Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศส

Published by st37134, 2019-09-10 03:50:47

Description: ฝรั่งเศส

Search

Read the Text Version

French

คำนำ หนงั สอื E book เลม่ นีเ้ป็ นสว่ นหนง่ึ ของวชิ า คอมพิวเตอร์ เร่ืองวฒั นธรรมฝรั่งเศส จดั ทาเพื่อให้ ผ้อู า่ นท่ีสนใจและต้องการทราบถึงวฒั นธรรม ฝร่ังเศส และนาความรู้จากหนงั สือ E book ไป ใช้อยา่ งถกู ต้อง หากหนงั สือ E book เลม่ นีม้ ขี ้อผิดพลาด ประการใด ต้องขออภยั ไว้ ณ ที่นี ้และจะนา ข้อผดิ พลาดเหลา่ นีไ้ ปแก้ไขในครัง้ ตอ่ ไป ด.ญ.กมลวลั ท์ ตรีประสทิ ธิ์ชยั ด.ญ.ฐานดิ า หวงั ธนพรชยั ด.ญ.ระวีวรรณ คณิตรัตนกาล คณะผ้จู ดั ทา

สำรบญั หน้า ช่ือเร่ือง 1 2 French Greetings 3 Tipping in France 4 French cuisine 5 French etiquette at meals 6 กล่าวทกั ทาย 7 Garçon 7 ป้ าย pelouse interdite 8 ต้องการโบกมือลา 9 รถแทก็ ซี่ในฝร่ังเศส 10 epiphanie งานวันเฉลมิ ฉลองแห่งชาติ 11-13 การแต่งกายแต่ละยุคสมยั

วฒั นธรรมฝรั่งเศส 1. French Greetings (the French kiss) วิธีการทกั ทายของชาวฝรั่งเศสก็เป็ นอยา่ งหนึ่ง ที่เพ่ือนๆอาจรู้สกึ ไม่ชิน นอกจากการจบั มือแล้ว การจบู กนั ด้วยแก้มทงั้ สองข้างก็เป็ นทกั ทาย เช่นกนั หากเป็ นเพ่ือนสนิทจะจบู แก้มกนั สามครัง้ ขนึ ้ ไป แล้วแตธ่ รรมเนียมของแคว้นนนั้ ๆ

2. Tipping in France โดยปกตใิ นฝร่ังเศสจะไม่นิยมให้ทปิ กนั แตส่ าหรับ พนกั งานที่ให้บริการดแี ล้วเราพอใจอยากจะให้ทปิ ก็ สามารถให้ได้ แตค่ วรจะให้อยา่ งต่า 1 ยโู รครับ ถ้า ตา่ กวา่ นีอ้ ยา่ ให้เลยดีกวา่ เพราะจะดนู า่ เกลยี ด แทนท่ีจะดดู ี

3. French cuisine คนฝร่ังเศสกินอาหารแบบเรียงตามลาดบั หรือ คอร์ส จบไปทีละคอร์ส โดยทวั่ ไปจะมี 3 คอร์ สคือ entré, plate principal และ cheese course หรือ dessert ถ้าเสริ ์ฟแบบเตม็ ยศก็ เพม่ิ อีกสามเป็ น 6 คอร์สโดยเร่ิมจาก aperitif หรือออร์เดริ ์ฟ แล้วเป็ น entré ซง่ึ มกั จะเป็ นซุป ตามด้วยอาหารจานหลกั ที่เป็ นเนือ้ สตั ว์ ตอ่ ด้วย สลดั แล้วตามด้วยเนยแข็งสารพดั ชนิด ปิ ดท้าย ด้วยของหวานหรือผลไม้พร้อมกบั กาแฟ สว่ น ขนมปัง ไวน์ และนา้ แร่จะมีเสริ ์ฟตลอดเวลาท่ีกิน อาหาร

4. French etiquette at meals คนฝรั่งเศสใช้มีดและส้อมในการกินอาหาร เกือบทกุ อยา่ ง ไม่เว้นแม้กระทงั่ เฟร้นฟรายส์ โดย ถือมีดด้วยมือขวา และมือซ้ายถือส้อม ไม่มีการ เปลย่ี นมือไปมาเหมือนคนอเมริกนั และท่ีสาคญั จะต้องวางมือไว้บนโต๊ะ ไมว่ างไว้บนหน้าตกั นอกจากนีย้ งั มีมารยาทบนโต๊ะอาหารอ่ืนๆที่ควร ต้องเรียนรู้อีกมาก

5. คุณสามารถกล่าวทกั ทายว่าบงชู (Bonjour) ซง่ึ หมายถงึ สวสั ดีตอนเช้า หรือบงซวั (Bonsoir) ที่หมายถงึ สวสั ดตี อนเยน็ กลา่ ว ลาเม่ือจะจากไปด้วยคาวา่ โอ”เครอ”ววั (Au revoir) ที่แปลวา่ ลาก่อน และกลา่ วขอบคณุ วา่ แมก็ ซิ (Merci) ได้

6. Garçon เม่ือไปรับประทานอาหารตามภตั ราคารอยา่ ตะโกนเรียกบริกรวา่ “ การ์ซ็อง (garçon)” ที่ตรงกนั กบั ภาษาองั กฤษวา่ boy ซงึ่ ในภาษา ฝร่ังเศสถือวา่ ไม่ สภุ าพ ควรเรียกวา่ เมอซเิ ออร์ และ กลา่ วคาวา่ ซิล วู เปล ซงึ่ แปลวา่ กรุณา เวลาสง่ั อาหารหรือขออะไรเพ่มิ เตมิ จงึ ถือวา่ สภุ าพและควร ถอดหมวก เสอื ้ คลมุ โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อ แสดงความเคารพตอ่ สถานท่กี ่อนทกุ ครัง้

7. สนามหญ้าในฝร่ังเศสมีไว้ให้ดแู ละช่ืนชม ความเขียวชอมุ่ ห้ามแตะต้องเดด็ ขาด ยกเว้นตาม สนามหญ้าท่ีเปิ ดเป็ นสาธารณะ หากคณุ ละเมิดกฏ เข้าไปในสนามหญ้าซง่ึ มีป้ าย pelouse interdite แปลวา่ สนามหญ้าห้ามเข้า กากบั อยู่ ถือวา่ คณุ ทาผิดกฏหมาย 8. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขา จะยกมือพร้อมกบั ขยบั นิว้ ขนึ ้ ลง ๆ

9. รถแท็กซีใ่ นฝร่ังเศสนง่ั ได้ 3 คน เฉพาะที่ตรง ด้านหลงั คนขบั เทา่ นนั้ ท่ีนง่ั ด้านขวามือข้างหน้าคกู่ บั คนขบั นนั้ มกั ไว้ให้เป็ นที่นงั่ ของสตั ว์เลยี ้ ง

10. epiphanie เทศกาลของชาวคริสเตยี น ในโบสถ์ละตนิ เป็ น การฉลองการมาเย่ียม พระเยซูของ Rois mages โดยธรรมเนียม มีการทานขนมหวาน เค้ก (รูปทรงมงกฎุ ในทางตอนใต้) หรือ กาแลตดคู รัว (ทางเหนือของฝร่ังเศส) จดั ขนึ ้ ในวนั อาทติ ย์แรก ของเดือนมกราคม

11. งานวันเฉลิมฉลองแห่งชาติ งานวนั เฉลมิ ฉลองแหง่ ชาติ วนั ท่ีระลกึ ท่ีมี ความสาคญั ตอ่ ประวตั ศิ สาสตร์ของฝรั่งเศสหรือท่ี รู้จกั กนั ในชื่อ วนั บสั ตีย์ (Bastille Day) จดั ขนึ ้ ใน วนั ท่ี 14 กรกฎาคมของทกุ ปี ชว่ งนีจ้ ะเตม็ ไปด้วย ความคกึ คกั ของริว้ ขบวนพาเรดที่ประดบั ประดาด้วย สีสนั สดสวย ทา่ มกลางการร้องเลน่ เต้นราตามทว่ั ทงั้ บริเวณอยา่ งสนกุ สนาน ตามท้องถนนถกู ประดบั ประดาไปด้วยธงตรีกอลอร์ แถมมีการจดุ พลไุ ฟช่วง กลางคนื แบบตระการตาให้ได้ชมกนั

12. การแต่งกาย ฝร่ังเศสหลงั สงครามโลกครัง้ ท่ี 1 (1920-1930-1942) ประเทศไทยเราอยใู่ นสมยั ร. 6 หลงั จากสงครามโลกแล้ว ผ้หู ญิงจะมาแตง่ ตวั น่งุ กระโปรงรัดรัง้ อยา่ งเดิมไมไ่ ด้ เพราะ ในช่วงสงครามผ้หู ญิงจะต้องแตง่ ตวั แบบสบายๆ และ เศรษฐกิจหลงั สงครามตกต่า จงึ มีการเปลีย่ นแปลงแฟชนั่ ใหม่ ในปี ค.ศ. 1920 ซง่ึ เรียกวา่ The Gay Twenties เป็ น เสอื ้ ที่เก๋สวมใสส่ บาย ทรงหลวม ตวั ยาวแคส่ ะโพก กระโปรง คลมุ เข่าเรียกวา่ Gasby สาหรับชดุ ราตรียาว นิยมผ้าตว่ น ดา ทรงกระโปรงจะบานตรงชาย เลก็ น้อย เปิ ดผ่าด้านหลงั เร่ิมมีชดุ อาบนา้ ท่ีทาจากผ้าเจอร์ซี่ ถงุ น่อง เสอื ้ ยกทรง “Brassiere” กระโปรงชนั ้ ใน “Petticoat” ทาด้วย ผ้าเจอร์ซ่ี ชดุ Slip มีสเตย์รัดหน้าท้อง

สมยั สงครามโลกครัง้ ที่ 2 (ค.ศ. 1942) เป็น ภาวะท่ีฝร่ังเศสขาดแคลนเครื่องแตง่ กาย สนิ ค้า ผ้าขาดแคลน การแตง่ กายของผ้หู ญิง ต้องมีการ จากดั เร่ืองผ้า เป็นกระโปรงทรงตรง ๆ แคบ ผา่ ข้างหลงั หรือหน้าเพ่ือให้เดินสะดวก ชายเสอื ้ กระโปรงพบั ได้ไมเ่ กิน 1 นิว้ หลงั สงครามโลกครัง้ ท่ี 2 (New Look 1974) เม่ือสงครามโลกดาเนินมาได้ 4 ปี หลงั จากนีก้ ็มีนกั ออกแบบเสอื ้ ผ้าเกิดขนึ ้ หลายคน

จนกระทงั่ ค.ศ. 1974 Christian Diro ได้นาผลงานที่ ช่ือ New Look ออกแสดงและประสบ ความสาเร็จเป็ น ลกั ษณะกระโปรงบาน คลมุ เขา่ จนถงึ ข้อเท้ามีหลายแบบ ทงั้ เป็นผ้าเฉลยี ง จีบ รอบตวั ตอ่ ระบายเป็นชนั้ ๆ มีความ กว้างมาก เสอื ้ เป็ นเสอื ้ เข้ารูป และมีกระโปรงทรง A-line ท่ี นา่ สนใจอีกชนั้ หนง่ึ ลกั ษณะกระโปรงจะบานออก เลก็ น้อย และใช้เกลด็ ตามยาวช่วยทาให้ดู รูปร่างดีขนึ ้ สาหรับเคร่ืองแตง่ กายของผ้ชู ายได้ววิ ฒั นาการจากเดิม มาก ตดั ความหรูหราเกินความจาเป็นลงไปบ้าง และใช้ เป็นชดุ สากลมาจนปัจจบุ นั นี ้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook