Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore JESUS CHRIST

JESUS CHRIST

Published by Kachornpon, 2019-12-11 03:07:30

Description: JESUS CHRIST: ความลับของพระเยซู
13580067_รัชกร วรรณพฤกษ์_สาขาธุรกิจ

Search

Read the Text Version

คำ� นำ� เม่ือพดู ถงึ ศาสนาคริสตค์ ุณจะนึกถงึ อะไร?? คัมภีรไ์ บเบลิ โบสถ์ หรอื ไมก้ างเขนแต่ ศาสนาคริสต์น้นั ยังมีอกี หนึ่งสิ่งที่ส�ำคญั ทีข่ าดไมไ่ ดแ้ ละยังเปน็ จดุ กำ� เนิดของศาสนาคริสต์ อีกด้วย นน่ั คือพระเยซผู เู้ ปน็ ศาสนาของศาสนาคริสต์ คริสต์ศาสนิกชน เรยี กพระองคว์ า่ พระเยซูคริสต์ เพราะถอื ว่าพระองคท์ รงเปน็ พระผูช้ ่วยให้รอดของโลกและยงั เป็นพระบุตร ของพระผ้เู ปน็ เจ้า หนงั สือ THE TOP SECRET OF JESUS เล่มน้ี แน่นอนวา่ ชอื่ หนังสอื THE TOP SECRET OF JESUS น่ันหมายความวา่ จะบอกเล่าเรือ่ งราวประวตั ิศาสตรต์ น้ ก�ำเนดิ ของ ศาสนาครสิ ตเ์ หตุการณส์ ำ� คญั ตา่ งๆและรวม ไปถงึ บางสิง่ ทค่ี ุณอาจไมเ่ คยรมู้ ากอ่ นเกีย่ ว กบั พระเยซคู ริสต์ท�ำให้ทราบถงึ ค่านยิ มความเชอื่ ของคนในยคุ สมยั นน้ั อกี ดว้ ย เนื่องจาก เหตุการณต์ า่ งๆนน้ั ผ่านมาเป็นเวลานานหลายพันปี การประสตู ขิ องพระเยซคู รสิ ต์ อัตชีวประวตั ขิ องพระเยซูคริสต์ และการฟน้ื คืนชีพของพระเยซคู รสิ ต์ เป็นตน้ ผู้เขยี นหวังและเช่ือมัน่ ว่าหนงั สอื THE TOP SECRET OF JESUS เล่มนนี้ นั้ จะทำ� ใหผ้ ู้อ่านเขา้ ใจ และทราบถงึ เหตุการณส์ �ำคญั อตั ชีวประวัตขิ องพระเยซูชดั เจนมากย่งิ ขน้ึ และร้สู ึกสนุกไปกบั เรอ่ื งราวในอดตี และความเปน็ มาของศาสนาคริสต์อย่างแนน่ อน รัชกร วรรณพฤกษ์



04 สาวกทัง้ 12คน 25 - 32 05 พระราชกจิ ของ พระเยซู 33 - 40 06 ค�ำท�ำนายเร่อื งมรณกรรมของพระเยซู 41 - 46 07 การถกู กลา่ ว4ห7า - 54 08 การถูกตรงึ กางเขน 55 - 64 09 การฟนื้ คืนจากความตาย และเสด็จส่สู วรรค์ 65-78 บรรณานกุ รม 79

ส า ร บั ญ 01 การก�ำเนดิ ของ 1 -12 พระเยซู ปฐมวัย 02 13 - 20 03 การบัพตศิ มา 21 - 24

พระเยซคู รสิ ต์ (Jesus Christ) บงั เกดิ ขน้ึ มาในต�ำบลเล็กๆ แหง่ หนงึ่ ช่ือเบธเลเฮม (Bethlehem) ในแคว้นยดู าห์ ตรงกับปพี ุทธศักราช 543 วนั ที่บังเกิดข้นึ ไมม่ กี ารบันทกึ แน่นอน แตศ่ าสนจกั รได้กำ� หนดเอาวนั ท่ี 25 ธันวาคม เป็นวันเริ่มครสิ ตศกั ราชที่ 1 โดยมารดามนี ามวา่ มารีอา (Maria) นางมารีอาน้ันเปน็ ธดิ าของโยคมิ และนางแอนนา เมื่อโยคิมกับแอนนาสมรส อยู่กินกันมาเป็นเวลานานแต่กห็ ามบี ตุ รไม่ โยคมิ จงึ ไดบ้ วงสรวงออ้ นวอนพระผูเ้ ป็นเจา้ ขอให้ ประทานบตุ รท่ีดใี ห้สกั คนหนง่ึ เมื่อไดบ้ วสรวงเชน่ น้บี ่อยๆเข้า จนในที่สดุ โยคิมกไ็ ด้บุตรีสมความ มุง่ หมาย และได้ตัง้ ชือ่ วา่ มารอี า 2

01 การก�ำเนิดของ พระเยซู 1

แต่เม่อื โยเซฟยังตริตรองด้วยเร่อื งนี้ ในคำ�่ คืนวันน้นั กไ็ ดม้ ที ูตของพระเจา้ มาส�ำแดงในฝันว่า \"โยเซฟ อยา่ วิตกในการที่จะรบั เอานางมาเรียมาเปน็ ภรรยาเจ้าเลยเพราะผู้ทจี่ ะ ปฏสิ นธิ ในครรภ์ของนางเปน็ โดยเดช พระวิญญานบรสิ ทุ ธิ์ นางจะประสตู ิเปน็ บุตรชาย แลว้ เจา้ จงเรยี กนามทา่ นว่า เยซู ( Jesus ) เพราะวา่ ท่านเป็นผูท้ ีจ่ ะโปรดชว่ ย พลไพร่ ของทา่ นใหร้ อดจากความผดิ ของเขา” 4

นางแอนนาผูเ้ ป็นมารดาได้นำ� มารีอาไปถวาย ไวท้ ีว่ ัดต้ังแตย่ งั เยาว์ เพอ่ื ให้ไดเ้ รียนวชิ าศาสนา และการเยบ็ ปักถักร้อย ต่อมาไม่นานบิดา มารดาของมารอี าได้ถึงแก่กรรม เม่อื มารอี า โตข้ึนเปน็ สาวแล้ว พวกพระทวี่ ดั เหน็ วา่ นาง สมควรจะมีสามไี ด้ แตน่ างไม่สมคั รใจท่ีจะมี สามี แตก่ ส็ ุดวสิ ยั ที่จะหลีกเลย่ี งไดเ้ พราะ กฎหมายบา้ นเมืองมอี ยู่วา่ หญงิ สาวจะไมม่ ีผ้ปู กครองไม่ได้ พวกพระเหน็ ว่าโยเชฟซึง่ เปน็ ช่างไม้ เปน็ ผ้สู มควร จึงแนะน�ำใหโ้ ยเชฟไปสขู่ อ นางมารอี าจึงรับหมนั่ เมื่อสขู่ อรบั หมัน้ ไดแ้ ล้วยังไม่ได้ แต่งงานอยกู่ นิ ดว้ ยกัน แต่ปรากฏว่านางมารีอามีครรภ์ การตง้ั ครรภ์ของมารีอาไมเ่ หมือนสตรีอ่นื เพราะเปน็ การต้งั ครรภ์โดยอานภุ าพของพระผูเ้ ป็นเจ้าฉะน้ันพระเยซจู งึ เป็นบตุ รของพระเจา้ ส่วน โยเซฟ (Joseph)คูห่ มน่ั ของนางมารีอากเ็ ปน็ คนดมี คี วามสัตยซ์ ื่อ ไมต่ ้องการท่ีจะให้ขา่ วนี้ แพร่หลาย จึงคิดทีจ่ ะใหน้ างมารอี าหลบหนีไปเสียอย่างลับ ๆ 3

เมอ่ื เขาท้งั สองอยทู่ นี่ ่ัน กถ็ งึ เวลาที่มารีอาประสตู ิ “นางจงึ ประสูติบตุ รชายหัวปี เอาผา้ ออ้ ม พันและวางไวใ้ นรางหญา้ เพราะว่าไม่มีทวี่ า่ งใหเ้ ขาในโรงแรม” พระคริสต์เจ้าได้ทรง บงั เกดิ มา หลังจากนนั้ แปดวันโยเซฟจัดพธิ ิสหุ นตั ให้ พระกมุ าร และตงั้ ช่อื วา่ เยซู 6

เมอื่ โยเซฟตื่น ท่านกไ็ ด้ทำ� ตามท่ีทตู ของพระเจา้ ส่งั และรบั นางมารีอาเป็นภรรยา ขณะทีม่ ารีอา กำ� ลังตงั้ ครรภ์อยูน่ ้นั จักรพรรดอิ อกัสตัส ไดม้ ีรับสั่งใหจ้ ดทะเบียนส�ำมะโนครวั ทว่ั ทงั้ แผ่นดิน คนทั้งปวงตา่ งต้องเดนิ ทางกลับไปข้นึ ทะเบยี นยังเมอื งของตน โยเซฟกบั มาเรยี จึงต้องเดินทาง จากเมืองนาซาเรธ็ (Nazareth) แคว้นกาลลิ ีไปยังเมืองของดาวิดเมืองหนึง่ ชื่อ เบธเลเฮม (Bethlehem) ในแควน้ ยดู าห์ เพราะโยเซฟเป็นเช้ือสายของกษัตรยิ ด์ าวดิ 5

เมอื งประสูตขิ องพระเยซู เมอื งเบธเลเฮม (Bethlehem) แคว้นยูดาหต์ งั้ อยตู่ อนเหนอื ของ เมืองนาซาเร็ธ (Nazareth) แคว้นกาลิลี ในปัจจุบนั เมืองเบธเลเฮม (Bethlehem) ตงั้ อย่ทู างใต้ของกรงุ เยรูซาเลม็ ห่างประมาณ 8 กโิ ลเมตร ไม่มเี มืองใดในโลกทีม่ ีประวัติและสถานภาพสูงสง่ เทา่ เบธเลเฮม เนอ่ื งจาก เป็นทเ่ี กดิ ของพระเยซคู รสิ ต์เบธเลเฮมเป็นที่อยขู่ องชุมชนคริสเตยี นทีเ่ กา่ แก่ที่สุดในโลก แตจ่ �ำนวนประชากรก็ลดลงไปเป็นจ�ำนวนมากจากการโยกยา้ ยออกจากเมอื ง 8

ในแถบนัน้ มคี นเลีย้ งแกะอย่ใู นทุ่งนา เฝา้ ฝูงแกะของเขาในเวลากลางคนื มีทตู องคห์ นึ่งของพระ เปน็ เจ้ามาปรากฎแก่เขา และพระสิริของพระเปน็ เจา้ สอ่ งล้อมรอบเขา และเขากลวั นกั ฝ่ายทูตองค์นนั้ กลา่ วแกเ่ ขาวา่ “อยา่ กลวั เลย เพราะเราน�ำขา่ วดีมายังทา่ นทงั้ หลาย คอื ความปรดี ี ยง่ิ ซ่งึ จะมาถึงคนทง้ั ปวง เพราะวา่ ในวนั นี้พระผู้ชว่ ยให้รอดของทา่ นทัง้ หลายคอื พระคริสตเจ้า มาบงั เกิดทีเ่ มอื งดาวดิ นีจ่ ะเปน็ หมายส�ำคัญแกท่ า่ นทัง้ หลาย คือท่านจะไดพ้ บพระกุมารน้นั พนั ผ้าอ้อมอย่ใู นรางหญ้า” 7

นักบุญโยเซฟ ( Joseph )เปน็ คสู่ มรสของนางมารีอาหญงิ พรหมจารแี ละเปน็ บิดา บุญธรรมของพระเยซเู จา้ ท่านสืบเชอ้ื สายโลหิตจากกษตั รยิ ด์ าวดิ ประกอบอาชพี ช่างไม้ 10

พระนางมารีอาหรอื นางมาเรยี ( Maria ) ถวายตวั แดพ่ ระเปน็ เจา้ โดยต้งั ใจจะ ถือพรหมจรรย์ เม่ือถงึ เวลาอนั ควรกต็ ้องแต่งงานกบั ชายคนหนง่ึ เพอื่ เปน็ คอู่ ุปถัมภ์ พระนางมารีอาไดห้ มน้ั กบั นักบุญโยเซฟ 9

ค�ำว่า \"เยซู\" มาจากคำ� ในภาษากรกี คือ \"เยซุส\" ซึ่งมาจากการถ่ายอักษรช่อื Yeshua [เยชูวา] ในภาษาแอราเมอิกหรอื ฮบี รูอกี ทอดหนึ่ง คริสตชนอาหรับเรยี กเยซวู ่า \"ยาซอู \"ฺ ตาม ภาษาซเี รยี ก ส่วนชาวอาหรบั มสุ ลิมเรยี กวา่ \"อซี า\" ตามอลั กรุ อาน ความหมายคอื \"ผชู้ ว่ ยให้รอด\" เป็นชือ่ ทใ่ี ช้กนั มากในหมชู่ าวยิวต้ังแต่สมยั โยชวู าเป็นตน้ มา ภาษาละตินแผลงเป็นเยซูส ภาษา โปรตเุ กสแผลงตอ่ เป็นเยซู ภาษาไทยทบั ศพั ทภ์ าษาโปรตเุ กสมาจนทกุ วันน้ี สว่ นค�ำวา่ \"คริสต์\" เป็นสมญาซึ่งมาจากค�ำในภาษากรกี ว่า \"ครสิ ตอส\" [Christos] ซึง่ เป็นคำ� แปลของคำ� ภาษาฮบี รู Messiah อันหมายถึง \"ผไู้ ดร้ บั การเจิม\" ชาวอาหรับเรียกวา่ \"มะซฮี \"ฺ ซงึ่ หมายถงึ การแตง่ ต้ังใหท้ ำ� หน้าที่สงู สง่ เชน่ พระมหากษัตริย์ ปุโรหติ ผูเ้ ผยพระวจนะ เป็นตน้ เมื่อราชอาณาจกั รยดู าห์ เสยี แกบ่ าบโิ ลน ก็ส้นิ กษตั รยิ ์ท่ีไดร้ บั การเจิม ต่อจากนั้นชาวยวิ ก็ โหยหา พระเมสสยิ าห์ทจี่ ะมาสร้างอาณาจกั รใหมข่ องพระเจ้า \"พระคริสต์\" จึงเป็นชอื่ ต�ำแหน่ง ไมใ่ ชช่ ่อื ตัวบคุ คล ผนู้ พิ นธพ์ ระวรสารสี่ทา่ นมกั เรียกพระองค์วา่ \"พระเยซู\" และเพอื่ ใหแ้ ตกต่างจาก คนอืน่ ๆ ทชี่ ่อื เหมือนกัน กเ็ รยี กเป็น \"พระเยซูชาวนาซาเรธ\" หรือ \"พระเยซบู ตุ รของโยเซฟ\" แต่ นักบญุ เปาโลหรอื เปาโลอัครทูตมักเรียกพระองค์วา่ \"พระคริสต\"์ หรอื \"พระเยซคู รสิ ต์\" ทีเ่ รียกว่า \"พระครสิ ต์เยซู\" ก็มี 12

โยเซฟไดร้ บั การยกย่องให้เป็น องคอ์ ปุ ถมั ภ์ของผู้ก�ำลังสิน้ ใจ เพราะท่านละโลกน้ี ไปดว้ ยความเชอ่ื ย่ิงใหญแ่ ละมสี นั ตใิ นดวงใจ โดยพระเยซเู จา้ และพระแมม่ ารอี าดแู ลอยู่ เคียงขา้ ง ธรรมประเพณถี ือกนั วา่ ท่านส้ินใจวันที่ 19 มนี าคม ก่อนท่พี ระเยซูเจ้าจะทรง เร่ิมภารกิจของพระองค์ นอกน้ัน ท่านเป็น ผู้ปกป้องพรหมจรรย์ เพราะตลอดชวี ิตของ ท่าน ทา่ นให้ความเคารพต่อมารีย์ในฐานะท่เี ป็นพระมารดาพระเจา้ ในเวลาเดียวกนั โย เซฟได้รบั เคารพนบั ถือในฐานะ องค์อุปถัมภข์ องพระศาสนาจักรสากล และท่านให้ความ ช่วยเหลอื ทุกคนที่เรยี กหาท่านมาโดยตลอด 11

เมือ่ พระเยซไู ด้สมภพ ณ ต�ำบลเบธเลเฮม แคว้นยูดา ครั้งน้นั เฮโรดเปน็ กษตั ริยผ์ ู้ครองกรุง เยรซู าเลม็ ไดพ้ วกนกั ปราชญจ์ ากทศิ ตะวนั ออก คอื เปอร์เซยี เดินทางมายังกรุงเยรซู าเลม็ แล้วถามว่า “ทา่ นผู้ที่บงั เกดิ มาเป็นกษัตริย์ชาติยดู าอยู่ทีไ่ หน?” เพราะวา่ เม่อื เราผอู้ ยู่ในทศิ ตะวนั ออกได้เห็นดาวของท่านปรากฎขึน้ เราจงึ หวงั จะถวาย นมสั การท่าน คร้ันกษตั ริยเ์ ฮโรดได้สดับเช่นนน้ั ก็ทรงหวาดหวนั่ สะดุง้ กลวั ไมส่ บาย พระทัย ท้ังชาวกรุงเยรูซาเลม็ กพ็ ลอยหวน่ั กลวั ดว้ ยจึงมีรบั สั่งให้ประชุมบรรดาปุโรหติ ใหญ่ กับพวกอาลกั ษณ์ แห่งพลเมอื ง แล้วตรัสถามวา่ “ผู้เป็นพระครสิ ต์นนั้ จะบงั เกิดแหง่ ใด” พวกเขาทลู ว่า “ทต่ี �ำบลเบธเลเฮม็ แควน้ ยดู าห์ 14

02 ปฐมวยั 13

ครัน้ พวกนักปราชญก์ ลบั ไปแลว้ ทตู ของพระเจ้าองคห์ นงึ่ ไดม้ าปรากฎแก่โยเซฟในฝนั วา่ “จงลกุ ขึน้ พากุมารกับมารดาหนีไปยังประเทศอายมุ ุขโต และคอยอยทู่ นี่ น่ั จนกวา่ เราจะ ”บอกเจ้า เพราะวา่ เฮโรดจะแสวงหากมุ ารเพอื่ ประหารชีวติ เสีย ในเวลากลางคนื โยเซฟจึงได้ลกุ ขนึ้ พากมุ ารกับมารดาเดนิ ทางไป ยังประเทศอายุมุขโต (อียปิ ต์) และไดอ้ ยทู่ นี่ ่ันเป็นชัว่ คราวกอ่ น ครน้ั กษัตรยิ ์เฮโรดทก่ี รุงเยรซู าเลม็ ทรงทราบว่า พวก นักปราชญด์ หู ม่ินก็ทรงกร้วิ โกรธยง่ิ นกั จึงทรงสงั่ ใหจ้ ับเด็กชายตง่ั แตอ่ ายสุ องขวบลงมาใน ต�ำบลเบธเลเฮม และต�ำบลใกลเ้ คียงอ่ืน ๆ แลว้ น�ำไปประหารชวี ิต ยงั ผลทำ� ใหเ้ ดก็ ชายถกู จับ ไปประหารชวี ติ ตายเสียเป็นจำ� นวนมาก 16

กษตั ริยเ์ ฮโรดได้เชญิ พวกนักปราชญ์เขา้ เฝ้าเป็นการลบั แลว้ ได้ตรสั ถามถึงทด่ี าวนัน้ ปรากฎแล้วจงึ ได้ ใหพ้ วกนักปราชญเ์ ดนิ ทางไปยงั ตำ� บลเบธเลเฮ็ม พรอ้ มท้งั มรี ับสั่ง “จงไปหากุมารนั้นเถิด เมื่อพบแล้วจงกลับมาแจ้งแก่เรา เพอื่ เราจะได้ไปถวายนมสั การ ทา่ นด้วย” เมอ่ื พวกนกั ปราชญ์ไดฟ้ ังค�ำของกษัตริย์แล้วก็ได้เดินทางตามดวงดาวซ่งึ เขาไดเ้ หน็ ในทางทศิ ตะวันออกน้ันกไ็ ด้นำ� เขาไป จนมาหยดุ อยู่เหนอื สถานท่ที ก่ี ุมารประทบั อยูน่ น้ั พวกนกั ปราชญก์ ็เกดิ ปตี ิยินดี คร้ันเข้าไปขา้ งในกไ็ ด้พบกมุ ารกบั นางมารีอาผเู้ ป็นมารดา จงึ พากนั ถวายนมสั การกุมารนน้ั แลว้ เปิดหบี หยิบเอาของวเิ ศษ คือ ทองคำ� ก�ำยวน มดยอบ ออกมาถวายเป็นเครอ่ื งบรรณาการ แล้วพวกนกั ปราชญเ์ หลา่ นน้ั ก็ไดย้ ินค�ำหา้ มจาก พระเจ้าในฝนั มิให้กลบั ไปแจง้ ขา่ วแกก่ ษตั รยิ เ์ ฮโรด จึงไดก้ ลับไปยังเมืองของตนทางอน่ื 15

เมื่อพระชนมายุได้ 12 พรรษา ไดไ้ ปฟงั ธรรมในหมอู่ าจารย์ ณ วหิ ารแห่งหน่งึ ในกรุงเยรู กบั มารีอาและโยเซฟ ทรงเป็นเด็กฉลาด ชา่ งสงั เกต ชา่ งคิด สามารถตอบปญั หาไดอ้ ยา่ ง คล่องแคลว่ โดยไดไ้ ต่ถามโยเชฟผู้บิดาและมารอี าผเู้ ปน็ มารดาก็ได้รับ ความแปลกใจว่า ลูก ของตนเปน็ พดู จามเี หตุผลย่ิงกวา่ เดก็ สามัญทัว่ ไป เมอ่ื มีใครถามปญั หาอะไรกบั พระเยซู พระเยซมู ักจะตอบวา่ ประเดี๋ยวกอ่ น ฉันจะถามบดิ าของฉนั ดกู อ่ น คำ� ว่า “บิดา” ในทน่ี ี้ พระเยซูหมายถึงพระเจา้ ซงึ่ เปน็ ลักษณะแสดงวา่ พระเยซู มีภูมิธรรมน้อยนำ� ไปสคู่ วามเป็น ศาสดา 18

ต่อมาคร้นั กษัตรยิ ์เฮโรดพระองค์นสี้ ้ินพระชนม์ ทตู องค์หนง่ึ ของพระเจ้าจงึ ไดไ้ ป ปรากฎในฝันแก่โยเซฟที่ประเทศอายมขุ โตว่า “จงลกุ ขึน้ พากุมารกบั มารดากลับไป ยงั แผน่ ดนิ อิสราเอล เพราะผ้ทู ่แี สวงชีวิตของกุมารนัน้ ตายแล้ว” โยเชฟจงึ ได้พากุมารกับมารดากลบั ไปยังแผน่ ดนิ อิสราเอล โดยได้ไปอาศัย ทีเ่ มอื งนาซาเร็ธ (Nazareth) แคว้นกาลิลพี ระเยซูได้รับการชบุ เลยี้ งดูท่ามกลาง ความสงบและสะอาด มีชีวติ อยูอ่ ยา่ งธรรมดาสามญั สงิ่ แวดลอ้ มต่าง ๆ ในชวี ิตมีแต่ เรอื่ งของศาสนา เร่ืองของธรรดาและนกั พรต 17

เมืองนาซาเรธ็ (Nazareth) ตงั้ อยูเ่ หนอื ระดับน�้ำทะเล 400 เมตร มเี นินเขาล้อมรอม เป็นสถานทท่ี ่พี ระเจ้าทรงกำ� หนดเพ่ือประกาศสาร แห่งการบังเกดิ ขององค์พระบุตร และยงั เปน็ สถานทท่ี พ่ี ระเยซทู รง เจรญิ วัย 20

นอกจากน้ีพระเยซยู ังเจรญิ รอยตามอาชพี ของบิดาคอื มีอาชพี ชา่ งไม้ไดเ้ ปน็ ชา่ งไมช้ ว่ ยบดิ า แมจ้ ะยากจนแตก่ ห็ าโอกาส ศึกษาใฝห่ าความรู้ เชน่ ไดศ้ ึกษาวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ กฎหมายเฮบรู บทกวี และได้ทรงศึกษา ค้นคว้าพระคมั ภรี ข์ อง ศาสนายวิ อย่างละเอียดเปน็ พิเศษ ทรงรอบรภู้ าษาต่างชาติหลายภาษา เชน่ ภาษา อยี ปิ ต์ อาหรบั และ โดยเฉพาะภาษากรีก ยังทรงมีความสามารถพเิ ศษในการ รักษาโรคภยั ไข้เจบ็ ดว้ ยพลังทางจิตอยา่ งสงู 19

เมื่อพระเยซทู รงมีพระชนมายุประมาณ 30 พรรษา พระองคเ์ สดจ็ จากแคว้นกาลลิ ีมา หายอหน์ ทแี่ ม่น�ำ้ จอร์แดน ผูใ้ หศ้ ีลจุ่ม (John the Baptist) การรับศึกษาศีลจ่มุ หรือ รบั บัพตศิ มาเป็นพิธที ใี่ ชน้ �้ำ เป็นเครือ่ งหมายภายนอกเทลงศรี ษะ 3 ครง้ั หมายถึง การ ชำ� ระลา้ งบาปมลทินโทษต่าง ๆ อนั เป็นเคร่อื งหมายแสดงว่าผ้เู ขา้ พิธเี ปน็ ผูเ้ ข้าถงึ พระเจ้า ทำ� นองเดยี วกบั การรบั ไตรสรณคนม์ในพทุ ธศาสนา พระเยซไู ด้ขอรับบพั ตศิ มาหรอื ศลี จมุ่ ตามลัทธิของยอหน์ ณ บริเวณแมน่ �้ำจอรแ์ ดน การขอรบั บัพตศิ มานีค้ รงั้ แรกยอห์ นทูลหา้ มพระเยซวู ่า “ข้าพเจ้าต้องการขอรับบัพตศิ มาจากพระองค์มากกว่า ควรหรอื ที่ พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพเจ้า” แต่พระเยซตู รสั ตอบยอหน์ ว่า “บัดน้ีจงยอมเถิด เพราะ สมควรท่ีเราทง้ั หลายจะกระทำ� ตามสง่ิ ชอบธรรมทุกประการ”ยอห์นจงึ ยอมตามท่ีพระ เยซบู อก 22

03 การบพั ตศิ มา 21

24

เมอื่ พระองคท์ รงรับบพั ตศิ มาแลว้ ในทนั ใดนัน้ กเ็ สด็จขนึ้ จากน�ำ้ และท้องฟา้ ก็แหวกออก และพระองคไ์ ด้ทรงเห็นพระวญิ ญาณของพระเจา้ ดุจนกพริ าบ ลงมาสถิตอยบู่ นพระองค์ และมพี ระสรุ เสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านผนู้ ี้เปน็ บุตรทรี่ กั ของเรา เราชอบใจทา่ นมาก” 23

หลังจากพระเยซรู ับบัพตศิ มาแล้ว พระวิญญาณทรงนำ� พระเยซูเขา้ ไปในถ่นิ ทุรกันดาร พระองคท์ รงอดพระยาหาร 40 วนั 40 คืน และมารได้มาผจญโดยทดลองใจพระองค์ หลายประการ แต่พระเยซูทรงตอบโตม้ ารกับมารโดยอา้ งข้อความในพระคมั ภรี แ์ ละ ทรงขบั ไล่มาร ตรสั ว่า “อา้ ยซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะพระคมั ภีร์มเี ขยี นไวว้ ่าจง กราบนมสั การพระองคผ์ ู้เป็นพระเจ้าของทา่ น และปรนนิบตั พิ ระองค์แตผ่ เู้ ดยี ว” มาร จงึ ละพระองค์ไป และมีเหลา่ ทตู สวรรค์มาปรนนบิ ัตรพระองค์ 26

04 สาวกทงั้ 12คน 25

พระเยซูไดเ้ สดจ็ ไปทัว่ แคว้นกาลลิ ี ทรงสั่งสอนในธรรมศาลา ทรงประกาศข่าวประเสรฐิ เรอื่ งแผ่นดนิ ของพระเจ้า และทรงรักษาโรคภัยไข้เจบ็ ของชาวเมอื งใหห้ าย ในระหว่างนัน้ กติ ติศัพท์ของพระองคไ์ ดเ้ ล่อื งลอื ออกไปทัว่ ประเทศซเี รยี ในฐานะไดท้ รงสนใจความทุกขย์ าก เดอื ดร้อน ของสามัญชน และได้ช่วยเหลือเขาเหลา่ นน้ั ไมว่ า่ จะเปน็ ผ้เู จ็บปว่ ยต่าง ๆ เปน็ ผู้ได้ รบั ทุกข์ทรมาน ผทู้ ี่ถูกผีเข้า คนเป็นลมบ้าหมู และคนเปน็ อมั พาตมาหาพระองค์ พระองค์ ทรงรกั ษาเขาให้หาย และมคี นหมใู่ หญ่มาจากแควน้ กาลิลี และแควน้ ทศบรุ ีและกรงุ เยรูซาเล็ม และแควน้ ยดู าห์ และแมน่ �้ำจอร์แดนฟากตะวนั ออกติดตามพระองค์ไป ต่อมาพระองค์ไดท้ รงเรยี กชายคนหนงึ่ ชือ่ มทั ธวิ ซง่ึ อาชพี เปน็ นายด่านเก็บภาษี ตรัสเขา วา่ “จงตามเรามาเถิด”เขากล็ กุ ข้นึ ตามพระองคไ์ ป เมือ่ พระองคป์ ระทบั เสวยพระกระยาหาร อย่ใู นเรอื น มีคนเก็บภาษี และคนบาปอ่นื ๆ หลายคนเขา้ มารว่ มสำ� รับกับพระเยซู และกบั พวกสาวกพระองค์ เมอ่ื พวกฟารสิ ีเห็นแล้วก็กลา่ วแก่สาวกของพระองคว์ า่ “ท�ำไมอาจารย์ของ ท่านจงึ รับประทานอาหารด้วยกันกบั คนเก็บภาษแี ละคนนอกรีตเล่า” เมอ่ื พระเยซูทรง 28

หลังจากที่พระเยซูได้ออกมาจากหลงอยใู่ นปา่ ไม่นานกไ็ ดท้ ราบว่ามรี บั สั่งให้จับตัวยอห์น ผใู้ หศ้ ลี จุม่ แกพ่ ระองคไ์ ปประหารชวี ิต เนือ่ งจากสอนศาสนาวิปรติ ไปจากคัมภรี ์เดมิ จงึ หลบออกจากเมืองนาซาเรธ็ ตรงไปยงั แควน้ กาลิลที ่องเท่ียวเทศนาอยู่ตามหมูบ่ ้านริม ทะเล ในขณะทรงดำ� เนนิ อย่ตู ามชายทะเลนัน้ ทรงเหน็ พนี่ ้องชาวประมง 2 คนคนหน่งึ ช่อื ซมี อน (Simon) หรอื อกี ชอ่ื ว่า เปโตรหรอื ปีเตอร์ กบั นอ้ งชายชือ่ อนั ดรูว์ (Andrew) ทรงถามคนท้ัง 2 ว่า “ก�ำลังทำ� อะไร?” คนทั้ง 2 ตอบวา่ “กำ� ลังตีอวนจบั ปลา” พระเยซู ตรสั วา่ “จงตามเรามา เราจะช่วย ใหท้ า่ นตีอวนจบั คน” คนท้งั 2 ตอบวา่ เลอื่ มใสกต็ าม ไป พระเยซูทรงพบพี่นอ้ งชาวประมงอีก 2 คน คอื เจมส์ (James) หรือยากอบ กับจอหน์ (John) ก�ำลงั หาปลาอยู่ พระเยซทู รงเรยี กให้ตามไป สองพนี่ ้องกต็ ามไป และพระองค์ ได้ทรงสัง่ สอนคนในธรรมศาลา และทรงรกั ษาโรคภยั ไข้เจ็บใหแ้ กป่ ระชาชนในทีต่ ่างๆ ท่ี พระองคเ์ สด็จผ่านไป คนมากมายก็ติดตามพระองค์ 27

นายทหารโรมันคนนน้ั ก็รบี เดนิ ทางกลับบ้านด้วยความเชอื่ พอถึงบา้ นกเ็ ห็นลกู ชาย หายจากความเจบ็ ปว่ ยเป็นปกติ อย่างนา่ อัศจรรย์ ผลแหง่ การเทศนาและการเข้าใจช่วย เหลอื ผู้เดอื ดรอ้ นตกทกุ ข์ไดย้ ากทง้ั หลายโดยไมเ่ ลือกหนา้ เช่นน้ี จึงได้มีผู้คนแตกต่นื มาเฝ้ารุม ล้อมพระองคเ์ ปน็ จ�ำนวนมาก รวมทัง้ ไดต้ ดิ ตามไปดูพระองค์เป็นขวัญตา นอกจากชาวแคว้น กาลิลเี องแลว้ ยังมชี าวเมืองชาวแคว้นอ่นื ๆ ไดด้ น้ั ดน้ มาเฝ้าพระองค์ แมจ้ ะตอ้ งคา้ งคนื คา้ ง แรมก็ไม่ยอ่ ทอ้ 30

ทราบดังน้ันแลว้ กต็ รสั วา่ “คนเจบ็ ต้องการหมอ แต่คนสบายไม่ตอ้ งการ ท่านทงั้ หลาย จงไป เรียนคมั ภรี ์ขอ้ น้ใี หเ้ ขา้ ใจ ทว่ี า่ เราประสงคค์ วามเมตตา ไม่ประสงคเ์ ครอ่ื งสตั วบชู า ดว้ ยวา่ เรามิได้มาเพือ่ จะเรียกคนท่ีเห็นว่าตัวชอบธรรม แตม่ าเรียกคนทีพ่ วกท่านว่านอกรตี ใหก้ ลับใจเสยี ใหม่” คราวหน่งึ ขณะท่พี ระเยซกู �ำลังยืนเทศนาใหค้ นทั้งหลายฟงั อยูใ่ นหมู่บ้านแห่ง หนง่ึ แคว้น กาลลิ ี กม็ ที หารโรมนั คนหน่งึ เดินทางมาพบคนชมุ นมุ กันอยู่ เขา้ ไปดูเห็นพระเยซกู ำ� ลัง ยืนเทศนาอวดอ้างเกยี รติคุณของพระเจา้ อยู่ เกิดความเสือ่ มใส ไดข้ อร้องให้พระเยซอู อก ไปชว่ ยรักษาโรคให้ลกู ชายซง่ึ กำ� ลงั นอนป่วยอยู่ที่บา้ น พระเยซไู ด้ตรัสสั่งนายทหารโรมัน คนน้ันเปน็ ความวา่ “ท่านจงกลับไปหาลกู ของท่านเถดิ ถา้ ท่านเชือ่ ว่าลูกชายของท่านจะหายจาก ความเจ็บปว่ ยด้วยอ�ำนาจของพระเจ้า โรคกจ็ ะอันตรายธานหายไปเอง” 29

32

พระเยซเู สด็จไปทภี่ เู ขาเพอ่ื จะอธษิ ฐาน และได้อธฐิ านตอ่ พระเจา้ ตลอดทัง้ คืนจน รุ่งเช้าพระองค์ทรงเรียกสาวกของพระองค์ แล้วทรงเลอื ก 12 คนออกจากกลุม่ สาวกนนั้ ทพี่ ระองค์ทรงเรียกอัครทูต ( แปลวา่ ผู้ท่ีทรงใช้ไป ) รวมเป็นอัครทูต 12 คน คอื 1. ซีโมน หรือ เปโตร 7. มทั ธาย (มทั ธาย คนเก็บภาษี) 2. อนั ดรูว์ 8. โธมสั (โธมา) 3. เจมส์ หรือ ยาโคโป (ยากอบ) 9. เจมส์หรอื ยาโคโป (บตุ รอาละฟาย) 4. จอหน์ หรือ โยฮัน 10. เลบบายส์ หรืออาดาย 5. ฟลิ ปิ ปี 11. ซมี อน (ชาวคานารอ้ น) 6. บารโ์ ธโลยวิ 12. ยดู าส (ผู้กบฎ เปน็ ผทู้ ีน่ ำ� พาเอา ทหารจับพระเยซ)ู 31

เทศนาบนภูเขา (Sermon on the Mount ) เย็นวันหน่งึ พระเยซูได้เสดจ็ ข้ึนไปบนยอดเขาพร้อมกบั อคั รสาวก 12 คน แตเ่ ชา้ ตรู่ คงดว้ ยมี พระประสงค์จะให้ อัครสาวกไดส้ มั ผัสกับรสชาติแหง่ ความสงบ ในบรรยากาศแล้วพระองคจ์ ึง ตรสั สอนเขาว่า “บคุ คลผู้ใด รสู้ กึ บกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้น้ันเปน็ สุข เพราะแผน่ ดนิ สวรรค์เป็นของเขา” “บุคคลผูใ้ ดโศกเศรา้ ผู้น้นั เปน็ สขุ เพราะวา่ เขาจะได้รับการปลอบประโลม” “บุคคลผ้ใู ดมีใจอ่อนโยน ผนู้ นั้ เปน็ สุข เพราะวา่ เขาจะได้รบั แผน่ ดนิ โลกเป็นมรดก” “บุคคลผู้ใดหวิ กระหายความชอบธรรม ผ้นู นั้ เป็นสุข เพราะวา่ พระเจา้ จะทรงใหอ้ ่มิ บริบรู ณ”์ “บุคคลผู้ใดมใี จกรุณา ผูน้ ้ันเปน็ สุข เพราะวา่ เขาจะไดร้ ับพระกรุณาตอบ” “บคุ คลผใู้ ดมีใจบริสุทธ์ิ ผู้นัน้ เปน็ สุข เพราะวา่ เขาจะไดเ้ ห็นพระเจา้ ” “บุคคลผู้ใดสรา้ งสันติ ผ้นู น้ั เปน็ สุข เพราะว่าพระเจา้ จะทรงเรยี กเขาวา่ เปน็ บุตร” 34

05 พระราชกิจของ พระเยซู 33

แต่พระเยซสู อนวา่ การแกแ้ คน้ เปน็ ส่งิ ไมบ่ งั ควรทำ� ลาย แมน้ ใครเขาตบหนา้ เราข้าง หน่ึง ก็หนั อกี ข้างหน่ึงใหเ้ ขาตบอกี ดีกวา่ หรอื เขาอยากไดเ้ สอ้ื ชั้นในของเรา เรากค็ วรให้เส้ือช้นั นอกแกเ่ ขาด้วยและสอนใหอ้ ภยั มเี มตตา แม้แก่ศตั รู โมเลสสอนว่า หา้ มลว่ งประเวณีทางกายและวาจา แตพ่ ระเยซูสอนว่า แม้แต่ทางใจ (ความคดิ ) ก็หา้ มด้วยเชน่ กนั โมเลสสอนวา่ ไม่ควรทราบสาบาน แตพ่ ระเยซสู อนว่า อยา่ สาบานเลยดกี วา่ และค�ำสอนหนึง่ พรเยซูทรงสอนทีน่ บั ถอื วา่ สำ� คญั มาก ซึง่ ปัจจบุ ันถอื วา่ เปน็ “กฎทองคำ� จองคริสต์ศาสนา” (Golden Rule) กค็ อื \"จงปฏิบัติต่อผ้อู ืน่ เหมือนอย่างท่ีเราต้องการให้เขาปฏบิ ตั ติ อ่ เรา” นอกจากนกี้ ท็ รง สอนว่า ทำ� บญุ ไมต่ ้องเอาหนา้ อย่าสะสมทรัพย์ในโลกนี้ ระวังผู้เป็น ประปราชญแ์ ต่ใจเป็นสุนัข รู้คนดว้ ย ผลของงานเชน่ เดยี วกับรจู้ ักต้นไมเ้ พราะผลไม้ เปน็ ตน้ 36

“บุคคลผ้ใู ดตอ้ งถูกขม่ เหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผูน้ น้ั เป็นสุข เพราะวา่ แผ่นดนิ สวรรค์ เป็นของเขา” “เมือ่ เขาจะตเิ ตียนข่มเหงและนนิ ทาวา่ รา้ ยท่านท้ังหลายเปน็ ความเทจ็ เพราะเรา กับทา่ นก็ เป็นของเขา” “จงชืน่ ชมยินดี เพราะว่าบ�ำเหน็จของทา่ นมีบริบูรณใ์ นสวรรค์ เพราะเขาได้ขม่ เหงผเู้ ผยพระ วจนะทงั้ หลายทอี่ ยู่กอ่ นทา่ นเหมอื นกนั ” และบังเอญิ วนั น้ัน ในชว่ งเยน็ มฝี งู ชนติดตามข้ึนมาเฝ้าพระองค์เป็นจ�ำนวนมากมายเป็นพเิ ศษ พระองค์ จึงเสดจ็ ลงไปยงั ท่ีราบบนภเู ขาซง่ึ มีหญา้ ขน้ึ เป็นหย่อม ๆ มีโขดหินระเกะระกะ ทรง ถือเป็น โอกาสดที ีจ่ ะพยายาม ทำ� ความเขา้ ใจกับฝงู ชนที่มาชมุ นมุ กนั อยู่น้นั เกี่ยวกบั ลกั ษณะ คำ� สอน ของพระองคโ์ ดยพระองคไ์ ดต้ รสั วา่ “อย่าคดิ ว่าเรามาท�ำลายพระบญั ญัตแิ ละคำ� สอนของศาสดาพยากรณ์เลย เรามิได้มาท�ำลาย แตเ่ รามาเพอื่ จะใหส้ ำ� เร็จประโยชน์” กล่าวคอื พระเยซูได้ส่งั สอนดำ� เนินตามค�ำสอนดัง้ เดิมของโมเล สในพระคมั ภีร์เกา่ เพยี งแต่ แกไ้ ขให้ดปี ระเสริฐลกึ ซึ้งสมเหตสุ มผล มคี วามหมายยิ่งข้ึนกว่าเดมิ เชน่ โมเสสสอนว่า หา้ มไม่ใหฆ้ า่ มนษุ ย์ แต่พระเยซสู อนว่า ไม่ใชแ่ ตไ่ ม่ควรฆา่ มนษุ ย์เท่านัน้ แตไ่ ม่ควรโกรธใครด้วย ไมค่ วรด่า ไมค่ วร กลา่ วค�ำหยาบตอ่ ใคร ๆ ดว้ ย ถา้ ผูใ้ ดโกรธหรือด่า หรอื กล่าวค�ำหยาบ ผนู้ ัน้ จะตอ้ งมีโทษถึง พพิ ากษา เพราะผทู้ ีจ่ ะล้างบาปไดน้ น้ั จะต้องท�ำใจใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ โมเสสสอนว่า ให้ทำ� การแก้แค้นเท่าเหตทุ ่ตี นได้เสยี ไป 35

ในวนั สะบาโตวันหน่ึง พระองค์เสด็จเขา้ ไปในธรรมศาลา และสั่งสอน ทีน่ ่นั มีคน หน่งึ มอื ขวาลบี ฝ่ายพวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสี คอยดพู ระองค์วา่ พระองคจ์ ะทรง รักษาเขาในวนั สะบาโตหรอื ไม่ เพื่อจะหาเหตุฟ้องพระองค์ได้ แตพ่ ระองคท์ รงทราบความ คดิ ของเขา จึงตรสั แก่คนมอื ลีบนั้นว่า \"จงลกุ ขึ้นมายืนอยขู่ ้างหนา้ \" เขาก็ลุกขน้ึ ยืน แลว้ พระเยซูตรสั กบั เขาทง้ั หลายว่า \"เราจะถามท่านท้งั หลายวา่ ในวันสะบาโตควรจะทำ� การดี หรือควรจะทำ� ร้าย จะช่วยชีวิตดี หรือจะเผาผลาญชีวิตเสียดี\" พระองค์จึงทอดพระเนตรดู ทกุ คนโดยรอบ แล้วตรัสกับคนมือลีบนัน้ วา่ \"จงเหยยี ดมือออกเถิด\" เขากก็ ระท�ำตาม และ มอื ของเขากห็ ายปกติ ฝ่ายคนเหลา่ นัน้ ต่างก็มคี วามเดือดดาล และปรกึ ษากนั วา่ จะกระท�ำ อยา่ งไรแก่พระเยซูได้ 38

ขณะทพี่ ระเยซูก�ำลงั เสด็จไปตามทางกับเหลา่ สาวก มผี หู้ ญิงคนหนึง่ เป็นโรคตกโลหิตได้ 12 ปมี าแลว้ แอบมาขา้ งหลังถกู ต้องชายฉลองพระองค์ เพราะนางคิดในใจวา่ “ถา้ เราได้ แตะฉลองพระองคเ์ ท่านั้น เรากจ็ ะหายโรค” ฝา่ ยพระเยซทู รงเหลยี วหลังทอดพระเนตร เห็นเขา้ จึงตรสั ว่า “ลูกหญิงเอย๋ จงชืน่ ใจเถดิ ที่เจา้ หายจากโรคนัน้ ก็เพราะเจา้ เชือ่ ” นับ ตง้ั แต่เวลาน้นั ผูห้ ญิงคนนั้นกห็ ายป่วยเป็นปกติ 37

แตเ่ ม่ือพระเยซทู รงทราบความคดิ ของเขา พระองคจ์ ึงตรสั แก่เขาวา่ \"ไฉนทา่ นจงึ คิดในใจ อย่างนี้ ทจ่ี ะว่า \"บาปทงั้ ปวงของเจา้ ได้รบั การอภัยแลว้ \" และจะวา่ \"จงลกุ ข้ึนเดินไปบ้าน ของเจ้าเถดิ \" น้ัน ข้างไหนง่ายกวา่ กนั แต่เพ่ือท่านท้ังหลายจะไดร้ ู้วา่ บุตรมนุษย์มสี ทิ ธิ อำ� นาจในโลกที่จะโปรดยกความผดิ บาปได้\" พระองค์จงึ ตรสั สง่ั คนงอ่ ยว่า \"จงลุกขน้ึ ยก ทีน่ อนไปบา้ นของเจ้าเถิด\" ในทนั ใดนั้น เขาจึงลุกข้นึ ตอ่ หนา้ คนทั้งปวง ยกทีน่ อนซงึ่ เขาได้ นอนนน้ั กลับไปบ้านของตน พลางร้องสรรเสริญพระเจา้ คนทั้งปวงกอ็ ัศจรรย์ใจย่ิงนักและ ได้สรรเสรญิ พระเจา้ 40

วนั หนงึ่ เมอ่ื พระองค์ทรงสง่ั สอนอยู่ มีพวกฟาริสี และพวกบาเรยี นนั่งอยดู่ ้วย เป็นผูม้ าจากทกุ หมู่บา้ นในแคว้นกาลิลี แคว้นยเู ดีย และจากกรุงเยรซู าเลม็ ฤทธ์ิ เดชของพระเปน็ เจา้ ก็อยูใ่ นพระองค์ เพ่ือจะรกั ษาเขาให้หายโรค และดูเถิด มีผหู้ าม คนงอ่ ยคนหน่งึ นอนบนทนี่ อน และเขาหาช่องท่ีจะหามคนง่อยนนั้ มาวางลงตรง พระพกั ตร์ของพระองค์ เมือ่ หาช่องเอาเข้ามาไมไ่ ด้ เพราะคนมาก เขาจึงข้ึนไปบน ดาดฟ้าหลังคาตกึ หยอ่ นคนงอ่ ยลงมาท้ังทน่ี อน ตามช่องกระเบ้อื งตรงกลางหมคู่ น ต่อพระพกั ตร์พระเยซู เมือ่ พระองค์ทรงเหน็ ความเชอื่ ของเขาทั้งหลาย จงึ ตรสั กบั คนงอ่ ยว่า \"บุรษุ เอ๋ย บาปของเจา้ ไดร้ บั อภยั แลว้ \" ฝ่ายพวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริสีคิดในใจ ว่า \"คนนี้ที่พดู หม่นิ ประมาทพระเจา้ เปน็ ผใู้ ดเล่า ใครจะยกความผิดบาปไดเ้ ว้นแต่ พระเจ้าเท่าน้ัน\" 39

ครั้นพระเยซูเสดจ็ เข้าไปในเขตเมอื งซซี ารยี า ฟลี ปิ ปี จึงตรัสถามพวกสาวกของ พระองคว์ ่า \"คนท้ังหลายพูดกนั ว่าบตุ รมนุษย์เป็นผู้ใด\" เขาจึงทลู ตอบวา่ \"เขาวา่ เปน็ ยอห์นผใู้ หร้ ับบัพตศิ มา แตบ่ างคนวา่ เป็นเอลียาห์ และคนอน่ื วา่ เปน็ เยเรมีย์ หรือเปน็ คน หนง่ึ ในพวกผเู้ ผยพระวจนะ\" พระองค์ตรสั ถามเขาว่า \"แลว้ พวกทา่ นเลา่ วา่ เราเปน็ ใคร\" ซโี มนเปโตรทูลตอบวา่ \"พระองคท์ รงเป็นพระครสิ ตพ์ ระบุตรของพระเจา้ ผูท้ รงพระชนม์ อย\"ู่ ต้ังแตเ่ วลานนั้ มา พระเยซทู รงเรม่ิ เผยแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่า พระองค์จะ ต้องเสดจ็ ไปกรุงเยรซู าเล็ม และจะต้องทนทกุ ข์ทรมานหลายประการจากพวกผู้ใหญ่ และ พวกมหาปโุ รหิต และพวกธรรมาจารย์ จนต้องถงึ ถูกประหารชีวิต แตใ่ นวันทส่ี ามพระองค์ จะทรงถกู ชบุ ให้เป็นขึน้ มาใหม่ 42

0 6 คำ� ท�ำนาย เร่ือง มรณกรรมของ พระเยซู 41

คร้ันล่วงไปไดห้ กวนั แล้ว พระเยซทู รงพาเปโตร ยากอบ และยอหน์ นอ้ งของ ยากอบข้นึ ภูเขาสูงแต่ลำ� พงั แล้วพระกายของพระองค์กเ็ ปลยี่ นไปต่อหนา้ เขา พระพกั ตร์ ของพระองคก์ ท็ อแสงเหมือนแสงอาทติ ย์ ฉลองพระองคก์ ็ขาวผ่องดจุ แสงสว่าง โมเสส และเอลยี าหก์ ็มาปรากฏแกพ่ วกสาวกเหล่านน้ั กำ� ลังเฝ้าสนทนากับพระองค์ ฝ่ายเป โตรทูลพระเยซวู า่ \"พระองค์เจา้ ข้า ซง่ึ เราอยู่ท่นี ก่ี ็ดี ถ้าพระองคต์ ้องพระประสงค์ ข้า พระองค์จะท�ำเพงิ สามหลงั ท่ีนี่ ส�ำหรับพระองค์หลังหน่งึ สำ� หรับโมเสสหลงั หน่ึง สำ� หรับ เอลียาห์หลงั หน่งึ \" เปโตรทูลยังไมท่ ัน 44

ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหลา่ สาวกของพระองค์ว่า \"ถา้ ผู้ใดใครต่ ามเรามา ใหผ้ ู้ นั้นเอาชนะตัวเอง และรบั กางเขนของตนแบก และตามเรามา เพราะว่า ผู้ใดใคร่จะเอาชีวติ รอด ผู้นั้นจะเสียชวี ิต แตผ่ ู้ใดจะเสียชีวิต เพราะเหน็ แก่เรา ผูน้ ั้นจะได้ชีวติ รอด เพราะถ้าผูใ้ ด จะได้สง่ิ ของส้นิ ทงั้ โลก แตต่ อ้ งเสียชวี ติ ของตน ผู้นั้นจะไดป้ ระโยชนอ์ ะไร ผูน้ ้นั จะนำ� อะไรไป แลกเอาชวี ิตของตนกลับคืนมา\" 43

46


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook