51
อยากพูดภาษาองั กฤษใหไ้ ด้ ส่งิ แรกทต่ี ้องทา คอื 52 หยุดเรียน Grammar และต้องหยุดเรียนเด๋ยี วนี้!! (ตอนที่ 3)จากตอนท่ี 1 และ 2 ถ้าใครอา่ นแบบเปิดใจและเข้าใจจะรแู้ ล้วว่า การเรียน Grammar ต่อใหเ้ รยี นเก่ง แคไ่ หน ไมไ่ ด้เกี่ยวอะไรกบั การพูดกับฝร่งั เลยวา่ จะพูดได้หรอื ไมไ่ ด้ บางคนอาจแย้งว่า “เหย้ เรยี น Grammar ไป ก็ท้าให้พดู ภาษาอังกฤษได้ดขี นึ รูปประโยคอะไรถูกตอ้ งมากขึนนะ”ใช่ครบั การเรยี น Grammar อาจมสี ว่ นทา้ ให้พูดภาษาองั กฤษไดด้ ีขนึ แต่ถา้ เทยี บกบั สง่ิ ท่ีมนั ท้าให้การ พูดมนั แย่ลงแลว้ การเรยี น Grammar ถือวา่ เปน็ ขวากหนามชนิ ใหญท่ ส่ี ดุ ชนิ หน่ึงของคนไทย ท่ที ้าให้คนไทยไมส่ ามารถใช้ภาษาอังกฤษไดด้ ี เท่าท่ีควรจะเป็น ทา้ ไมเปน็ อยา่ งงนั ละ่ ตามมาดูกนั ครับ !เหตผุ ลข้อแรก คือพอคนไทย เรยี น Grammar เยอะๆ ครกู ็สอนแต่ Grammar Grammar Grammarจนเข้าใจกนั ว่า Grammar แมง่ คอื หวั ใจของภาษาอังกฤษเลย ต้องท่องโครงสร้างประโยคให้เปะ๊ ตอ้ ง ผันกริยาใหถ้ กู ค้าเช่ือมคา้ ขยายอะไรต้องใสใ่ ห้เปน็ แลว้ พอเวลาผา่ นไป ไม่ค่อยไดใ้ ช้กเ็ ร่ิมลมื ๆ ส่ิงที่ตามมาคอื เร่มิ ไมค่ ่อยกล้าพดู เพราะกลวั Grammar จะผดิ บร้ะ! พอไมก่ ลา้ พดู บอ่ ยๆเขา้ จนไมพ่ ูดแม่งเลย จบ ง่ายดี! 555+ เนย่ี แหละคอื ปญั หา เราถูกสอนแบบอัดแนน่ Grammar มากนั จนเขา้ ใจกนั ผิดๆเสมอๆ ว่า Grammar is Everything
แกรมมารค์ อื ทกุ สงิ่ ทกุ อย่างของภา่ ษาองั กฤษ พอเราเรม่ิ หลงลมื กฏไวยากรณต์ า่ งๆ 53 ท้าใหเ้ ราพลอยไม่ม่นั ใจในการพดู ไปดว้ ยความลบั ทค่ี นพูดอังกฤษคล่องอยากบอกคอื ถา้ Grammar ผิด แต่ สาเนียงดี ฝร่ังกย็ ังฟังเขา้ ใจ ความลบั ท่ีซีเคร็ตขึ้นไปอีกคอื ฝร่งั บางคน เวลาพูดแม่งก็ Grammar ผิดเหมอื นกัน (ภาษาตวั เองเคา้ พูดผิด เคา้ ยงั ไมอ่ ายเลย เราคนไทยจะไปอายทา้ ไม เนอ๊ ะ!) และความลบั สุดยอดทส่ี ุดคือ คนไทยหลายๆคนเก่ง Grammar มากกวา่ ฝรั่งแท้ๆหลายเท่า แต่ดนั พูดภาษาอังกฤษไมไ่ ด้ เหอ้ น่าเศร้าเหตผุ ลข้อที่ 2 คอื Grammar มคี วามส้าคัญมากๆกบั การเขยี น(Writing) และมีความส้าคัญรองลงมากับการอา่ น (Reading) แตถ่ ือว่าไมม่ ีความสา้ คัญ ซ้ายังเปน็ อปุ สรรคสา้ คญั ส้าหรบั การพูด (Speaking) เพราะเวลาพดู มนั ไม่มีเวลาเหมอื นการเขยี น ท่ีจะค่อยๆเขยี นไปนึกไป ค่อยๆเรยี บเรียงความคิดกนั ไปได้ แตก่ ารพูด มันคือการส่อื สารท่ตี ้องการโตต้ อบทันทีและฉบั พลนั ทันใด คนท่พี ดู ภาษาอังกฤษกบั ฝร่ังได้คล่อง คือฟงั ปุ๊บเก็ทปั๊บ และเก็ทเปน็ ภาษาองั กฤษเลย โดยทไ่ี มต่ ้อง แปลกลับมาเป็นไทยก่อน ถา้ สอ่ื เป็นขันตอนกจ็ ะประมาณว่า ฟงั องั กฤษ>>คิดเปน็ อังกฤษ>>ตอบอังกฤษ แตส่ ้าหรบั คนท่ีพดู ภาษาองั กฤษไม่คลอ่ ง พอฟังฝร่งั พดู มา ก็จะแปลส่ิงที่ฝรั่งพูดมาเปน็ ภาษาไทย แล้วนึกประมวลผลในภาษาไทย แล้วค่อยแปลเป็นอังกฤษอีกครบั เวลาจะตอบ
ถ้าใหน้ ึกเปน็ ขันๆ กป็ ระมาณว่า ฟงั อังกฤษ>>แปลเป็นไทย>>คิดเปน็ ไทย>>แปลเปน็ อังกฤษ>> ตอบ 54เปน็ อังกฤษ การคดิ จากอังกฤษเป็นไทย และจากไทยเป็นองั กฤษกลับไปกลบั มา ทา้ ใหส้ มองประมวล ผลชา้ ทา้ ใหพ้ ดู ไมค่ ลอ่ ง ตะกุกตะกักตลอด เพราะบางทนี กึ คา้ ไมอ่ อกว่าต้องพูดวา่ ไง .เหมือนเคราะหซ์ า้ กรรมซัด เวลาพดู ตอ้ งแปลไทย-องั กฤษกลับไป มาหลายรอบแล้ว ้กอ่ นตอบตอ้ งมาเชค็ Grammar อกี ว่า Grammar เปะ๊ หรอื เปลา่ กลายเปน็ ว่าเป็น ฟงั องั กฤษ>>แปลเปน็ ไทย>>คิด เป็นไทย>>แปลเป็นอังกฤษ>>เช็ค Grammar>> ตอบเป็นองั กฤษ ใครเป็นแบบข้างต้นนี่ กว่าจะพดู ออกมาไดแ้ ตล่ ะประโยค เผลอๆฝร่งั บนิ กลบั ถึงบ้านเรียบรอ้ ย โถพ่อคุณ…เนี่ยแหละปญั หาของ Grammar ทีท่ ้าใหค้ นไทยถึงพูดภาษาองั กฤษกบั ฝร่งั ไดอ้ ยา่ งคลอ่ งๆไมุไดซ้ กั ที นอกจาก Grammar จะทา้ ให้พูดไม่คลอ่ งแลว้ เวลาฟงั กจ็ ะเป็นอปุ สรรคเชน่ กนั เพราะระหวา่ งฟงั แทนทีจ่ ะตงั ใจฟัง กลบั ต้องมารีบคดิ คา้ ตอบใหไ้ ด้ Grammar เป๊ะๆ โถ พ่อคู้ณณณณ อะไรมันจะขนาดน้านนนน… สรุปเลยนะว่า Grammar คือหนึ่งในอภมิ หาอปุ สรรคหน่งึ ของการพูด ภาษาองั กฤษ ใครพูดคลอ่ งแล้ว ค่อยมาเรยี น Grammar ใหแ้ น่นๆ ไวเ้ ผอ่ื ฝึกเขียนบทความ โครงสรา้ งประโยคเก๋ๆใหเ้ ชยชม แตถ่ า้ ใครยงั พูดภาษาองั กฤษยังไม่ค่อยคลอ่ งละ่ ก็… เผาหนังสือ Grammar ทง้ิ ก่อนเถอะครับ!!
55
อยากพดู ภาษาอังกฤษใหไ้ ด้ สง่ิ แรกท่ีตอ้ งทา คือ 56 หยดุ เรียน Grammar และต้องหยดุ เรียนเด๋ียวน้ี!! (ตอนจบ)แนวทางของการเรยี นรูภ้ าษาองั กฤษตามระบบของ Mind English นนั ไม่ใชแ่ นวทางการเรียนรภู้ าษาท่ี 2 หรอื ESL (English As Second language) ในแบบ Language Learning ทเ่ี ราใชก้ นั โดยทั่วไปและน่นั คอื แบบที่เราๆไดเ้ รยี นภาษาองั กฤษในโรงเรยี นมามากกว่า 20 ป!ี สดุ ท้ายกพ็ ูดกบั ฝรง่ั ไมค่ ่อยได้ เราใชร้ ะบบการเรยี นรู้ภาษาท่ีอิงธรรมชาติการเรยี นรภู้ าษาของมนษุ ย์ หรือวิธกี ารที่เดก็ ทารกใช้เรยี นรูภ้ าษาโดยธรรมชาติ (Natural Approach)ซึ่งแนวทางนี ในเชงิ วชิ าการเราเรยี กวา่ Language Acquisition ซึ่งมนี ักวชิ าการการศกึ ษาหลายท่าน ได้ศกึ ษาเร่อื งนี แต่ทา่ นท่ีโดดเดน่ ที่สดุ คือ ด็อกเตอร์ Stephen Krasher ผเู้ ชย่ี วชาญด้านการศึกษา ระดบั โลก ได้คิดค้นทฏษฎเี รยี นรู้แบบใหม่ทร่ี ู้จกั กันดีในแวดวงการศกึ ษาวา่ stephen krashen’s theory of second language acquisition (สามารถอา่ นงานวจิ ัยโดยละเอียดได้ท่ี http://www.sdkrashen.com/content/books/principles_and_practice.pdf) ระบบ Mind English ของเราไดน้ า้ งานวิจัยของด็อกเตอรส์ ตีเฟน มาท้าการศึกษารว่ มกับหลายๆ งานวจิ ยั ของนกั การศกึ ษาจากมหาวิทยาลยั ชนั นา้ มาผนวกกับลกั ษณะเฉพาะ และปญั หาการเรยี นรู้ ภาษาอังกฤษของคนไทยจนสร้างเป็นระบบ Mind English ขนึ มา หลงั จากการพิสจู นจ์ นมั่นใจแล้ว เราจึงนา้ ออกเผยแพรเ่ พราะเราอยากให้คนไทยพดู ภาษาอังกฤษไดเ้ หมือนฝร่งั และเราภูมิใจทีจ่ ะพูดวา่ วธิ กี ารในระบบของเราใช้ประยกุ ต์ฝึกภาษาไหนก็ได้ ภาษาที่ 3,4,5 ได้หมด ไม่เฉพาะภาษาที่ 2
กลับมาทีเ่ ร่อื งการเรียน Grammar ถา้ ใครอ่านได้ตอน 2 และตอน 3 ของบทความนี จะเขา้ ใจมากขึน 57 เพราะจริงๆแลว้ การเรียน Grammar เป็นเรอื่ งของความรู้ หรือ Knowledge Based Learning แต่ การฟัง-พูดภาษาอังกฤษเปน็ เรอื่ งของทกั ษะหรอื Skill Based Learning ซ่งึ จริงๆแลว้ กลายเปน็ ว่ามันคนละเรื่องกนั ครบั การเรียน Grammar ไมส่ ามารถทาใหพ้ ูด ภาษาองั กฤษไดจ้ รงิ แถมยงั เป็นอุปสรรคสาคญั ในการพดู ภาษาอังกฤษในระยะเริม่ ต้นอกี ดว้ ย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชดั ข้ึน เราจะเหน็ เพอ่ื นเราหรอื คนรูจ้ กั เราบางคนที่พดู ภาษาองั กฤษคล่องมาก เพราะคนนนั อาจเปน็ เด็กนอก เคยไปแลกเปล่ยี นหรือไป Summer เรยี นภาษาทตี่ ่างประเทศไมก่ ็อย่ทู ี่ไทยเนีย่ แหละ แต่ทา้ งานกับฝรงั่ หรือเรียนกับครูฝรง่ั เปน็ ประจ้า (เช่น เดก็ อนิ เตอร)์ หรือเป็น คนมน่ั ใจมาก เจอฝรง่ั เปน็ วิ่งเขา้ ชน ฝึกฟงั ฝึกพดู บอ่ ยๆ จนพดู ได้คล่อง หรืออาจเปน็ คนที่พดู ไดจ้ ากการฟงั เพลงหรอื ดูหนังฝรงั่ บ่อยๆ เรากอ็ าจเคยเจอ แตร่ ับประกนั ลา้ นเปอร์เซน็ ต์วา่ จะไมเ่ คยเจอคนพูดภาษาองั กฤษไดค้ ล่อง เพราะอ่านหนังสือ Grammar ทกุ วัน ทอ่ งกฏไวยากรณใ์ นหนงั สอื Grammar ได้ทกุ ขอ้อีกขอ้ พสิ ูจน์ทีช่ ดั เจนอกี ขอ้ คอื ตัวอย่างคนทีเ่ รยี น Grammar กอ่ นฟัง-พูด สดุ ทา้ ยแล้วเจอฝรงั่ ฟงั ไมอ่ อก พดู ไมค่ ลอ่ ง คือ คนไทยเกอื บท้ังประเทศแตต่ วั อยา่ งคนทฟี่ งั -พูดจนคล่องแล้วค่อยไปเรียน Grammar สดุ ท้ายแลว้ ทังฟัง-พูด-อ่าน-เขียน คลอ่ ง
มาก ก็คือคนอเมริกา คนองั กฤษ คนออสเตรเลยี รวมกันทังประเทศครบั 58 ถ้าคณุ ก้าลังเรียนภาษาอังกฤษ เพอ่ื ต้องการให้อา่ น Textbook ภาษาองั กฤษได้ตล่องๆ เพื่อใหฝ้ ึก Writing เขยี น Essay ไดเ้ ทพๆ .เพ่ือสอบเขา้ มหาวิทยาลัยให้ Gat Eng ได้คะแนนดๆี .เพ่ือสอบ TOEIC ใหไ้ ด้ตาม Requirement เพ่ือใชใ้ นการสมคั รงาน หรอื คุณพดู ภาษาองั กฤษกับฝรงั่ ได้คลอ่ งแล้ว เรียนไปเถอะครบั Grammar ตง้ั ใจเรยี นให้ดดี ้วย! แตถ่ า้ ตอนนีคณุ อยากพูดภาษาอังกฤษกบั ฝร่งั ใหค้ ลอ่ งๆ มน่ั ใจๆ ส้าเนยี งเป๊ะๆ หยดุ เรยี น Grammar เดีย๋ วนีครบั เลกิ เดี๋ยวนีเลย!บางคนเขา้ ใจแลว้ ว่า Grammar ไม่ช่วยให้พดู ได้ดขี ึน ใชค่ รับ แต่ส้าหรับการเรียนภาษาตามระบบ Mind English การเรียน Grammar นอกจากไมไ่ ด้ชว่ ยใหด้ ีขนึ จะทา้ ใหท้ กุ อย่างแย่ลงด้วย! บางคนถามวา่ “เอ๊ะ ถ้าไม่ใหเ้ รียน Grammar แล้วจะใหเ้ รยี นภาษาอังกฤษยงั ไงละ่ ให้ฝกึ พดู เลยใช่ไหม” คา้ ตอบคือ ไมใ่ ช่ครับ (อยากรู้วา่ เรยี นยงั ไง รออกี ไมก่ ี่หนา้ ครบั ) ระบบของเราต้องการใหค้ นทเี่ รยี นรตู้ ามระบบพดู กับฝรัง่ ได้คล่องเท่ากับเราพดู ภาษาไทย พร้อมสาเนียงเปะ๊ และโครงสรา้ งไวยากรณถ์ ูกตอ้ งด้วย
อ้าว ไหนบอกไม่เรียน Grammar แลว้ ทา้ ไมโครงสรา้ งไวยากรณถ์ กู 59 เนี่ยแหละครับความพิเศษของระบบ Mind English จริงๆไม่ไดพ้ ิเศษอะไรหรอก ระบบของเรากก็ อ๊ ปป้ีวิธกี ารเรยี นรภู้ าษาไทยของเราๆเน่ียแหละ เราพดู ภาษาไทยแบบเรียงประธาน กรยิ า กรรม แบบโครงสร้างประโยคถูกตอ้ ง เชน่ ฉันรักประเทศไทย กอ่ นท่ีเราจะรู้วา่ คา้ ว่า”ฉนั ” ซึ่งเปน็ บรุ ษุ สรรพนาม ทา้ หน้าทเ่ี ป็นประธานในประโยค ก่อนที่เราจะรวู้ า่ คา้ วา่ “รกั ” ซ่งึ เป็นสกรรมกริยา ทา้ หนา้ ทีเ่ ปน็ กรยิ าในประโยค กอ่ นท่ีเราจะรู้ว่า ค้าวา่ “ประเทศไทย” ซึง่ เป็นวสิ ามานยนาม ท้าหนา้ ท่ีเป็นกรรมในประโยคทา้ ไมเราพดู ประโยคว่า “ฉนั รกั ประเทศไทย” ได้อยา่ งถูกต้องและเขา้ ใจความหมายของมนั โดยที่ไม่ รู้จักไวยากรณ์มากอ่ น หรือร้จู ักแต่ลมื ไปแลว้ ในภาษาไทยได้ แล้วเราจะใชว้ ิธกี ารเรียนรเู้ ดียวกันนกี บั ภาษาอังกฤษไมไ่ ด้? ทังหมดทพี่ ดู มานี เราขออยา่ งเดยี วครบั วา่ อยา่ เช่ือ! แต่ขอให้พิสจู น์ เปดิ ใจพสิ ูจน์ตามแนวทางของเรา แล้วคณุ จะมหัศจรรยก์ ับผลลพั ธ์ท่ีเกดิ ข้นึ เพราะมันไม่เคยเกดิ ขึ้นเลย ในตลอด 20 ปีท่คี ุณเรยี นภาษาอังกฤษมา...
60
อยากพดู อังกฤษคลอ่ ง ตอ้ งอยา่ แปล! 61 คนไทยส่วนใหญ่พดู องั กฤษตะกุกตะกกั ไม่ลนื่ ไหล เพราะเวลาคยุ กับฝร่ังที ภาษาองั กฤษเข้าหูมาปุ๊บ แปลเป็นภาษาไทยปั๊บ เข้าสมองมาก็ประมวลผลเปน็ ภาษาไทย แล้วคดิ คา้ ตอบเป็นภาษาไทย สุดท้ายจะพดู โต้ตอบก็แปลจากไทยกลบั เป็นองั กฤษ แล้วคอ่ ยพูดออกไป! กวา่ จะพูดไดซ้ กั ประโยคหนงึ่ ตอ้ งคดิ 3-4 สเต็ปกว่าจะหลดุ ปากเราออกมาได้ เปน็ เร่ืองธรรมดาที่จะพดู ตดิ อา่ ง งึกๆงักๆตะกุกตะกกั เหลือเกนิ นย่ี งั ไม่นบั ใครท่ีต้องมานกึ แกรมมาร์ นกึ โครงสร้างประโยค นกึ คา้ ศัพท์อกี ถ้าใครยังตอ้ งมานกึ พวกนี ชีวิตนีไม่มีทางพูดอังกฤษได้คล่อง! พูดเลย! การเรยี นภาษาท่ถี กู ต้อง ตอ้ งพยายามแปลให้น้อยท่สี ุดหรือไม่แปลเลยไดย้ ง่ิ ดี เนน้ ความเขา้ ใจความหมายเป็นภาพของมันจรงิ ๆบางคนถาม “อา่ ว แล้วงีเวลาเจอศพั ท์ทไี่ มร่ ู้ หรอื เจอศพั ท์ยากๆท้าไงอ่ะ ถา้ ไม่แปลจะเข้าใจไดไ้ ง?” ถา้ ถามคา้ ถามนี แปลวา่ ยังไมร่ วู้ ธิ เี รยี นรศู้ ัพท์ขนั เทพ! ตามระบบของ Mind English ซะแล้ว รอตอนหนา้ เดยี๋ วรเู้ ลย! .สงิ่ ท่ีเราชอบแนะนา้ เป็นพิเศษ… ถ้าอยากฝึกภาษาองั กฤษแบบคา่ ใชจ้ ่ายต่้าๆ แตไ่ ด้ประสทิ ธผิ ลสงู คือการดหู นัง Soundtrack หรอื หนังฝรั่งเนี่ยแหละ เพราะเราสามารถเขา้ ใจประโยคหรือแม้กระทั่งบางศัพทไ์ ด้ โดยการเดาเชือ่ มโยงกับเร่อื งราว หรือภาพทเี่ ราเห็นโดยไมต่ อ้ งแปลด้วยซา้
แต่ตอ้ งดูหนงั ใหถ้ กู วิธีด้วย ถ้ามัวแตจ่ อ้ งอ่านซบั ไมว่ า่ ซับไทยหรือซับอังกฤษ 62 ยังไงก็ไม่เวิค เพราะเราจะฝกึ ฟงั พูด ไม่ไดฝ้ กึ อ่าน ถ้าอยากร้วู ิธีดหู นังแบบเวิคๆ ตามระบบของ Mind English รออกี ไมก่ ีห่ น้า ไดร้ แู้ น่นอน! ภาพผลลพั ธส์ ดุ ท้ายปลายทางท่ีเราต้องการจากนักเรยี นของสถาบันเรา หรอื ผู้ทีฝ่ กึ ฝนดว้ ยตนเองตามแนวทางของ Mind English คอื สามารถคุยกับฝรัง่ ตอ้ งพูดได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว ม่ันใจและเปน็ อตั โนมัติ เป็นอตั โนมตั ิท่ีวา่ คอื ฟังภาษาอังกฤษแล้วเข้าใจ เก็ททนั ทีโดยไม่ต้องแปล คิดเปน็ ภาษาอังกฤษ และพูดตอบเป็นภาษาองั กฤษทันทที ันใด ไมม่ ีตะกุกตะกัก ไม่มอี า้ ๆองึ ๆ สรุปง่ายๆ คอื ฟงั -คิด-พูด เป็นภาษาอังกฤษแบบอตั โนมัติ สังเกตว่า ในโพรเซสนี ไมม่ ภี าษาไทยเจือปนเลย นีค่ ือแนวทางการฝกึ พดู ภาษาองั กฤษ ท่ีเวิคทสี่ ดุ แลว้ ว! ถา้ ท้าได้ตามนี รับรองวา่ คณุ จะพูดภาษาองั กฤษกบั ฝรงั่ ไดโ้ คตรคลอ่ ง! โคตรล่ืนไหล! เพราะไม่ต้องเสียเวลาแปลเป็นไทยในหวั อีก .และถ้าเรียนตามระบบของ Mind English ทเ่ี นน้ การเรียนรู้ซึมซับผา่ นจิตใต้สานกึ (Mind Based Learning) ท่ีจะทาใหค้ ณุ ใช้ศัพท์ ใช้โครงสร้างไวยากรณ์ไดแ้ บบไม่ตอ้ งนึก ทุกอย่างเปน็ อตั โนมตั ทิ ัง้ หมด! คาวา่ พูดได้อย่างเปน็ “อตั โนมัติ” เนีย่ แหละ เปน็ หน่ึงในหัวใจสาคญั ของระบบ Mind English
63
อยากพดู อังกฤษคลอ่ ง ต้องงดท่องศัพท์!!! 64 เอะ๊ ทา้ ไมละ่ ถา้ ไมร่ ูศ้ ัพทเ์ ลยจะเอาไรมาพดู ! ใช่ครบั ท่ีเราบอกให้งดทอ่ งศพั ท์ คืองดทอ่ งศัพทแ์ บบเดมิ ๆ ทเี่ ราใช้กนั มาตลอดเกือบ 20 ปีทเี่ รยี นภาษาองั กฤษในแบบไทยๆ สดุ ทา้ ยก็พดู ภาษาอังกฤษไม่คอ่ ยได้ สา้ เนียงไม่ตอ้ งพูดถึง เจอฝร่งั ทไี รเป็นต้องติดอา่ ง การเรียนร้ศู ัพทเ์ ป็นสงิ่ ท่สี าคญั มากในการเรยี นภาษา แต่การเรียนรศู้ ัพท์ภาษาอังกฤษท่ีเราเรียนๆกันมา ล้มเหลวโดยสนิ้ เชิง! วิธที ีเ่ ราเรียนรศู้ ัพท์กนั มาคือ มศี ัพทเ์ ปน็ ลิสตห์ ลายสิบค้าเขยี นเรียงๆไล่ๆกนั มา พร้อมคา้ แปลภาษาไทยเสรจ็ สรรพ น่งั ท่องๆกันไป สุดทา้ ยมาถึงปัจจบุ ัน ศัพทท์ ี่ทอ่ งๆกันมา กจ็ า้ ได้บา้ ง จา้ ไมไ่ ด้บา้ งไอทีจ่ า้ ไมไ่ ด้ก็ถัวๆกันไป แต่ทแี่ ยม่ ากคอื บางค้าจา้ ได้แทๆ้ แต่เวลาคุยกบั ฝรั่งจริงกลับนกึ ไม่ออก คุยไปตะกุกตะกกั ไป หลายๆครังคยุ เสรจ็ นั่งรถไฟฟา้ กลับบ้านแล้วคอ่ ยนึกศพั ทอ์ อก เหอ้ ชีวติ ( ใครเปน็ แบบนี้บ้าง ยกมอื ข้นึ !! ใครเป็นแบบนไี้ ม่ต้องเสียใจ เพราะคุณมอี าการเดียวกบั คนไทยหลายสบิ ล้านคน! เพราะวธิ ที เ่ี ราเรยี นรคู้ า้ ศพั ท์ท่เี รียนๆกันมา ในระบบการศกึ ษาไทย มนั ผิดทงั หมด! เรยี นไปสดุ ทา้ ยกล็ มื เรียนไปกน็ า้ มาใชพ้ ูดจริงก็ไม่ได้ลองดูทภ่ี าษาไทยทเ่ี ราใช้กนั ทกุ วนั สคิ รบั เราเคยมานงั่ ท่องศพั ทเ์ ป็นลิสต์ๆทีละ 20-30 คา้ กนั ไหม ไมม่ คี รบั เราเรยี นรู้กนั แบบธรรมชาติ
65 ถา้ เราไดเ้ รยี นรวู้ ิธีเรียนรู้ศัพทอ์ ยา่ งถกู ตอ้ ง ถ้าเรยี นรศู้ พั ท์ 10 คา้ ก็ควรนา้ มาใช้พูดได้คล่องแคลว่ ทงั 10 คา้ ถา้ เรยี นรศู้ พั ท์ 100 ค้าก็สามารถนา้ มาใช้อย่างอัตโนมตั ิได้ทัง 100 คา้ แต่ครอู งั กฤษบางคน รจู้ ักศัพท์เปน็ 1000 คา้ แตก่ ลับพดู ภาษาอังกฤษไม่คลอ่ ง ในสถานการณ์จริงนึกศพั ท์ไม่ออก น่ีคืออลั ลยั ย? จบไดแ้ ลว้ ครบั ใครที่ยงั นั่งออกศัพท์อยู่ ่ดม่ื วีต้าแล้วเลิกท่องศัพทซ์ ะ! ตอนตอ่ ไป เราจะแนะน้าวธิ ีการเรยี นรู้ศัพทแ์ บบ Mind English ผมใช้ค้าว่า \"เรยี นร\"ู้ นะครบั ไม่ใช่ \"ท่อง\" ซง่ึ จะใช้คนละวิธี คนละหลักการ จนถงึ ขนั สมองคนละซีกกับวธิ เี ดิมเลยด้วยซ้า!สิ่งตอ้ งหา้ มสา้ หรับครูในระบบ Mind English คือห้ามเขยี นลสิ ตศ์ ัพท์บนกระดานพร้อมคา้ แปลเสรจ็สรรพ แล้วให้นักเรยี นจดไปทอ่ ง นี่คือวธิ เี รียนรู้ท่ีทา้ ให้คณุ ลม้ เหลวในการพดู ภาษาอังกฤษ นพี่ ดู เลย!การเรยี นรคู้ าศพั ท์ตามระบบของ Mind English จะทาใหค้ ุณจาศพั ท์ได้นานขึ้น และเหนือไปกวา่นั้นคอื คณุ จะสามารถนาคาศัพทท์ กุ คาทีค่ ุณเรยี นรู้ มาใชพ้ ูดจรงิ กบั ฝรง่ั ไดอ้ ย่างทันทีและอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสยี เวลามานกึ คา แมแ้ ต่วินาทเี ดยี ว!! สดุ ทา้ ยนี้ ใครยังนง่ั ท่องศพั ท์อยู่ ถา้ สอบปลายภาค, สอบ Admission, หรอื สอบ TOEIC, TOEFL, IELTS เสร็จแลว้ ... ลิสตศ์ พั ทใ์ นมือท่าน ลงถงั เถอะครบั !!!!
66
อยากพูดองั กฤษคล่อง ตอ้ งงดทอ่ งศัพท์!!! (ตอน 2) 67 จากตอนทีแ่ ล้ว เราปฏเิ สธวธิ ที ่องศพั ท์แบบดังเดิมของระบบการศึกษาไทย ที่มีลสิ ต์ศัพทย์ าวๆ มีคา้ แปลภาษาไทยเสร็จสรรพ เพราะวิธีแบบนัน สดุ แสนจะไม่เวคิ ทอ่ งไดแ้ ปบ๊ ๆก็ลืม เวลาพดู จรงิ นกึ ศัพท์ก็ไม่ค่อยทนั หรอก แตถ่ ้าใชอ้ า่ นกับเขียนยงั พอโออยู่ เราจึงแนะนา้ ใหท้ ุกทา่ นที่ก้าลังฝกึ พูดภาษาองั กฤษเพอ่ื ใหพ้ ดู ได้อยา่ งกะฝรั่ง (เน้นนะครับ ฝกึ เพือ่ พดู พดู พดู ) ว่าให้ทงิ ลิสตศ์ ัพทท์ ก่ี ้าลังท่องลงถงั ขยะไปซะ ท่องศัพทก์ ันมาตังแต่ป.1 ยันปรญิ ญาตรี วนั นพี ดู กบั ฝรั่งกนั คลอ่ งไหม ตอบ! แล้วทาไมวธิ ที อ่ งศพั ทแ์ บบเดมิ ๆ ถึงไมเ่ วคิ ! เพราะวธิ กี ารทอ่ งศพั ทแ์ บบดังเดมิ จะเป็นการ Translating & Memorizing.เมอ่ื เราเจอศัพท์ใหม่ ครูกจ็ ะบอกคา้ แปลเปน็ ภาษาไทย (Translating) ไมเ่ รากไ็ ปเปดิ ดิกแลว้ เขยี นค้า แปลเป็นภาษาไทย แลว้ กท็ อ่ งๆๆๆ (Memorizing) ผ่านไปซักพักกล็ มื คา้ ไหนวนมาเจอใหท้ ่องบ่อยๆถึงจะจ้าได้ คา้ ศัพทไ์ หนทอ่ งครังเดยี วผา่ น สอบเสร็จแลว้ ไมเ่ จออีก ไม่เกิน 3 เดือนครบั ลืม! ที่เปน็ แบบนี้ เพราะวธิ ี Translating & Memorizing เป็นการเรียนรูโ้ ดยใช้สมองซีกซา้ ย ซงึ่ เปน็ สมองส่วนที่คิดตรรกะ เปน็ เหตเุ ป็นผล ซึ่งเป็นการเรียนร้แู บบ Short Term Memory หรอื เปน็ ความทรงจาระยะสั้น
ไมเ่ หมอื นการเรยี นรโู้ ดยใช้สมองซกี ขวา ซง่ึ เกยี่ วข้องกบั จนิ ตนาการ ความคดิ สรา้ งสรรค์รวมถึงการคิด 68 เปน็ ภาพ ซงึ่ อนั นจี ะเป็น Long Term Memory หรือความทรงจา้ ระยะยาวนน่ั เอง เวลาเราจดจ้าเพลงๆเพลงหนง่ึ ได้ที่ผ่านมานานแล้ว เราจะเนือเพลงหรือจา้ ทา้ นองไดก้ อ่ น? แน่นอน ครบั เราจา้ ท้านองไดม้ ากกวา่ แนน่ อน อยา่ วา่ แตเ่ นอื เพลงเลย ชอ่ื เพลงบางทีลมื ไปแล้วด้วยซ้าเพราะการจดจา้ ทา้ นองเป็นการจดจา้ ระยะยาวทใ่ี ชส้ มองซีกขวาครบั ส่วนเนอื เพลงเปน็ Text ซง่ึ เรา จะจดจา้ โดยใช้สมองซีกซ้าย แป๊บเดยี วกล็ มื ! เน่ียแหละครับ ท้าไมการทอ่ งศัพทแ์ บบเดิมๆถงึ ไมเ่ วคิ ! เพราะเราไปเนน้ ใชส้ มองซกี ทจี่ า้ แป๊บเดียวก็ลมื ไง บางคนบอกว่าถา้ ไม่แปลเป็นไทย ใชด้ กิ ภาษาอังกฤษแปลเป็นอังกฤษเลยจะโอเคไหม. โอเคขึนครบั เพราะไมต่ ้อง Translating แล้ว เหลอื แค่ Memorizing อยา่ งเดียวแต่วธิ นี ีกย็ ังไมด่ ีทสี่ ดุ อยู่ดี เพราะสดุ ทา้ ยกย็ ังเปน็ การเรียนรู้โดยใช้สมองซีกซา้ ย ไม่นานกล็ มื เหมือนกนั และยงิ่ ส้าหรบั คนพนื ฐานองั กฤษออ่ นเลย ถ้าจะเรียนรู้ศพั ท์โดยการเปิดดกิ องั กฤษนนี่ รกเลยครบั เผลอๆวนั เดียวเลกิ ! แลว้ เราจะเรียนร้ศู ัพท์กนั ยงั ไงดลี ะ่ หายใจลกึ ๆ แล้วเปิดหนา้ ต่อไปเลยยย
69
วธิ ที ่องศัพทฉ์ บบั เทพ! 70 ถงึ เวลาแลว้ ! ท่ีเราจะมาเผยวธิ ีการเรียนรศู้ พั ทฉ์ บับเทพตามระบบของ Mind English กัน จากการท่องศพั ทแ์ บบเดิมท่ใี ชว้ ิธี Translating & Memorizing หรือวธิ ีแปลแลว้ นงั่ ท่องแบบทเี่ ราคนุ้ เคย ซึ่งเป็นการเรียนรโู้ ดยใช้สมองซีกซ้าย ซงึ่ ไม่เวคิ เพราะสมองซีกนีเป็นสมองส่วนความทรงจา้ ระยะสัน ทา้ ใหจ้ า้ ศพั ทไ์ ด้ไม่นานก็ลืม ถงึ เวลาพดู กับฝรัง่ จริงกจ็ ะนกึ ไมค่ ่อยออก (ทังๆทีรศู้ พั ท์นนั แท้ๆ) วธิ กี ารเรยี นรู้ศัพท์ของ Mind English จะเปล่ียนจากการเรยี นรูแ้ บบดัง้ เดมิ ที่ใช้วธิ ี Translating & Memorizing เปน็ Visualizing & Feeling แทนการ Visualizing คอื การจนิ ตนาการภาพค้าศัพท์นนั ให้มีตวั ตนจรงิ เช่ือมโยงกับส่ิงที่เราร้จู ักจรงิ ๆ และ ตอ่ ดว้ ย Feeling หลังจากนึกภาพแล้วให้รสู้ กึ ไปกบั มนั สัมผสั มันทังในจนิ ตนาการซ่งึ การ Visualizing &Feeling นันเปน็ การเรียนรโู้ ดยใชส้ มองซีกขวา เปน็ การจ้าเปน็ ภาพซึ่งท้าใหเ้ กิด ความทรงจา้ ระยะยาวครบั ยกตวั อยา่ งค้าว่า Cat ถา้ ทอ่ งแบบเดิมคือแปลว่าแมว แลว้ กจ็ บ แต่ส้าหรับเรา Cat ให้นึกถึงแมวของคนขา้ งบา้ น ใหร้ สู้ ึกและสมั ผัสถงึ ความซนของมัน ยกตวั อย่างคา้ ว่า Enormous แปลว่ากวา้ งใหญม่ หมึ า ให้มองขนึ ทอ้ งฟา้ แลว้ สัมผสั ความยง่ิ ใหญข่ อง
มัน แลว้ จดจา้ วา่ ท้องฟ้านี่แม่งโคตร Enormous เลย 71 .หรอื กระทั่งคา้ ง่ายๆ อยา่ ง Excited ถา้ แปลตรงๆ แปลวา่ ตน่ื เต้น แต่อยา่ ไปจา้ ว่า Excitde = ตน่ื เตน้ ครับ แปบ๊ เดียวกล็ ืม ให้จินตนาการถงึ ความรสู้ ึกตอนท่ีตัวเองไปเดทกะแฟนครังแรก ความรูส้ กึ นนั แหละคือ Excited จา้ ความรู้สกึ ไปเลย ไมต่ อ้ งจา้ ความหมายภาษาไทยวธิ นี จี ะใช้เวลาในการจ้าศพั ท์แต่ละค้ามากกว่าวิธีท่องตรงๆ 2-3 เทา่ แตจ่ ะสามารถจดจา้ และนา้ มาใช้ ได้ดีกว่าเดมิ มากกวา่ 10 เท่าครบั ผม คอนเฟริ ์ม! ผมลองมาแลว้ !เมือ่ เรียนรแู้ ล้วอยา่ ลืมท่ีจะทบทวน การทบทวนของเราคอื ฝกึ ใช้บ่อยๆ ในชีวิตจรงิ ๆเนี่ยแหละ เชน่ ไป โรงเรียนเจอแมวหนา้ โรงเรยี นก็อย่านกึ ว่ามนั คอื แมว ให้นกึ ว่ามันคอื Cat พอเดนิ ผา่ นสนามบอลให้รจู้ ักวา่ โอว้ สนามนชี า่ ง Enormous เหลอื เกิน พอขึนห้องครจู ะประกาศคะแนนสอบ โอ้ยย แมง่ โคตรรู้สกึ Excited เลยว่ะทาแบบนบ้ี ่อยๆกบั ทุกคาท่ีคุณเรยี นรใู้ นแบบ Visualizing & Feeling คุณจะไม่ได้รู้สึกว่าคุณกาลัง ฝึกภาษาองั กฤษ แตค่ ุณจะรู้จกึ วา่ ภาษาอังกฤษกลายเป็นส่วนหนึ่งของคุณเวลาคณุ จะพดู กับฝร่งั ปกติเวลาพูดกบั ใคร สมองคณุ จะนึกและประมวลผลเร่ืองราวเปน็ ภาพอย่แู ลว้ คุณจะสามารถพูดออกมนั มาได้โดยอตั โนมตั ิ โดยทีไ่ มต่ ้องเสียเวลาแปลเป็นไทยเลย! ลองไปทา้ ดูนะครบั ตา่ งกับทค่ี ณุ ทอ่ งลิสต์ศพั ทแ์ บบเดมิ ท่องเปน็ ตัวอกั ษร ทอ่ งเป็น Text เวลาพดู จริง สมองไม่ได้นกึ เป็นตวั อักษรเหมอื นเปน็ ปา้ ยไฟวงิ่ เลือ่ นในหัว สมองประมวลผลเปน็ ภาพ… เวลาคณุ พดู กับฝร่งั คุณถึงนกึ ศพั ทไ์ ม่คอ่ ยออกไง ตะกุกตะกักเปน็ เป็นคนติดอ่างเลย เขา้ ใจแลว้ นะว่าทาไม?
72
วธิ ที ่องศพั ทฉ์ บับเทพ! (ตอน2) 73 จากตอนทแ่ี ลว้ ท่ีเราบอกทุกคนว่าวิธที อ่ งศพั ทใ์ นระบบของ Mind English วา่ เราจะเลกิ ท่องศพั ท์ แบบดงั เดิมทเี่ ราทา้ ตามๆกนั มาตลอดการเรียนภาษาอังกฤษ 20 กวา่ ปี ซ่งึ สุดทา้ ยกพ็ ดู กบั ฝรัง่ ไมไ่ ด้ มาใช้วิธเี รยี นรูศ้ พั ทใ์ นระบบของ Mind English ทีเ่ นน้ การเรียนรเู้ ชงิ ลึกโดยใช้สมองซีกขวา หรือที่เราเรยี กวา่ Visualizing & Feeling ซ่ึงคอื การนึกภาพคา้ นันเช่ือมโยงกบั สิง่ ที่มีอย่จู รงิ โดยไมต่ ้องแปล และสัมผัสความร้สู ึก สมั ผัสถงึ แสง สี รูปรา่ งของสิง่ นนั ให้ชัดเจน ตอนทแ่ี ลว้ ยกตัวอย่างไปบา้ งแลว้ ตอนนขี องยกตวั อย่างอีกซักค้าเช่นค้าวา่ Admonish คา้ นถี ้าใหแ้ ปลเปน็ ไทย อาจแปลว่า วา่ กล่าวตกั เตอื น แตถ่ ้าแปลแล้วท่องตรงๆ นอกจากจะลมื ง่าย เวลาจะใช้จริงนกึ ไม่ออกแลว้ ยงั จะไม่สามารถเขา้ ใจความหมายทแ่ี ท้จรงิ ของคา้ นีได้ การ Visualizing & Feeling ของคา้ นี ให้นกึ ถงึ ตอนเดก็ ทเ่ี ราตดิ ดูการต์ นู ช่องเกา้ แมเ่ รียกใหไ้ ป อาบนา้ เรียก 4-5 รอบเราก็ไม่ไหว แม่ก็ Admonish เรา พอโตขนึ มา เรยี นหนงั สอื ท่ีโรงเรยี น ครูสอนๆไป เราก็แอบน่งั แชทไลนไ์ ป ซกั พักครเู ห็น ครูก็ Admonish เรา ถา้ เราเขา้ ใจแบบจริงๆ เราต้องไมจ่ ้า Admonish ในความหมายภาษาไทยเลย .
หลกั คือ จนิ ตนาการใหเ้ กิด Theatre of Mind ในสมองเราถึงสถานการณข์ องคานี้ ยิ่งภาพในหัว 74 เราชัดเท่าไหร่ เราจะจดจาคาว่า Admonish ไดช้ ัดขนึ้ เทา่ น้ัน และสามารถดึงคาน้ีมาใช้สนทนาจริงไดท้ ันที แต่เทา่ นันยังไม่พอ!! ถ้าเราจะเรียนร้คู าศพั ทเ์ พอ่ื ใชใ้ นการพูด จาเป็นภาพอยา่ งเดียวไมไ่ ด้ เราตอ้ งรู้การออกเสยี งของมนั ดว้ ย!หลังจากเราเรียนร้ศู พั ทค์ า้ นนั ๆ จ้าเปน็ ภาพไดอ้ ย่างชดั เจนแลว้ สง่ิ ที่ตามมาจะต้องฝกึ ฟงั ค้านนั ๆและ ออกเสยี งคา้ นันๆตามแบบทีถ่ ูกตอ้ ง และเคร่อื งมือที่เราแนะน้าท่ีเวคิ สดุ ๆและทีส่ า้ คญั คอื ฟรี! (สา้ หรบั คนที่มี Smartphone เทา่ นัน) นั่นคือ app ท่ชี อ่ื ว่า Google Translate นัน่ เอง!!!! (ดาวนโ์ หลดไดท้ ัง App Store สา้ หรับ IOS และ Playstore ส้าหรับ Android) แอพนีใช้งา่ ยมากๆ คนอน่ื ๆมักจะใช้แอพนีแปล แต่สา้ หรบั Mind English เราไม!่ แต่เราจะใชใ้ หม้ ันออกเสียงให้และฟงั เสียงเรา (วา่ เราพูดถกู หรอื เปลา่ ) ข้ันแรก : กา้ หนดภาษากอ่ น ก้าหนดแปลไทยเป็นองั กฤษ ยา้ นะครบั แปลไทยเป็นองั กฤษ ขั้นท่ี 2 : ใส่ค้าที่เราตอ้ งการรู้วา่ ออกเสียงยงั ไงลงไป ในท่นี ใี สค่ า้ วา่ Admonish แลว้ กก็ ดแปล พอกดป๊บุ มันจะขนึ ค้าวา่ Admonish อกี ครัง แต่มนั จะไม่ขึนค้าแปลอะไร 555+ อา้ ว – -เพราะเราใสแ่ ปลไทยเปุนฺ องั กฤษ ไม่ใช่ให้อังกฤษเป็นไทย มันเลยไมแ่ ปลอะไรใหเ้ รา ขนึ แตค่ า้ เดิมที่เรา
ใสไ่ ป คอื ค้าว่า Admonish (ถา้ พมิ พ์ Admonish ไปแล้วมนั ขึนคา้ แปลภาษาไทยหราเลย แปลว่าคณุ 75 ตงั ค่าแปลอังกฤษเป็นไทยแล้ว ตอ้ งตงั คา่ แปลจากภาษาไทยไปเปน็ ภาษาอังกฤษขนั้ ที่ 3 : สังเกตด้านขวาสุดจะปุ่มให้กดรปู ล้าโพง พอกดปุ๊บ app จะออกเสยี งแบบเจา้ ของภาษาใหฟ้ ัง แนะนา้ ใหล้ องฟงั เฉยๆซกั 5 รอบ .ขน้ั ท่ี 4 : หลังจากฟังไปแล้ว 5 รอบ รอบที่ 6 แนะน้าให้ลองพดู ตาม วธิ ีพูดตามคือ สลบั การแปลจาก เดิมไทยไปองั กฤษ ให้เปลีย่ นเป็นอังกฤษเป็นไทย ซึ่งช่องที่ใหใ้ สค่ า้ ศัพทจ์ ะมีปุ่มรูปไมโครโฟน พอกด ปบุ๊ เราก็ออกเสียงตาม ถ้าเราออกเสยี งถกู ค้าศัพท์จะขึนถูกต้องตามนันว่า Admonish ถ้าออกเสยี งเพียนไป ศัพทก์ ็จะออกมาเป็นค้าอ่นื อยา่ งแย่ท่สี ุด app กจ็ ะบอกว่า Didn’t get that. แปลเปน็ ภาษาไทยคอื (ก)ู ฟงั (มงึ )ไม่รูเ้ รอื่ ง! อย่างค้าในตัวอยา่ งนี Admonish ถ้าออกเสยี งตรงๆ แอ๊ด-โม-นิช แล้วให้ผลลพั ธอ์ อกมาตรงค้ายาก มากๆๆ (ใครอ่านไดต้ รงคา้ แปลวา่ สา้ เนยี งเหมอื นเจา้ ของภาษามาก) จริงๆการฝึกแนะนา้ ให้เริม่ จากค้าง่ายๆ อยา่ ง Hello, Thank you, Cat, Dog etc. กอ่ น แลว้ คอ่ ยๆ ไลๆ่ ไตร่ ะดบั ไปเรื่อยๆแต่สิ่งทีอ่ ยากบอกและอยากเน้นคือ อย่าไปซีเรยี สมาก หากตัวเองพดู ยังไง app กย็ งั ฟงั ไมเ่ ขา้ ใจอยดู่ ี เพราะเวลาสถานการณจ์ ริง คนพูดภาษาอังกฤษคล่อง กอ็ อกเสียงคา้ บางคา้ ไม่ชดั เปะ๊ เพราะฝรั่งสามารถคาดเดาจากบรบิ ทหรือเรอื่ งราวท่ีคุย ซึง่ ทา้ ให้เขา้ ใจคา้ นันๆได้ ถา้ ให้เปรยี บ ก็คง คล้ายกับเดก็ เสิรฟ์ ชาวพมา่ หรือชาวลาวท่ีพดู ภาษาไทยไม่ค่อยชัด แตเ่ ราคนไทยก็พอฟังเข้าใจแบบฝกึ การฟงั -พูดคาศพั ท์อนั นี้ แค่อยากใหพ้ วกเราแคเ่ ข้าใจว่าคานนั้ ๆออกเสียงประมาณไหน ถา้
สดุ ท้ายแล้วออกเสยี งเลยี นแบบแล้ว แรกๆ app ยังไมเ่ ข้าใจก็ชา่ งมัน 76 เพราะเราฝึกเพอ่ื ไปพดู กบั คน ไมใ่ ช่ app แต่ถ้าเราฝกึ ไปเรือ่ ยๆเราจะเริ่มออกเสียงคาถกู ตอ้ งขึน้ เรือ่ ยๆเองถ้าใครอา่ นจนมาถึงบรรทดั นี ขอใหเ้ ข้าใจตรงกันวา่ Visualizing & Feeling สา้ คัญทีส่ ุด เพอ่ื ให้เราเหน็ ภาพของค้าศพั ทน์ นั ๆ และเรยี นรู้การใช้ app ใน Smartphone เพือ่ ใหเ้ ข้าใจการออกเสยี งของค้า นันๆ . บางคนถามว่า “เออ้ ! ถา้ จา้ เปน็ ภาพ แล้วเวลาจดศัพท์กันลมื ละ่ จะจดยงั ไงดี จดศัพทใ์ ส่ความหมาย แบบตอนเรยี นตวิ เพ่อื ไปสอบแอดมชิ ช่นั ได้ไหม” . ไม่ได้ครับ! ห้ามเดด็ ขาด บทความตอนหนา้ จะเผยวธิ ีจดคาศพั ทท์ ี่เทพท่ีสดุ ใน โลก! ห้ามพลาดเด็ดขาด พดู เลย!
77
วธิ ที ่องศัพทฉ์ บับเทพ! (ตอนจบ) 78“วิธที ่องศัพทฉ์ บบั เทพ!” เราแนะนา้ ให้หยุดท่องศพั ท์แบบเดิมๆ โดยวิธี Translating & Memorizing หมดเวลาแล้ว! ส้าหรบั การจดคา้ ศัพทล์ งสมุดแลว้ ใส่คา้ แปลแลว้ กท็ อ่ งๆๆๆและเราได้นาเสนอวิธที ่องศัพท์แบบใหม่ตามแบบฉบับของ Mind English ที่เนน้ การเรียนรูศ้ ัพท์แบบ Visualizing & Feeling ทเี นน้ การจาศัพทเ์ ป็นภาพ เปน็ ความเข้าใจ เป็นความรู้สึก ไมเ่ น้น การแปลศัพทแ์ ลว้ จาเป็นภาษาไทย รวมถึงตอนท่แี ล้ว เราแนะนา้ app ฟรีสดุ เทพ! ทท่ี า้ ใหเ้ ราเรยี นรูว้ ธิ ีการออกเสยี งค้านันๆได้อย่าง ถกู ต้องอยา่ งกับฝรง่ั ให้ส้าเนียงเลิศเป๊ะอย่างกบั ฝรั่ง!และบทความท่ีแลว้ เราท้ิงคาถามว่า ถ้าจาศพั ท์เป็นภาพแล้ว ถา้ จะจดลงสมุดละ่ จะจดอย่างไร??? หายใจลกึ ๆๆแลว้ มาดกู ัน…จากวธิ ีเดมิ ๆท่เี ราใชจ้ ดศัพทก์ ันมาในการเรยี นภาษาองั กฤษ 20 กว่าปี ที่เราท่องศัพท์และจดศัพท์เป็น ค้าๆ รู้ทลี ะคา้ เรียนทลี ะคา้ ซ่งึ เป็นวิธกี ารทีไ่ ม่เวคิ โดยสนิ เชงิ !!! และสิง่ ที่เราจะนาเสนอวันน้คี อื หยุดจดศพั ทเ์ ปน็ คาๆ (individual Word) และหนั มาเรยี นรู้ศัพท์เป็นวลีหรือเปน็ ประโยคแทน (phrase or sentence) . เวลาเราเจอคา้ ศพั ทใหม่ๆท่เี ราไมร่ ้จู กั เวลาเราอ่านหนงั สอื หรือดูหนังทเี่ ป็นซับอังกฤษ เชน่ เจอ
ประโยคว่า What is your occupation? ซ่งึ แปลว่า คุณท้าอาชีพอะไร 79 สมมติวา่ เราไม่รู้จักค้าวา่ Occupation ว่าแปลวา่ อะไร หลังจากเราเรียนรศู้ ัพทโ์ ดยวธิ ี Feeling&Visualizing ตามทีบ่ อกในตอนทแี่ ลว้เรากลวั ลมื คา้ นี อยากจดลงสมุด หา้ มจดแค่คา้ วา่ Occupation เดด็ ขาด! ใหจ้ ดไปเลยทังประโยคที่เรา เจอ คือ What is your occupation? และอยา่ ลืมฝกึ ฟงั และพดู โดยใช้ app ทเี่ ราแนะน้าไปการจดเปน็ Phrase จะดกี วา่ การจดเปน็ Word อยา่ งมหาศาลบานตะไท สรุปได้เปน็ 4 ข้อดว้ ยกัน ! 1. การจดเป็นประโยควธิ ีน้ีมันเป็นการเรียนรูโ้ ดยธรรมชาติ (Naturally Approach) เชน่ เดก็ ฝรง่ั 3 ขวบยังไมเ่ ขา้ โรงเรยี น รจู้ กั ประโยค What’s your name? ว่าถามถงึ อะไรและต้อง ตอบว่าอะไร ก่อนรู้จักความหมายทีแ่ ทจ้ ริงของค้าว่า What, ค้าวา่ Your และคา้ วา่ Name ซะอกี ! 2. การจดเป็นประโยค รวมถึงฝึกฟังให้คุ้นหแู ละฝึกพดู จนคุ้นล้นิ ทาให้เวลาเราคุยกับฝร่ัง เรา สามารถดึงรูปประโยคมาใชไ้ ด้อย่างอตั โนมัตแิ ละทันทที นั ใด เพราะปกตคิ นไทยเรยี นรู้ศัพทเ์ ป็นค้าๆ (แถมเรยี นรดู้ ้วยวธิ ีที่ผดิ ๆ) ท้าให้นกึ ศพั ท์ไม่คอ่ ยออกคา้ ไหนทน่ี กึ ศัพทอ์ อก แต่ตอ้ งมานึกโครงสร้างประโยคทต่ี อ้ งใชอ้ ีก กว่าจะพูดได้ซักที เลยตะกุกตะกกั งกึ ๆงักๆ อยู่ร่้าไป!3. การจดเปน็ ประโยค มันสอดคล้องกับวธิ กี ารเรียนรศู้ พั ทข์ องเราแบบ Feeling & Visualizing เพราะการจดเป็นประโยค มันคือ Big Picture มนั คือภาพของสถานการณน์ ้ันๆจรงิ เช่น จดว่า What is your occupation? เราอาจจะนึกถงึ ภาพพนกั งานคนหนึ่งที่ก้าลังยนื ท้า
แบบสอบถามอยู่ขา้ งรถไฟฟา้ BTS แล้วเค้าถามถึงอาชพี ของเราว่า What is your occupation? 804. และขอ้ สุดทา้ ย ทส่ี ุดของความสาคัญเพราะเปน็ วิธที ถ่ี ือเปน็ หัวใจของระบบ Mind English .เพราะการจดจาเป็นประโยคเนยี่ ทาใหเ้ ราซึมซับโครงสรา้ งไวยากรณ์ท่ถี กู ตอ้ งไปโดยปริยาย สมมตเิ ราอยากจดคา้ ว่า delicious เราก็จดว่า She eats a delicious sandwich. (จริงๆคอื เจอค้าที่เราไม่รูท้ ่ีไหน กล็ อกออกมาจดทงั ประโยค) เวลาเราจ้ากจ็ า้ ไปทังประโยค ฝกึ ออกเสยี งกอ็ อกเสยี งทังประโยคพอเจอบอ่ ยๆ (กับคา้ อน่ื ๆ) เราจะใช้ She คู่กบั กรยิ าเติม S โดยปริยายและอัตโนมตั ิโดยทเ่ี ราไม่รตู้ ัวดว้ ยซา้ วา่ เราเตมิ S ใหก้ ริยาไปแลว้ และไมร่ ้ดู ว้ ยซา้ ว่านี่ Grammar เรื่อง Present simple tense นน่ั คอื ด้วยวิธนี ้ี เราจะสามารถพูดกบั ฝร่ังได้อย่างอตั โนมัตโิ ดยท่ี Grammar เป๊ะ โดยทเ่ี ราอาจไม่เคยเรียน Grammar เร่ืองนนั้ ๆก่อน อย่างท่ีเรายกตวั อย่างไปในบทความก่อนหน้า ว่าอย่างคนไทยก็ไมส่ ามารถพดู ภาษาไทย แบบ Grammar ถกู ต้องก่อนเรยี น Grammar ทโี่ รงเรียนซะอกี เด็กอเมรกิ ันแท้ๆก็ไมเ่ คยเรียน Grammar จนถงึ ชนั มธั ยม (highschool) แต่ก็ใชภ้ าษาไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ และก็ถกู ไวยากรณ์เป็นส่วนใหญ่การทบ่ี อกว่าการเรียนรู้อนั นี้ถอื เป็นอีกหนึ่งหัวใจสาคัญของระบบ Mind English เพราะระบบ ของเรา เรยี นโดยใช้ Mind Based Learning คอื การเรียนโดยใช้ Mind หรอื จติ ใต้สานกึซง่ึ การจดจาคาศัพทโ์ ดยใช้ประโยคเป็นเพียงแค่ 1 ในหลายๆวธิ ขี องเราทีเ่ รียนรูด้ ว้ ย Mind และ
Grammar ก็จะซึมซับเข้าไป ทาให้เราพูดได้คล่อง! ทนั ท!ี เปน็ อัตโนมัต!ิ และไวยากรณ์ถกู ตอ้ ง! ไป 81 โดยธรรมชาตินักเรียนของเราจะพดู ประโยค Present Perfect Tense ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ ในสถานการณ์ทถี่ กู ตอ้ ง ทงั ๆที่ยงั ไม่ร้ดู ้วยซ้าวา่ มนั คอื Present Perfect Tense .นี่แหละครบั วธิ เี รียนรู้ศพั ทอ์ ันแสนวิเศษตามระบบของ Mind English
82
List คาศพั ท์ขน้ั เทพ! รวมสดุ ยอดคาศพั ท์คุณที่ตอ้ งรู้ 83 Wikipedia บอกว่าศพั ทใ์ นภาษาองั กฤษในปจั จบุ นั มมี ากกว่า 1 ล้านคา แตค่ ้าศัพท์ใน Dictionary ฉบับสมบรู ณ์ (เลม่ ใหญ่ๆ) ของ Oxford รวบรวมความหมายของศพั ทภ์ าษาอังกฤษกวา่ 6 แสนคา แตส่ า้ นกั ข่าว BBC สา้ นักขา่ วใหญช่ ่อื ดังของอังกฤษรายงานผลวจิ ยั ว่า ค่าเฉลี่ยของคนองั กฤษทม่ี ี การศกึ ษา (จบการศกึ ษาระดับปริญญาตรี) จะรู้คา้ ศพั ทถ์ งึ ประมาณ 75,000 คา แต่ค่าเฉลี่ยของคนสว่ นใหญ่ จะรูศ้ พั ท์ประมาณ 50,000 คา ในขณะทคี่ นองั กฤษที่ไมเ่ คยเรียนหนังสือ จะรู้ค้าศัพทเ์ พยี ง 35,000 คาเท่านัน แตก่ ผ็ ลการศกึ ษาอกี แหล่ง พูดถึงศพั ทท์ จ่ี ้าเปน็ ตอ้ งรู้จริงๆ ถา้ อยากสอบขอ้ สอบวดั ความรู้ ภาษาอังกฤษระดับสูงเชน่ TOEFL จะรศู้ ัพทท์ ีจ่ ้าเป็นจริงๆ เพียง 10,000 คาเทา่ นันแต่ถ้าไมไ่ ด้สอบอะไรมากมาย ต้องใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื การประกอบอาชพี เชน่ ประกอบธรุ กิจ, คา้ ขาย , บริการ ฯลฯ จะต้องรู้ศพั ท์ทใ่ี ช้บอ่ ยๆจริง ประมาณ 2,000 คาเทา่ นนัแต่ถ้าอยากพดู ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน พดู กับฝรัง่ สถานการณ์ท่ัวไปได้ จะเจอคาศพั ทท์ ใี่ ช้ บ่อยๆจรงิ ๆ ประมาณเกอื บ 900 คาเทา่ นัน้ และนี่คือ List คา้ ศัพท์ ค้าท่ีคณุ ต้องรูค้ วามหมายและใชเ้ ปน็ ถ้าอยากพดู ภาษาองั กฤษได้จรงิ ๆนะ เพราะค้าศัพทเ์ หลา่ นี ครอบคลมุ บทสนทนาพืนฐานในชวี ิตประจ้าวนั กว่า 90%
บอกเลยวา่ ถ้าอยากพดู องั กฤษคลอ่ งๆ ต้องเรยี นรู้ศพั ทเ์ หลา่ นี 84 และอยา่ ลมื เรียนรูด้ ว้ ยวธิ ที อ่ งศัพทฉ์ บบั เทพ ตามแบบฉบับของ Mind English ดว้ ยนะจะ้ จ๊บุ ๆ come, get, give, go, keep, let, make, put, seem, take, be, do, have, say, see, send, may, will,about, across, after, against, among, at, before, between, by, down, from, in, off, on, over, through, to, under, up, with, as, for, of, till, than,a , the, all, any, every, little, much, no, other, some, such, that, this, I , he, you, who, and, because, but, or, if, though, while, how, when, where, why, again, ever, far, forward, here, near, now, out, still, then, there, together, well, almost, enough, even, not, only, quite, so, very, tomorrow, yesterday, north, south, east, west, please, yes . account, act, addition, adjustment, advertisement, agreement, air, amount, amusement, animal, answer, apparatus, approval, argument, art, attack, attempt, attention, attraction, authority, back, balance, base, behavior, belief, birth, bit, bite, blood, blow, body, brass, bread, breath, brother, building, burn, burst, business, butter, canvas, care, cause, chalk, chance, change, cloth, coal, color, comfort,committee, company, comparison, competition, condition, connection, control, cook, copper, copy, cork, cotton, cough, country, cover, crack, credit, crime, crush, cry,current, curve, damage, danger, daughter, day, death, debt, decision, degree, design, desire, destruction, detail, development, digestion, direction, discovery, discussion,disease, disgust, distance, distribution, division, doubt, drink, driving, dust, earth, edge, education, effect, end, error, event, example, exchange, existence, expansion,experience, expert, fact, fall, family, father, fear, feeling, fiction, field, fight, fire, flame,
flight, flower, fold, food, force, form, friend, front, fruit, glass, gold, government, grain, 85 grass, grip, group, growth, guide, harbor, harmony, hate, hearing, heat, help, history,hole, hope, hour, humor, ice, idea, impulse, increase, industry, ink, insect, instrument, insurance, interest, invention, iron, jelly, join, journey, judge, jump, kick, kiss,knowledge, land, language, laugh, law, lead, learning, leather, letter, level, lift, light,limit, linen, liquid, list, look, loss, love, machine, man, manager, mark, market, mass, meal, measure, meat, meeting, memory, metal, middle, milk, mind, mine, minute, mist, money, month, morning ,mother, motion, mountain, move, music, name, nation, need, news, night, noise, note, number, observation, offer, oil, operation, opinion, order, organization, ornament, owner, page, pain, paint, paper, part, paste, payment, peace, person, place, plant, play, pleasure, point, poison, polish, porter, position, powder, power, price, print, process, produce, profit, property, prose, protest, pull, punishment, purpose, push, quality, question, rain, range, rate, ray, reaction, reading, reason, record, regret, relation, religion, representative, request, respect, rest, reward, rhythm, rice, river, road, roll, room, rub, rule, run, salt, sand, scale, science, sea, seat, secretary, selection, self, sense, servant, sex, shade, shake, shame, shock, side, sign, silk, silver, sister, size, sky, sleep, slip, slope, smash, smell,smile, smoke, sneeze, snow, soap, society, son, song, sort, sound, soup, space, stage, start, statement, steam, steel, step, stitch, stone, stop, story, stretch, structure,substance, sugar, suggestion, summer, support, surprise, swim, system, talk, taste, tax,teaching, tendency, test, theory, thing, thought, thunder, time, tin, top, touch, trade, transport, trick, trouble, turn, twist, unit, use, value, verse, vessel, view, voice, walk,war, wash, waste, water, wave, wax, way, weather, week, weight, wind, wine, winter, woman, wood, wool, word, work, wound, writing , year .
angle, ant, apple, arch, arm, army, baby, bag, ball, band, basin, basket, bath, bed, 86 bee, bell, berry, bird, blade, board, boat, bone, book, boot, bottle, box, boy, brain, brake, branch, brick, bridge, brush, bucket, bulb, button, cake, camera, card, cart, carriage, cat, chain, cheese, chest, chin, church, circle, clock, cloud, coat, collar,comb, cord, cow, cup, curtain, cushion, dog, door, drain, drawer, dress, drop, ear, egg, engine, eye, face, farm, feather, finger, fish, flag, floor, fly, foot, fork, fowl, frame,garden, girl, glove, goat, gun, hair, hammer, hand, hat, head, heart, hook, horn, horse,hospital, house, island, jewel, kettle, key, knee, knife, knot, leaf, leg, library, line, lip, lock, map, match, monkey, moon, mouth, muscle, nail, neck, needle, nerve, net, nose, nut, office, orange, oven, parcel, pen, pencil, picture, pig, pin, pipe, plane,plate, plough/plow, pocket, pot, potato, prison, pump, rail, rat, receipt, ring, rod, roof,root, sail, school, scissors, screw, seed, sheep, shelf, ship, shirt, shoe, skin, skirt, snake,sock, spade, sponge, spoon, spring, square, stamp, star, station, stem, stick, stocking, stomach, store, street, sun, table, tail, thread, throat, thumb, ticket, toe, tongue, tooth, town, train, tray, tree, trousers, umbrella, wall, watch, wheel, whip, whistle, window, wing, wire, worm . able, acid, angry, automatic, beautiful, black, boiling, bright, broken, brown, cheap, chemical, chief, clean, clear, common, complex, conscious, cut, deep, dependent, early, elastic, electric, equal, fat, fertile, first, fixed, flat, free, frequent, full, general, good, great, grey/gray, hanging, happy, hard, healthy, high, hollow, important, kind, like, living, long, male, married, material, medical, military, natural, necessary, new, normal, open, parallel, past, physical, political, poor, possible, present, private, probable, quick, quiet, ready, red, regular, responsible, right, round, same, second,
separate, serious, sharp, smooth, sticky, stiff, straight, strong, sudden, sweet, tall, 87 thick, tight, tired, true, violent, waiting, warm, wet, wide, wise, yellow, young . awake, bad, bent, bitter, blue, certain, cold, complete, cruel, dark, dead, dear,delicate, different, dirty, dry, false, feeble, female, foolish, future, green, ill, last, late,left, loose, loud, low, mixed, narrow, old, opposite, public, rough, sad, safe, secret, short, shut, simple, slow, small, soft, solid, special, strange, thin, white, wrong .
88
อยากพดู องั กฤษได้ อยา่ (พ่ึง)ฝึกพดู !!! 89 ใครๆกเ็ ขา้ ใจวา่ ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษเก่งๆ กต็ ้องฝกึ พูดบ่อยๆ หาโอกาสในการพดู กับฝรงั่ ให้มาก แล้วจะพูดภาษาอังกฤษได้เอง ฟังดเู หมือนจะใช่ แตจ่ ริงๆไม่ใช่!!! สาหรับการเรียนรใู้ นระบบ Mind English เราเช่อื ในหลกั การของเหตุและผล ทุกผลลัพธล์ ้วนมสี าเหตุ มที ี่มาที่ไป การพูดถือเปน็ Output ซงึ่ ต้องมี Input กอ่ น คือการฟงั เหมอื นเดก็ ทารกทีฟ่ งั ภาษามากๆ Input มากๆ แล้วจึงคอ่ ยเรม่ิ เลียนเสียงพูดออกมาได้ ในทางกลับกัน ใครทห่ี หู นวก กจ็ ะเปน็ ใบไ้ ปโดยปรยิ าย ท้ังๆท่ีกล่องเสยี งไม่ได้มปี ญั หาอะไร เพราะในเมื่อไม่มี Input ย่อมไมม่ ที างเกิด Output ได้ ไมม่ ีการกระทากย็ อ่ มไร้ซงึ่ ผลลัพธอ์ ย่างแน่นอนดงั นนั การฝกึ ภาษาอังกฤษตามระบบของ Mind English เพือ่ ใหเ้ ราพดู กับฝรง่ั ได้ จะไมไ่ ด้เนน้ ใหเ้ รา Speaking Speaking และ Speaking แตจ่ ะให้เราเน้นไปที่ Listening, Listening และ Listeningใครยังพูดภาษาองั กฤษกับฝรงั่ ยังไมไ่ ด้ ต้องฝึกฟัง ฟังและฟงั มากกวา่ 70% ของเวลาทีใ่ ช้ฝกึ ทังหมด พอฟงั ไดท้ ังหมดแล้ว อีก 30% ถงึ จะฝึกพดูสาเหตุทค่ี นไปเรียนต่างประเทศแลว้ กลบั มาพูดภาษาอังกฤษได้คลอ่ ง ไม่ใช่เพราะมีโอกาสไดพ้ ูดมาก
(บางคน ไม่ได้ช่างพดู ) แตเ่ พราะมีโอกาสไดฟ้ ังมากตา่ งหาก! 90เหตผุ ลเดยี วกนั กบั หลายๆคนท่มี ีโอกาสได้ไปเรียน Summer หรอื Work&Travel ที่ตา่ งประเทศ แต่ กลบั อยหู่ อกับคนไทย เจอแตก่ บั คนไทย สุดทา้ ยกลับมากย็ งั พูดอังกฤษไม่คล่องเทา่ ไหร่และก็เปน็ เหตผุ ลเดยี วกับท่ีคนไทยเรียนภาษาองั กฤษที่โรงเรยี นมา 20 ปแี ล้วสุดทา้ ยกพ็ ดู ภาษาไมไ่ ด้ เพราะมวั แตเ่ อาเวลาไปเรียน Grammar ไปท่องศัพท์ ไมไ่ ด้มโี อกาสฟงั ภาษาองั กฤษเท่าไหรเ่ ลย เมอื่ ไมม่ ี Input ยอ่ มไมเ่ กิด Output เปน็ ธรรมดาสรุปอีกครั้ง อยากพูดภาษาอังกฤษกับฝร่งั ได้คลอ่ ง ตอ้ งฝกึ ใหม้ ากๆ ฟงั เกนิ 70%ของเวลาในการ ฝึกทั้งหมด ท่เี หลืออีก 30% คอ่ ยฝึกพูด . ใส่ Input ใหม้ ากๆ แลว้ Output จะตามมาเอง รบั ประกัน! ใครฟังภาษาอังกฤษทกุ วันอย่างตัง้ ใจวนั ละ 50 นาทขี นึ้ ไป ผ่านไป 50 วนั การพดู ภาษาอังกฤษของคณุ จะดีขึน้ แบบตัวคุณเองยงั ตกใจ
91
อยากพดู องั กฤษได้ อย่า(พ่ึง)ฝกึ พดู !!! (ตอน2) 92 อยากพดู องั กฤษได้ อย่า(พ่งึ )ฝึกพูด!!! ตอนท่ี 2 จากตอนที่แลว้ เราบอกว่าการฝกึ ภาษาองั กฤษตามระบบของ Mind English เราเชือ่ ในหลักการของเหตุและผล เช่ือในหลกั ของ Input และ Output การท่เี ราพูดภาษาใดได้ก็ตาม ถือเปน็ Output ของภาษานนั ๆ แต่กอ่ นจะมี Output ยอ่ มต้องมี Input กอ่ นเสมอ และ Input ของการพดู กค็ ือการฟังนั่นเอง!! ถา้ อยากพูดได้มากๆ ไมใ่ ช่ฝกึ พูดมากๆ แต่ต้องฝกึ ฟงั มากๆ (อันนี Key เลย จ้าไวใ้ หด้ นี ะครับ)ดงั นันการฝึกเพือ่ ให้เราสามารถพูดกับฝรงั่ ไดค้ ล่องๆและสา้ เนียงเลิศ เราจะเน้นไปทกี่ ารฝกึ 70% ของ เวลาท่ใี ชใ้ นการฝกึ ทังหมด อีก 30% ถงึ จะเปน็ การฝกึ พดูสา้ หรบั ตอนนี จะมาอธิบายวธิ ีการฝกึ การฟังแบบละเอียดที่สุด ใครตงั ใจท้าตามนี แลว้ ยังพูดอังกฤษ ไม่ได้ ชีวิตนีกไ็ ม่ต้องท้าอะไรแล้ว (ขนาดนนั เลย! 55+) การฝึกฟังภาษาองั กฤษขนั เทพ! เพอ่ื ให้พดู องั กฤษกบั ฝรงั่ ได้ ตามระบบของ Mind English มีดงั นี 1. “ฟัง” ไม่ใช่ “ไดย้ นิ ”ถ้าเสยี งเข้าหู ถือวา่ แค่ไดย้ นิ การฟงั ไมใ่ ชใ่ ชแ้ คห่ ู การฟงั ทด่ี ีใช้ทงั ห+ู ใจ+สมอง คือฟังดว้ ยความตงั ใจ และสมองตอ้ งคิดประมวลผลตาม ไม่ใช่เข้าหูซ้ายทะลหุ ขู วา
93 2. เลือก1 สาเนยี งเทา่ นัน้ หลกั ๆคือเลือกสา้ เนยี งเดยี วเลย ใครชอบอเมรกิ ันก็อเมรกิ ันไปตลอด ใครชอบส้าเนยี งอังกฤษก็อังกฤษไปเลย อยา่ ม่ัวนะแจะ๊ 3. ฟงั ของงา่ ยไปยาก เลือกฟงั ตามลา้ ดับ จากงา่ ยไปยาก ส่ิงท่งี ่ายคือเราฟงั เขา้ ใจในครงั แรกมากกวา่ 50% อย่าไปเร่ิมฟัง จากส่ิงทย่ี ากเลย เพราะสดุ ท้ายเราจะท้อแลว้ กเ็ ลกิ ถอดใจไดง้ ่ายๆเหมอื นตอนเดก็ ๆอะ เราก็เร่ิมฟงั และพูดจากคา้ งา่ ยๆ ได้ก่อน เชน่ แม่ พอ่ หมา้่ ประมาณนี ไมม่ เี ด็ก คนไหนฟังคา้ ยากๆรู้เร่อื งนอกจากนีสิ่งทีเ่ ราเลอื กฟงั ก็ต้องเลือกฟงั จากคลปิ สันๆ ไปคลปิ ยาว รวมถงึ เร่มิ จากคลปิ ท่ีพูดชา้ จนไปถึงคลิปท่ีพูดเร็ว และคลปิ ท่ใี ช้ศพั ทง์ า่ ยๆพนื ฐาน จนไปถงึ คลปิ ท่ีใช้ศัพทย์ ากหรือศัพทท์ อี่ ลังการมากขึน ขอ้ นีสา้ คัญมาก การเรยี นรู้ทุกอยา่ งบนโลกนี ถา้ ตอ้ งการให้ผลดี ตอ้ งเรยี งลา้ ดับการง่ายไปยากเสมอ การสรา้ งบ้านยงั ต้องตอกเสาเขม็ เป็นฐาน การฝกึ ภาษาก็ตอ้ งเริ่มจากรากฐานเชน่ เดียวกนั 4. ฟงั แบบหวงั ผลเลิศ Perfect Listening! ความผดิ พลาดของระบบการศึกษาไทยในการเรียนภาษาอังกฤษอันหนึง่ คือ เปล่ียนบทเรว็ เกนิ ไป วันนเี รยี นบทนี แป๊บๆพรุ่งนีเปล่ียนบทแล้ว บทเดิมยังไม่ทนั รเู้ รื่องเลยส้าหรับข้อนี “ฟงั แบบหวังผลเลิศ” คอื ฟงั จนฟังออกทกุ ค้า ทุกพยางค์ 100% ยา้ ! 100% เท่านนั ไมม่ ี พอฟังได้ พอฟงั เข้าใจแล้วเปล่ยี น NO! ห้ามเดด็ ขาด!เราเร่ิมฝกึ ฟงั สิ่งไหน ตอ้ งฟงั กรี่ อบกต็ าม ใช้เวลากวี่ นั กต็ าม บางทีอาจเปน็ อาทิตยห์ รอื เปน็ เดอื น ต้อง ฟัง ฟัง ฟงั และฟังจนฟังออกทังหมดและเข้าใจเร่ืองราวทังหมดเท่านนั ถา้ ทา้ ได้ตามนแี ล้วค่อย
เปลี่ยนเป็นฟังอนั อื่น 94 5. ฟงั ตอ่ เน่ืองตอ่ จากข้อ 4 เราตอ้ งฟังแบบหวงั ผลเลิศ ซง่ึ แปลว่าต้องฟังหลายๆรอบ ซึ่งเราตอ้ งฟังอยา่ งต่อเนอ่ื ง ทกุ วนั ๆ วันหนง่ึ ฟังอย่างตงั ใจ 30 นาทีเปน็ ขันต้่าทต่ี ้องได้ ใครอยากเกง่ เร็วๆ ฟังทุกวันวนั ละ 1-2 ชวั่ โมงได้นี่ จะเหน็ ผลรวดเรว็ มาก และทงั หมดนี่คือ 5 ข้อวธิ ีฝกึ ฟงั เพ่อื พดู ภาษาองั กฤษ แบบฉบับของ Mind English ถ้าไม่มีเวลาจรงิ ๆแค่พยายามหาฟังภาษาอังกฤษให้มากขึน เวลาดขู า่ วก็ลองเปล่ียนมาดู CNN บ้างหรอื เวลาดูหนัง Soundtrack กพ็ ยายามเปิดหฟู ังมากขึน ไมใ่ ชใ่ ชส้ มองทังหมดไปกับการอา่ นซับ แคน่ ี ภาษาองั กฤษของคุณก็จะดขี นึ เรื่อยๆ แต่ถ้าคุณปฏบิ ัตติ าม 5 ขอ้ น้ขี องเราแบบจรงิ จงั และตง้ั ใจ ไม่ก่สี ปั ดาหข์ า้ งหน้า คณุ จะพูดภาษาองั กฤษได้ดขี ้นึ และวนั นีใ้ นปหี น้าคุณจะกลายเปน็ คนทพี่ ดู อังกฤษกับฝรง่ั ไดค้ ลอ่ ง จนคุณจะไมม่ ที างจาตวั คณุ เองในวนั นไ้ี ดเ้ ลย!!!
95
ดหู นงั ยังไง ให้พูดอังกฤษได้ 96เคยได้ยินไหม?…มคี นมกั บอกว่าอยากพูดองั กฤษเก่งๆ ใหด้ หู นังฝรงั่ บอ่ ยๆ คิดถงึ ตัวเอง..ไอเรากด็ ู หนังฝรงั่ Soundtrack มาตลอดนี่หวา่ ทาไมตอนนี้ยังงอ่ ยๆอยู่ (วะ) ดูหนงั ฝร่งั บ่อยๆ ท้าใหเ้ กง่ ภาษาอังกฤษ จรงิ ไหม?จรงิ ครับ ถ้าถูกวิธี (และการเรียนภาษาองั กฤษตามระบบ Mind English สนับสนนุ ให้ดหู นังฝรั่งด้วย) คนส่วนใหญด่ หู นงั ฝรั่งแบบผิดวิธี ดมู าทงั ชวี ิตไมเ่ ห็นจะเก่งขึนเลย ท้าไมเนีย่ ย ก็เพราะส่ิงท่ีคนสว่ นใหญ่ดู คือดหู นังฝรง่ั จริง แตด่ ูแบบซับไทยไงครับ ถามจรงิ เอาแบบเนอื แทเ้ ลย… ว่าเราตงั ใจฟังหรือตงั ใจอ่านซบั มากกว่ากนั สุดท้ายการดูหนังแบบนี ถ้าเพ่ือความบันเทิงไมม่ ีปัญหาอะไรนะ แต่ถา้ อยากฝึกภาษาอังกฤษดว้ ย วิธนี ีถือวา่ ด๋อยมาก ไม่เวคิ เลย เพราะสุดท้าย เอาเข้าจรงิ กลายเปน็ วา่ เราได้ฟงั เคา้ พดู แบบตังใจจรงิ ๆน้อยมากก จนบางครงั อาจจะไมไ่ ดฟ้ ังเลย แค่ได้ยนิ ผ่านหูไป (ฟังกบั ได้ยินคนละอยา่ งนะครบั ) เพราะใจเราไปโฟกสั กบั การอ่านซบั แลว้ ทาใหไ้ มไ่ ด้สนใจส่ิงอื่นๆ อา่ ว ถา้ ยงั งี ถา้ ใหด้ ีต่อไปต้องดูหนังทเ่ี ป็นซับ Eng ใชไ่ หม จะไดฝ้ กึ ภาษาอังกฤษมากขนึ ค้าตอบคอื ดีขึนมาหน่อยครับ แต่กง็ อ่ ยเหมอื นกนั อยั ยะ่ ! จาไวเ้ ลย หวั ใจของการฝกึ ภาษาองั กฤษด้วยการดหู นงั คอื “ฝกึ ฟงั ฝึกดโู ดยประกอบกบั เรื่องราวตามเนื้อเรื่อง”
ถ้าเราฝกึ ฟังและดูมากพอ เราจะสามารถเข้าใจความหมาย words, phrases หรอื sentences ต่างๆ 97 แบบเป็นภาพ เป็นอตั โนมตั ิ โดยท่ไี ม่ต้องแปลว่าความหมายเป็นภาษาไทยด้วยซ้า ซึ่งสอดคลอ้ งกับการเรยี นรศู้ พั ทต์ ามระบบของ Mind English พอดิบพอดี วา้ วววว!แตก่ ารดูหนังแบบSub Eng กไ็ มต่ อบโจทย์ เพราะสดุ ท้ายภาพทเ่ี กดิ ขึนจรงิ คือ เราก็มวั แตจ่ ดจ้องอยู่ กบั ซับ พยายามอา่ นและแปลใหท้ นั เพื่อให้เข้าใจเนือเร่ือง สดุ ท้าย แทนที่จะได้ฝึกฟัง กลายเปน็ ฝึกอ่านไปซะยงั งนั ! ถ้าถามว่าโอเคไหม ก็ยงั ดที ี่ได้ฝึก ภาษาอังกฤษเพิม่ ท้าใหอ้ า่ นเก่งและไวขึน แตใ่ นแงก่ ารฟัง-พูดก็ไมย่ งั ตอบโจทยอ์ ยู่ดี สดุ ทา้ ยดูหนังจนตาเปน็ ต้อยังไง สุดทา้ ยก็ยังไมส่ ามารถพดู องั กฤษไดอ้ ยู่ดี อ่าว แลว้ งใี ห้ดูหนงั ไงดอี ะ้ ซบั ไทยก็ไม่ได้ ซับอังกฤษกไ็ มเ่ วิค ดูแบบไมม่ ซี ับแม่งเลยดไี หม จะไดจ้ บๆ จริงๆกด็ ีครับ พดู เลย! แตพ่ อเอาเข้าจริง สุดทา้ ยพอเร่มิ ดไู ม่คอ่ ยรู้เรื่อง กไ็ ม่อยากดแู ละ เอ้าาา!! แล้วอย่างงตี อ้ งดูหนังยงั ไงเน่ยี ย เริม่ งงละ ฮ่าๆ อยากรู้วา่ ดหู นงั ยังไง ให้พดู ภาษาองั ฤษคล่อง ต้องติดตามตอนหนา้ บอกเลยว่าสาคัญมาก! เพราะบทความตอนต่อไป เราจะเปล่ียนวิธีดหู นงั ของคณุ ไปตลอดกาลลลล 555+ อย่างเว่อร์
98
ดูหนังยังไง ให้พดู อังกฤษได้ (ตอน2) 99 ใครตอ่ ใครชอบบอกวา่ ดูหนังฝรั่งแล้วจะเกง่ ภาษาองั กฤษขนึ แตท่ า้ ไมเราดหู นงั ฝร่งั มาทงั ชวี ติ ภาษาองั กฤษยังงอ่ ยขนาดนี!!! พูดถงึ สงิ่ ท่ีเราบอกตอ่ ๆกนั มาว่า เห้ย ถา้ อยากเกง่ ภาษาองั กฤษ ลองฝึกจากหนงั สิ ดหู นังฝรง่ั บอ่ ยๆ เด๋ยี วก็เกง่ ขนึ เอง! สดุ ทา้ ยดหู นังจนตาเปยี ก ดซู ีรย่ี จ์ นตาแฉะ สดุ ทา้ ยกย็ งั พูดภาษาองั กฤษไมไ่ ด้ แถมยงั เพ่ิมโรคตอ้ กระจกมาซะอีก บร้ะ! ท่ีเปน็ แบบนี เพราะเราดูหนงั กนั ดว้ ยวิธีผิดๆยงั ไงละ่ ส้าหรบั ตอนนี Mind English จะมาแนะนา้ สดุ ยอดวธิ ฝี ึกภาษาองั กฤษอนั แสนทรงพลัง ถ้าใครท้าตามนีได้ ภาษาอังกฤษของคณุ จะดีขนึ จนตวั คณุ เองจะตกใจ!! การดูหนังเพอ่ื ใหพ้ ูดภาษาองั กฤษได้ของเราจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน แบบแรก คือ แบบเบาๆ คอื ดูหนังปกติเน่ยี แหละ ดเู พ่ือความเพลิดเพลนิ เป็นหลกั แตข่ อฝึกภาษาองั กฤษแถมเปน็ น้าจิมดว้ ยถา้ จะดูหนังแบบนี เวลาเราดหู นงั ฝร่ัง Soundtrack ซบั ไทย (อยา่ ดพู ากษ์ไทยนะลูก พ่ีขอ) ใหเ้ ราลด ความตงั ใจอ่านซบั ให้ลดลง เปดิ หูเพอ่ื การฟงั ให้มากขนึ
ตาของเรา แทนท่จี ะโฟกสั ไปทบ่ี รรทัดดา้ นลา่ งท่ีซับขน้ึ ใหโ้ ฟกัสทปี่ ากของตัวละคร และพยายาม 100 ฟังใหม้ ากขึน้ อนั ไหนไมไ่ หวจริงๆ ไมร่ ูเ้ รอื่ งจริงคอ่ ยเหลอื บตาไปมองซบั สดุ ทา้ ยดหู นังอาจจะไม่เขา้ ใจ ก็ซือตวั๋ ไปดใู นโรงอกี รอบ เพราะเราสวยและรวยมาก จบนะ!ส้าหรับการฝกึ แบบนี จริงๆคอื ชิล อย่าไปเรยี กวา่ ฝึก เพราะจรงิ ๆแค่ปรับเปลี่ยนวิธีดหู นงั ซงึ่ จะทา้ ให้ เราฟงั -พูดกับฝรง่ั ได้เก่งขนึ 10-20 %แบบท่ี 2 คือ สุดยอดเทคนคิ การดูหนัง!!! ทีเ่ ป็นดหู นังเพื่อการฝกึ ภาษาอังกฤษอยา่ งแท้จริง ถา้ ทา ตามนี้ได้ คุณจะคุยกับฝรง่ั ไดด้ ีขึ้น 2 เท่าหรอื 200% เป็นอย่างต่า ฟันธง!!!!อนั ดับแรก เลือกหนังมาหนง่ึ เรื่อง หรอื ซีรีย่ ์มาหนึง่ ตอน (แนะนา้ เอาเร่ืองท่ชี อบมากๆ รวมถึงเอาหนงัของอเมรกิ าเทา่ นัน พวกฮอลลวี ดู๊ ไรงไี ด้หมด จะไดฝ้ ึกสา้ เนียงอเมรกิ นั ซึ่งเปน็ ส้าเนียงมาตรฐานไปเลย) และควรลงทุนซอื เปน็ DVD เลย ไมค่ วรดูผา่ นเนต เพราะ DVD สามารถเลอื กไดว้ า่ จะเป็นซบั ไทย ซับ Eng หรอื No Sub ไปเลยก็ได้ สุดยอดเทคนิคการดหู นังของเราจะมีทังหมด 3 ขันตอนด้วยกันขั้นที่ 1 : ดูแบบปกติเนย่ี แหละ ดู 1 รอบ ดูเป็น Soundtrack มีซับภาษาไทย ดูเพอ่ื ให้เข้าใจเนือเรื่อง แตร่ ะหว่างดนู อกจากเปดิ ตาเพือ่ อา่ นซบั แลว้ แนะนา้ ให้เปิดหูให้มากขนึ ลองพยายามฟังแล้วจับ ใจความว่าตัวละครพูดอะไร แต่อย่าไปซเี รียสมาก ฟังไม่รู้เร่ืองกช็ ่างมัน เน้นเขา้ ใจเนอื เร่ือง แต่เร่ืองท่เี ราชอบจริงๆ เราอาจขา้ มขันตอนนีไปกไ็ ด้ ถ้าเรารู้เนอื หามนั ทงั หมดแล้ว ขัน้ ที่ 2 : หลังจากทเ่ี ราเขา้ ใจเรอื่ งราวแล้ว ดูขนั ที่ 2 จะเป็นการดูหนงั โดยดแู บบ Sub English
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136