Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทรงกลมท้องฟ้า

ทรงกลมท้องฟ้า

Published by จักรกริช แก้ววิเศษ, 2021-03-27 07:39:02

Description: วัฎจักรปรากฎของกลุ่มดาว ป.5

Keywords: กลุ่มดาว,ทรงกลมท้องฟ้า

Search

Read the Text Version

27 บทที 2 ทรงกลมท้องฟ้ า 2.1 ลกั ษณะทรงกลมท้องฟ้ า คนในสมยั โบราณเชอื ว่า ดวงดาวทงั หมดบนทอ้ งฟ้าอย่หู า่ งจากโลกเป็นระยะทางเท่า ๆ กนั โดย ดวงดาวเหลา่ นันถกู ตรงึ อย่บู นผวิ ของทรงกลมขนาดใหญ่เรยี กว่า “ทรงกลมทอ้ งฟ้า” (Celestial sphere) ทรงกลมทอ้ งฟ้าหมนุ รอบโลกจากทศิ ตะวนั ออกไปยงั ทศิ โดยมโี ลกอยทู่ ศี ูนยก์ ลางของทรงกลม ตะวนั ตก โดยทโี ลกหยดุ นงิ อยกู่ บั ที ไมเ่ คลอื นไหว นกั ปราชญใ์ นยคุ ต่อมาทาํ การศกึ ษาดาราศาสตรก์ นั มากขนึ จงึ พบวา่ ดวงดาวบนทอ้ งฟ้าอยหู่ า่ ง จากโลกเป็นระยะทางทแี ตกต่างกนั กลางวนั และกลางคนื เกดิ จากการหมุนรอบตวั เองของโลก มใิ ชก่ าร หมนุ ของทรงกลมทอ้ งฟ้า ดงั ทเี คยเชอื กนั ในอดตี อยา่ งไรกต็ ามในปจั จบุ นั นกั ดาราศาสตรย์ งั คงใชท้ รง กลมทอ้ งฟ้า เป็นเครอื งมอื ในการระบุตาํ แหน่งทางดาราศาสตร์ ทงั นีเป็นเพราะ หากเราจนิ ตนาการใหโ้ ลก เป็นศนู ยก์ ลาง โดยมที รงกลมทอ้ งฟ้าเคลอื นทหี มนุ รอบ จะทาํ ใหง้ า่ ยต่อการระบพุ กิ ดั หรอื เปรยี บเทยี บ ตําแหน่งของวตั ถุบนทอ้ งฟ้า และสงั เกตการเคลอื นทขี องวตั ถุเหล่านนั ไดง้ า่ ยขนึ ภาพที 1 ทรงกลมทอ้ งฟ้า จินตนาการจากอวกาศ • หากต่อแกนหมนุ ของโลกออกไปบนทอ้ งฟ้าทงั สองดา้ น เราจะไดจ้ ดุ สมมตเิ รยี กวา่ “ขวั ฟ้าเหนอื ” (North celestial pole) และ “ขวั ฟ้าใต”้ (South celestial pole) โดยขวั ฟ้าทงั สองจะมแี กน เดยี วกนั กบั แกนการหมุนรอบตวั เองของโลก และ ขวั ฟ้าเหนือจะชไี ปประมาณตาํ แหน่งของดาว เหนอื ทาํ ใหเ้ รามองเหน็ ว่า ดาวเหนอื ไมม่ กี าร เคลอื นที • หากขยายเสน้ ศูนยส์ ตู รโลกออกไปบนทอ้ งฟ้า โดยรอบ เราจะไดเ้ สน้ สมมตเิ รยี กว่า “เสน้ ศนู ย์ สตู รฟ้า” (Celestial equator) เสน้ ศนู ยส์ ตู รฟ้า แบง่ ทอ้ งฟ้าออกเป็น “ซกี ฟ้าเหนือ” (Northern hemisphere) และ “ซกี ฟ้าใต”้ (Southern hemisphere) เชน่ เดยี วกบั ทเี สน้ ศูนยส์ ตู รโลก แบง่ โลก ออกเป็นซกี โลกเหนอื และซกี โลกใต้ จินตนาการจากพืนโลก • ในความเป็นจรงิ เราไมส่ ามารถมองเหน็ ทรงกลม นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

ภาพที 2 เสน้ สมมตบิ นทรงกลมทอ้ งฟ้า 28 ทอ้ งฟ้าไดท้ งั หมด เนืองจากเราอยบู่ นพนื ผวิ โลก จงึ มองเหน็ ทรงกลมทอ้ งฟ้าไดเ้ พยี งครงึ เดยี ว และเรยี ก แนวทที อ้ งฟ้าสมั ผสั กบั พนื โลกรอบตวั เราว่า “เสน้ ขอบฟ้า” (Horizon) ซงึ เป็นเสมอื นเสน้ รอบวงบนพนื ราบ ทมี ตี วั เราเป็นจดุ ศูนยก์ ลาง • หากลากเสน้ โยงจากทศิ เหนือมายงั ทศิ ใต้ โดยผ่านจดุ เหนอื ศรษี ะ จะไดเ้ สน้ สมมตซิ งึ เรยี กว่า “เสน้ เม อรเิ ดยี น” (Meridian) • หากลากเสน้ เชอื มทศิ ตะวนั ออก-ทศิ ตะวนั ตก โดยให้ เสน้ สมมตนิ นั เอยี งตงั ฉากกบั ขวั ฟ้าเหนือตลอดเวลา จะได้ “เสน้ ศนู ยส์ ตู รฟ้า” ซงึ แบ่งทอ้ งฟ้าออกเป็นซกี ฟ้าเหนือและซกี ฟ้าใต้ หากทาํ การสงั เกตการณ์จาก ประเทศไทย ซงึ อยบู่ นซกี โลกเหนือ จะมองเหน็ ซกี ฟ้า เหนอื มอี าณาบรเิ วณมากกว่าซกี ฟ้าใตเ้ สมอ การเคลือนทีของทรงกลมท้องฟ้ า เมอื มองจากพนื โลกเราจะเหน็ ทรงกลมทอ้ งฟ้าเคลอื นทจี ากทศิ ตะวนั ออกไปยงั ทศิ ตะวนั ตก อยา่ งไรกต็ ามเนืองจากโลกของเราเป็นทรงกลม ดงั นนั มุมมองของการเคลอื นทขี องทรงกลมทอ้ งฟ้า ยอ่ มขนึ อยกู่ บั ตําแหน่งละตจิ ดู (เสน้ รงุ้ ) ของผสู้ งั เกตการณ์ เป็นตน้ ว่า • ถา้ ผสู้ งั เกตการณ์อยบู่ นเสน้ ศนู ยส์ ตู ร หรอื ละตจิ ดู 0° ขวั ฟ้าเหนอื กจ็ ะอย่ทู ขี อบฟ้าดา้ นทศิ เหนอื พอดี (ภาพที 3) • ถา้ ผสู้ งั เกตการณ์อย่ทู ลี ะตจิ ดู สงู ขนึ ไป เชน่ ละตจิ ดู 13° ขวั ฟ้าเหนอื กจ็ ะอยสู่ งู จากขอบฟ้า 13° (ภาพที 4) • ถา้ ผสู้ งั เกตการณ์อยทู่ ขี วั โลกเหนือ หรอื ละตจิ ดู 90° ขวั ฟ้าเหนอื กจ็ ะอยสู่ ูงจากขอบฟ้า 90° (ภาพ ที 5) เราสามารถสรุปไดว้ ่า ถา้ ผูส้ งั เกตการณ์อยทู่ ลี ะตจิ ดู เท่าใด ขวั ฟ้าเหนอื กจ็ ะอยสู่ ูงจากขอบฟ้าเท่ากบั ละตจิ ดู นัน นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

29 ภาพที 3 ละตจิ ดู 0° N ผสู้ งั เกตการณ์อยทู่ เี สน้ ศูนยส์ ตู ร (ละตจิ ดู 0°) ดาวเหนือจะอยบู่ นเสน้ ขอบฟ้าพอดี ดาวขนึ – ตก ในแนวในตงั ฉากกบั พนื โลก ภาพที 4 ละตจิ ดู 13° N ผสู้ งั เกตการณ์อยทู่ ี กรงุ เทพ ฯ (ละตจิ ดู 13° N) ดาวเหนอื จะอยสู่ งู เหนอื เสน้ ขอบฟ้า 13° ดาวขนึ – ตก ในแนวเฉยี งไปทางใต้ 13° ภาพที 5 ละตจิ ดู 90° N ผสู้ งั เกตการณ์อยทู่ ขี วั โลกเหนอื (ละตจิ ดู 90° N) ดาวเหนือจะอยสู่ งู เหนือเสน้ ขอบฟ้า 90° ดาวเคลอื นทใี นแนวขนานกบั พนื โลก นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

30 การขึนตกของดาว 5 รปู แบบ 1. แบบที 1 North circumpolar star จะเป็นกลมุ่ ดาวทไี มล่ บั ขอบฟ้า ซงึ อยทู่ างซกี ฟ้าเหนือ 2. แบบที 2 South circumpolar star จะเป็นกลมุ่ ดาวทไี มป่ รากฏบนทอ้ งฟ้าใหเ้ หน็ ซงึ อยทู่ างซกี ฟ้าใต้ 3. แบบที 3 ดาวทปี รากฏบนเสน้ ศูนยส์ ตู ร เป็นกลุม่ ดาวทใี ชเ้ วลาปรากฏบนทอ้ งฟ้าเทา่ กบั เวลาที ลบั ขอบฟ้า 4. แบบที 4 ดาวทปี รากฏดา้ นซกี ฟ้าเหนอื เป็นกล่มุ ดาวทใี ชเ้ วลาปรากฏบนทอ้ งฟ้านานกวา่ ลบั ขอบฟ้า 5. แบบที 5 ดาวทปี รากฏดา้ นซกี ฟ้าใต้ เป็นกล่มุ ดาวทใี ชเ้ วลาลบั ขอบฟ้านานกว่าปรากฏบน ทอ้ งฟ้า 2.2 ลกั ษณะการเคลือนทีของดวงอาทิตย์ โลกของเราโคจรรอบดวงอาทติ ยเ์ ป็นวงรโี ดยมดี วงอาทติ ยอ์ ยทู่ จี ดุ โฟกสั จดุ เหนือ แกน หมนุ ของโลกเรานนั เอยี งทาํ มมุ 23.5 องศา กบั เสน้ ตงั ฉากกบั ระนาบวงโคจรของโลกรอบดวง อาทติ ย์ ทาํ ใหต้ าํ แหน่งของวงโคจรแกนหมุนเอยี งเขา้ หาดวงอาทติ ยไ์ มเ่ ท่ากนั และทาํ ใหเ้ กดิ ฤดกู าล บนโลกดว้ ย ภาพที 3 แสดงทางเดนิ ของโลกรอบดวงอาทติ ยแ์ ละการเอยี งของแกนหมุน จากการทโี ลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ ทาํ ใหเ้ ราเหน็ ดวงอาทติ ยเ์ คลอื นทไี ปบนทอ้ งฟ้าเรยี กเสน้ นีว่า เสน้ สรุ ยิ ะวถิ ี โดยทาํ มมุ กบั เสน้ ศูนยส์ ตู รทอ้ งฟ้า 23.5 องศา ตําแหน่งทสี าํ คญั บนเสน้ สุรยิ ะวถมี อี ยู่ 4 ตาํ แหน่งคอื จดุ เสน้ สุรยิ ะวถิ ตี ดั กบั เสน้ ศนู ยส์ ตู รทอ้ งฟ้าเรยี กว่าจดุ อคิ วนิ อกซ์ มอี ยู่ 2 จดุ คอื จดุ เวอร์ นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

31 นอลอคิ ลนิ อกซ์ (Vernal Equinox) เป็นตาํ แหน่งของดวงอาทติ ยใ์ นวนั ที 21 มนี าคม และอกี จดุ คอื ออทมั นอลอคิ ลนิ อกซ์ (Autumnal Equinox) เป็นตําแหน่งของดวงอาทติ ยใ์ นวนั ที 23 กนั ยายน เมอื ดวงอาทติ ย์ อยทู่ ตี ําแหน่งอคิ ลนิ อกซเ์ วลากลางวนั จะเท่ากนั กบั เวลากลางคนื อกี 2 จดุ คอื จดุ โซสตสี ฤดรู อ้ น (Summer Solstice) เป็นตําแหน่งของดวงอาทติ ยใ์ นวนั ที 22 มถิ ุนายนซงึ โลกจะหนั ขวั โลกเหนือเขา้ หาดวงอาทติ ยม์ ากทสี ุด ทาํ ใหก้ ลางวนั ยาวนานมากทสี ุด และจดุ ตรง ขา้ มคอื จดุ โซสตสิ ฤดหู นาว (Winter Solstice) เป็นตําแหน่งของดวงอาทติ ยม์ ากทสี ุดทาํ ใหก้ ลางวนั นนั สนั ทสี ดุ คอื วนั ที 22 ธนั วาคม จากแกนหมนุ ของโลกเอยี งทาํ ใหต้ าํ แหน่งของดวงอาทติ ยแ์ ต่ละวนั นนั เปลยี นแปลงไปเรอื ย ๆ ทงั จากการโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ยแ์ ละการทแี กนหมุนของโลกเอยี ง โดย 1 รอบ หรอื 360 องศา ใน เวลา 365 วนั หรอื ประมาณวนั ละ 1 องศา ทาํ ใหแ้ ต่ละวนั ตําแหน่งทดี วงอาทติ ยข์ นึ เปลยี นแปลงไปเรอื ย ๆ โดยในเดอื นมถิ ุนายนดวงอาทติ ยจ์ ะขนึ ไปทางเหนือมากทสี ุด และลงใตม้ ากทสี ดุ ในเดอื นธนั วาคม สว่ น วนั ที 21 มนี าคม และ 23 กนั ยายน ดวงอาทติ ยจ์ ะขนึ ทางทศิ ตะวนั ออกและตกทางทศิ ตะวนั ตกพอดี ภาพที 4 ทรงกลมทอ้ งฟ้าแสดงเสน้ สรุ ยิ ะ นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

32 การขนึ และการตกในแต่ละวนั ของดวงอาทติ ยจ์ ะมี 3 ลกั ษณะคอื ขนึ ทางตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และ ตกทางทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือทาํ ใหก้ ลางวนั วนั ยาวกว่ากลางคนื แบบที 2 คอื ขนึ ทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี ง ใตแ้ ละตกทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใตซ้ งึ ทาํ ใหก้ ลางวนั สนั กวา่ กลางคนื ภาพที 5 ทรงกลมทอ้ งฟ้าของผสู้ งั เกตทลี ะตจิ ดู องศาเหนือ และทรงกลมแสดงตําแหน่งของดาว การทโี ลกโคจรรอบดวงอาทติ ยใ์ นแต่ละวนั ทาํ ใหเ้ หน็ ดวงอาทติ ยเ์ คลอื นทไี ปบนทอ้ งฟ้าเมอื เทยี บ กบั ดาวฤกษ์ ซงึ เราเรยี กกลุ่มดาวทดี วงอาทติ ยเ์ คลอื นทผี า่ นวา่ กลุ่มดาวจกั ราศซี งึ มี 12 กลุ่ม แต่จรงิ ๆ แลว้ ดวงอาทติ ยเ์ คลอื นทผี า่ น 13 กล่มุ ดาว ซงึ กล่มุ ที 13 คอื กลุ่มดาวคนแบกงู 2.3 ดาวฤกษ์และกลุ่มดาวบนทรงกลมท้องฟ้ า กลุ่มดาวคอื อะไร ? คนในสมยั ก่อนเชอื ว่า เบอื งบนเป็นสวรรคเ์ บอื งล่างเป็นนรกโดยมโี ลกมนุษยอ์ ยตู่ รงกลาง พวก เขาจนิ ตนาการว่า โลกทเี ราอยนู่ นั มที รงกลมทอ้ งฟ้าลอ้ มรอบ โดยมดี วงดาวตดิ อยทู่ ที รงกลมนัน ดงั นนั คนโบราณจงึ คดิ วา่ ดวงดาวแต่ละดวงอยหู่ า่ งจากโลกเป็นระยะทางเท่า ๆ กนั เนืองจากบนทอ้ งฟ้ามี ดวงดาวอยเู่ ป็นจาํ นวนมาก พวกเขาจงึ แบ่งดวงดาวออกเป็นกลุ่ม ๆ และวาดภาพจนิ ตนาการว่าเป็น รปู คน สตั ว์ สงิ ของ ไปต่าง ๆ นานา ตามความเชอื และวถิ ชี วี ติ ของวฒั นธรรมของพวกเขา นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

33 ภาพที 6 กลมุ่ ดาวเต่า หรอื กลุม่ ดาวนายพราน กลมุ่ ดาว (Constellations) บนทอ้ งฟ้ามคี วามแตกต่างกนั ไปตามวฒั นธรรม เป็นต้นวา่ ชาวยโุ รป ซงึ อยบู่ นภเู ขามอี าชพี ลา่ สตั ว์ มองเหน็ กล่มุ ดาว “นายพราน” (Orion) เป็นรปู “นายพราน” แต่คนไทยส่วน ใหญ่มอี าชพี ทางการเกษตร จงึ มองเหน็ กลมุ่ ดาวนีเป็นรปู “เต่า” และ “คนั ไถ” ดงั ภาพที 6 ภาพที 7 กลุม่ ดาวจระเข้ หรอื กลุ่มดาวหมใี หญ่ กลมุ่ ดาว “หมใี หญ่” (Ursa Major) กเ็ ช่นกนั ชาวยโุ รปซงึ ใชช้ วี ติ บนภเู ขามองเหน็ เป็นรปู “หมใี หญ่” แต่คนไทยใชช้ วี ติ อยรู่ มิ นํา จงึ มองเหน็ เป็นรปู “จระเข”้ ดงั ภาพที 7 จะเหน็ ไดว้ า่ กล่มุ ดาวเป็นเพยี งเรอื งของจนิ ตนาการ ซงึ มคี วามแตกต่างกนั ไปในแต่ละทอ้ งถนิ เชอื ชาติ ภาษา และวฒั นธรรม ฉะนนั เพอื ใหส้ อื ความหมายตรงกนั องคก์ ารดาราศาสตรส์ ากล จงึ กาํ หนด มาตรฐานเดยี วกนั โดยแบ่งกลมุ่ ดาวบนทอ้ งฟ้าออกเป็น 88 กลมุ่ โดยมชี อื เรยี กใหเ้ หมอื นกนั โดยถอื เอา ตามยโุ รป เชน่ กลุ่มดาวนายพราน และกลมุ่ ดาวหมใี หญ่ สว่ นชอื กลมุ่ ดาวเต่า กลมุ่ ดาวจระเขน้ ัน ถอื เป็น ชอื ทอ้ งถนิ ภายในประเทศไทย นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

34 “กลุ่มดาว” ในความหมายทีแท้จริง ดาวฤกษ์บนทอ้ งฟ้า แทจ้ รงิ มขี นาดไมเ่ ทา่ กนั และอยหู่ ่างจากโลกของเรา ดว้ ยระยะทางทแี ตกต่าง กนั ออกไป แต่เนืองจากดาวฤกษแ์ ต่ละดวงอยหู่ ่างจากเรามาก เราจงึ มองเหน็ เป็นเพยี งจดุ แสง เพยี งแต่ แตกต่างกนั ทสี แี ละความสว่าง ยกตวั อยา่ ง กลุม่ ดาวแคสสโิ อเปีย (Cassiopeia) ซงึ อยใู่ กลข้ วั ฟ้าเหนือ (ในภาพที 8) ชาวยโุ รป จนิ ตนาการวา่ เป็น “พระราชนิ ี” แต่คนไทยเรามองเหน็ เป็น “คา้ งคาว” เมอื มองดดู ว้ ยตาเปลา่ เราจะเหน็ ดาวฤกษ์ 5 ดวง เรยี งตวั เป็นรปู ตวั “M” หรอื “W” ควาํ โดยทดี าวแต่ละดวงอยหู่ า่ งกนั ไมม่ าก และมี ความสวา่ งใกลเ้ คยี งกนั ในความเป็นจรงิ ดาวฤกษ์ทงั หา้ ดวงนี มขี นาดแตกต่างกนั มาก และอยหู่ ่างจากโลกดว้ ยระยะทางที แตกต่างกนั มากดว้ ย ดาวเบตา้ (β) มขี นาดเลก็ แต่วา่ อยใู่ กล้ สว่ นดาวแกมม่า (γ) มขี นาดใหญ่แต่วา่ อยู่ ไกล เราจงึ มองเหน็ เหมอื นว่าดาวทงั สองมคี วามสวา่ งใกลเ้ คยี งกนั เรามองเหน็ เหมอื นวา่ ดาวทงั สองมี ระยะเชงิ มมุ ใกล้ ๆ กนั ทวา่ ความจรงิ แลว้ ดาวฤกษท์ งั สองอยลู่ กึ ไปในอวกาศไมเ่ ทา่ กนั ภาพที 8 กล่มุ ดาวคา้ งคาวในความหมายทแี ทจ้ รงิ ดาวฤกษแ์ ต่ละดวงมไิ ดห้ ยดุ นิงอยปู่ ระจาํ ที ทว่าเคลอื นทไี ปในอวกาศดว้ ยความเรว็ และทศิ ทางที แตกต่างกนั เนืองจากว่าดาวฤกษอ์ ยหู่ า่ งไกลมาก เราจงึ มองเหน็ พวกมนั คลา้ ยว่าหยดุ นิง และจนิ ตนาการ ลากเสน้ เชอื มต่อใหเ้ ป็นรปู ร่างทแี น่นอน ดงั ในรปู ข. เนืองจากดวงดาวแต่ละดวง ต่างเคลอื นทไี ปใน กาแลก็ ซที างชา้ งเผอื ก กลมุ่ ดาวทเี รามองเหน็ ยอ่ มมรี ปู รา่ งแปรเปลยี นไปตามกาลเวลา ดงั แสดงในรปู ก เป็นภาพกลมุ่ ดาวคา้ วคาวเมอื 50,000 ปีในอดตี , รปู ข เป็นภาพกลุ่มดาวคา้ งคาวในปจั จบุ นั , และรปู ค เป็นภาพของกลุ่มดาวคา้ งคาวในอกี 50,000 ปีขา้ งหน้า นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

35 จกั ราศี (Zodiac) โลกหมนุ รอบตวั เอง ขณะเดยี วกนั กโ็ คจรรอบดวงอาทติ ย์ โดยใชเ้ วลารอบละ 1 ปี ทาํ ใหต้ าํ แหน่ง ปรากฏของดวงอาทติ ย์ เทยี บกบั ตําแหน่งของกลมุ่ ดาว บนทอ้ งฟ้าเปลยี นแปลงไป ดงั ภาพที 4 ยกตวั อยา่ ง เช่น ในเดอื นมถิ ุนายน เรามองเหน็ ดวงอาทติ ยอ์ ยหู่ น้า “กล่มุ ดาวคนคู่” (ราศเี มถุน) และใน เวลาหนึงเดอื นต่อมา ดวงอาทติ ยเ์ คลอื นทใี นทศิ ทวนเขม็ นาฬกิ าไป 30 องศา เรากจ็ ะมองเหน็ ดวงอาทติ ย์ เคลอื นทไี ปอยหู่ น้า “กลมุ่ ดาวป”ู (ราศกี รกฏ) ซงึ อยถู่ ดั ไป 30° เชน่ กนั เราเรยี กกลุ่มดาว ซงึ บอกตาํ แหน่งดวงอาทติ ย์ ในแต่ละเดอื นว่า “จกั ราศ”ี (Zodiac) ผคู้ นใน สมยั ก่อนใชก้ ลุ่มดาวจกั ราศเี ป็นเสมอื นปฏทิ นิ ในการกําหนดเวลาเป็นเดอื นและปี โดยการเปรยี บเทยี บ ตําแหน่งของดวงอาทติ ย์ กบั ตาํ แหน่งของกลมุ่ ดาวจกั ราศบี นทอ้ งฟ้า โดยการถอื เอาเสน้ สรุ ยิ ะวถิ ี เป็นเสน้ รอบวง 360° หารดว้ ยจาํ นวนกลมุ่ ดาวประจาํ ราศที งั 12 กล่มุ ซงึ หา่ งกนั กลมุ่ ละ 30° ภาพที 9 กล่มุ ดาวจกั ราศี ถา้ หากแกนหมุนของโลกตงั ฉากกบั ระนาบวงโคจรรอบดวงอาทติ ย์ เสน้ ศนู ยส์ ตู รฟ้ากบั เสน้ สุรยิ ะ วถิ จี ะเป็นเสน้ เดยี วกนั และเราจะเหน็ ดวงอาทติ ยแ์ ละกลมุ่ ดาวจกั ราศี อยบู่ นเสน้ ศูนยส์ ตู รฟ้าตลอดเวลา ทว่าในความเป็นจรงิ แกนของโลกเอยี ง 23.5° ขณะทโี คจรไปรอบ ๆ ดวงอาทติ ย์ ดงั นนั กลุ่มดาวจกั ราศี จะเรยี งตวั อยบู่ นเสน้ สุรยิ ะวถิ ี หา่ งจากเสน้ ศูนยส์ ตู รฟ้าไปทางทศิ เหนือหรอื ใต้ เป็นระยะเชงิ มมุ ไมเ่ กนิ 23.5° ดงั ภาพที 9 นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

36 ภาพที 10 สุรยิ ะวถิ ี และกลุ่มดาวจกั ราศี 2.4 กลุ่มดาว ลกั ษณะการเคลือนทีของกล่มุ ดาวบนท้องฟ้ า แมว้ ่าจะมกี ลุ่มดาวบนทอ้ งฟ้าอยถู่ งึ 88 กลุ่ม แต่ในทางปฏบิ ตั มิ กี ล่มุ ดาวเพยี งสบิ กว่ากลมุ่ ที เหมาะสมสําหรบั การเรมิ ต้น และกลุม่ ดาวเหลา่ นีกม็ ไิ ดม้ ใี หเ้ หน็ ตลอดเวลา เนืองเพราะโลกหมนุ รอบตวั เอง และหมนุ รอบดวงอาทติ ย์ กลุ่มดาวสวา่ งแต่ละกลุ่มจะปรากฏใหเ้ หน็ เพยี งแต่ละช่วงเวลาเท่านัน ดาวฤกษส์ วา่ งรอบดาวหมใี หญ่ ภาพที 11 ดาวฤกษ์สว่างรอบดาวหมใี หญ่ ในการเรมิ ต้นดดู าวนนั เราตอ้ งจบั จดุ จากดาวฤกษ์ทสี วา่ งเสยี ก่อน แลว้ จงึ คอ่ ยมองหารปู ทรงของ นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

37 กลุ่มดาว สงิ แรกทตี อ้ งทาํ ความเขา้ ใจคอื การเคลอื นทขี องทอ้ งฟ้า เราจะตอ้ งหาทศิ เหนอื ใหพ้ บ แลว้ สงั เกตการเคลอื นทขี องกล่มุ ดาว จากซกี ฟ้าตะวนั ออกไปยงั ซกี ฟ้าตะวนั ตก เนืองจากการหมนุ ตวั เองของ โลก “กลุ่มดาวหมใี หญ่” (Ursa Major) ประกอบดว้ ยดาวสว่างเจด็ ดวง เรยี งตวั เป็นรปู กระบวยขนาด ใหญ่ ดาวสองดวงแรกชาวยโุ รปเรยี กว่า “เดอะ พอยเตอร”์ (The Pointer) หมายถงึ ลกู ศรซงึ ชเี ขา้ หา “ดาว เหนอื ” (Polaris) อยตู่ ลอดเวลา โดยดาวเหนือจะอยหู่ า่ งจากดาวสองดวงแรกนัน นบั เป็นระยะเชงิ มมุ สเี ท่า ของระยะเชงิ มมุ ระหว่างดาวสองดวงนนั ดาวเหนืออยใู่ นส่วนปลายหางของ ”กลมุ่ ดาวหมเี ลก็ ” (Ursa Minor) ซงึ ประกอบดว้ ยดาวไมส่ ว่าง เรยี งตวั เป็นรปู กระบวยเลก็ แมว้ า่ ดาวเหนอื จะมคี วามสว่างไมม่ ากนกั แต่ในบรเิ วณขวั ฟ้าเหนือ กไ็ มม่ ดี าวใดสว่างไปกว่าดาวเหนอื ดงั นนั ดาวเหนือจงึ มคี วามโดดเด่น พอสมควร เมอื เราทราบตาํ แหน่งของดาวเหนือ เรากจ็ ะทราบทศิ ทางการหมนุ ของทรงกลมทอ้ งฟ้า หากเรา หนั หน้าเขา้ หาดาวเหนือ ทางขวามอื จะเป็นทศิ ตะวนั ออก และทางซา้ ยมอื จะเป็นทศิ ตะวนั ตก กลมุ่ ดาว ทงั หลายจะเคลอื นทจี ากทางขวามอื ไปตกทางซา้ ยมอื ในขนั ตอนต่อไปเราจะตงั หลกั ทกี ลมุ่ ดาวหมใี หญ่ วาดเสน้ โคง้ ตาม “หางหม”ี หรอื “ดา้ มกระบวย” ต่อออกไปยงั “ดาวดวงแกว้ ” (Arcturus) หรอื ทมี ชี อื เรยี กอกี ชอื หนึงวา่ “ดาวมหาจฬุ ามณ”ี เป็นดาวสสี ม้ สวา่ งมากใน “กลุ่มดาวคนเลยี งสตั ว”์ (Bootes) และหาก ลากเสน้ อารค์ โคง้ ต่อไปอกี เทา่ ตวั กจ็ ะเหน็ ดาวสวา่ งสขี าวชอื ว่า “ดาวรวงขา้ ว” (Spica) อยใู่ นกลมุ่ ดาว หญงิ สาว (Virgo) หรอื ราศกี นั ย์ กลุม่ ดาวนีจะมดี าวสว่างประมาณ 7 ดวงเรยี งตวั เป็นรปู ตวั Y อยบู่ นเสน้ สรุ ยิ ะวถิ ี กลบั มาทกี ลุ่มดาวหมใี หญ่อกี ครงั ดาวดวงที 4 และ 3 ตรงสว่ นของกระบวย จะชไี ปยงั “ดาวหวั ใจ สงิ ห”์ (Regulus) ใน”กลมุ่ ดาวสงิ โต” (Leo) หรอื ราศสี งิ ห์ พงึ ระลกึ ไวว้ า่ กลุ่มดาวจกั ราศจี ะอยบู่ นเสน้ สุรยิ ะ วถิ เี สมอ ถา้ เราพบกลุ่มดาวราศหี นึง เรากส็ ามารถไล่หากลมุ่ ดาวราศขี องเดอื นอนื ซงึ เรยี งถดั ไปได้ เชน่ ในภาพที 1 เราเหน็ กลุ่มดาวราศสี งิ ห์ และกลุ่มดาวราศกี นั ย์ เรากส็ ามารถประมาณไดว้ ่ากลมุ่ ดาวราศกี รกฏ และราศตี ุลยจ์ ะอยทู่ างไหนสามเหลยี มฤดหู นาว ภาพที 12 สามเหลยี มฤดหู นาว นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

38 ในชว่ งของหวั คาํ ของฤดหู นาว จะมกี ลุม่ ดาวสวา่ งอยทู่ างทศิ ตะวนั ออก คอื กลมุ่ ดาวนายพราน กลุ่มดาวสุนขั ใหญ่ และกล่มุ ดาวสนุ ขั เลก็ หากลากเสน้ เชอื ม ดาวบีเทลจสุ (Betelgeuse) - ดาวสวา่ งสี แดงตรงหวั ไหล่ของนายพรานไปยงั ดาวซิริอสุ (Sirius) – ดาวฤกษ์สวา่ งทสี ดุ สขี าว ตรงหวั สนุ ขั ใหญ่ และ ดาวโปรซีออน (Procyon) - ดาว สวา่ งสขี าวตรงหวั สนุ ัขเลก็ จะไดร้ ปู สามเหลยี มดา้ นเทา่ เรยี กว่า “สามเหลยี มฤดหู นาว” (Summer Triangle) ซงึ จะขนึ ในเวลาหวั คาํ ของฤดหู นาว กล่มุ ดาวนายพรานเป็นกล่มุ ดาวทเี หมาะสมกบั การเรมิ ต้นหดั ดดู าวมากทสี ดุ เนืองจาก ประกอบดว้ ยดาวสว่างทมี รี ปู แบบการเรยี งตวั (pattern) ทโี ดดเด่นจาํ งา่ ย และขนึ ตอนหวั คาํ ของฤดหู นาว ซงึ มกั มสี ภาพอากาศดที อ้ งฟ้าใสไมม่ เี มฆปกคลุม สญั ลกั ษณ์ของกลมุ่ ดาวนายพรานกค็ อื ดาวสว่างสาม ดวงเรยี งกนั เป็นเสน้ ตรง ซงึ เรยี กว่า “เขม็ ขดั นายพราน” (Orion’s belt) ทางทศิ ใตข้ องเขม็ ขดั นายพราน มี ดาวเลก็ ๆ สามดวงเรยี งกนั คนไทยเราเหน็ เป็นรปู “ดา้ มไถ” แต่ชาวยโุ รปเรยี กว่า “ดาบนายพราน” (Orion’s sword) ทตี รงกลางของบรเิ วณดาบนายพรานนี ถ้านํากลอ้ งสอ่ งดจู ะพบ “เนบวิ ลา M42” เป็นกลมุ่ ก๊าซในอวกาศ กําลงั รวมตวั เป็นดาวเกดิ ใหม่ ซงึ อยตู่ รงใจกลางและสอ่ งแสงมากระทบเนบวิ ลา ทําใหเ้ รา มองเหน็ ดาวสวา่ งสองดวงทบี รเิ วณหวั ไหล่ดา้ นทศิ ตะวนั ออก และหวั เขา่ ดา้ นทศิ ตะวนั ตกของกลุ่มดาว นายพราน มสี แี ตกต่างกนั มาก ดาวบเี ทลจสุ มสี อี อกแดง แต่ดาวไรเจล (Rigel) มสี อี อกนําเงนิ สีของ ดาวบอกถงึ อายแุ ละอณุ หภมู ิของดาว ดาวสีนําเงินเป็นดาวทีมีอายุน้อย และมอี ณุ หภมู ิสงู 1 – 2 หมนื องศาเซลเซียส ดาวสีแดงเป็นดาวทีมอี ายมุ าก และมีอณุ หภมู ิตาํ ประมาณ 3,000 °C ส่วน ดวงอาทิตยข์ องเรามสี ีเหลือง เป็นดาวฤกษ์ซึงมีอายปุ านกลาง และมอี ณุ หภมู ิทีพืนผิวประมาณ 6,000 °C ในกลุ่มดาวสนุ ขั ใหญ่ (Canis Major) มดี าวฤกษท์ สี วา่ งทสี ุดบนทอ้ งฟ้ามชี อื ว่า ดาวซิริอสุ (Sirius) คนไทยเราเรยี กว่า “ดาวโจร” (เนืองจากสว่างจนทาํ ใหโ้ จรมองเหน็ ทางเขา้ มาปลน้ ) ดาวซริ ิ อุสมไิ ดม้ ขี นาดใหญ่ แต่ว่าอยหู่ ่างจากโลกเพยี ง 8.6 ลา้ นปีแสง ถา้ เทยี บกบั ดาวไรเจลในกลมุ่ ดาว นายพรานแลว้ ดาวไรเจลมขี นาดใหญ่และมคี วามสวา่ งกว่าดาวซริ อิ ุสนบั พนั เทา่ หากแต่ว่าอยหู่ า่ งไกลถงึ 777 ลา้ นปีแสง เมอื มองดจู ากโลก ดาวไรเจลจงึ มคี วามสวา่ งน้อยกว่าดาวซริ อิ ุส นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)

39 สามเหลยี มฤดรู อ้ น ภาพที 13 สามเหลยี มฤดรู อ้ น ในชว่ งหวั คาํ ของตน้ ฤดหู นาว จะมกี ลมุ่ ดาวสวา่ งทางดา้ นทศิ ตะวนั ตก คอื กลมุ่ ดาวพณิ กลุ่มดาว หงส์ และกลุ่มดาวนกอนิ ทรยี ์ หากลากเสน้ เชอื ม ดาวเวก้า (Vega) - ดาวสว่างสขี าวในกลมุ่ ดาวพณิ ไปยงั ดาวหางหงส์ (Deneb) – ดาวสวา่ งสขี าวในกลุ่มดาวหงส์ และ ดาวนกอินทรีย์ (Altair) - ดาวสวา่ งสขี าว ในกลมุ่ ดาวนกอนิ ทรยี ์ จะไดร้ ปู สามเหลยี มดา้ นไมเ่ ท่าเรยี กว่า “สามเหลียมฤดรู อ้ น” (Summer Triangle) ซงึ อยใู่ นทศิ ตรงขา้ มกบั สามเหลยี มฤดหู นาว ขณะทสี ามเหลยี มฤดรู อ้ นกําลงั จะตก สามเหลยี มฤดหู นาวกก็ ําลงั จะขนึ (สามเหลยี มฤดหู นาวขนึ ตอนหวั คาํ ของฤดรู อ้ นของยโุ รปและอเมรกิ า ซงึ เป็นช่วงฤดฝู นของประเทศไทย) ในคนื ทเี ป็นขา้ งแรมไรแ้ สงจนั ทรร์ บกวน หากสงั เกตใหด้ จี ะเหน็ วา่ มี แถบฝ้าสวา่ งคลา้ ยเมฆขาว พาดขา้ มทอ้ งฟ้า ผ่านบรเิ วณกล่มุ ดาวนกอนิ ทรยี ์ กลมุ่ ดาวหงส์ ไปยงั กลุ่มดาว แคสสโิ อเปีย (คา้ งคาว) แถบฝ้าสว่างทเี หน็ นันแทท้ จี รงิ คอื “ทางชา้ งเผอื ก” (The Milky Way) 2.5 แผนทีดาว การอ่านแผนทดี าวเป็น จะทาํ ใหเ้ ราดดู าวหรอื กล่มุ ดาวทปี รากฏบนทอ้ งฟ้า ณ วนั – เวลาใดได้ อยา่ งถูกตอ้ ง ก่อนอ่านแผนทดี าวเพอื เปรยี บเทยี บกบั ดาวทปี รากฏบนทอ้ งฟ้า ผสู้ งั เกตตอ้ งรทู้ ศิ เหนอื – ใต้ ตะวนั ออก – ตะวนั ตก ของทนี นั ๆ ก่อน นายกนั ตธ์ นากร น้อยเสนา ครวู ชิ าการ โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยานุสรณ์ ([email protected], Tel.02-8497210)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook