ดร. สนอง วรอไุ ร
บอ่ เกดิ บญุแ ห่ ง อาจารย ์ ดร. สนอง วรอไุ ร
บอ่ เกิด อาจารย์ ดร. สนอง วรอไุ ร บุญแ ห่ ง ชมรมกลั ยาณธรรม หนงั สือดีลำ� ดบั ท่ี ๒ ๒ ๗ พิมพค์ รงั้ ท่ี ๑ มถิ นุ ายน ๒๕๕๖ จ�ำนวนพิมพ์ ๔,๐๐๐ เลม่ จัดพมิ พ์โดย ชมรมกลั ยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชัย ตำ� บลปากน�้ำ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สมทุ รปราการ ๑๐๒๗๐ โทรศพั ท ์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ ภาพประกอบ เซมเบ้ ออกแบบปก/รปู เลม่ คนขา้ งหลงั ตดั คำ� อะตอ้ ม เรยี บเรยี ง ปญั จภคั ปญุ ญเจรญิ สนิ พสิ จู นอ์ กั ษร ทมี งานกลั ยาณธรรม, หะนู เพลต บรษิ ทั นครแผน่ พมิ พ ์ จำ� กดั โทร. ๐-๒๔๓๘-๘๔๐๘ พมิ พ์ บริษทั สำ� นักพมิ พส์ ภุ า จ�ำกดั ๑๑๘ ซอย ๖๘ ถนนจรัญสนทิ วงศ์ เขตบางพลัด กรงุ เทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร. ๐-๒๔๓๕-๘๕๓๐ สัพพทานัง ธมั มทานัง ชินาติ การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทง้ั ปวง www.kanlayanatam.com
ปรคาำ� รภ การเรยี บเรยี งคำ� บรรยาย เรอ่ื ง บอ่ เกดิ แหง่ บญุ และ พมิ พเ์ ปน็ รปู เลม่ ภาษาเขยี น กด็ ว้ ยเหตทุ ไ่ี ดต้ ระหนกั วา่ ชวี ติ ของบคุ คลมไิ ดย้ นื ยาวเทา่ ทต่ี าเหน็ ตายแลว้ ชวี ติ ยงั ตอ้ งไปเกดิ ใหม ่ มกี ารสบื ตอ่ อกี ยาวไกล คนทรี่ ไู้ มจ่ รงิ แท ้ มีความประมาท ไม่เอาศีล ๕ ที่บริสุทธิ์ท่ีบริบูรณ์มา คมุ ใจ คนทีต่ ายแลว้ มศี ลี ไม่ครบ จิตวญิ ญาณย่อมถูก พลังของบาป ผลักดันให้ลงไปเกิดเป็นสัตว์อยู่ในภูมิ ก�ำเนิดท่ีไม่เจริญ (อบายภูมิ) อย่างน้ีเรียกว่า เกิดมา ขาดทุน หรอื เสยี ชาตเิ กิด 3 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
ดว้ ยความปรารถนาดที จ่ี ะบอกกลา่ วไปยงั ผสู้ นใจ ในธรรมะของพระพุทธโคดม หนังสือ บ่อเกิดแห่งบุญ จึงได้เกิดขนึ้ เพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทางนำ� พาชีวติ ไปสคู่ วาม สวัสดีในกาลข้างหน้า ด้วยบุญกุศลที่เกิดจากการจัดท�ำหนังสือเล่มน ี้ ข้าพเจ้าอ้างเอาอานิสงส์ของบุญ จงบันดาลให้ผู้ร่วม กระบวนกรรม มีความเห็นถูก มีดวงตาเห็นธรรม น�ำพาชีวิตไปสู่ความสวัสดีและเป็นอิสระจากสรรพส่ิง ในอนาคตอันใกล้ จงทกุ ท่านทุกคนเทอญ ดร. สนอง วรอุไร 4 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
กลั คยำ�ชานมณำ� รขธมอรงรม “บญุ ” เปน็ สง่ิ ทคี่ นสว่ นใหญป่ รารถนา เพราะเชอื่ กนั ว่า บุญ จะน�ำมาซึ่งความสุข ความส�ำเร็จ ความ สมหวงั แม้แต่ความร�่ำรวย แตก่ ารจะทำ� ใหไ้ ดม้ าซง่ึ “บญุ ” นนั้ กแ็ ตกตา่ งกนั ไปตามความคิด ความเช่ือ แต่ส่วนมากก็จะเน้นการ ทำ� ความด ี สงิ่ ทด่ี ๆี สง่ิ ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ผอู้ นื่ โดยเฉพาะ การบริจาคทรัพย์สินเงินทอง เพราะเช่ือว่า จะท�ำให ้ ร�่ำรวยได้ ในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ได้ทรงสอนให้ รู้จักบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ และทรงสอนให้รู้ว่า ทำ� บญุ อยา่ งไรใหพ้ น้ ทกุ ขไ์ ด้ ไมใ่ ชแ่ คม่ คี วามสขุ เทา่ นน้ั 5 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
“บอ่ เกดิ แหง่ บญุ ” เปน็ หนงั สอื ทเ่ี รยี บเรยี งจากคำ� บรรยายของ ทา่ น อ. ดร. สนอง วรอไุ ร จากการบรรยาย ให้ผู้ต้องขังฟังท่ี ทัณฑสถานหญิง จ. เชียงใหม่ เมื่อ วนั ท ่ี ๘ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๓ นบั เปน็ โชคดขี องผตู้ อ้ งขงั ที่ได้ฟังผู้รู้จริงมาบอกกล่าวและยังเผ่ือแผ่โอกาสมาถึง พวกเราทกุ คน ทา่ น อ. ดร. สนอง วรอไุ ร ไดน้ ำ� ประสบ- การณจ์ รงิ ในชวี ติ ของทา่ น มาชแี้ นะใหเ้ หน็ ชดั วา่ “บญุ ” คืออะไร? เราจะท�ำอะไรให้เกิดเป็นบุญได้บ้าง? บุญมี กี่ประเภท ก่ีระดับ และที่ส�ำคัญ บุญท�ำให้เราพ้นทุกข ์ ไดอ้ ยา่ งไร? “บุญ” ไม่ได้แค่ท�ำให้เรามีความสุข แต่บุญท�ำให้ เราพน้ ทกุ ข์ได ้ จริงๆ นะ กราบขอบพระคณุ และอนโุ มทนาบุญทกุ ท่าน ทพญ.อจั ฉรา กล่ินสุวรรณ์ ประธานชมรมกลั ยาณธรรม 6 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
สารบัญ ตอนท่ี ๑ วนั ทช่ี วี ิตเปลย่ี น ๙ ตอนท่ี ๒ มารจู้ ัก “บุญ” ๑๕ ตอนที่ ๓ จติ น้นั สำ� คญั ไฉน ๑๙ ตอนที่ ๔ “พฤตกิ รรม” ท�ำอยา่ งไรจึงดี ๒๕ ตอนท่ี ๕ เมอื่ ตั้งใจจะเป็นพลเมืองดี ๒๙ ตอนท่ี ๖ จงดู “นางสิริมา” เป็นตัวอย่าง ๓๕ ตอนท่ี ๗ เสียหายเพราะบาป ๔๑ ตอนที่ ๘ ไดด้ เี พราะบญุ ๔๕ ตอนที่ ๙ บอ่ บญุ ๕๑ ตอนที่ ๑๐ ภาวนาพารอด ๕๗ ตอนที่ ๑๑ บญุ บญุ บุญ ๖๕ ตอนท่ี ๑๒ ประโยชนด์ ที ีไ่ ดฟ้ งั ๗๑ ตอนท่ี ๑๓ ท�ำร้ายตวั เองทำ� ไม ๗๕ ตอนที่ ๑๔ สว่ี ธิ ีหลกี ลีห้ นี้เวร ๘๑ ตอนท่ี ๑๕ ปัญญาเหน็ แจ้ง กบั ฝ่นุ ดินทป่ี ลายเล็บ ๘๗ บทสง่ ท้าย ๙๓ ภาคผนวก ปกิณกธรรม : เรอื่ งเลา่ แฝงคติ ๙๕ ๑๐๘ จากอาจารย ์ ดร. สนอง วรอไุ ร ประวตั ิ ดร.สนอง วรอไุ ร
๑ต อ น ที่ วั น ที่ ชี วิ ต เ ป ลี่ ย น สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังทุกท่าน ขอเล่าย้อนไปสมัยที่ ผบู้ รรยายมารว่ มบกุ เบกิ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ สมยั นนั้ อากาศเย็นทั้งปี (สมัยน้ีร้อนทั้งปี) ในการเป็นครูบา- อาจารย ์ จำ� เปน็ ตอ้ งไปพฒั นาความรใู้ หส้ งู ทส่ี ดุ เพอ่ื นำ� มาถา่ ยทอดแกเ่ ยาวชน ไดถ้ กู สง่ ไปศกึ ษาเลา่ เรยี นมาจาก ตา่ งประเทศ เรยี นดา้ นสงิ่ มชี วี ติ ตวั เลก็ ๆ ถา้ เราขยายด ู จุลินทรีย์ เช้ือแบคทีเรีย สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตามผิวหนัง 9 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
ของเราดว้ ยกลอ้ งจลุ ทรรศนก์ ำ� ลงั ขยาย ๘๐๐ เทา่ หรอื ๑,๐๐๐ เท่า เราจะสามารถมองเห็นได้ หากมองด้วย ตาเปลา่ มองไมเ่ หน็ จลุ นิ ทรยี ์ ใสแ่ วน่ กย็ งั ไมเ่ หน็ เอาแวน่ ขยายมาซอ้ นอกี ชนั้ กย็ งั ไมเ่ หน็ เพราะมนั เลก็ มาก ตอ้ ง อาศัยกล้องจุลทรรศน์ท่ีมีก�ำลังขยายมากๆ แล้วจะ เห็นว่าจุลินทรีย์มีจริง ตอนไปเรียนท่ีต่างประเทศ ไป เรียนเก่ียวกับส่ิงมีชีวิตที่เล็กกว่าจุลินทรีย์เข้าไปอีก คือไวรัส ใช้กล้องขยาย ๘๐๐-๑,๐๐๐ เทา่ แลว้ กย็ งั มอง ไมเ่ หน็ ตอ้ งขยายหลายพนั เทา่ อยา่ งกล้องจุลทรรศน์ อิเล็กตรอน จึงส่องเห็นว่าไวรัสมีจริง ได้ไปเรียนมา อยา่ งน ี้ จนจบขนั้ สงู สดุ ทางวทิ ยาศาสตรม์ าจากลอนดอน เมื่อเรียนจบถึงข้ันน้ันแล้ว จึงไม่เช่ือค�ำสอนของ พระพทุ ธเจา้ ทก่ี ลา่ วถงึ ในศาสนาพทุ ธบอกวา่ เทวดามจี รงิ ก็คิดไปว่าขนาดเรามีทักษะทางด้านการใช้กล้องจุล- ทรรศนอ์ เิ ลก็ ตรอน ยงั ไมเ่ คยมองเห็นเทวดา จึงไม่เชื่อ เรอื่ งตายแลว้ ตอ้ งไปเกดิ ใหม ่ ยง่ิ ไมเ่ ชอ่ื ใหญเ่ ลย เพราะ วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้พอกลับมาจาก ตา่ งประเทศป ี พ.ศ. ๒๕๑๘ เหลอื เวลาอกี เดอื นเศษๆ กอ่ น มหาวิทยาลัยเปิดเทอม จึงถือโอกาสไปพิสูจน์สัจธรรม 10 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ในพทุ ธศาสนาดว้ ยการบวชเปน็ พระเพอื่ พฒั นาปญั ญา สูงสุด เพียง ๗ วันให้หลัง ได้เข้าถึงสมาธิสงู สดุ ทเี่ รยี ก วา่ “ฌาน” เมอ่ื ออกจากฌาน ไดเ้ หน็ เทวดาในดาวดงึ ส ์ จึงรู้ว่ามีจริง ได้เห็นชาติก�ำเนิดแต่หนหลังแต่ละชาติๆ ของตวั เอง ยาวนานแมส้ ดุ ตาทพิ ยก์ ย็ งั มองไมเ่ หน็ ตน้ สาย เพราะใจมีกิเลสสะสมอยู่มาก ยังก�ำจัดออกไปไม่หมด ด้วยความโงเ่ ขลา จงึ พาชวี ติ เวยี นตายเวยี นเกดิ ไมร่ จู้ บ ตงั้ แตต่ ำ�่ สดุ จนสงู สดุ เหน็ แลว้ นา่ สงสารตวั เองมาก ถงึ กบั น้�ำตาหยด ชีวิตไม่ใช่มีแค่ ๖๐ ปี หรือ ๘๐ ปี หรือ ๑๐๐ ป ี อยา่ งทเี่ ราเหน็ ดว้ ยตาเนอ้ื ตาหนงั ไมใ่ ชเ่ ลย ชวี ติ ยงั มกี ารสบื ตอ่ เมอื่ ไดเ้ หน็ อยา่ งนนั้ แลว้ จงึ เรง่ ความเพยี ร ปฏิบัติธรรมแต่ละวันประมาณ ๒๐ ช่ัวโมง ต่อเนื่อง ๓๐ วัน จ�ำวัด (นอน) เพียงวันละ ๔ ช่ัวโมง ฉัน (กิน) ๑๐ ช้อนอิ่ม เพราะถ้ากินมากจะเป็นอุปสรรคต่อการ ปฏบิ ตั ธิ รรม รวมเปน็ เวลาทงั้ สนิ้ ๓๐ วนั ตามทไี่ ดอ้ ธษิ - ฐานไว้แต่แรก จึงได้รู้ได้เห็นหมดทุกอย่าง มีจริงหมด ทุกอย่าง ท�ำให้ชีวิตเปล่ียนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไมก่ ลา้ ทำ� ความชว่ั อกี เลย อยา่ งศลี ๕ เดยี๋ วนท้ี กุ ขณะตน่ื มีศีลคุมใจอยู่ครบ ท้ังๆ ที่เม่ือก่อนท่ีจะมาปฏิบัติธรรม เคยประพฤตทิ ุศลี อย่บู อ่ ยๆ 11 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
ตอนท่ีประพฤติทุศีล มีคร้ังหน่ึงจ�ำได้แม่นย�ำ เพราะผลกรรมเพง่ิ ตามมาทนั ใหช้ ดใชเ้ มอื่ สปั ดาหน์ เี้ อง มอี าการปวดคอมาก นงั่ นอนไมไ่ ด ้ ปวดไปหมด ทรมาน มากๆ จึงนึกขึ้นได้ว่า สมัยเด็กๆ เคยไปดึงคอนก ก่อน จะฆ่านก เขาจะดึงคอ มีเด็กซนเขาสอนให้ท�ำ เรา กท็ ำ� ตาม พอกรรมสง่ ผล จึงปวดท่ีสุดในบรรดาอาการ ปวดทเ่ี คยเปน็ มา ไมเ่ คยปวดครง้ั ไหนมากเทา่ กบั ครง้ั น ้ี เลย และไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน ก็โทรศัพท์ไปหา คณุ หมอทเ่ี ปน็ ศษิ ย ์ ทา่ นกส็ ง่ ลกู นอ้ งมาพรอ้ มเครอ่ื งมอื ทางวิทยาศาสตร์ มาช่วยบรรเทาอาการปวด นี่แหละ ครับ สิ่งใดที่เราท�ำไว้แต่อดีต พอเรามีบุญใหญ่เกิดข้ึน เขาจะมาตามทวงหน ี้ เราต้องยอมชดใช้ใหเ้ ขาไป ถา้ ใครอยากรปู้ ระสบการณช์ วี ติ ของผบู้ รรยายวา่ เดิมได้ประพฤติเหลวไหลมาอย่างไร แล้วต้องมารับ วิบากอะไรบ้าง ต้องไปอ่านในหนังสือ “ทางสายเอก” แต่ผู้บรรยายไม่เคยหนีหนี้เวรกรรมเลย ยอมชดใช้ ทั้งหมด ทรมานยังไงก็ต้องใช้ เพราะการหนีไม่มีวัน หนีพ้น ถ้าได้ทีเม่ือไร กรรมเล่นงานเราอีก เด๋ียวน้ีจึง เปลยี่ นวถิ ชี วี ติ จากหนา้ มอื เปน็ หลงั มอื ๓๕ ป ี แลว้ ครบั 12 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ทุกขณะตื่น คิด พูด ท�ำ แต่เหตุให้เป็นบุญส่ังสมตลอด หลงั จากเกษยี ณอายรุ าชการจากมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ก็มาบุกเบิกด้านการเผยแพร่ธรรมเป็นเวลายาวนาน ถึง ๑๒ ปีแล้ว หน้าที่ของเราคือรักษาเคร่ืองมือ คือ ร่างกายน้ีให้มันแข็งแรงไว้ เพ่ือจิตจะได้ใช้ท�ำงาน อายุแม้จะมากแล้ว แต่ยังต่ืนช่วงดึกทุกคืน ลุกข้ึนมา ทำ� งานจนสวา่ ง ทำ� งานเพอื่ มวลชนทงั้ นนั้ ยงั ไมพ่ กั ผอ่ น เหมือนคนอ่ืนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน น่ีคือภูมิ- หลงั ของผบู้ รรยายทบ่ี อกเลา่ ใหท้ า่ น “ผโู้ ชคด”ี ทง้ั หลาย ไดฟ้ งั 13 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๒ต อ น ที่ ม า รู้ จั ก “ บุ ญ ” วนั นจ้ี ะเลา่ เรอ่ื ง “บอ่ เกดิ แหง่ บญุ ” เราควรทำ� อยา่ งไร จึงจะมีบุญ ตัวผู้บรรยายเอง หลังออกจากวัดมาเป็น เวลา ๓๕ ปีแล้ว บุญเข้าตัวตลอดเวลา เม่ือก่อนใหม่ๆ ยังมีบาปเข้าแทรกบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ทุกขณะต่ืน เปน็ บญุ ลว้ นๆ จงึ รอู้ ยา่ งถอ่ งแทว้ า่ ตอ้ งทำ� อยา่ งไรจงึ จะ ได้บุญ ผู้บรรยายจึงบอกว่า ท่านโชคดีที่จะได้ยินได้ฟัง เพราะผู้บรรยายมีประสบการณ์ตรงจะเล่าให้ฟัง เล่า เรอ่ื งง่ายๆ ไมต่ ้องใช้ค�ำบาลีอะไร อันดับแรก เราต้องเข้าใจว่า “บุญ” คืออะไร บุญ คอื คณุ ความด ี กศุ ล หรอื ความสขุ ใครเกดิ มาเปน็ มนษุ ย์ 15 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
แลว้ มแี ตค่ วามทกุ ข ์ อนั นน้ั เพราะบาปกำ� ลงั ใหผ้ ล แตถ่ า้ เกดิ มาแล้วมีแตค่ วามสุข น่นั คอื บญุ กำ� ลงั ให้ผล บุญอยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจ ไม่ใช่หัวใจ ใจกับหัวใจเป็น คนละอยา่ งกนั หวั ใจเปน็ กลา้ มเนอ้ื ทางวทิ ยาศาสตรเ์ ขา อธิบายไว้ เหมือนหัวใจหมูที่เราไปซื้อที่ตลาด แต่ “ใจ” หรอื “จติ ” เปน็ พลงั งานอยขู่ า้ งในหวั ใจ เปน็ พลงั งานท ่ี นกั วทิ ยาศาสตรป์ จั จบุ นั กย็ งั คน้ ไมพ่ บ เพราะเปน็ พลงั งาน ทมี่ คี วามถข่ี องคลนื่ ละเอยี ดมากทสี่ ดุ จนไมม่ เี ครอื่ งมอื ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ จะตรวจวัดได้ และเป็นพลังงาน อมตะ ใครผใู้ ดทฝ่ี กึ จติ ดแี ลว้ จะสามารถเหน็ ภพชาตหิ น หลงั ของตวั เองได้ (เจโตปริยญาณ) บญุ อยใู่ นใจ (ไมใ่ ชใ่ นหวั ใจ) ใจทม่ี คี วามดสี งั่ สม ใจ ทม่ี คี วามสขุ ใจทเ่ี ปน็ กศุ ล นน่ั แหละคอื บญุ กอ่ นจะรวู้ า่ จะทำ� บญุ อยา่ งไร กต็ อ้ งรจู้ กั พฤตกิ รรมของมนษุ ยก์ อ่ น พฤตกิ รรมตา่ งๆ ของมนษุ ยเ์ กดิ จากการทำ� หนา้ ทขี่ องจติ มนษุ ยเ์ ราทย่ี งั ไมต่ ายยอ่ มมรี า่ งกายน ้ี ทฝี่ รง่ั เขาเรยี กวา่ body และสว่ นทอี่ ยขู่ า้ งใน เรยี กวา่ จติ ใจ (mind) ซงึ่ เปน็ พลังงาน ต้องมีสองอย่างน้ีอยู่ด้วยกันจึงจะท�ำงานได้ 16 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
เชน่ พดู ได ้ ถา้ จติ ออกไปแลว้ กพ็ ดู ไมไ่ ด ้ คนตายพดู ไมไ่ ด ้ ท�ำอะไรก็ไม่ได้ หรือถ้าจิตไม่เกิดดับ (คือจิตตกภวังค์ เช่นเวลาท่ีเราหลับสนิท) ก็ท�ำอะไรไม่ได้เช่นกัน คน เวลาจะตาย ตาหลับลงแล้ว แต่ใจยังเกิดดับๆ มันจึง เคลอ่ื นออกนอกกายไปได้ ครั้งท่ีผู้บรรยายไปบวชก็ไม่เคยรู้เรื่องน้ีมาก่อน จนวนั หนงึ่ เขา้ ฌานแลว้ ออกจากฌาน เหน็ จติ ตวั เองหลดุ ออกจากรา่ ง จงึ เขา้ ใจถอ่ งแทใ้ นเรอ่ื งจติ เปน็ อาจารยใ์ น คณะวิทยาศาสตร์ สอนเก่ียวกับสิ่งมีชีวิต สอนว่าน่ีคือ รา่ งกาย แตข่ า้ งในมสี งิ่ ทต่ี าเนอื้ ตาหนงั มองไมเ่ หน็ เรยี ก วา่ จติ หรอื จติ ใจ ถา้ ใครพฒั นาจติ จนมคี วามถคี่ ลนื่ ดแี ลว้ จะมองเหน็ ใจตวั เอง ผบู้ รรยายจึงเข้าใจถ่องแท้ทั้งรูป และนาม โอ...ใจเปน็ อยา่ งนน้ี เ่ี อง ไดเ้ หน็ แลว้ ไมใ่ ชเ่ หน็ ด้วยตาเนื้อตาหนัง แต่เห็นด้วยจิตที่พัฒนาดีแล้ว คือ มคี วามถค่ี ลน่ื คงทแ่ี ลว้ เขา้ ฌานไดแ้ ลว้ พลงั งานจติ ทมี่ ี ความถ่ีคลื่นคงท่ีตัวนั้นแหละ เขาเรียกว่า ทิพพจักขุ ตาทพิ ยม์ จี รงิ อยา่ งในห้องนี้ ขณะนี้ก็มสี ัมภเวสี มาฟัง ธรรมดว้ ย แตเ่ ราใชต้ าเนอ้ื ธรรมดามองไมเ่ หน็ รปู นาม ที่เปน็ ทิพย์ 17 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๓ต อ น ท่ี จิ ต น้ั น สํ า คั ญ ไ ฉ น จิตของคนท�ำหน้าที่ ๓ อยา่ ง หนา้ ทแี่ รกคอื จติ รบั สง่ิ กระทบเขา้ ปรงุ เปน็ อารมณ์ ถา้ เปน็ เสยี ง เขา้ ทางห ู ถา้ เปน็ ภาพ เขา้ ทางตา ถา้ เปน็ กล่ิน เข้าทางจมูก รสชาติเข้าทางล้ินสัมผัส เย็นร้อน ออ่ นแขง็ เขา้ ทางผวิ กาย และความคดิ เกดิ ทใ่ี จ มากระทบ จติ จติ ซง่ึ เปน็ พลงั งานกป็ รงุ อารมณข์ นึ้ มา ถา้ สง่ิ กระทบ ไมด่ ี อารมณท์ เ่ี กดิ กไ็ มด่ ี ถา้ เกดิ สง่ิ กระทบทไี่ มด่ ี เปน็ เหตุ ให้ขัดใจ เราก็มักจะมีอารมณ์โกรธข้ึนมาทันที ทุกคน 19 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
เคยผ่านประสบการณน์ ม้ี าแลว้ สงิ่ กระทบด ี ท�ำใหเ้ กดิ เป็นอารมณ์ดี เราก็เคยผ่านการมีอารมณ์ดีมาแล้ว ทง้ั นนั้ อกี เชน่ กนั หนา้ ทที่ ี่ ๒ ของจติ คอื จติ เปน็ นาย กายเปน็ บา่ ว รับใช้จิต จิตส่ังให้สมองคิด ส่ังให้ปากพูด ส่ังมือไม ้ ให้ขยับทำ� โนน่ ทำ� น ่ี ดว้ ยการสง่ั ผา่ นสมอง ซงึ่ ทำ� หนา้ ท ่ี เปน็ เหมอื นวงจรไฟฟา้ ในคนตาย จติ หลดุ ออกจากรา่ ง ไปแล้ว จงึ ไม่มีพลังงานจิตมาสัง่ ปากให้พดู ได้แต่นอน แขง็ ทอ่ื เขยา่ กไ็ มต่ น่ื ตรงกนั ขา้ มถา้ จติ ยงั อยกู่ บั รา่ งกาย และมีการเกดิ -ดบั จงึ จะลุกขน้ึ ได้ หน้าท่ีท่ี ๓ ส�ำคัญมาก จิตเก็บสั่งสมกุศลและ อกุศลจากการกระท�ำของเรา สิ่งใดที่เราคิดแล้ว พูด แลว้ ทำ� แลว้ เปน็ พฤตกิ รรม เราเรยี กวา่ การกระทำ� หรอื “กรรม” กรรมคอื การกระทำ� มนษุ ยท์ ำ� กรรมดว้ ยการคดิ พดู ทำ� เมอื่ ทำ� แลว้ กเ็ กบ็ สงั่ สมอยใู่ นจติ จติ เปน็ พลงั งาน สามารถเก็บข้อมูลหรือจดจ�ำได้ เก็บไว้เป็นความจ�ำท ี่ เรยี กวา่ “สญั ญา” การคดิ พดู ท�ำ คอื กรรม เมอื่ สรา้ ง ขน้ึ แลว้ ถา้ คดิ ด ี กส็ รา้ งกรรมด ี เกดิ เปน็ บญุ สง่ั สมไวใ้ น 20 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ดวงจิต ตรงกันข้าม ถา้ คดิ ไมด่ ี กส็ รา้ งกรรมไมด่ ี เกดิ เป็นบาป สั่งสมไว้ในดวงจิตเช่นกัน ฉะน้ันในดวงจิต ของคนจงึ มที งั้ บญุ ทง้ั บาป คนทพ่ี ดู ไม่ดี เช่น พูดด่าทอ พูดโกหก นั่นเป็นเพราะเขามีบาปอยู่ในใจเขา จึงท�ำ อยา่ งนนั้ คนทพี่ ดู ด ี กเ็ พราะวา่ ในใจของเขามบี ญุ สง่ั สม อยู่ บุญส่งจติ ให้พูดก็มีเสียงออกมาเป็นค�ำพูดที่ดี มีผล ใหเ้ กิดเป็นพฤตกิ รรมดี พฤตกิ รรมของมนษุ ยด์ า้ นคำ� พดู เรามปี ระสาทห ู เป็นเคร่ืองวัด ด้านการกระท�ำ เรามีประสาทตาเป็น เคร่ืองวัด พฤติกรรมด้านความคิด คนอ่ืนเขาคิดอะไร การท�ำงานของระบบประสาทไม่อาจรู้ได้ ยกเว้นคนท่ี ฝึกจิตดีแล้วจึงจะรู้ได้ ในห้วงเวลาที่ผู้บรรยายไป ฝึกกรรมฐานอยู่กับท่านเจ้าคุณโชดกที่วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ มีอยู่วันหน่ึงผู้บรรยายคิดจะหนีท่าน ไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่สวนโมกข์ เพราะท่ีคณะ ๕ วัด มหาธาตุฯ ขณะนั้นมีการก่อสร้างอึกทึกครึกโครม จิตไม่สงบ ตอนเช้าคิดจะหนี แต่ไม่ได้บอกให้ใครรู ้ ตอน ๒ ทุ่ม (๒๐ นาฬิกา) เป็นเวลาสอบอารมณ์ พอ พระมาพร้อมกันแล้วประมาณ ๒๐ รูป ท่านเจ้าคุณฯ 21 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
มองมาท่ีผู้บรรยายแล้วพูดว่า “จะหนีไปไหน ก็หนี ใจตวั เองไมพ่ น้ อยแู่ ลว้ สสู้ ”ิ ทา่ นพดู อยา่ งนเ้ี พราะทา่ น เจา้ คณุ ฯ ทา่ นรคู้ วามคดิ ของเรา คนทฝี่ กึ จติ ดแี ลว้ ยอ่ ม รไู้ ดเ้ ชน่ เดยี วกนั พระปา่ บางรปู คนมาฟงั ธรรมเทศนา จากทา่ นเยอะแยะ ใครคดิ อะไรทา่ นรหู้ มด ฉะนน้ั การร ู้ ความคิดของคนอ่ืนจะท�ำได้ก็ต่อเมื่อได้ฝึกจิตดีแล้ว จนสามารถเขา้ ฌานได้ ยอ่ มรคู้ วามคดิ ของคนอน่ื (ดว้ ย เจโตปรยิ ญาณ) ได้ 22 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
เราตอ้ งเขา้ ใจวา่ “บญุ ” คอื อะไร บญุ คอื คณุ ความดี กศุ ล หรอื ความสขุ ใครเกดิ มาเปน็ มนษุ ยแ์ ลว้ มแี ตค่ วามทกุ ข์ อนั นนั้ เปน็ เพราะบาปกำ� ลงั ใหผ้ ล แตถ่ า้ เกดิ มาแลว้ มแี ตค่ วามสขุ นน่ั คือบญุ ก�ำลังให้ผล 23 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๔ต อ น ที่ “ พ ฤ ติ ก ร ร ม ” ทํ า อ ย่ า ง ไ ร จึ ง ดี มนษุ ยม์ พี ฤตกิ รรม ๓ อยา่ ง คอื คดิ พดู ทำ� การพดู กบั การทำ� เปน็ พฤตกิ รรมทจ่ี ติ สงั่ ใหร้ า่ งกายใหแ้ สดงออก สว่ นการคดิ เปน็ การทำ� งานของจติ จติ เปน็ ตวั คดิ การพดู เกดิ ขน้ึ เพราะจติ สง่ั ปากผา่ นสมองใหพ้ ดู การทำ� โนน่ ทำ� น ่ี เป็นเพราะจิตส่ังผ่านสมองให้ท�ำ ดังน้ัน จิตเป็น นาย กายเปน็ บา่ ว ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ ถา้ นายด ี ยอ่ มไมส่ ง่ั ให ้ ทำ� ไมด่ ี ทเี่ ราตอ้ งมาอยทู่ นี่ ่ี (ทณั ฑสถานหญงิ ) กเ็ พราะ ในอดตี เรามนี ายไมด่ ี ใจของเราไมด่ ี แตต่ อ่ จากนไี้ ป เราจะต้องพัฒนาจิต (นาย) ให้มันดี น่ีเป็นโอกาสดี ของเราแลว้ 25 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
พฤติกรรมดีเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นจากการ ประพฤตจิ รยิ ธรรม ในฐานะทเี่ ปน็ ลกู พอ่ แมเ่ ลยี้ งเรามา เราตอ้ งเลยี้ งทา่ นตอบแทน พอ่ แมม่ อี ปุ การคณุ ใหก้ ำ� เนดิ เรามาแล้ว ก็เลี้ยงดูจนเราเติบใหญ่มาจนอายุขนาดน้ ี เราต้องเล้ียงท่านตอบแทน คนที่ไม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม ่ เป็นคนอกตัญญู ชีวิตจะวิบัติ ผู้บรรยายเดิมไม่เคยเช่ือ พระพทุ ธเจา้ แตเ่ มอื่ ไปฝกึ แลว้ ไดธ้ รรมและวนิ ยั มาสถติ อยู่ในใจ เดี๋ยวน้ีหยุดไม่ได้ เพราะถ้าหยุดจะเป็นการ อกตัญญู ต้องเผยแผ่ความดีงามของพระพุทธโคดมไป ทว่ั ประเทศ หยดุ ไมไ่ ด ้ จงึ ตอ้ งรกั ษาเครอื่ งมอื คอื สขุ ภาพ รา่ งกายนีเ้ อาไวใ้ ห้ดี ไม่เชน่ น้นั จะใช้ทำ� งานไม่ได้ ลกู ทดี่ ี ยงั ตอ้ งชว่ ยพอ่ แมท่ ำ� งานบา้ น (ไมใ่ ชก่ นิ เสรจ็ แลว้ ไมข่ ยบั ทำ� อะไรเลย) ดำ� รงวงศส์ กลุ ใหค้ งอย ู่ อยา่ ให้ เสยี หาย (สง่ิ ทพี่ ลาดไปแลว้ ไมเ่ ปน็ ไร รบี ทำ� แกต้ วั ใหม)่ ทำ� ตนเปน็ ทายาททดี่ ี เมอ่ื ทา่ นลว่ งลบั ทำ� บญุ อทุ ศิ สว่ น กุศลไปใหท้ า่ น ภรรยาทดี่ ี ยอ่ มจดั งานบา้ นใหเ้ รยี บรอ้ ย สงเคราะห์ ญาติทั้งสองฝ่าย คือทั้งญาติฝ่ายตัวเอง และญาติฝ่าย 26 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
สาม ี ไมน่ อกใจ รกั ษาทรพั ยท์ หี่ ามาได ้ ขยนั ทำ� งาน นค่ี อื สง่ิ ทเ่ี ราตอ้ งทำ� ดว้ ยการประพฤตจิ รยิ ธรรม แลว้ คณุ ธรรม ก็จะเกิดข้ึน “จริยา” คือความประพฤติ “ธรรม” คือส่ิง ดีงาม เราต้องประพฤติส่ิงดีงามให้เหมาะสมกับแต่ละ ฐานะบทบาทของตัว 27 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๕ต อ น ท่ี เ ม่ื อ ตั้ ง ใ จ จ ะ เ ป็ น พ ล เ มื อ ง ดี คนเราทกุ คนอยใู่ นสงั คม ในบา้ นเมอื ง ในประเทศชาติ ในฐานะประชาชนของบา้ นเมอื ง จะตอ้ งประพฤตอิ ยา่ งไร จึงจะเกิดคุณธรรม พลเมืองท่ีดีต้องมีศีลธรรม คือ มีศีลและมีธรรม อย่างน้อยท่ีสุดต้องมีศีล ๕ ข้อ ไม่ใช ่ แค ่ “ร”ู้ ศลี แตต่ อ้ ง “ม”ี ศลี คมุ ใจ เบญจศลี ไดแ้ ก ่ ไมฆ่ า่ สัตว์ ไม่ลักทรัพย์ (หมายถึง ไม่เอาของท่ีเจ้าของเขา ไมอ่ นญุ าตมาเปน็ ของตน) ไมป่ ระพฤตผิ ดิ ลกู เมยี คนอนื่ ไมพ่ ดู เทจ็ พดู หยาบ พดู ไมต่ รงความจรงิ ไมด่ ม่ื สรุ าเมรยั ในฐานะเป็นพลเมืองของสังคม ต้องมีศีล ๕ ข้อน้ีอยู ่ ในใจทกุ ขณะตนื่ 29 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
และต้องมีเบญจธรรมอกี ๕ ข้อ ไดแ้ ก่ ๑ มีเมตตากรุณา คนมีเมตตาย่อมไม่โกรธ คน จะมีเมตตาได้ ต้องหม่ันฝึกให้อภัยเป็นทาน ให้อภัยได้ ในทุกสิ่งท่ีเป็นเหตุขัดใจ เมตตาจึงจะเกิดและสั่งสมอยู่ ในดวงจิตเป็นเมตตาบารมี คนมีเมตตาอยู่ในใจย่อม ไมโ่ กรธ มแี ตค่ วามสงบเยน็ ฝกึ กรรมฐานไดง้ า่ ย พฒั นา ชวี ิตไดง้ า่ ย ๒ มีสัมมาอาชีวะ คืออาชีพที่ถูกต้อง ไม่ผิด กฎหมาย ไม่ผิดศลี ๕ ไม่ผดิ ธรรม เลยี้ งกบขาย ผดิ ศีล ครับ เล่นหุ้น เล่นหวย เล่นการพนัน ผิดธรรมครับ เพราะเปน็ อบายมุข ๓ มีกามสังวร ไม่ผิดลูกเมียคนอ่ืน ไม่ละเมิด ผ้มู เี จ้าของ มีพอ่ มีแม ่ มสี าม ี มภี รรยา ๔ มสี จั จะ พดู อยา่ งไร ทำ� ตามทพี่ ดู ทำ� เหมอื นที ่ ตงั้ สจั จะไว ้ ทบ่ี า้ นผบู้ รรยายมตี น้ ลำ� ไย ผบู้ รรยายตง้ั ใจ จะรดน�้ำตน้ ละ ๑๐ กระปอ๋ ง กต็ อ้ ง ๑๐ กระปอ๋ งจรงิ ๆ ไม ่ ๙ และไม่ ๑๑ หรือเวลาขับรถตอนกลางคืนเจอไฟ- แดง กห็ ยดุ รถทง้ั ๆ ทถ่ี นนวา่ ง แมค้ นอนื่ จะแซงฝา่ ไฟแดง ไปกเ็ ปน็ เรอ่ื งของเขา แตเ่ ราหยดุ เพอื่ ชนะใจตนเอง เรอ่ื ง 30 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
การมสี ัจจะ มีพฤตกิ รรมถกู ตรง ตามธรรม ตามวนิ ยั ๕ มสี ตสิ มั ปชญั ญะ “สต”ิ คอื การระลกึ ได ้ “สมั ป- ชญั ญะ” เปน็ ตวั ปญั ญาทเ่ี หน็ ถกู ตามธรรม คอื การทร่ี ตู้ วั ว่าดแี ลว้ จงึ ทำ� รตู้ ัวว่าไม่ดีแลว้ ไมท่ �ำ เบญจศีลและเบญจธรรมน้ี ถ้าใครผู้ใดมีอยู่ในใจ ทุกขณะต่ืน ผู้น้ันจะมีเทวดาคุ้มรักษา ใครไม่รักษาศีล และธรรม เทวดาเขาไมร่ กั ษา เขาปลอ่ ยไปตามเวรตาม กรรม ผู้บรรยายมีทั้งศีล มีทั้งธรรมอยู่ในใจ ไปไหน มาไหนปลอดภัย จะท�ำอะไรผิดพลาด เทวดามาเตือน ใหร้ ตู้ ัวกอ่ นเสมอ พลเมอื งดตี อ้ งมศี ลี มธี รรม อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมศี ลี ๕ อยกู่ บั ใจทกุ ขณะตนื่ เพราะคนไมม่ ศี ลี ๕ จงึ ตอ้ งพบกบั ความวิบัติ ท�ำผิดแล้วหยุด ท�ำดีใหม่ได้ ไม่มีใครในโลก สกั คนทเ่ี กดิ มาแลว้ ไมเ่ คยทำ� ความผดิ ผบู้ รรยายเอง สมยั กอ่ นกม็ ที ง้ั ดที ง้ั ชว่ั และไดร้ บั ผลเปน็ กศุ ลวบิ ากและอกศุ ล วิบากเหมือนกัน เคยตีเขาขาหัก ตัวเองต้องมาเป็น คนป่วยเส้นเอ็นท่ีขาขาด ต้องดัดขา เจ็บปวดจนน้�ำตา หยดนานตั้ง ๒ เดือนกว่าจะหาย กรรมไม่ดีที่เราท�ำไว้ มันมาให้ผลเปน็ อกุศลวบิ ากจรงิ ๆ 31 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
พลเมืองดีของบ้านเมืองต้องรู้จักเผ่ือแผ่แบ่งปัน บำ� รงุ พระสงฆผ์ ทู้ รงศลี ใฝธ่ รรม อา่ นมาก ฟงั มาก คน้ ควา้ หาความรอู้ ยเู่ สมอ พลเมอื งดไี มพ่ รา่ เวลาใหส้ ญู เปลา่ มี น้�ำใจสงเคราะห์ ท�ำหน้าท่ีให้สมบูรณ์ น�ำชีวิตด้วยสติ ปัญญา อย่าใช้อารมณ์ ฯลฯ ทง้ั หลายเหลา่ นคี้ อื สง่ิ ทเ่ี ราตอ้ งประพฤตใิ นฐานะ เป็นลูกของพ่อแม่ เป็นพลเมืองของประเทศชาติ เป็น ภรรยาของสาม ี เปน็ สงิ่ ทเี่ ราตอ้ งประพฤตใิ หไ้ ด ้ เพราะ เปน็ จรยิ ธรรม เปน็ สงิ่ ดงี ามทตี่ อ้ งทำ� ประพฤตแิ ลว้ เปน็ คุณธรรม เก็บสั่งสมไว้ในจิตส�ำนึก ในเมื่อจิตเป็นนาย กายเปน็ บา่ ว เมอื่ จติ สำ� นกึ มแี ตส่ ง่ิ ดงี าม มคี ณุ ธรรม เวลา จิตสั่งให้สมองคิด ก็คิดดีมีคุณธรรม ส่ังให้ปากพูด ก ็ พูดดมี คี ณุ ธรรม สัง่ ใหม้ อื ไม้ท�ำอะไร ก็ท�ำดีมีคุณธรรม เพราะฉะนั้นจึงจ�ำเป็นต้องประพฤติจริยธรรม ความ ดงี ามจงึ จะเกดิ ขนึ้ พฤตกิ รรมดกี เ็ กดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งน ้ี แลว้ สังคมจะมีความสงบ ขอยำ้� อกี ครง้ั วา่ จงนำ� ชวี ติ ดว้ ยสตปิ ญั ญา อยา่ ใช้ อารมณ ์ พวกเราพลาดมาแลว้ เพราะใชอ้ ารมณ ์ สตสิ มั - 32 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ปชัญญะคือสติปัญญา สติระลึกได้ว่าทำ� อาชีพน้ีมันผิด กฎหมาย ก็อย่าท�ำ มีปัญญารู้ตัวว่าหากท�ำไปแล้ว มี หลกั ฐานผดิ ตามกฎหมาย เราจงึ ตอ้ งรบั โทษ เรากไ็ มท่ ำ� ตรงกันข้ามเห็นใครท�ำผิดอย่างเรา แต่ไม่เห็นเขาต้อง รับโทษ นั่นเป็นเพราะบญุ เกา่ ของเขายงั ค้�ำอย ู่ ไมต่ อ้ ง หว่ ง ถา้ พบพญายมเมอื่ ไร ไมม่ ใี ครหนพี น้ สกั ราย พญายม ท่านไม่ใช้หลักฐานตามแบบที่ใช้กันในโลกมนุษย์ แต ่ ใชห้ ลกั ฐานทเ่ี กบ็ บนั ทกึ ไวใ้ นดวงจติ ของมนษุ ยผ์ นู้ นั้ เอง กรรมทท่ี ำ� ดหี รอื ชว่ั ทงั้ หมดถกู บนั ทกึ อยใู่ นดวงจติ เปน็ หลักฐาน และท่านใช้กฎหมายคนละฉบับกับของโลก มนุษย์ ท่านใช้ “กฎแห่งกรรม” ท�ำดีได้ดี ท�ำช่ัวได้ช่ัว ฉะน้ัน คนไหนแม้หนีกฎหมายเมอื งมนุษยไ์ ปได ้ แตห่ นี กฎแห่งกรรมพญายมไม่พ้นแน่นอน เพราะฉะนั้นต้อง น�ำชีวิตดว้ ยสตปิ ญั ญา ท�ำผดิ พลาดแลว้ ใหร้ ะลกึ ได ้ และ ตอ้ งหยดุ ทำ� ชวั่ ตอ่ ไปทำ� แตค่ วามด ี แลว้ ผลความด ี (กศุ ล วบิ าก) จงึ จะเกดิ ข้นึ ใหผ้ ูท้ ำ� กรรมดไี ด้เสวย 33 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๖ต อ น ท่ี จ ง ดู “ น า ง สิ ริ ม า ” เ ป็ น ตั ว อ ย่ า ง ตวั อยา่ งหนง่ึ ของคนทท่ี ำ� ผดิ พลาดแลว้ หยดุ แลว้ หนั มาท�ำความด ี คอื นางสริ ิมา ในคร้ังพุทธกาล มีหญิงคนหนึ่งชื่อ สิริมา เป็น หญงิ สวยมาก มอี าชพี เปน็ โสเภณ ี ตอนหลงั ไปฟงั เทศน ์ จากพระพทุ ธเจา้ แลว้ จงึ รวู้ า่ อาชพี ของตวั พาลงนรกแนๆ่ จงึ เลกิ แลว้ หนั มาปฏบิ ตั ิ ๓ อยา่ งคือ ทาน ศีล ภาวนา ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน เด๋ียวนี้เป็นเทพธิดาอยู่บน สวรรค์ชัน้ สงู สุด (ช้ันท่ี ๖) 35 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
เรอ่ื งของนางสริ มิ าตอนตายมอี ยวู่ า่ เมอ่ื นางตาย ลงในวันนั้น พระเจ้าพิมพิสารไปกราบทูลพระพุทธเจ้า วา่ “สริ มิ าตายลงแลว้ วนั นเ้ี อง พระเจา้ ขา้ ” พระพทุ ธเจา้ สง่ั วา่ “มหาบพติ ร จงเกบ็ รา่ งของนางไว ้ ๔ วนั ไมต่ อ้ ง ทำ� อะไร เพยี งเกบ็ รกั ษาไวใ้ หด้ ”ี ผา่ นไป ๔ วนั ศพขนึ้ อดื เหม็นเน่า น้�ำเหลืองไหลออกปากออกจมูก หนอนไต ่ ย้ัวเยี้ย พระพุทธเจ้าจึงน�ำหมู่ภิกษุไปพิจารณาศพของ นาง เรยี กวา่ การปลงอสุภะ ในหมภู่ กิ ษนุ น้ั มภี กิ ษรุ ปู หนงึ่ ทต่ี ดิ ใจในความงาม ของนางสิริมาเม่ือก่อนตาย จนไม่เป็นอันปฏิบัติธรรม เมอ่ื ไปดศู พขน้ึ อดื ๔ วนั ไมเ่ หลอื รอ่ งรอยของรปู รา่ งเดมิ อยเู่ ลย อกี ทง้ั ยงั สง่ กลนิ่ เหมน็ และเตม็ ไปดว้ ยหมหู่ นอน ภกิ ษรุ ปู นนั้ จงึ ถา่ ยถอนจากความหลงใหล ตระหนกั ไดว้ า่ สริ มิ าทว่ี า่ สวยนนั้ จรงิ ๆ ไมส่ วยเลย จากนน้ั จงึ สามารถ ปฏิบัติธรรมต่อได้ ในหมภู่ กิ ษยุ งั มพี ระอกี รปู หนง่ึ อดตี เปน็ พราหมณ์ หนุ่ม เข้าฌานเก่ง มีตาทิพย์ และชำ� นาญด้านการดีด กะโหลก เพียงดีดหัวกะโหลกศพก็สามารถบอกได้ว่า 36 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
เจา้ ของรา่ งเดมิ ตายแลว้ ไปเกดิ ทไี่ หน วนั หนงึ่ มกี ารทดลอง พระพุทธเจ้าส่ังให้ไปน�ำกะโหลกของมนุษย์ที่ตายแล้ว ไปเกดิ เปน็ สตั วน์ รก ไปเกดิ เปน็ เปรต เปน็ เดรจั ฉาน เปน็ เทวดา เปน็ พรหม เปน็ มนษุ ย ์ และอกี ใบหนง่ึ เปน็ กะโหลก ของพระอรหนั ต ์ นำ� มาใหพ้ ราหมณห์ นมุ่ ดดี พราหมณ ์ ดดี แลว้ บอกไดถ้ กู ตอ้ งทงั้ หมดวา่ เจา้ ของกะโหลกใบไหน ไปเกดิ ทไี่ หน พระพทุ ธเจา้ ตรสั รบั รองวา่ ไปเกดิ อยา่ งนน้ั จริง จนมาถึงกะโหลกสุดท้ายซึ่งเป็นของพระอรหันต ์ ไม่ว่าดดี กค่ี ร้ังกไ็ ม่ได้ค�ำตอบวา่ ไปเกดิ ทไี่ หน พราหมณ์ รสู้ กึ อศั จรรย ์ พระพทุ ธเจา้ บอกวา่ ถา้ อยากไดว้ ชิ านจ้ี ะ ตอ้ งบวช แลว้ จะทรงสอนใหโ้ ดยไมค่ ดิ เงนิ ทอง พระรปู น ี้ เมือ่ มาบวชแลว้ ช่อื วงั คีสะ พระวงั คสี ะมตี าทพิ ย ์ ขณะกำ� ลงั พจิ ารณาศพของ นางสิริมา มองเห็นเทพธิดาตนหนึ่งก�ำลังก้มกราบ พระพุทธเจ้า พระวังคีสะขออนุญาตพระพุทธเจ้าพูด กบั เทพธดิ านนั้ เมอื่ พระพทุ ธเจา้ อนญุ าตแลว้ พระวงั คสี ะ ถามเทพธิดาว่า “เธอมาจากไหน” เทพธิดาตอบว่า “ประชุมเทวโลกใดที่มีชื่อว่า ปรนิมมิตวสวัตตี ข้าพเจ้า มาจากทน่ี นั่ ” (ปรนมิ มติ วสวตั ต ี คอื สวรรคช์ น้ั ๖ อนั เปน็ 37 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
ชน้ั สงู สดุ ) พระวงั คสี ะถามตอ่ ไปวา่ “แลว้ เหตใุ ดเธอจงึ มา ท่ีน่ี” เทพธิดาตอบว่า “เพราะข้าพเจ้าเคยอยู่ในซากน ้ี มากอ่ น” นางสริ มิ าเคยทำ� ชวั่ แลว้ หยดุ หนั ไปเจรญิ ทาน ศลี ภาวนา จนบรรลโุ สดาบนั ตายแลว้ ไปเกดิ เปน็ เทพ- ธดิ า ทงิ้ ซากรา่ งอนั เหมน็ เน่าเปอ่ื ยไวเ้ บอ้ื งหลัง อย่างนี้ล่ะครับ เป็นเหตุผลว่าทำ� ไมผู้บรรยายจึง เปล่ียนพฤติกรรม ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๑๘ มีท้ังดีทั้งชั่ว แตห่ ลงั จากป ี พ.ศ. ๒๕๑๘ มาแลว้ พยายามทำ� แตค่ วามดี จนเด๋ียวน้ีมั่นใจแล้วว่า ทุกขณะต่ืน คิด พูด ท�ำ ไม่ผิด กฎหมาย ไมผ่ ดิ ศลี ไมผ่ ดิ ธรรม มศี ลี ๕ มธี รรม ๕ อยู ่ ในใจ ดตี ลอด ไปไหนมาไหนสะดวกปลอดภัย 38 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
บญุ อยใู่ นใจ (ไมใ่ ชใ่ นหวั ใจ) ใจทมี่ คี วามดสี งั่ สม ใจท่มี ีความสุข ใจทเี่ ป็นกุศล น่นั แหละคือบุญ 39 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๗ต อ น ที่ เ สี ย ห า ย เ พ ร า ะ บ า ป กอ่ นจะบอกวา่ มบี ญุ แลว้ ดอี ยา่ งไร มาดฝู า่ ยบาปกอ่ น มีบาปแล้วเสียหายอย่างไร ท่านก็มีประสบการณ์แล้ว ถ้าบาปไม่ให้ผล ท่านไม่มาอยู่ที่น่ีหรอก ใช่ไหมครับ ศลี ๕ ขอ้ ถา้ ใครละเมดิ ไมป่ ระพฤต ิ นอกจากตอ้ งรบั ผล เปน็ ความทกุ ขใ์ นปจั จบุ นั นแ้ี ลว้ ยงั มโี อกาสทตี่ ายแลว้ จะ ไปลงนรก ไปเปน็ เปรต ไปเปน็ เดรจั ฉานกม็ ี ถา้ ศลี ๕ ขอ้ ไมค่ รบ ตายจากชวี ติ นแี้ ลว้ จะไมไ่ ดก้ ลบั มาเกดิ เปน็ มนษุ ย์ อกี อยา่ ลมื วา่ บาปกเ็ กบ็ สงั่ สมอยทู่ จี่ ติ เชน่ เดยี วกบั บญุ 41 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
นอกจากเรอื่ งศลี แลว้ ยงั มโี ทสะ (ความโกรธ) เปน็ เหตุผลักดันจิตท่ีก�ำลังออกจากร่าง ให้ลงไปเกิดเป็น สตั วน์ รก เราเคยโกรธมากคี่ รงั้ แลว้ และจะโกรธอกี ไหม ความโกรธมีพลังผลักดันจิตลงนรก อย่างพระเทวทัต โกรธแค้นพระพุทธเจ้า กลิ้งก้อนหินลงจากเขา ปล่อย ชา้ งตกมนั หวงั ใหท้ ำ� รา้ ยพระพทุ ธเจา้ เดย๋ี วนพี้ ระเทวทตั ก�ำลังทนทุกข์ทรมานอย่างที่สุดอยู่ในอเวจีนรก ส่วน พระเจา้ อชาตศตั ร ู ศษิ ยพ์ ระเทวทตั อยทู่ นี่ รกโลหะกมุ ภ ี วา่ ยอยใู่ นกระทะทองแดง มพี ระผใู้ หญท่ เี่ ชยี งใหมร่ ปู หนง่ึ เคยเลา่ ใหผ้ บู้ รรยายฟงั แตจ่ ะพดู ตรงๆ ไมไ่ ดเ้ พราะอาจ ผิดวินัยพระ จึงเล่ียงบอกว่า ได้ฝันเห็นพระสงฆ์อยู่ใน นรกเยอะเลย ผา้ เหลอื งไมล่ ง กองอยขู่ า้ งนอก แตต่ วั คน ทศ่ี รี ษะโลน้ ลงไปอยใู่ นกระทะทองแดงเยอะเลย ตน้ งว้ิ ใน เมอื งนรกไมเ่ หมอื นตน้ งว้ิ ในเมอื งมนษุ ย ์ หนามยาวมาก คนทปี่ นี ตน้ งวิ้ มที ง้ั ชายทงั้ หญงิ ทผ่ี ดิ ลกู ผดิ เมยี เขา เลอื ด โทรมกายเพราะหนามเกี่ยวแทง ร่างกายเปล่าเปลือย ไมน่ า่ ดเู ลย ความโกรธ ถ้าส่ังสมในจิตมากๆ เวลาตาย จะมี พลังผลักดันให้ไปเกดิ เปน็ สตั วน์ รก 42 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ความโลภ (ลักขโมย เอาของที่เจ้าของเขาไม่ อนุญาต) ตายแล้วจะน�ำไปเกิดเป็นเปรต ซ่ึงมีหลาก หลาย ความหลง ตายแลว้ จะนำ� ไปเกดิ เปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉาน (ความหลงคือความรู้ที่รู้ไม่จริง อย่างที่เรียนกันตาม โรงเรียนและสถาบันต่างๆ นี้เป็นความหลง สุตตมย- ปญั ญา และ จนิ ตามยปญั ญา ปญั ญาทางโลกสองตวั น ้ี แมเ้ รียนจนสงู สดุ แลว้ ก็ยังเปน็ ความหลง) 43 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
๘ต อ น ท่ี ไ ด้ ดี เ พ ร า ะ บุ ญ สว่ นศลี ๕ ถา้ ใครมอี ยกู่ บั ใจทกุ ขณะตนื่ ไมใ่ ชแ่ คร่ ศู้ ลี นะ ตอ้ งมศี ลี ตายแลว้ พลงั ของศลี จะผลกั ดนั จติ วญิ ญาณ ให้ไปเข้าร่างมนุษย์ กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง นี่คือพลังของศีล ๕ ถ้าใครปฏิบัติสมถภาวนา จิต เข้าฌานแล้วตายในฌาน ก็ไปเกิดเป็นพรหม หรือถ้า อยากเป็นเทวดา ต้องท�ำทานและรักษาศีลหรือกุศล- กรรมบถ ๑๐ เหตุที่เราท�ำทุกวันนี้ มันเก็บสะสม ส่ง ไปเกดิ เปน็ เทวดาเปน็ นางฟา้ ไมม่ อี ะไรบงั เอญิ สกั อยา่ ง 45 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
ทกุ อยา่ งตอ้ งมเี หตทุ ที่ ำ� ใหเ้ กดิ เปน็ กฎธรรมชาต ิ นค่ี อื กฎ แหง่ กรรม มจี รงิ ผบู้ รรยายในอดตี กไ็ มเ่ ชอื่ แตเ่ มอื่ เขา้ ถงึ ภาวนามยปญั ญา อนั เปน็ ปญั ญาสงู สดุ จงึ รวู้ า่ เปน็ ความ จริง ตอ้ งยอมศิโรราบสถานเดยี ว ปญั ญาสงู สดุ ม ี ๒ ระดบั ระดบั โลกยิ ะคอื ตาทพิ ย ์ หทู พิ ย ์ รใู้ จคน แสดงฤทธไ์ิ ด ้ รกู้ ำ� เนดิ หนหลงั แตไ่ มท่ ำ� ใหพ้ น้ ทกุ ข ์ อกี แบบคอื ระดบั โลกตุ ระ คอื ปญั ญาเหน็ แจง้ ท�ำให้พ้นทุกข์และเข้าถึงไดท้ กุ อยา่ ง เดย๋ี วนเ้ี ขยี นตำ� รบั ตำ� รา ใชป้ ญั ญาดอกเตอรไ์ มไ่ ด ้ เพราะไมน่ านกจ็ ะลา้ สมยั ตอ้ งใชป้ ญั ญาพระพทุ ธเจา้ งานจงึ ไมร่ จู้ บและหยดุ ไมไ่ ด ้ เพราะมิเช่นนั้นจะเป็นการอกตัญญูต่อพระพุทธเจ้า ถ้าเราได้ของดีมาไว้ แล้วไม่ตอบแทนความดี จะเป็น ความอกตญั ญู มีบุญแล้วดีอย่างไร บุญอยู่ในใจ มองไม่เห็น จับ ตอ้ งสัมผัสไมไ่ ด้ แตม่ ีพลังใหผ้ ลได ้ มีอ�ำนาจบนั ดาลผล ได ้ บญุ ทสี่ งั่ สมอยใู่ นจติ ของคนคนหนงึ่ ใครอน่ื มาขโมย ไปไมไ่ ด ้ ไมเ่ หมอื นมนษุ ยส์ มบตั ิ เงนิ ทองขโมยได ้ หรอื ไม ่ ก็ไปกับน้�ำกับไฟเสียหมด โดนระเบิดก็พังหมด แต่บุญ 46 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ขโมยกันไม่ได้ ตกน�้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ตายไปแล้ว บญุ ยงั ตามขา้ มภพขา้ มชาต ิ ใหเ้ ราไดร้ บั และเสวยผล เงนิ รอ้ ยลา้ นพนั ลา้ น ตายแลว้ เอาไปไดห้ รอื ไม ่ บาทเดยี วก็ เอาไปไมไ่ ด ้ แมส้ ลงึ เดยี วกเ็ อาไปไมไ่ ด ้ แลว้ จะไปโงส่ ะสม อยู่ท�ำไม เอาเพียงนิดเดียว แค่พออยู่พอกินก็พอแล้ว คนโง่เท่าน้ันท่ีสะสมไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไหร่ ตายแล้วยัง ใชไ้ มห่ มด วันก่อนมีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาผู้บรรยายบอกว่า แต่งงานแลว้ แตย่ งั ไมม่ ลี กู มเี งนิ ทองมาก สรา้ งรสี อรท์ (resort) สรา้ งคฤหาสนใ์ หญโ่ ต ผบู้ รรยายฟงั แลว้ สงสาร เพราะเขาไม่ฉลาด จึงเตือนสติด้วยการบอกเขาว่า ตายแล้วอย่าลืมเอารีสอร์ทไปด้วยนะ แม้แต่บันไดขั้น เดยี วก็เอาไปไม่ได้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นเวลาจะท�ำอะไร จงคิดให้ดี บุญใครแย่งชิงไม่ได้ ตกน้�ำไม่ไหล ตกไฟ ไมไ่ หม ้ โจรลกั ขโมยไมไ่ ด ้ เพราะอยใู่ นใจ มองไมเ่ หน็ แต ่ ติดตามทุกย่างก้าว ชีวิตจะได้รับแต่สิ่งดีงาม อยาก เปน็ อะไร อยากไดอ้ ะไรทเ่ี ป็นส่ิงดีงาม จะได้เพราะบุญ ตายแล้วบุญยังตามน�ำไปส่งแดนเกิด อย่างเช่นสิริมา นางโสเภณีพอรู้ว่าอาชีพของตัวเป็นอาชีพบาป ก็เลิก 47 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
อยา่ งเดด็ ขาด หนั มาปฏบิ ตั ทิ าน ศีล ภาวนา ตายแล้ว ไปเกดิ เปน็ เทพธดิ าเพราะอำ� นาจของบุญ อนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้สร้างวัดเชตวัน ซ่ึงเป็นวัด ลำ� ดบั ท ่ี ๒ ในพทุ ธศาสนา ไดบ้ รรลธุ รรมชนั้ โสดาบนั มี เทวดาคมุ้ รกั ษา ตายแลว้ ไปเกดิ บนสวรรคช์ นั้ ดสุ ติ สว่ น พระเจา้ พมิ พสิ ารไปเกดิ ทชี่ น้ั จาตมุ หาราชกิ า ตดิ กบั โลก มนษุ ยเ์ รา ความลบั ของมนษุ ยไ์ มม่ ี เทวดาชนั้ นม้ี องเหน็ หมด ขโมยครงั้ เดยี วหนเดยี วกล็ งนรกได ้ แมจ้ ะเกบ็ เปน็ ความลบั จากมนษุ ยด์ ว้ ยกนั และจากตำ� รวจได ้ ทำ� ชว่ั แลว้ ไมม่ คี นเหน็ พน้ ความผดิ ไป ไมต่ อ้ งรบั โทษในโลกมนษุ ย ์ แตย่ มบาลเอาผดิ ได ้ เพราะมบี นั ทกึ อยทู่ ใี่ จของแตล่ ะคน บญุ ใหส้ มบตั ทิ ตี่ อ้ งการไดท้ กุ อยา่ ง ใหม้ นษุ ยส์ มบตั ิ ได ้ ใหส้ วรรคส์ มบตั ไิ ด ้ เชน่ กรณขี องนางสริ มิ า ใหพ้ รหม สมบตั ิได ้ เช่น ทา้ วพกาพรหม สหมั บดีพรหม เป็นตน้ และสูงสุด บุญให้ถึงนิพพานสมบัติได้ อย่าลืมว่า พวกเรากเ็ ปน็ ๑ ในบวั ๓ เหลา่ แรก อยใู่ นทน่ี ี้ (เรอื นจำ� ) ตอ้ งเลย้ี งลกู เลย้ี งครอบครวั ไหม ไมต่ อ้ ง ตอ้ งทำ� มาหากนิ 48 บ่ อ เ กิ ด แ ห่ ง บุ ญ
ไหม ไมต่ อ้ ง แลว้ เอาเวลาวา่ งไปทำ� อะไร ไปคดิ ถงึ ความ หลงั หรอื มนั แกไ้ ขไดไ้ หม ไมไ่ ด ้ ในปจั จบุ นั แกไ้ ขไดไ้ หม ได ้ ดอู ยา่ งนางสริ มิ า เลกิ สง่ิ ไมด่ ที งั้ หมด หนั มาทำ� แตส่ ง่ิ ดี ชวี ิตมอี สิ รภาพได้ก็เพราะบญุ ตอนน้ไี มม่ ี ใหร้ ีบพัฒนา ใหเ้ กดิ บุญขึ้น จะต้องมีแน่ๆ มีบริวารท่ีซื่อสัตย์ก็เพราะ บญุ มคี ไู่ มน่ อกใจกเ็ พราะบญุ เดนิ ทางปลอดภยั กเ็ พราะ บุญ ชีวิตมีความสุขได้ก็เพราะบุญ บุญให้แต่สิ่งดีๆ ส่งิ ดีงามท้ังหลายส�ำเร็จได้ดว้ ยบุญ 49 ด ร . ส น อ ง ว ร อุ ไ ร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114