Book21_ยุทธวิธีตำรวจ

๙๔ àËμàØ ¾ÅÔ§äËÁŒ ขั้นตอนหลักในการปฏบิ ัติ รายละเอียดการปฏิบตั ิ ขอ สงั เกต ๑. รบี ว.๒๕ และแจง ว.๑๐ ทเี่ กดิ เหตุ ๑. รบี ว.๒๕ และแจง ว.๑๐ ทเี่ กดิ เหตุ ๑. พบผบู าดเจบ็ ตอ งปฐมพยาบาล ๒. ประเมินสถานการณ พิจารณา หากมเี หตุจรงิ ใหแจง ศนู ยวทิ ยุ เบอ้ื งตน ตามความเหมาะสม แกไ ขปญ หา ขอรบั การสนบั สนนุ ทราบ พรอ มขอกาํ ลงั สนบั สนุน และดําเนินการเพื่อนําสง หรือประสานงานกับหนวยงาน รวมถึงแจงรถดับเพลิงใหมายัง สถานพยาบาล ท่ีเก่ียวของ บันทึกภาพสถานท่ี ท่ีเกดิ เหตุ ๒. พบผเู สยี ชวี ติ หา มผไู มเ กยี่ วขอ ง เกิดเหตุและรายงานเหตุการณ ๒. ตรวจสอบสถานทที่ ถี่ กู เพลงิ ไหม เขา ไปแตะตอ งและเคลอื่ นยา ย เบื้องตน วา มลี กั ษณะเปน อยา งไร เชน เปน โดยเดด็ ขาด ๓. ปด กนั้ และรกั ษาสถานทเี่ กดิ เหตุ อาคารสงู กช่ี น้ั เพลงิ ไหมช นั้ ไหน เบอื้ งตน ไมแ ตะตอ งและเคลอ่ื นยา ย มีผูติดอยูในท่ีเกิดเหตุหรือไม วัตถุพยานโดยเด็ดขาด รวมทั้ง รวมถงึ มคี วามจาํ เปน ตอ งใหก าร หา มผไู มเ กย่ี วขอ งเขา ไปในทเ่ี กดิ เหตุ ไฟฟาตัดกระแสไฟฟาหรือไม ๔. ประชาสัมพนั ธ และประเมินสถานการณวา - สอบถามพยานในที่เกิดเหตุ เพลงิ ไหมม ที า ทจี ะลกุ ลามหรอื ไม หรอื ผเู หน็ เหตกุ ารณ พรอ มจด อยางไร แจงใหศูนยวิทยุทราบ ชื่อ-สกลุ หมายเลขโทรศพั ท เปน ระยะ เพอื่ ประสานหนว ยที่ - หามผูไมเกี่ยวของเขาไปใน เกยี่ วขอ งเขา มายงั ท่ีเกิดเหตุ บริเวณทเี่ กดิ เหตุ ๓. ปด กน้ั และรกั ษาสถานทเี่ กดิ เหตุ - เตรียมเสนทางเขาออก และหามผูท่ีไมมีสวนเก่ียวของ สําหรับเจาหนาท่ีท่ีเก่ียวของ เขาไปในสถานทเี่ กดิ เหตุ และผูบงั คับบัญชา ๔. ตรวจหาเจาของบานตนเพลิง - หากพบวัตถุพยานใหแจง และพยาน พรอ มจดชอื่ นามสกลุ เจา หนา ทตี่ าํ รวจหรอื ผมู หี นา ที่ หมายเลขโทรศัพทไว และแจง เก่ียวของทราบ ใหอ ยรู อพบพนักงานสอบสวน - แจง เตอื นใหผ อู ยใู นบรเิ วณทเ่ี กดิ เหตุ ๕. แจงศูนยวิทยุใหทราบเสนทาง เพม่ิ ความระมดั ระวงั อนั ตราย เพอ่ื ใหร ถดบั เพลงิ และผบู งั คบั บญั ชา ตา ง ๆ ทอี่ าจจะเกดิ ขนึ้ ในแตล ะ สามารถเขามายังที่เกิดเหตุ เหตกุ ารณ ใหง ายท่สี ดุ ๕. รายงานเหตุการณโดยสังเขปให ผูบังคับบัญชาหรือพนักงาน สอบสวนทม่ี าถงึ ทเี่ กดิ เหตทุ ราบ ๖. หากไมใชพื้นที่รับผิดชอบให ดาํ เนนิ การตามขอ ๑-๔ แลว รบี แจง ใหเ จา ของพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบทราบ

๙๕ àËμؾºÇÑμ¶μØ ŒÍ§Ê§ÊÑ ขนั้ ตอนหลกั ในการปฏบิ ตั ิ รายละเอียดการปฏบิ ตั ิ ขอสงั เกต ๑. รบี ว.๒๕ และแจง ว.๑๐ ทเี่ กดิ เหตุ ๑. รีบ ว.๒๕ และแจง ว.๑๐ ท่ีเกิดเหตุ ๑. พบผบู าดเจบ็ ตอ งปฐมพยาบาล ๒. ประเมินสถานการณ พิจารณา ๒. สอบถามหาเจาของวัตถุตอง เบอื้ งตน ตามความเหมาะสม แกไ ขปญ หา ขอรบั การสนบั สนนุ สงสยั หากไมม ผี ใู ดแสดงตนเปน และดําเนินการเพื่อนําสง หรือประสานงานกับหนวยงาน เจา ของใหส นั นษิ ฐานไวก อ นวา วตั ถุ สถานพยาบาล ที่เก่ียวของ บันทึกภาพสถานท่ี ตอ งสงสยั นนั้ อาจเปน วตั ถรุ ะเบดิ ๒. พบผเู สยี ชวี ติ หา มผไู มเ กยี่ วขอ ง เกิดเหตุและรายงานเหตุการณ ๓. แจง ศนู ยว ทิ ยใุ หแ จง ผบู งั คบั บญั ชา เขา ไปแตะตอ งและเคลอื่ นยา ย เบอ้ื งตน ทราบ พรอ มขอกาํ ลังสนับสนนุ โดยเดด็ ขาด ๓. ปด กน้ั และรกั ษาสถานทเี่ กดิ เหตุ และใหศ นู ยว ทิ ยปุ ระสานหนว ย เบื้องตน ไมแตะตองและ เกบ็ กวู ตั ถรุ ะเบดิ (EOD) มายงั ท่ี เคลอื่ นยา ยวตั ถพุ ยานโดยเดด็ ขาด เกดิ เหตโุ ดยแจง รายละเอยี ดของ รวมทั้งหามผูไมเก่ียวของเขาไป วตั ถตุ อ งสงสยั ดงั กลา วใหท ราบ ในทีเ่ กิดเหตุ ดว ย เชน ขนาดรปู รา ง หรอื มเี สยี ง ๔. ประชาสัมพนั ธ การทํางานของนาฬกา หรือมี - สอบถามพยานในที่เกิดเหตุ สายไฟฟา ฯลฯ หรอื ผเู หน็ เหตกุ ารณ พรอ มจด ๔. ปด กนั้ และอพยพคน ใหอ อกหา ง ชอื่ -สกลุ หมายเลขโทรศัพท จากวตั ถตุ อ งสงสยั หากสามารถ - หามผูไมเก่ียวของเขาไปใน หายางรถยนตได ก็ใหนํายาง บริเวณทีเ่ กิดเหตุ รถยนตม าครอบเอาไว - เตรียมเสนทางเขาออก สําหรับเจาหนาท่ีที่เก่ียวของ และผบู ังคบั บัญชา - หากพบวัตถุพยานใหแจง เจา หนา ทตี่ าํ รวจหรอื ผมู หี นา ที่ ที่เก่ียวขอ งทราบ - แจงเตือนใหผูอยูในบริเวณ ทเ่ี กดิ เหตเุ พม่ิ ความระมดั ระวงั อนั ตรายตา ง ๆ ทอ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ ในแตละเหตุการณ ๕. รายงานเหตุการณโดยสังเขป ใหผูบังคับบัญชาหรือพนักงาน สอบสวนทมี่ าถงึ ทเี่ กดิ เหตทุ ราบ ๖. หากไมใชพ้ืนท่ีรับผิดชอบให ดาํ เนนิ การตามขอ ๑-๔ แลว รบี แจง ใหเ จา ของพน้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบทราบ

๙๖

๙๗ º··èÕ õ Â·Ø ¸ÇÔ¸¡Õ ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ºØ¤¤Åสํา¤ÞÑ ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺؤ¤Åสาํ ¤ÑÞ ñ. คําจาํ ¡Ñ´¤ÇÒÁ ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺؤ¤Åสํา¤ÑÞ หมายถึง บรรดามาตรการทั้งปวงที่กําหนด ข้ึนเพื่อใหความคุมครองปองกันแกบุคคลสําคัญยิ่ง ใหพนจากอันตรายอันอาจเกิดข้ึนไดจากอุบัติเหตุ หรือความจงใจทจ่ี ะกระทาํ ของฝายตรงขาม ËÑÇ˹ŒÒ਌Ò˹ŒÒ·èÕÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ หรือเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยประจํา ตัวบุคคลสําคัญ (AGENT IN CHARGE = AIC) หมายถึง ผทู าํ หนาท่เี ปนหัวหนาเจา หนา ทีร่ ักษา ความปลอดภัยทั้งหมด รับผิดชอบการวางแผน การบริหารงาน ควบคุมกํากับดูแลเจาหนาท่ีรักษา ความปลอดภยั ทงั้ หมด ทงั้ เรอ่ื งการแบง มอบหนา ที่ การเตรยี มอปุ กรณ ขณะนง่ั รถขบวนจะนง่ั คันเดยี ว กับบุคคลสําคัญที่อยูในอารักขา โดยน่ังดานหนาคูกับพลขับและเมื่อเกิดเหตุประทุษรายบุคคลสําคัญ จะเปนผเู อาตวั เขา กาํ บงั บคุ คลสําคญั ทอ่ี ยใู นอารกั ขา à¨ÒŒ ˹Ҍ ·ÃèÕ ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ËÇÑ Ë¹ÒŒ àÇà ËÃÍ× ËÇÑ Ë¹ÒŒ ¡Ð (SHIFT LEADER = SL) หมายถึง ผูทําหนาท่ีหัวหนาเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยในแตละผลัด หรือแตละกะ รับผิดชอบ กํากับดูแลการปฏิบัติงานของเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยในผลัดนั้นๆ เปนผูติดตอประสานงาน กับศูนยบัญชาการและระหวางเจาหนาท่ีในผลัด คอยรายงานขอมูลและผลการปฏิบัติงานให เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยผูเปนหัวหนา (AIC) ทราบ เมื่ออยูในขบวนรถจะน่ังดานหนาของรถ ตดิ ตามคูกบั พลขบั ਌Ò˹ŒÒ·ÕèÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂʋǹ˹ŒÒ (ADVANCE AGENT) หมายถึง เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยที่รับผิดชอบจัดเตรียมพื้นที่เปาหมายลวงหนากอนท่ีบุคคลสําคัญท่ีจะ อารักขาจะเดินทางไปถึง เปนผูนําทีมรักษาความปลอดภัยเขาพื้นท่ี คอยใหขอมูลกับขบวนเดินทาง ตลอดเวลา เมื่อรถขบวนไปถึงที่หมายจะเปนผูเชิญบุคคลสําคัญและเจาหนาที่ในขบวนรักษา ความปลอดภัยใหเดินตามในเสนทางท่ีสํารวจไวแลว โดยเดินอยูในสวนหนาของรูปขบวนการรักษา ความปลอดภัย ò. ÇÑμ¶Ø»ÃÐʧ¤¢ ͧ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ º¤Ø ¤Åสํา¤ÑÞ ๒.๑ เพอ่ื คุม ครองปองกนั ชวี ติ ของบคุ คลสําคัญและครอบครัว ๒.๒ เพือ่ ปอ งกนั มิใหบ ุคคลสําคญั และครอบครวั ถกู บีบบงั คับโดยวธิ ที ผ่ี ดิ กฎหมาย ๒.๓ เพ่ือปองกันมใิ หมกี ารลบหลเู กยี รติของบุคคลสําคญั

๙๘ ó. ÊÒàËμ¨Ø Ù§ã¨ãËÁŒ ¡Õ ÒÃÅͺ»ÃзÉØ ÃŒÒºؤ¤Åสํา¤ÑÞ สาเหตทุ ก่ี อ ใหเ กดิ มกี ารประทษุ รา ยตอ บคุ คลสาํ คญั นน้ั มาจากสง่ิ จงู ใจหลายประการ โดยมีความมุงหมายและมคี วามปรารถนาแตกตางกนั ออกไป ดงั ตอ ไปน้ี ๓.๑ สาเหตุทางการเมือง ๓.๒ สาเหตุทางเศรษฐกจิ ๓.๓ สาเหตุจากความขัดแยงดา นความคิดเหน็ หรืออุดมการณ ๓.๔ สาเหตุทางดา นจติ วิทยา ๓.๕ สาเหตทุ างดานสว นตัว ๓.๖ สาเหตจุ ากการไดอามิสสินจา ง ๓.๗ สาเหตจุ ากการถกู บังคับขเู ข็ญ ๓.๘ สาเหตจุ ากมคี วามปรารถนาทจ่ี ะกระทาํ เพอื่ ประโยชนส ว นรวมและประเทศชาติ ô. »ÃÐàÀ·¢Í§ºØ¤¤Åสาํ ¤ÑÞ การรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ จําเปนตองแยกประเภทของบุคคลสําคัญ ใหเปนที่แนชัด เพ่ือจะไดวางมาตรการใหความคุมครองปองกันไดถูกตองเหมาะสมกับเวลา และ สถานที่บุคคลสาํ คญั ไดแ ก ๔.๑ ประมขุ ของประเทศ ๔.๒ ผูน าํ ทางการเมอื ง ๔.๓ ผนู าํ ทางศาสนา ๔.๔ ผนู าํ ทางทหาร ๔.๕ นกั วทิ ยาศาสตรค นสําคญั ๔.๖ บคุ คลสาํ คญั ในทัศนะของปวงชน ๔.๗ แขกของรฐั บาลหรอื ผแู ทนประเทศตางๆ õ. ¡ÒÃáÊ´§»¯¡Ô ÔÃÂÔ ÒμͺâμàŒ ËμØ¡Òó เมื่อเกิดเหตุการณประทุษรายตอบุคคลสําคัญข้ึน เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัย จะตองตอบโตเหตุการณที่เกิดข้ึนทันทีโดยคํานึงถึงความปลอดภัยของบุคคลสําคัญเปนอันดับแรก โดยการนาํ บคุ คลสาํ คญั ออกจากทเ่ี กดิ เหตโุ ดยเรว็ สว นการจบั กมุ หรอื สงั หารคนรา ยจะกระทาํ เทา ทจี่ าํ เปน ทง้ั น้คี วรมอบใหเ ปน หนาทขี่ องตาํ รวจทอ งที่ซ่งึ อยใู นเหตกุ ารณ การตอบโตเหตุการณตองใหเหมาะสมกับภัยท่ีเกิดขึ้น เชน หากถูกขวางปา ดว ยส่ิงของกอ็ าจเพียงใชลาํ ตวั เขากําบงั แตห ากถูกประทษุ รายดว ยปน ก็อาจใชป นตอบโต เปน ตน ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญจะตองมีระบบการส่ือสารท่ีดีเพื่อบอกทิศทาง ของฝายตรงขามท่ีเขามาทําราย ท่ีเหมาะสมที่สุดคือการใชเสียงสัญญาณใหทุกคนไดรูสถานการณ ขณะถูกทําราย ควรใชคําพูดท่ีสั้นที่สุดแตไดใจความครบถวนและรูวาจะตอตานผูประทุษราย ในทิศทางใดและควรนาํ บุคคลสาํ คัญไปในทศิ ทางใด

๙๙ การใชเสียงสัญญาณท่ีเปนคําพูดใหไดผลดีจะตองประกอบดวยชนิดของอาวุธ และทศิ ทางโดยกาํ หนดตามระบบเข็มนาฬก า คือ ทศิ ทางท่เี คลอื่ นทตี่ รงไปเปน ๑๒ นาฬกา ทางซาย จะเปน ๙ นาฬกา ทางขวาจะเปน ๓ นาฬกา และดานหลังเปน ๖ นาฬกา เชน เมื่อเห็นคนราย ชักปนออกมาจะยิงจากทางซายมือ ก็ใหสัญญาณวา “»„¹ ù ¹Ò́¡Ò” หรือเห็นคนรายจะเขามา ทํารา ยทางขวามือโดยไมมอี าวธุ ก็ใหสัญญาณวา “¤¹ ó ¹ÒÌ¡ Ò” เปน ตน ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹¢³Ðà´Ô¹·Ò§´ŒÇÂà·ÒŒ เน่ืองจากในบางโอกาสบุคคลสําคัญจะตองเดินทางไปยังสถานท่ีตาง ๆ ดวยการเดิน ดวยเทา ซ่ึงในการน้ีจะเปนจุดที่ลอแหลมตออันตรายเปนอยางมาก จึงมีความจําเปนจะตองมีแบบ และวิธีการรักษาความปลอดภัยท่ีรัดกุมและมีประสิทธิภาพเปนอยางย่ิง ในที่นี้จะกลาวเฉพาะการ รักษาความปลอดภัยของชุดติดตามบุคคลสําคัญเทานั้น สวนมาตรการอ่ืนๆ เปนหนาท่ีของชุด สาํ รวจและชุดลว งหนา เปน ผูดาํ เนินการ รูปแบบและการวางตัวเจาหนาที่รักษาความปลอดภัย จะตองนํามาดัดแปลงใหเขากับ สถานการณ แมจะยึดรูปแบบที่ไดรับการฝกมาเปนมาตรฐานในการปฏิบัติ แตขณะเดียวกันกับ เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยทุกคนจะตองสามารถปรับตําแหนงของตนเม่ือจําเปน เพ่ือใหความ ปลอดภัยตอบุคคลสําคัญใหมากท่ีสุด ดังน้ันการทํางานเปนชุด การฝกฝนอยางมีประสิทธิภาพ จะทําใหเ กิดผลสําเรจ็ ในการปฏบิ ัติ ทงั้ นเี้ จาหนาที่จะตองทราบในเรื่องตอ ไปน้ี - เสนทางทจี่ ะตองใช - กําหนดการตา งๆ - ขอ มูลตา งๆ เกย่ี วกับบคุ คลสาํ คัญ - อุปนิสยั ของเพื่อนรวมงาน การคุมกันบุคคลสําคัญ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยจะตองสามารถจําแนกใหไดวา จดุ ใดนา จะเปน จดุ คบั ขนั ทก่ี อ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ บคุ คลสาํ คญั ไดม ากทสี่ ดุ เพอื่ จะไดจ ดั เจา หนา ทใ่ี หค อย คุมกัน ณ จุดนั้นไดถูกตอง แตทั้งนี้ตองระมัดระวังมิใหเอิกเกริกจนเกินกวาเหตุ และมิใหประชาชน ทราบวา มีอะไรเกดิ ขึน้ ความตองการของบุคคลสําคัญ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยจะตองศึกษาประวัติ และความตองการหรือไมตองการของบุคคลสําคัญโดยละเอียด เพื่อประโยชนในการวางตัวของ เจาหนาท่ีและจัดจํานวนของเจาหนาท่ีในทางเปดเผยและทางลับวาควรจัดเทาใด การรูจักสังเกตและ ต่ืนตัวของเจาหนาที่ทั้งสองประการน้ี มีความสําคัญย่ิงเม่ืออยูทามกลางฝูงชน เจาหนาที่ทุกคนตอง ไมเกิดความคิดวา “ไมมีใครทําอะไรบุคคลสําคัญ” ใหพึงระลึกวา บุคคลสําคัญอาจจะเปนอันตราย ไดตลอดเวลา ทั้งจากอุบัติเหตุและการจงใจกระทํา การรักษาความปลอดภัยใหบุคคลสําคัญรอดพน จากภยันตรายไดแมแตเพียงครั้งเดียว ถือวาคุมคาตองบประมาณจํานวนมากที่ตองจาย อีกประการหนึ่งในระหวางหรือกอนปฏิบัติงาน เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยจะตองไมด่ืมสุรา โดยเดด็ ขาด มิฉะน้นั แลว การสังเกตและความตื่นตัวจะลดลงไปดว ย

๑๐๐ ÃٻẺ¡ÒÃÇÒ§กําÅ§Ñ à¨ŒÒ˹Ҍ ·ÃÕè Ñ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ º¤Ø ¤Åสาํ ¤ÑÞ Á´Õ §Ñ ¹éÕ ñ. àÁÍè× ãªàŒ ¨ÒŒ ˹Ҍ ·èÕ ñ ¤¹ ใชในกรณีเดียว คือ ในโอกาสท่ีบุคคลสําคัญอยูในพื้นที่ปลอดภัย และใชเมื่อเดิน จากหอ งหนง่ึ ไปยงั อกี หอ งหนงึ่ ในทพี่ กั หรอื ในพนื้ ทอ่ี น่ื ทม่ี กี ารรกั ษาความปลอดภยั ทดั เทยี มกบั ในทพ่ี กั โดยมีหวั หนา ชุดตดิ ตาม รับผิดชอบพ้นื ที่ ๓๖๐ องศา รปู ท่ี ๑ ตําแหนง การยนื รักษาความปลอดภยั เมอ่ื มีเจาหนา ทรี่ ักษาความปลอดภัยคนเดียว ò. àÁè×Í㪌਌Ò˹ŒÒ·Õè ò ¤¹ ปกติใชในโอกาสท่ีอยูภายในอาคารท่ีมีการรักษาความปลอดภัย เชน ท่ีพักช่ัวคราว หรือการไปปรากฏตัวในที่รบั แขกสวนตัว ประกอบดว ย ๑) เจา หนาท่รี ักษาความปลอดภยั สวนหนา (ADVANCE AGENT) ADV ๒) หัวหนาชุดติดตาม (AGENT IN CHARGE) AIC รปู ท่ี ๒ ตําแหนงการยืนรกั ษาความปลอดภยั เมือ่ มีเจาหนาท่ีรกั ษาความปลอดภัย ๒ คน

๑๐๑ ó. àÁ×Íè ãªàŒ ¨ÒŒ ˹Ҍ ·èÕ ó ¤¹ »ÃСͺ´ŒÇ ๑) เจาหนา ที่รกั ษาความปลอดภัยสว นหนา (ADVANCE AGENT) ADV ๒) หัวหนา ชุดตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) AIC ๓) รองหัวหนา ชุดตดิ ตาม (SHIFT LEADER) SL การรักษาความปลอดภยั บุคคลสําคญั แบบนเี้ รียกวา รูปทรงลมิ่ การเดินจะตอ ง เดินเกาะกลุม สวนใหญจะใชในการรักษาความปลอดภัยในพ้ืนที่ซ่ึงประชาชนไมหนาแนน และใช ในกรณีไมเปนทางการ เชน ไปชมภาพยนตร ฟงเพลง และอ่ืน ๆ เปนการจัดกําลังขนาดเล็กที่สุด ในขณะออกนอกสถานที่ ทีม่ ีการรักษาความปลอดภยั ทีด่ ี ทศิ ทางการเดิน ADV PRIN SL AIC รูปที่ ๓ ตําแหนง การยนื รักษาความปลอดภยั เม่ือมเี จาหนาท่ีรกั ษาความปลอดภัย ๓ คน ô. àÁÍè× ãªàŒ ¨ÒŒ ˹Ҍ ·Õè ô ¤¹ »ÃСͺ´ÇŒ  ๑) เจาหนา ท่ีรักษาความปลอดภยั สว นหนา (ADVANCE AGENT) ADV ๒) หัวหนาชุดตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) AIC ๓) รองหัวหนา ชุดติดตาม (SHIFT LEADER) SL ๔) เจา หนา ท่ีระวังดานซาย (LEFT REAR) LR ADV ทิศทางการเดิน LR PRIN AIC SL รปู ท่ี ๔ ตําแหนงการยนื รักษาความปลอดภยั เมื่อใชเ จา หนาที่รักษาความปลอดภยั ๔ คน

๑๐๒ รูปขบวนการใชเ จา หนา ท่รี กั ษาความปลอดภัย ๔ คน เปนรูปขบวนการวางกําลังท่ีใหการ รกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั ไดเ ปน อยา งดี กรณเี มอื่ จาํ เปน ตอ งผา นฝงู ชนจาํ นวนมากหรอื การให สมั ภาษณส อื่ มวลชนและตอ งการคมุ กนั อยา งหนาแนน ซง่ึ สามารถปอ งกนั ไดท กุ ทศิ ทาง แตบ คุ คลสาํ คญั สวนมากมักไมชอบรปู แบบการวางกาํ ลังแบบนีเ้ นอื่ งจากไมไ ดส ัมผสั กบั ประชาชนอยางใกลช ิด õ. à¨ÒŒ ˹ŒÒ·Õè õ ¤¹ (Pentagon Agents) »ÃСͺ´ÇŒ  ๑) เจาหนา ท่รี กั ษาความปลอดภัยสวนหนา (ADVANCE AGENT) ADV ๒) หัวหนาชุดติดตาม (AGENT IN CHARGE) AIC ๓) รองหัวหนา ชุดตดิ ตาม (SHIFT LEADER) SL ๔) เจาหนาทีร่ ะวังดา นซาย (LEFT REAR) LR ๕) เจา หนาทรี่ ะวังดานขวา (RIGHT REAR) RR รูปที่ ๕ ตาํ แหนงการยนื รักษาความปลอดภยั เม่ือใชเ จาหนาท่รี ักษาความปลอดภัย ๕ คน รูปขบวนนี้ใชในกรณีท่ีมีฝูงชนหนาแนนมาก หรือบางคร้ังจําเปนตองพาบุคคลสําคัญ ฝา วงลอมของฝูงชน ซึ่งสามารถทาํ วงลอ มเพอื่ ปองกนั บุคคลสําคัญ โดยปรบั รปู ขบวนวงลอ มใหเล็กลง จนเกอื บชิดกัน แลวใชมือซา ยจับเข็มขดั หรือจบั มอื ในลกั ษณะมดั ขาวตม พาบคุ คลสาํ คญั ไปยังทหี่ มาย โดยหัวหนาชดุ ติดตามเปน ผกู ําหนดทศิ ทาง

๑๐๓ ö. àÁ×Íè 㪌਌Ò˹ŒÒ·Õè ö ¤¹ »ÃСͺ´ÇŒ  ๑) เจา หนาท่ีรกั ษาความปลอดภยั สวนหนา (ADVANCE AGENT) ADV ๒) หวั หนาชดุ ติดตาม (AGENT IN CHARGE) AIC ๓) รองหวั หนาชุดติดตาม (SHIFT LEADER) SL ๔) เจา หนา ทร่ี ะวังดา นซาย (LEFT REAR) LR ๕) เจาหนา ที่ระวังดา นขวา (RIGHT REAR) RR ๖) เจา หนาท่รี ะวงั หลัง (WELL AGENT) WELL รปู ที่ ๖ ตาํ แหนงการยืนรักษาความปลอดภยั เมอื่ ใชเ จาหนา ท่รี ักษาความปลอดภัย ๖ คน รูปขบวนนใ้ี ชใ นกรณี พนื้ ท่มี คี วามเส่ยี งสงู มีฝูงชนหนาแนน มาก บางครง้ั จาํ เปนตอ งพา บุคคลสําคัญฝาวงลอมของฝูงชน ซ่ึงสามารถทําวงลอมเพื่อปองกันบุคคลสําคัญ โดยปรับรูปขบวน วงลอมใหเล็กลงจนเกือบชิดกัน แลวใชมือซายจับเข็มขัดหรือจับมือในลักษณะมัดขาวตม พาบุคคล สําคัญไปยังที่หมาย โดยหัวหนาชุดติดตามเปนผูกําหนดทิศทาง โดยมีการเพ่ิมเจาหนาที่ระวังหลัง เขา มาในทีม ¡Òû¯ÔºÑμàÔ ÁÍ×è à¡Ô´àËμØ»ÃзØÉÃÒŒ º¤Ø ¤Åสํา¤ÞÑ ๑. เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลท่ีพบเห็นผูประทุษรายหรือภัยท่ีจะเกิดขึ้น คนแรก ใหส ง เสยี งบอกเจาหนาทีร่ ักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญคนอ่ืน ๆ ใหร ชู นดิ และทิศทางภยั การเขามาประทษุ ราย ๒. หัวหนา ชุดตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) เขา ประชดิ ตวั บคุ คลสาํ คญั โดยใชมอื ขางใดขางหน่ึงจับท่ีบริเวณคอของบุคคลสําคัญกดใหโนมตัวลง สวนมืออีกขางหน่ึงใหจับที่เข็มขัด หรือขอบกางเกงบุคคลสําคัญ เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยท่ีอยูในทิศทางตรงขามกับภัยที่เกิดข้ึน

๑๐๔ ใหเขาประชิดตัวบุคคลสําคัญนําออกไปยังท่ีปลอดภัย (ทําหนาที่ผูนําทาง) สวนเจาหนาที่รักษา ความปลอดภยั คนอนื่ ทเ่ี หลอื ทอ่ี ยใู นทศิ ทางทใี่ กลก บั ภยั ทเี่ กดิ ขนึ้ ใหห นั หนา เขา ตอ สกู บั ผทู ป่ี ระทษุ รา ย โดยพยายามใหอ ยใู นตาํ แหนง ทส่ี ามารถใชล าํ ตวั ขวางกนั้ วถิ ขี องอาวธุ มใิ หท าํ อนั ตรายตอ บคุ คลสาํ คญั ได ๓. หัวหนาชุดติดตาม (AGENT IN CHARGE) ใหรีบพาบุคคลสําคัญออกจาก ที่เกิดเหตุในทิศทางตรงขามกับภัยท่ีเกิดขึ้นหรือทิศทางท่ีปลอดภัยตามผูนําทาง สวนเจาหนาท่ีรักษา ความปลอดภัยบุคคลสําคัญสวนท่ีเหลือ ใหตอสูกับผูประทุษราย พรอมกับเคลื่อนท่ีถอยหลังติดตาม ไปจากท่ีเกิดเหตุทันที (อาจจะใชเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยเขาตอบโตภัยคุกคาม ๑ หรือ ๒ คน สว นทเ่ี หลอื ใหค มุ กนั บุคคลสาํ คัญออกจากพ้ืนที่ไปยงั ที่ปลอดภัย) รูปท่ี ๗ การตอบโตเ หตุการณข องเจา หนาทีร่ กั ษาความปลอดภัยบุคคลสําคญั เมอ่ื ถูกโจมตี รูปที่ ๘ การกําหนดทศิ ทางการเคลอื่ นท่ีตามระบบนาฬกา

๑๐๕ ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺؤ¤Åสํา¤ÑÞàÁ×Íè »ÃÒÈÃѺ¹àÇ·Õ เวทสี ําหรบั ปราศรัยอาจเปนเวทีทอี่ ยภู ายในอาคาร เชน หอประชุม โรงแรม หรอื เปนเวที กลางแจง ขอสําคญั สว นลวงหนาจะตองทําแผนโดยละเอียดใหเ จาหนาทรี่ ักษาความปลอดภัยบุคคล สําคญั ทุกคนไดร ับขอ มลู ตรงกันทกุ แงมมุ หากเปนเวทีท่ีมีทางข้ึนลงอยูดานขางตรงกันขามกัน ใหเจาหนาที่รักษาความปลอดภัย บคุ คลสาํ คญั ทเ่ี ดนิ นาํ หนา ขน้ึ เวทคี นแรก เดนิ เลยไปหยดุ ในตาํ แหนง ทส่ี ามารถปอ งกนั ทางลงจากเวทไี ด สวนเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญทางดานใกลเวที ใหขึ้นไปยืนอยูขางหลังเยื้องไปทาง ดา นซา ยของบุคคลสาํ คญั หัวหนาชดุ ตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) ตามขึ้นไปบนเวทแี ลว ไปยนื ดานหลังเย้ืองไปทางขวา เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญท่ีเดินอยูดานขางหนาเวที อยตู ดิ กบั ผฟู ง ใหย นื สงั เกตการณด า นหนา เวทหี รอื อาจปะปนกบั ผฟู ง การปราศรยั ทอี่ ยดู า นหนา สาํ หรบั เจา หนาทร่ี กั ษาความปลอดภยั บุคคลสําคัญท่ีเดินตามคนสุดทา ยใหหยดุ อยทู ท่ี างขึน้ เวที รูปที่ ๙ ผังตําแหนง การยนื รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญเมอ่ื ปราศรยั บนเวที การรกั ษาความปลอดภัยเมื่อบุคคลสาํ คญั เดนิ ตามแนวร้ัว ลักษณะในการรักษาความปลอดภัยนี้ จะใชในกรณีท่ีบุคคลสําคัญเย่ียมเยียนประชาชน ซึ่งในพื้นท่ีท่ีกําหนดโดยมี เชือก ร้ัว หรือเจาหนาที่ตํารวจคอยก้ันมิใหลํ้าเขต ซึ่งบางคร้ังอาจมี ผูไมหวังดีตอบุคคลสําคัญ โดยการจับมือแนนไมยอมปลอย กรณีน้ีเจาหนาที่อาจใชวิธีการหักนิ้ว หัวแมมือได ฉะนนั้ เจาหนา ที่ทีอ่ ยูในรปู ขบวนตองสังเกตดมู อื ผูคนในฝูงชนเปน พิเศษ ในการวางกําลัง เจาหนาท่จี ะเปนดงั น้ี ๑. ใหห ัวหนา ชดุ ติดตามและรองหวั หนาชุด อยูในตําแหนงหลงั ขวาและหลงั ซาย ติดกบั บคุ คลสาํ คญั ตลอดเวลา ๒. หวั หนา ชุดสวนลว งหนาเดินนาํ บุคคลสาํ คัญไปในเสนทางท่ีกาํ หนด

๑๐๖ ๓. เจาหนาที่ปฏิบัติการหลังขวาและหลังซาย เดินปะปนอยูในแถวที่สองของฝูงชน โดยเคลอื่ นขนานไปกบั บคุ คลสาํ คญั ตลอดเวลา ผทู จ่ี ะทาํ รา ยบคุ คลสาํ คญั มกั จะอยใู นบรเิ วณแถวทสี่ อง ถามีการใชอ าวธุ เจาหนา ทแ่ี ถวสองจะสามารถหยุดยง้ั ได รปู ที่ ๑๐ ตาํ แหนงการยนื รักษาความปลอดภยั บคุ คลสําคัญ แนวที่ตงั้ แถวรบั รปู ท่ี ๑๑ ตาํ แหนงการยืนรักษาความปลอดภัยบุคคลสาํ คญั แนวรวั้ ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹¢³ÐºØ¤¤Åสํา¤ÞÑ à´¹Ô ¢éÖ¹-ŧºÑ¹ä´ ในกรณีท่บี ุคคลสําคัญจะตองเคลอ่ื นท่ีโดยการใชบันไดนัน้ มกี ารวางกาํ ลังดังน้ี ๑. เจาหนาที่ชุดสวนลวงหนาหรือชุดประจําสถานที่ วางกําลังอยูดานบนหรือดานลาง กอ นทบ่ี ุคคลสําคญั จะข้ึนหรอื ลง โดยกันผูทจ่ี ะใชบันไดไวกอ นเพอ่ื ความปลอดภยั ของบุคคลสาํ คัญ ๒. เจาหนา ทช่ี ดุ ตดิ ตาม ๑ คน เดนิ นาํ บคุ คลสาํ คญั หรอื ลงบนั ไดกอ น หวั หนา ชดุ ตดิ ตาม เดินอยูใ กลบ ุคคลสําคญั ทางดานหลังเสมอ ๓. เจา หนา ทชี่ ดุ ตดิ ตามทเ่ี หลอื เดนิ ตามบคุ คลสาํ คญั พรอ มกบั ใหก ารรกั ษาความปลอดภยั รอบตวั

๑๐๗ ๔. ในขณะท่บี ุคคลสาํ คญั ขึ้นหรอื ลงบนั ได ตองแนใ จวา ไมม ผี ูอ่นื ใชบันไดเดินสวนทางได แตบ างครงั้ อาจมคี วามจาํ เปน ตอ งยอมใหผ อู นื่ ใชบ นั ไดรว มดว ย กรณนี จ้ี ะตอ งจดั เจา หนา ทสี่ ว นลว งหนา หรือชุดตดิ ตามอยูใ นบนั ไดเล่อื นปะปนกับประชาชนในชวงขาลงหรือขาขึ้น รปู ที่ ๑๒ ตาํ แหนงการเดินรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคัญขน้ึ บนั ได ¡ÒÃÃ¡Ñ ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂã¹¢³Ð·èºÕ ؤ¤Åสาํ ¤ÑÞà¢ÒŒ -ÍÍ¡ ¨Ò¡Å¿Ô · แบงออกเปน ๒ กรณี คือ ๑. กรณจี ดั ลิฟทไวเฉพาะสําหรับบุคคลสําคญั ๑.๑ หวั หนาชุดสว นลว งหนา เดินนาํ บคุ คลสําคัญพรอ มรปู ขบวนไปยังลิฟท โดยมี เจาหนาทช่ี ดุ สว นลวงหนา เปด ลฟิ ทรออยู ๑.๒ หวั หนา ชดุ สว นลว งหนา เปด ทางใหเ จา หนา ทช่ี ดุ ตดิ ตาม ๑ คน เขา ลฟิ ทไ ปกอ น เพือ่ ควบคมุ แผงบงั คบั ๑.๓ บคุ คลสําคญั หวั หนาชุดติดตาม เขา ไปในลฟิ ทพ รอ มกบั ชดุ ตดิ ตามอกี ๑ คน โดยหัวหนา ชุดตดิ ตามยนื บงั บคุ คลสาํ คัญไว ๑.๔ หัวหนาชุดสวนลวงหนา จะเขาลิฟทเปนคนสุดทายพรอมกับยืนบังดานหนา บคุ คลสําคัญตรงบริเวณประตลู ิฟท เมอ่ื ลฟิ ทถ งึ ชนั้ ทตี่ อ งการจะมเี จา หนา ทช่ี ดุ สว นลว งหนา หรอื ชดุ ประจาํ สถานทคี่ อยอยู ดา นนอกลฟิ ท เพอื่ ใหค วามปลอดภยั การปฏบิ ตั ใิ หก ลบั กนั กบั การเขา ลฟิ ท คอื หวั หนา ชดุ สว นลว งหนา ออกจากลฟิ ทกอ นเปน คนแรก ตามดวยชุดติดตาม ๑ คน บุคคลสาํ คญั และหวั หนาชดุ ตดิ ตามและชดุ ตดิ ตามทเ่ี หลอื สว นรองหวั หนา ชดุ ตดิ ตามซง่ึ อยนู อกลฟิ ทน นั้ จะคอยแกป ญ หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายนอก กรณี ลิฟทไมสามารถบรรจุชุดปฏิบัติการไดท้ังหมด อยางนอยท่ีสุดหัวหนาชุดติดตามและหัวหนาชุด สวนลว งหนา จะตอ งอยูในลิฟทก ับบุคคลสําคัญ

๑๐๘ รูปท่ี ๑๓ ตําแหนงการยืนรักษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คัญ กรณีจัดลิฟทไวเฉพาะ ๒. การใชล ิฟทร วมกับบคุ คลอ่นื การปฏิบัตเิ หมือนกับการใชล ิฟทท ีจ่ ดั ไวโ ดยเฉพาะ แตใหแบงลิฟทออกเปน ๒ สว น โดยมีเจา หนา ท่กี น้ั ระหวางบุคคลสําคัญกับบุคคลอ่นื ทใ่ี ชล ิฟทใ นขณะนัน้ รูปท่ี ๑๔ ตาํ แหนง การยนื รกั ษาความปลอดภัยบุคคลสาํ คญั กรณีใชลิฟทกบั บุคคลอนื่

๑๐๙ ó. ÃÙ»¢ºÇ¹¡Òâ¹Öé Ã¶Â¹μ àÁèÍ× ãªŒÃ¶Â¹μ¹èѧ ò ¤¹Ñ รถคันแรกจะมผี นู ่งั ๓ คน คอื ๑.ตัวบุคคลสาํ คัญ ๒.เจาหนา ทร่ี ักษาความปลอดภัย บุคคลสําคัญซึ่งเปนหัวหนา และ ๓.พลขับรถบุคคลสําคัญ รถคันท่ี ๒ จะมีผูน่ังในรถ ๔ คน คือ ๑.เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ (หัวหนากะ) ๒.เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคล สาํ คญั ทางซา ย ๓.เจา หนา ทรี่ กั ษาความปลอดภัยบุคคลสาํ คญั ทางขวา และ ๔.พลขบั รถตดิ ตาม ¡Òû¯ºÔ μÑ Ô㹡ÒâéֹöàÁèÍ× ÁÕ਌Ò˹Ҍ ·ÃÕè Ñ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺؤ¤Åสาํ ¤ÞÑ õ ¤¹ ¢¹éÑ μ͹·Õè ñ พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั ตดิ เครอ่ื งยนตพ รอ มจอดดา นหนา สว นพลขบั รถตดิ ตามนาํ รถจอด ดา นหลงั หา งกนั ประมาณ ๒ เมตร และหมนุ พวงมาลยั รถใหล อ ดา นหนา เฉยี งไปทางขวา เลก็ นอ ย ¢Ñ¹é μ͹·Õè ò เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญสวนหนา ซึ่งไปถึงรถยนตของบุคคลสําคัญ กอนใหเปดประตูดานหลังซายแลวขยับมายืนบังประตูตรงที่น่ังท่ีบุคคลสําคัญจะนั่ง และหนั หนาออกจากรถ (รปู ที่ ๑๕) ¢Ñé¹μ͹·èÕ ó เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญทางขวา วิ่งออมรถบุคคลสําคัญไปยืนบัง ประตูรถดานขวาตรงเบาะหลังที่บุคคลสําคัญจะนั่ง และหันหนาออกจากรถ ในขณะ เดียวกันเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญทางซายรีบไปยืนบังท่ีดานซาย ของรถบรเิ วณลอ รถดา นหนา โดยหนั หนา เฉยี งไปทางซา ยประมาณ ๔๕ องศา (รปู ที่ ๑๖) ¢Ñé¹μ͹·èÕ ô เม่ือบุคคลสําคัญไปถึงรถเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญสวนหนาเดินออกหาง จากรถ เพอ่ื ใหบ คุ คลสาํ คญั เขา ไปนง่ั ในรถ ในขณะเดยี วกนั เจา หนา ทรี่ กั ษาความปลอดภยั บคุ คลสําคญั หัวหนา กะตองยนื กาํ บังบคุ คลสําคัญทางดา นทายรถ เพื่อไมใหถูกทาํ ราย ขณะขน้ึ รถ (รูปท่ี ๑๗) ¢Ñ¹é μ͹·èÕ õ เม่ือบุคคลสําคัญน่ังรถเรียบรอยแลว เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยประจําตัวบุคคล สาํ คญั กจ็ ะขนึ้ นง่ั ดา นหนา ของรถบคุ คลสาํ คญั คกู บั พลขบั ในขณะเดยี วกนั เจา หนา ทรี่ กั ษา ความปลอดภัยบุคคลสําคัญหัวหนากะ, เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยดานซาย และดานขวาตองรีบไปขึ้นรถติดตาม โดยเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ หัวหนากะน่ังดานหนาคูกับพลขับรถติดตาม, เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคล สําคัญทางซาย น่ังเบาะหลังดานซาย และเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยทางขวาน่ังที่ เบาะหลงั ดา นขวาของรถตดิ ตาม (รปู ท่ี ๑๘)

๑๑๐ รูปท่ี ๑๕ แสดงตําแหนง สว นลว งหนา (ADV) ไปเปดประตรู ถบุคคลสําคญั รปู ท่ี ๑๖ แสดงตาํ แหนง รปภ.ทางซา ย (LR) และทางขวา (RR) เขา ไปอารักขารอบรถบคุ คลสําคญั รูปที่ ๑๗ แสดงตําแหนง รปภ.ดา นหลงั (SL) และ รปภ.ประจําตัว (AIC) เขา ไปอารักขารอบรถบุคคลสาํ คญั

๑๑๑ รูปที่ ๑๘ แสดงตําแหนง ทีน่ ั่งในรถบุคคลสําคญั และรถตดิ ตามขณะขบวนออกจากจุดเรมิ่ ตน ËÁÒÂàËμØ ตําแหนงของเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญทางซายและทางขวาสามารถ สบั เปลีย่ นกันได ตามความเหมาะสมกบั เหตุการณ ÃÙ»¢ºÇ¹¡ÒÃŧ¨Ò¡Ã¶Â¹μ àÁÍè× ãªŒÃ¶Â¹μ¹ è§Ñ ò ¤Ñ¹ áÅÐÁàÕ ¨ÒŒ ˹ŒÒ·ÕèÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑ õ ¤¹ ¢é¹Ñ μ͹㹡Òû¯ÔºÑμÔ ÁÕ´§Ñ ¹Õé ¢Ñé¹μ͹·èÕ ñ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญสวนหนา ยืนชี้จุดท่ีจะใหรถบุคคลสําคัญจอด โดยยนื หันหนา ตั้งฉากกบั ทศิ ทางการเคลื่อนที่ของขบวนรถ (รูปที่ ๑๙) ¢¹éÑ μ͹·Õè ò เม่ือรถของบุคคลสําคัญหยุดตรงจุดท่ีเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญสวนหนา ชแี้ ลว ใหร ถตดิ ตามหยดุ ดา นหลงั รถบคุ คลสาํ คญั ในลกั ษณะหนั หนา รถเฉยี งออกทางขวา เพ่ือบังรถของบุคคลสําคัญและพรอมท่ีจะแลนออกจากที่จอดเม่ือมีเหตุการณ จากน้ัน ใหเ จา หนา ทร่ี กั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั สว นหนา กลบั หลงั หนั เดนิ ออกจากรถบคุ คล สําคัญประมาณ ๔ กาว ในขณะเดียวกันเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ในรถติดตามตองรีบลงจากรถไปยืนกําบังรอบรถบุคคลสําคัญ โดยเจาหนาท่ีรักษา ความปลอดภัยบุคคลสําคัญที่นั่งหลังขวาใหไปยืนกําบังดานขวาของรถตรงกับท่ีบุคคล สําคัญน่ังอยูโดยหันหนาออกจากรถและเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ ทน่ี ง่ั หลงั ซา ยใหล งไปยนื กาํ บงั ดา นซา ยบรเิ วณลอ หนา ของรถบคุ คลสาํ คญั หนั หนา ไปทาง หนารถ หลังจากน้ันเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยหัวหนากะจึงมายืนบังทางซาย ตรงประตทู ีจ่ ะเปด ใหบ ุคคลสาํ คัญลงจากรถ (รูปที่ ๒๐) ¢éѹμ͹·Õè ó เมื่อเห็นวาเหตุการณโดยรอบเรียบรอยดีแลว เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคล สาํ คญั หวั หนา กะจะเคาะกระจกใหส ญั ญาณกบั เจา หนา ทรี่ กั ษาความปลอดภยั ประจาํ ตวั บุคคลสําคัญ จากน้ันเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยประจําตัวบุคคลสําคัญก็จะลง

๑๑๒ จากรถแลวมาเปดประตูรถใหบุคคลสําคัญ ในขณะท่ีเจาหนาที่รักษาความปลอดภัย บคุ คลสาํ คัญหวั หนากะกจ็ ะขยบั ตาํ แหนง และหันหนาไปทางดา นหลงั รถ (รปู ท่ี ๒๑) ¢¹Ñé μ͹·èÕ ô เมื่อบุคคลสําคัญลงจากรถเรียบรอยดีแลว เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญ สวนหนาก็จะออกเดินนําไปยังท่ีหมายในรูปขบวนสี่เหล่ียมขาวหลามตัด โดยมีบุคคล สาํ คญั อยตู รงกลาง เจา หนา ทร่ี กั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั ทน่ี งั่ หลงั ซา ยเดนิ ทางขวา ของบุคคลสําคัญ เจาหนาท่ีรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสาํ คัญที่นงั่ หลังขวาเดนิ ทางซา ย ของบุคคลสําคัญ เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยประจําตัวบุคคลสําคัญเดินดานหลัง เยอื้ งทางขวาของบคุ คลสาํ คญั ระยะหา งประมาณชว งแขนเจา หนา ทรี่ กั ษาความปลอดภยั บุคคลสําคัญหัวหนา กะจะเดนิ ดา นหลงั ของรปู ขบวนเมอ่ื ลงจากรถ (รปู ท่ี ๒๒) ¢Ñé¹μ͹·Õè õ เมอ่ื บคุ คลสาํ คญั ไปถงึ ทหี่ มายโดยปลอดภยั แลว พลขบั รถบคุ คลสาํ คญั จงึ เออ้ื มมอื มาปด ประตูรถดานท่ีบุคคลสําคัญลง และพลขับรถติดตามก็จะเล่ือนรถจอดเปนรูปขบวน พรอ มทีจ่ ะออกเดินทางตอ ไป รูปท่ี ๑๙ แสดงตําแหนงการช้ีจุดจอดใหรถบคุ คลสําคัญและรถตดิ ตามขณะขบวนมาถึงท่ีหมาย รูปท่ี ๒๐ แสดงตาํ แหนง การยืนกาํ บังของ รปภ.สว นหนา (ADV) และการลงจากรถของ รปภ.ท่นี ัง่ มาในรถติดตาม

๑๑๓ รูปท่ี ๒๑ แสดงตําแหนง การยนื กาํ บังของ รปภ.สว นหนา (ADV) และ รปภ.ประจาํ ตวั บุคคลสาํ คญั รูปท่ี ๒๒ แสดงตาํ แหนงการเขา รูปขบวนเดินของ รปภ.ประจาํ ตัวบุคคลสาํ คญั ËÁÒÂàËμØ เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญที่น่ังหลังซาย และหลังขวา สามารถเปล่ียนตาํ แหนง กันไดตามความเหมาะสมหรือตามสถานการณ

๑๑๔ ในกรณี พ้ืนที่มีความเสี่ยงสูง บุคคลสําคัญมีความเสี่ยงตอภัยคุกคาม อาจจะเพิ่ม เจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยทําหนาที่ระวังดานหลัง (WELL AGENT) ในขบวนรถติดตาม ซึง่ รูปแบบการปฏบิ ัตดิ ังปรากฏในรปู รปู ท่ี ๒๓ แสดงตําแหนงการรักษาความปลอดภัยบุคคลสาํ คญั กรณเี พมิ่ เจาหนาท่รี ะวงั หลงั (WELL AGENT) รูปที่ ๒๔ แสดงตําแหนงการลงจากรถและเคลื่อนท่ีรักษาความปลอดภัยรถบคุ คลสําคัญ รปู ท่ี ๒๕ แสดงตําแหนง การเคลื่อนท่ีและเขารปู ขบวนของทีมรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั

๑๑๕ ¡Òû¯ºÔ ÑμÔàÁè×Ͷ١â¨ÁμÕ¢³Ðŧ¨Ò¡Ã¶ËÃ×Íกาํ Åѧ¨Ð¢¹éÖ Ã¶ ¢¹Ñé μ͹·Õè ñ เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญที่รูเห็นการโจมตีกอน ตองให สญั ญาณใหเจาหนาทีร่ ักษาความปลอดภยั บุคคลสาํ คญั คนอน่ื ๆ รถู งึ ชนดิ อาวุธและทิศทางทถ่ี กู โจมตี ¢Ñ¹é μ͹·èÕ ò เจา หนา ทร่ี กั ษาความปลอดภยั บคุ คลสาํ คญั ทีอ่ ยใู กลผ โู จมตมี ากทส่ี ดุ ใหใ ช อาวุธประจํากายตอสู ในขณะเดียวกันเจาหนาท่ีรักษาความปลอดภัยประจําตัวบุคคลสําคัญใชมือ ขางหน่ึงจับท่ีคอดานหลังกดใหบุคคลสําคัญโนมตัวลงไปยังรถที่จอดอยู หรือในทิศทางตรงขามกับท่ี ถูกโจมตี สวนเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสําคัญคนอื่น ๆ ใหหันหนาและใชอาวุธตอสูกับ ผูโ จมตีพรอ มกบั ใชตัวกาํ บงั บุคคลสาํ คัญ ¢¹éÑ μ͹·èÕ ó เจาหนาที่รักษาความปลอดภัยประจําตัวบุคคลสําคัญรีบนําบุคคลสําคัญ ข้ึนรถ หรือไปยังที่ปลอดภัย สวนเจาหนาที่รักษาความปลอดภัยคนอ่ืน ๆ ใหยิงตอสูเมื่อมีโอกาส และเคลื่อนท่ีถอยหลังบังจนบุคคลสําคัญข้ึนรถไดหรือไปถึงพื้นท่ีปลอดภัย กรณีท่ีพาบุคคลสําคัญไป โดยรถยนตใหข้ึนนั่งในรถติดตามและขับติดตามคุมกันรถบุคคลสําคัญ สําหรับเจาหนาที่รักษา ความปลอดภัยบุคคลสําคัญสวนหนาตองพยายามยิงตอสู และควบคุมสถานท่ีเกิดเหตุไวใหได รวมทง้ั ประสานงานกับเจา หนา ท่ใี นพื้นท่ี ËÁÒÂàËμØ การตอบโตเ หตกุ ารณข ณะจะขน้ึ รถหรือขณะลงจากรถใชแนวทางการปฏบิ ัติ เชนเดียวกับรูปขบวนเดินท่ีกลาวแลวในเรื่องรูปขบวนเดิน สวนการตัดสินใจวาจะพาบุคคลสําคัญ หนีไปข้ึนรถหรือเขาไปในอาคารขึ้นอยูกับเหตุการณวาถูกโจมตีจากทิศทางใด สภาพของพื้นที่ และความรนุ แรงของภยั ทเ่ี กิดขนึ้

๑๑๖ ºÃóҹ¡Ø ÃÁ ¤Á‹Ù Í× ¡Òý¡ƒ ËÅ¡Ñ Êμ٠áÒÃÍÂË٠ʹ¢Í§à¨ÒŒ ˹Ҍ ·áèÕ ÅÐÂ·Ø ¸Ç¸Ô Õ (Officer Survival and Tactics / O.S.T.) สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาต.ิ ¤Á‹Ù Í× ¡Òý¡ƒ ËÅ¡Ñ ÊμÙ ÃÂ·Ø ¸Ç¸Ô ตÕ าํ ÃǨ¢¹Ñé ¾¹×é °Ò¹ สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตาํ ÃǨ á˧‹ ªÒμÔ. สํานักพมิ พ สตู รไพศาล. กรงุ เทพฯ, ๒๕๕๔. ตระกลู รกั ษ (Trak) ศิลปะดรุ ยิ างค (Chicago Police Academy Instructor), และ ฝา ยกจิ การอาชญากรรมขา มชาติ สถานเอกอคั รราชทตู สหรฐั อเมรกิ าประจาํ ประเทศไทย. àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡Òý¡ƒ ͺÃÁËÅ¡Ñ Êμ٠áÒÃÍÂÃÙ‹ Í´¢Í§à¨ŒÒ˹ŒÒ·ÕèáÅÐÂØ·¸ÇÔ¸Õ. กรุงเทพฯ ประเทศไทย, ๒๕๕๕. ¤Ù‹Á×Í¡Òýƒ¡ËÅ¡Ñ Êμ٠áÒÃà¢ÒŒ μÃǨ¤Œ¹áÅл¯ºÔ ÑμÔ¡ÒÃã¹ÍÒ¤Òà (Building Entry & Close Quarter Battle / C.Q.B.) กองบัญชาการศกึ ษา สาํ นกั งานตํารวจแหงชาติ. คมู อื ตาํ รวจหลักสูตรนกั เรียนนายสิบตาํ รวจ เลม ๘. โรงพิมพต ํารวจ. กรุงเทพฯ, ๒๕๕๕. ตระกูลรักษ (Trak) ศิลปะดรุ ิยางค (Chicago Police Academy Instructor), และ ฝา ยกจิ การอาชญากรรมขา มชาติ สถานเอกอคั รราชทตู สหรฐั อเมรกิ าประจาํ ประเทศไทย. àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡Òýƒ¡ÍºÃÁËÅÑ¡ÊÙμáÒÃÍÂÙ‹ÃÍ´¢Í§à¨ŒÒ˹ŒÒ·ÕèáÅÐÂØ·¸ÇÔ¸Õ ¡ÒÃËÂØ´ ÂÒ¹¾Ò˹ÐáÅСÒäǺ¤ÁØ ¼¤ÙŒ Ãͺ¤Ãͧ. กรุงเทพฯ ประเทศไทย, ๒๕๕๕. ¤Á‹Ù ×Í¡Òý¡ƒ ËÅÑ¡ÊÙμáÒÃËÂØ´ÂÒ¹¾Ò˹ÐáÅСÒäǺ¤ÁØ ¼ÙŒ¢Ñº¢/Õè ¼ŒÙâ´ÂÊÒà (Vehicle Stop and Occupants Control / V.S.O.C.) สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ. ¤‹ÙÁ×Í¡Òý¡ƒ ËÅÑ¡ÊμÙ Ã Â·Ø ¸Ç¸Ô ตÕ าํ ÃǨ¢¹éÑ ¾¹é× °Ò¹ สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตาํ ÃǨá˧‹ ªÒμ.Ô สาํ นักพมิ พ สตู รไพศาล. กรงุ เทพฯ, ๒๕๕๔. ¤‹ÁÙ ×Í¡Òýƒ¡ËÅ¡Ñ ÊÙμáÒû°Á¾ÂÒºÒÅ·Ò§ÂØ·¸Ç¸Ô Õ (Tactical Combat & Casualty Care / TCCC) คณะกรรมการมาตรฐานการชว ยชีวิต. ˹§Ñ ÊÍ× ¤Ù‹ÁÍ× ¡Òê‹ÇªÇÕ Ôμ¢é¹Ñ ¾é×¹°Ò¹. บรษิ ทั พมิ พสวย จาํ กัด. กรุงเทพฯ, ๒๕๕๔. นงนุช ตนั ตธิ รรม (บรรณาธิการ.) ¤‹ÁÙ Í× ¡Òû°Á¾ÂÒºÒÅ. กรุงเทพฯ : สถาบนั การแพทยด า นอบุ ตั ิเหตุ และสาธารณภัย กรมการแพทย กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๕๒.

๑๑๗ ¹ÒÂá¾·ÂǏ àÔ ªÕÂà ´ÔÅ¡ÊÑÁ¾Ñ¹¸ áÅйÒÂᾷª ÙÈÑ¡´Ôì àǪᾷ. ÊÒÃҹءÃÁä·Âสาํ ËÃºÑ àÂÒǪ¹Ï àÅÁ‹ ·Õè ø. กรงุ เทพฯ, ๒๕๒๖. แพทยห ญิง รพีพร โรจนแ สงเรือง และ นายแพทยพ งศศ ษิ ฏ สิงหทัศน. àǪÈÒÊμÏ©¡Ø à©¹Ô ¤³Ðá¾·ÂÈÒÊμÏ âç¾ÂÒºÒÅÃÒÁÒ¸ºÔ ´Õ. มหาวทิ ยาลยั มหิดล. กรงุ เทพฯ, ๒๕๕๔. สถาบันการแพทยดา นอบุ ัติเหตแุ ละสาธารณภยั กรมการแพทย. »¯ºÔ μÑ Ô¡ÒêNj ªÇÕ μÔ ¢¹éÑ ¾×é¹°Ò¹ áÅСÒû°Á¾ÂÒºÒÅ. โรงพิมพกระทรวงสาธารณสุข. นนทบรุ ี, ๒๕๔๕. หนวยเฉพาะกิจดา นทศิ ตะวนั ตก. ¤‹ÙÁ×ÍËÅÑ¡Êμ٠áÒû°Á¾ÂÒºÒÅ¢é¹Ñ ÊÙ§ (¡Òý¡ƒ àºà¡Í÷ ÍϪ ñó - ô). กรุงเทพฯ. ประเทศไทย, ๒๕๕๖. www.safehouse.co.th/blog/๒๐๑๐/๑๐/๑๓/tourniquets-and-their-use/.Tourniquets (·Ù¹àÔ ¡)Œ ¡ºÑ ¡ÒÃËÒŒ ÁàÅÍ× ´Í‹ҧ¶¡Ù Ç¸Ô Õ. พล.ต.ท.ประยูร อํามฤต. º·ºÒ·Ë¹ŒÒ·Õè¢Í§¼ÙŒ»ÃÐʺàËμؤ¹áá (First Responder / F/R). º·ºÒ·ตําÃǨ㹡ÒúÃÔËÒÃÇÔ¡Äμ¡Òó àÍ¡ÊÒûÃСͺ¡ÒúÃÃÂÒÂËÅÑ¡ÊÙμà ¢Í§สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตําÃǨáË‹§ªÒμ.Ô กรุงเทพฯ, ๒๕๕๖. พ.ต.อ.หญิง วรณฐั วรชาติเดชา. ¡ÒúÃËÔ ÒÃÇÔ¡Äμ¡ÒóᏠÅС®ËÁÒ·àèÕ ¡ÂèÕ Ç¢ÍŒ § àÍ¡ÊÒà »ÃСͺ¡Òýƒ¡ÍºÃÁ¡ÒúÃÔËÒÃÇÔ¡Äμ¡Òó¢Í§สํา¹Ñ¡§Ò¹ตําÃǨáË‹§ªÒμÔ. กรุงเทพฯ, ๒๕๕๕. โรงเรยี นนายรอ ยตาํ รวจ. ¤Á‹Ù Í× ¡ÒÃà¨Ã¨ÒμÍ‹ Ãͧ á¡äŒ ¢àËμÇØ ¡Ô Äμ. โรงพมิ พต าํ รวจ. กรงุ เทพฯ, ๒๕๔๕. ¤Á‹Ù Í× ¡Òý¡ƒ Â·Ø ¸Ç¸Ô »Õ ÃÐจาํ ʶҹตÕ าํ ÃǨ. สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาต.ิ โรงพมิ พต าํ รวจ. กรงุ เทพฯ, ๒๕๕๖.

๑๑๘ จัดพมิ พโ ดย โรงพิมพตํารวจ ถ.เศรษฐศิริ ดุสติ กรงุ เทพฯ ๑๐๓๐๐ โทรศัพท ๐-๒๖๖๘-๒๘๑๑-๓ โทรสาร ๐-๒๒๔๑-๔๖๕๘

“เปนหลักประกันความยุติธรรมและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล” พลตํารวจเอก จักรทิพย ชัยจินดา ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