วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม 20000-1501

บทที่ 1 สถาบันทางสังคม และบรรทดั ฐานทางสังคม

แนวคดิ สาระการเรียนรู้ สถาบันทางสงั คมประกอบด้วย สถาบันครอบครวั สถาบันทางสังคม สถาบนั การศึกษา สถาบันศาสนา บรรทดั ฐานทางสังคม สถาบันเศรษฐกจิ สถาบันการเมอื งการปกครอง สถาบนั นนั ทนาการ และสถาบันส่ือสารมวลชน บรรทัดฐานทางสังคม แบง่ ไดเ้ ป็น วิถปี ระชา จารีต และกฎหมาย

เลือกสถาบันทางสังคมทเ่ี ก่ียวข้องกับชวี ติ ของนักเรยี น สถาบันศาสนา สถาบันเศรษฐกจิ สถาบันครอบครัว สถาบนั สื่อสารมวลชน สถาบนั การศกึ ษา สถาบนั การเมืองการปกครอง สถาบนั นันทนาการ

สถาบนั ครอบครัว พ่อแม่ พี่ นอ้ ง ญาติ แบบแผนพฤตกิ รรมของกลุ่มคนท่ีมาตดิ ตอ่ เกีย่ วขอ้ ง ทางการแตง่ งาน กนั ในลกั ษณะของเครือญาตโิ ดยเป็นไปตามแบบ แผนท่สี งั คมกาหนดขึ้น โดยมีอยู่ ๓ ลักษณะ ทางสายโลหิต ทางการรบั ไว้เปน็ ญาติ

หน้าท่ขี องสถาบันครอบครวั การผลิตสมาชิกใหม่ใหส้ งั คม การอบรมดูแลสมาชิกใหมใ่ ห้เรียนรู้ ระเบยี บสงั คม การคุ้มครอง ปกป้องและทานบุ ารงุ สมาชิก

สถาบนั การศกึ ษา องคก์ าร/กลุม่ คน สถาบนั ท่ีสรา้ งแบบแผนการคิดและการกระทา ครู อาจารย์ นกั เรยี น ความสาคัญ ทาหน้าทอี่ บรมใหก้ ารศึกษาแกส่ มาชิก เพื่อ ให้เขา้ ใจชีวติ และนาความรู้ไปประกอบอาชพี การศกึ ษาในสังคมปัจจุบนั การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศกึ ษาตามอัธยาศัย

หนา้ ที่ของสถาบนั การศกึ ษา ถา่ ยทอดความร้ทู กั ษะ การสรา้ งบคุ ลิกภาพทางสังคมแกส่ มาชิกทางสงั คม การผลิตกาลังคนเปน็ แรงงานสาคญั ทางเศรษฐกิจ การกาหนดสถานภาพทางสงั คมและชนชั้นทางสงั คม

สถาบันศาสนา องคก์ าร/กลมุ่ คน สถาบนั ที่เกีย่ วข้องกับแบบแผนหรอื กฎเกณฑท์ างศลี ธรรม นกั บวช พระสังฆราช สนั ตะปาปา ความสาคญั ช่วยใหด้ ารงชีวติ อยู่ในสงั คมด้วยความสงบสขุ และสันติ สถาบันศาสนาในสังคมไทย นบั ถอื พระพทุ ธศาสนารอ้ ยละ 95 มีเสรภี าพในการนับถอื ศาสนา มีอิทธพิ ลต่อวถิ กี ารดาเนินชวี ติ (เป็นบอ่ เกดิ วัฒนธรรม)

หน้าท่ขี องสถาบนั ศาสนา สรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ แกส่ งั คม ควบคมุ มาตรฐานความประพฤตปิ ฏบิ ตั ิของสมาชกิ ในสงั คม ชว่ ยเสริมสรา้ งความมน่ั คงทางจติ ใจ ใหส้ มาชกิ สามารถแกไ้ ขปญั หาได้ ส่งเสรมิ และถา่ ยทอดวฒั นธรรมแกส่ งั คม เนอ่ื งจากศาสนาเปน็ บอ่ เกดิ ของวัฒนธรรม เป็นเครื่องสรา้ งความผูกพันระหวา่ งคนในชาตแิ ละวฒั นธรรมของสังคม

สถาบนั เศรษฐกจิ องค์การ/กลุ่มคน สถาบันท่เี ก่ียวข้องกบั การผลิต ผูผ้ ลติ ผู้บรโิ ภค ผู้จาแนกแจกจ่าย การจาหน่ายจ่ายแจก และการบริโภค ความสาคญั จัดสรรทรพั ยากรให้เพียงต่อต่อสมาชกิ เพอื่ ความอยู่ดกี นิ ดี สถาบนั เศรษฐกิจในสงั คมไทย ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ระหว่างทนุ นิยมและสังคมนิยม

บทบาทและหนา้ ทีข่ องสถาบนั เศรษฐกิจ การผลิตสินคา้ และบริการ การกาหนดสถานภาพทางสงั คม การกระจายสนิ คา้ และบรกิ าร สถาบนั ทางเศรษฐกิจ

สถาบันการเมืองการปกครอง องค์การ/กลุ่มคน สถาบนั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการควบคมุ กลมุ่ คน คณะรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. ตุลาการ ใหม้ รี ะเบยี บ และปลอดภัย ความสาคญั ใช้อานาจควบคมุ พฤตกิ รรม เพอื่ รักษาความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยของ สงั คม สถาบนั การเมืองการปกครองไทย ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข อานาจอธปิ ไตยเป็นอานาจสูงสุด เทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

หนา้ ที่ของสถาบันการเมืองการปกครอง การปอ้ งกนั รักษาความมนั่ คงของชาติ การสร้างและรักษากฎเกณฑท์ างสังคม บาบดั ทกุ ข์ บารุงสขุ และแก้ไขขอ้ ขัดแยง้ ระหวา่ งสมาชกิ ในสังคม บริหารองค์กรของรฐั บาลกลาง และรฐั บาลท้องถน่ิ

หนา้ ทีข่ องสถาบันนนั ทนาการ ช่วยให้สมาชิกมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ดขี ึ้น ชว่ ยสง่ เสริมสรา้ งความสามัคคแี ละสมั พันธภาพท่ีดีแกส่ มาชกิ ในสงั คม ปลูกฝงั ความมีระเบียบวนิ ยั แกส่ มาชกิ ผ่านระเบียบหรอื กติกาในกิจกรรม ช่วยฝึกทกั ษะความชานาญในดา้ นตา่ งๆ

หนา้ ที่ของสถาบนั ส่ือสารมวลชน ชว่ ยถา่ ยทอดวฒั นธรรมและองคค์ วามรใู้ หแ้ กส่ ังคมเปน็ วงกว้าง ชว่ ยสอดสอ่ งดูแลและรายงานความเป็นไปของสังคมใหส้ งั คมไดเ้ รยี นรู้เป็นวงกว้าง

บรรทดั ฐานทางสงั คม พอ่ แม่ พี่ น้อง ญาติ หมายถงึ กฎระเบียบกฎเกณฑแ์ ละแบบแผนท่สี ังคม วถิ ปี ระชา กาหนดไวเ้ พอ่ื เปน็ แนวทางสาหรบั ใหบ้ คุ คลหรือ จารีต สมาชกิ ในสงั คมยดึ ถือยอมรับ และปฏิบัติในสถานการณ์ตา่ งๆ กฎหมาย

วฒั นธรรมไทย บทท่ี 2 • ความหมาย และความสาคัญของวัฒนธรรม • ประเภทของวฒั นธรรม • วฒั นธรรมแนวคิดของ UNESCO • ปจั จัยทีม่ ีอิทธิพลในการกาหนดลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย • เอกลักษณข์ องวฒั นธรรมไทย • พหุวัฒนธรรม

แนวคิด “วัฒนธรรม คือ เรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของมนุษย์ที่อยู่ รวมกันเป็นสังคม โดยวัฒนธรรมเป็นแบบแผนในการ ดาเนินชีวิต และเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธ์ุท่ี หลากหลายในแตล่ ะภูมภิ าคในการมาอาศัยอยรู่ ่วมกนั “

ความหมายของวฒั นธรรม วฒั นธรรม คอื ส่ิงท่ที าความเจริญงอกงามให้แกห่ ม่คู ณะ มกี ารสืบทอดเปน็ มรดกทางสงั คมไปสู่ชนรนุ่ หลัง

สาเหตุของการเกดิ วฒั นธรรม 1. สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ 2. การประกอบอาชีพตามปจั จัยของสภาพแวดล้อม 3. คติความเชอื่ ทางศาสนา 4. การติดตอ่ สอื่ สารกบั สังคมอน่ื

ประเภทของวฒั นธรรม 1. วฒั นธรรมทางวตั ถุ สงิ่ ทีจ่ ับต้องได้ 2. วฒั นธรรมท่ไี ม่ใชว่ ัตถุ สงิ่ ท่ีแสดงออกดา้ นความคดิ ความเช่ือ

วัฒนธรรมแนวคดิ ของ UNESCO 1. มรดกทางวฒั 1น.ธเรปร็นมสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครัว 2. เอกลักษณ์ทาง1ว.ฒั เปน็นธรสรมมาชกิ ทีด่ ขี องครอบครัว ผลงานทกุ แขนงท่แี สดงออกถงึ จติ วิญญาณ วัฒนธรรมทกุ รปู แบบทเี่ ป็นตวั แทนสง่ิ มี ของชนชาติ คุณคา่ เป็นหนึง่ เดยี วทไ่ี มม่ ีสง่ิ ใดทดแทนได้ 3. ภมู ิปญั ญาทา1งเ.ทเปค็นโนสโมลายชี ิกท่ีดีของครอบครัว 4. สิทธิมนษุ ยชน1แ. ลเปะ็นระสบมบาชกิการทปดี่ กีขคอรงอคงรอบครัว ความรู้ ค วามสามารถ วฒั นธรรมกลุ่มนี้เพ่งิ เกิดขึน้ เพ่อื ประโยชน์ ประสยการณ์และเทคนิคอันเกิดจาก และศกั ด์ศิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์ การสรา้ งสมประการณอ์ งคค์ วามรู้

ปจั จัยท่ีมอี ิทธิพลในการกาหนดลักษณะของวฒั นธรรมไทย 1. ปจั จยั ทางดา้ น1.สเงิ่ ปแน็วสดมลาอ้ ชมิกททา่ีดงภีขมูอศิงคาสรอตบร์ครวั 2. การประกอบอ1า.ชเพีปเน็ กสษมตารชกิกรทรมดี่ ขี องครอบครวั เช่น ประเพณีลอยกระทง เพราะจากสภาพ จากการที่สังคมไทยเปน็ สงั คมเกษตรกรรม ภมู ิศาสตร์การตงั้ ถ่ินฐานในทรี่ าบลุ่มแม่ 3. คตคิ วามเช่อื ท1า. งเศปา็นสสนมาาชกิ ที่ดขี องครอบครวั 4. การแพร่กระจ1า.ยเทปา็นงสวัฒมานชธิกรทรม่ดี ขี องครอบครัว หลักธรรมาและพิธีกรรม จากการติดต่อสื่อสารกับสังคมอื่นโดย ทางศาสนา สังคมท่มี ีความเจริญทางวิทยาการ

เอกลกั ษณข์ องวัฒนธรรมไทย 1. วัฒนธรรมไทยที่แสดงถึงความเปน็ ชาตไิ ทย 2. วัฒนธรรมไทยทีท่ าให้เกดิ ความเป็นระเบียบ 3. วัฒนธรรมไทยทหี่ ล่อหลอมบคุ ลิก 1.1 ภาษาไทย 1.3 การแตง่ กาย 4. วัฒนธรรมไทยทีก่ อ่ ใหเ้ กดิ ความเป็นอันหน่งึ อนั เดียวกนั 5. วัฒนธรรมไทยที่ทาให้เศรษฐกจิ ของชาติม่ันคงและพึง่ พา ตนเองได้ 1.2 อาหารไทย

พหวุ ัฒนธรรม 1. แนวคดิ พหุวฒั นธรรม 2. การสง่ เสรมิ การศกึ ษาพหุวัฒนธรรม 3. การดาเนนิ ชีวิตในสงั คมพหวุ ัฒนธรรม

สงั คมไทย ปัญหาสงั คมไทย บทท่ี 3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยม ท่ีควรปลกู ฝังในสงั คมไทย สงั คมไทย ปัญหาสังคมไทย และแนวทางแกไ้ ข คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม

สังคมไทย

ลักษณะของสังคมไทย พระพทุ ธศาสนา เทิดทนู สถาบัน โครงสรา้ งแบบหลวมๆ เป็นศาสนาหลกั พระมหากษัตรยิ ์ พน้ื ฐาน สังคมชนชั้น ยึดขนบธรรมเนยี มประเพณี เปน็ สังคมเกษตร ชนช้นั ปกครอง เป็นหลัก ชนช้ันผู้อยใู่ ต้ปกครอง

1. ปัญหาส่ิงแวดลอ้ ม 6. ปญั หาเศรษฐกิจ 2. ปญั หายาเสพตดิ 7. ปญั หาความห่างเหินในครอบครัว ปญั หาสงั คมไทย และแนวทางแก้ไข 3. ปัญหาทุจรติ คอร์รปั ชนั 4. ปัญหาอาชญากรรม 8. ปญั หาแมว่ ยั ใส ทอ้ งไมพ่ รอ้ ม 5. ปญั หาความเหน็ ต่างทางความคดิ 9. ปญั หาการใชค้ วามรนุ แรง

ปัญหาสิง่ แวดล้อม เกิดมลพษิ ทาง้น้า มลพษิ ทางอากาศ มลพษิ ทางดนิ ป่าไม้ถูก้ทาลาย สาเหตุ อุตสาหกรรม แนวทางในการแกป้ ัญหา 1. การใหก้ ารศึกษาและเผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์ 2. การใชก้ ฎหมายด้านสงิ่ แวดล้อม 3. การปฏบิ ัติตามแนวพระราช้ดาริของรชั กาลท่ี 9 การอนุรกั ษ์ การปลูกหญ้าแฝกป้องกนั การพงั ของหน้า เพิม่ ออกซิเจนดว้ ยกังหนั ชยั และฟน้ื ฟปู ่าชายเลน ดนิ พฒั นา

ปัญหายาเสพติด กอ่ ใหเ้ กิดพษิ ภัย ความอันตรายแก่คนรอบข้างและสังคม สาเหตุ ความเช่อื และทศั นคตคิ ิดวา่ เท่ ขาดท่ีพ่ึงทางใจ จงึ หลีกหนีจากความทุกขใ์ จ ผคู้ นบางกลุ่มใช้ยาเสพติดเปน็ เสน้ ทางสคู่ วาม้รา่ รวย แนวทางในการแกป้ ญั หา ตัวบุคคล ครอบครัว ระดบั ชุมชน ประเทศชาติ 1. ศกึ ษาเกย่ี วกับโทษและอนั ตรายของยา 1. สร้างความสมั พันธ์ที่ดีในครอบครัว ร่วมประสานงาน เผยแพรค่ วามรู้ ้กาจดั แหล่งอบายมุข เสพตดิ จดั กจิ กรรมเพอื่ สร้างชุมชนให้ มกี ฎหมายลงโทษทเ่ี ด็ดขาด 2. เลือกคบเพอ่ื นท่ดี ี 2. สร้างสรรค์กิจกรรมรว่ มกัน เขม้ แขง็ 3. กล้าปฏเิ สธ และตดั สินใจ

ปัญหาการทจุ รติ คอร์รัปชัน ้ทาใหป้ ระเทศชาติไมพ่ ฒั นา หรอื พฒั นาได้ช้า สาเหตุ ขา้ ราชการรับสินบน เพ่ือผลประโยชนข์ องตน หรือพรรคพวกตน แนวทางในการแก้ปญั หา 1. ใช้หลักธรรมาภิบาล หรือหลักการปกครองทเ่ี ปน็ ธรรม หลักนิติธรรม หลักคณุ ธรรม หลกั การมีสว่ นร่วม หลกั ความรับผดิ ชอบ หลักความโปรง่ ใส หลักความคุ้มค่า

ปัญหาอาชญากรรม ส่งผลกระทบตอ่ ความปลอดภัยในชวี ิตแลละทรัพย์สินของประชาชน สาเหตุ ขาดสติ ความยากจน ความโลภ บางคร้งั เกย่ี วพันกบั ปญั หายาเสพติด แนวทางในการแก้ปญั หา 1. รฐั ต้องกระจายรายไดอ้ ย่างเป็นธรรม 2. มกี ฎหมายลงโทษอาชญากรรมทุกรูปแบบ 3. ประชาชนชว่ ยกันสอดส่องดแู ล 4. ระมัดระวงั ตัวเอง เชน่ การแต่งกาย การไปสถานท่อี โคจร

ปญั หาความเหน็ ตา่ งทางความคดิ และอดุ มการณใ์ นสงั คมประชาธิปไตย หากใช้้คาพูดในการสอื่ สารผดิ พลาด จะก่อให้เกดิ ความขัดแย้ง สาเหตุ ความแตกต่างระหว่างบคุ คล แนวทางในการแกป้ ัญหา 1. ยอมรบั ความแตกต่างทางความคดิ 2. รับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อื่น 3. สอนหลกั ประชาธปิ ไตยขั้นพื้นฐานให้เยาวชน

ปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมลา้ ทางรายได้ ทาให้ประชาชนขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชวี ิต สาเหตุ การกระจายรายได้ไม่ทวั่ ถึง แนวทางในการแกป้ ัญหา 1. ส่งเสริมการกระจายรายไดอ้ ยา่ งเปน็ ธรรม 2. ส่งเสริมวินยั การออม ตง้ั แตค่ รอบครัว 3. ละเลกิ อบายมุขทกุ รปู แบบ 4. ทาบญั ชคี รัวเรือน ปอ้ งกนั หนี้ครวั เรือน

ปัญหาความหา่ งเหินในครอบครวั และปัญหาสังคมกม้ หนา้ เกิดความหา่ งเหินทางความสัมพันธ์ ขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างบคุ คล สาเหตุ แนวทางในการแกป้ ญั หา อิทธิพลการใชโ้ ทรศัพทม์ ือถือ 1. สมาชิกในบา้ นต้องมขี ้อตกลงในการใช้ อนิ เทอรเ์ นต และคอมพิวเตอร์ 2. สมาชิกในบ้านทากจิ กรรมร่วมกนั อย่างนอ้ ยสัปดาหล์ ะ 1 คร้งั ปญั หาแมว่ ัยใส ทอ้ งไมพ่ ร้อม การทาแท้งเถ่อื น ทาใหเ้ สี่ยงต่อการเสียชีวิต เด็กทเี่ กิดมาขาดคุณภาพชีวิตท่ดี ี สาเหตุ ขาดความรบั ผดิ ชอบ และขาดความร้ใู นการป้องกัน แนวทางในการแกป้ ัญหา 1. ใหค้ วามร้เู กย่ี วกับการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หา

คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คุณธรรม = สภาพคุณงามความดี เป็นความรสู้ กึ นึกคิด จริยธรรม = ธรรมทเ่ี ปน็ ข้อประพฤติ ปฏิบตั ิ ควบคมุ ไมใ่ หค้ นในสังคมประพฤติผดิ ธรรมนอง คลองธรรม

1 หลกั นติ ธิ รรม หลักธรรมาภบิ าล 2 หลกั คุณธรรม 3 หลักความโปรง่ ใส การบรหิ ารกิจการบ้านเมอื งท่ดี ี 4 หลกั การมสี ่วนร่วม 5 หลกั ความรับผดิ ชอบ 6 หลักความคุ้มคา่

คา่ นิยม ค่านิยมในชนบท ค่านยิ มในเมอื ง ความเชอ่ื ในธรรมชาติ การดาเนินชวี ติ เปน็ ไปภายใตข้ องเวลา ความเชื่อในบุญ กรรม ความเชอ่ื ในเรือ่ งเหตผุ ล ความรักในครอบครวั ญาติพี่นอ้ ง วัตถุนิยมและความทันสมยั

ค่านิยมที่ควรยึดถือในสังคมไทย การพ่ึงตนเอง ขยันหมน่ั เพียรและมคี วามรบั ผดิ ชอบ การประหยัดและอดออม การมรี ะเบยี บวินยั และการเคารพกฎหมาย การปฏบิ ตั ติ ามคณุ ธรรมของศาสนา ความรกั ชาติ ศาสนา กษัตรยิ ์

การปลูกฝงั คา่ นยิ มที่ดีในสังคมไทยปจั จุบนั ค่านยิ มที่ดี คือการกระทาใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดแก่คนส่วนใหญ่ ส่งผลใหส้ ังคมเจรญิ กา้ วหนา้ เช่น ความมรี ะเบยี บ วนิ ัย ตรง ตอ่ เวลา ขยันหมันเพียร อดทน

บทที่ 4 การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รง เป็นประมุข

สาระการเรียนรู้ 1. การปกครองระบอบประชาธิปไตย - รูปแบบการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย 2. รูปแบบของรัฐ 3. การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รง เป็นประมุข 4. ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษัตริย์ - ฐานะและพระราชอานาจตามทีร่ ฐั ธรรมนูญบัญญัติ

การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย หลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย มที ้งั หมด 7 หลัก ได้แก่ 1 หลกั อานาจอธปิ ไตยเป็นของปวงชน 2 หลักเหตุผล

3 หลกั ความเสมอภาค 4 หลกั นิติรฐั 5 ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพขนั้ พืน้ ฐาน 6 หลกั ภราดรภาพ 7 หลกั เสียงข้างมาก

รปู แบบของรัฐ เอกรัฐหรอื รัฐเดี่ยว รปู แบบของรัฐแบง่ ได้เปน็ 2 รูปแบบ คอื คือ รัฐหรือประเทศทม่ี ีรัฐบาล เพียงรัฐบาลเดยี วใช้อานาจ ปกครองประเทศทงั้ หมด สหพนั ธรฐั หรือรัฐรวม คอื รฐั หรอื ประเทศทปี่ ระกอบดว้ ยมลรัฐ ตั้งแต่ 2 มลรัฐขนึ้ ไป แบง่ อานาจ ปกครองรัฐออกเปน็ 2 สว่ น คอื อานาจ การปกครองของรฐั และรฐั บาลท้องถ่นิ

การปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปัจจุบนั ประเทศไทยมีการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็น ประมุขมีรัฐธรรมนญู เปน็ กฎหมายสงู สุดในการ ปกครอง รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยทุก ฉบับมบี ทบัญญัติซึง่ เป็นหลกั การสาคญั ของการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ไวเ้ หมอื นกนั คอื ...

1 รปู แบบของรฐั ประเทศไทยเปน็ ราชอาณาจกั ร อันหน่ึงอนั เดยี วจะแบง่ แยกมิได้ 2 อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย 2.1 การใชอ้ านาจนิตบิ ัญญตั ทิ างรฐั สภา 2.2 การใชอ้ านาจบรหิ ารทางคณะรัฐมนตรี 2.3 การใชอ้ านาจตุลาการทางศาล

การใชอ้ านาจตุลาการทางศาล ศาลยุตธิ รรม ศาลทหาร รฐั ธรรมนูญกาหนดศาลไว้ 4 ประเภท ได้แก่ ศาลรฐั ธรรมนญู ศาลปกครอง

ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษัตรยิ ์ 1. พระมหากษตั ริย์ทรงดารงอยูใ่ นฐานะอันเป็นทีเ่ คารพสกั การะ ผู้ใดจะละเมิดมไิ ด้ 2. พระมหากษัตริยท์ รงเปน็ พุทธมามกะและอัครศาสนปู ถัมภก 3. พระมหากษัตริย์ทรงดารงตาแหนง่ จอมทพั ไทย