Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รักษาความปลอดภัย(TN)

รักษาความปลอดภัย(TN)

Published by thanatphat2606, 2020-04-26 08:31:07

Description: รักษาความปลอดภัย(TN)

Keywords: รักษาความปลอดภัย(TN)

Search

Read the Text Version

รปู แสดงตำแหนง่ การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสำคญั กรณีเพิ่มเจา้ หน้าท่ีระวังหลงั (WELL AGENT) รูปแสดงตำแหน่งการลงจากรถและเคลือ่ นที่รักษาความปลอดภัยรถบคุ คลสำคัญ รูปแสดงตำแหน่งการเคล่ือนท่ีและเขา้ รปู ขบวนของทมี รักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคญั ทม่ี าภาพ : คมู่ ือยุทธวธิ สี ำหรบั ตำรวจสำหรับครฝู กึ บช.ศ. ๒๕๖๑

การจัดรปู แบบการจดั ขบวนการรกั ษาดวามปลอดภัยบนรถยนต์ประกอบอาวธุ เม่อื มีความเสยี่ ง การเคล่ือนท่ีของบุคคลสำคัญที่ต้องมีการคุ้มกันอารักขา ส่วนใหญ่เคลื่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุด หน่ึงโดยทางรถยนต์หรือพาหนะแบบใดแบบหนึ่ง ในอดีตที่ผ่านมาความพยายามในการลอบลังหารหรือลักพา ตัวเป็นการกระทำในขณะที่บุคคลสำคัญกำลังเดินทางจึงเป็นส่ิงสำคัญท่ีจะต้องเรียนรู้และปฏิบัติกระบวนการ ขน้ั ตอนในการปฏิบัติการ รปภ. เพ่ือป้องปรามป้องกันและรับมอื กับการจู่โจมจากผไู้ ม่ประสงค์ดีต่อบคุ คลสำคัญ ในการศึกษาวิธีการต่าง ๆ ที่จะใช้รักษาความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญในขณะที่เขาผู้นั้นกำลังเดินทางโดย รถยนต์ ยทุ ธวิธีเหล่าน้ีเป็นพ้ืนฐาน สามารถนำไปดัดแปลงใช้ได้กับยานพาหนะทุกรูปแบบและปรับใหเ้ ข้ากับ สถานการณเ์ ฉพาะทีเ่ กิดข้ึน ๑. รถ ๑ คนั ซงึ่ เปน็ บุคคลสำคญั ท่ีมคี วามเสย่ี งน้อย ภาพการประกอบขบวนรถที่มีความเส่ยี งตอ่ การถูกทำร้ายจะมคี นขับและจนท.รปภ.บุคคลสำคัญ ท่ีมา : คู่มือการฝึกอบรม กองบังคบั การฝึกพิเศษ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภายในรถประกอบด้วย 1.พลขบั รถบุคคลสำคัญ 2.จนท.รปภ.บุคคลสำคัญ (นงั่ หน้าคู่กบั พลขบั ) 3.บุคคลสำคัญ

2. ขบวนรถ ๒ คนั ซึง่ บคุ คลผู้มีความสำคญั มอี ตั ราการเสี่ยงระดับปานกลาง ภาพการประกอบขบวนรถทมี่ ีความเส่ียงตอ่ การถูกทำร้าย รถยนต์ ๒ คัน ที่มา : คู่มอื การฝึกอบรม กองบังคบั การฝึกพเิ ศษ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ๑. รถบคุ คลสำคัญ ภายในรถจะประกอบไปดว้ ย 1.1.พลขับรถบุคคลสำคัญ ซึ่งควรจะเป็น จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัยที่มีเทคนิคใน การขับรถได้ดี 1.2.จนท.รปภ.ประจำตัวบุคคลสำคัญ หรือ AIC (AGENT IN CHART) หรือ ปจต. หรือ DL (DETAIL LEADER) ซ่ึงมีหน้าท่ีปกป้องชีวิตบุคคลสำคัญเมื่อมีภัยคุกคามเกิดขึ้นกับบุคคล สำคัญมีหน้าที่ให้ คำปรึกษากับบุคคลสำคัญเกี่ยวกับเร่ืองการรักษาความปลอดภัย คอยปิด - เปิด, ปลดล็อก- ปิดล็อก ประตูรถ ใหแ้ กบ่ คุ คลสำคัญ ๒. รถติดตาม ภายในรถจะประกอบไปคัวย 2.1.พลขับรถติดตามจะเป็น จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัยมีเทคนิคในการขับรถได้ดี และประสานงานการปฏบิ ัติเกย่ี วกับการขับรถกับพลขบั รถบคุ คลสำคัญได้ดี (รู้เทคนคิ การขับรถซึ่งกนั และกัน) 2.2.หัวหน้าชุดหรือ SL (SHIP LEADER) หรือหมายเลข ๑ จะน่ังคู่ด้านหน้ากับพลขับมีหน้าท่ี ควบคุมการปฏิบัติของทีมปฏิบัติ ส่ังการในการลงรถ ว่ิงประกบรถ และการใช้อาวุธ แก่ทีมปฏิบัติ จนท.รปภ. จำนวน ๔ คน

๓. ขบวนรถ ๓ คัน สำหรับบุคคลมีระดับการเส่ียงภัยสูงต้องการความสะดวกรวดเร็วในการ เดินทาง ภาพการประกอบขบวนรถท่ีมีความเสี่ยงตอ่ การถูกทำรา้ ย ขบวนรถยนต์ ๓ คนั ท่ีมา : ค่มู ือการฝึกอบรม กองบงั คับการฝึกพิเศษ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน 3.1.รถนำ ควรจะเป็นรถตำรวจทางหลวง เพื่อประสานการปฏิบัติกับตำรวจทางหลวงท้องที่ที่ขบวนรถบุคคลสำคัญผ่านภายในรถ ประกอบไปด้วย พลขับรถนำ จนท.รปภ. ของทีม รปภ. คอยประสานการปฏิบัติกับทีม รปภ.ใหญ่รายงาน การจราจรและส่งิ ผดิ สังเกตให้หัวหน้าชดุ ทราบ 3.2.รถบุคคลสำคัญ ภายในรถจะประกอบไปด้วย พลขับรถบุคคลสำคัญซ่ึงควรจะเป็นจนท.รปภ. ในทีมรักษา ความปลอดภยั มเี ทคนิคในการขับรถได้ดี จนท.รปภ.ประจำตัวบุคคลสำคัญ (AIC หรือ DL) หรือ ปจต. ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องชีวิตบุคคล สำคัญเมือ่ มีภัยคุกคามเกิดขึ้นกับบุคคลสำคญั มีหน้าท่ีให้คำปรกึ ษากบั บคุ คลสำคัญเกยี่ วกับเร่ืองการรักษาความ ปลอดภยั คอยปดิ -เปดิ , ปลดลอ็ ก-ปิดลอ็ ก ประตูรถใหแ้ กบ่ ุคคลสำคัญ 3.3 รถตดิ ตาม ภายในรถจะประกอบไปดว้ ย พลขับรถติดตาม จะเป็น จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัยมีเทคนิคในการขับรถได้ดี และประสานงานการปฏิบัติเก่ียวกับการขบั รถกับพลขบั รถบคุ คลสำคัญได้ดี (รเู้ ทคนิค การขบั รถซงึ่ กันและกัน) หัวหน้าชุด (SL) หรือหมายเลข ๑ จะน่ังคู่ด้านหน้ากับพลขับมีหน้าท่ีควบคุมการปฏิบัติของ ทมี ปฏิบัตสิ ั่งการในการลงรถ วิง่ ประกบรถและการใชอ้ าวุธแกท่ ีมปฏบิ ตั ิ จนท.รปภ. จำนวน ๔ คน

๔. รูปขบวนยานหาหนะที่มคี วามเสี่ยงต่อภยั สูง จะประกอบไปด้วย ภาพการประกอบขบวนรถท่ีมีความเสยี่ งต่อการถูกทำรา้ ย ขบวนรถยนต์ ๔ คนั ทม่ี า : คมู่ อื การฝึกอบรม กองบงั คบั การฝึกพเิ ศษ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน 4.1 รถนำ ควรจะเป็นรถตำรวจทางหลวง เพอื่ ประสานการปฏบิ ัติกับตำรวจทางหลวงท้องท่ีที่ ขบวนรถบคุ คลสำคัญผา่ นภายในรถจะประกอบไปดว้ ย พลขับรถนำ จนท.รปภ.ของทีมรปภ.คอยประสานการปฏิบัติกับทีมรปภ.ใหญ่รายงาน การจราจรและส่ิงผดิ สังเกตให้หัวหน้าชดุ ทราบ 4.2 รถบคุ คลสำคญั ภายในรถจะประกอบไปด้วย พลขับรถบุคคลสำคัญซึ่งควรจะเป็น จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัย มีเทคนิคใน การขับรถได้ดี จนท.รปภ.ประจำคัวบุคคลสำคัญ (AIC หรือ DL) หรอื ปจต. ซึ่งมีหนา้ ที่ปกป้องชีวติ บุคคลสำคัญ เม่ือมีภัยคุกคามเกิดขึ้นกับบุคคลสำคัญ มีหน้าที่ให้คำปรึกษากับบุคคลสำคัญเก่ียวกับเร่ืองการรักษาความ ปลอดภยั คอยปดิ -เปดิ , ปลดล็อก-ปดิ ล็อก ประตรู ถใหแ้ ก่บคุ คลสำคญั 4.3 รถตดิ ตาม ภายในรถจะประกอบไปดว้ ย พลขับรถติดตามจะเป็น จนท.รปภ. ในทีมรักษาความปลอดภัยมเี ทคนิคในการขับรถได้ดี และประสานงานการปฏบิ ตั เิ ก่ียวกบั การขับรถกบั พลขับรถบคุ คลสำคัญไดด้ ี (ร้เู ทคนิคการขับรถซึ่งกันและกนั ) ห้วหนา้ ชุด (SL) หรอื หมายเลข ๑ จะน่ังคู่ด้านหน้ากับพลขับมีหน้าที่ควบคุม การปฏิบัติ ของทมี ปฏิบัติสั่งการ ในการลงรถ วง่ิ ประกบรถ และการใชอ้ าวุธแกท่ มี ปฏิบตั ิจนท.รปภ. จำนวน ๔ คน 4.4. รถตอ่ ตานการชุ่มโจมตี (สนบั สนนุ ทางยุทธการ) ภายในรถประกอบไปดว้ ย พลขับรถต่อต้านการชุ่มโจมตี จะเป็นเจ้าหน้าที่ในทีมปฏิบัตกิ ารพิเศษมเี ทคนิคการขับรถ ไดด้ ี ชดุ ปฏิบัตกิ ารพิเศษ จำนวน ๕ คน หรอื มากกว่าแล้วแตภ่ ารกิจหรอื การจัดของหนว่ ยมีความสามารถในการ ใช้อาวุธได้ดีมียุทธวิธีในการต่อต้านการชุ่มโจมดีดีอาวุธที่ใช้มีขีดความสามารถในการทำลายล้างสูงและมีความ คล่องตัวในการปฏิบัติควรเป็นรถตู้ รถจักรยานยนต์ เป็นรถว่ิงประกบบุคคลสำคัญในพ้ืนที่ท่ีมีการจราจร หนาแน่นและในบางโอกาสเมือ่ เกิดภัยคุกคามบุคคลสำคัญในพ้ืนท่ีท่ีมีการจราจรหนาแน่นสามารถเป็นรถนำพา บคุ คลสำคัญออกจากพื้นท่ีไดร้ วดเรว็ อาวุธทใี่ ชเ้ ปน็ อาวุธท่ีซอ่ นพรางได้ดีมีความคล่องตัวในการใช้

๕. ขบวนรถเตม็ ยศอย่างเป็นทางการ สำหรับผู้มีชื่อเสียงมาก ประมุขหรือผู้นำของประเทศมีภัย คุกคามสูงประกอบด้วย (ไมแ่ นน่ อน) 5.๑ รถเบิกทาง ซึ่งจะเดินทางล่วงหน้าขบวนรถ ๔-1๔ นาที เพื่อตรวจเส้นทางในด้านความ ปลอดภัยและสภาพการจราจร ในรถควรมี จนท.รปภ. ๑ คน และ จนท.เกบ็ กูร้ ะเบดิ ๑ คน 5.๒ รถนำของตำรวจ ใช้เพื่อควบคุมการจราจรและช่วยนำทางขบวนรถน้ันไปบนเส้นทาง ควรเป็นรถตำรวจทางหลวง เพ่ือง่ายต่อการติดต่อประสานงานกันตำรวจท้องที่มี จนท.รปภ.น่ังมาด้วย ๑ คน เพอ่ื ชว่ ยในการควบคุมขบวนรถและตดิ ตอ่ กับทีม รปภ. 5.๓ รถนำทีม รปภ.จะมี จนท.รปภ.น่ังมาในรถทุกตำแหน่งทำหน้าท่เี ป็นรถกันภัยดา้ นหน้ารถ บคุ คลสำคัญใชเ้ ปน็ เครือ่ งกดี ขวางถา้ จำเป็นและอาจให้เป็นรถสำรองรถบุคคลสำคญั 5.4 รถบุคคลสำคัญ จะมีพลขับท่ีเป็น จนท.รปภ.และหัวหน้าทีม รปภ.(ผู้ให้คำปรึกษาและ ปกป้องชีวิตบคุ คลสำคัญ รปภ.ประจำตวั (AIC) 5.๕ รถตดิ ตามของ รปภ.ในรถคนั นี้จะมีพลขบั เป็น รปภ.มีหัวหน้ากะ(SL)นง่ั มาเบาะหน้าคกู่ ับ คนขบั เบาะหลงั จะมี จนท.รปภ.นง่ั มาดว้ ย ๓ คน 5.๖ รถคณะ จนท. และผู้ช่วยของบุคคลสำคัญ ใช้สำหรับขนส่งผู้ช่วยหรือสามีหรือภรรยา บคุ คลสำคัญ 5.๗ รถตำรวจปิดท้ายขบวน ใช้ควบคุมการจราจรและปิดท้ายขบวนถ้ามีกำลัง รปภ. พอก็ควรใหน้ ่งั ไปกับรถคนั นดี้ ว้ ย ๑ คน 5.๘ รถจักรยานยนต์ ใช้เพื่อเดินทางล่วงหน้าขบวนรถบุคคลสำคัญเพื่อคอยดักควบคุม การจราจรตามแยกต่าง ๆ ใช้คุ้มกันบุคคลสำคัญ โดยการข่ีขนาบข้างรถบุคคลสำคัญและบางทีอาจใช้เป็นรถที่ พาบุคคลสำคญั หนอี อกจากพืน้ ท่ซี งึ่ ถูกโจมตีได้ 5.๙ รถพยาบาล ใช้เม่ือบุคคลสำคัญหรือบุคคลในคณะเกิดเจ็บป่วยกะทันหันหรือใช้เป็นรถ สำรองพาบคุ คลสำคัญหนีออกจากพื้นท่ีหรือใช้เป็นรถนำพาทีม รปภ.หนี ภาพการประกอบขบวนรถเต็มยศอย่างเปน็ ทางการ ท่ีมา : คูม่ อื การฝึกอบรม กองบงั คับการฝึกพเิ ศษ กองบังคบั การตำรวจตระเวนชายแดน

๔.การสำรวจสถานทขี่ า้ งตน้ ๑. การสำรวจล่วงหน้า เมื่อบุคคลสำคัญต้องเดินทางออกจากท่ีพักหรือท่ีทำงาน เจ้าหน้าท่ีรักษา ความปลอดภัยมหี น้าท่ีตอ้ งรับผิดชอบความปลอดภัยของบคุ คลสำคัญมใิ ห้เกิดภยันตรายใด ๆ ขนึ้ ทั้งในระหว่าง เดนิ ทาง การปฏิบัตภิ ารกิจ จนกระท่ังเดินทางกลับน้ันเพื่อความแน่ใจจึงจำเป็นอยา่ งย่ิงที่จะต้องส่งเจ้าหน้าท่ีไป ยังสถานที่ที่บุคคลสำคัญจะไปเป็นการล่วงหน้า เพื่อดำเนินการทางด้านการรักษาความปลอดภัยและ เตรียมการในเรอื่ งทจ่ี ำเป็นอ่นื ๆ ๒. ชุดส่วนล่วงหน้า เป็นส่วนหนึ่งของชุดรักษาความปลอดภัยมีหัวหน้าชุดล่วงหน้าเป็น ผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจโดยเป็นผู้ตรวจสอบผลการปฏิบัติของชุดสำรวจล่วงหน้าท้ังหมดในพ้ืนที่ชุด ล่วงหน้าน้ีจะต้องไปถึงที่หมายก่อนที่บุคคลสำคัญจะไปถึงอย่างน้อย ๒ ชั่วโมง โดยท่ีต้องแน่ใจว่าพื้นท่ีน้ัน ๆ ปลอดภัยกอ่ นที่จะให้ชดุ ปฏบิ ตั กิ ารติดตามและบคุ คลสำคญั เข้ามาในพื้นทนี่ ้นั ๓. ข้อพิจารณาในการจัดวางกำลังชุดสว่ นล่วงหนา้ เจ้าหน้าทีช่ ุดส่วนล่วงหน้าจะต้องพจิ ารณาถึง ๓.๑ ทราบกำหนดเวลาท่ีเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยประจำสถานท่ีต้องวางกำลังตามจุด ตา่ ง ๆ ทกี่ ำหนดไว้เพ่อื รักษาความปลอดภัยสถานที่น้นั ๆ ๓.๒ กำหนดใหท้ มี เกบ็ ก้รู ะเบดิ มาทำการตรวจสอบทีห่ มายต่าง ๆ ในพน้ื ที่ ๓.๓ การควบคุมฝูงชน สอ่ื มวลชน ๓.๔ จัดเจ้าหน้าท่ีตรวจสอบบัตรเชิญของแขกหรือบัตรแสดงตนของสื่อมวลชนก่อนเข้าไปใน พืน้ ที่ ๓.๕ มคี วามจำเปน็ จะต้องใช้เครอ่ื งมือตรวจคน้ โลหะหรือซุ้มตรวจโลหะหรือไม่ ๓.๖ มีแผนสำหรับหลบหนีฉุกเฉินโดยทาง ฮ. หรือไม่ ถ้ามีใช้สถานที่ใด มีท่ีสำหรับจอด ฮ. หรือไมน่ กั บนิ เคยลงท่จี ุดนน้ั หรือไม่ ๔. การตรวจสอบพ้ืนฐานของเจ้าหน้าท่ชี ดุ สว่ นลว่ งหน้า ๔.๑ พบและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของพ้ืนท่ีนั้นๆหรือพบกับเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยในพื้นที่น้ัน ๆ ประสานข้ันตอนต่าง ๆ ท่ีบุคคลสำคัญจะต้องปฏิบัติต้ังแต่มาถึงจนกลับซึ่งมีหัวข้อต่าง ๆ ดงั นี้ ๔.๑.๑ มีภัยคกุ คามใด ๆ ในการมาเยือนคร้งั น้บี า้ งหรอื ไม่ ๔.๑.๒ มีสอื่ มวลชนรว่ มด้วยหรอื ไม่ ๔.๑.๓ ในพ้นื ทน่ี ้มี สี ง่ื ใดท่ีอาจเป็นภยั ตอ่ บุคคลสำคญั ได้ ๔.๒ กำหนดเส้นทางมายังพ้ืนที่และกำหนดจุดวางกำลังของเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัย ประจำสถานที่ ๔.๓ จัดทำแผนเผชิญเหตุที่น่าจะเกิดขึ้นต้ังแต่ลงจากรถเข้ามาหักทายการปฏิบัติตาม กำหนดการจนกระทั่งกลับออกจากพ้ืนที่นน้ั ๔.๔ กำหนดจดุ จอดของรถขบวนเมอื่ มาถึงรวมทง้ั ทจ่ี อดคอยของขบวนรถท้งั หมด ๔.๕ กำหนดห้องรบั รองหอ้ งทปี่ ลอดภยั ของบุคคลสำคัญและตอ้ งทราบหมายเลขโทรคัพท์ของ ทอ้ งทีน่ ั้นดว้ ย ๔.๖ สำรองหอ้ งน้ำวา่ มีอยทู่ ่ใี ดบา้ ง เปน็ ห้องนำ้ รวมหรอื ไม่ ๔.๗ จุดสำหรบั จอดรถฉุกเฉินและเสน้ ทางท่จี ะพาบุคคลสำคัญไปยังรถฉุกเฉินอยา่ งปลอดภัย

๔.8 จัดเจ้าหน้าที่'ในการล็อคลิฟต์ไว้สำหรับบุคคลสำคัญและเส้นทางที่จะไป บันไดสำรอง สำหรับขึน้ ลงวา่ อยทู่ ีใ่ ด ๔.๙ ตรวจสอบเรือ่ งเครือ่ งมอื ดบั เพลิงในสถานที่นนั้ ๔.๑๐ จดั ให้มีการตรวจสอบสถานที่โดยชดุ ตรวจคนั วตั ถุระเบิด ๕. การสำรวจสถานที่ข้นั ตน้ ๕.๑ บริเวณทีข่ บวนรถมาถงึ พ้ืนที่เป็นอยา่ งไร ๕.๒ ขบวนรถจะจอด ณ ที่ใด ๕.๓ ใครเป็นเจ้าหนา้ ท่ีที่จะต้องรับขบวนรถและป้องกันรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและ คณะในระหวา่ งการเยอื นในพื้นทน่ี ั้น ๕.๔ เสน้ ทางทใ่ี ชใ้ นการเดินเข้าสู่ตวั อาคารคือเส้นทางใด ๕.๕ การขน้ึ ลิฟต์ข้นึ ได้คร้ังละกค่ี น ๕.๖ การตรวจสอบคร้ังแรกกอ่ นใช้จะตอ้ งติดต่อกันใคร ๕.๗ หอ้ งน้ำทใี่ กล้ทสี่ ุดสำหรับบคุ คลสำคัญจะใช้ได้ ๕.๘ โทรคัพท์ท่ใี กล้ท่ีสุดทบี่ คุ คลสำคัญจะใชไ้ ด้ ๕.๙ ห้องทีใ่ กล้ทีส่ ุดทบี่ คุ คลสำคัญจะใชป้ ระชมุ ลบั ได้อย่ทู ี่ไหน 5.๑๐ ห้องนา้ํ สตรที ่ีใกล้ที่สดุ สำหรบั สตรที ีร่ ว่ มคณะเดินทาง ๕.๑๑ เครือ่ งมือดับเพลงิ ที่ใกล้ที่สุดอยทู่ ีไ่ หน เป็นแบบอะไร ๕.๑๒ สถานีดบั เพลิงทใ่ี กล้ที่สุดอยู่ทไี่ หน หมายเลขโทรศพั ทอ์ ะไร ๕.๑๓ อาคารนน้ั ๆ มีระบบเตือนอัคคภี ยั หรือไม่ ๕.๑๔ โรงพยาบาลทใี่ กล้ทส่ี ดุ อยู่ทไี่ หน หมายเลขโทรศพั ท์อะไร ๕.๑๕ สถานีตำรวจทีใ่ กล้ทสี่ ดุ อยู่ที่ไหน หมายเลขโทรศพั ทอ์ ะไร ๕.๑๖ เส้นทางออกทเ่ี ป็นเส้นทางหลักและเสน้ ทางรองเป็นอย่างไร ๕.๑๗ เวลาในการเยอื นรวมถงึ การปราศรัยนานเท่าใด

๕. การตรวจคน้ การตรวจค้น การค้นหาและการตรวจสอบเป็นมาตรการส่วนหนึ่งของการระวังป้องกันและ รกั ษาความปลอดภัยซ่ึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฏิบัติเป็นอันดับแรกก่อนการปฏิบัติอื่น ๆ การจัดสำดับข้ันตอน ในการค้นหาและตรวจสอบจะต้องจัดให้มีข้ึน เพ่ือให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพ่ือให้แน่ใจได้ ว่ามกี ารตรวจสอบทุกพืน้ ท่ีมิไดล้ ะทงิ้ พนื้ ที่ใดพ้นื ท่หี นงึ่ ๕.๑ การจัดชุดตรวจค้นชุดตรวจค้นที่เหมาะสมเป็นส่ิงสำคัญมากของการปฏิบัติการตรวจค้น ประกอบด้วย ๕.๑.๑ หัวหน้าชุด เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจค้นซึ่งโดยปกติแล้วไม่ต้องทำหนา้ ที่ในการ ตรวจค้นเองเพียงแต่ทำการแบ่งมอบพื้นที่ตรวจและรับผิดชอบกำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี ภายใน ชดุ โดยจะอยู่ ณ พื้นทซ่ี ่ึงสามารถสังเกตการณ์ปฏิบตั งิ านของเจ้าหน้าที่ตรวจ ได้อยา่ งใกล้ชดิ เมอื่ เจ้าหน้าที่ตรวจ พบสิ่งที่น่าสงลัย ให้หัวหน้าชุดสั่งคนอื่นหยุดตรวจในขณะที่ผู้พบกำลังตรวจสอบ เม่ือทราบแน่แล้วว่าที่พบไม่มี อันตรายก็ให้ดำเนินการตรวจต่อไปแต่ถ้ายังไม่แน่ใจให้นำเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากพื้นท่ีน้ัน โดยร้องขอ เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดมาทำการช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดนี้ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตรวจก็ จะเข้าทำการตรวจตอ่ ไป ๕.๑.๒ เจ้าหน้าท่ีประจำชุด เจ้าหน้าท่ีแต่ละคนให้ปฏิบัติการตรวจในพื้นที่ ท่ีได้รับ มอบหมายและต้องไม่เปลี่ยนพื้นท่ี นอกจากจะได้รับคำสง่ั โดยตรงจากหัวหนา้ ชดุ เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่ทุกนายต้อง ทำการตรวจโดยรอบหอ้ ง หลีกเลีย่ งการตรวจซ้ําซอ้ นกบั คนอืน่ หรอื หลงพนื้ ที่ที่ยังไมไ่ ดร้ ับการตรวจอันเน่ืองจาก การตรวจที่ซ้ําซ้อนกัน อีกประการหนึ่งจะทำให้ภายในห้องมีเจ้าหน้าที่เกินความจำเป็นและเป็นการยุ่งยากใน การควบคมุ สงั เกตการณ์ของหัวหน้าชุด ๕.๒ กฎท่วั ไปของการปฏิบตั กิ ารตรวจสอบ ๕.๒.๑ สำรวจหาข้อมูลล่วงหน้าเท่าท่ีจะทำได้ว่าบุคคลสำคัญจะเข้าไปสถานท่ีใดแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในบรเิ วณท่สี าธารณะ ๕.๒.๒ ถ้าเป็นไปได้พยายามสำรวจหาสถานท่ีรบั รองสำรองเพื่อสามารถท่ีจะเปลย่ี นแปลง ไดถ้ า้ สถานทีร่ บั รองจรงิ ไม่เหมาะสมหรอื มอี นั ตราย ๕.๒.๓ ช้ีแจงผู้แทนของบริษัท ห้างร้านหรือหมู่คณะที่ได้จัดเตรียมห้องรับรองไว้ให้กับ บคุ คลสำคญั ใหน้ ำสงิ่ ของทีไ่ ม่จำเป็นทกุ อย่างออกจากห้องรบั รองไปไวท้ ่อี ื่น เซ่น - ต้องไม่มีส่ิงของใด ๆ ในโต๊ะและตู้ท่ีมีลิ้นชักและล้ินชักต้องเปิดท้ิงไว้ล้ินชักเก็บ เอกสารและสงิ่ ท่ีไม่จำเปน็ อ่นื ๆ ควรนำออกจากหอ้ ง - จะต้องให้เปิดไฟทุกดวงเครื่องปรับอากาศทุกตัวและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ไว้และ ส่งิ ท่ีปกปิดใหเ้ ปดิ ออกไว้ - ท่ีนอนควรเปิดผ้าปูท่ีนอนออกและเฟอร์นิเจอร์ก็ควรถอดปลอกออกด้วย พรอ้ มทั้งให้เล่ือนเฟอรน์ เิ จอรเ์ หล่านี้ใหห้ ่างจากกำแพง - หนังสอื หบี รปู ปัน้ แกะสลกั ฯลฯ ควรจะนำออกจากห้อง - จะต้องทำให้ง่ายและรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายส่ิงของออกจากห้องท้ังหมดและ เพิ่มเตมิ ส่งิ ทตี่ อ้ งการหลังจากตรวจความปลอดภัยเรยี บร้อยแล้ว

๕.๒.๔ ในพ้ืนที่หนึ่ง ๆ จะต้องได้รับการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยเสมออาจ กระทำด้วยสายตาหรือเคร่ืองมือเทคนิคก็ได้ ๕.๓ การค้นหาวัตถุระเบิดตามสถานที่ต่าง ๆ ในขณะท่ีเวลาและสถานการณ์อำนวยให้ การคนั หาวัตถรุ ะเบิดควรจะได้กระทำข้นึ ในทุก ๆ พืน้ ทก่ี ่อนที่บคุ คลสำคัญจะเดินทางมาถงึ ถ้ามเี วลาไม่มากนัก จะทำการตรวจค้นเฉพาะพื้นท่ีที่บุคคลสำคัญจะอยู่และแบ่งเวลาไปทำการตรวจพ้ืนที่ใกล้เคียงท่ีอยู่ของบุคคล สำคัญ การแบ่งเวลานี้จำเปน็ ต้องจัดแบง่ ให้ตามความเหมาะสม เน่ืองจากผู้ลอบวางระเบิดเปน็ ผ้มู ีความชำนาญ ในการวางอย่างดี ดงั น้ันเจ้าหน้าท่ีตอ้ งมีเวลามากพอสมควรท่ตี อ้ งทำการตรวจให้ได้อย่างละเอียดและขณะท่ที ำ การตรวจคันน้ันเจ้าหน้าท่ตี ้องคำนึงถงึ การรักษาความปลอดภยั ให้ตัวเองด้วย ๕.๔ การตรวจคันโรงแรมหรือที่พักอ่ืน ๆ การตรวจค้นภายในห้องพักของโรงแรมอาจต้อง ประกอบด้วยเครื่องมือเคร่ืองใช้จำนวนมากและการท่ีจะเลือกเครื่องมือใดน้ันต้องข้ึนอยู่กับขนาดลักษณะ รปู ร่างของห้องตลอดจนเคร่ืองประดับและส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในห้อง ส่ิงที่สำคัญที่สุดในเบ้ืองต้นคือต้อง ดำเนินการค้นหาอย่างมีระเบียบแบบแผนตรวจค้นอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมไม่ตรวจเฉพาะจุดน่าสงสัย เทา่ นั้น ๕.๕ อาคารท่ีทำงานและอาคารที่สาธารณะอ่ืน ๆ นอกจากตรวจเส้นทางเดินและสำรวจทั่ว ๆ ไปภายในตกึ ตามปกติแล้วที่สาธารณะตา่ ง ๆ ก็ต้องทำการตรวจดว้ ยซ่ึงสถานที่เหล่านกี้ ็ให้ความสนใจของผ้ลู อบ วางระเบิดเซ่นกัน เนื่องจากมีโอกาสอย่างมากที่จะไม่ได้รับการตรวจค้นเลยนอกจากนั้นการตรวจค้นควรจะ ตรวจห้องพักผ่อน บันได ห้องน้ำ ห้องท่ีใช้ประโยชน์อื่น ๆ ตู้ห้องควบคุมไฟฟ้า ห้องควบคุมโทรศัพท์ ห้องควบคุมพลังงานต่าง ๆ เป็นต้น ลิฟต์โดยปกติ มักมีปัญหาและต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษโดยเร่ิมทำการ ตรวจที่ห้องควบคุมการทำงานของมอเตอร์ การเคลื่อนไหวของตัวลิฟต์ ตรวจภายในห้องลิฟต์ หลังคาด้านข้าง พ้นื และระบบการเคลอ่ื นไหวของตวั ลฟิ ตจ์ ะต้องมีความปลอดภัยทสี่ ุดเทา่ ทีจ่ ะทำได้ ๕.๖ เส้นทางขบวนรถยนต์ก่อนท่ีบุคคลสำคัญจะผ่านเส้นทางท่ีกำหนดไว้ควรจะมีการสำรวจ เส้นทางเหล่าน้ันก่อนเพราะตามเส้นทางนั้นอาจมีการวางระเบิดได้ สำหรับเส้นทางท่ีบุคคลสำคัญจะผ่าน จะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงทุกจุด บนถนนจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางอย่างน้อย ๑๕ นาที ก่อนทบ่ี ุคคลสำคัญจะไปถงึ ๕.๗ สนามกอล์ฟ การตรวจคน้ ระเบิดสนามกอลฟ์ ตามปกติจะปฏิบัติเชน่ เดียวกับ การสำรวจใน ตัวอาคารอ่ืน ๆก่อนท่ีบุคคลสำคัญจะเดินทางมาถึง พ้ืนท่ีทุกตารางน้ิวที่บุคคลสำคัญจะต้องผ่านในช่วง ระยะเวลาหน่งึ จะต้องมีการตรวจกอ่ น ๕.๘ สถานท่ีอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่บุคคลสำคัญจะต้องเดินทางไปซ่ึงไม่สามารถคาดการณ์ไว้ว่า เหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้นเม่ือใด ชุดตรวจค้นต้องไปปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการต่าง ๆ เพ่ือเตรียมไว้สำหรับ เหตุการณ์ท่ีอาจจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการตรวจค้นน้ันควรจะคลุมถึงทุกพื้นที่ซึ่งบุคคลสำคัญอยู่รวมทั้ง สถานท่ีใกล้เคียงโดยรอบ ท้งั น้ีต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและเวลาทเี่ อ้ืออำนวยด้วยเทคนิคในการตรวจค้น และตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับสถานที่อย่าใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดอื่น ๆ เพราะ การตรวจค้นจำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องใช้เจ้าหน้าท่ีทางเทคนิคโดยเฉพาะซ่ึงจะต้องเป็นผู้มีความเช่ียวชาญ ทางด้านเทคนคิ เป็นพเิ ศษนอกเหนอื ไปจากเจา้ หนา้ ท่ีรักษาความปลอดภยั อน่ื

๖.สาเหตุของการประทุษรา้ ย (Causes of Assassination) การระวังป้องกันให้กับบุคคลสำคัญเป็นภารกิจหลักของเจ้าหน้าที่ในการทำงาน ฉน้ันก่อนที่จะมี การออกทำงานในแตล่ ะคร้ัง ในแต่ละสถานการณ์เจ้าหน้าที่ต้องเรียนรเู้ ท่าทันเก่ยี วกับสาเหตทุ อี่ าจเกดิ ขึ้นแก่ตัว บุคคลสำคัญในการดูแลเพ่ือหามาตราการรองรับในการระวังป้องกันได้ดีขึ้นและเป็นการสะดวกรวดเร็วเกิด ความปลอดภยั ในการทำงาน ๑. สาเหตทุ างการเมือง (Political Causes) ๑.๑ เกิดจากกลุ่มคนที่คล่ังอุดมการณ์ มีความต้องการท่ีจะเปล่ียนแปลงการปกครองใหม่หรือ เปลยี่ นรฐั บาลใหม่ กลมุ่ คนเหลา่ น้ีมักจะใช้วธิ ีการประทุษรา้ ย เพือ่ ให้บรรลุเปา้ หมายทตี่ อ้ งการ ๑.๒ บุคคลสำคัญท่ีเปรียบเสมือนตัวแทนของรัฐบาลมักจะตกเป็นเป้าหมายของผู้ประทุษร้าย เพราะเชื่อวา่ เป็นสาเหตขุ องการบีบค้ันการกดขี่ต่าง ๆ ๑.๓ ผู้ประทุษร้ายท่ีหวังจะลม้ ล้างรฐั บาลท่ีมอี ยู่เพ่ือจัดต้ังรัฐบาลใหม่ขึ้นกม็ ักจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ทที่ ำให้เกดิ การประทษุ รา้ ยขนึ้ เปน็ สว่ นใหญ่ ตัวอย่าง : การลอบสังหารประธานาธิบดี Augusto Pinochet แห่งประเทศชิลี เม่ือวันท่ี ๗ กันยายน ๑๙8๖ ในขณะที่กำลงั เตรยี มตัวจะกล่าวคำปราศรยั ในการหาเสียงสำหรับการเสือกต้ังประธานาธิบดี ครงั้ ต่อไป : การลอบลังหารประธานาธิบดี Ranasighe Premadasa แห่งประเทศศรีลังกาเม่ือ วันท่ี ๑ พฤษภาคม ๑๙๙๓ โดยผู้ท่ีทำการสังหารได้นำระเบิดติดตัวไว้และได้ระเบิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต ๒๓ คน บาดเจ็บ ๒๖ คน (ส่วนมากเปน็ เจ้าหน้าที่รกั ษาความปลอดภยั ของประธานาธบิ ดที ี่เสยี ชวี ติ ) ๒. สาเหตุในทางเศรษฐกิจ (Economics Causes) ในกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามมีความคิดว่าบุคคลที่เป็นเป้าหมายของตน เป็นสาเหตุของสภาวะทาง เศรษฐกิจตกตำ่ ทำให้เกิดผลกระทบต่อประเทศชาตติ อ่ กลมุ่ คนใดกลมุ่ คนหน่งึ ตัวอย่าง : ความพ ยายามลอบ ลังห ารอดีตรั ฐมน ตรีต่างป ระเท ศ George Shultz เมอื่ วนั ท่ี ๘ สงิ หาคม ๑๙๘๘ ในโบลิเวีย เน่อื งจากแผนการในการกำจดั ยาเสพติดของรฐั มนตรีผ้นู ี้ ๓. สาเหตทุ างดา้ นอุดมการณ์ (Ideological Causes) ๓.๑ สาเหตุอนั เน่ืองมาจากความเช่ือทางศาสนาหรือสังคมฝ่ายตรงขา้ มคิดว่า ถ้าตนเองสามารถ เปล่ียนระบบท่ีมีอยู่ขณะน้ันได้โดยการประทุษร้ายบุคคลสำคัญทางศาสนา จะทำให้ มีการเปลี่ยนแปลงทาง ศาสนาได้ ๓.๒ การพิพาทระหว่างกลุ่มเช้ือชาติและเผ่าพันธ์ุก็อาจเป็นต้นเหตุของการประทุษร้ายได้ เนอ่ื งจากการตอ่ สู้กันระหวา่ งกล่มุ เพ่อื แยง่ ชิงอำนาจกัน ตวั อย่าง : ประธานาธิบดี อันวา ซาตัด ถูกลอบลงั หารเพราะการโคน่ กลุ่มชาวอิสลามหัวรุนแรง ในอียิปต์ เม่ือ ๖ ตุลาคม ๑๙8๑ ขณะชมพิธีสวนสนามเพ่ือแสดงแสนยานุภาพ เน่ืองในวันครบรอบ ๘ ปี ของ “The crossing” ๔. สาเหตทุ างด้านจติ วิทยา (psychological Causes) บุคคลท่ีไม่สมประกอบสติฟั่นเฟือน การขาดความม่ันคงทางอารมณ์หรืออยากเป็นผู้ท่ีมีชื่อเสียง โด่งดงั เปน็ สาเหตทุ ที่ ำใหเ้ กดิ การลอบลงั หารเกดิ ข้นึ ตวั อยา่ ง : การพยายามลอบลงั หารประธานาธิบดี Ronald Reagan โดยนาย John Hinkley Jr”

ตวั อย่าง : การลอบลังหารประธานาธบิ ดี John F kennedy โดยนาย Lee Harvey Oswald ๕. สาเหตุทางดา้ นสว่ นตัว (Personal Causes) เป็นความเกลียดชังกันเป็นการส่วนตัวอาจเกิดจากความริษยาหรือความโกรธแค้นเป็นการ สว่ นตัว ตัวอย่าง : การลอบสังหาร นายยิตซ์ฮัก ราบิน นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล โดย นาย ยกิ ลั ป์ คามีร์ เพื่อหยุดยงั้ ขบวนการสนั ตภิ าพตะวันออกกลาง ๖. สาเหตุจากการได้รบั จ้าง (Mercenary Causes) เปน็ การกระทำการประทษุ รา้ ยบคุ คลสำคัญเพื่อให้ไดม้ าซ่งึ เงนิ ตวั อย่าง : การพยายามลอบสงั หาร นาย Benito Mussolini ผ้ลู อบสงั หารได้ถกู วา่ จ้างดว้ ยเงิน ๕๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ โดยลัทธิชาตนิ ยิ มของรฐั บาลในอิตาลี ซ่ึงเขาสามารถสังหาร ได้สำเร็จ ๗. สาเหตุจากการถกู บังคับขู่เข็ญ (Black Mail Causes) ด้วยวิธใี ดกต็ ามทบ่ี ุคคล ผูน้ นั้ จำเป็นทีจ่ ะต้องปฏบิ ตั ติ าม ๗.กรรมวิธดี ำเนินการของผู้ประทุษรา้ ย ฝ่ายตรงข้ามย่อมมีวิธีขัดขวางมิให้บุคคลสำคัญปฏิบัติการอย่างใดอย่างหน่ึงได้หลายวิธีด้วยกัน นอกจากการทำร้ายหรือขัดขวางบุคคลสำคัญโดยตรงแล้ว ยังอาจกระทำต่อส่ิงที่มีผลบังคับถึงบุคคลสำคัญ ทางออ้ มได้ เช่น กระทำต่อครอบครัวบคุ คลสำคญั มิตรสหาย ผู้รว่ มงานหรอื ผู้สนับสนุน ๑. วิธีดำเนินการ ๑.๑ การทำรา้ ยรา่ งกาย เพอื่ ให้เกิดการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือถึงกับเสียชีวติ ๑.๒ การคุกคาม เพ่ือให้เกิดความหวาดกลัวจนจำต้องเปลี่ยนนโยบาย เช่น ใช้บัตรสนเท่ห์ การคุกคามทางสอ่ื มวลชน หรือการใช้การประชุมระหวา่ งประเทศเปน็ เครื่องมือ ๑.๓ การขู่กรรโชก โดยกระทำต่อบุคคลสำคัญโดยตรงหรือต่อครอบครัว เพ่ือต้องการเงิน ผลทางการเมือง หรือเพอื่ วัตถุประสงค์อยา่ งอื่น ๑.๔ การหม่ินประมาทและการทำให้อับอาย ได้แก่ การทำให้บุคคลสำคัญถูกเย้ยหยันอับอาย ต่อสาธารณซน เช่น การขว้างปาไข่เน่า ผลไม้เน่า ส่ิงปฏิกูล ตัดสายไฟขณะปราศรัย เขียนป้ายโปสเตอร์ ล้อเลียน ดา่ ประจาน เป็นด้น ๑.๕ การลักพาตัวเพื่อยึดไว้เป็นตัวประกันในการเจรจาต่อรองให้จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข บังคับเอาขา่ วสารจากผถู้ ูกลักพาหรอื มใิ ห้ผู้ถูกลักพาปฏิบตั ิการอย่างใดอย่างหนึง่ ในสิ่งที่กำลังจะกระทำ ๒. เคร่ืองมือในการทำร้าย สิ่งของทุกชนิดที่ฝ่ายตรงข้ามนำมาใช้ในการประทุษร้ายบุคคลสำคัญ ย่อมถือว่าเป็นอาวุธทั้งสิ้น ซ่ึงอาจจะเป็นเคร่ืองมือโดยสภาพมิใช่อาวุธแต่นำมาเป็นอาวุธ เช่น ก้อนอิฐ ขวดนำ้ อัดลม หมกึ หรือมีสภาพเป็นอาวุธ เชน่ มีด ขวาน ดาบ ธนู อาวุธเหล่าน้ีเป็นอาวุธที่ใช้ระยะประชิดหรือ ในระยะใกล้ ๆ ไม่เกิดเสียงดังผู้ประทุษร้ายท่ีใชอ้ าวธุ ประเภทนี้มักได้แก่ ผู้ท่ีอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญบุคคลใน ท่ีทำงานหรือบ้านพักของบุคคลสำคัญ ผู้เข้าเยี่ยมหรือพบปะกับบุคคลสำคัญ ผู้ท่ีมีความผิดปกติทางจิต เนอ่ื งจากไมม่ โี อกาสหาอาวุธชนิดอืน่ หรอื ไม่ทราบวา่ อาวุธชนดิ น้นั จะเปน็ ภัยเพียงไร

๒.๑ อาวุธระยะใกล้ ๒.๑.๑ ปีนพกและมีด เป็นอาวุธที่ใช้กันมากท่ีสุด สำหรับปืนพกใช้ได้ผลใน ระยะ ๕-๒๐ เมตร พกติดตัวในลักษณะมิดชิดระยะหลังเริ่มมีการใช้วัตถุระเบิดชนิดฆ่าตัวตายตามถือเป็นการ กระทำในระยะใกล้ การปฏิบัติการในลักษณะน้ีจำเป็นต้องหาข่าวก่อน อย่างน้อยจะได้รู้ เส้นทางต่าง ๆ และ ตอ้ งมกี ารซ่มุ ตดิ ตามก่อนจะเร่ิมลงมือลังหาร ๒.๑.๒ อาวุธพิเศษ เป็นอาวุธที่คิดค้นเพ่ือให้สามารถนำมาเป็นอาวุธในการลอบสังหาร ระยะใกล้ได้ เช่น ปืนทำเป็นกล่องบหุ รี่ หรอื ทำเป็นกล้องถ่ายรปู ปืนยิงเขม็ ยาพิษ เป็นตน้ ๒.๒ อาวธุ ระยะไกล การลอบลังหารจากอาวุธระยะไกล จะมาจากระยะมากกว่า ๒๐ ฟุตข้ึนไปโดยใช้ ปืนไรเฟิลติดกลอ้ งเลง็ ซงึ่ พบวา่ ใช้กันมากที่สุด ผู้ใช้จะตอ้ งมีความรู้ไนการใชอ้ าวธุ และได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ตอ้ งหาขา่ วลว่ งหน้าเพ่ือรเู้ ส้นทางการเดินทางของบุคคลสำคญั และเลือกจดุ ลงมือลังหาร ๒.๓ วัตถุระเบิด มีวิธีการหลายอย่างไม่มีขอบเขตการใช้ ระเบิดเวลามักพบบ่อย โดยศัตรูอาจตั้งระเบิด เวลาตามสถานท่ีที่บุคคลสำคัญจะไปปรากฏตัว หรือในที่พำนักอาศัย ยานพาหนะ การต้ังเวลาให้ระเบิด มักกำหนดให้อยู่ในช่วงที่เจ้าหน้าท่ีจะแก้ไขสถานการณ์ได้ยากท่ีสุด หรืออาจกำหนดให้มีการระเบิดข้ึน ๒ คร้ัง โดยให้การระเบิดครงั้ หลังสงั หารผทู้ จี่ ะมาช่วยระงับเหตุ ๒.๓.๑ วิธีการจดุ ชนวน - ล่ามสายไฟหรือสายชนวนจากระยะไกล - บังคบั การจดุ ระเบดิ จากเครื่องบงั คับระยะไกล (Remote Control) - ผูจ้ ดุ ระเบิดยอมตายโดยการนำระเบดิ ตดิ ตัว - ใช้วิธีกับระเบิด เช่น จดหมายระเบิด พัสดุระเบิด ระเบิดเวลาหรือการฝังกัน ระเบดิ ตามเส้นทางทข่ี บวนรถยนตบ์ คุ คลสำคญั ผา่ น ๒.๓.๑ วิธกี ารวางระเบดิ - ผวู้ างระเบิดเป็นผู้วางเอง โดยการปลอมตัวเข้าไปเล็ดลอดเชา้ ไปวางในเวลาคํ่า คนื หรอื ชว่ งปลอดคน หรือบุกเข้าไปวางโดยใชอ้ าวุธรว่ มด้วย - ใช้วานโดยผ้วู างระเบิดไม่รู้ตัว โดยมากจะเป็นพนักงานบริการพนกั งานส่งของ หรือบรุ ุษไปรษณยี ์ ซ่ึงบุคคลเหล่านี้ไมร่ ูว้ า่ ส่งิ ทน่ี ำไปส่งมีวตั ถรุ ะเบิดซกุ ช่อนอยู่ - คนของผู้วางระเบิดนำไปวางเองโดยแทรกซึมเข้าไปในพนื้ ท่นี ้ัน ๆ ๒.๓.๓ กลไกการตัง้ เวลาในวัตถรุ ะเบิด - กลไกทางเคมโี ดยใชป้ ฏกิ ิรยิ าต่าง ๆ เชน่ ใช้สารละลายกบั วตั ถุ - กลไกทางเมคานคิ เชน่ ใชน้ าฬกิ า วัสดกุ ดทบั -เลิกกด หรอื ลวดสะดดุ - ใช้ความกดอากาศ แสง หรือเสียง - จุดชนวนโดยใช้การถ่วงเวลาจากวัสดุ เช่น ใช้ก้านธูปที่จุดทิ้งไว้ปล่อยให้ไฟ ลามไปจุดกา้ นไม้ขดี ๔-๕ ก้าน ซ่งึ ผูกตดิ ไว้เพ่อื จุดชนวนระเบิดอกี ตอ่ หน่ึง

๓. การปอ้ งกนั แตล่ ะประเภท การระวังป้ องกันภัยแต่ละประเภ ท ที่อาจเกิดข้ึนกับบุคคล ส ำคัญ น้ันได้แก่ การประทุษ ร้าย ด้วยวาจา ด้วยการชกต่อย อาวุธประจำกาย อาวุธประทับบ่า และด้วยวัตถุระเบิด การประทุษร้ายแต่ละ ประเภทเหล่านั้นจะมีมาตรการตอบโต้แตกต่างกันไปตามสภาพการณ์ แต่ที่สำคัญเจ้าหน้าที่รักษาปลอดภัย บุคคลสำคัญไม่มีหน้าที่ต้องเข้าต่อสู้กับคนร้าย นอกจากจะกระทำเพ่ือระวังป้องกันให้เกิดความปลอดภัยแก่ บุคคลสำคัญและนำบุคคลสำคัญออกจากพื้นท่ีอันตรายโดยเร็วที่สุด ตามแผนเผชิญเหตุท่ีเตรียมไว้และในกรณี ที่คนร้ายเข้าประชิดตัวบุคคลสำคัญมาก ชุดติดตามจะให้เจ้าหน้าทีท่ ่ีอยใู่ กล้คนร้ายมากท่สี ุดเขา้ ขดั ขวางคนร้าย ด้วยความสามารถที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่ท่ีเหลือนำบุคคลสำคัญออกจากพ้ืนที่อันตราย โดยมีแนวทางปฏิบัติการ ระวังป้องกัน มีดังนี้ ๓.๑ ภัยด้วยวาจา เจ้าหน้าท่ีจะต้องไม่โต้เถียงและอย่าปล่อยให้บุคคลสำคัญ ดำเนินการใด ๆ ต่อผกู้ ลา่ ววาจา เมอ่ื จำเปน็ ให้กันตวั บคุ คลสำคญั ออกไปจากสถานที่นั้น ๓.๒ ภัยจากการชกต่อย ให้เจ้าหน้าท่ีที่อยูใ่ กลค้ นรา้ ยหรืออยู่ในทิศทางที่คนรา้ ยว่ิงเข้ามาปะทะ กับคนร้ายด้วยการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพ่ือป้องกันมิให้เข้าถึงบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าท่ีที่เหลือนำบุคคลสำคัญออก ห่างออกจากพืน้ ทีน่ นั้ และเมอื่ มีการขวา้ งปาสง่ิ ของใส่บคุ คลสำคัญใหเ้ จา้ หน้าท่ีใช้รา่ งกายเขา้ บงั ๓.๓ ภัยจากอาวุธประจำกาย ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใช้ร่างกายเข้าขวาง ระหว่าง บุคคลสำคัญกับคนร้ายแล้วทำการต่อสู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ โดยมิให้เสียการกำบัง เจ้าหน้าที่ท่ีเหลือพาบุคคล สำคญั ออกจากพ้ืนท่ที ันที ๓.๔ ภยั จากอาวุธประทบั บ่า ปฏิบัติเช่นเดียวกบั ภยั จากอาวธุ ประจำกาย ๓.๕ ภัยจากวัตถุระเบิด ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าบังบุคคลสำคัญแล้วจับบุคคล สำคญั นอนราบลงกบั พน้ื พรอ้ มใช้ร่างกายของตนคร่อมบุคคลสำคัญจากน้ันนำบุคคลสำคัญออกจากพ้ืนที่

แบบฝึกหัด ๑. จงบอก ประเภทของบุคคลสำคัญ ๒. AGENT IN CHARGE หรือ AIC คือใคร ทำหนา้ ที่อะไร จงอธบิ ายการทำงานพอสังเขป ๓.การประกอบกำลังเจ้าหนา้ ท่ี ๖ คนประกอบไปด้วยเจ้าหน้าทีต่ ำแหน่งใดบ้างและทำหนา้ ทอี่ ะไร จงวาดภาพประกอบลักษณะตำแหนง่ การของยนื รักษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญ เจา้ หนา้ ท่ี ๖ คน ๔.จงวางแผนการรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญขณะขึ้นกลา่ วบนเวทีปราศัย เอกสารอ้างองิ กองบญั ชาการศึกษา, สํานกั งานตํารวจแหง่ ชาต.ิ (๒๕๖๑), ตำราเรยี นนกั เรียนนายสบิ ,วชิ า ปป. (CP) ๒๑๔๐๓ การรกั ษาความปลอดภัย.กรุงเทพ:โรงพมิ ตำรวจ กองบัญชาการศกึ ษา, สํานักงานตํารวจแห่งชาต.ิ (๒๕๖๒), ตำราเรยี นนกั เรยี นนายสบิ ,วชิ า ปป. (CP) ๒๑๔๐๓ การรักษาความปลอดภยั .กรุงเทพ:โรงพมิ ตำรวจ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรอ่ื งการรักษาความปลอดภยั แห่งชาติ.พุทธศกั ราช ๒๕๕๒. (๒๕๕๒, ๑๓ มนี าคม). ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๒๖ตอนที่ตอนพิเศษ ๓๙ ง ประกาศสำนกั นายกรัฐมนตรี เร่ือง ว่าดว้ ยการรกั ษา ความปลอดภยั แหง่ ชาติ(ฉบบั ๒).พุทธศกั ราช ๒๕๕๔. (๒๕๕๔, ๑๗ มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ีตอนพิเศษ ๖๗ ง การรักษาความปลอดภยั บคุ คล.การรกั ษาความ ปลอดภยั ฝ่ายพลเรือน,สำนักนายกรัฐมนตรี ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรวี ่าดว้ ยการรักษาความปลอดภยั แหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๕๒ สำนกั ข่าวกรองแห่งชาติ.สว่ นวิชาการ รปภ.ส.๑๐.(๒๕๖๐).มาตราฐานการรักษาความปลอดภัยหนว่ ยงาน ของรัฐฝา่ ยพลเรือน.สำนกั ขา่ งกรองแห่งชาติ.สืบคน้ จาก https://www.secnia.go.th/download/ มาตราฐานการ-รปภ.

แผนประกอบการสอนประจำบทท่ี ๔ หวั ข้อเรอ่ื ง การรกั ษาความปลอดภัยเอกสาร รายละเอียดของเร่ือง การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับเอกสาร มคี วามมงุ่ หมายเพ่ือกำหนดนโยบายและ วิธีการในการพิทักษ์รกั ษาความลับของทางราชการ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตอ่ เอกสารลบั ชน้ั ตา่ ง ๆ ทุกข้ันตอนของ การดำเนินกรรมวิธี เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดยี วกัน ชั่วโมงทสี่ อน ๔ ช่ัวโมง กจิ กรรมการเรียนการสอน ๑. การนําเข้าสู่บทเรียน ผู้สอนนําข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจากสื่อมวลชนทุกแขนงจากภาพและคลิปใน รายการต่าง ๆ ท่ีนา่ สนใจเก่ยี วกับข้าราชการตํารวจและการปฏิบัตหิ นา้ ท่ขี องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภยั มา ใช้ประกอบในการนําเข้าสู่บทเรียน และสุ่มให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นจากเหตุการตัวอย่างพร้อมท้ังให้เล่า ประสบการณ์ของตนเองที่เก่ียวข้องกับการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และให้แสดงความคิดเห็นใน ฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทางด้านรักษาความปลอดภัย โดยมีวัตถุประสงค์ เชิงพฤติกรรมเพ่ือให้ผู้เรียนได้ เข้าใจถึงขอ้ เท็จจริงตา่ ง ๆ เพื่อนาํ มาปรับเขา้ กับหวั ข้อในชวั่ โมงเรยี น ๒. การจดั กิจกรรม ๒.๑ ผู้สอนบรรยายและจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในเน้ือหาแต่ละเร่ืองพร้อม ยกตัวอย่างข้อเท็จจริงท่ีเก่ียวข้องตามที่กําหนดไว้ในแผนการสอนเพื่อให้ผลการสอนเป็นไปตามจุดมุ่งหมายที่ วางไว้ ๒.๒ ผู้สอนตั้งปัญหาให้ผู้เรียนวินิจฉัยเป็นรายบุคคลและส่วนรวม เพื่อให้รู้จักคิด วิเคราะห์และวิจารณ์เนื้อหาที่เรียน ด้วยการนําเทคนิควิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนสนใจและติดตาม การสอน ตลอดเวลาและเช่ือมโยงกบั วชิ าอืน่ ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั เนื้อหา เพ่ือให้ผ้เู รียนสามารถบรู ณาการความคดิ ได้ ๒.๓ ผู้สอนมอบหมายภารกิจให้ผู้เรียนไปเตรียมการ สําหรับการเรียนการสอนคร้ัง ต่อไป โดยให้ผู้เรียนอ่านคําอธิบายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๕๒ หัวข้อการรักษาความปลอดภยั เอกสาร การรกั ษาความลับตาม พรบ.๒๕๔๔ ล่วงหน้า ๒.๔ ผู้สอนตั้งคําถามเพื่อประเมินความรู้ ด้วยการทําแบบฝึกหัดหลังเรียนและสรุป เนอ้ื หาทเี่ รยี นพรอ้ มทั้งสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรมท่ีขา้ ราชการตํารวจควรปฏิบัติ ๒.๕ ผ้สู อนแนะนําแหล่งขอ้ มลู ท่ีจะศึกษาค้นควา้ เพิม่ เตมิ ๒.๖ ประเมินความพึงพอใจตอ่ คณุ ภาพการสอนและสงิ่ สนับสนุนการเรียนรู้

ส่ือการสอน ๑. เครื่องคอมพิวเตอร์ โปรเจค็ เตอร์ จอภาพ ทวี ี เครื่องขยายเสียง ๒. ค่มู ือตาํ รวจ ๓. เอกสารประกอบการสอน ๔. วิดทิ ัศน์ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๕. ภาพประกอบท่ีเกย่ี วขอ้ ง 5. สื่อนําเสนอในรูปแบบ PowerPoint media ๖. เว็บไซต์ที่เก่ยี วข้อง ๗. เอกสารเก่ียวกับกฎหมาย คําส่งั และระเบียบท่ีเกย่ี วข้อง แผนการประเมินผลการเรียนรู้ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยเอกสารโดย สามารถวินจิ ฉัยแยกแยะ เปรยี บเทยี บและอธิบายความรู้ดงั กลา่ วไดถ้ กู ต้อง ๑.๒ ผู้เรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยเอกสารสามารถ เขา้ ใจและจดั ทำแผนไดถ้ กู ต้อง ๑.๓ ผู้เรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเอกสารสามารถมี ความเข้าใจและทำงานไดถ้ กู ต้อง ๑.๔ ผู้เรียนมที ักษะในการนําความรู้ที่ไดเ้ รียนไปปรบั ใช้ในการปฏิบัติหนา้ ทใ่ี นส่วนที่เก่ียวข้อง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ๒. วธิ ีการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๒.๑ สังเกตความตั้งใจและความสนใจของผู้เรียน ตอบคําถามและการแสดงความคิดเห็น ในเน้อื หาท่ีเรียน ๒.๒ สังเกตจากการรับรู้และการใส่ใจต่อบทเรียนภายในห้องเรยี น ๒.๓ สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมทอ่ี าจารย์มอบให้ ๒.๔ ประเมินผลจากการทดสอบในชัว่ โมงเรียนเพอ่ื เปน็ คะแนนเก็บ ๓. สดั สว่ นของการประเมิน ๓.๑ สังเกตความตั้งใจและความสนใจของผู้เรียนท่มี าเรยี นครบ ๑๐ % ๓.๒ สังเกตการตอบคําถามและการแสดงความคดิ เห็น ๕% ๓.๓ สังเกตการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมทีอ่ าจารยม์ อบหมาย ๕% ๓.๔ ประเมนิ ผลจากรายงานและผลการสอบปลายภาคการศกึ ษา ๘๐ %

บทท่ี ๔ การรักษาความปลอดภัยเอกสาร ความมงุ่ หมาย การรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับเอกสาร มีความมุ่งหมายเพ่ือกำหนดนโยบาย และวิธีการใน การพิทักษ์รักษาความลับของทางราชการ ซึ่งจะต้องปฏิบัติต่อเอกสารลับช้ันต่าง ๆ ทุกขั้นตอนของการดำเนิน กรรมวธิ ี ทงั้ น้เี พ่ือใหเ้ ปน็ มาตรฐานเดียวกนั “สิ่งท่ีเป็นความลับของทางราชการ” หมายความถึง เอกสาร บริภัณฑ์ ยุทธภัณฑ์ ที่สงวนและ ส่ิงอื่น ๆ ในทำนองนี้ ตลอดจนข่าวสารที่ถือว่าเป็นความลับของทางราชการซ่ึงส่งถึงกันด้วยคำพูดหรือด้วย วธิ ีการอน่ื ใด “เอกสาร” หมายความถึง ข่าวสารทบี่ นั ทึกไว้ในแบบใด ๆ รวมทั้งส่ิงที่พิมพ์ เขียน วาด ระบายสี แถบบันทึก ภาพถ่าย ฟิล์ม และสง่ิ อ่นื ๆ ในทำนองนี้ “บรภิ ัณฑ”์ หมายความถึง เคร่อื งจักร เครือ่ งมอื เครือ่ งกล สง่ิ อุปกรณแ์ ละสง่ิ อื่น ๆ ในทำนองน้ี “ยุทธภัณฑ์” หมายความถึง ส่ิงของทั้งหลายที่ใช้ประจำกายหรือประจำหน่วยกำลังหรืออาวุธ ของทางราชการ เช่น ทหาร ตำรวจ เป็นต้น ได้แก่ เคร่ืองนุ่งห่ม เครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะ อาวุธและส่ิง อื่น ๆ ในทำนองนี้ “ที่สงวน” หมายความถึง สิ่งปลูกสร้างทุกชนิดสำหรับการป้องกันประเทศและสิ่งท่ีเป็น สาธารณูปโภคทส่ี ำคญั (ตามมาตรา ๓ ขอพระราชบญั ญัติคมุ้ ครองความลบั ในราชการ พ.ศ.๒๕๔๔) “การจำกัดใหท้ ราบเท่าท่จี ำเป็น” หมายความถงึ หลักการทีใ่ ชพ้ ิจารณาในการให้สทิ ธ์ิเขา้ ถงึ สงิ่ ท่ี เป็นความลบั ของทางราชการแก่บคุ คลผู้จำเปน็ ตอ้ งทราบเพ่ือปฏิบัตภิ ารกิจใหล้ ลุ ว่ งไป “การเข้าถึง” หมายความถงึ การท่ีบุคคลมีอำนาจหน้าท่หี รือได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้ ได้ทราบ ครอบครอง ดำเนินการหรือเก็บรักษาสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการรวมทั้งการท่ีได้รับอนุญาตให้ อยู่ในทีซ่ ่งึ น่าจะไดท้ ราบเร่ืองท่ีเกยี่ วกบั สง่ิ ท่เี ป็นความลบั ของทางราชการน้ันดว้ ย “การรั่วไหล” หมายความถึง ส่ิงท่ีเป็นความลับของทางราชการได้ถูกครอบครองหรือได้ทราบ โดยบุคคลผูไ้ มม่ อี ำนาจหน้าท่ี \"ข้อมูลข่าวสารลับ\" หมายความว่า ขอ้ มูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ ท่ีมีคำส่ังไมใ่ ห้ เปิดเผยและอยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ เกี่ยวกับการ ดำเนินงานของรัฐ หรือท่ีเกี่ยวกับเอกชน ซ่ึงมีการกำหนดให้มีช้ันความลับเป็น ชั้นลับ ช้ั นลับมาก หรือชั้นลับที่สุด ตามระเบียบนี้โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและประโยชน์แห่งรัฐ ประกอบกนั

\"ประโยชน์แห่งรัฐ\" หมายความว่า การดำเนินงานของรัฐท่ีเก่ียวกับประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของเอก ซนประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐทีเ่ ก่ียวกับการเมืองภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ การปอ้ งกนั ประเทศ เศรษฐกจิ สงั คม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การพลังงานและสิง่ แวดล้อม \"หัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐ\" หมายความวา่ (๑) หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล สำหรับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม ให้หมายความรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการท่ีขึ้นตรงต่อสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรมราชองครักษ์ กองบญั ชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทพั อากาศ (๒) ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด สำหรบั ราชการส่วนภมู ภิ าค (๓) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกองค์การบริห ารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี ประธานสภาตำบล ประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล นายกเมืองพัทยาหรือตำแหน่งที ่ เรยี กชื่ออยา่ งอื่นทมี่ ลี กั ษณะทำนองเดยี วกันแลว้ แต่กรณสี ำหรบั ราชการสว่ นท้องถ่ิน (๔) ผู้บริหารกิจการของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ สำหรับงานของรัฐวิสาหกิจหรือ หนว่ ยงานอน่ื ของรัฐ \"การปรับชั้นความลับ\" หมายความว่า การลดหรือเพิ่มช้ันความลับของข้อมูลข่าวสารลับและ ให้หมายความรวมถงึ การยกเลกิ ช้ันความลบั ของขอ้ มูลขา่ วสารลับนัน้ ด้วย ระเบยี บว่าด้วยการรกั ษาความลับของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔ บริบทการรกั ษาความลับตามระเบยี บว่าด้วยการรกั ษาความลับฯ พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นไปตามหลักการขอบเขตเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒ ๕๔๐ คือ ให้สิทธิประชาชนเช้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ ยกเว้นข้อมูลข่าวสารท่ีไม่เปิดเผย (เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น) ฉะนั้น การรักษาความลับตามระเบียบฉบับน้ี จึงเป็นการปฏิบัติต่อข้อมูลข่าวสารท่ีได้รับ การยกเวน้ และเป็นไปตามหลักการท่ีว่า “หากจำเป็นต้องปิดใหส้ นิท เสรจ็ ภารกิจอาจต้องเปิดเผย” นอกจากนี้ หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. ดังกล่าว กำหนดให้ต้องคุ้มครอง ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล (ห้ามเปิดเผยก่อนได้รับ อนุญาตจากเจ้าตัว/เป็นความลับ) กำหนดกรอบประเภทข้อมูลข่าวสารท่ีสามารถสั่งให้เป็นข้อมูลข่าวสารลบั ไว้ อย่างแน่ชัด (มาตรา ๑๔ และ ๑๕ เท่าน้ัน) และกำหนดการเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ไว้ด้วยกล่าวคือข้อมูล ขา่ วสารลับตามมาตรา ๑๔ มีอายุ ๗๔ ปี ส่วนตามมาตรา ๑๕ มอี ายุ ๒๐ ปี เม่ือพ้นกำหนดจะเป็นเอกสารปกติ อย่างไรกด็ หี น่วยงานเจ้าของเร่อื งจะขอต่ออายุหรือจัดเก็บไว้เองก็ได้ ความหมาย “การรักษาความลับ” เป็นมาตรการป้องกันผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าถึง ขอ้ มลู ขา่ วสารลับของทางราชการ หรอื ไมใ่ ห้ขอ้ มูลข่าวสารลบั ถกู เปิดเผยกอ่ นเวลาสมควร ขอ้ มูลข่าวสารลับ (เชิงคณุ สมบัติ) หมายถึง ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรอื ๑๕ ที่มคี ำสั่ง ไมเ่ ปิดเผยและอยูใ่ นความครอบครองของหน่วยงานของรฐั ไม่วา่ จะเป็นเรอื่ งเก่ียวกบั การดำเนินงานของรัฐหรือ เกย่ี วกับเอกซนซึ่งกำหนดให้มีชัน้ ความลับเป็น ชั้นลับ ชน้ั ลบั มากหรอื ชั้นลับท่ีสุด โดยคำนึงถึงการปฏบิ ัติหน้าที่ ของหน่วยงานของรัฐและประโยชนข์ องรฐั ประกอบกัน

ข้อมูลข่าวสารลับ (เชิงความหมาย) ข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา ๑๔ หรือ ๑๕ ทีม่ ีความสำคัญ ซ่ึงหากเปิดเผยท้ังหมดหรือเพียงบางสว่ นอาจกอ่ ให้เกดิ ความเสียหายต่อประโยชน์แห่งรัฐอย่าง ร้ายแรงหรอื อย่างรา้ ยแรงทีส่ ุด หลักคิด (concept) การรักษาความลับของทางราชการที่มีประสิทธิภาพจะต้องดำเนินการ ๓ ประการ กล่าวคอื ๑) ส่งั ขอ้ มลู ขา่ วสาร ใหเ้ ป็นข้อมูลข่าวสารลับชนั้ ใดช้ันหนึง่ (ลบั /ลับมาก/ลบั ท่สี ดุ ) ๒) ป้องกันผู้ไม่มีอำนาจหน้าท่ีเกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับ (โดยปฏิบัติตามระเบียบ การรกั ษาความลับกำหนด) ๓) ป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจหน้าท่ีเข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับ เปิดเผยข้อมูลข่าวสารลับ โดยการขึ้น ทะเบียนความไวว้ างใจและสร้างจติ สำนึก รปภ. วธิ ีดำเนนิ การรกั ษาความลบั ของทางราชการตาม พรบ.รักษาความลบั 1. ทุก ๕ ปีเป็นอย่างน้อย ให้นายกรัฐมนตรีจัดให้มีการทบทวนการปฏิบัติตามระเบียบนี้และ พิจารณาแกัใขเพิม่ เติมระเบียบนใ้ี ห้เหมาะสม ๒. ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าท่ีรักษาข้อมูลข่าวสารลับในหน่วยงานของตนและอาจ มอบหมายหน้าท่ีดังกล่าวได้ตามความจำเป็นให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือให้แก่ราชการส่วนภูมิภาคในกรณีที่ สามารถมอบอำนาจได้ตามกฎหมาย ๓. ผมู้ ีหน้าท่ีตอ้ งรักษาข้อมลู ข่าวสารลับให้ปลอดภัย การให้บุคคลใดเข้าถึงข้อมลู ข่าวสารลับหรือ เปิดเผยข้อมูลข่าวสารลับแก่ผู้ใดต้องกระทำโดยระมัดระวัง ในกรณีจำเป็นให้กำหนดเง่ือนไขในการปฏิบัติให้ เหมาะสมแก่กรณีโดยคำนึงถงึ การรักษาความลับและประสทิ ธิภาพในการดำเนนิ การตามระเบยี บ ๔. บุคคลท่ีจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับในช้ันความลับใดจะต้องเป็นบุคคลท่ีผู้บังคับบัญชา มอบหมายความไวว้ างใจและให้เข้าถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารลบั ได้เฉพาะเรื่องที่ได้รบั มอบหมายเท่านั้น ๕. ในกรณีท่ีเห็นเป็นการสมควรหัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจขอให้องค์การรักษาความปลอดภัย ชว่ ยตรวจสอบประวัติและพฤตกิ ารณข์ องเจา้ หนา้ ท่ขี องตนท่ีเกีย่ วข้องกับชน้ั ความลับได้ ๖. ในการดำเนินงานของคณะกรรมการใด ๆ ถ้าคณะกรรมการมีมติกำหนดชั้นความลบั ไวเ้ ช่นใด ให้เลขานุการดำเนินการตามนั้นและให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดของเลขานุการดำเนินการต่อไปให้ ถูกต้องตามระเบยี บน้ีด้วย ๗. ถ้าคณะกรรมการคณะใดมีฝ่ายเลขานุการซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐให้ ประธานกรรมการทำหนา้ ท่ีเป็นหัวหนา้ หนว่ ยงานของรฐั และให้นำระเบียบนม้ี าใชบ้ ังคบั โดยอนุโลม ๑) ผเู้ ขา้ ถงึ ชัน้ ความลบั ต้องไวใ้ จได้ และจำกัดวงผเู้ ขา้ ถึงเทา่ ท่จี ำเป็น (need to Know) ๒) ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บการรักษาความลบั (ระเบยี บฯ ๒๕๔๔) โดยเครง่ ครดั

วิธีปฏิบัตทิ ่ีสำคัญทกี่ ำหนดไวใ้ นระเบียบการรกั ษาความลบั ๑) ผู้เข้าถึงชน้ั ความลับตอ้ งได้รับอนญาตจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผไู้ ด้รบั มอบอำนาจให้ทำ การแทนจากหัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐ ๒) ข้อมูลข่าวสารท่ีส่ังให้เป็นข้อมูลข่าวสารลับได้ ต้องเป็นข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรือ มาตรา ๑๕ ของ พ.ร.บ.ขอ้ มูลขา่ วสารฯ ๒๔๔๐ เท่านน้ั ๓) ช้ันความลับ มี ๓ ชั้น คอื ชน้ั ลบั ทสี่ ดุ ชั้นลบั มาก และช้ันลบั ชั้นความลบั ของเอกสาร การลำดบั ความสำคญั ของเอกสารเพ่ือการจดั หมวดหมู่ ใหง้ ่ายตอ่ การแยกแยะในการปฏบิ ัตขิ อง เจา้ หนา้ ท่ี ๓.๑ ชัน้ ความลับของทางราชการแบง่ ออกเปน็ ๓ ชั้น คอื ๓.๑.๑ ลบั ท่สี ุด ในภาษาองั กฤษให้ใช้ว่า TOP SECRET ๓.๑.๒ ลบั มาก ในภาษาอังกฤษให้ใช้ว่า SECRET ๓.๑.๓ ลบั ในภาษาองั กฤษให้ใชว้ ่า CONFIDENTIAL ๓.๑.๑ ลับทสี่ ดุ ลับที่สุด ได้แก่ ความลับที่มีความสำคัญท่ีสุดเกี่ยวกับข่าวสารวัตถุหรือบุคคลซ่ึงถ้า หากความลับดังกล่าวทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนรั่วไหลไปถึงบุคคลผู้ไม่มีหน้าที่ได้ทราบจะทำให้เกิดความ เสียหายหรือเป็นภยันตรายต่อความม่ันคง ความปลอดภัย หรือความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติหรือ พันธมิตรอยา่ งรา้ ยแรงทีส่ ดุ ตัวอย่างชั้นลบั ที่สุด เช่น - นโยบายหรือแผนการท่ีสำคัญยิ่งของชาติซึ่งถ้าเปิดเผยก่อนเวลาอันสมควร จะกอ่ ให้เกดิ ผลเสยี หายอยา่ งร้ายแรงท่สี ดุ แก่ประเทศชาติ - เอกสารทางการเมืองที่สำคัญยิ่งเกีย่ วกับความมั่นคงหรอื เกียรตภิ ูมิอันสำคัญ ยิ่งของชาติ เชน่ การเจรจาตกลงกับพนั ธมิตรหรือประเทศใดประเทศหน่งึ โดยเฉพาะเปน็ ตัน - การดำเนินการเกี่ยวกับความตกลงระหว่างประเทศท่ีสำคัญย่ิงถ้ารั่วไหลจะ กอ่ ใหเ้ กิดความเสยี หายอยา่ งรา้ ยแรงทส่ี ดุ แกป่ ระเทศชาตหิ รือพันธมติ ร - แผนยุทธศาสตร์รวมท้ังรายละเอียดทางเอกสารท้ังมวลท่ีเกี่ยวกับการ ดำเนนิ การสงคราม - เอกสารท้ังมวลท่ีเกี่ยวกับแผนการทางสงครามหรือแผนป้องกันประเทศ เช่น ข้อมูลในการวางแผนและสมมุติฐาน การประมาณการข่าวกรองเกี่ยวกับขีดความสามารถของข้าศึกการ ประกอบกำลัง การวางกำลังและการพัฒนากำลังเพ่ือการสงคราม แผนการระดมพลและแผนการระดมสรรพ กำลงั

- ความต้องการทรัพยากรสนับสนุนของชาติ เพ่ือการสงครามหรือเพื่อป้องกัน ประเทศ หมายรวมทงั้ กำลงั คน อตุ สาหกรรม เกษตรกรรม ยุทธปัจจัย เทคโนโลยี ฯลฯ - แผนการยุทธ รวมทั้งเอกสารท้ังมวลที่เกี่ยวกับแผนการยุทธน้ันความลับ เก่ียวกับพัฒนาการท่ีสำคัญยิ่งทางวิทยาศาสตร์และทางเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ทางการทหารหรือมี ความสำคัญย่ิงทางป้องกันประเทศ เช่น รายละเอียดอาวุธยุทธภัณฑ์ท่ีสำคัญท่ีค้นคว้าทดลองหรือประดิษฐ์ขึ้น ใหมซ่ ึ่งมลี ักษณะพิเศษและยังตอ้ งการสงวนความรู้ดงั กล่าวน้ีไว้ในหมู่บคุ คลอันมีจำนวนจำกัดตลอดจนความลับ อันเกี่ยวกับการสะสมและทีต่ ้ังของอาวธุ ยุทธภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว - เทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษหรือยุทธวิธีหรือวิธีปฏิบัติหรือการ ดำเนินการบางอย่างที่ได้พัฒนาขึ้น ซ่ึงอาจนำไปใช้ปฏิบัติการทางทหารในอนาคตตลอดจนลักษณะการ ประกอบกำลังและการวางกำลังของหน่วย ซ่ึงมุ่งหมายจะให้เทคนิค ยุทธวิธีวิธีปฏิบัติและการดำเนินการ ดงั กลา่ วนัน้ โดยเฉพาะ ซึ่งถา้ เกิดร่วั ไหลข้ึนแล้วจะทำให้คุณคา่ ของหน่วยน้นั หมดไป - ประมวลลับหรือรหัสที่กำลังใช้อยู่หรือเตรียมจะใช้ในการติดต่อตลอดจน วัสดหุ รอื เอกสารทุกอยา่ งทีเ่ ขา้ หรือถอดประมวลลับหรอื รหัสดงั กลา่ วน้ี - ความลับท่ีเก่ียวกับบรรดาวิธีปฏิบัติและการดำเนินการหรือบรรดาผลสำเร็จ ของหน่วยข่าวกรองแล ะหน่วยต่อต้านการข่าวกรองห รือความลั บท่ีอาจก่อให้ เกิดภ ยั น ตรายแก่บรรดา แหล่งข่าวหรือสายลับของฝา่ ยเรา - คำส่ังหรือการดำเนินการหรือบรรดาผลสำเร็จของการปฏิบัติการพิเศษ ตามภารกิจทไี่ ดร้ ับมอบหมายจากผบู้ ังคับบัญชาช้นั สูงตลอดจนความลบั ใด ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั ความปลอดภัยของ ตวั เจ้าหน้าทผ่ี ู้ปฏบิ ตั กิ ารพิเศษน้ันด้วย - ข้อมูลหรือรายการบางอย่างซ่ึงแต่ละเรื่องจัดอยู่ในชั้นลับมากหรือต่ำกว่า แต่เม่อื ประมวลกันเข้าแล้วเกิดมีความสำคญั ยง่ิ ๓.๑.๒ ลบั มาก ลับมาก ได้แก่ ความลับท่ีมีความสำคัญมากเก่ียวกับข่าวสารวัตถุหรือบุคคล ซ่ึงถ้าหากความลับดังกล่าวทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนรั่วไหลไปถึงบุคคลท่ีไม่มีหน้าที่ได้รับทราบจะทำให้เกิด ความเสียหายหรือเป็นภยันตรายต่อความมั่นคงความปลอดภัยของประเทศชาติหรือพันธมิตรหรือความสงบ เรยี บรอ้ ยภายในราชอาณาจักรอยา่ งร้ายแรง ตวั อยา่ งชน้ั ลบั มาก เช่น - แผน โครงการ รายงาน ข้อตกลง หรือการเจรจาข้อตกลงบางเร่ือง ซ่ึงถ้าเปิดเผยก่อนเวลาอันลมควรอาจจะทำให้เสียผลประโยชน์แก่ทางราชการหรือเกิดความปันป่วนทาง เศรษฐกิจหรือกระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรหรือต่อสัมพันธไมตรีกับ ตา่ งประเทศ เช่น แผนการปราบปรามผูก้ อ่ การรา้ ย - การตรากฎหมายท่ีเกย่ี วกบั ภาษีอากรต่าง ๆ หรือการตรากฎหมายเกย่ี วกับ

การเวนคนื อสังหาริมทรัพยเ์ พื่อประโยชน์ในทางราชการ - การเจรจาข้อตกลงทส่ี ำคัญกับต่างประเทศ - รายงานพฤติการณ์ของบคุ คลทไ่ี ม่น่าไวว้ างใจ - รายงานเสนอการแต่งตั้งถอดถอนหรอื โยกย้ายขา้ ราชการในตำแหน่งทส่ี ำคญั - รายงานที่อาจจะก่อให้เกิดผลร้ายเสียขวัญหรืออาจจะกระทบกระเทือนต่อการ ปฏิบัติการทางทหารท่ีสำคญั ๆ เช่น การขาดแคลนยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ การสูญเสียกำลังพลในการรบที่สำคัญ การปฏิบตั ทิ ่ีได้ผลของขา้ ศกึ - แผนการสงครามหรอื แผนการยุทธหรือแผนการทางทหารใด ๆ รวมทั้งเอกสาร ที่เกย่ี วขอ้ งอันมลี ักษณะคล้ายคลงึ กับทีก่ ลา่ วมาแลว้ ในหัวข้อลบั ที่สุดแตม่ ีความสำคัญรองลงมา - ความลับที่เกี่ยวกับพัฒนาการที่สำคัญมากทางวิทยาศาสตร์และทางเทคโนโลยี เพ่อื ประโยชน์ทางการทหารหรือมคี วามสำคญั มากในการป้องกันประเทศอนั มิไดก้ ำหนดไว้เปน็ ชน้ั ลบั ที่สดุ - เทคนิคท่ีต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษหรือยุทธวิธีหรือวิธีปฏิบัติหรือการ ดำเนินการบางอย่างที่ได้พัฒนาข้ึนซึ่งอาจนำไปใช้ปฏิบัติการทางทหารในอนาคต ตลอดจนลักษณะการ ประกอบกำลังและการวางกำลังของหน่วย ซึ่งมุ่งหมายจะใช้เทคนิคยุทธวิธีวิธีปฏิบัติและการดำเนินการ ดังกลา่ วน้นั โดยเฉพาะอันมิได้กำหนดไว้เปน็ ชน้ั ลับที่สุด - ข่าวสารเฉพาะเรื่องซึ่งแสดงให้ทราบถึงขีดความสามารถหรือความพร้อมรบ ของกำลับรบแต่แยกอยู่ตามลำพังมิไดัรวมอยู่กับเร่ืองลับท่ีสุดใด ๆ และถ้าร่ัวไหลไปก็จะไม่เกิดผล กระทบกระเทือนโดยตรงต่อเร่ืองลับที่สุดนั้น เช่น ทำเนียบกำลังพล อัตราการจัดกำลังและยุทโธปกรณ์ ทำเนียบการบรรจุกำลังของหน่วยที่สำคัญมากกำลัง การประกอบกำลังและการวางกำลังของหน่วยท่ี เผชญิ หน้าข้าศึก - รายงานสรุปยอดกำลังพลและยุทธภณั ฑ์ของแตล่ ะเหล่าทัพ คำสั่งเตรียมพร้อม ซ่ึงระบใุ ห้เตรียมการใช้กำลัง กำลงั สำรองในการทำสงคราม - ข่าวสารหรือข่าวกรองของฝ่ายตรงข้ามซ่ึงจะมีประโยชน์ต่อฝ่ายเราเมื่อฝ่าย ตรงข้ามไม่ทราบว่าฝ่ายเราได้ทราบแล้ว เช่น ความรู้เกี่ยวกับยุทโธปกรณ์และวิธีปฏิบัติกับฝ่ายตรงข้ามไว้ รายงานการปฏบิ ตั กิ ารในทางลบั ของฝา่ ยตรงช้าม - เคร่ืองมือกลท่ีใช้เข้าและถอดประมวลลับหรือรหัสเคร่ืองอุปกรณ์และอะไหล่ที่ สำคญั ตลอดจนคำแนะนำในการใชเ้ ครื่องมือดงั กลา่ ว - ข้อมูลหรือรายการบางอย่างซ่ึงแต่ละเร่ืองจัดอยู่ในชั้นลับหรือต่ำกว่าแต่เม่ือ ประมวลกันเข้าแล้วเกิดความสำคัญเข้าช้นั ลับมาก

๓.๑.๓ ลับ ลับ ได้แก่ความลับท่ีมีความสำคัญเก่ียวกับข่าวสารวัตถุหรือบุคคลซ่ึงถ้าหาก ความลับดังกล่าวทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนร่ัวไหลไปถึงบุคคลผูไ้ มม่ หี น้าท่ีได้ทราบจะทำใหเ้ กิดความเสียหายต่อ ทางราชการหรือตอ่ เกียรติภูมขิ องประเทศชาติหรือพันธมิตรได้ ตวั อย่างชั้นลบั เชน่ - การดำเนินการเก่ียวกับการตรากฎหมายที่สำคัญบางเร่ืองการดำเนินการท่ีจะมี ผลในการเปลี่ยนแปลงเพม่ิ เติมหรือเลิกล้มส่วนราชการหรอื ตำแหนง่ ของทางราชการที่สำคญั ๆ - ระเบียบวาระการประชุมลับ ประกาศหรือคำส่ังที่สำคัญที่อยู่ในระหว่าง ดำเนินการทางสายการทูตหรือกงสุลบางเร่ือง เช่น การขออนุมัติแต่งต้ัง ถอดถอน โยกย้าย หรือการขอความ เห็นชอบเพื่อแตง่ ตง้ั ผู้แทนทางทูตหรือกงสลุ - รายงานประจำซ่ึงมีข้อความเป็นประโยชน์แกฝ่ ่ายตรงข้าม เช่น รายงานสรุปยอด กำลังพลและยุทธภณั ฑข์ องแต่ละหนว่ ยทตี่ ำ่ กว่าระดับเหล่าทัพ - รายงานขา่ วกรองทมี่ ลี ักษณะเป็นรายงานประจำ - รายงานทางอุตุนยิ มวิทยาในพืน้ ที่บางแหง่ ท่ตี อ้ งการสงวนไวเ้ ปน็ ความลบั - รายงานการปฏิบัติการทางยุทธวิธแี ละการฝกึ ต่าง ๆ - ระเบียบปฏบิ ัตปิ ระจำ เอกสารและหนังสือคู่มือทางเทคนิคบทเรยี นหรือหลักนิยม ทางยุทธวิธีซึ่งเป็นเร่ืองที่หน่วยต่าง ๆ จะต้องยึดถือเป็นหลักปฏิบัติเป็นการประจำหรือแผนการปฏิบัติซ่ึงไม่มี ความสำคัญทางยุทธวิธี เช่น ความถี่วิทยุส่ือสาร สัญญาณบอกฝ่ายและพิสูจน์ฝ่ายตลอดจนรายการที่ต้ังสถานี วทิ ยสุ อ่ื สาร - เคร่ืองมือรวมท้ังเอกสารที่เก่ียวกับการรักษาความปลอดภัยทางการส่ือสาร เอกสารคมู่ ือทางเทคนคิ ทีใ่ ช้สำหรับการซ่อมบำรุง - การฝึกการตรวจสอบอาวุธยุทธภณั ฑ์ชนดิ ใหมท่ ่ีใช่ในการรบ - หลักนิยมทางยุทธการและยุทธวิธีรวมท้ังบทเรียนทางยุทธวิธีท่ัวไปซ่ึงได้มาจาก การปฏบิ ัติการ - การเคล่อื นยา้ ยหน่วยทางธุรการ - ความลบั เกยี่ วกบั การออกแบบการพัฒนาอาวุธยทุ ธภณั ฑ์ชนิดใหม่หรอื วสั ดุอน่ื ทีม่ ี ความสำคัญไม่ถงึ ชน้ั ลบั มาก - ผลการวิจัยหรือกรรมวิธีการผลิตบางประเภทที่ต้องให้ความคุ้มครองในด้าน การรกั ษาความปลอดภยั ทางอุตสาหกรรม - รายชื่อบุคคลที่ได้ทราบหรือได้ดำเนินการหรือได้รับการอบรมหรือได้เข้าร่วม ประชมุ เกีย่ วกบั เร่อื งท่เี ป็นความลับ - การสืบสวนประวัติและพฤติการณ์บุคคลเพ่ือวัตถุประสงค์ในการมอบความ

ไว้วางใจ - เอกสารท่ีเกี่ยวกับการจัดทำ การคัดเลือก การสอบ การบรรจุ การแต่งต้ัง การเล่ือนหรือลดตำแหน่ง การเล่ือนช้ันหรืออันดับเงินเดือน การโยกย้าย ปลดหรือพิจารณาทัณฑ์บุคคลซ่ึงถ้า เปดิ เผยก่อนเวลาอันสมควรจะเกดิ ความเสยี หายตอ่ ทางราชการ - ทำเนียบข้าราชการทจ่ี ำเปน็ ต้องสงวนเปน็ ความลับ - ข้อมูลหรือรายการบางอย่างซ่ึงแต่ละเรื่องจัดอยู่ในชั้นปกปิดหรือที่ไม่กำหนด ช้ันความลบั เลย แต่เมือ่ ประมวลกันเข้าแล้วเกิดความสำคัญเขา้ ชัน้ ลบั - แผนวิศวกรรมท่ีต้องการปกปิดพร้อมท้ังรายละเอียดเก่ียวกับแผนแบบรายการ คำนวณวธิ กี อ่ สรา้ งและตดิ ตั้งตลอดจนประโยชนท์ ี่ใช้สำหรับวสั ดหุ รอื ส่ิงกอ่ สรา้ ง ๔) เม่ือสั่งให้เป็นข้อมูลข่าวสารลับแล้ว ต้องให้เหตุผลประกอบช้ันความลับโดยให้สอดคล้องกับ มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ ของ พ.ร.บ.ขอ้ มูลข่าวสารฯ ด้วย ๕) ต้องแสดงซ่ือหน่วยงานเจ้าของเร่ือง คุมจำนวนชุด คุมจำนวนหน้า ไว้ที่มุมขวาของเอกสารทุก หน้า ๖) ต้องบันทึกการจัดทำและแจกจ่ายในทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับแยกออกเอกสารปกติตาม ระเบียบงานสารบรรณ ได้แก่ ทะเบียนรับ (ทขล.๑) ทะเบียนส่ง (ทขล.๒) และทะเบียนควบคุมข้อมูล ข่าวสารลบั (ทขล.๓) ๗) ต้องบันทึกจำนวนการจัดทำขนึ้ ท้งั หมดใน ทขล.๓ ๘) ต้องแต่งต้ังนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ จำนวน ๑ คน และผู้ช่วยนายทะเบียนข้อมูล ข่าวสารลับอย่างน้อย ๑ คน ประจำหน่วยงานสารบรรณกลางหรือกองกลางและในหน่วยงานย่อยทุกหน่วย การรบั -สง่ ข้อมลู ขา่ วสารลับต้องกระทำผา่ นนายทะเบยี นฯ หรอื ผู้ชว่ ยนายทะเบยี นฯ เท่านนั้ ๙) การส่งข้อมูลข่าวสารลับภายในหน่วยงานเดียวกัน ต้องใช้ใบปิดทับเอกสารตาม ช้ันความลับ ตามแบบท่ีกำหนด กรณีส่งออกนอกหน่วยต้องจัดส่งโดยเจ้าหน้าที่นำสารบรรจุซองทึบแสง ๒ ชั้นแสดงช้ัน ความลับบนซองช้ันใน ซองชั้นนอกไม่ต้องแสดงชั้นความลับนายทะเบียนฯ หรือผู้ช่วยฯ ลงลายมือซื่อ ๒ แห่ง ทรี่ อยปิดผนกึ ซองชน้ั นอก ด้านซา้ ย/ขวาของจุดกง่ึ กลาง การจัดสง่ จดหมายและพสั ดุสง่ ใหแ้ ก่บคุ คลสำคญั มี ๒ ทาง ๑. สง่ ทางจดหมายและพสั ดุผา่ นบุรุษไปรษณยี ์ -สำหรับวธิ ีการทำให้จดหมายหรอื หอ่ พัสดุภัณฑ์ทางไปรษณียเ์ กิดระเบิดข้นึ นนั้ มหี ลายแบบ เช่น ในลักษณะท่ีต้องกด บีบ ดัน ดึง ฉีก ต้องถูกกระทบหรือเสียดสีกับวัสดุบางอย่างหรือเกิดจากการห่อของ โดยใช้กระดาษตะกั่ว ๒ ช้ันแยกออกจากกัน โดยมีกระดาษสอดอยูร่ ะหวา่ งกลางเม่อื กรรไกรตดั ผ่านแผ่นเหลา่ น้ี จะไปสัมผสั กับตะก่วั ทำใหค้ รบวงจรเกิดระเบิด เปน็ ตน้ ๒. ส่งด้วยตนเองหรือให้ผู้ อื่นนำส่งให้ โดยการแอบนำไปซุกซ่อนในสถานที่ต่าง ๆ

โดยผกู้ อ่ การร้ายเป็นผูว้ างดว้ ยตนเอง หรือใหบ้ ุคคลท่สี ามกระทำ การส่งด้วยตนเอง หรือให้ผู้อื่นนำไปส่งอาจจะใช้วิธีท่ีสลับซับช้อนกว่า เช่น ติดระเบิดเวลา ใช้ระบบความดัน ระบบคว่ำหรือเอียง ระบบเคลื่อนที่หรือแยกช้ิน การระเบิดบนเคร่ืองบินโดยใช้การควบคุม อุณหภมู ิหรือบารอมเิ ตอร์ การคน้ กรรมวธิ ีในการทำใหว้ ัตถุระเบิดอาจจะเขา้ ใจว่าเม่ือตัดฉนวนระเบิดแลว้ จะปลอดภัย แตก่ ลับกลายเปน็ ว่าตัดฉนวนนั้นทำให้วตั ถุระเบดิ เร่มิ ทำงาน ในอนาคตจะมีวิธีการทำให้เกิดระเบิดรูปแบบใหม่ ๆ ตามความก้าวไกลของเทคโนโลยี เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัย จำเป็นต้องทราบและทันกับเทคโนโลยี เพื่อลดความสูญเสียต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึน ในการดำเนินการต่อจดหมาย หรือหีบห่อท่ีน่าสงลัย ถ้าได้รับหรือพบจดหมายหรือกล่องหีบห่อท่ีนำสงลัยตาม กฎทว่ั ๆ ไป ควรละทิ้งไวเ้ ชน่ เดมิ แล้วตดิ ตอ่ บุคคลทีม่ ีหน้าทใี่ นการตรวจเชค็ มาดำเนินการต่อไป ๑๐) กรณีส่งออกนอกหน่วยให้แนบใบตอบรับไปด้วย เมื่อหน่วยรับไต้รับเอกสารแล้วให้รีบส่งคืน กลับใหเ้ จา้ ของเรื่องเกบ็ ใบตอบรบั นีไ้ วจ้ นกว่าจะได้รับเอกสารคนื หรือเม่ือปรากฏการเปลย่ี นแปลงใด ๆ เกิดข้ึน ๑๑) การส่งข้อมูลข่าวสารลับไปต่างประเทศผ่านทางถุงเมล์การทูตหรือเจ้าหน้าที่การทูตถือไปเอง หรอื ส่งทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ๑๒) ต้องเกบ็ ข้อมูลขา่ วสารลับไว้ในท่ปี ลอดภัย ๑๓) ต้องตรวจสอบขอ้ มูลข่าวสารลบั ทุก ๖ เดือนเปน็ อย่างนอ้ ยโดยมีวตั ถุประสงค์ - ความมีอย่จู รงิ - ความถูกต้องในการปฏบิ ัติ - กรณีหมดความจำเป็นใช้ประโยชน์ให้ขออนุมัติทำลายส่งคืนเจ้าของเรื่องหรือส่งให้สำนักหอ จดหมายเหตุ กรมศิลปากร แล้วแตก่ รณี ๑๔) ตอ้ งจัดทำแผนปฏิบัตใิ นเวลาฉุกเฉิน ประกอบดว้ ย แผนเคล่อื นยา้ ย เก็บรักษาและทำลาย ๑๕) การทำลายข้อมูลข่าวสารลับ ต้องขออนมัติหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผู้ใด้รับอำนาจจาก หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ จัดส่งรายการข้อมูลข่าวสารลับที่จะทำลายให้สำนักหอจดหมายเหตุพิจารณาเก็บไว้ เป็นเอกสารประวัตศิ าสตร์ รายการใดที่สำนักหอจดหมายต้องการ ให้ยกเลกิ ชน้ั ความลับก่อนสง่ ไป สว่ นที่เหลือ ใหด้ ำเนินการทำลายในรปู คณะกรรมการ บนั ทึกในแบบ ทขล.๓ และแบบทำลาย (เก็บรักษาไว้ ๑ ปี) ๑๖) หน่วยงานสามารถกำหนดวิธีปฏิบัติเพ่มิ เติมได้กรณีท่ีมีความยุ่งยากโดยไม่เหมาะสมก็สามารถ กำหนดวิธีปฏิบัติเองได้แต่ต้องมีประสิทธิภาพเท่ากันหรือดีกว่าโดยออกเป็นระเบียบภายในประกาศหรือคำส่ัง โดยหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผทู้ ี่ไดร้ ับมอบอำนาจอยา่ งไรกด็ หี ากเกิดความเสียหายข้ึนผู้ที่ต้องรับผดิ ชอบคือ หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐ

๑. ผู้มีอำนาจหนา้ ท่ีความรบั ผดิ ชอบ ระเบียบทั้งสอบฉบับได้กำหนดตัวผู้มีอำนาจหน้าท่ีรับผิดชอบการปฏิบัติไว้โดยแน่ชัด คือ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ แต่สามารถมอบอำนาจได้แต่ก็ไม่พ้นความรับผิดชอบไปได้ตามหลักการมอบ อำนาจ หากเกิดความเสยี หายขึ้น ทงั้ น้สี าระสำคญั ของแตล่ ะฉบับกำหนดไว้ ดังน้ี ๑.๑ ระเบียบว่าดว้ ยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔ ขอ้ ๗ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ มีหนา้ ท่ีรกั ษาข้อมลข่าวสารลับในหน่วยงานของตน และอาจมอบหมายหน้าท่ีดังกล่าวได้ตามความจำเป็น ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือแก่ราชการส่วนภูมิภาคกรณีท่ี สามารถมอบอำนาจไดต้ ามกฎหมาย ผมู้ หี น้าท่ีตามวรรคหนึ่ง ต้องรักษาขอ้ มูลข่าวสารลับให้ปลอดภัย การใหบ้ ุคคลใดเขา้ ถึง ขอ้ มูลขา่ วสารลับหรือการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารลับแกผ่ ู้ใดตอ้ งกระทำโดยระมัดระวัง ในกรณีจำเป็นให้กำหนด เง่ือนไขในการปฏิบัติให้เหมาะสมแก่กรณีโดยคำนึงถึงการรักษาความลับและประสิทธิภาพในการดำเนินการ ตามระเบียบน้ี ๑.๒ ระเบยี บสำนกั นายกรัฐมนตรวี ่าดว้ ยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาตพิ .ศ.๒๕๕๒ ข้อ ๘ ให้หัวหน้าหน่วยงานรฐั มีหน้าท่ีในการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานของตน ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐ ได้มอบหมายหรือทำสัญญาจ้างให้เอกซนดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดซ่ึงเก่ียวข้อง กับการรักษาความปลอดภัยให้ผ้ไู ดร้ ับมอบหมายหรอื ผูเ้ ป็นคู่สัญญาซ่ึงเป็นเอกชนดังกล่าวมหี นา้ ทตี่ ้องปฏิบัติใน การรักษาความปลอดภัยแห่งชาตติ ามระเบยี บน้ดี ้วย ข้อ ๑๒ เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยเกิดประสิทธิผลให้องค์การรักษาความ ปลอดภัยทุกฝา่ ยประสานการปฏิบัติและประชุมรว่ มกันเพ่ือดำเนินการจัดให้มีหลักเกณฑ์วิธกี ารและคำแนะนำ การปฏบิ ัติตามระเบียบนี้ รวมท้ังการอบรมบคุ คลท่เี กย่ี วข้องตามความจำเป็น -ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐนำหลกั เกณฑ์ วิธีการ และคำแนะนำไปวางแผนกำหนดวธิ ี ปฏิบัติ โดยประสานมาตรการรักษาความปลอดภัยและมาตรการท่ีเก่ียวข้องเข้าด้วยกันพร้อมท้ังสอดล่องและ ตรวจสอบมาตรการที่กำหนดไว้ตามระยะเวลาท่ีระบุไว้ในแผน ทั้งน้ีวิธีปฏิบัติที่กำหนดนั้นจะต้องไม่เป็น อปุ สรรคตอ่ การปฏบิ ตั ิหน้าท่ีตามปกตแิ ละต้องคำนึงถึงประโยชนข์ องทางราชการเปน็ สำคัญ -ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ังเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัยและ เจ้าหน้าทผี่ ชู้ ่วยไดต้ ามความจำเปน็ -ใหห้ ัวหนา้ หน่วยงานของรฐั มหี นา้ รับผดิ ชอบการจดั อบรมให้เจา้ หน้าท่ีของรัฐได้ทราบ โดยละเอียดถึงความจำเป็นและมาตรการของการรักษาความปลอดภัยและต้องจัดให้มีการอบรมเพ่ิมเติมโดย อย่ภู ายใต้การควบคมุ ของเจา้ หน้าท่คี วบคมุ การรักษาความปลอดภยั หรอื ผูบ้ ังคบั บญั ชาตามโอกาสอันสมควร

การรักษาความปลอดภัยเอกสารของบคุ คลสำคัญ จดหมายหรอื หีบห่อพัสดุท่ีส่งถึงบคุ คลสำคัญจะต้องถูกนำไปเก็บไวัที่ห้องตรวจสอบซง่ึ อยู่ห่างจาก ท่ีพักอาศัยหรือที่ทำงานของบุคคลสำคัญ ทั้งน้ีเพื่อความปลอดภัยหากส่ิงของเหล่าน้ันอาจมีวัตถุระเบิดซ่อนอยู่ ชา้ งใน ปัจจบุ ันมีเครื่องมืออเิ ลก็ ทรอนิกสส์ ำหรับตรวจจดหมายและพัสดุไปรษณีย์ เช่น เคร่ืองเอกซเรย์ฟ ลูโอโรสโคป เป็นต้น เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยควรจะต้องมีไว้เพ่ือความสะดวกและรวดเร็วในการ ตรวจสอบหีบห่อพัสดุและจดหมาย ลักษณะของจดหมายและหีบห่อพัสดุไปรษณีย์ท่ีนำสงสัยว่าจะมีระเบิดอยู่ ช้างใน เชน่ -ไม่มชี ่ือและที่อย่ขู องผ้สู ่ง -สะกดซื่อ ทีอ่ ยู่ ตำแหนง่ ของ ผู้รบั ผดิ พลาด -สว่ นมากจ่าหนา้ ซองด้วยตวั พิมพ์ดีด -มนี ้ำหนักมากกว่าจดหมายธรรมดาท่มี ีความหนาเท่ากนั และห้ามพับซอง -มีชน้ั ความลบั ตามขอบซองจดหมาย -มีเส้นลวดหรอื เชือกตดิ ตรงึ อยู่ -มีคราบนั้ามนั ปรากฏอยู่บนซองจดหมาย -มกี ลิ่นคลา้ ยน้ำมันก๊าดออกมาจากภายใน (กลิน่ ของกลีเซอรีน ซึ่งเป็นส่วนผสมของวตั ถรุ ะเบิด) -ปดิ แสตมป์ในตำแหน่งที่ผดิ ปกติเพ่อื ปกปดิ รอ่ งรอยการดึง สลักนริ ภยั ขอ้ มูลขา่ วสารที่ไมต่ อ้ งเปิดเผย มาตรา ๑๔ ข้อมูลข่าวสารของราชการท่ีอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะเปดิ เผยมิได้ มาตรา ๑๕ ข้อมูลข่าวสารของราชการทีม่ ีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังตอ่ ไปน้ี หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าทข่ี องรฐั อาจมีคำส่ังมิให้เปิดเผยก็ได้ โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าท่ีตามกฎหมายของหนว่ ยงานของ รฐั ประโยชนส์ าธารณะและประโยชน์ของเอกชนท่เี ก่ยี วข้องประกอบกัน (๑) การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความม่ันคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศหรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจหรือการคลงั ของประเทศ (๒) การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตาม วตั ถปุ ระสงค์ได้ไม่ว่าจะเก่ียวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบหรอื การรู้ แหลง่ ท่มี าของขอ้ มลู ขา่ วสารหรือไมก่ ็ตาม (๓) ความเห็นหรือคำแนะนำภายในหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการเร่ืองหน่ึงเร่ืองใดแต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงรายงานทางวิชาการรายงานข้อมูลเท็จจริงหรือข้อมูลข่าวสารที่นำมาใช้ในการทำความเห็นหรือ

คำแนะนำภายในดังกลา่ ว (๔) การเปดิ เผยจะกอ่ ใหเ้ กิดอันตรายต่อชวี ติ หรอื ความปลอดภยั ของบุคคลหน่ึงบุคคลใด ๕) รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ําสิทธิส่วน บคุ คลโดยไม่สมควร (๖) ข้อมูลข่าวสารของราชการท่ีมีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปิดเผยหรือข้อมูลข่าวสารที่มีผู้ให้มา โดยไม่ประสงคใ์ ห้ทางราชการนำไปเปดิ เผยตอ่ ผ้อู น่ื (๗) กรณอี ื่นตามทก่ี ำหนดในพระราชกฤษฎกี า คำส่ังมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ แต่ต้องระบุไว้ ด้วยว่าที่เปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใดและเพราะเหตุใดและให้ถือว่าการมีคำส่ังเปิดเผย ข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นดุลพินิจ โดยเฉพาะของเจ้าหน้าท่ีของรัฐตามลำดับสายการบังคับบัญชาแต่ผู้ขอ อาจอุทธรณต์ อ่ คณะกรรมการวนิ ิจฉยั การเปิดเผยขอ้ มลู ขา่ วสารได้ตามที่กำหนดในพระราชบญั ญัตินี้

แบบฝึกหดั ๑. จงอธิบายเอกสารชัน้ ความลบั “ลบั ที่สดุ ”ตามพรบ.การรักษาความลับเปน็ เอกสารลักษณะใด พร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ เอกสารอา้ งอิง กองบญั ชาการศกึ ษา, สํานกั งานตํารวจแห่งชาต.ิ (๒๕๖๑), ตำราเรียนนกั เรยี นนายสบิ ,วิชา ปป. (CP) ๒๑๔๐๓ การรกั ษาความปลอดภัย.กรุงเทพ:โรงพมิ ตำรวจ กองบญั ชาการศกึ ษา, สํานักงานตาํ รวจแหง่ ชาต.ิ (๒๕๖๒), ตำราเรยี นนกั เรยี นนายสบิ ,วชิ า ปป. (CP) ๒๑๔๐๓ การรกั ษาความปลอดภยั .กรุงเทพ:โรงพมิ ตำรวจ ประกาศสำนกั นายกรัฐมนตรี. เรอ่ื ง การรักษาความปลอดภัยแหง่ ชาติ.พุทธศักราช ๒๕๕๒. (๒๕๕๒, ๑๓ มีนาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๑๒๖ตอนท่ีตอนพิเศษ ๓๙ ง ประกาศสำนกั นายกรฐั มนตรี เร่ือง ว่าด้วยการรกั ษา ความปลอดภัยแหง่ ชาติ(ฉบบั ๒).พุทธศักราช ๒๕๕๔. (๒๕๕๔, ๑๗ มิถุนายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี พิเศษ ๖๗ ง . สำนักนายกรฐั มนตรี การรักษาความปลอดภยั เอกสาร: การรักษาความปลอดภัยฝา่ ยพลเรอื น. สำนักขา่ วกรองแห่งชาต.ิ ส่วนวชิ าการ รปภ.ส.๑๐.(๒๕๖๐).มาตราฐานการรักษาความปลอดภัยหน่วยงาน ของรัฐฝา่ ยพลเรือน.สำนกั ขา่ งกรองแห่งชาต.ิ สบื คน้ จากhttps://www.secnia.go.th/download/ มาตราฐานการ-รปภ. พระราชบญั ญตั ิข้อมูลขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ระเบยี บสำนักนายกรัฐมนตรี. ว่าด้วยการรักษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ.2544.( 2544. 5 กุมภาพันธ์) .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook