Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การตรวจค้นจับกุมและการตั้จุดตรวจ

การตรวจค้นจับกุมและการตั้จุดตรวจ

Published by thanatphat2606, 2021-02-22 13:22:54

Description: การตรวจค้นจับกุมและการตั้งจุดตรวจ

Search

Read the Text Version

2 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพอื่ เล่ือนตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชนั้ สัญญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ---------------------------------------------

1 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝึกอบรมข้าราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพือ่ เลือ่ นตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชั้นสัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- องคป์ ระกอบการรกั ษาตัวรอด ความสมบรู ณข์ องรา่ งกาย ยุทธวิธี อปุ กรณ์ ทกั ษะการใช้อาวุธปนื การปรบั สภาพทางจติ ใจ องคป์ ระกอบของการเอาตวั รอด ความสมบรู ณ์ทางกายภาพ - พละกำลัง/ควำมเขม้ แขง็ (ไมต่ ้องกำรออ๊ กซิเจน / anaerobic) - ควำมทนทำน (ตอ้ งกำรออ๊ กซเิ จน / aerobic) ยทุ ธวธิ ี - กำรทำงำนประสำนกนั - ทักษะต่ำงๆ ทำงกำยภำพ ทกั ษะในการใช้อาวุธปนื - อยำ่ งแม่นยำ (ควำมสำมำรถของคนเรำจะลดลง 25 % ในชว่ งท่ีมคี วำมตงึ เครยี ดสูง) - ควำมคนุ้ เคย

2 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขนึ้ ไป เพอ่ื เลื่อนตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้นั สัญญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- องคป์ ระกอบของการเอาตัวรอด อปุ กรณ์ - ควำมมอี ยู่/พรอ้ มสำหรบั กำรใชง้ ำน - ควำมค้นุ เคย - ควำมสะอำด/ใช้งำนได้ สภาพทางจิตใจ - เตรียมพร้อม/ตระหนกั รู้ - สร้ำงมโนภำพถึงสถำนกำรณ์ - ควำมเช่อื ทมี่ ีผลตอ่ พฤติกรรมแบบ “ชนะ” และ “อย่รู อด”

3 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพอื่ เลอ่ื นตาแหนง่ เล่ือนยศ เลอื่ นไหลเป็นช้ันสญั ญาบตั ร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- บทบาทของผปู้ ระสบเหตคุ นแรก FIRST RESPONDER การปฏิบัตมิ าตรฐานสาหรบั เจา้ หนา้ ท่ีตารวจผเู้ ผชิญเหตุคนแรก จุดประสงค์ เพือ่ นำไปใชเ้ ป็นมำตรฐำนกำรปฏบิ ัตขิ องเจำ้ หนำ้ ท่ีตำรวจในกำรปฏิบัติหนำ้ ท่ีเมื่อ เผชิญเหตุ นโยบาย สำนักงำนตำรวจแห่งชำตมิ ีนโยบำยที่จะทำให้เจำ้ หนำ้ ท่ตี ำรวจผู้เผชิญเหคุสำมำรถ ดำเนนิ กำรดว้ ยควำมถกู ตอ้ ง รวดเร็ว ปลอดภัยต่อชีวิตและทรพั ย์สินของผทู้ ่เี กี่ยวข้องในเหตุกำรณ์ ภำยใตก้ รอบของกฎหมำย โดยคำนึงถึงหลกั มนษุ ยชน ข้อมลู พ้นื ฐาน เมอื่ ได้รบั กำรมอบหมำยงำน เจำ้ หนำ้ ทต่ี ำรวจผเู้ ผชญิ เหตจุ ะต้องรบี ไปยังสถำนทีท่ ่ี ไดร้ บั มอบหมำยในทันที เว้นแตว่ ำ่ ผบู้ ังคับบญั ชำจะสง่ั กำรใหศ้ ูนยว์ ิทยมุ อบหมำยภำรกจิ นน้ั ๆ ใหก้ ับ หน่วยอ่นื แทน โดยเน้นกำรปฏิบัตหิ นำ้ ท่ตี ำมลำดับควำมสำคญั โยพิจำรณำตำมควำมเหมำะสมกบั สถำนกำรณ์ ดงั น้ี 1. กำรชว่ ยเหลือผูบ้ ำดเจบ็ 2. กำรดูแลทรัพย์สินต่ำงๆ 3. กำรบงั คบั ใช้กฎหมำย ขน้ั ตอนปฏิบตั ิของเจา้ หน้าท่ตี ารวจผูเ้ ผชิญเหตคุ นแรก ก่อนเขา้ เผชญิ เหตุ 1. กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลทไี่ ดร้ ับกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู เบ้ืองตน้ ตำมหลัก 5W1H ไดแ้ ก่ ใคร (Who) ทำอะไร (What) ที่ไหน (Where) เมื่อไหร่ (When) ทำไม (Why) และอยำ่ งไร (How) 2. กำรรำยงำนศนู ยว์ ิทยุ หรอื ผู้บงั คับบญั ชำทรำบ กำรยืนยันสถำนกำรณท์ ีเ่ กดิ ขึน้ และรำยงำนถึงสถำนภำพแวดลอ้ มในท่เี กดิ เหตุโดยทันที

4 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพ่ือเล่ือนตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชน้ั สญั ญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 3. ขอกำลงั สนับสนนุ กำรขอกำลงั สนับสนนุ หรอื ขอควำมช่วยเหลือในกรณีจำเปน็ เช่น คนรำ้ ยมจี ำนวนมำกกว่ำเข้ำหนำ้ ท่ีตำรวจ หรือมีผูไ้ ดร้ บั บำดเจ็บจำนวนมำกในบริเวณทเี่ กดิ เหตุ เป็น ตน้ ขณะเขา้ เผชิญเหตุ 1. ใหป้ ระเมนิ สถำนกำรณแ์ ละควำมเสีย่ งกำรประเมินจำกบรเิ วณทเ่ี กิดเหตุ ในมุมมอง ของสถำนกำรณ์ขณะนัน้ และเตรียมแผนสำรอง หำกเหตกุ ำรณ์ยกระดบั ควำมรนุ แรง (อยำ่ รีบแรง่ เข้ำ สถำนท่ีเกิดหรอื แสดงตวั ทันที เมอ่ื ถึงทเ่ี กิดเหตุ ซึง่ อำจกอ่ ให้เกิดควำมเสยี หำยได)้ 2. ชว่ ยเหลอื ผทู้ ่ีรบั ไดร้ บั บำดเจ็บกำรให้กำรชว่ ยเหลือทำงกำรแพทยแ์ ก่ผู้ทไี่ ด้รับ บำดเจ็บทกุ คนในบริเวณทีเ่ กิดเหตุ 3. ปฏิบัตกิ ำรตำมยุทธวธิ ีกรณจี ำเป็นแร่งด่วน ให้เขำ้ ระงบั เหตตุ ำมระดบั กำรใชก้ ำลัง โดยพจิ ำรณำควำมเหมำะสมตำมสัดส่วน ตำมสถำนกำรณ์ และพฤติกำรณข์ องคนรำ้ ย และ สภำพแวดล้อม 4. ปิดกน้ั พืน้ ท่ี และรกั ษำสถำนกำรณ์ที่เกดิ เหตุ ไมว่ ่ำจะเป็นกำรอพยพบคุ คลทไี่ ม่ เกย่ี วขอ้ งออกจำกทเี่ กดิ เหตุ กำรปอ้ งกนั ไมไ่ ดบ้ ุคคลเขำ้ และออกจำกพ้นื ทีน่ ้นั กำรปดิ ก้ันพนื้ ทีไ่ วไ้ มใ่ ห้ บุคคลหรอื ประชำชนเขำ้ มำ ตลอดจนกำรรักษำสถำนท่ีเกดิ เหตุหึคงสภำพเดมิ ไวใ้ ห้มำกที่สุดเท่ำทจ่ี ะทำ ไดเ้ พ่ือป้องกันมใิ ห้เกดิ กำรสูญหำยหรอื ของพยำนหลักฐำนต่ำงๆ ในท่ีเกดิ เหตถุ ูกทำลำย อำจดำเนินกำร โดยใชบ้ ุคคล เชือก แผงกนั้ เครือ่ งหมำยหรอื แผ่นปำ้ ยแสดงกำรหำ้ มเข้ำบรเิ วณทเี่ กิดเหตุ หลังเข้าเผชญิ เหตุ 1. สรุปข้อมลู เบื้องตน้ กำรรำยงำนขอ้ สรุปขอ้ มูลเบอ้ื งตน้ กำรจัดทำรำยงำนหรอื เอกสำรทเี่ กยี่ วขอ้ งเสนอผู้บงั คบั บัญชำอย่ำงถกู ต้อง ครบถ้วนตัวอยำ่ งข้อมูลที่เจ้ำหนำ้ ท่ีตำรวจผ้เู ผชิญ เหตคุ นแรกตอ้ งสรุปขอ้ มลู เบือ้ งตน้ ให้ไดม้ ำกที่สุดเทำ่ ทรี่ ำยงำนได้ในเบือ้ งตน้ ได้แก่ 1.1 ข้อมูลเบ้อื งต้นจำกเหตกุ ำรณ์ที่เกดิ ข้ึน (ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน อยำ่ งไร เมื่อใด ทำไม) - ชอ่ื คนรำ้ ย จำนวนคนร้ำย พฤติกรรมของคนร้ำย ตำหนริ ูปพรรณ (ตำมผนวกท่แี นบ) ของ คนรำ้ ย อำวธุ ของคนร้ำย ข้อเรยี กร้องของ คนรำ้ ย สำเหตุกำรกระทำควำมผดิ - เสน้ ทำงและยำนพำหนะท่ีคนร้ำยใชก้ ระทำผิดหรือหลบหนี

5 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลือ่ นตาแหน่งเล่อื นยศ เลอ่ื นไหลเป็นชั้นสญั ญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- - ชอ่ื ผู้เสยี หำย ควำมเสียหำยท่เี กิดขึน้ ข้อมลู เบอ้ื งต้น หรือสำเหตุที่ จะฆำ่ ตวั ตำย - ตัวประกนั เป็นใคร เกย่ี วข้องกบั คนร้ำยหรือไม่ จำนวนเท่ำใด สภำพของตัวประกันเปน็ อย่ำงไร สภำพของสถำนท่ี เส้น ทำงเข้ำออกของอำคำรทตี่ วั ประกนั ถกู ควบคุม - กล่มุ ผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มใด จำนวนผชู้ มุ นุม ขอ้ เรียกรอ้ งและแกนนำ กลุ่ม - สภำพของภัยพิบตั ทิ ี่เกิดขึ้น ควำมเสยี หำยทีป่ ระชำชนได้รับ จำนวนผบู้ ำดเจบ็ ผู้สูญหำย ศพ 1.2 กิจกรรมท่ไี ดด้ ำเนินกำรแลว้ เช่น - กำรปิดกนั้ สถำนท่ีเกิดเหตุ กำรจัดทำพน้ื ที่วงใน พน้ื ท่วี งนอก - กำรปดิ ก้นั กำรจรำจร มิใหม้ ีผู้สัญจรเข้ำ - ออก บริเวณที่เกดิ เหตุ - กำรประสำนงำนเบอ้ื งต้นกบั หน่วยงำนที่เกีย่ วขอ้ ง เชน่ ดบั เพลงิ สถำนพยำบำล เปน็ ต้น - กำรอพยพผู้บำดเจ็บและประชำชนไปยังท่ปี ลอดภยั ( ท่ีใดและใคร เปน็ ผรู้ ับผดิ ชอบ ดำเนินกำรนำไป) 1.3 เสนอแนะสถำนทท่ี เี่ ห็นวำ่ มีควำมเหมำะสมที่จะเป็นพน้ื ท่ปี ฏิบัตกิ ำรหรอื จดุ รวมพล 1.4 ส่งมอบรำยงำนสรุป พรอ้ มรำยชือ่ ของบุคคลท่ีไดเ้ ขำ้ ไปสอบถำม รำยละเอียดของเหตกุ ำรณ์ เพื่อฝำ่ ยสบื สวนหรือพนกั งำนสอบสวนจะได้นำไป ดำเนนิ กำรตอ่ ในกรณีทีม่ ีวัตถพุ ยำน หรอื ภำพถ่ำยเก่ยี วกับ เหตุท่ีเกดิ สภำพ ผู้บำดเจบ็ หรือยำนพำหนะ ภำพถ่ำยกล่มุ ผชู้ มุ นมุ ให้สง่ มอบแก่ผบู้ ญั ชำกำร เหตุกำรณ์โดยเรว็ 2. เมอ่ื เสร็จส้นิ ภำรกิจ ตอ้ งกลับสูส่ ถำนะ มคี วำมต่ืนตัวและเตรียมควำมพรอ้ มสำหรับ กำรปฏบิ ัติ หนำ้ ท่ีและกำรใหค้ วำมชว่ ยเหลอื ในกรณีตอ่ ไปโดยทนั ที

6 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่อื เลื่อนตาแหน่งเลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้ันสัญญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- แนวทางการปฏบิ ตั ิท่ีจาเป็น สาหรับเจ้าหน้าท่ีตารวจผูเ้ ผชิญเหตหุ รือไปถงึ ทีเ่ กิดเหตคุ นแรก แนวปฏบิ ตั ิท่ีจาเปน็ สาหรับเจ้าหนา้ ที่ตารวจผูเ้ ผชญิ เหตุหรอื ไปถงึ ท่เี กิดเหตุคนแรก (กรณีไมว่ ิกฤต) ข้ันตอนหลกั ในการปฏิบัติ ขอ้ สังเกต 1. รีบ ว.25 และแจ้ง ว.10 ท่ีเกดิ เหตุ 1. พบผบู้ ำดเจบ็ ตอ้ งปฐมพยำบำลเบอ้ื งตน้ ตำม 2. ประเมินสถำนกำรณ์ พจิ ำรณำแกไ้ ขปัญหำ ควำมเหมำะสมและดำเนินกำรเพื่อนำสง่ ขอรบั กำรสนบั สนนุ หรือประสำนงำนกับ สถำนพยำบำล หน่วยงำนท่เี ก่ยี วขอ้ งบนั ทึกภำพสถำนทเี่ กิดเหตุ 2. พบผ้เู สียชวี ิต ห้ำมผูไ้ ม่เก่ยี วขอ้ งเข้ำไปแตะ และรำยงำนเหตุกำรณเ์ บอื้ งตน้ ต้อง และเคล่ือนย้ำยโดยเด็ดขำด 3. ปดิ ก้นั และรกั ษำสถำนท่ีเกดิ เหตุเบอ้ื งตน้ ไม่ แตะต้องและ เคลอื่ นย้ำยวตั ถุพยำนโดยเด็ดขำด รวมทัง้ หำ้ มผไู้ มเ่ กย่ี วขอ้ ง เข้ำไปในที่เกิดเหตุ 4. ประชำสัมพันธ์ -สอบถำมพยำนในที่เกดิ เหตุหรือผ้เู หน็ เหตกุ ำรณ์ พร้อมจดช่อื -สกุล หมำยเลขโทรศัพท์ - หำ้ มผไู้ มเ่ ก่ียวข้องเขำ้ ไปในบรเิ วณทเี่ กิดเหตุ - เตรยี มเสน้ ทำงเข้ำออกสำหรบั เจำ้ หนำ้ ทที่ ่ี เกย่ี วขอ้ งและ ผบู้ งั คบั บัญชำ - หำกพบวตั ถุพยำนให้แจง้ เจำ้ หน้ำท่ตี ำรวจหรือผู้ มีหนำ้ ที่ เกย่ี วข้องทรำบ - แจง้ เตอื นให้ผ้อู ย่ใู นบริเวณที่เกิดเหตุเพ่มิ ควำม ระมัดระวงั อนั ตรำยต่ำง ๆ ท่อี ำจจะเกิดขึ้น ใน แต่ละเหตกุ ำรณ์ 5.รำยงำนเหตกุ ำรณโ์ ดยสังเขปให้ผู้บงั คับบญั ชำ หรือ พนกั งำนสอบสวนทม่ี ำถึงที่เกิดเหตุทรำบ 6. หำกไม่ใชพ่ ้นื ที่รบั ผดิ ชอบให้ดำเนินกำรตำม ข้อ 1-4 แลว้ รบี แจ้งให้เจำ้ ของพนื้ ท่รี ับผิดชอบ ทรำบ

7 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่อื เลือ่ นตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- แนวทางการปฏิบตั ิทีจ่ าเป็นสาหรับเจา้ หน้าที่ตารวจผู้เผชิญเหตุหรือไปถงึ ท่ีเกิดเหตคุ น แรก (กรณวี ิกฤต) เหตุลักทรพั ย์ ขั้นตอนหลกั ในการปฏบิ ตั ิ รายละเอยี ดการปฏิบตั ิ ข้อสังเกต 1. รีบ ว.25 และแจง้ ว.10 ที่ 1. รีบ ว.25 และแจง้ ว.10 ที่ 1. พบผู้บำดเจ็บตอ้ งปฐม เกิดเหตุ เกิดเหตุ พยำบำลเบือ้ งต้น ตำมควำม 2. ประเมินสถำนกำรณ์ 2. สอบถำมผแู้ จ้งหรือพยำนใน เหมำะสมและดำเนินกำรเพ่ือ พิจำรณำแก้ไข ปญั หำ ขอรบั ท่เี กิดเหตุ เบ้อื งตน้ หำกมีเหตุ นำสง่ สถำนพยำบำล กำรสนบั สนุนหรอื ประสำนงำน จรงิ ให้แจ้งศนู ยว์ ิทยทุ รำบ 2. พบผู้เสยี ชีวติ ห้ำมผ้ไู ม่ กับหนว่ ยงำนท่ีเกยี่ วขอ้ ง พรอ้ มขอกำลงั สนับสนนุ เกย่ี วข้องเข้ำไป แตะตอ้ งและ บนั ทกึ ภำพสถำนที่ เกิดเหตแุ ละ จำกนนั้ ใหส้ อบถำม เคลอ่ื นยำ้ ยโดยเด็ดขำด รำยงำนเหตุกำรณเ์ บอื้ งตน้ รำยละเอยี ดเพิ่มเตมิ ดงั น้ี 3. ปดิ กน้ั และรักษำสถำนท่ีเกดิ 1) จำนวนคนร้ำย เพศ ทั้งที่อยู่ เหตุเบ้ืองตน้ ไม่แตะต้องและ และ หลบหนีไปแล้ว เคลอ่ื นย้ำยวัตถุพยำนโดย 2) อำวุธ เดด็ ขำด รวมทงั้ หำ้ มผู้ไม่ 3) มผี อู้ ำศัยยังอยู่ในบ้ำนและมี เก่ยี วขอ้ งเขำ้ ไป ในท่เี กิดเหตุ ผู้ไดร้ บั อันตรำยอย่ำงไรหรือไม่ 4. ประชำสัมพนั ธ์ 4) ตำหนริ ปู พรรณ กำรแตง่ กำย - สอบถำมพยำนในทีเ่ กดิ เหตุ และตำแหนง่ ที่อย่ขู องคนรำ้ ย หรือ ผู้เห็นเหตกุ ำรณ์ พรอ้ มจด 5) จำนวนและประเภทของ ชอ่ื - สกุล หมำยเลขโทรศพั ท์ ทรัพยส์ ิน ทถ่ี ูกประทษุ ร้ำย - หำ้ มผู้ไม่เกยี่ วข้องเข้ำไปใน 6) ยำนพำหนะของคนรำ้ ย บรเิ วณ ทีเ่ กดิ เหตุ 7) เสน้ ทำงที่สำมำรถใช้ในกำร - เตรยี มเสน้ ทำงเขำ้ ออกสำหรับ หลบหนี เจ้ำหนำ้ ที่ทเ่ี กีย่ วขอ้ งและ 8) สภำพพืน้ ทโี่ ดยรอบที่เกดิ ผูบ้ งั คับบญั ชำ เหตุ 3. กรณมี ีคนร้ำยหลบหนี - หำกพบวัตถพุ ยำนให้แจง้ ให้รีบแจง้ สกดั จบั เจำ้ หน้ำท่ี ตำรวจหรอื ผมู้ ีหน้ำท่ี 4. ประชำสมั พันธโ์ ดยใช้เครอ่ื ง เกี่ยวขอ้ งทรำบ ขยำยเสียง หรอื วิธกี ำรอน่ื ใด - แจง้ เตอื นให้ผ้อู ยูใ่ นบริเวณที่ เพอื่ ขอควำมร่วมมือ ให้ เกิดเหตุ เพิม่ ควำมระมดั ระวงั ประชำชนที่พักอำศยั หรืออยู่ อนั ตรำยต่ำง ๆ ที่ อำจจะ บริเวณใกล้ที่ เกดิ เหตุ เกิดขึ้นในแตล่ ะเหตกุ ำรณ์ 1) รบั รู้สถำนกำรณ์ 5. รำยงำนเหตกุ ำรณ์โดยสงั เขป 2) ใหใ้ ช้ควำมระมดั ระวัง ให้ ผู้บงั คับบญั ชำหรือพนักงำน 3) ช่วยสงั เกตกำรณ์และแจง้ สอบสวนทีม่ ำถึง ท่เี กดิ เหตุ เบำะแส ทรำบ

8 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพื่อเลอ่ื นตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอื่ นไหลเป็นชั้นสัญญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 6. หำกไมใ่ ช่พื้นทรี่ ับผดิ ชอบให้ 5. พจิ ำรณำหำจุดทเ่ี หมำะสม ดำเนินกำร ตำมข้อ 1 - 4 แล้ว ว.10 เพอ่ื บรหิ ำรเหตกุ ำรณ์ รบี แจ้งให้เจำ้ ของพ้นื ท่ี และดำเนินกำรจบั กมุ คนร้ำย รบั ผิดชอบทรำบ ตำมควำมเหมำะสม 6. เม่อื ผ้บู งั คบั บญั ชำหรือ พนกั งำนสอบสวน มำถงึ ให้ รำยงำนเหตกุ ำรณใ์ ห้ทรำบ

9 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพอื่ เล่อื นตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอ่ื นไหลเป็นชนั้ สญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- การยนื เผชิญเหตแุ ละการเผชญิ หนา้ – คุ้มกนั 1. รายละเอยี ดของการฝกึ 1. การยนื เผชิญเหตุ (Ready Stance) เปน็ กำรยนื ในลกั ษณะท่ำเตรยี มพรอ้ ม เมอ่ื ตำรวจต้อง เผชิญหน้ำ อยูก่ ับบุคคลต้องสงสยั ในสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ ในเบือ้ งต้นเรำยังไม่ทรำบว่ำบุคคลตอ้ งสงสัย ดังกล่ำวน้ันเป็นคนดี หรือคนร้ำย ดังนั้น เพ่ือควำมปลอดภัยตำรวจจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับ เหตุกำรณ์ท่ีจะเกิดข้ึน และไม่ประมำท โดยเด็ดขำด เพรำะบุคคลต้องสงสัยอำจจะกลำยเป็นคนร้ำย ต่อสู้ขัดขวำงกำรปฏิบัติหน้ำท่ีหรือวิ่งหลบหนี เรำจึง ต้องพร้อมที่จะต่อสู้ป้องกันตัวหรือวิ่งไล่ติดตำม จบั กุมคนร้ำย กำรยนื ทำ่ เตรียมพร้อม จงึ เป็น ทำ่ พ้นื ฐำนทีส่ ำคัญของ ท่ำต่ำง ๆ ในยุทธวิธีกำรตรวจค้น จบั กมุ และในยทุ ธวธิ ีกำรต่อสปู้ ้องกันตัวด้วย โดยมีหลักปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1.1. ยืนในลักษณะลำตวั ตรง เท้ำทงั้ สองขำ้ งหำ่ งกันประมำณ 1 ชว่ งไหล่ ยอ่ เขำ่ ทั้งสอง ข้ำงเล็กนอ้ ยเพื่อเตรียมพร้อมในกำรเคล่อื นไหวตวั อยำ่ งคลอ่ งแคล่ว 1.2. มือท้ังสองข้ำงอยู่ด้ำนหน้ำโดยวำงไว้ท่ีบริเวณแนวเข็มขัด มือทั้งสองข้ำงจะ ประสำนกันหรือไม่ก็ได้ ทง้ั น้ี เพื่อสำหรับกำรใช้มอื และแขนไดอ้ ย่ำงรวดเร็ว ในกำรต่อสู้ป้องกันตวั กำร จับกุม กำรใช้อำวุธปืนที่พกอยู่บริเวณ เอว หรือกำรหยิบใช้อุปกรณ์ต่ำง ๆ ตำมควำมเหมำะสมและ จำเปน็ 1.3. ยืนหันหน้ำเข้ำหำบุคคลต้องสงสัย ในระยะห่ำงประมำณ 2 ช่วงแขน เพื่อให้มี ระยะหำ่ งเพยี งพอที่จะ หลบหลีกป้องกันตวั จำกกำรจูโ่ จมของบุคคลตอ้ งสงสยั หรือเขำ้ ทำกำรจบั กุมเมื่อ บุคคลต้องสงสยั พยำยำมหลบหนี 1.4. สำยตำจับจ้องอยู่ท่ีบุคคลต้องสงสัยตลอดเวลำเพื่อสังเกตมือของผู้ต้องสงสัย สี หน้ำ แววตำ อำกปั กิริยำ ท่ำที และกำรโต้ตอบว่ำจะมปี ฏิกิริยำตอบสนองตอ่ คำสั่ง และกำรปฏิบัตหิ นำ้ ที่ ของตำรวจอย่ำงไร ทั้งนเ้ี พ่อื จะไดเ้ ตรยี มพร้อมรบั มือกับสถำนกำรณน์ ั้นอย่ำงเหมำะสมรำยละเอียด ตำม รปู 4.1 - 4.6

10 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลอ่ื นตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชัน้ สัญญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 2. การเผชญิ หนา้ - คุ้มกนั (CONTACT - COVER) หมำยถึง หลกั กำรทำงยุทธวิธตี ำรวจที่ กำหนดบทบำท และหนำ้ ท่ีของตำรวจ 2 ฝำ่ ย หรอื 2 คน ทเ่ี ปน็ คู่ตรวจ ในกำรเขำ้ เผชญิ หน้ำกับคนร้ำย โดยแยกหน้ำทไ่ี ด้ดงั ตอ่ ไปน้ี ก. ตำรวจผูเ้ ผชิญหนำ้ (CONTACT OFFICER) คือ ตำรวจผู้ท่ีรับผิดชอบในกำรเข้ำไป เผชญิ หน้ำกับคนรำ้ ย เพือ่ ปฏิบตั หิ น้ำที่ตำ่ ง ๆ เช่น กำรสอบถำม กำรตรวจคน้ จับกมุ และเป็นผอู้ อก คำสั่งบังคับหรือสัง่ ให้คนรำ้ ยทำตำม ข. ตำรวจผู้ค้มุ กัน (COVER OFFICER) คอื ตำรวจผ้ซู ึง่ รบั ผดิ ชอบในกำรรกั ษำควำม ปลอดภัยให้แก่ตำรวจ ผู้เผชญิ หน้ำ โดยจะคอยเฝ้ำดูอำกำรกริ ยิ ำของคนรำ้ ยหรือผูต้ อ้ งสงสยั ตลอดเวลำ เฝ้ำฟงั วิทยุ กำรพดู วิทยุ เฝ้ำดู เก่ียวกับพยำนวตั ถุตำ่ ง ๆ ในตัวผตู้ อ้ งสงสยั และมหี น้ำท่ีในกำรปอ้ งกัน ยับยงั้ กำรหลบหนหี รือกำรโจมตีของคนร้ำย และกำรสงั เกตพนื้ ทโ่ี ดยรอบตนเองในระยะ 360 องศำ 2.1 ควำมสำคัญ เปน็ หลักกำรปฏิบตั ิเพอื่ ควำมปลอดภัยของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ ในขณะเข้ำ เผชิญหน้ำกบั ผู้ต้องสงสยั หรือคนรำ้ ย ในรูปแบบต่ำง ๆ โดยส่วนมำกใชก้ ับ ตำรวจท่ีเป็นคู่ตรวจ จำนวน 2 คน 2.2 หลักกำรพื้นฐำน - เมอ่ื ตำรวจจะเขำ้ เผชญิ หน้ำกบั คนร้ำยหรือผู้ตอ้ งสงสัย ให้ตำรวจเริ่มตกลง กนั ว่ำใครจะเป็นผเู้ ผชญิ หนำ้ และใครจะเปน็ ผคู้ ุ้มกนั - ในกำรเข้ำเผชิญหน้ำกับผตู้ ้องสงสยั ใหต้ ำรวจผู้เผชญิ หน้ำเป็นผ้อู อกคำส่ัง ให้ผตู้ ้องสงสยั หยุดและ เรม่ิ ปฏิบัตติ ำมภำรกจิ เชน่ กำรสอบถำม โดย ตำรวจผ้เู ผชิญเหตุต้องยืนอยู่หำ่ งจำกผ้ตู ้องสงสยั ประมำณ 2 ช่วงแขน โดย ยืนเยอื้ งกบั ผู้ตอ้ งสงสยั ทำงดำ้ นซ้ำยหรือดำ้ นขวำเลก็ นอ้ ย (รปู 4.7) - ตำรวจผู้คมุ้ กนั ตอ้ งยืนระยะห่ำงเพียงพอทีผ่ ้ตู อ้ งสงสัยจะไม่สำมำรถเข้ำ แยง่ ปนื ได้ โดยระยะห่ำง แบบหลักกำรระยะปลอดภยั และยืนทำ มุมในลกั ษณะตัววี แต่ไม่เกินตวั แอล (ห้ำมยืนในลักษณะตัวไอเด็ดขำด) กับตำรวจผู้เผชญิ หนำ้ หำกเป็นคนร้ำยสำคัญตำรวจผ้คู มุ้ กนั อำจต้องยกปนื ขน้ึ เลง็ ไปทำงคนร้ำย ส่วนตำรวจผู้เผชิญหน้ำไมต่ ้องชักอำวุธปืนออกจำกซองแต่ อย่ำงใด ส่วนกำรเข้ำหำคนรำ้ ยนั้นใหเ้ ดินเยื้องกับคนร้ำย โดยอยำ่ หันดำ้ นที่ พก อำวุธปนื เขำ้ ใกล้คนรำ้ ย (รปู 4.8)

11 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพอ่ื เล่อื นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชัน้ สัญญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- - ในกรณที ีค่ นรำ้ ยหรือผตู้ ้องสงสัยขัดขืนตอ่ สู้ ตำรวจผูเ้ ผชิญหน้ำจะต้อง ถอยหลังหรอื เคลอ่ื นท่ีออก ใหห้ ่ำงจำกตัวผ้ตู ้องสงสยั หรอื คนรำ้ ยทันที โดย ถอยหลังมำตำมทศิ ทำงที่เขำ้ ไปเพือ่ จะไดไ้ ม่ขวำงแนววถิ กี ระสุน หรือ ขัดขวำง กำรใช้อำวุธปืนของตำรวจผคู้ ้มุ กนั (รูป 4.9) หมายเหตุ - ตำรวจผู้เผชิญหน้ำเข้ำไปปฏิบัติหน้ำท่ีและเปลี่ยนมุมไป เช่น เข้ำค้นทำงขวำแล้วเปล่ียนมำ ค้น ทำงซ้ำยใหผ้ คู้ ุ้มกนั ยนื หำตำแหน่งใหม่ท่ีเหมำะสมตำมหลกั แนวกำรยงิ เพื่อมใิ ห้อยใู่ นแนววถิ ีกระสุน - สำหรับตำแหน่งตำรวจผู้เผชิญหน้ำ และผู้คุ้มกัน สำมำรถสบั เปลี่ยนตำแหน่งระหว่ำงกันได้ ตำม ควำมเหมำะสม เช่น ตำรวจผู้ทำหน้ำที่ผเู้ ผชิญหนำ้ มำทำหน้ำที่ผู้คุ้มกัน สว่ นตำรวจทท่ี ำหน้ำที่ ผ้คู ้มุ กนั มำทำหนำ้ ที่ ผูเ้ ผชญิ หน้ำก็ได้ ท้ังน้ี ตำมควำมเหมำะสมและสถำนกำรณท์ ี่เกดิ ขึ้น องค์ประกอบ วธิ ีการเขา้ หาผตู้ อ้ งสงสยั (เผชิญหนา้ - ค้มุ กัน) • ตำแหน่งท่ไี ด้เปรียบ (POA) • ตำแหน่งทีเ่ สยี เปรียบ (POD) • กำรสื่อสำรระหวำ่ ง เจ้ำหนำ้ ท่ี - บุคคลท่ีเข้ำหำ • กำรดูตำแหนง่ พื้นที่ สถำนที่ ท่ีกำบงั

12 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพ่อื เลื่อนตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชัน้ สญั ญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- การตรวจคน้ ตัวบคุ คล รายละเอียดของการฝึก ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มำตรำ 93 ห้ำมมิให้ทำกำรค้นบุคคลใดในที่สำธำรณสถำน เว้นแต่พนักงำนฝ่ำยปกครองหรือ ตำรวจเป็น ผู้ค้นในเม่ือมีเหตุอันควรสงสัยว่ำบุคคลนั้นมีสิ่งของในควำมครอบครองเพื่อจะใช้ในกำร กระทำควำมผดิ หรอื ซึ่งไดม้ ำ โดยกำรกระทำควำมผดิ หรอื ซ่งึ มีไว้เป็นควำมผดิ การตรวจคน้ บคุ คล ท่าท่ี 1 การตรวจคน้ บคุ คลในท่ายืน ขน้ั ตอนท่ี 1 ให้ตำรวจผู้ทำหน้ำท่ีผูเ้ ผชิญหน้ำเป็นผู้ตรวจคน้ ส่วนตำรวจผู้คุม้ กันยืนอยู่ เฉียงไป ทำงด้ำนหลัง ทำมุมเป็นรูปตัววีแต่ไม่เกินตัวแอล กับตำรวจผู้เผชิญหน้ำ จำกนั้นตำรวจผู้ เผชิญหน้ำออกคำส่ังให้ ผู้ต้องสงสัยหยุดแล้วชูมือทง้ั สองข้ำงไว้เหนือศีรษะ หมุนตัวหันไปด้ำนหลัง อย่ำงช้ำ ๆ แล้วนำมอื ประสำนกันไว้ เหนอื ศีรษะหันฝำ่ มือหงำยขึ้นด้ำนบน แล้วเอำหลังมอื วำงไว้บน ศรี ษะ กำงขำออกกว้ำงๆ (รูป 5.1) ขั้นตอนท่ี 2 เจ้ำหน้ำที่ตำรวจผู้เผชิญหน้ำ เดินเข้ำหำผู้ต้องสงสัยทำงด้ำนหลัง กรณี ตำรวจ ผูเ้ ผชญิ หน้ำอยู่เยือ้ งไปทำงดำ้ นขวำของผตู้ ้องสงสยั ใหเ้ ดินเข้ำทำงด้ำนขวำของผ้ตู อ้ งสงสัย ใช้เท้ำซ้ำยเก่ียวเท้ำขวำ ของผู้ต้องสงสัยไว้ แล้วใช้มือซ้ำยจับมือทั้งสองข้ำงของผู้ต้องสงสัยไว้ แขน เหยยี ดตรง จำกน้ันใช้มือขวำคน้ ตัวตงั้ แต่ ระดับเอวถึงศีรษะ เมือ่ จะค้นชว่ งล่ำงออกคำสัง่ ให้ผตู้ ้องสงสัย ยอ่ ตวั ลง แลว้ ใชม้ ือขวำคน้ ต้ังแต่เอวลงไปจนถึง ปลำยเท้ำของผตู้ อ้ งสงสัย (รปู 5.2) ขั้นตอนที่ 3 กรณีต้องกำรค้นอีกดำ้ นของผตู้ ้องสงสัย ให้ผู้ตรวจค้นทำสลบั ข้ำงมือและ เท้ำกบั อกี ด้ำนหนึง่ สว่ นตำรวจผู้คุ้มกันก็เปลีย่ นตำแหน่งไปยืนคุ้มกนั อีกด้ำนหนึง่ โดยทำมุมเป็นรปู ตัว วแี ต่ไม่เกนิ ตัวแอล เช่นกัน (รปู 5.3)

13 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพอ่ื เลอ่ื นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมายเหตุ - ในกำรตรวจค้นบคุ คลในท่ำยนื น้ัน ไม่ควรให้ผู้ต้องสงสัยยืนหันหน้ำยนั กำแพงในลักษณะที่ไม่ เสีย กำรทรงตวั เพรำะทำให้ผ้ตู อ้ งสงสัยมหี ลกั และอำจหนั กลบั มำใช้ศอกทำร้ำยผู้ตรวจค้นได้ ทา่ ที่ 2 การตรวจค้นบคุ คลในทา่ คกุ เข่ามอื ประสานทศ่ี ีรษะ ขั้นตอนที่ 1 ใหต้ ำรวจผู้ทำหน้ำท่ีผู้เผชิญหน้ำเป็นผู้ตรวจค้น ส่วนตำรวจผู้คุ้มกันยืนอยู่เฉียงไป ทำง ดำ้ นหลงั ทำมุมเปน็ รูปตัววแี ต่ไมเ่ กนิ ตัวแอล กับตำรวจผูเ้ ผชญิ หนำ้ ตำรวจผูเ้ ผชิญหน้ำออกคำส่งั ให้ ผตู้ ้องสงสัยชูมอื ทัง้ สองขำ้ งขึ้นเหนอื ศีรษะ หมุนตวั หันไปด้ำนหลงั ช้ำ ๆ แล้วน่งั คุกเขำ่ ลง นำมือท้ังสอง ข้ำงประสำนกันไว้ หันฝ่ำมือ หงำยข้ึนด้ำนบน นำหลังมือมำวำงไว้บนศีรษะ จำกน้ันสั่งให้นำเท้ำไขว้ทับ กนั ไว้ (รปู 5.4) ข้ันตอนท่ี 2 เจ้ำหน้ำที่ตำรวจผู้เผชิญหน้ำ เดินเข้ำหำผู้ต้องสงสัยทำงด้ำนหลัง กรณีตำรวจ ผู้เผชิญหน้ำอยู่เย้ืองไปทำงด้ำนขวำของผู้ตอ้ งสงสยั ให้เดนิ เข้ำทำงดำ้ นขวำของผู้ตอ้ งสงสัย ใชม้ อื ซ้ำยจับ มือท้ัง สองข้ำงของผ้ตู อ้ งสงสยั ไว้ แขนเหยยี ดตรง จำกนนั้ ใช้มอื ขวำค้นบริเวณลำตวั ตั้งแตร่ ะดับเอวถึง ศีรษะ และจำกเอว ไปถงึ ปลำยเทำ้ (รูป 5.5) ขั้นตอนที่ 3 กรณีต้องกำรค้นอีกด้ำนของผู้ต้องสงสัย ให้ผู้ตรวจค้นเปล่ียนมือสลับข้ำงกัน ส่วนตำรวจผู้คุ้มกันก็เปล่ียนตำแหน่งไปยืนคุ้มกันอีกด้ำนหน่ึง โดยทำมุมเป็นรูปตัววี แต่ไม่เกินตัวแอ ลเชน่ กัน (รูป 5.6)

14 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเล่ือนตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชน้ั สญั ญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ท่าที่ 3 การตรวจคน้ บุคคลในทา่ นอนควา่ หน้า ขั้นตอนที่ 1 ให้ตำรวจผู้ทำหน้ำท่ีเผชิญหน้ำเป็นผู้ตรวจค้น ส่วนตำรวจผู้คุ้มกันยืนอยู่เฉียงไป ทำงด้ำนหลัง ทำมุมเป็นรปู ตัววี แตไ่ ม่เกนิ ตวั แอล กบั ตำรวจผูเ้ ผชิญหน้ำ จำกน้ันตำรวจผู้เผชิญหน้ำออก คำสั่งให้ ผู้ต้องสงสัยนอนคว่ำหน้ำลงกับพื้น กำงแขน กำงเทำ้ ออกให้กว้ำง นำมือทั้งสองข้ำงเหยียด ตรงไปดำ้ นบนเหนอื ศีรษะ แล้วเอำมือประสำนกนั หันฝำ่ มอื ออกไปดำ้ นหนำ้ (รูป 5.7) ขั้นตอนที่ 2 เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจผู้เผชิญหน้ำ เดินเข้ำหำผู้ต้องสงสัยทำงด้ำนหลัง กรณีตำรวจ ผเู้ ผชิญหนำ้ อยู่เยอ้ื งไปทำงด้ำนขวำของผู้ต้องสงสัย ออกคำสง่ั ให้ผู้ต้องสงสัยพลิกตัวด้ำนซ้ำย เจ้ำหน้ำท่ี ผ้ตู รวจคน้ ย่อตัวลงโดยใหเ้ ขำ่ วำงทับทบ่ี ริเวณเอวของผู้ต้องสงสัย ใชม้ อื ขวำกดบริเวณไหลไ่ ว้ แล้วใชม้ ือ ซ้ำยตรวจคน้ บริเวณ ลำตัวครึ่งซีกบนโดยเริ่มตง้ั แต่เอวถึงศรี ษะ สว่ นกำรตรวจค้นขำช่วงลำ่ งและรองเท้ำ สั่งให้ผตู้ ้องสงสัยค่อย ๆ งอเข่ำ พับมำด้ำนหลังแล้วทำกำรค้น แทนกำรก้มลงไปใกลเ้ ทำ้ ของผู้ต้องสงสัย เพื่อควำมปลอดภัย (รูป 5.8) เม่ือจะตรวจค้นลำตัวอีกด้ำนหนงึ่ ใหผ้ ู้ตรวจค้นเดินอ้อมทำงปลำยเท้ำ และปฏิบัตใิ นลักษณะ เดียวกันแตส่ ลับข้ำงกัน ตำรวจผู้คุม้ กนั ก็เปลี่ยนตำแหนง่ ไปยืนคุ้มกนั อกี ดำ้ นหน่ึง (รูป 5.9)

15 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพ่ือเล่อื นตาแหน่งเล่อื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สัญญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ท่าที่ 4 ทา่ ค้นบคุ คลทัว่ ไป เป็นกำรปฏิบัติเพือ่ ลดภำพกำรปฏิบัตหิ น้ำท่ี ในลักษณะผู้ท่ีถูกค้นยังไม่มคี วำมผิด แตต่ ้องสงสัย หรือ ตรวจผ่ำนตำมสถำนทีจ่ ัดงำน โดยใช้รูปแบบให้บุคคลท่ีเจ้ำหน้ำท่ีขอค้น กำงแขนออกเล็กน้อย ยืน ตำมสบำย เจ้ำหนำ้ ท่ีมือจบั ข้อศอก ศอกสัมผสั ไหล่ แลว้ ทำกำรตรวจคน้ ในกรณเี จ้ำหน้ำท่ี 2 คนชว่ ยค้น เพรำะอำจมีพฤตกิ ำรณ์ที่อำจโต้ตอบเจ้ำหน้ำท่ี หรือเป็นกำรชว่ ยควบคุม ในกำรปฏบิ ตั ิ ข้อควรพจิ ารณา 1. คน้ กอ่ นจบั /จับก่อนคน้ 2. เมอื่ พบสิง่ ผดิ กฎหมำย ให้เจำ้ หน้ำท่สี ร้ำงระยะปลอดภยั และออกคำสั่งตอบโตส้ ถำนกำรณ์ 3. กำรตรวจคน้ บคุ คลควรค้นหำอำวุธก่อนเปน็ อนั ดับแรก 4. กำรตรวจคน้ ทำ่ นอนเข่ำไมก่ ดลงบนตัวผทู้ ่เี รำทำกำรคน้ (ผู้ตอ้ งสงสยั )

16 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพือ่ เล่อื นตาแหน่งเลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเป็นชั้นสญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ยุทธวิธใี นการจับกมุ คนร้าย 1. รายละเอียดของการฝกึ กำรจับ หมำยถึง กำรที่เจ้ำหน้ำที่ฝำ่ ยปกครองหรอื ตำรวจ หรือรำษฎร ใช้อำนำจตำมกฎหมำย จบั ผู้กระทำผิด หรอื สงสยั วำ่ กระทำผดิ ทำงอำญำ หรือจับตำมหมำยจับ เพ่ือนำตัวผู้ถูกจบั ไปจัดกำรตำม กฎหมำย หลักพนื้ ฐานของการจับ 1. เป็นกำรป้องกันมิให้ผู้กระทำควำมผิดหลบหนี หรือต่อสู้ขัดขวำงกำรจับกุมของ ตำรวจ 2. เป็นมำตรกำรหน่ึงในกำรป้องกันและรกั ษำควำมปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สนิ ของ ประชำชนทว่ั ไป 3. เจ้ำหน้ำที่ตำรวจผู้จับกุมต้องรู้ข้อมูลพ้ืนฐำน และพฤติกรรมของคนร้ำยท่ีกระทำ ควำมผิดให้มำกท่สี ุด 4. ในกำรดำเนินกำรจับกุม เจำ้ พนักงำนตำรวจจะต้องแจง้ แก่ผทู้ ี่จะถูกจบั นน้ั ให้ทรำบ วำ่ เขำจะต้องถูกจับ และส่งั ให้ผูถ้ กู จับไปยังทท่ี ำกำรของพนกั งำนสอบสวนแหง่ ทอ้ งที่ท่ถี ูกจบั พร้อมดว้ ยผู้ จับ เวน้ แตส่ ำมำรถนำไป ท่ที ำกำรของพนกั งำนสอบสวนผู้รบั ผิดชอบไดใ้ นขณะนนั้ ยุทธวิธีในการจับกุม ทา่ ที่ 1 ทา่ หกั ข้อมอื หรอื ฝ่ามอื หงายกลบั ขนั้ ตอนท่ี 1 เข้ำประชดิ ตัวผถู้ ูกจบั ทำงด้ำนหนำ้ หรอื ด้ำนขวำของผ้ถู ูกจับ แล้ว มือขวำจบั มอื ขวำของผถู้ ูกจบั โดยให้น้ิวหวั แม่มอื ทำบหลงั นวิ้ ช้ผี ถู้ กู จบั ใหเ้ ท้ำขวำอย่ขู ้ำงหน้ำ (รูป 7.1) ข้นั ตอนท่ี 2 กำ้ วเท้ำซ้ำยประชิดตวั ผู้ถูกจับ หมุนตวั ไปทำงขวำพร้อมบิดฝำ่ มือ ของผ้ถู ูกจับหงำยไปทำงด้ำนหลัง ใช้แขนซ้ำยหรอื ฝ่ำมือซ้ำยกดบริเวณแขนขวำท่อนบนของผู้ถูกจับ (รูป 7.2) ข้ันตอนท่ี 3 ออกแรงบังคับให้ผู้ถูกจับนอนคว่ำหน้ำลงบนพ้ืน ถ้ำไม่สำมำรถ นำผู้ถูกจับลง กับพน้ื ได้ ให้ใชว้ ิธกี ำรหมุนตัวมำทำงขวำเพื่อให้ผูถ้ ูกจับเสียหลักแลว้ กดลงพื้น ให้แขนของ ผู้ถูกจับอย่รู ะหว่ำงเข่ำ ทั้งสองข้ำงของผู้จับ โดยใช้เขำ่ ขวำกดทไี่ หล่หรือต้นคอของผู้ถูกจับ เขำ่ ซำ้ ยกดท่ี หลังของผู้ถูกจับ บังคับแขนของ ผู้ถูกจับให้ตึงและตั้งฉำกขึ้นพร้อมบิดข้อมือของผู้ถูกจับไปทำงศีรษะ (รูป 7.3)

17 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลอ่ื นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้ันสัญญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมายเหตุ ในขั้นตอนที่ 3 ถ้ำกดผู้ถูกจับลงพ้ืนได้แล้ว ให้แขนของผู้ถูกจับอยู่ระหว่ำงเข่ำท้ัง สองข้ำงของ ผูจ้ ับ โดยใชเ้ ขำ่ ขวำกดบรเิ วณไหล่หรอื ต้นคอของผถู้ ูกจบั เข่ำซำ้ ยต้ังฉำกกับพน้ื ชดิ กบั รกั แร้ ของผู้ถูกจับ บังคับแขนของผู้ถูกจับให้ตึงและต้ังฉำกขึ้น พร้อมบิดข้อมือของผู้ถูกจับไปทำงศีรษะ เพื่อ บังคับไม่ให้ผู้ถูกจับด้ินหรือขัดขืน จำกนั้นทำกำรใส่กุญแจมือโดยให้ใส่ที่มือขวำก่อน แล้วจึงใส่มือซ้ำย พลิกให้ผถู้ กู จบั หงำยขน้ึ แลว้ น่ังและชว่ ยพยงุ ให้ลกุ ขนึ้ ยนื ควบคุมตัวไปอย่ำงใกลช้ ดิ และระมดั ระวัง ท่าท่ี 2 ท่าหกั ขอ้ มือหงาย ขน้ั ตอนท่ี 1 ใช้มือซ้ำยจับทม่ี ือขวำของผถู้ ูกจับ เทำ้ ซ้ำยอยู่ขำ้ งหนำ้ โดยใช้นว้ิ หวั แมม่ ือ กดระหวำ่ งนิ้วนำงกับนวิ้ ก้อยของผู้ถูกจับ หมนุ ฝ่ำมือผ้ถู กู จบั ไปทำงซ้ำย (รปู 7.4) ขนั้ ตอนที่ 2 ใช้มือขวำช่วยกดท่ีหลังมือผู้ถูกจับ กดในลักษณะหมนุ ตัวช่วยไปทำงซ้ำย กำ้ วเท้ำซำ้ ยไปดำ้ นหลงั จำกนน้ั ออกแรงกดท่ีหลังมือของผูถ้ กู จับเพอ่ื บังคบั ใหผ้ ูถ้ ูกจบั ล้มลงนอนหงำยลง พ้นื (รูป 7.5) ขน้ั ตอนที่ 3 เดนิ อ้อมไปทำงศีรษะผู้ถูกจับเพ่ือบังคับให้ผู้ถูกจับคว่ำหน้ำลง โดยจับมือ ขวำ ของผู้ถูกจบั อยู่และดึงแขนของผูถ้ ูกจับให้ตึง ใช้เข่ำท้ังสองข้ำงกดหลังของผู้ถกู จับไว้ สว่ นแขนขวำ ของผู้ถูกจบั บังคบั ใหต้ งึ แลว้ ต้งั ฉำกข้นึ พร้อมบิดข้อมือของผถู้ ูกจบั (รปู 7.6 และ 7.7)

18 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่ือเลอื่ นตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชัน้ สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมายเหตุ - กำรจบั ในท่ำหกั ข้อมือหงำย ให้พลกิ มอื ในวงแคบ เพ่ือใหค้ นร้ำยเจบ็ และบงั คบั ลงได้โดยง่ำย ซ่งึ หำกยกขนึ้ สงู ผ้ถู ูกจับอำจหมนุ ตวั ลอดใตแ้ ขน แลว้ ใชม้ ืออกี ขำ้ งหน่ึงตอบโต้ ทำให้ไม่สำมำรถบังคบั ผูถ้ ูกจบั ลงพน้ื ได้ - ระหว่ำงกำรเดนิ ออ้ มศรี ษะเพอื่ บงั คับใหผ้ ูถ้ กู จบั คว่ำหนำ้ ลงพ้นื ผถู้ ูกจับกุมอำจขัดขืนและพยำยำมจะลกุ ขน้ึ ให้ผ้จู ับกมุ ใช้มือซ้ำยกดบงั คบั ทีห่ ลงั มอื ขวำ และนำมอื ขวำ มำจับท่ศี อกของผูถ้ กู จับแล้วกดใหแ้ ขนเหยียดตรง (รูป 7.6) ท่าที่ 3 ทา่ สอดคล้องแขน ข้นั ตอนท่ี 1 เจ้ำหนำ้ ท่ีผู้จับกุม ใช้มือซ้ำยจับท่ีมือขวำของผู้ถูกจับ โดยบิดให้ฝ่ำมือหัน ไปทำงดำ้ นหลัง น้ิวหัวแม่มือของผูจ้ ับกุมกดท่ีโคนนิ้วหัวแม่มอื ของผู้ถูกจับ เทำ้ ซ้ำยอยขู่ ำ้ งหน้ำ (รปู 8.1) ข้ันตอนท่ี 2 ก้ำวเท้ำขวำไปข้ำงหน้ำพร้อมกับสอดแขนขวำเข้ำรักแร้ขวำของผู้ถูกจับ หมนุ ตัวไปทำงขวำพลิกข้อมอื ขวำลอ็ กทหี่ วั ไหลข่ วำของผถู้ กู จับ (รูป 8.2) ขนั้ ตอนท่ี 3 ออกแรงกดบังคบั ผู้ถกู จบั กม้ หน้ำลงทพ่ี ้นื พบั แขนไวบ้ นหลัง (รปู 8.3)

19 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพื่อเลือ่ นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชั้นสญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมายเหตุ 1. ในทำ่ นสี้ ำมำรถท่ีใช้จบั ลอ็ กและควบคมุ ผู้ถูกจบั ไปยังท่ีต่ำง ๆ ได้ ถ้ำหำกผู้ถูกจับขดั ขนื ผู้จับ ใชว้ ธิ ีหมุนตวั ไปทำงขวำออกแรงกดผู้ถูกจบั ลงกบั พ้นื 2. ในสว่ นกำรฝึกทำ่ น้ีไมแ่ นะนำใหก้ ดลงบนพื้น เพรำะอำจทำให้ได้รบั บำดเจ็บได้ ทา่ ท่ี 4 ทา่ หักข้อมือคว่า ขั้นตอนท่ี 1 เจ้ำหน้ำที่ผู้จับกุมใช้มือขวำจับที่ข้อมือขวำของผู้ถูกจับจำกทำงด้ำนหลัง ดงึ มำทำงด้ำนขวำ ใหเ้ ทำ้ ขวำอยขู่ ้ำงหน้ำ (รูป 8.4) ข้นั ตอนที่ 2 กำ้ วเทำ้ ซ้ำยไปอยู่แนวเดียวกับเท้ำขวำของผู้ถูกจับ พรอ้ มกบั สอดแขนซำ้ ย เข้ำทีร่ กั แรข้ วำของผถู้ ูกจบั กดศอกชดิ ขำ้ งลำตวั ใช้มือขวำกดข้อมือขวำของผถู้ ูกจบั ใหค้ ว่ำลง (รูป 8.5) ขั้นตอนที่ 3 นำมือซ้ำยไปช่วยกดบังคับที่หลังมือขวำของผู้ถูกจับ โดยให้ข้อศอกขวำ ของผู้ถูกจบั แนบชิดติดลำตัวของผู้จับกุม โดยให้ท่อนแขนของผู้ถูกจับตั้งข้ึน ออกแรงกดท่ีหลังมือแล้ว พำผถู้ กู จับเคลือ่ นทไี่ ป ตำมทต่ี ้องกำร (รูป 8.6)

20 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพือ่ เลือ่ นตาแหน่งเล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ช้ันสญั ญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ขอ้ แนะนา - ถำ้ มเี จำ้ หน้ำที่ตำรวจ 2 นำย อำจเข้ำจับกมุ ผู้ถูกจับทงั้ มือซำ้ ยและขวำกไ็ ด้ เพื่อควำมสะดวก และควำมปลอดภยั ในกำรพำเคลื่อนทไี่ ป ท่าท่ี 5 ทา่ ล็อกแขนกบั ลาตวั ขั้นตอนที่ 1 ผู้จับกุมเดินเข้ำทำงด้ำนหลังเย้ืองทำงขวำของผู้ถูกจับ ให้เท้ำขวำอยู่ ขำ้ งหน้ำ แลว้ ใชม้ อื ขวำจบั ข้อมือขวำของผ้ถู กู จับบิดใหฝ้ ่ำมือหนั ไปข้ำงหลงั (รูป 8.7) ข้ันตอนท่ี 2 ก้ำวเท้ำซ้ำยไปอยู่แนวเดียวกับเท้ำขวำของผู้ถูกจับ ดึงแขนขวำของผู้ถูก จับให้ตึง และให้ข้อศอกของผู้ถูกจับอยู่บริเวณหน้ำอกของผู้จับกุม หักข้อมือของผู้ถูกจับเข้ำหำตัวผู้ จับกุม พร้อมกบั ใช้แขนซ้ำยสอดเขำ้ ไปใต้รักแร้ของผู้ถูกจับ แล้วล็อกหัวไหล่ให้แน่น บงั คบั พำผ้ถู ูกจับให้ เดินไปตำมทต่ี อ้ งกำร (รปู 8.8)

21 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลื่อนตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชั้นสญั ญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมายเหตุ 1. ถ้ำผู้ถูกจบั ขัดขนื ใหผ้ จู้ ับกุม หมุนตวั ไปทำงขวำแล้วทงิ้ นำ้ หนกั ตัวลงเพอื่ บงั คบั ให้ผู้ถูกจับลงบนพน้ื 2. ถ้ำกรณมี ีเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ 2 นำย อำจเข้ำจับลอ็ กแขนอีกข้ำงหนง่ึ ของผถู้ ูกจับกไ็ ด้ แลว้ ช่วยกนั บังคับ พำไป 3. ในกำรฝกึ ควรฝกึ ปฏิบตั ิเข้ำจับกุมทงั้ ทำงดำ้ นขวำและทำงด้ำนซำ้ ย

22 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่ือเลอื่ นตาแหน่งเลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- การปอ้ งกันตวั ด้วยอาวธุ ที่ไม่ถึงตาย 1. รายละเอยี ดของการฝกึ กำรปอ้ งกนั ตวั ด้วยอำวุธที่ไม่ถงึ ตำย - อปุ กรณ์ประจำกำย (กระบองยืดขยำย) - อปุ กรณป์ ระจำรถ (ไมง้ ่ำม, กระสนุ ยำง, ปนื ลกู ซอง) การใช้กระบอง 1. ประเภทของกระบอง 1.1 กระบองยำว 24 นิว้ ทำจำกไม้เนื้อแข็ง ลกั ษณะเป็นทอ่ นกลมตลอดด้ำม จรดปลำย 1.2 กระบองยืดขยำย ผลิตจำกเหล็กท่ีมีคณุ ภำพสูงควำมยำวระหวำ่ ง 6 – 10 น้วิ น้ำหนักอยู่ท่ีประมำณ 4 – 16 ออนซ์ แตเ่ มื่อขยำยจนสุดแล้วจะวัดได้ 16 – 24 นว้ิ ตำมขนำดควำม ยำวของกระบอง 2. กำรใชก้ ระบองต่อสูป้ ้องกันตัว ควรใช้กระบองในลักษณะกำรป้องกันมำกกวำ่ กำรตี ทำร้ำยเพอ่ื ภำพพจน์ท่ดี ขี องตำรวจ 3. หำกจำเป็นต้องใชก้ ระบองตีคนร้ำย ควรมุ่งจุดตีที่อวัยวะส่วนของร่ำงกำยเฉพำะท่ี ใช้ในกำรต่อสู้ขัดขวำงกำรจับกุมเท่ำน้ัน เช่น มือ แขน ขำ เปน็ ต้น โดยหลีกเลีย่ งที่จะตีอวัยวะส่วนของ ร่ำงกำยท่ีแตกมีบำดแผลและเลือดออกได้ง่ำย เช่น ศีรษะ ใบหน้ำ ลำคอ กระดูกสันหลัง ซึ่ง จะเป็น เหมือนกับกำรทำรำ้ ยคน 4. หำกจำเป็นต้องตีป้องกันตัว ควรตีเพ่ือให้หยุดกำรเคลื่อนไหวท่ีบริเวณขำ ทำให้ คนร้ำยทรุดตัวลง หรือตีที่ท่อนแขนทำร้ำยกล้ำมเนอื้ ทจ่ี ะใช้ตอ่ สู้ หรือบริเวณมือหรือข้อมือ ซง่ึ คนร้ำยไม่ สำมำรถใช้มือในกำรตอ่ สไู้ ด้ 5. วิธีกำรฝกึ 5.1 ท่ำเตรียมพร้อม ให้ผู้ปฏิบัติยืนในท่ำเผชิญเหตุ (Ready Stance) ใช้มือ ถนัดจับกระบอง นำออกมำถือไว้ในระดับไหล่ ปลำยกระบองช้ีไปทำงด้ำนหลัง ส่วนมือข้ำงที่ไม่ได้ถือ กระบองให้ยกข้ึนในลักษณะ ตั้งกำร์ด และให้ตำรวจออกคำสั่งด้วยวำจำ “อย่ำเข้ำมำ จะใช้กระบอง” (รูป 9.1 – 9.2)

23 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพือ่ เลอ่ื นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชน้ั สัญญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 5.2 กำรตมี ี 2 ลักษณะ คอื กำรตีบน และตลี ำ่ ง - กำรตีบน เปน็ กำรตีในลกั ษณะเฉียงลงจำกบนลงลำ่ ง 45 องศำ ท้ัง ด้ำนซำ้ ยและขวำ (รปู 9.3 – 9.5) - กำรตีลำ่ ง เป็นกำรตีในลักษณะเชน่ เดียวกันกับกำรตีบน แต่เน้นไป ที่ทอ่ นขำของคนร้ำย (รปู 9.6 – 9.7)

24 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพอ่ื เลือ่ นตาแหน่งเล่อื นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชั้นสัญญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ทา่ ยนื เผชิญเหตุ (ในสภาวะมีความเส่ยี ง) FI Stand – High Risk การเปดิ ประบองยดื ขยาย Open to the Sky - ชกั จำกซองสะบัดเฉียงขึ้นดำ้ นบนแล้วมำอยเู่ ตรยี มพร้อม (Guard) Open to the Ground - ชักจำกซองสะบดั เฉยี งลงด้ำนลำ่ งแลว้ มำอยเู่ ตรียมพร้อม (Guard)

25 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพื่อเลอื่ นตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ช้นั สัญญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- Snap Open - ใช้ฝำ่ มอื กระแทกแลว้ มำอยเู่ ตรยี มพรอ้ ม (Guard) Rapid Response Open - หำกมีกำรชกั ออกมำใช้งำนแลว้ ยดื ไมส่ ุด ไม่ล๊อค สำมำรถตตี อ่ ได้เลย การใช้สเปรย์พริกไทย 1. สถานการณห์ รือขอบเขตการใช้ ระดับกำรใช้กำลังของตำรวจในกำรจับกมุ คนร้ำย หรือควบคุมสถำนกำรณ์น้ัน ตำรวจ ตอ้ งใช้เพอื่ กำรควบคุมเหตุกำรณ์ หรอื เพือ่ กำรจบั กุมคนร้ำยเทำ่ ท่ีจำเปน็ มใิ ช่ใช้เพ่อื กำรลงโทษ ทำโทษ แกแ้ ค้น หรือทำร้ำยคนหรือประชำชน โดยไม่มีเหตุอนั สมควร 2. ข้ันตอนการใช้ ขนั้ ตอนที่ 1 ตำรวจทแี่ ตง่ เครือ่ งแบบ ใหพ้ กซองพร้อมใส่กระป๋องบรรจสุ เปรยพ์ ริกไทย ไว้ในเขม็ ขดั ขำ้ งเอวดำ้ นมอื ทไ่ี มถ่ นดั ขนั้ ตอนท่ี 2 เม่ือพบเหตุจะใช้ ให้ตำรวจตะโกนให้คำสั่งบอกก่อน หรือ บอกว่ำ ถ้ำไม่ หยุด จะใช้สเปรย์พริกไทย “หยุด ถำ้ ไม่หยุดจะใช้สเปรยพ์ ริกไทย” พร้อมกับชูกระป๋องสเปรยพ์ ริกไทย ไปทค่ี นรำ้ ย เพ่ือบอกคนรำ้ ยและประชำชนขำ้ งเคยี งใหท้ รำบ ข้ันตอนท่ี 3 ให้ตำรวจผู้ฉีด ใช้มือข้ำงท่ีไม่ถนัดถือสเปรย์พริกไทย ห่ำงจำกคนร้ำย ประมำณ 3 - 5 ฟุต เหนี่ยวไกกระป๋องสเปรย์พริกไทยให้สุดเพื่อฉีดประมำณคร่ึงวินำที หรือจนกว่ำ คนรำ้ ยจะยอมจำนน (ควรฉีดโดยเหนยี่ วไก แล้วฉดี คร้งั ที่ 2 หรือ 3 ในทนั ที ครงั้ ละครง่ึ วินำที) โดยฉีดไป ท่ีตำ ถำ้ คนรำ้ ยสวมแว่น ใหฉ้ ดี ทห่ี นำ้ ผำก

26 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพ่อื เลื่อนตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ช้ันสัญญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ข้ันตอนท่ี 4 เมื่อผู้ถูกฉีดยอมแล้ว หรือล้มลง หรือหยุดวิวำททำร้ำย ห้ำมฉีดใสํ่ซ้ำ ให้ รบี จับกุม และ ปฐมพยำบำลตอ่ ไป 3. การปฐมพยาบาล หรอื การปฏบิ ัติหลังการใช้ เม่ือคนร้ำยยอมให้จับ ให้นำตัวคนร้ำยมำยังท่ีโล่ง เพื่อให้อำกำศพัดผ่ำนให้สเปรย์ พริกไทยบรรเทำอำกำรแสบร้อนแก่คนร้ำย แล้วให้คนร้ำยใช้น้ำเย็นล้ำงหน้ำ ตำ จมูกทันที และเรียก หน่วยปฐมพยำบำล หรือนำส่งโรงพยำบำล

27 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพือ่ เล่ือนตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- การป้องกันคนร้ายใชอ้ าวุธมดี 1. รายละเอยี ดของการฝกึ เมื่อเจำ้ หน้ำท่ีตำรวจตกอยใู่ นสถำนกำรณ์ท่คี นร้ำยมีอำวุธมดี เป็นอำวธุ มุ่งหวังที่จะทำ รำ้ ยตำรวจ หรือเพ่ือใหห้ ลุดพ้นจำกกำรจบั กมุ ในสถำนกำรณ์เชน่ นี้มีควำมเส่ียงอนั ตรำยและหำกพลำด พลั้งถูกอำวุธมดี ของคนร้ำยในที่สำคัญของร่ำงกำย ก็อำจมีอนั ตรำยถึงแก่ชวี ิตได้ ตำรวจต้องเรียนรูแ้ ละ ใช้ยทุ ธวิธีในกำรปอ้ งกันตัวจำกคนร้ำย ใช้อำวุธมีด ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. กรณีคนรา้ ยใชม้ อื ขวาถอื มีดฟนั เฉยี งจากบนขวาลงมาล่างซา้ ย ขั้นตอนท่ี 1 กำ้ วเทำ้ ซ้ำยประชิดคนร้ำย ใช้แขนซำ้ ยทอ่ นลำ่ งรับแรงปะทะกับแขนซำ้ ย ท่อนลำ่ งของคนร้ำย (รปู 10.1) ขั้นตอนที่ 2 ใช้แขนขวำท่อนล่ำงสอดใต้แขนขวำท่อนบนของคนร้ำย แล้วผลักแขน คนรำ้ ยไปทำงดำ้ นขวำ (รปู 10.2) ขั้นตอนท่ี 3 ใช้มือซ้ำยจับที่หัวไหล่ มือขวำจับท่ีแขนขวำท่อนล่ำงของคนร้ำย ก้ำวเท้ำขวำมำด้ำนหน้ำ พรอ้ มออกแรงผลักคนร้ำยอย่ำงแรง (รปู 10.3) 2. กรณคี นรา้ ยใชม้ ือขวาถอื มีดฟันเฉยี ง จากบนซ้ายลงมาลา่ งขวา ขั้นตอนท่ี 1 ก้ำวเท้ำขวำประชิดคนร้ำยพร้อมกับใช้แขนขวำท่อนล่ำงยกขึ้นรับแรง ปะทะแขนท่อนลำ่ งขวำของคนร้ำยไว้ (รปู 10.4) ข้ันตอนท่ี 2 กดแขนขวำท่อนล่ำงของคนร้ำยให้ต่ำลง พร้อมกับใช้มือซ้ำยจับบริเวณ หวั ไหล่ขวำของคนรำ้ ย (รปู 10.5) ขน้ั ตอนท่ี 3 กำ้ วเทำ้ ซำ้ ยไปด้ำนหน้ำออกแรงผลักคนรำ้ ยอย่ำงแรง (รูป 10.6)

28 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอื่ เลอื่ นตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชัน้ สญั ญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 3. กรณคี นร้ายใชม้ ือขวาถอื มดี ฟนั ระดบั เอว จากดา้ นขวาไปซ้าย ขั้นตอนที่ 1 ก้ำวเท้ำซ้ำยพร้อมกับใชแ้ ขนซ้ำยท่อนลำ่ งรบั แรงปะทะท่แี ขนขวำทอ่ นล่ำง ของคนร้ำย (รูป 10.7) ขัน้ ตอนที่ 2 ใช้ส้นมือขวำกระแทกท่ีปลำยคำงของคนร้ำย (รูป 10.8) ขน้ั ตอนท่ี 3 กำ้ วเท้ำขวำไปด้ำนหนำ้ ออกแรงผลักคนรำ้ ยอยำ่ งแรง (รูป 10.9)

29 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลอ่ื นตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้นั สญั ญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 4. กรณคี นรา้ ยใช้มอื ขวาถือมีด ฟันระดบั เอว จากด้านซา้ ยไปขวา ขั้นตอนท่ี 1 กำ้ วเท้ำขวำประชิดคนร้ำย พร้อมกับใช้แขนขวำท่อนล่ำงรับแรงปะทะท่ี แขนขวำทอ่ นล่ำงของคนร้ำย (รปู 10.10) ข้ันตอนที่ 2 ใชม้ อื ซำ้ ย ผลกั ดันคนร้ำยตรงหวั ไหลข่ วำ (รปู 10.11) ขั้นตอนท่ี 3 กำ้ วเทำ้ ซ้ำยไปดำ้ นหนำ้ พรอ้ มออกแรงผลักคนร้ำยอยำ่ งแรง (รูป 10.12) 5. กรณีคนร้ายใชม้ ือขวาถอื มีดแทงตรงที่ลาตวั ดา้ นหน้า ขั้นตอนที่ 1 ชักเท้ำขวำวำดมำทำงด้ำนหลังเพ่ือเบี่ยงตัวให้พ้น พร้อมกับใช้แขนซ้ำย ทอ่ นล่ำงปดั แขนของคนรำ้ ยออกมำทำงดำ้ นขวำ (รูป 10.13) ขัน้ ตอนท่ี 2 ใช้มอื ทงั้ สองขำ้ งผลักที่หวั ไหล่ของคนร้ำย (รปู 10.14) ขัน้ ตอนที่ 3 กำ้ วเทำ้ ซ้ำยไปขำ้ งหน้ำออกแรงผลกั คนรำ้ ยอยำ่ งแรง (รูป 10.15)

30 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพอื่ เล่ือนตาแหน่งเลื่อนยศ เลอื่ นไหลเป็นช้ันสญั ญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 6. กรณีคนร้ายใช้มอื ขวากามีดจ้วงแทงจากบนลงลา่ ง ข้ันตอนท่ี 1 กำ้ วเทำ้ ซ้ำยเข้ำหำคนร้ำยพร้อมกับยกแขนทง้ั สองขำ้ งไขวข้ ้ึนรบั แรงปะทะ แขนลำ่ งขวำของคนรำ้ ยไว้ พร้อมกบั ยอ่ ตัวลง (รปู 10.16) ข้ันตอนที่ 2 ใช้แขนขวำท่อนล่ำงปัดแขนของคนร้ำยออกมำทำงด้ำนข้ำงขวำของ เจำ้ หน้ำทแี่ ล้วใช้มอื ซ้ำยจบั ทหี่ วั ไหลข่ องคนร้ำย (รูป 10.17) ขน้ั ตอนที่ 3 กำ้ วเท้ำซำ้ ยมำด้ำนหนำ้ พรอ้ มออกแรงผลักคนร้ำยอย่ำงแรง (รูป 10.18) ยุทธวิธกี ำรป้องกนั ตัวกรณคี นรำ้ ยใช้อำวธุ มดี ดังกลำ่ วมำแลว้ ขำ้ งต้น เปน็ กำรป้องกนั ตัวในระยะ ประชิด ในลักษณะจวนตัวเท่ำนั้น ไม่มีวัตถุประสงค์ในกำรต่อสู้เพ่ือแย่งมีดจำกคนร้ำย เพรำะในทำง ปฏิบัติแล้วเจ้ำหน้ำที่ตำรวจไม่มีควำมจำเป็นท่ีจะต้องเข้ำไปเสี่ยง หำกป้องกันกำรจู่โจมจำกคนร้ำยได้ แล้ว ตำรวจหลบหนีออกห่ำง ก็ปลอดภยั แล้ว หรืออำจจะหำอำวุธอื่น เช่น กระบอง ท่อนไม้ ท่อนเหล็ก หรือสิ่งของอ่ืนคล้ำยกัน ตีป้องกันตัวได้โดยง่ำย หรืออำจจะใช้อำวุธปืนขู่บังคับคนร้ำยก็ได้ ตำมแต่ สถำนกำรณแ์ ละควำมรุนแรงท่ีเกดิ ขึน้

31 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพ่อื เลอ่ื นตาแหน่งเล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชน้ั สัญญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- การป้องกันคนรา้ ยแย่งปืนพกจากซองพกท่ีเอว 1. รายละเอยี ดของการฝึก เจ้ำหนำ้ ที่ตำรวจจำเป็นต้องพกอำวุธปนื ประจำกำยอยู่ตลอดเวลำท่ีปฏบิ ัติหนำ้ ที่ โดยตำรวจใน เครื่องแบบ จะพกอำวุธปืนไว้ในซองติดไว้กับเข็มขัดท่ีบริเวณเอวด้ำนขวำ เน่ืองจำกถนัดขวำเป็นส่วน ใหญ่ ในกำรปฏิบัติงำนของเจ้ำหนำ้ ที่ตำรวจไม่วำ่ จะเปน็ กำรตรวจค้นผู้ต้องสงสัย กำรจ่โู จมเขำ้ จับคนร้ำย หรือแม้กระทั่งกำรเดินตรวจตรำ ท่ำมกลำงประชำชน ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ เหล่ำนี้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจมี โอกำสที่จะเผลอ หรอื ไมท่ ันระวังตวั และอำจ ถกู แย่งปนื ออกจำกซองปืนได้ ซึง่ เป็นอนั ตรำยอย่ำงยงิ่ หำก คนร้ำยได้นำปนื นั้นกลับมำทำร้ำย หรือฆ่ำตำรวจ หรือนำปืนไปก่อเหตุร้ำยแรงอน่ื ๆ คนรำ้ ยสำมำรถเข้ำ แย่งปืนจำกซองที่พกอยูท่ ่ีเอวของเจ้ำหนำ้ ทีต่ ำรวจ ทงั้ จำกด้ำนหนำ้ ด้ำนหลัง และดำ้ นข้ำง ซึ่งมยี ุทธวิธี ในกำรปอ้ งกันกำรแยง่ ปืนจำกด้ำนต่ำง ๆ ดงั น้ี ท่าที่ 1 เมื่อคนรา้ ยแยง่ อาวุธปนื จากดา้ นหน้าหรอื ด้านขา้ ง ขนั้ ตอนที่ 1 ทันทีทีร่ ู้ตวั ตำรวจต้องรีบใช้มอื ท้ังสองกดทับลงไปบนมือของคนร้ำยอยำ่ งเร็วทนั ที เพ่ือมิให้คนร้ำยดึงด้ำมปืนออกไปจำกซองได้ พร้อมกับย่อเข่ำทั้งสองลงโดยยืนปักหลักให้เตม็ ฝ่ำเท้ำทั้ง สองข้ำง เพอื่ ใหย้ นื ไดม้ นั่ คง และทำใหแ้ ขนและศอกของคนร้ำยตึง (รูป 11.1) ข้ันตอนท่ี 2 ใช้เท้ำซ้ำยเป็นหลักให้มั่น พร้อมดึงเท้ำขวำมำด้ำนหลัง ให้แขนของคนร้ำยตึง ใช้ ศอกซ้ำย ตีเข้ำไปที่แขนของคนร้ำย แล้วสะบัดสะโพกหมุนไปทำงดำ้ นหลังอย่ำงแรงและเรว็ โดยสะบัด หมุนไปใหม้ ำกทส่ี ดุ เทำ่ ที่จะทำได้ (รูป 11.2) ข้ันตอนท่ี 3 ก้ำวเท้ำขวำไปข้ำงหน้ำ พร้อมสะบัดสะโพกหมุนไปทำงซ้ำยอย่ำงแรงและเร็ว เพอ่ื ใหค้ นรำ้ ยปลอ่ ยอำวุธปืนจำกมอื (รปู 11.3)

32 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพอื่ เลือ่ นตาแหน่งเล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชั้นสญั ญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ท่าท่ี 2 เมอื่ คนร้ายแย่งอาวธุ ปืนจากด้านหลัง ขั้นตอนที่ 1 เม่ือคนร้ำยเข้ำแย่งปืนจำกด้ำนหลัง ตำรวจใช้มือทั้งสองข้ำงกดทับลงไป บนมือของคนร้ำยอย่ำงเร็วทนั ที เพื่อมใิ ห้คนร้ำยดึงด้ำมปืนออกไปจำกซองได้ พร้อมกบั ยอ่ เข่ำทั้งสองลง โดยยืนปักหลักใหเ้ ตม็ ฝำ่ เทำ้ ทัง้ สองข้ำง เพื่อให้ยืนได้มน่ั คง (รปู 11.4) ขั้นตอนที่ 2 ก้ำวเท้ำขวำไปข้ำงหน้ำแล้วสะบัดสะโพกหมุนไปทำงด้ำนหน้ำอย่ำงแรง และเรว็ โดยสะบัดหมุนไปให้มำกทสี่ ดุ เท่ำท่จี ะทำได้ เพ่ือใหค้ นร้ำยเสียหลัก (รปู 11.5) ขนั้ ตอนที่ 3 ก้ำวเท้ำซ้ำยไปด้ำนหน้ำ สะบัดสะโพกหมนุ ตวั ไปทำงขวำอย่ำงแรงและเร็ว โดยใช้ศอกขวำ ตีไปทแ่ี ขนขวำของคนร้ำย เพ่ือใหค้ นรำ้ ยปลอ่ ยมือจำกอำวุธปนื (รูป 11.6) ยทุ ธวธิ กี ำรป้องกันคนร้ำยแย่งอำวุธปืนจำกซอง ดงั กล่ำวมำแลว้ ขำ้ งต้น เปน็ กำรปอ้ งกันตัวของ เจ้ำหน้ำท่ีในระยะประชิด เพ่ือไม่ให้เกิดเหตุกำรณ์ร้ำยแรงขึ้น เม่ือเจ้ำหน้ำที่ตำรวจป้องกันกำรถูกแย่ง อำวุธปืนจำกซองได้แล้ว อำจจะใช้อำวุธปืนหรืออำวุธอื่นท่เี หมำะสมกับสถำนกำรณ์และควำมรุนแรงท่ี เกิดข้นึ สัง่ บงั คับคนรำ้ ยก็ได้

33 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพอื่ เลอ่ื นตาแหน่งเลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- การป้องกันตวั เมื่อคนร้ายจีด้ ว้ ยอาวุธปนื 1. รายละเอยี ดของการฝึก กำรแกป้ ัญหำเมือ่ ถูกคนร้ำยจดี้ ว้ ยอำวุธปืน คือ วธิ กี ำรท่ีเจำ้ หนำ้ ท่ตี ำรวจใช้ในกำรปอ้ งกนั ตนเอง เมื่อถกู คนร้ำยจี้ หรือจะยิงด้วยอำวธุ ปืน ท้ังในระยะใกลแ้ ละระยะไกล หลักพื้นฐานการแกป้ ญั หาเมือ่ ถกู คนรา้ ยจด้ี ว้ ยอาวุธปืน 1. วิธีกำรแก้ปัญหำเม่ือถูกคนร้ำยจ้ีด้วยอำวุธปืนน้ีให้ใช้เฉพำะสถำนกำรณ์ท่ีจำเป็น เท่ำนนั้ เช่น เมือ่ ถกู คนร้ำยจ้ี หรอื จะยิง ทัง้ ในระยะใกล้และระยะไกลและสถำนกำรณ์ขณะนัน้ บ่งชวี้ ่ำใน ทันทีทันใดน้ัน คนร้ำยจะยิงเจ้ำหน้ำที่ท่ีถูกจ้ีอย่ำงแน่นอน จึงให้ใช้ยุทธวิธีน้ี แต่ถ้ำหำกสำมำรถต่อรอง หรอื ยืดระยะเวลำ หรอื มีวธิ ีกำรแกไ้ ขปัญหำวิธอี ่นื กใ็ หใ้ ช้วิธีกำรเจรจำต่อรองน้ันกอ่ น 2. ก่อนที่ใช้ยุทธวิธีนี้ ควรพูดจำต่อรอง หรือถำมคำถำมเพื่อให้คนร้ำยได้ใช้ควำมคิด และเป็นกำรทำลำยสมำธิของคนรำ้ ยในขณะที่จะล่ันไกปืน ซ่ึงจะทำให้กำรตอบสนองต่อเหตุกำรณ์ของ คนรำ้ ยชำ้ ลง และมีผลใหต้ ดั สินใจล่นั ไกปืนชำ้ ลงตำมไปด้วย 3. ในกำรฝึกปฏิบัติ หำกมีกำรใช้อำวุธปืนจริง ก่อนฝึกให้ตรวจอำวุธปืนเช่นเดียวกับ กำรฝกึ ป้องกันคนร้ำยแย่งอำวุธปนื ยทุ ธวิธีตารวจในการแกป้ ญั หาเมื่อถกู คนร้ายจี้ดว้ ยอาวธุ ปืน ท่าที่ 1 คนร้ายใชอ้ าวุธปนื จีด้ ้านหนา้ ในระยะประชิดตวั ในระดับเอวหรอื หน้าอก ข้ันตอนที่ 1 เมื่อถูกคนร้ำยจ้ีด้วยอำวุธปืนทำงด้ำนหน้ำ ไม่ว่ำจะอยู่ในระดับ เอวหรือหน้ำอก โดยใช้มือเดียวหรือสองมือก็ตำม ให้ตำรวจยกมือขึ้นในลักษณะยอมแพ้อยู่ระดับที่ ใกลเ้ คยี งกับแนวปืน ยืนแยกเท้ำห่ำงกนั ในระยะหัวไหล่ ยอ่ เขำ่ เล็กนอ้ ย (รปู 12.1) ข้ันตอนที่ 2 ใชม้ อื ซำ้ ยตบจับทโ่ี ครงปนื ด้ำนบน ดันปำกกระบอกปนื เฉียงออก แนวลำตัว พร้อมกับถอยเท้ำขวำมำด้ำนหลัง เพื่อให้พ้นวถิ ีกระสุน แขนเหยียดตึงกดให้แนวลำกล้องปืน ลงพื้น (12.2) ข้ันตอนท่ี 3 ใช้มือขวำตบจับใต้ลำกล้องปืน บิดให้ลำกล้องปืนเข้ำหำคนร้ำย (12.3) ขั้นตอนที่ 4 บังคับลำกล้องปืนให้ผ่ำนตัวคนร้ำยมำทำงด้ำนซ้ำยของตำรวจ ก้ำวเท้ำซ้ำยถอยมำดำ้ นหลัง แล้วปลดปืนจำกมือคนร้ำย พร้อมกับถอยหลังออกให้ห่ำงจำกคนร้ำย ชัก อำวุธปืนประจำกำยออกมำจำกซอง ออกคำสง่ั ให้คนร้ำยนอนควำ่ หนำ้ ลงพื้น (รูป 12.4)

34 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพ่ือเลือ่ นตาแหน่งเลอื่ นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชั้นสญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมายเหตุ สำยตำของตำรวจตอ้ งจบั จ้องทคี่ นร้ำย ห้ำมจบั จอ้ งท่ีอำวุธปืน ทา่ ที่ 2 คนรา้ ยใชอ้ าวุธปนื จีด้ ้านหนา้ ในระยะประชิดตวั ในระดับศีรษะ ขั้นตอนที่ 1 เมอื่ ถูกคนรำ้ ยจ้ีด้วยอำวธุ ปนื ทำงดำ้ นหนำ้ ในระดบั ศรี ษะ โดยใช้ มือเดยี วหรอื สองมอื ก็ตำม ให้ตำรวจยกมอื ข้นึ ในลักษณะยอมแพ้อย่ใู นระดบั ใกล้เคียงกบั แนวปนื ยนื แยก เทำ้ หำ่ งกันในระยะหัวไหล่ ย่อเข่ำเลก็ นอ้ ย (รูป 12.5) ขน้ั ตอนที่ 2 ยอ่ ตัวลง พร้อมกับใช้มือทง้ั สองขำ้ งจบั ท่ีตวั ปืน โดยใหม้ ือซำ้ ยจับ ทีท่ ้ำยปนื เพอื่ มิให้คนร้ำยดงึ ปืนถอยกลบั ไปได้ หงำยมอื ขวำจบั ใต้แนวลำกล้องปืน ดันปำกกระบอกปนื ช้ี ไปทำงดำ้ นบนแล้วบดิ ให้ ลำกลอ้ งหนั ไปทำงขวำ แขนเหยียดตึง (รูป 12.6)

35 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขนึ้ ไป เพอ่ื เลอ่ื นตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเป็นชั้นสญั ญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ขัน้ ตอนที่ 3 ใชม้ ือซ้ำยกดส่วนทำ้ ยของปืนลง มือขวำผลักลำกลอ้ งปืนผำ่ นหนำ้ คนรำ้ ย ก้ำวเท้ำซ้ำย ถอยมำดำ้ นหลงั แล้วปลดปนื ออกจำกมอื คนร้ำย พร้อมกับถอยหลงั ออกให้หำ่ งจำกคนรำ้ ย ชกั อำวธุ ปืน ประจำกำยออกมำจำกซอง ออกคำส่ังให้คนร้ำยนอนคว่ำ หน้ำลงพ้ืน (รูป 12.7 – 12.8) ท่าที่ 3 คนร้ายใช้อาวุธปนื จที้ างด้านหลังในระดบั เอว หน้าอก หรอื ศีรษะ ขัน้ ตอนที่ 1 พยำยำมตรวจสอบว่ำคนร้ำยใช้ปืนจีอ้ ยู่ในระดับใด อำจจะสงั เกต จำกกระจกเงำ ท่ีสะทอ้ นภำพมำ (ถ้ำมี) หรอื พยำยำมถอยหลังไปให้รู้ว่ำกระบอกปืนสัมผัสอยทู่ ี่ใด หรือ กำรชำเลืองดูด้ำนหลังเมื่อถกู คนร้ำยจี้ดว้ ยอำวุธปืนทำงด้ำนหลัง ด้วยมอื เดยี วหรือสองมือ ให้ตำรวจยก มือขึ้นในลักษณะยอมแพ้ และใหอ้ ยใู่ นระดับใกล้เคียงกับแนวปืน ยืนแยกเท้ำห่ำงกันในระยะหวั ไหล่ ย่อ เข่ำเล็กนอ้ ย (รูป 12.9) ขั้นตอนท่ี 2 ใชเ้ ทำ้ ขวำเป็นหลักและจุดหมนุ เบ่ยี งตัวหนั กลับหลงั โดยกำรสืบ เท้ำซ้ำยเข้ำหำตัวคนร้ำย พร้อมกับใช้ท่อนแขนขวำปัดท่อนแขนของคนร้ำย เพื่อให้พ้นจำกแนววิถี กระสุน ใช้มือซ้ำยจับที่โครงปืนด้ำนบนให้แน่น แขนเหยียดตึง หงำยมือขวำจับโครงปืนด้ำนล่ำง ให้ลำ กลอ้ งปนื ชลี้ งพ้นื (รปู 12.10) ขน้ั ตอนที่ 3 ก้ำวเท้ำซ้ำยถอยมำด้ำนหลัง พร้อมบังคับลำกล้องปืนให้ผ่ำนตัว คนร้ำยมำทำงด้ำนซ้ำยของตำรวจ แล้วปลดปืนออกจำกมือคนร้ำย พร้อมกับถอยหลังออกให้ห่ำงจำก คนรำ้ ย ชกั อำวธุ ปืนประจำกำยออกมำจำกซอง ออกคำสั่งใหค้ นรำ้ ยนอนคว่ำหน้ำลงพนื้ (รปู 12.11)

36 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขนึ้ ไป เพอ่ื เล่ือนตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นช้ันสญั ญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ยุทธวธิ ตี ารวจ ตำรวจสำยตรวจมอื อำชีพ คอื ตำรวจที่เป็นสุภำพบุรุษในเครอื่ งแบบ เม่อื ประชำชนพบเห็นต้อง เกิด ควำมเช่ือม่ัน ศรัทธำ สำมำรถเป็นท่ีพึ่งได้ในทุกโอกำส มีควำมรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้พบเห็น ตำรวจสำยตรวจ จะต้องเป็นตำรวจในดวงใจของประชำชน และปฏิบัติหน้ำท่ีอย่ำงถูกต้องตำมหลัก ยทุ ธวิธี คณุ สมบัติของสายตรวจมืออาชีพ มี 10 ประการ คือ ต่อตนเอง 1. ต้องพัฒนำตนเองตลอดเวลำ - Smart : บุคลิกดี มีควำมฉลำด มปี ฏิภำณไหวพริบ - Smile : ยิม้ แย้ม แจ่มใส มจี ิตใจใหบ้ ริกำร - Strong : เข้มแข็ง อดทนในกำรปฏิบตั หิ น้ำท่ี 2. ต้องมจี ริยธรรมและคณุ ธรรม 3. ตอ้ งหมั่นฝึกฝนยทุ ธวิธีตำรวจอยำ่ งสม่ำเสมอ ต่อประชาชน 4. ต้องทำทุกวถิ ีทำงใหป้ ระชำชนมคี วำมสขุ และมคี วำมศรัทธำตำรวจ 5. ต้องแสวงหำควำมรว่ มมอื จำกประชำชนให้มำกทีส่ ุด 6. ตอ้ งประพฤตติ นเปน็ แบบอยำ่ งทีด่ ี เปน็ ทยี่ อมรับนับถอื ของประชำชน ต่อระบบงานป้องกันปราบปราม 7. ต้องรอบรแู้ ละวิเครำะห์ข้อมูลท้องถิ่นในท้องที่ของตนเองในเชิงลึก ทั้งสถำนท่ีและตวั บคุ คล โดยละเอยี ด 8. ตอ้ งจัดระเบยี บสังคมในทอ้ งท่ใี หเ้ ป็นไปตำมกฎหมำย 9. ตอ้ งปรำบปรำมอำชญำกรอย่ำงเดด็ ขำด

37 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลอื่ นตาแหน่งเลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชัน้ สัญญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 10. ต้องระลึกเสมอว่ำ ผลสัมฤทธิ์ของงำนป้องกันปรำบปรำม คือ ทำให้คดีเกิดขึ้นน้อยท่ีสุด เม่ือคดีเกิดข้ึนแล้วก็ต้องติดตำมจับกุมคนร้ำยให้เร็วที่สุดและลดควำมหวำดกลัวต่ออำชญำกรรมของ ประชำชน ยุทธวิธีตำรวจ สำหรับงำนสำยตรวจงำนป้องกันปรำบปรำมจะมีหลำยรปู แบบ ซ่ึงจะชว่ ยให้เกิด ควำม ปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น ทั้งยังสำมำรถตอบโต้คนร้ำยได้อย่ำงถูกต้องตำมกฎหมำยและตำม หลกั กฎกำรใช้กำลัง ฉะน้ัน ผู้บริหำรระดับสถำนีตำรวจต้ังแต่ ผกก., รอง ผกก.ป., สวป. จะต้องให้ควำมสนใจเป็น อยำ่ งยงิ่ จะต้องมคี วำมเข้ำใจหลกั กำรและกำรปฏบิ ตั ิเพื่อกำรตัดสินใจสั่งกำรหรือบรหิ ำรเหตุกำรณ์ขณะ เกิดเหตุไดอ้ ย่ำง มีประสิทธภิ ำพ และเพอื่ ควบคมุ กำรฝกึ ยุทธวิธกี บั ผ้ใู ต้บังคบั บัญชำได้อยำ่ งถูกตอ้ ง 1. ยทุ ธวธิ ีการตง้ั จดุ ตรวจ 1.1 จุดตรวจ หมำยถึง สถำนที่ที่เจ้ำพนักงำนตำรวจออกปฏิบัติหน้ำที่ตรวจค้น เพื่อจับกุม ผู้กระทำควำมผดิ ในเขตทำงเดินรถ หรือทำงหลวงในกรณีปกติเป็นกำรชั่วครำว โดยมีกำหนดระยะเวลำ เท่ำที่มีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งในกำรปฏิบัติหน้ำที่ดังกล่ำว แต่ต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง และเม่ือเสร็จสิ้น ภำรกจิ แล้วจะต้องยบุ เลิกจุดตรวจดังกลำ่ วทันที 1.2 จุดสกัด หมำยถึง สถำนที่ท่ีเจ้ำพนักงำนตำรวจออกปฏิบัติหน้ำที่ตรวจค้น เพื่อจับกุม ผู้กระทำควำมผดิ ในเขตทำงเดินรถหรือทำงหลวง ในกรณที ีม่ เี หตกุ ำรณฉ์ ุกเฉนิ หรือจำเป็นเร่งดว่ นเกิดข้ึน เปน็ กำรชวั่ ครำว และจะตอ้ งยุบเลกิ เมอ่ื เสร็จสิน้ ภำรกิจดงั กล่ำว 1.3 ด่ำนตรวจ หมำยถึง สถำนท่ีทำกำรท่ีเจ้ำพนักงำนตำรวจออกปฏิบัติหน้ำที่ในกำรตรวจค้น เพื่อจับกุมผู้กระทำควำมผิดในเขตทำงเดินรถ (ควำมหมำยตำม พ.ร.บ.จรำจรทำงบก พ.ศ.2535) โดย ระบุสถำนที่ไว้ชัดแจ้งเป็นกำรถำวร กำรต้ังด่ำนตรวจจะต้องได้รับกำรอนุมัติจำก ครม. หรือผู้มีอำนำจ ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยทำงหลวงหรือ กอ.รมน.แลว้ แตก่ รณี

38 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอ่ื เล่ือนตาแหนง่ เลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชน้ั สัญญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 2. ความสาคญั ของการต้งั จดุ ตรวจ และจุดสกัด 2.1 เพื่อควบคุมพน้ื ทล่ี อ่ แหลมต่อกำรเกดิ อำชญำกรรม 2.2 เพือ่ เปน็ กำรป้องปรำมกำรกระทำผดิ กฎหมำย 2.3 เพอื่ เปน็ กำรปดิ เส้นทำงและตัดชอ่ งโอกำสคนรำ้ ยหลับหนี 2.4 เพ่อื ตรวจคน้ บุคคล หรอื ยำนพำหนะทผ่ี ่ำนเขำ้ ออกพื้นที่ 2.5 เพือ่ คน้ หำสิ่งผิดกฎหมำย อำวธุ เครือ่ งมือเครอ่ื งใช้ในกำรกระทำผิด 3. หลักพ้ืนฐานของการต้งั จุดตรวจ จดุ สกดั 3.1 กำรต้งั ดำ่ นตรวจ จุดตรวจ หรือจุดสกัด ในเขตทำงเดนิ รถหรือทำงหลวง ต้องมีนำยตำรวจ ชน้ั สญั ญำบัตรเป็นหัวหน้ำควบคุมและได้รบั อนมุ ัติจำกผู้บังคับบัญชำ โดยจะต้องแต่งเคร่ืองแบบในกำร ปฏิบัติหน้ำที่ และกำรตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัด ให้ทุกหน่วยประสำนกำรปฏิบัติระหว่ำงหน่วยใกล้เคียง ให้ชดั เจน เพ่อื ไมใ่ ห้เกดิ กำรซำ้ ซอ้ นกัน 3.2 กำรปฏิบตั ิในกำรตรวจคน้ จบั กมุ ต้องปฏิบตั ิตำมประมวลกฎหมำยวิธีพจิ ำรณำควำมอำญำ และประมวลระเบยี บกำรตำรวจเกี่ยวกับคดีวำ่ ด้วยกำรนัน้ โดยเครง่ ครดั 3.3 มีแผงกัน้ แสดงเคร่อื งหมำยว่ำ หยดุ ตรวจ และควรจัดให้มีสิ่งกดี ขวำงหรือสัญญำณอื่นใดให้ เปน็ ท่สี ังเกตไดง้ ่ำยในระยะไกล เชน่ กรวยยำงคำดสสี ะท้อนแสง เพอื่ ชว่ ยป้องกนั อุบัตเิ หตุทอ่ี ำจเกดิ ขึน้ 3.4 ในเวลำกลำงคืนต้องให้มีแสงส่องสว่ำงให้มองเห็นไดอ้ ย่ำงชัดเจน ในระยะไมน่ ้อยกว่ำ 150 เมตร กอ่ นถงึ จุดตรวจ 3.5 กำหนดเขตพ้ืนท่ีปลอดภยั ไว้สำหรับเปน็ บริเวณตรวจค้น เพ่ือให้เกดิ ควำมปลอดภยั ท้งั แก่ผู้ ต้องสงสยั ทถ่ี กู ตรวจคน้ และเจำ้ หน้ำท่ีตำรวจระหวำ่ งทำกำรตรวจค้น 3.6 ควรวำงกำลงั สว่ นหนึ่งไว้บริเวณทำงแยกหรอื จุดกลับรถกอ่ นถึงจดุ ตรวจหรือจดุ สกัด เพ่อื ไว้ ทำจุดสกัดกนั้ หรือไล่ติดตำมผทู้ ่ีเล้ยี วหรอื กลับรถหลบหนีกำรตรวจคน้ 3.7 พงึ ใช้ควำมระมดั ระวังและตง้ั อยใู่ นควำมไม่ประมำททกุ ขณะทำกำรตรวจคน้ และควรมีกำร ตดิ ตงั้ กล้อง CCTV บันทึกภำพกำรตรวจค้นไว้โดยตลอดดว้ ย 3.8 พงึ เปน็ ผู้มมี ำรยำทท่ดี งี ำมและรักษำกิริยำวำจำระหว่ำงกำรตรวจคน้ เชน่ ไม่สอ่ งไฟบรเิ วณ ใบหน้ำประชำชนผถู้ ูกตรวจคน้ โดยตรงและรู้จกั ใช้คำพูดท่ีสุภำพ เช่น สวสั ดีครับ ขอโทษครับ ขอบคุณ ครบั

39 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอื่ เลอ่ื นตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชน้ั สัญญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 3.9 ใช้ควำมสังเกตและให้ควำมสนใจเป็นพิเศษแก่พำหนะท่ีมีลักษณะพิรุธ เช่น รถจกั รยำนยนต์ท่ีไมต่ ิดแผ่นป้ำยทะเบียน หรือพบั งอแผน่ ปำ้ ยทะเบียนเพ่ือบดบงั อำพรำงหมำยเลข หรือ พำหนะทมี่ กี ำรดังแปลงสภำพ 3.10 ในกำรปฏิบตั ิกำรตั้งจุดตรวจหรือจดุ สกัด ใหค้ ำนึงถึงควำมปลอดภัยของเจ้ำหนำ้ ทต่ี ำรวจ ผปู้ ฏิบตั ิงำนและประชำชน ไม่ก่อให้เกดิ ปญั หำควำมเดอื ดรอ้ นแก่ประชำชนผู้ใช้ทำงโดยไมจ่ ำเปน็ 4. หลักการพิจารณาในการตงั้ จุดตรวจ จดุ สกัด 4.1 สภำพภูมปิ ระเทศใหค้ วำมปลอดภยั เจำ้ หนำ้ ทตี่ ำรวจ 4.2 สภำพภมู ิอำกำศ ฝนไม่ตก/แดดไม่รอ้ นจัด 4.3 สภำพกำรจรำจรไม่หนำแนน่ ไมต่ ดิ ขดั 4.4 เป็นพนื้ ท่ที ่ีเก่ียวกบั ควำมมนั่ คง 4.5 เปน็ พืน้ ทท่ี มี่ กี ำรเกดิ อำชญำกรรมสูง 4.6 เปน็ เส้นทำงทค่ี นรำ้ ยมกั ใช้ในกำรหลบหนี 5. ข้อมูลท่ีจะใชใ้ นการตั้งจดุ ตรวจ จดุ สกดั นำฬกิ ำอำชญำกรรม แผนที่แสดงเขตรับผิดชอบ

40 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพ่อื เล่อื นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 6. อุปกรณ์ และเคร่ืองมอื ต่าง ๆ ในการตงั้ จดุ ตรวจ จดุ สกดั 6.1 รถยนตส์ ำยตรวจ, รถจกั รยำนยนต์ ท่มี ไี ฟสอ่ งสัญญำณ 6.2 แผงกั้นจุดตรวจ โดยมีแสงไฟส่องสว่ำงให้มองเห็นได้อย่ำงชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่ำ150 เมตร ในเวลำกลำงคนื ก่อนถงึ จุดตรวจ 6.3 แผงประชำสัมพันธ์ก่อนถึงจุดตรวจค้น “ขออภัยในควำมไม่สะดวก” หรือแผงเตือน “จุด ตรวจข้ำงหน้ำ โปรดลดควำมเร็ว” 6.4 กรวยยำงจรำจรสีส้ม วำงก่อนถึงจุดตรวจค้นและตำมแนวช่องทำงเดินรถรักษำพ้ืนที่ ปลอดภยั 6.5 กระบองไฟสญั ญำณบอกตำแหนง่ ของ จร. 6.6 ไฟฉำย/สปอร์ตไลท์ ประจำรถยนต์สำยตรวจ 6.7 เครือ่ งขยำยเสียงแบบมือถือ 6.8 เครือ่ งตรวจโลหะแบบมือถอื 6.9 อปุ กรณต์ รวจใต้ท้องรถ 6.10 กล้องถำ่ ยภำพ/กล้องบนั ทึกภำพ 6.11 ตัวสกัด (ขวำก)

41 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพอื่ เลือ่ นตาแหน่งเลอื่ นยศ เลอ่ื นไหลเป็นชนั้ สัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 7. ขัน้ ตอนการปฏบิ ัติ การควบคมุ การตรวจสอบการปฏิบตั ิ 7.1 เรียกแถวตรวจยอดกำลังพล ตรวจควำมพร้อมของเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจผู้ปฏิบัติ รวมท้ัง อปุ กรณเ์ ครอื่ งมือ-เครอ่ื งใชก้ ำรต้ังจุดตรวจ 7.2 อบรมช้ีแจงสถำนภำพอำชญำกรรม กำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจในช่วงเวลำท่ีผ่ำนมำ แนวนโยบำยและคำสั่งของผบู้ งั คับบญั ชำ และขอ้ รำชกำรตำ่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง 7.3 กำหนดตัวเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจผู้ปฏิบตั ิในแต่ละส่วนของพ้ืนที่จุดตรวจ และทำควำมเข้ำใจกับ บทบำทหนำ้ ทข่ี องแตล่ ะคนใหช้ ัดเจน 7.4 กำรต้ังจุดตรวจ หรือจุดสกัด ให้รำยงำนทำงศูนย์วิทยุ ให้ผู้บังคับบัญชำทรำบเม่ือเริ่มต้น และในระหว่ำงกำรปฏบิ ัตหิ น้ำท่ีตรวจค้นของเจ้ำหนำ้ ท่ีผ้ปู ฏบิ ัติ ผู้ท่ีทำหน้ำท่เี ป็นผู้ควบคุมจะต้องกำกับ ดูแลกำรปฏบิ ัตใิ หเ้ ปน็ ไปตำมระเบยี บ กฎหมำย เพื่อมิให้เจ้ำหน้ำท่ีผู้ปฏิบัติแสวงหำประโยชน์โดยมิชอบ เกิดข้ึนระหว่ำงปฏบิ ตั หิ น้ำท่ี 7.5 เม่ือเสร็จสิ้นกำรปฏิบตั ิให้รำยงำนผลกำรปฏิบัติเป็นลำยลักษณ์อักษร เสนอผู้บังคับบัญชำ ตำมลำดับช้ันจนถึงผู้สงั่ อนมุ ัติ ภำยในวนั ถดั ไปเปน็ อย่ำงชำ้

42 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพ่อื เลอื่ นตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชนั้ สัญญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 8. การตรวจค้นรถเพ่ือไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและการค้นซ้า สร้างความเดือดร้อน ความ ราคาญ ใหก้ ับประชาชนโดยทว่ั ไปเนอ่ื งจากใช้เวลานาน ควรดาเนนิ การดังนี้ 8.1 ให้แบง่ พื้นทร่ี ถที่ต้องทำกำรตรวจค้นออกเปน็ 5 ส่วน คอื ส่วนท่ี 1 พ้ืนทภ่ี ำยในรถด้ำนหนำ้ ตรงผขู้ ับข่ี และผโู้ ดยสำรดำ้ นหลงั ผูข้ บั ข่ี ส่วนที่ 2 พืน้ ทภ่ี ำยในรถดำ้ นหนำ้ ขำ้ งซ้ำยผู้ขบั ข่ี และผูโ้ ดยสำรดำ้ นหลงั ด้ำนซำ้ ยผ้ขู บั ข่ี สว่ นที่ 3 กระโปรงท้ำยรถ สว่ นที่ 4 กระโปรงหนำ้ รถ สว่ นท่ี 5 ใตท้ อ้ งรถ 8.2 กรณรี ถของบุคคลทั่วไปท่ีเข้ำมำในพื้นที่กำรต้ังจดุ ตรวจ จะทำกำรตรวจค้นเฉพำะสว่ นท่ี 1 และสว่ นที่ 2 เทำ่ นัน้ คอื - ใต้เบำะคนขับ ลิ้นชัก คอนโซน เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจท่ีอยู่ด้ำนผู้ขับข่ีจะตรวจค้นรถใน ส่วนที่ 1 และส่วนท่ี 3 เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจที่อยู่ด้ำนซ้ำยของผู้ขับข่ีจะทำกำรตรวจค้นรถในส่วนท่ี 2 และ ส่วนที่ 4

43 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่อื เล่อื นตาแหนง่ เลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชนั้ สัญญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 9 การแบง่ พื้นทบ่ี ริเวณจุดตรวจ สามารถแบ่งเปน็ 5 สว่ น ดงั นี้ 9.1 พื้นที่สว่ นแรก เปน็ พนื้ ท่ีเฝ้ำสังเกตรถและบุคคลต้องสงสัยท่ีอยู่ภำยในรถที่จะว่งิ ผ่ำนเข้ำมำ ในบริเวณพื้นที่ตง้ั จดุ ตรวจ เพือ่ แจ้งขอ้ มูลใหก้ ลบั ไปยังผู้ควบคุมจุดตรวจ รวมท้งั เป็นจุดสกดั รถตอ้ งสงสัย ท่ีมีเจตนำจะหลบหนีไม่ยินยอมเข้ำมำบริเวณพ้ืนที่ที่ต้ังจุดตรวจค้น หรือไล่ติดตำมรถที่วกกลับไปยัง ทศิ ทำงที่เขำ้ มำโดยมีเจ้ำหน้ำทต่ี ำรวจฝ่ำยป้องกันชดุ นอกเครอ่ื งแบบ (ชุดจู่โจม) อยู่ปฏบิ ตั ิ 2 คน โดยอยู่ กอ่ นถึงพ้นื ท่ีตงั้ จดุ ตรวจห่ำงประมำณ 20 เมตร หรือตำมควำมเหมำะสมของสภำพพ้นื ท่ี 9.2 พื้นทีส่ ่วนท่ีสอง เปน็ พ้นื ท่ีท่ีพจิ ำรณำคดั เลือกรถตอ้ งสงสัยเพ่ือโบกรถเข้ำมำสู่พน้ื ท่ีตรวจค้น ซ่ึงจะมีเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ 1 นำย เป็นผู้คัดเลือกและสังเกตพฤติกรรมของรถท่ีจะเข้ำจุดตรวจค้น โดยมี เจ้ำหน้ำที่ตำรวจฝ่ำยป้องกัน 1 คน ฝ่ำยจรำจร 1 คน และเจ้ำหน้ำที่ตำรวจที่ทำหน้ำที่เป็นหัวหน้ำสำย ตรวจ (นำยตำรวจระดับสัญญำบตั รข้ึนไป) 1 คน รวมเจ้ำหนำ้ ทีจ่ ำนวน 3 คน 9.3 พ้นื ท่ีสว่ นที่สำม เป็นพ้ืนทตี่ รวจค้น มีเจ้ำหน้ำทีต่ ำรวจฝ่ำยป้องกนั ทำหน้ำทต่ี รวจค้นรถและ บคุ คลต้องสงสัยท่ีนง่ั มำ 3 ชุดปฏิบัติ (1 ชดุ ปฏิบตั ิมี 3-4 คน รถที่เข้ำทำกำรตรวจค้นควรมีไม่เกิน 3 คัน ในแต่ละชว่ งทีท่ ำกำรตรวจคน้ และกำรตรวจคน้ ใชเ้ จ้ำหน้ำท่ีตำรวจ 3-4 คนต่อรถทำกำรตรวจค้น 1 คัน โดยคน้ 2 คน คมุ้ กนั 1-2 คน) โดยมีเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจฝ่ำยป้องกันอีก 1 คน ทำหน้ำท่ีบนั ทึกภำพขณะตรวจค้นไว้เป็นหลักฐำน และมีเจำ้ หน้ำทีต่ ำรวจฝ่ำยจรำจรอกี 1 คน ทำหน้ำทดี่ ำเนนิ กำรในส่วนควำมผิดตำม พ.ร.บ.จรำจร และ

44 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอ่ื เลอ่ื นตาแหน่งเล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชั้นสญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- อำนวยควำมสะดวกด้ำนกำรจรำจร และให้มีนำยตำรวจระดับสำรวตั ร ซ่ึงเป็นผ้คู วบคุมกำรปฏิบัติคอย ดูแลอยู่ในสว่ นพ้ืนที่ 3 เปน็ หลัก 9.4 พ้ืนท่ีส่วนที่ส่ี เป็นพื้นท่ีคอยสกัดรถ หำกรถต้องสงสัยที่เข้ำมำในพื้นท่ีตั้งจุดตรวจไม่ยอม หยุดรถให้ทำกำรตรวจค้น เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจฝ่ำยป้องกันท่ีอยู่ปฏิบัติหน้ำที่ท้ำยพ้ืนท่ีจุดตรวจนี้จะทำ หน้ำที่นำรถตำรวจท่ีจอดอยู่ท้ำยจดุ ตรวจเข้ำสกดั ขวำงก้ันไม่ให้ผ่ำนหรือไล่ติดตำมหำกหลบหนีโดยจะมี เจำ้ หนำ้ ทต่ี ำรวจทำหนำ้ ท่ีประจำรถยนตส์ ำยตรวจ 1 คัน 1 คน และเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจประจำรถสำยตรวจ จกั รยำนยนต์ 1 คัน 2 คน รวมเจ้ำหนำ้ ท่ีจำนวน 3 คน 9.5 พ้ืนท่ีส่วนท่ีหำ้ เป็นพ้นื ที่ควบคุมผู้กระทำควำมผิด มีเจ้ำหนำ้ ท่ตี ำรวจฝ่ำยป้องกนั อยู่ปฏิบัติ อย่ำงนอ้ ย 2-3 คน และมีรถยนตส์ ำหรับควบคมุ ผตู้ ้องหำจอดอยู่บริเวณพ้ืนที่น้ีระยะระหว่ำงส่วนที่ 1 ถึง ส่วนท่ี 5 ควรจัดให้มรี ะยะตำมควำมเหมำะสมท่ีผู้ควบคุมกำรปฏบิ ัติสำมำรถจะดูแลจุดตรวจ จุดสกัด ได้ ทั่วถึง

45 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชนั้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพือ่ เลื่อนตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชน้ั สญั ญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 10. ยทุ ธวธิ ีตารวจในการตงั้ จุดตรวจ และจุดสกัด กำรตงั้ จดุ ตรวจบนทำงทม่ี ีกำรจรำจรไปในทิศทำงเดยี วกัน (One way) 10.1 กำหนดเลือกบริเวณพ้ืนทจี่ ะทำกำรตรวจ โดย การต้งั จุดตรวจค้น One Way (หนา้ ด่าน) คำนึงควำมปลอดภัยผูป้ ฏิบัตงิ ำน และประชำชนผถู้ กู ตรวจคน้ เป็นสำคญั เช่น ไม่ตั้งจุดตรวจหรอื จุดสกัดบรเิ วณทำงโคง้ เชงิ สะพำนท่ลี ำดชนั หรอื บริเวณท่ีเปน็ จุดอับสำยตำ เปน็ ตน้ การต้ังจุดตรวจคน้ One Way (ทา้ ยด่าน) 10.2 ติดตั้งแผงสัญญำณที่มีเคร่ืองหมำย แสดงคำว่ำ “หยุดตรวจ“ไว้บนผิวจรำจรใน ช่องทำงดำ้ นซำ้ ยให้ผขู้ บั ขสี่ ำมำรถมองเหน็ ได้ใน ระยะไกลโดยสะดวก และควรมกี รวยยำงคำด แบบสสี ะท้อนแสงวำงเปน็ แนวเฉียงออกไปทำงด้ำนหนำ้ แผงสัญญำณเปน็ ระยะพอสมควร และวำงกรวย ยำงใหเ้ ปน็ ชอ่ งทำงตำมแนวขนำนกนั เพื่อเตอื นและบังคับรถทีแ่ ล่นเขำ้ มำให้เบีย่ งออกไปไมพ่ ่งุ ตรงเขำ้ ชน แผงปำ้ ยสญั ญำณ 10.3 หลังแผงป้ำยสัญญำณเครื่องหมำย “หยุดตรวจ” ห่ำงออกไปเล็กน้อยให้นำรถยนต์สำย ตรวจจอดทำมุม 45 องศำกับแนวขอบถนน หันหน้ำไปทำงทิศทำงกระแสจรำจร เพื่อใช้เป็นกำลัง สำหรับบริเวณ “เขตพ้ืนที่ควำมปลอดภัย” และเปิดสัญญำณไฟวับวำบไว้เพื่อเพิ่มจุดสังเกตตรงส่วน

46 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพือ่ เลอื่ นตาแหน่งเลอ่ื นยศ เลอ่ื นไหลเป็นชัน้ สัญญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- บรเิ วณ “เขตพื้นที่ปลอดภยั ” ดำ้ นนอก และ ควรวำงกรวยยำงเปน็ แนวเพอ่ื กำหนดบรเิ วณพ้ืนที่ตรวจค้น ไว้เป็นกำรป้องกันอบุ ัติเหตุจำกรถทีอ่ ำจหักเลยี้ วเขำ้ มำในบรเิ วณ “เขตพื้นทป่ี ลอดภยั ” อย่ำงกะทันหนั 10.4 ทำ้ ยจุดตรวจ ให้จดั รถยนต์สำยตรวจ 1 คัน และรถจักรยำนยนต์ 1 คนั จอดอยู่ในลักษณะ เตรยี มพร้อมกรณตี อ้ งไลต่ ิดตำมรถท่หี ลบหนี 10.5 สำหรับรถจักรยำนยนต์ของเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจที่ร่วมตรวจค้น อำจให้จอดชิดขอบทำง ด้ำนซำ้ ยเพื่อปอ้ งกัน “เขตพ้นื ที่ปลอดภัย” โดยหันหน้ำไปตำมทิศทำงกำรจรำจรและพรอ้ มทีจ่ ะให้กำร สนบั สนนุ กำรไล่ติดตำมรถท่ีหลบหนี 10.6 กำรวำงกำลังเจ้ำหน้ำทตี่ ำรวจ 1) ชั้นประทวน ใช้เป็นกำลงั เรียกรถและทำหนำ้ ที่ตรวจค้นบริเวณ “เขตพ้ืนที่ ปลอดภัย” กำรตรวจค้นควรทำเป็นคู่ เข้ำค้นทีละด้ำนของยำนพำหนะ โดยแบ่งหน้ำที่กันให้ชัดเจนว่ำ ใครเปน็ ผูต้ รวจคน้ และใครทำหน้ำทค่ี มุ้ กนั 2) นำยตำรวจชั้นสัญญำบัตร ทำหนำ้ ที่เป็นหัวหน้ำจุดตรวจ ควบคมุ ดแู ลและ รบั ผิดชอบกำรตรวจค้นของผใู้ ต้บังคับบัญชำ อยู่ในบริเวณ “เขตที่ปลอดภัย” หำกมกี ำลังน้อย ก็ให้ลด กำลงั ผ้ปู ฏบิ ตั ลิ งได้ แตย่ ังคงให้ถือปฏบิ ตั ิตำมยทุ ธวิธีดงั กล่ำวข้ำงตน้ การต้ังจุดตรวจบนทางทีม่ กี ารจราจรไปในทศิ ทางสวนกัน (Two way)

47 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอ่ื เล่อื นตาแหนง่ เล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเป็นชน้ั สัญญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 1. กำรวำงกำลังและมำตรกำรรกั ษำควำมปลอดภัยให้ใช้ทำนองเดียวกันกับกำรต้ังจุด ตรวจบนทำงทมี่ กี ำรจรำจรไปในทิศทำงเดียวกนั (One way) โดยอนุโลม 2. กำรเรียกตรวจค้นยำนพำหนะ ควรเลือกตรวจค้นยำนพำหนะท่ีมำจำกทิศทำงใด ทศิ ทำงหนึง่ เพียงดำ้ นเดยี ว ไม่ควรเรียกตรวจคน้ ยำนพำหนะพร้อมกันท้ัง 2 ทิศทำง เพรำะจะทำใหเ้ กิด จุดอ่อนในกำรระวังรักษำควำมปลอดภัยแก่ผู้ต้องสงสัยท่ีถูกตรวจและเจ้ำหน้ำที่ตำรวจที่เข้ำมำทำกำร ตรวจค้น รวมทั้งกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหำด้ำนกำรจรำจรอกี ดว้ ย การตัง้ จุดตรวจบนทางเดินรถที่บรเิ วณส่แี ยก (Intersection)

48 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพื่อเลื่อนตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเป็นชนั้ สญั ญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 1. ในกำรกำหนดพ้ืนที่ท่ีจะเลือกทำกำรต้ังจุดตรวจ นอกจำกต้องคำนึงในเรื่องควำมปลอดภัย ของผู้ปฏิบัติงำนแลว้ ยังต้องคำนึงถึงสภำพกำรจรำจรโดยรอบบริเวณท่ีมีกำรต้งั จุดตรวจด้วย วำ่ จะเกิด ผลกระทบด้ำนกำรจรำจรในทศิ ทำงทีอ่ ยู่รอบ ๆ บรเิ วณที่กำหนดให้มีกำรตัง้ จุดตรวจหรอื ไม่ ดังนั้น กำร ควบคุมสัญญำณไฟจรำจรจะต้องมีควำมสัมพันธ์กับกำรปฏิบัติงำนแลผลกระทบกับผู้สัญจรไปมำใน ทิศทำงอื่น รวมท้งั ตอ้ งมกี ำรหมนุ เวยี นกระแสกำรจรำจรกบั พืน้ ทข่ี ้ำงเคยี งดว้ ย 2. ในกำรปฏบิ ัติหน้ำทท่ี ี่จะต้องมเี จ้ำหน้ำท่ีตำรวจจรำจรมำควบคุมสัญญำณไฟจรำจรไฟในทิศ ทำงตรงข้ำมกับพ้ืนที่ที่จะกำหนดให้เปน็ จุดตรวจเพ่ือให้มสี ่วนในกำรปฏิบัติ รวมทัง้ สงั เกตกำรณใ์ นพ้ืนที่ ส่วนที่ห้ำ ซ่ึงเป็นกำรปฏิบตั ิของเจำ้ หนำ้ ที่ท่ีทำกำรตรวจคน้ บุคคลและยำนพำหนะท่ีอย่ใู นชอ่ งทำงเดินรถ ทจ่ี ะมกี ำรตรวจ และมกี ำรควบคุมสภำพกำรจรำจรโดยรอบบรเิ วณสี่แยกด้ำนอื่น ๆ โดยกำหนดให้เป็น กำรควบคุมระบบสัญญำณไฟจรำจรด้วยบุคคล (manual control) เพื่อให้มีกำรสัมพันธ์กับกำรปฏิบัติ ของเจ้ำหน้ำทที่ มี่ ีกำรตงั้ จุดตรวจและสัมพันธ์กับพื้นทีต่ ่อเน่ืองข้ำงเคียงด้วย 3. มีกำรใช้แผงสัญญำณท่ีมีเคร่ืองหมำยแสดงคำว่ำ “หยุดตรวจ” ไว้บนผิวกำรจรำจร ใน ช่องทำงเดินรถด้ำนซ้ำยก่อนถึงบริเวณที่เป็นส่ีแยกซึ่งเป็นพ้ืนที่ส่วนท่ีสอง เพื่อให้ผู้ขับขี่ยำนพำหนะได้ ทรำบวำ่ มีกำรต้ังจุดตรวจข้ึนบริเวณท่ีเป็นสี่แยก โดยมีกำรวำงกรวยยำงคำดแถบสสี ะท้องแสงเป็นแนว ยำวเรียงไปตำมช่องทำงเดินรถจำกบรเิ วณท่ีกำหนดให้เป็นพื้นที่เร่ิมทำกำรตรวจจนไปสิ้นสุดที่สีแ่ ยกซ่งึ มี สญั ญำณไฟจรำจร ก่อนจะข้ำมบรเิ วณสี่แยก (ไม่นอ้ ยกว่ำ 30 เมตร) โดยวำงกรวยยำงเรียงเป็นแถวยำว ตำมแนวชอ่ งทำงเดินรถ ทง้ั นี้ให้คำนงึ ถงึ ควำมปลอดภัยของเจำ้ หนำ้ ทีต่ ำรวจทที่ ำกำรตรวจเปน็ สำคญั 4. ด้ำนพนื้ ทีส่ ่วนท่ีห้ำ ซ่ึงอยู่ท้ำยมีรถยนต์สำหรับควบคุมผู้กระทำผิดจอดเฉยี งทำมุม 45 องศำ ที่บริเวณช่องทำงเดินรถด้ำนเล้ียวซ้ำยผ่ำนตลอดไว้ เพื่อกำหนดให้มีพื้นที่ท่ีจะควบคุมผู้กระทำผิดและ สำหรบั จอดยำนพำหนะทจ่ี ะต้องทำกำรตรวจค้นอย่ำงละเอียดไว้ในบรเิ วณดังกลำ่ ว โดยมรี ถยนตส์ ำหรับ ควบคุมซึ่งเป็นรถยนต์ขนำดใหญ่กำบังและให้ควำมปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติและบริเวณดังกล่ำวจะไม่มี ยำนพำหนะท่ีไม่เกย่ี วข้องนอกจำกทต่ี ้องทำกำรตรวจคน้ อย่ำงละเอยี ด หรือทต่ี อ้ งกำรจะตรวจยดึ ไว้ผ่ำน เขำ้ มำ 5. ใหน้ ำรถยนต์สำยตรวจซึ่งเปิดสญั ญำณไฟวับวำบไปจอดไว้บริเวณปอ้ มสัญญำณไฟจรำจรที่มี เจ้ำหน้ำทจ่ี รำจรควบคุมสัญญำณกำรจรำจร เพอื่ ใหเ้ ปน็ จุดสังเกตและอยใู่ นทิศทำงท่ีมองเห็นกำรปฏิบัติ การต้งั จุดตรวจค้นทางรว่ มแยก (ด้านหนา้ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook