www.webkal.org
www.webkal.org สมั มาทิฐิในวงการศึกษา พระภาวนาวิริยคณุ (เผดจ็ ทตฺตชโี ว) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
www.webkal.org สัมมาทิฐิในวงการศึกษา พระภาวนาวริ ยิ คณุ (เผด็จ ทตตฺ ชีโว) พิมพค์ รง้ั ที่ ๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๕ จ�ำนวนพิมพ์ ๔๔,๐๐๐ เลม่ พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕ จ�ำนวนพิมพ์ ๕๔,๐๐๐ เลม่ พิมพค์ รง้ั ท่ี ๓ ตลุ าคม ๒๕๕๕ จำ� นวนพมิ พ์ ๔๓,๐๐๐ เล่ม พมิ พ์ท ่ี บรษิ ัท โอ.เอส.พรน้ิ ต้ิง เฮา้ ส์ จ�ำกดั ๑๑๓/๑๓ ซอยวัดสุวรรณคีรี ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรนิ ทร์ เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพฯ ๑๐๗๐๐ บริษัท ศนู ย์นวัตกรรมสอื่ ศีลธรรมโลก จำ� กดั ๖๘ ซอยสรณคมน์ ๓ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐ โทรศพั ท์ ๐๘๑-๔๓๕๕๖๒๙, ๐๘๒-๗๘๒๑๘๑๗
www.webkal.org
www.webkal.org คำ� นำ� ผไู้ ดช้ อ่ื วา่ เปน็ “คร”ู ยอ่ มมคี ณุ สมบตั สิ ำ� คญั ยงิ่ ประการ หน่ึงคือ “มีความเข้าใจถูกต้องเก่ียวกับเรื่องโลกและชีวิต” เพราะหากปราศจากความเข้าใจถูกในเร่ืองน้ีแล้ว ครูจะไม่รู้ ไม่เข้าใจความจริงของชีวิตเลยว่า ชีวิตน้ีเปน็ ทกุ ขแ์ ละทกุ ชีวิต ลว้ นตกอยภู่ ายใตก้ ฎแหง่ กรรม คือ ทำ� ชั่วทุกข์เพ่ิมขน้ึ ท�ำดี ทกุ ขล์ ดลง ครจู ะกลายเปน็ บคุ คลทม่ี วี นิ จิ ฉยั ศลี ธรรมผดิ พลาด ไมม่ ีหลกั ตัดสินทถี่ กู ต้องว่าสิ่งใด “ถกู -ผดิ ดี-ชัว่ บุญ-บาป ควร-ไมค่ วร” วินจิ ฉยั ศีลธรรมประจำ� ใจของครูนี้เอง เป็นตัว ควบคมุ การกระทำ� ทางใจ ทางความคดิ ทางวาจาและทางกาย ไม่ให้ละเมิดกฎแหง่ กรรม ด้วยเหตุท่ีสัมมาทิฐิ ๑๐ มีความส�ำคัญมากอย่างย่ิงนี้ เอง ครูจึงต้องหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองและศิษย์ด้วย การปฏิบัติตามล�ำดับของสัมมาทิฐิ โดยเร่ิมจากสัมมาทิฐิ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 4
www.webkal.org ข้อท่ี ๑ ทานมีผลจรงิ จนถึงข้อสดุ ทา้ ยคือ พระพุทธเจ้ามีจรงิ การปฏบิ ตั สิ มั มาทฐิ ิ ๑๐ ขอ้ น้ี ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หส้ มำ�่ เสมอจนกลาย เปน็ คณุ ธรรมประจำ� ใจ สมั มาทฐิ หิ รอื ความเขา้ ใจถกู เรอ่ื งโลก และชวี ิตนี้เอง จึงเปน็ ประดุจแสงเงินแสงทองสอ่ งน�ำทางชวี ิต คร ู ศษิ ย์ และชาวโลกให้ประเสริฐ (พระภาวนาวิรยิ คณุ ) รองเจา้ อาวาสวัดพระธรรมกาย สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 5
www.webkal.org สารบญั องค์ประกอบของสมั มาทฐิ ิ ๑๐ ๗ หลักการดำ� เนินชวี ติ ครอู ยา่ งถกู ต้อง ๑๐ ประการ ๒๗ แนวทางการปลกู ฝังสมั มาทิฐิสำ� หรับเดก็ ๔๓ หลกั การปลูกฝงั สมั มาทิฐ ิ ๕๕ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 6
www.webkal.org องคป์ ระกอบของสมั มาทฐิ ิ ๑๐
www.webkal.org องคป์ ระกอบของสัมมาทฐิ ิ ๑๐ ก. หลกั การดำ� เนนิ ชีวิตให้เปน็ สุข ๔ ๑. ทานมผี ลจรงิ (อตถฺ ิ ทินนฺ )ํ ๒. การสงเคราะหม์ ผี ลจรงิ (อตถฺ ิ ยิฏฺฐ)ํ ๓. การบชู ามีผลจรงิ (อตถฺ ิ หุตํ) ๔. ผลวิบากกรรมท่ที ำ� ด-ี ชว่ั มจี รงิ (อตถฺ ิ สกุ ฏทกุ กฺ ฏานํ กมมฺ านํ ผลํ วปิ าโก) สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 8
www.webkal.org ๑. ทานมผี ลจรงิ ทาน คอื การให้ การแบง่ ปนั การเสยี สละ การเออื้ เฟอ้ื สง่ิ ทเ่ี ปน็ ประโยชนแ์ กก่ นั ดว้ ยความเตม็ ใจ เชน่ ใหท้ รพั ยส์ ง่ิ ของ เป็นต้น การให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ การให้ธรรมะ และ การให้อภัยไม่ถือโทษโกรธขึ้งกัน ก็จัดว่าเป็นทานชนิดหน่ึง ยอ่ มมีผลดจี รงิ แก่ผใู้ ห้และผู้รบั คือ ๑) ผูใ้ ห้ย่อมเปน็ ทีร่ กั ทีพ่ อใจของมหาชน ๒) ผใู้ หแ้ ละผรู้ บั ยอ่ มเกดิ ความรกั ใครป่ รารถนาดตี อ่ กนั ๓) เป็นการป้องกันสังคมไม่ให้เกิดการหวงแหน แลง้ น้ำ� ใจ ทานจงึ จัดเปน็ ความดีข้นั ตน้ ท่ีทกุ คนตอ้ งฝึกใหม้ ี สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 9
www.webkal.org ๒. การสงเคราะห์มผี ลจริง การสงเคราะห์ คอื การชว่ ยเหลอื กนั ในยามยาก ทกุ ข์ ของชาวโลกยอ่ มบรรเทาลงได้ หากผคู้ นในสงั คมไมท่ อดทง้ิ หรอื ซำ้� เตมิ กนั เองในคราวตกทกุ ขไ์ ดย้ าก แตพ่ ยายามชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู กนั ซงึ่ มผี ลดตี อ่ ผใู้ หแ้ ละผรู้ บั คอื ๑) ผู้ใหก้ ารสงเคราะห์ย่อมปลื้มใจท่ไี ด้ท�ำความดี ๒) ผู้รับการสงเคราะห์ย่อมบรรเทาหรือหมดทุกข์ เห็นทันตา ๓) ผ้รู ับการสงเคราะหย์ อ่ มสำ� นึกในบญุ คุณ อนั จะน�ำ ไปส่กู ารตอบแทนพระคุณกันอยา่ งไมร่ จู้ บ การฝึกสงเคราะห์ให้กันและกันจนเป็นนิสัย คือหัวใจ การพัฒนาสังคม สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 10
www.webkal.org ๓. การยกยอ่ งบูชามผี ลจรงิ บชู า คอื การแสดงความเคารพ การกราบไหว้ การยกยอ่ ง นับถอื บุคคลท่ีควรเคารพนบั ถือ เช่น พระพุทธรูป พระสงฆ์ บิดามารดา ครอู าจารย์ ญาตผิ ู้ใหญ่ บชู า ท�ำได้ ๒ วธิ ี ๑. บูชาดว้ ยสิ่งของ คอื ปรนนิบัติดแู ล ใหค้ า่ ใชจ้ า่ ย และบูชาด้วยดอกไม้ ธูป เทียน ๒. บชู าดว้ ยการปฏบิ ตั ิ คอื ปฏบิ ตั ติ ามแบบทที่ า่ นทำ� คำ� ทที่ า่ นสอนดว้ ยความเตม็ ใจ เพอ่ื จะไดม้ คี วามดเี ชน่ ทา่ นดว้ ย การบชู าบุคคลทคี่ วรบูชาอยา่ งเหมาะสม ยอ่ มมผี ลน�ำ ความสขุ ความเจรญิ ความกา้ วหนา้ มาให้ ๑) ทำ� ใหใ้ จผ่องใส ๒) ท�ำให้มีกำ� ลงั ใจท�ำความดตี ามท่าน การหาโอกาสบชู าบคุ คลทค่ี วรบชู าเปน็ หนา้ ทขี่ องผเู้ รยี น สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 11
www.webkal.org ๔. ผลวบิ ากกรรมด-ี กรรมช่ัวมจี รงิ ทุกอย่างท่ีคิด ทุกส่ิงท่ีท�ำ ทุกค�ำท่ีพูดด้วยเจตนา ลว้ นเปน็ กรรม กรรมน้นั ย่อมมผี ลยอ้ นมาถงึ ตนเอง ใครๆ จะ หลกี เลย่ี งกม็ ไิ ด้ เพราะมกี ฎตายตวั วา่ “ทำ� ดี ไดด้ ี ทำ� ชว่ั ไดช้ ว่ั ” ไม่ว่าผู้ทำ� กรรมนัน้ จะรจู้ กั กฎแหง่ กรรมหรือไม่ นนั่ คือ กรรมดี ออกผล เป็นความสุข-เจริญ กรรมช่วั ออกผล เปน็ ความทุกข-์ เสือ่ ม ดงั น้นั เพ่ือความสขุ -เจรญิ ๑) สงิ่ เรง่ ดว่ นทต่ี อ้ งรใู้ หช้ ดั คอื ด-ี ชวั่ ตดั สนิ อยา่ งไร ๒) สง่ิ ท่ีตอ้ งเรง่ ปฏบิ ตั ิ คือ ละเว้นกรรมชั่ว เลอื ก ทำ� แตก่ รรมด ี กลัน่ ใจใหผ้ ่องใส จนกวา่ ชีวิตจะหาไม่ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 12
www.webkal.org ข. ความจรงิ ประจ�ำโลก ๖ ๑. โลกนี้มีจริง (อตฺถิ อยํ โลโก) ๒. โลกหน้ามจี รงิ (อตถฺ ิ ปโร โลโก) ๓. มารดามีจรงิ (อตฺถิ มาตา) ๔. บดิ ามจี รงิ (อตฺถิ ปิตา) ๕. โอปปาตกิ ะมีจรงิ (อตฺถิ สตฺตา โอปปาตกิ า) ๖. พระพุทธเจา้ มีจริง (อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมมฺ คฺคตา สมมฺ าปฏิปนฺนา) สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 13
www.webkal.org ๕. โลกน้ีมจี ริง คือ ตัวเรามที มี่ าจริง หากเจรญิ ภาวนาถงึ ระดับหนึ่ง ย่อมประจักษ์แก่ใจว่า ๑) ตัวเราเองเคยเกดิ มาแลว้ นับภพนับชาติไม่ถ้วน ๒) การมาเกดิ ในภพชาตนิ ้ี ไมว่ า่ เกดิ ในสถานภาพใด จะเกิดในครอบครัวร�่ำรวย-ยากจน ตระกูลสูง-ต่�ำ สุขภาพ ดี-ขีโ้ รค รูปสวย-ทราม สติปัญญาดี-ทราม ฯลฯ ลว้ นเป็นผลจากกรรมเก่าชาตทิ แี่ ล้วๆ สง่ มา หาใช่ เกิดขึ้นเองหรือผู้ใดบันดาล เพราะทุกคนล้วนมีกรรม เปน็ ของตน เปน็ ทายาทแหง่ กรรม มกี รรมเปน็ กำ� เนดิ มกี รรม เปน็ เผ่าพันธ์ุ ๓) เมื่อแรกเกิดทุกคนยังไม่เป็นคนดีหรือชั่วตาม พ่อแม่ ยงั เป็นกลางๆ อยู ่ ตอ่ เมื่อได้ท�ำกรรมดี ก็เปน็ คนดี ไดท้ �ำกรรมชว่ั กเ็ ปน็ คนช่วั ตามกรรมท่ีตนเองทำ� ขึ้นใหมช่ าตินี้ คนฉลาดจงึ เลือกทำ� แตก่ รรมด ี เว้นกรรมช่วั โดยเด็ดขาด สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 14
www.webkal.org ๔) ความเป็นทุกข์-ตกต่�ำในชาตินี้ เป็นผลของ กรรมชวั่ ใหมใ่ นชาตนิ ้ี รว่ มกบั ผลกรรมชวั่ เกา่ ในอดตี ทย่ี งั ตดิ ตาม มาตดั รอน ความสุข-เจริญในชาติน้ี เป็นผลของกรรมดีใหม่ ชาติน้ี ร่วมกับผลกรรมดีเก่าที่สั่งสมไว้ในชาติที่แล้วๆ ตามมาสมทบ เพราะทกุ คนลว้ นมกี รรมของตนเปน็ ทพ่ี ง่ึ อาศยั หาใช่ผใู้ ดบันดาล สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 15
www.webkal.org ๖. โลกหน้ามจี ริง คอื ตายแล้วไมส่ ญู ตราบใดท่ียังไม่หมดกิเลส ตายแล้วต่างคนต่างยัง ตอ้ งไปเกดิ ใหมใ่ นภพหนา้ อกี ตามกรรมด-ี ชวั่ ทตี่ นทำ� ไว ้ นนั่ คอื กรรมเก่าชาติท่ีแล้วๆ ส่งผลให้มาเกิดในภพชาตนิ ี้ กรรมใหม่ในชาติน้ีและชาติที่แล้วๆ ส่งผลให้ไปเกิด ในภพชาติหน้า กรรมใหม่ชาติหน้าและชาตินี้ รวมทั้งชาติที่แล้วๆ ส่งผลใหไ้ ปเกดิ ในภพชาติต่อๆ ไป ๖.๑ เพอื่ ความเจรญิ รงุ่ เรอื งทงั้ ภพน้ี-ภพหนา้ หลงั การเจริญภาวนาเช้า-ค่�ำ พึงกล่าวค�ำปฏิญาณเตือนตนให้ ประพฤติปฏบิ ัตติ ามหลกั การด�ำเนนิ ชีวิตของชาวพุทธ คอื ๑) การละกรรมชั่วท้ังกาย-วาจา-ใจทกุ ชนิด ๒) การหาโอกาสท�ำความดที ัง้ หลายใหถ้ งึ พรอ้ ม ๓) การกลั่นใจใหผ้ อ่ งใสไมล่ ดละ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 16
www.webkal.org น่ันคือ เลี้ยงชีพด้วยการงานปราศจากบาป โดยเด็ดขาด ยิ่งท�ำงาน ใจย่ิงต้องผ่องใส ได้ประโยชน์ท้ัง ส่วนตนและสว่ นรวมตลอดไป ๖.๒ ขวนขวายบ�ำเพ็ญกุศลใหม่ตลอดชีวิต ไม่ว่าชีวิต จะรุง่ เรอื งหรือตกตำ�่ กท็ �ำบญุ มิไดข้ าด โดยถอื หลักว่า เช้าใด ยังไม่ไดใ้ หท้ าน เชา้ น้นั จะยังไมก่ นิ อาหาร วันใด ยงั ไมไ่ ดส้ มาทานศลี วนั นน้ั จะไมอ่ อกจากบา้ น คนื ใด ยงั ไมไ่ ดเ้ จรญิ ภาวนา คนื นน้ั จะยงั ไมเ่ ขา้ นอน ทกุ วันพระก็ต้ังใจรบั อโุ บสถศีล ฟังธรรม ทกุ วนั สำ� คญั ทางศาสนาตงั้ ใจประกอบบญุ ใหญไ่ มเ่ วน้ เพราะตระหนกั ว่า บุญเป็นพลังงานบรสิ ทุ ธิ์ ชำ� ระใจให้ สะอาดได ้ กำ� จดั กเิ ลสใหเ้ บาบางลงได้ เปน็ ทางใหใ้ จคลายทกุ ข์ นำ� ความสุขนานามาใหไ้ ด้ และเปน็ เหตุใหอ้ ายุยนื สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 17
www.webkal.org ๖.๓ เสรจ็ การบญุ แตล่ ะครง้ั กต็ งั้ แผนการสรา้ งบญุ ใหญ่ ด้วยการอธิษฐานใชบ้ ญุ เก่าตอ่ บุญใหม่ต่อๆ กนั ไป เชน่ ดว้ ยอำ� นาจแหง่ ทานกศุ ลนี้ จงมผี ลใหไ้ มต่ อ้ งอดอยาก ยากจน ได้โอกาสพามหาชนสร้างมหาทานยิ่งๆ ข้ึนไปใน พระพทุ ธเจา้ และเหลา่ พระอรหนั ตเ์ บอ้ื งหนา้ ทกุ ภพชาตจิ นกวา่ จะเขา้ นิพพาน ดว้ ยอำ� นาจแหง่ บุญอนั เกิดจากการรกั ษาศลี ดีแล้วน้ี จงส่งผลให้ได้เพศบรสิ ุทธ ์ิ ได้ลักษณะมหาบุรุษครบครนั พอใจ การบวชประพฤตพิ รหมจรรยต์ ลอดกาลตราบวนั บรรลนุ พิ พาน เทอญ ด้วยอ�ำนาจแห่งการฟังธรรมอันประเสริฐนี้ จงส่ง ผลให้เป็นผูพ้ อใจในการพบเห็น - ฟงั ธรรม - พจิ ารณาธรรม ตง้ั ใจปฏิบัติธรรมตามพระอริยเจา้ ยิ่งๆ ขึน้ ไป ทุกภพทกุ ชาติ อย่ารู้เบอื่ หน่ายจนกว่าจะได้บรรลนุ ิพพาน ฯลฯ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 18
www.webkal.org ๗. มารดามีพระคุณจรงิ มารดามีพระคุณต่อบุตรอเนกอนันต์ เพราะเป็นผู้ให้ ก�ำเนดิ กายมนุษย์ เลี้ยงดูบตุ รจนเตบิ ใหญ่ อบรมสง่ั สอนบุตร ให้เข้าใจความจริงของโลกและชวี ติ และหา้ มบุตรท�ำชัว่ เลอื ก แตป่ ระพฤตชิ อบ อยใู่ นกรอบศลี ธรรม กอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ นสิ ยั ดี และ คณุ ธรรมประจำ� ใจอนั จะนำ� ไปสคู่ วามสขุ -เจรญิ ยง่ิ ๆ ขนึ้ ไป ผู้เรียนเจ้าปัญญาจึงต้องฝึกแสดงความกตัญญูรู้คุณ ต่อมารดาและฝึกตอบแทนพระคุณท่านด้วยการท�ำส่ิงที่เป็น ประโยชนส์ ขุ ตอ่ ทา่ นจนตลอดชวี ติ แตม่ ารดายอ่ มมโี ทษมหนั ต์ หากไม่อบรมสงั่ สอนบตุ รใหเ้ ปน็ คนใฝ่ดี สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 19
www.webkal.org ๘. บิดามพี ระคุณจรงิ บดิ ากม็ ีพระคณุ ต่อบตุ รอเนกอนนั ต์เช่นเดียวกบั มารดา สว่ นทา่ นใดจะมพี ระคณุ มากกวา่ กนั กข็ น้ึ กบั ความทมุ่ เทเสยี สละ ของท่านในการเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนบุตรให้เป็นคนดีมี ศีลธรรมนนั่ เอง งานเร่งด่วนของบิดามารดาทกุ คน คอื ๑) ตอ้ งเตรียมฝกึ ตัว อบรมใจใหพ้ รอ้ มเพือ่ การเลีย้ งดู บุตรและการเปน็ ตน้ แบบคณุ ธรรมศลี ธรรม จริยธรรมแก่บตุ ร ต้ังแตต่ ้น ตลอดจนจดั เตรียมสภาพสง่ิ แวดล้อมท่ีดไี วใ้ ห้พร้อม ๒) ต้องฝึกบุตรให้คุ้นต่อความดีสากลขั้นพ้ืนฐาน ๔ ประการต้ังแต่ยังนอนแบเบาะ โดยไม่เห็นแก่ความเหน่ือย ยากใดๆ คอื ๑. รักความสะอาด ๒. รกั ความเปน็ ระเบยี บ ๓. รกั ความสภุ าพนุม่ นวล ๔. รกั ความตรงตอ่ เวลา สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 20
www.webkal.org เมอ่ื บตุ รรคู้ วามกย็ ้�ำปฏบิ ตั ติ อ่ ไป ความดสี ากลพน้ื ฐาน ๔ ประการก็จะพฒั นาเปน็ นิสัยดีๆ พน้ื ฐาน ๓ คอื ๑. นิสัยรกั การควบคมุ ตัวเอง ๒. นสิ ัยรกั การพง่ึ ตนเอง ๓. นิสัยรกั การจบั ถูก ๓) พฒั นานสิ ยั ดี ๆ ทงั้ สามนนั้ ผา่ นกจิ กรรม ๕ หอ้ งชวี ติ ๑ โดยไมค่ ดิ ทอ้ แทแ้ ละสดุ ทา้ ยกก็ ลายเปน็ ความมวี นิ ยั ความอดทน และความเคารพ แล้วส่งต่อไปเพิ่มพูนความรู้ความดีอีก ทโี่ รงเรยี น เพอื่ ใหม้ นี สิ ยั บณั ฑติ ๕๒ พรอ้ มเปน็ มติ รแทแ้ กม่ หาชน เมอื่ เตบิ ใหญ่ บตุ รจงึ สมควรกราบไหวบ้ ชู าบดิ า-มารดา ผเู้ ปน็ เสมือนพระอรหันต์ในบ้านและช่วยแบ่งเบาภาระของท่านให้ เตม็ กำ� ลงั หลงั ทำ� การบา้ นทคี่ รมู อบหมายแลว้ เปน็ ประจำ� ทกุ วนั ๑. ๕ หอ้ งชีวิตประกอบด้วย ห้องนอน หอ้ งนำ้� ห้องแต่งตวั หอ้ งอาหาร และหอ้ งทำ� งาน ๒. นสิ ยั บัณฑติ ๕ ประกอบด้วย นสิ ยั ใฝค่ วบคุมตนเอง, นสิ ัยใฝ่รกั ษา สขุ ภาพ, นิสัยใฝเ่ รยี นรู้, นิสัยใฝท่ ำ� ดีตามกฎแหง่ กรรม และนิสยั ใฝเ่ จริญภาวนา
www.webkal.org ๙. โอปปาตกิ ะมจี ริง โอปปาตกิ ะสตั ว์ คอื สตั วท์ ผี่ ดุ เกดิ ขนึ้ มา กโ็ ตเตม็ ทที่ นั ที ทนั ใด โดยไมต่ อ้ งมมี ารดาบดิ า เกดิ ดว้ ยอำ� นาจกรรมทแี่ รงมาก ซึ่งตนเคยท�ำไว้สมัยเป็นมนุษย์ ครั้นถึงคราวตายร่างกายก็ สลายวบั โดยไมม่ ซี ากเหลอื โอปปาตกิ ะแบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ประเภทท่ี ๑ สมัยเป็นมนุษยท์ ำ� กรรมชวั่ มาก ตายไป แล้วเกิดเป็นสตั ว์นรก ซึ่งมรี ปู รา่ งน่าเกลียดน่ากลวั มาก และ อยใู่ นนรกซง่ึ มสี ภาพทกุ ขท์ รมานมาก คอื ทกุ ขย์ ง่ิ กวา่ คกุ ในโลก อยา่ งเทียบไมไ่ ด้ ประเภทท่ี ๒ ท�ำกรรมดมี ากไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้า ซ่ึงมีรูปร่างงดงามมากและอยู่ในสวรรค์ ซึ่งอยู่ในสภาพเป็น สุขมากแมส้ ุขของพระเจ้าจกั รพรรดก์ิ ็เทียบไม่ได้ สภาพสขุ -ทกุ ขข์ องสตั วน์ รกและชาวสวรรคแ์ ตกตา่ งกนั มากกจ็ รงิ แตท่ ง้ั คเู่ หมอื นกนั คอื อายยุ นื มาก คอื อายเุ กนิ แสน เกินล้าน เกนิ โกฏิปีกม็ ี สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 22
www.webkal.org พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเล่าเรื่องนี้ด้วยมหากรุณา เพราะปรารถนาจะให้ชาวโลกมีก�ำลังใจในการละกรรมชั่ว โดยเด็ดขาด และทุม่ เททำ� กรรมดีดว้ ยชีวติ จะไดเ้ ป็นสุขนานๆ ในสวรรค์ และได้โอกาสวางแผนท�ำความดีให้รัดกุมเต็มที่ เม่อื คราวกลบั มาเกิดเป็นมนุษย ์ สภาพร่างกายที่แตกต่างกันโดยส้ินเชิงระหว่าง มนุษยก์ บั สตั วน์ รกหรอื มนุษยก์ บั เทวดา แมเ้ ปน็ บคุ คลเดยี วกนั ก็ตาม อาจเปรียบเทียบได้กับสัตว์บางชนิด แม้เป็นสัตว์ ตัวเดียวกัน แต่ในวงจรชีวิตของมันมีสภาพร่างกายและ สถานที่อยู่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น ยุงกับลูกน้�ำ กบกับ ลูกอ๊อด หรือแมลงวันกับหนอน เปน็ ต้น ผู้เรียนจึงต้องหมั่นค�ำนึงถึงเร่ืองโอปปาติกะให้มาก เพ่ือเตือนสติตนเองให้ละช่ัว ท�ำดีด้วยชีวิต และเตือนสติ ใหห้ มัน่ ฝกึ สมาธิมากๆ เพ่อื มีโอกาสได้เห็นนรก-สวรรค์ตาม พระอรหันตแ์ ละกำ� จัดกเิ ลสให้สิน้ ไปตามทา่ นด้วย สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 23
www.webkal.org สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 24
www.webkal.org ๑๐. พระพทุ ธเจา้ มจี รงิ เปน็ ธรรมชาตวิ า่ หากสมณพราหมณห์ รอื ใครกต็ าม ไม่จ�ำกัดด้วยเชื้อชาติ หากตั้งใจประพฤติดีปฏิบัติชอบ ไม่ละเมิดกฏแห่งกรรม มงุ่ กลน่ั ใจให้ผ่องใสเปน็ นิจด้วยชวี ติ ยอ่ มสามารถรแู้ จง้ แทงตลอดในโลกน้ีโลกหนา้ ไดด้ ว้ ยปญั ญา อันยง่ิ เอง อาศยั ความเมตตากรณุ าอยา่ งยง่ิ ของทา่ น ท่าน ยอ่ มสามารถสอนชาวโลกใหร้ ้แู จง้ ตามได้ บุคคลมีความดีงามพร้อมเช่นนี้ มีอยู่ในโลก บางยุคสมัยจริง ชาวโลกเรียกท่านด้วยความเคารพ อยา่ งยง่ิ วา่ พระพทุ ธเจ้า หากใครมีโชคได้พบพระองคแ์ ล้ว ตงั้ ใจฟงั ธรรม พจิ ารณาธรรม ปฏบิ ตั สิ มควรแกธ่ รรม ยอ่ ม หมดทกุ ข์โดยเด็ดขาดตามท่านไดอ้ ย่างแนน่ อน สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 25
www.webkal.org บัดน้ีแม้พระพุทธเจ้าจะดับขันธปรินิพพานนานแล้ว แตค่ �ำสอนของพระองค์ท่านยังอย ู่ จงึ สมควรรบี เรง่ ศกึ ษา พระธรรมค�ำสอนและฝึกหัดขัดเกลาตนเองตามท่าน ยอ่ มบรรลธุ รรมตามท่านวันหน่ึงจนได ้ พร้อมกบั หมดทกุ ข์ หมดกเิ ลสโดยส้ินเชิง สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 26
www.webkal.org หลกั การดำ� เนนิ ชวี ิตครูอยา่ งถูกตอ้ ง ๑๐ ประการ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 27
www.webkal.org สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 28
www.webkal.org หลกั การด�ำเนนิ ชวี ติ ครอู ยา่ งถกู ตอ้ ง ๑๐ ประการ ๑. ทานมีผลจริง ๑. มุ่งม่ันถ่ายทอดความรู้ท้ังทางโลกและทางธรรมให้ แก่ศิษย์ด้วยความปรารถนาดีต่อศิษย์อย่างบริสุทธิ์ใจท่ีจะให้ ศษิ ยเ์ ปน็ คนดที โี่ ลกตอ้ งการ ประสบความสขุ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง ในชีวิต ๒. แบ่งปันความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมท้ัง ประสบการณ์ในวิชาชีพครู ตลอดจนเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในวงการศึกษาใหแ้ กเ่ พ่ือนครูด้วยความจรงิ ใจ ๓. ร่วมมอื ในการทำ� กิจกรรมต่างๆ เพอ่ื ประโยชนข์ อง โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเป็นส่วนรวม โดยไม่เห็นแก่ ความเหนื่อยยากและโดยไมข่ าดตกบกพร่อง สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 29
www.webkal.org ๔. สละเวลาในการถ่ายทอดความรู้ด้านวชิ าการ หรือ ปลกู ฝงั อบรมศลี ธรรมใหแ้ กเ่ ดก็ บางคน บางกลมุ่ ทม่ี ปี ญั หาเปน็ กรณีพิเศษด้วยจิตเมตตา ๕. เม่ือมีปัญหากระทบกระทั่งกันในหมู่เพื่อนร่วมงาน ก็พยายามให้อภัยกันเสมอ เพื่อความรักสามคั คีระหวา่ งเพื่อน ร่วมงาน และเพือ่ เปน็ แบบอยา่ งที่ดแี ก่บรรดาลูกศิษย์ การประพฤติปฏิบัติเหล่านี้ ถือได้ว่าเป็นการท�ำทาน ในอีกลักษณะหนึ่งของผมู้ อี าชพี ครู ซึง่ มีผลดอี ยา่ งแทจ้ ริง สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 30
www.webkal.org ๒. การสงเคราะหม์ ผี ลจริง ๑. สงเคราะห์นักเรียนที่มีปัญหาต่างเพื่อให้สามารถ เรียนได้จบหลักสูตร ด้วยวิธีการท่ีเหมาะสม เช่น นักเรียนที่ ขาดแคลนทนุ เลา่ เรยี น กอ็ าจหางานพเิ ศษใหท้ ำ� หาทนุ อดุ หนุน การศึกษาจากองคก์ รของรฐั และเอกชนให้ เป็นตน้ ๒. สงเคราะห์นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดีแต่ ยากจน ดว้ ยการสละเวลาสอนพเิ ศษให้ เพอ่ื สง่ เขา้ สอบแขง่ ขนั ชิงทุนการศึกษาเรียนต่อในประเทศหรือต่างประเทศหลังจาก จบการศกึ ษาในโรงเรียนท่กี ำ� ลงั เรยี นอยู่ ๓. เม่ือเพ่ือนครูหรือบุคลากรในโรงเรียนต่างประสบ ปญั หาจากอบุ ตั เิ หตุ หรอื ภยั ธรรมชาตกิ ต็ อ้ งชว่ ยกนั สงเคราะห์ อยา่ งสุดความสามารถ เปน็ ต้น การประพฤตปิ ฏบิ ัตเิ หลา่ นี้ ถอื ได้วา่ เปน็ การสงเคราะห์ เพอื่ นมนุษยด์ ว้ ยกนั ยอ่ มมผี ลดอี ยา่ งแนน่ อน ผปู้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ย่อมช่ือว่ามสี มั มาทฐิ อิ ยา่ งแทจ้ ริง สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 31
www.webkal.org ๓. การยกย่องมีผลจริง ๑. ครูควรมองหาคุณธรรมความดีและความสามารถ ทั้งของผบู้ ริหารซึง่ เป็นหัวหนา้ ของตน และเพื่อนครูผรู้ ว่ มงาน ทุกคน ขณะเดียวกันก็พึงมีทัศนคติท่ีดีต่อทุกคน เมื่อเห็นใคร ทำ� ดที ำ� ถกู ตอ้ ง กค็ วรกลา่ วยกยอ่ งสรรเสรญิ ตามความเหมาะสม บคุ คลทมี่ นี สิ ยั เชน่ นี้ ยอ่ มสามารถเขา้ กนั ไดก้ บั ผรู้ ว่ มงานทกุ คน ยอ่ มสามารถประกอบอาชพี ไดด้ ว้ ยความสบายใจ และมโี อกาส เจรญิ รงุ่ เรอื งในหนา้ ที่การงาน ๒. ครูต้องไม่นินทาว่าร้ายผู้บริหารให้นักเรียนฟัง เพราะจะท�ำให้นักเรยี นขาดความเคารพผู้บรหิ าร และอาจไมม่ ี ความรู้สึกภาคภมู ิใจในสถานศกึ ษาของตน ๓. ครตู อ้ งไมน่ นิ ทาวา่ รา้ ยเพอื่ นครใู หน้ กั เรยี นฟงั เพราะ ก. ถา้ นกั เรยี นเชอ่ื ผนู้ นิ ทากจ็ ะรงั เกยี จหรอื ไมเ่ คารพ นับถือครผู ถู้ ูกนนิ ทา สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 32
www.webkal.org ข. นกั เรยี นทไี่ ดร้ บั การปลกู ฝงั นสิ ยั รกั การปฏบิ ตั ติ าม มรรคมอี งค ์ ๘ แล้ว จะมองว่า ผูน้ นิ ทาผิดศลี ไม่นา่ เคารพ ค. ความลับในโลกไม่มี ผู้ถูกนินทาย่อมรู้ว่าใคร นนิ ทาตน ซง่ึ จะเปน็ เหตปุ จั จยั ใหเ้ กดิ ปญั หาตา่ งตามมาอกี มาก เช่น ครผู ู้นินทาจะกลายเปน็ แกะดำ� ในหมู่เพอ่ื นครู เปน็ ต้น ๔. ครตู ้องไม่แสดงความลำ� เอยี งตอ่ นกั เรียน ดว้ ย การพดู จาไพเราะกบั นกั เรียนท่เี กง่ และด ี เมอ่ื ท�ำผดิ พลาด แต่ ใชถ้ อ้ ยคำ� ตำ� หนติ เิ ตยี นรนุ แรงหรอื หยาบคายกบั เดก็ ทเ่ี รยี นออ่ น ยากจน แทนที่จะใช้คำ� นุม่ นวล อ่อนโยน อยา่ งไรกต็ าม ครตู อ้ งระลกึ อยเู่ สมอวา่ การทำ� งานรว่ ม กบั มวลชนหรอื คนหมมู่ ากจะประสบความสำ� เรจ็ อยา่ งแทจ้ รงิ ไม่ วา่ ดา้ นใดกต็ ามจำ� เปน็ ตอ้ งรหู้ ลกั จติ วทิ ยาเปน็ อยา่ งดี การท่ีครูประพฤติต่อผู้คนต่างๆ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ในเชิงยกยอ่ ง ยอ่ มมผี ลดตี อ่ ทุกฝา่ ย สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 33
www.webkal.org ๔. กฎแหง่ กรรมมผี ลจรงิ ๑. ครูต้องศึกษาเร่ือง กฎแหง่ กรรม ใหเ้ ขา้ ใจในระดับ โยนโิ สมนสกิ ารเปน็ อยา่ งนอ้ ย เพอ่ื ใหส้ ามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั พฤติกรรมต่างๆ ของคนเราด้วยกฎแห่งเหตุและผล ถ้าเป็น เช่นนี้ก็จะชว่ ยให้ครูมีศรัทธามน่ั ในกฎแหง่ กรรม ซึ่งนอกจาก จะช่วยให้ครูต้ังม่ันอยู่ในสัมมาทิฐิแล้ว ยังจะสามารถอธิบาย เรื่อง กฎแหง่ กรรมได้อยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลเสมอ ๒. เมื่อครูมีศรัทธาม่ันในกฎแห่งกรรม ตั้งม่ันใน สมั มาทฐิ เิ ปน็ คณุ สมบตั ปิ ระจำ� ตวั แลว้ กพ็ งึ พฒั นาตนใหม้ นี สิ ยั รกั การปฏบิ ัตติ ามมรรคมอี งค์ ๘ และปฏบิ ัตสิ ัมมาสมาธิเป็น ประจ�ำ ถ้าปฏิบัตไิ ด้ถกู วธิ ีตามท่ีครบู าอาจารยอ์ บรมสง่ั สอน ยอ่ มประสบความกา้ วหนา้ ถงึ ขน้ั บรรลฌุ านระดบั ใดระดบั หนึ่ง ซ่ึงอาจจะสามารถพิสูจน์กฎแห่งกรรมได้ด้วยตนเอง ถ้าเป็น เช่นน้ัน การท�ำหน้าท่ีปลูกฝังนิสัยรักการปฏิบัติตามมรรค มีองค ์ ๘ ใหแ้ ก่ศิษยก์ ็จะมีประสทิ ธิผลยิง่ ขึน้ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 34
www.webkal.org ๓. ครพู งึ ระลกึ เสมอวา่ เรอ่ื งกฎแหง่ กรรมคอื หวั ใจของ สมั มาทฐิ ิ ถา้ ครสู ามารถปลกู ฝงั อบรมศษิ ยท์ งั้ มวลใหม้ ศี รทั ธา ม่ันคงในเรื่องกฎแห่งกรรมได้ ย่อมมั่นใจได้ว่าศิษย์เหล่านั้น จะเปน็ คนดมี สี มั มาทฐิ ริ ะดบั ตน้ หนา้ ทต่ี อ่ ไปของครกู ค็ อื จะตอ้ ง ตอกยำ้� ให้ศษิ ยม์ สี ัมมาทิฐมิ นั่ คงยงิ่ ข้ึน กล่าวได้ว่าการปลูกฝังอบรมศิษย์ทั้งมวลให้เป็นคนดี มนั่ คงอยใู่ นสมั มาทฐิ ิ คอื กรรมดที คี่ รไู ดท้ ำ� ทงั้ เพอื่ ตนเอง สงั คม และประเทศชาตโิ ดยรวม ย่อมมีผลดตี ่อตัวครูเอง และทุกฝ่าย ดังกลา่ วมาแลว้ อยา่ งแน่นอน สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 35
www.webkal.org ๕. โลกนมี้ ี (ทมี่ าจรงิ ) เหตุแห่งความเจริญก้าวหน้าหรือความเส่ือมในอาชีพ ครูของตนในปัจจุบันนี้ ล้วนเป็นผลมาจากการด�ำเนินชีวิต ของครใู นชว่ งเวลาทผ่ี า่ นมา วา่ เปน็ ไปตามสมั มาทฐิ ิ ๔ ประการ แรกหรือหลักการด�ำเนินชีวิตให้เป็นสุข ๔ หรือไม่เพียงใด ประการหน่ึง ประกอบกบั วบิ ากแหง่ บาปกรรมในชาตปิ างกอ่ น ท่ตี ามมาตดั รอน อีกประการหนึ่ง ดังนั้น เม่ือม่ันใจว่าตนครองชีวิตถูกต้องตามหลัก การด�ำเนินชีวิตให้เป็นสุข ๔ แล้ว แต่ไม่ได้รับผลตอบแทน ด้านต�ำแหน่งหนา้ ทก่ี ารงานตามที่คาดหวงั ก็จะตอ้ งไม่ท้อใจ จงพากเพียรท�ำให้ดีย่ิงขึ้นไปอีก คิดเสียว่าอย่างน้อยก็เป็น บุญกศุ ลที่ได้ทำ� แล้วในชาตินี้ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 36
www.webkal.org ๖. โลกหนา้ มี (ที่ไปจริง) ความเจรญิ หรอื ความเสอื่ มในอาชพี ครขู องตนในอนาคต ข้ึนอยู่กับความเข้มงวดกวดขันตนเองทั้งในด้านนิสัยส่วนตัว และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ว่าเป็นไปตาม หลกั การดำ� เนนิ ชวี ติ ใหเ้ ปน็ สขุ ๔ มากนอ้ ยเพยี งใด นบั แตบ่ ดั นี้ เปน็ ตน้ ไป รวมกับผลในขอ้ ๕ อีกด้วย เมอ่ื มแี นวคดิ เชน่ นแ้ี ลว้ ครกู ต็ อ้ งไมต่ ง้ั อยใู่ นความประมาท จำ� เปน็ ตอ้ งพจิ ารณาตรวจสอบ แกไ้ ขและพฒั นาการปฏบิ ตั งิ าน ในหนา้ ทข่ี องตนประการหนึ่ง พจิ ารณาตรวจสอบ แกไ้ ขและ พฒั นาลกั ษณะนสิ ยั ของตนอกี ประการหนึ่ง ขณะเดยี วกนั กส็ อน ใจตนเองอยเู่ สมอวา่ ความสำ� เรจ็ ในชวี ติ ของครนู นั้ ตอ้ งอยทู่ ่ี คณุ ภาพและคณุ ธรรมของศษิ ยท์ ง้ั มวลเปน็ สำ� คญั มไิ ดอ้ ยทู่ ี่ ตำ� แหนง่ ลาภหรอื ยศ โดยสว่ นตวั อยา่ งไรกต็ ามถา้ ครไู ดท้ มุ่ เท ชวี ติ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทเ่ี พอ่ื ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของศษิ ยท์ ง้ั มวลแลว้ ความเจรญิ กา้ วหนา้ จะเกดิ ขน้ึ แกต่ วั ครเู อง เปน็ ไปตามกฎแหง่ กรรม สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 37
www.webkal.org ๗. มารดามีจริง ครูต้องมีความกตัญญูกตเวทีตอ่ มารดา ครู - อาจารย์ และผ้มู ีพระคณุ การปฏบิ ตั ิเชน่ นี้ นอกจากเป็นคุณธรรมหรือ กรรมดีของครูโดยตรงแล้ว ยังเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรม ใหแ้ กบ่ ุตร ธดิ า ลกู ศษิ ย์ และคนรอบขา้ งอีกดว้ ย สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 38
www.webkal.org สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 39
www.webkal.org ๘. บดิ ามจี ริง ครูต้องมคี วามกตัญญูกตเวทีต่อบิดา คร-ู อาจารย์และ ผมู้ พี ระคณุ นอกจากครจู ะปฏบิ ตั ติ ามเปน็ ตน้ แบบดา้ นคณุ ธรรม ให้แกบ่ ตุ รธดิ า ลกู ศิษยแ์ ละคนรอบขา้ งแล้ว ครจู �ำเป็นจะต้อง แนะนำ� สงั่ สอนอบรมใหศ้ ษิ ยต์ ระหนกั ถงึ คณุ ของบดิ า ไมย่ ง่ิ หยอ่ น ไปกวา่ มารดาอกี ดว้ ย ทงั้ นี้เพราะในสภาพสงั คมปจั จบุ นั มปี ญั หา ครอบครัวแตกแยกเกิดข้ึนทุกสังคม บุตรส่วนใหญ่จะใกล้ชิด สนิทสนมกับมารดา ห่างไกลกับบิดาหรือในบางครอบครัวที่ บดิ าจมอยกู่ บั อบายมขุ กม็ กั จะทำ� ทารณุ โหดรา้ ยตอ่ มารดาทำ� ให้ บตุ รบางคนถงึ กับเกลียดชงั บิดาของตนก็มี ดงั น้ัน จึงเป็นหนา้ ที่ของครใู นการปลูกฝงั ช้ีแนะใหเ้ ด็ก มีความเข้าใจและความคิดถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องพระคุณของ บดิ า ปอ้ งกนั มใิ หเ้ ดก็ มบี าปกรรมตดิ ตวั ไป เพราะมคี วามคดิ เหน็ เปน็ มจิ ฉาทฐิ เิ กยี่ วกบั พระคณุ ของบดิ า ครทู สี่ ามารถเปลยี่ นทฐิ ิ ของศษิ ย์ได้ ย่อมถือวา่ เปน็ ความสำ� เรจ็ ในชวี ิตครู สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 40
www.webkal.org ๙. สัตวท์ เ่ี กดิ แบบโอปปาติกะมจี รงิ ครูท่ที ุ่มเทชวี ติ เพ่ือปลูกฝังอบรมเหล่าศิษย์ใหเ้ ปน็ คนดี มีสัมมาทิฐิอย่างม่ันคง รู้จักเสียสละท�ำงานเพ่ือส่วนรวม ด้วยความบรสิ ทุ ธใ์ิ จ ขณะเดียวกนั ครเู องก็ท�ำตนเปน็ ตน้ แบบ ศีลธรรมและคุณความดีทุกอย่างทุกประการท่ีครูพร�่ำสอน ศิษย์ ครปู ระเภทนี้แม้หายากแตก่ ็มอี ย่จู รงิ จงึ กล่าวได้วา่ ครูที่ เป็นมนุสเทโว คือเป็นมนุษยแ์ ตม่ นี ำ�้ ใจเย่ยี งเทวดานั้นมอี ย่จู ริง ครูประเภทน้ีย่อมเป็นปูชนียบุคคลให้แก่มนุษย์และเทวดาได้ กราบไหว้ทั้งโลกน้ีและโลกหนา้ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 41
www.webkal.org ๑๐. พระพุทธเจา้ ผู้เปน็ บรมครขู องสัตวโ์ ลกมจี รงิ ครผู ปู้ ระสบความส�ำเรจ็ ในชวี ติ ครู คอื ครผู อู้ ทุ ศิ ชวี ติ เพอื่ ท�ำหน้าทีป่ ลูกฝังอบรมบม่ นสิ ัยศษิ ยข์ องตนใหม้ นี สิ ัยบณั ฑติ ๕ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และพระพทุ ธศาสนา ดว้ ยมคี วามคดิ วา่ การทำ� งานในหนา้ ทขี่ อง ตนทุกอย่างทุกประการ ล้วนเป็นการส่ังสมบุญบารมีให้แก่ ตนเองเยยี่ งพระโพธสิ ตั ว์ อยา่ งไรกต็ ามมคี รบู างคนทำ� หนา้ ทก่ี ารงานในตำ� แหนง่ เสมือนเป็นงานอดิเรก เบียดบังเวลาราชการ หรือเวลาใน ตำ� แหนง่ หนา้ ทไี่ ปทำ� ธรุ กจิ สว่ นตวั หลายรปู แบบ แมอ้ ยทู่ โ่ี รงเรยี น ก็ท�ำหน้าท่ีครูเฉพาะอยู่ในห้องเรียนเท่านั้น เม่ือก้าวพ้นจาก ห้องเรียน จิตใจก็พะวักพะวนอยู่กับเร่ืองธุรกิจ ครูประเภทนี้ ถ้าบังเอิญเป็นที่โปรดปรานของผู้บริหาร ย่อมมีความเจริญ รุ่งเรืองในต�ำแหน่งหน้าที่ แต่ครูประเภทน้ีก็ไม่ถือว่าประสบ ความสำ� เร็จในอาชพี ครู สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 42
www.webkal.org แนวทางการปลกู ฝงั สัมมาทิฐิสำ� หรบั เดก็ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 43
www.webkal.org แนวทางการปลกู ฝงั สัมมาทิฐสิ �ำหรับเดก็ สัมมาทฐิ ิประกอบดว้ ยองค์ธรรม ๑๐ ประการ คือ ๑. ทานมผี ลจริง ๒. การสงเคราะหม์ ีผลจรงิ ๓. การบูชามีผลจรงิ ๔. ผลวิบากกรรมทท่ี ำ� ดี-ช่ัวมีจริง ๕. โลกน้ีมีจริง (มที ่มี า) ๖. โลกหนา้ มีจรงิ (ตายแลว้ ไม่สญู ) ๗. มารดามีพระคณุ จรงิ ๘. บิดามีพระคณุ จรงิ ๙. โอปปาติกะมจี ริง ๑๐. พระพุทธเจ้ามจี ริง สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 44
www.webkal.org สมั มาทฐิ ิ ๑๐ ประการน้ี แบง่ ออกไดเ้ ปน็ ๒ กลมุ่ ไดแ้ ก ่ กลุ่มท่ี ๑ ขอ้ ๑-๔ คอื หลกั การดำ� เนนิ ชวี ติ ใหเ้ ปน็ สขุ ๔ ประการ กล่มุ ที่ ๒ ขอ้ ๕-๑๐ คือ ความจรงิ ประจำ� โลก ๖ ประการ องค์ธรรมในกลุ่มท่ี ๑ คอื ขอ้ ๔ ซง่ึ ชาวพุทธเรียกว่า กฎแห่งกรรม และคนุ้ กบั พทุ ธพจนว์ ่า “ท�ำดไี ดด้ ี ทำ� ชวั่ ได้ชวั่ ” เรื่องกฎแห่งกรรมน้ี เป็นองค์ธรรมท่ีเด่นกว่าองค์ธรรม ๓ ขอ้ แรกเพราะเป็นเรอ่ื งของเหตแุ ละผล ซึ่งอภิปรายใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจไดง้ า่ ย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เดก็ โต เพราะมเี รอื่ งราว มากมายพสิ จู นใ์ หเ้ หน็ ไดใ้ นชวี ติ ประจ�ำวนั เชน่ เดก็ ทเ่ี กยี จครา้ น การเรียนย่อมสอบตก นักเรียนวัยรุ่นที่เป็นอันธพาลปล้นจี้ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 45
www.webkal.org ชาวบา้ น ย่อมถกู ต�ำรวจจบั เป็นตน้ แตผ่ ทู้ ยี่ งั ไมเ่ ชื่อ กฎแหง่ กรรมเตม็ หวั ใจ กค็ งจะเปน็ บรรดาผใู้ หญท่ ม่ี ขี อ้ สงสยั เนื่องจาก ยังขาดการศึกษาและปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนาอย่าง จรงิ จังน่ันเอง ซึ่งจะไม่ขอกลา่ วในท่นี ี้ การปลูกฝังอบรมเด็กๆ ให้มีสัมมาทิฐิเป็นคุณธรรม ประจ�ำใจ ควรประกอบด้วยองค์ ๓ คอื ๑. ปลูกฝังความรู้ความเข้าใจองค์ธรรมในองค์มรรค ต่างๆ ให้แก่เด็กๆ ในเชิงทฤษฎีด้วยการอภิปรายโดยใช้วิธี ปุจฉา-วิสัชนา เพื่อกระตุ้นเด็กๆ ให้ใช้ปัญญาคิดพิจารณา รายละเอียดในองค์ธรรมแต่ละข้อ จนกระทง่ั เดก็ ๆ มองเห็น ขอ้ ดหี รอื ประโยชนอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ ของเรอ่ื งทอี่ ภปิ ราย และยอมรบั ไปปฏบิ ัติในชีวิตจรงิ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 46
www.webkal.org ๒. ผู้ใหญ่ควรมีกุศโลบายจัดกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ ได้ น�ำรายละเอียดในองค์มรรคต่างๆ ซ่ึงได้อภิปรายกันมาแล้ว มาปฏิบตั ิในชวี ิตประจ�ำวนั ให้เกิดเป็นนิสยั ๓. ชักชวนให้เด็กฝึกสมาธิภาวนาพร้อมกับผู้ใหญ่ ทกุ ๆ วนั ทง้ั ทบี่ า้ นและทโ่ี รงเรยี นจนเกดิ เปน็ นสิ ยั การทำ� สมาธิ ภาวนายอ่ มเปน็ การปฏบิ ตั มิ รรคองคท์ ่ี ๗ และ ๘ ไปพรอ้ มๆ กนั เดก็ ๆ ที่มีประสบการณ์ภายในแม้เพียงจิตสงบอย่างต่อ เนื่องสกั ระยะหน่ึง ทั้งสตแิ ละปญั ญาของเขากจ็ ะพัฒนาขึน้ มา ในระดับหน่ึง ซ่ึงจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจหัวข้อธรรมในองค์ มรรคต่างๆ ท่ีอภปิ รายกนั มาแลว้ ดยี ง่ิ ข้ึน มีความเขา้ ใจถกู ตอ้ ง ถ่องแท้ขึน้ ว่าสง่ิ ใดดี ส่งิ ใดช่วั สง่ิ ใดควร ส่ิงใดไม่ควร สิ่งใดผิด ส่ิงใดถูก ขณะเดียวกันก็มีสติควบคุมตนเองท้ังทางกายและ วาจา มิให้กระทำ� สงิ่ ท่ชี ่วั ส่งิ ทีไ่ ม่ควร ส่งิ ทผี่ ิด พรอ้ มกนั น้นั สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 47
www.webkal.org ก็อยากกระท�ำสิ่งดีๆ สิ่งท่ีควรและถูกต้อง เพราะเชื่อม่ันว่า จะไดร้ บั การยอมรับและช่ืนชมจากบคุ คลทว่ั ไป การสอนสมาธิกลุ่มแรก ควรยึดเรื่องหลักเหตุผล เป็นมาตรฐานการด�ำเนินการอภิปรายอาจจะยกองค์ธรรม ข้อใดข้อหน่ึงใน ๓ ข้อแรกข้ึนมาต้ังเป็นค�ำถามก็ได้ เช่น ถา้ เป็นเด็กอนุบาลอาจถามว่า ก. “หนรู สู้ กึ อย่างไร ถา้ มีเพอื่ นคนหน่ึงใหข้ นมอรอ่ ยๆ รับประทานทุกวัน” ค�ำตอบของเด็กแต่ละคนอาจใช้ถ้อยค�ำ แตกต่างกันไป แต่เช่ือมน่ั วา่ จะเปน็ ไปในเชิงบวกทง้ั ส้ิน ข. “หนูรู้สึกอยา่ งไร ถา้ มเี พ่ือนมาช่วยขณะทก่ี ำ� ลังหิ้ว ถังน�้ำหนักๆ” แน่นอนว่าค�ำตอบของเด็กแต่ละคนจะเป็นไป ในเชิงบวก ค. “หนรู สู้ กึ อยา่ งไร ถา้ มเี พอื่ นคนหนึ่งขโมยดนิ สอของ หนูไป” ค�ำตอบจากเด็กทกุ คนยอ่ มเปน็ ไปในเชงิ ลบ สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 48
www.webkal.org เมอ่ื ถามคำ� ถามในลกั ษณะนี้หลายๆ คำ� ถามแลว้ ผใู้ หญ่ พึงสรุปวา่ ถ้าเราท�ำดีกบั ผอู้ ่นื เขาก็รกั และชอบเรา แต่ถา้ เรา ทำ� ไมด่ กี บั เขา เขากเ็ กลยี ดเรา ไมช่ อบเรา ไมอ่ ยากคบหาสมาคม กับเรา พรอ้ มกนั นน้ั กต็ งั้ คำ� ถามใหมว่ า่ “ใครเหน็ ดว้ ย ใหย้ กมอื ขน้ึ ” ถา้ มเี ด็กไมย่ กมอื (ซึ่งไมน่ า่ จะมี) ผใู้ หญ่ต้องขอให้เขาอภิปราย จากค�ำถามชุดแรก ผู้ใหญ่ก็สามารถโยงเข้ามาสู่ ๓ เรอื่ ง คือ ๑. ทานมผี ลจริง ๒. การสงเคราะห์มผี ลจรงิ ๓. กฎแหง่ กรรมมีจริง ครั้นแลว้ ตงั้ ค�ำถามใหม ่ เช่น ง. “หนรู สู้ กึ อยา่ งไร ถา้ มผี ชู้ มวา่ หนเู ขยี นหนงั สอื สวยมาก” สัมมาทิฐิในวงการศึกษา 49
Search