Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธวจน ทาน

Description: พุทธวจน ทาน

Search

Read the Text Version

พุทธวจน

ภิกษุทั้งหลาย !  ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้ผลแห่งการจ�าแนกทาน  เหมือนอย่างเรารู้ไซร้  หากสัตว์เหล่าน้ัน  ยังไม่ได้ให้ทานเสียก่อนก็จะไม่พึง บรโิ ภค  อน่งึ  มลทินคอื ความตระหน่จี ะไม่พึงครอบง�าจิตของสัตวเ์ หลา่ น้ัน 

ช่างไม้ท้งั หลาย !  อริยสาวกผ้ปู ระกอบดว้ ยธรรม ๔ ประการ  เป็นโสดาบัน  มีความไม่ตกต่�าเป็นธรรมดา  เป็นผู้เที่ยงแท้ท่ีจะตรัส มเบจถหกแีก้ือะจ็้ามาางพปกะรค้ หไบสฏึง�ำนมเรตัขิคห้า((((ิจ่บวา้า 12๔3าลเ์รวหธคห))))ือโิคร ก อ  ภลอรือปมปปันขมา่คยกีรรรใปอน ูค่.ะะจะ๔อ้ ลงกกกน้ัปำ� น่พอออปอสรยขยบบบราวดุงั ะอศดดด้ากไทกยว้ว้วจว้เมา้าขยยูย่ขาเรไ่ปยคคกคาเอดป็ววนมกวยงแ้าาน็าปลต็งัสมมมบอทมราเเตั เยลละงิ่นมลีอว่าจอืื่่อคอ่ื งยเ์�ามมำ�คหมไ ู่ รใใขือใลมสส สคา ้ีออา่ฝอควือนนััน่านัควมไไนั้ไาำมม� ืมอมส่ห่หหอ่ ตดุววันวรัั่น่นทน่ั ชะไไไาุ้่หมหหหยววน วแใใย่ี ในนินมนอพพพดยน้ รรูี่รใคน้ัะะะนรธสพกอรงทุางรฆรธเม เป็นผคู้ วรแกก่ ารขอ ยินดใี นการใหแ้ ละการแบง่ ปัน. คเหือมคอื วนาอมยตภา่รกิงะเษหรทุานรง้ั่ี ู้จหฉธยชงึละยนาร่อ่าังยรน้ังมค ม!สไร เตัอมแ ปวบ๔ต้ท็นเ์เง่ห พ�ำงั้โปลจรสหา่าติรดนละขะสน้ัาาอกตัจบยงาวงึสนั รไท์!ัตม เ งั้วหไ่อหมดเ์ หลลรใ้คี หลาิย่าวยา่ท้ สนาไนามามีแ้ั้นนร่ว.กลไผู้ กอ่มลผนแ่ตบูป้หกรง่ รโิกตภะาา่�คกรเจออปำ� นบแน็ งึ่ นดธมกว้ รลทยรทามนินดา เป็นผู้เท-บี่ยาลงี ขแุ. ขท.ุ ๒ท้ ๕/จี่๒๔ะ๓ต/๒๐ร๔ัส. รู้ในเบือ้ งหนา้ . -บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๔๐/๑๔๕๑.



พทุ ธวจน -หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปดิ ๑๓ฉบับ ทาน (การให้) พุทธวจนสถาบัน รว่ มกนั มงุ่ มน่ั ศกึ ษา ปฏบิ ตั ิ เผยแผค่ ำ� ของตถาคต

พุทธวจน ฉบบั ๑๓ ทาน (การให้) ข้อมูลธรรมะนี้ จัดท�ำเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาสู่สาธารณชน เป็นธรรมทาน ลขิ สทิ ธใิ์ นต้นฉบบั นไี้ ดร้ บั การสงวนไว้ ในการจะจดั ทำ� หรือเผยแผ่ โปรดใชค้ วามละเอียดรอบคอบ เพ่อื รกั ษาความถกู ต้องของข้อมลู ใหข้ ออนุญาตเปน็ ลายลักษณ์อักษร และปรึกษาดา้ นข้อมูลในการจัดท�ำเพ่อื ความสะดวกและประหยัด ตดิ ตอ่ ไดท้ ี่ มลู นธิ พิ ทุ ธโฆษณ์ โทรศพั ท ์ ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐-๙๔ มลู นธิ ิพุทธวจน โทรศพั ท ์ ๐๘ ๑๔๕๗ ๒๓๕๒ คุณศรชา โทรศัพท์ ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ คณุ อารวี รรณ โทรศัพท์ ๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘ ปที ี่พมิ พ์ ๒๕๖๓ ศิลปกรรม ณรงคเ์ ดช เจรญิ ปาละ, สนั ติ ทองสุข จัดทำ� โดย มลู นิธพิ ุทธโฆษณ์ (เวบ็ ไซต์ www.buddhakos.org)

คำ� อนุโมทนา ขออนโุ มทนากบั คณะงานธมั มะ ผจู้ ดั ทำ� หนงั สอื พทุ ธ วจน ฉบับ ทาน (การให้) ท่ีมีความตั้งใจและมีเจตนาอัน เป็นกุศลในการเผยแผ่ค�ำสอนของตถาคตอรหันตสัมมา- สัมพุทธะที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง ที่ท่านตรัส ในแง่มุมของทาน เพือ่ ท่เี ราจะไดเ้ ขา้ ใจผลและอานสิ งสข์ อง ทานแบบต่างๆ เพราะโดยปกติทั่วไป คนส่วนใหญ่ก็นิยม การให้ทานอยู่เนืองนิตย์ ทานจึงเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของเรา มาก แตห่ ลายคนก็ยงั ไมท่ ราบว่า การใหท้ านที่มีผลมากจะ ต้องประกอบด้วยเหตุอะไรบ้าง และเราก็ไม่เคยทราบมา กอ่ นวา่ จะตอ้ งวางจติ อยา่ งไรเวลาใหท้ าน เพอื่ จะไดอ้ านสิ งส์ สงู สดุ คือ ความไมต่ าย จากการใหท้ านนน้ั ด้วยเหตุที่ได้กระทำ�มาแล้วนี้  ขอจงเป็นเหตุปัจจัย  ให้ผู้มีส่วนร่วมในการทำ�หนังสือ  และผู้ท่ีได้อ่าน  ได้ศึกษา   ไดน้ �ำ ไปปฏบิ ตั  ิ พงึ ส�ำ เรจ็ สมหวงั   พบความเจรญิ รงุ่ เรอื งของ ชิีวิตได้จริงในทางโลก  และได้ดวงตาเห็นธรรม  สำ�เร็จผล ยังนิพพาน  สมดังความปรารถนาที่ได้สร้างมาอย่างดีแล้ว ด้วยเทอญ ขออนุโมทนา ภกิ ขคุ กึ ฤทธ์ิ โสตถฺ ิผโล

อักษรย่อ เพือ่ ความสะดวกแกผ่ ทู้ ่ยี งั ไมเ่ ขา้ ใจเรื่องอักษรยอ่ ทีใ่ ช้หมายแทนชื่อคัมภรี ์ ซงึ่ มอี ยู่โดยมาก มหาวิ. วิ. มหาวิภงั ค ์ วนิ ยั ปิฎก. ภิกฺขุนี. วิ. ภิกขุนวี ิภังค์ วินยั ปิฎก. มหา. ว.ิ มหาวรรค วนิ ยั ปฎิ ก. จลุ ลฺ . ว.ิ จลุ วรรค วนิ ยั ปิฎก. ปริวาร. ว.ิ ปรวิ ารวรรค วินยั ปิฎก. ส.ี ท.ี สีลขันธวรรค ทีฆนิกาย. มหา. ท.ี มหาวรรค ทฆี นกิ าย. ปา. ที. ปาฏิกวรรค ทฆี นกิ าย. ม.ู ม. มูลปณั ณาสก์ มัชฌิมนกิ าย. ม. ม. มัชฌมิ ปัณณาสก์ มชั ฌิมนกิ าย. อปุ ร.ิ ม. อุปริปัณณาสก์ มชั ฌิมนกิ าย. สคาถ. สํ. สคาถวรรค สงั ยตุ ตนกิ าย. นทิ าน. สํ. นทิ านวรรค สังยุตตนิกาย. ขนฺธ. ส.ํ ขนั ธวารวรรค สงั ยุตตนกิ าย. สฬา. สํ. สฬายตนวรรค สังยตุ ตนกิ าย. มหาวาร. ส.ํ มหาวารวรรค สังยตุ ตนิกาย. เอก. อ.ํ เอกนบิ าต องั คุตตรนกิ าย. ทุก. อํ. ทกุ นิบาต องั คุตตรนิกาย. ติก. อ.ํ ตกิ นิบาต องั คตุ ตรนิกาย. จตุกกฺ . อํ. จตุกกนบิ าต อังคุตตรนกิ าย.

