Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore secret of love รักลูกอย่างไรไม่ให้เสียน้ำตา

secret of love รักลูกอย่างไรไม่ให้เสียน้ำตา

Description: secret of love รักลูกอย่างไรไม่ให้เสียน้ำตา

Search

Read the Text Version

www.kalyanamitra.org

ove \"รักลูกอย่างไร!ม่ใท้1ศยแาฅา\" โดย พระมหาสมขาย ฐานวุฑโฒ www.kalyanamitra.org

ร ojcJloVE \"รักลูกอย่าง!ร!xIIhi^ยนาดา' พระมหาสมขาย ฐานวุทโฒ บรรณาธการอานวยการ ะ พระมหาวิเชียร นาถกโร บรรณาธิการบริหาร: จรรยาพร เจริญไทย กองบรรณาธิการ ะ พระมหากฤดนัย รดบปญโถ], พระวัซรพันธ์ ชุตินธโร ออกแบบสิลปกรรม : กุลรดา เอกบุตร พิสูจน์อักษร ะ กองบรรณาธิการมูลนิธิธรรมะคุ้มครองโลก มูลนิธิธรรมะคุ้มครองโลก อัดพิมพ์โดย ะ 18/194 หมู่ 6 ตำ บลคลองสาม อำ ๓อคลองหลวง อังหวัดปทุมธานี 12120 ลิขสิทธึ๋: [email protected] มูลนิธิธรรมะคุ้มครองโลก อำ ๓อคลองหลวง อังหวัดปทุมธานิ พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2558 จำ นวน ะ 5,000 เล่ม พิมพ์ที่ : บริษัท รุ่งสืลนิการพิมพ์(1977)จำ กัด ข้อมูลทางบรรณานกรม พระมหาสมชาย ฐานๅหโด]. Secret of Love \"รักลูกอย่างไรไมให้เสียนํ้าตา\".-- ปทุมธานี ะ มูลนิธิธรรมะคุ้มครองโลก, 2558. 144 หน้า. 1. บดามารดาและบุตร-แง่ศาสนา-พุทธศาสนา. 2. ครอบครัว-แง่ศาสนา-พุทธคาสนา I. กุลรดา เอกบุตร, ผู้วาดภาพประกอบ. II. ขื่อเรื่อง. 294.3153 ISBN 978-616-7803-09-8 www.kalyanamitra.org

m Dhamma for the World มูลนิธิธรรมะคุ้มครองโลก www.kalyanamitra.org

บทนขขfUiSrm Seclet of rX.ove \"รักลูกอย่างhiนโหั นาฅา\" แนวทางการใช้ชีวิตให้ประสบความสุขความสำเร็จในสถาบัน ครอบครัว ด้วยการรักตนเองเป็น รักครอบครัวได้ รักลูกอย่าง ถูกวิธี และเคล็ดไม่ลบในการประคับประคองชีวิตคู่เพื่อลูก วิธีอุดรอยร้าวในชีวิตคู่ รวมถึงเรื่องของพินัยกรรมที่มีความ สำ คัญต่อชีวิตครอบครัว และการเยียวยาคนในครอบครัว รวมถึงการดูแลลูกรักเมื่อต้องเผขิญหน้ากับความตาย สอน ให้ลูกรับมือกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก โดยมืหลักธรรม ของพระสัมมาลัมพทธเจ้าเป็นเครื่องนำทาง \"ครอบครัว\" มีองค์ประกอบหลายต้านที่สลับซับช้อน และสำคัญในทุกรายละเอียด เมื่อเราเลือกที่จะมืคู่ชีวิตและมี ลูกแลัว เราต้องเรียนรู้และทำความเช้าใจจิตใจ อารมณ์ และ ความคิดของคนข้างกายให้มากขึ้นด้วย อย่าปล่อยให้ความ \"ไม่เข้าใจ\" มาทำลายความรักในครอบครัวของเรา บรรณาธิการ www.kalyanamitra.org

ท ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา การเรืยนรู้ที่จะยอมรับ อีกคนเพื่อสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์นั้น จะช่วยเพื่มสุขให้ซีวิต ครองเรือนได้อย่างมาก เราทั้งชายหญิงจึงควรเรืยนร้บทเรืยน พิเศษก่อนที่จะรัก เพื่อให้เราอยู่กับความแตกต่างของอีกฝ่าย ได้อย่างลงตัว และร่วมกันสร้างช่วิตคู่ให้ผาสุกได้ตามหลัก พระพุทธองค์ ในหนังสือเล่มนี้ อาตมภาพได้อธิบายถึงแนวทาง ประพฤติตน เพื่อให้ผู้อ่านได้ตั้งสติก่อนรัก และตั้งสติก่อน แต่งงานตามหลักพระพุทธศาสนา ให้ประโยขน์แก่กัลยาณมิตร ทุกท่านได้มองโลกรอบด้านยิ่งขึ้น มองเห็นทั้งมมเขาและมุม เรา เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตแบบมีเหตุมีผล และไม่ใช้อารมณ์ เป็นที่ตั้ง ให้ชีวิตครองเรือนนั้นยืนยาว ไม่กระทบกระทั้งกัน จนเกิดป็ญหาแตกร้าวในครอบครัวแลัวส่งผลถึงอนาคตของ บุตรได้ ฮานจุจไโฒ ภิกฺฃุ www.kalyanamitra.org

ยๆsmij 9 infidlนอนปขะfTนปขะฅอง]!ปีafjim^n ^ ทบทวนก่อนรัก เตรียมตัวก่อนแต่ง 0 กฎเหล็ก 6 ข้อ อุดรอยร้าวในฃีวิตคู่ @ รักอย่างไรไมให้ร้างลา ร9 ทฎ ^^FmuFjudytJuhr ciSiuef'/lนฅขยบภปีน ^ \"ความยับยั้งชั่งใจ\" แตกต่างด้วยวิธีคิดของแต่ละคน © 5 วิธี ปลูกรํ^งความยับยั้งชั่งใจและสร้างสติให้กับลูก @ วิธีนำ ตนเองและครอบครัวไปส่เป้าหมายชีวิต www.kalyanamitra.org

oseo 67 !iiiu&n3fiUshFTrijriai}5afj @ องค์ประกอบของพินัยกรรม ^ คลายข้อสงสัยเรื่องผู้จัดการมรดก ^ \"พินัยกรรม\" หน้าที่ของพ่อแม่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจัาตรัสไว้ 97 ทๆอย่ๆนเsmno'ju ร}TQi&&inauulนภรอนภปี สอนให้ลูกรับมือกับความตาย ^ 6 วิธี ดูแลลูกรักหสังจากสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ^ เมื่อพ่อแม่สูญเสียลูก...เมื่อลูกสูญเสียพ่อแม่ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

ส้มพันธภาพในครอบครัวระหว่างพ่อ แม่นั้น มีผลต่อความสุขความสำเร็จของลูก โดยตรง ในครอบครัวที่พ่อแม่รักกัน ลูกมัก จะมีทัศนคติที่ดีและมีบุคลิกภาพเขิงบวก ในทางตรงกันข้าม ครอบครัวที่พ่อ แม่มีป้ญหากันบ่อยครั้ง ลูกจะเติบโตขึ้นเป็น คนติดลบ มีทัศนคติไม่ติ และมีบุคลิกภาพ ไมพงปรารถนา เซ่น ก้าวร้าว จนก่อให้ เกิดปิญหาสังคมอย่างทุกวันนี้ การประคับ ประคองชีวิตคู่เพื่อลูก วิธีการลดความขัดแย้ง และสร้างความสุขในครอบครัวจึงมีความ สำ คัณฺมาก www.kalyanamitra.org

พ ทนทวนทอนDท iaS&ucnnaiJiid\\J ปีจจุบันป้ญหาเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว นับวันจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น เพราะการแต่งงานมีสถิติของ การหย่าร้างสูง ปัญหาการหย่าร้างนั้นเกิดขึ้นกับชีวิตคู่รวดเร็ว มากกว่าในอดีต ตอนแต่งงานกันก็จัดแจงถ่ายรูปคู่สวยงาม จัดเตรียม เรือนหออย่างดี หมดเงินไปมากมาย แต่บางคู่อยู่กินกับได้ไม่ ถึงปีก็ต้องหย่าร้างกันไป เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะมีชีวิตคู่ควร มีการเตรียมความพร้อมที่ดีถ่อน ดังนี้ www.kalyanamitra.org

น พรยนควานพรอนวำทฟปีทป ท ก่อนแต่งงานกัน คู่รักควรเตรียมความพร้อมให้กับ ตนเองที่จะเป็นพ่อและแม่ของลูก เซ่น พิจารณาว่า เรามี ธรรมะในใจ และมีคุณสมบติเพียงพอที่จะเป็นพ่อแม่แล้วหรือ ไม่ เราประพฤติปฏิบ้ตตนพร้อมที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ ลูกแล้วหรือไม่ เป็นต้น ถ้าคำตอบของเราทั้งสองคน คือ \"ยังไม่มีความ พร้อม\" เพราะเรายังนำพาตนเองไม่รอด ยังแกั!ขปัญหา ของตนเองไม่ได้ ยังไม่สามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้แก'คนอื่น ไต้ ลูกที่จะเกิดมาในอนาคตก็จะมีป้ญหา เพราะฉะนั้น ควรมีการเตรียมตัวก่อนแต่งงาน เซ่น ฝ่ายขายควรบวซก่อน ส่วนฝ่ายหญิงควรเข้าอบรมสืกษาธรรมะ ซ่วงสัน ๆ ก่อน เป็นต้น ยกตัวอย่างการเข้าอบรมกิจกรรม ดี ๆ อย่าง \"5 ห้องชีวิต\" ซึ่งเป็นการ!!กนิสัยทั้งขายหญิง อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานไว้สอนลูกไดีในอนาคตต้วย www.kalyanamitra.org

ไร สถิติการหย่าร้างในประเทศไทยสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ มี การหย่าร้างของคู่แต่งงานมากถึง 35% ของคนที่จดทะเบียน กันทั้งหมด แล้วเด็กที่เติบโตมากับบีญหาพ่อแม่ทะเลาะกันนั้น มักจะมีนิสัยก้าวร้าวและมีทัศนคติเซิงลบ การแก้!ขบีญหาครอบครัวแยกออกเป็น 2 ประเด็น ใหญ่ ๆ คือ \"เราควรจัดการความขัดแย้งภายในครอบครัว อย่างไร\" และ \"เราควรปรับตัวหลังจากเกิดปึญหาการ หย่าร้างอย่างไร\" เรื่มจากการแก้!ฃบีญหาครอบครัวประเด็นที่ 1 คือ \"การจัดการความขัดแย้งภายในครอบครัว\" โดยเราควร มองภาพรวมก่อนว่า ความขัดแย้งภายในครอบครัวส่วนใหญ่ เกิดขึ้นเพราะอะไร สาเหตุของความขัดแย้งภายในครอบครัวประการแรก คือ \"นิลัยและความเคยชิน\" เวลาที่เราคบหาดูใจกันใหม่ ๆ เราและเขามักจะเก็บข้อบกพร่องของตนเองไว้และดูแลเอาใจใส่ อีกฝ่ายสารพัดโดยเฉพาะฝ่ายขาย แต่พอแต่งงานอยู่กินกัน ไปแล้ว นิสัยจริงของทั้งสองฝ่ายจะค่อย ๆ ถูกเผยออกมา จนหมด จนพบว่าเราอย่ด้วยกันไมใต้ www.kalyanamitra.org

13 ความจริงพอแต่งงานกันไปแล้ว นิสัยส่วนตัวจะต้อง หารกันคนละครึ่ง คือส่วนหนึ่งเป็นส่วนตัวเรา อีกส่วนหนึ่ง เราต้องยกให้อีกฝ่าย ถ้าแบ'งกันคนละครึ่งแล้วเราจะพบว่า ชีวิตเรายังไม่เสียความเป็นส่วนตัวไปทั้งหมด เรายังเหลือ พื้นที่ส่วนตัวอยู่อีกครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งหนึ่งเรามอบให้คู่ชีวิต และครอบครัวไป เพราะฉะนั้น ในการใช้ชีวิตคู่ เราจำเป็นจะต้องถอด ตนเองลงครึ่งหนึ่งเพื่อหาจุดที่พอดีร่วมกัน ที่สำ คัญควรมีกติกา ใหม่ของคู่แต่งงาน คือ mifniMvsl ๆ mm u^ma^nesimm^v www.kalyanamitra.org

ไ4 toaaoะทนีnlนบทนาทหนๆที่บองciนif!น บทบาทหน้าที่ของคนในครอบครัวนั้นมี 2 ด้าน คือ การทำงานหารายได้และการดูแลครอบครัว ถ้าฝ่ายชายอ้าง ว่า ตั้งแต่สมัยก่อนเรื่องการดูแลรักษาบ้านนั้นเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายหญิง แต่พอมาถึงป้จจุบันที่ฝ่ายหญิงต้องออกไปช่วย ทำ งานนอกบัานด้วย จึงรู้สีกว่าตนเองเสียเปรียบ สุดท้ายก็ ทะเลาะเกี่ยงหน้าที่ในน้านกัน เพราะฉะนั้น เราควรคุยกัน ก่อนว่า จะช่วยกันดูแลรักษาน้านอย่างไร จริง ๆ แล้วบ้านเป็นของเราทั้งสองคน ลูกก็เป็น ของเราทั้งสองคน ทุกอย่างต้องหารและแบ่งปืนกันทั้งหมด \"การแต่งงานคือการแบ่งปืน\" เมื่อเราแต่งงานมีลูกด้วยกัน แล้ว จะต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างอยู่นั้นไม่ได้แล้ว เราจะ ต้องช่วยกันเลี้ยงดูลูก อบรมและสั่งสอนเขาให้เป็นคนดีใท้1ด้ www.kalyanamitra.org

ไร fj€ทจีa ย J' ข10aๆ1หนททีน บางคู่อยู่บ้านเดียวกันแต่กลับไม่จัดสรรเวลาให้กัน มัว แต่เอาตนเองไปอยู่กับโลกโซเชียลมีเดีย มัวหมกมุ่นอยู่ในจอ แคบ ๆ แล้วบอกว่า ตนเองมีสังคมทั่วโลก เปีนลังคมใหญ่โต ในจอ แต่คนจริง ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ เรากลับไมให้ความสำคัญ เพราะฉะนั้น เราต้องหาเวลาที่เป็นเวลาของกันและ กัน รู้จักถอดปลั๊ก ปีดโทรคัพท์มือถือบ้าง อย่างน้อยไม่กี่ ชั่วโมงใน 1 จันก็ไต้ หาเวลามานั่งปรึกษาหารือ คุยกันใน รายละเอียดเรื่องราวต่าง ๆ ภายในครอบครัวของเรา fj www.kalyanamitra.org

ไ6 Wium3ai3^mjmiij^uu3^ilmim เรื่องของความรุนแรงนั้น ไม่มีใครยอมรับได้ทั้งฝ่าย ชายและฝ่ายหญิง การใช้ความรุนแรงเป็นเรองทล้าสมัยมาก ในชีวิตครอบครัว เพราะฉะนั้น ใครที่คิดว่าตนเองยังมีความ รุนแรงอยู่ ห้ามแต่งงานเด็ดขาด และควรไปบวชพระหรือ!!ก ตนเองให้ดี หมั่นนั่งสมาธิทุกวันแล้วค่อยมาคิดเรื่องนี้ liimivmnvnf M evhilmm/fn 1ปี1เแ0ทรน{^119^1ฆ่ปี(1ร</9ฆ{นํ1& www.kalyanamitra.org

17 ทฏ!ทin อ ia qasaaSialuVSni แนวทางเยียวยาและป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยก ในชีวิตคู่ มีกฎให้ปฏิบ้ตง่าย ๆ ดังนี้ ทฏป้อท 1 Fjsnlน1]::ทะทนปียวๆขๆ ไม่พูดจายั่วยุกันจนถึงขั้นทนกันไม่ได้ เวลามีเรื่องราวที่ ทำ ให้เราโกรธกันจนทนไม่ไหว ขอให้เราออกห่างกันไปสักพัก จะดีกว่า คือต่างคนต่างไปหามุมสงบของตนเอง เข่น ถ้ามุม สงบของเราคือครัว เราก็เข้าครัวทำกับข้าว หรือถ้ามุมสงบ ของเราคือห้องพระ เราก็เข้าห้องพระนั่งสมาธิ หรือจะออก ไปเดินเล่นในสวนรอบบ้านก็ได้ ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันโดยตรงขณะมีอารมถร โกรธ ไม่ปะทะกันด้วยวาจาที่ยั่วยุ ส่อเสียด ประซดประขัน กัน รอจนอารมถ5เย็นลงแล้วค่อยหันหน้ามาคุยกันใหม่อีกครั้ง จะดีกว่า www.kalyanamitra.org

ภฏรอทึ่ 2ฦDfflumสบอๆsualijumlSlinจ ปัญหาขัดแย้งส่วนใหญ่เกิดจากการที่เราไม่ได้ดีท็อกซ์ อารมณ์ตนเอง มัวแต่สั่งสมอารมณ์นั้นไว้ แล้วทำทีเหมือน กับว่า เรายังคุยกันดีอยู่ เจอหน้ากันก็ยิ้มให้กันอยู่ แต่พอมื เรื่องผิดใจกันนิดหน่อย ก็จะเผลอพูดประซดเรื่องที่ด้างคาใจ นั้น ๆ ออกมาทันที อย่างที่ฝ่ายชายมักว่าร้ายฝ่ายหญิงว่า ชอบพูดประซดประขันนั้นเอง แต่บางครั้งฝ่ายชายอาจจะต้องลองมองอีกมุมหนึ่ง ว่า ที่ฝ่ายหญิงกำลังพูดเหมือนประชดประขันนั้น อาจจะ เป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจ ในเรื่องที่นอนเนึ่องอยู่ใน ใจเธอเท่านั้น ล้าฝ่ายชายลองทำความเข้าใจอาจจะพบว่า จริง ๆ คำ พูดเหล่านั้นเป็นการแสดงออกให้เราได้รับรู้ว่า ฝ่ายหญิง ต้องการให้เราหันไปใสใจเธอเท่านั้น เพราะฉะนั้น นึ่เป็นวิธีที่ เธอเรียกร้อง ฝ่ายชายอย่าไปต่อความยาวสาวความยืด แต่ ควร \"ตัด\" และควรผึเกมืสติมาก ๆ ด้วยนั้นเอง www.kalyanamitra.org

ห ทฎรอ'ท 3 FjfrflufnaDfTuinu 1 วีน เราควรตั้งกติกาไ'^นครอบครัวว่า ถ้าจะโกรธกันต้อง ไม่เกิน 1 วัน คู่รักที่มีปีญหาเลิกรากันส่วนใหญ่ เนื่องมาจาก เวลามีเรื่องราวค้างใจกันแล้วไม่สะสางให้จบภายใน 1 วัน ถ้าคู่ไหนปล่อยให้!ม่เข้าใจกันนานข้ามวันเป็นอันจบทุก ราย เพราะเรื่องราวมักจะบานปลายใหญ่โต ต่างฝ่ายต่างไป ปรึกษาคนอื่น สุดท้ายก็เกิดปิญหาขึ้นมา เซ่น บางคนเวลามี ป้ญหากันกับคนรัก ก็ซอบนัดคุยนัดกินข้าว ปรึกษากับแฟนเก่า ขึ้งไม่ถกต้อง เพราะอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันไต้ www.kalyanamitra.org

20 เรามีปัญหากับใคร ก็ควรเคลียร์กับคนนั้น ซึ่งเขาจะ เป็นคนที่แกัปัญหาให้เราได้จริง ๆ แล้วอย่าปล่อยให้ข้ามวัน เด็ดขาด แต่คนเรามักจะชอบเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งกัน โดยที่ไม่รับผิดขอบผลที่เกิดขึ้นมา ความจริงก่อนจะเผชิญหน้าพูดคุยกันลีงปัญหาที่เกิด ขึ้น เราควรไตร่ตรองให้ดีก่อนว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเกิด จากตัวเราหรือไม่ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากคน เพียงคนเดียว ทั้งสองฝ่ายมีส่วนผิดด้วยกันทั้งค่ ปึแ110^0>เ%ช1ปี1เ}10พ«()น'!แท Imivv \"Hofsi-ifloivmow www.kalyanamitra.org

2ใ ทฎรอย่ 4 ฦ3ท'1นจยนาโนฟิ011อะขะนวป็ยงยีย ปัญหาการนอกใจกันส่วนใหญ่เกิดจาก \"ความ ระแวงสงสัย\" ยิ่งระแวงกัน ยิ่งส่งเสริมปัญหาการนอกใจกัน พอคู่รักมีปัญหากัน บางทีเราซอบไปปรึกษาพูดคุยกับคนนั้น คนนี้ เพราะพอคุยแล้วเรารู้สีกได้ระบายจนสบายใจ แตก อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันเพิ่มขึ้นจนไซ้วาจารุนแรง ใส่กัน สุดท้ายต้องแยกทางกัน เพราะฉะนั้น เวลามีปัญหากันในครอบครัว เราไม่ ควรหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เมื่อตัดสินใจแต่งงานกันแล้ว พอมีปัญหาก็ควรท้นหน้าเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยวาจาสุภาพ สร้างบรรยากาศในการพูดคุยให้ผ่อนคลาย นั่งคุยกันแบบเย็น ๆ จิบกาแฟจิบซาไปเรื่อย ๆ เมื่อเราทั้งคู่ใจเย็น ปัญหาต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเอง พยายามพูดคุยถึงปัญหากันเองภายในครอบครัว ไม่ นำ ปัญหาออกข้างนอกให้ยิ่งบานปลายใหญโต อาจตั้งวันแห่ง ครอบครัว มีเวลาอยู่ร่วมกัน ทำ กิจกรรมด้วยกัน ใส่ใจซึ่งกัน และกันอย่างจริงจัง www.kalyanamitra.org

22 ngtan ปี ย ปีๆ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแสดงอาการครอบงำอีกฝ่ายจน เกินเกณฑ์ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ทำ เหมือนกับว่าตนเอง เป็นเจ้าของเขา อย่างนั้นใม่ถูกต้อง การแสดงอาการหึงvnงกัน จนเกินพอดี จะทำให้อีกฝ่ายรู้สีกอีดอัดและอยู่ด้วยกันไม่รอด เพราะฉะนั้น เราใม่ควรแสดงความเป็นเจ้าของเขาจน เกินงาม เพราะต่างฝ่ายต่างก็มืเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ของตนเองแตกต่างกันไป เมื่อมาอยู่ร่วมกันแลว เราก็ควร แปงป้นชีวิตกันคนละครื่ง อีกครื่งก็ปลอยให้เป็นเรื่องส่วนตัว ครื่งที่แซร์กันก็ให้มาร่วมกันทำความดีให้ชีวิตคู่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น www.kalyanamitra.org

23 ngiim a ^rflunnMiiBfiZiiuiVนmuao อีกหนึ่งปัจจัยที่มักจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างคู่ชีวิต คือการไม่ชีดเส้นแบ่ง คนทั้งคู่ควรรักษาสมดุลระหว่างความ เป็นส่วนตัวกับการใช้ชีวิตร่วมกัน บางคนซอบเอาทุกอย่างมา ร่วมกันหมด ผู้ซายส่วนใหญ่ชอบมีชีวิตส่วนตัว ในซณะที่ผู้หญิง ซอบมีชีวิตที่พึ่งพาแส้วอยู่กับเซาตลอด 24 ชั่วโมง เซาไบ่ ไหนก็เกาะติดไบ่ด้วยกันทุกที่ อย่างนึ้1ม่ถูกด้อง เราควรแบ่ง เวลาให้เซาได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง ทุกคู่ควรมีเวลาส่วนตัวและ มีเวลาใช้ชีวิตร่วมกันด้วย คือต่างฝ่ายควรรักษาระตับการใช้ ชีวิต ชีดเส้นแบ่งความเป็นส่วนตัวไว้ให้ซัดเจน www.kalyanamitra.org

24 1ฅอ๗0'1นยีน€เราง rjo'ItillSaFj การที่เราจะสร้างสุขให้เกิดฃึ้นกั■บขีวิตคู่ มีหลักการ \"ควรปฏิบัติ 4 อย่าง\" และ \"ไปควรปฏิบัติ 3 อย่าง\" ดังนี้ ควรปฏิบัติ 4 อย่าง คือ 1. ยกย่องให้เกิยรติกัน 2. ดูแลเอาใจใส่กันเวลาปวยไข้ไม่สบาย ไม่มัวแต่ เอาใจใส่คนนอกตัว เข่น ที่ทำ งานมีปิญหา เราก็เข้าไปแกิไข อย่างดี ลูกน้องมีปีญหา เราก็เข้าไปแกั!ขอย่างดี แต่พอคนที่ บ้านเจ็บป่วย เรากลับไม่ใสใจดูแลกัน 3. ใข้วาจาสุภาพอ่อนโยน 4. ทำ หน้าที่ของตนเองไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ควรปฏิบ้ติ 3 อย่าง คือ 1. จู้จี้จุกจิกมากเกินไป 2. แสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไป 3. คอยจับผิดตำหนิติเตียนมากเกินไป www.kalyanamitra.org

25 รกรย่พ่!รidlM'tmi เมื่อเทียบกับสมัยสังคมเกษตรแล้ว อัตราการหย่าร้าง ในปีจจุบันนั้นสูงขึ้นมาก เพราะส่วนหนึ่งมาจากวิถีชีวิตของ คนปีจจุบันที่มีความเร่งรัดและมีความเครียดมาก ในสังคมเกษตรสมัยก่อน เมื่อแต่งงานกันไปแล้ว ผู้หญิง อยู่กับเหย้าเฝืากับเรีอน ส่วนผู้ซายออกไปทำงานการเกษตร ต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยก็กสับมาบ้าน ฝ่ายหญิงดูแลบ้านและ เลี้ยงลูก ดูแลเรื่องความสะอาดและข้าวปลาอาหาร เป็นต้น ชีวิตราบเรียบ สบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ถีงสมัยก่อนจะมีสิงอำนวยความสะดวกไม่มากนัก แต่ ชีวิตก็ไม่เร่งรัด ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ที่มีความยืดหยุ่น พอมี เรื่องอะไรมากระทบฝ่ายหญิงก็มักจะอดทน เพราะในสมัยนั้น สังคมไม่ยอมรับหญิงที่หย่าร้าง ผู้หญิงจึงต้องพึ่งพาฝ่ายขาย ในต้านความเป็นอยู่ คือฝ่ายขายเป็นคนหาเลี้ยง s แต่ในยุคป้จจุบันต่างคนต่างทำงาน เพราะฉะนั้น ต่างฝ่ายต่างมีชีวิตที่ยุ่งต้วยกันทั้งคู่ เครียดด้วยกันทั้งคู่ บาง ครอบครัวฝ่ายหญิงเก่งกว่าฝ่ายขาย หาเงินเข้าบ้านและหา เลี้ยงครอบครัวได้มากกว่าฝ่ายขายก็มี พอมีปัญหาเกิดขึ้น www.kalyanamitra.org

26 ฝ่ายหญิงจึงเกิดความรู้สีกว่า ทำ ไมตนเองต้องอดทนด้วย ถึง แม้แยกทางกันไปก็สามารถเลี้ยงดูตนเองไต้ ความรู้สึกที่ต้อง อดทนก็ลดน้อยลงไป ปญหาอีกต้านหนึ่ง คือธรรมชาติของผู้ชายมักต้องการ ความภาคภูมิใจในตนเองว่า ตนเป็นคนสำคัญและเป็นผู้หา เลี้ยงครอบครัว พอเจอภรรยาเก่ง ๆ ก็มีน้างที่รับไม่ไต้ ใจ หนึ่งอาจจะรู้สึกดีที่มีภรรยาเก่ง หารายรับเข้าครอบครัวไต้ มาก แต่อีกใจหนึ่งก็ไปกระทบอีโกัของตนเอง ความรู้สึก ภูมิใจในตนเองก็ลดลง ผู้ชายบางคนจึงหาทางออกด้วยการไปแสวงหาความ ภูมิใจทางอื่นแทน เซ่น ไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยเพื่อให้รู้สึกว่า ตนยังแน่อยู่ ยังมีคนง้ออยู่ จึงทำให้เกิดป้ญหากระทบกระทั่ง ในคู่สามีภรรยาสูงขึ้นกว่าสังคมในอดีต ในภาวะอย่างนี้เราจะทำอย่างไรให้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ราบรื่นมั่นคง ครอบครัวไม่เกิดความแตกแยก ลูกไม่เกิด ป้ญหาขาดความอบอุ่น www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org iiil) hLitHiuih^i>ei[06Qmmm'Hi^ji IZ

2^ ป3ะ1^นท 1 พา!ข!ยานๆ!ย่!จ!ขา ชีวิตคู่จะราบรื่นต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้อง ไม่คิดเอาแต่ตนเองเป็นศูนย์กลางว่า \"ฉันคิดอย่างนึ๊ ฉันจะ ทำ อย่างนี้ เธอต้องเข้าใจฉัน\" ถ้าเป็นอย่างนี้ชีวิตคู่มีปัญหา แน่นอน เราควรคิดจากมุมของเขาด้วยว่า ทำ ไมเขาถึงทำอย่าง นั้น เขาคิดอะไรอยู่ เราควรพยายามเข้าใจเขา เพราะพอเรา เข้าใจเขาแล้ว \"ใจเราจะคลี่คลาย\" หากเรายึดถือใจตนเองเป็นหลัก จะเกิดการตั้งปัอม ตั้งแง'กับอีกฝ่ายทำให้เกิดกระทบกระทั่ง แต่พอเราพยายาม เข้าใจเขา ใจเราคลายไม่ตั้งปัอม ก็จะเป็นการเหนี่ยวนำอีก ฝ่ายให้ค่อย ๆ คลายตามไปด้วย กลายเป็นว่า เราสามารถ ทำ ให้บรรยากาศในครอบครัวผสานกลมกลืนกันได้มากขึ้น พอ เริ่มเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะเกิดผลตามมาอีกอย่างน้อย 4 เรื่อง ดังนี้ www.kalyanamitra.org

29 เข้าใจคน คนเราไม่มีใครเกิดมาสมบูรถ!พร้อม ตัวเราเองยังมี ข้อบกพร่องที่เฃาตัองอดทนเราเลย ตังนั้น ข้อบกพร่องบาง อย่างของเขาที่เราต้องอดทนก็มีอยู่เซ่นเดียวกัน พอเราเริ่มเข้าใจธรรมขาติของเขา จุดอ่อนจุดแข็งของ เขา และนิสัยที่ติดตัวมาบางอย่างที่ยังแกิไม่ไดในทันทีของเขา แม้ต่อให้ตั้งใจแก้ไขแล้ว บางทียังแก้ไม่ไต้อย่างที่เราต้องการ ก็เหมีอนที่บางทีเรารู้ว่า ตนเองมีนิสัยไม่ดีในบางเรื่อง แล้ว ตั้งใจอยากจะแก้ไข แต่ก็เผลออยู่เรื่อยเพราะความเคยชิน พอเราเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น เราก็จะเริ่มรับไต้มากขึ้น นอกจากจะเอาใจเขามาใส่ใจเราแล้ว เราจะต้องเข้าใจตนเอง มากขึ้นต้วย พอเราเริ่มคิดในมุมของเขา แล้วมองมาที่ตัวเรา บางทีเราจะมองเห็นตนเองในอีกหลาย ๆ จุดที่เคยมองข้ามไป www.kalyanamitra.org

30 ให้เกียรติกัน เมื่อรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราแล้ว สิ่งที่จะไล้ตามมา เป็นประการที่ 2 คือการให้เกียรติกัน คนเราทุกคนล้องการ ความภาคภูมิใจในตนเอง แต่วิธีการจะภูมิใจในตนเองนั้น มิ 2 แบบ แบบแรกเป็นทางทำลาย คือเหยียบอีกฝ่ายให้ ตํ่าลง ทำ ให้เขาเจ็บซํ้านํ้าใจ พอเหยียบเขาลงไปไล้ก็รู้สีกว่า ตนเองแน่ อย่างนึ๋ไม่ดี แบบที่ 2 เป็นทางสร้างสรรค์ คือพัฒนาตนเองให้ ดีขึ้น เก่งขึ้น จนกระทั่งเราภูมิใจในตนเองไล้ พอเรามั่นใจ ในความดีและความสามารถของตนเองแล้ว เราจะสามารถ ให้เกียรติอีกฝ่ายไล้ โดยไม่กระทบอีโกัของตนเองเลย www.kalyanamitra.org

3i สามีภรรยาบางคู่ใหม่ ๆ ก็รักกันดี พออยู่กันไป 5 ปี 10 ปี เริ่มมีคำพูดกระทบกระแทกอีกฝ่ายในทำนองวา \"ที่ทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อลก\" ถามว่า คำ พูดลักษณะนี้เมื่อ อีกฝ่ายได้ฟ้งจะรู้สึกอย่างไร ถ้าสามีพูดอย่างนี้กับภรรยา ภรรยาจะคิดอย่างไร \"ที่ เขาอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อลูก แสดงว่า ตัวเรานั้นไม่มีค่า ไฝอยู่ ในสายตาเขาเลย ถ้าไม่มีลูกเขาคงทิ้งเราไปแลว\" ภรรยา จะเจ็บซํ้านํ้าใจ และรู้สึกตํ่าด้อยด้อยค่าแค่ไหนเมื่อได้ฟ้ง ในทางกลับกัน ถ้าภรรยาพูดอย่างนี้กับสามี ก็จะทำให้ อีกฝ่ายเจ็บซํ้านํ้าใจไม่แพ้กัน เพราะพูดเหยียบยํ่าศักดี้ศรีและ ความภูมีใจของเขา ไม่เกิดประใยขน1ด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย ถ้าเรารักจะให้ชีวิตครองเรือนราบรื่น เราไม่ควรพูดเหยียบยํ่าทำลายนํ้าใจอีกฝ่าย ไม่นอกใจ การที่เราใช้ชีวิตคู่ แต่งงานอยู่ครองคู่กันแล้ว ถ้าคู่ ชีวิตเราไปมีคนอื่น เป็นใครก็คงเจ็บซาใจและรับไม่ได้ พอ เราเช้าใจอย่างนี้ แล้วเอาใจเขามาใสใจเรา เราจะเริ่มควบคุม พฤติกรรมของตนเองได้ www.kalyanamitra.org

32 อย่าลืมว่า คนเรายงไม่หมดกิเลส ดังนั้น การ \"ดัด ไฟแต่ต้นลม\" จึงดีที่สุด เราจะรอให้เกิดไฟลุกลามใหญ่โตมัน จะดับไม่ทัน เพราะฉะนั้น ต้องคิดให้1ด้ว่า ถาเขาไปทำอย่างนี้ กับคนอื่น เราก็ไม่ชอบใจ แล้วเราจะไปทำอย่างนี้กับคนอื่นก็ ไมใต้เซ่นกัน เราต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ให้นึกลืงคู่ชีวิต นึกถึงลูกและครอบครัว แล้วควบคุมพฤติกรรมของตนเอง ให้ซื่อสัตย์ต่อค่ชีวิต www.kalyanamitra.org

33 ตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองอย่างดี พอเรามองจากมมเขา แล้วย้อนมาดูตัวเราจะพบว่า เขาคาดหวังอะไรกับเราไว้บ้าง ในฐานะสามี เราทำหน้าที่ ของสามีครบล้วนดีหรือไม่ ล้ายังก็ใฟ้รบปรับปรุงตัว ล้าใน ฐานะภรรยา เราทำหน้าที่ของภรรยาครบล้วนดีแล้วหรือไม่ ล้ายังก็ใหรืบปรับปรุงตัวเซ่นเดียวกัน อย่าเอาความเคยชินในสังคมยุคเก่ามาใช้กับสังคม ยุคปีจจุบ้น เซ่น ในอดีตสามีเป็นฝ่ายทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ลุยงานอาบเหงื่อต่างนํ้า พอกสับถึงบ้านภรรยาก็ดูแลบ้าน เลี้ยงลูก ทำ อาหารไว้พร้อมสรรพ แดในป็จจุบัน เราต่างก็ตัองออกไปทำงานหาเลี้ยง ครอบครัวด้วยกันทั้งคู่ พอกสับถึงบ้าน สามีจะเอาแต่นั่งนอน ไม่ซ่วยกันดูแลบ้าน แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภรรยาฝ่าย เดียว ที่จะด้องกสับมาถูบ้าน ทำ กับช้าว เลี้ยงลูก อย่างนี้ ไม่ถกด้อง www.kalyanamitra.org

34 เราควรช่วยเหลือกัน จะคิดแค่จากมุมตนเองไม่ได้ว่า \"ฉันเป็นผู้ซาย ฉันไม่ต้องทำ\" ลืงคราวสังคมเปลี่ยน เรา ต้องมองจากมุมมองของเขาด้วย ไม่คิดแต่จากมุมของตนเอง ถือตนเองเป็นที่ตั้ง เอาความสะดวกสบายและความสุขของ ตนเองเป็นใหญ่ mmmmewmdiknffH www.kalyanamitra.org

35 ประiiaun 2 fทยาว'เหนน 3ภฟ้น'1หทอ เราเคยได้ยินคำว่า \"รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ\" มา ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเข้าใจความหมายแล้ว ก็ควรนำมาปฏิบ้ต ด้วย \"รักยาวให้บั่น\" หมายถง ล้ารักจะให้ชีวิตคู่อยู่ด้วย กันยืนยาวแล้วให้รู้จัก \"บั่น\" คืออย่าต่อความยาวสาวความยืด มีประเด็นปีญหาอะไรขึ้นมา ก็ควรตัดให้มันจบไปไมคดเล็ก คิดน้อย ในหางกลับกัน \"รักสั้นให้ต่อ\" หมายถึง ล้ารักจะ ให้ชีวิตคู่จบกันเร็ว ๆ จะได้หย่าร้างกันไปแล้วล่ะก็ ให้ต่อ ความยาวสาวความยืด ก็จะทะเลาะกันแรงขึ้น ๆ จนต้อง แยกกันอยู่อย่างแน่นอน เราพบว่า คู่ที่มีปีญหาหย่าร้างจำนวนมากมีลักษณะ ร่วม คือ \"มีทิฐิมานะ\" พอเกิดอะไรขึ้นมามันเป็นปมในใจ แล้วไม่ยอมคลายปมนั้น ด้วยความถือทิฐิและไม่ยอมให้อภัย ไม่ยอมสมานไมตรีกัน เหมีอนกับตั้งป๋อมตนเองขึ้นมาแล้ว ไม่ยอมคลายตัว ก็ประสานกันไม่ได้ www.kalyanamitra.org

36 ลิ้นกับฟ้นอยู่ในปากด้วยกันยังมีปัญหากระทบกระทั่ง กัน ทั้งที่ลิ้นก็ลิ้นฃองเรา ฟ้นก็ฟ้นของเรา บางทีเคี้ยวข้าว ฟ้นยังไปกัดโดนลิ้นเป็นแผลเจ็บจี๊ดขึ้นมา เพราะฉะนั้น ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันนั้นไม่มีใครสมบูรณ์ โอกาสกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นได้แน่นอน พอเกิดกระทบ กระทั่งกันขึ้นมาแล้วก็ต้องรู้จักให้อภัยกัน ขนาดตัวเรายังไม่ สมบูรณ์เลย เขาจะผิดพลาดอะไรไปบ้างก็ยอม ๆ กันไป อย่าถือเอาทิฐิมานะเป็นที่ตั้ง \"รักยาวให้บั่น\" มีปัญหาก็ต้องตัดเรื่องนั้นออกไป วางลงแล้วก็ยิ้มออกมา รู้จักให้อภัยกัน ตอนนี้เขาพลาด เรา ให้อภัยเขา บางคราวเราพลาด เขาก็จะให้อภัยเรา ปัญหา มันก็จะจบลง แต่คนที่หย่าร้างกันนั้น พอเกิดเรื่องแล้วเก็บ เป็นปมในใจ คลายไม่ลง คิดว่าชาตินี้ให้อภัยกันไมได้อีกแล้ว จึงเกิดปัญหา www.kalyanamitra.org

37 เพราะฉะนั้น เราต้องรู้จักสังเกตตนเอง จัดการความ คิดตนเองใน 2 ประเด็นใหญ่ ๆ คือ \"เอาใจเขามาใส่ใจ เรา\" และ \"รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ\" แล้วชีวิตคู่ของ เราจะยั่งยืน ลูกก็อบอุ่นใจเพราะพ่อแม่อยู่ต้วยกันแล้วมีความ สมัครสมานสามัคคื ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข และมีความ เจริญก้าวหน้า www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

3^ กฎ''กวๆนยumjhw miD^0lUfl3€นคสั0 สังเกตไหมว่า คนในยุคปิจจุบันมัก จะเป็นประเภท \"ดีฃั่วรู้หมด แด่อดไม่ได้\" ยกตัวอย่างทุกคนรู้ดีว่ายาเสพตดเป็นสิ่งไม่ดี แต่ก็ยังมีคนขายคนเสพยาเสพตดอยู่ทั่วเมือง หรือทุกคนรู้ว่าการนอกใจสามีภรรยาเป็นเรื่อง ที่ไม่ควรทำ แต่ก็ยังมืคนทำกันอย่ www.kalyanamitra.org

รวมทั้งการใช้ความรุนแรง การใช้ความก้าวร้าวใน รูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่ทุกคนรู้ว่าไมด แตกยังมีคนทำกันอยู่ มากมาย อีกทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ในใจ ลึก ๆ เด็ก ๆ รู้ว่าไม่ดี แต่เขาก็ยังทำ สาเหตุหลักเกิดจาก การ \"ขาดการยับยั้งชั่งใจ\" นั่นเอง เรื่องความยับยั้งชั่งใจถือเป็นคุณธรรมพื้นฐาน ที่พ่อแม่ ผู้ปกครองควรแกให้ลูกหลานมีตั้งแต่เล็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคปีจจุบันที่มีสิ่งเร้าสิ่งยั่วยุมากมาย ถ้าเราไม่ปัองกันไว้ ตั้งแต่ต้นอาจจะเสียใจภายหลังได้ /ini/)/));71/ (พฐ«/)? /)srw www.kalyanamitra.org

4t ^Eat Ma~rsYhm&alt!lowss ThcStcrcitiibV.,., ร'.■ะ\".,.,, พ..เฟน/. \"?rj'iU€umhhi' nandiudoBoฃ็ฅีaoaง 110^ะฅน เริ่มต้นดวยการแนะ'นาหนังสือดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องของ ความยับยั้งชั่งใจ หนังสือเล่มนึ๋มซื่อภาษาอังกฤษว่า \"Don't Eat the MarshmaLlow Yet! The Secret to Sweet Success in Work and Life แปลเป็นภาษาไทยว่า \"หยุด อย่ารีบกินมาร์ซมาลโลว์! แล้วคุณจะประสบความ สำ เร็จ'ทั้งงานและขีวิต\" www.kalyanamitra.org

42 ขนมมาร์ชมาลโลว์ (MarshmaLLow) เป็นขนมชอง ขาวต่างฃาติทื่ทํๆด้วยนํ้าตาล แปัง และไข่ขาว พอเคี้ยวจะ รู้สึกหยุ่น ๆ แล้วละลายในปาทได้ เด็ก ๆ ซาวต่างชาติต่าง ชื่นชอบกันมาก หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่แนะนำเกี่ยวกับวิธีคิดที่ จะทำให้เราประสบความสำเร็จ โดยพื้นฐานของความคิดเขๆ สังเกตได้ว่า คนที่มีความฉลาดเทำเทียมกัน พอเติบโตไปแล้ว ประกอบอาชีพการงาน กสับประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน เพราะมีความยับยั้งชั่งใจไม่เท่ากัน ป็จจัยที่ท่าให้เกิดความแตกต่างในความยันยั้งชั่งใจ ของคนเรา'^คือ \"วิธีคิดของแต่ละคน\" ชื่งเริ่มมาตั้งแต่เด็ก ความสามารถในการยับยั้งชั่งใจของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน สํง ผลเมื่อเด็กแต่ละคนเติบโตเป็น^หญ่ เขาจะประสบความ สำ เร็จในชีวิตไม่เท่าเทียมกัน มีการทดลองในสหรัฐอเมริกา โดย^หญ่นำเด็กเลก อายุประมาณ 3 - 5 ปี เข้าไปในห้องหนึ่ง ในห้องนั้นมี ขนมมาร์ชมาลโลว์วางอยู่ ^หญ่จะบอกกับเด็ก ๆ ว่า เขา จะออกไปข้างนอกเป็นเวลา 15 นาที แล้วจะกลับมาใหม่ www.kalyanamitra.org

43 ถ้าเด็ก ๆ ยังไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ เขาจะให้รางวัลเปน ขนมมาร์ชมาลโลว์เพิ่มขึ้นอีก 1 ขึ้น การทดลองนี้น่าสนใจ มาก มีการแอบถ่ายเด็ก ๆ ระหว่างที่รอคอยการกลับมาของ ผู้ใหญ่เอาไว้ด้วย การทดลองในครั้งนี้เป็นการทดลองในโครงการทฤษฎี ของมาร์ชมาลโลว์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในมหาวิทยาลัยสแตน- ฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวขนมมาร์ชมาลโลว์ชื่งมีรส หวานหอม เปรียบเสมือนความต้องการแสดงความพึงพอใจ ของตนเองในทันที www.kalyanamitra.org

44 งานวิจัยดู้นนี้พบว่า เด็ก ๆ ที่มีความสามารถในการ ยับยั้งชั่งใจ โดยยังไม่กินขนมมาร์ซมาลโลว์จนผู้ใหญ่กลับมานั้น มีผลการเรียนและมีความสามารถในการเข้ากับบุคคลอื่นได้ดี กว่า นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการจัดการความเครียด ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้อีกด้วย การวิจัยนี้มีการติดตามผลต่อเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี ล่าสุดมีการติดตามเด็ก ๆ พบว่า เด็กที่มีความ สามารถในการยับยั้งชั่งใจนั้น เมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีนํ้าหนักตัวที่น้อยกว่าเด็กที่ไม่สามารถหยุดการกินขนมมาร์ซ- มาลโลว่ได้ แสดงว่า เด็ก ๆ กลุ่มนี้มีวินัยในการบริโภค ซึ่ง วินัยนี้ติดตัวมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ www.kalyanamitra.org

<?5 mrlmoivmnoltiniNv^ncli Mn<iidvoiimmv,huii lufDmnnffvfiowtmDm www.kalyanamitra.org

46 5 วัย iJfjriiilUFn'iuaนยนเร่งใจแยะ?!ปีนcia 'Inกินร]ท ผู้เชี่ยวฃาญแนะนำว่า พ่อแม่ผู้ปกครองควรเป็นคน ลกลูก ๆ ให้มีความยับยั้งชั่งใจ โดยควรแกเขาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งสามารถแน่งวิธีแกออกเป็น 5 วิธี ดังนี้ Hi ปีฃ็ท'เขที่ 1 rin'lunaululririaij เริ่มต้นที่ \"พ่อแม่ผู้ปกครองควรแกฝนตนเอง\" ให้ มีความสามารถในการยับยั้งชั่งใจก่อนจะแกลูก ถ้าพ่อแม่เป็น คนใจร้อน มุทะลุ ไม่มีความอดทนในการรอคอย ลูกๆ ก็ จะซึมซับพฤติกรรมนั้นติดตัวไปด้วย เพราะฉะนั้น ต้องเริ่มต้นที่พ่อแม่ก่อน การสอนลูก ด้วยการทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างนั้นดีที่สุด เหมือนสุภาษิต ไทยที่ว่า \"ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น\" พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็ จะเป็นอย่างนั้น www.kalyanamitra.org

47 ทา 2 ยททน-jOฅอย พ่อแม่ควรแกฝนให้ลูก \"รู้จักการอดทนรอคอยใน เรื่องตาง ๆ\" โดยอาจจะเริ่มต้นจากการอดทนรอคอยใน ระยะเวลาสั้น ๆ ก่อน และอดทนในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เมื่อลูกไต้รับการแกฝนมากขึ้น หรึอเมื่อเขามีอายุมาก ขึ้น เราอาจจะแกให้เขารอคอยในสิ่งที่ยากขึ้นไป และมีระยะ ในการรอคอยที่นานมากขึ้นไปตามลำดับ www.kalyanamitra.org

4^ 5บโท5ท 3 rrtftrjuh/luauiau พ่อแม่ควรแกฝนให้ลูก \"มความภาคภูมิใจในตนเอง เมื่อเขาทำสำเร็จ\" ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองต้องคอยให้กำลังใจ ลูก ๆ เพื่อให้เขาได้รับรูว่า สิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง เราอาจจะ แกลูกด้วยการให้รางวัลเมื่อลูกทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเขาควร ไต้รับรางวัลเป็นส่วนประกอบแห่งความสำเร็จ ในการที่เขา รอคอยในสิ่งนั้น ๆ ด้วย เป็นต้น วีรกๆขท 4 วีนยทอะกวานขีนเjSatJau พ่อแม่ควรแกฝนให้ลูก \"มีวินัยและมีความรับผิต ขอบ\" โดยอาจจะเริ่มต้นจากชีวิตประจำวันของเด็ก เซ่น วินัยในการกิน วินัยในการนอน ซึ่งจะทำให้ลูกมีความ รับผิดซอบในการดำรงชีวิต สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่ต้อง พื่งพาผู้ปกครองมากนัก นอกจากนั้นการแกวินัยเหล่านี้จะทำให้ลูกรู้จักแยกแยะ ว่า สิ่งใดดีและสิ่งใดไม่ดี สิ่งใดควรทำและสิ่งใดไม่ควรทำ www.kalyanamitra.org

49 , 5อีทๆขท 5 ยOFIOๆนรยๆท พ่อแม่ควร^กฝนให้ลูก \"ลดความอยาก\" ซึ่งพ่อแม่ ควรปลูกฝืงลูกตั้งแต่เขายังเล็ก อย่าคิดว่าลูกเรายังเล็กเกินไป หรือว่าเรารักลูกมากจึงตามใจลูก ลูกอยากได้อะไรก็ประเคนให้ ทุกอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กไม่รู้จักพอ และไม่สามารถ ยับยั้งซั่งใจได้ เช่น ในกรณีที่ลูกมีของเล่นมากมาย แล้วลูกอยากได้ ของเล่นชิ้นใหม่ พ่อแม่อาจจะห้ามปรามเป็นบางครั้ง และ บางครั้งก็อาจส่งเสริมล้าของเล่นนั้นส่งเสริมการพัฒนาลักษณะ นิสัยของลูก ซึ่งของเล่นบางชิ้นเราอาจจะห้ามปรามไมให้ลูก เล่นเพื่อแกให้เขารู้ว่า เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้สิ่งที่ อยากได้ทุกครั้งไป www.kalyanamitra.org