Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการใช้ชุดสื่อ การเรียนรู้แบบไม่ใช้คอมพิวเตอร์

คู่มือการใช้ชุดสื่อ การเรียนรู้แบบไม่ใช้คอมพิวเตอร์

Published by กิตติพันธ์ ไชยสาร, 2021-06-16 08:51:54

Description: คู่มือการใช้ชุดสื่อ การเรียนรู้แบบไม่ใช้คอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

คู่มือ การใช้ชุดสื อ การเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) ผจู้ ดั ทาํ โดย นายกติ ตพิ ันธ์ ไชยสาร นิ สิตปรญิ ญาโท ภาคพิเศษ สาขาปฐมวัยศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์

คู่มอื การใช้ชุดสือ การเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) ผจู้ ดั ทาํ โดย นายกติ ตพิ ันธ์ ไชยสาร นิ สิตปรญิ ญาโท ภาคพิเศษ สาขาปฐมวัยศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารยท์ ปี รกึ ษา รองศาสตราจารย์ ดร.อรพรรณ บตุ รกตญั ู อาจารยส์ าขาวชิ าปฐมวยั ศึกษา ภาควิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์

คํานํ า ทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณเปนทกั ษะทมี คี วามสําคัญเปนอยา่ งมากใน ศตวรรษที 21 และการฝกทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณในระดบั อนบุ าลนั น จําเปนตอ้ งปรบั ความลมุ่ ลกึ ของเนื อหาให้สอดคลอ้ งกบั พัฒนาการตามชว่ ง อายขุ องเดก็ และใชส้ ือการเรยี นรูใ้ ห้เหมาะสม ซงึ ในหลายประเทศได้ มกี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ สี ่งเสรมิ ทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณโดยใชส้ ือ หลากหลายประเภท แตส่ ือการเรยี นรูท้ มี คี วามเหมาะสมตอ่ พัฒนาการ การเรยี นรูข้ องเดก็ ปฐมวยั มากทสี ดุ คือ สือการเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ (Unplugged Coding) เนื องจากเปนสือการเรยี นรูท้ เี ปดโอกาสให้เดก็ ไดฝ้ ก ลงมอื กระทาํ ดว้ ยตนเอง โดยทไี มใ่ ชค้ อมพิวเตอรใ์ นการทาํ กจิ กรรม คู่มอื การใชช้ ดุ สือการเรยี นรูแ้ บบแบบไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) ฉบบั นี ถอื เปนตวั ชว่ ยสําหรบั ครู ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ สี นใจในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ เพือพัฒนาทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณสําหรบั เดก็ ปฐมวยั ภายในเลม่ คู่มอื จะระบกุ จิ กรรม สือทใี ช้ และวธิ ี การจดั กจิ กรรม รวมทงั วธิ กี ารประเมนิ เดก็ เพือชว่ ยให้สามารถนํ าไปปรบั ใช้ กบั การจดั กจิ กรรมในชนั เรยี นไดง้ า่ ยขนึ ผจู้ ดั ทาํ หวงั เปนอยา่ งยงิ วา่ ครู บคุ ลากรทางการศึกษา ผทู้ มี สี ่วน เกยี วขอ้ งกบั การจดั การศึกษาสําหรบั เดก็ ปฐมวยั ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ สี นใจ สามารถนํ าชดุ สือการเรยี นรูไ้ ปตอ่ ยอดในการจดั การเรยี นรู้ และออกแบบสือ การเรยี นรูเ้ พือพัฒนาทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณสําหรบั เดก็ ปฐมวยั ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพตอ่ ไป ผจู้ ดั ทาํ นายกติ ตพิ ันธ์ ไชยสาร นิ สิตปรญิ ญาโท ภาคพิเศษ สาขาปฐมวยั ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์

สารบญั ทมี าและความสําคัญ หน้ า 1 สาระเกยี วกบั การคิดเชิงคํานวณ 5 สาระเกยี วกบั Unplugged Coding 8 การใช้ชุดสือการเรยี นรูแ้ บบไรส้ าย กจิ กรรมที 1 10 รูไ้ หมนะ...นาโนกบั เนเน่ ชอบกนิ อะไร 18 27 กจิ กรรมที 2 35 ไปตลาดกนั เถอะ กจิ กรรมที 3 ของทตี อ้ งซอื ให้คุณแม่ กจิ กรรมที 4 ขา้ วผดั แฟนซขี องนาโนกบั เนเน่ บรรณานกุ รม 44

และคทวีมามา สํ าคัญ ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ (Computational Thinking) เปนทกั ษะทไี ดร้ บั ความนิ ยมในหลายประเทศทวั โลก ดว้ ยเหตนุ ี ทางกระทรวงศึกษาธกิ ารและสถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) จงึ ไดต้ ระหนั กถงึ ความสําคัญ ของการพัฒนาทกั ษะของเดก็ ให้มคี วามรูใ้ นเรอื งของการคิดเชงิ คํานวณ จงึ ไดม้ ี การนํ าทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณมาบรรจไุ วเ้ ปนส่วนหนึ งในเนื อหาของกรอบการ เรยี นรูแ้ ละแนวทางการจดั ประสบการณ์การเรยี นรูบ้ รู ณาการ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ ในระดบั ปฐมวยั ตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศักราช 2560 (สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย,ี 2563) เพือปลกู ฝงให้เดก็ ในระดบั ปฐมวยั มที กั ษะการคิดแกป้ ญหาอยา่ งเปนขนั ตอน และ สามารถนํ าไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชเ้ พือแกป้ ญหาในชวี ติ จรงิ ไดต้ อ่ ไป จากแนวคิดดงั กลา่ ว หากจะนํ าทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณ มาใชก้ บั เดก็ ในวยั อนบุ าล เพือฝกทกั ษะกระบวนการคิดเชงิ คํานวณนั น จําเปนตอ้ งปรบั ความลมุ่ ลกึ ของเนื อหาให้สอดคลอ้ งกบั พัฒนาการตามชว่ งอายขุ องเดก็ ดว้ ย ซงึ ในหลายประเทศ ไดม้ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ สี ่งเสรมิ ทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณโดยใชส้ ือแบบ หลากหลายประเภท แตส่ ือการเรยี นรูท้ มี คี วามเหมาะสมตอ่ พัฒนาการการเรยี นรูข้ อง เดก็ ในวยั อนบุ าลมากทสี ดุ คือ สือการเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ (Unplugged Coding) เนื องจากเปนสือการเรยี นรูท้ เี ปดโอกาสให้เดก็ ไดฝ้ กลงมอื กระทาํ ดว้ ย ตนเอง โดยทไี มใ่ ชค้ อมพิวเตอรใ์ นการทาํ กจิ กรรม แตจ่ ะเลน่ ผา่ นแผน่ กระดาษหรอื สืออนื ๆ แทน (Bell, Witten and Fellows, 2015) ซงึ จะทาํ ให้เดก็ นั นเกดิ ความ สนกุ สนาน และมคี วามสขุ ในการเรยี นรู้ ผศู้ ึกษาหวงั เปนอยา่ งยงิ วา่ คู่มอื การใชช้ ดุ สือการเรยี นรูเ้ ลม่ นี จะชว่ ยให้ ครู บคุ ลากรทางการศึกษา ผทู้ มี สี ่วนเกยี วขอ้ งกบั การจดั การศึกษาสําหรบั เดก็ ปฐมวยั ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ สี นใจ สามารถนํ าชดุ สือการเรยี นรูไ้ ปตอ่ ยอดในการ จดั การเรยี นรู้ และออกแบบสือการเรยี นรูเ้ พือพัฒนาทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณสําหรบั เดก็ ปฐมวยั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพตอ่ ไป 1

จดุ ประสงค์ 1. เพือเปนแนวทางสําหรบั ครู ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ สี นใจในการนํ าชดุ สือการ เรยี นรูแ้ บบไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) ไปใช้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ สี ่งเสรมิ ทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณในเดก็ ปฐมวยั กลมุ่ เปาหมาย 1. ครูผสู้ อนในระดบั ชนั อนบุ าลศึกษา ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ สี นใจ 2. เดก็ ปฐมวยั อายุ 5-6 ป ชุดสือการเรยี นรู้ ชดุ สือการเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) ซงึ ประกอบไปดว้ ย 3 ส่วน คือ 1 นิทานเรอื ง 2 คู่มอื การใช้ชุดสือ \"ข้าวผดั แฟนซีของ การเรยี นรูแ้ บบไม่ นาโนกบั เนเน่\" ใช้คอมพิวเตอร์ 3 ชุดสือการเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ช้คอมพิวเตอรจ์ าํ นวน 4 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ กจิ กรรมที 1 กจิ กรรมที 2 \"รูไ้ หมนะ... \"ไปตลาดกนั เถอะ\" นาโนกบั เนเน่ชอบกนิ อะไร กจิ กรรมที 3 กจิ กรรมที 4 \"ของทตี อ้ งซือให้คุณแม\"่ \"ข้าวผดั แฟนซี ของนาโนกบั เนเน่\" 2

องค์ประกอบของชุดสือการเรยี นรู้ ในแตล่ ะกจิ กรรมของสือการเรยี นรู้ จะมอี งค์ประกอบ ดงั นี - จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - อปุ กรณ์ในการทาํ กจิ กรรม - ขันตอนการจดั กจิ กรรม - วธิ กี ารประเมนิ ผล - ระดบั การประเมนิ ผล - วเิ คราะห์ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ รูปแบบการจดั กจิ กรรม ในการนํ าชุดสือการเรยี นรูแ้ บบไม่ใชค้ อมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) มาใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรูน้ ั น สามารถนํ าไปจัด กิจกรรมกับเด็กทงั แบบเดียวและแบบกล่มุ โดยมีขันตอนการทาํ กจิ กรรม ดังนี 1. เรมิ ต้นกิจกรรมโดยการเล่านิ ทานเรอื ง \"ข้าวผดั เเฟนซขี องนาโนกบั เนเน่ \" ทกุ ครงั ทที ํากิจกรรม 2. ควรเรมิ ตน้ เรยี งลําดบั การทาํ กจิ กรรม ดงั นี กจิ กรรมที 1 กจิ กรรมที 2 กจิ กรรมที 3 กจิ กรรมที 4 *หมายเหตุ : ในการจัดกิจกรรมที 1-3 ครูสามารถสลับกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม 3

ผลทคี าดวา่ จะไดร้ บั 1. ครู ผปู้ กครอง หรอื ผทู้ สี นใจสามารถนํ าชดุ สือการเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ช้ คอมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package) ไปใชเ้ ปนแนวทางใน การจดั กจิ กรรมการเรยี นรูท้ สี ่งเสรมิ ทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณในเดก็ ปฐมวยั ทงั ทโี รงเรยี นและทบี า้ นตอ่ ไป 4

สาระเกยี วกบั การคิดเชิงคํานวณ ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ (Computational Thinking) ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ คือ กระบวนการในการแก้ ปญหา ทเี กดิ จากการคิดวเิ คราะห์อย่างมเี หตุผลและเปนลําดบั ขันตอน เพือใช้ หาวธิ กี ารแกป้ ญหาในรูปแบบทสี ามารถนํ าไปปฏบิ ัตหิ รอื ใชง้ านไดจ้ รงิ อย่างมี ประสิทธภิ าพ อกี ทงั ยงั สามารถนํ ารูปแบบหรอื วิธกี ารทไี ดจ้ ากการคิดนั น ไปใช้ สําหรบั การแกป้ ญหารว่ มกบั ศาสตรอ์ นื ๆ รวมถึงนํ าไปใชใ้ นการแกป้ ญหาใน ชวี ติ ประจําวนั ของเดก็ ปฐมวยั ได้อกี ดว้ ย โดยสถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2563) ได้ กลา่ วถึงองค์ประกอบทสี ําคัญของทกั ษะการคิดเชงิ คํานวณวา่ ประกอบไป ดว้ ย 4 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ 5

Pa 1. การแบง่ ปญหาใหญ่ออกเปนปญหายอ่ ยon (Decomposition) Decomposition เปนการพิจารณาเพือแยกปญหา แยกงาน แจกแจงงาน หรอื แยกส่วนประกอบต่าง ๆ ออกเปนส่วนย่อย ๆ เพือให้งา่ ยตอ่ การจดั การกบั ปญหา หรอื เพือให้งา่ ยต่อการทําความเข้าใจในปญหาของเด็กปฐมวยั ทจี ะ เกิดขึน ตวั อยา่ งเช่น เราจะเดนิ ทางไปตลาดจะวางแผนเดนิ ทางอยา่ งไร? ซงึ เราอาจ แยกยอ่ ยวธิ กี ารเดนิ ทางเปน 3 รูปแบบ คือ 1. เดนิ ทางโดยการเดนิ ไปดว้ ยตนเอง 2. เดนิ ทางโดยใชร้ ถส่วนตวั 3. เดนิ ทางโดยใชร้ ถบรกิ ารขนส่งสาธารณะ จากนั นนํ าขอ้ มลู ทแี ยกยอ่ ยออกมา วเิ คราะห์ถงึ ขอ้ ดขี อ้ เสียแตล่ ะวธิ กี าร แลว้ เลอื กวธิ เี ดนิ ทางทเี หมาะสมทสี ดุ 2. การหารูปแบบของปญหา (Pattern Recognition) ttern Recognitiเปนการพิจารณาหารูปแบบ ลกั ษณะทวั ไป หรอื แนวโน้ มของปญหา โดยจะพิจารณาวา่ ปญหาในลกั ษณะนี เคยเกิดขนึ มากอ่ นหรอื ไม่ ถ้าหากมรี ูป แบบของปญหาทคี ลา้ ยกนั กบั ทเี คยเกดิ ขึน เราก็สามารถนํ าวิธกี ารหรอื รูป แบบการแกป้ ญหานั นมาปรบั ใชง้ าน เพือแก้ไขปญหารว่ มกนั ได้ ทาํ ให้เด็ก ปฐมวยั สามารถจดั การกบั ปญหาทพี บได้งา่ ยเเละเรว็ ขึน ตวั อยา่ งเช่น ทบี า้ นของเราอุปกรณ์ตา่ ง ๆ วางกระจายเต็มบ้านไปหมด บางอุปกรณ์มหี น้ าทกี ารทํางานทคี ลา้ ยคลึงกนั หากเราจัดอุปกรณ์ทมี ีหน้ าที หรอื มีลกั ษณะคล้ายกนั ให้อยใู่ นกล่มุ เดยี วกนั กจ็ ะทําให้เรางา่ ยตอ่ การหยบิ ใชม้ ากขนึ 6

3. การพิจารณาสาระสําคัญของปญหา (Abstraction) Abstraction เปนการอธบิ ายสิงทเี ปนนามธรรมให้เปนรูปธรรม ทาํ ให้เห็นภาพได้ ชดั เจน เปนกระบวนการคัดแยกสิงทสี ําคัญออกจากรายละเอยี ดปลีกยอ่ ยใน ปญหา เพือให้ไดข้ อ้ มลู ทจี ําเปนและเพียงพอในการแกป้ ญหา ตวั อยา่ งเช่น หากเราจะทาํ แผนทเี ส้นทางจากบา้ นไปตลาด ถา้ เขยี นแผนที อยา่ งเตม็ รูปแบบ จะยงุ่ ยาก เนื องจากมหี ลายเส้นทางและผา่ นสถานทตี า่ ง ๆ มากมาย แตเ่ ราสามารถแกป้ ญหาโดยการตดั รายละเอยี ดส่วนทไี มส่ ําคัญทงิ ไป ระบุ ไวเ้ พียงสถานทแี ละเส้นทางทสี ําคัญทเี ราจะใชเ้ ดนิ ทาง เพือมาวาดใส่ลงในแผนทกี ็ เพียงพอ 4. การออกแบบขันตอนวธิ ี (Algorithm) Algorithms คือ ลําดับขนั ตอนในการแกป้ ญหาหรอื การทาํ งานทชี ดั เจน เขา้ ใจงา่ ย และสามารถปฎบิ ตั ไิ ด้จรงิ อยา่ งเปนลําดับขันตอน เพือให้งา่ ยตอ่ การวางแผนและปฏบิ ตั ติ ามของเด็กปฐมวยั ตวั อยา่ งเช่น จะทาํ อาหาร ตอ้ งวางแผนวา่ จะตอ้ งใชอ้ ุปกรณ์และวตั ถดุ บิ อะไรบา้ ง มลี ําดบั ขนั ตอนในการทาํ อยา่ งไร เปนตน้ 7

สาระเกยี วกบั Unplugged Coding กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบ Unplug มกี ารพดู ถงึ กนั มากในปจจบุ นั กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบ Unplug เปนแนวคิดการจดั การเรยี นการสอนคอมพิวเตอรเ์ พือสรา้ งความเขา้ ใจหลกั การพืน ฐานของคอมพิวเตอรแ์ ละตรรกศาสตร์ ผา่ นกจิ กรรมการเลน่ โดยไมใ่ ช้ คอมพิวเตอร์ เชน่ กระดานเกม การลําดบั ขนั ตอน การเรยี นโค้ดดงิ ผา่ นกระดาษ เพือเปนสือในการเรยี นรูห้ ลกั การของคอมพิวเตอร์ โดยกระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นเรยี นรูอ้ ยา่ งสนกุ สนาน และสามารถฝกทกั ษะการแก้ ปญหา การใชค้ วามสรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งเปนระบบ และทกั ษะการสือสาร ซงึ เปนพืนฐานทเี กยี วขอ้ งกบั คอมพิวเตอร์ เชน่ การเขยี นคําสัง การลําดบั การทาํ งาน เปนตน้ สือการเรยี นรู้ Unplugged Coding จะชว่ ยฝกให้เดก็ คิดแกป้ ญหาและคิด อยา่ งเปนระบบ ดว้ ยการเลน่ เกมหรอื กจิ กรรมทเี กดิ ขนึ ในชวี ติ ประจําวนั เปนพืน ฐานตอ่ ยอดการศึกษาตอ่ ในศาสตรอ์ นื ๆ เนื องจากจะชว่ ยทาํ ให้ผเู้ รยี นเกดิ การ จดั ระบบทางความคิดทดี ี สามารถเรยี งลําดบั ความสําคัญ และเขา้ ใจเกยี วกบั การ จดั เรยี งอลั กอรธิ มึ ขณะทาํ กจิ กรรมผา่ นสือการเรยี นรูน้ ั นเอง 8

การใช้ชุดสื อ การเรยี นรูแ้ บบไมใ่ ช้คอมพิวเตอร์ (Unplugged Coding Learning Package)

กิจกรทรี ม1 10

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เดก็ สามารถบอกสิงทนี าโนกบั เนเน่ ชอบกนิ และสิงทไี มช่ อบกนิ ได้ 2. เดก็ สามารถจดั กลมุ่ สิงทเี นเน่ กบั นาโนชอบกนิ และสิงทไี มช่ อบกนิ ได้ มตี วั แมเ่ หลก็ ผกั และเนื อสัตวว์ างอยเู่ ตม็ ไป หมดเลย เพือน ๆ ชว่ ยนํ าตวั แมเ่ หลก็ ไปตดิ ลง บนกระดานแมเ่ หลก็ หน่ อยสิครบั เอ.. แลว้ รู้ หรอื เปลา่ นะวา่ นาโนกบั เนเน่ชอบกนิ อะไร และไมช่ อบกนิ อะไร? อปุ กรณ์ในการทาํ กจิ กรรม บตั รภาพแมเ่ หลก็ แผน่ กระดานกจิ กรรม บตั รคําสัง 11

ขันตอนการจดั กจิ กรรม 1 ให้เดก็ นั งเปนครงึ วงกลม จากนั นครูเลา่ นิ ทานเรอื ง \"ข้าวผดั แฟนซีของนาโนกบั เนเน่\" ให้เดก็ ๆ ฟง และรว่ มสนทนา เกยี วกบั ความชอบของนาโนกบั เนเน่ 2 แบง่ เดก็ ออกเปนกลมุ่ แลว้ แจกแผน่ กระดานกจิ กรรม และบตั รภาพแมเ่ หลก็ ให้กบั เดก็ แตล่ ะกลมุ่ 12

3 ถามคําถามกอ่ นทาํ กจิ กรรม เพือทบทวนความรูเ้ ดมิ ของเดก็ ในบตั รภาพแมเ่ หลก็ มผี กั เยอะแยะเลย เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมนะวา่ ผกั แตล่ ะชนิ ดมชี อื วา่ อะไรบา้ ง แลว้ ผกั แตล่ ะชนิ ดนั นมลี กั ษณะเปนอยา่ งไรนะ ในบตั รภาพแมเ่ หลก็ มเี นื อสัตวเ์ ยอะแยะเลย เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมนะ วา่ เนื อสัตวแ์ ตล่ ะชนิ ดมชี อื วา่ อะไรบา้ ง แลว้ เนื อสัตวแ์ ตล่ ะชนิ ดนั นมลี กั ษณะเปนอยา่ งไรนะ 4 จากนั นอธบิ ายกตกิ าในการทาํ กจิ กรรมให้เดก็ ฟง โดยครูจะอา่ น เนื อหาจากบตั รคําสัง แลว้ ให้เดก็ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั นํ าบตั รภาพแมเ่ หลก็ มาตดิ ลงบนแผน่ กระดานกจิ กรรมตามเนื อหาทคี รูอา่ นให้ฟง ให้นําบัตรภาพแม่เหล็กมาตดิ ลงบน แผ่นกระดานกิจกรรมตามทีครู กําหนด 13

5 เรมิ ทาํ กจิ กรรม โดยครูอา่ นเนื อหา จากบตั รคําสังให้เดก็ ฟง บตั รคําสัง 6 เมอื เดก็ วางบตั รภาพแมเ่ หลก็ เสรจ็ แลว้ ครูและเดก็ ทบทวนคํา ตอบรว่ มกนั เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ เนเน่ ชอบกนิ อะไร และไมช่ อบกนิ อะไรบา้ ง เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ นาโนชอบกนิ อะไร และไมช่ อบกนิ อะไรบา้ ง 14

7 เมอื เดก็ ทาํ กจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคําตอบ ทเี ดก็ ทาํ อกี ครงั หนึ ง โดยนั บคะแนนหากเดก็ นํ าแมบ่ ตั รภาพเหลก็ มาตดิ ลงในกระดานกจิ กรรมถกู ตอ้ ง 1 ชนิ เดก็ จะได้ 1 คะแนน เฉลยคําตอบ 15

วธิ กี ารประเมนิ ผล 1. สังเกตและบนั ทกึ คําตอบของเดก็ ขณะทกี ําลงั บอกสิงทนี าโนกบั เนเน่ ชอบ กนิ และสิงทไี มช่ อบกนิ 2. ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคําตอบทเี ดก็ จดั กลมุ่ สิงทเี นเน่ กบั นาโนชอบ กนิ และสิงทไี มช่ อบกนิ ระดบั การประเมนิ ผล รายการ ระดบั ดมี าก เดก็ สามารถนํ าบตั รภาพแมเ่ หลก็ มาตดิ ลงบน กระดานกจิ กรรมไดถ้ กู ตอ้ ง จํานวน 11-14 ชนิ ดี เดก็ สามารถนํ าบตั รแมเ่ หลก็ มาตดิ ลงบน พอใช้ กระดานกจิ กรรมไดถ้ กู ตอ้ ง จํานวน 6-10 ชนิ เดก็ สามารถนํ าบตั รแมเ่ หลก็ มาตดิ ลงบน กระดานกจิ กรรมไดถ้ กู ตอ้ ง จํานวน 1-5 ชนิ ปรบั ปรุง เดก็ ไมส่ ามารถนํ าบตั รแมเ่ หลก็ มาตดิ ลงบน กระดานกจิ กรรมไดถ้ กู ตอ้ งตามทโี จทย์ กําหนด 16

วเิ คราะห์ทกั ษะ การคิดเชิงคํานวณ ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณทไี ดจ้ ากการทาํ กจิ กรรม Decomposition เดก็ ไดฝ้ กคิดแบบแยกส่วนประกอบและการยอ่ ย ปญหา จากการฟงคําสังทคี รูอา่ นให้ฟง และบอกได้ วา่ เนเน่ กบั นาโนชอบกนิ อะไร และไมช่ อบกนิ อะไร Pa on เดก็ ไดฝ้ กการหารูปแบบของปญหา จากการจดั ttern Recogniti กลมุ่ บตั รภาพแมเ่ หลก็ ผกั และเนื อสัตวไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง Abstraction ตามเนื อหาในบตั รคําสังทคี รูอา่ นให้ฟง Algorithms เดก็ ไดฝ้ กการจารณาสาระสาคัญของปญหา โดย การเลอื กหยบิ บตั รภาพแมเ่ หลก็ ทเี นเน่ กบั นาโน ชอบกนิ และไมช่ อบกนิ ไดจ้ ากเนื อหาในบตั รคําสัง ทคี รูอา่ นให้ฟง เดก็ ไดฝ้ กการออกแบบขนั ตอนวธิ ี โดยสามารถ จดั กลมุ่ สิงทเี นเน่ กบั นาโนชอบกนิ และสิงทไี ม่ ชอบกนิ ได้ ตามลําดบั ของรายการ คําสังทคี รูอา่ นให้ฟง 17

กิจกรทรี 2ม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เดก็ สามารถบอกตําแหน่ ง และชอื ของสถานทตี า่ ง ๆ ทอี ยบู่ นเส้นทาง จากบา้ นไปยงั ตลาดได้ 2. เดก็ สามารถออกแบบเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาด โดยการใชบ้ ตั รภาพ สัญลกั ษณ์ลกู ศรลงในชอ่ งตารางออกแบบเส้นทางได้ เรามาชว่ ยกนั ออกแบบเส้นทาง พาคุณพ่อ เนเน่ และนาโนไปซอื ของทตี ลาด กนั เถอะ... อปุ กรณ์ในการทาํ กจิ กรรม บตั รภาพลกู ศร บตั รคําสัง แผน่ ไวนิลตารางเส้นทาง ตารางออกแบบเส้ นทาง 19

ขันตอนการจดั กจิ กรรม 1 ให้เดก็ นั งเปนครงึ วงกลม จากนั นครูเลา่ นิ ทานเรอื ง \"ข้าวผดั แฟนซีของนาโนกบั เนเน่\" ให้เดก็ ๆ ฟง และรว่ มสนทนา เกยี วกบั เส้นทางทใี ชเ้ ดนิ ทางจากบา้ นไปยงั ตลาด 2 แบง่ เดก็ ออกเปนกลมุ่ แลว้ แจกอุปกรณ์ในการทาํ กจิ กรรม คือ แผน่ ตารางออกแบบเส้นทาง และบตั รภาพลกู ศร ให้กบั เดก็ แตล่ ะกลมุ่ 20

ขันตอนการจดั กจิ กรรม 3 ถามคําถามกอ่ นทาํ กจิ กรรม เพือทบทวนความรูเ้ ดมิ ของเดก็ เดก็ ๆ ลองสังเกตตารางออกแบบเส้นทางดซู ิ ในแผน่ ตารางนี มี สถานทอี ะไรบา้ ง แลว้ สถานทแี ตล่ ะแห่งมคี วามสําคัญอยา่ งไรนะ 4 จากนั นอธบิ ายกตกิ าในการทาํ กจิ กรรมให้เดก็ ฟง โดยครูจะอา่ น เนื อหาจากบตั รคําสัง แลว้ ให้เดก็ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ออกแบบเส้นทาง จากบา้ นไปยงั ตลาด โดยให้ผา่ นสถานทตี า่ ง ๆ ตามครูกําหนด 5 อา่ นเนื อหาจากบตั รคําสังให้เดก็ ฟง บตั รคําสัง 21

6 ให้เดก็ ชว่ ยกนั ออกแบบเส้นทางพาคุณพ่อ เนเน่ และนาโน ไปซอื ของที ตลาด โดยให้เดก็ นํ าบตั รภาพลกู ศรไปวางลงในชอ่ ง เพือกําหนดเปนเส้นทาง โดยตอ้ งผา่ นสถานทตี า่ ง ๆ ตามทคี รูอา่ นให้ฟง ให้นําบตั รภาพลกู ศรไปวาง ลงบนช่องตารางออกแบบเส้ นทาง 7 เมอื เดก็ วางบตั รภาพลกู ศรเสรจ็ แลว้ ครูและเดก็ ทบทวนคําตอบ รว่ มกนั เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ เส้นทางจากบา้ นไปถงึ ตลาด คุณพ่อตอ้ ง ขบั รถผา่ นสถานทอี ะไรบา้ ง เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ ตลาดตงั อยรู่ ะหวา่ งสถานทอี ะไรกบั อะไร 22

8 จากนั นครูกางแผน่ ไวนิ ลไวท้ กี ลางห้อง แลว้ ให้เดก็ ส่งตวั แทนออกมา กลมุ่ ละ 1 คน แลว้ เดนิ ลงในชอ่ งตารางของแผน่ ไวนิ ลตามทศิ ทางของ ลกู ศรทแี ตล่ ะกลมุ่ ไดก้ ําหนดไว้ ตวั แทนกลมุ่ เดนิ ลง บนช่องตารางของ แผน่ ไวนิลตามเส้น ทางทไี ดอ้ อกแบบไว้ ควตามรถวจูกสตออ้ บง เส้นทางทไี ดอ้ อกแบบไว้ 23

เฉลยคําตอบ 24

วธิ กี ารประเมนิ ผล 1. บนั ทกึ คําตอบของเดก็ ขณะทเี ดก็ บอกตําแหน่ ง และชอื ของสถานทตี า่ งๆ ทอี ยบู่ นเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาด 2. ตรวจสอบคําตอบในการวางแผนออกแบบเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาด ของเดก็ วา่ ถกู ตอ้ งตรงตามทคี รูกําหนดไวห้ รอื ไม่ ระดบั การประเมนิ ผล รายการ ระดบั ดมี าก เดก็ สามารถออกแบบเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาดไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ตามเนื อหาทคี รูอา่ น ให้ฟงไดท้ งั หมด ดี เดก็ สามารถออกแบบเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาดได้ แตว่ างบตั รภาพลกู ศรผดิ 1-2 ชอ่ ง พอใช้ เดก็ สามารถออกแบบเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาดได้ แตว่ างบตั รภาพลกู ศรผดิ 3-4 ชอ่ ง ปรบั ปรุง เดก็ ไมส่ ามารถออกแบบเส้นทางจากบา้ น ไปยงั ตลาดได้ หรอื วางบตั รภาพลกู ศรผดิ มากกวา่ 4 ชอ่ ง 25

สิงทไี ดจ้ ากการจดั กจิ กรรม ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ PaDecomposition on เดก็ ไดฝ้ กคิดแบบแยกส่วนประกอบและการ ttern Recogniti ยอ่ ยปญหา จากการบอกชอื สถานทสี ําคัญทอี ยู่ ระหวา่ งทางจากบา้ นกบั ตลาด ตามเนื อหาตามที Abstraction ครูอา่ นให้ฟง Algorithms เดก็ ไดฝ้ กการหารูปแบบของปญหา จากการ จดจําและบอกชอื สถานทโี ดยเรยี งลําดบั ตาม เส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาด จากเนื อหาทคี รู อา่ นให้ฟง เดก็ ไดฝ้ กพิจารณาสาระสําคัญ โดยการ ออกแบบเส้นทางจากบา้ นไปยงั ตลาดให้สําเรจ็ ตามเนื อหาในบตั รคําสังทคี รูอา่ นให้ฟง เดก็ ไดฝ้ กการออกแบบขนั ตอนวธิ ี โดยการเรยี ง ลําดบั การเดนิ ทางจากจดุ เรมิ ตน้ ไปยงั จดุ สินสดุ (จากบา้ นไปยงั ตลาด) โดยผา่ นสถานทตี า่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ งตามเนื อหาทคี รูอา่ นให้ฟง ตลาด 26

กิจกรทรี 3ม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เดก็ สามารถบอกชอื สิงของทตี อ้ งซอื ไดถ้ กู ตอ้ งตามใบรายการทกี ําหนดได้ 2. เดก็ สามารถหยบิ บตั รภาพสิงของถกู ตอ้ งตรงกบั ใบรายการทกี ําหนดได้ คุณแมเ่ ขยี นรายการของทตี อ้ งซอื ไว้ หลายอยา่ งเลย... เพือน ๆ ชว่ ยเนเน่ กบั นาโน ซอื ของตามรายการทคี ุณแมใ่ ห้มา หน่ อยสิคะ อปุ กรณ์ในการทาํ กจิ กรรม บตั รคําสัง บตั รภาพแมเ่ หลก็ แผน่ กจิ กรรม รายการของ 28 ทตี อ้ งซือ

ขันตอนการจดั กจิ กรรม 1 ให้เดก็ นั งเปนครงึ วงกลม จากนั นครูเลา่ นิ ทานเรอื ง \"ข้าวผดั แฟนซีของนาโนกบั เนเน่\" ให้เดก็ ๆ ฟง และรว่ มสนทนา เกยี วกบั รายการของทคี ุณแมใ่ ห้นาโนกบั เนเน่ ไปซอื ทตี ลาด 2 แบง่ เดก็ ออกเปนกลมุ่ จากนั นครูแจกอุปกรณ์ในการทาํ กจิ กรรม คือ ตารางกจิ กรรม และบตั รภาพแมเ่ หลก็ ให้กบั เดก็ แตล่ ะกลมุ่ 29

ขันตอนการจดั กจิ กรรม 3 ถามคําถามกอ่ นทาํ กจิ กรรม เพือทบทวนความรูเ้ ดมิ ของเดก็ เดก็ ๆ ลองสังเกตรา้ นค้าในแผน่ กจิ กรรมดซู คิ ะ วา่ มรี า้ นอะไรบา้ ง แลว้ แตล่ ะรา้ นขายอะไรบา้ งนะ 4 จากนั นอธบิ ายกตกิ าในการทาํ กจิ กรรมให้เดก็ ฟง โดยครูจะอา่ น เนื อหาจากบตั รคําสัง แลว้ ให้เดก็ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั เลอื กหยบิ บตั ร ภาพแมเ่ หลก็ มาตดิ ลงบนแผน่ กจิ กรรมให้ถกู ตอ้ ง ตามลําดบั ทคี รู กําหนด 5 อา่ นรายการของทตี อ้ งซอื ในบตั ร คําสังให้เดก็ ฟง คุณแมเ่ ขียนรายการของทตี อ้ งซือ ไวห้ ลายอยา่ งเลย... เพือนๆ ช่วย เนเน่ซือของตามรายการทคี ุณแม่ ให้มาหน่ อยสิ คะ บตั รคําสัง 30

6 ครูอา่ นใบรายการของทตี อ้ งซอื ใบที 1 ทลี ะชนิ แลว้ ให้เดก็ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ย กนั เลอื กบตั รภาพแมเ่ หลก็ ให้ตรงกบั สิงทคี รูบอกไปตดิ ลงบนชอ่ งทกี ําหนด ให้และให้สัมพันธก์ บั รา้ นค้า เมอื เดก็ ตดิ บตั รภาพของชนิ ที 1 แลว้ ครูเรมิ อา่ นชอื สิงของชนิ ที 2 ตอ่ จนครบ 7 ชนิ นํ าบัตรภาพแม่เหล็กมาตดิ ลงบนช่องให้สั มพันธ์กับ ร้านค้า เช่น ภาพเนือไก่ ก็ นําไปตดิ ลงในช่องทีตรง กับร้านขายเนือ เปนตน้ 7 เมอื ครูอา่ นครบทงั 7 ชนิ แลว้ ครูและเดก็ ทบทวนคําตอบรว่ มกนั โดยใชค้ ําถาม ดงั นี่ เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ รายการของทตี อ้ งซอื ตามรายการทคี รูบอก ไปมอี ะไรบา้ ง 8 เมอื ตรวจคําตอบเรยี บรอ้ ยแลว้ ครูให้เดก็ นํ าบตั รภาพแมเ่ หลก็ เกบ็ เขา้ ที ตามเดมิ จากนั นครูเรมิ อา่ นรายการของทตี อ้ งซอื ใบที 2 และทาํ ซาตามวธิ ี การเดมิ จนครบทงั 5 ใบ 31

เฉลย 32

แนววธิ ทกี าางรกปารรปะเรมะนิ เมผนิ ลผล 11.. สสัังงเเกกตตแแลละะบบนนัั ททกกึึ คคํําาตตออบบขขอองงเเดดกก็็ ขขณณะะททบบีี ออกกชชออืื สสิิงงขขอองงตตาามมใใบบรราายยกกาารรททีี กกํําาหหนนดด 22.. ตตรรววจจสสออบบคคววาามมถถกกูู ตตออ้้ งงขขอองงคคํําาตตออบบเเดดกก็็ ววาา่่ หหยยบบิิ บบตตัั รรภภาาพพไแดมต้ เ่ หรลงกก็ บัตใรบงกบั ใรบายรกายารกทารกี ทําหกี นําหดนใหด้หใหร้หอื รไมอื ่ ไม่ 33

ระดบั การประเมนิ ผล ระดบั รายการ ดมี าก เดก็ สามารถหยบิ บตั รภาพใส่ลงในตะกรา้ ได้ ดี ถกู ตอ้ งทงั หมด ตามใบรายการทกี ําหนดให้ พอใช้ ไดท้ งั 5 ใบ ปรบั ปรุง เดก็ สามารถหยบิ บตั รภาพใส่ลงในตะกรา้ ได้ ถกู ตอ้ งทงั หมด ตามใบรายการทกี ําหนดให้ ไดจ้ ํานวน 3-4 ใบ เดก็ สามารถหยบิ บตั รภาพใส่ลงในตะกรา้ ได้ ถกู ตอ้ งทงั หมด ตามใบรายการทกี ําหนดให้ ไดจ้ ํานวน 1-2 ใบ เดก็ ไมส่ ามารถหยบิ บตั รภาพทถี กู ตอ้ งใส่ลง ในตะกรา้ ไดท้ งั หมด ทกั ษะทไี ดจ้ ากการจดั กจิ กรรม ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ PaDecomposition on เดก็ ไดฝ้ กการคิดแบบแยกส่วนประกอบและการ ttern Recogniti ยอ่ ยปญหา จากการบอกชอื รายการสิงทตี อ้ งซอื จากบตั รภาพทงั หมดได้ Abstraction เดก็ ไดฝ้ กหารูปแบบของปญหา โดยการบอกชอื รายการของทตี อ้ งซอื ไดถ้ กู ตอ้ ง ตรงกบั ในใบ รายการทคี รูกําหนด เดก็ ไดฝ้ กพิจารณาสาระสําคัญของปญหา โดยสามารเลอื กหยบิ บตั รภาพสิงทตี อ้ งซอื ได้ ถกู ตอ้ งตรงตามรายการทคี รูไดอ้ า่ นให้ฟง Algorithms เดก็ ไดฝ้ กออกแบบขนั ตอนวธิ ี โดยหยบิ บตั ร 34 ภาพสิงทตี อ้ งซอื มาตดิ ลงในชอ่ ง โดยเรยี ง ลําดบั สิงของตามทคี รูไดอ้ า่ นให้ฟง

กิจกรทรี 4ม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. เดก็ สามารถออกแบบขา้ วผดั แฟนซตี ามความชอบของนาโนกบั เนเน่ ได้ 2. เดก็ สามารถบอกและเรยี งลําดบั ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั แฟนซไี ด้ อุปกรณ์และเครอื งปรุงตา่ ง ๆ ในการทาํ ขา้ วผดั พรอ้ มแลว้ เพือน ๆ มาชว่ ยกนั ออกแบบหน้ าตาของขา้ วผดั แฟนซใี ห้เหมาะ กบั ความชอบของนาโนกบั เนเน่ หน่ อยสิคะ อปุ กรณ์ในการทาํ กจิ กรรม บตั รคําสัง แผน่ กจิ กรรม บตั รภาพแมเ่ หลก็ ข้าวผดั และสิงทใี ช้ แตง่ หน้าข้าวผดั บตั รภาพแมเ่ หลก็ แผน่ ออกแบบข้าวผดั ขันตอนการทาํ ข้าวผดั แฟนซีทหี นชู อบ 36

ขันตอนการจดั กจิ กรรม 1 ให้เดก็ นั งเปนครงึ วงกลม จากนั นครูเลา่ นิ ทานเรอื ง \"ข้าวผดั แฟนซีของนาโนกบั เนเน่\" ให้เดก็ ๆ ฟง และรว่ มสนทนา เกยี วกบั ขา้ วผดั ทนี าโนกบั เนเน่ ชอบ และขนั ตอนการทาํ ขา้ วผดั 2 แบง่ เดก็ ออกเปนกลมุ่ จากนั นแจกอุปกรณ์ในการทาํ กจิ กรรมให้กบั เดก็ คือ แผน่ กจิ กรรม และบตั รภาพแมเ่ หลก็ ตา่ ง ๆ 37

6 จากนั นให้เดก็ นํ าบตั รภาพแมเ่ หลก็ ขา้ วผดั ไปตดิ ลงบนชอ่ งทกี ําหนดให้ แลว้ ตกแตง่ หน้ าตาของขา้ วผดั ตามความชอบของเนเน่ กบั นาโน เสรจ็ แลว้ นํ าบตั รภาพแมเ่ หลก็ ขนั ตอนการทาํ ขา้ วผดั ไปตดิ เพือเรยี งลําดบั ขนั ตอนใน การทาํ ขา้ วผดั ให้ถกู ตอ้ ง นําบตั รภาพแมเ่ หลก็ ข้าวผดั ไปตดิ ลงบนช่องที กาํ หนดให้ แลว้ ตกแตง่ หน้าตาของข้าวผดั ตาม ความชอบของเนเน่ กบั นาโน นําบตั รภาพแมเ่ หลก็ ไปตดิ เพือเรยี งขันตอนการทาํ ข้าวผดั 7 เมอื เดก็ ทาํ เสรจ็ เขา้ ไปตรวจสอบความถกู ตอ้ งอกี ครงั วา่ เดก็ สามารถ ออกแบบขา้ วผดั ไดต้ รงกบั ความชอบของนาโนกบั เนเน่ และเรยี งลําดบั ขนั ตอนการทาํ ขา้ วผดั ไดถ้ กู ตอ้ งหรอื ไม่ โดยใชค้ ําถามเพือทบทวนคําตอบ รว่ มกนั ดงั นี เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ ขา้ วผดั ทเี นเน่ ชอบคือขา้ วผดั อะไร และมี ลกั ษณะเปนอยา่ งไร เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ ขา้ วผดั ทนี าโนชอบคือขา้ วผดั อะไร และมี ลกั ษณะเปนอยา่ งไร เดก็ ๆ บอกไดไ้ หมเอย่ วา่ ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั มอี ะไรบา้ ง 38

8 จากนั นเมอื เดก็ ตอบคําถามแลว้ ครูแจกแผน่ แมเ่ หลก็ สําหรบั ออกแบบ ขา้ วผดั แฟนซี ให้เดก็ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ออกแบบขา้ วผดั แฟนซตี ามความ ชอบของเดก็ ๆ ในกลมุ่ แลว้ นํ าเสนอหน้ าห้อง วา่ ขา้ วผดั แฟนซขี องกลมุ่ ตนเองนั นประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง นําบตั รภาพแมเ่ หลก็ ข้าวผดั ไปตดิ ลงบนช่อง แลว้ ตกแตง่ หน้าตาของข้าวผดั ตามความชอบของเดก็ ๆ 39

เฉลย ข้าวผดั ของนาโน กบั เนเน่ 40

วธิ กี ารประเมนิ ผล 1. สังเกตการออกแบบขา้ วผดั แฟนซขี องเดก็ วา่ ถกู ตอ้ งตรงตามความชอบ ของนาโนกบั เนเน่ หรอื ไม่ 2. สังเกตการเรยี งลําดบั ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั แฟนซขี องเดก็ วา่ ลําดบั ขนั การทาํ นั นถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ระดบั การประเมนิ ผล ระดบั รายการ ดมี าก ดี เดก็ ออกแบบขา้ วผดั แฟนซตี ามความชอบของ พอใช้ นาโนกบั เนเน่ และของกลมุ่ ตนเองได้ แลว้ สามารถเรยี งลําดบั ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั ปรบั ปรุง ตามเนื อหาในนิ ทานไดถ้ กู ตอ้ งทงั หมด เดก็ เลอื กวตั ถดุ บิ ไดถ้ กู ตอ้ งตรงกบั ความชอบ ของนาโนกบั เนเน่ และบอกลําดบั ขนั ตอนใน การทาํ ขา้ วผดั ตามเนื อหาในนิ ทานไดถ้ กู ตอ้ ง 2-3 ขนั ตอน เดก็ เลอื กวตั ถดุ บิ ตกแตง่ หน้ าตาของหาหาร ไดไ้ มถ่ กู ตอ้ งตรงกบั ความชอบของนาโนกบั เนเน่ และบอกลําดบั ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั ตามเนื อหาในนิ ทานไดถ้ กู ตอ้ ง 2-3 ขนั ตอน เดก็ ไมส่ ามารถหยบิ วตั ถดุ บิ ไดถ้ กู ตอ้ งตาม ความชอบของนาโนกบั เนเน่ และบอกลําดบั ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั ตามเนื อหาในนิ ทาน ไดน้ ้ อยกวา่ 2 ขนั ตอน 41

ทกั ษะทไี ดจ้ ากการจดั กจิ กรรม ทกั ษะการคิดเชิงคํานวณ Decomposition เดก็ ไดฝ้ กคิดแยกส่วนประกอบและการยอ่ ย ปญหา จากการบอกลกั ษณะและส่วนประกอบ ของขา้ วผดั ทนี าโนกบั เนเน่ ชอบ Pa on เดก็ ไดฝ้ กการหารูปแบบของปญหา จากการ ttern Recogniti ออกแบบขา้ วผดั ตามความชอบของนาโนกบั เนเน่ ให้ตรงตามเนื อหาทคี รูอา่ นให้ฟง Abstraction เดก็ ไดฝ้ กพิจารณาสาระสําคัญของปญหา จาก การเลอื กบตั รภาพแมเ่ หลก็ เพือนํ ามาตกแตง่ และออกแบบหน้ าขา้ วผดั ให้ตรงตามความชอบ ของนาโนกบั เนเน่ Algorithms เดก็ ไดฝ้ กออกแบบขนั ตอนวธิ ี จากการบอก และเรยี งลําดบั ขนั ตอนในการทาํ ขา้ วผดั แฟนซี ไดถ้ กู ตอ้ ง 42

ประวตั ผิ แู้ ตง่ นายกิตติพันธ์ ไชยสาร การศึ กษา - ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาภาษาไทย (เกียรตินิ ยมอันดบั 2) มหาวิทยาลัยศิ ลปากร - โครงการพัฒนาผบู้ รหิ ารและผเู้ กียวข้องกับการศึกษาใน ระดับปฐมวัย MINI M.ED (ECE.) หลักสูตร “สรา้ งทกั ษะชวี ิต... สรา้ งอนาคต” ปจจบุ นั ดาํ รงตาํ แหน่ง หัวหน้ ากองบรรณาธกิ าร บรษิ ัท เอด็ เทค ฟอร์ คิดส์ นั กเขยี น/นั กออกแบบสือการเรยี นรูส้ ําหรบั เดก็ ปฐมวยั ทมี นั กวชิ าการดา้ นปฐมวยั ผลงานทผี า่ นมา หนั งสื อ เสรมิ ประสบการณ์ นิ ทาน รชั กาลที 9 ในหลวงรชั กาลที 10 \"จมิ ม\"ี ของชาวไทย ของชาวไทย มงั กรน้ อยไมอ่ ยากบนิ หนั งสือเสรมิ ประสบการณ์ สําหรบั เดก็ อายุ 2-6 ป 43

บรรณานกุ รม ภทั รพล พรหมมญั . 2561. การคิดเชงิ คํานวณ (COMPUTATIONAL THINKING). จลุ สารคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั ธนบรุ .ี 6(11). 24-25. สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. 2557. สะเตม็ ศึ กษา. กรุงเทพฯ: สํานั กบรกิ ารวชิ าการและบรหิ ารทรพั ยส์ ิน สสวท. ___________. 2563. กจิ กรรมการคิดเชิงคํานวณ ระดับปฐมวยั . กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. ___________. 2563. กรอบการเรยี นรูแ้ ละแนวทางการจดั ประสบการณ์การ เรยี นรูบ้ รู ณาการ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ ใน ระดบั ปฐมวยั ตามหลกั สตู รการศึ กษาปฐมวยั พุทธศั กราช 2560. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท โกโกพรนิ ท์ (ไทยแลนด)์ จํากดั . 44

การคิดเชิง คํานวณ 1. การแบง่ ปญหาใหญ่ออกเปนปญหายอ่ ย (Decomposition) Decomposition 2. การหารูปแบบของปญหา (Pattern Recognition) Pa on ttern recogniti 3. การพิจารณาสาระสําคัญของปญหา (Abstraction) Abstraction 4. การออกแบบขันตอนวธิ ี (Algorithm) algorithms