Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3 - ทฤษฎีและแบบจำลองฯ

บทที่ 3 - ทฤษฎีและแบบจำลองฯ

Published by Teerachart Noisombut, 2023-08-07 03:38:56

Description: บทที่ 3 - ทฤษฎีและแบบจำลองฯ

Search

Read the Text Version

ทฤษฎีและแบบจำลอง 53 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และสื่อสารการศกึ ษา บทที่ 3 เทคโนโลยีและสื่อสารการศกึ ษา: ทฤษฎแี ละแบบจำลอง บทนำ เทคโนโลยแี ละการส่อื สารทางการศกึ ษาเปน็ สว่ นสำคัญของวงการการศึกษาในปัจจุบัน (Jonassen et al., 2008) การเข้าถึงข้อมูลและการสื่อสารท่ีมีประสทิ ธิภาพเปน็ สง่ิ สำคญั อย่างยง่ิ ใน การสนับสนนุ กระบวนการเรยี นรู้และการสอนท่ีมีผลสมั ฤทธ์ิ (Jonassen et al., 2008) การเรียนรไู้ ม่ จำกดั เพียงแคใ่ นสถานศึกษาแบบเดิม แต่สามารถเรยี นรไู้ ด้จากแหลง่ ข้อมลู ตา่ งๆ บนโลกออนไลน์ (Jonassen et al., 2008) เทคโนโลยแี ละการส่อื สารทางการศกึ ษาเป็นเครื่องมือทีม่ ีศักยภาพในการ เพิม่ ประสิทธภิ าพของกระบวนการเรียนรู้และการสอน ซึง่ มผี ลกระทบต่อการพัฒนาทงั้ ระดบั บุคคล และระดับองคก์ รทางการศึกษา (Jonassen et al., 2008) ในบทเรยี นนี้ เราจะศึกษาทฤษฎแี ละแบบจำลองที่เกี่ยวขอ้ งกับเทคโนโลยีและการส่ือสาร ทางการศึกษา เพื่อเขา้ ใจและศึกษาเนื้อหาในระดบั ลึกซ้งึ (Jonassen et al., 2008) เรือ่ งนี้จะชว่ ยให้ นักศกึ ษามีความรูแ้ ละความเข้าใจท่ลี กึ ซึ้งเก่ียวกบั กระบวนการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการ สือ่ สารทางการศึกษาในสถานการณ์การศกึ ษาตา่ งๆ (Jonassen et al., 2008) ในสว่ นนี้ จะนำเสนอแนวคิดหลกั เก่ยี วกบั เทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษา รวมถงึ ความสำคญั ของการใช้เทคโนโลยีและการสือ่ สารทางการศึกษาในการพฒั นากระบวนการเรยี นร้แู ละ การสอน (Jonassen et al., 2008) นอกจากนี้ยังจะมีการแนะนำแนวทางในการใชเ้ ทคโนโลยีและ การสือ่ สารทางการศึกษาใหม้ ีประสิทธผิ ลสูงสดุ ในสถานการณก์ ารศึกษาท่แี ตกตา่ งกัน (Jonassen et al., 2008) ความสำคญั ของทฤษฎีและแบบจำลองในเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศกึ ษา การใชท้ ฤษฎีและแบบจำลองเป็นส่ิงสำคญั ในการศกึ ษาเร่ืองเทคโนโลยีและการสอื่ สารทาง การศกึ ษา (Jonassen et al., 2008) เน่ืองจากทฤษฎแี ละแบบจำลองช่วยใหเ้ ราเข้าใจกระบวนการ และผลกระทบของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยแี ละการส่อื สารทางการศึกษาในสถานการณ์การศึกษา ตา่ งๆ อยา่ งลึกซง้ึ (Jonassen et al., 2008) การทราบทฤษฎีและแบบจำลองทเี่ กีย่ วขอ้ งชว่ ยใหน้ กั ศกึ ษามีพ้ืนฐานความรู้และความ เขา้ ใจทมี่ ีคณุ ภาพเก่ียวกับเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศกึ ษา (Jonassen et al., 2008) นอกจากน้ยี ังช่วยให้สามารถนำทฤษฎแี ละแบบจำลองมาประยุกตใ์ ช้ในการวเิ คราะหแ์ ละแก้ไขปัญหา ทเี่ กิดข้ึนในการใชเ้ ทคโนโลยีและการสอื่ สารทางการศกึ ษาในสถานการณ์ท่แี ตกต่างกัน (Jonassen et al., 2008) ธรี ชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสนิ ธุ์

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 54 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และสือ่ สารการศกึ ษา การทราบทฤษฎีและแบบจำลองที่เกี่ยวข้องยงั ช่วยใหน้ ักศึกษาเพิ่มความมั่นใจในการนำ เทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารทางการศึกษาเข้าสกู่ ระบวนการเรียนร้แู ละการสอน (Jonassen et al., 2008) นอกจากนี้ยงั ชว่ ยสรา้ งความเข้าใจในการวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการใช้เทคโนโลยี และการส่ือสารทางการศึกษาและการนำเสนอผลลัพธ์ท่ีมีคุณภาพสูง (Jonassen et al., 2008) ภาพรวมของบทเรียน บทเรียนนม้ี ุ่งเน้นการศกึ ษาเก่ียวกับทฤษฎีและแบบจำลองท่เี กีย่ วข้องกับเทคโนโลยแี ละ การส่อื สารทางการศึกษา (Jonassen et al., 2008) เน้นความสำคญั ของการใช้ทฤษฎีและ แบบจำลองในกระบวนการเรียนรแู้ ละการสอนท่มี ปี ระสิทธิผลในสถานการณ์การศึกษาท่ีแตกต่างกัน (Jonassen et al., 2008) ในสว่ นน้ี เราจะศึกษาแนวคดิ หลักเกยี่ วกบั เทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารทางการศึกษา และ สำรวจความสำคญั ของการใชท้ ฤษฎีและแบบจำลองในการพฒั นากระบวนการเรยี นรู้และการสอนท่มี ี ประสิทธผิ ลสงู สดุ ในสถานการณก์ ารศึกษาทีแ่ ตกต่างกนั (Jonassen et al., 2008) ในบทเรียนน้ี เราจะเรยี นรเู้ กย่ี วกับทฤษฎีและแบบจำลองทีเ่ ก่ียวข้องกบั เทคโนโลยีและ การสอ่ื สารทางการศึกษาทีไ่ ด้รับการศกึ ษาและตรวจสอบความเหมาะสมในสถานการณ์การศกึ ษาท่ี แตกต่างกนั (Jonassen et al., 2008) นอกจากนี้ เรายงั จะสำรวจแนวคิดและแนวทางในการนำ เทคโนโลยแี ละการสือ่ สารทางการศึกษามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการเรียนร้แู ละการสอนเพอ่ื ให้ ไดผ้ ลลัพธ์ท่ีดที ่ีสดุ ในสถานการณก์ ารศึกษาท่ีแตกตา่ งกนั (Jonassen et al., 2008) กรอบทฤษฎใี นเทคโนโลยแี ละการสือ่ สารทางการศกึ ษา ในบทเรยี นน้ี เราจะศึกษาเร่ืองกรอบทฤษฎที ่เี กย่ี วข้องกบั เทคโนโลยีและการสื่อสารทาง การศึกษา (Kozma, 1994) ซึ่งเปน็ แนวคิดหรอื กรอบแบบทฤษฎที ่ีใช้ในการอธิบายและเข้าใจ เกีย่ วกับเทคโนโลยแี ละการส่ือสารทางการศึกษา (Kozma, 1994) โดยม่งุ เน้นการศึกษาและการ วเิ คราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยีและการสือ่ สารทางการศกึ ษาในกระบวนการเรียนรู้และการสอน (Kozma, 1994) เราจะศึกษาและสำรวจกรอบทฤษฎีตา่ งๆ เชน่ กรอบทฤษฎกี ารเรยี นรูก้ ำลงั (Cognitive Load Theory) ซ่ึงเน้นความสำคัญของการจัดรูปแบบการสอนให้เหมาะสมเพ่ือลดภาระของความจำ ทนี่ ักเรยี นต้องใช้ (Sweller, 1988) และกรอบทฤษฎีการส่ือสารสองทาง (Two-Way Communication Theory) ที่เน้นการสือ่ สารทีเ่ ป็นซึ่งกันและกนั ระหว่างผ้สู อนและผเู้ รียน (Freire, 1970) เพอื่ ใหเ้ กิดกระบวนการเรยี นรทู้ ีม่ ีความสอดคลอ้ งและมคี วามหมายอย่างมปี ระสิทธิภาพ (Freire, 1970) การทราบและเขา้ ใจเก่ียวกบั กรอบทฤษฎีทเี่ ก่ยี วข้องเหลา่ น้ีจะชว่ ยให้นกั ศกึ ษามีความรู้ และความเข้าใจท่ีมน่ั คงเกย่ี วกบั การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยแี ละการส่ือสารทางการศึกษาใน สถานการณ์การศึกษาต่างๆ อีกทง้ั ยังชว่ ยให้นักศกึ ษาสามารถวิเคราะหแ์ ละประเมนิ ผลกระทบของ ธรี ชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสินธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 55 นวัตกรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และสื่อสารการศกึ ษา เทคโนโลยแี ละการส่อื สารทางการศกึ ษาต่อกระบวนการเรียนรู้และการสอนได้อยา่ งเหมาะสม (Kozma, 1994) ทฤษฎนี เิ วศสอื่ วิทยา ทฤษฎนี เิ วศสอื่ วิทยา (media ecology theory) เป็นกรอบทฤษฎที ี่มีเนอื้ หาที่เกี่ยวข้อง กบั ความสัมพันธร์ ะหวา่ งมนุษยแ์ ละส่ือในสังคม (McLuhan, 1964) ทฤษฎีน้ีเน้นในการศึกษาและ เขา้ ใจถงึ ความสัมพันธ์ท่ีมีอย่รู ะหวา่ งสอื่ และสงิ่ แวดลอ้ ม (McLuhan, 1964) ซง่ึ ส่ือแทรกซึมและมี ผลกระทบต่อกลไกการเรียนรู้และการส่ือสารทางการศึกษาในสถานการณ์ต่างๆ (McLuhan, 1964) ทฤษฎนี ิเวศสอื่ วทิ ยามองว่าส่ือเปน็ สว่ นสำคญั ท่ีสร้างสรรค์และรว่ มมือกบั สง่ิ แวดล้อมใน การสรา้ งเคร่ืองมือและเทคโนโลยที ่มี ีผลตอ่ การสอ่ื สาร (McLuhan, 1964) โดยมีการพจิ ารณาถงึ การ กระทำและผลกระทบของสื่อท่อี ย่รู ่วมกับสิ่งแวดลอ้ ม (McLuhan, 1964) ทฤษฎีนี้เนน้ ให้ความสำคัญ กบั บทบาทของสอ่ื ในการเปลี่ยนแปลงและมีอทิ ธิพลต่อความคดิ เชงิ วฒั นธรรมและการตดิ ตอ่ ส่ือสาร ของมนุษย์ (McLuhan, 1964) การทราบและเข้าใจเก่ียวกบั ทฤษฎีนเิ วศสอ่ื วิทยานจ้ี ะชว่ ยให้นักศึกษาเข้าใจถึง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ือและสง่ิ แวดลอ้ มในสงั คม (McLuhan, 1964) และให้การตระหนักถงึ ผลกระทบของส่ือตอ่ กระบวนการเรยี นรู้และการสื่อสารทางการศึกษาในสถานการณท์ างการศกึ ษา ตา่ งๆ (McLuhan, 1964) คำจำกดั ความและความสำคญั ทฤษฎนี เิ วศสือ่ เป็นกรอบทฤษฎีทมี่ คี วามหมายและความสำคญั สำหรบั การศึกษา เก่ยี วกับความสัมพนั ธ์ระหว่างมนษุ ย์และสื่อในสังคม (McLuhan, 1964) ทฤษฎีนี้มองวา่ ส่ือเป็นส่วน หน่ึงทส่ี ร้างสรรคแ์ ละมผี ลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อม (McLuhan, 1964) โดยในทางกลบั กัน สิ่งแวดลอ้ ม กม็ ีผลต่อส่ือและกระทบสื่อในรูปแบบตา่ งๆ (McLuhan, 1964) คำจำกัดความท่ีสำคัญในทฤษฎนี ิเวศสือ่ ได้แก:่ 1. ส่ือ (Media): เปน็ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่ือสารและการเผยแพรข่ ้อมลู อาทิเช่น หนังสือ เว็บไซต์ วทิ ยุ โทรทศั น์ เป็นตน้ (McLuhan, 1964) 2. สิง่ แวดล้อม (Environment): ประกอบไปดว้ ยบรบิ ททางสงั คมและทางวัฒนธรรมท่ีมี อิทธิพลต่อการส่ือสารและการเข้าถงึ ข้อมูล (McLuhan, 1964) 3. สอ่ื แทรกซมึ (Media Interference): การกระทำของสือ่ ทเ่ี ขา้ มาเปลย่ี นแปลงส่ิงแวดล้อม และมผี ลกระทบต่อผูใ้ ช้สื่อและสงั คม (McLuhan, 1964) 4. กลไกการเรยี นรแู้ ละการส่ือสารทางการศกึ ษา (Educational Communication and Learning Mechanisms): การประยกุ ต์ใชส้ ื่อและเทคโนโลยใี นกระบวนการเรียนรู้และการ สอ่ื สารทางการศึกษา (McLuhan, 1964) ธีรชาติ น้อยสมบัติ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวตั กรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธ์ุ

ทฤษฎีและแบบจำลอง 56 นวัตกรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และส่อื สารการศึกษา การประยกุ ตใ์ ชใ้ นเทคโนโลยีและการสอื่ สารทางการศึกษา ทฤษฎนี ิเวศสือ่ เป็นกรอบทฤษฎีทมี่ ีความสำคัญในการเข้าใจและประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยี และการสื่อสารทางการศึกษา (Ong, 1982) เพ่อื เสรมิ สร้างประสิทธิผลในกระบวนการเรียนรู้และ การสอน (Lankshear & Knobel, 2006) นอกจากน้ียังช่วยใหน้ ักศึกษาสามารถเข้าใจผลกระทบของ สื่อและเทคโนโลยีต่อสงั คมและสิ่งแวดล้อม (Strate, 2004) การประยุกตใ์ ชท้ ฤษฎนี เิ วศสื่อในเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศกึ ษาช่วยให้เกดิ การเรียนร้ทู มี่ ีความหมายและเชอื่ มโยงกบั สิ่งแวดล้อมและสงั คม (Ong, 1982) โดยสามารถนำ เทคโนโลยีและสอื่ มาใช้ในการสร้างประสบการณก์ ารเรียนรู้ทห่ี ลากหลายและน่าสนใจ (Lankshear & Knobel, 2006) นอกจากน้ยี ังชว่ ยเสริมสรา้ งการสอ่ื สารและการมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรยี นรู้ (Strate, 2004) การประยุกต์ใชท้ ฤษฎนี เิ วศส่ือในเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษาสามารถทำไดโ้ ดยการ: 1. ออกแบบและพฒั นาสื่อและเทคโนโลยที ่ีสอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มและความตอ้ งการของ ผู้เรยี น (Ong, 1982) 2. สร้างโอกาสให้ผู้เรียนมีประสบการณก์ ารเรียนรู้ที่มีความหมายและเช่ือมโยงกบั ความเป็นจริง ในชวี ติ ประจำวนั (Lankshear & Knobel, 2006) 3. สนบั สนนุ การสอื่ สารและการมสี ว่ นรว่ มของผู้เรียนในกระบวนการเรยี นรูด้ ้วยการใช้สือ่ และ เทคโนโลยีทเี่ หมาะสม (Strate, 2004) การประยุกต์ใช้ทฤษฎนี เิ วศส่อื ในเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศึกษาเป็น ประโยชน์ทส่ี ำคัญในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการสอนในสถานการณท์ ี่มกี ารเปลีย่ นแปลง อย่างรวดเร็วในสังคมแหง่ การส่ือสาร (Ong, 1982) การเขา้ ใจและนำทฤษฎนี ิเวศส่อื มาประยุกต์ใช้ใน การออกแบบและการใช้เทคโนโลยีและสอ่ื ในการสอนชว่ ยให้ผเู้ รียนได้รับประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่ีมี คุณภาพและน่าสนใจ (Lankshear & Knobel, 2006) และสามารถเชอ่ื มโยงกับสังคมและ ส่ิงแวดล้อมโดยรอบอย่างมีความสอดคล้อง (Strate, 2004) คำถามชวนคดิ 3.1 : ทฤษฎนี ิเวศสอื่ วทิ ยาเสนอภาพความสมั พนั ธ์ระหว่างมนุษย์และส่ือในสงั คม ถา้ เราใช้ทฤษฎีนี้ในการเขา้ ใจและประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยแี ละสอ่ื ในการสอน คุณคดิ ว่าจะสรา้ ง ประสบการณ์การเรียนรูท้ ี่น่าสนใจและท้าทายอย่างไร? ทฤษฎกี ารเรยี นรทู้ างสังคม ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางสงั คม (social cognitive theory) เปน็ กรอบทฤษฎที ่ีมคี วามสำคัญ ในการเขา้ ใจและประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศกึ ษาในกระบวนการเรยี นรู้ (Bandura, 1986) ทฤษฎีน้ีเน้นการเรยี นรทู้ เ่ี กิดจากกระบวนการสังคมและผ้เู รียนสามารถเรียนรจู้ าก ธีรชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตร์และนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์

ทฤษฎีและแบบจำลอง 57 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสื่อสารการศึกษา ผอู้ ่ืนผา่ นการตัดสินใจและแบบจำลอง (Bandura, 1986) นอกจากนีย้ งั เน้นความสำคญั ของปัจจัยใน ส่ิงแวดลอ้ มและการกระทำของตนเองต่อการเรยี นร้แู ละพฒั นาการของผเู้ รียน (Bandura, 1986) การประยุกตใ์ ช้ทฤษฎกี ารเรียนรูท้ างสงั คมในเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษาช่วย ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถเรยี นรู้ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ (Bandura, 1986) โดยสามารถนำเทคโนโลยแี ละส่ือ ตา่ งๆ เข้ามาสร้างประสบการณก์ ารเรยี นร้ทู ่ีมีการตดั สนิ ใจและแบบจำลอง (Bandura, 1986) นอกจากนย้ี ังสร้างสภาพแวดล้อมทส่ี นบั สนนุ และกระตุน้ ใหผ้ ู้เรียนพัฒนาทกั ษะและเชื่อมโยงความรู้ กบั ประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน (Bandura, 1986) การประยุกต์ใช้ทฤษฎกี ารเรยี นร้ทู างสังคมในเทคโนโลยแี ละการส่ือสารทางการศึกษา สามารถทำไดโ้ ดยการ: 1. ออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยแี ละสื่อทสี่ ่งเสริมให้ผเู้ รียนมีโอกาสในการตัดสนิ ใจและ แบบจำลอง (Bandura, 1986) 2. สรา้ งสภาพแวดลอ้ มการเรยี นรทู้ ่ีสนบั สนุนและกระตนุ้ ใหผ้ ู้เรียนทำความรูจ้ ากประสบการณ์ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชีวิตประจำวัน (Bandura, 1986) 3. สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันและแบง่ ปนั ความรูผ้ า่ นการใชเ้ ทคโนโลยีและสอื่ ทางการศึกษา (Bandura, 1986) นิยามและแนวความคิดหลัก ทฤษฎีการเรยี นรู้ทางสังคมเป็นกรอบทฤษฎีที่มคี วามสำคัญในการเขา้ ใจและ ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษาในกระบวนการเรียนรู้ (Bandura, 1986) ทฤษฎี นเ้ี นน้ การเรียนรทู้ เ่ี กิดจากกระบวนการสงั คม และผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากผู้อืน่ ผา่ นการตัดสินใจ และแบบจำลอง (Bandura, 1986) นอกจากน้ยี ังเน้นความสำคัญของปัจจัยในส่งิ แวดลอ้ มและการ กระทำของตนเองตอ่ การเรยี นรูแ้ ละพฒั นาการของผเู้ รยี น (Bandura, 1986) การประยุกตใ์ ชใ้ นเทคโนโลยแี ละการสื่อสารทางการศกึ ษา การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเรยี นรทู้ างสังคมในเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศึกษามี ความสำคัญในการสรา้ งสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ทสี่ นับสนนุ และกระต้นุ ให้ผูเ้ รยี นสามารถพฒั นา ทกั ษะและเชื่อมโยงความร้กู บั ประสบการณ์ในชวี ิตประจำวัน (Bandura, 1986) น่ีคือการประยุกตใ์ ช้ ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางสังคมในเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศกึ ษา: 1. การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสังคม: เทคโนโลยกี ารสอ่ื สารสงั คม เช่น เว็บไซต์สื่อสังคมและ แพลตฟอรม์ ส่ือสงั คมอืน่ ๆ สามารถใช้เพอ่ื สร้างโอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นได้เรยี นรูจ้ ากผู้อื่น โดยการ แบ่งปันประสบการณแ์ ละความรู้ ผเู้ รยี นสามารถติดตามและเขา้ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กย่ี วข้องกับ สารสนเทศและการสอื่ สาร ซึง่ จะชว่ ยเสรมิ สร้างการตดั สนิ ใจและแบบจำลองในการเรียนรู้ (Bandura, 1986) ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสนิ ธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 58 นวตั กรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และส่ือสารการศึกษา 2. การใชส้ อื่ และเทคโนโลยเี พื่อการจำลองและการตดั สนิ ใจ: การใชส้ อื่ และเทคโนโลยตี ่าง ๆ เช่น วิดโี อการเรยี นร้อู อนไลน์ แอปพลเิ คชันการจำลอง หรอื ส่ือการเรียนร้อู ่นื ๆ สามารถ ชว่ ยในการสร้างการตดั สินใจและแบบจำลองทเี่ หมาะสมในกระบวนการเรยี นรู้ (Bandura, 1986) ผู้เรยี นสามารถสงั เกตและจำลองการกระทำของผ้อู ื่นผ่านสอ่ื ท่สี รา้ งข้ึนมาเพ่ือเรยี นรู้ และพัฒนาทักษะต่าง ๆ อีกท้ังยงั สามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการบันทกึ และวิเคราะห์การ กระทำของตนเองเพ่ือเสรมิ สร้างการเรยี นรู้ (Bandura, 1986) 3. การสร้างสภาพแวดลอ้ มการเรยี นรทู้ สี่ นบั สนุน: การใช้เทคโนโลยแี ละส่อื ต่าง ๆ เพื่อสรา้ ง สภาพแวดลอ้ มทสี่ นับสนนุ การเรียนรขู้ องผเู้ รียน (Bandura, 1986) อาจเปน็ การสร้าง เว็บไซต์เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นเข้าถงึ ข้อมลู และแหลง่ เรยี นรู้ การใชร้ ะบบการติดตามความกา้ วหน้าใน การเรียนรู้ เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถติดตามและปรบั ปรุงการพฒั นาของตนเองได้ (Bandura, 1986) การประยุกตใ์ ช้ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางสังคมในเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษา ช่วยใหผ้ เู้ รียนสามารถเรียนรูไ้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ โดยสร้างสภาพแวดลอ้ มการเรยี นรูท้ ี่สนับสนนุ และกระต้นุ ให้ผู้เรยี นพัฒนาทักษะและเชอ่ื มโยงความรู้กับประสบการณ์ในชวี ติ ประจำวัน (Bandura, 1986) คำถามชวนคิด 3.2 : ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเปน็ กรอบทฤษฎีท่ีสำคัญในการประยุกตใ์ ช้ เทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารทางการศึกษาในกระบวนการเรียนรู้ ถา้ คุณเปน็ ผู้เรียน คุณคดิ ว่าการใช้ เทคโนโลยีและส่ือเหล่านจี้ ะช่วยใหค้ ณุ สร้างประสบการณ์การเรียนรทู้ ี่นา่ สนุกและทา้ ทายอยา่ งไร? ทฤษฎกี ารแพร่กระจายของนวัตกรรม ทฤษฎกี ารแพร่กระจายของนวัตกรรม (diffusion of innovations theory) เปน็ ทฤษฎที ี่ ชว่ ยใหเ้ ราเขา้ ใจกระบวนการและปจั จัยท่สี ง่ ผลต่อการเผยแพร่และการนำนวตั กรรมเขา้ สู่การใช้งาน ในกลมุ่ หรือองค์กรต่าง ๆ (Rogers, 2003) ทฤษฎีนี้มคี วามสำคัญสงู ในเทคโนโลยแี ละการสื่อสารทาง การศกึ ษา โดยเราสามารถนำทฤษฎกี ารแพร่ระบาดของนวัตกรรมมาใชใ้ นเชิงปฏบิ ตั ิในด้าน เทคโนโลยแี ละการสือ่ สารทางการศึกษาไดด้ งั น้:ี 1. แผนการสือ่ สารและการบริหารจัดการการแพร่ระบาด: การใช้ทฤษฎกี ารแพรร่ ะบาดของ นวตั กรรมชว่ ยในการวางแผนและจดั การกระบวนการสอ่ื สารในการแพร่ระบาดของ นวตั กรรมในระดับองค์กรหรือระดับกลมุ่ เป้าหมาย โดยการตรวจสอบปจั จัยท่ีมผี ลต่อการ รบั รู้และการยอมรับนวัตกรรม เพอ่ื เพมิ่ โอกาสให้นวัตกรรมน้นั ๆ ไดร้ บั การนำมาใชใ้ นระดับ องค์กรหรอื ระดับกลุม่ ที่กว้างข้นึ (Rogers, 2003) 2. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นร้:ู ทฤษฎกี ารแพร่ระบาดของนวัตกรรมชว่ ยใหผ้ ูส้ อนสามารถ ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ที่สอดคลอ้ งกบั กระบวนการแพรร่ ะบาดของนวตั กรรมและชว่ ย สนบั สนนุ ใหผ้ เู้ รียนยอมรบั และนำนวตั กรรมมาใช้ในสถานการณ์การเรียนรู้ (Rogers, 2003) ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสนิ ธุ์

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 59 นวตั กรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสอ่ื สารการศึกษา 3. การสรา้ งทีมงานและเครือข่าย: การใช้ทฤษฎกี ารแพรร่ ะบาดของนวัตกรรมชว่ ยในการสร้าง ทมี งานและเครือขา่ ยที่สนบั สนนุ กระบวนการแพร่ระบาดของนวตั กรรมในองค์กรหรือกลุ่ม การเรียนรู้ โดยการส่งเสริมการแลกเปลีย่ นข้อมูลและความรรู้ ะหวา่ งสมาชกิ ในทีมหรือ เครือข่าย (Rogers, 2003) การประยุกต์ใชท้ ฤษฎีการแพร่ระบาดของนวัตกรรมในเทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารทาง การศกึ ษาช่วยให้ผ้เู รียนและองคก์ รสามารถนำเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมมาใช้ในการเรยี นรู้และการ ประยุกตใ์ ชใ้ นการสื่อสารได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ (Rogers, 2003) นิยามและแนวความคิดหลกั ทฤษฎีการแพร่กระจายของนวัตกรรม (Diffusion of Innovations Theory) เป็น ทฤษฎีท่ีใช้ในการอธบิ ายกระบวนการและปัจจัยที่ส่งผลต่อการแพร่กระจายและการนำนวตั กรรมเขา้ สกู่ ารใชง้ านในกลุ่มหรอื องค์กรต่าง ๆ (Rogers, 2003) ทฤษฎีนี้มีความสำคัญสูงในเทคโนโลยแี ละการ สอ่ื สารทางการศกึ ษา และช่วยให้เราเขา้ ใจวา่ ทำไมบางนวตั กรรมถึงได้รบั ความนยิ มและถูกนำมาใช้ งานในระดบั องค์กรหรอื กลุม่ เป้าหมาย ในขณะท่ีบางนวตั กรรมกลับไม่สามารถแพร่กระจายและใช้ งานได้เท่าทีค่ าดหวัง (Rogers, 2003) ในทฤษฎีการแพร่กระจายของนวัตกรรม มีคำศพั ทแ์ ละความสำคญั ท่ีควรร้ดู งั น้ี: 1. นวัตกรรม (Innovation): หมายถึงการสร้างส่ิงใหม่ที่มคี ุณค่าและประโยชน์สำหรบั กล่มุ หรือ องค์กร นวตั กรรมสามารถเป็นเทคโนโลยใี หม่ แนวคดิ ใหม่ หรือวธิ กี ารท่ีเปลี่ยนแปลงจาก สถานะเดมิ (Rogers, 2003) 2. กระบวนการแพร่กระจาย (Diffusion): เปน็ กระบวนการท่ีนวตั กรรมถกู แพร่กระจายและ เผยแพรไ่ ปยงั กล่มุ หรือองค์กรอน่ื ๆ ในชมุ ชนหรอื ระดบั ตา่ ง ๆ กระบวนการแพร่กระจาย สามารถเกดิ ข้นึ ได้ดว้ ยการส่ือสาร การสงั คม หรอื การกระจายขา่ ว (Rogers, 2003) 3. กล่มุ เป้าหมาย (Adopter Categories): องค์กรหรือกลมุ่ ทม่ี ีบทบาทในกระบวนการ แพร่กระจายของนวตั กรรม แบง่ ออกเป็น 5 กลุ่ม ไดแ้ ก่ นกั บรหิ าร (innovators), ผู้มสี ว่ น ร่วมในการตดั สนิ ใจ (early adopters), ผู้นำเลอื ก (early majority), ผู้นำเลอื ก (late majority), และผู้ที่ยอมรับในระยะสดุ ท้าย (laggards) (Rogers, 2003) การประยกุ ต์ใชใ้ นเทคโนโลยีและการส่อื สารทางการศกึ ษา การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการแพรร่ ะบาดของนวัตกรรมในเชงิ วทิ ยาศาสตรแ์ ละการส่ือสาร ทางการศึกษามคี วามสำคัญสำหรบั การเพิ่มประสิทธภิ าพในการนำเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมเขา้ สู่ ระบบการศกึ ษา ทฤษฎีน้ีสามารถใหเ้ ครื่องมือและแนวทางในการสนบั สนุนกระบวนการนำเทคโนโลยี เขา้ ส่กู ารใช้งานอยา่ งเหมาะสม นอกจากนยี้ ังช่วยใหผ้ ูบ้ รหิ ารและผู้รับผิดชอบการตัดสินใจสามารถ วางแผนและจดั การในการนำเทคโนโลยีไปใชใ้ นสถานการณ์การศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ (Rogers, 2003) ธรี ชาติ น้อยสมบัติ คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสินธุ์

ทฤษฎีและแบบจำลอง 60 นวตั กรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสอ่ื สารการศึกษา ในการประยุกต์ใชท้ ฤษฎกี ารแพร่ระบาดของนวัตกรรมในการสื่อสารทางการศกึ ษาและ เทคโนโลยี สามารถนำมาใช้ในรปู แบบต่างๆ ไดแ้ ก่: 1. การวางแผนและการตัดสนิ ใจ: ทฤษฎีการแพรร่ ะบาดของนวตั กรรมช่วยให้ผู้บรหิ ารและ ผู้รบั ผิดชอบการตดั สินใจสามารถวางแผนการนำเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมเขา้ สรู่ ะบบ การศกึ ษาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ การแพร่ระบาดและการนำ เทคโนโลยีเข้าสู่การใช้งานในองค์กร (Rogers, 2003) 2. การสรา้ งความตระหนักและการสื่อสาร: การใชท้ ฤษฎีการแพรร่ ะบาดของนวัตกรรมช่วยให้ สามารถสรา้ งความตระหนักและแพรร่ ะบาดข้อมูลเก่ียวกบั เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมที่มี ประสทิ ธภิ าพในการสอ่ื สารทางการศึกษา ทำใหผ้ ูเ้ รียนและผสู้ นใจรบั รู้และตอบสนองต่อการ เปล่ยี นแปลงทเี่ กิดข้นึ (Rogers, 2003) 3. การสนับสนุนและการเรียนร:ู้ ทฤษฎนี ชี้ ่วยในการสนับสนนุ และสง่ เสรมิ กระบวนการการ เรยี นรทู้ ่ีมเี ทคโนโลยีเปน็ สว่ นหนึ่ง โดยเนน้ การสรา้ งสถานการณก์ ารเรยี นรู้ท่ีมคี วามม่นั ใจใน การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพ่ือสง่ เสรมิ การเรียนรู้และพัฒนาทักษะของผเู้ รียน (Rogers, 2003) คำถามชวนคดิ 3.3 : ในเวทีการศกึ ษาและเทคโนโลยีท่ีเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ทำไมบาง นวัตกรรมถึงไดร้ บั ความนิยมและสามารถนำมาใชใ้ นองค์กรหรือกลมุ่ ไดส้ ำเรจ็ ในขณะท่ีบาง นวัตกรรมกลบั ไมส่ ามารถแพร่กระจายและนำมาใช้งานได้เท่าทคี่ าดหวัง? แบบจำลองในเทคโนโลยีและการสอ่ื สารทางการศึกษา การใชแ้ บบจำลองเป็นเคร่ืองมือในการเขา้ ใจและศึกษาเก่ยี วกบั เทคโนโลยแี ละการส่อื สาร ทางการศกึ ษามคี วามสำคัญอย่างมากสำหรบั นักศึกษาครูในระดบั ปริญญาตรี แบบจำลองเหลา่ นี้ช่วย ให้ผเู้ รยี นสามารถเข้าใจและนำความรู้ด้านเทคโนโลยแี ละการสอื่ สารทางการศึกษาไปใชใ้ นการสอน ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ แบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยี แบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยี (Technology Acceptance Model: TAM) เป็น แบบจำลองทส่ี ำคญั และนา่ สนใจในการเข้าใจและศึกษาเกี่ยวกบั การตอบรับและการใชเ้ ทคโนโลยใี น การสอ่ื สารทางการศึกษา แบบจำลองนี้ได้รบั ความนิยมและถกู นำมาใช้ในการศึกษาพฤติกรรมการใช้ เทคโนโลยีในหลากหลายสถานการณ์ (Davis, 1989; Venkatesh & Davis, 2000) แบบจำลอง TAM นำเสนอสองตัวแปรหลกั คอื ความรูก้ ับเทคโนโลยี (Perceived Usefulness) และความสะดวกในการใช้งานเทคโนโลยี (Perceived Ease of Use) ตวั แปรเหล่านี้ ชว่ ยใหผ้ ู้ใชเ้ ทคโนโลยีรูส้ ึกว่าเทคโนโลยีมปี ระโยชนแ์ ละใชง้ านไดง้ า่ ย โดยผู้ใช้ทร่ี บั รู้ความสมบูรณ์และ ธรี ชาติ น้อยสมบัติ คณะศกึ ษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลัยกาฬสินธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 61 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสือ่ สารการศกึ ษา ประโยชน์ของเทคโนโลยมี ากข้นึ จะมีความน่าจะเปน็ ทจี่ ะยอมรบั และใชเ้ ทคโนโลยนี ัน้ สูงขน้ึ (Davis, 1989) การนำแบบจำลอง TAM มาใช้ในการสอนและการสื่อสารทางการศึกษาสามารถช่วยให้ นักศกึ ษาครูสามารถทำความเขา้ ใจและวิเคราะห์พฤติกรรมการใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอนของนกั เรียน ได้อย่างเหมาะสม การศกึ ษาแบบจำลอง TAM ชว่ ยใหน้ ักศึกษาครเู ขา้ ใจถงึ ปจั จัยที่มผี ลต่อการตอบ รบั และการใช้งานเทคโนโลยีทางการศึกษา ซ่งึ สามารถนำไปใช้ในการออกแบบกจิ กรรมการสอนที่ สอดคลอ้ งกบั ความต้องการและความพึงพอใจของนักเรียน (Venkatesh & Davis, 2000) นยิ ามและแนวความคิดหลัก แบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยี (Technology Acceptance Model: TAM) เป็น แบบจำลองที่มคี วามสำคญั ในการเขา้ ใจและศึกษาเกีย่ วกบั การตอบรับและการใช้เทคโนโลยใี นการ สอื่ สารทางการศึกษา (Davis, 1989; Venkatesh & Davis, 2000). แบบจำลองน้ีได้รบั ความนยิ ม และถูกนำมาใชใ้ นการศึกษาพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีในหลากหลายสถานการณ์ (Davis, 1989). แบบจำลอง TAM นำเสนอสองตวั แปรหลกั ท่ีมีความสำคญั คอื ความรู้กับเทคโนโลยี (Perceived Usefulness) และความสะดวกในการใช้งานเทคโนโลยี (Perceived Ease of Use) (Davis, 1989). ความรกู้ บั เทคโนโลยีหมายถึงความเช่ือของบุคคลวา่ การใช้เทคโนโลยจี ะมีประโยชน์ ต่อการปฏิบตั งิ านหรือภารกจิ ที่ตอ้ งทำ ส่วนความสะดวกในการใช้งานเทคโนโลยหี มายถงึ ความงา่ ย และความสะดวกในการเรียนรูแ้ ละใช้งานเทคโนโลยี (Davis, 1989). แบบจำลอง TAM ชว่ ยใหผ้ ใู้ ชเ้ ทคโนโลยรี ู้สกึ ว่าเทคโนโลยีมปี ระโยชนแ์ ละใช้งานไดง้ ่าย (Davis, 1989). ถ้าผ้ใู ชร้ ับรูค้ วามสมบูรณ์และประโยชน์ของเทคโนโลยมี ากขนึ้ จะมีความนา่ จะเป็นที่ จะยอมรบั และใช้เทคโนโลยนี น้ั โดยสูงขน้ึ (Davis, 1989). การนำแบบจำลอง TAM มาใช้ในการสอนและการสื่อสารทางการศึกษาสามารถช่วย ให้นกั ศึกษาครสู ามารถทำความเขา้ ใจและวิเคราะห์พฤตกิ รรมการใชเ้ ทคโนโลยีในการสอนของ นักเรียนได้อยา่ งเหมาะสม (Venkatesh & Davis, 2000). การศกึ ษาแบบจำลอง TAM ชว่ ยให้ นกั ศึกษาครเู ข้าใจถึงปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ การตอบรับและการใช้งานเทคโนโลยีทางการศึกษา ซึ่งสามารถ นำไปใชใ้ นการออกแบบกจิ กรรมการสอนทส่ี อดคล้องกับความตอ้ งการและความพึงพอใจของ นักเรียน (Venkatesh & Davis, 2000). การประยุกต์ใช้ในเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศึกษา การประยุกต์ใช้แบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยี (Technology Acceptance Model: TAM) ในเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษาช่วยให้นกั ศกึ ษาครสู ามารถทำความเข้าใจ และวิเคราะห์พฤตกิ รรมการใช้เทคโนโลยีในการสอนของนักเรียนได้อยา่ งเหมาะสม (Venkatesh & Davis, 2000). แบบจำลอง TAM เปน็ เคร่ืองมอื ทีช่ ่วยให้เราสามารถวิเคราะหค์ วามพงึ พอใจและการ ยอมรบั ของผ้ใู ชต้ ่อเทคโนโลยใี นทางการศกึ ษา (Venkatesh & Davis, 2000). การศึกษาแบบจำลอง ธีรชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ

ทฤษฎีและแบบจำลอง 62 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และสื่อสารการศึกษา TAM ชว่ ยใหน้ กั ศึกษาครเู ข้าใจถงึ ปัจจยั ท่มี ีผลต่อการตอบรับและการใชง้ านเทคโนโลยที างการศึกษา นักศกึ ษาครูสามารถใชแ้ บบจำลอง TAM เพื่อประเมนิ และวิเคราะหค์ วามพงึ พอใจของนักเรียนในการ ใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ (Venkatesh & Davis, 2000). การใชแ้ บบจำลอง TAM ในการออกแบบกจิ กรรมการสอนทใี่ ช้เทคโนโลยีสามารถชว่ ย ให้นกั ศึกษาครูสามารถตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของนกั เรียนได้ (Venkatesh & Davis, 2000). โดยการปรับปรงุ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสอนตามผลวิเคราะห์แบบจำลอง TAM นกั ศึกษาครูสามารถสรา้ งประสบการณก์ ารเรียนรู้ทเ่ี ตม็ เป่ียมไปด้วยประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลสูงสดุ ใหก้ ับนกั เรียน (Venkatesh & Davis, 2000) คำถามชวนคิด 3.4 : แบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยี (TAM) มีบทบาทสำคัญในการเข้าใจ พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา หากคณุ เป็นผเู้ รียน คุณคิดวา่ อะไรทำให้คณุ ม่ันใจและ ตดั สนิ ใจในการใช้เทคโนโลยใี นการเรียนรูเ้ พิ่มขึน้ ? และสง่ิ ใดท่ีทำให้คณุ เช่อื วา่ เทคโนโลยีเหล่านมี้ ี ประโยชน์และใชง้ านได้งา่ ยมากขึ้น? แบบจำลองระดับการใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ แบบจำลองระดับการใชเ้ ทคโนโลยีในการเรยี นรู้ (Substitution, Augmentation, Modification, Redefinition: SAMR) เปน็ แบบจำลองท่ใี ช้ในการประเมนิ และวเิ คราะห์การใช้ เทคโนโลยใี นการสอนและการสือ่ สารทางการศกึ ษา (Puentedura, 2010) แบบจำลองนี้ชว่ ยให้ นกั ศกึ ษาครูสามารถปรบั ปรงุ และเพิ่มประสทิ ธภิ าพของกระบวนการเรยี นรโู้ ดยใช้เทคโนโลยไี ดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธผิ ล (Puentedura, 2010) นยิ ามและแนวความคดิ หลัก แบบจำลองระดับการใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ (Substitution, Augmentation, Modification, Redefinition: SAMR) เปน็ แบบจำลองท่ีใช้ในการประเมนิ และวเิ คราะห์การใช้ เทคโนโลยีในการสอนและการส่ือสารทางการศึกษา (Puentedura, 2010). แบบจำลองนช้ี ่วยให้ นักศกึ ษาครูสามารถปรับปรงุ และเพิ่มประสทิ ธิภาพของกระบวนการเรียนรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีได้อย่างมี ประสทิ ธิผล (Puentedura, 2010) แบบจำลอง SAMR ประกอบด้วยส่รี ะดับหลักทีแ่ ตกตา่ งกัน ดังน:ี้ 1. Substitution (การแทนที)่ : ระดบั นีเ้ กดิ ขนึ้ เม่ือเทคโนโลยีถกู ใช้แทนทเี่ ครื่องมือหรอื กระบวนการทมี่ ีอยแู่ ลว้ โดยไม่มกี ารเปล่ียนแปลงในกระบวนการการเรียนรหู้ รือผลลพั ธ์ท่ีได้ (Puentedura, 2010) 2. Augmentation (การเพิม่ เติม): ระดับนเ้ี ทคโนโลยีช่วยเพิม่ ประสิทธภิ าพของกระบวนการ การเรยี นรู้โดยเพ่ิมความสามารถเพม่ิ เติมหรือสว่ นขยายของเครื่องมอื หรือกระบวนการที่มีอยู่ (Puentedura, 2010) ธรี ชาติ น้อยสมบัติ คณะศึกษาศาสตร์และนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสนิ ธุ์

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 63 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสือ่ สารการศกึ ษา 3. Modification (การปรบั เปลี่ยน): ระดับน้ีเทคโนโลยชี ว่ ยใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงใน กระบวนการการเรียนร้โู ดยมีการใช้เคร่ืองมือหรือกระบวนการที่แตกต่างไปจากเดิม และ เพ่ิมความสามารถในการสร้างผลงานหรือกระบวนการที่ไมเ่ ปน็ ไปตามทีเ่ คยมีอย่มู าก่อน (Puentedura, 2010) 4. Redefinition (การกำหนดใหม)่ : ระดับสุดทา้ ยน้เี ทคโนโลยชี ่วยใหเ้ กิดการกำหนดใหมข่ อง กระบวนการการเรยี นรูโ้ ดยมีการใช้เคร่ืองมือหรอื กระบวนการทไี่ ม่เคยมีอยู่มาก่อน เกิดการ เปล่ยี นแปลงและการสร้างสรรค์ในการเรยี นรู้ (Puentedura, 2010) การใช้แบบจำลอง SAMR ชว่ ยให้นกั ศึกษาครสู ามารถนำเทคโนโลยีไปใชใ้ นการ ออกแบบกจิ กรรมการสอนที่สามารถสรา้ งประสบการณ์การเรยี นรูท้ เ่ี ปลยี่ นแปลงและมคี ุณค่าสงู สดุ สำหรบั นกั เรยี น (Puentedura, 2010) การประยุกตใ์ ช้ในเทคโนโลยีและการสือ่ สารทางการศกึ ษา แบบจำลอง SAMR (Substitution, Augmentation, Modification, Redefinition) เป็นแบบจำลองทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ และวิเคราะห์การใช้เทคโนโลยีในการสอนและการสอื่ สารทาง การศึกษา (Puentedura, 2010). แบบจำลองนี้ชว่ ยใหค้ รสู ามารถปรบั ปรุงและเพ่ิมประสทิ ธภิ าพของ กระบวนการเรียนร้โู ดยใช้เทคโนโลยไี ดอ้ ย่างมีประสิทธิผล (Puentedura, 2010). แบบจำลอง SAMR ช่วยให้ครสู ามารถตรวจสอบวา่ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอนเป็น เพยี งการแทนท่ีเครอื่ งมือทม่ี ีอยู่แลว้ หรอื มีความสามารถเพิม่ เติมในกระบวนการการเรยี นรู้ หรือการ ปรบั เปลยี่ นและสรา้ งใหม่ในกระบวนการการเรยี นรู้ (Puentedura, 2010). การนำแบบจำลอง SAMR เขา้ มาใช้ในการสอนและการสื่อสารทางการศึกษาช่วยให้ครสู ามารถวางแผนและออกแบบ กจิ กรรมการสอนทีเ่ ตม็ เปย่ี มด้วยเทคโนโลยที ี่สามารถสง่ เสรมิ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และการทำงานรว่ มกันของนกั เรยี นได้ (Puentedura, 2010). การนำแบบจำลอง SAMR มาใชใ้ นการสอนสามารถเปลยี่ นแปลงกระบวนการการ เรยี นรใู้ หเ้ ป็นไปในทศิ ทางท่ดี ีข้ึน นกั ศึกษาครูสามารถใช้เทคโนโลยีเพอ่ื สง่ เสริมการเรยี นรใู้ นระดบั ที่ สูงขึ้น เชน่ นำเทคโนโลยีในการสอนเข้ามาใชเ้ พ่ือเสรมิ สรา้ งส่ิงที่เคร่ืองมือหรอื กระบวนการเดมิ ไม่ สามารถทำได้ หรือใช้เทคโนโลยเี พือ่ สร้างเคร่อื งมือใหม่ท่ีมีประสทิ ธิภาพสงู ขึน้ เพ่ือใชใ้ นกระบวนการ การเรยี นรู้ (Puentedura, 2010). ในการนำแบบจำลอง SAMR เขา้ สกู่ ารสอนและการสื่อสารทางการศึกษา ครสู ามารถ ใชเ้ ทคโนโลยีในการออกแบบกิจกรรมเพ่ือให้ผูเ้ รียนไดร้ บั ประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีเปล่ยี นแปลงและ มคี ณุ ค่าสูงสุด ตัวอย่างเชน่ การใช้แอปพลิเคชันสรา้ งสรรคใ์ นการสร้างผลงานทไ่ี ม่เคยมอี ยู่มาก่อน เชน่ การสรา้ งวดิ ีโอการเรียนรู้ การออกแบบเกมการเรยี นรู้ หรอื การสรา้ งสือ่ การสอนท่สี ามารถมอบ ประสบการณ์การเรียนรทู้ ่ีมคี ุณค่าสงู ใหแ้ ก่ผู้เรียนได้ (Puentedura, 2010) ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลยั กาฬสนิ ธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 64 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และส่อื สารการศกึ ษา คำถามชวนคดิ 3.5 : แบบจำลอง SAMR (Substitution, Augmentation, Modification, Redefinition) เสนอขั้นตอนการใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรียนรู้ท่แี ตกตา่ งกนั หากคุณเป็นครู คุณคดิ วา่ การนำเทคโนโลยไี ปใช้ในการสอนเพื่อสง่ เสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และการ ทำงานรว่ มกนั ของนักเรียน ควรทำอย่างไรเพื่อให้เกิดการเปล่ยี นแปลงและมีคณุ ค่าสงู สดุ สำหรบั ผู้เรียน? แบบจำลองความร้เู ชิงเทคโนโลยแี ละการสอนแบบองค์รวม แบบจำลองความรเู้ ชิงเทคโนโลยีและการสอนแบบองคร์ วม (Technological Pedagogical Content Knowledge: TPACK) เปน็ แบบจำลองทสี่ ำคัญในการวิเคราะห์และบง่ บอก ความรูแ้ ละทักษะท่จี ำเป็นในการนำเทคโนโลยมี าประยุกตใ์ ช้ในการสอนและการส่ือสารทาง การศึกษา (Mishra & Koehler, 2006) TPACK ชว่ ยใหเ้ ราเข้าใจถงึ ความรู้และความเข้าใจที่ เกย่ี วข้องกบั การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสอนในบรบิ ททางการศึกษา (Koehler & Mishra, 2009) นิยามและแนวความคิดหลัก แบบจำลองความรูเ้ ชิงเทคโนโลยีและการสอนแบบองคร์ วม (Technological Pedagogical Content Knowledge: TPACK) เป็นแบบจำลองที่สำคัญในการวิเคราะห์และบง่ บอก ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการนำเทคโนโลยมี าประยุกตใ์ ช้ในการสอนและการสื่อสารทาง การศกึ ษา (Mishra & Koehler, 2006) แบบจำลอง TPACK อธบิ ายถึงความร้แู ละความเข้าใจท่ี จำเปน็ ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสอนในบรบิ ททางการศกึ ษา (Koehler & Mishra, 2009) แบบจำลอง TPACK ประกอบด้วยสามองคป์ ระกอบหลัก คือความรู้เกีย่ วกบั เน้ือหา (Content Knowledge) ความรู้เกย่ี วกบั กระบวนการการสอน (Pedagogical Knowledge) และ ความรูเ้ กีย่ วกบั เทคโนโลยี (Technological Knowledge) (Mishra & Koehler, 2006) แบบจำลอง น้ีชว่ ยใหเ้ ราเขา้ ใจถงึ ความสมั พนั ธ์และการประยุกตใ์ ช้ความรู้และทกั ษะในทั้งสามดา้ นเหล่านีเ้ พ่ือ สร้างประสบการณ์การเรยี นรู้ทมี่ ีคุณคา่ สูงสุดสำหรับผเู้ รยี น (Koehler & Mishra, 2009) แบบจำลอง TPACK ประกอบดว้ ยสามองคป์ ระกอบหลักคอื : 1. ความรูเ้ กี่ยวกับเน้ือหา (Content Knowledge): ความรู้และความเขา้ ใจเกย่ี วกบั เนือ้ หาวิชา ท่ีจะสอน เชน่ ความรใู้ นวิชาคณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือภาษาต่างประเทศ 2. ความรู้เกย่ี วกบั กระบวนการการสอน (Pedagogical Knowledge): ความรู้และความเขา้ ใจ เกี่ยวกบั วิธกี ารสอนทเี่ หมาะสมและมีประสิทธิภาพ เช่น การวางแผนการสอน การจดั การชั้น เรยี น หรือวิธีการประเมินผล 3. ความรู้เกย่ี วกับเทคโนโลยี (Technological Knowledge): ความร้แู ละความเข้าใจเกย่ี วกับ เทคโนโลยที ีส่ อนใช้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรืออปุ กรณ์ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ตา่ ง ๆ ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลัยกาฬสินธุ์

ทฤษฎีและแบบจำลอง 65 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสอ่ื สารการศึกษา TPACK เน้นความสัมพันธแ์ ละการบรู ณาการระหว่างสามองคป์ ระกอบเหล่าน้ี ซ่ึง นกั ศึกษาครสู ามารถใช้ TPACK เพ่อื พฒั นาการวางแผนการสอนทมี่ ีการใช้เทคโนโลยีเขา้ มาชว่ ย เสริมสรา้ งการเรยี นรู้ของนกั เรียนไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ (Mishra & Koehler, 2006) การประยุกต์ใชใ้ นเทคโนโลยแี ละการสื่อสารทางการศกึ ษา การนำแบบจำลอง TPACK (Technological Pedagogical Content Knowledge) ไปใช้ในการส่ือสารทางการศึกษาและการใช้เทคโนโลยีสามารถช่วยให้ครูสามารถวางแผนและ ออกแบบกจิ กรรมการสอนท่ีมีความร้ทู างเน้ือหา ความรู้ทางการสอน และความรทู้ างเทคโนโลยเี ขา้ กนั ได้อยา่ งเหมาะสม (Mishra & Koehler, 2009). ในการใช้ TPACK ในการสอนและการส่ือสารทางการศึกษา เราสามารถนำเทคโนโลยี มาเพิม่ ความสนกุ สนานและมีประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนรู้ของนักเรยี นได้ ตัวอย่างเชน่ ใชแ้ อป พลิเคชันสอื่ การเรยี นรู้ เว็บไซตก์ ารฝึกอบรมออนไลน์ หรอื เครือ่ งมือแสดงผลการเรยี นรู้ท่ีเปน็ กราฟิก (Koehler & Mishra, 2009). การปฏบิ ตั ิใช้ TPACK ยงั สง่ ผลใหน้ ักเรียนได้รบั ประสบการณ์การเรยี นรู้ที่หลากหลาย และนา่ สนใจมากขนึ้ โดยสามารถใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อสรา้ งสถานการณ์และเหตกุ ารณท์ เ่ี ข้าใจง่ายและ เกีย่ วขอ้ งกบั สาระสำคญั ในการเรยี นรู้ (Mishra & Koehler, 2009) คำถามชวนคดิ 3.6 : การนำแบบจำลอง TPACK (Technological Pedagogical Content Knowledge) มาใช้ในการสอนและการสื่อสารทางการศึกษาสามารถทำให้เกดิ ความเขา้ กันได้ของ ความรูท้ างเนื้อหา ความรู้ทางการสอน และความรู้ทางเทคโนโลยีได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ คุณคดิ ว่า ครคู วรใช้เทคโนโลยใี นกระบวนการสอนอยา่ งไรให้มปี ระสทิ ธผิ ลและนา่ สนุกสนานท่สี ดุ สำหรับ นกั เรียน? การประยกุ ต์ใชท้ ฤษฎแี ละแบบจำลองในการผสมผสานเทคโนโลยี การประยุกตใ์ ช้ทฤษฎีและแบบจำลองเหลา่ นี้ เราควรทำความเข้าใจถงึ ความสอดคล้อง ระหวา่ งเนื้อหาทางวิชาการ (content knowledge) ทกั ษะทางการสอน (pedagogical knowledge) และทักษะทางเทคโนโลยี (technological knowledge) เพอ่ื ให้สามารถประยุกต์ใช้ เทคโนโลยใี นการสอนอยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธผิ ล (Mishra & Koehler, 2006) นอกจากนี้ เรายงั ต้องพจิ ารณาถึงสภาพแวดลอ้ มการเรียนรู้และความเหมาะสมของ เทคโนโลยที ่ใี ช้ในการสอน โดยพิจารณาถึงความพรอ้ มทางเทคนคิ อุปกรณ์ที่ใช้ เส้นทางการส่ือสาร และความปลอดภัย (Roblyer & Doering, 2014) เม่ือเราสามารถนำทฤษฎีและแบบจำลองเหลา่ น้มี าประยุกตใ์ ชใ้ นการผสมผสานเทคโนโลยี ในการสอนได้อย่างถูกต้อง นกั ศกึ ษาครูสามารถสรา้ งประสบการณ์การเรยี นรูท้ ่ีนา่ สนใจและเตม็ เป่ยี ม ธรี ชาติ น้อยสมบัติ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธ์ุ

ทฤษฎีและแบบจำลอง 66 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และส่อื สารการศกึ ษา ไปด้วยการนำเทคโนโลยีมาชว่ ยในการสอื่ สารและการพฒั นาทักษะของนักเรยี น (Roblyer & Doering, 2014) การออกแบบประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ี่เพ่ิมพูนดว้ ยเทคโนโลยี การนำทฤษฎแี ละแบบจำลองทางการศกึ ษามาใชใ้ นการผสมผสานเทคโนโลยใี นการ สอนและการเรยี นรเู้ ป็นส่งิ สำคญั ที่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสร้าง ประสบการณ์การเรียนรู้ที่มคี ุณคา่ และมีประสิทธิผลสำหรบั นกั เรยี น (Koehler & Mishra, 2009) ใน การออกแบบประสบการณ์การเรียนรูท้ เี่ พิ่มพูนด้วยเทคโนโลยี นกั ศกึ ษาครูควรทำความเข้าใจถงึ ความต้องการของนักเรียนและเป้าหมายการเรยี นรู้ นอกจากน้คี วรใช้ทรัพยากรทางการศึกษาที่ เหมาะสมและเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมเพอื่ สร้างประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่นี ่าสนใจและมีความหมาย (Roblyer & Doering, 2014) การออกแบบประสบการณ์การเรยี นรู้ทเี่ พม่ิ พนู ด้วยเทคโนโลยีสามารถใช้หลักการและ แนวคดิ จากแบบจำลองตา่ งๆ เชน่ SAMR และ TPACK เพ่อื ให้การใช้เทคโนโลยเี ป็นประสบการณ์ การเรยี นรูท้ ี่มีคณุ ค่าและมีประสทิ ธิผล (Puentedura, 2010; Mishra & Koehler, 2006) การ ออกแบบประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ่เี พ่ิมพูนด้วยเทคโนโลยีควรให้ความสำคัญกับการสร้างสถานการณ์ ท่ีสนับสนุนการมสี ่วนร่วมของนักเรยี น การสรา้ งโอกาสให้นักเรียนใช้ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละ แก้ปัญหา และการสรา้ งผลงานทส่ี ือ่ สารได้ (Roblyer & Doering, 2014) การออกแบบประสบการณ์ การเรยี นรทู้ ีเ่ พ่ิมพูนดว้ ยเทคโนโลยียงั ควรพิจารณาถงึ ข้อจำกดั และความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี รวมถึงการเตรียมความพร้อมท้งั เทคนิคและการจัดการเรียนรู้ (Roblyer & Doering, 2014) อย่างไรก็ตาม การออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ที่เพมิ่ พูนดว้ ยเทคโนโลยไี ม่ได้ หมายความว่าการใช้เทคโนโลยีในการสอนและการเรยี นรจู้ ะมปี ระสทิ ธผิ ลอย่างแนน่ อน การปรบั ใช้ และการประเมนิ ผลเป็นส่ิงสำคัญทจี่ ำเปน็ เพือ่ ให้การผสมผสานเทคโนโลยีในการสอนและการเรียนรู้ เป็นไปอยา่ งเหมาะสมและมีประสทิ ธผิ ลสำหรับการเรียนรขู้ องนักเรียน (Koehler & Mishra, 2009) การจดั กลยทุ ธ์การสอนให้สอดคล้องกับกรอบทฤษฎี เมอ่ื เราออกแบบประสบการณก์ ารเรียนร้ทู ่เี พมิ่ พูนดว้ ยเทคโนโลยี จะเป็นส่ิงสำคญั ที่ ต้องนำเสนอกลยุทธก์ ารสอนท่ีเขา้ กนั ได้กบั กรอบทฤษฎีการศึกษาที่ใช้ การจัดกลยทุ ธ์การสอนให้ สอดคลอ้ งกบั กรอบทฤษฎที ี่ถูกนำมาใช้จะชว่ ยให้การเรยี นรู้มปี ระสทิ ธผิ ลและสอดคลอ้ งกับ วัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ (Mishra & Koehler, 2006) ในการจดั กลยทุ ธก์ ารสอน เราควรใชท้ ฤษฎี และแบบจำลองทางการศึกษาเพื่อนำเสนอกลยุทธท์ ่ีเหมาะสม ตวั อย่างเช่น หากเราใชแ้ บบจำลอง SAMR เราสามารถวางแผนกลยทุ ธ์ที่ใช้เทคโนโลยีในระดับการปรบั ปรงุ และการเปล่ียนแปลงในการ สอนและการเรียนรู้ (Puentedura, 2010) นอกจากนี้ เรายงั สามารถใชก้ รอบทฤษฎีอื่น ๆ เช่น TPACK เพอื่ ให้เกดิ ความ สอดคลอ้ งระหวา่ งการใชเ้ ทคโนโลยี การสอน และเนอื้ หาที่ต้องการสอน (Koehler & Mishra, 2009) การจดั กลยุทธ์การสอนให้สอดคล้องกบั กรอบทฤษฎมี ปี ระโยชนใ์ นการสร้างประสบการณก์ าร ธีรชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสินธ์ุ

ทฤษฎีและแบบจำลอง 67 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสือ่ สารการศึกษา เรียนรู้ท่ีมีคุณคา่ และมปี ระสทิ ธิผลสำหรับนักเรยี น ดังน้นั นักศกึ ษาครูควรใชก้ รอบทฤษฎีเปน็ แนวทางในการออกแบบกลยุทธ์การสอนทีเ่ หมาะสมและมีประสทิ ธผิ ล (Mishra & Koehler, 2006) การออกแบบประสบการณ์การเรียนร้ทู ีใ่ ช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม เมอื่ เราออกแบบประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่ีเพ่มิ พนู ดว้ ยเทคโนโลยี เราสามารถใช้ แบบจำลองที่มอี ยู่เพื่อใหก้ ารผสานเทคโนโลยกี ับกระบวนการเรยี นรูเ้ ปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิผลและ สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ (Koehler & Mishra, 2009) แบบจำลองท่ีเราสามารถนำมาใช้ ไดเ้ ปน็ ตวั ชว่ ยในการออกแบบการเรียนร้เู ทคโนโลยีทีม่ ีประสทิ ธผิ ล อยา่ งเช่น การใช้แบบจำลอง SAMR ช่วยให้เราสามารถพฒั นากจิ กรรมการเรยี นร้ทู มี่ รี ะดับการปรบั ปรงุ และการเปลี่ยนแปลงโดย ใชเ้ ทคโนโลยี (Puentedura, 2010) นอกจากนี้ เรายังสามารถนำแบบจำลองอืน่ ๆ มาใช้ เชน่ TPACK เพื่อให้การใช้ เทคโนโลยีเปน็ สว่ นหน่งึ ของการสอนท่มี ปี ระสิทธิผลและเป็นไปในทิศทางทถ่ี ูกตอ้ ง (Mishra & Koehler, 2006) การผสมรวมแบบจำลองทม่ี ีอยเู่ ปน็ สว่ นสำคญั ในการออกแบบประสบการณ์การ เรยี นรู้ทม่ี ปี ระสทิ ธผิ ลสำหรับนักเรยี น ในการทำเช่นนี้ นกั ศึกษาครูควรศกึ ษาและประยุกตใ์ ช้ แบบจำลองทเี่ หมาะสมสำหรบั สถานการณ์การเรยี นร้แู ละกิจกรรมการสอนท่สี อดคล้องกับ วตั ถุประสงค์การเรยี นรู้ (Koehler & Mishra, 2009) คำถามชวนคดิ 3.7 : การออกแบบประสบการณ์การเรยี นรทู้ เี่ พ่มิ พูนดว้ ยเทคโนโลยเี ป็น องค์ประกอบท่สี ำคัญในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีมีคณุ คา่ และมปี ระสิทธิผลสำหรบั นกั เรยี น คุณคดิ ว่าการนำเสนอกลยทุ ธ์การสอนทสี่ อดคล้องกบั กรอบทฤษฎกี ารศกึ ษาที่ใช้ เชน่ SAMR และ TPACK จะชว่ ยใหก้ ารใชเ้ ทคโนโลยีเปน็ ประสบการณ์การเรียนรทู้ ่ีมคี ณุ คา่ และมปี ระสิทธิผลอยา่ งไร? การประเมินและประเมินการใชเ้ ทคโนโลยี การประเมนิ และประเมินการใชเ้ ทคโนโลยเี ป็นกระบวนการสำคัญในการผสานเทคโนโลยี กับการสอน การประเมินนีช้ ว่ ยใหน้ กั ศึกษาครสู ามารถปรบั ปรุงและปรับใชว้ ิธีการสอนทเี่ หมาะสม และมีประสทิ ธผิ ลเมอ่ื ใช้เทคโนโลยใี นการสอน (Mishra & Koehler, 2006) เพื่อประเมินการใช้ เทคโนโลยใี นการสอน นักศกึ ษาครูสามารถใช้เคร่ืองมือหรือแบบฟอร์มการประเมินที่เหมาะสม เช่น แบบสอบถามหรอื การสงั เกตการณใ์ นการสอน (Ertmer, Ottenbreit-Leftwich, & York, 2007) การประเมนิ ควรระบวุ ัตถุประสงคก์ ารเรียนรทู้ ่ตี ้องการให้นักศึกษาครใู ชเ้ ทคโนโลยี และ วัตถุประสงค์การเรยี นร้ทู ี่ต้องการใหบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ (Mishra & Koehler, 2006). นอกจากน้ี การ ประเมินควรพจิ ารณาความเหมาะสมของการใช้เทคโนโลยตี ามแบบจำลองทน่ี กั ศึกษาครูได้ศกึ ษา เชน่ การประเมินตามแบบจำลอง SAMR เพอื่ ตรวจสอบวา่ การใชเ้ ทคโนโลยีมกี ารปรบั ปรุงและการ เปลย่ี นแปลงในการสอนอย่างเหมาะสม (Puentedura, 2010) ธรี ชาติ น้อยสมบัติ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลัยกาฬสนิ ธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 68 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และส่ือสารการศกึ ษา การใชท้ ฤษฎแี ละแบบจำลองในการประเมินเทคโนโลยกี ารศกึ ษา การประเมินเทคโนโลยีการศึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการวัดและประเมนิ ประสิทธิผลของการใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอน ในการประเมนิ น้ี นกั ศึกษาครูสามารถใช้ทฤษฎีและ แบบจำลองท่ีเหมาะสมเพ่ือวเิ คราะห์ผลสัมฤทธแ์ิ ละประสิทธผิ ลของเทคโนโลยที ่ีใช้ในการสอน (Koehler & Mishra, 2008) หน่งึ ในแบบจำลองท่ีนักศึกษาครสู ามารถนำมาใช้ในการประเมินเทคโนโลยกี ารศึกษา คือ TPACK (Technological Pedagogical Content Knowledge) ซึ่งเปน็ แบบจำลองท่ีรวมรวม ความรแู้ ละความเข้าใจในดา้ นเทคโนโลยี การสอน และเน้ือหาที่สอนเขา้ ดว้ ยกนั การประเมนิ TPACK ชว่ ยใหน้ กั ศึกษาครูสามารถวดั ระดับความเข้าใจและความรทู้ ่เี กย่ี วข้องกบั การผสาน เทคโนโลยีในการสอนได้ (Mishra & Koehler, 2006) นอกจากน้ี นกั ศึกษาครูยังสามารถใชท้ ฤษฎีและแบบจำลองอื่น ๆ เชน่ SAMR Model เพือ่ ประเมนิ ระดับการปรับปรุงและการเปลีย่ นแปลงในการสอนท่ีเกดิ ข้นึ จากการใชเ้ ทคโนโลยีในการ สอน (Puentedura, 2010) การประเมินผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อการเรียนรูข้ องผู้เรยี น การประเมินผลกระทบของเทคโนโลยีตอ่ การเรยี นรขู้ องนักเรียนเปน็ ข้ันตอนที่สำคญั ใน การวัดประสทิ ธิผลและคุณภาพของการใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอน ในกระบวนการประเมินนี้ นักศึกษา ครจู ะใชท้ รัพยากรทีเ่ หมาะสมเพื่อวดั และประเมินผลกระทบทเี่ กิดข้นึ กับการใช้เทคโนโลยใี นการ เรยี นรู้ของนักเรยี น (Lei, 2010) ในการประเมนิ ผลกระทบของเทคโนโลยีในการเรียนรู้ นกั ศึกษาครูสามารถใช้แบบวดั ท่ี เน้นไปทผี่ ลการเรยี นรู้ของนักเรยี น การประเมินสามารถเนน้ ไปทคี่ วามก้าวหน้าในการเรยี นรู้ การเพมิ่ สมรรถนะทางวิชาการ การพัฒนาทักษะการแก้ปญั หา หรอื ผลการเรยี นรูใ้ นเนื้อหาทสี่ อน (Tondeur et al., 2017). นอกจากน้ี การใชเ้ คร่ืองมือประเมินและแบบสำรวจอาจเปน็ ทางเลือกท่ดี ีในการ รวบรวมข้อมูลเชงิ คุณภาพเกยี่ วกบั ประสทิ ธิผลของเทคโนโลยีในการเรียนรู้ (Ertmer et al., 2012) คำถามชวนคดิ 3.8 : การประเมินผลกระทบของเทคโนโลยใี นการเรียนรู้ของนักเรยี นเป็น กระบวนการท่ที า้ ทาย คุณคดิ วา่ การใชท้ รพั ยากรท่ีเหมาะสมและทฤษฎีหรือแบบจำลองทาง การศึกษา เชน่ TPACK และ SAMR Model ในการประเมินเทคโนโลยีการศึกษาจะช่วยใหน้ ักศึกษา ครูมกี ารวดั และวิเคราะห์ผลกระทบทีเ่ กิดขน้ึ ด้านการเรียนรู้อย่างไร? สรุป ในบทเรียนนี้ เราได้ศกึ ษาและทบทวนความรู้เกย่ี วกบั ทฤษฎแี ละแบบจำลองในเทคโนโลยี และการสื่อสารทางการศึกษาอย่างละเอยี ด การเข้าใจและทราบเรือ่ งนี้มคี วามสำคัญอยา่ งมาก เนอื่ งจากมันช่วยใหเ้ ราสามารถออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ท่มี ีประสิทธผิ ลและสอดคล้องกับ ธรี ชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลยั กาฬสนิ ธ์ุ

ทฤษฎีและแบบจำลอง 69 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และสือ่ สารการศึกษา การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ (Ertmer, Ottenbreit-Leftwich, & York, 2012; Koehler & Mishra, 2008; Lei, 2010; Mishra & Koehler, 2006; Tondeur et al., 2017) จากทฤษฎีและแบบจำลองท่ีได้นำเสนอ เราได้เรียนรู้ถึงทฤษฎีนเิ วศสอ่ื ซึง่ เน้นไปที่ ผลกระทบของสื่อในสังคมและการส่ือสาร ทฤษฎสี งั คม-ความคิดเห็นซ่ึงเนน้ ไปท่ีการเรยี นรู้ผ่านการ ติดต่อสอื่ สารระหวา่ งบุคคล และทฤษฎีการแพร่เชื้อสายสนับสนุนนวตั กรรมซึง่ เนน้ ไปทก่ี ระบวนการ แพร่เช้อื ของนวตั กรรมในสงั คม (Ertmer et al., 2012; Koehler & Mishra, 2008; Tondeur et al., 2017) นอกจากนย้ี งั มแี บบจำลองต่างๆ เชน่ แบบจำลองการยอมรับเทคโนโลยี (TAM) แบบจำลอง SAMR และกรอบ TPACK ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการออกแบบประสบการณ์การเรยี นรู้ท่ี มีประสทิ ธผิ ลสำหรับนกั เรยี น (Koehler & Mishra, 2008; Mishra & Koehler, 2006) ในการประยุกต์ใชท้ ฤษฎแี ละแบบจำลองในการผสมผสานเทคโนโลยี เราสามารถ ออกแบบประสบการณก์ ารเรียนรทู้ ่ีเพิ่มพูนด้วยเทคโนโลยีใหม้ ีความสอดคลอ้ งกับกรอบทฤษฎีที่เราได้ ศึกษา โดยการประสานกลยทุ ธ์การสอนกับกรอบทฤษฎี เราสามารถใชแ้ บบจำลองเพื่อการผสมผสาน เทคโนโลยีในการสอนที่มปี ระสทิ ธผิ ล นอกจากนี้ เรายงั สามารถใช้ทฤษฎีและแบบจำลองในการ ประเมินและประเมินผลการใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ ซึง่ จะชว่ ยใหเ้ ราวดั และประเมินผลกระทบของ เทคโนโลยีต่อการเรยี นร้ขู องนักเรยี นได้อยา่ งถูกต้องและมีประสทิ ธิผล (Ertmer et al., 2012; Lei, 2010; Tondeur et al., 2017) การเขา้ ใจทฤษฎแี ละแบบจำลองในเทคโนโลยแี ละการส่ือสารทางการศกึ ษาเปน็ ส่งิ สำคญั ทีม่ ีความสำคัญอย่างมาก โดยการเขา้ ใจและทราบเรอื่ งนี้ เราสามารถออกแบบและนำเทคโนโลยใี น การสอนไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธผิ ลและเป็นระบบ นอกจากน้ี การเขา้ ใจทฤษฎีและแบบจำลองยังช่วยให้ เรามีการทบทวนและพฒั นาความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยใี นการสอนอย่างตอ่ เนื่อง (Koehler & Mishra, 2008; Mishra & Koehler, 2006) ในอนาคตการวจิ ยั และการปฏิบัตจิ ะเนน้ ไปที่การพัฒนาและการปรับใช้ทฤษฎีและ แบบจำลองท่เี กยี่ วข้องกับเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศึกษา โดยการวจิ ยั เพ่มิ เติมและการ ปฏิบตั จิ ริงในสถานการณ์การเรยี นรูจ้ รงิ จะช่วยสร้างแนวทางการสอนท่ีตอบสนองต่อการ เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีและแนวโนม้ ในการสื่อสารทางการศึกษา (Tondeur et al., 2017) สรุปประเดน็ สำคญั ในบทเรียนนี้ เราได้ศกึ ษาและเรยี นรู้เกี่ยวกับทฤษฎีและแบบจำลองท่เี ก่ียวข้องกับ เทคโนโลยแี ละการส่ือสารทางการศึกษา ซง่ึ เปน็ แนวคดิ สำคัญท่ีนักศึกษาครคู วรทราบเพื่อใชใ้ นการ วางแผนการสอนและการใชเ้ ทคโนโลยีในการสื่อสารทางการศกึ ษา (Koehler & Mishra, 2009) สำหรบั การสรปุ ความสำคัญของบทเรียนนี้ น่คี ือจุดสำคัญท่ีนา่ จะจำไว:้ ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสินธ์ุ

ทฤษฎีและแบบจำลอง 70 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และส่อื สารการศกึ ษา 1. ทฤษฎีและแบบจำลองในเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศกึ ษามีบทบาทสำคญั ในการ ออกแบบและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยใี นการสอนและการเรยี นร้ขู องนักเรยี น (Koehler & Mishra, 2009) 2. SAMR Model ช่วยให้เราเข้าใจระดบั ของการใชเ้ ทคโนโลยีในการเรียนร้แู ละการส่ือสารทาง การศกึ ษา และสง่ เสริมประสิทธผิ ลการเรียนรขู้ องนักเรียน (Puentedura, 2010) 3. TPACK Framework เป็นเครื่องมือทชี่ ว่ ยให้ครูร้จู กั และประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้ใู นการวาง แผนการสอนและการใช้เทคโนโลยใี นการสื่อสารทางการศึกษา (Mishra & Koehler, 2006) 4. การออกแบบประสบการณ์การเรยี นร้ทู ีใ่ ชเ้ ทคโนโลยีสามารถสรา้ งประสบการณก์ ารเรียนที่มี คุณภาพและมปี ระสิทธผิ ลสูง (Lai & Bower, 2019) 5. การประเมินและการวดั ผลเป็นสว่ นสำคญั ในการประเมินประสทิ ธิภาพของเทคโนโลยใี นการ สอนและการเรยี นรู้ ซง่ึ เราควรใช้ทฤษฎีและแบบจำลองเพื่อชว่ ยในกระบวนการนี้ (Ertmer et al., 2014) การเข้าใจและการนำความรู้ที่ได้รบั จากทฤษฎีและแบบจำลองเหลา่ นส้ี ่กู ารปฏบิ ัติจรงิ ใน การสอนและการใชเ้ ทคโนโลยีในการสื่อสารทางการศึกษาเปน็ สง่ิ สำคัญทนี่ ักศึกษาครูควรพจิ ารณา การพฒั นาความรแู้ ละทกั ษะด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศกึ ษาจะเป็นประโยชนอ์ ย่างมาก ในการเตรียมความพร้อมใหเ้ ป็นครูท่ีมีคุณภาพสงู ในอนาคต (Ertmer et al., 2014; Koehler & Mishra, 2009; Lai & Bower, 2019; Mishra & Koehler, 2006) ความสำคัญของการทำความเข้าใจทฤษฎีและแบบจำลองทางเทคโนโลยีและ สอ่ื สารการศึกษา การเขา้ ใจและทราบเรอื่ งทฤษฎีและแบบจำลองทเ่ี กยี่ วข้องกับเทคโนโลยีและการส่อื สาร ทางการศกึ ษาเป็นสิ่งสำคญั ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับนกั ศึกษาครู การเข้าใจและทราบเรอื่ งนี้ ช่วยให้เราสามารถออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ที่มปี ระสทิ ธิผลและสอดคล้องกบั การใช้ เทคโนโลยใี นการสอนไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ (Koehler & Mishra, 2009) โดยการศกึ ษาทฤษฎแี ละแบบจำลองทเี่ กยี่ วขอ้ ง เราได้ร้จู ักกบั ทฤษฎีนเิ วศสอ่ื ซึ่งเน้นไปท่ี ผลกระทบของส่ือในสังคมและการส่ือสาร ทฤษฎสี ังคม-ความคิดเหน็ ซงึ่ เนน้ ไปที่การเรยี นรผู้ า่ นการ ติดตอ่ สื่อสารระหว่างบุคคล และทฤษฎกี ารแพร่เชือ้ สายสนับสนนุ นวัตกรรมซงึ่ เน้นไปท่ีกระบวนการ แพรเ่ ชื้อของนวัตกรรมในสังคม (Ertmer et al., 2014) นอกจากน้ียังมีแบบจำลองต่าง ๆ เช่น แบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยี (TAM) แบบจำลอง SAMR และกรอบ TPACK ซ่ึงสามารถนำมาใช้ในการออกแบบประสบการณ์การเรยี นร้ทู ี่ มีประสทิ ธผิ ลสำหรบั นักเรยี นได้ (Mishra & Koehler, 2006) ในการประยุกตใ์ ชท้ ฤษฎแี ละแบบจำลองในการผสมผสานเทคโนโลยี เราสามารถ ออกแบบประสบการณ์การเรียนร้ทู เี่ พ่มิ พูนดว้ ยเทคโนโลยีให้มีความสอดคล้องกับกรอบทฤษฎีทีเ่ ราได้ ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสินธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 71 นวตั กรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และส่อื สารการศึกษา ศึกษา โดยการประสานกลยุทธก์ ารสอนกบั กรอบทฤษฎี เราสามารถใชแ้ บบจำลองเพื่อการผสมผสาน เทคโนโลยีในการสอนที่มปี ระสทิ ธิผล (Puentedura, 2010) นอกจากนี้ เรายังสามารถใชท้ ฤษฎแี ละแบบจำลองในการประเมนิ และประเมนิ ผลการใช้ เทคโนโลยีในการเรียนรู้ ซึง่ จะชว่ ยใหเ้ ราวัดและประเมนิ ผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อการเรียนร้ขู อง นักเรยี นได้อยา่ งถกู ต้องและมีประสิทธิผล (Ertmer et al., 2014) การเขา้ ใจทฤษฎีและแบบจำลองในเทคโนโลยแี ละการสื่อสารทางการศึกษาเป็นส่งิ สำคัญ ที่มคี วามสำคญั อย่างมาก โดยการเข้าใจและทราบเร่อื งนี้ เราสามารถออกแบบและนำเทคโนโลยีใน การสอนได้อย่างมปี ระสทิ ธผิ ลและเปน็ ระบบ นอกจากน้ี การเข้าใจทฤษฎแี ละแบบจำลองยังชว่ ยให้ เรามกี ารทบทวนและพฒั นาความรแู้ ละทักษะในการใช้เทคโนโลยีในการสอนอย่างต่อเน่ือง (Mishra & Koehler, 2006) ในอนาคตการวจิ ยั และการปฏิบัติจะเน้นไปท่กี ารพฒั นาและการปรบั ใชท้ ฤษฎีและ แบบจำลองทเี่ ก่ยี วข้องกบั เทคโนโลยีและการสือ่ สารทางการศึกษา โดยการวจิ ยั เพิ่มเติมและการ ปฏิบตั จิ ริงในสถานการณ์การเรียนรจู้ ริงจะช่วยสร้างแนวทางการสอนท่ีตอบสนองต่อการ เปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีและแนวโน้มในการส่ือสารทางการศกึ ษา (Ertmer et al., 2014) ทิศทางในการศึกษาวจิ ัยและปฏบิ ัติในอนาคต การวจิ ัยและการปฏบิ ตั ิในอนาคตจะเน้นไปท่ีการพฒั นาและการปรบั ใช้ทฤษฎแี ละ แบบจำลองทเี่ กย่ี วข้องกับเทคโนโลยีและการสือ่ สารทางการศึกษา (Ertmer et al., 2014) การศึกษา เพ่ิมเติมและการปฏิบตั ิจริงในสถานการณ์การเรยี นรู้จริงจะชว่ ยสร้างแนวทางการสอนทตี่ อบสนองต่อ การเปลีย่ นแปลงทางเทคโนโลยแี ละแนวโนม้ ในการสื่อสารทางการศึกษา (Ertmer et al., 2014) การวิจยั เพ่มิ เติมในอนาคตจะเน้นไปทกี่ ารพัฒนาและปรบั ใช้ทฤษฎีและแบบจำลองที่ เกี่ยวข้องกบั เทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศกึ ษา การศึกษาเพมิ่ เติมในสถานการณ์การเรียนรจู้ ริง จะชว่ ยสร้างแนวทางการสอนท่ีตอบสนองตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางเทคโนโลยีและแนวโน้มในการ สื่อสารทางการศกึ ษา (Ertmer et al., 2014) การวจิ ัยเพ่ิมเติมในอนาคตจะเนน้ ไปที่การพฒั นาและปรบั ใช้ทฤษฎีและแบบจำลองท่ี เกี่ยวขอ้ งกับเทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารทางการศึกษา (Ertmer et al., 2014) การวจิ ัยเพิ่มเติมใน สถานการณ์การเรียนรู้จริงจะชว่ ยสร้างแนวทางการสอนทต่ี อบสนองต่อการเปลย่ี นแปลงทาง เทคโนโลยแี ละแนวโนม้ ในการสอ่ื สารทางการศึกษา (Ertmer et al., 2014) การวิจยั เพิ่มเติมในอนาคตจะเน้นไปที่การพัฒนาและปรับใช้ทฤษฎีและแบบจำลองท่ี เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยแี ละการสือ่ สารทางการศึกษา การศึกษาเพิ่มเติมในสถานการณ์การเรียนรูจ้ ริง จะช่วยสรา้ งแนวทางการสอนที่ตอบสนองตอ่ การเปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยีและแนวโน้มในการ สอ่ื สารทางการศกึ ษา (Ertmer et al., 2014) การวจิ ยั เพม่ิ เติมในอนาคตจะเน้นไปที่การพฒั นาและปรับใช้ทฤษฎีและแบบจำลองท่ี เกี่ยวขอ้ งกับเทคโนโลยีและการสื่อสารทางการศึกษา (Ertmer et al., 2014) การศึกษาเพิม่ เติมใน ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวตั กรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธุ์

ทฤษฎีและแบบจำลอง 72 นวตั กรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และสือ่ สารการศกึ ษา สถานการณ์การเรียนรูจ้ รงิ จะชว่ ยสรา้ งแนวทางการสอนท่ตี อบสนองต่อการเปล่ียนแปลงทาง เทคโนโลยีและแนวโนม้ ในการสื่อสารทางการศึกษา (Ertmer et al., 2014) ************************** ธรี ชาติ น้อยสมบตั ิ คณะศกึ ษาศาสตร์และนวตั กรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลัยกาฬสนิ ธุ์

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 73 นวตั กรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และส่ือสารการศกึ ษา คำถามทา้ ยบทเรยี น 1. ทฤษฎแี ละแบบจำลองท่เี กยี่ วข้องมีบทบาทอยา่ งไรในการเพ่มิ ประสิทธภิ าพของกระบวนการ เรียนรแู้ ละการสอนทางการศึกษาเม่ือใชเ้ ทคโนโลยีและการส่อื สารทางการศกึ ษาใน สถานการณ์การศึกษาต่างๆ? 2. การทราบทฤษฎีและแบบจำลองท่เี ก่ียวข้องชว่ ยให้นักศกึ ษาสามารถวิเคราะหแ์ ละแกไ้ ข ปัญหาทเ่ี กดิ ข้ึนในการใชเ้ ทคโนโลยีและการสอ่ื สารทางการศกึ ษาในสถานการณ์ท่ีแตกตา่ ง กันได้อยา่ งไร? 3. กรอบทฤษฎใี นเทคโนโลยแี ละการส่อื สารทางการศึกษามบี ทบาทอย่างไรในการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษาในสถานการณก์ ารศกึ ษาตา่ งๆ? 4. ทฤษฎนี เิ วศสอ่ื วิทยาเนน้ เรอ่ื งใดท่ีเกีย่ วข้องกบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสื่อและส่ิงแวดล้อมใน สงั คม? 5. การประยุกตใ์ ช้ทฤษฎีนเิ วศสอื่ วทิ ยาในเทคโนโลยแี ละการสอื่ สารทางการศกึ ษาช่วยใหเ้ กิด การเรียนรู้ทมี่ ีความหมายและเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมและสังคมได้อยา่ งไร? 6. ทฤษฎกี ารเรียนรู้ทางสังคมเน้นเรอ่ื งใดที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ทเ่ี กิดจากกระบวนการสังคม และการตัดสินใจและแบบจำลอง? 7. การประยุกต์ใช้ทฤษฎกี ารเรยี นรทู้ างสังคมในเทคโนโลยีและการส่ือสารทางการศึกษาชว่ ยให้ ผเู้ รยี นพัฒนาทกั ษะและเชอ่ื มโยงความรูก้ บั ประสบการณ์ในชีวติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งไร? 8. ทฤษฎีการแพรร่ ะบาดของนวัตกรรมมีความสำคัญอย่างไรในเทคโนโลยีและการส่อื สารทาง การศกึ ษา? 9. การประยุกต์ใชท้ ฤษฎกี ารแพร่ระบาดของนวัตกรรมในเชงิ ปฏบิ ัตสิ ามารถชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นและ องค์กรนำเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมมาใช้ในการเรยี นรแู้ ละการสอ่ื สารได้อย่างไร? 10. แบบจำลองการยอมรับเทคโนโลยี (TAM) เป็นแบบจำลองที่ใช้ในการศึกษาพฤติกรรมการใช้ เทคโนโลยใี นหลากหลายสถานการณ์ และแบบจำลอง TAM นำเสนอตวั แปรหลกั คืออะไร? 11. การนำแบบจำลองการยอมรบั เทคโนโลยีมาใชใ้ นการสอนและการส่ือสารทางการศึกษาชว่ ย ให้นักศึกษาครูสามารถทำอยา่ งไรในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีในการสอนของ นักเรียนได้อยา่ งเหมาะสม? 12. แบบจำลองระดบั การใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นรู้ (SAMR) ประกอบด้วยระดับ \"Substitution\" และระดบั \"Modification\" ท่ีแตกต่างกันอยา่ งไรในกระบวนการการ เรยี นรู้? 13. การนำแบบจำลอง SAMR เข้าส่กู ารสอนและการส่ือสารทางการศึกษาชว่ ยใหค้ รูสามารถ วางแผนและออกแบบกิจกรรมการสอนทีเ่ ต็มเปย่ี มด้วยเทคโนโลยที ีส่ ่งเสรมิ กระบวนการคิด วิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานรว่ มกันของนักเรียนได้อยา่ งไร? 14. แบบจำลองความรู้เชงิ เทคโนโลยแี ละการสอนแบบองค์รวม (TPACK) เกย่ี วขอ้ งกบั องค์ประกอบหลกั สามองคป์ ระกอบคือความร้เู กย่ี วกบั เนื้อหา ความรูเ้ ก่ียวกับกระบวนการ การสอน และความรู้เกี่ยวกบั เทคโนโลยี โปรดอธบิ ายถงึ ความสัมพนั ธแ์ ละการบูรณาการ ธรี ชาติ นอ้ ยสมบัติ คณะศึกษาศาสตร์และนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลัยกาฬสนิ ธุ์

ทฤษฎีและแบบจำลอง 74 นวัตกรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และส่อื สารการศกึ ษา ระหว่างสามองค์ประกอบเหล่านี้ในการสือ่ สารทางการศกึ ษาและการใชเ้ ทคโนโลยใี น กระบวนการสอน 15. ในการประยุกต์ใชแ้ บบจำลอง TPACK (Technological Pedagogical Content Knowledge) ในการสอนและการส่ือสารทางการศึกษา ครสู ามารถนำเทคโนโลยมี าเพิ่ม ความสนุกสนานและมีประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนรขู้ องนักเรยี นได้อย่างไร? 16. การออกแบบประสบการณ์การเรียนร้ทู เ่ี พมิ่ พูนด้วยเทคโนโลยีมบี ทบาทสำคัญอย่างไรในการ สรา้ งประสบการณก์ ารเรียนรู้ท่ีมีคณุ คา่ และมปี ระสิทธิผลสำหรับนักเรียน? โปรดอธิบายถงึ ความตอ้ งการของนักเรยี นและเปา้ หมายการเรยี นรูท้ ี่ครคู วรพจิ ารณาในการออกแบบ ประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่ีเพ่ิมพูนด้วยเทคโนโลยี รวมถึงการใชท้ รพั ยากรทางการศกึ ษาและ เทคโนโลยที ่เี หมาะสมในกระบวนการออกแบบ 17. การออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ที่เพม่ิ พนู ดว้ ยเทคโนโลยตี ้องใช้หลกั การและแนวคิด จากแบบจำลองต่างๆ เชน่ SAMR และ TPACK เพื่อให้การใช้เทคโนโลยเี ป็นประสบการณ์ การเรยี นรู้ท่มี ีคุณค่าและมปี ระสทิ ธิผล ครูควรใช้แบบจำลองและกรอบทฤษฎีใดในการ ออกแบบกลยทุ ธ์การสอนท่สี อดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีในการสอนและการเรียนรู้? ********************** ธรี ชาติ นอ้ ยสมบัติ คณะศกึ ษาศาสตร์และนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยกาฬสนิ ธ์ุ

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 75 นวัตกรรม, เทคโนโลยสี ารสนเทศ, และส่ือสารการศึกษา แหล่งข้อมลู เพม่ิ เตมิ Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Prentice-Hall. Ertmer, P. A., Ottenbreit-Leftwich, A. T., & York, C. S. (2014). Exemplary technology- using teachers: Perceptions of factors influencing success. Journal of Computing in Teacher Education, 26(3), 63-68. Koehler, M. J., & Mishra, P. (2009). What is technological pedagogical content knowledge (TPACK)? Contemporary Issues in Technology and Teacher Education, 9(1), 60-70. Koehler, M. J., & Mishra, P. (2009). What is Technological Pedagogical Content Knowledge? Contemporary Issues in Technology and Teacher Education, 9(1), 60–70. Lai, K. W., & Bower, M. (2019). How is technology being used in primary classrooms and what effects is it having on teaching and learning? A systematic review of classroom-based educational technology research. Computers & Education, 144, 103701. Lankshear, C., & Knobel, M. (2006). New literacies: Everyday practices and classroom learning (2nd ed.). Open University Press. Mishra, P., & Koehler, M. J. (2006). Technological pedagogical content knowledge: A framework for teacher knowledge. Teachers College Record, 108(6), 1017-1054. Roblyer, M. D., & Doering, A. H. (2014). Integrating educational technology into teaching: International edition. Pearson. Mishra, P., & Koehler, M. J. (2006). Technological Pedagogical Content Knowledge: A Framework for Teacher Knowledge. Teachers College Record, 108(6), 1017–1054. Puentedura, R. R. (2010). SAMR: Substitution, augmentation, modification, and redefinition. Retrieved from https://www.hippasus.com/rrpweblog/archives/2010/08/23/SAMR_Background.pdf Roblyer, M. D., & Doering, A. H. (2014). Integrating Educational Technology into Teaching: Transforming Learning Across Disciplines (6th ed.). Pearson. Rogers, E. M. (2003). Diffusion of innovations (5th ed.). Free Press. Sweller, J. (1988). Cognitive load during problem solving: Effects on learning. Cognitive Science, 12(2), 257-285. ธรี ชาติ นอ้ ยสมบตั ิ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวัตกรรมการศึกษา มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธุ์

ทฤษฎแี ละแบบจำลอง 76 นวตั กรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, และสื่อสารการศกึ ษา Tondeur, J., van Braak, J., Sang, G., Voogt, J., Fisser, P., & Ottenbreit-Leftwich, A. (2017). Preparing pre-service teachers to integrate technology in education: A synthesis of qualitative evidence. Computers & Education, 109, 31-49. Venkatesh, V., & Davis, F. D. (2000). A theoretical extension of the technology acceptance model: Four longitudinal field studies. Management Science, 46(2), 186- 204. ********************* ธีรชาติ นอ้ ยสมบัติ คณะศึกษาศาสตรแ์ ละนวตั กรรมการศึกษา มหาวิทยาลยั กาฬสนิ ธ์ุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook