Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา

รายงานการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา

Published by Www.Prapasara, 2021-04-04 05:10:29

Description: รายงานการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา

ภาษาจีน เป็นภาษาที่สำคัญมากภาษาหนึ่ง และมีแนวโน้มที่จะสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต
เนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี มีการสั่งสม
องค์ความรู้ด้านต่างๆ และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาถึงปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาชนจีนยังเป็นประเทศ
มหาอำนาจที่ทรงอิทธิพลทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เป็น
ประเทศที่มีความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และประชากรชาวจีนยังมาก
เป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้น หากคนไทยมีความรู้ภาษาจีนจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ค้นคว้า
และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สามารถสร้างความร่วมมือด้านธุรกิจการค้าการพัฒนาด้านต่างๆ ได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยได้เปรียบในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้

Keywords: รายงานการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา,การจัดการเรียนการสอนภาษาจีน,การจัดการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย

Search

Read the Text Version

5. ด้านผู้เรยี น 5.1 ระดับประถมศึกษาตอนต้น (ป.1-ป.3) พืน้ ฐานครอบครวั ของผูเ้ รยี น £ ส่วนใหญม่ เี ช้อื สายจีน £ สว่ นนอ้ ยมเี ชื้อสายจนี £ ไม่มีเชอ้ื สายจีน ภาษาจีนเป็น £ วชิ าบงั คับ £ วชิ าเลอื ก ป.1 จำนวนหอ้ ง………….…..ห้อง จำนวนนักเรียนเฉล่ยี ต่อห้อง £ 20-30 £ 30-40 £ 40-50 £ 50 ข้ึนไป ป.2 จำนวนหอ้ ง………….…..หอ้ ง จำนวนนกั เรยี นเฉลย่ี ต่อหอ้ ง £ 20-30 £ 30-40 £ 40-50 £ 50 ขน้ึ ไป ป.3 จำนวนห้อง………….…..หอ้ ง จำนวนนักเรยี นเฉลย่ี ตอ่ หอ้ ง £ 20-30 £ 30-40 £ 40-50 £ 50 ขึ้นไป 5.2 ระดับประถมศกึ ษาตอนปลาย (ป.4-ป.6) พืน้ ฐานครอบครวั ของผู้เรียน £ ส่วนใหญ่มเี ชื้อสายจีน £ สว่ นน้อยมเี ชอื้ สายจีน £ ไม่มเี ชื้อสายจีน ภาษาจนี เป็น £ วชิ าบงั คับ £ วิชาเลอื ก ป.4 จำนวนหอ้ ง………….…..หอ้ ง จำนวนนักเรยี นเฉลย่ี ตอ่ หอ้ ง £ 20-30 £ 30-40 £ 40-50 £ 50 ขึ้นไป ป.5 จำนวนหอ้ ง………….…..ห้อง จำนวนนกั เรียนเฉลย่ี ตอ่ ห้อง £ 20-30 £ 30-40 £ 40-50 £ 50 ขน้ึ ไป ป.6 จำนวนหอ้ ง………….…..หอ้ ง จำนวนนกั เรียนเฉลี่ยต่อหอ้ ง £ 20-30 £ 30-40 £ 40-50 £ 50 ขน้ึ ไ 6. ด้านความรว่ มมือกับหน่วยงานอ่ืน 6.1 สถานศึกษาของทา่ นมคี วามร่วมมือด้านภาษาจนี กับหน่วยงานอ่นื หรอื ไม ่ £ มี £ ไมม่ ี (ข้ามไปตอนที่ 3) 6.2 หน่วยงานท่ีมคี วามร่วมมือดา้ นภาษาจนี (ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) หน่วยงานภายในประเทศ £ ศนู ย์เครือขา่ ยสง่ เสริมการเรียนการสอนภาษาจนี £ ห้องเรยี น/สถาบนั ขงจ่ือ £ มหาวิทยาลัย £ โรงเรียนในระดบั เดยี วกัน £ บริษทั เอกชน £ อ่นื ๆ (โปรดระบุ) ................................................................... หน่วยงานภายนอกประเทศ £ สำนกั งานฮน่ั ป้ัน £ สำนักงานเฉียวปั้น £ บริษัทเอกชน £ มหาวิทยาลยั £ โรงเรียนในระดบั เดียวกัน £ อื่นๆ (โปรดระบุ) ................................................................... รายงานการวิจยั เพื่อพฒั นาระบบการจดั การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดบั ประถมศึกษา 179

6.3 สถานศกึ ษาของทา่ นไดร้ บั การสนบั สนนุ จากหนว่ ยงานทที่ ำความรว่ มมอื ดา้ นใดบา้ ง (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ ) หนว่ ยงานภายในประเทศ £ ด้านหลกั สูตร (เชน่ สนับสนุนการจัดทำหลกั สูตรภาษาจีน) £ ด้านสื่อการสอน (เช่น สนบั สนุนหนงั สอื หรือสือ่ อิเลก็ ทรอนิกสท์ ใ่ี ช้ในการเรยี นการสอนภาษาจีน) £ ด้านผสู้ อน (เช่น สนบั สนุนผ้สู อนภาษาจนี หรือแลกเปลีย่ นผูส้ อน) £ ดา้ นผเู้ รยี น (เช่น สนบั สนุนให้บคุ ลากรในหน่วยงานมาเรียนภาษาจนี ทสี่ ถานศกึ ษาของท่าน) £ ดา้ นทนุ การศึกษาให้กับอาจารย์หรอื นักเรยี น £ ดา้ นอื่นๆ (โปรดระบุ) .................................................................. หน่วยงานภายนอกประเทศ £ ด้านหลักสตู ร (เช่น สนบั สนนุ การจัดทำหลกั สตู รภาษาจีน) £ ด้านสื่อการสอน (เชน่ สนับสนุนหนังสอื หรือส่อื อิเล็กทรอนิกสท์ ่ีใชใ้ นการเรยี นการสอนภาษาจนี ) £ ดา้ นผสู้ อน (เช่น สนบั สนนุ ผสู้ อนภาษาจีนหรือแลกเปลี่ยนผู้สอน) £ ดา้ นผู้เรียน (เชน่ สนบั สนนุ ใหบ้ ุคลากรในหน่วยงานมาเรยี นภาษาจนี ทีส่ ถานศึกษาของท่าน) £ ดา้ นทนุ การศึกษาใหก้ ับอาจารยห์ รือนักเรยี น £ ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบ)ุ .................................................................. 180 รายงานการวจิ ัยเพ่อื พัฒนาระบบการจดั การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา

ตอนที่ 3 ปญั หาการจดั การเรยี นการสอนภาษาจีนระดับประถมศึกษา คำชแ้ี จง : โปรดอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วใส่เคร่ืองหมาย P ลงในช่องที่ตรงกับปัญหาและอุปสรรคในการจัด การเรยี นการสอนภาษาจีนระดบั ประถมศึกษามากที่สุด 5 หมายถงึ แสดงระดับมากทีส่ ุด 4 หมายถึง แสดงระดบั มาก 3 หมายถงึ แสดงระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ แสดงระดบั น้อย 1 หมายถงึ แสดงระดบั น้อยท่ีสุด ปัญหาและอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอนภาษาจีน ระดบั ประถมศกึ ษา ระดับปญั หาและอปุ สรรค 5 4 3 2 1 ด้านบริหารจดั การ 1. ขาดระบบการบริหารจดั การการเรยี นการสอนภาษาจนี ทด่ี ี 2. ผู้บริหารไม่เหน็ ความสำคญั ของการจัดการเรยี นการสอนภาษาจีน 3. ไม่มกี ารดำเนนิ การตามแผนการจัดการเรยี นการสอนภาษาจนี 4. ผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั การเรยี นการสอนภาษาจนี ไมม่ สี ว่ นรว่ มในการวางแผน การจดั การเรียนการสอนภาษาจนี 5. ระบบการประเมินการบริหารจัดการการเรียนการสอนภาษาจีน ไมม่ ีคุณภาพ ดา้ นหลักสูตร 1. หลักสูตรภาษาจนี ของสถานศกึ ษาไมส่ อดคล้องกบั สภาพการจดั การเรยี นการสอนจรงิ 2. ขาดผ้เู ช่ียวชาญในการจัดทำหลกั สตู รภาษาจนี ทเ่ี หมาะสมกับบริบท ของสถานศึกษา 3. ไมม่ รี ะบบการประเมนิ และการพฒั นาหลกั สตู รภาษาจนี ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ 4. จำนวนชวั่ โมงสอนตามหลักสตู รนอ้ ยเกินไป ทำให้การเรยี นภาษาจีน ไม่ไดป้ ระสทิ ธิผลเทา่ ท่ีควร 5. หลกั สตู รภาษาจนี ระดบั ประถมศึกษาของสถานศึกษาไมม่ คี วามต่อเนื่อง กบั หลกั สูตรภาษาจีนระดบั มัธยมศกึ ษา รายงานการวจิ ัยเพือ่ พฒั นาระบบการจดั การเรยี นการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดบั ประถมศึกษา 181

ปญั หาและอปุ สรรคในการจดั การเรียนการสอนภาษาจนี ระดับปญั หาและอุปสรรค 5 4 3 2 1 ระดบั ประถมศึกษา ดา้ นส่ือการสอน 1. หนังสือเรียนท่ใี ชไ้ ม่เหมาะสมกับผเู้ รยี น (เช่น ยากเกนิ ไป เนอื้ หา ไมส่ ามารถนำไปใช้ได้จริง) 2. หนังสือเรยี นในแตล่ ะระดับช้นั ไมต่ อ่ เนอ่ื งกนั 3. ขาดสอ่ื การเรยี นการสอนภาษาจีนทห่ี ลากหลายและทนั สมัย 4. ขาดแคลนห้องปฏิบตั ิการทางภาษา สอื่ การสอนอิเล็กทรอนกิ ส์ 5. ขาดแคลนงบประมาณในการจดั ซอื้ /จดั ทำสอ่ื การสอน สอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ และอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ต่างๆ ดา้ นผสู้ อน 1. จำนวนผสู้ อนไม่เพียงพอ 2. ผสู้ อนชาวตา่ งประเทศไมส่ ามารถควบคมุ ช้นั เรยี นได้ 3. ผสู้ อนสัญชาติไทยขาดการอบรมเทคนคิ การสอนภาษาจีนสำหรับ ชาวตา่ งชาติ 4. ผ้สู อนสญั ชาติไทยลาออกบอ่ ย ทำให้การดำเนนิ งานขาดความตอ่ เน่อื ง 5. การเปลย่ี นครอู าสาสมคั รชาวจนี บอ่ ยครง้ั ทำใหก้ ารจดั การเรยี นการสอน ภาษาจนี ไม่ต่อเนื่อง ดา้ นผู้เรยี น 1. พ้นื ฐานความรู้ทางภาษาจีนของผเู้ รียนไมเ่ ทา่ เทยี มกนั 2. ผเู้ รียนขาดความสนใจในการเรียนภาษาจนี 3. ผูเ้ รียนไม่เหน็ ความสำคญั ของการเรยี นภาษาจนี 4. จำนวนผเู้ รยี นตอ่ หอ้ งมากเกนิ ไป 5. พืน้ ฐานครอบครวั ของผเู้ รยี นแตกตา่ งกัน ด้านความร่วมมือกบั หน่วยงานภายนอก 1. สถานศึกษาขาดความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก (เชน่ เครอื ขา่ ยสง่ เสรมิ การสอนการเรยี นภาษาจนี , หอ้ งเรยี นขงจอื่ ฯลฯ) 2. การสนบั สนนุ ที่ไดร้ ับจากหน่วยงานภายนอกไมส่ อดคล้องกบั ความต้องการของสถานศึกษา 3. สถานศึกษาได้รบั การสนับสนนุ จากหน่วยงานภายนอก แตไ่ ม่ตอ่ เนอื่ ง 4. สถานศึกษาขาดหนว่ ยงานกลางในการประสานงานเพ่อื สร้าง ความร่วมมอื กับภายนอก 5. แนวทางในการปฏิบัตขิ องการขอความรว่ มมือจากหนว่ ยงานภายนอก ไมช่ ดั เจน ทำใหไ้ ม่สามารถดำเนินการไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 182 รายงานการวิจัยเพือ่ พฒั นาระบบการจัดการเรยี นการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา

ตอนที่ 4 ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะ คำชแ้ี จง : โปรดแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนระดับประถมศึกษา เพือ่ เปน็ ประโยชน์ในการปรบั ปรงุ และพัฒนาต่อไป 1. ด้านการบริหารจดั การ ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 2. ด้านหลักสูตร ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 3. ด้านสอ่ื การสอน ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 4. ด้านผ้สู อน ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 5. ดา้ นผเู้ รยี น ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... 6. ดา้ นความร่วมมอื กับหน่วยงานภายนอก ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................... รายงานการวจิ ยั เพอ่ื พัฒนาระบบการจัดการเรยี นการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดบั ประถมศกึ ษา 183

ภาคผนวก 7 หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551

กระทรวงศึกษาธิการได้มีการทบทวนหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 เพ่ือ นำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ท่ีมีความเหมาะสม ชัดเจน ทั้งเป้าหมายของหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และกระบวนการนำหลักสูตรไปสู่การ ปฏิบัติในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา โดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะ สำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพ่ือเป็น ทิศทางในการจัดทำหลักสตู ร การเรียนการเสนอในแตล่ ะระดับ นอกจากนัน้ ได้กำหนดโครงสรา้ งเวลา เรียนพื้นฐานของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละช้ันปีไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเพ่ิมเติมเวลาเรียนได้ตามความพร้อมและจุดเน้น อีกทั้งได้ปรับ กระบวนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารจบการศกึ ษาแตล่ ะระดบั และเอกสารแสดงหลกั ฐาน ทางการศกึ ษาใหม้ ีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และมคี วามชดั เจนต่อการนำไปปฏบิ ัต ิ เอกสารหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 จดั ทำข้นึ สำหรับทอ้ งถนิ่ และสถานศึกษาได้นำไปใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัด การเรียนการสอน เพ่ือพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยทุกคนในระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานให้มีคุณภาพ ด้านความรู้ และทักษะท่ีจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงและแสวงหาความรู้ เพื่อพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต ความสัมพนั ธข์ องการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน วิสยั ทศั น ์ หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน มุง่ พัฒนาผู้เรยี นทกุ คน ซึง่ เปน็ กำลงั ของชาติ ใหเ้ ปน็ มนุษย์ที่มีความสมดุลท้ังด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็น พลโลก ยดึ มนั่ ในการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ มคี วามร ู้ และทักษะพื้นฐาน รวมท้ังเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการศึกษา ตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนา ตนเองได้เต็มตามศกั ยภาพ หลักการ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน มหี ลกั การที่สำคญั ดงั น้ี 1. เปน็ หลกั สตู รการศกึ ษาเพอื่ ความเปน็ เอกภาพของชาติ มจี ดุ หมายและมาตรฐานการเรยี นร ู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐานของ ความเปน็ ไทยควบคู่กับความเป็นสากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่าง เสมอภาคและมีคุณภาพ รายงานการวจิ ัยเพ่อื พฒั นาระบบการจดั การเรยี นการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดบั ประถมศึกษา 185

3. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัด การศึกษาให้สอดคลอ้ งกบั สภาพและความต้องการของท้องถิ่น 4. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีมีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสารถการเรียนรู้ เวลาและการจัด การเรยี นร ู้ 5. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาที่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุกกลมุ่ เป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ ์ จุดหมาย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดจุดหมาย เพ่ือให้เกิดกับผู้เรียนเมื่อจบ การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ดงั นี้ 1. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทพ่ี งึ ประสงค์ เหน็ คณุ คา่ ของตนเอง มวี นิ ยั และปฏบิ ตั ติ น ตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาท่ตี นนบั ถือ ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. มีความรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ เทคโนโลยแี ละมีทกั ษะชีวิต 3. มสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทีด่ ี มสี ขุ นิสัย และรกั การออกกำลงั กาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข 5. มีจิตสำนึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย การอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม มีจติ สาธารณะ ทมี่ งุ่ ทำประโยชน์ และสรา้ งสงิ่ ท่ดี งี ามในสังคม และอยู่รว่ มกนั ในสังคมอยา่ งมคี วามสุข สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน การเรียนรู้ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกำหนดนั้น จะช่วยให้ผู้เรียนเกิด สมรรถนะสำคญั 5 ประการ ดงั นี้ 1. ความสามารถในการสื่อสารเป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียน ข้อมูล ข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจา ตอ่ รองเพือ่ ขจดั และลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ การเลอื กรับหรือไม่รบั ขอ้ มูลขา่ วสารดว้ ยหลกั เหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการส่ือสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อ ตนเองและสงั คม 186 รายงานการวจิ ัยเพื่อพฒั นาระบบการจดั การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศึกษา

2. ความสามารถในการคิดเป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดอย่างเป็นระบบ เพ่ือนำไปสู่การสร้าง องคค์ วามรหู้ รือสารสนเทศเพ่ือการตดั สินใจเกี่ยวกับตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหาเป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ท่ี เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู ้ มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบ ท่เี กิดขน้ึ ตอ่ ตนเอง สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตเป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช ้ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ รว่ มกนั ในสงั คมดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งบคุ คล การจดั การปญั หาและความขดั แยง้ ต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ การรจู้ ักหลีกเลยี่ งพฤติกรรมไม่พึงประสงคท์ ีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ นื่ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลย ี ด้านต่างๆ และมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอื่ การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือ ให้สามารถอยู่รว่ มกับผู้อืน่ ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย ์ 2. ซ่ือสัตยส์ จุ รติ 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ัด 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ซ่ึงสาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะ หรือ กระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซ่ึงกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษา ขนั้ พ้ืนฐานจำเป็นตอ้ งเรียรรู้ โดยแบง่ เป็น 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดงั น้ ี รายงานการวิจัยเพือ่ พัฒนาระบบการจดั การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดบั ประถมศึกษา 187

1. ภาษาไทย : ความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรมการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสาร ความช่ืนชม การเห็นคณุ คา่ ภูมปิ ญั ญาไทย และภูมใิ จในภาษาประจำชาติ 2. คณิตศาสตร์ : การนำความรู้ ทักษะ และกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ ปญั หา การดำเนินชวี ิต และศึกษาต่อ การมเี หตมุ ผี ล มีเจตคติทดี่ ตี อ่ คณติ ศาสตร์ พฒั นาการคิดอย่าง เป็นระบบและสรา้ งสรรค์ 3. วทิ ยาศาสตร์ : การนำความรู้และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรไ์ ปใชใ้ นการศึกษา คน้ คว้า หาความรู้ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การคดิ อย่างเป็นเหตุเป็นผล คือวิเคราะห์คิดสร้างสรรค์และ จิตวิทยาศาสตร ์ 4. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม : การอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และสังคมโบกอย่าง สันติสุข การเป็นพลเมืองดี ศรัทธาในหลักธรรมของศาสนา การเห็นคุณค่าของทรัพยากร และ สิ่งแวดล้อม ความรักชาติ และภมู ใิ จในความเปน็ ไทย 5. สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ ทักษะและเจตคติในการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัย ของตนเองและผอู้ ื่น การป้องกันและปฏบิ ตั ิตอ่ สิง่ ตา่ งๆ ที่มผี ลตอ่ สุขภาพอยา่ งถกู วธิ ี และทกั ษะในการ ดำเนนิ ชีวิต 6. ศลิ ปะ : ความรแู้ ละทกั ษะในการคิดรเิ รม่ิ จนิ ตนาการ สรา้ งสรรค์ งานศิลปะ สนุ ทรยี ภาพ และการเหน็ คุณคา่ ทางศลิ ปะ 7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี : ความรู้ ทักษะ และเจตคติในการทำงาน การจัดการ การดำรงชวี ิต การประกอบอาชพี และการใช้เทคโนโลยี 8. ภาษาตา่ งประเทศ : ความรู้ ทักษะ เจตคติ และวัฒนธรรมการใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการ ส่ือสาร การแสวงหาความรู้ และการประกอบอาชีพในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐาน การเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ ระบุสิ่งท่ีผู้เรียน พึงรู้และปฏิบัติได้ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ท่ีต้องการให้เกิดแก่ผู้เรียนเม่ือจบ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน นอกจากนั้น มาตรฐานการเรียนรู้ ยังเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อน พัฒนาการศึกษาท้ังระบบ เพราะมาตรฐาน การเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่า ต้องการอะไร ต้องสอน อะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบเพ่ือการประกัน คณุ ภาพการศกึ ษาโดยใชร้ ะบบการประเมนิ คณุ ภาพภายใน และการประเมนิ คณุ ภาพภายนอก ซง่ึ รวมถงึ การทดสอบระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบ เพื่อประกัน คุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญท่ีช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณภาพตามท่มี าตรฐานการเรยี นรูก้ ำหนดเพียงใด ตัวชว้ี ดั ระบุสง่ิ ทีผ่ เู้ รยี นพึงรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ รวมทงั้ คณุ ลักษณะของผเู้ รียนในแตล่ ะระดบั ชั้น ซงึ่ สะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรมนำไปใช้ในการกำหนด 188 รายงานการวจิ ัยเพือ่ พัฒนาระบบการจัดการเรยี นการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดบั ประถมศกึ ษา

เนื้อหา จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผล เพือ่ ตรวจสอบคุณภาพผ้เู รยี น 1. ตัวชี้วัดชั้นปี เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละช้ันปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ประถมศึกษาปที ่ี 1-มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3) 2. ตัวช้ีวัดช่วงช้ัน เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ 4-6) หลักสูตรได้มีการกำหนดรหัสกำกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพ่ือ ความเข้าใจและสือ่ สารตรงกัน ดังน้ ี ว 1.1 ป.1/2 ว คอื กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร ์ 1.1 คือ สาระท่ี 1 มาตรฐานข้อท่ี 1 ป.1/2 คือ ตวั ชี้วดั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ขอ้ ท่ี 2 ต 2.2 ม.4-6/2 ต คือ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ 2.2 คอื สาระท่ี 2 มาตรฐานข้อที่ 2 ม.4-6/2 คือ สาระที่ 2 มาตรฐานขอ้ ท่ี 2 กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น 1. กิจกรรมแนะแนว 2. กิจกรรมนักเรียน 3. กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ ซง่ึ รายละเอยี ดดงั กลา่ วขา้ งตน้ นนั้ สามารถบง่ ชคี้ ณุ ภาพผเู้ รยี นในระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานได้ การจัดการเรียนร ู้ การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติกลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และ คุณลักษณะอันพึงประสงคเ์ ปน็ เป้าหมายสำคญั สำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน ผสู้ อนตอ้ งพยามยามคดั สรรกระบวนการเรียนรู้ จัดการเรยี นรู้ เพื่อพฒั นาผ้เู รยี นให้มคี ุณภาพ ตามมาตรฐานการเรยี นรทู้ ง้ั 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ รวมทง้ั ปลกู ฝงั เสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ พฒั นาทกั ษะตา่ งๆ อันเปน็ สมรรถนะสำคัญทต่ี อ้ งการให้เกดิ แก่ผ้เู รียน รายงานการวิจยั เพื่อพัฒนาระบบการจดั การเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศกึ ษา 189

1. หลกั การจดั การเรียนร้ ู การจัดการเรียนร้เู พือ่ ใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะ สำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดย ยึดหลักว่า ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตาม ธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เนน้ ให้ความสำคัญท้ังความรแู้ ละคณุ ธรรม 2. กระบวนการเรียนร้ ู การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที ่ หลากหลาย เป็นเครื่องมือท่ีจะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็น สำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จาก ประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรยี นรกู้ ารเรียนรูข้ องตนเอง และกระบวนการพฒั นาลกั ษณะนสิ ยั กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้น ผู้สอนจึง จำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัด กระบวนการเรยี นรูไ้ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3. การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ช้ีวัดสมรรถนะ สำคัญของผูเ้ รียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แลว้ จึงพจิ ารณาออกแบบการจัดการเรยี นรู้ โดยเลือกใช้ วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพ่ือให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตาม ศกั ยภาพและบรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรซู้ ึง่ เปน็ เปา้ หมายท่กี ำหนด 4. บทบาทของผู้สอนและผเู้ รยี น การจดั การเรยี นรู้เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี ุณภาพตามเป้าหมายของหลกั สตู ร ทง้ั ผู้สอนและผเู้ รียน ควรมีบทบาท ดังน้ ี 4.1 บทบาทของผสู้ อน - ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล แลว้ นำขอ้ มูลมาใชใ้ นการวางแผนการจดั การ เรียนรูท้ ีท่ ้าทายความสามารถของผู้เรียน - กำหนดเป้าหมายท่ีต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะ กระบวนการ ท่ีเป็นความคดิ รวบยอด หลกั การและความสมั พันธ์ รวมทงั้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ 190 รายงานการวจิ ยั เพือ่ พฒั นาระบบการจดั การเรยี นการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดับประถมศกึ ษา

- ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ท่ีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล และพัฒนาการทางสมอง เพอ่ื นำผเู้ รยี นไปสเู่ ปา้ หมาย - จัดบรรยากาศท่เี ออ้ื ต่อการเรียนรู้ และดแู ลชว่ ยเหลือผู้เรียนใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ - จัดเตรียมและเลือกใช้ส่ือให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยที ี่เหมาะสมมาประยกุ ต์ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน - ประเมินความก้าวหน้าของผเู้ รียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติ ของวิชาและระดบั พฒั นาการของผู้เรียน - วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมท้ังปรับปรุง การจดั การเรยี นการสอนของตนเอง 4.2 บทบาทของผเู้ รยี น - กำหนดเป้าหมาย วางแผน และรบั ผดิ ชอบการเรยี นรูข้ องตนเอง - เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความร ู้ ตงั้ คำถาม คิดหาคำตอบหรอื แนวทางแก้ปญั หาดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ - ลงมือปฏิบัติจริง สรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ต่างๆ - มีปฏิสัมพนั ธ์ ทำงาน ทำกจิ กรรมรว่ มกับกลุ่มและครู - ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง สือ่ การเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรเู้ ปน็ เครอ่ื งมอื สง่ เสรมิ สนบั สนนุ จดั การกระบวนการเรยี นรู้ ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ถงึ ความร ู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานการเรยี นรู้ของหลักสตู รไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ สอ่ื การเรียนรู้มีหลากหลายประเภท ท้ังสื่อธรรมชาติ ส่ือสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่ายการเรียนรู้ ต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการและลีลา การเรยี นรทู้ ี่หลากหลายของผูเ้ รียน การจดั หาส่อื การเรยี นรู้ ผเู้ รยี นและผ้สู อนสามารถจัดทำและพฒั นาขึ้นเอง หรือปรบั ปรุงเลือก ใช้อย่างมีคุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพ่ือนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถ ส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียงเพื่อพัฒนา ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นท่ีการศึกษา หน่วยงานที่เก่ียวข้อง และ ผู้มหี น้าท่จี ัดการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ควรดำเนินการ ดงั น้ ี 1. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์ส่ือการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปล่ียน ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ระหวา่ งสถานศกึ ษา ทอ้ งถน่ิ ชมุ ชน และสงั คมโลก รายงานการวจิ ัยเพือ่ พฒั นาระบบการจัดการเรยี นการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ระดบั ประถมศกึ ษา 191

2. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมท้งั จดั หาสงิ่ ทีม่ ีอยู่ในทอ้ งถนิ่ มาประยกุ ต์ใชเ้ ปน็ สอื่ การเรยี นร ู้ 3. เลือกและใชส้ ื่อการเรยี นร้ทู ่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคลอ้ งกับ วธิ ีการเรยี นรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของผเู้ รียน 4. ประเมนิ คุณภาพของสือ่ การเรยี นรทู้ ่เี ลือกใช้อย่างเป็นระบบ 5. ศึกษาค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของ ผู้เรียน 6. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเก่ียวกับสื่อและการใช้ส่ือ การเรยี นรเู้ ป็นระยะๆ และสมำ่ เสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพส่ือการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษาควร คำนึงถึงหลักการสำคัญของส่ือการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไมก่ ระทบความมน่ั คงของชาติ ไมข่ ดั ตอ่ ศลี ธรรม มกี ารใชภ้ าษาทถี่ กู ตอ้ ง รปู แบบการนำเสนอทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย และนา่ สนใจ การวัดและประเมินผลการเรยี นร ู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตาม มาตรฐานการเรยี นรู้ สะทอ้ นสมรรถนะสำคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น ซงึ่ เปน็ เปา้ หมาย หลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นกระบวนการพัฒนา คุณภาพผู้เรียน โดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียน เกิดการพัฒนาและเรยี นรู้อยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับช้ันเรียน ระดับ สถานศกึ ษา ระดบั เขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา และระดบั ชาต ิ 192 รายงานการวจิ ัยเพื่อพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดับประถมศกึ ษา

เกยี่ วกบั ผ้วู ิจัย หทยั แซเ่ จย่ี ประวัติการศกึ ษา B.A. (Chinese) Beijing Normal University, พ.ศ. 2540 อ.ม. (ภาษาจนี ) จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , พ.ศ. 2543 P h.D. (Chinese Philology) Beijing Language and Culture University, พ.ศ. 2553 ประสบการณ์การทำงาน พ.ศ. 2547-- พ.ศ.2556 อาจารย์สาขาวชิ าภาษาจนี ภาควชิ าภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2556 -- พ.ศ.2558 หวั หนา้ สาขาวชิ าภาษาจีน ภาควชิ าภาษาตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ปัจจบุ ัน อาจารยป์ ระจำสาขาวชิ าภาษาจีน ภาควชิ าภาษาตะวนั ออก คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ผลงานทางวิชาการ งานวจิ ยั Hathai Sea-Jia. 2555. The Teaching of Chinese and the Text Usages in Thailand. Guangzhou : Sun Yat-Sen University Press. 泰国华文教学情况和教材使用情况考察(中山大学国际汉语教材研发与 培训基地项目)(ผู้ทำวิจัยร่วม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ก่อศักด์ิ ธรรมเจริญกิจ และ Peng Jun) บทความ Comparative Study of Classifier “ZHI” in Mandarin Chinese and “ตวั ” /tua33/in Thai” 汉泰量词“只”与/tua33/对比分析 (2555) The Exploration of the Acquisition of Intermediate and Advanced Level Thai Learners in Chinese Direction Words: “shang / xia / li / zhong” Journal of Overseas Chinese Education. (2558) Hathai Sea-Jia, Hu Qingguo. 2015 (2). The Exploration of the Acquisition of Intermediate and Advanced Level Thai Learners in Chinese Direction Words: “shang / xia / li / zhong” Journal of Overseas Chinese Education. รายงานการวิจัยเพือ่ พัฒนาระบบการจดั การเรยี นการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดบั ประถมศกึ ษา 193

คณะผู้ดำเนนิ การ เลขาธิการสภาการศกึ ษา ทีป่ รกึ ษา รองเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ดร.กมล รอดคล้าย รองเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ดร.วฒั นาพร ระงบั ทุกข์ ผูช้ ว่ ยเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ดร.สมศักด์ิ ดลประสิทธิ ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษา นายชาญ ตันติธรรมถาวร ผ้อู ำนวยการสำนักนโยบายความร่วมมอื กบั ตา่ งประเทศ นางเรืองรตั น์ วงศ์ปราโมทย์ รองเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา นางสาวประภา ทนั ตศภุ ารกั ษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาจีน คณะศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร ์ คณะผูพ้ จิ ารณา อาจารย์ประจำภาควชิ าภาษาไทยและภาษาตะวันออก ดร.สมศักดิ์ ดลประสทิ ธ ิ์ คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั รศ.ดร.ปกรณ์ ลมิ ปนุสรณ์ หัวหนา้ คณะนกั วิจยั นกั วจิ ยั รศ.ดร.พชั นี ต้งั ยนื ยง นกั วจิ ัย นกั วิจัย นกั วจิ ยั คณะนกั วจิ ยั นกั วิจยั อาจารย์วภิ าวรรณ สนุ ทรจามร หวั หนา้ โครงการ ดร.หทัย แซ่เจีย่ นักวชิ าการประจำโครงการ ดร.ภูวกร ฉตั รบำรงุ สขุ นักวิชาการประจำโครงการ อาจารย์กำพล ปิยะศริ กิ ลุ ผศ.ดร.นริศ วศนิ านนท์ ผศ.ดร.กนกพร ศรญี าณลกั ษ์ ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ นางสาวขนิษฐา จิรวริ ิยวงศ ์ นางคัทริยา แจง้ เดชา นางสาวธรี ตา เทพมณฑา 194 รายงานการวจิ ัยเพ่ือพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดบั ประถมศึกษา

บรรณาธิการ นางสาวขนิษฐา จริ วิริยวงศ์ นางคทั ริยา แจง้ เดชา หนว่ ยงานรับผดิ ชอบ กลมุ่ พัฒนานโยบายและยุทธศาสตรด์ ้านการศึกษากับตา่ งประเทศ สำนกั นโยบายความร่วมมอื กบั ตา่ งประเทศ สำนกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ รายงานการวิจัยเพอ่ื พัฒนาระบบการจดั การเรียนการสอนภาษาจนี ในประเทศไทย ระดบั ประถมศกึ ษา 195