Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Colorful Dinosaur Motivational Education Portrait Poster

Colorful Dinosaur Motivational Education Portrait Poster

Published by Korn Chuasrakhu, 2021-08-13 13:38:30

Description: Colorful Dinosaur Motivational Education Portrait Poster

Search

Read the Text Version

อารยธรรม \"ลมุ่ แมน่ าไนล\"์ อารยธรรม\"อยี ปิ ตโ์ บราณ\"

อารยธรรมลุ่มแม่นําไนล์ (อียิปต์โบราณ) อารยธรรมลุม่ แม่นําไนล์หรืออารยธรรมอยี ปิ ต์โบราณ : ความเจริญ ของสังคมทชี วี ดั จากการเมือง,กฎหมาย,เศรษฐกจิ ตงั อยู่ใน ขนบธรรมเนยี มและศีลธรรมอนั ดี อารยธรรมนีเรมิ ขนึ ประมาณ 3500 ปก่อนครสิ ต์ศักราชบรเิ วณล่มุ แม่นํา ไนล์ทางตอนเหนือทวปี แอฟรกิ า มพี ัฒนาการต่อๆมาหลายพันป เกิดดนิ แดนสองฝงแม่นาํ ไนลต์ งั แตป่ ากแม่นาํ ไนล์จนไปถึงตอนเหนือของ ประเทศซดู านในปจจุบนั ทิศเหนอื ติดกบั ทะเลเมดิเตอรเรเนยี นและคาบสมุทรไซ นายอียปิ ต ทิศตะวนั ตก ติดกับ ทะเลทรายลิเบยี และทะเลทรายซาฮารา ทิศตะวันออกและทิศใต ตดิ กบั ทะเลทรายนูเบียและทะเลแดง บรเิ วณลมุ่ แมน่ ําไนลเ์ สมือนโอเอซสิ ทา่ มกลางทะเลทราย ปองกนั การรุกรานจากภายนอกได้

อารยธรรมนเี กดิ ขนึ ไดเ้ พราะ\"แม่นําไนล\"์ หากไม่มปี ระเทศอิยิปต์ก็ จะมแี ต่ความแห้งแล้งและทะเลทราย นักประวัติศาสตร์กรกี จงึ กล่าวเปรยี บว่า... “ÍÔÂÔ»µ¤Í× ¢Í§¢ÇÑ­¨Ò¡áÁ‹¹éíÒä¹Å” ËÃ×Í “¸Ô´Òáˋ§áÁ¹‹ íéÒä¹Å” อารยธรรมนีถือเปนอารยธรรมทยี งิ ใหญอ่ ีกแหง่ หนงึ ของโลก เปนทรี ูจ้ กั กันอย่างกว้างขว้างและมีผลตอ่ พัฒนาการทางความ คิดในหลายๆ ดา้ น เนืองจากมมี รดกทางสถาปตยกรรม คาํ ว่า“อยิ ปิ ต์”กรีกใชเ้ รยี กดินแดนทีเปนตน้ กาํ เนิด อารยธรรมลมุ่ แม่นาํ ไนลก์ ่อน ภายหลงั จงึ เรียก ตามอยา่ งแพร่หลาย ส่วนพวกอยิ ิปต์โบราณเรยี ก ประเทศของเขาวา่ “แผ่นดินสีดํา” คนพืนเมอื งเดมิ คอื พวกแฮมติ คิ เปนคนผวิ ดาํ ตอ่ มาพวกผิวขาว พวกรอ่ นเร่เลยี งสัตวม์ ีความเจรญิ กวา่ บุกรุกเขา้ มาและครองความ เปนใหญ่เหนอื พวกพืนเมืองเดมิ เมอื ประมาณ 5,000-72,000 ป กอ่ นครสิ ตกาลเรืองราวสมยั นียงั ไมม่ บี นั ทึกไวเ้ ปนลายลกั ษณอ์ กั ษร นักประวัตศิ าสตร์ถือวา่ เปนเหตุการณก์ อ่ นสมัยราชวงศ์ของ ประวตั ศิ าสตรอ์ ยิ ิปต์

ลลักักษษณณะะกกาารรปปกกคครรอองง จักรวรรดอิ ียิปตม์ ีระบอบการปกครองทมี ันคง ชาวอยี ปิ ต์ยอมรับอาํ นาจและเคารพนบั ถือฟาโรห์ หรอื กษัตริย์ประดุจเทพเจ้าองค์หนึง ฟาโรหม์ ี อาํ นาจเดด็ ขาดในการปกครองและบรหิ าร ประเทศทังด้านการเมอื งและศาสนา มขี ุนนางเปน ผู้ชว่ ยปกครอง และมพี ระช่วยดา้ นศาสนา การที ฟาโรห์มอี ํานาจเดด็ ขาดสูงสุดทาํ ให้อียิปต์พัฒนา อารยธรรมของตนไดต้ ่อเนือง เพราะฟาโรห์ สามารถสรา้ งสรรคแ์ ละพัฒนาความเจรญิ ตาม แนวนโยบายของตนไดเ้ ตม็ ที สมัยอาณาจักรเกา่ (เดมิ ) ช่วงประมาณป 2,700 – 2,200 กอ่ นครสิ ตศ์ ักราช ประกอบดว้ ยราชวงศ์ท1ี -8 กษัตรยิ ห์ รอื ฟาโรห์มีอํานาจสูงสุด มผี ชู้ ว่ ยปกครองคอื ขนุ นาง หวั หน้าขนุ นางเรียกว่า “วิเซยี ร์” และมหี นว่ ยงานย่อยแตล่ ะ เมอื งแตล่ ะหมู่บ้านดแู ลเปนลําดบั ขนั แต่ละชมุ ชนถกู เกณฑ์ แรงงานมาชว่ ยสรา้ งพีระมิด อาณาจักรมีอาํ นาจปกครองเหนือมณฑลตา่ งๆหรอื เรยี กว่าโน เมส มสี ัญลักษณ์แตกต่างกัน ต่อมามกี ารรวมกันเปนอาณาจกั ร ใหญ่ 2 แหง่ คอื อยี ิปตบ์ นและอียิปต์ล่าง ตอ่ มาได้ถกู รวมเขา้ ดว้ ยกันเกิดราชวงศ์อียปิ ตโ์ ดยประมขุ แห่งอียปิ ต์ นอกจากฟาโรห์แล้ว บุคคลทมี ีอํานาจมากทีสุดคอื หัวหน้า นกั บวชของสุริยเทพ รา ซึงเปนจอมเทพสูงสุดในการบริหาร งาน

สมยั อาณาจกั รกลาง ชว่ งราวป 2050 – 1652 ก่อนครสิ ต์ศักราช ฟาโรหเ์ ปลยี นภาพลกั ษณ์จากผ้ปู กครองทอี ยหู่ ่างไกล ประชาชนมาเปนผู้ปกปองประชาชน ลดการสร้างพีระมิด แตป่ ระชาชนต้องตอบแทนด้วยการทาํ งาน สาธารณะต่าง ๆ เชน่ การระบายนําในบรเิ วณสามเหลียมปาก แมน่ าํ เพือชว่ ยการเกษตร การขุดคลองเชือมแมน่ ําไนล์กับ ทะเลแดงเพือการสะดวกในการค้าและขนส่ง สมยั อาณาจกั รใหม่(จกั รวรรด)ิ ชว่ งประมาณป 1567 – 1085 กอ่ นครสิ ต์ศักราช ฟาโรหอ์ เมนโฮเตปที 4 ทรงเปลยี นแปลงความเชือ ในเรอื งการนบั ถือเทพเจา้ หลายองคม์ าเปนการ นับถือเทพเจ้าองคเ์ ดยี ว คอื เทพเจา้ แห่งดวงอาทิตย์ ตงั แต่ศตวรรษที 11 ก่อนครสิ ตศ์ ักราช อยี ิปต์สูญเสีย ความเข้มแขง็ ชนเผา่ ตา่ งๆสลับกันมีอาํ นาจปกครอง อียปิ ต์ สุดท้ายอยี ปิ ตก์ ลายเปนส่วนหนึงของอาณาจกั ร โรมัน

สงั คมอียปิ ต์โบราณเปรยี บได้กับรูป สามเหลียมจดั แบง่ ออกได้เปน 3 ชนชนั 5 ระดับ 1. ชนชนั สูง - กษัตริยแ์ ละราชวงศ์ถกู กําหนดให้อยใู่ นตําแหน่งสูงสุด กษัตริย์สามารถมีมเหสีและสนมได้มากมาย ตลอดจนสนมอาจ เปนพีสาวหรือนอ้ งสาวรว่ มบดิ าหรือมารดาเดียวกบั มนษุ ย์ - พระและขนุ นาง มีบทบาททางด้านศาสนาและการปกครอง 2. ชนทงั สองกลุม่ นีจัดเปนชนชนั สูงรองจากกษัตรยิ ์ ชนชนั กลาง 3. - พ่อคา้ เสมียน ช่างฝมอื และศิลปน ชนชันตาํ - พวกชาวนา ผใู้ ชแ้ รงงาน ชาวนาซงึ จัดเปนชนชันตําส่วนใหญ่ ของดนิ แดนสภาพของชาวนาอยู่ในรปู ข้าตดิ ทดี ิน ชาวนาเปนกาํ ลงั สําคญั ในกองทพั และเปนแรงงานหลักในการสาธารณประโยชน์ - ทาส เปนชนชนั ตาํ สุดถกู กวาดตอ้ นมาภายหลงั พ่ายแพ้สงคราม ฐานะของสตรี ชาวอยี ปิ ตน์ ยิ มทีจะมสี ามแี ละภรรยาเพียงคนเดยี ว ไม่ยอมให้ชายแต่งงานกับสตรีเปนภรรยามากกวา่ 1 คน แมแ้ ต่ ฟาโรห์กเ็ ชน่ กัน ลกั ษณะทแี ปลกของระเบียบสังคมนี คอื ชอบใหพ้ ี ชาย-น้องสาวแต่งงานกนั หรือแต่งงานภายในตระกลู ฟาโรห์ แตง่ งานกับตระกูลของตน เพือรักษาความบริสุทธขิ องสายเลอื ด ในสังคมอียปิ ตฝ์ ายหญงิ และเครอื ญาติของฝายหญิงมีอาํ นาจ ภรรยา สามารถเปนเพือนและไปไหนมาไหนกบั สามีได้ สามารถไปงานพิธตี ่างๆ ได้ มีสิทธิในกฎหมายเท่าเทียมชาย พระธดิ าของฟาโรหม์ สี ิทธิสืบสันตติ วงศ์ไดเ้ ชน่ เดียวกนั ดว้ ยเหตนุ จี ึงปรากฏว่ามีราชนิ ีผสู้ ามารถหลายองค์ขึน ครองราชย์

ความเจรญิ ก้าวหนา้ ทางวทิ ยาการ 1. ด้านดาราศาสตร์ : เกดิ จากการสังเกตปรากฏการณจ์ ากการเกิดนาํ ท่วมของ แมน่ ําไนล์ นาํ ความรู้นมี าคํานวณเปนปฏทิ นิ แบบสุรยิ คตทิ แี บง่ วันออกเปน 365 วนั ใน 1 ป ซึงมี 12 เดอื น และแบ่งออกเปน 3 2. ฤดูกาล คอื ฤดูนาํ ทว่ ม ฤดูไถหว่าน และฤดเู ก็บเกยี ว ด้านคณติ ศาสตร์ : ความรู้ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเรขาคณติ ทอี ยี ิปต์ใหแ้ กช่ าว โลก เชน่ การบวก ลบ และหาร และการคํานวณพืนทีวงกลม สีเหลียม และสามเหลยี ม เปนฐานของวิชาฟสิกส์ทีใชค้ าํ นวณ ในการกอ่ สร้างพีระมดิ อยี ปิ ต์เปนชาติแรกทีพบสูตรคํานวณหา 3. พืนทวี งกลม กาํ หนดคา่ ของ Pi = 3.14 ด้านอุตสาหกรรม/อาํ นวยความสะดวก : มีการทําเหมอื งแร่ ต่อเรือเครอื งปนดนิ เผาทําเครอื งแกว้ ทอ ผา้ ลนิ ินและการจัดระบบชลประทานและการสรา้ งเขอื นเพือ การเพาะปลูก

4.ด้านวรรณกรรม : การแตง่ หนงั สือคัมภรี ์มรณะเกียวกับการปฏิบัติ ตนภายหลังจากเสียชวี ิตแล้ว ส่วนใหญ่เปน วรรณกรรมทางศาสนาสาระสําคัญเกียวกบั หลกั ฐานแสดงคุณงามความดีและความประพฤติถกู 5.ทาํ นองคลองธรรมของผตู้ ายระหวา่ งมีชวี ิตอยู่ ดา้ นอักษรศาสตร์ : มีการประดิษฐ์อกั ษรภาพ\"ไฮโรกลิฟฟก\" เปนอกั ษรรุน่ แรกทีอยี ปิ ต์ประดิษฐ์ขนึ เปนอักษรภาพแสดงลักษณ์ต่างๆ ตอ่ มามกี ารพัฒนาเปนแบบพยัญชนะ ตอ่ มาดัดแปลงอักษร เปนตัวเขยี นหวดั เรียก“อกั ษรเฮียราตคิ ” สําหรบั เขยี นทัวไป จากนันเรียกว่า “อักษรเดโมติค” สําหรับวงการธรุ กจิ ต่อ มาใช้อักษรกรกี ผสมอกั ษรเฮียโรกรฟิ ฟคเรียกว่า“อกั ษรคอ 6. ปติค” สุดทา้ ยจึงเปลยี นมาใช้ภาษาอาหรบั และคน้ พบวิธีทาํ กระดาษจากตน้ ปาปรสุ ทาํ ให้มีการบันทกึ แพรห่ ลายมากขนึ ดา้ นการช่าง : ชาวอยิ ิปตโ์ บราณมีชา่ งสกดั หินทีชํานาญ ฝมอื ประณีตมชี ่าง ก่อตึกช่างประดิษฐ์เครืองประดับและเครืองใช้ทาํ ด้วยทองแดง ช่างทองคําและเพชรพลอย ชา่ งวาดภาพช่างไมแ้ ละชา่ งทํา เครอื งปนดนิ เผา 7. ด้านวิศวกรรม : ชาวอิยปิ ต์โบราณมีชา่ งสกดั หินทชี าํ นาญ ฝมือประณีตมีชา่ ง ก่อตกึ ช่างประดิษฐ์เครืองประดบั และเครอื งใชท้ ําดว้ ยทองแดง ช่างทองคาํ และเพชรพลอย ช่างวาดภาพชา่ งไมแ้ ละช่างทํา เครืองปนดนิ เผา

การแพทย์ สาขาศลั ยกรรม : ชํานาญการผา่ ตัดกระดูก รู้จักใชน้ ําเกลือล้างแผลเพือปองกัน การอกั เสบ เเละมกี ารใชน้ ําดา่ งรกั ษาแผล เพือใหเ้ เผลหายเร็ว สาขาทนั ตกรรม : รจู้ ักใชฟ้ นปลอมทีทําดว้ ยทอง และสามารถอุดฟนผุได้ อย่างประณีต ด้านระบบหมนุ เวยี นโลหิต : คน้ พบว่า หวั ใจเปนศูนย์กลางของระบบหมนุ เวียน โลหติ ในร่างกาย การทํามัมมี วิธีการทํามัมมี : เริมจาก นาํ ศพมาทาํ ความสะอาด ลว้ งเอาอวยั วะภายในออกโดยการใช้ ตะขอทีทาํ ดว้ ยสํารดิ เกียวเอาสมองออกทางโพรงจมูก จากนันใชม้ ีดกรดี ขา้ ง ลําตวั เพือลว้ งเอาอวยั วะออกจากศพ เหลือเพียงหวั ใจไว้ จากนันนาํ ขเี ลือย เศษผา้ ลินนิ โคลน และเครืองหอมใส่เข้าไปแทนที อวัยวะภายในซงึ จะถกู นํา ไปล้างด้วยไวน์ปาล์ม แลว้ บรรจลุ งในภาชนะสีเหลียมมฝี าปด ส่วนร่างจะนาํ ไปดองเกลอื 7-10 วัน แลว้ นํามาเคลอื บนํามันสน ตกแต่งพันศพด้วยผา้ ลินินสีขาวชุบเรซนิ บรรจลุ งหีบศพพร้อมกับเครืองรางของขลงั ตา่ งๆ รวมถงึ หน้ากากจาํ ลองใบหนา้ ของผตู้ ายใส่ในหบี

สถาปตยกรรม พีระมิด สรา้ งเพือเกบ็ พระศพของฟาโรห์ โดยเดิมทเี เลว้ ฟาโรหจ์ ะสรา้ งห้องเกบ็ พระศพขนาดใหญเ่ ปนสุสาน ต่อมาในสมยั ของฟาโรห์โซเซอร์แหง่ ราชวงศ์ ที 3 อมิ โฮเทปทปี รกึ ษาของฟาโรห์ ซงึ เปนนกั ปราชญแ์ ละสถาปนิกได้ ทําการออกแบบพีระมิดขันบันได เรยี กวา่ มาสตาบา (Mastaba) ทีเมอื งซกั คาราขนึ หลังจากยคุ ของฟาโรหโ์ ซเซอร์ ก็ได้มีการสร้างพีระมดิ ขนั บนั ได ตอ่ มาและคอ่ ยๆพัฒนากลายเปนแบบสามเหลยี ม โดยพีระมิดทมี ชี ือเสียง ทสี ุดคอื พีระมดิ ยกั ษ์ของฟาโรหค์ ูฟูทเี มอื งกซี า สูงถึง 147 เมตรและไดช้ อื วา่ เปนพีระมดิ ทใี หญท่ สี ุดในโลก วิหารคาร์นัก ตงั อยูท่ ีเมืองลกั ซอร์ ประเทศอยี ปิ ต์ สร้างขึนเพือ สักการบูชาเทพเจ้าอามอนรา หรือสุริยะเทพ เเล้วได้ รบั การขนานนามวา่ เปนมหาวิหารทียงิ ใหญแ่ ละ สวยงามทสี ุดในอยี ปิ ต์ โดยคาดกนั วา่ สร้างขนึ ใน สมยั ฟาโรห์เซซอสตริสที 1 กษัตรยิ อ์ งค์ที 2 แห่ง ราชวงศ์ที 12 หรอื ป 1991 ก่อนคริสตกาล และไดร้ ับ การบรู ณะกอ่ สรา้ งเพิมเติมในชว่ งราชวงศ์ที 18-20

ความกเาชรอืดแําเลนะนิบชทวี บติ าทใน นับถอื บชู าเทพเจา้ หลายองค์ (Polytheism) เช่น เทพเจา้ โอซิริส, เทพีไอซิส, เทพเจ้าเซ็ท , เทพีฮาธอร์ และเทพเจา้ ฮอรัส เปนต้น เชอื วา่ ธรรมชาตทิ บี ันดาลความผาสุก ความดงี าม หรอื ความหายนะนนั เกดิ จากการกระทาํ ของเทพเจ้า โดยแตล่ ะเมอื งก็จะมีเทพเจ้าประจําเมอื ง ชาวอยี ปิ ต์โบราณมกี ารนับถอื สุริยเทพนามวา่ “เร” (Re) ทีได้รับการบูชา ใหเ้ ปนเทพสูงสุดเหนือเทพทงั ปวงในสมัยราชอาณาจักรเกา่ และถือวา่ เปนเทพผู้ประทานความสุข เทพเจ้าแหง่ ความเปนอมตะ หรอื บางความ เชอื ก็เชอื ว่าเปนเทพผสู้ ร้างมนุษย์ ตอ่ มาในสมยั ราชอาณาจกั รใหม่ ก็ เปลียนมานบั ถือเทพอามนุ หรอื อามอนเปนสุรยิ เทพอามอน-เร (Amon Re) เเหง่ เมอื งธบี ส์ (Thebes) มีความเชือเรอื งการตายเเลว้ สามารถฟนคนื ชีพขนึ มาใหม่ได้ (มัมม)ี เชอื วา่ เมอื ตายไปแลว้ ทุกคนมฐี านะเทา่ เทยี มกัน เมือวิญญาณของผู้ตาย ไดอ้ อกจากรา่ งมมั มีแล้ว เทพอานูบสิ ซึงเปนเทพแหง่ ความตายจะดแู ล รักษาศพไม่ใหเ้ นา่ เปอยและเทพีไอซสิ จะมาตอ้ นรบั และพานังเรือขา้ ม แมน่ ําไปสู่แดนมรณะทีซึงมีเทพโอซิรสิ เทพเจา้ แห่งแดนมรณะตัดสินวา่ ใครจะได้ไปสู่สวรรค์ มีโอซิรสิ เปนประธาน ซงึ วิญญาณจะตอ้ งให้การ ตามความสัตย์จริง เมือสินคาํ ใหก้ าร เทพอานูบสิ ก็จะนําหวั ใจไปชงั กบั ตาชังแหง่ ความสัตย์ทีดา้ นหนงึ เปนขนนก หากหัวใจเบากว่าขนนกถือว่า คนคนนันเปนคนดี วญิ ญาณนันกจ็ ะกลายเปนวิญญาณแหง่ เทพ โอซิรสิ และจะไดไ้ ปเกดิ ใหม่เปนนริ นั ดร์ และถ้าเปนคนไม่ดี วิญญาณนันก็ จะกลายเปนหมหู รือสัตว์สกปรกอืนๆ เชอื ว่าทศิ ตะวันออกเปนทิศของคนเปน และ ทิศตะวนั ตกเปนทศิ ของคนตาย ส่วนใหญจ่ ึง นยิ มตงั บา้ นเรอื นทางฝงตะวันออกของแม่นาํ ไนล์ ฝงตะวนั ตกเปนทีตังของสุสาน

บทบาทในการดําเนนิ ชวี ติ ในเขตทรี าบนําท่วมถึง หรอื ทเี รียกวา่ เขตดนิ สีดําทชี อื ว่า \"เคเมต\" ซงึ เปนดนิ แดนทีมคี วามอุดมสมบรู ณ์ มีการเพาะปลกู ทีดี พืชผลทีได้ จะถอื เปนสมบตั ิของฟาโรหแ์ ละจะมีการแจกจ่ายแก่ประชาชนอย่าง เหมาะสม โดยนยิ มปลูกพืช ขา้ วสาลี : ทาํ ขนมปง,ขา้ วบารเ์ ลย์ : ทําเบียร์ ซึงทงั สองอยา่ งนีเปนอาหารหลัก เเละยังเปนสินคา้ ส่งออกไปยัง ดนิ แดนอนื ๆอีกด้วย และยังมีการจับปลา ลา่ นกนําและฮิปโปโปเตมัสใน แม่นําไนล์ โดยใชเ้ รอื ทผี ูกจากตน้ กก ส่วนในเขตดินสีแดงทเี รียกวา่ \"เชเครต\" อย่ใู นเขตอียิปตต์ อนบน มกี ารลา่ สัตว์ปาอย่าง แอนทีโลปและแพะปา บ้านเรือนก็จะสรา้ งจากอฐิ ตากแหง้ และใชไ้ ม้ทาํ ส่วนประกอบอย่างกรอบประตู บ้านแตล่ ะหลังจะมีบันไดขนึ ดาดฟา เพราะชาวอียิปต์นิยมใช้ดาดฟาเปนทที ํางานต่างๆ เชน่ การทาํ ขนมปง หรอื แม้แต่เปนทีพักผ่อนนงั พูดคยุ กัน

ชอื กรณ์ เชือสระคู ม.6/2 เลขที 29


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook