Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอน วิชาการผลิตสุกร บทที่ 1

เอกสารประกอบการสอน วิชาการผลิตสุกร บทที่ 1

Published by narch52, 2018-05-09 01:07:23

Description: เอกสารประกอบการสอน วิชาการผลิตสุกร บทที่ 1

Search

Read the Text Version

1 บทที่ 1 สภาพการเลยี้ งสุกรของประเทศไทยจุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกรปู แบบการเลยี้ งสุกรในประเทศไทยได้ 2. บอกความสาคญั ของการผลิตสกุ รได้ 3. บอกปจั จัยท่สี าคญั ในการเล้ยี งสกุ รได้ 4. วเิ คราะห์ภาวะตลาดสุกรได้ 5. วางแผนผลิตสกุ รดว้ ยความรอบคอบเนือ้ หาสาระ การเล้ียงสุกรในประเทศไทยนน้ั มกี ันมานานแลว้ แต่เดิมเกษตรกรจะเล้ียงสุกรจานวนน้อยเป็นรายย่อย โดยเล้ียงสุกรพันธุ์พ้ืนเมืองซ่ึงมีการเจริญเติบโตช้า มีคุณภาพซากไม่ดี ต้องใช้ระยะเวลาในการเล้ียงนาน ต่อมาไดม้ กี ารนาสุกรพันธ์ุดีจากต่างประเทศเข้ามาปรับปรุงพันธ์ุสุกรพ้ืนเมืองทมี่ ีอยู่ และมีการพัฒนาดา้ นวิชาการเลี้ยงสกุ รมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2529 เป็นต้นมา ธุรกิจการเลี้ยงสุกรได้เปล่ียนแปลงเป็นระบบอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรมากขึน้ เกษตรกรรายย่อยค่อยๆ หมดไปทั้งน้ีเน่ืองจากภาวะราคาท่ีไม่แน่นอน แต่เดิมการเล้ียงสุกรจะมีวัฏจักรของราคาเป็นตัวกาหนด ซึ่งวัฏจักรสุกรมีระยะเวลาประมาณช่วงละ 32 เดือนโดยเฉลี่ย เป็นช่วงท่ีสุกรราคาตกต่าหรือขาดทุนประมาณ 16 เดือน และระยะเวลาที่ราคาสูงหรือมีกาไรอีกประมาณ 16 เดือนติดต่อกันไป ในขณะที่ปัจจุบันมีฟาร์มเลี้ยงสุกรขนาดใหญ่เพิ่มมากข้ึนและมีผลผลิตค่อนข้างสม่าเสมอ เกษตรกรรายย่อยได้เลิกกิจการไปทาให้สามารถคาดคะเนปริมาณการผลิตได้ดขี ึ้น ดังน้ันในปัจจบุ ันนส้ี กุ รจะมีราคาตา่ ลงเปน็ บางฤดเู ท่านนั้1. รูปแบบของฟาร์มสุกรในประเทศไทย รูปแบบของฟาร์มสุกรท่ีเล้ียงในปัจจุบันน้ี ถ้าแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการเลี้ยงแล้วสามารถแบ่งฟาร์มสุกรออกได้เป็น 3 ชนิด คือ 1.1 ฟาร์มเลยี้ งสุกรขนุ สามารถปฏิบตั ิได้ 2 วธิ ีด้วยกนั คือ 1.1.1 การเล้ียงตั้งแต่ระยะสุกรเล็ก เป็นฟาร์มที่มีการเลี้ยงเฉพาะสุกรขุนเท่านั้น โดยจะซื้อลูกสุกรซึ่งมีน้าหนักเฉล่ีย 15 – 18 กิโลกรัม เข้ามาเล้ียงจนสุกรมีน้าหนัก 100 กิโลกรัมก็จะ

2จาหน่าย การเลี้ยงนิยมใช้ระบบเข้าหมด ออกหมด (all in all out) ปัจจุบันระยะเวลาท่ีใช้เลี้ยงประมาณ 4 – 5 เดอื นตอ่ รนุ่ ฟารม์ สุกรขุนน้จี ะมกี ารลงทนุ ไมส่ ูงมากและคืนทนุ เรว็ 1.1.2 การเล้ียงในระยะรุ่น การเล้ียงวิธีน้ีเป็นวิธีท่ีพ่อค้าสุกรนิยมใช้กันมากโดยจะซื้อสุกรร่นุ ที่มนี า้ หนักประมาณ 50 – 60 กิโลกรัม จากเกษตรกรในราคาท่ีค่อนข้างถูก จากนั้นก็นาสุกรรุ่นท่ีได้มาถ่ายพยาธิ และให้อาหารเลี้ยงขุนเต็มที่ ซ่ึงก็จะทาให้สุกรมีการเจริญเติบโตดีขึ้นมากกว่าเดิมจนสามารถจบั สง่ ตลาดได้ 1.2 ฟาร์มเลยี้ งสุกรพนั ธ์ุ เปน็ การเล้ยี งเฉพาะสุกรพ่อ แมพ่ ันธุ์ เปน็ ฟาร์มท่ีมีการลงทุนสูง และใช้ระยะเวลาเลี้ยงนาน ถา้ เร่ิมตน้ จากการเลี้ยงสุกรสาว กว่าจะมีผลผลติ ถงึ จาหนา่ ยได้ก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 7 – 8เดือนทเี ดยี ว ฟาร์มเลีย้ งสกุ รพันธ์ุน้ีจะมีจดุ ประสงคอ์ ยู่ 2 อยา่ ง คือ 1.2.1 ฟาร์มสุกรพันธ์ุเพื่อขยายพันธุ์ เป็นฟาร์มท่ีเลี้ยงสุกรพันธุ์แท้เพ่ือผลิตสุกรพันธ์ุแท้ หรือสกุ รสองสายเลือดทีจ่ ะนาไปใช้เป็นแม่พันธ์ุ เพ่ือผลิตลูกสุกรสามสายเลือดต่อไป เกษตรกรท่เี ลี้ยงสกุ รเพื่อขยายพนั ธน์ุ ้มี กั มคี วามรู้ ความสามารถดี ฟารม์ เหลา่ น้จี ะเป็นผปู้ รับปรุงพันธุ์สุกรให้มีคุณภาพดีขึ้น และตรงตามความต้องการของตลาด โดยมีการนาพันธ์ุสุกรจากต่างประเทศเข้ามาปรบั ปรงุ พันธส์ุ กุ รทม่ี ีอยใู่ หด้ ขี ึ้น 1.2.2 ฟาร์มสุกรพันธุ์เพ่ือผลิตลูกสุกรสามสายเลือด เป็นฟาร์มท่ีมีการนาแม่สุกรสองสายเลือด จากฟาร์มสุกรพันธ์ุเพ่ือขยายพันธุ์มาเลี้ยง และผลิตลูกสุกรสามสายเลือด เพื่อส่งให้กับฟาร์มสุกรขุน ลูกสุกรสามสายเลือดท่ีขายจะมีน้าหนักประมาณ 15 – 18 กิโลกรัม โดยท่ัวไปจะจาหน่ายเมือ่ อายุ 8 สัปดาห์ 1.3 ฟาร์มเลยี้ งสุกรครบวงจร เป็นฟาร์มเล้ียงสุกรที่มีการเล้ียงสุกรพ่อ แม่พันธุ์เอง เม่ือผลิตลูกสุกรแล้วนาไปขุนเองฟารม์ ประเภทนจ้ี ะมตี น้ ทนุ ในการผลิตสุกรขุนต่อตัวต่ากว่าฟาร์มเล้ียงสุกรขุนอย่างเดียว และฟาร์มครบวงจรบางฟารม์ จะมีการเล้ยี งสกุ รพันธ์แุ ท้ เพื่อผลติ แมส่ กุ รสองสายเลอื ดขึ้นทดแทนในฟาร์มเองพร้อมๆ กับมีการปรับปรุงพันธ์ุสุกรในฟาร์มให้ดีขึ้นด้วย ผลผลิตของฟาร์มน้ีจะมีท้ังสุกรขุน ลูกสุกรสามสายเลือด ตลอดจนแม่สุกรสองสายเลือด และสุกรพันธ์ุแท้ด้วย ซึ่งฟาร์มขนาดใหญ่ในปจั จบุ นั ส่วนใหญจ่ ะมีการผลติ ในลักษณะครบวงจรเช่นน้ี2. ปริมาณการเลยี้ งและแหล่งเลยี้ งสุกรทสี่ าคญั ของไทย แหล่งผลิตสุกรที่สาคัญของไทย มีการเล้ียงมากที่สุดในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวัน–ออกเฉยี งเหนือ และภาคใต้ตามลาดับ สาหรับจังหวัดท่ีมีการเล้ียงสุกรมากท่ีสุด 5 อันดับแรก ได้แก่จงั หวัดราชบุรี นครปฐม ชลบุรี ฉะเชงิ เทรา และนครราชสีมา ดงั แสดงในตารางท่ี 1.1

3ตารางท่ี 1.1 สถิตจิ านวนสุกรในประเทศไทยแสดงเปน็ รายภาค ปี พ.ศ. 2555 ภาค สุกรพนั ธ์ุ สุกรขนุ เหนือ จานวนสุกร จานวนเกษตรกร จานวนสกุ ร จานวนเกษตรกร ตะวนั ออกเฉียงเหนือ (ตัว) (ครัวเรือน) (ตวั ) (ครัวเรือน) กลาง ใต้ 715,464 36,582 982,294 25,782 ยอดรวมทมี่ า : กรมปศุสตั ว์ (2555) 725,312 46,425 959,875 34,284 1,756,064 12,703 3,977,129 10,803 361,631 17,460 770,821 14,455 3,558,471 113,170 6,690,119 85,3243. ความสาคญั ของการเลยี้ งสุกร ความสาคญั ของการเลย้ี งสุกร สามารถจาแนกไดด้ งั น้ี 3.1 ความสาคญั ต่อเศรษฐกจิ 3.1.1 การผลิตสุกรจะก่อให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้องมากขึ้นเช่นโรงงานอาหารสตั ว์ โรงงานปลาปน่ โรงฆา่ สัตว์ และโรงงานทาผลิตภัณฑเ์ น้ือสตั ว์ เปน็ ต้น 3.1.2 จากอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร และอุตสาหกรรมที่ต่อเน่ืองจะช่วยให้มีการจ้างงานเพ่ิมขึ้นทาให้ประชาชนมีงานทามากข้นึ และช่วยลดปัญหาการวา่ งงานได้ 3.1.3 สุกรเป็นสัตว์เศรษฐกิจ และมีวงจรชีวิตส้ันจึงเหมาะที่จะนามาใช้ในการพัฒนาอตุ สาหกรรมการเลย้ี งสตั ว์ของประเทศไดด้ ี 3.1.4 เมื่อมีการส่งสุกร หรือผลิตภัณฑ์จากเน้ือสุกรไปจาหน่ายยังต่างประเทศจะช่วยเพ่มิ รายได้ใหก้ บั ประเทศ ลดการเสียดุลย์การคา้ กบั ต่างประเทศ 3.2 ความสาคญั ต่อประชาชนและเกษตรกร 3.2.1 เนอ้ื สุกร เป็นแหลง่ อาหารให้โปรตีนท่ีสาคัญแก่ผบู้ รโิ ภค ทง้ั นเ้ี พราะเนื้อสุกรมีราคาถกู เมือ่ เทยี บกับเน้อื โค และมีรสชาติดีเป็นท่ีนิยมบริโภคมากกวา่ เนื้อสัตว์ประเภทอน่ื จงึ ทาให้ฟารม์ เลีย้ งสกุ รมีจานวนมากขึ้น 3.2.2 ช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้พ้ืนที่ท่ีไม่สามารถใช้เพาะปลูกได้ให้เกิดประโยชน์โดยนามาเลีย้ งสกุ ร 3.2.3 การเล้ยี งสุกรเป็นอาชีพเสริม ช่วยให้เกษตรกรมีงานทาตลอดปี และยังช่วยเพิ่มรายไดใ้ ห้กบั เกษตรกร ดังแสดงในภาพท่ี 1.1

4 3.2.4 การเล้ียงสุกรจะช่วยเพิ่มราคาผลผลิตเกษตรโดยทางอ้อม สุกรจะช่วยเปล่ียนผลผลิตราคาถูก หรือผลพลอยได้ท่ีเกษตรกรไม่ได้ใช้ เช่น ราละเอียด เศษพืชผักจากไร่นา ให้เป็นเนอ้ื สุกรท่ีมีราคาแพงกวา่ ในปรมิ าณท่เี ท่ากนั 3.2.5 มูลสุกรสามารถนาไปใช้เป็นปุ๋ยปรับปรุงดิน หรือนาไปหมักผลิตแก๊สชีวภาพเพอื่ นาไปใชใ้ นการหุงต้มหรอื ให้แสงสวา่ งในฟารม์ และยังใช้เป็นอาหารเล้ยี งปลาได้ ภาพที่ 1.1 การเลี้ยงสุกรเปน็ อาชพี เสริมของเกษตรกร ท่ีมา : ณรงค์ (2549)4. ปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อการผลติ สุกร การเลี้ยงสุกรนั้นจะมีการลงทุนสูงเมื่อเทียบกับการเลี้ยงไก่ หรือการเลี้ยงโค ประกอบกับภาวะราคาท่ีไม่แน่นอน เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจถึงขั้นตอนการผลิตเป็นอย่างดี ซึ่งจะทาให้การเลี้ยงสกุ รประสบผลสาเร็จได้ ปัจจยั ที่มีผลต่อการผลิตสุกรอาจแบ่งได้เป็น 4ปัจจัยคอื 4.1 พนั ธ์ุสุกร พันธส์ กุ รจะมีความสาคัญในการช่วยลดต้นทุนในการผลิต หรือเพิ่มต้นทุนการผลิตได้เชน่ กัน กลา่ วคอื ถ้าสกุ รพนั ธด์ุ ี มอี ัตราการเจรญิ เติบโตสงู มีประสิทธิภาพการเปล่ียนอาหารเป็นเน้ือดี ก็จะทาให้ต้นทุนในการผลิตต่อเนื้อ 1 กิโลกรัมนั้นต่ากว่าสุกรที่มีสายพันธุ์ไม่ดี พันธุ์สุกรท่ีมีคณุ ภาพซากดีจะชว่ ยใหเ้ กษตรกรสามารถจาหนา่ ยสกุ รไดง้ า่ ยข้นึ 4.2 อาหารและการให้อาหาร ต้นทนุ การผลิตของสกุ รส่วนใหญ่ 70 เปอร์เซน็ ต์ ของคา่ ใช้จ่ายท้ังหมดน้ันคือค่าอาหารและการท่ีสุกรจะเจริญเติบโตได้ดี และมีคุณภาพซากตรงตามพันธุ์น้ันๆได้ จะต้องได้รับอาหารท่ีมีคุณภาพดีมีโภชนะครบถ้วนตามความต้องการของสุกร และควรให้อาหารในปริมาณท่ีเหมาะสมด้วย

5 4.3 การจัดการฟาร์ม การจัดการฟาร์มที่ดีควรมีการวางแผนการดาเนินงานไว้ล่วงหน้า มีการศึกษาภาวะตลาดของสุกร และราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์อยู่เสมอเพื่อนาข้อมูลมาใช้ในการวางแผนในการผลิตสุกรให้ดีข้ึน มีการคาดคะเนตลาดที่ถูกต้อง ตลอดจนมีการเริ่มต้นเล้ียงที่ตรงจังหวะจะทาให้การเลย้ี งสุกรมปี ระสิทธภิ าพ และประสบผลสาเร็จในการเล้ยี งได้ 4.4 โรคและการสุขาภบิ าล ควรมีการวางแผนการจัดการสุขาภิบาลที่ดีทั้งในด้านการป้องกัน และการรักษาเพ่ือทาใหส้ กุ รมสี ุขภาพแข็งแรง ซงึ่ จะทาใหส้ ุกรให้ผลผลิตไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี5. สภาพการผลติ สุกร 5.1 การผลติ ของโลก ในปี 2555 มีการผลิตสุกรท่ัวโลกประมาณ 104.36 ล้านตัน เพิ่มจากปี 2554 ซ่ึงมีปริมาณ 101.98 คิดเป็นร้อยละ 2.33 ประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ผลิตเพ่ิมขึ้นโดยเฉพาะผู้ผลิตท่ีสาคัญได้แก่ ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และบราซิล โดยผลิตเพิ่มข้ึนร้อยละ 3.84 ,2.36 และ 1.02ตามลาดับ ส่วนสหภาพยุโรปและแคนาดาผลิตลดลงร้อยละ 0.82 และ0.39 ตามลาดับ เนื่องจากตน้ ทนุ อาหารสตั ว์สงู ขึน้ 5.2 การผลติ ของไทย ปี 2555 มีปริมาณการผลิตสุกร 12.82 ล้านตัว เพ่ิมขึ้นจาก 11.98 ล้านตัว ของปี 2554ร้อยละ 7.86 เน่ืองจากการผลิตสุกรในปี 2554 ประสบปัญหาจากโรคระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจ (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome :PRRS) ทาให้ปริมาณการผลิตสกุ รลดลงสง่ ผลใหร้ าคาสกุ รปรับตวั สูงขึ้นมาก จึงจงู ใจให้มีการขยายการผลิต การตลาด (1) ความต้องการบริโภค สุกรท่ีผลิตได้อาศัยตลาดภายในประเทศเป็นหลัก โดยใช้บริโภคภายในประเทศ ประมาณร้อยละ 95 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ปี 2555 มีปริมาณการบริโภคสุกร 11.91 ล้านตัว หรือ 0.95 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 5.54 เนื่องจากราคาสุกรลดลง เพราะมีการขยายการผลิตจนทาให้มีปริมาณสุกรมากเกินความต้องการ ประกอบกับมีการจัดจาหนา่ ยเนอ้ื สุกรราคาถกู เพือ่ กระต้นุ การบรโิ ภค (2) ราคา สุกรท่ีเกษตรกรขายได้ปี 2555 เฉล่ียประมาณกิโลกรัมละ 57.00 บาท ลดลงจากเฉลี่ยกิโลกรัมละ 65.50 บาทของปี 2554 ร้อยละ 12.98 ทั้งน้ีราคาสุกรได้ลดลงต้ังแต่ต้นปี 2555จากเฉลี่ยกิโลกรัมละ 61.06 บาท ในเดือนมกราคม เหลือเฉล่ียกิโลกรัมละ 52.89 บาทในเดือนมีนาคม เนื่องจากมีปรมิ าณสุกรเพ่มิ ขน้ึ ขณะท่ีความต้องการบริโภคค่อนข้างทรงตัว ทาให้มีปริมาณสุกรส่วนเกินเหลอื สะสมเพ่ิมขึน้ สง่ ผลให้เกษตรกรผ้เู ล้ียงสกุ รประสบการ ขาดทุน ในเดือนเมษายน

6ราคาสุกรปรับตัวสูงข้ึน เน่ืองจากสภาพอากาศร้อนทาให้สุกรเจริญเติบโตช้าลง ประกอบกับมีการส่งออกสุกรมีชีวิตไปยังประเทศเพ่ือนบ้านเพิ่มขึ้นเพ่ือระบายผลผลิตและมีการจัดจาหน่ายเนื้อสุกรราคาถกู เพ่อื กระตุน้ การบรโิ ภค ทาให้สามารถ ลดปริมาณสกุ รสว่ นเกนิ ได้ส่วนหนึ่ง แต่ราคาสุกรเร่ิมอ่อนตัวลงอีกต้ังแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา และลดลงมากในเดือนตุลาคม โดยราคาลดลงเหลือเฉล่ยี กิโลกรมั ละ 51.53 บาท เนอื่ งจากความต้องการบริโภคชะลอตัวจากภาวะฝนตกชุกต่อเนื่องและเกิดน้าท่วมในบางพ้ืนที่ ประกอบกับมีเทศกาลกินเจ แต่ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ราคาสุกรปรับตัวสูงขึ้น เพราะมีเทศกาลต่างๆ และการท่องเท่ียว ในช่วงปลายปีทาให้ความต้องการบริโภคเพิม่ ขึ้น (3) การส่งออก สุกรมีปริมาณเพียงร้อยละ 5 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด เน่ืองจากข้อจากดั จากโรคปากและเท้าเปอ่ื ย โดยเปน็ การสง่ ออกเน้อื สุกรและเน้ือสุกรแปรรูปร้อยละ 1-2 และสุกรมีชีวิตร้อยละ 3-4 เน้ือสุกรส่งออกไปยังฮ่องกง และสปป.ลาว ส่วนเน้ือสุกรแปรรูปส่งออกไปยังญ่ีปุ่นและฮ่องกง สาหรับสุกรมีชีวิตส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาวและเมียนมาร์ ปี 2555 ส่งออกเน้ือสุกรประมาณ 1,500 ตัน มูลค่า 94 ล้านบาท ลดลงจากปี 2554 ซ่ึงส่งออกปรมิ าณ 2,577 ตนั มลู คา่ 140.24 ล้านบาท ร้อยละ 41.79 และ 32.97 ตามลาดับ ส่วนเนื้อสกุ รแปรรูปส่งออกประมาณ 12,000 ตนั มูลคา่ 2,600 ล้านบาท เพ่ิมข้ึนจากปี 2554ซง่ึ ส่งออกปริมาณ 9,450 ตัน มูลค่า 2,155.60 ล้านบาท ร้อยละ 26.98 และ 20.62 ตามลาดบั สาหรับสกุ รมชี วี ติ ส่งออกประมาณ 64,200 ตัว เปน็ สุกรพนั ธป์ุ ระมาณ 42,000 ตวั ลดลงจากปี 2554 ซึ่งส่งออก 83,044 ตัว ร้อยละ 49.42 และเป็นสุกรมีชีวิตอื่นๆ ประมาณ 600,000 ตัว เพิ่มข้ึนจากปี 2554 ซึง่ สง่ ออก 353,716 ตัว รอ้ ยละ 69.63 (4) การนาเข้า ส่วนใหญ่เป็นการนาเข้าส่วนอ่ืนๆ ท่ีบริโภคได้ของสุกรแช่เย็นแช่แข็ง(หนงั ตับ และเครือ่ งในอื่นๆ) และผลิตภัณฑ์เน้ือสกุ ร ปี 2555 นาเขา้ ส่วนอื่นๆ ท่ีบริโภคได้ประมาณ15,000 ตัน มูลค่า 180 ล้านบาท ลดลงจากปริมาณ 21,463 ตัน มูลค่า 289.48 ล้านบาทของปี 2554ร้อยละ 30.11 และ 37.82 ตามลาดับ เนื่องจากราคาสุกรภายในประเทศลดลงทาให้ความต้องการนาเข้าไม่เพ่ิมข้ึน โดยส่วนใหญ่นาเข้าตับจากเยอรมนี เกาหลีใต้ แคนาดา และเดนมาร์ก และส่วนอ่ืนๆ จากเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี และเบลเยียม ส่วนผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรนาเข้าประมาณ 860ตัน มูลค่า 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 836 ตัน มูลค่า 54 ล้านบาท ของปี 2554 ร้อยละ 2.87และ 5.56 ตามลาดับ 5.3 แนวโน้มการผลติ สุกรของไทย การผลิต ศูนย์สารสนเทศการเกษตร สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่า ปี 2556 จะมีปริมาณการผลิตสุกร 13.06 ล้านตัว เพิ่มข้ึนจาก 12.82 ล้านตัวของปี 2555 ร้อยละ 1.84 ปริมาณการผลิตใกล้เคียงกับปี 2555 โดยเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากราคาสุกรในปี 2555 ลดลงมากจากการ

7ขยาย การผลิตมากเกินความต้องการ ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงข้ึน ทาให้ต้นทุนการผลิตสุกรสูงขึ้น จึงมีผู้เลี้ยงสุกรบางส่วนขาดทุนจนต้องเลิกกิจการไปซ่ึงส่วนใหญ่เป็นรายเล็กและรายย่อย ขณะท่ีรายใหญ่บางรายยังมีการขยายการผลิต จึงคาดว่าปริมาณการผลิตโดยรวมจะยังคงเพมิ่ ข้นึ เลก็ น้อย การตลาด (1) ความต้องการบริโภค ปี 2556 คาดว่าปริมาณการบริโภคสุกรจะเพ่ิมข้ึนไม่มากนักเพราะราคาสุกรจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2555 ประกอบกับกาลังซ้ือของประชาชนไม่ได้เพ่ิมข้ึนในขณะท่ีสินค้าต่างๆ มีราคาสูงข้ึน โดยคาดว่าจะมีปริมาณการบริโภคสุกร 12 ล้านตัว หรือ 0.96 ล้านตนั เพิ่มขนึ้ จากปี 2555 ร้อยละ 0.73 (2) ราคา ปี 2556 คาดว่าราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้โดยเฉลี่ยจะสูงข้ึนเม่ือเทียบกับปี2555 แม้ว่าปริมาณการผลิตจะเพ่ิมขึ้นแต่เพ่ิมข้ึนเพียงเล็กน้อยและคาดว่าต้นทุนการผลิตสุกรจะยังคงอยูใ่ นระดับสูง ส่วนราคาสง่ ออกเน้ือสุกรชาแหละและเนื้อสุกรแปรรูปคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี2555 (3) การส่งออก ปี 2556 คาดวา่ การสง่ ออกเน้อื สุกรชาแหละจะไม่เพิม่ ข้นึ เน่ืองจากราคาสุกรภายในประเทศจะสูงขึ้นเม่ือเทียบกับปี 2555 ประกอบกับฮ่องกงซ่ึงเป็นตลาดส่งออกเนื้อสุกรของไทยนาเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นทาให้ความต้องการนาเข้าจากไทยลดลง ส่วนเน้ือสุกรแปรรูปคาดว่าการส่งออกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโรงงานแปรรูปเพื่อส่งออกเพ่ิมข้ึนและตลาดยังมีความต้องการเพิ่มข้ึน สาหรับสุกรมีชีวิตที่ส่งออกไปยังประเทศเพ่ือนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชาคาดว่าจะลดลงจากปี 2555 ซึง่ มีการสง่ ออกปริมาณมากเพราะตอ้ งการระบายผลผลติ ส่วนเกนิ (4) การนาเข้า ปี 2556 คาดว่าการนาเข้าส่วนอ่ืนๆ ที่บริโภคได้ของสุกร (หนัง ตับ และเครื่องในอ่ืนๆ) จะเพิ่มข้ึน เนื่องจากราคาสุกรภายในประเทศจะสูงข้ึนเม่ือเทียบกับปี 2555 ทาให้ความต้องการนาเข้าเพิม่ ขึ้น ส่วนการนาเข้าผลติ ภณั ฑ์เน้ือสกุ รคาดวา่ จะใกล้เคยี งกับปี 2555 ปัจจัยทม่ี ีผลกระทบต่อการผลติ หรือการส่งออก โรคระบาด โดยเฉพาะโรค PRRS ซ่ึงทาให้อัตราการสูญเสียจากการเลี้ยงสุกรสูงข้ึน แม้ว่าจะมีการจัดการฟาร์มท่ีมีประสิทธิภาพมากข้ึนซึ่งช่วยลดความเสียหายจากโรค แต่ถ้ามีการระบาดของโรคดงั กล่าวในวงกวา้ งเช่นเดยี วกบั ปี 2554 รวมท้งั ปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนซ่ึงทาให้สุกรมีภูมิต้านทานต่อโรคต่า อาจทาใหป้ ริมาณการผลติ ลดลง ปัจจัยอน่ื ๆ ทมี่ ผี ลกระทบต่อต้นทนุ การผลติ สุกร ภัยแล้งหรืออุทกภัย ถ้าเกิดในแหล่งผลิตพืชอาหารสัตว์ที่สาคัญของไทยหรือของโลก จะมีผลกระทบทาให้ผลผลิตได้รับความเสียหายและส่งผลให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น เช่น การเกิดภัยแล้งในสหรัฐอเมริกาในปี 2555 ส่งผลให้ราคาข้าวโพดและกากถ่ัวเหลืองสูงข้ึน โดยเฉพาะราคากากถ่ัวเหลืองปรับตัวสูงขึ้นมากเพราะไทยต้องนาเข้าจากต่างประเทศท้ังในรูปถ่ัวเหลืองเมล็ด

8และกากถั่วเหลอื งกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณการใช้ภายในประเทศนโยบายรับจานาของรัฐบาล ทาให้ราคาข้าว มันสาปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อยู่ในระดับสูง จึงส่งผลให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ได้แก่ ราข้าว ปลายข้าว ข้าวโพด และมันเส้น สูงขึ้น ส่งผลต่อเน่ืองทาให้ต้นทุนการผลิตสุกรสูงข้นึ ด้วย ราคาน้ามันและก๊าซ มีแนวโน้มที่จะทรงตัวในระดับสูง แต่ก็ยังมีความผันผวนจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ถ้าราคาปรับตัวสูงข้ึนจะทาให้ต้นทุนค่าขนส่งปัจจัยการผลิตต่างๆเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารสัตว์ซ่ึงจะทาให้ราคาอาหารสัตว์สูงข้ึน นอกจากนี้การปรับตัวสูงข้ึนของราคาน้ามัน จะทาให้ความต้องการใช้พืชพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อปริมาณวัตถดุ บิ อาหารสตั ว์และทาให้ราคาปรบั ตัวสูงขึน้ ค่าแรงงาน อัตราค่าจ้างแรงงานข้ันต่า 300 บาทต่อวันจะมีผลบังคับใช้ท่ัวประเทศต้ังแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ส่งผลกระทบทาให้ต้นทุนการผลิตสุกรสูงข้ึนด้วย เน่ืองจากต้องปรับค่าจ้างแรงงานในการเลย้ี งสกุ ร รวมทั้งแรงงานตา่ งดา้ วซึ่งตามกฎหมายกต็ อ้ งปรับค่าจ้างข้ันต่า 300 บาทต่อวนั ด้วย แม้อาจมผี ู้ไม่ปฏิบตั ิตามแต่ก็ต้องมกี ารปรับคา่ จา้ งจากเดิม มิฉะน้ันอาจขาดแคลนแรงงานได้ความผันผวนของค่าเงินบาท เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นจากเงินทุนท่ีไหลเข้ามาลงทุน ในตลาดเอเชียและไทย ถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะเม่ือเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้าหรือคู่แข่งจะทาให้ขีดความสามารถในการแข่งขันการส่งออกลดลง สาหรับสินค้าสุกรได้รับผลกระทบน้อยเพราะเปน็ สนิ ค้าทผี่ ลติ เพอื่ บรโิ ภคภายในประเทศเปน็ หลัก การสง่ ออกมปี รมิ าณน้อย6. แนวโน้มการเลยี้ งสุกรในอนาคต แนวโน้มของการเลี้ยงสุกรของไทยในอนาคตคาดว่าจะมีการพัฒนาเป็นฟาร์มสุกรขนาดใหญค่ รบวงจรมากข้นึ ทง้ั น้เี นอ่ื งมาจากปัจจัยควบคุมต่างๆ ท่ีเกิดขึ้น เช่น พระราชบัญญัติมาตรฐานฟาร์ม 2542 พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ข้อกาหนดการควบคุมการใช้ยาสัตว์ (มอก.7001-2540) ซ่ึงการใช้พระราชบัญญัติและข้อกาหนดต่างๆ อย่างเข้มงวดส่งผลทาให้ฟาร์มสุกรขนาดเลก็ ไม่สามารถพฒั นาเข้าสรู่ ะบบตา่ งๆ เหล่าน้ันได้จึงต้องเลิกกิจการไป ดังนั้นผู้ที่จะเลี้ยงสุกรตอ่ ไปในอนาคตต้องมกี ารปรบั ตัวคอ่ นข้างมาก ส่วนหน่ึงก็จะเป็นผลดีกับประชาชนท่ีจะได้บริโภคเนื้อสุกรทป่ี ลอดภัยถกู สขุ ลักษณะและมคี ณุ ภาพมากย่ิงขึน้ ###########################################################


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook