แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ บูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม และหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562 จดั ทาโดย นายพรพทิ กั ษ์ ศรีแกว้ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรนิ ทร์ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก หลักสูตรรายวชิ า รายวชิ าจาวาสคริปตเ์ บื้องตน้ รหัสวชิ า 20903 - 1003 ทฤษฎี 1 ปฎบิ ัติ 2 หน่วยกติ 2 จุดประสงค์รายวชิ า 1. เขา้ ใจเกยี่ วกบั การเขียนเว็บจาวาสคริปตเ์ บ้ืองต้น 2. สามารถเขียนเว็บจาวาสคริปต์เบื้องต้นไดต้ ามหลักการ 3. มีกิจนิสยั ในการทางานดว้ ยความประณีต รอบคอบและปลอดภัย ตระหนักถึงคุณภาพของงาน และมีจรยิ ธรรมในงานอาชีพ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั การเขียนจาวาสคริปต์เบ้ืองตน้ ด้วยจาวาสคริปต์ 2. ใช้งานเครื่องมือชว่ ยการเขียนจาวาสคริปต์เบื้องตน้ 3. ปฏิบตั กิ ารเขียนจาวาสคริปตเ์ บ้ืองตน้ ขนาดเล็กไดต้ ามหลกั การ คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับจาวาสคริปต์เบื้องต้น วิธีการใช้งาน ไวยากรณ์ (Syntax) คาส่ังต่าง ๆ ใน การเเสดงผลหน้าเว็บไซต์ คาสั่งท่ีให้ทางานตามลาดับ เขียนข้อความบอกรายละเอียด (Comments) ตัวแปร (Variables) ประเภทของข้อมูล องค์ประกอบหลักของวัตถุ การเรียกใช้ฟังก์ชั่น (Functions) ตัวดาเนินการ (Operators) เปรยี บเทียบหาค่าความจริง (Boolean) คาสั่งเงื่อนไข (Conditionals) คาส่ังวนรอบ (Looping) ฟังกช์ ่ัน (Functions) ความผิดพลาด (Errors) ตวั อย่างจาวาสคริปตเ์ บื้องตน้ และปฏบิ ตั ิการเขยี นเวบ็ ขนาดเล็ก คาอธิบายรายวิชา (ปรบั ปรงุ ) ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาเชิงวัตถุ ตัวแปร และตัวดาเนินการ คาสั่ง ควบคุมการทางาน คลาสและอ็อบเจกต์ (Class and Object) การห่อหุ้ม (Encapsulation) การซ่อน สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบทอด (Inheritance) และการฟ้องรูป (Polymorphism) การ ตรวจหาและแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรม (Testing and Debugging) ออกแบบส่วนติดต่อกับผู้ใช้แบบ กราฟกิ (GUI) การเขียนโปรแกรมขนาดเลก็ สาหรบั งานธรุ กิจ กรณีศึกษา ปฏิบัติงานคาส่ังต่างๆ ในการเเสดงผลหน้าเว็บไซต์ งานประกาศตัวแปรใน Javascript งานเรียกใช้ ฟังก์ช่ัน งานเปรียบเทียบหาค่าความจริง งานตรวจสอบเง่ือนไขท้าย Loop งานเขียนโปรแกรมขนาดเล็ก สาหรับงานธุรกจิ กรณศี กึ ษา
ข ตารางวเิ คราะห์หนว่ ยการเรียน วิชาจาวาสครปิ ต์เบ้อื งต้น รหัสวชิ า 20903 - 1003 ท-ป-น 1-2-2 จานวนช่ัวโมงสอน 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ระดบั ชั้น ปวช. คาอธบิ ายรายวชิ า ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ศกึ ษาและปฏิบตั เิ ก่ียวกบั การเขยี นโปรแกรม 1. ภาษาคอมพวิ เตอร์สาหรับเขียนโปรแกรม ดว้ ยภาษาเชงิ วตั ถุ ตวั แปร และตัวดาเนินการ คาสงั่ 2. คาส่งั ต่างๆ ในการเเสดงผลหนา้ เว็บไซต์ ควบคมุ การทางาน คลาสและออ็ บเจกต์ (Class and 3. คาสัง่ ทใ่ี หท้ างานตามลาดบั Object) การหอ่ หุ้ม (Encapsulation) การซ่อน 4. การประกาศตวั แปรใน Javascript สารสนเทศ (Information Hiding) การสบื ทอด 5. การกาหนดประเภทของคา่ ขอ้ มลู ให้ตวั แปร (Inheritance) และการฟ้องรูป (Polymorphism) การ 6. องคป์ ระกอบหลกั ของวตั ถุ OOP ตรวจหาและแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรม (Testing 7. การเรียกใช้ฟังกช์ ่ัน and Debugging) ออกแบบสว่ นตดิ ตอ่ กับผู้ใชแ้ บบกราฟิก 8. เคร่อื งหมายท่ใี ช้ในการคานวณทางคณติ (GUI) การเขียนโปรแกรมขนาดเลก็ สาหรับงานธุรกจิ 9. การเปรยี บเทยี บหาค่าความจรงิ กรณศี ึกษา 10. คาส่งั ทีใ่ ชก้ าหนดเง่อื นไข ปฏิบัติงานคาสั่งต่างๆ ในการเเสดงผลหน้า 11. คาสัง่ ทาซา้ ตามเง่ือนไขที่กาหนด เว็บไซต์ งานประกาศตัวแปรใน Javascript งานเรียกใช้ 12. คาสัง่ สาหรับการทาซ้าของโปรแกรม ฟังก์ช่ัน งานเปรียบเทียบหาค่าความจริง งานตรวจสอบ 13. การตรวจสอบเง่ือนไขทา้ ย Loop เง่ือนไขท้าย Loop งานเขียนโปรแกรมขนาดเล็กสาหรับ 14. การทาใหโ้ ปรแกรมหยุดการทางานและไป งานธรุ กจิ กรณศี ึกษา ตอ่ 15. JavaScript Errors 16. JavaScript Form Validation 17. การเขยี นโปรแกรมขนาดเลก็ สาหรบั งาน ธรุ กจิ กรณีศกึ ษา
ค ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู รรายวชิ า รายวชิ าจาวาสคริปตเ์ บ้ืองตน้ รหัสวิชา 20903 - 1003 ความสอดคล้องระหว่างเน้ือหากับคาอธบิ ายรายวิชา จดุ ประสงค์รายวชิ า และสมรรถนะรายวชิ า หน่วย ความสอดคล้องกับหลักสูตรรายวิชา การ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงค์ สมรรถนะ เรียนรู้ คาอธบิ ายรายวชิ า รายวชิ า รายวชิ า ท่ี 123123 1 ภาษาคอมพิวเตอร์สาหรับ การเขยี นโปรแกรมด้วยภาษาเชิงวตั ถุ เขยี นโปรแกรม 2 คาส่ังต่างๆ ในการเเสดงผล ตัวแปร และตวั ดาเนินการ คาสง่ั ควบคุมการ หนา้ เว็บไซต์ ทางาน 3 คาสัง่ ทีใ่ ห้ทางานตามลาดับ ตวั แปร และตัวดาเนนิ การ คาส่งั ควบคุมการ ทางาน 4 การประกาศตัวแปรใน ตัวแปร และตวั ดาเนนิ การ คาสั่งควบคมุ การ Javascript ทางาน 5 การกาหนดประเภทของค่า ข้อมลู ใหต้ วั แปร ตวั แปร และตวั ดาเนนิ การ คาสงั่ ควบคมุ การ 6 องค์ประกอบหลกั ของวัตถุ ทางาน OOP คลาสและอ็อบเจกต์ (Class and Object) การ 7 การเรียกใช้ฟังก์ช่นั ห่อห้มุ (Encapsulation) การหอ่ หุ้ม (Encapsulation) การซ่อน สารสนเทศ (Information Hiding) การสบื ทอด (Inheritance) และการฟอ้ งรูป (Polymorphism) 8 เครอ่ื งหมายท่ีใชใ้ นการ การหอ่ หุ้ม (Encapsulation) การซ่อน คานวณทางคณิต สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบ ทอด (Inheritance) และการฟอ้ งรูป (Polymorphism)
ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู รรายวชิ า รายวชิ าจาวาสครปิ ต์เบอื้ งตน้ รหัสวิชา 20903 - 1003 ความสอดคล้องระหวา่ งเนื้อหากบั คาอธบิ ายรายวิชา จดุ ประสงคร์ ายวชิ า และสมรรถนะรายวิชา หนว่ ย ความสอดคล้องกับหลักสตู รรายวิชา การ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ คาอธบิ ายรายวิชา จดุ ประสงค์ สมรรถนะ เรียนรู้ รายวิชา รายวิชา ท่ี 1 2 3 1 2 3 9 การเปรยี บเทยี บหาค่าความ การหอ่ หุ้ม (Encapsulation) การซ่อน จริง สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบ ทอด (Inheritance) และการฟ้องรูป (Polymorphism) 10 คาสัง่ ท่ใี ช้กาหนดเงอื่ นไข การหอ่ หุม้ (Encapsulation) การซ่อน สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบ ทอด (Inheritance) และการฟอ้ งรูป (Polymorphism) 11 คาสงั่ ทาซา้ ตามเงื่อนไขท่ี การหอ่ หมุ้ (Encapsulation) การซ่อน กาหนด สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบ ทอด (Inheritance) และการฟอ้ งรูป (Polymorphism) 12 คาสัง่ สาหรับการทาซ้าของ การหอ่ หุ้ม (Encapsulation) การซอ่ น โปรแกรม สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบ ทอด (Inheritance) และการฟ้องรูป (Polymorphism) 13 การตรวจสอบเง่ือนไขทา้ ย การหอ่ ห้มุ (Encapsulation) การซอ่ น Loop สารสนเทศ (Information Hiding) การสืบ ทอด (Inheritance) และการฟ้องรปู (Polymorphism) 14 การทาใหโ้ ปรแกรมหยุดการ การตรวจหาและแก้ไขข้อผดิ พลาดของ ทางานและไปต่อ โปรแกรม (Testing and Debugging)
ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวชิ า (ตอ่ ) รายวิชาจาวาสครปิ ต์เบอื้ งตน้ รหสั วิชา 20903 - 1003 ความสอดคล้องระหวา่ งเนอ้ื หากบั คาอธบิ ายรายวิชา จดุ ประสงคร์ ายวชิ า และสมรรถนะรายวิชา หน่วย ความสอดคล้องกับหลักสตู รรายวิชา การ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ จุดประสงค์ สมรรถนะ เรยี นรู้ คาอธบิ ายรายวชิ า รายวิชา รายวิชา ท่ี 123123 15 JavaScript Errors การตรวจหาและแกไ้ ขข้อผิดพลาดของ โปรแกรม (Testing and Debugging) 16 JavaScript Form ออกแบบสว่ นตดิ ต่อกบั ผู้ใชแ้ บบกราฟิก (GUI) Validation การเขยี นโปรแกรมขนาดเล็กสาหรบั งานธรุ กจิ 17 การเขยี นโปรแกรมขนาด กรณศี ึกษา เล็กสาหรบั งานธรุ กจิ กรณศี ึกษา
ง แหล่งข้อมูลในการวเิ คราะห์หลกั สูตร รายวิชาจาวาสครปิ ต์เบอื้ งต้น รหสั วชิ า 20903 - 1003 ท-ป-น 1-2-2 จานวนชวั่ โมงสอน 4 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช. หน่วย ชื่อหนว่ ย จานวน ท่ีมา ที่ ชวั่ โมง A B C D E 1 ภาษาคอมพวิ เตอรส์ าหรบั เขยี นโปรแกรม 3 2 คาสั่งต่างๆ ในการเเสดงผลหน้าเวบ็ ไซต์ 3 3 คาสั่งท่ีให้ทางานตามลาดับ 3 4 การประกาศตัวแปรใน Javascript 3 5 การกาหนดประเภทของค่าข้อมูลให้ตวั แปร 3 6 องค์ประกอบหลกั ของวตั ถุ OOP 3 7 การเรยี กใช้ฟังกช์ ั่น 3 8 เครือ่ งหมายท่ีใช้ในการคานวณทางคณิต 3 9 การเปรยี บเทียบหาค่าความจริง 3 10 คาสัง่ ท่ีใช้กาหนดเง่ือนไข 3 11 คาสั่งทาซาตามเง่ือนไขท่ีกาหนด 3 12 คาสง่ั สาหรบั การทาซาของโปรแกรม 3 13 การตรวจสอบเง่ือนไขทา้ ย Loop 3 14 การทาใหโ้ ปรแกรมหยดุ การทางานและไปตอ่ 3 15 JavaScript Errors 3 16 JavaScript Form Validation 3 17 การเขียนโปรแกรมขนาดเล็กสาหรบั งานธรุ กจิ 6 กรณศี ึกษา รวม 54 หมายเหตุ A = คาอธิบายรายวิชา B = ตารา/เอกสาร C = ผ้เู ชย่ี วชาญ D = ประสบการณ์ E = สถานประกอบการ/ผชู้ านาญการ
จ กาหนดการสอน/หนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ จานวนชัว่ โมง สปั ดาหท์ ่ี 1 3 1 2 ภาษาคอมพวิ เตอร์สาหรบั เขยี นโปรแกรม 3 2 3 คาสั่งต่างๆ ในการเเสดงผลหน้าเวบ็ ไซต์ 3 3 4 คาสั่งทใ่ี หท้ างานตามลาดบั 3 4 5 การประกาศตวั แปรใน Javascript 3 5 6 การกาหนดประเภทของค่าข้อมลู ใหต้ ัวแปร 3 6 7 องคป์ ระกอบหลักของวตั ถุ OOP 3 7 8 การเรียกใช้ฟังกช์ ่ัน 3 8 9 เคร่อื งหมายทีใ่ ช้ในการคานวณทางคณติ 3 9 10 การเปรียบเทียบหาคา่ ความจรงิ 3 10 11 คาสง่ั ทใี่ ช้กาหนดเงอ่ื นไข 3 11 12 คาสง่ั ทาซาตามเง่ือนไขท่ีกาหนด 3 12 13 คาสัง่ สาหรบั การทาซาของโปรแกรม 3 13 14 การตรวจสอบเง่ือนไขทา้ ย Loop 3 14 15 การทาใหโ้ ปรแกรมหยดุ การทางานและไปต่อ 3 15 16 JavaScript Errors 3 16 JavaScript Form Validation 17 การเขยี นโปรแกรมขนาดเล็กสาหรบั งานธุรกิจ 6 17 - 18 กรณศี ึกษา
ฉ หนว่ ยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจาหนว่ ย กจิ กรรมการเรียนรู้ และแนวทางการประเมิน แนวทางการประเมิน หน่วย รายการสอน สมรรถนะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ทดสอบความรู้ ท่ี ประจาหน่วย ประเ ิมนการปฏิบั ิตงาน ประเ ิมนผลงาน ประเ ิมนพฤติกรม ่ือน ๆ (ระบุ) พฤ ิตกรรม 1 ภาษาคอมพิวเตอร์ แสดงความรู้ บรรยาย,แบบฝึกหัด, สาหรับเขยี นโปรแกรม ภาษาคอมพวิ เตอร์ มอบหมายงาน,ใบงาน สาหรับเขียนโปรแกรม 2 คาส่ังต่างๆ ในการเเส เขยี นคาสัง่ เเสดงผลหน้า บรรยาย,แบบฝึกหัด, ดงผลหน้าเว็บไซต์ เวบ็ ไซต์ มอบหมายงาน,ใบงาน 3 คาสั่งทใี่ หท้ างาน เขยี นคาสง่ั ท่ีให้ทางาน บรรยาย,แบบฝึกหัด, ตามลาดับ ตามลาดบั มอบหมายงาน,ใบงาน 4 การประกาศตวั แปรใน ประกาศตวั แปรใน บรรยาย,แบบฝกึ หดั , Javascript Javascript มอบหมายงาน,ใบงาน 5 การกาหนดประเภท กาหนดประเภทของคา่ บรรยาย,แบบฝึกหัด, ของค่าข้อมลู ใหต้ ัวแปร ข้อมลู ใหต้ วั แปร มอบหมายงาน,ใบงาน 6 องคป์ ระกอบหลักของ แสดงความรู้ บรรยาย,แบบฝึกหัด, วัตถุ OOP องคป์ ระกอบหลกั ของ มอบหมายงาน,ใบงาน วตั ถุ OOP 7 การเรียกใช้ฟงั กช์ ่นั เรียกใชฟ้ ังกช์ ั่น บรรยาย,แบบฝึกหดั , มอบหมายงาน,ใบงาน 8 เครอ่ื งหมายทใี่ ชใ้ นการ ใช้เคร่อื งหมายในการ บรรยาย,แบบฝกึ หัด, คานวณทางคณติ คานวณทางคณติ มอบหมายงาน,ใบงาน 9 การเปรียบเทยี บหาคา่ เปรยี บเทยี บหาค่าความ บรรยาย,แบบฝกึ หัด, ความจริง จริง มอบหมายงาน,ใบงาน 10 คาส่ังทีใ่ ช้กาหนด เขยี นคาสัง่ ท่ีใชก้ าหนด บรรยาย,แบบฝึกหดั , เงอื่ นไข เง่อื นไข มอบหมายงาน,ใบงาน
หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจาหนว่ ย กจิ กรรมการเรียนรู้ และแนวทางการประเมิน (ตอ่ ) แนวทางการประเมิน หนว่ ย รายการสอน สมรรถนะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ทดสอบความรู้ ท่ี ประจาหน่วย ประเ ิมนการปฏิบั ิตงาน ประเ ิมนผลงาน ประเ ิมนพฤติกรม ่ือน ๆ (ระบุ) พฤ ิตกรรม 11 คาสง่ั ทาซ้าตามเงื่อนไข เขยี นคาสงั่ ทาซ้าตาม บรรยาย,แบบฝึกหัด, ท่ีกาหนด เงอื่ นไขท่ีกาหนด มอบหมายงาน,ใบงาน 12 คาสง่ั สาหรับการทาซา้ เขยี นคาสัง่ สาหรบั การ บรรยาย,แบบฝกึ หัด, ของโปรแกรม ทาซ้าของโปรแกรม มอบหมายงาน,ใบงาน 13 การตรวจสอบเง่ือนไข ตรวจสอบเงื่อนไขท้าย บรรยาย,แบบฝึกหดั , ท้าย Loop Loop มอบหมายงาน,ใบงาน 14 การทาใหโ้ ปรแกรม เขียนโปรแกรมหยดุ การ บรรยาย,แบบฝกึ หดั , หยุดการทางานและไป ทางานและไปต่อ มอบหมายงาน,ใบงาน ตอ่ 15 JavaScript Errors แสดงความรู้ JavaScript บรรยาย,แบบฝึกหดั , Errors มอบหมายงาน,ใบงาน 16 JavaScript Form แสดงความรู้ JavaScript บรรยาย,แบบฝกึ หดั , Validation Form Validation มอบหมายงาน,ใบงาน 17 การเขียนโปรแกรม เขียนโปรแกรมขนาดเล็ก บรรยาย,แบบฝกึ หัด, ขนาดเล็กสาหรับงาน สาหรบั งานธุรกิจ มอบหมายงาน,ใบงาน ธุรกิจ กรณีศกึ ษา กรณศี ึกษา
ช ตารางวิเคราะห์หลกั สูตรเชิงพฤติกรรม รายวิชาจาวาสคริปตเ์ บื้องต้น รหัสวชิ า 20903 - 1003 หนว่ ยกติ 2 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี พุทธพิ ิสัย พฤติกรรม ความรู้ ช่ือหน่วย ความเ ้ขาใจ นาไปใ ้ช ิวเคราะ ์ห ประเ ิมนค่า ทักษะพิ ัสย ิจต ิพ ัสย รวม ร้อยละ ลาดับความสาคัญ จานวน ั่ชวโมง จานวน ้ขอสอบ 1.ภาษาคอมพวิ เตอรส์ าหรบั เขยี น 8 8 9 8 10 43 5.97 3 3 3 โปรแกรม 9 10 46 6.39 1 3 3 2.คาส่ังตา่ งๆ ในการเเสดงผลหนา้ 9 9 9 9 10 46 6.39 1 3 3 เวบ็ ไซต์ 9 10 43 5.97 3 3 3 3.คาสั่งท่ใี ห้ทางานตามลาดับ 9 9 9 7 10 38 5.28 5 3 2 4.การประกาศตวั แปรใน 888 8 10 39 5.42 5 3 2 Javascript 8 10 42 5.83 4 3 2 8 10 42 5.83 4 3 2 5.การกาหนดประเภทของค่า 777 8 10 42 5.83 4 3 2 ขอ้ มูลใหต้ วั แปร 8 10 42 5.83 4 3 2 8 10 42 5.83 4 3 2 6.องค์ประกอบหลักของวัตถุ 777 OOP 8 10 42 5.83 4 3 2 7.การเรียกใชฟ้ ังก์ช่นั 888 8 10 42 5.83 4 3 2 8.เคร่อื งหมายท่ใี ชใ้ นการคานวณ 8 8 8 ทางคณิต 9.คาสั่งทใี่ ช้กาหนดเงอ่ื นไข 888 10.คาสงั่ ท่ีใชก้ าหนดเง่ือนไข 8 8 8 11.คาสั่งทาซ้าตามเง่ือนไขท่ี 888 กาหนด 12.คาส่งั สาหรบั การทาซ้าของ 888 โปรแกรม 13.การตรวจสอบเง่ือนไขทา้ ย 888 Loop
ตารางวเิ คราะห์หลักสตู รเชิงพฤติกรรม (ต่อ) รายวชิ าจาวาสคริปตเ์ บ้อื งตน้ รหสั วชิ า 20903 - 1003 หนว่ ยกติ 2 ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี พุทธิพสิ ยั พฤตกิ รรม ความรู้ ช่ือหนว่ ย ความเ ้ขาใจ นาไปใ ้ช ิวเคราะ ์ห ประเ ิมนค่า ทักษะพิ ัสย ิจต ิพ ัสย รวม ร้อยละ ลาดับความสาคัญ จานวน ั่ชวโมง จานวน ้ขอสอบ 14. การทาใหโ้ ปรแกรมหยุดการ 8 8 8 8 10 42 5.83 4 3 2 ทางานและไปต่อ 8 10 42 5.83 4 3 2 8 10 42 5.83 4 3 2 15. JavaScript Errors 888 8 10 45 6.25 2 6 4 16. JavaScript Form 888 Validation 17.การเขยี นโปรแกรมขนาดเลก็ 9 9 9 สาหรบั งานธรุ กจิ กรณีศึกษา รวม 137 137 138 0 0 138 170 720 100 54 40 ลาดับความสาคัญ 443 21 หมายเหตุ น้าหนักคะแนนความสาคญั มากทส่ี ุด 9 - 10 มาก 7-8 ปานกลาง 4-6 น้อย 2 - 3 นอ้ ยทส่ี ดุ 0 - 1 จานวนช่วั โมงสอน = นา้ หนักหน่วย X น้าหนักหนว่ ย จานวนชวั่ โมงรวม จานวนช่ัวโมงสอน = น้าหนักช่วั โมงสอนนX้าหจานนกั วรนวมขอ้ สอบรวม จานวนชั่วโมงสอนรวม
ซ การวดั ผลและการประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 20 คะแนน 1. สดั ส่วนการใหค้ ะแนน (คะแนนเตม็ 100 คะแนน) 60 คะแนน 1.1 คะแนนระหวา่ งภาค 80 คะแนน ประกอบดว้ ย 20 คะแนน 1.1.1 คะแนนคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.1.2 คะแนนการประเมินผลตามสภาพจริง 1.2 คะแนนปลายภาค 2. การตดั สนิ ผลการเรียน ใชแ้ บบองิ เกณฑ์ 80 - 100 คะแนน เกรด 4 คะแนนระหวา่ ง 75 - 79 คะแนน เกรด 3.5 คะแนนระหวา่ ง 70 - 74 คะแนน เกรด 3 คะแนนระหวา่ ง 65 - 69 คะแนน เกรด 2.5 คะแนนระหว่าง 60 - 64 คะแนน เกรด 2 คะแนนระหวา่ ง 55 - 54 คะแนน เกรด 1.5 คะแนนระหว่าง 50 - 54 คะแนน เกรด 1 คะแนนระหว่าง 0 - 49 คะแนน เกรด 0 คะแนนระหวา่ ง
ฒ แผนจดั การเรียนการสอนเพื่อประเมนิ พฤติกรรมผเู้ รียนอาชวี ศึกษา ตามคา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาสรุ ินทร์ รายวิชาจาวาสคริปตเ์ บื้องตน้ รหสั วชิ า 20903 - 1003 ทฤษฎี 1 ปฎิบตั ิ 2 หนว่ ยกติ 2 รายการประเมนิ พฤติกรรมท่แี สดงออก พฤตกิ รรม ประจาหน่วยที่ ท่จี ะวดั 1. มีความรักชาติ 1.1 ร่วมกจิ กรรมเขา้ แถว ยืนตรงเคารพธงชาติ รอ้ ง 1 - 17 ศาสนา เพลงชาติ พระมหากษัตริย์ 1.2 ร่วมกิจกรรมวันสาคญั ทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ 1 - 17 1.3 รว่ มกจิ กรรมวนั สาคญั ทีเ่ กย่ี วกบั การเทิดทนู สถาบัน 1 - 17 พระมหากษัตริย์ 2. ซ่ือสัตย์ เสียสละ 2.1 ประพฤติ ปฏิบตั ติ นตามความเปน็ จรงิ ทีแ่ สดงถงึ อดทน การยึดมนั่ ในความถูกต้อง ยอมรับผลการกระทาของ 1 - 17 ตนเองและผ้อู นื่ 2.2 เสยี สละกาลงั กาย ทรัพย์ สตปิ ัญญา ในการ 1 - 17 ชว่ ยเหลือผู้อนื่ และสงั คม 2.3 ควบคมุ ตนเองเม่ือประสบความยากลาบากและไม่ 1 - 17 ก่อให้เกดิ ความเสียหาย 3. กตัญญูตอ่ พอ่ แม่ 3.1 รจู้ กั บญุ คณุ พ่อแมผ่ ้ปู กครองครูบาอาจารย์และผ้มู ี 1 - 17 ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์ พระคณุ 3.2 เอาใจใส่ ดแู ลช่วยเหลอื ภารกจิ การงาน ปฏิบตั ิตน 1 - 17 ตามคาสั่งสอนทถี่ ูกต้องและเหมาะสม 3.3 ตอบแทนบญุ คุณของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบา 1 - 17 อาจารยแ์ ละผู้มีพระคุณ 4. ใฝ่หาความรู้ หม่ัน 4.1 แสวงหาความรู้ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม 1 - 17 ศกึ ษา เล่าเรียน ทัง้ 4.2 ม่งุ มั่นตงั้ ใจเพียรพยายามในการศึกษาและ 1 - 17 ทางตรงและทางอ้อม ปฏิบัตงิ าน 4.3 แกป้ ัญหาและพัฒนาส่ิงใหม่ ๆ จนบรรลผุ ลสาเรจ็ 1 - 17 5. รกั ษาวัฒนธรรม 5.1 เข้ารว่ มโครงการหรือกจิ กรรมทเ่ี ปน็ ไทย 1 - 17 ประเพณไี ทย อนั งดงาม 5.2 ภาคภูมใิ จในความเป็นไทย 1 - 17 5.3 อนุรักษส์ บื ทอดวัฒนธรรมและประเพณไี ทยอนั 1 - 17 งดงาม
ญ รายการประเมิน พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก พฤตกิ รรม ประจาหนว่ ยท่ี ทจี่ ะวัด 6. มศี ลี ธรรม รกั ษา 6.1 ประพฤติตนตามหลักศีลธรรมอันดีงาม 1 - 17 ความสัตย์ หวังดตี อ่ ผู้อื่น 6.2 ปฏบิ ตั ิโดยยดึ ตามกตกิ าขอ้ ตกลง/กฎ/ระเบยี บของ 1 - 17 เผื่อแผ่และแบง่ ปนั สถานศกึ ษา 6.3 หวงั ดี โอบอ้อมอารีช่วยเหลอื ผอู้ ่ืนตามโอกาส 1 - 17 6.4 ให้ แบ่งปนั เอือ้ เฟอ้ื และชว่ ยเหลือผูอ้ น่ื 1 - 17 7. เขา้ ใจเรียนร้กู ารเป็น 7.1 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเก่ยี วกับประชาธิปไตย อนั มี 1 - 17 ประชาธิปไตย อนั มี พระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข พระมหากษัตริยท์ รงเปน็ 7.2 เคารพสทิ ธิของผอู้ น่ื 1 - 17 ประมุขทถ่ี ูกต้อง 7.3 ปฏิบัตติ นตามระบอบประชาธิปไตยอนั มี 1 - 17 พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข 8. มีระเบยี บ วนิ ยั 8.1 ตรงตอ่ เวลา 1 - 17 เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ย 8.2 ประพฤติตรงตามคาสง่ั หรือข้อบังคับของ 1 - 17 ร้จู ักเคารพผู้ใหญ่ สถานศึกษา 8.3 เคารพและนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ 1 - 17 9. มีสติ รตู้ ัว รู้คดิ รทู้ า 9.1 คดิ ดี พดู ดี ทาดี 1 - 17 ร้ปู ฏิบตั ิ ตามพระราช 9.2 สภุ าพ เรียบรอ้ ย อ่อนนอ้ มถ่อมตน ตาม 1 - 17 ดารสั ของพระบาทสมเดจ็ สถานภาพและกาลเทศะ พระเจา้ อย่หู วั ฯ 9.3 รอบคอบเหมาะสมกับวยั สถานการณ์และบทบาท 1 - 17 ของตนเองตามแนวพระราชดารัสฯ 10. รจู้ ักดารงตนอยโู่ ดย 10.1 ใชว้ ัสดุถกู ตอ้ งพอเพียงและเหมาะสม กับงาน 1 - 17 ใช้หลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียงตามพระ 10.2 เก็บออมถนอมใชท้ รัพย์สนิ สิ่งของให้เกิด 1 - 17 ราชดารสั ของ ประโยชน์คมุ้ ค่า พระบาทสมเด็จพระ 10.3 ปฏิบัติตามท่ไี ดร้ ับมอบหมายสาเรจ็ ตามกาหนด เจ้าอยู่หวั ฯ ร้จู ักอดออมไว้ โดยคานึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผู้อ่ืน ใชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี ว้พอ กินพอใช้ ถ้าเหลือก็ 1 - 17 แจกจา่ ยจาหน่ายและ พรอ้ มที่จะขยายกิจการ เมือ่ มีความพร้อมเม่ือมี ภูมคิ ุ้มกันทีด่ ี
ฎ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทแี่ สดงออก พฤติกรรม ประจาหนว่ ยท่ี ท่จี ะวดั 1 - 17 11. มคี วามเขม็ แข็งทง้ั 11.1 ดแู ล รักษาสขุ ภาพร่างกายตามสขุ อนามยั 1 - 17 ร่ายกาย และจิตใจไม่ยอม 11.2 ไมเ่ กยี่ วข้องกับอบายมุข 1 - 17 แพ้ต่ออานาจฝ่ายตา่ หรือ 11.3 ไมน่ าทรัพย์สิน ของผู้อ่นื เป็นของตนเอง กเิ ลส มคี วามละอายเกรง 11.4 หลกี เล่ยี งแหลง่ มั่วสุม 1 - 17 กลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของ ศาสนา 1 - 17 12. คานงึ ถงึ ผลประโยชน์ 12.1 มจี ิตอาสา อุทิศตนเพ่ือประโยชนต์ อ่ สังคมและ 1 - 17 ของส่วนรวมและของชาติ สว่ นรวม มากกวา่ ผลประโยชนข์ อง 12.2 เสียสละความสขุ ส่วนตน เพ่อื ทาประโยชนแ์ ก่ ตนเอง ผอู้ นื่
แผนการจดั การเรยี นรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1 ช่ือหน่วย ภาษาคอมพิวเตอร์สาหรับเขียนโปรแกรม สอนครง้ั ท่ี 1 ชัว่ โมงรวม 3 ชอื่ เรอ่ื ง ภาษาคอมพิวเตอรส์ าหรบั เขยี นโปรแกรม จำนวนช่วั โมง 3 1. สาระสาคัญ JavaScript ภำษำคอมพิวเตอร์สำหรับกำรเขียนโปรแกรมบนระบบอินเทอร์เน็ต ท่ีกำลังได้รับควำม นิยมอย่ำงสูง JavaScript เป็น ภำษำสคริปต์เชิงวัตถุ (ท่ีเรียกกันว่ำ \"สคริปต์\" (script) ซ่ึงในกำรสร้ำงและ พัฒนำเว็บไซต์ (ใช่ร่วมกับ HTML) เพ่ือให้เว็บไซต์ของเรำดูมีกำรเคลื่อนไหว สำมำรถตอบสนองผใู้ ชง้ ำนได้มำก ข้ึน JavaScript เป็นภำษำสคริปต์ท่ีมีลักษณะดังน้ี 1.เป็นภำษำสคริปต์แบบ lightweight programming language (ภำษำสคริปต์แบบสั้นๆ) 2. JavaScript สำมำรถใช้ร่วมกับ HTML และ CSS เพ่ือสร้ำงเเละพัฒนำ เวบ็ ไซต์ ทใี่ ช้ได้กบั web browserรุ่นใหมๆ่ และใช้ได้ทง้ั PCs, laptops, tablets, smart phones, ด้วย 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย แสดงควำมรู้ภำษำคอมพวิ เตอรส์ ำหรับเขียนโปรแกรม 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้ำนควำมรู้ 3.1.1 อธิบำยควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript ได้ 3.1.2 อธบิ ำยหลกั กำรพัฒนำโปรแกรม ได้ 3.2 ดำ้ นทกั ษะ นกั เรยี นมคี วำมรู้ ทักษะพ้นื ฐำนเก่ยี วกบั ภาษาคอมพวิ เตอร์สาหรับเขียนโปรแกรมและมี ทัศนคติทดี่ ี 3.3 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ (อำ้ งองิ จำกค่ำนยิ มหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เขำ้ เรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบยี บกำรปฏิบตั งิ ำน 3.3.3 ผลงำนประณีตเรยี บร้อย 3.3.4 ปดิ เคร่ืองคอมพิวเตอร์เมอ่ื เลกิ ใช้งำน 3.3.5 มีน้ำใจชว่ ยเหลือผู้อน่ื และกำรปฏิบตั ิงำนรว่ มกับผูอ้ น่ื 4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ 4.1 ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript
4.2 ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 4.3 กำรใชง้ ำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน ครแู จ้งจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงขณะเรยี น และให้นักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรียน 5.1 ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน 5.1.1 ผูส้ อนจดั เตรียมเอกสำร พรอ้ มกับแนะนำรำยวชิ ำ วธิ กี ำรใหค้ ะแนนและวิธีกำรเรยี นเรอื่ ง ภำษำคอมพิวเตอร์สำหรับเขียนโปรแกรม 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงคก์ ำรเรียนของหนว่ ยที่ 1 และขอใหผ้ ้เู รียนรว่ มกนั ทำกจิ กรรมกำร เรยี นกำรสอน 5.1.3 ผสู้ อนให้ผเู้ รียนแสดงควำมรู้ โดยตัง้ คำถำมว่ำ ภำษำคอมพิวเตอรส์ ำหรับเขยี นโปรแกรม นักเรยี นรจู้ กั ภำษำที่ใช้เขียนโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพร้อมให้เหตผุ ลประกอบ 5.2 ข้ันสอน 5.2.1 ผู้สอนทดสอบควำมรู้ควำมเขำ้ ใจเกีย่ วกบั ควำมรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภำษำคอมพิวเตอร์ สำหรบั เขยี นโปรแกรม โดยให้ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผสู้ อนอธิบำยเนอ้ื หำเก่ียวกบั บทเรยี นวชิ ำจำวำสคริปตเ์ บอ้ื งตน้ หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ภาษาคอมพิวเตอรส์ าหรบั เขยี นโปรแกรมและใหผ้ ้เู รียนศึกษำเอกสำรประกอบกำรสอน หนว่ ยท่ี 1 5.2.3 ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกันอธิบำยพร้อมยกตัวอยำ่ งถงึ แนวคิดในกำรพัฒนำโปรแกรมตำมที่ ไดศ้ ึกษำจำกเว็บไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ขนั้ ประกอบกิจกรรมการเรยี น 5.3.1 ผู้สอนใหผ้ ้เู รยี นทำแบบฝกึ หัดท้ำยหน่วยที่ 1 5.3.2 ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กันทำกำรศกึ ษำเรอ่ื ง ภำษำคอมพิวเตอร์สำหรบั เขียนโปรแกรม 5.4 กลยุทธ์ในการจดั การเรียนรู้ 5.4.1 ครูให้เพื่อนช่วยเพอ่ื น ให้นกั เรยี นกลุ่มเก่งและปำนกลำง อยู่กบั กลุ่มนกั เรยี นทเี่ รียนออ่ น ชว่ ยกันทำควำมเขำ้ ใจในเนื้อหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ คร่ืองมือบนอินเทอร์เน็ต http://www.linoit.com สอบถำมนักเรยี นวำ่ นกั เรียนอยำกได้ห้องเรยี นอยำ่ งไรเรียนแลว้ มีควำมสขุ แสดงควำมคิดเหน็ แต่ละคน เพื่อ เปน็ กำรกระต้นุ เตรยี มควำมพรอ้ มในกำรเรียน 5.5 ข้ันสรปุ 5.5.1 ผู้สอนและผเู้ รียนรว่ มกันสรุปเนื้อหำท่ไี ดเ้ รยี นใหม้ ีควำมเขำ้ ใจในทิศทำงเดยี วกนั 5.5.2 ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนศกึ ษำเพมิ่ เตมิ นอกหอ้ งเรียน จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ทจ่ี ัดทำขึน้
5.6 ข้ันทดสอบหลงั เรียน นกั เรยี นทำใบกจิ กรรมท่ี 1 ใบงำนที่ 1 และแบบทดสอบหลังเรียน 6. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 ส่ือสิง่ พมิ พ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำจำวำสครปิ ต์เบ้ืองต้น 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรียน เรอื่ ง ภำษำคอมพวิ เตอรส์ ำหรับเขยี นโปรแกรม 6.1.3 ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่อื ง ควำมรูค้ คู่ ณุ ธรรม 6.1.4 แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง ภำษำคอมพวิ เตอร์สำหรับเขยี นโปรแกรม 6.2 สือ่ โสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เรอ่ื ง ภำษำคอมพวิ เตอรส์ ำหรบั เขยี นโปรแกรม 6.2.2 เครอ่ื งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เคร่อื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อนื่ ๆ (โปรดระบุ)
7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล
8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน
3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด
3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่
ส่งผลต่อความสมดุล มั่นคง ย่ังยืนใน 4 มิติ ดังนี้ ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในด้านตา่ งๆ องค์ประกอบ วตั ถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม - มีควำมร้เู ก่ียวกบั ความรู้ - ควำมร้ใู นกำรสบื ค้น - มีควำมรใู้ นกำรจัดแบง่ - มคี วำมรใู้ นกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใชใ้ น ขอ้ มลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภ่ี ำยในกลมุ่ ได้อย่ำง รกั ษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในทอ้ งถ่นิ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จดั กำรขยะอย่ำง ใชเ้ ทคโนโลยีใน ชวี ิตประจำวนั ได้ - มีควำมรใู้ นกำรปฏบิ ัติตน ถูกต้องของ - ตระหนกั ถึงคณุ ค่ำ ท่จี ะทำงำนร่วมกับผู้อื่น หอ้ งปฏบิ ัติกำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ สั ดุ - ทำงำนรว่ มกนั ภำยใน - รักษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลุ่มตำมทไ่ี ด้รับมอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเรจ็ และมคี วำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สืบคน้ ข้อมลุ คา่ นิยม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผิดชอบต่อกำร - มจี ิตสำนึกในกำร ใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ในกำร ทำงำนของกลุ่ม รกั ษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นขอ้ มลู อยำ่ งประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซง่ึ ของห้องปฏบิ ตั กิ ำร คมุ้ ค่ำ กันและกนั มคี วำมเสยี สละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เปน็ ระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมิน วธิ ีการ เคร่อื งมือทใ่ี ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผ่าน แบบทดสอบก่อนเรียน - กำรทดสอบก่อนเรยี น กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมินพฤตกิ รรม ไดร้ ะดบั 2 ขนึ้ ไป กำรประเมินระหวำ่ งเรยี น กำรสังเกต กำรเรียน ตั้งคำถำมใหค้ รอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซกั ถำม จุดประสงค์ ได้ระดับ 2 ข้นึ ไป แบบฝกึ หัดใบงำนและ กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ใบกิจกรรมท่ี 1 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรยี น กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้
10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรขู้ องนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนที่ไดร้ บั มอบหมำย 10.2.2 นักศึกษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม
ใบกิจกรรมท่ี 1 เรื่องความรคู่ ู่คุณธรรม จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธบิ ำยควำมสำคัญของคุณธรรม จริยธรรมกบั กำรดำเนินชีวติ ได้ ( สำนักงำน ป.ป.ช.) 2. ประยุกตใ์ ช้คุณธรรม จรยิ ธรรมในกำรดำเนินชวี ิตได้ (จำก สำนักงำน ป.ป.ช.) คาช้แี จง ผ้เู รยี นศกึ ษำบทกลอน “ควำมรูค้ ่คู ุณธรรม” แล้วตอบคำถำมต่อไปน้ี เม่ือควำมรู้ ยอดเยย่ี ม สูงเทียมเมฆ แต่คุณธรรม ต่ำเฉก ยอดหญ้ำนน่ั อำจเสกสรำ้ ง มิจฉำ สำรพนั ด้วยจิตอนั ไรอ้ ำย ในโลกำ แมค้ ุณธรรม สงู เยย่ี ม ถงึ เทยี มเมฆ แต่ควำมรู้ ตำ่ เฉก เช่นยอดหญำ้ ยอ่ มเป็นเหย่ือ ทรชน จนอุรำ ดว้ ยปญั ญำ อ่อนดอ้ ย นำ่ น้อยใจ หำกควำมรู้ สงู ล้ำ คณุ ธรรมเลิศ แสนประเสรฐิ กอปรกจิ วนิ ิจฉยั จะพฒั นำ ประชำรำษฎร์ ทง้ั ชำติไทย ตอ้ งฝึกให้ ควำมรู้ ค่คู ุณธรรม” ผ้ปู ระพนั ธ์ : ศำสตรำจำรย์อำไพ สจุ รติ กุล
คำถำมผเู้ รยี นตอบคำถำมต่อไปนใ้ี หส้ มบรู ณ์ทส่ี ุด 1.ผเู้ รียนคดิ วำ่ คุณธรรม จริยธรรม มีควำมจำเปน็ หรือไมท่ ่ีจะนำมำใช้ในกำรดำเนนิ ชวี ติ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ .................................................................................. ........................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 2.ผู้เรียนคิดว่ำถำ้ ทุกคนแสวงหำแตค่ วำมรเู้ พียงอย่ำงเดียวจะเกดิ อะไรข้นึ ในสงั คม ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ 3.ถ้ำคนส่วนมำกแสวงหำแตท่ ำงธรรมเพียงอยำ่ งเดยี วผเู้ รยี นคิดว่ำจะเกิดอะไรขน้ึ ในสงั คม ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ..................................................................................................................................................................... ........ .......................................................................................................................... ................................................... 4.สิ่งทดี่ ีท่สี ุดในกำรดำเนนิ ชีวิตทุกคนต้องแสวงหำส่งิ ใดจึงจะมีชีวิตที่ประเสรฐิ สดุ ............................................................................................................................. ................................................ .................................................................................. ........................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................
5.ให้ผเู้ รยี นคิดหำแนวทำงในกำรปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม โดยเติมข้อควำมในตำรำงท่ีกำหนด ไวใ้ หส้ มบรู ณท์ ส่ี ดุ บา้ น สถานศึกษา 1............................................................... 1............................................................... 2............................................................... 2............................................................... 3................................................................ 3................................................................ แนวทางการปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม สถานทท่ี างาน ชมุ ชน/สังคม 1....................................................... 1.............................................................. 2....................................................... 2.............................................................. 3....................................................... 3...............................................................
แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 2 ชือ่ หน่วย คำส่งั ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผลหนำ้ เวบ็ ไซต์ สอนครง้ั ที่ 2 ชั่วโมงรวม 3 ชอื่ เรื่อง คำสงั่ ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผลหนำ้ เว็บไซต์ จำนวนช่วั โมง 3 1. สาระสาคัญ .คำส่ังdocument.getElementById สำหรับกำรเข้ำถึง Element Id ในกำรใช้ภำษำ JavaScript ร่วมกับ HTML นั้น จำเป็นต้องใช้คำสั่ง document.getElementById (id) ซึ่งก็คือคำสั่งสำหรับกำรเข้ำถึง Element Id ที่ต้องกำรใน Form HTML ประโยชน์ของ document.getElementById 1. มีไว้สำหรับเข้ำถึง Element Id ต่ำง ๆ ใน Form ของ HTML ใน Attribue Id 2. ใช้สำหรับกำรจัดกำรข้อมูลต่ำง ๆ ของ Element Object ใน HTML Form 3. เป็นตัวแทนกำรเข้ำถึง method ต่ำง ๆ ของ Element Object เช่น value, focus เป็นตน้ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย เขียนคำสงั่ เเสดงผลหนำ้ เว็บไซต์ 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดำ้ นควำมรู้ 3.1.1 เขียนคำส่งั document.getElementById สำหรบั กำรเขำ้ ถึง Element Id ได้ 3.1.2 เขียนคำสั่ง document.write ได้ 3.2 ด้ำนทกั ษะ นักเรียนมีควำมรู้ ทักษะพนื้ ฐำนเกย่ี วกบั คำสัง่ ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผลหน้ำเว็บไซต์และมี ทศั นคติทดี่ ี 3.3 คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ (อำ้ งองิ จำกคำ่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เข้ำเรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบยี บกำรปฏิบัติงำน 3.3.3 ผลงำนประณีตเรยี บร้อย 3.3.4 ปิดเครือ่ งคอมพวิ เตอร์เม่อื เลกิ ใชง้ ำน 3.3.5 มีนำ้ ใจชว่ ยเหลอื ผูอ้ ่ืนและกำรปฏิบัติงำนร่วมกบั ผ้อู ื่น 4. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้ 4.1 คำสัง่ document.getElementById สำหรับกำรเขำ้ ถึง Element Id
4.2 คำสั่ง document.write 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน ครูแจ้งจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงขณะเรียน และใหน้ ักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรียน 5.1 ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรยี น 5.1.1 ผูส้ อนจดั เตรียมเอกสำร พร้อมกับแนะนำรำยวิชำ วิธีกำรให้คะแนนและวธิ กี ำรเรยี นเร่ือง คำสงั่ ตำ่ งๆ ในกำรเเสดงผลหน้ำเวบ็ ไซต์ 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจุดประสงค์กำรเรียนของหน่วยที่ 2 และขอให้ผเู้ รียนร่วมกันทำกจิ กรรมกำร เรยี นกำรสอน 5.1.3 ผสู้ อนให้ผเู้ รียนแสดงควำมรู้ โดยตั้งคำถำมวำ่ คำสัง่ ตำ่ งๆ ในกำรเเสดงผลหน้ำเว็บไซต์ นกั เรียนรจู้ ักภำษำที่ใช้เขียนโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพร้อมให้เหตผุ ลประกอบ 5.2 ขั้นสอน 5.2.1 ผ้สู อนทดสอบควำมรคู้ วำมเข้ำใจเก่ยี วกับควำมรูเ้ บ้ืองตน้ เก่ยี วกบั คำส่งั ต่ำงๆ ในกำรเเสดง ผลหนำ้ เวบ็ ไซต์ โดยใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.2.2 ผสู้ อนอธิบำยเน้ือหำเก่ียวกับบทเรยี นวิชำจำวำสครปิ ต์เบือ้ งต้น หน่วยท่ี 2 เรือ่ งคำสง่ั ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผลหนำ้ เว็บไซต์และใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษำเอกสำรประกอบกำรสอน หน่วยท่ี 2 5.2.3 ผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกันอธิบำยพร้อมยกตัวอยำ่ งถึงแนวคิดในกำรพัฒนำโปรแกรมตำมที่ ได้ศึกษำจำกเวบ็ ไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ขน้ั ประกอบกจิ กรรมการเรียน 5.3.1 ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบฝึกหดั ทำ้ ยหนว่ ยท่ี 2 5.3.2 ผู้สอนให้ผเู้ รียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กนั ทำกำรศกึ ษำเรื่อง คำสงั่ ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผล หน้ำเว็บไซต์ 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พื่อนชว่ ยเพ่อื น ใหน้ ักเรียนกลมุ่ เก่งและปำนกลำง อย่กู บั กลุม่ นักเรยี นท่ีเรยี นอ่อน ชว่ ยกันทำควำมเขำ้ ใจในเนื้อหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ คร่ืองมือบนอนิ เทอรเ์ น็ต http://www.linoit.com สอบถำมนักเรยี นวำ่ นกั เรยี นอยำกไดห้ ้องเรยี นอยำ่ งไรเรยี นแลว้ มีควำมสขุ แสดงควำมคิดเหน็ แต่ละคน เพ่อื เปน็ กำรกระตุ้นเตรียมควำมพร้อมในกำรเรยี น 5.5 ข้ันสรุป 5.5.1 ผสู้ อนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ เนอ้ื หำทไ่ี ด้เรียนใหม้ ีควำมเข้ำใจในทศิ ทำงเดยี วกัน 5.5.2 ผู้สอนให้ผูเ้ รียนศกึ ษำเพ่มิ เติมนอกหอ้ งเรียน จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ที่จัดทำขน้ึ 5.6 ขั้นทดสอบหลงั เรียน นักเรียนทำใบงำนที่ 2 และแบบทดสอบหลังเรยี น
6. สื่อการเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สือ่ ส่ิงพมิ พ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวชิ ำจำวำสครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง คำสง่ั ตำ่ งๆ ในกำรเเสดงผลหนำ้ เว็บไซต์ 6.1.3 แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง คำส่งั ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผลหน้ำเว็บไซต์ 6.2 สอ่ื โสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เรื่อง คำสัง่ ต่ำงๆ ในกำรเเสดงผลหนำ้ เวบ็ ไซต์ 6.2.2 เครอ่ื งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอื่ งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ
7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล
8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน
3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด
3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่
ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรู้ในกำรจดั แบ่ง - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภ่ี ำยในกล่มุ ไดอ้ ย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จัดกำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมรใู้ นกำรปฏิบัตติ น ถกู ต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนรว่ มกบั ผู้อนื่ ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รกั ษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทีไ่ ด้รบั มอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเร็จและมีควำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สืบค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผิดชอบต่อกำร - มีจิตสำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รักษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซ่ึง ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรียน - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรยี น ตั้งคำถำมให้ครอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จดุ ประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝกึ หัดและ กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ใบงำนหนว่ ยท่ี 2 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ข้อ
10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใชแ้ ผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรู้ของนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำย 10.2.2 นักศกึ ษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศึกษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม
แผนการจดั การเรียนรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 ชอ่ื หน่วย คำสัง่ ทใี่ ห้ทำงำนตำมลำดับ สอนครง้ั ที่ 3 ชว่ั โมงรวม 3 ชื่อเรอ่ื ง คำส่งั ท่ีใหท้ ำงำนตำมลำดบั จำนวนช่ัวโมง 3 1. สาระสาคญั Javascript statements คือ คำส่ังท่ีสั่งให้จำวำสคริปต์ ดำเนินงำนตำมลำดับท่ีได้ส่ังไว้ โดยกำร เขียนคำส่ังจะส้ินสุดหรือจบคำสั่งด้วย เครื่องหมำย เซมิโคล่อน (;) ข้อควรระวังในกำรใช้ภำษำ javascript คือ กำรพิมพ์คำสั่ง( JavaScript statements ) นั้นมีข้อแตกต่ำงระหว่ำง กำรใช้อักษรตัวใหญ่กับอักษรตัวเล็ก เพรำะมีกำรแสดงผลที่แตกต่ำงกันไป เช่น กำรใช้คำสั่ง getElementById จะแสดงผลที่แต่ำงกับ getElementbyID 2. สมรรถนะประจาหน่วย เขียนคำสง่ั ท่ีใหท้ ำงำนตำมลำดับ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้ำนควำมรู้ 3.1.1 เขียน JavaScript Statements ได้ 3.1.2 เขียน JavaScript White Space ได้ 3.1.3 เขียน JavaScript Line Length and Line Breaks ได้ 3.1.4 เขียน JavaScript Code Blocks ได้ 3.2 ด้ำนทักษะ นักเรียนมีควำมรู้ ทักษะพ้ืนฐำนเกยี่ วกบั คำส่งั ท่ใี ห้ทำงำนตำมลำดับและมที ศั นคตทิ ีด่ ี 3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (อ้ำงองิ จำกค่ำนิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เข้ำเรียนตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบียบกำรปฏบิ ตั ิงำน 3.3.3 ผลงำนประณตี เรยี บร้อย 3.3.4 ปิดเคร่อื งคอมพวิ เตอร์เมอ่ื เลกิ ใชง้ ำน 3.3.5 มนี ้ำใจช่วยเหลอื ผู้อ่นื และกำรปฏิบัตงิ ำนรว่ มกบั ผูอ้ ื่น 4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้ 4.1 JavaScript Statements
4.2 JavaScript White Space 4.3 JavaScript Line Length and Line Breaks 4.4 JavaScript Code Blocks 5. กิจกรรมการเรียนการสอน ครแู จ้งจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล ขอ้ ตกลงขณะเรยี น และให้นักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรยี น 5.1 ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 5.1.1 ผ้สู อนจัดเตรยี มเอกสำร พรอ้ มกบั แนะนำรำยวิชำ วธิ ีกำรให้คะแนนและวิธกี ำรเรยี นเร่ือง คำสั่งท่ีให้ทำงำนตำมลำดบั 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงคก์ ำรเรียนของหน่วยที่ 3 และขอให้ผเู้ รยี นร่วมกนั ทำกิจกรรมกำร เรยี นกำรสอน 5.1.3 ผู้สอนให้ผู้เรียนแสดงควำมรู้ โดยตง้ั คำถำมวำ่ คำสั่งท่ใี หท้ ำงำนตำมลำดับนักเรยี นรูจ้ ัก ภำษำทใ่ี ชเ้ ขยี นโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพรอ้ มใหเ้ หตุผลประกอบ 5.2 ขัน้ สอน 5.2.1 ผู้สอนทดสอบควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจเกีย่ วกบั ควำมรู้เบ้ืองต้นเกีย่ วกับคำสงั่ ทใ่ี ห้ทำงำน ตำมลำดบั โดยใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผู้สอนอธบิ ำยเน้อื หำเกี่ยวกับบทเรียนวชิ ำจำวำสคริปตเ์ บอ้ื งตน้ หน่วยท่ี 3 เร่ืองคำสัง่ ทีใ่ ห้ ทำงำนตำมลำดับและให้ผู้เรียนศกึ ษำเอกสำรประกอบกำรสอน หนว่ ยท่ี 3 5.2.3 ผ้สู อนและผเู้ รยี นรว่ มกันอธิบำยพร้อมยกตวั อยำ่ งถงึ แนวคิดในกำรพฒั นำโปรแกรมตำมที่ ไดศ้ ึกษำจำกเวบ็ ไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ข้ันประกอบกจิ กรรมการเรยี น 5.3.1 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนทำแบบฝึกหดั ท้ำยบทที่ 3 5.3.2 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นแบ่งกลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กันทำกำรศกึ ษำเร่อื ง คำส่ังท่ใี ห้ทำงำนตำมลำดับ 5.4 กลยุทธ์ในการจดั การเรียนรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พ่ือนชว่ ยเพ่ือน ใหน้ กั เรยี นกลุม่ เกง่ และปำนกลำง อยู่กบั กลมุ่ นกั เรยี นท่ีเรยี นออ่ น ช่วยกนั ทำควำมเข้ำใจในเนื้อหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ คร่อื งมือบนอินเทอร์เนต็ http://www.linoit.com สอบถำมนักเรียนวำ่ นกั เรียนอยำกไดห้ ้องเรียนอย่ำงไรเรียนแลว้ มีควำมสขุ แสดงควำมคิดเหน็ แต่ละคน เพ่ือ เปน็ กำรกระตุ้นเตรยี มควำมพรอ้ มในกำรเรยี น 5.5 ขน้ั สรปุ 5.5.1 ผู้สอนและผูเ้ รียนรว่ มกันสรปุ เนื้อหำที่ได้เรียนให้มีควำมเข้ำใจในทิศทำงเดยี วกนั 5.5.2 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษำเพ่ิมเตมิ นอกหอ้ งเรยี น จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ทจี่ ัดทำข้นึ
5.6 ข้ันทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนท่ี 3 และแบบทดสอบหลงั เรยี น 6. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สือ่ สิ่งพิมพ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำจำวำสคริปตเ์ บ้อื งต้น 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง คำส่ังท่ีให้ทำงำนตำมลำดับ 6.1.3 แบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง คำส่งั ท่ีให้ทำงำนตำมลำดับ 6.2 สื่อโสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เรอ่ื ง คำสัง่ ทใ่ี หท้ ำงำนตำมลำดับ 6.2.2 เครอื่ งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อนื่ ๆ (โปรดระบุ)
7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล
8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน
3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด
3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่
ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรู้ในกำรจดั แบ่ง - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภ่ี ำยในกล่มุ ไดอ้ ย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จัดกำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมรใู้ นกำรปฏิบัตติ น ถกู ต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนรว่ มกบั ผู้อนื่ ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รกั ษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทีไ่ ด้รบั มอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเร็จและมีควำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สืบค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผิดชอบต่อกำร - มีจิตสำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รักษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซ่ึง ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรียน - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรยี น ตั้งคำถำมให้ครอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จดุ ประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝกึ หัดและ กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ใบงำนหนว่ ยท่ี 3 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ข้อ
10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใชแ้ ผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรู้ของนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำย 10.2.2 นักศกึ ษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศึกษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม
แผนการจดั การเรียนรูม้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 4 ชื่อหน่วย การประกาศตัวแปรใน Javascript สอนคร้ังที่ 4 ชั่วโมงรวม 3 ชือ่ เร่อื ง การประกาศตัวแปรใน Javascript จำนวนชวั่ โมง 3 1. สาระสาคัญ ตัวแปร (Variable) สำหรับตัวแปรนั้น หน้ำที่ของมันโดยพื้นฐำนแล้วก็คือกำรเก็บค่ำ (value) ต่ำงๆ เอำไว้ ซ่ึงในบำงครั้งอำจจะนำมำใช้ในกำรคำนวณค่ำต่ำงๆ หรือ กำรเก็บค่ำใดๆ เพ่ือเอำไว้สำหรับอ้ำงอิงหรือ ตรวจสอบใช้ค่ำเหล่ำนั้นเม่ือต้องกำร โดยขั้นตอนกำรประกำศตัวแปรในภำษำ JavaScript น้ัน จะข้ึนต้นด้วย คำว่ำ var แล้วตำมด้วยช่ือตัวแปร Data Types (ประเภทของข้อมูล) ท่ีใช้ในกำรกำรกำหนดประเภทค่ำของ ข้อมูลให้กับตัวแปร เพ่ือให้เหมำะสมกับกำรอ้ำงอิงข้อมูลจำกตัวแปรในกำรใช้งำนมี ดังนี้ number หมำยถึง ขอ้ มลู ชนดิ ตัวเลข ประกอบด้วย เลขจำนวนเต็ม (Integer) และเลขจำนวนจริง (float) boolean หรอื logical หมำยถึง ข้อมูลทำงตรรกะ มี 2 สถำนะ คือ จริง (True) และเท็จ (False) string หมำยถึง ข้อมูลท่ีเป็น ข้อควำม ซึ่งจะต้องกำหนดไวใ้ นเคร่ืองหมำยคำพูด (\"...\")null หมำยถึง ไม่มคี ่ำขอ้ มลู ใดๆ ซงึ่ คำ่ null ใช้สำหรบั กำรยกเลกิ พ้ืนท่ีเกบ็ คำ่ ของตวั แปรออกจำกหน่วยควำมจำ Array ก็คอื ขอ้ มูลหลำยๆตวั มำเรียงกันเป็นลำดับ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย ประกำศตวั แปรใน Javascript 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้ำนควำมรู้ ประกำศตวั แปรใน Javascript ได้ 3.2 ดำ้ นทักษะ นักเรียนมคี วำมรู้ ทักษะพน้ื ฐำนเกี่ยวกับการประกาศตัวแปรใน Javascriptและมีทัศนคติท่ดี ี 3.3 คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ (อำ้ งอิง จำกคำ่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เขำ้ เรียนตรงเวลำ 3.3.2 แตง่ กำยตำมระเบียบกำรปฏิบตั งิ ำน 3.3.3 ผลงำนประณตี เรยี บร้อย 3.3.4 ปดิ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์เมือ่ เลิกใชง้ ำน 3.3.5 มีนำ้ ใจชว่ ยเหลอื ผอู้ ืน่ และกำรปฏิบัตงิ ำนรว่ มกับผู้อน่ื 4. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้ 4.1 กำรประกำศตัวแปรใน Javascript
4.2 Data Types (ประเภทของข้อมูล) 5. กิจกรรมการเรียนการสอน ครูแจ้งจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ กำรวัดผลประเมินผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และให้นักเรียนทำ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.1 ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 5.1.1 ผู้สอนจดั เตรียมเอกสำร พร้อมกบั แนะนำรำยวิชำ วิธกี ำรให้คะแนนและวิธกี ำรเรยี นเรื่อง กำรประกำศตวั แปรใน Javascript 5.1.2 ผู้สอนแจ้งจดุ ประสงค์กำรเรยี นของหน่วยท่ี 4 และขอใหผ้ ้เู รยี นร่วมกนั ทำกิจกรรมกำร เรียนกำรสอน 5.1.3 ผ้สู อนใหผ้ ้เู รยี นแสดงควำมรู้ โดยต้งั คำถำมว่ำ กำรประกำศตวั แปรใน Javascriptนักเรยี น รู้จกั ภำษำทีใ่ ช้เขียนโปรแกรมภำษำอะไรบำ้ งพร้อมให้เหตผุ ลประกอบ 5.2 ข้ันสอน 5.2.1 ผสู้ อนทดสอบควำมรู้ควำมเข้ำใจเกีย่ วกบั ควำมรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกบั กำรประกำศตวั แปรใน Javascript โดยใหผ้ ูเ้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.2.2 ผสู้ อนอธิบำยเนอ้ื หำเก่ียวกบั บทเรียนวิชำจำวำสครปิ ตเ์ บอื้ งต้น หน่วยที่ 4 เรอื่ งการ ประกาศตัวแปรใน Javascriptและให้ผเู้ รียนศกึ ษำเอกสำรประกอบกำรสอน หน่วยที่ 4 5.2.3 ผสู้ อนและผ้เู รยี นร่วมกันอธบิ ำยพร้อมยกตัวอย่ำงถงึ แนวคดิ ในกำรพัฒนำโปรแกรมตำมที่ ได้ศึกษำจำกเว็บไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ข้ันประกอบกิจกรรมการเรยี น 5.3.1 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทำแบบฝึกหัดทำ้ ยบทที่ 4 5.3.2 ผู้สอนให้ผ้เู รียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กนั ทำกำรศึกษำเรื่อง กำรประกำศตวั แปรใน Javascript 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจัดการเรียนรู้ 5.4.1 ครูให้เพ่ือนชว่ ยเพื่อน ให้นักเรยี นกลมุ่ เก่งและปำนกลำง อยู่กับกลุ่มนักเรียนท่ีเรยี นอ่อน ชว่ ยกันทำควำมเข้ำใจในเน้ือหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใช้เครื่องมอื บนอนิ เทอร์เน็ต http://www.linoit.com สอบถำมนักเรยี นว่ำ นกั เรียนอยำกไดห้ อ้ งเรยี นอย่ำงไรเรียนแลว้ มคี วำมสขุ แสดงควำมคิดเห็นแตล่ ะคน เพอ่ื เป็นกำรกระตุ้นเตรยี มควำมพรอ้ มในกำรเรยี น 5.5 ขนั้ สรปุ 5.5.1 ผสู้ อนและผูเ้ รยี นร่วมกันสรุปเนือ้ หำที่ได้เรียนใหม้ ีควำมเขำ้ ใจในทิศทำงเดยี วกัน 5.5.2 ผู้สอนให้ผเู้ รยี นศกึ ษำเพม่ิ เติมนอกหอ้ งเรยี น จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ทจ่ี ดั ทำขนึ้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174