Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานคุณธรรมมม.4.1

โครงงานคุณธรรมมม.4.1

Published by s-u-p-e-r_human, 2021-12-23 12:20:19

Description: โครงงานคุณธรรมมม.4.1

Search

Read the Text Version

๑ โครงงานคณุ ธรรม เรือ่ ง ต้งั ใจดี สอบก่ที ีไมม่ ีตก โดย นักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ครูท่ีปรกึ ษาชน้ั นางนริ มล หิตายะโส นางพนาพรรณ ราชเสนา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 5๐ จงั หวัดขอนแกน่ สำนักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สำนักงาคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

๒ คำนำ โครงงานคณุ ธรรม เร่อื ง ตง้ั ใจดสี อบกที่ ีไมม่ ตี ก ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ฉบับน้ี จดั ทำข้นึ เพื่อ แกป้ ญั หาพฤตกิ รรมท่ีไมพ่ งึ ประสงค์ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 โดยมีวตั ถุประสงคใ์ หท้ ี่จะใหน้ ักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 ปกี ารศกึ ษา 2564 มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนสูงขนึ้ และเพ่ือใหน้ กั เรียนตระหนกั ในหน้าที่ ของลูกที่ดีในขณะทมี่ ีสถานภาพเปน็ นกั เรยี นตอ่ บิดามารดา การจดั ทำโครงงานครัง้ น้ีจงึ สำเร็จลลุ ว่ งด้วยดี เพราะ ความรว่ มมอื ของทกุ คน ขอขอบคุณนกั เรียนทุกคนที่ใหค้ วามร่วมมอื ในการทำกจิ กรรมตามทว่ี างแผนไว้ ผู้จดั ทำ

๓ สารบญั คำนำ หนา้ สารบญั บทท่ี 1 บทนำ 1 บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กย่ี วข้อง 7 บทที่ 3 วิธดี ำเนินงาน 11 บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 13 บทที่ 5 สรุปผลและอภปิ ราย 15 ภาคผนวก 15

๔ บทท่ี 1 บทนำ ทีม่ าและความสำคญั ของปัญหา การเรยี นในระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลายน้ัน นกั เรยี นต้องปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมการเรยี นเปน็ อยา่ ง มาก และแตกตา่ งจากการเรยี นในระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เป็นอย่างมาก นักเรยี นจงึ ต้องปรบั พฤตกิ รรมการ เรยี น ทต่ี ้องใช้หลกั สุ จิ ปุ ลิ อยา่ งมาก นักเรยี นตอ้ งตัง้ ใจเรยี นในขณะทเ่ี รียนในชั่วโมงเรียน ทำการบ้าน แบบ ฝกึ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย และหม่นั ทบทวนทุกวัน หรอื วางแผนการอา่ นทบทวนก่อนสอบให้ดี ตลอดจนการทำ หน้าท่ขี องลูกทดี่ ีด้วยการตัง้ ใจเรยี นก็มีความสำคญั ไมน่ อ้ ยไปกวา่ การเรียนวิชาการ จากรายงานผลการสอบกลางภาคเรยี นที่ 1/2564 ของนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 ในปกี ารศกึ ษา พบว่า มนี กั เรียนหลายคนทีม่ ีผลการสอบไมผ่ า่ นเกณฑท์ ี่ครกู ำหนด และมผี ลการสอบตำ่ กวา่ คา่ เปา้ หมายทค่ี รแู ต่ ละวชิ ากำหนดไว้ ครูทป่ี รึกษาทปี่ รกึ ษาช้ันและนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 ไดร้ ่วมกันคดิ วิเคราะห์หาสาเหตุ และแนวทางแกไ้ ขปัญหา ทำใหพ้ บว่ามสี าเหตสุ บื เนือ่ งมาจากในขณะที่เรยี นนกั เรียนมพี ฤติกรรมท่ีไมพ่ งึ ประสงค์ เช่น เขา้ ห้องเรียนช้า ไม่ตงั้ ใจเรียน เมอื่ ไม่เข้าใจบทเรียนกไ็ ม่กลา้ ถามครปู ระจำวชิ า ไมท่ ำแบบฝกึ หรือการบา้ นส่ง ตามท่ีครมู อบหมาย ทำการบา้ นไมเ่ สรจ็ ไม่เปน็ ปัจจุบนั ไม่อา่ นหนังสือทบทวนเมอื่ ถึงกำหนดสอบกลางภาค สง่ ผล ให้นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 หลายคนมผี ลการสอบไมผ่ า่ น และมีผลการสอบตำ่ กวา่ เกณฑ์ทค่ี รปู ระจำวิชา กำหนดไว้ ดังน้นั ครูทีป่ รึกษาชั้นและนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 จงึ ไดร้ ว่ มกนั วางแผนและหาแนวทางท่ีจะให้ นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ปรับเปล่ียนพฤติกรรมการเรียนใหม่ โดยการตัง้ ใจเรยี น วางแผนการอา่ นหนงั สอื ทบทวนบทเรยี นทุกวัน และมีบนั ทึกการอา่ น เปน็ การวางแผนการเรยี นทดี่ ี ทำการบ้านและงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ดังนนั้ การปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 ดงั กลา่ วจะส่งผลให้ นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 มผี ลการสอบผ่านเกณฑ์ของแตล่ ะวชิ า และเมอ่ื สน้ิ ภาคเรยี นและปกี ารศกึ ษาจะ ทำให้ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสงู ข้นึ และท่ีสำคัญผูป้ กครองมีกำลังใจในการประกอบอาชีพเพราะบตุ รหลานทำ หน้าทไ่ี ด้อยา่ งเหมาะสมกับการเปน็ นกั เรยี นท่ดี ีและลูกทดี่ ีของพอ่ แม่ วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 มผี ลการสอบผ่านทกุ รายวิชา 2. เพือ่ ให้นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนสงู ขน้ึ 3. เพ่ือให้นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 ทำหนา้ ท่ีของลูกที่ดี มคี วามกตญั ญตู ่อผูป้ กครอง ปญั หา นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 สว่ นใหญ่มผี ลการสอบกลางภาคเรียนที่ 1/2564 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ สืบ เนอื่ งมาจาก เข้าหอ้ งเรยี นช้า ไมต่ ั้งใจเรียน นอนหลับในชว่ั โมงเรยี น เมอ่ื ไมเ่ ข้าใจบทเรยี นก็ไม่กลา้ ถามครูประจำ วชิ า ไมท่ ำแบบฝกึ หรือการบา้ นสง่ ตามทคี่ รมู อบหมาย ทำการบา้ นไมเ่ สร็จไมเ่ ปน็ ปัจจบุ ัน ไม่อา่ นหนังสือทบทวน เมอ่ื ถึงกำหนดสอบกลางภาค สง่ ผลให้นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 หลายคนมผี ลการสอบไมผ่ า่ น และมีผลการ สอบตำ่ กวา่ เกณฑ์ทีค่ รปู ระจำวชิ ากำหนดไว้ สาเหตขุ องปญั หา 1. นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/1 ไมต่ ้งั ใจเรียน 2. นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4/1 นอนหลบั ในห้องเรยี น

๕ 3. นักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 ไม่อา่ นทบทวนบทเรยี น ไม่ทำแบบฝกึ หรอื ใบงานที่ครูมอบหมาย กลุม่ เป้าหมาย 1. เชงิ ปริมาณ - นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 จำนวน 34 คน 2. เชงิ คณุ ภาพ - นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 เป็นผมู้ คี วามรับผิดชอบ ขยันหม่ันเพยี ร - นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 มผี ลการเรยี นดขี นึ้ และมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นสูงขึน้ เปา้ หมายระยะสนั้ (ระยะเวลา 3 เดอื น) - นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 ต้ังใจเรยี น เข้าหอ้ งเรยี นตรงเวลา ทำการบา้ น แบบฝึกทค่ี รู แตล่ ะวชิ า และอ่านทบทวนบทเรียนทุกวนั เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปีการศกึ ษา) - มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนสงู ขึ้น รอ้ ยละ 85 คณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ 1.ความกตญั ญู 1) นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ปฏบิ ัตติ ามคำสอนของบดิ ามารดา เปน็ คนดี มีความประพฤติ เรยี บรอ้ ย 2) นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4/1 ปฏิบตั หิ น้าท่นี ักเรียน เข้าเรยี นทกุ ช่ัวโมง ไม่หนเี รียน ทำการบา้ น แบบฝกึ ใบงานที่ครมู อบหมายสง่ ทุกรายวิชา 2. ความรับผดิ ชอบ 1) นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ต้ังใจเรยี น เข้าเรียนทกุ ชั่วโมง 2) นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 ทำแบบฝึกการบา้ น ใบงาน สง่ ครทู ุกรายวชิ า 3) นกั เรียนมีผลการสอบผา่ นทุกรายวชิ า และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นสงู ข้ึน พฤติกรรมบง่ ชเ้ี ชิงบวก 1. นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/1 ทกุ คนเขา้ เรยี นทกุ ชว่ั โมง และต้ังใจเรยี น 2. นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4/1 ทกุ คนทำและสง่ การบา้ น แบบฝกึ หรอื งานท่คี รมู อบหมาย 3. นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 ลดพฤตกิ รรมทีไ่ ม่พึงประสงค์ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบของโรงเรียน ตัวช้วี ัดความสำเร็จ 1. นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 รอ้ ยละ 100 ต้ังใจเรยี น สง่ การบา้ น หรอื ชน้ิ งานเสร็จทันเวลาท่ี ครูกำหนด 2. นกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 มีผลการสอบผ่าน และผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนสูงขนึ้ ร้อยละ 95 วธิ กี ารประเมิน 1) สังเกตพฤตกิ รรม 2) แบบสอบถาม เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ประเมิน 1) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน 2) แบบบันทึกเวลาเรียนประจำวิชาท่สี อนช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4

๖ ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รับ 1. นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 เป็นผมู้ คี วามรบั ผดิ ชอบ ขยันหม่นั เพยี ร 2. นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นสูงข้ึน

๗ บทท่ี 2 เอกสารที่เกีย่ วขอ้ ง ในการดำเนินโครงงานคณุ ธรรม นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 ได้นำหลักการคุณธรรมมาใชใ้ นการ แก้ไขปัญหาพฤติกรรมของนกั เรยี น และนำไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1. เคล็ดลบั ในการเรยี นให้ไดผ้ ลดี การเรียนในระดับชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย สายวทิ ยาศาสตร์ – คณติ ศาสตร์ นัน้ สว่ นหน่งึ ก็ตอ้ ง อาศัยการมวี ินัย เขา้ ห้องเรยี นอยา่ ง สมำ่ เสมอ และหม่ันทบทวนบทเรียน ถา้ อยากได้ผลการเรยี นดๆี มี เคล็ดลบั ดงั ตอ่ ไปน้ี กญุ แจแห่งความสำเรจ็ ที่จะนำมาแนะนำมีชือ่ ว่า ‘การเรยี นร้แู บบองค์รวม’ หรอื ‘Holistic Learning’ ซง่ึ เป็นส่ิงที่ตรงข้ามกบั การท่องจำลล้วน ๆ ข้อมลู เขา้ ไปในหวั สมอง การเรยี นรแู้ บบองคร์ วมจะชว่ ยใหเ้ กิดการ เชอ่ื มต่อระหว่างความคดิ และข้อมูลตา่ งๆ ทำใหเ้ ราจดจำได้ดีขนึ้ ในระยะยาว และช่วยเพม่ิ ทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ด้วย 1) แปลงขอ้ มูลให้เป็นรปู ภาพ สมองคนเราสามารถจดจำภาพไดด้ กี วา่ ขอ้ ความ ดงั นั้น การแปลงข้อมลู ต่างๆ ใหเ้ ป็นรูปภาพ จะทำให้เรา สามารถจำได้ดขี ึน้ รูปภาพในที่น้ีรวมถึงแผนภมู แิ ท่ง แผนภูมวิ งกลม แผนท่คี วามคดิ ดว้ ยนะคะ ลองฝกึ จดแลคเชอร์ โดยมรี ปู ประกอบดู แล้วจะพบวา่ มนั จำงา่ ยกวา่ ขอ้ ความตดิ กนั เปน็ พรืดๆ เยอะ 2) เชอ่ื มโยงความรูใ้ หมเ่ ข้ากบั ความรู้เกา่ ในการเรยี นรู้ส่ิงใหม่ๆ ให้พยายามโยงเข้ากับพืน้ ความร้เู ดมิ ที่มอี ยู่ แล้ว จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจส่ิงใหม่ที่เรียนรูไ้ ด้ดียิ่งข้นึ เชน่ คำวา่ ‘sue’ ซึ่งแปลว่า ฟอ้ งร้อง ออกเสยี งคลา้ ยๆ ‘สู้’ ในภาษาไทย เราก็จำแบบเชอ่ื มโยงว่า sue คอื สู้กันในศาล = ฟอ้ งรอ้ ง แบบน้ีก็จะชว่ ยใหจ้ ดจำได้ในระยะยาว 3) ติวใหเ้ พื่อน การตวิ ให้คนอน่ื นอกจากจะเปน็ การทบทวนความรู้ของเราอกี รอบแลว้ ในระหว่างเรยี บ เรียงเพ่อื นำไปอธิบายให้เพื่อนเขา้ ใจ สมองของเรายงั มกี ารพฒั นาปรับปรงุ สิง่ ทเี่ รียนรไู้ ป ให้มกี ารจดั วางอยา่ งเปน็ ระบบมากยง่ิ ข้นึ และทำให้เราเขา้ ใจความร้เู หล่านั้นลกึ ซึง้ มากยง่ิ ข้ึนไปอกี แถมยงั สนิทกบั เพอื่ นมากข้นึ อกี ด้วยนะ 4) หลกี เลี่ยงการจดโนต้ ด้วยข้อความล้วนๆ เช่ือวา่ หลายคนคงเคยหลบั คาตำราเรยี นเลม่ หนาๆ กนั มาแลว้ ไมม่ ากก็นอ้ ย เพราะตัวหนงั สอื ท่ตี ดิ กนั ยาวๆ อา่ นแลว้ มนั ชา่ งนา่ เบอ่ื สดุ ๆ เพราะแบบนนั้ เวลาที่เราจดโนต้ ไว้ อ่านทบทวนเองก็ไมค่ วรเขยี นเฉพาะตัวหนงั สอื ลองวาดภาพ เขยี นกราฟ เขยี นแผนภมู ิแทรกลงไปบา้ ง ใช้ปากกาสี หรอื ไฮไลทใ์ หเ้ ด่น ข้อความ pop up ข้นึ มาเวลาอา่ น จะชว่ ยให้สนกุ ขึ้นเวลากลับมาอ่านทบทวน และทำให้จดจำ ไดด้ ียงิ่ ขน้ึ อีกดว้ ย อย่าลืมแทรกความคดิ เห็นที่เรามีต่อเร่อื งน้นั ๆ ลงไปด้วย เพราะมนั จะช่วยกระตนุ้ ใหส้ มองเกิดการคดิ วิเคราะห์ (critical thinking) ได้เป็นอยา่ งดี 5) วางรากฐานให้มนั่ คง เวลาเร่มิ ตน้ เรยี นใหมๆ่ สว่ นใหญ่เนอื้ หาจะงา่ ยใชไ่ หมคะ แต่พอเรยี นไปเร่ือยๆ ยิ่งเรียนก็ยง่ิ ยากข้นึ และทำให้งนุ งงสบั สนมากขึ้นเร่ือยๆ บางคนพอไม่เขา้ ใจจุดหน่ึงกป็ ลอ่ ยผา่ นไป แลว้ ขา้ มไปอา่ น อกี เรือ่ ง แบบนนั้ มักจะย่งิ ทำใหง้ งมากข้ึนคะ่ เพราะเนอ้ื หาในบทเรยี นสว่ นใหญ่จะเช่ือมโยงกนั ฉะน้นั ถ้าอยากจะเข้าใจบทเรียนทัง้ หมดได้โดยไม่สับสน การค่อยๆ เรียนรไู้ ปทีละก้าวจึงเปน็ เรื่องสำคญั มาก ต้องมนั่ ใจวา่ เราเข้าใจพ้ืนฐานเรือ่ งทเ่ี รยี นแนน่ อน สามารถอธบิ ายได้ แลว้ ลำดบั ต่อๆ ไปถ้าสามารถอธบิ ายไดก้ จ็ ะไม่คอ่ ยรู้สกึ วา่ มันยากเอง 6) อา่ นบทสรุปกอ่ นเร่มิ เรียน หากวิชาไหนมบี ทสรุป ก่อนจะเริ่มอา่ นเนอ้ื หาหรอื เรยี นในคาบ

๘ ถัดไป แนะนำวา่ ให้อา่ นบทสรปุ ไปกอ่ นล่วงหนา้ เพราะจะชว่ ยให้เห็นภาพรวมของเนื้อหาทัง้ หมดกอ่ น และเมื่อ ยอ้ นกลบั มาไลอ่ า่ นอกี ครงั้ กจ็ ะทำใหเ้ ขา้ ใจไดด้ ยี ง่ิ ขนึ้ อย่างน้อยเผอื่ เวลาสกั 30 นาทีหรือ 1 ชว่ั โมงกอ่ นเข้าคลาส เพือ่ เตรียมตวั ไวก้ ด็ นี ะ 7) ตง้ั ใจฟังในห้องเรยี น บางคนเวลาเรียนในห้องมกั จะชอบก้มหนา้ ก้มตาจดตามสไลด์ หรือจด ตามสิ่งที่อาจารยส์ อนแบบทันบา้ งไม่ทันบ้าง ซง่ึ การจดกถ็ ือเปน็ วธิ ีชว่ ยจำท่ีดี แต!่ อยา่ ลืมเผือ่ สมาธิไว้ใช้กบั การฟงั และคิดวเิ คราะหต์ ามดว้ ย บางคนจดมาเยอะกจ็ รงิ แตพ่ อกลับมาอา่ นทวนกลับไมเ่ ข้าใจซะงัน้ เพราะมวั แต่จดแทบ ไม่ไดฟ้ ังทอี่ าจารย์สอนเลย บางทีอาจารย์บอกวา่ ตรงน้ีจะออกสอบหรือเนน้ ยำ้ หัวข้อไหนเป็นพิเศษ ถา้ ไม่ได้ตงั้ ใจฟัง เรากอ็ าจจะพลาดไดน้ ะ 8) ฝึกจบั ประเด็น การจับประเด็นไมใ่ ชแ่ คก่ ารยอ่ ความหรือสรปุ ความแต่เปน็ การวิเคราะห์ให้ แตกฉานวา่ อะไรคือหวั ใจหลักของสิง่ ท่เี ขียนอยูใ่ นหนงั สอื หรอื สิง่ ท่ีอาจารยพ์ ดู ยกตัวอยา่ งเช่นเรารวู้ า่ นทิ านเร่อื ง กระต่ายกบั เตา่ เกิดข้นึ ยังไง เลา่ ได้ตั้งแตต่ น้ จนจบ แต่ประเด็นของเรื่องไมใ่ ชว่ ่าใครถงึ เส้นชัยก่อนกันแตค่ อื คนเลา่ ตอ้ งการจะสอนให้เราไมป่ ระมาทและเหลิงไปกับความสามารถของตนเองต่างหาก เพราะฉะนั้นเวลาอ่านหนงั สอื จบบทก็อย่าลืมตงั้ คำถามกับตวั เองด้วยวา่ หัวใจสำคัญหรอื ประเด็นหลกั ของบทนค้ี ืออะไร 2. คณุ ธรรมเป้าหมาย 1) ความกตัญญู ความกตัญญู คือ ความรูค้ ณุ หมายถึงความเปน็ ผมู้ ีใจกระจา่ ง มีสติ มีปัญญาบรบิ รู ณ์ รอู้ ปุ การคุณทผ่ี อู้ ื่น กระทำแล้วแกต่ น ผู้ใดกต็ ามที่ทำคุณแก่ตนแลว้ ไมว่ ่าจะมากกต็ าม น้อยกต็ ามแล้วกต็ ามระลึกนกึ ถึงด้วยความ ซาบซงึ้ ไม่ลืมเลย สิง่ ท่คี วรแกค่ วามกตญั ญแู บ่งไดเ้ ป็น 5 ประการ ได้แก่ 1) กตญั ญูต่อบคุ คล คอื ใครกต็ ามท่ีเคยมพี ระคณุ ตอ่ เรา ไมว่ า่ จะมากนอ้ ยเพยี งไร จะตอ้ งกตญั ญรู ู้ คณุ ทา่ น ติดตามระลกึ ถึงเสมอด้วยความซาบซง้ึ พยายามหาโอกาสตอบแทนคณุ ทา่ นใหไ้ ด้ โดยเฉพาะพระสัมมาสมั พุทธเจา้ พระสงฆ์ บิดามารดา ครู อุปัชฌายอ์ าจารย์ พระมหากษตั ริย์หรือผู้ปกครองทีท่ รงทศพิธราชธรรม จะต้อง ตามระลกึ นกึ ถงึ พระคณุ ของทา่ นให้จงหนัก ใหป้ ฏิบตั ิตัวให้เปน็ ลูกทีด่ ขี องพอ่ แม่ เป็นศษิ ย์ท่ีดขี องครอู าจารย์ เปน็ พลเมืองทีด่ ขี องประเทศชาติ และเปน็ พทุ ธมามกะสมชอ่ื 2) กตัญญตู ่อสัตว์ คอื สตั วท์ ี่มีคณุ ต่อเรา เชน่ ช้าง มา้ ววั ควาย ทใี่ ชง้ าน จะตอ้ งใชด้ ว้ ยความกรณุ า ปรานี ไม่เฆ่ยี นตมี ันจนเหลือเกิน 3) กตัญญตู ่อสิ่งของ คือ ของสงิ่ ใดกต็ ามทม่ี ีคณุ ต่อเรา เชน่ หนังสือ ธรรมะ หนงั สอื เรียน สถานศกึ ษา วัด ตน้ ไม้ ปา่ ไม้ วสั ดุอปุ กรณท์ ่ีใช้ในการหาเลย้ี งชพี ฯลฯ 4) กตัญญตู ่อบุญ คอื รวู้ า่ คนเราเกดิ มามอี ายุยนื ยาว ร่างกายแขง็ แรง ผิวพรรณดี สติปญั ญาเฉลยี ว ฉลาด มคี วามสุขความเจริญ มีความกา้ วหน้า มที รพั ย์สมบตั มิ าก ก็เนื่องมาจากผลของบญุ จะไปสวรรค์หรือกระทั่ง ไปพระนพิ พานได้กด็ ว้ ยบุญ กลา่ วไดว้ ่า ทุกอยา่ งสำเร็จไดด้ ้วยบญุ ทงั้ บุญเก่าทีไ่ ดส้ ะสมมาดแี ลว้ และบุญใหม่ที่ เพียรสรา้ งข้นึ ประกอบกนั จึงมีความร้คู ณุ ของบุญ มีความออ่ นนอ้ มในตัว ไม่ดถู กู บญุ ตามระลกึ ถงึ บุญเก่าให้จิตใจ ชุ่มชื่น และไมป่ ระมาทในการสรา้ งบญุ ใหมใ่ ห้ยงิ่ ๆ ข้นึ ไป 5) กตัญญตู ่อตนเอง คอื รวู้ า่ ร่างกายของเรานเี้ ป็นอุปกรณส์ ำคัญที่เราจะไดอ้ าศัยใช้ในการทำความดี ใช้ในการสรา้ งบญุ กุศลนานาประการเพอ่ื ความสขุ ความเจริญกา้ วหน้า แก่ตนเองต่อไป จงึ ทะนุถนอมดแู ลรา่ งกาย รักษาสุขภาพใหด้ ี ไมท่ ำลายดว้ ยการกินเหลา้ เสพสงิ่ เสพยต์ ิด การรจู้ ักกตญั ญูตอ่ พอ่ แมข่ องเรานัน้ นอกจากระลกึ ถงึ บญุ คุณท่ที ่านมใี หก้ ับเรามาตลอดชีวิตแลว้ น้นั เรายังควรต้องรู้จักตอบแทนบญุ คุณนัน้ ดว้ ย น่ันก็คือ การเล้ยี งดูพอ่ แม่ให้สขุ สบายทงั้ กายและใจ เลี้ยงดูท่านอยา่ ง ท่ที ่านเลีย้ งดูเรามา

๙ วิธปี ฏบิ ัตวิ ่าเราสามารถทำอะไรได้บา้ งเพ่อื แสดงถึงการกตญั ญู 1. เชอื่ ฟังคำส่งั สอนของพ่อแม่ ไม่มีพ่อแมค่ นไหนที่จะสอนให้ลูกตวั เองเป็นคนไม่ดี หรือทำในสง่ิ ไมด่ ี ทา่ นมักจะสอนสงั่ ให้เราเป็นคนดี ประพฤติดี ท้งั ต่อตนเองและคนอื่น เราจึงควรเช่ือฟังในส่งิ ทีท่ า่ นสอนและนำมาปฏบิ ัติตาม นอกจากนพ้ี ่อแม่มกั จะพยายาม สอนใหเ้ ราใชช้ วี ติ และใหค้ ำแนะนำมากมายแกเ่ รา พวกเขาทำเพราะรกั เรา ปรารถนาดีต่อเรา และตอ้ งการป้องกัน ไม่ใหเ้ ราทำผิดพลาด แมว้ ่าบางครั้งคณุ ไมต่ ้องการทำตามทพ่ี วกท่านพดู แต่คุณกค็ วรตัง้ ใจฟังสิ่งท่ีพวกเขาแนะนำ หรอื หากมีปญั หากบั ทา่ นใหพ้ ยายามใช้วธิ ีระงับอารมณโ์ กรธ การไมท่ ะเลาะหรือโกรธทา่ นกเ็ ปน็ ความกตญั ญตู ่อพ่อ แมอ่ ยา่ งหนงึ่ เช่นกัน 2. ดูแลท่านยามเจบ็ ป่วย หรือแกช่ รา เม่อื พ่อแม่แก่ตัวลง อาจมีอาการเจ็บป่วยต่างๆ ตามมาได้ สิ่งทล่ี กู อยา่ งเราควรทำคือ คอยดูแลท่านท้งั ในยาม เจ็บป่วยและในยามสขุ สบาย คอยดูแลหาข้าว ปลา อาหาร และยาให้ทา่ นกนิ รวมถงึ ทำหนา้ ทกี่ ตญั ญตู ่อพ่อแมด่ ว้ ย การพาไปหาหมอในยามไม่สบาย หรือแมก้ ระท่ังการดแู ลรกั ษาตัวในโรงพยาบาลหรือท่ีบา้ น และคอยเลี้ยงดูทา่ นใน ยามแกช่ ราดว้ ย นอกจากการปฏิบัติดูแลในเรอ่ื งของการใหค้ วามสะดวกสบายแกท่ า่ นแล้วน้นั การเอาใจใสก่ ส็ ำคัญ การมีเวลาให้ ทำกิจกรรมร่วมกัน และสรา้ งความสุขและรอยย้มิ ใหก้ ับท่านก็เป็นความกตญั ญทู ท่ี ำได้ง่ายๆ เช่นกัน 3. เม่ือทา่ นล่วงลับ ยามท่านยังมีชวี ติ อยูเ่ ราสามารถดแู ลทา่ นได้ เม่ือทา่ นลว่ งลบั หรือจากไปก็ควรจดั พธิ ีศพใหท้ า่ นอยา่ งสมเกยี รติ และ หมัน่ ทำบญุ อทุ ิศส่วนกศุ ลใหท้ า่ นอยา่ งสม่ำเสมอ และสวดมนต์แผ่เมตตาใหท้ า่ นดว้ ยบทสวดมนต์สนั้ ๆ กอ่ นนอน นี่ ถอื วา่ เปน็ หน่ึงในการกตญั ญูตอ่ ทา่ นทเ่ี ราสามารถทำได้ และจดั วา่ เปน็ สงิ่ ท่ีดี เปน็ สงิ่ ทคี่ นเป็นลูกควรทำ อานิสงส์ 12 ประการ จากการกตญั ญตู ่อพอ่ แม่ 1. ทำใหม้ ีความสขุ ในการใชช้ วี ติ 2. ทำใหเ้ ป็นคนมสี ตริ อบคอบในการท่จี ะคดิ ทำการสง่ิ ใด 3. ทำให้มีความอดทน จากการทำสิ่งตา่ งๆ ไดด้ ี 4. ทำให้พน้ ทกุ ขพ์ ้นภัย 5. ทำใหแ้ คล้วคลาดภยั ในยามคับขัน 6. ทำให้ไดล้ าภโดยง่าย 7. ทำให้เป็นตัวอยา่ งอันดแี ก่อนชุ นรุน่ หลงั 8. ทำใหเ้ ป็นคนมเี หตุผลในทกุ ๆ เร่ือง 9. ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ 10.ทำให้มคี วามเจริญกา้ วหน้าในชีวิต 11.ทำใหเ้ ทวดาลงมาพทิ ักษร์ ักษาผ้ทู ที่ ำ 12.เมื่อมลี กู กจ็ ะไดล้ กู ทด่ี ี 3. คณุ ธรรมที่นำมาใช้แกป้ ญั หา 1. อิทธิบาท 4 1) ฉันทะ (ความรกั ความพอใจ) นกั เรยี นมีความพอใจในการทำหน้าที่นกั เรยี นของตนเอง 2) วิรยิ ะ (ความเพยี ร) นกั เรยี นบนั ทกึ การอา่ นเพอ่ื ทบทวนบทเรยี นแสดงถึงความขยนั หมัน่ เพียร มี วริ ิยะอตุ สาหะในการเรียน 3) จิตตะ (ความคดิ มงุ่ ม่ัน) นกั เรียนต้งั จติ มน่ั ไม่ยอ่ ทอ้ ต่อการเรียนทย่ี าก 4) วมิ ังสา (ความไตร่ตรอง) คอื นกั เรยี นทุกคูใ่ ชป้ ญั ญาพิจารณา ใคร่ครวญ ในการเรียน ทำ

๑๐ การบา้ นที่ครูมอบหมาย มกี ารวางแผน คดิ คน้ วธิ ีการตา่ ง ๆ ทจ่ี ะทำใหง้ านสำเรจ็ รกั ในการเรยี น ใส่ใจงาน และทำงานดว้ ยปญั ญา เป็นต้น ความเชอ่ื มโยงสู่คุณธรรมอัตลกั ษณ์ของโรงเรียน โครงงานคณุ ธรรม ตง้ั ใจดี สอบกี่ทีไมม่ ีตก นั้นได้เชื่อมโยงสู่คณุ ธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรยี น ดังน้ี 1) พอเพียง - นกั เรยี นตง้ั ใจเรยี น ทำการบา้ น แบบฝึก สง่ ครปู ระจำสม่ำเสมอ แสดงวา่ ไดใ้ ชช้ ีวิตอยู่อยา่ ง พอเพยี ง ในท่นี หี้ มายความวา่ นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมการเรียนท่มี ีการบ้านไมค่ ั่งคา้ ง ทำงานเสร็จทนั เวลา มผี ลการ เรยี นดี 2) กตญั ญู - การทีน่ กั เรยี นตง้ั ใจเรยี น เอาใจใสใ่ นการเรยี นทบทวนบทเรียน ทำการบ้านอา่ นหนงั สือ ทำใหม้ ีผลสอบผา่ นเกณฑ์ และทำคะแนนได้ดี ทำใหผ้ ู้ปกครองมีความสุข หมดความกงั วล มกี ำลงั ใจในการทำงาน แสดงถึงความกตญั ญู เชอ่ื ฟังคำส่ังสอนตอ่ พ่อแมแ่ ละทำหนา้ ทีข่ องลกู และหน้าท่ขี องนักเรยี น 3) ความรบั ผดิ ชอบ เมื่อนกั เรยี นมคี วามต้ังใจเรยี น หมน่ั บททวนบทเรียนดว้ ยการทำบนั ทึกการอา่ นทกุ วนั หนา้ ทขี่ องตนเอง ขยนั หม่นั เพียร ทำงานไม่คัง่ คา้ ง ส่งผลใหม้ ีผลการเรยี นดี 4) ความมีระเบียบวินยั เมอื่ นักเรียนตั้งใจเรียน หมั่นทบทวนบทเรยี น ทำการบ้าน งานที่ครูมอบหมาย และบนั ทึกการอ่านเรือ่ งที่เรียนทกุ วัน แสดงถึงการวางแผนมีวนิ ัยในตนเองโดยที่ไมม่ ีใครเตอื น

๑๑ บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนินโครงงาน วิธดี ำเนนิ งาน การจดั ทำโครงงานคุณธรรมของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4/1 ในคร้ังนี้ มีการดำเนินงานตามขนั้ ตอน ดังนี้ 1. ข้ันวางแผน 1) นักเรยี นและครูทปี่ รกึ ษาช้นั สำรวจและวิเคราะหป์ ัญหาของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ท่ี เกิดขึน้ 2) นักเรียนและครรู ่วมกนั ระดมความคดิ เหน็ หาแนวทางแกไ้ ขปญั หา 3) นกั เรียนและครวู างรว่ มกนั แผนการแกไ้ ขปัญหา พรอ้ มกับสรา้ งความเขา้ ใจการดำเนินงาน สร้าง ข้อตกลงในการดำเนินงาน 2. ข้ันดำเนนิ งาน 1) นักเรยี นและครู รว่ มกันจัดทำตารางการอา่ นและทบทบวนบทเรยี น ออกแบบบนั ทึกการอา่ น เพอื่ ให้นักเรยี นบันทึกเพ่ือเปน็ หลกั ฐานการทบทวนบทเรียน และรวบรวมนำสง่ ครูทปี่ รกึ ษาชั้นทกุ วนั ศุกร์ 4) นกั เรยี นปรับปรุงพฤตกิ รรมการเรยี นในห้องเรยี น 5) สรา้ งแรงบนั ดาลใจแก่นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4/1 โดยนำหลกั ธรรม อิทธบิ าท 4 และ หลกั ความกตัญญู มาใหน้ ักเรยี นยึดถอื ปฏบิ ัติ 6) นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสร้างแบบบนั ทึกพฤติกรรมของเพอ่ื นทุกคใู่ นดา้ นการเรียน และพฤติกรรม อน่ื ๆ ทอี่ าจส่งผลตอ่ การเรียนของนกั เรยี น 3. ขัน้ ติดตามผล 1) ครทู ำแบบสอบถามนักเรยี นเป็นระยะๆ เดอื นละ 1 คร้ัง และแบบสงั เกตพฤตกิ รรม โดยให้ครู ประจำวชิ าท่สี อนระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ตอบแบบสอบถาม 2) ครูทป่ี รกึ ษาชน้ั สอบถามครูประจำวชิ าถงึ ผลการทดสอบยอ่ ย หรอื ผลสอบกลางภาค 4. ขน้ั สรปุ และประเมินผล 1) ประเมนิ ผลการดำเนนิ งานเม่อื สนิ้ ภาคเรยี นท่ี 1/2564 จากผลการเรียนของนกั เรยี นทกุ คน 2) สรุปผลการดำเนินโครงงานและรายงาน คุณธรรมท่นี ำมาใช้ในการแก้ปญั หา 1) ฉันทะ (ความรกั ความพอใจ) นักเรยี นมคี วามพอใจในการทำหน้าทน่ี กั เรยี นของตนเอง 2) วริ ยิ ะ (ความเพียร) นกั เรยี นบันทกึ การอา่ นเพ่ือทบทวนบทเรยี นแสดงถงึ ความขยนั หมน่ั เพยี ร มี วริ ยิ ะอุตสาหะในการเรียน 3) จติ ตะ (ความคดิ มงุ่ ม่นั ) นักเรียนตัง้ จิตม่ัน ไมย่ อ่ ท้อตอ่ การเรียนทย่ี าก 4) วมิ ังสา (ความไตรต่ รอง) คอื นกั เรยี นทุกคใู่ ชป้ ญั ญาพจิ ารณา ใคร่ครวญ ในการเรยี น ทำ การบา้ นท่คี รูมอบหมาย มีการวางแผน คดิ ค้นวธิ กี ารตา่ ง ๆ ทจี่ ะทำใหง้ านสำเรจ็ รกั ในการเรียน ใสใ่ จงาน และทำงานด้วยปญั ญา เป็นต้น

๑๒ ความเช่อื มโยงสู่คณุ ธรรมอัตลกั ษณข์ องโรงเรียน โครงงานคณุ ธรรม ต้ังใจดี สอบก่ีทไี มม่ ีตก นัน้ ได้เชื่อมโยงส่อู ตั ลักษณ์ของโรงเรียนในขอ้ ทวี่ ่า 1) พอเพียง - นักเรียนตงั้ ใจเรียน ทำการบา้ น แบบฝึก ส่งครปู ระจำสมำ่ เสมอ แสดงวา่ ได้ใชช้ วี ติ อย่อู ยา่ ง พอเพียง ในท่ีน้ีหมายความวา่ นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนท่มี กี ารบ้านไม่ค่ังคา้ ง ทำงานเสรจ็ ทนั เวลา มีผลการ เรยี นดี 2) กตญั ญู - การทีน่ กั เรียนต้ังใจเรยี น เอาใจใสใ่ นการเรยี นทบทวนบทเรียน ทำการบ้านอา่ นหนังสือ ทำใหม้ ีผลสอบผา่ นเกณฑ์ และทำคะแนนได้ดี ทำให้ผปู้ กครองมีความสขุ หมดความกังวล มีกำลงั ใจในการทำงาน แสดงถึงความกตญั ญู เชอื่ ฟงั คำสั่งสอนตอ่ พอ่ แมแ่ ละทำหนา้ ที่ของลกู และหนา้ ที่ของนักเรยี น 3) ความรบั ผดิ ชอบ เมือ่ นกั เรยี นมีความตงั้ ใจเรยี น หมน่ั บททวนบทเรยี นด้วยการทำบนั ทึกการอ่านทกุ วัน หน้าท่ขี องตนเอง ขยนั หมนั่ เพียร ทำงานไมค่ งั่ คา้ ง ส่งผลให้มีผลการเรยี นดี 4) ความมรี ะเบียบวนิ ัย เมื่อนกั เรียนต้ังใจเรยี น หม่นั ทบทวนบทเรยี น ทำการบา้ น งานทค่ี รมู อบหมาย และบนั ทกึ การอ่านเร่ืองทเ่ี รยี นทุกวนั แสดงถงึ การวางแผนมีวนิ ยั ในตนเองโดยท่ไี มม่ ีใครเตอื น วิธกี ารวดั ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล : 1) ประเมนิ ความพงึ พอใจนักเรยี น 2) สอบถามครู เคร่อื งมือวดั : 1) แบบประเมนิ ความพงึ พอใจนักเรียน 2) แบบสอบถามครูระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษา ตอนปลาย ช่วงระยะเวลาวดั และประเมนิ : เดอื นละ 1 คร้งั ตัวชี้วดั ความสำเร็จ 3. นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 ร้อยละ 95 ส่งการบา้ น หรือชน้ิ งานเสร็จทันเวลาทค่ี รูกำหนด 4. นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 มีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นสูงข้นึ ร้อยละ 95 5. นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 รอ้ ยละ 100 มีผลการเรยี นผ่านทุกวิชา

๑๓ บทท่ี 4 ผลการดำเนินงาน ในการดำเนินโครงงานโรงเรยี นคณุ ธรรม เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาพฤตกิ รรมของนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 เพอ่ื ให้มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในคร้ังน้ี นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 จำนวน 26 คน สามารถลดปญั หาด้านพฤตริ รมและมผี ลการเรียนทพี่ ฒั นาและมีผลการเรยี นเฉลีย่ ดขี ึ้น ขอรายงานผล การดำเนินโครงงาน ดังนี้ วธิ ดี ำเนนิ งาน การจดั ทำโครงงานคุณธรรมของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ในครัง้ น้ี มกี ารดำเนนิ งานตามขน้ั ตอน ดงั น้ี 1.ขัน้ วางแผน 1) สำรวจและวิเคราะหป์ ญั หาของนักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ทเ่ี กิดขน้ึ 2) นักเรียนและครรู ว่ มกันวเิ คราะหห์ าแนวทางแก้ไขปญั หา 3) นักเรียนและครวู างรว่ มกนั แผนการแกไ้ ขปัญหา พร้อมกบั สรา้ งความเข้าใจการดำเนนิ งาน สรา้ ง ข้อตกลงในการดำเนนิ งาน 2. ขัน้ ดำเนินงาน 1) นักเรยี นและครู รว่ มกันออกแบบบันทึกการอา่ นเพอ่ื ให้นกั เรียนบนั ทกึ เพอ่ื เป็นหลกั ฐานการทบ ทบทวนบทเรยี น และรวบรวมนำส่งครทู ีป่ รกึ ษาชนั้ ทุกวันศุกร์ 2) นักเรียนปรบั ปรุงพฤตกิ รรมการเรยี นในหอ้ งเรยี น 3) สรา้ งแรงบนั ดาลใจแก่นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4/1 โดยนำหลกั ธรรม อทิ ธิบาท 4 และ หลกั ความกตัญญู มาใหน้ กั เรียนยดึ ถือปฏิบัติ 4) นักเรียนและครูร่วมกนั สรา้ งแบบบันทึกพฤติกรรมของเพ่อื นทกุ คู่ในด้านการเรียน และพฤตกิ รรม อ่ืน ๆ ทีอ่ าจสง่ ผลต่อการเรยี นของนกั เรียน 3.ขนั้ ตดิ ตามผล 1) ครูทำแบบสอบถามนักเรียนเป็นระยะๆ เดอื นละ 1 ครง้ั และแบบสงั เกตพฤตกิ รรม โดยให้ครู ประจำวิชาท่สี อนระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 ตอบแบบสอบถาม 2) ครทู ี่ปรึกษาช้นั สอบถามครูประจำวิชาถึงผลการทดสอบยอ่ ย หรือผลสอบกลางภาค 4.ขัน้ สรุปและประเมินผล 1) ประเมินผลการดำเนินงานเมื่อส้นิ ภาคเรียนท่ี 2/2564 จากผลการเรียนของนกั เรยี นทกุ คน 2) สรปุ ผลการดำเนนิ โครงงานและรายงาน กลมุ่ เป้าหมาย 1. เชงิ ปริมาณ - นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 จำนวน 34 คน 2. เชิงคณุ ภาพ - นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4/1 เปน็ ผมู้ ีความรับผดิ ชอบ ขยันหม่ันเพยี ร - นักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 มผี ลการเรียนดขี ึน้ และมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นสงู ขน้ึ

๑๔ เปา้ หมายระยะสัน้ (ระยะเวลา 3 เดือน) - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ต้งั ใจเรียน เขา้ หอ้ งเรยี นตรงเวลา ทำการบ้าน แบบฝึกท่ีครู แตล่ ะวิชา และอ่านทบทวนบทเรยี นทุกวนั เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปกี ารศึกษา) - มผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นสงู ขึน้ ร้อยละ 85 คุณธรรมเป้าหมาย ความกตญั ญู พฤตกิ รรมบ่งชี้เชงิ บวก 1. นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ทุกคนเขา้ เรียนทกุ ชั่วโมง และต้ังใจเรียน 2. นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ทกุ คนทำและสง่ การบา้ น แบบฝกึ หรืองานทค่ี รมู อบหมาย 3. นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 ลดพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของโรงเรยี น

๑๕ บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายและขอ้ เสนอแนะ การดำเนินงานตามโครงงานคณุ ธรรมของนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ของนักเรยี นและครทู ปี่ รกึ ษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 จงึ มีความประสงคจ์ ะใหน้ ักเรียนปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมการเรียนในระดับชน้ั มธั ยมศึกษา ตอนปลาย ทัง้ ในดา้ นการเข้าเรียนทุกชว่ั โมง ทำการบ้าน แบบฝกึ ใบงานทกุ วิชา ต้องมีความขยนั หมน่ั เพยี ร ดงั น้นั การวางแผนดา้ นการเรียนดว้ ยการอ่านทบทวนทุกวนั จะช่วยเสริมสรา้ งให้นกั เรียนเปน็ ผู้ท่มี ีความ รับผดิ ชอบ มีความเข้าใจในบทเรียน หรือสามารถพฒั นาผลการเรียนของตนเองได้ และทำใหน้ กั เรียนไดท้ ำ หนา้ ทขี่ องตนเองได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผูป้ กครองมีความภาคภมู ใิ จในตวั นกั เรียนท่ีเปน็ เดก็ ดี ทำหนา้ ทีข่ องลกู กตญั ญู เชอ่ื ฟังคำสัง่ สอนของพอ่ แม่ หรอื ผู้ปกครอง ผูป้ กครองมคี วามภาคภมู ใิ จ สามารถสรปุ ผลการดำเนนิ โครงงานได้ ดงั นี้ 1. วตั ถุประสงคข์ องการดำเนนิ โครงงาน 2. กลมุ่ เปา้ หมาย 3. คณุ ธรรมเปา้ หมาย 4. วิธีการวดั และประเมนิ ผล และตวั ชวี้ ัดความสำเรจ็ 5. คุณธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรยี น 6. สรปุ และอภปิ รายผล 7. ขอ้ เสนอแนะ วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 มผี ลการสอบผา่ นทกุ รายวชิ า 2. เพื่อใหน้ กั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 มีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นสงู ขน้ึ 3. เพื่อให้นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 ทำหนา้ ท่ีของลกู ทด่ี ี มคี วามกตญั ญตู ่อผูป้ กครอง กลุ่มเป้าหมาย 1.เชิงปรมิ าณ - นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 จำนวน 34 คน 2.เชิงคณุ ภาพ - นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/1 เป็นผ้มู ีความรับผดิ ชอบ ขยนั หม่นั เพยี ร - นักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 มผี ลการเรยี นดีขนึ้ และมผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรียนสูงขน้ึ เปา้ หมายระยะส้นั (ระยะเวลา 3 เดอื น) - นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4/1 ตงั้ ใจเรยี น เขา้ หอ้ งเรียนตรงเวลา ทำการบ้าน แบบฝกึ ทค่ี รู แตล่ ะวชิ า และอ่านทบทวนบทเรียนทกุ วนั เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปกี ารศึกษา) - มีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนสงู ขน้ึ ร้อยละ 85 คุณธรรมเปา้ หมาย ความกตญั ญู

๑๖ พฤตกิ รรมบ่งชีเ้ ชิงบวก 1. นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 ทกุ คนเขา้ เรยี นทุกช่วั โมง และตง้ั ใจเรยี น 2. นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6/1 ทกุ คนสง่ การบ้าน หรืองานทีค่ รูมอบหมาย 3. นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 ลดพฤตกิ รรมทไี่ ม่พงึ ประสงค์ ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บของโรงเรียน วิธีการวดั ประเมนิ ผล เพอ่ื ลดปัญหาการเรยี นไมท่ ันเพ่อื น หรือไมส่ ง่ การบา้ นครู โดยการนำเอาเพ่ือนคคู่ ดิ หรอื กัลยาณมิตรมา คอยเตือน และช่วยกนั ทำงาน และสามารถแลกเปลีย่ นเรียนรู้จากเพอื่ น ๆ ทง้ั หมดในชั้นเรยี น วธิ ีการวดั ผล : ประเมนิ ความพึงพอใจนกั เรียน เครอ่ื งมอื วดั : แบบประเมินความพึงพอใจนกั เรยี น ช่วงระยะเวลาวดั และประเมนิ : เดือนละ 1 ครง้ั ตวั ชว้ี ดั ความสำเรจ็ 1. นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4/1 มีผลการสอบผ่านทกุ รายวิชา 2. นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 มีผลการเรยี นเฉล่ียสูงข้ึน หลักธรรมท่นี ำมาใช้แกป้ ัญหา 1. อิทธิบาท 4 1) ฉนั ทะ (ความพอใจ) 2) วิรยิ ะ (ความเพียร) 3) จิตตะ (ความมุง่ ม่นั ) 4) วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือทดลอง) ความเชอื่ มโยงสู่คณุ ธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน โครงงานคุณธรรม ตัง้ ใจดสี อบกี่ทีไมม่ ตี ก นัน้ ได้เช่อื มโยงสู่คณุ ธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน ดงั น้ี 1) พอเพียง - การที่เพอื่ นคอยเตอื นเพอื่ นในสง่ิ ดี ๆ คอยชว่ ยเหลือกนั แสดงว่าได้ใชช้ วี ติ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ในทน่ี ้หี มายความวา่ นักเรียนมพี ฤติกรรมการเรยี นท่ีมกี ารบา้ นไม่ค่ังคา้ ง ทำงานเสรจ็ ทนั เวลา มผี ลการเรยี นดี 2) กตญั ญู - การที่นักเรยี นตั้งใจเรยี น เอาใจใสใ่ นการเรยี นเพราะมีเพอื่ นคอยเตือนสตแิ ละชว่ ยเหลือกนั ไม่ มีปัญหาเดือนรอ้ นถึงผปู้ กครอง แสดงถึงความกตญั ญู เชื่อฟงั คำสั่งสอนตอ่ พอ่ แม่ 3) ความรบั ผิดชอบ เมื่อนักเรยี นมีเพอ่ื นสนทิ หรือเพือ่ นค่หู ู จึงเปน็ หมอื นเคร่อื งเตือนสติให้รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ของตนเอง ขยนั หมั่นเพียร ทำงานไมค่ ง่ั คา้ ง สง่ ผลใหม้ ีผลการเรียนดี 4) ความมรี ะเบียบวนิ ยั เมื่อนักเรยี นมีเพื่อนสนิทหรอื เพอ่ื นค่หู ู จงึ เปน็ หมอื นเครอื่ งเตอื นสตใิ หร้ บั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีของตนเอง ขยันหม่นั เพยี ร ทำงานไม่คงั่ คา้ ง สง่ ผลให้มผี ลการเรียนดี สง่ ผลให้นกั เรียนเป็นผู้มีระเบียบ วนิ ยั ในการดำเนนิ ชวี ติ สรุปและอภิปรายผล 1) นักเรียนมพี ฤตกิ รรมเชงิ บวกในการเรียนมากขนึ้ ทงั้ การเข้าเรยี นทกุ ชว่ั โมงและตรงเวลา ตั้งใจเรยี น 2) นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที 4ี่ /1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ ขยันหม่ันเพยี รมากขน้ึ มแี บบฝกึ ใบงาน การบ้านสง่ ทุกรายวิชา 3) นกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 มผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของภาคเรยี นท่ี 1/2564 ที่สงู ข้ึน 4) นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4/1 สามารถลดปัญหาเรอ่ื งผลทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์ได้

๑๗ 5) จากการสอบถามผู้ปกครองนกั เรยี นเมื่อสิน้ ภาคเรยี นท่ี 1/2564 มคี วามภาคภมู ใิ จในบตุ รหลานทม่ี ี ผลการเรียนมีการพฒั นาดีขึ้นมาก ดงั น้ัน การทำโครงงานครัง้ นจี้ งึ เปน็ การแก้ปญั หาท่สี ามารถแก้ไขปญั หาดา้ นการเรยี นโดยใชค้ วามกตญั ญู กตเวทเี ปน็ จุดเช่ือมโยงความสำเรจ็ เพราะในสถานภาพท่ีเปน็ นกั เรียนการทำหน้าทดี่ ว้ ยความขยนั หมั่นเพียร รบั ผิดชอบต่อการเรยี นกไ็ ด้ชอ่ื วา่ เปน็ การแสดงความกตญั ญูท่เี หมาะสมแลว้ ขอ้ เสนอแนะ จากการสงั เกตของนักเรยี นและครู 1) นกั เรียนและครูให้ความรว่ มมอื ในทกุ ขั้นตอนของกิจกรรม ใหค้ วามสำคญั และต้ังใจปฏิบัติกิจกรรม เปน็ อย่างดี 2) นักเรียนใหค้ วามรว่ มมือความสามคั คใี นการปฏิบัติกจิ กรรมตามขน้ั ตอน ทำให้การจดั ทำโครงงาน บรรลุเป้าหมาย 3) สามารถใชก้ ับนักเรียนชั้นอื่น ๆ ได้ เนื่องจากการแสดงความกตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ผู้ปกครองสามารถทำ ได้ง่ายดว้ ยการทำหน้าทก่ี ารเป็นนักเรียนให้ดที สี่ ดุ

๑๘ อา้ งอิง เคล็ดลบั การเรยี นใหไ้ ด้ผลดี .{ระบบออนไลน์} แหลง่ ทม่ี า . https://www.chonburipost.com . 28 กรกฎาคม 2564. อิทธบิ าท 4 . {ระบบออนไลน}์ แหล่งท่ีมา . https://wealthmeup.com. 28 กรกฎาคม 2564. อิทธิบาท 4 . {ระบบออนไลน}์ แหล่งทีม่ า . https://th.wikipedia.org/wiki . 13 สงิ หาคม 2564. ความกตัญญู . {ระบบออนไลน}์ แหล่งทม่ี า . ttp://www.kalasin3.go.th/view.php?article_id=24602 . 13 สงิ หาคม 2564.

๑๙ ภาคผนวก

๒๐

๒๑

๒๒ รปู ภาพประกอบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook