Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Day of the Dead

Day of the Dead

Published by Kachornpon, 2019-11-13 03:15:50

Description: Day of the Dead

Search

Read the Text Version

(Día de Muertos)

คำนำ หากจะพูดถึงประเทศเม็กซิโกหลายคนอาจจะนึกถึงกระบองเพชร คาวบอย ทาโก้ และถ้าพูดถึงเทศกาลเกี่ยวคนตายเราก็มักจะนึกถึง “วันฮาโลวีน” แต่สำหรับประเทศเมก็ ซิโกแลว้ นอกจากกระบอกเพชร ทาโก้ กย็ งั มเี ทศกาลที่คล้ายๆ กับวันฮาโลวีน นั้นคือ เทศกาล “วันแห่งความตาย” หรือ Day of the Dead (Dia De Muertos) แต่เทศกาลนี้ไม่ได้เศร้าเหมือนชื่อแต่เป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองให้กับ คนที่ตายไปแล้วและไม่ใช่ภายในประเทศเม็กซิโกเท่านั้นแต่ยังมีหลายๆประเทศท่ี ได้รับอิทธิพลจากอารธรรมสเปนก็ฉลองเทศกาลนด้ี ว้ ย จากความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายของชนเผ่าหลายชนเผ่าในดินแดน เม็กซิโกทำให้เกิดเทศกาลขึ้นมารวมทั้งทำให้เกิด ประเพณี การบูชา การทำอาหาร ศลิ ปะ หรอื แมก้ ระท่งั การเฉลมิ ฉลองในรูปแบบขบวนพาเหรดท่ีไดร้ ับการนยิ มมาจาก ฉากๆหนึ่งของภาพยนตร์ James Bone 007 (spectre) ทีเ่ นรมิตรขึ้นมา หนงั สือเลม่ นจ้ี ะนำเสนอเกยี่ วกบั รายละเอียดท่ีทางผ้เู ขียนได้ศึกษามาโดย จะมีเนอ้ื หาทีน่ ่าสนใจเกีย่ วกับเทศกาลวันแห่งความตายท่ีหลายคนอาจจะไม่เคยรู้มา ก่อน และมีภาพประกอบเผื่อเพิ่มความเข้าใจและน่าสนใจ หวังว่าผู้อ่านจะได้ ประโยชนแ์ ละสาระจากการอา่ นหนังสอื เลม่ นี สุดท้ายน้ีต้องขอขอบคุณอาจารย์และกูเกิลท่ีทำให้ทางผู้เขียนได้หาข้อมลู มาทำจัดทำเป็นหนงั สือเล่มน้ี มณขี วัญ จูประดษิ ฐ์ ผ้เู ขยี น

สารบญั หนา้ 1. Histoty 1 2. Welcome home 6 3. A celebration of souls 11 4. Day of the Dead dishes 14 5. Symbols 26 6. Mexican Artist 40 7. Parade 48 8. Day of the Dead in USA 57 9. Movies you need to see 68



PAGE |1 HISTORY เม่ือพดู ถงึ ความตายทีไร หลายคนกม็ กั จะนึกถงึ กล่นิ อายเยน็ ยะเยอื ก แต่ใน เทศกาล Day of the Dead ความตายได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเป็นอบอุ่น สนกุ สนาน และโบฮีเมยี น เพราะในเมื่อคนตายก็คือเพื่อน คนรัก หรือครอบครัวของใครสักคน ชาว เม็กซิกันจึงเชื่อว่า น่าจะมีสักสองสามวันในหนึ่งปี ที่เราจะคิดถึงพวกเขาได้ อย่างเป็นทางการ ในวันนั้น ท้องถนนจะเต็มไปด้วยฝูงชนในเมคอัพหัว กะโหลกสไตล์โบโฮฯ ดอกไม้ประทบั ผมแบบฟรดี า คาหโ์ ล สวมชุดพนื้ เมือง แห่ แหนเครื่องบูชา ทำขนมน้ำตาลปั้นรูปหัวกะโหลก และสนุกเสียงดนตรีเต็ม พิกัด มีการฉลองกันทั้งในประเทศต้นกำเนิดอย่างเม็กซิโกเอง รวมถึงใน อเมริกาที่เต็มไปด้วยชาวเม็กซิกัน โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย และประเทศ อื่นๆ ท่ีตกเปน็ อาณานิคมของสเปนเหมอื นเช่นประเทศเมก็ ซิโก

PAGE |2 ประเพณีในวันแห่งความตายนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็น มรดกทางวัฒนธรรมของมนษุ ยชาติตัง้ แต่ปี 2008 จึงนับว่าเปน็ งานสำคัญของ โลกเลยล่ะครับ พิธีนี้จะนิยมจัดกันมากในภาคกลางและภาคใต้ของเม็กซิโก รวมทั้งในต่างประเทศที่มีชาวเม็กซิกันอาศัยอยู่จำนวนมาก อย่างในรัฐเท็กซสั นิวเม็กซิโก และอริโซนา ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงในแถบถิ่นอเมริกากลาง และใต้ เช่น เบลีซ กัวเตมาลา โบลิเวีย บราซิล เปรู เอกวาดอร์ ซึ่งอาจมี พิธกี รรมบางประการที่ต่างกันออกไปบา้ งตามความเชอ่ื ของแต่ละท้องถน่ิ

PAGE |3 Death (ความตาย) หากจะพูดถึงที่มาของเทศกาลน้ีกค็ งตอ้ งย้อนกลับไปไกลถงึ 3,500 ปีที่แล้ว ที่ แม้ในตอนนั้นจะมชี าวพื้นเมืองหลากหลายกลุ่มหลากหลายความเช่ือ แต่มีอยู่ เรื่องหนึ่งที่ทุกกลุ่มเชื่อเหมือนกันก็คือเรื่องชีวิตหลังความตาย เพราะการ ค้นพบแหล่งโบราณคดีหลายแห่งในประเทศเม็กซิโกทำให้เกิดข้อสังเกตว่าใน สมัยโบราณชาวบ้านนิยมสร้างที่ฝงั ศพไว้ใต้บ้านหรือใกล้กับตัวบ้าน เนื่องจาก ต้องการให้กระดูกของสมาชิกในครอบครัวหรือคนที่รักซึ่งตายไปแล้วได้อยู่ ใกล้ชิดกบั สมาชิกในครอบครวั และลกู หลานท่ยี งั มชี ีวติ อยู่ จนกระทั่งมาถึงช่วงศตววรษที่ 14 – 16 ชาวแอซเทก็ (Aztec) ซึ่งเปน็ กลุ่มชน พื้นเมืองที่มีอำนาจเหนือดินแดนแถบนี้ มีความเชื่อว่าการตายเป็นเพียงการ ข้ามผ่านจากโลกนี้ไปยังอีกโลกหนึ่ง จึงจัดงานเฉลิมฉลองเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็มในเดือนสิงหาคมของทุกปีเพื่อบูชาเทพีแห่งโลกใต้พิภพ (Mictecacihuatl) หรือเทพีแห่งความตาย (Lady of the Dead) ผู้ทำหน้าที่ ดูแลรักษากระดกู ของคนตายเพอ่ื นำไปใชใ้ นโลกหนา้

PAGE |4 (Beautiful Bones Dia De Muertos Mictecacihuatl Day of the Dead)

PAGE |5 อิทธพิ ลจากคาทอลกิ (The Catholic Influence) ภายหลังการเข้ามาของอารยธรรมสเปนในศตวรรษที่ 16 เทศกาลนี้ได้รบั การ ผสมผสานเขา้ กับความเชื่อของคริสต์ศาสนา จึงเปลี่ยนมาฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม และ 1, 2 พฤศจิกายนแทน เพื่อให้ตรงกับวัน All Saints Eve, All Saints Day และ All Soul Day แต่ถึงอย่างนั้น Dia de los Muertos ของ ชาวเม็กซิโกก็ยงั คงไว้ซึ่งความเชื่อและธรรมเนยี มปฏิบัติเฉพาะตัวทีม่ ีมาตั้งแต่ ดง้ั เดมิ และไมใ่ ช่ฮาโลวนี สไตล์เมก็ ซิกันอยา่ งทหี่ ลายคนเขา้ ใจกันอกี ดว้ ย วนั แห่งความตายและวนั ฮาโลวนี มคี ณุ สมบตั บิ างอยา่ งร่วมกนั แต่เป็นวันหยดุ ท่ี แตกต่างกัน พวกเขาทั้งสองมาจากความเชื่อของวัฒนธรรมยุคแรกเกี่ยวกับ ความตายซึ่งต่อมาผสมกับศาสนาคริสต์ พวกเขามีพืน้ ฐานอยู่บนความคิดที่วา่ วิญญาณจะกลับมาในชว่ งเวลาของปี

PAGE |6 Welcome Home ช่วงเวลาแห่งการเฉลมิ ฉลอง ก่อนคืนวันที่ 31 ตุลาคม สมาชิกในครอบครัวจะช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ทำอาหารและเตรยี มตั้งโต๊ะเพื่อต้อนรับญาติผู้ล่วงลับ เชื่อกันว่าตอนเที่ยงคนื ของวันที่ 31 จะเป็นเวลาที่วิญญาณของเด็กๆ เดินทางกลับมาบ้าน หาก ครอบครัวไหนเคยสูญเสยี ลูกหลานทอ่ี ายุยังน้อยกจ็ ะจดั เตรยี มแท่นวางขนมนม เนยและชอ็ กโกแลตพร้อมของเล่นไวต้ ้อนรับ บางบ้านก็เตรียมหมอนกับผ้าห่ม ไว้เผือ่ ว่า ‘เดก็ ’ ทมี่ าเยยี่ มจะเลน่ สนุกจนเหน่ือยและอยากพักผ่อน

PAGE |7 วันที่ 1 พฤศจกิ ายน หรอื วัน Día de los Inocentes (Day of the Innocents) หรอื Día de los Angelitos (Day of the Little Angels) เป็นวนั ทีเ่ ช่ือกันว่า วิญญาณของเด็กที่กลับมาจะใช้เวลาทั้งวันกับคนในครอบครัว ผู้ปกครองบาง คนที่สูญเสียบตุ รจะใช้เวลาบ่ายนี้ในการสร้างแท่นบูชาในสสุ านหรือที่บ้านของ พวกเขา (ไม่ว่าข้างในหรือข้างนอกเพื่อให้ทุกคนได้เห็นบนท้องถนน) รายการ ตา่ งๆจะถูกทิ้งไวเ้ ชน่ อาหารและเคร่ืองดมื่ ที่ชืน่ ชอบเกมของเลน่ ลูกโป่งฟุตบอล รวมถึงข้อเสนอด้ังเดมิ ของวันแหง่ ความตาย เปน็ วธิ ีทนี่ า่ ประทับใจในการจดจำ เด็กทเี่ สยี ชวี ิต Día de los Angelitos เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนเหตุการณ์ใหญ่ในวันที่ 2 พฤศจิกายนเพราะมีการกล่าวว่าวิญญาณของเด็ก ๆ ต่างกระตือรือร้นที่จะ กลบั มาสู่ดินแดนแหง่ ชีวิตพวกเขาว่ิงไปข้างหน้าผ้ใู หญท่ มี่ าถงึ ในคนื ต่อมา

PAGE |8 แท่นบูชาสำหรับเด็กผชู้ ายรวมถงึ สง่ิ เลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ทีเ่ ขาโปรดปราน ครอบครวั ทีส่ ญู เสียลกู อาจจะจุดบชู าแท่นบูชาในคนื วันที่ 31 ตลุ าคมและวนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน หลมุ ศพทต่ี กแตง่ ด้วยของตา่ งๆชองเดก็ ชายอายุ 7 ปชี อื่ Danny ในเมือง Ajijic, Jalisco.

PAGE |9 ส่วนวันที่ 2 พฤศจิกายน หรือวัน Día de los Muertos (Day of the Dead) เป็นวันที่วิญญาณผู้ใหญ่กลับมาเยี่ยมบ้าน มีการจัดแท่นวางอาหารและข้าว ของไว้ต้อนรับที่บ้านเช่นเดียวกันกับการต้อนรับเด็กๆ และเนื่องจากคนในยุค หลังนิยมฝังศพสมาชิกในครอบครัวไว้ที่สุสานของชุมชนมากกว่าจะฝังไว้ใกล้ บ้าน บางภมู ภิ าคของเม็กซิโกจงึ มีธรรมเนยี มท่ีสมาชกิ ครอบครวั จะพากนั ไปทำ ความสะอาดสุสานในช่วงเย็น มีการตกแต่งประดับประดาสุสานด้วยดอกไม้ รูปภาพ กลอนไว้อาลัย หรืออาจจะเปิดเพลงท่ีผู้ตายชอบ บ้างก็มีการเตรียม อาหาร เครื่องดื่ม พร้อมที่นอนหมอนมุ้ง เพื่อไปใช้เวลาร่วมกับวิญญาณของ ผูต้ ายทจ่ี ะกลับมาท่สี ุสานให้ได้นานท่สี ดุ ในขณะที่บางภูมิภาคก็จะนิยมพากันไปทำความสะอาดสุสานเพียงอย่างเดยี ว เพราะเชื่อว่าจะเป็นจุดแรกที่วิญญาณจะกลับมาถึง หลังจากนั้นจะโปรยกลบี ดอกดาวเรืองจากสุสานเป็นเสน้ ทางนำวญิ ญาณกลับไปสู่บ้าน เพื่อฉลองพร้อม หน้าพรอ้ มตากนั ทงั้ ครอบครวั บางพื้นท่ีชาวบา้ นจะขงั หรือลา่ มสตั ว์เลี้ยงเอาไว้ ในคอกอย่างเรียบร้อย ร ะ ห ว ่ า ง ค ่ ำ ค ื น นี้ เพราะไม่ต้องการให้ สัตว์ไป ‘ขดั ขวาง’ การ เดินทางกลับมาเยี่ยม บ้านของวิญญาณ เหลา่ น้ัน

P A G E | 10

P A G E | 11 A Celebration of Souls แท่นหรือโต๊ะต้อนรับถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของงานนี้ การจัดวางอาหาร และเครื่องใช้ไม่มีกฎตายตัว แท่นวางของหนึ่งแท่นอาจจะจัดสำหรับสมาชิก หลายคนในครอบครัว หรือจะเป็นแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับ 1 คนไปเลยก็ได้ การจัดวางแทน่ ท่ีนยิ มกนั จะมที ้ังหมด 3 ช้ันหรือ 3 ส่วน

P A G E | 12 ชั้นบนสุดคือสิ่งที่บอกว่าแท่นนี้เป็นแท่นที่ทำเพื่อต้อนรับใคร อาจจะมีรูปผู้ ล่วงลับหรือสิ่งแทนตัวในกรณีที่ไม่มีรูปถ่ายวางไว้ตรงกลาง และอาจจะมีรูป ของนกั บวชหรอื ไม้กางเขนวางค่กู ันบนชั้นนด้ี ว้ ย ชัน้ ท่สี องเปน็ ช้ันสำหรบั วางสิ่งของหรืออาหารทช่ี ่นื ชอบ ในกรณีท่ีเปน็ วญิ ญาณ เด็ก ก็อาจจะมนี ม ลูกกวาด ขนมปงั ชอ็ กโกแลต และของเลน่ ถา้ เปน็ วญิ ญาณ ผใู้ หญ่กอ็ าจจะมีเหล้าไวน์ หรือบหุ รี่ วางอยดู่ ้วย

P A G E | 13 ส่วนชั้นที่สามที่อยู่ล่างสุด มักจะเป็นที่สำหรับเทียนและธูปหอม กระจก สบู่ หรือผ้าเช็ดตัว เพื่อให้วิญญาณได้ใช้ความทำสะอาด เช็ดหน้าเช็ดตาให้สดชื่น เพือ่ ให้หายเหน่ือยจากการเดินทางกลับมาสู่โลกมนษุ ย์ นอกจากของใช้ส่วนตัว เหล่านี้ กย็ ังมสี ่งิ ทมี่ ักใชต้ กแต่งทัว่ ทั้งแท่น เช่น ดอกดาวเรอื งสีส้มหรือสีเหลือง ผลไม้ และขนมรูปกะโหลกสีสันสดใสที่ทำจากน้ำตาลอีกด้วย สำหรับ ครอบครวั ทีม่ รี ายได้ไม่มาก การจัดวางแท่นต้อนรบั อาจเปน็ ธรรมเนียมปฏิบตั ทิ ่ี ต้องใช้เงินจำนวนมาก บางครอบครัวอาจจะต้องใช้เวลาเก็บเงินหลายเดือน เพ่อื จดั หาซือ้ ของที่ใชต้ กแต่งทั้งหมดได้ แต่สมาชกิ ในบ้านกพ็ ยายามช่วยกันจัด แท่นต้อนรับให้ออกมาดีที่สดุ เพราะเชือ่ ว่าวิญญาณบรรพบุรุษที่มีความสุขจะ ชว่ ยปกป้องดูแลคนในบา้ นให้ปลอดภยั และนำพาโชคดมี าให้

P A G E | 14 Day of the Dead Dishes อาหารบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับประเพณีวันแห่งฤดูตายในเม็กซิโก อาหาร เหล่านี้จัดทำและกินในช่วงเวลานี้ของปีและยังวางบนแท่นบูชาเพื่อเป็น เคร่ืองเซน่ ไหว้วญิ ญาณทเ่ี ชอ่ื กันไปเย่ยี มคนท่ีพวกเขารกั ในวันเดยี วของปีน้ีและ กินแก่นสำคัญของ อ า ห า ร ท ี ่ ว า ง ไ ว้ สำหรับพวกเขา. หลังจากวันหยุดผ่าน ไปชีวิตที่ถูกรื้อแท่น บูชาและอาจกินส่ิงที่ เ ห ล ื อ อ ยู่ แ ม ้ ว ่ า ส่ิ ง เหล่านี้จะบอกว่าได้สูญเสียรสชาติไปมากเพราะคนตายได้บริโภคส่วนสำคัญ ของมันไปแล้ว วันหยุดนี้เป็นส่วนผสมของความเชื่อและประเพณีของชาว คาทอลิกและชาวพื้นเมืองและอาหารที่เกี่ยวข้องกับวันหยุดที่พัฒนาขึ้นจาก การผสมผสานของประเพณีทีแ่ ตกตา่ งกันเหล่าน้นั

P A G E | 15 Pan de Muertos : วนั แห่งความตายขนมปงั Pan de Muerto เป็นขนม ปงั ทเ่ี ตรยี มและกนิ ระหวา่ งวันแห่งฤดตู าย มันเปน็ องค์ประกอบสำคัญของแท่น บูชาและอาจเปน็ รายการอาหารทเ่ี กี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดท่สี ดุ กับวันหยุด แม้ว่า ชนิดของขนมปงั ทก่ี ำหนดใหแ้ พนเดอมูเออรอ์ าจแตกตา่ งกนั ไปตามภมู ภิ าค แต่ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นทรงกลมขนมปังหวานเล็กน้อยปรุงด้วยโป๊ยกั๊กหรือส้ม และตกแต่งด้วยรูปร่างที่ด้านบนซึ่งมีการชี้นำของกระดูกมักโรยด้วยน้ำตาล หรืองา . ข้าวสาลีได้รับการแนะนำให้รู้จักกับชาวยุโรปมันไม่ได้อยู่ในสมัย โบราณ Mesoamerica ความสำคัญของขนมปังในศาสนาคาทอลิกในฐานะ สัญลักษณ์ของพระคริสต์อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการทำขนมปังในวันหยุดน้ี กล่าวกันว่าขนมปงั เปน็ ตัวแทนของผเู้ สยี ชวี ิต

P A G E | 16 วิธที ำขนมปัง สว่ นผสม แป้งขนมปัง 4+1/2 ถว้ ย เนยจืดนิม่ 140 กรมั ไขไ่ ก่เบอร์สอง 2 ฟอง นำ้ ตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย เกลือ 1 ชอ้ นชา เปลอื กส้มซันควกิ ขูดฝอย 1 ช้อนโตะ๊ นำ้ มนั จากดอกส้ม 1/2 ชอ้ นชา ยีสตแ์ หง้ 2 +1/2 ชอ้ นชา นมอุน่ ๆ 1 ถ้วย

P A G E | 17 วธิ ีทำ • เริ่มจากเทสยสี ต์โดยการผสมนมอุ่นๆกบั ยสี ตแ์ ห้งเข้าดว้ ยกนั คนๆให้ เขา้ กันเลก็ นอ้ ย ทงิ้ ไว้ 5 นาที ถ้าน้ำยีสต์เรม่ิ เกิดเป็นฟองๆดา้ นบน • ผสมแป้งขนมปัง,เกลือและน้ำตาลเข้าด้วยกัน เทน้ำยีสต์ในขั้นตอน แรกลงไปให้หมด ใชไ้ ม้พายคนผสมให้เข้ากัน • ตอกไข่ลงในถ้วยเล็กๆ ใช้ส้อมตีจนแตกให้หมด ใช้มือนวดจนแป้ง เริ่มจบั กันเป็นกอ้ นๆ • ใส่เนยจืดลงไป นวละก็นวดจนแป้งให้เนยี นดี ในขั้นตอนนี้ควรจะใช้ เวลาไมเ่ กิน 30 นาที • สุดท้ายใส่น้ำมันจากดอกส้มและผิวส้มซันควิกขูดลงไป นวดให้เข้า กันจนเนียน • ดึงหน้าขนมปัง จากนั้นคลุมด้วยพลาสติกหรือหม้อไว้อย่างน้อย 30 นาทหี รอื จนกว่าขนมปังจะขยายเพ่มิ ขึ้นเปน็ สองเท่า • เมอ่ื ขนมปังขยายออกเป็นสองเท่าแลว้ ชกไลล่ ม จากนน้ั แบง่ โดว์เป็น กอ้ นๆ เทา่ ๆกัน • จากแป้งโดว์ 120 กรัม ให้แบ่งเป็นสองกัน 90 กรัม (1 ก้อน) และ 30 กรัม ( 1 ก้อน) คลึงก้อนก้อนใหญ่ 90 กรัม จนหน้าเนียนตึงดี ส่วนก้อนเล็ก 30 กรัม ให้แบ่งเป็นก้อนเล็กๆอีก 3 ก้อน 5 กรัม (1 ก้อน) เอาไวท้ ำจกุ ตรงกลางของขนมปัง คลงึ จนกลมเนียน

P A G E | 18 12.5 กรมั (2 กอ้ น) เอาไวท้ ำเสน้ ไขว้บนตวั แป้งโดว์ คลงึ ใหเ้ ปน็ เส้นยาวๆ ประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวขนมปังก้อนใหญ่ จากนั้นใช้นิ้วมือทั้งส่ี กดคลงึ ช่วยกนั จนมลี ักษณะเป็นขอ้ ๆ คลงึ ไปๆมาๆบนโต๊ะนวดแป้ง วธิ ีประกอบรา่ ง • วางตวั แปง้ โดว1์ 2.5 กรมั (2 กอ้ น) ไขวล้ งบนหนา้ แป้งโดวข์ นาดใหญ่ ไขว้เป็นรูปกากบาท จากนั้นใช้แป้งก้อนกลมเล็กๆ 5 กรัม (1 ก้อน) แปะไว้ตรงกลางของตวั ขนม • พรูฟขนมปังจนเพิ่มขึน้ เป็นสองเทา่ ในขณะท่พี รูฟ หาอะไรคลุมแป้ง โดว์ให้เรยี บร้อย เพื่อป้องกนั ไมใ่ หข้ นมปงั แหง้ • ทาหน้าขนมปังด้วยไข่ไก่ผสมนำ้ เปลา่ บางๆ • วอมเตาอบใหแ้ ตะถึงอุณภมู ิ 180 C ไฟบนล่าง ไม่จำเป็นต้องเปดิ พัด ลม ใช้เวลาอบขนมประมาณ 25-35 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของตัว ขนม • ผ่ึงขนมบนตะแกรง ทาหน้าขนมด้วยเนยจืดละลายบางๆ จากน้ันโรย ดว้ ยน้ำตาลทรายขาว

P A G E | 19

P A G E | 20 Sugar Skulls : เป็นองค์ประกอบ การออกแบบที่ใช้บ่อยในหมู่ Aztecs และ Maya กะโหลกศีรษะมนุษย์เป็น สัญลักษณ์ของชีวิตและความตายและ บางครั้ง กะโหลกก็แสดงบนชั้นวาง หรอื ผนังที่เรยี กวา่ tzompantli ความสำคัญของชน้ั วางกะโหลกเหล่าน้ีไม่เป็น ที่รู้จักอย่างสมบูรณ์ มันถูกตั้งสมมติฐานว่าพวกเขาอาจเป็นแท่นบูชาและ สถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมหรือเคยแสดงความกล้าหาญทางทหาร น้ำตาลได้รับการแนะนำให้รู้จักกับอเมริกาในศตวรรษที่ 17 ในสมัยโบราณมี ความเป็นไปได้ที่หัวกะโหลกจะมีรูปร่างเหมือนดอกบานไม่รู้โรย คุณอาจเจอ ลายกระโหลกและกะโหลกช็อคโกแลตทุกวันน้ีรวมถงึ รูปอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกบั Day of the Dead รวมถึงโลงศพโครงกระดูกและกากบาท กะโหลกน้ำตาล วางอยูบ่ นแท่นบชู า แตม่ กั จะไม่กิน

P A G E | 21 Tamales (ทามาเล่) : คำว่า tamal มาจากคำว่า Aztec ซึ่งเป็นคำว่า \"ห่อ\" นี่คือหนึ่งในอาหารที่เก่าแก่ที่สุดและถูกบริโภคใน Mesoamerica ซ่ึง อาจจะไกลถึง 5,000 ปีก่อน ถึงจะหน้าตาเหมือนข้าวต้มมัด แต่จริงๆ แล้ว Tamales นั้นทำจากแป้งข้าวโพด ยัดไส้ด้วยเนื้อสัตว์ ชีส และผลไม้หรือผัก ห่อด้วยเปลือกข้าวโพดหรือใบตอง จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก เป็นเมนูที่เหมาะ สำหรับคนที่ชอบทานแป้ง นี่คืออาหารที่ชื่นชอบสำหรับวันแห่งความตาย เชน่ เดยี วกับวันหยุดอ่นื ๆ อกี มากมาย จานทีค่ ล้ายกันจดั ทำขนึ้ ในคาบสมุทรยู คาทานสำหรับการเฉลิมฉลอง Hanal Pixan: Mucbipollo เป็นประเภทของ tamal ขนาดใหญ่ทป่ี รงุ ในเตาอบใต้ดนิ

P A G E | 22

P A G E | 23 Calabaza en Dulce : Candied Pumpkin แม้ว่า Halloween jack-o- Lantern จะกลายเป็นแพร่หลายมากขึ้นในเม็กซิโกมันไม่ใช่งานนำเสนอ ตามปกตสิ ำหรบั สควอชในระหวา่ งวันแห่งความตาย สควอชสเี หลืองส้มสีส้มท่ี มีเปลือกแข็งเรียกว่า calabaza de castilla นั้นพบได้บ่อยกว่าฟักทองสีส้ม เข้มและมักจะปรุงสุกจนกระทั่งมันนิ่มด้วยน้ำตาลทรายแดงและซินนามอน แทนที่จะหน่ั เป็นแจค็ โอแลนเทริ ์นหรอื ใช้ในพาย

P A G E | 24 Hot Chocolate : ช็อคโกแลตมีถิ่นกำเนิดใน Mesoamerica ถั่วบดและ บริโภคในยุคพรีสปานิกเป็นเครื่องดื่มร้อน แต่ไม่เหมือนสมัยนี้ผู้คนดื่ม ช็อคโกแลตรสเผ็ดร้อนไม่ใช่หวาน ในอดีตที่ผ่านมาต้นโกโก้อยู่บน metate (หินเจยี ร) แตท่ กุ วนั น้ีมนั มกั จะบดในโรงบดพเิ ศษ วันแห่งฤดแู ห่งความตายคือ เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงและเครื่องดื่มร้อนเป็นที่โปรดปรานในเวลานี้ของปี นอกจากช็อกโกแลตร้อนๆเครื่องดื่มที่ทำจากข้าวโพดเช่น atole และ champurrado กเ็ ป็นทนี่ ิยมในชว่ งวนั แห่งความตาย

P A G E | 25 Fruit : ผลไม้มีหลายประเภททเ่ี ก่ียวข้องกับวนั แห่งความตาย Nisperos (หรอื loquats) เป็นผลไมท้ ่ีกำเนิดในเอเชยี แต่ไดร้ บั ความนิยมในเม็กซิโกและอยู่ใน ฤดูกาลที่เหมาะสมในวันแห่งความตาย พวกเขามีความสุขในช่วงเวลานี้ของปี และมักใช้เพื่อประดับวันแท่นบูชา ผลไม้อื่น ๆ ที่มักมีอยู่ในแท่นบูชาแห่งวัน ตาย ได้แก่ ส้มกล้วยและเตโจโจ้ (Hawthorn) ต้องการสรา้ งแท่นบูชาของคณุ เองหรือ loquats fruit

P A G E | 26 SYMBOLS ประเพณีรอบวันแห่งความตายนั้นอุดมไปด้วยอิทธิพลของ วัฒนธรรมและสไตล์เม็กซิกันที่แท้จริงพวกเขาไม่ขาดสีสันและ ความสำคัญ แท่นบูชา (Ofrenda) สร้างขึ้นในบ้านส่วนตัวและสุสาน แท่นบูชาเหล่านี้ไม่ใช่แท่นบูชาสำหรับการ นมัสการ ค่อนข้างพวกเขาตั้งใจจะต้อนรับวิญญาณกลับสู่อาณาจักรแห่งการ ดำรงชวี ติ เชน่ น้นั พวกเขาเตม็ ไปด้วยเคร่ืองเซน่ นำ้ เพ่ือดบั กระหายหลังจากการ เดนิ ทางอนั ยาวนานอาหารภาพถา่ ยครอบครวั และเทยี นสำหรบั ญาตทิ ่ีตายแลว้ หากวญิ ญาณคนใดคนหน่ึงเป็นเดก็ คุณอาจพบของเล่นชน้ิ เล็กๆ บนแทน่ บูชา

P A G E | 27 Mexican Marigold (ดอกดาวเรือง) Flor de Cempasuchil หรือที่เรียกว่า Mexican Marigold เป็นดอกไม้สีส้ม สดใสที่เติบโตทั่วเม็กซิโกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ของวนั แหง่ ความตาย ในชว่ งเวลาของวนั หยุดจะเห็นไดท้ กุ ที่ตงั้ แต่บนแท่นบูชา ไปจนถึงอาคารสาธารณะและแม้แต่สวนสาธารณะ เหตุผลของเรื่องนี้ไม่เพียง แต่เป็นความจริงที่ว่ามันเปน็ ดอกไม้ตามฤดูกาล แต่ยังเป็นเพราะกลิ่นแรงของ ดอกไม้ที่ไม่ซ้ำกัน เชื่อกันว่ากลิ่นนี้ตามตำนานของชาวเม็กซิกันเพื่อดึงดูด วิญญาณ ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดวางแบบดั้งเดิมในในแท่นบูชาเพื่อดึงดูดจิต วิญญาณของผู้เสียชวี ิตไปยังบ้านญาติของพวกเขา ดอกไม้ยังมีความเกี่ยวข้อง อย่างยง่ิ กบั ดวงอาทิตยแ์ ละการเกดิ ใหมด่ ว้ ยสีสม้

P A G E | 28 Monarch Butterfies (ผเี ส้อื ) ผีเสื้อ Monarch มีบทบาทในDía de los Muertos เพราะเชื่อกันว่าจะเก็บ วิญญาณของผู้ตาย ความเชื่อนี้เกิดขึ้นจากความจริงที่ว่าพระมหากษัตริย์องค์ แรกมาถึงเม็กซโิ กสำหรับฤดูหนาวแตล่ ะฤดูใบไมร้ ว่ งในวนั ที่ 1 พฤศจิกายนซงึ่ ตรงกับ Day of the dead

P A G E | 29 Skulls calaveras (หวั กะโหลก) กะโหลกศรี ษะไม่ได้ใชเ้ ป็นสัญลักษณท์ ี่นา่ กลัว แตเ่ ปน็ เครอื่ งเตือนความทรงจำ เกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงได้รับการตกแต่งอย่าง สดใส กะโหลกเป็นสว่ นใหญ่ของวันหยุด กะโหลกถกู ใช้ระหว่างพิธีกรรมในยคุ Aztec และส่งต่อเป็นรางวัลในระหว่างการต่อสู้ ทุกวันนี้ระหว่าง Dia de Los Muertos กะโหลกน้ำตาลใช้ประดับวางอยู่บนแท่นบูชา ไม่มีอะไรน่ากลัว เกยี่ วกบั กะโหลกเหลา่ นี้ เพราะวา่ พวกเขาได้รบั การตกแตง่ ดว้ ยสีทมี่ สี ีสันกินได้ แวววาว ทุกวันนี้กะโหลกน้ำตาลมีประโยชน์หลายอย่างรวมถึงขนมหวานหรือเป็น ของขวัญสำหรับเด็ก ๆ กะโหลกน้ำตาลถูกวางแบบดั้งเดิมเป็นของตกแต่ง ด้านบนของแท่นบูชาท่ีเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะ เขียนชื่อของคนที่คุณรักที่ตายบนหน้าผากกระดาษของหน้าผากตุ๊กตา กระโหลกนำ้ ตาลวางอยบู่ นแท่นบูชามักจะถกู บริโภคเมอ่ื สิน้ สดุ วันหยุดเท่านัน้

P A G E | 30 ยังมีงานแสดงหัวกะโหลกน้ำตาลชื่อ Feria del Alfeñique ซึ่งมีการเฉลิม ฉลองทุกปีในเดือนตุลาคมในเมืองโตลูกาซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของกะโหลก น้ำตาลที่สวยงาม ที่นั่นช่างฝีมือมาจากทั่วประเทศเพื่อจัดแสดงและจำหน่าย หวั กะโหลกนำ้ ตาลทม่ี เี อกลกั ษณแ์ ละสามารถหาได้ไม่เพียง แต่คาลิเวียราที่ทำ จากนำ้ ตาลเท่าน้นั แตย่ งั มคี าราเมลชอ็ คโกแลตช็อคโกแลต dulce de leche มะขามและแมแ้ ตก่ ัมม่ีกัม

P A G E | 31 Papal picado (กระดาษสสี ลกั ) Papel picado หมายถึงกระดาษที่มีรูพรุนและเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรม เม็กซิกัน ศิลปะมาจากประเพณีของชาวแอซเท็กในการสกัดร่างวิญญาณ Papel picado สามารถทำด้วยกระดาษทิชชูแบบพับได้และใช้กรรไกรขนาด เล็กที่คม ลายทั่วไป ได้แก่ นกลายดอกไมแ้ ละโครงกระดกู โดยทั่วไปแล้วจะมี การจัดแสดงกระดาษปิคาโดสำหรับทั้งโลกทางศาสนาเช่น วันอีสเตอร์ วันคริสต์มาส วันแห่งความตายรวมถึงในระหว่างงานแต่งงานงานฉลองควิน นาเนราศีล และ พิธีศีลจุ่ม ในเม็กซิโกโบสถ์กระดาษปิคาโดสมักจะถูกรวมเข้า ไปในแทน่ บชู าในช่วงวนั แห่งความตาย (Dia de Los Muertos) และถูกแขวน ไวต้ ามถนนในชว่ งวันหยุด A Day of the Dead themed papel picado created for an Ofrenda.

P A G E | 32

P A G E | 33 ศิลปนิ ทีม่ ีช่ือเสยี งดา้ นแกะสลกั กระดาษ • Olga Ponce Furginson : เป็นศิลปินทีเ่ ตบิ โตขึ้นมาในเม็กซิโกและ หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวูดเบอรีและย้ายมาที่ สหรัฐอเมริกาได้เปิดการจัดแสดงหลายครั้งและมีงานศิลปะของเธอ บางส่วนในภาพยนตรแ์ ละรายการโทรทัศน์

P A G E | 34 • Carmen Lomas Garza : เธอเป็นศิลปินที่ประสบ ความสำเร็จและเป็นนักเขียนที่มี เชื้อสายเม็กซิกัน - อเมริกัน เธอ เป็นที่รู้จักกันเป็นหลักสำหรับ ภาพวาดและกระดาษปิคาโดของ เธอและงานศิลปะของเธอได้รับ การแนะนำในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ อเมริกันสมธิ โซเนยี น, พิพิธภณั ฑ์ แหง่ ชาตขิ องศลิ ปะเมก็ ซิกันและพิพธิ ภณั ฑอ์ ืน่ ๆ อกี มากมาย

P A G E | 35 • Herminia Albarrán Romero : เปน็ ศิลปนิ ชาวเม็กซกิ ัน – อเมรกิ ัน ที่ร้จู กั กนั ในช่ือปคิ าโด และการทำแทน่ บชู า เธอได้รับมรดกแห่งชาติ สมาคมจากการบริจาคเพื่อศลิ ปะแหง่ ชาติในปี 2005 ซึ่งเป็นเกียรติ สูงสดุ ของสหรฐั อเมรกิ าใน ศิลปะพนื้ บ้านและดงั้ เดิม

P A G E | 36 • Catalina Delgado Trunk : เธอเติบโตขึ้นมาในเม็กซิโกซิตี้และ ตอนนอี้ าศยั อยูใ่ นอลั บูเคอร์คี งานศลิ ปะของเธอไดร้ ับการแนะนำใน พิพิธภัณฑ์เชน่ พพิ ิธภัณฑ์แห่งชาตขิ องชาวอเมรกิ ันอินเดียนของสมธิ โซเนียนและพพิ ธิ ภัณฑ์ศิลปะร่วมสมยั ในคานาซาว่าประเทศญีป่ ุน่

P A G E | 37 La Catrina (โครงกระดกู คาทรนิ า่ ) เมื่อพูดถึง Day of the Dead แล้วจะไม่พูดถึงโครงกระดูกผู้หญิงที่เป็น สัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้ก็คงไม่ได้ ชื่อดั้งเดิมของเธอคือ La Calavera Garbancera เป็นผลงานภาพพิมพ์โลหะของศิลปินและนักเขียนการ์ตูนล้อ การเมืองชาวเม็กซิโก โฮเซ่ กัวดาลูเป โพซาดา (José Guadalupe Posada) ภาพของโครงกระดกู สวมหมวกภาพนไี้ ด้รับการตีพมิ พ์อยา่ งแพรห่ ลายในช่วงปี 1910 – 1930 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเสยี ดสผี ้หู ญิงเมก็ ซิโกพ้นื เมอื งชนชั้นกลาง ท่อี บั อายรากเหงา้ ของตัวเองและพยายามแต่งตัวเลียนแบบชาวต่างชาติ ทั้งยัง ทาตัวทาหน้าด้วยเครื่องสำอางเพื่อให้ผิวขาวเหมือนชาวยุโรป และสวมหมวก ทรงลกู พลมั ขนาดใหญ่ ซ่งึ เป็นหมวกทีช่ าวฝรั่งเศสชั้นสงู นิยมใสก่ นั

P A G E | 38 ตอ่ มาในปี 1947 ดิเอโก รเิ วรา (Diego Rivera) ศลิ ปนิ ชาวเมก็ ซโิ กซ่ึงเป็นสามี ของ ฟรีดา คาห์โล (Frida Kahlo) ได้วาดภาพจิตรกรรมฝาผนังชื่อ ‘Sueño de una Tarde Dominical en la Alameda Central’ หรือ ‘Dream of a Sunday Afternoon in Alameda Park’ เป็นภาพการรวมตัวกนั ของบุคคลผู้ มชี อื่ เสียงในช่วงประวตั ิศาสตร์ 400 ปีของประเทศเมก็ ซิโก ในผลงานชิ้นนี้ ดิเอโกนำเอาภาพโครงกระดูกสวมหมวกที่ของเดิมมีแค่ท่อน ไหล่มาต่อยอดดว้ ยการวาดชุดยาวหรูหราแบบเตม็ ตัวให้เข้ากับหมวก และวาง ตำแหนง่ ใหย้ นื อยกู่ ลางภาพ มอื ข้างซา้ ยของโครงกระดกู คลอ้ งแขนกับโพซาดา ซึ่งเป็นผู้สร้างเธอข้ึนมา (ผู้ชายในสูทสีดำ ถือไม้เท้า) ส่วนข้างขวาก็จับมือกับดิ เอโกตอนเป็นเด็ก (ผู้ชายตัวเลก็ หมวกสขี าว) มีฟรดี าใส่ชดุ พืน้ เมืองประจำชาติ ยืนเยอื้ งไปดา้ นหลัง และดิเอโกกไ็ ด้ตั้งช่อื ใหก้ บั โครงกระดูกตัวน้ีใหมว่ ่า ‘คาทริ นา่ ’ (Catrina)

P A G E | 39 การรวมตัวกันของบุคคลท่ียังมีชีวิตอยู่กับบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ตายไปแลว้ บนภาพจติ รกรรมฝาผนังชิน้ นี้สื่อถึงมุมมองและแนวคดิ ของชาวเม็กซโิ กที่มีต่อ ความตาย ว่าไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวหรือน่าหวาดกลัว แต่เป็นสิ่งที่ชาวเม็กซิโกอ้า แขนรับด้วยความเต็มใจ โครงกระดูกในชุดสตรีสูงศักดิ์ หรือ ‘คาทริน่า’ ใน บริบทของภาพนี้จึงไม่ได้เป็นเพียง ‘La Calavera Garbancera’ แต่ยังได้รับ การเชื่อมโยงถึง ‘Lady of the Dead’ หรือ ‘เทพีแห่งความตาย’ ตามความ เช่ือของชาวแอซเทก็ อกี ดว้ ย เมื่อเวลาผ่านไป คาทริน่าก็กลายเป็นสญั ลักษณ์สำคัญของเทศกาลเฉลิมฉลอง วันแห่งผู้ล่วงลับ และเป็นเทพีแห่งความตายที่ชาวเม็กซิโกรักใคร่ และการท่ี ชาวเมก็ ซโิ กแตง่ ตัวเปน็ คาทรนิ ่า ทำเค้ก ทำขนมปงั และคุกก้ี รปู คาทรินา่ หรือ มีของแต่งบ้านเป็นลวดลายคาทริน่า ฯลฯ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการ ‘หยอกล้อ’ กบั ‘ความตาย’ ด้วยอารมณ์ขันทัง้ สิ้น

P A G E | 40 Mexican Artist José Guadalupe Posada José Guadalupe Posada เ ก ิ ด เ มื่ อ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1852 ในซาน ม า ร์ ก อ ส เ มื อ ง อ า ก วัส ก า เ ลี ย น เ ต ส ประเทศเม็กซิโก เป็นศิลปินเม็กซิกันท่ี มีช่อื เสยี งในการแกะสลกั ของเขาซึ่งเขา เป็นตวั แทนรปู แบบที่นยิ ม เขาใช้ศิลปะ ของเขาในการวิจารณ์สังคมและออก แรงอิทธิพลอย่างมากต่อคนหนุ่มสาวที่ ดำเนินการเคลื่อนไหวของการเกิดใหม่ ของจิตรกรรมฝาผนงั เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ยี่สิบ José Guadalupe Posada ได้อุทิศตนเพื่อแสดงให้ เห็นถึงสิ่งพิมพ์ทางการเมืองมากมาย เขาเป็นตัวแทนขบขันของความคับข้อง ใจท่กี ระทำโดยชนชัน้ กลางกับชาวเมก็ ซกิ นั ซ่งึ จมอย่ใู นความยากจน

P A G E | 41 จนกระท่งั เขาเสียชีวติ เขาไดท้ ำการแกะสลกั ท่ีเกีย่ วข้องกบั หัวข้อของการปฏิวัติ เมก็ ซกิ นั แสดงการวพิ ากษว์ ิจารณท์ างสงั คมอยา่ งลึกซ้ึงและในขณะเดียวกันก็มี บันทึกกราฟกิ ตามลำดับเหตุการณท์ เ่ี กิดข้ึนในประเทศ สไตล์ศิลปะขัน้ ที่1 เขาก้าวข้ามพรสวรรค์ของเขาในฐานะช่างภาพพิมพ์แ ละผู้สร้างภาพเชิง พาณิชย์และศาสนาโดยเฉพาะ แต่ยังมีการ์ตูนล้อเลียนที่ได้รับการยอมรับใน เมืองหลวงเปดิ ประตเู มอื งเมก็ ซิโกสู่โปซาดา

P A G E | 42 สไลต์ศิลปะข้ันท่ี 2 เร่ิมตน้ ข้นึ ในปี 1880 เมื่อ José Guadalupe Posada เรม่ิ ทดลองทำซ้ำโดยใช้ การแกะสลักโลหะหรือไม้ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่เกือบจะเป็นแบบฉบับ แต่ อนุญาตให้เขาดำเนินการต่อในตลาด เขาได้รับอิทธิพลจากหนังสือพิมพ์ทาง การเมืองและเหน็บแนมมากมายทีเ่ กดิ ขึ้นในกองในหมู่พวกเขา ตะเกียงวิเศษ, Facundo หรือ หมอผี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาก็สร้างงานศิลปะ ห้อง สว่ นตัวของสตรี, นั่นคอื การถ่ายภาพบคุ คลทใ่ี กลช้ ิด ในซรี ยี ท์ เ่ี รียกว่า สัจนิยม, พบผู้หญิงคร่งึ เปลอื ยกายในสถานการณต์ ่าง ๆ

P A G E | 43 ศลิ ปะข้นั ที่ 3 เมื่อJ osé Guadalupe Posada สามารถเข้าถึงจุดสูงสุดของความสามารถ ของเขาแสดงให้เห็นวา่ เขาเปน็ ศิลปินที่เป็นผูใ้ หญ่มากข้ึนและมีความเชี่ยวชาญ ในเทคนิคของเขา ในช่วงเวลานี้งานที่ร่ำรวยที่สุดของศิลปินเกิดขึ้นซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการ ทำงานของเขาเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันซึ่งในกรณีนี้คือการปฏิวัติเม็กซิกัน อาจกลา่ วไดว้ า่ เขาเปน็ นกั บวชท่ไี ด้รบั ความนยิ ม อย่างไรก็ตามมีความแตกต่าง เก่ยี วกบั ตำแหนง่ ที่ศลิ ปนิ แสดงผลงานของเขา.

P A G E | 44 Diego Rivera เกิดเมื่อ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1886 ในปี 1910 ถึง 1920 เป็นช่วงเวลาที่ประเทศ เม็กซิโกมีการปฏิวัติและสงครามกลางเมืองตลอดเวลา โดยชาวเม็กซิกันไดพ้ า กนั ออกมาตอ่ สูเ้ พื่อขจดั ความแตกตา่ งระหว่างชนชั้นตำ่ กับชนชน้ั สงู ดงั นั้นเม่ือ Diego Rivera ได้เห็นความลำบากทุกข์ยากของเพื่อนร่วมชาติ เขาจึงหยิบ แปรงพ่กู นั ออกมาระบายภาพแสดงความขัดแย้ง และความอยุตธิ รรมทั้งหลาย ที่เกิดขึ้น Rivera นั้นเป็นคนที่ภูมิใจในเชื้อสายอินเดียนของตนมาก และรู้สึก ชื่นชมความสามารถด้านศิลปะของคนอินเดียน เขาจึงมีความสนใจศึกษา ศิลปะอินเดยี น ต้ังแตเ่ ด็ก

P A G E | 45 ในปี 1930 Rivera และ Frances Toor ได้ตีพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับJosé Guadalupe Posada ซง่ึ มกี ารแกะสลกั ของเขาหลายร้อยครงั้ แนะนำการ์ตนู ท่ี ไม่มีคุณค่าอีกต่อไปจนกลายเป็นงานศิลปะ การจารึกที่โด่งดังที่สุดของ Posada“ La Calavera Catrina” (1910-13) หรือเพียงแค่“La Catrina” กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญสำหรับ La Muerte และวันแห่ง ความตายในวฒั นธรรมเม็กซกิ นั Dream of a Sunday Afternoon in Alameda Park | Diego Rivera (1886-1957)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook