Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 18575_2019071913ป.1

18575_2019071913ป.1

Published by สุเมธ สร้อยฟ้า, 2022-01-19 09:16:53

Description: 18575_2019071913ป.1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การปอ งกนั การทุจรติ ” ระดับช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๑ สาํ นักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง ชาติ รว มกับ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๑

แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกนั การทุจริต” ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ ร่วมกับ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๑

แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การปอ้ งกนั การทจุ ริต” ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ พมิ พค์ รั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๒ จ�ำนวนพมิ พ์ ๓๑,๖๐๒ เลม่ ผู้จดั พมิ พ์ สำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ ร่วมกับ สำ� นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พิมพ์ท่ ี ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำ�กดั สาขา ๔ ๑๔๕ , ๑๔๗ ถ.เล่ยี งเมอื งนนทบรุ ี ต.ตลาดขวญั อ.เมอื ง จ.นนทบรุ ี ๑๑๐๐๐ โทร. ๐ ๒๕๒๕ ๔๘๐๗-๙ , ๐ ๒๕๒๕ ๔๘๕๓-๔ โทรสาร ๐ ๒๕๒๕ ๔๘๕๕ E-mail : [email protected] www.co-opthai.com

คำ�นำ� ยทุ ธศาสตรช์ าตวิ า่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ระยะท ่ี๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) ไดก้ าำ หนดประเด็นยุทธศาสตร์ท ่ี ๑ สร้างสังคมทีไ่ มท่ นตอ่ การทุจรติ ประกอบดว้ ย กลยทุ ธท์ ่ ี ๑ ปรับฐาน ความคดิ ทกุ ช่วงวัยตง้ั แต่ปฐมวัยเป็นต้นไปให้สามารถแยกระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ สว่ นรวม กลยทุ ธท์ ่ี ๒ สง่ เสรมิ ใหม้ รี ะบบและกระบวนการกลอ่ มเกลาทางสงั คมเพอ่ื ตา้ นทจุ รติ กลยทุ ธท์ ี่ ๓ ประยกุ ตห์ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ เครอื่ งมอื ตา้ นทจุ รติ และกลยทุ ธท์ ี่ ๔ เสรมิ พลงั การมสี ว่ นรว่ ม ของชุมชน และบูรณาการทุกภาคส่วนเพ่ือต่อต้านการทุจริต จากกลยุทธ์ที่ ๑ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) จึงได้มีคำาส่ังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จัดทำาหลกั สตู รหรอื ชุดการเรยี นรแู้ ละสื่อประกอบการเรียนร ู้ ดา้ นการป้องกนั การทจุ รติ ซงึ่ ประกอบดว้ ย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการให้การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ข้ึน เพ่ือศึกษา วิเคราะห์ และ รวบรวมข้อมูล กำาหนดแนวทางและขอบเขตในการจัดทำาหลักสูตร ยกร่างและจัดทำาเนื้อหาหลักสูตร หรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ รวมท้ังพิจารณาให้ความเห็นเพิ่มเติม กำาหนดแผน หรือแนวทางการนำาหลักสูตรไปใช้ในหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และดำาเนินการอ่ืนๆ ตามท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย คณะอนุกรรมการจัดทำาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ด้านการ ปอ้ งกนั การทจุ รติ ไดร้ ว่ มกนั สรา้ งชดุ หลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : Anti-Corruption Education ประกอบดว้ ย ๕ หลักสตู ร ดงั น้ี ๑. หลักสูตรการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน (รายวชิ าเพ่ิมเติม การป้องกันการทจุ รติ ) ๒. หลักสตู ร อดุ มศึกษา (วยั ใส ใจสะอาด “Youngster with Good Heart”) ๓. หลักสตู รตามแนวทางรับราชการ กลุ่มทหารและตำารวจ ๔. หลักสูตรสร้างวิทยากรผู้นำาการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต และ ๕. หลักสูตรโค้ชเพื่อการรู้คิดต้านทุจริต ชุดหลักสูตรดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการนำาไปทดลองใช้ เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สำาหรับการใช้ในกลุ่มเป้าหมายต่อไป นอกจากนี้ คณะอนกุ รรมการจดั ทำาหลกั สตู รหรอื ชดุ การเรยี นรแู้ ละสอื่ ประกอบการเรยี นรดู้ า้ นการปอ้ งกนั การทจุ รติ ยงั ไดค้ ดั เลอื กสอ่ื การเรยี นรจู้ ากแหลง่ ตา่ งๆ ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ รวม ๕๐ ชนิ้ เพอ่ื ใชใ้ นการเรยี นร ู้ ซ่ึงคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ เมื่อวันท่ี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องนำาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ และให้กระทรวงศึกษาธิการ เร่งดำาเนินการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพ่ือนำาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปปรับใช้ในการจัด การเรยี นการสอนของสถานศกึ ษา

รายวิชาเพิ่มเติมการป้องกันการทุจริต สำาหรับหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จัดทำาขึ้น โดยอนุกรรมการด้านการศึกษา ในคณะอนุกรรมการจัดทำาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบ การเรยี นรู้ ด้านการปอ้ งกนั การทจุ ริตและกล่มุ ผทู้ รงคุณวุฒิด้านการศกึ ษา สาระการเรยี นรู้ประกอบด้วย (๑) การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม (๒) ความอายและความไมท่ น ตอ่ การทจุ รติ (๓) STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ (๔) พลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ตอ่ เนอ่ื งกนั ตัง้ แตร่ ะดับปฐมวยั ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายวิชาเพ่ิมเติมการป้องกันการทุจริต สำาหรับหลักสูตรการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ในชดุ หลกั สูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา (Anti-Corruption Education) จะนำาเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อเป็นกลไกระยะยาวในการปลูกฝงวิธีคิดป้องกันการทุจริตให้แก่ผู้เรียน อย่างเปน็ อัตโนมัติ เพอ่ื รว่ มกันสรา้ งประเทศไทยใสสะอาด ไทยทง้ั ชาตติ า้ นทุจริต พลตำารวจเอก (วชั รพล ประสารราชกิจ) ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑

สารบัญ หนา้ โครงสร้างรายวิชา ๑ หนว่ ยท่ี ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๓ หน่วยที่ ๒ ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ ๗๖ หนว่ ยท่ี ๓ STRONG : จติ พอเพียงต้านการทุจริต ๑๐๗ หน่วยท่ี ๔ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๑๓๘ ภาคผนวก ๑๘๙ - คำ�สงั่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ ๖๔๖/๒๕๖๐ เร่ือง แต่งต้ังคณะอนุกรรมการ ๑๙๐ จดั ทำ�หลกั สตู ร หรือชดุ การเรยี นรแู้ ละสื่อประกอบการเรยี นรู้ด้านการป้องกนั การทุจรติ - รายช่ือคณะทำ�งานจดั ทำ�หลักสตู รหรอื ชุดการเรียนรแู้ ละสือ่ ประกอบการเรียนรู้ ๑๙๓ ด้านการปอ้ งกนั การทุจรติ กล่มุ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน - รายช่อื คณะบรรณาธิการกิจหลกั สตู รหรือชดุ การเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ ๑๙๖ ดา้ นการป้องกันการทุจรติ กลุ่มการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน - รายช่ือคณะผูป้ ระสานงานการจัดทำ�หลักสตู รหรือชุดการเรยี นรูแ้ ละสื่อประกอบการเรยี นร ู้ ๑๙๘ ดา้ นการปอ้ งกันการทจุ ริต กลุม่ การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน สำ�นกั งาน ป.ป.ช.



โครงสรา้ งรายวิชา ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ลำ�ดับ หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง จำ�นวน ๑. การคิดแยกแยะระหวา่ งผล ชว่ั โมง ประโยชน์สว่ นตนและผล ๑. ของใชส้ ่วนตนและส่วนรวม (ภายในบา้ น,ภายในห้องเรียน) ๑๖ ประโยชน์สว่ นรวม ๑.๑ ความหมายของใช้สว่ นตนและส่วนรวม ๑.๒ การจำ�แนกของใชส้ ว่ นตนและสว่ นรวม ๒. สถานทส่ี ว่ นตนและสว่ นรวม (ภายในบา้ น, ภายในหอ้ งเรยี น) ๒.๑ ความหมายของสถานท่สี ว่ นตนและสว่ นรวม ๒.๒ การจำ�แนกสถานท่ีสว่ นตนและสว่ นรวม ๓. ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม (ภายใน บา้ น, ภายในหอ้ งเรยี น) ๓.๑ ความหมายของผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ สว่ นรวม ๓.๒ การจำ�แนกผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม ๔. ความหมายของระบบคดิ ฐานสองและพฤติกรรมแบบ ระบบคดิ ฐานสอง ๕. สถานการณ์ใกล้ตัว ภายในบา้ นและหอ้ งเรียน ท่ีสอ่ื ถงึ ระบบคดิ ฐานสอง ๖. ยกตวั อย่างพฤติกรรมแบบระบบคดิ ฐานสอง ๗. แยกแยะพฤตกิ รรมที่แสดงออกแบบระบบคิดฐานสอง ๘. การประยกุ ตใ์ ช้ระบบคิดฐานสองในชวี ิตประจ�ำวัน (ภายใน บา้ นและครอบครัว) ๙. ความหมายของระบบคิดฐานสิบ และพฤตกิ รรมของระบบ คดิ ฐานสบิ (ครอบครวั , หอ้ งเรยี น) ๑๐. สถานการณ์ใกลต้ วั ภายในบ้านและครอบครวั ที่สื่อถงึ ระบบคิดฐานสิบ ๑๑. ยกตัวอย่างพฤตกิ รรมแบบระบบคดิ ฐานสบิ ๑๒. แยกแยะพฤติกรรมที่แสดงออกแบบระบบคิดฐานสิบ ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ 1

ล�ำ ดบั หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง จำ�นวน ชว่ั โมง ๒. ความละอายและความไมท่ นต่อ ๑. ความหมายความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ ๖ การทุจรติ ๒. กจิ กรรมภายในห้องเรียน ๒.๑ การเข้าแถว ๒.๒ การทำ�เวร ๒.๓ การเลอื กหวั หน้าห้อง ๓. กิจกรรมท่ีสง่ ผลใหเ้ กิดความละอายและความ ไม่ทนตอ่ การทุจริต ผลด/ี ผลเสีย ๔. แนวทางการปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ ีความละอายและความไม่ทน ตอ่ การทุจรติ ๓. STRONG/จิตพอเพียงตอ่ ต้าน ๑. ความหมายของ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจรติ ๘ การทจุ รติ ๒. กิจกรรมในห้องเรียนทีย่ ึดหลกั STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ ๒.๑ การเลือกต้ังหวั หนา้ ห้อง ๒.๒ การทำ� ความสะอาดหอ้ งเรยี น ๒.๓ การวางรองเทา้ ๒.๔ การประดษิ ฐส์ ่งิ ของจากเศษวัสดุ ๔. พลเมืองกับความรบั ผิดชอบตอ่ ๑. ความหมายของความรับผดิ ชอบ ๑๐ สงั คม ๒. ยกตวั อย่างความรับผิดชอบตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่น ๓. ความรบั ผดิ ชอบทเ่ี กี่ยวกบั ชวี ติ ประจำ� วัน ๓.๑ ภายในบา้ น - การทำ�ความสะอาดบา้ น - การล้างจาน - การรดนำ้ �ต้นไม้ ๓.๒ ภายในห้องเรียน - การวางรองเทา้ - การทำ�ความสะอาดห้องเรยี น - การใชข้ องส่วนรวมในห้องเรียน ๔. ความเปน็ พลเมอื ง ๔.๑ การอยูร่ ว่ มกันในหอ้ งเรียน ๔.๒ ข้อตกลงในห้องเรยี น รวม ๔๐ 2 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การป้องกันการทุจรติ ”

หนว่ ยท่ี ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๑ ช่อื หน่วย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง การคิดแยกแยะ : ของใช้สว่ นตนและส่วนรวม เวลา ๒ ช่วั โมง (ภายในบ้าน, ภายในหอ้ งเรยี น) ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของของใชส้ ว่ นตนได้และของใช้สว่ นรวมได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถจ�ำแนกของใช้ส่วนตนกบั ของใชส้ ่วนรวมได้ (ภายในบา้ น,ภายในห้องเรยี น) ๒.๓ นักเรยี นใชข้ องใช้สว่ นตน และของใชส้ ่วนรวมอยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ของใช้สว่ นตน หมายถงึ ส่งิ ของท่ีใชเ้ ฉพาะบุคคล เชน่ ดนิ สอ แปรงสฟี ัน ผา้ เชด็ หน้า และ ของใชส้ ว่ นรวม หมายถึง สงิ่ ของท่ใี ช้รว่ มกัน เช่น โต๊ะ เก้าอ้ี กระดานดำ� เป็นต้น ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ ๑.๒ การท�ำใบงาน ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ การจำ� แนกของใชส้ ่วนตนและของใช้สว่ นรวม ๓.๓ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ ๑) มคี วามซ่ือสัตย์ ๒) อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี ๑ ๑) ครนู �ำเขา้ สกู่ ิจกรรมโดยใช้คำ� ถาม ดงั นี้ ๑.๑ นกั เรียนรู้จกั ของใชส้ ่วนตนและของใช้ส่วนรวมหรอื ไม่ ๑.๒ ของใช้ส่วนตนของนักเรียนมอี ะไรบ้าง ๑.๓ อะไรทเ่ี ปน็ ของใชส้ ว่ นรวมบ้าง ๑.๔ ในหอ้ งเรียนของเรามีอะไรบา้ งทีเ่ ป็นของใชส้ ว่ นตนและของใช้ส่วนรวม ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 3

๒) ให้นักเรียนแบง่ เปน็ ๒ กลุ่ม กลุ่มท่ี ๑ เป็นกลุ่มทต่ี ้องรวบรวมของใชส้ ่วนตัวในห้องเรียน ให้ได้มากทสี่ ดุ กลมุ่ ท่ี ๒ คือกลมุ่ ที่ต้องรวบรวมของใช้ส่วนรวมในหอ้ งเรยี นใหไ้ ด้มากท่ีสดุ ๓) ครแู ละนักเรียนรวมกนั ตรวจสอบสิ่งของทแ่ี ต่ละกล่มุ รวบรวมมา ๔) ครูให้คำ� นิยามของของใช้สว่ นตวั และของใช้ส่วนรวม ช่ัวโมงที่ ๒ ๑) ครแู จก ใบงานที่ ๑ เรอ่ื งการจดั หมวดหมภู่ าพของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวม ๒) ให้ตัวแทนนักเรียนออกมาน�ำเสนอผลงานการท�ำใบงานหน้าช้ันเรียน ครูและนักเรียน รว่ มกนั สนทนา ๓) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันกำ� หนดข้อตกลงในการใชข้ องใช้สว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม เชน่ ๓.๑ ไม่หยิบของผอู้ น่ื กอ่ นได้รบั อนุญาต ๓.๒ ไม่น�ำของส่วนรวมมาเปน็ ของสว่ นตน ๔) ครฝู ากฝงั นกั เรียนเร่ืองการนำ� ข้อตกลงไปปรับใช้กับการใช้สิง่ ของตา่ ง ๆ ภายในบ้านของตนเอง ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑) ส่ิงของทม่ี ใี นหอ้ งเรียน เช่น โต๊ะ เกา้ อี้ กระดานด�ำ ดินสอ แปรงสีฟนั ผ้าเช็ดหนา้ เป็นต้น ๒) ใบงานที่ ๑ เร่ือง การจัดหมวดหมภู่ าพของใช้สว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจผลงานการทำ� ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การจดั หมวดหมภู่ าพของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวม ๒) สังเกตพฤติกรรมนักเรยี น ๓) การประเมินการทำ� งานกลุ่ม ๕.๒ เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบให้คะแนนการตรวจใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน ๓) แบบประเมนิ การทำ� งานกล่มุ ๕.๓ เกณฑ์การประเมิน ๑) นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ น ๒) นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดขี ้ันไป ถือว่าผ่าน ๖. บันทึกหลงั สอน ......................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................ครูผู้สอน (..............................................) 4 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทจุ รติ ”

๗. ภาคผนวก ภาพของใช้ส่วนตนและของใชส้ ว่ นรวม ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 5

ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง การจัดหมวดหมู่ภาพของใช้ส่วนตนและของใชส้ ว่ นรวม ค�ำชีแ้ จง ให้นักเรียนแยกแยะและจัดหมวดหมู่ภาพของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวม (ภายในบ้าน, หอ้ งเรียน) โดยใหน้ กั เรยี นน�ำภาพมาติด ลงในชอ่ งว่าง ของใชส้ ่วนตน ของใช้ส่วนรวม เกณฑก์ ารประเมิน นกั เรียนไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ถือว่า ผ่าน (ตอบถูก ๘ ข้อขึ้นไป) 6 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเติม การปอ้ งกันการทุจรติ ”

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เรอ่ื ง การแยกแยะของใช้ส่วนตนและของใชส้ ว่ นรวม รายการประเมิน รวม สรุปผล ที่ ช่อื -สกลุ แยกแยะของใช้ แยกแยะของใช้ ๑๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ส่วนตนได้ (๕) สว่ นรวมได้ (๕) คะแนน ลงช่อื ....................................................ผตู้ รวจ (..................................................) เกณฑก์ ารประเมนิ นักเรียนได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน (ตอบถกู ๘ ขอ้ ข้นึ ไป) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ 7

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ช่ือ-สกลุ .........................................................ช้นั ...................ภาคเรียนที่...........ปกี ารศึกษา.................... ค�ำชีแ้ จง ใหก้ าเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับพฤติกรรมท่ีเกิดข้ึนจรงิ ระดบั การปฏบิ ตั ิ (คะแนน) ท่ี ขอ้ ตกลง ปฏบิ ัติ ไม่ปฏบิ ัติ (๕ คะแนน) (๐ คะแนน) ๑ มุ่งมน่ั ต้ังใจ ทำ� งานจนสำ� เรจ็ เสรจ็ ทนั เวลา ๒ ทำ� งานตามคำ� สัง่ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง รวมคะแนน ลงช่ือ.......................................................ผู้ตรวจ (....................................................) เกณฑก์ ารประเมิน ไดค้ ะแนน ๖-๑๐ คะแนน ถอื ว่า ผ่าน ได้คะแนน ๐-๕ คะแนน ถือว่า ไมผ่ า่ น 8 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

แบบประเมนิ การท�ำงานกลุ่ม เรื่อง ................................................................................. รายการประเมิน ท่ี ช่อื กลมุ่ ความ การแสดง ความ การรับฟัง การร่วม รวม รว่ มมอื ความ ต้ังใจ ผอู้ ืน่ ปรับปรุง ๑๐ (๒) คดิ เห็น (๒) (๒) ผลงาน คะแนน (๒) (๒) ลงชอื่ ..................................................ผูต้ รวจ (....................................................) เกณฑ์การประเมิน นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ถอื ว่า ผา่ น ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 9

แบบประเมนิ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ชื่อ-นามสกลุ ผูเ้ รียน....................................................................ช้ัน.............................เลขท่ี..................... ค�ำชแี้ จง ใหค้ รูสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐ ๑. ซื่อสตั ย์ สุจรติ ๑. ใหข้ ้อมูลท่ีถกู ตอ้ งและเปน็ จรงิ ๒. อย่อู ยา่ งพอเพียง ๒. ปฏิบตั ิในสง่ิ ทถ่ี ูกต้อง ๑. ใช้ทรัพย์สินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด ๒. ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า ๓. ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออม คะแนน สรปุ ผลคะแนน ลงช่ือ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (....................................................) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม�่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางครัง้ ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมทไ่ี มป่ ฏิบัต ิ ให้ ๐ คะแนน สรปุ เกณฑก์ ารประเมนิ £ ดีมาก ได ้ ๑๔-๑๕ คะแนน £ ดี ได ้ ๙-๑๓ คะแนน £ พอใช้ ได้ ๔-๘ คะแนน £ ปรบั ปรุง ได ้ ๐-๓ คะแนน 10 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทุจรติ ”

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๑ ชอ่ื หนว่ ย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๒ เร่อื ง การคดิ แยกแยะ : สถานทส่ี ว่ นตน และสว่ นรวม เวลา ๒ ช่วั โมง (ภายในบา้ น, ภายในห้องเรยี น) ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของสถานท่ีส่วนตน และส่วนรวมได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถจ�ำแนกสถานทส่ี ่วนตนและส่วนรวมได้ (ภายในบ้าน,ภายในหอ้ งเรยี น) ๒.๓ นกั เรียนปฏบิ ัตติ นได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสมเมื่ออยใู่ นสถานที่สว่ นตน และสว่ นรวม ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ - สถานทส่ี ว่ นตน หมายถึง สถานที่ทใ่ี ช้เฉพาะบุคคล เชน่ บา้ น หอ้ งนอน - สถานทส่ี ่วนรวม หมายถึง สถานที่ทใ่ี ชร้ ่วมกนั เช่น สวนสาธารณะ ศาสนสถาน เปน็ ต้น ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ ๑.๒ การท�ำใบงาน ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ การแยกแยะสถานทส่ี ่วนตนและสว่ นทสี่ ่วนรวม ๒.๒ การสรุปความหมายของสถานทส่ี ่วนตนและสถานท่ีสว่ นรวม ๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ๑) มวี ินัย รับผดิ ชอบ ๒) มีความซ่ือสตั ย์ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี ๑ ๑) ครตู ง้ั ค�ำถามเพือ่ ทบทวนความรูข้ องนกั เรียนเกีย่ วกับสง่ิ ท่เี รยี นมาแลว้ ดังนี้ ๒.๑ ของใชส้ ่วนตนหมายถงึ อะไร เราควรใช้ของใชส้ ว่ นตนอยา่ งไร ๒.๒ ของใช้สว่ นรวมหมายถงึ อะไร เราควรใชข้ องใชส้ ว่ นรวมอย่างไร ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 11

๒) ครูเปิดเพลง “เพลง ๕ ส.” ใหน้ กั เรยี นฟงั แล้วสนทนารว่ มกนั เกย่ี วกับเน้ือหาของเพลง เช่น ๒.๑ ในบทเพลงพ่ี ๆ เขาท�ำความสะอาดห้องอะไรกนั บา้ ง ๒.๒ ใน ๑ วนั นกั เรียนต้องอยู่ท่ไี หนบา้ ง ๒.๓ หากเรากินข้าวท่ีบา้ นเราต้องไปท่ีห้องไหน ๒.๔ หากเราตอ้ งการนอนท่ีบา้ นเราต้องไปทหี่ ้องไหน ๒.๕ หากต้องการความรู้ อยากเจอครู เราตอ้ งมาทหี่ อ้ งไหน ๓) ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ๆ ละ ๕-๖ คน จากน้นั ครอู ธิบายความหมายของสถานท่ีส่วนตน และสถานทสี่ ว่ นรวม พรอ้ มยกตวั อยา่ งชอื่ สถานทต่ี า่ ง ๆ รอบตวั เชน่ หอ้ งนอนทบ่ี า้ น เปน็ สถานทสี่ ว่ นตน ห้องเรยี น เป็นสถานท่สี ่วนรวม ๔) ครทู �ำบตั รภาพสถานทตี่ ่าง ๆ ภายในบ้าน และห้องเรยี น จำ� นวน ๕ ชดุ ชดุ ละ ๖ ภาพ ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ จ�ำแนกสถานทส่ี ่วนรวมและสถานทส่ี ว่ นตนจากบัตรภาพ ๕) นักเรยี นและครูรว่ มเฉลยกจิ กรรมบตั รภาพ ๖) นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปความหมายของสถานทส่ี ว่ นตนและสถานท่ีสว่ นรวม ช่วั โมงที่ ๒ ๑) นกั เรียนท�ำใบกิจกรรมที่ ๑ การแยกแยะสถานท่สี ว่ นตนและสถานทส่ี ว่ นรวม ๒) ใหน้ กั เรยี นสง่ ตวั แทนออกมานำ� เสนอผลงานการทำ� ใบงานท่ี ๑ หนา้ ชน้ั เรยี น และสนทนา รว่ มกนั ๓) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั หาข้อตกลง ในการปฏิบตั ิตนเม่อื อยู่ในสถานท่สี ว่ นตนและสถาน ที่ส่วนรวม ๔) ครูทบทวนความหมายของสถานที่ส่วนตน และสถานที่ส่วนรวม และฝากฝังเร่ืองการ ปฏิบัติตนเมื่ออยใู่ นสถานทีส่ ่วนตนและสถานทีส่ ว่ นรวม ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑) เพลง “๕. ส ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=Epb-82_nA44 ๒) บตั รภาพ ๓) ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การแยกแยะสถานทส่ี ่วนตนและสถานทีส่ ว่ นรวม ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ๑) ตรวจผลงานการท�ำใบงานท่ี ๑ เร่ือง การแยกแยะสถานทีส่ ่วนตนและสถานทส่ี ่วนรวม ๒) การสงั เกตพฤติกรรมการท�ำงาน ๓) การประเมินการท�ำงานกลุ่ม 12 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทจุ รติ ”

๕.๒ เครอื่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบตรวจผลงานใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ๓) แบบประเมินการทำ� งานกลุ่ม ๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น ๖. บันทึกหลงั สอน ........................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ................................................ครูผู้สอน (.................................................) ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 13

๗. ภาคผนวก ภาพสถานทตี่ ่าง ๆ ภายในบา้ น 14 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพม่ิ เติม การป้องกนั การทจุ รติ ”

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 15

ภาพสถานทีต่ า่ ง ๆ ในโรงเรยี น 16 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทจุ ริต”

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ 17

เพลง “๕ ส” แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=Epb-82_nA44 18 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพมิ่ เติม การป้องกันการทจุ รติ ”

ใบงานที่ ๑ เรือ่ ง การแยกแยะสถานท่สี ว่ นตนและสถานท่ีส่วนรวม (ภายในบ้าน, หอ้ งเรยี น) ค�ำชีแ้ จง ให้นักเรยี นวาดภาพใหต้ รงตามหวั ขอ้ สถานท่สี ่วนตน หมายถึง สถานท่ที ี่ใช้เฉพาะ สถานทส่ี ว่ นรวม หมายถึง สถานทท่ี ่ีใชร้ ว่ มกัน บคุ คล เช่น หอ้ งน�้ำในบ้าน หอ้ งนอน เชน่ ห้องเรยี น โรงอาหาร ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ 19

แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เรือ่ ง การแยกแยะสถานท่ีส่วนตนและสถานทส่ี ่วนรวม รายการประเมิน รวม สรปุ ผล ที่ ชือ่ -สกุล แยกแยะของใช้ แยกแยะของใช้ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน ส่วนตนได้ (๕) สว่ นรวมได้ (๕) คะแนน ลงชอื่ ....................................................ผ้ตู รวจ (..................................................) เกณฑก์ ารประเมิน นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ถอื ว่า ผ่าน 20 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การปอ้ งกนั การทุจริต”

แบบสังเกตพฤติกรรมการท�ำงาน ชอ่ื -สกุล.........................................................ช้ัน...................ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศกึ ษา.................... ค�ำช้แี จง ใหก้ าเคร่อื งหมาย  ลงในช่องว่างทีต่ รงกับพฤตกิ รรมท่ีเกิดขึน้ จริง ระดบั การปฏบิ ตั ิ (คะแนน) ท่ี ขอ้ ตกลง ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ (๕ คะแนน) (๐ คะแนน) ๑ มงุ่ มั่น ต้งั ใจ ท�ำงานจนส�ำเรจ็ เสรจ็ ทนั เวลา ๒ ท�ำงานตามคำ� สั่งได้อย่างถกู ต้อง รวมคะแนน ลงชอื่ .......................................................ผู้ตรวจ (....................................................) เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนน ๖-๑๐ คะแนน ถือว่า ผา่ น ไดค้ ะแนน ๐-๕ คะแนน ถอื ว่า ไม่ผ่าน ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 21

แบบประเมินการท�ำงานกลุ่ม เรอ่ื ง การแยกแยะสถานทสี่ ่วนตนและสถานทีส่ ่วนรวม รายการประเมิน ที่ ช่อื กลุ่ม ความ การแสดง ความ การรับฟงั การรว่ ม รวม รว่ มมอื ความ ต้งั ใจ ผูอ้ ืน่ ปรับปรงุ ๑๐ (๒) คิดเหน็ (๒) (๒) ผลงาน คะแนน (๒) (๒) ลงชือ่ ..................................................ผตู้ รวจ (....................................................) เกณฑ์การประเมนิ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือว่า ผา่ น 22 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เติม การปอ้ งกันการทุจริต”

แบบประเมนิ ลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ-นามสกลุ ผู้เรียน....................................................................ชน้ั .............................เลขที่..................... ค�ำชี้แจง ให้ครูสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ดา้ น ๑. ปฏิบัตติ นตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ในการใช้ ๓๒๑๐ ๑. มวี ินยั รับผิดชอบ สถานท่สี ว่ นตนและส่วนรวม ๒. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต ๑. ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจริง ๒. ปฏบิ ตั ใิ นสิง่ ท่ีถกู ต้อง ๓. ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออม คะแนน ลงชอ่ื .....................................................ผู้ประเมิน (....................................................) เกณฑ์การให้คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและสมำ�่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างครงั้ ให้ ๑ คะแนน พฤตกิ รรมทไ่ี มป่ ฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน สรปุ เกณฑ์การประเมิน £ ดมี าก ได ้ ๘-๙ คะแนน £ ด ี ได ้ ๖-๗ คะแนน £ พอใช้ ได ้ ๓-๕ คะแนน £ ปรับปรุง ได้ ๐-๒ คะแนน ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ 23

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๑ ชอ่ื หน่วย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอื่ ง การคิดแยกแยะ : ผลประโยชนส์ ่วนตน เวลา ๒ ชว่ั โมง และผลประโยชนส์ ่วนรวม (ภายในบ้าน, ภายในหอ้ งเรยี น) ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารจำ� แนกผลประโยชนส์ ว่ นตน และผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ (ภายในบา้ น, ภายใน ห้องเรียน) ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ - ผลประโยชน์ส่วนตน หมายถงึ การคำ� นงึ ถึงตัวเอง ความต้องการส่วนบคุ คล - ผลประโยชน์ส่วนรวม หมายถึง การคำ� นึงถึงบุคคลอน่ื มากกว่าตนเอง ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร ๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ ๑.๒ การท�ำใบงาน ๒) ความสามารถในการคิด ๒.๑ การคดิ แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ๓.๓ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ๑) มีความซื่อสตั ย์ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ ๑ ๑) ครูน�ำเข้าสกู่ ิจกรรมโดยใชค้ ำ� ถามเพ่ือทบทวนเกย่ี วกบั เร่อื งที่เรยี นมาแลว้ ดังนี้ ๑.๑ ของใชส้ ่วนตนหมายถึงอะไร ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง ๑.๒ ของใชส้ ่วนรวมหมายถงึ อะไร ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง ๑.๓ สถานทีส่ ว่ นตนหมายถึงอะไร ไดแ้ ก่อะไรบ้าง 24 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

๑.๔ สถานที่ส่วนรวมหมายถงึ อะไร ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง ๒) ครูตั้งค�ำถามเพ่อื เข้าสบู่ ทเรียน เช่น ๒.๑ นกั เรยี นเคยถกู แซงคิวเวลาไปส่งการบ้านไหม ๒.๒ นกั เรียนรู้สกึ อยา่ งไรเม่ือถกู แซงควิ ๒.๓ นักเรียนคดิ ว่าเราควรแซงควิ ผอู้ ่ืนหรือไม่ ๓) ครใู หค้ ำ� นิยามของค�ำวา่ ผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชนส์ ่วนรวม ๔) ครูให้นักเรียนท�ำใบงานที่ ๑ เร่ือง การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ สว่ นรวม ชว่ั โมงท่ี ๒ ๑) ใหน้ กั เรยี นออกมานำ� เสนอผลงานการท�ำใบงานหน้าชัน้ เรยี น ๒) นำ� ผลงานการแยกแยะผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั สว่ นรวมตดิ บอรด์ ประชาสมั พนั ธช์ น้ั เรยี น เพือ่ เผยแพรใ่ ห้เพ่อื นชัน้ เรยี นอนื่ ๆ ได้ศึกษา ๓) ครใู หค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมเพอื่ เปน็ การเพม่ิ เตมิ ความรู้อีกคร้งั หนึ่ง ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ ใบงานที่ ๑ เร่ือง การแยกแยะผลประโยชนส์ ่วนตนกับผลประโยชนส์ ่วนรวม ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ตรวจผลงานการท�ำใบงาน ๕.๒ เครื่องมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน แบบตรวจให้คะแนนใบงาน ๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน ๖. บันทึกหลังสอน ........................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน (.................................................) ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ 25

๗. ภาคผนวก ใบงานที่ ๑ เรื่อง การแยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม wค�ำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นทำ� เครอ่ื งหมายO หนา้ ขอ้ การกระทำ� ทเี่ ปน็ ประโยชนส์ ว่ นตนและทำ� เครอื่ งหมาย  หนา้ ข้อการกระทำ� ทเี่ ป็นประโยชนส์ ่วนรวม £ ๑. การแซงคิวเพือ่ น เพอื่ สง่ การบ้าน £ ๒. วางของเกะกะโต๊ะเพ่อื น £ ๓. ไม่แบ่งของเล่นใหเ้ พ่อื น £ ๔. ไมท่ �ำเวรห้อง £ ๕. เปิดน�ำ้ และไฟทบี่ า้ นทิง้ ไว้ £ ๖. ช่วยครู และเพื่อนนำ� ถงั ขยะไปทงิ้ £ ๗. ชว่ ยครู และเพอื่ นจดั วางรองเทา้ £ ๘. ใสเ่ สอื้ ชดุ นกั เรยี น และชดุ พละตรงกับวนั ทนี่ ดั หมาย £ ๙. ไมแ่ กลง้ ไม่ล้อเลียนเพือ่ น £ ๑๐. จดั โต๊ะเรยี นให้เป็นระเบียบ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ข้อละ ๑ คะแนน (ตอบถกู ๘ ข้อขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น) 26 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”

แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เร่อื ง การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม บอกผลประโยชน์ สรปุ ผล ส่วนตนและผลประโยชน์ รวม ที่ ชอื่ -สกลุ ส่วนรวมได้ ๑๐ (๑๐ ข้อ ๆ ละ คะแนน ผา่ น ไมผ่ ่าน ๑ คะแนน) ลงชอ่ื ....................................................ผตู้ รวจ (..................................................) เกณฑ์การประเมิน นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป ถอื ว่า ผา่ น ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 27

แบบประเมินลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชือ่ -นามสกลุ ผู้เรยี น....................................................................ชน้ั .............................เลขท่ี..................... ค�ำชแี้ จง ใหค้ รูสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ดา้ น ๓๒๑๐ ๑. ซือ่ สตั ย์ สุจริต ๑. ใหข้ ้อมลู ทถ่ี กู ต้อง และเปน็ จริง ๒. ปฏิบัตใิ นส่งิ ที่ถกู ตอ้ ง คะแนน สรุปผลคะแนน ลงช่อื .....................................................ผู้ประเมนิ (....................................................) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ�่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน พฤตกิ รรมท่ไี ม่ปฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน สรปุ เกณฑ์การประเมนิ £ ดมี าก ได ้ ๕-๖ คะแนน £ ด ี ได ้ ๓-๔ คะแนน £ พอใช ้ ได ้ ๑-๒ คะแนน £ ปรับปรุง ได้ ๐ คะแนน 28 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิม่ เติม การป้องกันการทจุ ริต”

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ ๑ ชอื่ หนว่ ย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๔ เร่อื ง ระบบคิดฐานสอง : ความหมายของระบบคดิ ฐานสอง เวลา ๒ ชว่ั โมง และพฤติกรรมแบบระบบคิดฐานสอง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายระบบคดิ ฐานสองได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถบอกพฤติกรรมที่แสดงออกแบบระบบคดิ ฐานสองได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ “ระบบคิดฐานสอง (Digital)” เป็นระบบคิดท่ีสามารถแยกเรื่องประโยชน์ส่วนตนและผล ประโยชน์ส่วนรวมออกจากกนั ไดอ้ ยา่ งชัดเจน ไม่นำ� มารวมกัน สิง่ ไหนถกู ส่ิงไหนผดิ สิ่งไหนท�ำไดส้ ง่ิ ไหน ทำ� ไมไ่ ด้ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมยอ่ มสำ� คญั กวา่ ผลประโยชนส์ ว่ นตน ควรยดึ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมเปน็ หลกั ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ ๑.๒ การดวู ดี ีโอ ๒) ความสามารถในการคิด การบอกพฤติกรรมทแี่ สดงออกแบบระบบคิดฐานสอง ๓.๓ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ ๑ ๑) ครนู �ำเสนอวดี ีโอ เรือ่ ง หยิบ มาใหน้ ักเรยี นดู และร่วมกนั สนทนา โดยใชค้ �ำถาม ดงั นี้ ๑.๑ จากเรือ่ งที่นักเรียนดเู กิดขึน้ ทีไ่ หน และมตี วั ละครใดบ้าง ๑.๒ นักเรยี นชอบตวั ละครตวั ไหน เพราะอะไร ๑.๓ นักเรียนอยากเป็นเหมือนตัวละคร (นักเรยี นในคลิป) นั้นไหม เพราะอะไร ๒) ครเู ขยี นความหมายของระบบคิดฐานสองบนกระดาน ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ 29

๓) ครอู า่ นความหมายของระบบคดิ ฐานสองอยา่ งชา้ ๆ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อา่ นพรอ้ มกนั ๔) นักเรียนและครูร่วมกันสนทนา พร้อมยกตัวอย่างพฤติกรรมที่แสดงออกของระบบคิด ฐานสองและจดบนั ทึกตัวอย่างพฤติกรรมที่นักเรียนไดแ้ สดงความคดิ เหน็ บนกระดาน เช่น ปดิ น้�ำทุกครง้ั หลงั จากใชง้ าน, ไม่ทง้ิ ขยะในสนาม เปน็ ต้น ๕) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ ๔-๕ คน จากนั้นแจกกระดาษวาดภาพให้นักเรียนกลุ่มละ ๑ แผน่ พร้อมสไี ม้ ๖) ให้นักเรียนร่วมกันวาดภาพพฤติกรรมที่แสดงออกถึงระบบการคิดฐานสอง กลุ่มละ ๑ ภาพ พร้อมทงั้ ระบายสใี ห้สวยงาม ช่วั โมงที่ ๒ ๑) ครูทบทวนความรู้เกี่ยวกับความหมายและพฤติกรรมท่ีแสดงออกของระบบคิดฐานสอง ทเ่ี รยี นไปในช่ัวโมงทแี่ ลว้ ๒) ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำ� เสนอหนา้ ช้ันเรียน และสนทนารว่ มกัน ๓) ครูยกตัวอย่างสถานการณเ์ กี่ยวกบั ระบบการคดิ ฐานสอง ให้นกั เรยี นฟัง พรอ้ มใช้ค�ำถาม และสนทนารว่ มกนั ดงั นี้ เด็กหญิงพอเพียงเด็ดดอกไม้ในสวนหย่อมหน้าโรงเรียนน�ำไปให้ครูประจ�ำช้ันทุกวัน การกระทำ� ของเดก็ หญิงพอเพียงถกู หรอื ไม่ เพราะอะไร (ถูก เพราะดอกไมอ้ ยู่ในโรงเรียนใครจะเดด็ กไ็ ด้ , ไม่ถกู เพราะดอกไม้เปน็ ของส่วนรวมไม่ควรเด็ด) ๔) ใหน้ กั เรียนท�ำใบงานท่ี ๑ เร่อื ง หนนู อ้ ย...คดิ ฐานสอง ๕) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ องค์ความร้ใู นสง่ิ ท่ีเรยี นเพื่อเพิม่ เตมิ ความรู้ ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ ๑) วดี โี อ เรอื่ ง หยบิ ๒) กระดาษวาดภาพ ๓) สีไม้ ๔) ใบงานท่ี ๑ เร่อื ง หนูน้อย...คิดฐานสอง 30 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เติม การป้องกนั การทุจริต”

๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) ตรวจใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ นกั เรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถอื ว่า ผ่าน ๖. บันทึกหลังสอน ........................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................. ................................................... .............................................................................................................. ............................................................................ ..................................................................................... .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ลงช่อื ................................................ครผู ู้สอน (.................................................) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ 31

๗. ภาคผนวก ใบงานที่ ๑ เร่อื งหนูนอ้ ย...คิดฐานสอง ค�ำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นบอกพฤติกรรมทีแ่ สดงออกของระบบคดิ ฐาน ๒ ที่พบเหน็ ภายในห้องเรียน หนจู ะ ..................... 32 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพมิ่ เติม การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”

แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขท่ี ชือ่ -สกุล คะแนนที่ได้ สรปุ ผล สรปุ (๑๐ ค�ำแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน ๑ ๒ ลงช่อื .........................................ผตู้ รวจ ๓ (........................................) ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนรวม ๘ คะแนนข้ึนไป ถอื ว่า ผ่าน (ข้อละ ๒ คะแนน) ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 33

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ชอื่ นกั เรยี น................................................................ชั้น..............ภาคเรยี นท่ี...........ปีการศึกษา.............. ค�ำชี้แจง การบันทึกใหใ้ สเ่ ครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรมท่เี กดิ ข้นึ จริง ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ ประจ�ำ ระดับการปฏิบัติ ไม่ท�ำเลย/ (๓) บางครงั้ น้อยครง้ั ไม่ชัดเจน (๒) (๑) (๐) ๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ท่กี ารงาน ๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัตหิ น้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ๓ ทำ� งานด้วยความเพียรพยายาม ๔ รู้จักแกป้ ญั หาในการท�ำงานเมื่อมอี ปุ สรรค ๕ อดทนเพอื่ ให้งานส�ำเร็จตามเป้าหมาย ๖ ปรับปรุงและพัฒนาการท�ำงานให้ดขี ึน้ ด้วยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ ลงชื่อ............................................ผู้ประเมนิ (..........................................) เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การตัดสิน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมิน ข้อใดข้อหน่ึง ระดบั คุณภาพ ต�่ำกวา่ ๒ คะแนน ดเี ยยี่ ม ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมิน ข้อใดขอ้ หนง่ึ ต่ำ� กว่า ๐ คะแนน ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมิน ขอ้ ใดข้อหน่ึง ตำ่� กว่า ๐ คะแนน ผ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน ไมผ่ ่าน 34 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิม่ เตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”

แบบประเมินลักษณะอนั พึงประสงค์ ชือ่ -นามสกุลผู้เรยี น....................................................................ชนั้ .............................เลขที่..................... ค�ำช้ีแจง ให้ครสู งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น ๓๒๑๐ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๑. ใช้ทรัพยส์ ินและส่ิงของโรงเรยี นอย่างประหยัด ๒. ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คณุ คา่ ๓. ใชจ่ ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ ๔. ไมเ่ ห็นแกต่ ัว คะแนน สรปุ ผลคะแนน ลงช่อื .....................................................ผปู้ ระเมนิ (....................................................) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและสม�ำ่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบางคร้ัง ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมที่ไม่ปฏิบตั ิ ให้ ๐ คะแนน สรุปเกณฑก์ ารประเมิน £ ดมี าก ได้ ๑๐-๑๒ คะแนน £ ด ี ได้ ๗-๙ คะแนน £ พอใช ้ ได้ ๔-๖ คะแนน £ ปรบั ปรุง ได ้ ๐-๓ คะแนน ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ 35

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ ๑ ช่อื หนว่ ย การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๕ เรอ่ื ง ระบบคิดฐานสอง : สถานการณใ์ กล้ตวั เวลา ๒ ชวั่ โมง (ภายในบา้ น, หอ้ งเรยี น) ทส่ี อ่ื ถงึ ระบบคดิ ฐานสอง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๑.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมแบบระบบคดิ ฐานสอง จากสถานการณใ์ กลต้ วั (ภายใน บา้ น, ห้องเรยี น) ได้ ๒.๒ นกั เรยี นแยกแยะพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกถงึ ระบบคดิ ฐานสอง จากสถานการณใ์ กลต้ วั (ภายใน บ้าน, หอ้ งเรียน) ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ “ระบบคิดฐานสอง (Digital)” เป็นระบบคิดท่ีสามารถแยกเร่ืองประโยชน์ส่วนตนและผล ประโยชนส์ ว่ นรวมออกจากกนั ไดอ้ ยา่ งชดั เจน สามารถแยกแยะพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกของระบบคดิ ฐาน ๒ เชน่ ไมน่ �ำไม้กวาดของโรงเรียนไปใช้ท่ีบา้ น, ทง้ิ ขยะลงในถงั ขยะ, ปดิ น�ำ้ ทกุ คร้งั หลังจากเลิกใช้ เป็นตน้ ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ๑.๑ การสนทนาถาม-ตอบ ๑.๒ การท�ำใบงาน ๒) ความสามารถในการคดิ การแยกแยะพฤติกรรมท่แี สดงออกของระบบคิดฐาน ๒ ๓.๓ คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ อย่อู ยา่ งพอเพียง ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ ๑ ๑) ครูน�ำเขา้ กิจกรรมด้วยการบริหารสมองโดยใช้กจิ กรรม Brain Gyms เพลง มอื ตัก ตัก มือ ๒) ครูทบทวนเกี่ยวกับความหมายและพฤติกรรมท่ีแสดงออกของระบบคิดฐานสอง ท่ีได้ เรยี นไปเมอ่ื ช่ัวโมงท่ีแลว้ 36 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพิ่มเตมิ การป้องกนั การทจุ รติ ”

๓) ครนู ำ� ภาพ ๒ ภาพ (ภาพท่ี ๑ การยนื เข้าแถวของอยา่ งเป็นระเบยี บ , ภาพท่ี ๒ การแซง ควิ ) มาใหน้ ักเรยี นดูแลว้ สนทนารว่ มกัน โดยใชค้ �ำถาม ดงั น้ี ๓.๑ วา่ ภาพท่นี กั เรยี นเห็นน้เี ป็นภาพอะไร ๓.๒ พฤตกิ รรมท่แี สดงออกเปน็ อย่างไร ๓.๓ นกั เรียนคดิ ว่าภาพใดควรปฏบิ ัติ และภาพใดไมค่ วรปฏบิ ัติ ๓.๔ ภาพใดส่ือถงึ ระบบการคิดฐานสอง ๔) ครใู หน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมท่ีแสดงของระบบคิดฐานสอง ภายในหอ้ งเรยี น แลว้ เขียนลงบนกระดาน เช่น ๔.๑ ไมน่ ำ� ไม้กวาดของห้องเรยี นไปใชท้ ี่บ้าน ๔.๒ ไม่หยิบของเลน่ ในหอ้ งเรยี นกลับไปเล่นทบี่ า้ น โดยไม่ไดร้ ับอนญุ าตจากครู ๔.๓ เข้าแถวสง่ งานครูอยา่ งเปน็ ระเบียบ ๔.๔ ไม่ท้ิงขยะไว้ใตโ้ ตะ๊ เรียน ๕) ครูให้นกั เรียนทำ� ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง คดิ ...คิด...คิด โดยให้บอกพฤตกิ รรมใดเปน็ ระบบคิด ฐานสอง ชั่วโมงที่ ๒ ๑) ครสู มุ่ นกั เรยี นเพอื่ ออกมานำ� เสนอหนา้ ชน้ั เรยี น และรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกบั การนำ� เสนอ ๒) ครแู จกรปู สตกิ๊ เกอรด์ าวสแี ดง และดาวสเี ขยี ว ใหก้ บั นกั เรยี นคนอยา่ งละ ๑ อนั ๓) ครูจัดทำ� ภาพทแ่ี สดงพฤตกิ รรมระบบคดิ ฐานสอง จ�ำนวน ๑ ภาพ มาติดบนกระดาน ๔) ให้นักเรียนน�ำรูปสติ๊กเกอร์ดาวท่ีได้รับไปมาติดบนกระดาน โดยถ้าคิดว่าเป็นตรง พฤติกรรมระบบคิดฐาน ๒ ให้ติดดาวสีเขียว และถ้าคิดว่าไม่ใช่ระบบคิดฐานสอง ให้ติดดาว สแี ดง (ให้นักเรียนติดดาวไดเ้ พยี งดวงเดยี วเทา่ นน้ั ) ๕) จากนน้ั ครนู บั จำ� นวนดาวแตล่ ะสวี า่ มจี ำ� นวนเทา่ ใด พรอ้ มทงั้ อธบิ ายถงึ การตดิ ดาวแตล่ ะ ดวง วา่ ดาวสแี ดงคอื ไมใ่ ชพ่ ฤตกิ รรมระบบคดิ ฐานสอง สว่ นดาวสเี ขยี วคอื พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกของระบบ การคิดฐานสอง ๖) ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนว่าสามารถแยกแยะภาพได้หรือไม่ ว่าภาพท่ีเห็นเป็น ระบบการคิดฐานสอง หรือไม่ใชร่ ะบบการคดิ ฐานสอง ๗) ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้เรือ่ งพฤตกิ รรมตัวอยา่ งระบบการคิดฐานสอง ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ ๑) เพลงมอื ตัก ตัก มือ จาก https://www.youtube.com/watch?v=YCmjhLOXtzA ๒) ภาพการยืนเข้าแถวซอื้ ของอยา่ งเป็นระเบยี บ และการแซงคิวซ้ือของ ๓) ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง คิด...คดิ ...คดิ ๔) สตก๊ิ เกอร์ดาวสแี ดง, สเี ขยี ว ๕) แผ่นภาพท่ีแสดงพฤติกรรมระบบคิดฐานสอง ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ 37

๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ๑) ตรวจใบงาน ๒) สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๕.๒ เครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน ๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมิน นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่าน ๖. บันทกึ หลงั สอน ........................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ลงช่ือ................................................ครูผูส้ อน (.................................................) 38 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกันการทจุ รติ ”

๗. ภาคผนวก เพลงมอื ตกั ตัก มือ Brain Gym for kid Brain Based Learning มอื ตกั ตกั มือ ตกั ตกั มอื ขวา ซา้ ย ขวา ซ้ายมอื ตกั ตัก มอื ขวา ซ้าย ขวา ซา้ ยมอื ตัก ตกั มอื มอื หมุน หมุน มือ ตกั ตกั มอื มอื หมนุ หมุน มือ ตัก ตกั มือ มือ ศอก ศอก มือ ตัก ตัก มอื มือ ศอก ศอก มือ ตัก ตกั มือ มอื ไหล่ ไหล่ มือ ตกั ตัก มือ มอื ไหล่ ไหล่ มอื ตกั ตัก มอื มอื เพื่อน เพ่อื น มือ ตกั ตัก มือ มือ เพอื่ น เพื่อน มอื แหลง่ ข้อมลู : https://www.youtube.com/watch?v=YCmjhLOXtzA ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ 39

ภาพการยืนเข้าแถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ ภาพการแซงคิว 40 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกนั การทุจรติ ”

ตวั อย่างสติ๊กเกอรด์ าว ดาวสีแดง ดาวสเี ขยี ว ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ 41

ใบงานท่ี ๑ เร่อื งคดิ ...คิด...คิด ค�ำชแ้ี จง ให้นักเรียนระบายสีเขียวลงใน ให้ตรงกับข้อความพฤติกรรมการแสดงออกของระบบคิด ฐานสอง และระบายสีแดงใน ตรงกบั ข้อความพฤติกรรมที่ไม่ใช่ระบบคดิ ฐานสอง ปดิ กอ๊ กนำ�้ ทกุ คร้งั หลงั ใช้งาน ไม่หยิบของเล่นในหอ้ งไปเล่นท่ีบา้ น เขา้ แถวรอสง่ การบา้ น ทง้ิ ขยะลงในถังขยะ ไม่เกบ็ ทนี่ อน ปิดพดั ลมทุกคร้ังหลงั ออกจากห้องเรียน ไม่เอาไม้กวาดของห้องเรยี นไปใช้ทบ่ี ้าน เอาแท็บเลต็ ของตนเองมาชาร์ททโ่ี รงเรยี น ไม่น�ำกบเหลาดินสอของห้องเรียนไปใช ้ ไมน่ �ำกระดาษของหอ้ งเรยี นไปใช้งานส่วนตัว ท่ีโตะ๊ ตนเอง ช่ือ...............................................................................ชั้น......................เลขท่ี.............. 42 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การปอ้ งกันการทุจรติ ”

แบบการให้คะแนนการตรวจผลงาน เลขท่ี ชือ่ -สกุล คะแนนท่ไี ด้ สรุปผล สรปุ (๑๐ ค�ำแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ ๒ ลงช่ือ.........................................ผตู้ รวจ ๓ (........................................) ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ เกณฑก์ ารประเมิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไปถือว่า ผ่าน (ตอบถูก ๘ ขอ้ ) ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook