Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore article_20180807135814

Description: article_20180807135814

Search

Read the Text Version

เปดิ ประตสู ู่ภาคเหนือ 50สถานท่ีท่องเทย่ี วทีน่ ่าสนใจ

คำนำ หนงั สือเล่มประกอบเรียนวชิ า THAI ๓๒0๖ ภาษาไทยกบั คอมพวิ เตอร์ ไดเ้ รียบเรียงข้นึ เพอื่ เสริมความรู้ โดยมี เน้ือหาสาระเก่ียวกบั สถานท่ีท่องเท่ียวของภาคเหนือท่ีน่าสนใจไว้ 50 สถานที่ดว้ ยกนั โดยมรี ายละเอยี ดมุ่งเนน้ ใหค้ วามรู้ ความเขา้ ใจ ในสถานท่ีท่องเที่ยวต่างๆของภาคเหนือ เน้ือหาและรายละเอยี ดท้งั มดในหนงั สือเล่มน้ี จะเป็นประโยชนโ์ ดยตรงแก่ผเู้ รียนและผอู้ ่าน เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความ เขา้ ใจมากข้นึ ผเู้ รียบเรียงหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ หนงั สือเลม่ น้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผอู้ ่านสมควร หากนาไปใชแ้ ลว้ มขี อ้ เสนอแนะ ใดๆผเู้ รียบเรียงขอนอ้ มไวด้ ว้ ยความยนิ ดี และขอขอบคุณในความอนุเคราะหน์ ้นั มา ณ โอกาสน้ีดว้ ย ฉลวยจิต บุญพลดั และคณะ

สำรบัญ เรื่อง หน้ำ คานา ก สารบญั ข 50 สถานท่ีท่องเท่ียวของภาคเหนือ -พระตาหนกั ภพู งิ คร์ าชนิเวศน์ 1 -อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2 -สวนสตั วเ์ ชียงใหม่ 3 -เชียงใหม่ไนทซ์ าฟารี 4 -สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจา้ สิริกิต์ิ 5 -ดอยอา่ งขาง 6 -อุทยานแห่งชาติออบหลวง 7 -วดั พระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร 8 -อทุ ยานแห่งชาติหว้ ยน้าดงั 9 -วดั พระสิงห์วรวหิ าร 10 -วดั พระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร 11 -วดั เจดียห์ ลวงวรวหิ าร 12 -อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 13 -ถนนนิมมานเหมินทร์ 14 -โครงการหลวงดอยอนิ ทนนท์ 15 -อทุ ยานแห่งชาติลาน้าน่าน 16

-อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 17 -อุทยานแห่งชาติคลองตรอน 18 -อนุสาวรียพ์ ระศรีพนมมาศ 19 -วดั พระยนื พทุ ธบาทยคุ ล 20 -อนุสาวรียพ์ ระยาพิชยั ดาบหกั 21 -วดั ร่องข่นุ 22 -วนอุทยานตน้ สกั ใหญ่ 23 -บ่อเหลก็ น้าพ้ี 24 -น้าตกแม่พลู 25 -เข่ือนสิริ กิต์ ิ 26 -อทุ ยานแห่งชาติดอยขนุ ตาล 27 -อุทยานแห่งชาติแม่ปิ ง 28 -เขาคอ้ – อุทยานแห่งชาติน้าหนาว 29 -ภชู ้ีฟ้ า-ผาต้งั 30 -อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกลา้ 31 -ทุ่งบวั ตองดอยแม่อคู อ – ดอยแม่เหาะ 32 -อทุ ยานแห่งชาติภูเรือ 33 -ปางอ๋งุ 34 -ปาย 35 -ภทู บั เบิก 36 -วดั พระนอนหนองผ้งึ 37

-อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 38 -สวนแมฟ่ ้ าหลวง ดอยตุง 39 40 -ดอยแมส่ ลอง 41 -อทุ ยานแห่งชาติออบขาน 42 -Siam Insect-Zoo & Museum สวนสตั วแ์ มลงสยาม และพพิ ธิ ภณั ฑ์ 43 -วดั พระธาตุลาปางหลวง 44 -วนอุทยานถ้าผาตบู 45 -น้าตกศลิ าเพชร 46 -อทุ ยานแห่งชาติศรีน่าน 47 -อุทยานแห่งชาตินนั ทบรุ ี 48 -วนอทุ ยานผา หินต้งั 49 50 -หนองจองคา -น้าตกแมส่ วรรคน์ อ้ ย

1 พระตำหนกั ภูพิงคร์ าชนิเวศน์ พระตาหนกั ภพู ิงคร์ าชนิเวศน์ มีลกั ษณะเป็นแผนผงั แบบเรือนไทยภาคกลางท่ีเรียกว่า “เรือนหม่”ู มรี ูปแบบ สถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยกุ ต์ ก่ออฐิ ถอื ปนู ยกพ้นื สูงหลงั คาทรงไทย ภายในประกอบไปดว้ ยทอ้ งพระโรง หอ้ ง เสวย หอ้ งบรรทม และหอ้ งสรง สาหรับพระราชอาคนั ตุกะ ต้งั อยคู่ นละดา้ น มีเฉลยี งใหญ่ และพลบั พลาหอนกเป็นท่ีประทบั ทอดพระเนตรทศั นียภาพของเมืองเชียงใหม่ ช้นั บนเป็นที่ประทบั ช้นั ลา่ งเป็นที่อยขู่ องมหาดเลก็ และคุณขา้ หลวง ออกแบบ แปลนโดยหม่อมเจา้ สมยั เฉลิม กฤดากร สถาปนิกพิเศษ กรมศิลปากรออกแบบรูปดา้ นโดยหมอ่ มราชวงศ์ มิตรารุณ เกษมศรี และทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ านกั งานทรัพยส์ ิน ส่วนพระมหากษตั ริยด์ าเนินการก่อสร้างโดยมีหมอ่ มเจา้ สมยั เฉลิม กฤดากร เป็นผอู้ านวยการก่อสร้าง หม่อมราชวงศม์ ิตรารุณ เกษมศรี และนายประดิษฐ์ ยวุ พกุ กะ จากกองสถาปัตยกรรม กรม ศลิ ปากรเป็นผชู้ ่วย และไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ลเอกหลวงกมั ปนาท แสนยากร องคมนตรี เป็นผแู้ ทนพระองค์ ใน การวางศิลาฤกษ์ พระตาหนกั เมอ่ื วนั พฤหสั บดีที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ เวลา ๑๐ นาฬิกา ๔๙นาทีการก่อสร้างพระ ตาหนกั ใชเ้ วลา ๕ เดือนกแ็ ลว้ เสร็จ จากน้นั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ หมอ่ มราชวงศม์ ิตรารุณ เกษมศรี เป็นท้งั สถาปนิก และมณั ฑนากรออกแบบ ตกแต่ง ภายในพระตาหนกั ท้งั ในส่วนท่ีประทบั และส่วนที่ใชร้ ับรอง พระราชอาคนั ตุกะท้งั หมด โดยออกแบบใหเ้ ป็นแบบไทยประยกุ ต์ ดดั แปลงใหเ้ หมาะสมกบั การใชแ้ บบสากลมากข้ึน และไดใ้ ชพ้ ระตาหนกั ในการ รับรองพระราชอาคนั ตุกะ เป็นคร้ังแรกคือ สมเดจ็ พระเจา้ เฟรดเดริคท่ี ๙ และ สมเดจ็ พระราชินีอนิ กริด แห่งเดนมาร์ก เมอื่ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๐๕ หลงั จากน้นั ก็มีประมขุ ของประเทศต่าง ๆ เป็นพระราชอาคนั ตกุ ะ มาประทบั และพกั ท่ีพระ ตาหนกั ภพู ิงคฯ์ ในเวลาต่อมา อีกหลายประเทศ เช่น สมเดจ็ พระนางเจา้ จเู ลยี น่า และเจา้ ชายเบอร์ฮาร์ท จากประเทศ เนเธอร์แลนด์ สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง และพระราชินีฟาบิโอล่า แห่งประเทศเบลเยย่ี ม

2 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือช่ือเดิมว่า สวนเฉลมิ พระเกียรติ ราชพฤกษ์ จดั สร้างข้ึนเน่ืองในวโรกาสท่ี พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงครองสิริราชสมบตั ิครบ 60 พรรษาในวนั ที่ 9 มถิ นุ ายน 2549 และทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 80 พรรษาในวนั ท่ี 5 ธนั วาคม 2550 เป็นแหลง่ ท่องเท่ียวเชิงเกษตร ศนู ยก์ ลางการเรียนรู้พชื สวนโลก มีการจดั แสดงพนั ธุไ์ ม้ หลากหลายชนิด การจดั แสดงนิทรรศการดา้ นการเกษตรและอ่ืน ๆ เพอ่ื การเรียนรู้สาหรับเยาวชนและประชาชนทว่ั ไป เพ่อื การศกึ ษางานวิจยั และเป็นแหล่งพบปะกนั ในกลุ่มเกษตรกร ภายในพ้ืนที่มกี ารจดั ภูมิสถาปัตยอ์ ยา่ งสวยงาม สถำนทีท่ ่องเที่ยวต่ำงๆ ทเ่ี ปิ ดให้เข้ำชม ได้แก่ - ตน้ สนดกึ ดาบรรพอ์ ายกุ วา่ 250 ลา้ นปี บริเวณประตูทางเขา้ - หอคาหลวง - สวนองคก์ รเฉลมิ พระเกียรติ เป็นส่วนท่ีทางองคก์ รต่าง ๆ ไดม้ าจดั แสดงภายใตแ้ นวคดิ การจดั สวนตามทฤษฎีการเกษตร ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั - สวนนานาชาติ พ้ืนท่กี ารจดั สวนจากประเทศต่างๆ 33 ประเทศ - พ้นื ที่ชมภายในอาคาร ไดแ้ ก่ เรือนร่มไท้ โดมไมเ้ ขตร้อนช้ืน อาคารพชื ทะเลทราย อาคารพืชไร้ดิน อาคารเพาะเล้ยี ง เน้ือเยอ่ื - พ้นื ท่ีชมงานภายนอกอาคาร ไดแ้ ก่ ไมช้ ุ่มน้า สวนบวั ไมป้ ระจาจงั หวดั ไมม้ งคล และไมพ้ ุทธประวตั ิ ไมด้ ดั และอาคาร หอประวตั ิพืชสวนไทย สถานท่ีท่ีจะเปิ ดใหช้ มเพม่ิ ในช่วงฤดูหนาว ไดแ้ ก่ อาคารพชื ไมเ้ มอื งหนาว

3 สวนสัตว์เชยี งใหม่ ต้งั อยทู่ ี่ถนนหว้ ยแกว้ ตาบลสุเทพ อาเภอเมืองเชียงใหม่ ห่างจากตวั เมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ใกลก้ บั สวนรุกขชาติ เป็นสวนสตั วข์ นาดใหญ่มสี ตั วม์ ากมายหลายชนิดมากท้งั ที่มีอยใู่ นเมืองไทยและนามาจากต่างประเทศเป็นจานวนมากมหี มี แพนดา้ ฑตู สนั ถวไมตรีเชื่อมความสมั พนั ธไ์ ทย-จีน หมโี คอาล่าจากออสเตรเลีย เชียงใหม่ ซูอควาเรียม ศนู ยแ์ สดงสตั วน์ ้ามี อุโมงคย์ าว 133 เมตร สวนนกเพนกวินและสวนนกฟิ้ นช์ ซ่ึงเป็นนกขนาดเลก็ มสี ีสนั สวยงามจนไดร้ ับการขนานนามวา่ เป็น อญั มณีบินได้ สวนสตั วเ์ ชียงใหม่ เป็นสวนสตั วใ์ นความดูแลขององคก์ ารสวนสตั ว์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ต้งั อยบู่ ริเวณทางข้ึนดอย สุเทพ บนถนนหว้ ยแกว้ ตาบลสุเทพ อาเภอเมือง จงั หวดั เชยี งใหม่ เปิ ดใหบ้ ริการทุกวนั ต้งั แต่ 8.00 น. - 17.00 น. มีสตั วอ์ ยใู่ น สวนสตั วจ์ านวนมาก เช่น เมน่ นกยงู เสือโคร่ง เสือขาว กวาง แรด ฮิปโปเตมสั ชา้ ง หมี อเี ห็น และยงั มีส่วนจดั แสดงหมี แพนดา้ ช่วงช่วง และ หลินฮุ่ย จากประเทศจีน ภายในสวนสตั วเ์ ชียงใหม่มีโบราณสถานที่ช่ือวา่ วดั ก่ดู นิ ขาว ที่เป็นซ่ึงต้งั อยใู่ น บริเวณเวยี งเจด็ ลนิ และมกี ารแสดงความสามารถของสตั ว์ เช่น นกมาคอลว์ นาก นกกระทุง และมีส่วนจดั แสดงเพนกวินและ แมวน้า นอกจากน้ี สวนสตั วเ์ ชียงใหม่ยงั เป็นที่ต้งั ของ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ศนู ยแ์ สดงพนั ธส์ ตั วน์ ้าครบวงจร ที่มอี โุ มงคน์ ้าความยาว กวา่ 133 เมตร ซ่ึงจดั วา่ ยาวท่ีสุดในโลก แบ่งเป็นอุโมงคน์ ้าเคม็ 66.5 เมตร และอุโมงคน์ ้าจืด 66.5 เมตร โดยเชียงใหม่ ซู อควา เรียมไดร้ วบรวมปลาน้าจดื แห่งลุ่มแม่น้าโขงและโลกใตท้ ะเลดว้ ยกนั เพอื่ ใหช้ ีวิตนอ้ ยใหญ่ไดอ้ าศยั พ่งึ พิง

4 เชยี งใหม่ไนทซ์ าฟารี เป็นสวนสตั วก์ ลางคืนแห่งแรกในประเทศไทย และถือเป็นสวนสตั วก์ ลางคืนท่ีใหญ่ที่สุดในโลก ดว้ ยขนาดพน้ื ที่ 819 ไร่ ใน ปัจจุบนั เชียงใหมไ่ นทซ์ าฟารีไดป้ รับเปลีย่ นรูปแบบการใหบ้ ริการท่ีสามารถท่องเที่ยวไดต้ ลอดท้งั วนั ท้งั ในเวลากลางวนั และ ในเวลากลางคืน ในเชียงใหม่ไนทซ์ าฟารี ในบางบริเวณจะมีการปล่อยสตั วท์ ี่ไม่เป็นอนั ตรายใหส้ ามารถเดินและใชช้ ีวิตอยา่ ง อิสระ ทาใหน้ กั ท่องเที่ยวสามารถชมและสมั ผสั สตั วอ์ ยา่ งใกลช้ ิด อาทิเสน้ ทางระหว่างประตูทางเขา้ สวนสตั วจ์ นถึงทางเขา้ อาคารหลกั จะมกี ารปล่อยเกง้ และกวางไวอ้ ยถู่ าวร รวมท้งั ในบางช่วงของเสน้ ทางของในโซนเหนือและใต้ ส่ วนแสดงสัตว์ในโครงกำรเชียงใหม่ไนท์ ซำฟำรีประกอบด้วย -Jaguar Trail นกั ท่องเที่ยวสามารถเดินพกั ผอ่ นไดต้ ามอธั ยาศยั รอบทะเลสาบ (Swan Lake) ระยะทาง 1.2 กม. โดยมจี ดุ เริ่มตน้ จากอาคารลานนาวิลเลจดา้ นร้านอาหาร และส้ินสุดท่ีทางออกใกลเ้ รือนวารีกญุ ชร ตลอดระยะทางจะพบกบั สตั วป์ ่ ามากกว่า 400 ตวั หรือ 50 ชนิด อาทิเช่น เสือขาว เสือจากวั ร์ หนูยกั ษค์ าปิ ลาลา เสือลายเมฆ สมเสร็จบราซิล มา้ แคระ ฮิปโปแคระ ลงิ อุรังอุตงั เสือดา ลิงกระรอก หมโี คอาล่า แมวดาว นกกระเรียนหงอนพู่ นากใหญ่ขนเรียบ ลามา นกคลาสโซโนวี่ เสือปลา ฯลฯ -Predator Prowl ส่วนแสดงสตั วป์ ่ าประเภทสตั วก์ ินเน้ือ ประมาณ 200 ตวั นกั ท่องเที่ยวจะสมั ผสั ความต้ืนเตน้ กบั สตั วน์ กั ล่าท่ีมึ ความดุร้ายโดยรถ Tram ขนาด 60 ที่นง่ั ตามระยะทาง 2.13 กม. อาทิเช่น เสือโคร่งขาว เสือโคร่งอินโดจีน เสือโคร่งเบงกอล สิงโต หมาป่ าแอฟริกา หมีควาย หมหี มา กวางเจมสบ์ ็อค กวางไนยาร่า กวางขาวสปริงบอ็ ค กวางดาสปริงบอ็ ค หมาจิ้งจอก อฐู สองโหนก ฯลฯ -Savanna Safari ส่วนแสดงสตั วป์ ่ าประเภทสตั วก์ ีบและสตั วก์ ินพืชท่ีมีถนิ่ อาศยั ในแถบทุ่งหญา้ ซาวนั นา ประมาณ 320 ตวั นกั ท่องเท่ียวจะไดส้ มั ผสั สตั วอ์ ยา่ งใกลช้ ิด โดยรถ Tram ขนาด 60 ที่นงั่ ตามระยะทาง 2.43 กม. อาทิเช่น เลยี งผา กวางผา กระทิง แรดขาว ไฮยนี ่า เสือชีตา้ วีลดเ์ ดอบีส ยรี าฟ จามรี ละอง ละมงั่ กวางกาเซลล์ หมปู ่ า กวางบาราสิงกา ฯลฯ โดยระหว่าง ทางนกั ท่องเที่ยวจะพบกบั สถาปัตยกรรมจาลองเวยี งกมุ กาม ซ่ึงสะทอ้ นถึงส่วนหน่ึงของประวตั ิศาสตร์เมืองเชียงใหม่ -และในพ้นื ท่ีบริการจะเป็นหม่บู า้ นลา้ นนา ซ่ึงเป็นอาคารท่ีมีสถาปัตยกรรมก่อสร้างที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบแอฟริกาและ ไทยลานนา ซ่ึงประกอบดว้ ย ศนู ยอ์ าหาร ศนู ยร์ วมสินคา้ OTOP ของท่ีระลึก และเป็นถานีรับ-ส่งนกั ท่องเท่ียวไปยงั ส่วนแสดง สตั ว์ และดา้ นขา้ งอาคารยงั มีลานน้าพดุ นตรี (Fun Plaza) สาหรับเดก็ ๆ ไดเ้ ล่นน้าขณะรอข้ึนรถ

5 สวนพฤกษศาสตร์สมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกติ ิ์ สวนพฤกษศาสตร์สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ ต้งั อยใู่ นพ้ืนทตี่ าบลแม่แรม อาเภอแม่ริม บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย ทางเขา้ อยดู่ า้ นซา้ ยมอื บริเวณหลกั กิโลเมตรที่ 12 สายแมร่ ิม-สะเมิง สวนพฤกษศาสตร์แห่งน้ีก่อต้งั เมื่อปี 2536 มี พ้นื ท่ีประมาณ 6,500 ไร่ สภาพโดยทว่ั ไปเป็นท่ีราบและท่ีสูงสลบั กนั เป็นช้นั ๆ ในระดบั 300-970 เมตร จดั ทาเป็นสวน พฤกษศาสตร์ระดบั นานาชาติ เพอ่ื เฉลมิ พระเกียรติสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ ลกั ษณะการจดั สวนของที่น่ีจะ แบ่งพนั ธุไ์ มต้ ามวงศแ์ ละความเหมาะสมของสภาพพ้นื ท่ี รวบรวมพนั ธุไ์ มท้ ้งั ในและต่างประเทศ เหมาะสาหรับผทู้ ่ีตอ้ งการ ศึกษาเกี่ยวกบั พนั ธุไ์ มส้ ามารถขบั รถเท่ียวชมได้ จุดท่ีแวะชมได้ คือ 1. อาคารศนู ยส์ ารนิเทศ เป็นสถานท่ีอานวยความสะดวกนกั ท่องเที่ยว รวมถึงเป็นสถานท่ีจดั นิทรรศการ 2. กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกยี รติ ขนาดต่างๆ 12 โรงเรือน รวบรวมพรรณไมป้ ระเภทต่างๆจากทว่ั ประเทศมาปลกู แสดงไวใ้ นโรงเรือน เช่น ไมป้ ่ าดงดิบ ไมน้ ้า กลว้ ยไม้ ไมแ้ ลง้ บวั ไมด้ อกไมป้ ระดบั บอน ไมไ้ ทยหายาก ไมส้ กลุ สมั กงุ้ สมุนไพร 3.ศนู ยว์ ิจยั พฒั นาสง่า สรรพศรี เป็นศนู ยข์ อ้ มลู วิชาการโดยมีนกั พฤกษศาสตร์ประจาอยตู่ ลอดเวลา 4. เรือนพรรณ กลว้ ยไมไ้ ทย 5.โรงเรือนอนุบาลพรรณไม้ 6.อา่ งเกบ็ น้าแมส่ าวารินทร์ 7.แปลงรวมพนั ธุไ์ มด้ อกขาว ซ่ึงไดจ้ ดั ปลกู ไปแลว้ กว่า 120 ชนิด และมีเสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติท่ีจดั ไว้ 4 เสน้ คือ 1.เสน้ ทางน้าตกแม่สานอ้ ย-สวนหิน-เรือนรวมพนั ธกุ์ ลว้ ยไมไ้ ทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตร 2.เสน้ ทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร 3. เสน้ ทางวลยั ชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กม. 4. เสน้ ทางพนั ธุไ์ มป้ ระจาจงั หวดั ระยะทาง 800 เมตร

6 ดอยอ่างขาง ต้งั อยทู่ ่ีตาบลอ่างขาง อาเภอฝาง ห่างจากเขตแดนไทยพมา่ เพียง 5 กิโลเมตร การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณกิโลเมตรที่ 137 จะมที างแยกซา้ ยมอื เขา้ บา้ นยางที่ตลาดแมข่ ่า เขา้ ไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สูงและคดเค้ียว ตอ้ งใชร้ ถสภาพดีและมกี าลงั สูง คนขบั ชานาญ หรือจะหาเช่ารถสองแถวไดท้ ่ีตลาดแม่ข่า อา่ งขาง เป็นภาษาเหนือ หมายถงึ อ่างสี่เหล่ยี ม ซ่ึงไดช้ ่ือมาจากลกั ษณะพน้ื ท่ีเป็นแอ่งกระทะ ลอ้ มรอบดว้ ยภูเขาสูง อยสู่ ูงจาก ระดบั น้าทะเล 1,400 เมตร ทาใหอ้ ากาศบนดอยหนาวเยน็ ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนธนั วาคม-มกราคม อากาศเยน็ จน น้าคา้ งกลายเป็นน้าคา้ งแขง็ นกั ท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเครื่องกนั หนาวมาใหพ้ ร้อม เช่น หมวก ถุงมอื ถงุ เทา้ เส้ือกนั หนาว สถำนท่นี ่ำสนใจบนดอยมหี ลำยแห่ง ไดแ้ ก่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจยั แห่งแรกของโครงการหลวง เรื่องกาเนิดของสถานีฯ แห่งน้ีเป็นเกร็ดประวตั ิเลา่ กนั ต่อมาว่าคร้ังหน่ึงพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดชเสดจ็ ทางเฮลคิ อปเตอร์ผา่ นยอดดอยแห่งน้ีและทอดพระเนตร ลงมาเห็นหลงั คาบา้ นคนอยกู่ นั เป็นหม่บู า้ น จึงมพี ระดารัสสง่ั ใหเ้ ครื่องลงจอด เมอื่ เสดจ็ พระราชดาเนินลงมาทอดพระเนตร เห็นทุ่งดอกฝิ่น และหมบู่ า้ นตรงน้นั กค็ ือหมบู่ า้ นของชาวเขาเผา่ มเู ซอซ่ึงในสมยั น้นั ยงั ไวแ้ กละถกั เปี ยยาว แต่งกายสีดา สะพาย ดาบ พระองคม์ ีพระราชดารัสท่ีจะแปลงทุ่งฝิ่นใหเ้ ป็นแปลงเกษตร สถานีฯ จึงเกิดข้ึนเมอ่ื พ.ศ. 2512มโี ครงการวจิ ยั ผลไม้ ไม้ ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพชื ไร่ พชื น้ามนั โดยม่งุ ท่ีจะหาผลิตผลที่มคี ุณค่าพอท่ีจะทดแทนการปลกู ฝ่ินของชาวเขา และทาการ ส่งเสริมพฒั นาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณใกลเ้ คียงพรรณไมท้ ี่ปลกู - ไมผ้ ล เช่น บ๊วย ทอ้ พลมั แอปเปิ ล สาลี่ พลบั กีวี องุ่น ราสป์ เบอร์รี กาแฟพนั ธุอ์ าราบิกา นตั พนั ธุต์ ่างๆ - ไมด้ อก เช่น แกลดิโอลสั เยอบีราพนั ธุย์ โุ รป สแตตสิ ยบิ โซฟิ ลลา คาร์เนชนั่ อลั สโตรมีเรีย ลิลี ไอริส แดฟโฟดิล - ผกั เช่น ซกู นิ ี เบบีแครอต กระเทียมตน้ หอมญ่ีป่ ุน ผกั กาดฝรั่ง แรดิช เฟนเนล มนั ฝร่ัง ถว่ั แดงหลวง และถว่ั พนั ธุอ์ ่นื ๆ

7 อทุ ยานแหง่ ชาตอิ อบหลวง ทยานแห่งชาติออบหลวง มพี ้ืนที่ครอบคลุมอยใู่ นทอ้ งท่ีอาเภอจอมทอง อาเภอฮอด และอาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ มสี ภาพป่ าท่ีสมบรู ณ์ดว้ ยระบบนิเวศทุกประการ ท้งั มคี วามสวยงาม และ ความมหศั จรรยท์ างธรรมชาติ มคี ุณค่าทาง โบราณคดีทางประวตั ิศาสตร์ ศิลปวฒั นธรรมของมนุษยชาติ ท้งั ทาง ธรณีวทิ ยาและคุณค่าทางสถาปัตยกรรมทางธรรมชาติ เหมาะแก่การศกึ ษาคน้ ควา้ ทางวิชาการ และเป็นสถานท่ีท่องเที่ยวที่มคี ุณค่าและความสวยงามอยา่ งยงิ่ มเี น้ือที่ท้งั หมดประมาณ 345,625 ไร่ หรือ 553 ตารางกิโลเมตร ออบหลวงเป็นสถานท่ีน่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรคค์ วามสวยงามและน่ากลวั ไวใ้ นจุดเดียวกนั กลา่ วคือ เบ้ืองลา่ ง เป็นแม่น้าท่ีไหลคดเค้ียวผา่ นช่องเขาขาดตรงออบหลวง ช่องเขาน้ีมีลกั ษณะเป็นหนา้ ผาสูงชนั และแคบมาก บีบทางน้าไหล ดงั น้นั แมน่ ้าตรงน้ีจึงเชี่ยวจดั เสียงน้ากระทบหนา้ ผาดงั สนนั่ รอบๆ บริเวณชายน้าดา้ นเหนืองดงามไปดว้ ยหมไู่ มน้ อ้ ยใหญ่ ร่ม รื่นอยตู่ ลอดเวลาชวั่ นาตาปี นอกจากน้ียงั มีสะพานเช่ือมช่องเขาขาดสาหรับนกั ท่องเท่ียวยนื ชมความงดงามของทศั นียภาพ ออบหลวง และภายในบริเวณอทุ ยานฯ มกี ารขดุ คน้ พบแหล่งโบราณคดียคุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ดว้ ย เช่น หลุมฝังศพของมนุษย์ โบราณ และภาพเขียนสีขาวท่ีบริเวณเพิงผาชา้ ง และยงั มีกจิ กรรมเดินป่ าศึกษาธรรมชาติ ลอ่ งแก่งเรือยางหรือ ลอ่ งคายคั ในลา น้าแจ่ม

8 วดั พระธาตุศรจี อมทองวรวหิ าร วดั พระธำตศุ รีจอมทองวรวหิ ำร เดิมชื่อ วดั พระธำตุเจ้ำศรีจอมทอง ต้งั อยถู่ นนเชียงใหม่-ฮอด หมู่ 2 ตาบลบา้ น หลวง อาเภอจอมทอง จงั หวดั เชียงใหม่ ห่างจากตวั จงั หวดั เชียงใหมป่ ระมาณ 58 กิโลเมตร วดั พระธาตุศรีจอมทองวรวหิ าร เป็น พระอารามหลวงช้นั ตรี ชนิดวรวิหาร ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2506 บริเวณที่ต้งั เป็นเนินดนิ สูง ประมาณ 10 เมตร เรียกกนั มาต้งั แต่ อดีตว่า ดอยจอมทอง ตามประวตั ิสนั นิษฐานวา่ เป็นวดั ท่ีสร้างข้ึนในราวพุทธศตวรรษที่ 20 แต่จากลกั ษณะทางศลิ ปกรรมของ สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวดั ปรากฏเป็นลกั ษณะของศิลปกรรม ในสมยั หลงั พทุ ธศตวรรษท่ี 24 ซ่ึงเป็นหว้ งระยะเวลาของยคุ ฟ้ื นฟเู มืองเชียงใหม่พระธาตุศรีจอมทอง เป็นวดั พระอารามหลวงช้นั ตรี ชนิดวรวิหาร เป็นสถานท่ีประดิษฐานของพระทกั ษิณ โมลธี าตุ พระธาตุส่วนที่เป็น พระเศียรเบ้ืองขวาของ สมเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ มขี นาดโตประมาณ เมลด็ พุทรา สณั ฐาน กลมเกล้ยี ง สีขาวนวลเหมอื น ดอกบวบ หรือ สีคลา้ ยดอกพกิ ลุ แหง้ ตามประวตั ิเล่าว่า พระเจา้ อโศกมหาราช เป็นผอู้ ญั เชิญมา ประดิษฐานไวท้ ่ี ดอยจอมทอง ต้งั แต่ปี พ.ศ. 218 ปัจจุบนั พระธาตุ ถกู บรรจุไวใ้ นพระโกศ 5 ช้นั ซ่ึงต้งั อยภู่ ายใน พระวหิ าร จตุรมขุ ก่ออิฐถอื ปูนท้งั องค์ มีฐานเป็นรูปส่ีเหลีย่ มจตุรัส คลา้ ยพระเจดีย์ กวา้ ง 4 เมตร สูง 8 เมตร ตามประวตั ิวา่ สร้างข้ึน โดย พระเจา้ ดิลกปนดั ดาธิราช หรือ พระเมืองแกว้ กษตั ริยร์ าชวงศม์ งั ราย เจา้ ผคู้ รองนครเชียงใหม่ ประเพณีเดน่ ของวดั คือ การแห่ไมค้ ้าโพธ์ิ ซ่ึงเป็นประเพณีของชาวลา้ นนาที่ถือว่าการเอาไมม้ าค้าโพธ์ิเป็นการสืบทอดพระพทุ ธศาสนา

9 อทุ ยานแห่งชาตหิ ้วยน้าดัง อุทยานแห่งชาติหว้ ยน้าดงั ต้งั อยบู่ นเทือกเขาถนนธงชยั มพี ้ืนที่ครอบคลมุ อยใู่ นทอ้ งที่อาเภอแม่แตง จงั หวดั เชียงใหม่ และอาเภอปายจงั หวดั แมฮ่ ่องสอน รวมเน้ือท่ีท้งั หมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 112,187.5 ไร่ ลกั ษณะภมู ิประเทศ เป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลบั ซบั ซอ้ น ภเู ขาที่สูงที่สุด คือ ดอยชา้ ง เป็นป่ าตน้ น้าลาธาร มีลาหว้ ยนอ้ ยใหญ่มากมาย ฤดูหนาว อากาศเยน็ ลมแรง มฝี นตกชุกในเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฤดรู ้อนอากาศเยน็ สบาย อุณหภมู สิ ูงสุดประมาณ 34 องศาเซลเซียส สถำนทีท่ ่มี ผี ู้นยิ มมำท่องเทย่ี วไดแ้ ก่ จุดชมววิ บริเวณหว้ ยน้าดงั (ดอยก่ิวลม) ตาบลก๊ึดชา้ ง อาเภอแมแ่ ตง อยบู่ ริเวณท่ีทาการอุทยาน เป็นจุดชมววิ ที่สวยงามและมี ชื่อเสียงมาก มองเห็นดอยเชียงดาว คอยชมพระอาทิตยข์ ้ึนและชมทะเลหมอกในช่วงเชา้ ตรู่ได้ และในช่วงปลายฤดหู นาว ดอกไมก้ าลงั บานสวยงามมาก หมอกท่ีเกิดที่นี่คือ หมอกที่เกิดข้ึนในหุบเขา (Radiation Fog) เนื่องจากเวลากลางคืนในหุบเขาอณุ หภูมจิ ะลดต่าลง ทาใหเ้ กิด การกลน่ั ตวั เป็นละอองน้าและปรากฏเป็นทะเลหมอกในเวลาเชา้ หรือหลงั ฝนตก

10 วัดพระสงิ หว์ รวิหาร อยถู่ นนสามลา้ น ตาบลพระสิงห์ อาเภอเมอื ง วดั พระสิงหว์ รมหาวหิ าร เป็นวดั สาคญั ในประวตั ิศาสตร์แห่งแผน่ ดนิ ลา้ นนามานบั แต่อดีต พญาผายกู ษตั ริยอ์ งคท์ ่ี 5 ในราชวงศม์ งั รายโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ร้างวดั น้ีข้ึน ในปีพ.ศ. 1888 พร้อมท้งั สร้าง พระเจดียส์ ูง 24 ศอกองคห์ น่ึง เพอื่ ใชเ้ ป็นท่ีบรรจุอฐั ิของพญาคาฟู พระราชบิดา มีพระพุทธรูปท่ีสาคญั อยอู่ งคห์ น่ึงคือพระพทุ ธ สิงหิงคเ์ ป็นพระพทุ ธรูปปางมารวิชยั ขดั สมาธิเพชร ตามประวตั ขิ องพระพุทธสิงหิงสน์ ้นั เล่าไวว้ า่ พระเจา้ แสนเมอื งมา กษตั ริยอ์ งคท์ ่ี 7 แห่งราชวงศเ์ มง็ ราย ผคู้ รองนครเชียงใหม่ ทรงโปรดใหอ้ ญั เชิญพระพุทธสิงหิงคม์ าจากเมอื งเชียงรายเพ่อื ไปประดิษฐานไวย้ งั วดั สวนดอก แต่พอราชรถมาถึงวดั ลเี ชียง ก็ ปรากฎว่าติดขดั ไมส่ ามารถเดินทางต่อไปไดอ้ กี ดงั น้นั พระเจา้ แสนเมอื งมาจึงใหป้ ระดิษฐานพระพทุ ธสิงหิงคไ์ วท้ ่ีวดั ลเี ชียงน้ี ประชาชนนิยมเรียกพระพทุ ธสิงหิงคส์ ้นั ๆว่าพระสิงห์จึงไดเ้ รียกชื่อวดั พระสิงห์ เม่อื ถึงเทศกาลสงกรานตช์ าวเมอื งจะอญั เชิญพระพุทธรูปองคน์ ้ีแห่ไปตามถนนรอบเมืองเพอื่ ใหป้ ระชาชนสรงน้าโดยทวั่ กนั ในวหิ ารลายคาซ่ึงเป็นท่ีประดษิ ฐานพระพุทธสิหิงคย์ งั มีจิตรกรรมฝาผนงั เร่ืองสุพรรณหงส์และสงั ขท์ องซ่ึงพบเพียงท่ีนี่แห่ง เดียว ยงั มีศิลปกรรมอืน่ ๆ ท่ีน่าชม ไดแ้ ก่ พระอุโบสถตกแต่งแบบศิลปะลา้ นนา หอไตรประดบั ดว้ ยรูปปนู ป้ันเทวดา และเจดีย์ ทรงกลมแบบลา้ นนา ความเชื่อและวธิ ีการบชู า พระธาตุเจดยี ว์ ดั พระสิงห์ถือเป็นพระธาตุประจาปี เกิดของผทู้ ี่เกดิ ปี มะโรง(งูใหญ่)หากไดม้ านมสั การ อยา่ งนอ้ ยสกั คร้ังหน่ึงแลว้ จะเป็นมงคลสูงสุดทาใหอ้ ายมุ นั่ ขวญั ยนื มคี วามเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

11 วัดพระธาตดุ อยสเุ ทพราชวรวิหาร ประวตั ิแห่งดอยสุเทพน้นั เชื่อกนั ว่า เดิมภูเขาแห่งน้ีเป็นท่อี ยขู่ องฤาษีนามว่า \"สุเทวะ\" ซ่ึงตรงกบั คาว่าสุเทพอนั เป็น ท่ีมาของช่ือดอยสูงแห่งน้ี โดยวดั พระธาตุดอยสุเทพน้ีสร้างข้ึนเมอื่ ตน้ พทุ ธศตวรรษท่ี 19 ในสมยั พระเจา้ กือนาธรรมกิ ราช เจา้ หลวงเมอื งเชียงใหมอ่ งคท์ ่ี6เพอื่ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ไดท้ รงอญั เชิญมาจากเมอื งศรีสชั นาลยั ตามตานานเล่าว่า พระเจา้ กือนาธรรมกิ ราชทรงแยกพระบรมสารีริกธาตุไวเ้ ป็นสองส่วน โดยอญั เชิญองคห์ น่ึงบรรจไุ วท้ ่ีพระ ธาตุวดั สวนดอก ส่วนอกี องคห์ น่ึงไดอ้ ญั เชิญข้ึนบนหลงั ชา้ งมงคล โดยพระเจา้ กือนาธรรมกิ ราชทรงต้งั จิตอธิษฐานเส่ียงทายว่า หากชา้ งเชือกน้นั หยดุ ลงตรงท่ีใดกจ็ ะใหส้ ร้างพระธาตุข้ึน ณ ที่แห่งน้นั ซ่ึงชา้ งเชือกดงั กล่าวไดม้ าหยดุ ลงตรงยอดดอยสุเทพ แห่งน้ี โดยทาทกั ษิณาวรรตสามรอบก่อนที่จะลม้ ลง (ตาย) ดงั น้นั พระเจา้ กือนาธรรมิกราชจึงทรงรับสงั่ ใหส้ ร้างพระบรมธาตุ อนั เป็นที่ประดษิ ฐานองคพ์ ระบรมสารีริกธาตุ ณ ยอดดอยสุเทพ อยคู่ ่ฟู ้ าคู่ดินเชียงใหมม่ านบั แต่น้นั วดั พระธาตุดอยสุเทพ ต้งั อยทู่ างทิศตะวนั ตกของเมอื งเชียงใหม่ ผทู้ ี่เดินทางมาสกั การะท่วี ดั แห่งน้ีสามารถมองเห็นทิวทศั นเ์ มืองเชียงใหม่ไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน นกั ท่องเที่ยวสามารถเดินข้ึนบนั ไดนาคไป 300 ข้นั เพือ่ ไปยงั วดั หรือใชบ้ ริการรถกระเชา้ ข้ึน-ลงดอยสุเทพได้ ระหว่าง เวลา05.30-19.30น. งานประเพณีเตียวข้นึ ดอยเพ่อื สกั การะพระธาตุดอยสุเทพจดั เป็นประจาทุกปี โดยมีข้ึนก่อนหนา้ วนั วิสาขบู ชา 1 คืน ในงานจะมขี บวนแห่น้าสาหรับสรงพระธาตุโดยมพี ระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนจากชุมชนต่าง ๆ มาร่วม ขบวนแห่ข้ึนดอยเป็ นจานวนมาก ความเชื่อและวิธีการบูชา เชื่อกนั วา่ หากมาสกั การะและอธิษฐานขอพรพระธาตุดอยสุเทพ จะมีแต่ความสาเร็จสมหวงั ดงั ปรารถนา แคลว้ คลาด ผา่ นอปุ สรรคนานาไปได้ ในการสกั การะพระธาตุน้นั ควรเตรียมขา้ วตอก ดอกไม้ ธปู เทียนแลว้ เดิน เวียนขวา 3 รอบ พร้อมกลา่ วคานมสั การพระธาตุ โดยต้งั จิตอธิษฐานขอใหส้ มหวงั ในสิ่งที่ปรารถนา และควรไหวพ้ ระธาตุให้ ครบท้งั 4 ทิศ ซ่ึงใหอ้ านิสงสท์ ่ีต่างกนั คือ ทิศเหนือขอใหม้ ีปัญญาดุจพระจนั ทร์เพญ็ ทิศใต้ ขอใหไ้ ดเ้ ป็นพระภิกษุสงฆไ์ ดบ้ วช ในบวรพุทธศาสนา ทิศตะวนั ออกขอใหไ้ ดข้ ้ึนสวรรค์ ทิศตะวนั ตกเป็นการเคารพบชู าสูงสุดต่อพระธาตุ สิ่งที่ไมค่ วรพลาดเมือ่ ไดม้ านมสั การพระธาตุดอยสุเทพแลว้ ควรมากราบอนุสาวรียค์ รูบาศรีวชิ ยั นกั บุญแห่งลา้ นนา ท่ีประดิษฐานอยตู่ รงเชิงดอยสุ เทพเพอ่ื ความเป็นสิริมงคล

12 วดั เจดียห์ ลวงวรวหิ าร วดั เจดียห์ ลวงวรวหิ าร อยทู่ ี่ถนนพระปกเกลา้ วดั น้ีต้งั อยใู่ จกลางเมอื งเชียงใหม่พอดี ประดิษฐานเจดียใ์ หญ่ท่ีสุดใน จงั หวดั เชียงใหม่ สร้างข้ึนในรัชกาลพระเจา้ แสนเมอื งมากษตั ริยอ์ งคท์ ี่ 7 แห่งราชวงศม์ งั ราย (พ.ศ.1913-1954) ต่อมาพระยาติ โลกราชโปรดใหช้ ่างขยายเจดียใ์ หส้ ูงและกวา้ งกว่าเดิม แลว้ เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอญั เชิญพระแกว้ มรกตมาประดิษฐาน ระหว่าง พ.ศ.2011-2091 นานถึง 80 ปี ต่อมาในสมยั พระนางจิระประภา ไดเ้ กดิ แผน่ ดนิ ไหวเม่ือปี พ.ศ. 2088 ทาใหย้ อดเจดีย์ หกั โค่นลงปัจจุบนั เจดียม์ คี วามสูงคงเหลือ40.8เมตรฐานกวา้ งดา้ นละ60เมตร วหิ ารหลวงของวดั น้ีเจา้ คณุ อุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจนั ทะเถระ) และเจา้ แกว้ นวรัฐเป็นผสู้ ร้างข้ึนในปี พ.ศ. 2471 หนา้ ประตูทางเขา้ วหิ าร มีบนั ไดนาคเล้ือยงดงามยงิ่ ใชห้ างเกี่ยวกระหวดั ข้ึนไปเป็นซุม้ ประตวู ิหาร นาคค่นู ้ีเป็นฝีมอื เก่าแก่ท่ีมีมา ต้งั แต่เดิมไดช้ ่ือวา่ เป็นนาคที่สวยท่ีสุดของภาคเหนือและในวดั เจดียห์ ลวงน้ียงั มี เสาอนิ ทขิล หรือ เสาหลกั เมือง สร้างข้ึนเม่ือ คร้ังพ่อขุนเมง็ รายมหาราชสร้างเมอื งเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยใู่ นวิหารจตั ุรมขุ ทรงไทยหลงั เลก็ ๆ เสาอินทขิล น้ีสร้างดว้ ยไมซ้ ุงตน้ ใหญ่ ฝังอยใู่ ตด้ ิน ทกุ ปี ในวนั แรม 12 ค่าเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกวา่ เขา้ อนิ ทขิล เป็นการฉลองหลกั เมอื ง

13 อุทยานแห่งชาตดิ อยอนิ ทนนท์ เดิมดอยอนิ ทนนทม์ ีช่ือว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” ดอยหลวง หมายถึงภเู ขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนท่ีเรียกว่าดอย อา่ งกาน้นั มีเร่ืองเลา่ วา่ ห่างจากดอยอินทนนทไ์ ปทางทิศตะวนั ตก 300 เมตร มหี นองน้าอยแู่ ห่งหน่ึงลกั ษณะเหมอื นอา่ งน้า แต่ ก่อนน้ีมีฝงู กาไปเลน่ น้ากนั มากมาย จึงเรียกว่า อา่ งกา ต่อมาจึงรวมเรียกวา่ ดอยอ่างกา ดอยอินทนนทน์ ้ีเป็นส่วนหน่ึงของเทือกเขาหิมาลยั ซ่ึงพาดผา่ นจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่น่ี สิ่งที่ น่าสนใจของดอยน้ีไมเ่ พียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงท่ีสุดในประเทศดว้ ยความสูง 2,565 เมตร จากระดบั น้าทะเลปานกลางเท่าน้นั แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่ าท่ีหลากหลาย ไม่วา่ จะเป็นป่ าดงดิบ ป่ าสน ป่ าเบญจพรรณ และอากาศที่หนาวเยน็ ตลอดท้งั ปี โดยเฉพาะในฤดหู นาวจะมหี มอกปกคลมุ เกือบท้งั วนั และบางคร้ังน้าคา้ งยงั กลายเป็นน้าคา้ งแข็ง สิ่งต่าง ๆ เหลา่ น้ีเป็นเสน่ห์ ดึงดดู ใหม้ ีผมู้ าเยอื นที่น่ีอยา่ งไมข่ าดสาย

14 ถนนนมิ มานเหมนิ ทร์ ถนนนิมมานเหมนิ ทร์ ต้งั อยตู่ าบลสุเทพ อาเภอเมอื งเชียงใหม่ หากจะเปรียบแลว้ ถนนนิมมานเหมินทร์กค็ งคลา้ ยกบั ถนนสุขุมวิทของกรุงเทพฯ แมค้ วามยาวและขนาดของธุรกิจจะสกู้ นั ไมไ่ ด้ แต่เปอร์เซน็ ตค์ วามหรูหราของถนนและร้านคา้ มี ระดบั ท่ีมอี ยอู่ ยา่ งมากมายกม็ ไิ ดต้ ่างกนั เลย อะไรท่ีทาใหถ้ นนซ่ึงมคี วามยาวเพียงกโิ ลเมตรกว่า ๆ น้ีเป็นทีก่ ลา่ วขวญั ถงึ เสมอ เม่อื ใครสกั คนมาเยอื นเชียงใหม่ ถงึ ขนาดวา่ ถา้ ไมไ่ ดม้ าเดินชอ็ ปปิ้ งบนถนนเสน้ น้ี กเ็ หมอื นวา่ จะขาดอะไรไปสกั อยา่ งท่ีจะทา ใหก้ ารท่องเท่ียวในเมืองเชียงใหม่ไม่สมบูรณ์ การเดินเร่ิมตน้ ที่นิมมานเหมินทซ์ อย 1 อนั เป็นเสมอื นตวั แทนของถนนท้งั สายเน่ืองจากเตม็ ไปดว้ ยร้านระดบั เกรดเอ ท่ี มกี ารตกแต่งเป็นเอกลกั ษณ์โดดเด่นไมเ่ หมือนใคร ไมว่ า่ จะเป็นแกลลอร่ี อาทิ ร้านกองดี แกลลอร่ี หรือร้านขายของตกแต่ง บา้ นท่ีมสี ินคา้ หลากหลายประเภทมากที่สุดของเชียงใหม่ อาทิ ร้านไมม้ ุงเงิน สุริยนั จนั ทรา ร้านจาหน่ายเทียนหอมอยา่ งร้าน แมวใจดี ไปจนถึงร้านผา้ ฝ้ ายทอมอื ที่มเี น้ืองานเตม็ ไปดว้ ยชีวิตชวี าราคาต้งั แต่ไมก่ ร่ี ้อยบาทไปจนถงึ หลกั หลายหมนื่ ถนน นิมมานเหมินทร์เปิ ดทุกวนั ต้งั แต่เวลาเที่ยงไปจนถึงช่วงเยน็

15 โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ต้งั อยทู่ ี่หมบู่ า้ นขนุ กลาง ตาบลหว้ ยหลวง อาเภอจอมทอง เดินทางตามเสน้ ทางสู่ดอยอินทนนท์ ถงึ บริเวณหลกั กิโลเมตรที่ 31 ของทางหลวงหมายเลข 1009 มีทางแยกขวามือเป็นทางลกู รังเขา้ สู่โครงการฯ อกี ประมาณ 1 กิโลเมตร ผขู้ บั ขี่ ควรมีประสบการณ์ และควรตรวจเชค็ สภาพรถยนตก์ ่อนเดนิ ทาง โครงการหลวงอนิ ทนนท์ เริ่มดาเนินการเมื่อเดือนกมุ ภาพนั ธ์ 2552 ตามพระราชประสงคข์ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เพอ่ื ช่วยเหลอื ชาวไทยภูเขาใหม้ พี ้ืนท่ีทากินดว้ ยการปลกู พืช ทดแทนฝิ่น ควบค่ไู ปกบั การพฒั นาคุณภาพชีวติ ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมใหแ้ ก่กะเหรี่ยงและมง้ ในพ้ืนที่ ผลติ ผลหลกั ของ โครงการ คือ พชื ผกั และไมด้ อกเมืองหนาวต่าง ๆ นกั ท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแปลงปลกู ดอกไมแ้ ละไมเ้ มอื งหนาวท่ีบา้ นขุน กลาง งานวจิ ยั ประมงท่ีสูงการเพาะเล้ยี งปลาเทราท์ หอ้ งทดลองทาการเพาะขยายพนั ธุ์ การทานาข้นั บนั ได แปลงปลกู กาแฟ แปลงสตรอเบอร่ีท่ีบา้ นแม่กลางหลวง เดินป่ าศึกษาธรรมชาติในเสน้ ทางดอยหวั เสือ เสน้ ทางบา้ นแม่กลางหลวง-น้าตกผาดอก เส้ียว ชมน้าตกสิริภูมิและน้าตกวชิรธาร และยงั สามารถแวะชมแปลงปลกู ดอกไมข้ องชาวเขาในหม่บู า้ นซ่ึงอยบู่ ริเวณปาก ทางเขา้ โครงการฯ เลอื กซ้ือผกั และผลไมเ้ มอื งหนาวปลอดสารพิษตามฤดกู าล

16 อทุ ยานแห่งชาตลิ ำน้าน่าน อุทยานแห่งชาติลาน้าน่าน อยใู่ นพ้นื ท่ีจงั หวดั แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์ เป็นทิวเขาสลบั ซบั ซอ้ นประกอบดว้ ยป่ า นานาชนิดทยี่ งั คงความสมบูรณ์ และเป็นแหลง่ ตน้ น้าลาธารของอา่ งเกบ็ น้าเหนือเข่ือนสิริกิต์ิ มเี น้ือที่ท้งั หมด624,468 ไร่ ประกอบดว้ ยป่ าเบญจพรรณ ป่ าเตง็ รัง ป่ าดิบแลง้ และป่ าดิบเขา และเป็นท่ีอยอู่ าศยั ของสตั วป์ ่ าจานวนมาก เช่น เกง้ กวาง หมู ป่ า หมี และสตั วป์ ี กจานวนไมน้ อ้ ยกวา่ 200 ชนิด ไดร้ ับประกาศเป็นอทุ ยานแห่งชาติ เม่ือวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2541 จุดที่สูงที่สุด ของอทุ ยานฯ คือ ยอดเขาภูพญาพ่อ สูงถงึ 1,350 เมตร ซ่งึ จะมอี ากาศหนาวเยน็ ตลอดปี มฝี นตกชุกในช่วงเดือนพฤษภาคม - กนั ยายนในฤดหู นาวอากาศหนาวจดั สถำนทีท่ ่องเท่ียวทนี่ ่ำสนใจภำยในอทุ ยำนฯ อา่ งเก็บน้าเขื่อนสิริกิต์ิ เป็นอา่ งเกบ็ น้าขนาดใหญ่ มเี น้ือท่ีประมาณ 203 กิโลเมตร ภายในมเี กาะแก่งมากมาย เหมาะสาหรับการ ลอ่ งแพชมววิ ทิวทศั น์ จดุ ชมววิ เสน้ ทางสายป่ าแดง น้ากราย นางพญา ซ่ึงลดั เลาะตามริมเขา มที ศั นียภาพที่สวยงามมาก เน่ืองจากเสน้ ทางสายน้ีตดั ผา่ นป่ าดิบแลง้ และป่ าดิบเขาทาใหอ้ ากาศเยน็ สบาย นอกจากน้ียงั สามารถพบเห็นพรรณไมน้ านา ชนิด เช่น กลว้ ยไมป้ ่ า พญาเสือโคร่ง และเฟิ ร์นพนั ธุต์ ่าง ๆเสน้ ทางเดินศึกษาธรรมชาติ จะมี 2 เสน้ ทาง คือ ระยะทาง 2 กิโลเมตร และ 4 กิโลเมตร ตลอดเสน้ ทางจะมจี ุดชมววิ ตลอดระยะทาง นอกจากน้นั ยงั มีสถานที่ต่าง ๆ เหลา่ น้ีสามารถมองเห็น ทิวทศั น์อนั งดงามของอ่างเก็บน้าเขื่อนสิริกิต์ิ แก่งนางพญา จะเป็นแก่งหินนอ้ ยใหญ่ลดหลน่ั กนั ลงไป อยกู่ ลางลาน้านางพญา มนี ้าไหลตลอดปบริเวณแก่งดสู วยงามมาก นอกจากน้ีในอุทยานแห่งชาติลาน้าน่าน ยงั มนี ้าตกหลายแห่ง เช่น น้าตกเชิงทอง น้าตกหว้ ยม่นุ และน้าตกดอยผาหมอก ซ่ึง เป็นน้าตกขนาดเลก็ มนี ้าไหลตลอดปี และเป็นน้าตกที่อยใู่ กลห้ น่วยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานฯ เชิงทอง สามารถเดินทางจากจงั หวดั แพร่ สะดวกกว่า คือ จากตวั อาเภอแพร่ เขา้ มาทางวดั พระธาตุช่อแฮ พอถงึ วดั พระธาตุช่อแฮ ใหเ้ ล้ียวซา้ ยตรงไปประมาณ 9 กิโลเมตร

17 อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มพี ้นื ที่ 149,375 ไร่ ครอบคลุมพ้นื ที่ของอาเภอบา้ นโคก อาเภอน้าปาด จงั หวดั อตุ รดิตถ์ และอาเภอชาติตระการ จงั หวดั พษิ ณุโลก ไดร้ ับการประกาศเป็นอุทยานฯ เมอ่ื ปี 2537 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศประกอบดว้ ยภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย - ลาว มยี อดภสู อยดาวสูงที่สุด 2,102 เมตร จากระดบั ทะเล สภาพพ้ืนท่ีเป็นภูเขาสูงท่ีป่ าปกคลุม เป็นป่ าดิบเขาสลบั ทุ่งหญา้ และ ป่ าสน เช่น ป่ าสนสามใบ อากาศหนาวเยน็ เกือบตลอดท้งั ปี มดี อกไมป้ ่ าพนั ธุต์ ่างๆ เช่น ดอกหงอนนาค ดอกไมด้ ินต่างๆ ข้ึนอยู่ กลางป่ าสน ภสู อยดาวสามารถจะมาท่องเที่ยวไดท้ ้งั ปี แตถ่ า้ หากอยากดดู อกไมส้ ีสวยๆ ท่ีมกั จะข้ึนเพ่ือรับความชุ่มช้ืนในช่วง หนา้ ฝน ควรจะมาในช่วงปลายฝนตน้ หนาว สถำนทท่ี ่องเท่ยี วน่ำสนใจภำยในอุทยำนฯ ไดแ้ ก่ น้าตกภูสอยดาว อยใู่ กลศ้ นู ยบ์ ริการนกั ท่องเท่ียว มี 5 ช้นั มนี ้าไหลตลอดปี แต่จะมนี ้ามากในช่วงหนา้ ฝน ลานสน การเดินทางสู่ยอดลานสนตอ้ งข้นึ เขาลาดชนั เกือบตลอดเสน้ ทาง และผา่ นเนินต่าง ๆ ที่มชี ่ือบอกถึงความยากลาบากใน การเดินผา่ นแต่ละเนิน เช่น เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่ าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ ท่ีมคี วามสูงชนั มากท่ีสุด แต่ เสน้ ทางที่เดินข้ึนไปน้นั ไม่ยงุ่ ยากเพราะจะเดินไต่เขาข้นึ ไปตามสนั เขาไม่มที างแยกไปไหน ระยะทางเดินเทา้ ข้นึ ลานสน ประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใชเ้ วลาเดินเทา้ ประมาณ 5-6 ชว่ั โมง บนลานสนจะเป็นทุ่งหญา้ มีตน้ สนสองใบ สนสามใบ ตน้ หงอน นาค ที่มสี ีมว่ งตดั กบั ดอกสร้อยสุวรรณาท่ีมสี ีเหลอื ง ออกดอกใหด้ สู วยงาม และดอกไมอ้ ีกนานาชนิดที่ข้ึนอวดความสวยงาม และสร้างความสดข่ืนสดใสใหก้ บั ลานสน บนลานสนเป็นจุดชมพระอาทิตยต์ กท่ีสวยงามดว้ ย บนลานสนไมม่ ีบา้ นพกั และ อาหาร หากตอ้ งการจะข้ึนไปพกั คา้ งแรมตอ้ งเตรียมเตน็ ทแ์ ละอาหารไปเอง และหากนกั ท่องเที่ยวตอ้ งการลกู หาบช่วยขน สมั ภาระกม็ ีบริการ การจะข้ึนบนลานสนตอ้ งติดต่อขอเจา้ หนา้ ท่ีนาทาง และอุทยานฯ จะอนุญาตใหข้ ้ึนไดต้ ้งั แต่เวลา 08.00– 13.00 น. น้าตกสายทิพย์ เป็นน้าตกอยบู่ นลานสน มี 7 ช้นั ทางไปน้าตกเป็นหุบเขา ค่อนขา้ งลาดชนั

18 อุทยานแหง่ ชาติคลองตรอน อทุ ยานแห่งชาติคลองตรอน มพี ้นื ท่ีป่ าที่สมบรู ณ์ มีเน้ือท่ีประมาณ 324,240.80 ไร่ หรือ 518.80 ตาราง กิโลเมตร ไดร้ ับการประกาศจดั ต้งั เป็นอุทยานแห่งชาติ เม่อื วนั ท่ี 4 ธนั วาคม 2546 โดยอุทยานแห่งชาตคิ ลองตรอน มีพ้ืนท่ี ครอบคลุมป่ าน้าปาด ป่ าปากหว้ ยฉลอง ป่ าหว้ ยสีเสียด ป่ าคลองตรอนฝ่ังขวา และป่ าคลองตรอนฝ่ังซา้ ย ในทอ้ งที่ตาบลแสน ตอ ตาบลน้าไคร้ ตาบลน้าไผ่ อาเภอน้าปาด ตาบลถ้าฉลอง อาเภอเมอื งอุตรดิตถ์ ตาบลผาเลอื ด อาเภอท่าปลา และตาบลน้าพ้ี ตาบลผกั ขวง ตาบลบ่อทอง อาเภอทองแสงขนั จงั หวดั อตุ รดิตถ์ มจี ุดเดน่ ทางธรรมชาติท่ีสาคญั และสวยงาม คือ น้าตกหว้ ย เนียม น้าตกกกมอนแกว้ ถ้าจนั ถ้าเจดีย์ ถ้าเสือดาว ถ้าผาต้งั เขาภเู มยี่ ง และหนา้ ผาท่ีสวยงามเป็นท่ีรู้จกั ทว่ั ไป และยงั มคี ลองท่ี ชื่อว่า “คลองตรอน” เป็นคลองซ่ึงลาหว้ ยต่างๆไหลมารวมกนั ท่ีคลองน้ีและไหลลงสู่แม่น้าน่านซ่ึงเป็นท่ีมาของชื่ออทุ ยานฯ อุทยานฯ มลี กั ษณะเป็นเทือกเขาสูงต่ามแี นวเทือกเขาท่ีสาคญั คือ เขาภูเมย่ี ง เขาคว่าเรือ เขาหงายเรือ เขาสามเหลีย่ ม เขาหยวก เขาถนน เขาแดด เขาไมผ้ า เขาตกั บอน เขาน้ายอ้ ย เขาผกั ขวง เขาจนั ทร์ ยอดเขาที่สูงที่สุดอยดู่ า้ นทิศตะวนั ออกคือ เขาภูเม่ยี ง สูง 1,500 เมตรจากระดบั น้าทะเลปานกลาง แหล่งกาเนิดหว้ ยที่สาคญั ไหลจากแนวตะวนั ออกไปสู่แนวตะวนั ตกและไหลสู่ แม่น้าน่าน ไดแ้ ก่ หว้ ยคลองมา้ มดื เป็นตน้ สภาพป่ าไมท้ วั่ ไปเป็นป่ าดิบแลง้ ดิบเขา สนเขา ป่ าเบญจพรรณ และป่ าเตง็ รัง

19 อนสุ าวรียพ์ ระศรีพนมมาศ อนุสาวรียพ์ ระศรีพนมมาศ อาเภอลบั แล จ.อตุ รดิตถอ์ ยตู่ รงสี่แยกตลาดลบั แล เดิมช่ือ ทองอิน เป็นนายอากรสุราเช้ือสาย จีนแต่ดว้ ยความรักในทอ้ งถนิ่ จึงพฒั นาเมืองลบั แลมาโดยตลอดเป็นผนู้ าชุมชนท่ีชาวลบั แลใหค้ วามนบั ถอื ในสมยั รัชกาลท่ี 5 ไดร้ ับบรรดาศกั ด์ิเป็นขนุ พิศาลจนี ะกิจ และเลือ่ นเป็นพระศรีพนมมาศ ในปี พ.ศ. 2451 พระศรีพนมมาศเป็นนายอาเภอลบั แล ที่ไดส้ ร้างคุณความดีใหแ้ ก่อาเภอลบั แลและบา้ นเมืองเป็นอนั มาก จึงควรที่จะนาเอาประวตั ิและผลงานของทานมากลา่ ว เพอื่ เป็นเกียรติประวตั ิแลเป็นตวั อยา่ งตามลาดบั ต่อไป พระศรีพนมมาศเดิมช่ือ นายทองอนิ มบี ิดาเป็นชาวจีน ชื่อต้วั ตี๋ แซ่ตนั มมี ารดาช่ือ นิ่ม เป็นชาวอาเภอนครชยั ศรี จงั หวดั นครปฐม พระศรีพนมมาศเกดิ ท่ีบา้ นยางกะได เมืองลบั แลเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๔ เมอ่ื เลก็ ๆ บิดามารดาไดย้ กใหเ้ ป็นลกู ของหลวง พอ่ นอ้ ย วดั ป่ ายาง หลวงพ่อนอ้ ยไดต้ ้งั ชื่อใหว้ ่า \"ทองอนิ \" เมอื่ มอี ายไุ ด้ ๑๒ ปี บิดามารดาก็นาไปฝากวดั ไวโ้ ดยอยกู่ บั หลวงพอ่ ตน้ วดั น้าใสเพอื่ ใหเ้ ขา้ ศกึ ษาเลา่ เรียน เมอื่ อายคุ รบท่ีจะบวช ไดอ้ ุปสมบทท่ีวดั น้าใส ในเมอื งลบั แล ๑ พรรษา แลว้ สึกออกมา ช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ อาชีพเร่ิมแรกของนายทองอนิ คือการคา้ ขาย เร่ิมตน้ แต่หาบแร่ของไปชายยงั ชุมชนต่างๆ ในทอ้ งท่ีอาเภอลบั แล และ บางคร้ังกไ็ ปจนถงึ อาเภอหาดเส้ีย ซ่ึงไดแ้ ก่ศรีสชั นาลยั ในปัจจุบนั ทาอยู่ ๕ ปี กไ็ ดเ้ ขา้ ทางานเป็นนายอากรโรงตม้ กลน่ั อาเภอ หาดเส้ียว เป็นเวลานานถึง ๑๐ ปี กิจการเจริญข้ึนเป็นลาดบั จนมคี นรู้จกั และนบั หนา้ ถือตาเป็นจานวนมากยง่ิ ข้ึน

20 วัดพระยนื พทุ ธบาทยุคล วดั พระยนื พุทธบำทยุคล” เป็นวดั ท่ีมคี วามเก่าแก่ค่กู บั “วดั พระแท่นศิลำอำสน์” ตามตานานเลา่ สืบต่อกนั มาว่า พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จมาประทบั ยนื บนยอดเขาแห่งน้ี จึงเกิดเป็นรอยพระพทุ ธบาทท้งั พระบาทซา้ ย และพระบาทขวาค่กู นั บน แผน่ ศิลาแลงฐานดอกบวั ซ่ึงทางวดั พระยนื พุทธบาทยคุ ลไดส้ ร้างมณฑปครอบไว้ (ศลิ ปะแบบเชียงแสน) ภายในมณฑประดิษ ฐานพระพทุ ธรูปยนื โดยรอบผนงั ท้งั สี่ดา้ นเพดานเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนงั (จากภาพคาดว่าเป็นภาพชุมนุมเทวดา) ส่วน จิตรกรรมฝาผนงั เป็นภาพพทุ ธประวตั ิ ดา้ นนอกใกล้ ๆ มณฑปจะพบเจดียศ์ ิลาแลงลกั ษณะคลา้ ยทรงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ คาดวา่ สร้าง ในสมยั สุโขทยั อายปุ ระมาณ 700 ปี ปัจจุบนั เหลือใหเ้ ห็นเพียงฐานเจดียเ์ ท่าน้นั ภายในพระอุโบสถหลงั ใหมข่ องวดั เป็นท่ี ประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพทุ ธรูปสมั ฤทธ์ิปางมารวชิ ยั ช่ือ “หลวงพ่อพทุ ธรังสี” ตามตานาน (เรียบเรียงโดยคุณโสภณ สว่างหลา้ อา้ งอิงจากตานานทอ้ งถนิ่ จากพระสงฆ์ และฆราวาส เอกสารใส่กรอบอยใู่ นพระอโุ บสถ) กลา่ วว่าในสมยั พระเจา้ ลิ ไทยธรรมราชา พระองคไ์ ดเ้ รียกประชุมเหล่าช่างฝีมอื ใหม้ าช่วยกนั หลอ่ พระพทุ ธรูปข้ึนหลายองคเ์ พ่ือเป็นการเทิดทนู พระพุทธศาสนา

21 อนุสาวรียพ์ ระยาพชิ ัยดาบหัก อนุสาวรียพ์ ระยาพชิ ยั ดาบหกั ประดิษฐานอยหู่ นา้ ศาลากลางจงั หวดั อุตรดิตถ์ สร้างข้ึนเพ่ือเป็นเกียรติประวตั ิในความ กลา้ หาญ รักชาติและเสียสละ เมอื่ คร้ังพระยาพิชยั ครองเมอื งพิชยั ในสมยั ธนบุรี ท่านไดส้ ร้างเกียรติประวตั ิไวโ้ ดยเฉพาะอยา่ ง ยง่ิ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2316 พม่ายกทพั มาตีเมืองพชิ ยั พระยาพชิ ยั ไดย้ กทพั ไปสกดั ทพั พมา่ จนแตกพ่ายกลบั ไป การรบในคร้งั น้นั ดาบ ค่มู ือของพระยาพชิ ยั ขา้ งขวาไดห้ กั ไปหน่ึงเลม่ แต่กย็ งั รบไดช้ ยั ชนะต่อทพั พม่า ดว้ ยวีรกรรมดงั กลา่ ว จึงไดส้ มญานามว่า พระ ยาพิชยั ดาบหกั อนุสาวรียแ์ ห่งน้ีออกแบบและหล่อโดยกรมศลิ ปากร ทาพธิ ีเปิ ดเม่อื วนั ท่ี 20 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2512 บริเวณอนุสาวรียฯ์ มพี ิพธิ ภณั ฑอ์ ีก 2 อาคาร คือ พพิ ิธภณั ฑด์ าบเหลก็ น้าพ้ีใหญ่ที่สุดในโลกเป็นท่ีเกบ็ รกั ษาดาบเหลก็ น้า พ้ีใหญ่ที่สุดในโลก มีน้าหนกั 557.8 กิโลกรัม ฝักดาบทาดว้ ยไมป้ ระดู่ ฝังลวดลายมกุ หุ้มอนุสาวรียพ์ ระยาพชิ ยั ดาบหกั ประดิษฐานอยหู่ นา้ ศาลากลางจงั หวดั อุตรดิตถ์ สร้างข้ึนเพื่อเป็นเกียรติประวตั ิในความกลา้ หาญ รักชาติและเสียสละ เม่อื คร้ัง พระยาพชิ ยั ครองเมอื งพิชยั ในสมยั ธนบุรี ท่านไดส้ ร้างเกียรติประวตั ิไวโ้ ดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เม่อื ปี พ.ศ. 2316 พม่ายกทพั มาตี เมืองพชิ ยั พระยาพิชยั ไดย้ กทพั ไปสกดั ทพั พม่าจนแตกพา่ ยกลบั ไป การรบในคร้ังน้นั ดาบคู่มอื ของพระยาพชิ ยั ขา้ งขวาไดห้ กั ไปหน่ึงเลม่ แต่ก็ยงั รบไดช้ ยั ชนะต่อทพั พม่า ดว้ ยวรี กรรมดงั กลา่ ว จึงไดส้ มญานามวา่ พระยาพิชยั ดาบหกั อนุสาวรียแ์ ห่งน้ี ออกแบบและหล่อโดยกรมศิลปากรทาพิธีเปิ ดเมอื่ วนั ที่20กมุ ภาพนั ธพ์ .ศ.2512 พิพิธภณั ฑพ์ ระยาพิชยั ซ่ึงเกบ็ รวบรวมประวตั ิของพระยาพชิ ยั ดาบหกั รวมท้งั แบบจาลอง สนามรบ และวิถีชีวติ ในสมยั อยธุ ยาตอนปลาย เครื่องมอื เครื่องใชโ้ บราณ ปลอกเงินสลกั สลาย

22 วดั รอ่ งขุ่น ท่ีต้งั วดั ร่องขุ่น อยทู่ ี่หมู่ 1 ต.ป่ าออ้ ดอนชยั อาเภอเมือง จงั หวดั เชียงราย ออกแบบและก่อสร้าง โดยอาจารย์ เฉลมิ ชยั โฆษิตพพิ ฒั น์ เม่ือ พ.ศ. 2540 บนพ้นื ท่ีเดิมของวดั 3 ไร่ และขยายออกเป็น 12 ไร่ อุโบสถ ประดบั กระจกสีเงินแวววาววิจิตร งดงามแปลกตา ภายในอโุ บสถมภี าพจิตรกรรมฝาผนงั โดยเฉพาะภาพพระพุทธองคห์ ลงั พระประธานซ่ึงเป็นภาพที่ใหญ่ งดงามมาก สีขาวของโบสถแ์ ทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจา้ กระจกขาวหมายถงึ พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจา้ ท่ีเปล่ง ประกายไปทวั่ โลกมนุษยแ์ ละจกั รวาล สะพาน หมายถงึ การเดินขา้ มวฏั สงสารมงุ่ สู่พุทธภมู ิ ก่อนข้ึนสะพานคร่ึงวงกลมเลก็ หมายถงึ โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มี เข้ียวเป็นปากของพญามาร หรือพระราหูหมายถงึ กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทกุ ข์ ผใู้ ดจะเขา้ เฝ้ าพระพุทธเจา้ ในพระพทุ ธภูมิ ตอ้ งต้งั จิตปลดปลอ่ ยกิเลสตณั หาของตนเองท้ิงลงไปในปากพญามาร เพือ่ เป็นการชาระจิตเราใหผ้ อ่ งใสถงึ จะเดินผา่ นข้ึนไป บนสนั ของสะพานจะประกอบไปดว้ ยอสูรอมกนั 16 ตวั ขา้ งละ 8 ตวั อุปกิเลส 16 จากน้นั กจ็ ะถึงก่ึงกลางสะพาน หมายถงึ เขาพระสุเมรุ เป็นที่อยอู่ งคเ์ ทวดา ดา้ นลา่ งเป็นสระน้า หมายถงึ สีทนั ดรมหาสมทุ ร มสี วรรคต์ ้งั อยู่ 6 ช้นั ดว้ ยกนั ผา่ นสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่แผน่ ดินของพรหม 16 ช้นั แทนดว้ ยดอกบวั ทพิ ย์ 16 ดอก รอบอุโบสถ ดอกที่ใหญ่สุด 4 ดอก ตรงทางข้ึน ดา้ นขา้ งโบสถ์ หมายถึง ซุม้ พระอริยเจา้ 4 พระองค์ ประกอบดว้ ยพระโสดาบนั พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระ อรหนั ต์ เป็นสงฆส์ าวกท่ีเราควรกราบไหวบ้ ชู า

23 วนอทุ ยานตน้ สักใหญ่ วนอทุ ยานตน้ สกั ใหญ่ ต้งั อยใู่ นทอ้ งท่ีบา้ นปางเกลือ หมทู่ ่ี 4 ตาบลน้าไคร้ อาเภอน้าปาด จงั หวดั อตุ รดิตถ์ อยใู่ นเขตป่ า สงวนแห่งชาติป่ าคลองตรอนฝั่งซา้ ย มเี น้ือที่ประมาณ 22,000 ไร่ โดยกรมป่ าไม้ ไดป้ ระกาศจดั ต้งั เป็นวนอทุ ยาน เมอ่ื วนั ท่ี 1 ตุลาคม 2512 และต้งั แต่ที่ไดป้ ระกาศจดั ต้งั เป็นวนอทุ ยานกม็ นี กั ท่องเที่ยวหลง่ั ไหลเขา้ มาชมความงดงามและความอดุ ม สมบูรณ์ของผนื ป่ าวนอทุ ยานแห่งน้ีมากมาย โดยทกุ ๆปี มีนกั ท่องเที่ยวมาเขา้ ชมธรรมชาติมากมาย ภูมปิ ระเทศเป็นป่ าเบญจพรรณผสมป่ าเตง็ รังบนเนินเขา และมีภเู ขาสลบั กนั ไมส่ ูงชนั มากนกั บริเวณในวนอทุ ยานมสี ถานที่ ท่องเท่ียวและสถานท่ีศึกษาธรรมชาติทางป่ าไมม้ ากมาก ในบริเวณวนอทุ ยานกวา้ งขวางเต็มไปดว้ ยป่ าที่เขยี วขจีมากมาย ป่ าและพนั ธุไ์ มเ้ ป็นป่ าเบญจพรรณและป่ าเต็งรังบริเวณตน้ สกั ใหญ่ ประกอบดว้ ยไมส้ กั หลายช้นั อายมุ ตี ้งั แต่ขนาดใหญ่ ขนาด เลก็ และลกู ไม้ นอกจากน้ีมไี มเ้ ต็งรัง พะยอม แดง ประดู่ ตะแบก เป็นพนั ธุไ์ มท้ ่ีข้ึนอยทู่ ว่ั ไปในบริเวณวนอุทยานตน้ สกั ใหญ่ และนอกจากจะมีพนั ธุไ์ มม้ ากมายหลายชนิดยงั มสี ตั วป์ ่ าอาศยั อยใู่ นบริเวณวนอุทยานอกี ดว้ ย แหลง่ ท่องเที่ยวในตวั วนอุทยานตน้ สกั ใหญ่ เป็นตน้ ไมส้ กั ที่โตท่ีสุดในโลกปัจจุบนั ที่ยงั ยนื ตน้ อยจู่ ดั ท่ีสูงจากพ้นื ดิน 1.30 เมตร ลาตน้ โต 9.85 เมตร (วดั เมื่อ 13 ตุลาคม 2525) สูงประมาณ 47 เมตร มีอายซุ ่ึงประมาณวา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ 1,500 ปี บริเวณ รอบ ๆ ตน้ สกั ใหญ่ประกอบดว้ ยตน้ สกั ขนาดยอ่ ม ลกู ไมส้ กั เป็นป่ าเบญจพรรณซ่ึงมีไมส้ กั เป็นองคป์ ระกอบโดยรอบป่ า ธรรมชาติ บริเวณวนอทุ ยานตน้ สกั ใหญ่สภาพป่ าธรรมชาติโดยทว่ั ไปสภาพดี ประกอบดว้ ยป่ าเต็งรัง ไมร้ ัง ไมเ้ พียง ไมพ้ ลอง เป็นองคป์ ระกอบและป่ าเบญจพรรณ ประกอบดว้ ย ไมป้ ระด่แู ดง แดง มะค่าโมง พะยอม ป่ าธรรมชาติดงั กล่าวปรากฏตามเนิน เขาสูง ต่า ๆ สลบั กนั ไปเป็นทิวทศั นส์ วยงามมาก

24 บอ่ เหล็กนา้ พ้ี บ่อเหลก็ นำ้ พี้ เป็นแหล่งสินแร่เหลก็ ตามธรรมชาติ อยใู่ นตาบลน้าพ้ี อาเภอทองแสนขนั จงั หวดั อตุ รดิตถ์ ห่างจากตวั จงั หวดั อุตรดิตถป์ ระมาณ 56 กิโลเมตร โดยเป็นบ่อเหลก็ กลา้ มอี ยดู่ ว้ ยกนั หลายบ่อ และปรากฏเตาถลงุ เหลก็ โบราณนบั พนั ๆ แห่งในพ้นื ที่หลายตารางกิโลเมตร ภายในบริเวณมี พิพธิ ภณั ฑบ์ ่อเหลก็ น้าพ้ี รวบรวมหลกั ฐานต่าง ๆ เกี่ยวกบั ประวตั ิเหลก็ น้าพ้ี โดยจดั แสดงและจาลองใหเ้ ห็น ถงึ กระบวนการ ข้นั ตอนการตีเหลก็ น้าพ้ี ต้งั แต่การขดุ แร่เหลก็ น้าพ้ีจนตีเป็น ดาบท่ีมคี วามแกร่งและความคมเป็นเลศิ ดาบน้าพ้ี จึงเป็นอาวธุ ค่กู ายของขนุ ศกึ และนกั รบไทยในสมยั โบราณตลอดมา บริเวณโดยรอบตกแต่งดว้ ยไมด้ อกไมป้ ระดบั มรี ้านขาย ของท่ีระลกึ และเครื่องรางท่ีทาจากเหลก็ น้าพ้รี วมถงึ ร้านขายของว่างและน้าด่ืมไวบ้ ริการ บ่อทีส่ ำคญั และสงวนใช้สำหรับพระมหำกษตั ริย์ มอี ยู่ 2 บ่อ คอื บ่อพระแสง และ บ่อพระขรรค์ มกี ารนาแร่เหลก็ จากบ่อเหลก็ น้าพ้ีไปถลุงทาอาวธุ เพื่อใชใ้ นการศกึ สงครามมาต้งั แต่สมยั โบราณ ดงั ปรากฏหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์มากมายถงึ ความสาคญั ของเหลก็ น้าพ้ี โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ มคี วามเชื่อมาแต่โบราณวา่ เหลก็ จากแหล่งแร่เหลก็ น้าพ้ีมคี วามแขง็ แกร่ง ความ ศกั ด์ิสิทธ์ิและอาถรรพใ์ นตวั โดยจดั ใหเ้ หลก็ น้าพ้อี ยใู่ นโลหะธาตุตระกลู เดียวกบั เหลก็ ไหล

25 นา้ ตกแม่พลู หมู่ 4 บา้ นตน้ เกลอื ตาบลแม่พลู เป็นน้าตกท่ีเกิดจากการตกแต่งธารน้า โดยการเทปูนใหน้ ้าไหลลดหลน่ั จากบนเขาสงู ลงมา ดูคลา้ ยน้าตกธรรมชาติ สูงหลายช้นั สภาพโดยรอบร่มร่ืน บริเวณใกล้ ๆ น้าตกเป็นสวนลางสาด บริเวณน้าตกมรี ้าน จาหน่ายของท่ีระลกึ ร้านอาหารและที่จอดรถไวบ้ ริการ การเดินทาง จากอาเภอเมืองอุตรดิตถ์ ถงึ อาเภอลบั แล ระยะทาง 8 กิโลเมตร จากน้นั ใชท้ างหลวงหมายเลข 1043 ประมาณ 12 กิโลเมตร หรือข้ึนรถสองแถวที่ถนนตุลาสถิตย์ ในตวั เมืองรถจะออกทุก 30 นาที ต้งั แต่เวลา 6.00-17.30 น. มอ่ นลบั แล ร้านอาหารท่ามกลางธรรมชาติ ต้งั อยบู่ นเสน้ ทางไปน้าตกแม่พลู ห่างจากแยกศรีพนมมาศประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในมีเรือนทอผา้ ม่อนลบั แล ซ่ึงรวบรวมผา้ ทอพ้นื เมืองลบั แลจากอดีตสู่ปัจจุบนั บา้ นของฝากม่อนลบั แล จาหน่ายสินคา้ หตั ถกรรมพ้ืนเมอื ง ผา้ ทอพ้ืนเมือง อาหารและของฝากเอกลกั ษณ์เมอื งลบั แล ผลไมต้ ามฤดูกาล และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เสน้ ทางวฒั นธรรมเมืองลบั แล บริการนาเท่ียวตามเสน้ ทางวฒั นธรรมและตานานเมอื งลบั แลดว้ ยจกั รยาน พร้อมมคั คุเทศก์ ทอ้ งถน่ิ ชมโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชมการขนส่งผลไมข้ า้ มภเู ขาดว้ ยลวดสลิงแห่งเดียวในประเทศไทย และอ่ิมอร่อยกบั ทุเรียนเลิศรสพนั ธุห์ ลงลบั แล หลินลบั แล ลางสาด ลองกอง และลางกอง ดินแดนแห่งผลไมอ้ นั ไดช้ ่ือวา่ “ภเู ขา กินได”้

26 เขอื่ นสริ กิ ติ ิ์ เขอ่ื นสิริกติ ์ิ หรือท่ีเรียกกนั ในชื่อทอ้ งถิ่นวา่ เข่ือนท่าปลา จดั เป็นเข่ือนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยใู่ น อาเภอท่าปลา จงั หวดั อตุ รดิตถ์ ก้นั แมน่ ้าน่าน ที่ไหลลงมาจากอาเภอนาหมน่ื จงั หวดั น่าน เดิมอยใู่ นความดแู ลของกรม ชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายหลงั ไดต้ ิดต้งั โรงไฟฟ้ าพลงั งาน และมอบใหก้ ารไฟฟ้ าฝ่ ายผลิตแห่งประเทศ ไทยเป็นผรู้ ับผดิ ชอบดูแลต่อไป ท้งั น้ีพ้นื ท่ีเหนือเข่ือนเป็นแอง่ เก็บน้าขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวท่ีสาคญั ของจงั หวดั อตุ รดิตถ์ สถำนท่ีสำคญั และน่ำสนใจในเขอ่ื นสิริกติ ์ิ 1. ตาหนกั เขื่อนสิริกิต์ิ เป็นตาหนกั รับรองของพระบรมวงศานุวงศท์ ี่เสดจ็ มาแปรพระราชฐาน อยบู่ ริเวณจุดสูงสุดของ เขื่อน เปิ ดใหน้ กั ท่องเท่ียวชมเฉพาะภายนอกเท่าน้นั 2. หม่บู า้ นเรือ คือหมบู่ า้ นตามแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั เป็ นโครงการหลวงที่จะชว่ ยเกษรกร ดา้ นการประมง 3. สวนสุมาลยั คือ สวนท่ีเข่ือนสิริกิต์ิจดั ต้งั ข้ึนเพ่ือทลู เกลา้ ทลู กระหม่อมถวายแด่ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินี ใน วโรกาสที่พระองคม์ พี ระชนั ษา ครบ 50 พรรษา ภายในสวนมีประติมากรรมสู่แสงสว่างอนั เป็นสญั ลกั ษณ์ของสวนสุ มาลยั 4. พระธาตุกลางน้า ดอยพระธาตุ ศลิ ปะมอญต้งั เด่นอยบู่ นเขาท่ีลอ้ มรอบดว้ ยน้าของเข่ือนสิริกิต์ิ เป็นโบราณสถานอนั สาคญั ชิ้นหน่ึงของจงั หวดั อุตรดิตถ์ 5. สะพานเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ เป็นสะพานแขวน ดว้ ยสายเคเบิลสวยงามทอดกลางผา่ นเข่ือนสิริกติ ์ิ มลี กั ษณะ ที่สวยงามและโดดเด่น 6. พระพุทธสิริสตั ตราช (หลวงพอ่ เจ็ดกษตั ริย)์ จาลองมาจากพระพทุ ธรูปในจงั หวดั ยโสธรจาลองมาประดษิ ฐส์ ถาน ณ เข่ือนแห่งน้ีเพอื่ ใหค้ นไดเ้ คารพบชู า 7. สนั เขื่อนสิริกิต์ิ มีลกั ษณะเป็นโคง้ เวา้ ที่สวยงามเหมาะแกก่ ารชมทศั นียภาพในตอนเชา้

27 อุทยานแหง่ ชาตดิ อยขุนตาล มพี ้ืนท่ีครอบคลุมอยใู่ นทอ้ งที่อาเภอแมท่ า จงั หวดั ลาพนู อาเภอหา้ งฉตั รและอาเภอเมอื ง จงั หวดั ลาปาง สภาพพ้นื ที่ เป็นป่ าเขา อุดมสมบูรณด์ ว้ ยพนั ธุไ์ มน้ านาชนิด มีเน้ือท่ีท้งั สิ้นประมาณ ๑๕๙,๕๕๖ ไร่ นกั ท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยทาง รถไฟลงท่ีสถานีขนุ ตาลเดินเทา้ อกี ประมาณ๑.๕กิโลเมตรถงึ ที่ทาการอุทยานฯ สถำนทน่ี ่ำสนใจของอุทยำนฯ · อุโมงคข์ ุนตาล เป็นอุโมงคท์ างรถไฟลอดผา่ นที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว ๑,๓๕๒ เมตร สร้างข้ึนโดยชาว เยอรมนั ชื่อเอมลิ ไอเซนโฮเฟอร์ แต่ยงั ไม่แลว้ เสร็จเพราะในระหวา่ งการสร้างอโุ มงคเ์ กิดสงครามโลกคร้ังที่ ๑ ทาใหน้ ายเอมลิ เดินทางกลบั ประเทศ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๖๐ กรมพระกาแพงเพชรอคั รโยธิน พระบดิ าแห่งการรถไฟ เสดจ็ มาเป็นแม่งาน ก่อสร้างจนเสร็จในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ · บริเวณยอดเขา จากท่ีทาการอทุ ยานฯ ซ่ึงมีที่พกั ของกรมป่ าไมต้ ้งั อยู่ เดินเทา้ ต่อไปประมาณ ๑,๕๐๐ เมตร จะถึง ย. ๑ หรือจุด ยทุ ธศาสตร์ ๑ เป็นท่ีต้งั ของบา้ นพกั รับรองของการรถไฟแห่งประเทศไทย จากน้นั เดินเทา้ ต่อไปอีก ๘๐๐ เมตร จะถงึ ย. ๒ บริเวณน้ีมตี น้ สนเขาข้ึนอยอู่ ยา่ งหนาแน่นและมีบา้ นพกั รับรองของ ม.ร.ว. คึกฤทธ์ิ ปราโมช ภายในบริเวณปลกู พนั ธุไ์ มเ้ มือง หนาวและจดั ตกแต่งสถานท่ีอยา่ งสวยงาม หากเดินต่อไปอกี ประมาณ ๓,๖๐๐ เมตร จะถงึ ย. ๓ เป็นที่ต้งั ของบา้ นพกั มิชชนั นารี จุดสูงสุดของเทือกเขาดอยขนุ ตาลมชี ่ือเรียกวา่ “ม่อนส่องกลอ้ ง” หรือ ย. ๔ ระยะทางเดินจาก ย. ๓ ประมาณ ๑ กิโลเมตร · น้าตกแมก่ ลอง อยทู่ างทิศใตข้ องสถานีขนุ ตาล ห่างไปประมาณ ๑๐ กิโลเมตร โดยลงรถไฟที่สถานีแม่ตาลนอ้ ย แลว้ เดินเทา้ ไปอีกประมาณ ๓ กิโลเมตร มนี ้าไหลตลอดปี · น้าตกตาดเหมย อยแู่ ยกจากเสน้ ทางดา้ นซา้ ยมือ ระหว่างทางจาก ย. ๒ ไป ย. ๓ โดยตอ้ งเดินลงไปในหุบเขาแมย่ อนหวาย ประมาณ ๓๐๐ เมตร

28 อทุ ยานแหง่ ชาตแิ ม่ปงิ อุทยำนแห่งชำตแิ ม่ปิ ง ครอบคลุมพ้นื ท่ีอาเภอดอยเต่า จงั หวดั เชียงใหม่ อาเภอล้ี จงั หวดั ลาพนู อาเภอสามเงา จงั หวดั ตาก โดยท่ีทาการอุทยานฯ ต้งั อยทู่ ี่อาเภอล้ี จงั หวดั ลาพนู เป็นสถานท่ีท่องเท่ียวท่ีมชี ่ือเสียงอีกแห่งหน่ึงของจงั หวดั ลาพนู ที่ ได้ ข้ึนชื่อวา่ บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและทศั นนียภาพ สวยงาม มีสถานท่ีท่องเท่ียวหลากหลายท้งั ภูเขา น้าตก และทุ่งหญา้ กวา้ ง เหมาะสาหรับคนท่ีรักความสงบและช่ืนชมในความเป็ นธรรมชาติ สถานท่ีท่องเท่ียวที่น่าสนใจ 1. นอนแพ เลน่ น้า ชมวิว ทิวทศั น์ ทะเลสาบแก่งกอ้ 2. ชมทิวทศั น์แมป่ ิ งและพระอาทิตยต์ กท่ีจดุ ชมววิ ดอยกระตึก 3. น้าตกกอ้ หลวง 4. น้าตกตาดสะตอ 5. ทุ่งกิ๊ก 6. น้าตกกอ้ นอ้ ย 7. ถ้ายางวี

29 เขาคอ้ – อทุ ยานแหง่ ชาตินา้ หนาว เขาคอ้ เป็นช่ือเรียกรวม ของกลุม่ ภเู ขานอ้ ยใหญ่ ท่ีทอดตวั เรียงราย สลบั กนั ในภาคเหนือตอนลา่ ง เป็นที่ต้งั ของอาเภอ เขาคอ้ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ซ่ึงเป็นอาเภอที่อยบู่ นภูเขา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เนื่องจากมีอากาศเยน็ สบายตลอดท้งั ปี แมแ้ ต่ในฤดรู ้อน อณุ หภูมเิ ฉลีย่ ตลอดท้งั ปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่าน้นั มสี ถานที่ท่องเที่ยวมากมายใหไ้ ดม้ าพกั ผอ่ น โดย ยอดเขาสูงหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่นเขายา่ ซ่ึงเป็นทีต่ ้งั ของพระตาหนกั เขาคอ้ มคี วามสูง 1,290 เมตร จากระดบั น้าทะเลปาน กลาง ยอดเขาผาซ่อนแกว้ มีความสูงมากกว่า 1,300 เมตร ส่วนยอดเขาคอ้ ซ่ึงเป็นที่ต้งั ของ อนุสรณ์สถานผเู้ สียสละ เขาคอ้ มี ความสูง 1,174 เมตร สภาพอากาศบนเขาคอ้ จึงค่อนขา้ งเยน็ และเยน็ จดั ในฤดูหนาว และยงั มีทศั นียภาพที่สวยงาม เป็นแหลง่ ชมทะเลหมอกที่สวยมากแห่งหน่ึงที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนกั ชื่อเขาคอ้ มีท่ีมาจาก ป่ าบริเวณน้ีมตี น้ คอ้ ข้ึนอยมู่ าก ซ่ึงโดยปกติตน้ คอ้ จะข้ึนในพ้ืนท่ีท่ีมีภมู อิ ากาศหนาวเยน็ ป่ าไมใ้ นแถบน้ี เป็นป่ าเตง็ รังหรือป่ าไมส้ ลดั ใบ ป่ าสน และป่ าดิบ ที่น่าสนใจกค็ ือ พนั ธุไ์ มต้ ระกลู ปาลม์ ลกั ษณะคลา้ ยต้นตาล แต่ออกผลเป็น ทะลายคลา้ ยหมากแมป้ ัจจุบนั ป่ าจะถกู ถางไปมากกต็ ามแต่ก็ยงั มีใหเ้ ห็นอยบู่ า้ ง จุดเด่นของเขาคอ้ คือการเที่ยวชมทะเลหมอกในฤดูฝน และฤดูหนาว ซ่ึงอยบู่ ริเวณจุดชมววิ เหนืออา่ งเก็บน้ารัตนยั ใกล้ กบั สถานที่สาคญั ทางราชการหลายแห่ง ในอาเภอเขาคอ้ นอกจากจะมคี วามสวยงามตามธรรมชาติแลว้ ยงั เป็นสถานที่สาคญั อยา่ งยงิ่ ทางประวตั ิศาสตร์ของประเทศ เน่ืองจากเป็นพน้ื ท่ี ที่ทางราชการ ใชใ้ นการต่อสูก้ บั ผกู้ ่อการร้ายคอมมวิ นิสตใ์ นอดีต ก่อนท่ีผกค. จะแพพ้ า่ ย และสูญหายไปจากประเทศไทย ซ่ึงสถานท่ีสาคญั หลายแห่งบนเขาคอ้ ยงั ปรากฏหลกั ฐานเหลา่ น้ีอยู่ จานวนมาก สถานท่ีน่าสนใจบนเขาคอ้ ชมทะเลหมอก, วดั พระธาตุผาแกว้ ฐานอทิ ธิ (พิพิธภณั ฑอ์ าวธุ ),อนุสรณ์สถานผเู้ สียสละเขา คอ้ ม, พระบรมธาตุเจดียก์ าญจนาภิเษก, หอสมุดนานาชาติเขาคอ้ , เจดียพ์ ระบรมสารีริกธาตุเขาคอ้ , อนุสาวรียจ์ ีนฮอ่ , พระ ตาหนกั เขาคอ้

30 ภชู ฟ้ี ้า-ผาตง้ั ภูช้ีฟ้ า เป็นยอดเขาสูงท่ีสุดในเทือกเขาดอยผาหมน่ ติดชายแดนไทย – สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยใู่ น พ้นื ที่เขตอาเภอเทิง จงั หวดั เชียงราย ต้งั อยใู่ นเขตป่ าสงวนแห่งชาติ มีเอกลกั ษณ์ทางธรรมชาติดว้ ยลกั ษณะหนา้ ผาปลายยอด แหลม เป็นแนวยาวท่ีช้ีไปบนฟ้ า ทางฝั่งประเทศลาว จงึ เป็นที่มาของช่ือเรียกว่า “ภชู ้ีฟ้ า” นนั่ เอง ดา้ นทตี่ ิดสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว นบั เป็นจุดชมวิวที่สวยท่ีสุด ท้งั น้ี กรมป่ าไมไ้ ดม้ คี าสงั่ ใหจ้ ดั ต้งั “ภชู ้ีฟ้ า” เป็นวนอทุ ยาน เมอ่ื วนั ท่ี 6 กุมภาพนั ธ์ 2541 ดว้ ยเน้ือที่ประมาณ 2,500ไร่ สูงจากระดบั น้าทะเลต้งั แต่ 1,200 เมตร ถงึ 1,628 เมตร สาหรับไฮไลทส์ าคญั ของภชู ้ีฟ้ า ตอ้ งยกใหจ้ ุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตยข์ ้นึ ที่สวยงาม อกี ท้งั ทิวทศั น์ของภูเขา สลบั ซบั ซอ้ นดกู วา้ งไกล โดยในตอนเชา้ จะมที ะเลหมอกปกคลมุ ในหุบเขาเบ้ืองลา่ ง มีพระอาทิตยข์ ้ึนผา่ นพน้ ทะเลหมอก ท่ามกลางทุ่งหญา้ แซมดว้ ยทุ่งดอกโคลงเคลง (ในช่วงฤดูฝนไปจนถงึ ฤดหู นาว) สวยงามราวกบั ภาพวาด อยา่ บอกใคร เชียว!!! และหากรอจนสายหมอกถกู ความร้อนระเหยหมดแลว้ กย็ งั คงมองเห็นสายน้าโขงไหลคดเค้ยี ว ท่ามกลางป่ าไมข้ องฝั่ง ลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์อกี ดว้ ย หากมาเท่ียวภชู ้ีฟ้ า ในช่วงเดือนธนั วาคม-มกราคม เสน้ ทางข้ึนภชู ้ีฟ้ าจะผา่ นป่ าซากรุ ะหรือตน้ พญาเสือโคร่งสีชมพสู วยงามมากอกี เช่นกนั ดอยผาต้งั อยบู่ นเทือกดอยผาหมน่ เป็นจุดชมววิ สองฝ่ังโขง ไทย-ลาว และทะเลหมอก บนดอยมหี มบู่ า้ นชาวจีนฮ่อ มง้ และเยา้ โดยเฉพาะ ชาวจีนฮ่อน้นั อดีตเคยเป็น ส่วนหน่ึงของกองพล 93 ซ่ึงอพยพเขา้ มา ต้งั ถ่ินฐานอยทู่ ่ีดอยผาต้งั น้ี ปัจจุบนั ประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลกู พืชเมืองหนาว เชน่ บว๊ ย ทอ้ สาลี่ แอปเปิ้ ล

31 อทุ ยานแหง่ ชาตภิ หู นิ รอ่ งกลา้ ต้งั อยบู่ นรอยต่อของสามจงั หวดั คือ พษิ ณุโลก เพชรบรู ณ์ และเลย ไร่ภหู ินร่องกลา้ มียอดเขาสูง 1,617 เมตร มที ิวทศั น์ สวยงาม ปกคลุมดว้ ยป่ าเต็งรังป่ าดิบเขา และป่ าสนเขา มสี นสองใบและสนสามใบ ข้ึนปะปนกนั และพบกลว้ ยไมด้ อกไมป้ ่ า หลายชนิดข้ึนอยตู่ ามลานหิน เคยเป็นศนู ยก์ ลางท่ีต้งั ฐานท่ีมน่ั การเผยแพร่ลทั ธิคอมมวิ นิสตท์ ี่ใหญ่ และสาคญั ท่ีสุดของ ภาคเหนือ จุดท่ีน่าสนใจ ลานหินป่ ุม ลานหินแตก น้าตกหมนั แดง เป็นตน้ ภูร่องกล้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ต้งั อย่ใู นเขตพ้ืนที่ อุทยำนแห่งชำตภิ ูหินร่องกล้ำ อ.นครไทย จ.พษิ ณุโลก ห่าง จากท่ีทาการ อทุ ยำนแห่งชำตภิ ูหนิ ร่องกล้ำ ไปทางบา้ นใหมร่ ่องกลา้ ต.เนินเพิม่ อ.นครไทย มาราว ๆ ประมาณ 17 กม. เดินทาง ไดส้ ะดวกสามารถนารถยนตเ์ ขา้ ถงึ ได้ มคี วามสูงจากระดบั น้าทะเล 1,610 เมตร มองเห็นไดท้ ้งั พระอาทิตยข์ ้ึนและพระอาทิตย์ ตก ส่วนทางดา้ นทิศเหนือของ \"ภูร่องกล้ำ\" จะอยตู่ ิดกบั \"ภูลมโล\" (ภโู ลมโล) ที่ต้งั อยใู่ นเขตพ้ืนท่ขี องจงั หวดั เลย ซ่ึงสถานท่ี แห่งน้ีนกั ท่องเที่ยวจะสามารถยลโฉมความสวยงามของดอกซากรุ ะเมืองไทยกนั ไดส้ บาย ๆ หรือแมก้ ระทง่ั ดอกพญำเสือ โคร่ง ที่มอี ยมู่ ากกวา่ 2,000 ตน้ แต่ถา้ จะใหด้ ีทีมงานคนเดินทางแนะนาใหเ้ ท่ียวในช่วงเดือน ธ.ค. - ม.ค. ของทุกปี เพราะช่วง น้นั จะเป็นชว่ งที่ดอกไมอ้ อกดอกไดส้ ะพรั่งละลานตามาก.. ยงั ไมพ่ อนะ ณ สถานที่แห่งน้ี นกั ท่องเท่ียวยงั สามารถมองเห็นแสง ระยบิ ระยบั ของ ภูทับเบกิ ในยามค่าคืน แถมในเวลากลางวนั ยงั มองเห็นทุ่งกระหล่าปลหี ลายสิบไร่ ทอดยาวสุดลกู หูลกู ตาเลย แหละ อากาศท่ีน่ีจะมคี วามหนาวเยน็ และเป็นจุดใหช้ มแม่คะนิง้ ยามเชา้ อนั สวยงามไดอ้ กี ทางดา้ นทิศตะวนั ออกของ \"ภูร่อง กล้ำ\" จะเป็นแนวป่ าไมข้ อง อทุ ยำนแห่งชำตภิ ูหนิ ร่องกล้ำ มองออกไปก็จะเห็นแต่สีเขียวขจีสด ๆ สบายลกู ตาซะนี่กระไร ทางดา้ นทิศใตแ้ ละทิศตะวนั ตกของ \"ภูร่องกล้ำ\" จะมองเห็นพ้นื ท่ีของอาเภอนครไทยและแปลงกระหลา่ ปลขี องชาวบา้ น ทอด ยาวสุดลกู หูลกู ตาเหมอื นกนั ซ่ึงกระหล่าปลีถอื ว่าเป็นพชื เกษตรกรรมที่สร้างรายไดห้ ลกั ใหช้ าวบา้ น

32 ทงุ่ บวั ตองดอยแมอ่ คู อ – ดอยแมเ่ หาะ ดอยแมอ่ คู อ เป็นทุ่งดอกบวั ตองท่ีมีพ้ืนทีค่ รอบคลมุ เป็นเขากวา้ ง ประมาณ 1 พนั ไร่ ดอกบวั ตองท่ีน่ีเมือ่ บานพร้อม ๆ กนั ในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธนั วาคม จะเหลอื งอร่ามปกคลุมทว่ั ท้งั ภูเขา ดอยแมเ่ หาะ อยรู่ ิมทางหลวงหมายเลข 10-8 ตรง บริเวณหลกั กิโลเมตรท่ี 84 เขตตาบลแมเ่ หาะ เป็นท่ีต้งั ของศนู ยพ์ ฒั นาและสงเคราะห์ชาวเขา จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน บริเวณน้ี มี ภมู ิประเทศท่ีงดงาม มีชาวเขาเผา่ กะเหร่ียง อยเู่ ป็นส่วนมาก ในเดือนพฤศจิกายน ถึงธนั วาคม ของทกุ ปี ดอกบวั ตอง หรือ ทานตะวนั ป่ า จะบานสะพร่ัง ไปทว่ั หุบเขา สวยงามมากทีเดียว ทุ่งบวั ตองดอยแม่เหำะ เป็นทุ่งบวั ตองท่ีอยรู่ ิมทางหลวงหมายเลข 108 ต้งั อยบู่ ริเวณบา้ นแม่เหาะซ่ึงเป็นท่ีต้งั ของศนู ย์ สงเคราะห์และพฒั นาชาวเขา มีชาวกะเหรี่ยงอาศยั อยหู่ นาแน่น ส่วนใหญ่มอี าชีพทาไร่และปลกู กะหล่า แมท้ ุ่งบวั ตองแม่เหาะจะเป็นที่นิยมของนกั ท่องเที่ยว แต่กไ็ มโ่ ด่งดงั เท่าทุ่งบวั ตองดอยแมอ่ คู อ เพราะมขี นาดเลก็ กวา่ และเป็น ทางผา่ นมากกว่าเป็นจดุ แวะพกั - ดอกบวั ตองบานช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. - มีท่ีกางเตน็ ท์ หอ้ งอาบน้า และหอ้ งสุขา - มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของชา ใกลป้ ้ อมตารวจแม่เหาะ - สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เติมท่ี อบต.แมเ่ หาะ

33 อทุ ยานแหง่ ชาตภิ ูเรอื ภูเรือ เราจะรู้จกั ดีในนาม ทพี่ กั ผอ่ นยามฤดหู นาวมาเยอื น ธรรมชาติที่น่ีอยบู่ นเทือกเขาสูงเป็นรอยต่อระหว่าง ภาคเหนือและอสี าน อทุ ยานแห่งชาติภูเรือ มพี ้นื ทคี่ รอบคลมุ 3 อาเภอคือ หนองบวั อาเภอภเู รือ และอาเภอท่าล่ี อาณาเขตทาง ทิศเหนือติดกบั ประเทศลาว รูปพรรณสณั ฐานของภเู รือมรี ูปร่างลกั ษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูงเป็นภูผา สีสนั สะดุดตา หินบางกอ้ นมีลกั ษณะเหมอื นถกู ป้ันแต่งไว้ ชาวบา้ นเรียกว่า “กวา้ นสมอ” โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขนุ เขานอ้ ยใหญ่ ใกลเ้ คียงเป็นฝ้ าขาวดว้ ยละอองน้า หมอก ปกคลุมไวท้ ่ามกลางป่ าอนั อดุ มสมบรู ณ์ มีเน้ือที่มเี น้ือที่ท้งั ส้ิน 75,525 ไร่ ประกาศ เป็นเขตอทุ ยานแห่งชาติ เม่ือวนั ท่ี 26 กรกฎาคม 2522 นบั เป็นอทุ ยานแห่งชาติลาดบั ท่ี 16 ของประเทศ อุทยำนแห่งชำตภิ ูเรือ เป็นอุทยานแห่งชาติต้งั อยทู่ ่ี ตำบลหนองบวั อำเภอภูเรือ จงั หวดั เลย และอำเภอท่ำล่ี อาณาเขต ทางทิศเหนือติดกบั ประเทศเพือ่ นบา้ น คือ สำธำรณรัฐประชำธปิ ไตยประชำชนลำว เป็นภเู ขาสูงบนยอดเขาเป็นที่ราบกวา้ งมี ตน้ สนจานวนมาก ข้ึนสลบั ซบั ซอ้ น มีลกั ษณะแปลกกค็ ือ มสี ่วนหน่ึงเป็นผาชะโงกยนื่ ออกมาเหมือนหวั เรือสาเภาขนาดใหญ่ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของอุทยานแห่งชาติภูเรือเมื่อมองโดยรอบ ในท่ีสูง จะเห็นทิวเขาสลบั ซบั ซอ้ นกนั สวยงาม ประกอบดว้ ย เขาหินประเภทต่าง ทรายและหินแกรนิสสสบั กนั สตั วป์ ่ าที่พบเห็นไดแ้ ก่ หมี เกง้ หมาใน ไก่ฟ้ าพญาลอ เต่าปลู ู อทุ ยานภเู รือ อยบู่ นยอดเขาสูงทาใหม้ ี อากาศหนาวเยน็ ตลอดปี และเป็นอทุ ยานท่ีมอี ากาศหนาวเยน็ ท่ีสุดของประเทศโดยเฉพาะในช่วงฤดู หนาวจะหนาวเยน็ มาก จนกระทง่ั น้าคา้ งบนยอดหญา้ จะแขง็ ตวั ภาษาพ้นื เมอื ง เรียกว่า \"แม่คะนิง้ \" มเี น้ือท่ีประมาณ 75,525 ไร่ ช่วงเดือนท่ีเหมาะที่จะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม-มีนาคม กิจกรรมอนื่ ๆท่ีน่าสนใจท่ีนกั ท่องเท่ียวนิยมทาในจงั หวดั ภเู รือไดแ้ ก่ การชิมไวน์ ชาโตเ้ ดอเลย, การชมวฒั นธรรมพ้นื บา้ น

34 ปางอ๋งุ ปำงอ๋งุ มลี กั ษณะเป็นพน้ื ท่ีเป็นอ่างเกบ็ น้าขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้าเป็นทิวสนที่ปลกู เรียงราย กนั ปำงอ๋งุ ท่ีหลายๆ คนอาจยงั ไม่เขา้ ใจความหมาย คาว่า “ปำง” ซ่ึงหมายถงึ ท่ีพกั ของคนทางานในป่ า ส่วน “อุ๋ง” น้นั เป็น ภาษาเหนือหมายถึงที่ลมุ่ ต่าคลา้ ยกระทะใบใหญ่มีน้าขงั เฉอะแฉะ ก็น่าจะหมายถงึ ที่พกั ริมอ่างเกบ็ น้านี่เอง ภาพอนั สวยงามของ ไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาป กบั บรรยากาศอนั หนาวเหน็บในยามเชา้ ทาใหป้ างอุ๋ง กลาย เป็น เป็นสถานท่ีท่องเท่ียวมาแรง ยอดฮิต สุดแสนโรแมนติกติดอนั ดบั ตน้ ๆของแมฮ่ ่องสอน จนไดร้ ับขนานนาม วา่ เป็น \"สวิตเซอร์ แลนด์ท่ีปำงอุ๋งนอกจากชม บรรยากาศของสายหมอกในยามเชา้ แลว้ กิจกรรมอกี อยา่ งหน่ึงที่พลาดไม่ได้ คือ การนง่ั แพ ชมทศั นียภาพและบรรยากาศ โดยรอบ รวมถงึ ชมดาราแห่งปางอ๋งุ นน่ั ก็คือหงสพ์ ระราชทานจากสมเด็จพระราชินี ซ่ึงเป็นหงสด์ าและหงส์ขาวอยา่ งละ 1 คู่ ดว้ ยกนั และไมค่ วรพลาดท่ีจะไปชมสวนปางอุ๋งใกลก้ บั ที่ทาการของ โครงการพระราชดาริฯ ซ่ึงจดั สร้างข้ึนมาเพอื่ ใหม้ พี ชื พรรณท่ีกลมกลนื กบั สภาพภมู ปิ ระเทศบนท่ีสูงทดแทนไร่ฝ่ิน ร้างแต่ด้งั เดิมซ่ึงไวล้ กู พชื ท่ีใหป้ ระโยชนท์ างดา้ นอาหารและยา แพทยแ์ ผนไทย และสร้างความกลมกลนื กบั ภมู ิประเทศ เช่น อะโวคาโด พลบั สาลี่ บว๊ ยอกี ท้งั ยงั มกี ารตกแต่งดว้ ยสวนไม้ ดอกไมป้ ระดบั เมอื งหนาว เช่น กุหลาบ ไฮเดรนเยยี พวงแสด อีกท้งั ยงั มกี ารพยายามนาพชื และสตั วป์ ระจาถิน่ ของพ้นื ที่ปางอุ๋ งกลบั มา เช่น เอ้ืองแซะและกลว้ ยไมต้ ่างๆ และสตั วอ์ ยา่ งเขียดแลน เป็นตน้ แห่งเมืองไทย\" ยงิ่ ยามพระอาทิตยข์ ้ึนจะสะทอ้ นผนื น้าผา่ นทิวสนและไอหมอกบางๆ ยงิ่ เป็นภาพที่สร้างความประทบั ยากจะลืมเลอื น แมใ้ นกระทงั่ เวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ ยงั คงความงาม

35 ปาย ปำย เมอื งปำย อำเภอปำย เป็นอาเภอของจงั หวดั แม่ฮ่องสอน ห่างจากแยกแม่มาลยั มาประมาณ 90 กิโลเมตร เป็นท่ี รู้จกั กนั ดีในหมนู่ กั ท่องเที่ยวท้งั ชาวไทยและชาวต่างชาติท่ีเดินทาง มาเที่ยวชมความงามตามธรรมชาติ ปำย เป็นที่ราบกลาง ลอ้ มรอบดว้ ยภเู ขา มแี ม่น้าหลายสาย คือ แมน่ ้าปำย น้าของ และน้าแมป่ ิ งนอ้ ย อีกท้งั มลี าหว้ ยอกี หลายสาย คือ หว้ ยแมเ่ มอื ง หว้ ยแม่เยน็ และหว้ ยแม่ฮ้ี กำรเดนิ ทำงมำปำยสามารถเดินทางไดห้ ลายทางตามความตอ้ งการของนกั เดนิ ทาง ในฤดหู นาวที่เยอื นมาอีกรอบหน่ึงของเมอื งไทย หลายๆคนจดั แจงวางแผนบุกป่ าผา่ เขาเพ่ือคน้ หาความเยอื กเยน็ ท่ีปี หน่ึงจะมีสกั คร้ังท่ีแน่ๆ เกือบท้งั หมดน้นั เดินทางข้ึนเหนือ จะไปท่ีไหนก็ตามแต่ ที่นี่หลายคนบอกวา่ ไมค่ วรพลาด อ.ปาย ที่ จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ปาย เป็นเมืองเลก็ ๆ ที่ถกู โอบลอ้ มไปดว้ ยขนุ เขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดหู นาว อากาศเยน็ จดั เมอื งเลก็ ๆแห่งน้ีมกั ปกคลมุ ดว้ ยสายหมอก ละอองน้าจางๆยามเชา้ บรรยากาศอนั เงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ทอ้ งฟ้ า สีคราม กบั แสงแดดอนุ่ ๆ ที่ทอดผา่ นม่านหมอกหนา แลเห็นตน้ สนไมย้ นื ตน้ เมอื งหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วถิ ีชีวติ ท่ีเรียบง่ายของผคู้ น ดว้ ยความเป็นเอกลกั ษณ์น้ี “ปาย”ไดด้ ึงดูดนกั เดินทางใหม้ าสมั ผสั มนตเ์ สน่หแ์ ห่งน้ี

36 ภูทับเบิก ต้งั อยทู่ ่ี บา้ นทบั เบิก ต.วงั ตาล ห่างจากอ.หลม่ เก่า 40 กม. และห่างจากตวั จงั หวดั เพชรบรู ณ์ประมาณ 97 กม. มคี วามสูง จากระดบั น้าทะเลประมาณ 1,768 เมตร และเป็นจุดที่สูงท่สี ุดของเพชรบูรณ์ ชาวเพชรบรู ณ์เรียกวา่ “ภูทบั เบิก” ภทู บั เบิก มสี ภาพภมู ิประเทศที่สวยงามดว้ ยธรรมชาติแบบทะเลภเู ขา ป่ าไม้ ตน้ ไมเ้ มอื งหนาวและน้าตก มอี ากาศบริสุทธ์ิ สภาพภมู อิ ากาศเยน็ สบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเยน็ จากเทือกเขาหิมาลยั และอยบู่ นที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทศั นไ์ ด้ กวา้ งไกล โดยช่วงเขา้ จะมองเห็นกลมุ่ เมฆ และทะเลหมอกตดั กบั ยอดเทือกเขาเพชรบรู ณ์ ปัจจุบนั ภทู บั เบกิ เป็นแหลง่ ที่อยอู่ าศยั ของชนกลมุ่ นอ้ ยเป็นชาวไทยภเู ขาเผา่ มง้ ซ่ึงไดอ้ พยพมาอาศยั อยทู่ ่ีบา้ นทบั เบกิ หม่ทู ่ี 14 และหม่ทู ี่ 16 ต.วงั ตาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบรู ณ์ โดยอยใู่ นความดูแลของศนู ยพ์ ฒั นาสงเคราะห์ชาวเขาจงั หวดั เพชรบรู ณ์ จึงทา ใหภ้ ูทบั เบิกมสี ีสนั ดว้ ยวถิ ีชาวไทยภูเขา ซ่ึงประกอบดว้ ยอาชีพทาการเกษตรแบบข้นั บนั ไดตามเชิง

37 วดั พระนอนหนองผง้ึ แต่ด้งั เดิมเป็นวดั ในสมยั เวียงกุมกาม-เชียงใหม่ หรือบางทีอาจจะมีสภาพเป็นวดั ท่ีต้งั เดิมอยกู่ ่อนแลว้ ต้งั แต่สมยั หริภุญ ชยั เช่นเดียวกบั หลายๆ วดั ในเขตเวียงกุมกาม โดยเฉพาะวดั ที่พบหลกั ฐานโบราณวตั ถุประเภทพระพมิ พแ์ บบต่างๆ ภายในเขต บริเวณวดั น้ี ไดร้ ับการดูแลซ่อมเสริมกนั เรื่อยมาดงั เช่น องคพ์ ระบรมธาตุเจดีย์ และอาคารประกอบแวดลอ้ มอืน่ ๆ อนั เป็น ผลงานการซ่อมสร้างเมือ่ ไม่นานมาน้ี โดยเฉพาะองคพ์ ระนอนหรือพระพทุ ธไสยาสน์ ถือเป็นหลกั ฐานพระพทุ ธรูปขนาดใหญ่ ของเวียงกุมกาม ที่ปรากฏหลกั ฐานเหลืออยเู่ พียงองคเ์ ดียวและเรียกขานกนั ในทอ้ งถน่ิ วา่ พระนอนป้ านปิ ง อนั มคี วามหมาย โดยนยั ว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่สร้างขวางตา้ นลาแมน่ ้าปิ งใน อดีต (ปิ งห่าง-ที่ไหลผา่ นมาหนา้ วดั ทางดา้ นตะวนั ออก ตาม แนวถนนตน้ ยาง)เพื่อป้ องกนั น้าไหลบ่าเขา้ มาท่วมชุมชน พระบรมธำตเุ จดีย์ วดั พระนอนหนองผ้งึ ต้งั อยรู่ ะหวา่ งวหิ ารพระนอน และอโุ บสถ ลกั ษณะเป็นเจดียข์ นาดเลก็ ทรง ระฆงั ท่ีไดร้ ับการซ่อมปฏสิ งั ขรณ์เมื่อไมน่ านมา น้ี ส่วนฐานเป็นแบบเขียงตอนล่าง เหนือข้ึนมาเป็นช้นั ปัทมย์ อ่ เกจ็ รองรับส่วน มาลยั เถาแบบยอ่ เกจ็ แปลง องคร์ ะฆงั ขนาดเลก็ ค่อนขา้ งใหญ่ ไม่มีส่วนบลั ลงั ก์ ปลอ้ งไฉนทรงกรวยคว่าแต่ละปลอ้ งตอ้ งมี ขนาดใหญ่ต่อเหนือข้ึนไปดว้ ยช้นั บวั กลุ่มแบบพม่าและส่วนปลยี อดประดบั ฉตั รโลหะ อโุ บสถ วดั พระนอนหนองผ้งึ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลงั คาหนา้ จว่ั มีปีกนก ๒ ขา้ งสร้างหนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ตก ดา้ นหนา้ มสี ิงหป์ นู ป้ันอยู่ ๑ คู่ ส่วนซุม้ โขงประตทู างเขา้ ปรากฏลวดลายปนู ป้ันในศิลปะพมา่ ท่ีไดร้ ับการซ่อมแซมบูรณะใน ระยะเวลาใกลเ้ คียงกบั สิ่งก่อสร้าง ที่มอี ิทธิพลพมา่ ระยะรัชกาลท่ี ๕ เป็นตน้ มา ดงั เช่นที่พบในสิ่งก่อสร้างต่างๆ ของวดั ชา้ งค้า วดั เจดียเ์ หลีย่ ม,วดั ศรีบุญเรือง,วดั สนั ป่ าเลียงและวดั เสาหิน วหิ ำร วดั พระนอนหนองผ้งึ ต้งั ห่างออกไปทางดา้ นตะวนั ตกเฉียงเหนือ สร้างหนั หนา้ ไปทางตะวนั ออก มีรูปทรง โครงสร้างอิทธิพลศิลปะจากภาคกลาง ท่ีมีส่วนจว่ั หลงั คาฐานกวา้ ง ทาตวั บนั ไดรูปมกรคายนาคปนู ป้ันปิดทองและเขียนสี คลา้ ยกบั ที่พบในเขตเมอื งเชียงใหม่ทวั่ ๆไป มตี วั อยา่ งสวยงามท่ีเป็นนาคบนั ไดของวิหารหลวง วดั เจดียห์ ลวง (สร้างข้นึ ใหม่ใน สมยั เจา้ หลวงแกว้ นวรัฐเมื่อราว๑๐๐กว่าปี ที่ผา่ นมา)

38 อทุ ยานแหง่ ชาติแมว่ งก์ อทุ ยำนแห่งชำตแิ ม่วงก์ มีพ้ืนที่ครอบคลมุ ทอ้ งท่ีอาเภอปางศิลาทอง จงั หวดั กาแพงเพชร และอาเภอแมว่ งก์ และ อาเภอแมเ่ ปิ น จงั หวดั นครสวรรค์ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่เป็นแหลง่ กาเนิดตน้ น้าลาธาร ตามเทือกเขาสูงชนั ก่อกาเนิดเป็นน้าตกท่ี สวยงาม 4-5 แห่ง ท้งั เป็นตน้ กาเนิดของแม่น้าแมว่ งกอ์ นั เป็นตน้ น้าของแมน่ ้าสะแกกรังนอกจากน้ียงั มแี ก่งหินทาใหเ้ กิดน้าตก เลก็ ๆ ตามแก่งหินน้ี ตลอดจนมีหนา้ ผาท่ีสวยงามตามธรรมชาติ อุทยานมเี น้ือท่ีประมาณ 558,750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร ซ่ึงในขณะน้ีรัฐบาลกาลงั ดาเนินการก่อสร้างเข่ือนแมว่ งกใ์ นเขตพ้นื ที่อทุ ยานดว้ ย  จุดชมววิ กิว่ กระทิง  จุดชมววิ ขนุ น้าเยน็  ช่องเยน็ (1340 เมตรเหนือระดบั น้าทะเล)  เสน้ ทางเดินศึกษาธรรมชาติ (เหมาะสาหรับนกั ดนู ก)  จุดชมววิ ภสู วรรค์ (1429 เมตรเหนือระดบั น้าทะเล)  แก่งนกยงู  เขาโมโกจู  แก่งผานางคอย  น้าตกแมร่ ีวา  น้าตกแมก่ ี  น้าตกแมก่ ระสา  น้าตกแมก่ ระสี

39 สวนแมฟ่ ้าหลวง ดอยตงุ ดอยตงุ อีกชื่อที่คุน้ หูกนั ดีครับ เป็นแหล่งท่องเท่ียวสาคญั ของเมืองเชียงรายและมกั จะเป็นจุดหมายปลายทางของ นกั ท่องเท่ียวเสมอ มชี ื่อเสียงมากดา้ นความสวยงามของดอกไมเ้ มืองหนาวโดยเฉพาะ สวนแมฟ่ ้ าหลวง บนดอยตุงน้นั นับได้ว่ำ เป็ นสวนดอกไม้ที่สวยงำมมำกทส่ี ุดในประเทศไทย นอกจากน้ีแลว้ ดอยตุงยงั เป็นที่ต้งั ของ พระตำหนักดอยตงุ และ พระธำตุ ดอยตงุ ซ่ึงเป็นพระธาตุคู่บา้ นค่เู มืองของจงั หวดั เชียงราย ท้งั ยงั เป็นพระธาตุประจาปี เกิดของผทู้ ี่เกิดปีกนุ อีกดว้ ย สวนแม่ฟ้ ำหลวง ต้งั อยดู่ า้ นหนา้ พระตาหนกั ดอยตุง สร้างในปี พ.ศ. 2535 มีเน้ือท่ีประมาณ 30 ไร่ สูงกวา่ ระดบั น้าทะเล 950 เมตร ภายในประดบั ประดาดว้ ยไมด้ อกไมป้ ระดบั นานาพรรณ มีดอกไมเ้ มืองหนาว อำทิ ดอกซัลเวยี พทิ ูเนีย บโี กเนยี กหุ ลำบ ไม้มงคลต่ำง ๆ นอกจำกน้นั ยงั มไี ม้ยนื ต้นและซุ้มไม้เลอี้ ยอกี มำกกว่ำ 70 ชนิด และยงั มีรูปป้ันต่อเนื่อง ฝีมือป้ันของคุณ มีเซียม ยปิ อินซอย กลางสวนมีงานประติมากรรม ของนางมเิ ซียม ยบิ อนิ ซอย โดยสมเดจ็ พระบรมรำชชนนที รงพระรำชทำน ชื่อว่ำ \"ควำมต่อเน่อื ง\" (Continuity) ส่ือถงึ กำรทำงำนใดๆ จะสำเร็จได้ ต้องทำอย่ำงต่อเนอื่ ง สวนแม่ฟ้ ำหลวง ได้รับรำงวลั พำตำ โกลด์ อวอร์ด (PATA Gold Award) ประเภทรำงวลั กำรพฒั นำแหล่งท่องเท่ียว จาก สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเอเชีย-แปซิฟิ ก ปี พ.ศ.2536 หลงั จากที่ดอยตุง เดิมเป็นเพียงภเู ขาหวั โลน้ แห่งหน่ึงในจงั หวดั เชียงราย จนกระทงั่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ไดเ้ สด็จมา และทรงเลง็ เห็นถงึ ความสาคญั ของป่ าตน้ น้าแห่งน้ี จึง ทรงริเริ่ม โครงกำรพฒั นำดอยตงุ ในปี 2531 ดอยตงุ และพฒั นำเป็ น มลู นิธิแม่ฟ้ ำหลวง ในพระรำชูปถมั ภ์ของสมเดจ็ พระศรี นครินทรำบรมรำชชนนี

40 ดอยแมส่ ลอง เท่ียวชมดอยแม่สลอง ชิมชาหอมๆ ชุ่มคอ พร้อมกบั อากาศเยน็ สบาย ในหมบู่ า้ นสนั ติคิรี แต่เดิมช่ือบา้ นแม่สลอง เป็ น ชุมชนผอู้ พยพจากกองพล 93 สหภาพพม่าเขา้ มาในเขตไทย จานวนสองกองพนั คือ กองพนั ที่ 3 เขา้ มาอยทู่ ี่อาเภอฝาง จงั หวดั เชียงใหม่ และกองพนั ท่ี 5 อยทู่ ่ีบา้ นแมส่ ลองนอก ต้งั แต่ พ.ศ. 2504 เพราะฉะน้นั จึงทาให้มี อนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะ ชาติภาคเหนือ ประเทศไทย บนดอยแห่งน้ีให้ไปชมและศึกษาเร่ืองราว ประวตั ิของชาวดอยแม่สลองกนั ดว้ ยครับ ในเดือน ธนั วาคมถึงกุมภาพนั ธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซ่ึงเป็นซากุระพนั ธุ์ท่ีเล็กที่สุด สีชมพอู มขาวจะบานสะพร่ังตลอดแนวทางข้ึน ดอยแม่สลอง เป็ นพนั ธุ์ไมท้ ี่หาชมได้ยากในเมืองไทย เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจดั เท่าน้ัน จุด น่าสนใจบนดอยแมส่ ลองกค็ ือการเดินเล่นชมไร่ชาและศกึ ษาวิธีการผลติ ชาชิมชาชงใหมๆ่ หรือจะข่ีมา้ ชมทิวทศั น์รอบหม่บู า้ น เจียงจาใส มีไกดน์ าชม บรรยากาศบนดอยแม่สลองเต็มไปดว้ ยกลิ่นอายของวิถีชีวิต และวฒั นธรรมความเป็ นอย่แู บบชาวจีนแถบมณฑลยนู นาน รวมถึงอาหารการกินเลือ่ งช่ืออยา่ ง \"ขาหม\"ู และ \"หมน่ั โถ\" เพราะเม่อื ปี พ.ศ. 2515 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทหารจีนคณะชาติให้ อาศยั ในแผน่ ดินไทยอยา่ งเป็นทางการ ยตุ ิการคา้ ฝิ่น ปลดอาวธุ และหนั มาทาอาชีพเกษตรกรรม โดยไดร้ ิเร่ิมโครงการปลกู ชา ซ่ึงตอนน้ีเป็ นไร่ชาดอยแม่สลองมีชื่อเสียงมากของประเทศ และปลกู สนสามใบเพ่ือทดแทนป่ า ชุมชนบนดอยแม่สลองจึง เปลีย่ นช่ือใหมเ่ ป็น บา้ นสนั ติคีรี มีการออกบตั รประชาชนใหช้ าวจีนเมื่อปี พ.ศ. 2521 จากน้นั ดอยแม่สลองจึงมีความสงบนับ แต่น้นั มา

41 อุทยานแห่ งชาติออบขาน อทุ ยานแห่งชาติออบขาน เป็นภูเขาหินปูนและหินอคั นีเรียงรายสลบั ซบั ซอ้ นสวยงามแปลกตา ปกคลมุ ดว้ ยปาเบญจ พรรณ ป่ าเตง็ รัง และป่ าดิบแหง้ ป่ าดิบเขา และป่ าสนเขา ภมู อิ ากาศโดยทวั่ ไปค่อนขา้ งจะร้อนในฤดรู ้อนและหนาวเยน็ ในฤดู หนาว มฝี นตกชุกเป็นช่วงระยะส้นั ๆ ในฤดูฝน ฤดรู ้อนค่อนขา้ งยาวนาน อทุ ยานแห่งชาติออบขาน ครอบคลุมพ้นื ที่ 3 อาเภอ คือ อ.สะเมิง อ.แมว่ าง อ.หางดง และ อ.สนั ป่ าตอง นอกจากน้นั ยงั มเี สน้ ทางเดนิ ศึกษาธรรมชาติ เป็นเสน้ ทางวงรอบเลยี บตามสายน้าบริเวณออบขาน และไต่ไปตามแนวป่ าผา ธารไปสิ้นสุด ณ ลานจอดรถหนา้ ศนู ยบ์ ริการนกั ท่องเท่ียว รวมระยะทางประมาณ 800 เมตร ใชร้ ะยะเวลาเดินทางประมาณ 60 นาที เสน้ ทางเดินจดั อยใู่ นระดบั ยาก บางช่วงผา่ นลานหินขรุขระ และเลยี บผาสูงตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั มาก ไม่เหมาะ สาหรับเด็กเลก็ และผทู้ ่ีไมส่ ะดวกในการปืนป่ ายหรือมีปัญหาดา้ นสุขภาพ

42 Siam Insect-Zoo & Museum สวนสตั วแ์ มลงสยาม และพิพธิ ภณั ฑ์ สวนสตั วแ์ มลงสยามและพิพิธภณั ฑแ์ มลงสยามอยใู่ นพ้ืนที่บริเวณเดียวกนั เป็นสถานท่ีวจิ ยั เพาะเล้ียงและแสดงแมลง ท่ีมชี ีวิต มีอาคารพิพธิ ภณั ฑจ์ ดั แสดงแมลงสะสมจากทว่ั โลกซ่ึงใชเ้ วลารวบรวมมานานกวา่ 30 ปี เพ่ือเผยแพร่ความรู้แก่ นกั ท่องเท่ียวท้งั ไทยและชาวต่างประเทศ เป็นสถานท่ีที่น่าสนใจท่ีอยากแนะนาใหไ้ ปเยยี่ มกนั โดยเฉพาะการไดม้ โี อกาสเห็น แมลงหายาก แมลงที่มขี นาดใหญ่ต่างๆ นกั ท่องเท่ียวยงั มโี อกาสสมั ผสั แมลงท่ีไดว้ จิ ยั เพาะเล้ียงไวอ้ ยา่ งใกลช้ ิด อาทิ การจบั ตก๊ั แตนใบไมแ้ ละแมงป่ องที่สวนสตั วแ์ มลงสยามมีสวนผเี ส้ือขนาดใหญ่สาหรับศึกษาธรรมชาติของผเี ส้ือ พพิ ิธภณั ฑแ์ มลงสยามเป็นพพิ ธิ ภณั ฑต์ น้ แบบของภาคเหนือในปี พ.ศ. 2554 ส่ิงที่เรียนรู้จากสวนสตั วแ์ มลงสยามเป็นการ คน้ พบความจริงเกี่ยวกบั ธรรมชาติที่มคี ่ามากระดบั โลก เช่นการคน้ พบและต้งั ช่ือผเี ส้ือชนิดใหม่ท่ีพบคร้ังแรกในโลกจาก ประเทศไทย 1 ชนิดและ 10 ชนิดยอ่ ย การคน้ พบหนอนและการดารงชีวติ ของผเี ส้ือและดว้ งปี กแขง็ หลายชนิด ซ่ึงไม่มีใน รายงานใดๆ มาก่อนท้งั ในและต่างประเทศ สวนสตั วแ์ มลงสยามเป็นสวนสตั วแ์ มลงแห่งแรกและแห่งเดียวของไทยที่มกี าร ดาเนินงานเป็นรูปธรรมโดยไมท่ อ้ ถอยจนเป็นที่รู้จกั ของคนทวั่ ไปอยา่ งกกวา้ งขวาง

43 วดั พระธาตลุ ำปางหลวง ต้งั อยใู่ นเขตตาบลลาปางหลวง อาเภอเกาะคา จงั หวดั ลาปาง อยหู่ ่างจากตวั เมอื งลาปางไปทางทิศตะวนั ตกเฉียงใต้ ประมาณ 18 กิโลเมตร วดั ต้งั อยบู่ นเนินสูง มกี ารจดั วางผงั และส่วนประกอบของวดั สมบรู ณ์แบบที่สุด มีส่ิงก่อสร้าง และ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพทุ ธาวาสประกอบดว้ ย องคพ์ ระธาตุลาปางหลวง เป็นประธาน มบี นั ไดนาคนาข้ึนไปสู่ซุม้ ประตู โขง ถดั ซุม้ ประตโู ขงข้ึนไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององคพ์ ระธาตุมวี หิ ารบริวารต้งั อยคู่ ือ วหิ ารน้าแตม้ และ วหิ าร ตน้ แกว้ ดา้ นตะวนั ตกขององคพ์ ระธาตุประกอบดว้ ย วหิ ารละโว้ และ หอพระพทุ ธบาท ดา้ นใตม้ ี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ท้งั หมดน้ีจะแวดลอ้ มดว้ ยแนวกาแพงแกว้ ท้งั ส่ีดา้ น นอกกาแพงแกว้ ดา้ นใตม้ ปี ระตูที่จะนาไปสู่เขตสงั ฆาวาส ซ่ึงประกอบดว้ ย อาคาร หอพระไตรปิ ฎก กฏุ ปิ ระดิษฐาน พระแกว้ ดอนเตา้ อาคารพิพิธภณั ฑแ์ ละกฏุ สิ งฆ์ วดั พระธาตุลาปางหลวง เป็นโบราณสถานสาคญั ที่ต้งั อยใู่ นบริเวณซากเมอื งโบราณลมั พกปั ปะนคร ตามประวตั ิพระ นางจามเทวีเคยเสดจ็ มานมสั การ และทาการบรู ณะซ่อมแซมอยเู่ สมอ นบั ว่าเป็นวดั สาคญั ค่บู า้ นค่เู มอื งมาแต่โบราณกาล มี ความสวยงาม และมคี วามยอดเยย่ี มท้งั สถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม เป็นท่ีประดิษฐานพระแกว้ ดอนเตา้ ซ่ึง เป็นท่ีเคารพสกั การะของชาวลาปาง และชาวพุทธทวั่ ไป

44 วนอทุ ยานถ้าผาตูบ วนอทุ ยำนถำ้ ผำตบู อยใู่ นทอ้ งที่บา้ นผาตูบ ตาบลผาสิงห์ อาเภอเมือง จงั หวดั น่าน มเี น้ือที่ประมาณ 582 ไร่ กรมป่ าไม้ ไดป้ ระกาศเป็นวนอุทยานเม่ือวนั ท่ี 1 ตุลาคม 2521 เป็นภูเขาค่อนขา้ งเป็นหินรายรอบติดต่อกนั นบั จากทางดา้ นเหนือลงมา มีถ้าผาตูบ เขาถ้าพระเขาป่ าซาง เขาบ่อน้าทิพย์ เขา ผาผกั เฮือก เขามอ่ นมะฝางและเขาหนา้ ต่า เป็นตน้ ซ่ึงเขาเหล่าน้ีมีอาณาเขตติดต่อเป็นเทือกเขาเดียวกนั ต้งั แต่ถ้าผาตบู ลงมา ทางทิศใตจ้ นถึงเขาผาผกั เฮือก แลว้ วกกลบั ท่ีเขาม่อนมะฝางติดต่อไปยงั เขาหนา้ ผาต่าและอ่ืนๆ ตามที่มีเขาต่างๆติดต่อกนั และวนกลบั เช่นน้ี จึงเป็นเหตุใหม้ ปี ่ าเกดิ ข้ึนอยใู่ นบริเวณลอ้ มรอบของเขาดงั กลา่ วที่ชาวบา้ นเรียกวา่ “ หนองน่าน “ จุดชมววิ ต้งั อยบู่ นเขาป่ าซาง ติดกบั บ่อน้าทิพยท์ างดา้ นทิศใต้ สามารถมองเห็นทิวทศั น์รอบๆและ สามารถมองเห็นใน อาเภอเมืองน่านไดถ้ นดั ถำ้ เจดยี ์แก้ว เป็นถ้าขนาดเลก็ ดา้ นหนา้ ของถ้าจะมหี ินรูปร่างคลา้ ยเจดียต์ ้งั อยู่ ถำ้ ขอน มีลกั ษณะยาวคลา้ ยกบั ท่อนซุง ดา้ นในมหี ินงอกหินยอ้ ยงดงามและดา้ นหนา้ บริเวณปากทางข้นึ ถ้ามีหนา้ ผา ถำ้ พระ เป็นถ้าขนาดใหญ่ ลานพ้นื กวา้ ง เน้ือท่ีราว 50 ตารางวา มีปลอ่ งเพดาน ดา้ นหน่ึงมลี มพดั เขา้ มาและใหแ้ สงสว่าง มี หินงอกหินยอ้ ยงดงาม ถำ้ บ่อนำ้ ทิพย์ ภายในถ้าเป็นหอ้ งโถง กวา้ งประมาณ 30 ตารางวา มปี ลอ่ งเพดานใหแ้ สงสว่าง มหี ินยอ้ ยรอบถ้า ผนงั ดา้ น หน่ึงมีซอกเวา้ ลกึ เป็นโพรง มแี อ่งน้ารูปไข่ป้ อมมนี ้าขงั ตลอดปี ยดึ ถอื เป็นน้าศกั ด์ิสิทธ์ิ ป่ ำหนองน่ำน สภาพป่ าเป็นป่ าดงดิบ มพี รรณไมน้ านาชนิดท่ีแตกต่างกบั พรรณไมพ้ น้ื เมอื งที่มอี ยทู่ วั่ ๆไปของจงั หวดั น่าน ข้ึนอยเู่ ป็นระเบียบตามธรรมชาติ บริเวณป่ าร่มรื่นสวยงาม

45 น้าตกศลิ าเพชร นำ้ ตกศิลำเพชรเป็นท่ีเท่ียวที่น่าสนใจอกี แห่งหน่ึง เป็นน้าตกท่ีอยใู่ นอุทยานแห่งชาติดอยภคู า ซ่ึงเป็นน้าตกขนาด ใหญ่ มี 3 ช้นั ไหลลดหลน่ั ตลอดท้งั ปี เหมาะสาหรับการลงเลน่ น้าและพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ ลอ้ มรอบไปดว้ ยป่ าเขาและ ธรรมชาติที่อุดมสมบรู ณ์และสวยงาม น้าตกศิลาเพชร อยใู่ นบริเวณทางตอนกลางของอทุ ยานแห่งชาติดอยภคู าอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของหน่วยจดั การตน้ น้าน้ายา่ ง ในพ้ืนที่หมบู่ า้ นป่ าตอง ตาบลศลิ าเพชรอาเภอปัว จงั หวดั น่าน เป็นน้าตกท่ีมชี ่ือเสียงของอาเภอปัวและเป็นท่ีนิยมของ นกั ท่องเที่ยว น้าตกเกิดจากลาน้ายา่ ง มที ้งั หมด 3 ช้นั มีลกั ษณะเป็นแอง่ น้าตกเหมาะแกก่ ารเล่นน้าและมนี ้าไหลตลอดปี สายน้าตกลงมาจากหนา้ ผาหลายช้นั ลดหลน่ั กนั ไป ภายในน้าตกมนี ้าตกที่ใสสะอาด โขดหินอนั สวยงาม ตน้ ไมท้ ี่ร่มรื่น ท้งั สองฝ่ังของน้าตกจะเป็นหนา้ ผาลาดชนั ซ่ึงมคี วามอุดมสมบรู ณ์ของป่ าเบญจพรรณและป่ าดิบเขา มี ร้านอาหาร เคร่ืองดื่ม และหอ้ งสุขาไวบ้ ริการดา้ นหนา้ ก่อนเขา้ ถึงตวั น้าตก