Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore The Book Of Five Rings

The Book Of Five Rings

Published by Kachornpon, 2021-11-15 03:06:31

Description: The Book Of Five Rings (คัมภีร์แห่งห่วงทั้งห้า)

Search

Read the Text Version

五輪書 [ GoGoRRiinn nnooShSoho ]



คำ�นำ� จัดท�ำ หนงั สอื เลม่ นีข้ นึ้ มาเพ่อื น�ำ เสนอเร่อื งราวของคัมภีร์ท่ีหลายคนอาจจะไมท่ ราบวา่ มีอยู่ แต่ในหนังสือน้เี ราจะพาทา่ นไปรู้จกั กบั คัมภีร์นี้กนั มยิ าโมโต มูซาชิ หลายคนคงทราบถงึ บุคคลทีเ่ ป็นที่เลา่ ขานกนั มาเปน็ เวลาอย่างยาวนาน แต่ เรากลบั ร้แู คเ่ รือ่ งราวเบอ้ื งหน้าความสำ�เรจ็ อนั โด่งดงั ของท่าน แตอ่ ะไรกันท่ีทำ�ใหเ้ ขาน้นั เปน็ ซามูไรท่ี เกง่ ท่ีสดุ แหง่ ยุค เราหวังวา่ หนังสอื เล่มน้ีจะช่วยให้ท่านไดเ้ รยี นรเู้ ก่ยี วกบั ความคิด วิถชี ีวติ และ หลกั ปรัชญาที่ จะชว่ ยใหท้ า่ นไดม้ องโลกแหง่ นี้เปล่ียนไปในทางที่ดี



บทนำ� มิยาโมโตะ มซู าชิ เกดิ วนั ที่ 13 มิถนุ ายน ค.ศ.1645 เปน็ นกั ดาบท่มี ีช่ือเสยี งของญ่ปี นุ่ และเปน็ ที่นับถือจากหลายคนในเร่ือง นักดาบ นกั ปราชญ์ นกั ยทุ ธศาสตร์ นกั เขยี น และโรนินที่มี ความสามารถมากทสี่ ุดในประวตั ิศาสตร์ มิยาโมโตะเปน็ ที่โด่งดังในเรื่องของวิธกี ารใช้ดาบสองมอื ท่เี ป็นเอกลักษณ์ การดวลดาบ ไรผ้ ่าย 61 ครัง้ และเปน็ ผู้กอ่ ตง้ั สำ�นักนเิ ต็น อิจิ-รวี หรือสไตล์นักดาบแบบนิโตะ อจิ ิ-รีว มิยาโมโตะได้เขยี นคมั ภรี ์เก่ยี วกบั วถิ แี ห่งความสำ�เร็จไวแ้ บ่งออกเป็น ห้าหมวดตามธาตุ ตา่ ง ดิน น้ํา ไฟ ลม และอากาศ เพ่ือสอนศษิ ยข์ องทา่ นใหเ้ รยี นรูใ้ นวถิ ีทถ่ี กู ต้อง ในแต่ธาตมุ อี ะไรบ้าง ไปรว่ มคนหากับพวกเราในหนงั สือ คมั ภีรห์ า้ หว่ ง ของ มยิ าโมโตะ มูซาชิกันเลย



สารบัญ คมั ภรี ์ทงั้ 5 _____________________________ 1 ดิน _________________________________ 5 นา้ํ _________________________________ 19 ไฟ __________________________________ 31 ลม __________________________________ 41 วา่ งเปล่า ______________________________ 51 วิถแี หง่ การก้าวเดินโดยลำ�พัง ________________ 53 บรรณนานกุ รม __________________________ 57



คมั ภีร์ท้งั หา้ คัมภรี ์ทงั้ ห้านน้ั กลา่ วเกยี่ วกับความแตกต่างขององค์ประกอบในการสูร้ บ มีความเหมอื น เช่นเดียวกับความแตกตา่ งในเรอื่ งของวิถีชีวติ ทีก่ ล่าวในศาสนาตา่ งๆ ทั้งในศาสนาพุทธ ชนิ โต และ ในศาสนาของตะวนั ออก โดยคมั ภรี ข์ องมูซาชจิ ะกลา่ วเกยี่ วกับวธิ ีการ รูปแบบ และลกั ษณะของการต่อสู้ โดยน�ำ คณุ ลักษณะของธาตุมาเปน็ พนื้ ฐานแบง่ เป็นหา้ ธาตุ ตามลักษณะเด่นและรปู แบบเหมือนกนั โดยมี ท้ังหมดหา้ ธาตุ 1

2

ดิน จะเปน็ บทน�ำ เปรียบเสมอื นพื้นฐาน โดยจะพูดเก่ยี วกับหลกั วิชาต่างๆ ความเปน็ ผ้นู �ำ ให้ผู้รมู้ ีฐานความรูก้ ่อนเรม่ิ เรียน เปรยี บเสมอื นการสรา้ งบา้ นทต่ี ้องมีพนื้ ดินทแ่ี ขง็ แรง พรอ้ มท่จี ะ ปลูกส่งิ ก่อสร้าง ในทีน่ หี้ มายถงึ ความรู้ลงไป นํ้า เปรียบเสมืองท่วงทา่ การออกดาบของมูซาชิ ในนก้ี ล่าวเก่ียวกบั ทว่ งท่าในรูปแบบของ มูซาชชิ อ่ื “สองสวรรค์ หนึ่งรปู วิถ”ี ที่เขาไดเ้ ปน็ คนคิดขน้ ข้นึ ไฟ เปรียบดงั ไฟแห่งสงคราม รอ้ นแรง คาดเดาไม่ไดแ้ ละเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา โดยในนี้ จะกลา่ วเก่ียวกับวธิ ีการคดิ ทพ่ี ลิกแพลง รทู้ ัน และหลากหลาย ลม ในความหมายของตัวเขียนญปี่ ่นุ จะสามารถหมายถึงลม หรอื รปู แบบท่าทาง เชน่ ใน วชิ าการตอ่ สู้ ในบทน้ีจะกล่าวเกยี่ วกับวิชาการตอ่ สู้แขนงอน่ื ๆ วา่ งเปล่า เป็นบทปิดท้าย และเป็นจุดสำ�คัญ ชใ้ี หเ้ หน็ ท้ังหมดของวิถขี องคัมภีร์ และวิธี การคดิ 3

4

ดิน มซู าชกิ ลา่ วถึงกลยุทธ์และวิทยายทุ ธ์วธิ กี ารใช้ดาบในรปู แบบของเขา โดยมีค�ำ สอนที่ เขา้ ใจได้งา่ ย และมีความสวยงามอยูใ่ นค�ำ พูด เพอื่ ให้เข้าใจวิธกี ารได้ง่ายขึ้น “รู้ส่ิงท่ีเล็กและใหญท่ ี่สุด ร้สู ่งิ ที่ตนื้ และลกึ ท่สี ุด เพราะถ้าทางเราเดินแคบ่ นทางที่ เรยี บตรง จะไมส่ ามารถอธบิ ายถงึ สิ่งตา่ งๆได้เลย จากหนึ่งส่งิ สหู่ ม่นื สง่ิ เมื่อคณุ รหู้ นทางของ กลยทุ ธ์แลว้ จะไมม่ สี ่งิ ไหนท่ีคุณไม่สามารถมองหรือร้ซู งึ้ ได้ คุณจงรา่ํ เรยี นให้หนัก” 5

วถิ ีแหง่ นกั ปราชญ์ ในประเทศจีนและญปี่ นุ่ มีการเรียนรู้ในชือ่ ของ วิถแี ห่งกลยทุ ธ์ที่นักรบทกุ คนต้องรู้ โดย ในตำ�รากลยทุ ธ์เก่านั้น จะมีรปู แบบโดยขนึ้ อยู่กบั ต�ำ ราทเ่ี รยี งกันโดยมวี ิชาชา่ งสิบหมู่ และศลิ ปะเจด็ แขนงทนี่ ักรบตอ้ งศึกษา แตต่ ำ�รานน้ั ไมไ่ ดเ้ จาะจงทอ่ี าวธุ ดาบอยา่ งเดยี ว ตำ�ราทีเ่ จาะจงเฉพาะดาบน้ัน มนี ้อยมาก ถา้ เรามองดูโลก เราก็จะเหน็ วา่ ศิลปะนั้นมีไว้เพ่อื ขาย ทกุ คนล้วนใช้เครื่องมือเพื่อทจ่ี ะหา กำ�ไร เปรียบดง่ั ถัวกับดอกไม้ ทถี่ ัว่ ถกู ดอ้ ยมูลคา่ ต่ำ�กว่าดอกไม้ ในวิถแี ห่งนกั ปราชญ์ สิง่ ของเหลา่ นั้นพยายามให้มลี ักษณะท่ีโดดเด่น การพูด “น่นั ดกี วา่ ” “น่ดี กี วา่ ” เปน็ เพียงแค่การสรา้ งมูลคา่ ถ้ามใี ครสกั คนพดู ว่า “กลยทุ ธ์ที่ไม่ส�ำ เร็จน�ำ ไปสู่ความล้ม เหลว” น่นั คอื ความจรงิ 6

วิถแี หง่ นักปราชญ์ ถกู แบง่ ออกเป็นส่ีวถิ ตี ามชนชน้ั ของสมัยนั้น คอื ชาวนา พอ่ คา้ นักสู้ และ ช่างฝมี ือ ชาวนา จะร้วู ิธใี ชเ้ ครื่องมือการเกษตร สามารถรถู้ งึ การเปลย่ี นของฤดูการได้โดยเพยี งแคใ่ ช้ตามองสังเกตุ 7

พ่อค้า รูว้ ิธีการหาทรัพยากรและใช้งานใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ การด�ำ รงชวี ิต ร้วู ิธหี าก�ำ ไร 8

นักสู้ ฝกึ ฝนวชิ าและยทุ โธปกรณ์ให้สม�ำ่ เสนอ เม่อื ไมส่ ามารถฝึกฝนใหช้ �ำ นาญอาวธุ ของตนไดก้ ็จะไมส่ ามารถใชป้ ระโยชน์ของอาวุธไดเ้ ต็มท่ี 9

ช่างฝมี ือ ฝึกฝนเพอ่ื ชำ�นาญเครอ่ื งมอื ชา่ ง ออกแบบ วางแผนและทำ�ใหส้ ำ�เรจ็ ตามแผนท่วี างไว้ 10

เปรยี บเทียบชา่ งฝีมอื กบั หลักการคดิ บ้านนน้ั มีหลากหลายแบบ บา้ นส�ำ หรบั นักรบ บา้ นแบบประจ�ำ ชาติ ลว้ นมาจาก แบบแผนทชี่ า่ งฝมี อื คดิ แบบแผนไวต้ ั้งแตต่ ้น เปรียบดง่ั การคดิ ท่ีต้องมแี บบแผนเหมือนกนั “คณุ ครูเปรียบเสมอื นเข็ม ลูกศษิ ยเ์ ปรยี บดั่งเส้นด้าย ฉะน้นั ต้องหม่ันฝึกฝนอยา่ งสม่�ำ เสมอ” หวั หน้าคนงานต้องร้กู ฎของธรรมชาติ กฏของประเทศ และกฎของการสร้าง ตอ้ งรเู้ ก่ยี ว กบั หลกั สถาปตั ยกรรมของส่งิ ปลูกสรา้ งเพ่ือที่จะให้แรงงานนัน้ ก่อสรา้ งข้นึ การเลอื กวัสดทุ ี่เหมาะ สมกับตัวบ้านในแต่ละสว่ น ถ้าสัง่ งานถูกตอ้ งกจ็ ะได้บ้านที่ดีและสวยงาม ถา้ สัง่ งานไม่วางแผน เลอื กคน เลือกวสั ดไุ มถ่ ูก บ้านก็จะไมส่ วยงาม วธิ ีการของชา่ งผมี อื จงึ เหมอื นกบั หลกั ความคดิ ของ นกั ปราชญ์ “ไมม่ คี วามส�ำ เร็จในได้มาโดยไมม่ แี บบแผน” 11

อจิ ิ รวิ นิโต โดยท่ัวไปนกั รบจะมีดาบอยทู่ ีส่ ายคาดเอวสองเล่ม โดยมีดาวยาวและดาบส้ัน สลบั กนั ใช้ใน แต่ละกระบวนทา่ แต่วิธกี ารของมูซาชิ คือการถือดาบท้ังสองไว้ในมอื เนอ่ื งจากอาวธุ หอกหรอื ทวนนัน้ จ�ำ เป็นต้องถอื สองมือเพ่ือใช้ในการออกท่าทางใหแ้ ข็งแรง แต่ดาบนัน้ ไมจ่ ำ�เปน็ ตอ้ งใช้มือท้งั สองขา้ งเพ่ือ ถอื ดาบเล่มเดียว เพราะจะเม่ือถงึ จุดหนึ่ง ดาบเล่มเดียวนน้ั ไม่สามารถกวดั แกว่งไดอ้ ิสระเท่าท่ีควร เวลาทค่ี ณุ ขี่มา้ วา่ ยนํา้ หรือแมแ้ ต่ว่ิงบนถนน การทีใ่ ชม้ ือสองขา้ งถือดาบเลม่ เดยี วคงจะรูส้ กึ แปลกๆ ถา้ คณุ ถือธนหู รอื หอกไว้ที่มอื ข้างหนง่ึ แล้วมอื อกี ข้างว่างทีจ่ ะใชด้ าบยาว เป็นสงิ่ ท่ยี ากที่จะใช้ มอื ขา้ งเดยี วถอื ดาบยาวฟันผ่าศตั รู มซู าชิจงึ ฝึกวิธีถอื ดาบสองข้างโดยที่เปน็ ดาวยาวทั้งคู่ เมือ่ ตอ่ สูใ้ น ระยะประชดิ การถอื ดาบสองเลม่ ย่อมมโี อกาสจดั การศตั รูหรือตั้งรบั ไดด้ ีกว่าดาบหน่ึงเลม่ 12

ยทุ ธวิธีทางอาวธุ อาวธุ นั้นจะใช้ไดด้ ตี อ้ งเหมาะกับสถานการณ์ เชน่ ดาบสั้นเพ่ือโจมตีในท่ีแคบ หอกยาวใน การพ่งุ รบในทก่ี วา้ ง หรอื ธนเู พ่ือโจมตีระยะไกล ปนื นั้นมีพลงั มากกวา่ อาวธุ ชนิดอ่ืนในระยะไกล ธนนู ัน้ สามารถมองเหน็ ลูกธนทู ่ลี อยมาได้ กลับกันนั้นปืนนัน้ ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่เมอ่ื ดาบมาประชิดตัว ปืนก็ไรค้ ่าเป็นเพยี งเศษเหลก็ คุณไมค่ วรเลอื กอาวธุ จากความชอบหรอื ช�ำ นาญในอาวธุ เพียงหนึง่ ชิ้น เพราะเม่ือคณุ น้นั เก่งกบั อาวุธเพยี งชน้ิ เดียว น่นั แปลวา่ คณุ ลม้ เหลวเพราะคุณไมร่ จู้ กั การใชอ้ าวธุ ดีพอ คณุ ไมค่ วรลอก เลยี นแบบคนอื่น คุณควรใช้อาวุธทคี่ ณุ สามารถใชง้ านได้ การท่คี ณุ เป็นแม่ทพั ที่มีคนชอบและไมช่ อบ น้นั เปน็ สง่ิ ไม่ดี แสดงวา่ คณุ ยังต้องเรยี นรอู้ กี หลายสิ่งใหถ้ ่องแท้ 13

จังหวะ จงั หวะมอี ยู่ในทกุ ๆสิ่ง จงั หวะเป็นวิถที ไี่ ม่สามารถชำ�นาญได้โดยท่ีไมฝ่ กึ ฝนอยา่ งดีเย่ียม จงั หวะ ดนตรี จังหวะเต้น ทกุ อย่างจะราบรนื่ เมอื่ อย่ใู นเวลาที่ถกู ต้อง จงั หวะและเวลาสามารถประยุกต์ใน ทางการทหาร ยงิ ธนู หรอื แมแ้ ตข่ ี่มา้ ทุกอย่างอยูท่ ี่จังหวะทั้งน้นั แม้กระทงั่ ความว่างเปล่าก็มีจงั หวะ การทค่ี ณุ จะชนะการต่อสู้ได้ คุณตอ้ งใช้จังหวะทว่ี า่ งเปลา่ น้นั วเิ คราะหท์ ้งั จังหวะของเราและ ศัตรู และใชจ้ ังหวะที่ศัตรนู ้ันคาดไม่ถงึ คัมภีรท์ ้ังหา้ น้นั ให้ความส�ำ คญั กับจงั หวะอยา่ งมาก คุณต้องฝึกฝนใหด้ ีเพื่อที่จะได้ควบคุมส่ิง ตา่ งๆให้ถูกตอ้ งยิง่ ข้นึ 14

กฎที่ตอ้ งใชใ้ นการฝกึ ฝน 1. อยา่ คดิ ไม่ซื่อสตั ย์ 2. วถิ ีคอื การฝึกฝน 3. สมั ผสั กับศลิ ปะตา่ งๆ 4. รู้วถิ ีของทกุ อาชีพ 5. รขู้ ้อดแี ละขอ้ เสียของทกุ สง่ิ 6. พฒั นาจิตในการตัดสนิ ใจและเขา้ ใจในทุกสิ่ง 7. เข้าใจในสง่ิ ท่ีมองไมเ่ ห็น 8. สังเกตทุกสิ่งแม้จะเล็กน้อยก็ตาม 9. อยา่ เอาส่ิงไม่มปี ระโยชนม์ าใสต่ ัวเอง สง่ิ สําคญั ที่จะเรมิ่ คอื น�ำ กฎน้มี าไวใ้ นจติ ใจและฝกึ ฝน ถา้ คณุ ไมม่ องภาพรวมของ ทัง้ หมด คงยากทจ่ี ะสำ�เรจ็ ในการฝึก เมอื่ คุณฝึกฝนจนชำ�นาญแลว้ ไมว่ ่าศัตรจู ะมถี งึ สามสบิ คน คณุ กไ็ มม่ ที างแพ้เหนือสง่ิ ใด คณุ ต้องมใี จที่มน่ั คงในกฎ สามารถชนะการต่อส้ไู ดเ้ พยี งแค่ใชต้ ามอง การฝึกต้องปลอ่ ยกายและใจให้ผ่อนคลาย สามารถควบคุมไดอ้ ยา่ งอสิ ระ คณุ สามารถ ชนะศัตรไู ดแ้ ละเม่อื ฝกี ฝนจนเกง่ แม้แตจ่ ิตวิญญาณก็สามารถชนะได้ ถา้ ถงึ ข้ันนน้ั คิดว่าการ หายตวั จะเปน็ เรอ่ื งทเ่ี ปน็ ไปไมไ่ ดห้ รอ 15

16

17

18

นํ้า ในคมั ภรี น์ เี้ ปรยี บจิตวิญญาณเป็นดงั่ สายนํ้าที่ไมม่ ีรูปแบบ เปลยี่ นแปลงได้ตลอด เวลา หรือท่เี รียกวา่ ยดื หยุน่ ตามสถานการณ์ โดยในคมั ภรี จ์ ะสอนเกย่ี วกับท่าทางการใช้ ดาบยาว “สอนด้วยภาษาไมส่ ามารถเรียนรู้ได้ทงั้ หมดต้องใชใ้ จและลางสงั หรณ์ ต้อง ไตร่ตรองไมใ่ ช่แค่อ่าน เพราะเมือ่ คุณตีความหมายผิด คุณก็จะหลดุ ออกจากวถิ ”ี หมายถึง คณุ ตอ้ งจดจ�ำ และนำ�ไปใช้เพ่ือใหส้ มั ผัสถงึ ความร้ทู ี่แทจ้ ริง ให้ความรู้ฝงั ลกึ ลงในร่างกาย และจติ ใจ 19

วิถีแห่งจติ จิตของคณุ ตอ้ งปกตไิ ม่วอกแวก ท้ังในการตอ่ สู้และในชวี ติ ประจ�ำ วัน แม้เจอสถานการณ์ ที่ยากลำ�บากกไ็ มห่ วัน่ ไหวหรอื เอนเอียง “จิตใจสงบ รา่ งกายต้องต่นื ตัว ร่างกายหยดุ นงิ่ จติ ต้อง เคลอื่ นไหว อย่าให้ทง้ั สองสงิ่ อยใู่ นสภาวะเดยี วกัน” ผ้คู นทีอ่ อ่ นแอมักคุน้ ชนิ กับจติ ของผู้ทแี่ ข็งแรง ผู้ทแี่ ข็งแกร่งมักคุ้นชินกบั จิตผูท้ ี่อ่อนแอ ไม่ ว่าคณุ จะอยใู่ นสถานภาพไหนอยา่ หลงผดิ กบั สง่ิ ทเี่ หน็ ดว้ ยร่างกาย จงเปดิ ใจ มองจากมมุ กวา้ ง เรยี นรู้ และเมอื่ ย่ิงลำ�บากจิตของคณุ ต้องฝึกให้แกรง่ เพ่ือแสดงให้ผทู้ ่ีมองวา่ คณุ อ่อนแอน้ัน แข็งแกร่งกว่า 20

ทว่ งทา่ การตงั้ ทา่ นั้น หวั ต้องตั้งตรงไมม่ องข้างล่าง ไมม่ องขา้ งหลัง ท้ังซ้ายและขวา ชว่ งหน้า ผากและระหวา่ งตาห้ามมีรอยย่น ตาห้ามมองไปทางอืน่ มองตรง หา้ มแมแ้ ต่กระพรบิ ตา แต่ใชว้ ิธี ค่อยๆแคบเปลอื กตาลง เมือ่ คณุ ตง้ั ท่าได้ พยายามใหจ้ มกู ตัง้ ตรง หายใจเล็กน้อย คอตงั้ ตรงเพม่ิ ความแข็งแกร่งผา่ นเสน้ ผม ลงไปที่หัวไหล่ ลงไปท่ัวรา่ งกาย ขาและเขา่ ยนื หยดั แข็งแรง ในทุกกลยทุ ธ์น้นั ท่าเตรียมสู้เป็นสิง่ สำ�คัญท้ังในการต่อสู้และชีวิตประจำ�วัน คุณควร ศึกษาใหด้ แี ละท�ำ ให้เป็นธรรมชาติ 21

การมอง การมองควรมองดว้ ยภาพรวมและไตร่ตรองให้ดี โดยการมองแบ่งเป็นสองอย่าง คือ มองเห็นและรับรู้ รับรนู้ น้ั แขง็ แรง แต่มองเห็นนัน้ อ่อนแอ ในกลยทุ ธ์นัน้ เป็นสง่ิ ส�ำ คัญทต่ี อ้ งมองภาพรวม มองให้กวา้ งแม้ส่ิงนนั้ จะอยู่ใกลแ้ ค่ไหน ก็ตาม ในการต่อส้คู ุณควรระยะของศตั รดู ว้ ยตา ไมห่ ลงกลกบั ท่าทที ี่ลวงหลอกของดาบ การมอง นั้นการต่อสูห่ นงึ่ ตอ่ หนงึ่ กบั กองทพั ต่อกองทพั นั้น มคี า่ เทา่ กนั การฝกึ นัน้ ไม่สามารถฝึกไดใ้ นเวลาอันสน้ั เรยี นรู้ส่งิ ท่เี ขยี นไปข้างต้น ทงั้ ทุกวนั และหา้ ม ผลิกแผลงไมว่ า่ จะเกดิ อะไรข้ึน 22

การจับดาบยาว ในการจับดาบ จงปล่อยให้นิ้วโปง้ กบั น้ิวช้ใี ห้เป็นธรรมชาติ น้วิ กลางไมแ่ นน่ หรือหลวมเกินไป ส่วนน้ิวท่ีเหลือกำ�ให้แน่น เม่อื คุณถือดาบขึ้นมา คณุ ต้องมคี วามรูส้ ึกท่ีจะฟันไปที่ศัตรูของคณุ ในระหวา่ งที่คณุ ฟนั ไม่ ควรเปลยี่ นวธิ กี ารจับดาบไปมา เม่ือคณุ ปัดดาบหรือพยายามถอดอาวุธของศัตรู คณุ เคล่อื นนว้ิ ชี้และ โป้งเลก็ น้อยตามทเ่ี หมาะสมต่อทว่ งทา่ นนั้ ๆ “การจับดาวเพือ่ ฆา่ คนกับจบั ดาบเพ่อื ฝึกฝนนน้ั เป็นส่งิ เดียวกนั ไมม่ ีทา่ จับดาบทช่ี อ่ื ว่า ท่า จับดาบพฆิ าตคนหรอก” ถา้ ดาบและมอื ไมเ่ ปน็ ไปตามธรรมชาตินนั่ หมายถงึ มือตาย แตถ่ า้ ทั้งสองสามารถเคลื่อนไหว ได้ด่ังใจนึกหมายถึงชวี ติ ชวี า คุณตอ้ งท่องมนั ไวใ้ ห้ขนึ้ ใจ 23

วิถีการกา้ ว เลบ็ เท้าควรจะลอยเล็กนอ้ ยและใช้สน้ เทา้ เปน็ ตัวหลักในการก้าวเท้า ในการก้าวไมว่ า่ จะเปน็ ก้าวไวหรือช้า กวา้ งหรอื แคบ เท้าของเราควรจะอย่ใู นรูปแบบเหมือนการเดินปกติ โดยเลย่ี งการกา้ วขา สามประเภทนี้ คือ เทา้ บนิ เท้าลอยและเท้าตาย สิ่งท่ีสำ�คัญอกี อย่างหนง่ึ ในวิถีของการกา้ วเทา้ นน้ั ถูกเรยี กว่าเทา้ หยินหยาง หลกั การของเทา้ หยนิ หยาง คอื การไม่ก้าวเทา้ เพยี งขา้ งเดยี ว ควรจะเปน็ การกา้ วซา้ ยไปขวา หรอื ขวาไปซา้ ย ไมว่ ่าจะ ท�ำ การจูโ่ จม ถอย หรอื ปัดป้องการโจมตี ตอ้ งไม่เคลื่อนเทา้ เพียงข้างเดียวอย่างเดด็ ขาด 24

ห้ากระบวนทา่ ห้ากระบวนทา่ ประกอบด้วย บน กลาง ล่าง ซ้ายและขวา ไม่วา่ คุณจะอย่ใู น สถานการณ์อะไร อย่าพยายามคดิ หรือจงใจทีจ่ ะใช้กระบวนทา่ นนั้ ๆ คิดแคจ่ ะฟันไปทศี่ ัตรูกพ็ อ โดยทา่ ทางน้นั ปลอ่ ยใหข้ ้นึ อย่กู ับสถานการณ์ทเ่ี จอ วิธที จี่ ะเขา้ ใจกระบวนท่าทั้งหมดนัน้ คุณตอ้ งร้จู กั กระบวนท่ากลางให้ดที ่สี ดุ เพราะคือ จดุ ส�ำ คัญแหง่ ทัง้ หมด โดยตรงกลางเปน็ เหมอื นตวั ตัง้ ตน้ ทจี่ ะสง่ั งานวา่ คสรจะไปในทศิ ทางไหน ฉะนนั้ จงฝึกฝนกระบวนท่ากลางใหช้ �ำ นาญ วถิ แี หง่ ดาบยาว การรู้วถิ ีแหง่ ดาบยาวแสดงให้เหน็ วา่ เราสามารถชักดาบได้เพยี งแคใ่ ชส้ องน้วิ เมื่อเรารู้ ถึงหลกั เรากจ็ ะชกั ดาบไดง้ ่ายขนึ้ ถ้าคณุ พยายามฝกึ เพื่อใหช้ ักดาบได้เรว็ แสดงวา่ คณุ ฝกึ ผิดจดุ ประสงค์ เราไม่ได้ฝกึ เพ่อื ใหช้ กั ดาบด้วยความรบี รอ้ น แต่เราฝึกเพื่อชกั ดาบด้วยความใจเย็น ถ้าคณุ ฟาดฟนั ด้วยความเร็วเหมอื นพัดหรอื ดาบเล็ก คณุ ไม่สามารถฆ่าใครไดด้ ว้ ยวธิ ี แบบนนั้ ไดห้ รอก ถา้ คณุ ฝกึ รากฐานทง้ั หา้ ของดาบ คณุ จะสามารถใช้ดาบไดด้ ขี นี้ ฉะนั้นจงฝกึ ฝน 25

26

กระบวนทา่ ทั้งห้า “ท่าท้งั หา้ นนั้ ไมส่ ามารถเขา้ ใจได้โดยการอา่ นหนงั สอื เลม่ น้อี ยา่ งเดียว ตอ้ งฝึกฝนดว้ ยการถือดาบ ไวใ้ นมือด้วย เมือ่ ได้ดังน้ันเจา้ ย่อมเขา้ ใจถงึ วิถีแหง่ ดาบของขา้ และเขา้ ใจดาบของอีกฝ่ายไม่วา่ เขาจะจ่โู จม มาอยา่ งไร น่ีคอื สาเหตทุ ข่ี ้าสอนเขา้ ดว้ ยกระบวนท่าดาบสองมอื และไมม่ ที ่าอืน่ ใดนอกจากหา้ กระบวนท่า น้ี ซึ่งเจ้าตอ้ งฝกึ ฝนดว้ ยตัวเอง” 1. “ท่ากลาง” การต้ังทา่ ใหด้ าบช้ไี ปทใี่ บหนา้ ศัตร ู เมอื่ ศัตรฟู ันดาบแรกให้ปดั ดาบไปทางขวา ตน เมือ่ ศตั รูฟันดาบสองใหป้ ัดดาบไปข้ึนบนและดงึ ดาบออกมา และท่าสดุ ท้ายศัตรกู �ำ ลังฟนั ดาบสาม ใหฟ้ นั แขนอีกฝ่ายจากข้างล่าง 2. “ท่าสงู ” การต้งั ท่าให้เง้ือดาบและโจมตีอีกฝ่ายเมือ่ อกี ฝ่ายโจมตี ถ้าเราเมือ่ โจมตีพลาดให้ ปล่อยดาบไว้ท่าเดิม และเมื่อศตั รูเร่มิ โจมตีกลับใหฟ้ นั ดาบข้ึนจากท่าเดิม 3. “ท่าต�ำ่ ” การตัง้ ทา่ ให้ดาบช้ลี งตำ�่ เม่อื ศตั รูบกุ เข้ามาให้โจมตีมอื อกี ฝ่ายจากด้านลา่ ง เม่อื โจมตอี าจมโี อกาสทศี่ ตั รจู ะปัดหรือฟันดาบเรา ใหป้ ล่อยจงั หวะนผ้ี ่านไป และเม่ือศตั รปู ดั ดาบเราส�ำ เรจ็ พลกิ แพลงฟนั มอื ดา้ นบนอกี ฝา่ ยท้ิง 4. “ทา่ ซา้ ย” การตง้ั ทา่ ใหเ้ ตรียมดาบท่ีจะใช้โจมตีจากดา้ นซ้าย เร่ิมแรกโจมตไี ปท่ขี อ้ มอื หรือมอื ทถี่ อื ดาบของอกี ฝา่ ย เมื่ออีกฝา่ ยโจมตดี าบเราให้ปัดดาบอกี ฝา่ ยท้งิ และโจมตีโดยใช้ดาบอกี เล่มออ้ มไป ฟันแขนอกี ฝา่ ยตามแนวเหวย่ี งของไหล่ โดยการโจมตีนี้ จดุ ส�ำ คญั อยู่ท่ีการเอาชนะโดยการปดั วถิ โี จมตีของ ดาบศตั รู 5. “ท่าขวา” การตง้ั ท่าใหด้ าบพร้อมทางด้านขวาตน เมือ่ ฝ่ายตรงข้ามโจมตีใหย้ กดาบขนึ้ และ ตดั ศัตรจู ากด้านบนลงไปขา้ งลา่ ง 27

28

29

30

ไฟ โดยทว่ั ไปคนส่วนใหญ่มีความเช่ือวา่ เคล็ดลับของชยั ชนะคือความรวดเร็ว หลาย สำ�นักเนน้ ฝกึ ฝนความรวดเรว็ ของร่างกายเพราะเช่อื ว่าความเรว็ กวา่ เพียงเล็กนอ้ ยจะน�ำ มาซงึ่ ชัยชนะ แต่ไม่ใชก่ บั มูซาชิ ในความเชื่อของมูซาชิ การฝึกเพอื่ ฆ่าคนนน้ั มอบหลายอยา่ งมากกวา่ นนั้ ไมว่ ่าจะ เปน็ ฝกึ เพอ่ื เอาตวั รอด หาความหมายของความเป็นและตาย เรยี นรูห้ ลกั ของดาบ คุณไมส่ ามารถเรียนรไู้ ดจ้ ากผลประโยชนข์ องเทคนิคเลก็ ๆน้อยๆได้ โดยเฉพาะเมอื่ คณุ ใส่ชุดเกราะเตม็ รูปแบบ เพราะมซู าชิเชอื่ ในการอยากเอาชนะเมอื่ ตอ้ งสเู้ พอ่ื หนีตาย เอาตัว รอดเพ่อื มชี ีวิตอยู่ เชน่ คุณคนเดียวส้กู ับคนห้าถงึ สบิ คน หลกั ทพ่ี ูดว่า “คนเดียวชนะสิบคน ชะนัน้ พนั คนกส็ ามารถชนะหมื่นคนได”้ ก็ไม่ใช่ หลักการลมๆแลง้ ๆ แน่นอนวา่ คณุ คงไม่สามารถหาคนมารวมฝกึ กับคณุ ไดห้ ม่ืนคนทุกวัน แต่ เมือ่ คณุ สำ�เรจ็ หลกั วถิ ขี องดาบแล้ว คุณจะเขา้ ใจทง้ั ตัวคุณและศัตรู พลัง ทรพั ยากรที่มี และ ประยกุ ตใ์ ช้มันในการปราบคนหมื่นคนได้ สำ�หรับคนท่ีอยากฝึกให้ส�ำ เรจ็ ต้องศึกษาอย่างดี ฝกึ เช้า-เย็น เพื่อขัดเกลาทกั ษะ ปลดปล่อยจากตวั เอง เรียนรู้ทกั ษะพเิ ศษของตน แลว้ ผู้นนั้ จะมีพลงั อำ�นาจทเ่ี ก่งกาจ 31

32

33

สถานท่ีพิชิตชัย หากส้ใู นทแ่ี จง้ ให้พระอาทติ ยอ์ ยขู่ ้างหลงั เราเสมอ แต่ถา้ ไม่สามารถท�ำ ได้ ให้ พระอาทติ ย์นน้ั อยู่ฝัง่ ขวามอื ของเรา หากอยใู่ นอาคาร ให้ประตูทางเขา้ -ออกอยู่หลงั คุณหรือ ขา้ งขวามือ อยูใ่ นจดุ ทร่ี อบข้างไมม่ ีสิง่ กีดขวางเพื่อใหส้ ามารถตง้ั รับซา้ ย-ขวาได้สะดวก ในยาม กลางคืน ถา้ ศตั รสู ามารถมองเหน็ คุณ ใหแ้ หล่งก�ำ เนิดไฟเชน่ กองไฟนั้นอยูห่ ลงั คุณและทาง เข้า-ออกอยฝู่ ง่ั ขวา พยายามอย่ทู ่ีสงู กว่าศตั รขู องคุณ พยายามให้ศัตรขู องคณุ อย่ใู นจุดทม่ี หี ลมุ บอ่ มสี ่ิงกีดขวางกั้นการโจมตีของตวั เอง เลอื กจดุ ต่อสู่ท่ีเหมาะกบั ความไดเ้ ปรยี บโดยข้นึ อยกู่ บั สถานการณ์ ที่พลกิ แพลงได้ โดยคุณตอ้ งฝึกฝนและศกึ ษาให้ดเี พอ่ื กุมความไดเ้ ปรยี บ สามวิธสี กดั ก้นั ศตั รู 1. เป็นฝ่ายรุกไปโจมตอี กี ฝ่ัง เรียกว่า เคน็ โน เซน หรอื เขา้ ถึงตัว 2. เป็นฝ่ายต้ังรับการจูโ่ จม เรียกวา่ ไท โน เซน หรือ รอต้งั รบั 3. จโู่ จมพร้อมกันแบบประชันหน้า เรยี กว่า ไท ไท โน เซน หรอื จู่โจมและขัดขวาง ไม่มีวธิ ีการโจมตีแบบอน่ื นอกเหนือจากสามรูปแบบนี้ เพราะคณุ สามารถชนะได้ไว ข้ึนเมือ่ คุณเป็นฝา่ ยไดเ้ ปรยี บ นน่ั คือแกน่ หลักของการรบ มหี ลายปัจจยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การเปน็ ผู้ ได้เปรยี บ คณุ ควรควบคมุ สถานการณ์ให้ดี มองฝา่ ยตรงข้ามใหอ้ อกเพื่อรแู้ ผนและจู่โจมใหร้ ับ ชัยชนะ 34

วิธีท่ี 1 เค็น โน เซน เมอื่ คณุ ตดั สินใจทจ่ี ะจโู่ จมอีกฝ่าย อย่าลุกลน ทำ�จติ ให้สงบน่งิ และบุกอยา่ งรวดเรว็ เพอ่ื ใหศ้ ัตรูไม่รตู้ วั และปอ้ งกนั ไมไ่ ด้ โดยสามารถแบง่ ก�ำ ลังสำ�รองไว้ โจมตดี ว้ ยกองกำ�ลงั แรกให้ศัตรู บาดเจบ็ แลว้ ใชก้ �ำ ลงั สำ�รองบุกซาํ้ เพ่ือเผดจ็ ศึก การบุกใส่โดยเม่ือใกล้ถึงทห่ี มายด้วยความเร็วก็ อาจท�ำ ใหศ้ ตั รหู วาดกลัวในเรื่องพละก�ำ ลังใจท่ีโดนนักสู้โถมใส่ วิธที ่ี 2 ไท โน เซน เมอื่ ศัตรูเป็นคนบุกโจมตเี รา ใหเ้ ราตอ้ งตงั้ รบั โดยแสร้งทำ�ตวั ออ่ นแอและรน่ ถอยกำ�ลงั เพอื่ ให้ศัตรูคิดวา่ ตนนัน้ ไดเ้ ปรียบ แตก่ ารถอยนั้นมีแบบแผนเพ่อื ที่จะโจมตีกลบั โดยโอบด้านขา้ ง ท้งั สองฝ่ังดว้ ยก�ำ ลงั ท่ศี ตั รไู ม่ทนั ได้สังเกต และจู่โจมทนั ทีทศ่ี ัตรเู ริม่ อ่อนแรง วิธีท่ี 3 ไท ไท โน เซน เมอ่ื ศตั รูจู่โจมคุณอยา่ งรวดเร็ว คุณตอ้ งโจมตีกลับอย่างใจเย็นและแขง็ แรง พยายามหา จดุ ท่ีอ่อนแอของศัตรูท่อี ย่ใู กล้และจูโ่ จม แต่ถา้ ศตั รจู โู่ จมคุณอยา่ งใจเย็น คุณตอ้ งปรบั ตัวเขา้ กับ จังหวะของศตั รู อย่าฝืนดนั ทุรังสู้ เม่ือเขา้ ใกล้ได้ค่อยใช้ความเรว็ จโู่ จมใส่ วธิ ีท้งั สามนี้ไมส่ ามารถอธบิ ายดว้ ยค�ำ พดู ใหช้ ัดเจนได้ คุณต้องศึกษาดว้ ยตนเอง วธิ ี ทง้ั หมดควรปรับใช้ตามสถานการณ์ ไมค่ วรยึดติดกบั แบบแผนท่ตี ัวเองถนัด คณุ ต้องฝกึ ให้หนัก อย่างมากเพือ่ ใหส้ �ำ เร็จแบบแผนการรบท้ังหมด 35

36

ข่ขู วญั หนึ่งในวิธกี ารทจี่ ะมชี ยั เหนือคู่ตอ่ สู้ คอื การท�ำ ให้ฝ่ายตรงข้ามอยู่ในสภาวะท่เี สยี สมดลุ ปราศจากขวญั และก�ำ ลงั ใจ โดยมแี นวทางหลกั ๆ 3 ประการ คือ 1.สร้างความวติ กหวาดกลวั ให้เกดิ กบั ฝา่ ยตรงขา้ ม 2.ท�ำ ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกว่าเราสามารถท�ำ ในส่งิ ทีเ่ ป็นไปไมไ่ ด้ 3.ท�ำ ใหฝ้ ่ายตรงขา้ มไม่อาจคาดเดาสถานการณ์แท้จรงิ ได้ ในกรณที ี่ฝ่ายตรงข้ามมคี วามแข็งแกร่งไมส่ ามารถเอาชัยได้ในการโจมตีท้ังหมด เราจะตอ้ ง ศึกษาจุดท่สี �ำ คัญของศัตรูแล้วโจมตีเพอ่ื ลดความแขง็ แกรง่ หรือโจมตเี พือ่ ยึดเปน็ ของตน เพราะหาก สามารถควบคุมจุดยุทธศาสตรไ์ ด้ ก็จะมโี อกาสได้รบั ชยั ชนะได้มากขนึ้ เราตอ้ งสร้างความสบั สนให้กบั ฝา่ ยตรงขา้ ม เพื่อปกปดิ แผนการของเรา ซง่ึ สามารถท�ำ ได้ จากการลอ่ หลอกด้วยวิธีตา่ งๆ เช่น การใช้เส้นทางไม่ซำ้�เดมิ เพ่ือให้ศตั รูเดาไมอ่ อก ในกรณพี บกับคู่ต่อสู้ทแ่ี ข็งแกร่งหรือมีก�ำ ลังพลมากกว่า จะตอ้ งทำ�ให้ทพั ของฝา่ ยตรงข้ามตก อยใู่ นสภาวะยุ่งเหยงิ โดยการโจมตีเข้าไปยังจุดอ่อนต่างๆ เมื่อฝา่ ยตรงข้ามทมุ่ ก�ำ ลงั เข้าปอ้ งกันจดุ น้นั จุดอนื่ ก็จะอ่อนแอลง เราก็ยา้ ยจุดโจมตเี พื่อป่วนศัตรู รูปแบบเช่นนี้จะสร้างความปนั่ ปว่ นใหก้ บั ฝ่ายตรงข้าม แมว้ ่าฝา่ ยตรงข้ามจะมไี พร่พล มากกว่า แตก่ ็ขาดขวัญกำ�ลังใจ ก็นับเปน็ โอกาสอนั ดีในการเขา้ บดขยที้ �ำ ลายล้างใหย้ ่อยยบั ไมเ่ ปดิ โอกาสให้ค่ตู อ่ สู้ถอยหนีซ่ึงอาจหวนกลับมาไดอ้ ีก การจะใหฝ้ ่ายตรงข้ามพา่ ยแพน้ นั้ ไมใ่ ช่เปน็ เพยี ง ความพา่ ยแพ้ภายนอก หากแตจ่ ะตอ้ งเป็นการยอมรับทง้ั กายใจ เพราะจิตใจท่ีไม่พ่ายแพย้ อ่ มสามารถ รวบรวมก�ำ ลงั ข้นึ ต่อส้ใู หม่อย่เู สมอ 37

ในทางตรงขา้ ม หากเราถกู ต้อนจนมุมจนไมส่ ามารถแกไ้ ขได้ ควรลม้ เลกิ แผน เก่าและคิดแผนใหมแ่ ทน เพราะถ้าพยายามแกไ้ ขไปเรอื่ ยๆนัน้ จะยิ่งยากกว่าเดมิ ทีจ่ ะ มโี อกาสพลิกสถานการณ์ใหม่ เราตอ้ งทำ�ในสง่ิ ท่ตี รงขา้ มกับความคิดศัตรู ไม่ควรท่จี ะใชก้ ลยุทธ์เดิมซ�้ำ สอง ใหค้ วามส�ำ คัญในรายละเอียดใหญ่ๆ มากกวา่ รายละเอียดเลก็ เพราะถา้ สนใจแต่ สงิ่ เลก็ ๆ ภาพรวมใหญ่ของส่งิ ทีเ่ ราวางไว้อาจจะผดิ เพย้ี นได้ แนวทางของมุซาชิคอื ให้ ความส�ำ คญั กับการรุก ต้องสรา้ งโอกาสใหไ้ ด้เปรียบอยสู่ มอ ผ้ทู ่ีศึกษาต้องตง้ั ใจอยา่ ง มาก เพอื่ ทจ่ี ะรับมอื กับการต่อสทู้ ุกรูปแบบ 28

39

40

ลม เราควรร้รู ูปแบบการตอ่ ส้รู ปู แบบอน่ื นอกเหนือจากทเี่ ราฝกึ ด้วย โดยในคมั ภรี น์ ้มี ูซาชิ ได้เขียนเกี่ยวกบั ความหลายหลายของวิชาทเ่ี ป็นพ้นื ฐานประจำ�ส�ำ นักตา่ งๆ ถา้ ไมม่ คี วามรู้เรอ่ื ง ทกั ษะการตอ่ สู้ของสำ�นักอนื่ คงยากทจี่ ะไมเ่ ขา้ ใจถึงแกน่ ของมูซาชิ การหาจดุ เดน่ ของวชิ าการ ต่อสสู้ ำ�นกั อ่นื ท่ีแตกต่างกันมากมายทำ�ใหเ้ ข้าใจหลกั ทีจ่ ะท�ำ ให้แข็งแกรง่ ได้มากขนึ้ 41


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook