Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาจาวาเดกส์ทอปเบื้องต้น

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาจาวาเดกส์ทอปเบื้องต้น

Published by pornpithak, 2022-06-03 23:48:02

Description: รหัสวิชา 20903-1006
วิชาจาวาเดกส์ทอปเบื้องต้น
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์โปรแกรม

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ บูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562 จดั ทำโดย นายพรพทิ กั ษ์ ศรีแกว้ วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาสุรนิ ทร์ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก หลักสตู รรายวชิ า รายวชิ าจาวาเดกส์ทอปเบ้ืองต้น รหสั วชิ า 20903 - 1006 ทฤษฎี 1 ปฏบิ ัติ 2 หนว่ ยกติ 2 จดุ ประสงค์รายวิชา 1. เขา้ ใจเก่ียวกับการเขยี นจาวาเดสก์ทอปเบ้ืองต้น 2. สามารถเขียนจาวาเดสก์ทอปเบื้องต้นไดต้ ามหลักการ 3. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มที่ดใี นการเขียนจาวาเดสก์ทอปเบ้ืองต้น สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการเขยี นจาวาเดสกท์ อปเบ้ืองต้น 2. สรา้ งจาวาเดสกท์ อปเบื้องต้นไดต้ ามหลกั การ คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกับจาวาเดสก์ทอปเบื้องต้น การตดิ ตง้ั และต้ังค่าสภาพแวดลอ้ ม พื้นฐานภาษา จาวา (Basic Java) คำสัง่ ควบคุมโปรเเกรม เมธอด (Methods) ข้อมูลชนิดอาร์เรย์เเละสตริง คลาส โปรแกรม เชงิ วัตถดุ ว้ ยจาวา หลักการ วธิ ีการเชิงวตั ถุเเละการออกเเบบคลาส อนิ เทอร์เฟสเเละการมไี ด้หลายรูปแบบ การ จัดการข้อผิดพลาดเเละการประมวลผลไฟล์ การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ กระบวนการพัฒนา ระบบเชงิ วัตถกุ ารสรา้ งสว่ นติดต่อกับผู้ใช้ การสรา้ งฟอร์มสำหรบั เดสกท์ อป เลยเ์ อาท์ (Layout) คอนเทนเนอร์ (Containers) คอนโทรล(Controls) เมนู (Menus) วินโดวฟ์ อรม์ (Window Form) การเขยี นโปรแกรมติดต่อ ฐานข้อมูล (Database Java) การออกรายงาน การพิมพ์งานออกเครื่องพิมพ์ (Printing) และการเขียนจาวา เดสกท์ อปเบอื้ งตน้ ขนาดเล็ก คำอธบิ ายรายวิชา (ปรับปรงุ ) ศกึ ษาและปฏิบตั ิเก่ียวกบั จาวาเดสก์ทอปเบอื้ งตน้ การตดิ ตง้ั และตั้งคา่ สภาพแวดล้อม พื้นฐานภาษาจา วา (Basic Java) คำส่ังควบคมุ โปรเเกรม เมธอด (Methods) ข้อมลู ชนิดอาร์เรย์เเละสตริง คลาส โปรแกรมเชิง วัตถุด้วยจาวา หลักการ วิธีการเชิงวัตถุเเละการออกเเบบคลาส อินเทอร์เฟสเเละการมีได้หลายรูปแบบ การ จัดการข้อผิดพลาดเเละการประมวลผลไฟล์ การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ กระบวนการพัฒนา ระบบเชิงวัตถกุ ารสรา้ งสว่ นติดตอ่ กับผู้ใช้ การสรา้ งฟอรม์ สำหรับเดสก์ทอป เลยเ์ อาท์ (Layout) คอนเทนเนอร์ (Containers) คอนโทรล(Controls) เมนู (Menus) วนิ โดว์ฟอร์ม (Window Form) การเขียนโปรแกรมติดต่อ ฐานข้อมูล (Database Java) การออกรายงาน การพิมพ์งานออกเคร่ืองพิมพ์ (Printing) และการเขียนจาวา เดสก์ทอปเบอ้ื งตน้ ขนาดเล็ก ปฏบิ ัติงานเน้ือหาพฒั นาการเขยี นโปรแกรม

ข ตารางวิเคราะหห์ น่วยการเรียน วชิ าจาวาเดกสท์ อปเบอ้ื งต้น รหสั วิชา 20903 - 1006 ท-ป-น 1-2-2 จำนวนช่วั โมงสอน 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ ระดบั ช้ัน ปวช. คำอธิบายรายวชิ า ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับจาวาเดสก์ทอป 1. หลกั การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เบ้ืองต้น การตดิ ต้ังและต้ังคา่ สภาพแวดล้อม พื้นฐานภาษา 2. การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถุ จาวา (Basic Java) คำส่ังควบคุมโปรเเกรม เมธอด 3. ตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ (Methods) ข้อมลู ชนดิ อาร์เรย์เเละสตริง คลาส โปรแกรม 4. ประโยคควบคมุ การทำงาน เชิงวัตถุด้วยจาวา หลักการ วิธีการเชิงวัตถุเเละการออก 5. คลาสและอ็อบเจกต์ เเบบคลาส อินเทอร์เฟสเเละการมีได้หลายรูปแบบ การ 6. วงจรชีวิตแอพเพต็ จดั การข้อผดิ พลาดเเละการประมวลผลไฟล์ การวเิ คราะห์ 7. สว่ นติดต่อกบั ผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ด้วย และออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ กระบวนการพัฒนาระบบเชิง AWT วัตถุการสร้างส่วนติดต่อกับผู้ใช้ การสร้างฟอร์มสำหรับ 8. ไฟล์สตรีม เ ด ส ก ์ ท อ ป เ ล ย ์ เ อ า ท์ ( Layout) ค อ น เ ท น เน อ ร์ 9. การประยุกตก์ ารตดิ ตอ่ ฐานขอ้ มูลกบั (Containers) คอนโทรล(Controls) เมนู (Menus) วนิ โดว์ เครอื ขา่ ย ฟอร์ม (Window Form) การเขียนโปรแกรมติดต่อ 10. การพัฒนาฐานข้อมลู ดว้ ยจาวา ฐานข้อมูล (Database Java) การออกรายงาน การพิมพ์ งานออกเครื่องพิมพ์ (Printing) และการเขียนจาวา เดสก์ทอปเบอื้ งต้นขนาดเล็ก

ค ตารางวเิ คราะห์หลักสูตรรายวิชา รายวิชาจาวาเดกส์ทอปเบอ้ื งตน้ รหัสวิชา 20903 - 1006 ความสอดคล้องระหว่างเนอ้ื หากับคำอธบิ ายรายวิชา จุดประสงคร์ ายวิชา และสมรรถนะรายวชิ า หนว่ ย ความสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรรายวชิ า การ ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ สมรรถนะ เรยี นรทู้ ี่ คำอธิบายรายวชิ า รายวิชา รายวชิ า 123 1 2 1 หลักการเขยี นโปรแกรม ศึกษาและปฏบิ ัตเิ ก่ียวกบั จาวาเดสก์ทอป      คอมพวิ เตอร์ เบอ้ื งตน้ การตดิ ตงั้ และตั้งคา่ ภาพแวดลอ้ ม พ้ืนฐานภาษาจาวา (Basic Java) 2 การเขียนโปรแกรมเชิงวตั ถุ เมธอด (Methods) ข้อมลู ชนิดอาร์เรย์      เเละสตริง คลาส 3 ตวั แปรและตัวดำเนินการ คำสั่งควบคุมโปรเเกรม    4 ประโยคควบคุมการทำงาน 5 คลาสและอ็อบเจกต์ โปรแกรมเชิงวตั ถุด้วยจาวา    วิธกี ารเชิงวัตถุเเละการออกเเบบคลาส      อินเทอร์เฟสเเละการมีได้หลายรปู แบบ การจดั การข้อผิดพลาดเเละการ ประมวลผลไฟล์ 6 วงจรชวี ติ แอพเพต็ การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วัตถุ      7 สว่ นตดิ ตอ่ กบั ผู้ใช้แบบกราฟิก กระบวนการพฒั นาระบบเชิงวัตถกุ ารสรา้ ง      (GUI) ดว้ ย AWT สว่ นติดตอ่ กบั ผู้ใช้ การสร้างฟอร์มสำหรับ 8 ไฟลส์ ตรีม เดสกท์ อป 9 การประยกุ ตก์ ารตดิ ต่อ ฐานขอ้ มลู กบั เครอื ข่าย เลยเ์ อาท์ (Layout) คอนเทนเนอร์    10 การพฒั นาฐานข้อมูลด้วยจาวา (Containers) คอนโทรล(Controls) เมนู (Menus) วินโดว์ฟอรม์ (Window Form) การเขียนโปรแกรมติดตอ่ ฐานข้อมูล      (Database Java) การออกรายงาน การพิมพง์ านออก    เครอื่ งพิมพ์ (Printing) และการเขียนจาวา เดสกท์ อปเบื้องต้นขนาดเลก็

ง แหลง่ ขอ้ มลู ในการวิเคราะหห์ ลักสตู ร รายวชิ าจาวาเดกส์ทอปเบื้องตน้ รหัสวิชา 20903 - 1006 ท-ป-น 1-2-2 จำนวนชัว่ โมงสอน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ระดบั ช้ัน ปวช. หนว่ ยที่ ช่อื หนว่ ย จำนวน ที่มา 1 หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ชวั่ โมง A B C D E 2 การเขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุ 3 ตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ 3   4 ประโยคควบคุมการทำงาน 5 คลาสและอ็อบเจกต์ 3   6 วงจรชวี ติ แอพเพ็ต 7 ส่วนตดิ ตอ่ กับผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ดว้ ย 6   AWT 8 ไฟล์สตรีม 3   9 การประยุกตก์ ารติดต่อฐานข้อมูลกบั เครือข่าย 3   10 การพฒั นาฐานข้อมูลด้วยจาวา 6   6   9   6   9   รวม 54 หมายเหตุ A = คำอธบิ ายรายวิชา B = ตำรา/เอกสาร C = ผู้เชีย่ วชาญ D = ประสบการณ์ E = สถานประกอบการ/ผชู้ ำนาญการ

จ กำหนดการสอน/หนว่ ยการเรยี นรู้ หน่วยที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ จำนวนชัว่ โมง สัปดาหท์ ่ี 3 1 1 หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3 2 6 3-4 2 การเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถุ 3 5 3 6 3 ตัวแปรและตัวดำเนินการ 6 7-8 6 4 ประโยคควบคมุ การทำงาน 9 9 - 10 6 11 - 13 5 คลาสและออ็ บเจกต์ 9 14 - 15 16 - 18 6 วงจรชีวิตแอพเพ็ต 7 ส่วนตดิ ต่อกับผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ด้วย AWT 8 ไฟล์สตรีม 9 การประยกุ ตก์ ารตดิ ตอ่ ฐานข้อมูลกับเครือข่าย 10 การพฒั นาฐานขอ้ มูลด้วยจาวา

ฉ หนว่ ยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจำหนว่ ย กิจกรรมการเรียนรู้ และแนวทางการประเมนิ แนวทางการประเมิน หนว่ ย รายการสอน สมรรถนะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ทดสอบความ ู้ร ที่ ประจำหน่วย ประเมินการป ิฏบั ิตงาน ประเมินผลงาน ประเมินพฤ ิตกรม อ่ืน ๆ (ระบุ) พฤ ิตกรรม 1 หลักการเขียน แสดงความรู้เกย่ี วกับ บรรยาย,แบบฝึกหดั , โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หลักการเขยี นโปรแกรม มอบหมายงาน,ใบงาน  คอมพวิ เตอร์   2 การเขยี นโปรแกรมเชงิ เขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุ บรรยาย,แบบฝึกหัด,   วัตถุ มอบหมายงาน,ใบงาน  3 ตวั แปรและตวั สร้างตวั แปรและตวั บรรยาย,แบบฝึกหัด,  ดำเนนิ การ ดำเนนิ การ มอบหมายงาน,ใบงาน   4 ประโยคควบคุมการ ใชป้ ระโยคควบคมุ การ บรรยาย,แบบฝกึ หดั ,  ทำงาน ทำงาน มอบหมายงาน,ใบงาน 5 คลาสและออ็ บเจกต์ ใชค้ ลาสและออ็ บเจกต์ บรรยาย,แบบฝกึ หดั , มอบหมายงาน,ใบงาน 6 วงจรชีวิตแอพเพ็ต สรา้ งวงจรชีวติ แอพเพ็ต บรรยาย,แบบฝกึ หดั , มอบหมายงาน,ใบงาน 7 สว่ นตดิ ต่อกับผู้ใช้แบบ สร้างส่วนติดต่อกบั ผู้ใช้ บรรยาย,แบบฝึกหัด, กราฟกิ (GUI) ดว้ ย แบบกราฟกิ (GUI) ดว้ ย มอบหมายงาน,ใบงาน AWT AWT 8 ไฟลส์ ตรมี ใชไ้ ฟลส์ ตรมี บรรยาย,แบบฝกึ หัด, มอบหมายงาน,ใบงาน 9 การประยกุ ต์การตดิ ต่อ ประยกุ ต์การตดิ ต่อ บรรยาย,แบบฝกึ หดั , ฐานขอ้ มลู กบั เครือขา่ ย ฐานข้อมลู กบั เครือขา่ ย มอบหมายงาน,ใบงาน 10 การพัฒนาฐานขอ้ มลู สรา้ งฐานข้อมูลดว้ ยจาวา บรรยาย,แบบฝกึ หดั , ดว้ ยจาวา มอบหมายงาน,ใบงาน

ช ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สูตรเชิงพฤตกิ รรม รายวิชาจาวาเดกส์ทอปเบอ้ื งต้น รหัสวชิ า 20903 - 1006 หนว่ ยกติ 3 ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้นั สงู พทุ ธพิ สิ ยั พฤตกิ รรม ความ ู้ร ชื่อหนว่ ย ความ 1. หลกั การเขียนโปรแกรม เนข้ำาไใปจใช้ คอมพิวเตอร์ ิวเคราะห์ 2.การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถุ ประเมิน ่คา ทักษะพิ ัสย 3.ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ ิจตพิสัย รวม 4.ประโยคควบคุมการทำงาน ้รอยละ ลำดับ 5.คลาสและออ็ บเจกต์ จคำวานมวสนำ ่ัช ัควโญมง จำนวน ้ขอสอบ 6.วงจรชีวติ แอพเพต็ 888 7 10 41 9.83 5 10 6 7.ส่วนติดต่อกบั ผู้ใชแ้ บบกราฟกิ (GUI) ดว้ ย AWT 999 7 10 44 10.55 2 10 6 8.ไฟล์สตรมี 999 7 10 44 10.55 2 56 778 7 10 39 9.35 6 56 9.การประยกุ ต์การติดต่อ 777 7 10 38 9.11 7 56 ฐานข้อมลู กบั เครอื ข่าย 777 8 10 39 9.35 6 10 6 10.การพัฒนาฐานขอ้ มูลด้วยจา 889 8 10 43 10.31 3 56 วา 888 8 10 42 10.07 4 6 รวม 888 8 10 42 10.07 4 10 6 ลำดับความสำคัญ 899 9 10 45 10.79 1 10 6 79 80 82 0 0 76 100 417 100.00 70 60 432 51 หมายเหตุ นำ้ หนักคะแนนความสำคญั มากทส่ี ุด 9 - 10 มาก 7-8 ปานกลาง 4-6 0-1 นอ้ ย 2 - 3 น้อยท่ีสุด จำนวนช่ัวโมงสอน = นำ้ หนักหน่วย X น้ำหนักหนว่ ย จำนวนช่ัวโมงรวม จำนวนชัว่ โมงสอน = นำ้ หนักชัว่ โมงสอนนXำ้ หจำนนกั วรนวมข้อสอบรวม จำนวนชว่ั โมงสอนรวม

ซ การวดั ผลและการประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล 20 คะแนน 1. สดั ส่วนการให้คะแนน (คะแนนเตม็ 100 คะแนน) 60 คะแนน 1.1 คะแนนระหว่างภาค 80 คะแนน ประกอบดว้ ย 20 คะแนน 1.1.1 คะแนนคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.1.2 คะแนนการประเมินผลตามสภาพจริง 1.2 คะแนนปลายภาค 2. การตดั สินผลการเรยี น ใชแ้ บบองิ เกณฑ์ 80 - 100 คะแนน เกรด 4 คะแนนระหวา่ ง 75 - 79 คะแนน เกรด 3.5 คะแนนระหวา่ ง 70 - 74 คะแนน เกรด 3 คะแนนระหวา่ ง 65 - 69 คะแนน เกรด 2.5 คะแนนระหว่าง 60 - 64 คะแนน เกรด 2 คะแนนระหวา่ ง 55 - 54 คะแนน เกรด 1.5 คะแนนระหว่าง 50 - 54 คะแนน เกรด 1 คะแนนระหว่าง 0 - 49 คะแนน เกรด 0 คะแนนระหวา่ ง

ฒ แผนจดั การเรยี นการสอนเพอื่ ประเมินพฤติกรรมผู้เรยี นอาชวี ศกึ ษา ตามคา่ นยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรนิ ทร์ รายวิชาจาวาเดกส์ทอปเบอื้ งต้น รหัสวชิ า 20903 - 1006 ทฤษฎี 1 ปฏิบัติ 2 หน่วยกิต 2 รายการประเมนิ พฤติกรรมทแี่ สดงออก พฤติกรรม ประจำหนว่ ยท่ี ที่จะวัด 1. มีความรักชาติ 1.1 ร่วมกิจกรรมเข้าแถว ยืนตรงเคารพธงชาติ รอ้ ง  1 - 10 ศาสนา พระมหากษตั ริย์ เพลงชาติ 1.2 รว่ มกจิ กรรมวนั สำคัญทางศาสนาที่ตนนับถือ  1 - 10 1.3 รว่ มกจิ กรรมวนั สำคัญทเี่ ก่ียวกับการเทดิ ทูนสถาบัน  1 - 10 พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซอื่ สตั ย์ เสยี สละ 2.1 ประพฤติ ปฏบิ ัตติ นตามความเป็นจริง ท่ีแสดงถึง อดทน การยึดมัน่ ในความถกู ตอ้ ง ยอมรับผลการกระทำของ  1 - 10 ตนเองและผูอ้ ื่น 2.2 เสียสละกำลังกาย ทรัพย์ สติปัญญา ในการ  1 - 10 ช่วยเหลือผ้อู ื่นและสงั คม 2.3 ควบคุมตนเองเม่ือประสบความยากลำบากและไม่  1 - 10 กอ่ ให้เกิดความเสียหาย 3. กตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ 3.1 รู้จักบุญคุณพ่อแม่ผู้ปกครองครบู าอาจารยแ์ ละผูม้ ี  1 - 10 ผูป้ กครอง ครบู าอาจารย์ พระคณุ 3.2 เอาใจใส่ ดูแลชว่ ยเหลือภารกิจการงาน ปฏิบตั ติ น  1 - 10 ตามคำสั่งสอนท่ถี ูกตอ้ งและเหมาะสม 3.3 ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบา  1 - 10 อาจารย์และผมู้ ีพระคุณ 4. ใฝ่หาความรู้ หมั่น 4.1 แสวงหาความรู้ทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม  1 - 10 ศึกษา เล่าเรยี น ท้ัง 4.2 มุ่งม่นั ต้ังใจเพียรพยายามในการศึกษาและ  1 - 10 ทางตรงและทางอ้อม ปฏิบัตงิ าน 4.3 แก้ปัญหาและพฒั นาส่ิงใหม่ ๆ จนบรรลุผลสำเร็จ  1 - 10 5. รกั ษาวฒั นธรรม 5.1 เข้ารว่ มโครงการหรือกจิ กรรมท่เี ป็นไทย  1 - 10 ประเพณีไทย อันงดงาม 5.2 ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย  1 - 10 5.3 อนุรักษ์สบื ทอดวฒั นธรรมและประเพณไี ทยอัน  1 - 10 งดงาม

ญ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก พฤตกิ รรม ประจำหนว่ ยท่ี ทจี่ ะวัด 6. มีศีลธรรม รกั ษา 6.1 ประพฤตติ นตามหลกั ศีลธรรมอนั ดีงาม  1 - 10 ความสัตย์ หวังดตี ่อผูอ้ ื่น 6.2 ปฏบิ ตั ิโดยยึดตามกตกิ าขอ้ ตกลง/กฎ/ระเบยี บของ  1 - 10 เผือ่ แผแ่ ละแบ่งปัน สถานศกึ ษา 6.3 หวงั ดี โอบอ้อมอารีช่วยเหลอื ผ้อู ่ืนตามโอกาส  1 - 10 6.4 ให้ แบ่งปนั เออ้ื เฟ้อื และชว่ ยเหลือผูอ้ นื่  1 - 10 7. เข้าใจเรยี นร้กู ารเป็น 7.1 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเก่ียวกับประชาธปิ ไตย อนั มี  1 - 10 ประชาธิปไตย อนั มี พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็น 7.2 เคารพสิทธิของผูอ้ น่ื  1 - 10 ประมุขท่ีถูกต้อง 7.3 ปฏิบัตติ นตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี  1 - 10 พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข 8. มรี ะเบยี บ วนิ ัย 8.1 ตรงตอ่ เวลา  1 - 10 เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อย 8.2 ประพฤตติ รงตามคำสง่ั หรือข้อบงั คับของ  1 - 10 รูจ้ ักเคารพผูใ้ หญ่ สถานศึกษา 8.3 เคารพและนอบน้อมต่อผู้ใหญ่  1 - 10 9. มีสติ รูต้ ัว รู้คิด รู้ทำ 9.1 คิดดี พดู ดี ทำดี  1 - 10 รู้ปฏบิ ัติ ตามพระราช 9.2 สุภาพ เรียบร้อย อ่อนนอ้ มถ่อมตน ตาม  1 - 10 ดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ สถานภาพและกาลเทศะ พระเจา้ อยหู่ ัวฯ 9.3 รอบคอบเหมาะสมกับวยั สถานการณแ์ ละบทบาท  1 - 10 ของตนเองตามแนวพระราชดำรัสฯ 10. รจู้ ักดำรงตนอยโู่ ดย 10.1 ใชว้ ัสดุถกู ตอ้ งพอเพียงและเหมาะสม กบั งาน  1 - 10 ใช้หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงตามพระ 10.2 เก็บออมถนอมใช้ทรพั ย์สนิ สิง่ ของให้เกดิ  1 - 10 ราชดำรสั ของ ประโยชน์คมุ้ ค่า พระบาทสมเดจ็ พระ 10.3 ปฏบิ ัติตามที่ไดร้ บั มอบหมายสำเรจ็ ตามกำหนด เจ้าอยูห่ วั ฯ รู้จักอดออมไว้ โดยคำนึงถึงความปลอดภยั ของตนเองและผ้อู ่ืน ใชเ้ ม่อื ยามจำเปน็ มไี ว้พอ กินพอใช้ ถ้าเหลือก็  1 - 10 แจกจา่ ยจำหนา่ ยและ พร้อมที่จะขยายกิจการ เมือ่ มีความพรอ้ มเม่อื มี ภูมคิ ้มุ กันทด่ี ี

ฎ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทแี่ สดงออก พฤติกรรม ประจำหนว่ ยท่ี ท่จี ะวดั 1 - 10 11. มคี วามเขม็ แข็งท้งั 11.1 ดแู ล รักษาสุขภาพร่างกายตามสุขอนามยั 1 - 10 ร่ายกาย และจิตใจไม่ยอม 11.2 ไมเ่ กยี่ วขอ้ งกับอบายมขุ  1 - 10 แพ้ตอ่ อำนาจฝ่ายตำ่ หรือ 11.3 ไมน่ ำทรัพย์สิน ของผู้อ่นื เป็นของตนเอง  กเิ ลส มคี วามละอายเกรง 11.4 หลกี เล่ยี งแหลง่ มั่วสุม  1 - 10 กลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของ ศาสนา  1 - 10 12. คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ 12.1 มจี ิตอาสา อทุ ิศตนเพอ่ื ประโยชนต์ ่อสังคมและ  1 - 10 ของส่วนรวมและของชาติ สว่ นรวม มากกว่าผลประโยชนข์ อง 12.2 เสียสละความสขุ ส่วนตน เพ่อื ทำประโยชนแ์ ก่  ตนเอง ผอู้ นื่

ฏ แผนจดั การเรยี นการสอนเพอ่ื ประเมินพฤติกรรมผเู้ รียนอาชวี ศกึ ษา สมรรถนะข้ามสายงาน จำนวน 10 คะแนน วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาสรุ ินทร์ รายวิชาจาวาเดกส์ทอปเบอื้ งตน้ รหัสวชิ า 20903 - 1006 ทฤษฎี 1 ปฏบิ ัติ 2 หน่วยกติ 2 รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก พฤติกรรม ประจำหนว่ ยท่ี วนิ ัยในตนเอง ทีจ่ ะวัด 1. วนิ ยั ในตนเอง 2.1 ทักษะการสือ่ สาร(Communication 2. ความสามารถในการ Skills)  1 - 10 สอ่ื สาร 2.2 ความฉลาดรทู้ างดจิ ทิ ัล(Digital (Communication Technology)  1 - 10 Skills) และการใช้ Digital Technology) การทำงานเปน็ ทีม(Team Work)  1 - 10 3. การทำงานเปน็ ทีม (Team Work) ความยนื หย่นุ และความสามารถในการปรับตัว  1 - 10 4. ความยนื หย่นุ และ ความสามารถในการ การคดิ สร้างสรรค์  1 - 10 ปรบั ตัว  1 - 10 5. การคดิ สร้างสรรค์

แผนการจดั การเรยี นรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 1 ช่ือหนว่ ย หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สอนครั้งท่ี 1 ช่อื เรอ่ื ง หลกั การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ชั่วโมงรวม 3 จำนวนช่ัวโมง 3 1. สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Programming) มีแนวคิดมาจากมนษุ ยม์ ีความ ตอ้ งการทีน่ ำงานทเ่ี ปน็ ลกั ษณะงานประจำ งานท่เี ปน็ ลกั ษณะงานซำ้ ๆ ท่มี ขี ัน้ ตอนทำงานที่แน่นอน มรี ะบบการ ตดั สินใจที่ชดั เจนแนน่ อน มาใหร้ ะบบคอมพิวเตอรท์ ำงานแทนมนษุ ย์ ตามวตั ถุประสงคใ์ นการทำงานของผู้ คดิ ค้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ดงั นน้ั การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์จงึ เป็นพื้นฐาน ท่ีจำเปน็ ต่อการทำงานของ ระบบคอมพิวเตอร์ ชนิดของโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งตามระดับความลึกของการเขยี น โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์คอมพิวเตอรไ์ ดเ้ ปน็ 2 ชนดิ 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 2.1 แสดงความรูเ้ กี่ยวกับหลกั การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2.2 เขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 อธิบายของการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ได้ 3.1.2 อธบิ ายความแตกต่างหรอื สัมพนั ธ์ระหวา่ งโปรแกรมภาษาจาวามกี บั ภาษาแบบ โครงสร้างได้ 3.1.3 บอกขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมภาษาจาวาได้ 3.1.4 เขียนโปรแกรมภาษาจาวาตามรปู แบบภาษาได้ 3.2 ด้านทักษะ นักเรยี นมคี วามรู้ ทักษะพืน้ ฐานเกีย่ วกับหลกั การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และมีทศั นคติท่ี ดี 3.3 คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (อ้างอิง จากคา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ และ สมรรถนะขา้ มสายงาน) 3.3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.3.2 แตง่ กายตามระเบยี บการปฏิบัตงิ าน 3.3.3 ผลงานประณีตเรียบรอ้ ย 3.3.4 ปดิ เครอ่ื งคอมพิวเตอร์เมื่อเลิกใช้งาน 3.3.5 มนี ้ำใจชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ และการปฏิบัติงานรว่ มกับผู้อน่ื 4. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ 4.1 การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 4.2 กระบวนการทำงานการเขยี นโปรแกรมแบบโครงสรา้ ง 4.3 ความเปน็ มาภาษาจาวา 4.4 การตดิ ต้ังและเรียกใชง้ านโปรแกรมภาษาจาวา

4.5 การติดต้งั ส่วนเสริมโปรแกรมวิชวลสตดู โิ อโค้ด 4.6 หลกั การเขยี นโปรแกรมภาษาจาวา 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ การวดั ผลประเมนิ ผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และใหน้ ักเรยี นทำ แบบทดสอบก่อนเรยี น 5.1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 5.1.1 ผู้สอนจดั เตรียมเอกสาร พรอ้ มกบั แนะนำรายวชิ า วิธกี ารใหค้ ะแนนและวธิ กี ารเรียนเร่ือง หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 5.1.2 ผูส้ อนแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นของหน่วยเรยี นที่ 1 และขอให้ผ้เู รยี นร่วมกนั ทำกิจกรรม การเรียนการสอน 5.1.3 ผู้สอนให้ผู้เรยี นแสดงความรู้ โดยต้ังคำถามวา่ หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์มี หลักการอย่างไรพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ 5.2 ขั้นสอน 5.2.1 ผสู้ อนทดสอบความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั หลกั การเขยี นโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ โดยให้ผเู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผสู้ อนอธบิ ายเนือ้ หาเกี่ยวกบั บทเรียนวชิ า การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ คร่อื งมือกราฟิกโหมด หน่วยท่ี 1 เร่ือง หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์และใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 1 5.2.3 ผู้สอนและผ้เู รียนรว่ มกันอธบิ ายพร้อมยกตวั อยา่ งถงึ หลกั การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ตามทีไ่ ดศ้ ึกษาจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน 5.3 ข้นั ประกอบกิจกรรมการเรยี น 5.3.1 ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นทำแบบฝกึ หัดทา้ ยบทท่ี 1 5.3.2 ผู้สอนให้ผ้เู รียนแบง่ กล่มุ ๆ ละเท่า ๆ กนั ทำการศกึ ษาเร่อื ง 5.4 กลยุทธใ์ นการจัดการเรียนรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พือ่ นช่วยเพอ่ื น ใหน้ ักเรียนกลมุ่ เกง่ และปานกลาง อยกู่ บั กลุม่ นักเรยี นทเ่ี รียนออ่ น ช่วยกันทำความเข้าใจในเน้อื หา 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ คร่ืองมอื บนอนิ เทอร์เนต็ http://www.linoit.com สอบถามนักเรยี นวา่ นกั เรียนอยากได้ห้องเรยี นอยา่ งไรเรียนแล้วมคี วามสุข แสดงความคิดเห็นแตล่ ะคน เพอ่ื เป็นการกระต้นุ เตรียมความพรอ้ มในการเรยี น 5.5 ข้ันสรปุ 5.5.1 ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกนั สรปุ เนอ้ื หาทีไ่ ดเ้ รียนใหม้ ีความเขา้ ใจในทิศทางเดียวกัน 5.5.2 ผ้สู อนให้ผู้เรยี นศึกษาเพม่ิ เติมนอกห้องเรยี น ดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนที่จัดทำขึน้ 5.6 ขน้ั ทดสอบหลังเรยี น นักเรียนทำใบกจิ กรรมท่ี 1 และแบบทดสอบหลังเรียน

6. สื่อการเรยี นร้/ู แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่ือสงิ่ พมิ พ์ 6.1.1 เอกสารประกอบการสอนวิชาจาวาเดกส์ทอปเบ้อื งต้น 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่ือง หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 6.1.3 ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง ความร้คู ูค่ ุณธรรม 6.1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง หลกั การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 6.2 สื่อโสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เรือ่ ง หลักการเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 6.2.2 เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพา (Notebook) 6.3 อื่นๆ (โปรดระบ)ุ

7. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วิชาอน่ื 7.1 การบูรณาการสะเตม็ ศกึ ษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • การคน้ หาขอ้ มูล • ใช้อนิ เทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีการค้นหาข้อมลู ใน 6 • คำนวณเวลาในการ คดั เลือกหรอื คัด ขอ้ มลู ขน้ั ตอน สืบค้นข้อมูล แยกข้อมลู ในสิง่ • ใช้เทคโนโลยี • การกำหนดหัวขอ้ ตา่ งๆทอ่ี ย่รู อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณา • การเลือกแหลง่ ข้อมลู เรา ผลติ ภัณฑ์อาหาร • การเตรียมอปุ กรณ์ • ใชเ้ ทคโนโลยีในการ • การคน้ หาและรวบรวม นำเสนอผลงาน ข้อมลู • การพจิ ารณา • การสรุปผล

8. การบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจดั การเรยี นรู้ 8.1 ผ้สู อน ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสร้างภูมิค้มุ กันในตวั ประเดน็ - ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนรู้เรอ่ื ง - เนือ้ หาสอดคลอ้ งกับ ความหมายของคอมพิวเตอร์ - สรปุ เน้อื หาให้อ่านเขา้ ใจ เน้ือหา สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมาะสม องค์ประกอบ และสารสนเทศ งา่ ยมีภาพประกอบเนื้อหา - หลักการเขยี น กับเวลาที่กำหนดและวัย - เรยี งเนื้อหาตามลำดับการ โปรแกรม ของผเู้ รียน - จดั การเรยี นรูไ้ ดค้ รบถว้ น เรยี นรู้ คอมพิวเตอร์ - กำหนดเวลาในแตล่ ะ ตามท่ีออกแบบไว้ - จัดการเรียนรู้ได้ครบถ้วน กจิ กรรมเหมาะสมกับกจิ กรรม ตามทอ่ี อกแบบไว้ เวลา และวัยของผูเ้ รียน - ต้องการใหผ้ เู้ รียนปฏิบัติ - กำหนดเวลาในแต่ละ 4 ชวั่ โมง กิจกรรมอย่างท่วั ถงึ ตาม กจิ กรรมไว้เกนิ จรงิ เลก็ นอ้ ย - แบง่ กลุม่ ผู้เรียนใหพ้ อดกี ับ ความสามารถ เพือ่ รองรบั การเปลยี่ นแปลง การจดั กิจกรรม จำนวนนกั เรียน - เพ่ือตอ้ งการใหผ้ เู้ รยี นเกิดการ ท่ีอาจเกิดระหวา่ งจดั - กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ เรียนรูต้ ามเปา้ หมายท่ีกำหนด กจิ กรรม เหมาะสมกบั เวลาท่กี ำหนด - ผ้เู รียนนำความรูไ้ ป - แบง่ กลมุ่ คละ - มอบหมายภาระงานและ ประยกุ ต์ใชก้ บั ภาระงานได้ ความสามารถของนักเรียน ช้นิ งานเหมาะสมกับ - รับฟงั ความคิดเหน็ และ - เตรยี มชุดคำถามให้พรอ้ ม ความสามารถผเู้ รียนและ วเิ คราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งมเี หตุผล ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน สอดคลอ้ งกบั เปา้ หมายการ - สงั เกตพฤติกรรมและให้ เรียนรู้ ความชว่ ยเหลือเมื่อนกั เรยี น มปี ญั หา - ฝกึ การคน้ คว้าหาความรู้ จากเพ่อื น และระบบ อนิ เทอร์เน็ต เพือ่ แก้ปญั หาในแบบฝกึ ปฏิบตั ิ และใบงาน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภูมิคุ้มกนั ในตัว ประเด็น - ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลุม่ ผู้เรยี นให้พอดกี บั กิจกรรมอยา่ งทว่ั ถงึ ตาม - แบ่งกลุ่มคละ จำนวนนักเรียน ความสามารถ ความสามารถของนักเรยี น ส่ือ/อปุ กรณ์ - กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ - เพอ่ื ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนเกิดการ - เตรยี มชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม เหมาะสมกับเวลาท่ีกำหนด เรียนรู้ตามเป้าหมายท่ีกำหนด ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน แหลง่ เรยี นรู้/ - มอบหมายภาระงานและ - ผูเ้ รียนนำความรไู้ ป - สงั เกตพฤตกิ รรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ชน้ิ งานเหมาะสมกับ ประยุกตใ์ ช้กับภาระงานได้ ความชว่ ยเหลอื เมอื่ นักเรยี น ความสามารถผเู้ รยี นและ - รบั ฟังความคิดเห็น และ มีปัญหา สอดคลอ้ งกับเปา้ หมายการ วิเคราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตุผล - ฝกึ การค้นควา้ หาความรู้ เรยี นรู้ จากเพอื่ น และระบบ - ต้องการให้นักเรียนได้ปฏบิ ัติ อนิ เทอร์เน็ต - จำนวนใบความรู้ ใบงาน กจิ กรรมได้จริงตามจดุ ประสงค์ เพื่อแกป้ ัญหาในแบบฝึก และวัสดอุ ุปกรณ์ เหมาะสม การเรยี นร้ทู ี่กำหนดไว้ ปฏิบัติ และใบงาน กับกิจกรรม และปริมาณ - เตรยี มสือ่ อปุ กรณใ์ หพ้ รอ้ ม เพียงพอกบั จำนวนนกั เรยี น - ตอ้ งการใหน้ กั เรยี นใชว้ สั ดุ ก่อนการจดั กจิ กรรม -ตรวจความพร้อมของเคร่ือง อุปกรณท์ ีม่ คี วามพร้อมใน - มลี ำดบั ข้นั ตอนการใช้ส่ือ คอมพวิ เตอรก์ อ่ นเรยี น และ ห้องปฏิบัติการ มาปฏิบัติการ และจดั เก็บอยา่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตามตัวชว้ี ัด - มีความชำนาญในการใช้ -เกบ็ เก้าอีน้ ่ังให้เรียบรอ้ ยหลัง สื่ออปุ กรณ์ เลิกเรยี น เพ่ือความเรยี บรอ้ ย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร - ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรใ์ ห้พร้อมกอ่ น เหมาะสมกบั กจิ กรรมที่ การทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภูมิคุ้มกันในตัว ประเด็น - จัดทำแบบประเมนิ ผลงาน - ตอ้ งการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ - วางแผนการวัด/ การประเมินผล และประเมนิ พฤติกรรมได้ เหมาะสมกบั เป้าหมายการ เรียนรู้ ตามเป้าหมายทีก่ ำหนด ประเมินผลตามข้นั ตอนของ กิจกรรม - แบบประเมินผลมกี าร ตรวจสอบความเทยี่ งตรงใน การวัดตามตัวชว้ี ัด เงื่อนไขความรทู้ ี่ครูต้องมกี อ่ นสอน 3. หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความหมายคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ 4. จติ วทิ ยาในการสอน 2. การใช้คอมพวิ เตอร์ 3. มีความยตุ ิธรรม เงื่อนไขคุณธรรมของครู 4. ตรงตอ่ เวลา 1. มคี วามรกั เมตตาศิษย์ 2. มีความรับผิดชอบ 8.2 คุณลักษณะอยอู่ ย่างพอเพยี งท่ีเกดิ กับผู้เรียน พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู ิคุม้ กันในตัวทีด่ ี 1. นกั เรียนกำหนดหน้าทีข่ องสมาชกิ 1. นกั เรยี นนำขอ้ มลู การหา 1. วางแผนการทำงานกลุ่มอย่าง ภายในกล่มุ ได้เหมาะสมกบั ศักยภาพของ คำตอบมาวิเคราะหไ์ ดอ้ ยา่ ง ละเอียดเป็นขนั้ ตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพือ่ อธบิ าย 2. เตรียมวัสดุอปุ กรณก์ ารทดลองได้ 2. นกั เรยี นใช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นการทดลอง สรปุ เนื้อหาสาระ ครบถ้วน และตรงตามกิจกรรมการ ได้เหมาะสมกบั กจิ กรรมการทดของ 2. นักเรยี นสามารถนำข้อมลู ทดลอง 3. นกั เรียนสามารถหาคำตอบได้ มาตอบคำถามได้อย่างถกู ตอ้ ง 3. ศึกษาวธิ กี ารทำใบงานอยา่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณ์ท่ีมี รอบคอบ เงอ่ื นไขความรู้ 1. ความหมายของการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 2. หลักการพัฒนาการเขยี นโปรแกรม เงื่อนไขคณุ ธรรม 1. ความสามัคคีในกลมุ่ 2. ความรับผดิ ชอบ 3. แบ่งปันและเอื้อเฟอ้ื เผ่อื แผ่

สง่ ผลต่อความสมดุล มนั่ คง ย่ังยนื ใน 4 มิติ ดังนี้ ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม - มคี วามรู้เกย่ี วกับ ความรู้ - ความรู้ในการสืบคน้ - มีความรู้ในการจดั แบ่ง - มีความรู้ในการดแู ล คอมพวิ เตอรใ์ นการ ประยุกตใ์ ช้ใน ข้อมูลจากคอมพวิ เตอร์ หนา้ ท่ภี ายในกลุ่มไดอ้ ยา่ ง รกั ษาความสะอาดการ กจิ กรรมในท้องถิ่น อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม จัดการขยะอย่าง ใชเ้ ทคโนโลยใี น ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มคี วามร้ใู นการปฏิบตั ิตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่า ท่จี ะทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน หอ้ งปฏบิ ัติการ ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มีทกั ษะในการใชว้ สั ดุ - ทำงานรว่ มกันภายใน - รกั ษาความสะอาด อุปกรณอ์ ยา่ งปลอดภยั กลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ของห้องปฏบิ ตั ิการ และประหยัด จนสำเร็จและมีความสุข คอมพิวเตอรใ์ นการ สืบคน้ ขอ้ มูล ค่านิยม - เห็นความสำคญั ของการ - มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ การ - มจี ิตสำนกึ ในการ ใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นการ ทำงานของกล่มุ รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม สบื คน้ ขอ้ มลู อย่างประหยัด - ยอมรับความคิดเหน็ ซงึ่ ของหอ้ งปฏิบัติการ คมุ้ ค่า กันและกนั มคี วามเสยี สละ คอมพวิ เตอร์ใหส้ ะอาด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมิน วิธีการ เครื่องมอื ท่ีใช้ เกณฑ์การประเมินผา่ น - การทดสอบกอ่ นเรยี น การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ขอ้ ได้ระดบั 2 ข้นึ ไป การประเมนิ ระหว่างเรียน การสงั เกต แบบประเมินพฤตกิ รรม ตอบคำถามทุกขอ้ การซักถาม การเรยี น ไดร้ ะดับ 2 ขน้ึ ไป การทำแบบฝึกปฏิบัติ ต้งั คำถามให้ครอบคลมุ จุดประสงค์ ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป การประเมนิ หลังเรียน การทดสอบ แบบฝึกหัดและใบ กจิ กรรมที่ 1 แบบทดสอบหลังเรยี น จำนวน 10 ข้อ

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หาสอดคล้องกบั จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 10.1.2 สามารถนำไปใช้ปฏิบัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน 10.1.3 เวลาที่กำหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสม 10.2 ผลการเรียนรขู้ องนักเรียน นกั ศึกษา 10.2.1 นักศกึ ษาส่วนใหญม่ คี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคำถามในกลมุ่ และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 10.2.2 นักศึกษากระตือรอื ร้นและรับผิดชอบในการทำงานกลมุ่ เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ทนั เวลาท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษาเลือกสามารถนำความรไู้ ปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวัน 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถนำความร้ทู ี่ไดจ้ ากการเรยี นรูใ้ นหนว่ ยนไ้ี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสม

แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ให้มีใจความสมบรู ณ์ 1. การเขียนโปรแกรมภาษาจาวามีความแตกต่าง หรอื สมั พันธก์ บั ภาษาแบบโครงสร้างอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงอธิบายระหวา่ ง jacac.exe กับ java.exe ว่าหนา้ ทอี่ ะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงอธบิ ายความแตกต่างระหว่างโปรแกรม Notepad กับ EditPlus ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงอธบิ ายความสำคัญของการแปลภาษา (Compiler) วา่ สำคัญอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงอธบิ ายความสำคญั ของการสั่งทำงาน (Run) วา่ สำคญั อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. จงประโยชน์ของการกำหนดเส้นทาง(path) หลังจากทำการติดตง้ั โปรแกรมแล้ว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. การออกจากระบบปฏิบตั กิ ารวนิ โดว์สูร่ ะบบดอสทำไดอ้ ยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. การเขียนคำอธบิ ายในโปรแกรมภาษาจาวาทำไดด้ ว้ ยเคร่ืองหมายใดไดบ้ ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. คำส่งั ภาษาจาวาสามารถเขยี นดว้ ยตัวอกั ษรตวั ใหญ่ไดห้ รือไมเ่ พาะเหตุใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. ในการสง่ั จบคำสงั่ ของโปรแกรมภาษาจาวาในแต่ละบรรทดั ใชเ้ ครอ่ื งหมายใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบกิจกรรมท่ี 1 เรื่องความรคู่ ่คู ุณธรรม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. อธบิ ายความสำคัญของคณุ ธรรม จริยธรรมกบั การดำเนนิ ชวี ติ ได้ ( สำนักงาน ป.ป.ช.) 2. ประยกุ ต์ใช้คณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการดำเนินชวี ติ ได้ (จาก สำนักงาน ป.ป.ช.) คำช้แี จง ผ้เู รยี นศกึ ษาบทกลอน “ความรู้คู่คุณธรรม” แล้วตอบคำถามตอ่ ไปน้ี เมอื่ ความรู้ ยอดเยย่ี ม สงู เทียมเมฆ แต่คณุ ธรรม ต่ำเฉก ยอดหญา้ นน่ั อาจเสกสรา้ ง มิจฉา สารพนั ดว้ ยจิตอัน ไร้อาย ในโลกา แม้คุณธรรม สูงเย่ยี ม ถงึ เทยี มเมฆ แต่ความรู้ ต่ำเฉก เช่นยอดหญา้ ยอ่ มเป็นเหยื่อ ทรชน จนอุรา ดว้ ยปญั ญา ออ่ นด้อย นา่ น้อยใจ หากความรู้ สงู ล้ำ คุณธรรมเลิศ แสนประเสรฐิ กอปรกจิ วนิ จิ ฉยั จะพฒั นา ประชาราษฎร์ ทงั้ ชาตไิ ทย ตอ้ งฝกึ ให้ ความรู้ ค่คู ุณธรรม” ผูป้ ระพันธ์ : ศาสตราจารย์อำไพ สจุ รติ กุล

คำถามผู้เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ให้สมบรู ณท์ ี่สดุ 1.ผเู้ รยี นคิดว่าคุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามจำเป็นหรือไมท่ ีจ่ ะนำมาใชใ้ นการดำเนนิ ชวี ิต ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 2.ผ้เู รียนคดิ ว่าถ้าทกุ คนแสวงหาแตค่ วามรเู้ พยี งอย่างเดยี วจะเกดิ อะไรขน้ึ ในสงั คม ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 3.ถ้าคนส่วนมากแสวงหาแต่ทางธรรมเพียงอย่างเดียวผเู้ รยี นคิดวา่ จะเกิดอะไรข้นึ ในสงั คม ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 4.ส่ิงทีด่ ที ี่สุดในการดำเนินชวี ิตทกุ คนตอ้ งแสวงหาสิง่ ใดจึงจะมีชวี ติ ที่ประเสริฐสุด ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

5.ให้ผเู้ รยี นคิดหาแนวทางในการปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม โดยเตมิ ข้อความในตารางที่กำหนด ไว้ใหส้ มบรู ณท์ ่ีสดุ บา้ น สถานศกึ ษา 1............................................................... 1............................................................... 2............................................................... 2............................................................... 3................................................................ 3................................................................ แนวทางการปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม สถานที่ทางาน ชมุ ชน/สังคม 1....................................................... 1.............................................................. 2....................................................... 2.............................................................. 3....................................................... 3...............................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 2 ชอื่ หน่วย การเขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุ สอนคร้งั ท่ี 2 ชอื่ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุ ชั่วโมงรวม 3 จำนวนชวั่ โมง 3 1. สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ เป็นการเขียนโปรแกรมโดยการกำหนดสิ่งที่เป็นปัจจัยในการเขียน โปรแกรม เปน็ วตั ถุ(object) ซ่ึงวตั ถุสามารถเปน็ ได้ทง้ั รปู ธรรม(สิง่ ทจ่ี ำตอ้ งได้) และนามธรรม(ส่ิงที่จบั ต้องไม่ได้) ส่งผลทำใหก้ ารเขียนโปรแกรมเป็นเรอ่ื งสามารถทำไดอ้ ย่างรวดเร็ว และการปรับปรุงแกไ้ ขโปรแกรมขนาดใหญ่ ทำได้ง่ายและใช้เวลาน้อยลง ซึ่งการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ี จำลองแนวคดิ ว่าปัจจัยทีป่ ้อนเข้าตัวโปรแกรมเป็นวัตถุ ซึ่งสามารถนำมาประกอบ ทำงานรวมกันได้ สามารถ เพ่ิมหนา้ ที่ของวัตถุได้ สามารถแลกเปลีย่ นข้อมูล แลกเปลย่ี นหน้าที่ และนำผลการประมวลผล สง่ ต่อไปให้ วัตถุ อื่นๆ ได้ 2. สมรรถนะประจำหน่วย เขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธิบายการความคิดรวบยอดของแนวคดิ การโปรแกรมเชิงวัตถุได้ 3.1.2 อธบิ ายขั้นตอนการเขยี นโปรแกรมภาษาจาวาได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ นักเรยี นมคี วามรู้ ทกั ษะพืน้ ฐานเกีย่ วกบั การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุและมีทัศนคติทดี่ ี 3.3 คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ (อา้ งอิง จากคา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ และ สมรรถนะข้ามสายงาน) 3.3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา 3.3.2 แต่งกายตามระเบยี บการปฏบิ ตั ิงาน 3.3.3 ผลงานประณตี เรียบรอ้ ย 3.3.4 ปิดเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ มื่อเลิกใชง้ าน 3.3.5 มนี ้ำใจชว่ ยเหลอื ผอู้ ่ืนและการปฏบิ ัติงานร่วมกับผอู้ ืน่ 4. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ 4.1 การเขยี นโปรแกรมเชงิ วัตถุ 4.2 พนื้ ฐานการเขยี นโปรแกรมภาษาจาวา 4.3 สว่ นประกอบของโปรแกรมภาษาจาวา 4.4 ตวั อย่างโปรแกรม

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล ขอ้ ตกลงขณะเรยี น และใหน้ ักเรียนทำ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.1 ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรียน 5.1.1 ผสู้ อนจัดเตรียมเอกสาร พร้อมกับแนะนำรายวชิ า วิธกี ารให้คะแนนและวธิ ีการเรยี นเร่อื ง การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ 5.1.2 ผู้สอนแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนของหนว่ ยที่ 2 และขอให้ผู้เรียนรว่ มกนั ทำกจิ กรรมการ เรยี นการสอน 5.1.3 ผู้สอนให้ผู้เรียนแสดงความรู้ โดยตงั้ คำถามว่า การเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถุมีหลักการ อย่างไรพรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ 5.2 ขนั้ สอน 5.2.1 ผู้สอนทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ียวกบั การเขยี นโปรแกรมเชิง วตั ถุ โดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.2.2 ผ้สู อนอธิบายเนื้อหาเก่ยี วกับบทเรยี นวชิ า การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เครอื่ งมือกราฟกิ โหมด หนว่ ยท่ี 2 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุและให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 2 5.2.3 ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกนั อธบิ ายพรอ้ มยกตวั อยา่ งถึงการเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถุตามท่ีได้ ศึกษาจากบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน 5.3 ขั้นประกอบกจิ กรรมการเรียน 5.3.1 ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบฝึกหดั ท้ายหนว่ ยที่ 2 5.3.2 ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแบง่ กลุม่ ๆ ละเท่า ๆ กันทำการศึกษาเรื่อง 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พ่ือนชว่ ยเพื่อน ใหน้ ักเรยี นกล่มุ เกง่ และปานกลาง อยู่กบั กลมุ่ นักเรยี นท่เี รียนอ่อน ชว่ ยกันทำความเข้าใจในเนอื้ หา 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ คร่อื งมอื บนอินเทอร์เนต็ http://www.linoit.com สอบถามนักเรยี นว่า นักเรียนอยากไดห้ ้องเรยี นอยา่ งไรเรียนแลว้ มีความสขุ แสดงความคิดเหน็ แตล่ ะคน เพือ่ เปน็ การกระตุ้นเตรยี มความพร้อมในการเรยี น 5.5 ข้นั สรปุ 5.5.1 ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกันสรุปเนอื้ หาทไี่ ด้เรยี นให้มีความเขา้ ใจในทิศทางเดยี วกนั 5.5.2 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นศกึ ษาเพิ่มเตมิ นอกห้องเรยี น ดว้ ยบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่จดั ทำขึ้น 5.6 ขนั้ ทดสอบหลงั เรยี น นักเรียนทำใบกจิ กรรมที่ 2 และแบบทดสอบหลังเรียน 6. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อส่ิงพมิ พ์ 6.1.1 เอกสารประกอบการสอนวิชาจาวาเดกส์ทอปเบ้อื งตน้ 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรียน เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถุ 6.1.3 ใบกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ 6.1.4 แบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมเชิงวัตถุ

6.2 ส่ือโสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุ 6.2.2 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เคร่อื งคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) 6.3 อื่นๆ (โปรดระบุ)

7. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วิชาอน่ื 7.1 การบูรณาการสะเตม็ ศกึ ษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • การคน้ หาขอ้ มูล • ใช้อนิ เทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีการค้นหาข้อมลู ใน 6 • คำนวณเวลาในการ คดั เลือกหรอื คัด ขอ้ มลู ขน้ั ตอน สืบค้นข้อมูล แยกข้อมลู ในสิง่ • ใช้เทคโนโลยี • การกำหนดหัวขอ้ ตา่ งๆทอ่ี ย่รู อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณา • การเลือกแหลง่ ข้อมลู เรา ผลติ ภัณฑ์อาหาร • การเตรียมอปุ กรณ์ • ใชเ้ ทคโนโลยีในการ • การคน้ หาและรวบรวม นำเสนอผลงาน ข้อมลู • การพจิ ารณา • การสรุปผล

8. การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสกู่ ารจดั การเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ตอ่ ไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสร้างภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ประเด็น เน้ือหา - เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกบั - ตอ้ งการให้ผเู้ รียนร้เู รอ่ื ง - สรุปเนอ้ื หาใหอ้ ่านเขา้ ใจ - การเขียน สมรรถนะ ตวั ชว้ี ัด เหมาะสม ความหมายของคอมพวิ เตอร์ งา่ ยมีภาพประกอบเน้อื หา โปรแกรมเชิงวตั ถุ กับเวลาทีก่ ำหนดและวยั องคป์ ระกอบ และสารสนเทศ - เรียงเนือ้ หาตามลำดบั การ ของผูเ้ รยี น เรียนรู้ เวลา - กำหนดเวลาในแตล่ ะ - จัดการเรียนร้ไู ดค้ รบถ้วน - จดั การเรยี นร้ไู ด้ครบถ้วน 3 ช่ัวโมง กจิ กรรมเหมาะสมกับกจิ กรรม ตามทอี่ อกแบบไว้ ตามทีอ่ อกแบบไว้ และวยั ของผู้เรียน - กำหนดเวลาในแตล่ ะ กจิ กรรมไวเ้ กินจรงิ เล็กนอ้ ย เพื่อรองรับการเปลย่ี นแปลง ทอ่ี าจเกิดระหว่างจัด กิจกรรม การจดั กิจกรรม - แบง่ กลุม่ ผู้เรยี นใหพ้ อดกี ับ - ต้องการให้ผ้เู รียนปฏบิ ัติ - แบ่งกล่มุ คละ จำนวนนกั เรียน กจิ กรรมอยา่ งทว่ั ถึงตาม ความสามารถของนกั เรียน - กำหนดกจิ กรรมการเรียนรู้ ความสามารถ - เตรยี มชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม เหมาะสมกบั เวลาที่กำหนด - เพ่ือตอ้ งการให้ผู้เรียนเกิดการ ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน - มอบหมายภาระงานและ เรยี นรู้ตามเป้าหมายท่กี ำหนด - สังเกตพฤตกิ รรมและให้ ชิ้นงานเหมาะสมกับ - ผู้เรียนนำความร้ไู ป ความชว่ ยเหลือเมอ่ื นักเรยี น ความสามารถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภาระงานได้ มปี ัญหา สอดคล้องกับเปา้ หมายการ - รบั ฟงั ความคดิ เหน็ และ - ฝึกการค้นคว้าหาความรู้ เรยี นรู้ วิเคราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล จากเพอ่ื น และระบบ อนิ เทอรเ์ น็ต เพื่อแกป้ ญั หาในแบบฝึก ปฏบิ ัติ และใบงาน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภูมิคุ้มกนั ในตัว ประเด็น - ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลุม่ ผู้เรยี นให้พอดกี บั กิจกรรมอยา่ งทว่ั ถงึ ตาม - แบ่งกลุ่มคละ จำนวนนักเรียน ความสามารถ ความสามารถของนักเรยี น ส่ือ/อปุ กรณ์ - กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ - เพอ่ื ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนเกิดการ - เตรยี มชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม เหมาะสมกับเวลาท่ีกำหนด เรียนรู้ตามเป้าหมายท่ีกำหนด ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน แหลง่ เรยี นรู้/ - มอบหมายภาระงานและ - ผูเ้ รียนนำความรไู้ ป - สงั เกตพฤตกิ รรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ชน้ิ งานเหมาะสมกับ ประยุกตใ์ ช้กับภาระงานได้ ความชว่ ยเหลอื เมอื่ นักเรยี น ความสามารถผเู้ รยี นและ - รบั ฟังความคิดเห็น และ มีปัญหา สอดคลอ้ งกับเปา้ หมายการ วิเคราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตุผล - ฝกึ การค้นควา้ หาความรู้ เรยี นรู้ จากเพอื่ น และระบบ - ต้องการให้นักเรียนได้ปฏบิ ัติ อนิ เทอร์เน็ต - จำนวนใบความรู้ ใบงาน กจิ กรรมได้จริงตามจดุ ประสงค์ เพื่อแกป้ ัญหาในแบบฝึก และวัสดอุ ุปกรณ์ เหมาะสม การเรยี นร้ทู ี่กำหนดไว้ ปฏิบัติ และใบงาน กับกิจกรรม และปริมาณ - เตรยี มสือ่ อปุ กรณใ์ หพ้ รอ้ ม เพียงพอกบั จำนวนนกั เรยี น - ตอ้ งการใหน้ กั เรยี นใชว้ สั ดุ ก่อนการจดั กจิ กรรม -ตรวจความพร้อมของเคร่ือง อุปกรณท์ ีม่ คี วามพร้อมใน - มลี ำดบั ข้นั ตอนการใช้ส่ือ คอมพวิ เตอรก์ อ่ นเรยี น และ ห้องปฏิบัติการ มาปฏิบัติการ และจดั เก็บอยา่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตามตัวชว้ี ัด - มีความชำนาญในการใช้ -เกบ็ เก้าอีน้ ่ังให้เรียบรอ้ ยหลัง สื่ออปุ กรณ์ เลิกเรยี น เพ่ือความเรยี บรอ้ ย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร - ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรใ์ ห้พร้อมกอ่ น เหมาะสมกบั กจิ กรรมที่ การทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - จัดทำแบบประเมินผลงาน - ต้องการประเมินผลการเรียนรู้ - วางแผนการวดั / การประเมนิ ผล และประเมินพฤติกรรมได้ เหมาะสมกับเป้าหมายการ เรียนรู้ ตามเป้าหมายทก่ี ำหนด ประเมินผลตามขนั้ ตอนของ กจิ กรรม - แบบประเมนิ ผลมกี าร ตรวจสอบความเท่ยี งตรงใน การวัดตามตัวชีว้ ัด เง่ือนไขความรู้ทค่ี รูต้องมีกอ่ นสอน 3. หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความหมายคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ 4. จติ วทิ ยาในการสอน 2. การใชค้ อมพวิ เตอร์ 3. มีความยตุ ธิ รรม เงอ่ื นไขคณุ ธรรมของครู 4. ตรงตอ่ เวลา 1. มคี วามรักเมตตาศิษย์ 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 8.2 คณุ ลกั ษณะอย่อู ยา่ งพอเพียงท่เี กดิ กับผเู้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมคิ ุม้ กนั ในตัวท่ดี ี 1. นักเรยี นกำหนดหนา้ ทข่ี องสมาชิก 1. นกั เรยี นนำข้อมลู การหา 1. วางแผนการทำงานกลุ่มอย่าง ภายในกลุม่ ไดเ้ หมาะสมกบั ศกั ยภาพของ คำตอบมาวิเคราะห์ได้อยา่ ง ละเอยี ดเป็นขน้ั ตอน แต่ละคน เป็นเหตุเปน็ ผลเพ่ืออธิบาย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์การทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วสั ดุอุปกรณใ์ นการทดลอง สรุปเนอ้ื หาสาระ ครบถว้ น และตรงตามกจิ กรรมการ ได้เหมาะสมกับกจิ กรรมการทดของ 2. นกั เรยี นสามารถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสามารถหาคำตอบได้ มาตอบคำถามไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3. ศกึ ษาวธิ กี ารทำใบงานอย่าง สอดคลอ้ งกบั อุปกรณท์ มี่ ี รอบคอบ เงอ่ื นไขความรู้ 1. การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ 2. หลักการพฒั นาการเขยี นโปรแกรม เงอื่ นไขคุณธรรม 1. ความสามัคคีในกลมุ่ 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปันและเอ้ือเฟอ้ื เผอื่ แผ่

สง่ ผลต่อความสมดุล มนั่ คง ย่ังยนื ใน 4 มิติ ดังนี้ ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม - มคี วามรู้เกย่ี วกับ ความรู้ - ความรู้ในการสืบคน้ - มีความรู้ในการจดั แบ่ง - มีความรู้ในการดแู ล คอมพวิ เตอรใ์ นการ ประยุกตใ์ ช้ใน ข้อมูลจากคอมพวิ เตอร์ หน้าท่ภี ายในกลุ่มไดอ้ ยา่ ง รกั ษาความสะอาดการ กจิ กรรมในท้องถิ่น อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม จัดการขยะอย่าง ใชเ้ ทคโนโลยใี น ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีความร้ใู นการปฏิบตั ิตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่า ท่ีจะทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน หอ้ งปฏบิ ัติการ ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มีทกั ษะในการใชว้ สั ดุ - ทำงานรว่ มกันภายใน - รกั ษาความสะอาด อุปกรณอ์ ยา่ งปลอดภยั กลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ของห้องปฏบิ ตั ิการ และประหยัด จนสำเร็จและมีความสุข คอมพิวเตอรใ์ นการ สืบคน้ ขอ้ มูล ค่านิยม - เห็นความสำคญั ของการ - มีความรับผดิ ชอบตอ่ การ - มจี ิตสำนกึ ในการ ใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นการ ทำงานของกล่มุ รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม สบื คน้ ขอ้ มลู อย่างประหยัด - ยอมรับความคิดเหน็ ซงึ่ ของหอ้ งปฏิบัติการ คมุ้ ค่า กันและกนั มคี วามเสยี สละ คอมพวิ เตอร์ใหส้ ะอาด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมิน วิธีการ เครื่องมอื ท่ีใช้ เกณฑ์การประเมินผา่ น - การทดสอบกอ่ นเรยี น การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ขอ้ ได้ระดบั 2 ข้นึ ไป การประเมนิ ระหว่างเรียน การสงั เกต แบบประเมินพฤตกิ รรม ตอบคำถามทุกขอ้ การซักถาม การเรยี น ไดร้ ะดับ 2 ขน้ึ ไป การทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ต้งั คำถามให้ครอบคลมุ จุดประสงค์ ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป การประเมนิ หลังเรียน การทดสอบ แบบฝึกหัดและใบ กจิ กรรมที่ 2 แบบทดสอบหลังเรยี น จำนวน 10 ข้อ

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หาสอดคล้องกบั จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 10.1.2 สามารถนำไปใช้ปฏิบัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน 10.1.3 เวลาที่กำหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสม 10.2 ผลการเรียนรขู้ องนักเรียน นกั ศึกษา 10.2.1 นักศกึ ษาส่วนใหญม่ คี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคำถามในกลมุ่ และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 10.2.2 นักศึกษากระตือรอื ร้นและรับผิดชอบในการทำงานกลมุ่ เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ทนั เวลาท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษาเลือกสามารถนำความรไู้ ปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถนำความร้ทู ี่ไดจ้ ากการเรยี นรูใ้ นหนว่ ยนไ้ี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสม

แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2 เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถุ จงตอบคำถามต่อไปนี้ใหม้ ใี จความสมบรู ณ์ 1. ยกตัวอยา่ ง white space พร้อมอธบิ ายความหมายของแต่ละคำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. เขียนคำ key word มาอย่างนอ้ ย 10 คำ พรอ้ มอธิบายหน้าท่ขี องแต่ละคำมาพอสงั เขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เขยี นคำอธิบายความแตกต่างระหว่างเครือ่ งหมาย “( )” กบั เครื่องหมาย “{ }” ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เขียนตัวอย่างการกำหนดคา่ ใหก้ ับตวั แปรท้ังห้าชนิด คอื 1) ค่าคงท่จี ำนวนเต็ม 2) คา่ คงทเ่ี ลขทศนยิ ม 3) ค่าคงที่ค่าความจริง 4) ค่าคงทตี่ ัวอักษร 5) ค่าคงท่ีสตริง ชนดิ ละ 5 ค่า ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. เขียนตวั อย่างการกำหนดคา่ ให้กับตัวแปรท้ังสามเลขฐาน คอื 1) เลขฐานสบหก 2) เลขฐานสบิ 3) เลขฐาน แปดมาอย่างนอ้ ยเลขฐานละ 10 คา่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. จากโค๊ดดา้ นลา่ งจงเขยี นแสดงผลการทำงาน class IntergerType { public static void main(String arg[]) { System.out.println(10); System.out.println(010); System.out.println(0x10); } } เขียนเหตุผลการแสดงค่าของโค๊ดวา่ ได้ผลท่ีแสดงการทำงานเป็นเพาะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7. จากโค๊ดด้านล่างจงเขยี นแสดงผลการทำงาน class ConstantType { public static void main(String arg[]) { System.out.println(12345678901234); System.out.println(12345678901234L); } } เขียนเหตุผลการแสดงคา่ ของโค๊ดวา่ ได้ผลท่ีแสดงการทำงานเปน็ เพาะเหตุใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. จากโค๊ดด้านล่างจงเขยี นแสดงผลการทำงาน class FloatType { public static void main(String arg[]) { System.out.println(0.123456789); System.out.println(1.23456789e-1); System.out.println(1.23456789E-1); } } เขียนเหตุผลการแสดงค่าของโคด๊ วา่ ได้ผลที่แสดงการทำงานเปน็ เพาะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. จากโคด๊ ด้านล่างจงเขยี นแสดงผลการทำงาน class FloatDoubleType { public static void main(String arg[]) { float f = 3.145926535897896F; double d = 3.145926535897896D; System.out.println(f); System.out.println(d); } } เขียนเหตุผลการแสดงคา่ ของโค๊ดวา่ ได้ผลที่แสดงการทำงานเป็นเพาะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10. จากโคด๊ ด้านล่างจงเขียนแสดงผลการทำงาน class BooleanType { System.out.println(true); System.out.println(false); System.out.println( 1 < 10); System.out.println(10 <= 100); System.out.println(100 > 100); System.out.println(100 >= 100); System.out.println(‘A’ == ‘a’); System.out.println(‘A’ != ‘a’); } เขยี นเหตผุ ลการแสดงคา่ ของโค๊ดว่าได้ผลท่ีแสดงการทำงานเปน็ เพาะเหตใุ ด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3 ชื่อหน่วย ตัวแปรและตวั ดำเนนิ การ สอนครัง้ ที่ 3 - 4 ชอื่ เรื่อง ตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ ช่วั โมงรวม 6 จำนวนช่วั โมง 6 1. สาระสำคญั การเขียนโปรแกรมทกุ ภาษาคอมพวิ เตอร์ รวมท้ังภาษาจาวา ในการนำตัวโปรแกรมมาชว่ ยแก้ปัญหา งานหนึ่งๆ ตัวโปรแกรมจะทำงานต้องมีพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล และนำข้อมูลมาในการคำนวณค่าอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง ซึง่ ในการติดต่อกบั พ้ืนทข่ี องหน่วยความจำตวั โปรแกรมสามารถทำไดโ้ ดยผ่านองค์ประกอบที่เรียกว่า ตัวแปร และในการทำงานของโปรแกรมต้องมีการนำค่าข้อมูลในตัวแปรมาทำการคำนวณตามลักษณะต่างๆ ตามข้อกำหนดของผใู้ ชง้ านท่ีตอ้ งการใหโ้ ปรแกรมทำหน้าท่ีใด การคำนวณของโปรแกรมคอมพวิ เตอร์สามารถ ทำการคำนวณตามลักษณะของมนุษย์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยงั สามารถทำการคำนวณเฉพาะโปรแกรม คอมพิวเตอรท์ มี่ ีรูปแบบการคำนวณทแี่ ตกตา่ งจากมนษุ ย์ได้ดว้ ย 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย สร้างตัวแปรและตวั ดำเนินการ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 บอกความสำคัญของการกำหนดตัวแปรได้ 3.1.2 อธบิ ายชนดิ ของตัวแปรโปรแกรมภาษาจาวาได้ 3.1.3 อธิบายข้ันตอนการใช้ตวั ดำเนินการชนดิ ต่าง ๆ ได้ 3.2 ด้านทักษะ นักเรยี นมคี วามรู้ ทักษะพ้ืนฐานเกีย่ วกบั ตวั แปรและตัวดำเนนิ การและมีทัศนคติทดี่ ี 3.3 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ (อา้ งอิง จากคา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ และ สมรรถนะข้ามสายงาน) 3.3.1 เข้าเรียนตรงเวลา 3.3.2 แตง่ กายตามระเบยี บการปฏิบัติงาน 3.3.3 ผลงานประณีตเรียบร้อย 3.3.4 ปิดเครือ่ งคอมพิวเตอรเ์ มือ่ เลิกใชง้ าน 3.3.5 มีน้ำใจชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื และการปฏบิ ัตงิ านรว่ มกบั ผูอ้ ืน่ 4. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้ 4.1 ตวั แปรและตวั ดำเนนิ การ 4.2 พ้ืนฐานการเขยี นโปรแกรมภาษาจาวา 4.3 ส่วนประกอบของโปรแกรมภาษาจาวา 4.4 ตัวอย่างโปรแกรม

5. กิจกรรมการเรยี นการสอน ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล ข้อตกลงขณะเรยี น และใหน้ ักเรียนทำ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.1 ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน 5.1.1 ผ้สู อนจดั เตรยี มเอกสาร พร้อมกบั แนะนำรายวชิ า วธิ ีการให้คะแนนและวิธีการเรยี นเร่อื ง ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ 5.1.2 ผสู้ อนแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนของหน่วยที่ 3 และขอให้ผูเ้ รยี นรว่ มกันทำกจิ กรรมการ เรยี นการสอน 5.1.3 ผสู้ อนให้ผ้เู รียนแสดงความรู้ โดยตั้งคำถามวา่ ตัวแปรและตัวดำเนินการมหี ลกั การอยา่ งไร พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ 5.2 ข้ันสอน 5.2.1 ผูส้ อนทดสอบความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับความรู้เบ้อื งต้นเกยี่ วกบั ตวั แปรและตัวดำเนินการ โดยใหผ้ ูเ้ รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.2.2 ผสู้ อนอธิบายเน้ือหาเกี่ยวกับบทเรียนวิชา การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ ครือ่ งมือกราฟิกโหมด หน่วยที่ 3 เร่ือง ตัวแปรและตวั ดำเนนิ การและให้ผเู้ รยี นศึกษาเอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 3 5.2.3 ผ้สู อนและผเู้ รยี นร่วมกนั อธิบายพรอ้ มยกตวั อย่างถงึ ตัวแปรและตวั ดำเนนิ การตามที่ได้ ศกึ ษาจากบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอน 5.3 ข้นั ประกอบกจิ กรรมการเรยี น 5.3.1 ผู้สอนให้ผ้เู รียนทำแบบฝกึ หดั ทา้ ยหน่วยท่ี 3 5.3.2 ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นแบง่ กลุ่ม ๆ ละเทา่ ๆ กันทำการศกึ ษาเร่อื ง 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรียนรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พอื่ นชว่ ยเพื่อน ใหน้ ักเรียนกลุ่มเก่งและปานกลาง อยู่กับกลุ่มนกั เรียนท่ีเรียนออ่ น ช่วยกันทำความเข้าใจในเนือ้ หา 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใช้เครือ่ งมอื บนอินเทอร์เนต็ http://www.linoit.com สอบถามนกั เรียนว่า นกั เรยี นอยากได้หอ้ งเรียนอยา่ งไรเรียนแลว้ มีความสขุ แสดงความคิดเหน็ แต่ละคน เพ่อื เปน็ การกระตุ้นเตรียมความพร้อมในการเรยี น 5.5 ข้นั สรุป 5.5.1 ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกันสรุปเนอื้ หาทไ่ี ดเ้ รียนให้มคี วามเข้าใจในทิศทางเดียวกนั 5.5.2 ผสู้ อนให้ผเู้ รียนศกึ ษาเพมิ่ เติมนอกห้องเรยี น ด้วยบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนท่ีจดั ทำขน้ึ 5.6 ขน้ั ทดสอบหลงั เรียน นักเรียนทำใบกจิ กรรมที่ 2 และแบบทดสอบหลังเรียน 6. สอื่ การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สื่อส่งิ พิมพ์ 6.1.1 เอกสารประกอบการสอนวชิ าจาวาเดกส์ทอปเบอื้ งตน้ 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง ตวั แปรและตัวดำเนินการ 6.1.3 ใบกิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง ตัวแปรและตวั ดำเนินการ 6.1.4 แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง ตัวแปรและตัวดำเนินการ

6.2 ส่อื โสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เรือ่ ง ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ 6.2.2 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ บบพกพา (Notebook) 6.3 อนื่ ๆ (โปรดระบ)ุ

7. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วิชาอน่ื 7.1 การบูรณาการสะเตม็ ศกึ ษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • การคน้ หาขอ้ มูล • ใช้อนิ เทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีการค้นหาข้อมลู ใน 6 • คำนวณเวลาในการ คดั เลือกหรอื คัด ขอ้ มลู ขน้ั ตอน สืบค้นข้อมูล แยกข้อมลู ในสิง่ • ใช้เทคโนโลยี • การกำหนดหัวขอ้ ตา่ งๆทอ่ี ย่รู อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณา • การเลือกแหลง่ ข้อมลู เรา ผลติ ภัณฑ์อาหาร • การเตรียมอปุ กรณ์ • ใชเ้ ทคโนโลยีในการ • การคน้ หาและรวบรวม นำเสนอผลงาน ข้อมลู • การพจิ ารณา • การสรุปผล

8. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การจัดการเรยี นรู้ 8.1 ผสู้ อน ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสร้างภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องการใหผ้ ้เู รียนรเู้ รอื่ ง - เนอื้ หาสอดคล้องกับ ความหมายของคอมพวิ เตอร์ - สรุปเน้อื หาให้อา่ นเขา้ ใจ เน้อื หา สมรรถนะ ตัวช้ีวัด เหมาะสม องค์ประกอบ และสารสนเทศ ง่ายมีภาพประกอบเนือ้ หา - ตัวแปรและตัว กบั เวลาทีก่ ำหนดและวัย - เรียงเนือ้ หาตามลำดบั การ ดำเนินการ ของผู้เรียน - จัดการเรียนรไู้ ดค้ รบถ้วน เรยี นรู้ - กำหนดเวลาในแต่ละ ตามทีอ่ อกแบบไว้ - จัดการเรยี นรู้ได้ครบถว้ น เวลา กจิ กรรมเหมาะสมกับกิจกรรม ตามทอี่ อกแบบไว้ 3 ชว่ั โมง และวยั ของผู้เรียน - ตอ้ งการให้ผ้เู รยี นปฏิบัติ - กำหนดเวลาในแต่ละ กิจกรรมอยา่ งทั่วถงึ ตาม กิจกรรมไว้เกนิ จรงิ เล็กนอ้ ย การจัดกิจกรรม - แบ่งกลุ่มผู้เรยี นให้พอดกี ับ ความสามารถ เพือ่ รองรับการเปลี่ยนแปลง จำนวนนักเรยี น - เพอ่ื ต้องการใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการ ทอี่ าจเกดิ ระหว่างจดั - กำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรียนรู้ตามเปา้ หมายที่กำหนด กิจกรรม เหมาะสมกบั เวลาท่กี ำหนด - ผเู้ รยี นนำความรไู้ ป - แบ่งกลุม่ คละ - มอบหมายภาระงานและ ประยุกตใ์ ช้กับภาระงานได้ ความสามารถของนักเรียน ชนิ้ งานเหมาะสมกับ - รับฟงั ความคดิ เห็น และ - เตรียมชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม ความสามารถผู้เรยี นและ วเิ คราะห์ วจิ ารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล ตามลำดับกจิ กรรมการเรียน สอดคลอ้ งกบั เป้าหมายการ - สังเกตพฤตกิ รรมและให้ เรียนรู้ ความช่วยเหลอื เมื่อนกั เรยี น มปี ญั หา - ฝึกการคน้ ควา้ หาความรู้ จากเพ่ือน และระบบ อินเทอร์เน็ต เพอ่ื แก้ปญั หาในแบบฝกึ ปฏิบัติ และใบงาน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภูมิคุ้มกนั ในตัว ประเด็น - ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลุม่ ผู้เรยี นให้พอดกี บั กิจกรรมอยา่ งทว่ั ถงึ ตาม - แบ่งกลุ่มคละ จำนวนนักเรียน ความสามารถ ความสามารถของนักเรยี น ส่ือ/อปุ กรณ์ - กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ - เพอ่ื ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนเกิดการ - เตรยี มชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม เหมาะสมกับเวลาท่ีกำหนด เรียนรู้ตามเป้าหมายท่ีกำหนด ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน แหลง่ เรยี นรู้/ - มอบหมายภาระงานและ - ผูเ้ รียนนำความรไู้ ป - สงั เกตพฤตกิ รรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ชน้ิ งานเหมาะสมกับ ประยุกตใ์ ช้กับภาระงานได้ ความชว่ ยเหลอื เมอื่ นักเรยี น ความสามารถผเู้ รยี นและ - รบั ฟังความคิดเห็น และ มีปัญหา สอดคลอ้ งกับเปา้ หมายการ วิเคราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตุผล - ฝกึ การค้นควา้ หาความรู้ เรยี นรู้ จากเพอื่ น และระบบ - ต้องการให้นักเรียนได้ปฏบิ ัติ อนิ เทอร์เน็ต - จำนวนใบความรู้ ใบงาน กจิ กรรมได้จริงตามจดุ ประสงค์ เพื่อแกป้ ัญหาในแบบฝึก และวัสดอุ ุปกรณ์ เหมาะสม การเรยี นร้ทู ี่กำหนดไว้ ปฏิบัติ และใบงาน กับกิจกรรม และปริมาณ - เตรยี มสือ่ อปุ กรณใ์ หพ้ รอ้ ม เพียงพอกบั จำนวนนกั เรยี น - ตอ้ งการใหน้ กั เรยี นใชว้ สั ดุ ก่อนการจดั กจิ กรรม -ตรวจความพร้อมของเคร่ือง อุปกรณท์ ีม่ คี วามพร้อมใน - มลี ำดบั ข้นั ตอนการใช้ส่ือ คอมพวิ เตอรก์ อ่ นเรยี น และ ห้องปฏิบัติการ มาปฏิบัติการ และจดั เก็บอยา่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตามตัวชว้ี ัด - มีความชำนาญในการใช้ -เกบ็ เก้าอีน้ ่ังให้เรียบรอ้ ยหลัง สื่ออปุ กรณ์ เลิกเรยี น เพ่ือความเรยี บรอ้ ย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร - ห้องปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอรใ์ ห้พร้อมกอ่ น เหมาะสมกบั กจิ กรรมที่ การทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสร้างภูมิคมุ้ กนั ในตัว ประเด็น - จัดทำแบบประเมนิ ผลงาน - ต้องการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ - วางแผนการวดั / การประเมนิ ผล และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมาะสมกบั เป้าหมายการ เรยี นรู้ ตามเปา้ หมายท่ีกำหนด ประเมนิ ผลตามขั้นตอนของ กจิ กรรม - แบบประเมินผลมกี าร ตรวจสอบความเท่ียงตรงใน การวดั ตามตัวช้ีวัด เง่ือนไขความรูท้ ่คี รูตอ้ งมกี อ่ นสอน 3. หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความหมายคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ 4. จิตวิทยาในการสอน 2. การใช้คอมพิวเตอร์ 3. มีความยุติธรรม เง่ือนไขคุณธรรมของครู 4. ตรงตอ่ เวลา 1. มคี วามรกั เมตตาศิษย์ 2. มคี วามรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยา่ งพอเพียงที่เกิดกับผู้เรยี น พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู ิคุ้มกนั ในตัวทด่ี ี 1. นักเรียนกำหนดหนา้ ทข่ี องสมาชิก 1. นักเรียนนำขอ้ มลู การหา 1. วางแผนการทำงานกลุ่มอยา่ ง ภายในกลุ่มได้เหมาะสมกบั ศักยภาพของ คำตอบมาวิเคราะหไ์ ดอ้ ย่าง ละเอียดเปน็ ข้นั ตอน แตล่ ะคน เป็นเหตเุ ป็นผลเพอ่ื อธิบาย 2. เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์การทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ในการทดลอง สรุปเนือ้ หาสาระ ครบถ้วน และตรงตามกิจกรรมการ ไดเ้ หมาะสมกบั กิจกรรมการทดของ 2. นกั เรียนสามารถนำขอ้ มลู ทดลอง 3. นกั เรียนสามารถหาคำตอบได้ มาตอบคำถามไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. ศกึ ษาวิธีการทำใบงานอยา่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณ์ทมี่ ี รอบคอบ เงอ่ื นไขความรู้ 1. ตวั แปรและตัวดำเนนิ การ 2. หลักการพัฒนาการเขยี นโปรแกรม เงอ่ื นไขคณุ ธรรม 1. ความสามัคคีในกลมุ่ 2. ความรับผิดชอบ 3. แบง่ ปันและเอือ้ เฟ้ือเผื่อแผ่

สง่ ผลต่อความสมดุล มนั่ คง ย่ังยนื ใน 4 มิติ ดังนี้ ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม - มคี วามรู้เกย่ี วกับ ความรู้ - ความรู้ในการสืบคน้ - มีความรู้ในการจดั แบ่ง - มีความรู้ในการดแู ล คอมพวิ เตอรใ์ นการ ประยุกตใ์ ช้ใน ข้อมูลจากคอมพวิ เตอร์ หน้าท่ภี ายในกลุ่มไดอ้ ยา่ ง รกั ษาความสะอาดการ กจิ กรรมในท้องถิ่น อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม จัดการขยะอย่าง ใชเ้ ทคโนโลยใี น ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีความร้ใู นการปฏิบตั ิตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่า ท่ีจะทำงานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน หอ้ งปฏบิ ัติการ ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มีทกั ษะในการใชว้ สั ดุ - ทำงานรว่ มกันภายใน - รกั ษาความสะอาด อุปกรณอ์ ยา่ งปลอดภยั กลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ของห้องปฏบิ ตั ิการ และประหยัด จนสำเร็จและมีความสุข คอมพิวเตอรใ์ นการ สืบคน้ ขอ้ มูล ค่านิยม - เห็นความสำคญั ของการ - มีความรับผดิ ชอบตอ่ การ - มจี ิตสำนกึ ในการ ใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นการ ทำงานของกล่มุ รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม สบื คน้ ขอ้ มลู อย่างประหยัด - ยอมรับความคิดเหน็ ซงึ่ ของหอ้ งปฏิบัติการ คมุ้ ค่า กันและกนั มคี วามเสยี สละ คอมพวิ เตอร์ใหส้ ะอาด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมิน วิธีการ เครื่องมอื ท่ีใช้ เกณฑ์การประเมินผา่ น - การทดสอบกอ่ นเรยี น การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ขอ้ ได้ระดบั 2 ข้นึ ไป การประเมนิ ระหว่างเรียน การสงั เกต แบบประเมินพฤตกิ รรม ตอบคำถามทุกขอ้ การซักถาม การเรยี น ไดร้ ะดับ 2 ขน้ึ ไป การทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ต้งั คำถามให้ครอบคลมุ จุดประสงค์ ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป การประเมนิ หลังเรียน การทดสอบ แบบฝึกหัดและใบ กจิ กรรมที่ 2 แบบทดสอบหลังเรยี น จำนวน 10 ข้อ

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หาสอดคล้องกบั จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 10.1.2 สามารถนำไปใช้ปฏิบัติการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน 10.1.3 เวลาที่กำหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสม 10.2 ผลการเรียนรขู้ องนักเรียน นกั ศึกษา 10.2.1 นักศกึ ษาส่วนใหญม่ คี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรยี น อภิปรายตอบคำถามในกลมุ่ และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 10.2.2 นักศึกษากระตือรอื ร้นและรับผิดชอบในการทำงานกลมุ่ เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ทนั เวลาท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษาเลือกสามารถนำความรไู้ ปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถนำความร้ทู ี่ไดจ้ ากการเรยี นรูใ้ นหนว่ ยนไ้ี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook