5.2.2 บัตรกำกับยานพาหนะของบุคคลที่เข้ามาปฏิบัติงานช่ัวคราวและผู้มาติดตอ่ เป็น บัตรกำกับยานพาหนะชั่วคราว ควรมีขนาดใหญ่ เพื่อให้เห็นได้ชัดเจน โดยยามรักษาการจะนำมาติดให้ท่ี กระจกด้านหน้า หลังจากได้ติดต่อแจ้งความประสงค์และดำเนินการตามระเบียบ เพื่อขอเข้ามาติดต่อในพื้นท่ี แล้ว เม่ือเสร็จส้ินการติดต่อและจะออกจากพ้ืนที่จึงมาส่งคืน จัดยามรกั ษาการณ์ประจำช่องทาง เข้า-ออก อยา่ งนอ้ ยแห่งละ 2 นาย เพือ่ ทำหนา้ ที่ 5.2.3 ควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ สำหรับยานพาหนะของส่วนราชการอ่ืน หรือของบุคคลภายนอก ที่จะเข้ามาในบริเวณ หน่วยงาน ถ้าไม่มีบัตรกำกับยานพาหนะติดอยู่ ให้ ย า ม รั ก ษ า ก า ร ณ์ แ จ้ ง ข อ ให้ น ำ บั ต ร ป ร ะ จ ำ ตั ว ข อ ง ผู้ ม า ติ ด ต่ อ แ ล ก บั ต ร ก ำ กั บ ย า น พ า ห น ะ ชั่ ว ค ร า ว โดยยามรักษาการณ์ติดบัตรกำกบั ยานพาหนะชั่วคราวไว้ที่กระจกดา้ นหนา้ ยานพาหนะของผู้มาติดตอ่ ก่อน เข้า จอดพกั ในบรเิ วณทก่ี ำหนดไว้ให้ 5.2.4 เม่ือยานพาหนะท่ีไม่มีบัตรกำกับยานพาหนะหรือมีพฤติการณ์เป็นท่ีน่าสงสัย ให้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือยามรักษาการณ์มีอำนาจสอบถาม ตรวจตราหรือดำเนินการไปได้ตามควร แก่กรณี และแจ้งให้เจ้าหนา้ ท่ีควบคมุ การรกั ษาความปลอดภัยทราบ – การติดบัตรกำกับยานพาหนะ จะช่วยให้ยามรักษาการณ์ท่ีประตูทาง เขา้ -ออก สามารถสังเกตเห็นและแยกประเภทของยานพาหนะท่เี ขา้ -ออกพืน้ ท่ีได้สะดวกข้นึ – ช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและยามรักษาการณ์ตรวจตรา ยานพาหนะท่ีรกุ ล้ำเข้าไปในพ้นื ท่ีควบคมุ ไดง้ ่ายข้นึ 6.การป้องกนั และระงับอัคคภี ัย เพ่ือให้การปฏิบัติเมื่อเกิดอัคคีภัยดำเนินไปด้วยความถูกต้องรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ จึงควรกำหนดการปฏิบัติไว้ล่วงหน้าเป็นแผนการระงบั อัคคีภัยของหน่วยงาน เพื่อให้เจ้าหน้าท่ีในหน่วยงานได้ ทราบหน้าที่ของตน และสามารถปฏิบัติไดท้ นั ทเี ม่อื เกดิ อัคคภี ัยขน้ึ แผนการระงับอัคคีภัยของหน่วยงาน ควรกำหนดเรื่องสำคัญท่ีจะต้องปฏิบัติไว้ตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้ ๖.๑ ต้องระบหุ นา้ ที่และความมงุ่ หมายในการระงับอคั คภี ยั ไว้อย่างชดั เจนเขา้ ใจไดง้ ่าย เช่น - ข้อปฏิบัติในการระงับอัคคีภัยข้ันต้นและการขนย้ายสิ่งท่ีเป็นความลับของทาง ราชการ หรอื ทรัพย์สนิ มีคา่ ของทางราชการให้พ้นจากเปลวเพลงิ - การระงับหรือสกัดก้ันมิให้เปลวเพลิงลุกลามไปยังพ้ืนท่ีสำคัญอื่น ๆ จนกว่าหน่วย ดบั เพลิงจะมาช่วยเหลือ - การสำรวจความเสียหายและค้นหาสาเหตุการเกดิ อัคคีภยั เป็นตน้ ๖.๒ ต้องกำหนดขอบเขตและพื้นที่ปฏิบัติการในการระงับอัคคีภัยไว้เป็นสัดส่วนตาม ความ รับผิดขอบของแต่ละหน่วยงาน โดยปกติจะทำเป็นแผนผังอาคารประกอบแผนการระงับอัคคีภัย การใช้แหล่งน้ำ เส้นทางขนย้ายส่ิงท่ีเป็นความลับของทางราชการหรือทรัพย์สินมคี ่าของหน่วยงานจัดลำดับใน การขนย้ายสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการหรือทรัพย์สินมีค่า บันไดหรือทางออกฉุกเฉินเพ่ืออพยพ หนีไฟและเพ่ือขนย้าย สถานท่ีสำหรับจัดเก็บส่ิงที่เป็นความลับของทางราชการและทรัพย์สินมีค่าหลังการ เคล่อื นยา้ ย การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบ้อื งต้น ฯลฯ อัคคีภัยโดยท่ัวไปของสว่ นรวมกำกบั อกี ขั้นหนงึ่ โดยผู้อำนวยการเหตกุ ารณ์ของส่วนรวมจะ ประสาน การปฏิบัติของส่วนงานหรือหน่วยย่อย เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการดับเพลิงและอพยพ เคล่ือนย้าย รวมทง้ั ป้องกนั ความสบั สนหรอื ขัดวางซ่ึงกันและกัน
๖.๓ จะต้องระบุตำแหน่งและหน้าท่ีผู้อำนวยการเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขั้นต้น เจ้าหน้าที่ขนย้าย และควบคุมส่ิงท่ีเป็นความลับของทางราชการและทรัพย์สินมีค่าของส่วนงานหรือหน่วย ราชการไว้อย่างชัดเจนตามจำนวนท่จี ำเปน็ ทง้ั ในและนอกเวลาราชการ โดยปกติผู้อำนวยการเหตุการณ์ในเวลาราชการมักจะเป็นหัวหน้าหน่วยงานของรัฐนั้น หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัย สำหรับนอกเวลาราชการมักจะกำหนดให้เป็นหน้าที่ของ เจา้ หน้าท่เี วรรกั ษาความปลอดภยั ประจำวัน ๖.๔ ต้องระบุเรอื่ งการทำเครอ่ื งหมายแสดงลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนไว้ท่ภี าชนะ บรรจุส่ิงที่เป็นความลบั ของทางราชการหรือทรัพย์สินอันมีค่าของส่วนงานหรือหน่วยราชการเพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการขนย้าย การแสดงที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยดับเพลิงท่ีอยู่ใกล้ท่ีสุด ตลอดจน ช่องทางการติดต่อล่ือสารท่ีอยู่ของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัย ผู้บังคับบัญชาท่ีเก่ียวข้องไว้ ณ ท่ีต้ังโทรศัพท์ทุกแห่งภายในหน่วยงาน เพื่อแจ้งเหตุเพื่อติดต่อให้อำนวยการ เหตุการณ์ในวันหยุดราชการหรอื นอกเวลาราชการ การแสดงที่เก็บเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ทุกชนิดในการดับเพลิงและเครื่ องหมาย บอกทางออก ฉุกเฉนิ หรอื บนั ใดเพ่อื อพยพหนีไฟหรือการขนย้ายไวในท่ที ี่เหน็ ไดเ้ ดน่ ชัด ๖.๕ ต้องกำหนดและจำแนกขั้นตอนในการปฏิบัติไวต้ ามลำดับ เช่น เมื่อเกดิ เพลิงไหม้ขึ้นทั้ง ในและนอกเวลาราชการ ผู้อำนวยการเหตุการณ์จะต้องส่ังการและระดมกำลังทั้งหมดเข้าทำการดับเพลิงใน ข้นั ต้น พรอ้ มกับส่งสญั ญาณแจง้ เหตเุ พลงิ ไหม้ให้ภายในหนว่ ยทราบทันที หากพิจารณาเห็นว่าเพลิงที่เกิดขึ้นจะลุกลามต่อไปไมส่ ามารถจะดับไดด้ ้วยกำลังเจ้าหนา้ ที่ ทม่ี อี ยู่ ให้รีบติดต่อส่งสัญญาณแจง้ เหตุเพลิงไหม้ให้หน่วยดบั เพลิงภายนอกท่ีอยูใ่ กล้ที่สุดทราบโดยเร็วพร้อมกับ แบ่งกำลังบางส่วนที่กำหนดไว้ทำการขนย้ายส่ิงที่เป็นความลับของทางราชการและทรัพย์สินมีค่าให้พ้นจาก เพลิงไหมต้ ามแผน ต่ อ จ า ก นั้ น ใ ห้ รี บ ร า ย ง า น ห รื อ แ จ้ ง เห ตุ เพ ลิ ง ไห ม้ ให้ หั ว ห น้ า ห น่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ แ ล ะ ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับแล้วอำนวยการดับเพลิงและการขนย้ายต่อไปจนกว่าเพลิงจะสงบหรือจนกว่า หน่วยดับเพลิงจะมาช่วยเหลอื เม่ือเพลิงสงบแล้วถ้ามีผู้บาดเจ็บเนื่องจากเพลิงไหม้ไห้นำส่งไปรับการรักษาพยาบาลโดย ด่วนพร้อมท้ังก้ันเขตบริเวณเพลิงไหม้และห้ามบุคคลผ่านเข้าพร้อมกับแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้องที่ทราบ เพอ่ื สอบสวนหาหลักฐานและสาเหตกุ ารเกิดเพลงิ ไหม้ตามลำดับ ๖.๖ นอกจากนี้ในแผนระงับอัคคีภัยของหน่วยงานหรือหน่วยราชการจะต้องกำหนดให้ มี การให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทของไฟ การซักซ้อมและการทดสอบเจ้าหน้าท่ีทุกฝ่ายตามระยะเวลา เพื่อเสริมสร้างความชำนาญในการดับเพลิง การอพยพเคลอื่ นย้ายบุคคล การขนย้ายส่ิงที่เป็นความลบั ของทาง ราชการและทรัพย์สินมีค่าของทางราชการ รวมทั้งจัดให้มีการสาธิตวิธีช่วยเหลือบุคคลท่ีติดอยู่ในลิฟต์ กรณี กระแสไฟฟา้ ขัดข้องจากเหตุเพลงิ ไหม้และวธิ ขี นย้ายวสั ดจุ ากอาคารสงู ๆ ฯลฯ การซักซ้อมและการทดสอบจะช่วยให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับกำลังเจ้าหน้าที่และระยะเวลา รวมท้ังเคร่ืองมือเครื่องใช้และอปุ กรณ์ท่ีจำเปน็ ในการระงับอัคคีภัยและการขนยา้ ยปญั หาอุปสรรคท่ีอาจเกิดข้ึน สำหรับนำมาปรับปรุงแผนการระงับอัคคภี ัยของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพยิง่ ข้นึ
๖.๗ หัวหน้าส่วนราชการต้องกำหนดแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยโดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุม การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานเป็นผู้กำหนดรายละเอียดและกำกับดูแลให้เป็นไปต ามกฎหมาย เกยี่ วกบั การปอ้ งกนั และระงับอัคคีภยั ในแตล่ ะหนว่ ยงานควรพจิ ารณา ดงั น้ี ๖.๗.1 เจา้ หนา้ ทีด่ ับเพลิงควรกำหนดตัวบุคคลและหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบใหช้ ดั เจน - ในเวลาราชการให้แบ่งกลุ่มเจ้าหน้าท่ีรับผิดชอบด้านต่าง ๆ เช่น กลุ่มท่ีทำหน้าที่ ดับเพลิง กลุ่มที่ทำหน้าท่ีขนย้ายเอกสารและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ กลุ่มที่ทำหน้าที่ค้นหาตรวจตราผู้ท่ีหลงเหลือ ในอาคาร เปน็ ต้น - นอกเวลาราชการ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ รักษาการณห์ รือยามรกั ษาการณ์ประจำวนั ทหี่ นว่ ยงานกำหนดข้นึ เป็นผูร้ ับผดิ ชอบ ๖.๗.2 การจดั เตรียมอปุ กรณใ์ นการดับเพลงิ - สญั ญาณแจง้ เหตุเพลิงไหม้ - เครื่องมือดับเพลิงขั้นต้น เช่น นำ้ ทราย ถงั เชือก ขวาน เป็นตน้ อุปกรณ์ถังเคมี ดับเพลงิ ทีเ่ หมาะสมกับเพลิงไหม้ทุกประเภท - ตำแหน่งท่ีติดต้ังควรอยู่ในตำแหน่งท่ีมองเห็นได้ชัดเจนและสามารถนำไปใช้ได้ สะดวก - ตรวจสอบอปุ กรณท์ ุกชนิดให้อย่ใู นสภาพทใ่ี ชังานได้ - หมายเลขโทรศัพทข์ องหนว่ ยงานตับเพลิงทตี่ ิดต่อไดส้ ะดวก รวดเรว็ ๖.๗.3 การฝึกอบรมเรื่องการดบั เพลิง ให้จัดทำแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยเส้นทางหนีไฟและอบรมให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ในหน่วยงานระมัดระวังป้องกันการเกิดอัคคีภัยซักซ้อมให้มีความรู้ ความชำนาญในการดับเพลิงเบื้องต้นการ หนีไฟตามแผน โดยเจ้าหนา้ ท่คี วรมีความรู้ในเรือ่ งต่าง ๆ ดังน้ี - ประเภทของเพลิงเช่น จากวัสดุธรรมดา น้ำมัน วัตถุเคมี กระแสไฟฟ้าลัดวงจร เปน็ ตน้ - เครอ่ื งมืออุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการดบั เพลงิ ตำแหน่งทตี่ ้งั วิธีการใช้ - การตดิ ตอ่ ส่อื สาร แจ้งเหตุ แผนผังอาคาร เสน้ ทางเคลอ่ื นยา้ ยเส้นทางหนีไฟ - หมายเลขโทรศพั ท์หนว่ ยดบั เพลิง 7. อุปกรณเ์ สริมมาตรการการรักษาความปลอดภยั การติดต้ังอุปกรณ์เสริมมาตรการการรักษาความปลอดภัยหน่วยงานของรัฐควรพิจารณาตาม ความเหมาะสม เชน่ ระบบกลอ้ งโทรทัศน์วงจรปิด ซง่ึ ควรมีผู้รบั ผิดชอบ ในการควบคุม เฝา้ ดูและตรวจสอบให้ อยู่ในสภาพใช้งานไดต้ ลอดเวลา ๗.๑ การใช้โทรทัศน์วงจรปิดควบคุมการผ่านเข้า-ออกหน่วยงานและตรวจตราการเคลื่อนไหว ในพื้นทค่ี วบคุมหรอื บรเิ วณภายนอกที่ต้ังของหน่วยงาน ในปัจจุบันนิยมนำระบบนี้มาใชง้ านแต่ควรพจิ ารณาถึง ขีดความสามารถของระบบและจดุ ทำการติดตงั้ เพราะจะชว่ ยเสริมระบบให้มีประสิทธภิ าพยงิ่ ขน้ึ เช่น ๗.๒ ระบบกล้องโทรทัศน์แบบปรับมุมได้ จะทำให้เห็นภาพเป็นมุมกว้างดีกว่าระบบตัวกล้อง คงทเ่ี พราะเห็นภาพได้เฉพาะจดุ ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับงบประมาณการจัดซ้ือและบำรงุ รักษา ๗.๓ จดุ ติดตงั้ ควรอยใู่ นจุดกำบัง เพือ่ ให้สังเกตเห็นไดย้ ากและป้องกันการทำลาย ๗.๔ การติดต้ังไม่ควรดำเนินการอย่างเปิดเผยเพราะหากเป็นที่รับทราบหรือสังเกตเห็นได้แล้ว คนรา้ ยจะหาทางหลบซ่อนหรอื หลกี เลี่ยงให้พน้ จากรัศมีทางจบั ภาพ
๔.ขอ้ ควรพจิ ารณาในการสำรวจหรอื ตรวจสอบ ๔.๑. ความสำคัญและสถานะของหน่วยงาน ความสำคัญของภารกิจและความเก่ียวข้องระหว่างหน่วยงานกับผลประโยชน์ แห่งชาตทิ ง้ั ทางดา้ นการเมือง การทหาร เศรษฐกจิ และสังคม 4.๑.1 ลักษณะการใช้งานพ้ืนทภี่ ายในหนว่ ยงาน - เป็นหน่วยงานลักษณะเปิด คือมีพื้นที่สำหรับติดต่อกับบุคคลภายนอกเป็น ประจำ - เป็นหน่วยงานที่มีลักษณะเปิด และกำหนดให้พ้ืนที่บางส่วนเป็นพื้นท่ีควบคุม และหรอื พน้ื ทหี่ วงหา้ ม - เป็นหน่วยงานทีม่ ีท้งั พ้นื ที่ควบคมุ และพืน้ ทหี่ วงห้าม 4.1.2 จำนวนเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัย เคร่ืองมือเคร่ืองใช้และอาวุธ(ถ้ามี) ที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับสถานที่ ตลอดจนแนวทางในการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงาน ของรัฐแหง่ อื่น 4.1.3 การฝึกอบรมและการซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับสถานท่ี การกำหนดผู้รับผิดชอบและแนวทางในการประสานการปฏิบัติตามแผนการรักษาความปลอดภัยสถานท่ีกับ แผนงานอนื่ ๆ ภายในหนว่ ยงาน 4.๒. ลกั ษณะภมู ิประเทศและสภาพแวดลอ้ ม 4.๒.๑ ลักษณะทางธรรมชาติของภูมปิ ระเทศโดยรอบทีต่ ้ังของหน่วยงาน - หน่วยงานต้ังอยู่เป็นเอกเทศ - หนว่ ยงานใชพ้ น้ื ทร่ี ่วมกบั หน่วยงานของรฐั แหง่ อื่น - หนว่ ยงานใช้พ้นื ทีข่ องเอกซน ท้ังน้ี เพื่อประเมินความสามารถของฝ่ายตรงข้ามในการใช้พื้นท่ีบริเวณ ใกล้เคียงเฝ้าตรวจการเคลอื่ นไหวภายในหน่วยงาน 4.๒.๒ การประเมินภยั คกุ คามด้วยการตรวจตราสอดส่องความเคลือ่ นไหวบุคคล หรอื กลุ่มบุคคลท่ีอยู่โดยรอบหรือทอี่ ยู่ในบริเวณใกลเ้ คียงท่ีตั้งหนว่ ยงานที่อาจเป็นภัย เชน่ องค์การ สมาคม สโมสร โรงงาน รา้ นค้า สวนสาธารณะ เป็นตน้ 4.๒.๓ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานกบั มวลชนแวดล้อม เพื่อพิจารณาแนวโน้มท่ี ประซาชนท่ีพักอาศัยในบริเวณใกลเ้ คยี งมีความเคลื่อนไหวหรือแสดงท่าทีน่าสงสัยว่าอาจเป็นภัยแก่ หน่วยงาน ตลอดจนพิจารณาถึงวัฒนธรรมหรือประเพณีของประชาชนในพ้ืนท่ี ปัญหาเร่ืองเช้ือชาติของชนกลุ่มน้อย หรือ ปัญหาขัดแย้งทางด้านทัศนคติและผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มท่ีมีต่อเจ้าหน้าท่ีของทางราชการและรัฐบาล เช่น การนัดหยุดงาน การปลุกระดม การชุมนุมประท้วง การแสดง ประซามติ เป็นตน้ ซ่ึงอาจกลายเป็นชนวน ของความไมส่ งบและลุกลามเป็นอันตรายต่อหนว่ ยงาน 4.๒.๔ ระดับความรุนแรงของการก่อเหตุร้ายในพ้ืนที่ใกล้เคียงและบริเวณโดยรอบ ทตี่ ั้ง ของหนว่ ยงานและวิธีการในการก่อเหตุร้าย
การตรวจสอบการสำรวจส่วนลว่ งหน้าและการตรวจเสร็จส้นิ เปน็ วธิ ีการดำเนนิ การเพอื่ สำรวจตรวจสอบสถานทใี่ นการตรวจค้น ตรวจสอบภายในบรเิ วณพนื้ ที่ โดยรอบเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภัยสงู สุด ๑. การตรวจสอบความปลอดภัยในหอ้ งพัก ๒. ก่อนเข้าห้องที่จะทำการตรวจค้น หัวหน้าชุดจะต้องแบ่งห้องออกเป็นส่วนๆและมอบหมาย ความรับผดิ ชอบให้กับเจา้ หน้าท่ปี ฏิบัตงิ านในแตล่ ะส่วนนน้ั ๓. การปฏบิ ัตทิ ต่ี ้องเริ่มตั้งแต่ประตแู ละเดนิ สำรวจรอบ ๆ ห้อง ๔. ให้แบ่งแต่ละส่วนนั้นออกเป็นส่วนย่อย ๆ อีกครั้งหน่ึงเช่น ส่วนท่ีเหนือหรือต่ำกว่าระดับไหล่ เพดานและพ้ืนห้องอาจจะแบ่งเป็น ๒, ๓ หรือ ๔ ส่วนก็ได้ตามความจำเป็น การทำวิธีน้ีเพ่ือที่จะให้เจ้าหน้าท่ี แต่ละคนได้ตรวจเป็นไปตามลำดบั ขนั้ ตอนและหวั หนา้ ชดุ จะสงั เกตไดง้ ่าย ๕. เมื่อได้ทำการตรวจสอบและพิสูจน์ความปลอดภัยแล้ว เฟอรน์ ิเจอรค์ วรจะพงิ ไว้กบั ข้างฝาหรือ ต้งั กลับหัวเพื่อแสดงใหเ้ ห็นวา่ ไดท้ ำการตรวจแลว้ ๖. ตรวจสอบเท้าแขน ท่ีนั่ง พนักพิง ฯลฯ ของเฟอร์นิเจอร์ทุกช้ินการตรวจนี้ไม่เพียงตรวจวัตถุ ระเบดิ หรอื เครื่องดกั ฟง้ ทางเสียงเทา่ น้นั แตจ่ ะต้องตรวจสง่ิ ท่เี ปน็ เข็มทแี่ ทงทะลเุ คร่ืองเรือนหรือสปรงิ ทีเ่ สียด้วย ๗. สิ่งของทุกอย่างภายในห้องจะตอ้ งทำการเคล่ือนย้ายในระหว่างทำการตรวจค้นเพ่อื ให้แน่ใจว่า ไมม่ ีสายไฟที่นอกเหนอื จากความจำเป็น ฯลฯ ซงึ่ อาจต่อระหว่างเฟอรน์ เิ จอร์กับพื้นห้อง 8. อย่าเคลื่อนย้ายสิ่งของใด ๆ จนกว่าจะได้ตรวจสอบโดยรอบเพ่ือทำเครอื่ งหมายของที่น่าจะมี ปญั หาเสยี กอ่ น ๙. ตรวจค้นสงิ่ ของท่ีน่าจะมปี ญั หา เช่น ๙.๑ ตะเข็บผ้าคลมุ เฟอรน์ เิ จอร์ ลวดสปริง เตยี งนอนหรอื ทนี่ อนมชี ายชำรดุ ๙.๒ มีรอยซ่อมหรอื ทาสีใหม่ทีบ่ ริเวณฝาผนังหรือพ้ืนห้อง ฯลฯ ๙.๓ มเี คร่อื งหมายแสดงว่าได้รบั การซอ่ มแซมหรือมีส่งิ ของทดแทนของเดิม ๙.๔ พน้ื ท่มี ีหลุมหรอื พรมถกู เคล่ือนยา้ ยใหม่ ๙.๕ เฟอรน์ ิเจอรเ์ ปียกชืน้ หรอื มรี อยดา่ งหรอื มกี ล่นิ เหมน็ ๑๐. อยา่ ตรวจข้ามพนื้ ทใี่ ด ๆ ให้ตรวจสอบทุกอย่างท่พี บเหน็ ๑๑. ไฟทุกดวง เคร่ืองปรับอากาศ โทรศัพท์ ฯลฯ ควรจะได้ผ่านการตรวจอย่างถี่ถ้วนและจะตอ้ ง แนใ่ จวา่ เม่อื เปิดสวิทซ์ไฟแลว้ จะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขนึ้ ๑๒. ตะปูตามรอยต่อของขอบประตูหน้าต่างชำรุดหรือไม่ ทำการตรวจสอบและซ่อมทันทีเม่ือ ชำรดุ ๑๓. รอยต่อตามผนังห้องว่าตรวจสอบวิธีการเปิดไฟหรือใช้ตะเกียงเพ่ือทดสอบตามมุมห้องว่ามี แสงไฟลอดหรอื ไม่ ถ้ามแี สดงวา่ มกี ารชำรดุ ซ่ึงการตรวจด้วยวธิ ีนีจ้ ะดีกว่าการตรวจดว้ ยตาเปล่า ๑๔. ถอดแผงไฟต่าง ๆ ออกเพอื่ ตรวจเช็คดา้ นหลัง ๑๕. ตรวจสอบผ้าขนสัตวใ์ นโซฟาโดยใช้นิ้วมอื กดตามส่วนต่าง ๆ ๑๖. ตรวจสอบเครื่องตกแต่ง ผ้าม่าน โดยใช้ปลายน้ิวกดเบา ๆ และดึงออกจากผนังแล้วตรวจ ด้านหลัง ๑๗. เปิดลน้ิ ชักและประตูท้ังหมดโดยบางกรณีอาจเปิดลิน้ ชักด้วยเชือกซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ ๑๘. ตรวจสอบรูปถา่ ยและกรอบรปู เพ่ือหาช่องหรอื รตู า่ ง ๆ ทั้งหมด ๑๙. เพอื่ ความสะดวกสบายอาจใช้เคร่อื งตรวจค้นโลหะสำหรับเฟอร์นิเจอรแ์ ละฝาผนัง ๒๐. ชอ่ งระบายอากาศ ทางเดินจะตอ้ งตรวจจุดทจี่ ะผา่ นไปประตูห้อง
๒๑. กุญแจและเครื่องกลไกจะตอ้ งตรวจอย่างระมัดระวงั ๒๒. พรมที่ชำรุดแล้วหรือส่ิงใด ๆ ท่ีอาจเป็นอันตรายต่อบุคคลสำคัญได้รับบาดเจ็บได้ควรจะ นำไปไวท้ ่อี ืน่ หรอื ตอ้ งตรวจสอบความปลอดภยั เปน็ อย่างดี ๒๓. ก่อนท่ีจะทำการตรวจในพื้นที่หรือห้องใด ๆ จะต้องยึดถือหลักความปลอดภัยและพยายาม ตรวจค้นว่ามีอะไรที่พอจะอัน ตรายท่ีอาจถึงแก่ชีวิตได้เม่ือ พบให้น ำไป ไว้ที่ท่ีป ลอด ภั ยยสูงสุดของพื้ นท่ีน้ั น ตวั อยา่ งเช่น นำแผน่ ยางไปไว้ท่อี ่างอาบนา้ํ เป็นตน้ ๒๔. การตรวจสอบเครื่องดักฟังทางเสียงถ้าเวลาอำนวยและสถานการณ์บีบบังคับควรต้อง ป้องกันการลักลอบดักฟ้งทางเสียงของฝ่ายตรงข้ามในพื้นท่ีนั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ถ้าบุคคลสำคญั จะตอ้ งพัก อยู่ในพื้นท่ีน้ันในบางเวลาและบางคร้ังจะใช้เป็นท่ีประชุมลับ เจ้าหน้าท่ีเทคนิคจะต้องตรวจเช็คด้วยเครื่องมือ ป้องกันการลอบฟังอย่างละเอียดอย่างไรก็ตามชุดระวังป้องกันควรจะต้องท ำการตรวจอีกคร้ังหนึ่งเพื่อความ แนใ่ จตามภารกิจของตน
แบบฝึกหัด ๑. จงบอกหลักการรักษาความปลอดภัยสถานที่มาพอสังเขป พร้อมทั้ง ยกตัวอย่าง ประกอบคําอธิบาย ๒. ในการการจัดระบบการรักษาความปลอดภยั สถานที่มรี ปู แบบวธิ กี าดำเนนิ การ อย่างไร ๓. ขน้ั ตอนการรักษาความปลอดภัยสถานที่มีวิธกี ารดำเนินการอยา่ งไร ๔. การสำรวจสว่ นลว่ งหนา้ มวี ธิ กี ารดำเนินการอยา่ งไร เอกสารอ้างอิง กองบัญชาการศึกษา,สาํ นกั งานตาํ รวจแห่งชาติ. (๒๕๖๑), ตำราเรียนนกั เรียนนายสิบ,วชิ า ปป. (CP) ๒๑๔๐๓ การรักษาความปลอดภยั .กรุงเทพ:โรงพมิ ตำรวจ กองบญั ชาการศึกษา, สํานักงานตํารวจแหง่ ชาต.ิ (๒๕๖๒), ตำราเรยี นนักเรยี นนายสิบ,วชิ า ปป. (CP) ๒๑๔๐๓ การรักษาความปลอดภยั .กรงุ เทพ:โรงพิมตำรวจ ประกาศสำนักนายกรฐั มนตรี เร่อื งการรักษาความปลอดภัยแหง่ ชาติพุทธศักราช ๒๕๕๒. (๒๕๕๒, ๑๓ มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖ตอนที่ตอนพิเศษ ๓๙ ง ประกาศสำนกั นายกรฐั มนตรี เร่ือง ว่าดว้ ยการรักษา ความปลอดภัยแหง่ ชาต(ิ ฉบบั ๒)พุทธศักราช ๒๕๕๔. (๒๕๕๔, ๑๗ มิถุนายน). ราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ีตอนพิเศษ ๖๗ ง การรักษาความปลอดภยั ฝ่ายพลเรอื น,สำนกั นายกรัฐมนตรี การรักษาความปลอดภยั สถานท:ี่ สำนกั ข่าวกรองแหง่ ชาติ.สว่ นวชิ าการ รปภ.ส.๑๐.(๒๕๖๐).มาตราฐานการรกั ษาความปลอดภยั หนว่ ยงาน ของรฐั ฝ่ายพลเรือน.สำนกั ข่างกรองแหง่ ชาติ.สบื ค้นจากhttps://www.secnia.go.th/download/ มาตราฐานการ-รปภ.
แผนบรหิ ารการสอนประจำบทที่ ๓ หัวข้อเรอื่ ง การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสำคญั รายละเอยี ดของเรือ่ ง ๑. ประเภทของบุคคลสำคัญ ๒. แนวทางการประสานการปฏิบัติในการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคญั ๓. ยทุ ธวิธีการรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญ V.I.P. PROTECTION ๓.๑ การรกั ษาความปลอดภยั ในขณะเดินทางดว้ ยเท้า - รปู แบบการวางกำลัง - การรักษาความปลอดภยั บคุ คลสำคัญเม่ือปราศรัยบนเวที ๓.๒ การรักษาความปลอดภยั ในขณะเดินทางดว้ ยรถยนต์ ๔. การสำรวจสถานทข่ี า้ งตน้ ๕. การตรวจคน้ ๖. สาเหตขุ องการประทษุ ร้าย (Causes of Assassination) - กรรมวธิ ีดำเนนิ การของผู้ประทษุ รา้ ย ชวั่ โมงทสี่ อน ๑๘ ช่วั โมง กิจกรรมการเรยี นการสอน ๑. การนําเข้าสู่บทเรียน ผสู้ อนนําข้อเท็จจริงและขอ้ กฎหมายจากสื่อมวลชนทุกแขนงจากภาพและคลปิ ในรายการ ต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับข้าราชการตํารวจและการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยมาใช้ ประกอบในการนําเข้าสู่บทเรียนและสุ่มให้ผู้เรียนเล่าแสดงคามคิดเห็นจากเหตุการณ์ตัวอย่างพร้อมท้ังให้เล่า ประสบการณ์ของตนเองที่เกี่ยวขอ้ งกับการรกั ษความปลอดภัยของเจ้าหนา้ ที่และใหแ้ สดงความคิดเห็นในฐานะ เป็นเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติทางด้านรักษาความปลอดภัย โดยมีวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึง ขอ้ เท็จจรงิ ต่าง ๆ เพ่อื นํามาปรับเข้ากับหัวขอ้ ในช่วั โมงเรียน ๒. การจดั กิจกรรม ๒.๑ ผู้สอนบรรยายและจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในเน้ือหาแต่ละเรื่องพร้อม ยกตัวอย่างข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องตามท่ีกําหนดไว้ในแผนการสอนเพ่ือให้ผลการสอนเป็นไปตามจุดมุ่งหมายท่ี วางไว้ ๒.๒ ผสู้ อนตั้งปัญหาให้ผู้เรยี นวินิจฉัยเป็นรายบุคคลและส่วนรวมเพ่ือใหร้ ู้จักคิด วิเคราะห์ และวิจารณ์เนื้อหาที่เรียนด้วยการนําเทคนิควิธีการต่าง ๆ เพ่ือให้ผู้เรียนสนใจและติดตามการสอนตลอดเวลา และเช่ือมโยงกับวชิ าอ่ืน ๆ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั เนือ้ หา เพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถบรู ณาการความคิดได้ ๒.๓ ผู้สอนมอบหมายภารกิจให้ผู้เรียนไปเตรียมการสําหรับการเรียนการสอนคร้ัง ต่อไป โดยให้ผเู้ รยี นอ่านคําอธบิ ายระเบียบสำนกั นายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยการรักษาความปลอดภัยแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๔๕๒ หวั ขอ้ การรักษาความปลอดภยั ล่วงหน้า ๒.๔ ผสู้ อนตั้งคําถามเพื่อประเมนิ ความรู้ ด้วยการทําแบบฝึกหัดหลงั เรยี นและสรุปเน้อื หา ที่เรยี นพรอ้ มทง้ั สอดแทรกคุณธรรมจรยิ ธรรมท่ขี า้ ราชการตํารวจควรปฏิบัติ ๒.๕ ผู้สอนแนะนาํ แหลง่ ขอ้ มลู ทจ่ี ะศึกษาค้นคว้าเพิ่มเตมิ ๒.๖ ประเมนิ ความพึงพอใจต่อคณุ ภาพการสอนและสิง่ สนับสนนุ การเรยี นรู้
สอื่ การสอน ๑. เครื่องคอมพวิ เตอร์ โปรเจค็ เตอร์ จอภาพ ทวี ี เครื่องขยายเสียง ๒. คู่มือตาํ รวจ ๓. เอกสารประกอบการสอน ๔. วดิ ทิ ัศน์ทีเ่ กยี่ วข้อง ๕. ภาพประกอบที่เก่ียวข้อง 5. ส่ือนําเสนอในรูปแบบ PowerPoint media ๖. เวบ็ ไซต์ที่เก่ียวขอ้ ง ๗. เอกสารเก่ียวกบั กฎหมาย คาํ ส่ังและระเบียบทีเ่ กยี่ วข้อง แผนการประเมินผลการเรียนรู้ ๑. สมรรถนะหลัก ๑.๑ ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยสามารถวนิ ิจฉยั แยกแยะเปรยี บเทียบและอธบิ ายความรดู้ ังกลา่ วได้ถกู ต้อง ๑.๒ ผู้เรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ สามารถเขา้ ใจและจัดทำแผนได้ถกู ตอ้ ง ๑.๓ ผู้เรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญสามารถ มีความเข้าใจและทำงานได้ถกู ตอ้ ง ๑.๔ ผูเ้ รียนมีทักษะในการนําความรู้ท่ไี ด้เรยี นไปปรับใชใ้ นการปฏิบตั ิหน้าท่ีในส่วนท่ีเกย่ี วขอ้ ง ไดอ้ ย่างถูกต้อง ๒. วิธีการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๒.๑ สังเกตความต้ังใจและความสนใจของผู้เรียน ตอบคําถามและการแสดงความคิดเห็นใน เน้อื หาทเี่ รียน ๒.๒ สงั เกตจากการรับรแู้ ละการใส่ใจต่อบทเรียน ภายในหอ้ งเรยี น ๒.๓ สงั เกตการมสี ่วนร่วมในกิจกรรมทอี่ าจารยม์ อบให้ ๒.๔ ประเมินผลจากการทดสอบในช่วั โมงเรียนเพ่ือเป็นคะแนนเกบ็ ๓. สัดส่วนของการประเมนิ ๓.๑ สงั เกตความต้ังใจและความสนใจของผเู้ รียนที่มาเรียนครบ ๑๐ % ๓.๒ สังเกตการตอบคําถามและการแสดงความคิดเหน็ ๕% ๓.๓ สังเกตการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมที่อาจารยม์ อบหมาย ๕% ๓.๔ ประเมนิ ผลจากรายงานและผลการสอบปลายภาคการศึกษา ๘๐ %
บทท่ี ๓ การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสำคญั 1.ประเภทของบคุ คลสำคัญ การให้ความคุ้มครองแก่บุคคลสำคญั ทกุ ระดบั ช้ันหรือแม้แตก่ ารให้ความคุ้มครองประชาชนโดยทว่ั ไป ถือเปน็ ภารกจิ หนา้ ทหี่ นึ่งของเจ้าหนา้ ทใี่ นการปฏิบตั ิงาน พระมหากษัตริย์ถือเป็นบุคคลสำคัญในระดับสูงสุดของประเทศย่อมมีความสำคัญนับเป็นภารกิจ อันดับแรกของเจ้าหน้าตำรวจในการปฏิบัติหน้าท่ี ดังนั้นการให้ความคุ้มครองเพ่ือให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง ปลอดภัยปราศจากภยนั อตั รายใด ๆ ถือเปน็ หน้าทอ่ี ันสงู สุดของเจา้ หน้าทตี่ ำรวจในการทำงาน กรณีบุคคลสำคัญจะต้องเดินทางในการปฏบิ ัติงานออกจากพื้นที่ ท่ีพักหรือที่ทำงาน เจ้าหน้าท่ีรักษา ความปลอดภัยจะต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของบุคคลมิให้เกิดภยันตรายใด ๆ ข้ึนท้ังในระหว่างเดินทาง การปฏิบัติภารกิจจนกระท่ังการเดินทางกลบั ดังนั้นเพ่ือความแน่ใจจึงจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องสง่ เจา้ หน้าท่ีไปยัง สถานที่ที่บุคคลสำคัญจะไปเป็นการล่วงหน้า เพ่ือดำเนินการทางด้านการรักษาความปลอดภัยและเตรียมการ ในเรอื่ งทจ่ี ำเปน็ อื่น ๆ การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ หมายความถึง มาตรการท้ังปวงท่ีกำหนดขึ้นเพื่อให้ความ คุ้มครองป้องกันแก่บุคคลสำคัญให้พ้นจากอันตรายอันใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการกระทำโดยความจงใจของ ฝ่ายตรงขา้ มหรอื อบุ ัตเิ หตุ ประเภทของบุคคลสำคัญ วิธีพิจารณาเพื่อแยกประเภทบุคคลสำคัญเพ่ือเตรียมความพร้อมในการ ปฏิบตั ิหนา้ ท่จี ะตอ้ งมกี ารนำขอ้ มูลดังตอ่ ไปน้เี พื่อเตรยี มความพร้อม 1) ความสำคัญของบคุ คล 2) ลำดบั ความสำคัญ 3) จำนวนของบคุ คลสำคัญ 4) อันตรายทอี่ าจเกดิ ตอ่ บุคคลสำคญั 5) จดุ ออ่ นของบคุ คลสำคัญ บุคคลสำคัญตามคู่มือนี้ คือ บุคคลท่ีมีความสำคัญยิ่งในทางราชการ ซึ่งต้องให้ความคุ้มครองให้ เหมาะสมกันฐานะ สถานที่ และเวลา อนั ได้แก่ ๑. พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผแู้ ทนพระองศแ์ ละพระราชอาคนั ตุกะ ทมี่ า :https://www.prachachat.net/พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
๒. ประธานองคมนตรี นายกรฐั มนตรี ประธานรฐั สภาและประธานศาลฎกี า ท่มี า : https://news.ch7.com/ ๓. สมเด็จพระสังฆราชและผนู้ ำทางศาสนาอนื่ พ.ค.2562 ท่ีมา : https://www.nationweekend.com/ ๔. ประมุขรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองศ์การสหประ ชาชาติ แขกของรฐั บาลและหัวหน้าคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย พ.ค.2562 ทีม่ า : https://www.thansettakij.com/
5. บุคคลสำคญั ทางทหารตามทกี่ ระทรวงกลาโหมกำหนด ท่ีมา : https://mgronline.com/politics/ 6. บุคคลอ่ืนท่ีเดินทางเยือนประเทศไทยและหัวหนา้ สว่ นราชการทเี่ ก่ียวข้องร้องขอ พ.ค.2562 ทม่ี า : https://www.bluechipthai.com/news-3/เกาหลีร่วมลงทุนในไทย 7. บุคคลสำคญั ตามคำส่งั ของนายกรฐั มนตรี พ.ค.2562 ทม่ี า : https://www.prachachat.net/politics/news พ.ค.2562
8.บุคคลอื่นทม่ี ชี ่อื เสียงและมกี ารรอ้ งขอ ท่มี า : http://www.bodyguardthailandteam.com/tag/การด์ งานอเี วน้ ท์ เกาหลีร่วมลงทุนในไทย พ.ค.2562
2.ความรับผิดชอบของส่วนราชการ ๑. ส่วนราชการเจ้าของเร่ือง รับผิดชอบจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญภายใน ขอบเขตและความเหมาะสมโดยดำเนินการ ดงั น้ี ๑.๑ ขอรับการสนับสนุนการรักษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญต่อส่วนราชการที่มีหน้าท่ีในการ รักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญ ๑.๑.๑ สำนักงานตำรวจสันติบาล สำนกั งานตำรวจแหง่ ชาติ ๑.๑.๒ กรมราชองครักษ์ ๑.๑.๓ ศูนย์รกั ษาความปลอดภยั กองบญั ชาการทหารสงู สดุ ๑.๑.๔ สำนักขา่ วกรองแหง่ ชาติ ๑.๑.๕ ส่วนราชการท่กี ระทรวงกลาโหมกำหนด ๑.๒ จัดเจา้ หน้าท่ปี ระสานงานการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ๑.๓ จัดเตรียมงบประมาณเพือ่ สนับสนุนการปฏิบัติงานของสว่ นราชการท่เี ก่ียวข้อง ๑.๔ ขอความร่วมมือจากบุคคลสำคัญเกี่ยวกับข่าวสารและการปฏิบัติท่ีเป็นประโยชน์ต่อการ รกั ษาความปลอดภัย ๑.๕ ให้การสนบั สนุนอื่น ๆ ทจี่ ำเป็นเมอื่ ได้รับการร้องขอ ๒. ส่วนราชการมีหน้าท่ีในการรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสำคัญรับผิดชอบดำเนินการ ดงั นี้ ๒.๑ รวบรวมและวิเคราะห์ข่าวสารท่ีอาจมีผลกระทบต่อการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยประสานงานกับส่วนราชการทเี่ ก่ยี วข้องในดา้ นการขา่ วกรองท่จี ำเปน็ เพ่ือประเมินภยันตรายท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ๒.๒ จัดทำแผนและกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามความ เหมาะสม ๒.๓ จัดเจ้าหน้าที่ชุดอารักขา อาวุธ ยานพาหนะและส่ิงอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาความ ปลอดภยั บุคคลสำคญั ตามความเหมาะสม ๓. ส่วนราชการเจ้าของพื้นที่ซึ่งให้การต้อนรับบุคคลสำคัญรับผิดชอบดำเนินการรักษาความ ปลอดภัยในเขตพนื้ ที่ที่รบั ผิดชอบ ๔. ให้องค์การรักษาความปลอดภัยช่วยเหลือประสานและอบรมช้ีแจงเก่ียวกับมาตรการ ในการรักษาความปลอดภยั บคุ คลสำคญั แก่สว่ นราชการตามท่ีไดร้ บั การร้องขอ
แนวทางการประสานการปฏิบตั ิในการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ๑. การถวายความปลอดภยั ตามพระราชบญั ญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.๒๕๔๙ ๒. การประสานงานระหว่างส่วนราชการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ต้องให้มี เอกภาพในการบงั คบั บัญชาโดยยดึ หลกั ปฏบิ ตั ดิ ังน้ี ๒.๑ ในกรณีที่มีหลายส่วนราชการที่มีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญร่วมกัน ให้จดั ตั้งกองอำนวยการร่วมในการรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญ โดยให้ผู้อำนวยการรว่ มเปน็ ผู้รับผดิ ชอบมี อำนาจหน้าทบ่ี งั คบั บญั ชาในการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ๒.๒ ในระหวา่ งการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินซึง่ อาจ กระทบต่อบุคคลสำคัญโดยฉับพลันให้หัวหน้าชุดอารักขาบุคคลสำคัญน้ันมีอำนาจส่ังการในการปฏิบัติเพ่ือ แก้ไขสถานการณเ์ ฉพาะส่วนน้ันได้ทันที ๒.๓ ส่วนราชการเจ้าของพ้ืนท่ีซึ่งให้การต้อนรับบุคคลสำคัญประสานการปฏิบัติกับกอง อำนวยการรว่ มอย่างใกลช้ ดิ ๓. ใหส้ ่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญจัดทำรายงานการปฏิบตั ิเม่ือ เสรจ็ สนิ้ การปฏิบตั ิ การถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระรัชทายาทแนว ทางการปฏิบัติของเจ้าหหน้าท่ีตาม พระราชบัญ ญั ติว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสําหรับ องคพ์ ระมหากษตั ริยฯ์ พ.ศ. ๒๕๔๙ พระราชบัญญัตินี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีในการถวายความ ปลอดภัยการเสดจ็ พระราชดำเนินพระราชกรณียกิจไปในพื้นที่ต่าง ๆ ภายในพ้ืนที่และเป็นแนวทางปฏิบัติของ เจา้ หนา้ ทีท่ ี่มีสว่ นเกย่ี วข้องปฏิบัตงิ านได้อยา่ งถูงตอ้ ง เพ่ือให้การรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ เป็นไปโดยรัดกุม และเรียบร้อยย่ิงข้ึน จึงให้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์ พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ พ.ศ. ๒๕๔๙ (ประกาศ ณ วันท่ี ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ) 1.การถวายความปลอดภยั สำหรับสำหรับองคพ์ ระมหากษตั รยิ ์ พระราชินแี ละพระรชั ทายาท - การถวายความปลอดภัย ต้องมีการประสานงานโดยใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าท่ีต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวข้องและมีเอกภาพในการบังคับบัญชา - การถวายความปลอดภัย ต้องมีความพร้อมท้ังการป้องกันและการตอบโต้และการวางแผน ทีร่ ดั กมุ และละเอยี ดรอบคอบ รวมท้ังการถวายพระเกียรติดว้ ย - การเข้าออกเขตพระราชฐานหรือที่ประทับทุกช้ัน ต้องมีการควบคุมดูแลเพื่อให้เกิดความ ปลอดภัยโดยสมบรู ณ์
๒.การวางแผนถวายความปลอดภัย 2.1 ส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าท่ีในการถวายความปลอดภัยต้องวางแผนถวาย ความปลอดภัยโดยละเอียดและชัดเจน ระบตุ ัวและจำนวนเจ้าหน้าทีผ่ ้รู ับผิดชอบตลอดจนมาตรการถวายความ ปลอดภยั แล้วเสนอแผนหรือคำส่ังถวายความปลอดภัยเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสมหุ ราชองครักษ์เพื่อพิจารณา ส่ังการกอ่ นวันเสด็จพระราชดำเนนิ 2.2 ให้ศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการทหารสูงสุดจัดเจ้าหน้าท่ีจำนวนหนึ่งพร้อม ด้วยอุปกรณ์ท่ีจำเป็น ควบคุมทางยุทธการกับกรมราชองครักษ์เพื่อทำหน้าที่วางแผนและถวายความปลอดภัย โดยให้อยใู่ นการควบคมุ ทางปฏบิ ัตขิ องสมุหราชองครักษ์ 2.3 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ให้คณะกรรมการประชุมปรึกษาประมาณสถานการณ์เพ่ือ ประโยชน์ในการวางแผนถวายความปลอดภยั ท้ังนี้ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ประกอบด้วย (๑) สมุหราชองครักษ์ เป็นประธานกรรมการ (๒) ปลดั กระทรวงมหาดไทย เปน็ กรรมการ (๓) ผู้อำนวยการสำนกั ข่าวกรองแหง่ ชาติ เป็นกรรมการ (๔) ผู้บญั ชาการตำรวจแหง่ ชาติ เป็นกรรมการ (๕) หวั หนา้ นายตำรวจราชสำนกั ประจำ เปน็ กรรมการ (๖) เจา้ กรมขา่ วทหารกองบญั ชาการทหารสูงสุด เปน็ กรรมการ (๗) ผู้บัญชาการศูนย์รกั ษาความปลอดภยั เป็นกรรมการ กองบญั ชาการทหารสงู สุด (๘) ผแู้ ทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เปน็ กรรมการ (๙) เจ้ากรมข่าวทหารบก เปน็ กรรมการ (๑๐) เจ้ากรมขา่ วทหารเรือ เป็นกรรมการ (๑๑) เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เป็นกรรมการ (๑๒) เสนาธกิ าร กรมราชองครกั ษ์ เปน็ กรรมการและเลขานุการ ๓. การถวายความปลอดภยั ณ พระราชฐานและท่ีประทับ 3.1 ขณะประทับ ณ พระราชฐานหรืออาคารที่จัดถวายเป็นที่ประทับช่ัวคราว การวางแผน และอำนวยการถวายความปลอดภัย ณ พระราชฐานหรือท่ีประทับนั้นให้อยู่ในความรับผิดชอบของ คณะกรรมการ ในกรณีที่ประทับในจังหวัดอ่ืนนอกจากกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บังคับหน่วยทหารที่รับผิดชอบ พนื้ ที่บริเวณที่ประทบั เป็นกรรมการเพ่มิ ข้นึ อีกหน่งึ นาย ซึง่ ประกอบด้วย (๑) สมหุ ราชองครักษ์ เปน็ ประธานกรรมการ (๒) เลขาธิการพระราชวัง เป็นกรรมการ (๓) ผู้บญั ชาการทหารบก เป็นกรรมการ (๔) ผู้บญั ชาการตำรวจแหง่ ชาติ เปน็ กรรมการ 3.2 ให้สมุหราชองครักษ์มีอำนาจส่ังการแก่กำลังทหารและตำรวจที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ ภายในเขตพระราชฐานและที่ประทับ 3.3 เลขาธิการพระราชวังเป็นผู้บังคับบัญชาส่ังการถวายความปลอดภัยโดยเฉพาะในส่วนที่ เปน็ หนา้ ที่ของกองวัง 3.4 เมื่อได้รับคำขอจากสมุหราชองครักษ์ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วแต่กรณี จัดกำลังทหาร หรือตำรวจถวายความปลอดภัยในเขตพระราชฐานและทีป่ ระทับ
3.5 หลักเกณฑ์และวธิ ีการในการถวายความปลอดภัย ณ พระราชฐานและประทับให้เป็นไป ตามท่สี มหุ ราชองครักษแ์ ละเลขาธกิ ารพระราชวังรว่ มกันกำหนด ๔. การถวายความปลอดภยั เมื่อเสด็จพระราชดำเนนิ ออกนอกพระราชฐานหรือทปี่ ระทบั 4.1 การวางแผนและอำนวยการถวายความปลอดภัยเมื่อเสด็จพระราชดำเนินออกนอกเขต พระราชฐานหรือที่ประทับในกรณีเป็นการเสด็จพระราชดำเนินภายในเขตกรุงเทพมหานคร ให้มีกรรมการ เพิ่มข้ึนอีกสองนาย คือผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บังคับหน่วยทหารที่รับผิดชอบพี้นที่ ที่จะเสด็จ พระราชดำเนินถึงแต่ถ้าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดอื่น ให้มีกรรมการเพิ่มขึ้นอีกสามนาย คือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับหน่วยทหารท่ีรับผิดชอบพื้นที่ที่จะเสด็จพระ ราชดำเนนิ ถงึ ใหอ้ ยูใ่ นความรับผดิ ชอบของคณะกรรมการซง่ึ ประกอบด้วย (๑) สมหุ ราชองครักษ์ เปน็ ประธานกรรมการ (๒) ผูบ้ ัญชาการทหารบก เปน็ กรรมการ (๓) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ 4.2 ให้สมุหราชองครักษ์มีอำนาจสั่งการแก่กำลังทหารและตำรวจท่ีปฏิบัติหน้าที่ถวายความ ปลอดภัยอยู่ในขบวนเสด็จพระราชดำเนิน 4.3 เม่ือได้รับคำขอจากสมุหราชองครักษ์ ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วแต่กรณีจัดกำลังทหาร หรือตำรวจถวายความปลอดภยั ในขบวนเสด็จพระราชดำเนนิ 4.4 หลักเกณฑ์และวิธีการถวายความปลอดภัยในขบวนเสด็จพระราชดำเนินให้เป็นไป ตามท่ีสมุหราชองครกั ษ์กำหนด ๕. การถวายความปลอดภัยเม่ือเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปประทบั ในท่ีชมุ นุมสาธารณะ 5.2 การวางแผนและอำนวยการถวายความปลอดภยั เม่ือเสดจ็ พระราชดำเนินไปประทบั ในท่ี ชุมนุมสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นในพระราชพิธี รัฐพิธี หรือส่วนพระองค์ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของ คณะกรรมการตามข้อ 4.1 5.3 ท่ีประทับ บริเวณท่ีจะเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ และบริเวณใกล้เคียงจะต้องได้รับ การตรวจอย่างละเอียด ท้ังโดยเจ้าหน้าที่และด้วยเครื่องมือเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่ิงท่ีอาจจะเป็นอันตรายอยู่ ณ ท่ีน้ัน การตรวจต้องทำก่อนเวลาเสด็จพระราชดำเนินถึงพอสมควรและเม่ือตรวจแล้วต้องวางเวรยามไว้เพ่ือ ปอ้ งกันจนกว่าจะเสดจ็ พระราชดำเนินออกจากท่ปี ระทบั 5.4 ที่ประทับจะต้องมีทางออกสำหรับเหตุฉุกเฉินเสมอทางออกนี้ให้เตรียมล่วงหน้าไวต้ ้ังแต่ กอ่ นเสด็จพระราชดำเนนิ ถึงและใหว้ างกำลังเจ้าหนา้ ทีค่ วบคุมไว้ โดยให้สามารถเปิดใช้ได้ทนั ทีกับให้ร้แู ตเ่ ฉพาะ เจา้ หนา้ ท่ผี เู้ กี่ยวขอ้ งเท่านน้ั 5.5 ในกรณีท่ีเสด็จพระราชดำเนินโดยกะทันหัน หรือโดยไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า การตรวจที่ประทับ บริเวณท่ีเสด็จพระราชดำเนินไปประทับและบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งการเตรียมทางออก สำหรับเหตุฉุกเฉิน ให้กระทำในทันทีที่เจ้าหน้าท่ีไปถึงแม้จะเป็นเวลาเม่ือเสด็จพระราชดำเนินถึงแล้วก็ตาม แต่จะตอ้ งระวงั มใิ ห้กระทบกระเทือนพระเกยี รตไิ ด้ 5.6 ให้ผบู้ ัญชาการตำรวจสนั ติบาลจัดสง่ เจ้าหนา้ ท่ีออกสืบสวนพฤตกิ ารณ์และสืบสวนหาขา่ ว ที่อาจจะเป็นภัยหรือพฤติการณ์ท่ีไม่เหมาะสมอ่ืน ๆ ก่อนเวลาที่จะเสด็จพระราชดำเนินถึงหากพบว่ามี พฤตกิ ารณ์ดังกลา่ ว ใหด้ ำเนินการตามอำนาจและหน้าท่ี
๖.การถวายความปลอดภัยในขบวนเสด็จพระราชดำเนินภายในประเทศโดยพระราชพาหนะ 6.1 การเสดจ็ พระราชดำเนนิ โดยรถยนต์ (๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้จัดยานพาหนะและ เจ้าหนา้ ทีป่ ระจำยานพาหนะในการถวายความปลอดภยั ตามคำขอจากสมุหราชองครกั ษ์ (๒) ในจังหวัดอ่ืน ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้บังคับหน่วยทหารในพ้ืนที่ ทีเ่ สดจ็ พระราชดำเนินถึงเปน็ ผู้จัดยานพาหนะและเจา้ หน้าที่ประจำยานพาหนะในการถวายความปลอดภัยตาม คำขอจากสมหุ ราชองครกั ษ์ 6.๒ การถวายความปลอดภัยขณะประทับอยู่ในขบวนรถไฟ หรือรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนไม่ว่า จ ะเป็ น ข อ งท าง รา ช ก า รห รื อ ขอ งเอ ก ช น ให้ อ ยู่ ใน ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ ข อ งผู้ ว่ า ก าร ร ถ ไฟ แ ห่ งป ร ะเท ศ ไท ย ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือผู้มีอำนาจสั่งการหรือหน่วยราชการเจ้าของสัมปทาน น้ัน ๆ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหรือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค แลว้ แตก่ รณี 6.๓ การเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือไม่ว่าจะประทับเรือของทางราชการหรือเอกชน การถวายความปลอดภยั ในนา่ นน้ำหรอื ทอ้ งน้ำ ใหอ้ ยูใ่ นความรับผิดชอบของกองทัพเรือหรอื ผูบ้ ัญชาการตำรวจ นครบาล ผบู้ ัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหรือผบู้ ัญชาการตำรวจภูธรภาคแลว้ แตก่ รณแี ละกรมการขนส่งทาง น้ำและพาณิชยนาวี 6.๔ การเสดจ็ พระราชดำเนินโดยอากาศยาน (๑) การถวายความปลอดภัยขณะประทับอยู่ในอากาศยาน ให้อยู่ในความรับผิดชอบ ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐซ่ึงเป็นเจ้าของอากาศยานพระที่น่ัง หากเป็นอากาศยานของเอกชนการ ถวายความปลอดภัยให้อยู่ในความรับผิดชอบของกองทพั บก กองทพั เรือ กองทัพอากาศ หรือสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ แล้วแต่กรณี (๒) ในกรณีท่ีส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐซ่ึงเป็นเจ้าของอากาศยานมีกำลังและ อุปกรณ์ถวายความปลอดภัยไม่เพียงพอ ให้ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหาร อากาศ หรือผู้บญั ชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วแต่กรณี จัดกำลังและอุปกรณ์ถวายความปลอดภยั สนับสนุนตาม คำขอจากสมหุ ราชองครกั ษ์ (๓) ในกรณีที่มีอากาศยานหลายหน่วยร่วมอยู่ในขบวนเสด็จพระราชดำเนินให้ส่วน ราชการหรอื หน่วยงานของรัฐซึง่ เป็นเจา้ ของอากาศยานพระท่ีน่งั เปน็ ผรู้ บั ผิดชอบควบคมุ และอำนวยการเพ่อื ให้ เกิดความปลอดภัยในการบินของอากาศยานทกุ เครือ่ ง ๗. การถวายความปลอดภยั ในกรณีอ่ืน ๆ 7.1 การวางแผนและอำนวยการถวายความปลอดภัยเมื่อเสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศ ใหอ้ ย่ใู นความรบั ผดิ ชอบของคณะกรรมการ ซึ่งประกอบดว้ ย (๑) สมุหราชองครักษ์ เป็นประธานกรรมการ (๒) ราชเลขาธกิ าร เป็นกรรมการ (๓) เลขาธิการพระราชวงั เปน็ กรรมการ (๔) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรรมการ (๕) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปน็ กรรมการ (๖) ผบู้ ัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปน็ กรรมการ (๗) หัวหนา้ นายตำรวจราชสำนักประจำ เป็นกรรมการ (๘) เสนาธิการ กรมราชองครกั ษ์ เป็นกรรมการและเลขานกุ าร
7.2 ให้สมุหราชองครักษ์จัดประชุมเพ่ือสำรวจพ้ืนท่ีของประเทศที่จะเสด็จพระราชดำเนิน เพ่ือวางแผนและประสานการปฏิบัติการถวายความปลอดภัยร่วมกันกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ ประเทศท่จี ะเสดจ็ พระราชดำเนิน ตามความเหมาะสม 7.3 การถวายความปลอดภัยในกรณีอ่ืน ๆ ที่มิได้ระบุไว้ในระเบียบน้ีให้ส่วนราชการที่ได้รับ มอบหมายให้มีหน้าที่ถวายความปลอดภัยโดยเฉพาะเป็นผู้วางแผนแล้วเสนอต่อสมุหราชองครักษ์ เพือ่ ประสานงานและอำนวยการ การรักษาความปลอดภัยสำหรับผ้สู ำเร็จราชการแทนพระองค์ ให้นำความในข้อ ๑ มาใช้บังคับแก่การรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยอนโุ ลม การรกั ษาความปลอดภยั สำหรบั พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตกุ ะ ถา้ สมุหราชองครักษ์ ราชเลขาธิการ หรือเลขาธิการพระราชวัง เห็นสมควรจัดให้มีการรักษาความ ปลอดภัยสำหรับบุคคลใดซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ช้ันหม่อมเจ้าขึ้นไป หรือผู้แทนพระองค์ หรอื พระราชอาคนั ตุกะ ให้สมุหราชองครักษ์ ราชเลขาธิการ หรือเลขาธิการพระราชวังพิจารณาดำเนนิ การตาม ระเบียบนีต้ ามความจำเป็นโดยสมควรแกฐ่ านะและเหตุการณ์ การวางแผนการปฏบิ ัติการรักษาความปลอดภยั บคุ คลสำคัญ ๑. ในการวางแผนการรกั ษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญ จำเป็นอย่างยิ่งต้องถือเป็นระเบียบปฏิบัติประจำ แผนจำเป็นต้องบรรจุรายละเอียดต่าง ๆ ที่จะเป็นต้องปฏิบัติโดยแจกจ่ายให้กับฝ่ายอำนวยการหรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องได้รับ ทราบและเจ้าหน้าท่ี ระดับสูงเท่านั้นท่ีต้องไดร้ ับแผนสมบูรณ์ นอกจากนนั้ แล้วระดับเจ้าหน้าท่ปี ฏิบัติการอ่ืน ๆ ก็ให้ทราบเพียงเรื่อง ใหญ่ ๆ ของแผนและทำความเข้าใจในการปฏิบัติงานตามหน้าที่โดยเฉพาะของแต่ละบุคคล คำแนะนำต่าง ๆ ต้องง่ายต่อการเข้าใจและปฏิบัติตามแผนที่ดีจะต้องมีความอ่อนตัวแผนจะมีมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับขนาดของ ภารกิจที่จะต้องปฏิบัติ มีเวลาเพียงพอในการแจกจ่ายตลอดจนการซักซ้อมการปฏิบัติท่ีได้วางแผนไว้หาทางที่ จะไปสู่ความสำเร็จในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญนั้นอยู่ที่การวางแผนอย่างละเอียดต่อเนื่องเลือกใช้ มาตราการอย่างรอบคอบการจัดอบรมและการนำเจ้าหนา้ ท่มี าใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ๒. แนวทางในการวางแผน เป็นแนวทางของผ้บู ังคับบญั ชาทใ่ี หเ้ จ้าหน้าทีท่ ี่จัดทำแผนเพ่ือใช้ในการ ทำทบทวนประมาณการความมากน้อยของแนวทางในการวางแผนจะเปลย่ี นแปลงหรือไมข่ ึ้นอย่กู ับ ๒.๑ ภารกิจของหน่วย ผู้บังคับบัญชาสามารถกำหนดกิจเฉพาะต่าง ๆ ที่จะต้องกระทำเพื่อให้ บรรลุภารกิจนน้ั และกำหนดกิจแบ่งขึ้นตามท่ตี นพิจารณาเห็นเหมาะสม ๒.๒ ปรมิ าณและความถกู ต้องเช่อื ถอื ได้ของขอ้ มูลข่าวสารท่ีมีอยู่ ๒.๓ สถานการณใ์ นขณะนัน้ รวมท้ังประสบการณ์ทีเ่ คยไดร้ บั ๒.๔ ความสามารถและความคุ้นเคยของหน่วยปฏิบัติท่ีมีต่อภูมิประเทศส่ิงแวดล้อมของฝ่ายตรง ขา้ ม
๓. ส่ิงที่ตอ้ งการในการวางแผน ๓.๑ กำหนดวนั เวลา สถานที่ท่บี คุ คลสำคญั จะเดนิ ทางไปตลอดจนประเภทของงานพิธี ๓.๒ วเิ คราะห์สถานการณใ์ นพ้นื ทปี่ ฏิบตั งิ าน โดยประมาณการด้านการข่าว ๓.๓ เหตุการณ์ท่ีน่าสนใจที่เคยเกิดขึ้นในพ้ืนท่ีน้ัน เซ่น การลอบสังหารบุคคลสำคัญ บุคคลวกิ ลจรติ เป็นตน้ ๓.๔ การประสานงานกับเจ้าหนา้ ท่ที หาร ตำรวจในพ้นื ทท่ี ีบ่ คุ คลสำคัญจะเดนิ ทางไป ๓.๕ กองบงั คบั การ (Command Post) สถานทต่ี ้งั หมายเลขโทรศัพท์ นามเรียกขาน ฯลฯ ๓.๖ สายการบังคับบญั ชาและการติดต่อส่ือสาร ๓.๗ แบ่งมอบหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติทั้งหมดในแผนโดยอาจแบ่งเป็น รายบคุ คล เป็นผลดั เป็นชุด ๓.๘ การแต่งกายของเจา้ หน้าท่ใี นแต่ละพ้ืนที่ และในแต่ละภารกจิ ๓.๙ อาวธุ ยทุ โธปกรณแ์ ละเครอื่ งมือเคร่อื งใช้ของเจา้ หนา้ ที่รักษาความปลอดภัย ๓.๑๐ คา่ ใชจ้ า่ ยพิเศษท่ีจำเป็นตอ้ งใช้ เชน่ คา่ เชา่ รถยนต์ ค่ายานพาหนะ ฯลฯ ๓.๑๑ ขอ้ ห่วงใยพเิ ศษในการรักษาความปลอดภัย ๔. ข้อพิจารณาในการทำแผน ความล่อแหลมต่ออันตรายที่อาจจะเกิดข้ึนกับบุคคลสำคัญจะต้อง นำมาพิจารณ าในรายละเอียดทุกข้ึนตอนน้บตั้งแต่ บุคคลสำคัญมาถึง ขณ ะพบปะกับประชาชน ขณะกล่าวสุนทรพจน์ ขณะนั่งเป็นประธาน ขณะใช้ลิฟต์ ขณะท่ีอยู่ตามห้างร้านและท่ีโล่งแจ้งในที่สาธารณะ โดยเฉพาะช่วงเวลาท่ีเส่ียงต่อการถูกทำร้ายมากที่สุด คือ ช่วงที่บุคคลสำคัญกำลังลงจากรถ ข้ึนรถ ขณะที่เดิน เข้าและออกจากท่ีหมาย อยู่ท่ามกลางกลุ่มชน เหล่าน้ีจะต้องเตรียมการจ้ดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืน ระวงั ปองกันให้เหมาะสม ๕. ลักษณะของแผน ส่วนประกอบอันสำคัญของแผนก็คือต้องมีหนทางปฏิบัติท่ีแน่นอนและให้ วธิ กี ารปฏบิ ตั ิตามแผนนน้ั ด้วยแผนที่ดีจะมีลกั ษณะดงั นี้ ๕.๑ ต้องสามารถบรรลุภารกจิ ๕.๒ ต้องอาคยั ขอ้ เท็จจริงและสมมติฐานทเ่ี หมาะสม ๕.๓ ต้องใชอ้ าวธุ ยุทโธปกรณท์ มี่ ีอยู่ ๕.๔ ต้องมกี ารจดั ตามความจำเปน็ ๕.๕ ต้องมีความตอ่ เนือ่ ง ๕.๖ ตอ้ งมกี ารกระจายอำนาจ ๕.๗ ตอ้ งมกี ารติดตอ่ กันโดยตรงระหว่างเจ้าหนา้ ที่ระดบั เดยี วกนั ๕.๘ ต้องงา่ ย อ่อนตวั และต้องมีการควบคุม
๖. ข้ันตอนการปฏบิ ตั ใิ นการทำแผน ๖.๑ ขั้นเตรยี มการแบ่งเป็น ๒ ข้นั ตอน ๖.๑.๑ การประสานงาน - ประสานงานเจ้าหนา้ ทที่ ุกฝา่ ยทเ่ี กยี่ วข้องกับการเตรยี มการตอ้ นรบั - จดั ส่งชดุ ปฏิบัติการหาขา่ วทางลบั - จัดสง่ ชุดสำรวจลว่ งหน้าเพือ่ สำรวจสถานท่ี ๖.๑.๒ การวางแผน - พิจารณาวางแผนให้เหมาะสมกับข่าวทีไ่ ด้รบั - จัดทำแผนที่แสดงการวางกำลังของเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยและ ฝ่ายเกี่ยวขอ้ ง - สรปุ ข่าวในพื้นท่ีตลอดจนการจัดกำลังเสนอแผนการรักษาความปลอดภัยให้บุคคล สำคญั ทราบลว่ งหนา้ - จดั ทำแผนฉุกเฉนิ เพอ่ื เตรียมแกไ้ ขสถานการณท์ ีเ่ กิดขึน้ ๖.๒ ข้ันการปฏิบัติการ ชี้แจงรายละเอียดเก่ียวกับแผนปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วน กำหนด หน้าที่แตล่ ะชดุ ปฏบิ ัตงิ านที่ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ นพืน้ ที่ จัดกำลงั อยา่ งไร วางกำลังในพ้ืนทอ่ี ย่างไร ๖.๓ ขั้นตอนวิเคราะห์และการรายงานหลังจากเสร็จภารกิจ เป็นการรวบรวม สรุปปัญหา อุปสรรค ขอ้ ขัดขอ้ ง เพอื่ จะไดด้ ำเนินการแก้ไขมิให้เกิดเหตุการณเ์ ชน่ นน้ั อกี โดยมีวตั ถุประสงค์ ดงั นี้ ๖.๓.๑ เพอื่ เปน็ ฐานขา่ วในการปฏิบตั คิ รงั้ ต่อไป ๖.๓.๒ เพ่ือเปน็ แนวทางครัง้ ตอ่ ไป โดยปรับปรุงแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดทเี่ กดิ ขึ้นมาแล้ว ๖.๓.๓ เป็นประวัติศาสตร์ของหน่วยและชาติ การวิจารณ์จะได้ผลดีที่สุดควรกระทำให้เร็ว ทส่ี ุดภายหลังจากเสร็จภารกิจโดยผู้ร่วมปฏิบตั ิภารกิจทั้งหมดมาพร้อมกันและวิจารณ์กันว่าเร่ืองต่าง ๆ ท่ีได้ทำ ไปแล้วนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด ท้ังนี้ให้รวมถึงการวิจารณ์ในเรื่องไหวพรบิ และเทคนิคในการปฏิบัติ ด้วยเพอ่ื ให้เปน็ บทเรียนในการปฏบิ ัติภารกิจครั้งตอ่ ไปให้ดีข้นึ
๓.ยทุ ธวธิ ีการรักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคญั V.I.P. PROTECTION สำหรับรูปแบบการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยท่ัวไปที่ไม่ใช่พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์และพระราชอาคันตุกะจะมี รูปแบบในการทำงานท่ีแตกต่างกันออกไป จะมีชุดปฏิบัติในการทำงานที่เป็นรูปแบบเฉพาะเจาะจงแล้วแต่ ภารกิจท่ีได้รับ โดยปกติทั่วไปชุดปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานจะมีเจ้าหน้าที่แยกออกเป็นส่วนปฏิบัติหน้าท่ีในการ ทำงานแลว้ แต่ภารกจิ ท่ีไดร้ ับมอบหมายจะมรี ปู แบบและการทำงานทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไป ประวัติชุดรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ สำหรับในประเทศไทยได้มเี กิดข้ึนมาต้ังแต่เมื่อไหร่ยังไม่ มีการลงบันทึกไว้อย่างชัดเจน แต่ได้มีกล่มุ บุคคลท่ีได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานซึ่งมีลักษณะการทำงานเหมือน ชุดปฏบิ ัติการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะใกลเ้ คยี งกับการทำงานในปัจจุบัน คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ “จตุลังคบาท” ในอดีต สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๒ อธบิ ายว่า จตุลังคบาท คือ ทหารสังกดั ใน กรมพระตำรวจ (เป็นหน่วยราชการทหาร ไม่ใช่ตำรวจเหมือนปัจจุบัน) ทำหน้าท่ีอยู่ประจำรักษาเท้าช้าง ท้งั ๔ เท้าในเวลาสงคราม ส่วนในยามปกติ ทำหนา้ ท่รี ักษาพระองค์ใกลช้ ิด ทม่ี า : https://www.facebook.com/9gagHistory/ ในการทำสงครามสมัยก่อน ช้างเป็นยุทธปัจจัยท่ีสำคัญ เพราะใช้เป็นพาหนะในการขนส่งเสบียง อาหาร อาวุธยุทธภัณฑ์ และเป็นพาหนะสำหรับทำการรบบนหลังช้าง ที่เรียกว่า ยุทธหัตถี ในสมัยโบราณการ ขี่ช้างเพ่ือทำการรบถือเป็นศาสตร์ชั้นสูง เรียกว่า “ตำราพระคชศาสตร์” ผู้ท่ีจะร่ำเรียนตำราน้ีได้จะต้องอยู่ใน “ตระกูลขัตตยิ ะหรือตระกูลขุนนางทรี่ บั ราชการในกรมพช.้าคง.”2เ5ท6า่ น2ัน้
การรบกันด้วยกองทัพช้างนั้นช้างทรงของจอมทัพจะต้องมี กลางช้าง ท้ายช้างและจตุลังคบาท ประจำเท้าช้าง ๔ คน ซ่ึงผู้ท่ีจะเป็นจตุลังคบาทน้ีต้องเป็นคนท่ีมีความสามารถมากและเป็นนายทหารระดับสูง ตัวอย่างเช่น ช้างพระที่นั่งเจ้าพระยาไชยานุภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อคร้ังทรงกระทำยุทธหัตถี กับพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี มจี ตลุ ังคบาท คือพระมหามนตรีเจ้ากรมพระตำรวจในขวาประจำเท้าหน้า ขวา พระมหาเทพเจ้ากรมพระตำรวจในซ้ายประจำเท้าหน้าซ้าย หลวงอินทรเทพเจ้ากรมพระตำรวจใหญ่ซ้าย ประจำเท้าหลังขวา และหลวงพิเรนทรเทพเจ้ากรมพระตำรวจใหญ่ขวาประจำเท้าหลังซ้าย ต่อมาเม่ือเลิกทำ สงครามด้วยช้างแล้ว เจ้ากรมพระตำรวจทั้ง ๔ ไม่ต้องเป็นจตุลังคบาท แต่ยังต้องตามเสด็จและทำหน้าที่รักษา พระองค์ใกล้ชิด ซ่งึ ในปัจจุบันก็คือตำรวจหลวงนั่นเอง จึงถอื ได้ว่าผู้ทีท่ ำหน้าที่ “จตุลังคบาท” เปรียบเสมอื นกับ ชดุ ระวังปอ้ งกันในการรักษาความปลอดภัยให้กบั บคุ ลสำคัญ การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เป็นมาตราการท้ังปวงที่กำหนดข้ึนเพ่ือให้ความคุ้มครอง ป้องกันแก่บุคคลสำคัญให้พ้นจากอันตรายท่ีอาจเกิดข้ึนได้จากการกระทำโดยความจงใจจากฝ่ายตรงข้ามหรือ อุบัติเหตุ จุดประสงค์หลักของชุดอารักขารักษาความปลอดภัยได้จัดตั้งข้ึนเพื่อป้องกันบุคคลสำคัญ โดยมีหลกั อยู่ 3 ประการดว้ ยกนั คอื 1. เพอื่ ป้องกันไม่ให้บคุ คลสำคัญได้รับอันตราย 2. เพ่ือปอ้ งกนั ไมใ่ หบ้ ุคคลสำคญั ไดร้ ับความอบั อาย 3. เพ่ืออำนวยความสะดวกให้กบั บคุ คลสำคญั
1.คำจำกดั ความ V.I.P. PROTECTION ย่อมาจาก V = Very มาก I = Improtant สำคญั P = Person บุคคล PROTECTION = การปกปอ้ ง V.I.P. PROTECTION จงึ หมายถึง การปอ้ งกันภยั บคุ คลสำคญั การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ หมายถึง บรรดามาตรการท้ังปวงที่กำหนดข้ึนเพื่อให้ ความคุ้มครองป้องกันแก่บุคคลสำคัญย่ิง ให้พ้นจากอันตรายอันอาจเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุหรือความจงใจท่ีจะ กระทำของฝา่ ยตรงข้าม ตำแหนง่ ของเจ้าหนา้ ทีใ่ นชดุ ปฏบิ ัติการรักษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญ ๑.หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวบุคคล สำคัญ (AGENT IN CHARGE = AIC) หมายถึง ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด รับผิดชอบการวางแผน การบริหารงาน ควบคุมกำกับดูแลเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ทั้งเรื่องการ แบ่งมอบหน้าที่ การเตรียมอุปกรณ์ ขณะน่ังรถขบวนจะนั่งคันเดียวกับบุคคลสำคัญที่อยู่ในอารักขา โดยน่ัง ด้านหน้าคู่กับพลขับและเม่ือเกิดเหตุประทุษร้ายบุคคลสำคัญจะเป้นผู้เอาตัวเข้ากำบังบุคคลสำคัญท่ีอยู่ใน อารักขา ๒.เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยหัวหน้าเวร หรือหัวหน้ากะ (SHIFT LEADER = SL) หมายถึง ผู้ทำหน้าที่หวั หนา้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภยั ในแต่ละผลัดหรือแตล่ ะกะ รับผิดชอบกำกบั ดแู ลการปฏิบัตงิ าน ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในผลัดน้ันๆ เป็นผู้ติดต่อประสานงานกับศูนย์บัญชาการและระหว่าง เจ้าหน้าท่ีในผลัด คอยรายงานข้อมลู และผลการปฏิบตั งิ านให้ เจ้าหนา้ ที่รักษาความปลอดภัยผเู้ ปน็ หัวหน้า (AIC) ทราบ เมือ่ อยูใ่ นขบวนรถจะนัง่ ดา้ นหน้าของรถติดตามคู่กบั พลขับ ๓.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนหน้า (ADVANCE AGENT) หมายถึง เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยท่ีรับผิดชอบจัดเตรียมพ้ืนทเี่ ป้าหมายล่วงหน้าก่อนที่บุคคลสำคัญท่ีจะอารักขาจะเดนิ ทางไปถึงเป็นผู้นำ ทีมรักษาความปลอดภัยเข้าพื้นท่ี คอยให้ข้อมูลกับขบวนเดินทางตลอดเวลา เมื่อรถขบวนไปถึงที่หมายจะเป็นผู้ เชิญบุคคลสำคญั และเจา้ หน้าที่ในขบวนรักษาความปลอดภัยให้เดินตามในเส้นทางท่ีสำรวจไว้แลว้ โดยเดินอยู่ใน สว่ นหน้าของรปู ขบวนการรกั ษาความปลอดภัย ๔.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางขวา ( RIGHT REAR = RR ) หมายถึง เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภยั ทีร่ ับผิดชอบระวงั ปอ้ งกันภยั ทางดา้ นขวาของบุคคลสำคัญ ๕.เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยทางซ้าย ( LEFT REAR = LR ) หมายถึง เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภยั ทร่ี บั ผิดชอบระวังป้องกนั ภยั ทางดา้ นซา้ ยของบุคคลสำคัญ ๖.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาวุธพิเศษ ( WELL AGENT = WELL ) หมายถึง เจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยอาวธุ พิเศษมหี นา้ ทรี่ ับผดิ ชอบระวงั ป้องกนั ภยั ทางด้านหลังของบคุ คลสำคญั
2.วัตถปุ ระสงคข์ องการรักษาความปลอดภยั บุคคลสำคญั - เพ่ือคมุ้ ครองปอ้ งกนั ชวี ติ ของบุคคลสำคญั และครอบครัว - เพ่อื ปอ้ งกันมิใหบ้ คุ คลสำคัญและครอบครัวถกู บีบบังคบั โดยวธิ ที ี่ผิดกฎหมาย - เพอื่ ปอ้ งกนั มใิ ห้มีการลบหลูเ่ กียรติของบคุ คลสำคัญ สาเหตจุ งู ใจให้มีการลอบประทษุ ร้ายบุคคลสำคญั 3.ประเภทของบคุ คลสำคัญ การรกั ษาความปลอดภยั บคุ คลสำคญั จำเปน็ ต้องแยกประเภทชองบุคคลสำคญั ให้เปน็ ท่ีแนข่ ดั เพ่ือ จะได้วางมาตรการใหค้ วามคุ้มครองป้องกันได้ถูกต้องเหมาะสมกบั เวลาและสถานที่ บคุ คลสำคัญ ไดแ้ ก่ - ประมขุ ของประเทศ - ผนู้ ำทางการเมือง - ผ้นู ำทางศาสนา - ผ้นู ำทางทหาร - นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ - บุคคลสำคัญในทศั นะชองปวงชน - แขกของรฐั บาลหรอื ผ้แู ทนประเทศต่าง ๆ 4.การแสดงปฏิกริ ยิ าตอบโตเ้ หตกุ ารณ์ เม่ือเกิดเหตุการณ์ประทุษร้ายต่อบุคคลสำคัญขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องตอบโต้ เหตุการณท์ ่ีเกิดข้นึ ทันทีโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคคลสำคัญเป็นอันดับแรก โดยการนำบุคคลสำคญั ออก จากท่ีเกิดเหตุโดยเร็ว ส่วนการจับกุมหรือสังหารคนร้ายจะกระทำเท่าที่จำเป็น ท้ังน้ีควรมอบให้เป็นหน้าที่ของ ตำรวจท้องท่ีซ่ึงอยู่ในเหตุการณ์การตอบโต้เหตุการณ์ต้องให้เหมาะสมกับภัยท่ีเกิดข้ึน เช่น หากถูกขว้างปาด้วย สิ่งของก็อาจเพียงใช้ลำตัวเช้ากำบัง แต่หากถูกประทุษร้ายด้วยปืนก็อาจใช้ปืนตอบโต้ เป็นต้น ชุดรักษาความ ปลอดภัยบุคคลสำคัญจะต้องมีระบบการส่ือสารท่ีดีเพ่ือบอกทิศทางของฝ่ายตรงข้าม ทเี่ ข้ามาทำร้ายท่ีเหมาะสม ท่ีสุดคือการใช้เสียงสัญญาณให้ทุกคนได้รู้สถานการณ์ขณะถูกทำร้าย ควรใช้คำพูด ที่สั้นที่สุดแต่ได้ใจความ ครบถ้วนและรวู้ ่าจะตอ่ ตา้ นผู้ประทุษร้ายในทิศทางใดและควรนำบคุ คลสำคัญไปใน ทศิ ทางใด ขั้นตอนการรกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคญั ตามสถานท่ีต่าง ๆ การรักษาความปลอดภยั บคุ คลสำคัญทางบก ๑. หลักการรักษาความปลอดภัยในขณะเดินทางด้วยเท้ามีข้อพิจารณาในการวางตัวและจำนวน เจา้ หน้าท่รี กั ษาความปลอดภยั บุคคลสำคญั ในขณะเดินเท้า ดังนี้ ๑.๑ ข่าวสารทม่ี ีผลกระทบที่อาจเกดิ ขนึ้ กบั บคุ คลสำคัญ ๑.๒ ประเภทของพิธีการท่ีบุคคลสำคญั ต้องไปร่วมงาน ๑.๓ ความตอ้ งการในการรักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญ ๑.๔ ลกั ษณะการวางตัวให้เข้ากบั พิธกี ารหรือสถานการณ์นน้ั
๑.๕ การใชร้ า่ งกายของเจา้ หนา้ ท่ีเปน็ เกราะคุ้มกันใหก้ ับบุคคลสำคญั ๑.๖ การรักษาภาพพจนข์ องเจา้ หน้าทรี่ กั ษาความปลอดภยั ๑.๗ การสงั เกตการณ์และเตรียมพร้อมทางด้านจติ ใจของเจา้ หน้าท่รี ักษาความปลอดภยั รปู แบบการวางตัวเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยต้องนำมาดัดแปลงให้เข้ากับสถานการณ์แม้จะ ใช้รูปแบบท่ีได้รับการฝกึ ฝนมาเปน็ มาตรฐานในการปฏบิ ตั ิ แตใ่ นขณะเดยี วกันก็จะตอ้ งสามารถปรบั ตำแหน่งของ เจ้าหน้าที่ได้เมื่อมีความจำเป็น โดยถือหลักเพื่อให้บุคคลสำคัญมีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หัวหน้าชุดตดิ ตามจะตอ้ งนำบุคคลสำคญั ออกใหพ้ ้นจากพน้ื ที่อันตรายและนำไปยงั สถานท่ปี ลอดภยั ซ่งึ ได้จดั ทำไว้ ในแผนซ่ึงในการปฏิบัตินี้หัวหน้าชุดติดตามจะต้องทราบรายละเอียดของพ้ืนท่ีปฏิบัติการจากชุดสำรวจล่วงหน้า และในระหว่างเดินทางใกล้จะถึงที่หมายจะต้องติดต่อกับชุดส่วนล่วงหน้าเพื่อทราบสถานการณ์ในพื้นท่ีอย่าง ต่อเน่ืองพ้ืนที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยในรูปขบวนเดินนี้ จะถือเป็น ๓๖๐ องศาตลอดเวลา สำหรับทิศทางท่ีบุคคลสำคัญเดินจะถือเป็นทิศ ๑๒ นาฬิกาเสมอและขณะอยู่ในรูปขบวนเดินถา้ เจ้าหน้าท่ีคนใด คนหน่ึงต้องออกไปจากรูปขบวนเดิน ตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทันทีหรือเพ่ือให้ การรกั ษาความปลอดภัยมปี ระสิทธิภาพสูงสดุ กล่าวโดยสรุปกค็ อื รูปขบวนตอ้ งมกี ารอ่อนตัวได้ การรักษาความปลอดภยั ในขณะเดนิ ทางดว้ ยเท้า เนื่องจากในบางโอกาสบุคคลสำคญั จะต้องเดินทางไปยงั สถานทีต่ า่ ง ๆ ดว้ ยการเดินด้วยเทา้ ซ่งึ ในการน้จี ะเปน็ จุดท่ีล่อแหลมตอ่ อนั ตรายเปน็ อยา่ งมาก จงึ มคี วามจำเปน็ จะต้องมแี บบและวธิ ีการรักษาความ ปลอดภยั ทรี่ ัดกมุ และมีประสิทธภิ าพเป็นอยา่ งย่งิ ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการรกั ษาความปลอดภยั ของ ชดุ ติดตามบุคคลสำคัญเท่าน้นั สว่ นมาตรการอ่ืน ๆ เปน็ หนา้ ทขี่ องชุดสำรวจและชุดลว่ งหน้าเป็นผดู้ ำเนินการ รปู แบบและการวางตัวเจา้ หน้าท่ีรักษาความปลอดภยั จะต้องนำมาดัดแปลงให้เข้ากบั สถานการณ์แม้ จะยดึ รปู แบบท่ีได้รบั การฝกึ มาเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติ แตข่ ณะเดยี วกนั กับเจา้ หน้าที่รกั ษาความปลอดภยั ทุก คนจะต้องสามารถปรบั ตำแหน่งของตนเม่ือจำเปน็ เพ่ือให้ความปลอดภัยตอ่ บุคคลสำคญั ให้มากท่สี ุด ดงั น้ันการ ทำงานเป็นชุดการฝึกฝนอย่างมปี ระสิทธิภาพจะทำให้เกดิ ผลสำเรจ็ ในการปฏิบัติทั้งนเ้ี จา้ หนา้ ทจี่ ะต้องทราบใน เรื่องต่อไปนี้ - เสน้ ทางท่ีจะต้องใช้ - กำหนดการต่าง ๆ - ขอ้ มลู ต่าง ๆ เก่ียวกบั บุคคลสำคัญ - อปุ นิสยั ของเพ่ือนรว่ มงาน การคุ้มกนั บุคคลสำคัญ เจา้ หน้าทร่ี ักษาความปลอดภัยจะต้องสามารถจำแนกใหไ้ ดว้ ่าจดุ ใดนา่ จะเป็น จุดคับขันที่กอ่ ใหเ้ กิดอันตรายตอ่ บคุ คลสำคญั ได้มากทสี่ ุด เพื่อจะได้จัดเจา้ หน้าท่ีให้คอยคุ้มกนั ณ จุดน้นั ได้ ถูกต้อง แต่ท้ังน้ีต้องระมัดระวังมใิ ห้เอิกเกริกจนเกนิ กว่าเหตุ และมิให้ประซาซนทราบว่ามีอะไรเกดิ ขึ้น ความตอ้ งการของบุคคลสำคัญ เจ้าหนา้ ที่รกั ษาความปลอดภัยจะต้องศกึ ษาประวัตแิ ละความตอ้ งการ หรือไม่ ตอ้ งการของบคุ คลสำคญั โดยละเอยี ดเพ่ือประโยซน์ในการวางตวั ของเจ้าหน้าที่และจดั จำนวนของเจา้ หนา้ ท่ี
ในทางเปีดเผยและทางลับวา่ ควรจดั เทา่ ใด การร้จู ักสังเกตและตืน่ ตัวของเจ้าหนา้ ที่ทงั้ สองประการนีม้ ี ความสำคญั ย่ิงเม่ืออยทู่ า่ มกลางฝูงชน เจา้ หนา้ ทท่ี กุ คนต้องไมเ่ กิดความคิดวา่ “ไม่มีใครทำอะไรบุคคลสำคญั ” ใหพ้ งึ ระลกึ ว่าบคุ คลสำคัญอาจจะเปน็ อันตรายไดต้ ลอดเวลา ทัง้ จากอุบตั ิเหตแุ ละการจงใจกระทำการรักษา ความปลอดภยั ใหบ้ ุคคลสำคัญรอดพน้ จากภยนั ตรายได้ แม้แต่เพยี งคร้ังเดยี วถือว่าคุ้มค่าต่องบประมาณจำนวน มากท่ตี ้องจา่ ย อกี ประการหน่ึงในระหว่างหรอื ก่อนปฏบิ ัตงิ าน เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภยั จะตอ้ งไม่ดื่มสรุ า โดยเดด็ ขาด มิฉะนั้นแล้ว การสังเกตและความตื่นตัวจะลดลงไปด้วย
1 รปู แบบการวางกำลังเจ้าหนา้ ทรี่ ักษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญ มีดังน้ี 1.1 เมือ่ ใช้เจา้ หน้าที่ 1 คน ใชใ้ นกรณีเดยี ว คือ ในโอกาสที่บุคคลสำคัญอยู่ในพื้นทป่ี ลอดภยั และใชเ้ มอ่ื เดนิ จากห้อง หน่ึงไปยงั อกี ห้อง หน่ึงในท่ีพกั หรอื ในพ้ืนท่อี น่ื ทมี่ ีการรักษาความปลอดภัยทดั เทยี มกบั ในท่ีพกั ทิศทางการเดนิ รปู แสดงการยืนมีเจา้ หน้าทรี่ ักษาความปลอดภัย ๑ คน
เม่ือเกดิ เหตกุ ารณ์ เจา้ หน้าที่ต้องเขา้ ประชิดตัวบุคคลสำคัญโดยใชล้ ำตัวบงั บุคคลสำคัญไว้ในทศิ ทางที่ เกิดเหตุ พร้อมกบั ใชม้ ือข้างหนึ่งจับบรเิ วรลำคอ(ในกรณีไม่สามารถจบั คอเสอื้ ได้)แล้วทำการกดโน้มตวั ให้ ตำ่ และใชม้ ืออีกขา้ งจับทเี่ ข็มขดั หรอื บริเวณขอบกางเกงนำพาบุคคลสำคญั ออกไปในทิศทางตรงกันข้าม ถา้ มีอาวธุ สามารถทำการตอบโต้ในระหว่างหลบหนไี ด้ รปู แสดงการยืนเม่ือเกิดเหตุ มีเจา้ หน้าท่ีรักษาความปลอดภัย ๑ คน
1.2 เมื่อใช้เจา้ หนา้ ท่ี 2 คน ปกติใช้ในโอกาสท่ีอยู่ภายในอาคารท่มี ีการรักษาความปลอดภัย เซ่น ท่พี ักชั่วคราว หรอื การไปปรากฏ ตัวในที่รับแขกส่วนตัว ประกอบดว้ ย (๑) เจา้ หนา้ ท่รี ักษาความปลอดภยั สว่ นหนา้ (ADVANCE AGENT) ADV (๒) หัวหน้าชดุ ติดตาม (AGENT IN CHARGE) AIC ADV ทิศทางการเดนิ
รปู แสดงตำแหนง่ การยืนรกั ษาความปลอดภยั เม่ือมเี จ้าหน้าท่รี ักษาความปลอดภยั 2 คน
รปู แสดงการยนื เม่ือเกดิ เหตุ มีเจา้ หนา้ ที่รกั ษาความปลอดภยั ๒ คน
1.3 เมื่อใช้เจา้ หนา้ ที่ 3 คน ประกอบดว้ ย (1) เจา้ หน้าท่ีรกั ษาความปลอดภัยส่วนหนา้ (ADVANCE AGENT) ADV (2) หัวหน้าชุดติดตาม (AGENT IN CHARGE) AIC (3) รองหวั หน้าชดุ ตดิ ตาม (SHIFT LEADER) SL การรกั ษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญแบบนเ้ี รียกวา่ รูปทรงลม่ิ การเดินจะต้อง เดนิ เกาะกลมุ่ ส่วนใหญจ่ ะใชใ้ นการรกั ษาความปลอดภัยในพ้ืนทซี่ ึ่งประชาชนไม่หนาแนน่ และใชใ้ นกรณีไม่เปน็ ทางการ เชน่ ไปชมภาพยนตร์ ฟังเพลง และอืน่ ๆ เปน็ การจดั กำลังขนาดเล็กท่สี ดุ ในขณะออกนอกสถานที่ ท่ีมีการรักษาควาปลอดภัยท่ดี ี ADV ทศิ ทางการเดนิ
รปู แสดงการยืนเม่ือมีเจา้ หน้าท่ีรักษาความปลอดภยั ๓ คน
รปู แสดงการยนื เมื่อเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่รกั ษาความปลอดภยั ๓ คน 1.4 เมือ่ ใช้เจ้าหน้าที่ 4 คน ประกอบดว้ ย (1) เจ้าหนา้ ท่รี ักษาความปลอดภัยส่วนหนา้ (ADVANCE AGENT) ADV (2) หัวหน้าชุดตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) AIC (3) รองหวั หนา้ ชดุ ตดิ ตาม (SHIFT LEADER) SL (4) เจา้ หน้าทร่ี ะวงั ดา้ นซ้าย (LEFT REAR) LR รูปขบวนการใช้เจา้ หนา้ ที่รักษาความปลอดภัย 4 คน เป็นรูปขบวนการวางกำลัง ที่ให้การรักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญได้เป็นอย่างดี กรณเี มอ่ื จำเปน็ ต้องผ่านฝงู ชนจำนวนมากหรอื การให้ สมั ภาษณ์ สอ่ื มวลชนและต้องการคุ้มกันอยา่ งหนาแนน่ ซง่ึ สามารถป้องกนั ได้ทุกทิศทาง แต่บุคคลสำคญั สว่ นมากมกั ไม่ชอบรูปแบบการวางกำลังแบบนี้เน่ืองจากไม่ไดส้ มั ผัสกบั ประซาซน ทศิ ทางการเดิน
รปู แสดงการยืนเม่ือมีเจา้ หน้าท่ีรักษาความปลอดภยั ๔ คน
1.5 เจ้าหน้าท่ี 5 คน (Pentagon Agents) ประกอบดว้ ย (1) เจา้ หนา้ ท่ีรักษาความปลอดภัยส่วนหน้า (ADVANCE AGENT) ADV (2) หวั หนา้ ชุดตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) AIC (3) รองหัวหน้าชดุ ติดตาม (SHIFT LEADER) SL (4) เจา้ หน้าทรี่ ะวงั ด้านซา้ ย (LEFT REAR) LR (5) เจ้าหนา้ ที่ระวงั ดา้ นขวา (RIGHT REAR) RR รปู แสดงตำแหนง่ การยนื รกั ษาความปลอดภยั เมื่อใช้เจา้ หน้าทรี่ กั ษาความปลอดภยั 5 คน รูปขบวนนใ้ี ชใ้ นกรณีท่ีมฝี งู ชนหนาแนน่ มากหรือบางคร้ังจำเปน็ ต้องพาบุคคลสำคัญฝ่าวงลอ้ มของฝงู ซน ซึ่งสามารถทำวงล้อมเพื่อปอ้ งกันบุคคลสำคัญ โดยปรบั รปู ขบวนวงล้อมให้เลก็ ลงจนเกือบชดิ กันแล้วใช้มือซา้ ยจบั เขม็ ขดั หรือจบั มือในลกั ษณะมัดข้าวต้มพาบุคคลสำคัญไปยังทีห่ มาย โดยหัวหน้าชุดตดิ ตามเป็นผู้กำหนดทิศทาง ทศิ ทางการเดิน
รปู แสดงการยนื เมื่อมเี จา้ หน้าท่ีรกั ษาความปลอดภัย ๕ คน รปู แสดงการยืนเม่ือเกิดเหตุ มีเจา้ หนา้ ทร่ี กั ษาความปลอดภยั ๕ คน
1.6 เมือ่ ใช้เจ้าหนา้ ท่ี 6 คน ประกอบด้วย (1) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนหน้า (ADVANCE AGENT) ADV (2) หวั หนา้ ชุดตดิ ตาม (AGENT IN CHARGE) AIC (3) รองหัวหน้าชดุ ตดิ ตาม (SHIFT LEADER) SL (4) เจา้ หน้าที่ระวังดา้ นซ้าย (LEFT REAR) LR (5) เจ้าหน้าทรี่ ะวังด้านขวา (RIGHT REAR) RR (6) เจา้ หนา้ ทร่ี ะวงั หลัง (WELL AGENT) WELL รูปแสดงตำแหน่งการยืนรักษาความปลอดภัย เมื่อใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 6 คน รูปขบวนน้ีใช้ในกรณี พ้ืนท่ีมีความเส่ียงสูง มีฝูงชนหนาแน่นมากบางคร้ังจำเป็นต้องพาบุคคลสำคัญ ฝ่าวงล้อมของฝูงชน ซ่ึงสามารถทำวงล้อมเพื่อป้องกันบุคคลสำคัญ โดยปรับรูปขบวนวงล้อมให้เล็กลงจนเกือบ ชิดกันแล้วใช้มือซ้ายจับเข็มขัดหรือจับมือในลักษณะมัดข้าวต้ม พาบุคคลสำคัญไปยังที่หมาย โดยหัวหน้าชุด ตดิ ตามเปน็ ผกู้ ำหนดทิศทาง โดยมกี ารเพ่ิมเจ้าหน้าทีร่ ะวงั หลังเข้ามาในทีม รปู แสดงการยืนเม่ือมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภยั ๖ คน
รปู แสดงการยืนเม่ือมีเจา้ หน้าท่ีรักษาความปลอดภยั ๖ คน
รปู แสดงการยนื เม่ือเกดิ เหตุ มีเจา้ หนา้ ที่รกั ษาความปลอดภยั ๖ คน
๒. การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญเม่ือปราศรัยบนเวที เวทีสำหรับปราศรัยอาจเป็นเวทีที่อยู่ภายในอาคาร เซ่น หอประชุม โรงแรม หรือเป็นเวทีกลางแจ้ง ข้อสำคัญ ส่วนล่วงหน้าจะต้องทำแผนโดยละเอียดให้เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทุกคนได้รับ ขอ้ มลู ตรงกนั ทกุ แงม่ มุ หากเป็นเวทีที่มีทางขึ้นลงอยู่ด้านข้างตรงกันข้ามกัน ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ทเี่ ดินนำหน้าขึ้นเวทีคนแรก เดินเลยไปหยุดในตำแหน่งท่ีสามารถป้องกันทางลงจากเวทีได้ ADV ส่วนเจ้าหน้าที่ รักษา ความปลอดภัยบุคคลสำคัญทางด้านใกล้เวที LR ให้ขึ้นไปยืนอยู่ข้างหลังเย้ืองไปทางด้านซ้ายของบุคคล สำคัญ หัวหน้าชุดติดตาม (AGENT IN CHARGE) ตามข้ึนไปบนเวทีแล้วไปยืนด้านหลังเยื้องไปทางขวา เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยบุคคลสำคัญท่ีเดินอยู่ด้านข้างหน้าเวทีอยู่ติดกับผู้ฟ้ง ให้ WELL กับ RR ยืน สังเกตการณ์ด้านหน้าเวทีหรืออาจปะปนกับผู้ฟังการปราศรัยท่ีอยู่ด้านหน้า สำหรับเจ้าหน้าท่ีรักษาความ ปลอดภัยบุคคลสำคัญท่ีเดินตามคนสดุ ทา้ ยให้หยุด SL อยู่ทีท่ างข้ึนเวที รูปแสดงการยืนการรักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคญั เม่ือปราศรยั บนเวที ทีม่ า : คู่มือยุทธวธิ สี ำหรบั ตำรวจสำหรับครฝู ึก บช.ศ. ๒๕๖๑
ภาพแสดงการยืนอารักขาบุคคลสำคญั เมื่อยนื บนเวที
3 รปู ขบวนเม่อื นำบุคคลสำคัญข้นึ รถยนตแ์ ละลงรถยนต์ รูปขบวนการขน้ึ รถยนต์ เมอื่ ใชร้ ถยนตน์ ั่ง 2 คนั รถคนั แรกจะมีผู้น่ัง 3 คน คอื 1.ตัวบคุ คลสำคญั 2.เจ้าหน้าท่รี ักษาความปลอดภยั บุคคลสำคัญซึ่งเป็น หวั หน้า(AIC) และพลขับรถบุคคลสำคญั รถคันที่ 2 จะมผี ู้นัง่ ในรถ 4 คน คอื 1.เจ้าหน้าท่รี ักษาความปลอดภัย บุคคลสำคัญ(SL) 2.เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทางซ้าย (LR) 3.เจ้าหน้าท่ีรักษาความ ปลอดภยั บคุ คลสำคัญทางขวา(RR) และ 4.พลขบั รถตดิ ตาม 3.1 การปฏบิ ัตใิ นการขนึ้ รถเมือ่ มเี จ้าหน้าที่รักษาความปลอดภยั บคุ คลสำคญั 5 คน ขั้นตอนที่ 1 พลขบั รถบุคคลสำคญั ติดเคร่ืองยนต์พร้อมจอดดา้ นหนา้ ส่วนพลขบั รถติดตามนำรถ จอดดา้ นหลังห่างกนั ประมาณ 2 เมตร และหมนุ พวงมาลัยรถให้ล้อดา้ นหนา้ เฉยี งไปทางขวาเลก็ น้อย ขั้นตอนท่ี 2 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญส่วนหน้า (ADV ) ซ่ึงไปถึงรถยนต์ของ บุคคลสำคัญ ก่อนให้เปิดประตูด้านหลังซ้ายแล้วขยับมายืนบังประตูตรงที่น่ังที่บุคคลสำคัญจะนั่งและหันหน้า ออกจากรถ ข้ันตอนท่ี 3 เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทางขวา (RR) ว่ิงอ้อมรถบุคคลสำคัญ ไปยนื บัง ประตรู ถด้านขวาตรงเบาะหลังที่บคุ คลสำคัญจะนัง่ และหนั หนา้ ออกจากรถ ในขณะเดยี วกันเจ้าหนา้ ท่ี รกั ษา ความปลอดภัยบุคคลสำคญั ทางซ้าย(LR) รีบไปยืนบังที่ดา้ นซ้ายของรถบริเวณล้อรถด้านหน้าโดยหันหน้า เฉียงไป ทางซา้ ยประมาณ 45 องศา ข้ันตอนที่ 4 เมื่อบุคคลสำคัญไปถึงรถเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญส่วนหน้าเดิน (ADV ) ออกห่างจากรถ เพือ่ ให้บุคคลสำคัญเข้าไปนั่งในรถ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าทร่ี กั ษาความปลอดภยั บุคคล สำคัญ หวั หน้ากะ (SL) ตอ้ งยืนกำบังบคุ คลสำคญั ทางด้านทา้ ยรถ เพ่อื ไมใ่ ห้ถูกทำรา้ ยขณะขนึ้ รถ ข้ันตอนท่ี 5 เมื่อบุคคลสำคัญน่ังรถเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยประจำตัว บุคคล(AIC) สำคัญก็จะข้ึนนั่งด้านหน้าของรถบุคคลสำคัญคู่กับพลขับ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภยั บคุ คล สำคญั หัวหนา้ กะ(SL) เจ้าหนา้ ท่ีรกั ษาความปลอดภัยด้านซา้ ย(LR) และด้านขวา (RR) ต้องรีบ ไปข้ึนรถติดตาม โดยเจ้าหน้าท่ี รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญหัวหน้ากะนั่งด้านหน้าคู่กับพลขับรถติดตาม, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บุคคลสำคัญทางซ้าย LR นั่งเบาะหลังด้านซ้าย และเจ้าหน้าท่ีรักษาความ ปลอดภยั ทางขวา RR นัง่ ทเี่ บาะหลังดา้ นขวา
SL รูปแสดงตำแหน่ง สว่ นลว่ งหน้า (ADV) ไปเปิดประตรู ถบุคคลสำคญั รปู แสดงตำแหน่ง รปภ. ทางซ้าย (LR) และทางขวา (RR) เข้าไปอารักขารอบรถบุคคลสำคัญ รูปแสดงตำแหนง่ รปภ.ดา้ นหลงั (SL) และ รปภ.ประจำตวั (AIC) เข้าไปอารักขารอบรถบุคคลสำคญั รูปแสดงตำแหนง่ การเดินของเจ้ากนา้ ทีร่ กั ษาความปลอดภัย ที่มา : คู่มือยุทธวิธสี ำหรับตำรวจสำหรับครฝู ึก บช.ศ. ๒๕๖๑
ADV รูปแสดงตำแหนง่ ที่นั่งในรถบุคคลสำคญั และรถติดตามขณะขบวนออกจากจดุ เริม่ ตน้ รูปแสดงตำแหน่งทน่ี ง่ั ในรถบุคคลสำคัญและรถตดิ ตามขณะขบวนออกจากจุดเร่มิ ต้น หมายเหตุ ตำแหนทง่ ่ีมขาอภงาเจพา้ ห: นคู่ม้าทือร่ียกัทุ ษธาวคิธีสวาำมหปรับลตอำดรภวยั จบสคุ ำคหลรับสำคครัญูฝกึทาบงชซ.้าศย.แ๒ล๕ะ๖ท๑างขวาสามารถสบั เปล่ียนกันได้ ตามความเหมาะสมกับเหตกุ ารณ์ 4.3.2รูปขบวนการลงจากรถยนต์ เมื่อใช้รถยนต์น่ัง 2 คัน และมีเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภยั 6 คน ขน้ั ตอนในการปฏบิ ตั ิ มดี ังนี้ ขั้นตอนท่ี 1 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญส่วนหน้า ยืนซ้ีจุดที่จะให้รถบุคคลสำคัญ จอด( AVD ) โดยยนื หันหน้าต้ังฉากกับทศิ ทางการเคลอื่ นท่ีของขบวนรถ ขน้ั ตอนที่ 2 เมอ่ื รถของบคุ คลสำคญั หยุดตรงจุดที่เจา้ หน้าที่รกั ษาความปลอดภัยบุคคลสำคญั สว่ น หน้าช้ีจุดแล้วให้รถติดตามหยุดด้านหลังรถบุคคลสำคัญในลักษณะหันหน้ารถเฉียงออกทางขวา เพ่ือบังรถของ บุคคลสำคัญและพร้อมที่จะแล่นออกจากท่ีจอดเม่ือมีเหตุการณ์ จากน้ันให้เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคล สำคัญส่วนหน้ากลับหลังหันเดินออกจากรถบุคคลสำคัญประมาณ 4 ก้าว ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าท่ีรักษาความ ปลอดภัยบุคคลสำคัญในรถติดตามต้องรีบลงจากรถไปยืนกำบังรอบรถบุคคลสำคัญ โดยเจ้าหน้าท่ีรักษาความ ปลอดภัยบุคคลสำคัญที่น่ังหลังขวา ( RR ) ให้ไปยืนกำบังด้านขวาของรถ ตรงกับที่บุคคลสำคัญน่ังอยู่โดยหัน หน้าออกจากรถและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่นั่งหลังซ้าย ( LR ) ให้ลงไปยืนกำบังด้านซ้าย บริเวณล้อหน้าของรถบุคคลสำคัญหันหน้าไปทางหน้ารถ หลังจากน้ันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหัวหน้ากะ ( SL ) จึงมายืนบงั ทางซา้ ยตรงประตทู ีจ่ ะเปิดใหบ้ ุคคลสำคญั ลงจากรถ ข้ันตอนที่ 3 เม่ือเห็นวา่ เหตุการณโ์ ดยรอบเรยี บรอ้ ยดแี ลว้ เจา้ หนา้ ทร่ี ักษาความปลอดภยั บคุ คล สำคัญหัวหน้ากะจะเคาะ ( SL ) กระจกให้สัญญาณกับเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยประจำตัวบุคคลสำคัญ ( AIC ) จากน้ันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวบุคคลสำคัญ ( AIC) ก็จะลงจากรถแล้วมาเปิดประตูรถ ให้บุคคลสำคญั ( VIP ) ในขณะท่ีเจ้าหน้าทร่ี ักษาความปลอดภัยบคุ คลสำคัญหัวหนา้ กะ ( SL ) กจ็ ะขยบั ตำแหน่ง และหันหน้าไปทางดา้ นหลงั รถ
ข้ันตอนที่ 4 เมื่อบุคคลสำคัญลงจากรถเรียบร้อยดีแล้ว เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคล สำคัญส่วนหน้า ( AVD ) ก็จะออกเดินนำไปยังที่หมายในรูปขบวนส่ีเหล่ียมข้าวหลามตัด โดยมีบุคคลสำคัญอยู่ ตรงกลาง ( VIP ) เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญท่ีน่ังหลังซ้าย ( LR ) เดินทางขวาของบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญท่ีนั่งหลังขวา ( RR ) เดินทางซ้ายของบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยประจำตัวบุคคลสำคัญ AIC เดินด้านหลังเยื้องทางขวาของบุคคลสำคัญระยะห่างประมาณช่วง แขนเจ้าหนา้ ทร่ี กั ษาความปลอดภยั บุคคลสำคญั หัวหน้ากะ ( SL ) จะเดินดา้ นหลังของรปู ขบวนเมอื่ ลงจากรถ ขนั้ ตอนท่ี 5 เม่ือบุคคลสำคญั ไปถงึ ที่หมายโดยปลอดภยั แล้วพลขบั รถบุคคลสำคัญจึงเอื้อม มือมาปิดประตูรถดา้ นที่บุคคลสำคญั ลง และพลขับรถติดตามก็จะเลื่อนรถจอดเป็นรูปขบวนพรอ้ มที่จะออก เดินทางต่อไป รปู แสดงตำแหนง่ การช้ีจดุ จอดใหร้ ถบคุ คลสำคญั และรถติดตามขณะขบวนมาถึงทห่ี มาย รปู แสดงตำแหนง่ การยนื กำบังของ รปภ.ส่วนหน้า (ADV) และการลงจากรถของ รปภ.ทน่ี ั่งมาในรถติดตาม รปู แสดงตำแหนง่ การยืนกำบังของ รปภ.สว่ นหน้า (ADV) และ รปภ.ประจำตวั บุคคลสำคัญ ท่ีมาภาพ : คู่มือยุทธวิธสี ำหรับตำรวจสำหรบั ครฝู กึ บช.ศ. ๒๕๖๑
ที่มาภาพ : ค่มู ือยุทธวธิ ีสำหรับตำรวจสำหรับครูฝึก บช.ศ. ๒๕๖๑ หมายเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภยั บคุ คลสำคัญทนี่ ั่งหลังซ้ายและหลังขวาสามารถเปล่ียน ตำแหนง่ กันไดต้ ามความเหมาะสมหรอื ตามสถานการณ์ ในกรณี พ้นื ท่ีมีความเสี่ยงสูง บุคคลสำคญั มีความเส่ียงต่อภัยคุกคามอาจจะเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยทำหน้าทร่ี ะวังด้านหลัง (WELL AGENT) ในขบวนรถติดตาม ซ่ึงรปู แบบการปฏิบัตดิ งั ปรากฏใน รูป
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131