Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Noh

Published by Kachornpon, 2017-01-06 02:13:43

Description: “ละครโน (Noh)”_13580207_ธนพงษ์-ยิ่งยง_ออกแบบ

Search

Read the Text Version

ค�ำ น�ำ Pocket book เล่มนเี้ ป็นส่วนหนึง่ ของรายวิชา อารยธรรมโลก (World Civiliza-tion) จดุ ประสงค์เพือ่ ถา่ ยทอดความร้เู กยี่ วกับ “ละครโน (Noh)” ซ่ึงเป็นละครทเี่ กา่ แก่ในประเทศญ่ปี ่นุ สิง่ ท่ีละครนี้แตกต่างละครอน่ื ๆ ตรงที่เวลาดูละครโน คนดจู ะไดร้ ับความอ่มิ เอมใจร้สู กึ ได้รับความสุขสงบกลับไป เนื่องมาจากตัวละคร ถ่ายทอดจากค�ำ สอนของพทุ ธศาสนาออกมา และในปัจจุบันทางประเทศญปี่ ุน่ ได้เริ่มให้ความส�ำ คัญกับละครโน ไดท้ ำ�เป็นแหลง่ท่องเทีย่ วต่างๆ และประยุกต์ศิลปะปัจจบุ นั เข้าไปในตัวละครนอ้ี กี ดว้ ย สดุ ท้ายนี้ขอขอบคณุ ทุกเวบ็ ไซตแ์ ละทดุ หนังสอื ทนี่ �ำ ข้อมลู ของละครโน มาใชใ้ นหนังสอื เล่มน้ี ขอใหผ้ ทู้ ี่ได้อา่ นหนงั สือเล่มน้ไี ดร้ ับความรู้ แล้วสามารถน�ำ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ�วันกนั ทกุ คน ธนพงษ์ ยงิ่ ยง



สารบัญ 1 6ความเป็นมาของ ละครโน 11เวทขี องละครโน 16เนอ้ื หาและบทบาทของตวั ละคร 21เทคนคิ การแสดงของละครโน 26ดนตรีและการขบั ร้องของละครโน 31หน้ากากผู้หญิงอาโออิ 34หนา้ กากกลองสแี ดงเข้ม 39หน้ากากฮาโกโรโมะ 42ซยู กู ิ ซึซึ 47มัตซึคาเซ ลมในไพน์ 50โคมาชิ ที่ ซคิ ดิ ลิ า 55นกั เลงสรุ า 59ชมละครโนห์ เมอื งนาโกยา่บรรณานุกรม



บทที่ 1ความเป็นมาของ ละครโน 1

能 NOHละครโน (Noh) เปน็ ศิลปะการแสดงของญป่ี นุ่อาจกล่าวได้ว่าละครโนท่ีแสดงในปัจจุบันนั้นเร่มิ ตน้ ขนึ้ เม่ือประมาณ 600 ปีกอ่ น ละครโนมีต้นกำ�เนิดมาจากการแสดงเบ็ดเตล็ดของจีนท่ี เรยี กว่า ซังงะกุ (Sangaku) ซึง่ รับมาจากประเทศจีนตั้งแตส่ มยั นารา (Nara jida) เมื่อค.ศ. 710-784 จากน้นั ก็พฒั นาเป็นการแสดงซะรงุ ะกุ (Sarugaku) 2

ในสมัยเฮอัน (Heian jidai) เมอื่ ค.ศ. 784-1184 โดยในสมัยน้ีเรม่ิ มกี ารนำ�ดนตรีและการร่ายร�ำ มาร่วมแสดงต่อมาการแสดงซะรงุ ะกุได้ผสมผสานกบั การแสดงเด็งงะกุ (Dengaku)ซึ่งเป็นการแสดงที่มีมาแต่เดิมของญี่ปุ่นและยังได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนามาผสมผสานอกี ด้วยตอ่ มาในสมัยมโุ ระมะชิ (Muromachi jidai ; ค.ศ. 1185-1333) การแสดงซะรงุ ะกไุ ดร้ ับการพฒั นาโดยสองพอ่ ลูก ซ่งึ เปน็ นกั แสดงและผ้แู ตง่ บทละครโน คือ คันอะมิ (Kan’ami ; ค.ศ.1333 – 1384) และเสะอะมิ (Zeami ; ค.ศ. 1363-1443) โดยการพัฒนานนั้ เพม่ิ ความประณตี งดงาม จนทำ�ให้ศิลปะการแสดงนจ้ี ากทเ่ี ดิมทเี ป็นการแสดงในระดบั ชาวบา้ น ได้กลายเป็นศิลปะการแสดงชนั้ สูงและของชนชน้ั ขุนนางเม่อื เขา้ สูส่ มัยเอะโดะ (Edo jidai ; ค.ศ. 1600-1868) การแสดงซะรุงะกุถกู เปลีย่ นชื่อเปน็ฌินซะรุงะกุ (Shin sarugaku ) และเปน็ ซะรุงะกโุ นะโน (Sarugaku no nou) ก่อนจะเปล่ยี นชื่อเป็นโนงะกุ (Nougaku) ในสมยั เมจิ (Meiji jidai ; ค.ศ.1868-1912) โดยโนงะกุเป็นช่ือเรียกรวมของการแสดงละครโนและเคยี วเงน็ (Kyogen)ละครโนเนน้ บทรอ้ งและการร่ายร�ำ มากกว่าใหค้ วามส�ำ คญั กับเน้ือเรื่อง โดยบทขบั ร้องในละครโนเรียกว่า โยเกียวกุ (Youkyoku) ซึง่ มีทงั้ กลอนจนี และกลอนญ่ีปุ่นแทรกอยู่ ภาษาท่ีใชเ้ ป็นร้อยกรองผสมร้อยแก้วทำ�ให้มคี วามสละสลวย การเคล่ือนไหวของตวั ละครจะเปน็สัญลักษณท์ ส่ี ่อื ความหมายแก่ผ้ชู ม เพ่ือให้ผชู้ มได้จนิ ตนาการตาม มกี ารใช้เครอื่ งดนตรีประกอบการแสดงซงึ่ เรยี กวา่ ฮะยะฌิ (Hayashi) ประกอบด้วย กลองหนีบสขี า้ ง กลองเทินไหล่ ขลยุ่ และกลองทะอโิ กะ ส่วนตวั ละครประกอบดว้ ย ตัวละครเอกหรอื ท่ี เรียกกนั ว่า ฌิเตะ (Shite) โดยตวั ละครเอกในเกอื บทกุ กรณีจะสวมหนา้ กาก ตวั ละครรองเรยี กวา่ วะกิ(Waki) และตวั ละครผู้ติดตามเรียกว่า ท์ซุเระ (Tsure) 3

4

ละครโน เปน็ ละครทเ่ี กา่ แกท่ ี่สดุ ในญ่ีป่นุ ซง่ึ พฒั นาขึน้ ในศตวรรษท่ี 14 เคยเฟื่องฟูมากในหม่ชู นชัน้ ซามูไร และนักปราญช์ทัง้ หลายในสมยั เอโดะ เวทีละครโนมลี กั ษณะเรียบง่าย นักแสดงสวมหน้ากากและแต่งกายแบบโบราณทีส่ วยหรู ใช้เสียงค่อนข้างเนบิ และเปลง่ ออกมาในระดับเดียว เรยี กว่าอไุ ต (utai) ซ่งึ เป็นการผสมผสานกนั ระหว่างเสียงสวดมนต์ และการเลา่นิทาน ทำ�ใหเ้ สียงออกมามีความแปลกเฉพาะตวั นอกจากน้ีในชว่ งพักการแสดงของละครโนจะมลี ะครชวนหวั ทเ่ี รียกวา่ “ เคยี วเง็น “ มาแสดงคน่ั การแสดงคน่ั น้อี าจะมีความเก่ยี วเนอ่ื งบางส่วน กับเนอื้ หาของการแสดงโนที่เล่นอยู่ หรือไม่เกยี่ วกนั กไ็ ด้ โดยจดุ ประสงคข์ องเคยี วเง็นก็เพอ่ื สร้างความสนกุ สนานใหก้ บั ผูช้ มละครโน เปน็ การแสดงทผี่ ู้แสดงต้องใส่หน้ากาก ประกอบด้วยสว่ นทีเ่ ป็นเน้ือร้อง(Utai) การแสดงและท่าร�ำ ความสวยงามอยู่ท่ีทว่ งทา่ การเคลื่อนไหว โดยไมเ่ นน้ ทีก่ ารแสดง ผู้แสดงละครโนจะแสดงตามบทละครในหนังสือ เรยี กว่าอไุ ต บง (Utai-bon)นอกจากผแู้ สดงแล้วยังมคี นท�ำ หน้าทร่ี อ้ งเสียงประสาน เรียกว่าจอิ ไุ ต (Ji-utai) เครื่องดนตรีทใ่ี ช้บรรเลงมี ขล่ยุ กลองมอื ขนาดใหญ่ กลองมือขนาดเลก็ ตัวละครมี 4ตัว คือชิเตะ (shite)วะคิ (waki) เคยี วเงน็ (kyougen) และ ฮะยะชิ (hayashi)ละครโน พฒั นามาจากการแสดงของจนี (ซังงะขุ)และญ่ีปุน่ (เด็งงะคุโน)ผู้รเิ รมิ่ คือ 2พ่อลูก ชือ่คันอะมKิ an-ami)กับเซะอะม(ิ Ze-ami)ในสมัยมุโระมะฉิ(Muromachi) ได้รบั ความนยิ มอย่างมากในสมัยโชกุน และได้รบั ความนิยมในหมูท่ หารและชนช้นั นักรบ 5

บทท่ี 2เวทีของละครโน 6

7

www2.ntj.jac.go.jpตัง้ แต่ประมาณปี ค.ศ. 1700 เปน็ ต้นมา ลกั ษณะเวทขี องละครโนะและเคียวเง็นมีแบบแผนท่ีตายตัวสบื ทอดมาจนปัจจุบัน พืน้ ทข่ี องเวทีการแสดงทงั้ หมดถูกจัดแบ่งไวเ้ ป็นสดั ส่วน บริเวณท่ีเปน็ เวทีหลักมขี นาด 6x6 เมตร มีหลงั คาปิดคลุมด้านบนสูง 85 เซนติเมตร ลกึเข้าไปดา้ นใน 3 เมตรเป็นบรเิ วณท่ีจดั ไว้ส�ำ หรบั นักดนตรซี ึง่ น่ังประจำ�ทใ่ี นตำ�แหน่งของตน และบรเิ วณท่ียืน่ ออกไปดา้ นขวาของเวทีหลักประมาณ 1 เมตร จัดไว้สำ�หรับกล่มุ ผูข้ ับร้อง ด้านตรงกนั ขา้ มทางซ้ายของเวทีหลกั เปน็ ทางเดนิ ยาว 10 เมตร กว้าง 2.5 เมตร ทอดมาในแนวเฉยี งเลก็ นอ้ ย เช่ือมกบั ด้านหลงั ของเวทแี สดง บรเิ วณท่ีจัดไวใ้ หน้ ักดนตรรี ะหวา่ งด้านในกบั ทางเดินยาวนมี้ ีผา้ มา่ นกั้นไว้ ห้องท่ีถดั จากผ้าม่านเปน็ ห้องกระจกส�ำ หรบั ดคู วามเรยี บร้อยก่อนออกแสดง ส่วนบรเิ วณพื้นทด่ี ้านหลงั เป็นหอ้ งแตง่ ตวั และจดั เตรียมอปุ กรณ์ตา่ งๆ 8

วัสดทุ ุกชนิ้ บนเวทที ำ�มาจากไม้สนของญี่ป่นุ ชือ่ ว่า “ฮโิ นคิ” (Hinoki) ชนิดไม่ขัดเงา ฉากทปี่ ระดับไวด้ า้ นหลังเป็นสัญลกั ษณ์ของละครโนะ ใชฉ้ ากนฉ้ี ากเดียวตลอดการแสดงและใชก้ บั ทกุ เรื่อง นั่นก็คอื รูปตน้ สนขนาดใหญ่ ลักษณะกิง่ ก้านแผ่ไพศาลดเู ก่าแกแ่ ละมน่ั คงให้ความหมายของ “ชวี ติ นริ ันดร”์ ด้านหน้าเวทีไม่ใช้มา่ นไม่ว่าชนดิ ใด มองผิวเผนิ แลว้ ดูเหมือนวา่ เวทีละครโนะสร้างอยา่ งงา่ ยๆ แต่ความจริงแล้วมสี ่วนประกอบทีย่ ่งุ ยากอยใู่ ตพ้ ้นืเวทซี ่งึ ต้องสร้างอยา่ งพถิ พี ิถนั ที่สุด มฉิ ะน้นั แล้วจะไมไ่ ด้คุณภาพท่ถี กู ตอ้ งสมบูรณ์ เสียงขับรอ้ งและเสียงกระทืบเท้าของผ้แู สดงจะไมด่ งั กังวาน เทคนคิ ท่ที �ำ ใหเ้ กิดเสียงสะทอ้ นดังกงั วานไดน้ น้ั อาศัยการฝงั โอ่งดินเผาใบใหญ่ลงใตพ้ นื้ ดนิ ครึ่งหนึ่งวางไวห้ ลายๆ จดุ ใตเ้ วทีการแสดงนน่ั เอง ส�ำ หรับทางเข้า-ออกเวทมี ี 2 ทางคอื ดา้ นซา้ ยกับด้านขวา ผู้แสดงทกุคนและนกั ดนตรใี ช้ทางเข้า-ออกใหญ่ด้านซา้ ย ส่วนทางเข้า-ออกด้านขวาจัดไว้สำ�หรับกลุ่มคอรสั และผชู้ ว่ ยบนเวท ี บางโอกาสตัวละครอาจใชท้ างออกด้านขวานี้ดว้ ย 9

10

บทที่ 3เนื้อหาและบทบาทของตัวละคร 11

การจะเข้าใจศิลปะการแสดงละครโนได้ จะต้องพจิ ารณาองคป์ ระกอบส�ำ คัญ 4 ประการ คอื1. เน้ือหาและบทบาทของตัวละคร2. เทคนิคการแสดง3. ดนตรีและการขับรอ้ ง4. เวทแี ละอุปกรณ์แต่ในบทนี้จะพูดถึงเนื้อหาและบทบาทของตวั ละคร และในส่วนอื่นๆ จะพดู ในบทถัดๆ ไปเน้ือหาและบทบาทของตัวละครเนื้อหาของละครโน เมอ่ื แบ่งตามบทบาทของตัวละครเอก อาจแบ่งได้เปน็ 5 ประเภท คือ เรอื่ งราวเกยี่ วกบั เทพ แนวเร่ืองมักจะเป็นทำ�นองที่ครงึ่ แรกของเร่ืองปรากฏเป็นคนธรรมดา แต่มนคร่งึ หลังเปิดเผยตวั จริงวา่ เป็นเทพเจา้ ลงมาโปรดสตั ว์ เรงิ ระบำ�ท�ำ พิธใี ห้โลกมนษุ ยม์ คี วามสงบสขุ และความอดุ มสมบรู ณ์ 12

เรอ่ื งราวที่ตัวเอกเป็นผู้ชาย มักเป็นเรอ่ื งราวของนักรบทีม่ ชี ิวิตทรมานหลังความตายเพราะมคี วามเชอ่ื วา่ หากในชีวิตมนษุ ย์ทำ�การส้รู บ เมอื่ ตายไปแลว้ กจ็ ะตกอยู่ในความทุกขท์ รมาน เรอื่ งราวมกั ปรากฎในแนวท่ีวิญญาณของนกั รบมาพบกบั พระ บรรยายให้ฟังถงึพฤติกรรมของตนซึ่งด�ำ เนนิ มาสู่จุดจบในโลกมนุษย์ หลงั จากน้ันพระกจ็ ะสวดมนตใ์ ห้พรและขจัดปัดเปา่ ความทุกขใ์ ห้รอดพน้ จากความทรมานได้ในทส่ี ดุ เรอื่ งราวเก่ียวกบั ผู้หญิง มกั เล่าวา่ วิญญาณของหญิงท่ีได้รับความทกุ ขท์ รมานเนื่องมาจากความผดิ หวงั ในรกั ละครประเพณนี เ้ี น้นทีค่ วามงดงามของการรา่ ยรำ�อันสง่างามของตวั เอก และความไพเราะของบทเพลงบทขับรอ้ ง เรือ่ งราวหลากหลายรปู แบบที่โดดเด่น เป็นเร่ืองเก่ียวกบั สตรีทีเ่ สียสติ เหตุเพราะถูกคนรกั ทอดท้ิงหรือไม่ก็ถกู พรากจากลกู ของตน เป็นแนวเร่ืองท่พี บในสงั คมปจั จุบัน กลา่ วถงึ ความลุ่มหลงงมงายของมนษุ ย์ในลกั ษณะต่างๆ บางคร้งั จงึ เรียกแนวละครโนประเภทนีว้ ่าละครปกิณกะรวมเรอ่ื งราวหลากหลายรสชาตินน่ั เอง เร่อื งราวเกีย่ วกับภตู ิ ยกั ษ์ ปศี าจ อมนุษย์ ซงึ่ ได้เตา้ โครงมาจากตำ�นานเก่าแสดงฤทธิ์เดชความโหดร้ายของเหล่าอสูร จนในทส่ี ุดมพี ระหรือผ้กู ลา้ หาญมาปราบได้ 13

บทบาทของตวั ละครโนทส่ี �ำ คัญ ได้แก่ ผู้แสดงนำ� หรอื ตวั เอก เรียกวา่ ชเิ ตะ (Shite) ผ้แู สดงบทรอง หรือตัวรอง เรยี กว่า วาคิ (Waki) ผแู้ สดงทเ่ี ปน็ ผู้ติดตามรับใช้ตัวเอกและตัวรอง เชน่ บทคนรบั ใช้ เพื่อน ลูกนอ้ งเรยี กวา่ โคคาเตะ (Kokata)การแสดงละครโนแตล่ ะเรอ่ื งม่งุ ความส�ำ คญั ทต่ี วั ละครเอกหรอื ชิเตะ ซง่ึ ทันทที ส่ี วมหนา้ กากวญิ ญาณของตัวละครเอกตวั นัน้ จะเร่ิมมบี ทบาท ผู้แสดงจะตอ้ งมีสมาธสิ งู ในการแสดงตลอดเวลา ตอ้ งรักษากริ ยิ า ทา่ ทาง อารมณ์ ตามบทบาททส่ี วมอยทู่ ุกขณะจิต ความสำ�คญั ของตัวบทบาทตวั ละครเอกอยูท่ ่กี ารแสดงความรูส้ กึ จ�ำ นนยอมรบั สถานการณ์ใดๆ ท่ีเกิดขน้ึ แมว้ ่าจะเปน็ ความทกุ ข์เพยี งใดก็ตาม ตอ้ งแสดงความอดทนอดกลนั้ ในอาการทเ่ี งยี บขรึมไม่ตีโพยตพี าย ค่อยๆ สะสมความรู้สึกเศรา้ โศกจนถงึ ขดี สุดโดยทที่ กุ อยา่ งสามารถควบคุมได้ดว้ ยอารมณ์ และจิตใจทีส่ งบนง่ิ ซ่ึงถอื เป็นแกน่ แท้ของปรชั ญาเซนทีม่ ีอทิ ธพิ ลต่อการสร้างเรือ่ งราวละครโนเกอื บทกุ เร่ือง 14

15

บทที่ 4เทคนิคการแสดงของละครโน 16

17

เทคนคิ การแสดง การแสดงละครโนต้องอาศยั การใชห้ นา้ กากและลลี าการรา่ ยรำ�แสดงทา่ทางอยา่ งมแี บบแผนทันทีที่ตัวผ้แู สดงสวมหน้ากากโน เขาจะส�ำ รวมกิริยาและวางตัวให้เคร่งขรมึ ตามกฎระเบียบทีว่ างไว้ ข้ันตอนโดยทวั่ ไปของการแสดงโน คือ เรม่ิ ต้นจากลลี าการเดนิออกมาบนเวทตี ามทางเดินทีท่ อกยาวมาเช่ือมกบั เวทีหลัก จากน้ันเปน็ ลีลาการแนะนำ�ตัวแลว้ มกั ขับร้องบทเพลงบรรยายการเดนิ ทางและกล่าวบทสนทนา การแสดงท่าทางเพอ่ื สอ่ือารมณ์ตา่ งๆ เชน่ โกรธ เสียใจ ดใี จ มีวิธแี สดงออกทเี่ ปน็ แบบแผนทัง้ สนิ้ ในละครโนมเี อกลักษณ์อย่ทู ่ีการใชห้ น้ากากซึง่ เรยี กศัพทท์ างเทคนคิ ว่า โอโมเตะ(Omote) คณุ ภาพของหนา้ กากโนบ่งบอกถึงความประณตี ละเอียดออ่ นในระดับที่สงู เป็นฝมี ือทไี่ ด้รับการพฒั นามาจากการท�ำ หน้ากากโบราณ เช่น หนา้ กากละครกงิ าคุ บงุ าคู และเดนงาคุ หน้ากากละครโนไมเ่ พียงแต่เป็นเทคนคิ ทีม่ าแทนการแต่งหนา้ ตวั ละคร แต่ยงั เป็นเทคนิคการแสดงทีส่ รา้ งความลกึ ลับและแสดงสภาพจิตใจที่แท้จรงิ ของตัวละครนน้ั ๆ ตัวละครชิเตะทุกตัวตอ้ งใส่หนา้ กาก ยกเว้นตวั ละครรองบางตัวหนา้ กากโนมที ้ังหมด 450 ชนดิจดั เป็นกลุม่ ๆ ได้ 8 กล่มุ1. หนา้ กากผเู้ ฒา่ ผ้วู ิเศษ2. หน้ากากอมนษุ ย์ ผ้มู ฤี ทธ์ิเดช3. หนา้ กากคนชราท่ัวไป4. หนา้ กากผชู้ าย5. หนา้ กากเดก็ ผู้ชาย6. หน้ากากผู้หญิง7. หน้ากากหญงิ ชรา8. หนา้ กากพเิ ศษพิสดาร การแสดงละครโนได้รบั อิทธพิ ลจากละครใบ้ ทกุ ย่างก้าวมีกฎเกณต์ ายตวั สอดคลอ้ งกับอารมณ์ของหนา้ กากประเภทน้นั บางคร้ังผ้แู สดงอาจเปลง่ เสยี งประกอบและกระทบื เท้าให้เกดิ อารมณ์เพื่อใหส้ มบทบาทกไ็ ด้ 18

19

20

บทที่ 5ดนตรีและการขับร้องของละครโน 21

ขลุ่ย ใ ช้ บ ร ร เ ล ง ทำ � น อ ง เ พ ล ง ท่ี ใ ช้ อารมณ์เคร่งขรมึ ซงึ่ เหมาะสม สำ�หรับประกอบอาการย่างก้าว อย่างเช่ืองช้าสุขุมของตัวละคร เม่อื เวลาเข้าและออกเวที22

กลองเลก็ส�ำ หรับให้จังหวะ ต�ำ แหนง่ ท่ีวางกลองไมใ่ ชบ่ นพนื้ แตว่ างไว้บนหัวไหล่ข้างขวาแล้วใช้มือขวาตีกระทบให้เกิดเสยี งแผ่วเบา 23

กลองใหญ่ วางไว้บนไหลด่ า้ นซา้ ย ใชม้ อื ขวา ตีกระทบเพื่อผลิตเสียง กลอง ใหญ่เสียงดังกังวานกว่ากลอง เลก็24

การระบำ�บางชดุ อาจเพ่ิมเครื่องดนตรเี ปน็ กลองธรรมดา เพือ่ สรา้ งบรรยากาศท่ีแปลกออกไปหรอื แสดงความรู้สึกคึกคกั กล้าหาญ ความโอ่อ่าตระการตา กลองชนดิ นีว้ างไวบ้ นพื้น ใช้ไม ้ 2 อันเคาะจงั หวะ ขณะที่ดนตรเี คาะจงั หวะ ขณะทนี่ กั ดนตรเี คาะจังหวะกจ็ ะเปลง่ เสยี งรอ้ งสนั้ ๆออกมาดว้ ย ขณะทีด่ นตรีบรรเลงไปน้ัน ผู้ขับรอ้ งหมู่หรือคอรัส (Chorus) ซ่ึงมีจ�ำ นวน 6-10คน กข็ ับร้องบทพากย์ภาษารอ้ ยกรองอันไพเราะดว้ ยท่วงท�ำ นองหนกั แน่น แสดงอารมณ์ท่ีเข้มขน้ ต่ืนเต้น บบี คัน้ รนั ทดใจ โศกเศร้า นอกจากจะบรรยายความรูส้ กึ นกึ คิดของตัวละครแลว้ คอรัสยงั มีหน้าท่ีเล่าเรอื่ ง ปพู ื้นชเิ ตะกบั วากิ กลุ่มคอรัสสวมเคร่อื งแต่งกายสีด�ำ ผ้ทู �ำ หน้าทีบ่ รรยายหรอื เลา่ เรือ่ ง บางครั้งอาจเป็นตวั ละครจากการแสดงเคยี วเง็นซ่ึงเขา้ มาแสดงประกอบในละครโนะบางฉาก เชน่ แสดงเป็นคนใช้ เจา้ ของโรงเตี๊ยม คนพายเรอื เป็นต้น เขาจะทำ�หนา้ ท่ซี ักถามพูดคุยกบั ตัวละครรองแลว้ กล่าวทบทวนเร่ืองราวใหผ้ ู้ชมทราบ 25

บทท่ี 6หนา้ กากผูห้ ญงิ อาโออิ 26

27

หนา้ กากผหู้ ญิงอาโออิ (Aoi no Ue) หนา้ กากนอี้ ยใู่ นสมยั มโุ รมาชิซึ่งอยู่บนพื้นฐานของตัวละครผู้หญิงจากนวนิยายเรื่องเกนจิสมัยเฮอันและหนา้ กากนเี้ ป็นต้นแบบของหน้ากากประเภทอื่นๆอีก 4 หนา้ กากหน้ากากผหู้ ญงิ เป็นหนา้ กากแรกของหนา้ กากละครโน จากนวนยิ ายเกนจิ ซ่งึ บางครั้งคิดว่าเป็นของ Zeami Mookiyo ซ่งึ เปน็ บทความของหนงั สอื ท่คี ลา้ ยกับหนังสืออีกเวอรช์ ัน่ ทีเ่ กิดในยคุ เดยี วกนัในเรือ่ งราวในอดตี ที่เจ้าหญงิ เกนจิ ที่แต่งงานกบั ภรรยาของเขาหญงิ อาโออิ ในวัยหนมุ่ สาว มีเมยี น้อยชอื่ ว่าหญิงสาวโรคโุ จ เคยไดแ้ ต่งงานกับเจา้ชาย และไดร้ ับเป็นราชินี ความตายของสามีของเธอ ท�ำ ให้เธอมโี อกาสทจ่ี ะกลายเปน็ จักรพรรดินี และทิ้งเธอออ่ นแออย่เู ดียวดาย ต่อไปนเี้ ป็นตอนทีเ่ ธอถูกท�ำ ให้ขายหนา้ ในที่สาธารณะโดยทา่ นหญิงอาโออโิ ระ คโุ จจะรูว้ า่ อาโออิ กำ�ลงั ตง้ั ครรภ์ เกนจเิ ริ่มไมส่ นใจโรคุโจและความอจิ ฉาของเธอจิตวิญญาณชีวิตของเธอออกจากร่างกายของเธอและครบถ้วนท่านหญงิ อาโออิ ท�ำ ให้อาโออติ าย 28

29

30

บทที่ 7หน้ากากกลองสีแดงเขม้ 31

อายา โน ซึซมึ ิ (Aya no Tsuzumi) เปน็ การเล่นโดยนักเขียนจะแสดงให้เห็นผลกระทบของความช่วั รา้ ย ความปรารถนาทไ่ี มส่ มหวงัคำ�วา่ อายา (Aya) หมายถึงสิง่ ทอลายทแยง แตเ่ ม่อื แปลเปน็ ภาษาองั กฤษ ซึ่งแปลโดยอาร์เธอรว์ อลีย์ จะใชค้ ำ�ว่าสแี ดงเข้มคนสวนทีว่ งั ของชิกเุ ซ็นได้ตกหลมุ รักกับพระสนมของจกั รพรรดิ เธอส่งข้อความถงึ คนสวนทเ่ี ธอจะได้เจอเขาในบ่อถ้าเขาจงั หวะกลองท่ีเธอไดว้ างไว้ในตน้ ไม้ในสวน เขาพยายามแตต่ ีกลองไดด้ ้วยลายสอง (อายะ) และดังน้ันไมเ่ สยี ง ตระหนกั ว่าเขามาหลอก คนสวนจมตวั เองในบ่อน้�ำ และกลบั มาเป็นผีร้ายท่ีทรมานเจา้ หญิงนกั เขียนบทละครญป่ี ุ่นมพิ ่ีเขียนเองดดั แปลงจากการเล่นในเกบ็ Kindai Nogakushu 1957 32

33

บทท่ี 8หนา้ กากฮาโกโรโมะ 34

35

หน้ากากฮาโกโรโมะ (เสือ้ คลุมขนนก) เป็นหนงึ่ ในการเล่นละครโนซะสว่ นใหญ่เปน็ ตวั อย่างของลายหงสด์ ั้งเดมิในศตวรรษท่ี 8 การเล่นตอนนั้นเห็นไดช้ ดั วา่ ท้งั สองต�ำ นาน มตี ำ�นานหนึ่งเกยี่ วกับต้นกำ�เนดิ ของการเต้นซุรกุ ะ ( ซรุ กุ ะ มาอ)ิ และอีกตำ�นานคอื เชือ้ สายของเทวดาบนชายหาดอุโด เรอื่ งราวทงั้ สองอาจพบได้ใน ศตวรรษท่ี 5 ที่ โซ ชิน ชิ บทกวีของกวใี นศตวรรษที่ 11 เป็นผรู้ วบรวมการประพนั ธ์ของโนเล่น ฮาโกโรโมะ อา้ งอิงถึงเล่นในบันทึกประวตั ิศาสตร์อาจจะมาจาก การบง่ บอกวา่ มันถูกเขยี นข้นึ หลังจากโมะโตะกิโยะเมื่อวันหนึ่งตกดกึ ชาวประมงกับเหล่าสหายก�ำ ลังเดินทาง พวกเขาไดพ้ บฮาโกโรโมะมหัศจรรย์ขนนกปกคลมุ ของแทนนิน (วญิ ญาณจากสวรรค) ท่แี ขวนบนกิ่งไม้ แทนนินเหน็ เขาความตอ้ งการผลตอบแทนของเธอที่ไม่สามารถกลบั ไปสวรรค์ได้ ชาวประมงเถยี งกับเธอ และกส็ ัญญาว่าจะกลบั มาอกี แต่ถ้าเธอจะเตน้ แสดงใหเ้ ขาดู เธอยอมรับขอ้ เสนอของเขา คอรสั จะเป็รคนอธบิ ายเรือ่ งราวท่าเต้นเป็นสัญลกั ษณ์ของการเปล่ยี นแปลงรายวนั ของดวงจันทร์ คนื ของดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลง ในตอนจบแทนนนิ จะหายไปภเู ขาแล้วคอ่ ยๆหายไปในสายหมอก 36

37

38

บทท่ี 9 ซยู ูกิ ซซึ ึ 39

40

ซยู กู ิ ซึซึ (เปลท่ีด)ี เป็นการเล่นละครคลาสสิกของโน เขียนโดยโมะโตะกโิ ยะ ลักษณะเดน่คือ เปน็ ในช่วงประวัติศาสตร์ของโนโรงละครเรือ่ งราวเก่าของ ซยู ูกิ ซึซึ จากศตวรรษท่ี 10 โมโนงาตาริ เช่ือมตอ่ กบั เรอื่ งราวตา่ งๆ มากมายซ่งึ จะขึน้ อยู่กับเรื่องราวเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทีโ่ รแมนตกิ ของ “ผู้ชาย“ โดยระบวุ า่ เปน็ ประเพณีของวดั Ariwara Narihiraนักบวช เย่ยี มชมวดั ทม่ี ชี ือ่ เสยี งของนารา ในทางของเขาไปทว่ี ิหารฮตั ซูเอะ เขาหยุดที่ ari-wara และตระหนักถงึ เหมือน อิโซโนกามิ ท่ี นาริฮิรา และลูกสาว ไม่ aritsune อยูต่ งั้ นานแล้วผู้หญงิ ในหมูบ่ ้านมาถึงมักจะตายในสวน เน่อื งจากเธอท�ำ บญุ ไม่ถูกพิธี เขาไดถ้ ามเธอว่าทำ�ไมเธอมีหลมุ ฝงั ศพไว้ในสวน และเธอบอกวา่ มเี รอื่ งราวเบื้องหลัง เธอเรมิ่ เล่าเร่ือง ทซู ทู ิซิ ิจากโนริอเิ สะเมอ่ื เธอเสรจ็ ส้ินเร่อื งราว หมบู่ ้านผูห้ ญิงปุโรหิต และกล่าวว่า เธอเปน็ ภรรยาในราวครสิ ต์ศตวรรษที่ 10 เก่า เธอหายไป เขาไดเ้ หน็ วิญญาณของเธอ ปุโรหติ ถามคนในหมูบ่ ้านเกี่ยวกบัสถานท่ี และไดย้ ินเรอ่ื งราวชดั ถ้อยชัดคำ�มากขึ้น ชาวบ้านทแ่ี สดงให้เหน็ วา่ พระสงฆ์ เขาอาจเสนอค�ำ อธิษฐานให้วิญญาณของเธอ และดังนนั้ เขาตัดสินใจปกั หลักคนื บนเตียงของตะไคร่น�้ำ ในสวน เธอมากับเขาอีกคร้งั ในความฝัน เวลาน้เี ธอจะสวมใส่หมวกและชุดสามขี องเธอผา่ นชุดกโิ มโนของเธอ เธอเตน้ และร้องวา่ เธอรักสามขี องเธอและวา่ เธอกย็ ังให้เขา เธอมองเข้าไปในดีท่พี วกเขาไดย้ นื อยูข่ ้าง ๆ เปน็ เดก็ และเห็นภาพสะท้อนของเขา เธอ แลว้ ร้องไห้และหายไป 41

บทที่ 10มตั ซคึ าเซ ลมในไพน์ 42

43

มตั ซคึ าเซ หรือลมในธรรมชาติ เปน็ เลน่ ของ 3 ประเภทโดยคานามิ แก้ไขโดยเมอเรยี ดอ็ คแบรนดบ้ี ั๊ก ถือวา่ เปน็ บทท่สี งู ทสี่ ุดในบทละครโน มนั เป็นทก่ี ลา่ วถึงมากกว่าอนื่ ใดในโมะโตะกิโยะเขียนและกล่าวถึงหลายครงั้ ในทศั นศลิ ป์ตัวละครหลักสองมี lingering วญิ ญาณของพน่ี อ้ งเที่ยว (ลมในไพน)์ และ Murasame (ฝนฤดูใบไม้รว่ ง), ทอี่ าศัยบนอ่าวสุมาในเซต็ จังหวัด ท่พี วกเขา ladled นำ้�เกลอื เพอื่ ใหเ้ กลอืCourtier กลางปรึกษา Ariwara ไม่มี Yukihira dallied กบั พวกเขาในระหวา่ งการเนรเทศเขาไปสุมา 3 ปี หลงั จากเขาออก ของตายของเขามา และพวกเขาเสยี ชวี ิตจากความเศร้าโศกพวกเขาไดอ้ ิทธิพลในเป็นวิญญาณหรอื ผี กับโลกมนษุ ย์ โดยความบาป (ตามหลักคำ�สอนทางพุทธศาสนา) ทแี่ นบอารมณต์ ่อมนุษยป์ รารถนา น้เี ป็นเรือ่ งธรรมดาในการบงัเล่นเปิด มีพระสงฆเ์ ดนิ ทางไปถามทอ้ งถ่ินเก่ียวกับอนสุ รณ์สถานเขามองเหน็ ท้องถิ่นอธบิ ายว่า การระลกึ คอื การสองสาว นี่คือตาม ด้วยฉากทพ่ี ส่ี าว ตักน�ำ้ ทะเลเขา้ ไปใน brinecart ของพวกเขาเวลากลางคืน กลายเปน็ หลง โดยสายตาของดวงจนั ทร์ในน้ำ� และพยายามทจ่ี ะจบัมนัปโุ รหติ ฝันวา่ เขาพบกบั พวกเขาเมื่อขอพัก หลังจากเปิดเผยตัวตนของพวกเขา พวกเขาอธบิ ายอดีตของพวกเขา และเติบโตเอาชนะ ด้วยความรกั และคิดถงึ Yukihira เทยี่ ว หลงัจากสวมใสล่ ่าสัตว์เสนอเส้ือคลมุ และหมวกซ้ายกบั เธอ โดย courtier ผดิ สนส�ำ หรับความรกั ของเธอ และ Murasame รวมเธอสัน้ ๆ ในบ้า กคู้ ืน ผา่ นจากโลกมนุษย์ของสิง่ ทีแ่ นบอารมณ์ และท้ิงนอ้ งสาวของเธอก่อน 44

ไทเลอร์ Royall และนกั วิชาการอ่ืน ๆ กำ�หนดกลุ่มของการทำ�งานกับ Zeami อา้ งวา่ ขนึ้อยูก่ ับชนิ้ ส่วนสัน้ ๆ เตน้ โดยพอ่ ของเขา Kan’ami การเล่นเนื้อหาเปรียบเปรยขอองค์ประกอบของโนเกนจิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบททตี่ กหลมุ รักกบั ผูห้ ญิงทอี่ ะกะชิเกนจิฮิ และภายหลังทำ�ใหเ้ ธอ ส่วนตน้ ท่เี ขยี น โดย Kan’ami ใบเสนอราคาจากบท “สมุ า” ของโนริ การตั้งคา่ การเลน่ ที่สมุ ากระต้นุ เหตุการณ์เหล่านีแ้ ละรปู แบบของผู้หญงิ ของชายฝ่งั หลังเลน่ ชู้กับcourtier สงู ท่เี หลอื รอการกลบั มา นอกจากนกี้ ารเล่นยังประกอบดว้ ยท่านหลายภาษาของโนริ ซ่ึงจะได้รบั โดยกวีของ Zeami วันชือ่ ของตวั ละครหวั หน้า และชื่อเร่อื งของการเลน่ เที่ยว หมีความหมายทส่ี องบทกวี แมว้ า่มตั สึอาจหมายถงึ “ต้นสน” มนั ยงั หมายถึง การ “รอ” หรือ “ไมส้ น” ไพนเ์ ทีย่ วสำ�หรับการกลับมาของคนรกั ของเธอ courtier ชอบผหู้ ญิงของอะกะชใิ น Genji และเหมือนผูห้ ญิงในของZeami เลน่ อิ ไทเลอรย์ ังวาดการเปรียบเทยี บระหว่างชอื่ ของสองสาวไปยงั องค์ประกอบดง้ั เดมิ ในกวีนพิ นธจ์ ีน หมายถงึ สายพันธุท์ ่แี ตกตา่ งเพลงฤดใู บไมร้ ว่ งฝนและลมในไพน์ ฝนฤดูใบไม้รว่ งมคี วามแขง็ แรง และน่มุ นวลเป็นระยะ ๆ ในขณะทลี่ มในไพนน์ ุ่ม และคง แม้ว่าตวั ละครในการเล่นจริงแสดงลักษณะตรงกันขา้ ม – เท่ยี วสลบั กนั ระหวา่ งระเบดิ อารมณท์ ่ีแข็งแกรง่ และความนุ่มเงียบในขณะที่นอ้ งสาวของเธอยังคงอยใู่ นพน้ื หลัง และท�ำ หน้าท่ีเปน็อิทธพิ ล mediating เม่ือเทยี่ ว – การเปรียบเทียบเป็นอย่างไรกต็ ามถูกต้องและนา่ สนใจหนึง่ในท่สี ุด ไทเลอร์มคี วามคิดวา่ ผ้หู ญิงสองคนด้านของจติ ใจเดยี ว หรอื ว่า จะ “บริสทุ ธิ์แก่นของมนษุ ย์ความรู้สึก...แฝดเสยี งดนตรขี องความปรารถนา” และคนที่ไม่จรงิ วิง 45


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook