จากเจา้ หญิงส่รู าชนิ ี 1
From Princess to queen 2
ปกรอง จากเจา้ หญิงส่รู าชนิ ี From Princess to queen 3
From Princess to queen ค�ำนำ� เรื่องราวของสมเด็จพระราชนิ ีนาถเอลซิ าเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งทรง เสด็จข้ึนครองราชย์สมบัติ เมอ่ื วนั ท่ี 6 กุมภาพนั ธ์ ค.ศ. 1952 จนถึงปจั จบุ ัน ตลอดเวลา 64 ปี พระองค์เป็นพระมหากษตั รยิ ์ของ 16 ประเทศ จาก 53 รฐั สมาชกิ ในเครอื จกั รภพ แห่งชาติ และทรงเป็นกษตั รยิ ์ท่ีครองราชย์ยาวนานท่สี ุดเป็นอันดับสองของโลก รองจาก พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ภมู ิพลอดุลยเดช แหง่ ราชอาณาจักรไทย โดยท่ไี มม่ ีใครคาด หมายว่าพระองค์จะไดข้ ึ้นครองราชสมบัตเิ ป็นสมเด็จพระราชนิ ีนาถ เนอื่ งจากทรงเป็นพระ ราชนัดดาในพระมหากษัตรยิ ์ซงึ่ เปน็ บรุ ุษ มพี ระนามเตม็ วา่ เฮอรร์ อยลั ไฮเนส เจา้ หญิงเอลิ ซาเบธแห่งยอร์ก และอยลู่ ำ� ดบั ท่สี ามในล�ำดับการสบื ราชบัลลงั กอ์ ังกฤษ ตามหลงั เจ้าชาย เอด็ เวิร์ด เจ้าชายแหง่ เวลส์ พระปิตลุ าในลำ� ดับแรกและเจา้ ชายอัลเบริ ์ต ดยกุ แห่งยอรก์ พระราชบิดาในลำ� ดบั ท่สี อง ความเปน็ มาของรัชทายาทโดยสันนษิ ฐานนน้ั มีความเป็นมาอยา่ งไรเพราะเหตุ ใดพระองคจ์ ึงได้รับการยกยอ่ งใหเ้ ป็นสตรผี ู้ครองโลก หนงั สอื ฉบบั นีจ้ ะน�ำพาผอู้ ่านไปพบ กับเส้นทางสู่ราชบัลลังก์ของกษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรที่มีพระชนมายุมากที่สุดและ ครองราชยย์ าวนานทสี่ ดุ ในประวตั ิศาสตร์อังกฤษ โดยการบอกเลา่ ผา่ นตวั อักษรมากมาย ในหนา้ ถดั ไปจากนี้ ศุภรกจิ อุดมวชิ ชากร 13580083 นักศกึ ษคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร เอกธรุ กิจ ช้นั ปีที่ 2 4
จากเจา้ หญิงส่รู าชนิ ี 5
From Princess to queen 6
จากเจ้าหญิงสู่ราชนิ ี Contents ค�ำน�ำ 2 พระชนม์ชีพช่วงต้น 7 พระราชประวตั เิ บอ้ื งต้น 8 พระอยั ยกาสวรรคต 14 พระปติ ุลาข้นึ ครองราชย์ 16 พระบิดาขึ้นครองราชย์ 22 สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 25 อภเิ ษกสมรส 30 อภเิ ษก 32 พระราชบตุ ร 34 ขึ้นครองราชย ์ 35 ราชาภิเษก 36 7
From Princess to queen Contents พระราชกรณียกิจและเหตกุ ารณอ์ น่ื ๆ 39 พระราชกรณยี กิจ 40 พระราชพิธีรัชดาภเิ ษก 43 ถูกรอบปลงพระชนม ์ 44 การสญู เสียครัง้ ยิง่ ใหญ่ 46 พระราชพิธกี าญจนาภเิ ษก 47 พระราชพิธีพัชราภิเษก 48 ข้อมูลสว่ นพระองค ์ 49 ระยะเวลาการครองราชย ์ 51 สถานะทางการเงนิ 52 ธงประจ�ำพระองค ์ 53 รัชทายาท 55 ปฏสิ มั พันธ์กบั ราชวงศจ์ กั รไี ทย 57 ความสมั พันธ์กบั ราชอาณาจักรไทย 59 รว่ มอาลยั พระเจ้าอย่หู ัวในพระบรมโกศ 61 บรรณานุกรม 63 8
จากเจ้าหญงิ สู่ราชนิ ี 1 พระชนมช์ พี ชว่ งตน้ 9
From Princess to queen พระราชประวตั ิเบือ้ งตน้ ประสูติ วนั ท่ี 21 เมษายน ค.ศ.1926 ณ บา้ นเลขที่ 17 ถนน บรตู ัน เขตเมย์แฟร์ กรุงลอนดอน พระราชบดิ า พระเจา้ จอรจ์ ท่ี 6 พระราชมารดา เอลิซาเบธ โบวส์ - ลอี อน พระราชสวาม ี เจา้ ชายฟิลปิ ดยกุ แห่งเอดนิ บะระ พระราชบตุ ร เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแหง่ เวลส์ เจ้าหญงิ แอนน์ พระราชกมุ ารี เจ้าชายแอนดรวู ์ ดยกุ แหง่ ยอร์ก เจา้ ชายเอด็ เวิรด์ เอิร์ลแห่งเวสเซก็ ส์ ครองราชย์ 6 กมุ ภาพันธ์ 1952 10
จากเจ้าหญิงสูร่ าชินี “เจ้าหญงิ เอลซิ าเบธ ประสูติ ณ เวลา 02.40น. (ตามเวลากรนี ชิ ) วนั ที่ 21 เมษายน ค.ศ.1926 ณ บ้านเลข ที่ 17ถนนบรตู นั เขตเมยแ์ ฟร์กรงุ ลอนดอน โดยมพี ระราชบิดา คอื เจา้ ฟา้ ชายอัลเบิร์ต ดยคุ แหง่ ยอรก์ (สมเดจ็ พระเจ้าจอรจ์ ที่ 6) และ พระราชมารดา คือเจ้าหญิง เอลิซาเบธ ดัชเชสแหง่ ยอรก์ ตอนทพี่ ระองคป์ ระสูติทรงได้รับ พระราชอสิ ริยยศเป็น เจา้ ฟา้ หญงิ 11 ”เพราะ พระราชบดิ ายังมไิ ดข้ ึน้ ครองราชย์
From Princess to queen “ เจา้ หญงิ เอลซิ าเบธทรงมีพระนามเต็มว่า “เอลซิ าเบธ อเลกซานดรา แมรี”่ ซ่งึ ไดร้ ับพระนาม เอลิซาเบธ ตามพระราช มารดา, อะเลก็ ซานดรา ตามสมเด็จพระราชินีอเลก็ ซานดรา พระปัยยิกา (ยา่ ทวด) และ แมร่ี ตามสมเดจ็ พระราชินแี มร่ี พระ ”อัยยิกาฝ่ายพระราชบดิ า (ย่า) ,ทรงได้รับการเรียกขานจากพระ ประยูรญาติ ว่า “ลิลลี่เบธ” เจา้ หญงิ เอลิซาเบธ ขณะพระชนมายุ 2 พรรษา 1928 12
จากเจา้ หญงิ สูร่ าชนิ ี เจา้ หญิงเอลซิ าเบธและเจ้าหญงิ มารก์ าเรต็ “ (ซา้ ยไปขวา) เจา้ หญงิ เอลซิ าเบธทรงมพี ระขนิษฐา(น้องสาว)เพียงพระองคเ์ ดยี ว คือ เจา้ หญงิ มาร์กาเรต็ ทรงมพี ระชนั ษาห่างกนั 4 พรรษากบั พระองค์ เจ้าหญงิ เอลิซาเบธและเจ้าหญงิ มาร์กาเร็ตทรงได้รับการศึกษา ณ พระตำ� หนกั ทป่ี ระทบั ”ภายใต้การควบคุมดแู ลของพระราชมารดาและแมเรียน คราวฟอรด์ พระอาจารย์ สว่ นพระองค์ 13
From Princess to queen 14
จากเจา้ หญิงส่รู าชนิ ี 15
From Princess to queen พระอัยยกาสวรรคต พระเจา้ จอรจ์ ที่ 5 จอรจ์ เฟรเดริก เอร์เนส อลั เบริ ต์ 16
จากเจ้าหญิงสรู่ าชินี ประสูติ 3 มถิ นุ ายน ค.ศ. 1865 ปราสาทบาลมอรลั , ลอนดอน สวรรคต 20 มกราคม ค.ศ. 1936 ต�ำหนักซานดรงิ แฮม, นอรฟ์ อล์ก พระราชบดิ า เอด็ เวิร์ดท่ี 7 พระราชมารดา อเลก็ ซานดราแหง่ เดนมาร์ก พระอัครมเหสี แมรีแห่งเทก พระราชบุตร เอด็ เวิรด์ ที่ 8 จอร์จที่ 6 แมรี พระราชกมุ ารี เฮนรี ดยุกแห่งกลอสเตอร์ จอรจ์ ดยุกแห่งเคนตจ์ อหน์ ครองราชย์ 6 พฤษภาคม 1910 – 20 มกราคม 1936 “ วันท่ี 20 มกราคม ค.ศ.1936 พระเจ้าจอรจ์ ที่ 5 เสด็จสวรรคต ในขณะทเ่ี จ้า หญิงเอลซิ าเบธมีพระชนมายุเพียง 10 พรรษา เทา่ นัน้ การสวรรคตของพระเจา้ จอรจ์ ที่ 5น้ัน ท�ำให้ เจ้าชายเอด็ เวริ ์ด เถลิงถวลั ย์ราชสมบตั ิ ขึ้นเป็น “สมเดจ็ พระเจ้าเอด็ เวิร์ดท่ี 8” และ เจา้ ฟ้าชายอัลเบิร์ต ดยุคแหง่ ยอร์ก เลอื่ น ล�ำดับรชั ทายาทขึ้นมาเป็นอนั ดับที่ 1, เจา้ หญิง เอลซิ าเบธเปน็ รชั ทายาทอันดบั ที่ 2 แต่ก็ไม่มี ใครคาดคิดว่า เจ้าหญงิ เอลิซาเบธจะไดข้ ้ึน เปน็ พระราชนิ ี เพราะ พระเจ้าเอด็ เวิรด์ ที่ 8 ยังทรงมีพระชนั ษาไมม่ ากนัก พรอ้ มทง้ั ได้รบั ”การคาดการณว์ า่ จะอภิเษกสมรสและมพี ระ โอรส-ธดิ า ของพระองค์เอง 17
From Princess to queen พระปิตลุ าข้นึ ครองราชย์ พระเจ้าเอด็ เวริ ด์ ท่ี 8 เอดเวิร์ด อลั เบิร์ต คริสเตยี น จอร์จ แอนดริว แพทรกิ เดวดิ 18
ประสตู ิ 23 มถิ ุนายน 1894 จากเจา้ หญิงสรู่ าชนิ ี เซอร์รีย,์ สหราชอาณาจักร สวรรคต 28 พฤษภาคม 1972 (ชันษา 77) ปารสี , ฝรงั่ เศส พระราชบิดา จอร์จท่ี 5 พระราชมารดา แมรีแห่งเทก พระ อคั รมเหส ี วอลลสิ ซิมปส์ ัน ดชั เชสแห่งวินด์เซอร์ ครองราชย์ 20 มกราคม 1936 – 11 ธันวาคม 1936 “ เจ้าชายเอด็ เวริ ด์ เสด็จข้นึ ครองราชบัลลังก์ตอ่ จาก พระเจา้ จอร์จที่ 5 พระราชบิดา เม่อื วันที่ 20 มกราคม ค.ศ.1936 ด้วยสถานภาพโสด แต่หลังการขึ้น ครองราชย์ไม่ก่ีวัน พระองค์ก็ทรงควง นางวอลลสิ ซิมปส์ นั ออกงานอย่างเป็นทางการ ซ่งึ สร้างความตกตะลงึ แกแ่ วดวงสงั คมและการเมืองโดยถว้ นหน้า ท่ามกลางเสียง คัดค้านท่ีเกดิ ข้ึนมากมาย ” 19
From Princess to queen “ แมค้ วามรกั ของพระองค์จะถกู คัดค้าน ” จากผู้คนมากมายด้วยข้อหาท่นี างวอลลิส ไมม่ ี คุณสมบตั ิทจ่ี ะเป็นราชนิ ี เพราะนอกจากนางจะ เป็นชาวต่างชาตแิ ล้วนางยงั เคยแตง่ งานกับชาย มาแลว้ ถึง 2 ครงั้ และขณะทคี่ บหากบั พระองคก์ ็ ”ยังมไิ ดห้ ยา่ ขาดกบั สามคี นปจั จบุ นั ของนาง 20
จากเจ้าหญงิ สู่ราชนิ ี “ ในทสี่ ดุ ความสมั พันธข์ องพระองคก์ ับนางวอลลิสก็มาถึงจุดทท่ี ุกคนรับรู้กนั ดี ว่าพระองคต์ อ้ งการจะอภเิ ษกกบั นางวอลลิสดว้ ยความแนพ่ ระทัยอยา่ งแท้จรงิ พระองค์ จงึ เรยี กนายสแตนลยี ์ บอลด์วนิ (นายกรฐั มนตรี) เขา้ เฝ้าและแจง้ ความประสงคท์ ่ี พระองค์จะอภเิ ษกกับนางวอลลิส นายกรฐั มนตรีจึงกล่าววา่ การอภเิ ษกคร้งั นข้ี อง พระองคป์ ระชาชนจะไม่ยอมรับคู่ครองของพระองคท์ ีจ่ ะข้ึนมาครองต�ำแหน่งราชินี ”อย่างแน่นอน และถ้าหากพระองคต์ ดั สนิ พระทยั แนน่ อนแลว้ ว่าจะอภเิ ษก คณะรัฐบาล จะลาออกกันทัง้ คณะ 21
From Princess to queen จากแรงกดดันตา่ งๆ “มากมาย ทางเดียวทพ่ี ระองค์ จะได้อภิเษกกบั นางวอลลสิ ก็ คอื การสละราชบลั ลังก์ และน่ัน กท็ ำ� ให้พระองค์มั่นพระทยั มาก ข้ึนที่จะยอมสละราชบลั ลงั ก์เพอ่ื ท่พี ระองค์จะได้อภเิ ษกกับนาง วอลลิส แมน้ างวอลลสิ ได้บอก กับพระองคว์ ่าตนจะขอเป็นฝ่าย ท่จี ะกา้ วออกไปจากชวี ิตพระองค์ เอง เพอื่ ท่จี ะใหพ้ ระองค์ทรงครอง ราชบลั ลังกต์ ่อไป นางวอลลิสจึง ตดั สินใจออกจากเกาะอังกฤษ ”และเดินทางไปยังประเทศฝรงั่ เศส “ วนั ที่ 11 ธนั วาคม ค.ศ. 1936 พระเจ้าเอ็ดเวิรด์ ที่ 8 ทรง ประกาศสละราชบลั ลงั ก์ โดย ช้ีแจงเหตผุ ลท่พี ระองค์สละราช บลั ลงกวา่ “พระองค์มอิ าจทรง รับภาระพระราชกรณียกจิ ของ กษัตริยไ์ ดโ้ ดยปราศจากสตรี ”ผู้ เปน็ ท่รี ัก คอยอยู่เคยี งขา้ ง” ตราสารสละราชสมบัติ ซ่งึ พระเจ้าเอดเวริ ์ดท่ี 8 ลงพระนามาภไิ ธย พรอ้ มดว้ ยพระอนชุ าอกี สามพระองคล์ งพระนามเป็นพยาน 22
จากเจ้าหญงิ ส่รู าชินี “ หลังการประกาศสละราชบลั ลังก์ ของพระองค์ท�ำให้เจา้ ชายอัลเบริ ต์ ดยุกแห่งยอร์ก เถลงิ ราชสมบัตขิ น้ึ เป็น“พระเจ้าจอร์จที่ 6” และ เจา้ หญงิ เอลซิ าเบธ ข้นึ มาเปน็ รชั ทยาทอนั ดบั ท1่ี ด้วยพระราชอสิ รยิ ยศ “เฮอรร์ อยัลไฮเนส เจ้าหญิง เอลิซาเบธแห่งยอรก์ ”” 23
From Princess to queen พระบิดาข้นึ ครองราชย์ ราชนิ เี อลซิ าเบธ โบวส์ ลอี อน, ราชินแี มรี่ แหง่ เทก พระราชชนน,ี พระเจา้ จอรจ์ ท่ี 6 เจ้าหญิงเอลซิ าเบธ, เจา้ หญงิ มารก์ ารเรต็ 24
จากเจ้าหญงิ สูร่ าชนิ ี พระเจ้าจอรจ์ ท่ี 6 อลั เบริ ์ต เฟรเดริก อาเธอร์ จอรจ์ ประสูต ิ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1895 พระอคั รมเหสี เอลซิ าเบธ โบวส์-ลอี อน ตำ� หนกั ซานดริงแฮม, พระราชบุตร เอลิซาเบธท่ี 2 นอร์ฟอล์ก, สหราชอาณาจักร มาร์กาเรต เคาน์เตส สวรรคต 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 แห่งสโนวด์ อน พระราชบดิ า พระเจ้าจอรจ์ ที่ 5 ครองราชย์ 11 ธันวาคม 1936 – พระราชมารดา แมรแี หง่ เทก 6 กมุ ภาพันธ์ 1952 25
From Princess to queen “ หลงั การข้ึนครองราชยข์ องสมเดจ็ พระ เจา้ จอร์จท่ี 6 พระราชบิดา เจา้ หญิงเอลซิ าเบธก็ ทรงไดร้ บั การศึกษาดา้ นวชิ าประวตั ิศาสตร์ และ กฎหมาย เพือ่ เตรียมตวั ขึน้ เปน็ กษัตรยิ ต์ อ่ จาก พระราชบดิ า นอกจากด้านวชิ าการแลว้ พระองค์ ยังทรงศกึ ษาในด้านศลิ ปะ ดนตรี และการขมี่ า้ เพิ่มเตมิ อีกด้วย ซง่ึ การขม่ี ้าก็กลายมาเป็นกีฬาที่ พระองค์ทรงโปรดในภายหลงั พระเจา้ จอรจ์ ท่ี 6 ทรงพยายามอยา่ งย่งิ ในการฝกึ ใหเ้ จา้ หญงิ เอลซิ าเบธพรอ้ มและสมบรู ณ์ ที่สดุ ในการก้าวขน้ึ เปน็ กษตั ิรย์ต่อจากพระองค์ พระเจ้าจอรจ์ ที่ 6 จึงเรม่ิ ฝกึ ให้เจ้าหญงิ เอลิซาเบธ ออกงานพระราชพิธตี า่ งๆ วธิ ีการตรวจพล สวนสนาม การฝึกใหย้ ืนตรงอย่ไู ด้เปน็ ระยะเวลา นานๆ การฝกึ เขยี นและจดบันทึกไดอารี่อยา่ ง ละเอียด และการร่วมรบั รใู้ นกจิ การบ้านเรอื น กบั พระองค์ เจ้าหญิงเอลิซาเบธกท็ รงสามารถ ปฏิบตั ิตามทพ่ี ระราชบดิ าคาดหวังไว้ไดอ้ ยา่ ง สมบรู ณแ์ บบ ดว้ ยความตระหนกั ถงึ ภาระทคี่ อย พระองค์อยูใ่ นภายภาคหน้า เมื่อพระองค์ได้ข้ึน ครองราชย์ตอ่ จาก พระราชบิดา พระองคจ์ ึงตง้ั ”พระทัยในการฝกึ ฝนตนเองอย่างมาก 26
2จากเจ้าหญงิ สรู่ าชินี สงครามโลกครั้งท่ี 2 27
From Princess to queen สงครามโลกครงั้ ที่2 สงครามโลกคร้งั ที่2 เปน็ ความขัดแย้งทางทหาร ระดบั โลกตั้งแต่ ค.ศ. 1939 ถงึ 1945 ซึง่ เกยี่ วขอ้ งกบั ประเทศ ส่วนใหญใ่ นโลก รวมทัง้ รฐั มหาอำ� นาจทัง้ หมด ประเทศ ผูร้ ่วมสงครามรวมตัวกันเป็น พันธมติ รทางทหารคสู่ งคราม สองฝ่าย คอื ฝา่ ยสมั พันธมติ ร และฝา่ ยอักษะ ระหวา่ งสงคราม มกี ารระดมทหารกวา่ 100 ลา้ นนาย ดว้ ยลักษณะของ \"สงครามเบด็ เสรจ็ \" ประเทศผู้ รว่ มสงครามหลกั ได้ท่มุ เทขีด ความสามารถทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและวทิ ยาศาสตร์ เพื่อความพยายามของสงคราม ทั้งหมด โดยลบเสน้ ขีดแบง่ ระหว่างทรัพยากรของพลเรือนหรือทหาร ประเมินกันวา่ สงครามมี มูลคา่ ราว 1 ลา้ นล้านดอลลารส์ หรัฐ ดว้ ยประการทงั้ ปวง สงครามโลกครง้ั ที่สองจึงนับวา่ เป็น สงครามขนาดใหญ่ทส่ี ุด ใช้เงินทนุ มากท่สี ุด และนองเลือดทสี่ ดุ ในประวัตศิ าสตรม์ นุษยชาติ ประเมนิ กันว่ามีผู้เสยี ชวี ิตระหวา่ ง 40 ถึงมากกวา่ 70 ลา้ นคน 28
จากเจา้ หญงิ สู่ราชนิ ี “ เมอ่ื เจา้ หญงิ เอลซิ าเบธย่างเข้าส่ชู ว่ งวยั รุ่นมพี ระชนั ษา เพยี ง 13 พรรษาเทา่ นนั้ ทรงไดเ้ รียนรถู้ งึ ความมธั ยัสถ์จริง ดว้ ย พระองค์เอง เพราะช่วงเวลานน้ั อยใู่ นช่วงของสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 พระองค์และเจา้ หญิงมาร์กาเรต็ ไดท้ รงอพยพหนจี ากการทงิ้ ระเบิดในกรุ่งลอนดอน ออกไปประทบั ทีป่ ราสาทวินเซอร์ ท่ี เบริ ์กไชร์ ซ่ึงอยนู่ อกกรงุ ลอนดอน ถงึ แม้จะมีคนบอกให้ราชินเี อ ลิซาเบธ น�ำเจา้ หญงิ เอลซิ าเบธ และ เจ้าหญิง มาร์กาเร็ต หนีไปประทับท่ีประเทศแคนาดาเพ่อื ความ ปลอดภัย แต่ราชินีเอลซิ าเบธกลบั ตรสั ว่า“เด็กๆ จะไมเ่ สด็จ ไปโดยปราศจากขา้ พเจา้ ข้าพเจ้าจะไมเ่ สด็จไปโดยปราศจาก พระเจา้ อยหู่ วั และพระเจ้าอยู่หวั จะไมเ่ สด็จไปไหนทัง้ นนั้ ” ” 29
From Princess to queen “ ค.ศ. 1943 ขณะท่ี เจ้าหญิงเอลิซาเบธ มพี ระชนมายุ 16 พรรษา ทรงเร่ิมปฏบิ ัตพิ ระราชกรณียกิจเปน็ ครั้งแรกดว้ ยการ ออกตรวจพลสวนสนามของกองทัพบกทพี่ ระองค์ได้รบั พระราชทาน ต�ำแหนง่ ผู้บญั ชาการยศพันเอกหญิงเมื่อปกี อ่ น “ ” เม่อื เจา้ หญงิ เอลซิ าเบธมพี ระชานมายยุ ่างเขา้ 18 พรรษา ในทางกฎหมายมีผลใหเ้ จ้าหญิงเอลซิ าเบธสามารถ ปฏิบตั ิพระราชกรณียกจิ แทนพระเจา้ จอร์จที่ 6 พระราชบดิ า ” ได้ โดยเปรียบเสมอื นพระองค์เป็นองคมณตรแี ห่งรฐั วนั ท่ี 7 ถงึ วนั ท่ี 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 ในวันทส่ี งครามโลกครง้ั ท่ี 2 ภาคพ้นื ทย่ี โุ รปส้ินสดุ ลง เจา้ หญงิ เอลิซาเบธ และ เจา้ หญิงมารเ์ ชกาเร็ตทรงแฝงพระองค์เพื่อร่วมฉลองกบั ประชาชน 30
จากเจ้าหญงิ สรู่ าชนิ ี ในปี ค.ศ.1947 เจ้าหญงิ เอลิซาเบธ ได้เสดจ็ เยือนตา่ งประเทศพรอ้ มกับพระราช บดิ า-มารดาเป็นครง้ั แรกบริเวณตอนใตข้ อง ทวีปแอฟรกิ าในช่วงการเสด็จเยอื น ทรงออก แถลงการณ์เป็นภาษาองั กฤษไปยังประเทศ เครอื จกั รภพเนื่องในวโรกาสวนั คลา้ ยวนั ประสูติ ปที ี่ 21 ว่า “I declare before you all that my whole life, whether it be long or short, shall be devoted to your service and the service of our great imperial family to which we all belong.” ซ่ึงแปลวา่ “ขา้ พเจ้าขอปฏญิ าณต่อ หน้าพวกท่านทุกคนวา่ ตลอดชีวิตของข้าพเจา้ ไม่ว่าจะยาวหรอื จะสน้ั จะมีไว้เพ่ือรับใช้ทา่ น และเพ่อื รบั ใช้ครอบครวั ใหญ่ของพวกเรา ทพ่ี วก เราทุกคนอาศยั อยู่” 31
From Princess to queen 3 อภเิ ษกสมรส 32
3 จากเจ้าหญงิ สรู่ าชนิ ี 33
From Princess to queen อภเิ ษก 34
จากเจา้ หญิงสูร่ าชนิ ี “ เจ้าหญิงเอลซิ าเบธทรงพบกบั เจา้ ชายฟิลปิ แห่งกรซี และเดนมารก์ เมื่อปคี .ศ.1934 ท้งั 2 และทรงเปน็ พระญาตกิ นั ทงั้ 2พระองค์ทรงพบกันอีกครัง้ ทว่ี ทิ ยาลยั ราชนาวีอังกฤษในปี ค.ศ. 1939 และตา่ งกม็ ีพระทัยให้แก่กนั ทรงมพี ระหัตถเลขาหา กนั ต้งั แตน่ นั้ เป็นต้นมา ในปคี .ศ. 1947 ทรงมีประกาศพธิ ีหม้ันระหว่างเจา้ หญงิ เอลซิ าเบธ และ เจา้ ชายฟลิ ิฟ ออกมาอย่างเปน็ ทางการ แต่การหมั้นค้ังน้กี ลบั ถกู วพิ ากษ์วจิ ารณ์อยา่ งหนกั ตามมา เนอ่ื งจาก ฐานะทางการเงนิ ของเจ้าชายฟลิ ิปทรงไมแ่ น่นอน ทงั้ ยงั เกิดจากต่างแดน และยงั รวมถงึ การเสกสมรสของ พระเชษฐภคนิ ีกับขนุ นางกบั ชาวเยอรมันผมู้ ีสายสมั พันธก์ บั พรรคนาซี ของเจา้ เชา้ ฟลิ ปิ อีกด้วย ก่อนการอภเิ ษกน้ันเจ้าชายฟิลิปทรงสละบรรดาศกั ดิ์ ของพระงองคเ์ หลือเพยี ง รอ้ ยเอกฟิลปิ เมาทแ์ บตเตน และกอ่ น ราชพิธีอภเิ ษกสมรสก็ทรงได้รบั พระราชทานบรรดาศักดิ์ข้ึนเป็น ”ชน้ั รอยลั ไฮเนส (ชั้นเจา้ ฟ้า) ท้งั 2 พระองคอ์ ภิเษกสมรสกัน ในวันท่ี 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 ณ เวสตม์ นิ สเตอรแ์ อบบีย์ 35
From Princess to queen พระราชบุตร เจา้ ชายชาลส์ เจา้ ชายแหง่ เวลส์ เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี ประสูติ 14 พฤศจกิ ายน 1948 ประสูติ 15 สงิ หาคม 1950 เจา้ ชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก เจา้ ชายเอด็ เวิร์ด เอริ ล์ แหง่ เวสเซ็กส์ 19 กมุ ภาพันธ์ 1960 10 มนี าคม 1964 36
จากเจา้ หญิงสู่ราชนิ ี ขึน้ ครองราชย์ ปี 1951 พระเจา้ ในช่วงต้นปี 1952 มาร์ตนิ คารเ์ ตรสิ จอรจ์ มพี ระพลานามัยเสอ่ื ม เตรยี มเสด็จเยือนออสเตรเลีย ไดท้ ลู ถามถงึ พระปรมาภไิ ธยที่ ถอยลงเร่ือยๆ และบ่อยครั้งที่ และนิวซีแลนดโ์ ดยเสดจ็ จะทรงใช้ พระองคท์ รงเลอื ก เจ้าหญงิ ต้องเสด็จปฏิบตั พิ ระ เยือนเคนยากอ่ น ในวนั ท่ี 6 \"เอลิซาเบธ\" เชน่ เดมิ แนน่ อน ราชกรณียกจิ แทนพระองค์ กมุ ภาพนั ธ์ 1952 เม่ือเพิง่ พระองค์ทรงประกาศตนเป็น ในครัง้ ท่ีเสดจ็ เยอื นแคนาดา เสด็จถงึ บ้านพักทปี่ ระทับซา พระมหากษัตรยิ ์แห่งสหราช และสหรัฐอเมริกาในเดอื น กานาลอดจ์ในเคนยา หลงั อาณาจกั รและเครอื จกั รภพ ตลุ าคมปเี ดียวกนั ขณะนัน้ จากทค่ี นื กอ่ นหนา้ เสด็จไป พระองค์ใหมห่ ลงั จากท่ีทรง ทรงพบปะกับประธานาธบิ ดี ประทับทโ่ี รงแรมทรที อ็ ปส์ เรง่ รบี เสดจ็ กลบั สหราช แฮรร์ ี เอส. ทรูแมน ณ กรงุ ข่าวการสวรรคตของพระเจา้ อาณาจักรจากนน้ั จึงเสด็จ วอชิงตัน ดี.ซี. ราชเลขาธิการ จอร์จที่ 6 ก็มาถึงและดยุก ย้ายเขา้ ไปประทับ ณ ส่วนพระองค์ แห่งเอดนิ บะระก็ได้ทรงแจง้ พระราชวงั บักกิงแฮมพร้อม มาร์ติน คารเ์ ตริส กไ็ ด้จดั ขา่ วนี้แกพ่ ระราชินพี ระองค์ กับดยกุ แห่งเอดินบะระ ท�ำร่างพระราชดำ� รสั ในพระ ใหม่ ราชพธิ บี รมราชาภิเษกขนึ้ เผือ่ กรณที ่ีพระเจ้าจอร์จท่ี 6 เสด็จสวรรคตขณะเจา้ หญงิ ทรงอยตู่ ่างประเทศ 37
From Princess to queen ราชาภเิ ษก 38
“ ถึงแม้ สมเดจ็ พระราชินแี มรี จากเจา้ หญิงสูร่ าชนิ ี ส้นิ พระชนม์ ลงในวนั ที่ 24 มนี าคม 1953 แต่ พระราชพิธีราชาภิเษกก็ยงั คงเดนิ หนา้ ต่อไป ตามที่ สมเด็จพระราชินีแมร่ขี อไว้ก่อนจะ ส้นิ พระชนม์ โดยพธิ ีราชาภิเษกจะจดั ขึ้นในวันที่ ”2 มถิ นุ ายน 1953 ณ เวสต์มินสเตอรแ์ อบบยี ์ ฉลองพระองคใ์ นพระราชพธิ ไี ด้รับการ ออกแบบและตัดเยบ็ โดยนอรม์ นั ฮาร์ตเนลล์ ซ่งึ ประดับด้วยลายพรรณพชื ของประเทศในเครือจกั รภพ ตามค�ำแนะน�ำของพระราชินีนาถ อนั ประกอบไป ดว้ ย กุหลาบทวิ ดอร์แหง่ องั กฤษ, ดอกทริสเตลิ แหง่ สกอตแลนด์, กระเทียมต้นแหง่ เวลส,์ ดอกแฌมร็อค แหง่ ไอรแ์ ลนด,์ ดอกแวทเทลิ แหง่ ออสเตรเลยี , ใบเมเปลิ แห่งแคนาดา, ใบเฟิรน์ สเี งนิ แหง่ นวิ ซแี ลนด์, ดอกโพรทีแหง่ แอฟรกิ าใต้, ดอกบวั หลวงแหง่ อินเดยี และศรีลงั กา รวมไปถึงข้าวสาลี, ฝา้ ย และปอกระเจา แห่งปากีสถาน 39
From Princess to queen ภาพพระราชพิธรี าชาภเิ ษกของสมเดจ็ พระราชนิ ีนาถเอลซิ าเบธท่ี 2 40
4จากเจา้ หญิงสรู่ าชนิ ี พระราชกรณยี กจิ และเหตกุ ารณอ์ น่ื ๆ 41
From Princess to queen พระราชกรณยี กจิ สมเด็จพระราชนี าถเอลซิ าเบธท2ี่ ทรงปฏบิ ตั ิ พระราชกรณียกิจสานสมั พันธ์กับนานาประเทศ ทั้งเสดจ็ เยย่ี มประเทศในเครือจกั รภพทพี่ ระองคท์ รงเปน็ ประมุขมาก ท่ีสดุ ในประวัตศิ าสตร์ โดยระหวา่ งปี ค.ศ. 1953 - 1954 พระองค์เสด็จพรอ้ มเจา้ ชายฟิลปิ กบั แผนการเดนิ ทางรอบ โลกเปน็ ระยะเวลา 6 เดอื น ในปี 1956 ทรงร่วมหารอื ถึงความเป็นไปได้ท่ี ฝรั่งเศสจะเข้ารว่ มเปน็ ประเทศสมาชิกเครอื จกั รภพ แตก่ ็ ถกู ฝรง่ั เศสปฏเิ สธกลบั มา ในเดอื นพฤศจกิ ายนปเี ดยี วกัน นี้ อังกฤษและฝรัง่ เศสบุกรกุ เขา้ อียปิ ตด์ า้ นกำ� ลงั ทหารทล่ี ม้ เหลวในการบุกยดึ คลองสุเอซ ซึง่ เจา้ ชายฟิลปทรงตอ่ ต้าน การบุกยดึ ครงั้ นน้ั ซึ่งเซอร์ แอนโธนี อเี ดน ปฏิเสธค�ำพูดดงั กลา่ วและลาออกในอีกสองเดอื นถดั มา การลาออกของเซอร์ แอนโธนี อเี ดน กลายเป็น พระราชภาระของสมเดจ็ พระราชินีนาถเอลซิ าเบธท่ี 2 ทจี่ ะ ต้องทรงเลือกว่าใครควรทีจ่ ะเป็นผนู้ ำ� ในการจัดตั้งรฐั บาลชดุ ใหม่ จนในทส่ี ุดกไ็ ดจ้ งึ โปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้ังให้เฮโรลด์ แมคมลิ แลน ด�ำรงตำ� แหนง่ นายกรัฐมนตรีตามทีไ่ ด้รับการถวายคำ� แนะน�ำมาจาก คณะรัฐมนตร,ี วนิ สตนั เชอร์ชิลล์ และคณะ กรรมธกิ าร 1922 6ปีถดั มาในปี 1963 เฮโรลด์ แมคมิลแลน ลาออก และถวายการแนะนำ� ใหท้ รงเลือกเซอร์ อเลค ดกั ลาส-ฮมู ข้นึ ด�ำรงตำ� แหนง่ นายกรฐั มนตรคี นถัดไป ซึ่งพระองคก์ ท็ รง ทำ� ตามค�ำแนะนำ� 42
จากเจา้ หญงิ สู่ราชินี ท�ำใหพ้ ระองคถ์ ูกวจิ ารณอ์ กี ครั้งว่าทรงแต่งตั้งนายก รฐั มนตรตี ามค�ำแนะนำ� ของรัฐมนตรีเพยี งไม่กี่คนหรอื เพียงคน เดยี วเทา่ นัน้ ในปี 1965 พรรคอนุรักษนยิ มจึงกลบั มาใช้กลไกล เลือกต้ังผูน้ �ำพรรคอย่างเป็นทางการ จงึ ช่วยลดพระราชภาระ อันข้องเกีย่ วกับทางการเมืองของพระราชินีนาถลง ในปี 1957 พระองคเ์ สดจ็ พระราชด�ำเนินเยอื น สหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ท่ซี ง่ึ ทรงกล่าวสุนทรพจน์ตอ่ สมัชชาใหญแ่ ห่งสหประชาชาติในนามของเครือจักรภพแหง่ ชาติ ในคร้งั นัน้ ยงั ไดเ้ สดจ็ ฯ ไปเปิดการประชมุ รัฐสภาแคนาดา สมยั ท่ี 23 ซง่ึ เปน็ คร้งั แรกทพ่ี ระมหากษตั รยิ แ์ หง่ แคนาดาเสด็จ พระราชดำ� เนินมาเปดิ การประชุมของรฐั สภา 2ปีถัดมา เสด็จพระราชดำ� เนนิ เยือนสหรฐั อเมรกิ า และแคนาดาผูเ้ ดยี วในฐานะสมเดจ็ พระราชนิ ีนาถแห่งแคนาดา อกี ครั้งที่ซึ่งทรงทราบจากการลงจอดของเคร่ืองบนิ ทีป่ ระทับ ณ สนามบนิ เซนตจ์ อห์นนิวฟนั ด์แลนดแ์ ละแลบราดอร์วา่ ทรงพระ ครรภร์ ชั ทายาทองคท์ ส่ี ามอยู่ ในปี 1961 เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ เยอื นไซปรสั , อินเดีย, ปากีสถาน, เนปาล และอิหร่าน ในชว่ งการเสด็จพระราชดำ� เนิน เยือนกานาในปเี ดยี วกัน ทรงเพิกเฉยต่อความกังวลเกี่ยวกับ ความปลอดภัยของพระองค์ หลงั จากทผี่ ูก้ ราบบงั คมทูลเชญิ เสดจ็ ฯ กค็ ือประธานาธิบดีกวาเม อึนกรูมา ตกเปน็ เปา้ ลอบ สงั หาร ซ่งึ เขาเปน็ ผู้ที่เปลี่ยนประมขุ แห่งรัฐของกานาจากพระ ราชนิ ีนาถมาเปน็ ตัวเขาเอง ตอ่ มาก่อนการเสดจ็ ฯ เยือนควิเบกในปี พ.ศ. 2507 สอ่ื รายงานข่าววา่ ขบวนการแบง่ แยกควเิ บกหวั รนุ แรงวางแผน ลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระราชนิ นี าถ อยา่ งไรก็ตามไมป่ รากฏ เหตุการณด์ งั กล่าวตามทีม่ รี ายงานออกมา มเี พียงการกอ่ จลาจล ระหวา่ งเสดจ็ ฯ เยอื นมอนทรีออล ครง้ั น้ัน 43
From Princess to queen ในช่วงท่ีทรง ทยี่ งั คงแสดง \"ความจงรกั ค�ำสงั่ ปลดของเซอร์ จอหน์ พระครรภเ์ จา้ ชายแอนดรูว์ ภกั ดีและความอุทิศตน\" ตอ่ เคอร์ แตส่ มเดจ็ พระ และเจ้าชายเอ็ดเวริ ์ดใน สมเดจ็ พระราชินนี าถเอลิ ราชนิ นี าถทรงปฏเิ สธฎีกาดัง ปี 1959 และ 1963 เป็น ซาเบธท่ี 2 แมว้ ่าพระองค์จะ กล่าว โดยตรสั วา่ จะมิทรงเขา้ ชว่ งทยี่ ังมิได้เสดจ็ ฯ ไป ทรงเพกิ เฉยตอ่ ค�ำประกาศ แทรกแซงอ�ำนาจการตัดสิน เปดิ ประชุมรัฐสภาสหราช นใ้ี นทางสาธารณะก็ตาม ซง่ึ ใจของผู้ส�ำเร็จราชการแหง่ อาณาจกั รด้วยพระองค์ ปฏกิ ิริยาจากประชาคมระดับ ออสเตรเลยี ซง่ึ รบั รองโดย เป็นคร้ังแรกในรชั กาลของ นานาชาติกค็ อื การควำ�่ บาตร รฐั ธรรมนูญแหง่ ออสเตรเลีย พระองค์ นอกจากนย้ี งั ทรง ตอ่ โรดเี ซยี แมก้ ระน้นั การ ซึ่งวิกฤตการณใ์ นครัง้ นเ้ี ท่ากบั ริเร่มิ ระเบยี บประเพณใี หม่ บรหิ ารประเทศของเอยี น เป็นการเติมเชื้อไฟใหแ้ ก่ ด้วยการเสด็จพระราชดำ� เนิน สมิธ กย็ ังสามารถอยรู่ อดมา แนวคดิ สาธารณรฐั นยิ มใน พบปะกบั ประชาชนท่มี า ได้เกือบทศวรรษ ออสเตรเลยี เฝา้ รอเสด็จฯ อย่างใกลช้ ิด ในปถี ดั มาใน เป็นครัง้ แรกในช่วงของการ ช่วงตึงเครยี ดทีส่ ุดของ เสดจ็ ฯ เยอื นออสเตรเลยี และ วิกฤตการณ์รัฐธรรมนูญ นวิ ซีแลนด์ 1970 ออสเตรเลยี ปี 1975 นายก ในช่วงคริสต์ รัฐมนตรอี อสเตรเลีย กอฟ ทศวรรษ 1960 และ 1970 วิทแลม ถกู ปลดออกจาก เป็นช่วงที่ สหราชอาณาจักร ต�ำแหน่งโดยผู้สำ� เรจ็ ราชการ มอบเอกราชใหแ้ กป่ ระเทศ แทน เซอร์ จอหน์ เคอร์ หลัง แถบทวีปแอฟริกาและแถบ จากท่ีวฒุ สิ ภาออสเตรเลยี ซ่ึง ทะเลแครบิ เบยี น มากกวา่ ฝ่ายค้านมีเสียงสว่ นใหญ่ไม่ 20 ประเทศไดร้ บั เอกราชอัน ผา่ นร่างงบประมาณที่เสนอ เป็นสว่ นหนึง่ ของแผนการ โดยวิทแลม และเนื่องจากวิท เปลี่ยนผ่านไปส่กู ารปกครอง แลมมเี สียงส่วนมากในสภา ตนเอง อย่างไรก็ตามในปี ผู้แทนราษฎรออสเตรเลยี 1965 นายกรฐั มนตรแี ห่งโรดี โฆษกประจ�ำสภาผู้แทน เซีย เอยี น สมธิ ตอ่ ตา้ นการ ราษฎร กอรด์ อน สโคลส์ เปลี่ยนผา่ นน้ี โดยประกาศ จึงทูลเกลา้ ฯ ถวายฎีกาแด่ เอกราชจากสหราชอาณาจกั ร สมเด็จพระราชินีนาถ ฝ่ายเดยี วในขณะ เอลซิ าเบธท่ี 2ใหท้ รงเพกิ ถอน 44
จากเจ้าหญิงสู่ราชนิ ี พระราชพธิ ีรัชดาภเิ ษก ในปี พ.ศ. 2520 สมเดจ็ พระ ราชินนี าถเอลิซาเบธที่ 2 ครองสิรริ าชสมบัตคิ รบ 25 ปีในพระราชพธิ ีรัชดาภเิ ษก การเฉลิมฉลองและงานร่ืนเริง ตา่ ง ๆ จดั ขนึ้ ทัว่ ทุกหนแห่ง ในประเทศเครอื จกั รภพ และ หลายแหง่ ทพี่ ระองค์เสดจ็ จะมีการนำ� เสนอขา่ วดา้ น มองวา่ ท้งั สองเปน็ พวก \"มือ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงร่วม ลบเกย่ี วกับชวี ิตคู่ทลี่ ม้ เหลว เปื้อนเลือด\" ในปถี ดั มามี งาน การเฉลมิ ฉลองเหล่า ของเจา้ หญิงมาร์กาเรตกบั เหตุการณส์ องเหตุการณ์ น้ีเป็นเครื่องยนื ยนั ถึงความ พระสวามอี อกมาประจวบ ใหญเ่ กดิ ขน้ึ ในรชั สมัยของ นยิ มในตัวพระองค์ของเหลา่ เหมาะกบั ชว่ งเวลาดังกล่าวใน พระองค:์ เหตกุ ารณ์แรกคือ พสกนิกร ปี 1978 ทรงต้องฝนื พระองค์ การเปดิ โปง แอนโทนี บลัน ให้การตอ้ นรบั การเดนิ ทางมา ท์ อดตี ผู้กลัน่ กรองพระบรม เยอื นสหราชอาณาจกั รของ ฉายาลกั ษณ์สว่ น พระองค์ ผ้นู ำ� เผดจ็ การคอมมิวนิสต์ ว่าเป็นสายลับคอมมวิ นิสต์ แห่งโรมาเนีย นโิ คไล เชาเช อีกเหตกุ ารณ์กค็ อื การลอบ สกู พรอ้ มด้วยภริยา เอเลนา สังหารหลุยส์ เมาท์แบตเตน เชาเชสกซู ึ่งในพระทยั ก็ทรง เอริ ์ลเมาท์แบตเตนที่ 1 แหง่ พมา่ โดยกองกำ� ลงั ติดอาวธุ 45 ไออาร์เอ
From Princess to queen ถูกรอบปลงพระชนม์ ในชว่ งของพิธีสวนสนามเนื่องในวันเฉลิม พระชนมพรรษา ป1ี 981 ซึ่งเปน็ เวลาเพยี งหก สัปดาหก์ อ่ นพระราชพิธอี ภเิ ษกสมรสระหวา่ ง เจา้ ชายแหง่ เวลสก์ ับเลดไี ดอานา สเปนเซอร์ มี เสยี งปืนดังขนึ้ หกนัด โดยปืนเล็งไปที่สมเดจ็ พระ ราชินีนาถในระยะประชดิ ขณะทรงมา้ ไปตาม ถนนเดอะมอลล์บนมา้ ทรงชอ่ื เบอร์มีส ภายหลงั ตำ� รวจสืบทราบว่าปนื กระบอกดงั กลา่ วบรรจุ กระสนุ เปล่า ผู้กอ่ เกตุเป็นเดก็ ชายอายุ 17 ปี นามวา่ มาร์คสั ซาร์เจนต์ ซงึ่ ถูกตดั สนิ จำ� คุกห้าปี และได้รับการปลอ่ ยตัวหลังเวลาผ่านไปสามปี นอกจากนคี้ วามสงบและทักษะดา้ นการควบคุม มา้ ทรงของพระองคใ์ นเหตกุ ารณด์ งั กลา่ วเป็นที่ กลา่ วสรรเสรญิ ไปทว่ั 46
จากเจ้าหญงิ สูร่ าชินี หนงั สือพิมพ์ เดอะซนั เดยไ์ ทมส์ ฉบบั วนั ที่ 20 กรกฎาคม 1986 มรี ายงานข่าวอันโด่งดังวา่ พระราชนิ ีนาถกงั วลพระราชหฤทัย ในนโยบายดา้ นเศรษฐกจิ ของนายกรัฐมตรีหญิง มารก์ าเรต แทต เชอร์ วา่ จะท�ำใหส้ ังคมเกดิ ความแตกแยกซึ่งมสี ัญญาณบ่งชหี้ ลาย อย่างเช่น อัตราการว่างงานท่สี งู , การกอ่ จลาจลหลายระลอก, ความ รนุ แรงจากกลมุ่ คนงานเหมอื งท่ปี ระท้วงนดั หยดุ งาน รวมไปถงึ การทม่ี าร์กาเรตปฏิเสธการควำ่� บาตรต่อรฐั บาลถือผิวในประเทศ แอฟรกิ าใต้ โดยขา่ วลือนี้มีท่ีมาจากเสนาธกิ ารประจำ� ราชส�ำนัก ไมเคลิ ชอี า และผู้ส�ำเรจ็ ราชการประจำ� เครือจักรภพ ไชรด์ าท แรม พัล แต่ไมเคลิ อ้างว่าค�ำกลา่ วของเขาผิดเพี้ยนไปจากบริบทและถกู เสรมิ แต่งจากการคาดการณส์ ่วนตัว ต่อมาค�ำกลา่ วของมาร์กาเร ตกเ็ ปน็ ทโี่ จทกข์ านกนั ไปท่วั เมื่อเธอกล่าววา่ \"สมเดจ็ พระราชนิ นี าถ จะทรงลงคะแนนเสียงให้แก่พรรคสงั คมนยิ มประชาธิปไตย\" ซึง่ เปน็ พรรคคแู่ ข่งของเธอ นักชีวประวตั ิของมาร์กาเรต แทตเชอร์ จอหน์ แคมป์เบล อ้างวา่ \"รายงานช้ินดงั กลา่ วเปน็ เพยี งการสร้างความเสอื่ ม เสียจากการสอ่ื สารมวลชน\" ซ่ึงเกิดจากการที่สื่อรายงานผดิ เพ้ียน จากความจรงิ เกี่ยวกบั ประเดน็ ดงั กลา่ ว ในภายหลังมารก์ าเรต แทต เชอร์จึงแสดงความช่นื ชมของเธอท่มี ตี อ่ พระราชนิ ีนาถออกมา และ หลังจากทีม่ าร์กาเรต แทตเชอร์ลาออกจากตำ� แหนง่ นายกรฐั มนตรี โดยมีจอห์น เมเจอร์ ดำ� รงต�ำแหนง่ เปน็ นายกรฐั มนตรีคนใหม่แล้ว สมเด็จพระราชินนี าถเอลซิ าเบธที่ 2 ก็ได้พระราชทานเคร่ืองราช อสิ รยิ าภรณเ์ มริตและเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณก์ าร์เตอรแ์ ด่มารก์ าเรต แทตเชอร์ เป็นของขวญั พระราชทาน นอกจากนีอ้ ดตี นายกรฐั มนตรี แคนาดา ไบรอัน มลั รอนยี ์ กลา่ วว่าพระองค์เป็น \"พลังขับเคลือ่ น เบื่องหลงั \" ในการยตุ กิ ารถอื ผิวในประเทศแอฟรกิ าใต้ 47
From Princess to queen การสญู เสียครงั้ ย่ิงใหญ่ “ในปี ค.ศ. 2001 พระองคท์ รงประสบกับความสูญเสยี ครั้งยงิ่ ใหญเ่ ม่อื เจ้าฟา้ หญงิ หญิง มาร์กาเร็ตสน้ิ พระชนม์เมอ่ื วันท่ี 9 กุมภาพนั ธ์ ค.ศ. 2001 สิรพิ ระชนมายุ 71 พรรษา และในวันท่ี 30 มีนาคม ค.ศ. 2002 สมเดจ็ พระบรมราชชนนเี สดจ็ สวรรคตอยา่ งสงบขณะบรรทมหลบั ท่ี ต�ำหนกั รอยลั ลอ็ ดจ์ เมอื งวนิ ด์เซอร์ โดยมีสมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนาถเอลิซาเบธท่ี 2 พระธดิ ายังคง ทรงพระชนมช์ ีพประทับอยูเ่ คยี งขา้ ง ทรงมีพระชนมพรรษาได้ 101 พรรษาและยังทรงเปน็ เชอ้ื ”พระวงศท์ ท่ี รงด�ำรงพระชนม์ชีพยาวนานที่สุดในประวตั ศิ าสตรอ์ ังกฤษ 48
จากเจา้ หญิงสู่ราชินี พระราชพิธกี าญจนาภิเษก ปี 2002ซ่งึ เป็น เสด็จพระราชด�ำเนินเยือน เชน่ เดยี วกับคร้ังทเ่ี ฉลิมฉลอง ปเี ฉลิมฉลองพระราชพิธี ประเทศเครอื จกั รภพ โดย พระราชพธิ ีรัชดาภเิ ษกในปี กาญจนาภเิ ษก เจ้าหญิง เร่ิมตน้ ขนึ้ ทีจ่ าเมกาในเดือน 1977 มอี นุสาวรยี ถ์ กู สร้าง มารก์ าเรต เคานเ์ ตสแหง่ กุมภาพนั ธ์ ทีซ่ ง่ึ ตรสั เรยี ก ขน้ึ เพื่อเป็นทร่ี ะลกึ การเฉลิม สโนว์ดอน พระขนิษฐา การเสด็จฯ ครัง้ นน้ั วา่ \"เปน็ ฉลองในครง้ั นมี้ ากมาย และ สน้ิ พระชนมใ์ นเดือน ท่จี ดจ�ำ\" หลังจากทีเ่ กิดเหตุ ประชาชนกว่าลา้ นคนออก กมุ ภาพนั ธ์ ตามมาดว้ ยการ ไฟฟา้ ขดั ข้องจนมดื สนิทไปท่ัว มาเฉลิมฉลองในงานเฉลิม สิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระ บรเิ วณงานเลย้ี งส่งเสดจ็ ฯ ณ ฉลองอยา่ งเปน็ ทางการสาม ราชนิ ีเอลิซาเบธ พระราช พระตำ� หนักคงิ สเ์ ฮาส์ ซงึ่ เปน็ วนั ของกรุงลอนดอน ซง่ึ ความ ชนนี ในเดอื นมีนาคม ทำ� ให้ ทีพ่ ำ� นักอยา่ งเปน็ ทางการของ สนใจของประชาชนต่อพระ สอื่ ตงั้ คำ� ถามว่าพระราช ผู้สำ� เร็จราชการแห่งจาเมกา ราชินีนาถและพระราชพิธีนี้ พธิ กี าญจนาภเิ ษกในปีน้จี ะ ในงานเฉลมิ ฉลองการครอง มีมากกวา่ ทสี่ อ่ื ส่วนมากคาด ประสบกับความสำ� เรจ็ หรอื ราชสมบตั ิครบ 50 ปีในครง้ั การณไ์ ว้ ความล้มเหลว และเป็นอีก นี้ มกี ารเฉลิมฉลองและงาน ครง้ั ทส่ี มเด็จพระราชินนี าถ เลย้ี งสงั สรรค์บนทอ้ งถนน เอลซิ าเบธท่ี 2 มากมาย 49
From Princess to queen พระราชพิธพี ชั ราภเิ ษก ในปี 2012 เป็น ระลกึ ถงึ พลานุภาพของความ และพระราชสวามีไดเ้ สดจ็ ปที ีท่ รงเฉลมิ ฉลองการ เปน็ น�้ำหนงึ่ ใจเดียว และ พระราชดำ� เนินเยือนไปทั่วสห ครองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ 60 การรวบรวมพละก�ำลังของ ราชอาณาจักรในขณะทพี่ ระ ปี (พระราชพธิ พี ชั ราภเิ ษก ครอบครวั , มิตรภาพ และ ราชโอรส-ธดิ าและพระราช แบบอังกฤษ) ซง่ึ จัดขนึ้ ใน ความเป็นเพ่อื นบา้ นทดี่ ี ... นดั ดาหลายพระองค์ เสด็จ ทกุ ประเทศเครือจักรภพ ใน ขา้ พเจ้าหวังวา่ ในปีพชั ราภเิ ษ เยอื นประเทศในเครอื จกั รภพ กระแสพระราชดำ� รัสทีเ่ ผย กนจี้ ะเป็นปสี �ำหรับการมอบ อนื่ ๆ ในพระนามของสมเด็จ แพรใ่ นวันคล้ายวันเสด็จขนึ้ ค�ำขอบคณุ สำ� หรบั ความ พระราชินีนาถ ตอ่ มาในวนั ท่ี ครองราชสมบตั ิ ทรงกลา่ ว กา้ วหนา้ อนั ย่งิ ใหญท่ ่เี กิด 4 มถิ ุนายน ดวงประทปี แห่ง ว่า: \"ในปีแห่งความพเิ ศษนี้ ขนึ้ ต้ังแต่ ป1ี 952 และมอง การเฉลิมฉลองกจ็ ุดขึ้นทวั่ โลก ขณะที่ข้าพเจา้ อุทิศตวั เองรับ ไปยงั อนาคตดว้ ยหัวสมอง ใชพ้ วกท่านท้งั หลายอีกครงั้ อนั ปลอดโปร่งและหัวใจอัน ข้าพเจ้าหวังว่าพวกเราทุกคน อบอ่นุ \" พระองค์ จะยงั คง 50
Search
