จลุ พิกดั ต่างกนั ท่สี ี กำ�มะถันแดง กำ�มะถันเหลอื ง งานวิจยั ที่เก่ยี วขอ้ ง : 101 ไมพ่ บข้อมูล พืชสมุนไพร
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ี่ทสี References 1. Rouf R, Uddin SJ, Shilpi JA, Alamgir M. Assessment of antidiarrhoeal activity of the methanol extract of Xylocarpus granatum bark in mice model. J Ethnopharmacol. 2007;109(3):539–42. 2. Mondal S, Varma S, Deepak V, Narayan S, Ranjan B, Mohan M, et al. Double-blinded randomized controlled trial for immunomodulatory effects of Tulsi ( Ocimum sanctum Linn .) leaf extract on healthy volunteers. J Ethnopharmacol [Internet]. 2011;136(3):452–6. 3. Prabsattroo T, Wattanathorn J, Somsapt P, Sritragool O. Positive Modulation of Pink Nelumbo nucifera Flowers on Memory Impairment , Brain Damage , and Biochemical Profiles in Restraint Rats. 2016;2016. 4. Kalaivani P, Saranya RB, Ramakrishnan G, Ranju V, Sathiya S, Gayathri V, et al. Cumi- num cyminum, a dietary spice, attenuates hypertension via endothelial nitric oxide synthase and NO pathway in renovascular hypertensive rats. Clin Exp Hypertens. 2013;35(7):534–42. 5. Vimala S, Norhanom a W, Yadav M. Anti-tumour promoter activity in Malaysian ginger rhizobia used in traditional medicine. Br J Cancer. 1999;80(1–2):110–6. 6. Wattanathorn J, Chonpathompikunlert P, Muchimapura S, Priprem A, Tankamnerd- thai O. Piperine, the potential functional food for mood and cognitive disorders. Food Chem Toxicol. 2008;46(9):3106–10. 7. Shokeen P, Anand P, Murali YK, Tandon V. Antidiabetic activity of 50% ethano- lic extract of Ricinus communis and its purified fractions. Food Chem Toxicol [Internet]. 2008;46(11):3458–66. 102 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ต่างกนั ท่สี ี ืพชส ุมนไพร 103
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด 3. จลุ พกิ ัดต่างกันทีข่ นาด ประกอบด้วย พิกดั ตา่ ง ๆ ดงั น้ี สว่ นท่ใี ช้ / รสยา กระพงั โหม ชอ่ื พกิ ัด ชอ่ื สมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ / วสิ ยั พืช ช่ือวงศ์ สรรพคณุ 1. กระพงั โหมทง้ั 2 กระพังโหม Paederia linearis Hook. f. / C Rubiaceae เถา / ขมร้อน แกต้ านซาง นอ้ ย แก้ตัวรอ้ น เจรญิ อาหาร ขบั พยาธิ กระพังโหม Paederia foetida L. / C ใหญ่ ข้อมูลเพ่ิมเติม : พืชท้ัง 2 ชนิดนี้ หมอพื้นบ้านภาคใต้ มักเรียกว่า ย่านพาโหม หรือต้นตดหมูตด หมา หากไม่สามารถหาได้ท้งั 2 ชนิด จะใช้กระพงั โหมใบใหญ่ หรอื ในต�ำ ราเขยี นว่าย่านพาโหม จะหมายถึง กระพังโหมใบใหญ่ เพราะมีกล่ิน รส แรงกว่ากระพังโหมใบเล็ก และเป็นชนิดท่ีนิยมใช้เป็นส่วนประกอบใน ขา้ วย�ำ พื้นเมืองภาคใต้ การใชป้ ระกอบต�ำ รบั ยา : ใชข้ บั ลม แก้จกุ เสียด แน่นท้อง ลดไข้ ต�ำ รับที่ 1 : แก้อาการแน่นจุกเสียด (หมอพน้ื บา้ นจังหวัดสงขลา) เถาสะคา้ น 2 สว่ น ผลมะแวง้ ท้ัง 2 เถากำ�แพง 7 ชนั้ เหง้ากะทอื ใบพาโหม อย่างละ 1 ส่วน ใบมะกา ใบยอ อยา่ งละ ½ สว่ น นำ�ตวั ยาทง้ั หมดต้มนํา้ รับประทานกอ่ นอาหาร เช้า เทยี่ ง เยน็ คร้งั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สงั เกตอาการ ตำ�รับที่ 2 : แกส้ นั นิบาต 12 ประการ (หมอแฉลม้ มงคล) ตรผี ลา ลูกจนั ทน์ ดอกจนั ทน์ กำ�ยาน แกน่ ไม้สัก แกน่ มะหาด เทียนด�ำ พรกิ ไทย เหง้าขงิ รากข้ีกาแดง เถาบอระเพ็ด ผลกระดอม แหว้ หมู พาโหมท้งั ต้น รากย่านาง รากชมุ เหด็ จันทน์แดง จันทนข์ าว รากหญา้ คา โกฐกา้ นมะพรา้ ว โกฐจุฬาลมั พา เหงา้ ตะไคร้หอม รากขดั มอน อย่างละ 1 สว่ น นำ�ตัวยาท้งั หมดต้มน้ํา แบบ ต้ม 3 สว่ น เอา 1 สว่ น รับประทานกอ่ นอาหาร เช้า เทยี่ ง เยน็ ครั้งละ 250 มลิ ลลิ ิตร เมอ่ื จะรบั ประทานให้ แทรกขัณฑสกร สังเกตอาการ ต�ำ รับท่ี 3: ใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบในต�ำ รบั ยาในบญั ชยี าหลักแห่งชาตยิ าจากสมุนไพร พ.ศ. 2556 ใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบในยามหาจักรใหญ่ บรรเทาอาการท้องอดื ทอ้ งเฟ้อ 104 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด ใบและเถากะพังโหมใหญ่ กระพงั โหมใหญ่ (Paederia foetida L.) ดอกกะพงั โหมใหญ่ งานวจิ ยั ท่เี กย่ี วข้อง : 105 ไม่พบข้อมลู พืชสมุนไพร
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด ข่า ช่ือสมนุ ไพร ช่อื วทิ ยาศาสตร์ / วสิ ัยพชื ชอื่ วงศ์ ส่วนทีใ่ ช้ / สรรพคณุ รสยา ชอื่ พกิ ดั ขา่ เล็ก Alpinia officinarum Hance / H Zingiberaceae เหง้า / เผด็ ขับลมให้กระจาย 2. ข่าทั้ง 2 (ภาคใต้ใช้ Alpinia conchigera ร้อน แกป้ วดท้อง Griff. หรือ จุกเสียด แนน่ ขบั น้�ำ Alpinia siamensis K. Schum.) คาวปลา แกบ้ ิด ตกเลือด แก้ลม ขา่ ใหญ่ Alpinia galanga (L.) Willd. / H ปว่ ง แกเ้ กลอ้ื น แก้ สนั นบิ าตหน้าเพลิง (ไข้จบั หลังคลอด บตุ ร) ต�ำผสมเกลือ และมะขามเปียก ชว่ ยขบั เลอื ด ขบั น้�ำ คาวปลา ขอ้ มลู เพิ่มเติม : หากในตำ�รับยาระบเุ ฉพาะ เหงา้ ข่า จะหมายถงึ ขา่ ใหญ่ การใช้ประกอบตำ�รบั ยา : ใช้ประกอบตำ�รบั ยาขบั ลม ตำ�รับที่ 1 : แกไ้ ข้จับ (หมอแฉลม้ มงคล) ลูกจนั ทน์ กระวาน สะค้าน ดีปลี รากไมเ้ ท้ายายมอ่ ม รากชา้ พลู เหงา้ ขา่ ทั้ง 2 ใบสะเดา ใบมะตมู จันทน์ท้ัง 2 รากยา่ นาง รากพมุ เรียง แหว้ หมู กานพลู เหงา้ เปราะ อยา่ งละ 1 ส่วน นำ�ตัวยาท้งั หมดตม้ นํ้า รบั ประทานก่อนอาหาร เชา้ เท่ียง เย็น ครัง้ ละ 250 มลิ ลลิ ิตร สังเกตอาการ ต�ำ รับที่ 2 : แกป้ วดศีรษะ ความดนั โลหติ สูง (หมอเหล็ม หวัดแทน่ ) รากมะนาว รากมะกรดู รากสมเสรจ็ รากเสม็ด รากชุมเห็ดไทย ผกั เสย้ี นผีทง้ั ตน้ เหง้าขงิ เหงา้ ข่าทั้ง 2 เหงา้ ขมิน้ อ้อย รากฤษีผสม รากหนาด รากส�ำ ปะหรุย อยา่ งละ 3 สว่ น นำ�ตวั ยาทัง้ หมดตม้ นำ�้ แบบตม้ 3 สว่ น เอา 1 ส่วน รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เท่ยี ง เย็น คร้งั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สังเกตอาการ ตำ�รบั ท่ี 3 : แกช้ าตามมือตามเทา้ (หมอเหล็ม หวัดแทน่ ) ผลกระวาน ผลดปี ลี รากเจตมลู เพลงิ ทั้ง 2 เปลอื กต้นสมลุ แว้ง ใบเปลา้ ทงั้ 2 เหง้าขา่ ทั้ง 2 เหง้าขิง ใบ คนทีสอ อย่างละ 3 บาท น�ำ ตัวยาท้งั หมดต้มน้ํา รบั ประทานก่อนอาหาร เช้า เทีย่ ง เยน็ คร้ังละ 250 มิลลลิ ติ ร สงั เกตอาการ ต�ำ รบั ท่ี 4 : ขบั นวิ่ ในระบบทางเดินปัสสาวะ เจบ็ บรเิ วณเอว (หมอเหล็ม หวัดแทน่ ) ยาหนตู ้นทัง้ ต้น รากคัดเค้า รากส่าเหลา้ รากสายหยุด แก่นขีเ้ หลก็ แก่นกนั เกรา รากกระดกู ไกด่ �ำ ราก ปลาไหลเผอื ก รากเท้ายายมอ่ ม รากมะนาว รากเปลา้ เงนิ รากเปล้าเหล่ียม เถาวัลยเ์ ปรยี ง อบเชยท้งั 2 บาน ไมร่ โู้ รยทงั้ 2 รากชา้ พลู ต้นตายปลายเปน็ รากเขม็ แดง รากเขม็ ขาว เหง้าข่าท้ัง 2 รากทุ้งฟ้า แหว้ หมู เถา ขอบนางแดง อย่างละ 3 บาท ดีเกลือไทย เกลือสนิ เธาว์ ยาด�ำ สารสม้ อย่างละ 2 บาท น�ำ ตัวยาท้ังหมดตม้ น้าํ แบบตม้ 3 สว่ น เอา 1 ส่วน รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทยี่ ง เยน็ คร้งั ละ 250 มิลลิลิตรี สงั เกตอาการ 106 พืชสมุนไพร
ต�ำ รับท่ี 4: ใช้เปน็ สว่ นประกอบในตำ�รับยาในบัญชยี าหลักแห่งชาตยิ าจากสมนุ ไพร พ.ศ. 2556 จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด ใช้ เหง้าขา่ เปน็ ส่วนประกอบในยาประสะเจตพังคี แก้กษยั จุกเสียด ขบั ผายลม ยาไฟประลัยกลั ป์ ดอกข่าเล็ก ผลขา่ เล็ก ขา่ เล็ก (Alpinia conchigera Griff.) ช่อดอกและใบข่าใหญ่ ดอกขา่ ใหญ่ ข่าใหญ่ (Alpinia galanga (L.) Willd.) งานวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง : เมื่อนำ�สารสกัดของเหง้าข่าเล็กด้วยเอทานอลร้อยละ 80 มาทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูแรท โดยการเหนี่ยวนำ�ให้หนูเกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง พบว่าเม่ือหนูได้รับสารสกัดจากเหง้า ขา่ เล็กทางปาก สามารถชว่ ยลดการบวมได้ จากการกระตุ้นใหเ้ กดิ การอักเสบทั้งสองแบบ นอกจากน้สี ารสกัด ของเหงา้ ข่าเล็กด้วยเอทิวอะซเิ ตท ยังช่วยยับย้งั การสรา้ งไนตรกิ ออกไซค์ในเซลล์ RAW 264.7 ท่ถี กู เหนย่ี วนำ� ด้วย lipopolysaccharide (LPS) และมฤี ทธ์ิตา้ นความผิดปกตขิ องระบบประสาท ซ่งึ จะมผี ลลดโปรตีนชนดิ c-Fos ทพ่ี บในสมองสว่ นฮปิ โปแคมปสั ของหนแู รท จากผลการทดลองดงั กลา่ ว แสดงใหเ้ หน็ วา่ เหงา้ ของขา่ เลก็ มีฤทธต์ิ า้ นการอักเสบทง้ั แบบเฉียบพลนั และแบบเร้ือรงั (1) พืชสมุนไพร 107
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด ตบั เต่า ชื่อวิทยาศาสตร์ / วิสยั พืช ชอื่ วงศ์ สว่ นที่ใช้ / สรรพคณุ Unknown 1 รสยา ช่ือพกิ ัด ช่อื สมุนไพร - ราก / ขมเย็น ดบั พิษไข้ แก้รอ้ นใน 3. ตับเต่าทงั้ 2 ตบั เตา่ น้อย เอียน ดับพิษตานซาง แกฝ้ ี ตับเต่าใหญ่ Unknown 2 เนื้อไม้ ราก / ในท้อง ฝาดเย็น แก้พษิ ทง้ั ปวง แก้พษิ วัณโรค ข้อมูลเพิม่ เตมิ : ไมส่ ามารถเก็บตวั อย่างพชื ทั้ง 2 ชนิด มาระบชุ นดิ ได้ อยา่ งไรกต็ าม มีรายงานว่าตบั เต่าใหญน่ ่าจะเปน็ พชื ที่อยู่ในวงศ์ Ebenaceae สกลุ Diospyros sp. รวมท้งั มีรายงานว่า ตับเตา่ ท้ังสอง เป็น พืชจำ�พวกไม้เล้อื ย ซึ่งอยใู่ นวงศ์ Menispermaceae สกลุ Stephania sp. การใชป้ ระกอบตำ�รับยา : ใชป้ ระกอบต�ำ รับยาลดไข้ พบทัง้ ตำ�รับยาทใ่ี ช้ตบั เต่าทงั้ 2 และใช้ชนดิ ใด ชนดิ หนง่ึ ต�ำ รับท่ี 1: ดับพษิ องคสูตรอนั บงั เกดิ ในวสนั ตฤดู (หมอแฉลม้ มงคล) รากมหาสดำ� ระยอ่ ม ไครเ้ ครือ เถามวกแดง มะเดอ่ื ดิน เนระพสู ี ว่านกบี แรด ตรผี ลา หวั ขา้ วเย็น ตับ เต่าทง้ั 2 สิ่งละ รากไมเ้ ท้ายายมอ่ ม รากคนทา รากชิงช้าชาลี พญารากขาว พญารากด�ำ หางนกยงู รากขีก้ า แดง อย่างละ 1 ส่วน นำ�ตวั ยาทัง้ หมดตม้ นํา้ รับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เท่ียง เย็น ครั้งละ 250 มิลลลิ ติ ร สังเกตอาการ ตำ�รับที่ 2: แกไ้ ข้รากสาด (หมอแฉล้ม มงคล) หญ้าปากควาย แกน่ มะหาด แก่นขนุน ตับเต่า แกน่ ปรู๋ โคกกระออม แกน่ ขเี้ หลก็ แกน่ แสมสาร แก่น ประดู่ ใบสกั อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตวั ยาทั้งหมดตม้ นา้ํ รับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทีย่ ง เยน็ ครง้ั ละ 250 มิลลิลิตร สังเกตอาการ ตำ�รับท่ี 3: แกไ้ ข้ท้ังปวง ไขต้ รที ูต (หมอแฉล้ม มงคล) รากหมาก รากมะพร้าว หญ้าแพรก ใบเงนิ ใบทอง หญา้ ปากควาย หมากผู้ ย่านล�ำ เพ็ง หวายเมีย หวั คล้า แกว้ 5 ดวง หญ้ายองไฟ แก่นสักขี จตผุ ลาธกิ ะ จันทนท์ ้งั 2 แก่นแกแล ผลดปี ลี สะเดาดิน เหงา้ กกลังกา รากถอบแถบ ก้านสะเดา ผลสะค้าน แหว้ หมู รากชา้ พลู สลอดนาํ้ รากขีเ้ หล็ก กำ�ยาน แกน่ แสมสาร ตำ�เสา กระดกู ไก่ แก่นปรู๋ 1 ชะราทัง้ 5 (เทยี นท้งั 5) เกสรท้ัง 5 แกน่ ประดู่ พญามือเหลก็ รากขัดมอน รากหญ้าคา โคกกระออม เนอ้ื ไม้ตบั เต่า อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตวั ยาทั้งหมดต้มนา้ํ รบั ประทานก่อนอาหาร เช้า เท่ียง เยน็ ครั้งละ 250 มิลลิลติ ร สังเกตอาการ 108 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด ใบและผลตับเต่าวงศ์ Menispermaceae ผลตบั เตา่ วงศ์ Menispermaceae ตับเต่า (Stephania sp.) งานวิจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง : 109 ไมพ่ บขอ้ มูล พืชสมุนไพร
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด เปลา้ ช่ือสมนุ ไพร ช่ือวิทยาศาสตร์ / วิสัยพืช ชอ่ื วงศ์ ส่วนท่ใี ช้ / สรรพคุณ รสยา ชอ่ื พกิ ัด เปล้านอ้ ย Croton stellatopilosus H. Euphorbiaceae ราก เนอื้ ไม้ / กระจายลม ผายธาตุ 4. เปล้าท้ัง 2 Ohba / ST ขมร้อน ขบั โลหิต รักษาแผล ในกระเพาะอาหาร เปล้าใหญ่ Croton persimilis MÜll. Arg. ราก เน้ือไม้ / ขับผายลม ขับเลือด /T ขมรอ้ น ขับหนอง ข้อมูลเพม่ิ เตมิ : เปลา้ ใหญ่ ช่ือเดมิ คอื Croton roxburghii N. P. Balakr. การใช้ประกอบต�ำ รับยา : ใชป้ ระกอบต�ำ รบั ยากระจายลม ลดไข้ ต�ำ รับท่ี 1: แกไ้ ข้ ร้อนใน กระหายนาํ้ (แก้ฟันแห้ง) (หมอแฉลม้ มงคล) รากพุงดอ รากย่านาง เปล้าท้งั 2 จนั ทนแ์ ดง ผกั บ้งุ รากผกั หวาน รากมะอกึ รากแค น�้ำ นอง รากมะกา รากมะนาว เถามวก ผลมะคำ�ดีควาย รากมะแว้ง ครุ ะ ดงี ูตน้ ไคร้เครอื ชะเอม อย่างละ 1 สว่ น น�ำ สมนุ ไพรมา บดผง ใชป้ ระมาณครงั้ ละ 1-2 ชอ้ นโตะ๊ ละลายน�ำ้ ซาวขา้ ว รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทยี่ ง เยน็ และใชช้ โลม รา่ งกาย หากมอี าการตาแดงรว่ มดว้ ย ใหใ้ ช้ ผลจงิ จอ้ แชน่ าํ้ เปน็ กระสายยาใหร้ บั ประทานและชโลม สงั เกตอาการ ตำ�รบั ท่ี 2: แก้เสลด แกเ้ จ็บคอ (หมอแฉล้ม มงคล) เหงา้ ขงิ เปลา้ นอ้ ย อย่างละ 2 บาท พริกไทย เปลา้ ใหญ่ กระเทียม จนั ทน์แดง อย่างละ 1 บาท ยาดำ� 2 สลงึ มหาหงิ ค์ุ 1 สลงึ นำ�สมนุ ไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณคร้งั ละ 1-2 ชอ้ นโตะ๊ ละลายน้าํ อนุ่ รบั ประทาน กอ่ นอาหาร เชา้ เทีย่ ง เย็น ต�ำ รับท่ี 3: ละลายเสมหะ ขับเสมหะ (หมอเหล็ม หวดั แท่น) หัวบุกรอ กระดาดทั้ง 2 หัวกลอย หวั อตุ พิด แกน่ จันทนท์ ั้ง 2 เน้ือไมเ้ ปล้าทง้ั 2 ตรีกฏกุ เถาสม้ กงุ้ ทัง้ 2 แกน่ สักขี อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตวั ยาทง้ั หมดบดผง ผสมนํ้าผ้งึ และน้ํามะนาว จบิ บอ่ ยๆ สงั เกตอาการ 110 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด ใบเปล้าน้อย ชอ่ ดอกเปล้านอ้ ย เปลา้ นอ้ ย (Croton stellatopilosus H. Ohba) ชอ่ ดอกเปล้าใหญ่ ใบเปลา้ ใหญ่ ผลเปล้าใหญ่ เปลา้ ใหญ่ (Croton persimilis MÜll. Arg.) งานวจิ ัยท่ีเก่ียวขอ้ ง : จากการสกัดเปลือกตน้ เปลา้ ใหญด่ ้วยเฮกเซน พบ สาร labdane diterpenoids 3 ชนิด ไดแ้ ก่ 2-ace- toxy-3-hydroxy-labda-8(17),12(E)-14-triene 3-acetoxy-2-hydroxy-labda-8(17),12(E)-14-triene และ 2,3-dihydroxy-labda-8(17),12(E)-14-triene ซึ่งกอ่ ใหเ้ กดิ พิษในเซลลเ์ น้อื งอกของมนษุ ย์ โดยสารชนิดท่ี 3 จะมคี วามจำ�เพาะตอ่ เซลลเ์ นื้องอกน้อยกวา่ สารชนดิ ที่ 1 และ 2 แตอ่ อกฤทธิ์ไดม้ ากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นผลมา จากโครงสรา้ งโมโนอเซทลิ เลชนั่ ของสารชนิดที่ 1 และ 2 เกิดพนั ธะไฮโดรเจนกับเซลล์เน้ืองอกท�ำ ให้มีความ จ�ำ เพาะมากกว่าแต่ออกฤทธไิ์ ด้น้อยกวา่ (2) 111 พืชสมุนไพร
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด เร่ว ชื่อสมุนไพร ชื่อวิทยาศาสตร์ / วสิ ยั พชื ชอ่ื วงศ์ ส่วนที่ใช้ / สรรพคณุ เร่วน้อย - รสยา แกค้ ลืน่ เหียน ชอ่ื พกิ ัด อาเจียน ขับลม เร่วใหญ่ - Zingiberaceae ผล เมล็ด / 5. เรว่ ท้ัง 2 เผ็ดร้อนหอม ขบั น�้ำนม แก้ปวดทอ้ ง บ�ำรงุ ธาตุ ข้อมูลเพ่ิมเติม : พืชที่มีช่ือพื้นเมืองว่า “เร่ว” ท่ีใช้ประกอบตำ�รับยาแผนไทย คือพืชท่ีมีเมล็ดขนาด เลก็ สดี ำ� เกาะติดกนั เป็นกอ้ นๆ ซ่งึ พชื ท่ีมีลกั ษณะดงั กล่าวนี้พบได้ในพชื วงศ์ Zingiberaceae สกลุ Alpinia คอื A. nigra (Gaertn.) B.L. Burtt (เร่วน้อย) และสกุล Amomum คอื A. villosum Lour. var. villosum (เร่วดง), A. villosum Lour. var. xanthioides (Wall. ex Baker) (เร่ว) การใช้ประกอบต�ำ รับยา : ใชป้ ระกอบต�ำ รับยาบ�ำ รุงธาตุ ตำ�รบั ที่ 1: ปสั สาวะขัดเรอ้ื รงั และมอี าการแสบร้อน (พท. สมพร ชาญวณชิ สกุล) หัวข้าวเย็นทง้ั 2 อยา่ งละ 5 บาท แกน่ ขี้เหล็ก แสมท้ัง 2 แกน่ ฝาง ลำ�พันท้งั 2 แก่นแกแล แกน่ กันเกรา สมอท้งั 3 โกศท้ัง 5 เทียนท้ัง 5 ลกู จนั ทน์ กระวาน กานพลู ชะเอมเทศ เรว่ นอ้ ย มะตูมอ่อน อย่างละ 2 บาท รากมะละกอ 2 คืบ เหงา้ สบั ปะรด ใบไมไ้ ผ่ 20 ใบ สารสม้ 2 สลงึ เบญกานี 1 บาท ฝาหอยแครง 10 ฝา เปลอื ก ไข่ไก่ 3 ฟอง น�ำ ตัวยาท้ังหมดต้มนา้ํ แบบตม้ 3 ส่วน เอา 1 สว่ น รับประทานก่อนอาหาร เช้า เทย่ี ง เยน็ คร้ัง ละ 250 มิลลิลิตร สังเกตอาการ 112 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด เปลา้ น้อย (Croton stellatopilosus H. Ohba) ดอกเร่ว (A. villosum Lour.) ผลเรว่ (A. villosum Lour.) เรว่ (Amomum villosum Lour.) งานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวข้อง : 113 ไมพ่ บขอ้ มูล พืชสมุนไพร
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด สม้ กงุ้ สว่ นที่ใช้ / รสยา ชอ่ื พิกดั ช่ือสมนุ ไพร ช่ือวทิ ยาศาสตร์ / วสิ ัยพชื ชื่อวงศ์ สรรพคณุ 6. สม้ กงุ้ ท้ัง 2 สม้ กงุ้ นอ้ ย Unknown 1 _ ราก / เปรย้ี ว แก้ช�ำ้ ใน กัดเสมหะ สม้ กุ้งใหญ่ Unknown 2 ฟอกโลหติ ข้อมูลเพ่มิ เตมิ : ไม่สามารถเก็บตวั อย่างพชื มาระบชุ นิดได้ จากการส�ำ รวจพบว่า ส้มกงุ้ คือพชื ซ่งึ หมอ พื้นบ้านบางท่านใช้เรียกต้น Ampelocissus martinii Planch. / Vitaceae ซึ่งเปน็ ไม้เลื้อย เถามีรสเปร้ียว ขับเสมหะได้ การใชป้ ระกอบต�ำ รับยา : ใช้ประกอบตำ�รับยาฟอกโลหิต ตำ�รับที่ 1 : แก้รอ้ นใน ทอ้ งผูก และมอี าการปวดเมื่อย (หมอพ้นื บา้ นจงั หวัดสงขลา) โกฐเขมา โกฐสอ รากสม้ กุง้ รากฟักข้าว ขา้ วเยน็ ทง้ั 2 อยา่ งละ 1 ส่วน น�ำ ตัวยาทั้งหมดต้มน้ํา แบบต้ม 3 ส่วน เอา 1 สว่ น รบั ประทานกอ่ นอาหาร เช้า เทีย่ ง เย็น คร้งั ละ 250 มิลลลิ ติ ร สังเกตอาการ ต�ำ รับท่ี 2 : คอพอก เหงือ่ ออกมาก นํา้ หนกั ลด ใจเตน้ เรว็ แรง ตาโต ออ่ นเพลยี (หมอพนื้ บา้ น จงั หวดั สงขลา) ผลสมอไทย เท่าอายุผูป้ ่วย ผลมะขามปอ้ ม ข้าวเย็นทัง้ 2 อย่างละ 2 ส่วน แห้วหมู รากส้มกงุ้ ทง้ั 2 แก่น ข้ีเหลก็ รากมะค�ำ ไก่ อยา่ งละ 1 สว่ น เหง้าไพล เถาบอระเพด็ รากหนอนตายหยาก เนอ้ื ในฝักราชพฤกษ์ ผล มะค�ำ ดคี วาย อย่างละ ½ สว่ น น�ำ ตัวยาท้ังหมดตม้ นา้ํ แบบตม้ 3 ส่วน เอา 1 ส่วน รบั ประทานก่อนอาหาร เชา้ เที่ยง เยน็ คร้งั ละ 250 มลิ ลลิ ิตร สงั เกตอาการ ตำ�รับที่ 3 : แก้อัมพฤกษ์ แกล้ มในข้อ ปวดเขา่ (หมอเหลม็ หวดั แทน่ ) เปลือกต้นกุม่ นํา้ 10 บาท เถาคันแดง เหงา้ ขิงขาว โคกกระสนุ รากเจตมลู เพลิงแดง ลกู จันทน์ เทยี น ทั้ง 5 อยา่ งละ 4 บาท เหงา้ วา่ นนา้ํ หญา้ ขัดมอน รากสม้ กงุ้ แห้วหมู ผลพรกิ หาง ตรีกฏุก กานพลู สมอท้งั 3 อย่างละ 3 บาท เถาบอระเพด็ กระวาน อย่างละ 2 บาท เนื้อในฝักราชพฤกษ์ 5 ฝัก ใบมะกา 1 กำ�มอื ยาดำ� 1 บาท นำ�ตวั ยาทง้ั หมดตม้ น้าํ แบบตม้ 3 สว่ น เอา 1 ส่วน รบั ประทานก่อนอาหาร เช้า เทย่ี ง เย็น ครง้ั ละ 250 มิลลิลติ ร สงั เกตอาการ 114 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด ใบสม้ ก้งุ ชอ่ ผลสม้ กุ้ง ส้มกุง้ (Ampelocissus martinii Planch.) ผลสม้ กุ้ง งานวิจัยทเี่ กยี่ วขอ้ ง : 115 ไมพ่ บขอ้ มูล พืชสมุนไพร
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ่ีทขนาด แห้วหมู ส่วนทีใ่ ช้ / รสยา ชอ่ื พกิ ดั ชอื่ สมนุ ไพร ชอ่ื วิทยาศาสตร์ / วิสัยพืช ชื่อวงศ์ สรรพคุณ Cyperaceae เหงา้ / เผด็ บ�ำรงุ ธาตุ บ�ำรงุ 7. แหว้ หมูท้งั 2 แห้วหมูน้อย Cyperus rotundus L. / H หอม มัน ก�ำลัง บ�ำรุงหวั ใจ ขับลมในล�ำไส้ แห้วหมูใหญ่ Unknown ขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ : แหว้ หมใู หญ่ ไมส่ ามารถเก็บตัวอยา่ งพืชมาระบชุ นดิ ได้ ในต�ำ รับยาสว่ นใหญจ่ ะระบุ ว่าใช้ แหว้ หมู ซง่ึ จะหมายถงึ แหว้ หมูนอ้ ย การใช้ประกอบต�ำ รบั ยา : ใช้ประกอบต�ำ รับยาบ�ำ รุงธาตุ เปน็ ยาอายวุ ฒั นะ ตำ�รับท่ี 1 : แก้จับโปง่ น้ําเขา่ (พท. สมพร ชาญวณิชสกลุ ) หัวยาจนี ทง้ั 2 อยา่ งละ 10 บาท รากหญ้านาง 5 บาท รากดองดึง 3 บาท หัวรอ้ ยรู เหงือกปลาหมอ ทองพนั ช่งั หญา้ ชนั กาด สมอทงั้ 3 แกน่ แสมท้งั 2 แกน่ ข้ีเหล็ก ขม้ินเครือ ปลาไหลเผอื ก ชะเอมเทศ เน้ือใน ฝกั ราชพฤกษ์ แกน่ กนั เกรา แก่นกรกั แกน่ ฝาง เปลือกสมลุ แวง้ ขีก้ าท้งั 2 โกฐนํ้าเตา้ ใบมะกา ดเี กลือ แหว้ หมู อย่างละ 2 บาท เทียนขาว เทียนดำ� ลูกจันทน์ กระวาน เกสรทง้ั 5 อยา่ งละ 1 บาท ตม้ แบบตม้ 3 ส่วน เอา 1 ส่วน รับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เท่ียง เย็น ครง้ั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สังเกตอาการ ต�ำ รับที่ 2 : ยาบำ�รุงกำ�ลงั (หมอพ้นื บา้ นจงั หวดั สงขลา) เถาม้ากระทืบโรง โดไ่ มร่ ู้ลม้ ทงั้ 5 เหง้ากะทอื รากเท้ายายม่อม หญา้ ปีนตอท้งั ต้น แห้วหมู อย่างละ 1 สว่ น น�ำ ตวั ยาทง้ั หมดต้มนํ้า รับประทานกอ่ นอาหาร เช้า เทีย่ ง เย็น ครง้ั ละ 250 มลิ ลิลติ ร สังเกตอาการ ต�ำ รบั ที่ 3 : ยาเกสร แก้ไขท้ ัง้ ปวง (หมอแฉล้ม มงคล) เกสรทง้ั 5 จตผุ ลาธกิ ะ รากเท้ายายมอ่ ม รากคนทา รากย่านาง เหงา้ คล้า ใบคดั เค้า ใบมะตูม ชะลดู แฝกหอม จนั ทนท์ ั้ง 2 ผลกระดอม ผลผักชี หญ้าตนี นก อบเชย แห้วหมู รากคนทสี อ รากขก้ี าแดง โกฐก้าน พรา้ ว รากเสนยี ด ชะเอมเทศ อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตัวยาท้งั หมดต้มนา้ํ รับประทานก่อนอาหาร เช้า เทย่ี ง เย็น คร้ังละ 250 มลิ ลลิ ิตร สงั เกตอาการ ตำ�รบั ท่ี 4 : ใช้เป็นส่วนประกอบในตำ�รับยาในบัญชยี าหลกั แหง่ ชาตยิ าจากสมุนไพร พ.ศ. 2556 แห้วหมู ใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบในยาหอมนวโกฐ แกล้ มวงิ เวียน คลื่นเหยี น อาเจยี น แก้ลมปลายไข้ ยา เหลอื งปิดสมุทร บรรเทาอาการทอ้ งเสยี ชนิดทไี่ มเ่ กิดจากการติดเชอ้ื ยาปลูกไฟธาตุ กระตุ้นนำ�้ นม กระจาย เลือดลมในหญิงหลงั คลอด ปรบั ระบบการย่อยอาหารให้ดีขึน้ 116 พืชสมุนไพร
จลุ พิกดั ตา่ งกนั ที่ขนาด แห้วหมนู อ้ ย (Cyperus rotundus L.) งานวจิ ยั ท่เี กยี่ วขอ้ ง : จากการศกึ ษาสาร fulgidic acid ทแี่ ยกไดจ้ ากหัวของหญ้าแหว้ หมู ซงึ่ มฤี ทธิ์ต้านการอกั เสบ พบว่า สnาeรcชroนsดิ isนี้ชfa่วcยtลoดr-กαาร(สTรNา้ Fง-สαาร)กแอ่ ลกะารnอitักriเcสบoxiindteer(lNeOuk) iใnน-6RA(ILW-62)6,4p.7romstaacgrloanpdhiangeE2ซึง่ (เPหGนEีย่ 2ว)น, �ำ tใuหm้เกoิดr สารก่อการอักเสบด้วย lipopolysaccharide (LPS) โดย fulgidic acid ยบั ยงั้ การแสดงออกของโปรตนี ท่ี เขกอีย่ งวiขN้อOงSก,บั CnOitXri-c2,oTxNidFe-αsyแnลthะaIsLe-6(iNแลOะSย)ังแชล่วะยยcับyยclง้ั oกoรxะyบgวeนnกaาsรe-p2h(oCsOpXh-o2r)ylรaวtมioทnัง้ ลขดอรงะcด-บั Foms RแNลAะ cแn-สuJดculงneอaอแrกลfขะaกอcรงtะoiNบr วOαนSกB, าCร(ONtXFr-a-α2n,sBTc)rNiแpFสt-iαดoงnใแหลข้เอะหง็นILaว-่าc6tiโfvดuaยltgกoidาrรicpยrบั aoยcte้ังidผin่า-มน1ีฤAท(APธP-ิ์ต1-้า1นa)cกแtาตivร่ไaอมtักม่ioเผีสnลบต(ผ3่อ่า)กนากรลอไอกกยฤับทยธั้ง์ขิกอารง 117 พืชสมุนไพร
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) 4. จุลพิกดั ต่างกันทช่ี นดิ (เพศ) ประกอบดว้ ยพิกดั ต่างๆ ดงั น้ี ส่วนท่ใี ช้ / รสยา กระพงั โหม ช่ือพิกดั ชือ่ สมนุ ไพร ชอื่ วิทยาศาสตร์ / วสิ ัยพืช ช่ือวงศ์ สรรพคุณ 1. กระพงั โหมทง้ั 2 กระพงั โหม Paederia linearis Hook. f. / C Rubiaceae เถา / ขมรอ้ น แก้ตานซาง น้อย แกต้ ัวร้อน เจริญ อาหาร ขบั พยาธิ กระพงั โหม Paederia foetida L. / C ใหญ่ ข้อมูลเพิ่มเตมิ : กระพงั โหมตัวผู้ คือพืชชนดิ เดียวกบั กระพังโหมนอ้ ย (P. linearis Hook. f.) และ กระพงั โหมตัวเมีย คอื กระพังโหมใหญ่ (P. foetida L.) กระพงั โหมตัวผูห้ รอื กระพังโหมนอ้ ย จะมใี บเรียวยาว ขนาดเล็ก ส่วนกระพงั โหมตวั เมยี หรอื กระพังโหมใหญ่ จะมใี บขนาดใหญก่ วา่ การใชป้ ระกอบตำ�รบั ยา : การใชป้ ระกอบตำ�รับยา และตวั อย่างต�ำ รับยา ดจู าก กระพังโหมนอ้ ย และกระพงั โหมใหญ่ 118 พืชสมุนไพร
จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) กระพังโหมใหญ่ (Paederia foetida L.) 119 งานวิจยั ท่เี กย่ี วข้อง : ไมพ่ บขอ้ มูล พืชสมุนไพร
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) เกลอื ชื่อทางเคมี ช่อื วงศ์ ส่วนทีใ่ ช้ / สรรพคณุ - รสยา ช่ือพกิ ดั ช่ือสมนุ ไพร - เค็ม แกพ้ รรดกึ ขับเมอื ก 2. เกลือทั้ง 2 เกลือตวั ผู้ ในล�ำไส้ เกลอื ตวั เมยี ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ : บางตำ�รากล่าวว่า เกลอื ตวั ผูแ้ ละเกลือตัวเมยี คือเกลอื ทะเลทีม่ ีรูปร่างตา่ งกัน โดย เกลือตัวผู้จะมีรูปร่างแหลมยาวกว่าเกลือตัวเมีย ในตำ�รับยาพบว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้ระบุว่าใช้เกลือตัวผู้ หรือ เกลือตัวเมีย ระบุเพียงใช้ “เกลือ” และ “เกลือสินเธาว์” จากการสัมภาษณ์ข้อมูลหมอพ้ืนบ้านภาคใต้ พบ เพียง 1 ต�ำ รับท่ีระบุใช้เกลือตวั ผู้ การใชป้ ระกอบต�ำ รับยา : ใช้ประกอบตำ�รบั ยากัดเถาดานในท้อง ถ่ายคูถเสมหะ กดั เมือกมันในล�ำ ไส้ ต�ำ รบั ที่ 1: ยาแกห้ อบแก้ไอ (หมอแฉลม้ มงคล) อตุ พิดทัง้ 2 ผวิ มะกรดู ชะเอมไทย ส้มกุง้ ช้าง หวั หอม อยา่ งละ 1 สว่ น เกลอื ตวั ผู้ 3 เมด็ น�ำ สมนุ ไพรทัง้ หมดตม้ น้าํ รบั ประทาน เมอ่ื มีอาการ ตำ�รบั ท่ี 2: แก้เสมหะ แกไ้ ข้ (หมอพืน้ บ้านจังหวดั สงขลา) เหงา้ ขงิ สด ผลดปี ลี ผลกระวาน เกลือสินเธาว์ อยา่ งละ 1 สว่ น ชะเอมเทศ 4 ส่วน นำ�ตวั ยาทั้งหมดบด ผง ละลายน้าํ ผ้ึง น้�ำ มะนาว และนา้ํ เหงา้ ข่า รบั ประทาน ต�ำ รับที่ 3: ยาแกป้ ระเมหะ (หมอแฉล้ม มงคล) รากเสนยี ด 3 สว่ น ขิงแหง้ แหว้ หมู ตรีผลา ตรีกฏุก สะค้าน เจตมลู เพลงิ เหงา้ ขม้ิน โกฐสอ กานพลู จกุ โรหินี ข้ีกาแดง โลด คร่ัง ไพลแหง้ พนั งแู ดง พมิ เสน เนือ้ ในฝักราชพฤกษ์ ยางไม้กราย เท้ายายม่อม อังกาบ ลกู เอน็ มะตูม เกลอื สินเธาว์ สารส้ม เทยี นตาตั๊กแตน เทียนด�ำ อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตวั ยาทงั้ หมดต้มนา้ํ รบั ประทานก่อนอาหาร เช้า เที่ยง เย็น ครง้ั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สังเกตอาการ ต�ำ รับท่ี 4: ใชเ้ ป็นสว่ นประกอบในต�ำ รับยาในบัญชียาหลกั แหง่ ชาตยิ าจากสมนุ ไพร พ.ศ. 2556 เกลอื สินเธาว์ ใชเ้ ปน็ ส่วนประกอบในยาประสะไพล ระดมู าไม่สมํ่าเสมอหรอื มาน้อยกวา่ ปกติ บรรเทา อาการปวดประจ�ำ เดอื น ยาแกไ้ อพน้ื บา้ นอสี าน บรรเทาอาการไอ ขบั เสมหะ ยาแกล้ มอ�ำ พฤกษ์ บรรเทาอาการ ปวดตามเส้นเอน็ กลา้ มเนือ้ มือ เท้า ตึงหรอื ชา ยาประสะกระเพรา บรรเทาอาการทอ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ จุกเสียด ยาประสะเจตพังคี แก้กษัยจุกเสียด ขับผายลม เกลือแกง ใช้เป็นส่วนประกอบในยาแก้ไอผสมมะขามป้อม บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ 120 พืชสมุนไพร
จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) เกลือตวั ผู้ งานวจิ ยั ทเ่ี กีย่ วข้อง : ไม่พบข้อมูล เกลอื ตวั เมีย พืชสมุนไพร 121
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) ตำ�ลงึ ช่อื สมุนไพร ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ / วิสัยพชื ชื่อวงศ์ สว่ นทใี่ ช้ / สรรพคุณ รสยา ลดไข้ แก้พิษสตั ว์ ชอ่ื พกิ ัด ต�ำลงึ ตวั ผู้ Cocinia grandis (L.) Voigt . / C Cucurbitaceae ใบ / เยน็ กดั ต่อย ปวดแสบ 3. ต�ำลงึ ทง้ั 2 ปวดร้อน ต�ำลึงตวั เมยี ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ : บางต�ำ รากลา่ ววา่ ต�ำ ลงึ ตวั ผแู้ ละต�ำ ลงึ ตวั เมยี คอื พชื ชนดิ เดยี วกนั แตต่ า่ งกนั คอื ต�ำ ลงึ ตวั ผจู้ ะมีขอบใบหยกั เวา้ ลกึ กว่าใบต�ำ ลงึ ตวั เมีย การใชป้ ระกอบต�ำ รับยา : ลดไข้ แก้ปวดแสบ ปวดรอ้ น ตำ�รบั ท่ี 1 : ยาเขียวมหาคงคา ลดไข้ (หมอแฉล้ม มงคล) จนั ทนท์ ้ัง 2 รากถั่วพู ใบเงิน ใบไมยราพ เถามวกท้ัง 2 ใบหมากทง้ั 2 ใบต�ำ ลงึ ใบฟักขา้ ว อย่างละ 1 ส่วน นำ�สมุนไพรมาบดผง ใช้ประมาณคร้งั ละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายนํา้ ดอกไม้รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทีย่ ง เย็น สังเกตอาการ ต�ำ รับที่ 2 : ยาชโลม ลดไข้ แก้ผ่ืนคนั (หมอแฉลม้ มงคล) โคกกระออม บอระเพด็ ใบต�ำ ลึงตัวผู้ ดินประสวิ ขาว ผักบุ้งขนั ผกั บุ้งรวม อย่างละ 1 ส่วน นำ�ตัวยา ทง้ั หมดตำ�คัน้ น้ํา ใชช้ โลมร่างกาย ช่วยลดไข้ แก้ผื่นคัน ตำ�รบั ท่ี 3 : แกไ้ ขพ้ ษิ มผี น่ื ตามผิวหนัง (หมอเหล็ม หวัดแท่น) จนั ทนท์ ั้ง 2 รากฟักขา้ ว รากตนี นกยงู รากต�ำ ลงึ รากพมุ เรยี งป่า รากไมเ้ ท้ายายม่อม รากยา่ นาง ราก เล็บมอื นาง รากทองหลางน้าํ รากโมก รากลำ�ดวน รากปลาไหลเผอื ก รากกระทงุ หมาบ้า รากหญ้าพนั งูแดง รากผกั เปด็ แดง เถาหวั ดว้ น อยา่ งละ 1 ส่วน นำ�สมุนไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณครัง้ ละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ํา ผลมะค�ำ ดีควาย รับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เท่ียง เยน็ สงั เกตอาการ และใช้ทาตามผวิ หนัง 122 พืชสมุนไพร
จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) ต�ำ ลึงตวั เมยี ต�ำ ลึงตวั ผู้ ตำ�ลึง: ดอก งานวจิ ัยทเ่ี กีย่ วข้อง : จากการประเมนิ ฤทธต์ิ า้ นเชอ้ื แบคทเี รยี จ�ำ นวนหา้ สายพนั ธข์ุ องสารสกดั จากใบต�ำ ลงึ โดยวธิ ี agar well diffusion พบว่าสารสกัดแสดงให้เห็นสเปกตรัมบริเวณกว้างของฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ซ่ึงมีฤทธ์ิยับยั้งทั้งชนิด แกรมบวกและแกรมลบ การศึกษานีใ้ ช้ตัวท�ำ ละลาย เชน่ อะซีโตน เอทานอล เมทานอล นา้ํ และเฮกเซน ใน การสกดั สารจากใบตำ�ลงึ ซงึ่ พบวา่ หากสกดั ด้วยเอทานอล จะมฤี ทธ์ติ ้านเชือ้ แบคทีเรีย S.aureus, B.cereus, E.coli, K.pneumoniae และ S.pyogens สูงที่สดุ (4) พืชสมุนไพร 123
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) ตำ�แย ช่อื สมนุ ไพร ช่ือวิทยาศาสตร์ / วิสัยพชื ชอ่ื วงศ์ ส่วนทใ่ี ช้ / สรรพคุณ รสยา ชอ่ื พกิ ัด ต�ำแยตัวผู้ Acalypha indica L. / H Euphorbiaceae ราก / เฝอ่ื น ขับเสมหะ ช่วยให้ 4. ต�ำแยท้งั 2 (ต�ำแยแมว) เมา อาเจยี น โดยท�ำให้ ต�ำแยตวั เมยี Laportea interrupta (L.) Chew Urticaceae ระคายเคยี งทางเดิน อาหาร /H ข้อมูลเพ่มิ เตมิ : - การใชป้ ระกอบต�ำ รบั ยา : ไมพ่ บข้อมลู 124 พืชสมุนไพร
จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) ตำ�แยตัวผู้ (Acalypha indica L.) ตำ�แยตวั เมีย (Laportea interrupta (L.) Chew) 125 งานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวข้อง : ไมพ่ บข้อมูล พืชสมุนไพร
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) ผกั ปอด ช่ือวทิ ยาศาสตร์ / วิสยั พชื ชอื่ วงศ์ ส่วนทใี่ ช้ / สรรพคณุ Sphenoclea zeylanica รสยา ชอ่ื พิกัด ชือ่ สมุนไพร 5. ผกั ปอดทัง้ 2 ผักปอดตัวผู้ Gaertn. / H Sphenocleaceae ทัง้ ต้น / ร้อน แกโ้ ลหติ พกิ าร ขับ ลมและเสมหะให้ ผักปอดตัวเมยี กระจาย แก้ไขใ้ น เรอื นไฟ ขอ้ มูลเพิ่มเติม : - การใช้ประกอบต�ำ รับยา : ต�ำ รับท่ี 1 : ยาบ�ำ บัดก�ำ เดา (หมอแฉลม้ มงคล) แห้วหมู แฝกหอม เปราะหอม ใบสะเดา การบูร หญ้าตีนนก ลกู จันทน์ ดอกจันทน์ กานพลู โกฐสอ ลูกเอน็ ดอกบนุ นาค กรุงเขมา ลกู ผักชี เนระพูสี ผกั ปอดทงั้ 2 ชะมด พมิ เสน จันทนท์ ั้ง 2 อยา่ งละ 1 ส่วน น�ำ สมุนไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณครง้ั ละ 1-2 ชอ้ นโตะ๊ ละลายกระสายยาดีงู รับประทานก่อนอาหาร เชา้ เทยี่ ง เยน็ สังเกตอาการ ต�ำ รบั ที่ 2 : ยาพิมเสน บำ�รุงหัว ตบั ปอด (หมอเหลม็ หวัดแท่น) พมิ เสน ดอก รากกรุงเขมา ผลเอน็ รากฤษีผสม เปลอื กตน้ อบเชย ต้นตนี เป็ด ใบสะเดา ใบเสนียด หญา้ ตีนนก ผลสมอทั้ง 3 ผลมะขามปอ้ ม อบเชย อ�ำ พนั โกฐสอ ผลกระวาน ดอกบนุ นาค เหงา้ เปราะหอม ผักปอด เกสรบวั หลวง เกสรบัวทง้ั 5 ดอกคำ�ไทย อยา่ งละ 1 สว่ น นำ�สมุนไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณครง้ั ละ 1-2 ช้อน โต๊ะ ละลายกระสายยาดงี ู รับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เท่ยี ง เย็น สงั เกตอาการ 126 พืชสมุนไพร
จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) สภาพพืน้ ท่ที ีผ่ กั ปอดเจรญิ ตามธรรมชาติ ผักปอด (S. zeylanica Gaertn.) ชอ่ ดอกผักปอด งานวจิ ยั ที่เก่ยี วข้อง : 127 ไม่พบขอ้ มูล พืชสมุนไพร
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) มะยม ส่วนทใี่ ช้ / รสยา ชอ่ื พกิ ดั ชอื่ สมุนไพร ชือ่ วิทยาศาสตร์ / วสิ ยั พืช ชื่อวงศ์ สรรพคุณ 6. มะยมทง้ั 2 มะยมตัวผู้ Phyllanthus acidus (L.) Skeels Phyllanthaceae ใบ / จืดมัน ดับพิษร้อน ถอนพิษ / ExST ไข้ มะยมตวั เมีย ข้อมลู เพมิ่ เติม : มะยมท้งั 2 เปน็ พชื ชนดิ เดียวกัน ตา่ งกนั ทตี่ ้นตวั ผูจ้ ะไม่ติดผล ใบมะยม จะช่วยลด ไข้ สว่ นรากมรี สเมาเบ่อื จะใชร้ กั ษาโรคเรอ้ื รงั ต่างๆ การใช้ประกอบตำ�รับยา : ใช้ใบประกอบต�ำ รับยาลดไข้ ตำ�รับท่ี 1: แก้อีด�ำ แดง (หมอแฉล้ม มงคล) ใบมะยม ใบมะเฟือง ใบหมากเมีย ใบหมากผู้ หญา้ แพรก ใบมะตมู ใบมะกรดู ใบมะนาว ใบคนทสี อ หญา้ ปากควาย ขมิน้ ออ้ ย อย่างละ 1 ส่วน นำ�สมนุ ไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายนาํ้ ซาวข้าวรับประทานก่อนอาหาร เช้า เท่ียง เยน็ สงั เกตอาการ ต�ำ รับท่ี 2: แกไ้ ข้พษิ (หมอเหลม็ หวดั แท่น) ใบมะยม ใบมะเฟือง ใบหมากผู้ ใบหมากเมีย หญ้าปากควาย หญ้าแพรก ใบมะกรูด ใบมะนาว ใบมะตมู ใบคนทีสอ เหง้าขมิ้นอ้อย อยา่ งละ 1 สว่ น น�ำ สมุนไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณครัง้ ละ 1-2 ช้อนโตะ๊ ละลายน้าํ ซาวข้าวรับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทยี่ ง เย็น สงั เกตอาการ 128 พืชสมุนไพร
จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) ใบมะยม มะยม (Phyllanthus acidus (L.) Skeels) ผลมะยม งานวิจัยทเ่ี กยี่ วข้อง : 129 ไม่พบข้อมูล พืชสมุนไพร
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) ศลิ ายอน ส่วนทีใ่ ช้ / รสยา ชื่อพิกัด ชอื่ สมนุ ไพร ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ / วิสยั พืช ช่ือวงศ์ สรรพคุณ 7. ศลิ ายอนทั้ง 2 ศิลายอนตวั ผู้ - - เยน็ แก้ไขต้ ัวร้อน แก้ ศลิ ายอนตวั พษิ อักเสบ แก้ฝเี สน้ เมีย ฝีเอ็น ข้อมลู เพม่ิ เตมิ : - การใชป้ ระกอบต�ำ รบั ยา : ใชป้ ระกอบตำ�รับยาลดไข้ 130 พืชสมุนไพร
เบ้ีย ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ส่วนทีใ่ ช้ / สรรพคณุ จลุ พกิ ัดตา่ งกันท่ชี นิด (เพศ) Cypraea sp. รสยา ช่อื พิกัด ช่ือสมุนไพร - เปลือกหอย/ ขับปสั สาวะ ขับ 8.เบ้ียทั้ง 2 เบ้ียจนั่ (เบย้ี เมีย) เค็ม เมอื กมนั ในล�ำไส้ เบี้ยผู้ ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ : มรี ายงานวา่ เบย้ี ผแู้ ละเบย้ี จน่ั เบยี้ เมยี คอื หอยชนดิ เดยี วกนั แตกตา่ งกนั ทล่ี ายบรเิ วณ เปลือกหอย และบางรายงานระบุวา่ เบ้ยี ผคู้ อื หอยชนดิ ซง่ึ มเี ปลือกหอยรูปรา่ งเรียวยาว กอ่ นใช้ประกอบต�ำ รับยาจะตอ้ งเผาให้เป็นถ่านสดี ำ� ต�ำ เป็นผง การใชป้ ระกอบตำ�รับยา : ใชป้ ระกอบต�ำ รบั ยาขบั นว่ิ ขบั เมือกมันต่างๆ ตำ�รับท่ี 1: แก้ไข้ แก้กาฬมูตร มุตกิด (หมอแฉล้ม มงคล) แก่นขี้เหล็ก รากหญ้าคา รากก้างปลาแดง รากเหงอื กปลาหมอ รากขัดมอน เบีย้ ผเู้ ผาไฟ ไครห้ างนาค ดนิ ประสวิ ขาว อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตวั ยาทง้ั หมดตม้ น้ํา รบั ประทานกอ่ นอาหาร เช้า เทยี่ ง เย็น ครงั้ ละ 250 มลิ ลลิ ิตร สังเกตอาการ ต�ำ รับท่ี 2: ยาขบั นวิ่ (หมอแฉลม้ มงคล) น้ํามะนาว น้ํามะกรูด น้ํามะงั่ว น้าํ สม้ ซา่ อยา่ งละ 1 ถว้ ย เบย้ี จน่ั 7 ตัว สารสม้ ดนิ ประสิวขาว อย่าง ละ 2 บาท น�ำ ตวั ยาทง้ั หมดผสมใหเ้ ข้ากัน แช่ทิ้งไว้ 3 วนั รับประทานตามกำ�ลงั ตำ�รบั ท่ี 3: แก้ริดสีดวงทวาร (หมอแฉลม้ มงคล) สมอทั้ง 3 อย่างละ โหระพา โกฐจฬุ าลัมพา สารสม้ ประสะแลว้ เทียนด�ำ ลูกผักชี เจตพงั คี พิลงั กาสา มหาหิงคุ์ เบี้ยผู้ อยา่ งละ 1 ส่วน พรกิ ไทย ดนิ ถน�ำ อย่างละ 2 สว่ น ฝักส้มป่อย 3 ส่วน เกลอื 4 ส่วน ดีปลี 6 สว่ น นํา้ ประสานทอง 8 สว่ น ขงิ แห้ง 14 ส่วน น�ำ สมนุ ไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณครงั้ ละ 1-2 ชอ้ นโต๊ะ ละลาย นํา้ ผง้ึ หรอื น้ําสม้ ซา่ รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทีย่ ง เยน็ สังเกตอาการ ต�ำ รับที่ 4: ใช้เป็นส่วนประกอบในตำ�รับยาในบญั ชยี าหลักแหง่ ชาตยิ าจากสมนุ ไพร พ.ศ. 2556 เบย้ี จนั่ ใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบในยามหานลิ แทง่ ทอง แกไ้ ขก้ าฬ หดั อสี กุ อใี ส บรรเทาอาการไขจ้ ากไขก้ าฬ หัด และอีสกุ อใี ส แก้ร้อนในกระหายน้าํ พืชสมุนไพร 131
ุจล ิพกัดต่างกัน ่ีทชนิด (เพศ) เบ้ยี ผู้ เบยี้ จนั่ (เบยี้ เมยี ) เบ้ยี ผู้ งานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วขอ้ ง : พืชสมุนไพร ไม่พบข้อมลู 132
4. จุลพิกัดตา่ งกันทีร่ ส ประกอบด้วย พกิ ดั ตา่ ง ๆ ดงั นี้ ส่วนทีใ่ ช้ / จลุ พิกดั ต่างกนั ท่รี ส รสยา มะขาม ชื่อพกิ ัด ชือ่ สมุนไพร ชื่อวทิ ยาศาสตร์ / วสิ ยั พชื ช่ือวงศ์ สรรพคณุ 1. มะขามทงั้ 2 มะขามเปรย้ี ว Tamarindus indica L. Fabaceae เนอื้ ในฝกั / กัดเสมหะ มะขามหวาน / ExT เปรย้ี ว แกท้ ้องผกู ขับและ ฟอกโลหิต ขอ้ มูลเพิม่ เติม : มะขามท้งั 2 จัดเป็นพืชชนิดเดียวกนั ตามหลกั พฤกษศาสตร์ การใชป้ ระกอบต�ำ รับยา : ใชป้ ระกอบต�ำ รบั ยาแก้ท้องผกู ฟอกโลหติ หรือใช้เป็นกระสายยา ต�ำ รบั ที่ 1: ยาแกไ้ อ มะขามเปียก ขงิ รากช้าพลู พรกิ ไทย เกลือ สารสม้ ชะเอมไทย อย่างละ 1 สว่ น นำ�สมุนไพรมาบดผง ใช้ประมาณครัง้ ละ 1-2 ชอ้ นโต๊ะ ละลายนาํ้ มะนาว รบั ประทานเมอ่ื มอี าการ พืชสมุนไพร 133
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ี่ทรส มะขาม (Tamarindus indica L.) งานวจิ ยั ท่เี ก่ียวข้อง : พืชสมุนไพร ไม่พบขอ้ มูล 134
มะปราง สว่ นทีใ่ ช้ / จลุ พิกดั ต่างกนั ท่รี ส รสยา ชอ่ื พกิ ดั ชื่อสมุนไพร ช่ือวิทยาศาสตร์ / วิสัยพืช ชื่อวงศ์ สรรพคุณ 2.มะปรางทัง้ 2 มะปรางเปรย้ี ว Bouea macrophylla Griff. / T Anacardiaceae ราก / จดื เยน็ แก้ไข้ตัวร้อน ถอนพษิ ผดิ ส�ำแดง มะปรางหวาน ขอ้ มูลเพ่ิมเติม : มะปรางทง้ั 2 จัดเปน็ พชื ชนิดเดยี วกนั ตามหลักพฤกษศาสตร์ การใช้ประกอบต�ำ รับยา : ลดไข้ ต�ำ รบั ที่ 1: ยาโมคคลั ลาขนานใหญ่ แกไ้ ขท้ ง้ั ปวง (หมอแฉลม้ มงคล) แก่นปรู๋ แก่นมะหาด แกน่ ขีเ้ หล็ก รากคนทา รากมะปราง รากมะนาว ชงิ ช้าชาลี รากพงุ ดอ โกฐสอ แหว้ หมู รากเทา้ ยายม่อม รากมะเด่ือชุมพร ผลสมอท้ัง รากย่านาง ผลกระดอม อย่างละ 2 สลงึ ก้าน ดอกบวั หลวงยาดำ� อยา่ งละ 1 บาท โกฐกระดกู โกฐพงุ ปลา อย่างละ 1 เฟอ้ื ง เน้อื ในฝักราชพฤกษ์ 3 ฝกั ก้านสะเดา 33 ก้าน น�ำ ตัวยาทั้งหมดต้มนำ้� รบั ประทานกอ่ นอาหาร เช้า เที่ยง เยน็ คร้ังละ 250 มลิ ลิลติ ร สังเกตอาการ ต�ำ รับที่ 2: ยาแก้ไข้สมั ประชวร (หมอแฉลม้ มงคล) ข้เี หลก็ ทั้ง 5 ราชพฤกษท์ ้งั 5 เทียนทั้ง 5 โกฐท้งั 5 เกสรท้งั 5 ใบมะกา ใบส้มปอ่ ย ใบไผร่ วก หวั คล้า รากหวายขม แหว้ หมู รากคนทา ขม้ินออ้ ย รากมะเดอ่ื ชุมพร รากมะกรดู รากหญา้ ชันกาด รากก้างปลาแดง รากหมาก รากมะพรา้ ว รากมะปรางหวาน บอระเพด็ อยา่ งละ 1 สว่ น กา้ นสะเดา 108 กา้ น ใบมะกรดู 108 ใบ ยาดำ� 1 บาท เนื้อในฝักราชพฤกษ์ 3 ฝัก ผลกระดอม 33 ผล น�ำ ตัวยาทงั้ หมดต้มนำ�้ รบั ประทานกอ่ นอาหาร เช้า เท่ยี ง เยน็ ครง้ั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สงั เกตอาการ กอ่ นรับประทานใหแ้ ทรกดเี กลือ ต�ำ รบั ท่ี 3: ใช้เปน็ สว่ นประกอบในต�ำ รับยาในบญั ชยี าหลกั แหง่ ชาติยาจากสมนุ ไพร พ.ศ. 2556 รากมะปรางหวาน ใช้เปน็ สว่ นประกอบในยาประสะจนั ทนแ์ ดง บรรเทาอาการไข้ตัวร้อน (ไข้พษิ ) แก้ ร้อนในกระหายนำ�้ พืชสมุนไพร 135
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ี่ทรส มะปราง ผลมะปราง ภาพจาก https://commons.wikimedia.org งานวิจยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง : เม่ือนำ�สารสกดั เมล็ดมะปรางดว้ ย คลอโรฟอร์ม อะซโิ ตรไนไตร เอทานอล และนํ้า มาทดสอบฤทธ์กิ าร ยบั ยงั้ การเจรญิ ของเซลลม์ ะเรง็ เมด็ เลอื ดขาวและมะเรง็ ปอดทไ่ี วและดอื้ ตอ่ ยาดอ็ คโซรบู ซิ นิ พบวา่ สารสกดั เมลด็ มะปรางท่ีสกัดดว้ ยตวั ท�ำ ละลายทง้ั 4 สามารถยับย้งั การเจริญของเซลล์มะเร็งชนิด K562, K562/ adr, GLC4 และ GLC4/adr ได้ โดยสารสกัดเมลด็ มะปรางดว้ ยเอทานอลแสดงผลยับยั้งไดด้ ีท่ีสดุ โดยการออกฤทธ์ินอ้ี าจ เกี่ยวข้องกับการชักนำ�ให้เกิดการตายของเซลล์แบบอะพรอพโทซิส ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวน่าจะมีส่วนช่วย ในการพัฒนายารักษาโรคมะเรง็ จากสารสกัดเมลด็ มะปรางได้ (5) 136 พืชสมุนไพร
มะเฟือง ช่ือวงศ์ สว่ นท่ใี ช้ / สรรพคุณ จลุ พิกดั ต่างกนั ท่รี ส Oxalidaceae รสยา ช่ือพิกัด ช่อื สมุนไพร ช่อื วิทยาศาสตร์ / วสิ ัยพืช 3.มะเฟืองท้ัง 2 มะเฟืองเปรย้ี ว Averrhoa carambola L. / ExsT ราก / จืดเยน็ แก้ไข้ ดับพิษรอ้ น แก้ปวดศีรษะ มะเฟืองหวาน ข้อมลู เพ่มิ เติม : มะเฟอื งทัง้ 2 จดั เป็นพืชชนิดเดียวกันตามหลกั พฤกษศาสตร์ การใชป้ ระกอบตำ�รับยา : ลดไข้ ตำ�รบั ที่ 1 : ยาตม้ กระทงุ้ ไข้ (หมอแฉล้ม มงคล) รากหมาก รากกระเพรา รากมะปราง รากยา่ นาง รากมะเด่อื ชุมพร รากมะเฟือง รากไม้เท้ายายม่อม รากฟักขา้ ว รากคนทา เหงา้ คล้า ข้าวเย็นเหนอื รากชงิ ชี่ ชะลดู แฝกหอม หวายลิง รากหญ้าคา จนั ทน์ทัง้ 2 รากหมากสง รากพมุ เรียง เถามวก อย่างละ 1 สว่ น นำ�ตวั ยาทั้งหมดต้มน้ำ� รับประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทย่ี ง เย็น คร้งั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สงั เกตอาการ ต�ำ รับท่ี 2 : แกไ้ ข้สันนิบาต ไขเ้ หนือสองคลอง (หมอแฉล้ม มงคล) รากคนทา รากมะปราง รากมะปรงิ รากเทา้ ยายมอ่ ม รากยา่ นาง รากมะเฟอื ง รากมะนาว รากพมุ เรยี ง จันทน์ทั้ง 2 ดอกบวั หลวง รากหวายเมีย รากหญ้าคา แห้วหมู รากขีก้ าแดง สกั ขี รากฟักข้าว รากหมาก ราก มะพรา้ ว ชะลดู แฝกหอม ใบพมิ เสนตน้ เนระพสู ี จนั ทนช์ ะมด อยา่ งละ 1 สว่ น น�ำ ตวั ยาทง้ั หมดตม้ นา้ํ รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทย่ี ง เยน็ ครง้ั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สงั เกตอาการ เมอื่ จะรบั ประทานแทรกชะมดพมิ เสน พืชสมุนไพร 137
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ี่ทรส ผลมะเฟอื ง ดอกมะเฟอื ง เน้ือมะเฟอื ง มะเฟอื ง (Averrhoa carambola L.) งานวิจยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง : จากการปอ้ นสารสกดั สมนุ ไพรดว้ ยนา้ํ ใหห้ นู เพอ่ื ทดสอบฤทธข์ิ บั ปสั สาวะของสมนุ ไพร 5 ชนดิ ไดแ้ ก่ สบั ปะรด ( Ananas comosus (L.) Merr.) มะละกอ (Carica papaya L.) หญา้ คา (Impe- rata cylindrica (L.) Raeusch.) มะเฟือง ( Averrhoa carambola L. ) หญา้ แหว้ หมู ( Cyperus rotundus L. ) พบว่าสารสกัดรากสับปะรดและมะละกอดว้ ยนา้ํ ในขนาดเทียบเทา่ กบั สมนุ ไพรแหง้ 10 g/kg จะทำ�ใหป้ รมิ าณปัสสาวะเพม่ิ ขึน้ เมือ่ เทียบกบั ยา hydrochlorothiazide ในขนาดเท่ากัน ซ่ึงกลไกการออกฤทธ์ิของสับปะรดอาจเป็นผลจากฤทธ์ิของสมุนไพร ส่วนมะละกออาจเป็นผลจาก ปริมาณเกลือที่พบมากในสารสกัด และเหง้าหญ้าคามาจากการยับย้ังการขับปัสสาวะ แต่ส่วนเหง้า หญ้าแห้วหมแู ละลำ�ต้นมะเฟอื งไมม่ ผี ลตอ่ ปริมาณปสั สาวะเม่ือเทียบกับกลมุ่ ควบคมุ (6) 138 พืชสมุนไพร
นํ้าเต้า ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ / วสิ ัยพชื ชื่อวงศ์ ส่วนทีใ่ ช้ / สรรพคุณ จลุ พิกดั ต่างกนั ท่รี ส Lagenaria siceraria (Molina) Cucurbitaceae รสยา ขบั เสมหะ ขบั ชอ่ื พิกัด ชอื่ สมนุ ไพร ใบ / ขม ปัสสาวะ ขบั พยาธิ 4. น้ำ� เตา้ ทง้ั 2 น้ำ� เตา้ ขม Stardl./ C นำ้� เต้าหวาน ข้อมลู เพิม่ เติม : นํ้าเต้าทงั้ 2 จดั เป็นพชื ชนดิ เดยี วกนั ตามหลักพฤกษศาสตร์ การใช้ประกอบตำ�รบั ยา : ลดไข้ ต�ำ รับท่ี 1: ยาเขียวสรรพคณุ ลดไข้ (หมอแฉลม้ มงคล) ใบชงิ ชี่ ใบมะเฟอื ง ใบนา้ํ เต้า ไผ่รวก ใบผกั เป็ดแดง มะยม ใบพนั งูแดง ใบผักเสยี้ นผี ใบมะคำ�ไก่ ใบ มะงั่ว ใบสม้ ซา่ ใบข้ีกาแดง ใบฟกั ข้าว ใบบอระเพด็ ใบระงับ ใบสะเดา ใบบัวบก ใบชุมเห็ด ใบคนทสี อ ใบ มะกรูด ใบมะนาว ใบกะเมง็ ใบแมงลกั ใบกระเพราแดง ใบหมากท้งั 2 อยา่ งละ 1 ส่วน น�ำ สมนุ ไพรมาบดผง ใชป้ ระมาณคร้งั ละ 1-2 ชอ้ นโตะ๊ ละลายนาํ้ กระสายยารับประทานกอ่ นอาหาร เช้า เที่ยง เย็น สงั เกตอาการ ตำ�รับท่ี 2: ยาแกเ้ สมหะพกิ าร (หมอแฉล้ม มงคล) เปลอื กโมกหลวง นา้ํ เตา้ ขม กระดอมทงั้ 5 แกน่ ขเ้ี หลก็ ผลผกั ชี ล�ำ พนั อยา่ งละ 1 สว่ น น�ำ ตวั ยาทง้ั หมด ตม้ นา้ํ แบบต้ม 3 ส่วน เอา 1 ส่วน รบั ประทานกอ่ นอาหาร เช้า เท่ยี ง เยน็ คร้งั ละ 250 มลิ ลลิ ติ ร สังเกตอาการ ต�ำ รบั ที่ 3: แกเ้ สมหะ แก้เสลด (หมอเหลม็ หวัดแทน่ ) ผักชีลาท้งั ต้น ล�ำ พันท้ังต้น เปลือกต้นโมกหลวง นาํ้ เต้าขมทัง้ ตน้ โคกกระออมทง้ั ตน้ แกน่ ขเี้ หลก็ อยา่ ง ละ 1 สว่ น นำ�ตัวยาทั้งหมดต้มนํา้ แบบต้ม 3 สว่ น เอา 1 ส่วน รบั ประทานกอ่ นอาหาร เชา้ เทย่ี ง เย็น ครงั้ ละ 250 มิลลิลิตร สังเกตอาการ พืชสมุนไพร 139
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ี่ทรส งานวจิ ัยที่เกี่ยวข้อง : สารสำ�คัญจากน้ําเต้า ในกลุ่ม triterpenoids ชนิด D:C-friedooleane-type triterpenes wfhแสดงความเปน็ พิษตอ่ เซลล์ human hepatoma SK-Hep 1 โดยเปรียบเทยี บกบั สาร etoposide ที่ใช้ เปน็ positive control ซึ่งมคี ่าความเข้มขน้ ทย่ี ับยงั้ การเจริญของเซลล์ไดร้ อ้ ยละ 50 เทา่ กับ 2.2 ไมโครกรมั / มิลลิลิตร และหลังจากการนำ�สารในกลุ่มน้ีมาแยกหาสารสำ�คัญ พบว่า สาร 20-epibryonolic acid และ สาร 3 beta-O-(E)-coumaroyl-D:C-friedooleana-7,9(11)-dien-29-oic acid แสดงความเป็นพิษต่อ เซลล์ human hepatoma SK-Hep 1 อย่างเดน่ ชัด ซงึ่ จากผลการศกึ ษาในครง้ั น้ีจะเป็นประโยชนใ์ นการน�ำ ไปพัฒนาเป็นยาตา้ นมะเร็งต่อไป (7) 140 พืชสมุนไพร
มะนาว สว่ นทีใ่ ช้ / จลุ พิกดั ต่างกนั ท่รี ส รสยา ช่อื พกิ ดั ชอ่ื สมุนไพร ช่อื วิทยาศาสตร์ / วิสัยพชื ชอื่ วงศ์ สรรพคุณ Rutaceae ราก / จดื เยน็ แกไ้ ข้ 5.มะนาวท้งั 2 มะนาวเปรี้ยว Citrus aurantifolis (Christm.) Swingle / H มะนาวหวาน ขอ้ มลู เพม่ิ เติม : มะนาวทั้ง 2 จัดเป็นพชื ชนิดเดยี วกันตามหลกั พฤกษศาสตร์ การใช้ประกอบต�ำ รับยา : ลดไข้ ต�ำ รับท่ี 1: ยาแกไ้ ข้รุมทัง้ กลางวนั และกลางคนื (หมอแฉลม้ มงคล) ข้เี หล็ก รากหวายขม รากค�ำ ไทย สมอไทย สมอพเิ ภก จนั ทน์ทงั้ สอง สมอดีงู รากยา่ นาง รากช้าพลู รากทองหลางใบมน หวั คลา้ เสมด็ ทะเล กะล�ำ พัก ลกู กระดอม รากฟกั ขา้ ว รากมะปราง รากผกั ต�ำ ลึง ราก มะนาว แกน่ ฝาง ใบมะกา อยา่ งละ 1 สว่ น ยาด�ำ 1 บาท เนอื้ ในฝกั ราชพฤกษ์ 3 ฝัก นำ�ตัวยาทั้งหมดต้มนา้ํ รับประทานก่อนอาหาร เชา้ เทย่ี ง เยน็ ครงั้ ละ 250 มลิ ลิลติ ร สังเกตอาการ ตำ�รับที่ 2: ยาต้มแกพ้ ิษไขท้ ั้งปวง (หมอแฉลม้ มงคล) ชงิ ช่ี รากยา่ นาง รากมะปราง รากมะนาว มะเดือ่ ชมุ พร รากมะกรดู เน้อื ในฝกั ราชพฤกษ์ ว่านกีบแรด จันทน์ทั้ง 2 เนอ้ื ไมก้ ฤษณา ว่านรอ่ นทอง ผลมะตูมอ่อน หญ้าตนี นก รากขก้ี าแดง ขอนดอก แห้วหมู อย่างละ 1 ส่วน น�ำ ตวั ยาทัง้ หมดตม้ นํา้ รับประทานกอ่ นอาหาร เช้า เท่ียง เยน็ คร้ังละ 250 มิลลิลิตร สงั เกตอาการ ตำ�รับท่ี 3: ใช้เปน็ สว่ นประกอบในตำ�รับยาในบัญชียาหลกั แห่งชาติยาจากสมุนไพร พ.ศ. 2556 รากมะนาวใช้เป็นส่วนประกอบในยาประสะจันทน์แดง บรรเทาอาการไข้ตัวร้อน (ไข้พิษ) แก้ร้อนใน กระหายน้ํา พืชสมุนไพร 141
ุจลพิ ักด ่ตาง ักน ี่ทรส มะนาว (Citrus aurantifolis (Christm.) Swingle) งานวิจยั ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง : การศึกษาผปู้ ว่ ยไมเกรน จำ�นวน 90 คน แบบ Double blind randomized placebo-controlled clinical trial โดยแบ่งผ้ปู ่วยออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ใหร้ ับประทานไซรัปจากน้าํ มะนาวควาย 15 มล. 2. ใหร้ บั ประทานยาหลอกไซรปั และ 3. ใหร้ บั ประทานยารกั ษาไมเกรนโพรพราโนลอล ขนาด 20 มก. โดยรบั ประทาน หลงั อาหาร วันละ 3 ครัง้ ตดิ ต่อกนั 4 สัปดาห์ แลว้ ท�ำ การประเมินระดบั ความปวด ความถี่ และระยะเวลา ในผู้ป่วยทุกกลุ่ม พบว่าไซรัปจากน้ํามะนาวควายสามารถช่วยลดระดับความปวดและระยะเวลาของอาการ ปวดศีรษะไมเกรนได้ดีกว่ากลุ่มที่รับประทานยาหลอกไซรัป และให้ผลเทียบเท่ากับการรับประทานยา โพรพราโนลอล แต่ไม่มีผลลดความถ่ีของอาการปวดเมื่อเทียบกับยาหลอก และไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ จากการรับประทาน แสดงให้เห็นว่าไซรัปจากน้ํามะนาวควายประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดศรีษะ ไมเกรนได้ (8) 142 พืชสมุนไพร
References จลุ พิกดั ต่างกนั ท่รี ส 1. Lee J, Kim KA, Jeong S, Lee S, Park HJ, Kim NJ, et al. Anti-inflammatory, anti- nociceptive, and anti-psychiatric effects by the rhizomes of Alpinia officinarum on complete Freund’s adjuvant-induced arthritis in rats. J Ethnopharmacol. 2009;126(2):258–64. 2. Roengsumran S, Petsom A, Sommit D, Vilaivan T. Labdane diterpenoids from Croton oblongifolius. Phytochemistry. 1998;50(3):449–53. 3. Shin J-S, Hong Y, Lee H-H, Ryu B, Cho Y-W, Kim N-J, et al. Fulgidic Acid Isolated from the Rhizomes of Cyperus rotundus Suppresses LPS-Induced iNOS, COX-2, TNF-alpha, and IL-6 Expression by AP-1 Inactivation in RAW264.7 Macrophages. Biol Pharm Bull. 2015;38(7):1081–6. 4. Sivaraj A, Preethi Jenifa B, Kavitha M, Inbasekar P, Senthilkumar B, Panneerselvam A. Antibacterial activity of coccinia grandis leaf extract on selective bacterial strains. J Appl Pharm Sci. 2011;1(7):120–3. 5. Article O, Leukemic D, Cells LC. มะเรง็ เม็ดเลือดขาวและมะเรง็ ปอดชนดิ ทไี่ วและด้อื ตอ่ ยา. 2013;28(1). 6. Sripanidkulchai B, Wongpanich V, Laupattarakasem P, Suwansaksri J, Jirakulsomchok D. Diuretic effects of selected Thai indigenous medicinal plants in rats. J Ethnopharmacol. 2001;75(2–3):185–90. 7. Chen C-R, Chen H-W, Chang C-I. D:C-friedooleanane-type triterpenoids from Lage- naria siceraria and their cytotoxic activity. Chem Pharm Bull (Tokyo). 2008;56(3):385–8. 8. Jafarpour M, Yousefi G, Hamedi A, Shariat A, Salehi A, Heydari M. Effect of a tradi- tional syrup from Citrus medica L. fruit juice on migraine headache: A randomized double blind placebo controlled clinical trial. J Ethnopharmacol. 2016;179:170–6. พืชสมุนไพร 143
ุจกาลรพิแ ักพด ่ตทาย์งแ ักผนน่ีทไรทสย ดชั นชี อ่ื พน้ื เมอื งพชื ชือ่ พื้นเมอื ง หน้า กระดาดขาว 61, 62 กระดาดแดง 61, 62 กระดกู ไก่ขาว 57, 58 กระดูกไก่ด�ำ 57, 58 กระพงั โหมน้อย 104 กระพังโหมใหญ ่ 105 กระวานขาว 59 กระวานดำ� 59 กะทือบา้ น 12 กะทอื ปา่ 12 กะเพราขาว 55, 56 กะเพราแดง 55, 56 ก้างปลาขาว 63 กา้ งปลาแดง 63, 64 ก�ำ มะถันแดง 100, 101 กำ�มะถนั เหลือง 100, 101 เกลอื ตวั ผู้ 120, 121 เกลอื ตวั เมีย 120 ข่าเล็ก 106, 107 ขา่ ใหญ ่ 106, 107 ข้าวเยน็ เหนือ 14, 15 ข้าวเย็นใต้ 14, 15 ขีก้ าขาว 65 ขก้ี าแดง 65, 66 ขเ้ี หลก็ บา้ น 16, 17 ขเ้ี หล็กปา่ 16, 17 เขาววั บา้ น 45, 46 เขาววั ป่า 45 ขอบชะนางขาว 67 ขอบชะนางแดง 67, 68 แคขาว 69, 70 แคแดง 69, 70 จนั ทน์แดง 71, 72 จนั ทนข์ าว 71 เจตมลู เพลิงขาว 73, 74 เจตมลู เพลิงแดง 73, 74 ชะมดเชียง 47, 48 144 พืชสมุนไพร
ช่ือพืน้ เมือง หน้า จจุลุลพพิกิกัดั ต่างกันที่รส ชะมดเช็ด 47, 48 ชะเอมเทศ 19, 20, 21 ชะเอมไทย 19, 20, 21 ชมุ เหด็ เทศ 22, 23 ชมุ เหด็ ไทย 22, 23 ดเี กลือไทย 49, 50 ดเี กลือฝร่งั 49, 50 ตะบูนขาว 53 ตะบูนดำ� 53 ตบั เต่าน้อย 108 ตบั เตา่ ใหญ ่ 108 ตำ�ลึงตวั ผู้ 122, 123 ต�ำ ลงึ ตวั เมยี 122, 123 ตำ�แยตัวผ ู้ 124, 125 ตำ�แยตัวเมีย 124, 125 เถามวกขาว 79 เถามวกแดง 79 เทียนขาว 81, 82 เทียนแดง 81, 82 นา้ํ เตา้ ขม 139 นํา้ เต้าหวาน 139 บวั หลวงขาว 75, 76 บัวหลวงแดง 75, 76 เบีย้ จนั่ 131, 132 เบีย้ ผู ้ 131, 132 ประยงค์บา้ น 26, 27 ประยงคป์ า่ 26 เปลา้ นอ้ ย 110, 111 เปลา้ ใหญ่ 110, 111 เปราะหอมขาว 83 เปราะหอมแดง 83 ปรงบา้ น 24, 25 ปรงปา่ 24, 25 ผักหวานบา้ น 28, 29 ผกั หวานปา่ 28, 29 ผกั เป็ดขาว 88, 89 ผกั เป็ดแดง 88, 89 พืชสมุนไพร 145
ุจกาลรพิแ ักพด ่ตทาย์งแ ักผนน่ีทไรทสย ดัชนพี ืช หนา้ 126 ชื่อพืน้ เมือง 126 ผกั ปอดตัวผู้ 90 ผกั ปอดตัวเมีย 90 ผักแพวขาว 92, 93 ผกั แพวแดง 92, 93 ฝ้ายขาว 94, 95 ฝ้ายแดง 94, 95 พรกิ ไทยขาว 133 พรกิ ไทยดำ� 133 มะขามเปรย้ี ว 135 มะนาวหวาน 135 มะปรางเปรีย้ ว 137 มะปรางหวาน 137 มะเฟืองเปรยี้ ว 128 มะเฟอื งหวาน 128 มะยมตวั ผู้ 30, 31 มะยมตวั เมยี 30, 31 มะระขนี้ ก 32, 33 มะระจนี 32, 33 ยอบา้ น 86, 87 ยอป่า 86, 87 ยา่ นางขาว 112 ย่านางแดง 112 เรว่ น้อย 96, 97 เรว่ ใหญ่ 96, 97 ละหุง่ ขาว 130 ละห่งุ แดง 130 ศิลายอนตวั ผู้ 34 ศลิ ายอนตวั เมยี 34 สะเดาบ้าน 77, 78 สะเดาปา่ 77 สตั ตบงกชขาว 36, 37 สตั ตบงกชแดง 36, 37 สีเสียดเทศ 114 สเี สยี ดไทย 114 ส้มกุ้งนอ้ ย 40, 41 สม้ ก้งุ ใหญ่ หัสคุณเทศ พืชสมุนไพร 146
ชอื่ พื้นเมอื ง หนา้ จจุลุลพพิกิกัดั ต่างกันที่รส หัสคุณไทย 40, 41 หางไหลขาว 98, 99 หางไหลแดง 98, 99 หญา้ เกล็ดหอยเทศ 38, 39 หญ้าเกลด็ หอยไทย 38, 39 แห้วหมนู ้อย 116, 117 แหว้ หมูใหญ ่ 116 อบเชยเทศ 42, 43 อบเชยไทย 42, 43 พืชสมุนไพร 147
ุจกาลรพิแ ักพด ่ตทาย์งแ ักผนน่ีทไรทสย ดัชนีชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่ือวิทยาศาสตร์ หน้า Acacia catechu (L.f.) Willd 36 Aglaia odorata Lour. 26, 27 Aglaia odoratisima Blume 26 Albizia myriophylla L. 19, 20 Alocasia cf. macrorrhizos (L.) 61 Alpinia galanga (L.) Willd 106, 107 Alpinia officinarum Hance 106, 107 Alternanthera bettzickiana (Regel) G. Nicholson 88, 89 Alternanthera sessilis (L.) R. Br. ex DC. 88, 89 Alysicarpus vaginalis (L.) 38, 39 Amomum testaceum Ridl. 59, 60 AAzrsaedniricacdhistualpinhdidicea(AA.s2JSu2s)s 100 34, 35 Cinnamomum sp. 42 Cinnamomum verum J. presl 42, 43 Clausena excavata Burmf. 40, 41 Colocasia sp. 61 Croton persimilis MÜll. Arg. 110, 111 Croton stellatopilosus H. Ohba 110, 111 Cuminum cyminum L. 81 Cycas sp.1 24, 25 Cycas sp.2 24, 25 Desmodium triflorum (L.) DC. 38, 39 Diospyros sp. 108, 109 Dracaena cochinchinensis (Lour.) S.C. Chen 71 Flueggea virosa (Roxb. ex Willd) Voigt 63 Glycyrrhiza glabra L. 19, 21 Gonostegia pentandra (Roxb.) Miq. 67, 68 Gossypium arboretum L. 92, 93 Gymnopetalum scabrum (Lour.) W.J. de Wilde & Duyfjes 65 Heliotropium indicum L. 90 Iresine herbstii Hook 90 Justicia gendarussa Burm. f. 57, 58 Lepidium sativum L. 81 148 พืชสมุนไพร
ชือ่ วิทยาศาสตร์ หน้า จจุลุลพพิกิกัดั ต่างกันที่รส Lysiphyllum strychnifolium 85, 86 (Craib) A. Schmitz MMealginenesthiuamsusualvfiastPeie(MrregS. O4.7H 2O) 49 Micromelum pubescens Blume 28, 29 40, 41 Momordica charantia L. 30, 31 Morinda elliptica Ridl. 32, 33 Moschus spp. 47 Nelumbo nucifera Gaertn. 75 Nelumbo nucifera Gaertn. 77, 78 Ocimum tenuiflorum L. 55, 56 Paederia foetida L. 104, 105 Paederia linearis Hook. f. 104 Paraderris elliptica (Wall.) Adema 98 Paraderris montana (Benth.) Adema 98 Phyllanthus reticulatus Poir 63, 64 Piper nigrum L. 94 Plumbago indica L. 73, 74 Plumbago zeylanica L. 73, 74 Pouzolzia zeylanica (L.) Benn.& R. Br. 67 Ricinus communis L. 96, 97 Sauropus androgynus (L.) Merr. 28, 29 Senna alata (L.) Roxb 22, 23 Senna garrettiana (Craib) Irwin & Barneby 16, 17 Senna siamea (Lam.) Irwin & Barneby 16, 17 Senna timoriensis (DC.) H.S.Irwin & Barneby 16, 18 Senna tora (L.) Roxb. 22, 23 Sesbania grandiflora (L.) Desv. 69, 70 Smilax sp.1 14, 15 Smilax sp.2 14, 15 Sodium sulfate (Na2 SO4) 49 Stephania sp. 109 Tarenna hoaensis Pit 71 Tiliacora triandra (Colebr.) Diels 85, 86 Uncaria gambir (Hunter) Rox 36 Urceola rosea (HooK. & Arn.) D.J. Middleton 79 พืชสมุนไพร 149
ุจกาลรพิแ ักพด ่ตทาย์งแ ักผนน่ีทไรทสย ดัชนชี อื่ วิทยาศาสตร์ ชื่อวิทยาศาสตร ์ หน้า 79 Urceola minutiflora (Pierre) D.J. Middleton 47 Viverricula spp. 53 Xylocarpus granatum Koenig 53 Xylocarpus moluccensis M. Roem. 12, 13 Zingiber zerumbet (L.) Sm. 150 พืชสมุนไพร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151