ปญฺจก. อํ. ปญั จกนิบาต อังคตุ ตรนกิ าย. ฉกฺก. อํ. ฉักกนบิ าต องั คตุ ตรนิกาย. สตฺตก. อํ. สัตตกนบิ าต อังคุตตรนกิ าย อฏฺ ก. อ.ํ อัฏฐกนิบาต องั คตุ ตรนกิ าย. นวก. อํ. นวกนิบาต อังคุตตรนิกาย. ทสก. อ.ํ ทสกนิบาต องั คตุ ตรนิกาย. เอกาทสก. อํ. เอกาทสกนบิ าต อังคุตตรนิกาย. ข.ุ ขุ. ขุททกปาฐะ ขุททกนิกาย. ธ. ขุ. ธรรมบท ขทุ ทกนกิ าย. อ.ุ ข.ุ อทุ าน ขทุ ทกนกิ าย. อติ วิ .ุ ขุ. อิตวิ ุตตกะ ขทุ ทกนิกาย. สุตฺต. ขุ. สตุ ตนิบาต ขทุ ทกนิกาย. วิมาน. ข.ุ วมิ านวตั ถุ ขุททกนกิ าย. เปต. ขุ. เปตวตั ถุ ขทุ ทกนิกาย. เถร. ข.ุ เถรคาถา ขทุ ทกนิกาย. เถรี. ข.ุ เถรีคาถา ขุททกนิกาย. ชา. ข.ุ ชาดก ขุททกนกิ าย. มหานิ. ข.ุ มหานิทเทส ขุททกนกิ าย. จฬู น.ิ ขุ. จูฬนทิ เทส ขุททกนิกาย. ปฏสิ มฺ. ขุ. ปฏสิ ัมภิทามรรค ขุททกนิกาย. อปท. ข.ุ อปทาน ขุททกนกิ าย. พุทฺธว. ขุ. พุทธวงส์ ขทุ ทกนิกาย. จริยา. ขุ. จริยาปฎิ ก ขุททกนกิ าย ตวั อย่าง : ๑๔/๑๗๑/๒๔๕ ใหอ้ ่านว่า ไตรปิฎกฉบบั สยามรัฐ เล่ม ๑๔ หน้า ๑๗๑ ขอ้ ที่ ๒๔๕

ค�ำนำ� บคุ คลบางคนในโลกนี้ ใหท้ านโดยมคี วามหวงั ผล ให้ ทานโดยมีจิตผูกพันในผล ให้ทานโดยมุ่งการส่ังสม (บุญ) ให้ทานโดยคิดว่า “เราตายไปจักได้เสวยผลของทานน้ี” เขาให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แหง่ เทวดาเหลา่ จาตมุ หาราชกิ า เขาสน้ิ กรรม สนิ้ ฤทธิ์ สนิ้ ยศ หมดความเปน็ ใหญแ่ ลว้ ยงั เปน็ ผกู้ ลบั มา คอื มาสคู่ วามเปน็ อย่างน้ี... ปุถุชนผู้ได้สดับและได้ศึกษาในธรรมวินัยท่ีตถาคต ไดบ้ ญั ญตั ไิ ว้จงึ จะทราบวา่ การวางจติ เมอ่ื ใหท้ านดงั ทกี่ ลา่ วมา ขา้ งตน้ เป็นเหตุ เปน็ ปัจจยั ให้ทานเชน่ นน้ั ท่ีบคุ คลบางคน ในโลกน้ีให้แล้ว มผี ลมาก แต่ไม่มอี านิสงสม์ าก ปุถชุ นผไู้ ด้สดับ จงึ จะทราบว่า ศลี ห้าเป็นมหาทาน ปุถชุ นผไู้ ดส้ ดับ พึงใหท้ านในเขตที่ให้แลว้ มีผลมาก คือ ในพระอรยิ บุคคลทัง้ หลายตามกาลอันควร อนั เป็นการ บ�ำรงุ ตถาคตหรอื สาวกของตถาคต (ปารจิ รยิ านตุ ตริยะ) พุทธวจน ฉบับ “ทาน (การให)้ ” ได้รวบรวมไวซ้ ง่ึ สงิ่ อนั ตถาคตไดภ้ าษติ ไว ้ ไดก้ ลา่ วไว ้ วา่ ตถาคตไดภ้ าษติ ไว้ ได้กล่าวไว้  และรวบรวมส่ิงอันตถาคตได้บัญญัติไว้  ว่า ตถาคตไดบ้ ญั ญตั ไิ ว้ อนั เนอื่ งดว้ ยเหตมุ ปี ระมาณตา่ งๆ แหง่

“ทาน (การให)้ ” อยา่ งละเอยี ดครบถ้วน เชน่ ความหมาย ของทาน องคป์ ระกอบของการใหท้ านแลว้ มผี ลมาก ผลและ อานสิ งสข์ องทานแบบต่างๆ เพ่ือประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ท่ีได้เข้ามาศึกษา จะได้ ทราบถงึ สจั จะความจริงและประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม อนั จะเปน็ เหตุ เปน็ ปัจจัยให้ทานเช่นนนั้ มผี ลมาก มอี านสิ งสม์ าก เชน่ การใหท้ านเปน็ เครอ่ื งปรงุ แตง่ จติ คอื ตง้ั จติ ละความตระหน่ี อันเปน็ มลทิน จะไดเ้ ปน็ ผไู้ ม่ต้องกลบั มา คือ ไม่มาสคู่ วาม เปน็ อยา่ งน้ี สาวกของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ผสู้ มบรู ณด์ ว้ ยทสั สนะ มปี ญั ญา เปน็ บณั ฑติ พงึ มสี ง่ิ ทป่ี ระเสรฐิ กวา่ ทาน เปน็ ประโยชน์ เปน็ อานสิ งสท์ ม่ี งุ่ หมาย ท่ีสุดของทาน  คือ  เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ อันประเสริฐยิ่ง  คือ  ความสละคืนอุปธิทั้งปวง  เพ่ือถึง ความเป็นอีกไม่ได้  มีความไม่เกิดต่อไป  เป็นธรรมดา นั้นคอื   นพิ พาน. คณะงานธัมมะ วัดนาปา่ พง

สารบัญ ความหมายของทาน 1 1. ทาน (การให)้ เปน็ อยา่ งไร2 2. จาคะ (การบรจิ าค) เปน็ อยา่ งไร3 ทำ� ไมจงึ ใหท้ าน5 3. ผลแหง่ ทานในปจั จบุ นั และสมั ปรายะ6 4. อานสิ งสแ์ หง่ การใหท้ าน7 5. ผใู้ หโ้ ภชนะ ชอื่ วา่ ใหอ้ ายุ วรรณะ สขุ ะ พละ และปฏภิ าน8 6. ผใู้ หข้ า้ วยาคู กช็ อื่ วา่ ใหอ้ ายุ วรรณะ สขุ ะ พละ และปฏภิ าน10 7. ผใู้ หข้ องทพ่ี อใจยอ่ มไดข้ องทพี่ อใจ11 8. การใหท้ านเปน็ เหตใุ หเ้ กดิ ทรพั ย์ 12 9. ความตา่ งกนั ระหวา่ งผใู้ หแ้ ละผไู้ มใ่ ห้ 13 10. หากสตั วท์ ง้ั หลายรผู้ ลแหง่ การจำ� แนกทาน 16 11. สงั คหวตั ถุ (ธรรมเปน็ ทตี่ ง้ั แหง่ การสงเคราะห)์ 18 12. ธรรมทบ่ี ณั ฑติ บญั ญตั ไิ ว้ 20 13. ลกั ษณะผมู้ ศี รทั ธาเลอื่ มใส21 14. ปฏปิ ทาสมควรแกค่ ฤหสั ถ์ 22 15. การเกยี่ วขอ้ งกนั ของนกั บวชกบั คฤหสั ถ์ 23 16. หลกั ในการจดั สรรทรพั ย์ 24 17. การใชส้ อยโภคทรพั ยโ์ ดยไมส่ ญู เปลา่ 27 18. หลกั ดำ� รงชพี เพอื่ ประโยชนส์ ขุ ในสมั ปรายะ29 19. การสงเคราะหผ์ ลู้ ว่ งลบั 31 20. การสงเคราะหเ์ ทวดา37

21. ความตระหนขี่ วางกน้ั การทำ� ใหแ้ จง้ ซง่ึ มรรคผล38 22. ความตระหนค่ี อื มลทนิ 39 23. เหตใุ หไ้ ปนรก-สวรรค์ 40 24. วบิ ากของคนตระหนแี่ ละไมต่ ระหนี่ 42 25. ทรพั ยใ์ นอรยิ วนิ ยั (นยั ที่ ๑)44 26. ทรพั ยใ์ นอรยิ วนิ ยั (นยั ที่ ๒)47 27. ประโยชนข์ องการสรา้ งวหิ าร51 28. จาคานสุ สติ 52 เหตเุ กดิ ขน้ึ แหง่ ทาน55 29. เหตใุ นการใหท้ าน (นยั ที่ ๑)56 30. เหตใุ นการใหท้ าน (นยั ที่ ๒)57 31. เหตใุ นการใหท้ าน (นยั ที่ ๓)58 32. เหตใุ นการใหท้ าน (นยั ท่ี ๔)60 ผล/อานสิ งสข์ องทานแบบตา่ งๆ65 33. ผลแหง่ ทาน66 34. มหาทาน 71 35. สดั สว่ นของทาน ศลี ภาวนา75 36. ความสงสยั ในทานของเทวดา79 37. ผปู้ ระสบบญุ เปน็ อนั มาก80 38. ผลของการตอ้ นรบั บรรพชติ ดว้ ยวธิ ที ตี่ า่ งกนั 82 39. ทานทใี่ หแ้ ลว้ มผี ลนอ้ ย85

ทานของอสปั บรุ ษุ และสปั บรุ ษุ  87 40. ทานของคนไมด่ ี หรอื ทานของคนดี 88 41. ทานของคนดี (นยั ที่ ๑)89 42. ทานของคนดี (นยั ท่ี ๒)90 43. ประโยชนเ์ กอื้ กลู ของสปั บรุ ษุ 92 44. กลนิ่ ทห่ี อมทวนลม94 ผลกระทบทง้ั ดแี ละไมด่ จี ากการใหท้ านมไี หม 97 45. สงั คมเลว เพราะคนดอี อ่ นแอ98 46. หลกั การกำ� จดั เสยี้ นหนาม (คนไมด่ )ี 100 47. กรณศี กึ ษาเรอื่ งภกิ ษชุ าวกรงุ โกสมั พแี ตกสามคั คกี นั 102 ควรใหท้ านทใี่ ด 107 48. ควรใหท้ านในทใ่ี ด (นยั ที่ ๑)108 49. ควรใหท้ านในทใ่ี ด (นยั ที่ ๒)112 50. ไมค่ วรหา้ มผอู้ นื่ ใหท้ าน114 51. นาดี หรอื นาเลว116 52. ผรู้ บั ทาน กบั ผลทไี่ ด้ (นยั ที่ ๑)118 53. ผรู้ บั ทาน กบั ผลทไ่ี ด้ (นยั ท่ี ๒)119 องคป์ ระกอบของทานทใี่ หแ้ ลว้ มผี ลมาก 123 54. องคป์ ระกอบของทานทใี่ หแ้ ลว้ มผี ลมาก (นยั ท่ี ๑)124 55. องคป์ ระกอบของทานทใี่ หแ้ ลว้ มผี ลมาก (นยั ที่ ๒)127 56. การวางจติ เมอ่ื ใหท้ าน 129

57. ผลของทานกบั ผรู้ บั 133 58. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๑)138 59. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๒)141 60. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๓)142 61. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๔)143 62. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๕)144 63. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๖)145 64. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๗)146 65. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๘)148 66. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๙)151 67. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๑๐)152 68. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๑๑)153 69. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๑๒)155 70. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ท่ี ๑๓)157 71. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๑๔)159 72. ผคู้ วรรบั ทกั ษณิ า (นยั ที่ ๑๕)160 73. ลกั ษณะของภกิ ษผุ มู้ ศี ลี 166 การใหท้ านอนั เปน็ อรยิ ะ 173 74. ธรรมทานเลศิ กวา่ อามสิ ทาน (นยั ท่ี ๑)174 75. ธรรมทานเลศิ กวา่ อามสิ ทาน (นยั ท่ี ๒)175 76. การใหท้ านอนั เปน็ อรยิ ะ (นยั ที่ ๑)180 77. การใหท้ านอนั เปน็ อรยิ ะ (นยั ท่ี ๒)181 78. การใหท้ านอนั เปน็ อรยิ ะ (นยั ที่ ๓)183 79. สง่ิ ทปี่ ระเสรฐิ กวา่ ทาน186

ภาคผนวก 187 80. เจรญิ เมตตาจติ มผี ลมากกวา่ ใหท้ าน188 81. ผลของการเจรญิ เมตตา189 82. วธิ กี ารเจรญิ เมตตาและการเจรญิ พรหมวหิ าร 190 83. ความสมปรารถนาไมไ่ ดเ้ กดิ เพราะการออ้ นวอน194 84. การเกย่ี วขอ้ งกบั เงนิ ทองของภกิ ษุ 197 85. ขอ้ ปฎบิ ตั ใิ นการอนโุ มทนาของภกิ ษุ 201 86. ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นการขอสง่ิ ของตอ่ ผปู้ วารณาของภกิ ขุ 202 87. เหตใุ หค้ า้ ขายไดก้ ำ� ไร หรอื ขาดทนุ 203 88. เหตแุ หง่ ความเจรญิ ขน้ึ และความถกู ทำ� ลายแหง่ สกลุ 205

หมายเหตุผรู้ วบรวม เนอ้ื หาของหนงั สอื เลม่ น้ี บางสว่ นไดป้ รบั สำ� นวนตา่ ง จากฉบับหลวง โดยเทียบเคียงจากทุกส�ำนัก (ฉบับสยามรัฐ, ฉบบั หลวง, ฉบับมหามงกฏุ ฯ, ฉบับมหาจฬุ าฯ, ฉบบั เฉลมิ พระเกยี รต,ิ ฉบบั สมาคมบาลปี กรณแ์ หง่ ประเทศองั กฤษ) เพอื่ ใหส้ อดรบั กบั บาลี และความเช่อื มโยงของพทุ ธวจนให้มากที่สดุ



ความหมายของทาน

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ทาน (การให)้ ทาน (การให้) เป็นอยา่ งไร 01 -บาลี อปุ ร.ิ ม. ๑๔/๓๗๖/๕๗๙. มาณพ !   บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษกต็ าม ย่อมเปน็ ผู้ใหข้ า้ ว น�้ำ เครอื่ งนงุ่ หม่ ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครอื่ งลบู ไล้ ทนี่ อน ทอี่ ยอู่ าศยั และประทปี โคมไฟแก่สมณะหรือพราหมณ์ เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติ- โลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พร่ังพร้อมสมาทาน ไว้อย่างนี้ หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็น มนษุ ยเ์ กดิ ณ ทใี่ ดๆ ในภายหลงั จะเปน็ คนมโี ภคทรพั ยม์ าก. 2

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถกู ปดิ : ทาน (การให)้ จาคะ (การบรจิ าค) เปน็ อย่างไร 02 -บาลี จตุกกฺ . อ.ํ ๒๑/๘๕/๖๑. คหบด ี !   กจ็ าคสมั ปทา (ความถงึ พรอ้ มดว้ ยการบรจิ าค) เปน็ อยา่ งไร อริยสาวกในธรรมวินัยน้ี มีใจปราศจากมลทินคือ ความตระหนี่ อยู่ครองเรือน มกี ารบริจาคอันปล่อยอยู่เป็น ประจำ� มฝี า่ มอื อันชุม่ ยนิ ดใี นการสละ เป็นผคู้ วรแก่การขอ ยนิ ดีในการให้และการแบ่งปนั นเ้ี รียกว่า จาคสัมปทา. 3



ทำ� ไมจึงใหท้ าน

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : ทาน (การให)้ ผลแหง่ ทานในปจั จบุ นั และสมั ปรายะ 03 -บาลี ปฺจก. อ.ํ ๒๒/๔๑/๓๔. ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !   พระผมู้ พี ระภาคทรงสามารถบญั ญตั ิ ผลแห่งทานท่จี ะพงึ เหน็ ได้ในปจั จุบนั หรือหนอ. สามารถ สีหะ !   สีหะ !   ทายกผู้เป็นทานบดี ย่อมเปน็ ทรี่ กั ทช่ี อบใจ ของชนเปน็ อนั มาก แมข้ อ้ นเี้ ปน็ ผลแหง่ ทานทจ่ี ะพงึ เหน็ เอง. อีกประการหนึ่ง สัปบุรุษผู้สงบย่อมคบหาทายก ผเู้ ปน็ ทานบดี แม้ข้อนีก้ เ็ ปน็ ผลแหง่ ทานท่ีจะพึงเหน็ เอง. อีกประการหนึ่ง กิตติศัพท์อันงามของทายกผู้เป็น ทานบดยี ่อมขจร แม้ขอ้ นี้กเ็ ปน็ ผลแหง่ ทานทจี่ ะพึงเห็นเอง. อีกประการหนึ่ง ทายกผู้เป็นทานบดี จะเข้าไปสู่ที่ ประชมุ ใดๆ คอื ท่ปี ระชุมกษตั รยิ ์ พราหมณ์ คหบดี สมณะ ก็ย่อมเป็นผู้องอาจไม่เก้อเขินเข้าไป แม้ข้อนี้ก็เป็นผลแห่ง ทานท่จี ะพึงเห็นเอง. อีกประการหน่ึง ทายกผู้เป็นทานบดี เม่ือตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ แม้ข้อนี้ก็เป็นผลแห่งทานที่จะ พึงได้ในสัมปรายะ. 6

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด : ทาน (การให)้ อานสิ งสแ์ หง่ การใหท้ าน 04 -บาลี ปจฺ ก. อ.ํ ๒๒/๔๓/๓๕ ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   อานสิ งสแ์ หง่ การใหท้ าน ๕ ประการ นี้มีอยู่  ๕ ประการเป็นอยา่ งไร คือ (1) ผใู้ หท้ านยอ่ มเปน็ ทร่ี กั ทช่ี อบใจของชนเปน็ อนั มาก (2) สัปบุรษุ ผ้สู งบย่อมคบหาผูใ้ ห้ทาน (3) กติ ติศัพท์อันงามของผูใ้ ห้ทานย่อมขจรทว่ั ไป (4) ผู้ใหท้ านย่อมไม่เหินห่างจากธรรมของคฤหัสถ์ (5) ผ้ใู หท้ านเม่อื ตายไปย่อมเขา้ ถึงสคุ ติโลกสวรรค์ ภิกษุทั้งหลาย !   น้ีแล  อานิสงส์แห่งการให้ทาน ๕ ประการ. ผู้ให้ทานย่อมเป็นท่ีรักของชนเป็นอันมาก ช่ือว่า ดำ� เนนิ ตามธรรมของสปั บรุ ษุ สปั บรุ ษุ ผสู้ งบ ผสู้ ำ� รวมอนิ ทรยี ์ ประกอบพรหมจรรย์ ย่อมคบหาผู้ให้ทานทุกเมื่อ สัปบุรุษ เหล่าน้ันย่อมแสดงธรรมเป็นที่บรรเทาทุกข์ท้ังปวงแก่เขา เขาได้ทราบชัดแล้ว ย่อมเป็นผู้หาอาสวะมิได้ ปรินิพพาน ในโลกน.้ี 7

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด : ทาน (การให้) ผูใ้ หโ้ ภชนะ ชอ่ื วา่ 05ใหอ้ ายุ วรรณะ สขุ ะ พละ และปฏภิ าน -บาลี จตุกฺก. อ.ํ ๒๑/๘๔/๕๙., -บาลี ปฺจก. อ.ํ ๒๒/๔๔/๓๗. ภิกษุทั้งหลาย !   ผู้ให้โภชนะ  ช่ือว่าย่อมให้ฐานะ ๔ อยา่ งแกป่ ฏิคาหก  ๔ อยา่ งเปน็ อยา่ งไร คอื ใหอ้ ายุ ให้ วรรณะ ใหส้ ุขะ ใหพ้ ละ ครน้ั ให้อายุแล้ว ยอ่ มเป็นผูม้ สี ่วน แห่งอายุอันเป็นทิพย์หรือเป็นของมนุษย์ ครั้นให้วรรณะ แล้ว ย่อมเปน็ ผู้มสี ่วนแหง่ วรรณะอนั เปน็ ทพิ ยห์ รอื เปน็ ของ มนษุ ย์ คร้ันใหส้ ขุ แล้ว ย่อมเปน็ ผู้มีสว่ นแห่งสขุ อนั เป็นทิพย์ หรอื เปน็ ของมนุษย์ คร้ันให้พละแล้ว ยอ่ มเป็นผมู้ สี ว่ นแหง่ พละอันเป็นทิพยห์ รอื เป็นของมนุษย.์ ภิกษุท้ังหลาย !   ผู้ให้โภชนะ  ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๔ อยา่ งนแ้ี ลแก่ปฏิคาหก. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) ผู้ใดย่อมใหโ้ ภชนะโดยเคารพ ตามกาลอนั ควร แก่ ท่านผู้ส�ำรวม บริโภคโภชนะทผ่ี ้อู ่ืนให้เป็นอยู่ ผู้นั้นช่ือว่าให้ ฐานะทั้ง ๔ อย่าง คอื อายุ วรรณะ สขุ ะ และพละ ผู้มปี กตใิ หอ้ ายุ วรรณะ สขุ ะ พละ จะเกิดในที่ใดๆ ยอ่ มเป็นผู้มอี ายยุ นื มยี ศในทีน่ ัน้ ๆ. 8

เปิดธรรมทถ่ี ูกปิด : ทาน (การให)้ ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   ผใู้ หโ้ ภชนะ ชอื่ วา่ ใหฐ้ านะ ๕ อยา่ ง แกป่ ฏคิ าหก  ๕ อยา่ งเปน็ อยา่ งไร คอื ใหอ้ ายุ ใหว้ รรณะ ให้ สุข ใหก้ �ำลงั ให้ปฏิภาณ ครน้ั ให้อายุแล้ว ยอ่ มเป็นผู้มีส่วน แหง่ อายอุ นั เปน็ ทพิ ยห์ รอื เปน็ ของมนษุ ย์ ครน้ั ใหว้ รรณะแลว้ ยอ่ มเปน็ ผมู้ สี ว่ นแหง่ วรรณะอนั เปน็ ทพิ ยห์ รอื เปน็ ของมนษุ ย์ ครนั้ ใหส้ ขุ แลว้ ยอ่ มเปน็ ผมู้ สี ว่ นแหง่ สขุ อนั เปน็ ทพิ ยห์ รอื เปน็ ของมนษุ ย์ ครน้ั ใหก้ �ำลังแล้ว ยอ่ มเปน็ ผมู้ ีสว่ นแห่งกำ� ลงั อนั เปน็ ทิพยห์ รือเปน็ ของมนษุ ย์ คร้นั ใหป้ ฏิภาณแล้ว ย่อมเป็น ผมู้ สี ่วนแห่งปฏิภาณอนั เป็นเปน็ ทพิ ยห์ รอื เปน็ ของมนุษย.์ ภิกษุทั้งหลาย !   ผู้ให้โภชนะ  ชื่อว่าย่อมให้ฐานะ ๕ อยา่ งน้ีแลแกป่ ฏคิ าหก. (คาถาผนวกทา้ ยพระสตู ร) ผู้มปี ัญญา ให้อายยุ ่อมได้อายุ ให้ก�ำลังยอ่ มไดก้ �ำลงั ใหว้ รรณะยอ่ มไดว้ รรณะ ใหป้ ฏภิ าณย่อมได้ปฏิภาณ ใหส้ ขุ ยอ่ มไดส้ ขุ ครน้ั ใหอ้ ายุ กำ� ลงั วรรณะ สขุ และปฏภิ าณแลว้ จะเกิดในทใี่ ดๆ ย่อมเปน็ ผมู้ อี ายยุ นื มยี ศในทีน่ ัน้ ๆ . 9

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี ูกปดิ : ทาน (การให)้ ผใู้ หข้ า้ วยาคู กช็ อ่ื ว่า 06ใหอ้ ายุ วรรณะ สขุ ะ พละ และปฏภิ าน -บาลี มหา. ว.ิ ๕/๗๖/๖๑. พราหมณ์ !   ข้าวยาคูมคี ณุ ๑๐ อย่าง  ๑๐ อยา่ ง เปน็ อยา่ งไร คอื ผู้ให้ขา้ วยาคู ชือ่ วา่ ให้อายุ ให้วรรณะ ให้ สุข ให้ก�ำลัง ให้ปฏิภาณ ข้าวยาคูที่ด่ืมแล้วก�ำจัดความหิว บรรเทาความระหาย ท�ำลมให้เดินคล่อง ล้างล�ำไส้ ย่อย อาหารท่ีเหลอื อยู.่ พราหมณ ์!  เหลา่ นแ้ี ล คอื คณุ ของขา้ วยาคู ๑๐ อยา่ ง. จากนน้ั พระผู้มพี ระภาคได้ตรัสคำ�อนโุ มทนา ดังน้ี ทายกใดถวายขา้ วยาคโู ดยเคารพตามกาลแกป่ ฏคิ าหก ผสู้ ำ� รวมแลว้ ผบู้ ริโภคโภชนะอนั ผูอ้ น่ื ถวาย ทายกนัน้ ชือ่ ว่า ตามเพ่มิ ใหซ้ ึ่งสถานะ ๑๐ อย่างแก่ปฏคิ าหกนนั้ คอื อายุ วรรณะ สขุ ะ พละ และปฏภิ าณ ยอ่ มเกดิ แก่ ปฏคิ าหกนน้ั แตน่ น้ั ขา้ วยาคยู อ่ มกำ� จดั ความหวิ ความระหาย ท�ำลมให้เดินคล่อง ล้างล�ำไส้ และย่อยอาหาร ข้าวยาคูนั้น พระสคุ ตตรสั สรรเสรญิ ว่าเป็นเภสัช เพราะเหตุน้ันแล  มนุษย์ชนที่ต้องการสุขเป็นนิจ ปรารถนาสุขที่เลิศ หรืออยากได้ความงามอันเพริศพร้ิงใน มนษุ ย์ จึงควรแท้เพอื่ ถวายขา้ วยาคู. 10

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ทาน (การให)้ ผ้ใู ห้ของท่พี อใจย่อมได้ของทพี่ อใจ 07 -บาลี ปฺจก. อ.ํ ๒๒/๕๓/๔๔. ... ผู้ให้ของท่ีพอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ใดย่อม ให้เครอื่ งน่งุ ห่ม ท่นี อน ข้าว น้ำ� และปัจจัยมปี ระการต่างๆ ด้วยความพอใจ ในทา่ นผ้ปู ระพฤตติ รง สง่ิ ของทใ่ี หไ้ ปแลว้ น้ันย่อมเป็นของที่บริจาคแล้ว สละแล้วไม่คิดเอาคืน ผู้น้ัน เป็นสัปบุรุษ ทราบชัดว่าพระอรหันต์เปรียบด้วยนาบุญ บรจิ าคส่ิงทบ่ี รจิ าคได้ยากแลว้ ชอ่ื วา่ ให้ของที่พอใจ ยอ่ มได้ ของท่พี อใจ ดังนี.้ ... ผใู้ หข้ องทพ่ี อใจ ยอ่ มไดข้ องทพ่ี อใจ ผใู้ หข้ องทเ่ี ลศิ ย่อมไดข้ องที่เลิศ ผใู้ ห้ของท่ีดียอ่ มได้ของทดี่ ี และผ้ใู หข้ อง ทป่ี ระเสรฐิ ยอ่ มเขา้ ถงึ สถานทป่ี ระเสรฐิ นรชนใดใหข้ องทเี่ ลศิ ให้ของที่ดี  และให้ของท่ีประเสริฐ  นรชนนั้นจะบังเกิด ณ ท่ใี ดๆ ยอ่ มมีอายยุ ืน มียศ ดงั น้.ี 11

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปิด : ทาน (การให้) การใหท้ านเป็นเหตุให้เกิดทรพั ย์ 08 -บาลี อุปร.ิ ม. ๑๔/๓๗๖/๕๗๙., -บาลี จตุกฺก. อ.ํ ๒๑/๒๗๘/๑๙๗. มลั ลกิ า !   มาตคุ ามบางคนในโลกน้ี ไมเ่ ปน็ ผมู้ กั โกรธ ไม่มากไปด้วยความคับแค้นใจ  ถูกว่าแม้มากก็ไม่ขัดเคือง ไม่ฉุนเฉียว ไม่กระฟัดกระเฟียด ไม่กระด้างกระเด่ือง ไม่ แสดงความโกรธ ความขดั เคอื งและความไมพ่ อใจใหป้ รากฏ และเป็นผู้ให้ทาน คือ ข้าว น้ำ� เคร่ืองนุ่งห่ม ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครอ่ื งลบู ไล้ ทน่ี อน ทอ่ี ยอู่ าศยั และประทปี โคมไฟ แก่สมณะหรือพราหมณ์ ถ้ามาตุคามน้ันจุติจาก อัตภาพนั้นแลว้ มาสคู่ วามเปน็ อย่างน้ี กลับมาเกดิ ในท่ใี ดๆ ย่อมเปน็ ผ้มู ีรปู งาม นา่ ดู นา่ ชม ประกอบดว้ ยความเปน็ ผมู้ ี ผวิ พรรณงามยงิ่ นกั ทง้ั เปน็ ผมู้ ง่ั คงั่ มที รพั ยม์ าก มโี ภคสมบตั ิ มากและสูงศกั ด์.ิ มาณพ !   ปฏปิ ทาทเี่ ปน็ ไปเพอ่ื ความมโี ภคทรัพย์ มากนี้ คอื การใหข้ า้ ว นำ้� เครอื่ งนงุ่ หม่ ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครอื่ งลบู ไล้ ทนี่ อน ทอ่ี ยอู่ าศยั และประทปี โคมไฟ แก่สมณะหรือพราหมณ์. 12

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถี่ กู ปดิ : ทาน (การให)้ ความตา่ งกนั ระหวา่ งผใู้ หแ้ ละผไู้ มใ่ ห้ 09 -บาลี ปจฺ ก. อํ. ๒๒/๓๔/๓๑. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ขอประทานพระวโรกาส สาวกของ พระผมู้ พี ระภาค ๒ คน มศี รทั ธา มศี ลี มปี ญั ญาเทา่ ๆ กนั คนหนง่ึ เปน็ ผใู้ ห้ คนหน่ึงเป็นผู้ไม่ให้ คนท้ังสองน้ัน เมื่อตายไป พงึ เขา้ ถงึ สคุ ตโิ ลกสวรรค์ แตค่ นทง้ั สองนน้ั ทง้ั ทเ่ี ปน็ เทวดาเหมอื นกนั จกั มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั หรอื . สมุ นา !  คนทงั้ สองนน้ั จกั มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั คอื ผใู้ หท้ เี่ ปน็ เทวดา ยอ่ มขม่ เทวดาผไู้ มใ่ หด้ ว้ ยเหตุ ๕ ประการ คอื อายุ วรรณะ สขุ ยศ และอธิปไตยทีเ่ ป็นทพิ ย์. สมุ นา !  ผใู้ หท้ เี่ ปน็ เทวดา  ยอ่ มขม่ เทวดาผไู้ มใ่ ห้ ดว้ ยเหตุ ๕ ประการน.้ี ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ก็ถ้าเทวดาทั้งสองน้ันจุติจากเทวโลก นน้ั แลว้ มาสคู่ วามเปน็ มนษุ ย์ แตค่ นทง้ั สองนน้ั ทง้ั ทเ่ี ปน็ มนษุ ยเ์ หมอื นกนั พงึ มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกันหรอื . สมุ นา !  คนทงั้ สองนนั้ พงึ มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั คอื ผใู้ หท้ เี่ ปน็ มนษุ ย์ ยอ่ มขม่ มนษุ ยผ์ ไู้ มใ่ หด้ ว้ ยเหตุ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุข ยศ และอธปิ ไตยท่เี ปน็ ของมนุษย์. สมุ นา !  ผใู้ หท้ เ่ี ปน็ มนษุ ย ์ ยอ่ มขม่ มนษุ ยผ์ ไู้ มใ่ ห้ ดว้ ยเหตุ ๕ ประการนี้. 13

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ก็ถ้าคนท้ังสองน้ันออกบวช แต่คน ทง้ั สองนน้ั ทง้ั ทเ่ี ปน็ บรรพชติ เหมอื นกนั พงึ มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั หรอื . สมุ นา !   คนทง้ั สองนน้ั พงึ มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั คือ ผู้ให้ที่เป็นบรรพชิต ย่อมข่มบรรพชิตผู้ไม่ให้ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ (1) เธอใชส้ อยจวี ร สว่ นมากเพราะถกู เขาออ้ นวอน ทไ่ี มถ่ กู ใครออ้ นวอนใหใ้ ชส้ อยนน้ั เป็นสว่ นนอ้ ย (2) เธอฉนั บณิ ฑบาต สว่ นมากเพราะถกู เขาออ้ นวอน ทไ่ี มถ่ ูกใครอ้อนวอนให้ฉนั นัน้ เปน็ สว่ นน้อย (3) เธอใช้สอยเสนาสนะ ส่วนมากเพราะถูกเขา อ้อนวอน ท่ีไมถ่ ูกใครออ้ นวอนใหใ้ ชส้ อยนน้ั เป็นสว่ นนอ้ ย (4) เธอบรโิ ภคยากบั เครอ่ื งใชใ้ นการรกั ษาโรค สว่ น มากเพราะถกู เขาออ้ นวอน ทไ่ี มถ่ กู ใครออ้ นวอนใหบ้ รโิ ภคนน้ั เปน็ สว่ นนอ้ ย (5) เม่ืออยู่ร่วมกับเพื่อนพรหมจรรย์เหล่าใด เพื่อนพรหมจรรย์เหล่านั้นก็ประพฤติต่อเธอด้วยกายกรรม วจกี รรม มโนกรรม เปน็ ทพี่ อใจเปน็ สว่ นมาก ไมเ่ ปน็ ทพ่ี อใจ เปน็ สว่ นนอ้ ย ยอ่ มนำ�สงิ่ เปน็ ทพี่ อใจมาเปน็ สว่ นมาก ยอ่ มนำ� สงิ่ ไมเ่ ปน็ ท่พี อใจมาเปน็ สว่ นนอ้ ย สุมนา !   ผู้ให้ที่เป็นบรรพชิต  ย่อมข่มบรรพชิต ผูไ้ มใ่ หด้ ้วยเหตุ ๕ ประการน.้ี 14

เปิดธรรมทีถ่ ูกปิด : ทาน (การให)้ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !  กถ็ า้ คนทง้ั สองนน้ั บรรลเุ ปน็ พระอรหนั ต์ แตค่ นทง้ั สองนน้ั ทง้ั ทไ่ี ดบ้ รรลเุ ปน็ พระอรหนั ตเ์ หมอื นกนั พงึ มคี วามพเิ ศษ แตกตา่ งกนั หรอื . สุมนา !   ข้อน้ี  เราไม่กล่าวว่า  มีความพิเศษ แตกตา่ งกนั ใดๆ ในวมิ ุตตกิ บั วิมุตต.ิ ข้าแต่พระองค์ผ้เู จริญ !   น่าอัศจรรย์  ข้าแต่พระองค์ผ้เู จริญ !   ไมเ่ คยม ี ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !   ขอ้ นก้ี �ำ หนดไดว้ า่ บคุ คลควรใหท้ าน ควรท�ำ บญุ เพราะบญุ เปน็ อปุ การะแมแ้ กเ่ ทวดาแมแ้ กม่ นษุ ย์แมแ้ กบ่ รรพชติ . อย่างนัน้ สมุ นา !   อยา่ งนัน้ สุมนา ! บุคคลควรให้ทาน ควรท�ำบุญ เพราะบุญเป็น อุปการะแม้แกเ่ ทวดา แมแ้ ก่มนุษย์ แมแ้ กบ่ รรพชิต. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) ดวงจนั ทรป์ ราศจากมลทนิ เดนิ ไปในอากาศยอ่ มสวา่ ง กวา่ หมดู่ าวทง้ั ปวงในโลกดว้ ยรศั มี ฉนั ใด บคุ คลผสู้ มบรู ณ์ ดว้ ยศลี มศี รทั ธา กฉ็ นั นนั้ ยอ่ มไพโรจนก์ วา่ ผตู้ ระหนท่ี ง้ั ปวง ในโลกดว้ ยจาคะ (การบริจาค) เมฆทลี่ อยไปตาม อากาศ มีสายฟ้าปลาบแปลบ มี ชอ่ ต้งั รอ้ ย ตกรดแผ่นดนิ เต็มท่ดี อนและที่ลมุ่ ฉนั ใด สาวก ของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ผสู้ มบรู ณด์ ว้ ยทสั สนะ เปน็ บณั ฑติ ก็ฉนั น้ัน ยอ่ มข่มผู้ตระหนไ่ี ดด้ ้วยฐานะ ๕ ประการ คอื อายุ วรรณะ สุข ยศ และเปย่ี มดว้ ยโภคะ ละโลกนไ้ี ปแล้ว ยอ่ ม บันเทิงใจในสวรรค์ ดงั น้ี. 15

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี กู ปดิ : ทาน (การให้) หากสัตวท์ ง้ั หลาย 10 รู้ผลแห่งการจ�ำแนกทาน -บาลี ขุ. ข.ุ ๒๕/๒๔๓/๒๐๔. ภิกษุท้ังหลาย !   ถ้าว่าสัตว์ท้ังหลายพึงรู้ผลแห่ง การจ�ำแนกทานเหมือนอย่างเรารู้ไซร้ หากสัตว์เหล่าน้ันยัง ไม่ได้ให้ทานเสียก่อน ก็จะไม่พึงบริโภค อนึ่ง มลทินคือ ความตระหนจี่ ะไมพ่ งึ ครอบงำ� จติ ของสตั วเ์ หลา่ นนั้ แมค้ ำ� ขา้ ว คอื กอ้ นขา้ วของสตั วเ์ หลา่ นนั้ จะพงึ เหลอื อยคู่ ำ� สดุ ทา้ ยกต็ าม ถ้าปฏิคาหกของพวกเขายังมีอยู่ หากสัตว์เหล่านั้นยังไม่ได้ แบง่ คำ� ข้าวค�ำสุดท้ายแมน้ นั้ (ให้แก่ปฏิคาหก) กจ็ ะไมบ่ รโิ ภค. ภิกษุทั้งหลาย !   แต่เพราะสัตว์ท้ังหลายไม่รู้ผล แหง่ การจำ� แนกทานเหมอื นอยา่ งเรารู้ ฉะนน้ั สตั วเ์ หลา่ นน้ั จงึ ไม่ไดใ้ ห้ทานกอ่ นบริโภค อนงึ่ มลทินคือความตระหนี่ จงึ ยังครอบง�ำจิตของสัตวเ์ หลา่ น้ัน. 16

เปิดธรรมทีถ่ ูกปิด : ทาน (การให้) (คาถาผนวกท้ายพระสตู ร) ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้ผลแห่งการจ�ำแนกทาน เหมอื นอยา่ งทเี่ รากลา่ วไวแ้ ลว้ โดยวธิ ที ผ่ี ลนน้ั เปน็ ผลใหญไ่ ซร้ สัตวท์ ง้ั หลายพึงกำ� จัดความตระหนี่ อันเป็นมลทินเสยี แลว้ มใี จผ่องใส พึงให้ทานในเขตท่ีใหแ้ ลว้ มีผลมาก คอื ในพระอริยบุคคลทง้ั หลายตามกาลอันควร อน่ึงทายกเป็นอนั มาก ครั้นให้ขา้ วเป็นทักขิณา ในทักขิเณยยบุคคลทงั้ หลายแลว้ เม่อื จตุ ิจากความเปน็ มนษุ ย์น้แี ลว้ ยอ่ มไปสู่สวรรค์ ทายกเหล่านน้ั ผ้ใู คร่กาม ไม่มีความตระหน่ี ไปสสู่ วรรคแ์ ล้ว บนั เทิงอยใู่ นสวรรค์น้นั เสวยอยู่ซงึ่ ผลแห่ง การจ�ำแนกทาน. 17

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปดิ : ทาน (การให้) 11สงั คหวตั ถุ (ธรรมเป็นทตี่ ง้ั แห่งการสงเคราะห)์ -บาลี จตกุ กฺ . อํ. ๒๑/๔๒/๓๒. ภกิ ษุท้ังหลาย !   สังคหวตั ถุ ๔ ประการนมี้ ีอยู่ ๔ ประการเป็นอยา่ งไร คอื (1) ทาน (การให้) (2) เปยยวัชชะ (การพดู ถอ้ ยคำ� อันเปน็ ทร่ี กั ) (3) อัตถจริยา (การประพฤตปิ ระโยชน์) (4) สมานตั ตา (ความมตี นเสมอกัน) ภกิ ษุท้ังหลาย !   เหลา่ น้แี ล สงั คหวตั ถุ ๔ ประการ. 18

เปดิ ธรรมทถ่ี กู ปดิ : ทาน (การให)้ (คาถาผนวกทา้ ยพระสตู ร) การให้ ความเป็นผูม้ ีวาจาน่ารกั ความประพฤตปิ ระโยชน์ในโลกนี้ ความเปน็ ผมู้ ตี นสมำ�่ เสมอในธรรมนน้ั ๆ ตามสมควร ธรรมเหลา่ น้นั แล เป็นเคร่ืองสงเคราะห์โลก ประดจุ สลกั เพลาควบคมุ รถทแี่ ลน่ ไปอยไู่ วไ้ ด้ ฉะนนั้ ถ้าธรรมเครอ่ื งสงเคราะห์เหล่านี้ ไมพ่ ึงมีไซร้ มารดาหรือบิดาไม่พงึ ไดค้ วามนับถือหรอื บชู า เพราะเหตุแหง่ บตุ ร ก็เพราะเหตทุ ี่บัณฑติ พิจารณาเหน็ ธรรม เครอ่ื งสงเคราะหเ์ หลา่ นี้ ฉะนั้นพวกเขาจงึ ถึงความเป็นใหญ่ และเป็นทีน่ า่ สรรเสรญิ . 19

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ทาน (การให้) ธรรมทีบ่ ัณฑิตบญั ญตั ิไว้ 12 -บาลี เอก. อํ. ๒๐/๑๙๑/๔๘๔. ภิกษุทั้งหลาย !   ธรรม ๓ ประการน้ี  บัณฑิตได้ บญั ญตั ไิ ว้ สปั บรุ ษุ ไดบ้ ัญญตั ไิ ว ้ ๓ ประการเปน็ อยา่ งไร คอื (๑) ทาน (๒) บรรพชา (๓) มาตาปติ อุ ปุ ัฏฐาน (การบ�ำรงุ มารดาบิดา) ภิกษุท้ังหลาย !   ธรรม ๓ ประการนี้แล  บัณฑิต บัญญัติไว้ สัปบุรุษบญั ญตั ิไว.้ (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) ทาน การไมเ่ บียดเบยี น ความสำ� รวม การฝกึ ตน การบ�ำรงุ มารดาและบิดา สัปบรุ ษุ บัญญัตไิ ว้ เหตทุ ่บี ัณฑติ เสพ เป็นเหตขุ องสปั บรุ ุษ ผู้เปน็ คนดี เปน็ พรหมจารีบคุ คล ผทู้ เ่ี ปน็ อรยิ ะ สมบรู ณด์ ว้ ยทสั สนะ (การเหน็ ดว้ ยปญั ญา) ยอ่ มถึงโลกอันเกษม. 20

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถูกปดิ : ทาน (การให)้ ลกั ษณะผ้มู ีศรทั ธาเลอื่ มใส 13 -บาลี เอก. อํ. ๒๐/๑๙๐/๔๘๑. ภิกษุทั้งหลาย !   พึงทราบบุคคลมีศรัทธาเลื่อมใส โดยฐานะ ๓ ประการ  ๓ ประการเป็นอย่างไร คอื (1) เปน็ ผ้ใู คร่ทจ่ี ะเห็นท่านผ้มู ศี ีล (2) เป็นผู้ใครท่ ี่จะฟังธรรม (3) มีใจปราศจากมลทินคือความตระหนี่  อยู่ ครองเรือน มีการบริจาคอันปล่อยอยู่เป็นประจำ� มีฝ่ามือ อันชุ่ม ยินดีในการสละ เปน็ ผู้ควรแกก่ ารขอ ยนิ ดใี นการให้ และการแบ่งปนั ภิกษุทั้งหลาย !   พึงทราบว่า คนมีศรัทธาเล่ือมใส โดยฐานะ ๓ ประการอยา่ งนีแ้ ล. (คาถาผนวกท้ายพระสตู ร) บคุ คลผู้ใคร่จะเห็นท่านผมู้ ศี ลี ปรารถนาจะฟังพระสัทธรรม ก�ำจัดความตระหน่ีอันเป็นมลทิน นนั้ แล เรยี กว่าผมู้ ศี รทั ธา. 21

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี ูกปดิ : ทาน (การให)้ ปฏปิ ทาสมควรแกค่ ฤหสั ถ์ 14 -บาลี จตุกฺก. อ.ํ ๒๑/๘๔/๖๐. คหบด ี !   อรยิ สาวกผปู้ ระกอบดว้ ยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทาสมควรแก่คฤหัสถ์ อันเป็นเหตุ ให้ได้ยศและเป็นไปเพ่ือเกิดในสวรรค์  ๔ ประการเป็น อยา่ งไร คอื (1) เปน็ ผู้บำ�รุงภิกษุสงฆด์ ว้ ยจีวร (2) เป็นผบู้ ำ�รงุ ภกิ ษุสงฆ์ด้วยบิณฑบาต (3) เปน็ ผู้บำ�รุงภิกษสุ งฆด์ ว้ ยเสนาสนะ (4) เปน็ ผบู้ ำ�รงุ ภกิ ษสุ งฆด์ ว้ ยคลิ านปจั จยั เภสชั บรขิ าร (ยากับเครอื่ งใช้ในการรกั ษาโรค) คหบด ี !   อรยิ สาวกผปู้ ระกอบดว้ ยธรรม ๔ ประการ เหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติปฏิปทาอันสมควรแก่คฤหัสถ์ อนั เป็นเหตุให้ได้ยศ และเป็นไปเพอื่ สวรรค์. บณั ฑติ ทง้ั หลายบำ� รงุ ทา่ นผมู้ ศี ลี ผดู้ ำ� เนนิ ไปโดยชอบ ด้วย จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสชั บริขาร ชื่อว่าย่อมปฏิบัติปฏิปทาสมควรแก่คฤหัสถ์ บุญย่อมเจริญ แกเ่ ขาทกุ เมอ่ื ทงั้ กลางวนั และกลางคนื เขาทำ� กรรมอนั เจรญิ แลว้ ยอ่ มเข้าถงึ ฐานะคอื สวรรค.์ 22

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปิด : ทาน (การให้) การเกย่ี วขอ้ งกนั ของนกั บวชกบั คฤหสั ถ์ 15 -บาลี อติ วิ .ุ ขุ. ๒๕/๓๑๔/๒๘๗. ภิกษุทั้งหลาย !   พราหมณ์และคหบดีทั้งหลาย ผู้บ�ำรุงเธอท้ังหลายด้วยจีวร  บิณฑบาต  เสนาสนะและ คิลานปัจจัยเภสชั บริขาร (ยากับเครือ่ งใช้ในการรกั ษาโรค) ช่อื ว่า เปน็ ผ้มู อี ปุ การะมากแก่เธอท้ังหลาย. ภิกษุท้ังหลาย !   การท่ีเธอทั้งหลายแสดงธรรมอัน งามในเบอ้ื งตน้ งามในทา่ มกลาง งามในทสี่ ดุ พรอ้ มทงั้ อรรถะ พร้อมทง้ั พยญั ชนะ ประกาศพรหมจรรยอ์ ันบริสุทธบ์ิ รบิ ูรณ์ สน้ิ เชงิ แกพ่ ราหมณ์และคหบดีเหลา่ นัน้ ช่ือวา่ เธอทง้ั หลาย กเ็ ป็นผู้มอี ปุ การะมากแก่ชนเหลา่ นน้ั . ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   คฤหสั ถแ์ ละบรรพชติ ทง้ั หลายตา่ ง อาศยั ซึ่งกนั และกันอยู่ ประพฤตพิ รหมจรรย์ เพ่ือถอนกเิ ลส อนั เปรยี บเหมอื นหว้ งนำ�้ เพอื่ จะทำ� ซงึ่ ทสี่ ดุ แหง่ ทกุ ขโ์ ดยชอบ ด้วยประการอย่างน้ี. 23

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมที่ถกู ปิด : ทาน (การให้) หลกั ในการจดั สรรทรพั ย์ 16 -บาลี จตกุ ฺก. อ.ํ ๒๑/๘๘-๘๙/๖๑. คหบด ี !   อรยิ สาวกนน้ั ใชโ้ ภคทรพั ย์ ทต่ี นหาไดม้ า ด้วยความเพยี รเปน็ เครื่องลกุ ขน้ึ รวบรวมมาดว้ ยกำ� ลงั แขน มีตัวชมุ่ ด้วยเหงอ่ื เปน็ โภคทรัพย์ประกอบดว้ ยธรรม ไดม้ า โดยธรรม เพอ่ื กระทำ� กรรมในหนา้ ที่ ๔ ประการ  ๔ ประการ เปน็ อยา่ งไร คือ (1) อรยิ สาวกนน้ั ใชโ้ ภคทรพั ยอ์ นั ตนหาไดม้ าโดย ชอบธรรม ในการเลี้ยงตนให้เป็นสุข อ่ิมหนำ� บริหารตน ให้อยู่เป็นสุขโดยถูกต้อง  ในการเล้ียงมารดาและบิดา ให้เป็นสุข อ่ิมหนำ� บริหารท่านท้ังสองให้อยู่เป็นสุขโดย ถูกตอ้ ง ในการเลย้ี งบุตร ภรรยา ทาสและกรรมกรชายหญงิ ให้เป็นสุข อ่มิ หนำ� บริหารให้อยกู่ ันอยา่ งเป็นสุขโดยถกู ต้อง ในการเล้ียงมิตรอำ�มาตย์ให้เป็นสุข อ่ิมหนำ� บริหารให้อยู่ เป็นสุขโดยถูกต้อง  น้ีเป็นการบริโภคทรัพย์ฐานท่ี ๑ อนั อรยิ สาวกนน้ั ถงึ แลว้ บรรลแุ ลว้ บรโิ ภคแลว้ โดยชอบดว้ ย เหตผุ ล. 24

เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : ทาน (การให)้ (2) คหบดี !   ข้ออ่ืนยังมีอีก  อริยสาวกน้ัน  ใช้ โภคทรัพย์อันตนหาได้มาโดยชอบธรรม  ในการปิดก้ัน อันตรายท้ังหลาย ทำ�ตนให้ปลอดภัยจากอันตรายท้ังหลาย ที่เกดิ จากไฟ จากน้ำ� จากพระราชา จากโจร หรอื จากทายาท ท่ีไม่เป็นที่รักน้ันๆ น้ีเป็นการบริโภคทรัพย์ฐานท่ี ๒ อัน อริยสาวกนั้นถึงแล้ว บรรลุแล้ว บริโภคแล้วโดยชอบด้วย เหตผุ ล. (3) คหบดี !   ข้ออื่นยังมีอีก  อริยสาวกน้ัน  ใช้ โภคทรพั ยอ์ นั ตนหาไดม้ าโดยชอบธรรม ในการกระทำ�พลกี รรม ๕ ประการ คอื ญาติพลี (สงเคราะห์ญาต)ิ อตถิ ิพลี (สงเคราะห์ แขก) ปพุ พเปตพลี (สงเคราะหผ์ ลู้ ว่ งลบั ไปแลว้ ) ราชพลี (ชว่ ยชาต)ิ เทวตาพลี (สงเคราะหเ์ ทวดา) นเ้ี ปน็ การบรโิ ภคทรพั ยฐ์ านท่ี ๓ อนั อรยิ สาวกนน้ั ถงึ แลว้ บรรลแุ ลว้ บรโิ ภคแลว้ โดยชอบดว้ ย เหตุผล. (4) คหบดี !   ข้ออ่ืนยังมีอีก  อริยสาวกน้ัน  ใช้ โภคทรัพย์อันตนหามาได้โดยชอบธรรม ในการต้ังไว้ซึ่ง ทักษิณา อุทิศแก่สมณพราหมณ์ทั้งหลายผู้งดเว้นแล้วจาก ความประมาทมวั เมา ผตู้ ง้ั มน่ั อยใู่ นขนั ตแิ ละโสรจั จะ ผฝู้ กึ ฝน 25

พทุ ธวจน - หมวดธรรม ทำ�ความสงบ  ทำ�ความดับเย็นแก่ตนเอง  อันเป็นทักษิณา ที่มีผลเลิศในเบื้องบน  เป็นฝ่ายดี  มีสุขเป็นผลตอบแทน เปน็ ไปพรอ้ มเพอื่ สวรรค ์ นเี้ ปน็ การบรโิ ภคทรพั ยฐ์ านท่ี ๔ อันอริยสาวกน้ันถึงแล้ว  บรรลุแล้ว  บริโภคแล้วโดยชอบ ด้วยเหตุผล. คหบดี !   อริยสาวกน้ัน ย่อมใช้โภคทรัพย์ท่ีตนหา ไดม้ าดว้ ยความเพยี รเปน็ เครอื่ งลกุ ขน้ึ รวบรวมมาดว้ ยกำ� ลงั แขน มีตัวชุ่มด้วยเหง่ือ เป็นโภคทรัพย์ประกอบด้วยธรรม ไดม้ าโดยธรรม เพอ่ื กระทำ� กรรมในหนา้ ที่ ๔ ประการเหลา่ น.้ี คหบดี !   โภคทรัพย์ทั้งหลายของบุคคลใด ถึง ความหมดสนิ้ ไป โดยเวน้ จากกรรมในหนา้ ที่ ๔ ประการ ดังกล่าวแล้วน้ี  โภคทรัพย์เหล่านั้น  เรากล่าวว่าเป็น โภคทรพั ยอ์ นั บคุ คลนนั้ ไมถ่ งึ แลว้ โดยฐานะ ไมบ่ รรลแุ ลว้ ไม่บริโภคแลว้ โดยชอบดว้ ยเหตผุ ล. คหบดี !   โภคทรัพย์ท้ังหลายของบุคคลใด ถึง ความหมดสน้ิ ไป โดยกรรมในหน้าที่ ๔ ประการ ดังกลา่ ว แลว้ นี้ โภคทรพั ย์เหล่าน้นั เรากลา่ ววา่ เป็นโภคทรัพยอ์ ัน บคุ คลนน้ั ถงึ แลว้ โดยฐานะ บรรลแุ ลว้ บรโิ ภคแลว้ โดยชอบ ดว้ ยเหตุผล. 26

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถูกปิด : ทาน (การให้) การใชส้ อยโภคทรพั ยโ์ ดยไมส่ ญู เปลา่ 17 -บาลี สคา. ส.ํ ๑๕/๑๓๑/๓๘๘. มหาราช !   สัปบุรุษได้โภคทรัพย์อันโอฬารแล้ว ยอ่ มทำ� ตนใหเ้ ปน็ สขุ อม่ิ หนำ�   ทำ� มารดาบดิ าใหเ้ ปน็ สขุ อมิ่ หนำ� ทำ� บตุ รภรรยาใหเ้ ปน็ สขุ อม่ิ หนำ�   ทำ� ทาสกรรมกรใหเ้ ปน็ สขุ อิม่ หนำ�   ท�ำมิตรอำ� มาตยใ์ หเ้ ป็นสขุ อมิ่ หน�ำ  ย่อมต้ังไว้ซ่ึง ทักษิณาอันอุทิศแก่สมณพราหมณ์ท้ังหลาย  เป็นทักษิณา มีผลเลิศในเบื้องบน  เป็นฝ่ายดี  มีสุขเป็นผลตอบแทน เป็นไปพรอ้ มเพอื่ สวรรค์. เมอ่ื เขาบรโิ ภคโภคทรพั ยเ์ หลา่ นนั้ โดยชอบอยอู่ ยา่ งน้ี พระราชากไ็ มร่ บิ โภคทรพั ยเ์ หลา่ นนั้ ไปได้  โจรกไ็ มน่ ำ� ไปได้ ไฟก็ไม่ไหม้ได้  น้�ำก็ไม่พัดไปได้  ทายาทอันไม่เป็นท่ีรัก กไ็ ม่ย้ือแยง่ ไปได้. มหาราช !   โภคทรัพย์เหล่านั้น อันเขาบริโภคอยู่ โดยชอบอย่างนี้  ย่อมถึงซึ่งการได้บริโภคใช้สอยโดย ไมส่ ญู เปล่า. มหาราช !   เปรยี บเหมอื นในทไี่ มไ่ กลจากบา้ นหรอื นิคม มสี ระโบกขรณมี ีน�้ำใส เย็น นา่ ดืม่ สะอาด มีทา่ ข้ึนลงดี น่ารื่นรมย์ คนเขาขนน้ำ� นนั้ ไปบ้าง ด่ืมบ้าง อาบบ้าง ทำ� ตาม ตอ้ งการบ้าง. 27

พทุ ธวจน - หมวดธรรม มหาราช !   น้�ำนั้นอันเขาบริโภคใช้สอยอยู่โดย ชอบอยา่ งน้ี ยอ่ มถงึ ซ่งึ การได้บริโภคใช้สอยโดยไมส่ ูญเปล่า น้ฉี นั ใด. มหาราช !   สัปบุรุษได้โภคทรัพย์อันโอฬารแล้ว ยอ่ มทำ� ตนใหเ้ ปน็ สขุ อม่ิ หนำ�   ทำ� มารดาบดิ าใหเ้ ปน็ สขุ อมิ่ หนำ� ทำ� บตุ รภรรยาใหเ้ ปน็ สขุ อมิ่ หนำ�   ทำ� ทาสกรรมกรใหเ้ ปน็ สขุ อิ่มหน�ำ  ท�ำมิตรอ�ำมาตย์ให้เป็นสุข อ่ิมหน�ำ  ย่อมต้ังไว้ซ่ึง ทักษิณาอันอุทิศแก่สมณพราหมณ์ท้ังหลาย  เป็นทักษิณา มีผลเลิศในเบ้ืองบน เป็นฝักฝ่ายดี มีสุขเป็นผลตอบแทน เป็นไปพร้อมเพอ่ื สวรรค.์ เมอ่ื เขาบรโิ ภคโภคทรพั ยเ์ หลา่ นนั้ โดยชอบอยอู่ ยา่ งนี้ พระราชาก็ไม่ริบโภคทรัพย์เหล่าน้ันไปได้ โจรก็ไม่น�ำไปได้ ไฟก็ไม่ไหม้ได้  น้�ำก็ไม่พัดไปได้  ทายาทอันไม่เป็นท่ีรัก ก็ไมย่ อื้ แย่งไปได.้ มหาราช !   โภคทรัพย์เหล่าน้ัน  อันเขาบริโภค อยู่โดยชอบอย่างนี้  ย่อมถึงซ่ึงการได้บริโภคใช้สอยโดย ไมส่ ญู เปลา่ ฉนั นั้นเหมอื นกัน. 28

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี กู ปดิ : ทาน (การให)้ หลกั ดำ� รงชพี เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ ในสมั ปรายะ 18 -บาลี อฏก. อํ. ๒๓/๒๘๙-๒๙๓/๑๔๔. พ๎ยัคฆปัชชะ !   ธรรม ๔ ประการเหล่าน้ี เป็นไป เพอ่ื ประโยชนเ์ กือ้ กูล เพื่อความสุขของกลุ บตุ รในสมั ปรายะ (ในกาลเบ้ืองหน้า) ๔ ประการเป็นอย่างไร คือ (1) สัทธาสมั ปทา (ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา) (2) สีลสัมปทา (ความถึงพร้อมดว้ ยศลี ) (3) จาคสัมปทา (ความถงึ พร้อมดว้ ยการบริจาค) (4) ปญั ญาสมั ปทา (ความถึงพร้อมดว้ ยปญั ญา) พย๎ คั ฆปัชชะ !   สทั ธาสัมปทา เปน็ อย่างไร. พ๎ยัคฆปัชชะ !   กุลบุตรในกรณีน้ี  เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของตถาคตว่า “เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าน้ัน เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ ชอบไดโ้ ดยพระองคเ์ อง เปน็ ผถู้ งึ พรอ้ มดว้ ยวชิ ชาและจรณะ เปน็ ผไู้ ปแลว้ ดว้ ยดี เปน็ ผู้รู้โลกอยา่ งแจ่มแจ้ง เปน็ ผสู้ ามารถ ฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า  เป็นครูผู้สอน ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เป็นผู้รู้  ผู้ตื่น  ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม เป็นผมู้ คี วามจ�ำเรญิ   จ�ำแนกธรรมสัง่ สอนสตั ว”์ นีเ้ รยี กว่า สัทธาสมั ปทา. 29

พุทธวจน - หมวดธรรม พย๎ ัคฆปัชชะ !   สีลสมั ปทา เป็นอยา่ งไร. พย๎ คั ฆปชั ชะ !   กลุ บตุ รในกรณนี ้ี เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจาก ปาณาตบิ าต เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจากอทนิ นาทาน เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจาก กาเมสมุ จิ ฉาจาร เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจากมสุ าวาท เปน็ ผเู้ วน้ ขาดจาก สรุ าเมรยมชั ชปมาทฏั ฐาน นเ้ี รยี กวา่ สลี สมั ปทา. พ๎ยัคฆปัชชะ !   จาคสัมปทา เป็นอย่างไร. พ๎ยัคฆปัชชะ !   กุลบุตรในกรณีนี้  มีใจปราศจาก มลทินคือความตระหน่ี  อยู่ครองเรือน  มีการบริจาคอัน ปลอ่ ยอยเู่ ปน็ ประจำ�   มฝี า่ มอื อนั ชมุ่   ยนิ ดใี นการสละ  เปน็ ผคู้ วรแกก่ ารขอ  ยนิ ดใี นการใหแ้ ละการแบง่ ปนั   นเี้ รยี กวา่ จาคสมั ปทา. พ๎ยัคฆปัชชะ !   ปัญญาสัมปทา เป็นอย่างไร. พ๎ยัคฆปัชชะ !   กุลบุตรในกรณีนี้  เป็นผู้มีปัญญา ประกอบดว้ ยปญั ญาเครือ่ งใหถ้ ึงสจั จะแหง่ การเกดิ ดบั เปน็ เครอ่ื งไปจากขา้ ศกึ เปน็ เครอ่ื งเจาะแทงกเิ ลส เปน็ เครอื่ งถงึ ซึ่งความสน้ิ ไปแห่งทุกขโ์ ดยชอบ นี้เรียกวา่ ปัญญาสมั ปทา. พ๎ยัคฆปัชชะ !   ธรรม ๔ ประการเหล่านี้แล  เป็น ธรรมเปน็ ไปเพอื่ ประโยชนเ์ กอ้ื กลู เพอื่ ความสขุ ของกลุ บตุ ร ในสมั ปรายะ. 30

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถ่ี ูกปดิ : ทาน (การให้) การสงเคราะหผ์ ้ลู ่วงลบั 19 -บาลี ทสก. อ.ํ ๒๔/๒๙๐/๑๖๖. พระโคดมผเู้ จรญิ  !   พวกขา้ พเจา้ ไดน้ ามวา่ เปน็ พราหมณ์ ย่อม ให้ทาน ย่อมทำ�ความเชื่อว่า ทานนี้ต้องสำ�เร็จแก่ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับ ไปแลว้ ขอญาตสิ าโลหติ ผลู้ ว่ งลบั ไปแลว้ จงบรโิ ภคทานนี้ (อทิ  ทาน เปตา าติสาโลหิตา ปรภิ ุ ชฺ นฺต)ิ . พระโคดมผเู้ จรญิ  !  ทานนน้ั ยอ่ มส�ำ เรจ็ แกญ่ าตสิ าโลหติ ผลู้ ว่ งลบั ไปแล้วหรือ ญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วเหล่านั้น ย่อมได้บริโภคทาน นนั้ หรอื . พราหมณ์ !   ทานนั้น ย่อมส�ำเร็จในฐานะ1และ ย่อมไมส่ �ำเรจ็ ในอฐานะ.2 พระโคดมผเู้ จริญ !   ฐานะ เปน็ อย่างไร  อฐานะเป็นอยา่ งไร. พราหมณ์ !   บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผฆู้ า่ สตั ว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูด คำ� หยาบ พดู เพอ้ เจอ้ มคี วามอยากไดข้ องผอู้ น่ื มจี ติ ปองรา้ ย มีความเห็นผิด  บุคคลน้ันเม่ือตายไป  ย่อมเข้าถึงนรก เขายอ่ มเลีย้ งอัตภาพอย่ใู นนรกน้ัน ย่อมต้งั อยู่ในนรกนัน้ ดว้ ยอาหารของสัตวน์ รก. 1. โอกาสที่เปน็ ได้ (สถานภาพในภพนนั้ ที่ยงั ความส�ำเร็จประโยชนใ์ หเ้ กดิ ขึ้นได้) 2. โอกาสทเ่ี ปน็ ไปไมไ่ ด้ (สถานภาพในภพนน้ั ทยี่ งั ความส�ำเรจ็ ประโยชนใ์ หเ้ กดิ ขน้ึ ไมไ่ ด)้ 31

พทุ ธวจน - หมวดธรรม พราหมณ ์ !   ฐานะอนั เปน็ ทไ่ี มเ่ ขา้ ไปสำ� เรจ็ แหง่ ทาน แก่สัตว์ผู้ตั้งอยู่นีแ้ ล เปน็ อฐานะ. พราหมณ ์ !   บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผู้ฆ่าสตั ว์ ... มีความเหน็ ผดิ บคุ คลนน้ั เม่อื ตายไป ย่อมเขา้ ถงึ กำ� เนิด เดรจั ฉาน เขายอ่ มเลยี้ งอตั ภาพอยใู่ นกำ� เนดิ เดรจั ฉานนนั้ ย่อมต้ังอยู่ในก�ำเนิดเดรัจฉานนั้น  ด้วยอาหารของ สตั ว์เดรจั ฉาน. พราหมณ ์ !   แม้ฐานะอันเป็นทไ่ี มเ่ ข้าไปส�ำเรจ็ แห่ง ทานแก่สัตวผ์ ู้ตงั้ อยนู่ ้ีแล กเ็ ปน็ อฐานะ. พราหมณ ์ !   บคุ คลบางคนในโลกนี้ เปน็ ผเู้ วน้ ขาด จากการฆา่ สัตว์ ... มีความเหน็ ชอบ บุคคลน้นั เม่อื ตายไป ยอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหายของมนษุ ย์ เขายอ่ มเลย้ี งอตั ภาพ อยู่ในมนุษยโลกน้ัน  ย่อมต้ังอยู่ในมนุษยโลกน้ัน  ด้วย อาหารของมนษุ ย.์ พราหมณ์ !   แม้ฐานะอนั เป็นท่ไี ม่เข้าไปส�ำเรจ็ แห่ง ทานแกส่ ัตวผ์ ตู้ ง้ั อยู่น้ีแล กเ็ ป็นอฐานะ. พราหมณ ์ !   บคุ คลบางคนในโลกนี้ เปน็ ผเู้ วน้ ขาด จากการฆา่ สัตว์ ... มีความเหน็ ชอบ บุคคลน้นั เม่อื ตายไป 32


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook