โครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นยูงทองพิทยาคม กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย พทุ ธศักราช 2560 สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 20 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนยูงทองพทิ ยาคม กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทยโรงเรยี นยูงทองพทิ ยาคม ได้จัดทำหลกั สูตรสถานศึกษา พทุ ธศักราช 2560 โดยยดึ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 เปน็ หลกั อีกทงั้ คำนงึ ถงึ วสิ ยั ทัศน์ การจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ตลอดจนความตอ้ งการของผู้เรยี นและชมุ ชนเพื่อเปน็ แนวทางในการจัดกระบวนการเรยี นร้ทู ่ีมีประสทิ ธภิ าพ สรรคส์ รา้ งผู้เรยี นให้เปน็ คนดีมีความรคู้ วามสามารถ รักและภาคภูมิใจในความเป็นไทย มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข การจัดทำหลักสูตรสถานศกึ ษาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำเรจ็ ไดด้ ้วยความรว่ มมอื รว่ มใจและ คำแนะนำจากบุคคลท่มี ีรายนาม ดงั น้ี 1. นายสมาน ประวันโต ผู้อำนวยการโรงเรยี นยูงทองพิทยาคม 2. นายบรรพต โสภากุล รองผอู้ ำนวยการ 3. นายกอ้ งตะวัน โสภณิ รองผอู้ ำนวยการ 4. นายพงษ์พนั ธ์ มาลาอ่อน หวั หน้าฝ่ายบรหิ ารวิชาการ 5. นางชยานันท์ ภหู ้องเพชร หวั หน้างานหลักสตู รสถานศกึ ษา 6. นางสาวนารี ขนุ พรม ครู 7. นางชลธชิ า สรอ้ ยธนู ครู 8. นายจณิ ภพ ศรีชัย ครผู ู้ชว่ ย 9. นางสาวพชิ ญาพร ธาตุมี พนักงานราชการ ขอขอบคุณคณะครโู รงเรยี นยูงทองพทิ ยาคมทุกทา่ น ท่ีได้ใหค้ ำแนะนำในการจดั ทำหลกั สูตร สถานศกึ ษาโรงเรยี นยงู ทองพิทยาคม พุทธศกั ราช 2560 ครง้ั น้ี (นางสาวนารี ขุนพรม) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
สารบญั หนา้ คำนำ................................................................................................................ ก สารบัญ............................................................................................................ ข วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ เปา้ ประสงค์โรงเรียนยูงทองพิทยาคม.............................................. 1 วิสัยทศั นห์ ลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ..................... 2 หลักการ จุดมุ่งหมาย หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ....... 3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ............................................................................................ 4 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นยงู ทองพทิ ยาคมระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ............... แผนการเรียนร้ทู ่ี 1 แผนวิทยาศาสตร์-คณติ ศาสตร์................................................................... โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนยงู ทองพิทยาคมระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ............ แผนการเรยี นร้ทู ่ี 2 แผนศลิ ป์-ภาษา ........................................................................................ โครงสร้างกลมุ่ สาระ ................................................................................................................. คุณภาพของผู้เรียน .................................................................................................................... ตัวชีว้ ดั หลักสูตรแกนกลาง ....................................................................................................... คำอธิบายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ..........................................................................
วสิ ยั ทัศน์ “ภายในปี 2561 เปน็ สถานศึกษาคุณภาพ บนวถิ คี วามเป็นไทย กา้ วไกลสสู่ ากล” ภายใต้แนวคดิ ใน การพฒั นาในกรอบระยะเวลา 4 ปี ดงั น้ี “เปน็ สถานศึกษาที่ประสบผลสำเร็จอยา่ งต่อเน่ือง มีผลงานโดดเดน่ เป็นท่ียอมรบั มีความสามารถใน การสรา้ งมาตรฐานการทำงานทเ่ี ปน็ เลิศ บนพื้นฐานขององค์กรแหง่ การเรียนร้พู ร้อมก้าวสูป่ ระชาคมอาเซยี น และประชาคมโลก บนพน้ื ฐานของความเป็นไทยทีง่ ดงาม พนั ธกจิ 1. พฒั นารูปแบบการบรหิ ารดว้ ยระบบคณุ ภาพตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 พฒั นาผเู้ รียนให้มีระเบียบวินัย ใฝเ่ รียนรู้ เชิดชูคุณธรรม มีความเป็นจติ อาสา 3. พัฒนาผู้เรยี นเตม็ ศกั ยภาพตามมาตรฐานสากล ใชเ้ ทคโนโลยีอย่างมีจติ สำนึก 4. พัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาให้มีมาตรฐานคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานวชิ าชพี 5. ส่งเสรมิ การมีสว่ นร่วมของผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสีย 6. ส่งเสริมความเป็นไทย การอนุรกั ษ์ทรัพยากร สิ่งแวดล้อมและสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ 7. สง่ เสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ เปา้ หมาย ผ้เู รียนทุกคนไดร้ ับการพัฒนาอยา่ งเต็มศกั ยภาพท้ังด้านคุณธรรม วิชาการตามมาตรฐานสากล มีความ เป็นไทย มีจิตสำนึกในการอนุรักษท์ รัพยากร ส่ิงแวดลอ้ ม สามารถอยู่ในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ภายใต้การ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข ดังน้ี 1. นกั เรยี นในเขตพนื้ ท่บี รกิ ารไดร้ ับโอกาสทางการศกึ ษาอยา่ งทั่วถงึ มีคุณภาพและเสมอภาค 2. นักเรียนไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาและพฒั นาสู่ความเป็นเลิศ 3. นักเรยี นได้รับการพฒั นาด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รและมีค่านยิ ม 12 ประการ 4. บคุ ลากรในสถานศึกษามีทักษะที่เหมาะสม มีวัฒนธรรมการทำงานทีม่ ุ่งเนน้ ผลสัมฤทธ์ิ 5. สถานศึกษามปี ระสิทธภิ าพเป็นกลไกที่ขับเคลื่อนการศึกษาสสู่ ากล 6. สถานศกึ ษาบริหารแบบมีสว่ นรว่ ม มีความรับผิดชอบต่อคุณภาพการศึกษา อัตลกั ษณ์ จรรยาดี วิถีพอเพียง เอกลักษณ์ บรรยากาศดี กีฬาเดน่ เน้นเทคโนโลยี มคี ุณธรรม นำความรู้ วสิ ยั ทัศน์หลักสูตรแกนกลาง 2551 หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานมงุ่ พัฒนาผู้เรยี นทุกคนให้เป็นมนษุ ย์ทีม่ ีความสมดลุ ทงั้ ดา้ นร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มจี ิตสำนกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดม่ันในการปกครองตามระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมขุ มคี วามรู้และทกั ษะพื้นฐาน รวมท้ังเจตคติที่จำเปน็ ตอ่ การศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี และการศกึ ษาตลอดชีวิต โดยมงุ่ เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั บนพนื้ ฐานความเช่ือที่ว่า ทุกคนสามารถ เรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ
วิสยั ทัศน์หลกั สูตรแกนกลาง 2551 - พฒั นาผ้เู รยี น - สมดลุ ด้านรา่ งกาย ความรู้ คณุ ธรรม - จติ สำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเปน็ พลเมอื งโลก - ยดึ ม่นั ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข มีความรู้+ทักษะพืน้ ฐาน+ เจตคติ พร้อมสำหรบั การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ การศกึ ษาตลอดชีวิต หลักการ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 มีหลักการทส่ี ำคัญ ดังนี้ 1. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาเพอ่ื ความเปน็ เอกภาพของชาติมจี ุดมุ่งหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชนใหม้ ีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคณุ ธรรมพ้นื ฐานของความเป็นไทย ควบคกู่ ับความเป็นสากล 2. เป็นหลักสตู รการศึกษาเพ่ือปวงชน ทป่ี ระชาชนทกุ คนมโี อกาสได้รบั การศึกษาอยา่ งเสมอภาค และมี คณุ ภาพ 3. เป็นหลกั สูตรการศึกษาทสี่ นองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีสว่ นรว่ ม ในการจัดการ ศกึ ษาให้ สอดคลอ้ งกับความต้องการของท้องถ่ิน 4. เป็นหลักสูตรทม่ี ีโครงสรา้ งยืดหยุ่นทง้ั ดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลา และการจดั การเรยี นรู้ 5. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคญั 6. เปน็ หลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศยั ครอบคลุมทุก กล่มุ เปา้ หมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์ จุดหมาย หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศกั ยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จงึ กำหนดเปน็ จุดหมายเพ่ือใหเ้ กิดกบั ผู้เรียน เมื่อ จบการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ดังนี้
1. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่ีพึงประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบัตติ นตาม หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนบั ถือ ยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสือ่ สาร การคิด การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชวี ติ 3. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ทดี่ ี มสี ขุ นสิ ัย และรักการออกกำลงั กาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในวถิ ีชีวิตและ การปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ 5. มจี ติ สำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย การอนุรักษ์และพฒั นาสงิ่ แวดล้อม มีจิตสาธารณะ ที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสง่ิ ทีด่ ีงามในสงั คม และอย่รู ว่ มกันในสงั คม และอยู่ร่วมกนั ในสงั คม อยา่ งมีความสุข สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั พืน้ ฐานมงุ่ พฒั นาผู้เรยี นให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซ่ึงการ พัฒนาผูเ้ รยี นให้บรรลุมาตรฐานการเรยี นร้ทู ี่กำหนดน้นั จะชว่ ยใหผ้ ู้เรียนเกดิ สมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังน้ี 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร เปน็ ความสามารถในการรับและสง่ สาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรูส้ ึก และทัศนะของตนเอง เพ่ือแลก เปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลด ปัญหาความขดั แย้งต่าง ๆ การเลอื กรบั หรอื ไมร่ ับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจน เลอื กใชว้ ิธกี ารสอ่ื สารท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบทีม่ ตี ่อตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบเพอื่ นำไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรูห้ รือสารสนเทศ เพือ่ การตัดสินใจเกย่ี วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่างๆ ท่เี ผชิญได้ อยา่ งถูกต้องเหมาะสมนบพ้นื ฐานของหลกั สูตรคุณธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์และการ เปลีย่ นแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใชใ้ นการป้องกันและแก้ไข ปัญหา และมีการตดั สินใจท่ีมปี ระสิทธภิ าพโดยคำนึงผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ต่อตนเอง สงั คมและส่งิ แวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เปน็ ความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนินชีวิต ประจำวนั การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรูอ้ ย่างตอ่ เน่ือง การทำงานและการอย่รู ว่ มกนั ในสงั คม ด้วยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพันธอ์ นั ดรี ะหว่างบคุ คล การจัดปญั หาและความขดั แย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรบั ตัวให้ทันกับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการร้จู ักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึง ประสงคท์ สี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผูอ้ ่นื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรู้ การสอื่ สารการ ทำงาน การแก้ ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้ สามารถอย่รู ว่ มกับผ้อู ื่นในสังคมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มงุ่ มั่นในการทำงาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 การอา่ น ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการ มาตรฐาน ท 1.1 ดำเนนิ ชวี ติ และมนี ิสัยรักการอ่าน สาระท่ี 2 การเขยี น ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราว มาตรฐาน ท 2.1 ในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู ข่าวสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า อยา่ มีประสทิ ธภิ าพ สารที่ 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรสู้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณ และสรา้ งสรรค์ สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษา ภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ สารที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่าและนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ
โครงสรา้ งเวลาเรียนของหลักสตู รโรงเรียนยูงทองพิทยาคม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ เวลาเรียน /กิจกรรม ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย • กลุม่ สาระการเรียนรู้ ม.1 ม.2 ม.3 ม. 4 - 6 ม. 4 - 6 ม. 4 - 6 ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทย์ - คณิต ศลิ ป์-ภาษา การงานฯ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) - ประวตั ิศาสตร์ - ศาสนาศีลธรรมและจริยธรรม 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) - ภูมิศาสตร์ - เศรษฐศาสตร์ 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ 160 (4 นก.) 160 (4 นก.) 160 (4 นก.) 320 (8 นก.) 320 (8 นก.) 320 (8 นก.) การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศ 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 40 (1 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) รวมเวลาเรยี น (พ้นื ฐาน) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) • รายวชิ าเพม่ิ เตมิ 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) • กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) -กิจกรรมแนะแนว 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 80 (2 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) - กิจกรรมนกั เรยี น 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 120 (3 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) 240 (6 นก.) - ลกู เสอื ยุวกาชาดฯ 880 880 880 1,640 1,640 1,640 - ชุมนุม (41นก.) (41นก.) (41นก.) - จิตสาธารณะ (22 นก.) (22นก.) (22นก.) 2,140 2,040 2,080 - กจิ กรรมเพื่อสงั คมและ 200 200 200 (53.5นก.) (51นก.) (52นก.) สาธารณประโยชน์ (5 นก.) (5 นก.) (5 นก.) ชว่ั โมง ชัว่ โมง ชวั่ โมง รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ชั่วโมง ช่ัวโมง ช่ัวโมง รวมเวลาเรียนท้งั หมด 40 40 40 120 120 120 40 40 40 20 20 20 120 120 120 20 20 20 80 80 80 40 40 40 120 120 120 360 360 360 1,200 ช่ัวโมง 1,200ชัว่ โมง 1,240ช่วั โมง 4,380ชั่วโมง 4,040ชั่วโมง 4,080 ช่ัวโมง หมายเหตุ กิจกรรมจติ สาธารณะ ชน้ั ม.1-3 ใช้เวลาเรยี นตามปกติทโี่ รงเรยี นกำหนด กจิ กรรมจิตสาธารณะ ชน้ั ม.4-6 ใชเ้ วลาในวันหยดุ บรหิ ารจดั การ โดยให้ครทู ่ปี รึกษามสี ่วนรว่ ม
แผนการเรียนระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น โรงเรยี นยูงทองพิทยาคม อำเภอนายงู จงั หวดั อุดรธานี รายวชิ า ชั้น ม.1 จำนวนชัว่ โมง / สัปดาห์ ชนั้ ม.3 ภาคเรยี น ภาคเรียน ชั้น ม.2 ภาคเรียน ภาคเรียน สาระพ้นื ฐาน 1. ภาษาไทย ที่ 1 ท่ี 2 ภาคเรียน ภาคเรยี น ท่ี 1 ท่ี 2 2. คณติ ศาสตร์ (440) (440) ที่ 1 ท่ี 2 (440) (440) 3. วิทยาศาสตร์ 60 60 (440) (440) 60 60 4. สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 60 60 60 60 60 60 5. ประวตั ศิ าสตร์ 60 60 60 60 60 60 6. สุขศึกษา 60 60 60 60 60 60 7. พลศกึ ษา 20 20 60 60 20 20 8. ศลิ ปะ 20 20 20 20 20 20 9. การงานอาชพี และเทคโนโลยี 20 20 20 20 20 20 10. ภาษาองั กฤษ 40 40 20 20 40 40 40 40 40 40 40 40 60 60 40 40 60 60 60 60 สาระเพ่มิ เตมิ (100) (100) (100) (100) (100) (100) เลอื กเสรกี ลมุ่ 1 40 40 40 40 40 40 เลือกเสรีกลมุ่ 2 60 60 60 60 60 60 (60) (60) (60) (60) (100) (60) กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน 20 20 20 20 20 20 กจิ กรรมแนะแนว 10 10 10 10 10 10 กิจกรรมชมุ นมุ 10 10 10 10 10 10 กิจกรรมจติ สาธารณะ 20 20 20 20 20 20 กิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผูบ้ ำเพ็ญฯ -- -- 40 - กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์(IS3) 600 600 600 600 600 600 รวมเวลาเรยี น / ภาคเรยี น 1,200 1,200 1,200 รวมเวลาเรยี นท้งั หมด / ปี
แผนการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนยูงทองพิทยาคม อำเภอนายงู จังหวัดอุดรธานี แผนการเรียนท่ี 1 วิทยาศาสตร์ - คณติ ศาสตร์ จำนวนช่ัวโมง / สปั ดาห์ รายวิชา ชน้ั ม.4 ช้นั ม.5 ช้ัน ม.6 ภาคเรียนท1ี่ ภาคเรียนที่2 ภาคเรียนท1่ี ภาคเรยี นที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 สาระพน้ื ฐาน (400) (240) (240) (240) (220) (300) 1. ภาษาไทย 40 40 40 40 40 40 2. คณติ ศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 3. วิทยาศาสตร์ 160 - - - - - -ฟสิ กิ ส์ - - - - - 80 -เคมี - 60 - - - - - -ชีววทิ ยา - 60 - - - - - -โลกและดาราศาสตร์ - 40 - - - - - 4. สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 40 40 40 40 40 5. ประวตั ิศาสตร์ 20 20 20 20 - - 6.สขุ ศึกษา 20 20 20 20 20 20 7. ศลิ ปะ 20 20 20 20 20 20 8. การงานอาชีพและเทคโนโลยี 20 20 20 20 20 20 9. ภาษาองั กฤษ 40 40 40 40 40 40 สาระเพิ่มเตมิ (240) (400) (420) (400) (380) (300) 1.ฟสิ ิกส์ 80 80 80 80 80 - 2.เคมี - 60 60 60 60 60 3.ชวี วิทยา - 60 60 60 60 60 4.คณิตศาสตร์ 60 60 60 60 60 60 5.ภาษาองั กฤษ 40 40 40 40 40 40 6.อาเซียนศกึ ษา - - 20 20 - - 8.พลศึกษา 20 20 20 20 20 20 9.คอมพวิ เตอร์ 40 40 40 40 40 40 10.หน้าที่พลเมือง - - 20 - 20 20 11.โครงงานวิทยาศาสตร์ - - - - - 40 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน (60) (60) (60) (40) (60) (60) กิจกรรมแนะแนว 20 20 20 20 20 20 กิจกรรมชมุ นมุ 20 20 20 20 20 20 กิจกรรมจิตสาธารณะ 20 20 - - 20 20 กจิ กรรมสาธารณประโยชน์ - - 20 20 - - รวมเวลาเรยี น / ภาคเรยี น 700 700 700 700 660 660 รวมเวลาเรียนท้งั หมด / ปี 1,400 1,400 1,320 หมายเหตุ กิจกรรมจิตสาธารณะ ช้นั ม.4-6 ใชเ้ วลาในวนั หยดุ บริหารจดั การ โดยใหค้ รูที่ปรึกษามีส่วนร่วม
แผนการเรียนระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย โรงเรียนยูงทองพิทยาคม อำเภอนายูง จงั หวัดอดุ รธานี แผนการเรียนที่ 2 ศิลป-์ ภาษา จำนวนชว่ั โมง / สัปดาห์ รายวิชา ช้นั ม.4 ชัน้ ม.5 ชน้ั ม.6 ภาคเรยี นท1ี่ ภาคเรยี นท2ี่ ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรียนท่ี ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 2 สาระพนื้ ฐาน (280) (300) (320) (300) (220) (220) 1.ภาษาไทย 40 40 40 40 40 40 2.คณติ ศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 3.วทิ ยาศาสตร์ 40 60 80 60 - - 4.สงั คมศกึ ษา ศาสนาและ 40 40 40 40 40 40 วัฒนธรรม 5.ประวัตศิ าสตร์ 20 20 20 20 - - 6.สุขศกึ ษา 20 20 20 20 20 20 7.ศิลปะ 20 20 20 20 20 20 7.การงานอาชพี และเทคโนโลยี 20 20 20 20 20 20 8.ภาษาองั กฤษ 40 40 40 40 40 40 สาระเพมิ่ เติม (340) (340) (340) (340) (360) (320) 1.IS 40 40 - - - - 2.ภาษาไทย 40 40 40 40 40 40 3.สังคมศึกษา 40 40 40 40 40 40 4.พลศึกษา 20 20 20 20 20 20 5.ศิลปะ 40 40 40 40 40 40 6.การงาน 40 - - 40 - 80 7.คอมพิวเตอร์ - 40 40 - 40 - 8.ภาษาองั กฤษเพิ่มเติม 1 40 40 40 40 40 40 9.ภาษาอังกฤษเพมิ่ เติม 2 40 40 40 40 40 40 10.อาเซยี นศกึ ษา - - 20 20 - - 11.ภาษาจนี 40 40 40 40 40 40 12.หน้าท่พี ลเมือง - - 20 20 20 20 13.โครงงานวิทยาศาสตร์ - - - - 40 - กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น (60) (60) (80) (40) (60) (60) กิจกรรมแนะแนว 20 20 20 20 20 20 กจิ กรรมชมุ นมุ 20 20 20 20 20 20 กจิ กรรมจิตสาธารณะ 20 20 - - 20 20 กจิ กรรมเพื่อสงั คมและ - - 40 - - - สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี น / ภาคเรียน 680 700 700 700 640 640 รวมเวลาเรยี นท้งั หมด / ปี 1,380 1,400 1,280 หมายเหตุ กิจกรรมจติ สาธารณะ ชนั้ ม.4-6 ใชเ้ วลาในวนั หยดุ บรหิ ารจดั การ โดยใหค้ รทู ป่ี รกึ ษามีสว่ นรว่ ม
โครงสรา้ งหลักสตู ร กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ รหสั วชิ า ช่ือวิชา จำนวนชัว่ โมง จำนวนช่วั โมง จำนวน ตอ่ สัปดาห์ ตอ่ ภาคเรยี น หนว่ ยกติ พน้ื ฐาน ม. 1 ท21101 ภาษาไทย 3 60 1.5 ท21102 ภาษาไทย 3 60 1.5 ม. 2 ท22101 ภาษาไทย 3 60 1.5 ท22102 ภาษาไทย 3 60 1.5 ม. 3 ท23101 ภาษาไทย 3 60 1.5 ท23102 ภาษาไทย 3 60 1.5 เพิ่มเติม ม. 2 I 22201 การศึกษาคน้ คว้าและสรา้ งองค์ความรู้ 1 1 20 0.5 I 22202 การสื่อสารและการนำเสนอ 1 20 0.5 พน้ื ฐาน ม. 4 ท31101 ภาษาไทย 2 40 1 ท31102 ภาษาไทย 2 40 1 ม. 5 ท32101 ภาษาไทย 2 40 1 ท32102 ภาษาไทย 2 40 1 ม. 6 ท33101 ภาษาไทย 2 40 1 ท33102 ภาษาไทย 2 40 1 เพ่ิมเตมิ ม. 4-6 ท30201 วรรณกรรมท้องถิน่ 2 40 1 ท30202 วรรณกรรมปัจจบุ ัน 2 40 1 I 31201 การศกึ ษาค้นคว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้ 2 40 1 I 31202 การสอื่ สารและการนำเสนอ 2 40 1 ท30203 การเขยี น 1 2 40 1 ท30204 การเขยี น 2 2 40 1 ท30205 ภาษาไทยเพื่อพฒั นาการคดิ 2 40 1 ท30206 การพูด 2 40 1
คุณภาพผเู้ รียน จบช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 • อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง เข้าใจความหมายโดยตรง และความหมายโดยนัย จบั ใจความสำคัญและรายละเอียดของสง่ิ ท่อี า่ น แสดงความคิดเหน็ และข้อโต้แยง้ เก่ยี วกบั เรอื่ งทีอ่ ่าน และเขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคดิ ย่อความ เขียนรายงานจาก ส่งิ ที่อา่ นได้ วเิ คราะห์ วิจารณ์ อย่างมีเหตผุ ล ลำดบั ความอย่างมีข้นั ตอนและความเป็นไปได้ของเร่ืองที่อา่ น รวมทั้ง ประเมินความถกู ตอ้ งของข้อมูลที่ใช้สนบั สนุนจากเรือ่ งที่อา่ น • เขยี นสื่อสารด้วยลายมอื ทีอ่ ่านงา่ ยชัดเจน ใชถ้ อ้ ยคำได้ถูกต้องเหมาะสมตามระดับภาษาเขยี นคำ ขวญั คำคม คำอวยพรในโอกาสตา่ งๆ โฆษณา คติพจน์ สุนทรพจน์ ชีวประวตั ิ อตั ชวี ประวตั ิและประสบการณ์ ต่างๆ เขียนย่อความ จดหมายกจิ ธรุ ะ แบบกรอกสมัครงาน เขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรคู้ วามคิด หรือโตแ้ ยง้ อย่างมเี หตผุ ล ตลอดจนเขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และเขยี นโครงงาน • พูดแสดงความคดิ เห็น วิเคราะห์ วจิ ารณ์ ประเมินส่งิ ท่ีได้จากการฟงั และดู นำข้อคดิ ไปประยุกตใ์ ช้ ในชวี ติ ประจำวนั พูดรายงานเรอื่ งหรือประเดน็ ท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ มีศลิ ปะในการพูด พูดใน โอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ และพดู โน้มน้าวอย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือ รวมทัง้ มีมารยาทในการฟงั ดู และ พูด • เข้าใจและใช้คำราชาศัพท์ คำบาลีสนั สกฤต คำภาษาต่างประเทศอื่นๆ คำทับศัพท์ และศัพท์ บญั ญัตใิ นภาษาไทย วิเคราะห์ความแตกต่างในภาษาพูด ภาษาเขียน โครงสร้างของประโยครวม ประโยคซ้อน ลักษณะภาษาที่เป็นทางการ ก่ึงทางการและไม่เป็นทางการ และแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ กาพย์ และ โคลงสส่ี ุภาพ • สรุปเน้ือหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอ่าน วิเคราะห์ตัวละครสำคัญ วถิ ีชีวติ ไทย และคุณคา่ ท่ไี ดร้ บั จากวรรณคดีวรรณกรรมและบทอาขยาน พร้อมท้ังสรุปความรูข้ อ้ คดิ เพ่อื นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง
จบชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 • อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถกู ต้องและเข้าใจ ตีความ แปล ความ และขยายความเรื่องท่ีอ่านได้ วเิ คราะห์วิจารณเ์ ร่ืองท่อี า่ น แสดงความคดิ เหน็ โต้แย้งและเสนอ ความคิดใหม่จากการอ่านอย่างมเี หตุผล คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอา่ น เขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคดิ บนั ทกึ ยอ่ ความ และเขียนรายงานจากสง่ิ ที่อา่ น สังเคราะห์ ประเมินค่า และนำความรู้ความคิดจากการอา่ น มาพฒั นาตน พัฒนาการเรียน และพฒั นาความรู้ทางอาชีพ และ นำความรู้ความคิดไปประยกุ ต์ใช้แก้ปญั หา ในการดำเนนิ ชวี ติ มมี ารยาทและมนี ิสัยรักการอ่าน • เขียนสือ่ สารในรปู แบบตา่ งๆ โดยใชภ้ าษาไดถ้ ูกต้องตรงตามวตั ถุประสงค์ ย่อความจากสื่อที่มี รูปแบบและเนื้อหาที่หลากหลาย เรยี งความแสดงแนวคิดเชิงสรา้ งสรรค์โดยใชโ้ วหารต่างๆ เขียนบันทกึ รายงานการศึกษาคน้ ควา้ ตามหลักการเขยี นทางวชิ าการ ใช้ข้อมูลสารสนเทศในการอา้ งอิง ผลิตผลงานของ ตนเองในรปู แบบตา่ งๆ ท้ังสารคดแี ละบนั เทิงคดี รวมท้งั ประเมนิ งานเขยี นของผอู้ ่นื และนำมาพฒั นางาน เขียนของตนเอง • ตงั้ คำถามและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับเร่ืองท่ีฟังและดู มีวิจารณญาณในการเลือกเรือ่ งที่ฟังและ ดู วเิ คราะห์วัตถุประสงค์ แนวคดิ การใช้ภาษา ความน่าเช่ือถอื ของเร่ืองท่ฟี ังและดู ประเมินสิ่งที่ฟงั และดู แล้วนำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ มที ักษะการพดู ในโอกาสต่างๆ ทงั้ ทเ่ี ป็นทางการและไม่เปน็ ทางการโดย ใชภ้ าษาที่ถูกตอ้ ง พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โนม้ นา้ ว และเสนอแนวคดิ ใหม่อย่างมีเหตุผล รวมท้งั มี มารยาทในการฟัง ดู และพูด • เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษา อิทธิพลของภาษา และลักษณะของภาษาไทย ใชค้ ำและกลุ่มคำสร้าง ประโยคไดต้ รงตามวัตถุประสงค์ แต่งคำประพันธ์ประเภท กาพย์ โคลง ร่ายและฉนั ท์ ใช้ภาษาได้เหมาะสม กบั กาลเทศะและใชค้ ำราชาศัพท์และคำสภุ าพได้อย่างถูกต้อง วิเคราะห์หลักการ สรา้ งคำในภาษาไทย อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยและภาษาถิ่น วเิ คราะห์และประเมนิ การใช้ภาษาจากส่อื สิง่ พิมพ์และ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ • วิเคราะห์วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณว์ รรณคดีเบ้ืองต้น รแู้ ละเขา้ ใจ ลกั ษณะเด่นของวรรณคดี ภมู ิปัญญาทางภาษาและวรรณกรรมพ้ืนบ้าน เชือ่ มโยงกบั การเรียนรู้ทาง ประวตั ิศาสตร์และวถิ ไี ทย ประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ และนำข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมไป ประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ
ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพอ่ื นำไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการ ดำเนินชีวติ และมนี สิ ัยรกั การอา่ น ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.1 1. อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและ การอา่ นออกเสียง ประกอบด้วย บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกับเร่อื งท่ี - บทร้อยแกว้ ท่เี ปน็ บทบรรยาย อ่าน - บทรอ้ ยกรอง เช่น กลอนสุภาพ กลอน สกั วา กาพย์ยานี 11 กาพยฉ์ บงั 16 กาพย์ สุรางคนางค์ 28 และโคลงสส่ี ภาพ 2. จับใจความสำคญั จากเรอื่ งท่อี า่ น การอา่ นจับใจความสำคัญต่าง ๆ เช่น 3. ระบุเหตุผล และข้อเท็จจริง - เรอ่ื งเล่าจากประสบการณ์ กบั ข้อคิดเห็นจากเรื่องทอ่ี ่าน - เรื่องสน้ั 4. ระบแุ ละอธิบายคำเปรยี บเทียบ และคำ - บทสนทนา ท่มี หี ลายความหมายในบรบิ ทตา่ ง ๆ จาก - นทิ านชาดก การอา่ น - วรรณคดใี นบทเรยี น 5. ตีความคำยากในเอกสารวชิ าการ - งานเขียนเชงิ สร้างสรรค์ โดยพจิ ารณาจากบริบท - บทความ 6. ระบขุ ้อสังเกตและความสมเหตสุ มผล - สารคดี ของงานเขยี นประเภทชกั จูงโนม้ นา้ วใจ - บนั เทิงคดี - เอกสารทางวชิ าการที่มีคำ ประโยคและ ข้อความทตี่ ้องใชบ้ รบิ ทช่วยพิจารณา ความหมาย - งานเขียนประเภทชกั จงู โน้มน้าวใจ เชิงสรา้ งสรรค์ 7. ปฏบิ ัติตามค่มู ือแนะนำวธิ กี ารใช้งานของ การอา่ นและปฏบิ ัตติ ามเอกสารคู่มือ เครื่องมือหรือเคร่ืองใชใ้ นระดับ ที่ยากขึ้น 8. วเิ คราะหค์ ณุ คา่ ที่ได้รับจากการอา่ นงาน การอา่ นหนังสือตามความสนใจ เช่น เขยี นอยา่ งหลากหลาย เพ่ือนำไปใช้ - หนงั สอื ที่นกั เรียนสนใจและเหมาะสม แก้ปญั หาในชวี ิต กับวัย - หนังสอื อ่านท่คี รแู ละนักเรยี นกำหนด ร่วมกัน 9. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน ม.2 1.อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อย การอ่านออกเสยี ง ประกอบดว้ ย
กรองได้ถูกต้อง - บทร้อยแก้วที่เปน็ บทบรรยายและ บทพรรณนา - บทร้อยกรอง เชน่ กลอนบทละคร ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.2 กลอนนิทาน กลอนเพลงยาว และกาพย์ห่อ โคลง 2. จับใจความสำคญั สรุปความและอธิบาย การอา่ นจับใจความจากสือ่ ตา่ ง ๆ เชน่ รายละเอยี ดจากเรอื่ งท่ีอา่ น - วรรณคดีในบทเรยี น 3. เขยี นผงั ความคิด เพอื่ แสดงความเขา้ ใจ - บทความ ในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน - บันทึกเหตุการณ์ 4. อภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อ - บทสนทนา โต้แยง้ เกย่ี วกับเรื่องท่ีอา่ น - บทโฆษณา 5. วเิ คราะหแ์ ละจำแนกข้อเท็จจริง ขอ้ มูล - งานเขยี นประเภทโนม้ น้าวใจ สนบั สนุนและขอ้ คิดเห็นจากบทความที่อ่าน - งานเขยี นหรือบทความแสดงขอ้ เทจ็ จริง 6. ระบุขอ้ สงั เกต การชวนเช่อื การโนม้ นา้ ว - เร่อื งราวจากบทเรยี นในกลมุ่ สาระการ หรอื ความสมเหตุสมผลของงานเขยี น เรยี นร้ภู าษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื 7. อา่ นหนงั สอื บทความหรือคำประพนั ธ์ การอ่านตามความสนใจ เช่น อยา่ งหลากหลาย และประเมินคุณคา่ หรือ - หนังสอื อา่ นนอกเวลา แนวคดิ ที่ไดจ้ ากการอา่ น เพอื่ นำไปใช้ - หนังสือทนี่ กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย แกป้ ญั หาในชีวติ - หนังสอื อ่านท่ีครแู ละนกั เรยี นกำหนด ร่วมกนั 8. มมี ารยาทในการอา่ น มารยาทในการอา่ น ม. 3 1. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อย การอ่านออกเสียง ประกอบดว้ ย กรองได้ถูกต้องและเหมาระสมกบั เรื่องที่ - บทรอ้ ยแก้วที่เปน็ บทความท่วั ไปและ อา่ น บทความปกิณกะ - บทรอ้ ยกรอง เช่น กลอนบทละคร กลอน สักวา กาพย์ยานี ๑๑ กาพยฉ์ บัง ๑๖ และ โคลงส่ีสภุ าพ 2. ระบคุ วามแตกตา่ งของคำม่ีมีความหมาย การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ต่าง ๆ เชน่ โดยตรง และความหมายโดยนัย - วรรณคดใี นบทเรยี น 3. ระบุใจความสำคัญและรายละเอยี ดของ - ขา่ วและเหตุการณส์ ำคัญ ข้อมลู ทส่ี นับสนุนจากเร่อื งที่อ่าน - บทความ 4. อ่านเรอ่ื งตา่ ง ๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคิด - บนั เทิงคดี ผังความคดิ บันทึก ย่อความและรายงาน - สารคดี 5. วิเคราะห์ วจิ ารณแ์ ละประเมนิ เรอ่ื งที่ - สารคดเี ชิงประวตั ิ อ่านโดยใชก้ ลวธิ ีการเปรียบเทียบเพื่อให้ - ตำนาน ผ้อู ่านเข้าใจไดด้ ีขึ้น - งานเขียนเชงิ สร้างสรรค์ 6. ประเมนิ ความถกู ต้องของข้อมูล ทีใ่ ช้ - เร่ืองราวจากบทเรยี นในกล่มุ สาระ สนับสนนุ ในเรอื่ งที่อ่าน การเรยี นรูอ้ ่นื 7. วจิ ารณ์ความสมเหตสุ มผล การลำดับ
ความและความเป็นไปได้ของเร่ือง 8. วิเคราะหเ์ พื่อแสดงความคิดเหน็ โตแ้ ยง้ เกย่ี วกับเรื่องท่ีอ่าน ชั้น ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม. 3 9. ตีความและประเมนิ คุณคา่ แนวคิดท่ีได้ การอ่านตามความสนใจ เช่น จากงานเขียน อย่างหลากหลายเพือ่ - หนงั สอื อ่านนอกเวลา นำไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ิต - หนงั สืออ่านตามความสนใจและตามวยั ของ นักเรียน - หนงั สืออา่ นท่ีครูและนักเรียนร่วมกนั กำหนด 10. มมี ารยาทในการอา่ น มารยาทในการอ่าน ม.4-6 1. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อย การอา่ นออกเสยี ง ประกอบด้วย กรองไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ไพเราะและ - บทร้อยแกว้ ประเภทต่าง ๆ เช่น บทความ เหมาะสมกับเรอ่ื งที่อา่ น นวนยิ าย และความเรยี ง - บทรอ้ ยกรอง เชน่ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน รา่ ย และลลิ ติ 2. ตีความ แปลความ และขยายความ การอ่านจับใจความจากส่ือต่าง ๆ เช่น เรอื่ งท่ีอ่าน - ขา่ วสารจากสือ่ ส่ิงพิมพ์ สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ 3. วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองทอี่ า่ นในทกุ และแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ ในชมุ ชน ๆ ด้านอยา่ งมเี หตผุ ล - บทความ 4. คาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองท่ีอา่ นและ - นทิ าน ประเมินค่าเพื่อนำความรคู้ วามคดิ ไปใช้ - เรอื่ งสน้ั ตัดสินใจแกป้ ญั หาในการดำเนินชวี ิต - นวนยิ าย 5. วเิ คราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น - วรรณกรรมพน้ื บา้ น โต้แยง้ เกย่ี วกบั เรื่องที่อา่ น และเสนอ - วรรณคดีในบทเรียน ความคดิ ใหมอ่ ยา่ งมเี หตผุ ล - บทโฆษณา 6. ตอบคำถามจากการอ่านงานเขยี น - สารคดี ประเภทต่าง ๆ ภายในเวลาที่กำหนด - บนั เทิงคดี 7. อ่านเรอ่ื งต่าง ๆ และเขยี นกรอบแนวคิด - ปาฐกถา ผังความคดิ บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน - พระบรมราโชวาท 8. สงั เคราะห์ความรู้จากการอ่าน ส่ือ - เทศนา ส่งิ พมิ พ์ ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และแหลง่ - คำบรรยาย เรียนรตู้ า่ ง ๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการ - คำสอน เขยี น และพฒั นาความรู้ ทางอาชพี - บทรอ้ ยกรองรว่ มสมยั - บทเพลง - บทอาเศียรวาท - คำขวญั 9. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน
สาระที่ 2 การเขยี น มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ช้ัน ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม. 1 1. คัดบายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทัด การคัดลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทัดตาม รปู แบบการเขียนตัวอกั ษรไทย 2. เขยี นส่อื สารโดยใชถ้ อ้ ยคำถูกต้อง ชัดเจน การเขียนส่ือสาร เช่น เหมาะสมและสละสลวย - การเขียนแนะนำตนเอง - การเขียนแนะนำสถานท่ีสำคัญ ๆ - การเขยี นบนสอื่ อิเล็กทรอนิกส์ 3. เขียนบรรยาย ประสบการณ์โดยระบุ การบรรยายประสบการณ์ สาระสำคัญ และรายละเอียดสนับสนนุ 4. เขียนเรียงความ การเขยี นเรยี งความเชิงพรรณนา 5. เขยี นย่อความจากเรื่องท่ีอ่าน การเขยี นย่อความจากสื่อต่าง ๆ เชน่ เรอ่ื งสั้น คำสอน โอวาท คำปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คำสั่ง บทสนทนา เร่ืองเลา่ ประสบการณ์ 6. เขยี นแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั สาระ การเขียนแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั สาระจาก จากสอื่ ท่ีไดร้ บั สอื่ ตา่ ง ๆ เชน่ - บทความ - หนงั สอื อา่ นนอกเวลา - ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวนั - เหตกุ ารณส์ ำคัญต่าง ๆ 7. เขียนจดหมายสว่ นตวั และจดหมายธรุ กจิ การเขยี นจดหมายสว่ นตัว - จดหมายขอความชว่ ยเหลอื - จดหมายแนะนำ การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ - จดหมายสอบถามข้อมูล 8. เขยี นรายงานการศกึ ษาค้นควา้ การเขียนรายงาน ได้แก่ และโครงงาน - การเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า - การเขยี นรายงานโครงงาน 9. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน ม. 2 1. คดั ลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทดั การคัดลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทัดตาม รูปแบบการเขยี นตวั อักษรไทย 2. เขยี นบรรยายและพรรณนา การเขยี นบรรยายและพรรณนา 3. เขียนเรียงความ การเขยี นเรยี งความเกยี่ วกับประสบการณ์
4. เขยี นยอ่ ความ การเขียนย่อความจากสือ่ ต่าง ๆ เช่น นิทาน คำสอน บทความทางวิชาการ บนั ทึก เหตุการณ์ เรอ่ื งราวในบทเรยี นในกลมุ่ สาระ ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ม. 2 การเรียนรอู้ ืน่ นิทานชาดก 5. เขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า การเขียนรายงาน - การเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ - การเขยี นรายงานโครงงาน 6. เขียนจดหมายกิจธรุ ะ การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ - จดหมายเชิญวทิ ยากร - จดหมายขอความอนเุ คราะห์ 7. เขยี นวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง ความรู้ ความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โต้แย้ง ในเร่ืองที่ ความคิดเห็น หรอื โต้แย้ง จากส่อื ต่าง ๆ เชน่ อา่ นอยา่ งมีเหตุผล - บทความ - บทเพลง - หนงั สอื อา่ นนอกเวลา - สารคดี - บนั เทงิ คดี 8. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน ม. 3 1. คดั ลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั การคดั ลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทดั ตาม รปู แบบการเขียนตัวอกั ษรไทย 2. เขยี นขอ้ ความโดยใช้ถ้อยคำไดถ้ ูกตอ้ ง การเขยี นข้อความตามสถานการณ์และโอกาส ตามระดบั ภาษา ต่าง ๆ เช่น - คำอวยพรในโอกาสต่าง ๆ - คำขวัญ - คำคม - โฆษณา - คติพจน์ - สนุ ทรพจน์ 3. เขียนชีวประวตั หิ รืออัตชีวประวตั ิ โดยเล่า การเขียนอตั ชีวประวัตหิ รอื ชีวประวัติ เหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเรื่อง ต่าง ๆ 4. เขยี นย่อความ การเขยี นย่อความจากส่อื ต่าง ๆ เชน่ นทิ าน ประวัติ ตำนาน สารคดีทางวชิ าการ พระราชดำรสั พระบรมราโชวาท จดหมาย ราชการ 5. เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ - จดหมายเชญิ วิทยากร -จดหมายของความอนุเคราะห์
6. เขียนอธบิ าย ชี้แจ้ง แสดงความคิดเหน็ - จดหมายแสดงความขอบคณุ และโต้แยง้ อย่างมเี หตุผล การเขียนอธิบาย ชี้แจง้ แสดงความคิดเห็นและ โตแ้ ยง้ ในเรอื่ งต่าง ๆ ช้นั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม. 3 7. เขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ การเขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดง ความรู้ ความคดิ เห็น หรือโต้แย้งในเรื่องตา่ งๆ ความคดิ เหน็ หรอื โต้แย้ง จากสือ่ ต่างๆ เชน่ - บทโฆษณา - บทความทางวชิ าการ 8. กรอกแบบสมคั รงานพร้อมเขยี นบรรยาย กรอกแบบสมคั รงาน เก่ยี วกับความรแู้ ละทักษะของตนเองท่ี เหมาะสมกบั งาน 9. เขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้ และ การเขียนรายงาน ได้แก่ โครงงาน - การเขียนรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ - การเขียนรายงานโครงงาน 10. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน ม.4-6 1. เขียนสื่อสารในรปู แบบตา่ ง ๆ ได้ตรงตาม การเขยี นสือ่ สารในรูปแบบต่าง ๆ เชน่ วตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษาเรยี บเรยี งถูกต้อง - อธิบาย มขี อ้ มูลและสาระสำคัญชัดเจน - บรรยาย - พรรณนา - แสดงทรรศนะ - โต้แยง้ - โน้มน้าว - เชญิ ชวน - ประกาศ - จดหมายกจิ ธรุ ะ - โครงการและรายงานการดำเนินโครงการ - รายงานการประชุม - การกรอกแบบรายงานตา่ ง ๆ 2. เขยี นเรียงความ การเขียนเรียงความ 3. เขยี นย่อความจากสอ่ื ที่มีรูปแบบและ การเขยี นย่อความจากส่ือต่าง ๆ เช่น เนอ้ื หาหลากหลาย - กวนี ิพนธ์ และวรรณคดี - เรอ่ื งสั้น สารคดี นวนิยาย บทความทาง วิชาการ และวรรณกรรมพ้นื บ้าน 4. ผลติ งานเขยี นของตนเองในรูปแบบตา่ งๆ การเขยี นในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ - สารคดี - บนั เทิงคดี 5. ประเมนิ งานเขียนของผู้อน่ื แล้วนำมา การประเมินคุณคา่ งานเขียนในด้านตา่ ง ๆ เช่น พฒั นางานเขยี นของตนเอง - แนวคิดของผ้เู ขียน
- การใชถ้ อ้ ยคำ - การเรยี บเรยี ง - สำนวนโวหาร ชั้น ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม. 4-6 - กลวธิ ใี นการเขยี น 6. เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเรอ่ื งที่ การเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ สนใจตามหลกั การเขียนเชิงวิชาการ และใช้ การเขียนอา้ งองิ ขอ้ มลู สารสนเทศ ข้อมลู สารสนเทศอ้างอิงถูกต้อง 7. บันทกึ การศึกษาคน้ คว้าเพ่ือนำไปพฒั นา การเขยี นบนั ทึกความรูจ้ ากแหล่งเรยี นรทู้ ่ี ตนเองอย่างสม่ำเสมอ หลากหลาย 8. มีมารยาทในการเขียน มารยาทในการเขยี น
สาระท่ี 3 การฟงั การดู การพูด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกใน โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม. 1 1. พดู สรุปใจความสำคัญของเร่ืองท่ีฟัง การพดู สรุปความ พูดแสดงความรู้ และดู ความคดิ อย่างสร้างสรรคจ์ ากเรือ่ งท่ีฟงั และดู 2. เล่าเรอื่ งยอ่ จากเร่ืองทฟี่ ังและดู การพูดประเมินความน่าเชื่อถือของสอื่ ท่ีมี 3. พดู แสดงความคิดเห็นอยา่ งสรา้ งสรรค์ เน้อื หาโน้มนา้ ว เกยี่ วกับเรือ่ งทฟี่ ังและดู 4. ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของสื่อ ท่ีมีเนอ้ื หาโน้มน้าวใจ 5. พดู รายงานเรอ่ื งหรอื ประเด็นที่ศึกษา การพูดรายงานการศึกษาค้นควา้ จากแหลง่ คน้ คว้าจากการฟัง การดู เรยี นร้ตู ่าง ๆ ในชุมชนและท้องถิ่นของตน และการสนทนา 6. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู มารยาทในการฟัง การดู และการพดู ม.2 1. พดู สรุปใจความสำคัญของเรือ่ งท่ีฟงั การพดู สรปุ ความจากเรื่องที่ฟงั และดู และดู 2. วิเคราะหข์ ้อเทจ็ จรงิ ข้อคิดเห็น การพดู วเิ คราะหแ์ ละและวิจารณ์จากเรื่อง และความนา่ เชื่อถือของขา่ วสารจากส่ือ ท่ฟี ังและดู ต่าง ๆ 3. วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องทีฟ่ ังและดู อย่างมเี หตผุ ล เพ่ือนำขอ้ คิดมาประยุกต์ ใช้ในการดำเนินชีวิต 4. พดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตาม การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ วตั ถปุ ระสงค์ - การพูดอวยพร - การพดู โน้มน้าว - การพูดโฆษณา 5. พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นทศ่ี ึกษา การพูดรายงานการศึกษาค้นคว้าจาก ค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา แหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ 6. มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด มารยาทในการฟัง การดู และการพูด ม.3 1. แสดงความคิดเหน็ และประเมนิ เร่ือง การพดู แสดงความคิดเห็นและประเมิน จากการฟังและการดู เรื่องจากการฟังและการดู 2. วเิ คราะห์และวิจารณเ์ รื่องท่ฟี ังและดู การพดู วเิ คราะห์ วิจารณจ์ ากเรอ่ื ง
เพ่ือนำข้อคิดมาประยุกต์ใชใ้ นการ ท่ีฟังและดู ดำเนินชวี ติ ชนั้ ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม. 3 3. พูดรายงานเรอ่ื งหรือประเด็นท่ีศกึ ษา การพดู รายงานการศกึ ษาค้นคว้า ค้นควา้ จากการฟัง การดแู ละการสนทนา เก่ียวกับภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น 4. พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตาม การพดู ในโอกาสต่าง ๆ เช่น วตั ถปุ ระสงค์ - การพูดโตว้ าที - การอภปิ ราย - การพูดยอวาที 5. พดู โนม้ น้าวโดยนำเสนอหลกั ฐาน การพดู โน้มนา้ ว ตามลำดับเน้อื หาอย่างมเี หตุผลและ นา่ เช่อื ถอื 6. มมี ารยาทในการฟัง การดู มารยาทในการฟงั การดู และการพูด และการพูด ม. 4-6 1. สรุปแนวคิดและแสดงความคิดเห็น การพูดสรปุ แนวคิดและการแสดง จากเรือ่ งที่ฟังและดู ความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีฟังและดู 2. วเิ คราะหแ์ นวคิด การใชภ้ าษา และ การวเิ คราะห์แนวคดิ การใชภ้ าษา และ ความนา่ เชอ่ื ถือจากเร่ืองท่ีฟังและดู ความนา่ เช่ือถือจากเร่ืองทีฟ่ ังและดู อย่างมเี หตุผล การเลอื กเรือ่ งท่ฟี ังและดูอย่างมวี จิ ารณญาณ 3. ประเมนิ เรื่องท่ฟี ังและดู แล้วกำหนด การประเมนิ เร่ืองทฟ่ี ังและดูเพอ่ื กำหนด แนวทางนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในการ แนวทางนำไปประยุกตใ์ ช้ ดำเนนิ ชวี ติ 4. มวี จิ ารณญาณในการเลือกเรอ่ื งท่ีฟัง และดู 5. พูดในโอกาสต่าง ๆ พดู แสดงทรรศนะ การพดู ในโอกาสต่าง ๆ เช่น โต้แย้ง โน้มน้าวใจ และเสนอ - การพูดตอ่ ที่ประชมุ ชน แนวคิดใหมด่ ้วยภาษาถกู ต้องเหมาะสม - การพดู อภปิ ราย - การพูดแสดงทรรศนะ - การพดู โน้มนา้ วใจ 6. มีมารยาทในการฟัง การดู มารยาทในการฟงั การดู และการพูด และการพดู
สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.1 1. อธบิ ายลกั ษณะของเสียงในภาษาไทย เสยี งในภาษาไทย 2. สรา้ งคำในภาษาไทย การการสรา้ งคำ เช่น - คำประสม คำซ้ำ คำซ้อน - คำพอ้ ง 3. วเิ คราะหช์ นิดและหนา้ ท่ีของคำใน ชนดิ และหน้าทีข่ องคำ ประโยค 4. วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพูด ภาษาพดู และภาษาเขียน ภาษาเขยี น 5. แต่งบทรอ้ ยกรอง กาพยย์ านี ๑๑ 6. จำแนกและใชส้ ำนวนที่เป็นคำพงั เพย สำนวนทเ่ี ปน็ คำพังเพยและสุภาษติ และสุภาษติ ม.2 1. สรา้ งคำในภาษาไทย การสรา้ งคำสมาส 2. วเิ คราะห์โครงสรา้ งประโยคสามัญ ลกั ษณะของประโยคในภาษาไทย ประโยครวม และประโยคซอ้ น - ประโยคสามัญ 3. แต่งบทรอ้ ยกรอง - ประโยครวม 4. ใชค้ ำราชาศพั ท์ - ประโยคซ้อน 5. รวบรวมและอธบิ ายความหมายของ กลอนสุภาพ คำภาษาต่างประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย คำราชาศัพท์ ม.3 1. จำแนกและใช้คำภาษาตา่ งประเทศ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ ทีใ่ ช้ในภาษาไทย 2. วิเคราะหโ์ ครงสร้างประโยคซบั ซ้อน คำทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศ 3. วิเคราะหร์ ะดบั ภาษา 4. ใชค้ ำทับศัพทแ์ ละศัพท์บัญญตั ิ ประโยคซับซ้อน ระดับภาษา 5. อธิบายความหมายคำศัพท์ทาง คำทบั ศัพท์ ม.3 วชิ าการและวิชาชพี คำศัพทบ์ ญั ญัติ คำศัพทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี 6. แต่งบทร้อยกรอง โคลงส่ีสุภาพ ม.4-6 1. อธิบายธรรมชาติของภาษา พลงั ของ ภาษา และลักษณะของภาษา ธรรมชาตขิ องภาษา พลงั ของภาษา
ลักษณะของภาษา - เสียงในภาษา ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.4-6 - สว่ นประกอบของภาษา - องค์ประกอบของพยางค์และคำ 2. ใช้คำและกลุม่ คำสรา้ งประโยค การใช้คำและกลมุ่ คำสรา้ งประโยค ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ - คำและสำนวน - การร้อยเรยี งประโยค - การเพิ่มคำ - การใช้คำ - การเขียนสะกดคำ 3. ใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาสกาลเทศะ ระดบั ของภาษา และบคุ คล รวมทง้ั คำราชาศัพท์อยา่ ง คำราชาศัพท์ เหมาะสม 4. แตง่ บทร้อยกรอง กาพย์ โคลง ร่าย และฉนั ท์ 5. วเิ คราะห์อทิ ธิพลของภาษา อิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศ ตา่ งประเทศและภาษาถิน่ และภาษาถน่ิ 6. อธิบายและวิเคราะห์หลักการสร้างคำ หลักการสร้างคำในภาษาไทย ในภาษาไทย 7. วเิ คราะห์และประเมินการใชภ้ าษา การประเมนิ การใช้ภาษาจากสื่อส่งิ พิมพ์ จากส่อื ส่งิ พิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสอื่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์
สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่าและ นำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จริง ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.1 1. สรุปเนอื้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรม วรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกับ ทอ่ี ่าน - ศาสนา - ประเพณี - พธิ ีกรรม - สภุ าษิตคำสอน - เหตกุ ารณ์ประวัตศิ าสตร์ - บันเทิงคดี - บนั ทกึ การเดินทาง - วรรณกรรมท้องถนิ่ 2. วิเคราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรม การวิเคราะห์คณุ ค่าและข้อคดิ จากวรรณคดี ทอ่ี า่ นพร้อมยกเหตผุ ลประกอบ และวรรณกรรม 3. อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ วรรณกรรมท่ีอา่ น 4. สรุปความรู้และข้อคดิ จากการอา่ น เพ่ือประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ 5. ทอ่ งจำบทอาขยานตามที่กำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณคา่ และบทร้อยกรองที่มีคณุ คา่ ตามความ - บทอาขยานตามทีก่ ำหนด สนใจ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ม.2 1. สรุปเนือ้ หาวรรณคดีและวรรณกรรม วรรณคดแี ละวรรณกรรมเก่ียวกบั ท่ีอา่ นในระดบั ทีย่ ากขน้ึ - ศาสนา - ประเพณี - พิธีกรรม - สภุ าษิต คำสอน - เหตุการณ์ประวตั ศิ าสตร์ - บนั เทิงคดี - บนั ทึกการเดนิ ทาง 2. วเิ คราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดี การวเิ คราะห์คณุ ค่าและขอ้ คดิ จากวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ิน วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถนิ่ ทอ่ี ่าน พร้อมยกเหตผุ ลประกอบ 3. อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและ วรรณกรรมท่ีอ่าน 4. สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอา่ น ไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ 5. ทอ่ งจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่า
และบทร้อยกรองท่ีมีคณุ คา่ - บทอาขยานตามท่กี ำหนด ตามความสนใจ - บทอาขยานตามความสนใจ ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.3 1. สรปุ เน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรม วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ในระดบั ทอ้ งถิน่ เกีย่ วกบั ท่ียากยิ่งขึ้น - ศาสนา - ประเพณี - พธิ ีกรรม - สภุ าษิตคำสอน - เหตุการณ์ในประวตั ิศาสตร์ - บันเทงิ คดี 2. วิเคราะหว์ ิถไี ทยและคุณคา่ จาก การวเิ คราะหว์ ิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดี วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น และวรรณกรรม 3. สรุปความรูแ้ ละข้อคดิ จากการอ่าน เพื่อนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ 4. ทอ่ งจำและบอกคุณคา่ บทอาขยาน บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคณุ ค่า ตามทกี่ ำหนด และบทรอ้ ยกรองท่ีมี - บทอาขยานตามท่กี ำหนด คณุ ค่าตามความสนใจและนำไปใช้อา้ งอิง - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ม.4-6 1. วิเคราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดแี ละ หลักการวิเคราะหแ์ ละวิจารณ์ วรรณคดแี ละ วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณเ์ บอื้ งตน้ วรรณกรรมเบื้องต้น - จดุ มุ่งหมายการแต่งวรรณคดแี ละ วรรณกรรม - การพิจารณารูปแบบของวรรณคดีและ วรรณกรรม - การพจิ ารณาเนอื้ หาและกลวธิ ใี นวรรณคดี และวรรณกรรม - การวิเคราะหแ์ ละการวจิ ารณ์วรรณคดแี ละ วรรณกรรม 2. วเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดี การวเิ คราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดี เชอ่ื มโยงกบั การเรียนรทู้ างประวัตศิ าสตร์ และวรรณกรรมเกี่ยวกบั เหตุการณ์ และวิถีชีวติ ของสังคม ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวิถีชีวิตของสังคมในอดีต ในอดีต 3. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าดา้ น การวิเคราะห์และประเมนิ คุณคา่ วรรณคดี วรรณศลิ ปข์ องวรรณคดีและวรรณกรรม และวรรณกรรม ในฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม - ดา้ นวรรณศิลป์ ของชาติ - ด้านสงั คมและวฒั นธรรม 4. สังเคราะหข์ ้อคดิ จากวรรณคดแี ละ การสังเคราะหว์ รรณคดแี ละ วรรณกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ วรรณกรรม ในชีวติ จรงิ
5. รวบรวมวรรณกรรมพื้นบา้ น วรรณกรรมพ้นื บ้านท่ีแสดงถึง และอธิบายภมู ปิ ญั ญาทางภาษา - ภาษากับวัฒนธรรม - ภาษาถน่ิ ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม. 4-6 6. ทอ่ งจำและบอกคุณคา่ บทอาขยาน บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณคา่ ตามทก่ี ำหนด และบทรอ้ ยกรองที่มี - บทอาขยานตามท่กี ำหนด คุณคา่ ตามความสนใจและนำไปใช้อา้ งอิง - บทร้อยกรองตามความสนใจ
คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท 21101 ภาคเรียนที่ 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ............................................................................................................................. ........................................... ศกึ ษาวเิ คราะห์บทร้อยแก้วบทร้อยกรอง จบั ใจความจากส่อื ต่างๆ เชน่ เรอื่ งเล่าจากประสบการณ์ เรอ่ื งส้ัน บทสนทนา นิทานชาดก วรรณคดีในบทเรียน งานเขียนเชิงสรา้ งสรรค์ บทความ สารคดี บนั เทิงคดี ระบเุ หตุและผล ขอ้ เท็จจรงิ กับข้อคดิ เห็นจากเรอ่ื งที่อา่ น อธิบายคำเปรยี บเทียบและคำท่มี ีหลาย ความหมายในบรบิ ทตา่ งๆ มีมารยาทในการอา่ น การคัดลายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทัด การเขยี นสอื่ สารโดยใช้ ถอ้ ยคำถูกตอ้ งชดั เจน เหมาะสมและสละสลวย เขยี นบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสำคญั และ รายละเอียดสนบั สนนุ การเขียนเรียงความเชงิ พรรณนา มีมารยาทในการเขยี น พูดสรุปใจความสำคญั พดู แสดงความรคู้ วามคิดสร้างสรรค์จากเรอ่ื งท่ีได้ฟังและดู เล่าเรื่องย่อพร้อมทั้งประเมนิ คา่ ความน่าเชือ่ ถือของส่ือท่ี มเี นื้อหาโนม้ น้าวใจ มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพดู อธิบายลักษณะของเสยี งและการสร้างคำใน ภาษาไทย คำประสม คำซ้ำ คำซอ้ น คำพ้อง ชนิดและหน้าทขี่ องคำในประโยค ภาษาพูด ภาษาเขียน สรปุ เนือ้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี า่ น เกยี่ วกับศาสนา ประเพณี พธิ กี รรม สุภาษิตคำสอน เหตุการณ์ ประวัตศิ าสตร์ บนั เทิงคดี บันทกึ การเดินทาง วรรณกรรมทอ้ งถ่นิ วเิ คราะห์คณุ คา่ และข้อคิดจากวรรณคดี และวรรณกรรม โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น การฟัง การดูและการพูด หลกั และการใชภ้ าษาไทย การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจสามารถนำสง่ิ ท่ีเรียนรู้มาเป็นเคร่ืองมือสอ่ื สาร แสวงหาความร้เู พ่ิมเตมิ และเชอื่ มโยงกบั กลุม่ สาระอืน่ เพื่อใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของภาษาไทยท่ีต้องฝกึ ฝนจนเกดิ ความชำนาญในการใช้ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร การเรียนร้อู ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี น รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ความซ่ือสัตย์ มีวนิ ัย รักความเป็นไทย รบั ผิดชอบควบคกู่ ับการมีคุณธรรม จริยธรรมและนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั และมนี ิสยั รกั การอ่าน รหัสตัวช้ีวัด ท 1.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/9 ท 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/9 ท 3.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ท 4.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ท 5.1 ม.1/1 รวมทั้งหมด 19 ตัวช้ีวัด
โครงสรา้ งการจัดหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 21101 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 60 ช่ัวโมง ( 1.5 หนว่ ยกติ ) ลำดับท่ี ชอื่ หน่วยการเรียน มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก เรียนรู้/ตัวชีว้ ดั (ชัว่ โมง) คะแนน 1 การอ่านออกเสียง ท 1.1 ม.1/1 การอ่านออกเสยี งเป็นการสอ่ื สารที่ 2 3 สำคัญ ทำใหผ้ ้รู บั สารมคี วามเขา้ ใจ และเกดิ ความรคู้ วามบันเทงิ ได้ ผู้อา่ น จะตอ้ งรูห้ ลักในการอ่านออกเสียงทัง้ รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง จึงจะทำให้ การอา่ นออกเสยี งนา่ ฟงั และมีความ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน 2 การอา่ นใน ท 1.1 ม.1/2 การอา่ นเปน็ การรับรู้ข้อมลู ข่าวสาร 4 2 ชวี ิตประจำวัน ม.1/3 ความรู้ ความบันเทิง ซ่ึงส่งผลให้ ม.1/5 ผูอ้ า่ นมีความฉลาดรอบรู้และทนั ต่อ ม.1/6 เหตุการณ์ ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 3 การเขียนส่ือสาร ท 2/1 ม.1/1 การคัดลายมือมีความสำคัญมากตอ่ 4 5 ด้วยถ้อยคำ ม.1/2 การพฒั นาไปสูท่ ักษะการเขียน ซ่ึง ม.1/9 การเขียนเปน็ การส่ือสารทีจ่ ะต้องรู้ หลักเกณฑ์ วธิ กี ารเขียน เพ่ือให้ สามารถเลือกใช้ถ้อยคำในการสื่อสาร ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมและแสดง ใหเ้ ห็นการมีมารยาททดี่ ีในการเขียน 4 การเขียนเพ่อื การ ท 2.1 ม.1/2 การเขียนเป็นการสอ่ื สารที่มุ่งให้ผอู้ ่าน 6 5 สอ่ื สาร ม.1/3 รบั รู้ เข้าใจเร่ืองราวอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ ม.1/4 โดยผู้เขียนจะต้องมจี ดุ ม่งุ หมาย และ ม.1/5 ศกึ ษาหลักการเขยี นสอื่ สารแต่ละ ม.1/7 ประเภทให้เขา้ ใจ จึงจะทำให้การ ม.1/8 เขยี นส่อื สารมีประสิทธภิ าพและมี ม.1/9 มารยาทท่ีดีในการเขยี น
5 การเขยี นแสดงความ ท 2.1 ม.1/6 การเขยี นแสดงความคิดเหน็ เป็นการ 4 5 คดิ เห็นจากสอื่ เขียนถ่ายทอดความรสู้ กึ เกยี่ วกบั สาระจากส่ือต่างๆ ที่ได้รบั ใน ชวี ิตประจำวัน สง่ ผลทำใหเ้ กดิ ความรู้ และการแลกเปลยี่ นทศั นคตริ ะหว่าง กนั ลำดับที่ ชือ่ หน่วยการเรียน มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั 6 การฟงั และการดสู อ่ื เรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั (ชัว่ โมง) คะแนน 7 การฟงั การดู และ ท 3.1 ม.1/4 การฟัง การดสู ือ่ ต่างๆ เป็นทักษะที่มี 4 2 การพดู ใน ชวี ิตประจำวัน ม.1/6 ความสำคัญในชีวติ ประจำวัน เพราะ 3 8 เสียงในภาษาไทย ต้องอาศยั การฟัง การดเู พือ่ เรียนรสู้ ่งิ 20 และการสร้างคำ 6 ต่างๆ โดยใชค้ วามคิดพิจารณา 9 ชนิดและหนา้ ท่ีของ 10 คำในประโยค ไตรต่ รองใหร้ อบคอบ และมีมารยาท ทีด่ ี จึงจะชว่ ยให้การฟัง หรอื การดนู น้ั มีประสิทธภิ าพและเกิดประโยชน์ สูงสุดในการดำเนนิ ชีวิต ท 3.1 ม.1/1 การฟงั การดู และการพูดเป็นทักษะ 3 ม.1/2 ท่ใี ช้ควบคกู่ นั เสมอในชีวิตประจำวัน ม.1/3 เพอ่ื ให้ผู้ส่งสารและผรู้ บั สารมีความ ม.1/5 เข้าใจตรงกัน ดงั น้ันจึงควรร้จู ัก ม.1/6 พิจารณาเรื่องที่ฟัง ทีด่ ูให้เป็นเรอื่ งที่ เกิดประโยชน์เพื่อนำมารวบรวมเปน็ ขอ้ มลู ความรู้ และนำไปปรับใช้ให้เกดิ ประโยชน์ สอบกลางภาค 1 ท 4.1 ม.1/1 ภาษาประกอบดว้ ยเสียงและ 9 ม.1/2 ความหมาย การใชภ้ าษาไทยจึงควร คำนึงถึงการออกเสยี งให้ถกู ต้องและ ชัดเจน เพือ่ ให้การสอื่ ความหมายมี ประสิทธภิ าพ อีกท้งั ควรเขา้ ใจ ลักษณะของเสยี งภาษาไทย ส่วนการ สร้างคำในภาษาไทยมีความสำคัญย่งิ เพราะทำให้มีคำใหม่ในภาษาเพิ่มมาก ขึน้ และสามารถนำคำใหม่เหลา่ นนั้ ไป ใชใ้ นการส่ือสารให้เกิดประโยชนไ์ ด้ ท 4.1 ม.1/3 คำในภาษาไทย สามารถจำแนกได้ 10 ตามชนิดและหน้าท่ซี ึ่งปรากฏใน ตำแหนง่ ตา่ งๆ ในประโยค การเข้าใจ ชนิดและหน้าทข่ี องคำแตล่ ะชนิดน้ัน
จะชว่ ยให้การสอ่ื สารถูกต้องตรงตาม ความหมาย ชดั เจนและถกู ต้องตาม หลักไวยากรณ์ ลำดับที่ ช่ือหน่วยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก 10 เรียนรู้/ตวั ช้วี ดั (ชัว่ โมง) คะแนน 11 ความแตกต่างของ ท 4.1 ม.1/4 ภาษาพดู และภาษาเขียนตอ้ งใช้ให้ 4 2 12 ภาษา ถูกต้องตามหลักภาษา กาลเทศะและ 3 2 บุคคล เพ่ือใหก้ ารสอ่ื สารนัน้ บรรลุ 5 5 ตามเปา้ หมายทกี่ ำหนดไว้ ภาษาพูด 1 30 60 100 กบั ภาษาเขียนนนั้ มีความแตกต่างกัน การใชภ้ าษาจึงต้องมีความระมดั ระวงั เพ่ือใชใ้ ห้เหมาะสม สำนวน คำพงั เพย ท 4.1 ม.1/6 สำนวน คำพังเพย และสภุ าษิตท่ีใช้ และสภุ าษติ อยใู่ นชีวิตประจำวัน ควรคำนึงถงึ ความถูกต้อง และใชใ้ ห้เหมาะสมตาม ความหมายและบริบทของการใช้ สำนวน เพ่อื ให้การส่ือสารนั้น สัมฤทธผิ ล การแต่งบทร้อยกรอง ท 4.1 ม.1/5 การแตง่ คำประพนั ธ์ ควรทราบถงึ ลักษณะฉันทลักษณ์และความ สละสลวยของภาษาเพื่อให้เหมาะสม กับเนื้อเรื่อง สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรียน
คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท 21102 ภาคเรยี นที่ 2 ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ......................................... ศึกษาวิเคราะห์ตีความคำยากในเอกสารทางวิชาการท่ีมีคำ ประโยคและข้อความท่ีต้องใช้บริบทช่วย พิจารณาความหมาย ความสมเหตุสมผลของงานเขยี นประเภทชักจงู โนม้ นา้ วใจ การอา่ นและปฏิบตั ติ ามเอกสาร คู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเคร่ืองมือเครื่องใช้ คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลายเพื่อ นำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต การอ่านหนังสือตามความสนใจ หนังสือที่เหมาะสมกับวัย มีมารยาทในการอ่าน การเขียนย่อความเรื่องสั้น คำสอน โอวาท คำปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน บทสนทนา เรื่องเล่า ประสบการณ์ เขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ ข่าวและเหตุการณ์ประจำวัน เหตุการณ์สำคัญต่างๆ การ เขยี นจดหมายส่วนตัว จดหมายกิจธรุ ะ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน พูดรายงานการศึกษา ค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชนและท้องถ่ินของตน มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด แต่งบท รอ้ ยกรองประเภท กาพย์ยานี11 ใช้สำนวนคำพังเพยและสุภาษิต วิเคราะห์คุณค่าและขอ้ คิดจากวรรณคดีและ วรรณกรรม ทอ่ งจำบทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ ค่า โดยใช้กระบวนการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน การฟัง การดูและการพูด หลักและการใช้ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจสามารถนำส่ิงท่ีเรียนรู้มาเป็นเคร่ืองมือ ส่ือสาร แสวงหาความรเู้ พม่ิ เติมและความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี เพอ่ื ให้เห็นคุณค่าของภาษาไทยซึ่งเปน็ เอกลักษณ์ของชาติ มีนิสัยรักการอา่ น มุง่ มน่ั ในการทำงาน การ เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน กตัญญู รักความเป็นไทย รับผิดชอบ มีวินัย และสามารถนำไป ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวนั รหสั ตัวช้ีวัด ท 1.1 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ท 2.1 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ท 3.1 ม.1/5 ม.1/6 ท 4.1 ม.1/5 ม.1/6 ท 5.1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 รวมทั้งหมด 16 ตัวชี้วดั
โครงสร้างการจัดหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท 21102 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรียน 60 ช่วั โมง ( 1.5 หนว่ ยกิต) ลำดบั ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียน มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน 1 นริ าศภเู ขาทอง ท 5.1 ม.1/1 นริ าศภเู ขาทอง เปน็ ผลงาน 6 5 ม.1/2 ประพนั ธ์ประเภทนิราศของสุนทรภู่ ม.1/3 มคี วามยาวทงั้ สิ้น 176 คำกลอน ม.1/4 แต่งในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั ม.1/5 เกล้าเจ้าอย่หู วั เปน็ การเลา่ เรื่อง เกย่ี วกับบันทึกการเดนิ ทางจากวัด ราชบุรณะไปยังจงั หวัดพระนคร ศรีอยธุ ยาเพ่ือนมสั การเจดยี ์ภูเขา ทอง โดยมกี ารกล่าวถงึ พระมหา กรุณาธคิ ุณ ของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั ท่ีมีต่อ สนุ ทรภู่ พรอ้ มทัง้ สอดแทรกข้อคิด และวถิ ชี วี ิตของคน ในริมฝ่งั แม่นำ้ เจา้ พระยา 2 โคลงโลกนติ ิ ท 5.1 ม.1/1 โคลงโลกนิติ เป็นโคลงสุภาษิต 6 10 ม.1/2 เก่าแก่ทีใ่ หแ้ นะแนวทางการปฏิบัติ ม.1/3 ตนในสังคม คนไทยใช้สอนและ ม.1/4 ยึดถือปฏบิ ัติกันมาตงั้ แต่สมยั กรงุ ศรี อยุธยา ถ้อยคำภาษาที่ใช้เป็นคำ งา่ ยๆ แตม่ ีความไพเราะ และมี ความเปรียบคมคาย จึงทำใหเ้ ป็นท่ี จดจำกนั สบื ตอ่ มา 3 สภุ าษติ พระรว่ ง ท 5.1 ม.1/1 สภุ าษิตพระร่วงเป็นคำสอนที่มมี า 9 5 ม.1/2 ต้ังแตอ่ ดีตและยดึ ถือเปน็ คติ ม.1/3 เตอื นใจมาจนถึงปจั จบุ ัน ดว้ ยเปน็ ม.1/4 สภุ าษติ ทมี่ คี ุณคา่ ให้ขอ้ คดิ คติ ธรรมในการดำเนินชีวิต นบั ว่าเป็น วรรณคดีทีม่ ีคุณค่าต่อบุคคลและ สงั คม ซงึ่ ควรค่แู กก่ ารศึกษาและ ปฏบิ ตั ิตามคำสอนเพ่ือความ
เจรญิ รุง่ เรอื งและเปน็ สิริมงคล ลำดับที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก 4 กาพย์ เรื่อง เรียนรู/้ ตัวชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน พระไชยสรุ ยิ า ท 5.1 ม.1/1 กาพย์เร่ืองพระไชยสุริยา มีความ 9 5 5 ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา ม.1/2 ไพเราะ คำท่ใี ชเ้ ปน็ คำไทยงา่ ยๆ 20 5 ม.1/3 มีสัมผสั คล้องจอง เหมาะสำหรบั ม.1/4 การทอ่ งจำและยังได้เรียนร้เู ก่ียวกบั ม.1/5 มาตราตัวสะกดและลักษณะของ การแต่งคำประพันธป์ ระเภทกาพย์ ท้งั ยังได้ข้อคดิ คตธิ รรมจากเน้ือเรือ่ ง อกี ดว้ ย สอบกลางภาค 1 ท 5.1 ม.1/1 ราชาธริ าช เป็นเรอ่ื งแปลจาก 10 ม.1/2 พงศาวดารมอญมาเรียบเรยี งเปน็ ม.1/3 รอ้ ยแก้ว มสี ำนวนภาษาสละสลวย ม.1/4 เจ้าพระยาพระคลงั (หน) เป็น ผ้อู ำนวยการแปลรว่ มกับกวีท่านอนื่ ซึง่ ในการแปลครง้ั นี้มีพระราช ประสงคเ์ พอื่ เปน็ การบำรุงและ สง่ เสรมิ สติปัญญาของคนในชาติ ดงั น้ัน เรื่อง ราชาธิราช จงึ ควรคา่ แกก่ ารศึกษา ท้งั ในด้านเนื้อเร่ือง สำนวน ภาษาและคุณค่าในด้าน ต่างๆ 6 กาพยเ์ ห่ชมเครื่อง ท 5.1 ม.1/1 กาพยเ์ ห่ชมเครอ่ื งคาวหวาน เปน็ 9 10 คาวหวาน ม.1/2 ผลงานพระราชนิพนธ์ของ ม.1/3 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหล้า ม.1/4 นภาลยั ที่แสดงใหเ้ ห็นถึงพระ ม.1/5 ปรีชาสามารถในเชงิ กวีของ พระองค์ เปน็ วรรณคดที ่สี ะท้อนให้ เหน็ ถงึ สภาพวถิ ชี วี ิตของชาววังท่มี ี ความละเอียดอ่อนและพิถพี ิถันใน ทุกข้ันตอนของการทำท้ังอาหาร คาว อาหารหวาน และผลไม้ แสดงให้เหน็ ถงึ ความเอาใจใส่และ
ฝีมือของผูท้ ำเปน็ อยา่ งยิ่ง ช่อื หน่วยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก (ชวั่ โมง) คะแนน ลำดบั ที่ เรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด 7 นทิ านพ้นื บ้าน ท 5.1 ม.1/1 นทิ านพ้ืนบ้าน เป็นเร่ืองเลา่ สืบ 9 10 ม.1/2 ทอดกันมาด้วยปากต่อปากจาก ม.1/3 ความทรงจำ จงึ ไม่อาจสืบสาวได้ 1 30 ม.1/4 ว่า ใครเป็นผแู้ ต่งหรือผู้เล่าเป็นครง้ั 60 100 แรก นิทานเป็นเร่ืองเลา่ ทม่ี ีมาช้า นาน เนื้อเร่ืองมีความสนกุ สนาน ตนื่ เต้น โลดโผน และเสรมิ สรา้ ง จนิ ตนาการ นิทานจงึ เป็น เครอื่ งมอื สำคัญในการอบรมส่ัง สอนเยาวชน สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรียน
คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท 22101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ......................................................................................................................................................................... ศึกษาและฝึกปฏิบัติเก่ียวกับการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อ่านจับใจความจากส่ือ ตา่ งๆ อ่านหนังสือตามความสนใจ ใหจ้ ับใจความสำคัญ สรุปความ และอธบิ ายรายละเอยี ด พร้อมวเิ คราะห์และ จำแนกข้อเท็จจริง ข้อสนับสนุน การชวนเชื่อ การโนม้ นา้ ว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขยี น อภปิ รายแสดง ความคดิ เห็น โต้แยง้ เรอ่ื งที่อา่ น เขียนแผนผงั ความคิดแสดงความเขา้ ใจในเรื่องท่ีอ่าน การเขียนส่ือสารด้วยลายมือตัวเองคร่ึงบรรทัด เขียนบรรยายและพรรณนา เขียนเรียงความ เขียนย่อ ความ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความรู้ความคิดเห็น หรือโต้แย้งเรื่องท่ีอ่านได้อย่างมีเหตุผล ให้สามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเช่ือถือของ ข่าวสารจากส่ือ การพูดในโอกาสต่างๆ พูดรายงานที่ศึกษาค้นคว้า พูดสรุปใจความสำคัญของเร่ืองท่ีฟังและดู ให้สามารถวิเคราะห์เร่ืองที่ฟังและดูได้อย่างมีเหตุผล การแต่งบทร้อยกรอง ศึกษาวิเคราะห์ การสร้างคำสมาส คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย คำราชาศัพท์ โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซ้อน การใช้ คำราชาศัพท์ การแตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอน ใหถ้ ูกต้องเหมาะสมและการแต่งบทรอ้ ยกรองประเภทกลอน เพอ่ื แสดงให้เหน็ ถึงปฏิภาณ ไหวพริบในการใช้ภาษาไทยไดถ้ กู ต้อง ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการทางภาษา การอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด กระบวนการ กลุ่ม กระบวนการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ กระบวนการปฏบิ ัติ เพื่อให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องเหมาะสม เห็นคุณค่าใน การศึกษาวรรณคดไี ทย มีวนิ ัย ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู และการพูดนำความรู้ ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั รหัสตวั ช้ีวัด ท 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ท 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ท 3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ท 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ท 5.1 ม.2/2 ม.2/5 รวม 29 ตัวช้ีวัด
โครงสร้างการจัดหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท 22101 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 เวลาเรียน 60 ชัว่ โมง (1.5 หน่วยกิต) ลำดับท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั เรียนรู้/ตวั ช้วี ดั (ชัว่ โมง) คะแนน 1 การอา่ นออกเสยี ง ท 1.1 ม.2/1 การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและ 6 5 ม.2/8 บทร้อยกรอง มหี ลักในการอ่านที่ตอ้ ง นำไปฝึกปฏิบตั ิ และต้องมมี ารยาทใน การอ่าน 2 การอ่านในชวี ิต ท 1.1 ม.2/2 การอา่ นในชวี ติ ประจำวันใหจ้ ับ 5 5 ประจำวัน ม.2/3 ใจความสำคัญ สรุปความ และอธิบาย ม.2/4 รายละเอยี ดของเรือ่ ง อภิปรายแสดง ม.2/5 ความคิดเห็นและข้อโต้แย้ง วิเคราะห์ ม.2/6 และจำแนกข้อเทจ็ จรงิ ข้อมลู ม.2/7 สนับสนนุ และขอ้ คดิ เหน็ จากบทความ ม.2/8 ทอ่ี ่าน ระบุข้อสังเกตการชวนเช่ือ การ โน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผลของ งานเขียน ประเมนิ คณุ คา่ หรือแนวคิด ท่ไี ดจ้ ากการอา่ น เพื่อนำไปใช้ แกป้ ัญหาในชีวติ เขียนผงั ความคดิ เพอื่ แสดงความเข้าใจในบทเรียนต่างๆ ท่ี อ่าน และมีมารยาทในการอ่าน 3 การคดั ลายมือ ท 2.1 ม.2/1 การคดั ลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั 4 4 ตอ้ งรหู้ ลกั ในการคดั และเขยี นตัว อกั ษรไทยตามรปู แบบต่างๆ 4 การเขียนเพอื่ การ ท 2.1 ม.2/2 การเขยี นบรรยายและพรรณนา เขยี น 12 6 สอื่ สาร ม.2/3 เรียงความ เขยี นย่อความ เขียน ม.2/4 รายงานการศึกษาคน้ คว้าและรายงาน ม.2/5 โครงงาน เขียนจดหมายกจิ ธุระ เขยี น ม.2/6 วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ม.2/7 ความคิดเห็น หรอื โต้แย้งในเรื่องท่ีอา่ น ม.2/8 เป็นการเขียนเพอ่ื การสอื่ สาร ตอ้ ง เขยี นให้ถูกต้องตามหลกั การเขยี น
และมีมารยาทในการเขยี น ลำดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั 5 หลกั การฟังและ เรยี นรู้/ ตวั ชีว้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน การดูส่ือ ท 3.1 ม.2/2 การวเิ คราะห์วจิ ารณเ์ ร่ืองทฟี่ ังและดู 4 5 6 การพูดสรุปความ ม.2/3 เพื่อนำข้อคิดมาประยุกตใ์ ช้ในการ จากสื่อท่ีฟงั และดู ม.2/6 ดำเนนิ ชวี ิต ต้องวิเคราะห์ขอ้ เท็จจรงิ ข้อคิดเห็น และความน่าเชอื่ ถือของ 7 การพดู ในโอกาส ข่าวสาร และมมี ารยาทในการฟงั ต่างๆ และการพดู การดู และการพูด รายงาน สอบกลางภาค 1 20 8 การสร้างคำและ ประโยค ท 3.1 ม.2/1 การพดู สรุปใจความสำคญั การ 6 3 ม.2/3 วเิ คราะห์และวจิ ารณ์เรอื่ งทฟี่ ังและดู 9 คำราชาศัพท์ ม.2/6 เพือ่ นำขอ้ คิดมาประยุกต์ใช้ในการ ดำเนนิ ชวี ติ ตอ้ งมคี วามรเู้ ร่ือง หลกั การฟัง การดู และการพูด และ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการ พูด ท 3.1 ม.2/4 การพูดในโอกาสตา่ งๆ และการพูด 3 3 ม.2/5 รายงานเรอื่ งหรือประเด็นท่ศี ึกษา ม.2/6 ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ สนทนา ต้องพูดให้ถูกต้องตาม หลกั การพดู และมีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ท 4.1 ม.2/1 การศึกษาหลกั ภาษาไทย ต้องมี 9 10 ม.2/2 ความร้เู รื่องการสร้างคำ สามารถ ม.2/5 รวบรวมและอธบิ ายความหมายของ คำตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย รวมถงึ การวิเคราะห์โครงสร้าง ประโยคสามญั ประโยครวม และ ประโยคซอ้ น ไดถ้ ูกต้อง ท 4.1 ม.2/4 คำราชาศัพทเ์ ปน็ ระเบยี บแบบแผน 3 4 ในการใช้ภาษาท่ีตอ้ งใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง ตามระดบั ของบุคคล
ลำดบั ท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก เรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน 10 การแตง่ บทร้อยกรอง ท 2.1 ม.2/2 การแตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอน 6 5 ประเภทกลอน ม.2/7 ตอ้ งมีความร้เู รือ่ งฉนั ทลกั ษณ์และ ม.2/8 ร้จู ักสรรคำมาใชใ้ ห้เหมาะสม ท 4.1 ม.2/3 วิเคราะห์ วิจารณ์ และอธบิ ายคุณคา่ ท 5.1 ม.2/2 จาก เรอ่ื งที่อา่ นและเขยี นพร้อมกบั สรปุ ความรูแ้ ละข้อคิด เพื่อนำไป ม.2/5 ประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จรงิ และท่องจำ บทอาขยานทมี่ ีคุณค่าได้ สอบปลายภาค 1 30 รวมตลอดภาคเรียน 60 100
คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท 22102 ภาคเรยี นท่ี 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ............................................................................................................................. ............................................ ศกึ ษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การวเิ คราะห์และประเมินค่า วรรณคดีและวรรณกรรม โดยศึกษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสียง การอ่านจับใจความ การอ่านตามความสนใจ ฝึกทักษะ การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้ง การพูดสรุปความ พูด วเิ คราะห์และวิจารณ์จากเร่ืองที่ฟังและดู พูดรายงานการศึกษาค้นคว้าการรวบรวมและอธิบายความหมายการ สร้างคำและลกั ษณะประโยคในภาษาไทยและศกึ ษาลักษณะคำประพันธ์ การแต่งบทรอ้ ยกรอง ประเภท กาพย์ กลอนสุภาพเพื่อนำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง และทอ่ งจำบทอาขยานท่ีมีคุณคา่ ได้ ฝึกทักษะวิเคราะห์ ประเมินค่า และข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเร่ือง โคลงภาพพระราช พงศาวดาร บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมาและสามัคคีเสวก ศิลาจารึกหลักท่ี 1 บทละครเร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง โคลงสุภาษิตพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า และนิราศเมืองแกลง ท่องจำบท อาขยานตามทีก่ ำหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้ความคิดนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต กระบวนการเขียนเพื่อการส่อื สารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟงั และ ดู และพดู แสดงความรู้ความคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ เพ่ือให้เข้าใจธรรมชาติภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา พลังภาษา ภูมิปัญญาทาง ภาษา วิเคราะห์วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมอยา่ งเห็นคุณค่านำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ รกั ษาภาษาไทยไว้ เป็นสมบตั ขิ องชาติ และมนี สิ ัยรักการอ่าน การเขียน มมี ารยาทในการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพูด ตวั ชี้วดั ท 1.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/8 ท 2.1 ม.2/2 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/7 ม.2/8 ท 3.1 ม.2/1 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ท 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ท 5.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 รวม 26 ตัวช้วี ัด
โครงสรา้ งการจดั หนว่ ยการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท 22102 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลาเรียน 60 ช่วั โมง (1.5 หนว่ ยกติ ) ลำดบั ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก 1 เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 2 โคลงภาพพระราช ท 1.1 ม.2/1 การอา่ นออกเสียงวรรณคดีเร่ือง โคลงภาพ 5 4 พงศาวดาร ม.2/2 พระราชพงศาวดาร จะต้องอา่ นอย่าง 3 ถูกต้อง สรุปใจความสำคัญ วิเคราะห์และ 4 ท 5.1 ม.2/1 วจิ ารณ์ อธบิ ายคุณค่าจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน ม.2/2 พรอ้ มกับสรปุ ความรู้และขอ้ คิดเพื่อนำไป ม.2/3 ประยุกต์ใช้ ในชีวติ จรงิ และท่องจำ ม.2/4 บทรอ้ ยกรองท่มี ีคณุ คา่ ม.2/5 บทเสภาสามัคคีเสวก ท 1.1 ม.2/1 การอ่านออกเสยี งเร่ือง บทเสภาสามคั คี 5 4 ตอน วิศวกรรมา ม.2/2 เสวก ตอน วศิ วกรรมาและสามัคคีเสวก และสามคั คเี สวก จะต้องอา่ นอยา่ งถูกต้อง สรุปใจความ ท 5.1 ม.2/1 สำคญั วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์ อธิบายคุณคา่ ม.2/2 จากเร่ืองทอี่ ่าน พร้อมกบั สรุปความรู้และ ม.2/3 ข้อคิดเพือ่ นำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จริง และ ม.2/4 ท่องจำบทอาขยานท่ีมีคุณค่า ม.2/5 ศิลาจารึกหลกั ท่ี 1 ท 1.1 ม.2/1 การศึกษาเรื่อง ศลิ าจารึกหลักท่ี 1 จะตอ้ ง 5 5 ม.2/2 อ่านออกเสียงอย่างถกู ต้อง จับใจความ สำคัญ สรปุ เนื้อหา วิเคราะหว์ ิจารณ์ และ ท 5.1 ม.2/1 อธบิ ายคุณคา่ จากเร่ืองท่อี ่าน พรอ้ มกับสรปุ ม.2/2 ความรู้และขอ้ คิดเพ่ือนำไปประยกุ ต์ใช้ใน ม.2/3 ชวี ติ จรงิ ม.2/4 บทละครเร่ือง ท 1.1 ม.2/1 การอ่านบทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน 4 4 รามเกยี รติ์ ตอน ม.2/2 นารายณ์ปราบนนทก จะต้องอา่ นให้ถกู ต้อง นารายณ์ปราบนนทก สรปุ ใจความสำคัญ วิเคราะหว์ ิจารณ์ และ ท 5.1 ม.2/1 อธิบายคณุ ค่าจากเรื่องที่อ่าน พร้อมกับสรปุ ม.2/2 ความรู้และข้อคิดเพื่อนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ม.2/3 ในชวี ติ จริง และท่องจำบทอาขยานทม่ี ี ม.2/4 คุณค่า ม.2/5
ลำดับที่ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก 5 เรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน 6 กาพย์ห่อโคลง ท 1.1 ม.2/2 การศึกษาเร่ือง กาพยห์ ่อโคลง 5 4 7 ประพาสธารทองแดง ท 5.1 ม.2/1 ประพาสธารทองแดง จะต้องสรปุ 8 ม.2/2 ใจความสำคัญ วิเคราะห์ วิจารณ์ และ 4 อธิบายคณุ คา่ จากเร่ืองทอี่ า่ น พรอ้ ม ม.2/3 กบั สรปุ ความรู้และข้อคดิ เพื่อนำไป 20 ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ 3 ม.2/4 3 โคลงสุภาษติ ท 5.1 ม.2/1 การศึกษาเรื่อง โคลงสุภาษิตพระราช 5 พระราชนิพนธ์ ม.2/2 นิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระ พระบาทสมเดจ็ ม.2/3 จลุ จอมเกลา้ เจ้าอยูห่ วั จะต้องสรปุ พระจุลจอมเกล้า ม.2/4 ใจความสำคัญ วเิ คราะห์ วิจารณ์ และ เจา้ อยู่หัว ม.2/5 อธบิ ายคณุ คา่ จากเร่ืองทีอ่ า่ น พรอ้ ม กบั สรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ เพื่อนำไป ประยุกต์ใช้ ในชวี ิตจรงิ พร้อมกบั ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดได้ สอบกลางภาค 1 4 กลอนดอกสร้อย ท 1.1 ม.2/1 การศึกษาเร่ือง กลอนดอกสร้อยรำพงึ รำพึงในปา่ ช้า ม.2/2 ในปา่ ชา้ จะต้องอ่านอยา่ งถูกต้อง สรปุ 4 ใจความสำคัญ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และ นิราศเมอื งแกลง ท 5.1 ม.2/1 อธิบายคุณคา่ จากเรื่องท่ีอา่ น พรอ้ ม ม.2/2 กับสรุปความรแู้ ละข้อคิดเพ่ือนำไป ม.2/3 ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง และท่องจำบท ม.2/4 อาขยานทีม่ ีคุณค่า ม.2/5 ท 1.1 ม.2/1 การศึกษาวรรณคดีเร่ือง นริ าศเมืองแก ม.2/2 ลง จะต้องอา่ นอย่างถูกต้องสรุป ใจความสำคัญ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และ ท 5.1 ม.2/1 อธิบายคณุ ค่าจาก ม.2/2 เร่ืองท่อี ่าน พร้อมกับสรุปความรแู้ ละ ม.2/3 ข้อคิด เพ่อื นำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ม.2/4 จริง และท่องจำบทอาขยานที่มคี ณุ ค่า ม.2/5
มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก ลำดับที่ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ เรยี นรู้/ตัวช้ีวดั (ช่วั โมง) คะแนน 9 การพดู สรุปความ ท 3.1 ม.2/1 การพูดสรปุ ใจความสำคญั การ 3 4 จากสือ่ ที่ฟงั ดแู ละ ม.2/3 วิเคราะห์วจิ ารณเ์ ร่ืองที่ฟัง ดู การพูด พดู ในโอกาสตา่ งๆ ม.2/4 ในโอกาสต่างๆ และการพูดรายงาน 5 ม.2/5 เพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใชใ้ นการ ดำเนินชวี ติ ต้องมีความรู้เร่อื งหลักการ 5 ม.2/6 ฟัง การดู และการพดู และมมี ารยาท ในการฟัง การดู และการพูด 5 10 การเขยี นเพอื่ การ ท 2.1 ม.2/2 การเขยี นบรรยายและพรรณนา การ 6 ส่อื สาร ม.2/3 เขยี นเรยี งความ ย่อความ เขียน ม.2/4 รายงานการศึกษาค้นคว้าและ เขียน ม.2/5 วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ม.2/7 ความคดิ เห็น หรอื โต้แย้งในเร่ืองท่ี ม.2/8 อ่าน เป็นการเขยี นเพ่ือการสอ่ื สาร ตอ้ งเขยี นให้ถูกต้องตามหลกั การเขียน และมมี ารยาทในการเขียน 11 การสรา้ งคำและ ท 4.1 ม.2/1 การศึกษาหลกั ภาษาไทย ต้องมี 6 ประโยค ม.2/2 ความรู้เร่ืองการสร้างคำ สามารถ ม.2/5 รวบรวมและอธิบายความหมายของ คำภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ใน ภาษาไทย รวมถึงการวิเคราะห์ โครงสรา้ งประโยคสามญั ประโยค รวม และประโยคซ้อน ได้ถกู ต้อง 12 การแตง่ บทร้อยกรอง ท 2.1 ม.2/2 การแต่งบทรอ้ ยกรองประเภท กาพย์ 6 กลอน ต้องมีความร้เู รื่องฉันทลกั ษณ์ ประเภท กาพย์ ม.2/7 และรู้จักสรรคำมาใช้ใหเ้ หมาะสม วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และอธิบายคุณค่า กลอน ม.2/8 จาก เรื่องที่อ่านและเขียนพร้อมกับ สรุปความรู้และข้อคดิ เพ่ือนำไป ท 4.1 ม.2/3 ประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ และท่องจำบท อาขยานท่ีมีคุณค่าได้ สอบปลายภาค 1 30
รวมตลอดภาคเรยี น 60 100 คำอธบิ ายรายวิชา รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท 23101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ............................................................................................................................. ............................................ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วที่เปน็ บทความทวั่ ไปและบทความปกิณกะ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอน บทละคร กลอนเสภา และโคลงสสี่ ุภาพเป็นทำนองเสนาะ ไดอ้ ย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับเรอื่ ง อา่ นวรรณคดี ในบทเรียน ข่าวและเหตุการณ์สำคัญ บทความ และบันเทิงคดี แล้วเข้าใจความหมายโดยตรงและความหมาย โดยนัย จับใจความสำคัญและรายละเอียดของเร่ืองท่ีอ่าน แสดงความคิดเห็นโต้แย้งเก่ียวกับเรื่องที่อ่านและ เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด ย่อความ วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ เรื่องท่ีอ่านอย่างมีเหตุผล ลำดับความ อย่างมีขั้นตอน และความเป็นไปได้ของเรื่องท่ีอ่าน รวมทั้งประเมินความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้สนับสนุนเรื่องที่ อ่าน อ่านหนังสือนอกเวลา และหนังสือที่ครูและนักเรียนร่วมกันกำหนด แล้วตีความ ประเมินคุณค่า บอก แนวคดิ ที่ไดจ้ ากเร่อื ง เพอื่ นำไปใช้แก้ปญั หาในชีวติ รวมท้งั มีมารยาทและนิสัยรกั การอา่ น คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด และเขียนส่ือสารด้วยลายมือที่อ่านง่าย ชัดเจน เขียนคำอวยพรใน โอกาสต่าง ๆ เขียนชีวประวัติ อัตชีวประวัติ เขียนย่อความ โดยใช้ถ้อยคำให้ถูกต้องเหมาะสมตามระดับของ ภาษาเขยี นอธบิ าย ชีแ้ จง แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และโตแ้ ยง้ อย่างมเี หตผุ ล มมี ารยาทในการเขยี น พดู แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินเร่อื งจากการฟังและการดู นำข้อคิดไประยกุ ต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดอภิปราย พูดโน้มน้าวใจได้ตรงตามวัตถุประสงค์ มีเหตุผล และ น่าเชอื่ ถอื มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด ศึกษาหลักการใช้ภาษาเรื่องลักษณะของคำไทยแท้กับคำท่ีมาจากภาษาอ่ืน การใช้ประโยคที่ซับซ้อน และระดบั ของภาษา ศึกษาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่นิ แลว้ สรปุ เนอื้ หา วเิ คราะหต์ วั ละครสำคัญ วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านพร้อมท้ังสรุปความรู้และข้อคิดเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง ท่องจำและบอกคณุ คา่ บทอาขยานตามท่ีกำหนด และบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ นำไปใช้อ้างอิง เห็นคุณค่าของภาษาไทย ตระหนักในความสำคัญท่ีจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยในฐานะมรดกของ ชาติ รู้จักพัฒนาตนเองเพื่อให้เกิดความรู้และทักษะทางภาษาไทย เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รหสั ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/10 ท 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/6 ม.3/10 ท 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ท 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ท 5.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 รวมท้ังหมด 28 ตัวช้ีวัด
โครงสร้างหนว่ ยการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท 23101 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง (1.5 หนว่ ยกติ ) ลำดบั ท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั 1 เรียนรู้ / ตวั ช้วี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน 2 การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบท 3 การอ่านออกเสียง ท 1.1 ม. 3/1 ร้อยกรองผู้เรยี นตอ้ งรหู้ ลักการอ่าน 4 4 จงึ จะสามารถอ่านได้ถูกต้องเหมาะสม 9 4 4 การอ่านอย่างมี ท 1.1 ม. 3/3 กับเรือ่ งทอ่ี า่ น วิจารณญาณ ม. 3/4 การอา่ นส่ือตา่ งๆ ผเู้ รียนตอ้ งระบุ 6 5 ม. 3/9 ใจความสำคัญและรายละเอียดของ ข้อมูลท่สี นบั สนุนจากเร่ืองทอ่ี ่าน 2 2 การอ่านวนิ จิ สาร ท 1.1 ม. 3/2 ตีความและประเมินคุณคา่ แนวคดิ ท่ี ม. 3/3 ได้จากงานเขยี นอย่างหลากหลาย ม. 3/4 เพอ่ื นำไปใช้แกป้ ัญหาในชีวิต และ ม. 3/5 เขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคิด ม. 3/6 บันทกึ ยอ่ ความ และรายงาน ม. 3/7 การอา่ นจับใจความจากสือ่ ต่างๆ ม. 3/8 ต้องระบุความแตกต่างของคำทม่ี ี ความหมายโดยตรงและความหมาย การคดั ลายมอื ท 2.1 ม. 3/1 โดยนัย ระบใุ จความสำคญั และ รายละเอยี ดของข้อมลู ที่สนบั สนนุ จากเร่อื งแล้วเขียนกรอบแนวคิด ผัง ความคิด บนั ทึก ย่อความ และ รายงาน วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และ ประเมนิ เรื่องท่ีอา่ นโดยใช้กลวิธกี าร เปรียบเทยี บ ประเมนิ ความถูกต้อง ของข้อมลู ท่ีใชส้ นับสนุนในเรื่อง วิจารณ์ความสมเหตุสมผล การลำดับ ความและความเปน็ ไปได้ของเรื่อง วิเคราะหเ์ พื่อแสดงความคิดเห็น โตแ้ ยง้ เกย่ี วกบั เรื่อง การคดั ลายมือท่ีถูกต้อง จะต้องคัด ลายมอื ตวั บรรจงครึง่ บรรทดั ตาม รูปแบบการเขียนตวั อกั ษรไทย
ลำดบั ที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ / ตัวชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน 5 การเขียนเพ่ือการ ท 1.1 ม. 3/2 การเขียนเพอ่ื การส่อื สาร ผ้เู รียนต้อง 8 5 สื่อสาร 1 ม. 3/3 เขียนขอ้ ความโดยใชถ้ ้อยคำได้ 7 5 ม. 3/4 ถกู ต้องตามระดับ ของภาษา เขียน 1 20 6 4 ม. 3/5 ชวี ประวตั ิ หรืออตั ชีวประวัติ เขยี น 6 4 ม. 3/8 ยอ่ ความ เขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ 4 6 ม. 3/10 กรอกแบบสมัครงาน พร้อมเขียน บรรยายเกี่ยวกบั ความรู้ แลมะ. ท3ัก/4ษะ ของตนเองทเ่ี หมาะสมกับงาน และมี มารยาทในการเขยี น 6 การเขียนเพ่ือการ ท 2.1 ม. 3/6 การเขยี นอธิบาย ช้แี จง แสดงความ ส่อื สาร 2 ม. 3/7 คดิ เห็น เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และ ม. 3/9 แสดงความรู้ ความคิดเหน็ หรือ โตแ้ ย้งอย่างมีเหตผุ ล รวมทมัง้ เ.ข3ีย/น4 รายงานแสดงการศึกษาคน้ ควา้ และ โครงงาน เป็นการเขยี นเพ่ือการ ส่อื สารทต่ี อ้ งคำนงึ ถงึ รปู แบบ และ วธิ ีการเขยี นทีถ่ ูกต้อง สอบกลางภาค 7 การพดู เรือ่ งจากส่อื ท 3.1 ม. 3/1 การพูดแสดงความคดิ เห็นและ ทฟี่ งั และดู ม. 3/2 ประเมินเร่ืองจากการฟังและดู ม. 3/3 จะต้องอาศัยการวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ม. 3/6 เพือ่ ใหส้ ามารถนำข้อคิดที่ไดร้ ับมา ประยุกตใ์ ช้ในการดำเนินชวี ิต และ พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นทีศ่ ึกษา คน้ คว้าได้อย่างมีมารยาท 8 การพู ดใน โอกาส ท 3.1 ม. 3/4 การพดู ในโอกาสต่างๆ และการพดู ตา่ งๆ ม. 3/5 โน้มน้าว ตอ้ งพดู ใหต้ รงตาม ม. 3/6 วัตถุประสงคแ์ ละนำเสนอหลกั ฐาน ตามลำดบั เนอื้ หาอยา่ งมเี หตุผลและ นา่ เช่อื ถือ มมี ารยาทในการพูด 9 การใชค้ ำใน ท 4.1 ม. 3/1 การศกึ ษาเร่ืองการใชค้ ำในภาษาไทย ภาษาไทย ม. 3/4 จะชว่ ยใหจ้ ำแนกและใชค้ ำ ม. 3/5 ภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย ใช้คำทบั ศัพท์และศัพท์บัญญัตไิ ด้ อยา่ งถูกต้อง และสามารถอธิบาย
ความหมายของคำศัพท์ทางวชิ าการ และวชิ าชีพ ลำดบั ท่ี ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้ / ตัวชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน 10 การวิเคราะห์ภาษา ท 4.1 ม. 3/2 การศกึ ษาหลักภาษาไทยต้องสามารถ 3 6 ม. 3/3 วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน 3 5 เพ่ือสร้างประโยคที่สละสลวมย. 3ส/่ือ4 1 30 60 100 ความหมายได้ชดั เจน และวเิ คราะห์ ระดับภาษาที่ใช้ในการส่ือสารได้ ถูกต้องและเหมาะสม 11 การแต่งบท ท 4.1 ม. 3/6 การแตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทโคลงสี่ ร้อยกรองประเภท สุภาพ จะตอ้ งแตง่ ให้ถกู ต้องมต. า3ม/4 โคลงส่สี ุภาพ ลักษณะบังคับและเลือกสรรถ้อยคำ ภาษาท่ีมคี วามหมายลกึ ซึ้ง กนิ ใจ และมีความไพเราะ สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรยี น
คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท 23102 ภาคเรยี นท่ี 2 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ……………………………………………………………………………………………………………..................................................... อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วท่ีเปน็ บทความท่ัวไปและบทความปกิณกะ บทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 และโคลงส่ีสุภาพเป็นทำนองเสนาะ ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับเรื่อง อ่านสารคดี สารคดีเชิงประวัติ ตำนาน งานเขียนเชิงสร้างสรรค์ เร่ืองราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยและกลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื แล้วเขา้ ใจความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย จับใจความสำคัญ และรายละเอียดของเร่ืองท่ีอ่าน แสดงความคิดเห็นโต้แย้งเกี่ยวกับเรอื่ งท่ีอ่าน เขียนบันทึก รายงาน วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องท่ีอ่านอย่างมีเหตุผล ลำดับความอย่างมีขั้นตอน และความเป็นไปได้ของเรื่องท่ีอ่าน รวมทั้งประเมนิ ความถูกต้องของข้อมูลทใ่ี ชส้ นับสนุนเรื่องที่อ่าน อ่านหนังสือนอกเวลา และหนังสือตามความ สนใจของนักเรียน แล้วตคี วาม ประเมินคุณค่า บอกแนวคิดท่ไี ด้จากเร่ือง เพื่อนำไปใช้แกป้ ัญหาในชีวติ รวมท้ัง มมี ารยาทและนิสัยรกั การอา่ น คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด และเขียนสื่อสารด้วยลายมือที่อ่านง่าย ชัดเจน เขียนคำขวัญ คำคม คติพจน์ โฆษณา เขียนจดหมายกิจธรุ ะ เขียนรายงานและโครงงานโดยใชถ้ อ้ ยคำให้ถูกต้องเหมาะสมตามระดับ ของภาษา เขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และโต้แย้งอย่างมีเหตุผล มีมารยาทในการ เขียน พดู แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมินเรอ่ื งจากการฟงั และการดู นำขอ้ คิดไประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวิตประจำวัน พูดรายงานเรื่องที่ศึกษาจากการฟัง การดูและการสนทนา พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดโต้วาที พูดยอวาที ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ มีเหตุผล และน่าเชอ่ื ถอื มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ศกึ ษาหลกั การใช้ภาษาเรอ่ื งการใช้คำทบั ศพั ท์และศัพท์บญั ญัติ คำศัพท์ทางวิชาการและวชิ าชีพ และ แตง่ โคลงสีส่ ุภาพ ศกึ ษาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ แลว้ สรปุ เนอ้ื หา วิเคราะหต์ ัวละครสำคัญ วิถีไทย และคุณค่าจากเร่ืองท่ีอ่าน พร้อมท้ังสรุปความรู้และข้อคิดเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง ท่องจำและบอกคุณค่าบท อาขยานตามทก่ี ำหนด และบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ นำไปใชอ้ ้างอิง เห็นคุณค่าของภาษาไทย ตระหนักในความสำคัญท่ีจะต้องช่วยกันอนุรกั ษ์ภาษาไทยในฐานะมรดกของ ชาติ รู้จักพัฒนาตนเองเพื่อให้เกิดความรู้และทักษะทางภาษาไทย เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ รหัสตวั ช้ีวัด ท 1.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/10 ท 2.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/5 ม.3/7 ม.3/8 ม.3/9 ม.3/10 ท 3.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/6 ท 4.1 ม.3/4 ม.3/5 ม.3/6 ท 5.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109