คำ�นำ� “ชสี ” นัน้ เป็นอาหารท่ีนยิ มกนั ไปท่ัวโลกเป็นหนึง่ ในวัฒนธรรมอาหารที่ไมม่ ี ใครไมร่ ้จู กั โดยเฉพาะ ผคู้ นจากฝั่งยุโรป ที่นอกจากจะนิยมการทานชีสจนชสี กลายเป็นเมนู หรือวตั ถุหลกั ในแต่ละเมนู เ ชีสยงั ได้เข้าไปเป็นส่วนหน่งึ ของวัฒนธรรมการกนิ หรืออาหาร ของชาวฝ่งั ยโุ รปปและลากยาวมาถงึ ปัจจุบัน หนงั สือเล่มน้ีจดั ทำ�ข้นึ เพอ่ื เป็นส่วนหนงึ่ ของ วิชา อารยธรรมโลก ( World Civilization ) โดยเนอ้ื หาจะพาไปเจาะลึกถึงค�ำ ว่า “ชสี ” ที่ ไมใ่ ช่เรอื่ งแคพ่ ืน้ ฐาน แต่จะพาไปรูจ้ กั กับชีสจริงๆวา่ มีความเป็นมาอยา่ งไร มเี ร่อื งไหนนา่ สนใจบา้ ง และจะท�ำ ให้ผอู้ ่านได้รู้จกั ชีสมากขึ้นอยา่ งแนน่ อน ทั้งน้หี วงั ว่าหนังสือเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ และไดใ้ หค้ วามรูก้ บั ผอู้ ่าน ได้เปน็ อย่างดี ขอขอบคุณอาจารยป์ ระจ�ำ วิชา คณะผ้จู ดั ทำ�ทเี่ ปน็ ส่วนหนึ่งของการท�ำ หนังสอื เลม่ นข้ี ้ึนมา หากมีข้อผดิ พลาดทางคณะผู้จัดทำ�จะนำ�ไปพฒั นาเพื่อส่งต่อความรูท้ เ่ี ปน็ ประโยชน์ต่อไป น.ส ศุภรัตน์ ศิรดานิฏฐา น.ส อารยี า เออ้ื อารีย์ น.ส ภาสินี ฤทธโิ ชติ คณะผูจ้ ัดทำ�
สารบญั เน้ือเรอ่ื ง หน้า 1.ชือ่ คืออะไร 1 2.ตน้ กำ�เนิดของชสี 5 3. ชสี ในปจั จุบนั เกิดขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร 10 4.ชนิดของชสี 18 5.ความเข้าใจผิดเกยี่ วกบั ชสี 28 6. วฒั นธรรมที่ถกู สานต่อจาก 34 ความยดื ยาวของชีส 40 7.ทานชสี กบั อะไรดี 52 8. การล้มิ ลองและลำ�ดับการกนิ ของชสี 62 9. 8 สดุ ยอดเมนูจากรอบโลก 70 10. บรรณานกุ รม
1
ช สี ค อื อะไร ? 2
3
4
5
ตน้ กำ�เนิดของชสี 6
ตน้ กำ�เนิดของชีส ชสี น้ันเกิดข้ึนดว้ ยความบงั เอญิ ของการเดนิ ทางชนเผา่ เร่รอ่ นกลมุ่ หน่ึง คือ ชนเผ่าเบดอู ิน ในทะเล ทราย สบื เนือ่ งจาก ชายชาวอาหรับคนหนึง่ ไดน้ ํา้ นมบรรทกุ ไว้บนหลังอฐู เพ่ือใชเ้ ปน็ เสบยี งอาหาร ระหวา่ งการเดนิ ทาง เขาได้นำ�กระเพาะอาหารของแพะมาใชบ้ รรจนุ ํา้ นมไว้ ในขณะที่เดนิ ทางนน้ั กระกระเพาะอาหารของแพะได้รบั ความรอ้ นจากอากาศทม่ี คี วามร้อนสูงของทะเลทราย และยัง ถกู เขยา่ ตลอดเวลาในการเดนิ ทางท่เี กดิ จากเดนิ ของอฐู สง่ ผลใหเ้ อนไซน์เรนนนิ ในกระเพาะสัตว์ ไปแยกนํ้าและไขมนั ในนมออกจากกัน และเมอ่ื ชายชาวอาหรบั ผู้นีเ้ กดิ ความกระหาย เขาจงึ หยบิ กระเพาะอาหารของแพะทบ่ี รรจุน้�ำ นมไว้ แต่เขาตอ้ งประหลาดใจ เพราะสงิ่ ท่ีเขาพบคือ ก้อนนม แทน ชายผู้นจี้ งึ นำ�ก้อนนมทไ่ี ด้มาใชล้ ดความกระหายในตวั และกลายเปน็ ทีม่ าของการผลิตเนย และชีสในปจั จบุ ัน 7
ชีสเปน็ อาหารท่มี ปี ระวัติศาสตรท์ ีม่ ีมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยมปี รากฎหลกั ฐานทาง ประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนทส่ี ดุ ในคัมภรี ์ไบเบลิ ในกลุ่มนักรบทหารโรมันเปน็ บคุ คลทม่ี ีบทบาท ส�ำ คัญในการเผยแพร่ใหค้ นทั่วโลกได้รจู้ ักกบั ชสี ไมว่ ่ากลุ่มนกั รบทหารจะยกทพั ไปทไ่ี หนก็ มักจะมีการนำ�ชสี ไปดว้ ยเสมอและมักจะแบง่ ปนั ชีสทม่ี ี ให้แกค่ นท้องถิ่นนน้ั ๆ ชีสจึงถูกเผย แพรเ่ ปน็ ทรี่ ู้จกั ไปทั่วยุโรป ต่อมาในสมัยกลางบาทหลวงในครสิ ต์ศาสนาได้ผลติ ชีสออกมา จำ�หน่ายเพ่ือเปน็ การหารายได้เขา้ โบสถ์ ส่งผลให้โบสถเ์ ปลยี่ นสถานะจากท่ีเคยเป็นเพยี ง ศาสนสถาน ในตอนน้ันเป็นแหล่งท่รี วบรวมความร้เู ก่ียวกบั กรรมวธิ กี ารผลติ ชรสดว้ ย หลงั จากน้นั เป็นต้นมาชีสก็ได้รับการปรับปรงุ รสชาตแิ ละกลิ่มไปตามความหลากหลายของ วัตถุดิบในแต่ละทอ้ งถิน่ จนก่อให้เกดิ ชีสแบบดง้ั เดมิ ทเ่ี รยี กวา่ Traditional Cheese ที่ จะมเี ฉพาะท้องถิ่นน้นั ๆแต่เนอ่ื งจากในแตล่ ะท้องถิ่นมีการผลิตชสี ชนดิ ใหม่ๆออกมาอย่าง สม่ำ�เสมอและต่อเนื่อง บวกกบั ในยุคนั้นเกดิ การผลิตชสี ในระบบโรงงานอุตสาหกรรมที่ มุง่ เน้นแต่ปริมาณผลผลติ จึงท�ำ ใหว้ ิธกี ารทำ�ชีสแบบดงั้ เดิมคอ่ ยๆสญู หายไป ปัจจุบันจงึ มีเพยี งหกประเทศเท่านั้นทีย่ งั คงรกั ษาวิธกี ารผลิตชีสแบบดัง้ เดิมไว้ ไดแ้ ก่ ประเทศอติ าลี ประเทศฝรัง่ เศส ประเทศเยอรมนี ประเทศองั กฤษ ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ และประเทศ เนเธอรแ์ ลนด์ โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี และประเทศฝรง่ั เศส ทมี่ ีระบบการันตคี ณุ ภาพ และมาตรฐานของชสี แบบดั้งเดิมอีกด้วย ซึง่ ชว่ ยรักษาเอกลักษณข์ องชสี มาจนถงึ ปัจจบุ นั 8
9
ชีสในปัจจุบันเกิดขึ้น ได้อยา่ งไร ? 10
11
ในปัจจบุ ัน ชีส เกดิ ขึน้ ไดอ้ ย่างไร?? ชีส หรือ เนยแข็ง คือผลติ ภัณฑป์ ระเภทนม โดยนำ�เอาสว่ นของโปรตนี ทีไ่ มใ่ ช่สว่ น ของไขมัน มาใช้ประโยชน์โดยความอรอ่ ยของชีสขน้ึ อย่ทู ีค่ วามหอมมัน เข้มข้น ความเขม้ ขน้ นั้นมาจากการแยกโปรตนี ออกจากนม โดยการเติมเอนไซนเ์ รนนิน ที่เปน็ เอมไซน์ชนดิ เดียวกบั ท่อี ยใู่ นกระเพาะอาหารของแพะ ซึ่งจะทำ�ใหโ้ ปรตีนทแ่ี ขวนลอยอยู่ในนมจบั ตวั กนั เปน็ ก้อน หรือเรยี กกนั วา่ “เคิรด์ ” และเ จา้ เคิรด์ ก็คือ ชสี นนั้ เอง แต่เป็นชสี สดทย่ี งั ไมไ่ ด้ผ่านการบม่ หรอื ทีเ่ รยี กกนั วา่ “เฟรชชีส” และถ้านำ�ไปผ่านการบม่ กับเชือ้ แบคทีเรียหรอื เชื้อรา เตมิ เครื่อง เทศ แต่งรสชาติ ก็จะทำ�ใหไ้ ด้ชีสทห่ี ลากหลายชนิดขึ้นอกี ดว้ ย 12
ชีสสามารถจำ�แนกไดเ้ ป็น 4 ประเภทใหญๆ่ คือ Very Hard Cheese เป็นชีสเปลอื กหนาที่มเี นือ้ ชสี มีความแหง้ มากๆ เนื่องจากใชร้ ะยะเวลาในการบ่มเป็นเวลานาน จนแทบไม่หลงเหลอื ความชน้ื อย่ภู ายในตัวชีสเลย ชสี ประเภทน้ีจะมคี วามเขม้ ขน้ และมีรสชาติเคม็ 13
Hard Cheese เปน็ ชีสชนิดแข็งทมี่ เี ปลือกหนา แตย่ งั คงมีความช้นื อย่เู ล็กนอ้ ย สว่ นมากชสี ประเภทน้ีจะนยิ มรบั ประทานกับผลไม้สด ขนมปงั หรอื แครกเกอร์ เมอื่ ชสี ผา่ นความรอ้ นแลว้ ชีสจะไหลเย้ิม 14
Semi-Soft Cheese เป็นชสี กึ่งนุ่มก่ึงแขง็ มคี วามยดื หยุ่นสูง ชีสประเภทนมี้ ักจะน�ำ ไปตกแต่งหนา้ อาหารประเภทพิซซ่า พาสตา้ หรอื นำ�ไปท�ำ ชสี ดิป 15
Soft Cheese ชสี ประเภทสดุ ท้ายเป็นชสี ทีม่ ีความชนื้ สงู เนอ้ื นุ่มคลา้ ยครมี ชสี ประเภทน้จี ะนิยมน�ำ ไปประกอบเมนูขนมหวาน 16
17
ชนดิ ของชสี 18
ชนิดของชสี นอกจากชสี จะแยกเปน็ 4 ประเภทใหญๆ่ แลว้ ชสี ยังมีอกี หลายรอ้ ยพ้นชนิดซงึ่ อาจแบ่งไดต้ าม ชนดิ ของนม ,วิธีการบ่ม ,สี ,เนื้อสัมผัส ,ความชื้น ,เมือง หรอื แมแ้ ตป่ ระเทศที่ผลติ ท�ำ ใหค้ ำ�ว่า “ชสี ” นั้นมีความหลากหลายอย่างเห็นไดช้ ดั 19
มอสซาเรลลา่ ชีส ( Mozzarella Cheese ) มอสซาเรลล่าชสี แบบ ดง้ั เดิมทำ�มาจากนมควาย และมีตน้ กำ�เนดิ มาจากทางตอนใตข้ องประเทศ อิตาลี จุดเด่นของชสี ชนิดนค้ี อื ยดื หยุ่น เน้อื ชสี เหนียวน่มุ และมกี ลนิ่ ไมแ่ รง เพราะไมไ่ ดผ้ ่านขัน้ ตอนการบม่ ถา้ นำ�ชสี ชนดิ น้ไี ปแชน่ ำ�้ จะช่วยรักษาความ สดและความชุ่มชืน้ ของชีสเอาไวไ้ ด้ ในการประกอบอาหารนิยมนำ�มาใช้ ตกแตง่ บนหน้าพิซซ่า 20
เชดดา้ ชสี ( Cheddar Cheese) เชดดา้ ชสี เปน็ ชสี ที่ทำ�มาจากนมวัว จะมลี ักษณะเป็นกอ้ นก่ึงแขง็ และ มรี สชาติเคม็ เลก็ นอ้ ย ชีสชนดิ นีจ้ ะมสี เี หลอื งหรอื สีสม้ ออ่ น และจะไมย่ ืดเมอ่ื โดนความรอ้ น จงึ มักจะนำ�มา ทำ�เมนเู บอรเ์ กอร์และแซนวซิ 21
พาร์มซี านชีส ( Parmesan Cheese ) เปน็ ชสี ที่ผลติ มาจากนมวัว มีเน้อื แข็งและมีกล่ินท่ีคอ่ นข้างแรง เพราะเกิดจากการผา่ นกระบวนการบม่ เป็นเวลานาน ยงิ่ ถ้าเราบม่ นาน ราคากจ็ ะสูงขึ้นอกี ด้วย ชีสชนิดน้ี จะมีรสชาติเข้มขน้ มันๆ เค็มๆ นยิ มน�ำ มาใชข้ ดู โรยบนอาหารอติ าเลียน เช่น พาสต้า พิซซา่ 22
ชีสสวิส (Swiss Cheese) เป็นชีสสเี หลืองอ่อน มรี โู พรงกลมๆ ท่ีเกิดจากกระบวนการเปลยี่ นนมเปน็ ชสี โดยจะมีฟองอากาศเกดิ ขึน้ ฟองพวกนน้ั ทำ�ใหม้ ชี ่องอากาศภายในชสี เมอื่ ชีสแข็งตัว ชีสชนดิ นเ้ี ปน็ ต้นแบบ ของ ชีสฟองดู ที่เป็นหนง่ึ อาหารประจ�ำ ชาติของชาวสวสิ 23
บลูชีส (Blue Cheese) เป็นชสี ที่ยอดนิยมที่มีรูปลักษณ์แปลกตาไป จากชสี ชนิดอน่ื ๆไมน่ อ้ ย ลักษณะของชสี ชนดิ นี้ จะมคี วามร่วนและจะมี ลวดลายสีเขยี วปนน�ำ้ เงินของสปอร์รา ซึ่งนั้นเป็นเชื้อราชนิดดีท่ีเกิดจาก การบม่ ท�ำ ชีส ชสี ตวั นี้จะม่กี ล่ินคอ่ นขา้ งรุนแรง นิยมน�ำ มารบั ประทานค่กู บั ขนมปัง ไวน์ หรอื น�ำ ไปเมนูอบชสี ตา่ งๆ 24
เกาดา้ ชีส (Gouda Cheese) ชีสทรงกลมแบน เนอ้ื แขง็ จะมลี กั ษณะเดน่ ทีผ่ ิวด้านนอก อันเกดิ จากการเคลอื บด้วยขี้ผึ้งสแี ดงหรอื เหลอื ง ดา้ นในมสี ี เขม้ มรี สชาตเิ ข้มข้นจากนม มีรสสมั ผสั เคม็ แต่มีเนอื้ เนยี นนมุ่ คนส่วนใหญ่ มกั จะรับประทานเพยี วๆ ทานแกล้มกับไวน์ หรอื นำ�ไปปรงุ ซอส 25
คอทเทจชสี (Cottage Cheese) เป็นชีสสีขาวเมด็ เลก็ ๆ ฟูๆ มีรสชาติหวานมัน ชีสชนิดน้ที ำ�มาจากนมพร่อง มนั เนย จึงเปน็ ชีสทมี่ ีไขมนั นอ้ ย เหมาะแกก่ ารรบั ประทานควบคู่กบั เมนูสขุ ภาพอย่างสลัด หรือผลไม้ 26
27
ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับชีส 28
29
ความเขา้ ใจใจผิดเกีย่ วกบั ชีส อยา่ งทรี่ กู้ ันวา่ คำ�วา่ “ชสี ” น้นั แปลเป็นภาษาไทยไดว้ า่ “เนยแขง็ ” ซึ่งนนั้ อาจ จะท�ำ ให้คนไทยส่วนใหญ่คิดว่ากินชีสแล้วจะอว้ น แตใ่ นความเป็นจริงนน้ั ชสี มีทั้งไขมนั ตาํ่ และไขมนั สูง เพราะฉะนั้นหากเราเลือกรบั ประทานชสี ท่ีไขมันตา่ํ และรบั ประทานในปริมาณทเี่ หมาะสม ยงั ไงก็ไมอ่ ว้ นแน่นอน 30
31
จากงานวิจยั ที่ประเทศองั กฤษ ในปี 2005 ไดร้ ะบุไวว้ ่า ชสี นน้ั ยงั มีสว่ นช่วยในการนอนหลบั เพราะในชสี นนั้ จะมสี ารทรปิ โตเฟน( Trytophan ) และกรดอะมิโนท่ชี ่วยลดความเครียด และกระตุ้น การนอนหลับไดด้ ี นอกจากรสชาติยังจะอร่อยแลว้ ชีสยังมคี ุณคา่ ทางอาหารอกี ด้วย เพราะชสี ท�ำ จาก โปรตนี ในนํ้านม จงึ ใหพ้ ลังงานโปรตีนเชน่ เดยี วเน้ือสตั ว์ แต่โปรตีนในชสี จะให้พลังงานนาํ้ ตาลแลคโตส ในปรมิ าณทน่ี ้อยกว่านม ชีสยังมปี ระโยชน์ทางโภชนาการอีกมากมาย ไม่ว่าจะเปน็ แคลเซยี ม ,ไขมัน ,ฟอสฟอรสั , วติ ามินบี12 และสงั กะสี อกี ทั้งยงั ช่วยบำ�รุงกระดกู บ�ำ รงุ หัวใจ ปอ้ งกันฟนั ผุ และลดระดับ คอเลสเตอรอลไดอ้ กี ดว้ ย สำ�หรบั ผ้ทู ม่ี ีปญั หาเรอื่ งนาํ้ หนกั หรือคอเลสเตอรอลสูง เราสามารถเลอื กไดว้ า่ เราจะรบั ประทานชีสประเภทไขมนั ตา่ํ ได้ แถมยงั มีโปรตีนทช่ี ว่ ยท�ำ ใหอ้ ิ่มทอ้ งเร็วอกี ดว้ ย 32
33
“ วัฒนธรรมท่ีถูก สานตอ่ จาก ค ว า ม ยื ด ย า ว ของชีส 34
35
ด้วยความเปน็ วถิ ชี ีวิตและความเป็นอยขู่ องชาวยุโรปท่ีผูกพนั กับโคนมมาอยา่ งยาวนานและ เป็นส่งิ ท่เี รยี กได้ว่าใกล้ตัวมากๆสำ�หรับชาวยโุ รป พวกเขาสามารถรีดน�้ำ นมวัวน�ำ มาด่ืมได้ เองทกุ วนั และสามารถนำ�น�ำ้ นมน้นั ไปบ่มเปน็ ชสี อกี ท�ำ ให้ชสี นน้ั ไม่ไดเ้ ปน็ แค่สว่ นหนง่ึ ของ วิถีชวี ติ ยังกลายเปน็ ส่วนหนงึ่ ของวฒั นธรรมการกินของยุโรปและทำ�ให้เกดิ งานประจำ�ปีของ คนทอ้ งถิ่นขึน้ อยา่ งงานเทศกาลประจำ�ปขี องคนทอ้ งถน่ิ ท่ีขน้ึ ชอ่ื กค็ อื งานเทศกาลกลิง้ ชสี (Cheese-Rolling) ของประเทศอังกฤษ อยู่ในบรเิ วณเนนิ เขาคูเปอร์ ซ่งึ ตัง้ อย่ใู กล้ๆ กับเมอื ง เชลเทน่ แฮม (Cheltenham) 36
ซ่งึ เทศกาลนอ้ี ยมู่ าถงึ 200 ปีกวา่ ปีแลว้ โดยความสนกุ ของเทศกาลนี้คอื จะมกี ารกล้ิงชีสก้อนกลม โต Double Gloucester Cheese(เหมือนชีสท่อี ยูใ่ นซูเปอร์มาร์เกตที่ยุโรปทั่วไป) ลงมาจากเนิน ของภเู ขา โดยใครก็ตามที่ว่งิ ตามลงมาเกบ็ ชสี กอ้ นใดกอ้ นหนงึ่ ก่อนได้นนั้ กจ็ ะเอาชสี กอ้ นนน้ั กลับ บ้านไปไดเ้ ลย เปน็ ประเพณดี ้งั เดมิ ของคนในท้องถ่นื ท่จี ดั ขึ้นเพื่อเฉลมิ ฉลองเวลาที่พระอาทติ ยเ์ ขา้ ใกลเ้ ส้นศูยน์สูตรมากท่สี ุด วงล้อของชสี น้ันก็คอื สญั ลกั ษณ์ของพระอาทิตย์ แต่มนั ก็ไม่ง่ายขนาด นนั้ ในเมื่อก้อนชีสกลมๆแต่ละลูกน้นั จะกลง้ิ ลงจากเนนิ เขาดว้ ยความเร็วประมาณ 70 กโิ ลเมตร ต่อช่ัวโมง ในปี 1997 เคยกล้ิงลงมาชนคนดจู นหมดสติไปแล้ว เพราะฉะนนั้ กว่าจะวิ่งลงเขาตาม ชสี มาได้นนั้ ก็ จะทุลกั ทเุ ล บาดเจ็บก็มี ใครท่ีว่งิ ได้ทนั และลงมาถึงขา้ งล่างกอ่ นคนนั้นถงึ เป็นผ้ชู นะ อย่างแทจ้ ริง 37
งานเทศกาลนี้จดั ข้ึนท่ี หม่บู ้านบรอคเวิร์ธเท่าน้นั ในทกุ ปีก็จะมที ั้งนักท่องเที่ยวและคนในทอ้ งถน่ิ มาเขา้ ร่วมความสนกุ นท้ี ุกปอี ย่างตอ่ เนอื่ ง และสามารถลงแข่งขนั กันได้เลย โดยไมเ่ สียค่าใชจ้ า่ ย ใดๆทัง้ สิน้ จึงนบั ได้ว่า ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก่ีสมัย ชีสนั้นกย็ ังคงสะท้อนถงึ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของ ชาวยุโรปได้เป็นอยา่ งดี และชสี นั้นยังปรบั ไปตามกาลเวลาผ่านการ พัฒนา ปรับปรงุ ดดั แปลง รสชาติของคนในท้องถนื่ และในยคุ สมยั นั้นๆ เพ่ือความเหมาะสมกบั วฒั นธรรมการกนิ อาหารของ ผู้คนในแต่ละยคุ สมัยเสมอ ไมว่ า่ จะอดีต ปจั จุบนั หรือแมแ้ ตอ่ นาคต. 38
ทานชสี กบั 39
อะไรดีนะ 40
ชาวยโุ รปนั้นทานชสี กบั อะไรกนั นะ ? ชสี น้ันสามารถเลอื กทานไดอ้ ย่างหลากหลายตามความชอบของแตล่ ะคน ไม่วา่ จะเป็นการ ทานชสี เปลา่ ๆ ทานคกู่ ับอาหาร เครอ่ื งด่มื หรือน�ำ มาทำ�เป็นส่วนผสมของอาหารหลาก หลายชนิดกันไป อยา่ งเครอ่ื งดม่ื ท่ีเป็นที่นยิ มเหมาะสมในการทานชีสคู่ไปดว้ ย กค็ อื ไวน์ขาว, แชมเปญ, ไวน์แดง ซึง่ ตวั ไวน์แดงนีถ้ อื เปน็ เครอ่ื งดม่ื ทีช่ าวยโุ รปเลือกมาทานคูก่ ับชีสมาอยา่ ง ยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนเนื่องด้วยเวลาทจี่ ะเกบ็ ชสี ไวท้ านนานๆ แลว้ รสชาติของชีสจะเปล่ียนไป ความอรอ่ ยจะลดน้อยลง ความเข้มข้นของไวนแ์ ดงน้ันจงึ เปน็ สง่ิ ทีจ่ ะช่วยเตมิ เตม็ ใหร้ สชาตทิ ขี่ าด หายไปน้นั หายไป ทานชีสเปล่าๆ ทานคู่กับอาหาร 41
น�ำ มาเปน็ ส่วนผสมอาหาร 42
ไวนแ์ ดง แชมเปญ ไวนข์ าว 43
Search