Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore pppp2

pppp2

Published by ปภัสรา ประสงค์ดี, 2018-09-03 02:24:05

Description: pppp2

Search

Read the Text Version

รายงานเรอื่ ง พุทธประวตั ิ จดั ขนึ้ เพอื่ เป็ นสว่ นหนึ่งของวชิ าส31103 ว31191 และ ว31291เพอื่ ใหไ้ ดค้ วามรู ้เกยี่ วกบั พุทธประวตั ิ และไดศ้ กึ ษาอย่างเขา้ ใจเป็ นประโยชนก์ บั การเรยี นรู ้ คณะผูจ้ ดั ทาหวงั เป็ นอยา่ งยงิ่ วา่ รายงานเรอื่ งนี่จะเป็ นประโยชนก์ บั ผูอ้ า่ นหรอื นักเรยี น นักศกึ ษา ที่กาลงั หาขอ้ มูลเรอื่ ง พุทธประวตั อิ ยุ่ หากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรบั และขออภยั มา ณ ทนี่ ี่ดว้ ย คณะผูจ้ ดั ทา

พทุ ธประวตั ิ 1วเิ คราะหพ์ ระพทุ ธเจา้ ในฐานะ 32มนุษยผ์ ูฝ้ ึ กตนไดอ้ ยา่ งสูงสุดวธิ กี ารสอนของพระพุทธเจา้ 4เทคนิคการสอน 5การเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนาตามแนว 6พุทธจรยิ าการบรหิ ารและการธารงรกั ษพระพุทธศาสนา 10

๑เรอื่ งราวและเหตกู ารณท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบัพระพุทธเจา้ เรยี กวา่ พทุ ธประวตั ิ การศกึ ษาพทุ ธประวตั จิ งึ ทาใหเ้ ขา้ สสภาคสงั คมสมยัพุทธกาลซงึ่ เป็ นคาสอนทาง พระพุทธศาสนาทมี่ ีประโยชนต์ อ่ โลกไดเ้ ป็ นอย่างดี

๒ เป็ นเรอื่ งราวความเป็ นมาของพระพุทธเจา้ ตงั้ แต่ประสตู ิ ตรสั รู ้ และปรนิ าพพาน 1) การตรสั รู ้ หมายถงึ การรแู ้ จง้ ในสจั ธรรม คอื ความจรงิอนั ประเสรฐิ ๔ ประการ ประกอบดว้ ย ทกุ ข ์ สมุทยั นิโรธมรรค ความทกุ ขอ์ นั ยงิ่ ใหญ่ของมนุษยใ์ นพระพุทธศาสนาคอื ความเกดิ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย พระพุทธเจา้จงึ แสวงหาทางออก ใหห้ ลดุ พน้ จากวงจรของความทกุ ข ์ภายหลงั ออกผนวชและไดต้ รสั รเู ้ ป็ นพระพุทธเจา้ ในวนั เพ็ญขนึ้ ๑๕ คา่ เดอื น ๖ เมอื่ พระชนมายุ ๓๕ พรรษา 2)การกอ่ ตง้ั พระพุทธศาสนา ไดเ้ รมิ่ ขนึ้ โดยพระพุทธเจา้ ทรงแสดงธรรมครง้ั แรก เรยี กวา่ ปรฐมเทศนาโปรดปัญจวคั คยี ์ ณ ป่ าอสิ ปิ ตนมฤคทายวนั จนปัญจวคั คยี ์บรรลพุ ระอรหนั ต ์ จงึ เป็ นอนั วา่ การประกาศและกอ่ ตง้ัพระพุทธศาสนาไดเ้ รมิ่ ตน้ ขนึ้ และเกดิ พระสงฆข์ นึ้ เป็ นครง้ัแรก

๓วเิ คราะหพ์ ระพุทธเจา้ ในฐานะมนุษยผ์ ู ้ประพฤตติ นไดอ้ ยา่ งสูงสุด ๑.)พระพุทธศาสนาเชอื่ ม่นั ในศกั ยภาพของมนุษย ์ โดยมองวา่มนุษยส์ ามารถพฒั นาตนเองไดด้ ว้ ยแนวทางทถี่ กู ตอ้ งเหมาะสม ๒.)มนุษยป์ ระเสรฐิ สงู สดุ ไดด้ ว้ ยการฝึ ก มนุษยเ์ ป็ นสตั วท์ ฝี่ ึ กได ้และตอ้ งฝึ ก ดงั น้ันความประเสรฐิ ของมนุษยจ์ งึ อยทู่ กี่ ารฝึ กและการพฒั นาตนเอง เชน่ เดยี วกบั พระพุทธเจา้ ซงึ่ มจี ดุ เรมิ่ ตนจากการเป็ นมนุษย ์ การตรสั รขู ้ องพระพุทธเจา้ ยงั สอนว่าการบรรลผุ ลทดี่ งี ามนั้นไมใ้ ชจ่ ะกระทาไดโ้ ดยงา่ ย แตต่ อ้ งใชค้ วามเพยี รและสตปิ ัญญาในการแสวงหา ๓.)พระพุทธเจา้ เป็ นแบบอยา่ งของมนุษยผ์ ูใ้ ชค้ วามเพยี รเพอื่ความดงี าม การตรสั นรขู ้ องพระพุทธเจา้ คอื เครอื่ งหมายแหง่ความสาเรจ็ ในการเพยี รพยายามและการใชส้ ตปิ ัญญาของพระพุทธเจา้

๔วธิ กี ารสอนของพระพทุ ธเจา้๑.หลกั พนื้ ฐานการสอน มอี ยู่ 5 ประการ ไดแ้ ก่สนั ทสั สนา คอื การอธบิ ายใหเ้ ห็นชดั เจนสมาทปนา คอื การจงู ใจสมุตเตชนา คอื ม่นั ใจวา่ จะทาใหส้ าเรจ็ ได ้สงั ปหงั สนา คอื ทาใหเ้ บกิ บาน ฟังไม่เบอื่๒.วธิ กี ารสอน๒.๑วธิ กี ารสอนแบบธรรมสากจั ฉาหรอื วธิ กี ารสอนแบบสนทนา การสนทนาชว่ ยสรา้ งบรรยากาศของความใกลช้ ดิ๒.๒วธิ กี ารสอนแบบบรรยาย พระพทุ ธเจา้ ทรงใชใ้ นที่ประชมุ ใหญ่ เพราะผูท้ มี่ ารอฟังธรรมจานวนมากมพี นื้ความรู ้ ความเขา้ ใจ และความศรทั ธาในพระพุทธศาสนาเป็ นฐานอยแู่ ลว้ การฟังธรรมจงึ เป็ นการมาเพมิ่ พูนความรู ้ความเขา้ ใจยงิ่ ๆขนึ้ ไป และยงั เป็ นการมาเพอื่ หาความสขุสงบทางใจ๒.๓)วธิ สี อนแบบตอบปัญญา พระพุทธเจา้ ทรงสอนให ้พจิ ารณาดลู กั ษณะของปัญหาและเลอื กวธิ ตี อบทเี่ หมาะสมทรงจาแนกประเภทการตอบปัญหาไว ้ 4 ประการ(๑)ปัญหาตายตวั คอื ตอบแบบตรงไปตรงมา ไม่มเี งอื่ นไขเพราะมคี าตอบตายตวั แน่นอน(๒)ปัญหายอกยอ้ น หมายถงึ ปัญหาพงึ ยอ้ นถามกอ่ นแลว้จงึ ตอบ(๓)ปัญหาแยกตอบ คอื ปัญหาทตี่ อ้ งแยกประเด็นตอบ(๔)ปัญหาไม่ตอบ คอื ปัญหาทชี่ วนทะเลาะ นอกเรอื่ ง

เทคนิคการสอน ๕๓.๑)แปลงนามธรรมใหเ้ ป็ นรปู ธรรม หรอื ทาสงิ ทยี่ ากให ้งา่ ย บางเรอื่ งมเี นือ้ หาลกึ ซงึ้ เขา้ ใจยาก พระพุทธองคจ์ งึทรงเทคนิคนีใ้ นหลายวธิ ี เชน่ การเลา่ นิทานประกอบ๓.๒)วางพระองคเ์ ป็ นแบบอยา่ ง พระองคท์ รงสอนอย่างไรแลว้ ก็ทรงปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามทสี่ อน เราอาจสรปุ เทคนิคไดด้ งั นี้๑)สาธติ หรอื ทาใหด้ ู๒)ปฏบิ ตั ติ นเป็ นแบบอย่าง๓)ทรงเลอื กใชค้ าเหมาะสมหรอื การเลน่ คา๓.๓)อบุ ายเลอื กสอน การเลอื กสอนเป็ นรายบคุ คลเนื่องจากผูท้ เี่ ขา้ ฟังธรรมสว่ นใหญม่ ภี ทู หิ ลงั ตา่ งกนั ดงั น้ันการวเิ คราะหภ์ มู หิ ลงั ใหเ้ ห็นความแตกตา่ งระหวา่ งบคั คลจงึสาคญั และจาเป็ นสาหรบั การสอน๓.๔)มคี วามยดื หยนุ่ ในการสอนบางเวลาตอ้ งยอมรบั วา่ผูเ้ รยี นเกง่ บางเวลาสมควรเขม้ งวด สมควรผ่อนตามก็ยอมตาม๓.๕)การลงโทษและการใหร้ างวลั พระพทุ ธเจา้ ทรงใชเ้ ทคนิคดว้ ยการใหร้ างวลั ดว้ ยการชมเชย เพอื่ ใหเ้ กดิ ความม่นั ใจในการกระทาความดขี องตน

๖ การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาตามแนว พุทธจรยิ าพุทธจรยิ า คอื พระจรยิ าวตั รของพระพุทธเจา้ หมายถงึการบาเพ็ญประโยชนข์ องพระพุทธเจา้ ๓ ประการไดแ้ ก่๑.โลกตั ถจรยิ า ทรงบาเพ็ญประโยชนแ์ กโ่ ลกโดยทรงอาศยั พทุ ธกจิ ตามตารางพทุ ธภารกจิ ๕ประการ ไดแ้ ก่ พทุ ธกจิ ภาคเชา้ , พุทธกจิ ภาคบ่าย ,พุทธกจิ ยามที่ ๑ ของราตรี , พุทธกจิ ยามที่ ๒ ของราตรี , พุทธกจิ ยามที่ ๓ ของราตรี๒.ญาตตั ถจรยิ า พระองคท์ รงไม่ละเลยภารกจิ ในฐานะพระทมี่ พี ระญาติ เชน่ การเสด็จไปโปรดพระญาตทิ กี่ รงุกบลิ พสั ดุ ์๓.พทุ ธตั ถจรยิ า ทรงบาเพ็ญประโยชนใ์ นฐานะพระพุทธเจา้ กลา่ วคอื การทาหนา้ ทขี่ องพระพุทธเจา้เชน่ ทรงวางกฎระเบยี บสาหรบั ควบคมุ ความประพฤติของผูม้ าบวชในพระพทุ ธศาสนา เป็ นตน้

๗ การบรหิ ารและธารงรกั ษาพระพทุ ธศาสนา๑.)การบรหิ ารพระพุทธศาสนา๑.๑. ในระยะเรมิ่ แรก การบรหิ ารและการดแู ลขนึ้ กบั พระพุทธเจา้โดยตรง ทรงมอบหมายใหพ้ ระเถระรบั ผดิ ชอบสนองงานตามความรคู ้ วามสามารถโดยมพี ระสารบี ตุ รเป็ นพระธรรมเสนาบดี๑.๒..เมอื่ มคี าเขา้ มาบวชเพมิ่ มากขนึ้ การพระพุทธเจา้ ได ้มอบหมายใหพ้ ระอปุ ัชฌายเ์ ป็ นผูร้ บั ผดิ ชอบดแู ลบนหลกั พนื้ ฐานความเห็นชอบของสงฆ ์๑.๓๓.มอื่ จานวนผูเ้ ขา้ มาบวชมมี ากและกระจายอย่ตู ามภมู ภิ าคตา่ งๆ การอยรู่ ว่ มกนั ในอารามจงึ จาเป็ นตอ้ งมผี ูบ้ รหิ ารดแู ลกลา่ วคอื มเี จา้ อาวาสและคณะอาจารย ์๑.๔.เมอื่ พระพุทธศาสนาเผยแผ่เขา้ ไปยงั ประเทศตา่ งๆ รปู แบบการบรหิ ารโดยหลกั ใหญ่แลว้ จะเหมอื นกนั

๘ ๒). การธารงรกั ษาพระพทุ ศาสนาการสรา้ งความมน่ั คงและความแข็งแกรง่ ของพระพุทธศาสนาโดยยดึ หลกั พระวนิ ัยเป็ ยหลกั๓).พุทธบรษิ ทั กบั การธารงรกั ษาพระพุทธศาสนากอ่ นทพี่ ระพุทธเจา้ จะดบั ขนั ธป์ รนิ ิพพาน พระองคไ์ ดบ้ รรลุพุทธภารกจิ 4 ประการ ซงึ่ เมอื่ พระองคไ์ ดป้ รนิ ิพพานไปแลว้พระองคท์ รงมอบหมายหนา้ ทนี่ ีใ้ หพ้ ุทธบรษิ ทั สบื ตอ่ เพอื่ ธารงพระพุทธศาสนาใหม้ น่ั คงสอื ตอ่ ไป

๑๐ การศกึ ษาธรรม เป็ นหนา้ ทพี่ ุทธ บรษิ ทั การศกึ ษาให ้ ธรรมใหเ้ ขา้ ใจ อย่าง ถอ่ แทแ้ ละถกู ตอ้ งการปกป้ องพระพทุ ธศาสน การเผยแผ่ธรรมพุทธ พุทธบรษิ ทั มหี นา้ ทที่ จี่ ะ บรษิ ทั มหี นา้ ประกาศ และเผยแผ่หลกั ธรรมปกป้ องพระพุทธศาสนา ทงั้ ดว้ ยการอบรม แนะนาภยั ภายในและภยั ภายนอก และปฎบิ ตั ติ นใหเ้ ป็ น พุทธบรษิ ทั ตอ้ งออกมา แบบอย่าง แสดงจดุ ยนื ทถี่ กู ตอ้ งของ พระพุทธศาสนา การปฏบิ ตั ธิ รรมความรงุ่ เรอื งของ ศาสนาเกดิ มาจากสาวกทเี่ ลอื่ มใส ไดป้ ฏบิ ตั ติ ามคาสอน แตเ่ มอื่ ใดที่ พุทธบรษิ ทั ไม่ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรม ทาไดศ้ กึ ษา ศาสนาก็จะคอ่ ยเสอื่ ม ลง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook