Introduction | ค�ำนำ� เร่ืองเล่าของเหตกุ ารณ์การลม่ สลายคร้ังใหญเ่ มืองปอมเปอีที่ ถูกพูดถงึ และเปน็ ประวตั ิศาสตร์ทน่ี ่าจดจำ� ในปัจจบุ นั กลายเป็นสถาน ที่ทอ่ งเท่ยี วสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ สัมผสั ไดถ้ ึงกรยิ าท่าทางกอ่ นคน เมอื งปอมเปอจี ะถกู กลืนหายไป และเปน็ ท่ีรู้จกั ในปจั จบุ ันได้ดว้ ยการจด บันทกึ ของนกั ประวตั ิศาสตร์ หลายคนอาจจะคนุ้ หูชือ่ เมืองปอมปี หรอื ปอมเปอี แต่ไมเ่ คย ร้ลู ึกถึงประวตั ขิ องเมอื งปอมเปอี ความเปน็ มาก่อนจาเปน็ เมอื งปอมเปอี เมอื งปอมเปอเี กิดเหตกุ ารณ์อะไรขึ้นกับพวกเขา และมนั รา้ ยแรงแค่ไหน สาเหตุ ท�ำไมพวกเขาถงึ ต้องเจอเหตุการณแ์ บบน้ี เมอื งของพวกเขาถูก สาปงนั้ หรอ หนังสือเลม่ นี้จะเลา่ ความจรงิ และมีหลกั ฐานพสิ จู นไ์ ด้ท้งั หมด จากแหลง่ อา้ งองิ ความเปน็ มาของเมอื งปอมเปอี และลำ� ดบั เหตุการณ์ การล่มสลายของเมืองปอมเปอี ความรุ่งเรือง หรอื แมแ้ ตค่ วามเปน็ อยู่ ของคนเมอื งปอมเปอี เขาอยกู่ ันอยา่ งไรบา้ ง ศลิ ปะ สถาปตั ยกรรมใน เมืองปอมเปอีมีความน่าสนใจอยา่ งไร ขอ้ สงสยั ทัง้ หมดสามารถ ไขกระจ่างไดใ้ นหนังสือเล่มน้ี
Prologue | บทน�ำ ปอมเปอเี มืองทีถ่ ูกกลนื เมืองทไี่ ด้ช่อื วา่ เมอื งแหง่ การเสพ ความสุข ความร่�ำรวย ซ่งึ จะกล่าวถงึ เร่อื งราวของนครปอมเปอีต้งั แต่ สมัยริเริม่ ก่อต้ัง ประวัตศิ าสตร์ของเมืองปอมเปอที ี่เคยเจรญิ รุ่งเรืองมี ผ้คู นมากมายอาศยั อยู่ แตแ่ ล้วภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติกไ็ ด้ทาํ ลายเมอื ง จนล่มสลายและคร่าชวี ิตผ้คู นไปเป็นจํานวนมาก ทําใหเ้ มืองปอมเปอี ตอ้ งเลือนหายไปจากหนา้ ประวตั ศิ าสตร์นานนบั พันปี จนกระทั่งไดถ้ กู คน้ พบในเวลาต่อมาและกลายมาเปน็ แหลง่ มรดกทางวฒั นธรรมท่ีสาํ คัญ ของโลกในปจั จุบัน โดยเนื้อหาจะเป็นเพียงส่วนหนง่ึ ไม่ไดย้ กมาทง้ั หมด ของเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ มารว่ มกนั เปดิ ต�ำนานของเมอื งปอมเปอไี ปกับ E-BOOK เล่มนี้ แลว้ คณุ จะร้จู กั และเข้าใจเมืองปอมเปอีมากขน้ึ กว่าเดมิ … SCISSSORS
Contents 1. History of Pomeii... 1 ลักษณะทางภูมศิ าสตร์... 3 ประวตั เิ มืองปอมเปอี... 4 ภเู ขาไฟวสิ ุเวยี ส... 5 ลำ� ดับเหตุการณ์การปะทุ... 6 2. trade and agriculture... 9 การคา้ ขายและการเกษตร... 11 การค้าขาย... 12 การเกษตร... 14 3. way of life in Pompeii... 15 อาหารการกิน... 18 การขายบรกิ ารทางเพศ... 20 บ้านอาคารท่อี ย่อู าศัย... 21 4. Religion of Pompeii... 23 การนับถือเทพเจา้ ... 25 การบชู าลัทธิต่าง ๆ ... 27
สารบัญ 5. public utility of Pompeii... 29 ถนนในเมอื งปอมเปอี... 32 โรงอาบน�้ำสาธารณะ ... 35 6. Art of Pompeii... 37 จิตกรรมฝาผนงั ... 40 ประตมิ ากรรม... 46 สถาปัตยกรรม... 50 7. discovery of Pompeii... 57 การค้นพบซากและการขดุ คน้ ศึกษาเมืองปอมเปอี... 57 ปอมเปอถี ูกยกใหเ้ ป็นมรดกโลก... 59 ภาพซากและวัตถุโบราณ... 60 8. reference... 63
History of Pompeii 1
2
History of Pompeii ภมู ิหลงั แห่งปอมเปอี ความหมายของชอ่ื เมอื งปอมเปอี ปอมเปอีมคี วามหมายในภาษาละตนิ เปน็ คำ� นาม พจนท์ ีส่ องของผู้ชาย ( Pompeii, -orum ) Theodor Kraus กล่าวไว้วา่ รากศัพทข์ องคำ� วา่ Pompeii อาจจะมาจากคำ� วา่ Oscan ส�ำหรับหมายเลข pompeii แปลวา่ 5 ซงึ่ ในทน่ี ้ีเอาจจะ หมายถงึ ทงั้ ชมุ ชนประกอบด้วยหม่บู า้ น 5 แหง่ หรือบางทีอาจถูกตง้ั โดยกลุม่ ครอบครัว ภมู ิศาสตรข์ องปอมเปอี เมอื งปอมเปอี บรเิ วณที่ราบชายฝง่ั อยูเ่ หนอื ระดับน�้ำทะเลประมาณ 40 เมตร (130 ฟตุ ) ที่เกดิ จากการปะทุของภูเขาไฟวิสเุ วยี สก่อนหน้านี้ (8 กม. (5.0 ไมล)์ ที่ราบสูงลดลง อยา่ งสูงชันไปทางทศิ ใต้และบางสว่ นทางทิศตะวันตกและลงสทู่ ะเล เมืองน้ีมีพรมแดนตดิ กับ ชายฝ่งั ตะกอนสามแผ่นจากแผ่นดินถล่มขนาดใหญ่อยดู่ ้านบนของลาวาซึ่งอาจจะเกิดจากฝนท่ี ตกลงมาเป็นเวลานาน ปจั จบุ ันจะอยู่ห่างออกไป 700 เมตร (2,300 ฟุต) ซง่ึ อยูต่ ิดกบั เมอื งได้รับ การคุม้ ครอง ปากแม่น�ำ้ ซารโ์ นท่ยี งั สามารถเดินเรือได้ โดยทะเลสาบและใหบ้ ริการกะลาสเี รือกรกี และฟนิ เี ซยี นในยคุ แรก ๆ เปน็ ทีห่ ลบภยั และทา่ เรอื ซึง่ ต่อมาได้รบั การพัฒนาโดยชาวโรมัน เมอื งปอมเปอี ครอบคลมุ พืน้ ที่ 64 ถงึ 67 เฮกตาร์ (160 ถงึ 170 เอเคอร์) และเป็นทีอ่ ยอู่ าศัย ของประชากรโดยพจิ ารณาจากจ�ำนวนครัวเรือนประมาณ 11,000 ถึง 11,500 คน 3
ประวัตขิ องเมืองปอมเปอี เมอื งปอมเปอี ได้ก่อตงั้ ขน้ึ เมือ่ ประมาณ 550 ปีกอ่ น ครสิ ตกาล แตเ่ ร่ิมแรกเป็นเพียงเมอื งชนเผ่าเรร่ อ่ น เม่ือกาลเวลาผา่ นไป 80 ปกี อ่ นคริสตกาล ( เปน็ เวลา 470 ปี ) ปอมเปอไี ดเ้ ปน็ หนึ่งเดียวกับอาณาจักรโรมัน และชาวปอมเปอีไดร้ ับ การยอมรับจากชาวโรมัน จนได้เปน็ พลเมืองโรมนั จากน้ันไมน่ านนัก ชาวโรมันทีม่ ีฐานะ พากันสร้างบ้านพกั ตากอากาศตามชายฝงั่ ทะเลของปอมเปอี บริเวณลาดเขาของภเู ขาไฟ วิสุเวียส ( ต้งั อยบู่ นอา่ วเนเปลิ ส์ ) และพวกเขาได้ท�ำการลงทุนท�ำอตุ สาหกรรมผลติ สง่ิ หรหู ราฟุ่มเฟอื ยข้นึ ในเมอื งนี้ เวลาผ่านไปไม่นานเมืองปอมเปอกี ็กลายเปน็ ศนู ยก์ ลางการ ค้าอนั มง่ั คั่ง อตุ สาหกรรมหลกั ของเมือง คอื ผลิตเหล้าอง่นุ ผ้าขนสัตว์ เตม็ ไปดว้ ยชา่ ง ฝีมือท่ีมีทักษะ และความสามารถสงู มที งั้ สถาปัตยกรรมตา่ งๆ ท่ีไมเ่ หมอื นใครอยมู่ ากมาย สถาปตั ยกรรมทเี่ ดน่ ๆ คือ หลังคาเหนือหอ้ งโถงของแทบทกุ อาคารจะมีช่องโหวใหญ่ดา้ น กว้าง หลังคาเอยี งลาดลงไปทางรโู หว่นน้ั พอฝนตก น้ำ� ฝนจะไหลลงไปตามหลังคาลงไปตาม รโู หว่ ไหลลงส่อู า่ งกระเบือ้ งที่อยูใ่ ตร้ ูโหว่ ไหลส่ถู ังเกบ็ นำ�้ แถมยังมีสะพานส่งน�้ำ และน�ำ้ พุ สาธารณะ ซ่ึงน�ำ้ ทอ่ี อกมาใสสะอาดมาก แตค่ วามสะดวกสบายเหลา่ น้กี ส็ งวนไว้เฉพาะชาว ปอมเปอฐี านะดเี ทา่ นั้น ในเมืองปอมเปอีมีการแบง่ ชนชน้ั อย่างชัดเจน สำ� หรบั ครอบครวั ที่ ยากจนลงมาจะตอ้ งเร่มิ ทำ� งานหาเลย้ี งตนต้งั แตอ่ ายุยงั นอ้ ย ส่วนผ้ทู ่ีมฐี านะข้นึ มาจากการ เป็นทาสท่ีเปน็ อสิ ระแลว้ กไ็ มม่ ีอ�ำนาจทางการเมือง คนท่จี ะมีอ�ำนาจทางการเมอื งได้นน้ั จะ ตอ้ งไมเ่ คยอย่ใู นสถานะทาสมากอ่ นเท่าน้นั ส่วนประกอบต่าง ๆ ของปอมเปอีนน้ั กไ็ ม่ตา่ ง จากเมืองอ่ืนในอาณาจักรโรมนั เท่าใดนกั ดา้ นหน่ึงของเมอื งจะมีฟอร่ัม ทีม่ ไี ว้ใชใ้ นการพบปะ สงั สรรค์ของชาวเมอื ง โดยในบริเวณใกล้กันจะมวี หิ าร ของเทพเจ้าองค์ตา่ ง ๆ เช่น เทพเจา้ วีนสั ( Venus ) , จปู เิ ตอร์ ( Jupiter ) และอพอลโล ( Apollo ) ตงั้ อยู่ นอกจากน้ี ชาวเมอื งปอมเปอียงั เป็นเมอื งที่ชืน่ ชอบความบนั เทิงเริงใจ โดยพวก เขาได้สรา้ งอฒั จันทร์ทมี่ ขี นาดใหญ่ความจุถงึ 20,000 ที่นงั่ ไว้สำ� หรับชมกลาดเิ อเตอร์ รวม ถึงได้สร้างโรงละครอกี หลายแห่งภายในเมอื ง เอาไว้ใช้ส�ำหรับพธิ ีทางศาสนาหรอื การแสดง คอนเสิร์ตต่าง ๆ อกี ดว้ ย 4
M.Vesuvius ภเู ขาไฟวิสุเวียส ภูเขาไฟวสิ เุ วียส ปจั จุบันตง้ั อยใู่ นประเทศอิตาลี โดยอยู่ทางทิศตะวันออกเมือง เนเปลิ ส์ เปน็ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร เหนอื อา่ วเนปิลส์ ซ่ึงเปน็ ภเู ขาไฟเพียงลูกเดียว ที่ยงั ไม่ดบั ในแถบทวีปยโุ รป วสิ เุ วยี สมีความสูง 1,281 เมตร ปากปล่องภเู ขาไฟมีเสน้ รอบ วง 1,900 เมตร และลึก 216 เมตร ถอื ว่าเป็นภเู ขาไฟที่มคี วามสำ� คญั อกี ลูกหน่งึ ของยโุ รป ภเู ขาไฟแหง่ นป้ี จั จุบันเปดิ ใหเ้ ปน็ แหลง่ ท่องเทีย่ ว นกั ท่องเที่ยวสามารถขน้ึ ไปเดินชมภูเขาไฟ ทีค่ รา่ ชีวิตมนุษย์ไปนบั หมนื่ คนไดแ้ ม้วา่ ภเู ขาไฟลกู นีจ้ ะยงั ถอื วา่ เปน็ ภเู ขาไฟท่ีมีแรงปะทุ กต็ าม ภเู ขาไฟวิสุเวียส ในอดตี เคยเกดิ การปะทุครัง้ ใหญเ่ มอ่ื วนั ที่ 24 สงิ หาคม ปี ค.ศ.79 กลายเป็นการปะทขุ องภูเขาไฟทรี่ า้ ยแรงที่สุดในประวัติศาสตรย์ โุ รป หลังจากนนั้ ภูเขาไฟ วิสุเวยี ส ได้เกิดการระเบดิ หลายต่อหลายคร้ัง และเกดิ การระเบิดครง้ั ล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 1944 ซง่ึ ปัจจบุ ัน ภเู ขาไฟวสิ ุเวียสยงั คงเปน็ ภูเขาไฟลกู เดยี วในยโุ รปท่ยี งั ไม่ดบั และถูกจัดให้เป็น หนึ่งในภูเขาไฟที่อันตรายท่สี ดุ ในโลก และขณะนมี้ ีประชาชนจ�ำนวนประมาณ 3 ล้านคนท่ี อาศัยอย่บู รเิ วณใกลักบั ภเู ขาไฟวสิ เุ วียส ที่ก�ำลังเสย่ี งตอ่ การได้รับความเสยี หาย หากภเู ขาไฟ วสิ เุ วียส เกิดการระเบิดครัง้ ใหญข่ น้ึ มาอกี ครั้ง โดยในจำ� นวนน้ีท่อี ยใู นเขตอนั ตรายนบั 600,000 คน และกลายเปน็ หน่งึ ในเขตภเู ขาไฟท่ีมปี ระชากรอยหู่ นาแนน่ มากทสี่ ดุ ในโลก และหวังว่าจะไมเ่ กดิ เหตุการณ์เลวรา้ ยซ้�ำรอยอีก 5
ลกั ษณะภเู ขาไฟวิสเุ วียส ภเู ขาไฟวสิ เุ วยี ส เปน็ ภเู ขาไฟสลับช้นั ( stratovolcano) ซง่ึ หลายคนอาจ จะไม่รู้ ภูเขาไฟวิสเุ วยี สเปน็ เพียงหน่ึงในหลาย ๆ ภเู ขาไฟ ซง่ึ รูปแบบภเู ขาไฟโคง้ CampanianVesuvius ประกอบไปดว้ ย รปู ทรงกรวยขนาดใหญบ่ างสว่ นลอ้ มรอบด้ว ขอบทส่ี งู ชนั ของแคลดีรา ยอดเขาทีเ่ กิดจากการพงั ทลายของโครงสร้างที่สงู กว่าก่อน หน้าน้แี ละเดิมมาก โดยลกั ษณะส�ำคัญของภูเขาไฟวสิ เุ วียสนั้นก็คอื การทบั ถมของเถา้ ลาวาหลายชน้ั เถา้ ภเู ขาไฟ หินภเู ขาไฟ และธาตุ pyroclastic บางชนดิ วัสดุเหล่าน้ีเกดิ ขึ้นจากการปะทเุ ลก็ ๆ และสะสมมานานนับหลายลา้ นปี การเกิดภเู ขาไฟวิสุเวียส วิสุเวยี ส เกิดขึน้ มาจากการเคลอื่ นท่ชี นกนั ของแผ่นเปลือกโลกทงั้ สอง ทแ่ี อฟรกิ าและเอเชีย ซ่งึ ถูกย่อยสลายภายใตห้ ลงั ลกึ ลงไปในโลก เปน็ ตะกอนท่ีอมิ่ ตัวของ น�้ำของแผน่ เปลือกโลกในมหาสมุทรแอฟรกิ ัน ถกู ดนั ไปท่ีสว่ นลกึ ท่ีรอ้ นกว่าภายในโลก น�ำ้ จะเดอื ดและลดจดุ หลอมเหลวของชน้ั บนลงพอทีจ่ ะละลายหินได้บางส่วน เนอ่ื งจาก หินหนืดมคี วามหนา่ แนน่ นอ้ ยกว่าหนิ แข็งรอบ 1 จึงถกู ดนั ข้ึนดา้ นบน เมือ่ พบจุดอ่อนที่ ฟนื้ ผวิ โลกก็ทะลุออกมาจงึ ก่อตัวเปน็ ภเู ขาไฟในที่สุด ล�ำดบั เหตุการณแ์ ละเวลา การระเบิดของภูเขาไฟวสิ ุเวียส วนั ท่ี 24 สิงหาคม ค.ศ. 79 เวลา 13 นาฬิกา 30 นาที ภเู ขาไฟวสิ เุ วยี สท่ี อยู่ห่างออกไป 5 ไมล์ ได้ระเบดิ ข้ึน ฝนุ่ ควัน หนิ พมั มชิ และก๊าซพิษจ�ำนวนมากออกมา สายลมในวันนัน้ ได้พดั พาทุกอยา่ งไปท่ีเมอื งปอมเปอี และสตาเบีย ซึง่ อยู่ทางทศิ ตะวนั 6
ออกเฉยี งใต้ของวิสเุ วียส แตเ่ นื่องด้วยเมืองปอมเปอีอยใู กล้วิสเุ วียสกวา่ เมอื งสตาเบียผล กระทบท่ไี ด้รบั จงึ มากกวา่ ในเวลาไม่ก่นี าที ทอ้ งฟ้าเหนอื เมอื งปอมเปอีก็ถกู ปกคลมุ ด้วยฝุ่นควนั จากภูเขาไฟจนแสงอาทติ ย์ไม่อาจส่องแสงลอดฝุ่นควันลงมาได้ ทัว่ ทงั้ เมือง มดื ดบั ราวกบั เวลากลางดกึ หลังจากนน้ั หนิ พัมมิชในฝนุ่ ควนั ก็เริม่ จับตวั กันเปน็ ก้อนใหญ่ ทีห่ นักขน้ึ เยน็ ลง และเร่มิ รว่ งลงมาสู่เมอื ง ปอมเปอีชาวเมืองเรมิ่ หวาดกลัว บางคนรีบ หนอี พยพ บางคนไปหลบในบ้านหรือในสถานที่สว่ นรวมตา่ งๆ ตอ่ มาไมน่ านนกั ก๊าซพษิ ทีภ่ ูเขาไฟพน่ ออกมาทำ� ใหอ้ ากาศเป็นมลพิษ ส่งผลใหผ้ ู้คนเริ่มหายใจไมอ่ อก หนิ พมั มซิ ขนาดใหญ่หล่นลงมา ท�ำใหผ้ ูท้ ีพ่ ยายามจะหนีสว่ นใหญก่ ็เรม่ิ ล้มตายเพราะถูก หนิ หล่นใสห่ วั หากไม่ตายก็ลม้ ลงหมดสติ และขาดอากาศหายใจจนตายในท่ีสุด เวลา เยน็ ในวันเดยี วกนั นนั้ หินพัมมิซทับถมบนบ้านชาวเมอื งหนา ทำ� ให้ชาวปอมเปอที ่ีหลบ ภยั ในบา้ นเร่มิ ขาดอากาศหายใจตาย และตอ่ มาไมน่ านหลงั คาบ้านกเ็ ร่ิมถลม่ เพราะรบั นำ้� หนกั หนิ ไมไหว ท�ำใหผ้ ูค้ นถกู ฝงั ท้งั เปน็ 25 สิงหาคม ค.ศ. 79 ชว่ งเชา้ วสิ ุเวียสระเบดิ แรงข้นึ คล่นื ทะเลแรงมาก ทอ้ งทะเลแปรปรวนเน่อื งดว้ ยแรงสน่ั สะเทอื น จนบ้านพกั ตากอากาศรมิ ทะเลถกู คลน่ื ซดั พังไปหลายหลัง ช่วงบา่ ย กระแสลมเปลี่ยนทิศไปทางทศิ ตะวนั ตก( เยอ้ื งใตเ้ ลก็ นอ้ ย ) น�ำพาฝ่นุ ควนั สู่เมอื งมเิ ซนมั และเฮอร์ควิ เลเนียม แตเ่ ฮอรค์ วิ เลเนียมอยู่ใกล้กวา่ มาก จึง ไดร้ ับหายนะไปมากกว่า 26 สิงหาคม ค.ศ. 79 วิสเุ วียสระเบดิ เบาลง แตเ่ กิดเหตุการณ์ฝนตกลงมา บริเวณลาดเขาของภูเขาไฟวิสเุ วยี ส ซง่ึ เป็นบรเิ วณทีเ่ ตม็ ไปด้วยเถ้าถา่ นที่ร้อนจดั 7
27 สิงหาคม ค.ศ. 79 น�ำ้ ฝนละลายผสมกบั เถา้ ถา่ นกลายเป็นโคลนเดอื ด ไหลทะลักล้นลงมากลบทบั เมืองเฮอรค์ ิวเลเนยี ม ชาวเมืองหลายรอ้ ยชีวติ ที่ตายไป แต่ก็ถอื เปน็ เพยี งส่วนนอ้ ย เพราะสว่ นใหญไ่ ด้ลอ่ งเรืออพยพออกไปแล้ว จากนนั้ เป็น เวลาไม่นานภูเขาไฟวิสเุ วยี สก็สงบลง ผู้รอดตายทอี่ พยพ ไดก้ ลบั ไปยังเมอื งของตนเอง และนำ� ซากอาคารท่โี ผล่พันเถา้ ถา่ นฝุ่นควันไปใช้ประโยชน์อยา่ งอน่ื โดยผู้บนั ทึกหว้ งเวลาแหง่ ความล่มสลายคร้ังใหญน่ ้ี เปน็ นกั ประวตั ิศาสตรช์ าวโรม ช่อื \"แทซิทสั \" ได้ทำ� การบันทึกเหตุการณแ์ ห่งความหายนะครัง้ ใหญ่ครง้ั นี้ทั้งหมดเอา ไว้เป็นภาษาละตนิ ท�ำให้คนรุ่นหลงั ไดร้ บั รเู้ รอ่ื งราวหายนะทเี่ กดิ ขึ้น จากเหตุการณ์ นท้ี ำ� ให้มีผ้คู นเสียชีวติ ไปกว่า 16,000 คน เปน็ ความโชครา้ ยทีค่ นจ�ำนวนมากเหลา่ น้ี ถกู จบชีวิตลงจากความหายนะอย่างนา่ เศรา้ ตำ� นานของพวกเขาสาบสญู ไปพรอ้ มกบั ความยงิ่ ใหญข่ องปอมเปอี ท่ถี กู ฝังกลบภายใต้เถ้าถา่ นภเู ขาไฟเป็นเวลานับหลายร้อย ปีนับจากนั้น และมกี ารประมาณอย่างคร่าวๆ วา่ พลงั งานทั้งหมดท่ีถูกปลอ่ ยออกมา จากการระเบิดของภูเขาไฟวสิ เุ วยี สในครั้งนี้ มคี วามรุนแรงกวา่ ระเบดิ ปรมาณทู ่เี มือง ฮโิ รชิม่าถงึ 100,000 เทา่ เลยทีเดยี ว 8
trade and agriculture in Pompeii 9
10
History of trade and agriculture การคา้ ขายและการเกษตร จากภูมิศาสตรท์ เี่ มอื งปอมเปอตี ัง้ อยใู่ กลกั ับภเู ขาไฟและทะเล สาเหตุนจ้ี งึ ทำ� ให้ดินในพ้นื ที่ รอบ ๆ เมืองปอมเปอี มีความอุดมสมบูรณอ์ ย่างมาก จงึ ทำ� ให้การเพาะปลกู เจรญิ งอกงามดีและได้ ผลผลติ ที่ดเี ยี่ยม อีกทัง้ ผลดีจากการอยูต่ ิดทะเลจงึ ทำ� ให้เมืองปอมเปอีกลายเปน็ เมืองทา่ ซงึ่ ท�ำเงนิ ได้ มากมายจนไดช้ ่อื ว่าเปน็ เมืองหนงึ่ ทคี่ วามม่ังคงั่ ในยคุ สมยั น้ันเลย และส่งิ ทโี่ ดดเด่นอกี หนง่ึ เรื่องท่จี ะกลา่ วถงึ คือ สตรีทฟดู๊ และคงไมม่ ีผู้ใดท่ีไมร่ จู้ ัก แตค่ ณุ ทราบหรือไมว่ า่ มีการค้นพบวา่ เมอ่ื 2,000 ปกี อ่ น มีการค้าขายอาหารแบบสตรีทด้วย สินคา้ ทน่ี ยิ มค้าขายส่วนมากเป็นของตกแตง่ อาคารหรอื มหาวหิ าร หรือ ภาชนะ เคร่ืองปัน้ ดนิ เผาที่ใชค้ รัวเรอื น และอกี อยา่ งทีเ่ ปน็ ของขึ้นชื่อของเมอื งปอมเปอนี น่ั กค็ อื เรือ่ งไวน์ดว้ ย 11
trade มีการค้นพบร้านอาหารจานดว่ นจ�ำนวนมากกวา่ 80 ร้านท่ัวเมืองปอมเปอี หลังจากท่ีชน้ิ ส่วนบางอยา่ ง ของร้านอาหารข้างทางรา้ นน้ถี กู คน้ พบเมื่อ ค.ศ. 2019 และนีถ่ อื เปน็ ครง้ั แรกทค่ี น้ พบรา้ นอาหารข้าง ทางแบบช้ันวางทีม่ ชี ่องบรรจุอาหารและเครื่องด่ืมรอ้ นๆ โดยช้นั วางชัน้ น้ีถูกฝังอยู่ใต้ดนิ ที่ผา่ นมาหน้าตาของชนั้ วางถกู ออกแบบให้เขา้ ถึงได้ หลายด้าน โดยมันจะมีชอ่ งขนาดใหญ่หลายชอ่ งเจาะลงไปถงึ ดา้ นลา่ งของ ชนั้ เพอ่ื เปน็ ทเี่ ก็บอาหารร้อนๆ ทต่ี อ้ งมภี าพเมนเู อาไว้โฆษณาให้คนผา่ นไปผา่ นมา ไดเ้ ห็น แตร์มอโปลอิ ุมถกู วาดภาพด้วยสีสันอันสดใสของเป็ดและไกท่ ีถ่ กู แขวนหอ้ ย หวั เอาไวเ้ สมือนว่ามนั ไม่เคยถูกลาวาจากภูเขาไฟทำ� ลายลง โดยทางร้านไดม้ รี ปู วาด ของนิฟม์ นางไมใ้ นเทพปกรณมั กรีกถูกวาดประดับเอาไวเ้ ป็นพรเี ซนเตอร์ประจำ� 12
สินคา้ ทนี่ ิยมคา้ ขาย เมอื่ ครัง้ 2,000 ปกี ่อน มกี ารคน้ พบเครือ่ งเรอื นเครื่องใช้อยา่ งครบครัน ไมว่ ่า จะเปน็ เหยือกน�้ำ ถงั เก็บไวน์ ถ้วยชามเซรามิก โมเสกสสี ันวจิ ติ ร เหรยี ญบรอนซโี บราณ ผนงั ปูนท่เี ขยี นภาพงดงาม เปน็ ต้น ซงึ่ หลกั ฐานที่ระบไุ ดว้ า่ มกี ารตดิ ตอ่ ค้าขายกบั เมอื งอ่ืนๆ มีการค้าขายผลผลติ ทางการเกษตรและเนื้อสัตวต์ า่ งๆ และสนิ คา้ ท่ีมคี วามนิยม ในการคา้ ขายอกี ชนดิ ก็คอื ไวน์ เมืองปอมเปอีน้นั เปน็ เมอื งทม่ี ีผลผลติ ทางการเกษตรสว่ น มากเปน็ องนุ่ ชาวเมอื งจงึ น�ำผลผลติ ทไี่ ด้มาแปรรูปเพอ่ื สรา้ งรายไดเ้ พมิ่ เติม และเมืองปอมเปอกี ไ็ ด้กลายเปน็ ศนู ย์กลางการคา้ อนั มงั่ ค่ัง การผลิตไวน์องนุ่ ผา้ ขนสัตว์ เปน็ อุตสาหกรรมหลกั ของเมือง และเต็มไปดว้ ยช่างฝมี ือที่มีทกั ษะ ความ สามารถสูง และมสี ถาปตั ยกรรมตา่ งๆ ท่ีไมเ่ หมอื นใครอยู่มากมาย 13
agriculture การเกษตรและเล้ียงสัตว์ เมอื งปอมเปอมี ผี ลผลติ ทางการเกษตรที่คอ่ นขา้ งดเี นอ่ื งจากเมอื ง ปอมเปอี มีสภาพดินรอบ ๆ บริเวณมคี วามอุดมสมบรู ณเ์ ปน็ อย่างมาก เพราะ ต้งั อยใู่ กลักบั ภเู ขา และคอ่ นข้างมีพื้นทีใ่ นการเพาะปลูกหรอื เลี้ยงสตั ว์ เมืองปอมเปอถี ือเปน็ เมอื งที่มีไรอ่ ง่นุ ที่กวา้ งใหญ่แห่งหนึ่งของ อาณาจกั รโรมัน ในยคุ สมัยนนั้ ชาวเมืองนยิ มเพาะปลูกพืชผลไม้โดยเฉพาะ องนุ่ กบั มะกอก ท่ีเปน็ ทพี่ ูดถึงมากท่ีสุด เน่ืองจากเป็นเมืองช่อื ดงั ในการผลิต ไวน์ ชาวเมืองปอมเปอไี ดส้ รา้ งช่อื เสียงในดา้ นของการดม่ื ไวน์และมกี ารไวน์น�ำ ไปบชู าเทพเจ้าของพวกเขาไปอยา่ งกวา้ งขวาง นอกจากนี้พวกเขายงั ไดม้ ีการ เล้ียงสตั ว์เพือ่ เป็นอาหารและค้าขาย และยังมีการคน้ พบว่าในยุคสมัยน้ันของ เมอื งปอมเปอมี ีการเลยี้ งไก่ชน และมีการจดั แขง่ ขน้ึ เปน็ กีฬาประเภทหนึ่งอีก ดว้ ย โดยภาพรวมของเมอื งปอมเปอี ผลผลติ ทางการเกษตร การคา้ ขาย และภมู ิศาสตร์ เรยี กไดว้ า่ เป็นทำ� เลทองเลยกว็ า่ ได้ เป็นเมอื งทา่ และเมือง คา้ ขาย ที่ส�ำคญั กับตา่ งเมอื งหรือตา่ งประเทศเมอื งหนึง่ ด้วยองคป์ ระกอบ ท้ังหมดไดท้ ำ� ให้เมอื งปอมเปอเี กิดความมัง่ คง่ั ร่�ำรวย และมีความเจริญ ในหลาย ๆ ด้าน 14
way of life in Pompeii 15
16
History of Way of life เมอื งทป่ี ระชาชนมีการดำ� เนินชวี ิตแบบเรียบ งา่ ย หรหู รา เสพความสุข พักผ่อนหย่อนใจ ใคร จะไปคิดวา่ จะมีอะไรมาพลากมันไปจากพวกเขา ชาวเมืองปอมเปอี เนื่องจากเป็นเมืองท่มี ั่งคัง่ ส่วนมากมกั ใชช้ วี ติ บนความหรูหรา ประชาชนร่ำ� รวย เมืองนเ้ี ปรยี บเสมือนสถานที่พกั ผ่อน หยอ่ นใจของชาวโรมนั หรือชาวเมืองปอมเปอเี อง จึงท�ำใหบ้ ้านเรือนทพ่ี ัก อาศยั มลี กั ษณะที่ค่อนขา้ งใหญ่ บางหลงั อาจจะมสี องชนั้ หรอื แมแ้ ต่อาหาร การกนิ ทป่ี ระชาชนกินดอี ยู่ดีมคี วามอดุ มสมบรู ณ ์ แตเ่ ป็นที่นา่ เหน็ ใจส�ำหรบั แรงงานทางเพศท่สี ว่ นมากจะเป็น แรงงานทาส หรือผู้ทีย่ ากไร้ ทต่ี ้องอดทนใชช้ วี ิตอยา่ งยากล�ำบาก ต้องใชเ้ พศ สภาพเพื่อแลกเงินมาใช้ใหม้ ีชวี ิตตอ่ ไปในแต่ละวนั 17
18 culture อาหารการกิน มกี ารจัดแสดงหลักฐานท่ีเกยี่ วข้องกบั เมืองปอมเปอใี นนทิ รรศการ “ Last Supper in Pompeii ” จัดข้ึนทพี่ ิพธิ ภณั ฑ์ Ashmolean ในประเทศอังกฤษ เมอื งออกซ์ฟ อรด์ เมนหู นึ่งท่ถี ูกจำ� ลองขน้ึ ในห้องจดั นทิ รรศการเป็นห้องส�ำหรบั รับประทานอาหารเย็น หรอื มชี ื่อเรยี กวา่ \"triclinium\" ซึ่งชาวโรมันทีม่ ีฐานะดจี ะมารวมตวั กนั เพือ่ มารบั ประทาน อาหารกนั อยา่ งพร้อมหน้า มอื้ อาหารอาจเร่มิ ต้นด้วยไข่ , มะกอก , เพสตรี (Pastry) หรือ ขนมอบ และบางคร้ังอาจมีหนูจากน้ันจงึ ตามมาด้วยอาหารทะเล ในบรรดาอาหารทะเล นี้มหี ลกั ฐานเป็นภาพโมเสกทีจ่ ัดแสดงในนิทรรศการนี้ ในภาพจะแสดงใหเ้ ห็นสัตว์ทะเล ( ทีส่ ามารถทำ� เป็นอาหารกินได้ ) มหี มึกที่ถกู รายลอ้ มดว้ ยปลาหลายชนิด แทรกด้วยสัตว์ จ�ำพวกกงุ้ – กง้ั - ปู
มีบางเมนูของชาวโรมนั โบราณอาจดแู ปลกตาและไม่นา่ พสิ มยั ส�ำหรบั คนในปจั จบุ นั ซงึ่ อาหารท่กี ลมุ่ คนทีม่ ีฐานะในโรมนั โบราณนิยมกัน คอื หนยู ดั ไส้ ทีผ่ า่ นกระบวนการ ช�ำแหละผา่ เครอ่ื งในแลว้ ยดั ไส้ดว้ ยหมูสับจากนั้นกน็ �ำไปอบ และหนู (dormouse) ท่จี ะน�ำมา ประกอบอาหารกย็ งั เช่ือวา่ ต้องถกู ขนุ ใหอ้ ้วนกอ่ นในเหยอื กทีอ่ อกแบบมาเป็นพิเศษให้หนู ได้ ว่ิงเลน่ ข้างในได้กอ่ นทีม่ นั จะถูกนำ� มาประกอบอาหาร ซอสจากปลาท่ีมีกลน่ิ ค่อนขา้ งฉนุ เรียกวา่ \" Garum \" เป็นซอสนิยมราดไปใน อาหารแทบจะทุกจานเลยก็ว่าได้ การปรุงซอสนีก้ ระท�ำโดยการหมกั อวัยวะของปลาทไ่ี มไ่ ด้ กินแล้ว ยกตวั อยา่ งเช่น หัว หาง ครบี เคร่อื งใน เหงือก รวมกันในภาชนะขนาดใหญ่ หมกั ท้ิงไว้โดยประมาณ 2-3 สัปดาห์ Garum เปน็ ทีแ่ พรห่ ลายไปทว่ั จักรวรรดิโรมนั สงั เกตไดจ้ าก ขวดที่ปรากฎในภาพวาดทีอ่ ยู่ในนิทรรศการ ขวดท่ีปรากฎอยูม่ าจากกลุม่ ผู้มีอิทธพิ ลและ รำ่� รวยทส่ี ดุ ในปอมเปออี ย่างกลมุ่ Scaurus ส�ำหรับอาหารหลักในมอื้ เยน็ มกั เป็นเนื้อสตั ว์ ส่วนใหญ่แลว้ เป็นหมู แพะหรือแกะ ตามด้วยผลไม้ เช่น องนุ่ แอปรคิ อท ลกู พลัม ลูกพชี และลกู แพร์ และไสก้ รอก กเ็ ป็นอาหาร อกี ประเภทหนึ่งทแ่ี พรห่ ลายในหมู่ชาวโรมนั ด้วย ในยคุ ทอ่ี าณาจกั รโรมนั แผ่ขยายอทิ ธิพลไปถงึ อียปิ ตแ์ ละเยอรมนใี นปัจจบุ นั โรมัน ยังถา่ ยทอดวฒั นธรรมอาหารไปส่พู วกเขา ถงึ มีเมนอู ยา่ งผักกะหล�่ำ, กระต่าย, ไก่ และผลไม้ อย่างลกู พลมั , ลกู แพร์ และแอปเปิล ภาพโมเสก จากกระจกสี จากสมัย 1000 B.C. แสดงภาพสตั วท์ ะเลแถบเมดิเตอรเ์ รเนียน (ภาพจากนิทรรศการ Last Supper in Pompeii / YouTube / Ashmolean Museum) 19
การขายบริการทางเพศ ปี ค.ศ. 1862 นักโบราณคดยี ุคแรกเร่มิ ตน้ ขุดค้นอาคารทเี่ ชื่อวา่ เป็นแหล่งท่มี กี ารขาย บริการ เปน็ อาคาร 2 ช้นั ตั้งอยู่ระหวา่ งแหลง่ การประชุม กับยา่ นค้าขายเมอื งปอมเปอี สถานที่ แหง่ นี้เปน็ แหล่งจดั หาบรกิ ารทางเพศทม่ี ที ง้ั ชายและหญงิ ให้กับชาวโรมนั เป็นแหล่งทมี่ ชี ่อื เสยี ง อกี แห่งหนึ่งในปอมเปอี ซึง่ เป็นพ้ืนที่ที่มกี ารซอ้ื ขายบริการทางเพศจริง ๆ อกี ท้ังยังเป็นแหล่งที่ เสยี ภาษี จากข้อความจารึก ซงึ่ หลักฐานเหลา่ น้ีบง่ บอกถึงรายละเอยี ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทเี่ กยี่ วกบั กจิ การทางเพศ ข้อความที่คนในอาคารจารึกไวแ้ ปลความหมายได้วา่ \" เมอร์ทิส , คุณดดู ไดด้ เี ลย \" ( ' Murtis, you suck well ' ) หรือมีอกั ษรจารกึ ชือ่ นายจ้างของผู้ขายบรกิ ารทางเพศว่า \" ฟาเบีย \" ( ' Hey, mistress Fabia ! ' ) เปน็ เรอื่ งปกตทิ ี่ใชอ้ าคารเป็นแหลง่ ขายบรกิ ารโดยจะ มีภาพเขียนสเี ป็นภาพกระตนุ้ อารมณ์ระหวา่ งชายและหญงิ บางอาคารทถ่ี กู คาดการณ์วา่ อาจใช้ เป็นแหล่งขายบรกิ ารนั้น ไดม้ กี ารสนั นษิ ฐานวา่ ภาพเขยี นเหลา่ น้ีอาจใชเ้ พอ่ื สนองความตอ้ งการ ทางเพศของผมู้ าใชบ้ ริการด้วย และไมเ่ พยี งเทา่ นั้น ภายในอาคารมีการเขียน \" เมนู \" หรือ \" ค�ำ แนะน�ำ \" ส�ำหรับผู้ใชบ้ ริการทไ่ี ม่มปี ระสบการณ์ สว่ นภาพเขยี นท่ีปรากฏในอาคารสว่ นตัวทั่วไป นา่ จะถกู ใชง้ านในฐานะเปน็ ภาพตกแต่งสถานที่ ในชวี ติ จริงเรอื่ งของแรงงานทางเพศ ภายในอาคารท่มี คี วามหรูหรานน้ั แท้จรงิ แล้ว สภาพความเป็นอยขู่ องผู้หญงิ ภายในน้ันตา่ งกนั คนละขั้ว อาคารทเ่ี ป็นแหล่งบริการทีเ่ ป็นท่ีนยิ ม กลบั ใหค้ ณุ ภาพชวี ิตของพวกเธอตกต�่ำโดยให้อาศยั อยใู่ นหอ้ งลูกกรงแคบ ๆ ท่ีไม่มีแมแ้ ต่หนา้ ต่าง ขนาดของห้องน้ันน่าจะไม่ใหญเ่ กนิ เตียง ทำ� ให้ความอดึ อดั และขาดแสงสวา่ งท่สี ่องเข้ามา จาก การคน้ พบที่นอนในหอ้ งมที ้งั ทเี่ ป็นเตียงหินและไม้ แตเ่ ตียงไม้ได้สลายไปตามกาลเวลา จากท่ี กลา่ วมานชี้ ี้ใหเ้ หน็ วา่ นายจา้ งไม่ไดค้ ำ� นงึ ถงึ ลกู จ้างเลย เนอ่ื งจากแรงงานทางเพศในอิตาลโี บราณ มีสถานะเป็นทาสแรงงานทางเพศหญิง มีหน้าที่บำ� เรอบรกิ ารทางเพศทีใ่ ห้ประโยชนแ์ ก่เจา้ นาย ไมม่ ีหนา้ ท่ีอ่นื ใด พวกเธออยู่ภายใตก้ ารกำ� กับของผ้ดู แู ลชายทใี่ ห้สงิ่ อ�ำนวยความสะดวกแคพ่ อ ประทงั ชพี เทา่ นั้น และผหู้ ญงิ ยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอีก ซึ่งแตกตา่ งจากภาพเขยี นท่ดี ูมี รสนิยมและหรหู รา 20
ภาพเขียนสีการรว่ มเพศใน Lupanar สถานบริการมีช่อื ในปอมเปอีที่หลงเหลือมาถึงปจั จบุ ัน ลักษณะของบ้านในปอมเปอี บา้ นเรือนในปอมเปอีเน่ืองจากประชาชนสว่ นใหญค่ ่อนขา้ งมฐี านะร�ำ่ รวย บ้านจึงมี ลกั ษณะใหญโ่ ตและค่อนขา้ งมคี วามหรูหรา บางหลงั มีถงึ สองชน้ั หรอื มีสวนสว่ นตวั บ่อนำ้� หรอื น้ำ� พุ ภายในตวั บา้ นและในบ้านมักจะมจี ิตกรรมฝาผนังท่ีสวยงามประดบั อย่ตู ามห้องตา่ ง ๆ วิลลา่ แหง่ ความลึกลับ (Villa of the Mysteries) วลิ ล่าในเขตชานเมืองของเมือง ปอมเปอี , ภาคใตข้ องอิตาลี เปน็ ทที่ ีม่ ีช่อื เสียงสำ� หรับชุดของประณตี จิตรกรรมฝาผนงั ในห้อง หน่ึง มกั มีความคิดท่ีจะแสดงใหเ้ หน็ การเริ่มตน้ ของหญงิ สาวคนหนึง่ ใหก้ ลายเป็นลัทธลิ ึกลับกรีก โรมัน ปัจจบุ นั สง่ิ เหลา่ น้ีเป็นท่รี จู้ ักกนั ดที ี่สดุ ของภาพวาดโรมันโบราณทหี่ ายากศตวรรษที่ 1 เชน่ เดยี วกับเมืองปอมเปอี ส่วนที่เหลอื ของโรมนั วิลล่าถกู ทบั ฝงั อยู่ในดินเน่ืองจากการระเบิดของ ภูเขาไฟวสิ เุ วยี สในปีครสิ ตศักราช 79 และขุดค้นต้งั แต่ปี 1909 เป็นตน้ มา ปจั จุบนั นกั ท่องเท่ยี ว นิยมมาเย่ยี มชมเมืองปอมเปอีและยงั เป็นส่วนหน่ึงของมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกที่เมือง ปอมเปอี (มีภาพประกอบหนา้ 42-43) 21
ภาพตวั ยา่ งของบ้าน Casa Dei Vettii สามารถเขา้ ไปรบั ชมคลิปวดิ โี อส้นั ของสถานท่จี รงิ ได้ตรงนี้ 22
Religion of Pompeii 23
24
History of Religion การนับถือเทพเจ้า ชาวปอมเปอจี ะนบั ถือเทพเจา้ ทเ่ี ก่ยี วข้องกับความสำ� เรจ็ ของชวี ติ โดยจะขอให้ สขุ ภาพแข็งแรงความเจริญรงุ่ เรอื งของตนเองและครอบครัวเพอื่ ให้การกสกิ รรมได้ผลดีการ อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายทง้ั ปวง เป็นตน้ มีการทำ� พิธีกรรมบูชาเทพเจา้ อยา่ งง่ายๆใน ครอบครัว หรือบา้ นเมอื งเป็นผู้จดั ใหม้ ีพิธีกรรมส�ำหรบั ประชาชนทุกคนร่วมพธิ ีในวหิ ารเมอื ง ตามสีแ่ ยกจะมีศาลบชู าเทพเจา้ เรียกว่า ลาเรส ( Lares ) ภายในครวั เรือนจะมศี าลบูชา เทพเจา้ ที่ตนนับถือ ซง่ึ จะมีการประกอบพธิ สี �ำคญั ๆ ในครอบครัว เช่น การต้อนรับลูกชาย เตบิ โตขน้ึ และมีการถวายเคร่ืองสกั การะประจ�ำวัน ชาวปอมเปอีนับถือเทพเจา้ เออลมิ เพียนส์ (Olympian Gods) จะไดเ้ ห็นจากการ สร้างวิหารจูปิเตอร์ที่ Civil Forum เพ่ือถวายสกั การะแตพ่ ระเทพบิดาจปู ิเตอร์ และถวายสัก การะแต่เทวนารีจใู น ( Juno ) และ ไมเนอร์เวอ ( Minerva ) ในวหิ ารเดยี วกนั นีอ้ กี ต้านหนง่ึ ของ Forum มวี ิหารของเทพอพอลไล ซงึ่ วา่ กันวา่ วหิ ารดงั้ เดมิ มีมาตั้งแต่ศตวรรษท่ี 6 กอ่ น ครสิ ตกาลแต่มกี ารก่อสรา้ งขนึ้ ใหม่ในสมยั แชมไนท์ อกี ดา้ นหนึ่งของ Forum มีวหิ ารเลก็ ๆ เพอ่ื ถวายสกั การะแต่ลาเรส ท่ี Triangular Farum มวี หิ ารถวายแตไ่ มเนอร์เวอ และเฮอศิวสิส ( วีระบรุ ษุ ผ้กู ลายเป็นเทพเจ้า ) 25
God ชาวโรมันศรทั ธาเทพเจ้าและเทพีของตนเอง เปน็ อย่างมาก บางสว่ นก็มาจากสว่ นต่างๆของจักรวรรดิ ดว้ ย เทพเจา้ และเทพมี อี ยใู่ นทุกส่วนของชวี ติ ชาวโรมนั ฆา่ สัตวเ์ พื่อสังเวยแดเ่ ทพเจา้ และสวดมนต์บูชาเทพเจา้ ดว้ ย จักรพรรติเปน็ หัวหนา้ นกั บวชของโรมนั เพราะประชาชนเช่อื วา่ พระองค์ทำ� หน้าท่ีเป็นสะพาน เชอ่ื มระหว่างเทพเจ้ากับคนธรรมดา เทพปกรณมั กรกี ภายในบ้านเรอื นของผ้มู ฐี านะจะพบภาพวาดบนฝาผนงั แสดงเรอื่ ง ราวต่าง ๆ ของเทพปกรณัมกรีก หรอื รปู สลักลอยตวั ของเทพเจา้ บางพระองค์ เชน่ ฟอน หรือ แพน (Faun. Pan) เทพผ้มู เี ขาเปน็ แพะ ประดับบอยู่กลางบอ่ นำ้� ในบา้ น หรือทเี่ รยี กว่า '’เอเทรี ยม” (atrium) หรอื ภาพวาดควิ พดิ (Cupid) ท่ีกำ� ลังทำ� งานเปน็ ช่างทอง ภาพวนี สั เทวนารีแห่ง ความงามและความรกั ลอยอย่ใู นเปลอื กหอยกลางทะเลขา้ ง ๆ มเี ทพเจา้ แหง่ สงครามมารส์ เป็นตน้ ท้งั หมดนเ้ี ปน็ สว่ นสำ� คญั ท่ีแสดงให้เหน็ ถงึ ความศรทั ธาต่อเทพปกกรณัมของกรกี เทพเจ้าทีไ่ ดร้ บั อทิ ธิพลมาจากกรีก เทพเจา้ โรมนั ท่ีส�ำคญั ๆ หลายองค์น้ันนำ� มาจากกรกี เช่น เทพเจ้าบัคคสั หรอื เทพเจ้า แหง่ ไวน์ ถูกเปล่ยี นช่ือใหม่เปน็ เทพเจ้าไดโอไนซัส เพเอธนี า ของกรกี หรือ เทพีแหง่ ปญั ญาและ งานฝมี ือ ไดเ้ ปลยี่ นชอื่ ใหม่เปน็ เทพมี เิ นอร์วา และเทพเจ้าทีส่ �ำคัญที่สุดคอื เทพเจา้ แหง่ สงคราม คือ เทพเจา้ มาร์ และเทพเจา้ จปู เี ตอร์ ซึ่งเป็นเทพ แหง่ ปวงเทพและเทพแหง่ ท้องฟา้ และแสงสว่าง 26
เทพประจำ� บา้ น ครอบครัวชาวโรมันส่วนใหญม่ ีหง้ิ บูชาเล็ก ๆ อย่ใู นบ้านเพ่อื ทพ่ี วกเขาจะได้บูชา เทพเจา้ และวิญญาณตา่ ง ๆ ห้ิงบชู าจะมีรูปร่างคลา้ ยโบสถ์ เรยี กวา่ ลาราเรียม เทพประจำ� บ้าน มี 2 องค์ คอื ลาเรส และเพนาเทส ลาเรส คอื วิญญาณของบรรพบรุ ุษ ส่วนเพนาเทสจะคอย ดูและตู้เก็บอาหารภายในบา้ น จะมีการสวดพิเศษสำ� หรบั วันส�ำคัญต่างๆ เช่น วันเกดิ และวัน แต่งงาน และ มกี ารสวดมนตท์ กุ วัน Creed ลทั ธิความเชอ่ื นอกจากจะมกี ารนบั ถอื เทพเจา้ แลว้ ชาวเมอื งปอมเปอียังมีการบชู าลทั ธิต่าง ๆ เกดิ ขึน้ ในยคุ สมัยนนั้ ดว้ ย ซง่ึ รายละเอียดของแต่ละลัทธิความเช่ือก็จะมีพิธกี รรมแตกต่าง ออกไปตามรปู แบบของลัทธนิ ั้น ๆ ลทั ธิล้ีลับ (Mysterious Cults) ลทั ธิลล้ี ับ คนที่เขา้ รว่ มลัทธนิ จี้ ะตอ้ งไมเ่ ปดิ เผยเร่อื งราวให้ผใู้ ดทราบ พิธีกรรมนี้ นับยอ้ นไปถงึ สมยั กรีกโบราณ ชาวกรกี ทำ� พธิ ีบูชาเทพแห่งต้นองนุ่ ไดเออไนเซอส สาวกของ พระองค์ ช่อื Maenads หรอื Bac-chanteers เป็นเหล่าสตรผี ู้เสพเหลา้ องนุ่ จนเมามาย และรอ้ งรำ� ทำ� เพลงกนั ในป่า พธิ ีจะท�ำในถำ้� พวกนางจะรบั ประทานเนือ้ สด ๆ 27
ทีไ่ ดจ้ ากการฆ่าสัตว์ในปา่ ต่อมาลัทธิได้เผยแพร่มาแถบแคมพาเนียและปอมเปอี จากวลิ ลา่ หลังหนง่ึ ในชานเมอื งปอมเปอี มภี าพวาดบนฝาผนงั เลา่ เร่ืองพธิ ีกรรมลี้ลบั น้ี มีความ นยั ว่าสตรีผู้เปน็ เจ้าของวลิ ลา่ เป็นผหู้ นง่ึ ท่ีไดเ้ ข้ารว่ มพธิ กี รรม และเป็นผดู้ ำ� เนินงาน พิธนี ี้เป็น ภาพวาดขนาดเท่าคนจรงิ และเรียงล�ำตบั เหตุการณ์ต่าง ๆ ทป่ี รากฎในพธิ กี รรม สันนษิ ฐาน ว่าไดเ้ ล่าเรอ่ื งการน�ำหญิงสาวพรหมจารี เข้ามาพิธีถวายตัวแต่เทพไตเออไนเซอส ภาพแรกเป็น เดก็ ชายก�ำลังอ่านพิธีกรรม ภาพต่อไปเปน็ การถวายเคร่ืองสักการะแต่เทพ มี สเี ลเนอส ( Silenus ) ชายอ้วนขีเ้ มาท่กี �ำลงั ตีดพณิ ต่อไปเปน็ ภาพของไตเออไนเซอสและพระยา เอเรยี ดเน ( Ariadne ) เป็นตน้ (มีภาพประกอบหนา้ 42-43) ลทั ธไิ อชิส (Isis) เทวนารโี อชิส คือเทพเจ้าอียิปต์ที่มบี ทบาทส�ำคญั ในการนับถอื ลัทธิโดยมคี วามเชื่อ เรื่องความเปน็ อมตะของชีวิต ลทั ธนิ ี้ไดแ้ พร่ไปในหมชู่ าวโรมนั และชาวปอมเปอี ในช่วงคริสต์ ศตวรรษที่1 เน่ืองจากไดต้ ดิ ตอ่ คา้ ขายกับเมืองอเล็กแชนเดรยี ในอยี ปิ ต์ ทำ� ใหไ้ ดร้ บั อิทธิพล ความเช่ือเร่ืองลทั ธมิ าดว้ ย ชาวเมอื งปอมเปทกุ ชนขน้ั จะพากันนับถอื ลทั ธิไอลิส จนเรยี กเป็น ลทั ธปิ ระจำ� เมอื งก็ว่าได้ จะเห็นได้จากหลักฐานทข่ี ุดได้ คอื เครอื่ งบชู าที่สงู ค่า และเมื่อวิหารถูก ทำ� ลายจากแผน่ ดินไหว ในปี ค.ศ. 62 ก็ได้รบั การสร้างขน้ึ ใหมอ่ ย่างรวดเรว็ ขณะทวี่ ิหารอื่นๆ เพง่ิ จะมีการซอ่ มแชม วหิ ารของไอซสิ ตง้ั อยใู่ กล้กบั โรงละครใหญล่ ้อมรอบดว้ ยกำ� แพงสูง บคุ คล ภายนอกจะมองไม่เห็นพธิ กี รรมข้างในน้นั วหิ ารตง้ั อยู่บนฐานสงู ประกอบห้องเกบ็ เคร่อื ง ประกอบพิธีกรรมมีที่เก็บน้�ำจากแม่นำ�้ ไนส์ เพื่อใช้ในการประกอบพิธีและห้องชมุ นุมของผูเ้ ขา้ รว่ มพธิ ี งานฉลองท่สี �ำคญั จะมที ุกปีปลี ะ2คร้ัง ซ่ึงจะเหน็ ไดจ้ ากภาพวาดบนฝาผนงั คือในวนั ที่ 5 มีนาคม มพี ธิ ฉี ลองไอซิติส(Isidis) คือผ้คู ้มุ ครองชาวเรอื และในวนั ที่ 13-16พฤศจกิ ายน มี พิธฉี ลองไอเซีย (sia) เพอ่ื ระลกึ ถึงการพบพระศพของไอซสิ (Osiris) พระสวามขี องไออิส เทพท่ี สำ� คัญอีกพระองคห์ นงึ่ ของขาวอยี ิปต์ 28
public utility of Pompeii 29
UNESCO World Heritage Title: Public Street Creator: Archaeological Areas of Pompei, Herculaneum and Torre Annunziata 30
History of public utility เมืองปอมเปอมี สี าธารณูปโภคคอยอำ� นวยความสะดวกและสรา้ ง สาธารณะประโยชน์ใหก้ บั ผู้คนภายในเมืองมากมาย เนอื่ งจากชว่ งเวลาสมัย นน้ั ยงั ไมม่ ีเทคโนโลยีทที่ ันสมยั จึงทำ� ใหก้ ารบรกิ ารหรือสงิ่ อ�ำนวยความ สะดวกมไี ม่มากและท่ัวถงึ เหมอื นในปจั จุบัน แตผ่ ู้คนกม็ แี นวคิดหรือทฤษฎีทีส่ ามารถแกไ้ ขปัญหาด้วยตัวเอง โดยเปน็ แนวคดิ งา่ ย ๆ แตใ่ ชง้ านได้จรงิ เชน่ หลังคาเหนอื หอ้ งโถงของแทบ ทุกอาคารจะมีช่องโหวใ่ หญ่ด้านกว้าง และหลังคาเอยี งลาดลงไปทางรโู หว่ นั้น พอฝนตก นำ�้ ฝนจะไหลลงไปตามหลงั คาลงไปตามรูโหว่ ไหลลงสอู่ า่ ง กระเบ้ืองที่อยใู่ ตร้ ูโหว่ และไหลสูถ่ งั เกบ็ น�้ำ ถงึ จะผา่ นมาแล้ว 2,000 กวา่ ปี สาธารณปู โภคหรอื สงิ่ กอ่ สร้าง บางอย่างยังคงมสี ภาพทเี่ กือบจะสมบรู ณ์ ยกตัวอย่างเชน่ ถนนในเมือง ปอมเปอที ่ียังคงมีความสมบรู ณอ์ ยูถ่ งึ ปัจจบุ นั แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความมี ประสิทธิภาพและความสามารถในการก่อสร้างในยคุ สมยั นนั้ 31
Public Street ถนนในเมืองปอมเปอีมคี วามหลากหลายมากบางแหง่ สร้างขึ้นดว้ ยวศิ วกรรมแบบ โรมนั ท่มี น่ั คงและมีทอ่ สง่ น้ำ� ใตพ้ ้ืน เส้นทางกว้างพอใหร้ ถลากสองคันผ่านไปได้ แต่จะมีตรอก ซอกซอยบางแหง่ แทบไมก่ วา้ งพอส�ำหรบั การสัญจรของคนเดนิ เท้า มวี ัสดุทพ่ี เิ ศษในการสรา้ งถนนคือหินสเต็ปชว่ ยให้เทา้ ของคุณแหง้ และพ้นจากน�้ำ ฝนและของเสียจากสัตว์ท่ีจะเตม็ ถนนในเมอื งปอมเปอี ถนนน้นั เต็มไปดว้ ยรถเขน็ ท่มี ีผสู้ ัญจร ไปมาหลายศตวรรษ ที่น่ันจะมีเจ้าหน้าทีช่ าวโรมนั ที่เรียกวา่ aedile หน้าที่คอื รบั ผดิ ชอบใน การรกั ษาความสะอาดของถนนเวลาถนนมนี ำ้� ฝน ขยะและมลู มา้ ถนนสองสามแห่งกวา้ งพอสำ� หรับการจราจรสองทางและบางแหง่ มหี นิ เหยียบ กลางทาง ถนนสายนีแ้ ยกไปทางชา้ ยและขวา ไมม่ ีถนนใดในเมืองปอมเปอที ีก่ ว้างเกิน 3 เมตร สง่ิ นี้แสดงให้เห็นหลักฐานที่ชดั เจนเกี่ยวกับวิศวกรรมของโรมันท่ีเห็นไดจ้ ากถนนโรมนั หลายสายที่เช่อื มตอ่ กับเมอื งตา่ งๆของอาณาจกั รโรมนั 32
ถนนทางเดียวในปอมเปอี ถนนหลายสายในเมอื งปอมเปอีไม่กวา้ งพอสำ� หรบั การจราจรสองทาง อาจเปน็ ถนนทางเดียว แมว้ ่าจะไมไ่ ด้ระบเุ ครอ่ื งหมายทรี่ ะบทุ ิศทางการ จราจรก็ตาม โดยนักโบราณคดีระบเุ สน้ ทางที่โดดเด่นจากถนนบางสายโดยดูจากรปู แบบของ รอ่ ง นอกจากนย้ี งั เป็นไปไดว้ ่าทศิ ทางทางเดยี วของถนนบางสายนั้นเปน็ ไป 'ตามต้องการ' โดยมีการเคล่ือนตัวของเกวียนอยา่ งสมำ�่ เสมอ ถนนทแี่ คบมากของปอมเปอี ถนนบางสายในเมืองปอมเปอีอาจไม่สามารถสญั จร ได้นอกจากทางเท้า สงั เกตวา่ ผ้อู ยู่อาศยั ยังคงต้องการรางนำ�้ ลึกเพื่อใหน้ �้ำไหลลง รายละเอียด ในทางเทา้ ยกระดบั กำ� ลงั เข้ามาท่ีบา้ นและธุรกิจบางหลงั ม้านั่งหินและกันสาดอาจเป็นสถาน ท่พี ักผ่อนสำ� หรับผู้มาเยือนหรอื ผสู้ ญั จรไปมา ปราสาทนำ้� ทปี่ อมเปอี ชาวโรมนั มชี ่อื เสียงในเรอื่ งท่อระบายน้ำ� ทห่ี รูหราและการ ควบคมุ นำ้� ท่อี อกแบบมาอย่างพถิ ีพิถัน หอสง่ นำ้� หรือCastellum aquaeในภาษาละติน เปน็ ท่รี วบรวมกกั เกบ็ และกระจายน�้ำฝน เปน็ ส่วนหนึง่ ของระบบน�้ำที่ชบั ซ้อนซง่ึ ตดิ ตง้ั โดย ชาวอาณานิคมโรมันเม่อื ประมาณ 80 ปีก่อนคริสตกาลหอส่งน�้ำมีประมาณหนึง่ โหลในเมอื ง ปอมเปอถี ูกสรา้ งดว้ ยคอนกรีต อิฐหรือหนิ ในท้องถิน่ มีขนาดท่ีสงู และมถี ังตะก่วั อยดู่ ้านบน ท่อตะกั่วท่ไี หลอยู่ใตถ้ นนท�ำให้น้�ำไหลไปยังท่อี ยู่อาศยั และนำ้� พุ 33
นำ้� พทุ ี่ปอมเปอี น�้ำพุสาธารณะเปน็ ส่วนส�ำคญั ของถนนในปอมเปอี แม้ว่าชาวปอมเปอที ่ีรำ�่ รวยทสี่ ดุ จะมแี หลง่ น�ำ้ ภายในบ้านของพวกเขา แตค่ นอ่ืนๆ สว่ นใหญพ่ ง่ึ พาการเขา้ ถงึ น้�ำของสาธารณะ พบนำ้� พุท่ีหวั มมุ ถนนส่วนใหญ่ในเมือง ปอมเปอี แตล่ ะทจ่ี ะมรี ปู ปัน้ คนที่มีกาน้�ำขนาดใหญท่ ่มี นี ำ�้ ไหลตลอดเวลาและถงั ที่ ทำ� จากหนิ ภเู ขาไฟขนาดใหญส่ ่ีกอ้ น หลายคนมีใบหนา้ ที่แตกตา่ งกนั ทแี่ กะสลกั ไวใ้ น พวยกา UNESCO World Heritage Title: Public Street Creator: Archaeological Areas of Pompei, Herculaneum and Torre Annunziata 34
bathhouse โรงอาบน้�ำ ผชู้ ายและผ้หู ญงิ มักจะมสี ่วนแยกกนั แยกจากกนั สำ� หรับหอ้ งอาบ น�้ำกลางและหอ้ งอาบนำ�้ ชานเมอื งทท่ี ันสมยั กว่าไมม่ กี ารแบง่ แยกระหวา่ งหญงิ และชายโดย ปกตพิ วกเขาจะมี apodyterium (หอ้ งแตง่ ตัว) ทีใ่ ช้เปน็ tepidarium (สำ� หรบั หอ้ งอาบน�้ำ ทมี่ ีอุณหภมู ิปานกลาง), frigidarium (สำ� หรบั ห้องอาบนำ�้ เยน็ ) และ Calidarium (สำ� หรับ อา่ งนำ้� ร้อน) มรี ะบบท�ำความร้อนโดยระบบท่อในผนังและพ้นื 2 ชั้นและจากเตาอ้งั โล่แบบ เคลื่อนย้ายได ้ Roman Baths ถูกสรา้ งขน้ึ เพ่อื ใช้เปน็ สถานทปี่ ระกอบพธิ ที างศาสนา และยงั มี ส่วนที่เปน็ สถานทีอ่ าบนำ้� เพ่ือใชช้ �ำระลา้ งให้ความสะอาดบริสุทธิ์ และเพือ่ บำ� บัดโรค 35
เปน็ จดุ รวมตัวพบปะคยุ แลกเปลี่ยนขอ้ มลู กันของผู้คนในเมอื ง อาจจะเห็นวา่ เปน็ สง่ิ ที่ มปี ระโยชน์เพือ่ นผ่อนคลายหรือสรา้ งความบันเทิง แตว่ า่ ขอ้ เสยี คือจดุ น้ีคอื ท�ำใหม้ กี าร ติดต่อของโรคระบาด ระบาดไปทว่ั เมืองไดอ้ ย่างรวดเร็ว โรงอาบน�ำ้ Stabian ในเมอื ง Pompeii Via dell'Abbondanza และ Via Stabiana เป็นห้องอาบนำ้� ทีใ่ หญ่ท่ีสุดและได้รบั การดูแลรกั ษาเปน็ อย่างดีท่สี ดุ ในปอมเปอีทางเขา้ นำ� ไป สู่ป้อมโรมันกับสระวา่ ยน้�ำดา้ นซา้ ย ดา้ นขวาเปน็ ห้องอาบน�้ำชายและหญิง คัน่ ดว้ ยเตาเพ่ือให้ความรอ้ นแกน่ �ำ้ แต่ละหอ้ งมหี ้องอาบนำ้� เยน็ แบบวงกลม (frigidarium) หอ้ งเปลีย่ นเส้ือผา้ (apodyterium) พรอ้ มชั้นวางสำ� หรับใส่ เส้อื ผา้ อา่ งอาบน้�ำอนุ่ (น�้ำอนุ่ ) และอา่ งนำ�้ รอ้ น (caldarium) ทอี่ ่นุ โดยท่อ อากาศในพ้นื 36
Art of Pompeii 37
Museo Archeologico Nazionale di Napoli Napoli, Italy Title: Pirithous Date Created: 45-79 d.C. 38
History of Art การคน้ ถกู พบของเมืองปอมเปอีในคริสตศ์ ักราชท่ี 1748 เปน็ จดุ สำ� คญั ที่ แสดงถงึ ความรุง่ โรจนแ์ ละยงิ่ ใหญข่ องศลิ ปะอนั งดงามทเี่ คยมอี ย่ภู ายใต้เถา้ ของลาวา และซากปรักหกั พังนานนับพันปี เมืองปอมเปอเี ปน็ เมอื งที่ถือวา่ มีความเจริญรุ่งเรอื งมากในยคุ สมัยอาณาจกั ร โรมนั มกี ารคน้ พบหลักฐานทางประวัติศาสตรม์ ากมายท่ีแสดงถึงความหรหู รา ความ ลมุ่ หลงในศิลปะ การเสพสุขสำ� ราญความงาม เชน่ ศลิ ปะดา้ นจิตกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปัตยกรรมที่งดงามสมบูรณ์แบบ ศิลปะสว่ นใหญ่ในอาณาจักรโรมนั รวมถึงเมอื งปอมเปอี มีอทิ ธพิ ลมาก จากอารยธรรมกรกี เนือ่ งจากชาวโรมันชื่นชอบศลิ ปะกรีกถึงขน้ั ลอกเลียนแบบ ซงึ่ อาณาจักรโรมันนำ� มาพฒั นาต่อจากเดมิ ให้เกิดความวจิ ติ บรรจงมากยิ่งขน้ึ และในสมัย นนั้ อาณาจักรโรมันมีการคดิ ค้นคอนกรตี ข้ึนมาเป็นชาตแิ รกใชใ้ นการกอ่ สรา้ งงานศิลปะ หรอื บา้ นเมือง 39
Painting จติ กรรมฝาผนงั จิตกรรมฝาผนังในยุคสมยั นั้นจะมี ลักษณะเด่นเฉพาะตัวส่วนมากจะเปน็ รูปแบบส่เี หล่ียมผืนผ้า เปน็ ภาพทวิ ทศั นเ์ หตุการณ์สำ� คัญตา่ งๆ คน สัตว์ หรอื สงิ่ ของ สอ่ื อารมณ์ความรู้สกึ ภาพสถาปัตยกรรมที่เนน้ แสงเงา โดยจะ ถกู วาดหรอื เขียนขึน้ มาโดยสีฝุ่นทีช่ อื่ วา่ Fresco นอกจากการวาดหรอื เขยี นด้วย Fresco แลว้ ยังมีอีก รูปแบบหนึ่งคือการใชห้ ินสโี มเสก (Mosaic) โดยการน�ำวัตถุ ขนาดเล็กมาเรียงตอ่ กนั ทำ� ให้เกิดเป็นลวดลายตา่ ง ๆ ซงึ่ เป็นท่ี นยิ มยาวนานมาจนถึงปจั จุบัน ศิลปะในสมัยโรมันจะถกู พบไดม้ ากท่ีเมอื งปอมเปอี และมีความสวยงาม โดยสว่ นมากจะพบศิลปะภาพวาดได้ตาม ผนังของทอ่ี ยู่อาศยั หรือมหาวหิ าร 40
Search