทยดว้ ยใจกลา้ พวกอา้ ยฮ่อดนี ักแผลงศักดา บนหลงั คาโบสถย์ นื ยิงปืนกัน พระสุริยนสนธยาวลาหก เพอญิ ตกย่งิ ยวดเปน็ กวดขัน พวกอ้ายฮ่อก็กระโดดจากโบสถ์พลนั เข้าฝ่าฟันหนไี ปไดท้ ้งั มวล แต่พระยามหาอาํ มาตยน์ ้ัน ไดจ้ ัดสรรคนลอบไปสอบสวน สกดั จับทพั ฮ่อที่กอ่ กวน หลายกระบวนตามกระชัน้ ไปพนั พวั เสมยี นอ่านบอกเสร็จสําเร็จจบ เจ้าคุณตบมือสรวลสํารวลหัว พวกอ้ายฮอ่ เสียกระบวนมันจวนตวั ด้วยความกลัวหนีโดดจากโบสถ์ไป คนลอ้ มถึงสามพนั กระชน้ั ชิด อ้ายฮ่อมนั มีฤทธิจ์ งึ หนไี ด้ พวกเราไมต่ อ้ งยกขน้ึ บกไป ด้วยส้นิ ไส้ศกึ เสรจ็ สาํ เรจ็ การ ซ่ึงตวั ฉนั ไดฟ้ ังแล้วนงั่ ยิม้ ใจเอบิ อ่ิมปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ นึกเดาเอาวา่ สําเรจ็ ศึกเสร็จการ ได้กลบั บ้านแลว้ พวกเราอย่าเศร้าใจ คอยฟังกล่าวซ่ึงท้องตราให้หากลับ กล็ กึ ลับเหลือล้นพน้ วิสยั ย่งิ นับวันก็ย่งิ หายกลับกลายไป ประหลาดใจเหลอื ลาํ้ นง่ั คาํ นงึ อนึง่ ช่วั ตวั ฉนั ลมื วันคนื เมอ่ื จมนื่ ทพิ เสนาลงมาถึง คมุ ฮอ่ มาที่ทําเนียบไมเ่ งยี บองึ คนทะล่ึงอยากเห็นฮ่อวงิ่ สอมา ฮ่อสองคนใหญ่เลก็ เจ๊กแท้แท้ ช่างเรียกแห้ฮอ่ ฟงั นา่ กงั ขา ท่านเจ้าคณุ แม่ทพั รบั บัญชา เสมยี นมาถามฮอ่ เขยี นขอ้ คาํ จนี คนเล็กคนใหญม่ นั ให้การ ดเู พ่นพา่ นฟัน่ เฟอื นเล่ือนถลํา เหน็ ผนั แปรแชเชือนเปน็ เงื่อนงาํ มไิ ดจ้ าํ จดไวไ้ ม่เป็นการ ทิพเสนากพ็ าจีนฮอ่ กลบั เจ้าคณุ แมท่ ัพเกษมศานต์ แรมทพั อยู่ท่ีท่าเป็นชา้ นาน ทาํ บุญทานด้วยมนัสมศี รัทธา ได้ซ่อมแซมกุฏิพระวิหาร ทําไมก้ รานคา้ํ โพธโ์ิ ตสาขา เอาเงนิ แจกคนชแรแก่ชรา ทอดผา้ ปา่ โดยนยิ มพอสมควร พอโคตา่ งชา้ งมาลงมาถงึ เจา้ คุณจงึ ให้คนลอบไปสอบสวน ให้ได้เหน็ จึงรู้ดจู ํานวน จงถถ่ี ว้ นชา้ งตง้ั เป็นพงั พลาย ชา้ งเบด็ เสรจ็ รอ้ ยเจ็ดสิบช้างกวา่ โคตา่ งหา้ ร้อยถว้ นจํานวนหมาย ทา่ นเจ้าคุณยินดีเป็นทีส่ บาย พรอ้ มท้ังนายทัพนายกองปรองดองกนั

กําหนดท่ีจะยกขึ้นบกเดิน บอกแตเ่ นิน่ เตรยี มพหลพลขนั ธ์ เดอื นสิบสองขึน้ สองคํ่าเป็นสําคญั จะผายผนั ไปตาํ แหนง่ ทา่ แกง่ คอย พลกองทพั รู้ทั่วเตรียมตัวท่า บา้ งทํามา้ สานตะกร้อไม่ท้อถอย ตระเตรียมเป็นธรุ ะไม่ตะบอย ไมอ่ ้อยสร้อยสานกระทอพอตะพาย พวกลาวชาวบ้านพระยาทศ รกู้ าํ หนดว่าจะไปแล้วใจหาย ทา่ นผู้เฒา่ เฝ้าละเห่ยี แสนเสียดาย กองทพั อยู่คอ่ ยคลายพวกคนพาล ไมอ่ ยากให้กองทพั ไปลบั ลี้ ตั้งอยู่ทีแ่ สนเปน็ สขุ สนุกสนาน ทั้งข้าวของไม่หายวายรําคาญ พวกชาวบา้ นหมน่ หมองนองนาํ้ ตา กองทพั มาครัง้ น้ีเปน็ ที่ยิ่ง ดจี ริงจริงปกปกั คุ้มรักษา คอ่ ยวา่ งเขญ็ เย็นเกล้าเหล่าประชา บา้ งโศกาไห้รํา่ โศกรําพึง ฯ ๏ ณ วันคืนปีเดือนจําเคลื่อนคลาด เจา้ คุณราชวราข้ึนมาถึง ขึน้ ทําเนยี บท่าน้ําดง่ั คาํ นงึ แล้วเชิญซงึ่ ทอ้ งตราข้ึนมาพลนั ท่านเจ้าคณุ แมท่ พั รบั หนงั สือ มาจากมอื เจ้าคุณราชแล้วผาดผัน มายังที่ชุมนุมประชมุ พลนั พรอ้ มพรกั กนั ทั้งลกู ทัพคอยรบั รอง แลว้ จงึ อา่ นสารตรามาบังคับ ใหก้ องทพั ยกเคลื่อนเดือนสิบสอง จะตอบโต้เบอื นบิดผดิ ทํานอง จงเคล่อื นกองทัพยกขน้ึ บกไป ทา่ นเจ้าคณุ แจง้ ความตามบังคบั จงึ พดู กับเจ้าคุณราชไม่หวาดไหว โคตา่ งช้างมมี าจะวา่ ไร อยากจะใครก่ รีพลพหลจร บดั นช้ี ้างโคต่างมาถงึ หมด ได้กาํ หนดไวแ้ ลว้ แตก่ ่อน จะยกซ่ึงพหลพลนิกร ใชจ่ ะนอนเนิ่นใจเม่ือไรมี แล้วแต่งตอบข้อความตามที่กล่าว เป็นเรอื่ งราวน้อมประณตบทศรี ขอถวายบงั คมลาฝ่าชลุ ี ส้นิ วาทีหอ่ พับประทบั ตรา แล้วสง่ ลงบางกอกบอกนุสนธ์ิ ตามเหตุผลขอ้ ศกึ ทีป่ รึกษา คร้นั รุ่งแจง้ แสงศรีสรุ ิยา เห็นกาํ ปัน่ ไปมาถงึ ทา่ พลัน เห็นฝรง่ั นงั่ ร่ามาหน้าเรอื ประหลาดเหลอื มาไยผดิ ใจฉัน พอเห็นหมวกกะระเซ็นเป็นสําคญั ชาวอเมรกิ ันเขาข้นึ มา ถงึ เจา้ คณุ แมท่ ัพคํานับน้อม กับของพร้อมสารพดั เขาจัดหา เลา่ แถลงแจง้ จติ ตามกิจจา ตามบรรดาคนนอกเขาออกทุน ฝร่ังพรอ้ มกนั เสียเงินเรีย่ ไร ท้ังคนใหญค่ นนอ้ ยพลอยอุดหนนุ

ทงั้ นายห้างกปั ตนั ท่านกงซุล เขาทาํ บุญส้เู สียเงนิ เร่ียไร ไดจ้ ดั ซ้อื ผ้าห่มขนมปงั กับอีกทง้ั หยกู ยารกั ษาไข้ ยาโกรกกรากใบตองสํารองไป ทั้งขีดไฟชาหีบรีบเอามา จะมอบของส่ิงนใ้ี หใ้ ครบําเรอ มอบดอกเตอรด์ ูพทิ ักษไ์ ดร้ กั ษา คนกองทพั จับไขไ้ ดพ้ ยา- บาลบรรดาคนไข้ของให้ทาน พวกดอกเตอรเ์ ขาก็พากนั มารับ ของสําหรบั ที่จําแนกแจกทหาร ช่วยกนั ขนล้นหลามถว้ ยชามจาน ทัง้ นําตาลทรายกระสอบรับมอบมา ครัน้ จวนวันจวนเดือนจะเคล่ือนคลาด ไปจากหาดพระยาทศกําสรดหา ซง่ึ ตวั ฉนั นไ้ี มว่ ายฟายนาํ้ ตา จะจากท่าหาดเหนิ เดินอรัญ คร้ันนาฬกิ าได้ท่ตี สี ิบเอ็ด คนพร้อมเสร็จเตรียมกายจะผายผัน ขนของลงนาวาไม่ช้าพลนั บ้างชวนกันกินขา้ วเช้าจะไป เหลา่ ลูกทพั หลานกองพรอ้ มนองเนอื ง ล้วนแต่งเคร่ืองเต็มยศแสนสดใส ดูงดงามตามตําแหนง่ แกร่งเกรยี งไกร ตา่ งคนไปจอดลอยคอยเจ้าคณุ ฉันนัง่ ท่หี นา้ แครเ่ หมอื นแตก่ อ่ น อรุ ะร้อนราวจะโลดกระโดดหมุน พอรุง่ แจ้งแจ่มฟ้าเรือ่ อรุณ ไดส้ กุณฤกษ์เบิกกระบวน ทา่ นเจ้าคณุ แม่ทพั ขยับย่าง งามสําอางเฉดิ ฉินดังอินศวร เสร็จลงนาวาเวลาควร เรือกห็ วนเหห่างออกกลางชล ฆอ้ งชยั ล่ันสาํ เนยี งเสยี งประสาน ฝีพายขานยาวรับอยสู่ บั สน พระสงฆ์เป็นธุระประนา้ํ มนต์ แล้วร่ําบน่ ชยนั โตโมทนา เหลา่ พวกสาวชาวบา้ นละลานจติ บ้างท่คี ิดถึงบุญคุณนกั หนา เดนิ ตามสง่ กองทัพจนลับตา บา้ งโศกาโหยไห้อาลยั แล ฝีพายขึงตึงไหล่ใสส่ วบสวบ เรือยวบยวบมาในวนชลกระแส ตัวฉันเฝา้ เพม่ิ พูนอาดูรแด ทรวงต้ังแตโ่ ศกข้อนอาวรณ์มา เรอื ร่ีเรื่อยเฉ่ือยฉวิ ละลิว่ ฉยุ ฝีพายพุย้ จํ้าหนว่ งจ้างถลา ถงึ ท่แี ก่งนํ้านนู ไหลพูนมา ดงั ฉ่าฉา่ ฉานฉานเสยี งชาญชล นํา้ พงุ่ ไหลโพนชา่ งโชนเช่ียว ฝพี ายเหนี่ยวหันรบั อยูส่ ับสน ตอ้ งขึ้นแก่งแรงร้ายหลายตาํ บล ประจวบจนแก่งคอยบ่ายคลอ้ ยโมง นา้ํ เฉอ่ื ยฉิวลวิ่ เหลอื พอเรอื ลอย ไพร่พลคอยถอ่ คา้ํ หกั ตํ้าโผง ฝพี ายผอ่ นออ่ นใจตอ้ งใช้โยง คอ่ ยชะโลงหนว่ งเหนย่ี วเตม็ เรย่ี วแรง

ชว่ ยกันรงั้ ช่วยกนั ลากกระชากฉุด พอเรอื หลดุ ล่วงพน้ ตาํ บลแกง่ ถึงทําเนียบทีส่ ร้างไวก้ ลางแปลง เขาตกแตง่ คอยรบั กองทพั ชัย เรอื เจ้าคณุ จอดประทับกับตะพาน พอทหารยืนเรียงเคียงไสว พอเจา้ คุณยา่ งยกข้นึ บกไป กปั ตนั ใหญ่บอกเป็นปรีเซนตน์ าํ ทหารแถวยกึ ปนื ขึ้นคํานับ ไม่สบั ปลับดังว่าเลขาขาํ แล้วบอกให้ยกปนื ยืนประจํา เขาช่างทาํ เจนจัดหดั ชํานาญ กแ็ รมทัพยับยง้ั อยู่ที่น่ัน ครัน้ ณ วันแรมสามค่ําได้ทาํ ศาล บวงสรวงเทวดาเจ้าท่าธาร ใหภ้ ิบาลกองทัพจงรับรอง แลว้ เจา้ พระยาแมท่ ัพบงั คับสั่ง จดั แตง่ ตง้ั ลกู ทพั บงั คบั ต้อง ตามกระบวนทัพชยั ในทํานอง ปันหมวดกองด้วยจะยกข้ึนบกเดิน พระอภัยสงครามใจห่ามฮึก เคยทําศึกรบรกุ ถงึ ฉุกเฉิน ใหเ้ ป็นนายทพั หน้าปญั ญาเดนิ คงไมเ่ ยินยอ่ ยยับอัปรา ซ่ึงพระไตรภพรณฤทธคิ์ วามคดิ หลาย เป็นปักซา้ ยสําหรับกองทัพหนา้ พระอภัยพลรบจบศักดา เปน็ ปกี ขวาเม่อื จะยกขึ้นบกไป พระมนตรีบวรซอ้ นประดงั เปน็ กองหลงั ทพั หนา้ อัชฌาสยั รวมจาํ นวนบาญชีท่ีมีไป ล้วนคนในเกณฑต์ ้ังวงั บวร พระยาชิตณรงคเ์ คยสงคราม ไม่ครน่ั ครา้ มห้าวหาญชาญสมร เปน็ ทัพขันธ์เยอื้ งซ้ายนายนกิ ร ไม่ยอ่ หยอ่ นไพรมี ศี กั ดา พระยาพิชัยชาญฤทธ์ิไม่คดิ พรน่ั เป็นทพั ขันธห์ นนุ เนอื่ งข้างเบื้องขวา พลรบถือครบเครือ่ งศัสตรา ประจําหน้าทีไ่ ม่ถอยคอยต่อกร เจา้ คณุ กํากบั พลคนท้ังปวง เป็นทพั หลวงร้พี ลคนสลอน ตงั้ นายกองนายทัพเป็นตบั ตอน แม้นราญรอนทว่ งทีจะมีชัย ซงึ่ ทา่ นหลวงทวยหาญเชี่ยวชาญชดั กับขุนจัดกระบวนพลเป็นคนใหญ่ คมุ ทหารสําหรับแม่ทพั ไป ระวงั ภยั มไิ ดห้ ม่ินอรินพาล พระพบิ ูลไอศวรรยต์ วั กลั่นกล้า เปน็ ปกี ขวาทัพใหญ่ใจทหาร ทว่ งทกี ลศึกฝกึ ชํานาญ ยอ่ มรู้การแมน่ ยาํ ทาํ อุบาย ซึ่งพระชาติสเุ รนทรน์ ้นั เจนทพั การรบรับแลว้ ไม่หยอ่ นถอนขยาย คุมขุนหม่ืนไพรฉ่ กรรจพ์ ันทนาย เปน็ ปกี ซ้ายทว่ งทีดกี ว่าคน ซง่ึ พระยามหานภุ าพนน้ั กแ็ ขง็ ขนั การศึกได้ฝึกฝน

ใหว้ า่ ท่ีปลัดทัพกาํ กับพล เพอื่ ประจญประจญั บานรับด้านกนั หลวงภกั ดีจมุ พลรณดิลก เป็นทย่ี กกระบัตรทพั เหน็ ขับขัน ทว่ งทีมอี ํานาจฉลาดครนั ร้สู นั ทัดแท้ไม่แปรปรวน ซึ่งขนุ สกลสารบาลใจหาญฮึก ในการศกึ แล้วไม่พรน่ั ใจผนั ผวน เปน็ ทจ่ี เรทัพจบั กระบวน เจ้าจํานวนรว้ิ ทพั กํากับการ ซ่งึ ท่านขุนอนิ ทรว์ ิเชียรชาติ ขุนพรหมราชปัญญาล้วนกลา้ หาญ ขนุ นราชมุ พลคนชํานาญ ขันสัจวาทิการทั้งสี่นาย เปน็ กองแซงดา้ นในล้วนใจกาจ ดว้ ยองอาจมิได้พรน่ั จิตม่นั หมาย อยากรบศึกฝกึ ตัวไมก่ ลัวตาย คมุ นิกายพลรบครบทกุ คน หลวงกจิ จานกุ จิ ประกาศน้ัน ก็เขม้ ขนั ชุมนุมคมุ พหล หลวงอาสาสาํ แดงรแู้ ต่งพล เมอื่ ประจญประจญั รบั กับอริน หลวงจัตรุ งคโยธาปัญญาลึก การรบศึกแล้วไมห่ ันพักตร์ผันผิน ขนุ นราฤทธไิ กนใจทมิฬ ขุนพชิ ยั ชาญยทุ ธศิลปร์ วมห้านาย ลว้ นคุมไพรไ่ ววอ่ งเป็นกองหลัง ถือโล่ห์ดงั้ และดาบกาํ ซาบสาย ทั้งปืนใหญ่ปืนน้อยปลอ่ ยลูกปราย ดาบตะพายง้าวทวนกระบวนเรยี ง ท่านหลวงทรงศกั ดาปัญญายง ดงั่ เล่าฮ่องตงเรอื่ งสามกก๊ ตลี กเอยี๋ ง ทา่ นขนุ อินทรภักดีฤทธีเพียง เสมอเกียงอุยอาจฉลาดการ ทา่ นขนุ รักพลพยหุ ์ใจดเุ หลือ ยิ่งกวา่ เสือฤทธากก็ ล้าหาญ ทา่ นขุนราชเมธาปัญญาชาญ ลว้ นกองดา้ นแซงนอกพลหอกแดง ฯ ๏ เจ้าคุณคดั จัดกระบวนครั้นถว้ นพร้อม ต่างฝกึ ซอ้ มเหลา่ ทหารชาญกาํ แหง ครั้นรงุ่ ขึน้ อกี เวลาพอฟ้าแดง ตา่ งจัดแจงเบกิ ชา้ งโคต่างกัน ท่านยกกระบตั รทัพก็จับจ่าย ทงั้ ชา้ งพลายพังทวั่ ลว้ นตวั กล่นั พวกนายทัพนายกองเท่ยี วมองพลนั แล้วเลือกสรรช้างข่ดี ีทุกคน ฯ ๏ ครั้นรุ่งขน้ึ เดอื นสบิ สองแรมห้าคาํ่ เป็นวันกําหนดเคลื่อนเล่อื นพหล ยาํ่ ร่งุ แจง้ แสงศรสี รุ ิยน พวกไพร่พลเตรียมพร้อมไมพ่ ลอมแพลม ด้วยว่ายกกระบตั รจดั กระบวน งามธงทวนพูห่ อกด่ังดอกแขม ทใ่ี นทอ้ งทุง่ นาไม่ราแรม สีขาวแซมแดงเขยี วงามเทียวทวน เจา้ คุณนง่ั คอยฤกษค์ อยเบิกเนตร น่งั สังเกตฤกษน์ ้นั ไมผ่ ันผวน

พอไดส้ กุณฤกษ์เบิกกระบวน ลน่ั ฆอ้ งถวนสามครงั้ ข้นึ ยงั เกย ขน้ึ สชู่ า้ งกระโจมแดงแสงระยับ รูดม่านเยียรบบั นัน้ เปิดเผย ดงู ามงดรจนาสง่าเงย ช้างตัวเคยเป็นประเทียบหลงั เรียบดี เดนิ ไม่กระเพอ่ื มเพื้อมกระเทอื น ค่อยคลาเคล่อื นมาในทางหวา่ งวถิ ี เสียงเทา้ คนเดนิ ดงเป้นผงคลี ด่ังธรณีเพียงจะแยกแตกเปน็ คลอง ฯ ๏ ครัน้ ถงึ ประตปู า่ ที่อารักษ์ คนหยดุ พักบชู ังสน้ิ ทัง้ ผอง เจา้ คุณก็จําเนยี รจุดเทียนทอง แลว้ จงึ รอ้ งเรียกคนใหไ้ ปบูชา เสรจ็ คลาเคล่ือนกองทพั ไม่ยบั ย้ัง ถึงกระทงั่ หว้ ยกระบอกเป็นซอกผา กล็ ยุ ช้างขา้ มลําแม่นาํ้ มา ดงพระยาเย็นเชียบเงียบเหงาใจ ลว้ นป่าทบึ ดงชฏั สงัดแท้ มองเหน็ แต่ยางยงู สูงไสว โศกสกั กรกั กร่างมะทรางไทร แสลงใจจง่ิ จ้อคล้อตะคล้อง มะตมู ตาดเตง็ แตว้ แกว้ มะกา คางมะค่าประคาํ รอ้ ยและข่อยหยอง กระท้อนกระทมุ่ อุทุมพรและคอ้ นกลอง มะพลบั พลองพลวงกะเพราสะเดาดง ต้นตะโกสะแกแสมสาร ต้นกํายานพระยายาและกาหลง อัมพามะพดู ชลูดโรกโลดทะนง ท้งั เปรงปรงโปร่งฟ้าและขานาง ต้นก้านเหลอื งมะเฟอื งมะฝ่อไฟ สลัดไดนางรองและทองหลาง มะกอกดอกประดตู่ ้นหูกวาง มะสังทรางส้มเส้ยี วเลบ็ เหย่ียวยล เกดกุม่ พุมเรยี งและเหียงหาด มะตูมตาดตดิ ดอกบา้ งออกผล ตะเคียนเคียงเรียงระดะดปู ะปน มีทงั้ คณฑาไทยลาํ ไยดง ตะแบกกระเบากรันเกราไกร ทง้ั เนอ้ื ไมก้ ฤษณามหาหงส์ ตน้ กระทิงกระทอ่ มพะยอมประยงค์ ทง้ั คนทรงแสม้ ้าพระยารัง ต้นดีหมีตาเสือมะเกลือมะกล่ํา เหลือจะราํ พันไมเ้ หมือนใจหวัง ด้วยอกฉนั แทบพองเป็นหนองพงั เหลอื ประทังท่จี ะทนหมองหมน่ มวั คดิ เกรงด้วยความไข้อกใจฝ่อ ฤทัยท้อแดดแฝงแสงสลวั เขา้ ใต้พงดงรังระวังตัว เพราะใจกลวั ไขป้ ่าจะฆ่าตาย ไหนจะคิดถงึ คทู่ ่ชี จู ิต ครนั้ หวนคดิ ถงึ ไขแ้ ลว้ ใจหาย ไหนจะคิดถงึ ญาตไิ ม่ขาดวาย ท้งั พี่ชายน้องสาวและอาวอา ฯ ๏ ครัน้ มาถงึ ลาํ โศกวโิ ยคเศรา้ โอ้โศกเราเหลือลกึ พอ้ งพฤกษา มีลาํ ธารน้ําเฉือ่ ยไหลเร่ือยมา เหมอื นนํา้ ตาฉนั ไหลใจรัญจวน

ตน้ โศกเคยี งเรียงรายอยูช่ ายทาง แลสล้างเหมือนหน่งึ ว่าพฤกษาสวน เหมอื นโศกฉนั รายทางไม่หา่ งครวญ ไห้โหยหวนมาในทางกลางอรัญ ซง่ึ หนทางเดนิ ยากลาํ บากเหลอื แม้นมาเมื่อหน้าน้าํ จะทําขัน เหลา่ ไพรพ่ ลคงตายวายชีวัน ตงั้ นับพนั นับร้อยไมน่ อ้ ยตน ด้วยหนทางพอช้างจตุ ัวยอ่ ง เหมือนลาํ คลองแม่หมฤู ดฝู น น้าํ คงท่วมเลยประศรี ษะคน จะยกพลขึน้ บนบกก็รกเกนิ ด้วยไม้ใหญเ่ รยี งชดิ ตดิ เป็นพ้นื ตลอดยืนถึงลาํ เนาภเู ขาเขิน ถงึ จะใหค้ นถางหนทางเดิน ตลอดเนินแล้วคงตายลงหลายพนั จะทําแพต่อเรือก็เหลือคิด ไปสักเส้นเหน็ จะตดิ ศลิ ากน้ั จะหามเรอื ไปก็ยากลําบากครัน ดว้ ยเปน็ หลน่ั เปน็ ตอนลุ่มดอนไป จะหาทต่ี ่อเรอื เหลอื ลําบาก จะโคน่ ถากถางดงท่ตี รงไหน นอนค้างดงหลายวนั คงบรรลัย ด้วยความไขม้ ิใชช่ ว่ั กลวั ระวัง ฤดนู ีเ้ รามาเหมอื นหน้าแลง้ ยังไมแ่ หง้ นาํ้ เฉอะลว้ นเลอะขัง ถ้าแมน้ มาหนา้ ฝนพน้ กําลัง เป็นต้องฝังกนั ในดงลงสักพัน มใิ ชเ่ ขาตวั เราเป็นหน่ึงแน่ ไมเ่ ทีย่ งแท้โดยคาํ ธรรมขนั ธ์ อนิจจาว่าไมเ่ บี่ยงไมเ่ ท่ียงธรรม์ ไม่รวู้ นั ทจ่ี ะตายทาํ ลายตน ไมร่ ู้ตัววา่ จะตายทาํ ลายแท้ เว้นเสียแต่ผวู้ เิ ศษแจ้งเหตุผล จ่งึ รตู้ ัวว่าจะตายวายกังวล ปุถชุ นหาได้น้อยไม่คอ่ ยมี ฉนั คิดถงึ ความตายใจหายวาบ เหมอื นเกดิ ลาภตามทางกลางวถิ ี หากว่าบญุ เราหลายได้นายดี ไม่อนิ ทรยี ์ของเราเน่าอยูไ่ พร หากว่าเดชะบุญเจ้าคุณโข สตู้ อบโตท้ ้องตราหามาไม่ ถา้ เหมือนเขาเมายศไม่อดใจ คงพาไพร่มาลา้ งเรี่ยทางเดิน คนอนื่ กพ็ ดู กันเชน่ ฉนั ว่า เหลา่ โยธาชวนกันสรรเสริญ บา้ งนบนอบขอบบญุ เจ้าคุณเกนิ บ้างอวยชัยใหเ้ จรญิ ยิง่ ภญิ โญ ตวั ฉนั นัง่ แล้วลองคิดตรองตรกึ ถ้าปะศึกท่วงทีจะดีโข ด้วยฝูงไพรพ่ ร้อมพร่ังตัง้ มโน แผลงเดโชเอาชนะกะศัตรู ของสนองพระเดชคณุ อดุ หนนุ แท้ เจ้าคณุ แมท่ พั นอี่ ารีอยู่ คอ่ ยเคลอ่ื นคลายหายเขญ็ ท่านเอน็ ดู ชว่ ยช่ืนชชู วี งั เรายัง่ ยืน เหล่าพวกไพร่พูดจาวา่ กันวุ่น ขอแทนคณุ ท่านเมตตาจะฝ่าฝืน

จะเอากายเปน็ คา่ ยตับรบั ลูกปนื พดู กนั ดน่ื เจียวอยา่ งน้ีเห็นมชี มุ ค่อยเดนิ ชา้ งมาในกลางพนมวัน หัวอกฉันร้อนใจดงั่ ไฟสมุ แสนกระสนั เศรา้ โศกเหมอื นโรครุม ให้กลดั กล้มุ ตรมใจไม่เสบย ฯ ๏ มาถึงหว้ ยหินลับดูลบั ล้ี เหมอื นกับพ่ีลับมานิจจาเอ๋ย ทั้งลบั ตาลับหูลบั ค่เู ชย เม่อื ไรเลยจะหายลับกลับได้ยล ตั้งแต่มาหาได้ลมื แม่ปล้ืมจติ เฝ้าแตค่ ิดถึงวันหลายพนั หน ถึงยามกนิ ยามนอนให้รอ้ นรน เป็นกังวลคะนงึ คิดถึงนาง ทั้งคิดถึงมารดาและอาพ่ี ปานฉะนีจ้ รดลจิตหม่นหมาง คงคดิ ถงึ ลกู หลานขา้ มด่านทาง มาในกลางดงป่าพระยาไฟ ชาวบางกอกออกชอ่ื พระยาเยน็ แล้วกเ็ ป็นสั่นหัวกลัวความไข้ ซึง่ เรามานีจ้ ะรอดตลอดไป หรอื จะไมพ่ น้ ดงจะปลงชนม์ ฯ ๏ ครัน้ มาถงึ คนั ยาวขน้ึ เขาโขด สงู เด่นโดดแลเยย่ี มเทียมเวหน ช้างปนี ขึน้ ตวั ต้ังระวังตน ข้นึ สดุ บนยอดเขาลาํ เนาเนิน ข้างทางแลเปน็ เปลวล้วนเหวผา หนทางมาสงู โดดบนโขดเขนิ เป็นคันน้อยรมิ ทางพอช้างเดิน สะทกสะเทิ้นกลัวจะตกหกคะมาํ ภูเขาเลา่ ก็ชนั เป็นหลั่นลด ช้างค่อยจดเดนิ เรียงกลัวเพลยี่ งพล้าํ ค่อยคอ่ ยคกุ ขาหน้าอตุ ส่าห์คลํา แม้นถลําแล้วเปน็ เหลวดว้ ยเหวลึก ซึ่งคนอยบู่ นสปั คับน้ัน มอื ถอื มนั่ ตวั โยกอยูโ่ งกหงกึ ดเู หวเหน็ ใจเตน้ อยูท่ กึ ทกึ ช้างพลาดกกึ คนงบู จบั กูบงัน คนเดนิ เทา้ เล่าก็ล้าทําหน้าจดื คันยาวยดื ใช่ง่ายเดนิ ผายผัน ซ่งึ หนทางนัน้ เล่าภูเขาชัน ช้างยังดนั เตม็ แยอ่ อ้ แอ้ไป ฉันขที่ า้ ยชา้ งเจ้าคณุ เปน็ บุญเกิน แมน้ ต้องเดินเคีย่ วเข็ญเปน็ ไม่ไหว นี่ไม่ต้องลา้ เลือ่ ยเหนด็ เหนื่อยใจ เพราะว่าไดข้ ช่ี า้ งทางกันดาร ฯ ๏ ครน้ั ถึงทับมะคา่ เห็นน่าหยุด พ่ีแสนสุดเป็นสขุ สนุกสนาน แลตลอดโล่งเตยี นเลี่ยนเป็นลาน แลเชงิ ชานภูผาเหน็ น่าชม ทีน่ ั่นมอี ารักษ์อนั ศกั ดสิ์ ิทธิ์ สงิ สถติ มาแท้แตป่ ระถม คนกองทัพพรั่งพร้อมน้อมประนม ทใ่ี ตร้ ่มไมร้ ังต้งั บชู า แล้วคลาเคลื่อนกองทพั ไมย่ บั ย้งั ดูคบั คงั่ พลนกิ ายทั้งซ้ายขวา บา้ งเป็นหลมุ เป็นบ่อมรคา บ้างตั้งทา่ ชันตรงลดลงดิน

ทางข้ึนขนึ้ ลงลงในดงชัฏ บ้างเดนิ ลดั หลีกออกทางซอกหิน บ้างสงู เย่ยี มเทียมฟ้าเมฆาฆิน บางแห่งเหน็ เหม็นกลิ่นมาไมด่ ี ในดงชัฏฝงู สัตว์ไปไหนหมด ไม่ปรากฏเจอพกั ตร์ฝงู ปกั ษี ไมย่ นิ เสยี งลิงค่างบ่างชะนี ไม่เห็นมนี กึ ประหลาดอนาถใจ ฯ ๏ คร้ันมาถึงมวกเหล็กเป็นท่เี ลีย่ น สะอาดเตียนท่ีทางชา่ งกว้างใหญ่ กห็ ยุดซง่ึ พหลพลไกร เอาผา้ ใบดาดหลังคามีฝาบัง ทาํ เป็นท่สี ําหรับประทบั ผ่อน คนลว่ งหนา้ มากอ่ นปลูกสองหลัง ดีกว่าคาแฝกมุงไมร่ งุ รงั ยกกบู ตง้ั ในสําหรับแม่ทพั นอน ครั้นเวลาคาํ รบเม่อื พลบค่ํา คนประจาํ หนา้ ทีม่ ีสลอน คอยน่ังยามตามไฟท่ีในดอน บางคนผ่อนพักหลับระงบั กาย ฟงั เสยี งฆอ้ งกระแตแซ่เสนาะ ท้ังเสียงเกราะหวัน่ ไหวนา่ ใจหาย ซงึ่ ละอองน้าํ ค้างลงพร่างพราย ร่วงโปรยปรายตอ้ งท่ัวทุกตัวคน ตัวฉันนอนในแตน๊ ท์แสนสบาย พอค่อยวายตากน้ําค้างอย่างเมด็ ฝน กพ็ อค่อยเปน็ สขุ ไมท่ ุกขท์ น นอนเหนอื บนพรมลาดสะอาดกาย แสนคะนึงถึงคู่ทีช่ ้ชู ืน่ ในกลางคืนนอนไมห่ ลบั กระสับกระสา่ ย โศกถึงมิตรคิดถงึ เมียยง่ิ เสียดาย เฝ้านอนฟายชลนาไหจ้ าบัลย์ โอพ้ วงพะยอมหอมไม่หายวายระเหย เมือ่ ไรเลยจะได้กลับไปรบั ขวญั พจ่ี ากเจ้าล้ีลับมานับวัน จะไกลกันไปทุกทตี ัง้ ปเี ดือน แสนเปน็ หว่ งดวงจติ ขนิษฐ์นาฏ เป็นหว่ งญาตินอ้ ยใหญใ่ ครจะเหมอื น หว่ งสมบตั พิ ัสถานห่วงบ้านเรือน เปน็ หว่ งเพอ่ื นพสิ มัยอาลัยลาญ เวลาตสี บิ ทุ่มยิ่งกล้มุ จิต ขนุ พินจิ รัวฆ้องเพรียกเรียกทหาร ใหผ้ กู ช้างผูกม้าไม่ช้านาน มาเตรยี มการพร้อมพร่ังชา้ งพงั พลาย แลว้ บอกใหช้ า้ งคุกบรรทกุ ของ ทุกหมวดกองเตรียมกนั จะผนั ผาย เจ้าพระยาแม่ทัพประดับกาย ข้นึ ชา้ งพลายสดี อลออตา ตสี บิ เอด็ เสรจ็ เขย้อื นคลาเคล่อื นทัพ พร้อมเสร็จสรรพไพร่นายท้ังซา้ ยขวา กระบวนทพั ขับขันอรัญวา ลว้ นแต่ปา่ ดงชัฏสงดั ใจ แสงพระจันทรส์ วา่ งกระจา่ งแสง แตบ่ งั แฝงยงยงู สงู ไสว ส่องสว่างอย่บู นกลางนภาลยั แต่วา่ ในดงคลุ้มเป็นพุ่มพฤกษ์ คนเดินเทา้ แสนขยาดอนาถเหลือ คิดกลวั เสือสัตวป์ ่าเวลาดึก

ทลี่ างคนคร้ามขลาดอนาถนกึ ตา่ งโหฮ่ ึกเสียงกนั อนั ตราย หนทางก็เหลือเลอะนาํ้ เฉอะชมุ่ ล้านแต่หลุมหล่มเลอะเปรอะใจหาย ครนั้ จวนแจง้ แสงเมฆาเวลางาย ฉันไม่วายคิดถึงน้องจติ หมองมล ฯ ๏ ครั้นถงึ ทุ่งใชว้ านฉนั วานหน่อย ไปบอกสร้อยเสาวเรศแจ้งเหตผุ ล ว่าฉนั ไมม่ สี ุขเฝา้ ทุกขท์ น แลไมย่ ลผใู้ ดจะใช้วาน ยงิ่ โหยหวนครวญหานิจจาเอย๋ ผูใ้ ดเลยจะช่วยกล่าวนาํ ขา่ วสาร ไปถงึ มิตรขนิษฐายพุ าพาล แจง้ เหตุการณ์ว่าพ่ีดสี บาย ไม่เจ็บปวดป่วยชํ้ามคี วามสุข เป็นแต่ทุกขเ์ ศร้าโทรมถงึ โฉมฉาย เปน็ สุดงดท่จี ะคลาดสวาทคลาย คดิ ถงึ สายสุดท่ีรกั ท่จี ากทรวง ฯ ๏ ถึงสระคดุ เหน็ สระมีประจักษ์ ประหลาดนัดสระอะไรชา่ งใหญห่ ลวง ฝงู คนมาวิดวกั อาบตกั ตวง นํา้ ในหว้ งถึงว่าแล้งไมแ่ ห้งใน เวลาเชา้ ฟ้าโลง่ ส่ีโมงครงึ่ เจ้าคณุ จ่ึงหยดุ พหลพลไพร่ เสพโภชนาหารสําราญใจ แลว้ ยกไปเขา้ พงดงวนา ที่ผนื แผน่ ดินบางแหง่ บา้ งแดงล้ํา บา้ งก็ดาํ เหมือนแสร้งแกล้งมุสา บางแหง่ เหลอื งสีล้าํ ดอกจําปา พนื้ สุธาบางแหง่ ขาวไมร่ ้าวราน ท่ใี นดงพงพฤกษ์นกึ ประหลาด ดว้ ยอากาศดงร้ายหลายสถาน บางแห่งร้อนบางแหง่ เย็นเปน็ วกิ าร บา้ งสะท้านจับเท้าหนาวขึ้นมา บา้ งครน่ั เนือ้ ตวั ร้าวชกั หาวนอน บ้างกร็ ้อนวิบัตขิ ดั นาสา บางแหง่ วิงเวียนหวั มดื มัวตา บา้ งจับนาสิกใหช้ ักไอจาม บา้ งกเ็ หมน็ ขน่ื เขียวเหมน็ เปร้ียวบดู ไมอ่ าจสูดด้วยวา่ จิตนน้ั คดิ ขาม ด้วยอายแร่แต่ดินมกั กนิ ลาม ตลอดตามสองขา้ งหนทางจร อีกอายวา่ นอายยาในป่าชิด ล้วนมพี ษิ ข้นึ อยดู่ สู ลอน ครั้งต้องแสงสรุ ิยาทิพากร กําเริบร้อนด้วยพษิ ฤทธว์ิ ิกล อายพื้นดนิ นาํ พาใหอ้ าพาธ วิปลาสแรงกล้าเม่อื หน้าฝน ตกแลง้ หมาดขาดเหง่ือยังเหลอื ทน จงึ พาคนให้เปน็ ไขไ้ ดร้ ําคาญ คนเดินเท้าก้าวหล่มบ้างล้มลุก ช้างเดินบุกหลม่ ลา้ น่าสงสาร เหลา่ โคต่างล้าล้มอยซู่ มซาน บา้ งวายปราณกลิง้ ตายเป็นหลายโค ชา้ งบกุ หล่มบ้างลม้ ด้วยเต็มลา้ ดูกน็ ่าสมเพชสังเวชโข เจ้าของชา้ งเสยี ใจร้องไห้โฮ วา่ พุทโธ่ซอื้ มาราคาแพง

ทช่ี ้างใหญไ่ ม่สูล้ ้ามาติดตดิ พระอาทติ ย์คล้ายบ่ายลงชายแสง คนเดินเทา้ อ่อนลา้ ระอาแรง บา้ งย่องแย่งเทา้ พุปะทพุ อง ฯ ๏ คร้ันออกจากป่าดงพน้ พงชัฏ โสมนัสยินดีไมม่ ีสอง ก็หยดุ ยงั้ ฝงั่ นํ้าลาํ ตะคลอง ตา่ งขนของปลงชา้ งกูบวางราย คนปลกู แตน๊ ท์สําเร็จโดยเสรจ็ สรรพ เจ้าพระยาแม่ทพั เสรจ็ ผนั ผาย เขา้ พกั ในร่มแต๊นทแ์ สนสบาย พลนิกายลอ้ มรอบขอบมณฑล คร้นั รุ่งแสงสุรยิ าภานมุ าศ จ่ึงประกาศแกเ่ หล่าชาวพหล จะต้องพักอย่นู ่คี อยร้พี ล ที่เหลือลน้ ล้าหลังยังไมม่ า ซึง่ ชาวบ้านอยู่ยงั แขวงจังหวดั ในดงชฏั ลว้ นลาวคนชาวป่า เขาก็ชักชวนกนั มาวนั ทา เจ้าพระยาแม่ทัพออกรบั รอง บา้ งเอาสม้ หนว่ ยและกล้วยหวี ใจอารมี าคํานบั รับสนอง บา้ งกห็ าพรกิ ผกั และฟักทอง ทาํ เป็นของกํานัลจัดสรรมา ทา่ นเจ้าคณุ แม่ทพั ก็รบั รอง กล่าวคาํ พรอ้ งถามด่ังจิตกังขา อยใู่ นพนมวันอรญั วา เจา้ คดิ หากินนนั้ ดว้ ยอนั ใด ซงึ่ คนเป็นผู้ดอี ย่างมีทรัพย์ คะเนนบั ของเจ้าสกั เทา่ ไหร่ พวกลาวเรียนแออ่ อพูดจ้อไป บา้ งวาไดป้ ีหน่งึ ตําลงึ เดียว บ้างวา่ มีพอหยบิ สบิ สลึง บา้ งว่ามีบาทหน่งึ ขอดจนเขียว ท่เี ศรษฐอี ย่างย่ิงมีจริงเจียว ตระหนี่เหนยี วห้าตาํ ลงึ น้นั พง่ึ มี ท่านเจ้าคณุ ไดฟ้ ังคิดสังเวช ครน้ั แจ้งเหตพุ วกลาวชาววิถี คดิ สมเพชเวทนานกึ ปรานี ใจอารีแก่คนทจี่ นจริง ทา่ นแจกเงนิ คนละบาทไม่ขาดหน้า ลาวท่ีมานง่ั รายท้ังชายหญิง บางคนกลัวจะไม่ไดใ้ จประวงิ ไม่นง่ั นงิ่ ลุกขยบั มาฉับพลัน ล้วนไดเ้ งนิ คนละบาทสมมาดหมาย ทั้งหญิงชายปรดี เิ์ ปรมเกษมสนั ต์ บา้ งไหว้แล้วไหวเ้ ลา่ เฝ้าราํ พนั อวยพรท่านเจ้าคณุ ใหบ้ ญุ มี ฯ ๏ พอรุง่ เชา้ เจา้ คุณท่านทําศาลเจ้า ปลกู ไว้เคยี งศาลเก่าริมวิถี พร้อมหลงั คาปกปดิ มิดชิดดี ดทู ่วงทเี รือนฝร่ังดว้ ยช่างทํา วไิ ลเลศิ เฉิดฉายถวายเจา้ อกี รปู เสาวลงึ ค์ดขู ึงขาํ ใหญโ่ ตคะเนตาสกั ห้ากาํ สงา่ งา้ํ อยู่ในศาลสะอา้ นตา เคร่อื งบางสรวงเป็ดปูหัวหมูเหลา้ ถวายเจ้าใหพ้ ทิ ักษช์ ว่ ยรักษา

พวกนายทพั นายกองเนืองนองมา ซง่ึ บรรดาพลไพร่ได้เอน็ ดู ซ่ึงโรคภยั อันตรายอยา่ กรายกลํา้ เจ้าจงบําบัดภัยอย่าใหส้ ู้ ขอจงช่วยบํารุงผดุงชู ทกุ หมวดหมกู่ องทัพจนกลับมา ดา้ งอยูน่ นั้ สองวันกบั สามคืน พอคนช่นื หายเหนอ่ื ยที่เมอื่ ยขา กย็ กซึ่งพยุหบาตรเย้ืองยาตรา ขา้ มช้างมา้ ท่แี มน่ ้าํ ลําตะคลอง แลว้ เดนิ ตามวนาป่าละเมาะ ชมวา่ นเปราะพอพน้ หายหม่นหมอง ทง้ั ว่านแรดว่านช้างว่านยางทอง ทง้ั วา่ นปล้องวา่ นปลามหากาฬ มที ้งั ว่านเสน่หจ์ ันทน์ว่านฟันม้า วา่ นพระยาสามรากว่านสากสาร ว่านนิลเพทเจด็ ศีรษะหนมุ าน มที ้งั วา่ นตะงา้ วว่านสาวพงึ อกี วา่ นตมู ว่านเต่าวา่ นเฒา่ หงอ่ ม และว่านหอมว่านเหด็ ว่านเพ็ชหงึ ว่านกาํ แพงเพชรเจ็ดชน้ั สามพันตงึ อกี วา่ นอ่ึงวา่ คางคกวา่ นนกยาง ว่านเพ็ดนอ้ ยเพด็ มา้ วา่ นสาโรช วา่ นกําโหมดว่านมัวว่านหัวสาง วา่ นแพทวา่ นรภิมอยูร่ มิ ทาง วา่ นกระดางนางกวักว่านจักบัว ว่านเพชสงฆาว่านอาสพ วา่ นบตุ รลบมีเป็นจุกส้ินทุกหัว อีกวา่ นอกุ ว่านอาบว่านคราบวัว อีกว่านพลว่ั ว่านพลวกว่านหมวกคน ว่านอีดาํ อีแดงแสงอาทิตย์ และว่านพษิ ขึน้ หมู่ฤดูฝน อกี วา่ นเจ็ดชา้ งสารว่านกําพล ทั้งวา่ นต้นหลายหลากมมี ากนัก วา่ นดีดีมถี มนา่ ชมชดิ อยตู่ ิดตดิ แลดลู ว้ นร้จู ัก จะวานเพื่อนกไ็ ม่พบประสบพักตร์ นกึ แสนรกั แลดหู มู่อรัญ คิดคิดจะลงชา้ งวง่ิ วางหา เกรงอาญาเจา้ คุณจะหนุ หัน ถา้ มาตรแมน้ ทา่ นโกรธทําโทษทณั ฑ์ นกึ หาอันจะรําคาญดว้ ยว่านยา ฯ ๏ คร้ันถึงพนุ กยูงม่งุ เขม้น มไิ ดเ้ หน็ นกยูงฝูงปักษา นกยูงไปไหนนะไมป่ ะตา ขอเชิญมาตรงนีข้ อพ่ชี ม ห้อนหางใหพ้ ี่วายหายกําสรวล ช่วยชกั ชวนพอใหป้ ล้ืมลืมประถม คดิ ถงึ น้องหมองในฤทัยตรม อกระทมอย่เู จียวฉนั แตว่ ันมา คร้ันกองทพั ลับพุนกยูงแลว้ ไม่ผอ่ งแผ้วเหือดส่นิ ถวลิ หา ช้างก็เดนิ โดยทางกลางวนา พระสุรยิ าบ่ายนอ้ ยคลอ้ ยอําพน ฯ ๏ ถงึ นครจนั ทกึ นึกสงสัย เมอื งอะไรกลางป่าน่าฉงน

ไมเ่ หน็ มีท่อี ย่เู หล่าผคู้ น หรอื วา่ ตน้ ไม่บงั เมืองตง้ั ไกล คร้ันพน้ ทอ้ งทุ่งกว้างมีทางตรง แลเห็นธงปกั แพ้วอย่แู หววไหว เขาบอกว่าเสอื กินคนฉงนใจ เสืออะไรมอี ยู่มากฉนั อยากยล ถามนายแขวงนายกํานนั นั้นเขาวา่ กองทพั มาเม่ือหมฤู่ ดูฝน มาเจ็บนอนอยู่ในปา่ รกั ษาตน เพ่ือนสองคนอย่รู กั ษาพยาบาล คร้ันวา่ ฝนตกหนกั เพ่อื นผลักหนี เจ้าคนเจ็บเตม็ ทีน่าสงสาร กน็ อนอย่เู อกีราตรีกาล เสือก็คลานเขา้ ฟดั ขบกัดกนิ แล้วคนเขาเดินพบอศภเหลอื เปน็ รอยเสือกัดไว้ยังไม่สน้ิ ทําธงปักให้คนเขายลยิน วา่ ตรงถิ่นทีน่ ่ีมีรงั ควาน ซง่ึ ตวั ฉนั ไดฟ้ งั คดิ สังเวช นกึ สมเพชมิไดว้ ายหายสงสาร ถ้าแม้นเราเจ็บลงอยดู่ งดาล เป็นอาหารเสือเหมอื นเขาอกเราอา ถึงเราเจ็บเจ้าคณุ เห็นเป็นไมท่ ง้ิ เปน็ ความจรงิ ใช่แสรง้ แกล้งมุสา คงไม่ต้องว้าเหวอ่ ยู่เอกา ดว้ ยเรามารมิ เทา้ แห่งเจ้านาย แตค่ นอ่นื เป็นไขอ้ ยู่ในทาง ยงั ใหช้ า้ งข่มี ารกั ษาหาย แล้วเจา้ คณุ ส่ังทว่ั ทกุ ตัวนาย พลนิกายเจบ็ จรงิ อย่าทง้ิ กัน ฯ ๏ ครัน้ ถงึ กุดผักหนามเหมือนหนามยอก ไม่หลดุ ออกจากอกวิตกฉนั โศกกระสนั นีเ้ หมือนหนามยอกตาม เฝ้าแปลบปลาบอยู่เช่นนีท้ ุกววี่ นั ทรวง ซ่งึ หนามผกั หนามพงพอบ่งได้ หนามในใจสุดจกั คิดหนกั หนว่ ง แม้นได้ยลพักตราสดุ าดวง หนามคงร่วงหลุดตกจากอกพลัน ท่านเจ้าคณุ แมท่ พั บังคับส่ัง ใหย้ บั ยง้ั ซึ่งพหลพลขันธ์ พลไพร่ตงั้ ลอ้ มอยพู่ ร้อมกัน พกั อยู่นน่ั นอนคืนเชา้ ต่ืนไป ก็คลาเคลอื่ นเขยื้อนยาตรคลาดกระบวน ดธู งทวนแลเปน็ ทวิ ปลิวไสว ก็รีบเร่งพหลพลไกร ถงึ เขาใหญ่เข่อื นล่ันกั้นหนทาง เดนิ ตามตรอกซอกผาศิลาลน่ื ไสช้างข้นึ ลาํ เนาภูเขาขวาง ดสู งู เยย่ี มเทียมเวหานภาพางค์ เจา้ แมน่ างงามสถอตศกั ดิส์ ิทธค์ิ รนั พวกกองทัพนบั ถอื บชู าเจา้ ที่เชงิ เขาน้อมถวายแลว้ ผายผนั ขึ้นหนทางดชู า้ งข้นึ ตวั ชัน อตุ สา่ หด์ นั ขนึ้ เขาค่อยเทาเดิน ชมพูผาแลเล่อื มเป็นเหลอ่ื มย่อ ตะแงต้ ะงอเงื้อมชะงกั ตะพกั เผิน

บ้างเว้ิงว้งุ รุง้ ตะเพิงดง่ั เชิงเทนิ บ้างเปน็ เนินลาดเตียนเลยี่ นเป็นลาน เดนิ ชา้ งข้ามตลอดพน้ ยอดเขา ช้างก็เหย่าเดินใหญใ่ นไพรสาณฑ์ ขา้ มดงออกป่ามาไมน่ าน ขา้ มทอ้ งธารออกทุ่งฝนุ่ ฟุ้งทาง ฯ ๏ ครน้ั ถงึ ลาดบัวขาวเช้าสังเกต สโ่ี มงเศษหยุดสาํ นักพักตามอยา่ ง เสพโภชนาหารสําราญพลาง อยทู่ ห่ี ว่างร่มรกุ ขะเรยี งราย เหน็ หนองนา้ํ ใหญ่โตมโี กมทุ บ้างพน้ ผดุ จากวนชลสาย นา้ํ ใสสะอาดเยน็ มองเหน็ กาย มจั ฉาวา่ ยอยู่ในวนชลธาร ซ่ึงพักอยู่ทนี่ นั่ ไม่ทันช้า เสรจ็ คลาดคลาเคลือ่ นพหลพลทหาร เดินดงออกแดนแสนสําราญ แลว้ ลงธารเลยท่าเดินผ่าพง ฯ ๏ ถึงสคี ิว้ เหมอื นน้องรกั ของพี่ หล่อนเคยสผี ึง้ วาดพาดขนง ประจงจดั ดดั งอ้ มนอ้ มเป็นวง ดั่งศรองคห์ รริ กั ษพ์ ระจกั รี เห็นเรือนลาวชาวยา่ นบ้านสีค้วิ เป็นแถวทิวตลอดทางหวา่ งวิถี เห็นคอกโคเขื่อนรอบเป็นขอบดี กวา้ งสักสี่ห้าเส้นเหน็ วิไล มที ้ังอาวาสสะอาดเอีย่ ม ปักไมเ้ สียมเข่อื นเคยี งเรียงไสว นี่ใครหนอสามารถประหลาดใจ มาสร้างไว้กลางดอนแต่ก่อนกาล แลเหน็ ท่ีทําเนียบประเทียบพกั ดคู กึ คักใหญ่โตรโหฐาน เมอื งโคราชเกณฑร์ ะดมกรมการ ในแขวงบา้ นทําสัหรับกองทพั ชยั พวกกรมการพร้อมพร่ังคอยนั่งรบั เชิญเจา้ คุณแม่ทัพพกั อาศัย ทา่ นเจ้าคุณฟังแถลงคร้ันแจง้ ใจ กส็ ่ังให้หยดุ พกั สํานักพลนั พวกทหารอยู่รอบรมิ ขอบค่าย พลท้งั หลายปรดี ิเ์ ปรมเกษมสนั ต์ ครนั้ พลบคาํ่ ย่ําสงพระสุริยัน ตา่ งชวนกนั หลับนอนผอ่ นสบาย ยกกระบัตรท่านจดั ใหค้ นอยู่ ทกุ หมวดหมพู่ ร้อมพร่งั สนิ้ ท้งั หลาย ตามด้านนอกด้านในท้ังไพร่นาย อย่เู รียงรายตามรอบโดยขอบควร เวลาคํ่ายํา่ ยามตามตาํ หรับ ผู้ตรวจทัพเดนิ รอบเทีย่ วสอบสวน โดยพชิ ัยสงครามตามกระบวน ดูถีถ่ ว้ นฟนื ไฟระไวระวัง ฝา่ ยขนั โลกนยั นาโหราเฒา่ แกน่งั เฝ้าดูฟ้าเหมอื นบ้าหลัง ฉันรอ้ งถามด้วยเสยี งสําเนียงดัง วา่ ท่านน่ังดอู ะไรไมไ่ ดก้ าร แกร้องบอกว่าเปลา่ ดูดาวเลน่ ดว้ ยเหน็ เปน็ นิมติ ผิดสัณฐาน ดาวพระเสาร์กับดาวพระอังคาร เหน็ พบพานเข้าเคยี งอย่เู รียงกนั

เหล่าคนอนื่ ต่นื ตรกู ันดหู มด เหน็ ปรากฏตาคนบนสวรรค์ คนตนื่ ดมู ใิ ช่น้อยสักร้อยพัน เจ้าคณุ ท่านกอ็ อกขา้ งนอกดู แลว้ ถามวา่ ตาโหรเป็นอย่างไร ขนุ โลกนยั นาก้มหนา้ อยู่ แลว้ เรยี นตามศึกษาตาํ ราครู ที่ได้รู้เรยี นมาก็วา่ ดี ต่างคนกก็ ลับไปหลบั นอน ครน้ั ทินกรสว่างกระจา่ งศรี มไิ ด้ยกพหลโยธี เจ้าคณุ มีใจสังเวชสมเพชพล เพราะด้วยว่าลา้ เล่ือยยงั เม่ือยนัก จะต้องพกั ผอ่ นแรงแห่งพหล แรมอยู่น่เี สยี อีกคืนพอชืน่ ตน ดว้ ยผู้คนใช้เขาต้องเอาแรง ฯ ๏ ยังมีผมู้ าร้องฟ้องเจ้าคุณ วา่ กรมการทาํ วุน่ ขนึ้ ในแขวง ด้วยขา้ วสารซอ้ื หาราคาแพง ใจโกงแกล้งเก็บขา้ วสารทุกบา้ นเรือน วา่ จะไปจําแนกแจกกองทพั ทําสบั ปลับโกงใหญใ่ ครจะเหมือน คิดเบยี ดเบียนผันแปรใหแ้ ชเชือน อ้างปา้ ยเปือ้ นกองทพั อปั ระมาณ เจา้ พระยาแม่ทัพสดบั เรือ่ ง บัญชาเย้ืองถามไถป่ ราศรัยสาร สง่ั ขนุ ศรกี ระดาลพลคนชาํ นาญ เปน็ ตระลาการชําระความถามซัก ทา่ นขนุ ศรคี าํ นบั รับบัญชา แล้วออกมาถามไถใ่ หป้ ระจกั ษ์ กรมการร้ตู วั คิดกลวั นัก ไมเ่ ย้ืองยกั สารภาพลงกราบลน ทา่ นขุนศรเี รยี กเอาซ่งึ ข้าวสาร คนื ชาวบ้านกม็ ารับอยู่สับสน ล้วนยกมอื ไหวท้ ั่วทุกตวั คน ต่างกข็ นขา้ วสารไปบา้ นเรือน ฯ ๏ ครน้ั รุ่งขน้ึ อกี วนั พรอ้ มกันหมด รูก้ าํ หนดจะคลาลีลาเคล่ือน เหลา่ ผคู้ นพร้อมพรักบา้ งตกั เตอื น ชักชวนเพื่อนหงุ ขา้ วแตเ่ ช้ากนิ ครนั้ ร่งุ แสงสรุ ยิ าทิพามาศ เสร็จเยื้องยาตรรถั าเปลง่ ราสิน เจา้ พระยาแม่ทพั ประดับอินท- ทรยี ์เสรจ็ ผนิ ข้ึนช้างสาํ อางพราว เหลา่ พหลพลไพร่น้ําใจคึก บ้างโหฮ่ ึกอึงลน่ั สน่นั ฉาว พลรบขบเขีย้ วมาเกยี วกราว เสียงฝีเทา้ คนเดินแทบเนินพัง แล้วเดินทพั ออกทุง่ มงุ่ เขม้น เหลียวหลงั เห็นกองทพั ตอนตับหลงั ยาวเปน็ พืดยืดมาประดาดัง ดคู ับคง่ั พวกพหลพลนกิ ร เหน็ น่าเพลดิ เพลินใจมาในทงุ่ กว้างเว้งิ วุ้งแลเด่นเห็นสงิ ขร ก็ขับชา้ งเดนิ ผา่ ทุ่งนาดอน เรง่ รบี รอ้ นเดนิ มาไม่ช้านาน ๏ พอข้ามลําตะคองถงึ สองเนิน ดูนา่ เพลินวัดมพี ร้อมวหิ าร

ในใจฉนั บนั เทิงเรงิ สําราญ เหน็ มบี า้ นไม่น้อยหลายรอ้ ยเรอื น มองเหน็ ลาวหญงิ ชายน่ังรายเรียง ถือข้าวหอ่ นั่งเคียงอย่กู ลาดเกลื่อน แถวยาวนง่ั ตงั้ จิตไมค่ ิดเชอื น พอช้างเคลอ่ื นถงึ ทีล่ งอยตู่ รงกัน พอเจ้าคณุ คลาไคลออกไปดู ลาวก็ชเู หนือหัวบา้ งตวั สัน่ บา้ งกเ็ รียนว่าของถวายเจ้านายพลนั เจา้ คุณทา่ นเมตตาประชาชน แจกเงินคนละเฟอ้ื งดูเปลอื งโข มีมโนศรัทธาหากุศล ชอบทําบุญวณพิ กยาจกจน แจกจบพน้ ท่วั แลว้ ทง้ั แถวยาว พวกกงิ ทพั รบั เอาหอ่ ข้าวเหนยี ว ว่งิ กรเู กรียวยินดเี สียงมฉ่ี าว แกด้ ูกันออกสอข้าวหอ่ ลาว เกลอื สนิ ธาวมอี ยู่รมิ ใหจ้ มิ้ กนิ ก็แรมอย่ทู น่ี นั่ ไม่ผนั ผาย เวลาสายสุรยิ าเปล่งราศิน เช้าสกั สามโมงเศษสังเกตชิน ตา่ งกก็ นิ ขา้ งปลาหาสบาย กรมการอกั โขเมอื งโคราช มาเกลื่อนกลาดคอยรบั กองทัพหลาย ลว้ นแตห่ ลวงพระทวั่ ลาวตัวนาย ต่างผนั ผายเข้าหาคุณขุนสกล ผวู้ ่าท่ีมาเหจเรทพั ให้พานําคํานับจอมพหล ขา้ งฝ่ายท่านจเรทพั รบั ยุบล มากราบเรยี นโดยนสุ นธ์ติ ามมีมา ทา่ นเจ้าคณุ ยินดมี ีประภาษ อนุญาตนําเขาเข้ามาหา ขา้ งทา่ นจเรทพั รับบญั ชา แล้วออกมานําท่านเหล่านั้นไป กรมการถึงพรอ้ มนอ้ มคาํ นับ ต่อจอมทัพเรยี นแจ้งแถลงไข ดว้ ยพระยากําแหงนั้นแจ้งใจ จงึ่ ใชใ้ ห้มาคํานบั รับเจา้ คุณ เจา้ พระยาแม่ทพั สดบั แจม่ จงึ่ เยอื้ นแย้มตอบพลนั ไมห่ ันหุน ภิปรายโปรยบัญชาดว้ ยการุณ ขอบใจคณุ โคราชประภาษดงั แล้วถามเรือ่ งไปพบรบอ้ายฮอ่ ยังเหลอื หลออยบู่ ้างหรือขา้ งหลัง กรมการเรียนตามความสัจจัง ว่าเหลอื ยงั มีนอ้ ยสกั ร้อยคน แลว้ เจ้าคณุ แม่ทพั ก็กลับถาม โดยข้อความทว่ี ิเศษตามเหตุผล การบา้ นเมืองเปน็ สุขหรือทกุ ขท์ น ซง่ึ ฟา้ ฝนบริบูรณห์ รอื สูญทราม กรมการกราบเรียนจาํ เนยี รนกึ วา่ เกดิ ศึกราชประเทศเขตสยาม ต้องยกทพั จับฮอ่ ตอ่ สงคราม ไพร่ไดค้ วามยากเยน็ เพราะเกณฑไ์ ป เสร็จคาํ ขานกรมการก็ลากลบั คอ่ ยขยับออกมาหาช้าไม่ คร้นั เวลาพลบค่ําลงราํ ไร พลไพร่พรักพร้อมนง่ั ลอ้ มวง

ครั้นเวลาประมาณยามสักสามทมุ่ เสยี งปนื ตมู ติดติดพิศวง ทา่ นขนุ สกลสารบาญหาญณรงค์ มาปลกุ แอตดกิ งทั้งสองคุณ ได้ยนิ อีกเสียงปืนใหญค่ รืนลัน่ อัศจรรยจ์ ริงจริงคนว่งิ วุน่ เตรียมปืนใหญ่เอะอะชลุ มนุ ดนิ กระสุนพรอ้ มพรกั เตรียมคกั คกึ ท่านยกกระบตั รทัพกาํ ชับคน ให้เตรยี มตนดว้ ยวา่ เวลาดกึ หรือมีปจั จามติ รตา่ งคิดลกึ ทพั หน้าพบข้าศึกเสียงลัน่ ปืน จง่ึ ใช้มาเรว็ ไปใหร้ ู้เหตุ ผดิ สังเกตปลุกไพร่ไวใ้ ห้ตื่น เป็นเวลาเทยี่ งนางคาํ่ กลางคนื ใช่การอ่นื แม้นเลินเล่อจะเผลอตวั กรมการผูกช้างให้ม่นั คง จตั ุรงคเ์ ตรียมรบอยูค่ รบท่ัว ลว้ นทะนงองอาจไมห่ วาดกลัว บ้างก็หัวเราะชอบจริงอยากชิงชัย สกั ครู่หน่งึ พอมา้ กลับมาบอก เขาจดุ ดอกไม้พลปุ ระจใุ หญ่ บ้านกุดจิกหนทางยังห่างไกล จดุ ดอกไมฉ้ ลองวัดเขาศรัทธา ครนั้ ตา่ งคนตระหนักประจกั ษ์แจม่ ก็ย้มิ แย้มเกาหวั อวดตวั กล้า คิดว่าอา้ ยฮ่อยกทัพวกมา ตกี องหน้าเราไมเ่ วน้ จกั เลน่ มัน ต่างคนก็คืนกลับไปหลับนอน คร้นั ทนิ กรพวยพ่งุ รงุ่ แสงสัน เสรจ็ เคล่อื นคลายไพร่พลพหลพลัน เลยตะบนั ล่วงตาํ บลพ้นนิคม ฯ ๏ มาถงึ บ้านกุดจิกเห็นจิกต้น นีบ่ ุคคลใดหรือตง้ั ชอ่ื สม ไมส่ นกุ สนานข้คี ร้านชม ดว้ ยอารมณฉ์ นั รอ้ นอาวรณค์ รวญ ฯ ๏ มาถงึ บ้านสลดั ไดเหมือนใจพี่ สลัดหนสี ลัดนางหา่ งสงวน เพราะจําเป็นจําใจอาลัยนวล ใชจ่ ะหวนใจตัดสลัดจรงิ ฯ ๏ มาถงึ บ้านนครคําเหมือนคําพ่ี เมือ่ พาทคี ําพร้องกบั น้องหญงิ แลเหมือนคําสายสมรแม่วอนวิง กลัวจะทง้ิ นอ้ งไว้หาใหม่เชย หลว่ นสั่งแลว้ สัง่ เล่าเฝา้ กาํ ชบั ไปแลว้ กลบั มาดีดหี นาพ่เี อ๋ย ซึง่ เมยี ใหม่แลว้ อยา่ พาลงมาเลย แลว้ ภเิ ปรยพูดฉออ้ นวอนรําพนั ฯ ๏ มาถงึ บ้านโคกกรวดกรวดระดะ ในพน้ื พระธรณีงามสีสัน นํ้าฝนเซาะบางเกาะเปน็ หลืบลัน เป็นช้ันช้นั น่าชมอารมณ์เฟือน ฯ ๏ ถึงสระกระแบกเหมือนแบกซ่งึ ความรกั เหลือจะหนกั อกใจใครจะเหมอื น แบกขา้ วของเหลอื แรงพอแบ่งเบอื น หรือวานเพอ่ื นชว่ ยแบกแยกออกไป

ท่แี บกรกั หนักใจวางไม่ลง เหลอื จะทรงกายต้งั นง่ั ไมไ่ หว เป็นสดุ แบกความรกั หนกั ฤทยั ประจําใจทรวงพี่ทุกวว่ี นั ฯ ๏ ครน้ั ถึงหนองเปน็ นํ้ามีนํ้าจิต วปิ ริตแปรปรวนดผู วนผนั นกเป็ดนา้ํ ดเี หลอื หนอเน้อื มนั ในใจฉนั อยากกินดว้ ยยินดี ครั้นรูส้ กึ นกึ พุทโธมโนกรรม คิดจะทําลายสตั ว์นา่ บดั สี ชีวติ เขาสเิ ราจะย่ํายี ของตัวมใี จรกั เขาจักปอง ซึ่งคนเหลา่ ชาวบา้ นแถวย่านนัน้ บา้ งชวนกนั จดั เอาซ่งึ ขา้ วของ บ้างมันต้มจ้ิมนา้ํ ตาลใส่พานรอง คอยนัง่ มองต้งั ใจใหเ้ จ้าคณุ เจา้ พระยาแม่ทัพกร็ ับของ ชาวบ้านช่องนก่ี ็สุดตามอุดหนุน ทา่ นกแ็ จกเงินเฟ้ืองต้องเปลอื งทุน ทา่ นทําบุญมไิ ด้ว่างเรี่ยทางมา ฯ ๏ คร้ันถงึ บ้านมะขามเฒ่าโตเทา่ ไหน กับทกุ ข์ฉันนน้ั ใครจะโตกวา่ หรือมะขามเฒ่าชแรแก่ชรา ฉันจอ้ งตามิไดย้ ลตน้ บรุ าณ ฯ ๏ ครน้ั มาถงึ เขาลาดอนาถจิต ชําเลืองพิศดูประเทศเขตสถาน มสี วนหมากยดื ยาวมะพรา้ วตาล จะเปรียบปานราชบรุ ณะดาวคะนอง ๏ คร้นั ถึงที่หยดุ พักสาํ นักกวา้ ง กป็ ลงชา้ งผ้คู นเข้าขนของ เขา้ ในแต๊นทท์ ี่เขาทําไวส้ ํารอง ยกจาํ ลองเขา้ ไปวางอย่ขู ้างใน พระอาทิตยเ์ ลี้ยวลัดอสั ดง คนลอ้ มวงพร้อมเพรียงเรยี งไสว นงั่ ยามตามทํานองกอ่ กองไฟ พลไพร่พรอ้ มพรัง่ อยคู่ งั่ คับ ฯ ๏ ครน้ั เช้าตรู่สรุ ิยาสอ่ งอากาศ กรมการโคราชมาเป็นตับ ตา่ งคนก็นอบน้อมเจา้ จอมทพั แล้วคอยรบั บญั ชาพร้อมหนา้ กนั เจ้าพระยาแม่ทัพออกรบั รอง ไม่ขดั ข้องรงั เกยี จคิดเดียดฉันท์ แลว้ ให้เสอ้ื ใหผ้ ้าพรอ้ มหน้าพลัน บางคนน้ันได้แหวนแสนวไิ ล กรมการดใี จดว้ ยไดล้ าภ ตา่ งคนกราบนบน้ิวอยู่ไสว ครน้ั สิ้นแสงสุริโยอโณทยั ตา่ งคนไปทพี่ กั สํานักตัว แรมอยู่นั้นสองวนั กบั สามคืน พอคนช่ืนล้าเลือ่ ยหายเหน่ือยท่ัว กเ็ ตรียมคนเตรียมช้างเตรียมตา่ งววั มาเตรียมมั่วสุมไว้ในกลางคืน ฯ ๏ ครั้นวนั อาทิตยข์ ึน้ หนึ่งคํ่าเดือนอา้ ย พระสุรยิ ฉายสอ่ งฟ้าข้ึนฝ่าฝืน

ยกกระบัตรจัดทวนกระบวนปนื ต่างก็ยืนคอยอยทู่ ุกหมูก่ อง ทพั หนา้ แล้วกม็ าถึงทัพขนั ธ์ เข้ารวมกันประดงั อยทู่ ัง้ สอง ปีกขวาปกี ซ้ายก็จดั ไว้ถดั รอง ตามทาํ นองพยุหบาตรเยื้องยาตรา ล้วนทหารถอื ปนื ยนื สะพร่ัง ถือโลห่ ด์ ง้ั หลาวแหลนดแู นน่ หนา ปืนป่ืนพื้นนกสับอันดับมา รวมท้งั ห้ากองทพั พร้อมสรรพกนั ล้วนสวมเสอ้ื เขยี วแดงแสงระยับ พรอ้ มเสรจ็ สรรพพหลพลขันธ์ เหล่าตัวนายขชี่ า้ งพลายตวั สาํ คัญ ล้วนแตก่ นั้ สปั ทนทกุ คนไป ธงสําหรบั นายทัพทั้งหลายนนั้ ต่างสีสนั แลเปน็ ทิวปลิวไสว บ้างสีเขียวแดงเหลืองเรืองประไพ บางคนใชต้ า่ งสมี ีสําคญั แล้วถึงกองทัพใหญว่ ิไลเหลือ ลว้ นสวมเสอื้ ดดี ตี า่ งสีสัน ยกกระบัตรจดั ทพั อนั ดับกนั ถึงธงไทยใหญ่สนั่นแดงประทาน แล้วถงึ หมอ่ มราชวงศก์ ระจา่ ง ข่ีม้าสะบดั ยา่ งนําทหาร ดูท่วงทีเจนจดั หดั ชํานาญ ล้วนถือขวานฝรงั่ ทั้งกระบวน แล้วถึงปนื ปะเหร่ียมลอ้ เทียมลาก คนกระชากลอ้ หันไปผันผวน อย่เู รยี งรายข้างทางหา่ งพอควร แต่แลว้ ลว้ นปนื ใหญไ่ สวตา แล้วถงึ กองขนุ สิทธิ์ตดิ กระช้นั มซี ายนั คองกระบองคลอ่ งหนักหนา ทหารแถวสองข้างหนทางมา ล้วนถอื อาวธุ สิน้ ดภู ญิ โญ แลว้ ถึงกอโปราลภมดคู มขาํ ขม่ี านาํ ทหารประมาณโหล คุมปนื แคทะริงกันสนัน่ โต้ มีเดโชยง่ิ กวา่ ปนื อน่ื ทงั้ ปวง แลว้ ก็ถงึ ธงทหารสะอา้ นแท้ ถดั ก็แตรขลยุ่ กลองลว้ นของหลวง ยกกระบัตรจดั งามตามกระทรวง เดินทกั ทว้ งเตรียมตรวจทกุ หมวดกอง แลว้ ถงึ ทหารอย่างยโุ รปครบทหาร งามตระการเส้ือสีไมม่ ีสอง ท้งั ข้างแขนพู่บ่าระยา้ ทอง ลว้ นแต่ของใหมใ่ หม่ได้ประทาน ท้ังตวั นายขี่ม้าอาชาชาติ ดูองอาจสมกายนายทหาร ประดจุ ดงั ยงั พยัคฆ์จักทะยาน ศตั รูพานพอ้ งพบรบระอา ช้างนา้ํ มันกอโปราลเกศข่ีคอ พลายสัดอท่วงทีดหี นักหนา สวมเส้อื ยศอย่างทหารประทานมา ดสู ง่าทว่ งทีเห็นดคี วร เหลา่ ทหารเดินข้างช้างเป็นแถว แต่ล้วนแลว้ ถือปนื ยนื อย่ถู ว้ น และขุนหมืน่ ดาบตะพายรายกระบวน ตามจํานวนรว้ิ ทัพอนั ดับมา

กระบวนช้างต้งั เชอื กเป็นเทือกแถว ถดั มาแลว้ ช้างเขนคเชนทร์กล้า อีกชา้ งทรงองคพ์ ระปฏิมา แล้วถงึ ช้างเจ้าพระยากระโจมแดง เหล่าผู้คนค่ังคบั อันดบั มา ขนุ บาํ รุงโยธาตวั เข้มแขง็ คมุ ขุนหม่ืนเหล่าพวกเสื้อหมวกแดง คอยเดินแซงสองข้างหนทางมา สเ่ี ท้าช้างเจ้าคุณคอื ขนุ รกั ษ์ ขุนอนิ ทรภักดีเน่ืองอยเู่ บื้องขวา ขนุ นราจมุ พลคนปญั ญา กับขนุ ราชเมธาอยู่ซา้ ยมือ พวกขุนหมื่นทนายเรยี งรายเดิน ล้วนแตเ่ ชิญสมรสเครือ่ งยศถอื ใสเ่ สือ้ ดาํ ร้ิวเข้มดูเต็มลอื ลว้ นขุนหม่ืนมชี ่อื ทุกตัวนาย หลวงพชิ ยั เสนาสง่าเหลอื สอดสวมเสอ้ื แดงสมี ณีฉาย เข็มกลดั คาดสายกระบ่มี ีตะพาย ขีค่ อพลายประชญมารชาญศกั ดา กรกมุ ขอข้อขงึ ดูผึง่ ผาย แลว้ ยักยา้ ยทว่ งทดี ีหนักหนา วา่ ทีแ่ อดดกิ งยงศักดา เผ็นผู้รักษาแม่ทัพรบไพรี แลว้ ถงึ ชา้ งคุณบุตรแอดดกิ ง สวมเสือ้ สง่ สดแสงดูแดงสี ขช่ี ้างพลายโพยมกระโจมมี ดทู ่วงทีผดุ ผาดสะอาดตา แล้วถงึ ทหารหัดใหม่สไนเด้อร์ ไม่เซอะเซอ่ ท่วงทดี หี นักหนา เดนิ ในทางสองข้างมรคา จา้ งมาเป็นนายไม่ร้ายรอง แลว้ ถึงคณุ พลอยกบั คุณนิล ดเู ฉดิ ฉินท่วงทดี ีทัง้ สอง ใส่เสื้อดาํ สักหลาดปกั คาดทอง ดเู รอื งรองรจนาโอฬาฬาร แล้วถึงช้างคุณขาวกับคุณพนิ ล้วนข่คี อทั้งส้นิ ดูอาจหาญ มือจับขอยอเย้อื งเปร่ืองชํานาญ ล้วนเป็นหลานแมท่ พั กํากับพล แลว้ ถึงกองปลดั ทัพดขู ับขนั พรอ้ มดว้ ยพนั พวกเหลา่ ชาวพหล ลว้ นแตถ่ อื เครอ่ื งรบครบทุกคน เส้อื สวมตนตา่ งต่างสําอางตา แลว้ ถงึ กองยกกระบตั รช่างจดั สรร ทหารอย่างวาลันเตียซา้ ยขวา ลว้ นถอื เครอ่ื งอาวุธยุทธนา ทั้งปนื ผาครบเครื่องกระบวนพล หลวงภักดขี ี่คอพลายจกั รกรด ถอื ขอจดต้ังใจไมฉ่ งน ต้ังขอขงึ ผ่ึงผายหมายประจญ เหล่าพหลเดินทางข้างสตั ว์โต ถึงกองจเรทพั อันดับมา ทหารหน้าท่วงทีเห็นดโี ข สวมเส้อื ดําเฉิดฉินดูภญิ โญ ล้วนใส่หมวกกะโลผ่ ้าขาวคลมุ ตวั ขนุ สกลสารบาญจเรทัพ ขคี่ อพลายประดับแก้วโกสุม

ดูผายผงึ่ ขงึ ขอ้ มือขอกุม กค็ วบคุมเหลา่ พหลพลฉกรรจ์ ถึงกองซเี กร็ตตอรีท่ ่เี สมยี น สําหรับเขียนหนงั สอื มือขยัน ใสเ่ ส้ือร้ิวทองสวยหมดดว้ ยกนั ดูเฉิดฉันแลพศิ สนิทเนียน ขนุ วิสูตร์เสนีขุนศรีกระดาลพล ทัง้ สองคนขวาซ้ายนายเสมียน ตามยกกระบตั รจดั พลไมว่ นเวียน ดว้ ยว่าเขยี นฉลากไวป้ ักไม้ราย แลว้ ถงึ ทา่ นขุนอนิ ทรวิเชยี รชาติ ขุนพรหมราชปัญญาโยธาหลาย ยงั ขุนศรภักดีมีอกี นาย ขนุ สัจจวาทรี ายอยู่รวมกนั ลว้ นแต่คุมทหารกองดา้ นใน ขนุ หมน่ื ไพรย่ กกระบตั รชา่ งจัดสรร เหล่าพหลล้นหลามมาครามครัน ล้วนถือม่ันอาวุธยุทธนา กองหลงั ถดั หลวงจตั ุรงคน์ ัน้ ขี่คอพลายกุมภัณฑ์คเชนทร์กล้า ดูท่วงทอี งอาจประหลาดตา คุมโยธากองหลงั ตั้งกระบวน ขนุ นราฤทธไิ กรผูใ้ จอาจ ขี่คอพลายสปี ระหลาดงามผาดผวน รูปขาํ คมสมทหารชาํ นาญทวน เหน็ สมควรท่วงทมี ศี กั ดา ขุนพชิ ยั ชาญยุทธก์ ็สุดใจ ข่ีคอพลายประลัยดูแกลว้ กล้า สมควรเป็นกองหลงั ตงั้ ปกี กา อยูเ่ บ้ืองขวาเบือ้ งซ้ายเรียงรายกนั ทา่ นหลวงทรงศกั ดากก็ ล้าหลาย ขีช่ า้ งพลายทองแดงเข้มแขง็ ขนั คุมทหารด้านนอกหอกทงั้ นัน้ ถือปนื สน้ั ใหญน่ ้อยหลายร้อยคน ซึ่งขุนสตั ยากรผ่อนลาํ เลียง กองเสบียงคุมกระบวนล้วนพหล ท้ังโคตา่ งช้างมีพร้อมรพี้ ล สําหรบั ขนจัดจบครบกระบวน ดนู ายกองนายทพั อันดบั มา พรรณนาจัดสรรไมผ่ ันผวน บ้างถอื หอกพู่ขาวถอื งา้ วทวน ถือง้าวญวนถอื ตรกี ระบยี่ าว ฯ ๏ ครนั้ ว่าได้พิชยั ฤกษ์แลว้ ก็คลาดแคลว้ โยธเี สยี งมฉี่ าว ยงิ ปนื ฤกษส์ ญั ญานยั น์ตาพราว สองหรู า้ วดว้ ยเสยี งสําเนียงปนื เสยี งคนเดินราวกบั เนนิ จะโทรมทรดุ ด่งั มหาสมุทรเกดิ ลมคลนื่ เหลา่ ทหารเรงิ ร่าเฮฮาครืน เพียงพา่ งพื้นธรณินแผ่นดินพงั ตัวฉนั อยู่ทา้ ยช้างเหมือนอย่างเคย เฝา้ แหงนเงยเชยชมอารมณ์หวัง ดูเรอื นบา้ นรายเรียงเคียงประดัง เหน็ คบั คั่งคนดอู ย่รู มิ ทาง คนแกส่ าวน่งั เปน็ หมูฉ่ ันดูท่ัว ลว้ นรูปช่ัวตัวดาํ ป๋ีเหมือนผีสาง ถึงที่ขาวดเู หมือนลาวไมส่ าํ อาง เห็นรปู ร่างปอ๋ หลอฉันงองัน ฯ

๏ ถึงวัดแจง้ เหน็ เขาแตง่ ประตูป่า ไว้คอยทา่ กองทัพดขู ับขัน ยายมดทา้ วน่ังเคยี งอยเู่ รยี งรนั คอยทําขวญั ขับผีป่าหน้าประตู ยายคนหนงึ่ ตีโทนโยนจังหวะ เสียงจะ้ จ้ะต้มุ ตุ้มฟังกลุม้ หู เครอื่ งสังเวยเรยี งรายตวั ยายครู ออกนัง่ อยหู่ นา้ คนบน่ พมึ พํา พอเจา้ คุณเดนิ มาถึงหนา้ ฉาน กรมการเรียนตามเนอื้ ความขาํ เชิญเจา้ คุณลงช้างอย่างบุรํา โดยมที ําเนยี มการเพศบ้านเมอื ง พอช้างเหยียบประทับเขา้ กบั เกย เจ้าคุณมิไดเ้ ฉยค่อยย่างเย้ือง ลงนง่ั ทพ่ี รมปูดูชาํ เลือง เขาจะเปลอ้ื งผีป่านั้นท่าไร ซึง่ ยายมดบอกขยดใหเ้ หยียดท้าว เอาดว้ ยขาวลากฟาดตวาดไล่ แล้วผกู กรทําขวัญคุ้มกนั ภัย กเ็ ลยให้ศลี พรบทกลอนดี เสรจ็ สรรพเจ้าคณุ ข้นึ ส่ชู า้ ง แลว้ ลลี ามาในทางหวา่ งวถิ ี เขา้ ในประตปู ่าไมร่ าคี สองข้างมสี งฆะประน้ํามนต์ ฯ ๏ ถึงโพธิ์กลางสองข้างมีโรงร้าน ขายโตกพานเช่ียนขันและพรรณผล ทงั้ ของกินเคร่อื งใช้ฉนั ได้ยล เหล่าฝงู คนน่งั ดูเปน็ หมู่กนั เห็นตกึ ทาฝาแดงทกุ แหง่ หน หลงั ข้างบนมงุ แฝกแปลกแปลกขัน ล้วนตกึ ดนิ ดบิ ตอ่ มากอ่ กนั ข้างฝา่ ยชัน้ ล่างหลังคาเขาทาดนิ ชมลูกสาวชาวโคราชไม่ผาดผวิ ชา่ งขรี้ ้ิวไมต่ ําหนิแกลง้ ตฉิ นิ จะหายสวยสกั คนไม่ยลยิน จนหมดสิ้นย่านทางโพธิ์กลางมา ฯ ๏ ถึงสามสกั ยกั แยกมาเบื้องซา้ ย คนเรียงรายนัง่ ดอู ยหู่ นักหนา เห็นโรงผ้หู ญิงคนชั่วดูท่ัวมา เหมือนหญิงขา่ ไม่น่ารักเลยสกั คน มาประเดี๋ยววกเล้ียวซ้ายมือแวง้ เห็นกําแพงโคราชสงู ผาดโผน แม้นข้าศึกหมายจะมาประจญ ซ่ึงจะปล้นเมืองไดเ้ หน็ ไม่มี ดว้ ยกาํ แพงสูงมีสักสีว่ า ดแู น่นหนาคกึ คักเปน็ ศกั ดศิ์ รี ซ่ึงข้างนอกกําแพงวุง้ แวงดี ล้วนแต่มีครู อบขอบสีมา มเี ชิงดนิ ช้ันนอกหา้ ศอกสงู แมน้ มีฝงู ปรปักษ์เรารกั ษา เพียงเชงิ เทนิ ชน้ั นอกออกประดา ศตั รอู ย่าเขา้ ไปถึงในคู เมืองโคราชกว้างใหญม่ ใิ ช่นอ้ ย ขา้ ศึกเพยี งสิบร้อยเห็นพอสู้ เมืองใหญ่โตทําไมมสี ีป่ ระตู หอรบอยู่ข้างบนชอบกลดี ฯ ๏ ถงึ ทําเนียบค่ายพักสํานักอยู่ ดา่ นประตูทา่ นํ้าทาํ ถ้วนถี่

อยู่รมิ กบั อารามสามัคคี ทําเนียบมีเขอื่ นค่ายปลกู รายเรียง สาํ หรบั เจ้าคณุ มีสีห่ ้าหลงั พร้อมหอนงั่ เรือกร้วั ครัวเฉลียง ทมิ ทหารรอบล้อมดพู รอ้ มเพรยี ง แถวระเบียงหอนง่ั ตง้ั นอกชาน ที่ลกู ทพั นายกองเสร็จเจด็ แปดหลงั มีพร้อมพร่งั โรงยาวเหล่าทหาร ขา้ งเจ้าคุณเทียบเกยไม่เลยนาน กรมการคอยรับคาํ นับพลัน ทหารปนื ยนื รายท้ังซา้ ยขวา ทหารหน้าหทารหลงั ช่างขยัน นายใหญ่บอกปรีเซนต์เปน็ สําคัญ ก็พรอ้ มกนั ยกปืนยืนคํานบั เจา้ คุณค่อยประจงลงจากเกย แล้วกเ็ ลยขึน้ หอนัง่ ย้ังสดบั กรมการพรอ้ มพรั่งมาคง่ั คับ น่งั คอยรบั บัญชาพร้อมหน้ากนั พอหยดุ พกั อยนู่ ั่นสองวนั ครบ เจ้าพระยาปรารภจะผายผัน นายทัพนายกองมาพร้อมหนา้ กนั ไปอภวิ นั ท์เทพารกั ษ์เจ้าหลกั เมอื ง พร้อมนายทัพนายกองมาซอ้ งแซ่ ท่านเจ้าคุณขีแ่ ครไ่ มล้ ายเหลอื ง พรอ้ มนายทพั นายกองตามนองเนือง เสรจ็ ย่างเยอ้ื งเขา้ ไปในประตู ครั้นถงึ ศาลอารกั ษพ์ ระหลักเมอื ง พร้อมด้วยเครือ่ งบูชาไกป่ ลาหมู ท้ังบายศรซี ้ายขวาน่าเอ็นดู เสรจ็ แล้วบูชาเจ้าท้ังเหลา้ ยา แลว้ เรียกคนขลุ่ยกลองกระบองควง แกว่งบวงสรวงอารักษเ์ ป็นหนักหนา ท้ังต่อยมวยรําละครฟอ้ นบูชา พิณพาทยส์ าธกุ ารประสานตี คร้ันเสร็จสรรพกก็ ลบั มาทําเนยี บ ไม่เงียบเชยี บตา่ งเปรมเกษมศรี ฝงู พหลพลนกิ ายสบายดี บหอ่ นมเี จ็บปว่ ยพรอ้ มดว้ ยกัน ฯ ๏ เมอื่ วนั หนงึ่ เจ้าคุณจง่ึ ออกจากหอน่งั พรอ้ มสะพรงั่ นายพหลพลขนั ธ์ จง่ึ ปรกึ ษาไตถ่ ามเนอ้ื ความพลนั วา่ วนั นน้ั เขา้ ไปท่ใี นเมอื ง เหน็ เจดยี อ์ งคใ์ หญ่ในวดั กลาง ทําลายร้างอยากบํารงุ ใหฟ้ ุ้งเฟือ่ ง จึงหันหนา้ ปรึกษาทา่ นเจา้ เมอื ง กพ็ ูดเย้ืองชักเชอื นบิดเบอื นไป เพราะวา่ ในเมอื งนสี้ ดุ ทีค่ ิด ดว้ ยปนู อฐิ ไมม่ อี ยทู่ ไ่ี หน เจา้ คุณฟงั ยุบลเปน็ จนใจ กม็ ิได้ตอบความตามยบุ ล เจา้ พระยาจอมนกิ รอาวรณต์ รึก การทพั ศกึ สารพดั จะขดั สน ไม่ทราบเรื่องหนองคายร้ายกงั วล ต้องแตง่ คนไปสบื ตามความระแวง จงึ ให้ทา่ นขนุ วิสูตร์เสนี นายซเี กรต็ ตอรีค่ นเขม้ เข็ง ไปสบื การหนองคายท่ีร้ายแรง มาให้แจ้งขอ้ ความตามกระบวน

ใหข้ นุ พนิ ิจนกิ รนนั้ ไปด้วย จะได้ชว่ ยกนั ลอบไปสอบสวน กับนายทัตคนลาวชาวเมอื งพวน ร้ถู ี่ถว้ นนํารอ่ งไปหนองคาย ใหข้ นุ สัตยากรไปขอนแก่น สืบให้แมน่ อยา่ ให้เฟอื นในเงื่อนสาย กับอปุ ฮาดไปช่วยดว้ ยอีกนาย ซง่ึ แยบคายขอนแก่นคงแมน่ ยาํ เป็นอุปฮาดอยกู่ อ่ นเมืองขอนแกน่ ในแว่นแควน้ ไล่เลยี งไมเ่ พลยี งผลาํ ควรใหไ้ ปสืบสอ่ เอาข้อคาํ เพราะวา่ ชํานาญใจในหนทาง แลว้ สง่ั เบกิ ช้างให้ใส่เสบยี ง ให้พอเพยี งสารพัดไม่ขัดขวาง ท้งั เงินทองจดั ใหไ้ ปใชพ้ ลาง กระโจมขา้ งเลอื กคัดดจู ดั เอา ขนึ้ หกคา่ํ เดอื นอ้ายห้านายน้ัน กําหนดวันทจ่ี ะไปมิได้เศรา้ ออกจากทต่ี นพักสาํ นักเนา ไปตามเจา้ คณุ บัญชาไมช่ า้ วัน ฯ ๏ ถงึ ณ วันเดอื นอา้ ยขึ้นแปดคาํ่ ได้จดจาํ แจ้งจริงทกุ สิ่งสรรพ์ เห็นผู้คนชา้ งม้าลงมาพลนั พระวิชิตณรงคน์ ้นั คมุ ฮอ่ มา พวกกองทัพรจู้ ริงบา้ งว่ิงสอ มาดฮู อ่ พร้อมพรกั คนหนกั หนา อา้ ยพวกฮ่อใส่คอตะโหงกคา คนรักษาเดนิ กลุม้ คอยคมุ ตัว เจา้ พวกฮอ่ เหลา่ นี้ลว้ นขี่แคร่ เจ้าพวกลาวหามแยย่ ่ิงเจา้ สัว กองทพั ฝ่ายเราว่าไมน่ า่ กลัว ตวั ต่อตวั แลว้ ไมห่ นีฟนั ตีกนั บ้างวา่ ฮอ่ รปู นี้กระจิริด สักสามคนกไ็ ม่คดิ จะพรงึ พรน่ั ไม่มีจิตคร้ามกลัวเหน็ ตวั มัน ต่างคนสันต์สรวลเสเสียงเฮฮา ฯ ๏ ท่านเจ้าคุณให้ไปขอฮ่อมาถาม ใหค้ นล่ามม่ันคงส่งภาษา นายเสมียนเขยี นความตามบัญชา ฮอ่ หน่งึ มาใหค้ วามตามกระบวน ว่าเป็นจีนเกดิ ยงั เมอื งกวางตุง้ ใจมาดมงุ่ เล้ยี งชีวิตไม่ผดิ ผวน มาคา้ ขายในเขตประเทศญวน ไปเมอื งพวนแลว้ เยื้องไปเมืองลา ก็หากนิ โดยยตุ สิ จุ ริต เลี้ยงชีวิตมงุ่ หมายขายของป่า อา้ ยพวกฮอ่ ยกทพั จับเอามา จนเวลาทพั ไทยไปเอาตัว จนี ลา่ มถามตอ่ ฮ่อคนไหน มนั ชี้ใสว่ ่าคนนัน้ ไมผ่ นั ผวน คนนั้นวา่ ขา้ เป็นลาวชาวเมืองพวน ใหก้ ารลว้ นขอ้ รับจบั เอามา น่ีกเ็ จก๊ นัน่ ก็ลาวชาวเมอื งพวน โนน่ กญ็ วนนุงนงั นา่ กังขา ให้ล่ามถามทัง้ หมดจดวาจา เที่ยวถามหาฮอ่ คนไหนมไิ ด้มี ก็มไิ ด้จดจําคาํ ทั้งหลาย ครน้ั บา่ ยชายแสงพระสุริยศรี

สกั ห้าโมงสงั เกตเศษนาที ตราพระราชสหี ์มขี ้ึนมา จง่ึ ประชุมลูกทพั นายกองพรอ้ ม มานั่งลอ้ มเรียงรายท้งั ซา้ ยขวา ฉนั ผนกึ ออกอ่านซึ่งสารตรา แจ้งกจิ จาโดยความตามคดี ในบังคับกองทพั ใหย้ ับยั้ง รอคอยฟงั เหตุการณ์ตามสารศรี อยูน่ ครราชเสมาอยา่ ชา้ ที แลว้ ห้ามมิให้เย้ืองไปเมอื งบน อา้ ยพวกฮอ่ นั้นยงั ก่อรังแก หรือพ่ายแพส้ ืบให้แจง้ ทกุ แหง่ หน จกั นายทัพนายกองสักสองคน ท่ชี อบกลเปน็ ผ้ใู หญ่เข้าใจการ ไปสบื เร่ืองเมอื งหนองคายจะร้ายดี ยงั เหลอื มีข้าศกึ ทีฮ่ กึ หาญ แมน้ กองทพั หลวงพระบางทางเชียงคาน จะเข้าราญรอนประจญตาํ บลไร มีหนังสอื รีบรัดมานัดหมาย จงผันผายขึน้ ไปชว่ ยด้วยจงได้ ตระเตรยี มยกซ่งึ พหลพลไกร รบี ข้ึนไปอยา่ ให้ขาดราชการ ฯ ๏ เจ้าพระยาแมท่ พั สดบั แจง้ ประดิษฐแ์ ตง่ ความตอบระบอบสาร โดยถ้วนถี่สารพดั ไม่ทดั ทาน แลว้ สง่ เจา้ พนักงานใหถ้ ือมา คร้นั สาํ เรจ็ เสร็จพร้อมจอมพหล จึ่งแต่งคนนกึ มองตรึกตรองหา จะได้ผูใ้ ดดมี ปี ัญญา สบื กจิ จาหนองคายเอารายงาน จะตอ้ งทาํ ตามดง่ั ข้อบังคบั จึ่งปรึกษานายทพั นายทหาร จะไดใ้ ครไปดที ่ีชํานาญ ไปสบื การหนองคายคอื นายใด เหน็ แตว่ ่าพระยาพิชติ ณรงค์ ค่อยมั่นคงจะเห็นเปน็ ไฉน นายทัพคํานบั นอ้ มต่างพร้อมใจ คนอน่ื ไปไมเ่ สรจ็ สาํ เร็จมา ทา่ นเจ้าคณุ อารที ่านมีจิต พระยาวิชติ ณรงค์น้นั หนักหนา จึง่ จัดเสบยี งให้ใจเมตตา อีกทัง้ ผ้าขนยาวห่มหนาวนอน พระยาวชิ ิตณรงคบ์ รรจงรับ นอ้ มคาํ นบั ด้วยศิโรสโมสร แล้วหมอบราบกราบก้มประนมกร กลา่ วสนุ ทรโดยความตามอัชฌา ขอขุนนราฤทธไิ กรนนั้ ไปด้วย แม้นเจบ็ ปว่ ยไดพ้ ทิ ักษช์ ว่ ยรักษา เปน็ วงศว์ านหลานชดิ สนิทมา พอเห็นหน้าเพื่อนไปในหนทาง เจ้าพระยาอนุญาตตามคาดหมาย กล่าวอถิปรายตามสตั ย์ไมข่ ดั ขวาง มไิ ด้มีแหนงจิตคดิ ระคาง ด้วยไวว้ างใจแท้เหน็ แนน่ อน

พระยาวชิ ิตณรงคป์ ระสงค์สม ตามนิยมภญิ โญสโมสร เสรจ็ จะลาคลาไคลครรไลจร มาทีผ่ อ่ นเคยพักสํานกั ตน ฯ ๏ ครนั้ ณ เดือนอ้ายข้นึ สามคา่ํ เป็นวันกาํ หนดฤกษเ์ ลิกพหล พระยาวิชิตณรงค์ไม่วงวน ก็กรพี ลมาดหมาดหนองคายพลัน เดินเป็นกระบวนมาหน้าทําเนยี บ ดเู รยี งเรียบเหล่าพหลพลขันธ์ ขุนนราฤทธไิ กรใจฉกรรจ์ ก็ผายผนั ตามไปในกระบวน เจา้ พระยาแม่ทัพออกรบั รอง เสรจ็ ส่งกองทัพขันธ์ไม่ผนั ผวน ฯ ๏ เม่ือวนั หนง่ึ ฟั่นเฟอื นจาํ เคลือ่ นคลาด เจ้าเมอื งอุปฮาดเข้าผายผัน เอามา้ แดงชา้ งดาํ มากํานัล อปุ ฮาดเมืองสวุ รรณภมู มิ า หลวงสารสทิ ธิผ์ นู้ ําเข้าคํานับ ทา่ นเจ้าคุณออกรบั ดว้ ยหรรษา ซึ่งช้างม้าทีม่ าใหไ้ มน่ าํ พา เปน็ แต่ว่าขอบใจที่ให้เรา ท่านคืนชา้ งม้าไปให้เจ้าของ ไมห่ มายปองอยากไดข้ องใครเปลา่ ถงึ ว่าของสง่ิ ไรทา่ นไมเ่ อา แมน้ ที่เหลา่ คนชอบรบั ตอบแทน ซึ่งกองทพั ตงั้ แต่มาหลายราตรี เหล่าโยธบี ้างเปน็ สขุ บ้างทุกข์แสน ด้วยไข้คงติดมาในป่าแดน ดูหนาแน่นชกุ ชมุ ตายสุมไป บางคนไมต่ ายหายมแี รง กินของผดิ สําแลงก็ตักษยั บ้างกินกล้วยนํ้าวา้ พุทราไป แตพ่ อใส่ถึงคอชกั งองนั บา้ งกก็ ินลูกสมองอกอ่ มว้ ย บ้างกนิ กลว้ ยออ้ ยแล้วอาสัญ กนิ ของส้นิ ชวี ิตผดิ ผดิ กัน ฝูงคนบรรลยั รมุ ชมุ สดุ ใจ ได้มีบัญชนี ามจดตามเหตุ คนรอ้ ยย่สี บิ เศษม้วยตักษัย ตง้ั แตย่ กหมายมงุ่ จากกรงุ ไกร คนตายได้รอ้ ยเศษสงั เกตจํา ซึง่ ตัวฉนั หฤทัยหัวใจสะท้อน เหน็ คนนอนครางอย่ดู ูออกสํา คดิ ถงึ ตวั กลัวตายกายระกาํ เฝา้ แต่ราํ่ โหยไหอ้ าลยั วอน ยามหน่งึ คดิ ถึงตวั กลัวความไข้ ยามสองใหค้ ะนงึ ถงึ สมร ยามสามคดิ รําคาญถงึ มารดร ยามสน่ี อนคดิ ถึงญาติแทบขาดใจ เป็นอยา่ งน้ีเจียวฉันทกุ วนั คนื บม่ ีชนื่ เศรา้ หมองไมผ่ อ่ งใส โศกถงึ มิตรคดิ ถึงญาตแิ ทบขาดใจ เหลอื หทัยท่ีทกุ ขค์ งจกุ ตาย แสนระกาํ ชา้ํ กายเสียดายโฉม เสียดายเชยเคยประโลมไมห่ า่ งหาย ไมห่ ่างเหเสนห่ ์นชุ จะหยุดอาย จะหยุดเว้นเปน็ อย่าหมายว่าจกั มี

วา่ จะม้วยเสียด้วยเพราะความเศร้า เพราะความโศกโรคเร้าหม่นหมองศรี หมน่ หมองทรวงโอ้แม่ดวงสมุ าลี สมุ าลัยของพ่ีอย่าไกลตา อยใู่ กล้ตัวเพราะผวั มาห่างห้อง มาหา่ งเห็นเวน้ นอ้ งไห้โหยหา ไหโ้ หยหวนครวญครา่ํ ไม่นาํ พา ไม่นา่ พึง่ หนงึ่ วา่ จําใจจร โออ้ กเอ๋ยเคยแอบประคองอุ่น หอมกลิน่ กรนุ่ สาเรแกว้ เกสร เสียดายดวงพวงพ่มุ อุทมุ พร มาไกลกรมไิ ด้กอดประคองเชย สงสารสรอ้ ยเสาวคนธจ์ ะมลหมอง จะเฝา้ ร้องไหห้ านจิ จาเอย๋ ใครจะช่วยปลอบปลม้ื ให้ลืมเลย เหมือนพ่เี คยประคองน้องนทิ รา เวลาดกึ ตรกึ ตรองถึงนอ้ งสาว อนาถหนาวเนอ้ื หนังเยน็ มังสา เมืองโคราชเหลือล้นพ้นปัญญา หนาวยง่ิ กว่าบางกอกยอกทั้งตัว ห่มผ้าปดิ เหมือนหน่ึงว่าหม่ ผ้าเปยี ก มันเยน็ เยียกหนาวยวดจนปวดหวั หนาวอัปรีย์หนาวระยําพอคาํ่ มัว มันเย็นทัว่ สารพางคน์ อนครางฮอื ตอ้ งสวมเสื้อสามชัน้ ไว้กนั หนาว ท้ังถงุ เท้าเกือกซอ้ื ลงนอนซ่ือ กางเกงสามช้ันนุ่งสวมถุงมือ ตัวหนักต้ือหมวกผ้าปิดหน้าตงึ แตอ่ ย่างนัน้ ไม่กันความหนาวได้ มนั หนาวในตับปอดตลอดถึง ผา้ ห่มสุมคลุมซ้อนนอนตะบงึ คดิ ราํ พงึ ใจอนาถไมค่ ลาดคลาย [กลอนตรงนี้สมั ผสั ขาด] คงหาครบซื้อสรรค์เครือ่ งกันหนาว จนถึงคราวฉกุ เฉินคิดเกินไป ถ้ารูท้ ีว่ ่าไม่มขี ้าศึกรบ จงึ่ หาซื้อจัดหาเอามาไม่ หมายจะได้ชิงชัยกันใหญ่ยาว วา่ พวกไอ้สลัดบกมนั ยกมา ด้วยกลวั วา่ ผ้าเสอื้ จะเหลือมอื การรบพุง่ หส่ ู้จกั จะหนักหน้า ถ้าแม้นวา่ รูแ้ ทเ้ ป็นแนใ่ จ ไม่ซือ้ หาก็เพราะการประมาณเกนิ เที่ยวปอกลอกทองพระไปถลงุ ให้เครื่องคุ้มกนั หนาวเมื่อคราวเฉิน ซ่ึงเครือ่ งหนาวสารพัดได้จัดมา สรรเสรญิ คุณเขาทกุ เช้าเย็น บุญคุณคิดขนุ สนิทอักษรนุ่ม เพราะบญุ คุณพ่อนมุ่ พอค้มุ เขญ็ ขอใหเ้ ขาสวัสดมี ีจําเริญ บว่ างเว้นมสี ุขเฝ้าทุกขท์ น ฯ ป้องกนั หนาวนอกเน้อื เขาเกอื้ หนนุ แต่นา้ํ จิตมิได้วายคลายลําเค็ญ ทา่ นกต็ ง้ั ปรารถนาหากศุ ล ชักชวนคนก่อสร้างทางนิพพาน ๏ ฝ่ายเจ้าพระยาแมท่ พั เม่ือยบั ยงั้ ดว้ ยศึกเสอื นนั้ ไม่มพี กั ร้ีพล

เจดยี ์ใหญว่ ดั กลางร้างชํารุด ยงั โทรมทรดุ ลม้ ทอดตลอดฐาน ไมม่ ใี ครศรทั ธาล้มมานาน จะประมาณนบั ยบิ หลายสิบปี ท่านเจ้าคณุ มีใจอยากใคร่สร้าง พระเจดียว์ ัดกลางเป็นศกั ด์ิศรี จะซือ้ อฐิ ปนู ใครทไี่ หนมี ไม่ร้ทู ีแ่ หง่ หนตาํ บลเลย ท่านกเ็ ท่ียวสืบถามตามชาวบ้าน ดว้ ยหวังการจริงจรงิ ไมน่ ง่ิ เฉย เฝ้าสบื เสาะหาแหง่ ตําแหน่งเคย ทา่ ภเิ ปรยถามไถ่มไิ ด้วาย จติ ศรัทธาอาจณิ ไม่ส้ินสญู คร้นั อิฐปนู ไดส้ มอารมณห์ มาย มผี ู้มาบอกแจ้งไมแ่ พรง่ พราย ว่ามากหลายบริบูรณ์อิฐปูนมี อยู่ถงึ ทางหนองกะบกวดั โคกพรม อิฐเผารมแกไ่ ฟงานมไดส้ ี เจ้าคุณทราบระบิลแสนยนิ ดี จึงป่าวร้องโยธีทกุ หมวดกอง บอกคุณเหล่าพหลไปขนอิฐ ตา่ งคนคิดยินดไี มม่ ีหมอง คานสาแหรกจัดไว้ใสส่ าํ รอง ต่างคนปองเอาบญุ ไม่ขนุ่ เคือง ฯ ๏ คร้ันแรมสิบสามคํา่ ณ เดอื นอา้ ย เวลางายสรุ ิยาส่องฟา้ เหลือง พวกกองทัพโห่รอ้ งไปนองเนอื ง ท้ังชาวเมืองพลอยไปอยากไดบ้ ุญ บา้ งกห็ าบกห็ ามตามถนัด ล้วนแตศ่ รทั ธาช่นื ทัง้ หม่ืนขุน ไม่วา่ ไพรผ่ ู้ดมี ีสกลุ ชลุ มนุ แบกอิฐไมค่ ดิ อาย พวกกองทพั ชาวเมอื งขนเนอื งแน่น ยกอฐิ แผ่นใสบ่ ่าแบกหน้าหงาย ล้วนแตง่ ตัวกรุ้งกร้งิ ท้งั หญิงชาย ทั้งสาวแสแ้ มห่ มา้ ยกม็ มี า ลว้ นแต่งตวั อ่าอวดประกวดกนั หม่ สสี นั สกุ แสงออกแดงจา้ ทง้ั พระเถรเณรชมี ศี รัทธา สู้อตุ ส่าห์ขนอฐิ นํา้ จติ ทน ทั้งเกวยี นล้อโคลากไปมากหลาย ดเู รียงรายเต็มหลามตามถนน ท้งั แรงโคแรงควายนิกายพล ไปหาบขนอิฐแผ่นแนน่ หนทาง ลว้ นสรวลสันต์บันเทิงระเริงร่นื เฮฮาครืนมิได้อายระคายหมาง ทงั้ เจก๊ ไทยมอญลาวสาวสาํ อาง ขนอิฐมาวดั กลางดเู กรียวกราว คนชาวเมอื งพร้อมใจท้งั ไทยจนี ออกทรพั ยส์ ินซอ้ื อาหารขา้ วสารขาว ตม้ เลยี้ งคนขนอิฐด้วยคิดยาว ทัง้ ของคาวหวานเคม็ เต็มศรทั ธา สองวันเสร็จลงมือรื้อจบั ขุด ดว้ ยของเก่าชํารุดอยู่หนกั หนา พบกรซุ ่ึงบรรจขุ องนานา ทั้งรปู พระปฏมิ าเงินทองคํา จึงเอาพระเงินทองของบุราณ มอบให้พระอธิการอุปถมั ภ์

จงเกบ็ ให้มิดชดิ ปกปิดงาํ แล้วให้ทาํ ท่กี รุบรรจุลง ฯ ๏ เจ้าพระยาจอมทัพจะจับงาน แลว้ ตรกึ การโดยจิตคดิ ประสงค์ ในบาลีมตี ามเนือ้ ความตรง พระพทุ ธองคบ์ ัญญตั อิ ธบิ าย วา่ ผใู้ ดจะสรา้ งทางกุศล ไมป่ ่าวรอ้ งฝงู คนส้นิ ทง้ั หลาย แมน้ วา่ ใครศรัทธาเอกากาย ไมป่ า่ วร้องหญิงชายประชาชน ได้แตโ่ ภคสมบัติพัสถาน บริวารสมบัตนิ น้ั ขัดสน แม้นป่าวรอ้ งนําจงู เหล่าฝงู คน บันดาลดลพบพ้องสองศฤงคาร ทา่ นคิดเห็นโดยงามตามทํานอง จึ่งปา่ วรอ้ งทว่ั ประเทศเขตสถาน ราษฎรชาวนคิ มกรมการ จงั หวัดบ้านเมืองโคราชประหาศไป ใหป้ ราศจากอามสิ มาติดเทียน ตามทําเนียมโดยศรัทธาอชั ฌาสยั กาํ หนดนดั ความแจง้ ไมแ่ คลงใจ ใหม้ าในวัดกลางสรา้ งศรัทธา ฯ ๏ คร้ันวนั ขน้ึ สบิ สงิ คํา่ จําคดี ในเดือนย่สี ัจจงั ไม่กงั ขา ตะวันบา่ ยชายแสงพระสุริยา เป็นเวลากาํ หนดที่จะมีการ ฝ่ายท่านเจ้าพระยาจอมพหล เชญิ พระทนต์พระจอมเกล้าเจ้าสถาน พร้อมดว้ ยเหล่ากระบวนแห่แลละลาน ไปมีงานสมโภชใหญใ่ นวัดกลาง นมิ นตส์ งฆท์ ั่วประเทศเขตนคร มาสดับปกรณต์ ามแบบอย่าง เหลา่ พระสงฆด์ ใี จไมร่ ะคาง ถงึ หนทางไกลน้นั ไม่พรัน่ พรงึ พระชราฐานาสมภารวดั ก็แตง่ จดั เหลา่ พระครไู วห้ มู่หนึ่ง ถวายปจั จัยถว้ นล้วนตําลึง พระสงฆ์ซึ่งลกู วัดไวถ้ ดั รอง ถวายปัจจยั งามตามทําเนียม พระสงฆเ์ ป่ียมยินดไี ม่มีสอง นมิ นตห์ มดบ้านเมอื งมาเนืองนอง ได้รบั ของไทยทานสําราญใจ ฯ ๏ ฝ่ายเจ้าจอมโยธามปี ราโมทย์ ท่านสมโภชพระทนตพ์ น้ วิสัย จดั เหล่าพวกกองทพั โดยฉับไว มาเลน่ โขนโรงใหญไ่ ดอ้ ยา่ งดี พร้อมท้ังเครอื่ งเรอื งรองทองระยบั สรา้ งเสร็จสรรพงามงดแสงสดสี ทั้งโรงโขนใหญป่ ลกู ผูกคิรี โตยาวมกี ว้างขวางสําอางตา โขนเล่นเรื่องก่อนวนั นอนโรง เลน่ พิธีอุโมงคด์ หี นกั หนา ครั้นวา่ ดกึ สองยามตามสญั ญา กเ็ ลิกลาโรงกลับมาหลับนอน ฯ ๏ คร้นั ว่าร่งุ สุรยิ าท้องฟ้าแดง กเ็ ตรยี มแต่งกระบวนแหแ่ ลสลอน

เชญิ พระบรมทนตเ์ สร็จเสดจ็ จร ไปสดบั ปกรณ์อกี เวลา โขนก็เลน่ ตามเรื่องแตเ่ บือ้ งหลงั เมือ่ วริ ญุ จาํ บังออกอาสา พวกคนดูพรูพรง่ั ประดงั มา คนชราแกส่ าวมากราวกรู ชาวบา้ นนอกขอกนามาออกฮือ แจง้ ข่าวลือแน่ใจไม่ไขหู หนทางเดินสองคนื ต่นื มาดู เพราะไม่รู้จกั โขนโยนอย่างไร คนชราอายุเจ็ดสิบเลย ยังไม่เคยดูเหน็ เปน็ ไฉน บา้ งหาเสบียงอาหารดว้ ยบ้านไกล ล้วนตั้งใจมาดอู อกกรูเกรียว ล้วนสาวสาวชาวปา่ ก็มาส้ิน ทาขมิ้นล้นเหลือจนเน้ือเขยี ว อยากดูโขนอย่างยง่ิ จริงจริงเจยี ว บ้างจูงเหนี่ยวลูกหลานมาลานลน สปั ปรุ ษุ ค่งั คบั ออกทรพั ย์สิน ติดข้าวบิณฑ์เบยี้ ศรัทธาหากุศล เข้าส่วนสร้างพระเจดยี ต์ ามมีจน ออกสับสนตง้ั จิตมาติดเทียน ครั้นเล่นโขนถ้วนตามครบสามวัน รวมเงนิ พนั บาทมีบญั ชีเขียน สปั ปรุ ุษมาพรอ้ มน้อมจาํ เนียร เงินตดิ เทยี นท่วี ัดลว้ นศรัทธา จงึ ไดเ้ งนิ พันบาทยงั ขาดไป พระเจดยี ์องคใ์ หญ่เปน็ หนักหนา แตโ่ ดยสงู ถงึ เสน้ นับเปน็ วา เจา้ พระยาจอมทพั รับออกทุน แมน้ เงินใชไ้ มพ่ อกอ่ เจดีย์ ท่านรับเป็นกงสีออกเก้อื หนุน สร้างเจดียฐานเปน็ การบุญ ทา่ นเจ้าคุณรบั สาํ เรจ็ โดยเสรจ็ การ ฯ ๏ แรมสบิ เอด็ มไิ ดเ้ คลื่อนในเดอื นย่ี ขุนวสิ ตู รเสนีสืบข่าวสาร ท่ีไปเมืองหนองคายเอารายงาน แจง้ ราชการข่าวทพั แลว้ กลบั มา เขากราบเรียนพณะหัวจอมพหล โดยเหตุผลทสี่ ัจจังไมก่ ังขา แล้วนาํ คนชาวเวียงชือ่ เชยี งทา เป็นหลวงราชรักษาสุเรนทร ทา่ นเจ้าคณุ ออกยังหอน่งั รับ เหลา่ นายทัพพร้อมพรั่งนั่งสลอน ทงั้ กรมการนายทพั คาํ นบั กร หลวงราชสุเรนทรกใ็ ห้การ วา่ เดิมพวกอ้ายฮ่อมากอ่ เหตุ ในประเทศราชทําอาจหาญ ทง้ั จนี ลาวญวนสมทบเข้ารบราญ คนประมาณหลายรอ้ ยไม่น้อยตัว เหล่าพวกลาวยน่ั ฮ่อไมต่ อ่ สู้ ต้องเข้าทเู งินเสียทง้ั เมียผวั ทีไ่ มม่ ีเงนิ ให้มใี จกลัว เหมือนควายววั ยอมให้ฮ่อใชก้ าร อ้ายฮ่อเกบ็ เงินทวั่ ทกุ ครวั ลาว เรอื นละเก้าหกเจด็ ตําลึงหวาน ฮอ่ เขยี นหนังสือใหใ้ สก่ ระดาน เรยี งว่าไม้บางบ้านสําหรบั ตัว

พวกฮ่อเห็นหนังสอื ลงชื่อเขยี น ไม่เบียดเบียนคิดยนั่ มนั สั่นหัว ไมค่ ุมเหงคะเนงร้ายเกรงนายกลวั ตลอดท่วั บ้านลาวพวกเข้าทู อา้ ยพวกฮอ่ เรียงรายตั้งค่ายมัน่ ย่อมแขง็ ขันยง่ิ ยวดเป็นหมวดหมู่ ไม้ระเนียดเรียงรายทําคา่ ยคู มนั ตง้ั อยู่มากมายหลายตําบล ราชบุตรหนองคายนนั้ ใชข้ ้า ไปสบื ซ่งึ กิจจาเอาเหตุผล ข้ากจ็ ะสบื ตามไปสามคน ลอบไปจนแจง้ ความตามกระบวน กลับมาบอกอปุ ฮาดราชบุตร จนส้ินสดุ ทีไ่ ด้ลอบไปสอบสวน บดั นท้ี พั อ้ายฮ่อท่ีก่อกวน มนั เกอื บจวนยกปองมาหนองคาย ในวันนนั้ คืนนน้ั มนั จะมา ซึ่งตัวขา้ รหู้ มดกาํ หนดหมาย ราชบุตรรูแ้ จง้ ไม่แพรง่ พราย เกณฑ์พหลพลนกิ ายหัวเมืองมา เกณฑ์คนเก้ารอ้ ยไว้ไม่ไดค้ รบ ได้พลรบสามรอ้ ยน้อยหนักหนา ราชวงศร์ าชบุตรสดุ ปัญญา กต็ รึกตราการสูห้ มไู่ พรี ตอ้ นใหเ้ ขา้ เมืองหนองคายกลวั นาย ครนั้ ลาวมากอยู่ขา้ งฟากเวียงจันทเ์ ก่า หนี แลว้ เกบ็ ชายฉกรรจ์บรรดามี แล้วซ้อมสีขา้ วลําเลียงเสบียงพล บา้ นละสบิ หยบิ เอาห้ารกั ษาครัว ลว้ นมตี วั ส่งลําเลยี งเล้ียงพหล ราชบตุ รจดั โยธที ่มี ตี น แลว้ ยกพลขา้ มฟากไปปากทาง ตงั้ คอยรบั ทพั ฮ่อไมย่ อ่ ยนั่ หาท่ีมนั่ ตัง้ ท่าปีกกากว้าง จัดคนรกั ษาการในดา่ นทาง แลว้ ไวว้ างกองซ่อนคอยรอนราญ คร้นั เดือนแปดแรมส่ีคํา่ ไดจ้ ําข้อ พวกอ้ายฮอ่ พร้อมพรกั เข้าหกั หาญ ได้รบราฆ่าฟันประจัญบาน ลาวต้านทานทัพฮ่อไมร่ อรา ราชวงศ์ยกหลกี ตีปกี ซ้าย ราชบุตรยักย้ายตปี ีกขวา พวกอ้ายฮ่อยงิ ปืนโครมครืนมา ชา้ งพลายกล้าต้องปืนวิ่งตื่นไป คือว่าชา้ วผู้ช่วยเมอื งหนองคาย เปน็ น้องชายราชบตุ รฉดุ ไมไ่ หว ช้างพลายกล้าต้องปนื ตนื่ ตกใจ ลงขอไม่ย่งั ยืนต่นื กระจาย ซ่ึงกองทัพราชบุตรไม่หยดุ แยก กว็ ิง่ แตกหลบลี้บ้างหนหี าย เหลา่ ไพรพ่ ลซานซมบา้ งล้มตาย กแ็ ตกพ่ายหนีฮ่อไมต่ ่อกร ทพั ฮ่อบากละจากราชบุตร เขา้ ยงยุทธราชวงศ์ตรงไม่ถอน อาวุธสนั้ เข้ารมุ ตะลุมบอน ฮอ่ ตีตอ้ นล้อมรอบเปน็ ขอบคัน กองราชวงศ์เจา้ เมืองหงสาสถิต สน้ิ ชีวิตสูญชีวาถงึ อาสัญ

ตายอยใู่ นท่ีรบไดพ้ บกัน ไพรพ่ ลน้นั ลม้ ตายวายชวี ี ราชวงศ์เหลอื กาํ ลังกพ็ ังแยก ลาวต่นื แตกขา้ มลําแมน่ า้ํ หนี พลลาวยั่นพรั่นฮอ่ ไม่ตอ่ ตี ต่างหลบหนขี า้ งของมาหนองคาย ราชบุตรสุดท้ออ้ายฮอ่ มาก จะข้ามฟากมาได้ดง่ั ใจหมาย ไพร่พลเรายับยอ่ ยเหลอื น้อยกาย จง่ึ ยกั ยา้ ยผอ่ นครัวท่ัวทกุ กอง มาพักไว้หนองหาญติดการต่อ แตง่ คนยอกําลังเมืองทงั้ สอง ให้มาช่วยสงครามตามทาํ นอง ได้รบั รองทพั ฮ่อพอประทงั ครน้ั ได้ทพั ขอนแกน่ เมอื งภูเวยี ง มาพรอ้ มเพรยี งโดยสมอารมณ์หวงั ราชบุตรดีใจไดก้ าํ ลงั จึงคดิ ต้ังรกั ษาอยหู่ น้าเมอื ง แลว้ ต้อนครัวลาวที่หนีเข้าป่า ให้เข้ามาคนื ถ่ินเสร็จสน้ิ เร่ือง ราชบตุ รจัดการในบา้ นเมือง มิให้เคอื งขนุ่ ใจแกไ่ พรพ่ ล ฯ ๏ ครน้ั เจา้ เมอื งหนองคายผายผันกลับ ถึงเสร็จสรรพโยธาเหล่าพหล กลับมาแต่ฝา่ ยเบ้อื งเมอื งอุบล ก็จดั คนข้ึนรกั ษาหน้าเชิงเทิน พวกหนง่ึ ถูกให้ไปปลูกทําเนียบคอย ท่ีทุ่งโพนชา้ งน้อยการฉุกเฉิน รับพระยามหาอํามาตยไ์ ม่ขาดเกิน การไม่เนิ่นจวนเวลาไมช่ ้านาน แลว้ ขับตอ้ นลาวครวั ทั่วทง้ั ส้ิน ใหค้ นื ถน่ิ ตามตาํ แหน่งแหง่ สถาน มาสขี ้าวไว้อยา่ ขาดราชการ ทาํ ขา้ วสารมามายไว้จ่ายคน เม่อื วันหนึ่งพระยามหาอาํ มาตย์ หัวเมืองอืน่ ดน่ื ดาษมาสับสน เสร็จถงึ เมืองหนองคายพร้อมนายพล ออกเกลอื่ นกล่นพร้อมพร่ังไพรค่ ่ังคบั ราชบุตรราชวงศ์เมอื งหนองคาย ต่างผันผายมาฟังสง่ั สดับ ยงั พระยามหาอํามาตย์ทา่ นแมท่ พั มาคํานบั ใหแ้ จง้ ท่แี คลงใจ ขา้ งทา่ นพระยามหาอํามาตย์ จ่ึงถามราชบตุ รตามความสงสัย ซึง่ รบฮอ่ ปากทางนน้ั อยา่ งไร มงึ จึงได้แตกมาดูน่าอาย ไมค่ ุมพปี่ ้านา้ สาวและอาวอา จงกม้ หนา้ ส้ินชวี ิตอย่าคดิ หมาย ตง้ั ปรบั โทษทณั ฑม์ ึงใหถ้ ึงตาย แลว้ สง่ นายเพชฌฆาตให้ฟาดฟัน ตัดหวั เสียบประจานร่าไวห้ น้าเวยี ง แม้นใครดอู ยา่ งเย่ียงต้องอาสัญ ครัน้ ร่งุ ข้ึนหลายเวลาส่หี า้ วัน กเ็ ตรยี มกนั พรอ้ มไวเ้ หล่าไพรพ่ ล จ่งึ เข้าเมอื งหนองคายใช้ให้ขา้ สืบกจิ จาใหแ้ จ้งแห่งนสุ นธ์ิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook