แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ ขนมไทยไรเ้ ทียมทาน ๗ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง อา่ นรคู้ ู่ความหมาย เวลา ๑ ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ สอนวันท.่ี ............เดือน.................................พ.ศ. .................ครผู ้สู อน....................................................... ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หาในการดำเนินชีวติ และมีนิสัยรกั การอ่าน มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิ ของชาติ ตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ป. ๔/๒ อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเร่อื งที่อา่ น ท ๔.๑ ป. ๔/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบริบทตา่ ง ๆ ท ๔.๑ ป. ๔/๓ ใช้พจนานุกรมคน้ หาความหมายของคำ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อ่านและบอกความหมายของคำในเรื่องได้ถูกต้อง K ๒. เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสำคญั การอ่านเป็นการสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต และชว่ ย ใหน้ กั เรียนมีนสิ ยั รกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มคี วามรูค้ วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกับครแู ละเพื่อนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแก้ปญั หา - คดิ ตดั สินใจโดยคำนึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - นำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม
- ปรับตวั ใหเ้ ขา้ กับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มลู เพื่อพัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านและบอกความหมายของคำในเร่อื งไดถ้ ูกต้อง ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มีความใฝเ่ รยี นรู้ ๖.จดุ เน้นส่กู ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะด้านการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะด้านความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยืดหย่นุ และการปรับตวั การรเิ รม่ิ สรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผ้สู ร้างหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเช่ือถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คณุ ลกั ษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผนู้ ำ คุณลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ ำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ่นื ความซื่อสัตย์ ความสำนึกพลเมอื ง
๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซียนศึกษา คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนุรักษ์พลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอา่ นคำและหาความหมายจากบทเรียน ใบงาน เรอ่ื ง หาความหมายของคำ จากเร่ือง ขนมไทยไร้เทยี มทาน ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ ๑ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น ครสู นทนากับนักเรยี นถึงเนื้อหาท่จี ะเรียนในชว่ั โมง ครใู ห้นักเรยี นเลน่ เกม โดยแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ ๕ คน โดยเกมทจี่ ะเล่นมีชือ่ ว่า สง่ ข่าวเล่าเร่อื ง กติกาคอื ๑. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ เข้าแถวตอนลกึ ๒. ครูใหน้ กั เรยี นคนท่ีอย่ขู ้างหน้าอา่ นคำจากกระดาษของครูคือคำวา่ ขนมสอดไส้ ใสเ่ ตานงึ่ ๓. ครใู หส้ ัญญาณนกั เรียนท่ีอยู่ข้างหนา้ พูดกระซบิ จากคำที่ได้อา่ นให้เพื่อนที่อยู่ดา้ นหลังฟงั และกระซิบต่อกนั จนถึงคนสุดท้าย ๔. ครใู ห้คนท่อี ยดู่ า้ นหลังสุดของแตล่ ะกลุ่มออกมาเขียนคำท่ีไดย้ ินหนา้ กระดาน ๕. ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยถงึ ความถูกต้องและรว่ มกันบอกความหมายของคำ ขน้ั ท่ี ๒ สำรวจคน้ หา ครเู ขียนคำจากบทเรียนเร่ืองขนมไทยไร้เทียมทาน ๒ คำ บนกระดานใหน้ ักเรียนอา่ นพร้อม กนั ใหน้ ักเรยี นค้นหาความหมายโดยการเปดิ พจนานกุ รม หรือจากหนังสือเรียน และให้นกั เรยี นรว่ มกัน บอกความหมายของคำ ข้นั ท่ี ๓ การสร้างองค์ความรู้ ครใู ห้นกั เรียนอ่านคำและความหมายของคำจากบทเรียนเร่ือง ขนมไทยไรเ้ ทียมทาน นักเรยี นจับคู่ผลดั กนั บอกคำและความหมายของคำใหถ้ กู ต้อง ขัน้ ที่ ๔ ความคิดรวบยอด ครูให้นกั เรียนทำใบงาน เรื่อง หาความหมายของคำ จากเรื่อง ขนมไทยไรเ้ ทยี มทาน ครูให้นักเรยี นแลกใบงานกบั เพอ่ื นเพื่อร่วมกนั ตรวจใบงาน ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนำไปใช้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยใบงานให้นักเรียนบอกถึงการนำคำทเ่ี รยี นรูไ้ ปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาถึงปญั หาหรือข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนเพื่อนำไปปรับปรุงในชั่วโมงต่อไป
๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ชั้น ป. ๔ ๒. พจนานุกรมภาษาไทย ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวัดและ เครือ่ งมอื การวัด เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการ ประเมิน ประเมินผล แบบประเมนิ การอ่าน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑. อ่านและบอก การทดสอบการอา่ น แบบประเมินชน้ิ งาน แบบประเมนิ การสงั เกต ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ความหมายของคำใน ความหมายของคำในชัน้ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ เรอ่ื งได้ถกู ต้อง (K) เรียน ๒. เขยี นสะกดคำและ การตรวจใบงาน เรือ่ ง บอกความหมายของคำ การหาความหมายของ (P) คำ ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ (A) สังเกตพฤติกรรมในช้ัน เรยี น ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๑. นักเรียนจำนวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน ๒. นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ..................................... () ตำแหนง่
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเห็นดังนี้ ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถูกต้อง ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นร้กู ับหลกั สูตรสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ยังไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๔. ส่ือการเรยี นรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรยี นรู้ ยังไม่เหมาะสมกับรปู แบบการจดั การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไมค่ รอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................... () ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี น
ใบงาน คะแนน เร่อื ง การหาความหมายจากบทเรยี น เรอื่ ง ขนมไทยไร้เทียมทาน ช่ือ............................................................................ชนั้ .............เลขที.่ ............ คำช้แี จง ให้นกั เรียนเขยี นความหมายจากคำทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี กรู ๑. ............................................................................................. จี่ ๒. ............................................................................................. ละมนุ ๓. ............................................................................................. ห่าม ๔. ............................................................................................. นึ่ง ๕. ............................................................................................. กลดั ๖. ............................................................................................. รื่นรมย์ ๗. ............................................................................................. ภมู ปิ ัญญา ๘. ............................................................................................. กระฟดั กระเฟียด ๙. ............................................................................................. จาระไน ๑๐ ............................................................................................. ๐.
เฉลยใบงาน คะแนน เรอื่ ง การหาความหมายจากบทเรียน เรือ่ ง ขนมไทยไร้เทยี มทาน ชื่อ............................................................................ชัน้ .............เลขท.่ี ............ คำช้แี จง ให้นักเรียนเขยี นความหมายจากคำทก่ี ำหนดใหต้ ่อไปน้ี กรู ๑. การที่ไปพร้อมกันโดยเรว็ จ่ี ๒. การทำของกนิ ให้สกุ โดยการเผา ละมุน ๓. นุม่ นวลกลมกล่อม หา่ ม ๔. ใกล้จะสกุ เชน่ กล้วยห่าม นง่ึ ๕. ทำของใหส้ กุ หรือร้อนดว้ ยไอน้ำร้อนในภาชนะที่มฝี าครอบ กลดั ๖. การเสียบขัดไว้ใหอ้ ยู่ดว้ ยของแหลม รื่นรมย์ ๗. สบายใจ ภูมิปัญญา ๘. พ้นื ความร้คู วามสามารถ กระฟดั กระเฟยี ด ๙. อาการโกรธหรือแกล้งทำโกรธ จาระไน ๑๐ พูดชแี้ จงอย่างละเอยี ด .
สนใจในเรื่องที่ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น ครูเล่าคำช้แี จง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมท่กี ำหนด ีมมารยาทการ ัฟง และการ ูพด รายการสงั เกต ีมสมา ิธในการ ัฟง ตอบคำถามและเลข ชือ่ – สกลุ เล่าเรื่องไ ้ดที่ ่อาน ้ขอความ ูถกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ้ตังใจในการ ทำงาน๑ ๒ สรุปผลการประเมิน๓ ผ่าน / ไม่ผ่าน๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรบั ปรุงแกไ้ ข ผู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ต้องไดค้ ะแนนตั้งแต่ ๙ คะแนน ขึน้ ไป (ลงชื่อ)……………………………………….ผปู้ ระเมิน (..................................................) วันที่……….เดอื น…………………….พ.ศ………………
ความสะอาดเรียบร้อย แบบประเมินใบงาน/ช้ินงาน ของ ิ้ชนงานคำชแี้ จง ใหท้ ำเครื่องหมาย ลงในชอ่ งรายการประเมนิ ทกี่ ำหนด รูปแบบ ่นาสนใจ สวยงาม รายการประเมนิ ความครบถ้วนใน เ ื้นอหาสาระเลข ชือ่ – สกลุ การใ ้ชคำเหมาะสมท่ี การเขียนสะกดคำ ถูกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ั้ตงใจในการ๑ ทำงาน๒ ๓ สรุปผลการประเมิน๔ ผ่าน / ไม่ผ่าน๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ด,ี ๑ = ปานกลาง, ๐ = ตอ้ งปรบั ปรงุ แก้ไข ผ้ผู า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ต้องได้คะแนนต้งั แต่ ๙ คะแนน ขึน้ ไป (ลงช่ือ)……………………………………….ผู้ประเมิน (..................................................) วนั ที่……….เดอื น…………………….พ.ศ………
แบบประเมินการอ่านออกเสียง คำชีแ้ จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรียนในการอา่ นออกเสียง และใหค้ ะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรม ของนักเรียน ชอ่ื -สกุล การ ัจบหนังสือ/พลิกหนังสือ สรุปผล เลขที่ /ท่าทางในการ ่อาน ูถก ้ตอง รวม การ ่อาน ูถก ้ตองตาม ัอกขร ิว ีธ การเ ้วนวรรคตอน ูถก ้ตอง ประเมิน น้ำเสียงเหมาะสม ักบเ ่ืรองที่ ่อาน ไ ่ม ่อาน ้ขาม/ ่อานเพิ่ม/ ู่ตคำ ่อานเสียงดังเหมาะสม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ ไม่ า ผ่าน น ๑ ต้องได้คะแนนตง้ั แต่ ๑๔ คะแนน ข้ึนไป ๒ ๓ (ลงชื่อ)……………………………………….ผูป้ ระเมิน ๔ (..................................................) ๕ ๖ วนั ท่ี……….เดอื น…………………….พ.ศ……………… ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ผ้ผู า่ นเกณฑก์ ารประเมิน
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ ขนมไทยไร้เทียมทาน ๗ ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง การอ่านในใจ เวลา ๑ ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ สอนวันที.่ ............เดอื น.................................พ.ศ. .................ครผู สู้ อน....................................................... ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่อื นำไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดำเนินชีวิต และมีนิสยั รักการอา่ น ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ป. ๔/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๔/๓ อา่ นเรื่องสั้นๆ ตามเวลาท่ีกำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อา่ น ท ๑.๑ ป. ๔/๖. สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากเร่อื งที่อา่ นเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ท ๑.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงและอ่านในใจบทเรยี นได้ K ๒. อธิบายการปฏิบัติในการอ่านในใจได้ P ๓. มีมารยาทในการอ่าน A ๓. สาระสำคัญ การอา่ นในใจมีความจำเปน็ และใชอ้ ยู่เสมอในชวี ิตประจำวัน การอา่ นในใจทำให้เขา้ ใจและเรียนรู้ เร่ืองราวทอ่ี ่านได้อยา่ งรวดเรว็ มากกวา่ การอา่ นออกเสียงและสามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ๔. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความรคู้ วามเขา้ ใจและสามารถสื่อสารกับครแู ละเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา - คิดตัดสินใจโดยคำนึงผลกระทบทม่ี ตี ่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เขา้ กบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- เลอื กใชเ้ ทคโนโลยใี นการสบื คน้ ข้อมูลเพ่ือพฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้ ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสยี งและอ่านในใจบทเรยี น ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อธิบายการปฏบิ ัตใิ นการอ่านในใจ ๕.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มีมารยาทในการอ่าน ๖.จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผ้นู ำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันส่ือ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยนุ่ และการปรับตัว การริเร่ิมสรา้ งสรรค์และเป็นตัวของตวั เอง ทักษะสังคมและสังคมข้ามวฒั นธรรม การเป็นผู้สรา้ งหรอื ผู้ผลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability) ภาวะผนู้ ำและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะดา้ นการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผนู้ ำ คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรูข้ องตนเอง คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ น่ื ความซื่อสัตย์ ความสำนึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม
อาเซียนศกึ ษา คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนรุ ักษ์พลังงานและส่งิ แวดลอ้ ม อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู)้ กจิ กรรมการอ่านออกเสยี งและอา่ นในใจจากบทเรยี น ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี ๑ นำเข้าสูบ่ ทเรยี น ครูถามคำถามกับนกั เรียนเก่ียวกับการอ่าน เชน่ นักเรียนร้จู ักการอ่านในใจหรอื ไม่ นักเรยี นเคยอ่านในใจหรือไม่ นกั เรียนคดิ ว่าการอา่ นในใจเป็นอยา่ งไร ขนั้ ท่ี ๒ สำรวจค้นหา ครูให้นักเรียนศึกษาเก่ียวกบั การอ่านในใจจากหนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย (ภาษา พาที) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ หนา้ ๑๔ ข้ันที่ ๓ การสร้างองค์ความรู้ ครูให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ แต่ละกลุม่ ร่วมกันระดมความคดิ เก่ียวกับการปฏบิ ัติในการอา่ นในใจ กลมุ่ ๕ ขอ้ ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการระดมความคดิ หนา้ ชนั้ เรียน โดยครใู หข้ ้อเสนอแนะ เพม่ิ เติม ขั้นที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครใู หน้ กั เรยี นอ่านในใจจากบทความสนั้ ๆ จากหนงั สือเรยี น โดยครูจบั เวลา ๑๐ นาที นกั เรียนคนใดอ่านจบให้ยกมือ ใหน้ กั เรียนที่อา่ นในใจจบคนแรกบอกถึงเร่ืองย่อท่ีอา่ นวา่ เป็นอย่างไร ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนำไปใช้ ครูให้นักเรยี นบอกถงึ ประโยชนข์ องการอา่ นในใจเพื่อการนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ครูใหน้ กั เรยี น ใบงาน เร่ือง การอ่านในใจ ครูตรวจและบอกคะแนนกลา่ วชมเชยนกั เรยี นเพื่อ กระตุ้นใหน้ ักเรยี นเกิดแรงจูงใจในการเรียน ๑๐. สือ่ การสอน ๑. หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ชนั้ ป. ๔ ๑๑. แหล่งเรียนรูใ้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมุดโรงเรียน
๑๒. การวดั และประเมินผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัดและ เครอ่ื งมอื การวัด เกณฑท์ ใ่ี ชใ้ นการ แบบประเมนิ การอ่าน ประเมิน ประเมนิ ผล แบบประเมินชน้ิ งาน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑. อา่ นออกเสียงและ การทดสอบการอ่าน แบบประเมนิ การสังเกต พฤติกรรม ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ อา่ นในใจบทเรยี นได้ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ (K) ๒. อธิบายการปฏบิ ตั ใิ น การตรวจใบงาน เร่ือง การอา่ นในใจได้ (P) การอา่ นในใจ ๓. มีมารยาทในการ สังเกตพฤตกิ รรมในชั้น อ่าน (A) เรยี น ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................ ๑. นักเรียนจำนวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน ๒. นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ..................................... () ตำแหน่ง
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเห็นดังนี้ ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถูกต้อง ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นร้กู บั หลกั สตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ยังไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๔. ส่ือการเรยี นรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรยี นรู้ ยังไม่เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไมค่ รอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................... () ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี น
ใบงาน คะแนน เร่ือง การอา่ นในใจ ชื่อ............................................................................ชั้น.............เลขท.่ี ............ คำช้แี จง ให้นักเรียนเขยี นแนวปฏบิ ตั ิในการอา่ นในใจ แนวปฏิบัตใิ นการอา่ นในใจ ๑ ............................................................................................. .................. ๒ ............................................................................................. . ๓ ............................................................................................. ๔ ............................................................................................. ๕ .............................................................................................
เฉลยใบงาน คะแนน เรือ่ ง การอา่ นในใจ ชือ่ ............................................................................ชัน้ .............เลขท่.ี ............ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเขยี นแนวปฏบิ ัตใิ นการอา่ นในใจ แนวการตอบ แนวปฏิบตั ใิ นการอา่ นในใจ ๑ ไม่ชต้ี ามตวั อักษร ๒ กวาดสายตาอย่างรวดเร็ว ไม่อ่านยอ้ นหนา้ ย้อนหลัง . ๓ ไม่ออกเสยี ง ๔ มีสมาธิ จดจอ่ กบั สง่ิ ที่อ่าน ๕ จบั ใจความสำคญั ของเร่อื งทอ่ี ่าน
สนใจในเรื่องที่ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น ครูเล่าคำช้แี จง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมท่กี ำหนด ีมมารยาทการ ัฟง และการ ูพด รายการสงั เกต ีมสมา ิธในการ ัฟง ตอบคำถามและเลข ชือ่ – สกลุ เล่าเรื่องไ ้ดที่ ่อาน ้ขอความ ูถกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ้ตังใจในการ ทำงาน๑ ๒ สรุปผลการประเมิน๓ ผ่าน / ไม่ผ่าน๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรบั ปรุงแกไ้ ข ผู้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ต้องไดค้ ะแนนตั้งแต่ ๙ คะแนน ขึน้ ไป (ลงชื่อ)……………………………………….ผปู้ ระเมิน (..................................................) วันที่……….เดอื น…………………….พ.ศ………………
ความสะอาดเรียบร้อย แบบประเมนิ ใบงาน/ช้นิ งาน ของ ิ้ชนงานคำช้ีแจง ใหท้ ำเครื่องหมาย ลงในช่องรายการประเมินทกี่ ำหนด รูปแบบ ่นาสนใจ สวยงาม รายการประเมิน ความครบถ้วนใน เ ื้นอหาสาระเลข ชอื่ – สกลุ การใ ้ชคำเหมาะสมท่ี การเขียนสะกดคำ ถูกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ั้ตงใจในการ๑ ทำงาน๒ ๓ สรุปผลการประเมิน๔ ผ่าน / ไม่ผ่าน๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรับปรงุ แก้ไข ผผู้ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ต้องได้คะแนนตั้งแต่ ๙ คะแนน ขึ้นไป (ลงชื่อ)……………………………………….ผปู้ ระเมิน (..................................................) วันท่ี……….เดอื น…………………….พ.ศ………………
แบบประเมินการอ่านออกเสียง คำชีแ้ จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรียนในการอา่ นออกเสียง และให้คะแนนลงในชอ่ งทีต่ รงกับพฤตกิ รรม ของนักเรียน ชอ่ื -สกุล การ ัจบหนังสือ/พลิกหนังสือ สรปุ ผล เลขที่ /ท่าทางในการ ่อาน ูถก ้ตอง รวม การ ่อาน ูถก ้ตองตาม ัอกขร ิว ีธ การเ ้วนวรรคตอน ูถก ้ตอง ประเมนิ น้ำเสียงเหมาะสม ักบเ ่ืรองที่ ่อาน ไ ่ม ่อาน ้ขาม/ ่อานเพิ่ม/ ู่ตคำ ่อานเสียงดังเหมาะสม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ ไม่ า ผ่าน น ๑ ตอ้ งไดค้ ะแนนตง้ั แต่ ๑๔ คะแนน ขนึ้ ไป ๒ ๓ (ลงชอื่ )……………………………………….ผูป้ ระเมิน ๔ (..................................................) ๕ ๖ วนั ที่……….เดอื น…………………….พ.ศ……………… ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ผ้ผู า่ นเกณฑก์ ารประเมิน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ ขนมไทยไรเ้ ทียมทาน ๗ ชั่วโมง รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง การอา่ นบทเรยี น เวลา ๑ ชว่ั โมง ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ สอนวันที่.............เดอื น.................................พ.ศ. .................ครผู สู้ อน....................................................... ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชวี ติ และมีนิสัยรักการอ่าน ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ป. ๔/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๔/๓ อา่ นเรอ่ื งส้นั ๆ ตามเวลาท่กี ำหนดและตอบคำถามจากเร่ืองท่อี า่ น ท ๑.๑ ป. ๔/๖. สรุปความรูแ้ ละข้อคิดจากเรอ่ื งที่อา่ นเพ่ือนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ท ๑.๑ ป. ๔/๘ มีมารยาทในการอ่าน ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งและอา่ นในใจบทเรียนได้ K ๒. ตอบคำถามจากเร่ืองที่อา่ นได้ P ๓. มีมารยาทในการอา่ น A ๓. สาระสำคัญ การอ่านเปน็ การสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ญั หาในการดำเนินชีวิต และชว่ ย ใหน้ กั เรยี นมีนิสัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มคี วามร้คู วามเขา้ ใจและสามารถส่ือสารกับครูและเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคำนึงผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - นำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- เลอื กใชเ้ ทคโนโลยใี นการสืบค้นข้อมลู เพ่ือพัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสยี งและอ่านในใจบทเรยี น ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. ตอบคำถามจากเรอ่ื งท่อี า่ น ๕.๓ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มีมารยาทในการอ่าน ๖.จุดเนน้ สู่การพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชีวติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยืดหย่นุ และการปรับตวั การริเริม่ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง ทักษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม การเปน็ ผูส้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลกั ษณะด้านการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรับตวั ความเป็นผ้นู ำ คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง คุณลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ืน่ ความซื่อสตั ย์ ความสำนึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม
อาเซียนศกึ ษา คณุ ธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ อนุรักษ์พลงั งานและส่ิงแวดล้อม อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กิจกรรมการอา่ นออกเสียงและอ่านในใจจากบทเรียน .ใบงาน เรอื่ ง การเติมช่อื ขนมไทย ๙. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี ๑ นำเขา้ สู่บทเรยี น ครูทบทวนเรอื่ งการอ่านในใจจากชั่วโมงทแ่ี ลว้ ครูสนทนากับนักเรียนถึงเรื่องการอา่ น ใหน้ กั เรียนดูภาพจากบทเรียนและรว่ มกันบอกว่าเนอ้ื เรอ่ื งควรจะเก่ียวกบั เร่ืองใด ครูเขยี นช่ือขนมไทยบนกระดานโดยเวน้ พยัญชนะหรือตัวอักษรให้นักเรยี นร่วมกนั ตอบวา่ เป็น ชือ่ ขนมชนดิ ใด เชน่ ขนมบ้...บ่ิ...... (ขนมบ้าบ่ิน) ขนมต้....ขา...... (ขนมต้มขาว) ขนม......อดไ....... (ขนมสอดไส)้ ขน้ั ที่ ๒ สำรวจคน้ หา ครอู ธิบายถงึ วิธกี ารอา่ นท่ีถกู ต้องรวมถงึ วิธีการจับหนงั สือที่ถูกตอ้ ง โดยครูสาธติ ให้นักเรียนดู เปน็ ตัวอย่าง และให้นกั เรยี นทกุ คนยืนสาธิตพรอ้ มกัน นกั เรียนคนใดทำไม่ถูกต้องครูให้ข้อเสนอแนะ เพมิ่ เติม ครใู หน้ ักเรียนอ่านบทเรยี นในใจโดยกำหนดเวลาอา่ น ๒๐ นาที ขน้ั ท่ี ๓ การสรา้ งองค์ความรู้ ครทู ดสอบการอ่านออกเสียงเปน็ รายบบุคคลคนละ ๑ ยอ่ หนา้ ครสู นทนากับนักเรยี นถงึ บทเรยี นว่าเกี่ยวกับเรื่องใด มีขนมไทยใดบ้างทีป่ รากฏในบทเรยี น ขั้นท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ครูใหน้ ักเรียนทำใบงาน เรื่อง การเติมชื่อขนมไทย ครใู หน้ กั เรยี นแลกใบงานกบั เพอื่ นเพอ่ื ร่วมกันตรวจใบงาน ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนำไปใช้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยใบงาน โดยครูใหน้ กั เรียนดภู าพจากหนังสือเรียนประกอบ ครใู หน้ ักเรยี นบอกถึงประโยชนข์ องการอา่ นเพ่ือการนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ป. ๔
๑๑. แหล่งเรยี นรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวัดและ เคร่ืองมอื การวดั เกณฑ์ทใี่ ช้ในการ ประเมิน ประเมนิ ผล แบบประเมนิ การอ่าน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑. อ่านออกเสียงและ การทดสอบการอ่าน แบบประเมินการสงั เกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ อา่ นในใจบทเรยี น(K) แบบประเมนิ การสงั เกต พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๒. ตอบคำถามจากเร่ือง การสงั เกตการตอบ ทีอ่ า่ น(P) คำถาม ๓. มีมารยาทในการอา่ น สงั เกตพฤตกิ รรมในช้ัน (A) เรียน ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน คดิ เป็นร้อยละ................ ๑. นักเรียนจำนวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน ๒. นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ..................................... () ตำแหนง่
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเห็นดังนี้ ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถูกต้อง ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นร้กู บั หลกั สูตรสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ยังไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๔. ส่ือการเรยี นรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรยี นรู้ ยังไม่เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไมค่ รอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................... () ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี น
ใบงาน คะแนน เรอื่ ง การเติมชื่อขนมไทย จากบทเรียนเรอ่ื งขนมไทยไร้เทียมทาน ช่ือ............................................................................ช้นั .............เลขท่.ี ............ คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเตมิ นำชอ่ื ขนมไทยทกี่ ำหนด เตมิ ให้ตรงตามภาพ ขนมทองมว้ น ขนมบา้ บน่ิ ขนมฝอยทอง ขนมหมอ้ แกง ขนมเทียนแก้ว ขนมต้มขาว ขนมกลบี ลำดวน ขนมหนา้ นวล ขนมถว้ ยฟู ........................................ ........................................ ........................................ ........................................ ........................................ ........................................ ........................................ ........................................ ........................................
เฉลยใบงาน คะแนน เรอื่ ง การเติมชอ่ื ขนมไทย จากบทเรยี นเร่ืองขนมไทยไรเ้ ทยี มทาน ชื่อ............................................................................ชั้น.............เลขท่ี............. คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนเติมนำชือ่ ขนมไทยทกี่ ำหนด เตมิ ให้ตรงตามภาพ ขนมทองมว้ น ขนมบ้าบ่ิน ขนมฝอยทอง ขนมหม้อแกง ขนมเทยี นแกว้ ขนมต้มขาว ขนมกลีบลำดวน ขนมหนา้ นวล ขนมถว้ ยฟู ขนมทองมว้ น ขนมฝอยทอง ขนมหมอ้ แกง ขนมถว้ ยฟู ขนมเทยี นแกว้ ขนมต้มขาว ขนมกลบี ลำดวน ขนมหนา้ นวล ขนมบา้ บนิ่
สนใจในเรื่องที่ แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ครูเล่าคำช้ีแจง ให้ทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมท่ีกำหนด ีมมารยาทการ ัฟง และการ ูพด รายการสงั เกต ีมสมา ิธในการ ัฟง ตอบคำถามและเลข ชื่อ – สกลุ เล่าเรื่องไ ้ดที่ ่อาน ้ขอความ ูถกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ้ตังใจในการ ทำงาน๑ ๒ สรุปผลการประเมิน๓ ผ่าน / ไม่ผ่าน๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ด,ี ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรับปรงุ แก้ไข ผู้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนตั้งแต่ ๙ คะแนน ขึ้นไป (ลงชอื่ )……………………………………….ผู้ประเมิน (..................................................) วันที่……….เดอื น…………………….พ.ศ………………
ความสะอาดเรียบร้อย แบบประเมนิ ใบงาน/ช้นิ งาน ของ ิ้ชนงานคำช้ีแจง ใหท้ ำเครื่องหมาย ลงในช่องรายการประเมินทกี่ ำหนด รูปแบบ ่นาสนใจ สวยงาม รายการประเมิน ความครบถ้วนใน เ ื้นอหาสาระเลข ชอื่ – สกลุ การใ ้ชคำเหมาะสมท่ี การเขียนสะกดคำ ถูกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ั้ตงใจในการ๑ ทำงาน๒ ๓ สรุปผลการประเมิน๔ ผ่าน / ไม่ผ่าน๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรับปรงุ แก้ไข ผผู้ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ต้องได้คะแนนตั้งแต่ ๙ คะแนน ขึ้นไป (ลงชื่อ)……………………………………….ผปู้ ระเมิน (..................................................) วันท่ี……….เดอื น…………………….พ.ศ………………
แบบประเมินการอ่านออกเสียง คำชีแ้ จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรียนในการอา่ นออกเสียง และให้คะแนนลงในชอ่ งทีต่ รงกับพฤตกิ รรม ของนักเรียน ชอ่ื -สกุล การ ัจบหนังสือ/พลิกหนังสือ สรปุ ผล เลขที่ /ท่าทางในการ ่อาน ูถก ้ตอง รวม การ ่อาน ูถก ้ตองตาม ัอกขร ิว ีธ การเ ้วนวรรคตอน ูถก ้ตอง ประเมนิ น้ำเสียงเหมาะสม ักบเ ่ืรองที่ ่อาน ไ ่ม ่อาน ้ขาม/ ่อานเพิ่ม/ ู่ตคำ ่อานเสียงดังเหมาะสม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ ไม่ า ผ่าน น ๑ ตอ้ งไดค้ ะแนนตง้ั แต่ ๑๔ คะแนน ขนึ้ ไป ๒ ๓ (ลงชอื่ )……………………………………….ผูป้ ระเมิน ๔ (..................................................) ๕ ๖ วนั ที่……….เดอื น…………………….พ.ศ……………… ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ผ้ผู า่ นเกณฑก์ ารประเมิน
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๔ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ ขนมไทยไร้เทียมทาน ๗ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เร่อื ง การอา่ นจับใจความ ๑ เวลา ๑ ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ สอนวันที่.............เดือน.................................พ.ศ. .................ครผู ู้สอน....................................................... ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นำไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดำเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอา่ น ตวั ช้ีวัด ท ๑.๑ ป. ๔/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง ท ๑.๑ ป. ๔/๓ อา่ นเร่ืองสัน้ ๆ ตามเวลาทกี่ ำหนดและตอบคำถามจากเรื่องทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป. ๔/๖. สรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากเรือ่ งที่อา่ นเพ่ือนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งและอ่านในใจบทเรียนได้ K ๒. จบั ใจความจากเร่อื งที่อ่านได้ P ๓. มีมารยาทในการอา่ น A ๓. สาระสำคญั การอา่ นจับใจความเปน็ การอ่านเพ่ือจบั ใจความหรือข้อคิด ความคดิ สำคัญหลกั ของข้อความ หรอื เร่ือง ทีอ่ ่าน เพื่อให้เกดิ ความเขา้ ใจสงิ่ ท่อี ยากอ่าน นำไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชีวิต ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครแู ละเพ่ือนได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา - คิดตดั สินใจโดยคำนงึ ผลกระทบท่มี ตี ่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นำกระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เข้ากับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใชเ้ ทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพ่ือพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสียงและอา่ นในใจบทเรียน ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. จับใจความจากเรอื่ งทอี่ า่ น ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มีมารยาทในการอ่าน ๖.จุดเนน้ ส่กู ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรับตัว การริเริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผูส้ ร้างหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability) ภาวะผ้นู ำและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะดา้ นการทำงาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผนู้ ำ คุณลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรูข้ องตนเอง คณุ ลักษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อืน่ ความซอ่ื สตั ย์ ความสำนึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซียนศกึ ษา
คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ อนรุ ักษ์พลังงานและสิง่ แวดลอ้ ม อืน่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอา่ นจบั ใจความบทเรยี น ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี ๑ นำเข้าสูบ่ ทเรียน ครูทบทวนเร่อื งการอา่ นจากช่วั โมงที่แล้ว ครสู นทนากบั นักเรียนถึงเรื่องการอ่านจบั ใจความ ครูพดู ประโยคส้ัน ๆ ใหน้ กั เรียนรว่ มกัน ตอบว่าครูพูดเก่ียวกบั เรอ่ื งใด ขนั้ ที่ ๒ สำรวจคน้ หา ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาเรอ่ื งการอ่านจับใจความจากหนังสือเรียนภาษาพาทชี ั้นป.๔ หน้า ๑๕ ๒๐ นาที ขน้ั ที่ ๓ การสร้างองค์ความรู้ ครอู ธบิ ายเกยี่ วกับการอ่านจบั ใจความ คือการอา่ นท่ีสามารถทราบวา่ เรอ่ื งน้ันกล่าวถึงอะไร มี สาระสำคัญหรือใจความสำคัญคืออะไร หลกั การจับใจความสำคญั มีดังน้ี ๑. ตง้ั จดุ มุ่งหมายในการอ่านให้ชัดเจน ๒. อา่ นเรอื่ งราวอย่างคร่าวๆ พอเข้าใจ และเกบ็ ใจความสำคัญของแต่ละยอ่ หนา้ ๓. เม่ืออ่านจบให้ตง้ั คำถามตนเองวา่ เรือ่ งท่ีอ่าน มใี คร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อยา่ งไร ๔. นำสง่ิ ทสี่ รุปได้มาเรยี บเรียงใจความสำคัญใหม่ดว้ ยสำนวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความ สละสลวยวธิ ีจับใจความสำคัญ ขั้นที่ ๔ ความคิดรวบยอด ครเู ล่านทิ านให้นักเรียนฟัง ๑ เร่อื ง และให้นักเรียนรว่ มกนั บอกใจความสำคัญจากนิทาน ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนำไปใช้ ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรูท้ ไี่ ด้จากการอา่ นจับใจความสำคญั และสามารถนำไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้หรอื ไม่ ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ป. ๔ ๑๑. แหลง่ เรียนรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน
๑๒. การวัดและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวดั และ เคร่อื งมอื การวัด เกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการ ประเมนิ ประเมินผล ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑. อา่ นออกเสยี งและ การทดสอบการอ่านออก แบบประเมินการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ อ่านในใจบทเรยี น (K) เสยี งและอ่านในใจ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๒. จบั ใจความจากเรือ่ ง การทดสอบการอ่านจบั แบบประเมนิ การอ่าน ที่อา่ น(P) ใจความ ๓. มีมารยาทในการอ่าน สงั เกตพฤตกิ รรมในชั้น แบบประเมนิ การสงั เกต (A) เรียน พฤติกรรม ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน คดิ เป็นร้อยละ............... ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน คดิ เป็นรอ้ ยละ................ ๑. นักเรียนจำนวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู ....................คน ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน ๒. นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ..................................... () ตำแหนง่
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถูกต้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นรู้กบั หลักสตู รสถานศึกษา สอดคล้อง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ยังไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๔. ส่ือการเรยี นรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรยี นรู้ ยังไม่เหมาะสมกับรปู แบบการจดั การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไมค่ รอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ......................................... () ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น
สนใจในเรื่องที่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน ครูเล่าคำช้ีแจง ให้ทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมทกี่ ำหนด ีมมารยาทการ ัฟง และการ ูพด รายการสังเกต ีมสมา ิธในการ ัฟง ตอบคำถามและเลข ชอ่ื – สกลุ เล่าเรื่องไ ้ดที่ ่อาน ้ขอความ ูถกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ้ตังใจในการ ทำงาน๑ ๒ สรุปผลการประเมิน๓ ผ่าน / ไม่ผ่าน๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ด,ี ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรบั ปรงุ แกไ้ ข ผู้ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนตงั้ แต่ ๙ คะแนน ขน้ึ ไป (ลงชื่อ)……………………………………….ผูป้ ระเมนิ (..................................................) วนั ท่ี……….เดือน…………………….พ.ศ………………
แบบประเมินการอ่านออกเสียง คำชีแ้ จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรียนในการอา่ นออกเสียง และให้คะแนนลงในชอ่ งทีต่ รงกับพฤตกิ รรม ของนักเรียน ชอ่ื -สกุล การ ัจบหนังสือ/พลิกหนังสือ สรปุ ผล เลขที่ /ท่าทางในการ ่อาน ูถก ้ตอง รวม การ ่อาน ูถก ้ตองตาม ัอกขร ิว ีธ การเ ้วนวรรคตอน ูถก ้ตอง ประเมนิ น้ำเสียงเหมาะสม ักบเ ่ืรองที่ ่อาน ไ ่ม ่อาน ้ขาม/ ่อานเพิ่ม/ ู่ตคำ ่อานเสียงดังเหมาะสม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๑๘ ผ่ ไม่ า ผ่าน น ๑ ตอ้ งไดค้ ะแนนตง้ั แต่ ๑๔ คะแนน ขนึ้ ไป ๒ ๓ (ลงชอื่ )……………………………………….ผูป้ ระเมิน ๔ (..................................................) ๕ ๖ วนั ที่……….เดอื น…………………….พ.ศ……………… ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ผ้ผู า่ นเกณฑก์ ารประเมิน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๕ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ ขนมไทยไร้เทียมทาน ๗ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เร่อื ง การอา่ นจับใจความ ๒ เวลา ๑ ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ สอนวันที่.............เดือน.................................พ.ศ. .................ครผู ู้สอน....................................................... ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นำไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดำเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอา่ น ตวั ช้ีวัด ท ๑.๑ ป. ๔/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง ท ๑.๑ ป. ๔/๓ อ่านเรอ่ื งสัน้ ๆ ตามเวลาทกี่ ำหนดและตอบคำถามจากเรื่องทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป. ๔/๖. สรุปความร้แู ละข้อคดิ จากเรือ่ งที่อา่ นเพ่ือนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งและอ่านในใจบทเรียนได้ K ๒. จบั ใจความจากเรื่องที่อ่านได้ P ๓. มีมารยาทในการอ่าน A ๓. สาระสำคญั การอา่ นจับใจความเปน็ การอ่านเพ่ือจบั ใจความหรือข้อคิด ความคดิ สำคัญหลกั ของข้อความ หรอื เร่ือง ทีอ่ ่าน เพื่อให้เกดิ ความเขา้ ใจสงิ่ ท่อี ยากอ่าน นำไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชีวิต ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครแู ละเพ่ือนได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแกป้ ัญหา - คิดตดั สินใจโดยคำนงึ ผลกระทบท่มี ตี ่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เขา้ กับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการสืบค้นขอ้ มูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสยี งและอา่ นในใจบทเรยี น ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. จบั ใจความจากเรอื่ งทีอ่ ่าน ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มีมารยาทในการอา่ น ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีมและภาวะผูน้ ำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันส่ือ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยุน่ และการปรับตวั การริเรมิ่ สรา้ งสรรค์และเปน็ ตวั ของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผู้สรา้ งหรือผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเช่ือถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นำและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลกั ษณะดา้ นการทำงาน ได้แก่ การปรบั ตวั ความเป็นผูน้ ำ คุณลักษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง คณุ ลักษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อน่ื ความซอื่ สตั ย์ ความสำนึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพียง โครงการโรงเรียนคุณธรรม
อาเซียนศึกษา คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนรุ กั ษ์พลงั งานและส่งิ แวดลอ้ ม อ่ืน ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู กิจกรรมการอ่านจบั ใจความบทเรียน ใบงานการทำแผนภาพความคดิ เร่ือง ลกั ษณะของขนมไทย ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ที่ ๑ นำเข้าสู่บทเรยี น ครทู บทวนเรื่องการอา่ นจบั ใจความจากช่ัวโมงท่ีแล้ว ครูสนทนากับนักเรยี นถงึ เรื่องการอ่านจบั ใจความ ครพู ดู ประโยคส้ัน ๆ ใหน้ กั เรียนรว่ มกัน ตอบว่าครูพดู เกี่ยวกับเรื่องใดและรว่ มกันนำมาจัดทำเป็นแผนภาพความคิด โดยครใู ห้อาสาสมคั ร นักเรียนเขียนแผนภาพความคดิ บนกระดานนักเรียนรว่ มกันออกแบบและร่วมกันตอบ ขั้นท่ี ๒ สำรวจคน้ หา ครใู หน้ กั เรยี นศึกษาเรื่องการอ่านจับใจความจากหนังสอื เรียนภาษาพาทชี น้ั ป.๔ หนา้ ๑๖ เวลา ๑๕ นาที โดยเนื้อมีเนอ้ื หาเก่ยี วกบั การจดั ทำแผนภาพความคดิ ขั้นที่ ๓ การสรา้ งองค์ความรู้ ครอู ธิบายเก่ียวกับการอ่านจบั ใจความ “นอกจากการตั้งคำถามเพ่อื จบั ใจความสำคญั แล้ว การนำรายละเอยี ดของเรื่องมาจัดทำเป็นแผนภาพความคิด และประมวลแตล่ ะประเดน็ เปน็ ใจความ สำคญั กเ็ ป็นอกี วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้จบั ใจความสำคญั ของเร่ืองได้ ข้นั ที่ ๔ ความคิดรวบยอด ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ แตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั อา่ นเร่ืองท่นี กั เรียนสนใจ ๑ เรอื่ ง โดยการค้นคว้า จากหอ้ งสมุด และให้ร่วมกนั เขียนสรปุ เป็นแผนภาพความคิดลงในกระดาษและนำส่งครู ขัน้ ที่ ๕ ทดสอบและนำไปใช้ ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานการทำแผนภาพความคิดเรอื่ ง ลกั ษณะของขนมไทย ครูตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง ๑๐. สือ่ การสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ป. ๔ ๑๑. แหล่งเรียนร้ใู นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน
๑๒. การวดั และประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั และ เครือ่ งมือการวดั เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการ ประเมนิ ประเมนิ ผล ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑. อา่ นออกเสยี งและ การทดสอบการอ่านออก แบบประเมินการสงั เกต ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ อ่านในใจบทเรยี น (K) เสียงและอา่ นในใจ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๒. จบั ใจความจากเรือ่ ง การตรวจใบงาน เรอ่ื ง แบบประเมินชนิ้ งาน ที่อา่ น(P) ลักษณะของขนมไทย ๓. มีมารยาทในการอ่าน สังเกตพฤตกิ รรมในช้ัน แบบประเมนิ การสงั เกต (A) เรยี น พฤติกรรม ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน คิดเป็นร้อยละ............... ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน คดิ เปน็ ร้อยละ................ ๑. นักเรียนจำนวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน ๒. นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ..................................... () ตำแหน่ง
ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผูท้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเห็นดังนี้ ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถูกต้อง ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรยี นรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ยังไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๔. ส่ือการเรยี นรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรยี นรู้ ยังไม่เหมาะสมกับรปู แบบการจดั การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................... () ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี น
ใบงาน คะแนน เรอ่ื ง ลักษณะของขนมไทย ชื่อ............................................................................ช้นั .............เลขท่.ี ............ คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นลกั ษณะของขนมไทยลงในแผนภาพความคดิ ลกั ษณะของ ขนมไทย
เฉลยใบงาน คะแนน เรื่อง ลกั ษณะของขนมไทย ชอ่ื ............................................................................ชน้ั .............เลขท่ี............. คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนเขยี นลกั ษณะของขนมไทยลงในแผนภาพความคดิ ปรงุ แตง่ จากสงิ่ ช่ือมีความหมาย ทม่ี อี ยตู่ าม ในทางทดี่ ี ธรรมชาติ ลกั ษณะของ รสหวานพอดี ขนมไทย กลน่ิ หอม วธิ ี ประดดิ ประดอย มศี ิลปะตกแต่ง น่ากนิ
สนใจในเรื่องที่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน ครูเล่าคำช้ีแจง ให้ทำเคร่ืองหมาย ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมทกี่ ำหนด ีมมารยาทการ ัฟง และการ ูพด รายการสังเกต ีมสมา ิธในการ ัฟง ตอบคำถามและเลข ชอ่ื – สกลุ เล่าเรื่องไ ้ดที่ ่อาน ้ขอความ ูถกต้อง๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐ มีความ ้ตังใจในการ ทำงาน๑ ๒ สรุปผลการประเมิน๓ ผ่าน / ไม่ผ่าน๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒ = ด,ี ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรบั ปรงุ แกไ้ ข ผู้ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตอ้ งได้คะแนนตงั้ แต่ ๙ คะแนน ขน้ึ ไป (ลงชื่อ)……………………………………….ผูป้ ระเมนิ (..................................................) วนั ท่ี……….เดือน…………………….พ.ศ………………
Search