Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Art land of the Rising Sun

Art land of the Rising Sun

Published by Kachornpon, 2021-12-06 02:57:21

Description: Art land of the Rising Sun

Search

Read the Text Version

1

2 The Origins of Japanese Art เปน็ ทรี่ ูก้ ันวา่ ศิลปะของชาวญีป่ ุ่นถูกผกู ไว้กบั ธรรมชาติ สงั เกตได้ จากสิง่ รอบตวั เช่น สวนหนา้ บา้ น สถาปตั ยกรรมและส่งิ ปลูกสรา้ งทส่ี ามารถ กลมกลืนกบั สภาพแวดล้อมได้อยา่ งลงตัวอีกทงั้ ยังสามารถอนุรักษไ์ วซ้ ึง่ ธรรมชาตดิ ้งั เดมิ สอดคลอ้ งกบั ความเช่อื ของชาวญี่ปนุ่ ท่ีเคารพการมอี ยูข่ อง เทพเจา้ กอ่ นหน้าทป่ี ระเทศจีนและเกาหลจี ะนำศาสนาพุทธเข้ามามอี ทิ ธพิ ล ตอ่ ประเทศญ่ปี ่นุ ในศตวรรษท่ี 6 ศาสนาชินโตถือเปน็ ความเชือ่ ทยี่ ดึ มน่ั และ ทรงคุณค่ามาอยา่ งยาวนานในแดนอาทติ ย์อทุ ัย ถือเปน็ สญั ลักษณข์ องความ ศรัทธาและยึดมัน่ ในความเช่อื ตอ่ สรรพสิง่ ของชาวญ่ปี ่นุ เพราะถงึ แมไ้ ม่มี ศาสดา แตค่ วามเชือ่ นก้ี ย็ ังคงสบื ตอ่ และอยู่ค่มู ากบั ชาวญปี่ ุน่ จนถึงปจั จบุ ัน เมอื่ เกดิ ความเช่อื จงึ ทำให้เกดิ ความศรัทธา และเมือ่ นั้นกจ็ ะเกิดการสร้างสรรค์ ขนึ้ ดงั น้นั อาจกลา่ วไดว้ ่า ศลิ ปะดงั้ เดิมของญปี่ ่นุ ถอื เป็นสญั ลักษณ์ทถ่ี กู สร้าง และถ่ายทอดผา่ นมมุ มองของความเช่ือในศาสนาชินโต ว่าเทพเจา้ ทเ่ี รยี กขาน กนั ดว้ ยช่อื กามิ (Kami) น้นั มีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง เช่น ส่งิ ของ รปู ปน้ั อาคาร และรวมไปถงึ ธรรมชาติ

3 Senzui Byobu, Landscape Screen, 12th century, Kyoto National Museum ภาพวาดสกรีนผา้ ไหมญป่ี ุ่นสมัยเฮอัน (794-1185) ซ่ึถอื เปน็ ศลิ ปะ ที่เกา่ แก่ และไดร้ บั การพฒั นาตอ่ มาจากทคนคิ ของชาวจีน ดว้ ยมสี ไตล์การ วาดและเลา่ เรอื่ งแบบจนี แตท่ วิ ทศั นเ์ ป็นของญปี่ ุน่ เหน็ ถึงความผสมผสาน ระหว่างสองวฒั นธรรม จงึ เดาไดว้ า่ ผ้วู าดเป็นการแสดงใหเ้ หน็ ถงึ จนิ ตนาการท่ี ผูว้ าดมตี อ่ ประเทศจีน Painting of a Cypress by Kano Eitoku, 16th Century, Tokyo National Museum ศลิ ปะญี่ปุน่ แบบอิสระคลาสสกิ ทเ่ี รียกวา่ ยามาโตะเอะ (yamato- e) เป็นศิลปะทไี่ ดร้ ับแรงบนั ดาลใจจากราชวงศ์ถงั และพฒั นาตอ่ มาอยา่ งถึง ขีดสุดในช่วงปลายสมยั เฮอนั (794-1185) ศลิ ปะยามาโตะเอะมกั จะแสดงให เห็นถึงภาพธรรมชาติเปน็ สว่ นใหญ่ ด้วยการแทนทลี่ วดลายธรรมชาตขิ องจนี ดว้ ยภูมปิ ระเทศของญี่ปนุ่ ถือเป็นงานร่วมสมยั ระหว่างจีนและญีป่ ุ่น

4 View of Ama no Hashidate, Ink Painting by Sesshu Toyo, 1501, Kyoto National Museum ภาพวาดหมึกญ่ปี ่นุ หรอื ท่เี รียกวา่ ซมุ เิ อะ (sumi-e) เปน็ การวาด ภาพดว้ ยพู่กนั และหมึกสดี ำลงบนพ้นื กระดาษสีขาวที่ทำมือ ส่วนใหญจ่ ะใช้ แสดงภาพธรรมชาติและทวิ ทศั น์ของญ่ีปุ่น และความซบั ซ้อนทีง่ ดงามของโลก ธรรมชาติ โดยมจี ดุ กำเนดิ มาจากในสมัยราชวงศซ์ ่งใต้ นกั วิชาการของจนี ใช้ หมึกดำและพ่กู นั ในการถ่ายทอดขอ้ ความและดัดแปลงเปน็ งานศลิ ปะ ถูก นำเขา้ มาในญ่ปี ุน่ โดยพระภกิ ษนุ ิกายเซน จากประเทศจีนในศตวรรษที่ 14 จึง ทำใหไ้ ดร้ บั การพฒั นาและดัดแปลงจนเป็นหนึง่ ในเทคนิคการวาดภาพด้วย หมกึ อันโดง่ ดงั ของญี่ปุ่น ศิลปะญป่ี ุ่นได้รบั อิทธิพลจากสงครามตลอดหลายศตวรรษท่ีผ่านมา เม่อื เกิดสงครามจงึ ทำให้มีการนำวฒั นธรรมของชนต่างชาติเข้ามาส่เู กาะญี่ป่นุ นั่นรวมถงึ เทคนคิ สร้างงานศลิ ปะในรปู แบบตา่ งๆ อยา่ งไรกต็ าม เมื่อศิลปะ ญ่ีปนุ่ มีการพฒั นาขึน้ จนสามารถคดิ ค้นเทคนคิ และวิถที างศลิ ปะของตวั เอง เกดิ เปน็ ความงามอย่างเรยี บง่ายและกลมกลนื กับธรรมชาติทเี่ ป็นเอกลักษณ์ ของงานศลิ ปะในแดนอาทิตยอ์ ทุ ัยจนถงึ ปัจจบุ นั

5

6 ถ้าหากพดู ถงึ ชา กค็ งต้องนกึ ถึงดินแดนแหง่ เมลด็ ชาอย่างญ่ีปุ่นเป็น อยา่ งแรก การพฒั นาของพิธชี งชามอี ิทธพิ ลตอ่ ประวตั ศิ าสตรศ์ ลิ ปะและงาน ฝีมอื ของชาวญี่ปนุ่ อยา่ งมาก โดยเครือ่ งปั้นดนิ เผาสำหรบั พธิ ดี ื่มชานเี้ ดิมทีถกู นำเข้ามาจากประเทศจีน ในเวลาตอ่ มาญปี่ ่นุ ปรบั และพฒั นาโดยท่าน เซ็น โนะ ริควิ (Sem no Rikyu) ให้เปน็ แบบเรียบง่าย เพ่ือแสดงถงึ ความอ่อนนอ้ ม ถอ่ มตนและความศักดสิ์ ิทติ์ ามหลกั ของศาสนาพุทธนกิ ายเซน (Zen) และมี ความสำคญั มากถงึ ภมู ิทศั น์การออกแบบของญปี่ ุ่นท่ีเปน็ เอกลกั ษณ์ พธิ ชี งชาเป็นพิธที เ่ี รยี บง่าย สงา่ งาม และแฝงไปดว้ ยปรัชญาทลี่ ึกซง้ึ ดังวลีญีป่ ุ่น “อิจิโกะ อจิ เิ อะ (Ichigo Ichie)” ซึง่ หมายถึง “การได้พบกนั ครง้ั เดยี วในชวี ติ ” มาจากแนวความคดิ วา่ ไดพ้ บกันในพธิ ชี งชาน้นั อาจจะเป็น โอกาสเพยี งครัง้ เดยี วในชวี ติ แล้วหลังจากนี้จะไมไ่ ดม้ โี อกาสพบกนั อกี แล้วเลย กไ็ ด้ ดงั น้นั ชว่ งเวลาท่ีได้พบกันจงึ เปน็ สงิ่ ที่มีคุณคา่ ควรปฏิบตั ติ ่อกนั อยา่ งดี ท่สี ุด ลกั ษณะเดน่ ของพธิ ชี งชาหรือดม่ื ชานน้ั อยู่ทสี่ ุนทรยี ภาพในการลมิ้ รส รปู รส กลนิ่ เสียงและ จติ ใจ รวมถงึ การช่ืนชมความงามของภาชนะทใี่ ส่ ชา หรอื อปุ กรณ์ตา่ งๆในพธิ ีทั้งหมด การแต่งกาย เปน็ การส่อื สารทางใจ ระหวา่ งเจ้าบา้ นและผู้มาเยอื น

7 Essential Japanese Tea Ceremony Utensils พธิ ชี งชาแบบญ่ปี ุ่น หรอื ทีเ่ รยี กกันในชอ่ื chanoyu แปลวา่ นำ้ รอ้ น สำหรบั ชงชา คือการแสดงออกถงึ ความงามในการต้อนรบั ผมู้ าเยือน ดมื่ ด่ำ และให้เกยี รตแิ ขกและธรรมชาติ โดยภายในพิธีจะต้องมีอปุ กรณ์ต่อไปนี้ Chaire / 茶入 – Tea Caddy for Thick Tea โดยท่วั ไปจะเป็นรูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ แต่รูปรา่ งแตกตา่ งกนั ไป มีฝา ปิดท่ที าจากงาชา้ ง และแผน่ ทองคาเปลวอย่ดู า้ นล่าง ตวั โถมกั เป็นเซรามิก ถกู หมุ้ ดว้ ยกระเป๋ าหรู ูดท่ตี กแต่งลวดลาย เรยี กวา่ ชฟิ กุ ุ (shifuku) ใชใ้ นการเตรียมชาเขม้ เรียกวา่ โคอชิ า (koicha) และเน่อื งจาก ชะอเิ ระถือเป็นภาชนะศกั ด์ิสิทธิ์ จึงตอ้ งถกู ทาความสะอาดตามพธิ ีกรรม ดว้ ยผา้ ไหม

8 Chakin / 茶巾 – Hemp Cloth ผ้าท่ที ำจากป่าน หรอื ผา้ ลินินทมี่ ลี วดลายสวยงาม ใชส้ ำหรับเช็ดทำ ความสะอาดถว้ ยชาหลังจากที่แขกด่มื เสรจ็ ในระหวา่ งเตรียมพธิ ี ชะคิงจะถูก ทำความสะอาดจาดน้ันจะคอ่ ยๆกางออกอย่างระมดั ระวังเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ รอย Chasen / 茶筅 – Tea Whisk แกะสลักจากไมไ้ ผ่ชน้ิ เดยี ว จำเป็นต้องไล่เพ่ือเตรยี มผงชาเขยี ว ทำ จากไมไ้ ผส่ ด แหง้ หรือรมควัน หัวจะละเอียด ปานกลาง หรือหยาบก็ได้ ประเภทของ Chasen ขน้ึ อยู่กับชนดิ ของชาท่ีเสิร์ฟ

9 Chashaku / 茶杓 – Tea Scoop แกะสลักจากไม้ไผห่ รอื งาชา้ งชิ้นเดยี ว เป็นเครือ่ งมือสำหรับตกั ผงมัทฉะ ชาชาคจุ ะมีปมอยูต่ รงกลางไว้สำหรับตกั ชาจากโถชา สามารถเลือก สีและลกั ษณะได้ตามประเพณีและฤดกู าล Chawan / 茶碗 – Tea Bowl ชาแต่ละชนิดตอ้ งการชะวังทแ่ี ตกตา่ งกันมีหลายขนาดและหลาย สไตล์ แตกต่างตามฤดกู าล ถว้ ยตน้ื ควรใช้ในฤดูร้อนและถว้ ยลกึ ควรใชใ้ นฤดู หนาวเพ่อื ใหช้ าคงความรอ้ นไว้

10 Fukusa / 袱紗 – Silk Cloth ใชส้ ำหรบั พธิ ชี ำระชาชะคุ และนัตสเึ มะ และเพอ่ื ถือฝากามะ ฟกุ สุ ะ มกั จะเป็นสีเดยี วและไมม่ ลี วดลายใดๆ ผ้ชู ายมกั ใชฟ้ ุกุสะสมี ่วงในขณะทีผ่ หู้ ญงิ ใชส้ ีสม้ หรอื สีแดง Furo / 風炉 – Portable Brazier ใชใ้ นฤดใู บไมผ้ ลแิ ละฤดรู ้อน ฟุโรมหี ลากหลายรูปทรง ในสมัยก่อน ส่วนใหญท่ ำดว้ ยทองสมั ฤทธิ์ ตอ่ มาเตาอัง้ โลด่ นิ เหนยี วและเหลก็ เริ่มเปน็ ที่ นิยม สำหรับพิธีที่เป็นทางการ

11 Futaoki / 蓋置 – Kettle Lid and Ladle Rest เมื่อเรมิ่ พธิ ี ฟุตาโอกจิ ะถูกวางอยู่บนกามะ และฮิชาคุจนกว่าเจา้ บา้ นจะรบั นำ้ ร้อนถ้วยแรกจากแขก ฟตุ าโอกมิ ีทั้งทำมาจากไม้ไผ่ และทำจาก เซรามิกในสมยั ใหม่ Hishaku / 柄杓 – Ladle ใช้สำหรบั ตักชา และมีการเลือกใชฮ้ ซิ าคุขนาดแตกต่างกนั ไป แลว้ แตพ่ ิธีการ

12 ความนิยมของพิธชี งชาพิสจู นใ์ หเ้ ห็นถงึ แรงกระตนุ้ ทางเศรษฐกจิ ท่คี า้ จนุ งานฝีมือของชาวญ่ีป่นุ และตลอดหลายศตวรรษแห่งความสงบสขุ ในสมยั เอโดะ ความงดงามของวาบิ-ซาบไิ ดแ้ ผข่ ยายไปสอู่ ตุ สาหกรรมส่ิง ทอ เครอ่ื งหอม เครอ่ื งโลหะ งานไม้ และเซรามิก และอน่ื ๆ ท่ที กุ คน กระตอื รอื รน้ เพ่อื จดั หาสิง่ ท่ดี ที ่สี ดุ ในการออกแบบของญ่ีป่นุ ใหก้ บั ลกู คา้ ท่ี ฝึกดื่มชา ทกั ษะการประดษิ ฐ์เหลา่ นยี้ งั นาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั กลอ่ งเบนโตะ และต๊กุ ตาแบบดงั้ เดมิ ของญ่ีป่นุ อกี ดว้ ย

13

14 The Art of the Samurai Samurai Armor, 18th Century, the Met Museum ซามูไร หรือทร่ี ูจ้ กั กนั ในชอ่ื บชุ (ิ bushi) ซง่ึ มีความหมายตรงตัวว่า ‘ผรู้ บั ใช’้ เป็นขนุ นางนกั รบในสงั คมช้ันสงู ของญ่ปี นุ่ ท่ีมีเกียรตยิ ศทด่ี ำเนินชีวติ ตามหลกั จรรยาบรรณของวถิ ีซามไู รทเี่ รียกวา่ บูชิโด (bushido) แตห่ ลายคน อาจไม่ทราบนกั วา่ นักรบผู้นา่ เกรงขามนีไ้ มเ่ พยี งแตไ่ ด้รับการฝึกฝนแคก่ าร ต่อสู้ แตย่ ังมีการหาทกั ษะอยา่ งอ่นื เพราะซามไู รถกู คาดหวังใหต้ ดิ ตามทั้ง bu และ bun - ศลิ ปะแหง่ สงครามและวฒั นธรรม มแี มก้ ระทงั่ สำนวนสำหรบั วิถี ชีวิต bunbu-ryodo ซึ่งหมายถงึ ศลิ ปะวรรณกรรม และศลิ ปะการตอ่ สู้

15 ในสมยั เอโดะ (1603-1867) เป็นยุคทีร่ ุ่งเรอื งของกลุม่ ซามไู ร ใน ฐานะท่ีเปน็ ชนชนั้ สูงสุดของลำดบั ชั้นทางสงั คม ซามไู รจึงไดร้ บั การคาดหวังว่า จะไดร้ ับความรูแ้ ละทกั ษะ นอกเหนือจากทมี่ ีอำนาจและทกั ษะการรบ เน่อื งจากซามูไรมีหนา้ ทร่ี ับใช้ขนุ นางผมู้ ั่งคั่ง ผ้ใู หค้ วามสำคญั กับงานศิลปะ นักรบซามไู รจงึ สรา้ งอดุ มคตใิ นศิลปะและพฒั นาต่อศลิ ปะในหมู่ของนกั รบจึง ทำให้ซามไู รส่วนใหญ่ใช้ความม่งั คง่ั และรงุ่ เรอื งในยุ่งของตวั เอง ในการศกึ ษา กวี เปน็ นักสะสม หรือแม้แต่ศลิ ปนิ Miyamoto Musashi by Utagawa Kunisada, 1858 มยิ าโมโตะ มซู าชิ (Miyamoto Musashi,1584-1645) คอื บุคคลที่ ได้ชอ่ื ว่าเปน็ บรุ ษุ ยุคเรอเนซองส์ เป็นตวั อย่างทีส่ มบูรณแ์ บบของซามูไรในยคุ รงุ่ เรือง เป็นนักดาบ นักยุทธศาสตร์ นักปรัชญา จิตรกรและเปน็ นกั กวี ผปู้ ระพันธห์ นงั สอื เรอ่ื ง Five Rings ซึ่งให้เหตุผลว่านกั รบทีแ่ ท้จรงิ เช่ียวชาญ ศิลปะหลายรูปแบบนอกเหนอื จากดาบ เช่น การด่มื ชา การเขียน และการ วาดภาพ

16 Tomoe Gozen by Shitomi Kangetsu, Late 18th Century อนนะ-บเู กอิชา ทเ่ี ป็นท่ีนา่ จดจำของญป่ี นุ่ คือ โทโมเอะ โกเซน็ (Tomoe Gozen,1157-1247) เธอคือสตรนี กั รบในตำนานในมหากาพย์ The Tale of the Heike เป็นซามไู รสตรีท่ที ั้งงดงามและแข็งแกรง่ มี พละกำลงั มากมาย แม้ว่าโทโมเอะจะมีชวี ิตอยแู่ คเ่ พยี งในตำนานเลา่ ขาน ประจำเกาะญ่ปี ุ่น แต่เร่ืองราวของเธอนัน้ เป็นแรงบันดาลใจในความกลา้ ให้กบั อนนะ-บูเกอิชา ในยุคหลังตอ่ มา และเธอยงั เป็นต้นแบบในหัวข้อการ แสดงละครคาบูกแิ ละภาพวาดอกุ โิ ยะอกี มากมาย

17 The Trustees of the British Museum, Katana by Osafune Sukesada 18th Century Tsuba, the Met Museum สว่ นที่กนั ใบมดี ออกจากด้ามนนั้ เรยี กว่า ซึบะ (Tsuba) หรือคือกระ บงั มอื พัฒนามาจากจานโลหะธรรมดาท่มี กี ารสลกั สญั ลกั ษณต์ ่างๆ ในยุคหลัง มกี ารแกะสลักลงบนกระบงั มอื เปน็ สัญลกั ษณ์มงคล ตราประจำตระกูล หรือ แมแ้ ต่ฉากสำคญั ในวรรณกรรม แตเ่ ดมิ ซึบะมหี น้าท่เี พยี งเกาะผา้ ท่ผี กู เอวเพ่ือ ยดึ ฝักดาบเขา้ กับตวั ดาบ แต่ในยคุ หลังไดพ้ ฒั นาเปน็ งานศิลปะท่ีตกแตง่ อย่าง ประณตี

18 Kawari Kabuto Helmet, the Met Museum ชุดเกราะซามไู รก็น่าประทับใจและซบั ซอ้ นไมแ่ พ้กัน เรียกว่า Men- yoroi หรือเรยี กสน้ั ๆว่า Mempo เกาะป้องกนั ใบหน้าอกี ท้งั ยังเปน็ การ ตกแตง่ บนหนา้ กาก มหี ลายประเภท เชน่ โซแมน เมนโป ฮันโบ และฮัปปรุ ิ ถกู ประดษิ ฐ์ขน้ึ ด้วยมืออย่างเชีย่ วชาญ และถึงแม้ว่าจะเปน็ อปุ กรณส์ ำหรับทำ ศกึ แตห่ น้ากากและชดุ เกาะ Mempo ก็สมควรได้รับการยกย่องและชน่ื ชม ในมมุ มองของศิลปะ ซามไู รยงั คงสวมหรอื แสดงชุดเกราะเป็นสญั ลกั ษณข์ อง สถานะของตน แม้ในเวลาท่ไี มม่ ศี กึ

19

20 Edo Beauty in Ukiyo-Prints ภาพอกุ ิโยเอะมีต้นกำเนดิ มาตัง้ แตส่ มัยเอโดะหรอื ปลายศตวรรษที่ 19 และได้ครบั ความนิยมอยา่ งแพร่หลายไปทั่วโลก ภาพพิมพด์ ว้ ยบล๊อคไม้ ของญ่ปี ุ่นมีอทิ ธิพลสำคญั ต่อการพฒั นาสิง่ พมิ พส์ มยั ใหมข่ องยโุ รป ผเู้ ชีย่ วชาญศลิ ปะญปี่ ุ่นชาวฝรง่ั เศส คุณ Brigitte Koyama-Richard ได้ เผยแพรใ่ หโ้ ลกไดร้ ้จู ักกับอกุ ิโยเอะ โดยงานแสดงอกุ โิ ยเอะได้จดั ข้นึ ในฝรง่ั เศส ผสู้ นใจความสวยงามและสีสนั ของ ภาพอุกิโยเอะไดแ้ กศ่ ลิ ปนิ จำนวนมาก เชน่ ชา่ งสชี าวฝรั่งเศส Manet, Degas, Monet, and Van Gogh,ศลิ ปนิ ภาพ พมิ พด์ ว้ ยบล๊อคไม้ Rodin

21 ต้นกำเนิดภาพอกุ โิ ยะเอะเกิดขนึ้ ในช่วงทม่ี ีการค้าขายและเศรษฐกิจ ดี มคี วามเจรญิ กา้ วหน้า ชนชน้ั พอ่ ค้ามีความมั่งคง่ั รำ่ รวย และมเี ทคโนโลยีท่ี ทันสมัยมากข้นึ ทำให้ภาพอุกิโยะท่กี ำลังเป็นทนี่ ยิ มตอบสนองความตอ้ งการ ของคนในสมัยน้ันได้ เทคนคิ การพมิ พ์ดว้ ยบลอ๊ คไม้ถูกนำเข้ามาจากจีนและใช้สำหรับการ พิมพห์ ลักธรรมคำสอนทางพทุ ธศาสนาโดยในชว่ งแรกใช้บล๊อคเพียงชนิ้ เดยี ว ในการพิมพห์ นง่ึ แผน่ กอ่ นเกิดภาพอกุ โิ ยเอะนัน้ การพิมพ์จะเปน็ หมกึ สดี ำ ตอ่ มาจงึ เรม่ิ มีการพมิ พ์โดยใช้หมึกสีแทน การยอ้ มสจี ากกำมะถันและปรอท การยอ้ มสจี ากเมล็ดดอกไม้ safflower เป็นตน้ ทำให้ในชว่ งกลางศตวรรษท่ี 18 ศิลปนิ สามารถสร้างภาพพมิ พ์ท่มี สี องถงึ สามสไี ด้ ศลิ ปนิ ท่ชี อ่ื Suzuki Harunobu สามารถสร้างภาพพิมพท์ ี่มหี ลากสที เี่ รียกวา่ นิชกิ เิ อะ (nishiki-e) ได้

22 Two girls, c.1750 ภาพ Nichiki-e ที่สรา้ งสรรค์ โดย Suzuki Harunobu (1725-1770)

23 Lovers Walking in the Snow (Crow and Heron)1764–72

24 Courtesan after Work

25 ในช่วงแรกภาพนิกิชิเอะมีราคาสูงมากและเม่ือราคาลดลงจนเทา่ ราคากว๋ ยเตย๋ี ว 1 ชาม จึงทำให้เกิดภาพอกุ ิโยะเอะโดยการแบ่งงานกนั ของ ตอ่ มาผจู้ ดั พิมพ์ได้จา้ งชา่ งสีให้ทำภาพ “ฮันชติ ะเอะ (hanshita-e)”เปน็ ภาพ ทว่ี าดลงบนกระดาษด้วยหมกึ สดี ำ เมื่อผ้จู ดั ทำอนมุ ตั ิแลว้ จึงนำไปแกะสลัก บลอ็ กโดยชา่ งไม้ และพมิ พภ์ าพลงไปโดยช่างพิมพใ์ นช่วงเวลาทผี่ ู้จัดพิมพ์มี บทบาทสำคญั ในเวลาน้ันได้ว่าจา้ งช่างสที ม่ี ีพรสวรรค์ เช่น Kitagawa Utamaro (1753-1806), Katsushika Hokusai (1760-1849) และ Tōshūsai Sharaku การแบง่ งานกนั ทำใหภ้ าพอุกิโยเอะ สามารถวางขายในรา้ นคา้ แผง ลอย หาบเร่ขายตามท้องถนนตอ่ มาภาพอุกโิ ยเอะกลายเปน็ ของฝากทเ่ี ปน็ ท่ี นิยม เพราะมนี ้ำหนกั เบาจนในศตวรรษท่ี 19 มเี ครื่องจกั รกลด้านการ ถ่ายภาพเกดิ ขนึ้ และทำใหภ้ าพอกุ โิ ยะเอะถกู นำมาใชด้ า้ นการโฆษณาแทน

26 ภาพพมิ พห์ ลายสชี นิ้ แรกทผ่ี ลิตโดย Suzuki Harunobu ถกู นำมา เป็นภาพของปฏิทนิ ซึ่งเรียกวา่ เอะโกโยมิ (e-goyomi) ทำใหภ้ าพอกุ โิ ยเอะถูก นำไปใช้ในหลายเปา้ หมาย เชน่ ทางด้านการค้า

27 ภาพอุกิโยเอะถกู นำไปใชใ้ นโฆษณาเรอื่ งการบรโิ ภค,เส้อื ผ้า, ห้างสรรพสนิ ค้า,การนำเสนอภาพอาหารเพื่อปอ้ งกนั โรคระบาด,เครอื่ งสำอาง โดยใช้ภาพผหู้ ญงิ หนา้ ขาวปากแดงเพอ่ื แสดงถงึ ลักษณะของผหู้ ญงิ สวยทไี่ ด้รบั ความนยิ มในยคุ สมยั นั้น เชน่ นกั แสดงเรอื่ งKabuki เม่ือสิ้นสุดยคุ เอโดะความสนใจในประเทศตา่ งชาตแิ พรข่ ยายใน สงั คมญ่ีปนุ่ ส่งผลให้การพมิ พ์ภาพอกุ โิ ยเอะจำจวนมากเป็นการพมิ พภ์ าพ เกีย่ วกบั ชวี ติ ของชาวต่างชาติ และเทคนคิ การผลิตภาพแบบอุกโิ ยเอะได้ในมาใชง้ านงานศิลปะท่ี เรยี กว่า surimono โดยในประเทศตะวนั ตกไดร้ จู้ กั การพมิ พภ์ าพแบบญป่ี ุ่น ในฐานะทเ่ี ป็นภาพศลิ ปะแบบอโิ รตกิ และภาพอุกโิ ยเอะไดม้ อี ิทธพิ ลตอ่ ศิลปิน ไปทว่ั ท้งั โลก

28

29 Traditional Japanese Architecture คุณสมบัตหิ ลักของสถาปัตยกรรมของญ่ีปุน่ โบราณคอื การสรา้ ง โครงสร้างเฉพาะไม้มีหลังคาขนาดใหญแ่ ละแสงผนังทีเ่ ปราะบาง น่ีคอื สาเหตุ ทสี่ ภาพภมู อิ ากาศทช่ี น้ื และอบอ่นุ ของเกาะซง่ึ มักจะมฝี นตกชุกมาก เชน่ เดยี วกบั การเกดิ แผ่นดนิ ไหวเปน็ ระยะ

30 สถาปัตยกรรมแบบดัง้ เดมิ ของญีป่ นุ่ ” โดยท่วั ไปหมายถึงอาคารท่ี สรา้ งข้ึนในช่วงสมยั เอโดะซ่ึงเปน็ ชว่ ง ศตวรรษที่ 17 – 19 สถาปตั ยกรรมในยคุ กลางของญ่ีปนุ่ ค่อนขา้ งจะเทยี บไดก้ ับ สถาปัตยกรรมยโุ รปยคุ กลางในขณะนัน้ เนอ่ื งจากมปี ราสาทมากมาย แต่ก็งา่ ยกว่าสถาปัตยกรรมแบบยโุ รปมาก ต่อจากนไี้ ป สถาปัตยกรรมญป่ี ุน่ เรม่ิ ได้รบั อิทธพิ ลจากตะวันตกมากข้ึน สถาปัตยกรรมญีป่ ุ่นจะใชไ้ มเ้ ป็นหลักเพราะชอบธรรมชาติและจะไม่ ค่อยทาสลี งไป(ในบา้ นและอาคารบางแห่ง)เพราะคิดว่าลายไม้ปกติกส็ วยอยู่ แล้ว

31 มุ้งลวดและประตบู านเลือ่ น บานเล่ือนแบบเคลือ่ นยา้ ยได้ (โชจ)ิ ประตบู านเลอื่ น (ฟซุ ูมะ) ถกู ใชใ้ นบา้ นญ่ีปุ่นเกา่ ๆ หลายหลงั โดยท่ัวไปแล้ว ฉากกน้ั ห้องจะทำจากกระดาษ เพอื่ ให้แสงและเงาลอดผา่ นได้

32 เกน็ เคน ทว่ั ไปในบ้านญป่ี ่นุ แบบดง้ั เดิมและรว่ มสมยั Genken หมายถึงสว่ นเล็ก ๆ ของ แผนผังชน้ั ทม่ี ีชอ่ งว่างระหว่างประตูหนา้ และสว่ นอ่ืน ๆ ของบ้าน นค่ี อื ท่ใี ส่ รองเท้ากอ่ นเข้า

33 ระเบียง ระเบยี ง เรยี กว่า เอ็นงาวะ อยดู่ ้านนอกรอบๆบา้ น

34 อาคารและวัดทีม่ ีชื่อเสยี งของญี่ปุ่น วดั ยากชุ ิจิ วัดทีไ่ ดร้ บั อิทธพิ ลมาจากจีน เปน็ วดั ท่สี ามารถบำบดั รกั ษาโรคได้ สรา้ งขึ้นในปี ค.ศ.680 ในสมยั จกั รพรรดเิ ทม็ มุ เม่ือพระมเหสใี นจกั รพรรดเิ ท็มมปุ ระชวร พระองคก์ ไ็ ดท้ รงสรา้ งวดั ยาคุชจิ ิขึ้น เพื่อเปน็ สถานทสี่ วดมนตอ์ ธิษฐานให้พระมเหสหี ายจากพระอาการประชวร โดยเรว็ คำว่า “ยะค”ุ ในภาษาญป่ี ุ่นหมายถึงยา และวดั แห่งนี้กม็ ีชอ่ื เสยี งใน เรือ่ งยารกั ษาโรคและการบำบัดโรค วัดเก่าแก่นย้ี งั เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกด้วย

35 ปราสาทฮเิ มจิ ประสาทฮเิ มจิหรอื “ประสาทนกกระสาขาว” เร่มิ สร้างข้ึนในปี ค.ศ.1346 เหตทุ เี่ รยี กวา่ ปราสาทนกกระสาขาว เพราะเป็นสีขาวสะอาดตาและสวยสง่า กว่าปราสาทสีขาวที่อ่ืนในญ่ปี นุ่ ในเดือนธนั วาคม ปี ค.ศ. 1993 ปราสาทฮเิ มจิเป็นปราสาทแห่งแรกของญีป่ ่นุ ท่ถี กู จดทะเบียนเปน็ มรดกโลก เหตผุ ลทไ่ี ดร้ ับเกยี รต์ิเช่นนไ้ี ดแ้ ก่ มีรปู ลกั ษณท์ ่ี สง่างามโดยการใช้ปูนสขี าว เป็นเหมือนศูนยร์ วมหลากหลายเทคนคิ ทาง สถาปัตยกรรมไมข้ องญปี่ ่นุ ปราสาทฮิเมจิถือเปน็ ตวั อย่างทดี่ ีทส่ี ดุ ของ สถาปัตยกรรมปราสาทญป่ี ุ่นตน้ แบบท่ียังหลงเหลืออยู่

36 วัดเบยี วโดอนิ ถือว่าเปน็ วัดทีม่ ีรปู แบบสถาปัตยกรรมแบบโจโดทโี่ ดดเดน่ มากทส่ี ดุ แห่งหน่งึ ของญ่ีปนุ่ เป็นวัดท่ียดึ เอารปู แบบของศาสนาพุธมาใช้ในการสรา้ ง จดุ เด่นของวดั นี้คอื “วิหารสีแดง” และ Amida-do Hall หรือ Phoenix Hall วิหารไม้สแี ดงตั้งอยู่ตรงกลางวดั ซึ่งตัววิหารเปน็ โครงสร้างด้ังเดิมตั้งแต่อดตี ดา้ นบนตรงมมุ สนั หลังคามรี ปู ปนั้ นกโฮโอหรอื ทีท่ ัว่ ไปนยิ มเรียกวา่ ฟนี ิกซ์สอง ตวั ยืนอยู่

37 ศาลเจา้ อติ สึกชุ ิมะ เปน็ ศาลเจา้ ทีไ่ ดร้ บั การขนึ้ ทะเบยี นจากองคก์ ารยเู นสโก และยกให้เป็นสมบัติ ประจำชาตโิ ดยรัฐบาลญ่ปี นุ่ จุดเดน่ ของศาลเจ้าอิตสึกชุ มิ ะนนั้ คอื เสาโทริอิ ขนาดใหญท่ ต่ี ้งั อยูก่ ลางน้ำ

38 The Rise of Japanese Ceramics ประวัตคิ วามเป็นมาของเคร่ืองปั้นดินเผาญปี่ ุ่นเริ่มต้นด้วย เครื่องปน้ั ดนิ เผา Jomon ตามด้วยเครือ่ งป้นั ดนิ เผา Yayoi และต่อมาในสมยั Kofun (ศตวรรษท3ี่ -7) เทคนคิ นี้ประสบความสำเรจ็ ด้วยเครอื่ ง Haji และ haniwa terracotta เครื่องป้นั ดินเผา Jomon

39

40 เคร่อื งป้นั ดนิ ผาYayoi

41 ในชว่ งปี 1610 เครือ่ งลายครามถกู สร้างขน้ึ ในญปี่ ุ่นเปน็ ครง้ั แรกใน ภมู ภิ าคอารติ ะ โดยใช้เทคนคิ ของชา่ งป้นั หม้อจากคาบสมทุ รเกาหลี เคร่ือง ถว้ ยเหลา่ นเ้ี รยี กว่าเครอื่ ง ถว้ ยอิมาริ ซึ่งตั้งช่ือตามทา่ เรอื ทใ่ี ชข้ นส่งไปยัง ภมู ิภาคอ่นื อารติ ะ เลยี นแบบเครอ่ื งลายครามสีนำ้ เงนิ และสขี าวของ Jingdezhen ในประเทศจีน มชี ่อื เสยี งในด้านลวดลายทลี่ ะเอยี ดอ่อนและ ประณตี เครอ่ื งถว้ ยอมิ าริ

42

43

44 แจกันอะริตะ

45


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook