Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิทานชาดก ล.7

Description: นิทานชาดก ล.7

Search

Read the Text Version

/A

นิทานชาดก พร:ธรรบเทฒาของ พระกาวนาวิริยคุณ (เผด็จ แดฺดรโว) รองเจ้าอาวาสวัดน)ร:ธรรมกาย จ.เ]เามธาน ขอมอบเป็นธรรมบรรณาการ แด่ จาก..

นิทานขาดก เล่ม ๗ พระธรรมเทศนาของ พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชืโว) รองเจ้าอาวาลวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี จัดพิมพ์และพิมพ์โดย ๑๐(ร:/๑๙-๒๑ ถนนนเรศ แขวงลี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ๑0๕00 โทร.๒๓๓๐๓๐๒-(ร: โทรลาร ๒๓(รา'(ร:๙(T(ร: จัดจำหน่ายโดย บริน้ทํ ปีเอ็นแก บุเกส์ จำ ก้ค (ร?๖ ถนนลี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ๑๐(ร:๐๐ โทร.๒๓(ร:๐๓(T๐-๑ โทรลาร ๒๓(ร)'(ร:๐๙(ร: ธนาณ้ติลั่งจ่าย ''บริษัท ปีเอ็นเค บฺคส์ จำ กัด\"ป.ณ.กลาง ลิฃสิทธิ้เปีนของมูลนิธิธรรมกาย ISBN 974-89321-7-6 ราคา G/O บาท 010-2-0142-3000

ร*' เ^^*

คำ ปรารภ คนในโลกนี้อยากทำดี อยากเป็นคนดีทุกคน แต่เพราะเหตุ ที่ไม่มีต้นแบบดี ๆ เป็นแบบอย่าง จึงต่างคิดหามาตรฐานทำความดี ต่างๆ กันไป ที่พอมีป็ญญาก็ทำดีถูกวิธีไต้สร้างสมความดีเป็นบารมี เพิ่มพูนติดตัวไป ไม่เสียทีที่ไต้เกิดมาเป็นคน แต่ที่มีป๋'ญญาน้อย เห็นผิดเป็นชอบก็หลงทาง ขาดทุนไปชาติหนึ่ง ต้วยเหตุนี้เราจึงควรศึกษาต้นแบบการทำความดีจาก \"ชาดก\" แม้ว่ามีบางเรื่องที่เป็นนิทานพื้นบ้านปนเปเข้ามา แต่กระนั้นก็ดีเรา ก็น่าจะศึกษาชาดกไนต้านที่เป็นวัฒนธรรมชาวพุทธ แทนที่จะตั้งข้อ กังขาไนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เมื่อเดีอนมิถุนายน พ.ค. ๒๕:๒๙ ระหว่างที่เดินทางไปยุโรป และประเทศอังกฤษ อาตมภาพไต้มีโอกาสพบปะ สนทนากับ อาจารย์ทางปรัชญาไนมหาวีทยาลัยออกซฟอร้ด และเคมบริดจ์ หลายท่านศาสตราจารย์ท่านหนึ่งไดีไห้ข้อคิดว่า ท่านไต้ทราบข่าวว่าขณะนี้พระภิกษุไทยและพุทธศาสนิก-ชน ชาวไทยไม่สนไจชาดก เนึ่องจากเพราะไต้พบว่า บางเรื่องมีนิทาน พื้นบ้านมาปะปนอยู่ต้วย เดี๋ยวนี้Iศรพูดถึงชาดกทำไห้รูส๊กว่าเป็น เรื่องศรื่าศรี งมงาย ดังนั้นท่านจึงขอฝากเตือนใจว่า คนที่คิดอย่างนี้นั้นแหละ งมงาย เพราะถ้าเราเรียนแต่ทฤษฏีล้วนๆ เราก็ได้แต่ท่องจำเป็น เพียงความรู้ดิบ ความรู้เกิดจากการจำนั้นไม่สามารถนำมาใช้งาน

อย่าว่าแต่จะไปสอนลูกหลานเลย แม้แต่จะนำมาสอนตัวเองก็ไม่ได้ ความรูทางทฤษฏีเช่นนี ผู้เป็นครูบาอาจารย์ ด้องสองแล้วลองอีก กว่าจะได้ความรู้ลุกๆ ขึ้นมา ก็ฝานการลองชนิดผิดๆ ถูกๆ มาเสีย มากต่อมาก แต่ล้ามีเรื่องราวประกอบ ก็จะมองเห็นวิธีการนำ ทฤษฏีมาใช้เปลี่ยนจากนามธรรมเป็นรูปธรรม ได้ชัดเจนขึ้น ท่านคาสตราจารย่ได้ยกตัวอย่างถึงนิทานอีสป ซึ่งเป็นเรื่อง ไม่จริง ก็ยังเอามาสอนคนได้ ส่วนนิทานชาดกเป็นวัฒนธรรมชาว พุทธเป็นแบบแผนในการทำความดี เป็นเครื่องรนยัน การเวียนว่าย ตายเกิด ชาวพุทธเองยังเมินไม่เอาใจใส่ใยดี เป็นการดูถูกคำสอน ของพระสัมมาล้มพุทธเจ้า และดูถูกตัวเอง ดังนั้นอาตมภาพจึงใคร่ขอให้เราลองพิจารณาความหมาย และคุณค่าของนิทานชาดก ซึ่งเป็นสมบัติทาง{โญญาอันลํ้าค่าของ ชาวพุทธ ใใ^ถ้วนและรอบคอบ นิทาน แปลว่า เหตุเป็นเครื่องมอบให้ซึ่งผล, มูลเค้า, เรื่อง เดิม, สมุฏฐาน ชาดก แปลว่า ประวัติการทำความดีของพระสัมมาลัมพุทธเจ้า ที่มีมาในชาติก่อนๆ นิทานชาดก มิใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนคุณธรรม แต่นิทาน ชาดก คือ เรื่องในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ ทรงแสดงแก่พระภิกษุในโอกาสต่าง ๆ บางครั้งก็เพื่อแสดงภูมิหสัง ของผู้ที่พระองค์ต้องการแสดงธรรมให้พิง บางครั้งก็เพื่ออธิบาย เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่ออ่านนิทานชาดก นอกจากจะไต้ทราบเหตุการณ์ต่าง ๆ

แล้วเรายังได้ทราบอุปนิสัยใจคอของบุคคล ในแง่มุมที่เราอาจนึกไม่ ถึงว่าจะมีหรือเป็นไปได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่เท่านี้ เรายังทราบอีกว่า ทำ ไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น และพระพุทธองค์ได้ทรงช่วยเหลือเขา อย่างไรบ้าง ในวัฎลงลารอันยาวนานนับภพนับชาติไม่ถ้วนนี้ พระพุทธ- องค์ เมื่อครั้งดำรงพระชนม์เป็นพระโพธิสัตว์ ได้เวียนว่ายตาย เกิดเป็นมนุษย์บ้าง พลาดพลั้งไปเป็นสัตว์เดียรัจฉานบ้าง แต่ก็ ได้ประกอบคุณงามความดีมาทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งได้มาเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพระชาติสุดท้าย ผู้ที่อ่านหรือฟังนิทานชาดก จึงควรอ่านหรือฟังด้วยความ พิจารณา และในที่สุด นำ หสักธรรมที่ใดํใปใช้เป็นคุณประใยชนัแก่ ตนเองและผู้อื่น จึงจะถึอว่าถูกด้อง ส่วนความสนุกสนานเพลิดเพลิน นั้น ใ'ถ้ถึอว่าเป็นเพียงผลพลอยใด้เท่านั้น จึงจะนับว่าใด้ประโยชน์ จากนิทานชาดกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว่ให้แล้วอย่างแท้จริง yjtf๙f^ ๑ มโ!ราคม ๒๕๓๑

คำ นำ ในระหว่างปีพุทธศักราช barfed ถึงต้นปี ๒๕:๒ระ หลวงพ่อ ทัตตชีใว ไต้นำ นิทานชาดก มาแสดงพระธรรมเทศนาทุกบ่าย วันอาทิตย์ ติดต่อกันเป็นเวลากว่า ๑ ปี การเล่านิทานชาดกของ หลวงพ่อมิไต้เป็นเพียงการเล่าเรื่องลู่กันฟังอย่างเดียวเท่านั้น แต่ ท่านไต้อธิบายสรุบ่ และวิเคราะห์ชาดกเรื่องนั้นๆ ทั้งยังไห้ข้อคิด จากชาดกอันเป็นบ่ระโยชน์ต่อผู้ฟังอย่างยิ่ง ทำ ไห้การฟังพระธรรม เทศนาเป็นเรื่องที่ต้องติดตามฟัง ติดต่อกันทุกสับ่ดาห์ ผู้ฟังต่าง จดบันทึกเอาไว้เพื่อจะไต้อ่านอีกไนภายหลง อาทิตย่ไดที่มิไดีไบ่วัด ทำ ไห้ต้องพลาดเรื่องชาดกก็จะต้องติดตามขออ่านจากบันทึก ของ กัลยาณมิตรที่ไต้บันทึกไว้ กาลเวลาผ่านไบ่ ผู้ที่เคยฟังนิทานชาดก ยังคงระลึกถึงเรื่องราว ที่ลนุกลนานของชาดก แม้จะไต้มิการนำนิทานชาดกหลายเรื่องมา เรียบเรียงไหม' สำ หรับนักอ่านรุ่นเยาว์ แต่หลายคนยังคงระลึกถึง ต้นเรื่อง ที่หลวงพ่อไต้แลดงพระธรรมเทศนาไว้ นิทานชาดก ที่บริษัท กราพีคอาร์ต 28 จำ กัด ไดีรับอนุญาต ไห้นำมาจัดพิมใว์Iนครั้งนี้ เป็นการรวมหัวข้อนิทานชาดก ที่หลวงพ่อ เทศน์ทั้งหมด เรียงสำดับไนอรรถกถา จากวรรค ๑ ถึงวรรค ๗ และ เพื่อความเหมาะลมไนการจัดพีมฟั จึงไต้แยกพิมพ์เป็น ๗ เล่ม บริษัท กราพีคอาร์ต 28 จำ กัด ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ทัตตซีใว ทึไต้อนุญาตไห้จัดพิมพ์หนังลือเล่มนีขน

\\ ./ >

นิทานชาดก เล่ม ๗ อสาตมันตชาดก อัณฑภูตชาดก ตักกชาดก ทราชานชาดก มุทุลักขณชาดก อุจฉังคชาดก วิธี'ฝืกสมาธิ

อสาดมันตชาดก ชาดกว่าด้วยวิสัยของหญิงส่วนมาท สดๆนที่ดรร}ซๆดก เซตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี สาเหตุที่ดรสชาดก ในสมัยพุทธกาล ขณะที'พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับ ณ เซตวนมหาวหาร นครสาวัตถ พระองคทรงทราบว่ามีพระภิกบุ•รปบนึง เผลอสติไปหลงรักหญิงนางหนึ่ง จนจิตใจร้อนรนป่นป่วน ใคร่จะสึก ออกไปครองเรือน พระพุทธองคทรงมีพระทัยกรุณา ปรารถนาจะให้พระภิกษุนน พ้นภัยในวัฏสงสาร จึงทรงเรียกมาซักถาม ครั้นทรงทราบความแล้ว ก็ทรงเตือนสติให้ระลึกถึงความดีที่ตั้งๅ,จบำเทัญภาQบๅ แล้วทรงประณามวิสัยของสตรีว่า

นิทานชาดกเล่มเจ็ด <ร)<ร) ดโ!'ปีนfini^ ^นชปีวแ^โน^^^นน^^^^^^นปี'^' เป็นผู้ปีเบองหลัง เธอจะกระลันปันปีวหเ^รปี^ จากนน พระพุทธองค์ทรงระลึทชาติแต่'พ'พ^'^^'^^^'''^^'''^ นิวาลานสติญาณ ทรงนำ อสาตมันตชาดก มาตรัสเล่า ดังนี้ เนื้อหาชาดก ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหม'ดัตครองกรุง'''^ารา ^ พราหมณ์ครอบครัาหหึง นับตังแตวันท'นางพราหบณ'^ติ^'พกา''''^อ บตรชาย ก็ใดัจุดใฟ่ใว้ หมนเตมเชอใ'ล่มใหดบเอบ จนกระทงบุตรชาย เติบโตเข้าวัยหนุ่ม มีอายุใด้ ©๖ บ่ เนื่องจากบุตรชายพราหบณ์'^ มีรูปโฉมสง่างาม บ่ระกอบกับ บิดามารดามีความรู้และมีฐานะดี เขาจึงเป็นที่หมายบ่องของ'พญิ- ม ที่งหลายในหมู่บ้าน อีกท้'งเขาเองก็มความพงพอโอหญิง'■''งลานํ จึงเฝัาใฝ่ฝันจะมีเหย้ามีเรือนตามบ่ระลาชายหนุ่มที่ว'^บ่ ส่วนพราหมณ์บิดามารด\"ไnลับมความคดทต่างจากชาวบา*น ทั่วไป ทั่งสองไม่ปรารถนาจะให้บุตรชายแต่งงานมีเหย้าเรือมหรื'อ ประกอบการอาชีพใด ๅ แต่ประสงค์จะให้ออกบวช ประพฤติพรหมจรรย์ เพือว่าเมือบุตรชายสินอายุขัยละโลก'มโบ่แลว จะไดใปกำเนิดใน พรหมโลก ซึ่งเป็นความเชีอที่ประเลริฐลตไนลมัยนํ'ม และเป็นสิง ประเสริฐสุดที่พราหมณ์ทั่งสองจะมอบไห้บุ'^รชายล,^หีรัา*'''^

นิทานชาดกเล่มเจิด วันหนึ่ง นางพราหมณ์กล่าวกับบุตรว่า \"ลูกรัก ฬรหมโลกเป็นที่หมายสูงสุดขปี^} เป็นที่อยู่ของเทพยดาผู้ปรสุทธ แม่อยากให้ลูฦป็าเป็'qjlJๆ^ปี ^ๆ^ นำ ไฟที่พ่อแม่ได้สุดไวตงแต่ลูกเกิดนี้เด้าป็าไปแล้วออกบาๆ!■นๆเาไป เกิดนะ\" ^'รแม...เ78ง1เวชนะ 0£ทเพงพูดดฎนนเลย ลูกยง'หนุ่มยงแน่น ถ้าบวชเสียดอนนี้ก็เลึยดายความหนุ่มเปล่า ๆเกิดมายังไม่ทนแต่งงาน มครอบครว ยงไม่มหลานให้พ่อแม่อุ้ม จะให้บวชเสียแล้ๆท^อ แม่ก็...\" เมอนางพราหมณเหมวาบุตรๆ)ๅบบ'เตJJ(อุ จุกั จะบวชเลย จึงเสนอความเห็นประการใหม่ให้ เอาละ ถาลูกไม่อยากดะเอาดทางธรรมก็ไม่ด้องนาๆแงf(ยด. แต่เมื่อลูกคิดจะมีเหย้ามีเรือน ลูกก็ด้องเอาดีทางใอกให้ใด้ดี^อ^ปี ดาสมกับทีได้เกิดมาเป็นลูกด้ๆ!าย\" \"เอาดีทางโลก.....ทำ อย่างไรครับแม่f\" ชายหนุ่มสนใจขึ้นมา ทันที นางพราหมณีจึงกล่าวลอนว่า \"ธรรมดาของชายนี้น ถ้าไร้คาามรู้ ไร้สดีป็ญญา ก็ย่อมขาด ความสง่าในสังคม เมื่อลูกคิดจะครองเรือน ก็จงเป็นผู้ครองเรือน ทสามารถ มดวามรอบรู้ในคิลปคาสตร์เปียงกุลนุดf'ยัง'เงอาน ดังนี้น แม่จะส่งลูกไปเรืยนวิชาต่าง ๆ ที่สำ นักอาจารย์ทิคาปาโนทด้ ทีเ่ปี ตักกสิลา เมื่อลูกไปกิงสำนักอาจารย์แล้า จงไปเลือกเรืยนวิขา

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ®^ กับอาจารย์ที่เป็นโสด เพราะฟานย่อมมีเวลาทุ่มเy>ให'กับการสอนได้ มากกว่าอาจารย์มีมีครอบดรัว จะไดเรปีนจบไว\"]นะลูก ชายหนุ่มรับคำมารดาด้วยความร'พ^ แล้วจัดแจงออกเดินทาง ไปยังสำนักอาจารย์ทิศาปาใมก'ปี\" ชายหนุ่มตั้งใจเล่าเรียนศิลปศวส ก\"^ 1 กับอาจารย์ทิศว ปาโมกข์ท่านหนึงจนสำเร็จแอว จงไดเดนทา'^'าล้ยรJวปี^ว\"'^ เลาความ ถึงการเรียนให้บิดามารดา'กัง ใจจริงของบิดามารดา'นั้น ยังต้องการให้บุตรชายออกบ'^'ปี'ร^ นางพราหมณีจึงถามบุตรชายว่ว \"ลูกได้เรีปีนอสาดมนต์มาด้วปีหรืสเป็ฟา^\" \"อสาดมนต์คือมนต์อะไรกันครับ ผมไม่เคปีรู้จัก ไม่เคปีได้ปีน มาก่อนเสปี\" บุตรชายตอบ \"อสาตมนต์เป็นวิชาพิเศษที่น้อปีคนนักสะได้เรืปีนรู้ ลำ 'พิ-า ศิลปคาสดร์ทั่วไปใคร ๆ ก็ย่อมเรืปีนรู้ได้ แต่จะมีใครสักที่คนที่รูวิ'ปีา อสาดมนต์บ้างเล่า แบ้แต่ชือมนดบ'คน บางคนกปีงไมเคปีไดปีน เสียด้วปีซํ้า\" \"ทำไมนะ อาจารย์ถึงไม่สอนมนต์บคนี้ให้ผม\" \"อาจารย์คงเห็นว่าลูกอปีากจะรีบกสับมาประกลบการ•^า'เ^ มีเหบ้ามีเรือนกระมัง จึงได้สอนเฉพาะวิชาที่จำเป็นแก่การเลี้ปีงชีค'ให้'

นิทานชาดกเล่มเจ็ด 0'1'8£]ๆงนน '^ๆfปีเฎ ^ ImYITU สอนอสาตมนต็ใใ^' ชายหนุ่มจึงเดินทางไปหาอาจารย'ยังสำtJท^ เมืองตักกสิลาอีทครำหฐ่ง แต่ปรากฎว่าอาจารย'ของเขาไตั^ามๅร^ๅสู่งฐ อายุถึง ๑๒๐ ปีแล้ว เข้าไปอาศัยอยู่ในป่า เพราะไม่อยาททนตังดิา ค่อนแคะของคนทํ้งหลายปีอยากจะใตัม่ๅนม่^JJ เพื่อจะไดิใหภรรยา เป็นผู้ปรนนิป้ดิมารดาแทนตน เพราะทุกวนปี ท่านเป็นผู้อาบนํ้าให้ มารดาเอง ปัอนข้าวปัอนนํ้าให้นวดเปีอนวดตัว ดูแลความเป็นอยู่ดิางๆ ให้อย่างดี ท่านทราบดีว่า การดูแลคนแก'ยันเป็นเองปี'ลำบาก ตัดูง อดทน เอาใจโล่อย่างมากยากที่บุคคลอื่นปีมิใขjบุตรหลานจะปีๅใป่ปีใตั กงหากทานจะมภรรยา ภรรยากคงไมเตมใจปีาให้ กล้บจะเป็นการ นำ ทุกข์มาสู่มารดา สู่ภรรยาและสู่ตนเองเสืยเปลำ ๆ ล้อยู่เป็นโลด ปรนนิป่ติมารดาต่อไปดีกว่า ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อไปหาอาจารย์ที่ตักกลํลๅใบตั^ ก็ลอบถาม จนตามมาพบอาจารยไนป่า อาจารย์เห็นเข้าจึงทักสู้นลำ ฬอตุโน า'นามาโ)งนLๆIZJQf มอโโtfสะ!'นปีาอาfนนา£J บ้างล่ะf\" อาจารยครับ อาจารย์ยังไมใดสอนอสาคบบรั^ ชายหนุ่มทวงวิชา อาจารยรูสกลงศัยในคำพูดของคบ.ย์ จึงย้อนกามไป่ลำ \"ใครบอกใบ้เธอมาเรียนอสๆตบนค์น^f\"

นิทานซาดทเล่มเจิด \"คุณแม่ของกระผมเองครับ\" \"อ้อ....อย่างนน?\" อาจารย์นั้นรู้อยู่แก่ใจว่า มนต์ที่ชื่อว่าอสาตมนต์ไม่มีในใลกนี . ซSJรอยมารดาร! สใ ส^ส'^'^น'^\"^®^'^^น'^'^'®^'^\"^'^'^\"'^'^'^''ม่\"'^''''^ ท่านจึงซวนศิษย์สนทนาถึ\"3คว'ไน'■ป็น1>บ่'®'^\"^ ไ ในครอบครัวข®-ไ''ขา ในที่สุดอาจารย์ก็เข้าใจถึงควานต์®\"ไ'าาร'^น''''''''®ริ\"ไข®\"ไน'ไไ^'®'^'^'®\"'^บ'บ อาจารย์จึงกล่าวแก่ชายหนุ่นว่า \"อาจารย์จะให้อสาตมนเอ้กับเ■ร'B แตเธอจะตอง'กำ'ตนาบข'รง อาจารย์อย่างหนึง คือม่รนนิบัติดูแสมารตาแ■'บน'รา'^'เรย่ ะใต หรือไม่?\" \"ไเอ้สิครับอาจารย์ กระผมยินดีกำ'บุกอย่าง ขอเพียงแต่ให้ อาจารย์สอนอสาตมนเอ้ให้กระผบเ■กำ'นั้น\" ชายหนุ่นตอบ \"ดีล่ะ นับแต่บัดนั้ไป เธอจงเป็นผู้อาบนั้าให้แม่ของอา'^ารย์ ด้วยมือของเธอเอง ป้อนข้าวป้อนนำ นวดศีรษะ นวดมอ นวดเท้าให้ แม่ของอาจารย์และบุกครังบีปรนนิปีติคุกงแม่ เธอด้องเยินยอ พรรณนา ความงามของกำนไปด้วย\" \"อะไรกันครับอาจารย์ คุณแม่ชราถึงเพียงนั้นแล้ว....\" \"จงกำตามบีอาจารย์บอกชิ\" อาจารย์สัง \"ครับ อาจารย์\" ชายหนุ่มรับคำอย่างว่าง่าย

®^ นิทานชาดกเล่มเจ็ด อาจารย์จงสอนต่อไปว่า ให้เยินยอความงามของคุณแม่ ย้อนไปถึงสมัยที่ยังสาว เมื่อแม่พูดตอบมๆว่วอย่ๆงไร ก็ให้มาเล่า ใหอาจารยฟังทุกครัง ไม่ตองอาย อยาปิดบังอำพราง!,เด็ดขา(ฤ ชายหนุ่มรับคำ แล้วดำเนินตามคำสอนทุกประการ ทุกครั้งที่ ชายหนุมอาบนาไหนาง นวดเนอนวดตัวใหนาง ก็กล่าวซมความงามอย' ไม่ขาดปาก ทำ ให้หญิงชราซึ่งแม้จะมีอายุถึง ๑๒0 ปี และตามีดบอเด ฟันฟางหักหมดปากแลว กลับมความคดว่า ชายหนุ่มมีความรักไดร่ ในตัวนาง วันหนึ่ง ขณะที่ชายหนุ่มนวดตัวหญิงชรา ก็กล่าวซมนางไปว่า \"คุณแม่ขอรับ เมื่อคุณแม่ยังสาว คุณแม่คงสวยมาททีดีปีว ดูซ ทงลาตัว แขนขา หลัง!นลของคุณแม่ ใตัลัดส่วนพเอเหมาง;YIคงาม ดีจริง ๆ แม้ยามน คุณแมกยังดูกระชุ่มnfะชวย ผิวพรรณยังงดงาม ผมไม่เคยหลงใหลใครเท่าคุณแม่เสย นางจึงคว้ามีอชายหนุ่มไว้แล้วทามว่า \"เธอต้องการเราจริง ๆ หรือf\" \"ครับ ผมต้องการคุณแม่ยิ่งกว่าหญิงใดในใคก\" \"งันเธอก็จงอยู่ร่วมเรือนกับเราเสียยิ่มื่กิค\" นางเชื้อ!,ชิญ มไดหรอกครับคุณํแม ถาอาจารย์ทราบ ท่านต้องม่าผมแน่ ความรักของเราเห็นทีจะปี'อุปสรรคเสียแล้ว\"

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ๑๗ นางนิ่งไปสักครู่ แล้วกล่าวว่า \"ถ้าเธอต้องการฉันจริง ก็ฆ่าลูกขายฉันเสียสิ\" ชายหนุ่มจึงตอบว่า \"คุณแม่ครับ ผมไต้รับความรู้มากมายจากท่านอาจารย์ จะใต้ผมฆ่าอาจารย์ ผมทำไม่ไต้หรอกครับ\" \"เธอไม่ต้องการฉันหรือ?\" หญิงชราถาม \"ผมต้องการคุณแม่มากครับ แต่ผมไม่อาจฆ่าอาจารย์ไต้\" ชายหนุ่มตอบ \"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะฆ่าเขาเอง!\" นางลั่นวาจา นิ่แหละ ผู้หญิงเจ้าชู้แม้แก่เจึยนตายก็ไม'น่าซืนใจ มีความคิด ลามก มีสับลมคมใน เมื่อบังเกิดกิเลส ก็คล้อยตามกิเลส ถึงกับจะฆ่าลูก ในไล้ของตัว ชายหนุ่มได้เล่าเนื้อความทั้งหมดให้อาจารย์ฟัง อาจารย์จึงนิ่ง สมาธิตรวจดูอายุของมารดา ก็ทราบว่า มารดาถึงคราวจะสินอายุขัยใน วันนื้แล้ว จึงบอกกับศิษย์ว่า \"เรามาทดลองอะไรกันดูสักอย่างดีกว่านะ\" อาจารย์จึงให้ศิษย์ใปตัดไม้มะเดือมาท่อนหนึ่ง นำ มาวางบน เตียงนอนของตน เอาผ้าคลุมไว้ไห้ดูเลมีอนกับตัวท่านนอนอยู่บนเตียง แล้วผูกราวเชือกไว้ จากนน จึงให้ศิษย์นำขวานไปให้มารดา เพื่อให้นาง มาฆ่าตน ศิษย์จึงไปบอกมารดาของอาจารย์ทันที



นิทานชาดกเล่มเจ็ด ©๙ \"คุณแม่ครับ ท่านอาจารย์กำลังนอนหลับอยู่ในห้อง ผมผูก ราวเชือกไว้ให้คุณแม่เกาะเดินไปแล้ว... นี่ครับ ขวานที'คุณแม่จะถือ ไปฟ'นท่านอาจารย์\" นางรับขวานมาถือไว้ แล้วพูดกับๆ!ายหนุ่มอีกว่า \"เธอต้องไม่ทอดทิ้งแม่นะ\" \"คุณแม่วางใจเถอะครับ ผมไม่ทอดทีงคุณแม่แน่นอน\" นางฟังคำของชายหนุ่มแล้ว ก็งก ๆ เงิ่น ๆ ลุกขึนเดินเกาะ ราวเชือกไปยังห้องนอนของลูกชาย เมือมาถึงเตียงลูกเอามือคลำดู บนเตียงแล้วก็คิดว่าเป็นลูกชายนอนอยู่ จึงเงือขวานฟันลงไปทันที เมื่อขวานกระทบไม้ก็กระดอนขึ้นมา นางจึงทราบทันทีว่า ถูกกลลวงของชายหนุ่มเสียแล้ว ทันทีนั้น บุตรชายก็ถามขึนว่า \"คุณแม่ทำอะไรน่ะ?\" ความตกใจและความอับอาย พุ่งเข้าจับดวงใจของหญิงชรา ในทันที นางถึงกับสิ้นลติล้มลง และขาดใจตายอยู่ ณ ที่นั้น เมื่ออาจารย์จัดการเผาศพมารดาของตนแล้ว จึงกล่าวกับ ศิษย์ว่า \"วิชาที่เรียกว่าอสาดมนต็ไม่ปีหรอก แต่คุณแม่ของเธอมองเห็น โทษของหญิง จึงสั่งเธอมาหาอาจารย์ บัดปี เธอก็เห็นโทษของหญิง จากแม่ของเราแล้วมิใข่หรีอว่าเป็นอย่างไร\"

๒๐ นิทานชาดทเล่มเจ็ด \"ขอรับ ท่านอาจารย์\" ชายหนุ่มตอบ จากนั้น เขาได้กราบลาอาจารย์กลับมาหาบิดามารดา ทันทีที่ ไปถึงบ้าน มารดาก็ถามว่า \"ลูกเรียนอสาตมนต์จบแล้วหรือ?\" \"ครับคุณแม่\" ชายหนุ่มตอบ \"ดีแล้ว ต่อไปนี้ลูกจะเริ่มต้นชีวิตของลูกอย่างไรดีล่ะ จะ ออกบวชดี หรือจะแต่งงานดี แล้วแต่ลูกนะจ๊ะเพราะลูกไต้เรืยนรี ข ทุกอย่างแล้ว\" \"คุณแม่ครับ ผมเห็นโทษของผู้หญิงแล้วไม่คิดจะแต่งงาน อีกแล้ว ผู้หญิงเป็นเพศทึ่ไมรัจ๊กพอ ขาดความยั้งคิด เกิดความปรารถนา ไม่สิ้นสุด เร่าร้อน คึกคะนอง เหมือนไฟที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกสิ'ง ทุกอย่าง ผมไม่ต้องการแต่งงานอีกแล้ว แด'จะออกบวชบำเพ็ญบารมื' ชายหนุ่มตอบ หลังจากนั้น ชายหนุ่มจึงลาบิดามารดา เข้าป่าบวชเป็นฤๅษี บำ เพ็ญภาวนา กำ จัดกิเลส จนกระทั่งสิ้นอายุขัย ครั้นละโลกนี้ไป่แล้ว ได้!ป่บังเกิดในพรหมโลก

นิทานขาดทเล่มเจ็ด ๒® บระชุมซๆดก เมื่อพระสัมมาส์มพุทธเจ้าตรัสชาดกจบแล้ว ทรงยำให้เห็นโทษ ของหญิงส่วนใหญ่ แล้วทรงประกาศอริยสัจสี่โดยอเนกปริยาย หสังจาก จบอริยสัจแล้ว ภิกษุผู้ปรารถนาจะสีกสามารถเข้าถึงธรรมกายโสดา เป็นพระโสดาบัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประชุมซาดกว่า •พญงชรๆในครังบัน ได้มาเป็นภิกษุณีชือ ภัททกาปิลานี บดาชองชายหนุ่มในครั้งบัน ได้มาเป็นพระมหากัสสป ดูกสิษย์ในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระอานนท์ อาจารย์ในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระองค์เอง ฃ้อดิดจๆกซๆตก ในการอ่านชาดกเรืองนี ต้องทำใจให้เป็นกลาง อย่ายึดว่า ตัวเองเป็นหญิงหรือเป็นชาย เพราะนั้งหญิงและชาย หากไม่ระวังตัว ก็มีโอกาสจมอยู่ในเวรกาเมเท่า ๆ กัน ทุกคนจึงควรตระหบักว่า

๒๒ นิทานชาดกเล่มเจ็ด ๑. การประพฤติพรหมจรรย์หรือการคร'องตนเป็นโสด เป็น เรื่องที่น่าสรรเสริญ ๒. หญิงหรือชายที่ตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ ติ'องระ'วังตัว อย่าคลุกคลีกับเพศตรงข้าม เพราะเมื่อยังไม'หมดกิเลส ก็ย่อมมีโอกาส พลาดพลงได้ แม้แต่การคบเพื่อนเพศเดียวกัน ก็ต้องเลือก อย่าคบกับคนที่ เจ้า'ชู้ รักสวยรักงามจนเกินไป เพราะเขาจะซักนำไห้เราสนไจเรื่องเพศจน กามกำเริบได้ อริบๆยผท์ อสาตมันตชาดก (อ่านว่า อะ-ลา-ตะ-มัน-ตะ-ขา-ดฦ) อสาต ไม่มีความสุข, ไม่น่ายินดี มันต มนต์ พรหมจรรย์ ความประพฤติอันประเสริฐ, ประพฤติเยี่ยง พรหม การประพฤติธรรม ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องเพศ

นิทานชากกเล่มเจิด 'พระคาลา'ประจำซาดก อาสา โลกิตฺถิโย นาม เวลา ตาลํ น วิชฺชติ สารตฺตา จ ปคพฺภา จ สิขี สพฺพฆใส ยถา ขึ้นชื่อว่าหญิงส่วนมากในโลกไม่รู้จักยั้ง พวกนางไม'มีเวลา (ขอบเขต) ยั้งกำหนัดหนัก ยั้งคะนองเหมีอนไฟกินได้ทุกอย่าง ข้าพเจ้าจักหลีกละพวกนางไปบวชเพิ่มพูนวิเวกฯ

อัณฑภูตชาดก ชาดกว่าด้Qยหญิงที่เลี้ยงไว้ตํ้งแต่อยู่ในครรภ์ สดๆนที่ดรสซๆดก เซตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี สาเหดุที่ตรสซาตก พระภิกษุรูปหนึ่ง หลังจากทีบวชแล้วยังไม'สามารถบรรลุ ธรรมใด ๆ จึงบังเกิดความเบื่อหน่ายในเพศบรรพชิต ประกอบกับท่าน พึงพอใจสตรีนางหนึงเข้า จึงปรารถนาจะลึกไปครองเรีอน พระลัมมา- ลัมพุทธ'เจ้าทรงทราบสาเหตุทีภิกษุรูปบันปรารถนาจะลึก จึงทรงเรียกมา ซักถามด้วยพระทัยกรุณา ภิกษุนั้นยอมรับวิาจริง พระพุทธองค์จึงทรง ระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณแล้ๆตรัสว่า \"ดูก่อนภิกษุ ขึนชือว่าหญิงทังหลาย ใครๆก็รักษาไม่ใต้ ในครังก่อนบัณฑิตทังหลายไต้รักษาหญิงไว้ตั้งแต่ออกจากครรภ์ ก็ไม่อาจรักษาไว่ไต้\" แล้วพระพุทธองค์ทรงนำ อัทเฬภตชาดก มาตรัสเล่า

นิทานชาดกเล่มเจิด เนอทๆซๆดก ในอดีตกาล ณ เมืองพาราณลี พระเจ้าพรหมทัดพระองค์หนึ่ง ทรงเอาพระทัยใส่ดูแลพสกนิกรเป็มอ^'^'3 อาณาประซาราษฎร์ม ความสมบูรณ์พูน^'^''^'^''^''^'^จ้^ ในยามว่าง พระราชาโปรดการทรงสกากับท่านปุใรหิต ผู้หนึ่ง ชึ่งมืลมือในการเส่นสกาใกล้เคียงพระองค์ แต่ทว่าในการ เล่นสกาในแต่ละครง พระราชามักจะทรงชนะปุโรหิตเสมอ โดยทรงมื เคล็ดในการข่มขวัญปุโรหิตด้วยการตรัสเป็นกส'^น'^า \"แม่นำทุกสาย1viลคด ม่าทังฬมดสำ!'fดดายtil หโนจิ'กังVเสาย คงทำชั่ว เมื่อได้โอกาสในทีลับตา\" กลอนบทนีมืเนือความยำยืดวามประพฤติของสตร'®ข่างเสย''''า^ เพราะในสมัยนึ่น สตรีส่วนมากมืนิสัยเสเพล ชอบเทียวเตร่คบชู้ส่ชาย จนบุรุษทงหลายไม่อาจเซือถือในความเป็นกุสสตรีของเร'®'^ด้สนิ''''''>'^ ท่านปุโรหิตได้ยินกลอนบทนีทีใรก็'^ม'ค่อยสบาย''!''^'\"^กตรัง เพราะท่านไม่เชือในบทกลอนทีพระราชาตรัส แต่พระราชามันเล่า พระองค่ไม่เคยตรัสอะไรเมื่อไม่ทรงแน่พระทัย ท่านปุโรหิตจงสังเล ทุกครั้งที่ไดียินกลอนบทนี สมาธิในการทอดลูกบาศก์จงไมดต้องพ่ายแ''ด้ ต่อพระราชาเสมอ ๆ

นิทานชาดกเล่มเจิด วันหนง ท่านปุโรหิตคิดหาทางทีจะพิสูจน์เพือลบล้างคํๆ สบประมาทสตรีที่พระเจ้าพรหมทัตตรัสไว้ เพราะคิดว่าการที่สตรี ที่งหลายไม่เป็นที่น่าไว้วางใจก็เพราะนางมีโอกาสเที่ยQI,ตร่มาฦ ได้พบปะกับบุรุษไม่เลือกหน้า จิตใจจึงไม่มั่นคงต่อชายเพียฝ่คนเดียว หากสามารถเลี้ยงสตรีไวให้พบชายได้เพียงคนเดียว สตรีนั้นก็ย่อมจะ จงรักกักดีในชายผู้น้นเพียงผู้เดียวอย่างแน่นอน เพือพิสูจน์ความเชือประการนี ท่านปุโรหิตจึงเที่ยวเสาะหา หญิงมีครรภ์ทียากจนได้ผู้หนึง ซึงมีลักษณะต้องตามตำราว่าจะให้ กำ เนิดบุตรสาว ท่านจึงนำหญิงน้นมาเลียงดูอย่างดี จนกระทั่งนาง คลอดบุตรเป็นหญิงสมดังที่คาดคะเนไว้ ท่านปุโรหิตจึงได้มอบเงินจำนวนหนึงให้นางไปดังตัวประกอบ อาชีพ แล้วรับบุตรสาวของนางมาอุปการะ ท่านปุโรหิตทะนุถนอมทารกหญิงราวแก้วตาดวงใจ ให้การ บำ รุงบำเรออย่างดีโดยให้อยู่ในเรีอนหลังใหญิชึงมีชุ้มประดูถึง gj ชุม มกำแพงลดหลันกันถึง ๗ ซ้น มีนางทาสืเป็นปริวารดูแลมากมาย ทุก ๆ ซุ้มประตูจะมียามซึ่งเป็นหญิงคอยดูแลความปลอดภัยและ น้องกันมิใหบุรุษอืนใดเว้นแต่ท่านปุโรหิตเท่ๆนันทีสะ!,ซ้'ๆมา•เ^น เด็กหญิงน้อย ๆ ผู้นี้ได้ เมอเด็กน้อยมีอายุย่างเข้าส่วัยแรกรุ่น ก็ได้เป็นภรรยาของ ท่านปุโรหิต นางเป็นที'รักที่หลงใหล และเป็นความภาคภูมิใจของ ท่านปุโรหิตยิ่งนัก

นิทานชาดกเล่มเจ็ด บัดนี้ ท่านปุโรหิตสามารถทำให้เกิดมีหญิงที่เป็นกุลสตรี มี สัมพันธ์เพียงชายเดียวได้แล้ว ท่านปุโรหิตจึงทูลเชิญพระเล้าพรหมทํต ทรงสกาอีกครํ้ง หสังจากทีเลิกรามาช้านาน พระเจ้าพรหมพัตทรงดีพระพั^พไดพรงสาาด้นพานป็ไ^'ตต'®'^ ทุกครั้งที่ทรงทอดลูกบาศก์ พระองค์ทรงร้องกลอนบพเดิมว่า \"แม่นํ้าทุกสายใหลP^ ปีๆทังหมดสำเ■ร็สด้าย1ห หญิงทังหสาย คงทำชั่ว เมื่อได้โอกาสในทีลับตา\" แต่คราวนี ท่านปุโรหิตต่อความขนว่า\"\" \"ยกเว้นมาณวิกาของข้า ทุหรเ■ด้ว\" พระเจ้าพรหมทัตถึงกับพรงชะงัก พระองค์พรงแปลกพระพัน อย่างยิ่งด้วยทรงคาดไม่ถึงว่า ท่านปุโรหิตจะมีถ้อยคำมาต่อท้าย บทกลอนของพระองค์ด้วยพาพพมนใาเ^ล^า^^นนมนมน®\"^^'®''^^^ พระสมาธิของพระองค์จึงไม่มันดง วันมันพระเจาพรหมพัตพรงแพสกา อย่างยับเยินและในการพรงสกาครั้งต่อ ๆ มาก็พรงพ่ายแพ้ทุกครั้ง เมื่อท่านปุโรหิตกล่าวคำว่า \"ยกเว้นมาณวิกาของข้า'เจ็ระทุบรเ'ด้ว\" ทำ ให้พระองค์ทรงสงสัยมักว่า มวณชกว คอใคร พระเจ้าพรหมพัตจึงมีรับสังให้อำมาตย์คนสนิพไปสนดูว่าไต^ คือ \"มาณวิกา\" ที่ท่านปุโรหิตกล่าวถึง ครั้งทรงทราบแล้ว พระองค์ ได้ตรัสให้พามักเลงผู้หนึงมาพน แล้วตรัสกับมักเลงผูมันว่า

นิทานชาดกเล่มเจ็ด \"ข้ามีงานชินหนึ่งให้เจ้าทำ งานนึ่ต้องไข้มีมีอและชนเชิงมาก เจ้าจะทำไดไหม?\" \"หากเป็นพระราชประสงค์ แม้จะยากเย็นแสนเข็ญสักปานใด ข้าพระพุทรเจ้าขอถวายชีวิตทำให้สำเร็จให้อม้ด้ ขอพระองค์ทfง วางพระทัยเถิด พระเจ้าข้า\" พระเจ้าพรหมทัตจึงให้นกเลงไปหาทางผูทสมัครfทใค^กับสๆๆ น้อยมาณวิกา พระองค์ตรัสว่า \"อาศัยรูปโฉมและคารมของเจ้า มาณวิกาต้องหลงรักเจ้าแน่ ข้า ไม่เชื่อว่าจะมีหญิงที่มั่นคงจงรักต่อชายเพียงคนเตืปีๆใต้ดออดใป ถ้านางมีโอกาสไต้พบชาปีมากกว่าหนึ่งคน\" จากนั้นพระเจ้าพรหมทัตได้พระราชทานทรัพยิไห้นักเลงไปใช้ จายในการทางานในครังน นักเลงไดนำเงินไปเปิดร้านขายเครืดูง ประดับ ขายดอกไม้และของหอมทุกชนิดซึ่งเป็นของที'ผู้หญิงซดูบ ใน บริเวณทางผ่านใกล้บ้านท่านปุใรหิต แล้วคอยลอดส่องสืบถามคาามเป็น ไปในบ้านนั้นอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ช้า นางทาสีด้นห้องของนางมาณวิกาก็ออกมาชื้อดอทไม้ นํ้าอบนํ้าหอมให้นายลาวของตน เมื่อนักเลงเห็นนางทาสีแาะมาเสือทชื้อ ของทรานตน กรบถลาเขาไปกอดเทาของนางไาแน่น พลางบีบนำตา ราไห้ละอึกละอืนจนตัวโยน รำ พึงว่า

นิทานขาดกเล่มเจิด \"แม่จา...แม่ไปอยู่เสียvhหน ลูกตามหาแม่มาแสนนาน เพิ่งพบ แม่วันนี้เอง ฮือ...ฮือ...\" นางทาสีตกใจละล้าละลัง เพราะไม่เคยเห็นหน้าชาย^มาก่อน ทันทีนันพรรคพวกของนักเลงเจ้ามารยาทรุมล้อนลัน'''''านา พลางพูด- จาสนับสนุนรับลันว่า \"ดูซิ แม่ลูกคูน ช่างละม้ายคลายคลึงกันจริง ๆ\" \"เจ้าคนหนุ่มนี่ คูหน้าตาคมคายไม่แพ้แม่นะ-\" \"โถ...น่าสงสาร อุตส่าห์ตามหาแม่มาตั้งนาน\" นางทาสีพลันมีอาการราวลับคนน้าจีทีถูกลน'ลังน®า^'''''''จ้®ง ให็รองรำขึนมาทันที นางใจอ่อนยวบ มีอารมณ์เคราสรอยคลอยเ^ามถง กับทรุดกายลงโอบกอดบุตรแอบอ้าง'นั้นไว้''''นบอก นำ ตาร่วงไหลลงอาบ แก้ม ดูนำ สมเพชเวทนาและน่าขันจนคนทงหลายต้องกลนยิม ครนเวลาผ่านไปลักครู่ นักเลงผู้นั้นแสร้งทำเป็นสร่างโศก'''ช็ดนา ดาอยู่ปอย ๆ แล้วอ้อนถามขึนว่า \"แม่อยู่ที'ไหน...และนี่แม่กำลังจะไปไหนห์ริอจ้^\" \"แม่อยู่ม้านของท่านปุโรหิต กำ ลังจะมาหาซือดอกไม้ไปให้ แม่หนูมาณวิกานางเป็นคนงามมากทีเคียา ชำ กังชอบแต่งตัวด้วยดอกไม้ นี้าอบนี้าปรุง นางสวยราวกับนางพ้า ก็แมนแหละเป็นคนจัดการดูแล ทุกอย่างให้คนอืนน'ะ ท่านปุโรหิตไม่ไว้ใจหรอก\" นักเลงหนุ่มเห็นไต้'ซ่อง จึงรีบจูงมือนางทาสีเข้ามาในร้าน พลางบอกว่า

นิทานชาดกเล่มเจ็ด \"ต่อไปนแมไม่ต้องไปหาซือของทึIหนให้คุณหนูมาณ'ว,กาอีก แล้วนะจ๊ะ แม่มาเอาที่ร้านของฉันไปไต้เลย\" พูดพลาง นักเลงหนุมก็กุลกุจอจ้ด์ดอกไม้ และเครืองประทินโฉม นานาชนิดล้วนแต่ดี ๆ งาม ๆ จำ นวนมากมาย มอบให้นางทาสีไป โดยไม่คิดเงิน เมอมาณวิภาได้รับดอกไม้ เครืองหอมดี กุ มากมายกว่าที่เคยได้ รับก็ดีใจเปรยว่า \"วันนทานปุใรหิตใจอีจริงนะ ซือของให้ตังเยละ\" \"โรเอ๋ย ทานปุโรหตไมไต้ใจอีทิเตษอะใflffอฦ ลูกชายฉัน ต่างหากที่ให้ของพวกนื้มา เขาเป็นเจ้าของร้านองเชียวนะ หน้าตาเขา หออเหลาทเตยวเชยว พูดจากเพราะ แล้วยังใจอีอีฦต้วย\" นางพรำ สรรเสริญความดีของลูกชายรับสมอ้างเสียยืดยาๆ ต้'งแตปัดนันเป็นตนมา เมือได้รับเงินไปชือของ นางทาสีจะตรง ไปทรานของลูกชาย ครันเขาจัดลิงของให้มากมายเกินกว่าด้องกาf นางก็รับเอาไป แล้วริบเงินนนไว้เสียเองทุกครั้ง เวลาปรนนิบ้ติรับใช้นาย สาว นางก็พรำพูดสรรเสริญลูกชายอย่างไม่รู้เบื่อจนมาก4วิกาพลอย หลงใหลชื่นชมไปด้วย เวลาผ่านไปอก ๒-๓ วัน หนุ่มนักเลงก็เริมแผนการขันต่อไป วันนั้นนางทาสีมาถึงร้าน ไม่พบชายหนุ่มเช่นเคยจึงลอบถามคนร้บใช้

นิทานชาดกเล่)Jเจ็ด ครันรู้ว่าป่วยก็เข้าไปเยียมถึงห้องนอ''^ ลูบหน้าลูบหลัง ซักถามอาการ ด้วยความเป็น\"'ง่วง เขาแสร้งอมพะนำอำอึงอยู่เป็นเวลาใ^''น จงยอม บอกว่า '\"แม่จ๋า...ฉันคิดถึงมาณวิกาi'Vเลือเกิน ขาคินีถ้าฉันไมได้พบนาง ฉันคงตายแน่ ฉันหมดกะจิตกะใจจะทำมาด้าขาย ไม่อยากจะอยู่ดูโลก ต่อไปอีกแล้ว\" นางทาสีเห็นชายหนุ่มพรํ่าเ\"ห้อรำ ''ลันถึงมาณวิกาเซ่นนั้นถึพา ซื่อหลงเชื่อ ป่ระกอบกับนางอยากเอาใจชายหนุ่มเ\"พื่อรักษาผลประไยซน์ ของตน จึงรับอาสาเป็นแม่สือแม'ซักไห วัน'นั้น นางขนดอกไม้ ของหอม กลับไปฝากนายสาวอย่าง มากมายแล้ว'เาาลับลมคมในเข้าไปกระชินกระ'''าษษลกลวาร'ไ''^ไ'^ร''®'^ ลูกชายจอมปลอมด้วยอาการ''0กข์ร้อนราวกับเป็น''รืองล®ร'าลนาล^กย \"แม่มาโนวิกาจ๊ะ ลูกชายฉันเขาปากดอกไมกับน่านอมมาไม แน่ะจะ ตอนปีเขาไม่ต่อยสบาย บ่นคิดถึงหนูแนะ นถงกับลมหมอน นอนเสื่อไม่เป็นอันกินอันนอนเชียว เขาบอกว่าถ้าได้พบหนูสักคฉัง แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต หนูจะว่าไงจ๊ะ\" \"แหม ถ้าถึงขนาดบ่วยไข้ก็น่าสงสา^นะ แต่ฉันออกไบ่ไมได้น ถ้าเขาอยากพบฉันจริง ๆ ก็ไข้ความสามารถเข้ามาหาเองซิ\" นางตอน อย่างมีนัย นางทาสีดีใจมากที่สามารถกรุยทางได้สำเร็จไปส่วนหนึงแล้ว จากนั้น นางก็เริ่มวางแผนกำราบหญิงรันไข้และยามประ'รุ!ให้อยู่

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ในอำนาจของตนโดยอาศัยที่นางเป็นคนสนิทของมาณวิกา ทาสีคนใด ที่กระด้างกระเดื่องเคร่งครัดต่อหน้าที่ นางก็กลั่นแกล้งด้วยวิธีต่าง ๆ จนหญงเหลานันศับใจลาออกใปบาง หลบ ๆ หลีฤ นางบ้างเพราะ เข็ดขยาดในความร้ายกาจของนาง จนไม่มีใครอยากเกี่ยวข้องเอารุระ ด้วย นางอยากทำอะไรก็ทำไป เมอทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้ว นางทาสีก็ลอบพานักเลงหนุ่ม เข้ามาถึงห้องของนางมาณวิกา โดยให้ซ่อนตัวมาในกล่องดอกไม้ ขนาดใหญ่ไล่รถเข็นผ่านประตูต่าง ๆ เข้ามาอย่างสบาย เพราะไม่มี ใครตรวจด้น หรือแม้แต่จะซักถาม เมื่อมาณวิกาได้พบชายหนุ่มรูปงาม นางบังเกิดความพึงพอใจ เป็นอันมาก นักเลงหนุ่มได้พูดจาหว่านล้อมเล้าโลมจนได้นางเป็นภรรยา ในวันนั้น เวลาผ่านไปได ๒ ๓ วัน มาณวิกาเกรงจะพลาดพลังถูกซับได้ จึงตัดไจบอกไห้ชายชู้กลับออกไปเสีย นั้ง รุ ที่แสนอาลัย นักเลงหนุ่มจึงแสร้งอิดออดต่อว่าต่อขาน \"มาณวิกา เจ้าสิ้นรักพี่แล'วหรือ จึงพูดเหมือนจะเร่งให้mutd\" \"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกจ๊ะ แต่หากว่าพี่อยู่หลายวัน ความต้อง แตกแน่ นองเกรงใคร ๆ จะสงสัย อีกอย่างหนึง ท่านปุโรหิตมืพรรคพวก มาก มือำ นาจมาก หากท่านรู้เรื่องของเราเข้า เราต้องลำบากแน่ ๆ\" นางให้เหตุผล

นิทานชาดกเล่มเจ็ด \"ก็จริงของน้อง แต่พี่แค้นใจนักทีจะต้องเสียน้องใน้กับเจ้าแก็ นัน่ อยากจะแก้เค้นมันจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ถ้าพีกลับไปเปล่า ๆ พีค' งนอนไม่หลับแน่ อย่างน้อย ๆ ไต้เขกหัวมันลักพกก็ยังดี\" \"ถ้าแก้แค้นแค'นี้จะไปยากอะไร\" มาณวิกาตอบ \"น้องจะทำอย่างไรล่ะจ๊ะ\" นักเลงหนุ่มถามด้วยความยินดีที ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน มาณวิกาจึงกระซิบกระซาบแผนการของนางให้นักเลงหนุ่ม ทราบ และแล้วคำวันนั้นเอง เมื่อท่านปุโรหิตเข้ามา มาณวิกาก็เข้าเคล้า- เคลียปรนนิบ้ติยิ่งกว่าเคย พรํ่ารำพันถึงความสำนึกในบุญคุณทีท่านมี ต่อนางอย่างล้นเหลีอ พลางอาสาขอฟ้อนรำบำเรอ ท่านปุโรหิตมีความหลงใหลในเสน่ห้ของนางมากเป็นทุนอยู่ แล้ว จึงยิ่งเลีกบันเทิงใจเป็นพิเศษ หยิบพิณมาบรรเลงเป็นจังหวะฟ้อนให้ นางร่ายรำอยู่ลักครู่ ก็แสร้งทำเป็นเขินอาย กล่าวแก่ท่านปุโรหิต ว่า นางใม่อาจฟ้อนต่อใปใด้ เพราะถูกท่านจัองจนเขิน แต่นางก็ยังใม' อยากหยุดฟ้อนเลย ขอเอาผ้าผูกหน้าปีดตาท่านใว้ก่อน พลางเยินยอความชำนาญในการบรรเลงพิณ จนท่านยอมให้ นางเอาผ้ามาปิดตาใว้จนแน่น แล้วบรรเลงพิณให้นางฟ้อนต่อใป นางฟ้อนใปใด้ชั่วอึดใจ ก็จงใจร่อนถลาใปเหยียบปลายเท้า ท่านปุโรหิตข้างหนึ่ง แล้วแสร้งทำเป็นลนลานเข้าใปกอดขา ละลํ่าละลัก ขออภัยโทษ อ้างว่าเพลงพิณของท่าน ใพเราะจนเคลิมใป ลืมระวังตัว



นิทานชาดกเล่มเจ็ด ท่านปุโรหิตปลาบปลืมบันเทิงใจเป็นทีสุด กล่าวให้อภัย ชำ พูด เอาใจว่า \"สำหรับมาณวิกาแล้ว ไม่มีความผิดใดที่จะยกใไล้ไม'ได้\" นางมาณวิกาเห็นเป็นโอกาสดี จึงเคล้าเคลียหนักขน แล้วพูด หยิกแกมหยอกลองใจขึ้นว่า \"แม่ดิฉันจะเขกศีรษะท่าน หรือเจ้าคะ\" \"อย่างนันซิจ๊ะ มาโนวิกา\" ท่านปุโรหิตเผลอพูดเอาใจ มาณวิกายิ่งแสร้งพูดหยอกเย้าในท่าบองใม่เขืส ท่านปุโรหิต ถึงแม้จะย่างเข้าวัยชราแล้ว แต่เมือถูกภรรยาสาวคราวลูกเย้ายวน ก็เผลอสติ เล่นคะนองเป็นเด็กไปได้อย่างคาดไม'ถึง ท่านพยายามจับมือออกปากคะ- ยํ้นคะยอให้มาณวิกาเขกศีรษะท่านดูลักครัง มาณวิกาแสร้งอิดออด แล้วท่าเป็นเสียไม'ได้ ร้องเตือน ท่านปุโรหิตให้ระวังตัวแล้วชายตาให้ซู้ของนางเข้ามาเขาศีรษ\" แทน นักเลงหนุ่มรอท่าอยู่แล้ว จึงรีบย่องกริบเข้ามาด้านหลังยกมือ ขึ้นเขกลงกลางศีรษะท่านปุโรหิตเต็มแรง แล้วรีบหลบเข้าหลังม่านซ่อน ตัว ปุโรหิตผู้เฒ่าไม่บันระวังตัว เพราะคิดว่ามือเล็ก ๆ ของผู้หญิง คงไม่หนักหน่วงกระไรนัก แต่ครั้นโดนเขกเข้าเต็มแรงท่านก็ถึงภับมืนงง ตาพร่า หัวโน คอย่นไปทีเดียว

«nb นิทานขาดกเล่มเจิด แต่ถึงกระนัน ท่านก็ยังอุตส่าห์พูดแก้เก้อ ขอมือนางมาณวิกา มาคลำดู แล้วเปรยว่า \"มือนิ่ม ๆ อย่างนี้ แต่ทำไมเขกเจ็บจังล่ะจ๊ะ\" นางมาณวิกาแสร้งออดอ้อนขออภัยโทษท่านปุใรหิต เมือคลาย ผ้าผูกตาออกแล้ว นางรีบสาละวนหานำมันมานวดศีรษะให์ด้วยท่าที เอาอกเอาใจ ครั้นสามืซราออกไปแล้ว นางจึงส่งซายซู้ออกจากบ้านไป โดยไห้ซ่อนตัวไนรถเข็นดอกไม้เหมือนเมื่อขามา นักเลงผู้นันได้เข้าเผ้ากราบทูลรายงานผลโดยละเอียดต่อ พระเจ้าพรหมทัต พระองค์ทรงยินดียิงนักทีสามารถหาเหตุลบล้างคำพูดของ ท่านปุโรหิตได้สำเร็จ ตังนั้น เมือท่านปุโรหิตเข้าเผ้าปรึกษาราชการงานเมืองเสร็จแล้ว ก็ทรงซวนไห้ตํ้งกระดานสกาทันที โดย่ฝืพระหัตถ์เซิงสกาแล้ว พระราซาทรงเล่นไดดีพอ ๆ ภับท่าน ปุโรหิต การแพ้ซนะจึงถือกำลังไจเป็นสำตัญ ท่านปุโรหิตนั้น ถึงแบ้จะมี กำ ลังไจมันคงอยู่เหมือนเดิม เพราะยังไม่รู้เรืองของนางมาณวิกา แต่พระเจ้าพรหมทัตกลับมืกำลังพระทัยเหนือกว่า เพราะทรงทราบว่า ท่านปุโรหิตไม่สามารถกล่าวหักล้างบทกลอนของพระองคํไดิอีทต่อไป แล้ว

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ดังนันการเล่นสกาครังนี ถึงแม้ท่านปุโรหิตจะต่อเพลงคาถา ด้วยคำว่า \"ยกเว้นมาณวิกาของข้าพระพุทธเจ้า\" ทุกครั้ง ก็ไม'สามารถ เอาชนะพระราชาได้แม้สักครั้ง ในที่สด พระเจ้าพรหมทัดทรงยุติการเล่นสกา แล้วตรัสแก่ท่าน ปุโรหิต ว่า \"ท่านพราหมณ์ท่านยังกล่าวอย่างนันอยู\"1ดอท่'^ง1ร ม้ตม แม้มาณวิกาทีท่านอุตส่าห์เสียงดูม'!ตังแท่'รปีใ'เ^พรรร^ ม้องท'น'I'ว้1น เรือนซึงมีกำแพงถึง ๗ ชัน ก็ทำ ชัวลามกในทีลับตาเหมอนทัน ขนขอ ว่าหญิง แม้ขายเอาใสไ'รืในท้องก็รักบานางไ'มีมีใต้ มาณวิกาเอาม้าผูก ตาท่านแล้วท้อนรำ แท่กลับใข้ขายชู้เขกศีรษะของท่าน คราวปีท่านจะ กล่าวว่า ยกเว้นมาณวิกาไต้อย่างไร\" ปุโรหิตได้ฟังเช่นนั้น ก็รู้สึกเจ็บปวดยิงนัก รีบกราบบังคม ลากสับบ้านทันที ครั้นถึงแล้ว จึงรีบเข้าไปซักถาม คาดดันให้มาณวิกา สารภาพ นางมาณวิกาเป็นผู้ร้ายใจแข็ง แม้จะรู้ว่าเลียรู้ ถูกชายชู' เอาความสับใปเปิดเผยแล้ว ก็ยังไม่พรั่นพรึง กสับทำมารยาบีบนำตา ครํ่าครวญว่าถูกไล่ความ นางยืนยันแข็งข้นว่าไม่เคยนอกใจ ช^า กล่าวสบถสาบานขอทำสัจกิริยาลุยไฟพิลูจนํคกกมบรัสุพริ

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ท่านปุโรหิตสิ้นความไว้วางใจนางแล้Q แต่จะลงโทษก็ยังไม'ถนัด เพราะขาดหลักฐานแน่ซัด เมื่อนางขอลุยไฟ ท่านจึงรับคํๆทันที พร้อมลัง ให้ปาวไพร่ตระเตรียมไมทืเนไว้เพื่อทำพิรีลุยไฟในซัน^งสู้น นางมาณวิการู้สืกผิดหวังที่ท่านปุโรหิตไม่ทัดทานกๆฐ.ลุU ไพ่ของนางแมลักนด นางจงวางแผนเอาตวรอดทํนทีโตยลังนา,ฐทาทีต้น ห้องใหิรีบไปบอกชายเของนาง ให้มาช่วยเสริมอุบายทำลายฟทีลุยไฟ ให้จงได้ พร้อมที่งออกอุบายเป็นขั้นตอนโดยละเอียดใหิไป วันรุงขน พ่นกองใหญสำหรับการลุยไฟได้ถูกกองไว้กลาง ลานบ้าน ชาวบ้านย่านนั้นต่างพากันมาดูมากมาย ครั้นได้เวลา นางมาณวิกาทำทีไม่สะทกสะท้าน หวังจะลาง ท่านปุโรหิตให้ตายใจ นางก้าวเข้าไปยืนหน้ากองไฟ ประนมมือกล่าว คำ ลัตย์สาบานต่อหน้ามหาชนว่า \"ข้าแต่ฟานพราหมณ์ ขึน้ขื่อว่าการสัมผัสด้วยมือชายอื่นยฦ 1วนทานแลว ดสันtมIคย ดวยสัจจะมื ขอ!ฟอย่า\\ด้1หมืดสันเสย\" ว่าแล้วก็ทำท่าจะเดินเข้ากองไฟ ทันใดนั้น ชาย-Pงน้ดแนะ ก็ถลันเข้ามายืนหน้ากลุ่มคน พลางประกาศว่า \"ฟานทังหลาย ดูเอาเถิด ฟานปไรหิตปีใจรายนัก ยอมให้ภรรยา ผู้งดงามลุยไฟได้\" แล้วตรงรี่เข้าไป'ฉุดรั้งมือนางไว้

นิทานชาดกเล่นจ็ด ๓๙ มาณวิการีบสะปัดมือ แล้วถลาเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าท่านปุใรหิต พร้อมกับรำพันว่า \"ท่านเจ้าขา ดิฉันไม่อาจลุยไท่ได้แจ้า ดิฉันตังสัตย์อร!^^านาา เว้นแตมอท่าน ดิฉันไม่เคยสัมผัสมือชายปีมเย แตเมอท ชายคนผันไม่ รูค' วาม มาจับมือดิฉันเสียแจ้ว...\" \"ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ! มาณ'วิกาเอ๋ย เจ้าช่างมืมารยามากเหลือเกิน ท่าผิดแจ้วยังกจ้าสบถสาบาน โกหกหลอกลวงไจ้ตสอด!■วสา สนดู ไม่ออกเลยว่าเมื่อไรพูดจริง เมือไรพูดเท็จ คนอย่างเจาขาไม่ขอเลยงไว ให้เปลืองข้าวลุกอีกต่อไปแจ้ว จงรีบออกจากบ้านของขาไป!■ดยว'ผั\" มาณวิกาจึงต้องออกดาก''รี®นหี''ต^®^นา''''ต®®^^^''''®'®^ ต้องตกระกำลำบากระเหเร่รํ®น เพราะความไม่จริงใจของนาง''®'^ 'ประชุมflๆดก เมื่อพระสัมมาล้มพุทธเจ้าทรง''''ลดงพระ®5'รมเทศนาแล้ว ไต้ตรัลถึงความประพฤติของหญิงเลวเป็นคาถา ความว่า \"ขึ้นชื่อว่าหญิง หาความจริงใจได้ยากเต็มท็เป็นใจรมืมารยา รูได้ยากเหมือนการไปของปลาในนำ กสับกลอกเหมือนก้อนกรวด ทงหยาบกระด้าง ร้ายกาจ ความล่อลวงบรรดามืในหมู่มนุษย์ ไม่มืเรึ่อง ใดเลยที่พวกนางจะไม่รู้

<£■ o นิทานชาดกเล่มเจ็ด คำ เท็จของพวกนางเหมือนคำจริง คำ จริงเหมือนคำเท็จ เหมือน โคทั้งหลายกินแต่ยอดอ่อน ๆ ของหญ้าที'มากมาย... ความสงบของเราประเสริฐล้น\" จากนั้น พระพุทธองค์ตรัสอริยส์จสีเพิ่มเติมเป็นอเนกปริ- ยาย พระภิกษุนั้นสามารถประคองใจให้หยุดนิ่งเข้าถึงธรรมกาย พระโสดา เป็นพระโสดาบันในขณะนั้นเอง พระพุทธองค์ทรงประชุมชาดกว่า 'ฬระเจ้ๆฬรฬมทัด ในครั้งนั้นได้มาเป็นพระองค์เอง ฟ้อคิดจๆกปีๆดก ๑. การพนันขันต่อ เป็นอบายมุขที่ด้องใข้เล่ห์เหลี่ยมชนเชิงเพื่อ เอาชนะคู'แข่งขัน ผู้ทีล่มหลงการพนัน จะยอมลงทุนลงแรง ยอมเสีย เวลาทุ่มเททุกวิถึทางให้คู'แข่งขันเพลี่ยงพลํ้า ^หลงการพนันจึงเป็นคนที' - ผลาญความเป็นคนของตัวเอง เพราะความซื่อตรงจะหมด ไป ความมีเหลี่ยมดูจะเกิดขึ้น - ผลาญปัญญา ทำ ให้เราไม'รู้จักค่าของเงินตามความเป็น จริง - ผลาญเวลา เป็นการไข้เวลาที่ไม'ก่อให้เกิดประโยชน์ แต่เกิด โทษ - ผลาญสุขภาพ เพราะขณะเล่น ต้องอดตาหลับขับ ดานอน ต้องกลั้นอุจจาระ บัลลาวะ กินอาหารไม'เป็นเวลา ทำ ให้สุขภาพเสือม

นิทานชาดกเล่มเจ็ด csr๑ ๒. เรื่องความลุ่มหลงรักใคร่ของชายหญิง เป็นเรืองที่เกิดขึนได้ ง่าย หากไม่รู้จักพิจารณาใใฬ อาจหลงเชือไนอุบายของผู้ทีหวัง หลอกลวงได้ง่าย ผู้ที่ตกอยู่ไนห้วงของความลุ่มหลง มักจะกระทำทุก อย่างเพื่อไห้ตนสมปรารถนา โดยไม่นำพาต่อความถูกผิด หรือบาปบุญ คุณโทษได ๆ ที่งสิน ซึ่งกว่าจะสำนึกได้ ก็มักจะสายเกินแก้เสียแล้ว ๓. ความสงบลุขที่แห้จริง อยู่ที่การบำเพ็ญภาวนาซึ่งเป็นความ สงบไจ มิไซ'อยู่ที่การครองเรือน อรบๆยฟั'ฬท์ อัณฑภูตชาดก (อ่านว่า อัน-ทะ-พู-ตะ-ขา-ดก} อัฒ.ฬะ ไข่ ภูต สัตว์ทํ้งปวง เกิดแล้ว, เสมอกัน ร}กา เครื่องเล่นอย่างหนึ่ง ไซ้ลูกเต่าทอดเป็นแต้ม บุโรหด พราหมณ์ที่ปรืกษาของพระเจ้าแผ่นดิน หาสี ทาสหญิง 'พระดๆคๆประจำราดก ยํ พุรหมโณ อวาเทสิ วีณ์ สมฺมุขเวธิโต อณฑภูตา ภตา ภริยา ตาลุ โก ชาตุ วิสฺสเส พราหมณ์ถูกนางเอาผ้าผูกตาเสียหมด ไห้บรรเลงพิณ เพราะเหตุไดไม่ทราบเหตุนันเลย หญิงที่เลี้ยงมาตังแต่ยังเป็นพืช (อยู่ไนห้องแม่) เป็นภรรยายังทำเสียได้ ไครเล่าจะวางไจไนภรรยานั้น ๆ ได้แน่นอน

ต้'กกชาดก ชาดกว่าด้วยเล่ห์เหลี่ยมของหญิงเจ้า!' รเดๆนทิด ซๆดก เซตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี ดาเหตุทึ๋ดสัดซๆดก พระภิกษุรูปหนึ่ง บังเกิดความพอใจสตรีนางหนึ่งเข้า จิตใจ จึงร้อนรุ่มกระวนกระวายเหมือนถูกไฟแผดเผา แม้เซตวันจะร่มรื่น สักเพียงใด ก็ไม'อาจทำให้ท่านเป็นสุขได้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบ เรืองนี จึงตรัสเรียกภิกษุนั้นมาสอบถาม เมื่อทรงทราบความจริงแล้ว จึงตรัสว่า \"ดูก่อนภิกษุ ธรรมดาของหญิงนํ้นเป็นผู้อกตัญณู ประทุษร้าย ต่อมิตร เหตุใดเธอจึงปรารถนาหญิงเล่า\" แล้วทรงระลึกซาติด้วย บุพเพนิวาสานุสติญาณ นำ ดักกรๆดก มาตรัสเล่า ดังนี้

นิทานชาดกเล่มเจิด (Tai เนอหาชาดก ในอดีตกาล ณ กรุงพาราณสี เศรษเผู้หนึ่งมีธิดาลาวสวย หน้าตาคมคายน่าชม แต่ทว่านางเป็นคนเจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ชำ ยังปากร้าย มือไว ปาวไพร่ของนางจึงมักถูกนางด่าว่าทุบตีให้ต้องเจ็บ ต้องอายอยู่เสมอ แม้นางจะเป็นถึงธิดาเศรษฐีและมีความงามเพียงใร ปาวไพร่ทุกคนก็ดีต่อนางเอษาะต่อนนาเ'คาน้บ ลับหลังแลวดาง'คามัน ขนานนามไห้นางว่า \"นางตัวร้าย\" วันหนึ่ง ธิดาเศรษฐีและบริวารพามันไปเล่น'นํ้าในแมนาคงคา ตั้งแต่ปายจนกระ'ทั่งเย็น ขณะ'นั้นเอง เมฆฝนไต้ตั้งเค้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ลมพัดกรรโซกรุนแรง กิ่งไม้ต้นไมีโยกเอนไปมาพัดพาเอาใบไม้ร่วงกราา ราวมันสายฝน แม้ผิวนํ้าก็ถูกลมพัดจนเป็นระลอกคลื่น บรรดา ปาวไพร่พังหลายต่างกุลกุจอชนลากนา ครงวงครงเดนกลบเรอนไมม ไครห่วงไยนายสาวของตนซํ้าบางคนยัง'พูดมับก่า \"ดีล่ะ ปล่อยนางตัวร้ายให้ว่ายนํ้าหนีฝนซะให้เข็ด!\" \"คอยดนะ เดียวยายมัพจะ'ตรงส้น่iมันลูกนก'''กนาเส2/ รู ๆ อยู่ว่าฝนจะตกแล้ว ยังเอ้อระเหยลอยคออยู'ได้ฉันเลยไม่อยากเรียก หมั่นไล้.\" แต่จนคํ่ามีดแล้ว ธิดาเศรษฐียังไม่กลับเรอนลัก'ค เศรษฐ ซักถามก็ไม่มีไศรรูไครเาง็น เพราะมัวแต่วิ่งหนีฝนมัน ต่างคิดมันว่าคงจะ วิ่งตาม ๆ มันมา บางคนว่าเห็นหลังไว ๆเข้าไจว่าคงขึ้นจาก'นํ้ามาก่อน แล้ว เมื่อสอบถามไม่ไต้ความ เศรษฐีจึงระดมบ่าวไพร่ทั่งหลายออก ค้นหานางด้วยความห่วงไย

^^ นิทานชาดกเล่มเจ็ด ไม่มีใครรู้ว่า ขณะนี ธิดาเศรษฐีถูกกระแลนำอันเชี่ยวกราก พัดพามาติดกอหญา ไหลเรือยลงไปยังป่าแห่งหนึง ยังดีที่นาง ว่ายนํ้าได้แข็งแม้จะอ่อนเพลียและเหน็ดเหนื่อย แต่นางก็ลามารท พยุงกายรักษาชีวิตมาได้เป็นเวลาถึงครึ่งคืน ตลอดเวลาทีลอยคออยู่ในนำ นางพยายามร้องเรืยกให้คนช่วย แตไมมใครไดยนเลยงนางเลย จนกระพังนางลอยมาถึงบริเวณ หน้าบรรณศาลาของฤๅษีหนุ่มตนหนึ่ง ขณะนั้นฝนได้หยุดตทแล้ว ฤๅษไดยนเลยงนาง จงทอคบหญ้าออกมา เมือเห็นผู้หญิงลอยนำอยู่ ด้วยอาการที่สิ^นเรี่ยวแรง จึงร้องบอกนางว่า \"ทำใจดี ๆ ไว้ ฉันจะลงไปช่วยเดี๋ยวนื้\" ฤๅษีเลียบคบหญ้าไว้ยับง่ามไม้ แล้วว่ายนํ้าไป่ป่ระคอง นางเข้าฬู่ง ธิดาเศรษฐีขณะนั้นดูน่าลงลารนัก เนื้อตัวเย็นเฉียบ ปากศอล้นเพราะความหนาว ผมเผ้ายาวลยายปกหน้าตา เสื้อผ้าไม่มี พันกาย ฤๅษีหนุ่มรืบนำผ้าให้นางห่มแล้วก่อทองใฟให้หๆงฏง นัา ผลไมทมอยูมาใหนางกน นางรบรับมากินด้วยความหิวทระหาย แล้วนั่งผิงไฟ จนรูลีกอบอุ่นขึ้น ฤๅษีหนุ่มจึงกล่าวยับนๆงว่ๆ \"น้องหญิง เธอจงเข้านอนในคาลาเถิด■นร:; ฉันจะนอน ข้างนอกนี่แหละ จะไดีไม่เป็นที่ครหาแก่เราดี๋งลอง\"

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ^^ นางหันมามองฤๅษีหนุ่มอย่างเต็มตา แล้วเดินเข้าไปนอน ในบรรณศาลาอย่างว่าง่าย วันรุ่งขึ้น ฤๅษีหนุ่มจัดหาผลไม้ต่าง ๆมาเลียงนาง ด้วยคิดว่า เมื่อนางกินอิ่มมีกำลังแล้ว จะได้เดินทางกลับ แต่นางก็ยังนอน พักผ่อนด้วยอ้างว่า ยังไม'หายอ่อนเพลีย จนกระทงวันที่สาม ธิดาเศรษฐีก็ไม'มีทีท่าว่าจะจากไป นางกลับคิดว่า \"...ฤๅษีตนนี้นี่ ทนอยู่ได้ยังไงffนนะ เงาอุตส'าห์ไม่กลับ กิยังทนตากแดดตากนํ้าด้วงอยู่นอกศาลาได้อยากจะรู้นักว่า คนที ทนตากแดดตากนำด้างได้ จะทนมารยาหญิงของเราได้หรือเปล่า...\" นางบังเกิดความพึงพอใจฤๅษีหนุ่ม จึงเข้าไปพูดจาด้วย ถ้อยคำอ่อนหวาน แลดงอาการประเล้าประโลม ถูกเนือต้องตัว ฤๅษีหนุ่ม•นนแม้จะมีวิชาอาคม มีฤทธึ๋เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ก็ ยังพ่ายแพ้ต่ออำนาจของสตรี จึงไดธิดาเศรษฐีเป็นภรรยา ที่งสองอยู่ด้วยกันในป่าไม'นาน ธิดาเศรษฐีทนความเงียบเหงา ในป่าไม'ได้ จึงกล่าวว่า \"ท่านคะ ท่านมีความรู้มากมายสมเป็นบัณฑิต จะมาอยู่ ปาให้ล่าบากล่าบนทำไมคะ สูใปอยู่ในเมีองไม่ดีกว่าหรือ จะได้ใช้ วิชาความรืให้เป็นประโยชน์\"

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ชายหนุ่มมีความเห็นคล้อยตามนาง จึงพากันไปปลูกกระท่อม อยู่ทีหมู่บ้านชายแดนแห่งหนึง โดยยึดอาชีพเป็นพ่อค้าขายเปรียง นอกจากนันเขายังเอือเฟือต่อชาวบ้านด้วยการอบรมสังลอนให้ชาๆบ้ๆน เผิดชอบชัวดี อะไรเป็นบุญอะไรเป็นบาป ชาวบ้านทังหลายต่างให้ ความเคารพยกย่อง พากันเรียกเขาว่า ตักกบัณฑิต ต่อมา ได้มีโจรป่าบุกเข้ามาปล้นละดมในหมู่บ้าน เมื่อปล้น ทรัพย์สินเงินทองได้แล้ว พวกโจรยังบังคับให้ชาวบ้านช่วยกัน ขนทรัพย์ไปส่งที่ชายป่าอืกด้วย เมื่อโจรได้ของไปแล้ว ก็ไส่ชาวบ้าน กลับ ชาวบ้านทุกคนต่างรีบวิ่งกลับเข้าหมู่บ้าน แต่ทันใดนั้น เสืยง หัวหน้าโจรก็ตังขึ้นว่า \"นางคน'นน หยุดก่อน\" ธิดาเศรษฐีหยุดวิ่ง ยึนนิ่งอยู่กับที่เหมีอนถูกมนต์ละกดด้วย ความรักตัวกลัวตาย นายโจรยืนเพ่งพินิจนาง พร้อมกับเอามือเชยคางนางขึ้น \"ฮ่ะ! ฮ่ะ! ฮ่ะ! อยู่เป็นเปียข้าที่นี่แหละ นางคนสวย\" ว่าแล้ว นายโจรก็พานางไปด้วย ธิดาเศรษฐีได้รับการบำรุงบำเรอจากนายโจรอย่างดี จนนาง ไม่ต้องการกลับไปเป็นเมียของบัณฑิตอีก นางบังเกิดความคิดว่า

นิทานชาดกเล่มเจ็ด ระ'๗ \"สักวันหนึ่ง ตักกบัณฑิตคงต้องมาชิงตัวเรากสับไปแน่ ๆ เพราะเขาเป็นคน^มือ แล้วบังฉลาดอีกต้วย เขาคงไม่ยอมให้เรา เป็นเมืยนายโจรไต้นานนักหรอกทำอย่างไรดีนะ เราไม่อยากกสับ ไปอยู่ในหมู่บานนั้นเลย... ตราบใดทีตักกบัณฑิตบังมืชีวิตอยู่ เขา ต้องมาแน่ ๆ... อย่ากระนั้นเลย เราควรหาทางล่อลวงเขามาฆ่าทิง ดีกว่า จะไต้หมดสิ้นเสี้ยนหนาม\" คิดได้แล้ว นางจึงให้คนไปส่งข่าวแก่ตักกบัณฑิตว่า นางจำใจ อยู่กับนายโจรในป๋านี มีความทุกข์ใจแสนสาหัส จงรีบหาทางมา พานางหนีไปเถิด ตักกบัณฑิตจึงลอบเข้าไปพบนางตามอุบายที่นางวางไว้ให้ นางพาเขาไปช่อนตัวไนยุ้งข้าว ใดยกส่าวว่า \"ทำนรอฉันอยู่ในนึ่นะคะ คํ่า ๆเราค่อยหลบหนีออกไป ต้วยกัน\" จากบัน นางจึงเข้าไปหานายโจร ออดอ้อนออเซาะด้วย ความรัก แล้วพูดว่า \"นายเจ้าขา ถ้าเกิดมืตัตรูของนายลอบเข้ามาถึงบนนั้ นายจะทำอย่างไรคะ\" \"ฆ่าบันน่ะชี ถามไต้ แต่ก่อนฆ่า ก็จะต้องเฆียนบันก่อน เป็นการสั่งสอน ในฐานะที่บันบังอาจบุกรุกเข้ามา แล้วค่อยฆ่า เพื่อเป็นการลงโทษ\"

^ นิทานชาดทเล่มเจิด \"จริงหรือเจ้าคะ\" \"อ๊ะ! จริงซิ เป็นโจรพูดเล่นไดไง\" \"ถ้าอย่างนัน นายเข้าไปดูในยุ้งข้าวซิคะ ว่าคนที่ซ่อนอยู่ ในนั้นเป็นคัตรูของนายหรือเปล่า\" นายโจรจึงคว้าดาบเดินตรงเข้าไปในยุ้ง เมือเห็นตักกบ้'ณฑิต ก็กระซากตัวออกมา แล้วเหวี่ยงลงบนกลางลาน สั่งให้สมุน ๒-๓ คน ซ้อมจนสะบักละบอม จากนัน จึงให้นำแล้มาโบยอย่างชนิด ไม'ต้องนับ \"ควับ!\" \"ขี้โกรธ\" \"ควับ!\" \"อกตัญพู\" \"ควับ!\" \"ขอบล่อเสียด\" \"ควับ!\" \"ประทฺษร้ายมิตร' ทุกครังทีเลียงแล้แหวกอากาศ กระทบหลังของตักกบัณฑิต เขาจะกล่าวคำ ร: คำ นี้ออกมา นายโจรกำลังโกรธจัด จึงไม่ไล่ใจฟัง ปล่อยให้สมุนเฆี่ยน ตนเองห้นเข้าหาสุราดื่มจนหลับไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook